The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปผลการดำเนินงานโครงการ สธอ.65 ศูนย์ประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by loei42.nso, 2022-12-23 01:15:44

สรุปผลการดำเนินงานโครงการ สธอ.65 ศูนย์ประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด

สรุปผลการดำเนินงานโครงการ สธอ.65 ศูนย์ประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอขŒอมลู พ�น้ ฐานของสถานประกอบการ
โครงการสำมะโนธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื

วันท่ี 18 - 20 กันยายน 2565
ณ ศูนยป ระชุมจังหวัดรอŒ ยเอ็ด

สำนกั งานสถติ จิ ังหวดั
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 20 จังหวัด

ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹Ê¶ÔµÔá˧‹ ªÒµÔ

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพน้ื ฐานของสถานประกอบการ
โครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565
ระดบั ภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กลุ่มท่ี 1 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1
1) สำนักงานสถิติจังหวดั อุดรธานี
2) สำนกั งานสถติ ิจังหวดั หนองคาย
3) สำนักงานสถิตจิ ังหวดั บงึ กาฬ
4) สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดหนองบวั ลำภู
5) สำนักงานสถิติจงั หวัดเลย

กลุ่มที่ 2 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน 2
6) สำนักงานสถติ จิ งั หวัดสกลนคร
7) สำนักงานสถิตจิ ังหวดั นครพนม
8) สำนักงานสถติ จิ ังหวดั มุกดาหาร

กลุ่มท่ี 3 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
9) สำนกั งานสถิติจังหวดั ขอนแกน่
10) สำนกั งานสถิติจังหวดั ร้อยเอ็ด
11) สำนกั งานสถิตจิ งั หวัดมหาสารคาม
12) สำนกั งานสถติ ิจังหวัดกาฬสินธุ์

กล่มุ ที่ 4 กล่มุ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1
13) สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดนครราชสมี า
14) สำนักงานสถิติจังหวดั ชัยภูมิ
15) สำนักงานสถติ ิจังหวดั บุรรี มั ย์
16) สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดสุรินทร์

กลุ่มท่ี 5 กลุ่มจังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนลา่ ง 2
17) สำนักงานสถิติจงั หวดั อุบลราชธานี
18) สำนักงานสถิตจิ งั หวดั ศรสี ะเกษ
19) สำนกั งานสถิติจงั หวัดยโสธร
20) สำนกั งานสถิติจังหวัดอำนาจเจริญ

สำนกั งานสถติ จิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ก

คำนำ

สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็น
โครงการสำมะโนสถานประกอบการขนาดใหญ่ โดยมีแผนการดำเนินงานเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2566 ต้องใช้บุคลากร งบประมาณ เทคโนโลยี/นวัตกรรมใหม่ รวมถึงต้องอาศัย
ความร่วมมือจากหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในการร่วมขับเคลื่อนงาน
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพและเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด อีกทั้งในห้วงเวลาดังกล่าวประเทศไทยอยู่ใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการ
ต่าง ๆ รวมถงึ การปฏบิ ัติงานเก็บรวบรวมข้อมูลของสำนักงานสถติ ิจังหวัดดว้ ย

รายงานฉบับนี้ เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นจากการประชุมเชิงปฏิบัติการการสรุปผลการดำเนินงานและ
นำเสนอข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวัด ระหวา่ งวันที่ 18-20 กันยายน พ.ศ. 2565 ณ ศูนยป์ ระชมุ จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมา การเสวนา การแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อวิเคราะห์
จุดแข็ง/จดุ อ่อน ปัญหา/อุปสรรค สรุปเป็นผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการ
โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะเป็น
ประโยชน์สำหรับเป็นแนวทางในการพัฒนาและวางแผน บริหารจดั การโครงการสำมะโน/สำรวจ ของสำนักงาน
สถติ ิจงั หวดั และสำนักงานสถติ ิแหง่ ชาติ ต่อไป

สำนักงานสถิติจงั หวัดร้อยเอ็ดขอขอบคุณสำนักงานสถิติจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด
ผู้ร่วมเสวนา และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และร่วมการจัดประชุม
เชงิ ปฏบิ ัติการครั้งนีจ้ นประสบความสำเรจ็ และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคม์ า ณ โอกาสน้ี

สำนกั งานสถติ จิ ังหวัดร้อยเอด็
ตลุ าคม 2565

สำนักงานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ข

บทสรปุ ผู้บรหิ าร
สรุปผลการดำเนนิ การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มูลพนื้ ฐาน

ของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื

1. สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการ โครงการสำมะโนธุรกิจและ

อุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จำนวน 20 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี

หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร นครพนม มกุ ดาหาร ขอนแกน่ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสนิ ธ์ุ
นครราชสีมา ชัยภมู ิ บรุ ีรัมย์ สรุ นิ ทร์ อุบลราชธานี ศรสี ะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ)

การเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานหรือการนับจดสถานประกอบการในปี 2564 ซึ่งจัดจำแนกประเภท
สถานประกอบการตามการจัดประเภทมาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศไทย ปี 2552 (Thailand Standard
Industrial Classification : TSIC 2009) ได้แก่ สถานประกอบการทป่ี ระกอบกจิ กรรมเกยี่ วกบั ธรุ กจิ ทางการค้า
ธุรกิจทางการบริการ การผลิต การจัดการและการบำบัดน้ำเสียของเสียและสิ่งปฏิกูล การก่อสร้าง คลังสินค้า
และกจิ กรรมดา้ นข้อมลู ข่าวสารและการส่ือสารท่ีตั้งอยู่ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ โดยดำเนินการเก็บรวบรวม
ข้อมูลจากสถานประกอบการระหว่างเดือนพฤษภาคม - กันยายน 2564 พบว่าจังหวัดที่มีสถานประกอบการ
มากที่สุดใน 5 อันดับแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น รองลงมาคือ จังหวัดสุรินทร์
นครราชสีมา อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด ตามลำดับ และมีจำนวนสถานประกอบการที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่
ท้งั ส้ิน 683,296 แห่ง

เมื่อจำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถานประกอบการที่ประกอบ
กิจกรรมการขายปลีกมากที่สุด จำนวน 242,162 แห่ง รองลงมาคือ การผลิต จำนวน 166,401 แห่ง บริการอาหาร
และเครื่องดื่ม จำนวน 76,745 แห่ง ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ การขาย
การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ การขายส่ง กิจกรรมอสงั หาริมทรัพย์ และการกอ่ สร้าง เป็นตน้ ในแต่ละ
กจิ กรรมมจี ำนวนไมเ่ กิน 60,000 แหง่

เมื่อพิจารณาโครงสร้างของสถานประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ
92.6 เป็นสถานประกอบการรายย่อย (Micro) ส่วนสถานประกอบการขนาดเล็ก (Small) ขนาดกลาง
(Medium) และขนาดใหญ่ (Large) มีสัดสว่ นรวมกันเพยี งร้อยละ 7.4 เท่านั้น

เมื่อพิจารณารูปแบบการจัดตั้งตามกฎหมาย พบว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 90.0
มีรูปแบบการจัดตั้งเป็นส่วนบุคคล รองลงมาเป็นบริษัทจำกัด บริษัทจำกัด (มหาชน) ร้อยละ 3.8
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ร้อยละ 3.7 สำหรับสถานประกอบการที่เป็นรูปแบบอื่น ๆ
เช่น ส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ สหกรณ์ วิสาหกจิ ชุมชน การรวมกลมุ่ เป็นตน้ มสี ัดส่วนรวมกันเพยี งร้อยละ 2.5

เมื่อพิจารณารูปแบบการจัดตั้งทางเศรษฐกิจ พบว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 97.7
มีรูปแบบการจัดตั้งเป็นสำนักงานแห่งเดียว มีเพียงร้อยละ 0.2 ที่เป็นสำนักงานใหญ่ และอีกร้อยละ 2.1
เป็นสำนักงานสาขาและการจัดต้ังในรูปแบบอนื่ ๆ เชน่ แฟรนไชส์ เป็นต้น

สำหรับคนทำงานในสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2564 มีจำนวน
ทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน โดยจังหวัดที่มีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จังหวัด
นครราชสีมา รองลงมาคือ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี สุรินทร์ และร้อยเอ็ด ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบ

สำนักงานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ค

จำนวนสถานประกอบการในปี 2564 และปี 2559 ในภาพรวมมีสถานประกอบการลดลงจากระยะ 5 ปีที่ผ่านมา
ประมาณร้อยละ 0.2 ในสว่ นจำนวนคนทำงานมสี ัดส่วนที่เพิม่ ขึน้ ประมาณร้อยละ 19.3

เมื่อพิจารณาร้อยละการเปลี่ยนแปลงของจำนวนสถานประกอบการในปี 2564 และปี 2559 จำแนก
ตามจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า จังหวัดบึงกาฬ ชัยภูมิ สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี เลย
หนองคาย นครพนม อุดรธานี กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด และหนองบัวลำภู มีจำนวนสถานประกอบการเพิ่มขึ้น
โดยจังหวัดบึงกาฬมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ร้อยละ 20.3 ส่วนจังหวัดศรีสะเกษ มหาสารคาม
นครราชสีมา สุรินทร์ ยโสธร มุกดาหาร และบุรีรัมย์ มีจำนวนสถานประกอบการลดลง โดยจังหวัดศรีสะเกษ
มีอตั ราการลดลงมากท่ีสุด คอื ร้อยละ 23.7

ร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการในปี 2564 และปี 2559
จำแนกตามจังหวัดพบว่า เกือบทุกจังหวัดมีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นจากปี 2559
โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครราชสมี า มีอัตราการเพิ่มข้ึนมากที่สุดร้อยละ 64.5 รองลงมาคือ ขอนแก่น
เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.8 และบึงกาฬ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 ยกเว้น จังหวัดศรีสะเกษ มหาสารคาม หนองบัวลำภู
อดุ รธานี และอำนาจเจรญิ ทม่ี จี ำนวนคนทำงานในสถานประกอบการลดลงจาก 5 ปีทีผ่ ่านมา

2. ผลการปฏบิ ัตงิ านสำมะโนธุรกจิ ทางการคา้ และการบริการ ปี 2565 (งานแจงนบั )
(ข้อมลู ณ วนั ที่ 16 กนั ยายน 2565 เวลา 13.00 น.)

สำมะโนธรุ กจิ ทางการคา้ และการบรกิ าร
ผลการปฏิบัติงานสำมะโนธุรกิจทางการค้าและการบริการ ทั่วประเทศไทย ปฏิบัติงานแล้วเสร็จ
91.9% กำลังปฏิบัติงาน 8.0% ยังไม่ได้ปฏิบัติงาน 0.1% และผลการปฏิบัติงานสำมะโนธุรกิจทางการค้าและ
การบริการของภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ปฏิบตั งิ านแลว้ เสรจ็ 97.3% และกำลงั ปฏบิ ัติงาน 2.7%

จากผลการเก็บรวบรวมข้อมูลแจงนับสำมะโนธุรกิจทางการค้าและการบริการ ปี 2565 ของ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจงนับได้ 63.5% แจงนับไม่ได้ 33.8% สาเหตุของการแจงนับไม่ได้มีดังน้ี
1) เลิกกิจการ 8.8% 2) ข้อมูลอยู่ที่สำนักงานใหญ่ 6.5% 3) ย้าย/หาไม่พบ 5.4% 4) ไม่ให้ความร่วมมือ
4.0% 5) หยุดกิจการชั่วคราว 3.1% 6) ซ้ำกับลำดับที่ 3.0% 7) ไม่อยู่ในคุ้มรวม 1.6% 8) ไม่เป็นสถาน
ประกอบการ 1.3% 9)รื้อถอน/ไฟไหม้ 0.1% และกำลังปฏิบตั ิงาน 2.7%

จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีผลการเก็บรวบรวมข้อมูลสำมะโนธุรกิจทางการค้า และ
การบริการแจงนับได้ (ENU1) มากที่สุด 10 ลำดับแรก ปี 2565 (งานแจงนับ) มีดังนี้ 1) มหาสารคาม 2)
อุดรธานี 3) สกลนคร 4) ศรีสะเกษ 5) บุรีรัมย์ 6) อุบลราชธานี 7) หนองบัวลำภู 8) หนองคาย 9) นครพนม
10) บึงกาฬ

หมายเหตุ : จัดลำดับเฉพาะจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานเสร็จ 100% ณ วันที่ 14 กันยายน 2565
เวลา 10.00 น.

สำมะโนอุตสาหกรรม
ผลการปฏิบัติงานสำมะโนอุตสาหกรรม ทั่วประเทศปฏิบัติงานแล้วเสร็จ 93.6% กำลังปฏิบัติงาน
6.3% ยังไม่ได้ปฏิบัติงาน 0.1% และผลการปฏิบัติงานสำมะโนอุตสาหกรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปฏิบัติงานแลว้ เสร็จ 96.4% และกำลงั ปฏบิ ตั งิ าน 3.6%

สำนักงานสถิตจิ ังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมลู พื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ง

จากผลการเก็บรวบรวมข้อมูลแจงนับสำมะโนอุตสาหกรรม ปี 2565 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แจงนับได้ 62.8% แจงนับไม่ได้ 33.6% สาเหตุของการแจงนับไม่ได้ มีดังนี้ 1) เลิกกิจการ 12.5% 2) ซ้ำกับ
ลำดบั ท่ี 5.4% 3) ยา้ ย/หาไมพ่ บ 3.7% 4) ไม่อย่ใู นคุม้ รวม 3.7% 5) หยดุ กจิ การชั่วคราว 2.6% 6) ไม่ให้ความ
รว่ มมือ 2.5% 7) ข้อมลู อยู่สำนักงานใหญ่ 1.6% 8) ไม่เป็นสถานประกอบการ 1.5% 9) รื้อถอน/ไฟไหม้ 0.1%

จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีผลการเก็บรวบรวมข้อมูลสำมะโนอุตสาหกรรมแจงนับได้
(ENU1) มากที่สุด 10 ลำดับแรก ปี 2565 (งานแจงนับ) มีดังนี้ 1) อุดรธานี 2) มหาสารคาม 3) สกลนคร
4) ศรีสะเกษ 5) อบุ ลราชธานี 6) หนองคาย 7) กาฬสินธุ์ 8) บรุ รี ัมย์ 9) มุกดาหาร 10) นครพนม

หมายเหตุ : จัดลำดับเฉพาะจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานเสร็จ 100 % ณ วันที่ 14 กันยายน 2565
เวลา 10.00 น.

3. เทคนิคการทำงานเปน็ ทีมอย่างมีประสิทธภิ าพ
3.1 กิจกรรมเทคนิคการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพได้มีการจัดกลุ่มเสวนา จำนวน 3 กลุ่ม

จากบคุ ลากรของสำนักงานสถิติจงั หวัดภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือทง้ั 20 จงั หวัด ไดแ้ ก่
1) ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ได้มีการเสวนาในหัวข้อ เทคนิคการทำงานเป็นทีมอย่าง

มีประสิทธิภาพ
2) ระดับผู้อำนวยการกลุ่มงาน ได้มีการเสวนาในหัวข้อ เทคนิคการดำเนินงานโครงการสำมะโน

ธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนบั จด/งานแจงนับ) ใหป้ ระสบความสำเรจ็ อยา่ งมคี ณุ ภาพ
3) ระดับสถิติจังหวัด ได้มีการเสวนาในหัวข้อ แนวทางการบริหารโครงการสำมะโนธุรกิจและ

อตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนับจด/งานแจงนบั ) ให้ประสบความสำเรจ็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

3.2 กิจกรรมการทำงานเป็นทีม (Team building) กิจกรรมการทำงานเป็นทีม มีการสร้างทีม

ในองค์กร ให้บุคลากรมีความรักความสามัคคีในองค์กร มีเป้าหมายร่วมกัน ลดปัญหาข้อขัดแย้ง คิดบวก

รู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักพฤติกรรมของตนเองและผู้อื่นมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ผู้ร่วมงานและงานที่ทำ

ทำให้ผลผลิตขององค์กรดีขึ้น สร้างจิตสำนึกที่ดีต่อการทำงาน ทำงานอย่าง มีความสุข สร้างทีมให้มีพลัง

สร้างทมี ใหป้ ระสบความสำเร็จ (Success team)

4. การระดมความคดิ เหน็ และการนำเสนอแนวทางการพัฒนาโครงการสำมะโน/สำรวจ
ของสำนักงานสถติ แิ ห่งชาติ
กิจกรรมการระดมความคิดเห็นและการนำเสนอแนวทางการพัฒนาโครงการสำมะโน/สำรวจของ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข หรือแนวทางใน
การปฏิบัติงานที่ดี (Good Practice) พร้อมข้อเสนอแนะการพัฒนางานโครงการสำมะโนธุรกิจและ
อุตสาหกรรมและโครงการสำมะโนอื่น ๆ ในครั้งต่อไปให้ประสบผลสำเร็จ โดยการแบ่งกลุ่มจังหวัดใน
ภาคตะวันออกฉียงเหนือ 20 จังหวัด เป็น 5 กลุ่ม มีการระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางการพัฒนา
โครงการสำมะโน/สำรวจของสำนักงานสถติ แิ ห่งชาติ ดงั น้ี

กลมุ่ ท่ี 1 กลมุ่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน 1
ประกอบดว้ ยจังหวัดเลย จังหวดั หนองคาย จังหวัดบงึ กาฬ จงั หวดั หนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี
นำเสนอเรื่อง “การวางแผนและเตรียมงาน” ได้แก่ การบูรณาการข้อมูลจากระบบทะเบียน ปริมาณงาน
บญั ชีเขตสำมะโน แผนทเ่ี ขตปฏบิ ัตงิ าน การจัดหาบคุ ลากร การอบรมชแ้ี จงการปฏิบตั งิ าน วัสดุและอปุ กรณ์ท่ีต้อง
ใช้ในการปฏิบัติงาน การจัดสรรงบประมาณและแผนเบิกจ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง กฎหมาย ระเบียบท่ี

สำนกั งานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 จ

เกี่ยวข้อง แผนการประชาสัมพันธ์ สื่อประชาสัมพันธ์ ช่องทางการประชาสัมพันธ์ การขอความร่วมมือจาก
หนว่ ยงานตา่ ง ๆ และเครอื ขา่ ยมาดีระดับพ้ืนท่ี

กลมุ่ ท่ี 2 กลุม่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน 2
ประกอบด้วยจังหวัดนครพนม จงั หวัดมุกดาหาร และจงั หวดั สกลนคร
นำเสนอเรื่อง “การเก็บรวบรวมข้อมูล” ได้แก่ การบริหารงานสนาม การบริหารความเสี่ยงและการควบคุม
ความเสีย่ ง แผนสำรองกรณเี กิดเหตุฉุกเฉนิ หรอื ผลกระทบจากสถานการณโ์ ควดิ -19 เขตปฏิบตั งิ านพื้นท่ีพิเศษ
อัตรากำลังพนักงานสนาม คาบเวลางานสนาม วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล รายการข้อถาม เครื่องมือใน
การจัดเก็บข้อมูล การควบคุมคุณภาพงานสนาม การติดตามผลการปฏิบัติงานและการรายงานผล
การปฏิบตั ิงาน

กลมุ่ ท่ี 3 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
ประกอบดว้ ยจงั หวดั กาฬสินธ์ุ จงั หวัดขอนแกน่ จังหวดั มหาสารคาม และจังหวัดรอ้ ยเอด็
นำเสนอเรื่อง “การประมวลผลข้อมูล” ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่ใช้ประมวลผล การตรวจสอบ
ความแนบนัยและความครบถ้วนของข้อมูล การบรรณาธกิ รขอ้ มูลดว้ ยเครื่อง และการควบคุมคณุ ภาพข้อมูลใน
ขัน้ ตอนการประมวลผล

กลุ่มที่ 4 กล่มุ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนล่าง 1
ประกอบดว้ ยจังหวัดนครราชสีมา จงั หวดั ชยั ภมู ิ จังหวัดบุรีรัมย์ และจงั หวดั สุรินทร์
นำเสนอ เรอ่ื ง “การนำเสนอผลและใหบ้ ริการข้อมลู ” ได้แก่ การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครบถ้วนของขอ้ มูลกอ่ นนำมา
จัดทำรายงาน รูปแบบรายงานและการนำเสนอข้อมูลให้ตรงกับความตอ้ งการของผู้ใช้ข้อมูล การควบคุมคุณภาพใน
ขั้นตอนการนำเสนอผล รูปแบบการให้บริการข้อมูล กะทัดรัด เข้าใจง่าย ช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย
การเข้าถึงขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว การสง่ เสรมิ ให้มีการนำขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์และเพ่ิมมูลคา่

กลุ่มที่ 5 กลุ่มภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนลา่ ง 2
ประกอบด้วยจังหวดั ยโสธร จงั หวดั ศรสี ะเกษ จงั หวัดอำนาจเจรญิ และจงั หวัดอุบลราชธานี
นำเสนอเรื่อง “การขับเคลื่อนระบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (GD Catalog) และแผนพัฒนาสถิติระดับพื้นท่ี” ได้แก่
การสรา้ งการรบั รู้การถ่ายทอดองค์ความรเู้ กี่ยวกบั ระบบญั ชีข้อมูลภาครฐั กลไกการขับเคลื่อน การส่งเสริมและ
ขับเคลื่อน GD Catalog และการนำแผนพัฒนาสถิติระดับพื้นท่ีไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม มุมมอง
การขยายผลการจัดทำ GD Catalog ชุดประเด็นสำคัญของจังหวัดที่จะชี้ให้เห็นสถานการณ์ของสถาน
ประกอบการ ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดเปา้ หมายการสรา้ งขีดความสามารถ
ในการแข่งขันจากระดบั พนื้ ทส่ี เู่ ป้าหมายของยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี

5. สรุปการประชุมเชิงปฏิบตั ิการสรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพ้นื ฐานของสถานประกอบการ
โครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดบั ภาค ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
5.1 การประชุมเชิงปฏิบัติการได้มีการสรุปแนวทางปฏิบัติงานที่ดี ปัญหา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข

ข้อเสนอแนะการพัฒนาโครงการครั้งต่อไป ตามประเด็นการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนตามตัวแบบกระบวน
การจัดทำสถิติทั่วไป (Generic Statistical Business Process Model : GSBPM) รวมถึงแนวทางการดำเนินงาน
ในภาพรวมตามแนวทางการปฏิบัติงานที่ดี (Best Practice) ของประเทศอื่น ๆ ที่มีการทำสำมะโน/สำรวจ
ทางเศรษฐกจิ เช่นเดียวกับประเทศไทย

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 ฉ

5.2 การบรรลุวัตถุประสงค์การประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูล
พื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด ได้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการปฏิบัติงานของ
เจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติจังหวัดทุกระดับ ได้แก่สถิติจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่ม ข้าราชการ พนักงานราชการ
และเจ้าหน้าที่ โดยมีเป้าหมายในการปรบั ปรุงกระบวนการปฏิบัติงานทุกขั้นตอนเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำ
โครงการอ่นื ๆ ต่อไป และไดบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์การประชมุ เชิงปฏบิ ัตกิ ารฯ ดังนี้

1) สามารถสรุปผลการดำเนินงานจากการจัดทำโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565
ของสำนักงานสถิติจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้ดำเนินการตั้งแตข่ ัน้ การวางแผนและเตรียมงานไปจนถึง
ข้นั การนำเสนอผลและเผยแพรข่ อ้ มูล

2) มีการศึกษาและวิเคราะห์ผลข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการทั้งในระดับจังหวัด ภาค
และทั่วประเทศ โดยกระบวนการมสี ่วนรว่ ม

3) มีแนวทางการสร้างเครือข่ายให้ได้พันธมิตรที่ดีสำหรับประสานความร่วมมือการปฏิบัติงาน
โครงการสำมะโน/สำรวจของสำนกั งานสถติ ิจงั หวัด และสำนักงานสถิติแห่งชาติ

4) เป็นเวทีที่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน บุคลากรทุกระดับได้มีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แสดง
ความคิดเห็นในการปฏิบัติงานและกำหนดแนวทางในการพัฒนางานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม
และโครงการสำมะโนโครงการสำรวจอนื่ ๆ ต่อไป

6. ข้อเสนอแนะการพฒั นาโครงการสำมะโนในคร้ังต่อไป
1) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลควรมหี ลากหลายชอ่ งทาง เช่น วิธีสัมภาษณ์ วธิ ีสำรวจแบบออนไลน์

2) ควรปรบั ข้อถามใหม้ ีจำนวนข้อถามน้อยลงเพ่ือสถานประกอบการจะได้มองว่าไม่เสียเวลาเป็นภาระ

ในการตอบขอ้ ถาม รวมท้ังพัฒนาชอ่ งทางการให้ข้อมูลแบบออนไลน์

3) ควรสร้างการรับรเู้ กี่ยวกับการดำเนินโครงการใหม้ กี ารรับรู้เพม่ิ ขนึ้ กว่าเดมิ

4) ควรพฒั นา และทดสอบโปรแกรมประมวลผลและท่ีเกย่ี วขอ้ งใหส้ มบูรณ์ก่อนนำมาใชง้ านจรงิ

5) ควรมีนวัตกรรมในการจัดการ Frame ข้อมูลจากระบบทะเบียนให้มีความสมบูรณ์ และทันสมัย

เพ่อื ใชใ้ นการสำมะโน/สำรวจ ตอ่ ไป

6) พัฒนาการเผยแพร่และใช้ข้อมลู ร่วมกนั บนระบบบัญชขี ้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog :

GD Catalog) เพ่อื นำไปสกู่ ารเปดิ เผยข้อมูลภาครฐั (Open Data)

7) นอกจากการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการแล้วควรมีขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายดว้ ย

สำนกั งานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 ช

สารบญั หน้า

คำนำ ข

บทสรุปผู้บรหิ าร 1

สารบญั 4

บทที่ 1 บทนำ 20
21
บทที่ 2 ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พืน้ ฐานของสถานประกอบการ 21
โครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั 23

บทที่ 3 กิจกรรมกลุ่ม “เทคนิคการสรา้ งเครือข่ายให้ได้พนั ธมติ รทด่ี ี เพื่อประสาน 26
ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติงานโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม”
28
บทที่ 4 กจิ กรรมเวทีเสวนา
1) เสวนาระดับเจา้ หนา้ ที่ผู้ปฏิบตั ิงาน “เทคนิคการทำงานเป็นทีมอยา่ งมีประสิทธิภาพ” 37
2) เสวนาระดับผ้อู ำนวยการกลุ่ม “เทคนคิ การดำเนินงานโครงการสำมะโนธุรกจิ และ 37
อุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนบั จด/งานแจงนับ) ให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีคุณภาพ” 39
3) กิจกรรมเสวนาระดบั สถิตจิ ังหวดั “แนวทางการบรหิ ารโครงการสำมะโนธุรกจิ และ 42
อุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนับจด/งานแจงนบั ) ให้ประสบผลสำเร็จ” 42
44
บทท่ี 5 การระดมความคิดเห็นและการนำเสนอแนวทางการพฒั นาโครงการสำมะโน/ 45
สำรวจของสำนกั งานสถติ ิแห่งชาติ 123
124
บทท่ี 6 สรปุ องคค์ วามรู้ทีไ่ ดจ้ ากการจัดประชุมเชิงปฏบิ ัติการ และข้อเสนอแนะการพัฒนา 140
โครงการสำมะโนคร้งั ต่อไป 142
1) การวางแผนและการเตรยี มงาน 146
2) การเก็บรวบรวมข้อมลู 158
3) การประมวลผลข้อมูล
4) การนำเสนอและการให้บริการข้อมูล
5) แนวทางในการปฏบิ ัตงิ านท่ดี ี
6) การถอดบทเรียนโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 รายจังหวัด

ภาคผนวก
- รายงานสรุปผลการดำเนินการจัดประชุม และการใช้จ่ายงบประมาณ
- กำหนดการประชมุ
- คำกลา่ วเปดิ การประชมุ และคำกลา่ วรายงาน
- ภาพกจิ กรรม
- สรปุ ผลความพงึ พอใจในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

สำนกั งานสถิตจิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 1

บทท่ี 1
บทนำ

1. หลกั การและเหตุผล

ภาคการค้า การบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญและ
รับบทบาทเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในแง่มูลค่าผลผลิต
ในแต่ละปีสร้างมูลค่ามากกว่าร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และก่อให้เกิดการจ้างงาน
โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกวา่ 10 ล้านคน แต่ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกลบั มี
อัตราที่ชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดในแง่
การสร้างมูลค่าเพิ่มที่จะพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีราคาสูงขึ้น และความเข้มข้นของการใช้เทคโนโลยีและ
นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตผู้ประกอบการ
มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับกระแสความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น อาทิ ความขัดแย้งทางการค้าโลก และการ
แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป
จากเดิมอย่างมาก ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งปรับตัว และร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยมีความจำเป็นที่
จะต้องปรับกฎระเบียบ ปรับโครงสร้าง แรงจูงใจ และปรับนโยบายการแข่งขันทางการค้า เพื่อทำให้
ผปู้ ระกอบการไทยมีความสามารถในการแข่งขันเท่าเทยี มตา่ งประเทศและเติบโตได้

สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ครอบคลุม
ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2564 – 2566 โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน (งานนับจด)
ของสถานประกอบการทุกประเภททั้งในระบบทะเบยี นและนอกระบบทะเบียน ส่วนในปี 2565 นี้เป็นการเก็บ
รวบรวมข้อมูลรายละเอียด (งานแจงนับ) ของสถานประกอบการท่ีประกอบธุรกิจทางการค้า ธุรกิจทางการ
บริการ และอุตสาหกรรมการผลิต รวมทั้งการประมวลผลและนำเสนอผลข้อมูลพื้นฐานสถานประกอบการ
สำหรับในปี 2566 นั้นจะเป็นการประมวลผลและนำเสนอผลข้อมูลรายละเอียดของสถานประกอบการที่ประกอบ
ธุรกิจทางการค้า ธุรกิจทางการบริการ และอุตสาหกรรมการผลิต โดยข้อมูลสถิติที่ได้จากการจัดทำสำมะโน
จะนำไปใชใ้ นการวางแผนและกำหนดนโยบายการพัฒนาเศรษฐกจิ ทง้ั ในระดบั ประเทศ และระดบั ทอ้ งถิน่ ตลอดจน
เปน็ ข้อมลู พื้นฐานในการวางแผนงานต่าง ๆ เพอื่ สนับสนุนและส่งเสริมภาคธรุ กจิ และอตุ สาหกรรมของประเทศ
และการลงทุนในการดำเนินกิจการของภาคเอกชน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย
ขนาดกลาง และขนาดยอ่ ม (MSME) ให้มีศักยภาพเพิม่ มากข้นึ

ทั้งนี้ในการดำเนินงานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นโครงการ
ขนาดใหญ่ สำนักงานสถิติแห่งชาติต้องใช้บุคลากร งบประมาณ เทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ รวมถึงต้อง
อาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในการร่วม
ขับเคลื่อนงานเพื่อให้ได้ข้อมูลสถิติที่มีคุณภาพ และเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด แต่ก็ยังประสบปัญหาจากปัจจัย
แวดล้อมทั้งภายในและภายนอกในด้านต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูลลาออกระหว่างการ
ปฏิบัติงาน การไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลจากผู้ประกอบการ ข้อมูลที่ได้รับบางส่วนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

สำนักงานสถติ ิจงั หวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 2

สภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในการปฏิบัติงาน และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
เป็นต้น ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาการจัดทำโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมในครั้งถัดไปให้เกิด
ประสิทธิภาพ และสามารถบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่ไม่สามารถคาดเดาได้
จึงจำเป็นต้องมีการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เพ่ือสรุปผลการดำเนินงานจาก โครงการสำมะโนธุรกิจและ
อุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 และเสริมสร้างความรู้ในเรื่องกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนดต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ของ
กองบริหารจดั เก็บข้อมูลสถิติ สำนกั งานสถติ จิ งั หวัด และผู้ทเ่ี กีย่ วขอ้ งในการจัดทำโครงการดังกลา่ ว โดยการนำ
ประสบการณ์จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ปัญหา/อุปสรรคต่าง ๆ พร้อมให้
ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหา และการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานตั้งแต่ขั้นการวางแผนและ
เตรียมงานไปจนถึงขั้นการนำเสนอผลข้อมูล เพื่อใช้กำหนดเป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดทำโครงการ
สำมะโน/สำรวจ คร้ังตอ่ ไป

2. วัตถปุ ระสงค์
2.1 เพื่อสรุปผลการดำเนินงานจากการจัดทำโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565

ทีไ่ ดด้ ำเนินการตัง้ แต่ข้ันการวางแผนและเตรียมงานไปจนถงึ ข้ันการนำเสนอผลและเผยแพร่ข้อมลู
2.2 เพื่อร่วมศึกษาและวิเคราะห์ผลข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการทั้งในระดับจังหวัด ภาค

และทัว่ ประเทศ
2.3 เพื่อสร้างเครือข่ายให้ได้พันธมิตรที่ดีสำหรับประสานความร่วมมือการปฏิบัติงานโครงการ

สำมะโน/สำรวจ ของสำนักงานสถติ แิ หง่ ชาติ
2.4 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แลกเปลีย่ นประสบการณ์ ความคิดเห็นในการปฏิบัติงาน และกำหนด

แนวทางในการพัฒนางานโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรมในคร้ังต่อไป

3. คุณสมบตั แิ ละจำนวนของผู้เข้ารว่ มประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการฯ
ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประมาณ 2,360 คน ประกอบด้วย
3.1 ผู้บริหาร ผู้ตรวจราชการกรม เลขานุการกรม ผู้อำนวยการกองสถิติเศรษฐกิจ ผู้อำนวยการกอง

บริหารจัดเก็บข้อมูลสถิติ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราวของกองบริหารจัดเก็บข้อมูลสถิติ
และกองสถิติเศรษฐกิจ รวมทั้งผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565
จากส่วนกลาง

3.2 สถิติจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการสถิติและวางแผน ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการสถิติ
ขา้ ราชการ พนกั งานราชการ และลกู จา้ งชวั่ คราวของสำนักงานสถิตจิ ังหวดั รวมท้งั ผ้ทู ่ีเกี่ยงข้องกับโครงการสำมะโน
ธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (ศูนยป์ ระชุมจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด มีผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ ฯ ทัง้ สิน้ จำนวน 396 คน)

4. ระยะเวลา และสถานทจี่ ัดการประชมุ เชิงปฏิบัติการฯ
4.1 กรงุ เทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18 - 20 กันยายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมจังหวัดนครนายก
4.2 ภาคเหนอื ระหวา่ งวันที่ 18 - 20 กันยายน 2565 ณ ศูนย์ประชมุ จังหวดั พิษณุโลก

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวัด

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 3

4.3 ภาคกลาง 1 (7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สระบุรี
และพระนครศรอี ยุธยา) ระหว่างวันท่ี 17 - 19 กนั ยายน 2565 ณ ศูนยป์ ระชมุ จังหวดั ราชบรุ ี

4.4 ภาคกลาง 2 (8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี
และสระแก้ว) ระหวา่ งวันท่ี 19 - 21 กันยายน 2565 ณ ศนู ยป์ ระชมุ จังหวดั ระยอง

4.5 ภาคกลาง 3 (10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ
ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ชัยนาท และอ่างทอง) ระหว่างวันที่ 23 - 25 กันยายน
2565 ณ ศูนยป์ ระชุมจงั หวดั เพชรบรุ ี

4.6 ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ระหว่างวนั ที่ 18 - 20 กนั ยายน 2565 ณ ศูนย์ประชมุ จังหวดั ร้อยเอ็ด
4.7 ภาคใต้ ระหวา่ งวนั ที่ 19 - 21 กนั ยายน 2565 ณ ศนู ยป์ ระชมุ จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี

5. วิทยากร
ขา้ ราชการของสำนักงานสถิติจังหวัด และวิทยากรผู้ทรงคุณวฒุ ิ

6. วธิ กี ารประชุมฯ
บรรยาย และแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ สลับกบั การทำกจิ กรรมกลมุ่ (Group Dynamic)

7. งบประมาณ
เบิกค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แผนงาน

พื้นฐานด้านการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ โครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2565 งบรายจ่ายอื่น (ค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565)
กิจกรรมนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูลสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 9 ,470,200 บาท
(เก้าลา้ นส่แี สนเจด็ หมืน่ สองร้อยบาทถว้ น)

8. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ
สำนักงานสถิติแหง่ ชาติ

9. ผลทคี่ าดวา่ จะได้รบั
9.1 มีแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice) เพื่อใช้ในการพัฒนาการจัดทำโครงการสำมะโน/สำรวจ

ของสำนกั งานสถิตจิ งั หวัด
9.2 สามารถนำผลข้อมูลที่ได้จากสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมไปวิเคราะห์และเสนอผลให้เข้ากับ

บรบิ ทของแต่ละจังหวัดหรอื พน้ื ที่ได้
9.3 บุคลากรมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ในการจัดทำสำมะโนธุรกิจและ

อุตสาหกรรม และโครงการสำมะโน/สำรวจอน่ื ๆ
9.4 มีความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมประชุม มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ

ในการพัฒนาตนเองและพฒั นางาน
-----------------------------------------

สำนกั งานสถิตจิ งั หวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 4

บทที่ 2
ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการ
โครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวัด

การนำเสนอผลสำมะโนนี้เป็นผลจากขั้นการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานหรือการนับจด
สถานประกอบการในปี 2564 ซึ่งจัดจำแนกประเภทสถานประกอบการตามการจัดประเภทมาตรฐาน
อุตสาหกรรมประเทศไทย ปี 2552 (Thailand Standard Industrial Classification : TSIC 2009) ได้แก่
สถานประกอบการท่ีประกอบกจิ กรรมเก่ยี วกับธรุ กิจทางการค้า ธุรกิจทางการบริการ การผลติ การจัดการและ
การบำบดั น้ำเสียของเสียและส่ิงปฏิกลู การก่อสร้าง คลงั สนิ ค้า และกจิ กรรมดา้ นข้อมลู ขา่ วสารและการสื่อสาร
โดยดำเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลสถานประกอบการระหว่างเดือนพฤษภาคม - กนั ยายน 2564 สรปุ ได้ดังนี้

1. จำนวนสถานประกอบการ ปี 2564 (งานนบั จด)
แผนภาพที่ 1 จำนวนสถานประกอบการ จำแนกตามจงั หวดั

ขอนแกน่ 67,982
สุรินทร์ 62,370
61,998
นครราชสมี า 58,110
อบุ ลราชธานี
47,828
ร้อยเอด็ 41,312
บรุ ีรมั ย์ 40,880
กาฬสนิ ธ์ุ 40,061
อุดรธานี 38,030
ศรีสะเกษ 35,515
มหาสารคาม 34,951
ชัยภมู ิ 32,301
สกลนคร
นครพนม 21,922
ยโสธร 18,970
15,241
เลย 14,796
หนองคาย 14,769
หนองบวั ลาภู 13,815
มกุ ดาหาร 11,812
อานาจเจริญ 10,633

บึงกาฬ

จากการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ของสถานประกอบการในปี 2564 พบวา่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มจี ำนวนสถานประกอบการที่ยังคงดำเนินกจิ การอยูท่ ง้ั ส้นิ 683,296 แห่ง

เมื่อพิจารณาเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีสถานประกอบการมากที่สุดใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
5 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น รองลงมาคือ จังหวัดสุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด
ตามลำดบั

สำนักงานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 5

เมื่อพิจารณาจำนวนสถานประกอบการรายจังหวัด พบว่า จังหวัดขอนแก่น มีจำนวนสถาน
ประกอบการมากที่สุด จำนวน 67,982 แห่ง รองลงมาคือ จังหวัดสุรินทร์ มีจำนวน 62,370 แห่ง และจังหวัด
นครราชสีมา 61,998 แหง่ ตามลำดับ ส่วนจังหวดั อนื่ ๆ มจี ำนวนสถานประกอบการนอ้ ยกว่า 60,000 แห่ง

แผนภาพที่ 2 จำนวนสถานประกอบการ จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การขายปลกี 242,162

การผลติ 166,401
บริการอาหารและเคร่ืองดื่ม
76,745

กิจกรรมบรกิ ารด้านอื่น ๆ* 51,612

การขาย/ซ่อมยานยนตแ์ ละจักรยานยนต์ 48,748

การขายส่ง 25,393

กิจกรรมอสงั หารมิ ทรัพย์ 20,057

การก่อสร้าง 20,025

ทีพ่ กั แรม 8,496

กิจกรรมการบริหารและการบริการสนบั สนนุ 8,452

ศิลปะ ความบันเทิงและนนั ทนาการ 5,468

กจิ กรรมทางวชิ าชพี วทิ ยาศาสตรแ์ ละ 5,237
เทคนคิ 2,314

ข้อมลู ขา่ วสารและการส่อื สาร

การจดั การ/บำบดั น้ำเสียของเสยี และสงิ่ ปฏิกลู 1,430

คลังสินคา้ และกจิ กรรมท่สี นับสนุนการ 756

ขนสง่

เมื่อพิจารณาจำนวนสถานประกอบการ จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีสถานประกอบการที่ประกอบกิจกรรมการขายปลีกมากที่สุด จำนวน 242,162 แห่ง รองลงมาคือ การผลิต

จำนวน 166,401 แห่ง บริการอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 76,745 แห่ง ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น ๆ

เช่น กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ การขาย การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ การขายส่ง กิจกรรม

อสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง เป็นตน้ ในแต่ละกจิ กรรมมจี ำนวนไมเ่ กิน 60,000 แห่ง

สำนักงานสถติ ิจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 6

2. ขนาดสถานประกอบการ ปี 2564 (งานนับจด)

แผนภาพท่ี 3 รอ้ ยละของสถานประกอบการจำแนกตามขนาดสถานประกอบการ
(จำนวนคนทำงาน)

92.6% 7.1% Small
Micro
(คนทำงาน 6 – 50 คน)
(1 - 5 คน)
0.2% Medium

(คนทำงาน 51 - 200 คน)

0.1% Large

(คนทำงานมากกวา่ 200 คน)

เมื่อพิจารณาโครงสร้างของสถานประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ส่วนใหญ่
หรือรอ้ ยละ 92.6 มลี ักษณะเป็นสถานประกอบการรายย่อย (Micro) สว่ นสถานประกอบการขนาดเลก็ (Small)
ขนาดกลาง (Medium) และขนาดใหญ่ (Large) มีสัดส่วนรวมกันเพยี งร้อยละ 7.4 เทา่ น้ัน

3. รูปแบบการจดั ตั้งตามกฎหมายปี 2564 (งานนับจด)
แผนภาพท่ี 4 ร้อยละของสถานประกอบการจำแนกตามรูปแบบการจัดต้ังตามกฎหมาย

90.0% ส่วนบคุ คล

3.8% บจก./บมจ.

3.7% หจก./หสน.
2.5% อืน่ ๆ

เม่ือพิจารณารูปแบบการจัดต้ังตามกฎหมาย พบวา่ สถานประกอบการส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.0
มีรูปแบบการจัดตั้งเป็นส่วนบุคคล รองลงมาเป็นบริษัทจำกัด บริษัทจำกัด (มหาชน) ร้อยละ 3.8
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ร้อยละ 3.7 สำหรับสถานประกอบการที่เป็นรูปแบบอื่น ๆ
เช่น ส่วนราชการ รฐั วสิ าหกิจ สหกรณ์ วิสาหกจิ ชุมชน การรวมกลุม่ เป็นต้น มีสัดส่วนรวมกนั เพยี งร้อยละ 2.5

สำนกั งานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 7

4. รปู แบบการจดั ตงั้ ทางเศรษฐกิจ ปี 2564 (งานนับจด)
แผนภาพท่ี 5 รอ้ ยละของสถานประกอบการจำแนกตามรูปแบบการจัดต้งั ทางเศรษฐกิจ

97.7% 0.2%
สำนกั งานแหง่ เดยี ว สำนักงานใหญ่

2.1%
สำนกั งานสาขาและอืน่ ๆ

เมื่อพิจารณารูปแบบการจัดตั้งทางเศรษฐกิจ พบว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 97.7
มีรูปแบบการจัดตั้งเป็นสำนักงานแห่งเดียว มีเพียงร้อยละ 0.2 ที่เป็นสำนักงานใหญ่ และอีกร้อยละ 2.1
เป็นสำนกั งานสาขาและการจัดตง้ั ในรูปแบบอ่ืน ๆ เชน่ แฟรนไชส์ เป็นตน้

5. ระยะเวลาดำเนินกิจการ
แผนภาพท่ี 6 ร้อยละของสถานประกอบการจำแนกตามระยะเวลาในการดำเนินกิจการ

16.0 %
27.5 %

31.7 %
24.8 %

ตัง้ แต่ 20 ปี ข้นึ ไป 10-19 ปี 5-9 ปี นอ้ ยกวา่ 5 ปี

สำหรับระยะเวลาในการดำเนินกิจการของสถานประกอบการ พบว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่
หรือร้อยละ 52.3 เพิ่งเริ่มมีการดำเนินกิจการไม่เกิน 10 ปี และสถานประกอบการที่มีการดำเนินกิจการตั้งแต่ 20 ปี
ขน้ึ ไปมีเพียงรอ้ ยละ 16.0 สว่ นสถานประกอบการทม่ี กี ารดำเนินกจิ การ 10 – 19 ปี มสี ัดสว่ นร้อยละ 31.7

สำนกั งานสถติ ิจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 8

6. คนทำงานในสถานประกอบการ ปี 2564 (งานนบั จด)
แผนภาพที่ 7 จำนวนคนทำงานในสถานประกอบการจำแนกตามจงั หวัด

นครราชสมี า 460,829
ขอนแกน่
269,479
อุบลราชธานี
สุรนิ ทร์ 155,656
รอ้ ยเอ็ด 143,884
อุดรธานี 117,412
บรุ รี มั ย์ 114,759
กาฬสินธุ์ 94,835
93,003
ศรสี ะเกษ 90,744
ชัยภูมิ 90,461
89,589
มหาสารคาม 73,891
สกลนคร 56,030
ยโสธร 48,998
นครพนม 43,231
หนองคาย 42,744
เลย 36,892
มุกดาหาร 33,263
29,959
หนองบวั ลาภู 29,938
อานาจเจริญ

บงึ กาฬ

สำหรับคนทำงานในสถานประกอบการ ที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2564
มีจำนวนทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน โดยจังหวัดที่มีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการมากที่สุด ได้แก่ จังหวัด
นครราชสมี า รองลงมาคือ จังหวดั ขอนแกน่ อุบลราชธานี สรุ นิ ทร์ และรอ้ ยเอ็ด ตามลำดบั

เมื่อพิจารณาจำนวนคนทำงาน ในสถานประกอบการรายจังหวัด พบว่าจังหวัดนครราชสีมา
มีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการมากที่สุด ประมาณ 4.6 แสนคน รองลงมาคือ จังหวัดขอนแก่น
ประมาณ 2.7 แสนคน จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 1.6 แสนคน และจังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1.4 แสนคน
ส่วนจงั หวดั อ่ืน ๆ มีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการไมเ่ กิน 1.2 แสนคน

สำนกั งานสถิติจังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พืน้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 9

แผนภาพที่ 8 จำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ จำแนกตามขนาดของสถานประกอบการ

Micro (1-5 คน) 1,129,245 คน

Small (6 - 50 คน) 593,607 คน
Medium (51 - 200 คน) 140,800 คน

Large (มากกวา่ 200 คน) 251,945 คน

หมายเหต:ุ แทนจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ 100,000 คน

หากพิจารณาตามขนาดของสถานประกอบการ พบว่า สถานประกอบการรายย่อย (Micro)
และขนาดเล็ก (Small) มีจำนวนคนทำงานรวมกันมากที่สุดประมาณ 1.7 ล้านคน ส่วนสถานประกอบการ
ขนาดกลาง (Medium) และขนาดใหญ่ (Large) มีจำนวนคนทำงานประมาณ 1.4 และ 2.5 แสนคน
ตามลำดับ

แผนภาพที่ 9 จำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การผลติ 721,059
การขายปลีก
บรกิ ารอาหารและเครือ่ งดื่ม 582,286
การขาย/ซ่อมยานยนต์และจกั รยานยนต์
172,789
การขายสง่
การก่อสร้าง 137,876
กจิ กรรมบรกิ ารดา้ นอน่ื ๆ
กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 130,329

ทพี่ ักแรม 108,868
กจิ กรรมการบริหารและการบรกิ ารสนบั สนนุ
69,505
ศิลปะ ความบันเทงิ และนันทนาการ
กิจกรรมทางวชิ าชีพวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคนิค 47,976
การจัดการ/บำบดั นำ้ เสยี ของเสียและสงิ่ ปฏกิ ูล
คลังสินคา้ และกจิ กรรมท่ีสนบั สนุนการขนสง่ 39,534

ขอ้ มลู ข่าวสารและการสอื่ สาร 35,167

22,474

18,391

11,857

9,348

8,138

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 10

เมื่อพิจารณาจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พบวา่
สถานประกอบการที่ดำเนินกิจกรรมการผลิตมีจำนวนคนทำงานมากที่สุดประมาณ 7.2 แสนคน สำหรับ
การขายปลีกมีจำนวนคนทำงานประมาณ 5.8 แสนคน ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนคนทำงานใน 2 กิจกรรมดังกล่าว
มสี ัดส่วนเกินกวา่ ครึง่ หนึ่งของคนทำงานในสถานประกอบการทีต่ ้งั อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทง้ั หมด

7. การเปรียบเทียบข้อมูลปี 2564 และ ปี 2559 (งานนับจด)
แผนภาพที่ 12 เปรียบเทยี บจำนวนสถานประกอบการและคนทำงานในภาพรวมปี 2564

และปี 2559

ปี 2559 ปี 2564 % Change

จำนวน 684,438 683,296  0.2%
สถานประกอบการ แหง่ แห่ง

จำนวนคนทำงาน 1,772,671 2,115,597  19.3%
คน คน

หมายเหตุ : ปี 2559 จาก โครงการสำมะโนอุตสาหกรรม พ.ศ. 2560 (ขอ้ มูลพื้นฐาน)
ปี 2564 จาก โครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 (ขอ้ มูลพน้ื ฐาน)

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนสถานประกอบการ ในปี 2564 และปี 2559 ในภาพรวมมีสถานประกอบการ
ลดลงจากระยะ 5 ปีทผ่ี า่ นมา ประมาณร้อยละ 0.2

สำหรบั จำนวนคนทำงาน ในสถานประกอบการปี 2564 เทียบกับปี 2559 พบวา่ มีสดั ส่วนท่ีเพ่ิมข้ึน
ประมาณรอ้ ยละ 19.3

สำนักงานสถติ จิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 11

แผนภาพท่ี 13 รอ้ ยละการเปล่ยี นแปลงของจำนวนสถานประกอบการในปี 2564 และปี 2559
จำแนกตามจังหวดั

บงึ กาฬ 20.3%
ชัยภูมิ
สกลนคร 19.7%
ขอนแกน่
อบุ ลราชธานี 13.9%

เลย 11.8%
หนองคาย
นครพนม 9.6%
อดุ รธานี
กาฬสนิ ธ์ุ 9.3%
อานาจเจริญ
8.1%
ร้อยเอ็ด
หนองบัวลาภู 3.2%

บุรีรัมย์ 3.0%
มุกดาหาร
2.4%
ยโสธร
สรุ นิ ทร์ 2.1%
นครราชสีมา
มหาสารคาม 1.3%
ศรีสะเกษ -23.7%
0.3%

-0.1%

-3.3%

-6.8%

-8.6%

-9.2% หมายเหตุ : ปี 2559 จากโครงการสำมะโนอุตสาหกรรม
-12.8% พ.ศ. 2560 (ขอ้ มลู พืน้ ฐาน)

ปี 2564 จากโครงการสำมะโนธรุ กจิ และ
อตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 (ข้อมูลพน้ื ฐาน)

หากพจิ ารณาจำนวนสถานประกอบการ เปน็ รายจงั หวดั ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า จังหวัดบึงกาฬ
ชัยภูมิ สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี เลย หนองคาย นครพนม อุดรธานี กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด
และหนองบัวลำภู มีจำนวนสถานประกอบการเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดบึงกาฬมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ
ร้อยละ 20.3 ส่วนจังหวัดศรสี ะเกษ มหาสารคาม นครราชสีมา สรุ นิ ทร์ ยโสธร มกุ ดาหาร และบรุ รี ัมย์ มีจำนวน
สถานประกอบการลดลง โดยจงั หวดั ศรสี ะเกษมีอตั ราการลดลงมากท่ีสุด คือ ร้อยละ 23.7

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 12

แผนภาพที่ 14 รอ้ ยละของการเปลยี่ นแปลงของจำนวนสถานประกอบการในปี 2564 และปี 2559
จำแนกตามภาคธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ภาคการผลิต 5.5% 7.7%

8.0% ภาคการค้า ภาคการบริการ

การผลิต 8.0% การขายปลกี 2.7% กจิ กรรมทางวชิ าชีพ 37.3%

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคนิค

การจัดการ/บำบดั น้ำเสยี 52.1% ทพ่ี ักแรม 71.3% กิจกรรมการบรหิ าร 12.6%

ของเสยี และสิ่งปฏกิ ูล และการบรกิ ารสนบั สนุน

การก่อสร้าง 25.3% บริการอาหาร 18.5% ศิลปะ ความบนั เทงิ 36.0%
และเครือ่ งดมื่ และนันทนาการ

5.3% ขอ้ มูลขา่ วสาร 32.8% กิจกรรม 6.6%
และการสอื่ สาร 7.5% บริการดา้ นอ่นื ๆ
การขาย/ซ่อมยานยนต์ กจิ กรรม
และจักรยานยนต์ อสงั หาริมทรพั ย์

การขายสง่ 43.8%

เมื่อพิจารณาจำนวนสถานประกอบการ จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พบว่า ในภาพรวม
ปี 2564 จำนวนสถานประกอบการเกือบทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี 2559
โดยสถานประกอบการที่ประกอบกิจกรรมที่พักแรม มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุด ร้อยละ 71.3 รองลงมา
คอื กิจกรรมการจัดการ/บำบัดน้ำเสีย ของเสยี และส่งิ ปฏกิ ูล ร้อยละ 52.1 และกจิ กรรมการขายสง่ ร้อยละ 43.8

ในทางกลับกัน สถานประกอบการที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับกิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร การผลิต กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ และกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ ที่มีจำนวน
สถานประกอบการลดลงจาก 5 ปที ่ีผา่ นมา

สำนักงานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 13

แผนภาพที่ 15 ร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการในปี 2564
และปี 2559 จำแนกตามจังหวัด

นครราชสมี า 64.5%
ขอนแกน่ 63.8%
บึงกาฬ
สกลนคร 28.6%
ชยั ภูมิ 25.6%
เลย 25.0%
หนองคาย 20.6%
13.5%
อบุ ลราชธานี 11.6%
มุกดาหาร 7.4%
สุรนิ ทร์ 4.9%
กาฬสนิ ธ์ุ 4.2%
นครพนม 4.0%
บุรีรัมย์ 2.3%
ยโสธร 0.9%
รอ้ ยเอ็ด 0.2%

อานาจเจรญิ -0.4% หมายเหตุ : ปี 2559 จากโครงการสำมะโนอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2560 (ข้อมลู พน้ื ฐาน)
อดุ รธานี -1.5% ปี 2564 จากโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (ข้อมูลพื้นฐาน)
-4.8%
หนองบัวลาภู -6.7%
มหาสารคาม -17.3%

ศรีสะเกษ

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ ในแต่ละจังหวัด พบว่า เกือบทุกจังหวัด
มีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นจากปี 2559 โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัด
นครราชสีมา มอี ตั ราการเพม่ิ ขึ้นมากทีส่ ุดร้อยละ 64.5 รองลงมาคือ ขอนแก่น เพมิ่ ข้นึ ร้อยละ 63.8 และบึงกาฬ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 ยกเว้น จังหวัดศรีสะเกษ มหาสารคาม หนองบัวลำภู อุดรธานี และอำนาจเจริญ
ท่ีมจี ำนวนคนทำงานในสถานประกอบการลดลงจาก 5 ปีที่ผา่ นมา

สำนักงานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 14

แผนภาพท่ี 16 ร้อยละของการเปล่ียนแปลงของจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ ในปี 2564
และปี 2559 จำแนกตามกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ

กจิ กรรมทางวชิ าชีพวิทยาศาสตร์และเทคนิค 75.7%
การขายสง่ 74.1%
67.8%
กจิ กรรมการบริหารและการบริการสนับสนนุ 59.8%
การก่อสร้าง 55.8%
45.0%
การจัดการ/บำบดั นำ้ เสียของเสียและสิง่ ปฏกิ ูล 37.3%
ท่ีพักแรม 29.9%
16.1%
กจิ กรรมอสงั หารมิ ทรัพย์ 13.6%
การผลติ 7.2%
-2.2%
บริการอาหารและเครือ่ งดืม่
การขาย/ซ่อมยานยนต์และจกั รยานยนต์

การขายปลกี
ขอ้ มลู ขา่ วสารและการส่ือสาร

กจิ กรรมบริการด้านอ่นื ๆ -4.5%
ศลิ ปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
-39.0%

หมายเหตุ : ปี 2559 จากโครงการสำมะโนอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2560 (ขอ้ มูลพน้ื ฐาน)
ปี 2564 จากโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (ขอ้ มลู พ้ืนฐาน)

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการ ในแต่ละกิจกรรมทางเศรษฐกิจปี 2564 พบว่า
สถานประกอบเกือบทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีจำนวนคนทำงานเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ยกเว้น
สถานประกอบการที่ดำเนินกิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ
และกิจกรรมขอ้ มลู ขา่ วสารและการสื่อสาร ทม่ี ีจำนวนคนทำงานในสถานประกอบการลดลงจาก 5 ปที ผี่ า่ นมา

สำนักงานสถติ จิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มูลพ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 15

8) ผลการปฏบิ ัตงิ านสำมะโนธุรกิจทางการค้าและบรกิ าร ปี 2565 (งานแจงนบั )

บรุ ีรัมย์ 100.0
สุรนิ ทร์ 100.0
ศรีสะเกษ 100.0
อบุ ลราชธานี 100.0
ยโสธร 100.0
อานาจเจรญิ 100.0
บงึ กาฬ 100.0
หนองบัวลาภู 100.0
อดุ รธานี 100.0
มหาสารคาม 100.0
ร้อยเอ็ด 100.0
กาฬสนิ ธ์ุ 100.0
สกลนคร 100.0
นครพนม 100.0
มกุ ดาหาร 100.0
หนองคาย 100.0
100.0
เลย 100.0
ชยั ภมู ิ 100.0
ขอนแกน่ 86.0
นครราชสีมา

จากผลการปฏิบัติงานสำมะโนธุรกิจทางการค้าและการบรกิ าร ทั่วประเทศไทย ปฏิบัติงานแล้วเสรจ็
91.9% กำลังปฏิบัติงาน 8.0% ยังไม่ได้ปฏิบัติงาน 0.1% และผลการปฏิบัติงานสำมะโนธุรกิจทางการค้า
และการบรกิ ารของภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ปฏบิ ตั งิ านแลว้ เสร็จ 97.3% และกำลังปฏบิ ตั งิ าน 2.7%
(ข้อมูล ณ วนั ที่ 16 กนั ยายน 2565 เวลา 13.00 น.)

สำนกั งานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพืน้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 16

9) ผลการเก็บรวบรวมข้อมูลสำมะโนธุรกจิ ทางการคา้ และบริการ ปี 2565 (งานแจงนับ)

ท่ัวประเทศ สาเหตทุ ่แี จงนับไมไ่ ด้ (รอ้ ยละ)

8.0% 0.1% ไม่ใหค้ วามร่วมมือ 15.1
กำลงั ปฏิบตั ิงาน ยังไม่ได้ปฏบิ ตั ิงาน เลกิ กจิ การ
9.3
ยา้ ย/หาไม่พบ 9.1
ข้อมลู อยทู่ สี่ านกั งานใหญ่ 7.1

43.1% 48.8% หยุดกจิ การชวั่ คราว 3.2
แจงนับได้ แจงนับไม่ได้ ซ้ากับลาดบั ท.ี่ .. 2.3
ไม่อยใู่ นคมุ้ รวม 1.5
1.1
ไม่เป็นสถานประกอบการ 0.1
ร้ือถอน/ไฟไหม้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื สาเหตุที่แจงนับไมไ่ ด้ (ร้อยละ)

63.5% เลิกกิจการ 8.8
แจงนับได้ ขอ้ มลู อยทู่ ส่ี านกั งานใหญ่
33.8% 6.5
แจงนับไมไ่ ด้ ยา้ ย/หาไม่พบ 5.4
ไม่ใหค้ วามร่วมมอื 4.0
2.7% หยดุ กิจการชั่วคราว 3.1
กำลังปฏบิ ัติงาน 3.0
ซ้ากับลาดับท.ี่ .. 1.6
ไมอ่ ยู่ในค้มุ รวม 1.3
ไมเ่ ปน็ สถานประกอบการ 0.1
รอื้ ถอน/ไฟไหม้

จากผลการเก็บรวบรวมข้อมูลแจงนับสำมะโนธุรกิจทางการค้าและการบริการ ปี 2565 ของ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจงนับได้ 63.5% แจงนับไม่ได้ 33.8% สาเหตุของการแจงนับไม่ได้มีดังนี้
1) เลิกกิจการ 8.8% 2) ข้อมูลอยู่ที่สำนักงานใหญ่ 6.5% 3) ย้าย/หาไม่พบ 5.4% 4) ไม่ให้ความร่วมมือ 4.0%
5) หยุดกิจการชั่วคราว 3.1% 6) ซ้ำกับลำดับที่ 3.0% 7) ไม่อยู่ในคุ้มรวม 1.6% 8) ไม่เป็นสถานประกอบการ 1.3%
9) ร้อื ถอน/ไฟไหม้ 0.1% และกำลงั ปฏิบตั ิงาน 2.7% (ขอ้ มูล ณ วนั ที่ 16 กนั ยายน 2565 เวลา 13.00 น.)

สำนกั งานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 17

10) จังหวดั ท่ผี ลการเกบ็ รวบรวมข้อมูลสำมะโนธุรกิจทางการค้าและบริการแจงนับได้ (ENU1)
มากท่สี ุด 10 ลำดบั แรก ปี 2565 (งานแจงนบั ) ณ วนั ท่ี 14 กนั ยายน 2565 เวลา 10.00 น.

หมายเหตุ : จดั ลำดบั เฉพาะจงั หวัดท่มี ีผลการปฏิบตั งิ านเสร็จ 100 %

11) ผลการปฏบิ ัตงิ านสำมะโนอุตสาหกรรม ปี 2565 (งานแจงนบั ) 100.0
100.0
บรุ รี ัมย์ 100.0
สรุ ินทร์ 100.0
ศรสี ะเกษ 100.0
อุบลราชธานี 100.0
ยโสธร 100.0
อานาจเจริญ 100.0
บงึ กาฬ 100.0
หนองบวั ลาภู 100.0
อดุ รธานี 100.0
มหาสารคาม 100.0
ร้อยเอ็ด 100.0
กาฬสินธุ์ 100.0
สกลนคร 100.0
นครพนม 100.0
มกุ ดาหาร 100.0
หนองคาย 100.0
100.0
เลย 82.0
ชยั ภูมิ
ขอนแก่น
นครราชสมี า

สำนักงานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 18

จากผลการปฏิบัตงิ านสำมะโนอตุ สาหกรรม ทัว่ ประเทศปฏบิ ตั ิงานแลว้ เสร็จ 93.6% กำลงั ปฏิบัติงาน
6.3% ยังไม่ได้ปฏิบัติงาน 0.1% และผลการปฏิบัติงานสำมะโนอุตสาหกรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปฏบิ ัตงิ านแล้วเสรจ็ 96.4% และกำลงั ปฏบิ ัตงิ าน 3.6% (ข้อมูล ณ วันท่ี 16 กนั ยายน 2565 เวลา 13.00 น.)

12) ผลการเก็บรวบรวมข้อมูลแจงนบั สำมะโนอุตสาหกรรม ปี 2565 (งานแจงนบั )

ทว่ั ประเทศ สาเหตุที่แจงนับไมไ่ ด้ (ร้อยละ)

เลิกกจิ การ 12.5
ซา้ กบั ลาดบั ท.ี่ ..
ยา้ ย/หาไมพ่ บ 5.4
ไมอ่ ยูใ่ นคมุ้ รวม 3.7
หยดุ กจิ การชั่วคราว 3.7
ไมใ่ ห้ความร่วมมือ 2.6
ขอ้ มลู อยทู่ ่ีสานักงานใหญ่ 2.5
ไม่เป็นสถานประกอบการ 1.6
รือ้ ถอน/ไฟไหม้ 1.5
0.1

ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ สาเหตุทีแ่ จงนับไมไ่ ด้ (ร้อยละ)

เลิกกิจการ 12.5
ซา้ กบั ลาดับท.่ี ..
ยา้ ย/หาไมพ่ บ 5.4
ไม่อยใู่ นคมุ้ รวม 3.7
หยุดกิจการชัว่ คราว 3.7
ไมใ่ ห้ความรว่ มมอื 2.6
ขอ้ มูลอยทู่ ่ีสานักงานใหญ่ 2.5
ไม่เป็นสถานประกอบการ 1.6
รื้อถอน/ไฟไหม้ 1.5
0.1

จากผลการเก็บรวบรวมข้อมูลแจงนับสำมะโนอุตสาหกรรม ปี 2565 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แจงนับได้ 62.8% แจงนับไม่ได้ 33.6% สาเหตุของการแจงนับไม่ได้ มีดังนี้ 1) เลิกกิจการ 12.5% 2) ซ้ำกับ
ลำดับที่ 5.4% 3) ย้าย/หาไม่พบ 3.7% 4) ไม่อยู่ในคุ้มรวม 3.7% 5) หยุดกิจการชั่วคราว 2.6% 6) ไม่ให้ความ
ร่วมมือ 2.5% 7) ขอ้ มลู อย่สู ำนกั งานใหญ่ 1.6% 8) ไม่เป็นสถานประกอบการ 1.5% 9) รือ้ ถอน/ไฟไหม้ 0.1%

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 19

13) จังหวดั ท่ผี ลการเกบ็ รวบรวมข้อมูลสำมะโนอตุ สาหกรรมแจงนับได้ (ENU1)
มากท่สี ดุ 10 ลำดับแรก ปี 2565 (งานแจงนบั ) ณ วนั ที่ 14 กนั ยายน 2565 เวลา 10.00 น.

หมายเหตุ : จดั ลำดบั เฉพาะจงั หวดั ทม่ี ีผลการปฏิบัติงานเสรจ็ 100 %

สำนกั งานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 20

บทท่ี 3
กจิ กรรมกลุ่ม “เทคนิคการสรา้ งเครอื ข่ายใหไ้ ด้พันธมิตรท่ีดี เพอ่ื ประสานความรว่ มมือในการปฏิบัติงาน

โครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม”

กิจกรรมเทคนิคการสร้างเครือข่ายให้ได้พันธมิตรที่ดี เพื่อประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงาน
โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม และโครงการสำมะโน/สำรวจอื่น ๆ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เป็นกิจกรรมกลุ่มที่ให้สำนักงานสถิติจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เทคนิคการสร้างเครือข่ายให้ได้พันธมิตรที่ดีเพื่อประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานโครงการสำมะโนธุรกิจ
และอุตสาหกรรม สรปุ ได้ดงั นี้

1. ประชาสัมพันธ์โครงการสำมะโน/สำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติกับเครือข่ายในระดับพื้นท่ี
โดยมีหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดถึงนายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อแจ้งท้องที่ อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เชน่ ประธานหอการคา้ ประธานสภาอตุ สาหกรรม กำนัน ผูใ้ หญบ่ า้ น ผนู้ ำชมุ ชน เปน็ ตน้

2. มอบให้ผู้ประสานงานอำเภอเข้าร่วมประชุมกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนเพื่อประชาสัมพันธ์
แผนงาน/โครงการ บทบาทภารกจิ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง

3. ขับเคล่ือนกลไกเครือข่ายสถิติในระดับพน้ื ที่ เชน่ เครือขา่ ยมาดี เครือขา่ ยอาสาสมคั รดจิ ิทัล (อสด.)
เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐที่จัดทำระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (GD Catalog) และเครือข่ายอาสาสมัครอื่น ๆ
ในพนื้ ท่เี พอื่ สรา้ งการรับร้ภู ารกจิ ของสำนักงานสถิตแิ หง่ ชาติ และภารกิจของกระทรวงดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม

4. จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ เช่น Infographic สถิติเพื่อประชาชน ข่าวอาสาสมัคร
ดิจิทัล (อสด.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Fake News) ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ (1212 occ)
สร้างการรับรู้ในระดับพื้นที่ เช่น การประชาสัมพันธ์ การบริการข้อมูลร่ว มในกิจกรรมที่จังหวัดจัดขึ้น
เช่น จังหวัดเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน”การเป็นวิทยากรให้กับหน่วยงาน
เครอื ขา่ ย รวมทั้งสร้างการรับรูส้ ู่ชุมชน โดยใชก้ ลไกของศูนยด์ จิ ิทัลชมุ ชน และศูนย์ ICT ชุมชน

5. สร้างช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร เช่น Webpage/Facebook/Group
Line เปน็ ตน้

6. กิจกรรมการทำงานเป็นทีม (Team building) กิจกรรมการทำงานเป็นทีม มีการสร้างทีม
ในองค์กรให้บุคลากรมีความรัก ความสามัคคีในองค์กรมีเป้าหมายร่วมกัน ลดปัญหาข้อขัดแย้ง คิดบวก รู้จัก
การทำงานเปน็ ทีม รู้จักพฤติกรรมของตนเองและผอู้ นื่ มีทัศนคติท่ีดีต่อตนเอง ผู้รว่ มงานและงานท่ที ำ ลดการเข้า
ออกของบุคลากรในองค์กรนั้น ๆ ทำให้ผลผลิตขององค์กรดีขึ้น สร้างจิตสำนึกที่ดีต่อการทำงาน ทำงานอย่าง
มคี วามสขุ สรา้ งทีมให้มีพลงั สร้างทมี ให้ประสบความสำเรจ็ (Success team)

สำนกั งานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 21

บทท่ี 4
กิจกรรมเวทเี สวนา

การประชุมเชิงปฏิบัติการ ณ ศูนย์การประชุมจังหวัดร้อยเอ็ดได้มีการจัดกลุ่มเสวนา จำนวน 3 กลุ่ม
จากบุคลากรของสำนักงานสถิติจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด ได้แก่ การเสวนาระดับ
เจา้ หน้าทผ่ี ปู้ ฏิบัติงาน การเสวนาระดบั ผ้อู ำนวยการกลมุ่ งาน และการเสวนาระดับสถติ จิ งั หวดั

1) เสวนาระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน “เทคนิคการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ” ได้มี
การเสวนาในหัวข้อ เทคนคิ การทำงานเป็นทมี อยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยมผี ู้รว่ มเสวนา ดังน้ี

ผดู้ ำเนินรายการ
นางสุมลพร อุดสัย นักวชิ าการสถิตชิ ำนาญการพิเศษ สำนกั งานสถิตจิ งั หวดั อุดรธานี

ผรู้ ่วมเสวนา

1) นางสาวมลฤดี โนนใหญ่ นักวิชาการสถติ ิปฏบิ ตั ิการ สำนกั งานสถิตจิ ังหวัดศรีสะเกษ

2) นางสาวกนกพร ตงั้ จริยาพิสทุ ธิ์ พนกั งานสถิติ สำนักงานสถิตจิ งั หวัดอุดรธานี

3) นางสาวสทุ ธญาณ์ ไชยรตั น์ นักวิชาการสถติ ปิ ฏิบตั ิการ สำนักงานสถติ ิจงั หวดั บงึ กาฬ

4) นายไพบูลย์ จักรพล พนักงานสถิติ สำนกั งานสถติ จิ งั หวัดร้อยเอ็ด

5) นายพุฒิพงษ์ บุระมาน เจ้าพนกั งานสถิตปิ ฏิบตั งิ าน สำนกั งานสถติ ิจังหวัดกาฬสินธ์ุ

6) นางสาวสมสว่ น วงคำลาด เจ้าพนักงานสถติ ิชำนาญงาน สำนักงานสถิตจิ ังหวดั บรุ รี มั ย์

7) นางสาวอไุ รวรรณ เนืองวรรณะ พนักงานสถิติ สำนักงานสถิติจงั หวัดมหาสารคาม

8) นางสาวยพุ เรศ ช่วยวงษ์ญาติ นักวิชาการสถิติชำนาญการ สำนกั งานสถติ จิ ังหวดั ยโสธร

การเตรยี มความพร้อมก่อนปฏิบัติงานสนาม
ก่อนออกงานสนามมีการประชุมเจ้าหน้าที่ผ่านระบบ Video conference หลังจากอบรมกับ

สว่ นกลางแล้ว เพอื่ รว่ มบูรณาการ จดั ทำงบประชาสมั พันธ์ ร่วมประชมุ ประจำเดือนกับกำนนั ผู้ใหญบ่ า้ น ขอชื่อ
เบอร์โทรผู้นำชุมชนเพื่อปรับปรุงข้อมูลบัญชีผู้ประสานงาน จับคู่ Buddy ออกงานสนามคู่กัน ก่อนออกงาน
สนามจะต้องขออนุญาตเข้าพื้นที่กับผู้นำชุมชน การแต่งกายน่าเชื่อถือ เตรียมหนังสือราชการเพือ่ การเข้าพื้นท่ี
งา่ ยขึน้ รวมท้งั มวี างแผนการเบกิ จา่ ยตามกฎ ระเบยี บ ท่เี กย่ี วข้อง

การจดั ทำหนงั สือ/การประสานงานในพ้ืนที่
การทำหนงั สือตอ้ งมคี วามละเอยี ดชัดเจน ทำหนังสอื ถงึ ทุกหนว่ ยงาน โดยเนน้ ท่ี สภาอตุ สาหกรรม

จังหวัด และหอการค้าจังหวัดเป็นหลักเพื่อเข้าถึงสถานประกอบการได้ง่ายขึ้น และยกระดับความสามารถของ
พนกั งานราชการใหม้ ีทักษะในการทำหนังสือราชการเป็นทุกคน

สำนักงานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 22

การสร้างทีมงานผปู้ ฏบิ ตั ิงาน
มีการวางแผนการดำเนนิ งานร่วมกันระหว่างข้าราชการและทีมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบตั ิงาน มีการติดต่อ

ประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์เพื่อแชร์ประสบการณ์และอุปสรรคในการทำงานเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกนั
มีการจัดทีมเพื่อเข้าไปพบเจ้าของสถานประกอบการขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ (ผอ.กลุ่ม ข้าราชการ
เจ้าหน้าที่ สธอ.)

การแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ขณะปฏบิ ัตงิ านสนาม
จัดทีมหลงั บา้ นเพือ่ ช่วยเหลือ ชี้แจงรายละเอียด ให้คำปรึกษา โดยมีสถิติจังหวัดและผู้อำนวยการ

กลมุ่ ดแู ลการเขา้ พืน้ ท่ี

การรจู้ ักพน้ื ท่ปี ฏิบัตงิ านสนาม
ทำความรู้จกั พ้ืนทีใ่ ห้มากที่สุดโดยการสอบถามคนในพ้นื ท่ี เรยี นรโู้ ดยการเข้าพ้นื ท่จี ริงจะทำให้รู้จัก

เฟรม แตล่ ะ EA มากขน้ึ

เทคนคิ การสมั ภาษณ์
เริ่มจากการเตรียมตัว แต่งกายสุภาพ มีบัตรประจำตัวพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ

สถิติ พ.ศ. 2550 ศึกษาทำความเข้าใจแบบสอบถาม จัดอบรมภายในสำนักงาน เพื่อสร้างความเข้าใจกับ
พนักงานก่อนลงงานสนาม จัดทำหนังสือราชการขอความร่วมมือขอเข้าพื้นที่ชี้แจงรายละเอียดการลงสนาม
ไม่ตั้งคำถามชี้นำทำให้ข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ สถานประกอบการขนาดใหญ่ใช้ทีมงานหลายคนในการ
ลงสนามเพอ่ื สร้างความมัน่ ใจแก่สถานประกอบการ

เทคนคิ การเคลยี ร์แบบสอบถาม
ทำความเข้าใจแบบสอบถาม ให้พี่ประกบน้อง (เจ้าหน้าที่วิชาการ และพนักงานแจงนับ) อธิบายว่า

ข้อถามแต่ละข้อเชื่อมโยงอะไรบ้าง ควรทำงานให้แล้วเสร็จตามคาบเวลาที่กำหนด ขอเบอร์โทรผู้ให้ข้อมูลมา
ทุกครั้งเพื่อโทรสอบถามอีกรอบหากมีข้อมูลตกหล่น และดำเนินการเคลียร์แบบสอบถามให้แล้วเสร็จภายใน
วันที่ออกสนาม เพื่อจะไดบ้ นั ทกึ ข้อมูลได้อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน และไมม่ ีงานคา้ ง

เทคนคิ การจัดทำรายงาน สธอ.
เล่มรายงานมีความครบถ้วนตามลำดับการจัดทำรายงาน ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ก่อนทำรายงาน เปรียบเทียบข้อมูลมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด จัดทำรายงานให้มีความน่าสนใจ
บทสรุปของผู้บริหารจัดทำสั้นๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจรายละเอียดของเล่มท้ังหมด จัดทำกราฟ นำสีเข้ามาใช้
สร้างความสวยงามน่าสนใจ จัดทำแผนผัง วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยใช้ภาษาท่ีเข้าใจง่าย สรุปขอ้ มูลจากตารางให้ตรงกนั

สำนักงานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพืน้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 23

2) เสวนาระดับผู้อำนวยการกลุ่ม “เทคนิคการดำเนินงานโครงการสำมะโนธุรกิจและ
อุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนับจด/งานแจงนับ) ให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีคุณภาพ” ได้มีการเสวนา
ในหัวข้อ เทคนิคการดำเนินงานโครงการสามะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนับจด/งานแจงนับ)
ใหป้ ระสบความสำเรจ็ อยา่ งมคี ุณภาพ โดยมีผู้รว่ มเสวนา ดังนี้

ผู้ดำเนินรายการ
นายภัทรพล แดงสีดา นักวิชาการสถติ ชิ ำนาญการพเิ ศษ สำนกั งานสถติ จิ งั หวดั เลย

ผ้รู ่วมเสวนา สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดหนองคาย
1) นางสาววรุณี มรุ กิ า นกั วชิ าการสถิตชิ ำนาญการพิเศษ สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดอุดรธานี
2) นางสุมลพร อดุ สยั นกั วชิ าการสถติ ิชำนาญการพิเศษ สำนักงานสถิตจิ ังหวดั บึงกาฬ
3) นางสาวพนดิ า นามตาแสง เจา้ พนกั งานสถิตอิ าวโุ ส สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดอบุ ลราชธานี
4) นายเชาวเรศ ทองจัตุ เจ้าพนักงานสถิติอาวโุ ส สำนักงานสถิตจิ งั หวัดมหาสารคาม
5) นายบุญถิน่ ระวสิ ทิ ธิ์ เจ้าพนกั งานสถิตอิ าวุโส สำนักงานสถิติจังหวดั บุรรี ัมย์
6) นายเสฎฐวุฒิ วราพฒุ นักวชิ าการสถิติชำนาญการพเิ ศษ สำนกั งานสถิตจิ งั หวัดหนองบวั ลำภู
7) นางสตั ตบุษ ศิริประภา เจา้ พนักงานสถติ ิชำนาญงาน สำนักงานสถิติจังหวัดขอนแกน่
8) นางเยาวภา มณีฉาย นกั วชิ าการสถติ ิชำนาญการพเิ ศษ

การตรวจสอบบญั ชีเขตแจงนบั /ฐานข้อมลู
1) นำฐานข้อมูลจากระบบทะเบียนมาทำการตรวจสอบความถูกต้อง ครอบคลุม ตรวจสอบความ

ซ้ำซ้อน บูรณาการร่วมกันเพื่อให้ฐานข้อมูลมีความสมบูรณ์เป็น Frame จากระบบทะเบียนที่มีความพร้อมใช้
ในการสำมะโน

2) ใช้ระบบทะเบียนเปน็ ขอ้ มลู พ้ืนฐานในการจัดเก็บข้อมลู สำมะโน
3) การปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศ จากการจัดทำสำมะโน
เศรษฐกิจ มาเป็นการสำรวจทางเศรษฐกิจ มีการใช้ข้อมูลจดทะเบียนธุรกิจ และใช้ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ
ในกรณที ี่ขอ้ มลู ทีต่ ้องการไม่ปรากฏอยใู่ นแหล่งขอ้ มูลใด จะมีการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเตมิ ผา่ นการสัมภาษณ์

การเตรยี มงาน/จดั อตั รากำลงั
1) จัดทำแผนปฏิบัติงานสำมะโนระดับจังหวัด แผนงาน แผนบุคลากร แผนบริหารความเสี่ยง

แผนงบประมาณ แผนการเบิกจ่าย และมอบหมายผู้รับผิดชอบ กำหนดวันแล้วเสร็จ กำหนดการรายงานผล
การปฏิบตั ิงาน

2) ตรวจสอบบญั ชีเขตปฏิบตั ิงานและปรมิ าณงานทัง้ ส้นิ
3) จดั เตรยี มแผนที่ปฏบิ ตั ิงาน
4) แบ่งงานจากบัญชีเขตโดยการกำหนด Man/Day ปริมาณงานต่อวัน โดยพิจารณาจากจำนวน
ครัวเรือน จำนวนสถานประกอบการ ขนาดของสถานประกอบการ สภาพภูมิศาสตร์ของเขตปฏิบัติงาน พื้นท่ี
รอยตอ่ ของเขตปฏบิ ตั งิ าน ความปลอดภยั ของพนักงานสนาม การปฏิบตั ติ ามมาตรการป้องกันโรคโควดิ -19
5) จัดเตรียมเอกสาร วัสดุอุปกรณท์ ตี่ ้องใช้ในการปฏิบัติงานให้ครบถว้ น และเพียงพอ

สำนกั งานสถิติจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 24

6) อบรมชี้แจงพนกั งานสนาม
7) จดั ทมี Staff รูปแบบ Help desk และ Group line ในการชว่ ยเหลือแก้ไขปัญหาท้ังภาคสนาม
และภาควชิ าการใหแ้ กพ่ นกั งานสนาม และทีมเจา้ หน้าที่ สธอ.

การประสานงาน/การประชาสมั พันธ์
1) ประสานงานประชาสมั พันธส์ รา้ งการรับรู้ในระดบั จงั หวดั อำเภอ หมบู่ ้าน/ชมุ ชน
2) การเก็บรวบรวมข้อมูลในเขตเทศบาล หรือเขตที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่หนาแน่นจัดให้มี

รถแหป่ ระชาสัมพันธ์ในวนั ท่เี จา้ หนา้ ที่ปฏบิ ัติงานเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดว้ ย เพ่อื สร้างความเชือ่ ม่ัน และการรบั รใู้ นชมุ ชน
3) ประสานพื้นที่ระดับอำเภอขอนำเรื่องเข้าระเบียบวาระการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

เพื่อประชาสัมพันธ์แผนการปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการสำมะโน/สำรวจ และภารกิจของสำนักงาน
สถติ ิจงั หวดั

4) ประชาสัมพันธ์งานโครงการสำมะโน/สำรวจ และภารกิจของสำนักงานสถิติจังหวัด ในหลาย
ช่องทาง เช่น เวบ็ เพจ Facebook , Group line เป็นตน้

5) เน้นย้ำการแต่งกายในการดำเนินงานประสานงาน รวมทั้งการปฏบิ ัติงานเก็บรวบรวมขอ้ มูลให้
มีการแต่งการท่สี ภุ าพ และมีแบบฟอร์มเชงิ สัญลักษณ์ เช่น เส้อื คลุมสฟี ้า หมวก สสช. เพือ่ สรา้ งภาพลักษณ์และ
ความนา่ เชอ่ื ถือ

การสรา้ งเครือข่ายในพื้นท่ี
1) สร้างเครือข่ายในระดับพื้นที่ เช่น เครือข่ายกระทรวงมหาดไทยระดับอำเภอ หมู่บ้าน ชุมชน โดย

ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แผนงาน โครงการ ภารกิจของหน่วยงานในการประชุมประจำเดือนของกำนัน
ผ้ใู หญบ่ ้าน

2) ขอความรว่ มมือกำนัน ผใู้ หญ่บ้านชว่ ยประชาสมั พันธโ์ ครงการสำมะโน/สำรวจในระดับพนื้ ท่ี
3) จากข้อมูลการสร้างเครือข่ายในระดับอำเภอ ตำบล หมู่บา้ น/ชุมชน มีการจัดทำทำเนียบกำนัน
ผใู้ หญ่บ้าน ผนู้ ำชมุ ชน
4) การสร้างเครอื ข่ายในรปู แบบทส่ี รา้ งสรรค์ แชร์ข้อมลู ท่ดี ีออกไป
5) ให้ความรกู้ ับประชาชนย่งิ รยู้ ง่ิ เขา้ ใจ
6) สร้างเครือข่ายในพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่ค่ายทหาร โรงพยาบาล โรงเรียนประจำ บ้านพัก
ข้าราชการ บ้านพักคนงานขนาดใหญ่ เปน็ ตน้
การดแู ลระบบการจดั เก็บข้อมูลและงานสนาม
1) มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก (Tablet) ในการจัดเก็บข้อมูลที่ดี มีประสิทธิภาพ และมีเครื่อง
สำรอง
2) การตดิ ต่อประสานงานก่อนลงพืน้ ท่ีทุกครัง้
3) ทดลองงานสนาม (ลงพื้นที่มีเจ้าหน้าที่วิชาการ หรือนัดหมายผูใ้ หญ่บ้าน ผอ.กลุ่ม ตามประกบ
แบบพส่ี อนน้อง)
4) ตดิ ตามรายงานผลทุกวนั ในระบบ Google Sheet และ Group Line

สำนักงานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 25

5) ตรวจสอบข้อมลู จากฐานขอ้ มูล Web app ผู้นำชมุ ชน ฐานข้อมูลแรงงาน
6) สถานประกอบการที่ไม่ไดข้ ้อมลู ให้เปล่ยี นคนลงพน้ื ทเ่ี พอ่ื ให้ไดข้ อ้ มูล

การกำกบั และตดิ ตามงานสนาม
1) ใหพ้ ่ีทมี่ ปี ระสบการณ์มาชว่ ยสอนงานนอ้ ง
2) มกี ารทดลองลงพ้นื ท่ีให้เกิดความเคยชินก่อนลงงานสนามจริง
3) แบง่ งานจากนอ้ ยไปหามากค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ประมาณ 1-2 สปั ดาห์ แล้วคอ่ ยเพ่ิมปริมาณงาน
4) ใหน้ ำข้อสั่งชแี้ จง คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านและหนังสือขอความร่วมมอื พ้นื ทล่ี งสนามไปด้วยทกุ คร้งั
5) ตัง้ กลมุ่ line ถาม-ตอบ ปัญหาและช่วยกันแก้ไข
6) แบ่งกลุ่มย่อยเพื่อแก้ปญั หา
7) ตดิ ตามงานอย่างสม่ำเสมอและใกลช้ ิด
8) ผอ.ลงพ้ืนท่ีติดตามด้วยตนเองเพื่อตรวจสอบคุณภาพงาน
9) สร้างการทำงานเป็นทีม

การเบิกจ่ายงบประมาณ
1) ตรวจสอบและควบคุมการเบิกจ่ายให้อยู่ในหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ และภายใต้งบประมาณ

ทไี่ ด้รบั การจัดสรร
2) ตรวจสอบเอกสารการจดั ซื้อ-จดั จ้าง และหลกั ฐานการเบิกจ่ายให้ถูกตอ้ งตามระเบยี บ

การประมวลผล/จัดทำรายงาน/การนำเสนอขอ้ มูล
1) ก่อนที่จะทำข้อมูลในโปรแกรมประมวลผลต้องตรวจสอบข้อมูลในแบบสอบถามให้ครบถ้วน

ถกู ต้อง มคี วามแนบนัยของข้อมูลในข้อถามที่มีความเชื่อมโยงกันกอ่ นท่ีจะบันทึกข้อมลู เพอื่ ลดความผิดพลาดท่ี
จะเกดิ ข้ึนในขนั้ ตอนประมวลผล ช่วยให้งานประมวลผลเสร็จเร็วขึ้น

2) จัดทำรายงานตามรูปแบบโครงร่างที่กำหนดให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย โดยนำเสนอทั้งใน
รูปแบบบทความวิเราะหข์ ้อมูล ตาราง แผนภมู ิ Infographic

สำนักงานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 26

3) กิจกรรมเสวนาระดับสถิติจังหวัด “แนวทางการบริหารโครงการสำมะโนธุรกิจและ

อุตาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนับจด/งานแจงนับ) ให้ประสบผลสำเร็จ” ได้มีการเสวนาในหัวข้อ แนวทาง

การบรหิ ารโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 (งานนบั จด/งานแจงนับ) ให้ประสบความสำเร็จอย่าง

โดยมผี รู้ ่วมเสวนา ดงั นี้

ผ้ดู ำเนินรายการ

1) นางวลิ าวรรณ์ แสนจันทร์ สถติ จิ งั หวดั สรุ ินทร์

2) นางยภุ าพร มูลอัต สถติ จิ งั หวัดหนองบวั ลำภู

ผรู้ ว่ มเสวนา สถิตจิ งั หวดั ศรสี ะเกษ
1) นายมณเฑยี ร เหลอื งเดชานรุ กั ษ์ สถิติจงั หวัดอุดรธานี
2) นายราชศักดิ์ ยึรัมย์ สถติ ิจังหวัดมหาสารคาม
3) นายนพดล เปา๋ อยู่สุข สถิตจิ งั หวดั อุบลราชานี
4) นางสดิ ารศั ม์ิ ธาราสมบัติ สถติ ิจงั หวัดมุกดาหาร
5) นางสาวพมิ พ์พร หรสิทธ์ิ สถติ ิจังหวัดนครพนม
6) นางสาวศริ พิ ุธ เจียมสกลุ สถิติจังหวัดหนองคาย
7) นายจักรพงษ์ คำพนั ธ์ สถติ ิจังหวัดกาฬสนิ ธุ์
8) นางกัญญล์ ภสั มหพิ นั ธุ์

การบริหารคน/การสรา้ งองค์ความรู้
1) กำกับ ติดตามงานโดยการประชุมอย่างสม่ำเสมอ เช่น ประชุมทุกวันจันทร์เพื่อติดตาม

ความก้าวหน้าของงาน พร้อมทัง้ รับฟงั ปญั หา อปุ สรรค และหาแนวทางแกไ้ ข
2) ทบทวนความรู้ที่ตอ้ งทราบในการออกปฏิบตั ิงานของเจา้ หนา้ ที่ และให้มีการแลกกนั ตรวจสอบ

ความถูกตอ้ ง แนบนัยของข้อมลู ในแบบสอบถาม
3) เขา้ ให้กำลงั ใจและให้ข้อแนะนำในการปฏบิ ัตงิ านเพ่ือกระตุน้ ให้การทำงานเสร็จทนั เวลา
4) เจ้าหน้าที่สถิติต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งจากการนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมมาใช้ใน

การปฏบิ ัติงาน รวมทงั้ สถานการณ์ความไม่ปกติท่จี ะเกดิ ขึ้น
5) แนะนำให้ความรู้ในการดำเนินชีวิตให้อยูใ่ นความพอเพียง ไม่ก่อหนี้เกินตัว เมื่อมีคุณภาพชีวิต

ท่ดี ียอ่ มสง่ ผลตอ่ การทำงานอย่างมคี วามสุขและคุณภาพข้อมูลท่ดี ี

การควบคุมคุณภาพงาน
1) ตั้งเป้าหมายการปฏิบัติงานให้ชัดเจนโดยคำนวณปริมาณงานที่จะต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จ

ในแต่ละสปั ดาห์ และแจง้ ใหผ้ อู้ นมุ ตั ิงานทราบ
2) กำกับ ตดิ ตามเจา้ หน้าท่ใี ห้ปฏิบัติงานเสร็จตามเป้าหมาย
3) ลงพื้นทสี่ ่มุ ตรวจสอบความถกู ต้อง ครบถว้ นของขอ้ มลู และยงั เปน็ การสรา้ งความค้นุ เคยกบั คน

ในชุมชน มีเครือข่ายที่เข้มแข็ง
4) ติดตาม Response rate ของงาน หาวธิ ีแก้ไขให้อยใู่ นเกณฑ์ท่ียอมรบั ได้ และเปน็ ไปตามเปา้ หมาย

สำนกั งานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พืน้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 27

การบริหารงานสนาม
1) จัดทำแผนปฏิบตั งิ านรวมทั้งกับกบั ติดตามงานใหเ้ ปน็ ไปตามแผนปฏิบตั ิงาน
2) มอบหมายงานให้ชัดเจนท้ังผปู้ ฏิบตั ิงาน ผู้ตรวจติดตามงาน
3) ทำงานเป็นทีมมีช่องทางในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ไปด้วยกัน เช่น Group Line รุ่นพี่มี

ประสบการณ์ชว่ ยแนะนำร่นุ น้อง

การบรหิ ารพืน้ ท่จี ัดเก็บขอ้ มลู
1) มอบหมายงานรบั ผดิ ชอบเป็นกลมุ่ อำเภอกระจายงานตามระยะใกล้ กลาง ไกล
2) จัดพ้ืนที่รบั ผิดชอบให้อยเู่ สน้ ทางเดียวกนั /พ้ืนทีใ่ กลเ้ คยี ง

การบริหารงานงบประมาณ
1) ตรวจสอบงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเทียบกับปริมาณงาน และหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายให้

เพียงพอ
2) จดั ทำแผนการเบกิ จ่ายงบประมาณควบคุมการเบิกจา่ ยใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์กฎระเบียบ

การบรหิ ารงานด้านวชิ าการสถติ ิ
1) ให้องค์ความรู้แก่บุคลากรในเรื่องงานโครงการสำมะโน/สำรวจ ได้แก่ ความเป็นมาของ

โครงการ วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั การบนั ทกึ แบบสอบถาม
2) ประชมุ แชร์ประสบการณ/์ ปัญหาท่พี บเจอ และหาแนวทางการแก้ไขรว่ มกนั

การสง่ เสรมิ การใชด้ จิ ิทัล
1) จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ข่าวสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เผยแพร่ให้ทุกภาคส่วนรับทราบตาม

ชอ่ งทางต่าง ๆ เชน่ เวบ็ เพจ Facebook Group Line
2) สร้างการรับรู้การให้ข้อมูลในช่องทางที่หลากหลาย เช่น การตอบสัมภาษณ์ การตอบ

แบบสอบถามออนไลน์

การบริหารเครือขา่ ยในพน้ื ท่/ี การบริหารงานประชาสัมพนั ธ์
1) การสร้างเครือข่ายในระดับพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เครือข่ายในระดับพื้นท่ี

ทหาร เป็นต้น และจัดทำทำเนยี บเครอื ข่ายสำหรับติดต่อประสานงาน
2) ขอความร่วมมือจากเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์งานตามภารกิจของหน่วยงาน

เชน่ ประชาสัมพนั ธ์ผา่ นหอกระจายขา่ วประจำหมูบ่ ้าน ปา้ ยประชาสมั พนั ธข์ อง อปท.

สำนกั งานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มลู พื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 28

บทที่ 5
การระดมความคิดเหน็ และการนำเสนอแนวทางการพฒั นาโครงการสำมะโน/สำรวจ

ของสำนกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ประกอบดว้ ย 20 จังหวัด ไดแ้ ก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู
เลย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์
สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ เป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของอนุภมู ิภาค
ลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านตะวันออก และด้านเหนือ
มแี ม่นำ้ โขงเป็นเส้นกนั้ พรมแดน และดา้ นใต้ติดตอ่ ราชอาณาจกั รกัมพชู า โดยมเี ทือกเขาพนมดงรกั ก้นั พรมแดน

พื้นที่และลักษณะภูมิประเทศ มีพื้นที่รวม 105.53 ล้านไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง มีความ
ลาดเอียงไปทางตะวันออก มีลักษณะคล้ายกระทะ แบ่งเป็น 2 เขตใหญ่ ได้แก่ บริเวณแอ่งที่ราบโคราช
อยู่บริเวณที่ราบลุ่มแมน่ ำ้ มูลและชี ลักษณะเป็นที่ราบสูงสลับกบั เนินเขา และบริเวณแอ่งสกลนคร อยู่ทางตอน
เหนือของภาค ตั้งแต่แนวเขาภูพานไปจนถึงแม่น้ำโขง เทือกเขาที่แบ่งระหว่างแอ่งโคราชและแอ่งสกลนคร
ไดแ้ ก่ เทือกเขาภพู าน

แหล่งนำ้ มีลมุ่ นำ้ ขนาดใหญ่ 3 ลุม่ น้ำ ได้แก่ ลมุ่ น้ำโขง ลมุ่ น้ำชแี ละลมุ่ นำ้ มูล ลำนำ้ หลักของภาค ได้แก่
แม่น้ำชี มีความยาวประมาณ 765 กิโลเมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย มีต้นน้ำที่ทิวเขาเพชรบูรณ์ และไหล
ไปรวมกับแม่น้ำมูลที่จังหวัดอุบลราชธานี แม่น้ำมูล มีความยาวประมาณ 641 กิโลเมตร ต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขา
สันกำแพงแล้วไหลลงสู่แมน่ ำ้ โขงที่จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ ยังมีลำน้ำสาขาย่อย ได้แก่ ลำปาว ลำน้ำอนู
ลำน้ำสงคราม ลำเสียว ลำน้ำเลย ลำน้ำพอง และลำตะคอง รวมทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่กระจาย
อยู่ในพื้นที่ เช่น หนองหาร (สกลนคร) และบึงละหาน (ชัยภูมิ) นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำบาดาล มีปริมาณน้ำ
ในเกณฑ์เฉลี่ย 5-10 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ที่ความลึกของบ่อประมาณ 30 เมตร คุณภาพของน้ำบาดาล
มีตั้งแต่เค็มจัด กร่อย และจดื เน่อื งจากพน้ื ที่ในแอ่งโคราชและแอง่ สกลนครจะรองรับด้วยหนิ เกลือ หากเจาะน้ำ
บาดาลลึกเกนิ ไปอาจจะพบน้ำเค็ม

ป่าไม้ในปี 2562 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่ป่าไม้ จำนวน 15.75 ล้านไร่คิดเป็นร้อยละ 14.9
ของพื้นที่ภาค หรือร้อยละ 15.4 ของพื้นที่ป่าไม้ทั้งประเทศ โดยจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าไม้ต่อพื้นที่จังหวัดมากที่สดุ
ไดแ้ ก่ จังหวดั มกุ ดาหาร รองลงมาคอื จังหวดั ชัยภมู ิ จงั หวดั เลย และจงั หวัดอุบลราชธานี ตามลำดับ

โครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกับโครงข่ายหลักของประเทศ และเชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
สปป.ลาว กมั พูชา และสามารถเชอ่ื มโยงไปยงั เวยี ดนามและจนี ตอนใต้ ดงั นี้

1) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) เชื่อมโยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1
(ถนนพหลโยธิน) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (อุดรธานี สกลนคร นครพนม) เชื่อมสู่ สปป.ลาว ผ่าน
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-แขวงคำม่วน) และมีถนนที่เชือ่ มโยงอุดรธานี-หนองคาย เชื่อมสู่
สะพานมติ รภาพไทย-ลาวแห่งท่ี 1 (หนองคาย-เวยี งจนั ทน์)

สำนกั งานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 29

2) เส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC)
เชื่อมโยงจากชายแดนไทย-เมียนมา จากจังหวัดตาก-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตามทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 12 (ชัยภมู ิ ขอนแกน่ มหาสารคาม กาฬสนิ ธุ์ มกุ ดาหาร) และเชอ่ื มสู่ สปป.ลาว
ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เป็นเส้นทางเชื่อมโยงการค้า การลงทุน
ภายใตก้ รอบความร่วมมอื กล่มุ ประเทศอนภุ มู ิภาคลุ่มแมน่ ำ้ โขง (GMS)

3) เส้นทางใหม่เศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก 2 (East- West Economic Corridor : EWEC 2)
เชอ่ื มโยงจากภาคกลางของเวยี ดนามในจังหวัดกว๋างนาม เขา้ สู่ สปป.ลาว ทางดา่ นดากตะอ๋อก ผ่านแขวงเซกอง
แขวงจำปาศกั ดิ์ สปป.ลาว และเขา้ สู่ไทยท่ดี ่านวังเตา่ -ช่องเม็ก จังหวัด อุบลราชธานี

4) รถไฟ มีเส้นทางเชือ่ มโยงกับพ้ืนท่ีเศรษฐกิจหลกั ของประเทศบริเวณภาคกลางและพื้นท่ีโครงการ
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 3 เส้นทาง ได้แก่ 1) กรุงเทพฯ-หนองคาย เชื่อมสู่ สปป.ลาว
2) กรุงเทพฯ-อบุ ลราชธานี 3) สายใหม่ เชื่อมโยงบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอด็ มกุ ดาหาร นครพนม

5) สนามบนิ มี 9 แหง่ เป็นสนามบินนานาชาติ 2 แหง่ คอื อุดรธานี และอบุ ลราชธานี และสนามบิน
ภายในประเทศ 7 แหง่ ได้แก่ ขอนแกน่ นครพนม นครราชสมี า สกลนคร บุรีรมั ย์ รอ้ ยเอด็ และเลย

6) ด่านชายแดน มี 15 ด่านถาวร 23 จุดผ่อนปรน ที่เป็นจุดเชื่อมโยงการค้าชายแดนกับประเทศ
เพ่อื นบ้าน

แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) รถไฟทางคู่ (ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น) ทางหลวงพิเศษ
ระหวา่ งเมอื ง (มอเตอร์เวย์บางปะอนิ -นครราชสีมา)

สภาพเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีขนาดเล็ก มูลค่าผลิตภัณฑ์ภาค ณ ราคาประจำปี 2562
เท่ากับ 1,596,094 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.4 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ ซึ่งลดลง เม่ือเทียบกับ
ปี 2555 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 10.3 ของประเทศ ประชากรภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้เฉลี่ยต่อประชากร
เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยของคนทั้งประเทศ ในปี 2562 ผลิตภัณฑ์ภาคต่อหัว
ประชากรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (GRP Per Capita) เท่ากับ 86,171 บาทต่อคนต่อปี ต่ำกว่า
ระดับประเทศมากกว่า 2.8 เท่า โดยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม
มุกดาหาร) มีผลติ ภัณฑภ์ าคตอ่ หวั ต่ำทสี่ ุดที่ 70,489 บาทต่อคนต่อปี และกลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) มีผลิตภัณฑ์ภาคต่อหัวสูงที่สุดในกลุ่มที่ 94,196 บาท
ตอ่ คนต่อปี

บทบาทของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นฐานการผลิตการเกษตรทง้ั ขา้ ว อ้อยโรงงาน มนั สำปะหลัง
และเปน็ แหลง่ ผลิตข้าวหอมมะลิทด่ี ีทสี่ ุดของประเทศ รวมทัง้ มที ำเลท่ีต้ังที่มศี ักยภาพเหมาะสม กับการเช่ือมโยง
ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน มีทรัพยากรท่องเที่ยวที่หลากหลาย และมีสถาบันการศึกษาและ
สถาบันวิจัยที่มีความสามารถเฉพาะทางที่โดดเด่น แต่มีปัญหาพื้นฐานด้านการขาดแคลนน้ำดิน คุณภาพต่ำ
ประสบอุทกภัยและภัยแล้งซ้ำซาก คนมีปัญหาทั้งในด้านความยากจน และคุณภาพชีวิต ดังนั้นการพัฒนา

สำนักงานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 30

เศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐาน โดยใช้ความรู้ เทคโนโลยี
นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
ในการเสริมสร้างความเขม้ แข็งเศรษฐกิจภายในภาคใหม้ กี ารเจริญเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

ทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็น “ศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง”
โดยพัฒนาภาคเกษตรไปสู่เกษตรสมัยใหม่ เพื่อต่อยอดไปสู่เศรษฐกิจ ชีวภาพ เชื่อมโยงการค้า การลงทุน
ในภูมิภาค ตามแนวคิดการเป็นฐานการผลิตของประเทศท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม เป็นประตูเชื่อมโยงประเทศ
เพื่อนบ้านเพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
โดยกำหนดทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NE Direction) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา 3G
ได้แก่ Green พัฒนาเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ พัฒนาโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (เศรษฐกิจ
ชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio Circular Green Economy) และการบริหาร
จัดการน้ำอย่างยั่งยืน Growth โดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนา
พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนการพัฒนาศูนย์กลางบริการทางการแพทย์
พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ท่องเที่ยวชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิต และ Gate ใช้โอกาสจากการเชื่อมโยง
เศรษฐกิจชายแดน ระเบยี งเศรษฐกจิ พิเศษ พัฒนาการค้า การลงทุน การทอ่ งเทย่ี ว และโลจิสตกิ ส์

ตัวอยา่ งแผนงานสำคญั
1) แผนงานเพ่ิมศกั ยภาพการผลิตขา้ วหอมมะลิท่งุ กลุ าร้องไห้ สู่มาตรฐานเกษตรอินทรยี ท์ ุ่งกุลาร้องไห้
โดยมีการส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร ตลอดจนภูมิปัญญา และองค์ความรู้ที่
นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนากระบวนการผลิตและการแปรรูปที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
ในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งยกระดับคุณภาพมาตรฐานและการยอมรับของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึง่ ตอ้ งมกี ารพฒั นาท้ังตัวมาตรฐาน กระบวนการตรวจรับรอง และการตรวจสอบย้อนกลบั ให้เกษตรกรสามารถ
เข้าถึงได้อย่างกว้างขวางและไม่เป็นภาระต้นทุนการผลิต โดยสนับสนุนกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรและ
ผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
เกษตร ตลอดจนพัฒนาระบบกระบวนการรับรองให้มีความรวดเร็ว และระบบการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อใช้
ในการตดิ ตามตรวจสอบที่ตน้ ทาง

2) แผนงานพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฐานเศรษฐกิจชีวภาพ
(NeEC-Bioeconomy) เน้นส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ
กระบวนการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ และพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมชีวภาพเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
โดยสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบชีวภาพ รวมถึงการพัฒนาระบบจัดการเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาทาง
ชีวภาพ รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชีวภาพในการสร้างนวัตกรรม ให้คำแนะนำและสนับสนุน
การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ สถานศึกษา และหน่วยงานวิจัยของภาครัฐ เพื่อสร้าง
ความเข้มแขง็ ของเศรษฐกจิ ภายในภาคใหม้ ีการเจริญเตบิ โต

ทมี่ า : กรอบแผนพัฒนาภาค พ.ศ. 2566 – 2570 สำนกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ

สำนกั งานสถติ ิจังหวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 31

จากสภาพภูมิประเทศและสภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัดส่งผลต่อ
การดำเนินงานโครงการสำมะโน/สำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้
การขับเคลื่อนงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นไปตามแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานสถิติ
จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงได้จัดกิจกรรมการระดมความคิดเห็นและการนำเสนอแนวทางการพัฒนา
โครงการสำมะโน/สำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางแก้ไข หรือแนวทางในการปฏบิ ตั ิงานท่ีดี (Good Practice) พร้อมข้อเสนอแนะการพฒั นางานโครงการ
สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมในครั้งต่อไปให้ประสบผลสำเร็จ โดยการแบ่งกลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกฉียงเหนอื
20 จังหวัด เป็น 5 กลมุ่ ดังน้ี

กลุ่มที่ 1 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วยจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย
จังหวดั บึงกาฬ จังหวัดหนองหบวั ลำภู และจังหวดั อดุ รธานี ระดมความคดิ เห็นและนำเสนอเรื่อง “การวางแผน
และเตรียมงาน” เช่น การบูรณาการข้อมูลจากระบบทะเบียน ปริมาณงาน แผนที่/บั ญชีเขตสำมะโน
การจดั สรรงบประมาณ การจัดหาบุคลากร แผนการประชาสัมพันธ์/ส่ือ การขอความรว่ มมือจากหนว่ ยงานต่าง ๆ

ผู้นำเสนอข้อมลู สำนักงานสถติ จิ งั หวดั บึงกาฬ
1) นายวิชัย สิมมาน้อย นักวิชาการสถิติชำนาญการพิเศษ สำนักงานสถิตจิ งั หวดั หนองคาย
2) น.ส.อุมาพร สุวรรณปยิ ะการ เจา้ พนักงานสถิตอิ าวุโส

แนวทางการปฏิบัตงิ านทีด่ ี (Good Practice)
1) เตรียมข้อมูลการบูรณาการข้อมูล ข้อมูลจากระบบทะเบียน ได้แก่ ข้อมูลสถานประกอบการ

ของกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า ข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม
2) ปริมาณงาน แผนท/ี่ บญั ชีเขตสำมะโน
3) การจัดหาบุคลากร/จัดทำคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่กำกับงานของจังหวัด/ประชุมชี้แจง

การปฏิบตั งิ าน
4) ประชาสัมพันธ์ พร้อมกับประสานงานเพื่อขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ (สื่อวิดิโอ คลิป

สปอร์ตวทิ ยุจาก สสช. สปอร์ตวิทยุภาษาถน่ิ ) Viewboard : VTR

ปญั หาและอปุ สรรค
1) ผ้ปู ฏิบตั งิ านเปน็ เจา้ หนา้ ท่ีใหม่ขาดประสบการณ์ในการทำงานงานสนาม
2) ผู้ปฏิบัติงานสนามขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการจึงไม่สามารถ

ตอบคำถามสถานประกอบการได้
3) สถานประกอบการไม่ให้ความร่วมมอื
4) การประชาสมั พันธไ์ ม่ทั่วถงึ
5) รา้ นคา้ ต่าง ๆ ไม่ให้ขอ้ มลู เนอื่ งจากเกรงกลัวข้อมลู เช่อื มโยงด้านภาษี

แนวทางแก้ไขปัญหา
1) อบรมพนกั งานสนามในการวางแผนปฏิบัติงาน

สำนักงานสถิติจงั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 32

2) มพี เี่ ล้ยี งในการดูแลพนกั งานสนาม
3) ประสานงานหอการค้าจัดหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สถาน
ประกอบการรบั ทราบ และขอความร่วมมือในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
4) เพิม่ การประชาสมั พนั ธ์หลากหลายชอ่ งทาง ใชส้ ่อื ท้องถน่ิ จดั ทำสปอร์ตประชาสมั พนั ธภ์ าษาทอ้ งถิ่น
5) ให้ความรแู้ ละความชัดเจนในการปฏิบัตงิ านแกส่ ถานประกอบการ และหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
6) เพิม่ ความเชอื่ ม่นั ให้กบั สถานประกอบการ

ขอ้ เสนอแนะ
1) เพ่ิมช่องทางในการสำรวจ
- วธิ ีการสำรวจทาง E-mail
- วิธกี ารสำรวจทางโทรศพั ท์
- วิธกี ารสำรวจออนไลน์
2) โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านเกิดความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงานสามารถตรวจสอบ
3) วิธสี ำรวจทีส่ ามารถเสนอผลระดบั พื้นท่ี (ตำบล,หม่บู ้าน)

กล่มุ ที่ 2 กลมุ่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วยจงั หวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร
และจังหวัดสกลนคร ระดมความคิดเห็นและนำเสนอเรื่อง “การเก็บรวบรวมข้อมูล” เช่น คาบเวลางานสนาม
การประชาสมั พันธ์ วิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมลู เครอื่ งมือในการจัดเก็บขอ้ มูล รายการข้อถาม

ผูน้ ำเสนอข้อมลู

1) นางสาววรญั ญา สุขวงศ์ นกั วชิ าการสถิติชำนาญการพิเศษ สำนกั งานสถติ จิ ังหวดั สกลนคร

2) นายชิษณุ อาดี เจา้ พนกั งานสถติ ิชำนาญงาน สำนักงานสถิติจังหวัดมุกดาหาร

แนวทางการปฏิบตั ิงานทด่ี ี (Good Practice)
1) ระยะเวลาในการจดั เกบ็ ข้อมลู มคี วามเหมาะสม คาบงานมคี วามเหมาะสม
2) ระบบบนั ทึกขอ้ มูลช่วยใหม้ คี วามสะดวกในการบันทึกข้อมูล
3) มกี ารอบรมเจา้ หน้าท่ใี ห้เขา้ ใจคำนยิ ามก่อนการปฏบิ ัตงิ าน
4) เครอ่ื งมอื ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทท่ี ันสมยั
5) การแต่งกายของเจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั ิงานต้องมีความเชือ่ ถือได้

สำนักงานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนินงานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 33

ปัญหาและอุปสรรค
1) สถานประกอบการขนาดใหญไ่ ม่ให้ความรว่ มมอื
2) แบบสำรวจมขี อ้ ถามทีม่ ากเกินไป
3) ปจั จบุ ันมีแก๊ง Call Center ทำให้เจา้ หน้าทจ่ี ัดเก็บขอ้ มลู ยากขึ้น
4) สถานประกอบการกลัวการจ่ายภาษี จงึ ให้ขอ้ มลู ท่ีไม่เปน็ จริง
5) ไดข้ ้อมูลไม่ครบถว้ น
6) ระบบบันทึกขอ้ มลู ควรเช็ค Error ในข้นั ตอนท่ีเจ้าหน้าทีผ่ ูป้ ฏิบัติงานบนั ทึกข้อมูล จะไดไ้ ม่เสียเวลา

ในการแกไ้ ขขอ้ มูล และเปน็ การลด Process ในกระบวนงานบันทกึ และ Edit ข้อมูล

แนวทางแก้ไข
1) ลดจำนวนข้อถามในแบบสอบถามให้กระชับมากกวา่ นี้
2) เจา้ หน้าทจ่ี ดั เก็บข้อมูลควรตรวจสอบ ขอ้ มูลใหค้ รบถว้ นกอ่ นออกจากสถานประกอบการ
3) อธิบายวตั ถุประสงคข์ องโครงการให้สถานประกอบการไดร้ ับรู้ถงึ ประโยชนใ์ นการจัดเกบ็ ขอ้ มลู

ข้อเสนอแนะ
ควรมีการประชาสัมพันธ์ที่ประชาชนติดตามในช่องทางหลัก หรือรายการที่ประชาชนให้ความ

สนใจ เชน่ ข่าวเรื่องเลา่ เชา้ นี้ หรอื สถานขี ่าวที่มี Rating สงู

กลุ่มที่ 3 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ประกอบด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น
จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด ระดมความคิดเห็นและนำเสนอเรื่อง “การประมวลผลข้อมูล”
เชน่ โปรแกรมท่ีใชป้ ระมวลผล การตรวจสอบขอ้ มูลให้มคี ณุ ภาพ ความครบถ้วนของขอ้ มลู

ผนู้ ำเสนอขอ้ มูล
1) นายประเทอื ง ภูสะทด เจา้ พนกั งานสถิติอาวโุ ส สำนักงานสถติ ิจงั หวัดขอนแกน่
2) นางสาวนฏกร เพชรพชั รกุล นกั วชิ าการสถติ ิปฏบิ ตั กิ าร สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดมหาสารคาม

แนวทางการปฏิบัตงิ านท่ดี ี (Good Practice)
การปฏิบัติ คือ ต้องตรวจสอบข้อมูลที่เก็บรวบรวมให้ถูกต้อง ตรวจความแนบนัยก่อนบันทึกข้อมูล

เพ่ือลด Error ท่ีจะเกิดขน้ึ ในข้นั ตอนการประมวลข้อมูล

สำนักงานสถิติจังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จงั หวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 34

ปญั หาและอปุ สรรค
1) การลา่ ช้าของโปรแกรม
2) ขอ้ มลู ไม่ถกู ตอ้ ง ครบถ้วนและไมแ่ นบนยั
3) ตารางทีป่ ระมวลออกมาไม่ถูกต้อง
4) เคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์ ไม่ทนั สมัย ไมส่ อดคล้องกับโปรแกรมทส่ี ว่ นกลางจดั ทำขึ้น
5) จงั หวัดท่ีมีขนาดใหญม่ ีปญั หาในการรวมขอ้ มูล
6) Web app ควรกำหนดความแนบนยั ในโปรแกรม

แนวทางการแกไ้ ข
1) ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครบถว้ น แนบนยั กอ่ นบันทึก
2) พัฒนาโปรแกรมใหม้ ีความสมบรู ณ์กอ่ นใช้จรงิ
3) สนับสนุนเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ท่ีทนั สมัย รองรับโปรแกรมท่ีส่วนกลางจัดทำขึ้นให้แก่สำนักงาน

สถิตจิ งั หวดั

ข้อเสนอแนะ
เม่ือมกี ารจัดทำโครงการสำมะโน ไมค่ วรมโี ครงการอน่ื เขา้ มาแทรก ยกเว้นโครงการประจำ

กลุ่มท่ี 4 กลุม่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนลา่ ง 1 ประกอบด้วยจงั หวดั นครราชสมี า จงั หวัดชัยภูมิ
จังหวัดบรุ ีรัมย์ และจังหวัดสุรนิ ทร์ ระดมความคิดเหน็ และนำเสนอเร่ือง “การนำเสนอผลและให้บริการข้อมูล”
เช่น รปู แบบรายงาน ช่องทางการใหบ้ ริการ การเขา้ ถงึ ขอ้ มูล เปน็ ตน้

ผู้นำเสนอข้อมลู
1) นางสาวกรรณิการ์ เสนา นักวิชาการสถติ ชิ ำนาญการพิเศษ สำนักงานสถติ จิ งั หวดั นครราชสมี า
2) นางแสนยากรณ์ นาสูงเนนิ นักวิชาการสถิติชำนาญการ สำนกั งานสถติ ิจงั หวัดชัยภมู ิ

แนวทางการปฏิบัตงิ านท่ีดี (Good Practice)
1) รายงานผลโครงการ/สำมะโน/สำรวจ ถกู จดั ทำข้ึนเปน็ รปู เล่มรายงาน ดิจทิ ัลไฟล์ (E-Book) เพอ่ื ความ

สะดวกในการสืบค้นขอ้ มูลของผทู้ ่ตี ้องการใช้ข้อมูล
2) นำขอ้ มูลข้ึนเผยแพร่บน Website ของสำนักงานสถติ ิจังหวัด / Facebook / สอื่ ออนไลนต์ า่ งๆ

สำนกั งานสถิตจิ งั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมลู พ้ืนฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 35

ปญั หาและอปุ สรรค
1) ข้อมูลบน Website สำนักงานสถิติจงั หวดั มีจำนวนมาก ผู้ใช้ขอ้ มูลไมส่ ามารถเข้าถึงข้อมูลท่ีต้องการ

ไดโ้ ดยงา่ ย
2) ผู้ใชข้ อ้ มลู บางท่าน/บางส่วน ไม่ทราบวา่ มขี ้อมลู อะไรบ้างทส่ี ำนักงานสถิตจิ ังหวัดทำการเผยแพร่
3) ระดบั การนำเสนอขอ้ มูลบางรายการไม่มขี ้อมูลในระดบั พื้นท่ี
4) การนำเสนอข้อมูลยังไมเ่ ป็นปัจจบุ ัน
5) บคุ ลากรยังไมส่ ามารถให้บรกิ ารข้อมลู ไดท้ ุกคน

แนวทางการแกไ้ ข
1) จัดทำ Banner เพ่อื ใหเ้ ขา้ ถึงขอ้ มลู โดยงา่ ย
2) จัดทำสือ่ ประชาสมั พนั ธ์ เผยแพร่ข้อมูลโครงการต่างๆ
3) จัดอบรมบุคลากรของหน่วยงานให้มคี วามร้คู วามสามารถในเรือ่ งการใหบ้ ริการขอ้ มูล

ขอ้ เสนอแนะ
1) การจดั ทำรายงานหรือการนำเสนอผลจากการสำมะโนควรมีขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายด้วย
2) ส่งเสรมิ การใชข้ ้อมูลบนระบบบญั ชขี อ้ มลู ภาครัฐ GD Catalog

กลุ่มที่ 5 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วยจังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ

จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี ระดมความคิดเห็นและนำเสนอเรื่อง “การขับเคลื่อน GD

Catalog และแผนพฒั นาสถติ ริ ะดบั พ้ืนที่”

ผูน้ ำเสนอขอ้ มลู

1) นายจิตรกร ประทมุ ทพิ ย์ นักวิชาการสถติ ชิ ำนาญการพเิ ศษ สำนักงานสถติ ิจงั หวัดยโสธร

2) นางสาวจรุ ีรัตน์ ทาทอง เจ้าพนักงานสถิติอาวโุ ส สำนักงานสถติ ิจังหวดั อำนาจเจริญ

แนวทางการปฏบิ ัตงิ านที่ดี
แบ่งหน้าที่ในการประสานงานที่ชดั เจน มีการติดตามข้อมูลอย่างเป็นระบบ สามารถปฏิบัติงานได้ตาม

แผนงานท่กี ำหนด การสอนงานให้แกเ่ จา้ หนา้ ทผี่ ู้รบั ผดิ ชอบ การเรยี นรเู้ ทคโนโลยใี หมๆ่ และทกั ษะท่จี ำเป็นในการทำงาน

สำนักงานสถิตจิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 36

ปญั หาและอปุ สรรค
1) หนว่ ยงานไมม่ ขี อ้ มูล และมีขอ้ มูลไม่ถูกต้อง ครบถ้วน
2) มีการเปลยี่ นแปลงบคุ ลากรของ หน่วยงานทีร่ ับผดิ ชอบข้อมูล
3) จังหวดั ทีม่ ีการปรบั ปรุงแก้ไข เปล่ียนประเด็น Pain Point เน่อื งจากมกี ารโยกย้ายผวู้ ่าราชการจงั หวัด

(ผวู้ ่าราชการจงั หวัดเปลี่ยนประเดน็ Pain Point ใหม)่
4) ผู้รับผิดชอบในแตล่ ะหนว่ ยงาน ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้งานระบบ GD catalog
5) บุคลากรทปี่ ฏบิ ตั งิ านสนาม ยงั ขาดความเข้าใจ ในการขบั เคล่อื น GD catalog
6) กลมุ่ ปฏบิ ัติงานสนาม มกี ำหนดคาบการทำงาน ตรงกับงานวชิ าการ หรือ การประชมุ ฯ

แผนพฒั นาสถิตริ ะดบั พื้นที่
1) แผนพัฒนาสถิติระดับพื้นท่ี มลี กั ษณะเชงิ วชิ าการ แตกต่างจากแผนพัฒนาจงั หวดั หรือ แผนอื่น ๆ
2) ยังไม่มรี ปู แบบการนำไปใชอ้ ยา่ งเป็นรูปธรรม
3) ขาดงบประมาณในการดำเนนิ งานจดั ทำแผนฯ

แนวทางการแก้ไขปัญหา
1) สรา้ งการรับรูใ้ หก้ บั หนว่ ยงานต่าง ๆ และผใู้ ช้ข้อมลู
2) ใหห้ นว่ ยงานมอบหมาย ผรู้ บั ผดิ ชอบขอ้ มลู ของหน่วยงานโดยตรง
3) ให้หน่วยงานเจ้าของข้อมูลหลัก เป็นผู้ขับเคลื่อน GD catalog ในเรื่อง/ประเด็นนั้น ๆ โดยให้

สำนักงานสถติ ิจังหวดั เป็นทป่ี รกึ ษา
4) การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบการถ่ายทอดองค์ความรู้

ให้เหมาะสม เช่น รปู แบบการอบรม ระยะเวลาการอบรม การประสานงานในระดับนโยบายเพอื่ ส่งบคุ ลากรเขา้ อบรม

แผนพัฒนาสถิตริ ะดบั พ้นื ท่ี
1) สง่ เสรมิ และขบั เคลื่อนแผนพฒั นาสถติ ริ ะดับพ้ืนท่ี เพือ่ นำไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างเปน็ รูปธรรม
2) จัดสรรงบประมาณในการดำเนนิ งาน

ขอ้ เสนอแนะ
การถ่ายทอดองค์ความรู้ในการจัดทำ GD catalog / แผนพัฒนาสถิติระดับพื้นที่ ให้แก่บุคลากร

ของสำนักงานสถิติจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ควรจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการรูปแบบ
work shop เป็นกล่มุ จังหวัด

สำนักงานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มูลพื้นฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 37

บทท่ี 6
สรปุ การประชุมเชงิ ปฏิบัติการสรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมลู พ้ืนฐานของสถานประกอบการ

โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ระดับภาค ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื

ประเด็น แนวทางปฏิบัติที่ดี ปัญหา/อุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ
แนวทางแก้ไข การพฒั นาโครงการ
1. การวางแผน 1.ตรวจสอบปรมิ าณงานท่ี 1. บุคลากรผปู้ ฏิบตั งิ าน
และเตรยี มงาน จะต้องดำเนนิ การโดยการ เป็นผู้เข้าทำงานใหม่ สำมะโนคร้ังตอ่ ไป
ยงั ขาด ความรู้ ความ 1. ให้องคค์ วามรแู้ ก่ - การเกบ็ รวบรวม
ตรวจสอบบญั ชเี ขตสำมะโน เขา้ ใจ และ บคุ ลากรในเรื่องงาน ขอ้ มูลควรมี
ตรวจสอบฐานขอ้ มลู สถาน ประสบการณ์ ในการ โครงการสำมะโนธรุ กิจ หลากหลายขอ่ งทาง
ประกอบการมีการนำ เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลใน และอุตสาหกรรม เช่น วธิ สี มั ภาษณ์
ฐานขอ้ มูลมาบรู ณาการ ภาคสนาม ใหค้ รอบคลมุ ความ วธิ สี ำรวจแบบ
ร่วมกนั เพื่อใหข้ อ้ มูล 2. บคุ ลากรผปู้ ฏิบตั ิงาน เป็นมาโครงการ ออนไลน์
ครอบคลมุ จะพบว่ามขี ้อมลู มคี วามรเู้ กีย่ วกบั วตั ถุประสงค์
ซำ้ ซ้อนกันในแต่ละฐาน รายละเอียดของ ประโยชนท์ ่จี ะไดร้ ับ
จะต้อง Merge ขอ้ มูล โครงการยงั ไม่ครบถ้วน รวมทงั้ แลกเปลย่ี น
2. เตรียมแผนทค่ี มุ เขต และ ส่งผลใหไ้ มส่ ามารถตอบ ประสบการณ์งานเกบ็
แผนทป่ี ฏิบัติงาน (EA) ขอ้ สงสัยของสถาน รวบรวมขอ้ มลู จากร่นุ พี่
3. ตรวจสอบงบประมาณที่ ประกอบการได้ สู่รุน่ นอ้ ง
ไดร้ ับการจัดสรร และ 3. การประชาสมั พันธ์ 2. จัดทมี ปฏบิ ตั งิ านให้
วางแผนการใช้จา่ ย ยังไม่ทั่วถึง มที ้งั คนร่นุ พ่ี และรุน่
งบประมาณให้อยใู่ น กลุ่มเป้าหมาย นอ้ ง เพื่อท่รี ุ่นพ่ีผูม้ ี
หลักเกณฑ์ กฎระเบยี บ ประสบการณ์
4. จัดอตั รากำลังบุคลากรใน มากกวา่ จะไดเ้ ปน็
การปฏิบัติงาน พเี่ ลี้ยงชว่ ยแนะนำ
4.1 4.1 การคดั เลือกคนเข้า และชว่ ยแกป้ ญั หา
ทำงาน นอกจากคดั ความรู้ 3. จัดทำหนงั สือ
ความสามารถแล้ว ต้องดู ประสานแจง้
อำเภอที่อยอู่ าศัยดว้ ย การดำเนินโครงการ
พยายามให้ครอบคลุมทุก รวมทง้ั ขอความ
โซนพนื้ ท่ีของจังหวดั เพราะ อนุเคราะห์ในการ
การรู้จกั พื้นท่คี ือการ ประชาสมั พนั ธ์ต่อไปกับ
ไดเ้ ปรียบในการปฏิบตั ิงาน ประธานหอการค้าและ
4.2 4.2 การให้องคค์ วามรแู้ ก่ ประธานสภา
บุคลากรในเรอื่ งงาน อุตสาหกรรม
โครงการสำมะโนธุรกจิ และ 4. ประชาสมั พันธ์ท่ี
อตุ สาหกรรม ความร้ทู ่ีให้ หลากหลายชอ่ งทาง
และต่อเนอื่ ง

สำนกั งานสถติ จิ ังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มูลพ้นื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 38

ประเดน็ แนวทางปฏบิ ตั ิท่ีดี ปญั หา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาโครงการ

สำมะโนคร้ังต่อไป

ไดแ้ ก่ ความเป็นมาโครงการ
วัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่
ได้รบั ความรู้เกย่ี วกับพน้ื ที่
ปฏิบัตงิ าน และงานอนื่ ๆ
ท่เี กี่ยวขอ้ ง
4.3 การแบง่ งานท่ีเหมาะสม
กบั ภาระหนา้ ที่ และตำแหนง่
งานซง่ึ มหี น้าทค่ี วาม
รับผดิ ชอบงานแตกตา่ งกนั
เชน่ ผ้ทู ่ีมงี านประจำ
สำนกั งานจะไดร้ ับมอบหมาย
งานเกบ็ รวบรวมข้อมลู น้อย
กวา่ เจา้ หน้าท่เี ก็บรวบรวม
ข้อมลู โดยตรง
4.4 การมอบหมายงานให้
เกิดความพึงพอใจแก่
ผูป้ ฏบิ ตั ิงาน เชน่ การ
มอบหมายงานในพื้นที่ใกล้
บ้านจะทำให้การทำงาน
เสรจ็ เร็ว เนื่องจากลดเวลา
เดินทางเข้าพนื้ ทีป่ ฏิบัติงาน
รวมทง้ั ความคุ้นชนิ กับพน้ื ท่ี
4.5 แบ่งงานตามระยะทาง
ใกล้ กลาง ไกล และแบ่ง
ตามความยากง่ายของสถาน
ประกอบการ ใหม้ สี ัดสว่ น
ใกล้เคียงกันรวมทงั้
มอบหมายงานให้แตล่ ะคน
รับผดิ ชอบเป็นกล่มุ อำเภอ
ไมใ่ ห้ต้องรับผดิ ชอบงานใน
ทุกอำเภอ
4.6 กำหนดแผนลงพ้นื ท่ีการ
ปฏิบตั งิ านของบุคลากรให้
ชัดเจน (Man Day) คำนวณ
ปรมิ าณงานท่ีจะต้องปฏบิ ตั ใิ ห้

สำนกั งานสถติ จิ งั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 20 จังหวดั

สรปุ ผลการดำเนนิ งานและนำเสนอข้อมูลพนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกจิ และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 39

ประเดน็ แนวทางปฏบิ ัตทิ ด่ี ี ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางแกไ้ ข ข้อเสนอแนะ
การพฒั นาโครงการ
2. การเก็บ
รวบรวมขอ้ มลู สำมะโนคร้ังตอ่ ไป

แล้วเสร็จ ในแต่ละสัปดาห์

อย่างนอ้ ยต้องได้กี่แหง่

5. ประชาสมั พันธ์งาน

โครงการใหท้ ุกภาคสว่ นรบั รู้

รบั ทราบโดยเฉพาะ

กลมุ่ เปา้ หมายหลักของ

โครงการ โดยการ

ประชาสมั พนั ธห์ ลากหลาย

ช่องทาง เชน่ จดั ทำปา้ ยไวนิล

สปอร์ตวิทยุ คลปิ วีดโี อ

Infographic

6. สรา้ งเครือข่ายในระดบั

พ้นื ท่ี เช่น เครอื ขา่ ย

กระทรวงมหาดไทย ในส่วน

ของอำเภอ กำนนั /ใหญ่บา้ น/

ผู้นำชุมชน เครือขา่ ยใน

ขอบเขตพ้ืนทีค่ า่ ยทหาร โดยมี

การทำหนังสอื ประสานขอเขา้

ประชุม กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/

ผู้นำชุมชนในการประชา

สัมพันธ์การสรา้ งการรับรู้

การดำเนนิ โครงการรวมทง้ั

การขออนุญาตเขา้ พนื้ ที่

ล่วงหนา้

1.การเตรยี มตวั ก่อนออก 1. สถานประกอบ 1. ก่อนทำการ - ควรปรับข้อถามให้

ปฏบิ ตั ิงานภาคสนาม การบางแห่งไมใ่ ห้ความ สัมภาษณ์/ทอด มจี ำนวนข้อถาม

จะต้องแต่งกายสภุ าพ มีบตั ร รว่ มมอื แบบสอบถาม ให้ นอ้ ยลง

ประจำตัวพนักงานเจ้าหนา้ ที่ 2. ปัจจบุ ันมีแก๊งหลอก- เจา้ หนา้ ทีป่ ฏบิ ตั งิ าน เพื่อสถาน

ตามพระราชบญั ญตั สิ ถติ ิ ลวง Call Center ทำให้ แนะนำตวั แสดงหนังสอื ประกอบการ

พ.ศ. 2550 เพื่อแสดงตวั ต่อ สถานประกอบการ ขอความร่วมมอื ชแ้ี จง จะไดม้ องวา่ ไม่

ผปู้ ระกอบการ เตรียมแบบ ระแวงเจ้าหน้าทผ่ี ู้ปฏิบตั ิ วัตถุประสงคข์ อง เสียเวลา

สอบถาม ทบทวนความ งานสนาม ส่งผลให้ โครงการใหส้ ถาน เปน็ ภาระในการตอบ

เข้าใจแบบสอบถามใหพ้ ร้อม ทำงานเก็บรวบรวม ประกอบการทราบ ข้อถาม รวมท้งั พัฒนา

2. ควรศกึ ษาพื้นทที่ ีต่ อ้ งออก ขอ้ มูลไดย้ ากกว่าเดมิ รวมทง้ั ประโยชน์ท่ี ชอ่ งทางการให้ข้อมูล

ปฏิบตั งิ านภาคสนามกอ่ น 3. สถานประกอบ แต่ละภาคส่วนจะไดร้ ับ แบบออนไลน์

ออกปฏิบตั ิงาน บางพื้นทีม่ ี จากการใหข้ ้อมลู ครง้ั น้ี - ควรสรา้ งการรบั รู้

สำนกั งานสถติ ิจงั หวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 20 จงั หวดั

สรุปผลการดำเนนิ งานและนำเสนอขอ้ มลู พนื้ ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 40

ประเด็น แนวทางปฏบิ ัติทีด่ ี ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางแกไ้ ข ขอ้ เสนอแนะ
การพัฒนาโครงการ
แผนที่เขตปฏบิ ตั งิ านกใ็ ห้นำ การเกรงว่าการให้ข้อมูล 2. เจ้าหนา้ ท่ี
สำมะโนครั้งตอ่ ไป
ตดิ ตัวไปด้วยและเมอื่ เขา้ จะมกี ารเชอื่ ม ผู้ปฏบิ ตั งิ านต้อง
เกยี่ วกับการดำเนนิ
พนื้ ทใ่ี หส้ อบถามตรวจสอบ โยงด้านการจดั เก็บ ตรวจสอบความ
โครงการให้มกี ารรับรู้

เพ่ิมข้นึ กว่าเดิม

ขอบเขตของพ้นื ท่กี ับกำนัน ภาษี ถกู ต้อง ครบถ้วนของ

ผูใ้ หญ่บ้าน ผ้นู ำชมุ ชนอีก 4. สถานประกอบการ ข้อมลู ก่อนออกจาก

รอบ สะทอ้ น สถานประกอบการ

3. ชว่ งเริ่มตน้ มอบหมาย ว่าแบบสอบถามมจี ำนวน

ปรมิ าณงานท่ีน้อยกอ่ น ขอ้ ถามมาก

เพ่อื ใหเ้ รียนรคู้ ุ้นซนิ กับข้อถาม 5. สถานประกอบการให้

ในงานภาคสนาม รวมท้งั ข้อมูลไมค่ รบถ้วน

ตรวจสอบความเช่ือมโยงกนั

ของขอ้ มูลแต่ละขอ้ ถาม

เม่อื มีความเขา้ ใจบนั ทึก

แบบสอบถามได้ถกู ตอ้ งดแี ลว้

จงึ มอบหมายปริมาณงานเพ่ิม

ตามสดั ส่วนงานท่พี งึ ต้อง

รับผิดชอบ

4. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู

ภาคสนามในช่วงเรม่ิ ตน้ ตอ้ ง

ให้รุน่ พ่รี ่วมออกพนื้ ทีก่ ับรนุ่

น้อง เพอื่ ท่รี ุน่ พที่ ม่ี ี

ประสบการณง์ านสนาม

มากกว่าจะไดช้ ่วยแนะนำร่นุ

นอ้ ง รวมทัง้ ช่วยแกป้ ญั หาที่

อาจเกิดขึ้นได้ในงาน

ภาคสนาม

5. กำชับให้ผูป้ ฏิบัติงานนำ

คมู่ อื ปฏิบตั ิงานตดิ ตวั ไปด้วย

ในการปฏิบัตงิ านภาคสนาม

6. ต้งั กลุ่ม Line สำหรบั ถาม

- ตอบ ปัญหาเกีย่ วกบั งาน

ช่วยกนั แกป้ ญั หา

7. กำกับและตดิ ตามงาน

สนามอยา่ งสม่ำเสมอ

เพอ่ื ช่วยเป็นกำลงั ใจ ให้

ข้อแนะนำในการปฏิบตั ิงาน

สำนักงานสถติ จิ ังหวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวดั

สรุปผลการดำเนินงานและนำเสนอขอ้ มลู พน้ื ฐานของสถานประกอบการโครงการสำมะโนธุรกิจและอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2565 41

ประเดน็ แนวทางปฏบิ ตั ิท่ดี ี ปัญหา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ขอ้ เสนอแนะ
การพฒั นาโครงการ

สำมะโนครง้ั ต่อไป

รวมท้งั ตรวจสอบ ความ
ถกู ต้อง ครบถ้วนของข้อมูล
สถานประกอบการ
8. การทำงานเปน็ ทมี มกี าร
รว่ มมือสรา้ งสายสมั พนั ธ์ท่ีดี
ระหวา่ งกนั ทำให้งานมี
คณุ ภาพ และทนั เวลา
9. การเข้าพน้ื ที่ปฏิบัตงิ าน
ภาคสนามจะตอ้ งเข้าพบ
กำนันผู้ใหญบ่ ้าน ผนู้ ำชุมชน
เพอื่ ขออนญุ าตปฏบิ ัตงิ านใน
พน้ื ที่ ในส่วนของสถาน
ประกอบการจะตอ้ งมีหนงั สือ
ขอความร่วมมอื แสดงให้
ผปู้ ระกอบการทราบ
10. การสอบถามข้อมูล กำชบั
ผูป้ ฏบิ ัติงานภาคสนาม ไม่ให้
ต้ังคำถามช้ีนำซงึ่ จะทำให้ได้
ขอ้ มลู ทีอ่ าจไมต่ รงกับความ
จรงิ
11. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
จากสถานประกอบการขนาด
ใหญ่ควรลงพื้นที่เปน็ ทีม เพอื่
สร้างภาพลกั ษณท์ ดี่ ขี อง
สำนกั งานสถติ ิ และเป็นการ
สรา้ งความเชอื่ ม่ันแก่สถาน
ประกอบการว่าเปน็ ทีมงาน
ของหนว่ ยงานภาครัฐ
12. หลังจากสมั ภาษณผ์ ู้ให้
ข้อมลู เรยี บรอ้ ยแล้ว ใหข้ อ
เบอรโ์ ทรศัพทผ์ ูใ้ หข้ อ้ มลู ดว้ ย
เพื่อสำหรบั โทรสอบถามอกี
รอบหากมขี อ้ สงสยั หรือ
ข้อมูลไมค่ รบถว้ น

สำนกั งานสถิติจังหวดั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวดั


Click to View FlipBook Version