43 3.2 ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อรับการพัฒนาอย่างรอบด้านมีคุณภาพตามศักยภาพตามวัยต่อเนื่องอย่างเป็นระบบและเป็นไป ตามมาตรฐาน โดยบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.3 พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และ กลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การทำงาน หรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment or Training : NEETs) 3.4 พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว (Home School) และการเรียนรู้ที่บ้านเป็นหลัก (Home–based Learning) รวมทั้งการศึกษาทางเลือกอื่น ๆ 3.5 พัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ในหน่วยงานที่จัดการศึกษาและ ให้มีหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนระบบธนาคารหน่วยกิตในภาพรวม และการเชื่อมโยงทั้งระหว่างรูปแบบ ประเภท และระดับการศึกษา 4. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 4.1 พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นแบบโมดูล (Modular System) มีการบูรณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการอาชีวศึกษา ทั้งในระบบ นอกระบบ และระบบทวิภาคี รวมทั้งการจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษา อย่างเข้มข้นเพื่อการมีงานทำ 4.2 ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับ สมรรถนะกำลังคนตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นเลิศ ทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการผลิต กำลังคนที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพ ในรูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาระบบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตามสมรรถนะที่จำเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการนำผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าทำงาน ศึกษาต่อ ขอรับประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตร สมรรถนะภาษาอังกฤษ (English Competency) 4.5 จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ (ศูนย์ Start Up) ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพ และการเป็นผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และ พัฒนาผู้ประกอบการด้านอาชีพทั้งผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเชื่อมโยงกับ กศน. และ สถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ 4.6 เพิ่มบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและกำลังแรงงาน ในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ที่สามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้
44 4.7 พัฒนาหลักสูตรอาชีพสำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชน ที่สอดคล้องมาตรฐานอาชีพเพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะ และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิ แห่งชาติ 5. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ 5.1 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการประเมินวิทยฐานะ โดยใช้ระบบการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (Digital Performance Appraisal : DPA) 5.2 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ตามกรอบระดับสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา 5.3 พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบ อาชีพ และการดำเนินชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล 5.4 ส่งเสริมสนับสนุนการวัดสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผล เพื่อนำผลไปใช้ ในการยกระดับการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลในชั้นเรียน 5.5 พัฒนาขีดความสามารถของครู และบุคลากรให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องและเหมาะสม กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต 5.6 ส่งเสริมสนับสนุนการทดสอบสมรรถนะครู และบุคลากรด้านภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสารในการทำงาน 5.7 เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทั้งระบบ ควบคู่กับการให้ความรู้ ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม 6. การพัฒนาระบบราชการและการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล 6.1 ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ ด้วยนวัตกรรม และการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาเป็นกลไกหลักในการดำเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data) การส่งเสริมความร่วมมือ บูรณาการกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก 6.2 พัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้งานเครือข่าย สื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.3 พัฒนาระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยึดหลัก ความจำเป็นและใช้พื้นที่เป็นฐานที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ 6.4 เสริมสร้างคุณธรรม มาตรฐานทางจริยธรรมและปลุกจิตสำนึกต่อต้านการทุจริต และ ประพฤติมิชอบโดยยึดหลักธรรมาภิบาล 7. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ควบคู่ กับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง
45 นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2568 1. ปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ และน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา สู่การปฏิบัติ 1.1 ขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา เพื่อการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน 1.2 ขับเคลื่อนพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ 1.3 ปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ 2. จัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และประชาธิปไตย 2.1 พัฒนาการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และประชาธิปไตยใน สังคมร่วมสมัย 2.2 พัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรมประชาธิปไตย และส่งเสริมความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สู่ห้องเรียนวิถีใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 3. ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย 3.1 ส่งเสริมให้มีการต่อยอดแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Leaning) เพื่อพัฒนา สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.2 พัฒนาศักยภาพและคุณลักษณะผู้เรียนตามความถนัด ความสนใจ ด้วยการเรียนรู้ อย่างมีความสุข 3.3 ส่งเสริมผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ต้านสิ่งแวดล้อม และมีจิตสำนึกในการ อนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ส่งเสริมการอ่าน เพื่อเป็นวิถีในการคันหาความรู้และต่อยอดองค์ความรู้ที่สูงขึ้น 4.1 ส่งเสริมการอ่านเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4.2 พัฒนาความสามารถด้านการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA 5. ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 5.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะด้านการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม การมีจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ 5.2 สร้างผู้นำด้วยกระบวนการลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอื่นๆ 5.3 ส่งเสริมกิจกรรมสภานักเรียน ชุมนุม ชมรม และการมีส่วนร่วมให้เกิดวิถีประชาธิปไตย ในโรงเรียน เป็นพลเมืองที่ดี และแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ 6. จัดการศึกษาแบบเรียนรวม 6.1 พัฒนาองค์ความรู้ เจตคติและทักษะการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กที่มีความต้องการ จำเป็นพิเศษ 6.2 สร้างเครือข่ายบูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ระหว่างสถานศึกษากับทีมสหวิชาชีพ 6.3 นิเทศ กำกับ ติดตาม โดยร่วมมือกับเครือข่ายในทุกภาคส่วน
46 7. จัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ 7.1 ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนตามพหุปัญญา 7.2 พัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษ ด้านคณิตศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านภาษา ด้านทัศนศิลป์ ด้านดนตรี ด้านนาฎศิลป์ ด้านกีฬา และด้านอื่น ๆ 7.3 ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้มีความสามรถพิเศษ และ Soft Power อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 8. เสริมสร้างความปลอดภัยของสถานศึกษา 8.1 ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของสถานศึกษา เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย อบอุ่น มีความสุข เอื้อต่อการเรียนรู้ 8.2 สร้างเครือข่ายและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา และสถานศึกษา 8.3 สร้างภูมิคุ้มกันผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด 8.4 รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ดูแลความปลอดภัยของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านระบบ OBEC Safety Center 9. เพิ่มโอกาสและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา 9.1 พัฒนาระบบการป้องกัน การเฝ้าระวัง และการดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยง เด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน เด็กไร้สัญชาติ เด็กพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดารและพื้นที่เกาะ ตามความต้องการจำเป็น รายบุคคล เพื่อไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา โดยบูรณาการความร่วมมือกับบุคคลและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง 9.2 ส่งเสริม สนับสนุนให้เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษา แหล่งเรียนรู้ และการฝึกอาชีพที่หลากหลายเหมาะสมตามศักยภาพ เพื่อให้มีทักษะ ในการดำเนินชีวิต สามารถพึ่งตนเองได้ 10. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 10.1 พัฒนาผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรส่วนกลาง ให้เป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ นำนโยบายสู่การปฏิบัติ และมีทักษะ ในการบริหารสถานการณ์ 10.2 พัฒนาสมรรถนะศึกษานิเทศก์ในการนิเทศ และการชี้แนะ (Coaching) 10.3 พัฒนาสมรรณะครู ด้านภาษาอังกฤษ ภาษจีน เทคโนโลยีดิจิทัล การจัดการเรียนรู้ จิตวิญญาณความเป็นครู และทักษะอื่นที่จำเป็น 10.4 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้และสมรรถนะด้านวิชาการ ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
47 นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา 1. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานบุคคล 1.1 ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการ การแต่งตั้ง การย้าย การช่วยราชการ และการขอ มีวิทยฐานะ 1.2 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. การแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นครู 2.1 จัดตั้งศูนย์และสถานีแก้หนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับ 2.2 จัดทำข้อมูลสารสนเทศ และแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา 2.3 ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา 3. การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา 3.1 จัดทำแผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา 3.2 จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา 3.3 เสนอปรับเกณฑ์อัตรากำลังผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรสายสนับสนุน 3.4 จัดทำคำสั่งมอบอำนาจเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการแทนโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 60 คน และ เลื่อนวิทยฐานะ 3.5 จัดทำรูปแบบการบริหารเจ้าหน้าที่ธุรการ ในโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาส 3.6 สร้างและใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ในระบบดิจิทัล และส่งเสริมการใช้ DLTV 4. ลดภาระการประเมินของสถานศึกษา 4.1 สำรวจรายการประเมิน การรายงานข้อมูล และโครงการของสถานศึกษา 4.2 จัดทำรูปแบบและแนวทางการประเมินเพื่อลดภาระของสถานศึกษา 4.3 ติดตามผลการประเมินตามแนวทางเพื่อลดภาระการประเมินของสถานศึกษา 5. สร้างความตระหนักในการป้องกันการทุจริต 5.1 เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5.2 สรรหา บรรจุและแต่งตั้ง โยกย้าย ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ยึดถือ ระบบคุณธรรม และความโปร่งใส 5.3 จัดซื้อจัดจ้างวัสดุ ครุภัณฑ์ อาหารกลางวัน อย่างมีคุณภาพและถูกต้องตาม ระเบียบกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง 6. การสื่อสาร และประชาสัมพันธ์องค์กร 6.1 พัฒนาการสื่อสารทุกช่องทาง 6.2 ติดตามและวิเคราะห์ประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา 6.3 ผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ สพฐ. 6.4 สร้างเครือข่าย และประยุกต์ใช้ AI เพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา
48 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง 1. การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 1.1 จัดหาเครื่องมือ พร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการเรียนรู้ 1.2 จัดหาระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของสถานศึกษา 1.3 พัฒนา ส่งเสริม และขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ เทคโนโลยีดิจิทัล ให้แก่ผู้เรียนทุกที่ทุกเวลา 2. สร้างความเข้มแข็งระบบแนะแนว การชี้แนะ (Coaching) และการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรียน 2.1 พัฒนาระบบการแนะแนวและการชี้แนะแนวทาง (Coaching) 2.2 พัฒนาครูแนะแนวแกนนำ และพัฒนาให้ครูทุกคนให้การแนะแนวนักเรียนได้ 2.3 ส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียนวิถีใหม่ด้วย School Health Hero และส่งเสริม สุขภาพกายรอบด้าน 3. ส่งเสริมระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) 3.1 พัฒนาระบบการเทียบโอนความรู้ และประสบการณ์เพื่อใช้ในการสะสมหน่วยกิต และผลการเรียนของผู้เรียน ผ่านระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) 3.2 พัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิตดิจิทัล 3.3 เชื่อมโยง API ระหว่างสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และระบบธนาคารหน่วยกิต แห่งชาติ 4. 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ 4.1 จัดทำแผนการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ 4.2 กำหนดเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนคุณภาพ 4.3 สนับสนุนและพัฒนาโรงเรียนคุณภาพที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการ เพื่อการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ 5. เสริมสร้างทักษะอาชีพ และการมีรายได้ระหว่างเรียน 5.1 พัฒนานักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5.2 ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานหารายได้ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน 5.3 ส่งเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5.4 พัฒนาต่อยอดห้องแล็บสอนอาชีพ ในโรงเรียนต้นแบบสหกรณ์โรงเรียน 5.5 ส่งเสริมการศึกษาร่วมหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ทวิศึกษา) ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย
49 มาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการองค์การสู่ความเป็นเลิศ ตัวบ่งชี้ที่ 1 การบริหารจัดการที่ดี ประเด็นพิจารณา 1. ภาวะผู้นำของผู้บริหารในการนำองค์กรไปสู่เป้าหมาย 2. การใช้ข้อมูลสารสนเทศในการบริหารและการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 3. การใช้แผนเป็นเครื่องมือในการบริหารและจัดการศึกษา 4. การสร้างหรือประยุกต์ใช้นวัตรกรรม เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการศึกษา 5. การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ภายในและภายนอกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 6. การนำผลการดำเนินงานมาพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 2 การพัฒนาสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ ประเด็นพิจารณา 1. ส่งเสริมให้บุคลากรกระตือรือร้น ค้นคว้าหาความรู้ มีความคิดเชิงระบบสามารถ เรียนรู้และก้าวทันการเปลี่ยนแปลง 2. ส่งเสริมให้เกิดการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) และ การสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 3. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีแหล่งเรียนรู้ด้วยรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้บุคลากรมีโอกาสได้เรียนรู้ตามบริบทของเขตพื้นที่การศึกษา 4. การนำองค์ความรู้มาพัฒนาตนเอง พัฒนางานและพัฒนาองค์การ โดยใช้ กระบวนการวิจัย ตัวบ่งชี้ที่ 3 การกระจายอำนาจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารและการจัดการศึกษา ประเด็นพิจารณา 1. การกระจายอำนาจในการบริหารและการจัดการศึกษาภายในสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา 2. มีการประสาน ส่งเสริม สนับสนุน อำนวยความสะดวกในการทำงานของ องค์คณะบุคคล จัดให้มีเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3. ส่งเสริม สนับสนุนการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของบุคคล ครอบครัว และ หน่วยงานต่าง ๆ 4. การสร้าง พัฒนา และประสานเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในการจัด การศึกษาทั้งภายในและภายนอก มาตรฐานที่ 2 การบริหารและการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ตัวบ่งชี้ที่ 1 การบริหารงานด้านวิชาการ ประเด็นพิจารณา 1. พัฒนากรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมาย จุดเน้น สาระท้องถิ่น และสอดคล้องแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 นำไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษา
50 2. ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา จัดให้มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินเอกสารหลักสูตรสถานศึกษาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษา และมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา 3. ส่งเสริม สนับสนุนบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่าย เกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4. ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีการผลิต จัดหา และพัฒนาสื่อ เครื่องมือ อุปกรณ์ที่หลากหลายทันต่อการเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้และความแตกต่าง ของผู้เรียน 5. ส่งเสริม สนับสนุนการวัดผล ประเมินผลและนำผลไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษา 6. พัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ดูแล ติดตามและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตามระบบการประกันคุณภาพ 7. จัดทำวิจัย ส่งเสริมการวิจัยและนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางาน 8. ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียน 9. ประสาน ส่งเสริมให้บุคคล ครอบครัว และหน่วยงานทุกภาคส่วน มีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา รวมทั้งเป็นเครือข่ายและแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 2 การบริหารงานด้านงบประมาณ ประเด็นพิจารณา 1. มีการวางแผนการใช้งบประมาณอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับนโยบาย ปัญหา และความต้องการ 2. มีการจัดระบบการบริหารการเงิน การบัญชี และพัสดุ 3. มีการควบคุมการใช้งบประมาณอย่างเป็นระบบ 4. มีการตรวจสอบภายในอย่างเป็นระบบ ตัวบ่งชี้ที่ 3 การบริหารงานด้านการบริหารงานบุคคล ประเด็นพิจารณา 1. มีการวางแผนอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มี ความสอดคล้องกับนโยบาย ปัญหาและความต้องการ 2. การสรรหาและบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ 3. การพัฒนา ส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สู่ความเป็นมืออาชีพ สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความจำเป็น และส่งเสริมความก้าวหน้า ทางวิชาชีพ 4. การเสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
51 ตัวบ่งชี้ที่ 4 การบริหารงานทั่วไป ประเด็นพิจารณา 1. มีการสร้าง พัฒนาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงภายในและภายนอกเขตพื้นที่การศึกษา 2. มีการส่งเสริม สนับสนุนการรับนักเรียนทั้งในและนอกเขตบริการ โดยดำเนินการ รับนักเรียนให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติการรับนักเรียน 3. มีการมอบหมายภารกิจผู้รับผิดชอบในการดูแลอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม 4. มีการพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการปฏิบัติงานในทุกภารกิจ มีการติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง 5. มีการวางแผนจัดวางระบบการควบคุมภายในที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา การดำเนินงานตามภารกิจ 6. การจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ตัวบ่งชี้ที่ 5 การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ประเด็นพิจารณา การจัดระบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการจัดการศึกษาภารกิจหลัก 4 ด้าน และการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ มาตรฐานที่ 3 สัมฤทธิผลการบริหารและการจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีผลงานที่แสดงความสำเร็จและเป็นแบบอย่างได้ ประเด็นพิจารณา ผลงานหรือผลการดำเนินงานของกลุ่ม/หน่วยในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่บรรลุเป้าหมายตามภารกิจ ทั้งนี้ เป็นผลงานที่เกิดจากการดำเนินงานภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาและสถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทั้งภายในสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาจนเกิดประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับและสามารถเป็นแบบอย่างได้ ตัวบ่งชี้ที่ 2 สถานศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา ประเด็นพิจารณา สถานศึกษาในสังกัดได้รับการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ดูแล ติดตามและ ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา พร้อมทั้งมีผลการประเมินคุณภาพภายนอกที่รองรับมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตัวบ่งชี้ที่ 3 ผู้เรียนระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีคุณภาพตามหลักสูตร ประเด็นพิจารณา 1. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 2. ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 3. ผลการประเมินความสามารถในการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และการเขียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
52 4. ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญในการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5. ผลการประเมินสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตัวบ่งชี้ที่ 4 ประชากรวัยเรียนได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกัน ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือมีความรู้ทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพ ประเด็นพิจารณา 1. อัตราการออกการคันลดลง 2. อัตราการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของผู้เรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 3. ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีความต้องการพิเศษได้รับการดูแล ช่วยเหลือและส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาอย่างเต็มศักยภาพ 3.1 เด็กพิการเรียนรวม 3.2 เด็กด้อยโอกาส 3.3 เด็กที่มีความสามารถพิเศษ 4. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพ 5. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จบหลักสูตร ได้ศึกษาต่อในสายอาชีพ ตัวบ่งชี้ที่ 5 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างในสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา มีผลงานเชิงประจักษ์ตามเกณฑ์ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ประเด็นพิจารณา ผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาเป็นผลงานที่ได้รับ รางวัลในระดับชาติขึ้นไป โดยต้องเป็นรางวัลชนะเลิศที่ ก.ค.ศ. ให้การรับรองตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด หรือรางวัลเทียบเคียงและเป็นรางวัลในปีการศึกษาปัจจุบัน ตัวบ่งชี้ที่ 6 ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความพึงพอใจในการบริหารและการ จัดการศึกษา รวมทั้งการให้บริการ ประเด็นพิจารณา ผลการประเมินความพึงพอใจในการบริหารและการจัดการศึกษา รวมทั้ง การให้บริการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามระบวนการบริหารงานของกลุ่มในสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา โดยใช้แบบสอบถาม เพื่อประเมินความคิดเห็นที่มีต่อการให้บริการครอบคลุมทุกภารกิจของ กลุ่ม/หน่วย
53 ส่วนที่ 3 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้ดำเนินการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) ประกอบการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - พ.ศ. 2570) โดยประเมินปัจจัยภายในที่เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน และปัจจัยภายนอกที่เป็น โอกาสและอุปสรรค ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ดังนี้ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โครงสร้าง (S1) 1. มีสถานศึกษาให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ 2. โครงสร้างการบริหารของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามีความชัดเจน เป็นระบบ เป็นไปตาม ระเบียบและกฎหมายกำหนด และมีคำสั่ง มอบหมายการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน 3. มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาปฏิบัติ หน้าที่รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา และคณะครู เพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่ ต่าง ๆ ทำให้สามารถบริหารจัดการงานได้มี คล่องตัว มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน โครงสร้าง (S1) 1. สถานศึกษาขนาดเล็กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ ส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างต่ำ 2. เป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตั้งใหม่ ยังขาด บุคลากรในการปฏิบัติงานได้ครอบคลุมตามภาระงาน 3. เขตพื้นที่การศึกษามีเขตบริการ 2 จังหวัด แต่ละ จังหวัดมีแนวทางการดำเนินงานที่แตกต่างกัน การบริหารงานจึงต้องปรับวิธีการดำเนินงานให้ ตอบสนองแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละจังหวัด ผู้รับบริการ (S2) 1. ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานทำให้การปฏิบัติงาน สะดวกและรวดเร็ว 2. มีค่านิยมในการบริการ “ยึดระบบ ถูกระเบียบ เรียบร้อย ทันเวลา” 3. สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ 4. สนับสนุนให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในสังกัดได้รับความก้าวหน้าและพัฒนา วิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ผู้รับบริการ (S2) 1. ผู้เรียนที่ไม่มีสัญชาติไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 2. การให้บริการในบางเรื่องมีเงื่อนไขใหม่ในการ ปฏิบัติส่งผลให้การดำเนินงานมีความล่าช้า
54 จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) บุคลากร (M1) 1. ผู้นำหน่วยงานเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์ ในการทำงาน การตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของ ข้อมูล มีภาวะผู้นำ มีศักยภาพในการทำงาน บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล 2. มีบุคลากรสายงานการสอนอย่างเพียงพอ 3. บุคลากรในสำนักงานมีส่วนร่วมในการบริหาร จัดการ 4. ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานฯ (ITA) ของสำนักงานเขต อยู่ในระดับ AA 5. บุคลากรส่วนใหญ่มีความมุ่งมั่น มีองค์ความรู้ มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และปฏิบัติงาน ตามภารกิจได้ดี สามารถพัฒนาไปสู่มืออาชีพ 6. บุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปฏิบัติงานและ ทำงานเป็นทีม มีความสามัคคี รักษาผลประโยชน์ ของทางราชการเป็นสำคัญ ปฏิบัติตามระเบียบ ของทางราชการ ด้วยความรู้ ทักษะมุ่งมั่นต่อ การทำงาน มีจิตบริการ (Service mind) ด้วย ความเต็มใจ อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ บุคลากร (M1) 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับ การกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ตั้งใหม่ จึงยังขาด บุคลากรในการปฏิบัติงานได้ครอบคลุม ตามภาระงาน การขับเคลื่อนนโยบายของ ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้เต็มศักยภาพ 2. บุคลากรสายในการสอน สอนไม่ตรงสาขา วิชาเอกที่จบการศึกษา และมีการโยกย้ายบ่อย รวมทั้งมีภาระงานนอกเหนือจากการสอน ทำให้ การปฏิบัติงานไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้การเรียน การสอนบางรายวิชาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขาดแคลน บุคลากรที่ปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง 4. บุคลากรบางกลุ่มงานไม่ครบตามกรอบ อัตรากำลัง ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนบุคลากร ระหว่างกลุ่มงาน และใช้อัตรากำลังจาก สถานศึกษามาปฏิบัติงาน โดยมุ่งความสำเร็จ ของหน่วยงานเป็นหลัก 5. บุคลากรบางคนขาดจิตบริการ ทำให้ผู้รับ บริการส่วนหนึ่งยังไม่พึงพอใจต่อการให้บริการ ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม 6. บุคลากรบางส่วนได้รับมอบหมายงานที่ไม่ตรง กับความสามารถ ไม่เข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมาย และวิธีปฏิบัติ 7. บุคลากรบางส่วนขาดความตระหนักในการมี ส่วนร่วมในการทำงาน ขาดการสื่อสารและ ประสานงานที่ดี (Cross function) 8. ขาดบุคลากรฝ่ายสนับสนุน (ธุรการ) 9. บุคลากรขาดทักษะด้านการสื่อสาร ภาษาอังกฤษ
55 จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) งบประมาณ (M2) 1. สถานศึกษาได้รับการจัดสรรงบประมาณ และ มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุน งบประมาณที่หลากหลาย 2. ทุกกลุ่มงาน สถานศึกษาทุกแห่ง ให้ ความสำคัญกับการเสนอของบประมาณ งบประมาณ (M2) 1. ขาดงบประมาณสนับสนุน 2. ได้รับการจัดสรรงบประมาณในช่วงสิ้น ปีงบประมาณ ทำให้ใช้ไม่คุ้มค่า และดำเนินการ กระชั้นชิด ไม่ทันตามระยะเวลาที่กำหนด 3. การแจ้งจัดสรรงบประมาณบางรายการล่าช้า และขาดการประสานงานระหว่างกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง 4. สถานศึกษาเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่กำหนด และไม่ให้ความสำคัญกับ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ 5. ขาดความคล่องตัวในการเบิก-จ่าย งบประมาณ เนื่องจากไม่ได้เป็นหน่วยเบิก-จ่าย งบประมาณ สื่อ อุปกรณ์ (M3) 1. มีสื่อ อุปกรณ์ ที่ทันสมัย 2. มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (My Office) ในการประสานงานและติดต่อสื่อสารอย่างเป็น ระบบ สื่อ อุปกรณ์ (M3) 1. สื่อ อุปกรณ์ ไม่เพียงพอ บางส่วนรอบรับการ จัดสรร เช่น รถตู้ จึงทำให้ขาดความคล่อง ในการ ดำเนินงาน 2. ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่ไม่คุ้มค่า และขาดการ ดูแลรักษาที่เหมาะสม การบริหารจัดการ (M4) 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในสังกัด ในภาพรวมสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานและค่าเฉลี่ย ระดับประเทศในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. มีเครือข่ายการบริหารงานชัดเจน ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพฯ สหวิทยาเขต และศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่มสาระฯ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีเครือข่ายการบริหารด้านวิชาการ 3. เครือข่ายทางวิชาการ หรือเครือข่ายส่งเสริม ประสิทธิภาพการพัฒนาคุณภาพที่เข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนด้านวิชาการได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ (M4) 1. การโยกย้ายผู้บริหารบ่อย เนื่องจากการ เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ในการโยกย้าย ส่งผลให้การ ดำเนินงานไม่ต่อเนื่อง 2. ผู้รับผิดชอบโครงการไม่ตระหนักในการดำเนิน โครงการตามแผนที่กำหนด 3. ลักษณะงานและกิจกรรมของบางกลุ่มงาน มีการทับซ้อนกัน และขาดการวิเคราะห์งาน ทำให้ไม่สามารถกำหนดผู้รับผิดชอบ 4. ขาดการให้ความร่วมมือในการรายงานผลการ ติดตามการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาทำให้ไม่สามารถทราบข้อดี ข้อเสีย ปรับปรุงและพัฒนา
56 จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) 4. สถานศึกษามีความพร้อมด้านอาคาร สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ 5. มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีข้อมูลสารสนเทศ ที่ทันสมัย ถูกต้องครบถ้วน 6. การกระจายอำนาจและแบ่งส่วนราชการ ภายในอย่างชัดเจน และมีกฎหมายรองรับ 7. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด อย่างชัดเจน สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการจังหวัด และสนองความ ต้องการพัฒนาเขตพื้นที่ โดยยึดหลักการมีส่วน ร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 8. การบริหารจัดการตามกลยุทธ์สอดคล้องตาม บทบาทหน้าที่และเอื้อต่อการปฏิบัติงานของกลุ่ม 9. บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการ กำหนดนโยบายการดำเนินงานทำให้มีความ ชัดเจนครอบคลุมทุกองค์ประกอบ ได้แก่ นักเรียน โรงเรียน ครู ชุมชน และระบบบริหาร จัดการ 10. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการสถานศึกษาปฏิบัติหน้าที่รอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อ ปฏิบัติราชการ และกำกับดูแลสถานศึกษา ทำให้ ดำเนินงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น 5. การใช้ทรัพยากรร่วมกันยังมีน้อย ขาดการ ประสานงานและการบริหารจัดการระหว่างกลุ่ม ในด้านวิชาการ 6. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขาดความพร้อม และความเหมาะสมด้านอาคารสถานที่ ขาด ความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการ เนื่องจากที่ตั้งอยู่ในสถานศึกษา
57 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก โอกาส (Opportunities) อุปสรรค (Threats) ด้านสังคม – วัฒนธรรม 1. มีการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา 2. สภาพสังคมโดยทั่วไปในพื้นเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทย เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ได้อย่าง หลากหลาย 3. พื้นที่มีแหล่งเรียนรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้านระดับจังหวัด และ ระดับประเทศ ที่มีความหลากหลาย ส่งผลให้ สถานศึกษาสามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้า เป็นครูให้ความรู้ เป็นแบบอย่างการเรียนรู้ และการ ดำรงชีพที่สอดคล้องกับความเป็นชาติไทย 4. ผู้ปกครองมีค่านิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนใน โรงเรียนที่มีคุณภาพ มีความพึงพอใจต่อการบริการ และการจัดการการศึกษาของ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชุมชน องค์กรภายนอกให้การสนับสนุนทรัพยากร ทางการศึกษา ทำให้เอื้อต่อการจัดการศึกษา ด้านสังคม – วัฒนธรรม 1. ผู้ปกครองส่วนหนึ่งย้ายเข้ามาประกอบ อาชีพชั่วคราว และมีการโยกย้ายถิ่นฐาน เคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้นักเรียนออก กลางคัน ส่งผลกระทบต่อการดูแลนักเรียน และการจัดการศึกษา 2. ชุมชนรอบโรงเรียนในบางพื้นที่มีแหล่ง อบายมุข มีปัญหายาเสติด ส่งให้นักเรียน มีพฤติกรรมเสี่ยงนักเรียนออกกลางคัน 3. ค่านิยมของผู้ปกครองในการส่งบุตร หลานเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการ แข่งขันสูง ส่งผลให้มีจำนวนโรงเรียนขนาด เล็กเพิ่มขึ้น 4. ปัญหา สังคม อบายมุข ยาเสพติด ส่งผล กระทบต่อคุณภาพการจัดการศึกษา 5. การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อการ จัดการเรียนการสอน กฎหมาย/นโยบาย 1. กระทรวงกำหนดโครงสร้างการบริหารงานของเขต พื้นที่การศึกษาอย่างชัดเจน 2. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ กำหนดเกณฑ์การศึกษา ภาคบังคับ ทำให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บริหาร จัดการศึกษาครอบคลุมนักเรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย 3. รัฐบาลให้ความสำคัญ และสนับสนุนเงินอุดหนุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กฎหมาย/นโยบาย 1. มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงบ่อย ทำให้นโยบายเปลี่ยนแปลงไปด้วย ส่งผลให้ นโยบายการด้านการศึกษาขาดความ ต่อเนื่องและไม่ยั่งยืน 2. การปรับปรุงระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของ หน่วยเหนือ ขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ ปฏิบัติและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
58 โอกาส (Opportunities) อุปสรรค (Threats) 4. รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน ให้นักเรียนได้เรียนรู้ ตามความถนัดและความสนใจ โดยให้ความสำคัญกับ บริบทท้องถิ่น 5. รัฐบาลนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาใช้ในการ ขับเคลื่อนสนับสนุนการจัดการศึกษาสู่การปฏิบัติอย่าง ยั่งยืน 6. นโยบายการจัดการศึกษามีความชัดเจนเอื้อต่อการ พัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่ 7. หน่วยงานทางการศึกษามีกฎหมายเฉพาะ มีการกระจายอำนาจ และเป็นนิติบุคคล ทำให้มี ความคล่องตัวในการดำเนินงาน เอื้อต่อการบริหาร จัดการศึกษา 8. ผู้บริหารและครูส่วนใหญ่มีความสนใจและตั้งใจ ศึกษาหาความรู้ในด้านกฎหมาย ระเบียบ และพัฒนา งานอย่างต่อเนื่อง 3. สถานศึกษามุ่งเน้นรับการประเมิน มากกว่าการพัฒนาคุณภาพและการจัดการ เรียนการสอนให้มีคุณภาพ 4. สถานศึกษาขาดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบายและข้อบัญญัติการสนับสนุน การพัฒนาการศึกษาขององค์กรภายนอก ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาการศึกษา และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งงบประมาณ สนับสนุนได้ 5. การมีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ทำให้ บทบาทหน้าที่ในจัดการศึกษามีความทับ ซ้อนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา การดำเนินงานที่ต้องเสนอผ่าน คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เป็นไป ด้วยความล่าช้า รวมทั้งทำให้สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามีภาระงานเพิ่มขึ้น 6. กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการต่าง ๆ ในการดำเนินการศึกษาภาคบังคับไม่ชัดเจน ทำให้เด็กในวัยเรียนยังไม่สามารถเข้าเรียน ในการศึกษาภาคบังคับได้ครบทุกคน 7. นโยบายกัญชาเสรี ทำให้เกิดปัญหาใน สถานศึกษา เศรษฐกิจ 1. สภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่เอื้อต่อการประกอบอาชีพ ที่หลากหลายของประชาชน มีแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร และเป็นแบบอย่างในการประกอบอาชีพอิสระ 2. สภาพสังคมและเศรษฐกิจมีการขยายตัวค่อนข้าง รวดเร็ว การลงทุนในพื้นที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี เศรษฐกิจ - ประชาชนมีอาชีพทางด้านเกษตร รับจ้าง ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ประชาชนมีรายได้ลดลงส่งผลให้มี งบประมาณในการสนับสนุนการศึกษาของ บุตรหลานลดลง
59 โอกาส (Opportunities) อุปสรรค (Threats) คมนาคม/เทคโนโลยี 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอยู่ในเขตปริมณฑล และการคมนาคมมีความสะดวก ทำให้การติดต่อ ประสานงานจัดการศึกษาได้สะดวก รวดเร็ว 2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และสารสนเทศ ที่ทันสมัย สามารถส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหาร จัดการ อย่างเป็นระบบทำให้เกิดความคล่องตัวในการ ดำเนินงาน และส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ เช่น การเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารการจัดการเรียนการสอน On Line การใช้แอพพลิเคชัน ส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นต้น คมนาคม/เทคโนโลยี 1. ระบบการบริหารจัดการเน็ตเวิร์คของ สถานศึกษาบางแห่งยังไม่เสถียรเท่าที่ควร เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ 2. สารสนเทศถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว โดยขาดการตรวจสอบ ก่อให้เกิดความ เข้าใจที่ไม่ถูกต้อง 3. สถานศึกษาบางแห่งใช้ประโยชน์จาก สื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน ยังไม่เต็มที่ 4. ความก้าวหน้าด้านสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศของการสื่อสารเข้าถึงประชาชน และนักเรียนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ ประชาชนมีค่านิยมในเชิงวัตถุนิยมมากขึ้น และทำให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สรุปผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม พบว่า สภาพแวดล้อมภายในมีจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน และ สภาพแวดล้อมภายนอกมีโอกาสมากกว่าอุปสรรค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม จะนำผลการวิเคราะห์นี้มาใช้ในการวางแผนพัฒนาการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลต่อไป
60 ส่วนที่ 4 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมองค์กร เป้าประสงค์และกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงและสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ค่านิยมองค์กร “องค์กรแห่งความสุข ถูกต้อง โปร่งใส ฉับไว ใส่ใจบริการ” วิสัยทัศน์ (Vision) “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นองค์กรคุณภาพ บริหารจัดการศึกษาด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พันธกิจ (Mission) ๑. พัฒนาการบริหารจัดการศึกษา สถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ๒. ส่งเสริมการจัดการศึกษา เพื่อความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามศักยภาพ และทักษะ ที่จำเป็นต่ออนาคตในศตวรรษที่ ๒๑ ๓. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียม ๔. พัฒนาสถานศึกษาและระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับให้มีความปลอดภัย ๕. พัฒนาระบบบริหารจัดการวิถีใหม่โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าประสงค์ (Goals) 1. พัฒนาการบริหารจัดการศึกษา สถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา และปรับกระบวนการ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาให้สอดรับกับชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) ๒. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีความเป็นเลิศทางวิชาการ เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๓. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักยภาพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔. พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษาจากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ๕. พัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษา ส่งเสริม ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ สร้างขวัญกำลังใจและบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาล ๖. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบริหารจัดการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานอย่างถูกต้อง ทันสมัย และ มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)
61 กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยจากภัยคุกคาม 9 รูปแบบ ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5 การค้ามนุษย์ การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์ 2. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยและสามารถปรับตัว ต่อโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำ 3. สถานศึกษา ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัย และจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. สถานศึกษา ได้รับการส่งเสริมให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้เรียน ตัวชี้วัด ที่ ตัวชี้วัด หน่วย นับ ค่าเป้าหมาย (ปี) 2566 2567 2568 2569 2570 1 ร้อยละของผู้เรียนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ และทุกประเภท ร้อยละ 80 85 90 95 100 2 ร้อยละของผู้เรียนได้รับการศึกษาในสถานศึกษา ที่มีความปลอดภัย ร้อยละ 80 85 90 95 100 3 ร้อยละของสถานศึกษาที่มีแผน/มาตรการในการ จัดการภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ร้อยละ 80 85 90 95 100 4 ร้อยละของครู บุคลากรทางการศึกษา ดำเนินการ ตามแนวทาง ในการจัดการภัยพิบัติ และภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ ให้สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และ โรคอุบัติซ้ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ร้อยละ 80 85 90 95 100 แนวทางการพัฒนา 1. สนับสนุน พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับภัยรูปแบบต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อ ความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต เพื่อสามารถดำเนินชีวิตในวิถีใหม่และชีวิตวิถีถัดไปได้อย่างถูกต้อง 2. พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการ ศึกษาและสถานศึกษา ให้ได้รับความปลอดภัยจากภัยทั้ง 9 รูปแบบ และพร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเปิดให้มีช่องทางการร้องเรียนหรือแจ้งเหตุให้กับผู้เรียน ผู้ปกครอง ครู เพื่อสื่อสารกับสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาโดยตรง รวมถึงการใช้ Big Data และแอปพลิเคชันในการเฝ้าระวังเชิงรุก เพื่อสามารถ คาดการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การซักซ้อมในการรับมือกับภัยพิบัติและภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ
62 ที่ผู้เรียนอาจต้องเผชิญ และส่งเสริมการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทั้งในสถานศึกษาสังกัดและหน่วยงานภายนอก ให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที 3. พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยการสนับสนุนหรือประสานการสนับสนุนทรัพยากร เพื่อให้อาคารเรียนอาคารประกอบของสถานศึกษา เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ ความปลอดภัยของผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงส่งเสริมและ ประสานการสนับสนุนบุคลากรด้านจิตวิทยาและบุคลากรด้านความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา 4. ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษา ให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของผู้เรียนให้มีทักษะในการป้องกันและปรับตัว 5. จัดกิจกรรมในการสร้างความตระหนักรู้ (Safety Awareness) หรือการซักซ้อมในการ รับมือกับภัยพิบัติและภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ (Safety Action) ที่ผู้เรียนอาจต้องเผชิญและมีแผน/มาตรการ ในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำที่เกิดขึ้นได้ในวิถีชีวิตใหม่เพื่อให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ปลอดภัย กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. ประชากรวัยเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับ ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาค จนจบการศึกษาภาคบังคับ 2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับการส่งเสริมให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา อย่างเสมอภาคจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ 4. ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเต็มตามศักยภาพ 5. เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคันได้รับการ ช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตัวชี้วัด ที่ ตัวชี้วัด หน่วย นับ ค่าเป้าหมาย (ปี) 2566 2567 2568 2569 2570 1 ร้อยละของเด็กออกกลางคัน เด็กตกหล่น กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา หรือได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสม ร้อยละ 90 92 94 96 98 2 ร้อยละของผู้เรียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ได้รับ การศึกษาที่เหมาะสม ตามความจำเป็นและศักยภาพ ร้อยละ 95 95 95 95 95 3 ร้อยละของผู้เรียนที่เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ ได้รับการ ส่งเสริมศักยภาพที่เหมาะสม ร้อยละ 95 95 95 95 95 4 ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ ในการรับและให้บริการการศึกษา รวมถึงการส่งต่อผู้เรียน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเป็นระบบ ร้อยละ 90 93 95 98 100 5 ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาในรูปแบบที่ หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียน ร้อยละ 80 85 90 90 90
63 แนวทางการพัฒนา ❖ การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน 1. ส่งเสริม สนับสนุนการมีส่วนร่วมของสังคมอย่างต่อเนื่อง ประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และระดมทรัพยากรเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีเทคโนโลยีดิจิทัล หรือนวัตกรรมในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้ผู้เรียน ทุกคน ทุกพื้นที่เข้าถึงการจัดการศึกษาที่มีคุณาภาพ 3. พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยบุคคล ครอบครัว (Home School) องค์กร ชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ และสถานประกอบการในศูนย์การเรียน ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 4. ติดตาม และค้นหานักเรียน เพื่อช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา หรือได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสม 5. มีกระบวนการในการส่งต่อนักเรียน ให้ได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นหรือมีทักษะอาชีพ ในการดำรงชีวิต 6. พัฒนารูปแบบและวิธีการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก สื่อบริการและ ความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา รวมทั้งกระบวนการวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับการพัฒนา ศักยภาพของผู้เรียน ❖ ดูแล ส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาของผู้เรียน 7. จัดการศึกษาให้ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ 8. สร้างการศึกษาทางเลือกและการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ที่หลากหลายให้กับ ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง ในการเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้และมีพื้นฐาน การประกอบอาชีพหรือทักษะอาชีพอย่างเท่าเทียม 9. ส่งเสริมเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส มีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มีทักษะชีวิต ทักษะวิชาการ และทักษะวิชาชีพ สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นสามารถพึ่งตนเองได้ตามศักยภาพ ของแต่ละบุคคล 10. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมให้มีคุณภาพ และเกิดการบูรณาการ อย่างยั่งยืน 11. ระดมทรัพยากรเป็นการเฉพาะสำหรับผู้เรียน เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ❖ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสถานศึกษาที่มีคุณภาพ 12. พัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ให้สามารถเพิ่มโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับประชากร วัยเรียนและผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพ กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน สอดคล้องกับศักยภาพให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 2. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลักของชาติและยึดมั่น การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่ อย่างมีความรับผิดชอบ
64 3. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี มีสมรรถนะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความก้าวหน้า จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นครู 4. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5. สถานศึกษา สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีระบบการวัดและ ประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ยืดหยุ่นตอบสนองต่อความถนัดและความสนใจของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) ตัวชี้วัด ที่ ตัวชี้วัด หน่วย นับ ค่าเป้าหมาย (ปี) 2566 2567 2568 2569 2570 1 ร้อยละของผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะและ ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ร้อยละ 80 80 85 85 85 2 ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดที่สามารถจัดการเรียน การสอนหรือจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพหุปัญญาของ ผู้เรียน โดยใช้เครื่องมือคัดกรอง/สำรวจแวว/ วัดความสามารถความถนัดของผู้เรียน ร้อยละ 30 35 40 50 60 3 ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัด ที่มีหลักสูตรสถานศึกษา ที่ยืดหยุ่นตอบสนองต่อความถนัดและความสนใจของ ผู้เรียน ร้อยละ 60 70 80 90 100 4 ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผล เพื่อ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็น รายบุคคล (Personalized Learning) ร้อยละ 50 55 60 65 70 แนวทางการพัฒนา ❖ คุณภาพผู้เรียน 1. ส่งเสริมให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา จัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้ และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 อย่างครบถ้วน เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบัน หลักของชาติยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และน้อมนำ พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวสู่การปฏิบัติ 2. พัฒนาและส่งเสริมผู้เรียนให้ได้รับการพัฒนาพหุปัญญารายบุคคล โดยมีเครื่องมือคัดกรอง/ สำรวจแวว/วัดความสามารถ ความถนัด สถานศึกษาจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายตอบสนองความแตกต่าง ทางพหุปัญญาของผู้เรียน โดยครูออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการสอดคล้องตามบริบท และวัฒนธรรม คำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคลตามความถนัด ความสนใจ ส่งผลต่อการพัฒนา ผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ
65 3. จัดการศึกษาตามขีดความสามารถของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความถนัดและศักยภาพ ของแต่ละบุคคลวางรากฐานการศึกษาเพื่ออาชีพให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ความต้องการของ ตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ 4. พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดขั้นสูง นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีดิจิทัล และภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เชื่อมโยงสู่อาชีพและการมีงานทำ มีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ 5. ส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน ที่นำไปสู่ Digital Life & Learning และหารายได้ระหว่างเรียน 6. ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการศึกษา เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ❖ คุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. ส่งเสริมให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม (Co-creation) ให้กับผู้เรียนในทุกระดับชั้น 8. ส่งเสริม สนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพ อย่างต่อเนื่อง มีจรรยาบรรณ และจิตวิญญาณความเป็นครู 9. พัฒนาศักยภาพครูในด้านการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) ❖ หลักสูตรและอื่น ๆ 10. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น บนฐานมโนทัศน์ที่หลากหลาย สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา 11. พัฒนาระบบคลังข้อสอบมาตรฐานในการประเมินคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน เพื่อให้บริการ แก่สถานศึกษาในรูปแบบออนไลน์ 12. พัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ของผู้เรียนและสมรรถนะของผู้เรียน 13. พัฒนาและส่งเสริมให้สถานศึกษามีแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้อัจฉริยะ ที่รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อการสอนที่มีคุณภาพ การประเมินและการพัฒนาผู้เรียน เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) สำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย 14. บูรณาการการศึกษาเพื่อการศึกษาต่อด้านอาชีพและการประกอบอาชีพหรือการมีงานทำ ตามความต้องการและความถนัดของผู้เรียน 15. จัดทำหลักสูตรพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และ มาตรฐานทางวิชาชีพ 16. ส่งเสริมสนับสนุนศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEC) เป็นศูนย์กลางในการ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน 17. พัฒนาศึกษานิเทศก์ รูปแบบ วิธีการนิเทศที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 18. พัฒนาศึกษานิเทศก์และผู้บริหารสถานศึกษาให้มีสมรรถนะในการนิเทศการศึกษาและ การพัฒนางานวิชาการ ที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สอดคล้องกับลักษณะงานและวิธีการพัฒนางาน ตามมาตรฐานตำแหน่ง
66 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยี ดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการและการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ 2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน 3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีระบบการจัดสรรทรัพยากร โดยเฉพาะ อัตรากำลัง และงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เหมาสมกับบริบท 4. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท 5. โรงเรียนคุณภาพได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับบริบท ตัวชี้วัด ที่ ตัวชี้วัด หน่วย นับ ค่าเป้าหมาย (ปี) 2566 2567 2568 2569 2570 1 ร้อยละของสถานศึกษาที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน/ หน่วยงาน/องค์กร/บุคคลภายนอก ในการบริหารจัดการ และการให้บริการการศึกษา ร้อยละ 80 80 90 95 100 2 ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดมีการพัฒนาการบริหาร จัดการและการให้บริการการศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ร้อยละ 80 85 90 95 100 3 ร้อยละของสถานศึกษาที่มีผลการประกันคุณภาพภายใน ระดับดีเลิศขึ้นไป ร้อยละ 76 77 78 79 80 4 ร้อยละของโรงเรียนคุณภาพที่มีการบริหารจัดการและ การใช้ทรัพยากรร่วมกันได้สำเร็จตามเป้าหมาย ร้อยละ 50 60 70 80 80 แนวทางการพัฒนา ❖ การนำระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการบริหารจัดการและ การให้บริการ 1. นำระบบข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการศึกษาและการให้บริการแก่ผู้เรียน สถานศึกษาและชุมชน 2. พัฒนาระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้ครอบคลุมทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (การให้ความ ช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะพื้นฐานด้านเทคโนโลยี การใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้อุปกรณ์ด้าน ICT และการพัฒนา Software) อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. สร้าง พัฒนาและส่งเสริมการใช้ระบบบริหารด้านการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ดีสำหรับ สถานศึกษาให้เป็นระบบเดียวเพื่อลดภาระงานครู ลดความซ้ำซ้อนของระบบงานและการจัดเก็บข้อมูล 4. จัดหาอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่เหมาะสมในทุกระดับและเพียงพอต่อความต้องการของ การดำเนินงาน สนับสนุนงบประมาณด้านเทคโนโลยีแก่สถานศึกษาให้ครบถ้วนโดยวิธีการสนับสนุน จากส่วนราชการและภาคีเครือข่าย เพื่อรองรับการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน 5. ปรับปรุงระเบียบ แนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
67 ❖ ระบบบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน 6. สถานศึกษามีโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุน ทันสมัยรองรับการเปลี่ยนแปลง 7. เสริมสร้างขวัญกำลังใจในความก้าวหน้าทางวิชาชีพ และการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากร 8. พัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ที่สอดคล้องกับ Digital Literacyและสมรรถนะครูในทุกด้าน 9. พัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณธรรม จริยธรรมและการ ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล ❖ การบริหารงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท 10. จัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางการศึกษา 11. จัดสรรงบประมาณให้แก่เครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพ เพื่อจัดการศึกษาให้เหมาะสม กับสภาพปัจจุบัน ❖ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท 12. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาทั้งในและนอกสังกัด เพื่อบูรณาการการใช้ ทรัพยากรของสถานศึกษาร่วมกัน โดยใช้พื้นที่เป็นฐานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่าง มีคุณภาพโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน 13. ส่งเสริมทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา สนับสนุนทรัพยากร 14. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การบริหารจัดการศึกษาจาก ภาคส่วนต่าง ๆ ❖ สถานศึกษาอื่น ๆ 15. พัฒนาสถานศึกษาในสังกัดให้มีคุณภาพ ยั่งยืน สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดยเฉพาะ โรงเรียนคุณภาพ โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล และโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริและ เฉลิมพระเกียรติ
68 ผังความเชื่อมโยงของแผนสำคัญต่าง ๆ กับแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 – 2570) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ความมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความสามารถ ในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างการเติบโตบน คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและ ความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและ พัฒนาระบบการบริหาร จัดการภาครัฐ แผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (1) ความมั่นคง ประเด็น (11) การพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต ประเด็น (12) การพัฒนาการเรียนรู้ ประเด็น (17) ความเสมอภาคและ หลักประกันทางสังคม ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ แผนแม่บทย่อย การป้องกันและ แก้ไขปัญหาที่มี ผลกระทบ ต่อความมั่นคง • การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วง การตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย • การพัฒนาช่วงวัยเรียน/ วัยรุ่น • การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนอง การเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 • การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย การคุ้มครองทางสังคม ขั้นพื้นฐานและหลักประกัน ทางเศรษฐกิจสังคมและ สุขภาพ การป้องกันการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต หมุดหมายที่ 9 ความยากจนข้ามรุ่นลดลง และความคุ้มครองทางสังคม เหมาะสมเพียงพอ หมุดหมายที่ 13 ภาครัฐสมรรถนะสูง นโยบาย สพฐ. พ.ศ. 2566 ด้านความ ปลอดภัย ด้านคุณภาพ ด้านโอกาสและลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้านประสิทธิภาพ กลยุทธ์ สพม.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ส่งเสริมการจัด การศึกษา ให้ผู้เรียน มีความปลอดภัย จากภัยทุกรูปแบบ ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เพิ่มโอกาสและความเสมอ ภาคทางการศึกษาให้กับ ประชากร วัยเรียนทุกคน เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการศึกษา
69 กลยุทธ์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมายและโครงการ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ ตัวชี้วัด สพฐ. ตัวชี้วัด สพม. ค่าเป้าหมาย (ปี) โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 2566 2567 2568 2569 2570 1. ร้อยละของผู้เรียนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ เพื่อรับมือ กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทุกรูปแบบและทุกประเภท 1. ร้อยละของผู้เรียนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเพื่อรับมือกับ ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ และทุกประเภท 80 85 90 95 100 ❖โครงการส่งเสริม สนับสนุน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 กิจกรรม กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 2. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีแผน/ มาตรการในการจัดการภัยพิบัติและ ภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) 80 85 90 95 100 สถานศึกษาสีขาว กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 3. ร้อยละของครู บุคลากรทางการ ศึกษา ดำเนินการตามแนวทางใน การจัดการภัยพิบัติ และภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ ให้สามารถปรับตัวต่อ โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) 80 85 90 95 100 กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 2. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการ ประเมินความเสี่ยงและมีแผน/ มาตรการ กิจกรรมในการสร้างความ ตระหนักรู้หรือทักษะในการรับมือ ด้านความปลอดภัยทุกรูปแบบและ ดำเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบ 4. ร้อยละของผู้เรียนได้รับการศึกษา ในสถานศึกษา ที่มีความปลอดภัย 80 85 90 95 100 กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา
70 กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน ตัวชี้วัด สพฐ. ตัวชี้วัด สพม. ค่าเป้าหมาย (ปี) โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 2566 2567 2568 2569 2570 1. ร้อยละของเด็กออกกลางคัน เด็กตกหล่น กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา หรือได้รับการศึกษาด้วย รูปแบบที่เหมาะสม 1. ร้อยละของเด็กออกกลางคัน เด็กตกหล่น กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา หรือได้รับการศึกษาด้วย รูปแบบที่เหมาะสม 90 92 94 96 98 ❖โครงการส่งเสริม สนับสนุน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 กิจกรรม กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 2. จำนวนของผู้เรียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ได้รับการศึกษา ที่เหมาะสม ตามความจำเป็นและ ศักยภาพ 2. ร้อยละของผู้เรียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ได้รับการศึกษา ที่เหมาะสม ตามความจำเป็นและ ศักยภาพ 95 95 95 95 95 รับสมัครนักเรียน ประจำปี การศึกษา 2567 การแข่งขันสภานักเรียน ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด การจัดการศึกษาโดยครอบครัว กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 3. จำนวนของผู้เรียนที่เป็นผู้มี ความสามารถพิเศษ ได้รับการส่งเสริม ศักยภาพที่เหมาะสม 3. ร้อยละของผู้เรียนที่เป็นผู้มี ความสามารถพิเศษ ได้รับการส่งเสริม ศักยภาพที่เหมาะสม 95 95 95 95 95 การคัดเลือกทุนการศึกษา แข่งขันวิชาการ (ศิลปหัตถกรรม นักเรียน ด้าน วิชาการนานาชาติ ระดับเขต) กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา 4. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการนำ ข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการรับและ ให้บริการการศึกษา รวมถึงการส่งต่อ ผู้เรียนระดับปฐมวัยและการศึกษา ขั้นพื้นฐานอย่างเป็นระบบ 4. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการนำ ข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการรับและ ให้บริการการศึกษา รวมถึงการส่งต่อ ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่างเป็นระบบ 90 93 95 98 100 กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา กลุ่ม DLICT 5. ร้อยละของสถานศึกษาที่จัด การศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียน 5. ร้อยละของสถานศึกษาที่จัด การศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียน 80 85 90 90 90 ❖โครงการยกระดับคุณภาพ การศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน กลุ่มนิเทศฯ
71 กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ตัวชี้วัด สพฐ. ตัวชี้วัด สพม. ค่าเป้าหมาย (ปี) โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 2566 2567 2568 2569 2570 1. ร้อยละของผู้เรียนได้รับการพัฒนา ให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 1. ร้อยละของผู้เรียนได้รับการพัฒนา ให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 80 80 85 85 85 ❖โครงการยกระดับคุณภาพ การศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน กลุ่มนิเทศฯ กลุ่มพัฒนาครูฯ 2. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัด ที่สามารถจัดการเรียนการสอนหรือ จัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพหุปัญญา ของผู้เรียน โดยใช้เครื่องมือคัดกรอง/ สำรวจแวว/วัดความสามารถ ความถนัดของผู้เรียน 2. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัด ที่สามารถจัดการเรียนการสอนหรือ จัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพหุปัญญา ของผู้เรียน โดยใช้เครื่องมือคัดกรอง/ สำรวจแวว/วัดความสามารถ ความถนัดของผู้เรียน 30 35 40 50 60 กิจกรรม นิเทศ ติดตามการจัดการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้น ของ สพฐ. และ สพม. สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 3. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัด ที่มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น ตอบสนองต่อความถนัดและ ความสนใจของผู้เรียน 3. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัด ที่มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น ตอบสนองต่อความถนัดและ ความสนใจของผู้เรียน 60 70 80 90 100 ยกระดับคุณภาพการศึกษาด้าน วัดและประเมินผล ยกระดับคุณภาพการศึกษาด้าน พหุปัญญา 4. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) 4. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) 50 55 60 65 70 กลุ่มนิเทศฯ
72 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา ตัวชี้วัด สพฐ. ตัวชี้วัด สพม. ค่าเป้าหมาย (ปี) โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 2566 2567 2568 2569 2570 1. ร้อยละของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาและสถานศึกษาที่ส่งเสริม การมีส่วนร่วมกับชุมชน/หน่วยงาน/ องค์กร/บุคคลภายนอก ในการบริหาร จัดการและการให้บริการการศึกษา 1. ร้อยละของสถานศึกษาที่ส่งเสริม การมีส่วนร่วมกับชุมชน/หน่วยงาน/ องค์กร/บุคคลภายนอก ในการบริหาร จัดการและการให้บริการการศึกษา 80 80 90 95 100 ❖ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินงานคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศ การศึกษา (ก.ต.ป.น.) กิจกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินงานของคณะกรรมการ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา นิเทศ ติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการจัดการศึกษา กลุ่มนิเทศฯ 2. ร้อยละของหน่วยงานในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐานมีการพัฒนาการบริหาร จัดการและการให้บริการการศึกษา ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 2. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดมี การพัฒนาการบริหารจัดการและ การให้บริการการศึกษาด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล 80 85 90 95 100 ❖ โครงการเพิ่มศักยภาพทาง เทคโนโลยี กิจกรรม จัดหาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการบริหารจัดการ กลุ่ม DLICT
73 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา (ต่อ) ตัวชี้วัด สพฐ. ตัวชี้วัด สพม. ค่าเป้าหมาย (ปี) โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 2566 2567 2568 2569 2570 3. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีผลการ ประกันคุณภาพภายในระดับดีเลิศ ขึ้นไป 3. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีผลการ ประกันคุณภาพภายในระดับดีเลิศ ขึ้นไป 76 77 78 79 80 กลุ่มนิเทศฯ 4. ร้อยละของโรงเรียนคุณภาพที่มี การบริหารจัดการและการใช้ ทรัพยากรร่วมกันได้สำเร็จตาม เป้าหมาย 4. ร้อยละของโรงเรียนคุณภาพที่มี การบริหารจัดการและการใช้ ทรัพยากรร่วมกันได้สำเร็จตาม เป้าหมาย 50 60 70 80 80 การจัดตั้งงบประมาณประจำปี กลุ่มนโยบาย และแผน
74 ส่วนที่ 5 การบริหารแผนสู่การปฏิบัติ แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566-2570 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิบัติงานที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับ นโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงการเชื่อมโยงกับการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเป็นกรอบทิศทางให้สถานศึกษาในสังกัด ได้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปี ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถานศึกษามีคุณภาพเทียบเคียงมาตรฐานสากล แนวทางการพัฒนาคุณภาพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้กำหนดแนวทาง การพัฒนาคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม โดยใช้ “แนวทางการใช้ รูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบและการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อพัฒนาคุณภาพสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม” รูปภาพที่ 10 แนวทางการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบและการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม
75 แนวทางการพัฒนาคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม โดยใช้ “แนวทางการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบและการบริหารแบบ มุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อพัฒนาคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม” จะเห็นได้ว่ารูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบ ประกอบด้วย ด้านปัจจัยนำเข้า ( Input : I) ด้านกระบวนการ (Process : P) ด้านผลผลิต (Output : P) และการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ประกอบด้วย ด้านผลลัพธ์(Outcome : O) และข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) ดังนี้ ด้านปัจจัยนำเข้า (Input : I) ประกอบด้วย ปัจจัยทางการบริหาร ๔ ประการ (4 M) ได้แก่ ๑) คน (Man) ความเพียงพอและความเหมาะสมของบุคลากร ๒) เงิน (Money) การจัดงบประมาณ ที่เหมาะสมและเพียงพอ ๓) เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ (Material) จัดเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ทางการบริหาร ที่เหมาะสม และ ๔) การจัดการ (Management) ใช้รูปแบบ วิธีการบริหารจัดการที่เหมาะสม สอดคล้อง และทันสมัย โดยการวิเคราะห์ SWOT ศึกษายุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี แผนการศึกษาชาติ แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบาย/จุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หน่วยงานต้นสังกัด กรอบนโยบายกลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา และสภาพบริบทชุมชนท้องถิ่น ด้านกระบวนการ (Process) เป็นกระบวนการดำเนินงานโดยใช้ทักษะกระบวนการ ๙ ขั้น (คิด ๔ ปฏิบัติ ๕) นั่นคือ การดำเนินการทุกงานทุกกิจกรรมจะต้องคิดวิเคราะห์ให้ได้ว่า (คิด ๔ ขั้นตอน) คือ ๑) ทำไมจึงต้องทำ ๒) มีอะไรต้องทำบ้าง ๓) ทำโดยวิธีใดได้บ้าง และ ๔) เลือกทำโดยวิธีใด (เลือกได้มากกว่า ๑ วิธี) และเมื่อคิดได้นำสู่การดำเนินการปฏิบัติ (ปฏิบัติ ๕ขั้นตอน) ๕) วางแผน (Plan) ๖) ปฏิบัติตามแผน (Do) ๗) ประเมินตรวจสอบ (Check) ๘) ปรับปรุง/แก้ไข/พัฒนา (Act) และ ๙) เขียนรายงาน (Report) ทั้งนี้ประกอบด้วยกิจกรรม งาน โครงการ ที่สำคัญได้แก่ กระบวนการวิจัยปฏิบัติการ (R&D) การบริหาร จัดการโรงเรียนขนาดเล็ก การใช้สื่อ DLTV DLIT การจัดการเรียนการสอนด้วยระบบดิจิทัล (Digital) ผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) การประกันคุณภาพการศึกษาภายในการบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม การจัดการระบบข้อมูลโดยใช้ Digital Platform การประเมินผลงานโดยใช้ CIPP Model ด้านผลผลิต (Output) โดยการมุ่งผลผลิตที่สำคัญ ได้แก่ ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามมาตรฐานและ จบตามหลักสูตร ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ (3R8C) สู่การเป็นคนไทย ๔.๐ มีการดำรงชีวิตปกติสุขสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีทักษะชีวิต มีงานทำ มีอาชีพและเป็นนวัตกร ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีทักษะตาม มาตรฐานวิชาชีพและมืออาชีพ ด้านผลลัพธ์ (Outcome) เป็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับ ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ มีแรงบันดาลใจ มีความปลอดภัย มีโอกาส มีงานทำ - มีอาชีพ และมีความเท่าเทียมลดความเหลื่อมล้ำ ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) เป็นข้อมูลย้อนกลับกรณีที่ผลผลิตและหรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไป ตามความคาดหวัง ก็จะเป็นข้อมูลที่จะต้องกลับมาพิจารณาด้านปัจจัยนำเข้าและหรือด้านกระบวนการ ในขณะเดียวกันการดำเนินการทุกขั้นตอนจะดำเนินการตามวงจรคุณภาพ PDCA และได้น้อม นำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินงาน
76 กระบวนการนำแผนสู่การปฏิบัติ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตาม“แนวทางการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเชิงระบบและการ บริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อพัฒนา คุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม” สรุปแนวทางการดำเนินการได้ ดังนี้ 1. ประสิทธิภาพข้อมูล (S : Suitable information) ประสิทธิภาพข้อมูล (S : Suitable Information) ประเมินสิ่งนำเข้าของโครงการ (Input) ประกอบด้วย ข้อมูลการบริหารจัดการ ข้อมูลบริบทของสำนักงานเขตพื้นที่ ข้อมูลของผู้รับบริการ และ ทรัพยากรในองค์กร ๑.๑ ประเมินผลการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมา วิเคราะห์เปรียบเทียบสภาพปัจจุบัน และ เป้าหมายตามนโยบายเพื่อรวบรวมข้อมูลสารสนเทศ มากำหนดกลยุทธ์และจัดทำแผนปฏิบัติการให้บรรลุ ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ โดยการทำ SWOT Analysis การเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของ สถานศึกษาในสังกัด และนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารงานสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ๑.2 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ ได้แก่ สำรวจและประเมินความต้องการ ของครู จัดลำดับความสำคัญของปัญหาและความต้องการ วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและ จัดลำดับ ความสำคัญของสาเหตุ กำหนดทางเลือกในการแกปัญหา 1.3 การบริหารระบบนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ด้วยข้อมูลสารสนเทศที่สามารถตรวจสอบได้ 2. ประสิทธิภาพการบริหาร (K: Keep well – Administrative) ประสิทธิภาพการบริหาร (K: Keep well – Administrative) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ ดังนี้ กระบวนการดำเนินงาน ๑.๑ สร้างความเข้าใจกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย กลุ่มงานต่าง ๆ ที่จะต้องจัดทำโครงการต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานกับแผนปฏิบัติการประจำปี โดยการประชุมกลุ่มงาน การประชุมเชิง ปฏิบัติการการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม การประชุมผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม 1.2 มอบหมายผู้รับผิดชอบปฏิบัติงานทั้งเจ้าภาพหลัก เจ้าภาพรอง และผู้สนับสนุน พร้อมกำหนด ภาระงานที่ชัดเจน ตามการบริหารและขับเคลื่อนตามกลยุทธ์การบริหารงานของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และ ผู้สนับสนุน พร้อมกำหนดภาระงานที่ชัดเจน 1.3 ดำเนินงานตามแผน 1.4 จัดทำแบบประเมินผลความพึงพอใจผู้รับบริการ 1.5 รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานในแต่ละฝ่าย และการดำเนินโครงการ พร้อมทั้ง รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการทุกไตรมาส ต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 1.6. สร้างสื่อและเครื่องมือเพื่อใช้ในการดำเนินการติดตามผลการดำเนินงาน ได้แก่ การพัฒนา คู่มือการติดตามงานโครงการ
77 1.7 ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลแผนงาน/โครงการ เพื่อให้การนำกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ โดยติดตามความก้าวหน้ารายไตรมาส รอบ 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือน ประเมินผลระยะครึ่งแผน และประเมินผลระยะสิ้นสุดแผน โดยมุ่งเน้นระบบที่มีประสิทธิภาพ ความคล่องตัวตามโครงสร้าง การบริหารงานภายใน และการประสานงานภายนอกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม โดยยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน 1. ก่อนเริ่มดำเนินการอย่างน้อย 1 สัปดาห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงครามแจ้งกำหนดการให้ผู้รับการตรวจเยี่ยม ติดตาม และประเมินผลการดำเนินทราบ และเชิญคณะกรรมการตรวจเยี่ยม ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานร่วมประชุมวางแผนการตรวจ เยี่ยมการดำเนินการ 2. คณะกรรมการตรวจเยี่ยม ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการ ออกตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ของสถานศึกษาในสังกัดตามกำหนดการ 3. สรุปผลการติดตามและประเมินผลฯ และข้อเสนอแนะตามแบบรายงานการตรวจเยี่ยม โครงการบริการ วิชาการ ประจำปีงบประมาณ 3. มาตรฐานและคุณภาพ (S : Standard and Quality) จากการบริหารงานที่มีปัจจัยนำเข้า ดำเนินการประเมินผลการดำเนินงาน ผลการดำเนิน โครงการ (OUTPUT) มีวิธีการดำเนินการ ดังนี้ 3.1 การเปรียบเทียบแผนและเป้าหมายการดำเนินงาน โครงการกับผลที่ได้รับ (ความพึงพอใจ วัตถุประสงค์ จำนวนคน พื้นที่ กิจกรรม งบประมาณ ฯลฯ) 3.2 จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน โครงการฯ และรายงานต่อสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 3.3 ทบทวนแผนให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสอดคล้องกับนโยบาย ในแต่ละปีงบประมาณ 4. วิถีพอเพียง (S : Sufficiency Approach) ผลลัพธ์ (Outcome) การพัฒนาการจัดการศึกษาจนประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืน ซึ่งเป็นผลจากการบริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ตามแนวทาง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการนำผลไปใช้และผลกระทบจากการเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการ (OUTCOME & IMPACT) โดยวิธีการ 1) แบบสอบถาม 2) การสัมภาษณ์ 3) ดำเนินการในรูปแบบของ โครงการสำรวจหรือวิจัย ตามประเด็น ดังนี้ 1. ผลที่ได้จากการดำเนินงาน/โครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ 2. ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ (ก่อนและหลังการเสร็จสิ้น การดำเนินงาน/โครงการ) 3. ในภาพรวมผลของการบริการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ และสอดคล้องกับตัวบ่งชี้ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตามที่เสนอเอาไว้ 4. ข้อเสนอแนะสิ่งที่เป็นจุดเด่น (Best Practice) 5. เสนอแนะโอกาสในการพัฒนา และปรับปรุงแนวทางในการดำเนินงานสำหรับปีต่อไป 6. วิเคราะห์และสรุปผลข้อมูลผลกระทบจากการให้บริการตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย การดำเนินงาน/โครงการ
78 7. สื่อสารเผยแพร่ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ทั้งวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ให้บุคลากร ทุกระดับรับรู้และเข้าใจตรงกันอย่างทั่วถึง ทั้งที่เป็นเอกสาร การชี้แจงในที่ประชุมและแจ้งผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ ขอบเขตการศึกษาผลกระทบต่อสังคม (IMPACT) 1. ข้อมูลทั่วไป 1.1 สรุปข้อมูลและขอบเขตงาน (เบื้องต้น) 1.2 สรุปข้อมูลนโยบาย/โครงการที่รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 1.3 ข้อจำกัดในการติดตามและประเมินผล 1.4 จุดยืนและทิศทางของคณะทำงาน 1.5 แนวคิดหลัก (Main Concepts) และช่วงเวลาดำเนินงานโดยสังเขป 1.6 ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน 1.7 ประมวลภาพการสำรวจข้อมูลภาพสนาม 2. แนวคิดเกี่ยวกับการติดตามและประเมินผลกระทบทางสังคม 2.1 หลักการตรวจติดตามผลกระทบทางสังคม (Social Impact Assessment Concepts) 2.2 ตัวอย่างการวิเคราะห์และกำหนด O-I-E (Outputs/Impacts/Evidences) ของโครงการ 2.3 ตัวอย่างเครื่องมือการติดตามผลกระทบทางด้านสังคมฯ 2.4 การกำหนดแนวทางการเก็บข้อมูล 2.5 สรุปวิธีการเก็บข้อมูลแต่ละการดำเนินงาน/โครงการ 3. สรุปภาพรวมของการให้บริการและผลกระทบแก่สังคม 3.1 สรุปการกระจายตัวของการดำเนินงาน/โครงการ 3.2 สรุปข้อมูลงบประมาณ/ค่าใช้จ่าย/จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 3.3 สรุปลักษณะ/รูปแบบการดำเนินงาน/โครงการ 3.4 สรุปกลุ่มผู้เข้ารับบริการ 3.5 สรุปภาพรวมของการให้บริการ/การดำเนินงาน/โครงการ ที่น่าสนใจ 3.6 สรุปภาพรวมของผลกระทบแก่สังคมที่น่าสนใจ 3.7 สรุปความต้องการเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูล (แจ้งกับคณะทำงาน ระหว่างเก็บข้อมูล) 4. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการให้บริการวิชาการ 4.1 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับทิศทางการให้บริการ/การดำเนินงาน/โครงการ 4.2 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำรายละเอียดการดำเนินงาน/โครงการ 4.3 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผู้รับผิดชอบการดำเนินงาน/โครงการ 4.4 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการถ่ายทอด/นำเสนอองค์ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย 4.5 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการติดตามผล/ให้คำแนะนำเพิ่มเติม และการขยายผลต่อเนื่อง 4.6 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายงานสรุปผลการดำเนินงาน/โครงการ 4.7 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่อง 4.8 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการ/หน่วยงานที่รับผิดชอบในการติดตามและประเมินผลฯ
79 4.9 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการติดตามและประเมินผลกระทบทางสังคม 4.10 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับตัวอย่างโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ 5. การติดตามและประเมินผลกระทบทางสังคมของโครงการต่าง ๆ การติดตามประเมินผล แนวทางการติดตามตรวจสอบและประเมินผลเพื่อให้แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีการนำกลยุทธ์สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ดำเนินการโดยการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนในระยะต่าง ๆ ได้แก่ ติดตามความก้าวหน้า ประจำปี การประเมินผลในระยะครึ่งแผน และการประเมินผลเมื่อสิ้นสุดแผน และกระบวนการสุดท้าย คือการจัดทำรายงานประจำปีเพื่อสรุปผลเป็นข้อมูลที่ใช้ในการปรับปรุงพัฒนางานในปีต่อไป ผลที่คาดว่าจะได้รับ แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นเครื่องมือหลักสำคัญในการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่เป็นแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ผลักดันให้การดำเนินการในภารกิจต่าง ๆ บรรลุเป้าหมาย ตามประเด็นกลยุทธ์เกิดผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษามีความปลอดภัยจากภัยพิบัติ และภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อ โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ 2. ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษา ได้รับโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำอย่างทั่วถึงเท่าเทียมและมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. ผู้เรียนมีคุณภาพตามหลักสูตรทั้งทางด้านผลสัมฤทธิ์ สมรรถนะและคุณลักษณะ ที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 มีเป็นเลิศทางภาษาและวิชาการ เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4. ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการจัดการเรียน มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาตนเอง ทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจิตวิญญาณความเป็นครู 5. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโดยระบบริหาร จัดการวิธีใหม่ โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน มีนวัตกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนบนฐานข้อมูลสารสนเทศ ที่ถูกต้อง ทันสมัยและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) 6. สถานศึกษามีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อการดำเนินการที่มุ่งสู่เป้าหมาย เดียวกัน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ครูและบุคลากร สู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และผู้เรียนทางการศึกษา 7. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ดำเนินการส่งเสริม ด้านโอกาสทางการศึกษา ด้านคุณภาพการศึกษา และด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพื่อการพัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ให้เป็นต้นแบบการบริหารจัดการที่มีคุณภาพบนพื้นฐาน สังคมพหุวัฒนธรรมอย่างทั่วถึงและเสมอภาค ยึดหลักธรรมาภิบาล สืบสานพระราชปณิธานตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ทุกประการ
80 ภาคผนวก
81
82
83
84
85
86
87
88
89 ที่ปรึกษา นายมณูญ เพชรมีแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นายดำรงค์ รอดสิน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นายพรนิวัตร สนั่นเอื้อ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ข้อมูล ผู้อำนวยการกลุ่ม/หน่วย ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ผู้รับผิดชอบโครงการทุกโครงการ เรียบเรียง นางสาวสิรรัคร วิชิต นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน นางสาวมัณฑิตา ต่อชีวี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ นางสาวศิริภัสสร สุขนุกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ นางสุชาดา หัสดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นายจักรกฤษณ์ พุทธวิถี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน รูปเล่ม/ปก นางสาวศิริภัสสร สุขนุกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ นายจักรกฤษณ์ พุทธวิถี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน คณะผู้จัดทำ
E-Book PDF