The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

4_แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายมหาพื้นสมุทรฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-05-03 08:08:33

4_แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายมหาพื้นสมุทรฯ

4_แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายมหาพื้นสมุทรฯ

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหสั วชิ า ว30104

ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6

นางพชั รี คูณทอง
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ



ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลักฐานสนบั สนนุ

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 จัดทาขึ้นเพ่ือเปน็ สื่อนวตั กรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 เพื่อให้ผู้เรียนใช้ประกอบกิจกรรมการ
เรียนการสอนและสามารถเรียนรดู้ ้วยตนเอง นาไปใช้ในการเรียนการสอนซ่อมเสรมิ ได้ หรือใช้ใน
การสอนแทนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรี ย น ของผู้ เรี ย น กลุ่ มส าร ะการ เรี ยน รู้ วิทย าศาส ตร์ เป็น น วัตกรร มท่ีช่ว ยล ดบทบาทของครู
ตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็ม
ตามศกั ยภาพ ซง่ึ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ.2560) ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ กระบวนการคิด
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการส่ือสาร การตัดสนิ ใจ การนา
ความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวนั ตลอดจนส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีจิตวทิ ยาศาสตร์คณุ ธรรมและคา่ นยิ มที่
ถกู ตอ้ งเหมาะสม

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีจะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองโลกและการเปล่ียนแปลงของเปลือกโลกได้เป็นอย่างดี มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น สามารถใช้เพ่ือศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเองเป็นส่ือท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ
วตั ถปุ ระสงค์ของหลักสูตรได้

พชั รี คณู ทอง

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ก

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพนื้ สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ

สำรบญั

เร่ือง หน้ำ
คำนำ ก
สำรบญั ข
คำชแี้ จงเก่ียวกบั กำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ ค
แผนภูมลิ ำดับขน้ั ตอนกำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ง
คำช้ีแจงกำรใชช้ ุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับครู จ
คำชี้แจงกำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนกั เรยี น ช
1
สาระการเรยี นรู้ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั 1
จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2
แนวความคดิ ต่อเนอ่ื ง 3
สาระสาคัญ 4
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 7
บตั รเนื้อหา ชดุ ที่ 4 เรอื่ ง แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายของพ้ืนสมุทรฯ 24
บัตรกิจกรรมที่ 4.1 เร่อื ง แบบจาลองการแผข่ ยายของพื้นมหาสมทุ ร 29
บตั รกิจกรรมที่ 4.2 ผังมโนทศั น์ เร่ือง แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายของพืน้ สมทุ รฯ 30
บัตรกิจกรรมที่ 4.3 ถอดบทเรียน เร่อื ง แนวคิดของทฤษฎกี ารแผข่ ยายของพน้ื สมุทรฯ 31
แบบฝกึ หดั เรอื่ ง แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายของพนื้ สมุทรฯ 33
แบบทดสอบหลงั เรียน 36
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น 37
บรรณำนุกรม 38
ภำคผนวก 39
เฉลยบตั รกจิ กรรมท่ี 4.1 เร่อื ง แบบจาลองการแผ่ขยายของพน้ื มหาสมทุ ร 44
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 4.2 ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพนื้ สมทุ รฯ 45
เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 4.3 ถอดบทเรยี น เรื่อง แนวคิดของทฤษฎกี ารแผข่ ยายพ้นื สมุทรฯ 46
เฉลยแบบฝกึ หัด เรื่อง แนวคิดของทฤษฎกี ารแผข่ ยายของพื้นสมุทรฯ 48
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน 49
ประวัตยิ ่อผ้จู ดั ทำ

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ข

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรและหลักฐานสนบั สนุน

คำชแ้ี จงเกย่ี วกับชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์

. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง กระบวนการเปล่ยี นแปลง

ภายในโลก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่ือใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้

รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โดยให้

สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

2560) กระทรวงศึกษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝึกท่ีเหมาะสมกับระดับและ

วยั เพ่อื ให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพื่อสง่ เสริม

เจตคติทีด่ ี นกั เรยี นจะได้พัฒนากระบวนการคดิ กระบวนการตัดสนิ ใจ กระบวนการแก้ปัญหา และ

สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจหลักการ

ทางวิทยาศาสตร์ เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีสารวจตรวจสอบข้อมูล การคิด

แก้ปัญหา ตลอดจนการเสริมสร้างจิตวิทยาศาสตร์ ซ่ึงประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จานวน

9 ชดุ ดงั นี้

ชดุ ที่ 1 เรอ่ื ง ข้อมูลในการศึกษาและแบ่งชั้นโครงสร้างโลก

ชดุ ที่ 2 เรือ่ ง การแบ่งช้นั โครงสร้างโลก

ชุดที่ 3 เรื่อง แนวคิดของทฤษฎที วปี เลื่อนและหลักฐานสนับสนนุ

ชดุ ท่ี 4 เรอ่ื ง แนวคดิ ของทฤษฎีการแผข่ ยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน

ชดุ ท่ี 5 เรอื่ ง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี

ชุดท่ี 6 เร่ือง ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีท่ีเกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่น

ธรณี

ชดุ ท่ี 7 เรื่อง ภเู ขาไฟระเบดิ

ชดุ ที่ 8 เรือ่ ง แผ่นดินไหว

ชดุ ที่ 9 เรอ่ื ง สนึ ามิ

2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้เป็น ชุดท่ี 4 เรื่อง แนวคิดของทฤษฎีกำรแผ่

ขยำยพนื้ สมุทรและหลักฐำนสนบั สนุน ใช้เวลำ 2 ชว่ั โมง

3. ผูใ้ ช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้คี วรศึกษาข้ันตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

อยา่ งละเอยี ดก่อนใช้

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดน้ี จะมีประโยชน์ต่อ

นักเรียนและผู้สนใจท่ีจะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้

วิทยาศาสตรใ์ ห้มคี ณุ ภาพมากยิ่งข้ึนต่อไป

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ ค

ชดุ ท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ

แผนภมู ิลำดับข้นั ตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์

อ่านคาชี้แจงและคาแนะนาในการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ศกึ ษาตัวชวี้ ดั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เสริมพนื้ ฐำน
ทดสอบกอ่ นเรียน ผ้มู ีพน้ื ฐำนตำ่

ศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ตามขน้ั ตอน

ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรจู้ ากชุดกิจกรรม

ไม่ผ่ำน ทดสอบหลังเรียน
กำรทดสอบ

ผำ่ นกำรทดสอบ

ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรอ่ื งตอ่ ไป

แผนภมู ิลำดับขัน้ ตอนกำรเรยี นโดยใชช้ ุดกิจกรรมกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์
ชดุ ท่ี 4 เรือ่ ง แนวคิดของทฤษฎีกำรแผข่ ยำยพนื้ สมทุ รและหลักฐำนสนับสนุน

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ง

ชดุ ท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมทุ รและหลกั ฐานสนับสนนุ

คำชีแ้ จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตรส์ ำหรบั ครู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดท่ี 4 เร่ือง แนวคิด
ของทฤษฎีกำรแผ่ขยำยพ้ืนสมุทรและหลักฐำนสนับสนุน ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ชั่วโมง
ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกตและรวบรวม ข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด
กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อช่วยให้การดาเนินการ
จัดกิจกรรมการเรยี นร้บู รรลจุ ดุ ประสงคแ์ ละมปี ระสิทธภิ าพ ครูผสู้ อนควรดาเนนิ การดังน้ี

1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเก่ียวกับคาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจดั การเรียนรู้ เพอ่ื ท่ีครูผู้สอนสามารถนาชุดกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ปใช้ในการ
จดั กิจกรรมการเรยี นรูไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

2. ครูผู้สอนเตรยี มสือ่ การเรยี นการสอนใหพ้ ร้อม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซ่ึงนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเว้นสอ่ื การสอนทตี่ อ้ งใชร้ ่วมกนั
4. ครูต้องชี้แจงใหน้ ักเรียนรู้เก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้
ดงั น้ี

4.1 ศึกษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรียนรู้โดยใช้
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้

4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับข้ันตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพ่ือจะได้ทราบ
วา่ จะปฏิบตั ิกจิ กรรมอะไร อยา่ งไร

4.3 นักเรียนต้องต้ังใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กันและกนั ไมร่ บกวนผอู้ น่ื และไมช่ ักชวนเพอื่ นให้ออกนอกลนู่ อกทาง

4.4 หลงั จากปฏบิ ัตกิ จิ กรรมแล้ว นกั เรียนจะต้องจัดเกบ็ อุปกรณท์ กุ ชน้ิ ให้เรียบร้อย
4.5 เมอ่ื มกี ารประเมนิ ผลนักเรียนต้องปฏิบตั ติ นอย่างต้ังใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) แบ่งออกเป็น
7 ขนั้ ตอน ดังน้ี
5.1 ข้นั ที่ 1 ข้นั ตรวจสอบความรูเ้ ดิม
5.2 ขัน้ ที่ 2 ข้นั สรา้ งความสนใจ
5.3 ข้ันท่ี 3 ข้ันสารวจและคน้ หา

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ จ

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้นื สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ
5.4 ขั้นท่ี 4 ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ
5.5 ข้นั ท่ี 5 ขั้นขยายความรู้
5.6 ข้ันที่ 6 ขน้ั ประเมนิ
5.7 ขน้ั ท่ี 7 ขน้ั นาความรู้ไปใช้
6. ขณะท่ีนักเรียนทุกกล่มุ ปฏิบัติกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เปน็ รายกลุ่มหรอื รายบุคคล ตอ้ งไม่รบกวนกิจกรรมของนกั เรยี นกล่มุ อน่ื
7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรือกลุ่มใดมีปัญหาควรเข้าไปให้ความช่วยเหลอื จนปัญหานนั้ คล่คี ลายลง
8. การสรุปผลท่ีไดจ้ ากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตวั แทนของกลุ่มร่วมกนั ครคู วรเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนแสดงออกใหม้ ากท่สี ุด
9. ประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องนักเรียน เพื่อตรวจสอบผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ ฉ

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ

คำชีแ้ จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตรส์ ำหรบั นักเรยี น

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีนักเรียนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดที่ 4 เร่ือง แนวคิด
ของทฤษฎีกำรแผ่ขยำยพ้ืนสมุทรและหลักฐำนสนับสนุน ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต
และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุด นักเรียนควรปฏิบัติตามคา
ชีแ้ จง ดงั ตอ่ ไปนี้

1. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 เรอ่ื ง แนวคดิ ของทฤษฎกี ำรแผ่ขยำย
พ้นื สมุทรและหลกั ฐำนสนับสนนุ ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ช่ัวโมง

2. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ
3. นักเรียนทากจิ กรรมเปน็ รายกลมุ่ และศกึ ษาวธิ ดี าเนินกจิ กรรมใหเ้ ขา้ ใจ
4. นกั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
5. นกั เรียนทากิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ใหค้ รบ
6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 10 ข้อ

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ช

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรและหลกั ฐานสนับสนุน

ชดุ ที่ 4

แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผข่ ยายพื้นสมทุ ร
และหลักฐานสนับสนุน

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
เปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิศาสตร์โลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิต
และสิ่งแวดล้อม

ตัวชี้วดั
ว 3.2 ม.6/1 อธบิ ายการแบง่ ช้นั และสมบัติของโครงสรา้ งโลก พรอ้ มยกตวั อย่างข้อมูล
ท่สี นบั สนนุ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายแนวคิด ทฤษฎเี ก่ียวกับการเคล่อื นทข่ี องแผ่นธรณีขยายพน้ื สมทุ ร (K)
2. อธบิ ายหลกั ฐานทางธรณีทส่ี นบั สนนุ การเคล่ือนทขี่ องแผ่นธรณีขยายพื้นสมุทร (K)
3. สร้างแบบจาลองและอธบิ ายเกี่ยวกบั ลกั ษณะของรอยต่อของแผน่ ธรณภี าคของโลก (P)
4. ทดลองและอธิบายสาเหตทุ ีท่ าใหแ้ ผ่นเปลอื กโลกเคล่อื นท่ี (P)
5. ประยกุ ต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเก่ียวกบั แนวคดิ ทฤษฎีการแผข่ ยายพนื้ สมทุ ร

และหลักฐานสนับสนนุ ในการรว่ มกจิ กรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน (A)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 1

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพนื้ สมุทรและหลกั ฐานสนบั สนุน

6. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้หรืออยากรู้อยากเห็น ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับ
ความคดิ เหน็ ของผ้อู ืน่ ได้ (A)

ลาดบั ความคิดต่อเนอื่ ง

การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี

ธรณีภาคซึ่งเป็นช้ันนอกสุดของโครงสร้างโลก แบ่งออกเป็นแผ่นธรณี (plate)
หลายแผ่น ซงึ่ เคลอื่ นที่ไปบนฐานธรณีภาคทา ให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางธรณีอยูต่ ลอดเวลา



ทฤษฎีทวีปเล่ือน คือ แนวความคิดท่ีกล่าวว่า ในอดีต ณ ช่วงเวลาหน่งึ ทวีปต่าง ๆ
ไม่ได้มีตาแหน่ง เหมือนกับในปจั จุบัน แต่เคยอยรู่ วมกันเป็นแผ่นดนิ ใหญ่เพยี งแผ่นดนิ เดยี วที่
เรียกวา่ พันเจยี (Pangaea)



หลักฐานท่ีสนับสนุนว่าทวีปเคยอยู่ติดกันมาก่อน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีป ซาก
ดึกดา บรรพ์ ความคล้ายกันของกลมุ่ หนิ และแนวเทือกเขา หลกั ฐานจากรอยครูดบนหนิ ท่ีเกิด
จากการเคลอื่ นตวั ของธารน้า แขง็ บรรพกาล



ทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร เป็นการพบหลักฐานบนพ้ืนสมุทรที่สนับสนุนการ
เคล่ือนที่ของแผ่นธรณี ได้แก่ สันเขากลางสมุทร อายุของหินบะซอลต์บนพ้ืนมหาสมุทร
ภาวะแม่เหลก็ บรรพกาล



นักวิทยาศาสตร์รวบรวมหลักฐานและแนวคิด จากทฤษฎีทวปี เล่ือน ทฤษฎีการแผ่
ขยายพน้ื สมทุ ร นา มาสรุปเป็นทฤษฎกี ารแปรสัณฐานของแผ่นธรณี ซึ่งกล่าวถึงการเคล่อื นที่
และการเปลี่ยนลักษณะของแผ่นธรณีอันเน่ืองมาจากวงจรการพาความร้อนของแมกมา
ภายในเนื้อโลก



การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีสัมพันธ์กับ แนวรอยต่อของแผ่นธรณี 3 รูปแบบ คือ
แนวแผ่นธรณีแยกตัว แนวแผ่นธรณีเคล่ือนที่หากัน แนวแผ่นธรณเี คล่ือนผ่านกันในแนวราบ
แต่ละรูปแบบ ส่งผลให้เกิดธรณีสัณฐาน โครงสร้างทางธรณีแบบต่าง ๆ และปรากฏการณ์
ทางธรณตี า่ ง ๆ บนโลก

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 2

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพนื้ สมทุ รและหลักฐานสนบั สนุน

สาระสาคัญ

นักวิทยาศาสตร์ศึกษาธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี และอธิบายว่าธรณี
สัณฐานต่าง ๆ เกิดจากลักษณะการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณีท่ีแตกต่างกัน ได้แก่ แนวแผ่นธรณีแยกตัว
ออกจากกัน แนวแผ่นธรณีเคลื่อนท่ีเข้าหากัน และแนวแผ่นธรณีเคลื่อนทีผ่ ่านกันตามแนวระดับ การ
เคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีทัง้ 3 รปู แบบ ทาให้เกิดธรณสี ณั ฐาน เช่น ร่องลึกก้นสมุทร หมูเ่ กาะภูเขาไฟรูป
โค้ง แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุดสันเขากลางสมุทร และธรณีพิบัติภัย เช่น แผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบดิ สึนามิ บริเวณขอบของแผน่ ธรณี

นักธรณีวิทยาได้พยายามอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทางธรณีวิทยาทเ่ี กิดข้ึนบนโลก โดยใช้
หลกั ฐานข้อมูลทางธรณีภาค ไดแ้ ก่ รอยตอ่ ของแผ่นธรณีภาค ตัวอย่างท่สี ังเกตไดช้ ดั คือ ขอบของทวีป
อเมริกาใต้กับทวีปแอฟริกาท่ีน่าจะต่อกันได้พอดี นักธรณีวิทยาจึงทาการศึกษาต่อท่ีใต้มหาสมุทร
แอตแลนติก พบรอยแยกของแผ่นธรณีภาค และเทือกเขากลางมหาสมุทร นอกจากนี้ยังมีการค้นพบ
ซากดึกดาบรรพ์ชนิดเดียวกันแต่อยู่กันคนละทวีป จากข้อมูลต่าง ๆ เหล่าน้ีทาให้นักธรณีวิทยา
สันนิษฐานว่า โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แผ่นธรณีภาคแต่ละแผ่นเคล่ือนท่ีอยู่ตลอด
นับตั้งแต่โลกเร่ิมเกิด การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีภาคมีท้ังแบบแยกจากกัน หรือมุดซ้อนกัน ส่งผลให้
เกดิ เป็นปรากฏการณแ์ ผน่ ดินไหว และภเู ขาไฟระเบดิ เปน็ ตน้

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 3

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพื้นสมทุ รและหลักฐานสนบั สนุน

แบบทดสอบก่อนเรียน

เรือ่ ง แนวคิดของทฤษฎีการแผข่ ยายพ้ืนมหาสมทุ รและหลักฐานสนับสนุน

รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

คาช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบบั น้ี จานวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาท่ใี ช้ 10 นาที
2. จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องทีส่ ดุ แลว้ เขยี นเคร่ืองหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. ทฤษฎีท่ีใช้อธิบายถึงกาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และส่ิงมีชีวิตที่ตายทับถม อยู่ในหินบน
เปลอื กโลก คือข้อใด

ก. ทฤษฎกี ารเล่อื นไหลของทวีป
ข. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพนื้ ทวีป
ค. ทฤษฎีการแปรสณั ฐานแผ่นธรณีภาค
ง. ทฤษฎกี ารเกิดแผ่นดินไหวใตม้ หาสมุทร

2. เม่ือพ้นื แผ่นมหาสมทุ รใหมก่ ่อรูปข้ึน จะเกดิ ผลอยา่ งไรกบั พ้นื แผ่นมหาสมุทรเก่า
ก. พน้ื แผ่นมหาสมุทรเก่ารวมตวั กันเป็นแนวเทือกเขา
ข. พน้ื แผ่นมหาสมุทรเก่ารวมตัวกันเปน็ บริเวณพื้นทวปี
ค. พ้นื แผน่ มหาสมุทรเก่ารวมตัวกันเป็นแนวภเู ขาไฟกลางมหาสมทุ ร
ง. พนื้ แผ่นมหาสมุทรเก่าเคลอื่ นตวั ลงไปภายในโลก บรเิ วณรอ่ งลึกกน้ สมุทร เกิดการมุด
ตวั ของเปลือกโลก

3. ผืนแผน่ ดินแผน่ เดยี วกันบนโลกต่อมาแยกเป็นทวีปใหญ่ 2 ทวีป คือขอ้ ใด
ก. ลอเรเซยี และกอนด์วานา
ข. ออสเตรเลยี และอฟั รกิ า
ค. ยโุ รปและอเมรกิ า
ง. เอเชียและยุโรป

4. สาเหตุท่ที าให้แผน่ เปลือกโลกเคล่อื นทค่ี อื ข้อใด
ก. การปะทุของหินแข็งในช้ันเปลอื กโลก
ข. การไหลวนของหนิ หนืดในช้นั เน้อื โลก
ค. การเคลื่อนทีข่ องแร่ธาตุในแก่นโลกชนั้ ใน
ง. การแทรกตัวขึ้นมาของแรธ่ าตจุ ากแก่นโลกชัน้ นอก

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 4

ชุดท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและหลกั ฐานสนับสนุน

5. ถา้ แผ่นเปลือกโลก 2 แผน่ เคล่ือนท่ีแยกจากกนั ที่เทอื กสนั เขากลางมหาสมุทร จะเกดิ ผลตาม
ข้อใด

ก. การขยายตวั ของทวีป
ข. เกดิ ภูเขาไฟใต้มหาสมุทร
ค. เกดิ แผน่ ดนิ ไหวใต้มหาสมุทร
ง. เกิดการขยายตวั ของมหาสมุทร

6. จากการพบหินบะซอลตท์ ี่รอยแยกบรเิ วณเทือกเขากลางมหาสมุทร แอตแลนติก อายขุ อง
หนิ อย่บู รเิ วณดงั กล่าวเปน็ อยา่ งไร

ก. หนิ บะซอลต์ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายนุ อ้ ยกว่าหนิ บะซอลต์ ท่ีอย่ใู นรอยแยก
ข. หนิ บะซอลต์ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุน้อยกว่าหินบะซอลต์ ท่ีอยู่ใกลร้ อยแยก
ค. หินบะซอลต์ทอี่ ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ ที่อยู่ใกลร้ อยแยก
ง. ข้อ ก และ ข ถูก

7. แนวหินใหมท่ ี่เกิดขึน้ ตลอดเวลาบรเิ วณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลอื กโลก เกดิ ใตม้ หาสมุทร
อะไร

ก. แอตแลนติก
ข. อารก์ ติก
ค. แปซฟิ ิก
ง. อนิ เดยี

8. สนามแม่เหล็กโลกโบราณใช้เปน็ หลักฐานเพื่อพิสูจนท์ ฤษฎอี ะไร
ก. การแปรสัณฐานแผน่ ธรณภี าค
ข. การเคล่อื นทข่ี องแผ่นธรณีภาค
ค. แมเ่ หลก็ โลกในปจั จบุ ัน
ง. ขอ้ ก และ ข ถูก

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 5

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ
9. การที่แผ่นธรณีภาคในแต่ละส่วนมีอัตราการเคล่ือนท่ีไม่เท่ากัน นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตใุ ด

ก. ความร้อนจากชั้นเนือ้ โลกถา่ ยเทอุณหภมู ิไมเ่ ทา่ กัน
ข. อัตราการเคลื่อนตวั ของแมกมาในชั้นเนอื้ โลกไมเ่ ทา่ กนั
ค. ความหนาแนน่ ของชั้นธรณีภาคและเนื้อโลกไม่เทา่ กัน
ง. ความหนาแน่นของชั้นธรณีภาคและเนื้อโลกไม่เท่ากัน
10. เทือกเขากลางมหาสมทุ รเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร
ก. ขอบแผน่ ธรณีภาคเคล่อื นเข้าหากนั
ข. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคล่อื นทผ่ี ่านกัน
ค. ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกัน
ง. ขอ้ ก และ ข ถูก

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 6

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ

บตั รเนอื้ หา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ชดุ ที่ 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลกั ฐานสนับสนุน

หลังจากมีการค้นพบทฤษฎีทวีปเล่ือนไปแล้ว ในเวลาต่อมาได้มีการค้นพบหลักฐานเก่ียวกับ
อายุหินของพ้ืนมหาสมุทร ซึ่งเป็นท่ีมาของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร (theory of sea floor
spreading) ทอี่ ธิบายถงึ สาเหตทุ ี่ทาให้พนั เจียแตกและเคลื่อนท่แี ยกออกจากกันได้ โดยกลา่ ววา่ การ
ปะทุแทรกข้นมาของแมกมาบนเปลือกโลกทวีป ทาให้เปลือกโลกทวีปโป่งตัวข้ึนแล้วแตกออกจากกัน
จากน้ันก็ทรุดตัวลงเกิดเป็นหุบเขาทรุด (rift valley) ร่องที่เกิดจากการทรุดตัวทาให้น้าทะเลไหล
ท่ว มเข้ามาเกิดเป็นทะเลหรือมหาสมุทร แมกมาที่ปะทุแทรกขึ้นมาบนเปลือกโ ลก
เรียกว่า ลาวา (lava) เม่ือลาวาอุณหภูมิลดลงจะเกิดการแข็งตัวเป็นหินที่เป็นส่วนประกอบของ
เปลือกโลกมหาสมุทร เปลือกโลกมหาสมุทรท่ีอยู่ใกล้แนวรอยแตกของเปลือกโลกจะมีลักษณะเป็น
เทือกสันเขาใต้สมุทร (mid-oceanic ridge) ที่มีลักษณะขรุขระและพอกพูนขึ้นมาเป็นแนวสันเขา
ทอดยาวอยู่ใต้มหาสมทุ รขนานกับแนวรอยแตก การเพ่ิมขึน้ ของเปลือกโลกมหาสมุทรเนื่องจากลาวา
แข็งตัวเป็นหินอย่างต่อเน่ืองทาให้เกิดแรงดึงและดันเปลือกโลกมหาสมุทรท่ีเกิดขึ้นก่อนหรือที่มีอายุ
มากกว่าให้เคล่ือนท่ีออกห่างจากแนวรอยแตกมากขึ้นๆ สาเหตุดังกล่าวจึงอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด
พนั เจียจงึ แตกและเคล่ือนทแี่ ยกออกจากกนั ได้

แนวคิดท่ีว่าแต่เดิมทวีปต่าง ๆ เคยอยู่ติดต่อกันเป็นผืนแผ่นดินเดียวและต่อมาได้ค่อย ๆ
แยกออกจากกันนั้นเป็นของนักอุตุนิยมวิทยาและนักธรณีฟิสิกส์ชาวเยอรมันชื่อ อัลเฟรด โลทาร์
เวเกเนอร์ (Alfred Lothar Wegener) ซึ่งแนวคิดนี้ปรากฏในหนังสือท่ีเขาได้แต่งข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2545
และเป็นที่มาของทฤษฎีว่าด้วย ทวีปเล่ือน (Theory of Continental Drift) ซ่ึงยังคงได้รับการ
กล่าวถึงในแวดวงวิชาการปัจจุบัน ตามทฤษฎีว่าด้วยทวีปเล่ือนน้ันได้อธิบายว่าแต่เดิมพื้นแผ่นดิน
ของโลกอยู่ติดต่อกันเป็นผืนเดียวเรียกว่า พันเจีย (Pangaea) ต่อมาได้ค่อย ๆ แยกออกเป็น 2 ส่วน
ใหญ่ ๆ ส่วนหนึ่งเรียกว่า ลอเรเซีย (Laurasia) อยู่ในซีกโลกเหนือประกอบด้วยผืนแผ่นดินที่เป็น
ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชียโดยไม่รวมคาบสมุทรอินเดียและอีกส่วนหนึ่ง
เรียกว่า กอนด์วานาแลนด์ (Gondwanaland) อยู่ในซีกโลกใต้ประกอบด้วยผืนแผ่นดินส่วนท่ีเป็น
ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอนตาร์กติกาและคาบสมุทรอินเดีย หลังจาก
นั้นลอเรเซียและกอนด์วานาแลนด์ก็ค่อย ๆ แยกส่วนและเคล่ือนท่ีออกห่างจากกันกลายเป็นทวีป
ต่าง ๆ ดังที่เปน็ อยใู่ นปจั จบุ ัน

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 7

ชดุ ที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้นื สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ

รูปที่ 4.1
ที่มา : https://www.trueplookpanya.com/blog/content/58101

รูปที่ 4.2
ที่มา : https://www.trueplookpanya.com/blog/content/58101

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 8

ชดุ ที่ 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนับสนนุ

ปัจจุบันเปลือกโลกมหาสมุทรมีแนวรอยแตกหรือช่องให้แมกมาปะทุแทรกข้ึนมาบนเปลือก
โลกได้มากมาย ดงั ตวั อย่างแนวรอยแตกของเปลอื กโลกบริเวณพืน้ มหาสมุทรแอตแลนตกิ

จากการสารวจและการหาอายุหินของพืน้ มหาสมุทรทาให้ทราบวา่ พ้นื มหาสมุทรท่ีอยใู่ กล้กับ
แนวรอยแตกของเปลือกโลกจะมีอายุน้อยกว่าพ้ืนมหาสมุทรท่ีอยู่ไกลออกไปตามลาดับ จากทฤษฎี
การแผ่ขยายพื้นสมุทรทาให้เราทราบว่าการแข็งตัวเป็นหินของลาวาอย่างต่อเนื่องทาให้เกิดเปลือก
โลกมหาสมุทรชุดใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสาเหตุทาให้เปลือกโลกมหาสมุทรเคลื่อนท่ีและแผ่ขยาย
ออกไปจากแนวรอยแตกของเปลือกโลกได้

รูปที่ 4.3 แนวรอยแตกของเปลอื กโลก
ท่มี า : http://blog12509.blogspot.com/p/blog-page_97.html

จากข้อมูลการสารวจพื้นท้องทะเลทาให้นักธรณีฟิสิกส์ชื่อ แฮร์รี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry
Hammond Hess) ซ่ึงเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในสหรัฐอเมริการะหว่าง พ.ศ.
2470 – 2512 ได้เสนอแนวความคิดใหม่ใน พ.ศ. 2504 ว่าพื้นท้องทะเลใหม่น่าจะถูกสร้างขึ้นใน
บริเวณสันเขาใต้สมุทร โดยการพวยพุ่งของสารร้อนท่ีหลอมละลายจากช้ันเนื้อโลกจนในท่ีสุดทาให้
เปลือกโลกเกิดการปริแตกเป็นแนวยาวและเป็นหนทางให้สารหลอมละลายเหล่าน้ันเคล่ือนตัวพุ่ง
ขึ้นมาจากเนื้อโลกตามรอยแยกนั้นซึ่งการแทรกดันของสารหลอมละลายน้ีเกิดข้ึนตลอดเวลาทาให้ดัน
หินบนเปลือกโลกปริแตกออกแยกตัวและเคล่ือนตัวออกจากกัน แนวคิดน้ีทาให้เกิดทฤษฎีใหม่ท่ี
เรียกว่า ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นท้องทะเล (Theory of Seafloor Spreading) ซ่ึงการขยายของ
พ้ืนท้องทะเลในแต่ละแห่งมีอัตราไม่เท่ากัน เช่น พื้นท้องมหาสมุทรแอตแลนติกมีการแผ่ขยาย

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ 9

ชดุ ที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้นื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ

ประมาณปีละ 5 เซนติเมตร ส่วนพ้ืนท้องมหาสมุทรแปซิฟิกแผ่ขยายออกไปได้เร็วกว่าคือประมาณ
ปีละเกือบ 10 เซนตเิ มตร

ในปัจจุบันนักธรณีวิทยาเช่ือว่าแผ่นเปลือกโลกมีการสร้างขึ้นใหม่และถูกทาลายอยู่
ตลอดเวลา ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้แผ่นเปลือกโลกเกิดการเปล่ียนลักษณะ (deformation) และการ
ดัดแปลง (modification) อยู่เสมอ เราเรยี กกระบวนการท่ีทาให้แผ่นเปลอื กโลกเกิดการเปลยี่ นแปลง
โครงสร้างอันเป็นผลเน่ืองมาจากแรงภายในโลกว่า การแปรสัณฐานแผ่นเปลือกโลก (plate
tectonics) ในปัจจุบันเช่ือว่ากระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ ของโลกเป็นผลเสียเน่ืองมาจากการ
แปรสัณฐานเปลือกโลกแทบทั้งส้ินเน่ืองจากกระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างขวางทั่วทั้ง
โลก บางคนจึงเรียกว่า การแปรสัณฐานพิภพ (global tectonics) ซ่ึงเป็นแนวคดิ ของนักธรณีวิทยา
ชาวแคนาดาชื่อนายทโู ซ วิลสนั (Tuzo Wilson) ศาสตราจารย์ แห่งมหาวิทยาลยั โทรอนโต (Toronto
University) เม่ือ พ.ศ. 2508 เน่ืองจากการเคลื่อนที่หรือการแปรสัณฐานเห็นชัดเจนมากภายใน
เปลือกโลกบางครั้งจึงเรียกว่า การแปรสัณฐานแผ่นเปลือกโลก (crustal tectonics) ท่ีจริง
แผ่นเปลือกโลก (crustal plate) ประกอบด้วยเปลือกโลกและส่วนบนสุดของเนื้อโลกด้วย
แผ่นเปลือกโลกดงั กล่าวน้ีมอี ยู่ทั้งหมด 15 แผ่น แต่ละแผ่นอาจประกอบด้วยพนื้ ทะเลเพียงอย่างเดียว
เช่น แผ่นแปซิฟิก แผ่นแคริบเบียนหรือประกอบด้วยทั้งพ้ืนทะเลและพื้นทวีปก็ได้ เช่น แผ่นอเมริกา
เหนือ แผ่นแอฟริกา แผน่ อเมริกาใต้

การเคล่ือนที่ของแผ่นเปลือกโลกมักเกิดเด่นชัดมากทบี่ ริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลกส่วนใน
บริเวณกลางแผ่นมักไม่ค่อยเกิดข้ึนมากเท่าใดนัก คือ มีความเสถียร (stable) มากกว่า การท่ี
นกั วิทยาศาสตร์ทราบว่าขอบแผ่นเปลอื กโลกนี้อยตู่ รงส่วนใดของโลกสามารถอธิบายได้เมือ่ นาเอาจุด
ท่เี กิดแผน่ ดนิ ไหวและภเู ขาไฟปะทบุ อ่ ย ๆ มากาหนดลงบนแผนท่ีโลกจะเห็นได้ชัดเจนวา่ จุดดังกล่าวนี้
ต่อกันเป็นแนวยาวเรียงรายต่อเนื่องกันไปท่ีเห็นเด่นชัดมากคือบริเวณแนวจุดรอบ ๆ มหาสมุทร
แปซิฟิกที่เรยี กว่า วงแหวนอัคนี (ring of fire) เมื่อกอ่ นนักวทิ ยาศาสตร์อธบิ ายไมไ่ ดว้ ่าทาไมจึงเกิด
แนวดังกล่าวเหล่านั้นแต่เม่ือได้พิจารณาถึงการเคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลกตามก ระบวนการแปร
สัณฐานแผ่นเปลือกโลกแล้วเราสามารถอธิบายการเกิดวงแหวนอัคนีท่ีเช่ือมโยงไปถึงการกาหนด
บริเวณขอบของแผ่นเปลอื กโลกได้ กลา่ วคือบรเิ วณทีเ่ ป็นสันเขาใตส้ มุทรมกั เป็นบริเวณทเ่ี ป็นแนวยาว
นูนสูงและมีรอยแตกตรงกลางแนวมากมายซ่ึงเป็นช่องทางให้หินหนืด (magma) คือ หินท่ีร้อน
และหลอม ละลายอยู่ภายในโลกไหลเคลื่อนที่ข้ึนมาบนผิวโลก โดยหินหนืดจะเย็นตัวตกผลึก
และแข็งตัวตามรอยแตกได้อย่างรวดเร็วเม่ือสัมผัสกับน้าทะเลกลายเป็นหินภูเขาไฟที่มีองค์ประกอบ
เป็นหินบะซอลต์ ซ่ึงเป็นหินหลักของพื้นทะเล การเกิดข้ึนมาเร่ือย ๆ ของหินหนืดบริเวณสันเขาใต้
สมุทรน้ีเองท่ีทาให้เกิดการแผ่ขยายพื้นท้องทะเลออกไปเรื่อย ๆ เม่ือท้องทะเลแผ่กว้างออกไปจึงมี
ส่วนผลักดันให้แผ่นเปลือกทวีปท่ีเดิมติดกันอยู่เกิดการเคล่ือนท่ีห่างออกไปจากกันด้วยจนในท่ีสุดจะ

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 10

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ

ทาให้ขอบแผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่งมุดตวั ลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกอกี แผน่ หน่ึงได้โดยแผ่นทม่ี ุดตวั ลงไป
ส่วนใหญ่เป็นแผ่นเปลือกสมุทร เช่น แผ่นอินเดียมุดลงไปใต้แผ่นยูเรเชียแถบเกาะสุมาตราหรือแผ่น
แปซิฟกิ มดุ ตวั ลงไปใตแ้ ผน่ อเมริกาใต้

แผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นท่ีอยู่ใกล้ชิดกันหากเกิดการเคล่ือนท่ผี ่านกันหรือสวนทางกันเราเรียก
การเคลื่อนท่ีแบบนี้ว่า การเคลื่อนแผ่นผ่านกัน (transform plate motion) ซ่ึงจะทาให้แผ่น
เปลือกโลก 2 แผ่นน้ันเสียดสีกันจนเกิดแผ่นดินไหวได้ แต่โดยทั่วไปการเคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลก
มักมี 2 ลักษณะหลัก ๆ คือ การเคลื่อนแผ่นออกจากกัน (divergent plate motion) ซึ่งทาให้
เกิดหินหนืดและหนิ อัคนไี ด้ดังกล่าวมาแล้วและอีกแบบคอื การเคลอ่ื นแผ่นเข้าหากัน (convergent
plate motion) ซึ่งทาให้เกิดการชนกันของแผ่นเปลือกโลกและดันบางส่วนของแผ่นเปลือกโลกให้
ยกตัวสูงขึ้น การเกิดเป็นภูเขาสูง ๆ เช่น เทือกเขาหิมาลัยของทวีปเอเชีย เทือกเขาแอลป์ของทวีป
ยุโรป เทือกเขาร็อกกีและเทือกเขาแอนดีสของทวีปอเมริกา ก็เป็นผลมาจากการเคลื่อนที่เข้าหากัน
ระหวา่ งแผน่ เปลือกโลกภาคพน้ื ทวปี 2 แผ่น แตใ่ นบางครงั้ จะพบว่าแผน่ เปลือกโลกภาคพืน้ สมทุ รอาจ
เคลื่อนท่ีเข้าหาแผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืนทวีปแล้วแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นสมุทรเกิดการมุ ดตัว
(subduction) ลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีป การเคลื่อนท่ีเข้าหากันของแผ่นเปลือกโลกทั้ง
สองนอกจากจะทาให้เปลอื กโลกบริเวณน้นั เกดิ การยกตวั เปน็ ภเู ขาสูงหรือยบุ ตวั ตา่ ลงเป็นแอ่งหรอื หุบ
เขาแล้วยังทาให้เปลือกโลก เกดิ การเสียดสีกนั อย่างมากจนในทีส่ ุดอาจเกิดเปน็ แผ่นดินไหวขนึ้ ไดซ้ งึ่ ถ้า
แผ่นดินไหวน้ีเกิดขึ้นใต้ทะเลและมีกาลังแรงมากก็อาจก่อให้เกิดสึนามิ (tsunami) ซึ่งเป็นคลื่นท่ีมี
ขนาดใหญ่มาก เคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณชายฝ่ังทะเลและก่อให้เกิดความเสียหายได้มากดังเช่นท่ีเคย
เกิดข้ึนบรเิ วณชายฝ่งั ทะเลในภาคใตข้ องประเทศไทยด้านทะเลอนั ดามนั เม่ือปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.
2547

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 11

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลักฐานสนับสนนุ

รปู ท่ี 4.4 แผนทแี่ สดงอายขุ องหนิ บรเิ วณพืน้ มหาสมุทร โดยหินทีม่ ีอายุออ่ นทส่ี ุด (สีแดง)
อยู่บรเิ วณแนวรอยแยกของแผน่ เปลอื กโลก
ทีม่ า : https://th.wikipedia.org/wiki

อน่ึง การเสยี ดสีของแผ่นเปลือกโลกภาคพน้ื สมุทรที่มุดตัวลงไปท้งั ใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืน
ทวีปอาจกอ่ ให้เกิดความร้อนอยา่ งรุนแรงมากขึน้ เร่ือย ๆ จนในท่สี ุดเกดิ การหลอมละลายบางสว่ นของ
แผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืนสมุทรที่มุดตัวลึกลงไป การหลอมละลายของหินเปลือกโลกบางส่วนนี้ทาให้
เกิดหินหนืดข้ึนได้นอกจากน้ันการท่ีแผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืนทวีปถูกบีบอัดอย่างรุนแรงอันเป็นผลต่อ
เน่ืองมาจากการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกส่วนมหาสมุทรน้ีทาให้อุณหภูมิและความดันในหินเปลือก
โลกภาคพื้นทวีปสงู ขึ้นมากจนทาให้หินตะกอนบริเวณนั้นเกดิ การแปรสภาพกลายเป็นหินแปรได้

จากทฤษฎีทวีปเล่อื นทก่ี ล่าวไปแล้วนัน้ ทาให้ทราบว่าทวปี ตา่ ง ๆ เคยเปน็ แผ่นทวีปขนาดใหญ่
แผ่นเดียวกันมาก่อนต่อมาจึงเคล่ือนที่แยกออกจากกันกระบวนการใดท่ีทาให้แผ่นทวีปแยกออกจาก
กันและยังมแี นวคดิ และหลกั ฐานอื่น ๆ อีกหรอื ไม่ท่ีนามาใช้สนับสนุนการเคล่ือนทขี่ องแผน่ ธรณี

จากแฮร่ีแฮมมอนด์เฮส (Harry Hammond Hess) ได้สารวจพบการเหล่ือมกันของสันเขาที่
เป็นแนวยาวบริเวณตอนกลางของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกทาให้เกิดแนวคิดว่าพ้ืนมหาสมุทรมีการ
เคล่ือนทที่ าให้สนั เขาท่คี วรเช่ือมตอ่ กันเหลือมออกจากกันจากการศกึ ษาในระยะตอ่ มาไดพ้ บหลักฐาน
ต่าง ๆ ทีส่ นบั สนุนแนวคดิ ดงั กล่าว ดังน้ี

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 12

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลักฐานสนับสนุน
(1) สันเขากลางสมุทร (mid-oceanic ridge) เกิดจากการแทรกตัวข้ึนมาของลาวาตาม
รอยแยกกลางมหาสมุทรทาให้มีลักษณะเป็นสันเขาท่ีมีฐานกว้างมากเม่ือเทียบกับความสูงโดยท่ี
บริเวณส่วนยอดของสันเขามีลักษณะภูมิประเทศแบบหุบเขาทรุด (rift valley) ที่มีลักษณะเป็นรอย
แยกตลอดความยาวของเทือกเขาอีกท้ังมีรอยแตกและรอยเลอื่ นตัดขวางกับรอยแยกจานวนมากการ
แทรกดันของลาวาในบริเวณดังกล่าวจะดันให้บริเวณส่วนกลางเทือกเขากลางสมุทรของแผ่นธรณี
มหาสมุทรเคลื่อนท่ีออกจากกันดังรูป 4.5 นอกจากน้ียังพบว่ารอยแยกเหล่านี้เป็นศูนย์กลางการเกิด
แผ่นดินไหวและภเู ขาไฟระเบดิ

รปู ที่ 4.5 แสดงบริเวณสนั เขากลางมหาสมทุ ร
ท่ีมา : หนังสือเรียนรายวชิ าเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 (หน้า 46)

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ
(2) อายุของหินบะซอลต์บนพื้นมหาสมุทร จากการสารวจพื้นมหาสมุทรพบว่า
หินบะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยกบริเวณสันเขากลางสมุทรมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ใกล้รอย
แยกบริเวณสันเขากลางสมทุ รนกั วทิ ยาศาสตร์ได้อธิบายปรากฏการณน์ ้ีวา่ ลาวาจากสว่ นลา่ งแทรกดัน
ข้ึนมาทาให้ธรณีภาคในบริเวณน้ันเกิดรอยแยกและเกิดการเคล่ือนตัวออกจากกันอย่างช้า ๆ
ตลอดเวลาเม่ือลาวาเย็นตัวลงเป็นหินบะซอลต์ทาให้เกิดเป็นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่และทาให้พ้ืน
มหาสมทุ รขยายตัวดังรูป 4.6

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 13

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพื้นสมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ

รปู ท่ี 4.6 อายหุ ินบะซอลต์บนพ้ืนมหาสมุทร
ทม่ี า : หนังสอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 47)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
(3) ภาวะแม่เหลก็ บรรพกาล (paleomagnetism) เปน็ รอ่ งรอยของสนามแมเ่ หล็กโลกใน
อดีตทีอ่ ยู่ในหินที่เกดิ จากการแขง็ ตัวของลาวาซ่ึงในขณะที่ลาวากาลังเย็นตัวกลายเป็นหินแร่ประกอบ
หินในลาวาท่ีตอบสนองกับสนามแมเ่ หลก็ ได้จะถูกเหนี่ยวนาให้ วางตัวตามทิศทางของสนามแม่เหล็ก
โลกในช่วงเวลาน้ัน ๆ ซ่ึงภายหลังจากการแข็งตัวของลาวาแล้วการวางตัวน้ีจะไม่เปล่ียนแปลงตาม
สนามแม่เหล็กโลกในเวลาต่อมาจากการศึกษาหินบะซอลต์บริเวณรอยแยกกลางมหาสมุทร
แอตแลนติกท่ีมีอายุ เท่ากันเป็นรูปแบบสมมาตรทั้งสองฝั่งตามแนวรอยแยกกลางสันเขากลางสมุทร
พบว่าแร่ประกอบหินในหินบะซอลต์ที่มีอายุเดียวกันทั้งสองข้างของรอยแยกนั้นแสดงทิศของ
สนามแม่เหล็กโลกเหมอื นกันแสดงว่า หินบะซอลตท์ ที่ ้ังสองข้างของรอยแยกที่มอี ายุเดียวกนั และมที ิศ
ของสนามแมเ่ หลก็ โลกเหมือนกันนน้ั เกดิ ข้ึนพร้อมกันแล้วถกู แยกออกจากกันดังรูป 4.7

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 14

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลักฐานสนับสนนุ

รูปที่ 4.7 ภาวะแมเ่ หลก็ บรรพกาล
ท่มี า : หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 48)

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
จากหลักฐานที่กล่าวาข้างต้นทาให้สามารถสรุปได้เป็นทฤษฎีการแผ่ขยายของพ้ืนสมุทร
ทะเล (Sea Floor Spreading Theory) ที่กล่าวว่า พื้นมหาสมุทรมรการเคลื่อนท่ีและขยายตัวออก
เนื่องจากการแทรกดันตัวของลาวาขึ้นมาตามรอยแยกของพื้นมหาสมุทรและแข็งตัวกลายเป็น
หนิ บะซอลต์ ทาใหเ้ กิดเป็นพนื้ สมทุ รใหม่
แนวความคิดท่ีสนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อน ได้แก่ ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นทะเล (Sea
Floor Spreading Theory) และยังมีหลักฐานสนับสนุนอ่ืนๆ อีก เช่น หลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์
ท่ีพบบริเวณสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่ ฝ่ังทวีปอเมริกาใต้ และทวีปแอฟริกาใต้ มีลักษณะ
คล้ายกนั

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 15

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมทุ รและหลกั ฐานสนับสนนุ

รปู ที่ 4.8 แสดงการขยายตัวของพื้นทะเล
ท่ีมา : http://www.baanjomyut.com

รปู ที่ 4.9 รอบตอ่ ของขอบทวีป
ทม่ี า : http://www.baanjomyut.com

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 16

ชุดท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ

รปู ท่ี 4.10
ที่มา : http://www.baanjomyut.com

รปู ที่ 4.11 แสดงการเคลื่อนทขี่ องแผน่ เปลือกโลก
ทม่ี า : http://khanaporn.exteen.com
โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 17

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลักฐานสนับสนนุ

spreading plate boundary = การเคล่ือนท่ีของขอบแผ่นเปลือกโลกแบบกระจายตัว
โดยแผ่นเปลอื กโลกสองแผน่ มีการเคล่อื นทีอ่ อกจากกนั

plate subduction = ขอบแผ่นเปลือกโลกเคล่ือนเข้าหากันแบบมุดตัว การที่แผ่นเปลือก
โลกแผ่นหนึ่งมุดเข้าไปอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหน่ึง เป็นแรงบีบอัด (Compress Forces) มัก
เกิดจากแผ่นทวีปมหาสมุทรกับมหาสมุทร หรือมหาสมุทรกับแผ่นทวีปทาให้เกิดแนวร่องลึกบาดาล
(Trench) ตามมา ซึ่งรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกมีหลายแบบ ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับวิธีเคลื่อนตัวที่แผ่น
หนงึ่ กระทาตอ่ อีกแผ่นหน่ึงซึ่งวธิ ีเคลือ่ นตวั มอี ยู่ 3 แบบ คือ

1. แบบกระจายตัว (spreading)
2. แบบมุดตวั (subduction)
3. แบบเปลี่ยนรปู (transform)

แผ่นดินไหวอาจเกิดมาจากภูเขาไฟระเบิด แต่แผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนที่
บริเวณรอยแตกของเปลือกโลก แผ่นดินไหวระดับท่ีมีความรุนแรงมากหรือท่ีปล่อยพลังงานเท่ากับ
ร้อยละ 80 ของพลังงานที่เกิดจากแผ่นดินไหวทั่วโลก มักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่เกิดการมุดตัว
ซง่ึ พ้ืนผิวโลกใต้มหาสมุทรมีการเคลอ่ื นตัวมุดเข้าไปใต้พ้ืนแผน่ ทวีปหรือใต้แผ่นท้องมหาสมุทรทเ่ี พ่ิงจะ
กอ่ ตวั ข้นึ มาใหม่

transform fault =รอยเล่ือน ซึ่งเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ มักเกิดขึ้นในบริเวณเทือกเขา
กลางมหาสมทุ ร เช่น จากการศึกษาลักษณะทางภูมิศาสตร์ระยะใกลข้ องแนวเทอื กเขาทีม่ ีการแยกตัว
ท่ี Juan de Fuca นอกชายฝั่งแปซิฟิกด้านตะวันตกเฉียงเหนือ แสดงให้เห็นถึงขอบของศูนย์กลางที่
เกิดการแยกตัวซึ่งปรากฏข้ึนมา ในขณะที่เปลือกโลกเคล่ือนที่ออกจากแนวเทือกเขาก็จะเย็นตัวและ
จมลง แนวเทือกเขาที่เหล่ือมกันด้านข้างเชื่อมต่อกันด้วยรอยเลื่อนแปลง (transform fault) แต่
บางคร้ังก็เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่ง เช่น รอยเลื่อนแอนเดรียส์ ที่ทาให้เกิดแผ่นดินไหวในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมรกิ า เกดิ จากการเคล่ือนท่ีสวนกนั ของเพลตอเมริกาเหนือและเพลตแปซฟิ ิก

แผ่นเปลือกโลกท้ัง 16 แผ่นที่ประกอบกันเข้าเป็นเปลือกโลกนั้น มีการเคลื่อนที่อยู่
ตลอดเวลา บางทีก็เคล่ือนท่ีผ่านกัน และเฉียดกันในทิศทางที่สวนกัน จนเกิดเป็นรอยเลื่อนด้านข้าง
ขนาดใหญ่ (transform fault)ข้ึนได้ โดยอัตราการเคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นนั้น นับว่า
ช้ามาก ๆ โดยเฉลี่ยแล้วเพียงแค่ 2.5 ซม. ต่อปี หรือเทียบง่าย ๆ ว่าพอ ๆ กับเล็บมือของเราท่ีงอก
ออกมาในแต่ละปี

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 18

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลักฐานสนับสนนุ
การเกดิ และลกั ษณะของ Island arcs และ ring of fire

รปู ท่ี 4.12 แสดงการเคลอ่ื นทขี่ องแผน่ เปลือกโลก
ท่มี า http://khanaporn.exteen.com

Island arcs = หมู่เกาะรูปโคง้ เช่น ญ่ปี ุ่น และฟิลิปปนิ ส์ เป็นบริเวณทส่ี ามารถพบรอ่ งลึก
กน้ สมุทรได้ นอกจากนีส้ ามารถพบร่องลกึ กน้ สมุทรได้ตามขอบทวีป โดยร่องลึกกอ้ นสมทุ ร (oceanic
trench) มีลกั ษณะยาว แคบและลึกกวา่ บรเิ วณท่ีราบกน้ สมุทร (abyssal plain)

เปลือกโลกภาคพื้นสมุทรชนกันเอง จะได้เกาะภูเขาไฟ(volcanic Island arcs) ซ่ึงเป็น
ลักษณะหมู่เกาะรูปโค้งอย่างหนึ่ง มีส่วนประกอบแบบandesitic และเกิดเนินช้ันตะกอนท่ีอยู่บนพื้น
สมุทรนั่นแหละถกู โกยมารวมกันเกิดรอยแตก เกิดการคดโค้งเป็นภเู ขาที่เป็นหนิ ตะกอน หรืออาจเกิด
hotspot จากใตโ้ ลกดันเปลือกโลกภาคพืน้ สมทุ รขึ้นมาเกิดเปน็ แนวภเู ขาไฟ เชน่ แนวภูเขาไฟทฮ่ี าวาย

เม่ือแผ่นเปลอื กโลกภาคพ้ืนสมุทรเคลื่อนทเ่ี ขา้ ปะทะกัน แผ่นเปลือกโลกหน่งึ กจ็ ะมุดตัวลงไป
ใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่ง เช่นเดยี วกับที่เกิดแผ่นเปลือกโลกภาคพ้ืนสมทุ ร-ภาคพ้ืนทวีป เคลื่อน
ตัวเขา้ หากนั ดังท่ไี ด้อธิบายไปแล้ว ส่วนที่ต่างกันน้ันอยู่ทก่ี ารสะสมตวั ของแมกมาและการเกิดระเบิด
ของภูเขาไฟน้นั จะเกดิ ท่ีพื้นมหาสมุทร และถ้าเกิดภูเขาไฟระเบิดต่อๆกนั ในท่ีสุดก็สามารถทาให้เกิด
เป็นเกาะใหมข่ ึ้นมาในมหาสมุทร เกาะใหม่ทเ่ี กดิ ขึ้นนป้ี ระกอบดว้ ยเกาะภูเขาไฟ หลายๆเกาะเปน็ แนว
ภูเขาไฟ ซ่ึงเรียกว่า volcanic Island arcs เกาะภูเขาไฟเหล่านี้มักจะอยู่ห่างจากแกนของร่องลึก
(trench axis) ประมาณ 200-300 กม.

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 19

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลักฐานสนับสนนุ

รูปท่ี 4.13 แสดงหลักฐานร่องรอยแนววงแหวนไฟ
ทมี่ า : http://khanaporn.exteen.com

The Ring of Fire = "วงแหวนแห่งไฟ" หมายถึง แนวภูเขาไฟที่ผุดขึ้นมาคู่กับร่องลึก
เป็นแถบที่มีการเกิดแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด ในบริเวณขอบมหาสมุทรแปซิฟิก ซ่ึงเป็นแนว
เพลตเทคโทนิก (Tectonic Plates) และเขตภูเขาไฟคุกรุ่น (ในโลกมีแผ่นเทคโทนิกท้ังสิ้น 12 แผ่น
เป็นแนวที่จะเกิดการเคลื่อนไหว อันเกิดจากความร้อนภายในโลก ท้ังการขยายตัวและหดตัว รวมถึง
การเคลอ่ื นไหวของแมกมาอย่างฉับพลนั )

จากการศึกษาพบว่ามากกว่าร้อยละ 75 ของภูเขาไฟบนโลก คือ ประมาณ 637 ลูก จาก
850 ลูก เป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่และอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "วงแหวนไฟ" (Ring of Fire) บริเวณ
ตั้งแต่ทางตอนใต้ของประเทศซิลีขึ้นไปทางขอบตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ อเมริกาเหนือ ถึงรัฐอา
ลาสกา โค้งไปยังตะวันออกของเอเชีย จากไซบีเรียลงไปจนถึงนิวซีแลนด์และท่ีเหลืออีกร้อยละ 20
คือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซีย และภูเขาไฟในญี่ปุ่น หมู่เกาะอาลิวเชียน และอเมริกากลางเป็นเขตท่ีมี
ภูเขาไฟท่ียังมีพลงั อยู่ทั้งหมด เรามักพบว่าภูเขาไฟมักอยู่ตามขอบของแผ่นทวีป ซ่ึงขอบเขตของ “วง
แหวนของไฟ” นั้นเป็นบริเวณขอบทวีประหว่างแผ่นทวีปแปซิฟิก (Pacific Plates) กับแผ่นทวีป
โดยรอบมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนภูเขาไฟท่ียังมีพลังอ่ืนๆ ได้แก่ เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเกาะ
ไอซแ์ ลนด์ พบว่าอยบู่ ริเวณขอบแผ่นทวปี เชน่ เดยี วกัน

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 20

ชดุ ที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ
ที่มาของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทร เกิดจากการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับอายุหิน ของพื้น
มหาสมุทร โดยทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทร ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทาให้พันเจียแตก และเคลื่อนที่
แยกออกจากกัน ซึ่งเกิดจากการปะทุแทรกข้ึนมาของแมกมาบนเปลือกโลกทวีป ทาให้เปลือกโลก
ทวีปโปง่ ตวั ขึ้น เกิดเป็นเทือกเขากลางมหาสมทุ ร จนแตกออกจากกัน แล้วเกิดการทรุดตัวเป็นหุบเขา
ทรดุ รอ่ งทเ่ี กิดจากการทรดุ ตัวเกดิ เปน็ ทะเล และมหาสมทุ ร
เปลือกโลกมหาสมุทรท่ีอยู่ใกล้แนวรอยแตกของเปลือกโลก จะมลี ักษณะเปน็ สันเขาใต้สมุทร
การเพ่ิมข้ึนของเปลือกโลกใต้มหาสมุทร เน่ืองจากลาวาแข็งตัวเป็นหินอย่างต่อเนื่อง ทาให้เกิดแรง
ดึงดูด และดันเปลือกโลกมหาสมุทรที่เกิดขึ้นก่อน หรือมีอายุมากกว่า ให้เคล่ือนท่ีออกห่างจากแนว
รอยแตกมากขึ้น ส่งผลให้พ้ืนมหาสมุทร ท่ีอยู่ใกล้กับแนวรอยแตกของเปลือกโลกมีอายุน้อยกว่าพื้น
สมุทรท่ีอยู่ไกลออกไป และการแข็งตัวเป็นหินของลาวาอย่างต่อเนอ่ื ง ทาให้เกิดเปลอื กโลกมหาสมุทร
ชุดใหมอ่ ยตู่ ลอดเวลา

รูปท่ี 4.14 รอยเลอ่ื นกลางมหาสมทุ ร
ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/34154

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ 21

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื สมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ
หลกั ฐานทส่ี นับสนุนวา่ มีการแผข่ ยายพ้นื มหาสมทุ ร ได้แก่

1. เทือกเขากลางสมุทร เน่ืองจากเกดิ รอยแยกบริเวณมหาสมุทร กลายเป็นบริเวณท่ีเกิดการ
ปะทุของภูเขาไฟ การแทรกดันของหินหนืดในบริเวณดังกล่าว จะดันให้แผน่ ธรณีมหาสมุทรเคลื่อนท่ี
ออกจากกัน จากสว่ นกลางของเทอื กเขากลางมหาสมุทร

2. อายุหินบริเวณพน้ื มหาสมทุ ร จากการศกึ ษาหินบะซอลต์บริเวณหบุ เขาทรดุ หรือรอยแยก
บริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทร พบว่าหินบะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยก จะมีอายุมากกว่าหินบะ
ซอลต์ท่ีอย่ใู กล้รอยแยก เพราะเมื่อแผ่นธรณีเกิดรอยแยก แผ่นธรณีจะเคลื่อนท่ีออกจากกันอย่างช้าๆ
ตลอดเวลา ซึ่งเนื้อของหินบะซอลต์จากส่วนล่าง จะแทรกเสริมขึ้นมาตรงรอยแยกเป็นธรณีภาคใหม่
ทาให้บริเวณรอยแยกเกิดหินบะซอลต์ใหม่เร่ือยๆ ดังน้ัน แผ่นธรณีบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทร
จึงมีอายนุ ้อยที่สุด และแผน่ ธรณใี กลข้ อบทวีป จะมอี ายมุ ากกว่า

3. ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาล คือร่องรอยสนามแม่เหล็กโลกในอดีต ศึกษาจากหิน
บะซอลต์ที่มีแร่แมกนีไทต์ (Fe3O4) เป็นองค์ประกอบ เพราะธาตุเหล็กท่ีอยู่ในแร่นี้ จะถูกเหนี่ยวนา
โดยสนามแม่เหลก็ โลก ทาใหม้ ีการเรียงตัวในทศิ ทางเดียวกับเส้นแรงแม่เหล็กโลก

รปู ที่ 4.15 แผนทแ่ี ผ่นเปลอื กโลกทางทะเล
http://www.mitrearth.org/10-1-ocean-and-exploration/

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 22

ชุดท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลกั ฐานสนับสนนุ
โลกประกอบดว้ ยแผน่ ดนิ ประมาณ 29% ของพน้ื ผิวโลกท้ังหมด สว่ นที่เหลืออีก 71% หรือ
คดิ เปน็ พื้นที่ประมาณ 361×106 ตารางกโิ ลเมตร นน้ั เป็นสว่ นของมหาสมุทร โดยซกี โลกเหนอื ถือ
เป็น ซกี โลกแห่งแผน่ ดนิ (land hemisphere) ในขณะที่ซีกโลกใต้ เรียกวา่ ซกี โลกแห่งนา้ (water
hemisphere)
นักวิทยาศาสตร์จาแนกมหาสมทุ รหลกั ๆ ออกเป็น 4 มหาสมุทร คอื 1) มหาสมทุ รแปซิฟกิ
(Pacific Ocean) มพี ืน้ ท่ี 181.34×106 ตารางกโิ ลเมตร (46% ของพ้ืนที่มหาสมทุ รท้งั หมด)
เปน็ มหาสมุทรท่ีมพี ื้นท่กี ว้างและลึกมากท่สี ุด 2) มหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic Ocean) มพี น้ื ท่ี
106.57×106 ตารางกโิ ลเมตร (23%) มีความลึกไม่มากนัก 3) มหาสมทุ รอินเดีย (Indian Ocean)
มพี ้ืนที่ 74.1×106 ตารางกโิ ลเมตร (20%) มีพืน้ ที่โดยส่วนใหญอ่ ยทู่ างซีกโลกใต้ และ 4) มหาสมุทร
อารค์ ติก (Arctic Ocean) มีพื้นท่ปี ระมาณ 7% ของมหาสมุทรแปซิฟิก

รปู ที่ 4.16
http://www.mitrearth.org/10-1-ocean-and-exploration/

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 23

ชดุ ที่ 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ

บตั รกจิ กรรม 4.1
เรอ่ื ง แบบจาลองการแผ่ขยายของพนื้ มหาสมุทร

จดุ ประสงคก์ จิ กรรม
สร้างแบบจาลองเพื่ออธิบายกระบวนการแผข่ ยายของพ้ืนมหาสมุทร

วัสดุ-อุปกรณ์
1. รูปรอยแยกกลางมหาสมุทร (รปู 1)
2. แผนทแี่ สดงอายุของหนิ บริเวณพ้ืนมหาสมุทร (รูป 2)
3. แผนที่พนื้ มหาสมุทร (ภาคผนวก ค)
4. วัสดุสาหรบั ทาแบบจาลองตามทน่ี ักเรียนออกแบบ

สถานการณ์
นกั วิทยาศาสตร์ได้สารวจพื้นมหาสมุทรพบข้อมลู ดังนี้
1. มีแมกมาแทรกตัวขึน้ มาตามรอยแยกกลางมหาสมทุ ร
2. เมอื่ เจาะสารวจหินบริเวณพื้นมหาสมทุ ร และนามาตรวจสอบ วเิ คราะห์ หาชนิดหนิ และ

อายพุ บว่า
- หินบริเวณพื้นมหาสมทุ รเป็นหนิ บะซอลต์
- หนิ บริเวณพ้ืนมหาสมุทรมีอายุอ่อนกว่าหนิ ที่อยูบ่ นพื้นทวปี
- หนิ พื้นมหาสมทุ รบริเวณรอยแยกมีอายทุ ่สี มมาตรกนั ท้ังด้านซ้ายและขวาของ รอยแยก

โดยหนิ ใกลร้ อยแยกจะมีอายุน้อยท่ีสุด และหนิ มีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ หา่ งออกจากรอยแยก
3. นักวิทยาศาสตร์นาข้อมูลต่าง ๆ มาสรา้ งแบบจาลองและแผนทีไ่ ด้ดัง รูป 1 และ 2

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 24

ชุดที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรและหลักฐานสนบั สนุน

วธิ กี ารทากิจกรรม
1. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ข้อมูลและรปู ที่กาหนด เกยี่ วกับลกั ษณะสัณฐาน ชนดิ และ อายุ

ของหนิ ที่พบบนพ้นื สมุทร
2. อภิปรายและสรุปข้อมูลที่ได้จากข้อ 2
โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 25

ชดุ ท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน

3. ออกแบบโดยวาดภาพร่างแบบจาลองแสดงการแผ่ขยายพืน้ มหาสมทุ ร และกาหนด วสั ดุ
ต่าง ๆ ท่จี ะใช้ในแบบจาลอง โดยครูตรวจภาพรา่ งของแบบจาลองเพ่ือให้ขอ้ เสนอ แนะก่อนให้
นักเรียนลงมือสร้างจริง

4. สร้างแบบจาลองแสดงการแผข่ ยายพ้นื มหาสมทุ ร พร้อมท้ังนาเสนอและอธบิ าย การแผ่
ขยายพ้ืนมหาสมุทรด้วยแบบจาลองที่สร้างข้ึน

5. รวบรวมขอ้ คดิ เห็นท่ีไดจ้ ากการนาเสนอมาปรบั ปรงุ แบบจาลองให้ถูกต้องและสมบูรณ์

ผลการทากิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

สรปุ ผลการทากิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 26

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้นื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ

คาถามท้ายกจิ กรรม
1. องค์ประกอบต่าง ๆ ของแบบจาลองท่ีนักเรียนสร้างข้ึน เปรียบได้กับส่ิงใดบ้างใน

กระบวนการการแผ่ขยายพ้นื มหาสมุทร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ขอ้ มูลจากรูป 1 และรูป 2 สามารถนามาใช้ในการสรา้ งแบบจาลองได้อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. จากรปู กระบวนการใดบา้ งทเี่ กิดขน้ึ ในบรเิ วณรอยแยกกลางมหาสมุทร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. จากรูป หินท่ีพบบนพื้นมหาสมุทรเป็นหินชนิดใด และอายุของหินแต่ละบริเวณเหมือน
หรือตา่ งกันอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 27

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพนื้ สมทุ รและหลักฐานสนับสนุน

5. หินบริเวณใดบา้ งที่มีอายเุ ท่ากัน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. หินบริเวณใดมีอายมุ ากท่สี ดุ และบรเิ วณใดมีอายุนอ้ ยท่ีสุด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

7. นักวิทยาศาสตร์ต้ังสมมติฐานว่า "พ้ืนมหาสมุทรมีการแผ่ขยายตัว" นักเรียนเห็นด้วย
หรอื ไม่ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ 28

ชุดที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน

บตั รกิจกรรมที่ 4.2
แผนผังมโนทศั น์ เร่อื ง แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ

คาชี้แจง ให้นักเรียนสรุปความรู้ท่ีเก่ียวกับ “แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและ
หลักฐานสนับสนุน” เป็นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) ในกระดาษท่ีแจกให้แล้วนาเสนอ
ผลงานหนา้ ชนั้ เรียน

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 29

ชุดท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน

บตั รกจิ กรรมท่ี 4.3
ถอดบทเรยี น เร่ือง แนวคิดของทฤษฎีการแผข่ ยายพ้นื สมุทรและหลักฐานสนับสนนุ

คาช้ีแจง ให้นักเรียนถอดบทเรียนท่ีเก่ียวกับ “แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรและ
หลักฐานสนับสนุน” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ ในกระดาษชาร์ตท่กี าหนดให้แล้ว
นาเสนอผลงาน โดยนาไปตดิ ป้ายนเิ ทศหนา้ ชน้ั เรียน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ 30

ชุดที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนับสนนุ

แบบฝึกหดั
เรือ่ ง แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน

1. จงทาเครือ่ งหมาย  หน้าขอ้ ความทถ่ี ูกต้อง และทาเครื่องหมาย  หนา้ ข้อความที่ไม่ถูกต้อง

คาตอบ ข้อความ

1. หนิ บะซอลตท์ ่ีพบใกล้รอยแยกบรเิ วณเทือกสนั เขาใต้สมุทรจะมีอายุ อ่อนกว่า

หินบะซอลต์ทอี่ ยู่ไกลจากรอยแยกออกไป

2. เม่ือแผ่นธรณีมหาสมุทรเกิดรอยแยกและเคลือ่ นที่ออกจากกนั อย่าง ชา้ ๆ จะมี

เนื้อหินแกรนิตจากสว่ นล่างแทรกดันขน้ึ มาตรงรอยแยกเกดิ เป็นชนั้ ธรณีภาคใหม่

3. วงจรการพาความร้อนเปน็ กระบวนการที่ทาให้เกดิ การเคล่ือนที่ของ แผน่ ธรณ

4. อัลเฟรด เวเกเนอร์ เปน็ ผ้เู สนอทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้นื สมุทร

5. บริเวณทะเลแดงเกดิ จากการเคลอื่ นท่ชี นกนั ของแผน่ ธรณมี หาสมทุ ร กับแผน่

ธรณีทวีป

6. เทอื กเขาหมิ าลัยเกดิ จากการเคลอื่ นท่ชี นกนั ของแผน่ ทวีปยูเรเซีย และแผน่ ทวปี

อนิ เดีย – ออสเตรเลีย

7. ในอดีตประเทศไทยเคยเป็นสว่ นหนึ่งของทวีปลอเรเซยี

8. รอ่ งลึกก้นสมุทรเกดิ ขึน้ บรเิ วณกลางมหาสมุทรแอตแลนติก

9. รอยเลอ่ื นซานแอนเดรยี สเกดิ จากการเคลื่อนทเ่ี ข้าหากันของแผ่นทวีป

10. ภาวะแมเ่ หลก็ โลกบรรพกาลของพื้นมหาสมุทรเป็นหลักฐานยนื ยัน การ

เคลื่อนท่ีออกจากกันของแผ่นทวีป

2. การค้นพบสง่ิ ใดของ แฮรี่ เฮส ทีถ่ กู นามาใช้สนับสนนุ ทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื มหาสมุทร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 31

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ

3. แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเลื่อน ทฤษฎกี ารแผ่ขยายพนื้ มหาสมุทร และทฤษฎีการแปรสัณฐาน ของแผน่
ธรณมี คี วามเหมือน และแตกต่างกันในเร่ืองใดบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 32

ชดุ ท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมุทรและหลักฐานสนับสนุน

แบบทดสอบหลังเรยี น
เรื่อง แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพื้นมหาสมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาที่ใช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องที่สดุ แล้วเขียนเคร่อื งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. เมอื่ พ้ืนแผน่ มหาสมุทรใหม่กอ่ รปู ข้ึน จะเกิดผลอยา่ งไรกบั พนื้ แผน่ มหาสมุทรเก่า
ก. พ้นื แผน่ มหาสมุทรเก่ารวมตวั กนั เปน็ แนวเทือกเขา
ข. พนื้ แผน่ มหาสมุทรเก่ารวมตวั กันเป็นบริเวณพ้นื ทวีป
ค. พน้ื แผน่ มหาสมุทรเกา่ รวมตัวกันเปน็ แนวภูเขาไฟกลางมหาสมทุ ร
ง. พ้ืนแผ่นมหาสมุทรเก่าเคลอื่ นตัวลงไปภายในโลก บรเิ วณรอ่ งลกึ ก้นสมทุ ร เกดิ การมุดตวั
ของเปลือกโลก

2. ทฤษฎีที่ใช้อธิบายถึงกาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และส่ิงมีชีวิตที่ตายทับถม อยู่ในหินบน
เปลือกโลก คือข้อใด

ก. ทฤษฎกี ารเล่อื นไหลของทวปี
ข. ทฤษฎีการขยายตวั ของพืน้ ทวปี
ค. ทฤษฎกี ารแปรสัณฐานแผ่นธรณภี าค
ง. ทฤษฎกี ารเกิดแผ่นดินไหวใตม้ หาสมุทร

3. สาเหตทุ ที่ าให้แผน่ เปลือกโลกเคล่อื นที่คือข้อใด
ก. การปะทุของหนิ แข็งในช้นั เปลือกโลก
ข. การไหลวนของหินหนดื ในชน้ั เน้อื โลก
ค. การเคลอ่ื นทขี่ องแรธ่ าตุในแกน่ โลกช้นั ใน
ง. การแทรกตวั ขึ้นมาของแร่ธาตจุ ากแก่นโลกชน้ั นอก

4. ผืนแผ่นดินแผ่นเดยี วกนั บนโลกตอ่ มาแยกเปน็ ทวปี ใหญ่ 2 ทวีป คือข้อใด
ก. ลอเรเซยี และกอนด์วานา
ข. ออสเตรเลยี และอฟั รกิ า
ค. ยโุ รปและอเมรกิ า
ง. เอเชยี และยุโรป

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 33

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลกั ฐานสนบั สนนุ

5. แนวหนิ ใหมท่ ีเ่ กดิ ขน้ึ ตลอดเวลาบริเวณรอยต่อระหว่างแผน่ เปลอื กโลก เกดิ ใตม้ หาสมทุ ร
อะไร

ก. แอตแลนติก
ข. อาร์กติก
ค. แปซิฟิก
ง. อินเดยี

6. แผน่ ดินของทวีปอเมริกากบั ทวีปยโุ รปและทวปี แอฟรกิ าแยกห่างกัน มากขน้ึ ตลอดเวลา
เพราะเหตุใด

ก. แผน่ เปลอื กโลกเคลื่อนที่เน่ืองจากการไหลของแมกมาในชน้ั เนือ้ โลก
ข. หินหนดื ในช้ันเนือ้ โลกดนั แทรกขึ้นมาตามรอยแตกระหว่างเปลอื กโลก
ค. เกิดการระเบดิ ของภเู ขาไฟและแผ่นดนิ ไหวในบริเวณนบี้ ่อยครัง้
ง. ข้อ ก และ ข ถูก

7. จากการพบหินบะซอลต์ท่ีรอยแยกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมทุ ร แอตแลนตกิ อายขุ อง
หนิ อยบู่ รเิ วณดังกล่าวเป็นอยา่ งไร

ก. หินบะซอลต์ทีอ่ ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุน้อยกว่าหินบะซอลต์ ทีอ่ ยู่ในรอยแยก
ข. หนิ บะซอลต์ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุนอ้ ยกว่าหนิ บะซอลต์ ท่อี ยู่ใกล้รอยแยก
ค. หนิ บะซอลต์ทอ่ี ยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุมากกวา่ หนิ บะซอลต์ ทอ่ี ยู่ใกลร้ อยแยก
ง. ข้อ ก และ ข ถูก

8. ถ้าแผน่ เปลือกโลก 2 แผน่ เคลอื่ นทแี่ ยกจากกันทเ่ี ทอื กสนั เขากลางมหาสมุทร จะเกิดผลตาม
ขอ้ ใด

ก. การขยายตัวของทวีป
ข. เกิดภเู ขาไฟใต้มหาสมทุ ร
ค. เกดิ แผน่ ดนิ ไหวใต้มหาสมุทร
ง. เกิดการขยายตวั ของมหาสมทุ ร

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 34

ชุดท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลักฐานสนับสนนุ
9. เทือกเขากลางมหาสมุทรเกิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร

ก. ขอบแผ่นธรณีภาคเคล่ือนเขา้ หากนั
ข. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคลือ่ นทผ่ี ่านกัน
ค. ขอบแผ่นธรณภี าคแยกออกจากกัน
ง. ข้อ ก และ ข ถูก
10. การที่แผ่นธรณีภาคในแต่ละส่วนมีอัตราการเคลื่อนที่ไม่เท่ากัน นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตุใด
ก. ความรอ้ นจากช้ันเนื้อโลกถา่ ยเทอุณหภมู ิไม่เทา่ กนั
ข. อตั ราการเคลื่อนตัวของแมกมาในช้นั เนือ้ โลกไมเ่ ทา่ กัน
ค. ความหนาแนน่ ของช้นั ธรณภี าคและเนื้อโลกไม่เทา่ กัน
ง. ความหนาแน่นของชั้นธรณภี าคและเนื้อโลกไม่เทา่ กนั

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 35

ชุดที่ 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและหลักฐานสนับสนนุ

กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น
ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายของพนื้ สมุทร

และหลกั ฐานสนบั สนนุ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน ง แบบทดสอบหลังเรียน ง
ขอ้ ก ข ค ขอ้ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 36

ชดุ ท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพ้นื สมุทรและหลักฐานสนบั สนุน

บรรณานกุ รม

กรมทรพั ยากรธรณ.ี (2544), ธรณีวทิ ยาประเทศไทยเฉลิมพระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว
เนือ่ งในวโรกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธนั วาคม
2542. (พิมพค์ ร้งั ที่ 1). กรุงเทพฯ : กองธรณีวิทยากรมทรพั ยากรธรณี.

กรมทรพั ยากรธรณ.ี (2550), ธรณวี ิทยาประเทศไทย. (พิมพ์ครงั้ ท่ี 2). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ดอกเบย้ี .
ราชบัณฑิตยสถาน. (2558) พจนานกุ รมศพั ทธ์ รณวี ทิ ยา A-M. (พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2). กรุงเทพฯ :

สานักพิมพค์ ณะรฐั มนตรีและราชกิจจานุเบกษา.
ราชบัณฑติ ยสถาน. (2558), พจนานุกรมศัพท์ธรณวี ทิ ยา N-Z. (พิมพค์ รงั้ ท่ี 2). กรุงเทพฯ :

สานักพิมพค์ ณะรฐั มนตรีและราชกิจจานเุ บกษา.
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2551). หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน

วทิ ยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา. (พิมพ์คร้ังท่ี 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2551). หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พ์ครง้ั ท่ี 8). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2554). หนงั สือเรียนรายวิชาเพมิ่ เติม

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พิมพค์ ร้ังท่ี 1). กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2561). หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติม

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1. (พิมพค์ รั้งที่ 1). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์
แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2563). หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ. (พมิ พ์คร้งั ท่ี 1).
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2563). คมู่ ือครูรายวชิ าพนื้ ฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ. (พิมพ์ครั้งท่ี 1).
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.
http://blog12509.blogspot.com/p/blog-page_97.html
https://www.google.com/search?q=tbm
https://www.trueplookpanya.com/blog/content/58101
http://www.baanjomyut.com
http://khanaporn.exteen.com

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 37

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนับสนุน
โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 38

ชุดท่ี 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพนื้ สมุทรและหลกั ฐานสนบั สนนุ

เฉลยบตั รกจิ กรรม 4.1
เรอ่ื ง แบบจาลองการแผ่ขยายของพ้นื มหาสมุทร

จดุ ประสงค์กจิ กรรม
สร้างแบบจาลองเพอ่ื อธบิ ายกระบวนการแผข่ ยายของพ้นื มหาสมทุ ร

วัสดุ – อุปกรณ์
1. รปู รอยแยกกลางมหาสมทุ ร (รปู 1)
2. แผนที่แสดงอายขุ องหินบริเวณพ้นื มหาสมุทร (รูป 2)
3. แผนทีพ่ ้ืนมหาสมทุ ร (ภาคผนวก ค)
4. วสั ดุสาหรบั ทาแบบจาลองตามทนี่ กั เรียนออกแบบ

สถานการณ์
นกั วทิ ยาศาสตร์ได้สารวจพ้ืนมหาสมุทรพบข้อมูล ดังนี้
1. มีแมกมาแทรกตัวข้นึ มาตามรอยแยกกลางมหาสมทุ ร
2. เม่อื เจาะสารวจหินบริเวณพืน้ มหาสมุทร และนามาตรวจสอบ วเิ คราะห์ หาชนดิ หนิ และ

อายพุ บว่า
- หินบริเวณพนื้ มหาสมุทรเป็นหินบะซอลต์
- หินบรเิ วณพื้นมหาสมทุ รมีอายอุ อ่ นกว่าหนิ ที่อยู่บนพน้ื ทวีป
- หนิ พื้นมหาสมุทรบรเิ วณรอยแยกมีอายุท่ีสมมาตรกนั ท้ังด้านซา้ ยและขวาของ รอยแยก

โดยหินใกลร้ อยแยกจะมีอายุนอ้ ยทสี่ ุด และหินมอี ายุมากขึ้นเร่อื ย ๆ เมอ่ื หา่ งออกจากรอยแยก
3. นกั วทิ ยาศาสตร์นาข้อมูลต่าง ๆ มาสรา้ งแบบจาลองและแผนท่ไี ดด้ ัง รปู 1 และ 2

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 39

ชดุ ท่ี 4 แนวคิดของทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนับสนุน
โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 40

ชุดที่ 4 แนวคดิ ของทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ
วธิ ีการทากิจกรรม

1. นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลและรูปที่กาหนด เกย่ี วกับลกั ษณะสณั ฐาน ชนดิ และ อายุ
ของหินที่พบบนพน้ื สมทุ ร

2. อภปิ รายและสรุปข้อมลู ท่ีไดจ้ ากข้อ 2
3. ออกแบบโดยวาดภาพรา่ งแบบจาลองแสดงการแผข่ ยายพื้นมหาสมทุ ร และกาหนด วัสดุ
ต่าง ๆ ทจ่ี ะใช้ในแบบจาลอง โดยครูตรวจภาพรา่ งของแบบจาลองเพื่อให้ขอ้ เสนอ แนะก่อนให้
นักเรยี นลงมอื สร้างจรงิ
4. สรา้ งแบบจาลองแสดงการแผ่ขยายพืน้ มหาสมทุ ร พร้อมทง้ั นาเสนอและอธิบาย การแผ่
ขยายพน้ื มหาสมุทรด้วยแบบจาลองทีส่ ร้างขึ้น
5. รวบรวมข้อคดิ เหน็ ที่ได้จากการนาเสนอมาปรับปรุงแบบจาลองใหถ้ ูกต้องและสมบูรณ์
ผลการทากิจกรรม

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 41


Click to View FlipBook Version