ชุดกิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
เรอ่ื ง โลกและการเปล่ยี นแปลงของเปลือกโลก
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชุดที่
รายวิชาธรณวี ิทยา รหัสวิชา ว30261 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5
5
การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
นางพัชรี คณู ทอง
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ
โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม อาเภอพบิ ลู มังสาหาร จังหวดั อุบลราชธานี
องค์การบริหารส่วนจงั หวัดอบุ ลราชธานี
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
คำนำ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลงของเปลอื กโลก
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จัดทาขึ้นเพื่อเป็นส่ือนวตั กรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาธรณีวิทยา รหัสวิชา ว30261 เพื่อให้ผู้เรียนใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน
และสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง นาไปใชใ้ นการเรียนการสอนซ่อมเสริมได้ หรือใช้ในการสอนแทน
ได้เป็นอย่างดี เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นนวัตกรรมท่ีช่วยลดบทบาทของครูตามแนวทางการปฏิรูป
การเรียนรู้ท่ียึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้
ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ
ซง่ึ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
2560) ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะ
หาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสาร การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตวิทยาศาสตร์คุณธรรมและค่านิยมที่ถูกต้อง
เหมาะสม
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้จะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองโลกและการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได้เป็นอย่างดี มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึน สามารถใช้เพ่ือศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเองเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ
วตั ถปุ ระสงคข์ องหลักสูตรได้
พชั รี คูณทอง
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ก
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
สำรบัญ
เรอื่ ง หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
คำชีแ้ จงเกย่ี วกบั กำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ ค
แผนภมู ิลำดับขัน้ ตอนกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ง
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์สำหรับครู จ
คำชแี้ จงกำรใชช้ ุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์สำหรบั นักเรียน ช
1
สาระการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1
จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2
สาระสาคญั 3
แบบทดสอบก่อนเรียน 6
บตั รเนอ้ื หา ชุดที่ 5 เรอื่ ง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี 31
บตั รกิจกรรมท่ี 5.1 เรอ่ื ง การเคล่อื นทีข่ องแผน่ ธรณี 33
บตั รกจิ กรรมที่ 5.2 ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี 34
บตั รกจิ กรรมท่ี 5.3 ถอดบทเรยี น เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี 35
แบบฝึกหดั เร่ือง การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี 37
แบบทดสอบหลังเรยี น 40
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น 41
บรรณำนุกรม 42
ภำคผนวก 43
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 5.1 เร่อื ง การเคลอ่ื นที่ของแผน่ ธรณี 46
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 5.2 ผงั มโนทัศน์ เร่ือง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี 47
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 5.3 ถอดบทเรียน เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี 48
เฉลยแบบฝึกหัด เรอ่ื ง การแบ่งช้นั โครงสร้างโลก 50
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน 51
ประวัตยิ อ่ ผู้จัดทำ
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ข
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
คำช้ีแจงเก่ียวกับชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง โลกและการ
เปลยี่ นแปลงของเปลือกโลก กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพ่ือใช้ประกอบการ
จัดการเรียนรู้ รายวิชาธรณีวิทยา รหัสวิชา ว30261 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยให้สอดคล้องตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
กระทรวงศึกษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝึกที่เหมาะสมกับระดับและวัย
เพ่ือให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพื่อส่งเสริมเจต
คติที่ดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการแก้ปัญหา และ
สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจหลักการ
ทางวิทยาศาสตร์ เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีสารวจตรวจสอบข้อมูล การคิด
แก้ปัญหา ตลอดจนการเสริมสร้างจิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จานวน
9 ชดุ ดังน้ี
ชุดท่ี 1 เรอ่ื ง ข้อมลู ในการศึกษาและแบ่งชั้นโครงสรา้ งโลก
ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง การแบ่งช้ันโครงสรา้ งโลก
ชดุ ท่ี 3 เรอ่ื ง แนวคดิ ของทฤษฎที วีปเล่อื นและหลักฐานสนบั สนนุ
ชุดท่ี 4 เร่ือง แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผข่ ยายพนื้ สมุทรและหลกั ฐานสนบั สนุน
ชุดที่ 5 เรื่อง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
ชุดท่ี 6 เรื่อง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจากการเคล่ือนท่ีของแผ่น
ธรณี
ชุดท่ี 7 เรื่อง ภูเขาไฟระเบดิ
ชดุ ท่ี 8 เร่อื ง แผน่ ดินไหว
ชุดที่ 9 เร่อื ง สึนามิ
2. ชดุ กิจกรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์นี้เป็น ชดุ ที่ 5 เรื่อง กำรแปรสัณฐำนของแผ่นธรณี
ใชเ้ วลำ 2 ช่ัวโมง
3. ผ้ใู ช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์นี้ควรศึกษาขั้นตอนการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
อย่างละเอียดก่อนใช้
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดน้ี จะมีประโยชน์ต่อ
นักเรียนและผู้สนใจที่จะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ใหม้ คี ณุ ภาพมากยง่ิ ข้ึนตอ่ ไป
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ค
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
แผนภมู ิลำดับข้ันตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์
อ่านคาชี้แจงและคาแนะนาในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ศึกษาตวั ชีว้ ัดและจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เสริมพ้นื ฐำน
ทดสอบก่อนเรียน ผู้มพี ืน้ ฐำนตำ่
ศกึ ษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามขัน้ ตอน
ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากชดุ กจิ กรรม
ไมผ่ ่ำน ทดสอบหลงั เรยี น
กำรทดสอบ
ผำ่ นกำรทดสอบ
ศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์เรอื่ งต่อไป
แผนภูมิลำดับข้ันตอนกำรเรยี นโดยใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์
ชุดที่ 5 เร่ือง กำรแปรสัณฐำนของแผ่นธรณี
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ ง
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
คำชแี้ จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตรส์ ำหรับครู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปนี้คอื ชุดท่ี 5 เรอ่ื ง กำรแปร
สัณฐำนของแผ่นธรณี ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ช่ัวโมง ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกตและ
รวบรวม ข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และ
แก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพ่ือช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุ
จุดประสงค์และมปี ระสทิ ธภิ าพ ครผู ู้สอนควรดาเนนิ การดงั นี้
1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือท่ีครูผู้สอนสามารถนาชดุ กิจกรรมการเรียนรูไ้ ปใช้ในการ
จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
2. ครูผู้สอนเตรยี มสือ่ การเรยี นการสอนใหพ้ ร้อม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซ่ึงนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเวน้ สอ่ื การสอนทตี่ ้องใช้รว่ มกัน
4. ครูต้องชี้แจงใหน้ ักเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของนักเรียนในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดงั นี้
4.1 ศกึ ษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมให้เข้าใจก่อนการเรยี นรู้โดยใช้
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับขั้นตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพื่อจะได้ทราบ
วา่ จะปฏบิ ัติกิจกรรมอะไร อยา่ งไร
4.3 นักเรียนต้องต้ังใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ช่วยเหลอื ซงึ่ กนั และกัน ไมร่ บกวนผูอ้ ่นื และไม่ชกั ชวนเพ่อื นให้ออกนอกล่นู อกทาง
4.4 หลังจากปฏบิ ัติกจิ กรรมแล้ว นักเรียนจะตอ้ งจัดเก็บอุปกรณ์ทกุ ชน้ิ ให้เรยี บร้อย
4.5 เมื่อมกี ารประเมนิ ผลนกั เรียนต้องปฏบิ ตั ิตนอยา่ งตัง้ ใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) แบ่งออกเป็น
7 ข้ันตอน ดังนี้
5.1 ข้ันที่ 1 ขั้นตรวจสอบความร้เู ดิม
5.2 ขัน้ ที่ 2 ข้ันสรา้ งความสนใจ
5.3 ข้นั ท่ี 3 ขน้ั สารวจและคน้ หา
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ จ
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
5.4 ขัน้ ที่ 4 ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรุป
5.5 ขน้ั ท่ี 5 ขัน้ ขยายความรู้
5.6 ขั้นท่ี 6 ขนั้ ประเมนิ
5.7 ข้นั ท่ี 7 ข้ันนาความรไู้ ปใช้
6. ขณะที่นักเรียนทุกกลมุ่ ปฏิบตั ิกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เป็นรายกลุม่ หรอื รายบุคคล ตอ้ งไม่รบกวนกจิ กรรมของนกั เรยี นกลุ่มอืน่
7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรือกลุ่มใดมีปัญหาควรเข้าไปให้ความช่วยเหลือจนปญั หานั้นคลี่คลายลง
8. การสรุปผลท่ีได้จากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตัวแทนของกล่มุ รว่ มกนั ครูควรเปิดโอกาสให้นกั เรยี นแสดงออกให้มากทส่ี ดุ
9. ประเมินผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน เพื่อตรวจสอบผลการเรยี นรูข้ องนกั เรียน
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ฉ
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
คำช้แี จงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรส์ ำหรบั นักเรียน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีนักเรียนได้ศกึ ษาต่อไปนี้คือ ชุดที่ 5 เร่ือง กำรแปร
สัณฐำนของแผ่นธรณี ซึ่งนกั เรยี นจะได้สารวจ สงั เกต และรวบรวมขอ้ มูลมาสรปุ เปน็ องค์ความรู้
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิด
ประโยชน์สงู สุด นักเรยี นควรปฏบิ ัติตามคาชแ้ี จง ดงั ต่อไปน้ี
1. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 5 เรอ่ื ง กำรแปรสัณฐำนของแผ่นธรณี
ใช้เวลำในกำรทำกจิ กรรม 2 ชว่ั โมง
2. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้
3. นักเรียนทากจิ กรรมเปน็ รายกลมุ่ และศกึ ษาวธิ ีดาเนินกิจกรรมใหเ้ ข้าใจ
4. นกั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
5. นักเรยี นทากจิ กรรมในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ครบ
6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 10 ขอ้
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ ช
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
สาระการเรยี นรู้
ผลการเรียนรู้ / จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ / สาระสาคัญ
ชดุ ที่ 5
การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี
สาระ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
1. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิต
และสงิ่ แวดลอ้ ม การศึกษาลาดับชนั้ หิน ทรัพยากรธรณี แผนท่ี และการนาไปใช้
ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้
3. ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อของแผ่นธรณี ที่สัมพันธ์กับการเคล่ือนที่
ของแผน่ ธรณี พรอ้ มยกตวั อยา่ งหลักฐานทางธรณวี ิทยาท่ีพบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายสาเหตุ และกระบวนการเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณีได้ (K)
2. อธิบายกระบวนการที่ทาใหเ้ กิดการเคลือ่ นที่ของแผน่ ธรณี ระบผุ ลทีเ่ กิดจากการ
เคล่อื นท่ีของแผน่ ธรณีได้ (K)
3. ทดลองและอธิบายสาเหตุที่ทาใหเ้ กิดการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีได้ (P)
4. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและสรปุ เกยี่ วกบั กระบวนการเคลอื่ นที่ของแผ่นเปลือกโลก (P)
5. อธิบายรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเกิดธรณีสัณฐานและ
โครงสร้างทางธรณีวิทยาแบบตา่ ง ๆ (K)
6. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับการแปรสัณฐานของแผ่นธรณี
ในการร่วมกิจกรรมการเรยี นการสอนและนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั (A)
7. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรหู้ รืออยากรู้อยากเหน็ ทางานร่วมกับผู้อน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรับ
ความคิดเห็นของผูอ้ ่ืนได้ (A)
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 1
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
สาระสาคัญ
นกั วิทยาศาสตร์ไดร้ วบรวมหลักฐานแนวคิด และทฤษฎีต่าง ๆ ตง้ั แต่ทฤษฎที วปี เลื่อน ทฤษฎี
การแผ่ขยายพื้นมหาสมทุ ร และแนวคิดการพาวงจรความร้อน มาสรปุ เป็นทฤษฎีเรียกว่า ทฤษฎีการ
แปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี ซึง่ กลา่ วถงึ การเคลือ่ นท่ีและการเปลยี่ นแปลงลักษณะ เช่น ขนาด ตาแหน่ง
ของแผ่นธรณี โดยมีวงจรการพาความร้อนภายในโลกเป็นกลไกสาคัญในการขับเคล่ือนให้แผ่นธรณีมี
การเคลือ่ นท่ีในรูปแบบต่าง ๆ การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีจะส่งผลตอ่ การเกิดและการเปลีย่ นปลงของ
ทวีปและมหาสมุทร รวมท้ังธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี แผ่นธรณีแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
แผ่นทวีป และแผน่ มหาสมุทร แผ่นธรณภี าคเหล่านี้มีการเคลอื่ นทอ่ี ยตู่ ลอดเวลา นักวิทยาศาสตรแ์ ละ
นกั ธรณีวิทยาไดศ้ ึกษารอบต่อของแผน่ ธรณภี าคอย่างละเอยี ด และสามารถสรุปลักษณะการเคลื่อนท่ี
ของแผน่ ธรณีภาคได้ดังน้ี
1. ขอบแผน่ ธรณภี าคแยกออกจากกนั
2. ขอบแผ่นธรณภี าคเคลือ่ นเข้าหากนั
3. ขอบแผน่ ธรณีภาคเคลื่อนทผี่ ่านกัน
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 2
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รายวิชาธรณวี ิทยา แบบทดสอบกอ่ นเรียน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รหัสวชิ า ว30261
คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาท่ใี ช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องทส่ี ุด แล้วเขยี นเครื่องหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
1. ทฤษฎีท่ีใช้อธบิ ายถงึ กาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และสงิ่ มชี ีวติ ที่ตายทับถม อยใู่ นหินบน
เปลือกโลก คือข้อใด
ก. ทฤษฎีการเล่อื นไหลของทวีป
ข. ทฤษฎกี ารขยายตัวของพ้ืนทวีป
ค. ทฤษฎีการแปรสณั ฐานแผ่นธรณภี าค
ง. ทฤษฎีการขยายตัวของพน้ื มหาสมทุ ร
2. ผืนแผน่ ดินแผ่นเดียวกนั บนโลกตอ่ มาแยกเปน็ ทวีปใหญ่ 2 ทวีป คือข้อใด
ก. เอเชยี และยโุ รป
ข. ยุโรปและอเมริกา
ค. ออสเตรเลยี และอัฟริกา
ง. ลอเรเซียและกอนด์วานา
3. จากการพบหินบะซอลต์ท่ีรอยแยกบรเิ วณเทือกเขากลางมหาสมทุ ร แอตแลนตกิ อายุของ
หินอย่บู ริเวณดังกลา่ วเป็นอยา่ งไร
ก. หินบะซอลต์ท่อี ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายมุ ากกวา่ หนิ บะซอลต์ ท่อี ยู่ใกล้รอยแยก
ข. หนิ บะซอลต์ทีอ่ ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายนุ อ้ ยกว่าหินบะซอลต์ ทอี่ ยใู่ กล้รอยแยก
ค. หินบะซอลต์ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุน้อยกว่าหนิ บะซอลต์ ทอ่ี ยู่ในรอยแยก
ง. ข้อ ข. และ ค. ถูก
4. สนามแมเ่ หล็กโลกโบราณใชเ้ ปน็ หลักฐานเพือ่ พสิ ูจนท์ ฤษฎีอะไร
ก. การแปรสัณฐานแผน่ ธรณภี าค
ข. การเคลือ่ นท่ีของแผ่นธรณีภาค
ค. แม่เหล็กโลกในปัจจุบนั
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 3
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
5. แผ่นดนิ ของทวีปอเมริกากบั ทวีปยุโรป และทวีปแอฟรกิ า แยกหา่ งกันมากขน้ึ ตลอดเวลา
เพราะสาเหตุใด
ก. เกดิ การแทรกตวั ของภูเขาไฟและแผ่นดนิ ในบริเวณชนั้ น้บี ่อยคร้งั
ข. แผ่นเปลอื กโลกเคล่ือนท่เี น่ืองจากการไหลของแมกมาในชัน้ เนือ้ โลก
ค. หนิ หนืดในช้ันเนอ้ื โลกดันแทรกขึน้ มาตามรอยแตกระหว่างเปลอื กโลก
ง. ข้อ ก. และ ข. ถกู
6. ปจั จุบันแผน่ เปลือกโลกท่ีรองรับทวีปอเมริกา ทวปี ยโุ รป และทวปี แอฟรกิ า มกี ารเคลื่อนท่ี
อยา่ งไร
ก. เคลอ่ื นท่เี ขา้ หากัน
ข. เคลอื่ นทีแ่ ยกออกจากกัน
ค. เคลอื่ นทใี่ นทิศทแ่ี ตกต่างกัน
ง. ยังไมม่ ีการเคลื่อนท่แี ต่อย่างไร
7. เทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป เกิดจากแผน่ ธรณีภาคใด
ก. แผน่ ธรณภี าคใต้มหาสมุทรกับแผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทร
ข. แผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผ่นธรณีภาคพืน้ ทวปี
ค. แผน่ ธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผน่ ธรณีใตม้ หาสมทุ ร
ง. แผน่ ธรณีภาคพ้นื ทวปี กับแผน่ ธรณภี าคพ้ืนทวีป
8. สาเหตทุ ี่ทาให้เปลอื กโลกเคล่อื นที่ คอื ข้อใด
ก. การไหลของหินหนดื ในช้ันเนื้อโลก
ข. การประทุของหนิ แข็งในชน้ั เปลือกโลก
ค. การเคลื่อนทีข่ องแร่ธาตุในแก่นโลกชน้ั ใน
ง. การแทรกตัวขน้ึ มาของแร่ธาตุจากแกน่ โลกชั้นนอก
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 4
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
9. การที่แผ่นธรณีภาคในแต่ละส่วนมีอัตราการเคล่ือนที่ไม่เท่ากัน นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตใุ ด
ก. ความรอ้ นจากชน้ั เน้ือโลกถา่ ยเทอณุ หภูมิไมเ่ ท่ากัน
ข. ความหนาแน่นของช้ันธรณภี าคและเน้ือโลกเทา่ กนั
ค. อตั ราการเคลอื่ นตวั ของแมกมาในชนั้ เนือ้ โลกไมเ่ ท่ากนั
ง. ความหนาแนน่ ของชัน้ ธรณภี าคและเน้ือโลกไม่เทา่ กัน
10. สาเหตสุ าคญั ทท่ี าให้ธารนา้ แข็งเคล่อื นทล่ี งสู่ท่ตี ่าจนทาให้เปลอื กโลกเปล่ยี นแปลงคอื อะไร
ก. แรงดงึ ดูดของโลก
ข. ความลาดเอียงของภมู ิประเทศ
ค. ความกดดนั ของธารนา้ แขง็ ด้านบน
ง. การเปลีย่ นแปลงของอุณหภูมริ อบๆ ธารนา้ แข็ง
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 5
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
บัตรเนื้อหา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์
ชุดท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี (plate tectonics)
จากทฤษฎีทวีปเลื่อนและทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรทาให้ทราบว่าทวีปและพ้ืนมหาสมุทร
มีการเคลื่อนที่ แต่ทวีปและพื้นมหาสมุทรเป็นส่วนบนของธรณีภาคการเคลื่อนที่ของทวีปและพ้ืน
มหาสมทุ รจึงมคี วามเกี่ยวขอ้ งกบั ธรณีภาคโดยรอยแยกท่เี กดิ ข้นึ บนพน้ื มหาสมุทรเปน็ รอยแตกในธรณี
ภาคซ่ึงทาให้ธรณีภาคแตกออกเป็นแผ่นย่อย ๆ เรียกว่าแผ่นธรณี (plate หรือ lithospheric plate)
แผ่นธรณีแต่ละแผ่นอาจรองรับท้ังพ้ืนมหาสมุทรและพื้นทวีปแผ่นธรณีที่สาคัญในปัจจุบัน เช่น
แผ่นยเู รเซีย แผ่นแปซฟิ ิก แผ่นอินเดยี -ออสเตรเลีย แผ่นอเมริกาเหนือ แผ่นอเมริกาใต้ แผน่ แอฟริกา
แผน่ แอนตารก์ ตกิ า ดงั รูป 5.1
รปู ท่ี 5.1 แผ่นธรณขี องโลก
ที่มา : หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 49)
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 6
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
แผ่นธรณีเคลื่อนที่ได้เนื่องจากกระบวนการพาความร้อนภายในโลกโดยกระบวนการน้ีเกิด
จากความร้อนจากแก่นโลกทส่ี ่งผ่านเนื้อโลกตอนล่างมาถึงเนอื้ โลกตอนบนเมอ่ื เนื้อโลกตอนบนสูญเสีย
ความร้อนบางส่วนให้กับธรณีภาคอุณหภูมิของเนื้อโลกตอนบนจึงลดต่าลงและไหลวนลง สู่ด้านล่าง
กลับมารับพลังงานความร้อนเพิ่มจากแก่นโลกอีกครั้งเกิดการเคลื่อนท่ีหมุนวนจนเป็นวงจรเรียกว่า
วงจรการพาความร้อน (convection cell) ดังรปู 5.2
รูปท่ี 5.2 วงจรการพาความรอ้ นภายในโลก
ที่มา : หนังสือเรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 (หน้า 51)
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมหลักฐานแนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ ต้ังแต่ทฤษฎีทวีปเลื่อนทฤษฎี
การแผ่ขยายพ้ืนมหาสมุทรและแนวคิดวงจรการพาความร้อนมาสรุปเป็นทฤษฎีเรียกว่าทฤษฎีการ
แปรสัณฐานของแผ่นธรณี (plate tectonics) ซึ่งกลา่ วถึงการเคลือ่ นที่และการเปล่ียนแปลงลักษณะ
เช่นขนาดตาแหน่งของแผ่นธรณีโดยมีวงจรการพาความร้อนภายในโลกเป็นกลไ กสาคัญในการ
ขบั เคลือ่ นใหแ้ ผ่นธรณมี ีการเคล่ือนทใี่ นรปู แบบตา่ ง ๆ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีนอกจากจะส่งผลต่อ
การเกิดและการเปลย่ี นแปลงของทวีปและมหาสมุทรแล้วยังส่งผลต่อธรณีสัณฐานและโครงสร้างทาง
ธรณี
การแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค เป็นทฤษฎีเชิงธรณีวิทยาท่ีถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออธิบายถึง
หลักฐานจากการสังเกตการเคล่ือนตัวของแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ โดยทฤษฎีนี้ได้พัฒนาต่อ
ยอดจากทฤษฎีการเล่ือนไหลของทวีปเดมิ ท่ีถูกเสนอขน้ึ มาระหวา่ ง พ.ศ. 2443-2493 ทฤษฎีธรณีแปร
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 7
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
สัณฐานน้ีได้รับการยอมรับเป็นที่แพร่หลายหลังจากการเสนอแนวคิดที่เกี่ยวกับการ กระจายของพ้ืน
ทะเลในครสิ ตท์ ศวรรษที่ 1960 (ช่วงต้น พ.ศ. 2500)
โครงสร้างส่วนนอกของโลกนั้นแบ่งตามคุณสมบัติของช้ันหินต่อคลื่นไหวสะเทือนได้สองชั้น
ช้ันท่ีอยู่นอกสุดคือชั้นธรณีภาคช้ันดินแข็ง (lithosphere) อันประกอบด้วยเปลือกโลกและเนื้อโลก
(mantle) ชั้นบนซ่ึงมีอุณหภูมิต่าและแข็งเกร็ง ช้ันล่างลงไปคือชั้นฐานธรณีภาค ชั้นดินอ่อน
(asthenosphere) ซ่ึงมีสถานะเป็นของแข็งแต่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างต่าและขาดความแข็งแรง
อกี ทั้งยังสามารถเคล่ือนท่ีได้คล้ายของเหลวเม่ือพิจารณาในช่วงระยะเวลาเชงิ ธรณีวิทยา ช้นั แมนเทิล
ที่อยู่ลึกลงไปภายใต้ชั้นดินอ่อนน้ันจะมีความแข็งมากข้ึนอีกคร้ัง กระน้ันความแข็งดังกล่าวไม่ได้มา
จากการเย็นลงของอณุ หภูมิ แตเ่ นอ่ื งมาจากความดนั ทม่ี ีอยสู่ ูง
ธรณีภาคแบ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่นประกอบกัน ในกรณีของโลกสามารถแบ่งเป็น
แผ่นขนาดใหญ่ได้เจ็ดแผ่น และแผน่ ขนาดเล็กอีกจานวนมาก แผ่นเปลือกโลกเหล่าน้ีเคล่อื นท่ีสัมพนั ธ์
กับแผ่นเปลือกโลกอื่นๆ ขอบของเปลือกโลกสามารถแบ่งได้เป็นสามประเภทตามลักษณะการ
เคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลกสัมพัทธ์ของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นน้ัน คือ ขอบเปลือกโลกที่มีการชน
กันหรือบรรจบกัน ขอบเปลือกโลกที่มีการแยกตัวออกจากกันหรือกระจายจากกัน และขอบเขตท่ีมี
การแปลงสภาพ ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาต่างๆ ได้แก่แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ การก่อตัวของ
ภูเขา และการเกิดข้ึนของเหวสมุทรนั้นจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของขอบเขตแผ่นดิน
การเคลื่อนตัวดา้ นข้างของแผ่นดินนน้ั มอี ตั ราเร็วอยูร่ ะหว่าง 0.66 ถึง 8.50 เซนติเมตรตอ่ ปี
แผน่ เปลอื กโลกขนาดใหญ่
แผ่นเปลือกโลกท่ีมีขนาดใหญ่ ไดแ้ ก่
1. แผ่นแอฟรกิ า ครอบคลุมทวปี แอฟรกิ า เป็นแผน่ ทวปี แอฟรกิ า เป็นทวปี ทม่ี ขี นาดใหญ่
ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากทวีปเอเชีย ทั้งในแง่ของพ้ืนท่ีและจานวนประชากร ด้วยพื้นที่
ประมาณ 30.2 ล้านตารางกิโลเมตร (11.7 ล้านตารางไมล์) รวมท้ังเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ข้างเคียง ทวีป
แอฟริกามีพ้ืนที่ประมาณร้อยละ 6 ของพ้ืนผิวโลกท้ังหมด และนับเป็นพ้ืนท่ีประมาณร้อยละ 20.4
ของพ้ืนดินทั้งหมด ประชากรกว่า 1,100 ล้านคน (พ.ศ. 2556) ในดินแดน 61 ดินแดน นับเป็น
ร้อยละ 14.72 ของประชากรโลก
ทวีปแอฟริกาถูกล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือ คลองสุเอซ และทะเล
แดง บริเวณคาบสมุทรไซนายทางตะวันออกเฉียงเหนือ มหาสมุทรอินเดียทางตะวันออกเฉียงใต้
และมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวนั ตก ประกอบด้วย 54 รฐั
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 8
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รปู ท่ี 5.3 ทวีปแอฟรกิ า
ทีม่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
ทวีปแอฟริกาเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็น
พรมแดนระหว่างทวีปยุโรปทางตอนเหนือ และมีคลองสุเอซเป็นพรมแดนระหว่างทวีปเอเชียทาง
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ จุดเด่นของทวีปแอฟริกาคือ มที ่รี าบสงู ถึง 2 ใน 3 ของทวปี โดยเฉพาะทางภาค
ตะวันออกของทวีป เป็นท่ีราบสูงโดยเฉล่ียประมาณ 1,500 - 2,000 เมตรจากระดับน้าทะเล มีแนว
ภเู ขาไฟที่ดบั แลว้ มแี นวทะเลสาบขนาดใหญ่ แลว้ จะลาดต่าไปทางตะวนั ตก มีเกาะมาดากสั การ์
1. เทอื กเขา แบ่งออกเปน็ 2 เขตคือ
1. เขตภูเขาทางภาคเหนือ เป็นเขตเทือกเขาเกิดใหม่อายรุ าวพอ ๆ กบั เทือกเขาแอลป์ใน
ทวีปยุโรป เรยี กว่า เทือกเขาแอตลาส ขนานไปกบั ชายฝ่ังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในเขตพ้ืนที่ประเทศ
โมร็อกโก แอลจีเรีย และตูนิเซยี
2. เขตภเู ขาทางภาคใต้ ได้แก่ เทือกเขาดราเคนสเบิรก์ ในประเทศแอฟรกิ าใต้และเลโซโท
2. ทะเลทราย แบง่ เป็น 2 เขตคอื
1. เขตทะเลทรายตอนเหนือ ได้แก่ ทะเลทรายสะฮารา (ซ่ึงเป็นทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่
ทส่ี ดุ ในโลก) และทะเลทรายลิเบยี บรเิ วณน้จี ะเกดิ ลมร้อนในทะเลทรายสะฮารา เรยี กว่า ซริ ็อกโก
2. เขตทะเลทรายตอนใต้ ได้แก่ ทะเลทรายนามิบ และทะเลทรายคาลาฮารี
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 9
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
3. แมน่ า้
1. แม่น้าไนล์ เป็นแม่น้าสายท่ียาวที่สุดในโลก ต้นน้าคือทะเลสาบวิกตอเรีย ไหลลงทะเล
เมดเิ ตอรเ์ รเนียน
2. แมน่ ้าคองโก เปน็ แม่นา้ เขตศูนย์สูตร ไหลลงมหาสมทุ รแอตแลนตกิ
3. แม่น้าไนเจอร์ อยู่ในส่วนแอฟรกิ าตะวันตก ต้นน้าอยู่ท่ีประเทศเซยี ร์ราเลโอน ไหลลงสู่
อ่าวกินี
4. แม่น้าแซมเบซี อยู่ทางด้านตะวันออกของทวีปมีแอ่งน้าตก น้าค่อนข้างไหลเชี่ยว ไหล
ลงมหาสมทุ รอนิ เดยี ท่ปี ระเทศโมซัมบกิ
รปู ท่ี 5.4 แผนที่ดาวเทยี มแสดงส่วนประกอบทางภมู ศิ าสตรข์ องทวีปแอฟรกิ า
ทีม่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 10
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
2. แผ่นแอนตาร์กติก ครอบคลุมทวีปแอนตาร์กติกา เป็นแผ่นทวีป แอนตาร์กติกา
(Antarctica) เป็นทวีปท่ีอยู่ใต้สุดของโลกตั้งอยู่ในภูมิภาคแอนตาร์กติกในซีกโลกใต้และเป็นท่ีตั้งขั้ว
โลกใต้ทางภูมิศาสตร์ เกือบท้ังหมดอยู่ในวงกลมแอนตาร์กติกและล้อมรอบด้วยมหาสมุทรใต้ มีพื้นที่
ประมาณ 14 ล้านตารางกิโลเมตร เปน็ ทวีปท่ีใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกใหญ่กว่าทวปี ออสเตรเลียถึง
2 เท่า พื้นท่ี 98% ของทวีปปกคลุมด้วยน้าแข็งหนาเฉล่ีย 1.9 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นท่ีทั้งหมด
เว้นแต่ส่วนเหนอื สุดของคาบสมทุ รแอนตาร์กติก
รปู ท่ี 5.5 ทวปี แอนตารก์ ตกิ า
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
โดยค่าเฉล่ียแล้วแอนตาร์กตกิ าเปน็ ทวีปท่ีหนาวท่ีสดุ แห้งแล้งท่ีสุด ลมแรงท่ีสดุ และมีความสูง
โดยเฉล่ียมากท่ีสุด แอนตาร์กติกาเป็นทะเลทรายที่มีหยาดน้าฟ้าเฉลี่ย 200 มิลลิเมตรต่อปีตามแนว
ชายฝั่งและพื้นที่ภายใน ในช่วงไตรมาสท่ีสามซ่ึงเป็นช่วงท่ีหนาวสุดของปีจะมีอุณหภูมิเฉล่ีย -63 °C
แต(่ ท่สี ถานีวอสตอค ของรัสเซยี ) อุณหภูมิท่วี ัดได้เคยต่าถึง -89.2 °C (และเคยวัดไดถ้ ึง -94.7 °C โดย
เป็นการวัดจากดาวเทียมในอวกาศ บางสถานที่มีคนราว 1,000 ถึง 5,000 คนอาศัยในสถานีวิจัยท่ี
กระจายอยู่ทั่วท้ังทวีปตลอดทั้งปี สิ่งมีชีวิตในแอนตาร์กติกาจะเป็นพวกสาหร่าย แบคทีเรีย เห็ด
รา พืช โพรทิสต์และสัตว์บางชนิดเช่นตัวเห็บ ตัวไร หนอนตัวกลม เพนกวิน สัตว์ตีนครีบและหมีน้า
สว่ นพืชก็จะเป็นพวกทันดรา
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 11
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
แม้ว่ามีตานานเล่าขานเกี่ยวกับการมีอยู่ของดินแดนใต้ต้ังแตย่ ุคโบราณ แอนตาร์กติกาถกู ระบุ
วา่ เป็นดินแดนสุดท้ายบนโลกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคน้ พบ เพราะไม่มีใครเคยพบเลยจนกระทั่ง พ.ศ.
2363 นักสารวจชาวรัสเซียเฟเบียน ก็อทลีป ฟอน เบลลิ่งเชาเซนและมิคาอิล ลาซาเรฟท่ีอยู่บนเรือ
สลุบวอสตอค และเรือสลุบเมอร์นีย์ ได้สังเกตเห็นห้ิงน้าแข็งฟิมโบลแต่ก็ไม่ได้สนใจเน่ืองจาก
สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อมนุษย์ ขาดแคลนทรพั ยากรในการสารวจและความห่างไกลของพื้นที่
ตอ่ มาพ.ศ. 2438 ทมี สารวจชาวนอรเ์ วย์ได้รบั การยนื ยันการมาเยือนดินแดนแหง่ น้ีเป็นครงั้ แรก
ทวีปแอนตาร์กติกาเป็นดินแดนใตก้ ารปกครองร่วมโดยพฤตินัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติกที่ลงนามครั้งแรกโดย 12 ประเทศใน
พ.ศ. 2502 และตามด้วยการลงนามอีกเพ่ิม 38 ประเทศ ระบบสนธิสัญญานี้ห้ามมิให้มีการทาเหมือง
แร่ กิจกรรมทางทหาร ทดลองระเบิดนิวเคลียร์และการกาจัดกากนิวเคลียร์ แต่จะสนับสนุนการวิจัย
ทางวิทยาศาสตรแ์ ละปกปอ้ งช้ันโอโซนของทวีป ทาใหม้ กี ารทดลองอย่างตอ่ เนื่องโดนนักวิทยาศาสตร์
4,000 คนจากหลายประเทศบนทวีปนี้
รปู ที่ 5.6 ภาพถา่ ยดาวเทยี มของทวปี แอนตารก์ ตกิ า
ท่มี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 12
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
3. แผ่นออสเตรเลีย ครอบคลุมออสเตรเลีย (เคยเชื่อมกับแผ่นอินเดียเมื่อประมาณ 50-55
ลา้ นปีกอ่ น) เปน็ แผน่ ทวปี
รปู ที่ 5.7 ทวปี ออสเตรเลยี
ทีม่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
ออสเตรเลีย (Australia) หรือชื่อทางการคือ เครือรัฐออสเตรเลีย (Commonwealth of
Australia) เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย
และเกาะอ่ืน ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ ออสเตรเลียเป็นประเทศท่ีใหญ่เป็น
อันดับหกของโลกเม่ือนับพื้นที่ท้ังหมด ประเทศเพ่ือนบ้านของออสเตรเลี ประกอบด้วย
อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินีและติมอร์-เลสเตทางเหนือ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู และนิวแคลิโดเนีย
ทางตะวนั ออกเฉียงเหนอื และนวิ ซีแลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้
เป็นเวลาอย่างน้อย 40,000 ปี ก่อนท่ีจะตั้งถ่ินฐานครั้งแรกของอังกฤษในศตวรรษที่
18 ประเทศออสเตรเลียเป็นท่อี ย่อู าศัยของชาวออสเตรเลียพ้ืนเมือง ทพี่ ูดภาษาที่แบ่งออกได้เป็นกลุ่ม
ประมาณ 250 ภาษา หลังจากการค้นพบของทวีปโดยนักสารวจชาวดัตช์ในปี ค.ศ. 1606, คร่ึงหน่ึง
ของฝ่ังตะวันออกของออสเตรเลียถูกอ้างว่าเป็นของสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1770 และตั้งรกราก
ในขั้นต้นโดยการขนส่งนักโทษมายังอาณานิคมของนิวเซาธ์เวลส์จากวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1788
จานวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทศวรรษท่ีผ่านมา ทวีปถูกสารวจ และอีกห้าอาณานิคม
ปกครองตนเองของพระมหากษตั ริย์ถกู จัดตั้งข้ึน
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 13
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
เม่ือวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1901 หกอาณานิคมถกู ตง้ั ขึ้นเป็นสหพันธ์, รวมตัวกันเป็นเครอื รัฐ
ออสเตรเลีย. ต้ังแตน่ ั้นมา ออสเตรเลียยังคงรกั ษาระบบการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยท่ีม่ันคง ท่ีทา
หน้าท่ีเป็นรัฐสภาประชาธิปไตยของรัฐบาลกลางและพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ สหพันธ์
ประกอบด้วยหกรัฐ และอกี หลายพื้นที่ ประชากร 23.1 ล้านคน อยู่ในเมืองเป็นสว่ นใหญ่และมีความ
หนาแน่นอย่างมากในรัฐทางตะวนั ออก
ออสเตรเลียเป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้ว และเป็นหนึ่งในประเทศท่ีร่ารวยท่ีสุดในโลกที่มี
เศรษฐกิจ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับท่ี 12 ของโลก ในปี ค.ศ. 2012 ออสเตรเลียมีรายได้ต่อหัวที่สูงท่ีสุด
อันดับห้าของโลก[14] คา่ ใช้จา่ ยทางทหารของออสเตรเลยี มากทีส่ ุดเปน็ อันดับที่ 13 ของโลก ด้วยดชั นี
การพัฒนามนุษย์ที่สูงท่ีสุดอันดับท่ีสองท่ัวโลก, ออสเตรเลียถูกจัดอันดับที่สูงในการเปรียบเทียบ
ระหว่างประเทศจานวนมากของประสิทธิภาพการทางานในระดับชาติ เช่น คุณภาพชีวิต, สุขภาพ,
การศึกษา, เสรีภาพทางเศรษฐกิจ, และการปกป้องเสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการ
เมือง ออสเตรเลียเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ, G20, เครือจกั รภพแห่งชาติ, ANZUS, องค์การเพื่อ
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), องค์การการค้าโลก, ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
เอเชียแปซิฟิกและหมเู่ กาะแปซิฟิกฟอร่ัม
รปู ที่ 5.8 แผนทีด่ าวเทียมแสดงสว่ นประกอบทางภูมศิ าสตรข์ องทวปี ออสเตรเลีย
ทีม่ า : https://sites.google.com/site/tor42273/thwip-xxsterleiy
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 14
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
4. แผน่ ยูเรเชีย ครอบคลุมทวีปเอเชียและยโุ รป เปน็ แผ่นทวปี
แผ่นยูเรเชีย (Euresian Plate) คือแผ่นเปลือกโลกที่รองรับพื้นที่เกือบท้ังหมดของทวีป
ยูเรเชียแต่ไม่ได้รองรับประเทศอินเดีย อนุภูมิภาคอาหรับและพ้ืนท่ีทางตะวันออกของเทือกเขา
เชอร์สกีทางตะวันออกของไซบีเรีย นอกจากน้ียงั มสี ่วนท่ีรองรับมหาสมุทรแอตแลนติกทางตอนเหนือ
ไปจนถึงเทือกเขากลางสมุทรแอตแลนติกและเทือกเขาการ์กเกิลทางตอนเหนือและมีพื้นท่ีประมาณ
67,800,000 ตารางกิโลเมตร
การปะทุของภูเขาไฟท้ังหมดในไอซ์แลนด์อยา่ งเช่นการปะทุของภูเขาไฟแอลเฟจในปี 1973
การปะทุของภูเขาไฟลาไคปี 1783 และการปะทุของเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ พ.ศ.2553 ล้วนเกิดจาก
การแยกตวั ออกจากกันของแผน่ อเมรกิ าเหนอื กบั แผน่ ยูเรเชีย
ธรณีพลศาสตร์ของเอเชียกลางมักเป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างแผ่นยูเรเชียและแผ่น
อนิ เดีย
ทวีปเอเชีย เป็นทวีปใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในโลก พ้ืนทสี่ ่วนมากต้ังอยูใ่ นซกี โลกเหนือ
และตะวันออก ทวีปเอเชียต้ังอยู่ในทวีปยูเรเชียรวมกับทวีปยุโรป และอยู่ในทวีปแอฟโฟร-ยูเรเชีย
ร่วมกับยุโรปและแอฟริกา ทวีปเอเชียมีพ้ืนท่ีท้ังหมดประมาณ 44,579,000 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น
30% ของแผ่นดินท่ัวโลกหรือคิดเป็น 8.7% ของผิวโลกท้ังหมด ทวีปเอเชียเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์
มานานและเป็นแหล่งกาเนิดอารยธรรมแรก ๆ ของโลกหลายแห่ง เอเชียไม่ได้เพียงแค่มีขนาดใหญ่
และมีประชากรเยอะแต่ยังมีสถานท่ี และท่ีต้ังถิ่นฐานหนาแน่นและมีขนาดใหญ่เช่นเดียวกับท่ียังมี
บริเวณที่ประชากรต้ังถ่ินฐานเบาบางด้วย ทั้งนี้ทวีปเอเชียมีประชากรราว 4.5 พันล้านคน คิดเป็น
60% ของประชากรโลก
รปู ท่ี 5.9 ทวปี เอเชีย
ท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 15
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
โดยท่ัวไปทางตะวันออกของทวีปติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทางใต้ติดมหาสมุทรอินเดีย
และทางเหนือติดกับมหาสมุทรอาร์กติก บริเวณชายแดนระหว่างเอเชียและยุโรปมีประวัติศาสตร์
และโครงสร้างวฒั นธรรมมากมายเพราะไม่มีการแยกกันดว้ ยลักษณะทางภูมศิ าสตร์ท่ีชัดเจน จงึ มีการ
โยกย้ายติดต่อกันในช่วงสมัยคลาสสิก ทาให้บริเวณนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม
ภาษา ความแตกต่างทางชาติพันธข์ุ องตะวันออกกบั ตะวันตกและแบง่ จากกันอย่างเด่นชัดกว่าการขีด
เส้นแบ่ง เขตแดนท่ีเด่นชัดของเอเชียคือต้งั แต่ฝั่งตะวันออกของคลองสุเอซ แม่น้ายูรัล, เทือกเขายูรัล
ช่องแคบตุรกี ทางใต้ของเทอื กเขาคอเคซสั ทะเลดาและทะเลแคสเปยี น
รปู ที่ 5.10 แผนที่ดาวเทยี มแสดงสว่ นประกอบทางภูมิศาสตร์ของทวีปเอเชยี
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
จีนและอินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกต้ังแต่คริสต์ศักราชที่ 1 ถึง 1800
จีนเป็นประเทศที่มีอานาจทางเศรษฐกิจที่สาคัญและดึงดูดผู้คนจานวนมากให้ไ ปทางตะวันออก
และตานาน ความมั่งคั่งและความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมโบราณของอินเดียกลายเป็นสัญลักษณ์ของ
เอเชียส่ิงเหล่านี้จึงดึงดูดการค้า การสารวจและการล่าอาณานิคมของชาวยุโรป การค้นพบเส้นทาง
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 16
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
ข้ามมหาสมทุ รแอตแลนติกโดยบังเอิญจากยุโรปไปอเมริกาของโคลัมบัสในขณะท่ีกาลังค้นหาเส้นทาง
ไปยังอินเดียแสดงให้เห็นความดึงดูดใจเหล่าน้ี เส้นทางสายไหมกลายเป็นเส้นทางการค้าหลักของฝั่ง
ตะวันออกกับฝ่งั ตะวันตกในขณะที่ช่องแคบมะละกากลายเป็นเสน้ ทางเดินเรือทสี่ าคญั ช่วงศตวรรษท่ี
20 ความแข็งแรงของประชากรเอเชียและเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก) เติบโตเป็นอย่าง
มากแตก่ ารเตบิ โตของ ประชากรโดยรวมลดลงเรื่อย ๆ เอเชียเป็นแหลง่ กาเนดิ ของศาสนาหลกั บนโลก
หลายศาสนา อาทิศาสนาคริสต์, ศาสนาอิสลาม, ศาสนายูดาห์ ศาสนาฮินดูพระพุทธศาสนา
ลัทธขิ งจือ๊ ลัทธเิ ตา๋ ศาสนาเชน ศาสนาซกิ ข์ ศาสนาโซโรอัสเตอร์และศาสนาอน่ื ๆ อีกมากมาย
เนื่องจากเอเชียมีขนาดใหญ่และมีความหลากหลายทางแนวคิด ภูมินามวิทยาของเอเชียมี
ตั้งแต่สมัยคลาสสิกซึ่งคาดว่าน่าจะตั้งตามลักษณะผู้คนมากกว่าลักษณะทางกายภาพ เอเชียมีความ
แตกต่างกันอย่างมากท้ังด้านภูมิภาค กลุ่มชาติพันธุ์ วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม เศรษฐศาสตร์
ประวตั ิศาสตร์และระบบรัฐบาล นอกจากน้ียังมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างมาก เชน่ พืน้ เขตร้อน
หรือทะเลทรายในตะวันออกกลาง ภูมิอากาศแบบอบอุ่นทางตะวันออก ภูมิอากาศแบบก่ึง
อารกตกิ ทางตอนกลางของทวีปและภมู ิอากาศแบบขั้วโลกในไซบีเรยี
ทวปี ยโุ รป เป็นทวีปท่ีต้ังอยู่ในซกี โลกเหนือและสว่ นมากอยใู่ นซกี โลกตะวันออก ทางทศิ เหนือ
ติดกับมหาสมุทรอาร์กติก ทางทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางทิศตะวันออกติดกับทวีป
เอเชยี ทางทิศตะวนั ตกตดิ กบั มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นอนทุ วปี ทางด้านตะวันตกของทวีปยเู รเชีย
รปู ที่ 5.11 ทวีปยุโรป
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 17
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
ตั้งแต่ประมาณ 1850 การแบ่งยุโรปกับเอเชียมักยึดตามสันปันน้าของเทือกเขายูรัล
และเทือกเขาคอเคซัส แม่น้ายูรัล ทะเลแคสเปียน ทะเลดาและช่องแคบตุรกี แม้คาว่า "ทวีป"
จะหมายถึงภูมิศาสตร์กายภาพของผืนดินขนาดใหญ่ท่ีไมม่ ีการแบ่งอย่างแน่นอนและชัดเจน จึงมีการ
โยกย้ายติดต่อกันในช่วงสมัยคลาสสิก ทาให้บริเวณชายแดนยุโรปกับเอเชียของยูเรเชียน้ันแสดงให้
เห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ภาษา ความแตกต่างทางชาติพันธ์ุของตะวันออกกับตะวันตก
และแบง่ จากกันอย่างเดน่ ชดั กวา่ การขดี เสน้ แบ่งเขตแดน เส้นแบ่งเขตแดนของทวปี ไม่ได้แบง่ ตามเส้น
แบ่งเขตแดนทางการเมอื งทาให้ตุรกี รัสเซียและคาซคั สถานเป็นประเทศขา้ มทวีป
รูปที่ 5.12 แผนทด่ี าวเทยี มแสดงสว่ นประกอบทางภมู ิศาสตรข์ องทวปี ยุโรป
ทมี่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
ยุโรปมีพ้ืนที่ประมาณ 10,180,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2% ของผิวโลก (6.8%
ของผนื ดิน) ในทางการเมืองยุโรปมีรัฐอธปิ ไตยและเขตปกครองกว่า 50 รัฐ ซงึ่ มีรัสเซียเป็นประเทศที่
ใหญ่และมีประชากรมากที่สุด โดยกินพ้ืนที่ทวีปยุโรป 39% และมีประชากรท้ังหมด 15% ของทวีป
ใน พ.ศ. 2560 ยุโรปมีประชากรประมาณ 741 ล้านคน (หรือ 11% ของประชากรโลก) ภูมิอากาศ
ยุโรปส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากกระแสน้าอุ่นในมหาสมุทรแอตแลนติกทาให้ภายในทวีปจะมี
อากาศหนาวจัดในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อนแม้ในละติจูดเดียวกันในเอเชียกับอเมริกาเหนือจะมี
สภาพอากาศทรี่ นุ แรง ยโุ รปภาคพื้นทวปี จะเหน็ ความแตกต่างตามฤดูกาลไดช้ ัดเจนกวา่ บรเิ วณชายฝั่ง
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 18
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
ทวีปยุโรปโดยเฉพาะกรีซโบราณเป็นแหล่งกาเนิดวัฒนธรรมตะวันตก การล่มสลายของ
จักรวรรดิโรมันตะวันตกใน ค.ศ 476 และสมัยการย้ายถิ่นช่วงต่อมา เป็นจุดจบของสมัยโบราณและ
เป็นจุดเร่ิมต้นของสมัยกลาง มนุษยนิยมสมัยฟ้ืนฟูศิลปวิทยา ยุคแห่งการสารวจ ศิลปะและ
วิทยาศาสตร์อันเป็นเป็นรากฐานนาไปสู่สมัยใหม่ ต้ังแต่ยุคแห่งการสารวจเป็นต้นมานั้นยุโรปมี
บทบาทสาคัญระดับโลกในด้านเศรษฐกิจ ระหว่างศตวรรษที่ 16 ถึง 20 ประเทศในยุโรปมีอานาจ
ปกครองหลาย ๆ ครั้งในทวีปอเมริกา เกือบท้ังหมดของแอฟริกาและโอเชียเนียร่วมถึงพืน้ ท่ีส่วนใหญ่
ของเอเชีย
ยุคเรืองปัญญาหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียนส่งผลให้เกิดการปฏิรูป
วัฒนธรรม การเมืองและเศรษฐกิจในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงคร่ึงแรกของศตวรรษที่ 19 การ
ปฏิวัติอุตสาหกรรมในสหราชอาณาจักรช่วงปลายศตวรรษท่ี 18 ก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงทาง
เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมเป็นอย่างมากในยุโรปตะวันตกและขยายไปท่ัวท้ังโลกในเวลา
ต่อมา สงครามโลกทั้ง 2 ครั้งมีสมรภูมิส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรปนั้น ทาให้ช่วงกลางศตวรรษท่ี
20 สหภาพโซเวียตและสหรัฐขึ้นมามีอานาจในขณะท่ีประเทศยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่มีอานาจลดลง
[7] ระหว่างสงครามเย็นยุโรปถูกแบ่งด้วยม่านเหล็กระหว่างเนโททางตะวันตกกับกติกาสัญญาวอร์ซอ
ในตะวันออก จนกระทง่ั สนิ้ สดุ ลงหลังการปฏวิ ัติ ค.ศ. 1989และการลม่ สลายของกาแพงเบอร์ลนิ
ใน ค.ศ. 1949 สภายุโรปกอ่ ตั้งข้ึนตามคาปราศรยั ของ เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งมีแนวคิดใน
การรวมยุโรปเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ทุกประเทศในยุโรปเป็นสมาชิกยกเว้น
เบลารุส คาซคั สถานและนครรัฐวาตกิ ัน การบูรณาการยโุ รปอ่ืน ๆ อยา่ งการรวมกลุ่มโดยบางประเทศ
นาไปสู่การก่อต้ังสหภาพยุโรป (อียู) ซ่ึงเป็นสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองซึ่งมีรูปแบบ
สมาพันธรัฐและสหพันธรัฐ[8] สหภาพยุโรปก่อตั้งข้ึนในยุโรปตะวันตกแต่เร่ิมเพ่ิมสมาชิกในยุโรป
ตะวันออกต้ังแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป
ส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินยูโรซึ่งชาวยุโรปนิยมใช้กันท่ัวไป; และในเขตเชงเก้นของอียูจะยกเลกิ การควบคุม
ชายแดนและการอพยพระหว่างประเทศสมาชิก เพลงประจาสหภาพยุโรปคือ "ปีติศังสกานท์"และมี
วนั ยุโรปเพื่อการเฉลมิ ฉลองสันติภาพและเอกภาพประจาปใี นทวปี ยุโรป
5. แผ่นอเมริกาเหนือ ครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของ
ไซบีเรยี เปน็ แผ่นทวีป
แผ่นอเมริกาเหนือ (อังกฤษ: North American Plate) คือแผ่นเปลือกโลกที่รองรับทวีป
อเมริกาเหนือ กรีนแลนด์ คิวบา บาฮามาส เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือไอร์แลนด์ และบางส่วนของ
ไอซแ์ ลนด์ แผน่ เปลือกโลกน้ีรองรบั ท้งั ทวีปและมหาสมุทร
ทวีปอเมริกาเหนือ เป็นทวีปท่ีมีพ้ืนท่ีท้ังหมดอยู่ในซีกโลกเหนือและเกือบทั้งหมดในซีกโลก
ตะวันตก เป็นอนทุ วีปทางเหนือของทวปี อเมรกิ า ทางเหนอื ติดกับมหาสมุทรอาร์กตกิ ทางตะวนั ออก
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 19
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
ตดิ มหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันตกตดิ มหาสมุทรแปซิฟิก ทางใตต้ ิดกับทวีปอเมริกาใต้และทะเล
แคริบเบียน
รูปท่ี 5.13 ทวีปอเมรกิ าเหนือ
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/
ทวีปอเมริกาเหนือมีประชากรมนษุ ยเ์ ป็นคร้ังแรกในชว่ งยคุ นา้ แขง็ ครั้งล่าสดุ โดยเดินทางผ่าน
สะพานแผ่นดินเบริงเจียเมื่อประมาณ 40,000 ถึง 17,000 ปีก่อน ประชากรมนุษย์กลุ่มนี้รู้จักกันใน
ช่ือพาลีโอ-อินเดียนซึ่งอยู่ในช่วง 10,000 ปีก่อน (จุดเร่ิมต้นของยุคอาร์เคอิกหรือเมสโซ-
อินเดียน) คลาสสิกสเตจมีช่วงเวลาประมาณคริสต์ศตวรรษ 6 ถึง 13 ศตวรรษ ยุคก่อนโคลัมเบียน
สิ้นสุดใน ค.ศ. 1492 และเร่ิมมีการอพยพและการเข้ามาต้ังถ่ินฐานของชาวยุโรปในช่วงยุคแห่งการ
สารวจและช่วงต้นของยุคกลางทาให้รูปแบบวัฒนธรรมและชาติพันธ์ุในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึง
ปฏิสัมพันธ์ของการต้ังอาณานิคมของยุโรปในอเมริกาเหนือ เช่น ชาวผิวขาว ชาวพื้นเมือง ทาสชาว
แอฟรกิ าและกลุ่มชนรุ่นหลงั
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 20
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รูปท่ี 5.14 แผนทด่ี าวเทยี มแสดงสว่ นประกอบทางภูมิศาสตร์ของทวีปอเมริกาเหนือ
ทมี่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
6. แผน่ อเมรกิ าใต้ ครอบคลุมทวีปอเมริกาใต้ เป็นแผน่ ทวีป
ทวีปอเมริกาใต้ เป็นทวีปที่เส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน พ้ืนที่ส่วนใหญ่อยู่ในซีกโลกใต้ ขนาบ
ข้างด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก ในทางภูมิศาสตร์ ทวีปอเมริกาใต้เพ่ิงจะ
เคล่ือนมาบรรจบกับทวีปอเมริกาเหนอื เมื่อไม่นานมานี้ ทาให้เกิดคอคอดปานามา เทอื กเขาแอนดีสที่
มีอายุน้อยและไม่หยุดน่ิงพาดผ่านเขตด้านตะวันตกของทวีป ดินแดนทางตะวันออกของเทือกเขา
แอนดสี คือ แอ่งแมน่ ้าแอมะซอน ซง่ึ สว่ นใหญ่เปน็ เขตปา่ ดบิ ชน้ื
ทวีปอเมริกาใต้มีพ้ืนที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ
ตามลาดบั ส่วนจานวนประชากรเปน็ อนั ดบั 5 รองจากเอเชีย แอฟรกิ า ยุโรป และอเมริกาเหนือ
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 21
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รปู ท่ี 5.15 ทวปี อเมริกาใต้
ท่มี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
ทวีปอเมริกาใต้ตั้งอยู่บนซีกโลกใต้เป็นส่วนมากโดยอยู่ระหว่างละติจูดท่ี 12 องศาเหนือ
ถึง 56 องศาใต้ และลองจิจูด 35 องศาตะวันออก ถึง 117 องศาตะวันตก มีเนื้อที่ประมาณ 17.8
ล้านตารางกิโลเมตร หรือคดิ เปน็ ร้อยล่ะ 14 ของแผ่นดินโลก ใหญเ่ ป็นอันดับ 4 ของโลก และมเี นื้อท่ี
แผ่นดินติดต่อกันทาให้ชายฝ่ังของทะเลมีน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของทวีป โดยทวีปอเมริกาใต้มี
แผ่นดินใหญ่รูปรา่ งคล้ายสามเหลีย่ ม
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 22
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รูปท่ี 5.16 แผนท่ีดาวเทียมแสดงส่วนประกอบทางภูมศิ าสตร์ของทวีปอเมรกิ าใต้
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
7. แผน่ แปซฟิ กิ ครอบคลมุ มหาสมทุ รแปซฟิ ิก เป็นแผ่นมหาสมุทร
แผ่นแปซิฟิก คือแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนของมหาสมุทรแปซิฟิก
มีพืน้ ท่ปี ระมาณ 103 ล้านตารางกโิ ลเมตรจงึ ถือวา่ เปน็ แผ่นเปลอื กโลกที่ใหญ่ท่ีสุด
แผน่ แปซิฟกิ มีจดุ ร้อนภายในที่ทาให้เกดิ หมู่เกาะฮาวาย
แผ่นแปซิฟิกกาลังเคล่ือนตัวเพ่ือปรับสมดุลทางธรรมชาติ เพราะน้าแข็งข้ัวโลกละลายและ
ได้ไหลเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก จึงทาให้น้าในมหาสมุทรแปซิฟิกมีมากเกินไปจนเสียสมดุล ซึ่งการ
เคลือ่ นตัวของแผ่นแปซฟิ ิกอาจทาใหพ้ ้นื ทีท่ ต่ี ดิ กบั ทะเลหายไปได้
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 23
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รูปท่ี 5.17 แผ่นแปซิฟกิ
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
นอกจากน้ี ยังมีแผ่นเปลือกโลกท่ีมีขนาดเล็กกว่า ได้แก่ แผ่นอินเดีย แผ่นอาระเบีย
แผ่นแคริบเบยี น แผน่ ฮวนเดฟูกา แผ่นนาสกา แผ่นทะเลฟลิ ปิ ปนิ ส์ และแผ่นสโกเชยี
การเคล่อื นที่ของแผ่นเปลอื กโลกน้ันมีสาเหตุมาจากการรวมตัวและแตกออกของทวีปเม่ือผ่าน
ช่วงเวลาหน่ึง ๆ รวมถึงการรวมตัวของมหาทวีปในบางคร้ัง ซึ่งได้รวมทุกทวีปเข้าด้วยกัน มหาทวีป
โรดิเนีย (Rodinia) นั้นคาดว่าก่อตัวขึ้นเมื่อหนึ่งพันล้านปีท่ีผ่านมา และได้ครอบคลุมผืนดินส่วนใหญ่
บนโลก จากน้ันจึงเกิดการแตกตัวไปเป็นแปดทวีปเมื่อ 600 ล้านปีที่แล้ว ทวีปท้ังแปดน้ีต่อมาเข้า
มาร่วมตัวกันเป็นมหาทวีปอีกคร้ัง โดยมีช่ือว่า แพงเจีย (Pangaea) และในที่สุด แพงเจียก็แตก
ออกไปเป็นทวีปลอเรเชีย (Laurasia) ซึ่งกลายมาเป็นทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชีย และทวีป
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 24
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
กอนด์วานา (Gondwana) ซ่ึงกลายมาเปน็ ทวปี อ่ืน ๆ นอกเหนอื จากทไี่ ด้กล่าวขา้ งต้น ดงั ทเี่ หน็ กันอยู่
ทกุ วนั น้ี
รปู ท่ี 5.18 แผนทแ่ี สดงแผน่ เปลอื กโลก
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/
การเคลอ่ื นที่ของแผ่นเปลือกโลกน้นั มสี าเหตุมาจากการรวมตัวและแตกออกของทวีปเม่ือผ่าน
ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ รวมถึงการรวมตัวของมหาทวีปในบางคร้ัง ซึ่งได้รวมทุกทวีปเข้าด้วยกัน มหาทวีป
โรดิเนีย (Rodinia) น้ันคาดว่าก่อตัวขึ้นเม่ือหนึ่งพันล้านปีท่ีผ่านมา และได้ครอบคลุมผืนดินส่วนใหญ่
บนโลก จากน้ันจึงเกิดการแตกตัวไปเป็นแปดทวีปเมื่อ 600 ล้านปีที่แล้ว ทวีปทั้งแปดน้ีต่อมาเข้า
มาร่วมตัวกันเป็นมหาทวีปอีกคร้ัง โดยมีช่ือว่าแพงเจีย (Pangaea) และในท่ีสุด แพงเจียก็แตก
ออกไปเป็นทวีปลอเรเชีย (Laurasia) ซึ่งกลายมาเป็นทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชีย และทวีป
กอนด์วานา (Gondwana) ซึ่งกลายมาเป็นทวีปอ่ืน ๆ นอกเหนือจากที่ได้กล่าวข้างต้น ดังท่ีเห็นกัน
อยู่ทุกวันนี้
การเคล่อื นท่ขี องแผน่ เปลือกโลก (plate motion) คอื ลกั ษณะการเคลอ่ื นทขี่ องแผน่ เปลือก
โลก 2 แผน่ ท่ีอยตู่ ดิ กนั สามารถจาแนกไดอ้ อกเปน็ 3 รูปแบบ ตามลกั ษณะการเคล่ือนท่ีสัมพทั ธ์กนั
ระหว่างแผ่นเปลอื กโลกทง้ั สอง ไดด้ ังต่อไปน้ี
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 25
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
การเคลอื่ นทข่ี องแผ่นเปลือกโลกแบบเคลื่อนผ่านกนั
การเคลื่อนทข่ี องแผ่นเปลือกโลกแบบเคลื่อนแยกจากกนั
การเคลอ่ื นท่ขี องแผ่นเปลือกโลกแบบชนเข้าหากนั
รูปที่ 5.19 แผนทีแ่ สดงแผ่นเปลอื กโลก
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/
การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี
ธรณีแปรสัณฐาน เป็นการศึกษาด้านธรณีแปรสัณฐาน ท่ีนักธรณีวิทยาตั้งข้อสงสัยไว้หลาย
ร้อยปีมาแล้วถึงลักษณะของพื้นผิวโลกที่มีลักษณะธรณีสัณฐานท่ีแตกต่างกันไปในแต่ละพ้ืนท่ี บ้างก็
เป็นลักษณะเทือกเขาสูงชัน บ้างก็เป็นท่ีราบกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล หรือ ท่รี าบในบางแห่ง
ก็เป็นท่ีราบไหล่ทวีปใกล้ชายฝ่ังทะเล บ้างก็พบเกาะกลางมหาสมุทร รวมถึงร่องลึกกลางมหาสมุทร
โดยในช่วงประมาณ ค.ศ. 1960 เม่ือ B.C. Heezen, H.H. Hess และ R.S. Dietz ได้เสนอทฤษฎี
เกี่ยวกับการแยกตัวของพ้ืนมหาสมุทร (Seafloor Spreading) กล่าวถึงการแยกตัวที่พ้ืนมหาสมุทร
ออกจากกนั เปน็ แนวยาวโดยมีแมกมาจากใต้ช้นั เปลือกโลกแทรกขน้ึ มาเย็นตวั และแข็งตวั เกิดเป็นพ้ืน
มหาสมุทรใหม่แล้วก็แยกจากกันออกไปอีกเร่ือยๆ นอกจากน้ันยังมีการพูดถึงการหดตัวของโลกอัน
เนื่องมาจากการสูญเสียพลังงานความร้อนทาให้การหดตัวเกิดขึ้นไม่เท่ากันในแต่ละบริเวณ บริเวณท่ี
มีการหดตัวมากอาจเป็นเป็นร่องลึก อยู่ต่าลงไป แต่บริเวณที่มกี ารหดตัวน้อยก็อาจเห็นเป็นเทือกเขา
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 26
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
สูงได้เนื่องจากบริเวณโดยรอบมีการหดตัวท่ีมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถอธิบายถึงแนว
ร่องหุบเขาท่ีเกิดขึ้นได้ นักธรณีวิทยายังคงศึกษาถึงเหตกุ ารณ์ต่างๆอยา่ งตอ่ เนื่อง เช่น สนามแม่เหล็ก
โลกโบราณ ซากดึกดาบรรพ์ต่างๆท่ีแสดงถึงการเปล่ียนแปลงของโลก ทาให้ปัจจุบันได้มีการกล่าวถึง
ทฤษฎีอยู่ 2 ทฤษฎี ที่จะมาอธิบายเหตุการณ์ตา่ งๆ ได้แก่
1. ทฤษฎีทวปี เล่ือน (Continental Drift)
2. ทฤษฎีแผน่ เปลอื กโลกเคลื่อนที่ (Plate Tectonics)
ในค.ศ. 1620 ฟรานซิส เบคอน ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการที่สองฟากมหาสมุทรแอตแลนติกมี
ลักษณะสัณฐานวิทยาท่ีสอดคล้องกันต่อมา P.Placet 1668 พยายามอธิบายว่าสองฟากมหาสมุทร
แอตแลนตกิ น่าจะเชื่อมกันมาก่อน แต่ยังไม่มหี ลักฐานหรือข้อมูลใดสนับสนุน นอกจากอาศัยลักษณะ
คล้ายคลึงสอดคล้องกันของชายฝั่งมหาสมุทรเท่าน้ัน จากนั้นในปี 1858 Antonio Sniderได้อาศัย
ขอ้ มูลชั้นหินในยุค Carboniferous ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือมาเช่ือมโยงกันซ่ึงสามารถสรุปได้
วา่ ก่อนหน้านท้ี วีปทงั้ หมดเคยเปน็ ทวีปผนื เดยี วกนั มากอ่ น แล้วจงึ คอ่ ยๆ แยกออกจากกนั ในภายหลัง
ในปี 1908 Frank B. Taylor ได้อธิบายถึงของการท่ีมหาทวีป 2 ทวีปซึ่งเคยวางตัวอยู่ใกล้ข้ัวโลก
เหนือและใต้แยกออกเป็นทวีปเล็กๆ และเคลื่อนที่มาในทิศเข้าหาเส้นศูนย์สูตร น่ันคือมหาทวีปลอเร
เซีย (Laurasia) ซ่ึงอยู่ทางเหนือและมหาทวีปกอนด์วานา (Gondwanaland) ซึ่งอยู่ทางใต้ โดยเป็น
การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกไซอัลเท่าน้ัน ต่อมาในปี 1910 Alfred Wegene ได้สร้างแผนท่ีมหาทวีป
ใหม่ โดยอาศยั รปู ร่างแผนท่ีของ Snider และต้ังชื่อว่ามหาทวีปพันเจีย ซงึ่ ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทร
พันธาลาสซา (Panthalassa) แล้วเกิดการแยกออกและเคล่ือนท่ีไปอยู่ ณ ตาแหน่งท่ีเห็นอยู่ใน
ปัจจุบัน โดยขณะเคลื่อนท่ีก็เกิดเทือกเขาขึ้น ต่อมา Taylor ได้อธิบายว่ารอยชิ้นทวีปที่ขาดหล่น
ปรากฏเปน็ เกาะแก่ง หรือรอยฉีกท่พี บเปน็ รอ่ งลึกยงั ปรากฏอยบู่ นพน้ื มหาสมุทร
รปู ท่ี 5.20 แผนทีแ่ สดงแผน่ เปลือกโลก
ท่มี า : https://sites.google.com/site/maneeprapayotakaree10219/6
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 27
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
เมื่อกว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา นักธรณีวิทยาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าแผ่นทวีปต่างๆ บนโลกน้ัน
น่าจะสามารถนามาต่อกันได้เพราะแผ่นทวีปเหล่าน้ีเคยเป็นแผ่นเดียวกันมาก่อน จากการสังเกตคร้ัง
นนั้ รว่ มกบั การค้นพบซากดึกดาบรรพช์ นดิ เดยี วกันบนชายฝงั่ อเมริกาเหนือและแอฟริกาในเวลาตอ่ มา
ในช่วง 1950s ถึง 1960s นักธรณีวิทยาได้มีการศึกษาทางสุมทรศาสตร์อย่างจริงจังเพื่อหา
ข้อสนับสนุนแนวความคิดต่างๆ ในอดีต และได้ก่อให้เกิดทฤษฎีของเพลตเทคโทนิก (Plate
Tectonics) ข้ึนในเวลาต่อมา ทฤษฎีดังกล่าวอธิบายว่าการเคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลก (Plates)
นั้นสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงพื้นผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล แผ่นเปลือกโลก Lithosphere
(ซึ่งประกอบด้วยเปลือกโลกและแมนเทิลส่วนบน) ลอยตัวและไหลอยู่บนชั้นหินหนืด (ช้ันแมนเทิล
ที่สามารถไหลได้คล้ายของเหลวเรียกว่า Asthenosphere) สามารถเคล่ือนไปได้ประมาณ
หน่ึงน้ิวต่อปี และก็ได้เป็นคาตอบของสาเหตทุ ี่ทาให้แผน่ เปลอื กโลกเคล่ือนท่ีน่ันเอง โดยนักธรณีได้ให้
ขอ้ สรปุ ไว้วา่ แผน่ เปลือกโลกสามารถเคลอ่ื นท่ไี ด้สามแบบไดแ้ ก่
1. เคลอื่ นทแี่ ยกออกจากกนั (Divergent)
2. เคลอื่ นท่ีเข้าชนกนั (Convergent)
3. เคลอื่ นผา่ น (Transform)
เคลอ่ื นที่แยกออกจากกัน
เม่ือแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่แยกออกจากกัน ท่ีบริเวณแนวแผ่นเปลือกโลกแยกตัว
(Divergent Boundaries) หินหนืดร้อน (Hot Magma) จากช้ันแมนเทิลจะแทรกตัวข้ึนมาตาม
ช่องว่างตามแนวรอยแตก เมื่อหินหนืดเย็นตัวก็จะกลายเป็นแผ่นเปลือกโลกใหม่ การแทรกตัวข้ึนมา
ของหินหนืดจะทาให้แนวแยกตัวนั้นสูงขึ้นกลายเป็นแนวเทือกเขากลางมหาสมุทร (Mid-Ocean
Ridges) แสดงถึงขอบของแผ่นเปลือกโลกในมหาสมุทร เปลือกโลกใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเน่ืองมี
อัตราเร็วในการเกดิ ประมาณ 20 ลกู บาศกก์ ิโลเมตรตอ่ ปี
แนวเทอื กเขากลางสมุทร
มีลักษณะเป็นแนวเทือกเขาเตี้ยวางตัวทอดยาวไปบนพ้ืนมหาสมุทรคล้ายกับเทือกเขาบน
ทวปี เทอื กเขากลางสมุทรที่สาคัญได้แก่ Mid-Atlantic Ridge และ East Pacific Rise เป็นต้น กลาง
เทือกเขามลี ักษณะพิเศษคือมีร่องลกึ อนั เกดิ จากรอยเลอ่ื นทอดตัวตลอดความยาวของเทอื กเขา โดยมี
ลักษณะคล้ายคลึงกับร่องหุบเขาท่ีปรากฏอยู่บนแผ่นดินหลายแห่ง เช่น ร่องหุบเขาทางด้าน
ตะวันออกของทวีปแอฟริกา หรือร่องหุบเขาบริเวณแม่น้าไรน์ในยุโรป เป็นต้น บนเทือกเขากลาง
สมุทรมีการยกตัวขึ้นมาของหินหลอมละลายท่ีลึกลงไปในช้ันเน้ือโลกทาให้เกิดเป็นหินอัคนีพุจาพวก
Basalt และ Ultramafic หินอัคนพี ุเหล่านี้แสดงหลักฐานเปน็ แถบบันทกึ สนามแม่เหลก็ โลกซ่ึงเกดิ ขึ้น
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 28
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
ขณะที่หนิ หลอมละลายกาลังเย็นตวั แถบบันทึกนี้แสดงใหเ้ ห็นว่าสนามแมเ่ หล็กโลกได้เกิดการกลบั ขั้ว
ไปมาตลอดเวลา นอกจากน้ียังพบว่าแถบบันทึกสนามแม่เหลก็ โลกนีป้ รากฏอยู่บนหินที่ประกอบเป็น
พื้นมหาสมุทรทั้งสองฟากของเทือกเขากลางสมุทรด้วย และพบว่าย่ิงห่างออกไปจากแนวกลางของ
เทือกเขาชุดหินจะมีอายุแก่ขึ้นเร่ือย ๆ ดังนั้นจึงอธิบายได้ว่าหินเหล่าน้ีเกิดขึ้นก่อนที่กลางเทือกเขา
แล้วค่อยเคล่ือนท่ีออกจากกันเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา จากการคานวณการเคลื่อนที่ทาให้กาหนด
ความเร็วของการแยกตัวได้ว่าอยู่ระหว่าง 1 ถึง 15 เซนติเมตรต่อปี ดังน้ันเราสามารถระบุขอบของ
แผน่ เปลอื กโลกในส่วนทก่ี าลงั แยกตวั ออกจากกันจากบริเวณเทือกเขากลางสมุทรได้
เคลื่อนทเี่ ข้าชนกัน
เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการเย็นตัวเป็นเวลากว่าสิบล้านปี ความหนาแน่นก็จะ
คอ่ ยๆ เพ่ิมมากขึ้นจนมีความหนาแน่นมากกว่าช้ันหินหนืดที่อยู่ด้านลา่ ง จากน้ันจึงมุดตัวลงไปใต้โลก
เรียกว่า Subduction การมุดตวั น้ีจะเกิดข้ึนในบริเวณแนวแผ่นเปลือกโลกลู่เข้าหากัน (Convergent
Plate Boundaries) ซ่ึงแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่นมีการเคลื่อนที่เข้าชนกัน แผ่นเปลือกโลกมหา
สมุทรท่ีมคี วามหนาแน่นมากกว่าจะเข้าชนและมุดตัวใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืนทวีปที่ความหนาแน่น
น้อยกว่า เม่ือแผ่นเปลือกโลกมุดตัวลงไปในโลก จะเกิดการบีบอัดและหลอมเป็นบางส่วน (Partially
Melting) เนื่องจากอุณหภูมิและความดนั ที่สูงข้ึน ทาให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ ขึ้นเหนือบรเิ วณ
ท่ีมกี ารมุดตวั โดยการเคลื่อนทแ่ี บบ Convergence จะทาใหเ้ กดิ ลักษณะธรณีสณั ฐาน 3 แบบ ได้แก่
1. การสรา้ งเทอื กเขา
แรงดันจากการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรทาให้แผ่นเปลือกภาคพ้ืนทวีปที่มี
ความหนาแน่นน้อยกว่าท่ีเคลื่อนที่ต้านแรงดังกล่าวเกิดการโก่งตัวเกิดเป็นแนวเทือกเขาขนาดใหญ่
(Mountain Ranges) เชน่ เทอื กเขาหมิ าลยั เทอื กเขาร๊อกกี้
2. รอ่ งลกึ มหาสมทุ รและหมเู่ กาะ
เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรสองแผ่นเคลื่อนที่ชนกันและการมุดตัว บริเวณท่ีมีการมุด
ตัวจะเกิดร่องลึกมหาสมุทร (Oceanic Trenches) และแนวหมู่เกาะภูเขาไฟ (Volcanic Island
Chains)
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 29
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
3. ร่องลกึ ก้นสมทุ ร
ร่องลึกน้ีถูกพบที่ใต้มหาสมุทรใกล้ขอบของทวีป และมักพบว่ามีแนวเกาะภูเขาไฟรูปโค้ง
อยู่ด้านอยู่ใกล้ขอบทวีป หินภูเขาไฟท่ีเกิดขึ้นตามแนวเกาะภูเขาไฟน้ีเป็นจาพวกหิน Andesite
ซึ่งแตกต่างไปจากหินอัคนีท่ีเกิดบริเวณเทือกเขากลางสมุทรท่ีส่วนใหญ่เป็นหิน Basalt นอกจากน้ัน
บริเวณนี้ยังพบว่าเป็นบริเวณที่มีความร้อนสูงและมีการเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยคร้ัง พบว่าตาแหน่ง
จุดกาเนิดแผ่นดินไหว มีลักษณะเอียงเทลงไปจากแนวร่องลึกลงไปถึงชั้นฐานธรณีภาค ท่ีประมาณ
ความลึกถึง 700 กิโลเมตร เรียกแนวแผ่นดินไหวเอียงเทนี้ว่าเขตเบนนิออฟ (Benioff Zones)
จากการศึกษากลไกการเกิดแผ่นดินไหวท่ีพบในท่ีลึกพบว่ามีแผ่นดินไหวจานวนหน่ึงน่าจะเกิดจาก
รอยเลื่อนท่มี ลี ักษณะสอดคล้องกับการเอียงของ Benioff Zone โดยแสดงเป็นลกั ษณะของรอยเลอ่ื น
ย้อน ดังนั้นจึงเกิดเป็นสมมติฐานว่าบริเวณนี้แผ่นเปลือกโลกกาลังมุดตัวเอียงลง และถูกกลืนหายไป
ในชั้นฐานธรณีภาค ขณะเดียวกันแนวเกาะภูเขาไฟและเขตความร้อนพิภพสูงก็อธิบายว่าได้เกิดการ
หลอมตัวของแผ่นเปลือกโลกในท่ีลึกจนกลายเป็นมวลหินหลอมเหลว ซ่ึงมวลหินหลอมเหลวค่อยๆ
หาทางเคลื่อนที่ขึ้นข้างบนมาเย็นตัวเปน็ มวลหนิ อัคนีท้ังหนิ อัคนีพุและหินอัคนแี ทรกดนั นอกจากนใี้ น
บรเิ วณใกลเ้ คียงที่ขอบของแผ่นเปลอื กโลกด้านใดดา้ นหนึ่งหรือทั้งสองดา้ นน่าจะเกดิ การเข้าชนกันทา
ให้เกิดการคดโค้งโก่งงอพร้อมกับรอยเล่ือนย้อนมากมายจนทาให้วัสดุถูกยกตัวข้ึนเป็นแนวแคบยาว
ขนานไปตามแนวชนกันของขอบแผ่นเปลือกโลกนนั่ คือการเกิดเป็นแนวเทอื กเขาน่นั เอง
เคลือ่ นผา่ น
แผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนท่ีผ่านซ่ึงกันและกันในบริเวณแนวรอยเล่ือนแปรสภาพ
(Transform Boundaries) มักพบในแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทร ซึ่งเป็นสาเหตุทาให้แนวเทือกเขา
กลางมหาสมุทรเล่ือนเหล่ือมออกจากกนั บางบริเวณก็พบว่าตัดผา่ นแผ่นเปลอื กโลกภาคพื้นทวีปด้วย
ในมหาสมุทรแนวดังกล่าวนี้มักจะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวกาลังไม่มากอยู่เป็นประจา ส่วนในภาคพื้น
ทวีปแนวดังกล่าวมักถูกจากัดทาให้เกิดการสะสมพลังงานและก่อให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเวลา
ตอ่ มาเมื่อเกิดการเลื่อนอย่างฉบั พลัน ซ่ึงกอ่ ใหเ้ กิดความเสยี หายได้ ดังเช่น รอยเล่อื นซานแอนเดียส
รอยเล่ือนระนาบด้านข้าง
เป็นลักษณะของรอยเล่ือนแนวระดับ (Strike-Slip Fault) ซึ่งพบตัดแนวเทือกเขากลาง
สมุทรและทาให้แนวเทือกเขาเหลื่อมกันและจากข้อมูลแผ่นดินไหวพบว่า แนวรอยเล่ือนนี้อยู่ลึก
ประมาณ 300 กิโลเมตร รอยเลื่อนชนิดนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการเกิด แต่สามารถใช้ระบุ
ขอบเขตของแผ่นโลกท่ีเกิดได้รวมท้ังบอกถึงการเคล่ือนตัวเฉียดผ่านกันของแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ชิด
กันด้วย
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 30
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
บัตรกิจกรรมท่ี 5.1
ถอดบทเรียน เรอ่ื ง การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณี
จุดประสงค์กจิ กรรม
อธบิ ายสาเหตุที่ทาใหแ้ ผน่ ธรณเี คลื่อนทโ่ี ดยใชแ้ บบจาลอง
วัสดุ-อุปกรณ์
1. นา้ มันพืช 1 ลิตร
2. แผน่ วสั ดุเบา ลอยบนน้ามันได้ และทนความร้อน เช่น แผ่นโฟมบาง ไม้บัลซา
ขนาด กว้าง 4 เซนตเิ มตร ยาว 8 เซนตเิ มตร จานวน 2 แผ่น
3. บกี เกอร์ขนาด 2,000 มลิ ลิลิตร จานวน 1 ใบ
4. ผงวัสดุท่แี ขวนลอยอยู่ได้ในนา้ มัน เช่น ผงพรกิ ปน่ ขีเ้ ลื่อย
5. ชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ชดุ
6. แทง่ แกว้ คนสาร 1 แท่ง
วิธกี ารทากจิ กรรม
1. เทนา้ มนั พชื ลงในบีกเกอร์ และนา้ บกี เกอร์ตงั้ บนชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์
2. ใสผ่ งวัสดุลงตรงกลางบกี เกอร์ใช้แทง่ แก้วกดให้ผงวัสดแุ ขวนลอยอยใู่ นชั้นน้ามันพชื
3. วางแผน่ โฟมท่ีตดั เป็นรูปร่างของแผน่ ธรณี 2 แผ่น โดยวางใหช้ ิดกันและ อยู่ตรงกลางของ
บีกเกอร์
4. สังเกตการเคล่อื นทข่ี องผงวสั ดุและแผน่ โฟมก่อนจดุ ไฟ
5. จุดไฟท่ีตะเกียงแอลกอฮอล์ 6. สังเกตการเคล่ือนท่ีของผงวัสดุและแผ่นโฟม และบันทึก
ผลการสังเกต โดยวาดภาพ และเขยี นบรรยาย
ผลการทากิจกรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 31
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
คาถามท้ายกิจกรรม
1. เม่ือให้ความร้อนกับน้ามัน น้ามันและแผ่นโฟมมีการเปล่ียนแปลงอย่างไร สังเกตได้จาก
สง่ิ ใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. นาน้ามันมันพืช แผ่นโฟม และความร้อนที่ให้ในกิจกรรมเปรียบเทียบได้กับอะไรใน
ธรรมชาติ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. กิจกรรมนีเ้ ปรยี บกบั การเคล่ือนที่ของแผน่ ธรณไี ด้อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 32
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
บัตรกจิ กรรมท่ี 5.2
แผนผงั มโนทัศน์ เรือ่ ง การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนสรปุ ความรู้ท่ีเกีย่ วกับ “การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี” เปน็ แผนผงั มโนทัศน์
(Concept Mapping) ในกระดาษทแี่ จกให้แล้วนาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 33
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
บตั รกิจกรรมที่ 5.3
ถอดบทเรยี น เรื่อง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
คาชี้แจง ให้นักเรียนถอดบทเรียนที่เกี่ยวกับ “การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี” ตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงเป็น ในกระดาษชาร์ตที่กาหนดให้แล้วนาเสนอผลงาน โดยนาไปติดป้ายนิเทศ
หนา้ ช้นั เรยี น
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 34
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
แบบฝึกหดั
เรื่อง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
1. แผน่ ทวปี ใดทด่ี ูเหมือนวา่ เคยเป็นแผน่ ดินเดียวกนั มากอ่ น เพราะเหตุใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การคน้ พบซากดึกดาบรรพ์ของพชื ตระกูลเฟินท่ชี ่ือ กลอสซอพเทอรสิ ในแผน่ ดินของทวปี แอฟริกา
เอเชยี และออสเตรเลยี สามารถบอกอะไรเกย่ี วกบั ความเปน็ มาของแผ่นทวปี ไดบ้ า้ ง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากภาพในหนงั สอื เรียนหน้า 60 จงอธิบายเก่ยี วกบั เปลือกใต้มหาสมุทรตามความเขา้ ใจ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เพราะเหตใุ ด ปรากฏการณภ์ ูเขาไฟระเบิดและแผ่นดนิ ไหว มักเกิดตามแนวการมดุ ตวั ของแผน่
ธรณภี าค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 35
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
6. นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ทฤษฎกี ารแปรสัณฐานแผน่ ธรณีภาคอยา่ งไรบา้ ง จงอธบิ าย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. รอยคดโค้ง รอยแตก รอยเล่อื นในหิน มีลกั ษณะเหมอื นกันหรือไม่ เกิดขน้ึ ได้อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. จากการศึกษาแผนท่ีโลก ภูมิประเทศของโลกมีลักษณะอยา่ งไรบ้าง และลักษณะเหล่าน้ันเกิดข้ึน
ไดอ้ ย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 36
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
รายวชิ าธรณีวทิ ยา แบบทดสอบหลังเรยี น ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
เร่อื ง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
รหสั วชิ า ว30261
คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้ี จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาทีใ่ ช้ 10 นาที
2. จงเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องท่สี ดุ แลว้ เขียนเคร่อื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
1. แผ่นดนิ ของทวปี อเมรกิ ากบั ทวีปยุโรป และทวีปแอฟรกิ า แยกห่างกันมากขึน้ ตลอดเวลา
เพราะสาเหตุใด
ก. เกดิ การแทรกตัวของภเู ขาไฟและแผ่นดินในบริเวณช้นั น้บี ่อยครงั้
ข. แผ่นเปลอื กโลกเคลื่อนทเ่ี น่ืองจากการไหลของแมกมาในชั้นเน้อื โลก
ค. หินหนดื ในชัน้ เนอื้ โลกดนั แทรกขนึ้ มาตามรอยแตกระหว่างเปลือกโลก
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
2. ทฤษฎีท่ีใช้อธิบายถึงกาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และส่ิงมีชีวิตทีต่ ายทับถม อยู่ในหินบน
เปลือกโลก คอื ข้อใด
ก. ทฤษฎกี ารเลอื่ นไหลของทวปี
ข. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพืน้ ทวีป
ค. ทฤษฎกี ารแปรสณั ฐานแผ่นธรณีภาค
ง. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพ้นื มหาสมทุ ร
3. จากการพบหนิ บะซอลต์ทร่ี อยแยกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทร แอตแลนตกิ อายุของ
หนิ อยู่บริเวณดังกล่าวเปน็ อยา่ งไร
ก. หินบะซอลต์ทอี่ ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุนอ้ ยกว่าหนิ บะซอลต์ ที่อยู่ใกล้รอยแยก
ข. หินบะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยกมีอายมุ ากกวา่ หนิ บะซอลต์ ทีอ่ ยใู่ กลร้ อยแยก
ค. หินบะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยกมีอายนุ อ้ ยกว่าหนิ บะซอลต์ ทอี่ ยูใ่ นรอยแยก
ง. ขอ้ ข. และ ค. ถูก
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 37
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
4. เทือกเขาแอลปใ์ นทวีปยโุ รป เกิดจากแผ่นธรณีภาคใด
ก. แผน่ ธรณภี าคพ้ืนทวีปกับแผ่นธรณีภาคพ้ืนทวปี
ข. แผน่ ธรณภี าคใต้มหาสมุทรกับแผน่ ธรณใี ตม้ หาสมทุ ร
ค. แผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผน่ ธรณีภาคพนื้ ทวีป
ง. แผน่ ธรณีภาคใต้มหาสมุทรกบั แผน่ ธรณีภาคใตม้ หาสมุทร
5. สนามแม่เหล็กโลกโบราณใช้เปน็ หลักฐานเพ่ือพสิ ูจนท์ ฤษฎีอะไร
ก. การแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค
ข. การเคลื่อนทขี่ องแผ่นธรณภี าค
ค. แมเ่ หลก็ โลกในปัจจุบัน
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถูก
6. ปัจจบุ นั แผน่ เปลือกโลกท่ีรองรบั ทวีปอเมรกิ า ทวีปยุโรป และทวีปแอฟรกิ า มีการเคล่อื นท่ี
อยา่ งไร
ก. เคล่อื นที่เขา้ หากนั
ข. เคล่ือนท่แี ยกออกจากกัน
ค. เคล่ือนที่ในทิศทแี่ ตกต่างกัน
ง. ยงั ไมม่ ีการเคลื่อนท่แี ต่อยา่ งไร
7. สาเหตทุ ่ีทาให้เปลือกโลกเคล่อื นท่ี คอื ข้อใด
ก. การไหลของหินหนดื ในชัน้ เน้ือโลก
ข. การประทุของหินแข็งในชั้นเปลอื กโลก
ค. การเคลื่อนที่ของแร่ธาตใุ นแก่นโลกช้ันใน
ง. การแทรกตวั ข้ึนมาของแร่ธาตุจากแก่นโลกชั้นนอก
8. ผนื แผน่ ดินแผน่ เดียวกนั บนโลกต่อมาแยกเป็นทวปี ใหญ่ 2 ทวปี คือข้อใด
ก. เอเชียและยุโรป
ข. ยโุ รปและอเมริกา
ค. ออสเตรเลยี และอัฟริกา
ง. ลอเรเซียและกอนดว์ านา
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 38
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
9. การที่แผ่นธรณีภาคในแต่ละส่วนมีอัตราการเคล่ือนท่ีไม่เท่ากัน นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตุใด
ก. ความร้อนจากชัน้ เนอ้ื โลกถา่ ยเทอณุ หภูมิไมเ่ ท่ากัน
ข. ความหนาแนน่ ของช้นั ธรณภี าคและเน้ือโลกเท่ากัน
ค. อตั ราการเคล่อื นตัวของแมกมาในช้ันเนื้อโลกไม่เท่ากัน
ง. ความหนาแนน่ ของชน้ั ธรณีภาคและเน้ือโลกไม่เท่ากนั
10. สาเหตุสาคญั ทท่ี าใหธ้ ารน้าแข็งเคลอ่ื นที่ลงสู่ที่ตา่ จนทาใหเ้ ปลอื กโลกเปล่ียนแปลงคอื อะไร
ก. แรงดงึ ดดู ของโลก
ข. ความลาดเอยี งของภูมปิ ระเทศ
ค. ความกดดันของธารนา้ แขง็ ดา้ นบน
ง. การเปลยี่ นแปลงของอุณหภมู ิรอบๆ ธารนา้ แข็ง
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 39
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน
ชดุ ที่ 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
แบบทดสอบกอ่ นเรียน ง แบบทดสอบหลังเรยี น ง
ข้อ ก ข ค ขอ้ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 40
ชดุ ท่ี 5 การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี
บรรณานุกรม
กรมทรัพยากรธรณ.ี (2544), ธรณีวทิ ยาประเทศไทยเฉลมิ พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว
เน่ืองในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม
2542. (พิมพค์ รงั้ ท่ี 1). กรุงเทพฯ : กองธรณวี ทิ ยากรมทรพั ยากรธรณี.
กรมทรัพยากรธรณี. (2550), ธรณวี ิทยาประเทศไทย. (พิมพค์ รงั้ ที่ 2). กรงุ เทพฯ : โรงพิมพด์ อกเบ้ีย.
ราชบัณฑติ ยสถาน. (2558) พจนานกุ รมศพั ท์ธรณวี ทิ ยา A-M. (พิมพ์ครงั้ ที่ 2). กรุงเทพฯ :
สานกั พิมพ์คณะรัฐมนตรแี ละราชกิจจานเุ บกษา.
ราชบณั ฑติ ยสถาน. (2558), พจนานกุ รมศัพทธ์ รณวี ทิ ยา N-Z. (พิมพค์ ร้งั ที่ 2). กรงุ เทพฯ :
สานกั พิมพ์คณะรัฐมนตรแี ละราชกจิ จานเุ บกษา.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2551). หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา. (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1). กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2551). หนงั สอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พิมพ์ครงั้ ที่ 8). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2554). หนงั สือเรยี นรายวิชาเพิม่ เติม
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พิมพ์คร้ังที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2561). หนังสอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติม
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1. (พิมพค์ รงั้ ที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
https://sites.google.com/site/maneeprapayotakaree10219/6
https://th.wikipedia.org/wiki/
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 41