The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ข้าว น่ารักจุง, 2020-02-20 03:37:56

ประเทศลาว

ประเทศลาว

3.เฝอ

เฝอ ถอื วา่ เป็ นอาหารจานดว่ นทมี่ ที ว่ั ไปทกุ เมอื ง หนา้ ตาจะ
คลา้ ยๆ กบั กว๋ ยเตยี๋ วนำ้ ใส ของประเทศไทย นยิ มใสเ่ นอ้ื สตั ว์
เพอ่ื เพม่ิ รสชาติ และมผี ักสดเป็ นเครอ่ื งเคยี ง ปรงุ รสดว้ ยมะนาว
กะปิ พรกิ เผา และน้าปลา จะใหอ้ รอ่ ยมนั ตอ้ งเตมิ ซอสพรกิ (ท่ี
นาเขา้ จากไทย) ซงึ่ วางเป็ นเครอ่ื งปรงุ อยกู่ ลางโตะ๊ นั่นแหละ่ คะ่
จะยงิ่ ชว่ ยทาใหน้ ้าซปุ เปลย่ี นเป็ นสแี ดงขน้ มรี สชาตหิ วานๆ
เปรยี้ วๆ กลมกลอ่ ม

44

4.บำแกตต์ (ขำ้ วจ,ี่ แป้ งจ)่ี

บำแกตต์ เป็ นขนมปงั ฝรง่ั เศส หนา้ ตาคลา้ ยแซนดว์ ชิ สามารถ
ใสไ่ สไ้ ดต้ ามใจ หรอื ตามรา้ นแตล่ ะรา้ น ซง่ึ จะแตกตา่ งกนั ออกไป
แตห่ ลกั ๆ จะเนน้ ผักสด เนอ้ื สตั ว์ แฮม หมยู อ ตบั บด มขี นาดขนม
ปังใหเ้ ลอื กทงั้ กอ้ นเลก็ กลาง ใหญ่ เรยี กไดว้ า่ กอ้ นเดยี วอม่ิ พงุ
กลางไปเลย

45

5.ขำ้ วเปี ยก

ดแู ลว้ คลา้ ยๆ กว๋ ยเตย๋ี วนำ้ ใสเหมอื นบา้ นเรา แตจ่ ะ
แตกตา่ งกนั ตรงทเ่ี สน้ นั่นเอง จะเหน็ ไดช้ ดั วา่ เสน้ ของขา้ วเปียกนัน้
จะมเี สน้ กลมๆ แตม่ คี วามเหนยี วกวา่ และจะใสเ่ พยี งแคห่ มยู อ
โรยหนา้ ดว้ ยผักชี

46

6.ไคแผน่ ทอด

ไค คอื สำหรำ่ ยนำ้ จดื ทคี่ นลำวนามาทาความสะอาดแลว้ นาไป
ทาเป็ นแผน่ นาไปตากแหง้ และนาไปทอด จากนัน้ โรยหนา้ ดว้ ย
งา หรอื มะเขอื เทศ ถอื วา่ เป็ นอาหารทานเลน่ ของคนลำวเลยก็วา่
ได ้
อำหำรประเทศลำวสว่ นมากจะไมน่ ยิ มนาไป ทอด หรอื ป้ิง โดย
สว่ นมากจะเป็ นการตม้ ซะมากกวา่ และยงั มรี สชาตไิ มจ่ ัดจา้ น
เกนิ ไป หากคนไทยไดล้ มิ้ ลองดแู ลว้ รสชาตอิ าจจะยังไมถ่ กู ใจ
เทา่ ไหรน่ ัก อำหำรประเทศลำวเนน้ เกย่ี วกบั ผัก และแป้งเป็ น
หลกั เพราะจะพัฒนามาจากดงั้ เดมิ เพราะจะเอาวตั ถดุ บิ มาจากใน
ทๆี่ ตนเองหาได ้ ถา้ หากใครไดไ้ ปประเทศลำวแลว้ ก็อยา่ ลมื ไป
ลองทานอาหารทเ่ี ราไดแ้ นะนาไปกนั ดนู ะคะ

47

วฒั นธรรมลาว

ประเทศลำวมีวฒั นธรรมลาวที่เป็นเอกลกั ษณ์ของตนเอง นบั ถือศำสนำพทุ ธนิกำย
เถรวำทท่ีไดร้ ับอิทธิพลจำกอินเดีย และไดร้ ับอิทธิพลจำกวฒั นธรรมจีนดว้ ย สำมำรถ
เห็นไดจ้ ำกภำษำ ศิลปะ วรรณคดี วิถีชีวติ ของชำวลำวไดร้ ับอิทธิพลจำกศำสนำพุทธมำก
ทำใหช้ ำวลำวเป็นผมู้ ีควำมอดทนและยอมรับกำรเปลี่ยน แปลงไดด้ ี

48

เทศกาล

เทศกำลที่สำคญั ในลำวคือบุญผะเหวด[1]ซ่ึงจดั ข้ึนปี ละคร้ัง ใชเ้ วลำ 2 วนั ส่วน
ใหญ่ตรงกบั ช่วงมกรำคม – กมุ ภำพนั ธ์ โดยจะข้ึนกบั ปฏิทินทำงจนั ทรคติ พระภิกษุจะ
เทศนำเรื่องมหำเวสสนั ดรชำดก หรือท่ีเรียกวำ่ มหำชำติ

ดนตรี

ดบู ทความหลกั ท่ี: ดนตรีในประเทศลาว
ดนตรีของชำวลำวมีเคร่ืองดนตรีท่ีเป็นเอกลกั ษณ์คือแคน ในวงดนตรีมีนกั ร้อง

เรียกวำ่ หมอลำและคนเป่ ำแคนท่ีเรียกหมอแคน ลำสำละวนั เป็นกำรแสดงที่มีช่ือเสียง
ของ

49

กำรแตง่ กำยชำวเอเซยี

การแตง่ กายลาว

เป็ นประเทศทอ่ี ยชู่ ดิ ชายแดนไทยทางดา้ นตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทางจังหวดั หนองคาย ขา้ มแมน่ ้า
โขงไปอกี ฟากหนงึ่ ก็จะถงึ เมอื งเวยี งจันทร์ นอกจากชนชาตลิ าวซง่ึ บางครัง้ เรยี กวา่ ลวั ะ หรอื ละวา้
ยังมชี นเผา่ ตา่ ง ๆ อกี ไดแ้ ก่
1. กลมุ่ ชนเผา่ ไท-ลาว คอื พวกไทแดง ไทขาว ไทดา ยอ้ ลอื้
2. กลมุ่ มง้ -เยา้
3. กลมุ่ พมา่ -ธเิ บต รวมถงึ มเู ซอ ลา่ ฮู
4. กลมุ่ มอญ-เขมร รวมถงึ ขมุ

กำรทอผำ้ ของกลมุ่ ชำวไท-ลำว ใชเ้ ทคนคิ กำรทอ 6 วธิ ี ไดแ้ ก่
 มดั หม่ี หรอื IKAI (อขี ดั )
 จก หรอื เทคนคิ การเพมิ่ ดา้ ยเสน้ พงุ่ พเิ ศษเป็ นชว่ ง ๆ ไมต่ ดิ ตอ่ กันตลอดหนา้ ผา้
 ชดิ หรอื เทคนคิ การเพมิ่ ดว้ ยเสน้ พงุ่ พเิ ศษตดิ ตอ่ กนั ตลอดหนา้ ผา้
 เหยยี บเกาะ หรอื เทคนคิ การทอแบบใชเ้ สน้ ดา้ ยหลายสเี กย่ี วหรอื ผกู เป็ นหว่ ง (เป็ นเทคนคิ
การทอของชาวไทลอื )้
 ตามกุ หรอื เทคนคิ การเพม่ิ ดา้ ยเสน้ ยนื พเิ ศษ
 หมากไม หรอื เทคนคิ การปั่นดา้ ยเสน้ พงุ่ 2 สเี ขา้ ดว้ ยกัน

ผา้ ทอมบี ทบาทสาคัญในชวี ติ ครอบครัวของชาวไท-ลาว ทกุ วนั นพี้ ธิ แี ตง่ งานแบบดงั้ เดมิ ของ คน
ไท-ลาวยงั คงใชเ้ ครอ่ื งแตง่ กายทงี่ ดงาม ประณีต ชดุ เจา้ สาวทอดว้ ยไหมเสน้ ละเอยี ด สอดแทรก

50

ดว้ ยเสน้ เงนิ เสน้ ทอง ผา้ เบยี่ ง ซน่ิ และตนี ซน่ิ จะมสี แี ละลวดลายรับกัน เจา้ บา่ วนุ่งผา้ นุ่งหรอื ผา้
เตย่ี วทอดว้ ยไหมละเอยี ดสพี น้ื อาจะใชเ้ ทคนคิ การทอแบบ “หมากไม” คอื การปั่นเสน้ ใย สวมเสอ้ื
แบบฝรั่ง มผี า้ พาดบา่ เพอ่ื เขา้ พธิ สี ขู่ วญั

กำรแตง่ กำย
ผหู้ ญงิ นุ่ง Patoi (มลี กั ษณะคลา้ ยผา้ นุ่งของไทย) นยิ มทาเป็ นลายทาง ๆ เชงิ ผา้ เป็ น สแี ดงแก่
หรอื น้าตาลเขม้ ถา้ ผา้ นุ่งเป็ นไหม เชงิ ก็จะเป็ นไหมดว้ ย มกั จะทอทองและเงนิ แทรกเขา้ ไป ไวผ้ ม
เกลา้ มวยประดบั ดอกไม ้

ผชู้ ำย นุ่ง Patoi เป็ นการนุ่งโจงกระเบน สวมเสอ้ื ชนิ้ นอก กระดมุ เจ็ดเม็ด ชำวลำว
กำรแตง่ กำยของ

กำรนุ่งห่ม และกำรแต่งกำยตำมประเพณีโบรำณ

51

1.การนุ่งห่มในเวลาอยู่บ้าน อยู่เรือน
ผชู้ ำย : นุ่งผำ้ สะโหร่งไหม หรือ ฝ้ำย

กำงเกงขำส้นั หรือ ขำยำว

ส่วนเส้ือ เป็นเส้ือคอกลม คอต้งั ซ่ึงเป็นฝีมือของคนลำวโดยแท้

ผหู้ ญิง : นุ่งซ่ินมีหวั มีตีน ผำ้ ซ่ินฝ้ำย หรือ ไหม

ส่วนเส้ือมีท้งั แขนส้นั และแขนยำว เส้ือหมำกกะแหล่ง ตำมวฒั นธรรมอนั ดีงำมของลำว

มำถึงทุกวนั น้ี กำรนุ่งห่มพ้ืนเมือง ท่ีเป็นผลิตภณั ฑ์ ภูมิปัญญำของคนลำวไดร้ ักษำ และ
ส่งเสริม เป็นอยำ่ งดีในหลำยรูปแบบ

2. กำรนุ่งห่มในเวลำไปทำบุญ และ ประเพณีต่ำงๆ

ผชู้ ำย : นุ่งกำงเกงขำยำว หรือ สะโหร่ง
เส้ือแขนยำว หรือ แขนส้นั ไม่จำกดั สี แต่ สุภำพเรียบร้อย

52

เบี่ยงผำ้ หรือ มดั เอว
ถำ้ ไปงำนศพญำติพ่ีนอ้ งตอ้ งนุ่งขำว
ผหู้ ญิง : นุ่งซิ่น เส้ือแขนส้นั หรือยำว สีไหนกไ็ ด้
เกลำ้ ผม เบ่ียงผำ้ แพ ไม่นุ่งผำ้ บำงเกินไป
ใส่เครื่องประดบั ใหพ้ อดีพองำม

3. ลกั ษณะกำรนุ่งห่ม – แต่งกำยของผหู้ ญิงตำมประเพณีท่ีดีงำม
– นุ่งซ่ินมีหวั มีตีน ไม่นุ่งส้นั และไม่ยำวเกินไป หวั ผำ้ ซ่ิน ยำวเกินสะดือ ตีนซิ่นเลยคน
เขำ่ ลงมำ
– นุ่งเส้ือปิ ดตน้ แขน และส่วนอก ไม่นุ่งบำง จนเห็นเน้ือหนงั เคร่ืองนุ่งไม่ลวดลำย แหก
หนำ้ แหกหลงั เกลำ้ ผม หรือ มดั ผมใหเ้ รียบร้อยสวยงำม

กำรนุ่งห่ม – กำร แต่งกำยในสมยั ปัจจุบนั
มีกำรเปล่ียนแปลงไป โดยเฉพำะรูปแบบของกำรนุ่งห่ม และคุณภำพของกำรนุ่ง
ห่ม นนั่ มีควำมทนั สมยั และสำกลไปกวำ่ เดิม

53

ผชู้ ำย : โดยทว่ั ไปมีกำรนุ่งห่มหลำยแบบเช่น นุ่งชุดซำฟำรี เส้ือแขนส้นั แขน
ยำว คอต้งั กำงเกงขำยำว (ไม่นิยมนุ่งกำงเกงสีแดง และ สีเหลือง) นุ่งชุดสุภำพ
ธรรมดำ เอำเส้ือเขำ้ ขำ้ งในกำงเกง ใส่เขม็ ขดั สีดำ ตดั ผมจอน หวผี มเป้ย หรือ หวี
ไปทำงต้งั กำรใชน้ ำหอม สเปย์ ใหพ้ อเหมำะสม
ผหู้ ญิง : กำรนุ่งห่มมีหลำยแบบกวำ่ ผชู้ ำย แต่โดยทวั่ ไปแลว้ นุ่งซ่ินฝ้ำย ซ่ิน
ไหม สีเรียบ เส้ือแขนส้นั แขนยำว เอวปล่อย หรือ เส้ือเขำ้ ขำงใน ใส่เขม็
ขดั รองเทำ้ รัดสน้ หวีผมเรียบร้อยดว้ ยกำรมดั ปล่อยผม นุ่งเคร่ืองใหถ้ นอมร่ำงกำย
ไม่นุ่งกำงเกง และ เส้ือสำยเดี่ยว กำรใชเ้ ครื่องสำอำงใหพ้ อดีพองำมกบั กำลเทศะน้นั ๆ

54

ชุดประจำชำติ สปป.ลำว

ผหู้ ญิงลำวจะนุ่งผำ้ ซิ่น หรือ patoi มีลกั ษณะคลำ้ ยผำ้ นุ่งของไทย ท่ีทอเป็น
ลวดลำย เชิงผำ้ เป็น สีแดงแก่ หรือน้ำตำลเขม้ ถำ้ ผำ้ นุ่งเป็นไหม เชิงกจ็ ะเป็นไหมดว้ ย
มกั จะทอทองและเงินแทรกเขำ้ ไป และเส้ือแขนยำวทรงกระบอก ห่มสไบเฉียงพำดไหล่
เกลำ้ ผมมวยประดบั ดอกไม้ สำหรับผชู้ ำยมกั แต่งกำยแบบสำกลหรือนุ่งโจงกระเบน ถำ้

55

เป็นขำ้ รำชกำรหรือผมู้ ีฐำนะดีนิยมนุ่งโจงกระเบนสวมเส้ือช้นั นอก กระดุมเจด็ เมด็
(คลำ้ ยเส้ือพระรำชทำนของไทย) และเน่ืองจำกผำ้ ทอมีบทบำทสำคญั ในชีวิตครอบครัว
ของชำวไท-ลำว ทุกวนั น้ีพิธีแตง่ งำนแบบด้งั เดิมของ คนไท-ลำวยงั คงใชเ้ คร่ืองแต่งกำยท่ี
งดงำม ประณีต ชุดเจำ้ สำวทอดว้ ยไหมเสน้ ละเอียด สอดแทรก ดว้ ยเสน้ เงินเสน้ ทอง ผำ้
เบี่ยง ซ่ินและตีนซิ่น จะมีสีและลวดลำยรับกนั เจำ้ บ่ำวนุ่งผำ้ นุ่งหรือผำ้ เต่ียวทอดว้ ยไหม
ละเอียดสีพ้ืน อำจะใชเ้ ทคนิคกำรทอแบบ “หมำกไม” คือกำรปั่นเสน้ ใย สวมเส้ือ แบบ
ฝรั่ง มีผำ้ พำดบ่ำเพ่ือเขำ้ พิธีสู่ขวญั

56

landmark ประเทศลาว

ปะตูไซ หรือ ประตูชยั
เวยี งจนั ทน์

56

ประตูชัย ต้งั อยทู่ ่ีกรุงเวียงจนั ทน์ เป็นอนุสรณ์สถำนที่ระลึกถึงประชำชนชำว
ลำวผเู้ สียสละชีวิตในสงครำมก่อนหนำ้ กำรปฏิวตั ิของพรรคคอมมิวนิสต์ สร้ำงเสร็จในปี
พ.ศ. 2512 คะ่ ท่ีนี่ยงั เป็นเหมือนสญั ลกั ษณ์ของกำรมำเท่ียวเวยี งจนั ทน์เลยกว็ ำ่ ได้
นกั ท่องเที่ยวนิยมมำถ่ำยรูปสวยๆ ที่น่ีค่ะ

บริเวณรอบๆ ประตชู ยั จะถูกลอ้ มรอบดว้ ยสวนสวย น้ำพุ และดอกไมท้ ่ีถูก
ตกแต่งอยำ่ งสวยงำม นอกจำกน้ี นกั ท่องเที่ยวสำมำรถข้ึนไปยงั ช้นั บนเพื่อดูววิ รอบๆ ได้
อีกดว้ ย

57


Click to View FlipBook Version