48
49
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 50
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 51
52 แผนระดับที่ 3 1. แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 เป็นแผนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาระยะยาว โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถ เข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคในการศึกษา ที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาก าลังคนให้มีสมรรถนะ ในการท างานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ เพื่อให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาได้น าไปเป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ ส าหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ รวมทั้งความเป็นพลวัตร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 - 2579 ได้ก าหนด สาระส าคัญส าหรับบรรลุ เป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Access) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) คุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และ ตอบโจทย์บริบทเปลี่ยนแปลง (Relevancy) ในระยะ 20 ปีข้างหน้า และมียุทธศาสตร์6 ประการ คือ 1) การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ2) การผลิตและพัฒนาก าลังคน การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3) การพัฒนาศักยภาพคน ทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้4) การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียม ทางการศึกษา 5 การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) การพัฒนา ประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติได้ก าหนดประเด็น การพัฒนาไว้23 ประเด็น มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาโดยเฉพาะ คือ ประเด็นที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต และประเด็นที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ 2. แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) ส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดท าขึ้นเพื่อก าหนดทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สามารถรองรับ การเปลี่ยนแปลง ที่ส าคัญและส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา ระบบเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทย จะได้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และหน่วยงานในสังกัดของส านักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานทุกระดับสามารถน าแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570) ของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปใช้เป็นกรอบและแนวทางในการด าเนินงานต่อไป ซึ่งการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นเป็นการศึกษาที่เป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมาย ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน เป็นผู้เรียนรู้ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และเป็นพลเมือง ที่เข้มแข็งของประเทศ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ก าหนดวิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าประสงค์และกลยุทธ์ในระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2566 – 2570) ดังนี้ 2.1 วิสัยทัศน์ “ผู้เรียนมีความรู้และสมรรถนะที่จ าเป็น มีความสุข และมีเป้าหมายได้รับการ พัฒนาอย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ” 2.2 พันธกิจ 1) ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะ ตามศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะ ตามหลักสูตร และทักษะที่จ าเป็นต่ออนาคตในศตวรรษที่ 21
53 2) พัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัด การศึกษาที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 3) พัฒนาสถานศึกษาและระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับให้มีความปลอดภัย และสถานศึกษาสามารถจัดการศึกษา เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4) เพิ่มโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ า ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับการบริการ ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 5) พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานในสังกัดให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเหมาะสมกับบริบท 2.3 เป้าประสงค์ 1) ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลัก ของชาติและยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภูมิใจ ในความเป็นไทย 2) ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับโอกาสทางการศึกษา ที่เสมอภาค มีคุณภาพตามมาตรฐาน สอดคล้องกับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จ าเป็น ในศตวรรษที่ 21 3) เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออก กลางคัน ได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4) ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา ได้รับการดูแล ความปลอดภัยจากภัยคุกคาม 9 รูปแบบ ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ฝุ่น PM 2.5 การค้ามนุษย์การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ า และรองรับวิถีชีวิตใหม่ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี 5) ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมีสมรรถนะ ความรู้ความเชี่ยวชาญ จรรยาบรรณและมาตรฐาน วิชาชีพ รวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นครู 6) สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2.4 กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการศึกษา
54 3. แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2566 - 2570) ส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบในการก าหนดแนวทางและเป้าหมายในการปฏิบัติราชการ ของหน่วยงานในสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ก าหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เชื่อมโยงสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติพ.ศ. 2561 – 2580 แผนแม่บทภาพใต้ยุทธศาสตร์ชาติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 แผนปฏิบัติ ราชการระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2566 – 2570) กระทรวงศึกษาธิการ และแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570)ของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งใช้เป็นแนวทางในการก ากับ ติดตาม ประเมินผลการด าเนินงาน โดยมีสาระส าคัญภาพรวม ประกอบด้วย วิสัยทัศน์พันธกิจ ผลสัมฤทธิ์และเป้าหมายการให้บริการหน่วยงาน ตามรายละเอียด ดังนี้ 3.1 วิสัยทัศน์ “สร้างคุณภาพผู้เรียน สู่สังคมอนาคตอย่างยั่งยืน” (ผู้เรียนมีความรู้และสมรรถนะที่จ าเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนา อย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ) 3.2 พันธกิจ 1) จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ 2) พัฒนาสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยแก่ผู้เรียน 3) ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขัน 4) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะที่จ าเป็น ในศตวรรษที่ 21 5) สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ า ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับ บริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 6) พัฒนาผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัด การศึกษาที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 7) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8) พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับและจัดการศึกษาโดยใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล 3.3 ผลสัมฤทธิ์ 1) ผู้เรียนมีภูมิคุ้มกัน พร้อมที่จะรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ รู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยีในการด าเนินชีวิตวิถีใหม่และชีวิตวิถีถัดไป และได้รับการศึกษา ในสถานศึกษาที่มี่ความปลอดภัย 2) ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง เสมอภาคและเท่าเทียม
55 3) ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความรู้และทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ 21 มีสมรรถนะที่เหมาะสมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามช่วงวัย รวมถึงได้รับการส่งเสริมความเป็นเลิศ เต็มตามศักยภาพ 4) หน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาระบบบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 3.4 กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากร วัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา 4. แผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้มีการศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์และแนวโน้มด้านต่าง ๆ การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ภาคกลาง ประกอบด้วย ลพบุรีสระบุรีพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรีชัยนาท อ่างทอง นนทบุรีปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม ราชบุรีกาญจนบุรีสุพรรณบุรีสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์และกรุงเทพมหานคร แนวทางการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในระดับพื้นที่ ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติทิศทางการพัฒนาประเทศ นโยบายและยุทธศาสตร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์การพัฒนา กลุ่มจังหวัดที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนระดับที่ 1 แผนระดับที่ 2 และแผนระดับที่ 3 ตามหลักการ ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (XYZ) เพื่อใช้เป็นกรอบ แนวทางในการจัดท าแผนพัฒนาการศึกษาภาคกลาง (พ.ศ. 2566 - 2570) ภายใต้กรอบแนวคิด การศึกษาเพื่อการพัฒนาพื้นที่ และสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ที่เชื่อมโยงมิติทางสังคม เศรษฐกิจ ตามศักยภาพและโอกาสของพื้นที่ 4.1 วิสัยทัศน์ “ผู้เรียนทุกระดับมีคุณภาพตามช่วงวัย มีความรู้ มีทักษะอาชีพ รองรับอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต” พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดีเก่งและมีคุณภาพ โดยการปรับเปลี่ยน ระบบการเรียนรู้ให้เอื้อต่อการพัฒนาทักษะส าหรับศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคิด วิเคราะห์สังเคราะห์ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์การท างานร่วมกับผู้อื่น พัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ การบ่มเพาะการเป็นนักคิด นักนวัตกร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชีวิตที่สามารถอยู่ร่วมและท างานภายใต้สังคมที่เป็น พหุวัฒนธรรม บูรณาการเรื่องความซื่อสัตย์วินัย คุณธรรม จริยธรรม การปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรม โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน การผลิตและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต โดยเชื่อมโยงภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมและบริการให้ตอบสนองความต้องการของแต่ละสาขา ของอุตสาหกรรมและบริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มบนพื้นฐานของการวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยี
56 4.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ 1) ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นก าลังคนที่มีทักษะรองรับ อุตสาหกรรม และบริการแห่งอนาคต 2)ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 3)ส่งเสริม สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4) เสริมสร้างการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง และน าแนวคิด ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี 5) พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม 5. แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) 5.1 เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัด “เพชรสมุทรคีรีมั่งคั่ง เศรษฐกิจเติบโต บนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สมดุลและยั่งยืน” โดยก าหนดค่านิยามเป้าหมายการพัฒนาไว้ดังนี้ เพชรสมุทรคีรีมั่งคั่ง หมายถึง กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เพชรสมุทรคีรี มีการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจเติบโต หมายถึง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีเสถียรภาพ และกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม สินค้าในภาคการผลิตต่างๆของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 มีมูลค่าสูงขึ้น โดยมีทุนเทคโนโลยีและใช้วัตถุดิบอย่างเหมาะสม บนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมดุลและยั่งยืน หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างพอดีไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม มีการผลิตและการบริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.2 พันธกิจ 1) การเสริมสร้างความเข้มแข็ง การขยายตัวอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันได้สูง ของระบบเศรษฐกิจจากฐานการเกษตรมูลค่าสูงมีคุณภาพ ปลอดภัยได้มาตรฐานการท่องเที่ยวแบบครบวงจร และอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ท าให้เกิดการกระจายตัวของเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ าให้แต่ละพื้นที่ ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันและเพิ่มมากขึ้น 2) การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการใช้ ประโยชน์อย่างรู้คุณค่าและสมดุล ในขีดความสามารถของระบบนิเวศน์และเป็นฐานการพัฒนา เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับทิศทางของประชาคมโลก 3) สร้างและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ า และ ทางอากาศ เชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด จังหวัดใกล้เคียง และภูมิภาคอาเซียน ทั้งด้านการค้า การคมนาคม ขนส่ง การผลิต และการลงทุน 4) เสริมสร้างความมั่นคง ปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทั้งจากภายในกลุ่มจังหวัด ประเทศ และภายนอกประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่อง บนคุณภาพชีวิตและการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
57 5.3 ประเด็นการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด ประเด็นการพัฒนาที่ 1 ยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูง และ อุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ 2 พัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและ ได้มาตรฐานสากล ประเด็นการพัฒนาที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมและบริการ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ประเด็นการพัฒนาที่ 4 รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อ การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นโยบายและจุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ประกาศ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565) 1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย 1.1 สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกัน ภัยคุกคามในชีวิตทุกรูปแบบ โดยมีการด าเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ ผู้เรียน ครูและบุคลากร ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเข้มข้น 1.2 ปลูกฝังทัศนคติพฤติกรรม และองค์ความรู้ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์และไซเบอร์ อย่างสร้างสรรค์ 1.3 ส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความ ตระหนักรู้และจิตส านึกในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัว ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 1.4 พัฒนาบทบาทและภารกิจด้านความปลอดภัยของทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน 2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการเรียนรู้สู่สมรรถนะตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ไปสู่การปฏิบัติ อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่จ าเป็นในโลกยุคใหม่ให้กับผู้เรียน 2.2 จัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมพหุปัญญาให้กับผู้เรียน โดยเน้นการเรียนรู้จากการ ปฏิบัติจริง ในรูปแบบ Active Learning, STEM Education, Coding ฯลฯ และกระบวนการส่งต่อ ในระดับที่สูงขึ้น 2.3 พัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวัดผล ประเมินผลฐานสมรรถนะ เพื่อเป็นฐาน ในการพัฒนาทักษะและสมรรถนะที่จ าเป็นแห่งอนาคต 2.4 ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะและ สมรรถนะด้าน Soft Power ให้กับผู้เรียน 2.5 ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้เรียนรู้ตามความสนใจผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์มที่หลากหลาย
58 2.6 ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการฟื้นฟูภาวะถดถอย ทางการเรียนรู้(Learning Loss) 2.7 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและ ศีลธรรมให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยและบริบทของพื้นที่ 2.8 ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน โดยบูรณาการการท างานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.9 ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้น าผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ไปใช้ในการวางแผน การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา 2.10 พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ ที่ตัวผู้เรียน 3. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย 3.1 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล ในการติดตามและส่งต่อไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาเด็กตกหล่นและออกกลางคัน 3.2 ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อรับการพัฒนาอย่างรอบด้าน มีคุณภาพ ตามศักยภาพ ตามวัย ต่อเนื่องอย่างเป็นระบบและเป็นไป ตามมาตรฐาน โดยบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.3 พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่มเยาวชนอายุ 15 - 24 ปีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การท างาน หรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment or Training : NEETs) 3.4 พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว(Home School) และการเรียนรู้ที่บ้านเป็นหลัก (Home–based Learning) รวมทั้งการศึกษาทางเลือกอื่น ๆ 3.5 พัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ในหน่วยงานที่จัดการศึกษา และให้มีหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนระบบธนาคารหน่วยกิตในภาพรวม และการเชื่อมโยง ทั้งระหว่างรูปแบบ ประเภท และระดับการศึกษา 4. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 4.1 พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นแบบโมดูล (Modular System) มีการบูรณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการ อาชีวศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและระบบทวิภาคีรวมทั้งการจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วยการเรียนรู้(Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษา อย่างเข้มข้นเพื่อการมีงานท า 4.2 ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนาก าลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและยกระดับ สมรรถนะก าลังคนตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นเลิศ ทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการ ในการผลิตก าลังคนที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพ
59 ในรูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาระบบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตามสมรรถนะที่จ าเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการน าผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าท างาน ศึกษาต่อ ขอรับประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตร สมรรถนะภาษาอังกฤษ (English Competency) 4.5 จัดตั้งศูนย์ให้ค าปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ(ศูนย์Start Up) ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพ และการเป็นผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการด้านอาชีพทั้งผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเชื่อมโยงกับ กศน. และสถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ 4.6 เพิ่มบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและก าลัง แรงงานในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ที่สามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ 4.7 พัฒนาหลักสูตรอาชีพส าหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและ ประชาชนที่สอดคล้องมาตรฐานอาชีพเพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะ และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ 5. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครูบุคลากรทางการศึกษา และบุคลากร 5.1 ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินการประเมินวิทยฐานะ โดยใช้ระบบการประเมิน ต าแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (Digital Performance Appraisal : DPA) 5.2 ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินการ พัฒนาสมรรถนะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ตามกรอบระดับสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) ส าหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา 5.3 พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการจัดการเรียนรู้การใช้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบอาชีพ และการด าเนินชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล 5.4 ส่งเสริมสนับสนุนการวัดสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผล เพื่อน าผลไปใช้ ในการยกระดับการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลในชั้นเรียน 5.5 พัฒนาขีดความสามารถของครูและบุคลากรให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องและ เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต 5.6 ส่งเสริมสนับสนุนการทดสอบสมรรถนะครูและบุคลากรด้านภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารในการท างาน 5.7 เร่งรัดการด าเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทั้งระบบ ควบคู่กับ การให้ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม
60 6. การพัฒนาระบบราชการและการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล 6.1 ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ ด้วยนวัตกรรม และการน าเทคโนโลยี ดิจิทัล มาเป็นกลไกหลักในการด าเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data) การส่งเสริมความร่วมมือ บูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก 6.2 พัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้งาน เครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.3 พัฒนาระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยึดหลัก ความจ าเป็นและใช้พื้นที่เป็นฐาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นส าคัญ 6.4 เสริมสร้างคุณธรรม มาตรฐานทางจริยธรรมและปลุกจิตส านึกต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล 7. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติ ด าเนินการจัดท ากฎหมายล าดับรอง เพื่อรองรับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ควบคู่กับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง นโยบายส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (ตามหนังสือ สพฐ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04006/ว 4642 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2565) ๑. ด้านความปลอดภัย ๑.๑ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย อบอุ่น มีความสุข เอื้อต่อการเรียนรู้และส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ทักษะ ในการป้องกัน ดูแล ด าเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย จากโรคภัย ภัยพิบัติอุบัติภัย และภัยคุกคามทุกรูปแบบ สามารถปรับตัว ต่อโรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ า ๑.๒ พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครูและ บุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา รวมถึงการใช้Big Data และแอปพลิเคชันในการเฝ้าระวังเชิงรุก ด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) พร้อมทั้งจัดท า แผนบริหารจัดการด้านความปลอดภัย และ แผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (Business Continuity Plan: BCP) 1.3 ส่งเสริมให้ผู้เรียน ครูบุคลากรทางการศึกษา และชุมชน มีคุณลักษณะและ พฤติกรรม ที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักรู้และจิตส านึกในการอนุรักษ์ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัวรับมือต่อผลกระทบจากภัย ธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๒. ด้านโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ ๓ ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีอย่างรอบต้าน พร้อมที่จะเรียนรู้และสร้างรากฐานชีวิตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒.๒ ส่งเสริม สนับสนุน ประชากรวัยเรียนที่มีอายุถึงเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับทุกคน ให้ได้รับโอกาส ทางการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบป้องกัน เฝ้าระวัง และดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง เด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน เด็กชายชอบ เด็กพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดารและพื้นที่เกาะ
61 ตามความต้องการจ าเป็นรายบุคคลเพื่อไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา โดยบูรณาการความร่วมมือกับบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒.๓ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบ การศึกษา การท างาน หรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment or Training : NEETs) ให้ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคต ให้สอดคล้องกับความต้องการ รายบุคคลหรือรายกลุ่ม โดยพัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย และ ร่วมกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริม สนับสนุน การเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรู้ และประสบการณ์และการเทียบระดับการศึกษา รวมทั้งการพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต(Credit Bank) ๒.๔ ส่งเสริม สนับสนุนให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษา แหล่งเรียนรู้และการฝึกอาชีพที่หลากหลายเหมาะสมตามศักยภาพ เพื่อให้มีทักษะในการด าเนินชีวิตสามารถพึ่งตนเองได้โดยจัดการศึกษารูปแบบทางเลือกที่เหมาะสมเฉพาะกลุ่ม ๒.๕ ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน โดยบุคคล ครอบครัว (Home School) องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ และสถานประกอบการ ๒.๖ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาให้ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ได้พัฒนาความรู้และทักษะทางวิชาชีพ เพื่อเป็นพื้นฐานส าคัญในการประกอบอาชีพในอนาคต ๓. ด้านคุณภาพการศึกษา ๓.๑ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านให้เหมาะสม กับวัย รวมทั้งพัฒนาครูให้มีความรู้และทักษะการดูแลที่เพียงพอ มีจิตวิทยาพัฒนาการของเด็กปฐมวัย และสร้างกลไกประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองครอบครัวชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริม พัฒนาการ ด้านการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ๓.๒ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาผู้เรียนในระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีคุณธรรม จริยธรรม เคารพรักในสถาบันหลักของชาติยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เห็นคุณค่าประวัติศาสตร์และรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมไทย รวมถึงเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ ด าเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อให้เป็นพื้นฐานของสังคมไทย และเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทย และน าเสนอความเป็นไทยสู่สากล ๓.๓ ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนทุกระดับมีสมรรถนะที่จ าเป็นต่อการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ เต็มตามศักยภาพของผู้เรียนรายบุคคล เหมาะสมตามช่วงวัย น าไปสู่การมีงานท า มีอาชีพ และส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้มีความสามารถพิเศษอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน ๓.๔ ส่งเสริม สนับสนุน ให้สถานศึกษาจัดการเรียนรู้สู่สมรรถนะของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และ ตามแนวคิดพหุปัญญา ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) พัฒนาระบบการวัดและ ประเมินผลการศึกษา รวมทั้งส่งเสริม การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ยืดหยุ่น ตามสภาพจริง ตอบสนองต่อความถนัด และความสนใจของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) ที่เชื่อมโยงสู่การท างานในอนาคต
62 ๓.๕ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นบุคคล แห่งการเรียนรู้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ มีความรู้สมรรถนะ ด้านวิชาการ ด้านทักษะ การจัดการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ พัฒนาผู้บริหาร ให้มี“ภาวะผู้น าการเปลี่ยนแปลง” ปรับบทบาทของครูจาก“ผู้สอน”เป็น “โค้ช” ที่อ านวยการเรียนรู้ โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มุ่งการยกระดับครูสู่วิชาชีพชั้นสูง มีจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งมีจิตวิญญาณความเป็นครู ๔. ด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา ๔.๑ พัฒนาระบบการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยส่งเสริมบทบาท ของภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม ในการจัด การศึกษาและการร่วมลงทุนเพื่อการศึกษา เน้นการกระจายอ านาจสู่สถานศึกษาในโรงเรียนคุณภาพ โรงเรียนที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ โรงเรียนในพื้นที่ นวัตกรรมการศึกษา โดยปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา ที่เอื้อให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระ ในการบริหารด้านการจัดการศึกษา ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านบุคลากร และด้านบริหารทั่วไป ๔.๒ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความครอบคลุมในทุกพื้นที่ พัฒนาแพลตฟอร์มและน าระบบข้อมูลสารสนเทศมาเป็นกลไกหลักในการด าเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยง และแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data) ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยบูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา ตามบริบทของสถานศึกษา และพื้นที่ เพื่อให้การบริหารจัดการ การจัดการเรียนรู้และการบริการ มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพสังคม รองรับภาวะวิกฤตและเหตุจ าเป็นในอนาคต ๔.๓ ส่งเสริม พัฒนาแนวปฏิบัติและระบบสนับสนุน ให้สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนรู้ แบบผสมผสาน และการเรียนรู้ที่บ้านเป็นหลัก (Home based Learning) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียน (Learning Loss) เป็นรายบุคคล ๔.๔ ส่งเสริมประสิทธิภาพระบบการประกันคุณภาพการศึกษา และพัฒนาระบบ การนิเทศ ติดตาม และประเมินผล ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เพื่อน าผลไปใช้ในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนาการบริหารจัดการศึกษา และการจัดการเรียนรู้ ๔.๕ ส่งเสริม สนับสนุนให้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา มีความเข้มแข็ง โดยยึดหลัก การกระจายอ านาจและการมีส่วนร่วมของบุคคลที่เกี่ยวข้องด าเนินการเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดียึดถือระบบคุณธรรม ความโปร่งใส และความเสมอภาคระหว่างบุคคล เพื่อประโยชน์ ในการพัฒนาการศึกษาเป็นส าคัญ ๔.๖ เสริมสร้างการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลภาครัฐให้กับหน่วยงานทุกระดับ จุดเน้นส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ๑. เร่งปลูกฝังทัศนคติพฤติกรรม องค์ความรู้และทักษะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย รวมทั้งรู้เท่าทันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ๒. เร่งรัดการด าเนินงานเชิงรุกของหน่วยงานในสังกัด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านสุขภาพและความปลอดภัย ทั้งด้านร่างกายและจิตใจของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และระบบมาตรฐานความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ
63 (MOE Safety Platform) โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการด าเนินงาน อย่างทันท่วงที ๓. ค้นหา ติดตาม ป้องกัน เฝ้าระวัง และดูแลช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน เด็กกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาภาคบังคับ ด้วยรูปแบบในการเข้าถึงการเรียนรู้ที่หลากหลาย ๔. ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การท างานหรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment or Training : NEETs) ให้ได้รับโอกาส ในการศึกษาต่อ อย่างมีคุณภาพ หรือฝึกทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียรายบุคคล หรือรายกลุ่ม ๕. พัฒนาหลักสูตรที่เน้นสมรรถนะ ควบคู่กับการวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตร รวมทั้งปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและ ศีลธรรม ที่เหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อให้เห็นคุณค่าประวัติศาสตร์และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รู้สิทธิและ หน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ ๖. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้มีคุณธรรม จริยธรรม และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมไทย ให้สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน เพื่อเป็นพื้นฐานของสังคมไทย และเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทยและน าเสนอความเป็นไทยสู่สากล ๗. ส่งเสริม และพัฒนาผู้เรียนตามแนวคิดพหุปัญญา มีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษา รวมทั้งส่งเสริมการวัดและประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ๘. ยกระดับการพัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีจรรยาบรรณและ มาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งมีจิตวิญญาณความเป็นครูและเคารพสิทธิมนุษยชน ตลอดจนให้ความรู้ ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ๙. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจายอ านาจใช้พื้นที่เป็นฐาน ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมในการขับเคลื่อน ให้สอดคล้องกับการท างานแบบรัฐบาลดิจิทัล นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบนโยบายในที่ประชุม ผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั่วประเทศ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ใน 10 เรื่องเร่งด่วน ดังนี้ 1. พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 ใน 4 ด้าน 2. ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง คุณธรรม จริยธรรม 3. การศึกษากับการพัฒนาประชาธิปไตย ผ่านสภานักเรียน 4. การจัดการศึกษาปฐมวัย 5. Active Learning 6. พาน้องกลับมาเรียน 7. โรงเรียนคุณภาพ 8. Learning loss
64 9. RT NT O-Net และเรื่องการอ่านออกเขียนได้ 10. ความปลอดภัย มาตรฐานส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2560 มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการองค์การสู่ความเป็นเลิศ ตัวบ่งชี้ที่ 1 การบริหารจัดการที่ดี ประเด็นพิจารณา 1. ภาวะผู้น าของผู้บริหารในการน าองค์กรไปสู่เป้าหมาย 2. การใช้ข้อมูลสารสนเทศในการบริหารและการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนา คุณภาพของส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา 3. การใช้แผนเป็นเครื่องมือในการบริหารและจัดการศึกษา 4. การสร้างหรือประยุกต์ใช้นวัตรกรรม เทคโนโลยีในการบริหารและการ จัดการศึกษา 5. การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ภายในและภายนอกส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษา 6. การน าผลการด าเนินงานมาพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 2 การพัฒนาสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ ประเด็นพิจารณา 1. ส่งเสริมให้บุคลากรกระตือรือร้น ค้นคว้าหาความรู้มีความคิดเชิงระบบ สามารถเรียนรู้และก้าวทันการเปลี่ยนแปลง 2. ส่งเสริมให้เกิดการจัดการความรู้(Knowledge Management : KM) และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 3. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีแหล่งเรียนรู้ด้วยรูปแบบและวิธีก า ร ที่หลากหลาย เพื่อให้บุคลากรมีโอกาสได้เรียนรู้ตามบริบทของเขตพื้นที่การศึกษา 4. การน าองค์ความรู้มาพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และพัฒนาองค์การ โดยใช้กระบวนการวิจัย ตัวบ่งชี้ที่ 3 การกระจายอ านาจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารและ การจัดการศึกษา ประเด็นพิจารณา 1. การกระจายอ านาจในการบริหารและการจัดการศึกษาภายในส านักงานเขต พื้นที่การศึกษา 2. มีการประสาน ส่งเสริม สนับสนุน อ านวยความสะดวกในการท างาน ขององค์คณะบุคคล จัดให้มีเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3. ส่งเสริม สนับสนุนการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของบุคคล ครอบครัว และหน่วยงานต่าง ๆ 4. การสร้าง พัฒนา และประสานเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในการ จัดการศึกษาทั้งภายในและภายนอก
65 มาตรฐานที่ 2 การบริหารและการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ตัวบ่งชี้ที่ 1 การบริหารงานด้านวิชาการ ประเด็นพิจารณา 1. พัฒนากรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมาย จุดเน้น สาระท้องถิ่น และสอดคล้องแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 - 2579 น าไปใช้ในการ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา 2. ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา จัดให้มีการนิเทศ ก ากับ ติดตาม ประเมินเอกสารหลักสูตรสถานศึกษาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษา และมีการศึกษาวิจัย เกี่ยวกับการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาและผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา 3. ส่งเสริม สนับสนุนบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่าย เกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 4. ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีการผลิตจัดหาและพัฒนาสื่อเครื่องมือ อุปกรณ์ที่หลากหลายทันต่อการเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้และความแตกต่าง ของผู้เรียน 5. ส่งเสริม สนับสนุนการวัดผล ประเมินผลและน าผลไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา 6. พัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน ก ากับ ดูแล ติดตามและตรวจสอบคุณภาพ การศึกษาตามระบบการประกันคุณภาพ 7. จัดท าวิจัย ส่งเสริมการวิจัยและน าผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางาน 8. ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 9. ประสาน ส่งเสริมให้บุคคล ครอบครัว และหน่วยงานทุกภาคส่วน มีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา รวมทั้งเป็นเครือข่ายและแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 2 การบริหารงานด้านงบประมาณ ประเด็นพิจารณา 1. มีการวางแผนการใช้งบประมาณอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับนโยบาย ปัญหาและความต้องการ 2. มีการจัดระบบการบริหารการเงิน การบัญชี และพัสดุ 3. มีการควบคุมการใช้งบประมาณอย่างเป็นระบบ 4. มีการตรวจสอบภายในอย่างเป็นระบบ ตัวบ่งชี้ที่ 3 การบริหารงานด้านการบริหารงานบุคคล ประเด็นพิจารณา 1. มีการวางแผนอัตราก าลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีความสอดคล้องกับนโยบาย ปัญหาและความต้องการ 2. การสรรหาและบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อย่างถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้
66 3. การพัฒนา ส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา สู่ความเป็นมืออาชีพ สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความจ าเป็น และส่งเสริม ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ 4. การเสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ตัวบ่งชี้ที่ 4 การบริหารงานทั่วไป ประเด็นพิจารณา 1. มีการสร้าง พัฒนาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงภายในและภายนอกเขตพื้นที่การศึกษา 2. มีการส่งเสริม สนับสนุนการรับนักเรียนทั้งในและนอกเขตบริการ โดยด าเนินการรับนักเรียนให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติการรับนักเรียน 3. มีการมอบหมายภารกิจผู้รับผิดชอบในการดูแลอาคารสถานที่และ สภาพแวดล้อม 4. มีการพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการปฏิบัติงานในทุกภารกิจ มีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง 5. มีการวางแผนจัดวางระบบการควบคุมภายในที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหาการด าเนินงานตามภารกิจ 6. การจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ตัวบ่งชี้ที่ 5 การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการจัดการศึกษา ที่มีประสิทธิภาพ ประเด็นพิจารณา การจัดระบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการจัดการศึกษา ภารกิจหลัก 4 ด้าน และการน านโยบายสู่การปฏิบัติ มาตรฐานที่ 3 สัมฤทธิผลการบริหารและการจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ 1 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามีผลงานที่แสดงความส าเร็จและ เป็นแบบอย่างได้ ประเด็นพิจารณา ผลงานหรือผลการด าเนินงานของกลุ่ม/หน่วยในส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาที่บรรลุเป้าหมายตามภารกิจ ทั้งนี้ เป็นผลงานที่เกิดจากการด าเนินงานภายในส านักงานเขต พื้นที่การศึกษาที่เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาและสถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทั้งภายในส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาจนเกิดประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับและ สามารถเป็นแบบอย่างได้
67 ตัวบ่งชี้ที่ 2 สถานศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา ประเด็นพิจารณา สถานศึกษาในสังกัดได้รับการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน ก ากับ ดูแล ติดตามและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา พร้อมทั้งมีผลการประเมินคุณภาพภายนอกที่รองรับ มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนด ตัวบ่งชี้ที่ 3 ผู้เรียนระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีคุณภาพ ตามหลักสูตร ประเด็นพิจารณา 1. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 2. ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 3. ผลการประเมินความสามารถในการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และการเขียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 4. ผลการประเมินสมรรถนะส าคัญในการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5. ผลการประเมินสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้เรียนระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ตัวบ่งชี้ที่ 4 ประชากรวัยเรียนได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่า เทียมกัน ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือมีความรู้ทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพ ประเด็นพิจารณา 1. อัตราการออกการคันลดลง 2. อัตราการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของผู้เรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 3. ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีความต้องการพิเศษได้รับการดูแล ช่วยเหลือและส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาอย่างเต็มศักยภาพ 3.1 เด็กพิการเรียนรวม 3.2 เด็กด้อยโอกาส 3.3 เด็กที่มีความสามารถพิเศษ 4. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการประกอบ อาชีพ 5. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จบหลักสูตร ได้ศึกษาต่อในสายอาชีพ
68 ตัวบ่งชี้ที่ 5 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้าง ในส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา มีผลงานเชิงประจักษ์ตามเกณฑ์ได้รับการยกย่อง เชิดชูเกียรติ ประเด็นพิจารณา ผลงานดีเด่นที่ประสบความส าเร็จเป็นที่ประจักษ์ของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างในส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลในระดับชาติขึ้นไป โดยต้องเป็นรางวัลชนะเลิศที่ ก.ค.ศ. ให้การรับรอง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. ก าหนด หรือรางวัลเทียบเคียงและเป็นรางวัลในปีการศึกษาปัจจุบัน ตัวบ่งชี้ที่ 6 ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความพึงพอใจในการบริหาร และการจัดการศึกษา รวมทั้งการให้บริการ ประเด็นพิจารณา ผลการประเมินความพึงพอใจในการบริหารและการจัดการศึกษา รวมทั้ง การให้บริการของส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามระบวนการบริหารงานของกลุ่มในส านักงาน เขตพื้นที่การศึกษา โดยใช้แบบสอบถาม เพื่อประเมินความคิดเห็นที่มีต่อการให้บริการครอบคลุม ทุกภารกิจของกลุ่ม/หน่วย
ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
70 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ได้ก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมองค์กร เป้าประสงค์และกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงและสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการและส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ค่านิยมองค์กร “องค์กรแห่งความสุข ถูกต้อง โปร่งใส ฉับไว ใส่ใจบริการ” วิสัยทัศน์ (Vision) “องค์กรชั้นน าในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่สังคมอนาคตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความปลอดภัย” พันธกิจ (Mission) 1. พัฒนาการบริหารจัดการศึกษา สถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการประกัน คุณภาพภายในของสถานศึกษา และปรับกระบวนการ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษา ให้สอดรับกับชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) 2. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะที่จ าเป็น ในศตวรรษที่ 21 มีความเป็นเลิศทางวิชาการ เป็นคนดีมีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3. สร้างโอกาสความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ า ให้ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษา อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักยภาพตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 4. พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษาและ สถานศึกษาจากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีสามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ า 5. พัฒนาผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษา ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาชีพ สร้างขวัญก าลังใจและบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ (Goals) 1. พัฒนาการบริหารจัดการศึกษา สถานศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา และปรับกระบวนการ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาให้สอดรับ กับชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) 2. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะที่จ าเป็น ในศตวรรษที่ 21 มีความเป็นเลิศทางวิชาการ เป็นคนดีมีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3. สร้างโอกาสความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ า ให้ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษา อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักยภาพตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 4. พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษาและ สถานศึกษาจากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีสามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ า
71 5. พัฒนาผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษา ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาชีพ สร้างขวัญก าลังใจและบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาล กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยจากภัยคุกคาม 9 รูปแบบ ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5 การค้ามนุษย์ การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์ 2. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยและ สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ า 3. สถานศึกษา ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัย และจัดการศึกษาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 4. สถานศึกษา ได้รับการส่งเสริมให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้เรียน ตัวชี้วัด ที่ ตัวชี้วัด หน่วย นับ ค่าเป้าหมาย(ปี) 2566 2567 2568 2569 2570 1 ร้อยละของผู้เรียนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ และทุกประเภท ร้อยละ 80 85 90 95 100 2 ร้อยละของผู้เรียนได้รับการศึกษาในสถานศึกษา ที่มีความปลอดภัย ร้อยละ 80 85 90 95 100 3 ร้อยละของสถานศึกษาที่มีแผน/มาตรการในการ จัดการภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ า รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ร้อยละ 80 85 90 95 100 4 ร้อยละของครู บุคลากรทางการศึกษา ด าเนินการ ตามแนวทาง ในการจัดการภัยพิบัติ และภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ ให้สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และ โรคอุบัติซ้ า รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ร้อยละ 80 85 90 95 100
72 แนวทางการพัฒนา 1. สนับสนุน พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับภัยรูปแบบต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการด าเนินชีวิต เพื่อสามารถด าเนินชีวิตในวิถีใหม่และชีวิตวิถีถัดไปได้ อย่างถูกต้อง 2. พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาและสถานศึกษา ให้ได้รับความปลอดภัยจากภัยทั้ง 9 รูปแบบ และพร้อมปรับตัว ต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเปิดให้มีช่องทางการร้องเรียนหรือแจ้งเหตุให้กับผู้เรียน ผู้ปกครอง ครู เพื่อสื่อสาร กับส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง รวมถึงการใช้ Big Data และแอปพลิเคชันในการเฝ้าระวังเชิงรุก เพื่อสามารถคาดการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การซักซ้อมในการรับมือกับภัยพิบัติและภัยคุกคาม รูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้เรียนอาจต้องเผชิญ และส่งเสริมการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทั้งในสถานศึกษาสังกัดและ หน่วยงานภายนอก ให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที 3. พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยส าหรับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการ ศึกษา โดยการสนับสนุนหรือประสานการสนับสนุนทรัพยากร เพื่อให้อาคารเรียนอาคารประกอบ ของสถานศึกษาเอื้ออ านวยต่อการเรียนรู้ ความปลอดภัยของผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงส่งเสริมและประสานการสนับสนุนบุคลากรด้านจิตวิทยาและบุคลากรด้านความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา 4. ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษา ให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของผู้เรียนให้มีทักษะในการป้องกันและปรับตัว 5. จัดกิจกรรมในการสร้างความตระหนักรู้ (Safety Awareness) หรือการซักซ้อม ในการรับมือกับภัยพิบัติและภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ (Safety Action) ที่ผู้เรียนอาจต้องเผชิญและมีแผน/ มาตรการในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ าที่เกิดขึ้นได้ในวิถีชีวิตใหม่ เพื่อให้สถานศึกษา เป็นพื้นที่ปลอดภัย กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ 1. ประชากรวัยเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับ ได้รับโอกาสทางการศึกษา อย่างเสมอภาคจนจบการศึกษาภาคบังคับ 2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับการส่งเสริมให้ได้รับโอกาส ทางการศึกษาอย่างเสมอภาคจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ 4. ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเต็มตามศักยภาพ 5. เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน ได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน