แผนพัฒ พั นาการศึกษาขั้น ขั้ พื้น พื้ ฐาน SESAO @ SKSS ( พ.ศ. 2566 - 2570 ) สำ นักนังานเขตพื้นพื้ที่การศึกษามัธมัยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฉบับ บั ทบทวน พ.ศ. 2567 POLICY & PLANNING GROUP +66 3 488 0121 ext. 7 1200 Ekkachai Rd., Mahachai website : sesaskss.go.th
ก คำนำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้จัดทำแผนพัฒนา การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 - 2570 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการจัดทำ แผนปฏิบัติการประจำปีของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ในแต่ละ ปีงบประมาณ และเป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด ให้เกิดเอกภาพ ด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในทางปฏิบัติตามบริบทของสถานศึกษา มีสาระสำคัญประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัดความสำเร็จ เป้าหมายรายปี และโครงการ ในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖6 – ๒๕70 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2567 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ระดับสถานศึกษา ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำ โดยร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล กำหนดทิศทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ให้สอดคล้อง ครอบคลุมนโยบายการศึกษาของรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา และสภาพปัจจุบัน ปัญหาความต้องการของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ขอขอบคุณ คณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖6 – ๒๕70 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2567 คณะกรรมการบริหารของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และผู้มีส่วน เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ทำให้แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงด้วยดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖6- ๒๕70 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2567 ของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม จะเป็นประโยชน์ สามารถนำไปใช้เป็นกรอบทิศทาง ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในสังกัดให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานที่กำหนดเกิดสัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม
ข สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนที่ 1 บทนำ ภารกิจและอำนาจหน้าที่ 1 โครงสร้างการบริหาร 2 สภาพทางภูมิศาสตร์ 4 ข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษา 10 ข้อมูลทางการศึกษาด้านคุณภาพ 13 การบริหารและการจัดการศึกษา 18 ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษา พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 23 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 24 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 24 แผน 3 ระดับ ตามนัยยะของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 25 แผนระดับที่ 1 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 25 แผนระดับที่ 2 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 27 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) 31 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ 34 แผนระดับที่ 3 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 35 แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 – 2570) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 36 แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 37 แผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 – 2570) 38 แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) 39
ค สารบัญ (ต่อ) หน้า ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษา (ต่อ) นโยบายที่เกี่ยวข้อง 40 - นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) 40 - นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 42 - นโยบายและจุดเน้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 45 - นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 47 - มาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 49 ส่วนที่ 3 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน 53 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก 57 ส่วนที่ 4 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่านิยมองค์กร 60 วิสัยทัศน์ 60 พันธกิจ 60 เป้าประสงค์ 60 กลยุทธ์ 61 ผังความเชื่อมโยงของแผนสำคัญต่าง ๆ กับแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 – 2570) 68 กลยุทธ์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมายและโครงการ 69 ส่วนที่ 5 การบริหารแผนสู่การปฏิบัติ แนวทางการพัฒนาคุณภาพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 74 กระบวนการนำแผนสู่การปฏิบัติตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 76 ภาคผนวก
ง สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงจำนวน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล และ อบต. ในจังหวัดสมุทรสาคร 6 ตารางที่ 2 แสดงจำนวน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล และ อบต. ในจังหวัดสมุทรสงคราม 8 ตารางที่ 3 แสดงข้อมูลที่ตั้ง จำนวนนักเรียนและขนาดของโรงเรียนในสังกัด (จังหวัดสมุทรสาคร) 11 ตารางที่ 4 แสดงข้อมูลที่ตั้ง จำนวนนักเรียนและขนาดของโรงเรียนในสังกัด (จังหวัดสมุทรสงคราม) 12 ตารางที่ 5 แสดงจำนวนนักเรียน จำนวนห้องเรียน และนักเรียนต่อห้องเรียน ปีการศึกษา 2563 – 2566 12 ตารางที่ 6 แสดงข้อมูลจำนวนผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครู 12 ตารางที่ 7 แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระดับประเทศและระดับเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 25๖3 – 2565 13 ตารางที่ 8 แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระดับประเทศและระดับเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 25๖3 – 2565 15
จ สารบัญตาราง หน้า แผนภูมิที่ 1 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 13 แผนภูมิที่ 2 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 14 แผนภูมิที่ 3 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 14 แผนภูมิที่ 4 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 15 แผนภูมิที่ 5 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 16 แผนภูมิที่ 6 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 16 แผนภูมิที่ 7 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 17 แผนภูมิที่ 8 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 17 แผนภูมิที่ 9 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปีการศึกษา 2563 – 2565 18
ฉ สารบัญรูปภาพ หน้า รูปภาพที่ 1 โครงสร้างการบริหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 3 รูปภาพที่ 2 แผนที่แสดงพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ 4 รูปภาพที่ 3 แผนที่แสดงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร 5 รูปภาพที่ 4 ต้นพญาสัตบรรณหรือต้นสัตบรรณ 7 รูปภาพที่ 5 แผนที่แสดงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม 8 รูปภาพที่ 6 ต้นจิกทะเล 9 รูปภาพที่ 7 แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานศึกษาในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 10 รูปภาพที่ 8 ผลการการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาออนไลน์ (Integrity and Transparency Assessment Online : ITA Online) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 18 รูปภาพที่ 9 ผลการติดตาม ประเมินผล การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 22 รูปภาพที่ 10 แนวทางการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบและการบริหาร แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อพัฒนาคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 74
1 ส่วนที่ 1 บทนำ 1. ภารกิจและอำนาจหน้าที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นหน่วยงาน ทางการศึกษาที่ตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ประกาศ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เพื่อบริหาร และจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเกิดประโยชน์สูงสุด ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2545 และมาตรา 37 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 ประกอบกับมาตรา 33 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของ สภาการศึกษาเมื่อคราวประชุมครั้งที่ 2/2561 วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 จึงยกเลิกประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ประกาศ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 และกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และที่ตั้งของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามี อำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1) จัดทำนโยบาย แผนพัฒนา และมาตรฐานการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษาให้สอดคล้องกับ นโยบาย มาตรฐานการศึกษา แผนการศึกษา แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานและความต้องการของ ท้องถิ่น 2) วิเคราะห์การจัดตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไปของสถานศึกษาและหน่วยงานในเขตพื้นที่ การศึกษาและแจ้งการจัดสรรงบประมาณที่ได้รับให้หน่วยงานต้นสังกัดรับทราบ รวมทั้งกำกับ ตรวจสอบ ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานดังกล่าว 3) ประสาน ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา 4) กำกับ ดูแล ติดตาม และประเมินผลสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและในเขตพื้นที่การศึกษา 5) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและรวบรวมข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา 6) ประสานการระดมทรัพยากรด้านต่าง ๆ รวมทั้งทรัพยากรบุคคล เพื่อส่งเสริม สนับสนุน การจัดและพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา 7) จัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา และประเมินผลสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา 8) ประสาน ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเอกชน องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น รวมทั้งบุคคล องค์กรชุมชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันอื่นที่ จัดการศึกษารูปแบบที่หลากหลายในเขตพื้นที่การศึกษา
2 9) ดำเนินการและประสาน ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่ การศึกษา 10) ประสาน ส่งเสริมการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ด้านการศึกษา 11) ประสานการปฏิบัติราชการทั่วไปกับองค์กร หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 12) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับ มอบหมาย 2. โครงสร้างการบริหาร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้บังคับบัญชาและผู้บริหารสูงสุดของเขตพื้นที่ การศึกษา (ม.37 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546) จัดโครงสร้างออกเป็น 9 กลุ่ม 1 หน่วย ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งส่วนราชการ ภายในสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา พ.ศ. 2560 ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2561 แบ่งเป็น 1) กลุ่มอำนวยการ 2) กลุ่มนโยบายและแผน 3) กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4) กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ 5) กลุ่มบริหารงานบุคคล 6) กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 7) กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา 8) กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา 9) หน่วยตรวจสอบภายใน 10) กลุ่มกฎหมายและคดี
3 รูปภาพที่ 1 โครงสร้างการบริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม
4 3. สภาพทางภูมิศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ตั้งอยู่ เลขที่ 1200 ถนนเอกชัย ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 (ตั้งอยู่ภายในโรงเรียน สมุทรสาครวิทยาลัย) โทรศัพท์ 0-3488-0121 โทรสาร 0-3441-0350 Website : http://www.sesaskss.go.th โดยมีพื้นที่ในการบริหารการจัดการศึกษาครอบคลุมพื้นที่ จังหวัด สมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสงคราม รวมพื้นที่รับผิดชอบ โดยประมาณ 1,289 ตารางกิโลเมตร มีอาณา เขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทิศใต้ ติดกับอ่าวไทยชั้นใน ทิศตะวันออก ติดกับเขตหนองแขม เขตบางบอน และเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ทิศตะวันตก ติดกับอำเภอดำเนินสะดวก อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอวัดเพลง และอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับอำเภอเขาย้อยและอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี รูปภาพที่ 2 แผนที่แสดงพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม
5 ขนาดที่ตั้งและอาณาเขต จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดชายทะเล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนและปากอ่าวไทย อยู่ในเขต พื้นที่ภาคกลางตอนล่างของประเทศไทย เป็นจังหวัดปริมณฑลกรุงเทพมหานคร อยู่ห่างจาก กรุงเทพมหานคร ตามระยะทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ประมาณ 30 กิโลเมตร มี พื้นที่ 872.34 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 545,216 ไร่ จังหวัดสมุทรสาครมีอาณาเขตติดต่อกับ จังหวัดใกล้เคียง ดังนี้ • ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดนครปฐม • ทิศใต้ ติดทะเลอ่าวไทย • ทิศตะวันออก ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร • ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี รูปภาพที่ 3 แผนที่แสดงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1.00 - 2.00 เมตร พื้นที่ด้านทิศ ตะวันตกเป็นที่ราบลุ่มในเขตน้ำจืด เขตจังหวัดถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้วยแม่น้ำท่าจีนซึ่งไหลผ่านตอนกลาง จังหวัดตามแนวเหนือใต้ลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร ระยะทางยาว 70 กิโลเมตร พื้นที่ตอนบน ของจังหวัดในเขตอำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน มีความอุดมสมบูรณ์ของดินและมีโครงข่าย แม่น้ำลำคลองเชื่อมโยงถึงกันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 170 สาย สภาพพื้นที่จึงเหมาะที่จะทำการเพาะปลูก พืชนานาชนิดและบางส่วนเป็นย่านธุรกิจอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดในเขต อำเภอเมืองสมุทรสาคร อยู่ติดชายฝั่งทะเลยาว 41.8 กิโลเมตร เหมาะแก่การทำนาเกลือ การทำประมง และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จังหวัดสมุทรสาคร
6 ลักษณะภูมิอากาศ จังหวัดสมุทรสาคร มีสภาพภูมิอากาศเป็นแบบฝนเมืองร้อน (Tropical Climate) เนื่องจาก ได้รับอิทธิพลจากลมบก ลมทะเล มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้ง พายุดีเปรสชันที่พัดผ่านมาจากทะเลจีนใต้จึงทำให้มีความชื้นในอากาศสูง มีฝนตกปานกลาง จังหวัดสมุทรสาครอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม ซึ่งพัดประจำเป็นฤดูกาล 2 ชนิด โดยพัดจาก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือในฤดูหนาวเรียกว่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อิทธิพลของลมนี้ทำให้บริเวณ จังหวัดสมุทรสาครมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง กับมรสุมอีกชนิดหนึ่งคือมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ในฤดูฝน ทำให้อากาศชุ่มชื้นและมีฝนตกทั่วไป การปกครอง แบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ 40 ตำบล 290 หมู่บ้าน ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองสมุทรสาคร 2. อำเภอกระทุ่มแบน 3. อำเภอบ้านแพ้ว ตารางที่ 1 แสดงจำนวน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล และ อบต. ในจังหวัดสมุทรสาคร ประชากรจังหวัดสมุทรสาคร มีประชากร 592,147 คน (ชาย 284,393 คน / หญิง 307,754 คน) ที่มา : สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เดือน พฤศจิกายน ปี 2566 ต้นไม้ประจำจังหวัด / ดอกไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นพญาสัตบรรณหรือต้นสัตบรรณ รู้จักกันทั่วไปในนามของต้นตีนเป็ด เป็นพรรณไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับพระราชทาน พันธุ์ไม้ดังกล่าวจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 วโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธานเปิดวันรณรงค์โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 9) ทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลของประชาชน ชาวจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้นำพันธุ์ไม้สัตบรรณพระราชทานมาปลูกเป็นปฐมฤกษ์ในกิจกรรมวันปลูกต้นไม้ ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรสาคร จึงถือได้ว่าต้นสัตบรรณเป็นต้นไม้มงคลของจังหวัดสมุทรสาคร อำเภอ พื้นที่ (ตร.กม.) ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล อบต. หมายเหตุ เมืองสมุทรสาคร 492.04 18 116 6 11 1 เทศบาลนคร 5 เทศบาลตำบล กระทุ่มแบน 135.27 10 76 5 5 1 เทศบาลนคร 2 เทศบาลเมือง 2 เทศบาลตำบล บ้านแพ้ว 245.03 12 98 3 7 3 เทศบาลตำบล รวม 872.34 40 290 14 23
7 รูปภาพที่ 4 ต้นพญาสัตบรรณหรือต้นสัตบรรณ คำขวัญประจำจังหวัดสมุทรสาคร “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” ขนาดที่ตั้งและอาณาเขต จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดในภาคกลางตอนล่างของประเทศไทย มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุด ของประเทศ คือประมาณ 416.7 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 260,440 ไร่ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 65 กิโลเมตร นับเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และมีชายฝั่งทะเลติดอ่าวไทยยาวประมาณ 23 กิโลเมตร ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์เพราะเป็นดินดอนปากแม่น้ำ มีภูเขา 1 ลูก (เขายี่สาร) ไม่มีเกาะ มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม และเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศไทย จังหวัดสมุทรสงครามมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้ • ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสาคร • ทิศใต้ ติดทะเลปากอ่าวแม่กลองและจังหวัดเพชรบุรี • ทิศตะวันออก ติดทะเลอ่าวไทย • ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม
8 รูปภาพที่ 5 แผนที่แสดงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม สภาพของดินเป็นดินเหนียวปนทราย มีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำแม่กลอง ไหลผ่านอำเภอบางคนที อำเภออัมพวาไปออกทะเลอ่าวไทย ที่บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง ในเขตอำเภอ เมืองสมุทรสงคราม นอกจากนี้ยังมีลำคลองใหญ่น้อยมากมายแยกจากแม่น้ำแม่กลองกว่า 300 คลอง กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ จากสภาพภูมิประเทศเช่นนี้ ทำให้เกิดความสะดวกในด้านการคมนาคมทางน้ำ พื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำสวน ทำไร่ ทำนาเกลือ และทำการประมง ลักษณะภูมิอากาศ จังหวัดสมุทรสงครามอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมซึ่งพัดประจำเป็นฤดูกาล 2 ชนิด โดยพัดจาก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือในฤดูหนาว เรียกว่า ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อิทธิพลของลมนี้ทำให้บริเวณ จังหวัดสมุทรสงครามมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง กับมรสุมอีกชนิดหนึ่ง คือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ในฤดูฝน ทำให้อากาศชุ่มชื้นและมีฝนตกทั่วไป การปกครอง แบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ 36 ตำบล 284 หมู่บ้าน ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองสมุทรสงคราม 2. อำเภอบางคนที 3. อำเภออัมพวา ตารางที่ 2 แสดงจำนวน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล และ อบต. ในจังหวัดสมุทรสงคราม อำเภอ พื้นที่ (ตร.กม.) ตำบล หมู่บ้าน เทศบาล อบต. หมายเหตุ เมืองสมุทรสงคราม 169 11 87 6 9 1 เทศบาลเมือง 1 เทศบาลตำบล บางคนที 77.5 13 101 5 7 4 เทศบาลตำบล อัมพวา 170.2 12 96 3 10 3 เทศบาลตำบล รวม 416.7 36 284 14 26
9 ประชากรจังหวัดสมุทรสงคราม มีประชากร 188,179 คน (ชาย 89,793 คน / หญิง 98,386 คน) ที่มา : สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เดือน พฤศจิกายน ปี 2566 ต้นไม้ประจำจังหวัด / ดอกไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นจิกทะเล / ดอกจิกทะเล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีลำต้นสูง 10 เมตร เปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทา ใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม สลับกันไปตามข้อต้น ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่ง ผลขนาดใหญ่ ขยายพันธุ์โดยเมล็ด ใบ ผล และเปลือกใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดศีรษะ เปลือกผลหรือเนื้อของผล เป็นยาช่วยให้นอนหลับสบายเมล็ดใช้เป็นยาขับพยาธิ รูปภาพที่ 6 ต้นจิกทะเล คำขวัญประจำจังหวัดสมุทรสงคราม “เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร 2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม”
10 4. ข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีอำนาจหน้าที่ในการ บริหารจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษา (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6) มีสถานศึกษาในสังกัดจังหวัด สมุทรสาคร จำนวน 11 โรงเรียน และจังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 9 โรงเรียน รวมจำนวน 20 โรงเรียน กระจายอยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัด ดังนี้ รูปภาพที่ 7 แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานศึกษาในสังกัด สพม.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ➢ สถานศึกษา จำนวน 20 แห่ง ➢ นักเรียน จำนวน 21,677 คน ➢ ห้องเรียน จำนวน 639 ห้อง อ้างอิงข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล DMC ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ➢ บุคลากร จำนวน 1,225 คน ข้าราชการประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (22 อัตรา) - ผู้บริหารการศึกษา จำนวน 3 อัตรา - บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (1) จำนวน 3 อัตรา - บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) จำนวน 16 อัตรา ข้าราชการครูในสถานศึกษา (1,082 อัตรา) - ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 20 อัตรา - รองผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 28 อัตรา - ครูผู้สอน จำนวน 1,034 อัตรา
11 ครูอัตราจ้าง (59 อัตรา) - พนักงานราชการ (ครู) จำนวน 20 อัตรา - ครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน จำนวน 1 อัตรา - ครูวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ จำนวน 1 อัตรา - ครูรายเดือน แก้สถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤติ จำนวน 6 อัตรา - ครูรายเดือนงบ อบจ. จำนวน 31 อัตรา อัตราจ้างในสำนักงาน (23 อัตรา) - พนักงานราชการ จำนวน 16 อัตรา - ลูกจ้างสำนักงาน จำนวน 3 อัตรา - พนักงานพิมพ์ดีด จำนวน 1 อัตรา - พนักงานรักษาความสะอาด จำนวน 1 อัตรา - พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา - พนักงานรักษาความปลอดภัย จำนวน 1 อัตรา อัตราจ้างในสถานศึกษา (39 อัตรา) - ลูกจ้างประจำ จำนวน 22 อัตรา - ธุรการ จำนวน 12 อัตรา - พี่เลี้ยงเด็กพิการ จำนวน 1 อัตรา - เจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยาศาสตร์ (Lab boy) จำนวน 2 อัตรา - นักการภารโรง จำนวน 2 อัตรา ตารางที่ 3 แสดงข้อมูลที่ตั้ง จำนวนนักเรียนและขนาดของโรงเรียนในสังกัด (จังหวัดสมุทรสาคร) ที่ โรงเรียน อำเภอ จำนวนนักเรียน (คน) ขนาด โรงเรียน 1 สมุทรสาครวิทยาลัย เมืองสมุทรสาคร 3,191 ใหญ่พิเศษ 2 สมุทรสาครบูรณะ เมืองสมุทรสาคร 2,793 ใหญ่พิเศษ 3 กระทุ่มแบน “วิเศษสมุทคุณ” กระทุ่มแบน 2,277 ใหญ่ 4 อ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ กระทุ่มแบน 1,779 ใหญ่ 5 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร เมืองสมุทรสาคร 1,467 กลาง 6 สมุทรสาครวุฒิชัย เมืองสมุทรสาคร 1,422 กลาง 7 วัดธรรมจริยาภิรมย์ บ้านแพ้ว 942 กลาง 8 พันท้ายนรสิงห์วิทยา เมืองสมุทรสาคร 547 กลาง 9 วัดหลักสี่พิพัฒน์ราษฎร์อุปถัมภ์ บ้านแพ้ว 413 เล็ก 10 หลักสองส่งเสริมวิทยา บ้านแพ้ว 129 เล็ก 11 กุศลวิทยา กระทุ่มแบน 119 เล็ก อ้างอิงข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล DMC ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566
12 ตารางที่ 4 แสดงข้อมูลที่ตั้ง จำนวนนักเรียนและขนาดของโรงเรียนในสังกัด (จังหวัดสมุทรสงคราม) ที่ โรงเรียน อำเภอ จำนวน นักเรียน (คน) ขนาด โรงเรียน 1 ถาวรานุกูล เมืองสมุทรสงคราม 2,309 ใหญ่ 2 ศรัทธาสมุทร เมืองสมุทรสงคราม 2,162 ใหญ่ 3 อัมพวันวิทยาลัย อัมพวา 1,176 กลาง 4 ท้ายหาด เมืองสมุทรสงคราม 546 กลาง 5 เทพสุวรรณชาญวิทยา อัมพวา 152 เล็ก 6 สกลวิสุทธิ บางคนที 88 เล็ก 7 วัดบางกะพ้อม (คงลาภยิ่งประชานุสรณ์) อัมพวา 59 เล็ก 8 เมธีชุณหะวัณวิทยาลัย บางคนที 54 เล็ก 9 วัดแก้วเจริญอำนวยวิทย์ อัมพวา 52 เล็ก อ้างอิงข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล DMC ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566 หมายเหตุ ขนาดเล็ก จำนวนนักเรียน 1 – 499 คน ขนาดกลาง จำนวนนักเรียน 500 – 1499 คน ขนาดใหญ่ จำนวนนักเรียน 1,500 – 2,499 คน ขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนนักเรียน 2,500 คนขึ้นไป ตารางที่ 5 แสดงจำนวนนักเรียน จำนวนห้องเรียน และนักเรียนต่อห้องเรียน ปีการศึกษา 2563 - 2566 ปีการศึกษา จำนวนนักเรียน (คน) จำนวน ห้องเรียน นักเรียน ม.ต้น ม.ปลาย รวม ต่อห้องเรียน 2563 11,964 8,234 20,203 605 34 2564 12,155 8,830 20,985 626 34 2565 12,045 9,235 21,281 630 34 2566 12,095 9,582 21,677 639 34 อ้างอิงข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล DMC ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ตารางที่ 6 แสดงข้อมูลจำนวนผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครู จังหวัด ผู้บริหารสถานศึกษา (คน) ข้าราชการครู (คน) รวม (คน) สมุทรสาคร 11 677 707 สมุทรสงคราม 9 357 375 รวม 20 1,034 1,082
13 5. ข้อมูลทางการศึกษาด้านคุณภาพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีการบริหารการจัด การศึกษาที่สะท้อนให้เห็นภาพความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยอ้างอิงจากคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ดังนี้ ตารางที่ 7 แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระดับประเทศและระดับเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 วิชา ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา 2565 ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ภาษาไทย 54.29 58.33 51.19 57.29 52.95 58.95 ภาษาอังกฤษ 34.38 37.55 31.11 32.15 32.05 35.24 คณิตศาสตร์ 25.26 29.63 24.42 26.28 24.39 27.57 วิทยาศาสตร์ 29.89 32.33 31.45 33.12 33.32 36.40 จากข้อมูลในตารางที่ 7 สามารถนำเสนอในรูปแบบแผนภูมิดังปรากฎในแผนภูมิที่ 1 – 4 แผนภูมิที่ 1 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565
14 แผนภูมิที่ 2 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 แผนภูมิที่ 3 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565
15 แผนภูมิที่ 4 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 ตารางที่ 8 แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระดับประเทศและระดับเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 วิชา ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา 2565 ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ประเทศ เขตพื้นที่ฯ ภาษาไทย 44.36 46.34 46.40 51.55 44.09 50.39 สังคมศึกษา 35.59 46.97 36.87 39.72 33.00 36.31 ภาษาอังกฤษ 29.49 36.86 25.56 29.28 23.44 28.05 คณิตศาสตร์ 26.04 30.00 21.28 24.64 21.61 29.05 วิทยาศาสตร์ 32.68 28.06 28.65 30.51 28.08 31.70 จากข้อมูลในตารางที่ 8 สามารถนำเสนอในรูปแบบแผนภูมิดังปรากฎในแผนภูมิที่ 5 – 9
16 แผนภูมิที่ 5 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 แผนภูมิที่ 6 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565
17 แผนภูมิที่ 7 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 - 2565 แผนภูมิที่ 8 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 - 2565
18 แผนภูมิที่ 9 แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบระหว่างระดับประเทศกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 – 2565 6. การบริหารและการจัดการศึกษา รูปภาพที่ 8 ผลการการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาออนไลน์ (Integrity and Transparency Assessment Online : ITA Online) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
19
20
21
22 รูปภาพที่ 9 ผลการติดตาม ประเมินผล การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
23 ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษา พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ➢ การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน 1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง - มีคุณธรรม 3. มีงานทำ - มีอาชีพ 4. เป็นพลเมืองดี โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง • มีความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง • ยึดมั่นในศาสนา • มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ • มีความเอื้ออาทรต่อสถาบันครอบครัวและชุมชุนของตน 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง - มีคุณธรรม • รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด – ชอบ / ชั่ว - ดี • ปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ดีงาม • ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว • ช่วยกันสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง 3. มีงานทำ - มีอาชีพ • การเลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือการฝึกฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งให้เด็ก และ เยาวชนรักงาน สู้งาน ทำงานจนสำเร็จ • การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนทำงานเป็น และมีงานทำในที่สุด • ต้องสนับสนุนผู้สำเร็จหลักสูตรมีอาชีพ มีงานทำ จนสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัว 4. เป็นพลเมืองที่ดี • การเป็นพลเมืองดี เป็นหน้าที่ของทุกคน • ครอบครัว – สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่ เป็นพลเมืองดี • การเป็นพลเมืองดี คือ “เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ” เช่นงานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ให้ทำด้วยความมีน้ำใจ และความเอื้ออาทร
24 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 การประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีบทบัญญัติไว้ใน มาตรา 54 รัฐต้องดำเนินการให้เด็ก ทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดย ไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคที่หนึ่ง เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบต่าง ๆ รวมทั้ง ส่งเสริม ให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และจัดให้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภาคเอกชน ในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าที่ดำเนินการ กำกับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การ จัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ซึ่ง อย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ การดำเนินการและตรวจสอบการ ดำเนินการ ให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติด้วยการศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มี วินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตนและมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ในการดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาตามวรรคสอง หรือให้ประชาชนได้รับ การศึกษาตามวรรคสาม รัฐต้องดำเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายใน การศึกษา ตามความถนัดของตน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดคำนิยามการศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาระดับก่อนอุดมศึกษา และกำหนดในมาตรา 10 การจัดการศึกษา ต้องจัดให้บุคคลมี สิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและ มีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ หรือบุคคลซึ่งไม่สามารถ พึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแลด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้น พื้นฐานเป็นพิเศษ การศึกษาสำหรับคนพิการ ให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและ บุคคลดังกล่าวมีสิทธิได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ตาม หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสม โดย คำนึงถึงความสามารถของบุคคลนั้น
25 แผน 3 ระดับ ตามนัยยะของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 แผนระดับที่ 1 คือ ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกัน เพื่อให้เกิด เป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว แผนระดับที่ 2 คือ แผนซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนประเทศในมิติต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุ เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อถ่ายทอดไปสู่แนวทางในการปฏิบัติ ในแผนระดับที่ 3 แผนระดับที่ 3 คือ แผนที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐ เพื่อถ่ายทอดเป้าหมายและประเด็น การพัฒนาของแผนระดับที่ 1 และ 2 ไปสู่การปฏิบัติ หรือจัดทำขึ้นตามพันธกรณีหรืออนุสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงแผนการศึกษาชาติ แผนปฏิบัติการด้าน... แผนปฏิบัติราชการ... แผนปฏิบัติการประจำปี โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้วิเคราะห์ ความสอดคล้องของแผนทั้ง 3 ระดับที่มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษาไว้ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 1. ยุทธศาสตร์ชาติที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (หลัก) 1.1 เป้าหมาย 1) เป้าหมาย 2.1 คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิต ในศตวรรษที่ 21 2) เป้าหมาย 2.2 สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสนับสนุนต่อการพัฒนาคน ตลอดช่วงชีวิต 1.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ 1) ประเด็น 4.1 การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม 2) ประเด็น 4.2 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต 3) ประเด็น 4.3 ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 4) ประเด็น 4.4 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย 1.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีบทบาท ในการส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ติดตาม และพัฒนาการจัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาของสถานศึกษา ในสังกัดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายและจุดเน้นของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนที่หลากหลาย แผนระดับที่ 1
26 ในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับการศึกษาภาคบังคับ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้เรียนด้อยโอกาส ผู้เรียนพิการ ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ มีการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น กระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล ตลอดจนการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพครู การส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาในสังกัดสามารถจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนได้เต็มศักยภาพ ทั้งความรู้ ด้านวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 2. ยุทธศาสตร์ชาติที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม (รอง) 2.1 เป้าหมาย เป้าหมาย 2.1 สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ 2.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็น 4.1 การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ 2.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ร่วมกับหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการระดมงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาในสังกัด เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึง บริการทางการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่ผู้เรียนด้อยโอกาส ผู้เรียนพิการ และผู้เรียนที่มี ความสามารถพิเศษ บริหารการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม 3. ยุทธศาสตร์ชาติที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ (รอง) 3.1 เป้าหมาย 1) เป้าหมาย 2.1 ภาครัฐมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์และ ผลประโยชน์ส่วนรวม ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส 2) เป้าหมาย 2.3 ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ 3.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ 1) ประเด็น 4.1 ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และให้บริการอย่างสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส 2) ประเด็น 4.2 ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมาย และเชื่อมโยงการพัฒนาในทุกระดับ ทุกประเด็น ทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ 3) ประเด็น 4.6 ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ 3.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีการบริหาร จัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล ทันสมัย มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการ ปฏิบัติงาน มีการพัฒนานวัตกรรมเทคนิคการเรียนการสอน สร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมในการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พัฒนาผู้เรียน ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาในการต่อต้านการทุจริต มีการบริหารงานที่มีธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์สุจริตและป้องกันการทุจริตทุกรูปแบบ
27 1. แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 1. ประเด็นที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ (หลัก) (1.1) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท เป้าหมายที่ 1 คนไทยมีการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้น มีทักษะ ที่จำเป็นของโลกศตวรรษที่ 21 สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เป้าหมายที่ 2 คนไทยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ตามความถนัดและ ความสามารถของพหุปัญญาดีขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีแผนการ ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น การวัดและประเมินผลให้กับผู้เรียน ทุกระดับและทุกกลุ่มได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพ การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม วิถีชีวิตในแต่ละชุมชนการพัฒนาการเรียนการสอน การเสริมสร้างศักยภาพครู ผู้บริหารและบุคลากร ทางการศึกษา เพื่อให้มีความพร้อมในการพัฒนาการศึกษา เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 การยกระดับคุณภาพโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ (1.2) แผนย่อยของแผนแม่บท แผนย่อยที่ 3.1 การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 แนวทางการพัฒนา 1) ปรับเปลี่ยนระบบการเรียนรู้สำหรับศตวรรษที่ 21 2) เปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ 3) เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท 4) พัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5) สร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ เป้าหมายของแผนย่อย คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะการเรียนรู้ และทักษะที่ จำเป็นของโลกศตวรรษที่ 21 สามารถเข้าถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตดีขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีแผนการ ดำเนินการ ให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น การวัดและประเมินผลให้กับผู้เรียน แผนระดับที่ 2 (เฉพาะที่เกี่ยวข้อง)
28 ทุกระดับและทุกกลุ่มได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพ การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน พัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ในแต่ละชุมชน การพัฒนาการเรียนการสอน การเสริมสร้างศักยภาพครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้มีความพร้อมในการพัฒนาการศึกษา เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 การยกระดับ คุณภาพโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้โรงเรียน มีความพร้อมในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริม การเรียนรู้ ด้วยการส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งอาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และวัสดุอุปกรณ์ ด้านจัดการศึกษา ทั้งบุคลากร หลักสูตรและกิจกรรม และด้านการมีส่วนร่วมของเอกชน บ้าน วัด/ศาสนา สถานอื่น ๆ รัฐและโรงเรียน เพื่อผลิตผู้เรียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน ตลอดจน โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน แผนย่อยที่ 3.2 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย แนวทางการพัฒนา 1) พัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา 2) สร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทำงาน และระบบสนับสนุนที่เหมาะสม สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ เป้าหมายของแผนย่อย ประเทศไทยมีระบบข้อมูลเพื่อการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาและการส่งต่อการพัฒนาให้เต็มศักยภาพเพิ่มขึ้น 2. ประเด็นที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (รอง) (2.1) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา และคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 รักการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีบทบาท ในการส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด มุ่งพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา คุณธรรม และจริยธรรมให้มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 (2.2) แผนย่อยของแผนแม่บท แผนย่อยที่ 3.3 การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น แนวทางการพัฒนา 1) จัดให้มีการพัฒนาทักษะที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะ ด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น
29 2) จัดให้มีการพัฒนาทักษะด้านภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใช้ เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดและความสนใจ โดยเน้นเด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลาง ของการเรียนรู้เน้นให้เกิดองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยผ่าน การออกแบบการเรียนรู้ที่มีครูคอยเป็นผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้การเรียนรู้ สามารถตอบสนองความต้องการได้กับเด็กทุกกลุ่ม 3) จัดให้มีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิตและวางแผนการเงิน ตลอดจน ทักษะที่เชื่อมต่อกับโลกการทำงาน 4) จัดให้มีการพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ การบ่มเพาะ การเป็นนักคิด นักนวัตกร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชีวิตที่สามารถอยู่ร่วม และทำงานภายใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม 5) จัดให้มีกลไกลส่งเสริมและสนับสนุนบริการสุขภาพและอนามัยที่เชื่อมต่อกัน ระหว่างสาธารณสุขกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ ตลอดจนภูมิคุ้มกันด้านต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตของกลุ่มวัยเรียน/วัยรุ่น เป้าหมายของแผนย่อย วัยเรียน/วัยรุ่น มีความรู้และทักษะในสตวรรษที่ 21 ครบถ้วน รู้จักคิด วิเคราะห์ รักการเรียนรู้ มีสำนึกพลเมือง มีความกล้าหารทางจริยธรรม มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตลอดชีวิตดีขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีแผนการ ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและกระบวนการเรียนรู้ ที่หลากกหลายให้เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาสื่อ การเรียนรู้ในการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐาน การจ้างครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ประสบปัญหาขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน การพัฒนาระบบการประเมินและการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา การขับเคลื่อนงานแนะแนว ในสถานศึกษา และเสริมสมรรถนะผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการศึกษาต่อและการมีงานทำ การขับเคลื่อนนักจิตวิทยาโรงเรียนประจำเขตพื้นที่การศึกษา การขับเคลื่อนการดูแลช่วยเหลือและคุ้มครอง เด็กนักเรียน การขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา 3. ประเด็นที่ 10 การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม (รอง) (3.1) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท เป้าหมาย คนไทยมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม มีความรักและภูมิใจในความเป็นคนไทย มากขึ้น นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต สังคมไทยมีความสุขและเป็นที่ยอมรับ ของนานาประเทศมากขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ส่งเสริมให้ ผู้เรียน ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาตระหนักรู้ เข้าใจ และมีกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล
30 ซึมซับคุณค่าแห่งคุณธรรมความดีอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ภูมิในในการทำความดี สร้างเครือข่ายชุมชนองค์กรแห่งคุณธรรม (3.2) แผนย่อยของแผนแม่บท แผนย่อยที่ 3.1 การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และการเสริมสร้าง จิตสาธารณะและการเป็นพลเมืองที่ดี แนวทางการพัฒนา แนวทางที่ 2 บูรณาการเรื่องความซื่อสัตย์ วินัย คุณธรรม จริยธรรม และ ด้านสิ่งแวดล้อม ในการจัดการเรียนการสอนทั้งในและนอกสถานศึกษา จัดให้มีการเรียนการสอน ตามพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา จัดให้มีการเรียนรู้ทางศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ และภูมิปัญญาของท้องถิ่น รวมทั้งการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป้าหมายของแผนย่อย คนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความพร้อมในทุกมิติตามมาตรฐานและสมดุล ทั้งด้านสติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม มีจิตวิญญาณที่ดี เข้าใจในการปฏิบัติตนปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ดีขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีแผนการ ส่งเสริมให้นักเรียน ครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ตระหนักรู้ เข้าใจและมีกระบวนการคิด อย่างมีเหตุผล ซึมซับคุณค่าแห่งคุณธรรมความดีอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ภูมิใจ ในการทำความดี สร้างเครือข่ายชุมชนองค์กรแห่งคุณธรรม โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานและองค์กร ที่ทำงานด้านคุณธรรมอย่างเป็นรูปธรรม 4. ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอง) (4.1) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท เป้าหมาย ประเทศไทยปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ส่งเสริม การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต (4.2) แผนย่อยของแผนแม่บท แผนแม่บทย่อยที่ 3.1 การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ แนวทางการพัฒนา 1) ปลูกและปลุกจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี มีวัฒนธรรมสุจริต ปลูกฝังและ หล่อหลอมวัฒนธรรมในเด็กและเยาวชนทุกช่วงวัย ทุกระดับ มุ่งเน้นการปรับพฤติกรรม “คน” 2) ส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐให้มีความใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต เป็นภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชน
31 เป้าหมายของแผนย่อย ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมที่ซื่อสัตย์สุจริต การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีการพัฒนา นวัตกรรมเทคนิคการเรียนการสอน การป้องกันและปราบปรามการทุจริตสำหรับนักเรียน พัฒนาผู้นำ เยาวชนต่อต้านการทุจริต พัฒนานวัตกรรมการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต และพัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีการบริหารงานที่มีธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์สุจริตและ ป้องกันการทุจริตทุกรูปแบบ 2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) เป็นแผนระดับสอง ที่จัดทำโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายของรัฐบาล และสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและโลก รวมถึงมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาประเทศในระยะยาวที่จะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาประเทศได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน บนเป้าหมายร่วมที่ชัดเจน และยังเอื้อประโยชน์ต่อการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลความสำเร็จ ของแผน เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการและวิธีการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่มุ่งหวังได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ประกอบด้วย 13 หมุดหมาย โดยหมุดหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานมากที่สุด นั่นคือ หมุดหมายที่ 12 ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา แห่งอนาคต ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในประเด็นเป้าหมาย ประเทศไทยมีขีด ความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น 2) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ในประเด็นเป้าหมาย คนไทย เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และสังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อ และสนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 3) ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ในประเด็นเป้าหมายสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มโอกาส ให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นกำลังของการพัฒนาประเทศในทุกระดับ เป้าหมายการพัฒนา เป้าหมายที่ 1 คนไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในทุกช่วงวัย มีสมรรถนะที่จำเป็น สำหรับโลกยุคใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อ การเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉมฉับพลันของโลก สามารถดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข ตัวชี้วัดที่ 1.1 ดัชนีพัฒนาการเด็กสมวัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 88 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 1.2 ร้อยละของนักเรียนที่มีสมรรถนะจากการประเมินโปรแกรมประเมิน สมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากลไม่ถึงระดับพื้นฐานของทั้ง 3 วิชาในแต่ละกลุ่มโรงเรียนลดลงร้อยละ 8 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 1.3 ทุนชีวิตเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อสิ้นสุดแผน
32 กลยุทธ์การพัฒนา กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยในทุกมิติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 พัฒนาเด็กช่วงตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัยให้มีพัฒนาการรอบด้าน มีอุปนิสัยที่ดี 1. การเตรียมความพร้อมพ่อแม่ผู้ปกครองและสร้างกลไกประสานความร่วมมือ เพื่อดูแล หญิงตั้งครรภ์ให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ และดูแลเด็กให้มีพัฒนาการสมวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ – 6 ปี 2. การพัฒนาครูและผู้ดูแลเด็กปฐมวัยให้มีความรู้และทักษะการดูแลที่เพียงพอ มีจิตวิทยาการพัฒนาการของ เด็กปฐมวัย สามารถทางานร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการ ด้านการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนาการสมวัยตามหลักการพัฒนาสมองและกระบวนการเรียนรู้ แก่เด็ก ควบคู่กับการพัฒนาการด้านร่างกาย สาธารณสุข และโภชนาการ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ ดีอย่างรอบด้านก่อนเข้าสู่วัยเรียน 3. การยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้มาตรฐาน และจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอ สำหรับการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นกลไกการพัฒนาเด็กปฐมวัยรายพื้นที่ที่มีคุณภาพ 4. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลปกป้องเด็กปฐมวัยให้มี พัฒนาการที่ดีรอบด้าน สติปัญญาสมวัย โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศเด็กรายบุคคล เพื่อการส่งต่อไปยัง สถานศึกษาและการพัฒนาที่ต่อเนื่อง กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 พัฒนาผู้อยู่ในช่วงวัยการศึกษาระดับพื้นฐานให้มีความตระหนักรู้ ในตนเอง มีทักษะดิจิทัลและมีสมรรรถนะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ การดำรงชีวิตและการทำงาน 1. การพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะและขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ จัดการตนเอง มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถรวมพลังทำงานเป็นทีม มีการคิดขั้นสูงด้วยการจัด การเรียนรู้เชิงรุก และขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติโดยนำร่องกับสถานศึกษาที่มีความพร้อมและมีมหาวิทยาลัย สนับสนุนความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ 2. การยกระดับการผลิตและพัฒนาครูทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ให้ครูมีความพร้อม ด้านวิชาการ ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ พัฒนาระบบคัดกรองที่สะท้อนสมรรถนะวิชาชีพครู ปรับบทบาทของครูจาก “ผู้สอน”เป็น “โค้ช” ที่อำนวยการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งสู่การยกระดับครูสู่วิชาชีพชั้นสูง 3. การปรับปรุงระบบวัดและประเมินผู้เรียนให้มีความหลากหลายตามสภาพจริง ตลอดจนมีการประเมินการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน เป็นรายบุคคลที่เชื่อมโยงสู่การทำงานในอนาคต 4. การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้โดย 4.1 การแก้ไขภาะการถดถอยของความรู้ในวัยเรียนโดยสถานศึกษาพัฒนา แนวปฏิบัติและระบบสนับสนุนที่เหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน และการเรียนรู้ ที่บ้านในสถานการณ์ฉุกเฉิน 4.2 การพัฒนาระบบแนะแนวให้มีประสิทธิภาพ โดยพัฒนาครูและผู้ประกอบ อาชีพแนะแนวให้สามารถร่วมวางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตของ ผู้เรียนได้ตามความถนัดและความสนใจ
33 4.3 พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของผู้เรียนทุกคน โดยพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียน ถึงแนวทางการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขบนหลักของการเคารพความหลากหลาย ทั้งทางความคิด มุมมองของคนระหว่างรุ่น และอัตลักษณ์ส่วนบุคคลเพื่อการวางอนาคต ในการพัฒนา ประเทศร่วมกันการส่งเสริมการเรียนรู้วิชาชีวิตในโรงเรียน หลีกเลี่ยงยาเสพติด การพนัน และมีแนวปฏิบัติ ในการคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เรียน โดยเฉพาะจากการถูกกระทำโดยวิธีรุนแรงทั้งกายวาจา และการกลั่นแกล้ง ในรูปแบบต่าง ๆ 4.4 การปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ และอยู่บนหลักความเสมอภาคและเป็นธรรม รวมถึง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและดิจิทัลให้มีความครอบคลุมในทุกพื้นที่ 4.5 การกระจายอำนาจไปสู่สถานศึกษาและเพิ่มบทบาทของภาคเอกชน และ ภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษา โดยปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ที่เอื้อให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระ ในการบริหารด้านการจัดการศึกษา ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ และด้านบุคลากร รวมทั้งขับเคลื่อน การสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาตามบริบทของโรงเรียนและพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมในการจัดการเรียนรู้ และการร่วมลงทุนเพื่อการศึกษา 4.6 การส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ โดยพัฒนาระบบเสาะหาและกลไก การบริหารจัดการและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษตามแนวคิดพหุปัญญาอย่างเป็นระบบ อาทิ การสนับสนุนทุนการศึกษาต่อ ฝึกประสบการณ์ทางานวิจัยในองค์กรชั้นนำ ตลอดจนส่งเสริมการทำงาน ที่ใช้ความสามารถพิเศษอย่างเต็มศักยภาพ 4.7 ผู้มีความต้องการพิเศษได้รับโอกาสและเข้าถึงการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย โดยสถานศึกษาจัดการศึกษาที่หลากหลายและเหมาะสมเฉพาะกลุ่ม ให้เป็นทางเลือก แก่ผู้เรียนเพื่อยุติการออกกลางคัน และพัฒนากลไกสนับสนุนรวมถึงการปรับกฎระเบียบให้เอื้อต่อ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์การที่ไม่แสวงหากำไรในการดูแลกลุ่มผู้มีความต้องการพิเศษ อาทิ การวางแนวทางให้เอกชนสามารถจัดตั้งสถานฝึกอบรมหรือมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนา ผู้ต้องคำพิพากษา 5. การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รวมถึงการรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมไทยให้สอดคล้อง เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน เพื่อให้เป็น พื้นฐานของสังคมไทยและเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทยและนำเสนอ ความเป็นไทยสู่สากล กลยุทธ์ที่ 3 การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ย่อยที่ 3.1 พัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต 1. ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่างๆ สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยกำหนด มาตรการจูงใจที่เหมาะสมเพื่อให้สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการหน้าใหม่ (startup) สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ที่มีคุณภาพ มีสาระที่ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนทุกกลุ่ม ครอบคลุมทุกพื้นที่ เข้าถึงได้ง่าย ทั้งพื้นที่กายภาพ และพื้นที่เสมือนจริง เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และใช้ประโยชน์ในการพัฒนาและ แสดงศักยภาพอย่างสร้างสรรค์ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
34 2. สร้างสื่อการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยการสร้างสื่อที่ใช้ภาษาถิ่นเพื่อให้ ประชาชนที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยกลางเป็นภาษาหลักเข้าถึงได้ สื่อทางเลือกสำหรับผู้พิการทางสายตาและ ผู้พิการทางการได้ยิน รวมถึงสนับสนุนกลุ่มประชากรที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจให้เข้าถึงสื่อในราคาที่เข้าถึงได้ 3. การพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิตของประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมที่สามารถ เชื่อมโยงการเรียนรู้ในทุกระดับและประเภททั้งในระบบสายสามัญ สายอาชีพ การศึกษานอกระบบและ ตามอัธยาศัย ตั้งแต่มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และนอกระบบ เพื่อสร้างความคล่องตัว และ เปิดทางเลือกในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทุกระดับ 4. กำหนดมาตรการจูงใจให้ประชาชนพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยจัดให้มีแหล่งเงินทุนเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อาทิ การพัฒนาเครดิตการฝึกอบรมสำหรับคนทุกกลุ่ม การจัดสรรสิทธิพิเศษในการเข้ารับบริการฝึกอบรม การเข้าชมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ส่งเสริมให้เอกชนที่ผลิต นวัตกรรมทางการศึกษา จัดทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร โดยกำหนดเงื่อนไขการให้ใช้ ผลิตภัณฑ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กลยุทธ์ย่อยที่ 3.2 พัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถ เรียนในระบบการศึกษาปกติ โดยจัดทำข้อมูลและส่งเสริมการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่นและ หลากหลายของกลุ่มเป้าหมายเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางเส้นทางการเรียนรู้ ที่ตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายในอนาคตของตนเอง และสามารถเทียบโอนประสบการณ์ได้ ทั้งนี้ ให้มีการพัฒนา บุคลากรที่เกี่ยวข้องในทุกระดับให้มีความเข้าใจและมีสมรรถนะในการพัฒนาผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ที่มีความต้องการที่ซับซ้อน 3. นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ➢ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 1 การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 1. เป้าหมายที่ 1 การธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ผลสัมฤทธิ์ทุกภาคส่วนมมีความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น 3. ตัวชี้วัด ความสำเร็จของการจัดทำชุดข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเผยแพร่ตามช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ภายในปี 2570 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 กำหนดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดและพัฒนาหลักสูตร การเรียนรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งในและนอกชั้นเรียน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและ การตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชาติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมการจัดทำและเผยแพร่ชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ หลักการทรงงาน แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยมุ่งเน้นการจัดทำสื่อที่มีความทันสมัย มีการเผยแพร่ในหลายช่องทาง รวมถึงมีการจัดทำระบบการบริหารจัดการชุดข้อมูลระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชนและภาคประชาชน
35 กลยุทธ์หลักที่ 2 การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของคนในชาติอย่างสันติและเคารพ ในความแตกต่างหลากหลายบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ย่อยที่ 2.6 สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนในทุกระดับตั้งแต่ ระดับครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ทำงานให้บุคคลตระหนักและปกป้องถึงสิทธิของตนเอง รวมถึง เคารพและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.7 เสริมสร้างหรือพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริหารจัดการ ความขัดแย้งและการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการถูกเลือกปฏิบัติในระดับหน่วยย่อย ตั้งแต่ระดับครอบครัว สถานศึกษา สถานที่ทำงาน และชุมชน รวมทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงเพื่อร้องเรียน หรือร้องทุกข์กระบวนการยุติธรรมได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ➢ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 8 การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด 1. เป้าหมายที่ 1 การป้องกันประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด 2. ผลสัมฤทธิ์ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับการป้องกันจากยาเสพติด 3. ตัวชี้วัด สัดส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อประชาชนลดลง 8 คน ต่อประชากร 1,000 คน ในปีพ.ศ. 2570 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสังคมให้มีภูมิคุ้มกันและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและลดความต้องการ ยาเสพติด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 สร้างภูมิคุ้มกันระดับบุคคล ด้วยการเสริมสร้างทัศนคติและ ความรู้เท่าทันยาเสพติด ทั้งการเสพและการค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมกิจกรรม เชิงสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งรูปแบบ เนื้อหา วิธีการ และช่องทางการสื่อสาร และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายในทุกขั้นตอน 1. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 เป็นแผนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาระยะยาว โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถ เข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคในการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา ที่มีประสิทธิภาพ พัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน และการพัฒนาประเทศ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาได้นำไปเป็นกรอบและแนวทาง การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต ภายใต้บริบท เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ รวมทั้ง ความเป็นพลวัตร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ ประเทศ ที่พัฒนาแล้ว ซึ่งภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 ได้กำหนด สาระสำคัญสำหรับ แผนระดับที่ 3
36 บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาส ทางการศึกษา (Access) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) คุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และ ตอบโจทย์บริบทเปลี่ยนแปลง (Relevancy) ในระยะ 20 ปีข้างหน้า และมียุทธศาสตร์ 6 ประการ คือ 1) การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ 2) การผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3) การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 4) การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา 5 การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) การพัฒนาประสิทธิภาพของ ระบบบริหารจัดการศึกษาและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติได้กำหนด ประเด็นการพัฒนาไว้ 23 ประเด็น มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาโดยเฉพาะ คือ ประเด็นที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต และประเด็นที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ 2. แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อกำหนดทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา ระบบเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทยจะได้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกระดับ สามารถนำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปใช้เป็นกรอบและแนวทางในการดำเนินงานต่อไป ซึ่งการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน นั้นเป็นการศึกษาที่เป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมายผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน เป็นผู้เรียนรู้ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งของประเทศ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์และกลยุทธ์ ในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ดังนี้ 1. วิสัยทัศน์ “ผู้เรียนมีความรู้ และสมรรถนะที่จำเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ” 2. พันธกิจ 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตร และทักษะ ที่จำเป็นต่ออนาคตในศตวรรษที่ 21 2.2 พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัด การศึกษาที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 2.3 พัฒนาสถานศึกษาและระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับให้มีความปลอดภัย และสถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.4 เพิ่มโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับการบริการ ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 2.5 พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานในสังกัดให้มีประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลเหมาะสมกับบริบท
37 3. เป้าประสงค์ 3.1 ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและ หน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภูมิใจในความเป็นไทย 3.2 ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เสมอภาค มีคุณภาพตามมาตรฐาน สอดคล้องกับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 3.3 เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน ได้รับ การช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.4 ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัย จากภัยคุกคาม 9 รูปแบบ ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5 การค้ามนุษย์ การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมเบอร์ สามารถปรับตัวต่อโรค อุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำ และรองรับวิถีชีวิตใหม่ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี 3.5 ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีสมรรถนะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นครู 3.6 สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับ คุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการศึกษา 3. แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อใช้เป็นกรอบในการกำหนดแนวทางและเป้าหมายในการปฏิบัติราชการ ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เชื่อมโยงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 แผนแม่บทภาพใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 แผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) กระทรวงศึกษาธิการ และแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งใช้เป็นแนวทางในการกำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ผลสัมฤทธิ์และ เป้าหมายการให้บริการหน่วยงาน ตามรายละเอียด ดังนี้ 1. วิสัยทัศน์ “สร้างคุณภาพผู้เรียน สู่สังคมอนาคตอย่างยั่งยืน” (ผู้เรียนมีความรู้และสมรรถนะที่จำเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนา อย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ)
38 2. พันธกิจ 2.1 จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ 2.2 พัฒนาสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยแก่ผู้เรียน 2.3 ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน 2.4 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 2.5 สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการ ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 2.6 พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัด การศึกษาที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 2.7 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 2.8 พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับและจัดการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 3. ผลสัมฤทธิ์ 3.1 ผู้เรียนมีภูมิคุ้มกัน พร้อมที่จะรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ รู้เท่าทันสื่อ และเทคโนโลยีในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่และชีวิตวิถีถัดไป และได้รับการศึกษาในสถานศึกษาที่มีความ ปลอดภัย 3.2 ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง เสมอภาค และเท่าเทียม 3.3 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีสมรรถนะ ที่เหมาะสมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามช่วงวัย รวมถึงได้รับการส่งเสริมความเป็นเลิศเต็มตามศักยภาพ 3.4 หน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาระบบบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา 4. แผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้มีการศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และแนวโน้มด้านต่าง ๆ การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ภาคกลาง ประกอบด้วย ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์และกรุงเทพมหานคร แนวทางการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในระดับพื้นที่ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทิศทางการพัฒนาประเทศ นโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์การพัฒนา กลุ่มจังหวัดที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนระดับที่ 1 แผนระดับที่ 2 และแผนระดับที่ 3 ตามหลักการ ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (XYZ) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง
39 (พ.ศ. 2566 - 2570) ภายใต้กรอบแนวคิดการศึกษาเพื่อการพัฒนาพื้นที่ และสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ ที่เชื่อมโยงมิติทางสังคม เศรษฐกิจ ตามศักยภาพและโอกาสของพื้นที่ วิสัยทัศน์ “ผู้เรียนทุกระดับมีคุณภาพตามช่วงวัย มีความรู้ มีทักษะอาชีพ รองรับอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต” พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยการปรับเปลี่ยนระบบ การเรียนรู้ให้เอื้อต่อการพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น พัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ การบ่มเพาะการเป็นนักคิด นักนวัตกร และ การเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชีวิตที่สามารถอยู่ร่วมและทำงานภายใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม บูรณาการเรื่องความซื่อสัตย์ วินัย คุณธรรม จริยธรรม การปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน การผลิตและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต โดยเชื่อมโยงภาคการศึกษา กับภาคอุตสาหกรรมและบริการให้ตอบสนองความต้องการของแต่ละสาขาของอุตสาหกรรมและบริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มบนพื้นฐานของการวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยี ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นกำลังคนที่มีทักษะรองรับอุตสาหกรรม และ บริการแห่งอนาคต 2. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 3. ส่งเสริม สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4. เสริมสร้างการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง และนำแนวคิดตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี 5. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม 5. แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัด “เพชรสมุทรคีรีมั่งคั่ง เศรษฐกิจเติบโต บนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สมดุลและยั่งยืน” โดยได้กำหนดค่านิยามเป้าหมายการพัฒนาไว้ดังนี้ เพชรสมุทรคีรีมั่งคั่ง หมายถึง กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เพชรสมุทรคีรี มีการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจเติบโต หมายถึง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีเสถียรภาพและกระจาย ผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม สินค้าในภาคการผลิตต่าง ๆ ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 มีมูลค่าสูงขึ้น โดยมีทุนเทคโนโลยีและใช้วัตถุดิบอย่างเหมาะสม บนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมดุลและยั่งยืน หมายถึง การใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม มีการผลิตและการบริโภคเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม
40 พันธกิจ 1) การเสริมสร้างความเข้มแข็ง การขยายตัวอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันได้สูงของระบบ เศรษฐกิจจากฐานการเกษตรมูลค่าสูงมีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐาน การท่องเที่ยวแบบครบวงจรและ อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และให้เกิดการกระจายตัวของเศรษฐกิจลดความเหลื่อมล้ำให้แต่ละพื้นที่ได้รับ ประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันและเพิ่มมากขึ้น 2) การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่า และสมดุลในขีดความสามารถของระบบนิเวศน์และเป็นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และสอดคล้องกับทิศทางของประชาคมโลก 3) สร้างและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด จังหวัดใกล้เคียง และภูมิภาคอาเซียนทั้งด้านการค้า การคมนาคมขนส่ง การผลิต และการลงทุน 4) เสริมสร้างความมั่นคง ปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทั้งจากภายในกลุ่มจังหวัด ประเทศ และภายนอกประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่องบนคุณภาพชีวิต และการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประเด็นการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด ประเด็นการพัฒนาที่ 1 ยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูง และอุตสาหกรรม การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ 2 พัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและ ได้มาตรฐานสากล ประเด็นการพัฒนาที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมและบริการด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม ประเด็นการพัฒนาที่ 4 รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ประโยชน์ อย่างยั่งยืน นโยบายรัฐบาล (นายเศรษฐา ทวีสิน) คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี) ที่แถลงต่อรัฐสภา วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินไว้ ดังนี้ 1) นโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี 1.1) ข้อ 3 นโยบายระยะกลางและยาว 1.1.1) นโยบายหลัก 3.2 การสร้างโอกาส (1) นโยบาย 3.2.3 การบริหารในรูปแบบของการกระจายอำนาจ นโยบายย่อย 3.2.3.2 การจัดการปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการให้บริการ นโยบายที่เกี่ยวข้อง
41 (2) นโยบาย 3.2.6 การปฏิรูปการศึกษา สร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต นโยบายย่อย 3.2.6.1 การปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ตลอดชีวิต (3) นโยบาย 3.2.7 การพัฒนาครู ดูแลนักเรียนทั้งสุขภาพกาย และใจ นโยบายย่อย 3.2.7.1 การพัฒนาคุณภาพของครูทั้งประเทศ นโยบายย่อย 3.2.7.3 การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 1.1.2) นโยบายหลัก 3.3 การสร้างคุณภาพชีวิต (1) นโยบาย 3.3.7 การผลักดันกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของ คนทุกกลุ่ม นโยบายย่อย 3.3.7.3 การสนับสนุนให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐกับ ประชาชน ประชาชนกับประชาชนที่มีความแตกต่างทางความคิด ศาสนา และอุดมการณ์ ให้สามารถอาศัย อยู่ร่วมกันได้ อย่างสันติสุขภายใต้หลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง 1.2) ข้อ 4 นโยบายวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ 1.2.1) นโยบายหลัก 4.1 การวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ นโยบาย 4.1.6 การธำรงดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ นโยบายย่อย 4.1.6.2 การสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพทัดเทียมประเทศอื่น 2) นโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา 2.1) ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ 2.2) เสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง มีอุปกรณ์การเรียน ที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย และใช้ระบบเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ 2.3) จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน 2.4) ส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาทั้งในด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied Science) และการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้และ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 2.5) การศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศและการปลูกฝังความรักในสถาบันหลัก ของชาติ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลกสมัยใหม่ อย่างมีคุณธรรม และจริยธรรม 2.6) ความมีคุณภาพของครูทั้งประเทศ รวมไปถึงครูแนะแนว เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับ คำแนะนำ ด้านเนื้อหาของวิชาการและการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกเรียนและ ประกอบอาชีพ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน 2.7) ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทั้งสายวิชาการและสายอาชีพ ให้มีรายได้จากวิชาที่เรียน โอกาสฝึกงานระหว่างเรียน เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถ ตรงต่อความต้องการของการจ้างงาน 2.8) แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำ ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
42 นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย 1.1 สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันภัย คุกคามในชีวิตทุกรูปแบบ โดยมีการดำเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรในรูปแบบต่างๆอย่างเข้มข้น 1.2 ปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์และไซเบอร์ อย่างสร้างสรรค์ 1.3 ส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักรู้ และจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ 1.4 พัฒนาบทบาทและภารกิจด้านความปลอดภัยของทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน 2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการเรียนรู้สู่สมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ให้กับผู้เรียน 2.2 จัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมพหุปัญญาให้กับผู้เรียน โดยเน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ในรูปแบบ Active Learning, STEM Education, Coding ฯลฯ และกระบวนการส่งต่อในระดับที่สูงขึ้น 2.3 พัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวัดผล ประเมินผลฐานสมรรถนะ เพื่อเป็นฐาน ในการพัฒนาทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นแห่งอนาคต 2.4 ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะและสมรรถนะ ด้าน Soft Power ให้กับผู้เรียน 2.5 ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้เรียนรู้ตามความสนใจผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่หลากหลาย 2.6 ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการฟื้นฟูภาวะถดถอย ทางการเรียนรู้ (Learning Loss) 2.7 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้มีความทันสมัยน่าสนใจเหมาะสมกับวัยและบริบทของพื้นที่ 2.8 ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียนโดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.9 ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้นำผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติไปใช้ในการ วางแผนการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา 2.10 พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน 3. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย 3.1 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการ ติดตามและส่งต่อไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาเด็กตกหล่นและออกกลางคัน