แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่(ต่อ): การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน (ต่อ) รูปแบบการ ฝึกที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1) ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและยกตัวอย่างการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่อย่างถูกต้องได้(K) 2. ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ด้วยความมีระเบียบวินัยและใฝ่รู้ (A) 3. แสดงทักษะในการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับความหมายลักษณะของการเคลื่อนไหวร่างกายขณะ เคลื่อนที่ได้ (P) สาระการเรียนรู้ • การเคลื่อนไหวร่างกาย (ต่อ) – 1.2 การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ): การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน (ต่อ) รูปแบบการฝึกที่ 2 สาระสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน รูปแบบการฝึกที่ 2 การเดินไปข้างหน้าแกว่งแขนสลับซ้าย–ขวาลงทางที่ลาดชัน ผู้ เดินจะต้องรู้จักวิธีการถ่ายน้ำหนักตัวจากเท้าหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งขณะแตะพื้นสลับกันและควรเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย เพื่อรักษาสมดุลของการเคลื่อนไหว สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัคร 2–3 คน ออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ ตามที่ได้ศึกษาผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ กิจกรรม 2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาพูดคุยแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบัติกิจกรรมการฝึกการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่ในรูปแบบต่าง ๆ ในการเรียนครั้งที่ผ่านมา เพื่อทบทวนความรู้ 3. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนนำการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน ในรูปแบบการฝึกที่ 1 เพื่อทบทวนรูปแบบการฝึกปฏิบัติ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน ในรูปแบบการฝึกที่ 2 และคำถามที่สงสัยจากการอ่านเนื้อหาจาก หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า จากการมอบหมายงาน ในการเรียนครั้งที่ผ่านมา โดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพของบุคคลที่กำลังเดินลงทางที่ลาดชัน ให้นักเรียนดู แล้วระดมความคิดเห็นว่า ขณะเดินลงทางที่ลาดชัน บุคคลดังกล่าวควรปฏิบัติอย่างไร (นักเรียนสามารถตอบได้โดยอิสระ) 3. ครูให้ความรู้ประกอบการสาธิตวิธีการปฏิบัติในขณะเดินลงทางที่ลาดชัน แล้วให้นักเรียน สอบถามในประเด็นที่สนใจเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน แต่ละกลุ่มร่วมปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบ การฝึกที่ 2 ตามลำดับ ตามครู โดยเน้นความถูกต้อง เป็นระเบียบ และความปลอดภัย ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • ให้นักเรียนนำความรู้และทักษะจากการฝึกหัดดังกล่าวไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันต่อไป ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครประมาณ 2–3 คน ออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความหมายของการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่และรูปแบบการ ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดิน รูปแบบการฝึกที่ 2 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือ สนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้ว นำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบ การฝึกที่ 2 ตามลำดับ
สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. แบบทดสอบปลายปี รายวิชาพื้นฐาน พลศึกษา ป. 1 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 1 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 3. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 1 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 4. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 1 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 1 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบ การฝึกที่ 2 ตามลำดับ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 ปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหว ร่างกายในรูปแบบ การฝึกที่ 2 ตามลำดับ ได้อย่างถูกต้อง (K) • ซักถามความรู้ใน เรื่อง วิธีการ ปฏิบัติ การเคลื่อนไหว ร่างกายขณะ เคลื่อนที่ ในรูปแบบการฝึก ที่ 2 • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการ แสวงหาความรู้เกี่ยวกับ ความหมายลักษณะของการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ ได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A). ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ ด้วยความมีระเบียบวินัยและใฝ่รู้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ): การเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1)การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ): การเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายรูปแบบและวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอนตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้(K) 2. ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอนตามที่กำหนดด้วยความมีระเบียบวินัยและใฝ่รู้ (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอนตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ - การเคลื่อนไหวร่างกาย (ต่อ) การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ): รูปแบบการฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน สาระสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน เป็นรูปแบบการฝึกหนึ่งที่นำมาใช้ในการฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ ซึ่งหากนักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติด้วยท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมและสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายของเรามี ความกระฉับกระเฉง คล่องตัวและช่วยให้เราได้ออกกำลังกาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการมีสุขภาพที่แข็งแรง สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ
รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) เริ่มจากการวิ่งเหยาะ ๆ ใน ระยะทาง 100 เมตร เดินช้า ๆ 50 เมตร และกระโดดตบ 20 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมของ ร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายในขณะเดินขึ้น และเดินลงในทางที่ลาดชัน เพื่อทบทวนความรู้
3. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนเคลื่อนไหวร่างกายขณะเดินไปข้างหน้าเพื่อขึ้นทางที่ลาดชัน และการเดินไปข้างหน้าเพื่อลงจากที่ลาดชัน เพื่อเป็นการทบทวนทักษะในการปฏิบัติ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน และคำถามที่สงสัยจากการศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงานในการเรียนครั้งที่ ผ่านมา โดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพแสดงลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน รูปแบบการฝึกนอนหงาย แล้ว กลิ้งตัวไปทางซ้ายและขวาสลับกันมาให้นักเรียนดู แล้วร่วมกันตอบคำถามในประเด็นต่อไปนี้ – นักเรียนเคยปฏิบัติเหมือนในภาพหรือไม่ (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักเรียน) – การเคลื่อนไหวในภาพจัดเป็นการเคลื่อนไหวประเภทใด (การเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน เคลื่อนที่) 3. ครูอธิบายและสาธิตวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอนให้นักเรียนดู และเปิดโอกาส ให้นักเรียนสอบถามในประเด็นที่สนใจเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนร่วมกันฝึกทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน โดยปฏิบัติตามสัญญาณที่ครูให้ ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันและร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะนอน โดยเมื่อได้รับสัญญาณให้สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มนอนหงายแล้วกลิ้งตัวไปด้านซ้าย ในระยะทาง 1 เมตร แล้วกลิ้งตัวกลับมาทางขวามือ ในระยะทาง 1 เมตร จากนั้น ให้สมาชิก ของกลุ่มคนต่อไปปฏิบัติเช่นเดียวกัน กลุ่มใดที่สมาชิกปฏิบัติได้ถูกต้องและครบก่อนเป็นกลุ่ม ที่ชนะ ให้เพื่อน ๆ ปรบมือแสดงความยินดีให้ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ ขณะกระโดด ในรูปแบบการฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ห้องสมุดของ โรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็น ลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียน ครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน โดยปฏิบัติตามสัญญาณที่ครูให้
สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงรูปแบบการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน 2. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 3. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 4. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 5. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน โดยปฏิบัติตามสัญญาณที่ครูให้ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) อธิบายรูปแบบและวิธีการ ปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะนอนตามที่กำหนดอย่าง ถูกต้องได้ • ซักถามเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหว ร่างกายขณะนอน ในรูปแบบการฝึก ตามที่กำหนด • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะนอนตามที่กำหนด อย่างถูกต้องได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน ตามที่กำหนดด้วยความมีระเบียบ วินัยและใฝ่รู้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ): การเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด รูปแบบ การฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1) ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายรูปแบบและวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดดตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้(K) 2. ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดดตามที่กำหนดด้วยความมีระเบียบวินัยและใฝ่รู้ (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดดตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ (ต่อ) สาระสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด เป็นรูปแบบการฝึกหนึ่งที่นำมาใช้ในการฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะเคลื่อนที่ ซึ่งหากนักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติด้วยท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมและสม่ำเสมอจะช่วยให้ ร่างกายของเรามีความกระฉับกระเฉง คล่องตัวและช่วยให้เราได้ออกกำลังกาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการมีสุขภาพที่แข็งแรง สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ
รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) เริ่มจากการวิ่งเหยาะใน ระยะทาง 100 เมตร เดินช้า ๆ 50 เมตร และกระโดดตบ 20 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมของ ร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะนอนที่ศึกษาผ่านมา เพื่อทบทวนความรู้
3. นักเรียนร่วมกันทบทวนรูปแบบการฝึกปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอน เพื่อทบทวน ทักษะการเคลื่อนไหว ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวร่างกายขณะโดด ในรูปบบการฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 และคำถามที่สงสัย จากการอ่านเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงานในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัย ทีละข้อ 2. ครูอธิบายให้ความรู้ประกอบการสาธิตเกี่ยวกับการปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะ กระโดด ในรูปแบบการฝึกกระโดดรูปแบบการฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 ให้นักเรียนดู 3. นักเรียนร่วมกันสอบถามในประเด็นที่สนใจหรือสงสัยเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 6–8 คน แต่ละกลุ่มเข้าแถวตอน แล้วเริ่มฝึกปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะกระโดดในรูปแบบการฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 ตามลำดับ โดยเน้นความถูกต้อง เป็นระเบียบ และความปลอดภัย ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ 1. นักเรียนบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรม การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมและตอบคำถามตาม รูปแบบกิจกรรมฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ดังรายละเอียดในแบบฝึกทักษะ สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 2. สุ่มนักเรียนให้ออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ โดยครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้องให้นักเรียนทราบ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในหัวข้อที่ 1.3 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ ในรูปแบบการฝึกที่ 1 กลิ้งลูกบอลลอดช่อง และรูปแบบการฝึกที่ 2 โยนลูกบอลข้าม สิ่งกีดขวาง ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือ จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและ จดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอย และหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ปฏิบัติกิจกรรมฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่
สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 2. ใบกิจกรรมเรื่อง ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ 3. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 4. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 5. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ปฏิบัติกิจกรรมฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) อธิบายรูปแบบและวิธีการ ปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะกระโดดตามที่กำหนดอย่าง ถูกต้องได้ • ซักถามเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหว ร่างกาย ขณะกระโดด ใน รูปแบบการฝึก ตามที่ กำหนด • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะกระโดดตามที่ กำหนดอย่างถูกต้องได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการ เคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด ตามที่กำหนดด้วยความมีระเบียบ วินัยและใฝ่รู้ (A) • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: รูปแบบการฝึกที่ 1 กลิ้งลูกบอลลอดช่อง และรูปแบบ การฝึกที่ 2 โยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวาง เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1) ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและระบุตัวอย่างของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่างถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่างถูกต้องได้ (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ในรูปแบบของการกลิ้งลูกบอล ลอดช่อง และรูปแบบการโยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวางอย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ • การเคลื่อนไหวร่างกาย (ต่อ) – 1.3 การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: รูปแบบการฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 สาระสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่หรือขณะเคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์ ประกอบการเคลื่อนไหว การกลิ้งลูกบอลลอดช่องและการโยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวางจัดเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างเสริมทักษะในการเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning)
3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครประมาณ 3–4 คน ผลัดเปลี่ยนกันออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดย ใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของ ร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อทบทวนความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันทบทวนการฝึกปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด ในรูปแบบการ ฝึกที่ 1 และรูปแบบการฝึกที่ 2 เพื่อทบทวนทักษะการเคลื่อนไหว 4. ครูนำภาพการปฏิบัติกิจกรรมการเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ ให้นักเรียนดู แล้วร่วมกันตอบคำถามในประเด็น ต่อไปนี้ – ภาพที่นักเรียนเห็นเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ: ขึ้นอยู่กับภาพการเล่นกีฬา) – การเคลื่อนไหวร่างกายในภาพแตกต่างจากการเคลื่อนไหวร่างกายของนักเรียนที่ได้ปฏิบัติใน การเรียนครั้งที่ผ่านมาอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ: ในการเรียนครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการ เคลื่อนไหวร่างกายโดยใช้อุปกรณ์กีฬาประกอบ) ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ
อุปกรณ์ในรูปบบการฝึกที่ 1 การกลิ้งลูกบอลลอดช่อง และรูปแบบการฝึกที่ 2 โยนลูกบอล ข้ามสิ่งกีดขวาง และคำถามที่สงสัย จากการศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงาน ในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครู อธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำบัตรข้อความแสดงความหมายของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ให้นักเรียน อ่านพร้อมกัน 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมโดยใช้ภาพแสดงการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์จากรูปแบบการฝึก ที่ 1 ถึงรูปแบบการฝึกที่ 6 ประกอบคำอธิบาย ดังรายละเอียดในหนังสือเรียน สุขศึกษาและ พลศึกษา ป. 2 4. ครูนำภาพรูปแบบการฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์รูปแบบการฝึกที่ 1 กลิ้งลูกบอล ลอดช่อง และรูปแบบการฝึกที่ 2 โยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวาง ให้นักเรียนดู ประกอบการอธิบาย และสาธิตวิธีการปฏิบัติแต่ละกิจกรรมตามลำดับ ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มแยกฝึกปฏิบัติตามฐานศึกษา โดยหมุนเวียนศึกษา แต่ละฐานในเวลาที่ครูกำหนด โดย ฐานศึกษาที่ 1 ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: การกลิ้งลูกบอลลอดช่อง ฐานศึกษาที่ 2 ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: การโยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวาง ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันและร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ โดยเมื่อได้รับสัญญาณให้สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมตาม ฐาน กลุ่มใดที่สมาชิกปฏิบัติได้ถูกต้องและครบก่อนเป็นกลุ่มที่ชนะ ให้เพื่อน ๆ ปรบมือแสดง ความยินดีให้ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในรูปแบบ การฝึกที่ 3 ปาเป้า และรูปแบบการฝึกที่ 4 โยนลงหลุม หรือโยนห่วง ดังรายละเอียด ในหนังสือ เรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจ อย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมา สนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ คือ การเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ หรือ ขณะเคลื่อนที่ โดยมีอุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว
ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลักษณะการปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 2. บัตรข้อความแสดงความหมายของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 3. อุปกรณ์การฝึกทักษะการกลิ้งลอดช่องและการฝึกทักษะการโยนข้ามสิ่งกีดขวาง 4. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 5. รูปแบบบันทึกและประเมินกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ในรูปแบบการฝึก การเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด 6. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 7. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) อธิบายความหมายและระบุ ตัวอย่างของการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่าง ถูกต้องได้ • ซักถามความรู้ใน เรื่อง ความหมายและ ตัวอย่างของการ เคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบอุปกรณ์ • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ใน รูปแบบของการกลิ้งลูกบอล ลอดช่อง และรูปแบบการโยนลูก บอลข้ามสิ่งกีดขวางอย่างถูกต้อง ได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) ตระหนักถึงความสำคัญของการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์อย่างถูกต้องได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 3 ปาเป้า และ รูปแบบการฝึก ที่ 4 โยนลงหลุม หรือโยนห่วง เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1 ) ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่างถูกต้อง (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ในรูปแบบปาเป้าและรูปแบบโยน ลงหลุม หรือโยนห่วงฝึกอย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ • การเคลื่อนไหวร่างกาย (ต่อ) – 1.3 การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 3 และรูปแบบการฝึกที่ 4 สาระสำคัญ การปาเป้าและการโยนสิ่งของลงหลุม เป็นแบบฝึกรูปแบบหนึ่งในการเคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบอุปกรณ์ที่จะ ช่วยสร้างเสริมทักษะในการเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning
1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครประมาณ 3–4 คน ผลัดเปลี่ยนกันออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดย ใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของ ร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับความหมายและตัวอย่างของกิจกรรมการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ในรูปแบบการฝึกกลิ้งลูกบอลลอดช่อง และรูปแบบการฝึกโยนลูกบอล ข้ามสิ่งกีดขวาง เพื่อทบทวนความรู้
3. นักเรียนร่วมกันทบทวนการฝึกปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในรูปแบบ การฝึกที่ 1 กลิ้งลูกบอลลอดช่อง และรูปแบบการฝึกที่ 2 โยนลูกบอลข้ามสิ่งกีดขวาง เพื่อ ทบทวนทักษะในการปฏิบัติ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ในรูปบบการฝึกที่ 3 ปาเป้า และรูปแบบการฝึกที่ 4 โยนลงหลุม หรือโยนห่วงและ คำถามที่สงสัย จากการศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงานในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของ คำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพกิจกรรมรูปแบบการฝึกปาเป้าและกิจกรรมรูปแบบการฝึกโยนลงหลุมหรือโยนห่วง ให้นักเรียนดู 3. ให้นักเรียนอาสาสมัครที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวมาเล่าประสบการณ์และ สาธิตวิธีการปฏิบัติในทักษะดังกล่าวให้เพื่อน ๆ ดู 4. ครูอธิบายประกอบการสาธิตการปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในกิจกรรมรูปแบบการฝึกที่ 3 ปาเป้า และการฝึกที่ 4 โยนลงหลุมหรือโยนห่วงให้นักเรียนดู ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มแยกฝึกปฏิบัติตามฐานศึกษา โดยหมุนเวียนศึกษา แต่ละฐานในเวลาที่ครูกำหนด โดย ฐานศึกษาที่ 1 ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: การปาเป้า ฐานศึกษาที่ 2 ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: การโยนลงหลุม หรือโยนห่วง ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันและร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ โดยเมื่อได้รับสัญญาณให้สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมตาม ฐานศึกษา กลุ่มใดที่สมาชิกปฏิบัติได้ถูกต้องและครบก่อนเป็นกลุ่มที่ชนะ ให้เพื่อน ๆ ปรบมือ แสดงความยินดีให้ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ใน รูปแบบการฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลงตะกร้า ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของ โรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลง ในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้ง ต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้
ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลักษณะการปฏิบัติกิจกรรมการปาเป้าและกิจกรรมโยนลงหลุมหรือโยนลงห่วง 2. อุปกรณ์ประกอบการฝึกทักษะในกิจกรรมปาเป้าและกิจกรรมโยนลงหลุมหรือโยนลงห่วง 3. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 4. รูปแบบบันทึกและประเมินกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ในรูปแบบการฝึก การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 5. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) อธิบายวิธีการปฏิบัติการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้อง ได้ • ซักถามความรู้ใน เรื่อง วิธีการ ปฏิบัติกิจกรรม การกลิ้งลอดช่อง การโยนข้ามสิ่ง กีดขวาง การปา เป้า และการโยน ลงหลุมหรือโยน ห่วง • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/การ เขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ใน รูปแบบปาเป้าและรูปแบบโยนลง หลุม หรือโยนห่วงฝึกอย่างถูกต้อง ได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
ตระหนักถึงความสำคัญของการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์อย่างถูกต้อง และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์*
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 เรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลง ตะกร้า เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 1/1)การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลงตะกร้า จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่างถูกต้อง (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ในรูปแบบการโยนลูกบอลลงตะกร้า อย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ • การเคลื่อนไหวร่างกาย – 1.3 การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 5 สาระสำคัญ การโยนบอลลงตะกร้า เป็นแบบฝึกรูปแบบหนึ่งในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างเสริม ทักษะในการเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning
1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้งที่ผ่านมา เพื่อทบทวบ ความรู้ ขั้นนำเสนอความรู้
1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ในรูปบบการฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลงตะกร้า และคำถามที่สงสัย จากการศึกษาเนื้อหา จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมาย งานในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพกิจกรรมการโยนบอลลงตะกร้าให้นักเรียนดู 3. ให้นักเรียนอาสาสมัครที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวมาเล่าประสบการณ์และ สาธิตวิธีการปฏิบัติในทักษะดังกล่าวให้เพื่อน ๆ ดู 4. ครูอธิบายประกอบการแสดงทักษะการปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในกิจกรรมรูปแบบการฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลงตะกร้า ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติในเวลาที่ครูกำหนด โดยฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: โยนลูกบอลลงตะกร้า ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันและร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์โยนลูกบอลลงตะกร้า โดยเมื่อได้รับสัญญาณให้สมาชิกแต่ละคนของ กลุ่มปฏิบัติกิจกรรมตาม กลุ่มใดที่สมาชิกปฏิบัติได้ถูกต้องและครบก่อนเป็นกลุ่มที่ชนะให้ เพื่อน ๆ ปรบมือแสดงความยินดีให้ ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในรูปแบบ การฝึกที่ 6 โยนลูกบอลให้สูง ดังรายละเอียดในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและ พลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์โยนลูกบอลลงตะกร้า สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลักษณะการปฏิบัติกิจกรรมการโยนบอลลงตะกร้า 2. อุปกรณ์ประกอบการฝึกทักษะในกิจกรรมการโยนบอลลงตะกร้า 3. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 4. รูปแบบบันทึกและประเมินกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 5. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด ร่วมกันจัดการแข่งขันการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์โยนลูกบอลลงตะกร้า การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) อธิบายวิธีการปฏิบัติการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้อง ได้ • ซักถามความรู้ใน เรื่อง วิธีการ ปฏิบัติ รูปแบบการฝึก การโยนลูกบอล ลงตะกร้า • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ใน รูปแบบการโยนลูกบอลลงตะกร้า อย่างถูกต้องได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) ตระหนักถึงความสำคัญของการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์อย่างถูกต้อง • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 เรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 6 โยนลูกบอลให้สูง เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์อย่างถูกต้อง (A) 3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ในรูปแบบของการโยนลูกบอลให้สูง อย่างถูกต้องได้ (P) สาระการเรียนรู้ • การเคลื่อนไหวร่างกาย – 1.3 การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 6 สาระสำคัญ การโยนลูกบอลให้สูง เป็นแบบฝึกรูปแบบหนึ่งในการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างเสริม ทักษะในการเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ
รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้งที่ผ่านมา เพื่อ ทบทวนความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันทบทวนการฝึกปฏิบัติการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในรูปแบบการ ฝึกที่ 5 โยนลูกบอลลงตะกร้า เพื่อทบทวนทักษะในการปฏิบัติ
ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ในรูปบบการฝึกที่ 6 โยนลูกบอลให้สูงและคำถามที่สงสัย จากการศึกษาเนื้อหาจาก หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงาน ในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพกิจกรรมโยนลูกบอลให้สูงให้นักเรียนดู 3. ให้นักเรียนอาสาสมัครที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวมาเล่าประสบการณ์และ สาธิตวิธีการปฏิบัติในทักษะดังกล่าวให้เพื่อน ๆ ดู 4. ครูอธิบายประกอบการแสดงทักษะการปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ในกิจกรรมรูปแบบการฝึกที่ 6 โยนลูกบอลให้สูง ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติในเวลาที่ครูกำหนด โดยฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์: รูปแบบการฝึกที่ 6 โยนลูกบอลให้สูง ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม และตอบคำถามตาม รูปแบบกิจกรรมฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ ดังรายละเอียด ในแบบฝึกทักษะ สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่อง กิจกรรมทางกายและเกมเบ็ดเตล็ด หัวข้อที่ 2.1 กิจกรรมทางกาย ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและ จดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอย และหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลักษณะการปฏิบัติกิจกรรมการโยนให้สูง 2. อุปกรณ์ประกอบการฝึกทักษะในกิจกรรมการโยนให้สูง 3. ใบกิจกรรมเรื่อง ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 4. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 5. รูปแบบบันทึกและประเมินกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ 6. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
7. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด - ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์ การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 (K) . อธิบายวิธีการปฏิบัติการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์ตามที่กำหนดอย่างถูกต้อง ได้ (K) • ซักถามความรู้ใน เรื่อง วิธีการปฏิบัติ รูปแบบการฝึกโยน ลูกบอลให้สูง • ตรวจสอบความถูก ต้องในการปฏิบัติ กิจกรรมฝึกปฏิบัติ เคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบอุปกรณ์ • แบบประเมินผล การนำเสนอข้อมูล/ การอภิปราย/ รูปแบบของ กิจกรรมตามที่ระบุ ใน ใบกิจกรรม/ แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุข ศึกษาและพลศึกษา ป. 2 • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการเคลื่อนไหว ร่างกายประกอบอุปกรณ์ใน รูปแบบของการโยนลูกบอลให้สูง อย่างถูกต้องได้ (P) • สังเกตจาก พฤติกรรมการ แสดงออก ของนักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) ตระหนักถึงความสำคัญของการ เคลื่อนไหวร่างกายประกอบ อุปกรณ์อย่างถูกต้อง • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 เรื่อง ความหมายของกิจกรรมทางกายและการทรงตัว เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน มาตรฐาน พ.3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/1) เล่นเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธีเล่นอาศัยการเคลื่อนไหวเบื้องต้นทั้ง แบบอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/1) ออกกำลังกายและเล่นเกมตามคำแนะนำอย่างสนุกสนาน ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/2) ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเป็นกลุ่ม จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะและประโยชน์ของกิจกรรมทางกายอย่างถูกต้องได้ (K) 2. อธิบายความหมายและประโยชน์ของกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวอย่างถูกต้องได้ (K) 3. ตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมทางกายและกิจกรรมทางกายในรูปแบบของกิจกรรมทรงตัว (A) 4. แสดงทักษะในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมทางกายในรูปแบบของกิจกรรม ทรงตัวตามที่กำหนดให้ได้ (P) สาระการเรียนรู้ • กิจกรรมทางกายและเกมเบ็ดเตล็ด – 2.1 กิจกรรมทางกาย สาระสำคัญ กิจกรรมทางกาย เป็นกิจกรรมการเล่นหรือการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันที่ส่งเสริมการ-เคลื่อนไหว ร่างกาย โดยมีหลากหลายรูปแบบ การทรงตัว เป็นกิจกรรมทางกายรูปแบบหนึ่งที่เน้นการควบคุมความสมดุลของ ร่างกายในการเคลื่อนไหวให้มีความมั่นคง โดยการถ่ายเทและเลี้ยงน้ำหนักของตัวเองในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์ที่ ช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสง่างามและมีบุคลิกภาพที่ดี มีความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวและปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้งที่ผ่านมา เพื่อทบทวน ความรู้ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าเรื่อง กิจกรรมทางกาย และคำถามที่สงสัย จากการ อ่านเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ที่ได้มอบหมายงานในการ เรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของกิจกรรมทางกายให้นักเรียนทราบ แล้วให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นใน ประเด็นต่อไปนี้ – กิจกรรมใดบ้างจัดเป็นลักษณะของกิจกรรมทางกาย (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักเรียน/กิจกรรมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ) – กิจกรรมทางกายมีประโยชน์ต่อเราอย่างไร (ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีรูปร่างสง่างาม มีการควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายที่ดี) 3. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับตัวอย่างและประโยชน์ของกิจกรรมทางกายเพิ่มเติม 4. ครูนำบัตรข้อความแสดงความหมายของการทรงตัวให้นักเรียนอ่านพร้อมกัน 5. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นร่วมกันเพื่อระบุถึงประโยชน์ของการทรงตัว 6. ครูอธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการทรงตัวที่มีเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็นร่วมกัน โดยเขียนอธิบาย ความหมายและประโยชน์ของกิจกรรมทางกายและการทรงตัว ในเวลาที่ครูกำหนด 2. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนผลัดเปลี่ยนกันออกมานำเสนอผลการระดมความคิดเห็น ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบของการทรงตัวและแบบฝึก ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบ การฝึกที่ 2 และรูปแบบการฝึกที่ 3 ดังรายละเอียดในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและ พลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของโรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็นลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้
การทรงตัวและแบบฝึก สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลักษณะกิจกรรมทางกายอื่น ๆ ตามความเหมาะสม 2. ภาพแสดงการเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะของการทรงตัวที่ดีของบุคคล เช่น การเดินทูน ของบนศีรษะ การเดินบนคานทรงตัวของนักกีฬา และภาพอื่น ๆ ที่เหมาะสม 3. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 4. รูปแบบบันทึกและประเมินกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคลื่อนที่ในรูปแบบการฝึก การเคลื่อนไหวร่างกายขณะกระโดด 5. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด การทรงตัวและแบบฝึก การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/1 พ.3.2 ป.2/1-2 (K) อธิบายลักษณะและประโยชน์ของ กิจกรรมทางกายอย่างถูกต้องได้ • ซักถามความรู้ เกี่ยวกับลักษณะและ ประโยชน์ของ กิจกรรมทางกาย • ซักถามความรู้ เกี่ยวกับความหมาย และประโยชน์ของ การทรงตัว • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/การ เขียนแผนที่ ความคิด* • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/การ เขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะในการศึกษาค้นคว้า หาความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมทาง กายในรูปแบบของกิจกรรมทรง ตัวตามที่กำหนดให้ได้ • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
3 (A) ตระหนักถึงความสำคัญของ กิจกรรมทางกายและกิจกรรมทาง กายในรูปแบบของกิจกรรมทรง ตัว • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 เรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่: รูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และรูปแบบการฝึกที่ 3 เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน มาตรฐาน พ.3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/2) เล่นเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธีเล่นอาศัยการเคลื่อนไหวเบื้องต้นทั้งแบบ อยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/1) ออกกำลังกายและเล่นเกมตามคำแนะนำอย่างสนุกสนาน ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/2) ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเป็นกลุ่ม จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่อย่างถูกต้อง (A) 3. แสดงทักษะการปฏิบัติกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ ได้อย่างถูกต้อง (P) สาระการเรียนรู้ • กิจกรรมทางกายและเกมเบ็ดเตล็ด (ต่อ) – 2.1 กิจกรรมทางกาย (ต่อ): 1) การทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 สาระสำคัญ การทรงตัวแบบอยู่กับที่ในรูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และรูปแบบการฝึกที่ 3 เป็นตัวอย่างรูปแบบหนึ่ง ของการฝึกควบคุมความสมดุลของร่างกายขณะเคลื่อนไหวร่างกายอยู่กับที่ให้มีความมั่นคง โดยมีรูปแบบการฝึกใน ลักษณะดังกล่าว หากนักเรียนได้นำมาปฏิบัติด้วยความถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะมีส่วนที่จะช่วยสร้างเสริมความปลอดภัย ในการเคลื่อนไหวร่างกายและการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนที่ผ่านมา เพื่อทบทวน ความรู้ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และรูปแบบการฝึกที่ 3 และคำถามที่สงสัย จากการ ศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า ตามที่ มอบหมายงานในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพรูปแบบการฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และ รูปแบบการฝึกที่ 3 ให้นักเรียนดูร่วมกัน ตามลำดับ และให้นักเรียนร่วมกันบรรยายกิจกรรมใน ภาพตามความคิดเห็นของนักเรียน 3. ครูอธิบายประกอบการสาธิตวิธีการปฏิบัติการทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึกที่ 1 ถึงรูปแบบ การฝึกที่ 3 ให้นักเรียนดูตามลำดับ และให้นักเรียนสอบถามในประเด็นที่สนใจเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มแยกฝึกปฏิบัติตามฐานศึกษา โดยหมุนเวียนศึกษา แต่ละฐานศึกษาในเวลาที่ครูกำหนด โดย ฐานศึกษาที่ 1 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 1 ฐานศึกษาที่ 2 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 2 ฐานศึกษาที่ 3 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 3 ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนวาดภาพระบายสีท่าการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบที่นักเรียนชอบ 1 ภาพ นอกเวลาเรียน โดยนำมาเสนอในการเรียนครั้งต่อไป ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และรูปแบบการฝึกที่ 6 ดังรายละเอียด ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุดของ โรงเรียน ฯลฯ มาล่วงหน้าและจดบันทึกข้อคำถามที่สงสัยหรือสนใจอย่างน้อย 2 ถึง 3 ประเด็น ลงในสมุด เพื่อใช้เป็นร่องรอยและหลักฐานในการศึกษา แล้วนำมาสนทนารายงานในการเรียน ครั้งต่อไป
ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ วาดภาพระบายสีท่าการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบที่นักเรียนชอบ 1 ภาพ นอกเวลาเรียน สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพแสดงรูปแบบการฝึกการทรงตัวในรูปแบบการฝึกที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และรูปแบบ การฝึกที่ 3 2. อุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี 3. สนามหญ้า/ลานอเนกประสงค์/โรงฝึกพลศึกษา 4. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 5. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด วาดภาพระบายสีท่าการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบที่นักเรียนชอบ 1 ภาพ นอกเวลาเรียน การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1 พ.3.1 ป.2/2 พ.3.2 ป.2/1-2 (K) อธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมทาง กายในรูปแบบของการทรงตัว แบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ได้ • ซักถามความรู้ใน เรื่อง วิธีการ ปฏิบัติการทรงตัว แบบอยู่กับที่ใน รูปแบบการฝึกที่ 1 ถึงรูปแบบการฝึกที่ 3 • แบบประเมินผล การนำเสนอ ข้อมูล/ การอภิปราย/ การเขียนแผนที่ ความคิด* • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป • ร้อยละ 70 ขึ้น ไป 2 (P) แสดงทักษะการปฏิบัติกิจกรรม ทางกายในรูปแบบของการทรงตัว แบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ได้ อย่างถูกต้อง • แบบประเมิน ทักษะ/กระบวนการ* • แบบประเมิน ทักษะ/ กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป 3 (A) เข้าร่วมกิจกรรมการตระหนักถึง ความสำคัญของกิจกรรมทางกาย ในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่ กับที่อย่างถูกต้อง • สังเกตพฤติกรรม การแสดงออกของ นักเรียน • แบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์* • ผ่านเกณฑ์ เฉลี่ย 2 ขึ้น ไป • ร้อยละ 60 ขึ้น ไป
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน........................คน คิดเป็นร้อยละ............................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ...................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายรัตน์ติเขต จันทร์หอม) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นายชัยสิทธิ์ เทินสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา พ12102 ระดับชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เพิ่มพูนทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 20 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 เรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่ (ต่อ): รูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และรูปแบบ การฝึกที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี มาตรฐาน พ.3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐาน มาตรฐาน พ.3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด (พ 3.1 ป. 2/2) เล่นเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธีเล่นอาศัยการเคลื่อนไหวเบื้องต้นทั้งแบบ อยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/1) ออกกำลังกายและเล่นเกมตามคำแนะนำอย่างสนุกสนาน ตัวชี้วัด (พ 3.2 ป. 2/2) ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเป็นกลุ่ม จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่อย่างถูกต้อง (A) 3. แสดงทักษะการปฏิบัติกิจกรรมทางกายในรูปแบบของการทรงตัวแบบอยู่กับที่ตามที่กำหนดให้ ได้อย่างถูกต้อง (P) สาระการเรียนรู้ • กิจกรรมทางกายและเกมเบ็ดเตล็ด (ต่อ) – 2.1 กิจกรรมทางกาย (ต่อ): 1) การทรงตัวแบบอยู่กับที่ (ต่อ) รูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบ สาระสำคัญ การทรงตัวแบบอยู่กับที่ในรูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และรูปแบบการฝึกที่ 6 เป็นตัวอย่างรูปแบบหนึ่ง ของการฝึกควบคุมความสมดุลของร่างกายขณะเคลื่อนไหวร่างกายอยู่กับที่ให้มีความมั่นคง โดยมีรูปแบบการฝึกในลักษณะ ดังกล่าว หากนักเรียนได้นำมาปฏิบัติด้วยความถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะมีส่วนที่จะช่วยสร้างเสริมความปลอดภัยในการ เคลื่อนไหวร่างกายและการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) 2) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์(Experiential Learning) 3) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) 4) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 5) การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 6) การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) 7) การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) 8) การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) วิธีการสอนของครู การสอนแบบบรรยาย การสอนแบบทดลอง การสอนแบบมีส่วนร่วม การสอนแบบบูรณาการ การสอนแบบอภิปราย การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ Mapping อื่นๆ………………………… บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) หลักความพอประมาณ 2) หลักความมีเหตุผล 3) หลักการมีภูมิคุ้มกัน 4) เงื่อนไขความรู้ 5) เงื่อนไขคุณธรรม บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1. ความเชื่อศรัทธา (faith) 2. ความจริง (truth) 3. การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 4. มโนธรรม / วิจารณญาณ / ความกล้าหาญเชิงศีลธรรม (conscience / discernment / moral courage) 5. อิสรภาพ (freedom) 6. ความยินดี (joy) 7. ความเคารพ / ศักดิ์ศรี (respect / dignity) 8. ความสุภาพถ่อมตน (humility) 9. ความซื่อตรง (honesty) 10. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity / sufficiency) 11. ความรัก (love) 12. เมตตา (compassion) 13. ความกตัญญูรู้คุณ (gratitude) 14. การงาน / หน้าที่ (work / duty) 15. การรับใช้ (service) 16. ความยุติธรรม (justice) 17. สันติ / การคืนดี (peace / reconciliation) 18. อภัย (forgiveness) 19. ความเป็นหนึ่ง / ความเป็นชุมชน (unity / community) 20. การพิศเพ่งสิ่งสร้าง / รักษ์ธรรมชาติ (wonder / conservation) 21. ความหวัง (hope) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน รัก เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่าทางทักษะการเคลื่อนไหว ร่างกายขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้งที่ผ่านมา เพื่อทบทวน ความรู้ 3. นักเรียนอาสาสมัครประมาณ 4–6 คน ออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการวาดภาพระบาย สีท่าการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ประกอบการแสดงความรู้สึกในท่ารูปแบบของการปฏิบัติดังกล่าว ให้เพื่อน ๆ ฟัง 4. นักเรียนร่วมกันทบทวนการฝึกปฏิบัติรูปแบบการฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึก ที่ 1 รูปแบบการฝึกที่ 2 และรูปแบบการฝึกที่ 3 ตามลำดับ เพื่อทบทวนทักษะในการปฏิบัติ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาค้นคว้าในเรื่อง การทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และรูปแบบการฝึกที่ 6 และคำถามที่สงสัย จากการ ศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาล่วงหน้า จากการ มอบหมายงานในการเรียนครั้งที่ผ่านมาโดยครูอธิบายคำตอบของคำถามที่นักเรียนสงสัยทีละข้อ 2. ครูนำภาพรูปแบบการฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และ รูปแบบการฝึกที่ 6 ให้นักเรียนดูร่วมกัน ตามลำดับ และให้นักเรียนร่วมกันบรรยายกิจกรรมใน ภาพตามความคิดเห็นของนักเรียน 3. ครูอธิบายประกอบการสาธิตวิธีการปฏิบัติการทรงตัวแบบอยู่กับที่ รูปแบบการฝึกที่ 4 ถึงรูปแบบ การฝึกที่ 6 ให้นักเรียนดูตามลำดับ และให้นักเรียนสอบถามในประเด็นที่สนใจเพิ่มเติม ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ • นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มแยกฝึกปฏิบัติตามฐานศึกษา โดยหมุนเวียนศึกษา แต่ละฐานศึกษาในเวลาที่ครูกำหนด โดย ฐานศึกษาที่ 1 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 4 ฐานศึกษาที่ 2 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 5 ฐานศึกษาที่ 3 ฝึกการทรงตัวแบบอยู่กับที่ ในรูปแบบการฝึกที่ 6 ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ • นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงการปฏิบัติในรูปแบบการฝึกที่ 4 รูปแบบการฝึกที่ 5 และรูปแบบ การฝึกที่ 6 ให้เพื่อน ๆ ดู โดยกลุ่มใดที่จำนวนสมาชิกแสดงทักษะดังกล่าวได้สมบูรณ์มากที่สุด เป็นกลุ่มที่ชนะให้กลุ่มอื่น ๆ ปรบมือแสดงความยินดี ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. นักเรียนอาสาสมัครออกมานำเพื่อนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับที่ จากที่ได้ศึกษาผ่านมา แล้วทำความสะอาดร่างกาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน 3. นักเรียนบันทึกสรุปความรู้และผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยสังเขปลงในสมุดบันทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนทบทวนความรู้จากที่ได้ศึกษาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ที่ผ่านมา โดยขอ คำแนะนำจากผู้ปกครองเพื่อเตรียมตัวทดสอบกลางปี รายวิชาพื้นฐานพลศึกษา ป. 2 ในการเรียน