เปิ ดประตสู เู่ มอื งลาว
Laos
คำนำ
จุดประสงค์เพ่ือการศึกษาประเทศลาวซ่ึงมเี นื้อหาหลากหลาย
ท้งั สถานที่ท่องเทีย่ ว อาหาร
ผู้จัดทาหวงั เป็ นอย่างยง่ิ ว่าจะมีประโยชน์แก่ผู้ทส่ี นใจไม่มากกน็ ้อย
หากมีข้อผดิ พลาดประการใดต้องขออภยั ไว้ ณ ที่นีด้ ้วย
สารบญั หน้า
เรื่อง 1
ประวตั ิประเทศลาว 6
ภูมศิ าสตร์ประเทศลาว
ลกั ษณะภูมอิ ากาศ 10
การเมืองการปกครอง 11
สถานทที่ ่องเทย่ี ว 20
อาหารขนึ้ ช่ือของประเทศลาว 41
วฒั นธรรมและการแต่งกาย 48
Laos
ประเทศลาว
ลาว (ลำว: ລາວ) หรือชื่ออยำ่ งเป็นทำงกำรคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาว (ลำว: ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ
, อกั ษรยอ่ : ສປປ.ລາວ) เป็นประเทศท่ีไม่มีทำงออกสู่ทะเลในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ มีพ้ืนท่ี
236,800 ตำรำงกิโลเมตร มีพรมแดนติดต่อกบั จีน ทำงทิศเหนือ ติดต่อกบั พม่ำทำงทิศตะวนั ตก
เฉียงเหนือ ติดต่อกบั เวยี ดนำมทำงทิศตะวนั ออก ติดต่อกบั กมั พูชำทำงทิศใต้ และติดต่อกบั ประเทศ
ไทยทำงทิศตะวนั ตก ก้นั ดว้ ยแม่น้ำโขงเป็นบำงช่วง
1
ประวตั ิศาสตร์
ยคุ อาณาจักร
พระบรมรำชำนุสำวรียพ์ ระเจำ้ ไชยเชษฐำธิรำช หนำ้ พระธำตุหลวง นครหลวงเวยี งจนั ทน์
ประวตั ิศำสตร์ยคุ แรกๆ ของลำว เชื่อวำ่ อยภู่ ำยใตก้ ำรครอบครองของอำณำจกั รน่ำนเจำ้ มีตำนำนโดยขนุ
บรม และขนุ ลอ มีลูกสืบหลำนต่อๆ กนั มำ จนถึงรัชสมยั พระเจำ้ ฟ้ำงุม้ ผรู้ วบรวมอำณำจกั รลำ้ นชำ้ งไดเ้ ป็น
ผลสำเร็จในช่วงสมยั พทุ ธศตวรรษท่ี 13 และมีกษตั ริยป์ กครองสืบทอดต่อกนั มำหลำยพระองค์ ที่สำคญั เช่น
พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระองคม์ ีควำมสมั พนั ธไมตรีท่ีแนบแน่นกบั กษตั ริยไ์ ทย โดยเฉพำะในรัชสมยั
สมเด็จพระมหำจกั รพรรดิ
พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช รัชสมยั ของพระองคน์ บั เป็นยคุ ทองของรำชอำณำจกั รลำ้ นชำ้ ง
ภำยหลงั เม่ือพระเจำ้ สุริยวงศำธรรมิกรำชเสดจ็ สวรรคตแลว้ เช้ือพระวงศล์ ำวต่ำงก็แก่งแยง่ รำชสมบตั ิกนั
จนอำณำจกั รลำ้ นชำ้ งแตกแยกเป็น 3 ส่วนคือ อำณำจกั รลำ้ นชำ้ งหลวงพระบำง อำณำจกั รลำ้ นชำ้ งเวยี งจนั ทน์
และอำณำจกั รลำ้ นชำ้ งจำปำศกั ด์ิ ต่ำงเป็นอิสระไม่ข้ึนแก่กนั และเพอ่ื ชิงควำมเป็ นใหญ่ต่ำงกข็ อสวำมิภกั ด์ิตอ่
อำณำจกั รเพ่อื นบำ้ น เช่น ไทย พมำ่ เพ่ือขอกำลงั มำสยบอำณำจกั รลำวดว้ ยกนั ในลกั ษณะน้ี ในท่ีสุดอำณำจกั ร
ลำวท้งั 3 แห่งน้ีจะตกเป็ นประเทศรำชของอำณำจกั รสยำม ในปี พ.ศ. 2321
2
สยำมไดป้ กครองดินแดนลำวท้งั สำมส่วนในฐำนะประเทศรำชรวม 114 ปี ในระยะเวลำดงั กล่ำว
อำณำจกั รลำ้ นชำ้ งเวยี งจนั ทน์ไดล้ ่มสลำยลงในปี พ.ศ. 2371 เน่ืองจำกในปี พ.ศ. 2369 เจำ้ อนุวงศ์ กษตั ริยแ์ ห่ง
อำณำจกั รลำ้ นชำ้ งเวยี งจนั ทน์ไดพ้ ยำยำมทำสงครำมเพ่อื ต้งั ตนเป็ นอิสระจำกสยำม ทวำ่ หลงั กำรปรำบปรำม
ของกองทพั ไทยอยำ่ งหนกั พระองคเ์ ห็นวำ่ จะทำกำรไมส่ ำเร็จจึงตดั สินพระทยั หลบหนีไปพ่ึงจกั รวรรดิ
เวยี ดนำมจนถึง พ.ศ. 2371 พระองคจ์ ึงไดก้ ลบั มำยงั กรุงเวียงจนั ทน์พร้อมกบั ขบวนรำชทูตเวยี ดนำม เพ่อื ขอ
สวำมิภกั ด์ิสยำมอีกคร้ัง แตพ่ อสบโอกำสพระองคจ์ ึงนำทหำรของตนฆำ่ ทหำรไทยที่รักษำเมืองจนเกือบหมด
และยดึ กรุงเวยี งจนั ทน์คืน กองทพั สยำมรวบรวมกำลงั พลและยกทพั มำปรำบปรำมเจำ้ อนุวงศอ์ ีกคร้ังจนรำบ
คำบ จนเจำ้ อนุวงศต์ อ้ งหลบหนีไปยงั เวยี ดนำมและในครำวน้ีเองท่ีพระองคท์ รงถูกเจำ้ เมืองพวนจบั กมุ ตวั และ
ส่งลงมำกรุงเทพมหำนคร พระบำทสมเดจ็ พระนง่ั เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ทรงพระพโิ รธเจำ้ อนุวงศม์ ำกจึงทรงใหค้ ุมขงั
เจำ้ อนุวงศป์ ระจำนกลำงพระนครจนสิ้นพระชนม์ ส่วนกรุงเวยี งจนั ทน์ก็มีพระบรมรำชโองกำรใหเ้ ผำทำลำย
จนไม่เหลือสภำพควำมเป็นเมือง และต้งั ศูนยก์ ลำงกำรปกครองฝ่ ำยไทยเพื่อดูแลอำณำเขตของอำณำจกั ร
เวยี งจนั ทน์ท่ีเมืองหนองคำยแทน
พรรคประชาชนสมัยอาณานิคม การประกาศเอกราช และสงครามกลางเมือง
ในปี พ.ศ. 2436 สยำมไดเ้ กิดขอ้ ขดั แยง้ กบั ฝรั่งเศสในเรื่องอำนำจเหนือดินแดนฝั่งซำ้ ยของแม่น้ำโขงจน
เกิดวกิ ฤตกำรณ์ ร.ศ. 112 จำกกำรใชเ้ ล่ห์เหล่ียมของโอกุสต์ ปำวกี งสุลฝร่ังเศส โดยกำรใชเ้ รือรบมำปิ ดอำ่ วไทย
เพอ่ื บงั คบั ใหย้ กดินแดนฝ่ังซ้ำยแมน่ ้ำโขง รวมท้งั ดินแดนอ่ืน ๆ ดินแดนลำวเกือบท้งั หมดกเ็ ปลี่ยนไปตกอยู่
ภำยใตอ้ ิทธิพลของประเทศฝร่ังเศสในปี น้นั และถูกรวมเป็ นส่วนหน่ึงของอินโดจีนฝร่ังเศส ต่อมำภำยหลงั
ดินแดนลำวส่วนอื่นท่ีอยฝู่ ่ังขวำของแม่น้ำโขงก็ตกเป็นของฝร่ังเศสอีกในปี พ.ศ. 2450
ในช่วงสงครำมโลกคร้ังท่ี 2 กองทพั ญ่ีป่ ุนไดร้ ุกเขำ้ มำในลำวและดินแดนอินโดจีนฝร่ังเศสอื่นๆ เม่ือ
ญี่ป่ ุนใกลแ้ พส้ งครำม ขบวนกำรลำวอิสระซ่ึงเคลื่อนไหวทำงกำรเมืองเพ่อื กูเ้ อกรำชลำวในเวลำน้นั ประกำศเอก
รำชใหป้ ระเทศลำวเป็นประเทศ รำชอำณำจกั รลำว หลงั ญี่ป่ ุนแพส้ งครำม ฝรั่งเศสก็กลบั เขำ้ มำมีอำนำจในอิน
โดจีนอีกคร้ังหน่ึง แตเ่ นื่องจำกกำรที่ เวยี ดมินห์ปลดปล่อยเวยี ดนำมได้ จึงเป็นกำรส่นั คลอนอำนำจฝร่ังเศสจน
ยอมใหล้ ำวประกำศเอกรำชบำงส่วนในปี พ.ศ. 2492 และไดเ้ อกรำชสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2496 ภำยหลงั ฝร่ังเศส
รบแพเ้ วยี ดนำมที่เดียนเบียนฟู ผทู้ ่ีมีบทบำทในกำรประกำศเอกรำชคือ เจำ้ สุวรรณภูมำ เจำ้ เพชรรำช และ เจำ้
สุภำนุวงศ์ โดยมี เจำ้ มหำชีวติ ศรีสวำ่ งวงศ์ ดำรงตำแหน่งเป็ นเจำ้ มหำชีวติ (พระมหำกษตั ริย)์ จำกอำณำจกั รลำ้ น
ชำ้ งหลวงพระบำงเดิม และไดร้ วมท้งั 3 อำณำจกั รคือ ลำ้ นชำ้ งหลวงพระบำง ลำ้ นชำ้ งเวียงจนั ทน์ และ ลำ้ นชำ้ ง
จำปำศกั ด์ิ เขำ้ ดว้ ยกนั เป็นรำชอำณำจกั รลำว
พ.ศ. 2502 เจำ้ มหำชีวติ ศรีสวำ่ งวงศเ์ สด็จสวรรคต เจำ้ สวำ่ งวฒั นำจึงข้ึนครองรำชยเ์ ป็นเจำ้ มหำชีวติ แทน
เหตุกำรณ์ในลำวยงุ่ ยำกมำก เจำ้ สุภำนุวงศ์ 1 ในคณะลำวอิสระประกำศตนวำ่ เป็ นพวกฝ่ ำยซำ้ ยนิยม
3
คอมมิวนิสต์ และเป็นหวั หนำ้ ขบวนกำรประเทศลำว ไดอ้ อกไปเคลื่อนไหวทำงกำรเมืองในป่ ำ เนื่องจำกถูกฝ่ ำย
ขวำในลำวคุกคำมอยำ่ งหนกั ถึงปี พ.ศ. 2504 ร้อยเอกกองแลทำกำรรัฐประหำรรัฐบำลเจำ้ สุวรรณภูมำ แตถ่ ูก
กองทพั ฝ่ ำยขวำและฝ่ ำยซำ้ ยรุมจนพำ่ ยแพ้ กองแลตอ้ งล้ีภยั ไปสหรัฐจนถึงปัจจุบนั
เหตุกำรณ์ทำงกำรเมืองในระยะเวลำไม่นำนหลงั จำกน้นั บงั คบั ใหล้ ำวตอ้ งกลำยเป็นสมรภูมิลบั ของ
สงครำมเวยี ดนำม และเป็นปัจจยั ก่อใหเ้ กิดกำรรัฐประหำรและสงครำมกลำงเมืองที่ยดื เย้อื ภำยใตก้ ำร
แทรกแซงของชำติตำ่ งๆ ท้งั ฝ่ ำยคอมมิวนิสตแ์ ละฝ่ ำยโลกเสรี จนกระทงั่ ในปี พ.ศ. 2518 พรรคประชำชนปฏิวตั ิ
ลำว ซ่ึงไดร้ ับกำรสนบั สนุนจำกสหภำพโซเวยี ตและเวยี ดนำมเหนือ โดยกำรนำของเจำ้ สุภำนุวงศ์ กย็ ดึ อำนำจ
รัฐจำกรัฐบำลประชำธิปไตยโดยมีพระมหำกษตั ริยเ์ ป็นประมุขของ เจำ้ สุวรรณภูมำ พระเชษฐำ ซ่ึงไดร้ ับกำร
สนบั สนุนจำกรัฐบำลฝร่ังเศสและสหรัฐอเมริกำสำเร็จ และไดเ้ รียกร้องใหเ้ จำ้ มหำชีวิตศรีสวำ่ งวฒั นำทรง
ยนิ ยอมสละรำชสมบตั ิ เจำ้ มหำชีวติ ศรีสวำ่ งวฒั นำจึงทรงยนิ ยอมสละรำชสมบตั ิ คณะปฏิวตั ิลำวจึงประกำศ
สถำปนำป ระเทศลำวเป็น "สำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชนลำว" อยำ่ งเป็นทำงกำรในวนั ที่ 2
ธนั วำคม พ.ศ. 2518 โดยยงั คงแต่ต้งั ให้อดีตเจำ้ มหำชีวติ เป็ นท่ีปรึกษำของรัฐบำลระบอบใหม่.
4
สมยั สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ในวนั ที่ 1 ธนั วำคม พ.ศ. 2518 กองประชุมผแู้ ทนทวั่ ประเทศที่นครหลวงเวยี งจนั ทน์ มีผแู้ ทนเขำ้ ร่วม
264 คน พจิ ำรณำรับรองประกำศยบุ รัฐบำลชว่ั ครำวแห่งชำติ และพิจำรณำเรื่องต่ำงๆ กองประชุมมีมติเอำธง
ดวงเดือนเป็นธงชำติลำว เอำเน้ือร้องเพลงชำติใหม่ เอำภำษำลำวเป็นภำษำทำงกำร ยกเลิกระบอบรำชำธิปไตย
และสถำปนำเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่งต้งั เจำ้ สุภำนุวงศเ์ ป็นประธำนประเทศ, ท่ำนไก
สอน พมวหิ ำน เป็นนำยกรัฐมนตรี, เจำ้ ศรีสวำ่ งวฒั นำ เป็นที่ปรึกษำสูงสุดของประธำนประเทศ, เจำ้ สุวรรณภู
มำ เป็นท่ีปรึกษำสูงสุดของรัฐบำล และมีมติอื่นๆ ในวนั ที่ 2 ธนั วำคม พ.ศ. 2518 และปิ ดกองประชุมดว้ ย
ผลสำเร็จ แต่ภำยหลงั พรรคประชำชนปฏิวตั ิลำวก็ไดก้ มุ ตวั อดีตเจำ้ มหำชีวติ ,พระมเหสีและอดีตพระบรมวงศำ
นุวงศร์ ำชวงศล์ ำ้ นชำ้ ง ไปคุมขงั ในค่ำยกกั กนั เนื่องจำกควำมขดั แยง้ ทำงกำรเมือง และต่อมำทุกพระองคต์ ่ำง
สิ้นพระชนมด์ ว้ ยโรคมำลำเรีย และยงั มีกำรจบั กุมนกั กำรเมือง ขำ้ รำชกำรในระบอบเก่ำ รวมท้งั ประชำชนลำว
จำนวนมำกเขำ้ คำ่ ยกกั กนั ส่วนใหญเ่ สียชีวติ ดว้ ยโรคขำดสำรอำหำรและถูกยงิ ทิ้ง
ในช่วงแรกของกำรปกครองโดยรัฐบำล สปป.ลำว มีกำรควบคุมวฒั นธรรมและพระพุทธศำสนำอยำ่ ง
เขม้ งวด มีกำรทำลำยหนงั สือที่ขดั แยง้ กบั ควำมเช่ือใหม่ มีกำรประหำรผทู้ ี่คิดลม้ ระบอบใหม่ และควบคุมชีวติ
ประชำชนในประเทศลำวอยำ่ งเขม้ งวด แต่หลงั จำกน้นั สภำพกำรปกครองและกำรบริหำรดำ้ นเศรษฐกิจของ
ลำวเริ่มผอ่ นคลำยมำกข้ึนในระยะหลงั ของทศวรรษ 2530 เน่ืองจำกกำรล่มสลำยของสหภำพโซเวยี ต ต่อมำเมื่อ
เจำ้ สุภำนุวงศส์ ละตำแหน่งจำกประธำน เน่ืองจำกปัญหำสุขภำพและปัญหำทำงกำรเมืองกบั กลุ่มนิยมเวยี ดนำม
ผดู้ ำรงตำแหน่งประธำนประเทศต่อจำกเจำ้ สุภำนุวงศค์ ือ ไกสอน พมวหิ ำน ซ่ึงเป็นลูกคร่ึงลำว-เวยี ดนำม และ
เมื่อไกสอนถึงแก่กรรมกะทนั หนั หนูฮกั พูมสะหวนั ซ่ึงเป็นชำวลำวเช้ือสำยเวยี ดนำม ก็ไดด้ ำรงตำแหน่ง
ประธำนประเทศต่อมำ ยคุ น้ีลำวและไทยเปิ ด สะพำนมิตรภำพ ไทย - ลำว ในปี พ.ศ. 2538 ต่อมำหนูฮกั สละ
ตำแหน่ง คำไต สีพนั ดอนรับดำรงตำแหน่งประธำนประเทศต่อ จนถึงปี พ.ศ. 2549 คำไตลงจำกตำแหน่ง จูมมะ
ลี ไซยะสอน จึงเป็นผทู้ ี่รับตำแหน่งประธำนประเทศลำว และยงั ถือตำแหน่งผบู้ ญั ชำกำรทหำรสูงสุดอีกดว้ ย
5
ภูมิศาสตร์
ดูบทความหลกั ที่: ภูมิศาสตร์ ลาว
แผนท่ีประเทศลำว
ทต่ี ้งั และอาณาเขต
ประเทศลำวเป็นประเทศในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ซ่ึงต้งั อยบู่ นใจกลำงของคำบสมุทรอินโด
จีน ระหวำ่ งละติจูดที่ 14 - 23 องศำเหนือ ลองจิจูดที่ 100 - 108 องศำตะวนั ออก มีพ้นื ท่ีโดยรวมประมำณ
236,800 ตำรำงกิโลเมตร แบ่งเป็นภำคพ้ืนดิน 230,800 ตำรำงกิโลเมตร ภำคพ้ืนน้ำ 6,000 ตำรำงกิโลเมตร โดย
ลำวเป็นประเทศท่ีไมม่ ีทำงออกสู่ทะเล เน่ืองดว้ ยตลอดแนวชำยแดนของประเทศลำว ซ่ึงมีควำมยำวรวม 5,083
กิโลเมตร ลอ้ มรอบดว้ ยชำยแดนของประเทศเพื่อนบำ้ น 5 ประเทศ เรียงตำมเขม็ นำฬิกำ ดงั น้ี
ทศิ เหนือ ติดกบั ประเทศจีน (423 กิโลเมตร)
ทศิ ตะวนั ออก ติดกบั ประเทศเวยี ดนำม (2,130 กิโลเมตร)
ทศิ ใต้ ติดกบั ประเทศไทย (1,754 กิโลเมตร) และประเทศกมั พูชำ (541 กิโลเมตร)
ทศิ ตะวนั ตก ติดกบั ประเทศไทย (1,754 กิโลเมตร) และประเทศพม่ำ (235 กิโลเมตร)
ควำมยำวพ้ืนที่ประเทศลำวต้งั แตเ่ หนือจรดใตย้ ำวประมำณ 1,700 กิโลเมตร ส่วนที่กวำ้ งท่ีสุดกวำ้ ง 500
กิโลเมตร และท่ีแคบท่ีสุด 140 กิโลเมตร เน้ือท่ีท้งั หมด 236,800 ตำรำงกิโลเมตร
6
แผนทป่ี ระเทศลาว
7
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ
ภูมิประเทศของลำวอำจแบ่งไดเ้ ป็น 3 เขต คือ
1. เขตภูเขำสูง เป็นพ้นื ท่ีท่ีสูงกวำ่ ระดบั น้ำทะเลโดยเฉลี่ย 1,500 เมตรข้ึนไป พ้นื ท่ีน้ีอยใู่ นเขตภำคเหนือ
ของประเทศ
2. เขตท่ีรำบสูง คือพ้นื ที่ซ่ึงสูงกวำ่ ระดบั น้ำทะเลเฉล่ีย 1,000 เมตร ปรำกฏต้งั แต่ทำงทิศตะวนั ออกเฉียงใต้
ของท่ีรำบสูงเมืองพวนไปจนถึงชำยแดนกมั พชู ำ เขตท่ีรำบสูงน้ีมีที่รำบสูงขนำดใหญอ่ ยู่ 3 แห่ง ไดแ้ ก่ ท่ี
รำบสูงเมืองพวน (แขวงเชียงขวำง), ท่ีรำบสูงนำกำย (แขวงคำม่วน) และท่ีรำบสูงบริเวณ (ภำคใต)้
3. เขตท่ีรำบลุ่ม เป็นเขตที่รำบตำมแนวฝั่งแม่น้ำโขงและแมน่ ้ำต่ำง ๆ เป็นพ้ืนท่ีท่ีมีควำมอุดมสมบูรณ์มำก
ท่ีสุดในเขตพ้นื ท่ีท้งั 3 เขต นบั เป็นพ้นื ท่ีอู่ขำ้ วอู่น้ำที่สำคญั ของประเทศ แนวที่รำบลุ่มเหล่ำน้ีเร่ิมปรำกฏ
ต้งั แตบ่ ริเวณตอนใตข้ องแม่น้ำงึม เรียกวำ่ ที่รำบลุ่มเวยี งจนั ทน์ ผำ่ นที่รำบลุ่มสุวรรณเขต ซ่ึงอยตู่ อนใต้
เซบ้งั ไฟและเซบ้งั เหียง และที่รำบจำปำศกั ด์ิทำงภำคใตข้ องลำว ซ่ึงปรำกฏตำมแนวแม่น้ำโขงเร่ือยไป
จนจดชำยแดนประเทศกมั พชู ำ
ท้งั น้ี เมื่อนำเอำพ้ืนท่ีของเขตภูเขำสูงและเขตท่ีรำบสูงมำรวมกนั แลว้ จะมำกถึง 3 ใน 4 ของพ้นื ท่ี
ประเทศลำวท้งั หมด โดยจุดที่สูงที่สุดของประเทศลำวอยูท่ ่ีภูเบ้ีย ในแขวงเชียงขวำง วดั ควำมสูงได้ 2,817 เมตร
(9,242 ฟุต)
ประเทศลำวมีแมน่ ้ำสำยสำคญั อยหู่ ลำยสำย โดยแม่น้ำซ่ึงเป็นสำยหวั ใจหลกั ของประเทศ คือ แม่น้ำโขง
ซ่ึงไหลผำ่ นประเทศลำวเป็นระยะทำง 1,835 กิโลเมตร แม่น้ำสำยน้ีเป็นแมน่ ้ำสำคญั ท้งั ในดำ้ นเกษตรกรรม กำร
ประมง กำรผลิตพลงั งำนไฟฟ้ำ กำรคมนำคมจำกลำวเหนือไปจนถึงลำวใต้ และกำรใช้เป็นพรมแดนธรรมชำติ
ระหวำ่ งประเทศลำวกบั ประเทศเพ่ือนบำ้ น นอกจำกน้ี แม่น้ำสำยสำคญั ของลำวแห่งอื่น ๆ ยงั ไดแ้ ก่
แม่น้ำโขงไหลผำ่ นหลวงพระบำง
8
แมน่ ้ำโขงไหลผำ่ นหลวงพระบำง
แมน่ ้ำอู (พงสำลี-หลวงพระบำง) ยำว 448 กิโลเมตร
แมน่ ้ำงึม (เชียงขวำง-เวยี งจนั ทน)์ ยำว 353 กิโลเมตร
แม่น้ำเซบ้งั เหียง (สุวรรณเขต) ยำว 338 กิโลเมตร
แม่น้ำทำ (หลวงน้ำทำ-บ่อแกว้ ) ยำว 523กิโลเมตร
แมน่ ้ำเซกอง (สำละวนั -เซกอง-อตั ตะปื อ) ยำว 320 กิโลเมตร
แมน่ ้ำเซบ้งั ไฟ (คำมว่ น-สุวรรณเขต) ยำว 239 กิโลเมตร
แม่น้ำแบง่ (อุดมไซ) ยำว 215 กิโลเมตร
แม่น้ำเซโดน (สำละวนั -จำปำศกั ด์ิ) ยำว 192 กิโลเมตร
แม่น้ำเซละนอง (สุวรรณเขต) ยำว 115 กิโลเมตร
แมน่ ้ำกะดิ่ง (บอลิคำไซ) ยำว 103 กิโลเมตร
แมน่ ้ำคำน (หวั พนั -หลวงพระบำง) ยำว 90 กิโลเมตร
9
ลกั ษณะภูมอิ ากาศ
ประเทศลำวอยใู่ นภูมิอำกำศเขตร้อน มีลมมรสุมแตไ่ ม่มีลมพำยุ สำหรับเขตภูเขำภำคเหนือและเขต
เทือกเขำ อำกำศมีลกั ษณะก่ึงร้อนก่ึงหนำว อุณหภูมิสะสมเฉล่ียประจำปี สูงถึง 15-30 องศำเซลเซียส และควำม
แตกตำ่ งของอุณหภูมิระหวำ่ งกลำงวนั กบั กลำงคืนมีประมำณ 10 องศำเซลเซียส จำนวนชวั่ โมงที่มีแสงแดดต่อ
ปี ประมำณ 2,300-2,400 ชว่ั โมง (ประมำณ 6.3-6.5 ชวั่ โมงต่อวนั ) ควำมช้ืนสัมพทั ธ์ของอำกำศมีประมำณร้อย
ละ 70-85 ปริมำณน้ำฝนในฤดูฝน (ต้งั แต่เดือนพฤษภำคมถึงตุลำคม) มีร้อยละ 75 - 90 ส่วนในฤดูแลง้ (ต้งั แต่
เดือนพฤศจิกำยน ถึงเมษำยน) ปริมำณน้ำฝนมีเพยี งร้อยละ 10-25 และปริมำณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี ของแตเ่ ขตก็
แตกต่ำงกนั อยำ่ งมำกมำย เช่น เขตเทือกเขำบริเวณทำงใตไ้ ดร้ ับน้ำฝนเฉลี่ยปี ละ 300 เซนติเมตร ขณะท่ีบริเวณ
แขวงเชียงขวำง แขวงหลวงพระบำง แขวงไชยบุรี ไดร้ ับเพียงแค่ 100-150 เซนติเมตร ส่วนแขวงเวยี งจนั ทน์
และแขวงสุวรรณเขตในช่วง 150-200 เซนติเมตร เช่นเดียวกบั แขวงพงสำลี แขวงหลวงน้ำทำ และแขวงบ่อแกว้
10
การเมืองการปกครอง
งำนเฉลิมฉลองวนั สถำปนำสำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชนลำว ครบรอบ 30 ปี วนั ท่ี 2 ธนั วำคม พ.ศ.
2548
สำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชนลำวมีระบบกำรปกครองแบบสงั คมนิยมคอมมิวนิสต์ (ทำงกำรลำว
ใชค้ ำวำ่ ระบอบประชำธิปไตยประชำชน) โดยมีพรรคประชำชนปฏิวตั ิลำวเป็นองคก์ รช้ีนำประเทศ ซ่ึงพรรคน้ี
เริ่มมีอำนำจสูงสุดต้งั แตล่ ำวเร่ิมปกครองในระบอบสงั คมนิยมเม่ือวนั ท่ี 2 ธนั วำคม พ.ศ. 2518 ประธำน
ประเทศ (ประธำนำธิบดี) ของสำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชนลำวคนปัจจุบนั ซ่ึงมีวำระกำรดำรงตำแหน่ง
5 ปี คือ บุนยงั วอละจิด (ดำรงตำแหน่งเลขำธิกำรใหญ่คณะบริหำรงำนศูนยก์ ลำงพรรคประชำชนปฏิวตั ิลำวอีก
ตำแหน่งหน่ึง) ส่วนนำยกรัฐมนตรีคนปัจจุบนั คือนำยทองลุน สีสุลิด
บริหาร
ดบู ทความหลกั ท่ี: สภารัฐมนตรี
สำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชนลำว มีนำยกรัฐมนตรีเป็นหวั หนำ้ ฝ่ ำยบริหำร ซ่ึงนำยกรัฐมนตรีมำ
จำกกำรแต่งต้งั ของประธำนประเทศโดยผำ่ นกำรอนุมตั ิจำกสภำแห่งชำติ
นิตบิ ัญญตั ิ
ดบู ทความหลกั ที่: สภาแห่งชาติลาว และ พรรคประชาชนปฏิวตั ิลาว
สภำแห่งชำติลำว เป็นองคก์ รนิติบญั ญตั ิสูงสุดของลำว มีอำนำจในกำรเห็นชอบตำแหน่งสำคญั ต่ำงๆ
อำทิ ประธำนประเทศ นำยกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี และยงั ถือเป็นองคก์ รตวั แทนของประชำชน เป็น
องคก์ ำรตวั แทนแห่งสิทธิ อำนำจ และ ผลประโยชนข์ องประชำชน เป็นองคก์ ำรอำนำจแห่งรัฐ และเป็น
องคก์ ำรนิติบญั ญตั ิท่ีมี สิทธิพิจำรณำขอ้ ตดั สินใจหรือปัญหำสำคญั ของชำติ รวมท้งั ติดตำมตรวจสอบกำร
ดำเนินงำนของคณะรัฐบำล ศำลประชำชน และ องคก์ ำรอยั กำรประชำชน
11
ตุลาการ
ดบู ทความหลกั ท่ี: ศาลประชาชนสูงสุดแห่งชาติลาว
ศำลประชำชนของลำวเป็ นองคก์ รตุลำกำร ที่ไดร้ ับกำรแต่งต้งั และเห็นชอบจำกสภำแห่งชำติลำว
สถาบนั การเมืองทสี่ าคญั
1. แนวลำวสร้ำงชำติ
2. องคก์ รจดั ต้งั เช่น สหพนั ธ์วยั หนุ่มลำว (สหพนั ธ์เยำวชน) สหพนั ธ์แม่หญิงลำว (สมำคมสตรี) กรรม
บำลลำว (สหพนั ธ์กรรมกร) ซ่ึงไดร้ ับกำรสนบั สนุนโดยพรรคประชำชนปฏิวตั ิลำว
การจดั ต้งั และการบริหาร
หลำยหมู่บำ้ นรวมกนั เป็น เมือง (ก่อนหนำ้ น้ีจดั ใหห้ ลำยหมูบ่ ำ้ นรวมกนั เป็น ตาแสง มีตำแสงเป็น
ผปู้ กครอง หลำยตำแสงรวมกนั จึงเรียกวำ่ เมือง)
หลำยเมืองรวมกนั เป็น แขวง
"คณะกรรมกำรปกครองหมู่บำ้ น" มี นายบ้าน เป็นหวั หนำ้ เป็นผบู้ ริหำรของหมูบ่ ำ้ น
"คณะกรรมกำรปกครองเมือง" มี เจ้าเมือง เป็นหวั หนำ้ เป็นผบู้ ริหำรเมือง
"คณะกรรมกำรปกครองแขวง" มี เจ้าแขวง เป็นหวั หนำ้ เป็ นผบู้ ริหำรแขวง
"คณะกรรมกำรปกครองนครหลวง" มี เจ้าครองนครหลวง เป็นหวั หนำ้ เป็ นผบู้ ริหำรนครหลวง
12
เศรษฐกจิ
ด่ำนพรมแดนช่องเมก็ แขวงจำปำศกั ด์ิ
ภำวะเศรษฐกิจของประเทศลำวมีพฒั นำกำรท่ีดีตำมลำดบั โดยในช่วง 20 ปี นบั ต้งั แต่ปรับเปลี่ยนระบบ
เศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีกำรตลำดเม่ือปี 2529 ประเทศลำวมีกำรขยำยตวั ทำงเศรษฐกิจ
อยำ่ งตอ่ เน่ืองในอตั รำเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ประชำกรมีรำยไดเ้ พม่ิ ข้ึนจำกประมำณ 200 ดอลลำร์สหรัฐเม่ือปี
2529 เป็น 491 ดอลลำร์สหรัฐในปี 2548 ภำคอุตสำหกรรมขยำยตวั ในอตั รำไม่ต่ำกวำ่ ร้อยละ 10 ต่อปี โดย
อุตสำหกรรมพลงั งำนไฟฟ้ำเป็นสำขำหลกั ที่สร้ำงรำยไดใ้ หแ้ ก่ประเทศ
อยำ่ งไรก็ดี ลำวยงั คงประสบปัญหำที่ตอ้ งเร่งแกไ้ ขที่สำคญั ไดแ้ ก่ ปัญหำรำคำน้ำมนั ท่ีเพิม่ สูงข้ึน ปัญหำ
กำรขำดดุลกำรคำ้ ในอตั รำสูง คำ่ เงินกีบไม่มีเสถียรภำพ กำรจดั เกบ็ รำยไดต้ ่ำกวำ่ เป้ำหมำย และปัญหำกำรฉอ้
รำษฎร์บงั หลวง
ทรัพยำกรสำคญั ของลำว ไดแ้ ก่ ไม้ ดีบุก ยปิ ซมั ตะกว่ั หินเกลือ เหล็ก ถ่ำนหินลิกไนต์ สงั กะสี ทองคำ
อญั มณี หินอ่อน น้ำมนั และแหล่งน้ำผลิตไฟฟ้ำ
13
การลงทุน
กำรลงทุน รัฐบำลอำเปะไดป้ รับปรุงกฎระเบียบเพือ่ สร้ำงบรรยำกำศใหเ้ อ้ืออำนวยตอ่ กำรลงทุนมำกยง่ิ ข้ึน อำทิ
มำตรกำรดำ้ นภำษี อนุญำตใหน้ ครหลวงเวยี งจนั ทน์ แขวงจำปำศกั ด์ิ และแขวงหลวงพระบำง มีอำนำจอนุมตั ิ
โครงกำรลงทุนท่ีมีมูลคำ่ ไมเ่ กิน 2 ลำ้ นดอลลำร์สหรัฐ ส่วนแขวงอื่น ๆ สำมำรถอนุมตั ิโครงกำรลงทุนที่มีมูลคำ่
ลงทุนไม่เกิน 1 ลำ้ นดอลลำร์สหรัฐ ทำใหก้ ำรลงทุนจำกต่ำงประเทศในลำวมีแนวโนม้ เพม่ิ ข้ึนอยำ่ งต่อเน่ือง
โดยในปี 2546 มีมูลคำ่ 465 ลำ้ นดอลลำร์สหรัฐ ปี 2547 มีมูลค่ำ 533 ลำ้ นดอลลำร์สหรัฐ และปี 2548 มีมูลคำ่
1.6 พนั ลำ้ นดอลลำร์สหรัฐ นกั ลงทุนที่สำคญั ไดแ้ ก่ ไทย เวยี ดนำม ฝร่ังเศส ออสเตรเลีย จีน ฯลฯ
ตลำดหลกั ทรัพย์
ลำวกำหนดใหว้ นั ที่ 10 ตุลำคม พ.ศ. 2553(10-10-10) เป็นวนั เปิ ดดำเนินกำรของตลำดหลกั ทรัพยล์ ำว โดยมีที่
ปรึกษำทำงกำรเงินจำกประเทศไทย และไดช้ ่วยเหลือ5บริษทั จำกประเทศเกำหลี เปิ ดทำกำรจริงในวนั ที่ 10
มกรำคม พ.ศ. 2554 จะมีบริษทั แรกเขำ้ จดทะเบียนประมำณ 5 บริษทั
14
โครงการความร่วมมือในภูมิภาคใกล้เคยี ง
อำเซียน ลำวเขำ้ เป็นสมำชิกอำเซียนเมื่อเดือนกรกฎำคม 2540 ไดเ้ ป็นประธำน คณะกรรมกำรประจำ
อำเซียนเม่ือกรกฎำคม 2547
ยทุ ธศำสตร์ควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจอิรวดี-เจำ้ พระยำ-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong
Economic Cooperation Strategy - ACMECS)
ควำมร่วมมือในกรอบสำมเหลี่ยมมรกต
การนาเข้าและการส่ งออก
สินคำ้ ส่งออกท่ีสำคญั ของลำวไดแ้ ก่ เส้ือผำ้ สำเร็จรูป ไมซ้ ุง ไมแ้ ปรรูป ผลิตภณั ฑไ์ ม้ สินแร่ เศษโลหะ
ถ่ำนหิน หนงั ดิบ และหนงั ฟอก ขำ้ วโพด ใบยำสูบ กำแฟ โดยส่งออกไปยงั ประเทศ
ไทย เวยี ดนำม ฝร่ังเศส ญี่ป่ ุน สหรำชอำณำจกั ร สหรัฐอเมริกำ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ส่วนกำรนำเขำ้
สินคำ้ ประเทศลำวไดน้ ำเขำ้ สินคำ้ จำกไทย จีน เวยี ดนำม สิงคโปร์ ญ่ีป่ ุน ออสเตรเลีย เยอรมนี โดยสินคำ้ ที่
สำคญั ไดแ้ ก่ รถจกั รยำนยนตแ์ ละส่วนประกอบ เครื่องจกั รกล เครื่องใชไ้ ฟฟ้ำท่ีใหค้ วำมร้อน อำหำร ผำ้ ผนื
สำรเคมี และเครื่องอุปโภคบริโภค
15
การท่องเทยี่ ว
ดูบทความหลกั ที่: การท่องเทย่ี วในประเทศลาว
การท่องเทย่ี วมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจาก 80,000 คนในปี พศ. 2533 เป็ นจานวน 1.876 ล้านคนในปี 2553 [8]
การท่องเทยี่ วคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 679.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อผลผลติ มวลรวมภายในประเทศในปี 2553 และ
จะเพม่ิ ขนึ้ เป็ น 1.5857 พนั ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2563 รายได้จากนักท่องเทย่ี วต่างชาติและสินค้า
เพื่อการท่องเทีย่ วคาดว่าจะเตบิ โต 15.5% ของยอดการส่งออกหรือ 270.3 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553 และจะ
มมี ูลค่าเพม่ิ ขึน้ ถงึ 484.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (12.5 เปอร์เซ็นต์ของท้งั หมด) ในปี 2563 [9]
16
โครงสร้างพืน้ ฐาน
แม่นา้ เป็ นเส้นทางการขนส่งทส่ี าคญั ในประเทศลาว
ดูบทความหลกั ที่: การขนส่งในประเทศลาว
ท่ากาศยานหลกั ของประเทศ คือ ท่าอากาศยานนานาชาติวตั ไตของเวยี งจันทน์ และท่าอากาศยานนานาชาติ
หลวงพระบาง ส่วนท่าอากาศยานนานาชาตปิ ากเซมีเทย่ี วบนิ ระหว่างประเทศจานวนน้อย สายการบินประจา
ชาติ คือ การบนิ ลาว สายการบินอ่ืน ๆ ไดแก่ บางกอกแอร์เวย์ เวยี ดนามแอร์ไลน์ แอร์เอเชีย การบินไทย และไช
นาอสี เทิร์นแอร์ไลน์
ประเทศลาวมที างรถไฟระยะส้ัน ซ่ึงเช่ือมต่อเวยี งจันทน์กบั ประเทศไทยด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 1
(หนองคาย-เวยี งจันทน์) ถนนสายหลกั ในประเทศลาวมกี ารเชื่อมต่อไปยงั เมืองสาคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะทาง
หลวงหมายเลข 13 ซึ่งได้รับการปรับปรุงในไม่กป่ี ี ทผี่ ่านมา แต่หมู่บ้านทอี่ ย่หู ่างไกลจากถนนสายหลกั ยงั
เดนิ ทางด้วยถนนลกู รัง ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ตลอดท้งั ปี
17
ส่ือสารมวลชน
ตรำของสถำนีโทรภำพแห่งชำติลำว
สื่อในประเทศลำวลว้ นอยใู่ นควำมดูแลของรัฐโดยตรง รัฐบำลลำวมีสำนกั ขำ่ วสำรประเทศลำว (ขปล.)
เป็นสำนกั ข่ำวแห่งชำติท่ีเผยแพร่ขำ่ วของรัฐ ส่วนหนงั สือพิมพภ์ ำษำลำวที่สำคญั ในประเทศไดแ้ ก่
หนงั สือพิมพป์ ระชำชนซ่ึงเป็ นกระบอกเสียงของพรรคประชำชนปฏิวตั ิลำว และหนงั สือพมิ พเ์ วยี งจนั ทน์ใหม่
นอกจำกน้ียงั มีหนงั สือพมิ พภ์ ำษำตำ่ งประเทศอีก 2 ฉบบั คือ หนงั สือพมิ พเ์ วยี งจนั ทน์ไทมส์ (Vientiane Times)
ซ่ึงเป็นหนงั สือพมิ พภ์ ำษำองั กฤษ และหนงั สือพิมพ์ "เลอเรนอวำเตอร์" (Le Rénovateur) ซ่ึงเป็นหนงั สือพิมพ์
ภำษำฝรั่งเศส
ในประเทศลำวยงั ไมม่ ีสถำนีโทรทศั น์อยำ่ งเป็ นทำงกำร โดยปัจจุบนั น้ีมีสถำนีโทรทศั น์ที่กำลงั ทดลอง
ออกอำกำศ คือ สถำนีโทรทศั น์แห่งประเทศลำว (ທຊລ.) ซี่งเป็นสถำนีโทรทศั น์ของรัฐ ออกอำกำศผำ่ น
เครือข่ำยสถำนีในประเทศ มีสถำนีส่งต่อในประเทศไทยในชุมชนลำว และออกอำกำศทำงดำวเทียมไทยคม 5
นอกจำกน้ียงั มีลำวสตำร์แชนแนล ที่ออกอำกำศผำ่ นดำวเทียมจำกประเทศไทย
ดำ้ นกำรใชอ้ ินเทอร์เน็ต ตำมหวั เมืองใหญแ่ ละนครหลวงมีกำรเปิ ดใหบ้ ริกำรอินเทอร์เน็ตคำเฟ
โดยทวั่ ไป และไดร้ ับควำมนิยมอยำ่ งยง่ิ ในหมูเ่ ยำวชนรุ่นใหม่ อยำ่ งไรก็ตำม รัฐบำลลำวกไ็ ดม้ ีกำรตรวจ
พิจำรณำเน้ือหำและกำรเขำ้ ถึงขอ้ มูลอินเทอร์เน็ตอยำ่ งเขม้ งวด เน่ืองจำกเป็ นประเทศท่ีปกครองโดยรัฐบำล
คอมมิวนิสต์
18
สังคม
เชื้อชาติ
ประเทศลำวเป็นประเทศที่มีควำมหลำกหลำยทำงชำติพนั ธุ์ แตก่ ลุ่มชำติพนั ธุ์ลำวเป็นประชำกรกลุ่ม
ใหญ่ ส่วนท่ีเหลือเป็นพวกไทขำว ไทดำ และกลุ่มที่อำศยั อยใู่ นบริเวณภูเขำ ไดแ้ ก่ มง้ เยำ้ และข่ำ
ศาสนา
ดูบทความหลกั ท่ี: ศาสนาในประเทศลาว
ศาสนาในประเทศลาว
ศำสนำ ร้อยละ
พทุ ธ 66%
ผี 30.7%
คริสต์ 1.5%
อื่น ๆ 1.8%
จำกกำรสำรวจในปี พ.ศ. 2553[10] ประเทศลำวมีผนู้ บั ถือศำสนำ 7.2 ลำ้ นคน โดยแบง่ ไดด้ งั น้ี ศำสนำ
พุทธ 66% ศำสนำผี 30.7% ศำสนำคริสต์ 1.5% และศำสนำอ่ืน ๆ 1.8%
ภาษา
ภำษำประจำชำติ คือ ภำษำลำว
19
ท่ีเท่ียวลาว แลนดม์ ารก์ เด็ดที่ควรไปเช็กอิน
ประเทศลาว เป็นอีกหน่ึงเมืองท่ีมีควำมน่ำสนใจไม่นอ้ ยหนำ้ ประเทศไหน ๆ ในเอเชีย
โดยเฉพำะถำ้ พูดถึงเรื่องของควำมเป็นธรรมชำติ ควำมเรียบง่ำยของผคู้ น ลำวกย็ นื หน่ึง
มำเลยทีเดียว และกย็ งั น่ำสนใจดว้ ยอยใู่ กลไ้ ทย ไม่ตอ้ งขอวซี ่ำ มีเพียงแค่เวลำส้นั ๆ กบั
เงินอีกนิดหน่อยกไ็ ปตะลุยไดแ้ ลว้ และถำ้ อยำกรู้วำ่ ไปเท่ียวลำวควรไปเช็กอินท่ีไหนดี ก็
ทำงน้ีเลย เร่ิมกนั ท่ี ....
20
1. วดั เชียงทอง หลวงพระบำง
สถำนท่ีท่องเที่ยวท่ีมีช่ือเสียงมำกที่สุดแห่งหน่ึงของลำว เป็นวดั ท่ีมีสถำปัตยกรรมสมยั ลำ้ นชำ้ งที่งดงำม
และสมบูรณ์แบบ โดดเด่นดว้ ยพระอุโบสถหลงั คำแอ่นโคง้ ลดหลน่ั กนั ลงมำ 3 ช้นั ดำ้ นบนประดบั ดว้ ยช่อฟ้ำ
มำกถึง 17 ยอด หมำยถึงเป็ นวดั ที่พระมหำกษตั ริยท์ รงสร้ำงข้ึน ประตู หนำ้ ต่ำง หนำ้ บนั และบริเวณโดยรอบ
ตกแต่งอยำ่ งงดงำม ดำ้ นในประดิษฐำนพระองคห์ ลวง พระพุทธรูปสมยั ลำ้ นชำ้ งสีเหลืองทองสวยอร่ำม
ที่ดำ้ นหลงั ของพระอุโบสถเป็นภำพตน้ ทองสูงใหญ่ พร้อมดว้ ยสตั วใ์ นวรรณคดี ซ่ึงตกแต่งจำกกระจกสี
ตดั สีสวยแวววบั เป็ นประกำยงดงำมท้งั ยำมกลำงวนั และกลำงคืน นอกจำกน้ียงั มีวหิ ำรแดง, หอพระม่ำน และ
โรงเม้ียนโกศใหไ้ ดช้ มกนั ดว้ ย
21
2. พระบรมมหาราชวงั หลวงพระบาง
ต้งั อยกู่ ลำงเมืองหลวงเก่ำหลวงพระบำง สร้ำงข้ึนมำต้งั แต่ ค.ศ. 1904 เพอ่ื เป็ นท่ีพำนกั ของ
พระบำทสมเด็จพระเจำ้ ศรีสวำ่ งวงศ์ หรือเจำ้ มหำชีวติ ศรีสวำ่ งวงศ์ พระมหำกษตั ริยอ์ งคท์ ่ี 12 รำชอำณำจกั ร
ลำ้ นชำ้ งหลวงพระบำง และถือวำ่ เป็นกษตั ริยพ์ ระองคแ์ รกแห่งพระรำชอำณำจกั รลำวดว้ ย โดยตวั
พระบรมมหำรำชวงั หลวงพระบำงจะเป็นอำคำรสถำปัตยกรรมแบบโคโรเนียลผสมผสำนกบั ศิลปะแบบลำ้ น
ชำ้ ง เปิ ดใหเ้ ขำ้ ชมหอ้ งบรรทม หอ้ งทรงงำน หอ้ งพระโรงใหญ่ หอ้ งพธิ ีกำร และหอ้ งรับแขก พร้อมท้งั ยงั มีขำ้ ว
ของเครื่องใช้ ฉลองพระองคข์ องกษตั ริย์ พระรำชินี และพระบรมวงศำนุวงศ์ โบรำณวตั ถุท่ีสำคญั ของประเทศ
ลำว และของขวญั จำกนำนำประเทศจดั แสดงอยดู่ ว้ ย
22
3. เมอื งเกา่ หลวงพระบาง
ต้งั อยโู่ ดยรอบของพระบรมมหำรำชวงั หลวงพระบำง ต้งั แตร่ ิมฝั่งแม่น้ำโขงไล่เลยไปเรื่อยจนถึงริมฝ่ังแม่น้ำ
คำน โดยบริเวณเมืองเก่ำน้ีจะมีอำคำรบำ้ นเรือนเก่ำแก่ต้งั เรียงรำยสองฟำกฝ่ังถนน บำงหลงั ไดร้ ับกำรปรับปรุง
จนสวยงำมกลบั มำมีชีวติ ชีวำ บำ้ งก็กลำยมำเป็นที่พกั ร้ำนอำหำร ร้ำนกำแฟชิค ๆ ซ่ึงจะสลบั คน่ั ดว้ ยวดั สวย ๆ
บรรยำกำศเงียบสงบ จะเดินเที่ยวหรือข่ีจกั รยำนกไ็ ด้
จุดเช็กอินท่ีน่ำสนใจในเขตเมืองเก่ำหลวงพระบำง อำทิ วดั เชียงทอง, วดั ใหมส่ ุวรรณภูมำรำม,
พระบรมมหำรำชวงั หลวงพระบำง, พระธำตุภูสี, ตลำดดำรำ, วดั มหำธำตุ, โจมำ เบเกอร่ี คำเฟ่ , ตลำดเชำ้ ,
ตลำดมืด, สะพำนไมไ้ ผข่ ำ้ มแม่น้ำคำน, ศูนยห์ ตั ถกรรมผำ้ ทอออกพบตก, Saffron Coffee เป็นตน้
23
4. น้าตกตาดกวางสี หลวงพระบาง
น้ำตกที่มีควำมสวยงำมมำกท่ีสุดของหลวงพระบำง ต้งั อยใู่ จกลำงป่ ำเขำที่อุดมสมบูรณ์ มี
ลกั ษณะเป็นน้ำตกหินปูนขนำดใหญ่ มีท้งั หมด 4 ช้นั โดยช้นั ที่สูงที่สุดมีควำมสูงมำกถึง 75 เมตร ซ่ึงสำยน้ำ
มหำศำลจะไหลลงมำตำมหนำ้ ผำแนว 90 องศำสู่แอ่งน้ำกวำ้ งเบ้ืองล่ำง ก่อนจะไหลลงไปตำมช้นั ตำ่ ง ๆ บำง
วนั จะมีรุ้งกินน้ำพำดผำ่ นน้ำตก เป็นภำพที่สวยงำมมำก มีสะพำนไมท้ อดยำวลดั เลำะไปรอบน้ำตก ทำให้
นกั ทอ่ งเท่ียวสำมำรถเดินไปเที่ยวชมไดอ้ ยำ่ งใกลช้ ิด ส่วนถำ้ ใครอยำกเล่นน้ำก็มีแอง่ น้ำในช้นั ล่ำง ๆ ให้
นกั ท่องเที่ยวสำมำรถลงเล่นน้ำได้ พร้อมท้งั พ้นื ที่นง่ั ปิ กนิก ร้ำนอำหำร และร้ำนกำแฟ
24
5. นำ้ ตกตำดแส้ หลวงพระบำง
อีกหน่ึงน้ำตกท่ีมีควำมสวยงำมของหลวงพระบำง ต้งั อยหู่ ่ำงจำกเมืองเก่ำหลวงพระบำงรำว ๆ
15 กิโลเมตร กำรจะเขำ้ ไปยงั น้ำตกตำดแส้จะตอ้ งไปลงเรือหำงยำวของชำวบำ้ นที่บริเวณหมู่บำ้ นบำ้ นแอน
นงั่ เรือไปรำว ๆ 10 นำที กจ็ ะพบกบั น้ำตกหินปูนขนำดใหญท่ ่ำมกลำงป่ ำเขียวขจี น้ำในน้ำตกจะเป็ นสีฟ้ำ
เขียวมรกตใสเยน็ เจ๊ียบ สำมำรถลงเล่นน้ำไดห้ ลำยจุด มีสะพำนไมท้ อดยำวลดั เลำะไปทว่ั น้ำตก ใครจะนง่ั พกั
เอำเทำ้ หยอ่ นน้ำตรงไหนกไ็ ด้ มีร้ำนอำหำรใหบ้ ริกำร
25
6. หนองเขยี ว หลวงพระบำง
เป็นเมืองท่องเที่ยวในหุบเขำขวญั ใจนกั ท่องเที่ยวแนวแบก็ แพก็ เกอร์แห่งใหม่ของ
ประเทศลำว ต้งั อยหู่ ่ำงจำกเมืองเก่ำหลวงพระบำงประมำณ 140 กิโลเมตร มีลกั ษณะเป็นเมือง
เลก็ ๆ ริมคุง้ แม่น้ำอู ดำ้ นหลงั ของเมืองเป็นภูเขำสูงใหญ่ บรรยำกำศเงียบสงบมำก ชำวบำ้ นยงั คงใช้
ชีวติ เรียบง่ำย มีวถิ ีชีวติ ท่ีอยกู่ บั ธรรมชำติอยำ่ งแทจ้ ริง โดยไฮไลตข์ องท่ีนี่กค็ ือ ยอดผำแดง ซ่ึงเป็น
26
หนำ้ ผำสูงที่สำมำรถมองเห็นววิ เมืองหนองเขียวไดแ้ บบ 360 องศำ พร้อมกบั เห็นแม่น้ำอูท่ีลดั
เลำะแนวภูเขำกบั ภูเขำลูกใหญ่ท่ีมีรูปร่ำงสวยแปลกตำ เตม็ ไปดว้ ยตน้ ไมส้ ีเขียวชอุ่ม ถำ้ มำเท่ียว
หนำ้ ฝน กจ็ ะไดเ้ ห็นทะเลหมอกดว้ ย
7. พระธำตหุ ลวง เวยี งจนั ทน์
ปูชนียสถำนที่สำคญั ของเมืองหลวงพระบำง ต้งั อยใู่ จกลำงเมือง โดดเด่นดว้ ยพระธำตุสี
เหลืองทองอร่ำม สูงรำว ๆ 45 เมตร พระธำตุตรงกลำงมีรูปทรงคลำ้ ยกบั ดอกบวั ตูม รำยลอ้ มดว้ ย
พระธำตุองคเ์ ลก็ โดยรอบอีก 30 องค์ ซ่ึงพระธำตุเลก็ ๆ เหล่ำน้ีกม็ ีแผน่ ทองคำอยดู่ ว้ ย ท้งั น้ีกม็ ีหอ
27
ไหวท้ ้งั 4 ดำ้ น และมีบนั ไดข้ึนหอไหวท้ ุกดำ้ น ในแต่ละปี จะมีกำรจดั งำนนมสั กำรพระธำตุหลวง
ในวนั ข้ึน 13 ค่ำ เดือน 12 ประชำชนจะมำร่วมงำนกนั อยำ่ งคึกคกั บรรยำกำศสนุกสนำน
8. ประตชู ยั หรอื ประตไู ซ เวยี งจนั ทน์
แลนดม์ ำร์กที่สำคญั ของเวยี งจนั ทน์ ต้งั อยใู่ จกลำงเมือง บริเวณทำ้ ยสุดทำงทิศ
ตะวนั ออกเฉียงเหนือของถนนลำ้ นชำ้ ง สร้ำงข้ึนในปี ค.ศ. 1957-1968 เพื่อสดุดี
วรี ชนที่ร่วมรบในกำรประกำศเอกรำชกบั ฝร่ังเศส มีลกั ษณะเป็นประตูรูปทรงคลำ้ ยกบั
28
อำร์กเดอทรียงฟ์ เดอเลตวล หรือ ประตูชยั ฝรั่งเศส แต่ตกแตง่ ในแบบศิลปะลำ้ นชำ้ ง
ดำ้ นหนำ้ เป็นลำนน้ำพกุ บั สวนกวำ้ ง ในช่วงยำมเยน็ จะมีกำรเปิ ดน้ำพุ บรรยำกำศสวยงำม
9. สวนพระ เวยี งจนั ทน์
(สวนพระ หรือที่ชำวบำ้ นเรียกกนั วำ่ เชียงควน Xieng Khuan) ต้งั อยทู่ ำงใตข้ องเมือง
เวยี งจนั ทน์ ห่ำงจำกตวั เมืองรำว ๆ 20 กิโลเมตร แต่อยหู่ ่ำงจำกฝ่ังจงั หวดั หนองคำยบริเวณ
สะพำนมิตรภำพหนองคำย เพยี งแค่รำว ๆ 10 กิโลเมตรเท่ำน้นั ตวั วดั อยใู่ กลก้ บั ลำน้ำโขง โดด
เด่นดว้ ยรูปป้ันของพระพทุ ธรูปและส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิตำมศำสนำพทุ ธและฮินดูมำกกวำ่ 200 องค์ ซ่ึง
ต้งั กระจำยตวั อยำ่ งสวยงำมอยรู่ อบ ๆ สวน และยงั ร่มร่ืนดว้ ยตน้ ไมน้ อ้ ยใหญ่ บรรยำกำศเงียบสงบ
29
10. นำ้ ตกตำดฟำน จำปำสกั
น้ำตกที่มีเอกลกั ษณ์โดดเด่น ต้งั อยใู่ นเมืองปำกซ่อง (Paksong) ห่ำงจำกเมืองปำก
เซรำว ๆ 37 กิโลเมตร และห่ำงจำกด่ำนช่องเมก็ จงั หวดั อุบลรำชธำนี เพยี งแค่ประมำณ 80
กิโลเมตรเท่ำน้นั ควำมสวยงำมของน้ำตกตำดฟำนอยทู่ ่ีกำรเป็นน้ำตก 2 สำยไหลดิ่งลงหนำ้ ผำสูง
กวำ่ 100 เมตร อนั เป็นปำกปล่องภูเขำไฟโบรำณ ท่ำมกลำงป่ ำเขำอนั อุดมสมบูรณ์
แต่ไฮไลตข์ องท่ีนี่ กค็ ือ กิจกรรมแนวผจญภยั ท้งั กำรโหนซิปไลนข์ ำ้ มน้ำตก และกำรปี น
หนำ้ ผำบริเวณน้ำตก ท้งั น้ีกิจกรรมโหนซิปไลนก์ ไ็ ดร้ ับควำมนิยมจำกนกั ท่องเที่ยวค่อนขำ้ งมำก
เพรำะเป็นซิปไลนท์ ี่มีควำมสูงรำว ๆ 220 เมตรเลยทีเดียว และยงั มีใหเ้ ลือกวำ่ จะโหนไปดว้ ยมือ
เฉย ๆ หรือจะนงั่ จิบกำแฟ รับประกนั ควำมหวำดเสียว
30
11. ทร่ี ำบสงู โบลำเวน (Bolaven Plateau) จำปำสกั
เป็นพ้ืนท่ีรำบสูงบริเวณแขวงจำปำสัก ซ่ึงสูงจำกน้ำทะเลรำว ๆ 1,000-1,400 เมตร
พ้ืนท่ีโดยรอบมีควำมสมบูรณ์มำก รำยลอ้ มไปดว้ ยป่ ำเขำมำกมำย มีน้ำตกสวย ๆ หลำยแห่ง พร้อม
ท้งั เสน้ ทำงเดินป่ ำหลำยเส้นทำง แต่สิ่งที่ทำใหท้ ี่รำบสูงโบลำเวนเป็นท่ีรู้จกั กค็ ือ ไร่กำแฟอำรำบิกำ้
เพรำะท้งั โลเคชน่ั และอำกำศที่เหมำะสมต่อกำรปลูก ทำใหก้ ำแฟของที่นี่มีรสชำติเขม้ ขน้ กลม
กล่อมลงตวั กล่ินหอมดึงดูดสุด ๆ
สถำนที่ท่องเที่ยวท่ีน่ำสนใจในเขตที่รำบ
สูงโบลำเวน อำทิ น้ำตกตำดฟำน, น้ำตกยำดเย้อื ง
, ตำดจำปี , อุทยำนแห่งชำติดงหวั สำว, ตำดขมึด,
ตำดเสือ และตำดผำสว้ ม เป็นตน้
31
12. สพี่ นั ดอน จำปำสกั
เป็นหมู่เกำะในแม่น้ำโขง บริเวณแขวงจำปำสกั โดยมีเกำะเลก็ เกำะนอ้ ยแตกยอ่ ยออกมำ
มำกกวำ่ 4,000 เกำะ ชำวบำ้ นจึงเรียกกนั วำ่ สี่พนั ดอน โดยแต่ละเกำะจะมีชำวบำ้ นอำศยั อยู่
ส่วนใหญ่ทำอำชีพประมงและกำรเกษตร ภำยในส่ีพนั ดอนจะมีแหล่งท่องเท่ียวโด่งดงั อยู่ 2 แห่ง
คือ น้ำตกหล่ีผี และน้ำตกคอนพะเพง็
สำหรับน้ำตกหล่ีผี จะเป็นน้ำตกท่ีอยรู่ ะหวำ่ งดอนคอน (Don Khon) และดอน
Sanlat มีลกั ษณะเป็นแก่งหินสีดำขนำดนอ้ ยใหญ่ขวำงลำน้ำโขง เกิดเป็นน้ำตกขนำดมหึมำที่มี
พ้นื ที่กวำ้ งขวำงมองไปไกลสุดลูกหูลูกตำ สำมำรถท่ีจะชมไดจ้ ำกฝ่ังประเทศกมั พชู ำดว้ ย
ส่วนน้ำตกคอนพะเพง็ จะอยทู่ ำงฝ่ังแผน่ ดินใหญ่ เกิดจำกกำรยบุ ตวั ของแผน่ ดินในลำน้ำ
โขง ทำใหเ้ กิดแก่งหินสีดำนอ้ ยใหญ่ขวำงลำน้ำโขงเช่นกนั และทำใหก้ ลำยเป็นน้ำตกขนำดใหญ่ มี
รูปร่ำงสวยงำมรำวกบั น้ำตกไนแองกำรำในประเทศสหรัฐอเมริกำและประเทศแคนำดำ
นกั ท่องเที่ยวจึงใหฉ้ ำยำวำ่ ไอแองกำรำแห่งเอเชีย
32
13. ปรำสำทหนิ วดั พู จำปำสกั
ต้งั อยหู่ ่ำงจำกเมืองปำกเซรำว ๆ 40 กิโลเมตร เป็นโบรำณสถำนที่สำคญั ทำงฝั่งลำวใต้ มี
อำยมุ ำกกวำ่ 1,000 ปี สนั นิษฐำนวำ่ สร้ำงข้ึนรำวพทุ ธศตวรรษที่ 12 ตวั ปรำสำทต้งั อยบู่ ริเวณ
เชิงเขำ มีสถำปัตยกรรมแบบขอม บริเวณโดยรอบจะมีสระน้ำใหญ่อยดู่ ำ้ นหนำ้ 2 สระ เลยจำก
สระน้ำเขำ้ ไปจะเป็นทำงเดินท่ีทอดยำวเขำ้ สู่ตวั ปรำสำท โดยองคป์ ระธำนของปรำสำทจะอยดู่ ำ้ น
ในสุดบนเชิงเขำ ถำ้ มีเท่ียวช่วงฤดูฝนกจ็ ะไดเ้ ห็นป่ ำเขำและบริเวณโดยรอบของปรำสำทเป็นสีเขียว
33
ตดั กบั สีน้ำตำลของปรำสำทอยำ่ งสวยงำม ท้งั น้ีปรำสำทหินวดั พูไดร้ ับกำรจดข้ึนทะเบียนเป็น
มรดกโลกโดยองคก์ ำรยเู นสโกเม่ือปี 2001
14. ตำดแซป่ องไล อตั ตะปื อ
น้ำตกลบั ใจกลำงป่ ำแห่งแขวงอตั ตะปื อ ห่ำงจำกเมืองปำกเซ แขวงจำปำสกั รำว ๆ 120
กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนำดใหญ่อยบู่ นลำน้ำวงั เงำ (Vang Ngao River) เกิดจำกกำรยบุ ตวั
ของแผน่ ดินทำใหก้ ลำยเป็นน้ำตกลกั ษณะคลำ้ ยกบั กำแพงม่ำนน้ำกวำ้ งใหญ่ ในช่วงหนำ้ น้ำจะมีน้ำ
จำนวนมหำศำลจนแทบไม่เห็นร่องหินบนน้ำตก แต่ถำ้ เป็นช่วงหนำ้ แลง้ น้ำจะนอ้ ยลง ทำให้
34
สำมำรถลงไปเล่นน้ำในแอ่งน้ำใกล้ ๆ น้ำตกได้ พรอ้ มท้งั ยงั สำมำรถทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์อยำ่ ง
กำรปี นหนำ้ ผำน้ำตกไดด้ ว้ ย
15. บลู ลำกนู วงั เวยี ง
ที่เท่ียวธรรมชำติที่มีชื่อเสียงมำกที่สุดของวงั เวยี ง ปัจจุบนั มีอยดู่ ว้ ยกนั 3 แห่ง ซ่ึงท้งั หมดมี
ลกั ษณะเป็นบ่อน้ำผดุ โดยน้ำในบ่อจะเป็นสีฟ้ำสวยใสเยน็ ฉ่ำ เนื่องจำกผดุ ข้ึนมำจำกช้นั หิน
ดำ้ นล่ำงไหลเร่ือยผำ่ นดินและหินข้ึนมำเรื่อย ๆ จึงทำใหน้ ้ำใส เมื่อผสมกบั แร่ธำตุบำงอยำ่ งจึ’ทำให้
มีสีฟ้ำ ซ่ึงนกั ท่องเท่ียวสำมำรถท่ีจะลงไปเล่นน้ำได้ มีท้งั ชิงชำ้ แพไมไ้ ผ่ เชือกใหก้ ระโดดน้ำ
พร้อมกบั มีเส้ือชูชีพไวบ้ ริกำร
35
16. Nam Xay Top วงั เวยี ง
จุดชมววิ ที่สวยที่สุดแห่งหน่ึงของวงั เวยี ง ต้งั อยบู่ นเขำสูงซ่ึงสำมำรถมองเห็นววิ ภูเขำนอ้ ยใหญ่
และทุ่งนำป่ ำเขำท่ีอยโู่ ดยรอบไดแ้ บบ 360 องศำ โดยท่ีจุดชมววิ จะเป็นหินบะซอลตส์ ีดำ
รูปลกั ษณ์แปลกตำ และที่สำคญั ยงั มีกำรนำมอเตอร์ไซคฮ์ ำร์ลียม์ ำต้งั ไวท้ ่ีจุดชมววิ ใหน้ กั ท่องเท่ียว
ไดถ้ ่ำยรูปเท่ ๆ กนั ดว้ ย กำรจะข้ึนไปยงั จุดชมววิ จะตอ้ งเดินข้ึนเขำมีควำมชนั ระดบั หน่ึง จึงตอ้ ง
ระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ
36
17. ทงุ่ ไหหนิ เชยี งขวำง
โบรำณสถำนอนั โดดเด่น ซ่ึงต้งั อยกู่ ลำงทุ่งหญำ้ กวำ้ งห่ำงจำกเมืองโพนสะวนั รำว ๆ 7
กิโลเมตร โดยเป็นทุ่งหญำ้ ที่มีไหหินขนำดนอ้ ยใหญ่ต้งั กระจำยตวั อยบู่ นพ้ืนที่กวำ้ ง ซ่ึงมีมำกกวำ่
200 ไห สันนิษฐำนวำ่ มีมำมำกกวำ่ 2,000-3,000 ปี มีตำนำนเล่ำสืบต่อกนั มำหลำยอยำ่ ง
บำ้ งกว็ ำ่ ไหเหล่ำน้ีถูกสร้ำงข้ึนเพอ่ื เอำไวช้ งเหลำ้ ฉลองชยั ชนะของกษตั ริยโ์ บรำณที่ต่อสูก้ บั ยกั ษ์
บำ้ งกว็ ำ่ ใชใ้ นกำรเกบ็ กกั น้ำฝนสำหรับกองคำรำวำนท่ีเดินทำงระยะไกลในเส้นทำงแถบน้ี
นอกจำกน้ียงั มีทุ่งไหหินอีก 2 แห่งท่ีอยใู่ นแขวงเชียงขวำงใหไ้ ดไ้ ปเท่ียวชมอีกดว้ ย
37
18. Gibbon Experience บอ่ แกว้
อีกหน่ึงประสบกำรณ์กำรท่องเท่ียวลำวที่จะใหน้ กั ท่องเท่ียวไดส้ ัมผสั กบั ป่ ำเขำ และวถิ ีชีวติ สุด
เรียบง่ำยอยำ่ งแทจ้ ริง พร้อมกบั ยงั จะไดส้ นุกสนำนไปกบั กำรหอ้ ยโหนซิปไลนก์ ลำงป่ ำใหญ่ ได้
นอนบนบำ้ นตน้ ไมส้ ูงแบบทำร์ซำน ท่ำมกลำงบรรยำกำศของธรรมชำติท่ีสวยงำมและอุดม
สมบูรณ์สุด ๆ ซิปไลนแ์ ต่ละจุดจะมีควำมสูงและยำวแตกต่ำงกนั ออกไป โดยสถำนีท่ียำวที่สุดจะ
อยทู่ ี่ 600 เมตรเลยทีเดียว โดยจะพำนกั ท่องเที่ยวไปสัมผสั กบั บรรยำกำศดงั กล่ำวภำยในพ้ืนที่
ของ Bokeo National Park
38
19. ถำ้ กองลอ คำมว่ น
เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลำว ต้งั อยใู่ นเมืองคูนคำ แขวงคำม่วน ห่ำงจำกสะพำนมิตรภำพ
ไทย-ลำว 3 นครพนม รำว ๆ 170 กิโลเมตร ดำ้ นในของถ้ำมีควำมลึกถึง 7 กิโลเมตร โดยจะมี
ทำงน้ำไหลผำ่ นถ้ำ โดยทำงน้ำดงั กล่ำวน้นั กค็ ือ แม่น้ำภูหินบูน นกั ท่องเที่ยวจะไดล้ ่องเรือเขำ้ ไปชม
บรรยำกำศภำยในถ้ำ และไดแ้ วะลงเท่ียวชมตำมจุดหินงอกหินยอ้ ยสวย ๆ พร้อมท้งั หำดทรำยกวำ้ ง
ภำยในถ้ำ แลว้ นงั่ เรือทะลุไปยงั อีกฝั่งของถ้ำ
39
20. ถำ้ เวยี งไซ หวั พนั
เป็นอีกหน่ึงถ้ำที่น่ำสนใจของลำว ต้งั อยทู่ ี่เมืองเวยี งไซ แขวงหวั พนั ทำงดำ้ นทิศ
ตะวนั ออกของประเทศลำว มีลกั ษณะเป็นถ้ำหินปูนขนำดใหญ่ ดำ้ นในยำวรำว ๆ 140 เมตร มี
กำรขดุ เจำะใหก้ ลำยเป็นหอ้ งต่ำง ๆ ที่สำมำรถรองรับผคู้ นไดม้ ำกถึง 20,000 คน ดว้ ยที่นี่เคย
เป็นสถำนท่ีหลบภยั ในช่วงสงครำมโลกคร้ังที่ 2 ซ่ึงในขณะน้นั ผนู้ ำต่ำง ๆ จะมีฐำนประจำกำรอยู่
ภำยในถ้ำกวำ่ 12 แห่งในประเทศลำว โดยถ้ำท่ีมีช่ือเสียง กค็ ือ ถ้ำเวยี งไซ แห่งน้ีน่ีเอง หอ้ งท่ี
น่ำสนใจภำยในถ้ำเวยี งไซ อำทิ หอ้ งนอน, หอ้ งประชุม, หอ้ งรับแขก, หอ้ งหลบภยั และหอ้ ง
สำหรับเล่นกีฬำ เป็นตน้
40
6!!อาหารขนึ้ ช่ือในถ่นิ ลาวที่ไปแล้วต้องลอง!!
41
1.ซุปไก่ (Chicken soup)
เป็ นหนง่ึ ในอำหำรลำวทอ่ี รอ่ ยมากเลยกว็ า่ ได ้ ซุปไกจ่ ัดเป็ น
อาหารพนื้ เมอื งของลำว ซง่ึ มสี ว่ นผสมประกอบคอื ตะไคร ้ ใบ
สะระแหน่ กระเทยี ม และหอมแดง แตส่ ว่ นใหญจ่ ะเนน้ ใสผ่ ัก และ
สมนุ ไพรลงไปดว้ ยในการปรงุ รสชาติ
42
2.สลดั หลวงพระบำง (Luang prabang salad)
เป็ นอาหารทมี่ รี สชาตกิ ลางๆ ซง่ึ รับประทานไดท้ งั้ ชาวตะวนั ตก
และตะวนั ออก สว่ นประกอบหลกั คอื ผกั นำ้ เป็ นผักทเี่ กดิ ขนึ้ เอง
โดยธรรมชาตติ ามรมิ ธารน้าไหล และยังมสี ว่ นประกอบอยา่ งอน่ื
ของเมนูสลดั น้ี คอื น้าสลดั จะเป็ นน้าสลดั ใส ยังมกี ระเทยี มเจยี ว
โรยหนา้ ชว่ ยเพม่ิ สสี นั ใหห้ นา้ ตาของอาหารดนู ่าทานมากยง่ิ ขน้ึ
43