คำนำ การจัดการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ได้กำหนดให้สถานศึกษาดำเนินการจัดทำหลักสูตรระดับสถานศึกษา โดยมีความ สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 หลักสูตรต้านทุจริต และ สภาพตามบริบททาง วัฒนธรรม วิถีชีวิตของสังคม ชุมชน และท้องถิ่นของผู้เรียนซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ เพื่อให้สถานศึกษาได้ ใช้หลักสูตรสถานศึกษาเป็นแนวทางในการจัดการศึกษา ให้มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานทัดเทียมกัน โรงเรียนบ้านคูขาด(สถิตย์อุปถัมภ์) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของภารกิจดังกล่าว จึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๒ พุทธศักราช 256๗ (สำหรับเด็กอายุ ๔– ๕ ปี ) โดยกำหนดถึงความสอดคล้อง ระหว่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 หลักสูตรต้านทุจริต เพื่อให้ผู้บริหาร โรงเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจนและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สมตาม เจตนารมณ์ของหลักสูตรสถานศึกษาที่กำหนดไว้ในฉบับนี้ โรงเรียนบ้านคูขาด(สถิตย์อุปถัมภ์) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ก
สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ประกาศให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา ค ความนำ 1 ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนบ้านคูขาด(สถิตย์อุปถัมภ์) 2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ 2 มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 3 ตารางวิเคราะห์มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 5 การจัดเวลาเรียน 16 สาระการเรียนรู้รายปี 17 ผังมโนทัศน์สาระที่ควรเรียนรู้ 74 การจัดประสบการณ์ 87 การจัดสภาพแวดล้อม สื่อและแหล่งเรียนรู้ 94 การประเมินพัฒนาการ 95 การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย 96 การเชื่อมต่อของการศึกษา 101 ภาคผนวก คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย ข
ประกาศโรงเรียนบ้านคูขาด (สถิตย์อุปถัมภ์) เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 256๗ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี) พุทธศักราช 2560 หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เป็นหลักสูตรแกนกลางที่กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 โดยให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการจัดทำหลักสูตร สถานศึกษาซึ่งได้กำหนดปรัชญาการศึกษาไว้ชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ และ ธรรมชาติของเด็ก ซึ่งพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมกระบวนการ เรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กปฐมวัยทุกประเภท ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูควบคู่กับ การให้การศึกษา พัฒนาเด็กโดยเน้นการเล่นบนพื้นฐานของหลักการจัดกิจกรรม จัดประสบการณ์การ เรียนรู้ให้เอื้ออาทร ต่อการดำรงชีวิตตลอดจนผสานร่วมมือระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน และสถานศึกษา ซึ่ง กำหนดให้จุดมุ่งหมายของหลักสูตรเป็นมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 12 ประการ โดยครอบคลุม พัฒนาการทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา โรงเรียนบ้านคูขาด (สถิตย์ อุปถัมภ์) ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 256๗ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (สำหรับเด็กอายุ 3 -6 ปี) พุทธศักราช 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ สนองนโยบาย คุณธรรมนำความรู้ ตอบสนอง ความต้องการของผู้เรียน ชุมชน ท้องถิ่นและสังคม ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ เป็น โรงเรียนคุ้มครองเด็กโดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงเรียนเกิดระบบในการเฝ้าระวังเด็กกลุ่มเสี่ยงคุ้มครองเด็กที่ กำลังเผชิญปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกคนเพื่อให้เด็กปลอดภัยจากอันตรายต่างๆในโรงเรียนทั้ง อันตรายจากบุคคลและสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยอาศัยความร่วมมือจาก ผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวัน ที่ 1๖ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕6๗ จึงประกาศให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1๖ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.256๗ …………………………… (นายสมจิต เกตพิบูลย์) (นายอนุชิต อุปแก้ว) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคูขาด(สถิตย์อุปถัมภ์) ค
ความนำ กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยกำหนดมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์บนแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัยควบคู่กับความเป็นไทยสอดคล้องกับ ความต้องการของสังคม วัฒนธรรม สภาพเศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพของเด็ก ปฐมวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพต่อไป จากการติดตามประเมินผลการใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2565 พบว่า หลักสูตร การศึกษาปฐมวัยมีจุดดีหลายประการ เช่น เป็นหลักสูตรที่มีความเป็นเอกภาพ มีความยืดหยุ่นมีความเป็นสากล บนพื้นฐานความเป็นไทย กำหนดเฉพาะกรอบหลักสูตรให้สถานศึกษาจัดทำสาระของหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ได้เอง และหลักสูตรใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จากการติดตามประเมินผลการใช้หลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 ได้สะท้อนถึงประเด็นที่เป็นปัญหาและความไม่ชัดเจนของหลักสูตร ได้แก่ ปัญหาการวิเคราะห์หลักสูตรที่ขาดความเชื่อมโยงระหว่างพัฒนาการเด็กปฐมวัย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ และสาระการเรียนรู้ปัญหาความสับสนในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย สถานศึกษาส่วนใหญ่ กำหนดสาระการเรียนรู้ที่เน้นเนื้อหาความรู้มากกว่าประสบการณ์สำคัญที่หลักสูตรกำหนด รวมถึงปัญหาคุณภาพ ผู้เรียน จากผลการประเมินพัฒนาการนักเรียนที่จบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย นอกจากนี้ แผนการศึกษาชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552-2559) ได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการ ปรับเปลี่ยนจุดเน้นในการพัฒนาคุณภาพคนในสังคมไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมีความสุข เป็นคนดี เก่งและมีความสุข ซึ่งแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์การปฏิรูป การศึกษาที่ต้องการพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากล เด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง รักการอ่าน และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง มีคุณธรรมพื้นฐาน มีจิตสำนึกและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นแก่ ประโยชน์ส่วนรวมมีจิตสาธารณะ มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีทักษะในการคิดและปฏิบัติ มีความสามารถในการ แก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์ ให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนารอบด้านตามวัยอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรที่มีความทันสมัยต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคม สภาพเศรษฐกิจ การเมือง มีความชัดเจนเหมาะสมทั้งมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพของ เด็กปฐมวัยและกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา เอกสารหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านคูขาด(สถิตย์อุปถัมภ์) พุทธศักราช 256๗ จัดทำขึ้นเพื่อจะได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกคน ร่วมกันเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๒ พุทธศักราช 256๗ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ซึ่งเป็นหลักสูตรแกนกลาง จะประสบความสำเร็จได้ตาม เป้าหมายที่คาดหวัง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลที่รับผิดชอบร่วมกันโดย ร่วมกันทำดงานอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบในการวางแผนดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจน ปรับปรุงแก้ไข เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กปฐมวัยพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อ ตนเองและสังคมต่อไป
ปรัชญา โรงเรียนบ้านคูขาด (สถิตย์อุปถัมภ์) จัดการพัฒนาเด็กอายุ 3-6 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้ ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนให้เต็มศักยภาพ โดยครูจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่หลากหลาย ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัติ ด้วยความรักความเข้าใจ ด้วยการมีส่วนร่วมระหว่าง สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วิสัยทัศน์ ภายในปี 2566 โรงเรียนบ้านคูขาด (สถิตย์อุปถัมภ์) มุ่งพัฒนาเด็กอายุ 3-6 ปี ให้มีพัฒนาการด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เหมาะสมกับวัย เน้นให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัติ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเหมาะสมกับวัยและบริบทของตน ผู้ปกครอง ชุมชน มี ส่วนร่วมพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการรอบด้านอย่างสมดุล เต็มตามศักยภาพ มีเจตคติที่ดีต่อท้องถิ่น สนใจใฝ่รู้ และ เรียนรู้อย่างมีความสุข ได้รับสิทธิและความคุ้มครองให้เด็กปลอดภัยทั้งในและนอกบริเวณโรงเรียน พันธกิจ 1. พัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างสมดุล และเต็มศักยภาพ มีเจตคติที่ดีต่อท้องถิ่น สนใจ ใฝ่รู้และเรียนรู้อย่างมีความสุข ได้รับสิทธิและความคุ้มครองให้เด็กปลอดภัยทั้งในและนอกบริเวณโรงเรียน 2. พัฒนาครูและบุคลากรให้สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายผ่านการเล่น สอดคล้องกับ พัฒนาการเด็ก 3. นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเหมาะสมกับวัย และบริบทของสถานศึกษา 4. นำสื่อ เทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเด็กปฐมวัย 5. ให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมพัฒนาเด็กปฐมวัย 6. พัฒนาเด็กร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนคุ้มครองเด็ก เป้าหมาย 1. เด็กปฐมวัยทุกคน มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาอย่างสมดุลและเต็ม ศักยภาพ มีเจตคติที่ดีต่อท้องถิ่น สนใจใฝ่รู้ และเรียนรู้อย่างมีความสุข ได้รับสิทธิและได้รับความคุ้มครองตาม มาตรฐานโรงเรียนคุ้มครองเด็ก 2. ครูทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และประเมินพัฒนาการการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย ผ่านการเล่นสอดคล้องกับพัฒนาการเด็ก 3. ครูทุกคนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดประสบการณ์ปฐมวัยอย่างเหมาะสม กับวัยและบริบทสถานศึกษา 4. สถานศึกษามีสภาพแวดล้อม สื่อเทคโนโลยีแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการเด็ก 5. มีเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชน ให้ความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยด้วยวิธีการที่ หลากหลาย 6. มีเครือข่ายโรงเรียนคุ้มครองเด็ก
อัตลักษณ์ เป็นโรงเรียนคุ้มครองเด็กโดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงเรียนเกิดระบบในการเฝ้าระวังเด็กกลุ่มเสี่ยง คุ้มครองเด็กที่กำลังเผชิญปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกคนเพื่อให้เด็กปลอดภัยจากอันตรายต่างๆในโรงเรียน ทั้งอันตรายจากบุคคลและสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยอาศัยความร่วมมือจาก ผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานโรงเรียนคุ้มครองเด็ก มาตรฐานที่ 1 นักเรียนมีความปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและบุคคลที่อาจก่ออันตรายต่อนักเรียนใน โรงเรียน มาตรฐานที่ 2 นักเรียนได้รับการเฝ้าระวัง การดูแล การช่วยเหลือและการคุ้มครองให้นักเรียนปลอดภัยทั้งใน และนอกบริเวณโรงเรียน มาตรฐานที่ 3 การประสานความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน และหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานโรงเรียนคุ้มครองเด็ก เอกลักษณ์ มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง ความปลอดภัยจากบุคคล ความปลอดภัยจากรถรับ-ส่งนักเรียน ความปลอดภัยจากอาคารสถานที่ ความปลอดภัยจากสนามเด็กเล่นและสนามกีฬา ความปลอดภัยจากอุปกรณ์ การเรียนการสอน จุดหมาย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยเต็มตามศักยภาพและมี ความพร้อม ในการเรียนรู้ต่อไป จึงกำหนดจุดหมายเพื่อให้เข้ากับเด็กเมื่อจบการศึกษาระดับปฐมวัย ดังนี้ 1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี 2. สุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม 3. มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัยและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ความสุข 4. มีทักษะการคิด การใช้ภาษาสื่อสาร และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย 5. มีทักษะพื้นฐาน ทักษะปฏิบัติและทักษะกำกับตนเองในการพัฒนาสมองส่วนหน้าของเด็ก (Executive Function) ๖. มีทักษะการป้องกันการทุจริต ระดับปฐมวัย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ ๓-๖ ปี กำหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ จำนวน ๑๒ มาตรฐานที่ครอบคลุมพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ประกอบด้วย ๑. พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สัมพันธ์กัน ๒. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม
๓. พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๔. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย ๔ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มาตรฐานที่ ๑0 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ ตัวบ่งชี้ เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์ เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิดบนพื้นฐานพัฒนาการ ตามวัยหรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุ เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดสาระการเรียนรู้ในการจัด ประสบการณ์และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ และ สภาพที่พึงประสงค์ ดังนี้ เด็กอายุ ๓ - ๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย - ยอมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำที่สะอาดเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วมเมื่อมีผู้ชิ้แนะ - นอนพักผ่อนเป็นเวลา - ออกกำลังกายเป็นเวลา - เล่นและทำกิจกรรมอย่างปลอดภัยเมื่อมีผู้ชี้แนะ - เดินตามแนวที่กำหนดได้ - กระโดดสองขา ขึ้นลงอยู่กับที่ได้ - วิ่งแล้วหยุดเองได้ - รับลูกบอลโดยใช้มือและลำตัวช่วย - ใช้กรรไกรตัดกระดาษขาดจากกันได้โดยใช้มือเดียว - เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ - ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑ ช.ม.ได้
พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์ - กล้าพูดกล้าแสดงออก - แสดงความพอใจในผลงานตนเอง - สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ - สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและดนตรี - บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของตนเองและสิ่งใดเป็นของผู้อื่น - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์เลี้ยงแบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึกผู้อื่น - ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จเมื่อมีช่วยเหลือ พัฒนาการด้านสังคม - แต่งตัวโดยมีผู้ช่วยเหลือ - รับประทานอาหารด้วยตนเอง - ใช้ห้องน้ำห้องส้วมโดยมีผู้ช่วยเหลือ - เก็บของเล่น ของใช้เข้าที่เมื่อมีผู้ชี้แนะ - เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้เมื่อมีผู้ชี้แนะใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและพอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะทิ้งขยะได้ถูกที่ - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษเมื่อมีผู้ชี้แนะ - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน - เล่นร่วมกับเพื่อน - ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่ และบุคคลที่คุ้นเคยได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ยอมรับการประนีประนอมแก้ไขปัญหาเมื่อมีผู้ชี้แนะ
พัฒนาการด้านสติปัญญา -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและพูดโต้ตอบเกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง - เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้นๆ - อ่านภาพและพูดข้อความด้วยภาษาของตนเอง - เขียนขีดเขี่ยอย่างมีทิศทาง - บอกลักษณะของสิ่งต่าง ๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส - จับคู่หรือเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ลักษณะ หรือหน้าที่การใช้งานเพียงลักษณะเดียว - คัดแยกสิ่งต่างๆตามลักษณะหรือหน้าที่การใช้งาน - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย ๓ ลำดับ - ระบุผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทำเมื่อมีผู้ชี้แนะ - คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆ - แก้ปัญหาโดยลองผิดลองถูก - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง - สนใจฟังหรืออ่านหนังสือด้วยตนเอง - กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ใช้ประโยคคำถามว่า "ใคร" "อะไร" ในการค้นหาคำตอบ เด็กอายุ ๔ - ๕ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำสะอาด - ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วยตนเอง - นอนพักผ่อนเป็นเวลา - ออกกำลังกายเป็นเวลา - เล่นและทำกิจกรรมอย่างปลอดภัยด้วยตนเอง - เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ได้ โดยไม่ต้องกางแขน - กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้โดยไม่เสียการทรงตัว -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ - รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง - ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นตรงได้ - เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้อย่างมีมุมชัดเจน - ร้อยวัสดุที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕ ซ.ม.ได้
พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ตามสถานการณ์ - กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมบางสถานการณ์ - แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเอง - สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ - สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและดนตรี - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการสิ่งของของผู้อื่นเมื่อมีผู้ชี้แนะ - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์เลี้ยง - ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - แสดงสีหน้าและท่าทางรับรู้ความรู้สึกผู้อื่น - ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จเมื่อมีผู้ขี้แนะ พัฒนาการด้านสังคม - แต่งตัวด้วยตนเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเอง - ใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วยตนเอง - เก็บของเล่น ของใช้เข้าที่ด้วยตนเอง - เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ด้วยตนเอง - ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและพอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ - มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ทิ้งขยะได้ถูกที่ - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ด้วยตนเอง - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษด้วยตนเอง - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน - เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม - ยิ้ม ทักทาย หรือพูดคุยกับผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคยได้ด้วยตนเอง - มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามได้ด้วยตนเอง - ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดยปราศจากการใช้ความรุนแรงเมื่อมีผู้ชี้แนะ
พัฒนาการด้านสติปัญญา - ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบสอดคล้องกับเรื่องที่ฟัง - เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง - อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ พร้อมทั้งขี้หรือกวาดสายตามองข้อความตามบรรทัด - เขียนคล้ายตัวอักษร - บอกลักษณะและส่วนประกอบของสิ่งต่าง ๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส - จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียง ลักษณะเดียว - จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่าง ๆ โดยใช้อย่างน้อย ๑ ลักษณะเป็นเกณฑ์ - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย ๔ ลำดับ - ระบุสาเหตุ หรือผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทำเมื่อมีผู้ชี้แนะ - คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหรือมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูล - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและเริ่มเรียนรู้ผลที่เกิดขึ้น - ระบุปัญหา และแก้ปัญหาโดยลองผิดลองถูก - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเองโดยมีการดัดแปลงและแปลกใหม่ จากเดิมหรือมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเองอย่างหลากหลายหรือแปลกใหม่ - สนใจซักถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์หรือตัวหนังสือที่พบเห็น - กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการของตนเอง - ใช้ประโยคคำถามว่า "ที่ไหน" "ทำไม" ในการคันหาคำตอบ เด็กอายุ ๕ - ๖ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้หลายชนิดและดื่มน้ำสะอาดได้ด้วยตนเอง - นอนพักผ่อนเป็นเวลา - ออกกำลังกายเป็นเวลา - เล่น ทำกิจกรรมและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย - เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรงได้โดยไม่ต้องกางแขน - กระโดดขาเดียวไปข้างหน้า ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เสียการทรงตัว - วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่ว - รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ - ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งได้ - เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้อย่างมีมุมชัดเจน - ร้อยวัสดุที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า ๐.๒๕ ช.ม.ได้ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม - กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ - แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเองและผู้อื่น - สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ - สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและดนตรี - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการสิ่งของของผู้อื่นด้วยตนเอง - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์เลี้ยง - ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ด้วยตนเอง - แสดงสีหน้าและท่าทางรับรู้ความรู้สึกผู้อื่นอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ - ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จด้วยตนเอง พัฒนาการด้านสังคม - แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่างคล่องแคล่ว - รับประทานอาหารด้วยตนเองอย่างถูกวิธี - ใช้และทำความสะอาดหลังใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วยตนเอง - เก็บของเล่น ของใช้เข้าที่อย่างเรียบร้อยด้วยตนเอง - เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ด้วยตนเอง - ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและพอเพียงด้วยตนเอง - ดูแลรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง - ทิ้งขยะได้ถูกที่ - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ถูกต้องตามกาลเทศะ - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษด้วยตนเอง - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน - เล่นหรือทำงานร่วมมือกับเพื่อนอย่างมีเป้าหมาย - ยิ้ม ทักทาย และพูดคุยกับผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคยได้เหมาะสมกับสถานการณ์ - มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติตามข้อตกลงด้วยตนเอง - ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามได้เหมาะสมกับสถานการณ์ - ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดยปราศจากการใช้ความรุนแรงด้วยตนเอง พัฒนาการด้านสติปัญญา - ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับเรื่องที่ฟัง - เล่าเป็นเรื่องราวต่อเนื่องได้ - อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ ด้วยการขี้หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้นและจุดจบของข้อความ - เขียนชื่อของตนเองตามแบบ เขียนข้อความด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง - บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงหรือความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ จากการสังเกต - โดยใช้ประสาทสัมผัส - จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของสิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบ ๒ ลักษณะขึ้นไป
- จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ตั้งแต่ ๒ ลักษณะขึ้นไปเป็นเกณฑ์ - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย ๕ ลำดับ - อธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทำด้วยตนเอง - คาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและยอมรับผลที่เกิดขึ้น - ระบุปัญหาสร้างทางเลือก และเลือกวิธีแก้ปัญหา - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง โดยมีการดัดแปลงและแปลกใหม่ - จากเดิมหรือมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเองอย่างหลากหลายหรือแปลกใหม่ - สนใจหยิบหนังสือมาอ่าน และเขียนสื่อความคิดด้วยตนเองเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง - กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่ต้นจนจบ - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการที่หลากหลายด้วยตนเอง - ใช้ประโยคคำถามว่า "เมื่อไหร่" "อย่างไร" ในการค้นหาคำตอบ
ตารางวิเคราะห์มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน ๕ ตัวบ่งชี้ ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี มี ๓ ตัวบ่งชี้ คือ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย - น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒ มีสุขภาพอนามัย สุขนิสัยที่ดี สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ยอมรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์และดื่มน้ำที่สะอาด เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - รับประทานอาหารที่มี ประโยชน์ และดื่มน้ำสะอาด - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ หลายชนิดและดื่มน้ำสะอาดได้ด้วย ตนเอง - ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และ หลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วม เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - -ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วม ด้วย ตนเอง - ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และ หลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วม ด้วย ตนเอง - นอนพักผ่อนเป็นเวลา - น-นอนพักผ่อนเป็นเวลา - นอนพักผ่อนเป็นเวลา - ออกกำลังกายเป็นเวลา -ออกกำลังกายเป็นเวลา - ออกกำลังกายเป็นเวลา สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - เล่นและทำกิจกรรมอย่างปลอดภัย เมื่อมีผู้ชี้แนะ - เล่นและทำกิจกรรมอย่างปลอดภัย ด้วยตนเอง - เล่น ทำกิจกรรมและปฏิบัติต่อ ผู้อื่น อย่างปลอดภัย ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ มีน้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมพันธ์กันมี ๒ ตัว บ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่วประสานสัมพันธ์ และทรงตัวได้ ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๒ ใช้มือ – ตา ประสานสัมพันธ์กัน สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี -เดินตามแนวที่กำหนดได้ -เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงได้ โดยไม่ต้องกางแขน -เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรงได้ โดย ไม่ต้องกางแขน -กระโดดสองขา ขึ้นลงอยู่กับที่ได้ -กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้ โดยไม่เสีย การทรงตัว -กระโดดขาเดียวไปข้างหน้า ได้อย่าง ต่อเนื่องโดยไม่เสียการทรงตัว -วิ่งแล้วหยุดเองได้ - วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่าง คล่องแคล่ว -รับลูกบอลโดยใช้มือและ ลำตัวช่วย - รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง -รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ใช้กรรไกรตัดกระดาษขาดจากกันได้ โดยใช้มือเดียว -ใช้กรรไกรตัดกระดาษ ตามแนวเส้นตรง ได้ -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้ง ได้ - เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ -เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบ ได้อย่างมีมุม ชัดเจน -เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้อย่างมี มุมชัดเจน -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลาง ๑ ซ.ม.ได้ -ร้อยวัสดุที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕ซ.ม. ได้ -ร้อยวัสดุที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง เล็กกว่า ๐.๒๕ซ.ม.ได้
๒.พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน ๗ ตัวบ่งชี้ ได้แก่ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มี ๒ ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - กล้าพูดกล้าแสดงออก - กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่าง - กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่าง เหมาะสมบางสถานการณ์ เหมาะสมตามสถานการณ์ - แสดงความพอใจ - แสดงความพอใจ - แสดงความพอใจ ในผลงานตนเอง ในผลงานและความสามารถ ในผลงานและความสามารถ ของตนเอง ของตนเองและผู้อื่น สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - สนใจ มีความสุขและแสดงออก ผ่าน งานศิลปะ - สนใจ มีความสุขและแสดงออก ผ่าน งานศิลปะ - สนใจ มีความสุขและแสดงออก ผ่าน งานศิลปะ - สนใจ มีความสุข และแสดงออก ผ่าน เสียงเพลง ดนตรี - สนใจ มีความสุข และแสดงออก ผ่าน เสียงเพลง ดนตรี - สนใจ มีความสุข และแสดงออก ผ่าน เสียงเพลง ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี - สนใจมีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ - แสดงอารมณ์ ความรู้สึก เหมาะสมกับบางสถานการณ์ ตามสถานการณ์ ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ อย่างเหมาะสม ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๒ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว มี ๑ ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว
มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม มี ๔ ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๑ ชื่อสัตย์สุจริต - บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของ ตนเอง และสิ่งใดเป็นของผู้อื่น - ขออนุญาตหรือรอคอย เมื่อต้องการสิ่งของของผู้อื่นเมื่อมีผู้ ชี้แนะ - ขออนุญาตหรือรอคอย เมื่อต้องการ สิ่งของของผู้อื่นด้วย ตนเอง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา สัตว์เลี้ยง - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา สัตว์เลี้ยง - แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา สัตว์เลี้ยง - แบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่น1ได้ด้วย ตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๓ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ เมื่อมีช่วยเหลือ - ทำงานที่ได้รับมอบหมาย จนสำเร็จ เมื่อมีผู้ชี้แนะ - ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ ด้วยตนเอง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๒ มีเมตตากรุณา มีน้ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ ความรู้สึกผู้อื่น - แสดงสีหน้าและท่าทางรับรู้ ความรู้สึกผู้อื่น - แสดงสีหน้าและท่าทางรับรู้ ความรู้สึกผู้อื่นอย่างสอดคล้องกับ สถานการณ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๔ มีความรับผิดชอบ
3. พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน ๘ ตัวบ่งชี้ ได้แก่ มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิต และปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มี๓ ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๒ มีวินัยในตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด และพอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด และพอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด และพอเพียงด้วยตนเอง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - แต่งตัวโดยมีผู้ช่วยเหลือ - แต่งตัวด้วยตนเอง- แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่าง คล่องแคล่ว - รับประทานอาหารด้วยตนเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเอง- รับประทานอาหารด้วยตนเอง อย่าง ถกวิธี - ใช้ห้องน้ำห้องส้วมโดยมีผู้ช่วยเหลือ - ใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วยตนเอง -ใช้และทำความสะอาด หลังใช้ห้องน้ำ ห้องส้วมด้วยตนเอง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - เก็บของเล่น ของใช้เช้าที่ เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - เก็บของเล่น ของใช้เข้าที่ด้วยตนเอง - เก็บของเล่น ของใช้เข้าที่อย่าง เรียบร้อยด้วยตนเอง - เช้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้เมื่อมี ผู้ ชี้แนะ - เข้าแถวตามสำดับก่อนหลังได้ด้วย ตนเอง - เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ด้วย ตนเอง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย มี ๒ ตัวบ่งชี้ คือ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ด้วย ตนเอง - ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ ถูกต้อง ตามกาลเทศะ - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษเมื่อมีผู้ ชี้แนะ - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษด้วย ตนเอง - กล่าวคำขอบคุณและขอโทษด้วย ตนเอง - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและ เพลง สรรเสริญพระบารมี - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและ เพลงสรรเสริญพระบารมี - หยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติและ เพลง สรรเสริญพระบารมี มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่คือของสังคม ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มี ๓ ตัวบ่งชี้ คือ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติ - มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาติ - ดูแลรักษาธรรมชาติ และ และสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะ และสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะ สิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง - ทิ้งขยะได้ถูกที่ - ทิ้งขยะได้ถูกที่ - ทิ้งขยะได้ถูกที่ ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๒ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย และรักษาความเป็นไทย ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๑ ยอมรับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่ แตกต่างไปจากตน - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่ แตกต่างไปจากตน - เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่ แตกต่างไปจากตน
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒ มีปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่น ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ - มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและ ปฏิบัติ ตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ - มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติ ตามข้อตกลงด้วยตนเอง - ปฏิบัติตนเป็นผู้น่าและผู้ตาม เมื่อมีผู้ ชี้แนะ - ปฏิบัติตนเป็นผู้น่าและผู้ตามได้ ด้วย ตนเอง - ปฏิบัติตนเป็นผู้น่าและผู้ตามได้ เหมาะสมกับสถานการณ์ - ยอมรับการประมีประนอมแกไข ปัญหาเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ประมีประนอมแกไขปัญหาโดย ปราศจากการใช้ความรุนแรงเมื่อมีผู้ ชี้แนะ - ประมีประนอมแกไขปัญหาโดย ปราศจากการใช้ความรุนแรงด้วย ตนเอง สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - เล่นร่วมกับเพื่อน - เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อนเป็น กลุ่ม - เล่นหรือทำงานร่วมมือกับเพื่อน อย่าง มีเป้า,หมาย - ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่ และบุคคลที่ คุ้นเคยได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ - ยิ้ม ทักทาย หรือพูดคุยกับผู้ใหญ่ และบุคคลที่คุ้นเคยได้ด้วยตนเอง - ยิ้ม ทักทาย และพูดคุยกับผู้ใหญ่ และ บุคคลที่คุ้นเคยได้เหมาะสมกับ สถานการณ์
๔. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย ๔ มาตรฐาน ๙ ตัวบ่งชี้ ได้แก่ มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มี ๒ ตัวบ่งชี้คือตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และสัญลักษณ์ได้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี -ฟ้งผู้อื่นพูดจนจบและพูดโต้ตอบ เกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนา โต้ตอบสอดคล้องกับเรื่องที่ฟัง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบ อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับเรื่องที่ฟัง - เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้นๆ - เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง - เล่าเป็นเรื่องราวต่อเนื่องได้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - อ่านภาพและพูดข้อความด้วยภาษา ของตนเอง - อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ พร้อมทั้ง ชี้ หรือกวาดสายตามองข้อความ ตาม บรรทัด - อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ ด้วยการชี้ หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้นและ จุดจบ ของข้อความ - เขียนขีดเขี่ยอย่างมีทิศทาง - เขียนคล้ายตัวอักษร - เขียนชื่อของตนเองตามแบบ เขียน ข้อความด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง
มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ มี ๓ ตัวบ่งชี้คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๑ มีความสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - บอกลักษณะของสิ่งต่าง ๆ จากการ สังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส - บอกลักษณะและส่วนประกอบของ สิ่งต่าง ๆ จากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส - บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การ เปลี่ยนแปลงหรือความสัมพันธ์ของสิ่ง ต่าง ๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาท สัมผัส - จับคู่หรือเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ โดย ใช้ลักษณะ หรือหน้าที่การใช้งานเพียง ลักษณะเดียว -จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่าง หรือความเหมือนของสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ ลักษณะที่สังเกตพบ เพียงลักษณะ เดียว - จับคู่และเปรียบเทียบความ แตกต่าง หรือความเหมือนของสิ่ง ต่าง ๆ โดยใช้ ลักษณะที่สังเกตพบ ๒ ลักษณะขึ้นไป - คัดแยกสิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะหรือ หน้าที่การใช้งาน - จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่าง ๆ โดย ใช้อย่างน้อย ๑ ลักษณะเป็นเกณฑ์ จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ ตั้งแต่ ๒ ลักษณะขึ้นไปเป็นเกณฑ์ - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ อย่างน้อย ๓ ลำดับ - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ อย่างน้อย ๔ ลำดับ - เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ อย่างน้อย ๕ ลำดับ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชิงเหตุผล สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ระบุผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือ การ กระทำเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ระบุสาเหตุ หรือผลที่เกิดขึ้นใน เหตุการณ์หรือการกระทำเมื่อมีผู้ ขี้ แนะ - อธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่ เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทำ ด้วย ตนเอง - คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งที่อาจจะ เกิดขึ้น - คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งที่อาจจะ เกิดขึ้นหรือมีส่วนร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมูล - คาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และมี ส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูล อย่างมีเหตุผล
ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๓ มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และตัดสินใจ มาตรฐาน ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มี ๒ ตัวบ่งชี้คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๑ ทำงานศิลปะตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕ - ๖ ปี - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง โดยมี การดัดแปลงและแปลกใหม่ จากเดิม หรือมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น - สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง โดยมี การดัดแปลงและแปลกใหม่จากเดิม หรือมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง อย่าง หลากหลายหรือแปลกใหม่ - เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเองอย่าง หลากหลายหรือแปลกใหม่ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๔- ๕ ปี - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆ - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและเริ่ม เรียนรู้ผลที่เกิดขึ้น - ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและยอมรับผล ที่เกิดขึ้น - แก้ปัญหาโดยลองผิดลองถูก - ระบุปัญหา และแก้ปัญหาโดย ลอง ผิดลองถูก - ระบุปัญหาสร้างทางเลือก และ เลือก วิธีแก้ปัญหา
มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกับวัย มี ๒ ตัวบ่งชี้คือ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - สนใจฟังหรืออ่านหนังสือด้วยตนเอง - สนใจซักถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์ หรือตัวหนังสือที่พบเห็น - สนใจหยิบหนังสือมาอ่าน และเขียน สื่อความคิดด้วยตนเองเป็นประจำ อย่างต่อเนื่อง - กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม - กระตือรือร้นในการเช้าร่วม กิจกรรม - กระตือรือร้นในการเช้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๒ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓- ๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕- ๖ ปี - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตาม วิธีการเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการของตนเอง - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตาม วิธีการที่หลากหลายด้วยตนเอง -ใช้ประโยคคำถามว่า “ใคร” “อะไร” ในการด้นหาคำตอบ - ใช้ประโยคคำถามว่า “ที่ไหน” “ทำไม” ในการด้นหาคำตอบ -ใช้ประโยคคำถามว่า “เมื่อไหร่” “อย่างไร” ในการด้นหาคำตอบ
ประสบการณ์สำคัญ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนดประสบการณ์สำคัญเพื่อจะชี้แนะให้ครูเข้าใจว่าการจัดประสบการณ์การ เรียนรู้สำคัญที่ควรจัดสำหรับเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง เด็กปฐมวัยต้องทำอะไร เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างไร ดังนั้น เป็นหน้าที่ของครูที่ต้องนำประสบการณ์สำคัญทุกด้านไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการจัดประสบการณ์ จัด สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ และใช้เป็นแนวทางในการสังเกตพฤติกรรมของเด็กปฐมวัย ขณะเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ สำคัญทั้งนี้ ประสบการณ์สำคัญสำหรับเด็กปฐมวัยมี ดังนี้ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นกรสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาการ ใช้กล้ามเนื้อใหญ่กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาทในการทำกิจวัตร ประจำวันหรือการทำกิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและสุขอนามัย สุขนิสัย และการ รักษาความปลอดภัย ดังนี้ ๑.๑ การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ -การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ -การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ -การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ -การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ในการขว้าง -การจับ การโยน การเตะ -การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ ๑.๒ การใช้กล้ามเนื้อเล็ก -การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างสิ่งต่าง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก -การเขียนภาพและการเล่นกับสี -การปั้น -การประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ด้วยเศษวัสดุ -การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ ๑.๓ การรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตน -การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตรประจำวัน ๑.๔ การรักษาความปลอดภัย -การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตรประจำวัน -การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความปลอดภัย -การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างปลอดภัย -การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ต่าง ๆ ๑.๕ การตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างกายตนเอง -การเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมตนเองไปในทิศทางระดับและพื้นที่ -การเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวาง ๒. ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้แสดงออกทางอารมณ์ และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ ความเป็นตัวของ ตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม สุนทรียภาพ ความรู้สึกที่ดีต่อ ตนเอง และความเชื่อมั่นในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
๒.๑ สุนทรียภาพดนตรี - การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี - การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ - การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี - การเล่นบทบาทสมมติ - การทำกิจกรรมศิลปะต่างๆ - การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ๒.๒ การเล่น - การเล่นอิสระ -การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ - การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่นต่างๆ - การเล่นนอกห้องเรียน ๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม - การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ - การฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม - การร่วมสนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงจริยธรรม ๒.๔ การแสดงออกทางอารณ์ - การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น - การเล่นบูทบาทสมมติ - การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี - การร้องเพลง - การทำงานศิลปะ ๒.๕ การมีอัตลักษณ์เฉพาะตนและเชื่อว่าตนเองมีความสามารถ - การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของตนเอง ๒.๖ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น - การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นอกเห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้าหรือเสียใจและการช่วยเหลือ ปลอบโยนเมื่อผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ๓. ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับบุคคล และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวจากการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเล่นการทำงานกับ ผู้อื่น ฯลฯ การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ดังนี้ ๓.๑ การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง - การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน - การปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓.๒ การดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม - การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน - การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใช้อย่างคุ้มค่า - การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้แล้วมาใช้ช้ำหรือแปรรูปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ -การเพาะปลูกและการดูแลต้นไม้
- การเลี้ยงสัตว์ - การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ๓.๓ การปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย - การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบัติตนในความเป็นคนไทย - การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย - การประกอบอาหารไทย -การละเล่นพื้นบ้านของไทย ๓.๔ การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม -การร่วมกำหนดข้อตกลงของห้องเรียน -การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน -การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ -การดูแลห้องเรียนร่วมกัน -การร่วมกิจกรรมวันสำคัญ ๓.๕ การเล่นและทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ -การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น -การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น -การทำงานศิลปะแบบร่วมมือ ๓.๖ การแก้ปัญหาความขัดแย้ง -การมีส่วนร่วมในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา -การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ๓.๗ การยอมรับในความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล -การเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน ๔. ประสบการสำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่าง ๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อเปิด โอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การคิดเชิงเหตุผลการคิดรวบยอด เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว และมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ต่อไป ดังนี้ ๔.๑ การใช้ภาษา -การฟังเสียงต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม -การฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ -การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจอง บทร้อยกรอง หรือเรื่องราวต่าง ๆ -การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการ -การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง -การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ -การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่นและการกระทำต่าง ๆ -การอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด -การพูดเรียงลำดับคำเพื่อใช้ในการสื่อสาร -การอ่านหนังสือภาพ นิทานหลากหลายประเภท/รูปแบบ -การอ่านอย่างอิสระตามลำพัง การอ่านร่วมกัน การอ่านโดยมีผู้ชี้แนะ
-การเห็นแบบอย่างการอ่านที่ถูกต้อง -การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษร คำ และข้อความการอ่านและขี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัด จากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง - การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือคำคุ้นเคย - การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นคำผ่านการอ่านหรือเขียนของผู้ใหญ่ - การเดาคำ วลี หรือประโยคที่มีโครงสร้างช้ำ ๆ กันจากนิทาน เพลง คำคล้องจอง - การเล่นเกมทางภาษา - การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ถูกต้อง - การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอิสระ - การเขียนคำที่มีความหมายกับเด็ก/คำคุ้นเคย - การคิดสะกดคำและการเขียนเพื่อสื่อความหมายด้วยตนเองอย่างอิสระ ๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา - การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ โดย - ใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม - การสังเกตสิ่งต่าง ๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างกัน - การบอกและแสดงตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสิ่งต่าง ๆ ด้วยการกระทำ - ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ -การเล่นกับสื่อต่าง ๆ ที่เป็นทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย -การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจำแนกสิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะ และรูปร่าง รูปทรง -การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้สมบูรณ์ และการแยกส่วน -การทำซ้ำ การต่อเติม และการสร้างแบบรูป -การนับและแสดงจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน -การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนของสิ่งต่าง ๆ -การวมและแยกสิ่งต่าง ๆ -การบอกและแสดงอันดับที่ของสิ่งต่าง ๆ -การชั่ง ตวง วัดสิ่งต่าง ( โดยใช้เครื่องมือและหน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน ) -การจับคู่ การเปรียบเทียบ และการเรียงลำดับสิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะความยาว/ความสูง น้ำหนัก ปริมาตร -การบอกและเรียงลำดับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ตามช่วงเวลา -การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน -การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทำ -การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล -การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล -การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา ๔.๓ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ -การรับรู้และแสดงความคิด ความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน -การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ -การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่าง รูปทรงจากวัสดุที่หลากหลาย
๔.๔ เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการแสวงหาความรู้ -การสำรวจสิ่งต่าง ๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว -การตั้งคำถามในเรื่องที่สนใจ -การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ -การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรู้ใน รูปแบบต่างๆ และแผนภูมิอย่างง่าย ระยะเวลาเรียน โรงเรียนบ้านคูขาด (สถิตย์อุปถัมภ์) จัดการศึกษาให้กับเด็กปฐมวัย โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ๑. การศึกษาปฐมวัย อายุ ๓ - ๔ ปี ๒. การศึกษาปฐมวัย อายุ ๔ - ๕ ปี ๓. การศึกษาปฐมวัย อายุ ๕ - ๖ ปี กำหนดเวลาเรียนเป็น 2 ภาคเรียน 1 ปีการศึกษา หรือไม่น้อยกว่า 180 วัน : ปีการศึกษา ในแต่ละ วันจะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง กิจกรรม อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ - ๖ ปี ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและวังหวะ ๖๖ ชั่วโมง/ปี ๘๓ ชั่วโมง/ปี ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี ๑๑๗ ชั่วโมง/ปี ๑๓๔ ชั่วโมง/ปี (กิจกรรมในวงกลม) ๓. กิจกรรมสร้างสรรค์ ๖๖ ชั่วโมง/ปี ๘๓ ชั่วโมง/ปี ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี ๔. กิจกรรมเสรี ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี ๑๑๗ ชั่วโมง/ปี ๑๓๔ ชั่วโมง/ปี ๕. กิจกรรมกลางแจ้ง ๖๖ ชั่วโมง/ปี ๘๓ ชั่วโมง/ปี ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี ๖. เกมการศึกษา ๖๖ ชั่วโมง/ปี ๘๓ ชั่วโมง/ปี ๑๐๐ ชั่วโมง/ปี หมายเหตุ ระยะเวลาในการวัดกิจกรรมประจำวันแต่ละกิจกรรม กำหนดให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก สามารถยืดหยุ่นได้ตามความต้องการและความสนใจของเด็ก ตารางกำหนดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย อายุ ๓ - ๖ ปี
สาระการเรียนรู้รายปี/รายชั้น ระดับอนุบาลชั้นปีที่ ๒ ลำดับ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง จำนวน ชั่วโมง ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ๑. ความหมายของของใช้ส่วนตัวและของใช้ ส่วนรวมในห้องเรียน ๒.การจำแนกของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวม ในห้องเรียน ๓.การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและ ของใช้ส่วนรวม (การแบ่งปันของเล่นของใช้) ๔.การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและ ของใช้ส่วนรวม (การเข้าแถว) ๕.การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและ ของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน (การรับประทาน อาหาร การดื่มนม) ๖.การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของ ใช้ส่วนรวมในห้องเรียน (การแปรงฟันและการ ล้างมือ) ๗. การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและ ของใช้ส่วนรวมในห้องเรียนการมีระเบียบวินัย ในตนเอง (การตรงต่อเวลา) ๘. การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและ ของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน (การใช้น้ำใช้ไฟ อย่างประหยัดและถูกวิธี) ๙.ความซื่อสัตย์สุจริต (การพูดความจริงไม่ โกหก) ๑๐. มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม (ความซื่อสัตย์) ๑๑. มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ๑๒. รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และ ความเป็นไทย ๑๓. การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและ ปฏิบัติเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม (การยอมรับ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล) ๑๔. ความหมายและการแยกแยะของระบบคิด ฐานสอง และระบบคิดฐานสิบ ๑๔
ลำดับ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง จำนวน ชั่วโมง ๒ ความละอายและความไม่ทน ต่อการทุจริต ๑. ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ๒. การเก็บของเล่น ๓. ความละอายและไม่แชงคิวผู้อื่น ๔. การเก็บของเล่นของใช้ส่วนตนอย่างถูกวิธี ๕. ความรับผิดชอบต่อการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย ๖. ความละอายและไม่แย่ง หรือขโมยของใช้ผู้อื่น ๗. การแบ่งปัน ๘. กิจวัตรประจำวัน ๙. ข้อดีและข้อเสียของกิจวัตรประจำวัน ๑๓ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ๑. Sufficient : ความหมายของความพอเพียง ๒. Transparent : ความหมายของความ โปร่งใส ๓. Realise/Knowledge : ความหมายของ ความตื่นรู้และความรู้ ๔. Onward : ความหมายของการมุ่งไป ข้างหน้า ๕. Generosity : ความหมายของความเอื้ออาทร ๖. ความหมายของการต้านทุจริต ๗. การรับประทานอาหารที่สอดคล้องกับ STRONG ๘. การช่วยเหลือเพื่อนที่สอดคล้องกับ STRONG ๙. การใช้กระดาษที่สอดคล้องกับ STRONG ๙ ๔ พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม ๑. ความรับผิดชอบต่อตนเอง (การแปรงฟัน) ๒. ความรับผิดชอบต่อตนเอง (การแต่งกาย) ๓. ความรับผิดชอบต่อตนเอง (การรับประทาน อาหาร) ๔. ความรับผิดชอบต่อสังคม (การทำความ สะอาดในห้องเรียน) ๔ รวม ๔๐ *หมายเหตุ๑. การจัดประสบการณ์แต่ละกิจกรรมจะใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ๒. จำนวนเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ สถานศึกษาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องมีเวลาเรียนทั้ง ๔ หน่วยการเรียนรู้ รวม ๔0 ชั่วโ
สาระที่ควรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก รายละเอียด เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษาร่างกายให้ สะอาดและมีสุขภาพอนามัยดี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การรักษาความปลอดภัยของตนเองรวมทั้ง การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ ดีของครอบครัวและโรงเรียนการเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่นการรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟัง ความคิดเห็นผู้อื่น การกำกับตนเอง การเล่นและ ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองตามลำพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้ เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสะท้อนการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของตนเอง และผู้อื่น การ แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่างเหมาะสม การแสดงมารยาทที่ดี การมีคุณธรรม จริยธรรม ตารางวิเคราะห์สาระย่อย อายุ ๔ - 5 ปี หน่วยที่ ๑ แรกรับประทับใจ ๑.ชื่อ-สกุล ความหมาย คำนำหน้าชื่อ (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง ความหมายของ ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน) ๒.ชื่อเล่นชื่อจริงของเพื่อน (มฐ.3.1.1 ข เด็กมีน้ำหนักตัวเหมาะสมตามวัย และสูงดีสมส่วน กิจกรรมที่ ๑.๑ ชั่ง น้ำหนัก) ๓.ชื่อเล่น-ชื่อจริงคุณครูประจำชั้น ๔.ชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ๕.สถานที่ตั้งโรงเรียน (ชุมชน ตำบล อำเภอ) หน่วยที่ ๒ แรกรับประทับใจ ๑.ชื่อ-สกุล ความหมาย คำนำหน้าชื่อ (มฐ.3.1.1 ข เด็กมีน้ำหนักตัวเหมาะสมตามวัย และสูงดีสมส่วน กิจกรรม ที่ ๑.๒ วัดส่วนสูง , มฐ. 3.5.4 ข เด็กมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ที่แสดงออกได้สมวัย กิจกรรมที่ ๘ ฉันคือใคร) ๒.ชื่อเล่นชื่อจริงของเพื่อน (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวม การแบ่งปันของเล่นของใช้) ๓.ชื่อเล่น-ชื่อจริงคุณครูประจำชั้น ๔.ชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ๕.สถานที่ตั้งโรงเรียน (ชุมชน ตำบล อำเภอ) เหน่วยที่ ๓ เด็กดีมีวินัย ๑.ของใช้ส่วนตัวเด็ก (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง การจำแนกของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน) ๒.สัญลักษณ์ประจำตัว (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๔ จับดินสอ (FM) ) ๓.การเก็บของเข้าที่ เก็บวัสดุอุปกรณ์(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง การเก็บของเล่น) ๔.การปฏิบัติตนในการใช้ห้องน้ำอย่างถูกวิธี ๕.การปฏิบัติตนตามข้อตกลงของห้องเรียน โรงเรียน (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวม การเข้าแถว)
หน่วยที่ ๔ อวัยวะและการดูแลรักษา ๑.หน้าที่ของอวัยวะ ตา หู จมูก ปาก มือ เท้า ๒.การดูแลรักษาอวัยวะ ตา หู จมูก ปาก มือ เท้า (มฐ. 3.1.2 ข เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพ ตนเองตาม วัย กิจกรรมที่ ๓ มือสะอาดปราศจาคโรค) ๓.การป้องกันและรักษาโรคตาแดง ๔.การป้องกันและรักษาโรคที่เกิดกับหู จมูก ๕.การป้องกันและดูแลรักษา มือ เท้า ปาก โรงเรียน (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน การรับประทานอาหาร การดื่มนม) หน่วยที่ ๕ กินดี อยู่ดี มีสุข ๑.อาหารดีมีประโยชน์(มฐ. 3.1.2 ข เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพ ตนเองตามวัย กิจกรรมที่ ๒ อาหารดี มีประโยชน์) ๒.ความสำคัญและประโยชน์ของการรับประทานอาหาร (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๑ ตอบคำถาม บอกความต้องการ (EL) ) ๓.การล้างมืออย่างถูกวิธี(หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน การแปรงฟันและการล้าง มือ) ๔.การแปรงฟันและการทำความสะอาดร่างกาย (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง ความรับผิดชอบต่อตนเอง การแปรงฟัน) (มฐ. 3.1.3 ข เด็กมีสุขภาพช่องปากดี ไม่มีฟันผุกิจกรรมที่ ๗ ฟ.ฟันสะอาดจัง ๕.สุขนิสัยในการขับถ่าย (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๒ ทำความสะอาด ตนเองหลังจากอุจจาระ (PS) ) หน่วยที่ ๖ ขยับกายสบายชีวี ๑.ประโยชน์ของการพักผ่อน (มฐ. 3.1.2 ข เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพ ตนเองตามวัย กิจกรรมที่ ๔ เรียนรู้การนอนพักผ่อนเป็นเวลา) ๒.ประโยชน์ของการออกกำลังกาย (มฐ. 3.1.2 ข เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพ ตนเองตามวัย กิจกรรมที่ ๕ เรียนรู้การออกกำลังกายเป็นเวลา) ๓.การปฏิบัติตนในการออกกำลังกายและการพักผ่อน (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อ การทุจริต เรื่อง กิจวัตรประจำวัน) (มฐ. 3.7.3 ข เด็กสามารถเล่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นกลุ่ม เป็นได้ทั้ง ผู้นำและผู้ตาม แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์กิจกรรมที่ ๕ ออกกำลังกาย) ๔.ประเภทของการออกกำลังกาย (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๘ กระโดด สองเท้าพร้อมกันไปด้านข้างและถอยหลัง (GM) ) , (มฐ. 3.3.1 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ สามารถเคลื่อนไหว และทรงตัวได้ตามวัย กิจกรรมที่ ๒๗ กระโดดขาเดียว) ๕.การเล่นเครื่องเล่นสนาม
หน่วยที่ ๗ ปลอดภัยไว้ก่อน ๑.ความปลอดภัยในการเล่น (มฐ. 3.1.2 ข เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพ ตนเองตามวัย กิจกรรมที่ ๖ เล่น และเรียนรู้อย่างปลอดภัย) , (มฐ. 3.3.1 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ สามารถเคลื่อนไหว และ ทรงตัวได้ตามวัย กิจกรรมที่ ๒๘ วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ) , (มฐ. 3.3.1 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อ ใหญ่ สามารถเคลื่อนไหว และทรงตัวได้ตามวัย กิจกรรมที่ ๒๙ รับลูกบอลโดยใช้มือทั้งสองข้าง) ๒.ความปลอดภัยในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและของมีคม (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนร่วมใน ห้องเรียน การใช้น้ำใช้ไฟอย่างประหยัดและถูกวิธี) ๓.ความปลอดภัยในการใช้ยา ๔.ความปลอดภัยบนท้องถนน ๕.ความปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่น หน่วยที่ ๘ หนูน้อยนักสัมผัส ๑.การมองเห็น (มฐ. 3.3.2 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และประสานงานระหว่างมือกับตา ตามวัย กิจกรรมที่ ๓๐ ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นตรง ) ๒.การดมกลิ่น ๓.การได้ยิน ๔.การชิมรส (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง การรับประทานอาหารที่สอดคล้อง กับ STRONG ๕.การสัมผัส หน่วยที่ ๙ หนูน้อยน่ารัก ๑.มารยาทในการรับประทานอาหาร (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง ความ รับผิดชอบต่อตนเอง การรับประทานอาหาร) ๒.มารยาทในการฟัง พูด (มฐ. 3.7.4 ข เด็กภาคภูมิใจที่เป็นสมาชิกที่ดีในครอบครัว ชุมชน สถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย และตระหนักถึงความเป็นพลเมืองดีของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน กิจกรรมที่ ๘ เด็กดีมี มารยาท) ๓.มารยาทในการเดินผ่านผู้ใหญ่ ๔.การนั่งอย่างถูกวิธี ๕.การนอนอย่างถูกวิธี หน่วยที่ ๑๐ หนูทำได้ ๑.มารยาทในการไหว้ผู้ใหญ่ (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม ความซื่อสัตย์) ๒.มารยาทในการกราบผู้ใหญ่ ๓.มารยาทในการกราบพระ ๔.มารยาทในการรับของ ส่งของ ๕.มารยาทในการเดิน (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้านกิจกรรมที่ ๑๓ เดินต่อส้นเท้า (GM) )(มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้านกิจกรรมที่ ๑๘ เดินเท้าเป็นเส้นตรงไปข้างหน้า (GM) ) (มฐ. 3.3.1 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ สามารถเคลื่อนไหว และทรงตัวได้ตามวัย กิจกรรมที่ ๒๖ เดินต่อเท้าไปข้างหน้า)
สาระที่ควรเรียนรู้ ๒ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก รายละเอียด เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และบุคคลต่างๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้อง หรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน สถานที่สำคัญ วันสำคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนาแหล่ง วัฒนธรรมในชุมชน สัญลักษณ์สำคัญของชาติไทยและการปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทยหรือ แหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่น ตารางวิเคราะห์สาระย่อย อายุ ๔ - ๕ ปี หน่วยที่ ๑๑ บ้านแสนสุข ๑.ความหมายและประโยชน์ของบ้าน (มฐ. 3.4.2 ข เด็กมีความสนใจและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสมวัย ซึ่ง รวมการเล่น การทำงาน ศิลปะ ดนตรี กีฬา กิจกรรมที่ ๔ เก้าอี้ดนตรี) ๒.พื้นที่และบริเวณรอบบ้าน ๓.ประเภทและส่วนประกอบของบ้าน ๔.ห้องต่างๆภายในบ้าน ๕.การรักษาความสะอาดบ้าน (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พลเมืจองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง ความ รับผิดชอบต่อสังคม การทำความสะอาดในห้องเรียน) หน่วยที่ ๑๒ ครอบครัวสุขสันต์ ๑.ความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัว (มฐ. 3.5.1 ข เด็กบอกเกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สถานที่แวดล้อม ธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็กได้สมวัย กิจกรรมที่ ๑ การเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง) ๒.หน้าที่ของบุคคลภายในครอบครัว ๓.การปฏิบัติตนที่ดีต่อบุคคลในครอบครัว(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต การพูดความจริงไม่โกหก) ๔.การมีส่วนร่วมของบุคคลในครอบครัว ๕.สิ่งที่จำเป็นต่อบุคคลในครอบครัว หน่วยที่ ๑๓ บ้านเรือนเคียงกัน ๑.ชื่อเพื่อนบ้านและความสำคัญของเพื่อนได้ ๒.การปฏิบัติตนต่อเพื่อนบ้าน ๓.การปฏิบัติตนในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง ความรับผิดชอบต่อตนเอง การแต่งกาย) ๔.การร่วมกิจกรรมกับเพื่อนบ้าน ๕.การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
หน่วยที่ ๑๔ โรงเรียนของฉัน ๑.ชื่อโรงเรียน ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนและสถานที่ตั้งของโรงเรียน ๒.อาคาร สถานที่ในโรงเรียน ๓.บุคคลและหน้าที่ของบุคคลภายในโรงเรียน ๔.การปฏิบัติตนการร่วมกิจกรรมภายในโรงเรียน(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วน ตนและผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียนการมี ระเบียบวินัยในตนเอง การตรงต่อเวลา) (มฐ. 3.7.4 ข เด็กภาคภูมิใจที่เป็นสมาชิกที่ดีในครอบครัว ชุมชน สถาน พัฒนาเด็กปฐมวัย และตระหนักถึงความเป็นพลเมืองดีของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน กิจกรรมที่ ๗ กิจกรรมหน้าเสาธง) ๕.การดูแลรักษาสถานที่ต่างๆภายในโรงเรียน หน่วยที่ ๑๕ ชุมชนน่าอยู่ ๑.ชื่อชุมชนและสถานที่สำคัญในชุมชน ๒.ความสำคัญของสถานที่ต่างๆในชุมชน ๓.การร่วมกิจกรรมในชุมชน ๔.การมีส่วนร่วมในชุมชน (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม การยอมรับความ เหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล) ๕.การดูแลสาธารณสมบัติที่ใช้ร่วมกันในชุมชน หน่วยที่ ๑๖ จังหวัดของเรา ๑.ชื่อสถานที่ตั้ง คำขวัญและตราประจำจังหวัด ๒.ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัด ๓.อาชีพและอาหารพื้นเมืองของจังหวัด (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔.สถานที่สำคัญของจังหวัด ๕.ศาสนาและประเพณีของจังหวัด หน่วยที่ ๑๗ อาชีพในฝัน ๑.ชื่ออาชีพ (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๙ ประกอบชิ้นส่วนของรูปภาพที่ ตัดออกเป็นส่วนๆ 8 ชิ้น (FM) ) ๒.หน้าที่และการแต่งกายของแต่ละอาชีพ ๓.สถานที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ๔.เครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพ ๕.ความรู้สึกที่ดีต่ออาชีพ (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง ความหมายขอว ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต)
หน่วยที่ ๑๘ สมาชิกประเทศอาเซียน ๑.ชื่อประเทศและธงชาติประเทศสมาชิกอาเซียน (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง ความหมายของความเอื้ออาทร) ๒.ดอกไม้ประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน ๓.ต้นไม้ประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน ๔.สัตว์ประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน (มฐ. 3.7.2 ข เด็กมีความเมตตา กรุณา มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อ ตนเองและส่วนรวม และมีค่านิยมที่พึงประสงค์สมวัย กิจกรรมที่ ๓ เกมแต่งตัว) ๕.เพลงประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน หน่วยที่ ๑๙ บ้านเราและเพื่อนบ้านอาเซียน ๑.สถานที่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยว ๒.อาชีพและสินค้าเศรษฐกิจ (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง ความหมายของการ ต้านทุจริต) ๓.ฤดูกาล ๔.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มฐ. 3.6.4 ข เด็กมีทักษะในการสื่อสารอย่างเหมาะสม ตามวัย โดยใช้ภาษาไทย เป็นหลัก และมี ความคุ้นเคยกับภาษาอื่นด้วย กิจกรรมมที่ ๑๔ ท้องถิ่นบ้านเรา) ๕.พิบัติภัยและภัยธรรมชาติ หน่วยที่ ๒๐ หนูน้อยช่างสงสัย
สาระที่ควรเรียนรู้ที่ ๓ ธรรมชาติรอบตัว รายละเอียด เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของ มนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ำ ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรงและพลังงานใน ชีวิตประจำวันที่แวดล้อมเด็ก รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรักษาสาธารณสมบัติ ตารางวิเคราะห์สาระย่อย อายุ ๔ - ๕ ปี หน่วยที่ ๒๑ สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ๑.ความหมายของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง ความละอายและไม่แซงคิวผู้อื่น) ๒.ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ๓.ประเภทของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ๔.ประโยชน์และโทษของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ๕.การดูแลและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต หน่วยที่ ๒๒ ฤดูหรรษา ๑.ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ชื่อฤดูกาล (มฐ. 3.5.5 ข เด็กมีความพยายาม มุ่งมั่นตั้งใจ ทำกิจกรรมให้สำเร็จสมวัย กิจกรรมที่ ๙ บัตรคำ) ๒.ฤดูร้อน ๓.ฤดูฝน ๔.ฤดูหนาว ๕.การปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับฤดูกาล (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง ความละอายและไม่แย่ง หรือ ขโมยของใช้ผู้อื่น) หน่วยที่ ๒๓ กลางวัน กลางคืน ๑.ความหมายของกลางวันกลางคืน (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง ความหมายและการแยกแยะของระบบคิดฐานสองและระบบคิดฐานสิบ) ๒.ลักษณะของกลางวัน ๓.การปฏิบัติตนในเวลากลางวัน (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๐ เลือกรูปภาพ ที่แสดงเวลากลางวัน กลางคืน (RL) ) ๔.ลักษณะของกลางคืน ๕.การปฏิบัติตนในเวลากลางคืน
หน่วยที่ ๒๔ สัตว์โลกน่ารัก ๑.ประเภทของสัตว์(มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๑ จับใจความจากการฟัง นิทานหรือเรื่องเล่า (RL) ๒.รูปร่างลักษณะของสัตว์ประเภทต่างๆ (มฐ. 3.4.1 ข เด็กแสดงออก ร่าเริง แจ่มใส รู้สึกมั่นคงปลอดภัย แสดง ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่นได้สมวัย กิจกรรมที่ ๒ ระบำเสียงสัตว์, มฐ. 3.4.1 ข เด็กแสดงออก ร่าเริง แจ่มใส รู้สึกมั่นคงปลอดภัย แสดงความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่นได้สมวัย กิจกรรมที่ ๓ ทายสิเสียงอะไร) ๓.อาหารของสัตว์แต่ละประเภท (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง การ แบ่งปัน) ๔.ที่อยู่อาศัยของสัตว์แต่ละประเภทฃ ๕.ประโยชน์ โทษและการดูแลสัตว์แต่ละประเภท หน่วยที่ ๒๕ ต้นไม้แสนรัก ๑.รูปร่างลักษณะของต้นไม้(มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๒ นับก้อนไม้ (EL) ) ๒.การเจริญเติบโตของต้นไม้ ๓.การขยายพันธุ์และการดูแลรักษาต้นไม้ ๔.การอนุรักษ์ต้นไม้(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง ความรับผิดชอบต่อการ ทำงานที่ได้รับมอบหมาย) ๕.ประโยชน์และโทษของต้นไม้ หน่วยที่ ๒๖ โลกของแมลง ๑.ชื่อประเภทของแมลง ( มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๓ อ่านออกเสียง พยัญชนะ ) ๒.รูปร่างลักษณะของแมลง ๓.ที่อยู่อาศัยและอาหารของแมลง (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง รักธรรมชาติ วัฒนธรรม และความเป็นไทย) ๔.ประโยชน์และโทษของแมลง ๕.การป้องกันตนเองจากแมลงที่มีพิษ หน่วยที่ ๒๗ ผัก ผลไม้ ๑.ชื่อรูปร่าง ลักษณะและสีของผัก (มฐ. 3.4.2 ข เด็กมีความสนใจและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสมวัย ซึ่งรวมการ เล่น การทำงาน ศิลปะ ดนตรี กีฬา กิจกรรมที่ ๕ ศิลป์สร้างสรรค์) ๒.ชนิดและส่วนประกอบของผัก (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง การรับประทาน อาหารที่สอดคล้องกับ STRONG ๓.ชนิดและส่วนประกอบของผลไม้ ๔.รูปร่างลักษณะและสีของผลไม้ ๕.วิธีการรับประทานและรสชาติของผัก และผลไม้
หน่วยที่ ๒๘ ข้าวมหัศจรรย์ ๑.ชนิดของข้าว (มฐ.3.5.1 ข เด็กบอกเกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สถานที่แวดล้อม ธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก ได้สมวัย กิจกรรมที่ ๒ บัตรภาพ) ๒.รูปร่างลักษณะของต้นข้าว (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓.ขั้นตอนการปลูกข้าว ๔.ประโยชน์ของข้าว ๕.การดูแลและการเก็บ หน่วยที่ ๒๙ โลกสวยด้วยมือเรา ๑.ความหมาย ประเภท สิ่งแวดล้อม (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง Sufficient : ความหมายของความพอเพียง) ๒.การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (มฐ. 3.7.3 ข เด็กสามารถเล่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นกลุ่ม เป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ ตาม แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์กิจกรรมที่ ๖ เล่นตามมุม) ๓.การดูแลสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น ๔.ความแตกต่างของสิ่งแวดล้อม ๕.ประโยชน์โทษของสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น
สาระที่ควรเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก รายละเอียด เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายในชีวิตประจำวันความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตรน้ำหนัก ส่วน ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การใช้งานและการเลือกใช้ สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการสื่อสารต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันอย่างประหยัด ปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม ตารางวิเคราะห์สาระย่อย อายุ ๔ - ๕ ปี หน่วยที่ ๓๐ เรารักประเทศไทย ๑.สัญลักษณ์ความเป็นไทย (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม เรื่อง รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย) ๒.การแต่งกาย ชุดประจำชาติ ๓.การขับร้องเพลงชาติไทย ๔.การสื่อสารด้วยภาษาไทย (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๕ แสดง ความรู้สึกเห็นใจ , มฐ. 3.6.1 ข เด็กสามารถฟัง พูด จับใจความ เล่า สนทนา และสื่อสารได้สมวัย กิจกรรมที่ ๑๑ ฉันมาทำอะไรที่นี่) ๕.การประกอบอาหารไทย หน่วยที่ ๓๑ ปลอดภัยในยานพาหนะ ๑.ความสำคัญของยานพาหนะ (มฐ. 3.7.1 ข เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างสมวัย และแสดงออกถึงการ ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล กิจกรรมที่ ๒ หนูน้อยนักเล่า ) ๒.การแยกประเภทของยานพาหนะ ๓.การใช้ยานพาหนะที่ถูกวิธี(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง การช่วยเหลือเพื่อนที่ สอดคล้องกับ STRONG) ๔.อันตรายจากยานพาหนะ ๕.การปฏิบัติตามกฎจราจร (มฐ. 3.7.1 ข เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างสมวัย และแสดงออกถึงการยอมรับ ความแตกต่างระหว่างบุคคล กิจกรรมที่ ๑ บทบาทสมมติ, มฐ. 3.7.2 ข เด็กมีความเมตตา กรุณา มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม และมีค่านิยมที่พึงประสงค์สมวัย กิจกรรมที่ ๔ เกมรถไฟ) หน่วยที่ ๓๒ สาระแห่งสีสัน ๑.ชื่อสี(มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๕ เลือกสีตามคำสั่ง (RL) ) ๒.ประเภทของสี ๓.สีที่ได้จากธรรมชาติ(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง การเก็บของเล่น ของใช้ส่วนตัวอย่างถูกวิธี) ๔.แม่สีและการผสมสีได้ ๓ สี ๕.ประโยชน์โทษของสี
หน่วยที่ ๓๓ สร้างฝันนักคิด ๑.เรียนรู้เรื่องจำวน ๑-๑๐ ๒.การวัดเปรียบเทียบสิ่งของ ๓ สิ่ง (มฐ. 3.5.2 ข เด็กมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ สามารถสังเกต จําแนกและ เปรียบเทียบจำนวน มิติสัมพันธ์ (พื้นที่/ระยะ) เวลา ได้สมวัย กิจกรรมที่ ๓ การจำแนก กิจกรรมที่ ๔ การ เปรียบเทียบ กิจกรรมที่ ๕ การเรียงลำดับ กิจกรรมที่ ๖ การรู้ค่าจำนวน) ๓.เรขาคณิต สร้างผลงานจากรูปเรขาคณิต (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๐ วาดรูปคน (FM), มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๙ ลอกรูป (FM) ) ๔.พีชคณิต แบบรูปของรูปที่มีรูปร่าง (มฐ. 3.3.2 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และ ประสานงานระหว่างมือกับตาตามวัย กิจกรรมที่ ๓๑ เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบ , มฐ. 3.6.3 ข เด็กมีทักษะการ วาด การขีดเขียน ตามลำดับขั้นตอนพัฒนาการสมวัย นำไปสู่การขีดเขียนคำที่คุ้นเคยและ สนใจ กิจกรรมที่ ๑๓ ต่อเติมภาพตามแบบ) ๕.ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การให้เหตุผล (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อ การทุจริต เรื่อง ข้อดีข้อเสียของกิจวัตรประจำวัน) หน่วยที่ ๓๔ วิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ ๑.วัตถุสิ่งของเครื่องใช้ของเล่นที่อยู่รอบตัว การเปรียบเทียบของสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน (มฐ.3.3.2 ข เด็กมี พัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และประสานงานระหว่างมือกับตาตามวัย กิจกรรมที่ ๓๒ ร้อยวัสดุที่มีรู ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 เซนติเมตร) ๒.การทดลองการจม การลอยของสิ่งต่างๆการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ในการสั่งเกต ชั่ง วัด ตวง (มฐ. 3.5.5 ข เด็กมีความพยายาม มุ่งมั่นตั้งใจ ทำกิจกรรมให้สำเร็จสมวัย กิจกรรมที่ ๑๐ วัตถุที่จมและลอยน้ำได้) ๓.สำรวจตรวจสอบแรงแม่เหล็กและแรงโน้มถ่วงต่างๆ ๔.สำรวจการใช้พลังงานใกล้ตัวและบอกวิธีการใช้รวมทั้งประโยชน์และโทษอย่างเหมาะสมกับวัย แหล่งกำเนิด เสียง(หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง การปฏิบัติ ตนในการใช้ของใช้ส่วนตัวและของใช้ส่วนรวมในห้องเรียน การใช้น้าใช้ไฟอย่างประหยัดและถูกวิธี) ๕.การสังเกตและบอกความแตกต่างของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว หน่วยที่ ๓๕ การสื่อสารไร้พรมแดน ๑.ความหมายของการสื่อสาร (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง Transparent : ความหมายของความโปร่งใส) ๒.อุปกรณ์สำหรับการสื่อสาร ๓.การติดต่อสื่อสารด้วยอุปกรณ์ต่างๆ (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๖ ผลัด กันพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่ม (EL) ) ๔.ประโยชน์ของการสื่อสาร ๕.มารยาทในการสื่อสาร
หน่วยที่ ๓๖ ท่องแดนอาเซียน ๑.ธงอาเซียน ๒.ตราสัญลักษณ์อาเซียน (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง ความหมายของความ ตื่นรู้และความรู้) ๓.คำขวัญอาเซียน ๔.เพลงอาเซียน ๕.ภาษาอาเซียน หน่วยที่ ๓๗ เรียนรู้วัฒนธรรม ๑.ศาสนาและวันสำคัญ (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง Onward : ความหมาย ของการมุ่งไปข้างหน้า) ๒.ชุดแต่งกายประจำชาติ ๓.อาหารประจำชาติ ๔.ภาษา/ประเพณีและวัฒนธรรมประจำชาติ ๕.การละเล่น/การแสดงและนิทานประจำชาติ(มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๑๗ เล่นเลียนแบบบทบาทของผู้ใหญ่ (PS) , มฐ.3.4.1 ข เด็กแสดงออก ร่าเริง แจ่มใส รู้สึกมั่นคงปลอดภัย แสดงความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่นได้สมวัย กิจกรรมที่ ๑ ร้องเล่นเต้นรำตามจังหวะ , มฐ. 3.6.2 ข เด็กมี ทักษะในการดูรูปภาพ สัญลักษณ์ การใช้หนังสือ รู้จักตัวอักษร การคิดคำ และการอ่านเบื้องต้นได้สมวัย ตามลำดับพัฒนาการ กิจกรรมที่ ๑๒ นิทานหรรษา ) หน่วยที่ ๓๘ ผู้นำพอเพียง ๑.ความพอประมาณ ๒.ความมีเหตุผล (มฐ. 3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน กิจกรรมที่ ๒๔ พูดอย่างมีเหตุผล (EL) มฐ.3.5.3 ข เด็กสามารถคิด อย่างมีเหตุผล แก้ปัญหาได้สมวัย กิจกรรมที่ ๗ ช่วยฉันด้วย) ๓.ความรอบรู้ ๔.มีภูมิคุ้มกันที่ดี(มฐ. 3.4.3 ข เด็กสามารถอดทน รอคอย ควบคุมตนเอง ยับยั้ง ชั่งใจ ทำตามข้อตกลง คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นมีกาลเทศะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ใหม่ได้สมวัย กิจกรรมที่ ๖หนูน้องแปลงร่าง (มฐ. 3.4.3 ข เด็กสามารถอดทน รอคอย ควบคุมตนเอง ยับยั้ง ชั่งใจ ทำตามข้อตกลง คำนึงถึงความรู้สึกของ ผู้อื่นมีกาลเทศะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ใหม่ได้สมวัย กิจกรรมที่ ๗ ตะล๊อกต๊อกแต๊ก ) ๕.คุณธรรมความดี (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง การช่วยเหลือเพื่อนที่ สอดคล้องกับ STRONG) หน่วยที่ ๓๙ หนูน้อยตาวิเศษ ๑.ประเภทของขยะ ๒.การคัดแยกขยะ (หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง การใช้กระดาษที่สอดคล้องกับ STRONG) ๓.การกำจัดขยะที่ถูกวิธี ๔.ประโยชน์และโทษของขยะ ๕.การป้องกันและลดการทิ้งขยะ หน่วยที่ ๔๐ หนูน้อยช่างสงสัย
หน่วยที่ ๓๙ หนูน้อยตาวิเศษ ๑.ประเภทของขยะ(หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เรื่อง Realise/Knowledge : ความหมายของความตื่นรู้และความรู้) ๒.การคัดแยกขยะ(มฐ.3.2.1 ข เด็กมีพัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน (6 ปี 1 เดือน - 6 ปี 6 เดือน) กิจกรรม ที่ 21 ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จด้วยตนเอง(PS)) ๓.การกำจัดขยะที่ถูกวิธี ๔.ประโยชน์และโทษของขยะ ๕.การป้องกันและลดการทิ้งขยะ หน่วยที่ ๔๐ หนูน้อยช่างสงสัย
ผังมโนทัศน์สาระที่ควรเรียนรู้
ผังมโนทัศน์ สาระการเรีย
นรู้การจัดการศึกษาปฐมวัย
ผังมโนทัศน์ สาระที่ควรเรียนรูการจัดการศึกษาปฐ
รู้ที่ ๑ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก ฐมวัย อายุ ๔ - ๕ ปี