The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดหนองติม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by This's Sasi, 2022-09-06 10:11:27

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดหนองติม

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดหนองติม

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ค 12101 คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาช้ันที่ 2 เวลา 200 ช่ัวโมง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…...

ศกึ ษา และฝกึ ใหเ้ กดิ ทักษะในการบอกจำนวนของสิ่งตา่ ง ๆ แสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามจำนวนท่ีกำหนด อา่ น

และเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนงั สือแสดงจำนวนนบั ไม่เกนิ หน่งึ พนั และศูนย์เปรียบเทียบจำนวน

โดยใชเ้ ครือ่ งหมาย = ><และเรยี งลำดับจำนวนนบั ไม่เกินหนงึ่ พนั และศนู ย์ หลักและคา่ ของเลขโดดในแต่ละ

หลกั การเขยี นตวั เลข แสดงจำนวนในรปู กระจายหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก

และการลบของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ พันและศูนย์ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคูณ

ของจำนวน ๑ หลกั กับจำนวนไม่เกนิ ๒ หลักหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการหารทีต่ วั

ต้ังไม่เกนิ ๒ หลกั ตัวหาร ๑หลกั โดยที่ผลหารมี ๑หลกั ทง้ั หารลงตัวและหารไมล่ งตัว หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หาร

ระคน และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ๒ ข้นั ตอนแบบรูปของจำนวนทเ่ี พิ่มขึน้ หรอื ลดลงทีละ๒ ทีละ ๕

และทลี ะ ๑๐0 และแบบรปู ซำ้ การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที การบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมงเป็นนาที การ

เปรียบเทียบระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงเปน็ นาที การอา่ นปฏิทนิ การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เวลา และแสดงวธิ ีหา

คำตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลาท่ีมหี นว่ ยเดยี่ วและเป็นหนว่ ยเดียวกันวดั และเปรียบเทียบความยาวเปน็ เมตร

และเซนติเมตรการคาดคะเนความยาวเปน็ เมตร แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกย่ี วกับ

ความยาวท่ีมีหน่วยเป็นเมตรและเซนตเิ มตรวดั และเปรยี บเทียบนำ้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและกรมั กโิ ลกรัมและขดี การ

คาดคะเนนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกีย่ วกับนำ้ หนักทมี่ ีหนว่ ยเปน็

กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรัมและขดี วัดและเปรยี บเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตรการวัดปรมิ าตรและความจโุ ดยใช้

หน่วยทไี่ ม่ใช่หน่วยมาตรฐาน การแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับปรมิ าตรและความจุท่มี ีหน่วยเปน็ ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วย

ตวง ลติ ร จำแนกและบอกลกั ษณะของรปู หลายเหลี่ยม วงกลม และวงรีและการเขยี นรปู เรขาคณติ สองมิติโดยใช้

แบบของรูปใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเมือ่ กำหนดรูป ๑ รูปแทน ๒หน่วย ๕

หนว่ ย หรอื ๑๐หน่วย

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะกระบวนการในการแกป้ ัญหา การส่ือสารและการสือ่ ความหมาย

ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การใหเ้ หตผุ ลและการคดิ สร้างสรรค์ คดิ อย่างมเี หตุผลเป็นระบบ รอบคอบและถ่ี

ถ้วน สามารถนำความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทนั เทคโนโลยี รวมท้ังมีเจตคติ

ท่ีดตี ่อคณติ ศาสตร์

รหัสตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7, ป.2/8
ค 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6
ค 2.2 ป.2/1
ค 3.1 ป.2/1
รวมทั้งหมด 16 ตัวช้ีวัด

คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาชั้นท่ี ๓ เวลา ๒๐๐ช่วั โมง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ศกึ ษาและฝกึ ใหเ้ กิดทกั ษะในการอา่ นและเขยี น ตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยและตวั หนังสอื แสดง

จำนวนนบั เปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวนจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ บอก อ่านและเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณสิ่ง

ต่าง ๆ ตามเศษส่วนทกี่ ำหนด เปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตวั เศษเทา่ กนั โดยท่ีตวั เศษน้อยกวา่ หรือเท่ากบั ตัวส่วนหา

คา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการบวก การลบ การคูณ การหาร หาผลลพั ธ์การบวก ลบ

คูณ หารระคน และแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา ๒ ขั้นตอนของจำนวนนบั หาผลบวกและผลลบของ

เศษสว่ นทมี่ ีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกนิ ๑ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบเศษสว่ นท่มี ี

ตวั ส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑ ระบจุ ำนวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจำนวนที่เพิ่มข้ึนหรือลดลงทลี ะเท่าๆ กัน

แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับเงินเวลาและระยะเวลาเลอื กใช้เครื่องวัดความยาวทเ่ี หมาะสม วดั และ

บอก ความยาวของสงิ่ ต่าง ๆ คาดคะเนและเปรียบเทียบความยาวจากสถานการณ์ตา่ ง ๆแสดงวธิ หี าคำตอบของ

โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ความยาว เลือกใชเ้ คร่ืองช่งั ท่ีเหมาะสม วดั และบอกนำ้ หนกั คาดคะเนและเปรียบเทยี บน้ำหนัก

แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกับนำ้ หนักเลือกใช้เครื่องตวงที่เหมาะสม วดั และเปรยี บเทยี บปริมาตร

คาดคะเนปรมิ าตรและความจแุ สดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรและความจรุ ะบุรปู เรขาคณิต

สองมิติท่ีมแี กนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตรเขียนแผนภูมริ ูปภาพ และใชข้ ้อมลู จากแผนภมู ริ ูปภาพในการหา

คำตอบของโจทยป์ ัญหาเขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่ีเป็นจำนวนนบั และใชข้ ้อมูลจากตารางทางเดยี วในการ

หาคำตอบของโจทยป์ ัญหา

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะกระบวนการในการแก้ปัญหา การสื่อสารและการสอื่ ความหมายทาง

คณติ ศาสตร์ การเช่ือมโยง การใหเ้ หตุผลและการคดิ สร้างสรรค์ คดิ อยา่ งมีเหตผุ ลเปน็ ระบบ รอบคอบและถ่ถี ว้ น

สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทันเทคโนโลยี รวมท้งั มเี จตคตทิ ี่ดีต่อ

คณติ ศาสตร์

รหสั ตวั ช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖,ป.๓/๗,ป.๓/๘,ป.๓/๙,ป.๓/๑๐,ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖,ป.๓/๗,ป.๓/๘,ป.๓/๙,ป.๓/๑๐,ป.๓/๑๑,ป.๓/๑๒,
ป.๓/๑๓
ค ๒.๑ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒

รวมทั้งหมด 28 ตัวชวี้ ัด

คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน

ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาชั้นท่ี ๔ เวลา 160 ช่วั โมง

…………………………………………………………………………………………………………………..……………………………

ศึกษาและฝึกให้เกดิ ทกั ษะในการอ่านและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดง

จำนวนนับเปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั จำนวนนับบอก อา่ นและเขียนเศษส่วน จำนวนคละเปรียบเทยี บ

เรียงลำดบั เศษสว่ นและจำนวนคละอ่านและเขียนทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่งเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับทศนิยมไม่

เกนิ ๓ ตำแหน่งประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งสมเหตุสมผล

หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบของจำนวนนบั ที่

มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวนหลายหลกั ๒

จำนวนที่มผี ลคูณไม่เกนิ ๖ หลัก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการหารทต่ี ัวตง้ั ไม่เกิน ๖ หลัก ตวั หารไม่เกิน ๒

หลกั หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ ๐แสดงวิธหี าคำตอบและการสร้างโจทย์ปัญหา ๒

ขัน้ ตอนของจำนวนนับพรอ้ มทัง้ หาคำตอบหาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจำนวนคละท่ีตัวสว่ นตวั หนึ่งเปน็

พหคุ ูณของอีกตวั หนึง่ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นและจำนวนคละ

ทตี่ วั ส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหุคูณของอีกตวั หนง่ึ หาผลบวก ผลลบของทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตำแหนง่ แสดงวธิ ีหาคำตอบของ

โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ ๒ ขั้นตอนของทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตำแหน่งแสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา

เก่ยี วกบั เวลาวัดและสร้างมุม โดยใชโ้ พรแทรกเตอรแ์ สดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู

และพนื้ ท่ีของรปู ส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากจำแนกชนดิ ของมุม บอกช่ือมุม สว่ นประกอบของมุมและเขยี นสญั ลักษณ์แสดง

มุมสรา้ งรูปสี่เหล่ียมมมุ ฉากเม่ือกำหนดความยาวของดา้ นใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิแท่ง ตารางสองทางในการหา

คำตอบของโจทยป์ ัญหา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการในการแก้ปัญหา การส่ือสารและการสือ่ ความหมาย

ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การให้เหตุผลและการคดิ สร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตผุ ลเปน็ ระบบ รอบคอบและถ่ี

ถ้วน สามารถนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทนั เทคโนโลยี รวมท้ังมเี จต

คตทิ ีด่ ีต่อคณติ ศาสตร์

รหสั ตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗,ป.๔/๘,ป.๔/๙,ป.๓/๑๐,ป.๔/๑๑,ป.๔/๑๒,

ป.๔/๑๓,ป.๔/๑๔,ป.๔/๑๕,ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑,ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑

รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวชีว้ ดั

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

ค ๑๕๑๐๑คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาช้ันท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง

…………………………………………………………………………………………………………..............................................

ศกึ ษาและฝกึ ใหเ้ กิดทักษะในหลักการเขียนเศษส่วนทีม่ ตี วั ส่วนเปน็ ตัวประกอบของ ๑๐หรอื ๑๐๐หรือ

๑,๐๐๐ ในรปู ทศนิยม การแกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใช้บญั ญัติไตรยางศ์ การเปรียบเทยี บเศษสว่ นและจำนวนคละ การ

บวก ลบ คณู หารของเศษส่วนและจำนวนคละการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ โจทย์

ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหารเศษสว่ น การประมาณ

ผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ มการคูณทศนิยมทผี่ ลคูณเป็นทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ ตำแหนง่

การหารทศนยิ มท่ตี วั ต้งั เป็นจำนวนนับหรือทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ตำแหนง่ และตวั หารเปน็ จำนวนนบั ผลหารเป็น

ทศนิยมไมเ่ กิน ๓ตำแหน่งโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหารทศนยิ ม การอา่ นและการเขยี นร้อย

ละหรือเปอร์เซ็นต์ โจทยป์ ญั หาร้อยละ ความสัมพันธ์ระหวา่ งหนว่ ยความยาว โจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวท่ีมีการ

เปลี่ยนหน่วยและเขยี นในรปู ทศนิยม ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยนำ้ หนกั โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั นำ้ หนกั ที่มีการ

เปลยี่ นหนว่ ยและเขียนในรูปทศนยิ ม การหาปริมาตรของทรงสีเ่ หลีย่ มมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลย่ี ม

มมุ ฉาก โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับปริมาตรของทรงส่ีเหลีย่ มมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก การหา

ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหล่ียม การหาพืน้ ทข่ี องรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปยี กปนู โจทย์ปัญหา

เก่ียวกับ ความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหลย่ี มและพ้นื ที่ของรปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนานและรปู สี่เหล่ียมขนมเปยี กปูน เส้น

ต้งั ฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและสญั ลกั ษณแ์ สดงการขนาน การสรา้ งเสน้ ขนาน มมุ แยง้ มุม

ภายในและมุมภายนอกทอ่ี ยบู่ นข้างเดียวกนั ของเส้นตดั ขวาง (Transversal) การสร้างเส้นตรงหรือสว่ นของ

เส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรอื สว่ นของเสน้ ตรงท่กี ำหนดให้ ชนิดและสมบัตขิ องรปู สี่เหล่ยี ม การจำแนกรูป

สเ่ี หลยี่ มโดยพจิ ารณาจากสมบตั ขิ องรูป การสร้างรูปสเี่ หลี่ยมชนดิ ต่าง ๆ เม่อื กำหนดความยาวของด้านและขนาด

ของมุมหรอื เม่ือกำหนดความยาวของเส้นทแยงมุม ลักษณะและสว่ นตา่ ง ๆ ของปริซึม การอ่านกราฟเส้น การใช้

ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา การอา่ นและการเขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมลู ทีเ่ ป็นจำนวนนบั

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะกระบวนการในการแก้ปัญหา การสื่อสารและการสือ่ ความหมาย

ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การให้เหตผุ ลและการคิดสร้างสรรค์ คิดอยา่ งมีเหตผุ ลเป็นระบบ รอบคอบและถ่ี

ถ้วน สามารถนำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทันเทคโนโลยี รวมทั้งมีเจต

คติทีด่ ตี ่อคณติ ศาสตร์

รหสั ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗,ป.๕/๘,ป.๕/๙
ค ๒.๑ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔
ค ๒.๒ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔
ค ๓.๑ป.๕/๑,ป.๕/๒

รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ค ๑๖๑๐๑คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชนั้ ประถมศกึ ษาชัน้ ที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

…………………………………………………………………………………………………………..............................................

ศึกษาและฝึกให้เกดิ ทกั ษะในการเปรียบเทียบ เรยี งลำดับเศษสว่ นและจำนวนคละจากสถานการณ์ต่าง
ๆ อตั ราส่วน อตั ราส่วนทเ่ี ทา่ กันและมาตราส่วน การเขยี นอตั ราส่วนแสดงการเปรยี บเทียบปรมิ าณ ๒ ปรมิ าณ
โดยท่ีปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจำนวนนับการหาอตั ราส่วนที่เทา่ กับอตั ราส่วนท่ีกำหนดให้ ตัวประกอบ จำนวน
เฉพาะ ตัวประกอบเฉพาะ และการแยกตวั ประกอบ การหา ห.ร.ม. และค.ร.น. ของจำนวนนบั ไม่เกนิ ๓ จำนวน
โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การบวก การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ การบวก ลบ คณู หารระคน
ของเศษส่วนและจำนวนคละ โจทยป์ ญั หาเศษสว่ นและจำนวนคละ ความสมั พันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม
การหารทศนิยมทต่ี ัวหารและผลหารเปน็ ทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ การ
หารทศนิยม โจทยป์ ญั หาอัตราส่วนและมาตราส่วนโจทย์ปญั หาร้อยละ การแสดงวธิ คี ิดและหาคำตอบของปัญหา
เกี่ยวกับแบบรปู การหาปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมติ ิทป่ี ระกอบด้วยทรงส่เี หลีย่ มมุมฉากโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับ
ปรมิ าตรของรูปเรขาคณติ สามมติ ิที่ประกอบดว้ ยทรงสี่เหลยี่ มมมุ ฉาก การหาความยาวรอบรปู และพ้นื ท่ีของรูป
สามเหลยี่ ม มมุ ภายในของรูปหลายเหลี่ยม การหาความยาวรอบรูปและพน้ื ที่ของรปู หลายเหลย่ี ม โจทย์ปญั หา
เกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปและพ้ืนทีข่ องรปู หลายเหลย่ี ม การหาความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ีของวงกลม โจทย์ปัญหา
เกย่ี วกับ ความยาวรอบรปู และพ้ืนที่ของวงกลม ชนิดและสมบัตขิ องรปู สามเหลีย่ ม การจำแนกรูปสามเหลี่ยมโดย
พจิ ารณาจากสมบัติของรูป การสร้างรูปสามเหล่ียมเมื่อกำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุม วงกลมและ
สว่ นต่าง ๆ ของวงกลม การสรา้ งวงกลม การบอกลักษณะของรูปเรขาคณติ สามมติ ชิ นดิ ต่าง ๆ ทรงกลม
ทรงกระบอก กรวย พีระมิด รูปคลข่ี องทรงกระบอก กรวย ปริซึม พรี ะมดิ รูปเรขาคณิตสามมติ ิทีป่ ระกอบจากรูป
คลแ่ี ละรปู คล่ีของรปู เรขาคณิตสามมิติ รปู คลขี่ องทรงกระบอก กรวย ปริซมึ พรี ะมดิ การอ่านแผนภมู ริ ปู วงกลม
การใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ิรูปวงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา

เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะกระบวนการในการแกป้ ญั หา การส่ือสารและการสอื่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยง การให้เหตผุ ลและการคดิ สร้างสรรค์ คิดอยา่ งมเี หตุผลเปน็ ระบบ รอบคอบและถ่ี
ถว้ น สามารถนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันเทคโนโลยี รวมท้งั มีเจต
คติท่ดี ีต่อคณติ ศาสตร์

รหสั ตวั ช้ีวดั
ค ๑.๑ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘,ป.๖/๙,ป.๖/๑๐,ป.๖/๑๑,ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ป.๖/๑
ค ๒.๑ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓
ค ๒.๒ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔
ค ๓.๑ป.๖/๑

รวมทั้งหมด ๒๑ ตัวชวี้ ดั

รายวิชาพื้นฐาน

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดบั ประถมศกึ ษา

รายวิชาพืน้ ฐาน

ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน 80 ชว่ั โมง

ว ๑2๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน 80 ชั่วโมง

ว ๑3๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน 80 ชั่วโมง

ว ๑4๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน 120 ชั่วโมง

ว ๑5๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน 120 ชั่วโมง

ว ๑6๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน 120 ชวั่ โมง

รายวิชาเพิ่มเติม จำนวน ๔0 ชว่ั โมง
ว ๑๑๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ จำนวน ๔0 ชว่ั โมง
ว ๑2๒๐๑ คอมพิวเตอร์ จำนวน ๔0 ชั่วโมง
ว ๑3๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ จำนวน ๔0 ชั่วโมง
ว ๑4๒๐๑ คอมพิวเตอร์ จำนวน ๔0 ช่ัวโมง
ว ๑5๒๐๑ คอมพิวเตอร์ จำนวน ๔0 ชัว่ โมง
ว ๑6๒๐๑ คอมพวิ เตอร์

คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน

ว 11101 วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 80 ช่วั โมง

****************************************************************************

ระบชุ ่ือพชื และสตั วท์ อี่ าศยั อยู่บรเิ วณตา่ งๆ จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ บอกสภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสมกบั

การดำรงชีวิตของสัตวใ์ นบรเิ วณที่อาศัยอยู่ในท้องถ่นิ จงั หวัดสระแก้ว ระบุช่อื บรรยายลักษณะและบอกหนา้ ท่ี

ของส่วนต่างๆ ของรา่ งกายมนุษย์ สตั ว์และพชื การทำหน้าทรี่ ว่ มกันของส่วนตา่ งๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทำ

กจิ กรรมต่างๆ จากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ ตระหนักถงึ ความสำคญั ของส่วนตา่ งๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดูแล

สว่ นต่างๆ อยา่ งถูกต้องให้ปลอดภัยและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ อธิบายสมบตั ิท่สี งั เกตได้ของวัสดทุ ี่ใชท้ ำวัตถุ

ซ่งึ ทำจากวสั ดุชนดิ เดียวหรอื หลายชนิดประกอบกันโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ระบุชนดิ ของวัสดแุ ละจดั กลมุ่

วสั ดตุ ามสมบตั ทิ สี่ งั เกตไดบ้ รรยายการเกิดเสยี งและทิศทางการเคล่ือนท่ขี องเสียงจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษร์ ะบุ

ดาวทปี่ รากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวนั และกลางคืนจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ อธบิ ายสาเหตุทมี่ องไม่เหน็ ดาวส่วน

ใหญ่ในเวลากลางวนั จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ อธิบายลักษณะภายนอกของหนิ จากลักษณะ เฉพาะตวั ที่สังเกต

ได้จากหินในท้องถิน่ ของจงั หวัดสระแกว้ แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถูก การเปรยี บเทยี บแสดง

ลำดบั ขั้นตอนการทำงานหรอื การแกป้ ัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย

โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือส่ือใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ งจัดเกบ็ เรียกใช้ขอ้ มูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยี

สารสนเทศอย่างปลอดภัยปฏิบตั ิ ตามขอ้ ตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์รว่ มกนั ดูแล รักษาอปุ กรณ์เบือ้ งต้นใชง้ าน

อย่างเหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สืบคน้ ข้อมูล

บันทึก จดั กลมุ่ ขอ้ มูลและการอภิปราย เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสง่ิ

ทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เหน็ คุณคา่ ของการนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มจี ติ

วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด
ว 1.1 ป.1/1 , ป.1/2
ว 1.2 ป.1/1 , ป.1/2
ว 2.1 ป.1/1 , ป.1/2
ว 2.3 ป.1/1
ว 3.1 ป.1/1 , ป.1/2
ว 3.2 ป.1/1
ว 4.2 ป.1/1, ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5

รวมท้ังหมด 15 ตวั ช้ีวดั

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ว 12101 วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 80 ชวั่ โมง

*********************************************************************************

ระบุวา่ พชื ต้องการแสงและน้ำ เพอ่ื การเจรญิ เตบิ โต โดยใชข้ ้อมลู จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์

ตระหนักถึงความจำเป็นที่พืชตอ้ งไดร้ บั นำ้ และแสงเพื่อการเจรญิ เตบิ โตโดยดแู ลพชื ใหไ้ ด้รับสง่ิ ดังกลา่ วอยา่ ง

เหมาะสมสรา้ งแบบจำลองทบ่ี รรยายวฏั จกั รชวี ิตของ พืชดอก เปรียบเทยี บลักษณะของสงิ่ มชี วี ติ และ ส่ิงไม่มชี ีวติ

จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ เปรียบเทียบสมบัตกิ ารดูดซับน้ำของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ และระบุการนำ

สมบัติ การดดู ซบั นำ้ ของวัสดุไปประยุกตใ์ ช้ในการทำวัตถุในชวี ติ ประจำวันอธิบายสมบัติท่ีสงั เกตได้ของวัสดทุ เ่ี กิด

จาก การนำวสั ดมุ าผสมกันโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เปรียบเทียบสมบัติท่สี งั เกตไดข้ องวสั ดุ เพ่อื นำ มาทำเป็น

วัตถใุ นการใชง้ านตามวัตถปุ ระสงค์และอธิบายการนำวสั ดุที่ใช้แลว้ กลบั มาใช้ใหม่ โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์

ตระหนักถึงประโยชน์ของการนำวัสดทุ ่ใี ชแ้ ลว้ กลับมาใชใ้ หม่ โดยการนำวัสดุท่ใี ช้แลว้ กลบั มาใช้ใหม่ บรรยาย

แนวการเคล่อื นทข่ี องแสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง และอธบิ ายการมองเหน็ วัตถุ จากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

ตระหนักในคุณค่าของความรู้ของการมองเห็น โดยเสนอแนะแนวทางการป้องกนั อนั ตรายจากการมองวัตถทุ ่ีอยู่

ในบริเวณทม่ี ีแสงสว่างไม่เหมาะสม ระบุส่วนประกอบของดิน และจำแนกชนดิ ของดนิ โดยใชล้ ักษณะเน้ือดินและ

การจับตวั เป็นเกณฑ์อธบิ ายการใชป้ ระโยชน์จากดินจากขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้แสดงลำดบั ขั้นตอนการทำงานหรือ

การแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพสญั ลกั ษณ์หรือข้อความ เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรอื สอ่ื

และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ งจดั หมวดหมู่ คน้ หา จัดเก็บ เรียกใชข้ อ้ มลู ตาม

วัตถปุ ระสงค์ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกนั ดูแล

รักษาอปุ กรณเ์ บ้ืองตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล

บันทกึ จัดกล่มุ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สือ่ สารสิ่ง

ทีเ่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เหน็ คณุ ค่าของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั

มีจติ วิทยาศาสตร์ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม

รหสั ตัวชี้วดั
ว 1.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3
ว 1.3 ป.2/1
ว 2.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4
ว 2.3 ป.2/1 , ป.2/2
ว 3.2 ป.2/1 , ป.2/2
ว 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4

รวมทั้งหมด 16 ตวั ช้ีวัด

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

ว 13101 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 80 ชัว่ โมง

*******************************************************************************************

บรรยายสิง่ ทจ่ี ำเป็นต่อการดำรงชวี ิต และการ เจรญิ เติบโตของมนุษย์และสตั วโ์ ดยใชข้ อ้ มูล ทีร่ วบรวมไดต้ ระหนักถึง

ประโยชนข์ องอาหาร น้ำและอากาศ โดยการดแู ลตนเองและสตั ว์ใหไ้ ดร้ ับส่งิ เหล่าน้อี ยา่ งเหมาะสม สร้างแบบจำลองที่

บรรยายวัฏจักรชีวิตของสตั วแ์ ละเปรยี บเทียบวฏั จักรชวี ิตของสัตว์บางชนดิ ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของชีวิตสัตว์ โดยไม่ทำให้วฏั จักร

ชวี ติ ของสตั ว์เปลย่ี นแปลง อธิบายวา่ วตั ถปุ ระกอบขึน้ จากช้ินส่วนยอ่ ยๆ ซึง่ สามารถแยกออกจากกันไดแ้ ละประกอบกนั เปน็ วตั ถุ

ชิน้ ใหม่ได้ โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายการเปลยี่ นแปลงของวสั ดุเมอ่ื ทำใหร้ ้อนขึน้ หรือทำให้เยน็ ลง โดยใช้หลกั ฐานเชิง

ประจกั ษ์ ระบผุ ลของแรงทีม่ ตี อ่ การเปลย่ี นแปลง การเคลื่อนท่ขี องวตั ถุจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์เปรยี บเทยี บและยกตวั อย่าง

แรงสมั ผัสและแรงไมส่ ัมผสั ทมี่ ผี ลตอ่ การเคลือ่ นที่ของวตั ถโุ ดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ จำแนกวตั ถุโดยใช้การดงึ ดูดกบั แม่เหลก็

เปน็ เกณฑ์จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุขัว้ แม่เหลก็ และพยากรณผ์ ลทเ่ี กดิ ข้ึนระหว่างขวั้ แมเ่ หล็กเมอื่ นำมาเข้าใกลก้ ันจาก

หลักฐานเชิงประจกั ษ์ จำแนกวตั ถุเป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสงและวตั ถทุ บึ แสง จากลกั ษณะการมองเหน็ สิ่งต่างๆ

ผา่ นวัตถุนนั้ เปน็ เกณฑ์ โดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษ์ บรรยายการทำงานของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้าและระบุแหลง่ พลังงานในการ

ผลติ ไฟฟ้า จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ ตระหนกั ในประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟา้ โดยนำเสนอวิธกี ารใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และ

ปลอดภยั อธิบายแบบรปู เสน้ ทางการข้ึนและตกของดวงอาทิตยโ์ ดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ อธิบายสาเหตกุ ารเกดิ

ปรากฏการณก์ ารขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์ การเกิดกลางวันกลางคนื และการกำหนดทิศ โดยใช้แบบจำลองตระหนักถึง

ความสำคญั ของดวงอาทติ ย์ โดย บรรยายประโยชน์ของดวงอาทิตยต์ อ่ สงิ่ มีชวี ติ ระบสุ ว่ นประกอบของอากาศ บรรยายความ

สำคญั ของอากาศ และผลกระทบของมลพษิ ทาง อากาศต่อส่ิงมีชีวิตจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ ตระหนักถงึ ความสำคัญของอากาศ

โดยนำเสนอ แนวทางการปฏบิ ตั ิตนในการลดการเกิดมลพิษทางอากาศ อธิบายการเกิดลมจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ บรรยาย

ประโยชนแ์ ละโทษของลม จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ แสดงอลั กอรทิ มึ ในการทำงานหรือการแกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ

สัญลักษณ์ หรอื ข้อความ เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื สื่อและตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมใช้

อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรรู้ วบรวม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มลู โดยใชซ้ อฟต์แวรต์ ามวตั ถุประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

อย่างปลอดภัย ปฏิบตั ิ ตามขอ้ ตกลงในการใช้อินเทอรเ์ นต็

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู บันทึก จดั กลมุ่

ข้อมูลและการอภปิ รายเพ่ือให้เกิดความรู้ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอส่อื สารส่งิ ทเ่ี รียนรู้ มคี วามสามารถในการ

ตัดสนิ ใจ เห็นคณุ คา่ ของการนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมท่ี

เหมาะสม

รหสั ตวั ชว้ี ัด

ว 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4

ว 2.1 ป.3/1 , ป.3/2

ว 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4

ว 2.3 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3

ว 3.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3

ว 3.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4

ว 4.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5

รวมทัง้ หมด 25 ตัวชี้วดั

คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน

ว 14101 วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 120 ชั่วโมง

**********************************************************************************

บรรยายหนา้ ท่ขี องราก ลำต้น ใบ และดอก ของพืชดอก โดยใช้ข้อมลู ที่รวบรวมได้ จำแนกส่ิงมชี วี ิตโดยใช้

ความเหมอื นและความแตกต่างของลกั ษณะของสงิ่ มีชีวิตออกเปน็ กลุ่มพชื กลุ่มสตั ว์และกลุ่มท่ีไม่ใชพ่ ชื และสตั ว์ จำแนก

พืชออกเปน็ พชื ดอกและพชื ไมม่ ดี อกโดยใชก้ ารมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มลู ทรี่ วบรวมได้ จำแนกสตั วอ์ อกเปน็ สัตว์มี

กระดูกสันหลังและสตั วไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลังโดยใชก้ ารมีกระดูกสนั หลังเปน็ เกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มลู ที่รวบรวมไดบ้ รรยาย

ลกั ษณะเฉพาะที่สงั เกตได้ของสตั ว์มกี ระดูกสันหลังในกล่มุ ปลา กลุ่มสตั ว์สะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก กลุ่มสัตว์เล้ือยคลาน กล่มุ

นก และกลมุ่ สัตว์เล้ียงลูกด้วยนำ้ นมและยกตวั อยา่ งสง่ิ มีชวี ติ ในแตล่ ะกล่มุ เปรียบเทียบสมบัตทิ างกายภาพด้านความแข็ง

สภาพยดื หยุ่น การนำความร้อนและการนำไฟฟ้า ของวสั ดุโดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์จากการทดลองและระบกุ ารนำ

สมบัติเร่ืองความแข็ง สภาพยดื หยนุ่ การนำความร้อนและการนำไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ผา่ นกระบวนการ

ออกแบบช้ินงานแลกเปล่ียนความคดิ กบั ผู้อน่ื โดยการอภิปรายเกย่ี วกับสมบตั ิทางกายภาพของวัสดุอยา่ งมเี หตุผลจาก

การทดลองเปรยี บเทียบสมบัตขิ องสสาร ทั้ง ๓ สถานะจากขอ้ มลู ทีไ่ ด้จากการสังเกตมวลการตอ้ งการทีอ่ ยู่ รูปรา่ งและ

ปรมิ าตรของสสาร ใชเ้ ครือ่ งมือเพ่ือวัดมวลและปริมาตรของสสารทัง้ ๓ สถานะ ระบผุ ลของแรงโนม้ ถ่วงท่ีมตี ่อวตั ถุจาก

หลักฐานเชงิ ประจักษ์ใชเ้ ครื่องชงั่ สปริงในการวดั นำ้ หนักของวัตถุบรรยายมวลของวตั ถุทมี่ ผี ลต่อการเปลีย่ นแปลง การ

เคลอื่ นท่ีของวตั ถจุ ากหลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวัตถุเปน็ ตวั กลางโปร่งใส ตวั กลางโปร่งแสงและวตั ถทุ ึบแสง จาก

ลกั ษณะการมองเห็นสงิ่ ตา่ งๆ ผา่ นวตั ถนุ น้ั เปน็ เกณฑโ์ ดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตก

ของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ สรา้ งแบบจำลองทอี่ ธิบายแบบรปู การเปลยี่ นแปลงรปู ร่างปรากฏของ ดวง

จนั ทร์และพยากรณร์ ปู รา่ งปรากฏของดวงจนั ทร์สรา้ งแบบจำลองแสดงองคป์ ระกอบของระบบสรุ ิยะและอธบิ าย

เปรยี บเทยี บคาบการโคจรของดาวเคราะหต์ ่างๆ จากแบบจำลองใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา การอธบิ าย การ

ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสอ่ื และ

ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแก้ไขใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาความรแู้ ละประเมินความนา่ เช่อื ถือ ของขอ้ มลู รวบรวม ประเมิน

นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ที่หลากหลาย เพื่อแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวันใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ

อยา่ งปลอดภยั เข้าใจ สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผอู้ น่ื แจง้ ผ้เู กี่ยวขอ้ งเมอื่ พบข้อมลู หรอื บุคคลที่ไม่

เหมาะสม

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มลู บนั ทึก

จัดกลุม่ ขอ้ มลู และการอภิปราย เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอื่ สารสง่ิ ท่เี รียนรู้ มี

ความสามารถในการตดั สนิ ใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ มี

คุณธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

รหัสตวั ช้วี ดั

ว 1.2 ป.4/1

ว 1.3 ป.4/1 , ป.4/2 , ป.4/3 , ป.4/4

ว 2.1 ป.4/1 , ป.4/2 , ป.4/3 , ป.4/4

ว 2.2 ป.4/1 , ป.4/2 , ป.4/3

ว 2.3 ป.4/1

ว 3.1 ป.4/1 , ป.4/2 , ป.4/3

ว 4.2 ป.4/1 , ป.4/2 , ป.4/3 , ป.4/4 , ป.4/5

รวมทัง้ หมด 21 ตวั ช้ีวดั

คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ว 15101 วทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 120 ช่ัวโมง

****************************************************************************************

บรรยายโครงสรา้ งและลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ติ ทเี่ หมาะสมกบั การดำรงชีวติ ซ่ึงเป็นผลมาจากการปรับตวั ของส่งิ มชี วี ติ ใน

แต่ละแหลง่ ท่ีอยูอ่ ธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างสงิ่ มชี ีวิตกบั สิ่งมชี วี ิตและความสมั พันธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชวี ติ กบั สิ่งไมม่ ชี ีวติ เพือ่

ประโยชน์ต่อการดำรงชวี ิต เขียนโซอ่ าหารและระบบุ ทบาทหน้าทขี่ องสงิ่ มชี วี ติ ท่ีเป็นผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคในโซอ่ าหาร ตระหนักใน

คณุ คา่ ของสง่ิ แวดล้อมที่มีต่อการ ดำรงชีวิตของสิง่ มีชีวิต โดยมสี ่วนรว่ มในการดูแล รักษาสง่ิ แวดล้อม อธบิ ายลักษณะทาง

พันธกุ รรมที่มกี ารถ่ายทอด จากพอ่ แมส่ ลู่ ูกของพชื สัตวแ์ ละมนุษย์ แสดงความอยากรู้อยากเหน็ โดยการถามคำถาม เกี่ยวกับ

ลกั ษณะทค่ี ลา้ ยคลงึ กันของตนเองกับ พ่อแม่ อธิบายการเปลยี่ นสถานะของสสาร เมือ่ ทำให้สสารรอ้ นขนึ้ หรือเยน็ ลง โดยใช้

หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายการละลายของสารในน้ำโดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของสารเมอื่ เกดิ

การ เปลย่ี นแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษ์ วิเคราะหแ์ ละระบุการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลบั ได้ และการเปลยี่ นแปลงที่

ผันกลบั ไมไ่ ด้ อธบิ ายวธิ กี ารหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ท่ีกระทำต่อวตั ถุในกรณที ี่วตั ถอุ ยูน่ ่ิง จากหลักฐานเชิง

ประจกั ษ์ เขยี นแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุท่ีอยู่ใน แนวเดียวกนั และ แรงลพั ธ์ท่ีกระทำตอ่ วตั ถุ ใช้เครอ่ื งชัง่ สปริงในการ

วัดแรงทกี่ ระทำตอ่ วตั ถุ ระบผุ ลของแรงเสยี ดทานทมี่ ตี อ่ การเปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ของวตั ถุจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เขยี น

แผนภาพแสดงแรงเสยี ดทานและแรงท่ีอยใู่ นแนวเดยี วกนั ทกี่ ระทำตอ่ วัตถุ อธบิ ายการไดย้ นิ เสยี งผา่ นตวั กลางจากหลักฐาน เชงิ

ประจักษ์ ระบุตวั แปร ทดลองและอธิบายลกั ษณะและการเกดิ เสยี งสงู เสยี งตำ่ ออกแบบการทดลองและอธบิ ายลักษณะและการ

เกิดเสยี งดัง เสยี งค่อย วัดระดบั เสียงโดยใชเ้ ครือ่ งมือวดั ระดบั เสยี ง ตระหนักในคณุ ค่าของความรู้เรื่องระดับเสียงโดยเสนอแนะ

แนวทางในการหลกี เลยี่ งและลดมลพิษทางเสยี ง เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง ใช้

แผนทดี่ าวระบตุ ำแหน่งและเสน้ ทางการขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์บนทอ้ งฟา้ และอธบิ ายแบบรปู เสน้ ทางการข้นึ และตกของ

กล่มุ ดาวฤกษ์ บนท้องฟ้าในรอบปี เปรียบเทียบปรมิ าณน้ำในแตล่ ะแหลง่ และระบุ ปรมิ าณนำ้ ท่มี นษุ ยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชน์

ได้ จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ ตระหนักถงึ คณุ คา่ ของน้ำโดยนำเสนอแนวทางการใชน้ ้ำอย่างประหยดั และการอนรุ กั ษ์น้ำสรา้ ง

แบบจำลองท่ีอธิบายการหมุนเวียนของน้ำในวฎั จักรนำ้ เปรยี บเทียบกระบวนการเกิดเมฆหมอกน้ำค้างและนำ้ ค้างแขง็ จาก

แบบจำลองเปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเหบ็ จากขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้ ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หาการ

อธิบาย การทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ จากปัญหาอยา่ งง่ายออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่มี กี ารใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย

ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตคน้ หาข้อมลู ติดตอ่ สอ่ื สาร และทำงานร่วมกนั ประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของข้อมลู

รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื บริการ บนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย

เพอื่ แก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มีมารยาทเข้าใจสทิ ธิและหนา้ ท่ขี องตนเคารพในสิทธขิ อง

ผูอ้ น่ื แจ้งผเู้ ก่ียวข้องเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคล ที่ไมเ่ หมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มลู บนั ทึก จัด

กลมุ่ ข้อมูลและการอภปิ ราย เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอ ส่อื สารสง่ิ ท่เี รยี นรู้ มคี วามสามารถใน

การตัดสนิ ใจ เห็นคุณคา่ ของการนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยม

ทเี่ หมาะสม

รหสั ตวั ชีว้ ัด

ว 1.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป5/3 , ป.5/4

ว 1.3 ป.5/1 , ป.5/2

ว 2.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 , ป.5/4

ว 2.2 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 , ป.5/4 , ป.5/5

ว 2.3 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 , ป.5/4 , ป.5/5

ว 3.1 ป.5/1 , ป.5/2

ว 3.2 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 , ป.5/4 , ป.5/5

ว 4.2 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 , ป.5/4 , ป.5/5

รวมทงั้ หมด 32 ตัวชว้ี ดั

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

ว 16101 วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 120 ช่ัวโมง

********************************************************************************

ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชนข์ อง สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารทตี่ นเอง รับประทาน

บอกแนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารให้ไดส้ ารอาหารครบถ้วน ในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสม กับเพศและวยั

รวมทั้งความปลอดภยั ต่อสุขภาพ ตระหนักถงึ ความสำคัญของสารอาหารโดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมี

สารอาหารครบถ้วน ในสัดส่วนทเี่ หมาะสมกบั เพศและวัยรวมทง้ั ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ สร้างแบบจำลองระบบ

ยอ่ ยอาหารและบรรยายหน้าที่ของอวยั วะในระบบย่อยอาหาร รวมทัง้ อธิบายการย่อยอาหารและการดูดซมึ

สารอาหาร ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของระบบย่อยอาหาร โดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวยั วะ ใน

ระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ อธิบายและเปรยี บเทียบการแยกสารผสม โดยการหยิบออก การร่อน

การใช้แม่เหลก็ ดงึ ดูด การรินออก การกรองและการตกตะกอน โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ รวมทง้ั ระบวุ ิธี

แก้ปญั หาในชีวิตประจำวันเก่ียวกบั การแยกสาร อธิบายการเกดิ และผลของแรงไฟฟ้าซึ่งเกดิ จาก วตั ถุทผี่ า่ น

การขดั ถู โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ระบสุ ่วนประกอบและบรรยายหนา้ ที่ของแตล่ ะ สว่ นประกอบของ

วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยจาก หลักฐานเชิงประจกั ษ์ เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายออกแบบการ

ทดลองและทดลองดว้ ยวิธีทเี่ หมาะสมในการอธิบายวธิ กี ารและผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ตระหนัก

ถงึ ประโยชนข์ องความรู้ของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รมโดยบอกประโยชนแ์ ละการประยุกต์ใช้ใน

ชีวติ ประจำวัน ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธที ่ี เหมาะสมในการอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้า แบบ

อนุกรมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการต่อ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน

โดย บอกประโยชน์ ขอ้ จำกัดและการประยุกต์ใช้ ในชวี ิตประจำวัน อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามัวจากหลักฐาน

เชงิ ประจกั ษ์ เขยี นแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิด เงามืดเงามวั สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และ

เปรียบเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยปุ ราคาและจนั ทรปุ ราคา อธิบายพฒั นาการของเทคโนโลยีอวกาศและ

ยกตวั อยา่ งการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้เปรียบเทยี บ

กระบวนการเกิดหนิ อคั นี หินตะกอนและหนิ แปรและอธบิ ายวัฏจกั รหนิ จากแบบจำลองบรรยายและ

ยกตวั อย่างการใช้ประโยชน์ของหิน และแร่ในชีวิตประจำวันจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบาย

การเกิดซากดึกดำบรรพ์ และคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดีตของ ซากดึกดำบรรพ์เปรยี บเทียบการเกดิ ลมบก

ลมทะเล และมรสุม รวมทั้งอธิบายผลท่มี ีตอ่ สง่ิ มีชีวติ และส่ิงแวดล้อมจากแบบจำลองอธิบายผลของมรสมุ ต่อ

การเกิดฤดูของประเทศไทย จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะ

ชายฝง่ั ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิ ตระหนักถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติและ ธรณีพิบัติภยั โดยนำเสนอ

แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ตั ภิ ยั ทอี่ าจเกดิ ในท้องถ่นิ ของ

จังหวัดสระแก้ว สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกดิ ปรากฏการณ์ เรือนกระจก และผลของปรากฏการณ์เรือน

กระจกต่อสง่ิ มชี ีวติ ตระหนักถงึ ผลกระทบของปรากฏการณเ์ รือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตน

เพื่อลดกิจกรรมท่กี ่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจกใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแกป้ ัญหาท่ี

พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน ตรวจหา

ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไขใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ในการคน้ หาขอ้ มลู อย่างมี ประสิทธภิ าพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงาน

ร่วมกนั อยา่ งปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหน้าที่ของตน เคารพในสทิ ธขิ องผ้อู ืน่ แจ้งผเู้ กีย่ วข้องเมือ่ พบข้อมลู หรือบคุ คลท่ีไม่

เหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ข้อมูล
บันทกึ จัดกลุม่ ข้อมลู และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสง่ิ
ท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เหน็ คุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจติ
วิทยาศาสตร์ มคี ุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม

รหสั ตวั ชี้วัด
ว 1.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 ,ป.6/4 , ป.6/5
ว 2.1 ป.6/1
ว 2.2 ป.6/1
ว 2.3 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8
ว 3.1 ป.6/1 , ป.6/2
ว 3.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 , ป.6/9
ว 4.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4

รวมท้ังหมด 30 ตัวช้วี ัด

รายวิชาพนื้ ฐาน

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดับประถมศกึ ษา

รายวิชาพ้นื ฐาน จำนวน 80 ช่ัวโมง
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชัว่ โมง
ส 11102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 80 ชว่ั โมง
ส ๑2๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชวั่ โมง
ส 12102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 80 ชั่วโมง
ส ๑3๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชั่วโมง
ส 13102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 80 ชว่ั โมง
ส ๑4๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชั่วโมง
ส 14102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 80 ชั่วโมง
ส ๑5๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชว่ั โมง
ส 15102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 80 ชวั่ โมง
ส ๑6๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 40 ชัว่ โมง
ส 16102 ประวัติศาสตร์

คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ส 11101 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 80 ชั่วโมง

……………………………………………………………………………………………………………

ศกึ ษาค้นคว้าเกย่ี วกบั พุทธประวัติหรือประวัติของศาสดาท่ีตนนับถือโดยสังเขปข้อคิดจากประวตั ิสาวก

ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตวั อยา่ งตามที่กำหนดความหมายความสำคัญและเคารพพระรตั นตรยั ปฏิบตั ิตาม

หลักธรรมโอวาท3 ในพระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามท่ีกำหนดคุณค่าและการสวดมนต์

แผ่เมตตามสี ตทิ ี่เป็นพ้นื ฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ

ตามท่ีกำหนดบำเพญ็ ประโยชนต์ ่อวดั หรือศาสนสถานของศาสนาท่ีตนนบั ถือการแสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรอื

แสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาท่ีตนนับถือปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ีกรรมและวนั สำคญั ทางศาสนาตามท่กี ำหนด

ได้ถูกตอ้ งประโยชนแ์ ละปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของครอบครัวและโรงเรยี นยกตัวอย่างความสามารถและความดี

ของตนเองผู้อ่ืนและผลจากการกระทำนน้ั โครงสรา้ งบทบาทและหน้าที่ของสมาชกิ ในครอบครัวและโรงเรยี น

เกยี่ วกบั บทบาทสทิ ธิหน้าทข่ี องตนเองในครอบครวั และโรงเรยี นมสี ่วนร่วมในการตดั สินใจและทำกิจกรรมใน

ครอบครวั และโรงเรียนตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ความหมายและความแตกต่างของอำนาจตามบทบาท

สทิ ธิ หน้าที่ในครอบครัวและโรงเรียนของตนเองสินคา้ และบริการทใ่ี ชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวันตัวอยา่ งการใช้

จา่ ยเงินในชีวิตประจำวนั ที่ไมเ่ กนิ ตวั และเหน็ ประโยชน์ของการออมยกตัวอย่างการใช้ทรพั ยากรในชวี ิตประจำวัน

อยา่ งประหยดั เหตผุ ลความจำเป็นท่ีคนต้องทำงานอยา่ งสจุ ริตแยกแยะส่งิ ต่างๆรอบตัวทเ่ี กิดขึน้ เองตามธรรมชาติ

และทมี่ นุษย์สรา้ งขึ้นทรพั ยากรทีน่ ำมาใชใ้ นการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารท่ีใชใ้ นครอบครวั และโรงเรียน จำแนก

สง่ิ แวดล้อมรอบตัวท่เี กิดขึ้นเองตามธรรมชาติและท่มี นุษยส์ ร้างข้นึ ระบุความสัมพันธข์ องตำแหน่งระยะทิศของ

สงิ่ ตา่ งๆรอบตัวทิศ หลกั และที่ตงั้ ของส่งิ ต่างๆใชแ้ ผนผังงา่ ยๆในการแสดงตำแหน่งของส่ิงตา่ งๆในห้องเรยี น

สงั เกตการเปลีย่ นแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั บอกสิ่งแวดลอ้ มที่เกิดตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่

ของมนุษย์ สังเกตและเปรยี บเทียบการเปล่ียนแปลงของส่งิ แวดล้อมเพ่ือการปฎบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสม มีส่วนร่วม

ในการดแู ลสงิ่ แวดล้อมที่บา้ นและห้องเรียน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรกู้ ารสำรวจตรวจสอบการสบื คน้ ข้อมูลการบันทึกจัดกลมุ่ ข้อมูลการ

อภปิ รายและฝกึ ปฏิบัติเพ่ือให้เกิดความรู้ความคดิ ความเข้าใจสามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้มีความสามารถ

ในการตดั สนิ ใจเหน็ คณุ ค่าของการนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันมคี ุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด

ส1.1 ป.1/1,ป.1/2,ป.1/3,ป.1/4

ส1.2 ป.1/1,ป.1/2,ป.1/3

ส2.1 ป.1/1,ป.1/2

ส2.2 *ป.1/1,ป.1/2,ป.1/3

ส3.1 ป.1/1,ป.1/2,ป.1/3

ส3.2 ป.1/1

ส5.1 *ป.1/1,*ป.1/2,ป.1/3,ป.1/4,

ส5.2 *ป.1/1,*ป.1/2,ป.1/3

รวม 23 ตัวช้วี ัด

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………

ศึกษา วัน เดือน ปี และการนบั ชว่ งเวลาตามปฏิทนิ ทใ่ี ช้ในชวี ิตประจำวนั เรียงลำดับเหตุการณ์ใน

ชวี ติ ประจำวันตามวนั เวลาทเี่ กิดขน้ึ ประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั และเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ขึ้นใน

อดีตท่ีมีผลกระทบตอ่ ตนเองในปจั จบุ นั ความหมายและความสำคญั ของสัญลกั ษณ์สำคัญของชาติไทย และ

ปฏิบัตติ นไดถ้ ูกตอ้ ง สถานที่สำคญั ซึง่ เป็นแหลง่ วัฒนธรรมในชมุ ชน ระบุสงิ่ ที่รักและภาคภมู ใิ จในท้องถนิ่

โดยใชก้ ารรวบรวมรวมข้อมูล วเิ คราะห์ สรปุ การสืบเสาะกระบวนทางประวตั ิศาสตร์เพื่อให้เกดิ ความรู้

ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สือ่ สารสิง่ ท่ีเรียนรมู้ ีความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณคา่ ของการ

นำไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

รหสั ตัวชี้วัด
ส๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,*ป.๑/๓
ส๔.๒ *ป.๑/๑,*ป.๑/๒
ส๔.๓ ป.๑/๑,*ป.๑/๒,*ป.๑/๓
รวมทั้งหมด ๘ ตัวช้ีวัด

คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ส 12101 สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 80 ช่ัวโมง

………………………………………………………………………………………………………………..

ศกึ ษาค้นคว้าเกีย่ วกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ตี นนบั ถือสรุปพทุ ธประวัติ

ตงั้ แต่ประสูติจนถงึ การออกผนวชหรือประวตั ิศาสดาท่ตี นนับถือตามท่ีกำหนดชน่ื ชมและแบบอยา่ ง

การดำเนินชีวติ และข้อคิดจากประวตั ิสาวกชาดก/เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ีกำหนดความหมาย

ความสำคญั และเคารพพระรัตนตรัยปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท3ในพระพุทธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาที่

ตนนับถือตามท่ีกำหนดการชื่นชมการทำความดีของตนเองบคุ คลในครอบครวั และในโรงเรยี น

ตามหลักศาสนา คุณค่าและการสวดมนต์แผ่เมตตามีสตทิ ่ีเปน็ พ้ืนฐานของสมาธใิ นพระพุทธ-ศาสนาหรือการ

พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามท่ีกำหนด ช่อื ศาสนาศาสดาและความสำคญั ของคัมภรี ข์ อง

ศาสนาทตี่ นนับถือและศาสนาอ่นื ๆปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามที่กำหนดได้

ถูกต้องปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ีพธิ ีกรรมและวนั สำคญั ทางศาสนาตามท่ีกำหนดได้ถกู ต้องการปฏิบัตติ นตามข้อตกลง

กตกิ ากฎระเบียบหนา้ ทที่ ีต่ ้องปฏบิ ัติในครอบครวั โรงเรยี น สถานท่ีสาธารณะในชมุ ชนการปฏิบตั ติ นตนตาม

มารยาทไทยแสดงพฤติกรรมในการยอมรบั ความคิดความเช่ือและการปฏิบตั ิของบุคคลอืน่ ท่ีแตกตา่ งกนั โดย

ปราศจากอคตเิ คารพในสิทธิเสรภี าพของผู้อน่ื ความสัมพันธ์ของตนเองและสมาชิกในครอบครัวในฐานะเป็นส่วน

หนง่ึ ของชุมชนศึกษาบทบาทอำนาจในการตดั สนิ ใจในโรงเรียนและชุมชนศกึ ษาท่มี าของรายได้และรายจ่ายของ

ตนเองและครอบครัวการบันทกึ รายรับรายจ่ายของตนเองสรุปผลดีของการใชจ้ า่ ยท่เี หมาะสมกับรายไดแ้ ละการ

ออมการแลกเปลีย่ นสินคา้ และบริการโดยวิธีตา่ งๆความสัมพนั ธร์ ะหว่างผซู้ อื้ และผ้ขู ายระบุสิง่ ตา่ งๆทเี่ ป็น

ธรรมชาติกับที่มนุษยส์ ร้างข้นึ ซึง่ ปรากฏระหว่างโรงเรยี นกับบา้ นระบตุ ำแหน่งอยา่ งงา่ ยและลกั ษณะทางกายภาพของสิ่ง

ตา่ งๆทปี่ รากฏในลกู โลกแผนที่แผนผังและภาพถ่ายสังเกตความสมั พันธ์ของปรากฏการณ์ระหวา่ งโลก ดวงอาทิตย์

และดวงจนั ทรบ์ อกความสำคัญของส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาตทิ ี่มนษุ ยส์ ร้างขนึ้ จำแนกและใชท้ รัพยากรธรรมชาติ

ท่ใี ช้แล้วไมห่ มดไปและท่ใี ชแ้ ล้วหมดไปได้อย่างค้มุ ค่าอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของฤดูกาลกับการดำเนนิ ชีวิตของ

มนษุ ย์ มีสว่ นร่วมในการจดั การสง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น

โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมลู บนั ทึกจัดกลุ่มข้อมูลและการอภิปราย

รายวิชาและฝกึ ปฏบิ ัติเพ่ือให้เกิดความรู้ความคดิ ความเข้าใจสามารถนำเสนอสื่อสารส่งิ ท่ีเรียนรมู้ คี วามสามารถใน

การตัดสนิ ใจเห็นคุณค่าของการนำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวันมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม

รหัสตวั ชี้วดั

ส1.1 ป.2/1,ป.2/2, ป.2/3,ป.2/4,*ป.2/5, ป.2/6,ป.2/7

ส1.2 ป.2/1,ป.2/2

ส2.1 *ป.2/1,ป.2/2,ป.2/3,ป.2/4

ส2.2 *ป.2/1,ป.2/2

ส3.1 *ป.2/1,*ป.2/2,*ป.2/3,ป.2/4

ส3.2 ป.2/1,ป.2/2

ส5.1 *ป.2/1,ป.2/2,ป.2/3

ส5.2 ป.2/1,ป.2/2,ป.2/3,*ป.2/4

รวมท้ังหมด 28 ตัวชว้ี ัด

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

…………………………………………………………………………………………………………………….…………………………..

ศกึ ษา เวลาที่แสดงเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตลำดบั เหตุการณ์ที่เกิดข้นึ ในครอบครัว

หรือในชีวติ ของตนเองโดยใช้หลักฐานที่เกย่ี วข้อง สืบค้นถึงการเปล่ียนแปลง ในวถิ ีชีวติ ประจำวนั ของคนใน

ชุมชน ของตนจากอดตี ถงึ ปจั จุบนั ศึกษาผลกระทบของการเปลยี่ นแปลง ทม่ี ตี ่อวิถีชวี ติ ของคน ในชมุ ชน

บคุ คลที่ทำประโยชน์ต่อท้องถ่ินหรือประเทศชาตยิ กตัวอย่างวัฒนธรรม ประเพณี และภมู ิปัญญาไทยทภี่ าคภมู ใิ จ

และควรอนรุ ักษ์ไว้

โดยใชก้ ารรวบรวมรวมข้อมลู วเิ คราะห์ สรปุ การสบื เสาะกระบวนทางประวัติศาสตรเ์ พื่อใหเ้ กิด

ความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสงิ่ ทีเ่ รยี นรูม้ คี วามสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คุณคา่

ของการนำไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวัน มีคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม

รหัสตัวชี้วดั
ส๔/๑ ป.๒/๑,*ป.๒/๒
ส๔.๒ * ป.๒/๑,*ป.๒/๒
ส๔.๓ *ป.๒/๑,*ป.๒/๒
รวมท้ังหมด ๖ ตัวชี้วัด

คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ส 13101 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 80 ชวั่ โมง

**************************************************************************

ศึกษาค้นคว้า สำรวจ อธิบาย เกี่ยวกบั ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถอื ในฐานะทเี่ ปน็ รากฐาน

สำคัญของ วฒั นธรรมไทยพทุ ธประวัติต้งั แตก่ ารบำเพญ็ เพียรจนถงึ ปรนิ พิ พานหรือประวตั ิของศาสดาทตี่ นนบั ถือ ชน่ื ชมและ

แบบอย่างการดำเนนิ ชีวิตและขอ้ คดิ จากประวตั ิสาวกชาดก/เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ งศึกษาความสำคญั ของพระไตรปฎิ ก

หรือคัมภรี ์ของศาสนาทตี่ นนับถือ แสดงความเคารพพระรตั นตรยั และปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท3ในพระพุทธศาสนาหรอื

หลักธรรมของศาสนาทต่ี นนับถอื ตามท่กี ำหนด คุณค่าและการสวดมนต์แผเ่ มตตามีสตทิ เี่ ปน็ พ้นื ฐานของสมาธใิ น

พระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนดช่อื ความสำคัญและปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ย่าง

เหมาะสมต่อศาสนวตั ถศุ าสนสถานและศาสนบคุ คลของศาสนาอื่นๆ คณุ คา่ และการปฏิบัตติ นในศาสนพิธพี ิธีกรรมและวนั สำคญั

ทางศาสนา การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรอื แสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาท่ตี นนับถือประโยชน์และปฏิบตั ติ นตาม

ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครัวและทอ้ งถ่ินพฤตกิ รรมการดำเนนิ ชีวติ ของตนเองและผูอ้ นื่ ท่ีอยใู่ นกระแสวฒั นธรรมท่ี

หลากหลายความสำคญั ขอวนั หยดุ ราชการทสี่ ำคัญตวั อย่างบุคคลซง่ึ มีผลงานที่เปน็ ประโยชน์แกช่ มุ ชนและทอ้ งถนิ่ ของตนระบุ

บทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชกิ ของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆตามกระบวนการประชาธิปไตยความแตกตา่ งของ

กระบวนการการตดั สนิ ใจในชนั้ เรยี น/โรงเรียนและชุมชนโดยวิธกี ารออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียงตวั อย่างการ

เปลยี่ นแปลงในชัน้ เรยี น/โรงเรยี นและชมุ ชนท่ีเป็นผลจากการตัดสินใจของบคุ คลและกลุ่มจำแนกความต้องการและความจำเป็น

ในการใช้สนิ คา้ และบรกิ ารในการดำรงชวี ติ การใชจ้ ่ายของตนเองทรพั ยากรท่มี อี ยู่จำกดั มีผลต่อการผลติ และบริโภคสินคา้ และ

บรกิ ารสนิ คา้ และบรกิ ารที่รฐั จดั หาและให้บริการแก่ประชาชน ความสำคญั ของภาษแี ละบทบาทของประชาชนในการเสยี ภาษี

เหตุผลการแขง่ ขนั ทางการค้าทีม่ ผี ลทำให้ราคาสินคา้ ลดลงข้อมลู ทางภมู ศิ าสตรใ์ นโรงเรยี นและชมุ ชนโดยใชแ้ ผนผัง แผนที่ และ

รปู ถ่ายเพือ่ แสดงความสมั พันธ์ของตำแหนง่ ระยะทิศทางวาดแผนผงั เพื่อแสดงตำแหน่งท่ตี ง้ั ของสถานทีส่ ำคญั ในบรเิ วณโรงเรยี น

และชุมชน การใช้ประโยชน์จากสง่ิ แวดลอ้ ม และทรพั ยากรธรรมชาติในการสนอง ความตอ้ งการพืน้ ฐานของมนษุ ย์ และการ

ประกอบอาชีพ สาเหตทุ ีท่ ำใหเ้ กดิ มลพิษโดยมนษุ ย์ ความแตกตา่ งของลกั ษณะเมืองและชนบท ความสมั พนั ธร์ ะหว่างลักษณะ

ทางกายภาพกับการดำเนนิ ชีวติ ของคนในชุมชน มสี ว่ นรว่ มในการจดั การสง่ิ แวดล้อมในชมุ ชน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรูก้ ารสำรวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมลู บนั ทกึ จัดกลุม่ ข้อมลู และการอภิปราย

รายวชิ าฝึกปฏบิ ตั เิ พอ่ื ให้เกดิ ความรูค้ วามคดิ ความเขา้ ใจสามารถนำเสนอสือ่ สารสง่ิ ท่ีเรียนรมู้ ีความสามารถในการตดั สนิ ใจเหน็

คุณคา่ ของการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวันมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม

รหัสตัวชี้วัด

ส1.1ป.3/1,ป.3/2,ป.3/3,ป.3/4,ป.3/5,ป.3/6,ป.3/7
ส1.2ป.3/1,ป.3/2,ป.3/3
ส2.1*ป.3/1,ป.3/2,ป.3/3,*ป.3/4
ส2.2*ป.3/1,*ป.3/2,*ป.3/3
ส3.1ป.3/1,*ป.3/2,ป.3/3
ส3.2 ป.3/1,ป.3/2,ป.3/3
ส5.1ป.3/1,*ป.3/2,*
ส5.2*ป.3/1,*ป.3/2,ป.3/3,ป.3/4,*ป.3/5 ป.3/6

รวมทงั้ หมด 31ตัวชว้ี ดั

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………….….

ศึกษา ศักราชทส่ี ำคญั ตามปฏิทินทใี่ ช้ในชวี ติ ประจำวนั ลำดับเหตกุ ารณ์สำคญั ของโรงเรียนและชมุ ชน

โดยหลักฐานและแหล่งข้อมูลท่เี ก่ยี วข้องปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อการตัง้ ถ่ินฐานและพัฒนาการของชมุ ชน ลกั ษณะที่

สำคญั ของขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชน ความเหมอื นและความต่างทางวัฒนธรรมของ

ชุมชนตนเองกบั ชุมชนอ่ืน ๆ พระนามและพระราชกรณยี กิจโดยสังเขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทีเ่ ปน็ ผู้สถาปนา

อาณาจักรไทย พระราชประวตั ิและพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัตริย์ ในรัชกาลปจั จุบัน วรี กรรมของ

บรรพบรุ ษุ ไทยที่มสี ว่ นปกปอ้ งประเทศชาติ

โดยใช้การรวบรวมรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ สรปุ การสืบเสาะกระบวนทางประวตั ศิ าสตรเ์ พ่ือให้เกดิ ความรู้

ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอ่ื สารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ เหน็ คณุ คา่ ของการ

นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม

รหัสตัวช้ีวดั
ส๔.๑ ป.๓/๑,*ป.๓/๒
ส๔.๒*ป.๓/๑,*ป.๓/๒,*ป.๓/๓

ส๔.๓ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓

รวมท้ังหมด ๘ ตัวชี้วดั

คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ส 14101 สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 80 ช่ัวโมง

………………………………………………………………………………………………….............

ศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถือในฐานะเปน็ ศูนย์รวมจิตใจ

ของศาสนารวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับพทุ ธประวัติต้ังแต่บรรลธุ รรมจนถงึ ประกาศธรรมหรือประวัติศาสดาท่ตี นนับถือ

ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ประวตั สิ าวกชาดก/เรือ่ งเล่าและศาสนิกชนเพ่ือใหเ้ ห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามแบบอยา่ งในการ

ดำเนนิ ชีวิตการแสดงความเคารพพระรัตนตรัยปฏิบัติตามไตรสกิ ขาและหลกั ธรรมโอวาท3ในพระพทุ ธศาสนาหรอื

หลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถอื การช่นื ชมการทำความดีของตนเองบุคคลในครอบครวั โรงเรยี นและชมุ ชนตาม

หลกั ศาสนาพร้อมท้ังแนวปฏบิ ตั ิในการดำเนินชีวติ การปฏิบตั แิ ละคุณค่าการสวดมนต์แผ่เมตตามีสติท่เี ป็นพนื้ ฐาน

ของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถอื การปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรม

ของศาสนาทตี่ นนับถอื เพื่อการอยรู่ ่วมกันเป็นชาติไดอ้ ย่างสมานฉันท์ ประวตั ิศาสดาของศาสนาอืน่ ๆการมสี ่วน

รว่ มในการบำรงุ รักษาศาสนสถานของศาสนาทีต่ นนบั ถือการมีมรรยาทของความเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ีการฝกึ ปฏบิ ัติ

ตนในศาสนพธิ ีพธิ ีกรรมและวนั สำคัญทางศาสนา ความเป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธปิ ไตยของตนเองและผอู้ นื่

ในระดับกลุ่มสถานภาพบทบาทสิทธห์ิ นา้ ที่ในฐานะพลเมืองดีในครอบครัวโรงเรียนการปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดี

ตามวิถีประชาธปิ ไตยในฐานะสมาชกิ ท่ดี ีของชมุ ชนการเปน็ ผู้นำและผู้ตามที่ดวี เิ คราะห์สิทธพิ นื้ ฐานทเ่ี ด็กทุกคนพึง

ไดร้ บั ตามกฎหมายความแตกต่างทางวัฒนธรรมของกลุม่ คนในทอ้ งถิ่นวิธกี ารทจี่ ะอยรู่ ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุขใน

ชีวติ ประจำวันอำนาจอธปิ ไตยและความสำคญั ของระบอบประชาธิปไตยบทบาทหนา้ ท่ีของพลเมืองใน

กระบวนการเลือกต้ังความสำคญั ของสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รง

เป็นประมขุ ปัจจัยท่มี ีผลต่อการเลอื กซ้ือสินค้าและบริการสิทธิพน้ื ฐานและรกั ษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะ

ผู้บริโภคหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งและนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันของตนเองความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ ของ

คนในชมุ ชนหนา้ ทเี่ บ้ืองตน้ ของเงนิ สืบค้น อธบิ ายข้อมูลลักษณะทางกายภาพ แหลง่ ทรัพยากร สถานที่สำคัญ

ในจังหวัดสระแก้ว ด้วยแผนท่ีและรปู ภาพวิเคราะห์ อธบิ าย การเปลีย่ นแปลงสิ่งแวดล้อมทางกายภาพในจงั หวัด

และผลการเปลี่ยนแปลง นำเสนอแนวทางการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มในจงั หวดั สระแกว้

โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบการสบื ค้นขอ้ มูลบันทึกจดั กลุม่ ข้อมลู และการอภิปราย

รายวิชาฝึกปฏิบัติเพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความคดิ ความเขา้ ใจสามารถนำเสนอส่ือสารสงิ่ ท่ีเรยี นรมู้ คี วามสามารถในการตดั สนิ ใจเห็น

คุณคา่ ของการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั มคี ุณธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม

รหสั ตัวช้ีวดั

ส1.1ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4,*ป.4/5,ป.4/6,ป.4/7,ป.4/8

ส1.2ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3

ส2.1*ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4,ป.4/5

ส2.2ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3

ส3.1ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3

ส3.2ป.4/1,ป.4/2

ส5.1*ป.4/1,*ป.4/2,*ป.4/3

ส5.2*ป.4/1,*ป.4/2,*ป.4/3

รวมทัง้ หมด 30 ตัวชี้วัด

ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ อธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………

ศึกษา การนบั ชว่ ง เวลา เป็นทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ ยคุ สมยั ในการศกึ ษาประวัติของ
มนษุ ยชาติ ประเภทหลกั ฐานท่ใี ช้ในการศึกษาความเปน็ มาของทอ้ งถ่นิ การตัง้ หลกั แหลง่ และพัฒนาการของ
มนษุ ยย์ คุ ก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวตั ิศาสตรโ์ ดยสังเขปตวั อยา่ งหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ท่ีพบในท้องถิน่
ทแ่ี สดงพฒั นาการของมนุษยชาติ พัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทัยโดยสังเขป ประวัตแิ ละผลงานของบุคคล
สำคญั สมยั สโุ ขทยั ภูมิปญั ญาไทยที่สำคญั สมัยสุโขทยั ที่น่าภาคภมู ิใจ และควรค่าแกก่ ารอนรุ กั ษ์

โดยใชก้ ารรวบรวมรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ สรุป การสบื เสาะกระบวนทางประวตั ิศาสตรเ์ พื่อใหเ้ กดิ ความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอื่ สารส่ิงทเ่ี รียนรูม้ คี วามสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณคา่ ของการ
นำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม

รหัสตัวช้ีวดั
ส๔.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,*ป.๔/๓
ส๔.๒ ป.๔/๑,*ป.๔/๒
ส๔.๓ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓
รวมท้ังหมด ๘ ตัวช้ีวัด

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

ส 15101สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 80 ชั่วโมง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ศึกษาคน้ ควา้ เกย่ี วกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถือในฐานะทเ่ี ป็นมรดกทาง

วัฒนธรรมและหลักในการพฒั นาชาตไิ ทยสรปุ พุทธประวตั ิประวตั ศิ าสดาทตี่ นนับถือเหน็ คุณคา่ และการประพฤติ

ตนตามแบบอย่างการดำเนนิ ชวี ติ และข้อคิดจากประวัติสาวกองค์ประกอบและความสำคัญของพระไตรปิฎกหรอื

คัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนับถือการแสดงความเคารพพระรตั นตรัยและปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท3

ในพระพทุ ธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถือ คุณคา่ และการสวดมนต์แผ่เมตตาการมีสตทิ ี่เป็น

พนื้ ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนาเพื่อการพฒั นาตนเองและส่งิ แวดลอ้ มจดั พิธีกรรมตามศาสนาที่ตนนับถือมี

ประโยชน์และปฏิบตั ิตนถูกตอ้ งปฏิบัติตนในศาสนพธิ ีพิธีกรรมและวันสำคัญทางศาสนา การปฏบิ ัติตนตาม

สถานภาพบทบาทสิทธิเสรภี าพและหน้าท่ใี นฐานะพลเมืองดีการมีส่วนรว่ มในการอนรุ กั ษ์และเผยแพรภ่ ูมิปัญญา

ท้องถน่ิ ของชมุ ชน โครงสรา้ งอำนาจหนา้ ทแ่ี ละความสำคัญของการปกครองสว่ นท้องถิ่นและวิธีการเข้าดำรง

ตำแหนง่ ของผู้บรหิ ารท้องถน่ิ การใช้แนวคิดของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั การสำคญั และประโยชนข์ อง

สหกรณ์ บทบาทหนา้ ทเี่ บื้องต้นของธนาคาร การจำแนกผลดีและผลเสียของการก้ยู ืม ใชเ้ ครอ่ื งมือทาง

ภมู ิศาสตรไ์ ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพในภมู ภิ าคภาคตะวนั ออกดว้ ยแผนท่แี ละรปู ถ่าย อธบิ ายลกั ษณะทางกายภาพท่ี

สง่ ผลต่อทรพั ยากรและสถานทสี่ ำคัญในภมู ภิ าคและวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มทม่ี ีอิทธิพลตอ่ ลักษณะการตั้งถน่ิ ฐาน

และการยา้ ยถนิ่ ของประชากรในภูมิภาค อิทธพิ ลของสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติทกี่ ่อให้เกิดวิถีการดำเนนิ ชวี ติ ใน

ภูมิภาค ตัวอยา่ งทสี่ ะทอ้ นให้เห็นผลจากการรักษาและการทำลายสภาพแวดล้อมและการเสนอแนวทางในการ

จัดการส่งิ แวดล้อมในภมู ภิ าคภาคตะวนั ออก

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบการสืบค้นขอ้ มลู บันทกึ จัดกลุ่มข้อมูล

และการอภิปรายรายวชิ าฝกึ ปฏิบัติเพอื่ ให้เกดิ ความรู้ความคิดความเข้าใจสามารถนำเสนอส่อื สารส่งิ ท่เี รียนร้มู ี

ความสามารถในการตัดสนิ ใจเหน็ คุณค่าของการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั มีคณุ ธรรมจริยธรรมและ

ค่านิยมทีเ่ หมาะสม

รหสั ตวั ชี้วดั
ส1.1ป.5/1,ป.5/2,ป.5/3,ป.5/4,ป.5/5,ป.5/6,ป.5/7
ส1.2 ป.5/1,ป.5/2,ป.5/3
ส2.1 ป.5/1,ป.5/2,ป.5/3,*ป.5/4
ส2.2*ป.5/1,*ป.5/2,*ป.5/3
ส3.1 ป.5/1,ป.5/2,ป.5/3
ส3.2 ป.5/1,ป.5/2
ส5.1*ป.5/1,*ป.5/2,
ส5.2 *ป.5/1,*ป.5/2,*ป.5/3

รวมท้ังหมด 27 ตัวชีว้ ัด

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ศึกษาการสืบค้นความเป็นมาของทอ้ งถิน่ โดยใชห้ ลกั ฐานทหี่ ลากหลายรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่ง
ต่างๆ เพื่อตอบคำถามทางประวตั ิศาสตรอ์ ย่างมีเหตุผล ความแตกต่างระหวา่ ง ความจรงิ กบั ข้อเท็จจรงิ
เกย่ี วกับเรอื่ งราวในท้องถิ่น อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดียและจนี ทม่ี ีต่อไทย และเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
ปจั จยั ที่สง่ เสริมความเจรญิ รุ่งเรอื งทางเศรษฐกิจและการปกครองของอาณาจกั รอยธุ ยา ประวตั แิ ละผลงานของ
บคุ คลสำคญั สมัยทน่ี ่าภาคภูมิใจอธบิ ายภูมิปญั ญาไทยท่ีสำคัญสมยั อยธุ ยาและธนบุรีที่น่าภาคภูมใิ จและควรคา่ แก่
การอนรุ ักษ์ไว้
โดยใช้การรวบรวมรวมข้อมลู วเิ คราะห์ สรุป การสบื เสาะกระบวนทางประวตั ิศาสตรเ์ พื่อใหเ้ กดิ ความรู้
ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสงิ่ ท่ีเรียนรู้มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คณุ ค่าของการ
นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน มคี ณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด
ส๔.๑ *ป.๕/๑,*ป.๕/๒,*ป.๕/๓
ส๔.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒
ส๔.๓ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔
รวมท้ังหมด ๙ ตัวชี้วดั

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส 16101สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้วชิ าสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 80 ชั่วโมง

*************************************************************************************************

ศึกษาวิเคราะห์ค้นคว้า สบื คน้ อธิบาย นำเสนอ เก่ียวกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำ

ชาติหรอื ความสำคญั ของศาสนาทตี่ นนับถอื พุทธประวตั ติ ้งั แตป่ ลงอายุสงั ขารจนถงึ สังเวชนยี สถานประวตั ศิ าสดาทตี่ นนับถอื

ตามท่ีกำหนดคณุ ค่าและการประพฤตติ นตามแบบอย่างการดำเนนิ ชวี ติ และข้อคดิ จากประวตั สิ าวกชาดก/เร่อื งเล่าและศาสนิกชน

ตัวอย่างตามทก่ี ำหนดความสำคัญและเคารพพระรัตนตรัยปฏิบตั ิตามไตรสกิ ขาและหลกั ธรรมโอวาท3ในพระพุทธศาสนาหรือ

หลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนดการช่ืนชมการทำความดขี องบุคคลในประเทศตามหลักศาสนาพร้อมทัง้ แนวปฏบิ ัติ

ในการดำเนนิ ชวี ิตคุณค่าและการสวดมนต์แผ่เมตตาและบริหารจติ เจรญิ ปญั ญามสี ติทเี่ ป็นพืน้ ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนาหรือ

การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนบั ถอื การปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนาท่ตี นนับถอื เพือ่ แกป้ ญั หาอบายมขุ

และสงิ่ เสพตดิ หลักธรรมสำคัญของศาสนาอื่นๆ ลกั ษณะสำคัญของศาสนพธิ พี ธิ กี รรมของศาสนาอน่ื ๆและการปฏิบัตติ นได้อยา่ ง

เหมาะสมเมือ่ ต้องเข้าร่วมพธิ คี วามร้เู กยี่ วกบั สถานทตี่ ่างๆในศาสนสถานและปฏบิ ัตติ น การมมี รรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนท่ี

ดีตามทีก่ ำหนดประโยชน์ของการเข้ารว่ มในศาสนพธิ พี ธิ ีกรรมและกจิ กรรมในวนั สำคัญทางศาสนาและการปฏิบตั ิตนไดถ้ กู

ต้องการแสดงตนเป็นพุทธมามกะหรอื แสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทีต่ นนับถือ กฎหมายที่เก่ียวข้องกับชีวติ ประจำวันของ

ครอบครวั และชมุ ชน การเปลย่ี นแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาและธำรงรักษาวฒั นธรรมอนั ดีงามการแสดงออกถงึ มารยาทไทยได้

เหมาะสมถกู กาลเทศะคณุ ค่าทางวฒั นธรรมทแ่ี ตกต่างกนั ระหวา่ งกลมุ่ คนในสังคมไทยข้อมลู ขา่ วสารเหตกุ ารณต์ ่างๆใน

ชีวิตประจำวันการเลอื กรับและใช้ขอ้ มลู ข่าวสารในการเรียนร้บู ทบาทหน้าทข่ี ององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ และรฐั บาลการมสี ว่ น

ร่วมในกิจกรรมตา่ งๆทสี่ ่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในท้องถิ่นและประเทศบทบาทความสำคญั ในการใชส้ ิทธอิ อกเสียงเลือกต้ังตาม

ระบอบประชาธิปไตยบทบาทของผผู้ ลติ ผบู้ ริโภคที่มคี วามรับผดิ ชอบรูเ้ ทา่ ทนั วธิ แี ละประโยชน์ของการใช้ทรพั ยากรอย่างยัง่ ยนื

ความสัมพันธร์ ะหว่างผผู้ ลิตผู้บรโิ ภคธนาคารและรัฐบาลตัวอยา่ งการรวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ ภายในทอ้ งถิน่ ขอ้ มลู ลกั ษณะทาง

กายภาพของประเทศไทย ดว้ ยแผนทร่ี ปู ถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม ความสัมพันธ์ระหวา่ งลักษณะทางกายภาพกบั

ภัยพิบตั ใิ นประเทศไทยเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั มอื ภัยพิบัติปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับลกั ษณะกจิ กรรมทาง

เศรษฐกจิ และสงั คมในประเทศไทย ระหว่างมนษุ ยก์ บั ส่ิงแวดล้อม การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของประเทศไทยในอดตี กบั

ปัจจบุ ัน และผลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการเปลีย่ นแปลงตัวอย่างท่ีสะท้อนใหเ้ หน็ ผลจากการรกั ษาและทำลายทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม

และเสนอแนวทางในการจดั การทีย่ ่งั ยนื ในประเทศไทย

โดยใช้กระบวนการการสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบการสบื คน้ ขอ้ มลู บนั ทึกจัดกลมุ่ ขอ้ มลู และอภปิ ราย

และฝึกปฏบิ ัตเิ พอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความคดิ ความเข้าใจสามารถนำเสนอส่ือสารส่งิ ทเี่ รยี นรูม้ ีความสามารถในการตัดสินใจเหน็ คณุ คา่

ของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวันมจี ติ สงั คมคุณธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

รหัสตัวชี้วัด
ส1.1ป.6/1,ป.6/2,ป.6/3,ป.6/4,ป.6/5,ป.6/6,ป.6/7,ป.6/8,ป.6/9
ส1.2ป.6/1,ป.6/2,ป.6/3,ป.6/4
ส2.1ป.6/1,ป.6/2,ป.6/3,ป.6/4,ป.6/5
ส2.2*ป.6/1,*ป.6/2,ป.6/3
ส3.1ป.6/1,ป.6/2,ป.6/3
ส3.2ป.6/1,*ป.6/2
ส5.1ป.6/1,ป.6/2
ส5.2ป.6/1,ป.6/2,*ป.6/3

รวมทงั้ หมด 31 ตวั ชี้วดั

คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

ศกึ ษาอธบิ ายความสำคัญของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรือ่ งราวทางประวตั ิศาสตรอ์ ยา่ ง
ง่าย ๆ นำเสนอข้อมลู จากหลักฐานท่ีหลากหลาย ในการทำความเข้าใจเร่ืองราว ในอดีต อธิบายสภาพสังคม
เศรษฐกจิ และการเมืองของประเทศเพื่อนบา้ นในปจั จบุ นั บอกความสัมพันธข์ องกล่มุ อาเซยี นโดยสงั เขปอธิบาย
พัฒนาการของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ โดยสงั เขป อธบิ ายปัจจยั ที่สง่ เสริมความเจริญรุ่งเรือง
ทางเศรษฐกิจและการปกครองของไทยสมยั รัตนโกสินทร์ยกตวั อย่างผลงานของบคุ คลสำคญั ดา้ นตา่ ง ๆ สมยั

รัตนโกสนิ ทร์ อธบิ ายภูมปิ ัญญาไทยท่สี ำคัญสมัยรัตนโกสินทร์ทนี่ ่าภาคภมู ิใจและควรค่าแก่การอนรุ ักษ์ไว้
โดยใชก้ ารรวบรวมรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ สรปุ การสบื เสาะกระบวนทางประวัติศาสตร์เพ่ือให้เกดิ ความรู้

ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอ่ื สารส่ิงทีเ่ รียนรู้มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เหน็ คุณคา่ ของการ
นำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม

รหัสตัวชี้วัด
ส๔.๑ *ป.๖/๑,ป. ๖/๒
ส๔.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒
ส๔.๓ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔
รวมท้ังหมด ๘ ตัวชวี้ ดั

รายวิชาพน้ื ฐาน

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา
ระดบั ประถมศึกษา

รายวิชาพน้ื ฐาน จำนวน 40 ชั่วโมง
พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา จำนวน 40 ชว่ั โมง
พ ๑2๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา จำนวน 40 ชั่วโมง
พ ๑3๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา จำนวน 80 ช่วั โมง
พ ๑4๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา จำนวน 80 ชว่ั โมง
พ ๑5๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา จำนวน 80 ชั่วโมง
พ ๑6๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน

พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา 4๐ ช่วั โมง

……………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ศึกษา ลักษณะหนา้ ท่ีและการดแู ลอวยั วะภายนอก อวยั วะภายในช่องปาก สมาชกิ และครอบครัว

ความผูกพนั ของสมาชิกในครอบครัว สิ่งท่ีช่ืนชอบและความภาคภูมิใจในตนเอง ลกั ษณะความแตกต่างของเพศ

ชายและเพศหญิง ธรรมชาตขิ องการเคล่ือนไหวรา่ งกายในชวี ติ ประจำวนั การออกกำลงั กายและเล่นเกม

เบด็ เตล็ด กฎ กตกิ า ข้อตกลงในการเลน่ เกมเบ็ดเตลด็ การปฏบิ ัตติ นตามหลักสุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ ลักษณะ

อาการเจ็บป่วยทเี่ กดิ ข้นึ กบั ตนเอง สิ่งท่ีทำใหเ้ กิดอันตรายและการป้องกันภายในบ้านและโรงเรยี น อนั ตรายจาก

การเลน่ การขอความชว่ ยเหลือเม่ือเกิดเหตุร้ายที่บ้านและโรงเรยี น

โดยการรวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ เลือก ปฏิบตั ิ ฝึกการเคลอื่ นไหวและใชอ้ ุปกรณเ์ ล่นเกมและรว่ ม

กิจกรรมตาม กฎ กตกิ า ข้อตกลง คำแนะนำ เพื่อให้มีความรูค้ วามเข้าใจมีทักษะการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรม

ทางกาย เห็นคุณค่าของตนเอง ครอบครวั และความแตกตา่ งระหว่างเพศ

รหัสตวั ชี้วดั

พ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒

พ๒.๑ *ป.๑/๑,*ป.๑/๒,ป.๑/๓

พ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒

พ๓.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒

พ๔.๑ ป.๑/๑,*ป.๑/๒,*ป.๑/๓

พ๕.๑ *ป.๑/๑,ป.๑/๒,*ป.๑/๓

รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวชว้ี ดั

คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน

พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา 4๐ ชั่วโมง

………………………………………………………………..…………………………………………….………………………………….

ศกึ ษาลักษณะหนา้ ท่ีและการดแู ลรักษาอวัยวะภายใน ธรรมชาตขิ องชวี ิตมนุษย์ต้ังแต่เกิดจน

ตาย บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในครอบครวั ความสำคญั ของเพ่ือน พฤติกรรมท่ีเหมาะสมกบั เพศและ

ความภาคภมู ใิ จในเพศ ลักษณะและวิธกี ารของการเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบอยู่กับท่ี การเล่นเกมเบด็ เตล็ด

และเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกาย ท่ีวิธีเลน่ อาศัยการเคล่ือนไหวเบอ้ื งต้น ท้งั แบบอยู่กบั ทแี่ ละใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ

การออกกำลังกายและเล่นเกมเบ็ดเตล็ด ประโยชนข์ องการออกกำลงั กายและการเล่นเกม กฎ กตกิ า ขอ้ ตกลง

ในการเลน่ เกมเป็นกลุม่ ลักษณะของการมีสุขภาพดี การเลือกรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ของใช้และของ

เล่นท่ีมผี ลเสียตอ่ สขุ ภาพ อาการและวิธปี อ้ งกนั การเจ็บปว่ ยและการบาดเจบ็ วิธีปฏิบตั ติ นเม่อื เจ็บปว่ ยและ

บาดเจ็บ การปอ้ งกนั อบุ ัตเิ หตุทางนำ้ และทางบก ยาสามัญประจำบ้านและการใช้ยาตามความจำเป็น และ

ลักษณะอาการ สารเสพตดิ และสารอนั ตรายใกล้ตวั โทษและวิธีการปอ้ งกัน สารเสพตดิ และสารอันตรายใกล้

ตวั สัญลกั ษณแ์ ละป้ายเตอื นของสง่ิ ของ หรือสถานที่ ทเ่ี ป็นอนั ตราย อัคคภี ยั สาเหตแุ ละอันตราย การเกดิ

อคั คภี ยั การหนีไฟและการป้องกันอัคคีภยั

โดยการรวบรวมข้อมลู วิเคราะห์ เลือก ปฏิบตั ิ ฝกึ การเคล่อื นไหวและใชอ้ ุปกรณใ์ นการเล่นเกม กฎ

กติกา ข้อตกลง คำแนะนำ เพอื่ ให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการเคลอื่ นไหว และการรับประทานอาหารท่ี

มปี ระโยชน์ เหน็ คุณคา่ ของบทบาทหนา้ ท่ีของตนเองและสมาชกิ ในครอบครัว ภาคภมู ใิ จ

ในเพศหญิงหรือเพศชาย

รหสั ตวั ช้ีวดั

พ๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓

พ๒.๑ *ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔

พ๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒

พ๓.๒ ป.๒/๑,ป.๒/๒

พ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕

พ๕.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕

รวมท้ังหมด ๒๑ ตัวช้วี ัด

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

พ ๑3๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา 4๐ ชัว่ โมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ศึกษา ลกั ษณะการเจรญิ เติบโตของรา่ งกายมนุษย์ ท่มี ีความแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะบุคคล เกณฑ์

มาตรฐานการเจริญเติบโตของเด็กไทย และปัจจัยที่มผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โต ความสำคัญของครอบครัว ความ

แตกต่างของครอบครัว วิธีการสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั และกลุ่มเพ่ือน พฤตกิ รรมทีน่ ำไปสู่ การถูกล่วง

ละเมดิ ทางเพศ และวธิ ีการหลีกเลย่ี งพฤติกรรม การเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบอยู่กับที่ วธิ กี ารควบคมุ การ

เคล่ือนไหวร่างกายแบบต่าง ๆ อยา่ งมที ิศทาง กจิ กรรมทางกายท่ีใช้ทักษะการเคล่อื นไหวแบบบังคับทิศทางใน

การเลน่ เกมเบ็ดเตลด็ แนวทางการเลอื กออกกำลังกาย การละเล่นพื้นเมือง และเล่นเกมทเ่ี หมาะสมกบั จุดเด่น

จดุ ด้อย และข้อจำกัดของแต่ละบคุ คล การออกกำลังกาย เกม และการละเล่นพื้นเมอื งตาม กฎ กตกิ า และ

ข้อตกลง การติดต่อและวิธีการบังคบั การแพร่กระจายของโรค การจำแนกอาหารหลัก ๕ หมู่ การเลอื กกนิ

อาหารที่เหมาะสม และแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอย่างถูกวิธี รวมกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ

วิธีปฏบิ ัตติ นเพ่อื ความปลอดภัยจากอุบตั ิเหตุตา่ ง ๆ ในบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง การขอความช่วยเหลอื

จากบุคคลและแหล่งต่าง ๆ เมอ่ื เกิดเหตุรา้ ยหรืออบุ ตั เิ หตุ การบาดเจบ็ จากการเล่น และวิธปี ฐมพยาบาล เมื่อ

บาดเจ็บจากการเลน่

โดยการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ เลือก ปฏิบตั ิ การเคล่ือนไหวรา่ งกายอยู่กับที่และการเคล่อื นไหว

รา่ งกายอย่างมีทศิ ทาง ในการเล่นเกมและการละเลน่ พ้ืนเมือง ปฏิบตั ิตาม กฎ กตกิ า และข้อตกลงเพื่อใหม้ ี

ความรูค้ วามเข้าใจและมที ักษะในการแปรงฟันใหส้ ะอาด การใชย้ าสามัญประจำบ้าน ความปลอดภัยจาก

อุบตั เิ หตุในบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง ขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุรา้ ย หรืออุบัตเิ หตุ วิธีปฐม

พยาบาลเมื่อได้รบั บาดเจบ็ จากการเลน่ เหน็ คุณค่าความสำคญั ของครอบครวั ความแตกตา่ งแตล่ ะครอบครวั

สร้างสัมพันธภาพในครอบครัวและกลุม่ เพื่อน การเลือกกินอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพ

ทางร่างกาย

รหสั ตัวชี้วดั

พ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓

พ๒.๑ *ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓

พ๓.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒

พ๓.๒ *ป.๓/๑,*ป.๓/๒

พ๔.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕

พ๕.๑ * ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓

รวมท้ังหมด ๑๘ ตัวชวี้ ัด

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

...................................................................................................................................................................

ศึกษาการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของรา่ งกายและจติ ใจตามวยั ความสำคญั วิธีดูแลรักษา

กล้ามเน้อื กระดูกและข้อให้ทำงานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ คุณลกั ษณะของความเป็นเพื่อนและสมาชกิ ที่ดีของ

ครอบครวั พฤติกรรมทีเ่ หมาะสมกับเพศของตนตามวัฒนธรรมไทย วธิ ีการปฏิเสธการกระทำท่เี ป็นอนั ตราย

และไม่เหมาะสมในเร่ืองเพศ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสงิ่ แวดลอ้ มกบั สุขภาพ การจัดสิ่งแวดลอ้ มท่ถี ูกสขุ ลกั ษณะ

และเอ้ือต่อสุขภาพ สภาวะอารมณ์และความรูส้ ึก รวมท้งั ผลที่มตี อ่ สุขภาพทางบวก ทางลบ ข้อมลู บนฉลาก

อาหารและผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ ความสำคญั ของการใช้ยา หลักการใชย้ า วิธีปฐมพยาบาล ผลเสียของการสูบ

บุหรี่ การดม่ื สรุ า และการป้องกนั การเคล่ือนไหวร่างกายแบบผสมผสานท้งั แบบอยู่กับที่แบบเคลื่อนท่ี และ

แบบใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ การบรหิ ารท่ามือเปลา่ เกมเลียนแบบและกจิ กรรมแบบผลัด กฬี าพ้นื ฐาน การออก

กำลงั กาย เลน่ เกมและคุณค่าการออกกำลงั กาย การปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา การเล่นกีฬาพ้ืนฐาน การทดสอบ

และการปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย

โดยการรวบรวมข้อมูลวเิ คราะห์ แสดง ควบคุมตนเองเม่อื ใช้ทักษะ การเคลื่อนไหว ฝกึ ปฏบิ ัติ ออก

กำลังกาย เล่นและปฏบิ ัติ ทดสอบและปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะการ

เคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา มีวนิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า เหน็ คุณค่าของตนเอง

ครอบครัว เพศศึกษา และการออกกำลงั กาย

รหัสตวั ช้ีวดั
พ๑.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓
พ๒.๑ *ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓
พ๓.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป. ๔/๔
พ๓.๒ ป.๔/๑,ป.๔/๒
พ๔.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔
พ๕.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓
รวมทั้งหมด ๑๙ ตวั ชี้วัด

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน

พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง

...............................................................................................................................................................

ศกึ ษาความสำคัญ วิธีดแู ลรักษา ระบบยอ่ ยอาหารและระบบขบั ถา่ ยการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ

การเปลย่ี นแปลงทางเพศ การดแู ลตนเองและการวางตัวทเ่ี หมาะสมกับเพศ ลักษณะครอบครัวท่ีอบอุ่นตาม

วฒั นธรรมไทย พฤติกรรมที่พึงประสงค์ และไมพ่ ึงประสงค์ในการแก้ปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัว หลกั การ

และกิจกรรมนันทนาการ หลักการและรปู แบบการออกกำลังกาย ความสำคญั ของการปฏบิ ตั ติ นตามสุขบัญญัติ

แหง่ ชาติ แหลง่ และวธิ ีค้นหา การใช้ข้อมลู ขา่ วสารในการเสริมสร้างสุขภาพ ตัดสินใจ เลอื กซื้ออาหารและ

ผลติ ภณั ฑ์สขุ ภาพ ปจั จัยทม่ี ีอิทธพิ ลต่อการใชส้ ารเสพติด ผลกระทบของการใชย้ าและสารเสพติดทม่ี ีตอ่ รา่ งกาย

จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปญั ญา การจดั รปู แบบการเคลอื่ นไหวร่างกายแบบผสมผสาน และการปฏบิ ตั ิ

กิจกรรมทางกายทั้งแบบอยู่กับที่ เคลื่อนทแี่ ละใช้อุปกรณ์ประกอบตามที่กำหนด เกมนำไปลกู่ ีฬาและกิจกรรม

แบบผลัด การเคลอื่ นไหวในเรือ่ งการับแรง การใชแ้ รงและความสมดุลทักษะกลไกท่ีสง่ ผลตอ่ การปฏบิ ัติกจิ กรรม

ทางกายและเล่นกีฬา การออกกำลงั กายและการเลน่ เกม การเลน่ กฬี าไทยและกฬี าสากลประเภทบุคคลและทีม

ทีเ่ หมาะสมกับวัย ปฏิบัตติ นในการปอ้ งกนั โรคที่พบบ่อยในชวี ิตประจำวัน ทดสอบ ปรับปรงุ สมรรถภาพทาง

กาย

โดยการรวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ แสดง ควบคมุ ตนเองเมื่อใช้ทกั ษะการเคลื่อนไหว ฝึกปฏบิ ตั ิ ออก

กำลังกาย เล่นและปฏิบตั ิ ทดสอบและปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกาย เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะการ

เคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬาไทยและสากล มวี นิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีน้ำใจ

นกั กฬี า มจี ติ วิญญาณในการแข่งขนั และช่นื ชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา เหน็ คุณคา่ ของตนเอง ครอบครวั

เพศศึกษา และการออกกำลงั กายและการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั

รหัสตัวช้ีวดั

พ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒

พ๒.๑ ป.๕/๑,*ป.๕/๒ ,* ป.๕/๓

พ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖

พ๓.๒ *ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔

พ๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕

พ๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕

รวมท้ังหมด ๒๕ ตัวช้ีวัด

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา

ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

..................................................................................................................................................................

ศกึ ษาความสำคัญ วธิ ดี ูแลรักษา ระบบสบื พันธุ์ ระบบไหลเวยี นโลหิต และระบบหายใจ

ความสำคญั ของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกบั ผู้อนื่ พฤติกรรมเสย่ี งท่นี ำไปสู่การมเี พศสมั พันธ์ การติด

เอดส์ การตั้งครรภ์กอ่ นวัยอนั ควร ประโยชนแ์ ละหลกั การออกกำลงั กายเพ่ือสขุ ภาพ ความสำคัญ ปัญหา การ

ปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ โรคตดิ ตอ่ ผลกระทบท่ีเกดิ จากการระบาดและการป้องกัน

การระบาดของโรค ภยั ธรรมชาติ การปฏบิ ตั ติ นเพื่อความปลอดภัยจากภยั สาเหตุและทักษะการสื่อสารให้

ผูอ้ ่นื หลีกเล่ยี งสารเสพตดิ การเคลอ่ื นไหวรว่ มกบั ผู้อื่นแบบผลดั ในลักษณะผสมผสานในการร่วมกิจกรรมทางกาย

การเคล่อื นไหวในเร่อื งการรับแรง การใช้แรงและความสมดลุ กับการพัฒนาทักษะ การเคลอื่ นไหวในการเล่นเกม

และกีฬา การเล่นกีฬาไทย กฬี าสากล ทดสอบ สร้างเสรมิ และปรับปรงุ สมรรถภาพทางกาย

โดยการรวบรวมข้อมลู วเิ คราะห์ แสดง ควบคุมตนเองเม่ือใชท้ ักษะ การเคลอื่ นไหว ฝกึ ปฏิบตั ิ

ออกกำลงั กาย เล่นและปฏิบัติ ทดสอบและปรับปรงุ สมรรถภาพทางกาย เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ มี

ทกั ษะการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี าไทยและสากล มีวนิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา

มีนำ้ ใจนักกฬี า มจี ติ วญิ ญาณในการแข่งขัน และชนื่ ชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา เห็นคณุ ค่าของตนเอง

ครอบครัว เพศศึกษา และ การออกกำลงั กายและการนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั

รหสั ตวั ชี้วัด
พ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
พ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
พ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕
พ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖
พ๔.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔
พ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓
รวม ๒๒ ตวั ช้วี ดั

รายวิชาพื้นฐาน รายวิชาพน้ื ฐาน
ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ
ศ ๑2๑๐๑ ศลิ ปะ กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ
ศ ๑3๑๐๑ ศลิ ปะ ระดบั ประถมศึกษา
ศ ๑4๑๐๑ ศลิ ปะ
ศ ๑5๑๐๑ ศิลปะ จำนวน 40 ช่ัวโมง
ศ ๑6๑๐๑ ศลิ ปะ จำนวน 40 ชั่วโมง
จำนวน 40 ชัว่ โมง
จำนวน 80 ช่วั โมง
จำนวน 80 ชั่วโมง
จำนวน 80 ชั่วโมง

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา 4๐ ชั่วโมง

............................................................................................................................. ....................................

บอกความรสู้ กึ ที่มีตอ่ ธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมรอบตวั ความเกย่ี วขอ้ งของเพลงท่ีใช้ในชีวติ ประจำวนั

ส่งิ ทต่ี นเองชอบ จากการดหู รือร่วมการแสดงในการแสดงนาฏศิลป์ ระบงุ านทัศนศิลปใ์ นชีวติ ประจำวนั ส่งิ ท่ี

ชน่ื ชอบในดนตรที ้องถน่ิ และเล่นการละเล่นของเด็กไทย อภิปรายเกีย่ วกับรปู รา่ ง ลักษณะและขนาดของสิ่งตา่ ง

ๆ รอบตัวในธรรมชาตแิ ละสงิ่ ทมี่ นษุ ย์สรา้ งข้นึ ใช้วสั ดุอปุ กรณ์สร้างงานทศั นศลิ ป์ สรา้ งงานทศั นศิลป์โดยการ

ทดลองใช้สดี ้วยเทคนิคงา่ ย ๆ วาดภาพระบายสภี าพธรรมชาตติ ามความร้สู ึกของตนเอง รู้ว่าสงิ่ ต่าง ๆ สามารถ

กอ่ กำเนดิ เสยี งท่ีแตกต่างกนั ทอ่ งบทกลอน ร้องเพลงง่าย ๆ มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมดนตรีอยา่ งสนุกสนาน เล่า

ถึงเพลงในทอ้ งถนิ่ เลียนแบบการเคลอ่ื นไหวต่างๆ แสดงท่าทางง่าย ๆ เพือ่ ส่ือความหมายแทนคำพูด

โดยใชก้ ระบวนการทางศลิ ปะ การวิเคราะห์ การอภิปราย การทดลอง ฝกึ ปฏิบตั ิจรงิ เพ่ือให้มคี วามรู้

ความเข้าใจ มีทกั ษะพื้นฐานในงานทศั นศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์และมจี นิ ตนาการ

ทางศลิ ปะ

รหัสตัวชี้วดั

ศ๑.๑ *ป.๑/๑, *ป.๑/๒, ป.๑/๓, *ป.๑/๔, ป.๑/๕

ศ๑.๒ ป.๑/๑

ศ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

ศ๒.๒ *ป.๑/๑, *ป.๑/๒

ศ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

ศ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒

รวมท้ังหมด ๑๘ ตัวชีว้ ัด

คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน

ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

...................................................................................................................................................................

บอกความสำคัญของงานทัศนศิลปท์ พ่ี บเหน็ ในชวี ิตประจำวนั เพลงทไี่ ด้ยนิ ความสัมพนั ธ์ของเสียงรอ้ ง

เสยี งเครอ่ื งดนตรีในเพลงทอ้ งถ่ินโดยใชค้ ำง่าย ๆ เลือกงานทัศนศิลป์ และบรรยายถึงส่ิงทม่ี องเหน็ รวมถงึ

เน้ือหาเรือ่ งราวอภิปรายเก่ียวกับงานทัศนศิลปป์ ระเภทตา่ ง ๆ ในท้องถิน่ โดยเนน้ ถงึ วิธกี ารสร้างงานและวัสดุ

อปุ กรณ์ท่ใี ช้ บรรยายรปู รา่ ง รปู ทรงทพ่ี บในธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ระบุทัศนธาตทุ ่ีอยู่ในสิง่ แวดล้อมและงาน

ทัศนศลิ ป์ โดยเน้นเรอื่ งเส้นสี รูปร่าง และรปู ทรง มารยาทในการชมการแสดง สิง่ ท่ชี ่นื ชอบและภาคภูมิใจใน

การละเล่นพื้นบ้าน สร้างงานทศั นศลิ ปต์ ่าง ๆ โดยใช้ทัศนธาตทุ เ่ี นน้ เส้น รูปร่าง ภาพปะตดิ โดยการตดั หรือฉีก

รปู แบบงานโครงสร้างเคล่ือนไหว มีทักษะพ้ืนฐานในการใช้วสั ดุอปุ กรณ์ สร้างงานทัศนศิลป์ ๓ มิตวิ าดภาพเพื่อ

ถ่ายทอดเรอ่ื งราวเกี่ยวกับครอบครัวของตนเองและเพอื่ นบ้าน จำแนกแหลง่ กำเนิด ของเสยี งที่ไดย้ นิ

คณุ สมบัติของเสยี ง สงู - ตำ่ , ดงั -เบา ยาว-สน้ั ของดนตรี เคาะจงั หวะหรือเคลื่อนไหวรา่ งกายใหส้ อดคล้องกบั

เนื้อหาของเพลง สะทอ้ นอารมณข์ องตนเองอย่างอสิ ระ เคล่อื นไหวขณะอยูก่ ับทแี่ ละเคลอ่ื นที่ ท่าทาง เพื่อสื่อ

ความหมายแทนคำพดู ท่าทางประกอบจังหวะอย่างสร้างสรรค์ ร้องเพลงง่าย ๆ ที่เหมาะสมกับวยั แสดงและ

เข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรใี นทอ้ งถิ่น เชือ่ มโยงสงิ่ ทพ่ี บเห็นในการละเลน่ พ้นื บ้านกับสิง่ ที่พบเห็นในการ

ดำรงชวี ิตของคนไทย

โดยใช้กระบวนการทางศิลปะ การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การทดลอง ฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริงเพ่อื ให้มีความรู้

ความเขา้ ใจ มีทักษะพ้ืนฐานในงานทัศนศลิ ป์ ดนตรีและนาฏศลิ ป์ มีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละมจี นิ ตนาการ

ทางศิลปะ

รหสั ตัวชี้วัด

ศ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, *ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘

ศ๑.๒ ป.๒/๑, *ป.๒/๒

ศ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕

ศ๒.๒ *ป.๒/๑, *ป.๒/๒

ศ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕

ศ๓.๒ *ป.๒/๑, ป.๒/๒, *ป.๒/๓

รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวช้ีวัด

คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา 4๐ ชั่วโมง

...................................................................................................................................................................
บอกบทบาทหนา้ ท่ขี องเพลงที่ไดย้ นิ ประโยชน์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ในชวี ติ ประจำวนั บรรยาย รปู ร่าง

รูปทรงในธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ ม และงานทศั นศลิ ป์ ด้วยสีเทียน ดนิ สอสี และสโี ปสเตอร์ เหตุผลและวิธีการใน
การสร้างงานทัศนศลิ ปโ์ ดยเน้นถงึ เทคนิคและวสั ดุอุปกรณ์ ลักษณะรปู ร่าง รูปทรงในงานการออกแบบสง่ิ ต่างๆที่
มใี นบ้านและโรงเรียนระบวุ ัสดุ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้สร้างผลงานเม่ือชมงานทัศนศลิ ปส์ ิง่ ทชี่ นื่ ชมและสิง่ ท่คี วรปรบั ปรงุ ใน
งานทศั นศลิ ป์ของตนเอง และจัดกลุม่ ของภาพตามทศั นธาตุท่ีเน้นในงานทัศนศลิ ปน์ ัน้ ๆ รูปรา่ งลักษณะของ
เคร่ืองดนตรีทเ่ี หน็ และได้ยนิ ในชีวิตประจำวนั ลักษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ของดนตรีในท้องถนิ่ และการแสดง
นาฏศิลป์ ความสำคัญและประโยชนข์ องดนตรตี ่อการดำเนินชวี ิตของคนในทอ้ งถิน่ จำแนกทศั นธาตุของสงิ่ ต่างๆ
ในธรรมชาตสิ งิ่ แวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป์โดยเน้นเรื่อง เส้น สี รปู ร่าง รปู ทรงและพนื้ ผวิ วาดภาพ ระบายสี
สิง่ ของรอบตัว ถา่ ยทอดความคดิ ความรู้สกึ จากเหตกุ ารณช์ ีวติ จริงโดยใช้เส้นรปู ร่าง รปู ทรง สีและพื้นผวิ มที กั ษะ
พ้ืนฐานในการใชว้ สั ดุอุปกรณ์สร้างสรรค์งานป้นั เลา่ ถงึ ที่มาของงานทศั นศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน การแสดงนาฏศลิ ปท์ เ่ี คย
เหน็ ในท้องถน่ิ อธิบายเกีย่ วกับวัสดุอุปกรณ์และวิธีการสร้างงานทศั นศลิ ปใ์ นท้องถิน่ ความสำคัญของการแสดง
นาฏศลิ ป์ ใชร้ ูปภาพหรือสัญลักษณ์แทนเสยี งและจงั หวะเคาะ ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรงี ่ายๆ เคล่อื นไหวท่าทาง
สอดคลอ้ งกบั อารมณข์ องเพลงทีฟ่ งั แสดงควาคิดเหน็ เกีย่ วกบั เสียงดนตรีเสียงขบั ร้องของตนเองและผ้อู ืน่ นำ
ดนตรไี ปใชใ้ นชวี ิตประจำวันหรือโอกาสต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม สรา้ งสรรคก์ ารเคลื่อนไหวในรปู แบบต่างๆ ใน
สถานการณ์ส้ันๆ แสดงทา่ ทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์ เปรยี บเทียบบทบาทหนา้ ทขี่ องผูแ้ สดงและ
ผูช้ ม มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการแสดงทีเ่ หมาะสมกบั วยั

โดยใช้กระบวนการทางศิลปะ การวิเคราะห์ การอภิปราย การทดลอง ฝกึ ปฏิบตั ิจริงเพอื่ ให้มคี วามรู้
ความเขา้ ใจ มีทักษะพนื้ ฐานในงานทศั นศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ มคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละมจี ินตนาการ
ทางศิลปะ

รหสั ตัวช้ีวัด
ศ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, *ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, *ป.๓/๑๐
ศ ๑.๒ *ป.๓/๑, *ป.๓/๒
ศ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗
ศ ๒.๒ *ป.๓/๑, *ป.๓/๒
ศ ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕
ศ ๓.๒ *ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
รวม ท้งั หมด ๒๙ ตัวชี้วัด

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

…………………………………………………………………………………………………………………………….………………….

ศึกษาวเิ คราะหเ์ กี่ยวกับ เสน้ สี พ้นื ผวิ พน้ื ที่วา่ ง รูปร่าง และรปู ทรง ในธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม ความ
เหมือนและความแตกต่างในงานทศั นศลิ ป์ การใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการสรา้ งงาน พมิ พ์ภาพ การวาดภาพระบายสี
การจดั ระยะความลึก น้ำหนกั และแสงเงา ในการวาดภาพ เทคนคิ การใช้สวี รรณะอุ่น และสีวรรณะเยน็ รวมทงั้
งานทศั นศลิ ปต์ ามวฒั นธรรมของท้องถน่ิ ต่าง ๆ โครงสร้างของบทเพลง ประเภทและเสียงของเครอ่ื งดนตรีแตล่ ะ
ประเภท ทำนอง รปู แบบจงั หวะ เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี การขับร้องเพลง ความหมายของบทเพลง
การใช้และดูแลรกั ษาเคร่อื งดนตรอี ย่างถูกต้องและปลอดภัย ความสัมพันธข์ องวิถีชวี ติ กับผลงานดนตรี
ความสำคญั และความจำเปน็ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมทางดนตรี หลักและวธิ กี ารปฏบิ ัตนิ าฏศิลป์ การใช้ภาษาท่า
และนาฏยศพั ท์ การประดิษฐ์ท่าทา่ หรือทา่ รำในการละคร การแสดงนาฎศิลปป์ ระเภทคู่และหมู่ ความเปน็ มา
ของนาฏศลิ ป์ คุณคา่ ของนาฎศิลป์

โดยใช้กระบวนการทางศิลปะ การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การทดลอง ฝึกปฏิบัตจิ รงิ เพอื่ ให้มีความรู้
ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานในงานทศั นศลิ ป์ ดนตรีและนาฏศลิ ป์ มคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์และมจี นิ ตนาการ
ทางศลิ ปะ

รหัสตวั ช้ีวดั
ศ๑.๑ ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖, ป. ๔/๗, ป. ๔/๘ , ป.๔/๙
ศ๑.๒ *ป. ๔/๑, ป. ๔/๒
ศ๒.๑ *ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖, ป. ๔/๗
ศ๒.๒ *ป. ๔/๑, ป. ๔/๒
ศ๓.๑ ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕
ศ๓.๒ ป. ๔/๑, *ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔
รวมทั้งหมด ๒๙ ตัวชี้วัด

คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ศึกษา วเิ คราะห์ จงั หวะ ตำแหน่งของส่ิงต่าง ๆ ในส่ิงแวดลอ้ มและงานทัศนศลิ ป์ ความแตกต่าง

ระหวา่ งงานทัศนศิลป์ แสงเงา น้ำหนกั และวรรณะสี การสร้างงานปัน้ เพื่อถ่ายทอด จินตนาการดว้ ยการใชด้ ิน

นำ้ มนั หรอื ดินเหนียว การจัดภาพในงานพิมพ์ภาพ การจัดองค์ประกอบศลิ ป์และการสื่อความหมายในงาน

ทศั นศิลป์ ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ ประโยชน์และคณุ ค่าของงาน ทัศนศิลป์ งานทศั นศิลป์ทีส่ ะท้อน

วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ การส่ืออารมณ์ของบทเพลงด้วยองคป์ ระกอบดนตรี จงั หวะกับอารมณ์ของบท

เพลง ทำนองกับอารมณ์ของบทเพลง ลกั ษณะของเสียงนกั ร้องกลมุ่ ต่าง ๆ ลักษณะเสยี งของวงดนตรีประเภท

ต่าง ๆ เครอ่ื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี การบรรเลงเครื่องประกอบจังหวะ การบรรเลงทำนองดว้ ยเครื่อง

ดนตรี การร้องเพลงไทยในอัตราจงั หวะสองชัน้ การร้องเพลงสากลหรอื ไทยสากล การร้องเพลงประสานเสยี ง

แบบ Canon Round การสรา้ งสรรค์ประโยคเพลงถาม-ตอบ การบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรมนาฎศิลป์

การสร้างสรรค์เสยี งประกอบการเลา่ เรื่อง ดนตรีกับงานประเพณี คณุ ค่าของดนตรีจากแหล่งวัฒนธรรม

องค์ประกอบของนาฎศลิ ป์ การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลงหรือท่าทางประกอบเร่ืองราว การแสดงนาฎศิลป์

องคป์ ระกอบของละคร ท่มี าของการแสดงนาฎศิลป์ชุดตา่ ง ๆ หลกั การชมการแสดง การถา่ ยทอดความร้สู ึก

และคุณค่าของการแสดง การแสดงนาฎศิลป์ประเภทตา่ ง ๆ

โดยใชก้ ระบวนการทางศลิ ปะ การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การทดลอง ฝึกปฏิบัตจิ ริงเพื่อให้มีความรู้

ความเข้าใจ มีทกั ษะพื้นฐานในงานทศั นศิลป์ ดนตรแี ละนาฏศิลป์ มีความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์และมีจนิ ตนาการ

ทางศลิ ปะ

รหสั ตัวชี้วดั

ศ๑.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗

ศ๑.๒ ป.๕/๑, *ป. ๕/๒

ศ๒.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗

ศ๒.๒ ป.๕/๑, ป. ๕/๒

ศ๓.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖

ศ๓.๒ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒

รวมท้ังหมด ๒๖ ตัวชี้วัด

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ศ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ

ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

………………………………………………………………………………………………………………………………..……………..

ศกึ ษาวิเคราะห์ วงสีธรรมชาตแิ ละสีคตู่ รงขา้ ม หลักการจดั ขนาดสัดส่วนความสมดุลในการสรา้ งงาน

ทัศนศิลป์ จากรปู แบบ ๒ มิติ เปน็ ๓ มติ ิ ใช้หลกั การเพิ่มและลดในการสรา้ งสรรค์งานป้ัน รูปและพ้นื ที่วา่ งใน

งานทศั นศิลป์ ใชค้ ูส่ ีตรงข้าม หลกั การจดั ขนาด สัดสว่ น และความสมดุลเป็นแผนภาพ แผนผัง และ

ภาพประกอบ บทบาทของงานทัศนศิลปใ์ นชวี ิตและสังคม อิทธิพล ของศาสนาทีม่ ตี ่องานทัศนศิลป์ในท้องถิน่

อทิ ธพิ ลทางวัฒนธรรมในทอ้ งถิน่ ท่ีมีผลตอ่ การสรา้ งงานทัศนศิลป์ องค์ประกอบดนตรีและศพั ท์สงั คีต เคร่ือง

ดนตรไี ทยแตล่ ะภาค บทบาทหน้าท่ขี องเครื่องดนตรี ประเภทของเครื่องดนตรีสากล เครื่องหมายและ

สัญลกั ษณ์ทางดนตรี โน้ตบทเพลงไทย อัตราจงั หวะสองช้ัน โน้ตบทเพลงสากลในบนั ไดเสยี ง C Major การ

ร้องเพลงประกอบดนตรี การสร้างสรรคร์ ูปแบบจงั หวะ และทำนองด้วยเคร่ืองดนตรี การบรรยายความร้สู กึ

และแสดงความคดิ เห็นทีม่ ีต่อบทเพลง เน้ือหาในบทเพลง องคป์ ระกอบในบทเพลง คุณภาพเสยี งในบทเพลง

ดนตรไี ทยในประวัตศิ าสตร์ ดนตรใี นเหตกุ ารณ์สำคญั ทางประวัตศิ าสตร์ ดนตรใี นยคุ สมยั ต่างๆ อิทธพิ ลของ

วัฒนธรรมท่มี ีตอ่ ดนตรี การประดษิ ฐ์ท่าทางประกอบเพลงปลุกใจหรอื เพลงพ้นื เมืองหรือท้องถิ่น เนน้ ลีลาหรือ

อารมณ์ การออกแบบสร้างสรรค์เครอื่ งแต่งกาย อปุ กรณ์ ฉากประกอบการแสดง การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการ

แสดงละคร รำวงมาตรฐาน ระบำ ฟ้อน ละครสร้างสรรค์ บทบาทหนา้ ทใ่ี นงานนาฏศลิ ป์และการละคร

หลกั การชมการแสดง การวเิ คราะห์ ความรู้สกึ ช่ืนชม องค์ประกอบทางนาฏศิลป์และการละคร ความหมาย

ความเปน็ มา ความสำคญั ของนาฏศิลป์และละคร บุคคลสำคัญ คุณค่า การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละครในงานวนั

สำคัญของโรงเรยี น

โดยใชก้ ระบวนการทางศิลปะ การวิเคราะห์ การอภิปราย การทดลอง ฝึกปฏิบัติจรงิ เพ่ือให้มคี วามรู้

ความเข้าใจ มีทักษะพ้นื ฐานในงานทัศนศลิ ป์ ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ มคี วามคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์และมจี นิ ตนาการ

ทางศลิ ปะ

รหสั ตัวชี้วดั

ศ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗

ศ๑.๒ ป.๖/๑, *ป.๖/๒, ป.๖/๓

ศ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ศ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, *ป.๖/๓

ศ๓.๑ *ป.๖/๑, ป.๖/๒, *ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ศ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวมท้ังหมด ๒๗ ตัวช้ีวัด

รายวชิ าพนื้ ฐาน

กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
ระดับประถมศกึ ษา

รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน 40 ชัว่ โมง
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี จำนวน 40 ชวั่ โมง
ง ๑2๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี จำนวน 40 ชั่วโมง
ง ๑3๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชัว่ โมง
ง ๑4๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชั่วโมง
ง ๑5๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชั่วโมง
ง ๑6๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี

คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน

ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษา บอกวิธีการทำงานเพอื่ ชว่ ยเหลือตนเอง ใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือง่าย ๆ ในการทำงาน
อย่างปลอดภยั ทำงาน

เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ มีทกั ษะกระบวนการทำงาน ชว่ ยเหลือตนเองอยา่ งกระตือรือร้น และตรง
เวลา

ตัวชวี้ ดั
ง ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

รวมตัวชีว้ ดั ๓ ตัวชวี้ ัด

คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บอกวธิ ีการและประโยชน์การทำงาน เพ่ือชว่ ยเหลือตนเองและครอบครัวใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ และเครอ่ื งมอื
ในการทำงานอย่างเหมาะสมกบั งานและประหยดั

เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการทำงาน ช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั อย่างปลอดภยั
มีความคิดสร้างสรรคอ์ ยา่ งน้อยในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ

ตวั ช้ีวดั
ง ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓

รวมตัวชี้วดั ๓ ตัวชี้วัด

คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

อธบิ ายวธิ ีการและประโยชนก์ ารทำงาน เพื่อชว่ ยเหลอื ตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม
ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมือตรงกับลักษณะงาน ทำงานอย่างเป็นข้นั ตอนตามกระบวนการทำงาน

เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการทำงาน ทำงานดว้ ยความสะอาด รอบคอบ และอนุรักษ์
สง่ิ แวดล้อม

ตัวชี้วดั
ง ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓

รวมตัวชีว้ ดั ๓ ตัวช้วี ดั

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 4๐ ชั่วโมง

อธิบายเหตผุ ลในการทำงานใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย ทำงานบรรลเุ ป้าหมายทีว่ างไว้อยา่ งเปน็ ขั้นตอน ปฏิบตั ิ
ตนอยา่ งมีมารยาทในการทำงาน ใช้พลงั งานและทรพั ยากรในการทำงานอย่างประหยดั และคมุ้ ค่า อธบิ าย
ความหมายและความสำคัญของอาชพี

เพื่อให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการทำงาน มคี วามขยัน อดทน รบั ผดิ ชอบ และซอ่ื สตั ย์
และมมี ารยาทในการทำงาน มีจิตสำนึกในการอนุรักษพ์ ลงั งานและทรัพยากร

ตัวช้ีวดั
ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ง ๒.๑ ป.๔/๑

รวมตัวช้ีวดั ๕ ตัวช้วี ดั

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

อธบิ ายเหตุผลการทำงานแต่ละขั้นตอนถูกต้องตามกระบวนการทำงาน ใช้ทักษะการจดั การในการ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบ ปฏบิ ัตติ นอยา่ งมีมารยาทในการทำงานกบั สมาชิกในครอบครัว ใช้พลงั งานและ
ทรัพยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ สำรวจข้อมูลท่ีเกีย่ วกับอาชพี ตา่ งๆ ในชมุ ชน ระบุความแตกต่างของอาชีพ

เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการทำงาน มีมารยาท มีความประณตี มีความคิด
สรา้ งสรรคใ์ นการทำงาน มจี ติ สำนกึ การอนุรักษ์การใชพ้ ลังงานและทรัพยากร

ตัวชว้ี ัด
ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ง ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒

รวมตัวชีว้ ดั 6 ตัวช้ีวัด

คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

อภปิ รายแนวทางในการทำงานและปรับปรงุ การทำงานแต่ละขน้ั ตอน ใช้ทกั ษะการจัดการในการทำงาน
และมที ักษะการทำงานรว่ มกัน ปฏิบตั ติ นอยา่ งมีมารยาทในการทำงานกบั ครอบครัวและผู้อื่น สำรวจตนเองเพอื่
วางแผนในการเลอื กอาชพี ระบคุ วามรู้ ความสามารถและคณุ ธรรมท่ีสัมพนั ธก์ ับอาชพี ทส่ี นใจ

เพื่อให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทำงานรว่ มกับผอู้ ่นื มแี ละมี
มารยาทในการทำงาน

ตวั ชีว้ ดั
ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ง ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๕ ตัวช้ีวัด

รายวิชาพื้นฐาน

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ระดบั ประถมศึกษา

รายวิชาพื้นฐาน จำนวน 120 ชั่วโมง
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน 120 ชว่ั โมง
อ ๑2๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน 120 ช่วั โมง
อ ๑3๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน 80 ชั่วโมง
อ ๑4๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน 80 ชัว่ โมง
อ ๑5๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน 80 ชัว่ โมง
อ ๑6๑๐๑ ภาษาอังกฤษ

รายวชิ าเพม่ิ เติม จำนวน ๔0 ช่ัวโมง
อ 11201 ภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร จำนวน ๔0 ชว่ั โมง
อ 12201 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอื่ สาร จำนวน ๔0 ชัว่ โมง
อ 13201 ภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร จำนวน ๔0 ชวั่ โมง
อ 14201 ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร จำนวน ๔0 ชั่วโมง
อ 15201 ภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสาร จำนวน ๔0 ชัว่ โมง
อ 16201 ภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา 120 ชว่ั โมง

……………………………………………………………………………………………………………………………….………………...

เข้าใจคำสั่งง่ายๆ ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย ฟังและพูดใน

สถานการณ์ง่ายๆท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน พูดโต้ตอบด้วยคำส้ันๆง่ายๆในการส่ือสาร พูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ

เกี่ยวกับตนองและเรื่องใกล้ตัว พูดและทำท่าทางประกอบตามวัฒนธรรมเจ้าของภาษา บอกความต้องการง่ายๆ

ของตนเอง บอกคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เลือกภาพตรงตาม

ความหมายของคำและกลุ่มคำท่ีฟังเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัว อาหารเครื่องดม่ื และ

นันทนาการ ภายในวงคำศัพท์ท่ีเป็นรูปธรรมประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คำ และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ

วฒั นธรรมท่เี หมาะสมกับวยั

โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เพ่ือการส่ือสาร ฝึกการใช้ภาษาเพ่ือให้มีความรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษา มีทักษะทางภาษาและนำไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม

รหสั ตวั ชวี้ ัด

ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, *ป.๑/๓ , ป.๑/๔

ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ , ป.๑/๔

ต ๑.๓ *ป.๑/๑

ต ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

ต ๒.๒ ป.๑/๑

ต ๓.๑ ป.๑/๑

ต ๔.๑ *ป.๑/๑

ต ๔.๒ *ป.๑/๑

รวมทัง้ หมด ๑๖ ตัวชีว้ ัด

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา 12๐ ชว่ั โมง

……………………………………………………………………………………………………………………………….……………...

เขา้ ใจความเหมอื น และความแตกตา่ งของภาษาในเรอื่ งคำ กลมุ่ คำ วลี ประโยค ข้อความ และ

บทอา่ นส้นั ๆ เข้าใจข้อมูลที่ไดฟ้ ัง ได้อ่าน และปฏิบตั ิตามคำสั่ง คำขอร้องง่าย ๆ ระบตุ ัวอกั ษรและเสยี ง

ของตวั อกั ษรภาษาอังกฤษและภาษาไทยฟัง พูดโต้ตอบด้วยคำสั้น ๆ ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง

เร่อื งใกล้ตวั ในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล ในสถานการณ์งา่ ย ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น เลือกภาพตรง

ตามความหมายของคำ กลุ่มคำ และประโยคทฟ่ี ัง บอกความตอ้ งการง่าย ๆของตน ชื่อและคำศัพท์เกย่ี วกับ

เทศกาลสำคัญของเจา้ ของภาษา คำศัพท์ทีเ่ กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื ตอบคำถาม จากการฟัง

ประโยคบทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ ทม่ี ีภาพประกอบ อ่านออกเสียง สะกดคำ ประโยคง่าย ๆถูกตอ้ ง

ตามหลักการอา่ นออกเสียง ทำทา่ ประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภายในวงคำศัพท์ทเี่ ป็นรูปธรรม

ประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ คำ ในหัวเร่อื ง เก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สิ่งแวดลอ้ มใกลต้ ัว อาหาร

เครื่องด่ืมและนันทนาการ

โดยใช้กระบวนการเรยี นร้เู พอื่ การสอื่ สาร ฝึกการใชภ้ าษาเพอื่ ให้มีความรู้ เขา้ ใจวฒั นธรรมของ

เจา้ ของภาษามีทักษะทางภาษาและนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม

รหสั ตวั ช้วี ดั

ต ๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,*ป.๒/๓,ป.๒/๔

ต ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๑,ป.๒/๓,*ป.๒/๔

ต ๑.๓ *ป.๒/๑

ต ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒,ป.๒/๓

ต ๒.๒ ป.๒/๑

ต ๓.๑ ป.๒/๑

ต ๔.๑ *ป.๒/๑

ต ๔.๒ *ป.๒/๑

รวมท้ังหมด ๑๖ ตัวชวี้ ัด


Click to View FlipBook Version