ข้อมูลประกอบ การจัดทำ แผนปฏิบัติการ ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2024 Policy & Planning Group Tel. 0 3488 0121 - 7 สำ นักนังานเขตพื้นพื้ที่การศึกษามัธมัยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม
สารบัญ หน้า ส่วนที่ 1 กฎหมาย ระเบียบ และแผนระดับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 1 - 68 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 2 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 2 แผน 3 ระดับ ตามนัยยะของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 3 ❖ แผนระดับที่ 1 ยุทธศาสตร์ชาติ 4 - 7 ❖ แผนระดับที่ 2 - แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ - แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) - นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ 8 - 51 ❖ แผนระดับที่ 3 - แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 - แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน - แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2566 - 2570) ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน - แผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 - 2570) - แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) 52 - 57 นโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ❖ นโยบายและจุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ❖ นโยบายส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ❖ จุดเน้นส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ❖ นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ❖ มาตรฐานส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2560 57 - 68
สารบัญ หน้า ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 69 - 78 ค่านิยมองค์กร 70 วิสัยทัศน์(Vision) 70 พันธกิจ (Mission) 70 เป้าประสงค์(Goals) 70 - 71 กลยุทธ์ 71 - 78
ส่วนที่ 1 กฎหมาย ระเบียบ และแผนระดับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้มีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีบทบัญญัติไว้ใน มาตรา 54 รัฐต้องด าเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปีตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษา ภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และประชาชนจะต้องได้รับการศึกษาตามความต้องการ ในระบบต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริม ให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และจัดให้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าที่ด าเนินการ ก ากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดท าแผนการศึกษา แห่งชาติการด าเนินการและตรวจสอบการด าเนินการ ให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติที่ก าหนดไว้ โดยการศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดีมีวินัย ภูมิใจในชาติสามารถเชี่ยวชาญได้ตามความ ถนัดของตนและมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติซึ่งในการด าเนินการ ดังกล่าว รัฐต้องด าเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษา ตามความถนัดของตน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 ได้ก าหนดค านิยามการศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาระดับก่อนอุดมศึกษา และก าหนดในมาตรา 10 การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคล มีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึง และมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษา ส าหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์สังคม การสื่อสาร และการเรียนรู้หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพหรือบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้หรือไม่มี ผู้ดูแลด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ การศึกษาส าหรับคนพิการ ให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิได้รับสิ่งอ านวยความสะดวก สื่อบริการ และความช่วยเหลืออื่นใด ทางการศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดไว้ในกฎกระทรวง การจัดการศึกษาส าหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสม โดยค านึงถึงความสามารถของบุคคลนั้น
3
4 แผน 3 ระดับ ตามนัยยะของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 แผนระดับที่ 1 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีพ.ศ. 2561 – 2580 เป็นการก าหนดเป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชน มีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติพัฒนาคนในทุกมิติและทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติประกอบด้วย ๑) ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย ๒) ขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ ๓) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ๔) ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม ๕) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของ ทรัพยากรธรรมชาติ ๖) ประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ และเพื่อให้ประเทศสามารถยกระดับการพัฒนาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และ เป้าหมายในการพัฒนาประเทศข้างต้น จึงจ าเป็นต้องก าหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาว ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” จึงก าหนดยุทธศาสตร์ไว้ ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง 2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยแต่ละยุทธศาสตร์มีเป้าหมายและประเด็นการพัฒนา ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญ คือ ประเทศชาติ มั่นคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชาติสังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยีและระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถ รับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกัน
5 และแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ ในปัจจุบัน และที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตใช้กลไกการแก้ไขปัญหา แบบบูรณาการทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อน บ้านและมิตรประเทศทั่วโลกบนพื้นฐานของหลัก ธรรมาภิบาล เพื่อเอื้ออ านวยประโยชน์ต่อการ ด าเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่น ๆ ให้สามารถขับเคลื่อน ไปได้ตามทิศทางและเป้าหมายที่ ก าหนด ๒. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนา ที่มุ่งเน้น การยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติบนพื้นฐานแนวคิด ๓ ประการ ได้แก่ (๑) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากร ธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศ ในด้านอื่น ๆ น ามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับบริบท ของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (๒) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและ บริการอนาคต และ (๓) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของตลาด ผสมผสานกับ ยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริม และสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาส ทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลกควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดีรวมถึงการเพิ่มขึ้น ของคนชั้นกลาง และลดความเหลื่อมล้ าของคนในประเทศได้ในคราวเดียวกัน ๓. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดีเก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้ง กาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์อดออม โอบอ้อมอารีมีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติมีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะสื่อสาร ภาษาอังกฤษและภาษาที่สามและอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตสู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิดผู้ประกอบการเกษตรกรยุคใหม่ และอื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง ๔. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนา ที่ส าคัญที่ให้ความส าคัญกับการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่ว มท า เพื่อส่วนรวม การกระจายอ านาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดิน ในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็ง ของชุมชนในการจัดการตนเองและการเตรียมความพร้อม ของประชากรไทยทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและท าประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกัน การเข้าถึงบริการและสวัสดิการที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
6 ๕. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อน าไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการก าหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเป็นการด าเนินการบนพื้นฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยให้ความส าคัญกับการสร้างสมดุลทั้ง ๓ ด้าน อันจะน าไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไป อย่างแท้จริง ๖. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก“ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและ ประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาทหน่วยงานของรัฐ ที่ท าหน้าที่ ในการก ากับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความ ทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การน านวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการท างานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้ง มีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกันและเปิดโอกาส ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตส านึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่จ าเป็น มีความทันสมัย มีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และน าไปสู่การลดความเหลื่อมล้ าและเอื้อต่อการพัฒนา โดยกระบวนการยุติธรรมมีการบริหาร ที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติและการอ านวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม
7
8 แผนระดับที่ 2 (เฉพาะที่เกี่ยวข้อง) 1. แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่ก าหนด ในยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งได้มีการถ่ายระดับเป้าหมายและประเด็นการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน มาก าหนดประเด็นในการพัฒนาในลักษณะที่มีการบูรณาการและเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่วนราชการใช้ในการปฏิบัติร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ความมั่นคง ประเด็นที่ 10 การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม ประเด็นที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ประเด็นที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ ประเด็นที่ 13 การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ประเด็นที่ 17 ความเสมอภาคและหลักประกันทางสังคม ประเด็นที่ 20 การบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ 2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) จัดท า โดยค านึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาตินโยบายของรัฐบาล และสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศและโลก รวมถึงมีความส าคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว ที่จะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาประเทศได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนบนเป้าหมายร่วมที่ชัดเจน และยังเอื้อประโยชน์ต่อการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลความส าเร็จของแผน เพื่อน ามา ปรับปรุงกระบวนการและวิธีการด าเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่มุ่งหวังได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ประกอบด้วย 13 หมุดหมาย โดยมีหมุดหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ หมุดหมายที่ 12 ไทยมีก าลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ การพัฒนาแห่งอนาคต หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน 3. นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 1 การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 1. เป้าหมายที่ 1 การธ ารงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ผลสัมฤทธิ์ ทุกภาคส่วนมมีความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น 3. ตัวชี้วัด ความส าเร็จของการจัดท าชุดข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเผยแพร่ตามช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ภายในปี 2570 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 ก าหนดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดและพัฒนาหลักสูตร การเรียนรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งในและนอกชั้นเรียน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจ และการตระหนักถึงความส าคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชาติ
9 กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมการจัดท าและเผยแพร่ชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชด าริ หลักการทรงงาน แก่เด็กเยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยมุ่งเน้นการจัดท าสื่อที่มีความทันสมัย และมีการเผยแพร่ ในหลายช่องทาง รวมถึงมีการจัดท าระบบการบริหารจัดการชุดข้อมูลระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน กลยุทธ์หลักที่ 2 การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของคนในชาติอย่างสันติและเคารพ ในความแตกต่างหลากหลายบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ย่อยที่ 2.6 สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ท างานให้บุคคลตระหนักและปกป้องถึงสิทธิของตนเอง รวมถึงเคารพและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.7 เสริมสร้างหรือพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริหารจัดการ ความขัดแย้งและการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการถูกเลือกปฏิบัติในระดับหน่วยย่อย ตั้งแต่ระดับครอบครัว สถานศึกษา สถานที่ท างาน และชุมชน รวมทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงเพื่อร้องเรียน หรือร้องทุกข์กระบวนการยุติธรรมได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 8 การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด 1. เป้าหมายที่ 1 การป้องกันประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2. ผลสัมฤทธิ์ ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับการป้องกันจากยาเสพติด 3. ตัวชี้วัด สัดส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อประชาชนลดลง 8 คน ต่อประชากร 1,000 คน ในปีพ.ศ. 2570 4. กลยุทธ์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสังคมให้มีภูมิคุ้มกันและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและ ลดความต้องการยาเสพติด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 สร้างภูมิคุ้มกันระดับบุคคล ด้วยการเสริมสร้างทัศนคติ และความรู้เท่าทันยาเสพติด ทั้งการเสพและการค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริม กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งรูปแบบ เนื้อหา วิธีการ และช่องทาง การสื่อสารและให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายในทุกขั้นตอน
10
1 1
1 2
1 3
1 4
1 5
1 6
1 7
1 8
1 9
20
21
22