The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

11. นักเรียนทำโครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ หรือกรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสรุปองค์ความรู้จากโครงงานคุณธรรม สามารถเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นได้ รวมถึงมีการเผยแพร่สู่สาธารณชน ในรูปแบบต่างๆ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kamron.kanyamon, 2021-12-25 09:51:28

11. นักเรียนทำโครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ หรือกรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสรุปองค์ความรู้จากโครงงานคุณธรรม สามารถเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นได้ รวมถึงมีการเผยแพร่สู่สาธารณชน ในรูปแบบต่างๆ

11. นักเรียนทำโครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ หรือกรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสรุปองค์ความรู้จากโครงงานคุณธรรม สามารถเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นได้ รวมถึงมีการเผยแพร่สู่สาธารณชน ในรูปแบบต่างๆ

Keywords: 11. นักเรียนทำโครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ หรือกรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสรุปองค์ความรู้จากโครงงานคุณธรรม สามารถเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นได้ รวมถึงมีการเผยแพร่สู่สาธารณชน ในรูปแบบต่างๆ

100

ภำพกิจกรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 5 ร่วมกนั หำสำเหตุของปัญหำและร่วมกัน

วำงแผนแกไ้ ขปญั หำและวำงแผนกำรจัดกิจกรรม

101

ภำพกจิ กรรม
นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 5 รว่ มกันสรำ้ งระเบียบวนิ ัย

ในกำรวำงรองเทำ้ ใหถ้ ูกที่

102

โครงงำนคณุ ธรรม
เรอ่ื ง Buddy ช่วยคดิ ชวนเรยี น ป.๖

............................................................................................................................. ..............................
๑. ปัญหำ : (ท่ตี ้องการแก้ไขมากทส่ี ุด)

นักเรียนยงั ไม่พร้อมกับการปรบั ตัวในหอ้ งเรียนหลังจากหยุดเรยี นช่วงไวรสั โควดิ ๑๙ ระบาด

๒. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑. นักเรยี นหยดุ เรยี นชว่ งโควิดนาน ๔ เดือนทาใหต้ ้องปรบั ตัวกับการเรยี นชัน้ เรยี นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ใหม่

๓ .วัตถปุ ระสงค์ของโครงงำน (สอดคล้องกับปัญหาและสาเหตุของปัญหา)
๓.๑. เพื่อใหน้ ักเรยี นมีเพ่ือนสนทิ ทีค่ อยดแู ล ชว่ ยเหลือกันด้านการเรยี นและความประพฤติ
๓.๒. เพอ่ื ฝกึ ให้นักเรียนได้เรยี นรู้การอยู่รว่ มกับผ้อู นื่ และการมีปฏิสมั พันธ์กบั เพ่ือน
๓. ๓ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นประสบความสาเร็จในการเรยี น

๔.เป้ำหมำย
๔.๑ เปำ้ หมำยเชงิ ปริมำณ
ประถมศึกษาปที ่ี ๖ จานวน ๑๙ คน

๔.๒ เปำ้ หมำยเชงิ คุณภำพ (ระบพุ ฤตกิ รรมเชิงบวกทีต่ ้องการให้เกิดข้นึ )
นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ รัก สามัคคี หว่ งใย ดแู ล ชว่ ยเหลือพึง่ พาซง่ึ กันและกนั ให้ทงั้ ตนเองและ

เพือ่ นประสบความสาเร็จในการเรยี นด้วยกัน

๔.๓ เป้ำหมำยระยะสน้ั (ระยะ ๑ เดือนแรก)
นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ รัก สามัคคี หว่ งใย ดูแล ชว่ ยเหลือพ่งึ พาซง่ึ กัน และกนั ใหท้ ้ังตนเองและ

เพื่อนประสบความสาเร็จในการเรียนดว้ ยกนั ร้อยละ ๗๐

๔.๔ เป้ำหมำยระยะยำว (ระยะ ๓ เดือนแรก)
นักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ จานวน ๑๙ คน รัก สามัคคี ห่วงใย ดูแล ชว่ ยเหลือพ่ึงพาซึ่งกัน และกัน

ให้ทงั้ ตนเองและเพ่ือนประสบความสาเร็จในการเรียนด้วยกันทุกคน

๕. วธิ แี กไ้ ขปัญหำ (สอดคล้องกับสาเหตุของปัญหาและวตั ถุประสงค์ วิธีแก้ปัญหาตอ้ งเป็นวิธีการเชิงบวก)
๕.๑ จดั กิจกรรมจบั คูบ่ ดั ดี้โดยจัดกจิ กรรมดงั ต่อไปน้ี
๑.๑ กิจกรรมกระชับมติ ร

แนะนาตวั /พดู คยุ ทาความรจู้ ัก/แลกเบอร์ โทรศพั ทแ์ ละอเี มลกนั

๑.๒ จบั คู่ Buddy ช่วยคดิ ชวนเรียน

เลือกจับคู่เพื่อนที่รู้ใจวิธีการจับคู่ ต้องให้ได้คู่ที่ เป็นคน “คอเดียวกัน” มีความสนใจ หรือ เป้าหมายชีวิต
คล้ายๆ กัน โดยครูให้เขียนเรียงความสนั้ ๆ บอกความสนใจ ความคลงั่ ใคล้ แล้วครนู ามาแยกกลมุ่ เพอ่ื จัดให้นกั เรียน
ได้เกลอ ทม่ี จี รติ คล้ายกนั ไปกนั ได้

103

๑.๓ คสู่ ัญญา

นักเรียนคูห่ ู Buddy รว่ มกนั กาหนดข้อตกลงหรือ สัญญาใจในการช่วยคิด ชวนเรยี น ดงั น้ี

๑) ตอ้ งรัก สามัคคีกัน ห่วงใยกนั

๒) รว่ มดว้ ยช่วยกนั ทางาน

๓) ชว่ ยเหลือดูแลกัน

๔) สอนการบา้ น/ไมล่ อกการบ้านกัน

๕) เก็บงานใหเ้ พอ่ื นเม่ือเพ่ือนขาดเรียน

๖) ตดิ ตามเม่ือเพอ่ื นไมเ่ ข้าเรียน หรือขาดเรียน

๗) ถามไถ่ ทุกขส์ ขุ รับฟังปญั หา

๘) ซ่อื สัตย์ต่อเพื่อนและผู้อ่นื

๙) ไม่ทะเลาะกนั

๑.๔ ทาตามสญั ญา

นักเรยี นคหู่ ู Buddy ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง ให้คู่หู Buddy รว่ มเรียนนงั่ ด้วยกันใน ห้องเรยี น แชร์สาระเรียนรู้
ซ่ึงกนั และกนั ทาหน้าท่ใี ห้กาลงั ใจ ซงึ่ กันและกัน และ คอยเอาใจใส่ ความก้าวหนา้ ในการเรียนของอกี ฝา่ ยหนง่ึ โดย
อาจนาไปหารือ กบั ครูหรือพอ่ แมข่ องทั้งสองฝา่ ย หลังจากมีผลการทดสอบออกมาควรใหเ้ วลา คหู่ ู รว่ มเรียนได้
ปรึกษากัน กรณีท่ีเกิดปญั หาข้ึนกบั เพื่อนคู่ใด กใ็ ห้มีการ ทบทวนสัญญา โดยการปรบั ความเขา้ ใจกัน และใช้ “ตวั
ชว่ ยเชอื่ มใจ” คอื เพื่อน ในห้องและครูประจาชนั้

๑.๕ สะทอ้ นคิด คู่ใจ
บอกเลา่ ความรสู้ กึ ของเราให้เพือ่ นคู่หฟู ัง ในการมีเพื่อนคู่หูดแู ลชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และ กัน ผลสาเร็จของการ
เรียนไดผ้ ลเป็นอยา่ งไรและจะปรบั ปรุงการเรยี นต่อไปอยา่

๖.หลกั ธรรม/พระรำชดำรัส/พระรำชดำริ/คำสอน : อิทธบิ าท ๔ ไดแ้ ก่
๑. ฉนั ทะ ความพอใจรักใคร่ในส่ิงนน้ั
๒. วิรยิ ะ ความพากเพยี รในส่ิงนนั้
๓. จติ ตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในสิง่ น้ัน
๔. วมิ งั สา ความหมัน่ สอดส่องในเหตุผลของสง่ิ น้ัน

๗.คุณธรรมเปำ้ หมำย : ใฝ่เรยี นใฝร่ ู้
พฤตกิ รรมบ่งชี้เชงิ บวก : นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ใฝ่เรียนใฝ่รู้
๘.ตวั ชี้วัด (กาหนดเพื่อวดั หรือประเมนิ ผลวา่ มกี ารเปล่ยี นแปลงในกล่มุ เป้าหมายเพยี งใด)
วิธกี ำรประเมิน : สังเกตพฤติกรรม
เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในกำรประเมิน : แบบสังเกตพฤติกรรม

104

ช่วงเวลำในกำรประเมนิ : ตลอดปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

๙.ชือ่ โครงงำน (ชัดเจน เข้าใจงา่ ย และสะท้อนถงึ ปัญหาท่ีเกดิ ขึ้นและกจิ กรรม)
Buddy ชว่ ยคดิ ชวนเรียน

๑๐.ชื่อคณะผ้รู ับผิดชอบโครงงำน
๑. เด็กหญงิ อัญมณี โชตพิ รม
๒. เดก็ หญิงขวัญอุษา อาจณรงค์
๓. เดก็ หญงิ พชั ราภรณ์ มีทอง
๔.เด็กหญิงกันยาณฐั เกิดขา
๕. เด็กชายศริ โิ ชค รักษาทรัพย์

๑๑. ครูทีป่ รึกษำ
นางไข่มุก สดุดี

105

ภำพกิจกรรม
นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 6 ร่วมกนั หำสำเหตุของปัญหำและร่วมกัน

วำงแผนแกไ้ ขปญั หำและวำงแผนกำรจัดกิจกรรม

106

ภำพกจิ กรรม
นักเรียนชน้ั ประถมศึกษำปีที่ 6 ร่วมเรียนนง่ั ด้วยกนั ใน ห้องเรยี น

แชรส์ ำระเรยี นรูซ้ ง่ึ กันและกนั ทำหนำ้ ที่ใหก้ ำลงั ใจ ซงึ่ กนั และกัน

107

โครงงำนคณุ ธรรม
เรอ่ื ง ม.๑ รวมใจ เรำจะไม่ติด ๐ และ ร.

…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
๑.ปญั หำ

เนื่องด้วยนกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ นเี้ ปน็ ห้องท่ีไมค่ ่อยสนใจในการเรยี น จึง
สง่ ผลให้นักเรยี นประมาณ ๕๐ % ตดิ ๐ และ ร

๒.สำเหตขุ องปัญหำ

ปัญหาตา่ ง ๆ ท่ีพบ ได้แก่

1. นกั เรยี นขาดความสนใจ ใฝ่เรียนรู้
2. ขาดความพรอ้ มทางด้านครอบครวั
3. ขาดความรบั ผิดชอบไม่ทางาน การบา้ นที่ ได้รบั มอบหมาย
4. นักเรียนตดิ สอ่ื อเิ ลคทรอนิกส์
5. ผปู้ กครองขาดความเอาใจใส่
6. นกั เรียนมงี านคา้ งหลายวิชา
๓.วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงำน (สอดคล้องกับปญั หำและสำมเหตุของปัญหำ)

๓.๑ เพ่อื ใหน้ กั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านทุง่ สามแทง่ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ มคี วามสนใจ
ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รียน มีมวี ินยั มคี วามรับผิดชอบ ตอ่ ตนเองและผู้อน่ื

๓.๒ เพือ่ ใหแ้ กป้ ัญหาใหก้ บั นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี๑ ไมใ่ ห้ตดิ ๐ และ ร.

๔. เป้ำหมำย

๔.๑เปำ้ หมำยเชงิ ปริมำณ

นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ จานวน ๑๕ คน

๔.๒เป้ำหมำยเชงิ คุณภำพ

นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น มีมีวนิ ัย มีความ
รบั ผิดชอบ ตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืนและ ไม่ ติด ๐ และ ร.

๔.๓เปำ้ หมำยระยะสนั้ (ระยะ ๓ เดอื น)

-เปา้ หมายระยะสัน้ (เดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๔ – มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕) นกั เรียนช้ัน

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ รอ้ ยละ ๘๕ ต้องไม่มีงานค้างในรายวชิ าต่าง ๆ

108

๔.๔เป้ำหมำยระยะยำว (ระยะ ๖ เดอื น)

- เป้าหมายระยะยาว (เดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๔ – เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ) นกั เรียนช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ รอ้ ยละ ๑๐๐ ต้องไม่มีงานค้างในรายวิชาตา่ ง ๆ และไมต่ ิด ๐และ ร. รายวิชาใด

๕.วธิ ีแกไ้ ขปญั หำ

๕.๑ ครูที่ปรกึ ษาประชมุ กับนักเรียนเพ่ือวางแผนทาขอ้ ตกลงร่วมกันในห้อง

๕.๒ สมาชิกสารวจและเกบ็ ข้อมูลนักเรยี นทตี่ ดิ ๐, ร.

๕.๓ สารวจและใหแ้ สดงความคิดเหน็ เร่อื งการตดิ ๐, ร.

๕.๔ แบง่ หน้าทรี่ บั ผดิ ชอบ เป็น Buddy กนั จับคคู่ นท่เี รยี นเกง่ กับเรยี นออ่ นเพ่ือช่วยเหลอื กัน

๖.หลกั ธรรม/พระรำชดำรัส/พระรำชดำร/ิ คำสอน

๑. หลักธรรมอิทธิบำท ๔ คาวา่ อิทธิบาทแปลวา่ บทฐานแหง่ ความสาเร็จ หมายถึงสิ่งซ่งึ มคี ุณธรรม
เพ่อื ใหบ้ รรลุถึงความสาเร็จในส่ิงทต่ี นตอ้ งทาให้สมบูรณ์ดว้ ยสง่ิ ทีเ่ รียกว่า อิทธบิ าท จาแนกไว้ เปน็ ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใครใ่ นสงิ่ นั้น

๒. วิระยะ ความพากเพียรในสงิ่ น้ัน

๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในสิ่งนน้ั

๔. วมิ งั สา ความหมนั่ สอดสอ่ งในเหตผุ ลของส่ิงน้นั

๒. หลกั ธรรมอริยสจั ๔ แปลว่าความจรงิ ๔ ประการ

๑. ทกุ ข์ การมอี ยูข่ องทุกข์

๒. สมุทยั เหตแุ หง่ ทกุ ข์

๓. นิโรธ ความดับทกุ ข์

๔. มรรค หนทางนาไปสู่ความดับทุกข์

๓. พระรำชดำรสั
“ลกั ษณะของกำรศกึ ษำหรือกำรเรยี นรนู้ นั้ มอี ยู่สำมลกั ษณะ ได้แก่ เรียนรตู้ ามความรู้

ความคดิ ของผ้อู ื่นอย่างหนึ่ง เรยี นรดู้ ว้ ยการขบคดิ พจิ ารณาของตนเองใหเ้ ห็นเหตผุ ลอย่างหนึ่ง กับเรียนร้จู ากการ
ปฏบิ ตั ฝิ กึ ฝนจนประจกั ษผ์ ล และเกิดความคล่องแคล่วชานาญอกี อย่างหนึง่ การเรยี นรู้ท้ังสามลักษณะน้ี จาเปน็
จะตอ้ งกระทาไปด้วยกัน ใหส้ อดคล้องแลอุดหนนุ สง่ เสรมิ กัน จงึ จะชว่ ยให้เกิดความร้จู รงิ พร้อมท้งั ความสามารถท่ี
จะนามาใช้ทาการตา่ ง ๆ อยา่ งมีประสิทธิภาพได้ กล่าวคือ การเรยี นรูท้ ุกอย่างน้ัน จะต้องเรยี นตามความรู้ของผ้อู ่ืน
ก่อนเปน็ เบื้องต้น เมอื่ รแู้ ลว้ จึงนามาพิจารณาใหเ้ หน็ แจ่มชัดละเอียดลงไปอีกช้ันหนงึ่ ใหถ้ ึงเนอ้ื หาสาระ อนั จะ
อา้ งองิ อาศยั เปน็ หลกั ฐานได้ มใิ ห้เป็นการเรียนรู้อยา่ งเล่ือนลอย แต่เมื่อถงึ ขน้ั ท่ีสองนแ้ี ล้ว กย็ ังถือวา่ จะนามาใช้การ

109

ไดใ้ ห้ได้ผลแนน่ อนจรงิ ๆ ไมไ่ ด้ ยงั จาเป็นตอ้ งนาความรนู้ ั้นมาปฏิบตั ิฝกึ ฝนอีกใหเ้ กิดผลประจักษ์แจ้ง และเกิดความ
คล่องแคล่ว ชานชิ านาญขึ้นพร้อมกันไปด้วย จึงจะนาไปใช้ปฏบิ ัตใิ หส้ าเรจ็ ผลได้ไม่ขัดข้อง”
พระบรมราโชวาทในพธิ ีพระราชทานปรญิ ญาบตั รแก่ บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๔
๗.คุณธรรมเปำ้ หมำย ความใฝร่ ้ใู ฝเ่ รียน

พฤติกรรมเชงิ บวก ๑. สนในใจในการเรียนของตนเอง มีนิสัยใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น
๒. ทาการบ้านและสง่ งานตามกาหนดเวลา

๘. ตัวชว้ี ัด ร้อยละของผ้ทู ส่ี นใจในการเรยี น ทาการบา้ นและสง่ งานตามกาหนดเวลา
๙.ชื่อโครงงำนคุณธรรม ม.๑ รวมใจ เราจะไมต่ ิด ๐ และ ร.
๑๐.ชื่อคณะผรู้ ับผดิ ชอบโครงงำน

๑. ด.ช.ธีรเดช คาภเู รือง
๒.ด.ญ.วไิ ลวรรณ จันทร์สาลี
๓. เดก็ ชายชยั นันท์ พินจิ ทรัพย์
๔. ด.ญ.ณชิ ากานต์ กนั ตังกลุ ด.ช.ณฐั พงศ์ หมน่ื แสนคา
๑๑. ครทู ีป่ รึกษำ นางกฤษณา สทุ ธิพงษ์

110

ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 1 ร่วมกนั หำสำเหตุของปัญหำและร่วมกัน

วำงแผนแกไ้ ขปญั หำและวำงแผนกำรจดั กิจกรรม

111

ภำพกจิ กรรม
นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 สนใจในกำรเรียน

ทำกำรบำ้ นและสง่ งำนตำมกำหนดเวลำ

112

โครงงำนคณุ ธรรมนักเรยี น
เรอื่ ง ออมดีมเี งนิ เก็บ

…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………
1. ปัญหำ

1.1นกั เรียนใชเ้ งนิ เกนิ จานวน และไม่ออมเงนิ ตามที่ผ้ปู กครองใหม้ า

2. สำเหตุของปัญหำ
๒.๑ นกั เรียนไมช่ อบออมเงนิ
๒.๒ นกั เรียนใช้เงนิ เกนิ จานวน
๒.๓ นกั เรียนไม่วางแผนการออมเงิน

3. วัตถุประสงคข์ องโครงงำน
๓.๑ เพื่อให้นักเรยี นมีเงินเกบ็
๓.๒ เพื่อใหน้ กั เรยี นรู้จกั วางแผนในการออมเงิน
๓.๓ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นตระหนกั ถึงการออมเงิน

4. เปำ้ หมำย
4.1เปา้ หมายเชงิ ปรมิ าณ
นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ทุกคน จานวน ๒๔ คน ออมเงนิ ทกุ วนั และมีสว่ นรว่ มในการออมเงนิ
4.2เปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ โรงเรียนบ้านทงุ่ สามแท่ง จานวน ๒๔ คน มีวนิ ยั ในการออมเงนิ และ
รจู้ ักวางแผนด้านการเงนิ
เป้าหมายระยะสัน้ (ระยะ ๖ เดือนแรก)
๑ กรกฏาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ (รอ้ ยละ ๑๐๐)
4.3เป้าหมายระยะยาว (ระยะ ๑๒ เดอื นแรก)
๑ กรกฏาคม ๒๕๖๓ – ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕ (ร้อยละ ๑๐๐)

5. วธิ ีแก้ไขปัญหำ
๕.๑ ประชมุ ปรกึ ษานกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ เพื่อกาหนดกจิ กรรม
๕.๒ นกั เรียนระดมความคดิ ชีแ้ จงปญั หา เพ่อื ทราบแนวทางของห้องในการจดั ทาโครงงาน และหาวธิ ี
แก้ปัญหา
๕.๓ ดาเนนิ การตามแผนงานท่ีกาหนด
- ทาขอ้ ตกลงรว่ มกนั ในเรื่องจานวนเงิน จานวนวันในการออม
- ให้นักเรียนออมเงนิ ทุกวนั อยา่ งนอ้ ยวันละ ๕ บาท
- ปลูกฝงั คุณธรรมการมีวนิ ยั ในการออม และความพอเพียง

6. หลกั ธรรม
หลกั ธรรมสปั ปรุ สิ ธรรม ๔
หลักการทรงงาน (ศาสตร์ของพระราชา) รู้จกั ประหยดั เรยี บงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สูงสุด

113

7. คณุ ธรรมเปำ้ หมำย
มีวินยั พอเพียง
พฤติกรรมเชิงบวก
๑. เข้าแถวเป็นระเบยี บ
๒. แต่งกายถกู ระเบียบ
๓. เข้าเรียนตรงเวลา
๔. ทง้ิ ขยะใหถ้ ูกที่
๕. ออมเงินทุกวนั

8. ตวั ชว้ี ดั
วิธกี ารประเมนิ
การออมเงนิ
เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการประเมนิ
แบบบันทกึ การออมเงิน
ชว่ งเวลาในการประเมนิ
วันจนั ทร์ – วันศกุ ร์ เวลา ๐๘.๐๐ น. – ๐๘.๓๐ น.

9. ชอ่ื ผู้รับผิดชอบโครงงำน
นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

10.ครูท่ปี รึกษำ
ครูธัญนัช พลอยศรี

114

ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 2 ร่วมกนั หำสำเหตุของปัญหำและร่วมกัน

วำงแผนแกไ้ ขปญั หำและวำงแผนกำรจดั กิจกรรม

115

ภำพกิจกรรม
นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 2 มวี ินัยในกำรออมเงิน

และรูจ้ กั วำงแผนด้ำนกำรเงนิ

116

โครงงำนคุณธรรม
เรอื่ ง วยั ใสมวี นิ ัย ใส่ใจเรอื่ งผม

…………………………………………………..………………………………………………………………………………………………

— ๑. ปญั หำ
— เน่ืองจากปัจจุบันนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ มีค่านิยมในการแต่งกายที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ

ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน โดยเฉพาะเรอื่ งทรงผม ทง้ั นกั เรียนหญิง และนักเรียนชาย
เพอื่ ให้นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ตัดผมเรียบร้อย ถูกตามกฎระเบยี บข้อบงั คับของโรงเรียน และ

เพอื่ เปน็ การยกย่อง ส่งเสรมิ นักเรยี นทป่ี ฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บข้อบงั คับของโรงเรียนเรื่องทรงผม จะได้เป็น
แบบอยา่ งทีด่ ใี ห้กับนกั เรยี นท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน จึงได้จดั ทาโครงงาน “วยั ใสมีวินัย ใสใ่ จเรอื่ งผม”
ขึน้ เพ่ือประโยชนต์ ่อนักเรียนทกุ คน
— ๒. สำเหตุของปญั หำ
— ๒.๑ นักเรยี นไม่เคารพกฎระเบยี บของโรงเรียน

๒.๒ นักเรยี นชอบตดั ผมตามรุ่นพี่ ตามแฟชัน่

— ๓. วัตถปุ ระสงค์ทท่ี ำโครงงำน
— ๓.๑ เพ่ือปลกู ฝงั การมจี ิตสานึกของสภาพความเปน็ นกั เรียน และการมีวนิ ัยในตนเอง
— ๓.๒ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ เคารพกฎระเบยี บของโรงเรยี น
— ๓.๓.เพอ่ื เป็นแบบอย่างและเป็นแนวปฏบิ ตั ิทด่ี กี บั นักเรยี นทุกคนในเร่ืองของทรงผม

๓.๔ เพือ่ เป็นการสรา้ งบรรยากาศ ความอบอุ่น ความภมู ิใจ ให้นกั เรียนกบั คุณครู และเป็นภาพลกั ษณ์ท่ดี ี
ใหก้ ับโรงเรยี น
— ๔. เป้ำหมำยเชงิ ปรมิ ำณ
— นกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ จานวน ๒๒ คน
— เปำ้ หมำยเชิงคุณภำพ
— นกั เรยี นตัดผมถูกต้อง ตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น
— เป้ำหมำยระยะสั้น : พฤศจิกายน ๒๕๖๔ – ธนั วาคม ๒๕๖๔
— นกั เรียนร้อยละ ๙๐ ตัดผมถูกต้อง ตามกฎระเบียบของโรงเรยี น
— เป้ำหมำยระยะยำว : พฤศจิกายน ๒๕๖๔ – มนี าคม ๒๕๖๔
— นกั เรยี นรอ้ ยละ ๑๐๐ ตัดผมถูกต้อง ตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น



๕. วธิ แี กไ้ ขปญั หำ
๕.๑ ครอู บรมชี้แจงเรอื่ งทรงผมทถ่ี ูกตอ้ งตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น

๕.๒ ปลูกจิตใต้สานึกให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ให้ตัดผมถูกต้องตามกฎระเบียบของโรงเรียน
เชน่ ประชาสมั พนั ธ์ จดั ป้ายรณรงค์หรือคาขวัญในช้นั เรียน

๕.๓ กาหนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั
๕.๔ ตั้งคณะกรรมการตรวจผมทุกตน้ เดอื น

117

๖. หลักธรรม/พระรำชดำรัส/พระรำชดำร/ิ คำสอน

สังคหวัตถุ ๔ คือ หลักธรรมท่ีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้าใจของผู้อ่ืน ผูกไมตรี เอ้ือเฟื้อ เก้ือกูล หรือเป็นหลักการ
สงเคราะหซ์ งึ่ กนั และกนั ได่แก่

1. ทาน คอื การให้ การเสยี สละ
2. ปิยวาจา คอื การพูดจาดว้ ยถ้อยคาที่ไพเราะ
3. อตั ถจริยา คือ การพดู จาด้วยถอ้ ยคาท่ีไพรเราะ
4. สมานัตตา คือ การเป็นผู้มีความสม่าเสมอ
๗. คณุ ธรรมเป้ำหมำย

ความมีระเบียบ วนิ ยั
พฤติกรรมบ่งชีเ้ ชงิ บวก : นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ตดั ผมถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรียน

๘. กำหนดวธิ แี ละวัดประเมนิ ผล

ตวั ชีว้ ดั

นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ตดั ผมถูกต้อฃตามระเบยี บของโรงเรียนทุกตน้ เดือน

วธิ กี ำรประเมนิ

ตรวจทรงผมนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ทกุ ตน้ เดือน

เคร่ืองมอื ที่ใชป้ ระเมนิ

การสังเกตและแบบบันทกึ การตัดผมทกุ ตน้ เดือน

ชว่ งเวลำในกำรประเมิน

ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

๙. ชอ่ื โครงงำนคณุ ธรรม
วัยใสมวี นิ ัย ใส่ใจเร่ืองผม

๑๐. ชอื่ คณะผรู้ บั ผิดชอบโครงงำน
นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๒๒ คน

๑๑. ครูทปี่ รึกษำ : นางสาวณัชชษา รัตนะ

118

ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 3 ร่วมกนั หำสำเหตุของปัญหำและร่วมกัน

วำงแผนแกไ้ ขปญั หำและวำงแผนกำรจดั กิจกรรม

119

ภำพกจิ กรรม
นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 ตดั ผมถกู ต้องตำมระเบียบ

ของโรงเรยี น

120

กจิ กรรมแลกเปลีย่ นเรียนร้ขู องนกั เรยี นในโรงเรยี นและโรงเรยี นเครอื ขำ่ ย

121

122

หนงั สือขอควำมอนุเครำะห์แลกเปล่ียนเรยี นรู้และศกึ ษำดูงำน

123

บนั ทกึ ผลกำรแลกเปล่ียนเรียนรแู้ ละเยีย่ มชมกจิ กรรม

124

125

126

แผน่ พบั เผยแพร่ ประชำสัมพนั ธ์ โครงงำนคุณธรรมหอ้ งเรียน

127


Click to View FlipBook Version