45 ระดับคะแนน 1 เด็กไม่สามารถปฏิบัติได้ ระดับ 3 = ดี ระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.34-3.00 ระดับ 2 = พอใจ ระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.67-2.33 ระดับ 1 = ปรับปรุง ระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.67-2.33 4.3 นำแบบสังเกตพฤติกรรมกิจกรรมพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยที่ปรับปรุง แล้วให้ผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ความสามารถและมีความชำนาญด้านการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ตรวจสอบคุณลักษณะของแบบสังเกตในด้านความสอดคล้องของเนื้อหาความสอดคล้องของพฤติกรรมที่ ต้องการวัด ซึ่งใช้วิธีการตรวจสอบดัชนีความสอดคล้อง IOC (Index of Item Congruence) โดยให้ ตรวจพิจารณาให้คะแนนแต่ละข้อ ดังนี้ คะแนน -1 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ แน่ใจวาแบบสังเกตนั้น ไม่สอดคล้องกบพฤติกรรมที่ ต้องการวัด คะแนน 0 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ ไม่แน่ใจว่าแบบสังเกตนั้น วัดได้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ ต้องการวัด คะแนน +1 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ แน่ใจว่าแบบสังเกตนั้น วัดได้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ ต้องการวัด โดยถือเกณฑ์ว่าแบบสังเกตพฤติกรรมที่มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมากกวาหรือ เท่ากับ 0.5 เป็นแบบสังเกตพฤติกรรมที่ใช้ได้ 4.4 นำแบบสังเกตพฤติกรรมพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ที่สร้างขึ้นและปรับปรุง แก้ไขแล้วดำเนินการจัดทำเป็นฉบับสมบูรณ์ เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
46 แบบสังเกตพฤติกรรม กิจกรรมเกมการศึกษา หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก เรื่อง รูปเรขาคณิต เลขที่ ชื่อ-สกุล รายงานพฤติกรรมที่สังเกต รวม สรุป การเล่นเกมจับคู่ รูปเรขาคณิต ความรับผิดชอบ ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย และ มุ่งมั่นที่จะทำงาน ให้สำเร็จ การสนทนา โต้ตอบเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับ เกมที่เล่น 3 2 1 3 2 1 3 2 1 9 ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
47 26 27 ผ่านเกณฑ์การได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล แบบแผนการทดลอง การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดสองครั้ง (One Group Pretest - Posttest Design) ซึ่งมีลักษณะการทดลองดังตารางต่อไปนี้ ตาราง แบบแผนการทดลอง กลุ่ม Pre-test Treatment Post-test N T1 X T2 ความหมายของสัญลักษณ์ N แทน จำนวนเด็กในกลุ่มตัวอย่าง X แทน การจัดกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษา T1 แทน การทดสอบก่อนการทดลอง (pre-test) T2 แทน การทดสอบหลังการทดลอง (post-test) การดำเนินการทดลอง ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลองโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1) ก่อนการทดลอง แบบทดสอบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนา ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 27 คน แล้วบันทึกผลการทดสอบ (Pretest) 2) ดำเนินการสอนกลุ่มทดลองด้วยตนเอง ตามแผนการจัดกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน สร้างบรรยากาศในชั้นเรียน ขั้นที่ 2 ขั้นสอน ผู้วิจัยสอนขั้นตอนการเล่นเกมการศึกษา ให้นักเรียนดูและปฏิบัติตาม ขั้นตอน ขั้นที่ 3 นักเรียนฝึกปฏิบัติตามแผนการจัดกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษา โดยมี ระยะเวลาใน
48 การดำเนินการวิจัยทั้งหมด 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 วัน คือ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี และศุกร์ สัปดาห์ ที่ วัน กิจกรรม กิจกรรมเกมการศึกษา 1 จันทร์ ชุดที่ 1 กิจกรรมฝึก ทักษะการลากเส้น ประ เกมไม้หนีบรูปเรขาคณิต อังคาร เกมจับคู่รูปเรขาคณิต พุธ เกมร้อยเชือกรูปเรขาคณิต พฤหัสบดี เกมบิงโกรูปเรขาคณิต ศุกร์ เกมจับคู่กระดานไม้รูปเรขาคณิตปริศนา 2 จันทร์ ชุดที่ 2 กิจกรรม แบบฝึกหัดฝึกเขียน รูปเรขาคณิต เกมไม้หนีบรูปเรขาคณิต อังคาร เกมจับคู่รูปเรขาคณิต พุธ เกมร้อยเชือกรูปเรขาคณิต พฤหัสบดี เกมบิงโกรูปเรขาคณิต ศุกร์ เกมจับคู่กระดานไม้รูปเรขาคณิตปริศนา 3 จันทร์ ชุดที่ 3 กิจกรรม แบบฝึกหัดจับคู่รูป เรขาคณิต เกมไม้หนีบรูปเรขาคณิต อังคาร เกมจับคู่รูปเรขาคณิต พุธ เกมร้อยเชือกรูปเรขาคณิต พฤหัสบดี เกมบิงโกรูปเรขาคณิต ศุกร์ เกมจับคู่กระดานไม้รูปเรขาคณิตปริศนา 4 จันทร์ ชุดที่ 4 ระบายสีรูปเรขาคณิต ตามจินตนาการ เกมไม้หนีบรูปเรขาคณิต อังคาร เกมจับคู่รูปเรขาคณิต พุธ เกมร้อยเชือกรูปเรขาคณิต พฤหัสบดี เกมบิงโกรูปเรขาคณิต ศุกร์ เกมจับคู่กระดานไม้รูปเรขาคณิตปริศนา 3) เมื่อสิ้นสุดการทดลอง ผู้วิจัยดำเนินการทดสอบหลังการสอน (Post-test) โดยใช้แบบทดสอบ การพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็ก ปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ชุดเดียวกันกับที่ใช้ทดสอบก่อนการทดลองกับกลุ่มประชากร จำนวน 27 คน แล้วบันทึกผลการทดสอบ แล้วนำคะแนนที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูล 4) เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทดสอบก่อน และหลังการทดลองสอนโดยใช้ เกมการศึกษา วิเคราะห์ผลต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบทั้งสองครั้ง ด้วยวิธีการทางสถิติ
49 5. การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลข้อมูล โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. นำข้อมูลที่ได้จากแบบทดสอบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อ พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อน-หลังใช้มาวิเคราะห์ โดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test 2. ประมวลผล แปลผลและวิเคราะห์ข้อมูล 3. อภิปรายผล โดยใช้ตารางและการพรรณนา 6. สถิติที่ใช้ในการวิจัย 1. สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1.1 ค่าเฉลี่ย โดยใช้สูตรดังนี้ = X N เมื่อ แทน คะแนนเฉลี่ย X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด N แทน จำนวนคนในกลุ่มประชากร 1.2 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้สูตรดังนี้ = √ (−µ) 2 เมื่อ แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน แทน ข้อมูลตัวที่ i แทน คะแนนเฉลี่ย N แทน จำนวนข้อมูล 1.3 สถิติที่ใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบคะแนนสอบ โดยใช้สูตร t-test (Dependent Samples) หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลขสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
50 ( ) ( ) 2 2 D t N D D N 1 = − − เมื่อ t แทน ค่าสถิติ t-test D แทน ผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนสอนและหลังสอน D แทน ผลรวมของความแตกต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนสอน และหลังสอน 2 D แทน ผลรวมของผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียน และ หลังเรียนแต่ละตัวยกกำลังสอง ( ) 2 D แทน ผลรวมของผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนสอน และ หลังสอนทั้งหมดยกกำลังสอง N แทน จำนวนเด็กในกลุ่มประชากร 1.4 หาความเที่ยงตรงของแบบทดสอบโดยใช้ดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กับ พฤติกรรม โดยคํานวณจากสูตร (บุญเชิด ภิญโญอนันตพงษ์, 2526 : 89) IOC = R N เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคําถามกับลักษณะพฤติกรรม R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด N แทน จํานวนผู้เชี่ยวชาญ 1.5 หาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้ชุดเกมการศึกษา เรื่องรูป เรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 80 ตัวแรก หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เด็กได้จากแบบบันทึก พฤติกรรมหลังเรียน ซึ่งเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ E1 คํานวณได้จากสูตร 1= ∑ n × 100 หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลขสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
51 เมื่อ E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ x แทน คะแนนรวมของแบบประเมินระหว่างเรียน A แทน คะแนนเต็มของแบบประเมินระหว่างเรียน N แทน จํานวนนักเรียนทั้งหมด
52 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูป เรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยการ จัดกิจกรรมเกมการศึกษา ซึ่งผู้วิจัยนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปนี้ 4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์และแปรผลข้อมูล ในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล และการแปลผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้กำหนด สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ N แทน จำนวนคนในกลุ่มประชากร แทน ค่าเฉลี่ย (Mean) แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) t แทน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์การแจกแจงแบบที (t-distribution) 1 แทน คะแนนเฉลี่ยของผู้เรียนทั้งหมดจากคะแนนขณะปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียน 2 แทน คะแนนเฉลี่ยของผู้เรียนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียน 4.2 การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตามลำดับ ดังนี้ ตอนที่ 1 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของเครื่องมืองานวิจัยการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยโดยการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกม การศึกษา หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
53 4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของการวิจัย ตอนที่ 1 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของเครื่องมืองานวิจัยการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา โดยโดยการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ตารางที่ 1 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ชองชุดกิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง รูปเรขาคณิต เพื่อ พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล 3 รายการ ผลการประเมิน ของผู้เชี่ยวชาญ ผลรวมของ คะแนน ∑R IOC แปลผล 1 2 3 ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ค่าดัชนีความสอดคล้องของชุดกิจกรรมเกมการศึกษา IOC = R N = 3 3 = 1 จากตารางที่ 1 แสดงว่าค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ชองชุดกิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง รูป เรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล 3 ค่าดัชนีความ สอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 มากกว่า 0.5 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ตารางที่ 2 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมทางด้านทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดกิจกรรม รายการ ผลการประเมิน ของผู้เชี่ยวชาญ ผลรวมของ คะแนน ∑R IOC แปลผล 1 2 3 1. แบบทดสอบมีความสอดคล้อง กับวิชาการเด็กปฐมวัย +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2. แบบทดสอบมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับพัฒนาการของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
54 รายการ ผลการประเมิน ของผู้เชี่ยวชาญ ผลรวมของ คะแนน ∑R IOC แปลผล 1 2 3 เด็กปฐมวัย 3. แบบทดสอบมีความสอดคล้อง กับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2560 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 4. แบบทดสอบสามารถนำไปวัด และประเมินผลการพัฒนาทักษะ ด้านการอ่านของเด็กปฐมวัยได้ จริง +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 5. เกณฑ์การให้คะแนนของบท ทดสอบมีความสอดคล้องกับ พัฒนาการตามวัยของเด็กปฐมวัย +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม IOC = R N = 3 3 = 1 จากตารางที่ 2 แสดงว่าค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ชองแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม เรื่อง การพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับ เด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 มากกว่า 0.5 เป็นไปตาม เกณฑ์มาตรฐาน ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง การพัฒนาชุด เกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้น อนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ตาราง 3 การเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง การพัฒนาชุด เกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้น อนุบาลปีที่ 3 หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
55 กลุ่มทดลอง N X S.D. t p-value ก่อนสอน หลังสอน 27 27 9.30 18.95 1.26 1.05 25.47* 0.0000 จากตาราง 3 พบว่า การเปรียบเทียบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัด กิจกรรมเกมการศึกษา มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 9.30 คะแนน และ 18.95 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อ เปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังการสอนโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา พบว่า คะแนนการ ทดสอบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับ เด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3หลังการสอนโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษาสูงกว่าก่อนการสอนโดยใช้ กิจกรรมเกมการศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
56 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อ พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3โดยการจัดกิจกรรมเกม การศึกษา และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย การวิจัยในครั้งนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้ การเปรียบเทียบการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกม การศึกษา มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 9.30 คะแนน และ 18.95 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบ ระหว่างคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา พบว่า คะแนนการทดสอบการพัฒนาชุดเกม การศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้น อนุบาลปีที่ 3 หลังการสอนโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษาสูงกว่าก่อนการสอนโดยใช้กิจกรรมเกม การศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5.2 อภิปรายผล การวิจัยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อพัฒนาการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูป เรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยการ จัดกิจกรรมเกมการศึกษา และเพื่อเปรียบเทียบทักษะการพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัด กิจกรรมเกมการศึกษา ผู้วิจัยได้สร้างแผนการจัดกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต ตามแนวคิด และหลักการนำไปใช้ ส่งผลให้เด็กปฐมวัยมีทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต อยู่ในระดับที่สูงขึ้นแสดงให้เห็นว่า เกม การศึกษาสามารถพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี การเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา พบว่า คะแนนหลัง การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ที่ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้เนื่องจาก กิจกรรมเกมการศึกษา เป็นอุปกรณ์เครื่องช่วยสอนที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้รับความพอใจ และความ หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
57 สนุกสนาน อีกทั้งยังท้าทายที่จะให้เด็กเล่นเสมอ ช่วยให้เด็กมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน แต่ที่เน้นเฉพาะ คือ สติปัญญา เด็กได้ฝึกใช้ประสาทสัมผัสกับกล้ามเนื้อมือ ฝึกสังเกต เปรียบเทียบในเรื่องรูปทรง จำนวน ประเภทและฝึกคิดหาเหตุผล ซึ่งสอดคล้องกับวรรณี วัจนสวัสดิ์ (2557: 15-16) กล่าวว่า เกมการศึกษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่ช่วยฝึกทักษะ และช่วยให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน นอกจากนี้ ยังช่วยฝึกการแก้ปัญหา การคิดหาเหตุผล การสังเกตเปรียบเทียบ การจำแนก การจัดหมวดหมู่ อันเป็น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วย เกมการศึกษาเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ พัฒนา ได้หลายๆ ด้าน รวมทั้งช่วยพัฒนา และเป็นการฝึกทักษะในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์ซึ่งเป็นองค์ประกอบ และรากฐานสำคัญของกระบวนการพัฒนาทางด้านสติปัญญา สอดคล้องกับชญาภา สิงห์มหา (2560 : 29) กล่าวว่า ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ หมายถึง ความรู้ ความสามารถพื้นฐาน หรือทักษะเบื้องต้นที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการสังเกต การจำแนก การ เปรียบเทียบ รูปร่าง การจัดลำดับ การจัดหมวดหมู่ น้ำหนัก การวัดความยาว ความสูง การวัดและ ความสัมพันธ์ต่าง ๆ ซึ่งสอดทรกอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กเป็นการปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็ก สำหรับการเรียนในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของสุมารีย์ ไชยประสพ (2560 : 5) ได้ศึกษาการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา ผลการวิจัยพบว่า การ พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษาโรงเรียนโป่งน้ำร้อน วิทยา มีการพัฒนาสูงขึ้นที่ร้อยละ 86.37 โดยพบว่าสูงขึ้นกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 75 ทั้งนี้ ผล การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยเมื่อเปรียบเทียบ ความก้าวหน้าระหว่างคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาพบว่า มีการพัฒนาที่สูงขึ้นโดย คะแนนเฉลี่ยก่อนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาได้เท่ากับร้อยละ 5.73 / 9.00 คิดเป็นความก้าวหน้า สูงขึ้นเท่ากับร้อยละ 32.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ25 ของคะแนนเต็มและสอดคล้องกับ งานวิจัยของนุจิรา เหล็กกล้า (2561 : 5) ได้ศึกษาการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกม การศึกษาโดยทำการทดลองกับเด็กปฐมวัยที่ศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2560 ของโรงเรียนบ้านบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 18 คน ผลการวิจัยพบว่าเด็กปฐมวัยมี ความสามารถทาวคณิตศาสตร์ หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมการศึกษาสูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .05 หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
58 5.3 ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ 1. การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา สามารถพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิตได้ จึงควรใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยต่อไป 2. ก่อนจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ครูควรศึกษาวิธีการเล่นเกมการศึกษาให้เข้าใจก่อนให้เด็กลง มือปฏิบัติ 3. การพัฒนาชุดเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3โดยการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาครูผู้สอนควรพิจารณาความ ยากง่ายเหมาะสมกับวัย และความสามารถของเด็กและควรมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาตามความ เหมาะสม 5.4 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป 1. ควรมีการศึกษาผลของการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาที่มีต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ ของเด็ก ปฐมวัย เช่น พัฒนาการใช้ภาษา การอ่าน ทักษะการคิด เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ ให้ กว้างขวางยิ่งขึ้น 2. ควรมีการศึกษาการจัดกิจกรรมการเล่นเกมการศึกษาเป็นกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะทางสังคม ของเด็กปฐมวัย หมายเหตุวิจัยในบทที่ 4 และ บทที่ 5 เป็นการสร้างข้อมูลสมมติขึ้นมา เพื่อให้รูปเล่มวิจัยมีความสมบูรณ์
59 บรรณานุกรม
60 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2546. กรุงเทพฯ : องค์การ รับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). คู่มือกรอบมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ. กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2546. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2549). การสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย. การศึกษาปฐมวัย. คมขวัญ อ่อนบึงพร้าว. (2550). การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยใช้ รูปแบบกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. ชมพูนุช จันทรางกูร. (2549). ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับ การจัดกิจกรรมประกอบอาหารไทยประเภทขนมอบ. กรุงเทพฯ : ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. เชวง ซ้อนบุญ. (2554). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ MATH-3C เพื่อพัฒนา ทักษะพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย. ปริญญานิพนธ์ กศ.ด. (การศึกษา ปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. นิดาพร อาจประจญ. (2553). ทักษะการอ่านของเด็กปฐมวัยที่เล่นเกมการศึกษาเน้นภาษา. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินท รวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. นิธิกานต์ ขวัญบุญ. (2549). การพัฒนาเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร. ถ่ายเอกสาร. ปณิชา มโนสิทธยากร. (2553). ทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่เล่นเกมการศึกษาเน้น เศษส่วนของรูปเรขาคณิต. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. พัชรี กัลยา. (2551). ความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกม การศึกษามิติสัมพันธ์. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
61 ลักคะณา เสโนฤทธิ์. (2551). ผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาที่มีตอพฤติกรรมทางสังคม ของเด็ก ปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. ถ่ายเอกสาร. วิจิตตรา จันทร์ศิริ. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์โดยใช้สมอง เป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย. ดุษฎีนิพนธ์ ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา. ถ่ายเอกสาร. ศุภวรรณ ฤทธิคุปต์. (2550). ผลของเกมการศึกษาที่มีต่อทักษะการอ่านของเด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ศษ.ม. (การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ถ่ายเอกสาร. สิริมณี บรรจง. (2549). เด็กปฐมวัยกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. สุณี บุญพิทักษ์. (2557). วิจัยชั้นเรียนปฐมวัย:หลักการปฏิบัติจากประสบการณ์. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน. สุมารีย์ ไชยประสพ. (2558). การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้ กิจกรรมเกมการศึกษา โรงเรียนโป่งน้ำร้อนวิทยา. วิทยานิพนธ์ คศ.ม. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. ถ่ายเอกสาร. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). รายงานความก้าวหน้าการจัดการเรียนรู้ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : สำนักประเมินผลการจัดการศึกษา. สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กระทรวงศึกษาธิการ. (2553).คู่มือกรอบมาตรฐานการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ปฐมวัย. ถ่ายเอกสาร. อุษารัตน์ ตังควิเวชกุล (2550). การศึกษาความสามารถในการอ่านค˚าของเด็กที่มีปัญหาทาง การ เรียนรู้ขั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เกมการศึกษา. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. Cariton, D.M. (1990). Preschool intervention: A Longitudinal Study. Dissertation Abstracts International. Kincaid, William Arthur. A Study of Effects on Childeren Attitude and Achievement in Mathematics Resulting from the Mathematics Game into the Home by Specially Trained Parents. Dissertation Abstract International 37,6 (January 1977) : 41-95-A.
62 ภาคผนวก
63 ภาคผนวก ก แผนการจัดประสบการณ์ กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่องรูปเรขาคณิต
64 แผนการจัดประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบการสอน วันที่ หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง เกมไม้หนีบเรขาคณิต เวลา 30 นาที จัดประสบการณ์วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 14.20 น. – 14.50 น. สาระสำคัญ เกมไม้หนีบเรขาคณิต เป็นการเรียนรู้รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต โดยการนำรูปเรขาคณิตมาจับคู่ให้ตรงกับภาพให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเรียนรู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายจนสำเร็จ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ 10.1.2 จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง ต่างๆ โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะเดียว มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ 12.1 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ 12.1.2 กระตือรือร้น ในการเข้าร่วมกิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. เพื่อให้เด็กสามารถสังเกต จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบความเหมือนความต่างของรูป เรขาคณิตได้ 3. เพื่อให้รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และเก็บเกมการศึกษาเข้าที่เมื่อเลิกเล่นได้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ 1.1 การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. ประสบการณ์สำคัญ
65 2.1 การวางแผน ตัดสินใจเลือกลงมือปฏิบัติ 2.2 การสังเกต การแก้ไขปัญหาระหว่างเล่นเกม 2.3 การทำงานร่วมกับผู้อื่น เล่นรายบุคคลได้ เล่นเป็นกลุ่มได้ 2.4 การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดได้ กระบวนการจัดประสบการณ์ ขั้นนำ 1. ครูนำบัตรภาพรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูสุ่มหยิบนำบัตรภาพมาให้เด็กช่วยกัน ตอบ 2. นักเรียนฟังคำแนะนำชื่อเกม “เกมไม้หนีบเรขาคณิต” จากครู ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังการแนะนำเกม อธิบายวิธีการเล่นเกม จากครูดังนี้ 1.1 ครูนำเกมไม้หนีบเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู 1.2 ครูเตรียมเกมไม้หนีบเรขาคณิต จำนวน 4 ชุด 1.3 ครูสาธิตการเล่นเกมให้นักเรียนดู จากนั้นให้อาสาสมัคร ออกมาสาธิตการเล่นเกมก่อน เล่นจริง 1.4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่ม และให้อาสาสมัครในกลุ่มออกมารับเกม 2. นักเรียนและครูร่วมกันสร้างข้อตกลงดังนี้ 2.1 นักเรียนจะเล่นตามกติกา ไม่แย่งกันเล่น รู้จักแบ่งปัน รอคอย 2.2 นักเรียนจะไม่ทำเกมพังหรือเสียหาย 2.3 เมื่อเล่นเกมเสร็จเก็บเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 3. นักเรียนในกลุ่มช่วยกันนำรูปเรขาคณิตมาจับคู่ให้ตรงกับภาพให้ถูกต้อง กลุ่มไหนเล่นเกม เสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. คุณครูตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งสุ่มถามนักเรียนในกลุ่มทีละคนว่า รูปเรขาคณิตนี้มี ชื่อว่าอะไร ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการเล่นเกมไม้หนีบเรขาคณิต จากนั้นร่วมกันท่องชื่อรูปเรขาคณิต จากบัตรภาพรูปเรขาคณิตอีก 1 ครั้ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บเกมเข้าที่ สื่อการเรียน
66 1. เกมไม้หนีบเรขาคณิต 2. บัตรภาพรูปเรขาคณิต สื่อประกอบการสอน บัตรภาพรูปเรขาคณิต เกมไม้หนีบเรขาคณิต
67 แผนการจัดประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบการสอน วันที่ หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง จับคู่เรขาคณิต เวลา 30 นาที จัดประสบการณ์วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 14.20 น. – 14.50 น. สาระสำคัญ เกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก) เป็นการเรียนรู้รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต โดยการนำรูปเรขาคณิตมาจับคู่ให้ตรงกับภาพให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเรียนรู้ที่จะปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ 10.1.2 จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง ต่างๆ โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะเดียว มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ 12.1 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ 12.1.2 กระตือรือร้น ในการเข้าร่วมกิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. เพื่อให้เด็กสามารถสังเกต จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบความเหมือนความต่างของรูป เรขาคณิตได้ 3. เพื่อให้รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และเก็บเกมการศึกษาเข้าที่เมื่อเลิกเล่นได้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ 1.1 การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. ประสบการณ์สำคัญ 2.1 การวางแผน ตัดสินใจเลือกลงมือปฏิบัติ
68 2.2 การสังเกต การแก้ไขปัญหาระหว่างเล่นเกม 2.3 การทำงานร่วมกับผู้อื่น เล่นรายบุคคลได้ เล่นเป็นกลุ่มได้ 2.4 การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูนำบัตรภาพรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูสุ่มหยิบนำบัตรภาพมาให้เด็กช่วยกัน ตอบ 2. นักเรียนฟังคำแนะนำชื่อเกม “เกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก)” จากครู ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังการแนะนำเกม อธิบายวิธีการเล่นเกม จากครูดังนี้ 1.1 ครูนำเกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก) มาให้นักเรียนดู 1.2 ครูเตรียมเกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก) จำนวน 4 ชุด 1.3 ครูสาธิตการเล่นเกมให้นักเรียนดู จากนั้นให้อาสาสมัคร ออกมาสาธิตการเล่นเกมก่อน เล่นจริง 1.4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่ม และให้อาสาสมัครในกลุ่มออกมารับเกม 2. นักเรียนและครูร่วมกันสร้างข้อตกลงดังนี้ 2.1 นักเรียนจะเล่นตามกติกา ไม่แย่งกันเล่น รู้จักแบ่งปัน รอคอย 2.2 นักเรียนจะไม่ทำเกมพังหรือเสียหาย 2.3 เมื่อเล่นเกมเสร็จเก็บเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 3. นักเรียนในกลุ่มช่วยกันนำรูปเรขาคณิตมาจับคู่ให้ตรงกับภาพให้ถูกต้อง กลุ่มไหนเล่นเกม เสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. คุณครูตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งสุ่มถามนักเรียนในกลุ่มทีละคนว่า รูปเรขาคณิตนี้มี ชื่อว่าอะไร ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการเล่นเกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก) จากนั้นร่วมกันท่องชื่อรูป เรขาคณิต จากบัตรภาพรูปเรขาคณิตอีก 1 ครั้ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บเกมเข้าที
69 สื่อการเรียน 1. เกมจับคู่เรขาคณิต (ตีนตุ๊กแก) 2. บัตรภาพรูปเรขาคณิต สื่อประกอบการสอน บัตรภาพรูปเรขาคณิต
70 แผนการจัดประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบการสอน วันที่ หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง เกมร้อยเชือกเรขาคณิต เวลา 30 นาที จัดประสบการณ์วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 14.20 น. – 14.50 น. สาระสำคัญ เกมร้อยเชือกเรขาคณิต เป็นการเรียนรู้รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต โดยการร้อยเชือกจับคู่ภาพให้ตรงกับรูปเรขาคณิตให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเรียนรู้ที่จะปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ 10.1.2 จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง ต่างๆ โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะเดียว มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ 12.1 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ 12.1.2 กระตือรือร้น ในการเข้าร่วมกิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. เพื่อให้เด็กสามารถสังเกต จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบความเหมือนความต่างของรูป เรขาคณิตได้ 3. เพื่อให้รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และเก็บเกมการศึกษาเข้าที่เมื่อเลิกเล่นได้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ 1.1 การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. ประสบการณ์สำคัญ 2.1 การวางแผน ตัดสินใจเลือกลงมือปฏิบัติ
71 2.2 การสังเกต การแก้ไขปัญหาระหว่างเล่นเกม 2.3 การทำงานร่วมกับผู้อื่น เล่นรายบุคคลได้ เล่นเป็นกลุ่มได้ 2.4 การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูนำบัตรภาพรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูสุ่มหยิบนำบัตรภาพมาให้เด็กช่วยกัน ตอบ 2. นักเรียนฟังคำแนะนำชื่อเกม “เกมร้อยเชือกเรขาคณิต” จากครู ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังการแนะนำเกม อธิบายวิธีการเล่นเกม จากครูดังนี้ 1.1 ครูนำเกมร้อยเชือกเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู 1.2 ครูเตรียมเกมร้อยเชือกเรขาคณิต จำนวน 4 ชุด 1.3 ครูสาธิตการเล่นเกมให้นักเรียนดู จากนั้นให้อาสาสมัคร ออกมาสาธิตการเล่นเกมก่อน เล่นจริง 1.4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่ม และให้อาสาสมัครในกลุ่มออกมารับเกม 2. นักเรียนและครูร่วมกันสร้างข้อตกลงดังนี้ 2.1 นักเรียนจะเล่นตามกติกา ไม่แย่งกันเล่น รู้จักแบ่งปัน รอคอย 2.2 นักเรียนจะไม่ทำเกมพังหรือเสียหาย 2.3 เมื่อเล่นเกมเสร็จเก็บเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 3. นักเรียนในกลุ่มช่วยกันนำเชือกมาร้อยจับคู่ภาพให้ตรงกับรูปเรขาคณิตให้ถูกต้อง กลุ่มไหน เล่นเกมเสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. คุณครูตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งสุ่มถามนักเรียนในกลุ่มทีละคนว่า รูปเรขาคณิตนี้มี ชื่อว่าอะไร ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการเล่นเกมร้อยเชือกเรขาคณิต จากนั้นร่วมกันท่องชื่อรูป เรขาคณิต จากบัตรภาพรูปเรขาคณิตอีก 1 ครั้ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บเกมเข้าที่
72 สื่อการเรียน 1. เกมร้อยเชือกเรขาคณิต 2. บัตรภาพรูปเรขาคณิต สื่อประกอบการสอน บัตรภาพรูปเรขาคณิต เกมร้อยเชือกเรขาคณิต
73 แผนการจัดประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบการสอน วันที่ หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง เกมบิงโกรูปเรขาคณิต เวลา 30 นาที จัดประสบการณ์วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 14.20 น. – 14.50 น. สาระสำคัญ เกมบิงโกรูปเรขาคณิตเป็นการเรียนรู้รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต โดยการเล่นเกมรูปเรขาคณิตให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้นักเรียนได้ ฝึกการปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกมเรียนรู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจน สำเร็จ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ 10.1.2 จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง ต่างๆ โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะเดียว มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ 12.1 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ 12.1.2 กระตือรือร้น ในการเข้าร่วมกิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. เพื่อให้เด็กสามารถสังเกต จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบความเหมือนความต่างของรูป เรขาคณิตได้ 3. เพื่อให้รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และเก็บเกมการศึกษาเข้าที่เมื่อเลิกเล่นได้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ 1.1 การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. ประสบการณ์สำคัญ 2.1 การวางแผน ตัดสินใจเลือกลงมือปฏิบัติ
74 2.2 การสังเกต การแก้ไขปัญหาระหว่างเล่นเกม 2.3 การทำงานร่วมกับผู้อื่น เล่นรายบุคคลได้ เล่นเป็นกลุ่มได้ 2.4 การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูนำบัตรภาพรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูหยิบนำบัตรภาพบิงโกมาให้เด็ก 2. นักเรียนฟังคำแนะนำชื่อเกม “เกมบิงโกรูปเรขาคณิต” จากครู ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังการแนะนำเกม อธิบายวิธีการเล่นเกม จากครูดังนี้ 1.1 ครูนำเกมชุดเกมบิงโก มาให้นักเรียนดู 1.2 ครูเตรียมเกมชุดเกมบิงโก จำนวน 4 ชุด 1.3 ครูสาธิตการเล่นเกมให้นักเรียนดู จากนั้นให้อาสาสมัคร ออกมาสาธิตการเล่นเกมก่อน เล่นจริง 1.4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่ม และให้อาสาสมัครในกลุ่มออกมารับเกม 2. นักเรียนและครูร่วมกันสร้างข้อตกลงดังนี้ 2.1 นักเรียนจะเล่นตามกติกา ไม่แย่งกันเล่น รู้จักแบ่งปัน รอคอย 2.2 นักเรียนจะไม่ทำเกมพังหรือเสียหาย 2.3 เมื่อเล่นเกมเสร็จเก็บเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 3. นักเรียนในกลุ่มเล่นเกมบิงโกและวางฝาขวดให้ตรงกับรูปเรขาคณิตให้ถูกต้อง กลุ่มไหนเล่น เกมเสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. คุณครูตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งสุ่มถามนักเรียนในกลุ่มทีละคนว่า รูปเรขาคณิตนี้มี ชื่อว่าอะไร ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการเล่นชุดเกมบิงโก จากนั้นร่วมกันท่องชื่อรูปเรขาคณิต จาก บัตรภาพรูปเรขาคณิตอีก 1 ครั้ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บเกมเข้าที่
75 สื่อการเรียน 1. เกมชุดเกมบิงโกเรขาคณิต 2. บัตรภาพรูปเรขาคณิต สื่อประกอบการสอน
76 แผนการจัดประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบการสอน วันที่ หน่วย คณิตศาสตร์แสนสนุก กิจกรรมเกมการศึกษา เรื่อง เกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิตปริศนา เวลา 30 นาที จัดประสบการณ์วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 14.20 น. – 14.50 น. สาระสำคัญ เกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิตปริศนาเป็นการเรียนรู้รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต โดยการเล่นเกมเกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิต ปริศนาให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกม เรียนรู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ 10.1.2 จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง ต่างๆ โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะเดียว มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ 12.1 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ 12.1.2 กระตือรือร้น ในการเข้าร่วมกิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. เพื่อให้เด็กสามารถสังเกต จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบความเหมือนความต่างของรูป เรขาคณิตได้ 3. เพื่อให้รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และเก็บเกมการศึกษาเข้าที่เมื่อเลิกเล่นได้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ 1.1 การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เรื่อง รูปเรขาคณิต 2. ประสบการณ์สำคัญ 2.1 การวางแผน ตัดสินใจเลือกลงมือปฏิบัติ
77 2.2 การสังเกต การแก้ไขปัญหาระหว่างเล่นเกม 2.3 การทำงานร่วมกับผู้อื่น เล่นรายบุคคลได้ เล่นเป็นกลุ่มได้ 2.4 การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูนำบัตรภาพรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูหยิบนำบัตรภาพบิงโกมาให้เด็ก 2. นักเรียนฟังคำแนะนำชื่อเกม “เกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิต” จากครู ขั้นสอน 1. นักเรียนฟังการแนะนำเกม อธิบายวิธีการเล่นเกม จากครูดังนี้ 1.1 ครูนำเกมชุดเกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิต มาให้นักเรียนดู 1.2 ครูเตรียมเกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิตจำนวน 4 ชุด 1.3 ครูสาธิตการเล่นเกมให้นักเรียนดู จากนั้นให้อาสาสมัคร ออกมาสาธิตการเล่นเกมก่อน เล่นจริง 1.4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่ม และให้อาสาสมัครในกลุ่มออกมารับเกม 2. นักเรียนและครูร่วมกันสร้างข้อตกลงดังนี้ 2.1 นักเรียนจะเล่นตามกติกา ไม่แย่งกันเล่น รู้จักแบ่งปัน รอคอย 2.2 นักเรียนจะไม่ทำเกมพังหรือเสียหาย 2.3 เมื่อเล่นเกมเสร็จเก็บเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 3. นักเรียนในกลุ่มเกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิตและวางฝาขวดให้ตรงกับรูปเรขาคณิตให้ ถูกต้อง กลุ่มไหนเล่นเกมเสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. คุณครูตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งสุ่มถามนักเรียนในกลุ่มทีละคนว่า รูปเรขาคณิตนี้มี ชื่อว่าอะไร ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการเล่นชุดเกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิต จากนั้นร่วมกันท่อง ชื่อรูปเรขาคณิต จากบัตรภาพรูปเรขาคณิตอีก 1 ครั้ง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บเกมเข้าที่
78 สื่อการเรียน 1. เกมจับคู่ไม้กระดานรูปเรขาคณิต 2. บัตรภาพรูปเรขาคณิต สื่อประกอบการสอน
79 ภาคผนวก ข ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย (นวัตกรรม)
80 นวัตกรรมฉบับสมบูรณ์
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94