100 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ อินเทอร์เน็ตและเกม หากใช้อย่างถูกต้อง หรือเล่นในช่วงเวลาที่มีความเหมาะสม ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ แต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็จะทำให้ เกิดโทษหรืออันตรายได้ 2. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ 2.1นักเรียนคิดว่าข้อมูลอะไรบ้างที่ไม่สามารถหาได้จากอินเทอร์เน็ต กระบวนการวัดผลและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินผลงาน 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน 3. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิธีการ 1. ประเมินผลงาน 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงาน 3. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงออกในห้องเรียน เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระพอใช้ขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ตัวอย่างสถานการณ์
101 บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… (………………………………………..)
102 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
103 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความสามารถในการ สืบค้นข้อมูล มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 5-6 คะแนน = ดีมาก 3-4 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
104 แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ใฝ่เรียนรู้ ความสนใจ ในการเรียน มีวินัย รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
105 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 36 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อิทธิพลของสื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่...............เดือน........................พ.ศ................. มาตรฐานการเรียนรู้ พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด พ 5.1 ป.5/1 วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ สาระสำคัญ โทรทัศน์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพเป็นอย่างมาก การเลือกรับชมรายการ โทรทัศน์ ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัยและมีประโยชน์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายอิทธิพลของสื่อโทรทัศน์ที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้(K) 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับอิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้ (P) 3. นักเรียนตระหนักและเห็นความสำคัญของสื่อโทรทัศน์ที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้ (A) สาระการเรียนรู้ 1. อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ 1.1 โทรทัศน์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน / ชิ้นงาน นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน คำถามสำคัญ ถ้าไม่มีสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ชมรายการโทรทัศน์ นักเรียนคิดว่าจะเกิดผลอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นโดยครูถามคำถาม ดังนี้ 1.1 นักเรียนชอบดูโทรทัศน์หรือไม่ 1.2 นักเรียนดูโทรทัศน์เวลาใดบ้าง
106 1.3 นักเรียนชอบดูรายการโทรทัศน์อะไรบ้าง 2. ครูให้นักเรียนบอกรายการโทรทัศน์ที่ตนเองชอบดูมากที่สุด และอธิบายประโยชน์ ที่ได้รับทีละคน โดยครูคอยแนะนำเพิ่มเติม ขั้นสอน 1. ครูให้ความรู้ครูนำบัตรภาพสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ชมรายการโทรทัศน์ มาติดบน กระดานตามแนวนอน และนำบัตรคำชื่อรายการโทรทัศน์มาวางไว้หน้าห้องจากนั้นให้ผู้แทนนักเรียน ออกมาอ่านบัตรคำชื่อรายการโทรทัศน์ทีละคน และให้ทุกคนช่วยกันบอกว่ารายการโทรทัศน์นั้น จัด อยู่ในกลุ่มสัญลักษณ์ของผู้ชมรายการโทรทัศน์ประเภทใด และให้นำไปติดใต้บัตรภาพสัญลักษณ์ของ ผู้ชมรายการโทรทัศน์บนกระดาน ตัวอย่างรายการโทรทัศน์ การ์ตูนโดราเอมอน รายการเพลงโอไอซี ข่าวในพระราชสำนัก รายการเจ้าขุนทอง ละครเรื่องเมียหลวง รายการชิงร้อยชิงล้าน รายการสาระแนโชว์ ภาพยนตร์เรื่องหวีดสยอง รายการเรื่องจริงผ่านจอ 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันระดมสมอง และอภิปรายเกี่ยวกับอันตรายจากสื่อโทรทัศน์ และการป้องกันอันตรายจากสื่อโทรทัศน์ จากนั้นให้ทุกกลุ่มรวบรวมข้อมูลออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนทีละกลุ่ม โดยให้เพื่อนๆ กลุ่มอื่น และครูคอยตรวจสอบความถูกต้องและให้คำแนะนำเพิ่มเติม 3. ครูถามคำถาม เพื่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ 3.1 การดูโทรทัศน์มีประโยชน์อย่างไร 3.2 การชมรายการโทรทัศน์ที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาใดบ้าง 3.3 นักเรียนควรปฏิบัติตนในการชมรายการโทรทัศน์อย่างไร 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ดังนี้ โทรทัศน์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อผู้ชมมาก ที่สุดการรับชมโทรทัศน์จึงควรเลือกรายการที่เหมาะสมกับวัย เพื่อให้ได้รับประโยชน์และไม่เกิด พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขั้นสรุป 1. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คำถามท้าทายถ้าไม่มี สัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ชมรายการโทรทัศน์ นักเรียนคิดว่าจะเกิดผลอย่างไร สื่อและแหล่งการเรียนรู้ บัตรคำชื่อรายการโทรทัศน์ กระบวนการวัดผลและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินผลงาน 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน 3. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิธีการ 1. ประเมินผลงาน 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงาน
107 3. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงออกในห้องเรียน เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระพอใช้ขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ…………………………………………….. (………………………………………..)
108 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
109 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความสามารถในการ สืบค้นข้อมูล มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 5-6 คะแนน = ดีมาก 3-4 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
110 แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ใฝ่เรียนรู้ ความสนใจ ในการเรียน มีวินัย รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
111
112 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 37 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อิทธิพลของสื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่...............เดือน........................พ.ศ................. มาตรฐานการเรียนรู้ พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด พ 5.1 ป.5/1 วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ สาระสำคัญ สื่อต่างๆ มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้บริโภคจึงควรเลือกรับสื่อที่มีความเหมาะสมกับวัย และให้ประโยชน์หรือความรู้ เพื่อป้องกันอันตรายและการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายอิทธิพลของสื่อโทรทัศน์ที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้ (K) 2. เขียนอธิบายวิธีการป้องกันอิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้ (P) 3. นักเรียนสนใจและให้ความร่วมมือในการเรียน (A) สาระการเรียนรู้ อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ 1. อินเทอร์เน็ต สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน / ชิ้นงาน 1. นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 2. การจดบันทึกในสมุด คำถามสำคัญ นักเรียนมีวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการดูสื่ออย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
113 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนและให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความ คิดเห็นโดยครูถามคำถาม ดังนี้ 1.1 นักเรียนชอบเล่นอินเทอร์เน็ตหรือไม่ 1.2 นักเรียนเล่นอินเทอร์เน็ตเวลาใดบ้าง 2. ให้นักเรียนตอบคำถามที่ครูเตรียมให้พร้อมสนทนากันเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน 1. ครูอธิบายเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการดูสื่ออินเทอร์เน็ต 2. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวิธี ป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการดูสื่ออินเทอร์เน็ต 3. ครูให้นักเรียนที่ได้หัวข้อเดียวกันอยู่ด้วยกันและระดมสมอง 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการค้นคว้าลงในกระดาษชาร์จ ขั้นสรุป 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ 2. ครูสรุปความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการดูสื่ออินเทอร์เน็ตให้ นักเรียนฟัง 3. ให้นักเรียนเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนลงในสมุด สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่องวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการดูสื่ออินเทอร์เน็ต กระบวนการวัดผลและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินการตอบคำถาม 2. แบบประเมินผลงาน 3. แบบสังเกตพฤติกรรม วิธีการ 1. ประเมินการตอบคำถามในชั้นเรียน 2. ประเมินการจดบันทึกในสมุด 3. สังเกตความสนใจและการให้ความร่วมมือในการเรียน เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป
114 บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ…………………………………………… (………………………………………..)
115 แบบประการตอบคำถาม คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล มีส่วนร่วมในการ ตอบคำถาม ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
116 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
117 แบบสังเกตพฤติกรรม คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล มีส่วนร่วม ในการเรียน ความสนใจ ให้ร่วมมือ ในการเรียน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
118 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง อิทธิพลของสื่อต่อสุขภาพและความรุนแรง อินเทอร์เน็ต ความปลอดภัยในชีวิตเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาขนทุกคนควรได้รับ อันตรายที่เกิดขึ้นมีทั้ง แบบที่มาโดยเปิดเผย เช่น อุบัติเหตุ แต่อัตราบางประเภทมีความสลับซับซ้อนมาก เช่น ภัยจากสื่อ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ต ดังนั้นการมีความรู้ความเข้าใจถึงอันตรายจากประเภทต่างๆทั้งสื่อโฆษณา สื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่ออินเตอร์เน็ต เพื่อจะได้สามารถวิเคราะห์เลือกใช้สื่อที่ปลอดภัย และมีแนวทางการ ปฏิบัติตน ในการป้องกันภัยที่เกิดขึ้นได้ 1.สื่อโฆษณาและอินเตอร์เน็ต 1.1 สื่อโฆษณา สื่อโฆษณาเป็นเครื่องมือการติดต่อสื่อสารซึ่งทำหน้าที่ส่งข่าวสารจากแหล่ง ข่าวสาร โดยผู้ส่งข่าวไปยังผู้รับข่าว สื่อโฆษณาแบ่งเป็นหลายประเภทดังนี้ 1. สื่อกระจายเสียง เช่น โทรทัศน์ วิทยุ 2. สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น นิตยสาร หนังสือ จดหมาย 3. สื่อนอกสถานที่ เช่น การโฆษณากลางแจ้ง การโฆษณาเคลื่อนที่ 4. สื่อการตลาดทางตรง เช่น การแนะนำหรือโฆษณาสินค้า 5. สื่ออื่นๆ เช่น โฆษณาก่อนหนังฉายในโรงภาพยนตร์ 1.2 สื่ออินเตอร์เน็ต อินเตอร์เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เกิดขึ้นจากระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก การรวมกันเป็นเครือข่ายใหญ่ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารแลแลกเปลี่ยนข้อมูล กัน 2. สื่อที่อาจนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยในชีวิต สื่อมีหลายชนิด เช่น ภาพนิ่ง ภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ โฆษณา นอกจากมี่ผู้นำสื่อมาใช้ในทางลบ เพื่อมีเจตนาก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ใน ปัจจุบันสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตเป็นที่นิยมใช้ในการนำเสนอเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ให้ ปะชาชนให้รับทราบ ดังนั้นจึงได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสื่ออินเตอร์เน็ตคือ การแสวงหา ผลประโยชน์ทุกรูปแบบจากเด็ก การขโมยข้อมูลบัตรเครดิต การเผยแพร่หรือส่งภาพโป๊ ภาพลามก โฆษณาผ่านเว็บไซด์ 3.แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันตนเองจากสื่อที่ไม่ปลอดภัย 3.1 การป้องกันตนเองจากสื่อโฆษณาที่ไม่ปลอดภัย สื่อโฆษณาที่ไม่ปลอดภัย เช่น การ โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับยารับประทานลดความอ้วนเห็นผลเร็วภายในหนึ่งสัปดาห์สามารถลดได้สิบ กิโลโดยไม่ต้องควบคุมเรื่องอาหาร หรือ นิตยาสารที่มีภาพโป๊และมีเรื่องราวเกี่ยวกับการร่วมเพศอย่าง ชัดเจน มีแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันตนเองจากสื่อโฆษณาที่ไม่ปลอด 1.เมื่อมีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือปัญหาชีวิตควรปรึกษาพ่อแม่ ครู หรือ เพื่อน 2.ก่อนตัดสินใจเชื่อตามคำโฆษณาควรตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าเชื่อถือได้หรือไม่ 3.หลีกเลี่ยงการซื้อหรืออ่านสื่อที่ไม่ปลอดภัยควรใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อ เพราะเป็นการช่วยให้ห่างไกลากการปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ 3.2 การป้องกันตนเองจากความไม่ปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต เช่น 1.ไม่ควรบอข้อมูลส่วนตัวของตนเอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ชื่อ โรงเรียน เบอร์ โทรศัพท์ ชื่อพ่อแม่ สถานที่ทำงาน เป็นต้น 2.ไม่ควบนัดพบกับบุคคลที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต และควรบอกพ่อแม่ให้รับทราบ
119 3.ไม่ควรให้รูปถ่ายกับคนที่ติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต เพราะอาจนำไปทำสิ่งไม่ดีและ เสื่อมเสียได้ 4.ไม่ควรตอบข้อความสนทนา ซึ่งมีลักษณะการพูดจาชวนคุยเรื่องเพศ เรื่องลามก สุภาพ เรื่องการทำสงคราม ก่อการร้าย การข่มขู่ 5.ระวังบุคคลที่เสนอสิ่งของ เช่น การได้รับรางวัลเป็นเงิน อุปกรณ์เรื่องใช้ หรือ ของขวัญอื่นๆ โดยอาจจะเป็นพวกหลอกลวง 6.ผู้ปกครองควรตั้ง กฎ กติกาในการเล่นอินเทอร์เน็ต เช่นวันละกี่ชั่งโมง เล่นได้ ช่วงเวลาใด เป็นต้น 7.ระมัดระวังบุคลที่ติดต่อทางอินเทอร์เน็ต เพราะอาจไม่ได้บอกความจริงและการ แนะนำตัวซึ่งเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ 8.รหัสผ่าน ในการใช้อินเทอร์เน็ตยกเว้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง
120 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 38 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อิทธิพลของสื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่...............เดือน........................พ.ศ................. มาตรฐานการเรียนรู้ พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด พ 5.1 ป.5/5 ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬา สาระสำคัญ การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายช่วยสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรง แต่บางครั้งการเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกายที่ขาดความระมัดระวังอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เช่น การเกิด บาดแผลถลอก บาดแผลฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นตะคริว หรืออาจถึงขั้นกระดูกหักได้ นักเรียนจึง ต้องเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการดูแลตนเองและผู้อื่นเพื่อลดการบาดเจ็บและอันตรายที่เกิด ขึ้นกับชีวิต จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการปฐมพยาบาลกรณีบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอย่างถูกต้องได้ (K) 2. แสดงทักษะในการปฐมพยาบาลตามคำแนะนำให้ถูกต้องได้ (P) 3. ตระหนักในความสำคัญของการเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือชีวิตร่วมกับ อื่น (A) สาระการเรียนรู้ 1. การปฐมพยาบาลการบาดเจ็บที่ผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง 1.1 บาดแผลถลอก 1.2 บาดแผลฟกช้ำ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน / ชิ้นงาน 1. การจดบันทึกในสมุด
121 คำถามสำคัญ การเล่นกีฬาส่งผลต่อบุคลิกภาพอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับการศึกษาและการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้ง ที่ผ่านมา ร่วมกัน เพื่อทบทวนประสบการณ์และภาระงานตามที่นักเรียนได้รับมอบหมาย ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่น กีฬาได้แก่อุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บบาดแผลถลอกและบาดแผลฟกช้ำ 2. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลในหนังสือเรียนและใบความรู้แล้วเขียนสรุปความรู้ลง ในสมุด ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่น กีฬา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่องลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา กระบวนการวัดและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินการตอบคำถาม 2. แบบประเมินผลงาน 3. แบบสังเกตพฤติกรรม วิธีการ 1. ประเมินการตอบคำถามในชั้นเรียน 2. ประเมินการจดบันทึกในสมุด 3. สังเกตความสนใจและการให้ความร่วมมือในการเรียน เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป
122 บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… (………………………………………..)
123 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
124 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความสามารถในการ สืบค้นข้อมูล มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 5-6 คะแนน = ดีมาก 3-4 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
125 แบบสังเกตพฤติกรรม คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล มีส่วนร่วม ในการเรียน ความสนใจ ให้ร่วมมือ ในการเรียน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
126 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา การบาดเจ็บจากการกีฬาที่พบบ่อยแบ่งเป็นชนิดได้ดังต่อไปนี้ 1. บาดเจ็บที่ผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยปกติผิวหนังจะประกอบขึ้นด้วย 3 ชั้นคือ ชั้นหนัง กำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ผิวหนังทำหน้าที่ห่อหุ้มร่างกายเป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกัน อันตรายมิให้เกิดขึ้นกับอวัยวะภายใน ช่วยระบายความร้อน การบาดเจ็บที่เกิดกับผิวหนังมีดังนี้ 1.1. ผิวหนังถลอก (Abrasion) เป็นการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง ทำให้บางส่วนของ ผิวหนังหลุดออกไป บางครั้งอาจลึกถึงชั้นหนังแท้หรือชั้นไขมันใต้ผิวหนัง มีความเจ็บปวด เลือดจะไหล ออกซึมๆ การหายเกิดขึ้นได้รวดเร็ว ถ้าไม่มีการติดเชื้อโรคแทรกซ้อน สาเหตุ มักจะมาจากการเสียดสี เช่น ลื่นล้มผิวหนังไถลไปบนพื้น การปฐมพยาบาลโดยถูสบู่และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทายาใส่แผล สด พยายามให้แผลแห้งไว้โดยไม่จำเป็นต้องปิดแผล หากไม่มีการติดเชื้อ แผลจะตกสะเก็ดและหลุด ออกเองตามธรรมชาติ ภายใน 7 – 8 วัน 1.2. ฟกช้ำ (Contusion) เกิดจากมีแรงกระแทกโดยตรง ซึ่งโดยมากมาจากวัตถุแข็ง ไม่มีคม ทำให้เกิดเลือดคั่งอยู่และไม่สามารถซึมออกสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงได้ อาจมีอาการเจ็บปวด บวมร่วมด้วย การปฐมพยาบาลโดยการประคบเย็นโดยทันทีพร้อมกับกดเบาๆตรงบริเวณฟกช้ำ ความเย็นจะทำให้ หลอดเลือดหดตัว ทำให้เลือดหยุดและบรรเทาความเจ็บปวดได้ อาการฟกช้ำนี้จะหายเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับปริมาณของเลือดที่ออกในชั้นใต้ผิวหนัง หลังจาก 24 – 48 ชั่วโมงไปแล้ว จึงใช้ความร้อน ประคบจะช่วยให้ก้อนเลือดสลายตัวได้เร็วขึ้น แผลผิวหนังถลอก แผลฟกช้ำ
127 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 39 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อิทธิพลของสื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่...............เดือน........................พ.ศ................. มาตรฐานการเรียนรู้ พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด พ 5.1 ป.5/5 ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬา สาระสำคัญ การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายช่วยสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรง แต่บางครั้งการเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกายที่ขาดความระมัดระวังอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เช่น การเกิด บาดแผลถลอก บาดแผลฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นตะคริว หรืออาจถึงขั้นกระดูกหักได้ นักเรียนจึง ต้องเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการดูแลตนเองและผู้อื่นเพื่อลดการบาดเจ็บและอันตรายที่เกิด ขึ้นกับชีวิต จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการปฐมพยาบาลกรณีบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอย่างถูกต้องได้ (K) 2. แสดงทักษะในการปฐมพยาบาลตามคำแนะนำให้ถูกต้องได้ (P) 3. ตระหนักในความสำคัญของการเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือชีวิตร่วมกับ ผู้อื่น (A) สาระการเรียนรู้ 1. การปฐมพยาบาลการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและเอ็นกล้ามเนื้อ 1.1 ตะคริว 1.2 กล้ามเนื้อบวม สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน / ชิ้นงาน 1. การจดบันทึกในสมุด
128 คำถามสำคัญ การเล่นกีฬาส่งผลต่อบุคลิกภาพอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับการศึกษาและการปฏิบัติกิจกรรมในการเรียนครั้ง ที่ผ่านมา ร่วมกัน เพื่อทบทวนประสบการณ์และภาระงานตามที่นักเรียนได้รับมอบหมาย 2. ครูให้นักเรียนดูVDO เรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ที่ครูเตรียม มา แล้วสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับความรู้ในเรื่องดังกล่าวจากประสบการณ์ของนักเรียน แล้วตอบคำถาม ร่วมกัน 3. ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บจาก การเล่นกีฬาเพื่อเป็นการกระตุ้นการมีส่วนร่วม และความสนใจในการเรียนรู้ของนักเรียน ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่นกีฬา ได้แก่อุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บ คือ ตะคริว กล้ามเนื้อบวม 2. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลในหนังสือเรียนและใบความรู้แล้วเขียนสรุปความรู้ลง ในสมุด ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่น กีฬา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่องลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา กระบวนการวัดผลและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินการตอบคำถาม 2. แบบประเมินผลงาน 3. แบบสังเกตพฤติกรรม วิธีการ 1. ประเมินการตอบคำถามในชั้นเรียน 2. ประเมินการจดบันทึกในสมุด 3. สังเกตความสนใจและการให้ความร่วมมือในการเรียน เกณฑ์
129 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… (………………………………………..)
130 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
131 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความสามารถในการ สืบค้นข้อมูล มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 5-6 คะแนน = ดีมาก 3-4 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
132 แบบสังเกตพฤติกรรม คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล มีส่วนร่วม ในการเรียน ความสนใจ ให้ร่วมมือ ในการเรียน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
133 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา การบาดเจ็บจากการกีฬาที่พบบ่อยแบ่งเป็นชนิดได้ดังต่อไปนี้ 1. การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและเอ็นกล้ามเนื้อ มีดังนี้ 1.1. ตะคริว (Cramp) เกิดจากการเกร็งตัวชั่วคราวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นแข็ง เกร็งและมีอาการปวดจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาไม่นานก็จะหายไปเอง แต่อาจเกิดเป็นซ้ำที่เดิมอีกก็ได้ ในบางครั้งกล้ามเนื้ออาจเป็นตะคริวพร้อมๆกันหลายๆมัดก็ได้ เกิดจากหลายสาเหตุเช่น ร่างกายขาด เกลือแร่ ฝึกซ้อมนานเกินไป สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม รวมทั้งการใช้ผ้ายืดรัดบนกล้ามเนื้อค่อนข้าง แน่นทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี การป้องกันทำได้โดยพยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุดังกล่าว การปฐม พยาบาลโดยการให้หยุดออกกำลังกายในทันที ให้ค่อยๆ เหยียดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริวอย่างช้าๆ นุ่มนวล ใช้ความร้อนประคบเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณนั้นมากขึ้น 1.2. กล้ามเนื้อบวม (Compartmental Syndrome) เกิดจากการฝึกซ้อมหนักเกินไป ทำให้ มีการคั่งของน้ำนอกเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้น้ำที่คั่งเกิดแรงดันเบียดมัดกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างเคียง จะเกิด อาการบวมตึงที่กล้ามเนื้อ จะรู้สึกปวด ส่วนใหญ่จะพบที่กล้ามเนื้อน่อง การปฐมพยาบาลโดยการหยุด ฝึกซ้อมทันที แล้วใช้ความเย็นประคบเพื่อลดอาการปวด พันด้วยผ้ายืด และเวลาพักผ่อนให้ยก กล้ามเนื้อที่บวมอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ
134 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 40 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อิทธิพลของสื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่...............เดือน........................พ.ศ................. มาตรฐานการเรียนรู้ พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด พ 5.1 ป.5/5 ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬา สาระสำคัญ การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายช่วยสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรง แต่บางครั้งการเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกายที่ขาดความระมัดระวังอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เช่น การเกิด บาดแผลถลอก บาดแผลฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นตะคริว หรืออาจถึงขั้นกระดูกหักได้ นักเรียนจึง ต้องเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการดูแลตนเองและผู้อื่นเพื่อลดการบาดเจ็บและอันตรายที่เกิด ขึ้นกับชีวิต จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการปฐมพยาบาลกรณีบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอย่างถูกต้องได้ (K) 2. แสดงทักษะในการปฐมพยาบาลตามคำแนะนำให้ถูกต้องได้ (P) 3. ตระหนักในความสำคัญของการเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือชีวิตร่วมกับ ผู้อื่น (A) สาระการเรียนรู้ 1. การปฐมพยาบาลการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและเอ็นกล้ามเนื้อ 1.1 กล้ามเนื้อฉีก สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน / ชิ้นงาน 1. การจดบันทึกในสมุด คำถามสำคัญ การเล่นกีฬาส่งผลต่อบุคลิกภาพอย่างไร
135 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำภาพการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่มีนักกีฬาล้มในสนามให้นักเรียนดู แล้ว ร่วมกันสนทนา แสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คำถามดังนี้ 1.1. จากภาพ เป็นการแข่งขันกีฬาชนิดใด 1.2. ในภาพเกิดเหตุการณ์อย่างไร 1.3. นักเรียนจะมีวิธีการปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว 2. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน อันตรายจากการเล่นกีฬา โดยครูใช้คำถามดังนี้ 2.1. นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติตนอย่างไรบ้างเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่น กีฬา ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่นกีฬา ได้แก่อุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บ คือ กล้ามเนื้อฉีก 2. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลในหนังสือเรียนและใบความรู้แล้วเขียนสรุปความรู้ลง ในสมุด ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการเล่น กีฬา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่องลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา 2. รูปภาพสถานการณ์การบาดเจ็บทางการเล่นกีฬา กระบวนการวัดและประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินการตอบคำถาม 2. แบบประเมินผลงาน 3. แบบสังเกตพฤติกรรม วิธีการ 1. ประเมินการตอบคำถามในชั้นเรียน 2. ประเมินการจดบันทึกในสมุด 3. สังเกตความสนใจและการให้ความร่วมมือในการเรียน เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 3. ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป
136 บันทึกผลการใช้ (อุปสรรค ปัญหา แนวทางแก้ไข) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… ผู้สอน ( นายภูมินทร์ นิสยันต์ ) ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ครูพี่เลี้ยง ( นายธรรมนูญ จันทร์หล่น ) ความคิดเห็นผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................... ลงชื่อ………………………………………… (………………………………………..)
137 แบบประเมินผลงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความเป็นระเบียบ ความถูกต้อง ความครบถ้วน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 3 คะแนน = ผลงานสมบูรณ์ชัดเจน 6-7 คะแนน = ดี 2 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องบางส่วน 3-5 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
138 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล ความสามารถในการ สืบค้นข้อมูล มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 5-6 คะแนน = ดีมาก 3-4 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
139 แบบสังเกตพฤติกรรม คำชี้แจง : ทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนที่นักเรียนปฏิบัติได้ ที่ ชื่อ – สกุล มีส่วนร่วม ในการเรียน ความสนใจ ให้ร่วมมือ ในการเรียน รวม 1 2 3 1 2 3 1 2 3 คะแนนพฤติกรรม 3 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็น อย่างดี 2 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง สนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 60% 1 คะแนน = แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย ไม่สนใจและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 8-9 คะแนน = ดีมาก 6-7 คะแนน = ดี 3-5 คะแนน = พอใช้ 0-2 คะแนน = ปรับปรุง
140 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา ลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บจากการกีฬา กล้ามเนื้อฉีก (Strain) มักพบที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และน่อง แบ่งความรุนแรง ออกเป็น 3 ระดับคือ · ระดับที่หนึ่ง กล้ามเนื้อฉีกขาดเล็กน้อย จะมีการบาดเจ็บเล็กน้อย อาจบวมหรือไม่บวมก็ได้ ปกติจะหายภายใน 3 วันโดยใช้ผ้ายืดพันยึดส่วนนั้นเอาไว้ · ระดับที่สอง กล้ามเนื้อฉีกปานกลาง กล้ามเนื้อยังทำงานได้บ้าง จะมีอาการปวดบวม ต้อง พันยึดด้วยผ้ายืดและใส่เฝือก โดยใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ · ระดับที่สาม กล้ามเนื้อฉีกขาดสมบูรณ์ กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้ บวมและปวดรุนแรง คลำดูจะพบรอยบุ๋มใต้ผิวหนัง จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อเย็บต่อส่วนที่ขาด และใช้ กายภาพบำบัดเข้าช่วย สาเหตุของกล้ามเนื้อฉีก เกิดได้ 2 ทางคือ 1) เกิดจากตัวกล้ามเนื้อเอง เป็นการเพิ่มความตึงตัวต่อกล้ามเนื้อมากกว่าที่ตัวมันจะทนได้ ได้แก่ การอบอุ่นร่างกายไม่เพียงพอ ฝึกมากเกินไป กล้ามเนื้อยืดหยุ่นไม่ดี กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์ กัน 2) สาเหตุจากแรงกระทำภายนอก ทำให้เกิดอันตรายได้ตั้งแต่ผิวหนัง ไขมันและเนื้อเยื่อใต้ ผิวหนังไปจนถึงกล้ามเนื้อ การปฐมพยาบาลและบำบัดรักษากล้ามเนื้อฉีก แบ่งเป็น 2 ระยะคือ 1. ระยะแรก ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ให้ใช้หลัก “RICE” ดังนี้ R = Rest ให้พักโดยเฉพาะส่วนที่บาดเจ็บ I = Ice ใช้น้ำแข็งประคบส่วนที่บาดเจ็บ ครั้งละ 20 – 30 นาที วันละ 2 – 3 ครั้ง C = Compression พันกระชับส่วนนั้นด้วยม้วนผ้ายืด ควรใช้สำลีรองก่อน หลักการพันคือ พันจากส่วนปลายมาหาส่วนต้น (เวลานอนไม่ต้องพัน) E = Elevation ยกส่วนที่บาดเจ็บให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อช่วยให้เลือดไหลกลับหัวใจ เป็นการช่วยลดอาการปวดบวม 2. ระยะที่สอง นานเกิน 24 – 48 ชั่วโมง ผู้บาดเจ็บเริ่มทุเลาแล้ว จะใช้ความร้อนและวิธีทาง กายภาพบำบัด โดยใช้หลัก “HEAT” ดังนี้ H = Hot ใช้ความร้อนประคบ โดยเฉพาะความร้อนลึก(เป็นเครื่องมือทางกายภาพบำบัด) หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนก็ได้ E = Exercise ลองขยับเขยื้อนส่วนที่บาดเจ็บดูเบาๆ เป็นการบริหารส่วนที่บาดเจ็บและทำ การบีบนวดไปด้วย A = Advanced Exercise ระยะหลังๆ บริหารให้มากขึ้น อาจมีผู้ช่วยในการบริหารส่วนที่ บาดเจ็บ หรือใช้อุปกรณ์ช่วยในการออกกำลังกาย T = Training for Rehabilitation เป็นการฝึกเพื่อช่วยฟื้นสภาพจากการบาดเจ็บให้กลับสู่ สภาพปกติ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดโดยตรง