The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวคิดและวิธีการเพาะปลูกเกษตรธรรมชาติ บรรยายอบรมตาม MOU ฉบับ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ลำใย อุตมา, 2022-06-14 04:36:37

แนวคิดและวิธีการเพาะปลูกเกษตรธรรมชาติ บรรยายอบรมตาม MOU ฉบับ 3

แนวคิดและวิธีการเพาะปลูกเกษตรธรรมชาติ บรรยายอบรมตาม MOU ฉบับ 3

หลกั ปรชั ญาและแนวคิดพ้ืนฐาน

แนวคิดพ้ืนฐาน

โลกหายใจ

ไมว่ ่าใครก็รอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ส่ิงมชี วี ิตลว้ นแลว้ แต่
หายใจ แตใ่ นความจริงแลว้ ทงั้ พืช แรธ่ าตตุ า่ งก็
หายใจ

ถา้ บอกวา่ โลกก็หายใจ อาจจะรสู้ ึกแปลกใจชวั่
ครู่ แตถ่ า้ ฟังอธิบายตอ่ ไปก็จะเขา้ ใจได้

(25 มกราคม 2492)

โลกเริ่มหายใจออก = ฤดใู บไมผ้ ลิ

โลกหายใจออกจนสดุ = ฤดรู อ้ น

โลกเร่มิ หายใจเขา้ = ฤดใู บไมร้ ว่ ง

โลกหายใจเขา้ จนสดุ = ฤดหู นาว

องคป์ ระกอบบรรยากาศของดาวเคราะห์

ดาวศกุ ร์ โลก ดาว โลก

(4,600ลา้ นปี กอ่ น) องั คาร (ปัจจบุ นั )

คารบ์ อน 98% 98% 95% 0.03%
1.9% 2.7% 78%
ไดออกไซด์ ー 0.03% 21%

ไนโตร 1.9% 290 -53 13℃
เจน ー

ออกซิ 447
เจน

อณุ หภมู ิ

ความสมดลุ

สรรพสง่ิ ในเอกภพลว้ นมคี วามสมดลุ ไมม่ ี
อะไรทไี่ มส่ มดลุ กนั เลยแมแ้ ตน่ อ้ ย กลา่ วคือถา้
มองในแงข่ องธรรมชาตแิ ลว้ ความไมส่ มดลุ ที่เกดิ
จากการฝื นธรรมชาตนิ น้ั เป็ นความสมดลุ ที่
แทจ้ ริง เร่ืองนเ้ี ป็ นความจริงอนั เทยี่ งแท้

( 1 ตลุ าคม 2495)

ดงั นน้ั ถา้ มนษุ ยท์ าตามกฎของธรรมชาตแิ ลว้
ทกุ อยา่ งก็จะสมดลุ และเป็ นไปอยา่ งราบรื่น

ดงั ทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ เนอื่ งจากมนษุ ยท์ าลาย
ความสมดลุ จึงเกดิ ความไมส่ มดลุ ขน้ึ ถา้ สรา้ ง
ความสมดลุ ก็จะเกดิ ความสมดลุ นค่ี อื ความสมดลุ
อนั ยิ่งใหญข่ องธรรมชาติ

(1 ตลุ าคม 2495)

ธรรมชาติถกู ทาลาย



ฟารม์ โอฮิโตะ

ฟารม์ โอฮิโตะ

ประเภทแมลงปกี แขง็ ที่จบั แมลงกินเปน็ อาหาร

ปฏิกริยาการชาระลา้ ง

ธรรมชาตอิ นั ยง่ิ ใหญ่ จะสรา้ งปฏกิ ริยาชาระ
ลา้ งสรรพสิ่งบนโลก …พดู อกี นยั หนงึ่ คือถา้ หาก
มสี ่ิงสกปรกสะสมอยบู่ นพื้นโลก ก็จะมกี ารชาระ
ลา้ งใหส้ ะอาดดว้ ยแรงลมพดั นา้ ฝน หรือทาให้
แหง้ เสยี ดว้ ยแสงแดด

(5 ตลุ าคม 2486)





ใสอ่ ินทรยี ว์ ตั ถมุ ากเกินไปทาใหข้ าดความสมดลุ

เคลือ่ นไหวตลอด ไมห่ ยดุ แมแ้ ต่วินาที

ธรรมชาตอิ นั ย่ิงใหญ่นน้ั ไมม่ เี วลาหยดุ แม้
ชวั่ ขณะ จะพฒั นาส่งิ ใหมๆ่ อยตู่ ลอดเวลา…ตน้ ไม้
ใบหญา้ ก็เจริญเตบิ โตพงุ่ ขนึ้ สฟู่ ้ า ไมม่ ตี น้ ไหนท่ีพงุ่
ลงดา้ นลา่ ง เมอ่ื ดสู ภาพแทจ้ ริงทีส่ รรพสง่ิ คอ่ ยๆ
พฒั นาตามที่กลา่ วมาขา้ งตน้ นบั เป็ นสจั ธรรมท่ี
มนษุ ยค์ วรเรียนรไู้ วเ้ ป็ นแบบอยา่ ง

(11 ตลุ าคม 2493)

เคารพธรรมชาติ คลอ้ ยตามธรรมชาติ

ธรรมชาตกิ ็คือสจั ธรรม ดงั นน้ั ไมว่ ่ามนษุ ยจ์ ะ

ทาการอะไรก็ควรยึดธรรมชาตเิ ป็ นแบบ การเรยี น

รจู้ ากธรรมชาตเิ ป็ นเงอื่ นไขแหง่ ความสาเร็จ โดย

นยั น้ี ไมว่ ่าจะเป็ นพลงั บาบดั การเพาะปลกู แบบไม่

ใชป้ ๋ ุยทข่ี า้ พเจา้ นาเสนอ หรือวิธอี ่ืนๆ ก็ตาม เนอื่ ง

จากอยบู่ นพืน้ ฐานเรื่องการคลอ้ ยตามธรรมชาติ

สว่ นใหญจ่ งึ ไมผ่ ดิ พลาด และประสบความสาเร็จ

ตามคาด ( 11 ตลุ าคม 2493 )

บนเขา

เชิงเขา

ท่งุ หญา้

แมน่ ้า หนองน้า ระบบนิเวศ วสั ดปุ ๋ ยุ หมกั พืชท่ีเหมาะ

ระบบนิเวศ นาข้าว ที่ชื้นแฉะ-ริมนา้ ฟางข้าว พชื น้า ข้าว

แปลงผกั ทุ่งหญ้า ใบไม้แห้งหญ้าแห้ง พชื ผกั พชื ไร่
สวนไมย้ นื ตน้
ป่ า ใบไม้แห้ง หญ้าไม้แห้ง ไม้ผล ชา

กลไกความสมบรู ณข์ องธรรมชาติ

ดินคืออะไร

กอ่ นอ่ืนคาวา่ ดนิ คืออะไร แนน่ อนว่าดนิ คอื สง่ิ ท่ี
สรา้ งขน้ึ โดยธรรมชาติ เพ่ือใหก้ ารเจรญิ เตบิ โตแก่
พชื ผกั ธญั พชื ทงั้ หา้ อนั เป็ นสิ่งสาคญั ยงิ่ ในการ
ดารงชวี ติ ของมนษุ ย์

(1 กรกฎาคม 2492)

ไนโตรเจนธรรมชาติ

สิง่ ทเี่ ป็ นไนโตรเจนจะลอยตวั สงู ขนึ้ ไปจนถึง
ระดบั ชน้ั บรรยากาศ สะสมตวั กนั แลว้ จะกลบั คนื
สพู่ ้ืนดนิ อกี ครงั้ เมอ่ื ฝนตก นค่ี อื ป๋ ุยไนโตรเจน
ธรรมชาติ

(25 ม.ค. 2492)

องคป์ ระกอบบรรยากาศของโลก

องคป์ ระกอบในบรรยากาศ 0.03 %
คารบ์ อนไดออกไซด์ CO2 78 %
ไนโตรเจน N2 21 %
ออกซิเจน O2

หลกั การเกษตรธรรมชาติ 1
หลกั การเกษตรธรรมชาตคิ ือการ
ทาใหด้ นิ แสดงศักยภาพ

(5 พ.ค. 2496)

“หลกั สาคญั ของเกษตรธรรมชาติ คือการใช้
ศกั ยภาพของดนิ อยา่ งเต็มที่ การใชศ้ กั ยภาพ
ของดนิ อยา่ งเต็มที่ก็คอื การรกั ษาดนิ ใหส้ ะอาด
อยา่ งถึงทส่ี ดุ โดยไมใ่ สส่ ิง่ ทไี่ มบ่ ริสทุ ธิ์ อยา่ งเชน่
ป๋ ุยทผ่ี ลติ ขนึ้ จากมนษุ ย์ ถา้ เป็ นเชน่ นน้ั แลว้ ดนิ ก็
จะไมม่ สี ิ่งแปลกปลอมท่เี ป็ นอปุ สรรคขดั ขวาง ทา
ใหด้ นิ แสดงศกั ยภาพออกมาไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง”

(5 พฤษภาคม 2496)

หลกั การเกษตรธรรมชาติ 2

หลกั การของเกษตรธรรมชาตคิ ือการใหค้ วาม
เคารพและความรกั ดนิ อย่างถึงทีส่ ดุ โดยไมท่ าให้
ดนิ สกปรก เมอ่ื ทาเชน่ นแี้ ลว้ ดนิ ก็จะพงึ พอใจ
แสดงศักยภาพอยา่ งเต็มท่ี หากจะเปรียบกบั
มนษุ ยเ์ ราก็เหมอื นผทู้ ไี่ มพ่ ิการ จงึ ยอ่ มมสี ขุ ภาพ
แข็งแรงกระปร้ีกระเปรา่

(2 กรกฎาคม 2495)

ไมใ่ ชเ้ ป็ นท่ีท้ิงขยะ

ป๋ ยุ เคมี - สารเคมี ไมท่ าให้
ทางการเกษตร ดินสกปรก

รกั ษา
ความ
สะอาด
ความ บรสิ ทุ ธิ์

รกั

ดิน เกษตรธรรม
ชาติ - ป๋ ยุ จาก
มเี จตนาความนกึ คิด - อินทรยี ว์ ตั ถ ุ -
อารมณ์ ไมใ่ ชส้ ารเคมี
ทางการเกษตร

สรปุ ดินคืออะไร

เป็ นส่ิงมีชีวิต
มีศกั ยภาพท่ีจะพฒั นาตนเอง(อตั โนมตั ิ)
มีศกั ยภาพที่จะปรบั ตวั ได(้ เปล่ียนคณุ สมบตั ิ)
มีศกั ยภาพทาใหพ้ ืชเจรญิ เติบโต(สมรรถภาพ

ที่มีอยภู่ ายใน)

ทาไดส้ าเรจ็ ถา้ พยายาม

ในพืชกม็ ีเจตนารมณแ์ ละความรสู้ ึก เรือ่ งน้ี
เป็ นประเด็นท่ีค่อนขา้ งสาคญั มาก

(16 มกราคม 2497)

ใหค้ วามรกั

ตรงน้ีมีเรอ่ื งสาคญั ประการหน่ึงคือ เท่าที่
ผา่ นมา มนษุ ยเ์ ราคิดวา่ เจตนารมณค์ วาม
นึกคิด เช่น เหตผุ ลและความรสู้ ึก จะมีเฉพาะ
แต่ในสตั วเ์ ท่านนั้ แต่ถา้ หากไดท้ ราบวา่ สิ่งน้ี
ก็มีอยใู่ นอนินทรยี ว์ ตั ถดุ ว้ ยแลว้ คงตอ้ งตก
ตะลงึ เป็ นแน่

พลงั ความรกั ของมนษุ ยเ์ ป็ นสงิ่ ท่ีมี
อิทธิพลอยา่ งยง่ิ และยงั มีอิทธิพลอยา่ งมาก
ต่อพืชผลเกษตรดว้ ย …การท่ีพืช
เจรญิ เติบโตไดด้ ีก็เน่ืองจากไมใ่ ชป้ ๋ ยุ กบั อีก

ประการหนึ่งคือความรกั ของเจา้ ของ

(17 กนั ยายน 2497)

แนน่ อนวา่ เน่ืองจากทง้ั ดินและพืชเหมือนกนั
ดงั นนั้ การใหค้ วามเคารพและความรกั แก่
ดิน จะทาใหด้ ินแสดงศกั ยภาพไดอ้ ยา่ งเต็มที่
ดงั นนั้ ถา้ ไมท่ าใหด้ ินสกปรก และทาให้
สะอาดยงิ่ ข้ึน กจ็ ะทาใหด้ ินมีชีวิตและแสดง
ศกั ยภาพไดอ้ ยา่ งเต็มที่

(27 มกราคม 2497)

พชื ที่ปลกู โดยใชค้ าพดู ไมด่ ี

พชื ปลกู โดยใชค้ าพดู ดี

ปรชั ญาพ้ืนฐาน

“ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ยก์ บั ดินและพืช”

พลงั พฤติกรรม
ธรรมชาติ ของมนษุ ย์

เกษตรธรรมชาติ

ดิน ศกั ยภาพของดิน

พลงั ดิน พืช

พลงั ท่ีทาใหพ้ ืชเติบโต
เมล็ด

ความสมั พนั ธระหวา่ งมนษุ ยก์ บั ดินและพืช

เดิมทีแลว้ ในดินนน้ั มีพลงั ท่ีจะทาใหพ้ ืชเจริญเติบโต
ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ โดยไม่จาเป็ นตอ้ งพึ่งพามนษุ ย์ พืชก็
สามารถที่จะเจรญิ เติบโตได้ โดยรากจะแผข่ ยายออกไป
เพื่อดดู ซบั ธาตอุ าหารและน้าจากดิน รบั พลงั งานจาก
แสงทางใบ ดงั นน้ั จึงควรที่จะทาความเขา้ ใจใหล้ กึ ซ้ึงถึง
ศกั ยภาพของดินและพลงั การเจรญิ เติบโตของพืช แลว้
นามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ โดยมีหลกั พ้ืนฐานในการ
เพาะปลกู

บทบาทหนา้ ท่ีของมนษุ ยต์ ่อดินและพืช



พลงั ธรรมชาติ

ถา้ ดกู ารเจรญิ เติบโตของสรรพสิง่ แลว้ ก็จะ
ทราบไดว้ ่า ตอ้ งอาศยั พลงั ธรรมชาติอนั ยง่ิ ใหญ่
กลา่ วคือ ตอ้ งอาศยั ธาตสุ าม อนั ไดแ้ ก่ ไฟ น้า ดิน
ซ่ึงมาจากดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ และโลก

(5 พฤษภาคม 2496)

ธาตนุ ้า ธาตไุ ฟ
แสงแดด
ธาตดุ ิน

ถา้ หากธาตหุ ลกั ทงั้ สามอนั ไดแ้ กไ่ ฟนา้ และ
ดินเป็ นตน้ กาเนิดของพลงั ที่ทาใหพ้ ืชเจรญิ
เติบโตแลว้ การเพาะปลกู ในดินที่สะอาด
บรสิ ทุ ธิ์ ไดร้ บั น้าอยา่ งเพียงพอ และไดร้ บั
แสงแดดเป็ นอยา่ งดี แน่นอนว่าจะตอ้ งไดผ้ ล
อยา่ งท่ีไมเ่ คยมีมากอ่ น

ทาใหด้ ินมีคณุ ภาพดี

ดินมีองคป์ ระกอบจากพลงั แห่งองคส์ ามที่รวมตวั กนั
จากธาตหุ ลกั ทง้ั สาม อนั ไดแ้ กธ่ าตดุ ิน ธาตนุ ้าและธาต ุ
ไฟ แน่นอนว่าพลงั หลกั ที่ทาใหพ้ ืชเจรญิ เติบโตคือธาต ุ
ดิน สว่ นธาตนุ ้าและธาตไุ ฟเป็ นพลงั หนนุ ดว้ ยเหตผุ ล
น้ี เน่ืองจากคณุ สมบตั ิของดินซ่ึงเป็ นพลงั หลกั จะมีผล
ต่อความงามของพืช ดงั นน้ั เงื่อนไขหลกั ที่จาเป็ นของ
การเพาะปลกู จึงตอ้ งทาใหค้ ณุ ภาพของดินดียง่ิ ข้ึน

(1 กรกฎาคม 2492)

วิธีทาใหด้ นิ แสดงศักยภาพ

1. การวิเคราะหด์ ิน

1. สีของดิน
2. การแผข่ ยายของราก
3. ระดบั ของชน้ั ดินท่ีแข็ง

อัตราแคลเซย่ี มกับไนโตรเจน ค่า pH
C/N比 pH

ไนโตรเจนพลังดนิ

地力窒素

塩基飽和度 EC
ระดบั ฐานความอิ่มตัว ค่าประจไุ ฟฟา้

石灰 リン酸
หินปูน กรดฟอสฟอริค

苦土 カリ
แม็คนเี ซย่ี ม โปรแตสเซย่ี ม


Click to View FlipBook Version