แผนการจัดการเรียนรู้ ๑ ชั้นมธั ยมการศกึ ษาที่ ๓
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวชิ า พ ๒๓๑๐2
วิชา บาสเกตบอล
เร่ือง การปฐมนิเทศ
หนว่ ยที่ ๑ การปฐมนิเทศ ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกมและกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิสมา่ เสมอ มวี ินยั
เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี าใจเป็นนักกฬี า มจี ิตวิญญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชมใน
สนุ ทรียภาพของการเลน่ กฬี า
สาระที่ ๔ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่า และมีทักษะในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกันโรค และ
การสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสขุ ภาพ
๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาผลการปฏิบัติตนเกย่ี วกบั ทกั ษะกลไก และทักษะการเคลือ่ นไหวในการเลน่ กฬี าจากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี
หลากหลายมาสรปุ ในบริบทของตนเอง
๒. เลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากล ทังประเภทบุคคล และทมี อย่างละ ๑ ชนดิ
๓. เปรียบเทียบประสทิ ธิภาพของรูปแบบการเคล่ือนไหวท่สี ่งผลตอ่ การเล่นกฬี า และกจิ กรรมใน
ชวี ิตประจาวนั
๔. รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย ๑ กจิ กรรม และนาความรแู้ ละหลกั การท่ไี ดไ้ ปปรบั ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑. อธิบายสาเหตุการเปล่ียนแปลงทางกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาที่เกิดจากการออก
กาลังกาย และเล่นกีฬาเปน็ ประจาจนเป็นวิถชี วี ิต
๒. เลือกเขา้ รว่ มกจิ กรรมออกกาลงั กาย เลน่ กีฬาตามความถนดั ความสนใจ พรอ้ มทงั วิเคราะหค์ วาม
แตกตา่ งระหวา่ งบุคคลเพ่อื เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง
๓. มวี ินัย ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาท่ีเลือก
๔. วางแผนการรุก และการป้องกันในการเล่นกีฬาที่เลอื กและนาไปใชใ้ นการเลน่ อยา่ งเหมาะสมกับทมี
๕. นาผลการปฏบิ ัติในการเลน่ กฬี ามาสรปุ เป็นวิธที เ่ี หมาะสมกับตนเองด้วยความมุ่งมั่น
๓. ผลการเรยี นรู้
1. ผู้เรยี นเข้าใจในกฎ ระเบยี บและขอ้ ตกลงของการเรยี นรายวิชาบาสเกตบอล
2. ผู้เรียนสามารถปฏบิ ัติตามกฎ ระเบยี บและขอ้ ตกลงไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
3. ผูเ้ รียนเห็นความสาคัญของกฎ ระเบียบและข้อตกลงในการเรียนรายวชิ าบาสเกตบอล
๔. สาระสาคัญ
การศึกษาเกย่ี วกับกฬี าบาสเกตบอลในเรอื่ งของความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกับกีฬาบาสเกตบอล การบรหิ าร
รา่ งกาย ทกั ษะพนื ฐานเบืองต้นในการเลน่ กฬี าบาสเกตบอล การเลยี งลกู บาสเกตบอล การรบั – ส่งลูก
บาสเกตบอล การยนื ยิงประตู การกระโดดยงิ ประตู การยิงประตแู บบเลย์-อัพ การหลอกล่อและบงั คู่ต่อสู้
หน้าท่ี ตาแหน่งการเล่นและกติกาการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล สามารถสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายใหก้ บั
นกั เรียนไดเ้ ป็นอยา่ งดี รวมไปถึงการไดป้ ลูกฝงั ความมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมารยาทที่ดีในการเลน่ และการ
ชมการแขง่ ขัน ซึ่งนักเรียนสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการเรยี นและการดาเนนิ ชวี ิตประจาวันได้
๕. สาระย่อย
1. การช้แี จงรายละเอียดเกีย่ วกบั รายวชิ าบาสเกตบอลในชันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ปีการศึกษา 2562 เปน็ การ
เรยี นรายวิชาบาสเกตบอล (พ23102)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ทักษะ 70%
การรบั – สง่ ลูกบาสเกตบอล 10%
สองมอื เหนือศรี ษะ
สองมือกระดอนพนื้
สองมือระดบั อก
การเลีย้ งลกู บาสเกตบอล 10%
การยนื ยิงประตู 10%
การกระโดดยงิ ประตู 10%
การยิงประตแู บบเลย์-อพั 10%
การหลอกล่อและบังคูต่ ่อสู้ 10%
การเล่นทีม 10%
ประวตั คิ วามเป็นมา หน้าที่ ตาแหน่งการเลน่ และกติกา(Poster) 10%
สอบปลายภาค 20%
รวม 100%
2. แจ้งขอ้ ตกลงในการเรียนรายวชิ าบาสเกตบอล โดยมรี ายละเอียด ดงั น้ี
2.1 แนะนาตวั ครูแนะนาตวั และทาความรู้จักกบั นักเรียน
2.2 การแต่งกาย แตง่ กายให้ถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรยี น สวมชดุ พลศึกษา
2.3 การลา และการขาดเรียน ให้นักเรียนมจี ดหมายลามาทกุ คร้ังใหก้ ับอาจารย์ผู้สอน
2.4 ข้อตกลงระหว่างเรยี น
- ห้ามเล่นมือถือขณะที่ครูกาลงั อธิบาย ห้ามพดู คยุ ขณะท่คี รกู าลงั อธิบายและไม่ปฏบิ ตั ิตาม
คาสงั่ จะโดนหกั คะแนนการทดสอบทกั ษะรายคนคร้งั ละ 1 คะแนน
- การเข้าช้ันเรียน ถ้ามาหลังจากเริม่ เรียนเกนิ 10 นาที จะเชค็ ช่ือวา่ มาสาย
- มาเรียนสาย 2 ครัง้ เช็คว่าขาดเรียน 1 คร้งั การมาเรียนต้องไมต่ ่ากว่า 80 %
3. ชแี้ จงรายละเอียดของภาระงานและนดั หมายวนั สง่ งาน โดยมรี ายละเอยี ดของงาน ดงั น้ี
โปสเตอร์
-ประวตั ิความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอลและประวัติบาสเกตบอลในประเทศไทย
- ประโยชน์ของการเล่นบาสเกตบอล
- ประเภทของกฬี าบาสเกตบอล
- กตกิ าของกีฬาบาสเกตบอล
- มารยาทของผูเ้ ลน่ /ผดู้ ูท่ีดี
** ทาในกระดาษแขง็ ขนาด A3
** ส่งก่อนสอบกลางภาค
๕. สมรรถนะสาคญั
การจัดการเรียนร้เู รื่องการปฐมนิเทศเป็นการพัฒนาผ้เู รยี นให้มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการจดั การเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขันพืนฐาน เพื่อให้บรรลมุ าตรฐานการเรยี นรู้ซึ่งทาให้นกั เรียนเกดิ สมรรถนะท่ี
สาคัญ คือ มีความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการแก้ปัญหา มี
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ และมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๖. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
การจัดการปฐมนิเทศ มงุ่ พัฒนาผู้เรยี นใหม้ คี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอย่รู ่วมกับผู้อ่ืนใน
สังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน คือ
รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็น
ไทย และมีจิตสาธารณะ
๗. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายขอบขา่ ยในการเรยี นวิชาบาสเกตบอล และมีความเขา้ ใจระเบยี บการปฏิบตั ิตน
ในการเรยี นวิชาบาสเกตบอล
๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันเตรยี ม 1. นกั เรียนเข้าแถวตอนแถวละ 10 คน
(10 นาที )
ขนั้ อธิบาย 2. ครสู ารวจจานวนนักเรยี น
และสาธิต 3. ครูสารวจสุขภาพและเครือ่ งแต่งกายของนักเรียน
(30 นาที ) วิธกี ารสอน : ออกคาสัง่ , อธบิ าย
ส่ือ/อุปกรณ์ : นกหวดี , ใบรายชอื่ นักเรยี น
การวัดและประเมินผล : สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นในการปฏบิ ัติตามคาสั่ง
1. แนะนาตวั และทาความรูจ้ กั กับนกั เรียน
- ครแู นะนาตัว
- นักเรียนแนะนาตัว
2. แนะนารายวิชา
3. แจง้ ขอ้ ตกลงในการเรียนวิชาบาสเกตบอล
4. ชแี จงรายละเอียดของรายงานและนัดหมายวนั สง่ งาน
วิธกี ารสอน : อภปิ ราย , อธิบาย
ส่อื /อปุ กรณ์ : นกหวดี
การวดั และประเมินผล : สงั เกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
ข้ันสรปุ ขน้ั สรุป (10 นาท)ี
(10 นาที) 1. นกั เรียนเข้าแถวตอน แถวละ10 คน
2. ครูและนกั เรยี นสรปุ ขนั ตอนการเรียนและแนวปฏิบัตติ นในช่วั โมงเรียน
3. บอกเรอ่ื งสุขปฏิบัติ
4. นดั หมายเร่อื งท่ีจะเรยี นในสัปดาห์ถัดไปและสงั่ เลิกแถว
วธิ ีการสอน : อภปิ ราย , อธิบาย
ส่ือ/อุปกรณ์ : นกหวดี
การวัดและประเมนิ ผล : สังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนในการปฏบิ ัตติ ามคาส่งั
๙. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
๙.๑ ส่อื
- หนงั สือเรียนบาสเกตบอล
๙.๒ แหล่งเรยี นรู้
- หนังสือเรียนบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกฬี า
การวดั และการประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมอื
การวดั และการประเมินผลการ
เรียนรูพ้ ฤตกิ รรม/สงิ่ ทีป่ ระเมนิ
1. ครสู งั เกตความสนใจในการเรียน -สังเกตการให้ความ -แบบสังเกตการใหค้ วามร่วมมอื ของนกั เรียน
2. ครูสังเกตพฤติกรรมการเขา้ เรียน รว่ มมือของนักเรียน -ใบรายชอื่
3. ครสู ังเกตระเบียบวินยั ในชันเรียน
ขณะท่ีฟงั ครูอธบิ าย
แบบประเมินพฤตกิ รรมการสังเกตการให้ความร่วมมือของนักเรยี น
วชิ า…………….ชนั ……………
คาชแ้ี จง เพ่อื ประเมนิ พฤตกิ รรมการสงั เกตการให้ความรว่ มมอื ของนักเรียนในชนั มัธยมศึกษาปีท่ีสองครผู ้สู อน
เป็นผู้ประเมินนักเรยี นโดยใช้วิธีสังเกตในขณะดาเนินการสอนแล้วใสค่ ะแนนใหต้ รงกบั พฤตกิ รรมที่เปน็
จรงิ ของนักเรยี นตามระดับคะแนนดังนี
4 = กระทามากสุด 3 = กระทามาก
2 = กระทานอ้ ย 1 = ไมค่ อ่ ยกระทา/ไมก่ ระทาเลย
พฤตกิ รรมนกั เรยี น
ช่ือ-นามสกุล
ความ ัตงใจและสนใจในการเรียน
การตอบคาถาม
ใ ้หความ ่รวมมือในการทากิจกรรม
การร่วมอ ิภปรายตรงประเ ็ดน
เคารพกฎระเ ีบยบใน ัชนเรียน
รวมคะแนน
หมายเห ุต
การแปลผล หมายถงึ ดีเย่ียม
หมายถงึ ดี
18-20 หมายถงึ พอใช้
15-17
10-14 หมายถึง ปรบั ปรุง
ตา่ กว่า 10
แหล่งอา้ งองิ
1.ตวั ชวี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขันพนื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
แผนการจดั การเรยี นรู้ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมการศึกษาท่ี ๓
วิชา บาสเกตบอล รหัสวชิ า พ ๒๓๑๐๒
หน่วยที่ ๒ ความรู้ทัว่ ไปเกยี่ วกับกีฬาบาสเกตบอล เร่ือง ความร้ทู วั่ ไปเก่ยี วกบั กฬี าบาสเกตบอล
เวลาเรียน ๑ คาบ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลังกาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิสม่าเสมอ มีวินัย
เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนาใจเปน็ นกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชื่นชมใน
สนุ ทรยี ภาพของการเล่นกีฬา
สาระท่ี ๔ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่า และมีทักษะในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรค และ
การสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพ
๒. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาผลการปฏบิ ัตติ นเกีย่ วกบั ทกั ษะกลไก และทักษะการเคล่อื นไหวในการเล่นกีฬาจากแหล่งข้อมลู ท่ี
หลากหลายมาสรุปในบริบทของตนเอง
๒. เลน่ กฬี าไทย และกฬี าสากล ทังประเภทบคุ คล และทมี อยา่ งละ ๑ ชนดิ
๓. เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรปู แบบการเคลื่อนไหวทีส่ ่งผลต่อการเลน่ กีฬา และกจิ กรรมใน
ชวี ติ ประจาวนั
๔. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอย่างน้อย ๑ กิจกรรม และนาความรู้และหลกั การที่ได้ไปปรบั ใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั อยา่ งเปน็ ระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑. อธิบายสาเหตกุ ารเปล่ยี นแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญาท่เี กิดจากการออก
กาลังกาย และเลน่ กีฬาเป็นประจาจนเปน็ วิถชี ีวิต
๒. เลือกเขา้ ร่วมกจิ กรรมออกกาลงั กาย เล่นกีฬาตามความถนัด ความสนใจ พร้อมทังวิเคราะห์ความ
แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลเพอ่ื เปน็ แนวทางในการพัฒนาตนเอง
๓. มวี นิ ัย ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเลน่ กฬี าทเี่ ลอื ก
3. ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง: ผู้เรยี น
1. มีความรู้เบอื งตน้ เกยี่ วกับประวตั ิความเปน็ มาของบาสเกตบอลได้
2. มคี วามรู้และเข้าใจวิธกี ารอบอนุ่ รา่ งกายและยดื เหยียดกลา้ มเนอื ทถ่ี ูกต้อง
3. สามารถปฏิบัตทิ กั ษะการอบอุน่ ร่างกายและยืดเหยียดกลา้ เนอื ทถี่ กู ตอ้ ง
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ : ผู้เรยี นสามารถ
1. บอกถงึ ประวตั คิ วามเปน็ มาของบาสเกตบอลได้
2. อธิบายและปฏิบตั ทิ กั ษะพืนฐานการเคลอื่ นไหวของร่างกายทถี่ ูกต้อง
3.เหน็ คณุ ค่าของการอบอุน่ รา่ งกายและยดื เหยยี ดกลา้ มเนอื กอ่ นการออกกาลงั กาย
5. สาระสาคญั
ความรู้ทั่วไปเก่ียวกับกีฬาบาสเกตบอลเป็นส่ิงท่ีจาเป็นต่อการเรียนวิชาบาสเกตบอลเพราะจะทาให้
นักเรียนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมา และประโยชน์ของกีฬาบาสเกตบอล รวมไปถึงเรื่องมารยาทของการ
เป็นผเู้ ล่นและผชู้ มกีฬาบาสเกตบอล การดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ และการเล่นกีฬาบาสเกตบอลด้วยความปลอดภัย
ซึ่งจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการเรียน และสามารถนาไปใช้ในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลต่อไปได้
สาระยอ่ ย
ประวตั ิบาสเกตบอล
บาสเกตบอล ( Basketball ) เป็นกฬี าประจาชาติอเมริกนั ถูกคิดขนึ้ เพ่อื ต้องการช่วยเหลอื บรรดา
สมาชิก Y.M.C.A. ได้เล่นกีฬาในฤดหู นาว เนอ่ื งจากในชว่ งฤดูหนาวสภาพพืน้ ภมู ปิ ระเทศโดยทว่ั ๆไป ถูกหิมะปก
คลุมอันเป็นอุปสรรคในการเล่นกีฬากลางแจง้ เช่น อเมริกนั ฟตุ บอล เบสบอล คณะกรรมการ
สมาคม Y.M.C.A. ไดพ้ ยายามหาหนทางแก้ไขให้บรรดาสมาชิกทั้งหลายได้เล่นกีฬาในช่วงฤดูหนาวโดยไม่บังเกิด
ความเบ่ือหนา่ ย
ในปี ค.ศ.1891 Dr.James A.Naismith ครสู อนพลศึกษาของ The International Y.M.C.A.
Training School อยทู่ เ่ี มือง Springfield รฐั Massachusetts ได้รับมอบหมายจาก Dr.Gulick ให้เป็นผู้คิดคน้
การเล่นกฬี าในรม่ ท่ีเหมาะสมทจี่ ะใชเ้ ล่นในชว่ งฤดูหนาว Dr.James ได้พยายามคิดค้นดดั แปลงการเล่นกีฬา
อเมริกนั ฟุตบอลและเบสบอลเข้าด้วยกนั และใหม้ ีการเล่นทีเ่ ปน็ ทมี ในครงั้ แรก Dr.James ได้ใช้ลูกฟุตบอลและ
ตะกรา้ เป็นอุปกรณ์สาหรับให้นักกีฬาเล่น เขาได้นาตะกร้าลกู พีชไปแขวนไวท้ ่ีฝาผนังของหอ้ งพลศกึ ษา แล้วให้ผู้
เลน่ พยายามโยนลูกบอลลงในตะกร้านัน้ ให้ได้ โดยใช้เนอ้ื ทสี่ นามสาหรับเล่นใหม้ ขี นาดเลก็ ลงแบง่ ผเู้ ล่นออกเป็น
ข้างละ 7 คน ผลการทดลองคร้ังแรกผเู้ ล่นได้รับความสนกุ สนานต่ืนเตน้ แตข่ าดความเปน็ ระเบียบ มีการชนกัน
ผลักกนั เตะกัน อนั เป็นการเล่นทร่ี นุ แรงในการทดลองน้ัน ต่อมา Dr.James ไดต้ ดั การเล่นท่รี นุ แรงออกไป และ
ไดท้ าการวางกตกิ าห้ามผู้เลน่ เข้าปะทะถกู เน้ือต้องตัวกนั นบั ไดว้ า่ เปน็ หลกั เบ้ืองตน้ ของการเล่นบาสเกตบอล
Dr.James จงึ ได้วางกตกิ าการเล่นบาสเกตบอลไว้เปน็ หลกั ใหญ่ๆ 4 ขอ้ ด้วยกัน คือ
1. ผเู้ ล่นท่ีครอบครองลูกบอลอยนู่ น้ั จะตอ้ งหยดุ อยู่กบั ท่หี ้ามเคล่อื นทไ่ี ปไหน
2. ประตูจะต้องอยเู่ หนอื ศรี ษะของผู้เล่น และอยู่ขนานกบั พน้ื
3. ผู้เล่นสามารถครอบครองบอลไวน้ านเท่าใดก็ได้ โดยคตู่ ่อสู้ไมอ่ าจเข้าไปถกู ต้องตวั ผ้เู ล่นท่ี
ครอบครองบอลได้
4. ห้ามการเลน่ ทรี่ ุนแรงตา่ งๆโดยเด็ดขาด ผู้เลน่ ท้ังสองฝา่ ยจะตอ้ งไม่กระทบกระแทกกนั
เม่ือได้วางกตกิ าการเล่นข้ึนมาแล้วก็ได้นาไปทดลอง และพยายามปรับปรุงแก้ไขระเบยี บดีขึ้น เขา
ได้พยายามลดจานวนผู้เล่นลงเพ่ือหลีกเลี่ยงการปะทะกัน จนในที่สุดก็ได้กาหนดตัวผู้เล่นไว้ฝ่ายละ 5 คน ซึ่ง
เป็นจานวนที่เหมาะสมท่ีสุดกับขนาดเนื้อท่ีสนาม Dr.James ได้ทดลองการเล่นหลายคร้ังหลายหนและพัฒนา
การเล่นเร่อื ยมา จนกระทัง่ เขาได้เขียนกตกิ าการเล่นไว้เป็นจานวน 13 ขอ้ ด้วยกัน และเปน็ ต้นฉบับการเล่นท่ี
ยังคงปรากฏอย่บู นกระดานเกียรติยศในโรงเรียนพลศึกษา ณ Springfield อย่จู นกระทั่งทุกวันนี้
ประวัตบิ าสเกตบอลในประเทศไทย
กฬี าบาสเกตบอลแพร่หลายเขา้ มาในประเทศไทยเป็นครงั้ แรกในสมัยใด ปีใดน้ัน มิได้มีหลักฐานที่
จะปรากฏยนื ยนั แน่ชดั ได้ ทราบแตเ่ พียงว่า ในปี พ.ศ.2477 นายนพคณุ พงษ์สุวรรณ อาจารย์สอนภาษาจีนท่ี
โรงเรียนมธั ยมวดั บพติ รพิมขุ ได้ช่วยเหลือกรมพลศกึ ษาจัดแปลกติกาการเลน่ บาสเกตบอลข้ึน ต่อมาในปี
พ.ศ. 2478 กระทรวงธรรมการ ไดจ้ ดั การอบรมครูจังหวดั ต่างๆจานวน 100 คน ภายในระยะเวลา 1 เดอื น
และได้รบั ความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ. หลวงชาตติ ระการโกศล ผู้ซึ่งมคี วามรแู้ ละเชยี่ วชาญทางการเล่นกฬี า
บาสเกตบอลคนหนงึ่ ท้ังได>้ เคยเป็นตวั แทนของมหาวทิ ยาลัยเข้าร่วมการแข่งขัน เม่ือครง้ั ทา่ นกาลังศกึ ษาอยูใ่ น
สหรัฐอเมรกิ า มาเป็นผบู้ รรยายเก่ียวกับเทคนคิ และวธิ ีเล่นบาสเกตบอลแกบ่ รรดาครทู เี่ ข้ารับการอบรม ตอ่ มาก็
เปน็ ผลทาให้กฬี าบาสเกตบอลแพร่หลายไปท่ัวประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2496 สมาคมบาสเกตบอลสมัครเลน่ แห่งประเทศไทยไดถ้ ูกจดั ตัง้ ขึ้นตามแบบอัน
ถูกต้อง โดยจดทะเบยี นทส่ี ภาวัฒนธรรมแหง่ ชาติ และได้กลายมาเป็นสมาคมบาสเกตบอลแหง่ ประเทศไทยในปี
เดียวกันน้ันเอง และในวันท่ี 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 สมาคมบาสเกตบอลแหง่ ประเทศไทยก็ได้เข้ารว่ มเป็น
สมาชิกของสมาคมบาสเกตบอลระหวา่ งประเทศ
แหล่งท่ีมา https://sites.google.com/site/baswiset/prawati-basketbxl
ประโยชน์ของการเลน่ กฬี าบาสเกตบอล
1. ชว่ ยพัฒนาและสง่ เสรมิ ศักยภาพในด้านต่างๆ ไดแ้ ก่ ร่างกาย จติ ใจ สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสังคมแก่
บคุ คล
2. ช่วยพฒั นาและสง่ เสรมิ กลไกการเคลอ่ื นไหวร่างกาย (Motor Skill) ใหท้ างานประสานกันดีขึ้น ไม่ว่าจะ
เป็นมอื เทา้ สายตาให้เคลือ่ นไหวได้อยา่ งถกู ต้อง
3. เป็นกิจกรรมนันทนาการสาหรบั พักผอ่ น คลายความตึงเครยี ดแก่ผู้เลน่ และผู้ชม
4. ช่วยฝกึ การตดั สินใจและรู้จกั คิดแก้ปัญหา ตลอดจนมสี มาธิดี
5. ช่วยฝึกให้มนี ้าใจนักกฬี า รจู้ ักแพ้ รู้จกั ชนะและรู้จักให้อภัย
6. ใชเ้ ปน็ สื่อในการสร้างความสัมพันธร์ ะหวา่ งบคุ คลและส่วนรวม
7. ใชเ้ ป็นสอื่ ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในวชิ าพลศึกษา
8. ผู้เล่นท่ีมีความสามารถจะทาชื่อเสยี งให้ตวั เอง วงศ์ตระกลู และประเทศชาติ
9. เป็นวชิ าชพี ด้านหนงึ่ สาหรับงานกฬี า เช่น การแข่งขยั บาสเกตบอลอาชีพ เปน็ ต้น
มารยาทของผ้เู ลน่ และผ้ชู มกฬี าบาสเกตบอลท่ดี ี
มารยาทผเู้ ลน่ ทด่ี ี
๑. มคี วามรเู้ รื่องระเบียบและกฎกติกาการเล่น
๒. แตง่ กายด้วยชุดท่เี หมาะสมตอ่ การเลน่ หรอื การแขง่ ขนั กฬี าบาสเกตบอล
๓. สุภาพท้งั กิรยิ าทา่ ทางตลอดจนคาพูด
๔. ให้เกียรตแิ ละเชอื่ ฟงั ยอมรับคาตัดสินของผู้ตัดสนิ
๕. มีนา้ ใจนักกฬี า รจู้ ักแพ้ รจู้ ักชนะ รู้จักใหอ้ ภัย
๖. เป็นผทู้ ี่ตรงต่อเวลา
๗. ไมค่ วรดถู ูกความสามารถผู้อ่นื จะดว้ ยวาจาหรือท่าทาง
๘. ควรแสดงความยนิ ดแี ละชมเชยเมือ่ ผ้เู ล่น เลน่ ได้ดี
๙. ควรเปิดโอกาสให้ผู้อนื่ ไดเ้ ล่นบา้ งเมอื่ อุปกรณ์มจี ากัด
๑๐. ไมก่ ระทาการใดๆ อนั เปน็ การยว่ั ยุหรอื กล่ันแกล้งผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงข้าม
มารยาทผ้ชู มท่ดี ี
๑. แสดงความยนิ ดีแก่ผู้เล่นทด่ี เี ช่นปรบมอื
๒. ไมแ่ สดงอาการหรอื ส่งเสียงย่ัวยจุ นทาใหผ้ ู้เลน่ หรือกองเชยี ร์ฝา่ ยตรงข้ามเกดิ โทสะ
๓. ไมก่ ระทาตัวเป็นผู้ตัดสินเสยี เอง เช่น ตะโกนดา่ หรือคัดคา้ นการตดั สิน
๔. ไมค่ วรสบู บหุ ร่ีหรือเสพเครื่องดมื่ มึนเมาขณะชมการแข่งขัน
๕. ไม่กระทาการใดๆอันเปน็ อุปสรรคต่อการเล่นของผเู้ ลน่ และผู้ตัดสนิ
การดูแลรักษาอุปกรณ์กีฬาบาสเกตบอล
๑. ไม่นาลูกบาสเกตบอลมาใช้เป็นท่ีรองน่งั จะทาใหล้ ูกบาสเกตบอลผดิ รูปทรง
ถา้ เปียกน้าหรอื เปรอะเปอ้ื นใหเ้ ชด็ ทาความสะอาด ผงึ่ ให้แหง้ ก่อนเกบ็
๒. อุปกรณ์การเลน่ เมอื่ เลิกเลน่ แล้วตอ้ งสารวจดูใหค้ รบถว้ น
๓. ห้ามกระโดดเกาะหรือห้อยโหนห่วงประตเู ลน่
๔. จดั เวรนาอุปกรณ์ และเก็บอุปกรณไ์ ปไวใ้ นทเี่ ก็บอปุ กรณใ์ หเ้ ป็นระเบยี บ
๖. สมรรถนะสาคัญ
การจัดการเรียนรู้เรื่องความรู้ทั่วไปเก่ียวกับกีฬาบาสเกตบอลมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานการจัดการเรียนรูต้ ามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขันพืนฐาน เพ่ือใหบ้ รรลุมาตรฐานการเรียนรูซ้ งึ่ ทา
ให้นักเรยี นเกิดสมรรถนะท่ีสาคัญ คอื มีความสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถ
ในการแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ และมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๗. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
การจัดการเรียนรู้เรอ่ื งความรู้ทั่วไปเก่ียวกับกีฬาบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตาม
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน คือ รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สจุ ริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่าง
พอเพียง มงุ่ มั่นในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ
๘. ชิน้ งาน / ภาระงาน
นักเรียนสามารถนาความรูท้ ่วั ไปเกย่ี วกับกฬี าบาสเกตบอลไปใช้ในชวั่ โมงเรียนได้อยา่ งถูกตอ้ งพรอ้ มทงั
ทางานเรอ่ื งความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกับกีฬาบาสเกตบอลในลกั ษณะของกระดาษแขง็ ขนาด A๓ เพือ่ เป็นการทบทวน
เนอื หาได้อยา่ งเขา้ ใจ
๙. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นเตรยี ม 1. นกั เรยี นเขา้ แถวตอน 10 แถว
(5 นาที )
2. ครสู ารวจจานวนนกั เรียน
3. ครสู ารวจสุขภาพและเครือ่ งแตง่ กายของนักเรยี น
วธิ กี ารสอน : ออกคาสง่ั , อธบิ าย
สอื่ /อปุ กรณ์ : นกหวดี , ใบรายช่อื นกั เรียน
การวดั และประเมนิ ผล : สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในการปฏิบัติตามคาส่ัง
ขน้ั อธิบาย 1.ครูเลา่ ประวตั ิความเปน็ มาของกีฬาบาสเกตบอลโดยยอ่ ให้นกั เรยี นฟงั
และสาธิต 2.ครูบอกประโยชนข์ องการเลน่ กีฬาบาสเกตบอล
(10 นาที ) 3.ครูอธบิ ายมารยาทของการเปน็ ผู้เล่นและผู้ชมกีฬาบาสเกตบอลทีด่ ี
4.ครอู ธิบายและสาธติ การดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์กีฬาบาสเกตบอล
5.ครบู อกสิ่งทีค่ วรคานึงในการเล่นกฬี าบาสเกตบอลดว้ ยความปลอดภยั
วิธีการสอน : อภปิ ราย , อธิบาย , สาธิต
สอ่ื /อปุ กรณ์ : นกหวีด
การวดั และประเมนิ ผล : สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
ขน้ั สรปุ และ - นักเรียนสรปุ รว่ มกับครูเรื่องความรทู้ ่วั ไปเกยี่ วกบั กีฬาบาสเกตบอล
สขุ ปฏิบัติ - เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามและแสดงความคิดเหน็
(Closing - ครูแจง้ เรอื่ งทจ่ี ะเรียนในสัปดาห์ต่อไป
phase) - ใหน้ ักเรยี นทาความสะอาดรา่ งกาย แลว้ เลกิ แถวโดยการกา้ วเทา้ ขวาพร้อมปรบมือ ๓ คร้ัง
แล้วร้อง “บาสเกตบอล”
10. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
10.๑ ส่ือ
- หนงั สือเรียนบาสเกตบอล
10.๒ แหล่งเรียนรู้
- หนงั สอื เรียนบาสเกตบอล
- เวปไซต์ทางการกีฬา
๑๐. การวัดประเมินผล
รายการประเมนิ วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือวดั และ เกณฑก์ ารประเมนิ
ตวั ชี้วัด ประเมินผล
สงั เกตการให้ความร่วมมือ และ นักเรียนใหค้ วามร่วมมอื และ
ความสนใจในการทากิจกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ความสนใจในการทากจิ กรรมตาม
สมควร
- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจน
สมรรถนะสาคญั สงั เกต และสอบถาม แบบประเมนิ สมรรถนะ สมา่ เสมอ ๓ คะแนน
ผเู้ รียน ๕ ดา้ น - พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชดั เจนเปน็
บางครงั ๒ คะแนน
คุณลกั ษณะอันพงึ สังเกต และสอบถาม แบบประเมินคุณลกั ษณะ - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั นิ อ้ ยครัง ๑
ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ๘ ด้าน คะแนน
๑๑. กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรยี นควรศึกษาเพิ่มเติม เก่ยี วกับเร่อื งความร้ทู ั่วไปเกีย่ วกบั กฬี าบาสเกตบอลและเตรียมความพร้อม
ของรา่ งกายเพือ่ เรยี นในครังตอ่ ไป
แบบประเมินพฤตกิ รรมการสังเกตการให้ความร่วมมือของนักเรยี น
วชิ า…………….ชนั ……………
คาชแ้ี จง เพ่อื ประเมนิ พฤตกิ รรมการสงั เกตการให้ความรว่ มมอื ของนักเรียนในชนั มัธยมศึกษาปีท่ีสองครผู ้สู อน
เป็นผู้ประเมินนักเรยี นโดยใช้วิธีสังเกตในขณะดาเนินการสอนแล้วใสค่ ะแนนใหต้ รงกบั พฤตกิ รรมที่เปน็
จรงิ ของนักเรยี นตามระดับคะแนนดังนี
4 = กระทามากสุด 3 = กระทามาก
2 = กระทานอ้ ย 1 = ไมค่ อ่ ยกระทา/ไมก่ ระทาเลย
พฤตกิ รรมนกั เรยี น
ช่ือ-นามสกุล
ความ ัตงใจและสนใจในการเรียน
การตอบคาถาม
ใ ้หความ ่รวมมือในการทากิจกรรม
การร่วมอ ิภปรายตรงประเ ็ดน
เคารพกฎระเ ีบยบใน ัชนเรียน
รวมคะแนน
หมายเห ุต
การแปลผล หมายถงึ ดีเย่ียม
หมายถงึ ดี
18-20 หมายถงึ พอใช้
15-17
10-14 หมายถึง ปรบั ปรุง
ตา่ กว่า 10
แหล่งอา้ งองิ
1.ตวั ชวี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขันพนื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
แผนการจดั การเรยี นรู้ ๓ ชน้ั มัธยมการศึกษาที่ ๓
กลุม่ สาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา รหัสวชิ า พ ๒๓๑๐๒
เรอ่ื ง การบรหิ ารรา่ งกาย
วชิ า บาสเกตบอล ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
หน่วยท่ี ๓ การบริหารรา่ งกาย
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๓ การเคล่อื นไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒
รกั การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิสม่าเสมอ มวี ินัย
สาระท่ี ๔ เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี าใจเป็นนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่นื ชมใน
มาตรฐาน พ ๔.๑
สนุ ทรยี ภาพของการเล่นกฬี า
การสร้างเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค
เห็นคณุ ค่า และมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรค และ
การสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ
๒. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาผลการปฏบิ ัตติ นเก่ยี วกับทักษะกลไก และทักษะการเคล่ือนไหวในการเล่นกฬี าจากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี
หลากหลายมาสรปุ ในบริบทของตนเอง
๒. เล่นกีฬาไทย และกีฬาสากล ทงั ประเภทบคุ คล และทีมอย่างละ ๑ ชนดิ
๓. เปรยี บเทยี บประสทิ ธิภาพของรปู แบบการเคลื่อนไหวท่สี ่งผลตอ่ การเล่นกฬี า และกิจกรรมใน
ชีวิตประจาวัน
๔. รว่ มกจิ กรรมนันทนาการอย่างนอ้ ย ๑ กจิ กรรม และนาความรูแ้ ละหลักการทไี่ ด้ไปปรบั ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั อย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑. อธบิ ายสาเหตกุ ารเปลีย่ นแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาท่เี กิดจากการออก
กาลงั กาย และเล่นกีฬาเปน็ ประจาจนเปน็ วิถีชวี ติ
๒. เลอื กเข้ารว่ มกจิ กรรมออกกาลังกาย เลน่ กีฬาตามความถนัด ความสนใจ พร้อมทงั วเิ คราะหค์ วาม
แตกต่างระหวา่ งบคุ คลเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง
๓. มีวนิ ัย ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นกีฬาท่เี ลือก
๔. วางแผนการรกุ และการป้องกันในการเล่นกฬี าท่เี ลือก และนาไปใช้ในการเล่นอย่างเหมาะสมกับทีม
๕. นาผลการปฏิบัตใิ นการเลน่ กีฬามาสรุปเปน็ วิธที เี่ หมาะสมกบั ตนเองดว้ ยความมงุ่ ม่นั
๓. สาระสาคัญ
การบริหารร่างกายเป็นความสามารถในการควบคุมรา่ งกาย และการทางานของร่างกายไดท้ ันทีและได้
นานโดยไม่เส่ือมประสิทธิภาพ ซึ่งการบริหารร่างกายจาเป็นตอ่ การเล่นกฬี า เราสามารถบริหารรา่ งกายของตัว
เราเองหรือของเพื่อนได้ว่ามีสมรรถภาพทางกายเปน็ อย่างไร กอ่ นการเล่นกีฬาการอบอุน่ รา่ งกายหรอื การ
บริหารร่างกายเป็นสิง่ ทจี่ าเป็นเพราะเป็นการกระตนุ้ ระบบการทางานของรา่ งกาย ทาใหเ้ กิดความพรอ้ ม
สามารถเคลอื่ นไหวร่างกายอย่างกระฉบั กระเฉง รวดเรว็ ว่องไว และยังชว่ ยป้องกนั การบาดเจบ็ จากการเลน่
กฬี า
สาระยอ่ ย
การอบอนุ่ ร่างกาย
การอบอุ่นร่างกาย ( Warming up)หมายถงึ การบรหิ ารรา่ งกายในระยะเวลาสนั ๆ เพอื่ เตรยี มสภาพ
รา่ งกายให้พรอ้ มต่อการออกกาลงั กายอยา่ งหนกั เช่น การเล่นกฬี าหรือแขง่ ขันกฬี า การอบอุน่ ร่างกายท่ีมปี ระสิทธผิ ล
จะต้องทากิจกรรมที่สามารถทาใหอ้ ุณหภูมิกาย อุณหภูมิกลา้ มเนอื และปรมิ าณเลือดที่ไหลเวียนส่กู ลา้ มเนือท่ีจะใช้
งาน เพมิ่ สูงขนึ จากสภาวะพัก รวมทังควรเปน็ กิจกรรมทส่ี ามารถ เพิ่ม ความยืดหย่นุ ของกลา้ มเนอื เอน็ กล้ามเนอื
และเอ็นขอ้ ต่อร่วมด้วย
4. สมรรถนะสาคญั
การบริหารร่างกายในกีฬาบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการจัดการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรซู้ ึ่งทาให้นักเรียนเกดิ สมรรถนะท่ี
สาคัญ คือ มีความสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการแก้ปัญหา มี
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต และมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
การบริหารร่างกายในกีฬาบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน คอื รักษ์ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมั่นในการ
ทางาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ
6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ใบบนั ทึกการบริหารรา่ งกาย
ท่าทางการยืดเหยียดกลา้ มเน้อื
1.ยืดเหยียดตน้ แขนด้านหน้า
ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพท่ี 3
วธิ ีการปฏิบัติ
1.ในการปฏิบตั ิทา่ ยดื เหยยี ดกลา้ มเนือ้ ตน้ แขนด้านหนา้ ให้ยืนตรง ดังภาพท่ี 1
2.พับแขนซา้ ยผ่านศรี ษะไปทางดา้ นหลงั มือแตะท่ีบรเิ วณหลงั ส่วนบน ดงั ภาพที่ 2 จากนัน้ ให้
ใชแ้ ขนอกี ขา้ งดึงบรเิ วณข้อศอกคอ่ นไปทางดา้ นหลังให้รู้สึกตึง
3.ปฏบิ ตั ิคา้ งไว้ 10-15 วนิ าที จากนน้ั สลบั ข้างแล้วปฏิบัตเิ ชน่ เดิม
2.ยดื เหยยี ดกล้ามเน้ือหลังส่วนบน
ภาพที่ 4 ภาพท่ี 5 ภาพที่ 6
วิธกี ารปฏิบัติ
1.ในการปฏบิ ตั ิท่ายืดเหยยี ดกล้ามเน้ือหลงั ส่วนบน ให้ยืนตรงมือประสานกนั แล้วเหยยี ดตรง
ไปทางดา้ นหน้า ดงั ภาพท่ี 4
2.โน้มลาตัวไปทางดา้ นหนา้ เลก็ น้อยให้รู้สกึ ตงึ บรเิ วณหลังสว่ นบน ดังภาพท่ี 5
3.ปฏบิ ัตคิ ้างไว้ 10-15 วินาที
3.ยดื เหยียดกล้ามเนอ้ื หวั ไหล่ดา้ นหน้า
ภาพที่ 7 ภาพที่ 8 ภาพท่ี 9 ภาพท่ี10
วธิ ีการปฏิบัติ
1.ในการปฏิบตั ทิ า่ ยดื เหยียดกลา้ มเนอ้ื หัวไหลด่ า้ นหน้า พับขอ้ ศอกผ่านศรี ษะไปทางดา้ นหลัง
มอื แตะบริเวณหลัง ดังภาพท่ี 7
2.ใช้แขนอีกข้างพับผ่านเอวขน้ึ ไปทางดา้ นหลังมอื อยู่บริเวณสะบกั ดังภาพที่ 8
3.ใชม้ ือทงั้ สองข้างประสานกนั บรเิ วณด้านหลงั ดังภาพท่ี 9
4.ปฏิบัติค้างไว้ 10-15 วินาที จากนั้นสลับข้างแล้วปฏบิ ัตเิ ชน่ เดิม
4.ยดื เหยียดกลา้ มเน้ือหวั ไหลด่ ้านหลงั
ภาพท่ี 11 ภาพที่ 12
วธิ กี ารปฏบิ ัติ
1.ในการปฏบิ ตั ทิ า่ ยืดเหยียดกลา้ มเน้ือหวั ไหลด่ ้านหลงั ให้ยนื ตรง ดงั ภาพท่ี 11
2.ยกแขนซ้ายพาดผ่านลาตวั ไปยังฝ่งั ตรงขา้ ม ในลักษณะขนานกบั หัวไหล่ แขนเหยียดตรง ไม่
ง้อศอกใหร้ ู้สกึ ตึงบรเิ วณหัวไหล่ ดังภาพท่ี 12
3.ปฏบิ ตั คิ ้างไว้ 10-15 วินาที จากนัน้ สลับข้างแล้วปฏิบตั เิ ช่นเดมิ
5.ยืดเหยียดกล้ามเนอื้ สว่ นกลาง
ภาพท่ี 14 ภาพที่ 15 ภาพที่ 16
วิธีการปฏบิ ัติ
1.ในการปฏิบตั ิท่ายดื เหยียดกล้ามเนอื้ ส่วนกลาง ใหย้ ืนตรงหันหลงั ให้กับคู่ ดงั ภาพที่ 14
2.ให้ผรู้ บั การปฏบิ ัติยกแขนขึ้นเหยียดตรง แลว้ ให้ผู้ปฏบิ ตั ิจบั บริเวณข้อมอื ของผู้เข้ารับการปฏิบตั ิ
ดงั ภาพท่ี 15
3..ใหผ้ ู้ปฏิบัตโิ นม้ ตวั ไปทางด้านหนา้ โดยที่ผูร้ บั การปฏิบัติอยบู่ รเิ วณบนด้านหลัง โนม้ ตัวไปทาง
ด้านหน้าจนผรู้ ับการปฏิบัติน้นั ร้สู ึกตึงบรเิ วณทอ้ ง หนา้ อก ดงั ภาพท่ี 16
4.ปฏบิ ตั ิคา้ งไว้ 10-15 วินาที จากน้ันสลับกับเพื่อนแลว้ ปฏบิ ตั ิเชน่ เดิม
6. ยืดเหยยี ดกลา้ มเนอ้ื บรเิ วณ ตน้ ขาด้านหนา้ และท้อง
ภาพท่ี 17 ภาพที่ 18 ภาพที่ 19
วิธีการปฏบิ ัติ
1. ในการปฏบิ ตั ทิ ่ายดื เหยียดกล้ามเน้ือบริเวณตน้ ขาดา้ นหนา้ และทอ้ ง ให้ผู้รับการปฏิบตั ินงั่ คุกเข่าแลว้
ใช้มือจับบรเิ วณขอ้ เท้าด้านหลงั และให้ผ้ปู ฏบิ ตั ินงั่ คุกเข่าอยู่ด้านข้างของผรู้ ับการปฏบิ ตั ิ ดงั ภาพที่ 17
2. ใหผ้ ูร้ ับการปฏิบัตยิ กลาตวั ขึ้นแลว้ เงยหนา้ ขึน้ ไปทางด้านหลงั ใหร้ ้สู กึ ตงึ บริเวณตน้ ขาดา้ นหนา้ และ
หนา้ ท้อง ใหผ้ ู้ปฏิบัติประคองบริเวณดา้ นหลงั และมืออกี ข้างจบั บรเิ วณเอวของผรู้ ับการปฏิบัติ ดงั ภาพท่ี 18
3. ปฏบิ ตั ิคา้ งไว้ 10-15 วนิ าที จากนัน้ สลบั กับเพ่ือนแลว้ ปฏิบัติเชน่ เดมิ
7.ยืดเหยียดกล้ามเน้ือบริเวณหลัง
ภาพท่ี 20 ภาพที่ 21
วิธีการปฏบิ ัติ
1. ในการปฏิบัติท่ายืดเหยียดกลา้ มเน้ือหลงั ให้ผูร้ ับการปฏบิ ตั นิ ั่งลาตัวตรงตามองตรงไปทางด้านหน้า
ดังภาพท่ี 20
2. จากนั้นก้มตัวเยืองไปทางดา้ นข้างเหยียดแขนออกไปให้ตงึ จากนน้ั ผปู้ ฏิบตั ิกดบรเิ วณหลังของผู้รบั
การปฏิบัติจนรสู้ กึ ตึง ดังภาพท่ี 21
3. ปฏิบตั คิ ้างไว้ 10-15 วินาที จากนั้นสลบั กบั เพอ่ื นแล้วปฏิบัติเช่นเดิม
8.ยดื เหยยี ดกลา้ มเน้อื บรเิ วณด้านข้างลาตวั ตน้ ขาดา้ นหลัง
ภาพที่ 22 ภาพที่ 23
วธิ กี ารปฏบิ ัติ
1. ในการปฏบิ ัตทิ า่ ยืดเหยยี ดกล้ามเนอ้ื บรเิ วณด้านข้างลาตวั ต้นขาด้านหลงั ให้ผู้รับการปฏิบตั ินั่ง
แยกขา้ งทัง้ สองข้างออกไปทางดา้ นขา้ งลาตัว ยกแขนขนึ้ เหยยี ดตรงเหนือศรี ษะ ดังภาพท่ี 22
2. โนม้ ตวั ไปทางดา้ นขา้ ง โดยใช้มือไปแตะบรเิ วณปลายเท้าฝง่ั ตรงข้ามและแขนอีกขา้ งพาดผา่ นลาตัว
ไปดา้ นตรงข้าม ดังภาพท่ี 23
3.ผู้ปฏบิ ัตกิ ดบริเวณหลงั เพ่อื เพ่มิ องศาในการยดื เหยียดใหเ้ พ่ิมข้ึนจนรู้สกึ ตึง
4. ปฏิบตั คิ า้ งไว้ 10-15 วินาที จากน้นั สลับกบั เพอ่ื นแลว้ ปฏิบตั เิ ชน่ เดิม
9.ยืดเหยียดกล้ามเนือ้ ขา
ภาพที่ 24 ภาพท่ี 25
วิธกี ารปฏบิ ัติ
1.ในการปฏบิ ัติท่ายืดเหยยี ดกล้ามเนือ้ ขา ให้ผูร้ บั การปฏิบัตนิ ่ังลาตวั ตรงตามองตรงไปทาง
ด้านหนา้ ขาข้างหน่ึงพาดผ่านเข่ามาฝั่งตรงข้ามลกั ษณะชันเขา่ ขึ้น ผู้ปฏิบตั ินง่ั คกุ เขา่ อยู่บรเิ วณ
ดา้ นหลงั ดงั ภาพที่ 21
2.ใช้มอื ฝ่ังตรงข้ามพาดผา่ นขาไปแตะบรเิ วณหัวเข่าแลว้ บดิ ลาตัวไปยังดา้ นตรงข้ามกับขาท่ีเหยยี ด
ตรง ผ้ปู ฏิบัตชิ ว่ ยประคองบริเวณหวั เข่า ดังภาพที่ 25
3.ปฏบิ ัตคิ ้างไว้ 10-15 วินาที จากน้ันสลบั กบั เพื่อนแล้วปฏบิ ัติเชน่ เดิม
10.ยดื เหยยี ดกล้ามเนื้ออก
ภาพที่ 26 ภาพที่ 27
วิธีการปฏบิ ตั ิ
1.ในการปฏิบตั ิทา่ ยืดเหยียดกล้ามเนอ้ื อก ให้ผู้รบั การปฏิบตั ินัง่ ลาตัวตรงตามองตรงไปทางดา้ นหน้า
หนั หลังเขา้ หากนั เหยียดแขนไปทางดา้ นขา้ งลาตวั ในระดบั ที่ขนานกับพื้นใหฝ้ ่ามอื ประกรบกนั ดงั ภาพ
ท่ี 20
2.ให้ผปู้ ฏิบัติออกแรงทแี่ ขนไปทางดา้ นหน้าลาตวั เพอ่ื ให้ผรู้ บั การปฏบิ ัตริ ู้สึกตึงบริเวณหน้าอกแขนของ
ผูร้ ับการยดื เหยียดนน้ั ต้องเหยียดตรงไปทางด้านหลังขาท้ังสองข้างเหยยี ดตรงไปทางดา้ นหน้า ดงั
ภาพที่ 27
3.ปฏบิ ัติค้างไว้ 10-15 วินาที จากนั้นสลับกับเพ่ือนแลว้ ปฏิบัตเิ ชน่ เดิม
9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้นั เตรียม 1. นกั เรียนเขา้ แถวตอนแถวละ 10 คน
( 10 นาที )
2. ครสู ารวจจานวนนกั เรยี น
3. ครสู ารวจสขุ ภาพและเครือ่ งแต่งกายของนกั เรยี น
4. ครูสารวจสขุ ภาพ ความพรอ้ มและเครื่องแตง่ กายของนกั เรียน
5.ครูสั่งใหน้ กั เรยี นขยายแถว 2 ช่วงแขน
6.ครใู หน้ ักเรียนอบอนุ่ ร่างกายโดยการวิ่งรอบสนาม 2 รอบ
วิธีการสอน : ออกคาสั่ง , อธบิ าย
สื่อ/อุปกรณ์ : นกหวดี , ใบรายชอื่ นกั เรยี น
การวดั และประเมนิ ผล : สังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนในการปฏบิ ัตติ ามคาส่งั
ขน้ั อธิบายและ 1.ครูอธบิ ายหลกั และประโยชนก์ ารอบอุ่นร่างกายและยืดเหยยี ดกลา้ มเนื้อทถ่ี กู ตอ้ ง
สาธิต (10 นาที ) 2.ครแู จกใบความรูท้ ี่ ๒ เร่ืองการบรหิ ารรา่ งกาย
3. ครูสาธติ วธิ ีการการบรหิ ารร่างกายและวธิ ีการช่วยเหลือ ใหน้ กั เรียนไดเ้ ขา้ ใจ
4.ครแู จกใบบนั ทึกการการบริหารร่างกายให้กับนกั เรียนทกุ คน
ข้ันฝกึ หดั 1.ใหน้ กั เรียนจบั คู่ แยกปฏิบตั ิการบริหารร่างกายตามจดุ ต่างๆ
(20 นาท)ี พร้อมกับให้ค่บู ันทึกผลการการบริหารรา่ งกายให้ครบ
2. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเขา้ ทาการทดสอบแตล่ ะจุด โดยครผู ู้สอนคอยแนะนา
ช่วยเหลือและให้สญั ญาณ
ขั้นนาไปใช(้ 10 - เม่อื นกั เรียนฝึกจนเกิดความชานาญ ให้ทดสอบกับครผู สู้ อนเพือ่ ประเมนิ ผล
นาที) การเรยี น
ขน้ั สรปุ และสขุ 1.นกั เรยี นสรปุ ร่วมกับครเู รือ่ งการบรหิ ารรา่ งกาย
ปฏิบัติ 2.เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามและแสดงความคิดเห็น
(5 นาที ) 3. ครูแจง้ เรอื่ งทจี่ ะเรียนในสปั ดาหต์ อ่ ไป
4.ใหน้ ักเรยี นทาความสะอาดรา่ งกาย แล้วเลิกแถวโดยการก้าวเทา้ ขวาพรอ้ มปรบมอื ๓ ครั้ง
แล้วร้อง “บาสเกตบอล”
10. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
10.๑ สอ่ื
- หนังสอื เรียนบาสเกตบอล
- ใบความรทู้ ่ี ๒ เรือ่ งการบรหิ ารร่างกาย
10.๒ แหล่งเรียนรู้
- หนังสอื เรยี นบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกฬี า
๑1. การวัดประเมนิ ผล
รายการประเมนิ วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและ เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมนิ ผล
นักเรยี นใหค้ วามร่วมมอื และความ
ตัวช้ีวัด สังเกตการใหค้ วามร่วมมือ และ สนใจในการทากิจกรรมตามสมควร
ความสนใจในการทากิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม
สมรรถนะสาคญั สังเกต และสอบถาม แบบประเมินสมรรถนะ - พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนสมา่ เสมอ
ผูเ้ รยี น ๕ ดา้ น
คุณลักษณะอัน สังเกต และสอบถาม ๓ คะแนน
พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ - พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนเปน็
อนั พึงประสงค์ ๘ ดา้ น
บางครัง ๒ คะแนน
- พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ินอ้ ยครัง ๑
คะแนน
๑๑. กิจกรรมเสนอแนะ
นักเรยี นควรศึกษาเพิ่มเตมิ เกยี่ วกับเร่ืองการบริหารร่างกาย และเตรยี มความพรอ้ มของรา่ งกายเพ่ือ
เรียนในครงั ต่อไป
แผนการจดั การเรียนรู้ ๔ ชัน้ มัธยมการศึกษาท่ี ๓
กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ ๒๓๑๐๒
เรื่อง การเล้ยี งลูกบาสเกตบอล
วิชา บาสเกตบอล ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
หนว่ ยท่ี ๔ การเลี้ยงลกู บาสเกตบอล
เวลาเรียน ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๓ การเคลอื่ นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที ักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒
รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิสมา่ เสมอ มีวินยั
สาระท่ี ๔ เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนาใจเปน็ นกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และช่นื ชมใน
มาตรฐาน พ ๔.๑
สุนทรยี ภาพของการเล่นกฬี า
การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค
เหน็ คณุ ค่า และมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกันโรค และ
การสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สุขภาพ
๒. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาหลักการ ความรแู้ ละทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกายการเลน่ กม และการเลน่ กฬี าไปใช้
สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ งเป็นระบบ
๒. เล่นกีฬาไทย และกฬี าสากล ทังประเภทบุคคล และทีมอยา่ งละ ๑ ชนิดโดยใช้เทคนคิ ทเี่ หมะสมกับ
ตนเองและทีม
๓. ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอย่างน้อย ๑ กจิ กรรม และนาความรแู้ ละหลักการที่ได้ไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจาวันอย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑ .มมี ารยาทในการเลน่ และดูกีฬาดว้ ยความมีนาใจนักกีฬา
๒. ออกกาลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่าเสมอ และนาแนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตของตนด้วยความภาคภมู ิใจ
๓. ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นตามชนิดกฬี าท่ีเลือกและนาแนวคิดท่ีได้ไปพัฒนา
คณุ ภาพชวี ติ ของตนในสงั คม
มาตรฐาน พ 4.1
๑.วางแผนและจัดเวลาในการออกกาลงั กาย การพักผอ่ นและสร้างเสรมิ สมรรถภาพกาย
๓. สาระสาคัญ
ทักษะการเลยี งลกู บาสเกตบอล ใชส้ าหรับนาลูกบาสเกตบอลเคล่ือนทไี่ ปกบั ตัวเองหรอื ต้องการ
ครอบครองลกู บาสเกตบอลไวก้ บั ตวั เอง ซึ่งตามระเบยี บการเล่นบาสเกตบอลการครอบครองลกู บอลดว้ ยการถอื
ลูกบอลไว้นนั ต้องไมน่ านเกนิ ๕ นาที ถา้ ผเู้ ลน่ ยังตอ้ งการครอบครองลูกบอลไวอ้ กี จึงจาเปน็ ตอ้ งเลียงลูกบอล
เพอื่ รอจงั หวะเล่นต่อไป และการเลยี งลกู บาสเกตบอลยงั ถอื วา่ เปน็ วธิ ีการอยา่ งหนง่ึ ของฝา่ ยรุก ทจี่ ะดงึ ฝ่าย
ปอ้ งกันออกมาจากเจตประตู หรอื ให้ผเู้ ล่นฝ่ายเดยี วกนั มีเวลาจดั ตาแหน่งในการยนื หรอื เขา้ ทาประตูเมื่อมโี อกาส
สาระย่อย
การเลีย้ งลูกบาสเกตบอลแบง่ เปน็ ๒ ระดับ คอื
๑. การเลย้ี งลูกบาสเกตบอลระดบั สูง
ภาพการเลียงบาสเกตบอลระดบั สูง
คอื การเลียงลกู โดยทมุ่ ลูกบอลให้ระดับสงู เหนือเอวขนึ มา แตไ่ มค่ วรเกินหวั ไหล่ จะทาให้ควบคุมทศิ ทางลกู บอล
ยาก ใชก้ ับการเคล่ือนท่ีในทศิ ทางตรง เช่น การวิง่ เลียงลกู
๒. การเลย้ี งลูกบาสเกตบอลระดบั ตา่
ภาพการเลียงบาสเกตบอลระดับต่า
คอื การเลยี งลกู ระดับต่ากวา่ เอวลงไป คอื ประมาณความสงู ระดบั เข่า ใชส้ าหรบั เคลอื่ นท่หี ลบหลกี คู่
ต่อสหู้ รือใช้เลยี งในพืนทแ่ี คบ อาจจะใชก้ ารเคลื่อนท่ีโดยการกา้ วเทา้ ตามกนั การเลยี งระดับนจี ะควบคุมลูกได้ดี
สามารถพาลูกไปกบั ตวั ไดค้ ลอ่ งแคลว่
4. สมรรถนะสาคัญ
การศึกษาเกี่ยวกับทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ
จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ซ่ึงทาให้นักเรยี น
เกิดสมรรถนะที่สาคัญ คือ มีความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ
แก้ปัญหา มีความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต และมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
การศึกษาเก่ียวกับทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คือ รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณ
6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
-
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้ันเตรยี ม 1. นักเรยี นเขา้ แถวตอน 10 แถว
(5 นาที )
ขนั้ อธบิ าย 2. ครูสารวจจานวนนักเรียน
และสาธติ
(10 นาที ) 3. ครูสารวจสขุ ภาพและเครื่องแตง่ กายของนกั เรยี น
4. ตัวแทนนักเรียนนาอบอนุ่ รา่ งกาย
ขนั้ ฝึกหดั
วิธกี ารสอน : ออกคาสงั่ , อธิบาย
สื่อ/อปุ กรณ์ : นกหวดี , ใบรายชือ่ นกั เรียน
การวดั และประเมินผล : สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในการปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง
1.ครผู สู้ อนอธบิ ายและสาธิตการเลี้ยงลกู บาสเกตบอล
๑. จากท่าเตรียม (ทา่ ถือครอบครองลูกบอล) ทมุ่ ลูกบอลลงกับพน้ื เมอ่ื ลกู บอลกระดอน
ข้นึ มาใหก้ างนิ้วขา้ งใดข้างหน่ึงรบั โดยควา่ มือกดลงไป ไม่ควรให้องุ้ มอื สัมผัสลกู บอล
๒. ใช้น้ิวมือในการบังคบั ลกู บอล ต้องการให้ลกู บอลกระดอนตรงก็กดลงที่กลางหลังลูก
บอลตรงๆ ถ้าตอ้ งการให้ไปทางซ้ายก็กดลงด้านบนหลงั ลกู ค่อนไปทางขวาของลกู บอล เปน็ ตน้
๓. แขนท่อนลา่ งท่ีใชเ้ ลีย้ งลูกบอลให้พับขึน้ ลงตามจังหวะการทมุ่ ลูกแต่ละครัง้ สว่ นแขน
ท่อนบนปล่อยลงมาตามปกตไิ ม่ต้องขยับขึน้ ลง
๔. การเลีย้ งลูกบอลดว้ ยมือขวา เท้าซ้ายควรอยู่หน้า ถา้ เล้ยี งดว้ ยมอื ซา้ ยเทา้ ขวาควรอยู่
หน้า ย่อเขา่ ลงเลก็ นอ้ ย น้าหนกั ตวั ตกลงที่ปลายเท้าท้ังสองข้าง เพอ่ื ทใ่ี ห้สามารถเคลอื่ นท่ไี ด้
อย่างสะดวกรวดเรว็
๕. ลาตัวโนม้ ไปขา้ งหนา้ เล็กน้อย สายตามองตรง หรอื มองเปา้ หมายทต่ี ้องการเคล่อื นทไี่ ป
๖. แขนอีกขา้ งหน่ึงกางออกเลก็ น้อย เพ่ือให้เกดิ การทรงตัวทด่ี ี และยังยังสามารถใชห้ มุน
บังปอ้ งกันฝ่ายตรงขา้ มทีเ่ ข้ามาแย่งบอลไดอ้ ีกดว้ ย
วธิ ีการสอน : อภปิ ราย , อธบิ าย , สาธิต
สื่อ/อปุ กรณ์ : นกหวีด
การวดั และประเมนิ ผล : สังเกตพฤติกรรมความสนใจและการตอบคาถาม
1. ซกั ถามขอ้ สงสัยนกั เรยี น เร่อื งการเลีย้ งลกู บาสเกตบอล
(20 นาที) 2. ให้นักเรียนฝกึ ตามขน้ั ตอนของครูท่ีสาธิตตามลาดบั
2.๑ ให้นกั เรียนฝึกการเลย้ี งลกู บาสเกตบอลแบบอยู่กับท่ี
๒.2 ใหน้ ักเรียนฝกึ การเลย้ี งลูกบาสเกตบอลแบบเคลือ่ นท่ีดว้ ยการเดนิ
= นกั เรียน
= กรวย
= เส้นทาง
2.๓ ใหน้ กั เรียนฝึกการเลยี้ งลูกบาสเกตบอลแบบเคลือ่ นทด่ี ้วยการวิ่ง โดยเพิ่มระยะหา่ ง
ระหวา่ งกรวยทงั้ ๒ อัน
ขน้ั นาไปใช้ 3. ใหน้ ักเรียนทีม่ ีความสามารถเรือ่ ง การเลย้ี งลูกบาสเกตบอล ชว่ ยแนะนาเพื่อน ๆ ภายในกลุม่
(15 นาท)ี พร้อมทัง้ ใหก้ าลงั ใจ
4.ในขณะท่นี ักเรียนกาลังฝกึ ปฏบิ ัตคิ รูจะพดู สอดแทรกในเร่อื งของทักษะทก่ี าลังปฏิบตั ิเม่อื ต้อง
ไปพบกับสถานการณจ์ รงิ ในกฬี าบาสเกตบอล
วิธกี ารสอน : อธิบาย , สาธิต
สอ่ื /อุปกรณ์ : นกหวดี
การวัดและประเมนิ ผล : สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
1.ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ทีแ่ บง่ ไวโ้ ดยมีสมาชกิ เท่าๆกันเข้าแถวหลังกรวย เพ่ือเลน่ เกมส์ ในลักษณะของ
การเลยี้ งบาสเกตบอลเหมอื นแบบฝึก เลี้ยงจากกรวยทนี่ ักเรียนยนื อยไู่ ปออ้ ยยังกรวยฝงั่ ตรงข้าม
ใหเ้ รว็ ที่สุด
2.กลมุ่ ไหนปฏิบตั จิ นครบสมาชกิ ทกุ คนแล้วเป็นทีมที่ชนะ
วิธีการสอน : ออกคาส่งั , อธบิ าย
สอ่ื /อปุ กรณ์ : นกหวีด
การวดั และประเมินผล : สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
ขน้ั สรปุ และ 1. นกั เรียนเขา้ แถวตอน แถวละ10 คน
สขุ ปฏิบตั ิ
(5 นาที)
2.ครใู หผ้ เู้ รียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปถึงปัญหาเรอื่ งการเลี้ยงลกู บาสเกตบอล
3. ใหผ้ ้เู รยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สรุป ประโยชน์และการนาไปใชข้ องการเลยี้ งลกู บาสเกตบอล
4. ครผู ู้สอนช่วยสรปุ เพิม่ เตมิ ถึงปญั หา การเลน่ ประโยชน์ และการนาไปใช้ ตลอดจน
สอดแทรกเร่ืองคุณธรรม จรยิ ธรรม ใหน้ กั เรยี นทราบ
5.เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามและแสดงความคิดเหน็
6. บอกเรื่องสขุ ปฏิบัติ
7. นดั หมายเร่ืองทจี่ ะเรียนในสปั ดาห์ถัดไปและส่ังเลกิ แถว
8. ใหน้ กั เรียนทาความสะอาดร่างกาย แลว้ เลิกแถวโดยการกา้ วเทา้ ขวาพร้อมปรบมือ ๓ ครัง้
แล้วรอ้ ง “บาสเกตบอล”
วธิ กี ารสอน : อภิปราย , อธบิ าย
สื่อ/อปุ กรณ์ : นกหวดี
การวดั และประเมินผล : สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในการปฏบิ ตั ิตามคาส่งั
๙. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
๙.๑ สอ่ื
-
๙.๒ แหล่งเรยี นรู้
- หนงั สือเรียนบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกีฬา
๑๐. การวัดประเมินผล
รายการประเมิน วธิ กี ารวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื วัดและ เกณฑก์ ารประเมิน
ตัวช้ีวัด ประเมินผล
นกั เรยี นให้ความรว่ มมือและความสนใจ
สังเกตการใหค้ วามร่วมมือ และ แบบสงั เกตพฤติกรรม ในการทากจิ กรรมตามสมควร
ความสนใจในการทากจิ กรรม
สมรรถนะสาคญั สังเกต และสอบถาม แบบประเมนิ สมรรถนะ - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชัดเจนสมา่ เสมอ ๓
ผเู้ รยี น ๕ ด้าน คะแนน
คณุ ลักษณะอนั พึง สงั เกต และสอบถาม แบบประเมิน - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนเปน็ บางครัง
ประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ๒ คะแนน
ประสงค์ ๘ ด้าน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิน้อยครงั ๑ คะแนน
๑๑. กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนควรศึกษาเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกับเร่ืองทกั ษะการเลียงลูกบาสเกตบอลและเตรียมความพรอ้ มของ
รา่ งกายเพอื่ เรยี นในครงั ตอ่ ไป
แบบประเมินพฤตกิ รรมการสังเกตการให้ความร่วมมือของนักเรยี น
วชิ า…………….ชนั ……………
คาชแ้ี จง เพ่อื ประเมนิ พฤตกิ รรมการสงั เกตการให้ความรว่ มมอื ของนักเรียนในชนั มัธยมศึกษาปีท่ีสองครผู ้สู อน
เป็นผู้ประเมินนักเรยี นโดยใช้วิธีสังเกตในขณะดาเนินการสอนแล้วใสค่ ะแนนใหต้ รงกบั พฤตกิ รรมที่เปน็
จรงิ ของนักเรยี นตามระดับคะแนนดังนี
4 = กระทามากสุด 3 = กระทามาก
2 = กระทานอ้ ย 1 = ไมค่ อ่ ยกระทา/ไมก่ ระทาเลย
พฤตกิ รรมนกั เรยี น
ช่ือ-นามสกุล
ความ ัตงใจและสนใจในการเรียน
การตอบคาถาม
ใ ้หความ ่รวมมือในการทากิจกรรม
การร่วมอ ิภปรายตรงประเ ็ดน
เคารพกฎระเ ีบยบใน ัชนเรียน
รวมคะแนน
หมายเห ุต
การแปลผล หมายถงึ ดีเย่ียม
หมายถงึ ดี
18-20 หมายถงึ พอใช้
15-17
10-14 หมายถึง ปรบั ปรุง
ตา่ กว่า 10
แหล่งอา้ งองิ
1.ตวั ชวี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขันพนื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
แผนการจัดการเรยี นรู้ ๕ ชน้ั มธั ยมการศึกษาท่ี ๓
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา รหัสวชิ า พ ๒๓๑๐๒
เรื่อง การเล้ียงลูกบาสเกตบอล
วชิ า บาสเกตบอล ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
หน่วยท่ี ๔ ทดสอบการเล้ยี งลูกบาสเกตบอล
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๓ การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั ิสมา่ เสมอ มวี นิ ยั
เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี าใจเปน็ นักกีฬา มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชนื่ ชมใน
สุนทรียภาพของการเลน่ กีฬา
สาระที่ ๔ การสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คุณค่า และมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรค และ
การสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพอื่ สุขภาพ
๒. ตัวชี้วดั
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาผลการปฏิบัติตนเกีย่ วกับทกั ษะกลไก และทักษะการเคลอ่ื นไหวในการเล่นกีฬาจากแหลง่ ข้อมลู ที่
หลากหลายมาสรุปในบรบิ ทของตนเอง
๒. เลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากล ทงั ประเภทบุคคล และทมี อย่างละ ๑ ชนิด
๓. เปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ าพของรปู แบบการเคลื่อนไหวที่ส่งผลตอ่ การเลน่ กฬี า และกิจกรรมใน
ชีวติ ประจาวัน
๔. ร่วมกิจกรรมนันทนาการอยา่ งน้อย ๑ กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลักการที่ได้ไปปรับใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
1. เลือกเข้าร่วมกจิ กรรมออกกาลังกาย เล่นกฬี าตามความถนัด ความสนใจ พร้อมท้งั วิเคราะหค์ วาม
แตกต่างระหวา่ งบคุ คลเพ่อื เปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเอง
2. มีวนิ ยั ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นกฬี าที่เลอื ก
3. นาผลการปฏิบัตใิ นการเลน่ กีฬามาสรุปเป็นวิธที ่เี หมาะสมกับตนเองด้วยความมงุ่ ม่นั
๓. สาระสาคญั
ทักษะการเลียงลกู บาสเกตบอล ใชส้ าหรับนาลูกบาสเกตบอลเคลอื่ นท่ไี ปกับตวั เองหรอื ตอ้ งการ
ครอบครองลกู บาสเกตบอลไว้กับตัวเอง ซึ่งตามระเบยี บการเล่นบาสเกตบอลการครอบครองลกู บอลด้วยการถอื
ลกู บอลไว้นนั ตอ้ งไมน่ านเกนิ ๕ นาที ถ้าผู้เลน่ ยงั ต้องการครอบครองลกู บอลไว้อีก จึงจาเปน็ ตอ้ งเลียงลกู บอล
เพื่อรอจงั หวะเลน่ ตอ่ ไป และการเลยี งลกู บาสเกตบอลยงั ถอื ว่าเปน็ วิธกี ารอย่างหนงึ่ ของฝา่ ยรุก ทจี่ ะดึงฝ่าย
ปอ้ งกันออกมาจากเจตประตู หรือให้ผเู้ ล่นฝ่ายเดยี วกนั มีเวลาจดั ตาแหนง่ ในการยนื หรอื เข้าทาประตเู มื่อมโี อกาส
สาระย่อย
การเลีย้ งลูกบาสเกตบอลแบ่งเปน็ ๒ ระดับ คือ
๑. การเลยี้ งลูกบาสเกตบอลระดับสงู
ภาพการเลียงบาสเกตบอลระดบั สูง
คือ การเลียงลูกโดยทมุ่ ลกู บอลใหร้ ะดบั สงู เหนอื เอวขึนมา แต่ไม่ควรเกนิ หัวไหล่ จะทาให้ควบคมุ ทิศทางลกู บอล
ยาก ใช้กับการเคลอื่ นที่ในทศิ ทางตรง เช่น การวิ่งเลยี งลกู
๒. การเล้ียงลกู บาสเกตบอลระดับตา่
ภาพการเลยี งบาสเกตบอลระดบั ต่า
คือ การเลยี งลกู ระดับต่ากว่าเอวลงไป คอื ประมาณความสูงระดับเข่า ใช้สาหรับเคลือ่ นทห่ี ลบหลีกคู่
ต่อส้หู รือใช้เลยี งในพืนทแ่ี คบ อาจจะใชก้ ารเคลือ่ นที่โดยการกา้ วเท้าตามกนั การเลียงระดับนีจะควบคุมลกู ไดด้ ี
สามารถพาลกู ไปกับตวั ได้คล่องแคลว่
วิธีการปฏบิ ตั ทิ ักษะ
๑. จากทา่ เตรียม (ท่าถอื ครอบครองลูกบอล) ทุม่ ลกู บอลลงกับพ้นื เม่อื ลกู บอลกระดอนขึน้ มาให้กางนิว้ ข้าง
ใดข้างหนง่ึ รบั โดยควา่ มอื กดลงไป ไมค่ วรให้อ้งุ มอื สัมผสั ลูกบอล
๒. ใช้นว้ิ มอื ในการบังคับลูกบอล ตอ้ งการให้ลกู บอลกระดอนตรงกก็ ดลงทก่ี ลางหลังลกู บอลตรงๆ ถา้
ต้องการให้ไปทางซ้ายก็กดลงดา้ นบนหลังลกู ค่อนไปทางขวาของลูกบอล เป็นต้น
๓. แขนท่อนล่างท่ีใช้เลย้ี งลกู บอลใหพ้ ับข้นึ ลงตามจงั หวะการทมุ่ ลูกแต่ละครัง้ สว่ นแขนท่อนบนปลอ่ ยลง
มาตามปกตไิ มต่ ้องขยับข้นึ ลง
๔. การเลี้ยงลกู บอลดว้ ยมอื ขวา เทา้ ซ้ายควรอยู่หน้า ถ้าเลยี้ งด้วยมอื ซา้ ยเท้าขวาควรอยู่หนา้ ย่อเข่าลง
เล็กนอ้ ย นา้ หนักตัวตกลงท่ปี ลายเท้าทัง้ สองข้าง เพ่อื ที่ใหส้ ามารถเคลือ่ นทไี่ ดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเรว็
๕. ลาตวั โนม้ ไปข้างหน้าเล็กนอ้ ย สายตามองตรง หรอื มองเป้าหมายท่ีต้องการเคลือ่ นท่ไี ป
๖. แขนอีกข้างหนง่ึ กางออกเล็กนอ้ ย เพือ่ ให้เกิดการทรงตวั ทีด่ ี และยังยังสามารถใชห้ มุนบงั ปอ้ งกนั ฝ่าย
ตรงขา้ มทเ่ี ข้ามาแยง่ บอลไดอ้ กี ด้วย
4. สมรรถนะสาคญั
การศึกษาเก่ียวกับทักษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ
จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อให้บรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้ซ่ึงทาให้นักเรยี น
เกิดสมรรถนะที่สาคัญ คือ มีความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ
แกป้ ัญหา มีความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ และมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
การศึกษาเก่ียวกับทักษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คือ รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มงุ่ มน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณ
6. ชิ้นงาน / ภาระงาน
-
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ เตรียม 1. นกั เรียนเข้าแถวตอน 10 แถว
(5 นาที )
2. ครูสารวจจานวนนกั เรียน
3. ครสู ารวจสุขภาพและเคร่อื งแต่งกายของนกั เรยี น
4. ตวั แทนนักเรยี นนาอบอุ่นรา่ งกาย
วธิ กี ารสอน : ออกคาสง่ั , อธบิ าย
ส่ือ/อุปกรณ์ : นกหวีด , ใบรายชือ่ นกั เรียน
การวัดและประเมนิ ผล : สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในการปฏิบตั ิตามคาส่ัง
ขั้นอธิบาย 1. ครผู สู้ อนอธบิ ายและทบทวนการเล้ยี งลูกบาสเกตบอลและแบบทดสอบในการสอบปฏบิ ตั ิ
และสาธติ ๒. สาธติ วธิ ีการทดสอบ
(10 นาที )
3. ให้นกั เรียนยนื ที่จุดเริม่ ตน้ ฟังสัญญาณจากครผู ู้สอนจากนั้นเร่ิมเลีย้ งบาสเกตบอลระดบั ตา่
ซิกแซกไปตามกรวยทีก่ าหนดโดยตอ้ งอ้อมกรวยทกุ จดุ
4. เมื่อถงึ กรวยสุดท้ายของการเลีย้ งซกิ แซกให้เลย้ี งบาสเกตบอลระดับสงู ทางตรงตามลกู ศรสี
แดงจนถงึ กรวยสดุ ทา้ ยถอื เปน็ การสิ้นสุดการทดสอบ
วิธีการสอน : อภิปราย , อธิบาย , สาธติ
สื่อ/อุปกรณ์ : นกหวีด
การวัดและประเมนิ ผล : สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
ข้นั ฝกึ หดั 1. ซักถามขอ้ สงสยั นักเรยี น เรือ่ งการทดสอบการเลยี้ งลูกบาสเกตบอล
(10 นาที) 2. ให้นักเรยี นฝึกตามขัน้ ตอนของครูที่สาธิตตามลาดบั
3. เมอ่ื นักเรยี นคนไหนพร้อมทาการทดสอบให้มาแจ้งครูผูส้ อน
4. การทดสอบจะตอ้ งปฏบิ ตั ิให้ครบทุกคนก่อนหมดคาบรียน
วิธกี ารสอน : อธบิ าย , สาธิต
ส่ือ/อปุ กรณ์ : นกหวดี
การวดั และประเมินผล : สังเกตพฤติกรรมความสนใจและการตอบคาถาม
ขน้ั นาไปใช้ 1.ให้นักเรยี นที่พรอ้ มทาการทดสอบแจง้ เลขทีก่ ่อนทาการทดสอบ
(20 นาท)ี 2.ครูผูส้ อนสงั เกตและใหค้ ะแนนตามเกณฑ์ท่ีกาหนด
3.ทาการทดสอบจนครบนักเรยี นทกุ คน
วิธีการสอน : ออกคาสงั่ , อธิบาย
สอื่ /อุปกรณ์ : นกหวีด
การวดั และประเมินผล : สังเกตพฤตกิ รรมความสนใจและการตอบคาถาม
ข้นั สรุปและ 1. นักเรยี นเข้าแถวตอน แถวละ10 คน
สุขปฏบิ ตั ิ
(5 นาที)
2.ครใู หผ้ ูเ้ รียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรปุ ถงึ ปญั หาเรื่องการทดสอบการเลย้ี งลกู บาสเกตบอล
3. ให้ผูเ้ รียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั สรปุ ประโยชน์และการนาไปใชข้ องการเลีย้ งลูกบาสเกตบอล
4. ครูผ้สู อนชว่ ยสรุปเพม่ิ เติม ถึงปญั หา การเล่น ประโยชน์ และการนาไปใช้ ตลอดจน
สอดแทรกเรอ่ื งคุณธรรม จรยิ ธรรม ให้นักเรยี นทราบ
5.เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามและแสดงความคิดเห็น
6. บอกเร่อื งสุขปฏิบัติ
7. นัดหมายเรอ่ื งท่ีจะเรียนในสปั ดาห์ถดั ไปและสงั่ เลกิ แถว
8. ให้นักเรียนทาความสะอาดร่างกาย แล้วเลิกแถวโดยการก้าวเท้าขวาพร้อมปรบมือ ๓ ครัง้
แล้วร้อง “บาสเกตบอล”
วธิ ีการสอน : อภปิ ราย , อธบิ าย
สอ่ื /อุปกรณ์ : นกหวีด
การวัดและประเมนิ ผล : สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในการปฏบิ ตั ิตามคาส่ัง
๙. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
๙.๑ ส่ือ
-
๙.๒ แหล่งเรยี นรู้
- หนังสอื เรียนบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกฬี า
๑๐. การวัดประเมินผล
รายการประเมนิ วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวดั และ เกณฑ์การประเมิน
ตัวช้ีวัด สงั เกตการให้ความรว่ มมอื และ ประเมินผล
ความสนใจในการทากจิ กรรม
สมรรถนะสาคัญ สงั เกต และสอบถาม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นให้ความรว่ มมอื และความ
สนใจในการทากิจกรรมตามสมควร
คุณลกั ษณะอนั พงึ สังเกต และสอบถาม
ประสงค์ แบบประเมนิ สมรรถนะ - พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนสมา่ เสมอ
ผเู้ รียน ๕ ดา้ น ๓ คะแนน
แบบประเมิน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนเป็น
คณุ ลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์ ๘ ด้าน บางครงั ๒ คะแนน
- พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ิน้อยครงั ๑
คะแนน
๑๑. กจิ กรรมเสนอแนะ
นักเรยี นควรศึกษาเพ่มิ เตมิ เกีย่ วกับเรอื่ งทักษะการเลียงลกู บาสเกตบอลและเตรียมความพร้อมของ
ร่างกายเพ่ือเรยี นในครังต่อไป
ความ ัตงใจและสนใจในการเรียนแบบประเมนิ พฤตกิ รรมการสงั เกตการใหค้ วามร่วมมอื ของนักเรยี น
การตอบคาถามวชิ า…………….ชนั ……………
ใ ้หความ ่รวมมือในการทากิจกรรมคาชีแ้ จงเพอ่ื ประเมินพฤติกรรมการสังเกตการให้ความร่วมมือของนกั เรียนในชันมัธยมศึกษาปีทสี่ องครูผู้สอน
การร่วมอ ิภปรายตรงประเ ็ดนเปน็ ผปู้ ระเมินนกั เรยี นโดยใช้วธิ ีสงั เกตในขณะดาเนินการสอนแล้วใสค่ ะแนนให้ตรงกบั พฤตกิ รรมทีเ่ ปน็ จรงิ ของ
เคารพกฎระเ ีบยบใน ัชนเรียนนกั เรยี นตามระดับคะแนนดังนี
รวมคะแนน
หมายเห ุต4 = กระทามากสุด 3 = กระทามาก
2 = กระทาน้อย 1 = ไม่ค่อยกระทา/ไมก่ ระทาเลย
พฤติกรรมนักเรียน
ช่อื -นามสกลุ
การแปลผล
18-20 หมายถึง ดีเยีย่ ม
15-17 หมายถงึ ดี
10-14 หมายถงึ พอใช้
ต่ากว่า 10 หมายถึง ปรบั ปรงุ
แหลง่ อา้ งอิง
1.ตัวชวี ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขันพนื ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
เกณฑก์ ารให้คะแนนการทดสอบทักษะการเลีย้ งบาสเกตบอล
ท่าทางการปฏบิ ัติ 54321
1.ท่าเตรยี ม (ทา่ ถอื ครอบครองลูกบอล)ทุ่มลกู บอลลงกับพนื้ เมอ่ื ลูกบอลกระดอน
ขน้ึ มาใหก้ างน้วิ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ รบั โดยคว่ามือกดลงไป ไม่ควรให้อ้งุ มอื สมั ผัสลกู
บอล
๒. ใชน้ ้ิวมือในการบังคับลูกบอล ต้องการให้ลกู บอลกระดอนตรงก็กดลงที่กลาง
หลังลกู บอลตรงๆ ถ้าต้องการใหไ้ ปทางซา้ ยก็กดลงดา้ นบนหลังลูกค่อนไปทางขวา
ของลูกบอล
๓. แขนทอ่ นลา่ งที่ใชเ้ ลีย้ งลกู บอลให้พบั ข้ึนลงตามจงั หวะการทุ่มลูกแตล่ ะครั้ง ส่วน
แขนท่อนบนปลอ่ ยลงมาตามปกติไมต่ ้องขยับขน้ึ ลง
๔. การเลี้ยงลูกบอลด้วยมือขวา เท้าซ้ายควรอยหู่ น้า ถา้ เลี้ยงดว้ ยมือซา้ ยเท้าขวา
ควรอย่หู น้า ย่อเขา่ ลงเล็กน้อย นา้ หนักตัวตกลงที่ปลายเท้าท้ังสองขา้ ง เพ่ือที่ให้
สามารถเคลอ่ื นท่ไี ด้อย่างสะดวกรวดเร็ว
๕. ลาตัวโน้มไปขา้ งหน้าเล็กนอ้ ย สายตามองตรง หรอื มองเปา้ หมายที่ต้องการ
เคล่ือนที่ไป
6.แขนอกี ขา้ งหน่ึงกางออกเลก็ น้อย เพอ่ื ใหเ้ กดิ การทรงตวั ที่ดี และยงั ยงั สามารถใช้
หมุนบงั ป้องกนั ฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาแย่งบอลไดอ้ ีกด้วย
7.ปฏิบัติทักษะไดถ้ ูกต้องตามแบบทดสอบทีก่ าหนด
การแปลผล 10 คะแนน
30-35 หมายถงึ 9 คะแนน
25-29 หมายถึง 8 คะแนน
20-24 หมายถงึ 7 คะแนน
15-19 หมายถึง 6 คะแนน
10-14 หมายถงึ
ต้องสอบปฏิบัติทักษะใหม่
ตา่ กวา่ 10 ลงไป หมายถงึ
แผนการจัดการเรยี นรู้ ๖ ชัน้ มัธยมการศกึ ษาที่ ๓
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา รหัสวชิ า พ ๒๓๑๐๒
เรอ่ื ง การรบั – ส่งลูกบาสเกตบอล
วิชา บาสเกตบอล ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
หน่วยท่ี ๕ การรบั – ส่งลูกบาสเกตบอล
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒
รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏิบตั ิสม่าเสมอ มีวินยั
สาระท่ี ๔ เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนาใจเป็นนักกีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน
มาตรฐาน พ ๔.๑
สนุ ทรยี ภาพของการเลน่ กฬี า
การสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกนั โรค
เห็นคุณค่า และมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกันโรค และ
การสร้างเสริมสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพ
๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาผลการปฏบิ ัติตนเก่ยี วกับทักษะกลไก และทักษะการเคลอื่ นไหวในการเล่นกีฬาจากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี
หลากหลายมาสรปุ ในบรบิ ทของตนเอง
๒. เลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากล ทงั ประเภทบุคคล และทีมอยา่ งละ ๑ ชนิด
๓. เปรยี บเทยี บประสทิ ธิภาพของรูปแบบการเคลื่อนไหวทสี่ ่งผลตอ่ การเล่นกีฬา และกจิ กรรมใน
ชวี ติ ประจาวัน
๔. ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการอย่างน้อย ๑ กจิ กรรม และนาความรู้และหลักการทไี่ ด้ไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจาวันอย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑. อธิบายสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญาท่ีเกิดจากการออก
กาลงั กาย และเลน่ กีฬาเป็นประจาจนเปน็ วิถชี วี ติ
๒. เลือกเข้ารว่ มกิจกรรมออกกาลงั กาย เล่นกฬี าตามความถนดั ความสนใจ พรอ้ มทังวิเคราะหค์ วาม
แตกต่างระหวา่ งบคุ คลเพอื่ เป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง
๓. มวี ินยั ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาทีเ่ ลือก
๔. วางแผนการรกุ และการป้องกนั ในการเล่นกีฬาทีเ่ ลอื ก และนาไปใช้ในการเล่นอย่างเหมาะสมกับทีม
๕. นาผลการปฏิบัติในการเลน่ กฬี ามาสรปุ เป็นวิธที ีเ่ หมาะสมกับตนเองดว้ ยความม่งุ มน่ั
๓. สาระสาคัญ
การรบั - สง่ ลกู บาสเกตบอลเป็นการนาลกู บอลเคลือ่ นท่ไี ปในทศิ ทางตา่ งๆ โดยใช้คนตังแต่ ๒ คนขนึ ไป
จุดม่งุ หมายเพือ่ นาลกู บอลไปใกล้ประตูหรือยิงประตฝู ่ายตรงข้าม
สาระย่อย
การสง่ แบบสองมือระดบั อก (Two Hands Chest Pass)
การส่งลกู บาสเกตบอลสองมือระดบั อก เป็นวิธกี ารส่งทใ่ี ช้กันมากท่ีสดุ ในการแขง่ ขนั จงึ นบั ได้วา่
การสง่ ลกู บอลแบบนี้เป็นหัวใจของการสง่ ลูกบอล เพราะสง่ ได้รวดเร็วและแม่นยาทั้งในระยะใกลแ้ ละระยะห่าง
กันปานกลาง มีวิธีปฏบิ ัตดิ งั นี้
1.1 เริ่มจากท่ายนื ทรงตวั
1.2 จบั ลูกบอลด้วยมือทั้งสองระดับอกหา่ งตัวเล็กนอ้ ย
1.3 นวิ้ มือทัง้ ห้ากางออกแนบขา้ งลูกบอล หวั แมม่ ือทง้ั สองอยู่ดา้ นหลงั ทแยงมมุ ซ่งึ กนั และกัน
1.4 ศอกท้ังสองข้างเฉียงลงข้างลาตวั ไมเ่ กรง็
1.5 หักขอ้ มือท้งั สองขึน้ เลก็ นอ้ ย
1.6 ผลกั บอลด้วยการเหยียดแขนและตวัดขอ้ มือลง ผลกั ด้วยปลายนวิ้
1.7 สบื เท้าข้างหน่งึ ไปส่ทู ศิ ทางทส่ี ่งบอล ยกสน้ เทา้ หลงั ขึ้นจะช่วยทาใหล้ ูกบอลพงุ่ แรงและเรว็ ข้ึน
การส่งแบบสองมือกระดอนพืน้ (Bounce Pass)
การส่งลูกกระดอนพนื้ น้ใี ชเ้ พอ่ื หลบหลีกจากฝา่ ยท่ีพยายามเข้ามาสกัดก้นั และแยง่ ลกู บอลไป
ครอบครองการส่งแบบนท้ี าคล้ายกับการสง่ ลูกแบบสองมอื ระดับอก จะต่างกนั กต็ รงทีว่ ธิ ีนจี้ ะต้องส่งลกู บอลลง
ไปกระทบพ้นื หนง่ึ ครง้ั ก่อนจะกระดอนข้ึนไปยงั ผู้รบั การส่งลกู บอลวิธนี ้ี จะสามารถผ่านการป้องกนั ของฝ่าย
ตรงขา้ มได้ เพราะการส่งลูกแบบกระดอนพ้ืนเป็นการส่งทคี่ ู่ต่อสู้ป้องกนั ไดย้ าก มักจะใช้กนั บรเิ วณใกล้ห่วง
ประตู มีวธิ ีการปฏบิ ัติดังน้ี (สุนทร กายประจกั ษ์, 2536 : 21)
2.1 เร่ิมจากท่ายนื ทรงตัว
2.2 จับลูกบอลดว้ ยมือทั้งสองระดับอกหา่ งตัวเล็กน้อย
2.3 นิ้วมอื ท้ังห้ากางออกแนบขา้ งลูกบอล หัวแม่มอื ทั้งสองอย่ดู า้ นหลังทแยงมุมซง่ึ กนั และกนั
2.4 ศอกทงั้ สองเฉยี งลงข้างลาตัวไมเ่ กร็ง
2.5 หักข้อมอื ทั้งสองขึ้นเล็กน้อย
2.6 ผลกั ลูกบอลดว้ ยการเหยยี ดแขนและตวดั ขอ้ มอื ลง ผลักด้วยปลายนว้ิ ให้กระทบพืน้ สองใน
สามของระยะทางให้กระดอนขน้ึ ระดับดับอกของผู้รบั
2.7 สบื เท้าข้างหนง่ึ ไปส่ทู ศิ ทางที่ส่งลูกบอล ยกสน้ เทา้ หลังช่วยจะทาใหล้ กู บอลพงุ่ แรงและเรว็ ขึ้น
การส่งแบบสองมือเหนอื ศรี ษะ (Two Hands Overhead Pass)
การส่งลกู แบบสองมอื เหนอื ศีรษะ เป็นการสง่ ลูกบอลในระดบั สงู ผ่านคนป้องกัน โดยเฉพาะการ
เล่นปอ้ งกันแบบเปน็ เขต (Zone) ตาแหนง่ ลกู บอลสามารถสง่ ได้หลายทิศทางโดยมเี ปา้ หมายส่งไปยังบรเิ วณ
ศรี ษะผู้รบั ลูกบอล ซง่ึ มวี ิธีปฏบิ ัติดงั นี้
3.1 จับลูกบอลดว้ ยมอื ท้งั สอง น้ิวกางออก ยกข้นึ เหนือศรี ษะ หักขอ้ มือหงายขน้ึ งอศอกเล็กน้อย
3.2 ตวดั ลูกบอลไปสรู่ ะดับอกของผู้รบั ดว้ ยการเหยียดแขน ขอ้ ศอกตงึ ส่งไปขา้ งหน้า
3.3 กดขอ้ มือพร้อมกับดดี ส่งดว้ ยนว้ิ มอื เมอ่ื ลกู บอลพน้ มอื ไปใหเ้ หยยี ดแขนตาลกู บอลไปดว้ ย
3.4 อาจก้าวเทา้ ใดเท้าหนง่ึ ไปข้างหน้า เพือ่ เพม่ิ แรงสง่ กไ็ ด้
การส่งแบบมือเดยี วเหนือไหล่ (Base Ball Pass)
เฉลีย่ พมิ พ์พนั ธุ์ (2537 : 74) กลา่ วถงึ การส่งลูกแบบมอื เดียวเหนือไหล่วา่ เหมาะสาหรบั การ
สง่ ระยะไกล มีลักษณะเป็นการขวา้ งด้วยมือเดยี ว โดยมืออกี ข้างหนงึ่ คอยประคองลูกบอลจนอย่ใู นตาแหนง่
พรอ้ มที่จะสง่ ลกู ไปยังเป้าหมาย การสง่ ลกู แบบมอื เดียวเหนือไหลด่ ้วยมอื ขวา มีวธิ ีปฏิบตั ดิ งั นี้
4.1. เริ่มจากท่ายนื ทรงตัว
4.2 ยกลูกบอลข้ึนเหนอื ไหลข่ วาเอนตัวไปดา้ นหลงั พรอ้ มลูกบอลใช้มอื ซ้ายช่วยประคอง
4.3 มือขวาจบั ด้านหลังลูกบอล หงายข้อมอื ขน้ึ เล็กน้อย
4.4 ตามองท่หี มาย กา้ วเท้าซ้ายไปข้างหนา้ ปล่อยมือซ้าย บดิ ขอ้ ศอกและไหลข่ วากลับมาหา
ผู้รบั ส่งลูกบอลดว้ ยมือขวา เหยียดแขน ตวัดข้อมอื ลง และดีดส่งดว้ ยนว้ิ มือ เหยียดแขนตามลกู บอล
หมายเหตุ การส่งลกู แบบมอื เดียวเหนอื ไหลด่ ้วยมือซ้ายให้ปฏิบตั ิตรงขา้ มกบั มือขวา
๔. สมรรถนะสาคัญ
การศึกษาเกี่ยวกับทักษะการรับ - สง่ ลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ
จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน เพ่ือให้บรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้ซึ่งทาให้นักเรยี น
เกิดสมรรถนะท่ีสาคัญ คือ มีความสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ
แก้ปัญหา มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต และมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
การศึกษาเกีย่ วกบั ทักษะการรับ - ส่งลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผ้เู รียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน คือ รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ
๖. ช้ินงาน / ภาระงาน
-
๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นเตรียม 1. นกั เรยี นเขา้ แถวตอน 10 แถว
(5 นาที )
ขั้นอธิบาย 2. ครูสารวจจานวนนกั เรียน
และสาธิต 3. ครสู ารวจสุขภาพและเครือ่ งแต่งกายของนกั เรยี น
(10 นาที )
4. ตวั แทนนักเรียนนาอบอนุ่ รา่ งกาย
ขนั้ ฝึกหดั วิธีการสอน : ออกคาส่งั , อธิบาย
(20 นาที)
สอ่ื /อปุ กรณ์ : นกหวดี , ใบรายช่อื นกั เรียน
การวัดและประเมนิ ผล : สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในการปฏบิ ัตติ ามคาสั่ง
๑. ครูผู้สอนอธิบายและสาธิตการการรบั – สง่ ลูกบาสเกตบอลในลักษณะตา่ งๆ
๑. การสง่ ลูกสองมอื ระดับอก
๒. การสง่ ลูกสองมอื เหนือศรี ษะ
๓. การส่งลูกสองมอื กระดอน
๔. การสง่ ลกู มอื เดยี ว
ตามลาดับ
- ใหน้ กั เรียนฝึกตามขันตอนของครทู ี่สาธติ ตามลาดบั
- การส่งลูกสองมือระดบั อก
= นักเรยี น
= เสน้ ทาง
- การสง่ ลูกสองมือเหนือศรี ษะ
= นกั เรียน
= เส้นทาง
- การสง่ ลูกสองมือกระดอน
= นกั เรยี น
= เส้นทาง
- การส่งลูกมือเดยี ว
= นกั เรยี น
= เสน้ ทาง
- ใหน้ ักเรียนที่มคี วามสามารถเรื่องการรับ - ส่งลกู บาสเกตบอลช่วยแนะนาเพื่อนๆ ภายในกลมุ่
พรอ้ มทงั ใหก้ าลังใจ
- ในขณะทนี่ ักเรียนกาลงั ฝึกปฏิบัติครูจะพดู สอดแทรกในเรอ่ื งของวทิ ยาศาสตร์การกีฬาที่เข้ามา
เกยี่ วขอ้ งกบั กฬี าบาสเกตบอล
ข้ันนำไปใช้ -กจิ กรรมเกมสง่ ลูก 4 ระดับ
1. แบง่ ทีมออกเปน็ 3 ทีม ภายในทีมจับค่กู นั แต่ละทีมจะได้ลกู แชร์บอลทีมละ 1 ลูก
2. คทู่ ่ี 1 ว่ิงส่งลกู บาสระดบั อกไปถงึ อีกฝง่ั ของสนาม เมื่อถงึ แล้วให้วง่ิ ส่งลูกบาสกระ
ดอนพนื กลับมายังแถวตวั เอง
3. สง่ ลูกแชร์บอลให้เพ่ือนคู่ต่อไปและวงิ่ แบบเดียวกนั จนหมดทังแถว
4. เมือ่ ว่งิ ครบทกุ คู่ให้น่งั ลงเพอ่ื หาทมี ชนะ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มท่ี 2 กลุ่มที่ 3
ขั้นสรปุ และ - ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันสรุปถงึ ปัญหาเรอ่ื งการรบั - สง่ ลูกบาสเกตบอล
สขุ ปฏิบตั ิ - ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันสรุป ประโยชนแ์ ละการนาไปใช้ของการรบั - ส่งลูกบาสเกตบอล
- ครูผสู้ อนช่วยสรปุ เพิม่ เติม ถงึ ปัญหา การเล่น ประโยชน์ และการนาไปใช้ ตลอดจน
สอดแทรกเรอื่ งคุณธรรม จรยิ ธรรม ใหน้ กั เรยี นทราบ
- เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามและแสดงความคิดเหน็
- ครูแจ้งเรื่องทีจ่ ะเรยี นในสัปดาห์ต่อไป
- ให้นกั เรียนทาความสะอาดรา่ งกาย แล้วเลกิ แถวโดยการก้าวเทา้ ขวาพรอ้ มปรบมือ ๓ ครัง้ แลว้
ร้อง “บาสเกตบอล”
๙. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
๙.๑ ส่ือ
- ใบความรู้ท่ี ๕ เรอ่ื งทกั ษะการรบั - ส่งลกู บาสเกตบอล
๙.๒ แหลง่ เรยี นรู้
- หนังสอื เรียนบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกีฬา
๑๐. การวัดประเมินผล
รายการประเมนิ วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารประเมิน
ตัวช้วี ัด
สงั เกตการให้ความร่วมมือ นกั เรียนให้ความ
สมรรถนะสาคัญ รว่ มมือและความ
และความสนใจในการทา แบบสังเกตพฤติกรรม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สนใจในการทา
กจิ กรรม กจิ กรรมตาม
สมควร
- พฤตกิ รรมท่ี
สังเกต และสอบถาม แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รียน ปฏบิ ัติชัดเจน
๕ ด้าน สม่าเสมอ ๓
คะแนน
- พฤติกรรมท่ี
ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนเป็น
สังเกต และสอบถาม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอัน บางครงั ๒ คะแนน
พึงประสงค์ ๘ ด้าน - พฤติกรรมที่
ปฏิบัตนิ อ้ ยครงั ๑
คะแนน
๑๑. กิจกรรมเสนอแนะ
นกั เรยี นควรศึกษาเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับเร่ืองทักษะการรับ - สง่ ลกู บาสเกตบอลและเตรียมความพรอ้ มของ
ร่างกายเพื่อเรียนในครังต่อไป
แผนการจัดการเรียนรู้ ๗ ชั้นมธั ยมการศึกษาท่ี ๓
รหสั วชิ า พ ๒๓๑๐๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
วชิ า บาสเกตบอล เร่อื ง การรบั – สง่ ลูกบาสเกตบอล
หน่วยท่ี ๕ การรับ – ส่งลูกบาสเกตบอล ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒
รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ัติสมา่ เสมอ มีวนิ ยั
สาระที่ ๔ เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนาใจเปน็ นักกฬี า มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน
มาตรฐาน พ ๔.๑ สนุ ทรยี ภาพของการเล่นกฬี า
การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการปอ้ งกนั โรค
เห็นคุณค่า และมที ักษะในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรค และ
การสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ
๒. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาหลักการ ความร้แู ละทกั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกายการเล่นกม และการเลน่ กฬี าไปใช้
สร้างเสรมิ สขุ ภาพอย่างตอ่ เน่อื งเป็นระบบ
๒. เลน่ กฬี าไทย และกีฬาสากล ทังประเภทบุคคล และทมี อย่างละ ๑ ชนดิ โดยใช้เทคนคิ ทเี่ หมะสมกับ
ตนเองและทีม
๓. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย ๑ กจิ กรรม และนาความรูแ้ ละหลกั การทไ่ี ด้ไปปรับใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั อย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑ .มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีนาใจนักกีฬา
๒. ออกกาลงั กายและเล่นกฬี าอย่างสมา่ เสมอ และนาแนวคิดหลักการจากการเลน่ ไปพฒั นาคุณภาพ
ชีวติ ของตนด้วยความภาคภมู ิใจ
๓. ปฏิบัตติ นตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นตามชนดิ กฬี าท่ีเลอื กและนาแนวคดิ ท่ไี ดไ้ ปพฒั นา
คณุ ภาพชีวติ ของตนในสังคม
มาตรฐาน พ 4.1
๑.วางแผนและจัดเวลาในการออกกาลังกาย การพักผ่อนและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพกาย
๓. สาระสาคัญ
การรบั - สง่ ลกู บาสเกตบอลเปน็ การนาลูกบอลเคลือ่ นท่ไี ปในทศิ ทางตา่ งๆ โดยใช้คนตงั แต่ ๒ คนขนึ ไป
จุดม่งุ หมายเพือ่ นาลกู บอลไปใกล้ประตหู รือยิงประตฝู ่ายตรงข้าม
สาระย่อย
การสง่ แบบสองมือระดบั อก (Two Hands Chest Pass)
การส่งลกู บาสเกตบอลสองมอื ระดับอก เป็นวิธกี ารส่งทใ่ี ช้กันมากท่ีสดุ ในการแขง่ ขนั จึงนบั ไดว้ า่
การสง่ ลกู บอลแบบนี้เป็นหวั ใจของการส่งลูกบอล เพราะสง่ ได้รวดเร็วและแมน่ ยาทั้งในระยะใกล้และระยะห่าง
กันปานกลาง มีวิธีปฏบิ ัตดิ งั นี้
1.1 เริ่มจากท่ายนื ทรงตวั
1.2 จบั ลูกบอลด้วยมือทั้งสองระดับอกหา่ งตวั เล็กนอ้ ย
1.3 นวิ้ มือทัง้ ห้ากางออกแนบข้างลกู บอล หวั แมม่ ือทง้ั สองอยู่ดา้ นหลงั ทแยงมมุ ซ่งึ กนั และกัน
1.4 ศอกท้ังสองข้างเฉียงลงขา้ งลาตัวไม่เกรง็
1.5 หักขอ้ มือท้งั สองขึน้ เลก็ นอ้ ย
1.6 ผลกั บอลด้วยการเหยียดแขนและตวัดขอ้ มือลง ผลกั ด้วยปลายนว้ิ
1.7 สบื เท้าข้างหน่งึ ไปส่ทู ศิ ทางที่สง่ บอล ยกสน้ เทา้ หลงั ขึ้นจะช่วยทาใหล้ ูกบอลพงุ่ แรงและเร็วข้ึน
การส่งแบบสองมือกระดอนพืน้ (Bounce Pass)
การส่งลูกกระดอนพนื้ น้ใี ชเ้ พอื่ หลบหลีกจากฝา่ ยท่ีพยายามเข้ามาสกัดก้นั และแยง่ ลกู บอลไป
ครอบครองการส่งแบบนท้ี าคล้ายกับการส่งลูกแบบสองมอื ระดับอก จะต่างกันก็ตรงทีว่ ธิ ีนีจ้ ะต้องส่งลูกบอลลง
ไปกระทบพน้ื หนง่ึ ครง้ั ก่อนจะกระดอนข้ึนไปยงั ผูร้ ับ การส่งลกู บอลวิธนี ้ี จะสามารถผ่านการป้องกันของฝ่าย
ตรงขา้ มได้ เพราะการส่งลูกแบบกระดอนพ้นื เป็นการส่งทคี่ ู่ต่อสู้ป้องกนั ไดย้ าก มกั จะใช้กนั บรเิ วณใกล้หว่ ง
ประตู มีวธิ ีการปฏบิ ัติดังน้ี (สุนทร กายประจักษ์, 2536 : 21)
2.1 เร่ิมจากท่ายนื ทรงตัว
2.2 จับลูกบอลดว้ ยมือทั้งสองระดับอกหา่ งตัวเล็กน้อย
2.3 นิ้วมอื ท้ังห้ากางออกแนบขา้ งลูกบอล หัวแม่มอื ทั้งสองอย่ดู า้ นหลังทแยงมุมซง่ึ กนั และกนั
2.4 ศอกทงั้ สองเฉยี งลงข้างลาตัวไมเ่ กร็ง
2.5 หักข้อมอื ทั้งสองขึ้นเลก็ นอ้ ย
2.6 ผลกั ลูกบอลด้วยการเหยยี ดแขนและตวดั ขอ้ มอื ลง ผลักด้วยปลายนว้ิ ให้กระทบพืน้ สองใน
สามของระยะทางให้กระดอนขน้ึ ระดับดบั อกของผู้รบั
2.7 สบื เท้าข้างหนง่ึ ไปส่ทู ิศทางที่ส่งลูกบอล ยกสน้ เทา้ หลังช่วยจะทาใหล้ กู บอลพงุ่ แรงและเรว็ ขึ้น
การส่งแบบสองมือเหนอื ศรี ษะ (Two Hands Overhead Pass)
การส่งลกู แบบสองมอื เหนือศีรษะ เป็นการสง่ ลูกบอลในระดบั สงู ผ่านคนป้องกัน โดยเฉพาะการ
เล่นปอ้ งกันแบบเปน็ เขต (Zone) ตาแหน่งลูกบอลสามารถสง่ ได้หลายทิศทางโดยมเี ปา้ หมายส่งไปยังบริเวณ
ศรี ษะผู้รบั ลูกบอล ซง่ึ มวี ิธีปฏบิ ตั ิดงั นี้
เลก็ น้อย 3.1 จับลกู บอลดว้ ยมอื ทั้งสอง น้วิ กางออก ยกขึน้ เหนือศรี ษะ หักข้อมือหงายข้นึ งอศอก
3.2 ตวัดลูกบอลไปสู่ระดับอกของผู้รับด้วยการเหยยี ดแขน ขอ้ ศอกตึง สง่ ไปข้างหน้า
3.3 กดข้อมอื พรอ้ มกับดดี ส่งดว้ ยนิ้วมือ เม่อื ลูกบอลพ้นมือไปให้เหยียดแขนตาลูกบอลไปด้วย
3.4 อาจกา้ วเท้าใดเทา้ หนึ่งไปขา้ งหนา้ เพือ่ เพิ่มแรงส่งกไ็ ด้
การสง่ แบบมือเดยี วเหนอื ไหล่ (Base Ball Pass)
เฉลี่ย พิมพ์พนั ธ์ุ (2537 : 74) กล่าวถงึ การสง่ ลกู แบบมือเดยี วเหนอื ไหล่ว่าเหมาะสาหรบั การ
สง่ ระยะไกล มีลกั ษณะเปน็ การขวา้ งดว้ ยมือเดยี ว โดยมืออกี ข้างหนงึ่ คอยประคองลกู บอลจนอย่ใู นตาแหน่ง
พรอ้ มทจี่ ะสง่ ลูกไปยงั เปา้ หมาย การสง่ ลูกแบบมือเดียวเหนือไหลด่ ้วยมือขวา มวี ธิ ีปฏิบตั ดิ งั น้ี
4.1. เร่ิมจากทา่ ยืนทรงตวั
4.2 ยกลูกบอลข้ึนเหนอื ไหลข่ วาเอนตัวไปด้านหลงั พรอ้ มลกู บอลใช้มอื ซ้ายช่วยประคอง
4.3 มอื ขวาจบั ด้านหลังลกู บอล หงายข้อมือข้ึนเลก็ น้อย
4.4 ตามองท่ีหมาย กา้ วเท้าซา้ ยไปขา้ งหน้า ปล่อยมือซา้ ย บดิ ข้อศอกและไหล่ขวากลบั มาหา
ผู้รบั สง่ ลูกบอลด้วยมอื ขวา เหยยี ดแขน ตวดั ข้อมือลง และดีดสง่ ดว้ ยนวิ้ มือ เหยยี ดแขนตามลูกบอล
หมายเหตุ การส่งลูกแบบมือเดียวเหนือไหลด่ ว้ ยมอื ซ้ายให้ปฏิบตั ติ รงขา้ มกับมือขวา
๔. สมรรถนะสาคัญ
การศึกษาเก่ียวกับทักษะการรับ - ส่งลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ
จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน เพื่อให้บรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้ซึ่งทาให้นักเรยี น
เกิดสมรรถนะท่ีสาคัญ คือ มีความสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ
แกป้ ัญหา มคี วามสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๕. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
การศึกษาเก่ียวกบั ทักษะการรับ - ส่งลูกบาสเกตบอล มุ่งพัฒนาผเู้ รยี นให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน คือ รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ
๖. ชิ้นงาน / ภาระงาน
-
๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้นั เตรยี ม 1. นักเรยี นเข้าแถวตอน 10 แถว
(5 นาที )
ขั้นอธบิ าย 2. ครสู ารวจจานวนนักเรยี น
3. ครูสารวจสขุ ภาพและเครือ่ งแตง่ กายของนกั เรยี น
และสาธติ
(10 นาที ) 4. ตวั แทนนักเรยี นนาอบอนุ่ รา่ งกาย
วิธกี ารสอน : ออกคาสั่ง , อธิบาย
สอื่ /อปุ กรณ์ : นกหวดี , ใบรายช่อื นกั เรียน
การวดั และประเมินผล : สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในการปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่
๑. ครูผู้สอนทบทวนการการรบั – ส่งลกู บาสเกตบอลในลักษณะต่างๆ
๑. การส่งลูกสองมอื ระดบั อก
๒. การสง่ ลูกสองมอื เหนอื ศรี ษะ
๓. การส่งลกู สองมือกระดอน
๔. การส่งลูกมอื เดียว
ตามลาดับ
๒. ครผู ู้สอนอธบิ าย วิธีการทดสอบทักษะการรบั -สง่ ลูกบาสเกตบอล
๓. ให้นกั เรยี นเข้ารับการทดสอบเปน็ คู่ วธิ กี ารให้คะแนน เป็นรายบุคคล
= นักเรียน
= ทศิ ทางการสง่ บอล
ขั้นฝึกหดั ๑. ให้นกั เรียนฝึกซอ้ มและทบทวนทักษะกอ่ นเขา้ รับการทดสอบ
(5 นาท)ี
ข้ันนำไปใช้ ๑. ใหน้ ักเรยี นเขา้ ทดสอบทักษะตามลาดับความพรอ้ ม แต่ต้องเขา้ รับการทดสอบทกุ คนกอ่ น
(๓๐ นำท)ี หมดคาบเรียน
๒. เม่อื นักเรียนมาเขา้ รับการทดสอบให้แจง้ ลาดับเลขท่ี
๓. นักเรยี นทย่ี ังไมไ่ ดเ้ ข้ารับการทดสอบให้ฝึกซ้อมอยู่อีกฝั่งของสนาม
ข้นั สรุปและ - ให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปถึงปญั หาเร่อื งการรบั - ส่งลกู บาสเกตบอล
สุขปฏิบตั ิ - ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันสรุป ประโยชนแ์ ละการนาไปใชข้ องการรบั - สง่ ลูกบาสเกตบอล
(๕ นำท)ี - ครผู ู้สอนช่วยสรปุ เพม่ิ เติม ถงึ ปัญหา การเล่น ประโยชน์ และการนาไปใช้ ตลอดจน
สอดแทรกเรอื่ งคุณธรรม จริยธรรม ให้นักเรยี นทราบ
- เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามและแสดงความคิดเหน็
- ครูแจ้งเร่อื งท่ีจะเรยี นในสปั ดาห์ต่อไป
- ให้นกั เรียนทาความสะอาดรา่ งกาย แล้วเลกิ แถวโดยการก้าวเทา้ ขวาพร้อมปรบมือ ๓ คร้ัง แล้ว
ร้อง “บาสเกตบอล”
๙. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
๙.๑ สื่อ
- ใบความรทู้ ่ี ๕ เร่ืองทักษะการรบั - สง่ ลกู บาสเกตบอล
๙.๒ แหล่งเรยี นรู้
- หนังสือเรียนบาสเกตบอล
- เวปไซตท์ างการกีฬา
๑๐. การวัดประเมินผล
รายการประเมนิ วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การประเมิน
ตัวชว้ี ัด
สังเกตการใหค้ วามรว่ มมือ นักเรียนให้ความ
สมรรถนะสาคญั ร่วมมือและความ
และความสนใจในการทา แบบสังเกตพฤติกรรม
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สนใจในการทา
กจิ กรรม กจิ กรรมตาม
สมควร
- พฤตกิ รรมท่ี
สังเกต และสอบถาม แบบประเมนิ สมรรถนะผู้เรียน ปฏบิ ตั ชิ ดั เจน
๕ ด้าน สมา่ เสมอ ๓
คะแนน
- พฤติกรรมท่ี
ปฏบิ ตั ิชดั เจนเป็น
สงั เกต และสอบถาม แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน บางครัง ๒ คะแนน
พึงประสงค์ ๘ ด้าน - พฤติกรรมที่
ปฏบิ ัตนิ อ้ ยครงั ๑
คะแนน
๑๑. กิจกรรมเสนอแนะ
นักเรยี นควรศึกษาเพ่ิมเติม เก่ียวกบั เรอื่ งทกั ษะการรบั - สง่ ลกู บาสเกตบอลและเตรียมความพร้อมของ
รา่ งกายเพื่อเรยี นในครงั ตอ่ ไป
แผนการจัดการเรยี นรู้ ๘ ชนั้ มัธยมการศกึ ษาที่ ๓
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา รหสั วิชา พ ๒๓๑๐๒
เร่ือง การยนื ยงิ ประตู
วชิ า บาสเกตบอล ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
หน่วยท่ี ๖ การยืนยงิ ประตู
เวลาเรยี น ๑ คาบ
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒
รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิสม่าเสมอ มวี ินัย
สาระที่ ๔ เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มนี าใจเป็นนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชมใน
มาตรฐาน พ ๔.๑
สนุ ทรียภาพของการเล่นกีฬา
การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค
เห็นคณุ ค่า และมที กั ษะในการสร้างเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกันโรค และ
การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ
๒. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน พ ๓.๑
๑. นาหลักการ ความร้แู ละทกั ษะในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกายการเล่นกม และการเล่นกฬี าไปใช้
สร้างเสริมสขุ ภาพอยา่ งตอ่ เน่อื งเป็นระบบ
๒. เลน่ กฬี าไทย และกีฬาสากล ทังประเภทบุคคล และทีมอยา่ งละ ๑ ชนิดโดยใช้เทคนคิ ท่ีเหมะสมกับ
ตนเองและทมี
๓. ร่วมกจิ กรรมนันทนาการอย่างนอ้ ย ๑ กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลักการที่ไดไ้ ปปรับใช้ใน
ชวี ติ ประจาวันอย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน พ ๓.๒
๑ .มมี ารยาทในการเลน่ และดูกฬี าดว้ ยความมีนาใจนกั กีฬา
๒. ออกกาลังกายและเล่นกฬี าอย่างสม่าเสมอ และนาแนวคดิ หลกั การจากการเลน่ ไปพัฒนาคุณภาพ
ชีวติ ของตนด้วยความภาคภูมิใจ
๓. ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นตามชนิดกีฬาที่เลอื กและนาแนวคิดทไ่ี ด้ไปพฒั นา
คณุ ภาพชีวิต ของตนในสงั คม
มาตรฐาน พ 4.1
๑.วางแผนและจดั เวลาในการออกกาลังกาย การพักผ่อนและสร้างเสรมิ สมรรถภาพกาย