รายงานการวิจยั ในช้นั เรียน
รายวชิ า แนะแนว รหัสวิชา ก 33901 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6
ชื่อเร่อื ง : การศึกษาผลการใช้กจิ กรรมแนะแนว เพ่อื การตัง้ เป้าหมายทางการศึกษาและอาชพี
ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นแก่งคอย จงั หวดั สระบุรี
ชือ่ ผ้วู ิจยั : นางสาวหน่งึ หทัย ภสู่ มุทร
บทท่ี 1
ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
ในปจั จบุ ันมีการเปล่ียนแปลงไปในหลายดา้ น ทง้ั ในดา้ นเศรษฐกิจสงั คม การเมือง เทคโนโลยี สื่อต่างๆ
ซงึ่ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนีส้ ง่ ผลกระทบต่อวิถีชีวติ ของคนในทุกวยั โดยเฉพาะวัยรนุ่ ทต่ี ้องมกี ารปรบั ตัว
ในทุกดา้ น เริ่มตัง้ แต่การปรบั ตัวท้ังทางด้านรา่ งกาย อารมณ์ สังคม วัยรุ่นเป็นวัยท่ีมีการเปล่ียนแปลงเข้าสู่
วฒุ ิภาวะท้ังร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม จึงนับว่าเป็นวิกฤติช่วงหน่ึงของชีวิต เนื่องจากเป็นช่วงต่อของ
วัยเดก็ และผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในระยะต้นของวัยจะมีการเปล่ียนแปลงมากมายเกิดขึ้นการเปลย่ี นแปลง
ดังกล่าว จะมีผลตอ่ ความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นดว้ ยกันเอง และบุคคลรอบข้าง หากกระบวนการเปลี่ยนแปลง
ดงั กล่าว เปน็ ไปอย่างเหมาะสม โดยการดแู ลเอาใจใสใ่ กลช้ ิด จะช่วยให้วัยร่นุ สามารถปรบั ตวั ได้อยา่ งเหมาะสม
สามารถบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดข้ึน และเป็นทั้งแรงผลักดันและแรงกระตุ้นให้พัฒนาการด้านอ่ืนๆ
เป็นไปด้วยดี นอกจากน้ีวัยรุ่นเร่ิมจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เร่ิมรู้จักแสวงหาสิ่งต่างๆรอบตัว อยากรู้
และอยากลอง รู้จักคิดและแก้ปัญหาให้กับตนเอง เร่ิมมองตัวเองในเร่ืองของอนาคตมากย่งิ ขึ้นท้ังในด้านการ
เรียนและการให้ความสาคัญกับการประกอบอาชีพ เร่ิมมองหาเป้าหมายของตนเองโดยเสาะแสวงหาตาม
ความชอบ ความถนัดดังนั้นการต้ังเป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพจึงมีความสาคัญอย่างย่ิงท่จี ะทาให้วยั รุ่น
มแี นวทางการปฏิบตั เิ พอื่ ใหบ้ รรลุไปสเู่ ป้าหมายดัง่ ทตี่ งั้ ใจไว้
เป้าหมาย (GOAL) คือส่ิงที่เราต้องการ มาจากความต้องการ ความหวัง จินตนาการในการ
ตั้งเป้าหมายจะต้องอยู่ในกรอบที่ไม่เพ้อฝัน และสามารถบรรลุได้ด้วยกระบวนการจัดการ เป้าหมายไม่ได้
เป็นตัวบ่งบอกความสาเร็จ หากแต่การกระทาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย จะมีความหมายต่อความสาเร็จท่ีคาดหวัง
การต้ังเป้าหมายทางการเรียนถือเป็นส่ิงท่ีสาคัญ นักเรียนจะประสบความสาเร็จในด้านการเรียน
และการประกอบอาชีพ จาเป็นต้องรู้ถึงความต้องการที่แท้จริง กาหนดเป้าหมาย วางแผน ปฏิบัติตนตาม
เป้าหมายซงึ่ เมื่อนักเรยี นสามารถปฏิบัตไิ ด้กย็ อ่ มจะประสบความสาเรจ็ บรรลุตามเปา้ หมายทไี่ ดต้ ัง้ ไว้
2
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ถือเป็นวัยที่เริ่มมีการแสวงหาความรู้ เร่ิมมองหาอนาคตมองหนทาง
สู่การเรียนและการประกอบอาชีพ เป็นวัยท่ีเริ่มต้ังเป้าหมายให้ตนเองทาให้นักเรียนต้องเร่ิมค้นหาความถนัด
ความสามารถ ความต้องการ บุคลิกภาพ ความมุ่งหวังในชีวิตของตนเอง เพื่อรับรู้และเข้าใจในตนเองว่า
มีความต้องการแบบใด มีแนวทางในการศึกษาต่ออย่างไร อย่างไรก็ดีก็มีนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาช้ันปีที่ 6
อกี หลายคนท่ีไม่รู้จะวางแผนการเรียนอย่างไร มีความสับสนในตนเอง ไม่เขา้ ใจตนเองทาให้ไม่มีเปา้ หมายใน
การเรียนและการประกอบอาชีพ ด้วยเหตุน้ีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 จึงควรได้รับข้อมูลเกี่ยวการเรียน
และการประกอบอาชีพท่ีเป็นประโยชน์ เพ่ือค้นหาความถนัด ความสามารถ บุคลิกภาพ และสามารถ
หาแนวทางเปา้ หมายในการเรียนและการประกอบอาชพี ได้
โรงเรียนแก่งคอยได้ตระหนักถึงความสาคัญของการจัดกิจกรรมแนะแนว จึงได้จัดให้มีการเรียน
การสอนรายวิชาแนะแนว เพ่ือให้นักเรียนได้มีความรู้ สามารถตั้งเป้าหมายวางแผนการเรียนและ
การประกอบอาชีพในอนาคตและเพ่ือให้นักเรียนได้มีการตั้งเป้าหมายการวางแผนการเรียนต่อและการ
ประกอบอาชีพ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะทาการศึกษากิจกรรมแนะแนวเพื่อการตั้งเป้าหมายทางการเรียน
และอาชพี ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นแก่งคอย จงั หวดั สระบรุ ี
วัตถุประสงค์ของงานวิจยั
1. เพ่ือศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนวเพื่อการตั้งเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียน
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกง่ คอย จงั หวัดสระบุรี
2. เพ่ือเปรียบเทียบผลการต้ังเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียนท่ีก่อนและหลังการ
เข้าร่วมกจิ กรรมแนะแนว
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยครั้งน้ีผู้วิจัยมุ่งศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนวเพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ
ของนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562
ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง
ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง เป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6/1 จานวน 33 คน ภาคเรียนท่ี 1
ปกี ารศึกษา 2562 โรงเรยี นแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
กรอบแนวคดิ การต้งั เปา้ หมายการเรียนและอาชพี
ชุดกจิ กรรมแนะแนว เพ่ือการ
ตั้งเปา้ หมายทางการเรยี นและอาชีพ
-การกาหนดเป้าหมาย
-การวางแผนเป้าหมาย
-การปฏบิ ัตติ นตามแผนทีว่ างไว้
-การประเมนิ เพอื่ ให้ไดข้ ้อมูลย้อนกลับ
3
นิยามศพั ท์
กิจกรรมแนะแนวเพื่อตั้งเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพ หมายถึงโปรแกรมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
เพ่อื พัฒนาการต้ังเปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชีพ สาหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6
การตั้งเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพ หมายถึง การต้งั เป้าหมายในด้านการเรียนและเปา้ หมาย
ทางด้านอาชีพของนักเรียน เพื่อให้ประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ มีองค์ประกอบ 4 ด้าน
ดังนี้
. การกาหนดเป้าหมาย เป็นการกาหนดเพอื่ ให้ไดเ้ ป้าหมายทางการเรียนและอาชีพท่มี ีความเหมาะสม
กับระดับความสามารถของบุคคลรวมทั้งส่งผลให้บุคคลรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้กาหนดและรับผิดชอบในการ
ตัดสินใจ จึงส่งผลให้บุคคลนั้นยอมรับเป้าหมายและพยายามที่จะทาตามเป้าหมายให้สาเร็จ เพื่อบรรลุ
เป้าหมายที่ตัง้ ข้ึน โดยเปา้ หมายทีก่ าหนดควรมคี ณุ สมบัติ คือ มคี วามเฉพาะเจาะจง มคี วามท้าทาย
มีความใกล้เคียงกับความเปน็ จรงิ
การวางแผนปฏิบัติเป้าหมาย เป็นการศึกษาข้อมูลเพ่ือวางแผนในการปฏิบัติท่ีจะทาให้บุคคล
ไปถึงเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพท่ีกาหนดไว้ได้ โดยการวางแผนจะต้องมีการกาหนดระยะเวลา
ในการปฏบิ ตั ิไวอ้ ย่างชดั เจน ดงั น้ี
-เป้าหมายระยะส้ัน หมายถึง เป้าหมายท่ีสามารถทาให้บรรลุผลในเวลาอันรวดเร็วลักษณะ
ของเปา้ หมายระยะส้นั จงึ ไดร้ ับการแบ่งเป็นเป้าหมายยอ่ ยๆ ให้บคุ คลกระทาในช่วงเวลาสนั้ ๆ
- เป้าหมายระยะกลาง หมายถึง เป้าหมายท่ีสามารถทาให้บรรลุผลได้ในเวลาไมน่ านนักเป็น
ลักษณะของการตรวจสอบว่าท่ีผ่านมาเป้าหมายระยะส้ันน้ันประสบผลสาเร็จส่งผลให้เป้าหมายระยะกลาง
ประสบความสาเร็จหรอื ไม่
- เป้าหมายระยะยาว หมายถึง เป้าหมายซ่ึงมีระยะห่างของเวลาระหวา่ งปัจจุบันกับสง่ิ ทเี่ ป็น
เปา้ หมายในอนาคตมาก บุคคลจึงไมอ่ าจประสบผลสาเร็จไดใ้ นเวลาอันรวดเรว็ ลกั ษณะของเป้าหมายระยะยาว
เป็นการระบเุ ป้าหมายโดยภาพรวมตอนสดุ ท้ายให้บุคคลกระทา ซ่ึงเป้าหมายระยะยาวจะสาเร็จได้ตอ้ งเป็นการ
รวมผลสาเรจ็ ของเป้าหมายระยะสน้ั และเปา้ หมายระยะกลางเขา้ ไว้ด้วยกนั
การปฏิบัติตนตามเป้าหมาย เป็นการปฏิบัติตนตามแผนที่วางไว้ จะทาให้บุคคลเกิดความพยายาม
และความพากเพียรในการปฏิบัติตามแผนท่ีตนได้วางไว้ มีความอดทนในการฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาที่
เกิดขนึ้ มกี ารบรหิ ารเวลา รูจ้ กั วางแผนและจดั สรรเวลาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพอ่ื ใหส้ ามารถบรรลุเป้าหมาย
ทางการเรยี นและอาชพี ของตนเอง
การประเมินเพ่ือให้ได้ขอ้ มูลยอ้ นกลบั เป็นการไดร้ ับการรับข้อมูลย้อนกลับที่แสดงว่าบคุ คลประสบ
ความสาเร็จตามเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพท่ีกาหนดไว้หรือไม่ ถ้าบุคคลประสบความสาเร็ จตาม
เป้าหมายจะส่งผลให้บุคคลมีแนวโน้มท่ีจะเพ่ิมระดับเป้าหมายให้ท้าทายมากข้ึน ในทางตรงกันข้ามข้อมูล
ย้อนกลับที่ระบุถึงความล้มเหลวก็จะทาให้บุคคลมีแนวโน้มลดระดับของเป้าหมายลงได้ นอกจากนี้ข้อมูล
ป้อนกลบั ยงั ช่วยให้บุคคลตดั สินใจได้ว่าควรปรับปรุงการกระทาของตนหรือไม่
4
นักเรียน หมายถงึ นักเรียนทีศ่ กึ ษาอยใู่ นระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6/1 โรงเรียนแกง่ คอย ภาคเรียนที่1
ปีการศึกษา 2562
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รบั
1.ได้ชุดกจิ กรรมแนะแนวเพ่อื การต้ังเป้าหมายทางการเรยี นและอาชพี สาหรบั นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษา
ปที ่ี 6
2. ได้แนวทางในการสร้างชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อต้ังเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพสาหรับ
นกั เรยี นในระดบั ชั้นอ่นื ๆตอ่ ไป
5
บทที่ 2 ศึกษาทฤษฎี เอกสาร งานวิจัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง
ผูว้ ิจัยได้ศกึ ษาค้นควา้ เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวข้อง รวมท้งั ทฤษฏแี ละแนวคดิ ตา่ ง ๆ โดยจาแนก
ประเด็นการศกึ ษา ดังนี้
1. แนวคดิ ท่ีเกย่ี วกบั การต้งั เปา้ หมาย
2. แนวคิดที่เกย่ี วกับการแนะแนว
3. ประวตั โิ รงเรียนแกง่ คอย
4. งานวจิ ัยทีเ่ กีย่ วข้อง
แนวคิดทฤษฎที ี่เก่ียวข้องกบั การตั้งเป้าหมาย
Locke and Latham (1990) ให้ความหมายของการตั้งเปา้ หมายว่า การตั้งเป้าหมายเปน็ เทคนิคท่ีใช้
ในการจูงใจผู้ปฏิบัติงานให้เกิดความพยายามในการทางานเพ่ือให้บรรลุความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีบุคคล
ตอ้ งการ
แนวคดิ และทฤษฎที ่ีเก่ียวขอ้ งกับการต้งั เป้าหมาย
ทฤษฎีการตงั้ เปา้ หมาย (Goal setting theory)
Edwin A. Locke และ Gary P. Lathum เป็นผู้พัฒนาทฤษฎีนี้ขึ้นมา โดยปกติทุกคนที่มุ่ง
ทากิจกรรมใดๆต้องมีเป้าหมายในการกระทาน้ันๆและต้องใชค้ วามพยายามในการที่ปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมาย
สาระทส่ี าคัญของทฤษฎกี ารตง้ั เป้าหมายของ Locke and Lathum เปน็ ดังน้ี
1.การตัง้ เป้าหมายในปฏบิ ัติงานบรรลเุ ปา้ หมาย
2. ควรตั้งเป้าหมายเฉพาะอย่างใดอย่างหนึง่ ดีกว่าจะตง้ั เปา้ หมายทวั่ ๆไป
3. หาหนทางท่จี ะทาให้การปฏบิ ตั ิงาบรรลเุ ปา้ หมาย
4. การมีสว่ นรวมในการมกี าหนดเป้าหมายจะทาใหท้ ราบว่าต้องวางแผนปฏบิ ัติงานอย่างไรจึง
บรรลุเปา้ หมาย
5. เป้าหมายจะเปน็ ท่ียอมรยั และเชอ่ื ว่านาไปสคู่ วามสาเรจ็ ได้
6. ตง้ั รางวัลสาหรับความสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย
องคป์ ระกอบของกระบวนการตง้ั เปา้ หมาย
องค์ประกอบของกระบวนการตั้งเป้าหมาย Locke and Latham (1990) ได้อธิบายถึงหลักการ
ทางานของทฤษฎกี ารกาหนดเป้าหมายวา่ มีกระบวนการและองคป์ ระกอบทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การกาหนดเป้าหมายที่
ดคี อื
1. ทิศทางคือทิศทางความตั้งใจและการปฏิบัติการกาหนดเป้าหมายเป็นตัวกาหนดความต้ังใจของ
บุคคลให้ปฏบิ ตั ิตามเปา้ หมายทกี่ าหนด
2. ความเข้มข้นของงาน คือ การใช้พลังอย่างมีประสิทธิภาพขณะท่ีบุคคลตั้งใจและทาการเตรียมตัว
เพ่ือทากิจกรรมทกี่ าหนดนน้ั บคุ คลจะกาหนดพลังงานท่ีตนเองใชห้ รอื ทมุ่ เทให้กบั กิจกรรมนั้นได้อยา่ งเหมาะสม
6
และสามารถใช้พลังงานในแต่ละกิจกรรมแตกต่างกัน แบ่งเวลาและจังหวะของการใช้พลังงานให้พอดีกับ
กิจกรรมวา่ งช่วงต้นควรเปน็ อยา่ งไร ชว่ งกลางหรือชว่ งปลายควรเปน็ อยา่ งไร
3. ความเพียรพยายาม คือการกาหนดเป้าหมายของกิจกรรมนั้นจะส่งผลถึงความอดทนหรือความ
เพียรพยายามในการทากิจกรรมน้ันด้วย คนที่กาหนดเปา้ หมายไว้ล่วงหน้าจะมีความอดทนและเพียรพยายาม
ในการบรรลเุ ปา้ หมายไดย้ าวนานกวา่ คนทไ่ี มม่ ีการกาหนดเปา้ หมาย
4. การพฒั นากลยุทธใ์ นการพัฒนางาน คือ การพฒั นากลยุทธ์เพอ่ื แรงจูงใจ โดยมกี ารวางแผน
พัฒนากลวิธีใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้
ซึ่ง Locke and Latham ได้กาหนดองค์ประกอบท่ีจะทาให้การกาหนดเป้าหมายบรรลุตาม
วตั ถปุ ระสงคไ์ วด้ งั น้ี
1. ความสามารถของบุคคล ความสามารถของแต่ละบุคคลจะมีผลต่อการพัฒนา
ประสิทธิภาพของบุคคลนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป้าหมายของกิจกรรมถูกกาหนดไว้ใกล้เคียงหรือสูง
พอเหมาะกบั ความสามารถของผ้นู ั้น คณุ ภาพของงานจะเพิ่มขน้ึ
2. การทมุ่ เทมุ่งมั่นของบุคคล คอื บุคคลท่ีมุ่งม่ันทมุ่ เทตัวเอง เพยี รพยายามไปให้ถงึ เปา้ หมาย
ของตน
3. ความยากง่ายของเป้าหมาย การกาหนดเป้าหมายควรกาหนดให้ใกล้เคียงหรือยากกว่า
ความสามารถของบุคคลเล็กน้อย ไม่ควรยากหรือซับซ้อนมากเกินไปและไม่ควรงา่ ยเกินไปนอกจากน้ี Locke
and Latham ยังเสนอหลักการต้ังเป้าหมายทจ่ี ะทาใหบ้ ุคคลประสบผลสาเรจ็ คอื
1. การกาหนดเปา้ หมายทท่ี า้ ทายความสามารถของบคุ คล
2. การกาหนดเปา้ หมายทเี่ ฉพาะเจาะจง
3. การกาหนดเปา้ หมายทมี่ ีโอกาสประสบความสาเร็จหรอื ไปถึงเปา้ หมายนั้นได้
4. การกาหนดเป้าหมายควรกาหนดออกในเชิงปริมาณท่ีวัดได้ง่ายหรือเห็นได้ง่าย เพราะจะ
ทาให้การไปถึงเปา้ หมายน้นั ชัดเจน
5. การกาหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะกลางควรเป็นพ้ืนฐานหรือสอดคล้องกับการ
ต้งั เป้าหมายระยะยาวจากการศึกษาองค์ประกอบของกระบวนการต้ังเป้าหมาย ผู้วจิ ัยไดส้ รปุ องค์ประกอบของ
กระบวนการต้งั เป้าหมาย ดงั น้ี
1. การกาหนดเป้าหมาย เป็นการกาหนดเพื่อให้ได้เป้าหมายทางการเรียนและอาชีพท่ีมีความ
เหมาะสมกับระดับความสามารถของบุคคลรวมทั้งส่งผลให้บุคคลรสู้ ึกว่าตนเองเป็นผู้กาหนดและรบั ผิดชอบใน
การตัดสินใจ จึงส่งผลให้บุคคลนั้นยอมรับเป้าหมายและพยายามท่ีจะทาตามเป้าหมายให้สาเร็จ เพื่อบรรลุ
เป้าหมายที่ตงั้ ขนึ้ โดยเปา้ หมายที่กาหนดควรมีคุณสมบัติ ดังน้ี
1.1 มีความเฉพาะเจาะจง คือ เป็นเป้าหมายทางการเรียนและอ าชีพที่ชัดเจนไม่ควร
สลับซับซ้อนและเน้นถึงส่ิงที่เราต้องการให้เกิดข้ึน เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้เกิดแรงกระตุ้นและ
7
ช้ีแนะในการทาพฤติกรรม ซึ่งสง่ ผลต่อความพึงพอใจในตนเอง และการรบั รูค้ วามสามารถของตนเองและไดร้ ับ
ผลงานท่สี งู กวา่ การต้งั เป้าหมายโดยท่ัวๆไป
1.2 มีความท้าทาย เน่อื งจากระดับของเป้าหมายทางการเรียนและอาชพี มผี ลต่อปฏกิ ิรยิ าต่อ
ตนเองและความพยายามท่ีใช้ ดังน้ันเม่ือบุคคลประสบความสาเร็จตามเป้าหมายทีม่ ีความท้าทายบุคคลจะเกิด
ความพึงพอใจและพยายามมากข้นึ และถ้าเป้าหมายนนั้ มคี วามยากมากขึน้ ก็จะยิ่งเพิ่มความพยายามมากข้ึนใน
การทาให้ตนเองบรรลเุ ป้าหมายทางการศกึ ษาและอาชีพ
1.3 มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง คือ เป็นเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพท่ีมีความ
ใกล้เคียงกับระดับความสามารถที่บุคคลนั้นสามารถจะกระทาให้ประสบความสาเร็จได้ ซ่ึงจะส่งผลให้เห็นถึง
ความกา้ วหน้าในการกระทาตามเป้าหมายท่ีได้กาหนดไว้ ซึ่งมีผลต่อแรงจูงใจ คอื หากประสบความสาเร็จตาม
เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชพี ทตี ้ังไวจ้ ะทาให้เกิดความมุง่ มัน่ และมีความพยายามเพมิ่ ขึ้น
2. การวางแผนปฏิบัติเป้าหมาย เป็นการศึกษาข้อมลู เพ่ือวางแผนในการปฏิบตั ิที่จะทาให้บุคคลไปถึง
เป้าหมายทางการเรียนและอาชีพที่กาหนดไวไ้ ด้ โดยการวางแผนจะตอ้ งมีการกาหนดระยะเวลาในการปฏิบตั ไิ ว้
อย่างชัดเจน ดังนี้
2.1 เป้าหมายระยะสั้น หมายถึง เป้าหมายที่สามารถทาให้บรรลุผลในเวลาอันรวดเร็ว
ลักษณะของเป้าหมายระยะสนั้ จึงได้รบั การแบง่ เป็นเป้าหมายย่อยๆ ใหบ้ ุคคลกระทาในช่วงเวลาส้ัน ๆ
2.2 เป้าหมายระยะกลาง หมายถึง เป้าหมายที่สามารถทาให้บรรลุผลได้ในเวลาไม่นานนัก
เป็นลกั ษณะของการตรวจสอบว่าทผี่ ่านมาเป้าหมายระยะส้ันนั้นประสบผลสาเรจ็ สง่ ผลใหเ้ ป้าหมายระยะกลาง
ประสบความสาเร็จหรือไม่
2.3 เป้าหมายระยะยาว หมายถึง เป้าหมายซ่ึงมีระยะห่างของเวลาระหว่างปัจจุบันกับสิ่งท่ี
เปน็ เปา้ หมายในอนาคตมาก บุคคลจึงไม่อาจประสบผลสาเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว ลกั ษณะของเปา้ หมายระยะ
ยาวเปน็ การระบุเปา้ หมายโดยภาพรวมตอนสดุ ท้ายให้บคุ คลกระทา ซ่ึงเปา้ หมายระยะยาวจะสาเร็จไดต้ อ้ งเป็น
การรวมผลสาเรจ็ ของเป้าหมายระยะส้นั และเป้าหมายระยะกลางเขา้ ไว้ดว้ ยกัน
3. การมีปฏิบัติตนตามเป้าหมาย เป็นการปฏิบัติตนตามแผนท่ีวางไว้ จะทาให้บุคคลเกิดความ
พยายามและความพากเพียรในการปฏิบัติตามแผนท่ีตนได้วางไว้ มีความอดทนในการฝ่าฟันอุปสรรคและ
ปญั หาท่ีเกิดขึ้น มีการบรหิ ารเวลา รู้จักวางแผนและจัดสรรเวลาได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมเพ่ือให้สามารถบรรลุ
เปา้ หมายทางการศึกษาและอาชพี ของตนเอง
4. การประเมินเพ่ือให้ไดข้ อ้ มลู ย้อนกลบั เป็นการได้รับการประเมนิ และการรับข้อมลู ย้อนกลบั ท่ีแสดง
ว่าบุคคลประสบความสาเร็จตามเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพที่กาหนดไว้หรือไม่ ถ้าบุคคลประสบ
ความสาเรจ็ ตามเป้าหมายจะส่งผลให้บุคคลมีแนวโน้มที่จะเพ่ิมระดบั เป้าหมายใหท้ ้าทายมากขึ้น ในทางตรงกัน
ข้ามข้อมูลย้อนกลับท่ีระบุถึงความล้มเหลวก็จะทาใหบ้ ุคคลมีแนวโน้มลดระดับของเป้าหมายลงได้ นอกจากนี้
ขอ้ มูลปอ้ นกลบั ยงั ช่วยให้บุคคลตัดสนิ ใจได้ว่าควรปรับปรงุ การกระทาของตนหรอื ไม่
8
ความสาคญั ของการต้งั เป้าหมาย
Locke and Latham (1990) กล่าวว่าการต้ังเป้าหมายในการกระทาพฤติกรรมจะช่วยเพ่ิมแรงจูงใจ
ภายในของบุคคลแต่ละคน ทาให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเองท่ีทางานสาเร็จตามเป้าหมายที่กาหนด และมี
อทิ ธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรม และส่งผลตอ่ การทางานของบคุ คล ประกอบด้วย 4 ลักษณะ ดงั น้ี
1. การตัง้ เปา้ หมาย และการกาหนดทิศทางทาใหบ้ ุคคล หรอื นกั เรียนสามารถกาหนดทศิ ทาง
การกระทาได้สอดคลอ้ งกบั เป้าหมาย
2. ความพยายามจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลตั้งเป้าหมาย หรือกาหนดทิศทาง และจะเพิ่มข้ึน
ตามลาดับหากบคุ คลมีความต้องการอยา่ งมากทจ่ี ะบรรลเุ ป้าหมาย
3. ความคงทน หมายถึง ระดับความต้องการที่จะบรรลุเป้าหมาย และความพยายามของ
บุคคลที่เพมิ่ มากข้นึ เม่อื เวลาผา่ นไป
4. การพัฒนากลยุทธ์ หมายถึง การวางแผน และการจัดระบบการทางาน ซึ่งเป็น
ส่วนประกอบสาคัญท่ีบุคคลพัฒนาด้านทักษะ หรือการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ภายหลังจากที่บุคคล
ตั้งเปา้ หมายแล้ว
อิทธพิ ลของเปา้ หมายที่มผี ลต่อความสาเร็จในการศกึ ษาของนกั เรยี น
อิทธิพลของเป้าหมายท่ีมีผลต่อความสาเร็จในการศึกษาของนักเรียน Locke and Latham (1990)
ได้กล่าวไว้ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. เป้าหมายทาให้นกั เรียนต้องใชค้ วามพยายามและเพมิ่ ความพยายามมากขึ้น
2. เปา้ หมายกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมคี วามอดทนในการทากิจกรรมด้านการเรียนได้ดขี ้ึน
3. เปา้ หมายทาให้นักเรยี นมุ่งความสนใจไปท่ีกิจกรรมท่ีเก่ยี วข้องกบั เปา้ หมาย
4. เป้าหมายทาใหน้ กั เรียนนาความรหู้ รือทักษะทีม่ ีอยมู่ าใช้เพือ่ ความสาเร็จ
5. เป้าหมายจงู ใจใหน้ กั เรยี นค้นหายทุ ธวธิ ีและวางแผนในการศึกษาท่เี หมาะสม
6. เปา้ หมายช่วยเปน็ แนวทางในการเพ่ิมผลงานหรือคุณภาพในการศึกษาใหม้ ากขึ้น
7. เป้าหมายทาใหน้ กั เรียนทราบถึงคณุ ภาพในการทางานหรือการศึกษาของตน
8. เป้าหมายระดับสงู ทาให้นกั เรยี นเกดิ ความพึงพอใจในตนเองมากขึ้น
ผลทบี่ คุ คลไดร้ ับจาการกาหนดเปา้ หมาย
1. การกาหนดเปา้ หมายช่วยสร้างบรรยากาศใหก้ ารทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ดขี น้ึ
2. การกาหนดเปา้ หมายช่วยสร้างความเข้าใจในตนเอง เมือ่ ตอ้ งการให้ตนเองบรรลุเป้าหมาย
3. การกาหนดเป้าหมายช่วยทาให้เกิดความคิดท่ีจะพัฒนาตนเองมากขึ้น คือ เป็นคนท่ีมีกฎเกณฑ์
สามารถบงั คับตนเองได้
4. การกาหนดเป้าหมายช่วยทาใหท้ กุ คนมโี อกาสประสบผลสาเร็จ
9
แนวคิดท่เี กยี่ วกับการแนะแนว
ความหมายของงานแนะแนว
การแนะแนว หมายถึง กระบวนการช่วยเหลือบุคคลให้รู้จัก ยอมรับและเข้าใจตนเอง ตลอดจน
รจู้ ัก และเขา้ ใจผู้อื่นและสงิ่ แวดลอ้ ม ส่งเสริมให้เขาค้นพบและพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเหมาะสมตาม
ความแตกต่างระหว่างบุคคล มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม จริยธรรม มีทักษะการดาเนินชีวิต รู้จักคิด
ตัดสินใจ เลือกวธิ ที ี่จะเผชิญและแก้ปัญหาอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม สามารถวางแผนชีวิต วางแผนการศึกษา
ต่อและประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมกบั ตนเอง เป็นพลเมืองและพลโลกที่ดี สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได
อย่างมีความสขุ และเปน็ ประโยชน์
จดุ มุ่งหมายของการแนะแนว
จุดมุ่งหมายของการแนะแนว คือ ทาให้บุคคลพัฒนาด้วยตัวเองอย่างดีท่ีสุดท้ังทางด้านร่างกาย
สติปัญญา อารมณ์สังคม และจิตใจและช่วยให้บุคคลชว่ ยเหลือตัวเองได้ในทุกเรื่อง เรียนรู้ที่จะดารงอย่อู ย่างมี
ความสุข
การแนะแนวการศึกษา หมายถึง กระบวนการท่ีช่วยให้เราเข้าใจตนเองและสิ่งแวดล้อม สามารถ
แก้ปัญหาหรือตัดสินใจได้ถูกต้อง สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มความสามารถทุกด้าน และยังสามารถปรับตัว
และดาเนินชีวิตได้อย่างมีสุขอีกด้วยคะ สรุปได้ว่า การแนะแนวการศึกษาเป็นกระบวนการหน่ึงท่ีช่วยส่งเสริม
พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา ความสามารถ และความถนัดของแตล่ ะบุคคล
แนะแนวทางอาชีพ (Vocational Guidance) การแนะแนวทางอาชีพ เป็นกระบวนการของการให้
ความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับโลกของงานอาชีพ แนวทางและโอกาสของการประกอบอาชีพแต่ละอาชีพ การ
แนะแนวทางอาชีพ จะช่วยให้ผู้เรียน ผู้รับบริการรู้จักศึกษาโลกของงานอาชีพ รู้จักเตรียมตัวทางด้านอาชีพ
และชว่ ยให้ผู้เรียนหรอื ผู้รบั บรกิ ารเลือกงานอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง สามารถวางแผนการประกอบอาชพี ได้
ซง่ึ จะทาใหท้ างานอาชีพได้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามเป้าหมาย และมีความสุขกับการทางาน
ประวัตโิ รงเรียนแก่งคอย
ขอ้ มูลโรงเรยี นแก่งคอย
โรงเรียนแก่งคอยก่อตั้งเม่ือปีพ.ศ. 2494 โดยอาศัยวัดแก่งคอยเป็นสถานที่เรียนช่ัวคราว
และมีนายฉ่า ทองคา รักษาการในตาแหน่งครูใหญ่ ซึ่งต่อมาได้รับการบริจาคท่ีดินจานวน 6 ไร่
จากพระพายัพพิริยกิจให้เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียน โดยยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกรมวิสามัญศึกษาและก่อสร้าง
อาคารเรียนในปเี ดยี วกัน
ในปี พ.ศ. 2497 พระพายัพพิริยกิจไดย้ กท่ีดินจานวน 22 ไร่ 2 งาน บรเิ วณจดุ ตัดของถนนสุดบรรทัด
และถนนอุไรรัตน์ ซ่ึงเป็นที่ดินของพระพายัพพิริยกิจ รวมกับที่ดินท่ีได้รับการบริจาคจากประชาชน
และเงินบริจาคจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม จัดตั้งโรงเรียนและก่อสร้างอาคารเรียน โดยใช้ชื่อว่า
โรงเรียนแก่งคอยประชาศึกษา มีสถานะเป็นโรงเรียนราษฎร์ อยู่ในความอุปการะของสมาคมวัฒนธรรม
ฝ่ายหญงิ จงั หวดั สระบุรี
10
ในปี พ.ศ. 2509 จังหวดั สระบรุ แี ละกรมวิสามญั ศึกษาไดร้ วมกจิ การของโรงเรยี นแก่งคอยและโรงเรยี น
แก่งคอยประชาศึกษา และย้ายมายังสถานที่เรียนของโรงเรียนแก่งคอยประชาศึกษาและใช้ช่ือว่า โรงเรยี น
แกง่ คอย มสี ถานะเปน็ โรงเรยี นรฐั บาลและเปน็ โรงเรียนประจาอาเภอแก่งคอย
::: ความหมาย :::
1. มณฑปพระพุทธบาท - โรงเรยี นแก่งคอยอยูใ่ นจังหวัดสระบรุ ซี ่ึงมมี ณฑปพระพทุ ธบาทเปน็ สัญลักษณ์
2. หว่ งวงกลม - สัญลักษณ์สแี ห่งความสามคั คี ประกอบดว้ ย สีเหลือง สชี มพู สีเขียว สแี สด สฟี ้า
3. รัศมี - แสงสวา่ งแหง่ ปญั ญา
4. อกั ษร ก ค - อักษรยอ่ โรงเรียนแกง่ คอย
5. ลูกโลก – เป็นโรงเรียนทจี่ ัดหลกั สตู รเทยี บเคียงมาตรฐานสากล
พระพทุ ธรปู ประจาโรงเรยี นแก่งคอย ::: หลวงพ่ออุดมมงคล
11
เป้าประสงค์ เป็นโรงเรียนที่ยกระดับคุณภาพสู่มาตรฐานสากล จัดการศึกษาให้นักเรียนทุกคน
มศี กั ยภาพเป็นพลโลก
ปรชั ญาของโรงเรียน มองกวา้ ง คดิ ไกล ใฝด่ ี
วิสัยทัศน์โรงเรียนแก่งคอยเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตาม
วิถีไทย
พนั ธกิจ
1. บริหารจดั การตามระบบบรหิ ารคณุ ภาพ
2. จดั การเรียนการสอนตามมาตรฐานสากล โดยยึดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ส่งเสรมิ ศักยภาพนกั เรยี นใหเ้ ปน็ พลโลก
ปัจจุบันโรงเรียนแก่งคอย ถือเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษท่ีจัดการเรียนสอน
ตง้ั แตช่ ้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 มีนกั เรยี นจานวน 2,826 คน มผี ูอ้ านวยการคือ นายณฐั นันท์ ดนูพทิ ักษ์
เกยี รตปิ ระวตั ิ
พ.ศ. 2522 ไดร้ ับรางวลั โรงเรียนพระราชทานประจาปีการศกึ ษา 2522
พ.ศ. 2537 ไดร้ บั รางวลั โรงเรียนจัดบรรยากาศการเรียนรดู้ ีเด่น (โรงเรียนขนาดใหญ)่ ปกี ารศกึ ษา 2536
พ.ศ.2539 ไดร้ ับเกียรตบิ ัตร โรงเรียนจดั บรรยากาศการเรียนรูด้ ีเดน่ (โรงเรยี นขนาดใหญ)่
ปกี ารศึกษา 2538
พ.ศ.2538 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นไดร้ ับการคัดเลอื กเป็นห้องสมุดดีเด่นจังหวัดสระบรุ ี เขา้ ร่วมโครงการ
โรงเรียนปฏิรูปการศึกษา
พ.ศ.2550 ได้รับการยอมรบั วา่ เป็นโรงเรียนยอดนิยม จากสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน
พ.ศ.2553 ได้รบั การคัดเลือกเปน็ โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
พ.ศ. 2555 ไดร้ บั เกยี รตบิ ัตร สถานศกึ ษาพอเพียงทเ่ี ป็นแบบอย่างการจดั กระบวนการเรยี นการสอน และ
การบรหิ ารจดั การตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
พ.ศ. 2556 สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดาเนนิ มา ทรงเปดิ อาคารเรยี น
“เฉลมิ พระเกยี รติ ๗ รอบพระชนมพรรษา” เมอ่ื วนั ที่ 20 มิถุนายน 2556
พ.ศ. 2557 นางสาวจงจิตร ชมภผู ล ผูอ้ านวยการโรงเรียนแกง่ คอย ได้รับรางวัลผู้บรหิ ารสถานศึกษา
ต้นแบบ “การจดั ส่งิ แวดล้อมไดอ้ ยา่ งเหมาะสมทเี่ อื้อต่อการเรียนรู้” ดีเด่นระดบั ภาค
จากสมาคมผ้บู รหิ ารโรงเรียน มัธยมศกึ ษาแห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2558 ได้รับรางวัล โรงเรยี นสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ดีเดน่ จาก กระทรวงศกึ ษาธิการ
รางวัล โรงเรยี นสขี าว ในระดับดี จาก ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
พ.ศ. 2559 รางวลั การบรหิ ารจดั การดว้ ยระบบคุณภาพตามเกณฑ์รางวลั SCQA โรงเรียนมาตรฐานสากล
จาก สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
พ.ศ. 2560 ทลู กระหมอ่ มหญิงอุบลรตั น์ราชกญั ญา สิริวฒั นาพรรณวดี เสด็จเปดิ ศูนย์ TO BE NUMBER
ONE วันท่ี 8 กรกฎาคม 2560
12
งานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
ปวีณา ยอดสิน (2551) ได้ศกึ ษาผลของการใช้โปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎี
การตดั สินใจของเกแลตตต์ ่อการพัฒนาการตัดสนิ ใจเลอื กศึกษาต่อและอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาจังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1) เพ่ือศึกษาผลของการใช้โปรแกรมการแนะ
แนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์ต่อการพัฒนาการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อและ
อาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ก่อนและหลงั การเข้าร่วมโปรแกรมการแนะแนวการศกึ ษาและอาชีพ
ตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์ 2) เพื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อและอาชีพของนักเรียน
กลุ่มที่ได้เข้าร่วมโปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์กับนักเรียน
กลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมโปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์ 3) เพื่อ
ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนท่ีมีต่อการเขา้ ร่วมโปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการ
ตัดสินใจของเกแลตต์ กลุ่มตัวอย่างคอื นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนวัดไร่ขิงวทิ ยาจงั หวัดนครปฐมปี
การศึกษา 2551 จานวน 80 คนเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวิจยั ได้แก่ 1) โปรแกรมการแนะแนวการศกึ ษาและอาชีพ
ตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์ 2) มาตรวัดการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อและอาชีพ 3) แบบบันทึก
ประสบการณ์การเรยี นรู้และความคิดเห็นของนักเรยี นที่มีต่อการเข้าร่วมโปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและ
อาชีพตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตต์ในแต่ละคร้ัง 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนท่ีมีต่อ
โปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการตัดสินใจของเกแลตตแ์ ละต่อผู้วิจัยเมื่อเสร็จสนิ้ การ
ทดลองโปรแกรมทั้ง 16 ครั้งผลการวจิ ัยสรุปได้ดงั นี้ (1) ภายหลงั การทดลองนักเรยี นกลุ่มทดลองมีคะแนนจาก
มาตรวัดการตดั สนิ ใจเลอื กศึกษาตอ่ และอาชพี สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดบั .05 (2)
ภายหลังการทดลองนักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนจากมาตรวัดการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อและอาชีพสูงกว่า
นักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสาคัญท่ีระดับ .05 (3) นักเรียนกลุ่มทดลองมีความคิดเห็นว่าการเข้าร่วม
โปรแกรมการแนะแนวการศึกษาและอาชีพตามทฤษฎีการตดั สินใจของเกแลตตช์ ่วยให้นักเรยี นเข้าใจตนเองใน
ด้านต่างๆคือความสนใจความสามารถทักษะความเช่ือและบุคลิกภาพทาใหน้ ักเรียนกาหนดเป้าหมายทางการ
ศกึ ษาต่อและอาชพี ท่ีเหมาะสมรวมทง้ั พฒั นาทกั ษะในการคน้ คว้าข้อมูลเกยี่ วกบั การศึกษาและอาชีพซ่ึงสง่ ผลให้
นักเรียนมีแนวทางในการตัดสินใจและมีความมั่นใจในการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อและประกอบอาชีพที่
เหมาะสม
นาฏศิลป์ คชประเสริฐ 2557: ผลของโปรแกรมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการตั้งเป้าหมายทาง
การศึกษาและอาชีพ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นหนั คาพิทยา จงั หวัดชยั นาท
การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือศึกษาผลของโปรแกรมกิจกรรมแนะแนว เพ่ือการตั้งเป้าหมาย
ทางการศึกษาและอาชีพของนกั เรียนมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นหนั คาพิทยา จังหวัดชัยนาท ก่อนและหลงั เข้า
โปรแกรมกิจกรรมแนะแนว ฯ 2)เพ่ือเปรียบเทียบผลการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพของนักเรียนที่
เข้าร่วมโปรแกรมกิจกรรมแนะแนวฯ และนักเรยี นที่ไม่ไดเ้ ข้าร่วมโปรแกรมกิจกรรมแนะแนวฯ การวิจัยคร้ังน้ี
เป็นการวิจยั กึ่งทดลอง ประชากร คือ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4โรงเรียนหันคาพิทยา จังหวัดชัยนาท ภาค
13
เรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จานวน 184 คนผู้วิจัยให้นักเรียนทาแบบวัดการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชพี จานวน 162 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 88 จากการคัดเลอื กหอ้ งโดยการสมุ่ จากห้องทีม่ คี ะแนนจากแบบวดั การ
ต้งั เป้าหมาย ทางการศึกษาและอาชีพท่ีแตกต่างกนั 2 ห้องเรยี นแลว้ สุ่มแบบกลุ่มให้ห้องหน่ึงกลุ่มทดลองและ
อกี หอ้ งหน่ึงเปน็ กลุม่ ควบคุม นักเรียนกลุ่มทดลองเข้าร่วมกิจกรรม 12 ครั้ง ครั้งละ 50 นาที เครื่องมือท่ีใช้ใน
การวจิ ัย คอื โปรแกรมกิจกรรมแนะแนว เพอ่ื การตงั้ เป้าหมายทางการศกึ ษาและอาชพี แบบวัดการตัง้ เป้าหมาย
ทางการศึกษาและอาชีพ แบบบันทึกการเรียนรู้ของนักเรียน เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมแต่ละคร้ัง แบบสอบถาม
ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อโปรแกรมกิจกรรมแนะแนวฯ และต่อผู้วจิ ัยวเิ คราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลยี่ ค่า
เบ่ยี งเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าสถิติ Paired-Sample t-test และ Independent- Sample t-test
ผลการวิจัยพบว่า 1) ภายหลังการทดลองนักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนจากแบบวัดการต้ังเป้าหมาย
ทางการศึกษาและอาชีพสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมแนะแนวฯ อย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 2)
ภายหลังการทดลองนักเรียนกลมุ่ ทดลองมีคะแนนจากการวัดการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพสูงกว่า
นกั เรยี นกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิท่ีระดับ .05 3) นักเรียนกลุ่มทดลองมีความเห็นวา่ การเข้าร่วม
โปรแกรมแนะแนวฯ ช่วยให้นกั เรยี นมกี ารพฒั นาการตัง้ เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชีพ
14
บทที่ 3 วธิ ีการวิจัย
ในการศึกษาวิจัยเร่ืองการศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อการต้ังเป้าหมายทางการเรียน
และอาชพี ของนักเรียนมัธยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนแกง่ คอย จงั หวัดสระบุรี ไดด้ าเนนิ การสร้างและหาคุณภาพ
แบบวดั การตัง้ เปา้ หมายทางการเรยี นและอาชพี มีรายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี
1. ศึกษารายละเอียดเอกสาร งานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั การตงั้ เป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพ
2. กาหนดนิยามการปฏิบตั ิการ
3. สร้างเครื่องมือตามนิยามปฏิบัติการที่กาหนด ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ การกาหนดเป้าหมาย
การวางแผนปฏบิ ตั เิ ป้าหมาย การปฏิบัติตนตามแผนที่วางไว้ และการประเมินเพื่อใหไ้ ด้ข้อมลู ย้อนกลับ โดย
ได้พฒั นาเครอ่ื งมือมาจากมาตรวัดการตัง้ เป้าหมายทางการศึกษาและอาชพี ของนาฏศิลป์ คชประเสรฐิ (2557)
กับแนวคิดการตั้งเป้าหมายของ Locke and Latham (1990) มีจานวนท้ังส้ิน 20 ข้อ โดยลักษณะเป็นข้อ
คาถามประเภทมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) ชนิด 5 อันดับ มีตัวเลือกตามความรู้สึก ความคิดเห็น
และการกระทาของนักเรียน โดยมคี ะแนนตั้งแต่ 1-5 คะแนน
4.นาเครื่องมือท่ีสร้างข้ึนไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จานวน 3 ท่าน ตรวจสอบความตรง IOC (Index of
Item Objective Congruence)
5.นาเคร่ืองมือมาแก้ไขตามคาแนะนาของผู้เชียวชาญแล้วหาค่าอานาจจาแนกรายข้อ โดยใช้การ
วิเคราะห์หาค่าความสัมพันธร์ ะหวา่ งคะแนนรายขอ้ กับคะแนนรวม (Item-totalCorrelation) และหาค่าความ
เทย่ี ง (Reliability) โดยวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์ความสอดคล้องภายใน โดยใชส้ ูตรสมั ประสิทธิ์แอลฟา (Alpha
Coefficient) ของครอนบัค (Cronbach’ Alpha Reliability Coefficients) กับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6
โรงเรยี นแกง่ คอย จังหวดั สระบรุ ี จานวน 36 คน ไดค้ ่าความเท่ียงเทา่ กับ 0.925
เกณฑก์ ารตรวจให้คะแนนและการประเมินผล
แบบวัดการตั้งเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพมีเกณฑ์การให้คะแนนแบบวัดเป็นรายข้อโดยมีช่วง
คะแนนต้ังแต่ 1-5 คะแนน ซ่งึ ให้คะแนนรายขอ้ ตามความมากน้อยของระดับความรู้สกึ ความคิดเหน็ และการ
กระทาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 โดยมีช่วงคะแนนต้ังแต่ 1-5 คะแนน โดยมีรายละเอียดของ
ระดับคะแนนและความหมายของแตล่ ะมาตรวดั ดังนี้
5 คะแนน หมายถงึ ข้อความน้นั ตรงกบั ความเป็นจริงมากท่ีสดุ
4 คะแนน หมายถึง ข้อความนัน้ คอ่ นข้างตรงกบั ความเป็นจรงิ
3 คะแนน หมายถึง ขอ้ ความนัน้ ไมแ่ น่ใจว่าตรงกับความเปน็ จริง
2 คะแนน หมายถึง ข้อความนัน้ ไมค่ ่อยตรงกับความเปน็ จรงิ
1 คะแนน หมายถงึ ขอ้ ความนัน้ ไมต่ รงกับความเป็นจริง
15
เกณฑ์การแปลผล
1-1.7 คะแนน หมายถงึ นกั เรยี นมคี วามคดิ เหน็ อยใู่ นระดับน้อยทีส่ ดุ
1.8-2.5 คะแนน หมายถึง นกั เรยี นมีความคิดเห็นอยใู่ นระดับน้อย
2.6-3.3 คะแนน หมายถงึ นักเรยี นมคี วามคดิ เห็นอยใู่ นระดบั ปานกลาง
3.4-4.1 คะแนน หมายถงึ นกั เรยี นมคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับมาก
4.2-5.0 คะแนน หมายถึง นกั เรยี นมีความคิดเหน็ อยใู่ นระดบั มากท่สี ุด
การดาเนินการทดลอง
เพื่อศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนว เพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพของนักเรียน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรยี นแก่งคอย จังหวดั สระบุรี โดยดาเนินการทดลองดังนี้
1. ให้นักเรียนทาแบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว
เพ่ือการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ โดยผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากการท่ีนักเรียนทาแบบวัดการ
ตงั้ เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชีพทง้ั ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
3. ผู้วิจัยดาเนินการนากิจกรรมแนะแนวเพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพด้วยตนเอง
โดยดาเนินการกับนักเรียนกลุ่มในคาบวิชาแนะแนว ผู้วิจัยเร่ิมทดลองต้ังแต่วันท่ี 6 กรกฎาคม 2562
ถงึ วนั ที่ 7 กันยายน 2562 ครั้งละ 50 นาที
4. ให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ และทาแบบ
บันทกึ การเรียนรเู้ ม่อื เสร็จสิ้นการทดลองกจิ กรรม ฯ ในแตล่ ะคร้ังเพือ่ ผวู้ จิ ยั จะไดน้ ามาสรปุ เนือ้ หา และทราบถึง
สิ่งทนี่ ักเรยี นไดร้ ู้ในแตล่ ะครั้ง
5. นาแบบวัดการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพซ่งึ เป็นเคร่ืองมือทใ่ี ช้วัดก่อนการทดลอง มาวัด
กบั นักเรยี นภายหลังการทดลอง (Post-test)
6. นาคะแนนจากแบบวดั การตงั้ เปา้ หมายทางการศึกษาและอาชีพของนักเรียนมาวิเคราะหด์ ้วยวิธีการ
ทางสถิติ
7. นาข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มมาสรุปเน้ือหาและสรุปข้อเสนอแนะจาก
การเขา้ ร่วมกจิ กรรม ฯ
16
การวเิ คราะหข์ ้อมูล
1.ใชส้ ถิติพ้นื ฐานในการวิเคราะหข์ อ้ มลู
1.1.หาค่าเฉล่ีย (Mean) และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) ของคะแนนจาก
แบบวดั การต้งั เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชีพของนกั เรียน กอ่ นและหลงั การทดลอง
1.2 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากแบบวัดการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ
ก่อนและหลงั ทากิจกรรมของนกั เรียนโดยใช้ t-test
17
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
การวิจัยคร้ังน้ีเป็นการศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนว เพ่ือการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ
ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มีการวดั ตัวแปรตามก่อนทดลองและหลัง
ทดลอง วัดตัวแปรตาม คือ การต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ ก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมแนะ
แนว เพ่ือการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพระยะเวลาในการทดลอง ต้ังแต่วันท่ี 6 กรกฎาคม 2562
ถึงวันท่ี 7 กันยายน 2562 คร้ังละ 50 นาที ผลการวิจัยจะนาเสนอในรูปตารางและวิเคราะห์เน้ือหาโดย
นาเสนอเปน็ 3 ตอน ดังนี้
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ร้อยละ
ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 48.48
ตารางที่ 1 จานวนและรอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถาม 51.52
100
เพศ จานวน
ชาย 16
หญิง 17
รวม 33
จากตารางท่ี 1 พบว่าผู้ทาแบบสอบถามเป็นเพศหญิงมากทสี่ ุด จานวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 51.52
เปน็ เพศชาย จานวน 16 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 48.48
ตอนท่ี 2 ค่าเฉลี่ย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานของคะแนนจากแบบวัดการต้ังเป้าหมายทาง
การศึกษาและอาชีพก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพ่ือการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชีพของนักเรียนกลุม่ ทดลอง
ตารางที่ 2 แสดงคะแนนค่าเฉลี่ยและค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานของคะแนนจากแบบวัดการตั้งเป้าหมาย
ทางการศึกษาและอาชีพก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชพี ของนักเรียนกลุ่มทดลอง
กลุ่มทดลอง คะแนนจากแบบวัดการตัง้ เป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ
(n = 33)
กอ่ นการทดลอง หลงั การทดลอง
ค่าเฉลีย่
ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 3.68 4.31
0.20 0.23
จากตารางท่ี 2 พบว่า ภายหลงั การเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชีพ นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนจากแบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพมีค่าเฉล่ียและค่า
เบ่ยี งเบนมาตรฐานกอ่ นและหลงั การทดลองเท่ากับ 3.75 และ 0.32,4.31และ 0.23 ตามลาดบั
18
ตอนท่ี 3 เปรียบเทียบคะแนนจากแบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพก่อนและหลัง
การเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพื่อ การตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ ของนักเรียนกลุ่มทดลอง
และผลการทดสอบสมมตฐิ าน
ตารางที่ 3 การเปรียบเทียบคะแนนจากแบบวัดการตง้ั เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชพี ของนกั เรยี น
กลุ่มทดลองก่อนและหลงั การทดลอง โดยการทดสอบแบบจบั คูด่ ว้ ยสถติ ิทดสอบที ( t-test)
Mean S.D. ค่าเฉล่ียของผลตา่ ง S.D. t df Sig
คา่ เฉลยี่ ผลตา่ ง 11.541 * 32 1 tailed
ก่อนเรียน 73.58 4.055 12.61 6.275 0.000
หลงั เรียน 86.18 4.572
จากตารางที่ 3 พบว่า ภายหลงั การเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพอ่ื การตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชีพ นักเรียนมีคะแนนจากแบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ สูงกวา่ ก่อนการทดลองอย่างมี
นยั สาคัญทางสถติ ทิ ่ี ระดบั .05
จึงสรุปได้ว่าโปรแกรมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ สามารถ
พัฒนาการตัง้ เปา้ หมายทางการศกึ ษาและอาชพี ของนกั เรียนกล่มุ ทดลองไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
19
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ
การวิจัยคร้ังนี้ ผู้วจิ ยั ไดส้ รปุ ผลการวจิ ัย อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ ดังน้ี
วตั ถปุ ระสงคข์ องงานวิจัย
1. เพ่ือศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนวเพื่อการต้ังเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียน
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนแกง่ คอย จังหวัดสระบรุ ี
2. เพื่อเปรียบเทียบผลการตั้งเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียนท่ีก่อนและหลังการ
เขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยคร้ังนี้ผู้วิจัยมุ่งศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนวเพ่ือการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ
ของนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนแก่งคอย จงั หวดั สระบรุ ี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562
ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6/1 จานวน 33 คน ภาคเรียนท่ี 1
ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนแกง่ คอย จังหวัดสระบุรี
สรปุ ผลการวิจยั
1. กิจกรรมแนะแนว เพือ่ การตั้งเป้าหมายทางการศกึ ษาและอาชพี เม่ือนามาใช้กับนักเรียนทีเ่ ข้ารว่ ม
กิจกรรมแนะแนวเพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ มีคะแนนจากแบบวัดการตั้งเป้าหมายทาง
การศึกษาและอาชพี ภายหลังการทดลองสูงกว่ากอ่ นการทดลอง อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั .05
2. . นักเรียนทีเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรมแนะแนว เพ่ือการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชพี มีความคิดเห็น
ที่สอดคล้องกันวา่ ภายหลังการเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว เพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ ทาให้
นักเรียนได้เรียนรู้ เข้าใจ และตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ และชว่ ยให้
นักเรียนพัฒนาตนเองในด้านการตั้งเป้าหมายการวางแผน และการมีวินัยในการปฏิบัติตามแผน ซ่ึงส่งผลให้
นักเรียนประสบผลสาเร็จตามที่ตงั้ ใจและดาเนนิ ชวี ิตได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
อภิปรายผลการวจิ ยั
นัก เรียน ที่เข้าร่ว มกิจก ร รม แน ะ แน ว เพื่อ ก าร ตั้ง เป้าห มายท าง ก ารศึก ษ าและ อ าชีพ
มี ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ที่ สอดคล้องกันว่าภายหลังการเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวเพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษา
และอาชีพ ทาให้นักเรียนได้เรียนรู้ เข้าใจ และตระหนักถงึ ความสาคัญของการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชีพ และช่วยให้นักเรียนพัฒนาตนเองในด้านการต้ังเป้าหมายการวางแผนและการมีวินัยในการปฏิบัติตาม
แผนซ่ึงส่งผลให้นัก เรียน ประสบผลสาเร็จตามที่ต้ังใจและดาเนิน ชีวิตได้อ ย่างมีประสิทธิภาพ
ขอ้ เสนอแนะ
จากการศึกษาผลของกิจกรรมแนะแนว เพื่อการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี พบว่ากิจกรรมแนะแนว ฯ สามารถพัฒนาการ
ตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้จึงควรส่งเสริมให้นากิจกรรม
แนะแนว เพื่อการตั้งเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพไปใช้เพื่อพัฒนาการต้ังเป้าหมายทางการศึกษาและ
อาชีพต่อไป ซึ่งการนากิจกรรมไปใช้อาจปรับเปล่ียนกิจกรรมการเรียนรู้ตามความเหมาะสมกับอายุและ
ประสบการณ์ของนักเรยี น
20
ภาคผนวก
กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2555. แผนการจดั กจิ กรรมแนะแนว ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
พุทธศกั ราช 2551. สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ.
คมเพชร ฉัตรศุภกุล. 2541. “กระบวนการแนะแนวอาชพี จะชว่ ยให้เกดิ ความสมดุลในตลาดแรงงานได้
อยา่ งไร.” จดั หางานปริทศั น 1 (2): 16-18.
นันทา สู้รักษา. 2548. เอกสารประกอบการสอน รายวิชารปู แบบชวี ิตและการให้คาปรึกษาอาชีพ.
ภาควิชาการแนะแนวและจิตวทิ ยาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ.
นวลศริ ิ เปาโรหติ ย์. 2544. พัฒนาการทางอาชีพ. พิมพค์ ร้งั ท่ี 6. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัย
รามคาแหง
ปวณี า ยอดสนิ . 2551. ผลของการใชโ้ ปรแกรมการแนะแนวการศกึ ษาและอาชพี ตามทฤษฎีการตัดสินใจ
ของเกแลตต์ตอ่ การพัฒนาการตดั สินใจเลอื กศึกษาตอ่ และอาชีพของนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3
โรงเรยี นวดั ไร่ขงิ วทิ ยา จงั หวัดนครปฐม. วิทยานิพนธศ์ ลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจติ วิทยา
การศกึ ษาและการแนะแนว, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พาสนา นยิ มบัตรเจริญ. 2551. ผลของโปรแกรมกจิ กรรมกลุ่ม เพ่อื พฒั นาการต้ังเป้าหมายทางการศกึ ษาและ
อาชีพของนกั เรียนระดับช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรยี นโพธิสารพิทยากร.วิทยานิพนธ์
ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าจิตวทิ ยาการศึกษาและการแนะแนว,มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.
นาฏศลิ ป์ คชประเสริฐ.2557.ผลการใช้โปรแกรมแนะแนว เพ่ือการตัง้ เป้าหมายทางการศกึ ษาและอาชพี
ของนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรยี นหนั คาพิทยาคม จงั หวดั ชยั นาท
21
ภาคผนวก
22
ค่าเฉลย่ี และค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
ข้อท่ี Mean S.D. แปลผล
1 4.48 0.71 มาก
2 4.55 0.56 มากที่สดุ
3 4.42 0.71 มาก
4 4.42 0.71 มาก
5 4.55 0.56 มากท่ีสดุ
6 4.39 0.50 มาก
7 4.27 0.63 มาก
8 4.24 0.61 มาก
9 4.45 0.62 มาก
10 4.30 0.59 มาก
11 4.36 0.55 มาก
12 4.39 0.70 มาก
13 4.00 0.43 มาก
14 4.18 0.53 มาก
15 4.12 0.60 มาก
16 4.15 0.57 มาก
17 4.21 0.65 มาก
18 4.09 0.52 มาก
19 4.27 0.52 มาก
20 4.30 0.81 มาก
23
Pair 1 ค่า T df Sig.
ก่อนเรียน กบั หลงั เรียน 32 (2-tailed)
t-table = 2.0369 Paired Samples Statistics
Paired Difference 0.000
95%
Confidence
Std. Interval of the
Std. Error Difference
Mean Deviation Mean Lower Upper t
12.61 6.275 1.092 10.381 14.831 11.541
24
ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่ือการตัง้ เป้าหมายทางการเรียนและอาชีพ
ของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ครัง้ ที่ 1
ชอ่ื กิจกรรม ปฐมนิเทศ
จุดม่งุ หมาย
กลมุ่ เป้าหมาย นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
ระยะเวลาทีใ่ ชจ้ ดั กจิ กรรม 50 นาที
สื่อประกอบกิจกรรม
1.แบบวัดการตั้งเปา้ หมายทางการเรยี นและอาชพี
ข้ันตอนการดาเนินกจิ กรรม
ขน้ั นาเขา้ สกู่ ิจกรรม
-ครูกลา่ วตอ้ นรบั นกั เรยี น
-ครูแนะนาตนเองให้นกั เรยี นร้จู ักโดยบอกช่อื – นามสกลุ และให้นกั เรียนแนะนาตนเองโดยบอกชอื่
นามสกุล ช่ือเลน่ ทอี่ ยู่ ทลี ะคน
-ครูอธิบายวัตถุประสงคข์ องการทากิจกรรมแนะแนวเพ่อื การตั้งเปา้ หมายทางการเรยี นและอาชพี ให้
นักเรียน
ขน้ั ดาเนินการ
-ครูแจกแบบวดั การตงั้ เปา้ หมายทางการเรียนและอาชพี ให้กับนักเรยี นพรอ้ มทั้งอธบิ ายวธิ กี ารทา
ขั้นสรุป
-ครูสรปุ ความรู้เพมิ่ เติมให้กับนักเรียนในเรอื่ งของการตง้ั เปา้ หมายทางการเรยี นและอาชพี
ข้นั ประเมนิ ผล
1. ตรวจใบงาน เชน่ ตรวจความถกู ต้อง ครบถ้วนสมบรู ณ์ ความเรยี บรอ้ ยของใบงาน
2.สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เชน่ ความสนใจในการฟงั การซักถาม การตอบคาถามและการร่วม
อภปิ ราย
3.สังเกตการทากจิ กรรม
25
แบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
โรงเรียนแก่งคอย
คาชี้แจง แบบวัดการต้ังเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพฉบับน้ี จัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็นเครื่องมือใน
การวิจัยเก่ียวกับการต้ังเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ผู้วิจัยขอความ
รว่ มมือนักเรียนตอบแบบวัดฯ ตามความเป็นจรงิ โดยผู้วิจัยจะนาผลท่ีได้มาวเิ คราะห์เพื่อเสนอผลการประเมิน
การตง้ั เปา้ หมายของนกั เรียนในภาพรวมเทา่ น้ัน
ขอให้นักเรียนพิจารณาข้อความแต่ละข้อ แล้วใส่เครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความรู้สึก ความ
คดิ เห็นและการกระทาทแี่ ท้จริงของนักเรียนมากท่ีสุด
เปน็ จริงมากท่ีสดุ หมายถึง ขอ้ ความนั้นตรงกบั ความเปน็ จริงมากที่สุด
เปน็ จริงมาก หมายถึง ขอ้ ความน้ันคอ่ นขา้ งตรงกับความเปน็ จริง
เป็นจริงปานกลาง หมายถึง ไมแ่ นใ่ จวา่ ข้อความนั้นตรงกับความเปน็ จรงิ
เปน็ จรงิ นอ้ ย หมายถึง ข้อความนั้นไม่ค่อยตรงกบั ความเป็นจริง
เปน็ จรงิ นอ้ ยท่ีสดุ หมายถงึ ข้อความน้ันไม่ตรงกับความเป็นจรงิ
ข้อ รายการประเมิน เปน็ ระดับความคิดเหน็ เป็นจริงนอ้ ย
จริง ท่ีสุด
การกาหนดเป้าหมาย มาก เปน็ จริง เปน็ จรงิ เป็นจรงิ
1 ฉนั มีเปา้ หมายชัดเจนในการ ที่สุด มาก ปาน น้อย
เรยี นตอ่ และอาชีพ กลาง
2 ฉนั มีข้อมูลอาชีพท่ีสนใจเพ่อื
ประกอบการการตดั สนิ ใจการ
เลือกเป้าหมาย
3 เมอ่ื ฉนั ตั้งเปา้ หมายไว้ ฉันจะ
สามารถปฏิบตั ิตามเป้าหมาย
ทต่ี ัง้ ไว้
4 ฉนั ตั้งเปา้ หมายทางการเรยี น
และอาชีพไดต้ รงกบั ความถนดั
และความสามารถของฉัน
การวางแผนปฏบิ ัตเิ ป้าหมาย
5 ฉนั วางแผนการพฒั นาตนเพื่อ
ไปสูก่ ารเรียนและเปา้ หมาย
อาชีพในอนาคตไว้
26
ข้อ รายการประเมิน ระดับความคดิ เห็น
เป็น เป็นจรงิ เป็นจรงิ เป็นจรงิ เปน็ จริงน้อย
จริง มาก ปาน น้อย ทส่ี ุด
มาก กลาง
ทสี่ ุด
6 ฉันคดิ วา่ การวางแผนจะช่วย
ให้ฉนั ประสบความสาเรจ็ ตาม
เป้าหมายในการเรยี นและ
อาชีพ
7 ฉันมีการวางแผนวา่ เม่ือจบ
ม.ปลาย ฉนั จะเข้าเรยี นใน
สาขา/คณะทฉ่ี นั สนใจ เพ่ือ
ไปสูเ่ ปา้ หมายในอาชีพทฉ่ี ันต้ัง
ไว้
8 ฉนั มีการวางแผนที่ชัดเจนเพ่ือ
นาไปสเู่ ปา้ หมายตามทีฉ่ ันตัง้
ไว้
9 ฉันเรม่ิ วางแผนระยะยาวเพ่ือ
กาหนดแนวทางการปฏบิ ตั ิตน
ไปสู่เปา้ หมายทางการเรียน
และอาชีพอนาคต
การปฏบิ ตั ิตนตามแผนทีว่ างไว้
10 ฉนั มวี ินัยในการปฏบิ ตั ติ นตาม
แผนเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายท่ี
วางไว้
11 ฉนั สามารถจดั อันดับ
ความสาคัญในการปฏิบตั ิตน
ตามแผนทวี่ างไว้เพ่อื ให้บรรลุ
เป้าหมายที่ต้ังไวไ้ ด้
12 ฉันสามารถทาสิ่งที่ได้รับ
มอบหมายได้สาเร็จ
13 ฉันปฏิบัติตามแผนทีว่ างไว้
เพือ่ ใหบ้ รรลุเป้าหมายของฉนั
14 เม่ือเกดิ ปัญหาฉันสามารถ
แกไ้ ขปัญหาเพ่ือใหก้ าร
ดาเนนิ งานเปน็ ไปตามแผน
เพอื่ ให้บรรลุเป้าหมายตามท่ี
27
ขอ้ รายการประเมนิ เปน็ ระดับความคดิ เห็น เป็นจรงิ นอ้ ย
จรงิ ทสี่ ดุ
ฉนั ได้ตง้ั ไว้ มาก เปน็ จริง เป็นจรงิ เป็นจริง
การประเมนิ และการไดข้ ้อมูล ที่สดุ มาก ปาน น้อย
ยอ้ นกลบั
15 ฉนั ได้ขอ้ มูลย้อนกลับทาให้ฉนั กลาง
ทราบวา่ ควรปฏบิ ัติตนอย่างไร
เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมาย
16 ฉนั ไดข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั ทาใหฉ้ นั
มแี นวทางในการพัฒนาตนเอง
ใหส้ อดคล้องกับความถนัด
ความสามารถของฉนั
17 ฉันรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของ
ผอู้ ื่นเพอ่ื นามาเปน็ แนวทาง
ปรบั ปรงุ เปา้ หมายใน
การศกึ ษาและอาชพี
18 ฉันคดิ ว่าการประเมินและการ
ได้ข้อมูลย้อนกลับทาใหม้ ี
ข้อมลู ทางการเรียนและอาชีพ
ทห่ี ลากหลายมากย่งิ ข้ึน
19 ฉนั คดิ วา่ การประเมนิ และการ
ให้ขอ้ มูลย้อนกลบั ทาให้ฉันมี
ความกระตือรือรน้ ในการ
ปรบั ปรงุ พฒั นาเป้าหมาย
ทางการเรียนและอาชีพ
ขอขอบคุณทุกทา่ นที่ให้ความรว่ มมอื ในการตอบแบบสอบถาม
28
บันทึกผลหลงั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ผลกิจกรรมการเรียนการสอนตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรยี นทั้งหมด คน
ผลการประเมินพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
การปรับปรุงแก้ไข
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขอ้ คดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ผ้สู อน
( นางสาวหนึ่งหทยั ภสู่ มทุ ร )
ครู
29
ครัง้ ที่ 2
กจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื การตง้ั เป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพ
ของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
ช่ือกิจกรรม บคุ ลกิ ภาพและความสนใจของฉนั
จุดม่งุ หมาย การคน้ หาตนเองเพือ่ วางแผนการศึกษาและอาชพี
กลุม่ เป้าหมาย นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6
ระยะเวลาทใ่ี ช้จดั กิจกรรม เวลา 50 นาที
ส่ือประกอบกิจกรรม
1.แบบทดสอบแบบความพร้อมทางอาชพี ฉบับน้ที าขน้ึ โดยอา้ งอิงจากทฤษฎกี ารจาแนกอาชีพตาม
บุคลกิ ภาพของ จอหน์ แอล ฮอลแลนด์ (John L. Holland)
2 .ใบความรู้
ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม
ขัน้ นาเข้าสู่กิจกรรม
- ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ
- ครูเล่าให้นักเรียนฟังถึงเรื่องของนักเรียนรุ่นพ่ีที่ไม่ประสบความสาเร็จในการเรียน
ระดับอดุ มศกึ ษา ท้งั ทีเ่ ป็นผมู้ ผี ลการเรยี นดใี นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย โดยให้นกั เรยี นร่วมกันอภปิ ราย
วา่ เพราะเหตุใดจงึ เป็นเชน่ น้นั โดยครเู ขยี นเหตุผลนักเรียนลงในกระดาน และรว่ มกันสรปุ ว่าสาเหตุส่วนใหญ่ท่ี
นักเรียนกลุ่มดังกล่าวไม่ประสบความสาเร็จ เพราะเรียนในสาขาที่ตนขาดความสนใจ ขาดทักษะ และ
ความสามารถ และหากเรียนจนสาเร็จเมื่อประกอบอาชีพจะขาดความมุ่งม่ัน ความมุมานะ อดทนต่อ
อปุ สรรคและความยากลาบากในอาชีพน้ันได้น้อย ซ่ึงนามาสู่ ความล้มเหลวทางอาชีพได้ ต่างจากคนที่เรียน
ในสาขาที่ตรงกับความสนใจ มีทักษะและความสามารถ เม่ือประกอบอาชีพย่อมมีความอดทน มุมานะ
มากกว่า ทาให้มีโอกาสประสบความสาเร็จในอาชพี นน้ั ได้มากกวา่
ข้นั ดาเนินการ
-ครอู ธิบายถงึ แบบทดสอบความพร้อมทางอาชพี เอส.ดี.เอสและเพอื่ ให้นกั เรียนไดค้ ้นพบอาชีพท่ี
ตรงกับความสนใจ ทักษะ ความสามารถจะให้นักเรียนทาแบบทดสอบ เอส.ดี.เอสโดยให้นักเรียนต้ังใจทาใน
ระบบออนไลด์ http://www.trueplookpanya.com/true/quiz_holland_orientation.php
ขนั้ สรุป
-ครูและนักเรียนชว่ ยกนั อภปิ รายและสรุปส่ิงทไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมและนกั เรยี นสามรถนาข้อมลู ทไ่ี ด้มาใช้
ประกอบการกาหนดเป้าหมายทางการเรียนและอาชพี ของนกั เรยี นเอง
ขน้ั ประเมินผล
สังเกตความร่วมมือในการร่วมกจิ กรรม
30
ใบความรู้ บคุ ลิกภาพ 6 กล่มุ ตามทฤษฎขี องฮอลแลนด์
1.บุคคลกลุ่มสจั จะ (Realistic)
บคุ ลิกภาพ
เป็นคนชอบกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับการควบคุม การปฏิบัติการเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไก
เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ชอบแก้ไขซ่อมแซมวัสดุต่าง ๆ ท้ังไม้ และโลหะ ชอบทางช่าง มีความรู้ทาง
คณิตศาสตร์ ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบงานประเภทใช้กาลัง ชอบการเคล่ือนไหวและชอบใช้ทักษะ เป็น
ลักษณะงานของผู้ชาย ชอบงานประเภทมองเห็นปัญหาที่จะแก้ไขชัดเจน เล่ียงกิจกรรมที่ต้องใช้วาจาอธบิ าย
บคุ คลพวกนอ้ี าจจะขาดทกั ษะทางสังคม
อาชพี
พนักงานป่าไม้ ครูอุตสาหกรรมศิลป์ ผู้จัดรายการวิทยุ วิศวกรเคร่ืองยนต์ วิศวกรช่างกล
วศิ วกรเหมืองแร่ ครูสอนวิชาเกษตรกรรม เกษตรกร วศิ วกรโยธา ช่างเทคนคิ อุตสาหกรรม ช่างเครื่องบิน
ช่างเครื่อง ช่างฟิต ผู้ช่วยทันตแพทย์ ช่างไฟฟ้า ผู้ค้าเพชรพลอย ช่างซ่อมต่าง ๆ ช่างแก้เคร่ืองดนตรี
ผู้ดูแลสวนป่า ผู้ทาเครื่องมือทางจักรกล ช่างกุญแจ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเอกซเรย์ ช่างเคร่ืองทาเครื่องเย็น
นักเดินเรือ ผคู้ วบคุมเครื่องไฟฟ้า ช่างไม้ ชา่ งตดั เส้ือ ช่างแก้เคร่ืองพิมพ์ คนขบั รถ เป็นตน้
ความสามารถ
อ่านพิมพ์เขียว แก้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ทางานเกี่ยวกับเครื่องมือชนิดต่าง ๆ มีความรู้ทาง
คณิตศาสตร์ และทางเครือ่ งมอื ตลอดจนวธิ ีใช้
กจิ กรรม
แก้ไข ซ่อมวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ ตัง้ แตไ่ มไ้ ปจนถงึ โลหะ สามารถทางานไดด้ กี บั เครื่องมือชนิดต่าง ๆ
31
2.บุคคลกลมุ่ สอบสวน (Investigative)
บุคลกิ ภาพ
เปน็ คนท่ชี อบการวิเคราะห์ การประเมิน เปน็ คนอยากรอู้ ยากเหน็ ชอบคดิ ชอบค้นยึดระเบียบ
กฎเกณฑ์ และมีความแน่นอน คนพวกน้ีชอบอ่านหนังสือประเภทวิทยาศาสตร์ ชอบทางานในห้องทดลอง
ชอบวิจัยในโครงการทางด้านวิทยาศาสตร์ ชอบแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ มีความรู้ความสามารถทาง
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ บุคคลประเภทน้ีสามารถทางานโดยใช้กล้องจุลทัศน์ได้ สามารถตรวจผล
ความถ่ีของคลื่นวิทยุได้ มีความสามารถทางด้านการแพทย์ (ทางด้านการทางานของร่างกาย) สามารถ
วเิ คราะหส์ ่วนผสมทางด้านเคมี และรู้จักวิธีใช้เครื่องมือทางเทคนิคได้ สามารถฝึกฝนอบรมทางช่างบางสาขา
ได้ บคุ คลประเภทน้ีอาจจะขาดทกั ษะในการเปน็ ผู้นา เปน็ คนมุ่งงานเปน็ ใหญ่ สนใจในสง่ิ ทีเ่ ปน็ นามธรรม
อาชพี
นกั เศรษฐศาสตร์ แพทย์ นักมานษุ ยศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นกั พยาธศิ าสตร์
นักฟิสิกส์ นักเคมี นักวางแผนการผลิต ผู้ช่วยแพทย์ในห้องทดลอง นักชีววิทยา ครูคณิตศาสตร์ ครูทาง
กายภาพ จักษุแพทย์ นักจิตวิทยา นักแบคทีเรีย นักวิจัย นักวิเคราะห์ ผู้จาหน่ายยา ผู้ควบคุม
คอมพิวเตอร์ นักสมุทรศาสตร์ นักสถิติ/นักคานวณ หมอผ่าตัด สัตวแพทย์ ผู้ศึกษาทางสัตว์ ผู้ดูแสสวน
สัตว์ นักภูมิศาสตร์ ผู้ทาการถ่ายเอกซเรย์ ผูบ้ รหิ าร ทนั ตแพทย์ ผชู้ ว่ ยหอ้ งทดลองทางเคมี นกั อุตุนิยม นัก
จลุ ชีววทิ ยา นกั ธรณวี ิทยา เป็นตน้
ความสามารถ
มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และมีความสามารถที่จะฝึกฝนอบรมทางช่างบางสาขาได้ มี
ความสามารถทางานโดยใช้กล้องจุลทัศน์ ทางานเก่ียวกับผลของกระแสคล่ืนทางวิทยุความถี่ต่าง ๆ ได้ มี
ความสามารถทางคณิตศาสตร์และแพทย์ศาสตร์ การทางานของร่างกาย สามารถแปลส่วนผสมทางเคมี และ
ร้จู ักใช้เครือ่ งมือทางเทคนิค
กจิ กรรม
ชอบอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ ทางานในห้องทดลอง วิจัยโครงการทางวิทยาศาสตร์ ทางเคมี
สามารถแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ มคี วามรู้กวา้ ง ๆ ทางฟิสกิ ส์ เคมี ชวี ะ และเลขาคณิต
3.บุคคลกลุ่มศลิ ปิน (Artistic)
บคุ ลกิ ภาพ
เป็นคนท่ีชอบแสดงออก ไม่คล้อยตามบุคคลอ่ืน เป็นคนชอบริเร่ิมไม่เอาอย่าง ทางาน
อย่างอิสระ เป็นคนชอบไตร่ตรอง ไม่ชอบสัมพันธ์เป็นส่วนตัวกับใคร ชอบคิดค้นเกี่ยวกับ ปัญหา
สิ่งแวดล้อม และแสดงออกทางศิลปกรรม มีความสามารถทางด้านดนตรี อ่านหนังสือแบบแสดง
ความรู้สึกได้ ชอบฟังเพลง ชอบดูละคร มีความสามารถทางเขียนภาพ ป้ันได้ใกล้เคียงความจริง เขียน
หนังสือและแตง่ กลอนได้ดี เปน็ นักตกแตง่ เปน็ นักดนตรี บุคคลประเภทนอี้ าจขาดทกั ษะทางสานักงาน
อาชีพ
ผู้กากับการแสดง ครูสอนภาษา ผู้ส่ือข่าว ครูสอนละคร ครูสอนนาฏศิลป์ ผู้แปลภาษา
ตา่ งประเทศ นักปรัชญา ครสู อนวรรณคดี ครูสอนดนตรี นักดนตรี ผู้ทางานทางโฆษณา นักแสดงต่าง ๆ
นกั ประชาสมั พันธ์ นางแบบ นกั เขียน ผทู้ ารายการวทิ ยุ ผู้ออกแบบเคร่อื งแต่งกาย ผู้ตกแต่งอาคารภายใน
32
นักวิจารณ์ ออกแบบเคร่ืองเรือน มัณฑณากร สถาปนิก จิตรกร นักถ่ายภาพ ผู้พิมพ์ นักแต่งเพลง นัก
แต่งบทละคร นกั เขียนบทภาพยนตร์
ความสามารถ
เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงประสานเสียงได้ เป็นนักร้อง แสดงบทบาทต่าง ๆ ได้ อ่านแบบแสดง
ความรูส้ กึ ได้ นิยมการไปฟงั และดลู ะคร เขยี นรูปได้อยา่ งใกล้เคยี งความจรงิ เขยี นหนังสอื และแต่งกลอนดี
กจิ กรรม
ร่างภาพ ระบายสี ฟังดนตรี ดูละคร ตกแต่ง ออกแบบเครื่องเรือน ร่วมวงดนตรี ฝึกหัด
เคร่อื งดนตรี เขยี นหนงั สอื ฟงั ดนตรี เขยี นรปู เขียนอา่ นโครงกลอน เปน็ ตน้
4.บคุ คลกลุม่ สังคม (Social)
บคุ ลกิ ภาพ
เป็นคนท่ีชอบทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น ชว่ ยเหลือผู้อนื่ ชว่ ยคนทีม่ ปี ญั หาทางจิตใจ
แต่ไม่ชอบให้ใครส่ัง ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาใคร ชอบให้ความรู้ชอบพบปะสังสรรค์กับเพื่อนใหม่ ชอบดู
กีฬา ชอบร่วมกิจกรรมบันเทิง ชอบเป็นสมาชิกองค์กรหรือศูนย์ ชอบดูแลเด็ก ๆ ที่มีกิจกรรมสนุกสนาน
ชอบช่วยและรักษาพยาบาลผู้อ่ืน มีความสามารถในการพูด มีทักษะในการตดิ ตอ่ กบั ผู้อื่น สามารถทางานกับ
บุคลที่มีอายุสูงได้กว่าได้ดี สามารถจัดกิจกรรมหรือวางโครงการให้กับโรงเรียนหรือวัดได้ มองคนได้อย่าง
ถูกต้อง ทางานให้ชุมชนด้วยความสมคั รใจ ชอบทางานกับคนหมมู่ าก ชอบสังคม ชอบกิจกรรมที่มีระบบซ่ึง
เกี่ยวข้องกับการใช้เคร่ืองมือ เคร่ืองจักรกล เป็นพนักงานประจาบาร์ได้ เป็นหัวหน้าฝ่ายการฌาปนกิจ และ
เป็นนักแนะแนวได้ บุคคลนี้ดูจะขาดทักษะทางเครื่องจักรกล ขาดความสามารถในการวิเคราะห์อย่างมี
กฎเกณฑร์ ะเบยี บวธิ ี
อาชีพ
ผู้อานวยการทางสังคมสงเคราะห์ ผู้ดูแลหอพัก ผู้สัมภาษณ์ ผู้วิจัยงาน ผู้ประสานงาน
ผู้บรหิ ารการศึกษา ผ้อู านวยการฝกึ งาน นักประวตั ศิ าสตร์ ผ้ใู ห้คาปรกึ ษา ผู้จัดการโรงแรม ตัวแทนนายจ้าง
ผจู้ ดั การร้านอาหาร ผู้บริหารงานชมุ ชน ผู้ใหค้ าปรกึ ษา ตัวแทนธุรกิจ ครูพลศึกษา ผู้ควบคุมการก่อสรา้ ง
จิตแพทย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักรัฐศาสตร์ นักสังคมส งเคราะห์ พยาบาล ผู้ทางานในชุมชน
ผอู้ านวยการทางด้านบุคลากร ผู้ตรวจคุณภาพอาหารและยา ครู บรรณารักษ์ ขา้ ราชการต่างประเทศ ครู
สอนประวัตศิ าสตร์
ความสามารถ
มีความสามารถอธิบายสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดี สามารถทางานร่วมกับบุคคลท่ีมีอายุ สูงกว่าได้ดี
สามารถวางแผนกิจกรรมหรือโครงการให้กับโรงเรียนหรือวัด มองคนได้อย่างถูกต้อง ชอบช่วยเหลือผู้อ่ืน
และทางานใหก้ บั ชุมชนโดยสมัครใจ ชอบทางานกบั คนหม่มู าก
กจิ กรรม
เขียนจดหมาย เป็นสมาชิกองค์กรหรือศูนย์ ช่วยคนที่มีปัญหาทางจิตใจ ชอบพบปะสังสรรค์
เพอ่ื ใหม่ ชอบดูกฬี า ดูแลเด็ก เตน้ รา ไปร่วมกิจกรรมบนั เทิง
33
5.บุคคลกลมุ่ กลา้ เสย่ี ง (Enterprising)
บคุ ลกิ ภาพ
เป็นคนท่ีชอบกิจกรรมทีมีอิทธิพลเหนือผู้อ่ืน ใช้ทักษะทางการพูดจา มองเห็นตนเองเป็นผู้นา
เต็มตัว ชอบจูงใจผู้อ่ืนให้คล้อยตามทาตาม หรือชอบดาเนินการให้บรรลุเป้าประสงค์ ชอบถกเถียงปัญหา
ทางการเมือง ชอบอภิปรายพูดจาตรงไปตรงมา ริเริ่มและดาเนินธุรกิจส่วนตัว ชอบกิจกรรมชนิดเป็นกลุ่ม
และองค์กร ชอบควบคุมผู้อ่ืน ชอบพบปะบุคคลสาคัญ เป็นผู้นากลุ่มในการดาเนินกิจกรรม ชอบการ
ปาฐกถา การรณรงค์หรอื หาเสียง ชอบการบรรยายเร่ืองราวต่าง ๆ เป็นพวกมุ่งงาน ไม่ชอบกิจกรรมที่ต้อง
เขียนด้วยสานวนภาษาอย่างสละสลวย หรือเป็นคาประพันธ์ หรอื เขียนภาพ หรอื ป้ันแกะสลัก หรอื กิจกรรม
ทมี่ ีระบบระเบยี บมาก คนพวกนี้สามารถควบคมุ ดแู ลการปฏิบัติการของผอู้ ื่น มีความกระตอื รือร้นมาก และ
สามารถชักจูงผู้อื่นใหม้ าทาสิ่งท่ตี นตอ้ งการได้ ขายสนิ คา้ เก่ง ชอบจัดการ ชอบเป็นตัวแทนในการเจรจาตกลง
ให้กลุ่มหรือองค์กร มักเคยได้รับเลือก ให้ทากิจกรรมต่าง ๆ สมัยเรียน พนักงานเดินตลาด ผู้จัดการ
สานกั งาน และทนายความ เปน็ ตน้
อาชพี
นกั วจิ ัยตลาด นายธนาคาร ผขู้ ายประกันชีวิต นายหน้าซ้ือขาย ทนายความ ผู้ดูแลสวนดอกไม้
นักวิศวกรทางอุตสาหกรรม ผู้ทาสัญญาซ้ือขาย ผู้จัดการ/พนักงานฝ่ายขาย โฆษกสถานีวิทยุกระจายเสียง
ผู้จัดการสานักงานจัดหางาน/ท่องเท่ียว ผู้จัดการร้านอาหาร/สานักงานบริษัท/ห้างร้าน ผู้ช่วยฝ่ายบริหาร
ผอู้ านวยการทางบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ ผูพ้ พิ ากษา ผู้ประเมนิ ผล
ความสามารถ
มักเคยถูกเลือกให้ทากิจกรรมต่าง ๆ สมัยเรียนหนงั สอื สามารถควบคุมดแู ลการปฏิบัติงานของ
ผู้อ่ืน มีความกระตือรือร้นมาก ๆ สามารถชักจูงให้คนอื่น ๆ มาทาสิ่งท่ีตนต้องการได้ ขายสินค้าเก่ง ชอบ
จดั การ รวบรวมก่อตั้งเป็นสมาคมและองค์กร เป็นผนู้ าการอภิปรายที่ดี เป็นตัวแทนเจรจาตกลงให้กับกลุ่ม
และองคก์ ร ชอบและริเร่ิมกจิ การธุรกจิ ของตนเอง
กิจกรรม
มีกิจกรรมประเภทที่ต้องการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น ถกเถียงปัญหาทางการเมือง ดาเนินธุรกิจ
ส่วนตวั เข้าร่วมประชุม เปดิ อภิปราย กจิ กรรมของกลมุ่ และองค์กร ควบคุมผู้อนื่ พบปะบคุ คลสาคัญ เป็น
ผู้นากลุ่มทากจิ กรรม ร่วมในการรณรงค์หรอื หาเสยี ง/ปาฐกถา เรอ่ื งราวต่าง ๆ
6.บุคคลกลุ่มยึดม่นั (Conventional)
บุคลิกภาพ
เป็นบุคคลท่ีชอบการทางานเก่ียวกับตัวเลข และการนับจานวน ชอบบทบาทท่ี เป็น
ผูใ้ ต้บังคับบัญชา พอใจที่จะคล้อยตามหรือเชื่อฟังบุคคลอื่น เล่ียงการโต้แยง้ ไม่ชอบงานที่ใชท้ ักษะทางกาย
ชอบการจัดเก็บบันทึกหรือจาลองแบบอุปกรณ์ มีความสามารถในการควบคมุ การทางาน ของเครื่องจกั รทาง
ธรุ กิจ เช่น คอมพิวเตอร์ จัดระเบียบงานเข้าหมวดหมู่ ดูแลไม่เกิดความสับสนในการเก็บข้อมูลทางตัวเลข
ใช้วชิ าคณิตศาสตร์ทางธุรกิจ สามารถใชเ้ ครือ่ งมอื ต่าง ๆ ในสานักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้วชิ าชวเลข
ทางานตามเวลาทีก่ าหนดได้ พิมพห์ นงั สอื ได้ ทาบัญชีรับจา่ ยได้ เก็บประวตั ิ ข้อมลู การนัดหมาย ตลอดจน
34
รายจ่ายในการซื้อขายได้เรียบร้อย คนแบบน้ีจะมีความคุ้นเคยกับ วัสดุ ครุภัณฑ์ทางธุรกิจ ชอบเล่ียง
กจิ กรรมทางศลิ ปะ
อาชีพ
สมหุ บ์ ัญชี ครูสอนวิชาบรหิ ารธรุ กจิ ผเู้ ชีย่ วชาญทางการเงนิ ผจู้ ัดการฝ่ายใหย้ ืม
ผปู้ ระเมินผล เสมียนโต้ตอบติดต่อทางการค้า เสมียนในสานักงาน เสมียนจ่ายเงินเดอื น ผดู้ ูแลเครอ่ื งคิดเลข
เสมียนฝ่ายบุคคล เสมียนไปรษณีย์ ตัวแทนฝ่ายขาย ตัวแทนฝ่ายอนุรักษ์ ผู้เบิกเงิน เลขานุการ เลขานุการ
ทางการแพทย์ ผู้ชว่ ยบรรณารักษ์ พนักงานควบคุมเก่ียวกับตัวเลข เลขานกุ ารฝา่ ยบุคคล ผู้หาคาผดิ จากการ
พมิ พห์ นังสอื เปน็ ต้น
ความสามารถ
ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์เพ่ือธุรกิจ จัดระเบียบงานเข้าหมวดหมู่ ใช้วิชาชวเลข
ทางานในเวลาตามทกี่ าหนด พิมพห์ นังสือได้ ทาบัญชีรับจา่ ยได้ เก็บประวตั ิ
ขอ้ มูล และการนัดหมายตา่ ง ๆ ตลอดจนรายจา่ ยในการซอ้ื ขาย คุน้ เคยกบั วัสดคุ รภุ ัณฑท์ างธุรกิจ
กิจกรรม
พิมพ์หนงั สือ หรอื จดหมาย มีเครื่องพมิ พ์ ดแู ลไม่ใหเ้ กดิ ความสบั สนในการ
เก็บขอ้ มูลทางตวั เลข ใช้วิชาคณติ ศาสตร์ทางธรุ กจิ รกั ษาความเปน็ ระเบยี บของการเกบ็ ข้อมลู
สามารถใช้เครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ในสานกั งานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
35
ใบงานเรอ่ื ง บุคลกิ ภาพของฉนั
คาสัง่ จากแบบทดสอบ S..D..S ใหน้ ักเรยี นเขียนบคุ ลิกภาพของตนลงในชอ่ งวา่ ง
สรุปบคุ ลิกภาพของฉันคือ..............................................
บุคลิกภาพ
........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.
อาชีพ
........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ความสามารถ
........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
กิจกรรม
........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชน้ั ....................เลขท่.ี .........................
36
บนั ทกึ ผลหลังกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ผลกจิ กรรมการเรียนการสอนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
นักเรียนทั้งหมด คน
ผลการประเมินพฤติกรรมระหว่างเรยี น
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
การปรบั ปรงุ แก้ไข
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ข้อคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงชื่อ............................................ผสู้ อน
( นางสาวหน่ึงหทัย ภสู่ มทุ ร )
ครู
37
คร้ังที่ 3
กิจกรรมแนะแนวเพ่อื การต้งั เป้าหมายทางการเรยี นและอาชพี
ของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
ช่อื กิจกรรม เป้าหมายของฉัน
จดุ มงุ่ หมาย เพ่อื ให้นกั เรยี นรจู้ ักการตงั้ เป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของตนเอง
กลุม่ เปา้ หมาย นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
ระยะเวลาที่ใชจ้ ดั กจิ กรรม เวลา 50 นาที
สอื่ ประกอบกิจกรรม
1. ใบความรู้ เรอ่ื งกระบวนการตั้งเปา้ หมาย
2..ใบงาน เรื่อง การต้งั เป้าหมาย
ข้ันตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
ขั้นนาเข้าสู่กจิ กรรม
1.ครูสนทนาถึงการท่ีนายพรานจะเดินป่าก็ต้องมีเข็มทิศ นักท่องเท่ียวจะเดินทางก็ต้องมีแผนที่
เช่นเดียวกับการดาเนินชีวิต การเรียน การทางานก็ต้องมีเป้าหมายเพ่ือไปสู่จุดหมายปลายทางที่ต้ังใจไว้
จากน้ันให้นักเรียนยกตัวอย่างเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพของนักเรียน และบอกเหตุผลทาไมถึง
ต้งั เป้าหมายเช่นน้ี
ขั้นกจิ กรรม
1.นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เรอ่ื ง "กระบวนการต้ังเปา้ หมาย" แล้วอภปิ รายซกั ถามถงึ ข้อคิดที่ไดร้ ับจาก
บทความนี้ และความสาคญั ในการตั้งเป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพ
2.นกั เรยี นทาใบงานเร่อื ง การตงั้ เป้าหมาย ให้นกั เรียนเขยี นเป้าหมายทางการเรยี นและอาชพี ของ
ตนเอง
3.แบง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ กลุ่มละ 7 - 8 คน แลกเปล่ยี นเปา้ หมายทางการเรยี นและอาชพี ของตน
โดยเล่าให้สมาชิกในกลมุ่ ฟงั
ขั้นสรุป
1.ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั สรปุ ความสาคัญของการตงั้ เปา้ หมาย
ขั้นประเมินผล
1.ใบงาน เชน่ ตรวจความถูกต้องครบถว้ นสมบรู ณ์ ความเรียบรอ้ ย
2.สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ เช่น ความสนใจในการฟงั การซกั ถาม การตอบคาถามและการร่วม
อภิปราย
3.สงั เกตการทางานกลุ่ม
38
ใบความรู้ เรื่อง กระบวนการตง้ั เป้าหมาย
ความหมาย-ความสาคัญ
เป้าหมาย (Goal) เปน็ สิ่งท่ีมีค่าที่เราตอ้ งการ จึงทาให้เรามีความพยายามท่ีจะทาเพือ่ ไดร้ บั สิง่ นั้น การ
ได้รับกถ็ ือวา่ บรรลผุ ลสาเรจ็ การจะเปน็ ผทู้ ม่ี ีเปา้ หมายหรือจุดมุ่งหมายในการเรยี น ตอ้ งร้เู หตุผลวา่ ทาไมต้อง
ศึกษา เมื่อมีเป้าหมายในการเรียนก็จะทาให้เกดิ แรงจงู ใจ มีความขยันขนั แข็ง ตั้งใจ พยายามทจ่ี ะเรียนให้
บรรลจุ ดุ ม่งุ หมายท่ีต้งั ไวน้ อกจากในเรื่องของการเรยี น และไม่ว่าจะทาสง่ิ ใดกจ็ ะตอ้ งต้ังเป้าหมายในการทาส่ิง
น้ัน ๆ ไว้ลว่ งหน้าก่อน เพราะการมเี ป้าหมายจะเป็นเสมอื นแสงสวา่ งหรือเขม็ ทิศ ช่วยนาทางจนถงึ ความสาเรจ็
กระบวนการตั้งเปา้ หมายที่ดี
1.การกาหนดเปา้ หมาย หมายถึง การกาหนดเป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพของตนเอง ในการ
กาหนดเปา้ หมายหรือนาสิ่งใดสิง่ หนง่ึ มากาหนดเป้าหมายนั้น คงจะตอ้ งคดิ พจิ ารณาให้รอบคอบสารวจตนเอง
ถามตนเองวา่ ต้องการอะไร เรามสี ติปญั ญา ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ฐานะ สุขภาพอย่างไร สิ่งที่
เราต้องการนั้นตรงกบั ความต้องการทแี่ ท้จริง และเหมาะสมกบั เราหรือไม่เพียงใด นอกเหนือจากการร้จู กั
ตนเอง มองตนเองแล้ว ยงั มีหลักการทค่ี วรคานึงถึงดังน้ี
1. ความเป็นไปได้ เป้าหมายทีต่ อ้ งการนน้ั เปน็ ส่ิงท่เี ป็นไปได้ สามารถบรรลุผลได้จรงิ เราสามารถทา
ไดแ้ ละทาได้ดว้ ยตวั ของเราเอง
2. เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ให้เขยี นเป้าหมายความต้องการของเราไว้เป็นลายลกั ษณ์อักษรเพ่อื
เป็นสง่ิ ยนื ยันหรอื ยา้ เตอื นให้ระลึกถึงเปา้ หมายนัน้ และสามารถย้อนกลบั มาอ่านในสิง่ ที่เขียนไว้ได้เป็นคลา้ ย
สัญญาท่เี ราทากบั ตนเอง
3. มีความเฉพาะ ชัดเจน เป้าหมายท่ีเราเขียนหรือกาหนดขน้ึ น้นั ตอ้ งไม่เขียนให้กว้างจนเกนิ ไป ควรจะเขยี น
ให้ชัดเจน มีความเฉพาะเจาะจงลงไป เชน่ อยากสอบผา่ นไดเ้ กรด 4 ในภาคเรียนน้อี ยากมีรายไดเ้ ดอื นละ
20,000 บาท อยากมอี าชีพดๆี ฯลฯ
4. มีประโยชน์ เป้าหมายที่เราตั้งความปรารถนาไว้นนั้ เปน็ สงิ่ ทีม่ ีประโยชน์ทาใหพ้ ่งึ ตนเองได้หรือ
ช่วยเหลือบุคคลรอบขา้ งและสงั คมได้ การตง้ั เป้าหมายจะตอ้ งกาหนดไวใ้ ห้พอดี เหมาะสมกับตัวเราคานึงถงึ
ขีดจากัดของเราดว้ ย ไมต่ ้ังไวจ้ นสูงเกินไป เมอ่ื ทาไม่ได้ ไมส่ าเรจ็ กจ็ ะทาใหผ้ ิดหวัง ท้อแท้ ไมอ่ ยากทาอะไรอกี
เปน็ ผ้ไู ร้ความสาเรจ็ แตถ่ า้ ตง้ั ไวต้ ่าจนเกนิ ไปกจ็ ะทาให้ไม่มีโอกาสได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอยา่ งเต็มท่ี ไม่มี
ความกระตอื รือรน้ ขาดความอดทน ไมส่ กู้ บั ปญั หาอปุ สรรคตา่ ง ๆ
2.การวางแผนปฏิบัติเป้าหมาย หมายถึงการศึกษาข้อมูลเพ่ือการวางแผนในการปฏิบัติท่ีจะทาให้
นักเรียนไปถึงเป้าหมายทางการเรียนและอาชีพที่ตนเองกาหนดไว้ได้ ในแต่ละช่วงชีวิตของคนเราควรจะต้องมี
การต้ังเป้าหมายไวอ้ ยา่ งชัดเจน การวางเป้าหมายอาจแบง่ ออกไดต้ ามระยะเวลาท่ีกาหนดเป็น 3 ประเภท ดังน้ี
1. เปา้ หมายระยะส้ัน (Short range goals)
เป็นการวางเป้าหมายตง้ั แต่ 1 เดือนจนถึง 1 ปี วา่ ในเวลาหนึ่งเดอื นหรือหนึง่ ปีท่จี ะมาถึงเราจะตอ้ งทา
ส่ิงใดให้สาเร็จ เช่น จะอ่านหนงั สอื วชิ าเคมใี ห้จบเลม่ ภายใน 3 เดอื น
2. เป้าหมายระยะกลาง (Medium range goals)
เป็นการวางเปา้ หมายในช่วงระยะเวลา 5-6 ปขี ้างหน้า วา่ ในอนาคตของเราจะต้องการอะไรมีสง่ิ ใดที่
จะต้องทาใหไ้ ดใ้ นช่วงเวลา 5 ปี ตัวอยา่ งเช่น นักเรียนอาจจะกาหนดเป็นเป้าหมายไวว้ ่า สาเรจ็ หลักสตู รใน
คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ในปีการศึกษา 2565
39
3. เป้าหมายระยะยาว (Long-range goals)
เปน็ การกาหนดวางเปา้ หมายของชีวิต อาจใช้เวลาตั้งแต่ 10 ปี หรอื มากกวา่ ให้นกั เรียนคดิ ว่าอะไรคอื
จุดมงุ่ หมายสงู สุดของชีวิต เป็นส่ิงท่ีเราต้องการมากท่ีสุดในชีวติ มีอะไรเปน็ อดุ มคติของชีวติ หาคาตอบของชีวติ
ให้ไดว้ า่ เราเกดิ มาเพือ่ อะไร แสวงหาความสขุ สบายในชีวิตการเป็นมนุษย์ทีส่ มบูรณ์การทาหน้าที่ งานเพอื่ งาน
การมปี ัญญาความรู้แสวงหาความสงบ หลุดพน้ จากทุกขก์ ารอทุ ิศตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ก่มนุษยชาตฯิ ลฯ
3.การปฏิบัติตนตามเป้าหมาย หมายถงึ การปฏิบตั ิตนตามแผนท่ีวางไว้ จะทาใหน้ กั เรียนเกิดความ
พยายามและความพากเพียรในการปฏิบัติตามแผนทตี่ นวางไว้
4.การประเมนิ เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มูลย้อนกลับ หมายถึงการไดร้ บั ข้อมูลย้อนกลับท่แี สดงว่านักเรียนประสบ
ความสาเร็จตามเปา้ หมายทางการเรยี นและอาชีพที่กาหนดไว้หรือไม่
ผลที่บุคคลได้รับจาการกาหนดเป้าหมาย
1. การกาหนดเป้าหมายชว่ ยสร้างบรรยากาศใหก้ ารทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ดีขึ้น
2. การกาหนดเป้าหมายชว่ ยสรา้ งความเข้าใจในตนเอง เมอ่ื ตอ้ งการใหต้ นเองบรรลุเปา้ หมาย
3. การกาหนดเป้าหมายช่วยทาให้เกิดความคิดท่ีจะพัฒนาตนเองมากขึ้น คือ เป็นคนที่มีกฎเกณฑ์
สามารถบังคับตนเองได้
4. การกาหนดเปา้ หมายช่วยทาให้ทุกคนมโี อกาสประสบผลสาเรจ็
40
ใบงาน เร่อื ง การตง้ั เปา้ หมาย
ชื่อ-สกลุ ............................................................................................ช้นั ..........................เลขที่..................
ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้
เป้ำหมำยในกำรเรียนของฉัน 1.....................................................................................
อำชีพท่ีฉันสนใจ 2……………………………………………………………..
ลาดับที่ หัวข้อ รายละเอียด
1 จุดเดน่ ของฉนั
2 ความสนใจของฉนั
3 บคุ ลิกของฉัน
41
ใบงาน เร่ือง การต้งั เปา้ หมาย
ชื่อ-สกลุ ............................................................................................ชน้ั ..........................เลขท.่ี ............................
เปา้ หมายทางอาชีพของฉันคอื
.....................................................................
ระยะเวลา 1 6 1 2 3 4 5 10
เป้าหมาย เดือน เดือน ปี ปี ปี ปี ปี ปี
เปา้ หมายทางการเรยี น
เปา้ หมายด้านการเรยี น
สิง่ ทที่ าไปแล้ว
...................................................................................................................................................................
........................................................................................................................…...................................................
..........................................................................................................................................................................
ส่งิ ที่กาลังทา
...................................................................................................................................................................
............................................................................…...............................................................................................
.....................................................................................................................................................................
สิ่งที่ตง้ั ใจจะทา
............................................................................…...............................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
สิง่ ทต่ี ้องการความช่วยเหลอื
..............................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
42
บนั ทกึ ผลหลงั กจิ กรรมการเรียนการสอน
ผลกจิ กรรมการเรียนการสอนตามจุดประสงค์การเรียนรู้
นกั เรยี นทงั้ หมด คน
ผลการประเมินพฤตกิ รรมระหว่างเรียน
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
การปรับปรุงแก้ไข
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงชอื่ ............................................ผสู้ อน
( นางสาวหน่ึงหทัย ภูส่ มุทร )
ครู
43
ครง้ั ที่ 4
แผนกจิ กรรมแนะแนวเพือ่ การตั้งเป้าหมายทางการเรยี นและอาชีพ
ของนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ชอ่ื กิจกรรม แผนของฉนั
จุดมุง่ หมาย เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเรียนร้เู ก่ยี วกบั การวางแผนการจัดการตั้งเป้าหมายทางการเรยี นและอาชพี
ของตนเอง
กลุ่มเปา้ หมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
ระยะเวลาทีใ่ ช้จัดกจิ กรรม เวลา 50 นาที
ส่อื ประกอบกจิ กรรม
1. ใบงาน เร่ือง มาวางแผนกัน
ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม
ข้นั นาเข้าสกู่ จิ กรรม
-ครูนาเขา้ สู่กจิ กรรมโดยถามนกั เรยี นวา่ การวางแผนทางการเรียนและอาชีพ มีความสาคัญอยา่ งไร
ขน้ั ดาเนนิ การ
-ครูแจกใบงาน มาวางแผนกนั ใหก้ บั นักเรยี นพร้อมทง้ั อธิบายวา่ นักเรยี นคิดว่า นกั เรยี นจะวางแผน
แนวทางการดาเนนิ การไปสูเ่ ป้าหมายน้นั อย่างไร และผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับน้ันเปน็ อย่างไร
-ครสู ุ่มเรียกนกั เรียนมานาเสนอหนา้ ช้ันเรียน พรอ้ มทัง้ ครูอธิบายเนือ้ หาเพมิ่ เติม
ข้นั สรปุ
-ครูและนักเรยี นอภปิ รายและสรปุ สิ่งท่ีได้เรยี นรู้
ขนั้ ประเมินผล
1.ใบงาน เช่น ตรวจความถกู ตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ ความเรยี บรอ้ ย
2.สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ เช่น ความสนใจในการฟงั การซักถาม การตอบคาถามและการร่วม
อภปิ ราย
3.สังเกตการทางาน
44
ใบงาน มาวางแผนกนั
คาช้แี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
แผนการปฎบิ ัติ (ระบุขนั้ ตอนการดาเนนิ งานเป็นอยา่ งไรเพอ่ื ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย)
ระยะเวลาทีใ่ ช้ เป้าหมายระยะสั้น
......................
...................................
ผลทีค่ าดวา่ จะได้รับ
ช่ือ-นามสกลุ ..........................................................ช้นั ..........เลขที่.........................
45
ใบงาน มาวางแผนกนั
คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
แผนการปฎบิ ัติ (ระบุขน้ั ตอนการดาเนนิ งานเปน็ อย่างไรเพอ่ื ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย)
ระยะเวลาทีใ่ ช้ เปา้ หมายระยะกลาง
......................
...................................
ผลทคี่ าดวา่ จะได้รบั
ชือ่ -นามสกลุ ..........................................................ช้นั ..........เลขที่.........................
46
ใบงาน มาวางแผนกนั
คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
แผนการปฎบิ ัติ (ระบขุ ั้นตอนการดาเนนิ งานเปน็ อยา่ งไรเพ่อื ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย)
ระยะเวลาทใ่ี ช้ เป้าหมายระยะยาว
......................
...................................
ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ
ชอ่ื -นามสกลุ ..........................................................ชัน้ ..........เลขที่........................
47
บันทึกผลหลังกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ผลกิจกรรมการเรียนการสอนตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นักเรยี นท้งั หมด คน
ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
การปรับปรงุ แกไ้ ข
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................ผ้สู อน
( นางสาวหน่ึงหทัย ภ่สู มุทร )
ครู
48
คร้ังที่ 5
แผนกจิ กรรมแนะแนวเพื่อการตงั้ เป้าหมายทางการเรยี นและอาชพี
ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
ชือ่ กจิ กรรม ทาอยา่ งไรเมอ่ื มปี ญั หา
จดุ มงุ่ หมาย เพ่อื ใหน้ กั เรยี นการแก้ไขปญั หาทเี่ กิดขน้ึ ระหวา่ งการดาเนนิ แผนท่ีวางไว้
เพ่อื ให้นกั เรียนมีความเพยี รพยายามไม่ย่อทอ้ ต่อปญั หาท่เี กิดขน้ึ
กลุ่มเปา้ หมาย นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ระยะเวลาท่ใี ช้จัดกิจกรรม เวลา 50 นาที
ส่อื ประกอบกิจกรรม
1.ใบงาน เรื่อง ทาอยา่ งไรเมอ่ื มีปัญหา
ขั้นตอนการดาเนนิ กิจกรรม
ขั้นนาเขา้ สกู่ จิ กรรม
-ครนู าเข้าสู่บทเรยี น โดยสอบถามนักเรียนวา่ หลงั จากได้เรยี นรู้การวางแผนของตนเอง นกั เรยี น
สามารถปฏิบิติตามแผนที่วางไวไ้ ดห้ รือไม่ และถ้าไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามแผนท่ีวางไวไ้ ดน้ กั เรยี นทาอยา่ งไร
ขน้ั ดาเนินการ
-ครสู ุ่มนักเรียนมาแสดงความคิดเห็น และช่วยกันระดมความคดิ วา่ ปญั หาท่เี กิดขึน้ จะมผี ลกับนกั เรียน
อย่างไร
-ครูแจกใบงาน ทาอย่างไรเม่ือมปี ญั หา ใหก้ บั นักเรยี นพร้อมกับอธบิ ายรายละเอยี ดการทาใบงาน
ขั้นสรุป
-ครแู ละนกั เรียนอภิปรายและสรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ โดยในการตง้ั เปา้ หมายทางการเรียนและอาชพี นั้น
เมื่อมีการวางแผนการปฏิบัตสิ เู่ ปา้ หมายแลว้ แต่หากนักเรยี นไม่ปฏิบัติตามแผนนน้ั นกั เรยี นยอ่ มไมส่ ามารถ
จะบรรลตุ ามเป้าหมายท่ีนักเรยี นตัง้ ไว้ ดังนนั้ หากมปี ญั หาเราควรลงมือแกไ้ ขปัญหาด้วยความอดทนและเพียร
พยายามจะทาให้นกั เรียนบรรลเุ ป้าหมายตามทไี่ ด้ตง้ั ไว้
ขน้ั ประเมนิ ผล
1.ใบงาน เชน่ ตรวจความถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ ความเรียบรอ้ ย
2.สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ เช่น ความสนใจในการฟัง การซักถาม การตอบคาถามและการร่วม
อภปิ ราย
3.สงั เกตการทางาน
49
ใบงาน ทาอยา่ งไรเมื่อมปี ัญหา
-----------
คาสั่ง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ความความเปน็ จริง
1.นกั เรยี นไดว้ างแผนการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือไปสเู่ ปา้ หมายแล้ว นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตนไดต้ ามแผนทีว่ างไว้
หรอื ไมอ่ ย่างไร จงอธิบาย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.หลงั จากท่นี ักเรยี นไดว้ างแผนการปฏิบัติตนไปสู่เป้าหมายแลว้ นกั เรยี นพบปัญหาอะไรบา้ ง และมีแนวทาง
ในการแก้ไขปัญหาอยา่ งไร จงอธิบาย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3..นกั เรียนคิดวา่ มีปจั จัยอะไรบ้างท่สี ง่ ผลต่อการวางแผนการปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ไปสู่เป้าหมาย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ชือ่ -นามสกลุ ..................................................................ช้นั ........................................เลขที.่ .........................
50
บนั ทกึ ผลหลังกจิ กรรมการเรียนการสอน
ผลกจิ กรรมการเรยี นการสอนตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
นักเรยี นทั้งหมด คน
ผลการประเมินพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
การปรับปรงุ แกไ้ ข
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงช่ือ............................................ผ้สู อน
( นางสาวหนึ่งหทัย ภสู่ มทุ ร )
ครู