สารบญั
หวั เรื่อง หน้า
บทสรปุ ผู้บริหาร ................................................................................................................. 1
ภาพรวมของการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเลก็ ............................................................ 4
สว่ นที่ 1 ความเป็นมาและสภาพโรงเรยี นขนาดเล็ก.......................................................... 5
ความเป็นมา............................................................................................. 5
สภาพปจั จุบันของโรงเรียนขนาดเล็ก...................................................... 12
ผลสมั ฤทธ์ิทางการศกึ ษา ปี 2559-2561 ................................................ 14
ส่วนที่ 2 การบรหิ ารจดั การโรงเรยี นขนาดเลก็ ท่ผี ่านมา.................................................. 16
ส่วนที่ 3 แผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเลก็ ......................................................... 19
-โรงเรยี น Stand Alone ........................................................................ 20
-โรงเรียนในพ้ืนที่ปกติ............................................................................. 44
ส่วนที่ 4 การบริหารอตั รากาลงั ....................................................................................... 46
ภาคผนวก ......................................................................................................... 47
-คาสัง่ สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 26
เรือ่ ง แตง่ ตั้งคณะกรรมการจัดทาแผนบรหิ ารจัดการโรงเรยี นขนาดเล็ก
ปีการศึกษา พ.ศ. 2562-2565................................................................ 48
คำนำ
แผนบริหารจดั การโรงเรียนขนาดเล็ก ปกี ารศึกษา 2562-2565 ของสานักงาน
เขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เล่มน้ี จัดทาข้นึ เพ่ือใชเ้ ป็นกรอบแนวทางในการ
ดาเนินงานบริหารจัดการศึกษาโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยเชอื่ มโยงวสิ ัยทศั น์ และยุทธศาสตร์ ของ
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 26
และสถานศึกษา สามารถดาเนินการใหเ้ ปน็ ไปในทิศทางเดียวกัน นานโยบายสู่การปฏิบัติ เพอ่ื ให้
ประชาชน ผูป้ กครองและนักเรยี นได้รับประโยชน์สงู สุด เป็นการบรหิ ารงานนาไปสู่การบริหาร
กิจการบ้านเมืองท่ดี ี (Good Governance) สรา้ งโอกาสทางการศึกษาใหป้ ระชากรวยั เรียนไดม้ ี
โอกาสอยา่ งท่วั ถึง ยกระดบั คุณภาพการศึกษาใหส้ ูงข้นึ และได้มาตรฐาน ตลอดจนการมีส่วนร่วม
จากทกุ ภาคสว่ นในการจัดการศกึ ษา
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 26 ขอขอบคณุ คณะทางานจัดทา
แผนบริหารจดั การโรงเรียนขนาดเลก็ ปกี ารศึกษา 2562-2565 ตลอดจนผู้มสี ่วนเกี่ยวขอ้ งท่ีได้ให้
ความรว่ มมือในการจดั ทาแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเลก็ ปีการศึกษา 2562-2565
ให้สาเรจ็ ลุล่วงด้วยดี เพอ่ื ใช้เป็นกรอบแนวทางในการบริหารและจัดการศกึ ษา วางแผนดาเนนิ งาน
การบริหารงบประมาณ เพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาให้ประสบผลสาเรจ็ อยา่ งมีคณุ ภาพ เปน็ ท่ี
พงึ พอใจของผูร้ บั บริการและผู้มีสว่ นเกี่ยวขอ้ ง
กลุ่มนโยบายและแผน
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 26
4
ภาพรวมของการบริหารจดั การโรงเรยี นขนาดเล็ก
1.สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 26 มโี รงเรยี นในสงั กดั จานวนท้ังสน้ิ 35 โรงเรียน
แบ่งตามเกณฑ์ ของโรงเรียนมัธยมศกึ ษา ไดด้ งั นี้
ขอ้ มูลโรงเรียน จาแนกตามขนาด (ขอ้ มลู 10 ม.ิ ย. 61)
ขนาดโรงเรยี น ปกี ารศกึ ษา
2560 2561
ขนาดเล็ก (1-499 คน) 21 21
ขนาดกลาง (500-1,499 คน)
ขนาดใหญ่ (1,500-2,499 คน) 66
ขนาดใหญ่พิเศษ (2,500 คนข้ึนไป) 44
44
รวม 35 35
แตเ่ มือ่ แบง่ ตามเกณฑ์โรงเรียนขนาดเลก็ ตามเกณฑ์โรงเรียนขนาดเลก็ ทส่ี ามารถอยไู่ ด้ตนเอง
(Stand Alone) ท่มี ีจานวนนักเรียนนอ้ ยกว่า 120 คน นั้น สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา
เขต 26 จะมีโรงเรยี นขนาดเล็ก (Stand Alone) ทีม่ จี านวนนกั เรยี นน้อยกว่า 120 คน อยู่ 7 โรงเรยี น
คิดเป็นร้อยละ 20 ประกอบไปด้วยโรงเรียน ดงั นี้
1.โรงเรียนโพนงามพิทยานุกูล
2.โรงเรียนเขวาใหญพ่ ทิ ยาสรรค์
3.โรงเรยี นหนองมว่ งวทิ ยาคาร
4.โรงเรียนกดุ รงั ประชาสรรค์
5.โรงเรียนกูท่ องพิทยาคม
6.โรงเรยี นโนนราษีวทิ ยา
7.โรงเรยี นวงั ยาวศกึ ษาวิทย์
2.โรงเรยี นท่มี ีสถานท่ีตง้ั ทางภูมิศาสตร์อยู่ในพืน้ ท่หี า่ งไกล ตามเกณฑโ์ รงเรียนขนาดเล็กสามารถอยู่ได้
ด้วยตนเอง (Stand Alone) มีอย่จู านวนทงั้ ส้ิน 7 โรงเรียน
3.โรงเรียนท่อี ยใู่ นพื้นท่ีปกติ จานวน ......-......โรงเรยี น
3.1 โรงเรยี นทม่ี ีการไปเรียนรวมแลว้ .............-..........โรงเรยี น
3.2 โรงเรียนทีย่ ังไมม่ ีการไปเรียนรวม..........-........โรงเรียน
จานวนทีย่ ังไม่มี ปีทค่ี าดวา่ จะควบรวม
การไปเรยี นรวม 2562 2563 2564 2565
----
5
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและสภาพโรงเรียนขนาดเลก็
ความเป็นมา
ท่ผี า่ นมาระบบการศึกษาไทยประสบปัญหาดา้ นคณุ ภาพ แม้วา่ สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขนั้ พ้นื ฐานมีพันธกจิ ท่ีมุ่งส่งเสริมและสนบั สนุนให้ประชากรวัยเรียนทุกคนได้รับการศกึ ษา
อยา่ งทั่วถึงและมคี ุณภาพ ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียนมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ าม
หลกั สตู รและคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และพฒั นาระบบบรหิ ารจัดการท่ีเนน้ การมีส่วน
ร่วม เพอ่ื เสริมสรา้ งความรับผิดชอบตอ่ คณุ ภาพการศึกษา และบูรณาการการจดั การศึกษา เพ่ือรองรับ
นโยบายการปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษที่สอง และมาตรการบรหิ ารจดั การเชิงยุทธศาสตร์ของ
คณะกรรมการกาหนดเป้าหมายและนโยบายกาลงั คนภาครัฐ (คปร.) กต็ าม “โรงเรียน” ในฐานะ
สถาบันหลกั ในการจดั การศึกษายงั คงถูกกล่าวหาวา่ เป็นตน้ เหตุของการด้อยประสิทธภิ าพในการ
จดั สรรทรพั ยากรทางการศกึ ษา และนามาสูก่ ารทาใหโ้ รงเรียนและครูไมส่ ามารถยกระดบั การเรยี น
การสอนใหด้ ีขึน้ ได้ โดยภาพที่ชดั เจนทส่ี ุดของการจัดสรรทรัพยากรอย่างไรป้ ระสิทธิภาพเกดิ ข้นึ ใน
"โรงเรยี นขนาดเล็ก" ซึ่งจากผลการศึกษาของ Lathapipat (2014) ชีช้ ัดวา่ โรงเรยี นขนาดเล็กมีตน้ ทุน
ต่อหวั ในการจดั การเรียนการสอนท่สี งู กวา่ โรงเรยี นขนาดใหญ่มากไปกว่านั้นนักเรียนทศ่ี ึกษาอยู่ใน
โรงเรยี นขนาดเลก็ ยงั มีแนวโนม้ ท่ีจะมีผลสมั ฤทธิท์ างการศึกษาที่ต่ากวา่ นกั เรียนที่ศึกษาอย่ใู นโรงเรียน
ขนาดใหญ่อกี ด้วย
สิ่งสาคัญประการหน่ึง คือ การมโี รงเรียนขนาดเลก็ จานวนมาก และมีแนวโนม้ สงู ข้นึ ทุกปี
เน่อื งจากประชากรวัยเรยี นมีจานวนลดลง และความนิยมของผปู้ กครองทตี่ ้องการส่งบุตรหลานไป
เรียนในโรงเรียนท่ีมีชื่อเสียงและโรงเรยี นเอกชน ซ่ึงสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
ก็เปน็ อีกเขตพื้นท่ีการศึกษาที่มีปญั หาดังกลา่ วเชน่ กนั
สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เป็นหนว่ ยงานที่ส่งเสริม สนับสนนุ ดา้ น
การจดั การศึกษา จัดต้ังตามพระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2553 และ
พระราชบญั ญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2553 กาหนดใหม้ ีเขต
พื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา และเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา อาศัยอานาจตามความในมาตรา 5
และมาตรา 37 วรรคสอง แหง่ พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึง่ แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 และมาตรา 8 และมาตรา 33 วรรคสอง
แห่งพระราชบญั ญัติระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 ซึง่ แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัตริ ะเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2553 รฐั มนตรีวา่ การ
กระทรวงศกึ ษาธิการโดยคาแนะนาของสภาการศึกษาเม่ือคราวประชมุ ครั้งที่ 2/2553 วนั ที่ 17
สงิ หาคม พ.ศ. 2553 จึงกาหนดเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา และท่ตี ั้งของสานักงานเขตพื้นท่ี
6
การศึกษามธั ยมศึกษา เพ่ือบริหารและจดั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐานระดับมธั ยมศกึ ษา จานวน 42 เขต โดย
มผี ลบงั คบั ใชต้ ้งั แต่วนั ท่ี 18 สิงหาคม 2553 ซ่ึงประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 127 ตอนพเิ ศษ 98
ง ราชกจิ จานุเบกษา 18 สิงหาคม 2553 และมปี ระกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่ือง การแบ่งส่วน
ราชการภายในสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา พ.ศ. 2560 ประกาศ ณ วนั ท่ี 22 พฤศจิกายน พ.ศ.
2560 แบ่งสว่ นราชการภายในสานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา ออกเปน็ 8 กลมุ่ 1 หน่วย ดังนี้
1.กลมุ่ อานวยการ
2.กลุ่มนโยบายและแผน
3.กลุ่มสง่ เสรมิ การศึกษาทางไกล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร
4.กลุ่มบริหารงานการเงินและสนิ ทรพั ย์
5.กลุ่มบริหารงานบคุ คล
6.กลุม่ พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา
7.กลมุ่ นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจดั การศึกษา
8.กลุ่มสง่ เสรมิ การจัดการศึกษา
9.หนว่ ยตรวจสอบภายใน
ต่อมาเมอ่ื วันท่ี 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ได้มปี ระกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรอื่ ง การแบ่งส่วนราชการ
ภายในสานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2561 เพิ่มเติม โดยกาหนดให้มี กลุ่มกฎหมาย
และคดี เพิม่ ขนึ้ ทาให้การแบ่งสว่ นราชการภายในสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ออกเปน็ 9 กลุม่ 1
หนว่ ย
1. บริบทพื้นฐาน
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 26 มีทต่ี ั้งอยู่ภายในพื้นท่โี รงเรียนมหาวชิ านุกลู
ถนนเลีย่ งเมืองมหาสารคาม - ร้อยเอด็ ตาบลแวงนา่ ง อาเภอเมือง จังหวดั มหาสารคาม มีพ้ืนที่
รบั ผดิ ชอบให้บรกิ ารครอบคลุม 13 อาเภอ ดังน้ี เมืองมหาสารคาม, แกดา, โกสมุ พสิ ยั , กันทรวชิ ยั
เชียงยนื , บรบอื , นาเชอื ก, พยัคฆภมู พิ สิ ัย, วาปปี ทมุ , นาดูน, ยางสสี รุ าช, กุดรงั และชน่ื ชม
มีอาณาเขตติดตอ่ กับจงั หวดั ใกลเ้ คียง ดังนี้
ทศิ เหนือ ตดิ ตอ่ กับจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดกาฬสนิ ธุ์
ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกับจงั หวดั กาฬสินธุแ์ ละจงั หวัดร้อยเอ็ด
ทิศใต้ ติดตอ่ กับจงั หวดั สรุ นิ ทร์และจังหวัดบุรรี มั ย์
ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กับจังหวัดบุรีรมั ย์และจังหวดั ขอนแก่น
7
2. ขอ้ มลู พ้ืนฐานทางการศกึ ษา
2.1 ขอ้ มูลโรงเรียน จาแนกตามขนาด (ข้อมูล 10 ม.ิ ย. 62)
ขนาดโรงเรียน 2560 ปีการศกึ ษา 2562
21 2561 21
ขนาดเล็ก (1-499 คน) 6 21 6
ขนาดกลาง (500-1,499 คน) 4 4
ขนาดใหญ่ (1,500-2,499 คน) 4 6 4
ขนาดใหญ่พเิ ศษ (2,500 คนขึ้นไป) 35 4 35
4
รวม 35 2562
5,823
2.2 ขอ้ มูลนกั เรยี น จาแนกตามช้นั เรยี น (ข้อมูล 10 มิ.ย. 62) 5,716
5,813
ระดับชัน้ 2560 ปีการศกึ ษา 4,713
6,068 2561 4,470
มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 5,855 5,836 4,417
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 5,850 5,948 36
มัธยมศึกษาปีที่ 3 4,996 5,713 40
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 4,927 4,761 42
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 4,759 4,633 31,070
มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 42 4,739
ปวช.1 73 40
ปวช.2 48 43
ปวช.3 32,618 65
รวม 31,778
8
2.3 ขอ้ มูลครูและบุคลากรทางการศกึ ษา (ข้อมูล 10 มิ.ย. 62)
ข้าราชการครูและบคุ ลากร ปีการศึกษา
ทางการศกึ ษา(ตาม จ 18) 2560 2561 2562
35 34 34
ผอู้ านวยการโรงเรยี น 41 35 27
รองผ้อู านวยการโรงเรยี น 1,838 1,767 1,737
ครู
ครูมาช่วยราชการ (ต่างเขต) 3 73
ครไู ปช่วยราชการ (ต่างเขต) 7 64
พนกั งานราชการ (ครผู สู้ อน) 69 69 74
ลูกจ้างประจา 64 57 57
รวม 2,057 1,975 1,936
ขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ปกี ารศึกษา
ทางการศกึ ษา (สนับสนนุ ) 2560 2561 2562
35
ลูกจา้ งชว่ั คราว (ธรุ การ) 27 27 37
72
ลูกจ้างช่วั คราว (นกั การภารโรง) 37 37
รวม 64 64
2.4 จานวนข้าราชการในสานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา (ขอ้ มูล 10 มิ.ย. 62)
บุคลากรในสานักงานเขตพื้นท่ี 2560 ปกี ารศึกษา 2562
การศึกษา - 2561 1
1
ผ้อู านวยการสานกั งานเขตพืน้ ที่ 3 2
การศกึ ษา 2
รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่ 9 11
การศกึ ษา 35 12 28
ศึกษานิเทศก์ 1 28 1
บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) 15 1 17
ลกู จ้างประจา 63 16 60
ลูกจา้ งชั่วคราว 60
รวม
9
3. ข้อมูลผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น
3.1 ผลการประเมินคุณภาพการศกึ ษาชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
ตารางที่ 1 แสดงคะแนนเฉล่ยี คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ และระดับคุณภาพนกั เรยี น ชัน้ มัธยมศกึ ษา
ปที ่ี 3 จาแนกเปน็ รายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในภาพรวมของสานกั งานเขตพืน้ ท่ี
การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 26 ปกี ารศึกษา 2561
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ จานวน คะแนน ค่าเฉลีย่ S.D คา่ เฉล่ยี
นักเรยี น เต็ม เขตพื้นที่ ประเทศ
ภาษาไทย 4,039 100 56.93 14.51 54.42
คณิตศาสตร์ 4,040 100 31.10 16.02 30.04
วทิ ยาศาสตร์ 4,037 100 37.38 10.46 36.10
ภาษาองั กฤษ 4,036 100 28.51 9.48 29.45
จากตารางท่ี 1 พบว่า ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ใน 4 สาระ
หลกั วิชาภาษาไทยมคี ะแนนเฉลีย่ ร้อยละสงู สุด คือ 56.93 รองลงมาได้แก่ วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์
และภาษาองั กฤษ มีคา่ เฉล่ียร้อยละ 37.38 , 31.10 และ 28.51 ตามลาดบั เมื่อพจิ ารณาค่าความ
เบ่ียงเบนมาตรฐาน จะเหน็ ว่าคะแนนมกี ารกระจายมากทุกกลุม่ สาระการเรยี นรู้ โดยมีค่าอยู่ระหว่าง
9.48-16.02
ตารางที่ 2 เปรียบเทยี บคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3
ปีการศึกษา 2560-2561
กลมุ่ สาระการ คา่ เฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลีย่ ร้อยละ + เพ่ิมขึ้น
เรียนรู้ ปีการศกึ ษา 2560 ปีการศึกษา 2561 - ลดลง
เขตพ้นื ที่ ประเทศ เขตพ้ืนท่ี ประเทศ เขตพ้ืนที่ ประเทศ
ภาษาไทย 49.30 48.29 56.93 54.42 + 7.63 + 6.13
คณติ ศาสตร์ 26.61 26.30 31.10 30.04 + 4.49 + 3.74
วิทยาศาสตร์ 32.69 32.28 37.38 36.10 + 4.69 + 3.82
ภาษาองั กฤษ 29.47 30.45 28.51 29.45 - 0.96 - 1.00
จากตารางที่ 2 พบว่า ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน 4 กลุ่มสาระหลกั ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษา
ปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2561 เพ่ิมขึน้ จากปีการศึกษา 2560 จานวน 3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คอื ภาษาไทย
, วทิ ยาศาสตร์ และคณติ ศาสตร์ เพมิ่ ขน้ึ ร้อยละ 7.63, 4.69 และ 4.49 ตามลาดบั และสาระการ
เรียนรู้ทีม่ คี ะแนนเฉลย่ี ลดลง คอื ภาษาองั กฤษ โดยมีคะแนนเฉล่ยี ลดลง 0.96
ในระดบั ประเทศ พบว่า ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น 4 กลมุ่ สาระหลัก ของนกั เรียนชั้น
มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ปีการศึกษา 2561 เพม่ิ ขนึ้ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ เช่นกนั คือ ภาษาไทย
วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยมคี ะแนนเฉลย่ี ร้อยละเพ่มิ ขนึ้ 6.13 , 3.82 และ 3.74 ตามลาดบั
ส่วนสาระการเรยี นรทู้ มี่ ีคะแนนเฉลย่ี ลดลง คอื ภาษาองั กฤษ โดยมีคะแนนเฉลย่ี ลดลง 1.00
10
3.2 ผลการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6
ตารางที่ 3 แสดงคะแนนเฉล่ีย คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ และระดับคุณภาพนักเรียน ชนั้ มัธยมศกึ ษา
ปีที่ 6 จาแนกเปน็ รายกลุม่ สาระการเรียนรู้ ในภาพรวมของสานกั งานเขตพนื้ ท่ี
การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 26 ปกี ารศึกษา 2561
กลุม่ สาระการเรียนรู้ จานวน คะแนน คา่ เฉลีย่ S.D ค่าเฉลีย่
นักเรียน เต็ม เขตพ้นื ท่ี ประเทศ
ภาษาไทย 3,522 100 46.39 14.08 47.31
คณิตศาสตร์ 3,522 100 27.43 16.51 30.72
วทิ ยาศาสตร์ 3,524 100 29.35 8.94 30.51
ภาษาอังกฤษ 3,523 100 27.38 11.29 31.41
สังคมศึกษา 3,522 100 34.40 7.00 35.16
จากตารางที่ 3 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศึกษา
2561 ใน 5 สาระการเรยี นรูห้ ลกั วชิ าภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละสงู สุด คือ 46.39 รองลงมาไดแ้ ก่
สังคมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ภาษาองั กฤษ มีค่าเฉล่ียร้อยละ 34.40 , 29.35 , 27.43
และ 27.38 ตามลาดับ เม่ือพิจารณาค่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน จะเหน็ วา่ คะแนนมีการกระจายมาก
ทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ โดยมีคา่ อยรู่ ะหว่าง 7.00-16.51
ตารางที่ 4 เปรยี บเทียบคา่ เฉลยี่ รอ้ ยละผลสัมฤทธิท์ างการเรียน นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ปีการศึกษา 2560-2561
กลุม่ สาระการ คา่ เฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลย่ี ร้อยละ + เพิม่ ข้นึ
เรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา 2560 ปีการศึกษา 2561 - ลดลง
เขตพนื้ ท่ี ประเทศ เขตพนื้ ท่ี ประเทศ เขตพนื้ ที่ ประเทศ
ภาษาไทย 48.91 49.25 46.39 47.31 - 2.52 - 1.94
คณติ ศาสตร์ 21.40 24.53 27.43 30.72 + 6.03 + 6.19
วทิ ยาศาสตร์ 27.58 29.37 29.35 30.51 + 1.77 + 1.14
ภาษาองั กฤษ 23.94 28.31 27.38 31.41 + 3.44 + 3.10
สังคมศึกษา 33.65 34.70 34.40 35.16 + 0.75 + 0.46
จากตารางท่ี 4 พบวา่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา
2561 ใน 5 สาระหลักการเรียนรู้ เพิ่มข้นึ จากปกี ารศึกษา 2560 จานวน 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ และ
ลดลง 1 สาระการเรียนรู้ โดยเรียงลาดับการเพมิ่ ขึ้น ดงั น้ี คณิตศาสตร์ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 6.03,
ภาษาองั กฤษ เพมิ่ ข้นึ รอ้ ยละ 3.44, วทิ ยาศาสตร์ เพ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ 1.77, สังคมศึกษา เพิ่มข้ึนรอ้ ยละ
0.75 ส่วนสาระการเรียนร้ทู ่ีลดลง คือ ภาษาไทย ลดลงรอ้ ยละ 2.52
ในระดับประเทศ พบว่าผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ปี
การศกึ ษา 2561 ใน 5 สาระหลักเพิม่ ขึ้นจากปีการศึกษา 2560 จานวน 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ และ
11
ลดลง 1 สาระการเรียนรู้ โดยเรยี งลาดบั การเพิม่ ขน้ึ ดังนี้ คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, วทิ ยาศาสตร์
และสงั คมศึกษา เพิ่มขนึ้ ร้อยละ 6.19, 3.10, 1.14 และ 0.46 ตามลาดบั และลดลงจานวน 1 กลุม่
สาระการเรยี นรู้ คือ ภาษาไทย มคี ่าคะแนนเฉลย่ี ลดลงร้อยละ 1.94
4. การบริหารและการกระจายอานาจ
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาได้กระจายอานาจในการจดั การด้านการศึกษา โดย
แบง่ พน้ื ที่รบั ผดิ ชอบออกเปน็ สหวิทยาเขต 6 สหวทิ ยาเขต ดังน้ี
สหวิทยาเขต ที่ 1 สหวิทยาเขตเจริญราชเดช
1. โรงเรียนสารคามพทิ ยาคม
2. โรงเรยี นมหาชัยพิทยาคาร
3. โรงเรียนนาโพธ์ิพทิ ยาสรรพ์
4. โรงเรยี นกุดรังประชาสรรค์
5. โรงเรยี นมหาวิชานกุ ูล
สหวิทยาเขต ที่ 2 สหวิทยาเขตตักศิลา
1. โรงเรยี นผดงุ นารี
2. โรงเรียนกนั ทรวชิ ยั
3. โรงเรยี นเขวาใหญพ่ ทิ ยาสรรค์
4. โรงเรียนแกดาวิทยาคาร
5. โรงเรียนมติ รภาพ
สหวิทยาเขต ที่ 3 สหวิทยาเขตบรบือ
1. โรงเรียนบรบือวิทยาคาร
2. โรงเรียนบรบอื
3. โรงเรยี นยางวทิ ยาคม
4. โรงเรยี นเหล่ายาววิทยาคาร
5. โรงเรียนโนนราษีวิทยา
6. โรงเรยี นหนองมว่ งวทิ ยาคาร
7. โรงเรียนโนนแดงวทิ ยาคม
สหวิทยาเขต ท่ี 4 สหวิทยาเขตพทุ ธมณฑลเทพประทุม
1. โรงเรียนวาปปี ทุม
2. โรงเรยี นนาดูนประชาสรรพ์
3. โรงเรียนประชาพัฒนา
4. โรงเรียนดงบงั พสิ ยั นวการนสุ รณ์
5. โรงเรยี นดงใหญ่วิทยาคม รชั มังคลาภิเษก
12
สหวิทยาเขต ที่ 5 สหวิทยาเขตสารคามใต้
1. โรงเรยี นนาภูพทิ ยาคม
2. โรงเรียนนาเชอื กพิทยาสรรค์
3. โรงเรยี นปอพานพิทยาคม รชั มังคลาภิเษก
4. โรงเรยี นมัธยมยางสสี รุ าช
5. โรงเรยี นพยัคฆภูมิวทิ ยาคาร
สหวิทยาเขต ที่ 6 สหวิทยาเขตสะดอื อสี าน
1. โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์
2. โรงเรยี นเชยี งยนื พิทยาคม
3. โรงเรยี นเขอ่ื นพิทยาสรรค์
4. โรงเรียนเขวาไรศ่ ึกษา
5. โรงเรียนวังยาวศกึ ษาวิทย์
6. โรงเรียนโพนงามพิทยานกุ ูล
7. โรงเรียนกทู่ องพทิ ยาคม
8. โรงเรยี นชื่นชมพทิ ยาคาร
สภาพปัจจบุ นั ของโรงเรยี นขนาดเล็ก
สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 มโี รงเรียนในสังกัด จานวนท้ังสนิ้ 35
โรงเรยี น มโี รงเรียนขนาดเล็กตามเกณฑ์การแบง่ ขนาดโรงเรยี นตามหลักเกณฑ์ของโรงเรียน
มัธยมศึกษา จานวน 21 โรงเรียน (ข้อมูล ณ 10 มถิ ุนายน 2562) และมแี นวโนม้ จะคงอยู่หรอื เพ่มิ ขน้ึ
เนื่องจากการเดนิ ทางมาเรยี นยังโรงเรียนในเมืองของประชากรวยั เรยี นในปจั จบุ นั สามารถเดนิ ทาง ไป-
มา ได้อย่างสะดวกยง่ิ ขน้ึ อีกทั้งผู้ปกครองยงั มีค่านิยมในการสง่ บตุ รหลานเข้ามาเรยี นในเมือง อนั
เน่อื งมาจากความพร้อมของโรงเรยี นในเมืองมมี ากกว่าโรงเรียนในตาบล หรืออาเภอ ทั้งทางดา้ นบุคคล
กรครู และอุปกรณก์ ารเรียนการสอน จึงเปน็ สาเหตหุ นงึ่ ที่สาคัญทาใหป้ ระชากรวัยเรียนของโรงเรียน
ประจาตาบลหรืออาเภอลดลงอยา่ งต่อเนือ่ ง แตท่ ้งั น้ีทง้ั นั้นยังมีประชากรวยั เรียนส่วนหน่งึ ที่ไม่มีโอกาส
หรือผปู้ กครองมีความสามารถสง่ เข้ามาเรยี นยังโรงเรียนในเมืองไดเ้ นื่องจากภาวะความยากจนไม่มี
กาลงั ทรพั ย์ท่จี ะส่งเสียให้บุตรหลานเขา้ มาเรยี นยังโรงเรียนในเมอื ง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน มีนโยบายท่ีจะพฒั นาโรงเรียนขนาดเล็กให้มี
คุณภาพ เพอ่ื ลดความเหลือ่ มล้าทางการศึกษาในระดบั โรงเรยี นทั่วประเทศ ตามนโยบายของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารและรัฐบาล สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษาเขต 26 ได้สารวจโรงเรยี น
ขนาดเลก็ ทีส่ ามารถดารงอยู่ได้ด้วยตนเอง (Stand Alone) ตามหนังสือสง่ั การของสานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ท่ี ศธ 04006/ว1338 ลงวันท่ี 8 มีนาคม 2562 ปรากฎวา่ มี
โรงเรียนในสังกดั สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 26 ทเ่ี ขา้ ข่ายเป็นไปตามเกณฑ์ดังกล่าว
จานวน 7 โรงเรียน ดงั น้ี
13
1.โรงเรยี นโพนงามพทิ ยานกุ ลู
2.โรงเรยี นเขวาใหญพ่ ทิ ยาสรรค์
3.โรงเรียนหนองม่วงวิทยาคาร
4.โรงเรยี นกุดรงั ประชาสรรค์
5.โรงเรียนกู่ทองพิทยาคม
6.โรงเรยี นโนนราษวี ทิ ยา
7.โรงเรียนวังยาวศกึ ษาวิทย์
ซึง่ โรงเรียนดงั กลา่ วขา้ งต้นจะมีสภาพปัญหาคล้ายๆกัน คือ
1. ด้านวชิ าการ
1.1) ขาดแคลนสอื่ วัสดุ อุปกรณ์ ครภุ ณั ฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอนท่ีทันสมัยไม่เพียงพอ
กับความต้องการและความจาเปน็ ที่จะใช้เหมาะสม
1.2) ขาดแคลนหนงั สอื เรียน หนงั สืออา่ นประกอบ แหลง่ เรยี นรใู้ นโรงเรยี นและชมุ ชน
เนือ่ งจากงบประมาณมจี ากัด ไมเ่ พียงพอกับความต้องการ ทาใหผ้ ูเ้ รียนไมส่ ามารถศึกษาหาความรู้
จากแหล่งเรยี นรู้ได้อย่างหลากหลาย
1.3) ครขู าดประสบการณใ์ นการสร้าง/ใช้สอื่ การเรียนการสอน และขาดความรู้ความเขา้ ใจใน
การใช้สื่อเทคโนโลยหี รอื นวตั กรรม
1.4) นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตา่ กว่ามาตรฐาน มีปัญหาการคดิ วิเคราะหแ์ ละการ
คดิ คานวณ
1.5) นกั เรียนขาดความกระตือรือรน้ ในการเรียน
1.6) พน้ื ฐานความรู้ของนักเรียนแตกตา่ งกันทาใหก้ ารจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครมู ี
ความยุ่งยาก
2. ดา้ นบุคลากร
2.1) บคุ ลากรครูไม่ตรงกบั สาขาวิชาเอกหรือวชิ าท่ถี นัดและครตู อ้ งรับภาระหนัก สอนหลาย
ระดับ หลายรายวิชา
2.2) ครูขาดขวัญและกาลงั ใจ ตลอดจนแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน จงึ ทางานได้ไม่มี
ประสทิ ธิภาพเทา่ ทคี่ วร
2.3) บคุ ลากรมีการยา้ ยบ่อย ทาให้เกิดความไมต่ ่อเนื่องของงานท่ีปฏิบัติ
2.4) ขาดบคุ ลากรสายสนับสนุนการสอน เชน่ งานธรุ การ การเงินและพัสดุ
2.5) บุคลากรบางสว่ นเป็นครูอตั ราจ้าง ระยะเวลาทีท่ าการจ้างส้นั เชน่ จ้างเหมา 4 เดอื น
จ้างเหมาตามปีงบประมาณ ทาใหข้ าดความมั่นคงในอาชพี และความต่อเนื่องของงานที่ทา
2.6) การพฒั นาบุคลากรใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับทักษะกระบวนการเรยี นการสอน
และการใชเ้ ทคโนโลยที างการศกึ ษามนี ้อย
2.7) สวสั ดกิ ารดา้ นต่าง ๆ เช่น ทพี่ กั อาศยั พาหนะ สาธารณปู โภค ฯลฯ ใหก้ ับบุคลากรมี
น้อย ครูประสบปัญหาการเดินทางที่ไกล มีความยากลาบาก ไมส่ ะดวก ทาใหเ้ กดิ ความเครียดและ
ความกังวลใจหลายประการ
14
3. ด้านอาคารสถานที่/ส่ือวัสด/ุ อุปกรณ/์ ครุภณั ฑ์
3.1) สภาพอาคารเก่า ชารดุ ทรุดโทรม เน่อื งจากก่อสร้างมาเป็นเวลานาน ขาดความ
ปลอดภัย
3.2) ขาดห้องปฏบิ ัตกิ าร
3.3) ขาดวัสดุ ครภุ ณั ฑ์ ส่อื การการเรยี นการสอนท่ีจาเป็น เช่น คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ
4. ด้านการบรหิ ารจดั การ
4.1) ชุมชน ผปู้ กครอง มฐี านะยากจน ไม่สามารถส่งเสริมสนบั สนนุ การดาเนินงานของ
โรงเรียน และการเรยี นของบุตรหลานไดม้ ากเทา่ ท่ีควร
4.2) การใช้ข้อมลู สารสนเทศ และนาผลของการประเมินงาน/โครงการมาใช้วางแผน
ปรับปรุง พัฒนางาน ยงั มีน้อย
4.3) การอพยพเคลื่อนย้ายของประชากรวัยเรียนที่ยา้ ยไปรับจ้างงานต่างพ้ืนท่ี ทาใหเ้ กดิ
ปญั หา อปุ สรรคเกี่ยวกับการดาเนนิ งานของครแู ละโรงเรียน
4.4) ขาดการติดต่อประสานงานกบั หนว่ ยงาน องคก์ รทเี่ กยี่ วขอ้ งหรือทีอ่ น่ื ๆ ที่เขา้ มาชว่ ย
สนับสนนุ การจัดการศึกษาของโรงเรยี น
4.5) ขาดงบประมาณสนบั สนุนการดาเนินงานด้านอ่นื ๆ ของโรงเรียน
4.6) การจดั สอนแทนไม่มีประสทิ ธภิ าพเพราะมคี รจู านวนน้อย
เนือ่ งจากจานวนครแู ละงบประมาณขน้ึ กบั จานวนนักเรียน
ผลสมั ฤทธิท์ างการศกึ ษา ปี 2559-2561 ของโรงเรยี นขนาดเล็ก (Stand Alone)
ผลสมั ฤทธท์ิ างการศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ของโรงเรียนขนาดเลก็ (Stand Alone)
เปรียบเทยี บต้งั แตป่ ีการศึกษา 2559-2561 จะเห็นวา่ ยงั คอ่ นข้างต่า แต่มแี นวโนม้ พัฒนาเพม่ิ ขึ้น
ดงั ตารางทแ่ี สดง
ตารางคะแนน O-NET ของโรงเรยี นขนาดเลก็ ระดบั ช้ัน ม.3 ปกี ารศึกษา 2559 - 2561
สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 26
ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เฉลีย่ สพม.26
ที่ โรงเรียน ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา
2559 2560 2561 2559 2560 2561 2559 2560 2561 2559 2560 2561 2559 2560 2561
เขวาใหญ่
1 พิทยา 46.71 36.57 41.64 24.00 24.14 26.14 22.13 15.43 21.43 26.29 25.86 31.57 29.78 25.50 30.20
สรรค์
2 หนองม่วง 41.00 40.08 49.87 26.92 28.15 24.00 26.34 19.08 23.20 32.46 29.08 31.87 31.68 29.10 32.24
วทิ ยาคาร
3 โนนราษี 44.50 39.85 49.25 24.57 28.00 26.00 25.20 22.15 24.33 31.14 30.15 31.83 31.35 30.04 32.85
วทิ ยา
4 กู่ทอง 39.40 40.83 45.41 25.73 24.17 25.65 20.21 18.00 21.88 30.53 28.00 33.06 28.97 27.75 31.50
พทิ ยาคม
5 โพนงาม 41.14 48.90 47.75 30.00 27.60 25.00 23.94 14.00 21.00 28.57 34.80 30.83 30.91 31.33 31.15
พิทยานกุ ูล
6 วังยาว 40.69 46.76 50.11 25.00 28.67 22.53 24.65 22.67 25.89 31.54 32.67 35.58 30.47 32.69 33.53
ศึกษาวทิ ย์
กดุ รัง
7 ประชา 36.54 39.38 46.00 26.00 28.92 25.80 18.89 18.77 33.20 29.23 28.31 28.80 27.67 28.85 33.45
สรรค์
สว่ นผลสัมฤทธ์ทิ างการศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ของโรงเรียนขนา
ค่อนข้างตา่ แต่มแี นวโน้มเพิม่ ขน้ึ ดังตารางท่ีแสดง
ตารางคะแนน O-NET ของโรงเรียนขนาดเล็ก
สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ
ที่ โรงเรยี น ภาษาไทย สงั คมศึกษา ภาษาองั กฤษ
ปกี ารศึกษา ปกี ารศึกษา ปีการศกึ ษา
1 เขวาใหญพ่ ิทยา 2559 2560 2561 2559 2560 2561 2559 2560
สรรค์ 41.59 43.91 31.73 30.55 30.18 29.85 20.00 18.52
35.88 33.13 37.00 28.23 25.80 33.67 21.44 18.58
2 หนองมว่ งวิทยา 42.03 51.14 39.00 30.78 32.43 30.87 21.32 20.36
คาร
3 โนนราษวี ิทยา
4 กู่ทองพทิ ยาคม 39.25 28.33 31.20 31.50 26.17 28.30 20.63 19.17
36.45 29.55 27.27 32.50 21.59 19.32
5 โพนงามพทิ ยานุ 32.59 39.02 38.57 30.50 30.00 34.86 20.36 19.33
กูล
6 วงั ยาวศึกษาวิทย์ 39.35 36.69
7 กุดรงั ประชาสรรค์ 37.05 34.39 34.71 33.55 31.22 30.71 18.75 21.53
าดเล็ก (Stand Alone) เปรียบเทียบตั้งแต่ปีการศึกษา 2559-2561 จะเห็นวา่ ยงั
ก ระดับชนั้ ม.6 ปกี ารศึกษา 2559 - 2561
กษามธั ยมศึกษา เขต 26
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ เฉลย่ี สพม.26
ปกี ารศึกษา
ปกี ารศกึ ษา 2559 2560 2561 ปีการศกึ ษา
2561 2559 2560 2561 2559 2560 2561
18.75 17.73 15.68 19.23 27.09 23.61 24.12 27.39 26.38 24.74
20.83 19.23 15.83 18.33 26.69 21.97 27.60 26.29 23.06 27.49
20.75 16.39 13.21 17.83 27.44 24.84 23.49 27.59 28.40 26.39
20.75 26.25 15.42 17.00 27.00 25.08 22.96 28.93 22.83 24.04
20.13 17.27 16.82 19.00 24.09 23.98 27.68 25.02 25.28 27.15
21.25 19.06 12.69 26.07 28.38 21.30 28.17 27.53 24.00 29.78
22.32 22.27 11.67 21.79 29.64 24.63 25.20 28.25 24.69 26.95
15
16
สว่ นท่ี 2
การบรหิ ารจดั การโรงเรียนขนาดเล็กทผ่ี า่ นมา
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 26 มีโรงเรยี นในสังกดั จานวน 35 โรงเรียน
เป็นโรงเรยี นขนาดเล็ก (ตามเกณฑ์ของโรงเรียนมธั ยมศึกษา) จานวน 21 โรงเรยี น และในจานวน 21
โรงเรียน เปน็ โรงเรยี นขนาดเลก็ ตามเกณฑ์โรงเรียนขนาดเล็กที่สามารถดารงอยู่ไดด้ ว้ ยตนเอง (Stand
Alone) ทมี่ จี านวนนักเรียนน้อยกว่า 120 คน จานวน 7 โรงเรยี น คิดเปน็ รอ้ ยละ 20 ของโรงเรียนที่
สงั กัดสานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 26 ทงั้ หมด ซงึ่ โรงเรียนขนาดเล็กในสงั กดั
สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 26 ไดม้ ีการบรหิ ารจดั การโรงเรยี นทผี่ ่านมาดงั น้ี
1. บรหิ ารโดยการมสี ่วนรว่ ม ประชุมผมู้ สี ว่ นเกยี่ วข้อง คณะกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง
ศษิ ย์เก่า ชุมชน องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ผูน้ าชุมชน เพ่ือร่วมกันหาแนวทางพัฒนาสถานศกึ ษา
2. สรา้ งความตระหนักใหบ้ ุคลากรภายในโรงเรยี นในการรว่ มกนั พฒั นาโรงเรยี น
3. พฒั นาด้านงานวิชาการ โดยมวี ิธีการดาเนินงานดงั ต่อไปนี้
3.1 พัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษาให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้เรียน โดยมี
ศกึ ษานิเทศกแ์ ละคณะกรรมการ ก.ต.ป.น. คอยใหค้ วามชว่ ยเหลอื และแนะนา
3.2 จดั การเรยี นการสอนโดยเนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั เน้นการสอนแบบการเรียนรู้
ผา่ นกิจกรรมการปฎิบตั จิ รงิ (Active Learning)
3.3 จัดหาและพฒั นาสื่อการเรยี นการสอนใหห้ ลากหลายและทนั สมยั จดั ให้มรี ะบบ
Internet ทมี่ ีความเรว็ สงู มีหอ้ งคอมพิวเตอรเ์ พ่อื สบื คน้ หาความรเู้ พ่มิ เตมิ
3.4 พฒั นายกระดับผลสมั ฤทธค์ิ ะแนน 0-Net มกี ารติวโดยครู และบุคลากรผมู้ คี วาม
เชี่ยวชาญในแตล่ ะวิชา โยอาศัยเครอื ข่ายความร่วมมือกนั ของครูภายในสหวทิ ยาเขต และภายนอกสห
วทิ ยาเขต
4. พฒั นาดา้ นงานบุคคล โดยมีวิธีการดาเนินงานดงั ต่อไปนี้
4.1 จัดหา จัดจ้างครูในสาขาวิชาท่ีขาดแคลนและมีความต้องการจาเป็นมากใน
ลาดบั ตน้
4.2 สร้างความตระหนักใหค้ รู เป็นครูมอื อาชีพ
4.3 พัฒนาให้ครูจัดการเรยี นการสอนโดยเน้นผ้เู รียนเปน็ สาคัญ เนน้ การสอนแบบ
การเรียนรผู้ ่านกิจกรรมการปฏบิ ัติจริง (Active Learning)
4.4 ส่งเสรมิ สนบั สนุนใหค้ รพู ัฒนาตนเองตลอดเวลา ในรูปแบบ โรงเรียนจดั การ
อบรมดว้ ยโรงเรยี นเอง เขา้ ร่วมกบั องค์กรอน่ื ๆ และจัด Plc อยา่ งจงิ จัง ใหเ้ ป็นรปู ธรรม
4.4 พัฒนาครูในการประเมินผลนกั เรยี นในรูปแบบท่หี ลายหลาก ประเมินผลตาม
สภาพจรงิ วัดผล ประเมนิ ผลดว้ ยการลงมอื ปฏบิ ตั ิ การสงั เกต การทดสอบเปน็ ตน้ โดยมีคณะ
ศึกษานเิ ทศกใ์ หค้ วามชว่ ยเหลือ
17
5. พฒั นาดา้ นงบประมาณ
5.1 บรหิ ารงบประมาณตามระเบียบกระทรวงการคลังและระเบยี บ กฎหมาย ที่
เก่ยี วข้อง ตามศักยภาพที่ตนสามารถดาเนินการได้
5.2 เสนอของบประมาณจากหน่วยงานตน้ สังกัด
5.3 ร่วมกับชมุ ชน ศษิ ย์เก่า คณะกรรมการสถานศึกษา และผมู้ สี ว่ นเกยี่ วข้อง
เพื่อหางบประมาณพฒั นาโรงเรยี นทั้ง 4 งานของโรงเรยี น
6. พัฒนาด้านงานบริหารท่ัวไป
6.1 ดูแล ปรบั ปรุง อาคารสถานทใี่ ห้พรอ้ มใชง้ าน และแข็งแรงปลอดภยั ตลอดเวลา
6.2 จดั แหลง่ เรยี นรู้ท้งั ภายใน ภายนอกหอ้ งเรยี น
6.3 จัดบริเวณภายในโรงเรียนให้สวยงาม รม่ รื่น น่าอยู่ นา่ ดู นา่ เรยี น
6.4 โรงเรียนเข้ารว่ มงานกบั ชุมชน ในงานตา่ งๆ เช่น งานประเพณตี า่ งๆ
6.5 จัดโครงการจิตอาสาใหน้ ักเรียน และบุคลากร เข้าไปพัฒนาบริเวณในชุมชนให้
สะอาด เข้าไปจดั กจิ กรรมในโรงเรียนประถมศกึ ษา เพื่อสรา้ งเครอื่ ขา่ ยความรว่ มมือ
6.6 ดาเนนิ การระบบดูแลนักเรยี นอยา่ งจริงจงั เป็นรูปธรรม ศึกษานักเรยี นเป็น
รายบุคคลและมีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นปจั จบุ นั รว่ มมือกับทภุ าคส่วนในการสร้างระบบดูแลนกั เรียน
6.7 จัดระบบสาธารณูปโภคใหเ้ พยี งพอ สะอาด ปลอดภัย
6.8 บริการรถ รับ สง่ นักเรียนฟรี น้าดมื่ ฟรี จดั หาทุนการศกึ ษาให้นักเรียนทุก
ปี
6.9 จดั บริการดา้ นวิชาการ ด้านแหลง่ เรียน ใหก้ บั ชมุ ชน ผู้ปกครอง และหนว่ ยงานที่
ตอ้ งการ
7. จัดให้มกี ารประชาสัมพนั ธ์ ผลการดาเนินงานของเรียน ผลงานของโรงเรียน ครู นักเรียน
การร่วมกิจกรรมต่างๆ ในเว็บไชของเรยี น ในการประชุมรว่ มกบั หน่วยงานอ่ืนๆ รายงานต่อชุมชน
คณะกรรมการสถานศึกษา
ในสว่ นของสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 26 นน้ั เขา้ มามสี ว่ นบริหารจดั การ
โรงเรียนขนาดเล็กในสงั กัด โดยการกระจายอานาจใหโ้ รงเรยี นมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การศึกษา
โดยแบ่งโรงเรียนออกเป็น 6 สหวิทยาเขต เพื่อให้โรงเรียนในแตล่ ะสหวิทยาเขตดูแลช่วยเหลือซึ่งกนั
และกนั นอกเหนือจากที่ไดร้ บั การช่วยเหลอื จากเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ซง่ึ การบรหิ ารจดั การโรงเรียนที่
ผา่ นมาสานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 26 ได้เข้าไปชว่ ยเหลอื โรงเรยี นในสังกดั หลาย
รปู แบบ เชน่ 1) งานวิชาการผา่ นคณะศกึ ษานเิ ทศก์ คอยให้คาแนะนาชว่ ยเหลือรว่ มกับคณะกรรมการ
ก.ต.ป.น. มกี ารใหค้ วามรูด้ ้านการวัดประเมนิ ผล การวเิ คราะหแ์ ละจัดทาหลกั สตู รการเรยี นการสอน
งานวจิ ยั การประกนั คณุ ภาพการศึกษาภายใน เพ่อื รองรับการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก
จากหนว่ ยงานภายนอก (สมศ.) การจัดทาคลงั ข้อสอบเพ่ือช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น (O-
NET) การทาเคร่อื งมือชว่ ยคดั กรองเด็ก 2) งานระบบดูแลและช่วยเหลอื นกั เรียน ผา่ นกลุ่มส่งเสรมิ การ
จัดการศกึ ษา การติดตามการรับนกั เรยี น การดูแลประชากรวยั เรียนกลมุ่ เสย่ี งตา่ งๆ การจดั หาท่ีเรียน
ตอ่ ระบบครูแนะแนว และทุนการศกึ ษาตา่ งๆ 3)งานบรหิ ารบุคคล ผา่ นกลุ่มบริหารงานบคุ คล
ชว่ ยเหลอื ในดา้ นการพัฒนาครู งานวิทยฐานะ งานเงินเดือนและอตั รากาลัง 4)งานงบประมาณและ
18
แผน ผ่านกลมุ่ นโยบายและแผน คอยใหค้ าปรึกษาและประสานงานกับหน่วยเหนอื ด้านงบประมาณ
แผนงานต่างๆ 5)งานจัดซือ้ จัดจ้าง ผา่ นกลมุ่ บริหารงานการเงนิ และสินทรัพย์ คอยให้ความชว่ ยเหลอื
ดา้ นระบบการจดั ซอ้ื จดั จ้างผา่ นช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 6)งานบญั ชี และระเบียบการจัดซ้ือจดั จา้ ง
ผ่านหน่วยตรวจสอบภายใน เพือ่ ใหโ้ รงเรียนดาเนนิ การให้ถูกตอ้ งเป็นไปตามกฎ ระเบียบ 7)งานวินยั
และคดี ผา่ นกลุ่มกฎหมายและคดี คอยให้คาชี้แนะ่ ช่วยเหลอื การบริหารดาเนินงานของโรงเรยี น ให้
เปน็ ไปตามกฎหมาย และระเบยี บ 8)งานสง่ เสริม สนับสนนุ ดา้ น IT ผ่านผรู้ บั ผิดชอบงานด้าน ICT ของ
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา 9)งานประสานงานต่างๆท้งั ภายในหน่วยงานตามภารกิจและ นอก
หน่วยงานในสังกดั ผา่ นกลุ่มอานวยการ เป็นตน้ แม้เขตพนื้ ทจี่ ะคอยให้การชว่ ยเหลือโรงเรียน แต่ก็ยัง
ไม่เพยี งพอต่อความต้องการท่ีได้รบั ดงั น้ัน โรงเรยี นต้องพึง่ พาตนเองด้วยส่วนหนง่ึ เชน่ เรื่อง
งบประมาณ ต้องมกี ารระดมทุนการจดั การศึกษา เชน่ การจัดทาผ้าป่าการศกึ ษา การระดมทุนจาก
คณะศิษย์เกา่ การชว่ ยเหลอื จากองค์กรเอกชน เป็นต้น การดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น กด็ าเนินการผ่าน
เครือข่าย ชมุ ชน ผูป้ กครอง หรือหนว่ ยงานที่เกยี่ วข้อง เช่น ตารวจ อสม. ผูใ้ หญบ่ า้ น กานัน เป็นตน้ 5
ถึงชุมชนจะเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการจดั การเรยี นการสอนและชว่ ยสอดส่องดูแลบุตรหลานของตน แต่
ปญั หาทจ่ี าเปน็ ต้องไดร้ ับการแก้ไขและพฒั นากย็ งั ไม่ครอบคลุม โดยปญั หาทีพ่ บมาก คือ โรงเรยี นมีครู
ยังไม่ครบวิชาเอก รวมทงั้ งบประมาณในการบริหารจัดการของโรงเรยี นไมเ่ พยี งพอ ทาใหโ้ รงเรียนขาด
ประสทิ ธิภาพในการจัดการด้านการศึกษา อันเปน็ สาเหตุหน่ึงที่ทาให้จานวนนกั เรียนลดลง แตถ่ งึ
อยา่ งไร โรงเรียนก็ยังจาเป็นต้องดาเนนิ การจัดการเรยี นการสอนต่อไป เนอื่ งจากผู้ปกครองส่วนหนึง่ ยงั
ไมส่ ามารถส่งเสริมบุตรหลานของตนให้ได้รับการศึกษาที่ดีทสี่ ดุ ได้ ไม่สามารถเดินทางหรือนาบุตร
หลานไปเรียนโรงเรยี นในเมืองหรือโรงเรยี นเอกชนได้อันเน่ืองจากภาวะยากจน
ส
แผนการบริหารจ
โรงเรยี นท้งั หมด มีจานวน 35 โรงเรียน มีโรงเรยี นขนาดเล็ก (Stand
3.1 โรงเรยี นท่มี สี ถานทต่ี ัง้ ทางภมู ิศาสตร์อยใู่ นพน้ื ทหี่ ่างไกล บนพ้ืนท
3.1.1 เปน็ โรงเรียนตัง้ อย่บู นพื้นที่เกาะ (ถ้าม)ี จานวน......-...
ลาดบั ชอ่ื โรงเรียน อาเภอ ตาบล
-- --
3.1.2 เป็นโรงเรยี นตั้งอยู่บนพื้นท่ีสงู (ถ้ามี) จานวน......-.......
ลาดับ ชอ่ื โรงเรียน อาเภอ ตาบล
-- --
สว่ นที่ 3
จัดการโรงเรยี นขนาดเลก็
d Alone) จานวน 7 โรงเรยี น คดิ เปน็ ร้อยละ 20 ของโรงเรยี นทงั้ หมด
ทเี่ กาะ พนื้ ที่สูง (Stand Alone) จานวน 7 โรงเรียน
......โรงเรยี น
จานวน จานวนครู จานวนห้องเรยี น แนวทางการบรหิ ารจัดการ
นักเรยี น ทเี่ ปดิ สอน
-- - -
..โรงเรยี น จานวนครู จานวนห้องเรียน แนวทางการบริหารจัดการ
จานวน ที่เปิดสอน
นักเรียน
-- -
-
19
3.1.3 เป็นโรงเรียนตง้ั อยูบ่ นพ้ืนที่ปกตแิ ต่หา่ งไกล ไมส่ ามารถควบรวม
ลาดบั ชอื่ โรงเรยี น อาเภอ ตาบล
น
1 เขวาใหญ่พิทยาสรรค์ กนั ทรวชิ ยั เขวาใหญ่ 86
2 กู่ทองพิทยาคม เชยี งยืน กทู่ อง 115
มได้ จานวน......7........โรงเรยี น
จานวน จานวนครู จานวนห้องเรยี น แนวทางการบรหิ ารจัดการ
นักเรยี น ทเ่ี ปดิ สอน -ดา้ นท่ี 1 โครงสร้างพ้ืนฐาน
1.ปรับปรุงระบบสาธารณปู โภค เชน่
14 6 ระบบไฟฟ้า ประปา ของโรงเรียน
2.ปรับปรงุ ส่งิ ก่อสรา้ งทจี่ าเป็นพ้ืนฐาน
5 12 6 เชน่ อาคารเรยี น อาคาร
เอนกประสงค์ หอ้ งสมุด โรงอาหาร
หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์
-ดา้ นท่ี 2 ส่งเสรมิ การศึกษา
1.พฒั นาครูและบุคลากรทางการ
ศกึ ษาใหเ้ ป็นบคุ คลแหง่ การเรียนร้สู ู่
การเป็นครูมืออาชีพ
2.พฒั นาเร่อื งการอ่านออก เขยี นได้
3.จ้างครูภาษาอังกฤษ (เจ้าของภาษา)
4.สง่ เสริมลดเวลาเรียนเพิม่ เวลารู้
-ดา้ นที่ 3 การสรา้ งเครอื ข่ายและ
การมีสว่ นร่วม
หาเวทแี ลกเปลย่ี นและประสานความ
ร่วมมือระหวา่ งผู้บรหิ าร ครู
ผูป้ กครอง หนว่ ยงาน
สภาพปญั หาและความตอ้ งการ
1. ด้านวชิ าการ
1.1) ขาดแคลนสอื่ วสั ดุ อุปกรณ์
ครุภัณฑ์ อปุ กรณก์ ารเรียนการสอนที่
ทันสมยั ไม่เพยี งพอกบั ความต้องการ
และความจาเปน็ ที่จะใช้เหมาะสม
1.2) ขาดแคลนหนังสือเรียน หนังสือ
20
อ่านประกอบ แหลง่ เรยี นรู้ใน
โรงเรยี นและชุมชน เน่อื งจาก
งบประมาณมีจากัด ไมเ่ พยี งพอกับ
ความต้องการ ทาให้ผ้เู รยี นไม่
สามารถศึกษาหาความรูจ้ ากแหลง่
เรียนรูไ้ ดอ้ ย่างหลากหลาย
1.3) ครขู าดประสบการณ์ในการ
สร้าง/ใช้สอื่ การเรยี นการสอน และ
ขาดความรคู้ วามเขา้ ใจในการใช้ส่ือ
เทคโนโลยหี รือนวัตกรรม
1.4) นกั เรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการ
เรยี นต่ากวา่ มาตรฐาน มีปญั หาการ
คดิ วเิ คราะห์และการคดิ คานวณ
1.5) นักเรยี นขาดความกระตอื รือร้น
ในการเรยี น
1.6) พนื้ ฐานความรขู้ องนกั เรยี น
แตกตา่ งกันทาใหก้ ารจัดกจิ กรรมการ
เรียนการสอนของครมู คี วามยงุ่ ยาก
2. ดา้ นบคุ ลากร
2.1) บุคลากรครูไมต่ รงกบั สาขา
วิชาเอกหรือวิชาทถ่ี นัดและครตู อ้ ง
รบั ภาระหนกั สอนหลายระดบั
หลายรายวชิ า
2.2) ครูขาดขวัญและกาลงั ใจ
ตลอดจนแรงจงู ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
จึงทางานได้ไมม่ ีประสิทธภิ าพ
เท่าทีค่ วร
2.3) บคุ ลากรมีการยา้ ยบอ่ ย ทาให้
เกดิ ความไม่ตอ่ เนอื่ งของงานทปี่ ฏิบตั ิ
2.4) ขาดบคุ ลากรสายสนบั สนนุ การ
21
สอน เชน่ งานธุรการ การเงนิ และ
พสั ดุ
2.5) บุคลากรบางส่วนเป็นครูอตั รา
จ้าง ระยะเวลาท่ีทาการจา้ งสัน้ เช่น
จา้ งเหมา 4 เดอื น จา้ งเหมาตาม
ปงี บประมาณ ทาให้ขาดความมน่ั คง
ในอาชพี และความต่อเนอื่ งของงานที่
ทา
2.6) การพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ีความรู้
ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ทักษะ
กระบวนการเรียนการสอน และการ
ใช้เทคโนโลยีทางการศกึ ษามีนอ้ ย
2.7) สวัสดิการดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ทพ่ี กั
อาศยั พาหนะ สาธารณปู โภค ฯลฯ
ให้กบั บุคลากรมีนอ้ ย ครูประสบ
ปญั หาการเดินทางทีไ่ กล มคี วาม
ยากลาบาก ไมส่ ะดวก ทาใหเ้ กิด
ความเครยี ดและความกงั วลใจหลาย
ประการ
3. ด้านอาคารสถานท่/ี ส่อื วสั ด/ุ
อปุ กรณ์/ครุภณั ฑ์
3.1) สภาพอาคารเกา่ ชารดุ ทรดุ
โทรม เนอ่ื งจากก่อสร้างมาเปน็
เวลานาน ขาดความปลอดภัย
3.2) ขาดหอ้ งปฏิบตั กิ าร
3.3) ขาดวสั ดุ ครุภัณฑ์ สอ่ื การการ
เรยี นการสอนทจี่ าเป็น เชน่
คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
4. ดา้ นการบรหิ ารจัดการ
4.1) ชมุ ชน ผู้ปกครอง มีฐานะ
22
ยากจน ไม่สามารถส่งเสริมสนบั สนุน
การดาเนินงานของโรงเรยี น และการ
เรียนของบุตรหลานไดม้ ากเท่าท่ีควร
4.2) การใช้ข้อมูลสารสนเทศ และนา
ผลของการประเมนิ งาน/โครงการมา
ใชว้ างแผน ปรับปรุง พฒั นางาน ยงั มี
นอ้ ย
4.3) การอพยพเคลื่อนยา้ ยของ
ประชากรวยั เรยี นท่ียา้ ยไปรับจา้ งงาน
ต่างพื้นที่ ทาให้เกิดปัญหา อปุ สรรค
เก่ยี วกบั การดาเนนิ งานของครแู ละ
โรงเรียน
4.4) ขาดการตดิ ตอ่ ประสานงานกบั
หนว่ ยงาน องคก์ รท่เี กย่ี วข้องหรอื ท่ี
อืน่ ๆ ทเ่ี ข้ามาช่วยสนบั สนุนการจดั
การศกึ ษาของโรงเรียน
4.5) ขาดงบประมาณสนับสนุนการ
ดาเนนิ งานด้านอน่ื ๆ ของโรงเรยี น
4.6) การจดั สอนแทนไมม่ ี
ประสทิ ธภิ าพเพราะมคี รจู านวนน้อย
-ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบ
วางแผนและการบริหารจัดการ
โดยการวิเคราะห์ SWOT ของ
โรงเรียน เพ่ือนามาวางแผน
ยุทธศาสตรใ์ นการพฒั นาใหส้ อดคล้อง
กับเดน่ และจุดดอ้ ย โดยคานึงถึง
1.คน (Man) คอื ครแู ละบคุ ลากร
ทางการศกึ ษาทีท่ าหน้าที่สอนใน
โรงเรยี น พจิ ารณาวิชาเอก ความถนัด
และศกั ยภาพทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ศกั ยภาพ
23
ในการพฒั นาที่สุด
2.เงนิ (Money) คอื งบประมาณใน
การดาเนนิ การพฒั นาตามแผนพฒั นา
โรงเรยี น กล่าวคือ จะจัดสรรเงนิ
อยา่ งไรให้ใชจ้ า่ ยตน้ ทนุ นอ้ ยทีส่ ดุ และ
ให้เกิดประสิทธภิ าพ และประสทิ ธิผล
3.วสั ดุหรอื วัตถดุ บิ (Material) การ
บริหารวสั ดใุ นการดาเนินงาน ว่าจะ
ทาอยา่ งไรใ้ หส้ ้นิ เปลอื งน้อยท่ีสุด หรอื
เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ
4.การจัดการ (Management) คือ
กระบวนการจัดการบรหิ ารควบคุม
เพอ่ื ให้งานทั้งหมดเปน็ ไปอย่างมี
ประสิทธภิ าพ และเกดิ ประสิทธิผล
อย่างเตม็ ท่ี และนี้ 4M สดุ ท้าย รวม
ทุกอยา่ งเข้าดว้ ยกันเปน็ เรือ่ งของการ
จัดการ คน เงนิ วตั ถดุ ิบ จดั การให้มี
ประสิทธภิ าพมากทสี่ ดุ
-ยุทธศาสตร์ท่ี 2 พัฒนากระบวนการ
จัดการเรยี นรู้และการประกันคณุ ภาพ
การศึกษา
1.พัฒนาครูและบุคลากรทางการ
ศกึ ษา ให้สามารถจัดการเรยี นรู้อยา่ ง
มีคุณภาพในรปู แบบท่ีหลากหลาย
2.พฒั นาผู้เรยี นโดยคานงึ ถงึ ความ
แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล พัฒนา
นักเรียน LD (Learning Disabilities)
3.สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้ท่ใี ห้
ผ้เู รียนได้เรยี นรผู้ า่ นกิจกรรมการ
ปฏบิ ัติจริง (Active Learning) เน้น
24
ทกั ษะกระบวนการ ใหเ้ กิดทกั ษะการ
คิดวเิ คราะห์ คดิ แก้ปัญหา และคดิ
สร้างสรรค์ ในทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ทง้ั ในและนอกหอ้ งเรยี น
4.สง่ เสริมให้ผู้เรียนมที กั ษะการเรยี นรู้
ในศตวรรษที่ 21 ลด passive เพ่ิม
active ใช้การจัดการเรยี นการสอน 3
STEP
กลยุทธใ์ นการพฒั นาการจดั การ
เรยี นรสู้ ู่สากล
1. ลด passive เพ่ิม actiive
(passive 10 นาที + active 40
นาที)
2. แผนการจัดการเรียนรู้หนา้ เดยี ว
growth mindset สรา้ งแรงบนั ดาล
ใจ
3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3 STEP
STEP 1 ข้ันรับรู้
STEP 2 ขน้ั เชอื่ มโยง
STEP 3 ขั้นประยกุ ตใ์ ช้
4.ยกระดับชน้ิ งานของผู้เรยี นสสู่ มอง
ขั้นสูงและต่อยอดอาชีพ
5.สร้างศึกษานเิ ทศกป์ ระจาโรงเรียน
(Coaching) นิเทศแบบเชิญชวน
ระเบิดจากขา้ งใน
กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบใหมส่ รา้ ง
คณุ ภาพผ้เู รียนใหม่สรู่ ะดบั สากล 3
STEP
STEP 1 ขน้ั รบั รู้
-ครกู ระตนุ้ คิดโดยใชค้ าถาม ฯลฯ
25
-ชแี้ จงจุดประสงค์
-ชแ้ี จงภาระงาน/ชน้ิ งาน
-สาธิต/ดู VTR
STEP 2 ขน้ั เชอื่ มโยง
-แบง่ กลมุ่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ 3-5 คน
-รว่ มรบั ผดิ ชอบ แสดงความคดิ เห็น
-ร่วมอภปิ ราย
STEP 3 ขนั้ ประยุกต์ใช้
-รว่ มวางแผนค้นควา้ ทดลอง สบื
ค้นหาความรู้ใหม่ สร้างประโยคใหม่
ของเลน่ ใหม่ ประยกุ ตใ์ ช้
-ประเมนิ ตนเอง จุดดีจดุ ดอ้ ย
-นาเสนอ อภิปราย สรุปความรู้ใหม่
5.สนบั สนุนการผลติ จดั หา และใชส้ อ่ื
การเรียนการสอน เทคโนโลยี
นวตั กรรมและส่ิงอานวยความสะดวก
ทห่ี ลากหลายรวมท้งั การพัฒนา
หอ้ งสมดุ และแหล่งเรียนรู้ภายใน
สถานศึกษาในการจัดการเรยี นรไู้ ดท้ ้ัง
ในห้องเรียน และนอกหอ้ งเรียน
เพอ่ื ให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้อยา่ งเต็ม
ศกั ยภาพ
6.ส่งเสริมสนับสนนุ การจดั กิจกรรม
แนะแนวเพอ่ื การศึกษาตอ่ และการ
ประกอบอาชีพอย่างเข้มแขง็ ต่อเนอื่ ง
และเปน็ รูปธรรม
7.สง่ เสริมสนบั สนนุ การทาวจิ ยั และ
นาผลการวจิ ยั ไปใช้พฒั นาคุณภาพ
การจดั การศกึ ษา
26
-ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 ส่งเสริมการมีส่วน
รว่ มจากทกุ ภาคส่วนในการจัด
การศึกษา
โรงเรยี นกทู่ องพิทยาคม มีปญั หา
ดา้ นความไม่พรอ้ มและมีความขาด
แคลนโดยเฉพาะขาดแคลนครทู ่ีมี
ความถนดั เฉพาะดา้ นหรือวชิ าเอก
ดา้ นงบประมาณเพื่อการพฒั นาการ
จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน พบว่า
ปัญหา สว่ นใหญ่ เป็นเรอ่ื ง
งบประมาณหมวดเงินอดุ หนุนท่ี ไม่
เพียงพอ การขาดแคลนครภุ ัณฑ์ ใน
การสนบั สนนุ การสอน แนวทางการ
แก้ปัญหาโดยอาศัยความร่วมมอื
ช่วยเหลอื จากชมุ ชน คณะผปู้ กครอง
และหน่วยงานของรฐั บรเิ วณใกล้เคียง
โดยมบี ุคลากร หน่วยงาน หรอื องคก์ ร
ใหก้ ารสนับสนุนสามารถดาเนินการ
เพอื่ พฒั นางานยกระดบั คณุ ภาพ ได้
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
1. พฒั นาคณะกรรมการสถานศกึ ษา
ข้นั พ้ืนฐาน ให้มีความเข็มแข็งและมี
ศักยภาพเพียงพอในการปฏบิ ตั งิ าน
ตามบทบาทหนา้ ทไี่ ดอ้ ย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ
2. สรา้ งและพฒั นาเครือข่าย
ผู้ปกครองใหเ้ ข้มแขง็ พร้อมทจ่ี ะเขา้
มาชว่ ยเหลอื โรงเรยี นในการพฒั นา
คณุ ภาพการศึกษา
27
3 โพนงามพิทยานกุ ลู โกสมุ พสิ ัย โพนงาม 84
11 6 3. ส่งเสริมใหอ้ งคก์ รปกครองส่วน
ทอ้ งถิ่น มีสว่ นร่วมในการสนบั สนนุ
ทรพั ยากรเพือ่ พัฒนาโรงเรียน
4. ส่งเสริมการมสี ว่ นรว่ มของ บคุ คล
ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชุมชน
องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เอกชน
องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชพี สถาบัน
ศาสนา สถานประกอบการและ
สถาบันสังคมอน่ื เพอื่ สนบั สนนุ การ
จัดการศกึ ษา
5. จดั ระบบและกลไกในการระดม
ทรพั ยากร ที่จะเอ้อื ประโยชนแ์ กก่ าร
จัดการศกึ ษาของโรงเรียนโดยวธิ ีการ
ระดมทรัพยากรทเี่ หมาะสม โปร่งใส
มแี ผนการนาทรพั ยากรไปใช้อย่าง
ชัดเจนเพอ่ื พฒั นา สนบั สนุน
ส่งเสรมิ ศักยภาพผู้เรียนในด้านต่าง ๆ
6. ประสานงานกับโรงเรยี นขนาดใหญ่
ขอรับการสนบั สนุนทรพั ยากรในการ
กจิ กรรมการจดั การเรยี นการสอน
7. สรา้ งนวัตกรรมและหารายได้จาก
นวตั กรรม
โรงเรยี นโพนงามพิทยานกุ ลู มีปญั หา
ในประเดน็ หลกั ๆ ดงั นี้
1. ความไมพ่ ร้อมและมคี วามขาด
แคลนครูผสู้ อนทม่ี ไี ม่ครบช้นั
โดยเฉพาะครทู มี่ คี วามถนดั เฉพาะ
ด้าน (วชิ าเอก) ได้แก่ วชิ าสุขศกึ ษา
พลศึกษา ครศู ิลปะ ครูการงานอาชพี
(งานช่าง) งบประมาณเพอื่ การ
28
4 วงั ยาวศึกษาวทิ ย์ โกสมุ พสิ ัย วงั ยาว
105 12 6 พฒั นาการจดั กจิ กรรมการเรยี นการ
สอนไม่เพียงพอ ขาดแคลนครุภณั ฑใ์ น
การสนับสนุนการสอน แนวทางการ
แก้ปญั หาโดยอาศยั ความรว่ มมือ
ช่วยเหลือจากชุมชน หนว่ ยงานหรือ
องคก์ รอ่นื ๆ และศษิ ย์เก่า ไดใ้ หก้ าร
สนับสนนุ สามารถดาเนนิ การเพอื่
พฒั นายกระดบั คุณภาพการศึกษา
ของโรงเรียน ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
2. นกั เรียนในเขตพ้นื ที่บรกิ ารทจ่ี ะเขา้
ศกึ ษาต่อในระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 มี
นอ้ ย
จากปญั หาดังกล่าว จงึ ได้กาหนด
แนวทางยกระดบั คุณภาพการศกึ ษา
ของโรงเรยี นโดย
1.ยกระดับคณุ ภาพโรงเรียนขนาดเล็ก
ให้มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา
2.สร้างการรบั รู้ คามเขา้ ใจ เพื่อมีสว่ น
รว่ มในการจดั การศกึ ษา จากชมุ ชน
หน่วยงานหรือองค์กรอน่ื ๆ และศิษย์
เกา่
3.บรหิ ารจัดการตามบรบิ ทของ
โรงเรียน เพือ่ ยกระดับคณุ ภาพ
การศึกษาของโรงเรียนแบบมสี ว่ นรว่ ม
จากทกุ ภาคส่วนในการจัดการศึกษา
โดยหลกั การ การบริหารสถานศึกษา
โดยใชโ้ รงเรียนเป็นฐาน
(School Based Management)
โรงเรียนวงั ยาวศึกษาวิทย์ดาเนนิ
บรหิ ารงานโดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน
29
5 กดุ รงั ประชาสรรค์ กดุ รงั กดุ รงั 82
12 6 โดยการวิเคราะห์สภาพปญั หาและผล
การจัดการศกึ ษาที่ผา่ นมา โดยนา
ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากสารสนเทศ ผลจากการ
นเิ ทศตดิ ตาม การจดั ประชุม
ผู้ปกครอง ระดมความคดิ เหน็ จาก
บคุ ลากรทางการศกึ ษา และ
หน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง นามาวางแผน
รว่ มกนั กาหนดเปา้ หมาย วิสยั ทัศน์
พนั ธกจิ กลยทุ ธ์ในการจัดการศึกษา
ของโรงเรียนเพอ่ื พัฒนาคุณภาพการ
ของผูเ้ รียนปรบั แผนพัฒนาคณุ ภาพ
การศึกษา แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี
ใหส้ อดคล้องกบั สภาพปัญหา ความ
ต้องการพัฒนาและนโยบายการปฏริ ูป
การศึกษาโดยให้เป็นไปตามความ
ต้องการของนกั เรียน ผปู้ กครอง
ชุมชน โดยกาหนดกจิ กรรมเพ่ือ
พัฒนากจิ กรรม งานของสถานศกึ ษา
ทงั้ ในระยะส้นั และระยะยาวอย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
1.บริหารโดยการมีส่วนร่วม ประชุมผู้
มีส่วนเกี่ยวข้อง คณะกรรมการ
สถานศึกษา ผปู้ กครอง ศษิ ย์เกา่
ชมุ ชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ
ผู้นาชมุ ชน เพื่อร่วมกนั หาแนวทาง
พฒั นาสถานศึกษา
2.สร้างความตระหนักให้บุคลากร
ภายในโรงเรยี นในการรว่ มกันพฒั นา
โรงเรยี น
3.พัฒนาด้านงานวิชาการ โดยมี
30
วธิ ีการดาเนนิ งานดงั ต่อไปน้ี
3.1 พฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาให้
สอดคล้องกบั ความต้องการของ
ผูเ้ รียน ชุมชน มหี ลกั สตู รวชิ าชีพระยะ
สนั้ เข้ารว่ มโครงการทวศิ ึกษา
3.2 จัดการเรียนการสอนโดยเน้น
ผู้เรียนเป็นสาคญั เน้นการสอนแบบ
การเรียนรผู้ า่ นกจิ กรรมการปฏิบตั ิจริง
(Active Learning) และ STEM
3.3 จัดหาและพัฒนาสอ่ื การเรียน
การสอนใหห้ ลากหลายและทันสมยั
จัดให้มรี ะบบ Internet ที่มีความเร็ว
สงู มีหอ้ งคอมพิวเตอรเ์ พอื่ สบื สร้าง
มีห้องปฏบิ ตั ิการวิทยาศาสตร์
ห้องเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ และ
ห้องปฏิบัติการให้ครบทงั้ 8 กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้
3.4 พฒั นาคะแนน 0-Net มี
พัฒนาการเพ่ิมขน้ึ
4.พัฒนาด้านงานบคุ คล โดยมีวธิ ีการ
ดาเนินงานดังตอ่ ไปน้ี
4.1 จัดหา จดั จา้ งครูให้ครบตรงตาม
สาขาวชิ า
4.2 สร้างความตระหนกั ใหค้ รู เปน็
ครูมืออาชีพ
4.3 พฒั นาใหค้ รจู ดั การเรยี นการ
สอนโดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั เน้น
การสอนแบบการเรยี นรูผ้ ่านกจิ กรรม
การปฎิบตั จิ ริง (Active Learning)
และ STEM
31
4.4 ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหค้ รูพัฒนา
ตนเองตลอดเวลา ในรปู แบบ
โรงเรียนจดั การอบรมด้วยโรงเรยี นเอง
เขา้ ร่วมกับองคก์ รอืน่ ๆ และจัด Plc
อย่างจิงจงั ใหเ้ ปน็ รปู ธรรม
4.5 พฒั นาครูในการประเมินผล
นกั เรียนในรูปแบบทีห่ ลายหลาก
ประเมินผลตามสภาพจรงิ วัดผล
ประเมินผลดว้ ยการลงมือปฏิบัติ การ
สงั เกต การทดสอบเป็นตน้
4.6 ส่งเสรมิ ขวัญ กาลงั ใจ บคุ ลากร
ภายในโรงเรียน
5.พฒั นาด้านงบประมาณ
5.1 บรหิ ารงบประมาณตามระเบียบ
กระทรวงการคลังและระเบยี บ
กฎหมาย ท่ีเกีย่ วขอ้ ง
5.2 เสนอของบประมาณจาก
หน่วยงานต้นสังกัด
5.3 รว่ มกับชุมชน ศิษย์เก่า
คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผ้มู ี
ส่วนเก่ียวขอ้ งเพอ่ื หางบประมาณ
พัฒนาโรงเรยี นท้งั 4 งานของโรงเรียน
6.พัฒนาดา้ นงานบรหิ ารท่วั ไป
6.1 ดูแล ปรบั ปรุง อาคารสถานท่ี
ใหพ้ รอ้ มใช้งาน และแข็งแรงปลอดภัย
ตลอดเวลา
6.2 จดั แหลง่ เรียนรู้ทัง้ ภายใน
ภายนอกหอ้ งเรยี น
6.3 จัดบริเวณภายในโรงเรียนให้
32
สวยงาม ร่มรื่น นา่ อยู่ นา่ ดู นา่ เรียน
6.4 โรงเรยี นเข้าร่วมงานกับชมุ ชน
ในงานต่างๆ เช่น งานประเพณีต่างๆ
6.5 จัดโครงการจติ อาสาให้นักเรียน
และบคุ ลากร เขา้ ไปพัฒนาบริเวณใน
ชุมชนให้สะอาด เข้าไปจัดกจิ กรรมใน
โรงเรียนประถมศกึ ษา เพอื่ สรา้ ง
เครอื ขา่ ยความร่วมมอื
6.6 ดาเนินการระบบดแู ลนักเรียน
อย่างจิงจงั เป็นรูปธรรม ศึกษา
นักเรียนเป็นรายบคุ คลและมขี อ้ มูล
สารสนเทศท่เี ป็นปัจจบุ ัน ร่วมมอื กบั ทุ
ภาคส่วนในการสรา้ งระบบดแู ล
นกั เรียน
6.7 จัดระบบสาธารณูปโภคให้
เพยี งพอ สะอาด ปลอดภยั
6.8 บรกิ ารรถ รบั ส่ง นกั เรียนฟรี
น้าดมื่ ฟรี จดั หาทุนการศกึ ษาให้
นกั เรียนทกุ
ปี
6.9 จัดบริการด้านวชิ าการ ด้าน
แหลง่ เรียน ให้กับชุมชน ผู้ปกครอง
และหนว่ ยงานทต่ี อ้ งการ
7. จดั ใหม้ ีการประชาสมั พันธ์ ผลการ
ดาเนนิ งานของเรียน ผลงานของ
โรงเรยี น ครู นักเรียน การร่วม
กจิ กรรมตา่ งๆ ในเวบ็ ไชของเรียน ใน
การประชมุ ร่วมกบั หนว่ ยงานอน่ื ๆ
รายงานตอ่ ชุมชน คณะกรรมการ
สถานศกึ ษา
33
6 หนองมว่ งวทิ ยาคาร บรบอื หนองมว่ ง 114