110 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 2) ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน ตารางที่3.4 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกตามสถานี รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ST1 4.90 19.20 31.79 44.80 313.90 37.63 2.24 9.98 ST2 5.60 18.30 29.50 42.50 232.80 32.68 1.82 6.97 ST3 7.10 20.30 30.76 43.30 314.10 32.92 2.00 8.82 ST4 13.20 29.80 38.19 52.40 280.90 34.51 1.86 8.24 ST5 7.10 22.60 33.33 47.00 286.40 35.70 1.89 7.78 ST6 7.88 25.80 39.31 57.50 334.40 41.43 1.76 7.15 ST7 8.10 27.10 40.46 58.40 331.40 43.02 1.88 8.16 ST8 8.50 27.20 40.77 59.40 449.70 43.46 2.04 9.77 ST9 8.88 29.80 44.19 63.20 428.10 48.65 2.20 10.45 ST10 10.00 31.70 48.05 70.90 434.90 51.41 1.82 7.61 ST11 9.00 31.10 47.13 68.90 613.10 51.61 2.29 13.25 ST12 6.55 21.00 34.53 49.85 508.90 39.54 2.57 16.49 ST13 6.80 24.30 36.18 54.30 305.40 38.03 1.79 7.67 ST14 6.80 23.05 35.32 51.38 450.80 39.24 2.35 13.06 ST15 7.30 25.90 38.89 57.50 508.90 42.45 2.36 14.36 ST16 7.60 26.10 40.05 58.50 607.20 45.29 2.63 17.84 ST17 8.20 26.90 39.99 58.50 300.40 42.09 1.74 7.08 จากตาราง 3.4 พบว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน สูงสุด พบที่ ST11 (สถานี 48408) รองลงมาคือ ST11 (สถานี 48408) ST16 (สถานี 48404) และ ST12 (สถานี 48403) มีค่าเท่ากับ 613.10 607.20 และ 508.90 มิลลิเมตร ตามลำดับ ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญ พบว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วันของทุกสถานี มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานค่อนข้างสูงอยู่ระหว่าง 32.68 – 51.61 มิลลิเมตร และข้อมูลมี ลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อมทั้งมีลักษณะเบ้ขวา จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน ของทั้ง 17 สถานีในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดูสารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.3
ผลการวิจัย 111 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย7 วัน ต่ำสุด รายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ราย7 วัน ต่ำสุด รายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน สูงสุด รายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ราย 7 วัน สูงสุด รายเดือน ภาพที่ 3.3 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณ น้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 7 วัน จำแนกรายสถานี
112 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 3) ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน ตารางที่3.5 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกตามสถานี รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ST1 8.00 27.70 41.93 60.40 440.50 46.20 2.03 8.94 ST2 8.60 26.90 38.95 56.90 291.60 39.89 1.58 5.90 ST3 10.80 28.50 40.80 58.60 323.80 40.48 1.72 7.00 ST4 17.70 41.50 50.79 70.75 305.50 43.83 1.51 6.08 ST5 11.00 31.90 44.31 64.40 294.80 43.73 1.60 6.15 ST6 11.40 36.60 51.93 78.20 373.30 50.92 1.50 5.89 ST7 12.20 39.00 53.65 78.70 409.60 53.66 1.67 6.89 ST8 12.00 37.90 53.65 79.20 450.60 54.13 1.75 7.65 ST9 13.10 41.60 58.69 84.60 572.70 60.33 1.91 8.68 ST10 14.40 44.60 63.77 95.55 471.30 64.53 1.59 6.33 ST11 13.10 42.80 62.67 92.80 708.30 65.35 2.05 11.29 ST12 9.80 30.10 45.18 65.20 533.90 48.43 2.29 13.32 ST13 10.50 35.10 47.74 70.00 334.60 46.66 1.49 5.98 ST14 9.90 32.00 46.32 69.20 602.90 48.37 2.23 13.61 ST15 10.70 37.20 51.08 75.00 533.90 51.75 2.03 11.29 ST16 11.20 36.50 52.73 76.40 701.70 55.48 2.38 16.18 ST17 12.00 38.30 52.82 79.50 335.30 51.63 1.42 5.35 จากตาราง 3.5 พบว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน สูงสุด พบที่ ST11 (สถานี 48408) รองลงมาคือ ST16 (สถานี 48404) และ ST14 (สถานี 48384) มีค่าเท่ากับ 708.30 701.70 และ 602.90 มิลลิเมตร ตามลำดับ ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วันของทุกสถานี มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานค่อนข้างสูงอยู่ระหว่าง 39.89 – 65.35 มิลลิเมตร และข้อมูลมีลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อมทั้งมีลักษณะเบ้ขวา จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน ของทั้ง 17 สถานีในลุ่มน้ำมูล เป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดูสารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.4
ผลการวิจัย 113 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ราย 10 วัน ต่ำสุด รายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน สูงสุด รายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณน้ำฝนสะสม เคลื่อนที่ราย 10 วัน สูงสุด รายเดือน ภาพที่ 3.4 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นปริมาณ น้ำฝนสะสมเคลื่อนที่ราย 10 วัน จำแนกรายสถานี
114 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 4) อุณหภูมิสูงสุดรายวัน ตารางที่3.6 ค่าสถิติพื้นฐานของอุณหภูมิสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ST1 31.60 33.60 33.45 35.60 41.90 3.20 -0.40 3.33 ST2 32.00 33.90 33.73 35.70 42.50 3.12 -0.45 3.64 ST3 30.00 31.50 31.40 33.00 39.00 2.68 -0.44 4.04 ST4 31.20 33.00 33.05 35.00 43.20 3.26 -0.58 7.56 ST5 31.60 33.50 33.41 35.50 43.00 3.18 -0.40 3.74 ST6 31.30 33.00 33.03 34.90 42.00 3.03 -0.32 3.74 ST7 31.80 33.40 33.36 35.20 42.00 2.94 -0.43 4.02 ST8 32.00 33.70 33.71 35.50 43.10 3.01 -0.36 3.87 ST9 31.40 33.10 33.16 35.00 42.30 3.06 -0.26 3.73 ST10 32.10 33.70 33.63 35.30 42.60 2.84 -0.40 4.17 ST11 32.00 33.70 33.66 35.30 42.40 2.91 -0.39 4.25 ST12 31.30 33.20 33.26 35.30 42.60 3.29 -0.17 3.55 ST13 31.10 33.00 32.98 35.00 42.40 3.18 -0.22 3.68 ST14 31.70 33.40 33.41 35.20 42.70 3.13 -0.36 4.79 ST15 31.80 33.60 33.58 35.50 43.30 3.18 -0.34 3.98 ST16 30.75 32.50 32.54 34.40 41.20 3.09 -0.20 3.70 ST17 31.50 33.20 33.12 35.00 42.30 3.09 -0.35 4.50 จากตาราง 3.6 พบว่า อุณหภูมิรายวันสูงสุดของทั้ง 17 สถานีมีค่าใกล้เคียงกัน โดยมีค่าสูงสุดอยู่ ระหว่าง 39.00 – 43.30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิรายวันสูงสุด พบที่ ST15 (สถานี 48382) รองลงมาคือ ST4 (สถานี 48384) และ ST8 (สถานี 48433) มีค่าเท่ากับ 43.30 43.20 และ 43.10 องศาเซลเซียส ตามลำดับ ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า อุณหภูมิรายวันของทุกสถานีมีส่วนเบี่ยงบนมาตรฐานอยู่ระหว่าง 2.68 – 3.29 องศาเซลเซียส และข้อมูลมีลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อมทั้งมีลักษณะเบ้ซ้าย จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของอุณหภูมิรายวันของทั้ง 17 สถานีในลุ่มน้ำมูลเป็น การแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านซ้าย (Left heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดูสารสนเทศของ ข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.5
ผลการวิจัย 115 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ (ก) บ็อกพลอตอุณหภูมิต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นอุณหภูมิต่ำสุดราย เดือน (ค) บ็อกพลอตอุณหภูมิสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นอุณหภูมิสูงสุดราย เดือน ภาพที่ 3.5 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นอุณหภูมิสูงสุดรายวันจำแนกตามสถานี
116 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 5) ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดรายวัน ตารางที่3.7 ค่าสถิติพื้นฐานของความชื้นสัมพัทธ์รายวัน จำแนกตามสถานี รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ST1 84.00 89.00 88.51 94.00 100.00 7.48 -0.65 3.11 ST2 83.00 91.00 88.37 95.00 100.00 8.34 -1.00 3.70 ST3 87.00 91.00 89.84 95.00 100.00 6.01 -1.09 4.91 ST4 88.00 94.00 91.85 97.00 100.00 7.22 -1.11 4.02 ST5 89.00 94.00 92.39 97.00 100.00 5.85 -1.31 4.82 ST6 86.00 90.00 89.01 92.00 100.00 5.14 -0.80 4.17 ST7 85.00 90.00 88.73 94.00 100.00 6.76 -0.73 3.22 ST8 89.00 92.00 91.17 95.00 100.00 5.23 -1.33 5.16 ST9 85.00 90.00 88.98 94.00 100.00 6.28 -0.83 3.53 ST10 83.00 88.00 87.48 93.00 100.00 7.32 -0.80 3.51 ST11 88.00 93.00 90.95 96.00 100.00 6.02 -1.26 4.65 ST12 80.00 87.00 85.56 93.00 100.00 8.72 -0.64 2.82 ST13 82.00 88.00 87.37 94.00 100.00 7.91 -0.77 3.39 ST14 89.00 94.00 91.93 97.00 100.00 6.82 -1.53 6.05 ST15 85.00 90.00 88.81 94.00 100.00 6.71 -0.92 4.52 ST16 86.00 92.00 90.24 96.00 100.00 6.81 -1.10 4.10 ST17 84.00 90.00 89.05 96.00 100.00 7.58 -0.77 3.50 จากตาราง 3.7 พบว่า ความชื้นสัมพัทธ์รายวันควอไทล์ที่ 95 ทั้ง 17 สถานีมีค่าใกล้เคียงกัน โดยมีค่า อยู่ระหว่าง 92.00 – 97.00 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ความชื้นสัมพัทธ์รายวันของทุกสถานีมีส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ระหว่าง 5.14 – 8.72 เปอร์เซ็นต์ และข้อมูลมีลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อมทั้งมี ลักษณะเบ้ซ้าย จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของความชื้นสัมพัทธ์รายวันของทั้ง 17 สถานีในลุ่ม น้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านซ้าย (Left heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดู สารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.6
ผลการวิจัย 117 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ (ก) บ็อกพลอตความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ความชื้นสัมพัทธ์รายเดือน ภาพที่ 3.6 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็นความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี
118 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 6) ความเร็วลมสูงสุดรายวัน ตารางที่3.8 ค่าสถิติพื้นฐานของความเร็วลมสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ST1 12.00 14.00 14.00 16.00 34.00 3.14 0.62 4.42 ST2 8.00 10.00 10.38 12.00 44.00 4.13 1.64 8.27 ST3 12.00 14.00 14.61 17.00 37.00 3.85 0.73 4.60 ST4 9.00 12.00 13.36 16.00 48.00 5.96 1.15 5.05 ST5 11.00 13.00 13.61 16.00 114.00 4.20 4.69 97.90 ST6 7.00 8.00 8.95 10.00 22.00 2.51 0.61 4.04 ST7 11.00 13.00 13.45 15.00 54.00 3.58 1.27 8.92 ST8 9.00 12.00 12.03 14.00 180.00 5.11 10.90 333.98 ST9 5.00 7.00 8.30 11.00 40.00 4.66 1.04 4.39 ST10 10.00 13.00 13.30 16.00 44.00 4.85 1.06 4.99 ST11 6.00 8.00 8.56 10.00 28.00 3.68 1.07 4.30 ST12 12.00 14.00 14.58 17.00 70.00 4.39 1.00 10.76 ST13 10.00 12.00 12.54 15.00 50.00 4.56 1.70 8.81 ST14 7.00 8.00 8.88 10.00 20.00 2.32 0.77 3.87 ST15 8.00 11.00 10.88 13.00 69.00 3.72 2.69 36.62 ST16 9.00 11.00 11.90 14.00 42.00 3.50 1.37 7.96 ST17 10.00 12.00 12.66 15.00 150.00 4.12 9.88 312.63 จากตาราง 3.8 พบว่า ความเร็วลมรายวันสูงสุดของทั้ง 17 สถานีมีค่าใกล้เคียงกัน โดยมีค่าสูงสุดอยู่ ระหว่าง 20.00 – 180.00 นอต ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ความเร็วลมรายวันของทุกสถานีมีส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานอยู่ระหว่าง 2.32 – 5.96 นอต และข้อมูลมีลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อมทั้งมีลักษณะเบ้ขวา จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของความเร็วลมของทั้ง 17 สถานีในลุ่มน้ำมูลเป็นการ แจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านซ้าย (Left heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดูสารสนเทศของข้อมูล นี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.7
ผลการวิจัย 119 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ (ก) บ็อกพลอตความเร็วลมต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ความเร็วลมต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตความเร็วลมสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ความเร็วลมรายเดือน ภาพที่ 3.7 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ความเร็วลมรายวันสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานี
120 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 2.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลอุทกวิทยา ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานข้อมูลทางด้านอุทกวิทยา ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของค่าสถิติพื้นฐานของ ข้อมูล จำแนกตามสถานีที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล แสดงดังตารางที่ 3.9 – 3.16 ดังนี้ ตารางที่3.9 ข้อมูลสถานีตรวจวัดระดับน้ำ จำนวน 73 สถานี ลำดับ รหัสสถานี บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด 1 M.2A ด่านตะกา พระพุทธ เฉลิมพระเกียรติ นครราชสีมา 2 M.4 พงสวาย ท่าตูม ท่าตูม สุรินทร์ 3 M.5 เมืองคง เมืองคง ราษีไศล ศรีสะเกษ 4 M.6A สตึก สตึก สตึก บุรีรัมย์ 5 M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย - วารินชำราบ อุบลราชธานี 6 M.9 ชุมชนสะพานขาว หญ้าปล้อง เมือง ศรีสะเกษ 7 M.11B พิบูล พิบูล พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี 8 M.26A ละลูน หนองเต็ง กระสัง บุรีรัมย์ 9 M.32 เชียงเพ็ง เชียงเพ็ง ป่าติ้ว ยโสธร 10 M.38C คลองไผ่ คลองไผ่ สีคิ้ว นครราชสีมา 11 M.42 ห้วยทับทัน ห้วยทับทัน ห้วยทับทัน ศรีสะเกษ 12 M.43A ท่ามะปรางค์ หมูสี ปากช่อง นครราชสีมา 13 M.49 หนองโสน ครบุรีใต้ ครบุรี นครราชสีมา 14 M.50 ครบุรี โคกกระชาย ครบุรี นครราชสีมา 15 M.66 วังชมภู เวียงเหนือ กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ 16 M.69 ท่าบ่อแบง ขามเปี้ย ตระการพืชผล อุบลราชธานี 17 M.75 บ้านแก่งยาง ดอนจิก พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี 18 M.89 สะพานอาคารเซรุ่ม - ปากช่อง นครราชสีมา 19 M.91 โคกแดง ไพรพัฒนา ภูสิงห์ ศรีสะเกษ 20 M.95A กู่ สระคู สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด 21 M.98 พยุห์ พยุห์ พยุห์ ศรีสะเกษ 22 M.104 วังปรัด บ้านแพ คูเมือง บุรีรัมย์ 23 M.108 สระขุด สระขุด ชุมพลบุรี สุรินทร์ 24 M.110 กุดสมบูรณ์ ดอนใหญ่ ศรีเมืองใหม่ อุบลราชธานี 25 M.112 โคกใหญ่ ร่อนทอง สตึก บุรีรัมย์
ผลการวิจัย 121 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ ลำดับ รหัสสถานี บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด 26 M.119 โคกสะแกราช สะแกราช ปักธงชัย นครราชสีมา 27 M.124 บ้านโนน หนองแวง บ้านใหม่ไชยพจน์ บุรีรัมย์ 28 M.125 ห้วยไฮ กู่สวนแตง บ้านใหม่ไชยพจน์ บุรีรัมย์ 29 M.127 นาไฮ นาสะไม ตระการพืชผล อุบลราชธานี 30 M.132 บ้านโหมน นาพิน ตระการพืชผล อุบลราชธานี 31 M.137 ระกา โคกเพชร ขุขันธ์ ศรีสะเกษ 32 M.142 โดนเอาวร์ รุง กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ 33 M.143 หนองใหญ่ รุง กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ 34 M.145 วังตะเคียนทอง วังกะทะ ปากช่อง นครราชสีมา 35 M.152 โพนทองน้อย โดมประดิษฐ์ น้ำยืน อุบลราชธานี 36 M.153 กุดเชียงหมุน โดมประดิษฐ์ น้ำยืน อุบลราชธานี 37 M.154 นาจะหลวย นาจะหลวย นาจะหลวย อุบลราชธานี 38 M.155 บ้านนาผือ นาผือ เมือง อำนาจเจริญ 39 M.156 นาผือ นาผือ เมือง อำนาจเจริญ 40 M.157 บ้านนิคม กระจาย ป่าติ้ว ยโสธร 41 M.159 หลุมดิน เมืองลิง จอมพระ สุรินทร์ 42 M.164 - ในเมือง เมือง นครราชสีมา 43 M.170 คำสำราญ ตบหู เดชอุดม อุบลราชธานี 44 M.171 โนนสาวเอ้ วังหมี วังน้ำเขียว นครราชสีมา 45 M.172 โนนสาวเอ้ วังหมี วังน้ำเขียว นครราชสีมา 46 M.173 โนนสะอาด กุดพิมาน โชคชัย นครราชสีมา 47 M.174 โนนสมบูรณ์ ละหานปลาค้าว เมืองยาง นครราชสีมา 48 M.175 หนองสาหร่าย ทุ่งกุลา สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด 49 M.176 โนนศรีไคล หนองหัวช้าง กันทรารมย์ ศรีสะเกษ 50 M.177 โนนสว่าง ลาดบัวขาว สีคิ้ว นครราชสีมา 51 M.178 หนองเต่า หนองเต่า ตระการพืชผล อุบลราชธานี 52 M.179A ป่าก่อ หนองเหล่า เขื่องใน อุบลราชธานี 53 M.180 ท่าเยี่ยม บ่อปลาทอง ปักธงชัย นครราชสีมา 54 M.181 ท่าวังยาง บุ่งหวาย วารินชำราบ อุบลราชธานี 55 M.182 สีถาน หนองบัว กันทรารมย์ ศรีสะเกษ
122 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture ลำดับ รหัสสถานี บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด 56 M.183B หินเพิง วังไทร ปากช่อง นครราชสีมา 57 M.184 ซึม สัมฤทธิ์ พิมาย นครราชสีมา 58 M.185A ไผ่น้อย หนองคู ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ 59 M.186 โนนคอย หนองพลวง จักราช นครราชสีมา 60 M.187 ใกล้สถานีประมงน้ำจืด เฉนียง เมือง สุรินทร์ 61 M.188A บ้านเพิ่ม โนนสูง โนนสูง นครราชสีมา 62 M.190 ขวาว ทุ่งไชย อุทุมพรพิสัย ศรีสะเกษ 63 M.191 โคกกรวด โคกกรวด เมือง นครราชสีมา 64 M.192 โนนค่า โป่งแดง สูงเนิน นครราชสีมา 65 M.193 บ้านกอก ละทาย กันทรารมย์ ศรีสะเกษ 66 M.194 เมืองที เมืองปราสาท โนนสูง นครราชสีมา 67 M.195 สำเร็จ สัมฤทธิ์ พิมาย นครราชสีมา 68 M.196 อังกัญโพธิ์ โคกยาง ปราสาท สุรินทร์ 69 M.197 สีเหลี่ยม โคกยาง ปราสาท สุรินทร์ 70 M.198 สุขสำราญ หูทำนบ ปะคำ บุรีรัมย์ 71 M.199 ขนงพระเหนือ ขนงพระ ปากช่อง นครราชสีมา 72 M.200 สระบัว ละหานปลาค้าว เมืองยาง นครราชสีมา 73 M.201 หัวดง ศรีสว่าง โพนทราย ร้อยเอ็ด แผนผังสถานีตรวจวัดน้ำของกรมชลประทานในลุ่มน้ำมูลแสดงดังภาพที่ 3.8
ผลการวิจัย 123 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ ภาพที่ 3.8 แผนผังสถานีสถานีตรวจวัดระดับน้ำในลุ่มน้ำมูล (ที่มา ศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กรมชลประทาน (rid.go.th))
124 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 1) ข้อมูลปริมาณน้ำท่า จำนวน 34 สถานี ตารางที่3.10 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายวัน จำแนกตามสถานีน้ำ รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง M.2A 5.84 21.51 54.32 63.68 507.36 84.97 2.79 11.77 M.4 14.58 62.70 359.35 373.48 3951.03 624.50 2.57 10.40 M.5 11.34 67.11 497.96 521.68 6041.78 919.55 2.72 11.09 M.6A 4.42 42.74 253.17 251.94 3317.93 485.90 2.99 13.12 M.7 149.67 469.98 1534.33 1935.31 11826.50 2241.00 2.08 7.18 M.9 1.23 4.40 66.29 73.50 815.15 127.90 2.73 10.95 M.11B 126.41 696.07 2079.15 2990.09 16779.74 3105.51 2.17 8.05 M.32 10.65 35.51 119.38 184.26 1299.50 177.79 2.96 16.30 M.42 1.59 11.21 72.06 92.13 779.41 124.04 2.53 10.56 M.43A 1.00 3.33 8.09 12.01 67.20 10.30 2.03 7.93 M.66 1.00 3.33 8.09 12.01 67.20 10.30 2.03 7.93 M.89 1.92 7.69 24.71 31.69 188.06 35.10 1.92 6.49 M.95A 5.24 8.40 15.70 18.61 143.89 18.51 2.87 13.91 M.104 7.42 31.08 64.83 87.39 475.06 85.82 2.09 8.09 M.127 32.22 117.18 352.69 414.42 2700.17 554.91 2.36 8.45 M.145 0.98 4.80 26.68 33.41 260.85 44.24 2.34 8.95 M.159 0.81 2.52 7.31 7.67 88.39 12.12 3.16 15.33 M.164 7.08 41.35 145.64 182.37 1496.30 236.84 2.71 11.81 M.170 3.67 8.59 13.01 14.92 130.43 16.21 3.97 24.83 M.171 3.10 13.27 81.85 98.47 860.93 134.40 2.57 11.55 M.172 1.28 4.22 13.68 13.95 158.56 23.61 3.25 15.74 M.173 0.41 1.18 5.33 4.56 160.89 13.99 7.40 74.35 M.176 4.17 13.95 38.95 38.32 724.06 80.15 5.05 35.04 M.177 3.56 20.66 101.70 121.28 970.35 167.49 2.22 8.08 M.179A 8.53 15.66 18.76 25.42 101.86 13.63 1.80 8.92 M.180 17.57 63.08 178.37 209.44 1980.40 313.71 3.72 19.99 M.182 1.01 1.58 6.28 2.57 220.72 21.96 6.82 56.96
ผลการวิจัย 125 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ รหัสเรียก Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง M.184 33.45 162.23 650.17 680.65 5919.91 1056.11 2.33 8.70 M.185A 13.35 38.15 82.02 106.25 491.12 105.47 1.88 6.05 M.186 7.34 41.66 113.01 164.48 900.67 175.39 2.44 9.52 M.187A 1.22 5.13 22.02 27.18 152.81 32.88 1.94 6.18 M.188A 0.66 1.24 14.57 6.34 169.23 30.21 2.93 12.02 M.190 1.25 5.52 22.51 21.11 252.53 45.24 3.44 15.72 M.191 5.65 39.00 85.29 117.60 505.98 119.48 1.89 5.93 จากตาราง 3.10 พบว่า ปริมาณน้ำท่าสูงสุดของทั้ง 34 สถานี มีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 67.20 – 16779.74 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ปริมาณน้ำท่ารายวันของทุกสถานีมีส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ระหว่าง 10.30 – 3105.51 ลูกบาศก์เมตร และข้อมูลมีลักษณะโด่งค่อนข้างสูง พร้อม ทั้งมีลักษณะเบ้ขวา
126 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำท่ารายวันของทั้ง 34 สถานีในลุ่มน้ำมูล เป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) ซึ่งสามารถดูสารสนเทศ ของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.9 (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือน ลุ่มน้ำมูลตอนบน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือนลุ่มน้ำมูลตอนบน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือน ลุ่มน้ำมูลตอนกลาง (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือนลุ่มน้ำมูลตอนกลาง (จ) บ็อกพลอตปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือน ลุ่มน้ำมูลตอนล่าง (ฉ) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือนลุ่มน้ำมูลตอนล่าง ภาพที่ 3.9 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำท่าสูงสุดรายเดือน จำแนกตามสถานี
ผลการวิจัย 127 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 2) ข้อมูลปริมาตรใช้การ (ล้าน ลบ.ม.) ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.11 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาตรน้ำในอ่างจำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง(D01) 95.18 141.30 151.16 193.30 357.44 73.50 0.64 2.69 ลำพระเพลิง (D02) 36.13 67.04 68.03 95.00 172.10 37.30 0.29 2.34 มูลบน (D03) 45.43 65.21 70.60 88.83 172.43 32.65 0.57 2.56 ลำแซะ (D04) 106.19 143.95 148.77 186.72 320.12 61.73 0.35 2.70 ลำนางรอง (D05) 38.59 58.00 59.12 74.98 267.00 28.61 1.91 12.95 สิริธร (D06) 225.17 469.44 488.75 748.77 1129.35 298.50 0.21 1.82 จากตาราง 3.11 พบว่า ปริมาตรใช้การ (ล้าน ลบ.ม.) ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มี ค่าควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 36.31–225.17 ล้าน ลูกบาศก์เมตร และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 172.10– 1129.50 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาตรการใช้ทั้ง 6อ่าง อยู่ระหว่าง 28.61–298.50 ล้าน ลูกบาศก์เมตร จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาตรใช้การ (ล้าน ลบ. ม.) ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) โดยเฉพาะอ่างน้ำลำนางรองที่มีลักษณะการแจกแจงเบ้ขวากว่าอ่างเก็บน้ำอื่น ๆ ซึ่งสามารถดู สารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.10 (ก) บ็อกพลอตปริมาตรใช้การต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาตรใช้การต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาตรใช้การสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาตรใช้การสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.10 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาตรใช้การรายเดือน จำแนกตามสถานี
128 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 3) ข้อมูลระดับน้ำในอ่าง (ม.รทก.) ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.12 ค่าสถิติพื้นฐานของข้อมูลระดับน้ำในอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง(D01) 268.47 271.32 269.03 273.76 377.00 11.81 -2.48 17.48 ลำพระเพลิง (D02) 254.25 259.00 258.01 261.86 526.00 7.66 2.21 3.43 มูลบน (D03) 213.98 216.00 216.11 218.00 550.78 6.84 13.39 325.88 ลำแซะ (D04) 220.23 222.16 222.12 224.00 320.00 6.86 -19.29 188.08 ลำนางรอง (D05) 234.83 236.00 235.22 237.52 243.93 14.66 -15.17 6.96 สิริธร (D06) 138.03 139.62 139.52 140.81 174.00 1.57 -0.01 100.24 จากตาราง 3.12 พบว่า ระดับน้ำในอ่าง (ม.รทก.) ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มีค่าระดับ น้ำในอ่างที่ควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 138.03– 268.47 ม.รทก. และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 174.10– 550.78 ม.รทก. ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับน้ำในอ่าง (ม.รทก.) ทั้ง 6อ่าง อยู่ระหว่าง 1.57–14.66 ม.รทก. จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของระดับน้ำในอ่าง (ม.รทก.) ของอ่างขนาด ใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านซ้าย (Left heavy-tailed distribution) และด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) สามารถดูสารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.xx (ก) บ็อกพลอตระดับน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ระดับน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตระดับน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ระดับน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.11 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ระดับน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี
ผลการวิจัย 129 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 4) ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบันของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.13 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง(D01) 121.00 166.00 175.87 216.00 384.44 72.40 0.67 2.78 ลำพระเพลิง (D02) 37.11 68.04 69.11 96.05 173.50 37.39 0.29 2.35 มูลบน (D03) 50.72 72.27 76.90 95.15 179.43 32.66 0.53 2.48 ลำแซะ (D04) 112.85 150.72 155.21 193.61 320.12 61.44 0.32 2.62 ลำนางรอง (D05) 41.71 61.00 61.93 77.62 274.00 28.51 2.02 14.06 สิริธร (D06) 1056.54 1300.82 1320.02 1580.15 1960.72 298.40 0.21 1.82 จากตาราง 3.13 พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มีค่า ปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบันที่ควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 37.11 – 1056.54 ล้าน ลบ.ม. และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 173.50–1580.15 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน ทั้ง 6อ่าง อยู่ระหว่าง28.51–298.40ล้าน ลบ.ม. จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำ ในอ่างปัจจุบันของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) สามารถดูสารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.xx (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.12 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี
130 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 5) ข้อมูลร้อยละปริมาณน้ำในอ่างของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.14 ค่าสถิติพื้นฐานของร้อยละปริมาณน้ำในอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง(D01) 38.47 52.78 56.42 70.12 122.24 23.45 0.65 2.66 ลำพระเพลิง (D02) 23.94 43.90 44.58 61.97 111.94 24.12 0.29 2.35 มูลบน (D03) 35.97 51.26 54.54 67.48 127.25 23.17 0.53 2.48 ลำแซะ (D04) 41.04 54.81 56.44 70.40 116.41 22.34 0.32 2.62 ลำนางรอง (D05) 34.35 50.24 50.26 63.93 108.77 20.19 0.41 2.66 สิริธร (D06) 53.74 66.17 67.14 80.37 99.73 15.18 0.21 1.82 จากตาราง 3.14 พบว่า ร้อยละปริมาณน้ำในอ่างของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มีค่าร้อยละ ปริมาณน้ำในอ่างที่ควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 23.94– 53.74 ล้าน ลบ.ม. และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 99.73– 127.25 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของร้อยละปริมาณน้ำในอ่าง ทั้ง 6อ่าง อยู่ ระหว่าง15.18–23.45ล้าน ลบ.ม. จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของร้อยละปริมาณน้ำในอ่าง ของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) สามารถดูสารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.xx (ก) บ็อกพลอตร้อยละปริมาณน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ร้อยละปริมาณน้ำในอ่างต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตร้อยละปริมาณน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ร้อยละปริมาณน้ำในอ่างสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.13 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ร้อยละปริมาณน้ำในอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี
ผลการวิจัย 131 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 6) ข้อมูลปริมาณน้ำไหลลงอ่างของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.15 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำไหลลงอ่าง จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง(D01) 0.22 0.47 1.14 1.07 793 10.8 71.17 95.34 ลำพระเพลิง (D02) 0.06 0.2 0.81 0.68 69.96 2.25 12.58 282.87 มูลบน (D03) 0.07 0.14 0.4 0.35 18.08 0.89 8.03 103.38 ลำแซะ (D04) 0.16 0.38 0.79 0.94 19.09 1.32 5.93 57.20 ลำนางรอง (D05) 0.04 0.07 0.77 0.28 81.06 5.48 11.57 137.65 สิริธร (D06) 0.85 2.5 6.8 7.82 184.86 11.98 5.22 48.13 จากตาราง 3.15 พบว่า ปริมาณน้ำไหลลงอ่างของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มีค่าปริมาณ น้ำไหลลงอ่างที่ควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 0.06–0.85 ล้าน ลบ.ม. และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 18.08– 184.86 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณน้ำไหลลงอ่าง ทั้ง 6อ่าง อยู่ระหว่าง 0.89–11.98ล้าน ลบ.ม. จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำไหลลงอ่างของอ่างขนาด ใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) สามารถดู สารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.14 (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำไหลลงอ่างต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำไหลลงอ่างต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.14 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำไหลลงอ่างรายเดือน จำแนกตามสถานี
132 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 7) ข้อมูลปริมาณน้ำระบายของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูล ตารางที่3.16 ค่าสถิติพื้นฐานของปริมาณน้ำระบาย จำแนกตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่6 แห่ง เขื่อน Q(0.25) Q(0.50) ค่าเฉลี่ย Q(0.75) ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง น้ำลำตะคลอง 0.26 0.52 0.63 0.86 10.75 0.57 4.31 52.41 ลำพระเพลิง 0.25 0.60 0.66 0.86 14.96 0.69 6.25 82.99 มูลบน 0.05 0.13 0.27 0.44 6.57 0.34 6.28 87.36 ลำแซะ 0.16 0.38 0.55 0.88 10.42 0.50 3.44 46.15 ลำนางรอง 0.06 0.14 0.27 0.27 131.00 2.48 51.24 113.75 สิริธร 1.51 3.09 4.25 5.28 94.19 5.06 7.13 87.68 จากตาราง 3.16 พบว่า ปริมาณน้ำระบายของอ่างขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลทั้ง 6 อ่าง มีค่าปริมาณน้ำ ระบายที่ควอไทล์ที่ 25อยู่ระหว่าง 0.06– 1.51 ล้าน ลบ.ม./วินาที และมีค่าสูงสุดอยู่ระหว่าง 6.57 –131.00 ล้าน ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ข้อสังเกตสำคัญพบว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณน้ำระบาย ทั้ง 6อ่าง อยู่ระหว่าง 0.34– 5.06 ล้าน ลบ.ม./วินาที จากข้อมูลสรุปข้างต้น สรุปได้ว่า การแจกแจงของปริมาณน้ำระบายของอ่าง ขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำมูลเป็นการแจกแจงที่มีลักษณะหางหนักด้านขวา (Right heavy-tailed distribution) สามารถดู สารสนเทศของข้อมูลนี้เพิ่มเติมได้ดังแสดงในภาพ 3.15 (ก) บ็อกพลอตปริมาณน้ำระบายต่ำสุดรายเดือน (ข) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำระบายต่ำสุดรายเดือน (ค) บ็อกพลอตปริมาณน้ำระบายสูงสุดรายเดือน (ง) กราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำระบายสูงสุดรายเดือน ภาพที่ 3.15 บ็อกพลอตและกราฟการแจกแจงความน่าจะเป็น ปริมาณน้ำระบายรายเดือน จำแนกตามสถานี
ผลการวิจัย 133 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ 2.3 ข้อมูลความเสียหายของพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล การวิเคราะห์ความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล ผู้วิจัยได้แบ่งการวิเคราะห์ ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ลุ่มน้ำมูลตอนบน ลุ่มน้ำมูลตอนกลาง และลุ่มน้ำมูลตอนล่าง โดยได้รับความ อนุเคราะห์ข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดในลุ่มน้ำมูล ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการดำเนินงานวิจัย ในครั้งนี้ รายละเอียดการวิเคราะห์เป็นดังตารางที่ 3.17 – 3.20 ตารางที่3.17 สรุปพื้นที่รวม(ไร่) และสัดส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำมูลที่เกิดความเสียหายจากภัยแล้ง จำแนกตามปีงบประมาณ ปีงบ ประมาณ จำนวน เกษตรกร (ราย) พื้นที่ ปลูกข้าว (ไร่) พื้นที่ พืชไร่ (ไร่) พื้นที่ พืชสวน และอื่นๆ (ไร่) รวม (ไร่) งบประมาณ รวม (บาท) พื้นที่เฉลี่ย ต่อราย งบประมาณ เฉลี่ย ต่อราย 2561 88,218 1,059,807 70,236 53 1,130,096 1,260,285,698 13 14,286 2562 328,220 3,226,919 486,911 3,327 3,717,158 4,156,158,305 11 12,663 2563 7,324 45,738 204 320 46,261 51,680,272 6 7,056 2564 515 5,221 5,221 5,810,417 10 11,282 รวม 424,277 4,337,684 557,352 3,700 4,898,736 5,473,934,690 12 12,902 จากตาราง 3.17 พบว่า ช่วงปีงบประมาณ 2561 ถึง 2564 มีพื้นที่ทางการเกษตรได้ความผลกระทบ จากภัยแล้ง คิดเป็น 4,898,736 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว รองลงมาเป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่ โดยส่งผล ต่อเกษตรในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลจำนวนทั้งสิ้น 424,277 ราย ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2562 พื้นที่การเกษตรในลุ่ม น้ำมูลที่เกิดความเสียหายจากภัยแล้งสูงสุด จำนวน 3,717,158 ไร่ ทั้งนี้เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 3,226,919 ไร่ ส่งผลต่อเกษตรกรในพื้นที่ทั้งหมด 328,220 ราย โดยรัฐลาลได้มีการจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,156,158,305 บาท โดยเฉลี่ยพื้นที่เสียหายต่อเกษตรกร 1 ราย คิดเป็น 11 ไร่ และมีค่าใช้จ่ายงบประมาณ ชดเชยเฉลี่ยต่อเกษตรกร 1 คน คิดเป็น 12,663 บาท
134 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture ตารางที่3.18 สรุปข้อมูลความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ปีงบ ประมาณ จำนวน เกษตรกร (ราย) พื้นที่ ปลูกข้าว (ไร่) พื้นที่ พืชไร่ (ไร่) พื้นที่ พืชสวน และอื่นๆ (ไร่) รวม (ไร่) งบประมาณ รวม (บาท) พื้นที่เฉลี่ย ต่อราย งบประมาณ เฉลี่ย ต่อราย 2561 88,218 1,059,807 70,236 53 1,130,096 1,260,285,698 13 14,286 นครราชสีมา 45,009 534,986 70,236 53 605,275 676,159,925 13 15,023 บุรีรัมย์ 21,927 280,390 - - 280,390 312,074,348 13 14,232 ร้อยเอ็ด 20,277 234,975 - - 234,975 261,526,619 12 12,898 ศรีสะเกษ 513 4,274 - - 4,274 4,756,684 8 9,272 สุรินทร์ 492 5,183 - - 5,183 5,768,123 11 11,724 2562 328,220 3,226,919 486,911 3,327 3,717,158 4,156,158,305 11 12,663 ชัยภูมิ 99,863 862,015 172,815 1,623 1,036,454 1,160,558,312 10 11,622 นครราชสีมา 173,267 1,827,713 313,776 1,701 2,143,190 2,397,333,844 12 13,836 บุรีรัมย์ 55,090 537,191 320 3 537,514 598,266,149 10 10,860 2563 7,324 45,738 204 320 46,261 51,680,272 6 7,056 ชัยภูมิ 110 - - 298 298 502,775 3 4,571 บุรีรัมย์ 40 - 179 - 179 205,492 4 5,137 ศรีสะเกษ 7,174 45,738 25 22 45,785 50,972,005 6 7,105 2564 515 5,221 5,221 5,810,417 10 11,282 นครรราชสีมา 515 5,221 5,221 5,810,417 10 11,282 รวม 424,277 4,337,684 557,352 3,700 4,898,736 5,473,934,690 12 12,902 จากตาราง 3.18 พบว่า ช่วงปีงบประมาณ 2561 ถึง 2564 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งใน ทุกปี คือ จังหวัด นครราชสีมา รองลงมาคือ จังหวัดบุรีรัมย์ แต่เป็นที่สังเกตว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมากที่สุด
ผลการวิจัย 135 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ ตารางที่3.19 สรุปข้อมูลการความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามปีงบประมาณ และลุ่มน้ำมูลตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง จังหวัด / ปีงบประมาณ เกษตรกร (ราย) พื้นที่ ปลูกข้าว (ไร่) พื้นที่ พืชไร่ (ไร่) พื้นที่ พืชสวน และอื่นๆ (ไร่) รวม (ไร่) งบประมาณ รวม (บาท) พื้นที่ เฉลี่ย ต่อราย งบประมาณ เฉลี่ย ต่อราย ชัยภูมิ 99,973 862,015 172,815 1,921 1,036,751 1,161,061,087 10 11,614 2562 99,863 862,015 172,815 1,623 1,036,454 1,160,558,312 10 11,622 2563 110 - - 298 298 502,775 3 4,571 นครรราชสีมา 515 5,221 5,221 5,810,417 10 11,282 2564 515 5,221 5,221 5,810,417 10 11,282 นครราชสีมา 218,276 2,362,699 384,013 1,754 2,748,465 3,073,493,769 13 14,081 2561 45,009 534,986 70,236 53 605,275 676,159,925 13 15,023 2562 173,267 1,827,713 313,776 1,701 2,143,190 2,397,333,844 12 13,836 บุรีรัมย์ 77,057 817,581 499 3 818,083 910,545,989 11 11,817 2561 21,927 280,390 - - 280,390 312,074,348 13 14,232 2562 55,090 537,191 320 3 537,514 598,266,149 10 10,860 2563 40 - 179 - 179 205,492 4 5,137 ร้อยเอ็ด 20,277 234,975 - - 234,975 261,526,619 12 12,898 2561 20,277 234,975 - - 234,975 261,526,619 12 12,898 ศรีสะเกษ 7,687 50,011 25 22 50,059 55,728,688 7 7,250 2561 513 4,274 - - 4,274 4,756,684 8 9,272 2563 7,174 45,738 25 22 45,785 50,972,005 6 7,105 สุรินทร์ 492 5,183 - - 5,183 5,768,123 11 11,724 2561 492 5,183 - - 5,183 5,768,123 11 11,724 Grand Total 424,277 4,337,684 557,352 3,700 4,898,736 5,473,934,690 12 12,902 จากตาราง 3.19 พบว่า ช่วงปีงบประมาณ 2561 ถึง 2564 จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะ เกษ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในทุกปี โดยมีพื้นที่ความเสียหายทางการเกษตรเป็นพื้นที่ปลูกข้าว และพื้นที่ ความเสียหายเฉลี่ยต่อเกษตรกร 1 ราย คิดเป็น 12 ไร่ และงบประมาณที่ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร เฉลี่ยต่อราย คิดเป็น 12,902 ไร่
136 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture ตารางที่3.20 สรุปข้อมูลการความเสียหายพื้นที่การเกษตรเนื่องจากภัยแล้งในลุ่มน้ำมูล จำแนกตามการแบ่งลุ่มน้ำมูล จังหวัด จำนวน เกษตรกร (ราย) จำนวนพื้นที่เกษตรที่ เสียหาย (ไร่) จำนวนงบประมาณ ช่วยเหลือรวม(บาท) จำนวนงบประมาณ เฉลี่ยต่อราย (บาท) ชัยภูมิ 99,973 1,036,751 1,161,061,087 11,614 เกษตรสมบูรณ์ 890 6,045 6,788,188 7,627 7/15/2019 890 6,045 6,788,188 7,627 แก้งคร้อ 10,806 66,878 74,516,589 6,896 7/15/2019 10,806 66,878 74,516,589 6,896 คอนสวรรค์ 9,210 109,741 122,141,177 13,262 7/24/2019 9,210 109,741 122,141,177 13,262 คอนสาร 1,094 6,724 7,575,581 6,925 7/15/2019 1,094 6,724 7,575,581 6,925 จัตุรัส 10,648 143,615 161,101,136 15,130 7/26/2019 10,648 143,615 161,101,136 15,130 ซับใหญ่ 2,461 20,753 23,478,959 9,540 7/15/2019 2,461 20,753 23,478,959 9,540 เนินสง่า 4,285 48,916 54,483,690 12,715 7/15/2019 4,285 48,916 54,483,690 12,715 บ้านเขว้า 9,571 150,269 169,610,242 17,721 7/22/2019 9,571 150,269 169,610,242 17,721 บ้านแท่น 7,622 61,933 69,251,672 9,086 7/15/2019 7,622 61,933 69,251,672 9,086 บำเหน็จณรงค์ 4,110 40,148 45,519,015 11,075 7/15/2019 4,110 40,148 45,519,015 11,075 ภักดีชุมพล 1,663 10,952 12,528,948 7,534 7/15/2019 1,663 10,952 12,528,948 7,534 ภูเขียว 10,722 95,567 106,853,422 9,966 7/25/2019 10,722 95,567 106,853,422 9,966 เมืองชัยภูมิ 21,861 235,696 262,781,061 12,021 7/24/2019 21,861 235,696 262,781,061 12,021 หนองบัวแดง 4,163 33,380 37,551,395 9,020 7/25/2019 4,053 33,083 37,048,620 9,141 2/23/2020 110 298 502,775 4,571 หนองบัวระเหว 867 6,136 6,880,015 7,935 7/25/2019 867 6,136 6,880,015 7,935 นครราชสีมา 218,791 2,753,686 3,079,304,186 25,363 โนนแดง 314 3,049 3,392,981 10,806 15ส.ค.-14ก.ย.64 314 3,049 3,392,981 10,806 บัวใหญ่ 201 2,172 2,417,436 12,027 1-22ก.ย.64 201 2,172 2,417,436 12,027 แก้งสนามนาง 747 7,039 7,862,547 10,525
ผลการวิจัย 137 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ จังหวัด จำนวน เกษตรกร (ราย) จำนวนพื้นที่เกษตรที่ เสียหาย (ไร่) จำนวนงบประมาณ ช่วยเหลือรวม(บาท) จำนวนงบประมาณ เฉลี่ยต่อราย (บาท) 1 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 76 696 799,008 10,513 8/14/2019 671 6,343 7,063,539 10,527 ขามทะเลสอ 3,197 39,726 44,638,778 13,963 3 ต.ค.-1 พ.ย. 61 659 6,203 6,982,456 10,596 8/14/2019 2,538 33,524 37,656,321 14,837 ขามสะแกแสง 9,573 146,209 164,117,617 17,144 9 ต.ค.-1 พ.ย. 61 2,921 39,480 43,940,684 15,043 8/1/2019 6,652 106,730 120,176,934 18,066 คง 17,937 285,860 318,491,087 17,756 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 3,684 54,389 60,534,679 16,432 7/23/2019 14,253 231,471 257,956,409 18,098 ครบุรี 859 7,418 8,516,151 9,914 7/25/2019 859 7,418 8,516,151 9,914 จักราช 1,233 9,967 11,098,315 9,001 10 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 921 7,873 8,767,971 9,520 20 ก.ย.-1 พ.ย. 61 108 961 1,069,593 9,904 8/1/2019 204 1,133 1,260,751 6,180 เฉลิมพระเกียรติ 1,662 13,605 15,226,159 9,161 7/23/2019 1,662 13,605 15,226,159 9,161 ชุมพวง 10,574 114,538 127,519,901 12,060 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 4,508 56,024 62,354,990 13,832 7/24/2019 6,066 58,513 65,164,911 10,743 โชคชัย 2,634 25,426 28,433,212 10,795 1 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 2,026 19,759 22,013,563 10,866 8/1/2019 608 5,667 6,419,648 10,559 ด่านขุนทด 17,267 186,962 209,448,555 12,130 25 ต.ค.-1 พ.ย. 61 246 2,126 2,382,163 9,684 8/1/2019 17,021 184,836 207,066,392 12,165 เทพารักษ์ 2,921 26,609 30,260,744 10,360 1 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 639 4,230 4,707,784 7,367 7/25/2019 2,282 22,380 25,552,961 11,198 โนนแดง 5,846 78,008 86,822,348 14,852 15 ก.ย.-1 พ.ย. 61 2,388 30,294 33,717,222 14,119 8/1/2019 3,458 47,714 53,105,126 15,357 โนนไทย 11,970 183,629 205,367,804 17,157 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 149 2,364 2,631,132 17,659 1 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 8/13/2019 11,821 181,265 202,736,672 17,151 โนนสูง 21,972 301,264 335,470,222 15,268 15 ก.ย.-1 พ.ย. 61 2,106 30,142 33,548,046 15,930 6 ธ.ค. 62-ยังไม่สิ้นสุด 7/27/2019 19,866 271,122 301,922,176 15,198
138 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture จังหวัด จำนวน เกษตรกร (ราย) จำนวนพื้นที่เกษตรที่ เสียหาย (ไร่) จำนวนงบประมาณ ช่วยเหลือรวม(บาท) จำนวนงบประมาณ เฉลี่ยต่อราย (บาท) บัวลาย 2,610 26,447 29,434,955 11,278 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 2,458 25,694 28,597,144 11,634 7/31/2019 152 753 837,811 5,512 บัวใหญ่ 14,372 162,229 180,561,222 12,563 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 3,277 50,849 56,594,937 17,270 8/5/2019 11,095 111,380 123,966,285 11,173 บ้านเหลื่อม 3,225 42,952 47,833,611 14,832 8/13/2019 3,225 42,952 47,833,611 14,832 ประทาย 13,061 166,557 185,378,219 14,193 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 7,727 122,377 136,205,879 17,627 8/10/2019 5,334 44,180 49,172,340 9,219 ปักธงชัย 6,918 73,397 82,450,998 11,918 1 พ.ย. 62-ยังไม่สิ้นสุด 5,519 58,256 65,134,136 11,802 15 ก.ย.-1 พ.ย. 61 1,080 11,986 13,739,153 12,721 7/23/2019 319 3,155 3,577,709 11,215 พระทองคำ 8,013 130,247 146,695,939 18,307 27 ก.ย.-1 พ.ย. 61 1,117 15,041 16,806,353 15,046 7/23/2019 6,896 115,206 129,889,586 18,835 พิมาย 8,365 110,877 123,422,515 14,755 7/31/2019 8,365 110,877 123,422,515 14,755 เมืองนครราชสีมา 5,528 57,104 63,992,353 11,576 5 ต.ค.-1 พ.ย. 61 222 2,233 2,563,484 11,547 8/1/2019 5,306 54,871 61,428,869 11,577 เมืองยาง 6,091 50,848 56,595,298 9,292 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 2,754 35,304 39,293,352 14,268 8/1/2019 3,337 15,544 17,301,946 5,185 ลำทะเมนชัย 3,851 23,281 25,949,770 6,738 1 ต.ค.-1 พ.ย. 61 1,114 10,033 11,166,729 10,024 8/14/2019 2,737 13,248 14,783,041 5,401 สีคิ้ว 5,090 61,663 69,953,923 13,743 15 ก.ย.-1 พ.ย. 61 1,500 16,294 18,623,406 12,416 7/25/2019 3,590 45,369 51,330,517 14,298 สีดา 4,770 57,498 63,995,274 13,416 15 ก.ย.-1 พ.ย. 61 2,644 39,068 43,482,684 16,446 8/15/2019 2,126 18,430 20,512,590 9,648 สูงเนิน 9,400 146,235 166,556,218 17,719 25 ก.ย.-1 พ.ย. 61 3,463 43,371 49,634,424 14,333 8/2/2019 5,937 102,864 116,921,794 19,694 หนองบุญมาก 5,487 51,386 57,661,870 10,509 8/1/2019 5,487 51,386 57,661,870 10,509
ผลการวิจัย 139 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ จังหวัด จำนวน เกษตรกร (ราย) จำนวนพื้นที่เกษตรที่ เสียหาย (ไร่) จำนวนงบประมาณ ช่วยเหลือรวม(บาท) จำนวนงบประมาณ เฉลี่ยต่อราย (บาท) ห้วยแถลง 13,103 161,487 179,738,167 13,717 20 ก.ย.-1 พ.ย. 61 884 11,044 12,291,416 13,904 7/25/2019 12,219 150,443 167,446,752 13,704 บุรีรัมย์ 77,057 818,083 910,545,989 11,817 กระสัง 1,608 21,017 23,391,921 14,547 11/15/2018 1,608 21,017 23,391,921 14,547 คูเมือง 634 8,116 9,032,830 14,247 10/31/2018 634 8,116 9,032,830 14,247 แคนดง 247 2,874 3,198,206 12,948 10/28/2018 247 2,874 3,198,206 12,948 เฉลิมพระเกียรติ 520 3,392 3,775,018 7,260 8/20/2019 520 3,392 3,775,018 7,260 ชำนิ 7,742 88,354 98,337,446 12,702 10/29/2018 2,520 31,657 35,233,685 13,982 8/16/2019 5,222 56,697 63,103,761 12,084 นางรอง 6,160 75,437 83,961,381 13,630 10/19/2018 1,229 18,742 20,859,290 16,973 11/13/2019 4,931 56,696 63,102,092 12,797 นาโพธิ์ 9,222 88,024 97,977,255 10,624 4 ก.พ.63-ยังไม่สิ้นสุด 40 179 205,492 5,137 10/16/2018 3,713 48,260 53,712,824 14,466 8/23/2019 5,469 39,586 44,058,940 8,056 โนนดินแดง 94 314 348,926 3,712 11/11/2019 94 314 348,926 3,712 โนนสุวรรณ 1,110 11,205 12,471,443 11,236 8/14/2019 1,110 11,205 12,471,443 11,236 บ้านใหม่ไชยพจน์ 4,112 29,789 33,154,879 8,063 10/30/2018 999 9,374 10,433,262 10,444 8/23/2019 3,113 20,415 22,721,617 7,299 ประโคนชัย 14,501 164,502 183,090,170 12,626 10/10/2018 1,059 20,427 22,734,973 21,468 11/9/2019 13,442 144,075 160,355,197 11,929 พลับพลาชัย 2,401 15,927 17,727,029 7,383 10/28/2019 2,401 15,927 17,727,029 7,383 พุทไธสง 10,148 102,242 113,795,346 11,214 10/30/2018 3,890 49,519 55,114,647 14,168 8/14/2019 6,258 52,723 58,680,699 9,377 เมืองบุรีรัมย์ 2,117 21,835 24,302,355 11,480 10/10/2018 2,117 21,835 24,302,355 11,480 ละหานทราย 78 597 664,183 8,515 11/11/2019 78 597 664,183 8,515 ลำปลายมาศ 1,449 17,294 19,248,500 13,284
140 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture จังหวัด จำนวน เกษตรกร (ราย) จำนวนพื้นที่เกษตรที่ เสียหาย (ไร่) จำนวนงบประมาณ ช่วยเหลือรวม(บาท) จำนวนงบประมาณ เฉลี่ยต่อราย (บาท) 10/30/2018 1,449 17,294 19,248,500 13,284 สตึก 1,202 12,991 14,458,983 12,029 10/16/2018 1,202 12,991 14,458,983 12,029 หนองกี่ 9,473 119,462 132,973,994 14,037 10/28/2018 710 10,068 11,205,406 15,782 8/13/2019 8,763 109,394 121,768,589 13,896 หนองหงส์ 4,239 34,714 38,636,126 9,114 10/17/2018 550 8,219 9,147,469 16,632 11/13/2019 3,689 26,495 29,488,657 7,994 ร้อยเอ็ด 20,277 234,975 261,526,619 12,898 เกษตรวิสัย 8,556 92,288 102,716,544 12,005 20 ก.ย.-31 ต.ค. 61 8,556 92,288 102,716,544 12,005 จตุรพักตรพิมาน 189 1,555 1,730,993 9,159 16 ก.ย.-9 ต.ค. 61 189 1,555 1,730,993 9,159 ปทุมรัตน์ 8,300 108,876 121,178,432 14,600 2 ส.ค.-31 ต.ค. 61 8,300 108,876 121,178,432 14,600 เมืองสรวง 677 4,305 4,791,465 7,077 19 ก.ย.-6 พ.ย. 61 677 4,305 4,791,465 7,077 สุวรรณภูมิ 2,555 27,951 31,109,185 12,176 16 ส.ค.-31 ต.ค. 61 2,555 27,951 31,109,185 12,176 ศรีสะเกษ 7,687 50,059 55,728,688 7,250 ขุขันธ์ 4,047 26,249 29,228,354 7,222 11 ก.ย. 63 3,658 23,334 25,983,403 7,103 15 ต.ค. 61-ยังไม่สิ้นสุด 389 2,916 3,244,952 8,342 น้ำเกลี้ยง 10 95 106,013 10,601 11 ก.ย. 63 10 95 106,013 10,601 ปรางค์กู่ 2,913 18,425 20,507,872 7,040 11 ก.ย. 63 2,913 18,425 20,507,872 7,040 ไพรบึง 717 5,289 5,886,449 8,210 11 ก.ย. 63 593 3,931 4,374,717 7,377 15 ต.ค. 61-ยังไม่สิ้นสุด 124 1,358 1,511,732 12,191 สุรินทร์ 492 5,183 5,768,123 11,724 ชุมพลบุรี 154 1,257 1,399,319 9,086 10/15/2018 154 1,257 1,399,319 9,086 ท่าตูม 156 1,929 2,146,421 13,759 10/15/2018 156 1,929 2,146,421 13,759 เมืองสุรินทร์ 125 1,424 1,584,634 12,677 10/15/2018 125 1,424 1,584,634 12,677 ศีขรภูมิ 57 573 637,749 11,189 10/15/2018 57 573 637,749 11,189 ผลรวมทั้งหมด 424,277 4,898,736 5,473,934,690 12,902
ผลการวิจัย 141 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ จากตาราง 3.20 พบว่า มี 5 จังหวัดในลุ่มน้ำมูล ที่มีการใช้งบประมาณเงินชดเชยให้เกษตรกรมูลค่า สูงกว่า 100 ล้านบาท ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมามี 13 อำเภอ จังหวัดชัยภูมิมี 5 อำเภอ จังหวัดบุรีรัมย์มี 2 อำเภอ จังหวัดร้อยเอ็ด มี 2 อำเภอ และจังหวัดสุรินทร์ มี 1 อำเภอ ตามลำดับ
142 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture ส่วนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง ส่วนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง 3.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง ประกอบด้วย 3.1.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งภาคพื้นดิน (Ground-based Indicator) 3.1.2 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งภาคดาวเทียม (Satellite-based Indicator) 3.2 ผลการวิเคราะห์Composite Drought Index 3.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง การศึกษานี้ได้วิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้ง ซึ่งดัชนีความแห้งแล้งสามารถประเมินได้จากข้อมูลตรวจวัดด้าน อุตุนิยมวิทยา อุทกวิทยา และทางการเกษตร โดยได้มีการพัฒนาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจำนวนหลายดัชนี Byun and Wilhite (2011) ได้รวบรวมดัชนีความแห้งแล้งที่มีการใช้งานจากในอดีตจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลที่ต้อง ใช้ในการประเมินดัชนีภัยแล้งในแต่ละดัชนี ช่วงเวลาของภัยแล้งที่แต่ละดัชนีสามารถประเมินได้รวมทั้งหลักการ ทั่วไปของแต่ละดัชนี ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้นำดัชนีความแห้งแล้งทั้ง 7 ชนิด ดังแสดงในตารางที่ 3.21 เพื่อ อธิบายถึงความแห้งแล้งในลุ่มน้ำมูล ซึ่งดัชนีทั้ง 7 ชนิด ทั้งนี้สามารถจัดกลุ่มดัชนีความแห้งแล้งตามประกาศ ขององค์การนาซ่า (NASA’s Earth Observatory) ดังนี้ ภาพที่ 3.16 การจัดกลุ่มดัชนีความแห้งแล้งตามประกาศของ องค์การนาซ่า(NASA’s Earth Observatory)
ผลการวิจัย 143 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ รายละเอียดของตัวแปรที่นำมาใช้ในการคำนวณแสดงดังตารางที่ 3.21 ตารางที่ 3.21 ดัชนีความแห้งแล้ง 7 ชนิด จำแนกตามตัวแปรที่นำมาใช้ในการคำนวณ
144 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 3.1.1 ผลการวิเคราะห์ดัชนีความแห้งแล้งภาคพื้นดิน (Ground-based Indicator 1) ดัชนีความแห้งแล้งทางอุตุนิยมวิทยา 1.1) ดัชนีปริมาณน้ำฝนมาตรฐาน (The Standardized Precipitation Index: SPI) พัฒนาขึ้น จากแนวคิดของ Mckee et al (1993) เพื่อเฝ้าดูสภาวะแห้งแล้งในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่กำหนด โดยดูจากปริมาณ ฝนสะสมในแต่ละช่วงเวลาที่สนใจ ซึ่งอาจมีตั้งแต่ 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน จนถึง 72 เดือน ตามปกติปริมาณ ฝนโดยทั่วไปจะมีการกระจายในรูปแบบฟังก์ชันการแจกแจงแบบแกมมา(Gamma Distribution) แต่เนื่องจาก การศึกษาเพื่อหาค่าดัชนี SPI จะต้องใช้ฝนรวมเป็นหลักจึงได้พิจารณาโดยใช้ฟังก์ชันความน่าจะเป็นสะสม (cumulative probability density function ) ของปริมาณฝนรวมแล้วทำการแปลง (transform) ให้เป็นค่า ปกติมาตรฐาน 2 ซึ่งจะได้ค่า SPI ที่ต้องการแล้วนำมาจัดรูปแบบความรุนแรงที่บอกถึงระดับความชุ่มชื้น และ ความแห้งแล้งของปริมาณฝนในแต่ละพื้นที่ฟังก์ชันการแจกแจงแบบแกมมาจะกำหนดโดยฟังก์ชันความ หนาแน่นน่าจะเป็น (Probability density function) ทั้งนี้ในปัจจุบันการแจกแจงของปริมาณน้ำฝนสะสมมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบฟังก์ชันการ แจกแจงแบบอื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์กับการแจกแจงแกมมา ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้วิเคราะห์ดัชนี SPI ตาม แนวคิดของ McKee และคณะ(1993) จากผลการวิเคราะห์ในการศึกษานี้ โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาดังใน ตารางที่ 2.5 ผู้วิจัยได้ทำการสรุปผลการวิเคราะห์จำแนกโดยดูจาก ปริมาณน้ำฝนสะสมรวม 1 เดือน (SPI1) 3 เดือน (SPI3) 6 เดือน (SPI6) 9 เดือน (SPI9) และ 12 เดือน (SPI12) โดยแสดงรายละเอียดของแต่ละส่วน แบ่งออกเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ พิจารณาค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุดของ SPI ต่าง ๆ ดังภาพ ที่ 3.17 – 3.21
ผลการวิจัย 145 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPI1 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPI1 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI1 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI1 (ง) ค่าสูงสุดของ SPI1 ภาพที่3.17 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.17 พบว่า จาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPI1 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -2.0 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI1 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมี โอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งมากกว่าระดับรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์และศรีสะเกษ ฝั่งตะวันตก ถ้าพิจารณา (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI1 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.1 ถึง 0.1 และ (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI1 มี ค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง -0.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI1 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับแรงถึงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในตามชายขอบลุ่มน้ำของ จังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPI1 มี ค่าอยู่ระหว่าง 0.5 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปานกลางถึงระดับปกติ ดังนั้น ในการพิจารณาความแห้งแล้งจากดัชนี SPI1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาค่าต่ำสุดของ SPI1 มาร่วมในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดแห้งแล้งที่สำคัญของพื้นที่
146 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture SPI3 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPI3 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI3 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI3 (ง) ค่าสูงสุดของ SPI3 ภาพที่ 3.18 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.18 พบว่า จาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPI3 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI3 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำ มูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งมากกว่าระดับรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI3 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.1 ถึง 0.1 และ (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI3 มี ค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง -0.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI3 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับแรงถึงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในตามชายขอบลุ่มน้ำของ จังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และสุรินทร์ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPI3 มีค่าอยู่ ระหว่าง 0.5 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปานกลางถึงระดับปกติ ดังนั้น ในการพิจารณาความแห้งแล้งจากดัชนี SPI3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาค่าต่ำสุดของ SPI3 มาร่วมในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดแห้งแล้งที่สำคัญของพื้นที่
ผลการวิจัย 147 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPI6 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPI6 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI6 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI6 (ง) ค่าสูงสุดของ SPI6 ภาพที่ 3.19 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.19 พบว่า จาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPI6 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -2.0 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI6 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมี โอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งมากกว่าระดับรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI6 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.1 ถึง 0.1 และ (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI6 มีค่า อยู่ระหว่าง 0 ถึง -0.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI6 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับแรงถึงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในตามชายขอบลุ่มน้ำของ จังหวัด นครราชสีมา ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPI6 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.5 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปานกลางถึงระดับปกติ ดังนั้น ในการพิจารณาความแห้งแล้งจากดัชนี SPI6 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาค่าต่ำสุดของ SPI6 มาร่วมในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดแห้งแล้งที่สำคัญของพื้นที่
148 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture SPI9 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPI9 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI9 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI9 (ง) ค่าสูงสุดของ SPI9 ภาพที่ 3.20 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.20 พบว่า จาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPI9 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -2.0 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI9 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมี โอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งมากกว่าระดับรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI9 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.1 ถึง 0.1 และ (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI9 มีค่า อยู่ระหว่าง 0 ถึง -0.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI9 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับแรงถึงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในตามชายขอบลุ่มน้ำของ จังหวัด นครราชสีมา สุรินทร์ ร้อยเอและศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPI9 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.5 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปานกลางถึงระดับปกติ ดังนั้น ในการพิจารณาความแห้งแล้งจากดัชนี SPI9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาค่าต่ำสุดของ SPI9 มาร่วมในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดแห้งแล้งที่สำคัญของพื้นที่
ผลการวิจัย 149 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPI12 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPI12 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI12 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI12 (ง) ค่าสูงสุดของ SPI12 ภาพที่ 3.21 ดัชนีความแห้งแล้ง SPI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.21 พบว่า จาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPI12 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -2.0 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI12 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่ม น้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งมากกว่าระดับรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) ค่ามัธยฐานของ SPI12 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.1 ถึง 0.1 และ (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPI12 มีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง -0.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPI12 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับแรงถึงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในตามชายขอบ ลุ่มน้ำของจังหวัด นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPI12 มีค่าอยู่ ระหว่าง 0.5 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปานกลางถึงระดับปกติ ดังนั้น ในการพิจารณาความแห้งแล้งจากดัชนี SPI12 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาค่าต่ำสุดของ SPI12 มาร่วมในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดแห้งแล้งที่สำคัญของพื้นที่
150 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 1.2) ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI ( The Standardized Precipitation Evapotranspiration Index) เป็นแบบจำลองที่แสดงถึงตัวชี้วัดของภัยแล้งตัวหนึ่ง ที่อาศัยการคำนวณหา ค่าความต่างระหว่างฝนที่ ตกลงมากับปริมาณน้ำที่ระเหยออกไป โดยที่ค่าดัชนีที่เป็น ลบ(-) แสดงถึง พื้นที่ที่แห้งแล้ง ค่าดัชนีที่เป็น บวก (+) แสดงถึงพื้นที่ที่ชุ่มชื้น ผลการวิเคราะห์พบว่าลุ่มน้ำมูลของประเทศไทยเข้าสู่สภาวะภัยแล้งแล้งในเดือน กุมภาพันธ์ และเมื่อวิเคราะห์ในลักษณะพื้นที่ในลักษณะของกราฟแล้วจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่จะรุนแรงมาก ขึ้นในเดือนต่อไป ถ้าไม่มีฝนหรือพายุเข้ามาทำให้อุณหภูมิบนผิวดินลดลง ทั้งนี้จากข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ผู้วิจัย สามารถสรุปได้ลุ่มน้ำมูลเคยมีภาวะภัยแล้ง ในปี 2553 และปี 2556 แต่เมื่อมองวิเคราะห์ดูกราฟ SPEI จะเห็น ว่าภัยแล้งครั้งนี้เกิดขึ้น ปี 2562 ต่อเนื่องมาถึงปี 2564 จึงควรที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะได้ตระหนักและบริหาร จัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพเพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน โดยแสดงรายละเอียดของแต่ละส่วนแบ่งออกเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ พิจารณาค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุดของ SPEI ต่าง ๆ ดังภาพที่ 3.22 – 3.26
ผลการวิจัย 151 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPEI1 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPEI1 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPEI1 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPEI1 (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI1 ภาพที่ 3.22 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI1 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.22 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI1 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -1.5 ถึง -2.4 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาส ที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SPEI1 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.00 ถึง 0.3 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความ รุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI1 มี ค่าอยู่ระหว่าง 3.2 –4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความชื้นมากที่สุด
152 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture SPEI3 (ก) ค่าต่ำสุดของ SPEI3 (ข) ค่ามัธยฐานของ SPEI3 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SPEI3 (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI3 ภาพที่ 3.23 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.23 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -0.8 ถึง -3.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมี โอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SPEI3 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.02 ถึง 0.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของ ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI3 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ โดยเฉพาะ พื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI3 มีค่าอยู่ ระหว่าง 2.4 –4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความชื้นมากที่สุด
ผลการวิจัย 153 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPEI6 ค่าต่ำสุดของ SPEI6 ค่ามัธยฐานของ SPEI6 ค่าเฉลี่ยของ SPEI6 ค่าสูงสุดของ SPEI6 ภาพที่ 3.24 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.24 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI6 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -0.8 ถึง 3.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI6 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาส ที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SPEI6 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.08 ถึง 0.1 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจาก เกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI6 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งใน ระดับปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และมหาสารคาม และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุด ของ SPEI6 มีค่าอยู่ระหว่าง 1.6 –3.2 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความชื้นมาก
154 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture SPEI9 ค่าต่ำสุดของ SPEI9 ค่ามัธยฐานของ SPEI9 ค่าเฉลี่ยของ SPEI9 ค่าสูงสุดของ SPEI9 ภาพที่ 3.25 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI9 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.25 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI9 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -0.8 ถึง -3.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI9 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาส ที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SPEI9 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.08 ถึง 0.04 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความ รุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI9 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์และสุรินทร์ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI9 มีค่าอยู่ ระหว่าง 2.4 –3.2 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความชื้นมากที่สุด
ผลการวิจัย 155 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SPEI12 ค่าต่ำสุดของ SPEI12 ค่ามัธยฐานของ SPEI12 ค่าเฉลี่ยของ SPEI12 ค่าสูงสุดของ SPEI12 ภาพที่ 3.26 ดัชนีความแห้งแล้ง SPEI12 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.26 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI12 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -1.6 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI12 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมี โอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SPEI12 มีค่าอยู่ระหว่าง -0.8 ถึง 0.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจาก เกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SPEI12 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งใน ระดับปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SPEI12 มีค่าอยู่ระหว่าง 2.4 –3.2 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความชื้นมากที่สุด
156 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture 3) ดัชนีความแห้งแล้งทางเกษตร 3.1) ดัชนีความชื้นในดินมาตรฐาน (Standardized Soil Moisture Index: SSI) ขึ้นอยู่กับแนวคิด ของร้อยละปริมาณน้ำฝนปกติและดัชนีปริมาณน้ำฝนมาตรฐาน (SPI) เช่นเดียวกับโครงสร้างทางสถิติของ SPI โดยใช้ค่า z-score เป็นหลักเพื่ออธิบายว่าความชื้นในดินเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยของความชื้นในดินในอดีตกี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระบุภัยแล้งว่าเป็นค่าผิดปกติทางสถิติในอนุกรมเวลา (Xu et al., 2018) SMAP NLDAS NLDAS x SSI − = โดยที่ SMAP x คือ ปริมาณความชื้นในดินจากข้อมูล SMAP ระดับ 3 ในหนึ่งวัน NLDAS คือ ค่าเฉลี่ยความชื้นในดินสำหรับวันที่สอดคล้องกันจาก NLDAS NLDAS คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตารางที่ 3.22 เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI ค่าดัชนี SSI ระดับความรุนแรงของความแห้งแล้ง มากกว่า - 0.99 ใกล้เคียงค่าปกติ -1.00 ถึง -1.49 แห้งแล้งปานกลาง -1.50 ถึง -1.99 แห้งแล้งรุนแรง น้อยกว่าหรือเท่ากับ -2 แห้งแล้งรุนแรงที่สุด
ผลการวิจัย 157 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SSI1 (ก) ค่าต่ำสุดของ SSI1 (ข) ค่ามัธยฐานของ SSI1 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SSI1 (ง) ค่าสูงสุดของ SSI1 ภาพที่ 3.27 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI1แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.27 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SSI1 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -1.6 ถึง -3.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI1 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่ จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SSI1 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.08 ถึง 0.1 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจาก เกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI1 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งใน ระดับปกติโดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SSI1 มีค่าอยู่ ระหว่าง 1.6 –3.2 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ
158 ผลการวิจัย Development of an Information System for Forecasting Spatial Extremely Drought in Mun-River Basin for Water management of Precision Agriculture SSI3 (ก) ค่าต่ำสุดของ SSI3 (ข) ค่ามัธยฐานของ SSI3 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SSI3 (ง) ค่าสูงสุดของ SSI3 ภาพที่ 3.28 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI3 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.28 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SSI3 ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -0.8 ถึง -2.4 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI3 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่ จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงปานกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และนครราชสีมา ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SSI3 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.02ถึง 0.1 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจาก เกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI3 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งใน ระดับปกติโดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุดของ SSI3 มีค่าอยู่ ระหว่าง 0.8 –3.2 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ
ผลการวิจัย 159 การพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับการพยากรณ์ภัยแล้งสุดขีดเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำมูล เพื่อการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ในและนอกเขตชลประทานสำหรับการเกษตรแม่นยำ SSI6 (ก) ค่าต่ำสุดของ SSI6 (ข) ค่ามัธยฐานของ SSI6 (ค) ค่าเฉลี่ยของ SSI6 (ง) ค่าสูงสุดของ SSI6 ภาพที่ 3.29 ดัชนีความแห้งแล้ง SSI6 แสดงค่าต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ย และค่าสูงสุด ของลุ่มน้ำมูล จากภาพ 3.29 พบว่าจาก (ก) ค่าต่ำสุดของดัชนีความแห้งแล้ง SSI6ของลุ่มน้ำมูลมีค่าอยู่ระหว่าง -1.6 ถึง -4.0 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากเกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI6 แล้วหมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่ จะเกิดความแห้งแล้งระดับรุนแรงถึงรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดและศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ถ้าพิจารณา (ข) และ (ค) ค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยของ SSI6 มีค่าอยู่ระหว่าง 0.08 ถึง 0.1 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจาก เกณฑ์ความรุนแรงของดัชนีความแห้งแล้ง SSI6 แล้ว หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสที่จะเกิดความแห้งแล้งระดับ ในระดับปกติโดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ และเมื่อพิจารณา (ง) ค่าสูงสุด ของ SSI6 มีค่าอยู่ระหว่าง 1.6 – 4.0 หมายถึง พื้นที่ลุ่มน้ำมูลมีโอกาสจะเกิดความแห้งแล้งในระดับปกติ