รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ รหัสโครงการ.สัญญาเลขที่ “PRP6505031420” เรื่อง การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun Watershed for Water management of Precision Agriculture โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยภัทร บุษบาบดินทร์และคณะวิจัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้แผนงานวิจัยการแก้ปัญหาภัยแล้งภาคเกษตร ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
กิตติกรรมประกาศ ในการได้รับทุนอุดหนุนการพัฒนาการวิจัยการเกษตร เรื่อง “การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีด เชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูลเพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขต ชลประทาน สำหรับการเกษตรแม่นยำ” จากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ปีงบประมาณ 2565 ซึ่งงานวิจัยครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความอนุเคราะห์จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ที่ได้อนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัย และคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ได้กรุณาให้คำปรึกษาและข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งทำให้งานวิจัยนี้มี ความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ผู้วิจัยขอขอบพระคุณ Professor Jeong-Soo Park จาก มหาวิทยาลัยแห่งชาติ ซอนนัม ประเทศเกาหลีใต้ Professor Nader Tajvidi จากมหาวิทยาลัยลุนด์ ประเทศสวีเดน และ Professor Andrei Valadin จากมหาวิทยาลัยเวอจินา ประเทศแคนาดา ที่คอยให้คำแนะนำในการพัฒนา อัลกอลิทึมสำหรับการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง และแบบจำลองค่าสุดขีดเชิงพื้นที่ด้วยกระบวนการที่มี เสถียรภาพสูงสุดให้สำเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยดี และขอขอบพระคุณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงาน เกษตรจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และงาน จัดการรูปที่ดิน สำนักงานชลประทาน ที่ได้อนุเคราะห์ให้ทีมนักวิจัยได้นำผลผลิตจากงานวิจัยไปใช้ในพื้นที่ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องในการต่อยอดงานวิจัยสู่การนำไปใช้ประโยชน์จริง นอกจากนี้ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามที่ สนับสนุนและเอื้อเฟื้อสถานที่ในการทำวิจัยครั้งนี้ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำวิจัยครั้งนี้ทุกท่านที่ได้ กรุณาให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และให้กำลังใจมาโดยตลอด ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจทั่วไป สำหรับข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ผู้วิจัยขอน้อมรับและยินดีที่จะรับฟังคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้ ศึกษาการวิจัยนี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนางานวิจัยต่อไป คณะผู้วิจัย เมษายน 2566
สารบัญเรื่อง เรื่อง หน้า บทที่ 1 บทนำ (Introduction) 1 1.1 ความสำคัญและที่มาของปัญหา 1 1.2 วัตถุประสงค์การวิจัย 6 1.3 ขอบเขตของการวิจัย 7 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 22 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 23 บทที่ 2 วิธีดำเนินการวิจัย (Material and Method) 25 2.1 การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศที่เกี่ยวข้อง 26 2.1.1 ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงภัย 26 2.2 วิธีดำเนินการวิจัย (Material and Method) 44 2.2.1 ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา 44 2.2.2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ 46 2.2.3 การจัดกระทำกับข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล 72 1) การแปลงข้อมูล 72 2) การวิเคราะห์ดัชนีความแล้ง (Drought Index) 73 3) การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝนรวมสะสม 10 วัน 81 4) การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน 82 5) การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝนรวมรายสัปดาห์/รายเดือน/รายปี 82 6) การวิเคราะห์ข้อมูลความเสียหายในพื้นที่เป้าหมาย 84 2.3 กรอบแนวคิดการวิจัย 85 2.4 แผนผังสรุปวิธีการดำเนินการวิจัย 86
สารบัญเรื่อง (ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 3 ผลการวิจัย (Result) 93 ส่วนที่ 1 ผลการสังเคราะห์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และการออกแบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีด เชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล(พื้นที่เสี่ยงภัย) 96 1.1 ผลการสรุปงานวิจัยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และการออกแบบการพยากรณ์ภัยแล้ง 96 1.2 ผลการสรุปเปรียบเทียบระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และการออกแบบการพยากรณ์ภัยแล้ง 98 ส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเชิงพื้นที่ที่สำคัญ 106 2.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา 106 2.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลอุทกวิทยา 120 2.3 ข้อมูลความเสียหายของพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล 133 ส่วนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง 142 3.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง 142 3.1.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งภาคพื้นดิน (Ground-based Indicator) 144 1) ดัชนีความแล้งทางอุตุนิยมวิทยา 144 2) ดัชนีความแห้งแล้งทางเกษตร 156 3) ดัชนีความแห้งแล้งทางอุทกวิทยา 165 3.1.2 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแล้งภาคดาวเทียม (Satellite-based Indicator) 171 1) ดัชนีความแห้งแล้งทางเกษตร 171 3.2 ผลการวิเคราะห์ Composite Drought Index 176 ส่วนที่ 4 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนที่ส่งผลต่อภัยแล้ง 179 4.1 ผลการวิเคราะห์จำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน 181 4.2 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน 203 4.3 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 228 4.3.1 ผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 228 4.3.2 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน รายเดือน 271 4.3.3 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน รายฤดูกาล 285 4.3.4 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน รายปี 299
สารบัญเรื่อง (ต่อ) เรื่อง หน้า 4.4 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 309 4.4.1 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน (รายวัน) 309 4.4.2 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน รายเดือน 352 4.4.3 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน รายฤดูกาล 366 4.4.4 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน รายปี 381 4.5 การวิเคราะห์แบบจำลองการคาดการณ์สองตัวแปร 392 4.5.1 ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษา 392 4.5.2 ผลการวิเคราะห์ด้วยคอปูลา 400 4.5.3 ผลการวิเคราะห์ค่าสุดขีดเชิงพื้นที่ 534 ส่วนที่ 5 ผลการวิเคราะห์ความแห้งแล้งซ้ำซากเชิงพื้นที่และ ความเสียหายทางการเกษตรในลุ่มน้ำมูล 539 ส่วนที่ 6 ผลการพัฒนา Website และ Mobile Application 548 บทที่ 4 ข้อวิจารณ์ 553 4.1 ข้อวิจารณ์ข้อมูลพื้นฐานเชิงพื้นที่ที่สำคัญ 554 4.2 ข้อวิจารณ์ดัชนีความแห้งแล้ง 556 4.3 ข้อวิจารณ์แบบจำลองประมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน 557 บทที่ 5 สรุปและข้อเสนอแนะ 565 5.1 สรุปผลการวิจัย 565 5.2 ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย 569 5.3 ข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยในขั้นต่อไป 570 5.4 ประโยชน์การนำผลงานวิจัยไปประยุกต์ใช้ 570 บรรณานุกรม (References) 573 ภาคผนวก ผนวก ก ผนวก ข ผนวก ค
สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1.1 แผนภาพลักษณะภูมิประเทศของลุ่มน้ำมูล 1 1.2 ระบบลุ่มน้ำมูล 1 1.3 แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเมื่อเทียบกับภูมิภาคและประเทศ 2 1.4 พฤติกรรมปริมาณฝนสะสมรายเดือนในลุ่มน้ำมูล 4 1.5 พฤติกรรมปริมาณฝนสะสมจังหวัดอุบลราชธานีจำแนกตามรายเดือน 5 1.6 แผนผังการพัฒนาระบบการพยากรณ์ภัยแล้งเชิงพื้นที่แล้งซ้ำซากในลุ่มน้ำมูล 7 1.7 รายละเอียดของตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาจำแนกตามประเภทของตัวแปร 8 1.8 ผังการพัฒนาดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล (Mun Watershed Drought Index: MWDI) 8 1.9 องค์ประกอบข้อมูลพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ในพื้นที่ซ้ำซากลุ่มน้ำมูล 9 1.10 พิกัดตำแหน่งหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดที่อยู่ในลุ่มน้ำมูล 10 1.11 ผังการพัฒนาฐานข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่แบบใหม่ 12 1.12 กระบวนการดำเนินงานวิจัย 13 1.13 กรอบแนวคิดของการวิจัย 13 1.14 รายละเอียดของตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาจำแนกตามประเภทของตัวแปร 15 1.15 แผนที่ลุ่มน้ำมูลแสดงพิกัดที่ตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนที่ใช้ในงานวิจัยทั้ง 165 แห่ง 16 2.1 ฟังชันก์อัตตสัมพันธ์และอัตตสัมพันธ์เชิงส่วนของตัวแบบ SAR (1)12 51 2.2 ฟังชันก์อัตตสัมพันธ์และอัตตสัมพันธ์เชิงส่านของตัวแบบ SMA (1)12 52 2.3 ประเภทของ Machine Learning 58 2.4 ลักษณะการเลือกข้อมูลค่าสุดขีดสำหรับแบบจำลอง GEVD 60 2.5 กราฟฟังก์ชันความหนาแน่นความน่าจะเป็นของการแจกแจงกัมเบล การแจกแจงฟรีเชท และการแจกแจงไวล์บูล 61 2.6 ดัชนีความแห้งแล้งแบ่งตามหลักวิชาการของ NASA’s Earth Observatory 73 2.7 สรุปวิธีการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งที่ใช้ในงานวิจัยนี้ 81 2.8 สรุปวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัยนี้ 84 2.9 กรอบแนวคิดของการวิจัย 85 2.10 ผังการดำเนินการวิจัย(ภาพรวม) 85 2.11 สรุปวิธีการดำเนินการวิจัย 86 2.12 ขั้นตอนการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง 87 2.13 ขั้นตอนการวิเคราะห์แบบจำลองการพยากรณ์ระยะสั้น 88
สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 2.14 ขั้นตอนการสร้างแบบจำลองคาดการณ์จากหนึ่งตัวแปรด้วยทฤษฎีค่าสุดขีด 89 2.15 ขั้นตอนการสร้างแบบจำลองคาดการณ์จากสองตัวแปรด้วยคอปูลา 90 2.16 ขั้นตอนการสร้างแบบจำลองคาดการณ์เชิงพื้นที่ด้วยค่าสุดขีดนัยทั่วไป 91 2.17 ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสี่ยงสูงของพื้นที่ 92 3.1 แผนที่ตั้งของสถานีอุตุนิยมวิทยาที่อยู่ในบริเวณลุ่มน้ำ และ อยู่นอกบริเวณลุ่มน้ำแต่ส่งผลต่อ ปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำ 107 3.2 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนรายเดือน จำแนกรายสถานี 109 3.3 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกรายสถานี 111 3.4 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกรายสถานี 113 3.5 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นอุณหภูมิสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี 115 3.6 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี 117 3.7 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นความเร็วลมรายวันสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี 119 3.8 แผนผังสถานีสถานีตรวจวัดระดับน้ำในลุ่มน้ำมูล 123 3.9 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือน จำแนกตามสถานี 126 3.10 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาตรใช้การรายเดือน จำแนกตามสถานี 127 3.11 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นระดับน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี 128 3.12 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี 129 3.13 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นร้อยละปริมาณน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี 130 3.14 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำไหลลงอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี 131 3.15 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำระบายรายเดือน จำแนกตามสถานี 132 3.16 การจัดกลุ่มดัชนีความแห้งแล้งตามประกาศขององค์การนาซ่า(NASA’s Earth Observatory) 142
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.17 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 145 3.18 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 146 3.19 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 147 3.20 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 148 3.21 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 149 3.22 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 151 3.23 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 152 3.24 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 153 3.25 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 154 3.26 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 155 3.27 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 157 3.28 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 158 3.29 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 159 3.30 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 160 3.31 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 161 3.32 ดัชนีความแห้งแล้ง GMI(pct) ปี พ.ศ..2553 – 2565 ของลุ่มน้ำมูล 162 3.33 ดัชนีความแห้งแล้ง SRI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 166 3.34 ดัชนีความแห้งแล้ง SRI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 167 3.35 ดัชนีความแห้งแล้ง SRI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 168 3.36 ดัชนีความแห้งแล้ง SRI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 169 3.37 ดัชนีความแห้งแล้ง SRI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล 170 3.38 ดัชนีความแห้งแล้ง NVDI ปี ค.ศ.2011-2022 ของลุ่มน้ำมูล 171 3.39 ดัชนีความแห้งแล้ง NVDI รายเดือน พ.ศ.2564 ของลุ่มน้ำมูล 173 3.40 ผังการคำนวณการพัฒนาดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล (Mun Watershed Drought Index: MWDI) 177 3.41 ดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล 178
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.42 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาปากช่อง สกษ. จังหวัดนครราชสีมา 186 3.43 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา 187 3.44 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 188 3.45 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 189 3.46 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 190 3.47 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 191 3.48 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 192 3.49 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ สกษ. จังหวัดสุรินทร์ 193 3.50 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 194 3.51 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 195 3.52 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี สกษ. จังหวัดอุบลราชธานี 196 3.53 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ 197 3.54 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 198
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.55 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาท่าพระ สกษ. จังหวัดขอนแก่น 199 3.56 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยามหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 200 3.57 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีสถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด สกษ. จังหวัดร้อยเอ็ด 201 3.58 เปรียบเทียบระหว่างค่าพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน สำหรับ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 202 3.59 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10วัน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 205 3.60 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10วัน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 206 3.61 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10วัน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 207 3.62 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 212 3.63 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 215 3.64 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 218 3.65 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายปี 221 3.66 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายฤดูกาล 224 3.67 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด 227 3.68 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกรายสถานี 229
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.69 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาปากช่อง สกษ. จังหวัดนครราชสีมา 233 3.70 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา 235 3.71 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 237 3.72 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 239 3.73 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 241 3.74 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีสถานีอุตุนิยมวิทยาท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 243 3.75 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 245 3.76 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ สกษ. จังหวัดสุรินทร์ 247 3.77 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 249 3.78 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 251
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.79 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี สกษ. จังหวัดอุบลราชธานี 253 3.80 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ 255 3.81 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีสถานีอุตุนิยมวิทยาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 257 3.82 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาท่าพระ สกษ. จังหวัดขอนแก่น 259 3.83 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยามหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 261 3.84 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด สกษ. จังหวัดร้อยเอ็ด 263 3.85 เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 265 3.86 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 270 3.87 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 272 3.88 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 273 3.89 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 274
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.90 ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายเดือนจำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 276 3.91 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 281 3.92 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายเดือน 284 3.93 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่10 วัน รายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 286 3.94 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่10 วัน รายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 287 3.95 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่10 วัน รายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 288 3.96 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 289 3.97 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 290 3.98 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 291 3.99 แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 295 3.100แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายฤดูกาล 298 3.101ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วันสูงสุดรายปีจำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 301 3.102แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 305 3.103แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายปี 308
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.104 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกรายสถานี 310 3.105เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาปากช่อง สกษ. จังหวัดนครราชสีมา 314 3.106เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา 316 3.107เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 318 3.108เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยานางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 320 3.109เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 322 3.110เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีสถานีอุตุนิยมวิทยาท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 324 3.111เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 326 3.112เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาสุรินทร์ สกษ. จังหวัดสุรินทร์ 328 3.113เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 330
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.114เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 332 3.115เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาอุบลราชธานี สกษ. จังหวัดอุบลราชธานี 334 3.116เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ 336 3.117เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 338 3.118เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาท่าพระ สกษ. จังหวัดขอนแก่น 340 3.119เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยามหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 342 3.120เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด สกษ. จังหวัดร้อยเอ็ด 344 3.121เปรียบเทียบระหว่างข้อมูลจริงและค่าพยากรณ์สำหรับค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 7 วัน คาบเวลา 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี สถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 346 3.122แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 351 3.123ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 353 3.124ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 354
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.125ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายเดือน ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 355 3.126ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วันสูงสุดรายเดือนจำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 357 3.127แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายเดือน 362 3.128แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายเดือน 365 3.129ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่7 วัน ค่าต่ำสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 367 3.130 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าต่ำสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 368 3.131ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าต่ำสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 369 3.132ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ด้วย ML 370 3.133 ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 ด้วย ML 371 3.134ค่าคาดการณ์การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ค่าสูงสุดรายฤดูกาล ของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 ด้วย ML 372 3.135แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 377 3.136แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายฤดูกาล 380 3.137ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุดรายปีจำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 383 3.138แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายปี 388
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.139แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายปี 391 3.140แผนที่แสดงขอบเขตพื้นที่ลุ่มน้ำมูล (ส่วนที่ 1 – ส่วนที่ 2 - ส่วนที่ 3) และที่ตั้งสถานีอุตุนิยมวิทยา สถานีอุทกวิทยา 392 3.141แผนผังสถานีตรวจวัดระดับน้ำของกรมชลประทานและเขื่อน ในลุ่มแม่น้ำมูลส่วนที่ 1 393 3.142แผนผังสถานีตรวจวัดระดับน้ำของกรมชลประทานและเขื่อน ในลุ่มแม่น้ำมูลส่วนที่ 2 395 3.143แผนผังสถานีตรวจวัดระดับน้ำของกรมชลประทานและเขื่อน ในลุ่มแม่น้ำมูลส่วนที่ 3 396 3.144การแจกแจงค่าต่ำสุด (ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา) รายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 402 3.145ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุด(ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา)รายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 402 3.146การแจกแจงค่าต่ำสุด (ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา) รายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 405 3.147ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุด(ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา)รายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 405 3.148การแจกแจงค่าต่ำสุด (ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา) รายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 410 3.149ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุด(ซ้าย) และค่าสูงสุด(ขวา)รายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 410 3.150ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST1-ST2 415 3.151ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST1-ST3 417 3.152ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST1-ST4 419 3.153ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST1-ST12 421
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.154ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST2-ST3 423 3.155ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST2-ST4 425 3.156ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST2-ST12 427 3.157ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST3-ST4 429 3.158ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST3-ST12 431 3.159ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST4-ST12 433 3.160ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST6 435 3.161ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST7 437 3.162ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST8 439 3.163ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST13 441 3.164ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST14 443 3.165ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST15 445 3.166ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST16 447 3.167ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST5-ST17 449
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.168ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST7 451 3.169ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST8 453 3.170ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST13 455 3.171ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST14 457 3.172ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST15 459 3.173ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST15 461 3.174ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST6-ST17 463 3.175ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST8 465 3.176ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST13 467 3.177ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST14 469 3.178ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST15 471 3.179ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST16 473 3.180ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST7-ST17 475 3.181ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST8-ST13 477
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.182ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST8-ST14 479 3.183ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST8-ST15 481 3.184ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST8-ST16 483 3.185ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST8-ST17 485 3.186ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST13-ST14 487 3.187ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST13-ST15 489 3.188ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST13-ST16 491 3.189ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST13-ST17 493 3.190ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST14-ST15 495 3.191ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST14-ST16 497 3.192ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST14-ST17 499 3.193ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST15-ST16 501 3.194ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST15-ST17 503 3.195ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST16-ST17 505
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.196ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST9-ST10 507 3.197ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST9-ST11 509 3.198ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ (ก) ค่าต่ำสุดรายปี (ข) ค่าสูงสุดรายปี ของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี ST10-ST11 511 3.199ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.7 513 3.200ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.9 515 3.201ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.42A 517 3.202ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.43A 518 3.203ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.89 519 3.204ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.5 กับ M.127 520 3.205ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.7 กับ M.9 521 3.206ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.7 กับ M.42A 522 3.207ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.7 กับ M.43A 523 3.208ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.7 กับ M.89 524 3.209ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.9 กับ M.42A 525
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.210ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.9 กับ M.42A 526 3.211ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.9 กับ M.43A 528 3.212ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.9 กับ M.89 529 3.213ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.9 กับ M.127 530 3.214ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.42A กับ M43A 531 3.215ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M42A กับ M.89 532 3.216ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M42A กับ M.127 533 3.217ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M43A กับ M.89 534 3.218ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M43A กับ M.127 535 3.219ความสัมพันธ์ (A(t)) ของ ค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือนภายใต้แบบจำลองค่าสุดขีดสองตัวแปร ระหว่างสถานี M.89 กับ M.127 536 3.220ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรร่วมทางภูมิศาสตร์กับตัวประมาณค่าพารามิเตอร์ GEV จากสถานีอุตุนิยมวิทยาที่เป็นอิสระกัน ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล 537 3.221การกระจายตัวของพารามิเตอร์ที่ได้จากการแจกแจงของ GEV ตัวแปรเดียว และค่าประมาณพารามิเตอร์ที่ได้จากการแจกแจง GEV เชิงพื้นที่ ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล 538 3.222การเปรียบเทียบค่าสูงสุดรายปีกับข้อมูลที่จำลองจากแบบจำลอง MSPสำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำมูล ในช่วงความเชื่อมั่นควอไทล์ 95% 539 3.223แผนที่ค่าประมาณระดับการเกิดซ้ำ ในคาบย้อนพินิจ 2 ปี 5 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายปี 541
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 4.1 กรอบแนวคิดการวิจัย 553 4.2 แผนที่ลุ่มน้ำมูลแสดงพิกัดที่ตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนที่ใช้ในงานวิจัยทั้ง 198 แห่ง 554 4.3 ดัชนีความแห้งแล้งแบ่งตามหลักวิชาการของ NASA’s Earth Observatory และวิธีการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งที่ใช้ในงานวิจัยนี้ 556
สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1.1 ข้อเด่น-ข้อจำกัดพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล 3 1.2 รายละเอียดตัวแปรที่นำมาวิเคราะห์และที่มาของข้อมูล จำแนกตามประเภทของข้อมูล 14 1.3 สถานที่ตรวจวัดอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ครอบคุลมพื้นที่ที่ทำการศึกษา รหัสเรียก และกลุ่มพื้นที่กณฑ์การจำแนกสภาพอากาศจำแนกตามค่าดัชนี SPI 16 1.4 รายชื่อสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนรายอำเภอ 149 แห่ง ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม 17 2.1 รายละเอียดของข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ จำแนกตามประเภทของข้อมูล 44 2.2 แสดงลักษณะของ k และ kk สำหรับรูปแบบ ARIMA (p,d,q) 50 2.3 แสดงลักษณะของ k และ kk สำหรับรูปแบบ SARIMA (p,d,q) 51 2.4 ความสัมพันธ์ของตัวแปรค่าสุดขีดด้วยการวิเคราะห์คอปปูลา (Copula analysis) 67 2.5 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI 75 2.6 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI 76 2.7 เกณฑ์การพิจารณาเกณฑ์ดัชนีความแห้งแล้ง GMIpct 77 2.8 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI 78 2.9 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SRI 79 2.10 เกณฑ์การพิจารณาเกณฑ์ดัชนีความแห้งแล้ง NDVI 80 3.1 ชื่อตัวแปร และสรุปวิธีการวิเคราะห์ ที่ใช้ในแต่ละส่วน 94 3.2 สถานีอุตุนิยมวิทยา 17 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำมูล 106 3.3 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนรายวัน จำแนกตามสถานี 108 3.4 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกตามสถานี 110 3.5 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกตามสถานี 112 3.6 ค่าสถิติพื้นฐานของอุณหภูมิสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี 114 3.7 ค่าสถิติพื้นฐานของความชื้นสัมพัทธ์รายวัน จำแนกตามสถานี 116 3.8 ค่าสถิติพื้นฐานของความเร็วลมสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี 118 3.9 ข้อมูลสถานีตรวจวัดระดับน้ำ จำนวน 73 สถานี 120 3.10 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานีน้ำ 124
สารบัญตาราง(ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.11 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาตรน้ำในอ่างจำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง 127 3.12 ค่าสถิติพื้นฐานของข้อมูลระดับน้ำในอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง 128 3.13 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง 129 3.14 ค่าสถิติพื้นฐานของร้อยละปริมาณน้ำในอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง 130 3.15 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำไหลลงอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง 131 3.16 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำระบาย จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง 132 3.17 สรุปพื้นที่รวม(ไร่) และสัดส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำมูลที่เกิดความเสียหายจากภัยแล้ง จำแนกตามปีงบประมาณ 133 3.18 สรุปข้อมูลความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 134 3.19 สรุปข้อมูลการความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามปีงบประมาณ และลุ่มน้ำชีตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง 135 3.20 สรุปข้อมูลการความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามปีงบประมาณ และลุ่มน้ำชีตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง 136 3.21 ดัชนีความแห้งแล้ง 7 ชนิด จำแนกตามตัวแปรที่นำมาใช้ในการคำนวณ 143 3.22 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI 156 3.23 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SRI 165 3.24 ดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล (Mun Watershed Drought Index: MWDI) 177 3.25 จำนวนข้อมูล จำนวนวันฝนไม่ตกต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝน และจำนวนวันฝนไม่ตกต่อเนื่องกันสูงสุด จำแนกรายสถานี ระหว่างปี พ.ศ.2527 – 2565 181 3.26 จำนวนวันที่ฝนไม่ตกต่อเนื่อง ระหว่างปี พ.ศ.2527 - 2565 จำแนกตามรหัสเรียก 182 3.27 จำนวนวันที่ฝนไม่ตกต่อเนื่องในปี พ.ศ.2564 จำแนกตามรหัสเรียก 183 3.28 สัดส่วนความเหมาะสมของระยะเวลาเก็บข้อมูล(ปี) ต่อการสร้างตัวแบบการพยากรณ์ จำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน 184 3.29 ตัวแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสมจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือน 185
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.30 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST1 186 3.31 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST2 187 3.32 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST3 188 3.33 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST4 189 3.34 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST5 190 3.35 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST6 191 3.36 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST7 192 3.37 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST8 193 3.38 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST9 194 3.39 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST10 195 3.40 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST11 196 3.41 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST12 197 3.42 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST13 198 3.43 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST14 199 3.44 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST15 200 3.45 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST16 201 3.46 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับจำนวนวันที่ฝนไม่ตกรายเดือนของสถานี ST17 202 3.47 สถิติเชิงพรรณนาของปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วันและจำแนกรายปี 203 3.48 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 208 3.49 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 208 3.50 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 209 3.51 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 210 3.52 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 213 3.53 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 214 3.54 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 216
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.55 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 217 3.56 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายปี 219 3.57 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายปี 220 3.58 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายฤดูกาล 222 3.59 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายฤดูกาล 223 3.60 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายเดือน 225 3.61 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมทุก ๆ 10 วัน สูงสุด รายเดือน 226 3.62 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกตามสถานี 228 3.63 สัดส่วนความเหมาะสมของระยะเวลาเก็บข้อมูล(ปี) ต่อการสร้างตัวแบบการพยากรณ์ค่าต่ำสุด และค่าสูงสุด รายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 230 3.64 ตัวแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสมค่าต่ำสุดและสูงสุดรายเดือน ของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 231 3.65 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST1 232 3.66 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST2 234 3.67 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST3 236 3.68 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST4 238 3.69 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST5 240 3.70 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST6 242 3.71 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST7 244 3.72 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST8 246 3.73 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST9 248 3.74 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST10 250 3.75 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST11 252 3.76 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST12 254 3.77 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST13 256
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.78 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST14 258 3.79 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST15 260 3.80 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST16 262 3.81 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ของสถานี ST17 264 3.82 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GPD ภายใต้กระบวนการคงที่ 266 3.83 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GPD ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 266 3.84 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 267 3.85 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน 269 3.86 รายละเอียดผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน เบื้องต้น 271 3.87 ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายเดือน จำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 275 3.88 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 277 3.89 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 277 3.90 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 279 3.91 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน 281 3.92 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายเดือน 282 3.93 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วันสูงสุด รายเดือน 283 3.94 รายละเอียดผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน เบื้องต้น 285 3.95 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 292 3.96 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 292 3.97 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 293 3.98 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 294 3.99 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด ฤดูกาล 296
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.100 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วันสูงสุด ฤดูกาล 297 3.101 รายละเอียดผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน เบื้องต้น 299 3.102 ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุดรายปี จำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 300 3.103 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 302 3.104 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 302 3.105 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 303 3.106 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ต่ำสุด รายปี 304 3.107 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน สูงสุด รายปี 306 3.108 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วันสูงสุด รายปี 307 3.109 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกตามสถานี 309 3.110 สัดส่วนความเหมาะสมของระยะเวลาเก็บข้อมูล(ปี) ต่อการสร้างตัวแบบการพยากรณ์ค่าต่ำสุ และค่าสูงสุด รายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 311 3.111 ตัวแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสมค่าต่ำสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 312 3.112 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST1 313 3.113 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST2 315 3.114 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST3 317 3.115 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST4 319 3.116 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST5 321 3.117 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST6 323 3.118 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST7 325 3.119 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST8 327 3.120 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST9 329 3.121 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST10 331 3.122 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST11 333 3.123 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST12 335
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.124 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST13 337 3.125 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST14 339 3.126 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST15 341 3.127 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST16 343 3.128 ตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ของสถานี ST17 345 3.129 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GPD ภายใต้กระบวนการคงที่ 347 3.130 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GPD ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 348 3.131 ค่าประมาณพารามิเตอร์ ตัวแบบจำลองการแจกแจง GPD ที่เหมาะสม ของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 349 3.132 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน 350 3.133 รายละเอียดผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน เบื้องต้น 352 3.134 ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุดรายเดือน จำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 356 3.135 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 358 3.136 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 358 3.137 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายเดือน 359 3.138 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายเดือน 361 3.139 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายเดือน 363 3.140 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายเดือน 364 3.141 รายละเอียดผลการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน เบื้องต้น ที่เหมาะสมสำหรับสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำชีตอนบน 366 3.142 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที 373 3.143 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที 373 3.144 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 374 3.145 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายฤดูกาล 376
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.146 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด ฤดูกาล 378 3.147 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วันสูงสุด ฤดูกาล 379 3.148 ค่าสถิติเบื้องต้นของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน จำแนกตามรายสถานี 381 3.149 ค่าคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุดรายปี จำแนกรายสถานี ด้วยแบบจำลองเกรย์ 382 3.150 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการคงที่ 384 3.151 รูปแบบของแบบจำลองการแจกแจง GEV ภายใต้กระบวนการไม่คงที่ 384 3.152 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายปี 385 3.153 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน ต่ำสุด รายปี 387 3.154 รูปแบบของแบบจำลองที่เหมาะสม และค่าประมาณพารามิเตอร์ ค่า AIC และค่า BIC ภายใต้ กระบวนการไม่คงที่ สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายปี 389 3.155 ระดับการเกิดซ้ำของข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 7 วัน สูงสุด รายปี 390 3.156 การแจกแจงของข้อมูลค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ที่เหมาะสมสำหรับสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 401 3.157 ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ด้วยฟังก์ชันคอปูลาที่เหมาะสมของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 403 3.158 การแจกแจงของข้อมูลค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ที่เหมาะสมสำหรับสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 404 3.159 ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ด้วยฟังก์ชันคอปูลาที่เหมาะสมของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 2 406 3.160 การแจกแจงของข้อมูลค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ที่เหมาะสมสำหรับสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 409 3.161 ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ด้วยฟังก์ชันคอปูลาที่เหมาะสมของสถานีอุตุนิยมวิทยาในลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 3 411 3.162 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST1 กับ ST2 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 414
สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 3.163 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST1 กับ ST3 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 416 3.164 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST1 กับ ST4 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 418 3.165 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST1 กับ ST12 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 420 3.166 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST2 กับ ST3 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 422 3.167 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST2 กับ ST4 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 424 3.168 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST2 กับ ST12 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 426 3.169 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST3 กับ ST4 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 428 3.170 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST3 กับ ST12 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 430 3.171 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายปีของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST4 กับ ST12 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 432 3.172 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST6 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 434 3.173 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST7 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 436 3.174 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST8 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 438 3.175 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST13 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 440 3.176 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST14 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 442
3.177 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 444 3.178 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 446 3.179 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 448 3.180 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST7 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 450 3.181 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST8 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 452 3.182 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST13 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 454 3.183 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST14 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 456 3.184 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 458 3.185 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 460 3.186 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST6 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 462 3.187 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST5 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 464 3.188 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST7 กับ ST13 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 466 3.189 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST7 กับ ST14 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 468 3.190 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST7 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 470 3.191 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST7 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 472
3.192 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST7 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 474 3.193 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST8 กับ ST13 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 476 3.194 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST8 กับ ST14 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 478 3.195 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST8 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 480 3.196 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST8 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 482 3.197 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST8 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 484 3.198 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST13 กับ ST14 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 486 3.199 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST13 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 488 3.200 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST13 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 490 3.201 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่10 วัน ระหว่างสถานี ST13 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 492 3.202 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST14 กับ ST15 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 494 3.203 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST14 กับ ST16ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 496 3.204 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST14 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 498 3.205 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST15 กับ ST16 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 500 3.206 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST15 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 502 3.207 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST16 กับ ST17 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 504
3.208 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST9 กับ ST10 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 506 3.209 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST9 กับ ST11 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 508 3.210 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าต่ำสุด และค่าสูงสุดรายเดือนของปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ 10 วัน ระหว่างสถานี ST9 กับ ST11 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 510 3.211 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.7 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 512 3.212 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.9 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 514 3.213 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.42A ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 516 3.214 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.43A ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 518 3.215 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.89 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 519 3.216 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.5 กับ M.127 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 520 3.217 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.7 กับ M.9 ด้วยการ วิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 521 3.218 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.7 กับ M.42A ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 522 3.219 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.7 กับ M.43A ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 523 3.220 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.7 กับ M.89 ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 524 3.221 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.9 กับ M.42A ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 525 3.222 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.9 กับ M.42A ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 526 3.223 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.9 กับ M.43A ด้วย การวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 527
3.224 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.9 กับ M.89 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 529 3.225 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.9 กับ M.127 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 530 3.226 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.42A กับ M43A ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 531 3.227 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M42A กับ M.89 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 532 3.228 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M42A กับ M.127 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 533 3.229 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M43A กับ M.89 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 534 3.230 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M43A กับ M.127 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 535 3.231 ค่าประมาณพารามิเตอร์ของค่าปริมาณน้ำท่ารายเดือน ระหว่างสถานี M.89 กับ M.127 ด้วยการวิเคราะห์คอปูลาค่าสุดขีด 536 3.232 ค่าประมาณค่าพารามิเตอร์ของแบบจำลองเชิงพื้นที่ด้วยค่าสุดขีดวางนัยทั่วไป ด้วยกระบวนการที่มีความเสถียรสูงสุด 539 3.233 ข้อมูลเบื้องต้นความถี่จำนวนวันฝนไม่ตกต่อเนื่องสูงสุดของจังหวัดในลุ่มน้ำมูล 542 3.234 ความถี่ของวันที่ฝนไม่ตกต่อเนื่องกันของลุ่มน้ำมูลส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 และ ส่วนที่ 2 ตามช่วงของจำนวนวันที่ฝนไม่ตกต่อเนื่องกัน จำแนกรายสถานี 543 3.235 ผลการวิเคราะห์แบบจำลองปริมาณน้ำฝนเท่ากับศูนย์ (Zero Rainfall Model) 549
คำอธิบายสัญลักษณ์และคำย่อที่ใช้ในการวิจัย คำย่อ คำอธิบาย พารามิเตอร์บ่งตำแหน่ง (Location parameter) พารามิเตอร์บ่งขนาด (scale parameter) พารามิเตอร์บ่งรูปร่าง (shape parameter) MLE วิธีภาวะสารูปดี (Maximum Likelihood Estimates) AIC เกณฑ์ข้อสนเทศของอาไคเคะ (Akaike’s information criterion) BIC เกณฑ์ข้อสนเทศของเบย์(Bayesian information criterion) TIC เกณฑ์ข้อสนเทศของทาเกะยูชิ(Takeushi’s information criterion) Gumbel distribution การแจกแจงกัมเบล Frechet distribution การแจกแจงฟรีเซท Weibull distribution การแจกแจงไวบูล S.E. ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการประมาณค่า (Standard Error of estimation) K-S test การทดสอบโคโมโกรอฟ –สเมียร์นอฟ (Kolmogorov – Smirnov Test) Latitude ละติจูด Longitude ลองจิจูด Altitude ความสูงจากระดับน้ำทะเล Linear Transformation การแปลงเชิงเส้น Diagnostic Plots กราฟไดแอกนอสติก Probability Plot กราฟความน่าจะเป็น Quantile Plot กราฟควอไทล์ Return Level Plot กราฟระดับการเกิดซ้ำ Density Plot กราฟความหนาแน่น Threshold Method วิธีเกณฑ์ GEV การแจกแจงค่าสุดขีดนัยทั่วไป (Generalized Extreme Value Distribution) GPD การแจกแจงพาเรโตนัยทั่วไป (Generalized Pareto Distribution) Boxplot การสร้างแผนภาพกล่อง Copula Analysis การวิเคราะห์คอปูลา Bivariate logistic distribution (Log) การแจกแจงแบบโลจิสติกส์2 ตัวแปร
คำย่อ คำอธิบาย Bivariate asymmetric logistic distribution (Alog) การแจกแจงแบบโลจิสติกส์ไม่สมมาตร 2 ตัวแปร Husler – Reiss distribution (Hr) การแจกแจงฮัสเลอร์– รีส์ Bivariate negative logistic distribution (Neglog) การแจกแจงแบบโลจิสติกส์นิเสธ 2 ตัวแปร Bivariate asymmetric negative logistic distribution (Aneglog) การแจกแจงแบบโลจิสติกส์นิเสธไม่สมมาตร 2 ตัวแปร Bilogistic distribution (Bilog) การแจกแจงไบโลจิสติกส์ Negative bilogistic distribution (Negbilog) การแจกแจงไบโลจิสติกส์เชิงลบ Coles – Tawn distribution (Ct) การแจกแจงโคลส์– ทาว์น Asymmetric mixed distribution (Amis) การแจกแจงผสมแบบไม่สมมาตร EVA การวิเคราะห์ค่าสุดขีด (Extreme Value Analysis) Spatial Analysis การวิเคราะห์เชิงพื้นที่ MSP กระบวนการที่มีความเสถียรสูงสุด (Max - Stable Process) Return Level ระดับการเกิดซ้ำ Right heavy tailed distribution การแจกแจงที่มีหางหนักไปด้านขวา LAT พิกัดละติจูด (Latitude) LONG พิกัดลองจิจูด (Longitude) xi ค่าประมาณพารามิเตอร์บ่งรูปร่าง (Shape parameter) mu ค่าประมาณพารามิเตอร์บ่งตำแหน่ง (Location parameter) sigma ค่าประมาณพารามิเตอร์บ่งขนาด (Scale parameter) rain_max ปริมาณน้ำฝนสูงสุด rain_average ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย rain_sum ปริมาณน้ำฝนสะสม wind_max ความเร็วลมสูงสุด wind_average ความเร็วลมเฉลี่ย Temp_max อุณหภูมิสูงสุด Temp_min อุณหภูมิต่ำสุด Temp_average อุณหภูมิเฉลี่ย RH_average ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย RH_max ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุด
คำย่อ คำอธิบาย NDVI ดัชนีผลต่างพืชพรรณแบบนอมัลไลซ์ (NDVI) เฉลี่ย Runoff_max ปริมาณน้ำท่าสูงสุด Runoff_average ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย Runoff_sum ปริมาณน้ำท่าสะสม
บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความสำคัญและที่มาของปัญหา จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ในการพัฒนา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประเด็นการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ ประโยชน์ และการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืน ซึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่การเกษตร มากกว่า 63 ล้านไร่ มีแม่น้ำสำคัญหลาสาย อาทิ แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำสงคราม แม่น้ำพะเพลิง แต่ในปัจจุบัน หลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมซ้ำซาก โดยปัญหาการขาดแคลน น้ำและภัยแล้งส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากฝนไม่ตกตามฤดูกาลและเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงที่ติดต่อกันยาวนานใน พื้นที่ลุ่มน้ำ ประกอบกับระบบนิเวศของลุ่มน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป ผลจากการขยายตัวของชุมชน กิจกรรมทาง เศรษฐกิจต่างๆ รวมทั้งการขยายพื้นที่การเกษตรทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ทำให้มีความ ต้องการน้ำจืดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ขณะที่ศักยภาพของพื้นที่ในการพัฒนา แหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนมีจำกัด อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดเล็ก ฝายตามลำน้ำ หนองบึง ธรรมชาติ และสระเก็บน้ำที่มีอยู่ยังไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการเพื่อ การเกษตร การอุปโภคบริโภคและภาคอุตสาหกรรม แหล่งเก็บกักน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีอยู่เกิดการตื้น เขินไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของราษฎรใน พื้นที่ลุ่มน้ำ สภาพปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำที่เกิดขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำมูลมีความต้องการน้ำทุกภาค ส่วนถึง 10,155 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สามารถเก็บกักน้ำได้เพียง 5,350 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 40 ของความต้องการใช้น้ำทั้งหมด ส่งผลให้ลุ่มน้ำมูลประสบปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด ทั้งการขาดแคล นน้ำ อุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร โดยแต่ละปีมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำกว่า 12.4 ล้านไร่ ภาพที่ 1.1 แผนภาพลักษณะภูมิประเทศของลุ่มน้ำมูล ภาพที่ 1.2 ระบบลุ่มน้ำมูล ที่มา :http://mekhala.dwr.go.th/download/basin/05-mun.pdf
2 บทนำ Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun Watershed for Water management of Precision Agriculture ปัจจุบันลุ่มน้ำมูลครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 44 ล้านไร่ และมีพื้นที่ทางการเกษตรประมาณ 33 ล้านไร่ ขณะที่ความต้องการน้ำในภาพรวมมีมากกว่า 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ลุ่มน้ำมูลสามารถกักเก็บน้ำได้เพียง 5,350 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จึงส่งผลให้ลุ่มน้ำมูลประสบปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด และที่ผ่านมาลุ่มน้ำ มูลประสบปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมสลับกัน โดยเฉพาะในระยะหลังจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศลักษณะภัยแล้งและน้ำท่วมมีความรุนแรงมากขึ้น ภัยแล้งที่กินระยะเวลานานมากขึ้น จากข้อมูลสถิติ ย้อนหลัง 30 ปี ลุ่มน้ำมูลตอนบนและตอนกลาง (นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม) จะประสบปัญหาภัยแล้งฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วงรุนแรงเป็นประจำ (ปี 2558 - 2559 และ ปี 2561-2562) มีน้ำท่วมเป็นบางปี (ปี 2553 - 2554 และ ปี 2560) ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำมูลตอนล่าง (ศรีสะเกษ อุบลราชธานียโสธร อำนาจเจริญ จะประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำจากปริมาณฝนมากและรวมกับปริมาณ น้ำที่ระบายจากแม่น้ำชี (ปี 2549 ปี2553 – 2554 และปี2562) ในส่วนปัญหาภัยแล้งจะมีในช่วงฤดูแล้ง ภาพที่ 1.3 แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเมื่อเทียบกับภูมิภาคและประเทศ ที่มา : โครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อม ระดับยุทธศาสตร์พื้นที่ลุ่มน้ำมูล ทั้งด้วยข้อจำกัดด้านปริมาณน้ำตันทุนดังกล่าว และสภาพภูมิประเทศของลุ่มน้ำมูลมีข้อจำกัดในการ พัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำนอกจากนี้ยังมีปัญหาเฉพาะพื้นที่ ภูมิภาค แสดงดังตารางที่ 1 โดยเฉพาะในพื้นที่ ตอนบนและตอนกลางฝั่งซ้ายของแม่น้ำมูล ปัญหาดินตื้นในพื้นที่ต้นน้ำลำน้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะในลุ่มน้ำมูล ตอนล่างรวมทั้งปัญหาน้ำเสียจากชุมชน จากอุตสาหกรรมเกษตร จากพื้นที่เกษตรโดยเฉพาะปัญหาจะรุนแรง
บทนำ 3 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ มากในช่วงวิกฤตแล้งเนื่องจากขาดปริมาณน้ำดีมาเจือจาง ปัญหาพื้นที่ชุมน้ำถูกบุกรุก พื้นที่ป่าไม้ ป่าตันน้ำ ลดลงเดิมปี 43 มี 10 ล้านไร่ ผ่านมา 20 ปี (ปี2560) ลดลงไปเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง 5 ล้านไร่ ตารางที่ 1.1 ข้อเด่น-ข้อจำกัดพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล พื้นที่ลุ่ม แม่น้ำมูล ข้อเด่น ข้อจำกัด ตอนบน 1. ภูมิประเทศ (ต้นน้ำ) มีพื้นที่ศักยภาพในการปลูกป่า 2. ศักยภาพด้านท่องเที่ยวอุตสาหกรรมบริการ 3. มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ชลประทาน 4. มีแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศ (ทุ่ง สัมฤทธิ์) 1. ปริมาณฝนน้อย 2. ฝนทิ้งช่วง 3. ไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ 4. มีประสบปัญหาดินเค็มน้ำเค็ม (ฝั่งซ้ายแม่น้ำมูล) 5. เกิดน้ำป่าไหลหลากในช่วงฤดูฝน 6. ปริมาณตะกอนสูง ตอนกลาง 1. มีศักยภาพในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง 2. มีศักยภาพน้ำบาดาล (พื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำมูล) 3. มีแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นดีที่สำคัญของประเทศ (ทุ่งกุลาร้องไห้) 4. มีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก 5. เป็นแหล่งพื้นที่ชุ่มน้ำ (บุ่ง ทาม) ระดับประเทศ และ นานาชาติ 6. มีศักยภาพท่องเที่ยวด้านกีฬา และศูนย์กลางการ เดินทางทางอากาศ 7. พื้นที่ศักยภาพเติมน้ำใต้ดินสูง (มูลสายหลัก) 1. ปริมาณฝนน้อย 2. ฝนทิ้งช่วง 3. พื้นที่ไม่เอื้ออำนวยในการก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ ขนาดใหญ่และกลาง 4. พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรน้ำฝนน้ำท่าน้อย น้ำ มาเร็วไปเร็ว 5. พื้นที่ประสบปัญหาดินเค็มน้ำเค็ม (ฝั่งซ้ายแม่น้ำมูล) ตอนล่าง 1. ปริมาณน้ำฝนล้ำท่า (ฤดูฝน) อยู่ในเกณฑ์มาก 2. แหล่งน้ำที่มีศักยภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า 3. พื้นที่มีศักยภาพน้ำบาดาลสูง (พื้นที่ริมฝั่งขวาแม่น้ำ มูล) 4. มีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กและกลางจำนวนมาก 5. พื้นที่ป่าไม้มาก (พื้นที่ริมฝั่งขวาแม่น้ำมูล) 6. เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดน 7. เป็นแหล่งไม้ผลคุณภาพดี (ทุเรียนภูเขาไฟ) 1. มีปริมาณน้ำฝนและน้ำท่ามาก (รวมทั้งน้ำหลาก จากลุ่มน้ำชี) 2. ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงและบ่อยครั้ง 3. พื้นที่หน่วงน้ำ (แก้มลิง) และรองรับน้ำหลากลด น้อยลง 4. มีสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำและการรกล้ำลำน้ำ 5. พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินตื้นไม่เหมาะสำหรับปลูกพืช 6. น้ำเสียจากชุมชนและโรงงาน อุดสาหกรรม ดังนั้น ความแม่นยำในการคาดการณ์การปริมาณน้ำฝนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย-ภัยแล้ง จึงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างมาก ในการวางแผนแนวทางการเพื่อรับมือการขาดแคลนน้ำ อุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร และเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตการเกษตร ตลอดจนการเพิ่มการพัฒนา
4 บทนำ Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun Watershed for Water management of Precision Agriculture ระบบแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้าที่แม่นยำ เมื่อทีมผู้วิจัยได้นำข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายเดือนในลุ่มน้ำมูลมา แสดงในรูปแบบบ็อกซ์พล็อต (ภาพที่ 1.4) เพื่อดูลักษณะของข้อมูลปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล พบว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีปริมาณฝนสะสมสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ ในลุ่มน้ำมูล ซึ่งจะเห็นได้จากสถานการณ์น้ำท่วม ครั้งใหญ่สุดในรอบ 20 ปี ของจังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้จังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 23 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคการเกษตรและประมงได้รับผลกระทบหนัก เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งบริเวณริมฝั่ง แม่น้ำมูล ในอำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล ได้รับผลกระทบจากสภาพเกาะแก่งธรรมชาติในลำน้ำมูลบริเวณท้ายอำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่ง กีดขวางการไหลของน้ำในลำน้ำ ภาพที่ 1.4 พฤติกรรมปริมาณฝนสะสมรายเดือนในลุ่มน้ำมูล หมายเหตุST1-ขอนแก่น จ.ขอนแก่น, ST2-ท่าพระ สกษ. จ.ขอนแก่น, ST3-มหาสารคาม จ.มหาสารคาม, ST4-กาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์, ST5-ร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด, ST6-ร้อยเอ็ด สกษ. จ.ร้อยเอ็ด, ST7-อุบลราชธานี สกษ. จ.อุบลราชธานี, ST8-อุบลราชธานี (ศูนย์ฯ) จ.อุบลราชธานี, ST9-ศรีสะเกษ จ. ศรีสะเกษ, ST10-นครราชสีมา จ.นครราชสีมา, ST11-ปากช่อง สกษ. จ.นครราชสีมา, ST12-โชคชัย จ.นครราชสีมา, ST13-สุรินทร์ จ.สุรินทร์, ST14-สุรินทร์ สกษ. จ.สุรินทร์, ST15-ท่าตูม จ.สุรินทร์และ ST16-นางรอง จ.บุรีรัมย์
บทนำ 5 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ ภาพที่ 1.5 พฤติกรรมปริมาณฝนสะสมจังหวัดอุบลราชธานีจำแนกตามรายเดือน ดังนั้น เพื่อให้ได้แนวทางการบริหารจัดการน้ำแล้งภาคการเกษตรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนา อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้แนวทางการบริหารจัดการน้ำแล้งได้อย่างเหมาะสม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีนโยบายบริหาร จัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพและเตรียมแผนการรับมือการขาดแคลนน้ำในอนาคตอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะใน ประเด็นการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยใช้เทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ รวมถึง กระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร หน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานที่มีส่วน เกี่ยวข้อง พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการน้ำต้นทุน จากประเด็น ปัญหาข้างต้นทีมผู้วิจัยได้นำองค์ความรู้การจัดการข้อมูลในรูปแบบของอุปสงค์-อุปทานน้ำเพื่อการเกษตร ร่วมกับ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่และระบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่แล้งในลุ่มน้ำมูลพร้อมทั้ง พัฒนาแบบจำลองการจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล จากประสบการณ์การวิจัยของทีมวิจัยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยภัทร บุษบาบดินทร์ และคณะ เรื่องแบบจำลองเชิงพื้นที่ทฤษฎีค่าสุดขีดสำหรับปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในวันที่ฝนตกต่อเนื่องตามลุ่ม แม่น้ำชีตอนกลาง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ประจำปีงบประมาณ 2562 ผลวิจัยพบความสัมพันธ์ของปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุด กับตัวแปรสภาพภูมิอากาศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการ สร้างแบบจำลองเชิงพื้นที่ด้วยทฤษฎีค่าสุดขีด (Spatial Extreme Value Theory) ในการอธิบายลักษณะของปริมาณ น้ำฝนสูงสะสมสูงสุดในวันที่ฝนตกต่อเนื่องกันตั้งแต่ 2 วัน ไปจนถึง 7 วัน ทำให้สามารถระบุพื้นที่วิกฤติที่เสี่ยงต่อการ เกิดอุทกภัยตามลุ่มแม่น้ำชีตอนกลางในรูปแบบแผนที่ 2 มิติ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงงานวิจัยนี้ได้เพิ่มเติมช่องทางการ สื่อสารกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยภัทร บุษบาบดินทร์และคณะ เรื่องการพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการ พยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำชีเพื่อการบริหารจัดการน้ำสำหรับการเกษตรแม่นยำซึ่งได้รับการสนับสนุน
6 บทนำ Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun Watershed for Water management of Precision Agriculture จากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีเป้าหมายในการวิจัยเพื่อพัฒนา ฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่สำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่างแม่นยำในพื้นที่แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำชี และเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันระบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำชีและ web service ของระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ ทั้งนี้ทีมวิจัยมีประสบการณ์ในการเชื่อมโยงระบบภูมิสารสนเทศ ระบบการ พยากรณ์ภัยแล้ง เพื่อสร้างฐานข้อมูลปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่จะส่งผลต่อการเกิดอุทกภัย ประกอบกับจากการสร้าง แบบจำลองกำหนดปัจจัยและระดับความรุนแรงของสภาวะความแห้งแล้ง พร้อมทั้งมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ เป้าหมายของการทำวิจัยเป็นอย่างดีดังนั้นจากประสบการณ์การวิจัยดังกล่าว ทีมวิจัยจึงขยายพื้นที่ที่ทำการศึกษาไป ยังบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล โดยการเชื่อมโยงทฤษฎีค่าสุดขีดกับระบบภูมิสารสนเทศ ระบบการพยากรณ์ภัยแล้ง เพื่อสร้าง ฐานข้อมูลปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่จะส่งผลต่อการเกิดอุทกภัย ในขณะเดียวกันทฤษฎีค่าสุดขีดก็สามารถตอบโจทย์ด้าน ภัยแล้งได้ ประกอบกับจากการสร้างแบบจำลองกำหนดปัจจัยและระดับความรุนแรงของสภาวะความแห้งแล้ง และ การวิเคราะห์ข้อมูล ทีมผู้วิจัยจะแบ่งการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเป็น 3 ลักษณะ คือ พื้นที่เสี่ยงภัยเชิง อุตุนิยมวิทยา พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเชิงอุทกวิทยา และ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเชิงกายภาพ และนำแผนที่ผลลัพธ์ที่เกิดจาก การวิเคราะห์ทั้ง 3 รูปแบบมาซ้อนทับอีกครั้ง เพื่อที่จะได้แผนที่เสี่ยงภัยแล้งซ้ำซากบริเวณลุ่มน้ำมูล 1.2 วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อสังเคราะห์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และออกแบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ใน ลุ่มน้ำมูลของพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล 2) เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่สำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่างแม่นยำ ในพื้นที่แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำมูล 3) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่และระบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ แล้งซ้ำซากในลุ่มน้ำมูล 4) เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันระบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล และ web service ของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ 5) เพื่อนำเสนอ แอพพลิเคชันระบบการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ และ web service ของระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มเป้าหมาย
บทนำ 7 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 1.3 ขอบเขตการวิจัย งานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ใน ลุ่มน้ำมูลเพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ ผู้วิจัยได้กำหนด ขอบเขตการวิจัยดังต่อไปนี้ 1) ขอบเขตด้านกระบวนการวิจัย 1. สังเคราะห์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ของพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล โดยการวิเคราะห์ เปรียบเทียบระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีการนำมาใช้ เพื่อหาข้อดีและข้อด้อยของแต่ละระบบ เพื่อ นำไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น 2. พัฒนาระบบการพยากรณ์ภัยแล้งเชิงพื้นที่แล้งซ้ำซากในลุ่มน้ำมูล แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ระบบการพยากรณ์ระยะสั้น และระบบการพยากรณ์ระยะยาว โดยวิธีการวิเคราะห์ที่นำมาใช้พัฒนาระบบ การพยากรณ์ภัยแล้งเชิงพื้นที่ แสดงดังภาพ ภาพที่ 1.6 แผนผังการพัฒนาระบบการพยากรณ์ภัยแล้งเชิงพื้นที่แล้งซ้ำซากในลุ่มน้ำมูล โดยใช้ทฤษฎีอนุกรมเวลาร่วมกับทฤษฎีค่าสุดขีดเพื่อพยากรณ์ภัยแล้งในระยะสั้น และพัฒนาระบบ การพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่แล้งซ้ำซากในลุ่มน้ำมูลโดยใช้ทฤษฎีค่าสุดขีด ซึ่งเป็นการหาการแจกแจงค่า สุดขีดนัยทั่วไป (Generalized extreme value (GEV) distribution) และพยากรณ์ระดับการเกิดซ้ำและ โอกาสในการเกิดภัยแล้งสุดขีด สำหรับการพยารกร์ระยะยาว
8 บทนำ Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun Watershed for Water management of Precision Agriculture 3.ประเมินค่าดัชนีความแห้งแล้ง ผู้วิจัยได้อ้างอิงการประเมินความแห้งแล้งจาก NASA’s Earth Observatory ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ดัชนีความแห้งแล้งทางอุทกวิทยา 2 ชนิด ดัชนีความแห้งแล้ง ทางอุตุนิยมวิทยา 3 ชนิด และดัชนีความแห้งแล้งทางการเกษตร 2 ชนิด รวมทั้งหมด 7 ชนิด แสดงดังภาพ ภาพที่ 1.7 แผนผังการประเมินความแห้งแล้ง รายละเอียดของแต่ละดัชนีแสดงในบทที่ 2 4. พัฒนาตัวแบบการพยากรณ์สำหรับดัชนีความแห้งแล้งโดยใช้การวิเคราะห์สถิติพื้นฐาน การ วิเคราะห์อนุกรมเวลา การวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีค่าสุดขีด และ พยากรณ์ระดับการเกิดซ้ำและโอกาสในการเกิด ภัยแล้งสุดขีดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการพัฒนาดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล (Mun Watershed Drought Index: MWDI) ที่พัฒนาจาก Composite Drought Index รายละเอียดดังนี้ ภาพที่ 1.8 ผังการพัฒนาดัชนีความแห้งแล้งลุ่มน้ำมูล (Mun Watershed Drought Index: MWDI)
บทนำ 9 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 5. พัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ในพื้นที่ซ้ำซากลุ่มน้ำมูล ซึ่งข้อมูลที่ใช้ในพัฒนา ประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้ 1. Dynamic Data ได้แก่ ข้อมูลปริมาณน้ำฝน ข้อมูลน้ำ ข้อมูลปริมาณน้ำในลุ่มน้ำ ข้อมูลการ ปล่อยน้ำของเขื่อนในลุ่มน้ำ ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ ข้อมูลเส้นถนน และข้อมูล สังคมและเศรษฐกิจ เป็นต้น 2. Static Data ได้แก่ ข้อมูลความสูงภูมิประเทศเชิงเลข ข้อมูลทางภูมิลักษณะ ความชัน ประเภท ของดิน ข้อมูลแหล่งน้ำและปริมาณการจัดเก็บรองรับ ลักษณะของลุ่มน้ำ และข้อมูลทางภูมิศาสตร์ โดยในขั้นตอนนี้ได้มีการดำเนินการประยุกต์แบบจำลองที่ได้ร่วมกันการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบ สารสนเทศ (GIS) ซึ่งแบบจำลองที่ใช้ ได้จากการวิเคราะห์ค่าสุดขีด (Extreme Value Analysis) และ แบบจำลองเชิงพื้นที่ค่าสุดขีดวางนัยทั่วไป (Spatial GEV Model) ซึ่งแต่ละวิธีการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 5.1 การจัดทำฐานข้อมูลเป็นการสร้างฐานข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งมี ขั้นตอนการจัดสร้างข้อมูล ดังนี้ 1. การออกแบบฐานข้อมูล ในการออกแบบฐานข้อมูลจะจัดเก็บข้อมูลแบบเวคเตอร์ จะมี การจำแนกข้อมูลที่จัดเก็บออกเป็น 2 ประเภท คือ ข้อมูลเชิงพื้นที่ และข้อมูลเชิงบรรยาย โดยมีการเชื่อมข้อมูล ทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน และการจัดเก็บข้อมูลเชิงพื้นที่เวคเตอร์นั้นได้กำหนดลักษณะทางภูมิศาสตร์ของ ข้อมูลออกเป็น จุด เส้น และรูปหลายเหลี่ยม โดยขึ้นกับประเภทของข้อมูลว่ามีความเหมาะสมที่จะจัดเก็บเป็น รูปแบบใดทั้งนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป ภาพที่ 1.9 องค์ประกอบข้อมูลพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สุดขีดเชิงพื้นที่ในพื้นที่ซ้ำซากลุ่มน้ำมูล