43
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
จดั หมวดหมขู่ อ้ มลู ตามประเภทของขอ้ มลู
สาระการเรียนรู้
4.การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาว่าสถติ มิ ปี ระโยชน์อย่างกวา้ งขวางในดา้ นต่างๆ เช่น เศรษฐกจิ ธุรกจิ การศกึ ษา
การเกษตร อตุ สาหกรรม เป็นตน้ โดยทวั่ ไปจาเป็นตอ้ งใชข้ อ้ มลู สถติ แิ ละระเบยี บวธิ ที างสถติ ชิ ่วยในการวางแผน
การตดั สนิ ใจและกาหนดนโยบายต่างๆ ใหเ้ ป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ดงั นัน้ สถติ จิ งึ จดั เป็นวชิ าทเ่ี ขา้ ไปมสี ่วน
สาคญั ในความสาเรจ็ ของงานดา้ นต่างๆ อย่างยง่ิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นอภปิ รายรว่ มกนั วา่ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู นนั้ กอ่ นทจ่ี ะลงมอื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เราตอ้ ง
พจิ ารณาประเภทและ ลกั ษณะของขอ้ มลู ทจ่ี ะใชเ้ สยี ก่อนว่า ขอ้ มลู ทจ่ี ะใชน้ นั้ จะตอ้ งเกบ็ จากหน่วยทเ่ี ราตอ้ งการ
ศกึ ษา ซง่ึ เรยี กวา่ ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ หรอื ขอ้ มลู ประเภททเ่ี ราไม่จาเป็นตอ้ งไปเกบ็ รวบรวมดว้ ยตนเองเพราะมขี อ้ มลู
รวบรวมอย่แู ลว้ เป็นขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ เช่น ถา้ เราตอ้ งการทราบรายไดเ้ ฉลย่ี ของคนงานในโรงงาน แปรรปอู าหาร
ทะเลของบรษทิ ั มหาชยั จากดั อาจจะไดข้ อ้ มลู โดยการสอบถามจากคนงานโรงงานนนั้ โดยตรงเลย ขอ้ มลู ทไ่ี ด้
นนั้ คอื ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ แต่บางครงั้ อาจจะขอขอ้ มลู รายไดน้ ้จี ากแผนกการเงนิ ของโรงงาน เรากอ็ าจจะทราบได้
เช่นกนั ขอ้ มลู ทไ่ี ดน้ ้เี รยี กว่า ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ ทาใหเ้ ราประหยดั เวลา ค่าใชจ้ ่าย และใชข้ อ้ มลู ไดท้ นั เวลา
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power
Point และ VDO เพอ่ื อธบิ ายมวลอะตอม เพ่อื ส่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจไดง้ า่ ยขน้ึ เกย่ี วกบั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยทวั่ ไปแบ่งตามลกั ษณะของวธิ กี าร ทต่ี อ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
3.1 ทะเบยี นประวตั (ิ Registration)
3.2 การสารวจ (Survey)
3.3 การทดลอง (Experiment)
3.4 การสงั เกต (Observation)
4.ผเู้ รยี นเขยี นรา่ งแบบฟอรม์ ดงั ต่อไปน้ี
3.1 ทะเบยี นประวตั (ิ Registration)
3.2 การสารวจ (Survey)
44
3.3 การทดลอง (Experiment)
3.4 การสงั เกต (Observation)
5.ผเู้ รยี นกาหนดกรณีศกึ ษาขน้ึ มาคนละ 1 เรอ่ื ง แลว้ ใหเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทงั้ 4 แบบดงั กล่าวขา้ งตน้
6.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
7.ครเู น้นปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความระมดั ระวงั ในเรอ่ื งความปลอดภยั ระหวา่ งการทางานและการนาไปใช้ เพอ่ื
สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี เพ่อื สรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเองและ
ครอบครวั ต่อไป
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
8.ผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา โดยครใู ชว้ ธิ สี ่มุ ผเู้ รยี นทกุ คนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พ่อื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ ม
สรปุ เน้อื หาอกี ครงั้
9.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
10.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี
ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ
1.
2.
3.
แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนังสอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ
45
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี นจงึ จะถอื วา่ ผ่าน
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ศกึ ษาการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ
46
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
47
แผนการจดั การเรยี นร้แู บบบูรณาการที่ 8 หน่วยท่ี 3
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 8 (15-16)
ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง ความร้เู บอื้ งต้นทางสถิติ จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
สถิติ หมายถงึ ศาสตรท์ เ่ี ป็นทงั้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละศลิ ป์ ทว่ี า่ ดว้ ยการศกึ ษาเกย่ี วกบั ขอ้ มลู
ขอ้ มูลสถิติ หมายถงึ ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งมจี านวนมากพอทจ่ี ะแสดงถงึ ลกั ษณะของกลุ่มหรอื ส่วนรวม สามารถ
นาไปใชใ้ นการเปรยี บเทยี บหรอื ตคี วามหมายได้
ระเบยี บวิธีทางสถิติ ไดแ้ ก่ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การนาเสนอขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการแปล
ความหมายขอ้ มลู การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยทวั่ ไปแบง่ ตามลกั ษณะของวธิ กี ารทต่ี อ้ งปฏบิ ตั เชน่ ทะเบยี น
ประวตั กิ ารสารวจ การทดลอง และการสงั เกต
การนาเสนอข้อมูลเป็นการนาขอ้ มลู ทไี ดร้ บั จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู มาเผยแพร่ แสดงใหผ้ สู้ นใจทราบ
เพ่อื ใหผ้ เู้ กย่ี วขอ้ งสามารถทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ขอ้ มลู หรอื นาไปใชป้ ระโยชน์ไดส้ ะดวกและรวดเรว็ ยง่ิ ขน้ึ การ
นาเสนอขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื การนาเสนอขอ้ มลู อย่างไม่เป็นแบบแผนและการนาเสนอขอ้ มลู อย่างเป็น
แบบแผน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
6.อธบิ ายลกั ษณะของการนาเสนอขอ้ มลู ได้
7.อ่านรายละเอยี ดและตคี วามหมายจากขอ้ มลู ทม่ี กี ารนาเสนอไวใ้ นรปู แบบตา่ งๆ ได้
8.นาความรเู้ รอ่ื งการนาเสนอขอ้ มลู ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้
9.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
9.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 9.7 ความสนใจใฝ่รู้
9.2 ความมวี นิ ยั 9.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
9.3 ความรบั ผดิ ชอบ 9.9 ความรกั สามคั คี
9.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 9.10 ความกตญั ญกู ตเวที
9.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง
9.6 การประหยดั
48
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
จดั หมวดหมขู่ อ้ มลู ตามประเภทของขอ้ มลู
สาระการเรียนรู้
5.การนาเสนอขอ้ มลู
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ่ี
ผา่ นมา โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเร่อื งทจ่ี ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรู้
ใหมก่ บั ความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามให้ผเู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาการนาเสนอขอ้ มลู เป็นการนาขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู มา
เผยแพรแ่ สดงใหผ้ สู้ นใจทราบ เพอ่ื ใหผ้ เู้ กย่ี วขอ้ งสามารถทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ขอ้ มลู หรอื นาไปใชป้ ระโยชน์ได้
สะดวกและรวดเรว็ ยง่ิ ขน้ึ การนาเสนอขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื การนาเสนอขอ้ มลู อย่างไม่เป็นแบบแผน
(Informal Presentation) และการนาเสนอขอ้ มลู อย่างเป็นแบบแผน (Formal Presentation)
3.ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่อื
เน้นใหผ้ เู้ รยี นฝึกเร่อื งความระมดั ระวงั ความมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองและความรอบคอบ ความรบั ผดิ ชอบ ความ
อดทน ความเพยี ร ความเออ้ื อาทรต่อเพ่อื นรว่ มงาน เป็นตน้
ขนั้ สอน
4.ครใู ชเ้ ทคนิคการอธบิ าย และสาธติ การนาเสนอขอ้ มลู อย่างไม่เป็นแบบแผนมี 2 วธิ ี ดงั น้ี
4.1 การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ขอ้ ความ เช่น “อาเซย่ี นมพี น้ื ทร่ี าว 4,435,570 ตารางกโิ ลเมตร มี
ประชากรราว 590 ลา้ นคน”
49
4.2 การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ขอ้ ความกง่ึ ตาราง
5.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power
Point เพ่อื อธบิ ายการนาเสนอขอ้ มลู อย่างเป็นแบบแผน ไดแ้ ก่ การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ตาราง การนาเสนอขอ้ มลู
ในรปู แผนภมู แิ ละแผนภาพ และการนาเสนอขอ้ มลู ในรปู กราฟเสน้ ดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี
5.1 การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ตาราง
50
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ตาราง โดยทวั่ ไปจาแนกลกั ษณะของตารางสถติ อิ อกเป็น 4 ชนดิ คอื ตาราง
แสดงความถ่ี ตารางทางเดยี ว ตารางสองทาง และตารางหลายทาง
ตารางแสดงความถ่ี (Frequency table)
ตารางทางเดยี ว (One-way table)
ตารางสองทาง (Two-way table)
51
ตารางหลายทาง (Multi-way table)
6.ครอู ธยิ าย และสาธติ การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แผนภูมแิ ละแผนภาพ มหี ลกั การนาเสนอดงั น้ี
1) หมายเลขแผนภมู หิ รอื แผนภาพ (ถา้ มหี ลายแผนภมู หิ รอื แผนภาพ)
2) ชอ่ื แผนภมู หิ รอื แผนภาพ
3) แหล่งทม่ี าของแผนภูมหิ รอื แผนภาพ
แผนภูมแิ ท่ง (Bar chart) จาแนกเป็นประเภทต่างๆ ไดด้ งั น้ี
แผนภูมแิ ทง่ เชงิ เดยี ว (Simple bar chart)
52
แผนภูมแิ ทง่ เชงิ ซอ้ น (Muliple bar chart)
แผนภมู แิ ทง่ สว่ นประกอบ (Component bar chart)
แผนภุมแิ ทง่ ซอ้ นกนั (Overlapping bar chart)
7.ผเู้ รยี นทาแผนภมู แิ ทง่ แสดงความนยิ มในการออกกาลงั กายของนักเรยี นกลุ่มหน่งึ
8.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณและทาแผนภมู แิ ท่งบวก - ลบ (Plus minus bar chart)
53
9.ครแู ละผเู้ รยี นคานวณและแสดงการทาแผนภมกู งิ (Pie - chart) ซง่ึ ใชแ้ สดงการเปรยบี เทยบี
รายละเอยี ดของขอ้ มลู ชดุ เดยี วกนั แสดงดว้ ยรปู วงกลม โดยแบ่งรปู วงกลมออกเป็นสว่ นๆ ทจ่ี ดุ ศนู ยก์ ลางตาม
ขนาดของขอ้ มลู
ตารางแสดงจานวนทนั ตแพทย์ ปี พ.ศ. 2560 จาแนกตามภมู ภิ าค
จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ นาเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบแผนภมู กิ ง ดงั น้ี
10.ผเู้ รยี นคานวณและทาแผนภมู กิ งแสดงอาชพี ผปู้ กครองนักเรยี นของโรงเรยี นแห่งหน่งึ จานวน 800 คน
11.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณและสาธติ การทาแผนภูมริ ปู ภาพ (Pictogram) และแผนทส่ี ถติ ิ
(Statistical map
12.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) ดว้ ยการเลา่ อธบิ ายใหผ้ เู้ รยี นเป็นผฟู้ ังและเปิด
โอกาสใหผ้ เู้ รยี นซกั ถามปัญหาไดใ้ นตอนทา้ ยของการบรรยายเรอ่ื งการนาเสนอขอ้ มลู ในรปู กราฟเสน้
12.1 กราฟเสน้ เชงิ เดย่ี ว (Simple line graph)
12.2 กราฟเสน้ เชงิ ซอ้ น (Multiple line graph)
12.3 กราฟเสน้ เชงิ ประกอบ (Composite line graph)
54
13.ผเู้ รยี นแสดงการนาเสอนขอ้ มลู ตอ่ ไปน้เี ป็นจานวนนักเรยี นของวทิ ยาลยั แหง่ หน่งึ ดงั น้ี
14.ผเู้ รยี นแบ่งกลมุ่ กลุมละ 4 - 5 คน
14.1 จดั ทาแผ่นพบั เรอ่ื ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั สถติ ิ
14.2 จดั ทา PowerPoint เรอ่ื ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั สถติ ิ
14.3 จดั ทาบอรด์ เรอ่ื ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั สถติ ิ
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
15.ผเู้ รยี นสรุปเน้อื หาการนาเสนอขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื
15.1 การนาเสนอขอ้ มลู อย่างไม่เป็นแบบแผน
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ขอ้ ความ
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ขอ้ ความกง่ึ ตาราง
15.2 การนาเสนอขอ้ มลู อย่างเป็นแบบแผน
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ตาราง
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แผนภมู แิ ละแผนภาพ
การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู กราฟเสน้
16.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะ แบบฝึกหดั ระหว่างเรยี นแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ
ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง พรอ้ มทากจิ กรรมการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
17.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี
ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
4.
5.
55
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , PowerPoint
4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5.กจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะในการเรยี นการสอน
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เครื่องมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกระหวา่ งเรยี น
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมและแบบฝึกระหวา่ งเรยี นจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
56
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ควรทบทวนการนาเสนอขอ้ ูล เพอ่ื นาไปใชเ้ กดิ ประโยชน์ต่อไป
57
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
58
แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการที่ 9 หน่วยที่ 4
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 9 (17-18)
ช่ือหน่วย/เรื่อง การแจกแจงความถี่ของขอ้ มลู จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู เป็นวธิ ที างสถติ อิ ย่างหน่งึ ทใ่ี ชใ้ นการจดั ระเบยี บของขอ้ มลู ใหเ้ ป็นกลุ่ม เพอ่ื
ความสะดวกในการนาเสนอขอ้ มลู และวเิ คราะหข์ อ้ มลู การแจกแจงความถใ่ี นรปู ตาราง มี 2 วธิ ี คอื วธิ จี ดั เรยี งค่า
ของขอ้ มลู ตามลาดบั และจดั ขอ้ มลู เป็นช่วงหรอื อนั ตรภาคชนั้
การแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ
ฮสิ โทแกรม เสน้ โคง้ ความถ่ี รปู หลายเหลย่ี มความถ่ี แผนภาพตน้ - ใบ
การแจกแจงความถ่สี ะสมโดยใชกราฟ
เสน้ โคง้ ความถส่ี ะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.สรา้ งตารางแจกแจงความถแ่ี ละตคี วามหมายของขอ้ มลู จากตารางได้
2.บอกขอบลา่ ง ขอบบน และจดุ กง่ึ กลางของแต่ละอนั ตรภาคชนั้ ได้
3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
3.2 ความมวี นิ ยั
3.3 ความรบั ผดิ ชอบ
3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
3.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง
3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝ่รู้
3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
3.9 ความรกั สามคั คี
3.10 ความกตญั ญกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
59
3.เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟ หรอื แผนภูมิ และตคี วามหมายหรอื วเิ คราะหข์ อ์ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
สาระการเรยี นรู้
1.การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น
1.ครแู ละผเู้ รยี นอภปิ รายขอ้ มลู ูทไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยวธิ ตี ่างๆ อาจจะอยใู่ นลกั ษณะทไ่ี ม่
เป็นระเบยี บจาเป็นตอ้ งจดั ขอ้ มลู ดงั กล่าวใหม่ ระเบยี บเป็นพวกเป็นหม่เู พ่อื ใหง้ า่ ยต่อการคานวณและสะดวกต่อ
การจดั ทาขอ้ มลู เพอ่ื การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ขนั้ ต่อไป เราเรยี กวธิ ที างสถติ วิ ่า การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู
2.ครแู ละผเู้ รยี นกลา่ วถงึ ความถข่ี องคา่ จากการสงั เกตหรอื ขอ้ มลู คอื จานวนครงั้ ของค่าจากการสงั เกต
ในขอ้ มลู ชดุ หน่งึ การหาความถน่ี ิยมใชว้ ธิ ที ารอยขดี (tally) เช่น I แทนความถ่ี 1 และแทนความถ่ี 5 เป็นตน้ แลว้
จงึ สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี (Frequency table)
ขนั้ สอน
3.ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนิคการอธบิ ายเร่อื ง1.การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู โดยใชส้ อ่ื PowerPoint
ประกอบการเรยี น
60
4.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power
Point ประกอบการศกึ ษาการแจกแจงความถโ่ี ดยวธิ จี ดั เรยี งค่าของขอ้ มลู ตามลาดบั
นอกจากน้ยี งั อธบิ าย และสาธติ การแจกแจงความถโ่ี ดยวธิ จี ดั ขอ้ มลู เป็นช่วงหรอื อนั ตรภาคชนั้ ในกรณี
ขอ้ มลู ทม่ี เี ป็นจานวนมาก ถา้ นาขอ้ มลู ทาการแจกแจงความถโ่ี ดยวธิ จี ดั เรยี งค่าของขอ่ มลู ตามลาดบั อาจจะทาให้
ตารางมขี นาดใหญ่ คงจะไม่สะดวกและไมม่ ปี ระโยชน์มากนกั ดงั นนั้ จงึ แบง่ ขอ้ มลู ออกเป็นชว่ ง ซง่ึ เรยี กว่าอนั ตร
ภาคชนั้ (Class interval) แลว้ หารอยขดี จากนัน้ นบั รอยขดี รวมเป็นความถ่ี
ตวั อยา่ งเชน่ อนั ตรภาคชนั้ (class interval) เป็นช่วงคะแนนแตล่ ะช่วง คอื 30 - 39, 40 - 49, 50 - 59
5.ผเู้ รยี นหาคา่ ขอบเขตชนั้ จดุ กง่ึ กลางชนั้ และความกวา้ งชนั้ ของช่วงคะแนนตามทก่ี าหนดให้
6.ครอู ธบิ าย และใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ติ ามเร่อื งการสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี
61
ดงั นนั้ ตารางแจกแจงความถ่ี มลี กั ษณะดงั น้ี
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณการแจกแจงความถส่ี มั พทั ธ์
ความถส่ี มั พทั ธ์ (Relative frequency) ของอนั ตรภาคชนั้ ใดคอื อตั ราส่วนระหว่างความถข่ี อง อนั ตรภาค
ชนั้ นนั้ กบั ผลรวมของความถท่ี งั้ หมด
ความถส่ี มั พทั ธอ์ าจแสดงอย่ใู นรปู ของเศษสว่ น ทศนิยม หรอื บางครงั้ อาจแสดงอย่ใู นรปู รอ้ ยละ เรยี กว่า
“รอ้ ยละของความถส่ี มั พทั ธ์” นนั่ คอื
7.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ ความถส่ี ะสม (Cumulative frequency) ของอนั ตรภาคชนั้ ใดคอื ผลรวมของความถ่ี
ของอนั ตรภาคชนั้ นนั้ กบั ความถข่ี องอนั ตรภาคชนั้ ทต่ี ่ากว่าทงั้ หมดหรอื สงู กว่าทงั้ หมดอย่างใดอย่างหน่งึ
จากตารางแจกแจงความถท่ี ก่ี าหนดให้ จงหาความถส่ี ะสม
8.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
62
9.เม่อื ผเู้ รยี นสาเรจ็ การศกึ ษาและนาความรเู้ พ่อื นาไปประกอบอาชพี โดยเน้นหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผเู้ รยี นจะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ย่างไรบา้ งเกย่ี วกบั เงอ่ื นไขความรแู้ ละเงอ่ื นไขของคุณธรรม
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
10.ครกู าหนดปัญหาโดยใหผ้ เู้ รยี นระดมสมองช่วยกนั คดิ หาคาตอบแลว้ อธบิ ายคาตอบ
11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะ แบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
63
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี นจงึ จะถอื ว่าผ่าน
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ผเู้ รยี นทบทวนการแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู ในลกั ษณะตา่ งๆ จากกรณีศกึ ษา แบบกจิ กรรมฝึกทกั ษะ
และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
64
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
65
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 10 หน่วยที่ -
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 10 (19-20)
ชื่อหนว่ ย/เรือ่ ง ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
-
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.รแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร สถติ เิ บอ้ื งตน้ การวดั
แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง การวดั ตาแหน่งและการวดั การกระจายของขอ้ มลู
2.มที กั ษะกระบวนการคดิ และแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั
แปร สถติ เิ บอ้ื งตน้ การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง การวดั ตาแหน่งและการวดั การกระจายของขอ้ มลู และนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอาชพี
3.มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทด่ี ใี นการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาใน สถานการณต่างๆ อย่างเป็นระบบ และมี
ความละเอยี ดรอบคอบในการปฏบิ ตั งิ าน
4.ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรเู้ น้อื หาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยุกตใ์ ชต้ อ่ ไป
5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.6 การประหยดั
5.2 ความมวี นิ ยั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 5.9 ความรกั สามคั คี
5.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธขิ์ องการ
แปรผนั
66
สมรรถนะรายวิชา
-
สาระการเรยี นรู้
1.สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
2.ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร
3.ความรเู้ บอ้ื งตน้ ทางสถติ ิ
4.การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู
5.ทบทวน/สอบกลางภาคเรยี น
67
บนั ทึกหลงั การสอบ
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
68
แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 11 หนว่ ยที่ 4
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 11 (21-22)
ช่ือหน่วย/เร่ือง การแจกแจงความถข่ี องข้อมูล จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู เป็นวธิ ที างสถติ อิ ย่างหน่งึ ทใ่ี ชใ้ นการจดั ระเบยี บของขอ้ มลู ใหเ้ ป็นกลุ่ม เพอ่ื
ความสะดวกในการนาเสนอขอ้ มลู และวเิ คราะหข์ อ้ มลู การแจกแจงความถใ่ี นรปู ตาราง มี 2 วธิ ี คอื วธิ จี ดั เรยี งค่า
ของขอ้ มลู ตามลาดบั และจดั ขอ้ มลู เป็นช่วงหรอื อนั ตรภาคชนั้
การแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ
ฮสิ โทแกรม เสน้ โคง้ ความถ่ี รปู หลายเหลย่ี มความถ่ี แผนภาพตน้ - ใบ
การแจกแจงความถ่สี ะสมโดยใชกราฟ
เสน้ โคง้ ความถส่ี ะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.สรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสมและตคี วามหมายของขอ้ มลู จากตารางได้
4.สรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี มั พทั ธแ์ ละความถส่ี ะสมสมั พทั ธไ์ ด้
5.สรา้ งฮสิ โทแกรมรปู หลายเหลย่ี มของความถ่ี และเสน้ โคง้ ความถไ่ี ด้
6 สรา้ งแผนภาพตน้ – ใบได้
7.สรา้ งเสน้ โคง้ ความถส่ี ะสมได้
8.หาความถโ่ี ดยประมาณจานวนขอ้ มลู หรอื ค่าของขอ้ มลู จากเสน้ โคง้ ความถไ่ี ด้
9.หาความถโ่ี ดยประมาณจานวนขอ้ มลู หรอื ค่าของขอ้ มลู จากเสน้ โคง้ ความถส่ี ะสมได้
10.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
10.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
10.2 ความมวี นิ ยั
10.3 ความรบั ผดิ ชอบ
10.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
10.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
10.6 การประหยดั
10.7 ความสนใจใฝ่รู้
10.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
10.9 ความรกั สามคั คี
10.10 ความกตญั ญกู ตเวที
69
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ า่ เฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟ หรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมายหรอื วเิ คราะหข์ อ์ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
สาระการเรยี นรู้
2.การแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ
3.การแจกแจงความถส่ี ะสมโดยใชก้ ราฟ
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ่ี
ผา่ นมา โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรู้
ใหม่กบั ความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นอภปิ รายการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ จะทาใหเ้ หน็ การกระจายของขอ้ มลู ไดช้ ดั เจน
กว่าการดจู ากตารางแจกแจงความถ่ี กราฟทแ่ี สดงการแจกแจงความถ่ี มดี งั น้ี
ฮสิ โทแกรม (Histogram)
รปู หลายเหลย่ี มของความถ่ี (Frequency polygon)
เสน้ โคง้ ความถ่ี (Frequency curve)
แผนภาพตน้ - ใบ (Stem and leaf display)
3.ครยู กตวั อย่างกราฟแสดงการแจกแจงความถป่ี ระกอบ
70
ขนั้ สอน
4.ครใู ชว้ ธิ สี อนอธบิ ายเร่อื งการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ โดยใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบการเรยี น
5.ครแู ละผเู้ รยี นอภปิ รายการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ จะทาใหเ้ หน็ การกระจายของขอ้ มลู ไดช้ ดั เจน
กว่าการดจู ากตารางแจกแจงความถ่ี กราฟทแ่ี สดงการแจกแจงความถ่ี มดี งั น้ี
ฮสิ โทแกรม (Histogram)
รปู หลายเหลย่ี มของความถ่ี (Frequency polygon)
เสน้ โคง้ ความถ่ี (Frequency curve)
71
แผนภาพตน้ - ใบ (Stem and leaf display)
ขอ้ มลู ตอ่ ไปน้เี ป็นความสงู ของนกั เรยี นกลมุ่ หน่ึง (หน่วยเป็นเซนตเิ มตร) จานวน 24 คน
5.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ VDO และ
Power Point เพอ่ื แสดงใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรูก้ ารแจกแจงความถส่ี ะสมโดยใชก้ ราฟ
กราฟแสดงความถส่ี ะสม เรยี กว่า “เส่นโคง้ ความถส่ี ะสม” หรอื เสน้ โคง้ โอจฟี (Ogive curve) เสน้ โคง้
ความถสะ่ี สมเป็นกราฟแสดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างขอบบนของอนั ตรภาคชนั้ กบั ความถส่ี ะสม แลว้ โยงจดุ นนั้ ดว้ ย
เสน้ ตรง จากนนั้ ปรบั ใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ เรยี บ กราฟแสดงความถส่ี ะสมสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในการประมาณ
ความถข่ี องค่าของขอ้ มลู ทต่ี ่ากวา่ หรอื สงู กว่าคะแนนทก่ี าหนดให้
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะสรา้ งเสน้ โคง้ ความถส่ี ะสมจากตารางแจกแจงความถก่ี าหนดให้ แลว้ สรปุ ขอ้ ความรทู้ ่ี
ไดจ้ ากการสรา้ งกราฟน้ี
72
7.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
8.ครเู น้นการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี อย่างมคี ุณธรรมไมเ่ บยี ดเบยี นผอู้ ่นื เช่น ไม่มพี ฤตกิ รรมท่ี
ฉ้อโกง โดยไม่ปฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบจนผบู้ รโิ ภคเกดิ ความเดอื ดรอ้ น เม่อื ผเู้ รยี นจบการศกึ ษาไปแลว้ และไป
ประกอบอาชพี ผปู้ ระกอบการหรอื ลกู จา้ งกต็ าม ควรยดึ หลกั คุณธรรมตามเงอ่ื นไขแห่งปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
9.สรปุ โดยครตู งั้ คาถาม ใหผ้ เู้ รยี นตอบ และการคานวณ เป็นรายบุคคล
10.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อย่างการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
73
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั
พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี นจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนบทเรยี นเพ่อื ศกึ ษาการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ และการแจกแจงความถส่ี ะสมโดยใชก้ ราฟ
74
บนั ทึกหลงั การสอน
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
75
แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 12 หน่วยท่ี 5
รหสั วิชา 20000-1401 คณิตศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 12 (23-24)
ชื่อหน่วย/เรื่อง การวดั แนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง เป็นการหาคา่ กลางทเ่ี ป็นตวั แทนของขอ้ มลู ทงั้ หมด เพ่อื สรุปเร่อื งราวท่ี
เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ มลู นนั้ ๆ ไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเรว็ การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลางมวี ธิ หี าไดห้ ลายวธิ ี แตท่ น่ี ิยม
กนั มอี ยู่ 3 ชนดิ คอื ค่าเฉลย่ี เลขคณติ ฐานนยิ ม และมธั ยฐาน
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.ใชส้ ญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกได้
2.หาคา่ ของจานวนทอ่ี ยใู่ นรปู สญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกได้
3.หาค่าเฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มลู ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
4.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นเรอ่ื งเมทรกิ ซ์ไปเช่อื มโยงในการเรยี นรงู้ านอาชพี และ
ในการดารงชวี ติ ได้
5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
5.2 ความมวี นิ ยั
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
5.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝ่รู้
5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน
5.9 ความรกั สามคั คี
5.10 ความกตญั ญกู ตเวที
76
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ า่ เฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วยวิชา
เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต ฐานนยิ ม และมธั ยฐานทเ่ี หมาะสมกบั ขอ้ มลู ทก่ี าหนด
สาระการเรยี นรู้
1.สญั ลกั ษณ์แสดงผลบวก
2.ค่าเฉลย่ี เลขคณิต
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ่ี
ผ่านมา โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรู้
ใหม่กบั ความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั อภปิ รายการวดั แนวโน้ม เขา้ ส่สู ่วนกลางเป็นวธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ มลู เบอ้ื งตน้ เพ่อื
เป็นตวั แทนของขอ้ มลู ทงั้ หมดในชุดนนั้ และนาไปใชอ้ ธบิ ายสรุปลกั ษณะของขอ้ มลู ชุดนนั้ ว่าเป็นอย่างไร
ขนั้ สอน
3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ สญั ลกั ษณ์
แสดงผลบวก และยกตวั อย่างประกอบ
กอ่ นทจ่ี ะศกึ ษาการหาค่าเฉลย่ี เลขคณติ ในทน่ี ้คี วรทาความเขา้ ใจในการใชส้ ญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกดงั
รายละเอยี ดต่อไปน้ี การใชส้ ญั ลกั ษณ์ “Σ” เป็นอกั ษรกรกี อา่ นว่า “ซกิ มา” (Sigma) หรอื “ซมั เมชนั ”
(Summation) แทนสญั ลกั ษณ์แสดงผลบวก
77
4.ผเู้ รยี นเขยี นสญั ลกั ษณ์แสดงผลบวก ดงั ต่อไปน้ี
5.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
6.ครแู ละผเู้ รยี นอธบิ ายการหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ (Arithmatic mean) เป็นคา่ กลางของขอ้ มลู ทใ่ี ชเ้ ป็น
ตวั แทนของขอ้ มลู และเป็นค่าทน่ี ยิ มใชก้ นั มากทส่ี ดุ ค่าเฉลย่ี เลขคณิต (Arithmatic mean) เป็นคา่ กลางของขอ้ มลู
ทใ่ี ชเ้ ป็นตวั แทนของขอ้ มลู และเป็นคา่ ทน่ี ยิ มใชก้ นั มากทส่ี ุด
78
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการหาค่าเฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มลู ทไ่ี ม่ไดแ้ จกแจงความถ่ี
จงหาอายุเฉลย่ี ของนกั เรยี นจานวน 6 คนปรากฏผลดงั น้ี
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะทากจิ กรรม
9.ครแู ละผเู้ รยี นการหาคา่ เฉลย่ี เลขคณิต แบบถ่วงน้าหนัก ในกรณทข่ี อ้ มลู แต่ละตวั มคี วามสาคญั หรอื
มนี ้าหนกั ไม่เทา่ กนั เราจะหาค่าเฉลย่ี เลขคณติ แบบถ่วงน้าหนัก
ผเู้ รยี นคานวณระดบั คะแนนเฉลย่ี ของสชุาดาเม่อื ไดร้ บั ระดบั คะแนนในแต่ละวชิ าเป็นดงั น้ี
10.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการหา
คา่ เฉลย่ี เลขคณิตรวม
การหาคา่ เฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี
สมบตั ขิ องค่าเฉลย่ี เลขคณิต
79
11.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
12.ครเู น้นการทางานดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ มคี วามเพยี รพยายามในการนาความรไู้ ปใชใ้ หป้ ระสบ
ความสาเรจ็ และมคี วามระมดั ระวงั อนั ตรายทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ ไดใ้ นระหว่างการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี หรอื หลงั จากปฏบิ ตั ิ
หน้าทด่ี ว้ ยความรบั ผดิ ชอบ ซง่ึ เป็นการสรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดงั นนั้
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ เป็นหลกั การดาเนนิ ชวี ติ การทางาน การบรหิ าร การพฒั นา รวมถงึ การดาเนิน
กจิ กรรมในดา้ นต่างๆของมนุษย์ ทเ่ี น้นแนวทางสายกลางยดึ หลกั ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล และมี
ภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี ภายใตเ้ งอ่ื นไขความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั และเงอ่ื นไขคุณธรรม ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ความ
เพยี ร ขยนั อดทน และการแบง่ ปัน
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ใช้
13.ครแู ละสรปุ การเรยี นเน้อื หา โดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามของครู และสรปุ สาระสาคญั
14.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อย่างการคาวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
80
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี นจงึ จะถอื ว่าผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ฝึกทาทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
81
บนั ทึกหลงั การสอน
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
82
แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 13 หน่วยท่ี 5
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนครง้ั ท่ี 13 (25-26)
ช่ือหน่วย/เร่อื ง การวดั แนวโน้มเขา้ สู่ ส่วนกลาง จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง เป็นการหาคา่ กลางทเ่ี ป็นตวั แทนของขอ้ มลู ทงั้ หมด เพ่อื สรุปเร่อื งราวท่ี
เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ มลู นนั้ ๆ ไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเรว็ การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลางมวี ธิ หี าไดห้ ลายวธิ ี แตท่ น่ี ยิ ม
กนั มอี ยู่ 3 ชนดิ คอื ค่าเฉลย่ี เลขคณิต ฐานนิยม และมธั ยฐาน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4.หาคา่ ฐานนิยมของขอ้ มลู ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
5.หาคา่ มธั ยฐานของขอ้ มลู ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
6.เลอื กใชค้ า่ กลางทเ่ี หมาะสมกบั ขอ้ มลู ทก่ี าหนดใหแ้ ละวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี อ้ งการ
7.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
7.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
7.2 ความมวี นิ ยั
7.3 ความรบั ผดิ ชอบ
7.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
7.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง
7.6 การประหยดั
7.7 ความสนใจใฝ่รู้
7.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
7.9 ความรกั สามคั คี
7.10 ความกตญั ญกู ตเวที
83
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
เลอื กใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต ฐานนยิ ม และมธั ยฐานทเ่ี หมาะสมกบั ขอ้ มลู ทก่ี าหนด
สาระการเรยี นรู้
3.ฐานนิยม
4.มธั ยฐาน
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1.ครอู ภปิ รายว่าฐานนยิ ม (Mode) เป็นคา่ ของขอ้ มลู ทม่ี คี วามถส่ี งู สุดหรอื มจี านวนซ้ากนั มากทส่ี ดุ ใน
ขอ้ มลู ชดุ หน่งึ ๆ อาจมฐี านนยิ มเพยี งค่าเดยี วมากกว่าหน่ึงคา่ หรอื ไม่มเี ลยกไ็ ดใ้ ชส้ ญั ลกั ษณ์ Mo แทน ฐานนิยม
2.ครแู สดงรปู ภาพประกอบ เพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาต่อไป
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power
Point เพอ่ื อธบิ ายฐานนยิ ม
การหาฐานนิยมสามารถทาไดด้ งั น้ี
3.1 การหาฐานนยิ มของขอ้ มลู ทไ่ี ม่ไดแ้ จกแจงความถ่ี
3.2 การหาฐานนยิ มของขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี
4.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะหาฐานนยิ มของขอ้ มลู ต่อไปน้ี
84
5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการหาฐานนยิ มของขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี
จากตารางแจกแจงความถ่ี จงหาฐานนิยมของคะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐานของนกั เรยี น 50 คน
6.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
7.ครอู ธบิ ายการหาฐานนยิ มจากกราฟฮสิ โทแกรม
85
8.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อน
ทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั นว์ สั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point
เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายมธั ยฐาน
มธั ยฐาน (Median) คอื คา่ ทม่ี ตี าแหน่งอย่ตู รงกลางของขอ้ มลู เม่อื นาขอ้ มลู ทงั้ หมดมาเรยี งลาดบั จาก
น้อยไปมาก หรอจื ากมากไปน้อย ซง่ึ คา่ น้จี ะแบ่งขอ้ มลู ชดุ นนั้ ออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กนั ดงั นนั้ จงึ มขี อ้ มลู ท่ี
มากกว่าหรอื น้อยกว่าค่ามธั ยฐานอย่ปู ระมาณเท่าๆ กนั
ใชส้ ญั ลกั ษณ์ Med หรอื Me แทน มธั ยฐาน
8.1 การหามธั ยฐานของขอ้ มลู ทไ่ี ม่ไดแ้ จกแจงความถ่ี
8.2 การหามธั ยฐานของขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี
9.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะหามธั ยฐานดงั น้ี
10.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
11.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power
Point เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายการหามธั ยฐานจากกราฟแสดงความถส่ี ะสม ทาไดด้ งั น้ี
12.ผเู้ รยี นหามธั ยฐานของคะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตรพน้ื ฐานอาชพี ของนกั เรยี น 50 คน
86
จากตารางแจกแจงความถท่ี ส่ี รา้ งเสน้ โคง้ ตามความถส่ี ะสมไดด้ งั น้ี
13.ครเู น้นปฏบิ ตั ทิ าเกลยี วทอ่ โลหะหนาดว้ ยความระมดั ระวงั ในเร่อื งความปลอดภยั ระหว่างการทางาน
และการนาไปใช้ เพอ่ื สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี เพ่อื สรา้ งรายได้
ใหแ้ ก่ตนเองและครอบครวั ต่อไป
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
14.ผเู้ รยี นสรปุ เน้อื หา โดยครใู ชว้ ธิ สี มุ่ ผเู้ รยี นทกุ คนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พอ่ื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ ม
สรุปเน้อื หาอกี ครงั้
15.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
87
16.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี
ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ วธิ กี ารเรยี นรู้
1.
2.
3.
แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3 ตรวจกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
4. ตรวจกจิ กรรมใบงาน และแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
88
6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี น
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรม และแบบฝึกหดั ระหว่างเรยี นจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ศกึ ษาทบทวนฐานนิยม และมธั ยฐาน
89
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
90
แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 14 หน่วยที่ 6
รหสั วิชา 20000-1401 คณติ ศาสตรพ์ ้ ืนฐานอาชีพ 2-0-2 สอนครง้ั ที่ 14 (27-28)
ช่ือหน่วย/เรอื่ ง การวดั ตาแหน่งของขอ้ มลู จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม.
แนวคิด
การวดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์ ซง่ึ เป็นการแบ่งจานวนขอ้ มลู ออกเป็น 100 ส่วน เท่าๆ
กนั เขยี นแทนดว้ ย P1, P2, P3, ...., P99 การหาเปอรเ์ ซน็ ไทล์ แบ่งเป็น 2 กรณี คอื ขอ้ มลู ทไ่ี มไ่ ดแ้ จกแจง
ความถแ่ี ละขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี การหาเปอร์เซน็ ไทล์ จากกราฟโดยใชเ้ สน้ โคง้ ความถส่ี ะสมหรอื โอจฟี
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.อธบิ ายความหมายของเปอรเ์ ซน็ ไทลไ์ ด้
2.หาคา่ ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทลไ์ ด้
3.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรเู้ ร่อื งการวดั ตาแหน่งของขอ้ มลู ไปใชแ้ กป้ ัญหาโจทยไ์ ด้
4.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ยั
4.3 ความรบั ผดิ ชอบ
4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
4.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน
4.9 ความรกั สามคั คี
4.10 ความกตญั ญกู ตเวที
91
สมรรถนะรายวิชา
1.ประยุกตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ไปใชใ้ น
สถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนด
2.สรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมาย หรอื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตาราง กราฟ
หรอื แผนภมู ิ
3.เลอื กใชค้ า่ เฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสม กบั ขอ้ มลู
4.วดั ตาแหน่งทข่ี องขอ้ มลู โดยใชเ้ ปอรเ์ ซน็ ไทล์
5.วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใชพ้ สิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธิ์
ของการแปรผนั
สมรรถนะรายหน่วย
หาตาแหน่งเปอรเ์ ซน็ ไทลข์ องขอ้ มลู
สาระการเรียนรู้
1.การหาเปอรเ์ ซน็ ไทล์
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ่ี
ผ่านมา โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเร่อื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรู้
ใหม่กบั ความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั อภปิ รายการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เบอ้ื งตน้ นอกจากการหาค่ากลางของขอ้ มลู แลว้ ยงั มี
วธิ กี ารอ่นื ๆ ทจ่ี ะชว่ ย ในการวเิ คราะห์ ทงั้ น้ขี น้ึ อย่กู บั วตั ถุประสงคท์ จ่ี ะใชข้ อ้ มลู นนั้ ในหน่วยน้จี ะกล่าวถงึ การวดั
ตาแหน่งของขอ้ มลู ซง่ึ เราเคยศกึ ษาการวดั ตาแหน่งของขอ้ มลู โดยนาขอ้ มลมู าเรยี งจากคา่ น้อยไปหาค่ามาก ค่าท่ี
อยู่ ณ ตาแหน่งกง่ึ กลางของขอ้ มลู เรยี กว่ามธั ยฐาน
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power
Point เพ่อื อธบิ ายเรอ่ื งการหาเปอรเ์ ซน็ ไทล์
เปอรเ์ ซน็ ไทลเ์ ป็นการวดั ตาแหน่งของขอ้ มลู โดยนาขอ้ มลู ชุดหน่งึ มาเรยี งคา่ ของขอ้ มลู จากน้อยไปมาก
แบ่งจาวนขอ้ มลู ออกเป็น 100 สว่ นเท่าๆ กนั จะมี 99 จุดแทนดว้ ยสญลั กษั ณ์ P เรยี กว่า
92
5.ครยู กตวั อย่างประกอบการเรยี นไดแ้ ก่
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
7.ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั แนวทางการประยุกตป์ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จาเป็นตอ้ งเรม่ิ จากจติ ใจ
เป็นพน้ื ฐาน เม่อื จติ ใจมคี วามพรอ้ ม จงึ เรม่ิ ลงมอื ทา โดยเรม่ิ จากการปรบั เปลย่ี นวธิ คี ดิ วธิ ที า
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
8.ผเู้ รยี นสรปุ เน้อื หา โดยการตอบคาถาม
ค่าทม่ี จี านวนขอ้ มลู น้อยกว่าค่าน้อี ย่ปู ระมาณ 80 ใน 100 ของจานวนขอ้ มลู ทงั้ หมด
9.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้