The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวม กิจกรรมโครงการร้อยใจรักษ์ 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noiruchanee, 2021-04-29 02:49:52

กิจกรรมโครงการร้อยใจรักษ์ 2563

รวม กิจกรรมโครงการร้อยใจรักษ์ 2563

รายงานผลการดาเนนิ กจิ กรรม

โรงเรยี นในโครงการรอ้ ยใจรกั ษ์

ปีการศึกษา ๒๕๖๓

รวบรวม โดย นำงรชั นี อุดทำ

สงั กัดสำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต ๓
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน
กระทรวงศึกษำธกิ ำร

โรงเรยี น ต.ช.ด.ศกึ ษานารีอนสุ รณ์ 3
ดาเนินกจิ กรรมตลอดปีการศกึ ษา 2563
การดาเนินกิจกรรมมอนเตสเซอรี่ ระดับอนบุ าล

ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี น มีพฒั นาการ ด้านใดบา้ ง

การสอนแบบมอนเตสซอร่ี (Montessori) เป็นการจัดการเรยี นการสอน เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถเรยี นรดู้ ้วยตัวเอง
ได้อย่างอิสระ และซึมซับการเรียนรจู้ ากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว จะเร่ิมจากการเรียนรู้แบบรปู ธรรมไปส่แู บบนามธรรม
และอปุ กรณ์ของมอนเตสซอรส่ี ามารถนามาใช้ไดห้ ลายรูปแบบ อปุ กรณเ์ ปน็ ส่งิ ทช่ี ่วยควบคุมตวั เดก็ ในการทางาน เด็ก
จะพอใจเม่ือทางานตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง และในการจัดเก็บอุปกรณ์จะต้องมีที่เฉพาะสาหรับวางอุปกรณ์ เพ่ือท่ีเด็กจะได้
จัดเก็บอุปกรณ์เข้าที่ให้เรียบร้อย เม่ือเล่นเสร็จแล้วซึ่งจะช่วยสง่ เสริมให้เด็กรู้จักการเรียนร้กู ารใช้อุปกรณ์ร่วมกันทา
ใหเ้ ด็กเกิดความอยากรู้ อยากเห็นและแสวงหาความอยากรู้อยา่ งมีสมาธิ มีวินยั ในตวั เองและเกิดพฒั นาการทกุ ๆ ด้าน
ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ด้านสงั คม และด้านสติปัญญา

ด้านรา่ งกาย เดก็ ไดร้ ับการพัฒนากล้ามเน้อื มดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้ือมัดเลก็ ให้แข็งแรง ใช้ได้อยา่ งคล่องแคลว่
และประสานสัมพันธ์กัน การฝกึ ใช้มอื ประสานสัมพนั ธก์ ับตา การดูแลรักษาสุขภาพใหร้ า่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั และ
มสี ุขนิสยั ท่ีดี

ด้านอารมณ์ จิตใจ เด็กมีสมาธิในการทางาน รู้จักควบคุมตนเองในการทางานร่วมกับผู้อื่น แสดงออกทาง
อารมณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสมรู้จักการรอคอย มสี ุขภาพจิตดีและมคี วามสุข

ด้านสังคม เด็กได้เรียนรู้ทักษะการทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีความรับผิดชอบที่จะควบคุม
ตนเองให้ทางานได้สาเร็จ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน มีความเมตตากรุณา มีน้าใจและช่วยแหลือแบ่งปัน มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม และมีจติ ใจทด่ี ีงาม ซอื่ สตั ย์สจุ รติ ช่วยเหลือตนเองในการปฏบิ ัติกิจวัตรประจาวัน

ดา้ นสติปญั ญา เดก็ ได้พฒั นาทักษะการใช้ภาษาในการสือ่ สารไดเ้ หมาะสมกับวยั ได้ฝกึ การคดิ การแก้ปัญหา
การตดั สินใจด้วยตนเอง การมีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรูไ้ ด้เหมาะสมกับวัย

การเรียนร้ดู ว้ ยกระบวนการ TBL (ภาระงานเปน็ ฐาน) ในระดบั ชน้ั ป.1-ป.3 ศึกษาแหล่งเรียนรู้
โครงการรอ้ ยใจรักษ์

การสอนแบบใชภ้ าระงานเปน็ ฐาน ( Task Based Learning ; TBL ) เป็นการสอนท่ีใหผ้ ู้เรยี นไดล้ ง
มอื ปฏิบตั ิกิจกรรมด้วยตัวเอง กระตุ้นทักษะทางการใช้ภาษาไทย ไม่ว่าจะเปน็ การให้ผ้เู รยี นไดอ้ ่าน เขยี น ฟงั ดู
และพดู เกีย่ วกบั ภาระงานท่ีตนเองได้รับ เป็นการฝกึ ทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกนั ผูเ้ รียนจะมีโอกาสได้แลกเปล่ียน
เรียนรู้ แสดงความคดิ เหน็ ตลอดจนไดเ้ ป็นผูเ้ รยี นรู้ด้วยตนเอง ครูจะเป็นเพียงผูอ้ านวยความสะดวกให้แก่
ผูเ้ รียนเท่านนั้ ท้ายสดุ ผ้เู รยี นก็จะเรยี นรู้อยา่ งมเี ป้าหมายบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ทต่ี ้ังไวโ้ ดยมี 3 ขนั้ ตอนคอื

1. ขั้น Pre Task ( ข้ันเตรยี มการ ) คอื ข้นั การเตรียมความพร้อมหรอื การนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นครูผสู้ อนจะ
เตรียมความพร้อมของผู้เรียน สง่ เสริมความสนใจและกระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนได้ระลกึ ถึงความรเู้ ดิมทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การเรยี นรู้
เร่อื งใหม่ โดยครผู สู้ อนจะเนน้ ยา้ คาศัพทท์ จ่ี าเปน็ สาหรับการปฏบิ ตั ิงาน รวมถึงจะอธบิ ายข้นั ตอนในการปฏบิ ตั งิ านให้
ผูเ้ รียนทราบและเตรยี มพร้อมสาหรับการปฏบิ ตั ิงาน โดยอาจให้ผเู้ รยี นไดด้ ูหรือฟังตัวอย่างงานทม่ี ีความคลา้ ยคลึงกบั
งานที่จะตอ้ งปฏิบัติ

2. ขนั้ Task Cycle คือ ข้นั ปฏบิ ัตงิ าน ในขัน้ น้ผี ูเ้ รยี นจะต้องลงมอื ปฏบิ ัติงานดว้ ยตนเองทั้งในรปู แบบ
การทางานเป็นกลุ่มและเด่ียว โดยมคี รเู ป็นผสู้ ังเกตการณ์ ในขน้ั น้ีผ้เู รียนจะไดแลกเปลย่ี นเรียนรู้และแสดงความ
คดิ เหน็ หลงั จากนั้นผูเ้ รยี นจะเตรยี มตัวนาเสนอผลงานใหเ้ พือ่ นร่วมชนั้ ฟัง โดยอธิบายขนั้ ตอนการทางานหรือสงิ่ ที่ตน
คน้ พบ หลังจากนน้ั เปรียบเทยี บผลงานกับเพอื่ นรว่ มชั้น

3. ขั้น Post Task คือข้ันสรปุ การปฏิบัตงิ าน ในข้ันนผี้ เู้ รยี นจะต้องวิเคราะห์และอภิปรายเกี่ยวกบั
เน้ือหาสาระของบทเรียนทผี่ เู้ รียนไดป้ ฏิบัติไป หลงั จากน้ันครจู ะจดั ให้นกั เรียนไดฝ้ กึ ใช้และทาแบบฝกึ หัดเพ่ือเป็นการ
สรปุ เน้อื หา โดยครผู สู้ อนพยายามทาให้ผู้เรียนสามารถรวบรวมความคดิ และความเขา้ ใจใหถ้ กู ตอ้ งและครบถว้ น

สง่ เสรมิ ให้นักเรียน มีพัฒนาการ ดา้ นใดบ้าง
จากการจดั การเรยี นการสอนแบบใชภ้ าระงานเป็นฐาน ( Task Base Learning : TBL ) จะเห็นไดว้ า่ เปน็

กระบวนการเรยี นรู้ทีส่ ามารถใหผ้ ้เู รียนไดล้ งมอื ปฏิบัตงิ านจรงิ และเรียนรู้อย่างเปน็ ข้นั ตอน รวมถึงฝึกฝนการแสวงหา
ความรู้ดว้ ยตนเอง นอกจากนน้ั ผู้เรียนยังสามารถฝกึ ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์เพ่อื สรา้ งชนิ้ งานทแ่ี ปลกใหมแ่ ละ
แตกต่างไดอ้ ีกด้วย และยังสง่ เสริมพฒั นาการดา้ นตา่ งๆให้กับผเู้ รียนดงั น้ี คอื

1. สง่ เสรมิ ทีจ่ ะใหผ้ เู้ รียนมีความชานาญ เกิดการเรยี นร้อู ย่างแทจ้ รงิ
2. สนบั สนนุ ใหเ้ กิดการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ซง่ึ เปน็ ความจาเปน็ ของสังคมทีจ่ ะต้องพฒั นาเยาวชนให้เป็น

บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ เรยี นร้ตู ลอดชีวิต
3. ชิ้นงานทก่ี าหนดใหม้ ีความสอดคล้องสามารถนาไปใช้ในชวี ิต สง่ ผลใหผ้ ู้เรยี นเห็นความสาคญั ของส่งิ ท่ี

เรียนทาให้เกิดแรงจงู ใจในการเรยี น
4. ผู้เรยี นสนกุ กับการเรียนเพราะไดม้ ีบทบาทไดเ้ รียนร้ดู ว้ ยตนเองและนาความรูท้ ไี่ ด้มาสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
5. สง่ เสริมสนบั สนนุ การช่วยเหลอื ซึ่งกนั และกนั และมเี วลาท่ีจะเรยี นรู้จากกันและกัน คนเก่งชว่ ยเหลือคน

ท่ีเรยี นออ่ นกวา่
6. ผู้เรียนเหน็ ความกา้ วหนา้ หรือปญั หาด้วยตนเอง ควบคุมการทางานของตนเองได้
7. ฝึกความรับผดิ ชอบ

3 ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้โครงการรอ้ ยใจรกั ษ์

ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียน มีพัฒนาการ ดา้ นใดบา้ ง
1.ทาให้นกั เรยี นรจู้ กั และใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งตา่ งๆที่มีอยู่และหาได้งา่ ย ในท้องถิน่ ของตน สามารถนา

ความรูแ้ ละประสบการณ์ท่ไี ด้จากการศึกษามาพฒั นาชีวติ ความเปน็ อย่หู รือการนามาใช้ประโยชน์ใน
ชวี ติ ประจาวันได้ สามารถปรับการดาเนนิ ชีวิตใหส้ อดคล้องกับสภาพท้องถ่นิ จงึ สามารถอย่กู บั ท้องถน่ิ ไดอ้ ย่าง
เปน็ สขุ

2.ทาใหน้ ักเรียนรัก ภูมิใจ มองเหน็ คณุ ค่า หวงแหน อนุรกั ษ์ และชว่ ยทานบุ ารุงรกั ษาท้องถนิ่ ของตน
เพราะนักเรยี นได้พึ่งพาแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ท่ีมใี นท้องถ่ินในการพัฒนาศักยภาพของตน ถ้าแหล่งการเรยี นรู้
ต่างๆ ตอ้ งศูนยเ์ สยี ไปโดยเปล่าประโยชน์กจ็ ะสง่ ผลให้คุณภาพชวี ติ ของนักเรียนต้องลดน้อยถอยลงหรือได้
ผลกระทบตามไปด้วย

3.ช่วยใหก้ ารเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ เพราะนักเรียนไดร้ บั ประสบการณต์ รงไดเ้ ห็นจรงิ และได้
ปฏบิ ัตจิ ริงด้วยตนเอง การนาวทิ ยากรมาสหู่ อ้ งเรยี นหรือการพานักเรียนไปศึกษานอกโรงเรยี น ทาใหน้ ักเรียนได้
เปลีย่ นบรรยากาศจากการเรยี นทจ่ี าเจ ไปส่กู ารเรียนท่ีแปลกใหม่ นกั เรียนจงึ เกดิ ความสนใจและความ
กระตือรอื รน้ ในการเรียน นอกจากน้ี การนาวัสดใุ นทอ้ งถนิ่ มาจดั การเรยี นการสอนยังชว่ ยประหยดั คา่ ใช้จา่ ย
ของผ้ปู กครอง และของทางราชการอกี ดว้ ย

4.ชว่ ยแกป้ ญั หาการขาดแคลนครหู รือขาดครูท่ีมีความร้คู วามชานาญในการสอนบางเน้อื หาบทเรียน
การนาวิทยากรในท้องถ่ินที่มีความรู้ ความสามารถมากกว่าครมู าช่วยสอนทาให้นักเรยี นไดร้ บั ความรู้ ความ
เข้าใจ อยา่ งครบถว้ น สมบูรณ์ เต็มตามหลักสูตร

5.การใช้วิทยากรหรือแหลง่ เรียนรู้ในท้องถ่ิน ทาให้เกิดความสัมพันธ์ทีด่ รี ะหว่างโรงเรยี นกับชมุ ชน
เกดิ ความเขา้ ใจกนั ใหค้ วามร่วมมอื และใหค้ วามชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกันในการจดั การศึกษาหรือพัฒนาท้องถิ่น
ใหเ้ จริญกา้ วหน้ายงิ่ ๆ ขึน้

…………………………………………………………………………………………………………………………………

โรงเรียนบา้ นสุขฤทัย
ดาเนินกิจกรรมตลอดปกี ารศึกษา 2563

การดาเนินกจิ กรรมมอนเตสเซอรี่ ระดับอนุบาล
มกี ารดาเนนิ กจิ กรรม 3 ข้ันตอน
ข้นั ที่ 1 ขน้ั เตรียม สังเกตลักษณะของวตั ถุ และรูจ้ กั ชอ่ื วัตถุ

ครูสาธิต: หยิบวัตถุมาดู สังเกตด้วยตา สัมผัสด้วยมือ แล้วบอกช่ือวัตถุ “นี่คือ.....” เช่น น่ีคือ 1
นีค่ อื 2 นีค่ อื 3 นี่คือสามเหล่ียม เชญิ ชวนให้เด็กปฏิบตั ิ

ขน้ั ท่ี 2 ขั้นเรียนรู้ สงั เกตเหน็ ความแตกตา่ งของวัตถุ และจาได้

ครสู าธติ : หยิบวัตถุ 1, 2, 3 มาวางเรียงกันจากซ้ายไปขวา แล้วบอกให้เด็กปฏิบัติ เช่น หยิบ 1
วางตรงนี้ หยิบ 3 วางตรงนี้ หยิบ 2 ให้ครู สมั ผสั 3 ซงึ่ ขัน้ ตอนนจ้ี ะใหซ้ า้ ๆ หลาย ๆ ครงั้ นานกวา่ ขน้ั ตอนอ่ืน
จนแนใ่ จวา่ เด็กจาได้

ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั สรปุ เห็นความแตกต่างของวัตถทุ มี่ ลี ักษณะคลา้ ยกัน เกดิ ความคดิ รวบยอด

เป็นการตรวจสอบว่าเด็กเกิดการเรียนรเู้ กิดความคดิ รวบยอด แล้วจริงหรอื ไม่

ครสู าธิต: หยิบวัตถุวางเรียงกันจากซ้ายไปขวา แล้วถาม ให้เด็กปฏิบัติ เช่น อันไหนคือ 1 เด็กชี้
อนั ไหนคอื 3 เด็กช้ี ครถู ามหรอื ชี้ใหเ้ ด็กตอบ เชน่ อันนคี้ อื .....

ถ้าเดก็ ยังไม่เกดิ การเรยี นรู้ ตอ้ งกลับไปจดั กิจกรรมขั้นท่ี 1

การสอน 3 ขั้นตอน จะสอนวัตถุครั้งละ 3 ชน้ิ เพอ่ื ไม่ให้เด็กสับสน เช่น การสอน พลองจานวน 1, 2,
3 ถา้ เด็กยังไมเ่ กดิ ความคดิ รวบยอด ก็จะไมส่ อน 4, 5, 6 ใหเ้ ดก็



สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี น มีพฒั นาการ ดา้ นใดบา้ ง

-ดา้ นร่างกาย
สามารถพฒั นากลา้ มเนื้อมดั เล็ก การประสานสัมพนั ธ์ระหว่างตากบั มือ มีความคล่องแคล่วในการใชอ้ ปุ กรณใ์ นการ
ทากจิ กรรมตา่ งๆ

-ดา้ นอารมณจ์ ิตใจ
เด็กมสี มาธิ จดจ่อกบั งานของตนเอง สามารถควบคมุ ตนเองโดยไม่รบกวนผอู้ ื่น

-ด้านสงั คม เดก็ มรี ะเบียบวินัยในตนเอง มีความรับผิดชอบตอ่ งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย

-ดา้ นสตปิ ัญญา
ด้านภาษา เด็กเรยี นรู้พยัญชนะ สระเสียงยาว สระเสยี งส้นั การอ่านและเขียนแบบประสมคา
ดา้ นคณิตศาสตร์ เดก็ เรยี นรจู้ านวน ตัวเลข ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ การบวก ลบ คณู หาร

การเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการ TBL (ภาระงานเปน็ ฐาน) ในระดบั ชั้น ป.1-ป.3 แหลง่ เรียนรโู้ ครงการรอ้ ยใจรกั ษ์

สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี น มพี ฒั นาการ ดา้ นใดบ้าง
1. ด้านการอารมณ์

นกั เรยี นได้ทากจิ กรรมรว่ มกันเปน็ กลุ่ม มกี ารแสดงความคดิ เหน็ และรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของเพอ่ื นในกลมุ่ ขณะทา
ภาระงานกล่มุ และต้งั ใจทางาน ปรึกษา พูดคยุ และแลกเปลีย่ นขอ้ มลู กันในการงานใบงานเดย่ี วเพอื่ ให้เสรจ็ ตามเวลา มี
ความกลา้ แสดงออกมากข้นึ
2. ดา้ นสงั คม

นักเรียนมีการทางานเปน็ กลมุ่ ฝกึ ทกั ษะการทางานเปน็ ทมี แบง่ หนา้ ท่กี ันรับผิดชอบหรอื แบง่ งานกันทา มี
ระเบยี บวนิ ยั และความรับผดิ ชอบตอ่ งานที่ตนเองไดร้ ับและกจิ กรรมรว่ มกับผอู้ ่ืน สง่ เสรมิ ภาวะการเป็นผนู้ าและผู้
ตามท่ดี ี
3. สตปิ ัญญา

พัฒนาการดา้ นทักษะการคิด และการแก้ปัญหาเบื้องตน้ และนาความรู้ไปใช้ในการทากิจกรรม ภาระงาน
กล่มุ และใบงานเดี่ยว เสริมสร้างทกั ษะการอ่านและการเขยี นเพมิ่ มากขึ้น มีการปฏิสมั พนั ธ์ในการเรยี นร้แู ละซักถาม
ในส่งิ ทตี่ นเองไม่เข้าใจ และสรุปผลการทากจิ กรรมโดยการนาเสนอหน้าชั้นเรียน

3 ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้โครงการรอ้ ยใจรกั ษ์

สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียน มีพฒั นาการ ดา้ นใดบ้าง
1. พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา

ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักเหตุและผล มีความคิดเป็นของตนเอง เลือกที่จะเรียนรู้ในส่ิงท่ีชอบและสนใจ สามารถแก้ไข
ปญั หา พร้อมเรยี นรโู้ ลกกวา้ งในกรอบของระเบยี บวินัยได้
2. พฒั นาการทางดา้ นอารมณ์

ส่งเสริมให้นกั เรยี นมคี วามสุข สนกุ สนานกับการเรียนรนู้ อกหอ้ งเรียน เรียนรทู้ ี่จะใหค้ วามร่วมมือกบั ครูและวทิ ยากร
3. พฒั นาการด้านสงั คม

ส่งเสริมให้นักเรียนเห็นคุณค่าของชุมชนและท้องถิ่นที่นักเรียนอาศัยอยู่ มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลือตนเอง รู้การ
ปฏิบัติตนในสังคม มีมารยาททางสงั คมมากขึ้น ให้นักเรียนมีวิธีคิด วิธีการควบคุมตนเองในการตัดสินใจดาเนินชีวิต ให้มี
จติ ใจเข้มแขง็ อดทนต่อส่งิ ยว่ั ยุ มีจติ สานกึ ท่ีดี ใจกวา้ งมเี หตุผล มีจติ สาธารณะ คานงึ ถึงประโยชน์สว่ นรวมเป็นหลกั

เนือ่ งจากประชากรสว่ นใหญใ่ นชุมชนโรงเรยี นบา้ นสขุ ฤทยั ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และจากสภาพแวดล้อมใน
ชุมชนของโรงเรียนบ้านสุขฤทัยท่ีเคยประสบปัญหาเร่ืองยาเสพติด โรงเรียนบ้านสุขฤทัยจึงได้ส่งเสริมการศึกษา เพื่อ
ส่งเสริมอาชีพแก่นักเรียน ซ่ึงสอดคล้องกับโครงการรอ้ ยใจรักษ์ที่ได้เข้ามาส่งเสริมอาชพี และพัฒนาความเป็นอยู่พ้ืนฐาน
ของประชาชนซ่ึงเคยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดจานวนมาก ให้มีอาชีพทางเลือกที่สุจริต ดังนั้นแหล่ง
เรียนร้โู ครงการรอ้ ยใจรักษจ์ งึ เป็นแหลง่ เรยี นรู้นอกหอ้ งเรียนที่สาคญั ต่อโรงเรียนบา้ นสุขฤทัยเปน็ อย่างมาก

3 กจิ กรรมการเรียนร้ทู ักษะงานอาชพี งานชา่ งเคร่อื งยนตเ์ ลก็

ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี น มีพฒั นาการ ดา้ นใดบ้าง

1.ความสามารถในการสื่อสาร ผู้เรยี นมบี ุคลิกภาพทด่ี ีมีมนุษยสมั พนั ธม์ คี ุณธรรมจริยธรรมและวินัยใน
ตนเองมีสุขภาพอนามยั ที่สมบูรณท์ ง้ั รา่ งกายและจิตใจเหมาะสมกับงานอาชีพน้ันๆ

2.ความสามารถในการคิด ผ้เู รียนเปน็ ผ้มู ปี ญั ญามีความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ใฝเ่ รียนรู้ เพ่ือพัฒนาคุณภาพ
ชวี ิตและการประกอบอาชีพ สามารถสร้างอาชีพ มที ักษะในการจดั การและพัฒนาอาชีพใหก้ ้าวหน้าอยู่เสมอ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหาผ้เู รยี นตระหนัก และมสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหาในงานต่างๆท่เี กิดข้นึ
เสียสละเพอ่ื ส่วนรวม

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ผเู้ รียนมี ความรทู้ ักษะ และประสบการณ์ ในงานอาชพี ตรงตาม
มาตรฐานวิชาชพี นาไปปฏิบัติงานอาชพี ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสามารถเลือกวิถกี ารดารงชีวิต และการประกอบ
อาชพี ได้อยา่ งเหมาะสมกับตนสร้างสรรคค์ วามเจรญิ ต่อชมุ ชนทอ้ งถ่ินและประเทศชาติ

5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ผ้เู รยี นมีทกั ษะและกระบวนการเรียนร้ใู นการใช้เทคโนโลยสี มัยใหมใ่ น
การเรียนและสามารถประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีทม่ี ใี ห้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ

ปจั จุบนั การเรียนการสอนในด้านทกั ษะอาชีพตา่ งๆมคี วามสาคัญมาก เพราะตลาดในด้านสายอาชพี
กาลงั เป็นทตี่ ้องการอยา่ งมากจึงจาเปน็ ตอ้ งมกี ารสง่ เสรมิ นักเรียนในดา้ นทักษะอาชพี ตั้งแต่ต้นเพ่ือทจี่ ะใหน้ กั เรยี นมี
ทักษะในดา้ นอาชีพทต่ี นเองสนใจ โรงเรยี นบา้ นสขุ ฤทยั ตั้งอยูใ่ นชุมชนท่เี ปน็ พ้ืนท่เี กษตรกรรมซง่ึ มกี ารใชเ้ คร่อื งยนต์
เล็กทางการเกษตรจานวนมากและต้องมีการซ่อมบารุงเปน็ ประจา ในชุมชนจงึ เกดิ อาชพี ชา่ งซ่อมเครือ่ งยนต์เล็ก
ข้นึ มาแต่กย็ งั ขาดความรู้ความสามารถในการซ่อมบารุงอยา่ งมาก
โรงเรียนบา้ นสุขฤทัยเหน็ ความสาคัญตรงนี้จงึ ได้จัดการเรยี นการสอนดา้ นทกั ษะงานเครื่องยนตเ์ ลก็ ข้ึนมาเพอ่ื ให้
นกั เรยี นสามารถเหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพและปฏิบตั งิ านในทักษะอาชีพช่างเครื่องยนต์เล็กได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพอีกท้ังยังเปน็ แนวทางในการวางแผนไปใชใ้ นการเรยี นต่อหรอื ประกอบอาชพี ตอ่ ไป

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โรงเรียนโชติคุณะเกษมบ้านเมอื งงาม อาเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
ดาเนนิ กิจกรรมตลอดปีการศึกษา 2563

การดาเนนิ กิจกรรมมอนเตสเซอร่ี ระดับอนบุ าล
กิจกรรมมอนเตสเซอรี่มีการดาเนนิ กจิ กรรม 3 ข้นั ตอน
ขน้ั ที่ ๑ ขน้ั เตรียม

ในขั้นการเตรียมการเรียนแบบมอนเตสซอร่ี เป็นข้ันที่ผู้สอนต้องเตรียมความพร้อมในทุก ๆด้าน โดยเริ่ม
จากการเตรียมสื่อการเรียนรู้แก่ผู้เรียนให้มีความพร้อมในการใช้งานสื่อมีความหลากหลายและไม่ชารุดหรือสูญหาย
เพื่อจะไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของผู้เรียน ต่อมาคือการเตรียมความพร้อมของผู้เรียน โดยการฝึกฝนให้ผู้เรียน
ปฏิบัติกิจวัตรประจาวันของผู้เรียนเข้าห้องน้า ด่ืมน้า พร้อมแก่การเรียนรู้ ในด้านน้ีผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาด้าน
การช่วยเหลือตนเองได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวตั ร เม่ือผู้เรยี นปฏิบัติกิจวตั รประจาวัน
เรียบรอ้ ย พร้อมแกก่ ารทากิจกรรมวงกลมในกจิ กรรมวงกลมซง่ึ จะประกอบดว้ ย

1. กิจกรรมทาสมาธิเป็นกิจกรรมที่ทาให้ผู้เรียนได้ฝึกสมาธิทาจิตใจให้น่ิงพร้อมท่ีจะทากิจกรรมต่อไป
กจิ กรรมนี้ผเู้ รยี นไดร้ ับการพัฒนาด้านทักษะการมสี มาธิ รูจ้ ักการรอคอยที่จะทากิจกรรมต่อไป

2. กิจกรรม Name Card เป็นกิจกรรมท่ีทาให้ผู้เรียนได้รู้จักช่ือของตนเอง ได้รู้จักชื่อเพ่ือนในห้อง
นอกจากน้ียังรวมไปถึงการท่ีผู้เรียนได้เรียนรู้ตวั พยัญชนะ สระ ที่อยู่ในช่อื ของตนเอง นอกจากน้ียังเป็นการฝึกทักษะ
การใช้มือในการเขียนชื่อตามบัตร Name Card ช่ือของตนเอง แล้วยังเสริมทักษะการนับจานวนนักเรียนที่มา
เรียนด้วย กิจกรรมนี้พัฒนาผู้เรียนด้านสติปัญญา เร่ืองทักษะทางภาษา ทักษะด้านคณิตศาสตร์ แล้วยังส่งเสริม
พัฒนาการดา้ นร่างกายในการใช้มือขีดเขยี น ประสานสมั พนั ธ์กับตาได้

นอกจากนี้ยังมีการสร้างข้อตกลงภายในชั้นเรียน การสร้างข้อตกลงภายในช้ันเรียนเป็นส่วนหนึ่งท่ีพัฒนา
ผู้เรียนให้รู้จักการปฏิบัติตนอยู่ในสังคมภายร่วมกับผู้อ่ืนให้ถูกกฎกติกา ไม่ทาผิดระเบียบรู้จักการดารงตนให้อยู่ใน
กฎระเบยี บ เมอ่ื โตข้นึ ผู้เรยี นจะไดร้ ้วู ่าส่งิ ไหนควรทาเป็นแบบอย่างสิง่ ไหนไม่ควรทาเปน็ แบบอย่าง

ท้ังหมดน้ีเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนก่อนที่จะได้เร่ิมกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการของ
ผเู้ รียนโรงเรียนโชติคุณะเกษมบ้านเมืองงามในดา้ นต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ดา้ นสงั คม คอื การอยูร่ ว่ มกบั ผู้อน่ื ตามกฎระเบยี บ
2. ดา้ นร่างกาย พฒั นาทักษะการใชร้ ่างกายโดยใชม้ อื หยิบจบั สิง่ ของการเดนิ เคล่อื นไหวส่วนตา่ ง ๆ

ภายในร่างกาย
3. ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ พัฒนาทักษะการรอคอย มีความสุขในการทากจิ กรรม
4. ด้านสตปิ ญั ญา พัฒนาทักษะการอา่ น การเขยี น คดิ แยกแยะ การวิเคราะห์ เป็นต้น

ขนั้ ท่ี ๒ ขนั้ เรียนรู้
ในขั้นการเรียนร้ใู นการเรียนแบบมอนเตสซอร่ี เป็นการให้ผเู้ รียนมีอิสระในการเลือกท่ีจะทาสื่อมอนเตสซอรี่

ตามทน่ี ักเรียนสนใจอยากเรียนรู้จะทาไม่มีการบังคับนักเรยี นถ้าผู้เรียนไม่พร้อมท่ีจะทาสื่อก็จะให้นักเรียนทาชิ้นงาน
อื่นกอ่ นจนกวา่ นกั เรยี นจะมคี วามพร้อมท่ีจะเรียนรู้ทาสื่อการเรียนมอนเตสซอร่ี ผสู้ อนเปน็ เพียงครูผู้สังเกตพฤตกิ รรม
ในการทาสื่อมอนเตสซอร่ีและให้คาแนะนาเม่ือนักเรียนต้องการความช่วยเหลือหรือเมื่อนักเรียนต้องการเรียนรู้สื่อ
ชิ้นใหม่ท่ีนักเรียนไม่เคยปฏิบัตกิ ับสอื่ ชิน้ นั่นๆ การจัดการเรียนรู้มอนเตสซอร่เี ร่ิมจากให้ผู้เรียนเลือกสื่อมอนเตสซอร่ี
ที่นักเรียนสนใจอยากเรียนรู้มาเล่นเพียงหน่ึงช้ิน การท่ีให้นักเรียนเลือกสื่อเองตามความสนใจ เป็นการพัฒนาด้าน
ความกล้าคิดและตัดสินใจในเร่ืองง่ายๆเองด้วยตนเอง สอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัย โดยที่สื่อมอนเตสซอร่ี 1 ชิ้น
สามารถเล่นได้เพียงคนเดียวเพื่อให้นักเรียนเกิดสมาธิในการเล่นจะไม่ให้นักเรียนคนอ่ืนมาเล่นร่วมด้วยเพราะอาจจะ
ทาให้นักเรียนบ้างคนเสียสมาธิในการเล่นสื่อมอนเตสซอรี่ เป็นการฝึกทักษะให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองคิดและ
แก้ปัญหาเองโดยที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากครูผู้สอนแต่ถ้าหากนักเรียนเล่นส่ือไม่ได้ครูผู้สอนสามารถท่ีจะให้
คาแนะนาได้ สื่อการเรียนมอนเตสซอร่ีมีหลากหลายชนิด เชน่ ส่อื ในมมุ ชวี ิตประจาวนั ส่ือมมุ ประสาทสมั ผัส สื่อมุม
คณิตศาสตร์ สื่อมุมภาษา เป็นต้น

การเรยี นรู้ส่อื มอนเตสซอร่ีแตล่ ะมมุ การเรียนรคู้ รผู ้สู อนโรงเรยี นโชตคิ ณุ ะเกษมบ้านเมืองงามได้มกี ารสอนส่ือ
มอนเตสซอรีแ่ กน่ กั เรยี นโดยใช้การสอน 3 ขัน้ ตอน คือ

1. การนาสอ่ื มอนเตสซอร่ีมาสาธิตการเลน่ ให้นกั เรยี นดกู ่อนเพ่ือให้นักเรยี นสังเกตวธิ ีการเล่น
ส่อื มอนเตสซอร่ีและเรยี นรู้ไปพรอ้ มๆกัน

2. ครูผูส้ อนเล่นสอ่ื ร่วมกับนกั เรียนอีกครง้ั เพอ่ื เปน็ การทวนวิธีการเล่นว่านกั เรยี นมีความเขา้ ใจ
ในการเลน่ ส่ือมอนเตสซอรี่ช้ินน้ันหรอื ไม่

๓. ครูผ้สู อนทบทวนโดยให้นักเรียนเล่นส่อื เองขน้ั นี้เป็นข้นั สดุ ทา้ ยเปน็ การเช็คว่านักเรียนมี
ความเข้าใจมาน้อยเพยี งใดโดยจะให้นักเรียนเล่นส่ือเองโดยครูผ้สู อนจะเป็นผสู้ ังเกตการณ์
ว่านกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติกบั สอื่ มอนเตสซอรี่ชนิ้ นั้นเองไดห้ รอื ไม่

แต่ถ้าหากนักเรียนยังไม่เข้าใจพอครูผู้สอนต้องเร่ิมสอนการเล่นสื่อใหม่อีกคร้ังต้ังแต่ขั้นตอนแรกจนถึง
ข้นั ตอนสดุ ท้ายใหม่ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจการทาส่ือช้ินนั้นและสามารถทาเองไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว
มากข้นึ การสอนของครูผู้สอนเปน็ ลาดบั ขัน้ ตอนส่งเสรมิ ให้นกั เรียนมีพฒั นาการด้านการคดิ วเิ คราะหเ์ ปน็ ลาดับ
ทาให้การปฏิบัติส่ือได้สาเรจ็

ในการเรียนรู้ส่ือมอนเตสซอรี่แต่ละมุมสามารถทาให้นักเรียนอนุบาลโรงเรียนโชติคุณะเกษมบ้านเมืองงาม
มพี ฒั นาการท่ีดีข้นึ เปน็ ลาดับดงั ต่อไปนี้

- สื่อมอนเตสซอรี่มุมชีวิตประจาวันเม่ือผู้เรียนได้นามาเล่นสามารถทาให้นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจวัตร
ประจาวันของตนเองได้ดีข้ึนทั้งนักเรียนช้ันอนุบาล 2 และนักเรียนอนุบาล 3 ส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการด้าน
ร่างกาย อารมณ์จิตใจ สติปัญญา เช่น การหยิบจับส่ิงของ
เคล่ือนไหวร่างกายได้คล่องแคล่วด้วยตนเอง ช่วยเหลือตนเองใน
กิจกรรมง่ายๆและช่วยเหลือผู้อ่ืน การรับประทานอาหารด้วยตนเอง
การเข้าห้องน้า การล้างแก้ว แต่งตัวเองได้ มีพัฒนาการด้านตา
ประสานสมั พันธ์กับมือได้เป็นอยา่ งดีใน การรอ้ ยลกู ปดั เลก็ ให้อยู่
ในเชือกแยกสีหรือสิ่งท่ีเหมือนกัน ร่างเริงแจ่มใส มีความสุข
ในการทาส่ือ สอดคล้องกบั หลกั สูตรและมาตราฐานปฐมวยั

- สื่อมอนเตสซอร่ีมุมประสาทสัมผัส เมื่อนักเรียนอนุบาลโรงเรียนโชติคุณะเกษมบ้านเมืองงามได้นาสื่อมา
เล่นจะทาให้นักเรยี นได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา เช่น การใช้มือใน
การสมั ผัสหยบิ จับส่ิงของประคองสิ่งของได้คล่องแคลว่ มีความสุขเมื่อได้ทาส่ือ มีสมาธิ ช่วยเหลือหรือแนะนาเพ่ือน
ท่ีเล่นส่ือไม่ถูกวิธีได้ ช่วยเก็บส่ือเข้าที่ได้เรียบร้อยตามเดิม ไม่แย่งสื่อหรือทาร้ายส่ือให้เสียหาย รู้จักคิด สังเกต
แยกแยะ คดิ เป็นลาดบั ข้ันตอนในการทาส่ือมอนเตสซอร่ี สอดคล้องกบั หลกั สูตรและมาตรฐานปฐมวยั

- สอื่ มอนเตสซอรี่มนุ คณติ ศาสตร์ เม่ือนักเรยี นอนบุ าลโรงเยนโชติคณุ ะเกษม
บ้านเมอื งงามได้นาสอื่ มาเล่นจะทาให้นักเรียนได้รบั การพัฒนาดา้ นรา่ งกาย ด้านอารมณ์
จติ ใจ ด้านสงั คม ดา้ นสตปิ ัญญา เชน่ การใช้มือหยิบจบั ขีดเขยี น มคี วามสขุ เมื่อทาสอ่ื
สาเรจ็ ภมู ใิ จในงานของตนเอง ชว่ ยเหลอื แบ่งปันสง่ิ ของใหผ้ ูอ้ ืน่ รู้จกั การรอคอย มคี วามคิด
เป็นตรรกะในเรื่องตัวเลขงา่ ยๆ การนับจานวนกับตัวเลข การบวกลบเลข รู้จักการคดิ เปน็
ข้นั เป็นตอน

- สอ่ื มอนเตสซอร่มี ุมภาษา เมือ่ นกเรียนอนบุ าลโรงเรยี นโชตคิ ุณะเกษมบา้ นเมอื ง
งามไดน้ าสือ่ มาเล่น มาเรียนร้จู ะทาให้นกั เรยี นได้รบั การพฒั นาด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จติ ใจ ด้านสังคม ด้าน
สตปิ ญั ญา เช่น การได้เคล่ือนไหวรา่ งกายในการหยบิ จับ ใชส้ าตาประสานสัมพันธก์ ับมือในการลากเส้น ขีดเขยี นตาม
รอย มีความสขุ เมือ่ ทาสือ่ สาเรจ็ และเมอื่ ได้รบั คาชมเชย รู้จักรอคอยแบ่งปัน ชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่นแนะนาชีแ้ นะใหแ้ ก่ผู้อนื่
สติปญั ญานักเรยี นได้รับการพัฒนาด้านภาษารจู้ กั ตวั อักษรพยัญชนะภาษาไทย สระ ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ ร้จู กั
วธิ ีการเขียนท่ีถกู ตอ้ ง แยกแยะตัวพยญั ชนะ สระ ตวั อักษรภาษาอังกฤษ ไดว้ า่ มีตัวอะไรบา้ ง อา่ นคาประสมสระ
ง่ายๆได้อยา่ งคล่องแคลว่ สอดคล้องกับหลักสูตรและมาตรฐานปฐมวยั ทไี่ ดก้ าหนดไว้

ทั้งหมดนี้เปน็ ขัน้ การเรยี นร้ทู ่ีส่งเสรมิ ให้นักเรยี นได้รบั การพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์จติ ใจ สังคม และดา้ น
สติปญั ญา ของเด็กปฐมวยั โรงเรยี นโชตคิ ุณะเกษมบา้ นเมอื งงาม

ขนั้ ที่ ๓ ขัน้ สรุป
ในขั้นสรุปการเรียนรู้แบบมอนเดสซอร่ขี องนกั เรียนโรงเรียนโชติคณุ ะเกษมบา้ นเมืองงามงาม เม่อื นกั เรียนได้

ปฏิบัติสื่อการเรียนแบบมอนเตสซอรี่แล้วส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนการตามหลักสูตรปฐมวัยได้ตรงตามมาตราฐาน
ด้านร่างกาย นักเรียนมีพัฒนาการร่างกายดี ใช้มือหยิบจับสิ่งของได้คล่องแคล่วเคล่ือนไหวร่างกายได้ดี ตาประสาน
สัมพันธ์กับมือได้ดี ด้านอารมณ์จิตใจนักเรียนร่างเริงแจ่มใส พึงพอใจในผลงานท่ีตนเองทา มีความสุขเม่ือได้ทาส่ือ
สนุกสนานให้ความสนใจการเรียน มีสามาธิต่อการเรียน มีน้าใจช่วยเหลือผู้อ่ืน มีความรับผิดชอบต่อส่ิงท่ีตนเองทา
ด้านสังคมนักเรียนมีมารยาท รู้จักการรอคอย แบ่งปันส่ิงของให้ผู้อื่น ปฏิบัติตามกฎกติกาของการอยู่ร่วมกันใน
ห้องเรยี นได้ ด้านสติปัญญา นกั เรยี นรู้จกั คิดแกป้ ัญหาง่ายๆได้ คดิ แยกแยะ วิเคราะห์ คิดเป็นข้ันเป็นตอน ท้ังหมดน้ี
ส่งผลให้นักเรียนเม่ือกลับไปบ้านสามารถช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันของตนเองได้และช่วยงานบ้านง่าย ๆ
แกผ่ ู้ปกครอง และสง่ ผลให้เมอ่ื นักเรียนเล่ือนช้ันมีพัฒนาการในด้านการเรียนท่พี รอ้ มต่อการเรียนในระดับตอ่ ไปไดด้ ี

กจิ กรรมการเรยี นรูด้ ว้ ยกระบวนการ PBL (ภาระงานเปน็ ฐาน)
ในระดบั ช้นั ประถมศึกษาชน้ั ปีท่ี ๑ - ๓

ส่งเสริมใหน้ ักเรยี น มีพฒั นาการ ดา้ นใดบา้ ง
1. ความสามารถในการส่อื สาร

นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทางานแบบกลุ่ม มีการส่ือสารแลกเปล่ียนความคิดเห็นความรู้จาก
ภาระงานท่ีครูไดม้ อบหมายให้ ใช้ความสามารถในการส่ือสาร ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจของตนเอง
และเพอื่ นในกลุ่ม ฝึกการใชท้ ักษะด้านการฟัง พูด ผ่านการนาเสนอผลงานตามภาระงานท่ีได้รบั มอบหมายตาม
ขั้นดาเนินงานตามตามวงจรของการปฏิบัติภาระงาน (task cycle) เป็นขั้นตอนการปฏิบัติภาระงานตามท่ี
ไดร้ บั มอบหมาย โดยมขี น้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 3 ขัน้ ตอน ดังน้ี

1 ภาระงาน (task) ผู้เรียนมีการอภิปราย ปฏิบัติภาระงานตามที่ได้รับมอบหมายในรูปแบบ
ของกิจกรรมเดี่ยว จบั คู่ และกลุม่

2 วางแผน (planning) ผู้เรียนเตรียมตัวนาเสนอภาระงานตามท่ีได้รับมอบหมาย โดยมีการ
ใช้ภาษาด้วยตนเองซ่งึ ครูผสู้ อนจะใหค้ วามชว่ ยเหลือหากมีความติดขัดทางการใช้ภาษา

3 ขั้นรายงาน (report) ผู้เรียนสรุปผลและรายงานผลจากภาระงานท่ีตนปฏิบัติ ครูผู้สอนจะ
เป็นผู้ใหค้ าแนะนาและประเมนิ ผลงานน้นั ๆ

2. ความสามารถในการคิด
เป็นกิจกรรมท่ีให้ผู้เรียนได้ทางานเป็นกลุ่มและร่วมกันระดมความคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนสามารถ

ตรวจสอบการทางาน การคิด การใช้ภาษาในการปฏิบัติภาระงานของตนเองโดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์
อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
การทากิจกรรมภาระงานต่างๆ นักเรียนจะมีทักษะการแก้ปัญหามุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้นาเสนอแนว

ทางการแก้ไขปัญหาตามท่ีกาหนด พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้อภิปรายร่วมกันและนาเสนอแนวทางการ
แกไ้ ขทเี่ หมาะสมท่สี ุด ก่อนนาเสนอหนา้ ช้นั เรยี นและมีการตดั สินใจที่มีประสทิ ธภิ าพ

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนภาษาเพ่ือให้เกิดการพัฒนาทักษะทางภาษา นักเรียนสามารถในการ

นากระบวนการต่างๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การ
ทางาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและ
ความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ
การรู้จกั หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
นักเรียนมีความสามารถในการศึกษาค้นคว้า ใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น สื่อวีดีทัศน์ อินเทอร์เน็ต

และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร
การทางาน การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์

กิจกรรมการสง่ เสริมการอ่านโดยการใช้บทอา่ นสถาบนั ภาษาไทยสริ นิ ธร
ภายใต้ มูลนธิ เิ ทคโนโลยสี ารสนเทศตามพระราชดารสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ

สยามบรมราชกุมารี และ สถาบนั ภาษาไทยสิรินธร จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
ในระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาชนั้ ปที ่ี ๔ – ๖

ขั้นตอนท่ี ๑ ขั้นเตรยี ม

นักเรียนรับการทดสอบก่อนทากิจกรรม เป็นการทาแบบทดสอบเพ่ือแบ่งระดับ
ความสามารถในการอ่านของนักเรียน เพื่อนาคะแนนการสอบที่ได้ มาแบ่งระดับความสามารถใน
การอ่านของนักเรียนเพื่อจัดกลุ่มพัฒนาตามระดับความสามารถของนักเรียนที่ได้จากการทา
แบบทดสอบ ระดบั ความสามารถในการอ่านสามารถแบง่ ระดบั การอ่านเปน็ ระดับดังต่อไปน้ี

- การอ่านจบั รายละเอียด ระดบั แบบงา่ ย ระดบั กลาง ระดับยาก
- การอา่ นจับประเดน็ ระดับแบบง่าย ระดบั กลาง ระดบั ยาก
- การอา่ นตคี วาม ระดบั แบบง่าย ระดบั กลาง ระดบั ยาก

ขน้ั ที่ ๒ ขนั้ เรยี นรู้
เม่ือนักเรียนทราบถึงระดับการอ่านของตนเอง นักเรียนแยกกันอ่านบทความของตนเองตามลาดับ

ความสามารถในการอ่านทคี่ รผู ้สู อนได้จดั เตรยี มไว้ให้ โดยเนอื้ หา หรือบทอา่ นจะประกอบไปด้วย
๑. บทอา่ น
๒. คาถาม
๓. เฉลย
ท้ังน้ีนักเรียนจะเป็นผู้นาหรือผู้แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูจะเป็นเพียงแค่คนคอยแนะนา
ชี้แนะเมื่อนักเรียนอ่านบทอ่านเรียบร้อย นักเรียนจะต้องไปหยิบคาถามมาเพื่อตอบลงในสมุด
บันทึกคะแนนของตนเอง เมอื่ นักเรียนตอบคาถามเรียบร้อย นักเรียนถึงจะสามารถหยิบเฉลย มา
ตรวจสอบความถกู ต้อง และลงคะแนนตามลาดบั

เม่ือนักเรียนอ่านจนครบ ๕ เรื่อง นักเรียนต้องผ่าน ๓ ใน ๕ เรื่อง นักเรียนถึงจะได้เลื่อนขั้น
ระดับการอ่านท่ีสูงขึ้นไป เช่น หากนักเรียนได้ระดับพื้นฐานการอ่านเป็น การอ่านจับรายละเอียด
ระดับงา่ ย นักเรียนต้องอา่ นบทอา่ น จับรายละเอียดแบบงา่ ย ๕ เร่ือง ถ้าคะแนนผ่าน ๓ ใน ๕ ข้อ
ที่นักเรียนได้ลงมือทา นักเรียนถึงจะได้เล่ือนขั้นไปอยู่ในระดับ การอ่าน จับรายละเอียด แบบ
กลาง ต่อไป และอา่ นอกี ๕ เรอ่ื งเพอ่ื ประเมนิ และพฒั นาการอ่านในระดับการอ่านท่สี ูงข้ึนเร่อื ย ๆ

เมอ่ื นักเรียนอา่ นบทอ่านเสรจ็ เรยี บร้อยมกี ารบนั ทกึ คะแนนในสมุดบันทกึ ของตนเองเพ่ือ
เป็นหลักฐาน นาส่งให้ครูประจาช้ันเพื่อบันทึก เพ่ือดูพัฒนาการอ่านของผู้เรียน และจัดลาดับ
การพัฒนาของผู้เรียนจากความสามารถการอ่านระดับพื้นฐานท่ีได้จากการทดสอบก่อนเรียนว่ามี
การพัฒนาก้าวหน้าถงึ ระดบั ใด

ขน้ั ท่ี ๓ ข้ันสรุป
นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อนาคะแนนหลังเรียน เทียบกับคะแนนก่อนเรียน ครูผู้ดาเนิน

กิจกรรมนาผลเข้าที่ประชุมเพ่ือหาแนวทางพัฒนานักเรียนที่มีผลพัฒนาที่ดีจะพัฒนาอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น อีกท้ัง
หาแนวทางพฒั นานักเรยี นและบทอา่ นทีย่ งั มขี อ้ บกพรอ่ งต่อไป

กจิ กรรมศกึ ษาแหล่งเรียนรู้โครงการรอ้ ยใจรักษ์
โรงเรยี นโชตคิ ุณะเกษมบ้านเมอื งงาม เปน็ โรงเรยี นในโรงการรอ้ ยใจรักษ์ ไมใ่ ช่เพียงได้ดาเนินกจิ กรรมส่งเสรมิ
ทกั ษะวชิ าการกบั ทางร้อยใจรกั ษ์เทา่ น้ัน แตท่ างโรงเรยี นได้รับการสนบั สนนุ และส่งเสรมิ ทักษะชีวิต การดารงชวี ิต
โดยใชส้ ่ิงท่ชี ุมชนมอี ย่เู พ่ือใหน้ ักเรยี นไดเ้ หน็ คุณค่า และความสาคญั ของทรพั ยากรของชุมชน

ส่งเสริมให้นกั เรียน มพี ฒั นาการการใชช้ วี ติ การดารงชวี ติ อยบู่ นพน้ื ฐานความพอเพียงทม่ี ีหลกั ความรู้เปน็
ฐานและปฏิบตั อิ ยา่ งถูกวธิ ี โอยปราศจากการเอารดั เอาเปรยี บจากพอ่ คา้ คนกลาง ซอ้ื เปน็ ความรูพ้ ้ืนฐานทน่ี กั เรยี น
ส่วนใหญม่ คี รอบครัวเปน็ เกษตรกรรม ซ่งึ ถือว่า การเรยี นรูร้ ว่ มกับโครงการรอ้ ยใจรกั ษท์ ีน่ า เกษตร มาทาเปน็ เรอื่ งงา่ ย
ๆ แต่อดุ มไปดว้ ยทักษะความรทู้ ี่ ชมุ ชนอาจมองขา้ ม เปน็ การปูพนื้ ฐานความรใู้ หแ้ ก่ผูเ้ รยี นเปน็ พัฒนาสงั คม ชมุ ชน
เกษตรของชมุ ชนอกี ทางท่ีถือว่าเปน็ ปจั จัยสาคญั

กจิ กรรมมอนเตสเซอร่ี

โรงเรยี นในโครงการรอ้ ยใจรกั ษ์

โรงเรยี น ตชด.ศกึ ษานารยี ์อนสุ รณ์ 3
โรงเรียนโชตคิ ณุ เกษมบ้านเมอื งงาม

โรงเรยี นบ้านสขุ ฤทยั

โรงเรียนในโครงการร้อยใจรกั ษ์

สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

กจิ กรรมการจัดการเรยี นรูม้ อนเตสเซอร่ี

ในโรงเรียนโครงการร้อยใจรกั ษ์ ปี พ.ศ. 2561

การเริ่มกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบมอนเตสเซอร่ี ในระดบั อนุบาล โรงเรยี น ตชด.
ศึกษานารียอ์ นุสรณ์ 3 ได้รบั บคุ ลากรไดร้ บั การพัฒนา พร้อมสนับสนนุ อปุ กรณก์ ารเรยี นการ
สอนกระบวนการมอนเตสเซอร่ี โดยคณุ โทนี่ พร้อมคณะ

ในปี 2562 ขยายผลการจัดกจิ กรรมมอนเตสเซอรี่ โรงเรียนบ้านสุขฤทยั และโรงเรยี น
โชตคิ ุณเกษมบ้านเมืองงาม โดยเร่มิ ต้นพฒั นาบคุ ลากรให้รวู้ ิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดย
นาไปบูรณาการจัดกิจกรรม 6 กิจกรรม

ในปกี ารศึกษา 2563 ข้าราชบคุ ลากรได้รับการพัฒนาในช่วงปดิ ภาคเรียน
กระบวนการเรยี นการสอน และนาไปปฏิบัตใิ นชน้ั เรียน โดยบูรราการกับกจิ กรรมหลัก 6
กจิ กรรม ซง่ึ การจัดกจิ กรรมตามกระบวนการมอนเตสเซอรี่ ได้รับสนับสนุนสอ่ื จากมูลนิธิ
โครงการหลวงดอยตงุ สนับสนุนใหก้ บั โรงเรยี นในโครงการรอ้ ยใจรักษท์ ้ัง 3 โรงเรยี น คอื
โรงเรยี น ตชด.ศึกษานารยี ์อนสุ รณ์ 3 โรงเรยี นโชติคุณเกษมบา้ นเมอื งงาม และโรงเรียนบ้านสขุ
ฤทยั

นอกจากนไ้ี ด้อบรมแนะนาการใชส้ อื่ และอบรมปฏบิ ัติการเทียบเคียงตวั ช้ีวดั หลักสูตร
แกนกลาง พุทศกั ราช 2560 กบั ตวั ชีว้ ดั ของมอนเตสเซอรี่ ร่วมกนั กับ วิทยากรนาโดยคณุ โทนี่
และคณะ สพป.เชียงรายเขต 3 มคี ณะทีมงานผบู้ รหิ ารจากโรงเรียนในโครงการดอยตุง
ผบู้ ริหารโรงเรยี นในโครงการร้อยใจรกั ษ์ ศกึ ษานิเทศก์ ร่วมกันเทยี บเคยี งวเิ คราะห์หลกั สูตร I
ณห้องประชุม โครงการพฒั นาดอยตงุ (พนื้ ทที่ รงงาน) กระตนุ้ เพ่อื ให้คณะครไู ด้นาสอ่ื ลงสู่
กระบวนการจัดการเรียนรูอ้ ยา่ งเปน็ รูปธรรมและใหน้ ักเรยี นได้เรียนร้อู ย่างต่อเนอื่ ง ทัง้ นคี้ ณะครู
ได้ดาเนินกิจกรรมกระบวนการต่างๆ โดยอาศัยความพยายาม อดทน ดาเนินตามอยา่ งเปน็
ขัน้ ตอน ในช่วงแรกๆ จะมีปญั หา ไดม้ ีการจดั ทา PLc ทงั้ 3 โรงเรยี นโดยผ่านระบบ Zoom
ซง่ึ ไดร้ ับสนบั สนุนรหัสผ่าน ของ True จากมลู นิธิโครงการหลวงดอยตงุ ทาให้แก้ปญั หาสรา้ ง
ขวญั กาลังใจแก่บคุ ลากรอยา่ งดียง่ิ จากเวลาทีด่ าเนนิ กิจกรรม พบว่าคณะครูมคี วามม่ันใจ ใน
การจดั กิจกรรม นักเรียนมกี ารเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรม และเรยี นรสู้ อ่ื กจิ กรรมมอนเตสเซอร่ีอ
ยา่ งมีความสุข เป็นธรรมชาติ นักเรียนมีการเรียนรู้และทางานอย่างอดทนตามลาดับขน้ั ตอน
ทาแบบซ้าๆ ทาใหเ้ กิดการจดจาและบางครัง้ ไมม่ ัน่ ใจจะเกดิ การเรยี นซา้ จนสามารถส่ือสาร

ความร้ทู ่ไี ด้เรยี นรจู้ ากส่ือแนะนาเพือ่ น บอกครู นักเรียนมีวินยั มีมารยาทในสังคมมากข้นึ ดงั
ข้อมลู ดงั น้ี

1. โรงเรยี นบา้ นสุขฤทัยจะมจี ุดเด่น ทง้ั ในด้านของสิ่งแวดลอ้ มห้องเรียนและจดั
กระบวนการเรียนรู้ได้ชดั เจน มจี านวนนักเรยี นทัง้ หมด 52 คน แบง่ นกั เรียน 2
ห้องเรยี น มีครูดแู ลนกั เรยี น ทาให้นกั เรยี น

2. โรงเรียนโชตคิ ุณเกษมบา้ นเมอื งงาม มจี านวนนกั เรยี นท้ังหมด จานวน คน ครู
จานวน คน

3. โรงเรยี น ตชด.ศกึ ษานารยี อ์ นุสรณ์ 3 มีจานวนนกั เรยี น









ผลติ สื่อภาษา




































Click to View FlipBook Version