50
การฝกึ ระเบียบแถว
ของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี๑
51
การฝึกระเบียบวินยั
ของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี๑
52
การฝึกระเบียบวินยั
ของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี๑
53
ผลงานของนกั เรยี น
ชั้นประถมศึกษาปที ี่๑
โครงงำนคุณธรรม
54
เรื่อง ชดิ ขวำนำ่ รกั
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖
…………………………………………………………………………………………….
๑. ปัญหำ : นกั เรยี นข้ึนและลงบันไดไมเ่ ป็นระเบียบ
๒. สำเหตขุ องปญั หำ
๒.๑ นกั เรียนวงิ่ ขึ้นและลงบันได
๒.๒ นักเรียนชอบเดนิ เปน็ กลุ่มข้ึนและลงบันได
๒.๓ นกั เรียนชอบเล่นกนั ขณะข้ึนและลงบนั ได
๓. วัตถุประสงค์ของโครงงำน
๓.๑ เพ่ือฝกึ การเดินขนึ้ และลงบันได เปน็ แถวเรยี งหน่ึง
๓.๒ เพื่อสรา้ งระเบียบวนิ ยั ในการเดนิ ชดิ ขวาขน้ึ และลงบันได
๔.เปำ้ หมำย
๔.๑ เป้าหมายเชงิ ปริมาณ : นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ จานวน ๑๖ คน
๔.๒ เปา้ หมายเชิงคุณภาพ : นักเรยี นทุกคนเดินขึ้นและลงบันไดชดิ ขวาเป็นระเบยี บมากขน้ึ
๔.๓ เป้าหมายระยะสั้น (๖ เดือนแรก) : นกั เรียนรอ้ ยละ ๖๐ เดนิ ข้ึนและลงบนั ไดเป็นระเบียบ
๔.๔ เปา้ หมายระยะสั้น (๑๒ เดอื นแรก) : นกั เรยี นรอ้ ยละ ๘๐ เดินข้ึนและลงบันไดเป็นระเบียบ
๕. วธิ แี กไ้ ขปัญหำ
๕.๑ อบรมใหค้ วามรนู้ ักเรียนเก่ยี วกับการเดินขน้ึ และลงบนั ไดอย่างเปน็ ระเบียบ
(โดยยดึ หลกั การเดินชดิ ขวา)
๕.๒ ให้นกั เรียนปฏบิ ัตใิ นการขน้ึ และลงบนั ไดให้เปน็ ระเบียบ โดยเดินชิดขวาเปน็ หลกั
๕.๓ ทาสญั ลักษณล์ กู ศรและรอยเทา้ ติดตามขน้ั บันไดดา้ นขวา
๕.๔ ทาปา้ ยเชญิ ชวนให้นกั เรียนเดินชิดขวาข้ึนและลงบนั ได
๖. หลักธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
หลกั ธรรมท่นี ามาใชใ้ นการดาเนนิ งานใหป้ ระสบความสาเร็จ คือ อิทธบิ าท ๔ ได้แก่
- ฉนั ทะ (ความพอใจ) คอื ความตอ้ งการท่จี ะทา ใฝใ่ จรักจะทาสง่ิ นัน้ อยูเ่ สมอและปรารถนา
จะทาให้ ได้ผลดยี ่ิงๆข้ึนไป
- วริ ยิ ะ (ความเพียร) คือ ขยนั หมนั่ ประกอบสง่ิ นนั้ ดว้ ยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน
ไมท่ ้อถอย
- จิตตะ (ความคิด) คอื ตั้งจิตรับรู้ในสิง่ ท่ีทา และทาสิ่งน้นั ด้วยความคดิ เอาจติ ฝักใฝ่
- วิมังสำ (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมน่ั ใชป้ ัญญา พิจารณาใคร่ครวญ
ตรวจหาเหตผุ ล
55
๗. คุณธรรมเปำ้ หมำย
ความมีวนิ ยั
๘. ตัวชี้วัด
นักเรียนร้อยละ ๘๐ เดนิ ขึน้ และลงบันไดชดิ ขวาเป็นระเบียบ
วิธกี ารประเมนิ สงั เกตการเดนิ ข้นึ และลงบันไดในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน
เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ แบบสอบถามความพึงพอใจและการสังเกต
ช่วงเวลาทีใ่ ชใ้ นการประเมิน วนั จนั ทร์ - ศุกร์ ช่วงเวลา ๐๘.๓๐ – ๑๕.๔๕ น.
๙. ช่อื โครงงำนคุณธรรม
ชดิ ขวานา่ รกั
๑๐. ชื่อคณะผู้รับผดิ ชอบโครงงำน นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖
๑๑. ครทู ่ปี รกึ ษำ นางสาวสารนิ ีย์ เกษมุติ และ นางสาววาสนา ทรพั ยป์ ระมูล
……………………………………………………………………………………………………………..
56
แบบรำยงำนผลกำรดำเนินงำนโครงงำนคณุ ธรรมระดบั ชั้นเรียน
โครงงาน : ชดิ ขวาน่ารัก
ผู้รบั ผดิ ชอบ : นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖
ครูที่ปรึกษา : นางสาวสารนิ ีย์ เกษมุติ และ นางสาววาสนา ทรพั ย์ประมูล
ระยะเวลาดาเนินงาน : ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
วัตถปุ ระสงค์ของโครงงำน
๑. เพ่ือฝึกการเดนิ ขน้ึ และลงบันได เป็นแถวเรียงหนึ่ง
๒. เพ่ือสรา้ งระเบียบวนิ ยั ในการเดินชดิ ขวาขนึ้ และลงบนั ได
เป้ำหมำย
๑. เป้าหมายเชิงปรมิ าณ : นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ จานวน ๑๖ คน
๒. เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ : นกั เรยี นทกุ คนเดินขน้ึ และลงบันไดชดิ ขวาเปน็ ระเบยี บมากขนึ้
๓. เป้าหมายระยะสั้น (๖ เดือนแรก) : นักเรียนรอ้ ยละ ๖๐ เดนิ ขึ้นและลงบนั ไดเปน็ ระเบยี บ
๔. เป้าหมายระยะสัน้ (๑๒ เดือนแรก) : นักเรยี นร้อยละ ๘๐ เดินขึ้นและลงบนั ไดเปน็ ระเบียบ
ผลกำรดำเนนิ งำน
เป้ำหมำย เกณฑท์ ต่ี ั้งไว้ก่อน ผลจำกกำร สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน
ดำเนนิ งำน ดำเนินงำน ตำมเป้ำหมำย
๑. ระยะส้นั (๖ เดอื น) (คดิ เป็นร้อยละ)
๒. ระยะยาว (๑๒ เดอื น) (คดิ เป็นรอ้ ยละ) (ทาเคร่ืองหมาย √ )
๖๔.๓๘
๖๐ ๘๓.๒๕ ประสบ ไม่ประสบ
๘๐ ควำมสำเรจ็ ควำมสำเรจ็
√
√
ปัญหำและอปุ สรรค
นกั เรียนบางคน ก็ยังเดินแทรกหรือเดินไมช่ ิดขวา ในช่วงเวลาทร่ี บี ร้อน ครแู ละเพ่ือนนกั เรยี นกค็ อยตักเตือน
เป็นบางคร้ัง
57
แนวทำงแกไ้ ข
มอบหมายนักเรยี นทุกคนให้ช่วยกันดแู ลการเดนิ ข้นึ – ลงบันไดชดิ ขวา อย่างเปน็ ระเบยี บของเพื่อนนักเรียน
ชน้ั ประถมปีที่ที่ ๖ ใหเ้ ป็นไปตาม กฎ ระเบียบ หรอื ข้อตกลงท่ไี ด้รว่ มกนั กาหนดไว้
สรุปผลกำรประเมนิ โครงงำนคณุ ธรรมช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๓
√ ประสบความสาเร็จ √ ไม่ประสบผลสาเร็จ
√
ลงชือ่ .....................................................ครูที่ปรึกษา
(นางสาวสารินยี ์ เกษมุต)ิ
ตาแหนง่ ครูโรงเรยี นบ้านทุ่งสามแทง่
ลงช่อื .....................................................ครูที่ปรึกษา
(นางสาววาสนา ทรพั ย์ประมลู )
ตาแหน่ง ครโู รงเรียนบ้านทุง่ สามแทง่
ควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ำร
รายงานผลการดาเนินโครงการคุณธรรม บรรลุวตั ถปุ ระสงคเ์ กีย่ วกับการสร้างระเบียบ การเดินแถวขึ้น -
ลงบันไดและการเดินแถว โดยกาหนดให้นักเรียนชิดขวาของตนเอง เป็นการปลูกจิตสานึกและฝึกฝน เน้นย้า
เก่ียวกับความรับผิดชอบ โครงงานคุณธรรมนี้ถือว่าเป็นจุดเร่ิมต้นของการฝึกฝนระเบียบวินัย จนเกิดความเคยชิน
ควรดาเนินโครงการคุณธรรมอย่างต่อเน่ือง ตรวจสอบ ติดตามของนักเรียน ขอขอบคุณครูที่ปรึกษา นักเรียนทุก
คนท่ใี หค้ วามร่วมมือในการดาเนนิ โครงงานคณุ ธรรมดงั กลา่ ว
ลงชื่อ ...................................................................
(นายปรชี า ลาดวน)
ผ้อู านวยการโรงเรียนบ้านทุ่งสามแทง่
58
การดาเนินโครงการคุณธรรม
ชิดขวาน่ารกั ป.๖
ในช่วงเวลาเร่งรบี เปล่ียนคาบเรียน นักเรยี นจะแย่งกันข้นึ – ลง บนั ได จนบางคร้งั เกดิ อบุ ัตเิ หตุ
59
นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ จงึ ชว่ ยกนั ระดมความคดิ ทาโครงงานคุณธรรมเพื่อนแก้ปัญหา
60
เมือ่ รปู้ ัญหากห็ าวธิ ีแก้และลงมือปฏบิ ตั ิ
ผลการดาเนินโครงการคุณธรรม ชิดขวาน่ารกั ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖
นกั เรยี นให้ความร่วมมือและเคารพข้อตกลงท่ีชว่ ยกันกาหนดขน้ึ มา
61
โครงงำนคุณธรรม
เรอ่ื ง วำงดีมรี ะเบยี บ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
…………………………………………………………………
๑. ปัญหำ : (ทตี่ ้องการแก้ไขมากทสี่ ุด) การวางรองเท้าของนักเรยี น
๒. สำเหตขุ องปญั หำ
๒.๑ นักเรียนบางส่วนเคยชินกับการวางรองเทา้ ไมเ่ ปน็ ระเบียบ
๒.๒ นักเรียนไมต่ ระหนักการวางรองเท้าให้เป็นระเบยี บ
๒.๓ นกั เรยี นถอดรองเท้าแล้วไม่วางเปน็ ระเบียบ
๓ .วตั ถุประสงค์ของโครงงำน (สอดคล้องกบั ปัญหาและสาเหตุของปัญหา)
๓.๑.เพ่อื ให้นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ วางรองเท้าไดเ้ ปน็ ระเบยี บมากข้นึ
๓.๒.เพ่อื ใหน้ ักเรียนฝึกความมวี ินยั
๔.เปำ้ หมำย
๔.๑ เปำ้ หมำยเชงิ ปริมำณ
นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ โรงเรยี นบ้านท่งุ สามแทง่ จานวน ๒๗ คน
๔.๒ เป้ำหมำยเชิงคณุ ภำพ
นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ โรงเรียนบา้ นทงุ่ สามแทง่ มีระเบยี บวนิ ัยในการวางรองเท้าได้เป็นระเบียบ
๔.๓ เปำ้ หมำยระยะสั้น (ระยะ ๖ เดือนแรก)
นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรียนบา้ นทงุ่ สามแทง่ มีระเบยี บวินัยในการวางรองเท้าไดเ้ ป็นระเบียบ
รอ้ ยละ ๗๐
๔.๔ เปำ้ หมำยระยะยำว (ระยะ ๑๒ เดอื นแรก)
นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบ้านทุง่ สามแท่ง มีระเบียบวนิ ัยในการวางรองเท้าได้เปน็ ระเบยี บ
ร้อยละ ๑๐๐
๕. วิธีแกไ้ ขปัญหำ (สอดคล้องกับสาเหตุของปัญหาและวัตถปุ ระสงค์ วธิ แี กป้ ัญหาต้องเป็นวธิ ีการเชิงบวก)
๕.๑ ขั้นเตรยี มกำร
- ร่วมกนั สำรวจปัญหำของห้องเรียนสรปุ ได้ ปัญหาวางรองเทา้ ไมเ่ ป็นระเบียบ
- รว่ มกลุ่ม ต้ังช่ือโครงงานคณุ ธรรม เรื่อง ”วางดีมรี ะเบยี บ”
๕.๒ ขน้ั ดำเนนิ กำร
- กำรวำงแผน โดย“กลมุ่ นักเรียนแกนนา” นาเสนอสรา้ งข้อตกลงในการวางรองเทา้ ให้เป็นระเบียบ
ขอความรว่ มมือจากเพอื่ นนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ทกุ คนวางรองเท้าใหเ้ ปน็ ระเบยี บโดยมคี รู
ประจาชนั้ เปน็ ท่ปี รึกษา
-ยกย่องชมเชย ใหร้ างวลั กบั นักเรยี นท่ีทาดเี พ่ือเปน็ ขวัญและกาลังใจ
๕.๓ ข้นั ตดิ ตำมประเมินผล
- สงั เกตพฤตกิ รรมการวางรองเทา้ หลงั จากสร้างข้อตกลงในเรื่องการวางรองเทา้ ให้เป็นระเบยี บ
62
๕.๔ ขน้ั ปรบั ปรงุ /พฒั นำ
- รายงานผลการดาเนนิ กิจกรรมต่อครู และผู้บรหิ าร
๖.หลักธรรม/พระรำชดำรัส/พระรำชดำริ/คำสอน : อิทธบิ าท ๔ ไดแ้ ก่
๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสง่ิ นนั้
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งน้ัน
๓. จิตตะ ความเอาใจใสฝ่ ักใฝ่ในส่งิ นนั้
๔. วิมังสา ความหม่นั สอดส่องในเหตุผลของสิง่ นั้น
๗.คุณธรรมเป้ำหมำย : ความมวี ินัย
พฤติกรรมบ่งชีเ้ ชิงบวก : ผบู้ ริหารและครูมีการปฏบิ ตั เิ ปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี นเร่ืองของความมรี ะเบียบวินยั และเอาใจ
ใสน่ ักเรยี นในการเรยี นการสอน การปฏิบัติตนของนกั เรียน นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบตอ่ หน้าทข่ี องตนเองถอด
รองเทา้ จดั วางรองเท้าเปน็ ระเบยี บเปน็ ประจา
๘.ตัวชีว้ ัด
วิธีกำรประเมนิ : การสงั เกต พฤติกรรมการวางรองเท้า
เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในกำรประเมนิ : แบบสังเกต พฤติกรรมการวางรองเท้า
ช่วงเวลำในกำรประเมนิ : หลังเลิกกิจกรรมหน้าเสาธงและเขา้ พบครูทป่ี รกึ ษาคาบโฮมรูม
๙.ชอ่ื โครงงำน
“วำงดีมรี ะเบียบ”
๑๐.ชือ่ คณะผู้รับผดิ ชอบโครงงำน
๑.เด็กหญงิ ปานปรียา บุตรสงิ ห์
๒.เด็กหญิงณฎั ฐณชิ า สีขา
๓. เดก็ หญิงสุกัญญา กตี า
๔. เด็กชายธณวิชน์ แรงสารกิ รรม
๕. เดก็ ชายนธพิ ัทธ์ จาปา
๑๑. ครทู ปี่ รึกษำ
นางไข่มกุ สดดุ ี ครปู ระจาช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
63
แบบรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนโครงงำนคณุ ธรรมระดบั ชั้นเรยี น
โครงงาน : วางดี มรี ะเบยี บ
ผู้รบั ผดิ ชอบ : นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ครทู ่ีปรกึ ษา : นางไข่มกุ สดุดี , นางฉนั ทนา ทะนะแสง
ระยะเวลาดาเนนิ งาน : ปีการศึกษา ๒๕๖๓
วัตถปุ ระสงค์ของโครงงำน
๑. เพอ่ื เพื่อใหน้ กั เรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ วางรองเท้าได้เปน็ ระเบียบมากขนึ้
๒. เพ่อื ให้นกั เรียนฝึกความมวี นิ ัย
เป้ำหมำยของโครงงำน
เปำ้ หมำยเชิงปรมิ ำณ
นกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบ้านทงุ่ สามแท่ง จานวน ๒๗ คน
เปำ้ หมำยเชิงคุณภำพ
นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ โรงเรียนบ้านทุ่งสามแท่ง มรี ะเบยี บวินัยในการวางรองเทา้ ได้
เป็นระเบียบ
เป้ำหมำยระยะสัน้ (ระยะ ๖ เดอื นแรก)
นกั เรียนรอ้ ยละ ๗๐ วางรองเท้าให้เป็นระเบียบ
เป้ำหมำยระยะยำว (ระยะ ๑๒ เดือนแรก)
นักเรียนรอ้ ยละ ๑๐๐ วางรองเทา้ ใหเ้ ป็นระเบยี บ
64
ผลกำรดำเนินงำน เกณฑท์ ตี่ ง้ั ไว้ก่อน ผลจำกกำร สรุปผลกำรดำเนนิ งำน
ดำเนินงำน ดำเนินงำน ตำมเปำ้ หมำย
เปำ้ หมำย (คดิ เปน็ ร้อยละ)
๑. ระยะสัน้ (๖ เดอื น) (คิดเปน็ รอ้ ยละ) (ทาเคร่ืองหมาย √ )
๒. ระยะยาว (๑๒ เดือน) ๗๔ ประสบ ไมป่ ระสบ
๗๐ ๙๕ ควำมสำเรจ็ ควำมสำเรจ็
๙๐
√
√
ปัญหำและอุปสรรค
การพดู คุยทาความเขา้ ใจอธิบายถงึ เหตผุ ลในการทาโครงงานเพ่ือฝกึ ใหน้ ักเรียนมีวนิ ัยในการวางรองเท้าใหเ้ ปน็
ระเบียบ
แนวทำงแกไ้ ข
ให้นักเรียนตระหนักและเหน็ ความสาคญั ของการวางรองเท้าใหเ้ ป็นระเบียบโดยการพดู คุยทาความเขา้ ใจและ
มตี กลงร่วมกนั มอบหมายนกั เรียนใหช้ ว่ ยกันดแู ลการวางรองเทา้ ให้เปน็ ระเบยี บและและมีแบบบนั ทึกพฤตกิ รรม
การวางรองเท้าของนักเรยี น
สรปุ ผลกำรประเมนิ โครงงำนคุณธรรมช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ ๓
√ ประสบความสาเร็จ √ ไม่ประสบผลสาเรจ็
√
ลงชอ่ื .....................................................ครูท่ปี รกึ ษา
(นางไข่มกุ สดุด)ี
ตาแหน่ง ครูโรงเรยี นบา้ นทงุ่ สามแทง่
65
ควำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ำร
รายงานผลการดาเนินโครงการคุณธรรม บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสร้างระเบียบวินัย การวาง
รองเท้าทุกครั้งเมื่อถอดรองเท้าเป็นการปลูกจิตสานึกและฝึกฝน เน้นย้าเกี่ยวกับความระเบียบวินัย โครงงาน
คุณธรรมนี้ถือว่าเป็นจุดเร่ิมต้นของการฝึกฝนระเบียบวนิ ัย จนเกิดความเคยชิน ควรดาเนินโครงการคุณธรรมอย่าง
ต่อเนื่อง ตรวจสอบ ติดตามของนักเรียน ขอขอบคุณครูที่ปรึกษา นักเรียนทุกคนที่ให้ความร่วมมือในการดาเนิน
โครงงานคณุ ธรรมดงั กล่าว
ลงช่ือ .........................................................................
(นายปรีชา ลาดวน)
ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านทุ่งสามแทง่
66
ระดมควำมคิด รวบรวมปัญหำ
67
คดั เลอื กปัญหำ มำจัดทำโครงงำน
68
69
สังเกตพฤติกรรมกำรวำงรองเท้ำของนักเรยี น
70
71
โครงงำนคุณธรรมหอ้ งเรียน
ปกี ำรศึกษำ 2564
72
โครงงำนคุณธรรม
เรอ่ื ง ยมิ้ ทักทำย ไหวส้ วย
๑. ปัญหำ
เนอ่ื งจากเด็กในช่วงปฐมวัยมีการพัฒนาด้านรา่ งกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญา ตามวยั แต่ถ้า
ได้รับการกระตุ้น และส่งเสริมเป็นพิเศษ จะมีการพัฒนาท่ีดีข้ึนอย่างรวดเร็ว ดังน้ันสาหรับนักเรียนชั้น
อนุบาล ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรียนบ้านทุ่งสามแท่ง ควรได้รับการพัฒนาในเร่ืองความมีสัมมาคารวะ
และพ้ืนฐานแห่งความมีสัมมาคารวะท่ีแสดงออกได้ชัดเจน ในเด็กช่วงปฐมวัยก็คือการไหว้อย่างถูกต้อง
และสวยงาม
๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ นกั เรียนขาดการปลกู ฝงั การแสดงความเคารพ นอบนอ้ ม โดยการไหว้และกล่าวคาสวสั ดี
๒.๒ นกั เรยี นไม่เหน็ ความสาคญั ของการไหว้ และกล่าวคาสวัสดี
๒.๓ นกั เรยี นไมไ่ หว้และกล่าวคาสวสั ดีถ้าไมไ่ ด้รบั คาแนะนา หรือชี้แนะ
๓. วตั ถุประสงค์ของโครงงำน
๓.๑ เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนช้ันอนุบาล ๒ โรงเรียนบ้านทุ่งสามแท่งปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีการ
แสดงความเคารพ นอบน้อมโดยการไหวแ้ ละกลา่ วคาสวสั ดี
๓.๒ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นชนั้ อนุบาล ๒ เหน็ ความสาคญั ของการไหว้ และกล่าวคาสวสั ดี
๓.๓ เพื่อใหน้ กั เรียนชน้ั อนบุ าล ๒ รูจ้ กั การไหว้ผ้ใู หญ่และกลา่ วคาสวัสดีอย่างนอบนอ้ มโดยไม่ต้อง
ช้แี นะ
๔. เปำ้ หมำย
๔.๑ เป้ำหมำยเชิงปรมิ ำณ
นักเรียนชัน้ อนบุ าล ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๔ จานวน ๑๖ คน
๔.๒ เปำ้ หมำยเชิงคุณภำพ
เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนช้ันอนุบาล ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กล้าแสดงออกแห่งการมีสัมมา
คารวะโดยการไหว้และกล่าวคาสวสั ดี
๔.๓ เปำ้ หมำยระยะสั้นเวลำ (ระยะเวลำ ๒ เดอื น)
เป้าหมายระยะสั้น ( เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๖๔ ) นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ร้อยละ ๘๐
ต้องแสดงความมีสมั มาคารวะด้วยการไหวแ้ ละกล่าวคาสวัสดีต่อบุคคลโดยไม่ตอ้ งช้ีแนะนา
๔.๔ เปำ้ หมำยระยะยำว (ระยะเวลำ ๓ เดอื น)
เป้าหมายระยะยาว ( เดอื นมกราคม - มนี าคม ๒๕๖๕ ) นักเรียนชนั้ อนบุ าล ๒ ร้อยละ ๑๐๐ ตอ้ ง
แสดงความมสี มั มาคารวะโดยการไหวแ้ ละกล่าวคาสวัสดีตอ่ บุคคลโดยไม่ต้องชี้แนะหรือแนะนา
๕. วิธกี ำรแก้ปัญหำ
๕.๑ วางแผนการจดั กจิ กรรม
๕.๒ สรา้ งแบบบนั ทกึ พฤตกิ รรม
๕.๓ จัดกิจกรรมแสดงบทบาทสมมุติ ยกตัวอย่าง เล่านิทานเพื่อส่งเสริมความมีสัมมาคารวะต่อ
บคุ คลอ่ืน
73
๕.๔ มอบรางวัลและยกย่องนักเรียนท่ีประพฤติตนได้ถูกต้อง เกี่ยวกับการมีสัมมาคารวะ โดย
การไหวแ้ ละกล่าวคาสวัสดที ่ีเป็นแบบอยา่ งได้
๖. หลักธรรม/พระรำชดำรัส/พระรำชดำร/ิ คำสอน
"ต้องรักษามารยาทอันดีงามสาหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยน
แต่ไมอ่ ่อนแอ พร้อมจะเสยี สละประโยชน์สว่ นตัว เพอื่ สว่ นรวม"
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในพธิ พี ระราชทานปริญญาบัตร
ของจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ณ วนั ท่ี ๒๕ มถิ ุนายน ๒๔๙๖
๗. คณุ ธรรมเป้ำหมำย การมีสัมมาคารวะ
พฤตกิ รรมบ่งช้เี ชิงบวก การไหว้ และกลา่ วคาสวัสดี
๘. ตวั ชว้ี ัด แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
วธิ ีกำรประเมิน แบบประเมินคา่ คะแนนจากพฤติกรรม
เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นกำรประเมนิ แบบประเมินพฤตกิ รรม
ชว่ งเวลำทใ่ี ช้ในกำรประเมนิ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
๙. ช่ือโครงกำรคณุ ธรรม ย้ิม ทกั ทาย ไหว้สวย
๑๐. ช่อื คณะผ้รู ับผิดชอบในโครงงำน คณะครูปฐมวัยและนกั เรียนชน้ั อนุบาล ๒
โรงเรยี นบา้ นทุ่งสามแทง่
๑๑. ครทู ี่ปรึกษำ นางทพิ านนั ท์ ขนั กรรไกร
74
ภำพกิจกรรม
นกั เรียนช้นั อนุบำลปีที่ 2 ร่วมกันหำสำเหตุของปญั หำและรว่ มกนั
วำงแผนแก้ไขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกิจกรรม
75
ภำพกิจกรรม
นกั เรียนช้นั อนบุ ำลปีท่ี ๒ ทำควำมเคำรพโดยกำรไหวผ้ ปู้ กครอง
และยมิ้ ไหวท้ กั ทำยกันในทุก ๆ เช้ำ
76
โครงงำนคุณธรรม
เรอ่ื ง ไหวส้ วย ยมิ้ ใส
…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
๑. ปัญหำ : นักเรียนช้ันอนุบาลปีท่ี ๓ เมื่อพบคุณครู หรือบุคคลท่ีมีอายุมากกว่าภายในโรงเรียน และผู้ปกครอง
นักเรียนทีม่ ารับ – ส่ง นักเรยี นเวลามาโรงเรียน ยังไมร่ จู้ ักการไหว้ ทาความเคารพ และนกั เรียนยงั ไหว้ไมถ่ ูกต้อง ไม่
มีการพูดสวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ เมื่อมีการยกมือขึ้นมาไหว้ ไม่ย้ิมแย้มแจ่มใสให้กับ ครู ผู้ใหญ่ที่พบเห็น จึงควรมีการ
พัฒนาในด้านการมีสัมมาคารวะ การไหว้สวย ย้ิมใส และให้นักเรียนฝึกฝน ทาบ่อย ๆ จนเป็นพฤติกรรมท่ีติดเป็น
นสิ ัย
๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ เดก็ ไมร่ ู้จกั การไหว้ ทาความเคารพ
๒.๒ เดก็ ยงั ไหวไ้ ม่ถกู ต้อง
๒.๓ เด็กไมย่ ิม้ แย้มแจ่มใส ไมม่ ีการกล่าวคาทักทาย สวัสดคี ่ะ/สวัสดีครับ ใหก้ ับ ครู ผใู้ หญ่ทพ่ี บเหน็
๓. วัตถุประสงคข์ องโครงงำน
๓.๑ เพอื่ ให้เดก็ รจู้ ักการไหว้ ทาความเคารพ
๓.๒ เพอ่ื ให้เดก็ มพี ฤตกิ รรมการไหวท้ ี่ถูกต้อง
๓.๓ เพอื่ ใหเ้ ด็กย้ิมแยม้ แจ่มใส มกี ารกล่าวคาทักทาย สวัสดีค่ะ/สวสั ดคี รบั ให้กบั ครู ผใู้ หญ่ทพี่ บเห็น
๔. เปำ้ หมำย
๔.๑ เป้ำหมำยเชงิ ปริมำณ
เด็กนกั เรยี นช้นั อนุบาลปีที่ ๓ จานวน ๑๐ คน
๔.๒ เปำ้ หมำยเชงิ คณุ ภำพ
เดก็ นักเรียนช้ันอนุบาลปที ่ี ๓ ทกุ คนมีรจู้ ักการไหว้ ทาความเคารพ มีพฤตกิ รรมการไหว้ท่ีถูกต้อง และมี
หน้าตายิม้ แยม้ แจ่มใส มีการกล่าวคาทกั ทาย สวสั ดคี ่ะ/สวัสดคี รับ ใหก้ ับ ครู ผู้ใหญ่ทีพ่ บเห็น
๔.๓ เปำ้ หมำยระยะสั้น (ระยะ ๖ เดือนแรก)
นกั เรียนรอ้ ยละ ๖๐ ร้จู ักการไหว้ ทาความเคารพ และแบบการไหวท้ ถี่ กู ต้อง
๔.๔ เปำ้ หมำยระยะยำว (ระยะ ๑๒ เดือนแรก)
นกั เรยี นร้อยละ ๘๐ รจู้ ักการไหว้ ทาความเคารพ มพี ฤตกิ รรมการไหว้ที่ถูกต้อง และมหี นา้ ตาย้มิ แย้ม
แจ่มใส มีการกลา่ วคาทักทาย สวัสดคี ะ่ /สวัสดีครับ ใหก้ บั ครู ผู้ใหญท่ พี่ บเห็น
๕. วิธแี ก้ไขปัญหำ
๕.๑ เดก็ นกั เรียนช้นั อนบุ าลปีท่ี ๓ และครรู ่วมกันวเิ คราะห์ปญั หาตา่ งๆ ของห้องเรียน เลือกปัญหาท่ีพบมาก
ทสี่ ุด จดั ทาเปน็ โครงงานคณุ ธรรมของห้องเรียนชน้ั อนุบาลปีท่ี ๓
77
๕.๒ ดาเนินการแก้ปญั หาด้วยวธิ กี ารดังต่อไปนี้
- จดั กิจกรรมใหน้ ักเรียนไหว้คณุ ครปู ระจาชั้น และคุณครูเม่ือพบเหน็ และก่อนทากิจกรรมต่าง ๆ ทัง้
กจิ กรรมภายในห้องเรยี น และกิจกรรมภายนอกหอ้ งเรียนในทกุ ๆ วัน
- สรุปผลและมอบรางวลั ไดแ้ ก่ ดาวชมเชย ใหก้ บั นกั เรยี นทม่ี ีการไหวส้ วย ยม้ิ ใสในแตล่ ะวนั
- นกั เรียนนบั ดาวชมเชยทไี่ ด้รบั ในแตล่ ะวนั ของตนเอง
- นกั เรียนสรปุ จานวนดาวทตี่ นเองได้รบั ในวนั สดุ ท้ายของการเรียนในปีการศึกษา ๒๕๖๔
- มอบรางวลั ใหก้ ับนักเรียนที่มจี านวนดาวมากทีส่ ุด
๖. หลกั ธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
พระบรมราโชวาท พระราชดารสั เกี่ยวกบั การดาเนินชีวติ ดงั น้ี
“...ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงาม สาหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็ง
กระด้าง มคี วามอ่อนโยนแต่ไม่ออ่ นแอ พรอ้ มจะเสียสละประโยชนส์ ่วนตนเพื่อส่วนรวม...”
ความตอนหน่งึ ในพระบรมราโชวาท
ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบัตรของจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย วนั ท่ี ๒๕ มิถนุ ายน ๒๔๙๖
๗. คณุ ธรรมเปำ้ หมำย
ความมีสมั มาคารวะ
พฤติกรรมบ่งช้ีเชิงบวก
เดก็ นกั เรียนมไี หว้สวย ยม้ิ ใส
๘. ตวั ช้ีวดั นกั เรยี นร้อยละ ๘๐ ร้จู ักการไหว้ ทาความเคารพ มพี ฤติกรรมการไหว้ท่ถี ูกตอ้ ง และมีหนา้ ตายิม้ แย้ม
แจม่ ใส มีการกล่าวคาทักทาย สวสั ดคี ่ะ/สวสั ดคี รับ ใหก้ บั ครู ผใู้ หญ่ทีพ่ บเหน็
วธิ ีกำรประเมนิ
ตรวจโดยการสงั เกตพฤติกรรมการไหวค้ ุณครูประจาชน้ั และคณุ ครหู รือผูใ้ หญ่ที่อยูภ่ ายในโรงเรียน ทัง้ กอ่ น
ทากจิ กรรมต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมภายในหอ้ งเรยี น และกจิ กรรมภายนอกห้องเรียนในทกุ ๆ วนั
เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในกำรประเมนิ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการไหวข้ องนกั เรียน
ช่วงเวลำท่ีใช้ในกำรประเมนิ
วันจนั ทร์ – วันศกุ ร์ ในเวลา ๐๘.๐๐- ๑๕.๐๐ น.
๙. ชอื่ โครงงำนคณุ ธรรม ไหว้สวย ย้มิ ใส
๑๐. ช่ือคณะผูร้ บั ผดิ ชอบโครงงำน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓
๑๑. ครทู ปี่ รกึ ษำ นางสาวเนตรนลิน อยู่ประจกั ษ์
78
ภำพกิจกรรม
นกั เรียนช้นั อนุบำลปีที่ ๓ ร่วมกันหำสำเหตุของปญั หำและรว่ มกนั
วำงแผนแก้ไขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกิจกรรม
79
ภำพกิจกรรม
นกั เรยี นชนั้ อนบุ ำลปที ี่ ๓ ไหว้คณุ ครูประจำชนั้ และคณุ ครเู ม่อื พบเหน็
และก่อนทำกิจกรรมตำ่ ง ๆ
80
โครงงำนคณุ ธรรม
เรอ่ื ง สัมมำคำรวะดี มเี สน่ห์
…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
๑. ปัญหำ : นักเรียนไมม่ สี มั มาคารวะ ปฏบิ ัติตนไม่ถูกตอ้ ง และไม่เหมาะสมในการแสดงความเคารพครูหรือผู้ท่ี
อาวุโสกว่า
๒. สำเหตขุ องปัญหำ
๒.๑ นกั เรยี นไมไ่ หว้สวัสดี ขอบคุณ ขออนญุ าต ขอโทษ กบั ครู หรอื ผู้อาวุโสกวา่
๒.๒ นกั เรียนไม่กม้ หลงั เม่อื เดินผ่านครู หรือหยุดยืนตรงเมือ่ ครูเดนิ ผา่ น
๒.๓ นกั เรียนไม่พดู ลงท้ายประโยคดว้ ยคาว่า “ค่ะ , ครับ” กับครู หรือผู้อาวโุ สกว่า
๓. วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงำน
๓.๑ เพ่ือให้นกั เรียนไหว้สวสั ดี ขอบคุณ ขออนญุ าต ขอโทษ กับครู หรอื ผู้อาวโุ สกวา่
๓.๒ เพ่อื ให้นกั เรยี นก้มหลงั เม่อื เดนิ ผา่ นครู หรอื หยุดยืนตรงเม่อื ครเู ดนิ ผ่าน
๓.๓ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นพดู ลงทา้ ยประโยคด้วยคาวา่ “ค่ะ , ครับ” กับครู หรอื ผู้อาวโุ สกวา่
๔. เป้ำหมำย
๔.๑ เป้ำหมำยเชงิ ปริมำณ
นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ จานวน ๑๕ คน
๔.๒ เปำ้ หมำยเชงิ คุณภำพ
นกั เรยี นแสดงความเคารพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
๔.๓ เปำ้ หมำยระยะส้นั พฤศจกิ ายน – ธนั วาคม ๒๕๖๔ (ระยะ ๒ เดือนแรก)
นกั เรยี นร้อยละ ๗๐ แสดงความเคารพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
๔.๔ เป้ำหมำยระยะยำว มกราคม – มีนาคม ๒๕๖๕ (ระยะ ๓ เดือน)
นกั เรยี นร้อยละ ๙๐ แสดงความเคารพได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม
๕. วิธีแก้ไขปัญหำ
๕.๑ นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะหป์ ัญหาต่างๆ ของช้ันเรียน เลอื กปญั หาที่พบมากท่สี ดุ เกิดข้ึนบ่อยทสี่ ุด
ซึ่งจาเปน็ เรง่ ด่วนท่ีจะตอ้ งแก้ไขหรอื พฒั นา ศึกษาสาเหตขุ องปญั หา กาหนดวิธีการ ข้นั ตอนในการแกป้ ัญหา จดั ทา
เป็นโครงงานคณุ ธรรมของชั้นเรียน
๕.๒ ดาเนนิ การแกป้ ัญหาด้วยวธิ กี ารดงั ต่อไปนี้
๕.๒.๑ นักเรียนรว่ มกันแต่งต้งั คณะกรรมการ มอบหมายหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบ ชี้แจงและทาความเข้าใจในวิธี
ดาเนินงานตามขนั้ ตอนตา่ งๆ อยา่ งชดั เจน และมคี วามเขา้ ใจที่ตรงกัน
๕.๒.๒ คณะกรรมการสงั เกตพฤติกรรมการแสดงความเคารพของเพื่อนร่วมช้นั เรยี น ตามรายการ
ดังตอ่ ไปนี้
- ไหวส้ วสั ดี ขอบคณุ ขออนุญาต ขอโทษ กับครู หรอื ผอู้ าวุโสกวา่
- การกม้ หลังเมอื่ เดนิ ผา่ นครู หรือหยุดยนื ตรงเม่ือครูเดินผา่ น
81
- การพูดลงทา้ ยดว้ ยคาวา่ “ค่ะ ครับ” กับครู หรือผู้อาวโุ สกวา่
๕.๒.๓ คณะกรรมการสรปุ ผลการสังเกตการแสดงความเคารพของเพ่ือนร่วมชั้นเรียนในแตล่ ะวันตาม
เกณฑ์ ดังน้ี
ผา่ น หมายถึง แสดงความเคารพได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม
ไมผ่ ่าน หมายถงึ แสดงความเคารพได้ แต่ไมถ่ ูกต้อง ไม่เหมาะสม
๕.๒.๔ คณะกรรมการสรุปผลการแสดงความเคารพของเพ่ือนร่วมชัน้ เรียน ในแต่ละสปั ดาห์ และติดช่ือ
พร้อมภาพถา่ ยของนักเรยี นที่มีคะแนนผ่านสูงสุด ในป้าย เด็กดีประจำสัปดำห์ เพือ่ เป็นการยกย่อง ชมเชย ที่
สามารถประพฤติ ปฏิบตั ติ น ไดด้ ีเปน็ แบบอย่างให้กับผอู้ ่นื ได้
๕.๒.๕ คณะกรรมการสรุปและบนั ทึกรายชื่อของนักเรียนทม่ี ีคะแนนสูงสุดเป็นรายสปั ดาห์ รายเดอื น
รายภาคเรยี น และปกี ารศึกษา
๕.๒.๖ ครทู ี่ปรกึ ษา และคณะกรรมการมอบรางวัลให้กับนกั เรียนทีม่ ผี ลการประเมิน/ผลคะแนน
ในอนั ดบั ที่ ๑ ๒ และ ๓ เม่ือสน้ิ ภาคเรยี น และสน้ิ ปกี ารศึกษา
๖. หลกั ธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
หลักธรรมที่นามาใช้ในการดาเนินงานให้ประสบความสาเร็จ ได้แก่
๖.๑ พระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลท่ี ๙
“...ในวงสังคมน้ันเล่า ท่านจะตอ้ งรักษามารยาทอันดีงาม สาหรบั สภุ าพชน รูจ้ กั สมั มาคารวะ ไมแ่ ข็งกระด้าง
มีความอ่อนโยนแต่ไม่ออ่ นแอ พรอ้ มจะเสียสละประโยชน์สว่ นตนเพือ่ สว่ นรวม...”
๖.๒ สงั คหวตั ถุ ๔
- ทาน การใหก้ ารชว่ ยเหลือซ่งึ กันและกนั
- ปิยวาจา การพดู ด้วยถ้อยคาไพเราะ อ่อนหวาน จรงิ ใจ
- อตั ถจริยา ประพฤติส่ิงทีเ่ ปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ้อู น่ื
- สมานัตตตา การเปน็ คนเสมอต้นเสมอปลาย
๗. คณุ ธรรมเป้ำหมำย
มสี ัมมาคารวะ
พฤติกรรมบง่ ชเ้ี ชิงบวก
นกั เรยี นแสดงความเคารพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
๘. ตวั ชว้ี ัด นักเรยี นร้อยละ ๙๐ ไหว้หรือแสดงความเคารพได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม
วิธกี ำรประเมนิ
สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความเคารพ
เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นกำรประเมิน
- แบบบันทึกการสงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงความเคารพ
- แบบสรปุ ผลการสังเกตพฤติกรรมการการแสดงความเคารพ
ช่วงเวลำทใี่ ชใ้ นกำรประเมิน
วนั จันทร์ – วนั ศกุ ร์ ในเวลา ๐๘.๓๐ น.- ๑๕.๔๕ น.
82
๙. ช่ือโครงงำนคุณธรรม สมั มาคารวะดี มเี สนห่ ์
๑๐. ชื่อคณะผรู้ ับผดิ ชอบโครงงำน นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
๑๑. ครทู ป่ี รึกษำ นางจรรยา รุททองจนั ทร์
83
ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 1 ร่วมกนั หำสำเหตุของปญั หำและร่วมกัน
วำงแผนแกไ้ ขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกจิ กรรม
84
ภำพกจิ กรรม
นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 ไหวส้ วสั ดี ขอบคณุ ขออนญุ ำต ขอโทษ
กำรก้มหลงั เมอ่ื เดนิ ผ่ำนครู หรอื หยุดยนื ตรงเมอ่ื ครเู ดนิ ผำ่ น
85
โครงงำนคุณธรรม
เรื่อง วินัยดี เร่มิ ท่ีเสอ้ื ผ้ำ
…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
๑. ปญั หำ : ๑. นกั เรียนแตง่ กาย ไมเ่ รียบร้อย ชายเสือ้ ออกนอกกางเกง
๒. เสอ้ื ผ้านกั เรยี นเปรอะเป้อื น สกปรกไมส่ ะอาด
๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ นกั เรยี นขาดวินัย ไม่นาเส้อื นกั เรียนใสใ่ นกางเกงให้เรยี บร้อย
๒.๒ เสื้อผ้าไมส่ ะอาด
๒.๓ นักเรียนมีพฤติกรรมขาดระเบยี บวินัยในตนเอง
๓. วัตถุประสงคข์ องโครงงำน
๓.๑ เพื่อสร้างระเบียบ วินัย ให้นกั เรยี นแตง่ กายถูกระเบียบของโรงเรยี น ชายเสื้อเข้าในกางเกง
๓.๒ นกั เรียนสวมเสอ้ื ผ้าทีส่ ะอาด เรยี บร้อย
๓.๓ เพือ่ สร้างจติ สานึกในการรับผิดชอบต่อตนเอง
๔. เปำ้ หมำย
๔.๑ เป้ำหมำยเชิงปรมิ ำณ
นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จานวน ๑๗ คน
๔.๒ เป้ำหมำยเชงิ คุณภำพ
นักเรยี นมรี ะเบียบ วนิ ยั ในการแตง่ กาย โดยนาเส้ือใสเ่ ข้าในกางเกง ใหเ้ ปน็ ระเบียบเรียบร้อยและเสอ้ื ผ้า
สะอาด มีความรบั ผิดชอบต่อตนเองมากข้ึน
๔.๓ เป้ำหมำยระยะส้นั (ระยะ ๓ เดือนแรก)
นกั เรียนรอ้ ยละ ๗๐ มรี ะเบยี บ วินัย มากขนึ้
๕. วธิ แี กไ้ ขปัญหำ
๕.๑ สารวจปญั หาในช้นั เรยี น พร้อมระดมกรอบความคิด
๕.๒ ทราบปญั หา จดั ทาโครงงาน เร่ือง วินัยดี เรมิ่ ทเ่ี สอื้ ผา้
๕.๓ ประชาสัมพนั ธ์ให้นักเรยี นรับทราบ และรว่ มดาเนนิ กจิ กรรมโครงงานคณุ ธรรม
๕.๔ ครูประจาช้นั โครงงานอบรมให้ความร้แู ก่นักเรียนในเรอื่ ง การมีระเบยี บวินัย ของการแตง่ กาย ทถ่ี ูกต้อง
ตามระเบยี บของโรงเรียน
๕.๕ ดาเนนิ โครงงาน
๕.๖ ผ้ปู ระจาชัน้ และนักเรียนร่วมกนั ประเมินผลตามเป้าหมายระยะสนั้
๖. หลักธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
''… วินัยนั้น เมื่อนามาฝึกหัดปฏิบัติจะเป็นดังข้อบังคับท่ีควบคุมบุคคลให้ประพฤติปฏิบัติเป็นระเบียบ จึง
อาจทาใหเ้ กิดความอึดอัดลาบากใจ เพราะต้องฝืนกระทา แตเ่ มื่อปฏิบัติไปใหช้ นิ จนรู้สึกว่าเปน็ ไปโดยอัตโนมัติแล้ว
86
ก็จะสาเร็จผล ทาให้เป็นคนมีระเบียบและเป็นระเบียบ คือ คิดก็เป็นระเบียบ ทาก็เป็นระเบียบ ตามลาดับขั้นตอน
ตามกาลเทศะ ตามความพอเหมาะพอควร หายสับสน หายลังเล และหายขัดแย้ง ท้ังในความคิด ทั้งในการทางาน
สามารถนาวิชาความรู้และความชานาญทุกๆ ประการไปใช้ได้อย่างถูกต้องคลอ่ งแคล่ว สาเร็จผลเต็มเมด็ เตม็ หนว่ ย
ช่วยใหเ้ กิดประโยชนส์ มบรู ณ์บรบิ ูรณต์ ามจดุ หมาย ทัง้ จะเก้อื กลู รักษาผู้มวี นิ ัยใหเ้ จริญสวสั ดที ุกเมอ่ื …''
พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช วนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๗
ระเบยี บวินัย
“คนที่มีระเบียบมีวินัยนั้นเป็นผู้ท่ีเข้มแข็ง เป็นผู้ที่หวังดีต่อตัวเอง เป็นผู้ท่ีจะมีความสาเร็จในอนาคต อันน้ี
เป็นระเบียบอย่างหนึ่ง เป็นวินัยอย่างหน่ึงคือว่า ถ้าคนใดมีระเบียบมีวินัยในร่างกาย คือหมายถึงการปฏิบัติของตัว
ในกิริยามารยาท ทาให้ไม่มีอุปสรรคต่อการขวนขวายหา จะหาความรู้ก็ได้ หาอะไรก็มีความสาเร็จ คือหาสิ่งท่ีตัว
กาลังมุ่งที่จะปฏิบัติ การปฏิบัติด้วยความมีระเบียบ มีวินัย การปฏิบัติน้ันสาเร็จ อันนี้เป็นระเบียบวินัยชนิดหน่ึง
ระเบียบวินัยอีกชนิดท่ีกล่าวเมื่อตะกี้ ก็คือระเบียบในใจน้ันก็คือการกระทาอะไร เราต้องคิด เม่ือมีระเบียบใน
ความคดิ คือมเี หตผุ ล สง่ิ ใดทคี่ ิดก็คิดออก สมมตวิ า่ เราคดิ เรือ่ งหนง่ึ แล้วกไ็ ปคดิ ถึงอีกเรื่องหนึ่งท่ไี มเ่ ก่ียวขอ้ ง แล้วไป
คิดถึงเรื่องท่ีสาม เรื่องท่ีส่ี เร่ืองทั้งสามสี่เร่ืองนี้ก็ไม่มีความสาเร็จแน่นอน เพราะว่ามันฟุ้งซ่าน ฉะนั้นต้องมีระเบียบ
ในความคิด ทเี่ รียกว่าระเบยี บในใจหรอื วินัยในความคิด”
พระราชดารัสพระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตภาคใต้ จังหวัดสงขลา ณ
มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ จงั หวัดสงขลา ๑๐ กันยายน ๒๕๒๔
๗. คุณธรรมเปำ้ หมำย ความมวี ินัย
พฤตกิ รรมบ่งชเี้ ชิงบวก
- นกั เรยี นมีระเบยี บวินัยในการแตง่ กาย โดยนาชายเส้อื ใส่ในกางเกง ให้เปน็ ระเบียบเรียบร้อย และสวม
เสื้อผา้ สะอาดมาโรงเรียน
๘. ตวั ชี้วดั นกั เรียนร้อยละ ๙๐ มรี ะเบียบวนิ ยั ในการแต่งกาย
วธิ ีกำรประเมนิ
- ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ในการแตง่ กาย
เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมิน
- แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน เร่ืองระเบียบวนิ ยั
ช่วงเวลำท่ใี ช้ในกำรประเมิน
- วันจันทร์ – วันศุกร์ ในเวลา ๐๘.๑๕ – ๑๕.๔๕ น.
๙. ชอื่ โครงงำนคณุ ธรรม วินัยดี เริ่มท่ีเส้อื ผ้ำ
๑๐. ช่ือผ้รู ับผดิ ชอบโครงงำน นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒
๑๑. ครูทป่ี รกึ ษำ นางสาววาสนา ทรพั ย์ประมูล, นางสาวเกวลี เมนิ ดี
87
ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 2 ร่วมกนั หำสำเหตุของปญั หำและร่วมกัน
วำงแผนแกไ้ ขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกจิ กรรม
88
ภำพกจิ กรรม
นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 2 สรำ้ งระเบียบ วนิ ยั
นักเรยี นแตง่ กำยถูกระเบยี บของโรงเรียน ชำยเสือ้ เข้ำในกำงเกง
89
โครงงำนคุณธรรมนกั เรยี น
เร่ือง ไปมำลำไหว้ ทักทำยกนั
…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
1. ปัญหำ
๑. นกั เรยี นไม่รจู้ ักทักทาย
๒. นกั เรยี นแสดงการไหว้อย่างไม่ออ่ นช้อยสวยงามตามอย่างไทย
๓. นักเรียนไม่ร้จู กั แสดงความเคารพผูใ้ หญ่
2. สำเหตขุ องปัญหำ
๑. นักเรยี นไม่รู้จกั วธิ ีการไหว้และทักทายที่ถูกต้อง
๒. นกั เรียนมีความเขินขายท่จี ะไหวแ้ ละทักทาย ครูอาจารย์ แขกผู้มาเยือน พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่
๓. นกั เรียนไมร่ ูจ้ ักวิธกี ารทาความเคารพท่ถี ูกตอ้ งและเหมาะสมตอ่ ครูอาจารย์และผใู้ หญ่
3. วัตถุประสงคข์ องโครงงำน
1. เพือ่ สรา้ งความตระหนกั และปลูกฝังคณุ ธรรมในการย้มิ การไหว้ และการทักทาย
2. เพ่ือส่งเสริมการยิ้ม การไหว้ และการทักทายให้ถกู ต้อง
3. เพื่อพฒั นาการย้มิ การไหว้ และการทักทายให้ดียิ่งขน้ึ
๔. เปำ้ หมำย
- เชงิ ปริมาณ : นักเรียนระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบา้ นทงุ่ สามแทง่ จานวน ๑๗ คน
- เชงิ คณุ ภาพ : เพมิ่ คุณภาพนักเรียนที่มีจิตสานึก ตระหนักในการยมิ้ การไหว้ และการทกั ทายนกั เรียน
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรยี นบ้านท่งุ สามแท่ง มกี ารยมิ้ การไหว้ และการ ทักทายที่ถกู ต้อง
เหมาะสม
- เป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลา ๓ เดอื น) นักเรยี นระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบา้ นทุ่งสาม
แท่ง
มีการยิ้ม การไหว้ และการทักทายท่ีถูกต้อง เหมาะสมกับเพ่ือนนักเรยี น และ คุณครูทุกคน
- เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา ๖ เดอื น) นกั เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ โรงเรยี นบา้ นท่งุ สาม
แทง่
มกี ารย้ิม การไหว้ และการทักทายที่ถูกตอ้ ง เหมาะสมกับเพื่อนนกั เรียน และ คณุ ครทู ุกคน
๕. วธิ ีแกไ้ ขปัญหำ
๑. ประชุมปรกึ ษานกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ เพ่ือกาหนดกจิ กรรม
๒. นักเรยี นระดมความคิด ชีแ้ จงปญั หา เพื่อทราบแนวทางของห้องในการจัดทา
โครงงานและศกึ ษาการทาโครงงานและขอ้ มูล
๓. ดาเนินการตามแผนงานท่ีกาหนด
- ขอความรว่ มมือจากเพ่ือนๆชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ทุกคนในการทาความเคารพคุณครู และเพื่อน
เมอื่ พบเจอกนั
- ฝึกฝนการย้มิ การไหว้ และการทกั ทายท่ีถกู ต้อง
- ปลูกฝังคณุ ธรรมในการยม้ิ การไหว้ และการทักทายเมื่อพบเจอกัน
๖.หลักธรรม
อทิ ธบิ าท ๔ คือ
๑. ฉนั ทะ คอื ความพอใจรักใคร่ในการทาความดี
๒. วิริยะ คอื พากเพียรในการกระทาทต่ี ่อเน่ืองไม่ขาดตอนเป็นระยะยาวจนสาเรจ็
90
๓. จติ ตะ คอื ความไมท่ อดทิ้งสง่ิ ทีท่ านั้น ให้เด่นชัดอยู่ในใจเสมอ
๔. วมิ งั สา คือ สอดสอ่ งในเหตุผลแหง่ ความสาเร็จ
๗.คณุ ธรรมเปำ้ หมำย
สมั มาคารวะ
พฤติกรรมเชิงบวก
นกั เรียนมพี ฤติกรรมการไหว้ การทักทายกนั ทีถ่ ูกต้อง เหมาะสม กบั บคุ คล อาทิ เชน่ เมือ่ พบเจอ
เพอ่ื นนักเรียนด้วยกันและคุณครูทโี่ รงเรยี น
๘.ตัวชวี้ ดั
วธิ ีการประเมิน
วธิ กี ารวัดผล : การสอบถามความพึงพอใจให้ครูเป็นผ้ปู ระเมนิ
เครอื่ งมอื การวดั ผล
เครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมนิ : แบบประเมินความพึงพอใจโดยครเู ปน็ ผ้ปู ระเมนิ
ชว่ งระยะเวลา
ชว่ งเวลาการประเมิน : ทกุ วนั ทนี่ กั เรยี นมาโรงเรยี น
๙. ชือ่ ผู้รบั ผิดชอบโครงงำน
นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
๑๐. ครทู ี่ปรกึ ษำ
ครฐู ติ พิ ร หอมหวล
91
ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 3 ร่วมกนั หำสำเหตุของปญั หำและร่วมกัน
วำงแผนแกไ้ ขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกจิ กรรม
92
ภำพกจิ กรรม
นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 3 ฝกึ ฝนกำรยิม้ กำรไหว้
และกำรทักทำยท่ถี กู ตอ้ ง
93
โครงงำนคณุ ธรรม
เรื่อง ใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น
…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
๑. ปัญหำ : นักเรยี นไม่ตั้งใจเรียน ในขณะเรียนหนังสอื ในห้องเรียน
๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ นักเรียนไมต่ ั้งใจเรียน ชอบหยอกล้อกนั ในขณะเรียนหนงั สอื
๒.๒ แอบเล่นของเลน่ ในขณะเรียนหนังสอื
๓. วัตถุประสงค์ของโครงงำน
๓.๑ เพ่ือใหน้ ักเรียนตงั้ ใจเรียน ไม่หยอกลอ้ กัน หรือแอบเล่นของเลน่ ในขณะเรยี นหนงั สือ
๓.๒ เพือ่ ปลกู ฝงั ให้นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้ ตามอัตลักษณ์คุณธรรมโรงเรียนบา้ นทุ่งสามแทง่
๔. เป้ำหมำย
๔.๑ เป้ำหมำยเชงิ ปริมำณ
- นกั เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ จานวน ๑๖ คน
- นักเรยี นระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ร้อยละ ๙๐ มีพฤติกรรมตั้งใจเรยี น ไม่หยอกล้อกัน หรอื แอบ
เล่นของเลน่ ในขณะเรยี นหนงั สือ
๔.๒ เปำ้ หมำยเชิงคณุ ภำพ
- นักเรยี นระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ตง้ั ใจเรียนในขณะเรียนหนงั สอื ในห้องเรียน
๔.๓ เปำ้ หมำยระยะสั้น (ระยะ ๒ เดอื นแรก)
นกั เรียนรอ้ ยละ ๖๐ มีพฤติกรรมตั้งใจเรยี น ไม่หยอกล้อกัน หรือแอบเลน่ ของเล่นในขณะเรียนหนงั สอื
๔.๔ เป้ำหมำยระยะยำว (ระยะ ๔ เดอื นแรก)
นกั เรียนรอ้ ยละ ๙๐ มีพฤติกรรมต้ังใจเรยี น ไม่หยอกลอ้ กนั หรอื แอบเล่นของเลน่ ในขณะเรียนหนงั สอื
๕. วธิ ีแกไ้ ขปัญหำ
๕.๑ นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหป์ ัญหาต่างๆ ของช้ันเรียน เลอื กปญั หาท่ีพบมากทีส่ ุด เกิดขน้ึ บ่อยที่สดุ
ซึง่ จาเปน็ เรง่ ด่วนทจี่ ะต้องแก้ไขหรือพฒั นา ศึกษาสาเหตุของปญั หา กาหนดวิธีการ ข้นั ตอนในการแก้ปญั หา จดั ทา
เปน็ โครงงานคุณธรรมของช้นั เรยี น
๕.๒ ดาเนินการแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีการดังตอ่ ไปน้ี
๕.๒.๑ นกั เรยี นร่วมกันแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ มอบหมายหน้าที่รบั ผดิ ชอบ ช้แี จงและทาความเข้าใจในวธิ ี
ดาเนินงานตามขัน้ ตอนต่างๆ อยา่ งชัดเจน และมคี วามเขา้ ใจท่ีตรงกัน
๕.๒.๒ คณะกรรมการสังเกตพฤติกรรมในขณะเรียนหนังสอื ของนักเรยี น ตามรายการดังต่อไปนี้
- นกั เรียนไม่หยอกล้อกัน ในขณะเรียนหนงั สอื
- นกั เรียนไมเ่ ลน่ ของเล่นในขณะเรยี นหนงั สือ
94
- นกั เรียนตงั้ ใจเรียน สนใจในเร่ืองที่เรยี น ในขณะเรยี นหนงั สือ
๕.๒.๓ คณะกรรมการสรปุ ผลการสังเกตพฤติกรรมเพ่ือนๆ ในหอ้ งเรยี น ในแตล่ ะวันตามเกณฑ์ ดังน้ี
ผ่าน หมายถึง ปฏิบตั ติ ามรายการทีก่ าหนดได้ครบทกุ ข้อ
ไม่ผ่าน หมายถงึ ปฏิบัตติ ามรายการท่กี าหนดไมค่ รบทุกขอ้
๕.๒.๔ คณะกรรมการสรุปผลการประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมเพ่ือนๆ ในห้องเรยี น ของเพื่อนๆ ใน
แต่ละสปั ดาห์ และติดช่ือพร้อมภาพถ่ายของนักเรียนทมี่ ีผลการประเมนิ ผ่ำน ในป้าย เด็กดีประจำสปั ดำห์ เพื่อ
เปน็ การยกย่อง ชมเชย ทสี่ ามารถประพฤติ ปฏิบัตติ น ไดด้ เี ป็นแบบอยา่ งให้กับผู้อน่ื ได้
๕.๒.๕ คณะกรรมการสรปุ และบันทึกรายชอื่ ของนักเรียนทม่ี ผี ลการประเมนิ ผ่ำน เปน็ รายสปั ดาห์
รายเดือน รายภาคเรียน และปีการศึกษา
๕.๒.๖ ครทู ป่ี รึกษา และคณะกรรมมอบรางวัลใหก้ บั นกั เรียนท่ีมีผลการประเมนิ /ผลคะแนน ในอันดับท่ี
๑ ๒ และ ๓ เม่อื สิน้ ภาคเรยี น และสิน้ ปีการศึกษา
๖. หลักธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
หลักธรรมท่นี ามาใช้ในการดาเนนิ งานให้ประสบความสาเรจ็ คือ อิทธบิ าท ๔ ได้แก่
๖.๑ ฉันทะ คอื การมีใจรกั ในสง่ิ ท่ีทา ใจที่รักอันเกดิ จากความศรทั ธาและเช่ือมัน่ ต่อสิง่ ที่ทา
จงึ จะเกิดผลจริงตามควร
๖.๒ วริ ิยะ คอื ความมงุ่ มัน่ ทุ่มเท เปน็ ความมุ่งมนั่ ทมุ่ เททงั้ กายและใจ ท่ีจะเรยี นรู้และทาให้เข้าถงึ
แก่นแท้ของสิง่ น้ัน เร่ืองนนั้
๖.๓ จิตตะ คอื ใจท่จี ดจอ่ และรับผิดชอบ เม่ือมใี จทจ่ี ดจ่อแลว้ กจ็ ะเกดิ ความรอบคอบตาม
๖.๔ วมิ งั สา คือ การทบทวนในสิ่งทีไ่ ด้คดิ ได้ทามา อันเกิดจาก การมใี จรกั (ฉันทะ) แล้วทาด้วยความ
มงุ่ มนั่ (วิรยิ ะ) อย่างใจจดใจจ่อและรบั ผิดชอบ (จิตตะ)
๗. คุณธรรมเปำ้ หมำย
ใฝเ่ รียนรู้
พฤติกรรมบง่ ช้เี ชงิ บวก
นักเรียนต้งั ใจเรยี น สนใจในเรอ่ื งทเี่ รียน ไมห่ ยอกล้อกนั ไมแ่ อบเล่นของเลน่ ในขณะเรยี นหนงั สือ
๘. ตวั ช้วี ดั นกั เรียนร้อยละ ๙๐ มีพฤตกิ รรมต้งั ใจเรยี น ไม่หยอกล้อกัน หรือแอบเลน่ ของเล่นในขณะเรียนหนังสอื
วิธกี ำรประเมิน
สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน ในขณะเรียนหนงั สือในห้องเรียน
เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นกำรประเมนิ
- แบบบันทกึ การสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในขณะเรยี นหนังสอื ในห้องเรยี น
- แบบสรุปผลการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในขณะเรยี นหนงั สือในห้องเรียน
-
95
ช่วงเวลำท่ีใช้ในกำรประเมนิ
วนั จันทร์ – วันศุกร์ ในเวลา ๐๘.๓๐ น.- ๑๕.๔๕ น.
๙. ชือ่ โครงงำนคณุ ธรรม ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น
๑๐. ชื่อคณะผูร้ บั ผิดชอบโครงงำน นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
๑๑. ครูท่ปี รึกษำ นางสาวกญั ญมน ไหวกลบั , นายจักรชัย ธรรมสอน
96
ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 4 ร่วมกนั หำสำเหตุของปญั หำและร่วมกัน
วำงแผนแกไ้ ขปัญหำและวำงแผนกำรจัดกจิ กรรม
97
ภำพกจิ กรรม
นกั เรียนช้นั ประถมศึกษำปีที่ 4 ตัง้ ใจเรยี น สนใจในเร่อื งท่ีเรียน
ไมห่ ยอกลอ้ กนั ไม่แอบเลน่ ของเล่น ในขณะเรยี นหนังสือ
98
โครงงำนคณุ ธรรม
เร่ือง วำงรองเท้ำถกู ท่ี ดดู มี วี ินยั
............................................................................................................................. ..............................
๑. ปัญหำ : นกั เรียนวางรองเท้าไม่ถูกทแ่ี ละไมม่ รี ะเบยี บวนิ ัย
๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ นักเรียนขาดระเบยี บในการวางรองเทา้
๒.๒ นกั เรียนแย่งกันและแซงคิวขณะวางรองเท้า
๒.๓ นักเรยี นหยอกล้อเล่นกนั
๓. วัตถุประสงคข์ องโครงงำน
๓.๑ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีระเบียบวนิ ัยในการวางรองเท้าให้ถกู ท่ี
๓.๒ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นตระหนกั ถงึ ข้อดีในการวางรองเท้าใหม้ รี ะเบียบ
๔.เป้ำหมำย
๔.๑ เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ
นักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ จานวน ๑๙ คน
๔.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ
นักเรียนทุกคนมีระเบียบวนิ ัยในการวางรองเทา้
๔.๓ เป้าหมายระยะสัน้ (ระยะ ๖ เดอื นแรก )
นักเรียนรอ้ ยละ ๖๕ วางรองเท้าถูกท่แี ละมรี ะเบียบวินัยในการวางรองเทา้
๔.๔ เปา้ หมายระยะยาว (ระยะ ๑๒ เดือนแรก )
นักเรยี นรอ้ ยละ ๘๐ วางรองเท้าถกู ท่ีและมีระเบียบวนิ ัยในการวางรองเทา้
๕. วธิ ีแกไ้ ขปัญหำ
๕.๑ สร้างข้อตกลงในการวางรองเทา้ ให้ถกู ท่ีและเป็นระเบียบ
๕.๒ ทาปา้ ยการวางรองเท้าให้เป็นระเบยี บติดบริเวณที่วางรองเท้า
๕.๓ ขอความรว่ มมือจากนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ทุกคน ในการวางรองเทา้ ให้ถูกที่และเป็นระเบยี บ
๕.๔ ใหน้ ักเรียนทร่ี ับผดิ ชอบบันทึกการวางรองเท้าให้ให้ถูกทีแ่ ละเปน็ ระเบียบ
๖. หลกั ธรรม /พระรำชดำรัส /พระรำชดำริ /คำสอน
หลักธรรมท่ีนามาใช้ในการดาเนินงานใหป้ ระสบความสาเร็จ คือ อทิ ธิบาท ๔ ไดแ้ ก่
- ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการทีจ่ ะทา ใฝใ่ จรักจะทาส่งิ น้นั อย่เู สมอ และปรารถนา จะทาให้
ได้ผลดยี ่งิ ๆขึ้นไป
- วริ ิยะ (ความเพียร) คอื ขยนั หมั่นประกอบสิ่งนัน้ ด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน ไม่ท้อถอย
- จิตตะ (ความคิด) คือ ต้ังจิตรับรู้ในสิ่งที่ทา และทาสิง่ น้ันดว้ ยความคดิ เอาจติ ฝักใฝ่
- วมิ ังสา (ความไตรต่ รอง หรือ ทดลอง) คือ หม่นั ใช้ปัญญา พิจารณาใครค่ รวญ ตรวจหาเหตผุ ล
99
๗. คณุ ธรรมเป้ำหมำย
ความมีวนิ ัย
พฤติกรรมบง่ ช้เี ชงิ บวก
นกั เรยี นมรี ะเบียบวินัยในการวางรองเทา้ ใหถ้ ูกที่
๘. ตวั ชวี้ ัด นกั เรยี นร้อยละ ๘๐ วางรองเท้าถูกที่และมีระเบยี บวนิ ยั
วิธกี ำรประเมนิ
ใชแ้ บบบันทกึ การวางรองเท้านกั เรยี นชัน้ ป.๕ ดาเนนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมทกุ วนั
เครอื่ งมือทใี่ ช้ในกำรประเมิน
แบบบันทกึ การวางรองเทา้ ถกู ที่ และมรี ะเบยี บ
ช่วงเวลำที่ใช้ในกำรประเมิน
วนั จันทร์ – วนั ศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๐๐ น.
๙. ชื่อโครงงำนคณุ ธรรม วางรองเท้าถูกที่ ดดู ีมวี ินยั
๑๐. ชื่อคณะผู้รบั ผิดชอบโครงงำน นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕
๑๑. ครทู ่ปี รกึ ษำ นางอารีรัตน์ ดาวดวง