หารอื แนวทางพัฒนาการคา้ สนิ คา้
ภายใต้มาตรการควบคุมพเิ ศษ
เมื่อวนั ที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานการหารือแนวทาง
ความร่วมมือการพัฒนาการค้าสินค้าภายใต้มาตรการควบคุม
พิเศษ โดยมนี ายชศู ักดิ์ ชน่ื ประโยชน์ ประธานคณะกรรมการ
ยุทธศาสตร์กล่มุ พืชผกั ผลไม้ และแปรรูปสมุนไพร รว่ มประชมุ
แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ตอ่ การพฒั นาธรุ กจิ เกษตรและอาหาร
ของไทยร่วมกนั ณ ห้องประชมุ ผ้บู ริหาร อาคารศูนยป์ ฏบิ ตั ิการ
ฝกึ อบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวชิ าการเกษตร
ติดตามงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เมอื่ วนั ที่ 11 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์
รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พรอ้ มดว้ ย นายพเิ ชษฐ์
วริ ยิ ะพาหะ อธบิ ดกี รมวชิ าการเกษตร ลงพนื้ ทต่ี ดิ ตามงานตามนโยบาย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเย่ียมชมการสาธิตเลี้ยงขยายพันธุ์
ไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทยส�ำหรับป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช แปลงผัก
และผลิตผลพืชผักของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักบ้านโนนสวรรค์
พร้อมมอบใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช และปัจจัยการผลิตให้แก่
เกษตรกร ณ กลุม่ วิสาหกจิ ชมุ ชนปลกู ผกั บา้ นโนนสวรรค์ อ.บ้านด่าน
จ.บรุ รี มั ย์
ตอ้ นรับอคั รราชฑตู ทีป่ รกึ ษาด้านการเกษตรออสเตรเลยี
และคณะเจ้าหน้าท่ีจากสถานเอกอคั รราชฑตู ออสเตรเลีย
ประจำ� ประเทศไทย
เมื่อวันท่ี 22 กุมภาพันธ์ 2564 นางสาวอิงอร ปัญญากิจ
รองอธบิ ดกี รมวชิ าการเกษตร ใหก้ ารตอ้ นรบั Ms. Amber Parr อคั รราชฑตู
ที่ปรึกษาด้านการเกษตรออสเตรเลีย และคณะเจ้าหน้าที่จากสถาน
เอกอคั รราชฑตู ออสเตรเลยี ประจำ� ประเทศไทย เพอ่ื ประชมุ หารอื แลกเปลยี่ น
นโยบายและประเดน็ ตา่ ง ๆ รว่ มกนั รวมถงึ การหารอื เกยี่ วกบั ประเดน็ การ
เปดิ ตลาดสนิ คา้ เกษตรทส่ี องประเทศอยรู่ ะหวา่ งดำ� เนนิ การ เชน่ อะโวคาโด
การก�ำจัดศัตรูพืชด้วยความเย็นก่อนการส่งออก กิจกรรมความร่วมมือ
ทอ่ี ยรู่ ะหว่างดำ� เนินการ ณ ห้องประชุม 201 ตกึ กสิกรรม กรมวิชาการ
เกษตร
สารบัญ ปีท่ี 94 ฉบับท่ี 3/2564
กมุ ภาพนั ธ์ - มีนาคม 2564
6 สตรอวเ์ บอรร์ ีปลอดภัย 37 69 การเผยแพรอ่ งค์ความรดู้ ้าน
นำ� ไปสสู่ ตรอว์เบอร์รีอนิ ทรีย์ 43 เกษตรในรูปแบบ Application
“รจู้ ริงเรือ่ งพืชกับกรมวิชาการ
10 เกษตรกรดเี ดน่ ด้านการผลิตพชื 50 เกษตร” ผ่าน Smart box
ระดับเขต ประจ�ำปี 2564 (ตอนจบ)
73 สมุนไพรริมร้ัว
28 ถึงจะชอ่ื “โสกระยา้ ” 79 การปนเป้ือนของคลอร์ไพริฟอส
แต่เหน็ แล้วน่าหลงใหล
ในผักและผลไม้นำ� เขา้ จาก
31 การกำ� กบั ดแู ลหน่วยรบั รองภาค สาธารณรัฐประชาชนจนี
เอกชน เม่อื มีการถ่ายโอนภารกิจ
ตรวจประเมินและให้การรบั รองของ 61 73
กรมวิชาการเกษตร
37 เห็ดถวั่ ฝรัง่ และสรรพคณุ ทางยา 79
268 43 บ่ะเกลย้ี ง ก็คอื สม้ เกลยี้ ง
50 การรวบรวมและอนรุ ักษ์พันธ์ุ
มันส�ำปะหลัง
61 โกโก้พชื ทางเลือกท่มี อี นาคต
ท่านท่ีต้องการส่งบทความหรือข้อเขียนเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กสิกร กรุณาส่งข้อเขียน
พรอ้ มภาพประกอบเรอ่ื งทีม่ คี วามละเอยี ดไมต่ ำ�่ กวา่ 3 ลา้ นพิกเซล บนั ทกึ ในแผน่ บนั ทกึ ขอ้ มูล หรอื
แฮนดไ้ี ดรฟ์ ให้กบั กองบรรณาธกิ ารตามทอ่ี ย่ขู องสำ� นักงานหนงั สอื พิมพก์ สกิ ร หรอื ส่งทางอเี มล์ที่
[email protected]
***บทความและข้อเขียนท่ีตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กสิกร เป็นข้อคิดเห็นและทรรศนะของ
ผ้เู ขยี น มิได้เก่ยี วขอ้ งกบั กรมวชิ าการเกษตรแต่อย่างใด
ตรวจเยย่ี มการดำ� เนนิ การนำ� เขา้ – สง่ ออก สนิ คา้ เกษตร
ณ ดา่ นตรวจพชื ทา่ เรอื กรงุ เทพ
เม่อื วนั ที่ 25 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 นายพเิ ชษฐ์ วริ ิยะพาหะ
อธบิ ดกี รมวชิ าการเกษตร ตรวจเยยี่ มการดำ� เนนิ การนำ� เขา้ – สง่ ออก
สินคา้ เกษตร ณ ด่านตรวจพืชทา่ เรอื กรงุ เทพ โดยมี นายธรรมนญู
แกว้ คงคา ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั ควบคมุ พชื และวสั ดกุ ารเกษตร พรอ้ มดว้ ย
เจา้ หนา้ ท่ดี ่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ใหก้ ารตอ้ นรบั
ในการนี้ อธบิ ดกี รมวชิ าการเกษตรใหแ้ นวทางในการตรวจสอบ
เฝ้าระวังการนำ� เข้า – ส่งออกสนิ ค้าเกษตร และปัจจัยการผลติ ทาง
การเกษตร ให้เป็นไปตามเง่ือนไขของกรมวิชาการเกษตร รวมทั้ง
ให้ปรับปรุงสถานท่ีปฏิบัติงานและจุดให้บริการประชาชนให้เป็น
ระเบยี บเรยี บร้อย เพอ่ื อำ� นวยความสะดวกให้กบั ผทู้ ่ีมารบั บรกิ าร
บทบรรณาธกิ าร
ปัญหาฝุน่ PM 2.5 ตอ่ สขุ ภาพของประชาชน
ฝนุ่ PM 2.5 เปน็ ปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ และทวคี วามรนุ แรงขนึ้ ในชว่ งเดอื นธนั วาคม – เมษายน
ของทุกปี เน่ืองจากเป็นช่วงเวลาท่ีอากาศมีการไหลเวียนต่�ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรง
ตอ่ สขุ ภาพของประชาชน ทง้ั น้ี จากรายงานสถานการณแ์ ละคณุ ภาพอากาศของประเทศไทย
โดยกรมควบคมุ มลพษิ พบวา่ คา่ เฉลย่ี 24 ชว่ั โมงของ PM 2.5 ในพน้ื ทภี่ าคเหนอื ระหวา่ งวนั ที่
16 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2564 มคี ่าเฉลย่ี อยรู่ ะหว่าง 51 – 90 ไมโครกรัม/ลกู บาศก์เมตร
ซึ่งอยู่ในระดับเรม่ิ มีผลต่อสุขภาพ
ส�ำหรับในพ้ืนที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในเดือนมกราคม 2564 พบปริมาณฝุ่น
PM 2.5 สูง ในช่วงวนั ที่ 14, 17 และ 20 – 24 โดยบางพื้นทม่ี คี ่าเฉลี่ยมากกว่า 90 ไมโครกรัม
ในบางเขตของกรุงเทพมหานคร บางอ�ำเภอของจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดสมุทรสาคร
โดยคา่ สงู สุดอย่ทู ่ี 114 ไมโครกรมั /ลูกบาศก์เมตร ท่เี ขตบางขุนเทยี น กรงุ เทพมหานคร ซ่งึ ส่งผล
ต่อสุขภาพและเป็นสาเหตขุ องการเจ็บป่วยได้
โดยองคก์ ารอนามยั โลก (WHO) รายงานวา่ ปรมิ าณฝนุ่ (PM 2.5 และ PM 10) มคี วามสมั พนั ธ์
โดยตรงกับอตั ราการเจ็บปว่ ยและเสยี ชีวติ โดยแตล่ ะปมี ีคนประมาณ 7 ล้านคน ตอ้ งเสียชีวติ เพราะ
มลพษิ ทางอากาศ นอกจากนฝ้ี นุ่ ละออง PM 2.5 ยงั สง่ ผลกระทบไดท้ ั้งกบั อวัยวะภายนอก ได้แก่
ตา และผวิ หนงั และอวยั วะภายใน อาทิ ระบบทางเดนิ หายใจ ระบบภมู คิ มุ้ กนั และระบบอน่ื ๆ ในปอด
ระบบเส้นเลือด เนื่องจากฝุ่นละอองมีขนาดเล็กสามารถเข้าสู่กระแสเลือด ท�ำให้เกิดการอักเสบ
ในอวยั วะตา่ ง ๆ ได้ และดว้ ยอนภุ าคขนาดเลก็ ของ PM 2.5 อาจทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ แหลง่ เกาะของมลพษิ
อื่น ๆ เช่น แคดเมี่ยม ปรอท โลหะหนัก สารโพลีไซคลิก อะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs)
จากการจราจร หรือแหลง่ กอ่ มลพษิ ซึ่งอาจสง่ ผลต่อการเกิดมะเรง็ ในระยะยาวได้
จากข้อมลู Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสขุ พบวา่ ในปี 2563 มผี ปู้ ว่ ย
ดว้ ยโรคทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั มลพษิ ทางอากาศ 6.9 ลา้ นราย เปน็ ผปู้ ว่ ยกลมุ่ โรคผวิ หนงั อกั เสบ 1.8 ลา้ นราย
กลุม่ โรคตาอกั เสบ 1.2 ล้านราย และกลมุ่ โรคปอดอดุ ตนั เร้ือรงั 8.4 แสนราย
เช่ือว่า เมื่อประชาชนรับรู้ถึงผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่มีต่อสุขภาพของตัวเองแล้ว
คงจะใหค้ วามรว่ มมอื กนั หยดุ เผาเศษซากพชื ในพน้ื ทก่ี ารเกษตร และหยดุ สรา้ งมลพษิ จากการจราจร
กนั มากขนึ้
พบกนั ใหม่ฉบบั หน้า
บรรณาธิการ
หนังสือพมิ พ์ กสิกร ประสานงานทว่ั ไป : สมจิตต์ ยะเลาะห์, ธวชั ชยั สวุ รรณพงศ์,
ผู้กอ่ ตั้ง : หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร สมบรู ณ์ อุคำ�
ท่ปี รกึ ษา : พิเชษฐ์ วริ ยิ ะพาหะ, อิงอร ปัญญากจิ ,
ส�ำนักงาน : กลุม่ เผยแพรแ่ ละนิทรรศการ
อนนั ต์ อักษรศรี, สมบัติ ตงเตา๊ , ธิดากุญ แสนอุดม สำ� นกั งานเลขานุการกรม กรมวิชาการเกษตร
บรรณาธิการ : อุดมพร สพุ คุตร์ เลขท่ี 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว
กองบรรณาธิการ : มธุรส วงษค์ รุธ, จินตนก์ านต์ งามสุทธา,
จันระวี จิตรสมาน เขตจตุจักร กรงุ เทพฯ 10900
ภาพ : กัญญาณัฐ ไผ่แดง, วงศธร ไผ่แดง โทรศัพท์ : 02 561 2825
ฝา่ ยศิลป์ : มณฑา แถมเงิน, กฤษฎา ดาวเรือง, วรวทิ ย์ อ�่ำช้าง โทรสาร : 02 579 4406
ฝา่ ยสมาชกิ จัดสง่ : บุญใส ศรแกว้ E-mail : [email protected]
ออกแบบและจัดรปู เลม่ : บริษัท สมารท์ โคตตงิ้ แอนด์
เซอร์วสิ จ�ำกดั โทร 053 114 822
สตรอวเ์ บอรร์ ปี ลอดภัย
นำ� ไปสูส่ ตรอว์เบอรร์ ีอินทรยี ์
ชยั ณรงค์ จนั ทร์แสนตอ และ เกยี รตสิ ยาม แก้วดอกรัก
สตรอว์เบอรร์ ี (Fragaria x ananassa Duch.) เป็นไมผ้ ลเขตกงึ่ ร้อนท่ีสามารถปรับตัวใหเ้ ข้ากบั สภาพ
แวดลอ้ มของประเทศไทยไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในปี พ.ศ. 2553 โครงการหลวงไดม้ กี ารนำ� สตรอวเ์ บอรร์ สี ายพนั ธใ์ุ หม่
มาสง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรปลกู เพอ่ื การคา้ คอื สตรอวเ์ บอรร์ พี นั ธพ์ุ ระราชทาน 80 ซงึ่ เปน็ พนั ธท์ุ ไ่ี ดร้ บั พระราชทาน
เมอ่ื ปี พ.ศ. 2550 ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงมี
พระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา เป็นพันธุ์รับประทานสด มีลักษณะเด่นคือ ผลสุกมีกลิ่นหอม มีรสหวาน
รปู ร่างของผลสวยงาม และเปน็ พันธ์ุทีไ่ ดร้ ับความนิยมมากทส่ี ุดในปจั จุบนั
6
การเตรยี มดนิ การปลูกสตรอว์เบอรร์ ี
ทดลองปลกู ทสี่ ถานีวิจยั เกษตรหลวง สตรอวเ์ บอรร์ เี ปน็ พชื ทมี่ รี ะบบรากตนื้ แตต่ อ้ งการธาตุ
อาหารสงู มกี ารระบายนำ้� ดี การปลกู สตรอวเ์ บอรร์ ที ศี่ นู ยว์ จิ ยั
อา่ งขาง และพัฒนาการเกษตรที่สงู เชยี งราย เริม่ ตน้ จากการผลิตไหล
ใหป้ ราศจากโรคและแมลง ใหม้ ีความสมบรู ณ์ แข็งแรง โดย
สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 เป็นสายพันธุ์ ผลติ จากไหลทมี่ าจากต้นแมพ่ ันธจ์ุ ากโครงการหลวง มาปลูก
ทนี่ ําเมล็ดพนั ธุ์ลูกผสมจากประเทศญป่ี ่นุ มาปลกู ซ่งึ ต้องการ ในดนิ ผสมทป่ี ระกอบดว้ ย ดนิ ทข่ี ดุ จากปา่ ดบิ ชนื้ ซง่ึ เปน็ ดนิ ดำ�
อากาศหนาวเย็นมากกว่าพันธุ์อ่ืน ๆ คือ ต้องปลูกในพ้ืนที่ มีฮิวมัสสูง ปุ๋ยชีวภาพผสมจากญ่ีปุ่น แกลบด�ำ แกลบดิบ
ท่ีมีความสูงตั้งแต่ 800 เมตร เหนือระดับน้�ำทะเลขึ้นไป ขุยมะพรา้ ว และป๋ยุ หมักแบบเตมิ อากาศ (ของศนู ย์วจิ ยั และ
อุณหภูมเิ ฉลย่ี 16 - 20 องศาเซลเซียส ไม่น้อยกวา่ 30 วัน พฒั นาการเกษตรทสี่ งู เชยี งราย) จากนน้ั ลงปลกู ลงในกระถาง
จึงได้น�ำมาทดลองปลูกท่ีสถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง ขนาด 8, 10 น้ิว ดูแลรักษาให้เจริญเติบโตแตกกอ และ
ซงึ่ เปน็ พน้ื ทป่ี ลกู ไดผ้ ลดี เนอื่ งจากมคี วามสงู ประมาณ 1,400 ออกไหลเพื่อทำ� การขยายพันธ์ุ
เมตร มีลักษณะเด่น คือ เม่ือสุกมีกลิ่นหอม และมีรสชาติ
หวานกวา่ ผลมลี กั ษณะทรงกรวยถงึ กลมปลายแหลม นำ�้ หนกั จากนั้นย้ายปลูกลงดิน มี 3 วธิ ีการ ดงั นี้
ตอ่ ผล 12 - 115 กรมั เนื้อผลแนน่ สแี ดงสด ลกั ษณะของใบ การปลกู ลงดินแบบท่ัวไป
จะเปน็ รปู กลม ขอบใบหยกั คล้ายฟนั เลื่อย สีเขยี วปานกลาง ขึน้ แปลงสูง 50 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 4
ทรงพมุ่ ตงั้ ตรง ตา้ นทานตอ่ โรคแอนแทรคโนส และราแปง้ ไดด้ ี เมตร โรยปูนขาว ตากแดดท้ิงไว้ 1 สปั ดาห์ ใชส้ ่วนผสมดนิ
สำ� เรจ็ ทนี่ ำ� มาใชก้ บั วธิ กี รรมทผ่ี า่ นมาผสมกบั ชวี ภาพจากญปี่ นุ่
จากคำ� แนะนำ� ของ ดร.ทนิ น์ พรหมโชติ ในการพจิ ารณา และดนิ ดำ� แกลบดบิ ปุ๋ยหมกั แบบเตมิ อากาศ
ว่าควรปลูกสายพันธุ์ใดในพ้ืนท่ีหนึ่ง ๆ อาจต้องค�ำนึงถึง
ลกั ษณะตา่ ง ๆ ดังน้ี การปลกู ลงดินทว่ั ไป
1. การปรับตวั (adaptation) เช่น สภาพพ้นื ที่ สภาพ
ภมู อิ ากาศ และการเจริญเติบโต เปน็ ต้น
2. ความตา้ นทานตอ่ โรคและแมลง (disease or insect
resistance) เชน่ การใชพ้ นั ธต์ุ า้ นทานใหต้ รงกบั ปญั หาในพนื้ ท่ี
ปลกู เปน็ ตน้
3. ความมุง่ หมายการใชป้ ระโยชน์ (intended use)
เชน่ การแปรรปู การจำ� หนา่ ยในพน้ื ท่ี และการรบั ประทานสด
เปน็ ตน้
4. ชว่ งเวลาทเ่ี กบ็ เกย่ี วผลผลติ (season of ripening)
ได้แก่ พนั ธ์เุ บามาก พันธ์ุเบา พนั ธ์ปุ านกลาง พนั ธุ์หนัก และ
พันธ์หุ นักมาก เปน็ ต้น
7
การปลูกในกระบะไมไ้ ผ่ยกพนื้ การปลูกแบบใสก่ ระถาง
การปลกู ลง การปอ้ งกนั ก�ำจดั ศตั รูสตรอว์เบอร์รี
ในถงุ พลาสตกิ
1. โรค การปลูกสตรอว์เบอร์รีของศูนย์วิจัยและ
การปลกู ในกระบะไมไ้ ผ่ยกพืน้ พัฒนาการเกษตรท่สี ูงเชียงรายทกุ วิธีการปลูกไดม้ กี ารเตรยี ม
โดยการปลูกบนกระบะที่ท�ำจากไม้ไผ่ขนาดกว้าง 1 ดินปลูกท่ีคลุกด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันโรคพืชทางดินจาก
เมตร ยาว 8 เมตร สูง 40 เซนตเิ มตร และยกสงู จากพืน้ ดนิ กรมวชิ าการเกษตร สตรอวเ์ บอรร์ ที ป่ี ลกู จงึ ยงั ไมป่ ระสบปญั หา
ประมาณ 1 เมตร แลว้ ผสมดินปลกู (ส่วนผสมดนิ ผสมสำ� เร็จ โรคพืช ซึ่งหากมีปัญหาทางศูนย์วิจัยฯ มีนักวิชาการท่ีพร้อม
สูตรเดียวกันที่ปลูกลงกระถางข้างต้นท่ีเป็นกระถางแม่พันธุ์) ช่วยกนั แกไ้ ข
เนื่องจากเปน็ แปลงท่ีต้องการไหลเพือ่ ขยายพันธ์ุ
การปลูกลงกระถางขนาด 8, 10 น้วิ หรอื ปลูกลงถุง 2. แมลงและศตั รูพชื ท่พี บเปน็ ปญั หา ไดแ้ ก่
พลาสติก - เพลยี้ แปง้ ในพน้ื ทห่ี มบู่ า้ นดอยชา้ งมนั เปน็ แมลง
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมจากญ่ีปุ่น เน้นธาตุฟอสฟอรัส ที่ระบาดหนักกับทุกพืช และติดพืชเกือบทุกชนิดแม้แต่
แกลบด�ำ ขุยมะพร้าว และปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ และใช้ ดอกดาวเรอื งทไี่ มม่ แี มลงอนื่ กนิ และเพลยี้ แปง้ ทนี่ ย่ี งั ตดิ ไปถงึ
กาบมะพร้าวรองก้นกระถาง ขอ้ ดีของการปลกู แบบวธิ นี ้ี คือ ตน้ ไมใ้ บหญา้ ทวั่ ไป ทางศนู ยว์ จิ ยั ฯ ปอ้ งกนั กำ� จดั โดยการฉดี พน่
สามารถดแู ลและควบคมุ ปจั จยั ตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ย อกี ทงั้ ยงั สามารถ หางไหลสกัด และน�้ำยาล้างจาน โดยพ่นน�้ำยาล้างจานใน
เคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก ชว่ งเวลาทแี่ ดดรอ้ นจดั สว่ นหางไหลสกดั ใชพ้ น่ เมอ่ื พบเพลยี้ แปง้
ระบาดมาก พ่นในเวลาตอนเย็น
- เพล้ียอ่อน ระบาดในช่วงปลายฤดูฝนและเพ่ิม
จ�ำนวนมากขึน้ เรื่อย ๆ ปอ้ งกันกำ� จัดโดยการฉดี พ่นหางไหล
สกัด
- ศตั รพู ชื คอื กระรอก ปอ้ งกนั ก�ำจัดดว้ ยการใช้
กบั ดกั และสว่ นท่ีปลกู ในโรงเรือน ปอ้ งกันดว้ ยการใชต้ าขา่ ย
ล้อมโรงเรอื น
ลกั ษณะการระบาดของเพลย้ี แป้ง
8
รอ่ งรอยการท�ำ ลายของ กบั ดกั กระรอก โอกาสในการท�ำงานวิจัย และช่วยเหลือ
กระรอก
เกษตรกร
1. โครงการผลิตสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์แบบครบวงจร
เพ่ือเป็นต้นแบบเกษตรอนุรักษ์เชิงท่องเท่ียว แปลงอินทรีย์
ซ่ึงมีความเป็นไปได้ท่ีจะผลิตแปลงสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ใน
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงรายให้เป็นแปลง
ต้นแบบได้ เน่ืองจากสภาพพ้ืนท่ีอยู่ห่างไกลจากชุมชนและ
แหลง่ ท�ำการเกษตรอนื่ ๆ
2. ศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของผลติ ภณั ฑท์ างชวี ภณั ฑจ์ าก
กรมวชิ าการเกษตร เปรยี บเทยี บกบั วธิ ขี องภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น
เพ่ือผลิตสตรอวเ์ บอรร์ อี ินทรยี ์
3. โครงการศึกษาชนิดของโรค แมลง และสัตว์ศัตรู
สตรอวเ์ บอรร์ ใี นพน้ื ทสี่ งู ดอยวาวี และแนวทางการกำ� จดั เบอื้ งตน้
4. โครงการเปรยี บเทยี บการเจรญิ เตบิ โต ความตา้ นทาน
ศัตรพู ืช และผลผลติ ของสตรอว์เบอร์รี
5. โครงการผลิตไหลสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ดีให้กับ
เกษตรกร
ขอ้ ได้เปรยี บของศูนยว์ ิจยั และพัฒนา ความเป็นไปได้ในการผลิตเป็น
สตรอว์เบอร์รีอินทรยี ์
การเกษตรท่ีสูงเชยี งราย
จากการผลิตสตรอว์เบอร์รีท่ีผ่านมาข้างต้นมีความ
1. มคี วามสงู จากระดบั นำ้� ทะเลมากกวา่ 1,000 เมตร สอดคล้องกับหลักปฏิบัติตามข้อก�ำหนดของเกษตรอินทรีย์
ข้ึนไป อุณหภูมิต่�ำเกือบตลอดท้ังปีและมีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งหมด แต่ใช้เฉพาะปุ๋ยเคมีสังเคราะห์เท่าน้ัน ซึ่งสามารถ
ของดินสงู หาวตั ถดุ บิ แทนปยุ๋ เคมดี งั กลา่ วได้ ปจั จบุ นั อยรู่ ะหวา่ งการผลติ
โดยไม่ใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ จึงมีความเป็นไปได้ท่ีจะผลิต
2. ที่ผ่านมาเกษตรกรได้สั่งตน้ ไหลสตรอว์เบอร์รจี าก สตรอว์เบอร์รอี ินทรยี ์ที่มีคณุ ภาพต่อไป
พน้ื ทอี่ น่ื ทมี่ รี าคาสงู มคี า่ ขนสง่ และไดต้ น้ ไหลไมส่ มบรู ณเ์ ทา่
ทค่ี วร ซง่ึ หากทางศนู ยว์ จิ ยั ฯ สามารถผลติ ไหลใหเ้ กษตรกรได้ เร่มิ แทงไหล
จะสามารถสร้างรายได้ให้กรมวิชาการเกษตร และแก้ปัญหา
ให้เกษตรกรโดยตรง
3. ในพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ีมีชื่อเสียง ปกติมี
นักท่องเท่ียวตลอดทั้งปี มีโอกาสท่ีสามารถจ�ำหน่ายผลผลิต
และผลิตภัณฑ์จากสตรอว์เบอร์รีได้ตลอด
เอกสารอา้ งองิ
ณรงค์ชยั พพิ ัฒนวงศ,์ เวช เต๋จ๊ะ และ H. Akagi. 2551. สตรอเบอรี “พันธุพ์ ระราชทาน 80” เอกสารจากงานวจิ ัยสตรอเบอรร์ ี.
มูลนธิ โิ ครงการหลวง, เชียงใหม่.
ทนิ น์ พรหมโชติ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี http://www.agri.ubu.ac.th/mis/staff/preview.php?usergen=
agsuthpr (สืบคน้ เมือ่ 4 พฤศจิกายน 2563)
9
เกษตรกรดเี ดน่
ดา้ นการผลติ พชื
ระดบั เขต ประจ�ำปี 2564 (ตอนจบ)
กองบรรณาธิการ
อกี ไมก่ ว่ี นั ทกุ ทา่ นกค็ งจะไดท้ ราบกนั แลว้ วา่ เกษตรกรทา่ นใดจะไดร้ บั การคดั เลอื กใหเ้ ปน็ เกษตรกรดเี ดน่
ดา้ นการผลิตพืช ประจำ� ปี 2564 เพราะในขณะท่ีก�ำลังเขยี นอยู่น้ี กใ็ กลว้ ันทคี่ ณะท�ำงานฯ จะพจิ ารณาผลการ
คดั เลอื กกันแลว้ แตก่ ่อนอน่ื ท่ยี ังติดคา้ งไว้ ยังมีเกษตรกร GAP และพืชอินทรยี ์ดเี ดน่ ในระดับเขต อกี 8 ทา่ น
ทจ่ี ะน�ำมาเสนอเร่ืองราวใหท้ กุ ทา่ นได้ทราบกันต่อ ดงั นี้
10
เกษตรกร GAP ดีเด่น
เปีย๊ ก พรมพกุ
เกษตรกร GAP ดเี ด่น
จากส�ำนกั วิจยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2
จงั หวัดพิษณโุ ลก
แต่เดิมน้ัน คุณลุงเปี๊ยกเคยท�ำการเกษตรปลูกยาสูบ ศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน IPM และหมั่นส�ำรวจแปลงอย่าง
และไดเ้ ปลยี่ นพน้ื ทม่ี าทำ� สวนแบบผสมผสาน ในปี พ.ศ. 2555 สมำ�่ เสมอ เพอ่ื ตรวจหาแมลงศตั รพู ชื รวมถงึ มกี ารใชเ้ ครอ่ื งมอื
โดยปลกู ผกั สวนครวั ไวท้ านเองและขายในหมบู่ า้ น อ.ศรสี ำ� โรง อปุ กรณ์ในการตรวจเชค็ ปรมิ าณสารละลายเขม้ ข้น คา่ E.C
จ.สุโขทัย แต่ก็ประสบกับปัญหาเร่ืองของสภาพอากาศที่ 1.0 – 1.8 และคา่ pH 5.2 – 6.5 ซ่งึ คณุ ลงุ ใสใ่ จควบคมุ
ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความร้อนแล้ง ปริมาณฝนที่ตก กระบวนการผลติ ในทกุ ขนั้ ตอน ตลอดจนการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ
มากเกนิ ไป หรอื ไมไ่ ดผ้ ลผลติ ตามทต่ี งั้ ไว้ จงึ ไดศ้ กึ ษาหาขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง เพื่อม่ันใจว่าผลผลติ มคี ุณภาพและปลอดภยั จาก
ในการปลกู ผกั แบบไฮโดรโปนกิ ส์ เพอื่ นำ� มาปรบั เปลยี่ นวธิ กี าร สารปนเปือ้ น
ปลูกในสวนของตนเอง โดยมีแนวความคิดในการผลิตแบบ
ไม่ใช้สารเคมี
คุณลุงได้เร่ิมปลูกผักในโรงเรือน มีโต๊ะและรางปลูก
ขนาด 1 x 15 เมตร ทงั้ หมด 12 โต๊ะ จ�ำนวน 500 ตน้ /โต๊ะ
โดยใชน้ ำ�้ ประปาหมบู่ า้ นในการผลติ พชื และมสี ระนำ้� ของตนเอง
ภายในแปลง เพ่ือเปน็ แหลง่ น�้ำสำ� รองส�ำหรับใชใ้ นการเกษตร
และมีการจัดการพักน้�ำหลังการผลิตเพื่อลดปริมาณความ
เข้มข้นของปุ๋ย ระหว่างการปลูกและดูแลจะใช้การจัดการ
11
หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จะใช้น้�ำประปา สถานท่ีปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ของคณุ ลุงเป๊ยี ก ได้เปิด
หมู่บ้านล้างท�ำความสะอาด และรวบรวมเพื่อพักผลผลิต ใหห้ นว่ ยงานตา่ ง ๆ ไดเ้ ขา้ ชมแปลงเพอ่ื ใหค้ วามรู้ แลกเปลย่ี น
ในหอ้ งควบคมุ อณุ หภมู ิ โดยมที ตี่ งั้ โรงคดั บรรจุ Primary GMP ความรู้ในการท�ำการเกษตร ศึกษาดูงาน และเป็นส่วนหน่ึง
ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสถานท่ีผลิตอาหารแปรรูป ของงานวจิ ยั อีกด้วย
ที่บรรจุในภาชนะพร้อมจ�ำหน่ายตามข้อก�ำหนด นอกจากน้ี
ยังได้รับค�ำแนะน�ำจากส�ำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุโขทัย
เกี่ยวกับการท�ำบัญชีฟาร์ม ซ่ึงคุณลุงก็ได้มีการบันทึกข้อมูล
และรายละเอียดในการปฏิบตั ิงานทกุ ขน้ั ตอนร่วมด้วย
ปี พ.ศ. 2559 ไดย้ ื่นขอรับรองมาตรฐาน GAP พืช
ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย ส�ำนักวิจัยและ
พัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวชิ าการเกษตร ปจั จบุ ันได้รับ
การรบั รอง จำ� นวน 18 ชนดิ พชื และทำ� การขยายชอ่ งทางการ
ตลาดโดยมีการจ�ำหน่ายในตลาดเกษตรของจังหวัดสุโขทัย
ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลในจังหวัด และเริ่มมีการ
แปรรูปผลิตเป็นน�้ำผักฟิลเล่ย์ไอซ์เบิร์ก เพ่ือเพิ่มมูลค่าสินค้า
เปิดให้ผู้บริโภคสามารถเข้าเก็บเก่ียวผลผลิตในแปลงได้เอง
เป็นการสรา้ งความม่นั ใจใหก้ บั ผู้บรโิ ภคอีกทางหนึ่งด้วย
12
สมบตั ิ สารพัฒน์
เกษตรกร GAP ดเี ดน่
จากส�ำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 3
จงั หวัดขอนแกน่
ด้วยแนวคดิ ที่ว่า มะม่วงเปน็ พชื ท่ีสามารถสร้างอาชีพ สวนมะม่วงมาปรับใช้ภายในแปลงตัวเอง เพื่อให้ได้ผลผลิต
สร้างรายได้ และสามารถจ�ำหนา่ ยก่งิ พนั ธไ์ุ ด้ คณุ สมบัติจึงได้ ท่ีมีคุณภาพเป็นท่ีต้องการของตลาด และเป็นศูนย์เรียนรู้
ตง้ั ใจผลติ มะมว่ งใหไ้ ดค้ ณุ ภาพ เพอื่ จำ� หนา่ ยผลผลติ ทม่ี คี วาม ในพื้นทอี่ ีกดว้ ย
ปลอดภยั ตอ่ ผบู้ รโิ ภค โดยขยายผลไปยงั เกษตรกรในพน้ื ที่ เพอ่ื
เพมิ่ รายไดใ้ นชมุ ชน และเปน็ แหลง่ เรยี นรแู้ กช่ มุ ชนผปู้ ลกู มะมว่ ง
ภายในพ้นื ท่ี อ.สมเดจ็ จ.กาฬสนิ ธ์ุ
ก่อนหน้าที่จะเป็นเกษตรกรเต็มตัว หลังจากจบการ
ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี คณุ สมบัติ เคยทำ� งานทส่ี ถานปี ระมง
น�้ำจืด จ.สกลนคร และย้ายมายังศูนย์ส่งเสริมเด็กสตรีและ
เยาวชน รวมระยะเวลาประมาณ 4 ปี จึงไดต้ ดั สินใจลาออก
เพือ่ กลับมาทำ� การเกษตร เพาะขยายพนั ธุพ์ ืช และเลยี้ งไกไ่ ข่
เพื่อจ�ำหน่าย ต่อมาเกิดแนวคิดที่จะพัฒนาพ้ืนท่ีของตนเอง
โดยการพัฒนาพ้ืนที่แปลงมะม่วงท่ีพ่อเพาะปลูกไว้ โดยน�ำ
ความรู้ทีม่ แี ละศกึ ษาค้นคว้าจากผทู้ ่มี ปี ระสบการณ์ในการท�ำ
13
การปลูกมะม่วงในปีแรกพบปัญหาเร่ืองการระบาด 6. หอ่ ผลมะมว่ งดว้ ยถงุ คารบ์ อน เพอื่ ปอ้ งกนั แมลงวนั
เพลีย้ ไฟ เพลี้ยหอย ส่งผลให้ผลผลติ ไมไ่ ดม้ าตรฐาน มขี นาด ผลไม้ และท�ำให้มะม่วงมีผวิ สวย โดยผูกรบิ บ้ินหรอื เชือกฟาง
ผลเลก็ ผวิ ไมส่ วย อกี ทง้ั ยงั ประสบกบั ปญั หาราคาผลผลติ ตกตำ่� สีตา่ ง ๆ เป็นเครือ่ งหมายและบนั ทึกข้อมลู เพ่อื ใหส้ ามารถ
ตน้ ทนุ การผลติ สงู จงึ เรมิ่ เขา้ ฝกึ อบรมวธิ ปี ฏบิ ตั กิ ารปลกู มะมว่ ง เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม และสามารถ
ตามมาตรฐานระบบคณุ ภาพ GAP และเรยี นรกู้ ารปลกู มะมว่ ง เก็บผลผลติ เมื่อแก่จัด 40 – 50 วัน หลังห่อผล
เพิ่มเตมิ จากกรมวชิ าการเกษตร จนสามารถแกไ้ ขปัญหาดา้ น
ต้นทุน และสามารถผลิตมะมว่ งที่ปลอดภัยได้คณุ ภาพ โดยมี 7. เก็บผลผลิตในระยะปลอดภัย โดยนับจากวันพ่น
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ดงั น้ี สารเคมีครง้ั สดุ ทา้ ย ตามค�ำแนะนำ� ขา้ งฉลาก
1. ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน เพ่ิมความสมบูรณ์
ของดินโดยการใสป่ ยุ๋ อินทรยี ์ อตั รา 10 กิโลกรมั /ตน้ /ปี เชน่
ปุย๋ หมกั ปยุ๋ มลู สตั ว์ เศษหญา้ เศษซากของต้นและใบมะม่วง
เป็นต้น
2. ตัดแต่งกิ่งให้โปร่งและควบคุมทรงพุ่มไม่ให้สูงเกิน
3 เมตร เพอื่ ใหง้ ่ายต่อการกำ� จัดวชั พืช และสามารถจดั การ
คณุ ภาพการผลิตได้
3. ใหน้ ำ้� ด้วยระบบน�ำ้ หยด ทุก 3 – 4 วนั โดยสงั เกต
สภาพต้นมะม่วง ให้น้�ำ 20 – 25 คร้ัง ในระยะติดผลจน
เกบ็ เกี่ยว และหยดุ ใหน้ ำ้� ก่อนเก็บเกย่ี ว 30 วนั
4. พ่นไตรโคเดอร์มา อตั รา 250 กรัม/นำ้� 20 ลติ ร
พ่น 2 – 3 ครงั้ ระยะก่อนตดิ ดอก (ชว่ งบม่ ตาดอก)
5. ใชส้ ารเคมีป้องกันก�ำจดั แมลง เช่น เพลีย้ ไฟ แมลง
กนิ นนู เพอื่ จดั การใหต้ น้ มคี วามสมบรู ณใ์ นระยะเตรยี มตน้ และ
ดูแลรักษา ประกอบกับท�ำการส�ำรวจโรคแมลงและก�ำหนด
การป้องกันก�ำจัดตามความจ�ำเป็น ซ่ึงหากไม่พบโรคแมลง
หรือมีการระบาดน้อย จะก�ำจัดด้วยวิธีกลน�ำไปท�ำลาย
นอกแปลง เพ่ือลดการใชส้ ารเคมมี ากเกินความจ�ำเปน็
14
นอกจากจะผลติ มะมว่ งใหไ้ ดค้ ณุ ภาพแลว้ ยงั วางแผน
ใหม้ ผี ลผลติ ออกทงั้ ในฤดแู ละนอกฤดู เพอ่ื ใหม้ ผี ลผลติ เพยี งพอ
ต่อความต้องการของตลาด และมีรายได้สม่�ำเสมอท้ังปี
โดยปลูกมะม่วงไว้หลายแปลง และจัดการให้ผลผลิตออก
ในชว่ งเวลาทีต่ า่ งกัน เพื่อใหส้ ามารถดูแลรกั ษาและเกบ็ เกยี่ ว
ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั มกี ารกระจายผลผลติ ไดต้ ลอด
ท้ังปี โดยผลผลติ ในฤดจู ะออกเดือนเมษายน – พฤษภาคม
สว่ นผลผลิตนอกฤดจู ะออกเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม
ดา้ นการจดั การพนื้ ทป่ี ลกู มกี ารวางแผนผงั แปลงปลกู
เพอื่ ใหง้ า่ ยและสะดวกตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน โดยจดั ใหม้ แี หลง่ นำ้�
เปน็ บอ่ ทขี่ ดุ เองขนาด 5 ไร่ และนำ้� บาดาลเพอ่ื ใชใ้ นแปลง ผลติ
ต้นพันธุ์เองโดยเลือกใช้พันธุ์มะม่วงที่ตรงตามความต้องการ
ของตลาด มกี ารใชว้ ตั ถอุ นั ตรายตามคำ� แนะนำ� และเปน็ ไปตาม
ข้อก�ำหนด มีสถานที่เก็บสารเคมีอย่างเป็นสัดส่วน จัดการ
เกบ็ เกย่ี วในระยะแกจ่ ดั และมกี ารจดขอ้ มลู การปฏบิ ตั ใิ นแปลง
อย่างเป็นปัจจบุ ันและตรวจสอบได้
เมอื่ ประสบความสำ� เรจ็ ในการปลกู มะมว่ งในแปลงของ
ตนเองแลว้ จงึ ชกั ชวนสมาชกิ ในชมุ ชนใหป้ ลกู มะมว่ งเพม่ิ มาก
ขึ้น ท�ำให้เกษตรกรหลายรายหันมาปลูกมะม่วงในลักษณะ
เดยี วกนั และมเี กษตรกรทง้ั ในและนอกชมุ ชนเขา้ มาเรยี นรกู้ าร
ผลิตมะม่วงที่ได้คุณภาพมาตรฐานและปลอดภัยจากสารพิษ
มรี สชาตถิ กู ใจผบู้ รโิ ภค จนสามารถรวมกลมุ่ ผลติ และจดทะเบยี น
เป็นวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองผ้าอ้อม ในปี 2560 ปัจจุบัน
มสี มาชกิ 47 ราย พน้ื ท่ี 385 ไร่ และแปลงมะมว่ งของคณุ สมบตั ิ
ยังเป็นแปลงเรียนรู้โครงการแปลงต้นแบบแปลงใหญ่ประจ�ำ
อ.สมเดจ็ จ.กาฬสนิ ธ์ุ และสมาชกิ ในกลมุ่ ไดร้ บั การรบั รองแหลง่
ผลิตมะม่วงแล้ว 9 แปลง สว่ นทเ่ี หลอื 38 แปลง อยูร่ ะหว่าง
การตรวจรบั รอง รวมทง้ั มแี ผนขยายเครอื ขา่ ยไปยงั กลมุ่ อน่ื ๆ
ในพืน้ ทใ่ี กลเ้ คยี ง
15
ปณธิ าน ประทปี รัตน์
เกษตรกร GAP ดเี ดน่
จากส�ำนกั วจิ ัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4
จงั หวัดอบุ ลราชธานี
“ปณิธานฟาร์ม สวนเห็ดเมืองช้าง” ตั้งอยู่ท่ี อ.สนม ภายในแปลงเพาะเห็ดบนพน้ื ท่จี ำ� นวน 3 ไร่ 1 งาน
จ.สรุ นิ ทร์ เปน็ แหลง่ เพาะเหด็ เปน็ อาหารและยา รวมทงั้ จำ� หนา่ ย มีลักษณะเป็นทีร่ าบลุ่ม ระบายน้�ำไดด้ ี เปน็ ดินร่วนปนทราย
กอ้ นเชอ้ื เหด็ พรอ้ มทงั้ อปุ กรณเ์ พาะเหด็ ใหก้ บั รา้ นคา้ ในอำ� เภอ มีร่มไม้ให้ความร่มรื่น ในการเพาะเห็ดจะต้องพักโรงเรือน
ใกลเ้ คยี ง ทก่ี ลา่ วถงึ ฟารม์ แหง่ นี้ เพราะมเี กษตรกร GAP ดเี ดน่ อย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ท�ำความสะอาดโรงเรือน
ซงึ่ กค็ อื คณุ ปณธิ าน ประทปี รตั น์ เปน็ ผจู้ ดั การฟารม์ โดยเรมิ่ ตน้ หลงั จากนน้ั เตรยี มเชอ้ื เหด็ บรสิ ทุ ธบ์ิ นอาหารวนุ้ เตรยี มหวั เชอ้ื
การเพาะเหด็ ตง้ั แต่ พ.ศ. 2555 ไดแ้ ก่ เหด็ นางรมฮงั การี และ ข้าวฟ่าง และผลิตก้อนเช้ือเห็ด ดูแลรักษาความสะอาดและ
เหด็ นางฟา้ ภฏู าน บนพน้ื ที่ 1 ไร่ 3 งาน ตอ่ มา ปี 2557 ขยาย ความชน้ื ใหเ้ หมาะสม ปญั หาของโรคและแมลงทพี่ บบอ่ ย ไดแ้ ก่
พื้นท่ีเพ่ือสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด และเพาะเลี้ยงเห็ด หนู เชอ้ื รา ไรเหด็ และแมลงหวี่ ปอ้ งกนั โดยการวางกบั ดกั กาว
หลินจอื แดงเพิม่ ปจั จุบนั มีชนิดพืชทผี่ า่ นการรับรองคุณภาพ เหนียว และหม่ันตรวจสอบก้อนเช้ือเห็ดเป็นประจ�ำ จัดท�ำ
มาตรฐานแหล่งผลิต GAP พชื ไดแ้ ก่ เหด็ นางฟา้ ภูฏาน เหด็ เอกสารและบนั ทึกข้อมลู การผลติ เพ่ือให้สามารถตรวจสอบ
หลินจอื แดง และเห็ดถงั เชา่ สที อง ย้อนหลงั ได้
16
ด้วยประสบการณ์ในการเพาะเห็ดมาอย่างต่อเนื่อง สนใจการเพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริมจากการท�ำนา คือ “กลุ่ม
ทำ� ใหท้ ราบปญั หาหลายอยา่ งทที่ ำ� ใหก้ ารเพาะเหด็ ไมป่ ระสบผล วิสาหกิจชุมชนพึ่งตนเองตามวิถีชีวิตเกษตรกรพอเพียงบ้าน
สำ� เรจ็ เชน่ ภยั แลง้ โรคแมลง เห็ดลน้ ตลาดในบางชว่ ง จึงเปน็ หนองขุนศรี” และยังจัดต้ังเป็น “เครือข่ายศูนย์เรียนรู้เห็ด
สาเหตใุ หต้ อ้ งศกึ ษาการเพาะเลยี้ ง หาเทคนคิ และวธิ กี าร รวม เศรษฐกิจ และเห็ดเป็นยา” ของกรมวิชาการเกษตร เปิดให้
ถงึ สายพนั ธเ์ุ หด็ ทางเลอื กเพอ่ื มาทดแทน โดยเขา้ รว่ มการอบรม ผทู้ ส่ี นใจเรยี นรสู้ รา้ งอาชพี เสรมิ ไดเ้ ขา้ มาศกึ ษาเรยี นรอู้ กี ดว้ ย
หลกั สตู รการเพาะเหด็ และศกึ ษาหาความรจู้ ากสอ่ื เรยี นรตู้ า่ ง ๆ
จนเกิดความส�ำเร็จทีละข้ัน ช่วยสร้างรายได้เล้ียงครอบครัว
จนเกิดความยั่งยืนสามารถยึดเป็นอาชีพหลักได้ นอกจากนี้
ยงั สง่ เสรมิ ใหค้ วามรเู้ กษตรกร ประชาชนทส่ี นใจเพาะเลย้ี งเหด็
เปน็ อาชพี มกี ารเชอื่ มโยงกบั พอ่ คา้ และแมค่ า้ ขายสง่ สนบั สนนุ
การจัดต้ังกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเป็นการรวมกลุ่มของผู้ที่
17
สมพนธ์ ไทยบญุ รอด
เกษตรกร GAP ดเี ดน่
จากส�ำนักวจิ ัยและพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 7
จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี
ดว้ ยสภาพพน้ื ทใ่ี น ต.ทา่ ขา้ ม อ.พนุ พนิ จ.สรุ าษฎรธ์ านี ส่ิงแวดล้อม เพื่อความย่ังยืนในอาชีพเกษตรกร โดยมีการ
มีสภาพพ้ืนที่เป็นที่ราบลุ่ม เหมาะส�ำหรับการปลูกพืชเพ่ือ ด�ำเนินการในดา้ นต่าง ๆ ดงั น้ี
การค้า คุณสมพนธ์ จึงเลอื กทจี่ ะปลูกพชื ผักเป็นอาชพี โดย
เรมิ่ จากการใชค้ วามรทู้ ส่ี บื ทอดมาจากบรรพบรุ ษุ ประกอบกบั พื้นท่ีปลกู เนอ้ื ท่ี 5 ไร่ ปลกู แบบระบบรอ่ งสวน ขนาด
การเข้ารับการอบรมจากหน่วยราชการและองค์กรเอกชนท่ี กว้าง 2.5 เมตร ยาว 135 เมตร จ�ำนวน 7 ร่อง มนี ้�ำในร่อง
เข้ามาส่งเสรมิ จนเกิดทักษะความรู้ ความชำ� นาญ และสะสม สวนตลอดปี เพอื่ เกบ็ นำ้� ไวใ้ ชใ้ นฤดแู ลง้ และใชน้ ำ�้ จากลำ� คลอง
ประสบการณ์ น�ำมาปรับใช้ในการปลูกผักให้มีคุณภาพและ มีการเก็บตัวอย่างดินและน้�ำจากแหล่งธรรมชาติเพ่ือน�ำไป
ปลอดภัย จนได้เข้าสู่ระบบการจัดการรับรองแหล่งผลิตพืช วิเคราะห์สารพิษตกค้าง ก่อนไถดินเตรียมปลูกในแต่ละรอบ
(GAP) และได้มาตรฐาน Q กับกรมวิชาการเกษตร เมื่อปี จะมีการปรับปรุงดิน โดยการโรยโดโลไมท์ จ�ำนวน 500
พ.ศ. 2547 โดยไดร้ บั การรบั รองแหลง่ ผลติ พชื (พชื ผกั ) จำ� นวน กโิ ลกรมั /ไร/่ ปี และใชป้ ยุ๋ หมกั ทลายปาลม์ ปยุ๋ หมกั เตมิ อากาศ
6 ชนิดพชื ได้แก่ ถ่วั ฝักยาว กวางตุ้งไต้หวัน บวบ พริก ผกั บุ้ง จากแหนแดง ปยุ๋ ละลายฟอสเฟต ปุ๋ยชีวภาพไมโคไรซา เพ่ือ
และผกั กาดหอม ปรับปรุงบ�ำรุงดินและเพ่ิมธาตุอาหาร และน�ำไตรโคเดอร์มา
ผสมกับดนิ กอ่ นปลูก เพ่อื ปอ้ งกนั และควบคุมโรค
เมอื่ คณุ สมพนธ์ ไดส้ มคั รเขา้ ระบบการจดั การคณุ ภาพ
GAP พชื ของกรมวชิ าการเกษตร ทำ� ให้เกดิ ความตระหนกั ถึง
อนั ตรายจากการใชส้ ารเคมใี นผลผลติ ทางการเกษตรโดยคำ� นงึ
ถึงความปลอดภัยของผู้ผลิตและผู้บริโภค จึงเป็นแกนน�ำ
ในการปลกู ผกั ปลอดสารพษิ และปลกู ผกั อนิ ทรยี ์ โดยไดท้ ดลอง
กบั แปลงตนเองเพอื่ เปน็ ตน้ แบบในการลดสารเคมี และอนรุ กั ษ์
18
ในการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรจะเลือกใช้ตาม สรา้ งการรบั รู้ ความเขา้ ใจมาตรฐานสนิ คา้ เกษตรตามนโยบาย
ความจ�ำเป็นก่อนการป้องกันและก�ำจัดในแต่ละคร้ัง และใช้ โครงการพฒั นาคณุ ภาพสนิ คา้ เกษตรสมู่ าตรฐานแกก่ ลมุ่ แปลง
สารเคมีตามค�ำแนะน�ำบนฉลากและตามอาการของพืช ใหญ่ เพอื่ เข้าสูก่ ารรับรอง GAP จ�ำนวน 41 แปลง 62 ไร่
ซง่ึ นอกจากจะเปน็ การลดใชส้ ารเคมแี ลว้ ยงั มกี ารใชส้ ารชวี ภณั ฑ์ และในปี 2561 ขบั เคลอื่ นนโยบายอาหารปลอดภยั ตอ่ เนอ่ื ง
ภายในแปลงผักก่อนการเก็บเกี่ยว เพ่ือป้องกันก�ำจัดแมลง รว่ มกบั ตลาดน�ำการผลิต โดยรบั รอง GAP เพมิ่ ขึ้น 83 แปลง
ศตั รูพชื และโรคพืช เชน่ การใชเ้ ช้ือจุลินทรียบ์ ีที (BT) กำ� จดั ในพืช 5 ชนิด ได้แก่ คะนา้ กวางต้งุ กวางตุ้งไต้หวัน ผกั บงุ้
หนอนใยผักและแมลง การใช้เมตาไรเซียมและบิวเวอร์เรีย และมะระจีน รวมท้ังได้ขยายขอบข่ายการรับรองเพิ่มอีก 4
ก�ำจัดเพลย้ี หนอนต่าง ๆ การใช้เช้อื ราไตรโคเดอรม์ า ในการ ชนดิ พืช ได้แก่ ผกั กาดหอม ผักชีไทย บวบเหลี่ยม และพรกิ
ป้องกันก�ำจัดเชื้อราภายในแปลง การใช้แมลงหางหนีบและ ข้ีหนูยอดสน ท�ำให้สามารถส่งผลผลิตไปจ�ำหน่ายยังห้าง
มวนพฆิ าต ในการควบคมุ แมลงศตั รพู ชื และการใชก้ บั ดกั กาว โมเดริ น์ เทรดและตลาดสดในจงั หวดั สรา้ งมลู คา่ กวา่ 50 ลา้ น/ปี
เหนียว ในการดักแมลงรว่ มดว้ ย
ภายในแปลงปลกู จดั ใหม้ สี ถานทเี่ กบ็ เครอื่ งมอื อปุ กรณ์
ทางการเกษตร โดยแยกแต่ละชนิดออกเป็นหมวดหมู่ และ
ท�ำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์หลังการใช้งานเสร็จ
ทุกครั้ง และเม่อื ผลผลิตพร้อมเกบ็ เกยี่ ว จะกำ� หนดชว่ งระยะ
เวลาการเกบ็ เกย่ี วพชื ผกั แตล่ ะชนดิ โดยจะนำ� ไปคดั แยกทบ่ี า้ น
และบรรจุลงถุงพลาสติกก่อนน�ำไปส่งท่ีโรงคัดบรรจุของกลุ่ม
วสิ าหกจิ ชมุ ชนบา้ นบางทา่ ขา้ ม โดยในแตล่ ะกระบวนการผลติ
จะมีการบันทึกท่ีมาของปัจจัยการผลิต และการปฏิบัติงาน
ภายในแปลง ลงในแบบบันทึก และจัดท�ำแผนการผลิตใน
แต่ละปี เพ่ือความสะดวกในการสืบค้นข้อมูลในปีการผลิต
ที่ผา่ นมา และใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจในการจัดการการผลติ
ในปีปัจจุบัน
ทั้งน้ีในฐานะท่ีเป็นเกษตรกรผู้ผลิตพืชผักผสมผสาน
แบบมีคุณภาพ มาตรฐานปลอดภัย จนเป็นที่ยอมรับและ
เกดิ ความเชอื่ มนั่ กบั ผปู้ ระกอบการและกลมุ่ เกษตรกรผปู้ ลกู ผกั
ในต�ำบลท่าข้ามและต�ำบลใกล้เคียง คุณสมพนธ์ได้รับการ
คดั เลอื กใหเ้ ปน็ ประธานกลมุ่ ผปู้ ลกู ผกั บางทา่ ขา้ ม สรา้ งผลงาน
ความสำ� เรจ็ ใหแ้ กช่ มุ ชนอยา่ งมากมาย และประธานกลมุ่ แปลง
ใหญข่ องวสิ าหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ เกษตรกรทำ� สวนผสมผสานแบบ
ย่งั ยืนบางทา่ ขา้ ม มสี มาชิก 62 ราย พ้ืนท่ี 360 ไร่ โดยมกี าร
19
เกษตรกรผลติ พชื อินทรยี ด์ เี ดน่
รงุ่ ทวิ า อนั ตรเสน
เกษตรกรผลติ พชื อนิ ทรยี ์ดีเดน่
จากส�ำนักวจิ ัยและพฒั นาการเกษตรเขตที่ 2
จงั หวัดพิษณโุ ลก
คุณรุ่งทิวาได้เริ่มเรียนรู้ด้านการเพาะเล้ียงเห็ดจาก สง่ ขายตลาด เปน็ อาหารปลา ชว่ ยอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ
พอ่ และแม่ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2529 จนเกดิ ความตงั้ ใจทจี่ ะพฒั นา และสิ่งแวดล้อม และสรา้ งแนวกนั ชนทัง้ 4 ทิศให้กบั บริเวณ
งานการเกษตรด้านการเพาะเลี้ยงเห็ดให้ได้ท้ังคุณภาพและ โดยรอบ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ตามข้อก�ำหนดของการ
ปริมาณ เพื่อให้มีความเพียงพอต่อการบริโภค และช่วย ผลติ พชื อินทรยี ์ ในการเพาะเล้ยี งเห็ดเดิมจะเพาะในโรงเรอื น
สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรรายอ่ืน ๆ เพื่อเป็น ระบบปิด แตด่ ้วยผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลยี่ นแปลง
อาชพี เสรมิ และอาชพี หลกั ตอ่ ไปในอนาคต หลงั จากทไี่ ดเ้ รยี น ท�ำให้เกิดปัญหาของจ�ำนวนผลผลิตลดลง จึงเปลี่ยนมาเป็น
จบปริญญาตรี สาขาพืชศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร โรงเรือนแบบอีแวป (EVAP) ท่ีสามารถควบคุมความชื้น
จงึ ไดเ้ รมิ่ การเพาะเลยี้ งเหด็ อยา่ งเตม็ ตวั โดยใชค้ วามรทู้ ไี่ ดจ้ าก อณุ หภมู ิ และแสงทเ่ี หมาะสมได้ ซงึ่ ทำ� ใหไ้ ดด้ อกเหด็ ทมี่ คี ณุ ภาพ
การศึกษามาผนวกกับปัญหาท่ีพบ และความรู้เพิ่มเติมจาก ดี ไดม้ าตรฐานตรงตามความตอ้ งการของตลาด อกี ทง้ั สามารถ
งานสมั มนาและงานวจิ ยั ตา่ ง ๆ นำ� มาผลติ เหด็ แบบครบวงจร ผลิตเหด็ ไดใ้ นชว่ งนอกฤดู ท�ำใหส้ ่งขายตลาดใหญต่ ่าง ๆ ได้
ตั้งแต่การเลี้ยงเน้ือเยื่อเห็ด การผลิตก้อนเช้ือ การเปิดดอก มากขึ้น เปน็ การสรา้ งรายไดอ้ ย่างตอ่ เน่อื ง
และการแปรรปู เห็ด จนเกิดเป็น “ฟารม์ เสน้ ทางเห็ด” ซึ่งตัง้
อยทู่ ่ี ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พษิ ณโุ ลก
พื้นที่ฟาร์มเหด็ ตัง้ อยบู่ นแหลง่ นำ�้ ซง่ึ เลย้ี งปลาอนิ ทรีย์
โดยจะใช้เศษซากเห็ดท่ีเหลือจากการตัดแต่งผลิตภัณฑ์
20
การกำ� จดั ศตั รเู หด็ จะไมม่ กี ารใชส้ ารเคมที างการเกษตร
ใด ๆ แต่จะใชอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟา้ ในการจดั การแทน เชน่ ไมต้ ียุง
เครอ่ื งไลแ่ มลงตา่ ง ๆ ดว้ ยคลนื่ อลั ตรา้ โซนคิ ความถสี่ งู เปน็ ตน้
คณุ รงุ่ ทวิ ามคี วามตงั้ ใจศกึ ษาในดา้ นทต่ี นเองถนดั และ
พร้อมสละเวลา ความรทู้ ไ่ี ด้ศึกษามาร่วมจัดการฝึกอบรมใน
โครงการ เพาะเล้ียงเห็ดแทนคุณแผ่นดิน ให้กับผู้สนใจฟรี
ณ ฟาร์มเสน้ ทางเหด็ มากว่า 20 ปแี ลว้ จนก่อให้เกิดอาชพี
การเพาะเหด็ ใหก้ ับเกษตรกร หรอื ผ้ทู ี่ต้องการหารายได้เสรมิ
จากการเพาะเล้ียงเห็ด ตลอดจนท�ำเป็นธุรกิจท่ีสร้างความ
มั่นคงและยัง่ ยนื ใหก้ ับชุมชนไปท่วั ทกุ ภูมภิ าค ซึง่ เปน็ อกี หน่ึง
ความภาคภมู ใิ จทเ่ี ปน็ ตวั แทนจากเสน้ ทางเหด็ ไดม้ สี ว่ นรว่ มใน
การสร้างอาหารที่ปลอดภัยและสร้างรายได้อยา่ งยัง่ ยนื
21
สีสุพนั อุทรกั ษ์ ประโยชนส์ งู สดุ โดยเรม่ิ ปลกู หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ในระบบอนิ ทรยี ์ และ
เกษตรกรผลติ พืชอินทรียด์ ีเดน่ พชื ตา่ ง ๆ โดยได้คำ� แนะนำ� จากกรมวชิ าการเกษตรเขา้ มาให้
จากส�ำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 3 ความรู้ด้านการผลิตพืชท่ีปลอดภัย รวมถึงได้รับการอบรม
จงั หวัดขอนแกน่ หมอดินอาสาและการผลิตพืชอินทรีย์ จึงได้น�ำความรู้ที่ได้
มาประยุกต์ใช้ในแปลง จนได้รับการรับรองแหล่งผลิตพืช
คณุ สสี พุ นั เปน็ เกษตรกรทท่ี ำ� การเกษตรแบบผสมผสาน อนิ ทรีย์ในปี 2559
อยทู่ ่ี อ.กฉุ นิ ารายณ์ จ.กาฬสนิ ธ์ุ ดำ� เนนิ ชวี ติ ตามแนวเศรษฐกจิ
พอเพยี งมาเป็นเวลา 36 ปี โดยเริ่มท�ำการเกษตรตั้งแต่อายุ เริ่มจากการปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์
8 ขวบ รับจ้างท�ำไร่ท�ำนาเพื่อน�ำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ในกระบวนการผลติ เพอื่ ใหพ้ ชื ไดร้ บั
ตลอดระยะเวลาทไี่ ดท้ ำ� การเกษตรมคี วามตงั้ ใจในการสานตอ่ ธาตอุ าหารอย่างเพยี งพอ โดยใช้ใบไม้และปุ๋ยคอกคลุมแปลง
วิถีชีวิตในการด�ำรงชีวิตแบบอินทรีย์ตามวิถีดั้งเดิม และน�ำ ปรบั ปรงุ ดนิ โดยใชน้ ำ�้ หมกั ปลกู ปอเทอื งและไถกลบ ผลิตปุย๋
หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการผลติ พชื แบบปลอดภยั หมักเติมอากาศใช้เอง ปลูกหญา้ แฝกเพอื่ ปอ้ งกนั การชะลา้ ง
จนกลายเปน็ จุดเรม่ิ ตน้ ของการทำ� เกษตรอนิ ทรีย์ ของหน้าดิน ใช้ฟางคลุมแปลง มีการใช้แหนแดงในการผลิต
ผักและนาข้าว ปลูกพืชแบบผสมผสานหลากหลายชนิด
ในการเริ่มต้นการท�ำเกษตรอินทรีย์ของคุณสีสุพัน หมนุ เวยี นตามฤดกู าล เพอื่ ใหเ้ กดิ ความหลากหลายทางชวี ภาพ
ไมไ่ ดร้ าบรื่น และประสบปญั หาหลายอยา่ งมากมาย ไมว่ า่ จะ เพิ่มแมลงศัตรูธรรมชาติ ตัดวงจรชีวิตแมลงศัตรูพืช และไม่
เป็นความอุดมสมบูรณ์ของพ้ืนที่ ปัญหาโรคและแมลง และ เป็นแหล่งสะสมของโรคแมลงศัตรูพืช ปลูกหญ้าแฝกบนคัน
ปริมาณน้�ำท่ีใช้ในการเกษตร รวมไปถึงการจัดการด้าน บอ่ เพือ่ อนุรักษ์ดนิ และนำ�้ ป้องกนั การพังทลายของหนา้ ดนิ
การตลาด จงึ มกี ารปรบั พน้ื ทขี่ องตนเองจำ� นวน 23 ไร่ ใหเ้ กดิ และสามารถนำ� ใบหญา้ แฝกมาคลมุ ดนิ เปน็ ปยุ๋ อนิ ทรยี ไ์ ดด้ ว้ ย
22
สภาพพืน้ ทท่ี ่วั ไปเป็นพืน้ ท่ีปา่ ดา้ นหนา้ เปน็ ถนนและ กระบวนการผลิตเพ่ือให้ได้ผักอินทรีย์ที่มีคุณภาพ
สวนยางพาราท่ีผลิตแบบธรรมชาติโดยไม่ใช้ปุ๋ยและสารเคมี จะใชไ้ ตรโคเดอร์มาคลกุ เมล็ดพันธกุ์ ่อนปลูก ผลติ ปยุ๋ หมัก 2
ในกระบวนการผลิต ส่วนแหล่งน�้ำจะใช้จากบ่อบาดาลและ กโิ ลกรัม/ตารางเมตร หมักดินทิง้ ไว้ 7 วนั หลังจากน้ันจึงนำ�
สระขนาด 1 ไร่ ภายในแปลงจะมีการหมุนเวียนทรัพยากร มาปลูก หลังปลกู ผกั 7 วัน จึงรดน้ำ� หมกั สตู รตา่ ง ๆ ในอตั รา
และปจั จยั การผลติ ทเี่ หลอื ใชจ้ ากกจิ กรรมตา่ ง ๆ เชน่ ฟางขา้ ว 1 ลิตร/น้ำ� 50 ลิตร ฉีดพน่ ทุก ๆ 7 วัน ฉีดพ่นไตรโครเดอร์
จากการท�ำนา เศษวัชพืชจากการตัดหญ้า น�ำมาท�ำปุ๋ยหมัก มา 20 วนั หลังปลกู และเน้นใชช้ วี ภณั ฑใ์ นการป้องกนั และ
และคลมุ ดนิ เพอ่ื รกั ษาความชน้ื ในแปลงผกั เศษใบไมห้ รอื กง่ิ ไม้ ก�ำจัดโรคแมลง เช่น การใช้ BT ในการกำ� จดั หนอน ใช้เช้ือ
ทไ่ี ดจ้ ากการตดั แตง่ กงิ่ ไมผ้ ลจะนำ� มาคลมุ ดนิ เพอื่ รกั ษาความชนื้ ไตรโคเดอร์มาก�ำจัดเช้ือรา ใช้เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีควบคุม
ในไม้ผลอีกทางหนึ่ง ส่วนเศษพืชผักไม้ผลที่เหลือจากการ โรครากปม ใช้น้ำ� หมักสมนุ ไพรขับไลแ่ มลง เปน็ ต้น เกบ็ เกีย่ ว
คดั แยกผลผลติ กอ่ นจำ� หนา่ ย นำ� มาใชเ้ ลย้ี งปลากนิ พชื ในสระนำ�้ ผลผลิตในระยะท่ีเหมาะสมและส่งขายทันที โดยจะมีการ
และน�ำมาท�ำน้�ำหมักชีวภาพ รวมทั้งมีการเล้ียงไก่ไข่ไว้เป็น บันทึกข้อมูลภายในแปลงตลอดท้ังปี ท้ังปัญหาด้านโรคและ
อาหารและนำ� ไขไ่ กม่ าทำ� นำ�้ หมกั ฮอรโ์ มนไข่ และเลยี้ งโค เพอ่ื แมลง การใช้ปัจจัยในการผลิต รวมไปถึงรายรับรายจ่าย
น�ำมูลมาท�ำปุย๋ หมกั เติมอากาศ ท�ำบัญชคี รวั เรือน
จากการทไี่ ดน้ ำ� ความรตู้ า่ ง ๆ เขา้ มาประยกุ ตใ์ ชภ้ ายใน
แปลงของตนเอง ท�ำให้คนในชุมชนสนใจและเข้ามาเรียนรู้
ซงึ่ ตอ่ มาหนว่ ยงานภาครฐั เขา้ มาชว่ ยสง่ เสรมิ สนบั สนนุ จนเปน็
ทรี่ จู้ กั ในวงกวา้ งทงั้ ในจงั หวดั และตา่ งจงั หวดั โดยเขา้ มาศกึ ษา
ดงู านจนเปน็ แหลง่ เรยี นรดู้ า้ นการเกษตรทมี่ ชี อื่ เสยี ง เชน่ ศนู ย์
เรียนรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)
ศนู ยเ์ รยี นรดู้ า้ นบญั ชี ศนู ยด์ นิ ปยุ๋ ชมุ ชน ศนู ยข์ า้ วชมุ ชน โรงปยุ๋
หมักเติมอากาศ เป็นตน้ และเม่ือคณุ สีสุพนั ไดร้ ับความรู้และ
เทคโนโลยใี หม่ ๆ รวมทงั้ การอบรมเพ่อื ให้ได้คณุ ภาพ จะนำ�
มาถ่ายทอดให้สมาชิกในเครือข่ายได้เรียนรู้ร่วมกัน ปัจจุบัน
มีสมาชกิ 9 เครือขา่ ย มสี มาชกิ มากกว่า 1,000 ครอบครัว
ทห่ี นั มาผลติ ตามแนวทางเกษตรอนิ ทรยี ์ และมสี มาชกิ ทไี่ ดร้ บั
การรบั รองเกษตรข้าวอินทรีย์ 700 ราย เกษตรอินทรยี แ์ บบ
ผสมผสาน 3 ราย และอีก 38 ราย อยู่ระหว่างการตรวจ
รับรอง โดยมีเปา้ หมายท่จี ะใหพ้ ้นื ท่ี อ.กุฉนิ ารายณ์ ได้รบั การ
รบั รองเกษตรอนิ ทรยี ท์ งั้ อำ� เภอ
23
จนั ทรเ์ พญ็ ประจำ� มะระ มะแว้ง สะระแหน่ มันส�ำปะหลัง บรอกโคลี ตั้งโอ๋
เกษตรกรผลิตพืชอินทรยี ด์ เี ด่น แครอท บวบ ผกั บงุ้ ไทย คะนา้ ถวั่ พู กลว้ ยนำ้� วา้ เผอื ก แตงโม
จากส�ำนักวจิ ัยและพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 4 แฟง พรกิ แมงลกั อญั ชนั ชะอม มะเขอื พวง แตงเทศ ฟกั เขยี ว
บวั บก หอมแบง่ กระเจย๊ี บแดง ผกั บงุ้ สะเดา ขนึ้ ฉา่ ย ขา้ วโพด
จังหวัดอุบลราชธานี หวาน ผกั กาดเขยี วนอ้ ย ตำ� ลงึ กวางตงุ้ ไผ่ กระเทยี ม ฟกั ทอง
แตงกวา พรกิ ขหี้ นสู วน ผักชฝี ร่งั มะเขือยาว และ ข้าว กข 43
เป็นเกษตรกรผปู้ ลกู พืชผักอินทรยี ์ และเปน็ ผจู้ ัดการ
สายนำ�้ ออรแ์ กนคิ ฟารม์ ท่ี ต.คนั ไร่ อ.สริ นิ ธร จ.อบุ ลราชธานี กระบวนการปรับสภาพพ้ืนที่ เริ่มจากเช็กสภาพดิน
ซ่ึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน ของธาตอุ าหารในดนิ โดยสมุ่ เกบ็ ตวั อยา่ งดนิ สง่ ตรวจทส่ี ำ� นกั
เพ่ือสร้างมูลค่าท่ีดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นมิตรกับ วิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 4 และทำ� การตรวจวัดความ
สภาพแวดลอ้ ม เป็นกรด-ดา่ ง ด้วยตนเอง โดยใชช้ ุดวดั ค่า pH พ้ืนฐาน และ
ทดลองปลูกจนได้พืชท่ีเหมาะสม ซ่ึงเน้นการบ�ำรุงดิน โดย
เดมิ พนื้ ทท่ี ำ� การเกษตรแหง่ นเ้ี คยเปน็ ทด่ี นิ ทำ� การเกษตร หว่านปยุ๋ พืชสด ประเภทถ่ัวเขยี ว ปอเทือง ถัว่ พรา้ และป๋ยุ
แบบใช้สารเคมีมาก่อน หลังจากที่คุณจันทร์เพ็ญได้ซื้อท่ีดิน คอก กอ่ นการปลูก จนถึงการระเบิดดนิ ดว้ ยปุย๋ หมักในระบบ
ผนื น้ี จงึ ท�ำการบกุ เบิกเพอ่ื เตรยี มดิน เตรียมความพร้อมท่จี ะ อนิ ทรยี ท์ ่ผี ลิตเอง
ปรับระบบนิเวศวิทยาพื้นท่ีสู่การเป็นพ้ืนท่ีปลอดสารเคมี
ในปี 2557 จนเข้าสู่กระบวนการขอรับรองเกษตรอินทรีย์ กอ่ นการปลูกพชื ทุกครัง้ จะมกี ารเตรยี มดนิ ร่อน แลว้
ซ่ึงก็ได้รับการรับรองแหล่งผลิตพืชอินทรีย์ ของกรมวิชาการ ตากดนิ นำ� มาผสมคลกุ เคล้ากบั วสั ดปุ ลูก ไดแ้ ก่ ขยุ มะพร้าว
เกษตร ชนดิ พืช : พชื ผสมผสาน ในปี 2558 ปัจจุบันมีชนิด และแกลบดำ� ใสใ่ นถาดเพาะ เกน็ ในโรงเรอื นเพาะกลา้ ทมี่ กี าร
พืชที่ได้รับการรับรองท้ังหมด 58 ชนิด ได้แก่ กล้วยหอม พรางแสง เลือกใช้เมล็ดพันธุ์และส่วนที่ใช้ในการขยายพันธุ์
ข้าวหอมมะลิ หอมหัวใหญ่ ถ่ัวพุ่ม ผักกาดหอม กระชาย ทมี่ าจากระบบการผลติ พชื อนิ ทรยี ์ หมน่ั รดนำ้� ตน้ ออ่ น เชา้ –
หอมแดง มะกรดู ขา่ เหลือง ขา่ แดง มะเขอื เทศ ถว่ั ฝกั ยาว ผัก เยน็ ตง้ั ไวใ้ นทส่ี งู เพอื่ ปอ้ งกนั หอยทากกดั แทะและแมลงรบกวน
กาดขาว กะเพรา มะมว่ ง ขา้ วหอมนิล ตะไคร้ นำ้� เต้า เรดิช กัดกิน ในการควบคุมศัตรูพืชก่อนปลูกและระยะท่ีพืชเจริญ
24
เตบิ โต จะใชว้ ิธีเขตกรรม วิธกี ล ชวี วธิ ี และพืชสมนุ ไพรแบบ 3. เทคโนโลยีสรรพส่ิงอะตอมมคิ นาโน คือ การท�ำป๋ยุ
ผสมผสาน หรอื ใชส้ ารทม่ี าตรฐานกำ� หนดหรอื ไดร้ บั การยอมรบั อินทรีย์ท่ีเป็นเทคโนโลยีสร้างพฤติกรรมจุลินทรีย์ ให้ขยาย
จากหน่วยรับรอง เม่ือผลผลิตเร่ิมเก็บเกี่ยวได้ จะเลือกเก็บ พันธุ์ได้มากที่สุด จะช่วยพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้
ช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่ไม่มีแดด หรือแดดอ่อน ๆ ใส่ภาชนะ สามารถลดตน้ ทุนให้ตำ�่ ลงกวา่ ครงึ่ หน่งึ เพ่มิ ผลผลติ ต่อไรใ่ ห้
หรือตะกรา้ ทใี่ ชใ้ นการเกบ็ ผกั ลำ� เลยี งเพ่อื น�ำไปล้างทำ� ความ สูงข้ึน และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นท่ีให้เกิดสมดุลตาม
สะอาด และแพ็คบรรจุลงถุงหรือลังพลาสติก ขนส่งสู่ตลาด ธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และเทคโนโลยีปุ๋ยหมักไม่กลับกอง
ตอ่ ไป ซงึ่ คณุ จนั ทรเ์ พญ็ จะมกี ารจดั ทำ� แผนการผลติ จดบนั ทกึ วศิ วกรรมแม่โจ้
การปฏบิ ตั งิ านและขอ้ มลู การผลติ ภายในฟารม์ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
และเป็นปัจจุบัน รวมท้ังจัดเก็บบันทึกหลักฐานและเอกสาร 4. เทคโนโลยีการปลูกในระบบเพอร์มาคัลเจอร์
ทส่ี ามารถตามสอบยอ้ นกลับสูแ่ หลง่ ผลติ พชื อินทรียไ์ ด้ Permanent Agriculture เปน็ แนวคิดและวิถที างการเกษตร
ที่เนน้ เรอื่ งความยง่ั ยืนของชวี ิตและส่งิ แวดล้อม
คุณจันทร์เพ็ญได้บริหารจัดการพื้นท่ีให้เหมาะสมกับ
พืชท่ีปลกู โดยแบง่ โซนนง่ิ ออกเปน็ 9 โซน ได้แก่ 5. เทคโนโลยี Zero Waste ก�ำจัดของเสียจากการ
แปรรปู โดยทำ� ปยุ๋ หมกั สรรพสงิ่ และปยุ๋ หมกั พด.6 การจดั การ
- โซน 1 ประกอบดว้ ยการปลกู กลว้ ยแซมดว้ ยขา่ ตะไคร้ แบบครบวงจร โดยอาศัยการเล้ียงสัตว์เพ่ือใช้มูลสัตว์ท�ำปุ๋ย
สลับกับพืชผักสวนครัว ไร่มนั สำ� ปะหลัง เผือก มนั เทศ และ อินทรีย์ และช่วยแทะเล็มหญ้า ลดการเผาไหม้และช่วยลด
ไมผ้ ลประเภทฝรงั่ ข้นี ก และสบั ปะรดแซม เพือ่ ลดความเส่ียง โลกรอ้ น เปน็ ฟาร์มทเี่ ป็นมติ รต่อสภาพอากาศ
ของโรคและแมลง
นอกจากนไ้ี ดม้ กี ารรวบรวมกลมุ่ เครอื ขา่ ยภาคภี ายนอก
- โซน 2 เปน็ การยกรอ่ งเพอื่ ผสมผสานระหวา่ งมะพรา้ ว เพอื่ สรา้ งความเขม้ แขง็ และเพมิ่ กำ� ลงั การผลติ เพอื่ การตอ่ รอง
น้ำ� หอม ตามสวอล แซมดว้ ยหม่อนตุรกี ดา้ นกลางของแปลง ราคาได้ ไดแ้ ก่ เครอื ขา่ ย ศพก. 882 เครอื ขา่ ยตลาดจรงิ ใจ
สามารถนำ� มาปลูกถว่ั และผักระยะสนั้ ได้ สว่ นสวอลดา้ นลา่ ง เครือข่าย YSF และ Business Club Ubon เพื่อร่วมกัน
แซมดว้ ยเตยหอม และดา้ นลา่ งตามคนู ำ้� ปลกู ผกั กดู สลบั แปลง ทำ� งานโอกาสทางการตลาด นอกจากภาคเี ครอื ขา่ ยภายนอก
กบั ผักหนาม แลว้ ยงั มเี ครอื ขา่ ยของ อ.สริ นิ ธร เพอื่ ชว่ ยกนั พฒั นาสนิ คา้ และ
น�ำผลติ ภัณฑ์ออกจำ� หน่ายภายใต้แบรนดส์ ายน�ำ้ ออร์แกนิค
- โซน 3 เป็นการปลูกผสมผสานในระบบนวเกษตร ฟาร์ม โฮมสตรดี
เน้นพืชกินหัวและพืชชอบแดดร�ำไร รวมถึงพืชผักสวนครัว
สลบั กันไป
- โซน 4 เปน็ การปลกู ไมผ้ ล โดยยึดหลกั หลุมพอเพียง
- โซน 5 เน้นการเพาะและอนุบาลต้นพชื
- โซน 6 ส�ำหรับปลูกผลไม้ทองค�ำเขียว และผักกูด
อ้อยค้ันนำ�้
- โซน 7 เปน็ การปลูกผกั ต�ำราอสิ ราเอล หมนุ เวียนกับ
ผกั ระยะส้ันไปตามปฏทิ นิ การปลูก
- โซน 8 สำ� หรบั ปลกู พชื อาหารสตั ว์ และมะนาวผสมฝรง่ั
- โซน 9 ส�ำหรับท�ำนาปรงั และนาปี รวมถงึ พ้ืนทีข่ อง
ปศสุ ตั ว์
ในการท�ำเกษตรอินทรีย์ คุณจันทร์เพ็ญได้น�ำความรู้
ตา่ ง ๆ ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาเองทางอนิ เตอรเ์ นต็ และการอบรม
ตา่ ง ๆ รวมถงึ การประกวดผลงานตา่ ง ๆ ทางด้านนวัตกรรม
การเกษตร จนไดน้ �ำมาประยุกตใ์ ช้ในฟาร์มของตนเอง เช่น
1. เทคโนโลยดี า้ นการผลติ พชื โดยใชโ้ รงเรอื นพลาสตกิ
คัดเลือกแสงเพ่ือการผลิตพืชคุณภาพ สถาบันการจัดการ
เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมการเกษตร (AGRITECH)
2. เทคโนโลยีด้านการแปรรปู โดยใช้โรงอบพลงั งาน
แสงอาทติ ย์ พาราโบลาโดม จากกรมพลงั งานทดแทนกระทรวง
พลังงาน
25
อำ� มรนิ ท์ อยุ่ สวุ รรณ
เกษตรกรผลติ พืชอินทรีย์ดีเดน่
จากส�ำนักวจิ ัยและพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 7
จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี
จดุ เรม่ิ ตน้ ในการสบื สานอาชพี การเกษตรของครอบครวั จะขยายผลวธิ กี ารผลติ มงั คดุ ทมี่ คี ณุ ภาพใหก้ บั พนี่ อ้ งเกษตรกร
เนอ่ื งจากพอ่ คณุ อำ� มรนิ ทม์ อี ายมุ ากขนึ้ และสขุ ภาพไมด่ ี จงึ ได้ ในชุมชน ท�ำให้เกษตรกรมีรายได้สูง คุณภาพชีวิตดีขึ้น จึง
ตดั สนิ ใจกลบั มาทำ� การเกษตรในบา้ นเกดิ ของตนเอง ที่ อ.กระบรุ ี รวบรวมเกษตรกรผผู้ ลติ มงั คดุ จดั ตง้ั เปน็ วสิ าหกจิ ชมุ ชนผลไม้
จ.ระนอง โดยเรม่ิ จากการพัฒนาสวนมังคดุ จ�ำนวน 25 ไร่ คณุ ภาพเกษตรอนิ ทรยี ์ จ.ป.ร. เพอ่ื พฒั นาอาชพี และสรา้ งพลงั
ซง่ึ มคี วามตงั้ ใจทจี่ ะลดและเลกิ การใชส้ ารเคมใี หไ้ ด้ เพราะเหน็ ในการตอ่ รองราคาสนิ คา้ ซง่ึ มสี มาชกิ 320 ราย จำ� นวนพนื้ ท่ี
ตวั อยา่ งทพ่ี อ่ ไดท้ ำ� มาแลว้ สง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพและสง่ิ แวดลอ้ ม 2,000 ไร่ และขบั เคลอ่ื นการดำ� เนนิ งานของกลมุ่ จนถงึ ปจั จบุ นั
จึงเริ่มจริงจังกับกระบวนการผลิตมังคดุ แบบเกษตรอินทรยี ์
ด้านพ้ืนท่ีปลูกมีลักษณะเป็นท่ีราบ ดินร่วนปนทราย
การปรบั เปลย่ี นในครงั้ แรกคณุ อำ� มรนิ ทรย์ งั ไมม่ คี วามรู้ ทิศเหนือมีการขุดคูน�้ำและมีแนวต้นไม้ใหญ่เป็นแนวกันชน
และยังยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ ของพ่อที่ใช้สารเคมี จนได้ ทิศใต้มีแนวต้นไม้ใหญ่เป็นแนวกันชน มีการขุดคูระบายน�้ำ
ลองผดิ ลองถกู ศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ ตา่ ง ๆ จนกระทงั่ สามารถ ทิศตะวันออกติดกับห้วยธรรมชาติ มีแนวไผ่เป็นแนวกันชน
งดการใช้สารเคมีได้ 100% และปรับเปล่ียนจากการใช้เคมี และทศิ ตะวนั ตกมกี ารขดุ ครู ะบายนำ�้ เปน็ แนวกนั ชน ทำ� ใหไ้ มม่ ี
เปน็ การท�ำเกษตรแบบอินทรีย์ไดจ้ นถึงปัจจุบนั โดยเน้นการ ความเสยี่ งต่อการปนเปอื้ นของสารเคมหี รือโลหะหนกั แหล่ง
ผลติ ปยุ๋ ใชเ้ องควบคกู่ บั การลดตน้ ทนุ การผลติ เมอื่ มอี งคค์ วามรู้ น�้ำท่ีใช้มาจากสระขุดท่ีไม่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน และ
ในกระบวนการผลติ มังคุดทมี่ ีคุณภาพมากข้ึน จงึ มแี นวคิดท่ี มกี ารเก็บตวั อยา่ งน�ำ้ เพื่อวิเคราะหส์ ารพิษตกคา้ ง
26
การจัดการในแปลงจะเลือกใชช้ วี ภัณฑใ์ นการป้องกนั ใหแ้ หง้ และมีการคัดเลือกผลผลติ ทไี่ มม่ คี ุณภาพออก บนั ทึก
และก�ำจดั ศัตรพู ืช เช่น น้ำ� หมกั สมนุ ไพร พด.7 ในการกำ� จดั ขอ้ มูลการผลิตต่าง ๆ เช่น ปัจจยั ในการผลติ การดูแลรกั ษา
หนอนกินใบ หนอนชอนเปลือก และแมลงศัตรูพืชในแปลง และการให้ผลผลติ อยา่ งตอ่ เน่อื ง
มังคุด ปล่อยให้ธรรมชาติดูแลกันเอง มีมาตรการและการ
ปอ้ งกนั กำ� จดั โรคพชื และแมลงศตั รพู ชื ตามมาตรฐานทกี่ ำ� หนด คุณอ�ำมรินท์ยังได้คิดค้นอุปกรณ์ที่ใช้ในแปลงเพื่อ
มกี ารใชน้ ำ้� สม้ ควนั ไมแ้ ละสารชวี ภณั ฑใ์ นการไลแ่ มลง ใชน้ ำ�้ หมกั เป็นการลดต้นทุน ได้แก่ การท�ำหัวพ่นสารชีวภัณฑ์จากท่อ
ปลาและกากกุ้งช่วยบ�ำรุงต้นและใบ ใช้น�้ำหมักผลไม้ พด.2 พวี ีซี สปริงเกอร์ขวดน้�ำออกซิเจน อปุ กรณ์ให้ป๋ยุ ด้วยพลังน�ำ้
ฉดี พน่ ตลอดกระบวนการผลติ ตงั้ แตช่ ว่ งเตรยี มตน้ จนถงึ ตดิ ผล ใชพ้ ลงั งานทดแทนจากโซลา่ เซลล์ และควบคมุ ระบบการจา่ ย
มีมาตรการกำ� จัดวัชพชื โดยการตดั หญ้าในแปลงปีละ 3 คร้ัง น�ำ้ ผ่านสมาร์ทโฟน
และมกี ารแลกเปลย่ี นองคค์ วามรแู้ ละชวี ภณั ฑต์ า่ ง ๆ ในเครอื ขา่ ย
เกษตรกรเพอื่ เพม่ิ ความหลากหลายของการปอ้ งกนั และกำ� จดั หลังจากที่ได้ท�ำการเกษตรแบบอินทรีย์ประสบความ
ศัตรูพืช ส�ำเร็จแล้ว คุณอ�ำมรินท์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้น�ำแบบ
อย่างการท�ำมังคุดเกษตรอินทรีย์ ไปยังสมาชิกกลุ่มผู้ปลูก
ในการจดั การเพอ่ื อนรุ กั ษด์ นิ และนำ�้ จะมกี ารบำ� รงุ ดนิ มังคุด เน่ืองจากคนส่วนใหญ่ก็ท�ำเกษตรแบบเคมีมาก่อน
ดว้ ยปยุ๋ อนิ ทรยี อ์ ยอู่ ยา่ งสมำ่� เสมอ พรอ้ มทงั้ การปลอ่ ยไสเ้ ดอื น จนไดแ้ บบอยา่ งทด่ี ี จงึ สง่ ผลใหม้ ผี สู้ นใจปรบั เปลยี่ นหนั มาทำ�
ลงดนิ ในชว่ งหนา้ ฝน ปลกู หญา้ แฝกเพอ่ื ลดการชะลา้ งพงั ทลาย เกษตรอินทรียม์ ากขึน้ และมคี ณุ ภาพชวี ิตทีด่ ีขนึ้ และเปิดให้
ของหน้าดิน และมีการปลูกปอเทืองเพื่อช่วยเพิ่มความอุดม ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้และดูงานแนวทางเกษตรอินทรีย์
สมบรู ณข์ องดนิ ผลติ ปยุ๋ หมกั สตู รตา่ ง ๆ จากวสั ดภุ ายในฟารม์ ภายในแปลงของตนเอง พร้อมสร้างแนวความคิดในการท�ำ
เพอื่ ใช้ในการปรบั ปรุงบำ� รงุ ดิน นอกจากนี้ ภายในแปลงยงั มี เกษตรอินทรยี ์ให้เดก็ รุน่ ใหมต่ อ่ ไป
การเลี้ยงไก่ หา่ น ผง้ึ โพรง ชันโรง ปลา และกบ เพือ่ พัฒนา
ไปสเู่ กษตรทฤษฎใี หมต่ ามแนวพระราชดำ� รขิ องในหลวงรชั กาล
ที่ 9 เพ่ิมดว้ ย
การเกบ็ เกยี่ วและการจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี วจะเลอื ก
ชว่ งเวลาท่ีเหมาะสมในการเกบ็ เกี่ยวของพชื แต่ละชนิด มกี าร
ลา้ งทำ� ความสะอาดวสั ดุอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการเก็บเกยี่ วท้ังก่อน
และหลงั การเกบ็ เกย่ี ว ลา้ งทำ� ความสะอาดผลผลติ และเปา่ ลม
ขอบคุณข้อมลู /ภาพ : ส�ำนกั วจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 – 8 และกองพฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสินคา้ พชื
กรมวชิ าการเกษตร
27
ถึงจะช่อื “โสกระยา้ ”
แต่เหน็ แล้วน่าหลงใหล
วลิ าวัณย์ ใคร่ครวญ
ช่วงปีใหม่ของทุกปี หากผู้อ่านได้มีโอกาสผ่านไปที่สวนพฤกษศาสตร์ ของฝั่งท่ีติดกับสมาคม
พชื สวนแหง่ ประเทศไทย แลว้ เดนิ ทะลเุ ขา้ ไปตรงสว่ นกลางของสวน จะเหน็ วา่ มตี น้ ไมใ้ หญท่ มี่ กี ง่ิ เกง้ กา้ ง
ไมเ่ ปน็ รปู ทรงเหมอื นไมพ้ มุ่ หรอื ไมย้ นื ตน้ ทวั่ ไป อยใู่ นคอกแขง็ แรงทก่ี นั้ ตน้ ไมต้ น้ นไ้ี วอ้ ยา่ งทะนถุ นอม แต่
สิ่งท่ีจะสะดุดตาทุกคนท่มี โี อกาสไดพ้ บคอื ดอกไมช้ อ่ ใหญ่ สีแดงเขม้ ทีใ่ นความเห็นของผูเ้ ขียนจะทำ� ให้
นึกถึงโมบายที่ติดไว้ล้อลมหน้าบ้าน หรือบางคนอาจจะบอกว่าเหมือนโคมระย้าในห้องกินข้าวในบ้าน
เศรษฐกี ็พอจะนกึ ภาพได้
28
ลกั ษณะของดอกและใบ นักส�ำรวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้ในแถบเอเชียบริเวณ
ประเทศอนิ เดยี และใกลเ้ คยี งรวมถงึ พมา่ และดว้ ยเสนห่ ค์ วาม
ตน้ ไมท้ ผ่ี เู้ ขยี นเกรนิ่ นำ� มาดว้ ยความหลงใหลในรปู โฉม น่าดึงดูดใจชวนให้มองแล้วมองอีกของช่อดอกของโสกระย้า
ทแี่ ทบจะทกุ ปถี า้ พอจะมเี วลาไมต่ ดิ ภาระงานมากเกนิ ไปแลว้ ท่ีออกดอกและบานในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
ตอ้ งหาโอกาสไปเยยี่ มดใู หไ้ ด้ คอื ตน้ โสกระยา้ ทป่ี ลกู อยทู่ ส่ี วน ช่อดอกท่ีสวยงามมากของโสกระย้าท�ำให้ถูกจัดว่าเป็นต้นไม้
ครวู งศ์ หรอื สวนพฤกษศาสตรบ์ างเขน ในพพิ ธิ ภณั ฑพ์ ชื กรงุ เทพ ทส่ี วยงามทส่ี ุดในโลก เปน็ Queen of flowering tree ซ่งึ สื่อ
ของส�ำนกั คมุ้ ครองพันธุ์พืช กรมวชิ าการเกษตร ต้นโสกระย้า ความหมายถงึ ลกั ษณะการออกดอกที่นา่ ตะลึงพรงึ เพรดิ
ตน้ นผ้ี เู้ ขยี นเคยเหน็ ตงั้ แตเ่ รมิ่ เขา้ มาบรรจทุ กี่ รมวชิ าการเกษตร
ในปี 2536 จากประวตั ทิ ่บี ันทึกไว้ ตน้ โสกระยา้ ตน้ นม้ี ีอายุ
ไม่น้อยกว่า 60 ปี เป็นต้นที่ปลูกจากเมล็ด โสกระย้าไม่ใช่
พันธุ์พืชดั้งเดิมของไทย แต่โดยการปรากฏตัวคร้ังแรกของ ลักษณะพันธ์ุ
โสกระยา้ ในประเทศไทยนน้ั เกดิ ขนึ้ เมอ่ื สมยั ทพ่ี ระบาทสมเดจ็
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเยือนประเทศพม่าในปี ดอกโสกระยา้ จะออกรวมเปน็ ชอ่ แบบชอ่ กระจะทปี่ ลาย
พ.ศ. 2415 และขณะนน้ั ผสู้ ำ� เรจ็ ราชการทตี่ ามเสดจ็ ไดน้ ำ� ตน้ กงิ่ หนง่ึ ชอ่ จะมดี อกเดยี่ วราว ๆ 16 - 20 ดอก ชอ่ ดอกหอ้ ยลง
โสกระยา้ มาปลกู ไว้ ในทที่ ป่ี จั จบุ นั คอื โรงเรยี นวชริ าวธุ วทิ ยาลยั ยาว 30 - 60 เซนติเมตร ก้านดอกยาว 5 - 10 เซนตเิ มตร
ตน้ โสกระยา้ ตน้ นนี้ า่ จะเปน็ ตน้ กำ� เนดิ ของตน้ โสกระยา้ หลาย ๆ สแี ดงเข้ม กลีบเล้ียง 4 กลบี ลกั ษณะคล้ายกลีบดอก รปู ขอบ
ตน้ ทมี่ อี ยู่ในประเทศไทย ขนานแคบ กว้าง 0.5 - 2 เซนตเิ มตร ยาว 3 - 5 เซนติเมตร
ปลายมน กลบี ดอก 5 กลีบ ขนาดไมเ่ ทา่ กนั คูล่ ่างเลก็ คู่ด้าน
ขา้ งคล้ายรูปช้อน สแี ดง ปลายเหลอื ง กลบี บนเป็นแผ่นคล้าย
รปู พัด ตรงกลางเวา้ สีเหลืองในกรอบเส้นรูปตวั วีสีแดง ดอก
บานเต็มท่กี ว้าง 3 - 4 เซนติเมตร โสกระยา้ เปน็ ไมต้ น้ ขนาด
กลาง สงู 5 - 15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมแนน่
ทบึ กง่ิ ออ่ นหอ้ ยยอ้ ยลงและมขี นละเอยี ด เปลอื กเรยี บสนี ำ�้ ตาล
ปนด�ำ มีรูระบายอากาศสีน�้ำตาลกระจายทั่วไป ใบเป็นใบ
ประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงสลับ ใบย่อย 6 - 8 คู่
ราชนิ ีแหง่ ไมด้ อกยืนต้น ตน้ โสกระยา้ ท่ีสวนครวู งศ์
โสกระยา้ มชี อ่ื สามญั Amhertia หรอื Pride of Burma
เป็นไม้ถิ่นเดยี ว และมตี น้ ก�ำเนิดอยใู่ นปา่ ของพม่า โสกระย้า
อยู่ในวงศ์ Fabaceae เป็นพชื ชนิดเดียวในสกุล Amherstia
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Amherstia nobilis Wall ชือ่ เรยี ก Amherst
มาจากชื่อของเคาท์เตส Amherst และ เลดี้ Amherst
29
ลกั ษณะดอกตมู ลักษณะยอดท่ีแตกใบใหม่
เรยี งตรงขา้ ม ใบรปู ขอบขนานหรอื รปู ไข่ กวา้ ง 3 - 4.5 เซนตเิ มตร จากประสบการณ์ท่ีผ่านมา แม้โสกระย้าจะไม่มีโรค
ยาว 5 - 15 เซนตเิ มตร ปลายใบแหลม โคนใบเวา้ เข้า คู่ใบ หรือแมลงที่เข้าท�ำลายจนมีความเสียหายก็ตาม แต่ในช่วงที่
ทางด้านโคนมีขนาดเล็กกว่าทางด้านปลาย ผิวใบด้านบนสี ตน้ ยงั เลก็ จะเจรญิ เตบิ โตช้ามาก เมอ่ื เรมิ่ เจริญเตบิ โตมีล�ำต้น
เขียว ดา้ นลา่ งสีเทา มีใบประดับยอ่ ยสแี ดง ติดทนไมร่ ว่ งงา่ ย แขง็ แรง ลำ� ตน้ นี้นา่ จะมกี ล่ินหอมหรอื มีความหวานท่ีมกั จะมี
กวา้ ง 2 - 6 เซนติเมตร ยาว 10 - 24 เซนติเมตร เสน้ แขนง กระรอกหรอื สตั วก์ ดั แทะจนตน้ เปน็ รอยแหวง่ โดยทตี่ น้ ไมช้ นดิ
ใบข้างละ 10 - 12 เสน้ ก้านใบยาว 0.8 - 1 เซนติเมตร เร่มิ อ่ืนไม่ได้รับความสนใจจากสัตว์กัดแทะตัวเดียวกันเลย ต้นที่
ติดดอกช่วงเดือนมกราคม ทยอยบานสลับกันไปจนถึงเดือน โตชา้ อยแู่ ลว้ จงึ ยง่ิ ชา้ ลงไปอกี โสกระยา้ ตอ้ งการแสงปานกลาง
กมุ ภาพนั ธ์ สภาพเดมิ ทพี่ บโสกระยา้ ในปา่ ดบิ ชน้ื หรอื ทางภาค ในชว่ งแรก ๆ ตอ้ งมรี ม่ เงา หรอื การบงั แดดพอประมาณ เพราะ
เหนือของประเทศไทย ขยายพนั ธไุ์ ดด้ ้วยการเพาะเมลด็ หรอื สงั เกตจุ ากอาการขอบใบไหมใ้ นฤดหู นาวทตี่ น้ ไมป้ ระธานผลดั ใบ
ตอนกิง่ แตห่ ากดแู ลรกั ษาประคบั ประคองจนกระทง่ั ตน้ มคี วามสงู และ
แขง็ แรงขน้ึ ระดบั หนง่ึ แลว้ กส็ ามารถวางใจได้ เพราะตอ่ จากนน้ั
“โสก” แต่น่าหลงใหล การเจริญเติบโตจะรวดเร็วขึ้น มีการแตกยอด แตกพุ่มใหม่
อย่างตอ่ เนื่อง ในรอบหนงึ่ ปี อาจจะมีการแตกยอดใหมแ่ ทบ
เสน่ห์ของโสกระย้านอกเหนือจากความอลังการของ จะทกุ เดอื น สามารถทนแดดไดด้ ีขึ้น เมอ่ื ต้นโตเตม็ ทส่ี ามารถ
ช่อดอกและสีสันสดใสเกินบรรยายแล้ว ในทัศนะของผู้เขียน อยู่กลางแดดจัดได้โดยไม่ต้องอาศัยร่มเงาอีก ผู้อ่านอาจจะ
คิดวา่ ไม่เพียงแตช่ ว่ งปใี หม่เท่านน้ั ทโี่ สกระย้าจะน่ามอง แตม่ ี สงสยั วา่ ทำ� ไมเคยอยใู่ ตร้ ม่ เงาแลว้ เมอ่ื ตน้ โตแขง็ แรงขน้ึ จงึ ทำ� ให้
เสน่ห์ท่ีสามารถปรากฏโฉมให้ให้ช่ืนชมได้ท้ังปีอย่างต่อเน่ือง ตน้ ย้ายมาอยู่กลางแดดเต็มที่ได้ ที่เปน็ เช่นน้ันกเ็ พราะบังเอิญ
คอื ยอดใหมข่ องโสกระยา้ ทม่ี สี มี ว่ งเขม้ ทงิ้ ตวั เปน็ หลอด หอ้ ย ช่วงก่อนปีใหม่ไดม้ ีการตดั แตง่ ต้นไม้ทเี่ ปน็ ร่มเงาเดิมออกเพื่อ
ยอ้ ย อยู่ทป่ี ลายยอดทุกยอดพร้อม ๆ กันรอบต้น เป็นสีและ ไม่ให้มีก่ิงไม้ไปรบกวนทัศนียภาพของถนนส่วนกลางท่ีคนใน
รปู ลักษณ์ประจำ� ตน้ ไม้ท่ีมีคำ� นำ� หนา้ ว่า “โสก” ทกุ ชนิด เพยี ง หมู่บ้านใช้ร่วมกัน แต่เพราะเหตุการณ์น้ีจึงท�ำให้ทราบว่าต้น
แต่สีของยอดอ่อนโสกระยา้ จะเข้มกว่าโสกอืน่ ๆ ท่ลี กั ษณะนี้ โสกระย้าสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้หากต้น
นา่ จะเป็นเอกลกั ษณป์ ระจำ� ตัวเลยทเี ดยี ว มอี ายพุ อสมควรและมคี วามแขง็ แรงในระดบั หน่งึ แลว้
สถานภาพโสกระยา้ ในปจั จบุ นั พบวา่ เปน็ ไมป้ ระดบั ทปี่ ลกู มีหลายคนคิดว่า โสกระย้า เป็นชื่อต้นไม้ที่ฟังแล้ว
ตามบา้ นเรอื น แตก่ ไ็ มด่ าษดน่ื ทวั่ ไปนกั หลายคนพยายามจะซอ้ื ไม่สดชื่นเอาเสียเลย ทรงพุ่มก็ดูไร้ทิศทาง และการเรียง
ต้นที่เป็นก่ิงตอน (พร้อมดอกสวยงามตอนที่อยู่กับคนขาย) ของใบก็ดจู ะลู่ ๆ ตก ๆ อยา่ งไรกไ็ มร่ ู้ ผเู้ ขยี นในฐานะที่เป็น
มาปลูก แต่มีน้อยคนท่ีจะประสบความส�ำเร็จในการปลูก ผู้เฝ้าดูการเจริญเติบโตอย่างสม�่ำเสมอ อยากจะบอกให้
ใหอ้ อกดอกไดใ้ นสวนของตนเอง สว่ นมากตน้ จะคอ่ ย ๆ ตายไป ผู้อ่านท่ีมีความคิดคล้าย ๆ กับที่กล่าวมา ลองเปลี่ยนใจ
เน่ืองจากต้องพิถีพิถันในการปลูกเล้ียง ผู้เขียนทดลองซื้อก่ิง มามองในมุมใหม่ แล้วจะทราบว่า ถึงต้นไม้ต้นนี้จะช่ือว่า
ตอนมาปลกู หลายครงั้ เพง่ิ จะประสบความสำ� เรจ็ ในตน้ โสกระยา้ โสกระย้า แต่แค่เห็นดอกแม้เพียงดอกแรกท่านก็จะต้อง
รุน่ ปจั จุบนั ท่ีปลกู จากตน้ ท่ีเพาะเมล็ดเม่ือสบิ กวา่ ปที ่ผี า่ นมา หลงใหลอยา่ งแนน่ อน
30
การกำ�กับดแู ลหน่วยรบั รองภาคเอกชน
เม่อื มีการถ่ายโอนภารกิจตรวจประเมนิ
และใหก้ ารรบั รองของกรมวชิ าการเกษตร
พทิ ยาภรณ์ ตันตยิ ากร เกรยี งไกร สุภโตษะ ทรรศนส์ รัล รตั นทัศนยี ฐติ ภิ า พรพลอยจนั ท์ และ ราเมธ แซเ่ หลา
กองพฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพชื มหี น้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบในการตรวจสอบและให้การ
รับรองระบบการผลิตสินค้าเกษตรด้านพืชเพ่ือการส่งออก ตามมาตรฐานหลักปฏิบัติท่ีดีในการผลิตสินค้า
เกษตรด้านพืชและมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร ภายใต้พระราชบญั ญตั มิ าตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ตอ่ มา
ไดม้ นี โยบายมาตรการทบทวนบทบาทภารกจิ ของสว่ นราชการ ตามมาตรา 33 แหง่ พระราชกฤษฎกี า วา่ ดว้ ย
หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทดี่ ี พ.ศ. 2546 และตามมตคิ ณะรฐั มนตรเี มอ่ื วนั ที่ 11 พฤษภาคม
2553 เห็นชอบให้มีการด�ำเนินการถ่ายโอนภารกิจ งานด้านตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐานของ
ส่วนราชการตา่ ง ๆ ให้ภาคเอกชนหรือภาคสว่ นอ่นื รบั ไปด�ำเนนิ การแทน เพ่อื ปรับบทบาทภารกจิ ของภาครฐั
ลดความซ้�ำซ้อน ปรับปรุงกระบวนงาน และผลักดันส่งเสริมบทบาทภาคเอกชน น�ำไปสู่ทางเลือกในการ
ให้บรกิ ารทีม่ ีประสทิ ธภิ าพเหมือนเดมิ หรือดกี วา่ เดิม
31
ถ่ายโอนภารกิจ 10. บรษิ ัท ยูไอซี เซอร์ติฟิเคชัน่ จำ� กัด
11. บรษิ ทั บเี อสไอ กรุป๊ ประเทศไทย จำ� กัด
เมื่อปี 2558 กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐาน 12. บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์ติฟิเคชั่น
สนิ คา้ พชื ไดอ้ อกประกาศ เรอื่ ง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไข (ประเทศไทย) จ�ำกดั
การขนึ้ ทะเบยี นหนว่ ยรบั รองโรงงานผลติ สนิ คา้ พชื พ.ศ. 2558 13. บรษิ ทั เอม็ เอสเซอรต์ ฟิ เิ คชน่ั (ประเทศไทย) จำ� กดั
เพอ่ื ถา่ ยโอนภารกจิ งานดา้ นการตรวจประเมนิ และการรบั รอง 14. บรษิ ทั ศนู ยห์ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารและวจิ ยั ทางการแพทย์
โรงงานผลติ สินค้าพชื ใหห้ น่วยรบั รองภาคเอกชนรับไปด�ำเนิน และการเกษตรแห่งเอเชยี จ�ำกดั
การแทน จ�ำนวนหน่วยรับรองภาคเอกชนขึ้นทะเบียนแบ่งตาม
ขอบข่าย ได้แก่ มกษ.9023-2550 จ�ำนวน 14 ราย มกษ.
โดยหนว่ ยรบั รองภาคเอกชนทม่ี ารบั การถา่ ยโอนภารกจิ 9024-2550 จำ� นวน 14 ราย มกษ.9035-2553 จ�ำนวน 13
ต้องได้รับการรับรองความสามารถเป็นหน่วยรับรองจาก ราย มกษ.1004-2557 จ�ำนวน 6 ราย มกษ.4702-2557
ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ตาม จ�ำนวน 1 ราย มกษ.9046-2560 จ�ำนวน 12 ราย มกษ.
มาตรฐาน ISO/IEC 17021 ในขอบขา่ ยมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร 9047-2560 จำ� นวน 10 ราย และ มกษ.2507-2559 จำ� นวน
เพ่ือใช้ในการข้ึนทะเบียนหน่วยรับรองกับกรมวิชาการเกษตร 1 ราย รายละเอียดดงั ตาราง
เช่น หลกั การทว่ั ไปเกย่ี วกบั สขุ ลกั ษณะอาหาร (มกษ.9023-
2550) ระบบการวเิ คราะหอ์ นั ตรายและจดุ วกิ ฤตทต่ี อ้ งควบคมุ
และแนวทางการน�ำไปใช้ (มกษ.9024-2550) การปฏบิ ัติท่ีดี
สำ� หรบั โรงคดั บรรจผุ กั และผลไมส้ ด (มกษ.9035-2553) หลกั
ปฏิบัติส�ำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์
ไดออกไซด์ (มกษ.1004-2557) เมล็ดถ่ัวลิสง: ข้อก�ำหนด
ปรมิ าณอะฟลาทอกซนิ (มกษ.4702-2557) หลกั ปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั
การผลติ เช้อื เหด็ (มกษ.2507-2559) การปฏบิ ตั ทิ ่ดี ีสาํ หรับ
การผลิตทุเรยี นแช่เยอื กแข็ง (มกษ.9046-2560) การปฏิบตั ิ
ที่ดีส�ำหรับโรงรวบรวมผักและผลไม้สด (มกษ.9047-2560)
เปน็ ตน้ รวมถงึ มบี คุ ลากรทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ผตู้ รวจประเมนิ โรงงาน
ผลิตสินค้าพืชท่ีเพียงพอ มีความรู้ ความสามารถ และ
ประสบการณ์ตามขอบข่ายท่ีข้ึนทะเบียน
ปัจจุบัน มีหน่วยรับรองภาคเอกชนที่ได้รับการข้ึน
ทะเบียนกับกรมวชิ าการเกษตร จำ� นวน 14 ราย ดังน้ี
1. บริษทั ทูฟ นอรด์ (ประเทศไทย) จำ� กัด
2. บรษิ ัท ห้องปฏบิ ตั กิ ารกลาง (ประเทศไทย) จ�ำกัด
3. บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชนั่ (ประเทศไทย)
จำ� กัด
4. บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำ� กดั
5. สถาบนั รบั รองมาตรฐานไอเอสโออตุ สาหกรรมพฒั นา
มูลนิธิ
6. บรษิ ทั โซโคเทค เซอรต์ ฟิ เิ คชนั่ (ประเทศไทย) จำ� กดั
7. บรษิ ัท อนิ เตอรเ์ ทค อินดสั ทรี แอนด์ เซอร์ทิฟเิ คช่ัน
เซอรว์ สิ เซส (ประเทศไทย) จำ� กดั
8. ส�ำนักรับรองระบบคุณภาพ (สรร.) สถาบันวิจัย
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)
9. บรษิ ทั โกลบอล เซอรต์ ิฟิเคช่ัน เซอร์วสิ จ�ำกดั
32
ตารางแสดงขอบข่ายทีไ่ ดร้ ับการขึน้ ทะเบยี นกบั กรมวชิ าการเกษตรของหน่วยรับรองภาคเอกชน
ขอบขา่ ยมาตรฐาน มกษ.
ชอ่ื หนว่ ยรบั รอง 9023 9024 9035 1004 4702 9046 9047 2507
GMP HACCP ผกั และผล (SO2) เมลด็ ทเุ รยี น รวบรวม เชอ้ื เหด็
ไมส้ ด ถว่ั ลสิ ง แชเ่ ยอื กแขง็ ผกั ผลไม้
1. บรษิ ทั ทฟู นอรด์
(ประเทศไทย) จำ� กดั
2. บรษิ ทั หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารกลาง
(ประเทศไทย) จำ� กดั
3. บรษิ ทั บโู ร เวอรทิ สั เซอ
ทฟิ เิ คชน่ั (ประเทศไทย) จำ� กดั
4. บรษิ ทั เอสจเี อส
(ประเทศไทย) จำ� กดั
5. สถาบนั รบั รองมาตรฐานไอ
เอสโออตุ สาหกรรมพฒั นามลู นธิ ิ
6. บรษิ ทั โซโคเทค เซอรต์ ฟิ เิ คชนั่
(ประเทศไทย) จำ� กดั
7. บรษิ ทั อนิ เตอรเ์ ทค อนิ ดสั ทรี
แอนด์ เซอรท์ ฟิ เิ คชนั่
เซอรว์ สิ เซส (ประเทศไทย) จำ� กดั
8. สำ� นกั รบั รองระบบคณุ ภาพ
(สสร.) สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย
(วว.)
9. บรษิ ทั โกลบอล เซอรต์ ฟิ เิ คชน่ั
เซอรว์ สิ จำ� กดั
10. บรษิ ทั ยไู อซี เซอรต์ ฟิ เิ คชน่ั
เซอรว์ สิ เซส จำ� กดั
11. บรษิ ทั บเี อสไอ กรปุ๊
(ประเทศไทย) จำ� กดั
12. บรษิ ทั อนิ เตอรเ์ นชน่ั แนล
เซอรต์ ฟิ เิ คชนั่ (ประเทศไทย)
จำ� กดั
13. บรษิ ทั เอม็ เอส เซอรต์ ฟิ เิ คชน่ั
(ประเทศไทย) จำ� กดั
14. บรษิ ทั ศนู ยห์ อ้ งปฏบิ ตั กิ าร
และวจิ ยั ทางการแพทยแ์ ละ
การเกษตรแหง่ เอเซยี จำ� กดั
(ขอ้ มูล ณ วนั ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564)
นอกจากน้ีโรงงานผลิตสินค้าพืช ที่จะขอข้ึนทะเบียน โรงงานผลติ สนิ ค้าพืช (ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 17 กมุ ภาพันธ์ 2564)
โรงงานผลิตสินคา้ พืช ตามประกาศ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ วิธีการ ดงั นี้ มกษ.9023-2550 จำ� นวน 330 ราย มกษ.9024-2550
และเงือ่ นไขการขึ้นทะเบียนโรงงานผลติ สินคา้ พืช พ.ศ. 2559 จำ� นวน 260 ราย มกษ.9035-2553 จำ� นวน 84 ราย มกษ.
ตอ้ งไดร้ บั การรบั รองจากหนว่ ยรบั รองภาคเอกชนทข่ี น้ึ ทะเบยี น 1004-2557 จ�ำนวน 167 ราย มกษ.9046-2560 จ�ำนวน
กบั กรมวชิ าการเกษตรเทา่ น้นั ซงึ่ ปัจจบุ ันมีโรงงานผลิตสินคา้ 12 ราย และ มกษ.9047-2560 จ�ำนวน 10 ราย
พชื ทใ่ี ชใ้ บรบั รองจากหนว่ ยรบั รองภาคเอกชนยนื่ ขอขนึ้ ทะเบยี น
33
ก�ำกับดแู ลหน่วยรบั รองภาคเอกชน 1. แฟม้ ประวตั ผิ ตู้ รวจประเมนิ ทง้ั ภายในและภายนอก
ควรจัดเก็บหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เช่น ประวัติของ
เพ่ือให้การด�ำเนินงานตรวจประเมินและการรับรอง ผู้ตรวจประเมิน หลักฐานการประเมนิ ความสามารถคร้ังแรก
โรงงานผลิตสินคา้ พืชเป็นไปตามมาตรฐานสากล สอดคล้อง ผลการประเมนิ ประจำ� ปรี ายบคุ คล รวมถงึ หลกั ฐานการแสดง
กบั ประกาศอนื่ ๆ ที่กรมวชิ าการเกษตรก�ำหนด รวมถึงสร้าง ความสามารถในการตรวจประเมนิ ในแตล่ ะขอบขา่ ยผลติ ภณั ฑ์
ความเชอื่ มนั่ ในระบบตรวจตดิ ตามของภาครฐั ใหเ้ ปน็ ทย่ี อมรบั เปน็ ตน้
จากประเทศคู่ค้าและในระดับสากล กองพัฒนาระบบและ
รบั รองมาตรฐานสนิ คา้ พชื จงึ ไดม้ กี ารตรวจตดิ ตามระบบการ 2. แผนการฝึกอบรมประจ�ำปี ควรมกี ารสำ� รวจความ
จัดการตามข้อก�ำหนด ISO/IEC 17021-1 : 2015 ตอ้ งการฝกึ อบรมของผูต้ รวจประเมนิ
ณ ส�ำนักงาน และการตรวจติดตามความสามารถผู้ตรวจ
ประเมินของหน่วยรับรองภาคเอกชน ขณะปฏิบัติงานตรวจ 3. เอกสารของลกู คา้ ควรตรวจสอบความถกู ตอ้ งกอ่ น
ประเมนิ ณ สถานประกอบการ รบั หรอื สง่ ใหล้ กู คา้ เชน่ ใบคำ� ขอการคำ� นวณเวลาและแผนการ
ตรวจประเมิน ใบเสนอราคา เปน็ ต้น
การตรวจติดตามระบบการจดั การของหนว่ ยรับรอง
4. การบันทึกข้อมูลระหว่างการตรวจประเมิน ควร
ณ ส�ำนักงานของหน่วยรับรองภาคเอกชน โดยส�ำนักงาน บันทกึ ใหช้ ดั เจน เชน่ จุดท่ตี รวจพบ ระบุหมายเลขเคร่ืองมือ
มาตรฐานสนิ คา้ เกษตรและอาหารแหง่ ชาติ รว่ มกบั กรมวชิ าการ หรอื อุปกรณ์ที่พบปญั หา เป็นตน้
เกษตร ตามมาตรฐานข้อก�ำหนดท่ัวไปส�ำหรับหน่วยตรวจ
ประเมินและรับรองระบบการจัดการ (ISO/IEC 17021-1 : 5. การตรวจตดิ ตามลกู คา้ ควรดำ� เนนิ การตามโปรแกรม
2015) ตง้ั แต่เดือนตุลาคม 2561 - กันยายน 2563 มีขอ้ การตรวจประเมินท่ีก�ำหนดไว้ เช่น ตรวจติดตามคร้ังแรก
เสนอแนะในประเดน็ ดังนี้ ภายใน 12 เดอื น ตรวจติดตามประจำ� ปี เป็นตน้
6. การพจิ ารณาการแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง ควรพิจารณา
ถงึ ความสอดคลอ้ งของสาเหตกุ บั แนวทางการแกไ้ ข รวมไปถงึ
มาตรการป้องกนั การเกิดซำ้�
34
7. รายงานตรวจประเมิน ควรมีการทบทวนทุกคร้ัง 2. ผู้ตรวจประเมินควรให้ความส�ำคัญกับมาตรการ
กอ่ นเสนอเข้าคณะกรรมการตัดสินใจ ควบคมุ การปฏิบตั งิ าน ณ จดุ CCP และวธิ ีการทวนสอบการ
ควบคมุ วา่ สามารถดำ� เนนิ การไดจ้ รงิ หรอื ไม่ เชน่ จดุ รบั วตั ถดุ บิ
8. ใบรับรอง ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล โดยเฉพาะในโรงคดั บรรจุ รวมถงึ ควรพจิ ารณามาตรการแกไ้ ข
ขอบขา่ ยท่ไี ด้รบั การรบั รอง ของจดุ วกิ ฤตทตี่ อ้ งควบคมุ ใหส้ อดคลอ้ งกบั การเฝา้ ระวงั ตดิ ตาม
9. การจดั เกบ็ เอกสาร และขอ้ มลู ของลกู คา้ ควรเขา้ ถงึ 3. ผู้ตรวจประเมินควรมีทักษะและเทคนิคการตรวจ
และค้นหาได้ง่าย เช่น ค�ำขอ โปรแกรมการตรวจประเมิน ประเมิน การตั้งค�ำถามให้โรงงานสามารถอธิบายแนวคิด/
ผลการตรวจประเมนิ หลกั ฐานการแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของลกู คา้ เหตผุ ล ของการดำ� เนนิ การในกจิ กรรมการผลติ และการจดั ทำ�
เปน็ ตน้ เอกสารต่าง ๆ รวมถงึ ควรสรปุ ประเดน็ ทพ่ี บให้ผู้ถูกประเมิน
ทราบเปน็ ระยะ
การประเมนิ ความสามารถผตู้ รวจประเมนิ ของหนว่ ย
4. การบรหิ ารเวลาในแตล่ ะกจิ กรรมการตรวจประเมนิ
รับรองภาคเอกชน ณ โรงงานผลิตสินค้าพืช ในขอบข่าย ให้เหมาะสม
ผลติ ภัณฑ์ ผักและผลไมส้ ด น�ำ้ ตาลทราย แป้งมันสำ� ปะหลงั
เคร่ืองด่ืมผง อาหารแช่เยือกแข็ง โรงปรับปรุงคุณภาพข้าว
ผลการประเมนิ ความสามารถผตู้ รวจประเมนิ ของหนว่ ยรบั รอง
ทท่ี ำ� หนา้ ทตี่ รวจประเมนิ โรงงานผลติ สนิ คา้ พชื มขี อ้ เสนอแนะ
ในประเดน็ ดงั นี้
1. ผตู้ รวจประเมนิ ควรมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในกฎระเบยี บ
ทเี่ กยี่ วขอ้ งของสนิ คา้ ในขอบขา่ ยทใี่ หก้ ารรบั รอง รวมถงึ ประกาศ
กรมวชิ าการเกษตรทเี่ กยี่ วขอ้ ง เชน่ ประกาศพชื ควบคมุ เฉพาะ
การออกใบรบั รองสขุ อนามยั เปน็ ตน้ เนอื่ งจากแตล่ ะประเทศ
มีข้อก�ำหนดหรือกฎระเบียบท่ีแตกต่างกัน เช่น การส่งออก
มะมว่ งไปญ่ปี ่นุ เกาหลี ตอ้ งผ่านการอบไอน้�ำ แตก่ ารส่งออก
มะมว่ งไปสหภาพยุโรปต้องผ่านการจุม่ น้ำ� รอ้ น เปน็ ต้น เพ่อื
เป็นแนวทางในการทวนสอบการมาตรการควบคุม
35
5. การทวนสอบบนั ทึกท่เี ก่ียวขอ้ ง ควรพจิ ารณาความ
เปน็ ปจั จบุ นั ของเอกสาร และความเขา้ ใจของพนกั งานผปู้ ฏบิ ตั ิ
6. การตรวจประเมินครั้งแรกหรือการตรวจติดตาม
ผลติ ภณั ฑท์ เุ รยี นแชเ่ ยอื กแขง็ (มกษ.9046-2560) ควรดำ� เนนิ
การในชว่ งฤดกู าลผลติ เนอ่ื งจากมาตรฐานดงั กลา่ วเปน็ มาตรฐาน
บังคบั และมขี ้อก�ำหนดเรือ่ งการตรวจรับวัตถุดบิ เชน่ การสุม่
ตวั อยา่ งเพอื่ ตรวจความออ่ น – แก่ ของทเุ รยี น รวมถงึ ผลติ ภณั ฑ์
นำ�้ ตาลทราย ควรตรวจประเมนิ ใหก้ ารรบั รองครงั้ แรกในฤดกู าล
ผลติ เพอื่ ให้การตรวจประเมนิ ครอบคลุมทุกขน้ั ตอนการผลติ
7. การแจ้งผลการตรวจประเมินในการปิดประชุม
ผู้ตรวจประเมินควรแจ้งข้อบกพร่องเดิมที่ลูกค้ายังไม่แก้ไข
รวมถงึ ผตู้ รวจประเมนิ ควรมแี นวทางจะตดิ ตามการแกไ้ ข เพอื่
ใหก้ ารแกไ้ ขมปี ระสทิ ธภิ าพ
ขอ้ เสนอแนะในประเดน็ ขา้ งตน้ เกดิ จากการตรวจพบ
ในบางหนว่ ยรบั รองเทา่ นนั้ ดงั นน้ั เมอ่ื พจิ ารณาผลการประเมนิ
ความสามารถผู้ตรวจประเมินของหน่วยรับรองภาคเอกชน
ณ โรงงานผลิตสินค้าพืชท้ังหมด พบว่าการตรวจประเมิน
และพจิ ารณาใหข้ อ้ ปรบั ปรงุ การตรวจตดิ ตามของโรงคดั บรรจุ
และโรงงานแปรรูปจากหน่วยรับรองภาคเอกชน เป็นไปใน
แนวทางเดยี วกบั กรมวชิ าการเกษตร สามารถใชผ้ ลการตรวจ
ประเมินของหน่วยรับรองในการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิต
สนิ ค้าพชื ได้ และมีความเชอ่ื ม่นั ในหนว่ ยรบั รองภาคเอกชน
ทร่ี บั ถา่ ยโอนภารกจิ การตรวจประเมนิ และรบั รองโรงงานผลติ
สนิ คา้ พืชแทนกรมวชิ าการเกษตร
36
เห็ดถวั่ ฝรงั่
และสรรพคุณทางยา
วราพร ไชยมา
เหด็ ถว่ั ฝรัง่ เหด็ ท่หี าทานไดย้ าก หนึ่งปีมแี คฤ่ ดูเดียวคือ ฤดูหนาว ที่จะสามารถหาซ้ือมารับประทานกนั
หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่เคยได้ลองทานเห็ดชนิดน้ีเลยก็เป็นได้ ก่อนอื่นมาท�ำความรู้จักเห็ดถั่วฝรั่งท่ีแสน
อรอ่ ยชนดิ นกี้ นั ค่ะ
เห็ดถ่ัวฝร่ัง มชี อ่ื วิทยาศาสตร์ว่า Coprinuscomatus (O.F.Müll.) Pers. ช่อื สามัญซง่ึ เรยี กกนั ตามลกั ษณะทปี่ รากฏของ
ดอกเห็ด เชน่ Shaggy mane หรอื chicken drumstick mushroom หรือ lawyer’s wig เปน็ ต้น มีถิ่นก�ำเนดิ ในแถบทวปี ยโุ รป
อเมรกิ าเหนอื และออสเตรเลีย จึงจัดอยูใ่ นกลุ่มเห็ดเมืองหนาว (Temperate Mushrooms)
37
แชมปิญองในราคาท่ีต้นทุนเท่ากัน แต่ผลผลิตที่ได้และราคา
เหด็ ถว่ั ฝรง่ั สงู กวา่ เหด็ แชมปญิ อง 2 – 3 เทา่ ตวั (ราคาทว่ี างขาย
ประมาณ 180 – 350 บาทตอ่ กิโลกรัม) ค�ำนวณผลผลิตทีไ่ ด้
ต่อโรงเรือน (ชน้ั ปลกู 2×6 เมตร 3 ชนั้ ) ให้ผลผลติ เฉล่ยี รวม
219.2 กิโลกรัม และสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 2 - 3
เดือน ข้นึ อยกู่ บั สภาวะอากาศในช่วงปีนั้น ๆ ในขณะท่รี าคา
เห็ดแชมปิญอง ราคาประมาณ 60 - 120 บาทต่อกิโลกรัม
และยงั เปน็ การเพมิ่ ชนดิ เหด็ ใหมเ่ ขา้ มาในตลาดเหด็ บา้ นเราอกี ดว้ ย
เกษตรกรผู้เพาะเหด็ แชมปิ ญอง การเพาะเห็ดถ่วั ฝรัง่
ส�ำหรับในบ้านเราเห็ดชนิดน้ีได้มีการน�ำเข้ามาศึกษา เห็ดถ่ัวฝรั่งเป็นเห็ดในสกุล Coprinus ท่ีมีขนาดใหญ่
ตั้งแต่ปี 2555 ท�ำการคัดเลือกสายพันธุ์เห็ดถ่ัวฝร่ังได้ 3 เป็นเห็ดเศรษฐกิจชนิดหนึ่งท่ีเพาะปลูกกันแพร่หลายทั่วโลก
สายพันธุ์ ท้ังจากสหรฐั อเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน มกี ารเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี โดยเฉพาะประเทศทม่ี อี ากาศหนาวเยน็
มาศึกษาวิจัย โดยเร่ิมตั้งแต่การศึกษาการเจริญเติบโตของ สภาพอากาศหรืออุณหภูมิ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสําหรับการ
เส้นใยในอณุ หภูมิตา่ ง ๆ เพอ่ื หาแนวโนม้ การน�ำมาเพาะปลกู เพาะอยู่ระหวา่ ง 15 – 23 องศาเซลเซยี ส ซงึ่ ฤดหู นาวทาง
ในสภาพภูมิอากาศบ้านเราได้ จากน้ันพัฒนาเทคโนโลยีการ ภาคเหนอื ของประเทศไทยจะมอี ณุ หภมู อิ ยรู่ ะหวา่ งน้ี จงึ สามารถ
ผลติ เหด็ ฝรั่ง ท้งั ในระดับหอ้ งปฏิบัตกิ าร เชน่ การผลิตแม่เชื้อ เพาะเหด็ ชนดิ น้ีไดด้ ี และยังใช้วัสดเุ พาะท่หี าง่ายและราคาถูก
บรสิ ทุ ธ์ิ (Pure culture) การผลติ แมเ่ ชอื้ ขยาย (master spawn) การเพาะเห็ดถ่ัวฝร่ังเรม่ิ จากขบวนการหมกั ฟางข้าวกับรำ� ข้าว
การผลิตเช้ือขยาย (commercial spawn) ตลอดจนศึกษา ปูนขาว ยิปซมั และมลู สัตว์ ในอัตราที่เหมาะสม ใช้เวลาหมกั
เทคโนโลยกี ารผลิตดอก จนประสบความส�ำเรจ็ และได้จัดท�ำ 9 วัน (กลับกองหมักทุก ๆ 3 วนั ) แล้วน�ำวสั ดเุ พาะขึ้นช้ันใน
คมู่ อื “เทคโนโลยกี ารผลติ เหด็ ถว่ั ฝร่ัง” โรงเรือน ซงึ่ แปลงเพาะเห็ดถัว่ ฝรงั่ อาจใช้ขนาด 2x6 - 8 เมตร
ในลกั ษณะคอนโด 3 ช้ัน (แปลง) รวม 6 แปลงต่อโรงเรือน
ต่อมาจึงได้น�ำไปขยายผลทดลองปลูกเห็ดถ่ัวฝรั่ง ทุกแปลงต้องใส่วสั ดเุ พาะหนา 30 - 50 เซนติเมตร จากนั้น
รว่ มกับเกษตรกรผเู้ พาะเห็ดแชมปญิ องในพ้นื ท่ี อ.เวียงป่าเป้า ท�ำการฆ่าเช้ือโรคที่อาจปนเปื้อนด้วยการอบไอน้�ำภายใน
จ.เชยี งราย ซง่ึ เปน็ ท่ีพอใจอย่างมากของเกษตรกรผู้เพาะเห็ด โรงเรอื นทอ่ี ณุ หภมู ิ 60 องศาเซลเซยี ส นาน 4 ชว่ั โมง แลว้ ทงิ้ ไว้
เนื่องจากให้ผลผลิตสูง และเมื่อเทียบกับการเพาะเห็ด ให้เย็น ท�ำการหวา่ นเชื้อพันธ์ุเหด็ ถว่ั ฝรง่ั (เช้อื ขยาย) ปรมิ าณ
20 - 25 ขวด (250 กรัมต่อขวด) ต่อแปลง ขึ้นอย่กู ับขนาด
แปลงเพาะ ส่วนการเพาะในระบบโรงเรือนปิดต้องควบคุม
อุณหภมู ิไมเ่ กิน 25 องศาเซลเซียส หลังหว่านเชอื้ ลงในแปลง
เพาะ 45 วนั ก็สามารถเก็บเก่ยี วผลผลิตได้ ในการเกบ็ ดอก
เห็ดถ่ัวฝรั่งเหมือนกับการเก็บดอกเห็ดท่ัว ๆ ไป คือ ระวัง
ไม่ให้ช�้ำ และการตดั แตง่ ดอกให้ดสู วยงาม
38
คณุ ประโยชน์และสรรพคุณทางยา
เห็ดถั่วฝรั่งเปน็ เหด็ ท่ีมรี สชาตอิ รอ่ ย เนื้อแนน่ คลา้ ยเน้ือไก่ แตม่ คี วามกรุบกวา่ หลาย ๆ ท่านทีเ่ คยได้ลองชิม บอกวา่
เทยี บไดก้ บั เห็ดโคน (เห็ดปลวก) จนอยากให้มกี ารเปลี่ยนชือ่ เป็น เหด็ โคนฝรงั่ ส�ำหรบั คณุ ประโยชนด์ ้านคณุ ค่าทางโภชนาการ
ของเหด็ ถ่ัวฝรัง่ กไ็ มน่ อ้ ยกวา่ เห็ดชนดิ อนื่ ๆ โดยผลจากการศกึ ษาพบวา่ ใน 100 กรมั ให้พลงั งาน 368.1 - 525 kcal และ
อดุ มไปด้วยโปรตีน 11.8 - 29.5 กรมั คารโ์ บไฮเดรต 49.2 - 76.3 กรัม ไขมนั 1.1 - 5.4 กรัม เย่ือใย (dietary fiber) ท้ังชนดิ
ละลายน้ำ� ได้ (water-soluble fiber) 1.79 ± 1.1% และชนดิ ละลายนำ้� ไม่ได้ (water-insoluble) 32.8 ± 4.2% เถา้ 1.63 กรัม
อกี ทง้ั ยงั มเี กลอื แรแ่ ละวติ ามนิ เชน่ ฟอสฟอรสั แคลเซยี ม แมกนเี ซยี ม โพแทสเซยี ม เหลก็ สงั กะสี ไนอะซนี และวติ ามนิ บตี า่ ง ๆ
อีกมากมาย รวมถงึ อะมโิ นแอซดิ มากกว่า 14 ชนิด ได้แก่ Glutamic, Serine, Alanine acid เป็นตน้
ตารางแสดงคุณคา่ ทางโภชนาการและองค์ประกอบทางเคมีที่พบในเหด็ ถัว่ ฝรงั่
Group of compounds compounds Content in 100 g d.w.
Free sugars (g) Fructose 0.11 ± 0.1
Mannitol 1.84 ± 0.1
Amino acid (mg) Trehalose 5.41 ± 0.4
Mineral and Vitamin Alanine 222.18
Aspartic acid 142.74
Mineral and Vitamin Glutamic acid 313.25
Glycine 109.03
Isoleucine 62.78
Leucine 132.47
Lysine 152.13
Phenylalanine 150.52
Proline 103.36
Serine 231.49
Threonine 127.40
Tryptophan 76.72
Tyrosine 169.35
Valine 95.10
Niacin 4.31
Vitamin B5 2.51
Vitamin B1 0.03
Vitamin B12 1.02
Vitamin B2 0.13
Calcium (Ca) 27.064
Copper (Cu) 2.977
Iron (Fe) 11.870
Magnesium (Mg) 101.495
Potassium (K) 40.9
Selenium (Se) 0.078
Sodium (Na) 54.334
Zinc (Zn) 3.804
ทม่ี า : บริษัทห้องปฏบิ ัติการกลาง (ประเทศไทย) จำ� กัด; 2556; Reyes et al., 2009; Stojkovic et al., 2013
39
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า เห็ดถั่วฝรั่ง นำ�้ ลายไหล มบี ทบาทสำ� คญั กบั สมอง โดยเปน็ สารสอ่ื ประสาท
เป็นเห็ดท่ีมีสรรพคุณทางยาสูงมาก โดยได้มีรายงานการน�ำ (neurotransmitter) ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ ตวั นำ� พาขอ้ มลู ในกระบวนการ
เหด็ ชนดิ นม้ี าศกึ ษาถงึ การออกฤทธทิ์ างชวี ภาพของสารสำ� คญั สง่ สญั ญาณของระบบประสาท ในเซลลป์ ระสาททมี่ ี Receptor
(bioactive compounds) ทพ่ี บในเหด็ ถว่ั ฝรั่ง เช่น ฤทธิ์ต้าน
อนุมูลอิสระ (Antioxidant activity) ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
(Antiinflammatory effects) ฤทธ์ิต้านมะเร็ง (Anticancer
Activity) ฤทธิ์ป้องกันตบั (Hepatoprotective activity) ฤทธ์ิ
ต้านเบาหวาน (Antidiabetic properties) ฤทธิ์การต้าน
การเกิดความอ้วน (Antiobesity effect) ฤทธิ์ต้านไวรัส
(Antiviral) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพบองค์ประกอบของกรดอะมิโนชนิด
กรดกลูตามกิ (glutamic acid) สงู ถึง 313.25 mg/100 g
ซง่ึ กรดอะมโิ นชนดิ นจ้ี ดั เปน็ กรดอะมโิ นทไ่ี มจ่ ำ� เปน็ ตอ่ รา่ งกาย
(nonessential amino acid) เปน็ กรดอะมโิ นทมี่ ปี ระจเุ ปน็ ลบ
ชอบน�้ำ ละลายในน้�ำได้ดีมาก เกลือของกรดกลูตามิก คือ
กลตู าเมต (glutamate) เชน่ มอโนโซเดยี มกลตู าเมตหรอื ผงชรู ส
มีความสมั พนั ธ์กบั การรบั รส อูมามิ (Umami) ซ่ึงเปน็ คำ� ทีม่ า
จากภาษาญีป่ นุ่ มคี วามหมายวา่ รสอร่อย กลมกลอ่ ม ชวน
ภาพแสดงต่อมรบั รสต่าง ๆ บนลนิ้
40
หรือตวั รับเป็นจ�ำนวนมาก เพอ่ื ทำ� หน้าทต่ี รวจว่ามีกลตู าเมตหรอื ไม่ Receptor ประเภทนม้ี อี ยมู่ ากบนลน้ิ หากพบกลตู าเมตใน
อาหารแม้เพียงเล็กน้อย จะท�ำให้เกิดรสอูมามิเด่นขึ้นมาเหนือรสอ่ืน ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�ำให้เห็ดถ่ัวฝร่ัง
มีรสชาตอิ รอ่ ย กลมกลอ่ ม ละมุนลิ้น เม่อื นำ� มาปรงุ อาหาร
บทบาทของกรดอะมิโนต่าง ๆ ท่พี บในเหด็ ถ่ัวฝรง่ั ที่ส�ำคญั กบั ร่างกาย
แอลานีน (alanine) เป็นกรดอะมิโนอีกหน่ึงชนิดที่พบมากในเห็ดถ่ัวฝรั่ง มีสูตรโมเลกุลคือ HO2CCH (NH)2 CH3
ยงั สามารถเปลี่ยนเป็นน้�ำตาลกลโู คสไดใ้ นภาวะท่รี า่ งกายขาดน�้ำตาล
กรดแอสพาร์ตกิ (Aspartic acid) ช่วยในการขบั แอมโนเมียซ่ึงเปน็ สารอนั ตรายออกจากร่างกาย จึงช่วยปกป้องระบบ
ประสาทส่วนกลาง และยังช่วยเพ่ิมความทนทานตอ่ การเหนื่อยลา้ ไดด้ ้วย จึงเหมาะกับนักกฬี าเป็นอย่างมาก
เซรีน (Serine) ช่วยเผาผลาญไขมัน เพม่ิ การเจริญเตบิ โตของเนอื้ เย่ือและระบบภูมิค้มุ กันในร่างกาย
ฟนี ลิ อะลานนี (Phenylalanine) เพมิ่ ความตน่ื ตวั เสรมิ
ความจำ� บรรเทาอาการซึมเศร้า ลดความอยากอาหาร และ
ชว่ ยเพ่ิมความสนใจเรื่องเพศ
ลิวซีน (Leucine) ช่วยกระตุ้นการท�ำงานของสมอง
เพิม่ พลงั ให้กลา้ มเน้ือ และช่วยใหเ้ ซลล์ประสาทแขง็ แรงขน้ึ
ไลซีน (Lysine) ช่วยเสริมสมาธิ ช่วยป้องกันโรคเริม
และโรคกระดกู พรนุ บรรเทาปัญหาดา้ นการสบื พนั ธุ์
วาลีน (Valine) ช่วยกระตนุ้ สมรรถนะของสมอง และ
ชว่ ยประสานกนั ของกลา้ มเน้อื
4411
หากสนใจข้อมูลเก่ียวกับ “เทคโนโลยีการ
ผลติ เหด็ ถว่ั ฝรงั่ ” หรอื ตอ้ งการเชอื้ พนั ธเ์ุ หด็ สอบถาม
เพ่ิมเติมได้ท่ีกลุ่มวิจัยและพัฒนาเห็ด ส�ำนักวิจัย
พฒั นาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร โทร.
0 2579 8558
เอกสารอา้ งอิง
Asahi, T., Wu, X., Shimoda, H., Hisaka, S., Harada, E., Kanno, T., Nakamura, Y., Kato, Y. and Osawa,
T., 2016. A mushroom-derived amino acid, ergothioneine, is a potential inhibitor of inflamma
tion-related DNA halogenation. Bioscience, biotechnology, and biochemistry, 80(2),
pp.313-317.
Asatiani, M.D., Wasser, S.P., Nevo, E.D., Ruimi, N., Mahajna, J.A. and Reznick, A., 2011. The Shaggy
Inc Cap medicinal mushroom, Coprinus comatus (OF Mull.: Fr.) Pers.(Agaricomycetideae)
substances interfere with H2O2 induction of the NF-κB pathway through inhibition of IκBα
phosphorylation in MCF7 breast cancer cells. International journal of medicinal mushrooms,
13(1).
Cheung, P.C., 2013. Mini-review on edible mushrooms as source of dietary fiber: preparation and
health benefits. Food Science and Human Wellness, 2(3-4), pp.162-166.
Das, K. and Arnold, E., 2013. HIV-1 reverse transcriptase and antiviral drug resistance. Part 1. Current
opinion in virology, 3(2), pp.111-118.
Dotan, N., Wasser, S.P. and Mahajna, J., 2011. The culinary-medicinal mushroom Coprinus comatus
as a natural antiandrogenic modulator. Integrative Cancer Therapies, 10(2), pp.148-159.
Li, B., Lu, F., Suo, X., Nan, H. and Li, B., 2010. Antioxidant properties of cap and stipe from Coprinus
comatus. Molecules, 15(3), pp.1473-1486.
Reyes, R.G., Lopez, L.L.M.A., Kumakura, K., Kalaw, S.P., Kikukawa, T. and Eguchi, F., 2009. Coprinus
comatus, a newly domesticated wild nutriceutical mushroom in the Philippines. Journal of
Agricultural Technology, 5(2), pp.299-316.
Stojković, D., Reis, F.S., Barros, L., Glamočlija, J., Ćirić, A., van Griensven, L.J., Soković, M. and
Ferreira, I.C., 2013. Nutrients and non-nutrients composition and bioactivity of wild and
cultivated Coprinus comatus (OF Müll.) Pers. Food and Chemical Toxicology, 59,
pp.289-296.
Zhang, P., Li, K., Yang, G., Xia, C., Polston, J.E., Li, G., Li, S., Lin, Z., Yang, L.J., Bruner, S.D. and
Ding, Y., 2017. Cytotoxic protein from the mushroom Coprinus comatus possesses a unique
mode for glycan binding and specificity. Proceedings of the National Academy of Sciences,
114(34), pp.8980-8985.
Zhao, X., Zou, X., Li, Q., Cai, X., Li, L., Wang, J., Wang, Y., Fang, C., Xu, F., Huang, Y. and Chen, B.,
2018. Total flavones of fermentation broth by co-culture of Coprinus comatus and Morchella
esculenta induces an anti-inflammatory effect on LPS-stimulated RAW264. 7 macrophages
cells via the MAPK signaling pathway. Microbial pathogenesis, 125, pp.431-437.
42
บะ่ เกล้ียง
ก็คือ ส้มเกล้ียง
กลั ยา เกาะกากลาง
บ่ะเกลี้ยง เป็นช่ือท้องถิ่นซึ่งคนทางเหนือในพื้นท่ี อ.เถิน และ อ.แม่พริก จ.ล�ำปาง ใช้เรียกส้มเกล้ียง
ซึง่ เปน็ ผลไมป้ ระจำ� ถนิ่ ของ จ.ล�ำปาง ซง่ึ เป็นแหล่งปลูกเพียงจงั หวดั เดยี วในประเทศไทยที่ผลติ ส้มเกลยี้ งเป็น
พืชเศรษฐกจิ ในท้องถน่ิ มพี ้ืนท่กี ารปลกู สม้ เกล้ียง 2 อ�ำเภอ คือ อ.แมพ่ รกิ พน้ื ท่ีเพาะปลูก 640 ไร่ และ อ.เถนิ
พ้ืนท่ีเพาะปลูก 604 ไร่ ผลผลิตเฉล่ีย 2,500 กิโลกรัมต่อไร่ ถือเป็นผลไม้ประจ�ำอ�ำเภอท้ังสอง จึงน�ำมาสู่
ค�ำขวัญของ อ.เถิน คือ “สม้ เกลย้ี งฉำ่� น�้ำตกงาม โป่งขา่ มขลัง วงั หนิ อ่อน” และ อ.แม่พริก คือ “สวนสม้
เกลี้ยงลือไกล ถนิ่ ล�ำไยไร้สารพษิ ถำ�้ นำ้� ผ่างามวิจติ ร เมืองเศรษฐกจิ ชุมชน” ทำ� ใหส้ ม้ เกล้ียงเป็นทร่ี ู้จกั และ
ไดร้ บั ความนิยมรับประทานแบบผลสดและทำ� เป็นนำ้� สม้ คั้นท่มี รี สชาติกลมกลอ่ ม
43
ท่ีมาและลักษณะทว่ั ไป ดอกสม้ เกลีย้ ง
สม้ เกลี้ยง พชื ทอ้ งถ่ินที่ถอื ว่าเปน็ พืชเศรษฐกิจประจำ� สม้ เกลย้ี งจัดเปน็ ส้มประเภทเปลือกติดกับเนื้อ ไสต้ รง
จังหวัดล�ำปาง เป็นไม้เมืองร้อนตระกูลส้มชนิดหน่ึง มีช่ือ กลางแน่น ลำ� ต้นขนาดปานกลาง มคี วามสูงประมาณ 5 – 7
วทิ ยาศาสตร์ Citrus Sinensis มชี ื่อสามญั วา่ Sweet Orange เมตร มีหนามตามลำ� ต้น หนามยาวเรยี วแหลมและแขง็ ยง่ิ ตน้
อยู่ในวงศ์ Rutaceae เร่ิมปลกู กนั มานานมากกวา่ 100 ปี ที่เกิดจากเมล็ดจะยิ่งมีหนามมาก มีท้ังผลขนาดใหญ่และ
ถน่ิ กำ� เนดิ อยู่บรเิ วณทางตอนใตข้ องประเทศจนี ตอ่ มาไดแ้ พร่
กระจายไปยงั ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เมก็ ซโิ ก ทวปี ยุโรป และ
หมู่เกาะอินเดยี ตะวนั ตก สำ� หรับในประเทศไทยเร่มิ น�ำเข้ามา
ปลูกในสมัยกรุงศรีอยุธยาหรือสมัยกรุงธนบุรี เนื่องจาก
ประเทศไทยขณะน้ันมีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน
คนจนี จงึ ไดม้ กี ารนำ� ตน้ พนั ธเ์ุ ขา้ มาปลกู ในประเทศไทย ซง่ึ ทาง
ตอนล่างของประเทศจีนโดยเฉพาะในเขตมณฑลกวางตุ้ง
มลี กั ษณะภมู อิ ากาศใกลเ้ คยี งกบั ประเทศไทย จงึ สามารถปลกู
ส้มชนดิ นไ้ี ด้ดเี ช่นกัน
การนำ� สม้ เกลยี้ งมาปลกู ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ลำ� ปาง เรม่ิ จาก
ชาวจีนท่ีประกอบอาชีพค้าขายน�ำกิ่งตอนมาจากจังหวัด
นครสวรรค์โดยทางเรือ มาปลกู ที่อ�ำเภอเถนิ ชาวบ้านนิยมใช้
ผลส้มเกลี้ยงในการประกอบงานบุญและงานพิธีทางศาสนา
ตา่ ง ๆ ชาวจนี จงึ ไดป้ ระกอบอาชพี ทำ� สวนควบคกู่ บั การคา้ ขาย
ด้วย พ้ืนที่ที่นิยมปลูกเป็นบริเวณที่ราบลุ่มแม่น�้ำวังอันอุดม
สมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเขตพื้นท่ีที่มีแม่น้�ำวังไหลผ่าน
ไดแ้ ก่ ต.เถินบรุ ี ต.ล้อมแรด ต.แม่ปะ และ ต.แมถ่ อด จ.ล�ำปาง
ตอ่ มาได้ขยายพน้ื ทปี่ ลูกไปยัง อ.แม่พริก จ.ล�ำปาง นยิ มปลูก
บริเวณท่ีราบลุ่มแม่น้�ำวัง ซ่ึงเป็นพื้นท่ีท่ีมีความอุดมสมบูรณ์
ของดนิ ตะกอนจากแม่น�้ำจากการทับถมของอนิ ทรียวตั ถุ
เปลือก
44
เนื้อผล การขยายพันธ์ุ
ผลขนาดเล็ก ซ่ึงพันธุ์ที่มีผลขนาดใหญ่ลักษณะผิวไม่เรียบ เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง
ตน้ กำ� เนดิ พนั ธม์ุ าจากการปรบั ปรงุ พนั ธข์ุ องนกั วชิ าการเกษตร ซ่ึงเป็นวิธีการที่ท�ำกันมานาน เพราะท�ำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
เกษตรกรเรยี กวา่ พนั ธเ์ุ กษตร สว่ นพนั ธท์ุ มี่ ผี ลขนาดเลก็ ลกั ษณะ มีคา่ ใชจ้ า่ ยถกู และความเสยี หายมีนอ้ ย นอกจากนั้นยังสรา้ ง
ผวิ เรยี บเปน็ พนั ธด์ุ ง้ั เดมิ ทส่ี บื ทอดกนั มานาน เกษตรกรเรยี กวา่ อาชีพให้เกษตรกรด้วยการตอนก่ิงส้มเกลี้ยงจ�ำหน่าย ท�ำให้
พนั ธพ์ุ น้ื เมอื ง ผลมนี ำ�้ หนกั ระหวา่ ง 95 - 207 กรมั ความกวา้ ง เกษตรกรมีรายได้เพิ่มข้ึน ส่วนการเสียบยอดและการติดตา
ผลระหวา่ ง 3.9 – 7.3 เซนตเิ มตร ความยาวผลระหวา่ ง 3.9 – 6.9 เกษตรกรไม่นยิ ม เนอื่ งจากตอ้ งใช้ความช�ำนาญจึงจะสามารถ
เซนตเิ มตร ผลมลี กั ษณะกลม ไมแ่ ปน้ ผลทยี่ งั ไมแ่ กจ่ ะมสี เี ขยี ว ทำ� ไดส้ ำ� เร็จ มคี วามยุง่ ยาก และคา่ ใชจ้ ่ายสงู กว่าการตอนกิง่
เขม้ เมือ่ แก่จดั จะเปลย่ี นเปน็ สเี ขียวอมเหลือง เปลอื กช้ันนอก
สีเขียวมีลักษณะเหนียว มีต่อมน�้ำมันเล็ก ๆ กระจายท่ัวไป การปลกู
ตามผวิ ของผล เปลอื กชน้ั กลางสขี าวมลี กั ษณะออ่ นนมุ่ เปลอื ก
ผลชนั้ ในมลี กั ษณะเปน็ เยอื่ เหนยี วมกี ลบี สม้ ดา้ นใน เนอ้ื ในฉำ�่ นำ�้ การเลือกพน้ื ท่ปี ลูก ควรเป็นพืน้ ที่ดอนไม่มีน�้ำทว่ มขัง
มีสีเหลืองนวล รสหวานอมเปรี้ยว ใบมีลักษณะเป็นรูปรี เป็นเวลานาน ระยะระหว่างต้น 4 เมตร และระยะระหว่าง
ใบแบง่ ออกเป็น 2 สว่ น สว่ นแรกเรยี กว่า แผ่นใบ ส่วนทสี่ อง แถว 4 เมตร ขดุ หลมุ ขนาด 50×50×50 เซนตเิ มตร รองกน้ หลมุ
ติดกับก้านใบเรียกว่า หใู บ สม้ เกลย้ี งเปน็ ส้มทีม่ หี ใู บเลก็ และ ด้วยปุ๋ยหมัก น�ำต้นพันธุ์ที่ได้จากการตอนกิ่งปลูกในหลุม
เรยี วแทบมองไมเ่ หน็ ชดั เจน สขี องใบดา้ นบนสเี ขยี วเขม้ เปน็ มนั ท่ีเตรียมไว้ ผูกต้นติดกับไม้หลักป้องกันการโยก รดน�้ำให้ชุ่ม
ด้านล่างสีเขียวอ่อน ขอบใบแบบจักรฟันเลื่อย มีการเรียงตัว หลังปลูกแลว้ ใชเ้ วลา 2 - 3 ปี จงึ จะใหผ้ ลผลิตได้
ของใบแบบสลับ ดอกออกตามปลายก่ิงเล็ก ๆ เปน็ ชอ่ จำ� นวน
10 – 20 ดอก เปน็ ดอกสมบรณู เ์ พศ กลบี ดอกมสี ขี าวมี 4 – 5 45
กลบี เมื่อดอกบานมกี ลน่ิ หอมมาก ออกดอกในระหวา่ งเดือน
มีนาคม - เมษายน และดอกบานในระหว่างเดือนเมษายน -
พฤษภาคม ระยะจากผลดิ อกถงึ ดอกบาน ประมาณ 30 วัน
และระยะเก็บผลคอื จากระยะดอกบานถึงผลแก่ ประมาณ 8
เดอื น
ในปี 2554 - 2558 ศูนย์วจิ ัยและพฒั นาการเกษตร
ลำ� ปาง ไดส้ ำ� รวจและรวบรวมพนั ธส์ุ ม้ เกลยี้ งจากแหลง่ ปลกู ใน
ประเทศไทย โดยรวบรวมไดจ้ าก 9 จงั หวัด จำ� นวน 10 แหลง่
ปลูก ได้แก่ อ.เถิน และ อ.แม่พริก จ.ล�ำปาง จ.เชียงใหม่
จ.ปราจีนบุรี จ.แพร่ จ.น่าน จ.ราชบุรี จ.พิจิตร จ.ตาก และ
จ.สุโขทยั พบว่า ลักษณะของผลส้มเกล้ียงมที ัง้ ผลขนาดใหญ่
และผลขนาดเลก็ ผลขนาดเลก็ ลกั ษณะผวิ เปลอื กของผลเรยี บ
และมคี วามหนาของเปลอื กไมเ่ กนิ 1 เซนตเิ มตร สว่ นผลขนาด
ใหญล่ กั ษณะของเปลอื กจะมคี วามหนามากกวา่ ผลเลก็ รสชาติ
เปรี้ยวอมหวาน มีคา่ ความหวานของนำ�้ ส้มอยูร่ ะหว่าง 9 - 10
องศาบริกซ์
การใหน้ ้�ำและปุย๋ โรคทรสิ เตซา่
โดยการขดุ เจาะนำ้� ใตด้ นิ และใชก้ ารปม๊ั นำ�้ ผา่ นทอ่ พวี ซี ี
จากแม่น้�ำ แล้วปล่อยน้�ำทางสายยางรดบริเวณโคนต้น ส่วน
การใสป่ ยุ๋ เคมหี รอื ใชส้ ารกำ� จดั ศตั รพู ชื มกี ารนำ� มาใชน้ อ้ ย นยิ ม
ใช้ปุ๋ยคอก ปุย๋ หมกั ใสบ่ ริเวณโคนต้น อัตรา 5 กิโลกรัมต่อต้น
เกษตรกรบางรายใส่ปุ๋ยเคมสี ตู ร 15-15-15 อตั รา 1 กโิ ลกรมั
ตอ่ ต้น โดยใสป่ ลี ะครงั้ การตัดแตง่ กง่ิ ค่อนขา้ งนอ้ ย เน่อื งจาก
เกษตรกรมกั จะเสียดาย จึงเกบ็ ก่งิ เดมิ ไวเ้ พอ่ื ใหอ้ อกดอกออก
ผลต่อไป มีเพียงตัดแต่งก่ิงท่ีเป็นโรคและกิ่งท่ีแห้งตายออก
เทา่ นนั้
โรคและแมลงศตั รู - แมลงทพ่ี บ ไดแ้ ก่ หนอนชอนใบ ซงึ่ กดั กนิ ใบออ่ น โดย
ไชชอนอยู่ระหว่างผิวใบด้านบนและใต้ใบ บริเวณถูกท�ำลาย
- โรคทพี่ บมากในแปลงปลกู ไดแ้ ก่ โรคกรนี นงิ่ ลกั ษณะ เป็นรอยสีขาววกวน แมลงค่อมทอง เป็นแมลงปีกแข็งตัว
ใบอ่อนมีสีเหลือง ใบเล็ก ช้ีต้ังข้ึน เส้นใบและเส้นกลางใบมี สเี หลอื งไข่ มปี ากคลา้ ยดว้ ง กดั กนิ ใบออ่ นสม้ ทำ� ใหใ้ บสม้ แหวง่
สเี ขยี ว โรคแคงเกอร์ ลกั ษณะของใบ ผล กงิ่ และล�ำต้น มีแผล และไรสนิม โดยตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน�้ำเลี้ยงจากใบ
เปน็ สนี ำ้� ตาล แตกเปน็ สะเกด็ แขง็ และขรขุ ระ และโรคทรสิ เตซา่ และผล ท�ำให้ใบกระด้าง สีเขียวคล�้ำ ผลท่ีถูกท�ำลายจะมี
ลกั ษณะใบออ่ นมสี เี หลอื งซดี ขอบใบมว้ นคลา้ ยรปู ถว้ ย เสน้ ใบ สนี ้ำ� ตาลคลา้ ยสนมิ
โปร่งใสเปน็ ขดี ส้ัน ๆ
แมลงค่อม หนอนชอนใบ
โรคไรสนิม เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ใช้สารเคมีในการป้องกันก�ำจัด
โรคและแมลง แตม่ กี ารใชส้ ารลอ่ แมลงชบุ สำ� ลใี สใ่ นขวดพลาสตกิ
แขวนไวต้ ามต้นเพอ่ื กำ� จดั แมลงวันผลไม้
การเก็บเก่ยี ว
ส้มเกลี้ยงมีระยะตั้งแต่ดอกบานจนถึงระยะเก็บเกี่ยว
ประมาณ 8 เดือน และส้มในแต่ละต้นจะสกุ แก่ไมพ่ ร้อมกนั
ทัง้ ตน้ โดยผลส้มท่อี ยนู่ อกทรงพ่มุ รวมทัง้ ผลทอี่ ยู่บรเิ วณไหล่
ชายพมุ่ นอกสดุ จนถงึ ยอดจะสกุ เกบ็ เกย่ี วไดก้ อ่ น สว่ นผลทอี่ ยู่
ภายในพุ่มจะสุกแก่หลังสุด ดังน้ันการเก็บเกี่ยวส้มเพ่ือให้ได้
คุณภาพทีเ่ หมาะสมจรงิ ๆ จะต้องเกบ็ อยา่ งน้อย 2 - 3 ครง้ั
ในแตล่ ะต้น
โรคกรนี น่ิง
46
วิธีการเก็บเก่ียวส้มส�ำหรับส้มอายุน้อยหรือต้นเต้ีย อ.เถนิ ส่วนใหญ่ ผลผลติ ร้อยละ 95 จำ� หนา่ ยใหก้ บั พอ่ คา้ ใน
จะเกบ็ เกี่ยวได้งา่ ยโดยสามารถยืนเกบ็ ได้เลย แต่กรณีของส้ม พ้นื ท่แี ละนอกพ้นื ท่ี เชน่ พ่อคา้ จากตลาดไท กรุงเทพฯ และ
ตน้ สงู หรอื อายมุ ากขนึ้ จำ� เปน็ ตอ้ งใชบ้ นั ไดหรอื ใชก้ รรไกรแบบ เชยี งใหม่ ซึง่ จะมารับซื้อถึงพื้นที่ ผลผลติ ร้อยละ 5 จำ� หน่าย
ยาวตดั ให้ติดขัว้ ผลสม้ การเก็บเกี่ยวสม้ เกลี้ยงโดยทัว่ ไปใช้วิธี ภายในพน้ื ท่ี โดยจำ� หนา่ ยบรเิ วณปม๊ั นำ�้ มนั และรา้ นอาหาร ใน
บิดข้ัวแลว้ ใส่ลงตะกร้า อีกวิธที ี่คอื การตดั ขัว้ ดว้ ยกรรไกรแบบ รูปของผลสดและแปรรปู เปน็ น้ำ� ส้มเกลย้ี งคัน้ สด นอกจากนนั้
ยาว ซึ่งจะต้องตัดให้มีข้ัวติดผลซ่ึงพ่อค้าจะนำ� ไปขายผลสด ทางกลมุ่ ฯ ยงั ไดจ้ ำ� หนา่ ยใหก้ บั สหกรณก์ ารเกษตรแมพ่ รกิ จำ� กดั
ระยะทเ่ี หมาะสมในการเกบ็ ผลสม้ เกลยี้ งควรสงั เกตสผี ลเปลยี่ น ซง่ึ เปน็ ผรู้ วบรวมสง่ ใหก้ บั บรษิ ทั สยามแมค็ โคร จำ� กดั (มหาชน)
จากสเี ขยี วเป็นสเี หลืองนวลประมาณ 1 ใน 3 ของผล บีบผล โดยบริษัทจะรับซ้ือผลผลิตในช่วงเทศกาลสารทจีนช่วงเดือน
ด้วยมอื จะมลี ักษณะนม่ิ ไมแ่ ข็ง ในกรณที ่นี ำ� ผลสดไปประกอบ สงิ หาคมประมาณ 800 กโิ ลกรมั ซงึ่ จะเนน้ ผลผลติ ทม่ี คี ณุ ภาพ
พิธีทางศาสนา พ่อค้าต้องการสีเปลือกผลที่ยังมีสีเขียว ผลตอ้ งมขี นาดใหญ่ ผิวเกลย้ี งไมข่ รุขระ และไมม่ แี มลงวันทอง
การเก็บเก่ียวผลท่ีแก่เกินไปท�ำให้ได้ส้มเกล้ียงท่ีไม่มีคุณภาพ เจาะผล
เชน่ เนอ้ื ผลมลี กั ษณะฟา่ มหรอื รสจดื ลง เนอ่ื งจากมกี ารเปลยี่ น
รปู ของนำ้� ตาลในผล
กรรไกรตัดผล การเก็บผล ผลส้มเกลยี้ ง
ผลผลติ ที่ได้ คัดแยกผล
การจำ� หนา่ ยและการตลาด บรรจถุ งุ จ�ำ หน่าย
การจำ� หนา่ ยใหก้ บั พอ่ คา้ คนกลางในชว่ งเทศกาลตา่ ง ๆ 47
จำ� หน่ายกโิ ลกรัมละ 20 - 25 บาท ถือวา่ ยงั ได้ราคาที่สูง ส่วน
ช่วงท่ีไม่มีเทศกาลมักขายให้แม่ค้าคั้นน�้ำส้มสด กิโลกรัมละ
8 - 10 บาท พอ่ ค้าบางกลุ่มมกี ารซอ้ื ขายกันแบบคัดขนาด คอื
ผลขนาดใหญ่ จำ� นวน 4 ลกู ต่อ 1 กิโลกรัม ราคา 12 บาท
ผลขนาดกลาง จำ� นวน 6 ลูกต่อ 1 กิโลกรมั ราคา 10 บาท
และผลขนาดเล็ก จำ� นวน 7 ลกู ต่อ 1 กโิ ลกรมั ราคา 7 บาท
ปัจจุบัน การตลาดส้มเกล้ียงของกลุ่มแปลงใหญ่ส้มเกลี้ยง
สรรพคุณและประโยชน์
ส้มเกลี้ยงเป็นผลไม้ท่ีได้รับความนิยมของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วยวิตามิน
เกลือแร่ เชน่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซยี ม วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหลก็ เกลอื แร่ และโซเดยี ม ที่สำ� คัญคอื มีวิตามนิ ซี
อยู่มาก ช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้ นอกจากน้ีส่วนต่าง ๆ ของส้มเกลี้ยงยังมีสรรพคุณทางยา เช่น เน้ือของผลส้มเกล้ียง
มีสรรพคุณในการแก้หวัดได้ และยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ เปลือกของส้มเกลี้ยงน�ำมารับประทานเพื่อบรรเทาอาการ
ท้องอืดทอ้ งเฟอ้ ได้อีกด้วย
ตารางแสดงปริมาณสารอาหารประโยชนข์ องน�้ำมะนาว นำ้� ส้มเกลี้ยง และน้ำ� สม้ เขยี วหวาน
ประเภท น�ำ้ มะนาว น้�ำสม้ เกลี้ยงคน้ั สด น้ำ� สม้ เขียวหวานคั้นสด
แคลเซียม 1 mg. 27 mg. 44 mg.
ฟอสฟอรัส 2 mg. 42 mg. 35 mg.
โพแทสเซยี ม 16 mg. 400 mg. 440 mg.
วิตามนิ ซี 5 mg. 124 mg. 124 mg.
เหลก็ – 0.5 mg. 0.5 mg.
โซเดยี ม – 2 mg. 2 mg.
วติ ามินเอ – 500 I.U. 1040 I.U.
จุดเด่นของสม้ เกลย้ี ง
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของน้�ำส้มเกล้ียงที่แตกต่างจาก
สม้ ชนดิ อนื่ คอื เมอื่ นำ� ไปแปรรปู เปน็ นำ�้ สม้ คน้ั สดจะมนี ำ้� สเี หลอื ง
นวล มกี ลิ่นหอม รสหวานอมเปร้ียวเลก็ น้อย การคัดเลือกผล
ส้มเกลี้ยงที่มีคุณภาพดีต้องเป็นผลที่มีอายุ 8 เดือน ซ่ึงให้
ปริมาณน้�ำในผลมากและมีรสชาติดี หากผลมีอายุมากกว่านี้
จะมีรสจดื ด้วยจุดเดน่ ของน้ำ� สม้ เกลีย้ งดังกล่าว จงึ ท�ำใหเ้ กดิ
การผลิตสินค้าแปรรูปน�้ำส้มเกลี้ยงค้ันสดของบ้านดอนไชย
หมู่ 7 ต.ล้อมแรด อ.เถนิ จ.ล�ำปาง นอกจากนัน้ ยังมกี ารน�ำ
ผลสม้ เกลย้ี งไปจำ� หนา่ ยยงั รา้ นขายนำ้� ผลไมใ้ นตวั เมอื งลำ� ปาง
โดยคั้นเป็นน�้ำส้มสดพร้อมดื่มบรรจุในแก้วและขวดพลาสติก
ส่วนเนื้อของส้มเกล้ียงเกษตรกรน�ำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
เพอื่ สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ เชน่ แยมสม้ เกลยี้ ง และนำ� มาทำ� ของหวาน
เป็นส้มเกล้ียงลอยแก้วอีกด้วย ท่ีส�ำคัญจุดเด่นของส้มเกลี้ยง
จ.ล�ำปาง คือมีความปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง เน่ืองจาก
แปลงส้มเกล้ียงได้เข้าสู่กระบวนการปลูกตามระบบเกษตรดี
ทเี่ หมาะสม (GAP) ซงึ่ ไดร้ บั การตรวจแปลงจากเจา้ หนา้ ทข่ี อง
ศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาการเกษตรลำ� ปาง สงั กดั กรมวชิ าการเกษตร
เกษตรกรเขา้ รว่ มโครงการจำ� นวน 88 แปลง ปจั จบุ นั เกษตรกร
อ.เถิน มีการรวมกลุ่มผู้ปลูกส้มเกลี้ยงภายใต้โครงการระบบ
สง่ เสรมิ การเกษตรแบบแปลงใหญ่ เรมิ่ ดำ� เนนิ การตง้ั แตป่ ี 2561
สมาชิกแปลงใหญ่ 207 ราย มีพืน้ ท่ี จ�ำนวน 444 ไร่ จึงม่ันใจ
ได้ว่าน�้ำส้มเกล้ียงท่ีดื่มมีความปลอดภัยและได้คุณค่าทาง
โภชนาการสูง
48