คำนำ
จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย ได้ขยาย
ขอบเขตการแพร่ระบาดของโรคออกไปในวงกว้างกระจายไปในหลายพ้ืนท่ีการตรวจพบผู้ปว่ ยยืนยนั ตดิ เช้อื ราย
ใหม่โดยเฉพาะกรณที ี่เปน็ การติดเช้อื ภายในประเทศมีจานวนเพ่มิ สูงขน้ึ ในแตล่ ะวนั ประกอบกับมีการเดินทางของ
บุคคลจากเขตพื้นทส่ี ถานการณ์ท่กี าหนดให้เป็นเขตพ้นื ท่ีควบคุมสงู สุดและเขม้ งวด ซึ่งส่วนใหญ่ยงั ไม่ปรากฏ
อาการของโรคเป็นเหตใุ ห้เชื้อโรคแพรอ่ อกไปในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ผ้ตู ดิ เช้ือโรคบางส่วน ปกปิดขอ้ มลู การ
เดนิ ทาง ทาให้ขัน้ ตอนการสอบสวนโรคเกิดความล่าชา้ และเปน็ อุปสรรคตอ่ การปฏบิ ัตงิ านอืน่ ท่ีเก่ยี วข้อง ส่งผลให้
เกดิ การระบาดขยายเปน็ วงกว้าง รัฐบาลและหน่วยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง โดยศนู ยบ์ รหิ ารสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของ
โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื (COVID-19) จงึ ได้กาหนดนโยบายและแนวปฏิบตั ิเพอ่ื ความปลอดภัย ให้กบั
ประชาชน ท้ังประเทศ
โรงเรียนบา้ นบอ่ ดิน สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์ เขต 2 สานกั งานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ขยายผลการดาเนินงานตาม นโยบายและแนวปฏบิ ัติดงั กลา่ ว เพ่อื
ขบั เคลื่อนการศึกษาไทยให้กา้ วตอ่ ไปในภาวะฉกุ เฉินนี้ โรงเรยี นบ้านบ่อดินมคี วามหว่ งใยตอ่ สวัสดภิ าพของคุณครู
บุคลากรทางการศึกษา และนักเรยี นทุกคน จงึ ไดจ้ ัดทา “คู่มอื การ เฝา้ ระวงั ติดตาม และแผนเผชญิ เหตุรองรบั การ
แพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โรงเรียนบ้านบอ่ ดนิ ” ฉบบั นี้
หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ บคุ ลากรของโรงเรียนบา้ นบ่อดนิ และผ้เู กย่ี วขอ้ งจะไดน้ าไปใช้ ประกอบและเปน็ แนว
ปฏบิ ัตใิ นการเฝา้ ระวัง กากับตดิ ตาม และเตรียมความพร้อมต่อการเผชิญเหตุ รองรับสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 อยา่ งทนั เหตุการณ์ อนั จะส่งผลให้นกั เรียน บุคลากร ของสถานศึกษา และ
ผเู้ กย่ี วข้อง มีความปลอดภัย ลดความเส่ียงจากการตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 และสามารถดาเนนิ ชีวิตอย่างปกติสขุ
สำรบญั
เรื่อง หนำ้
- บทนาและขอ้ มูลพนื้ ฐานโรงเรียนบ้านบ่อดนิ 1
- สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 6
- เกณฑ์การพิจารณาความเส่ยี ง และสถานการณ์ท่ีกาลังเผชิญเหตภุ ายในประเทศ 8
- เกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงและการเฝา้ ระวัง ระดบั ชุมชน 10
- เกณฑ์การพจิ ารณากรอบการปฏิบตั ิตามตารางประสานสอดคลอ้ งในการบริหาร สถานการณ์ 12
การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานศกึ ษา
- แนวปฏิบัตสิ าหรบั สถานศกึ ษารองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 17
- การเตรียมความพร้อมเพอื่ เฝ้าระวังและปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 19
- แผนเผชญิ เหตุรองรับสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 27
โรงเรียนบา้ นบ่อดนิ
- แนวปฏิบัติสาหรบั สถานศึกษาในการเปิดภาคเรียนใหน้ ักเรียนมาเรียนในหอ้ งเรยี น หรอื 30
On site 100 %
- มาตรการป้องกนั ตามระดบั การแพรร่ ะบาดโควดิ 19 ของสถานศึกษา กรณีหากพบผู้ตดิ เชื้อ 31
- แผนเผชญิ เหตุเพ่ือเตรยี มความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 33
- แนวทางปฏบิ ตั ิการปดิ หรือไม่ปดิ สถานศกึ ษากรณีเกิดโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 38
- การจัดการดา้ นสุขภาพจิต ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 40
- ภำคผนวก
- แนวทางการจดั การเรียนการสอนของสานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาบุรรี ัมย์ เขต 1
- ประกาศโรงเรยี นบา้ นบอ่ ดิน เรอ่ื ง นโยบายและแนวปฏบิ ัตใิ นสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019
- คาสง่ั แตง่ ตั้งคณะกรรมการบริหารศนู ยเ์ ฉพาะกิจการจัดการศกึ ษาทางไกลในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019
- คาสงั่ แตง่ ตั้งคณะกรรมการดาเนินงานปอ้ งกนั โรคตดิ ต่อเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19)
ตามแนวทาง BURIRAM HEALTHY MODEL
- ประกาศจดั ตงั้ ศนู ย์บริหารสถานการณ์เฝ้าระวงั และป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั
โคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษา
- คาสั่งแตง่ ตัง้ คณะกรรมการบริหารจัดการศูนย์บรหิ ารสถานการณ์เฝา้ ระวังการและปอ้ งกันการ
แพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
บทนำและข้อมูลพื้นฐำนโรงเรียนบำ้ นบ่อดิน
สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำบรุ ีรัมย์ เขต 2
*************************
ประวตั ิโรงเรียนบ้ำนบอ่ ดิน
โรงเรียนบ้านบ่อดนิ ตง้ั อยู่หมทู่ ่ี 11 ตาบลไพศาล อาเภอประโคนชัย จงั หวัดบุรีรัมย์ เรมิ่ ก่อต้งั เม่ือ
ปี พ.ศ. 2521 โดยความร่วมมือของประชาชนในหมู่บ้าน เป็นอาคารเรียนแบบช่ัวคราว ต่อมาในปี พ.ศ. 2522
ได้ปรับเป็นอาคารเรียนแบบ ป.1 ซ ขนาด 2 ห้องเรียน โรงเรียนมีพ้ืนท่ีทัง้ สิ้น 20 ไร่ 43 ตารางวา ไดเ้ ปิดทา
การสอนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 มีครู 2 คน นักเรียน 35 คน โดยมีนายประสงค์ พวงไพบูลย์
รักษาการในตาแหนง่ ครูใหญแ่ ละไดร้ บั การบรรจุแตง่ ต้ังเปน็ ครูใหญใ่ นเวลาต่อมา
ในปีการศึกษา 2523 โรงเรียนได้รับงบประมาณปรบั ปรงุ อาคารเรียนเพ่ิมอกี 2 ห้องเรยี น เป็นจานวน
เงิน 140,000 บาท ในปีการศึกษา 2524 ไดร้ ับจัดสรรงบประมาณ 40,000 บาท ในการกอ่ สร้างส้วม 3 ห้อง
1 ที่ ซ่งึ ปัจจบุ ันชารดุ ใชก้ ารไมไ่ ดแ้ ละไดร้ ้อื ถอนแลว้
ในปีการศึกษา 2527 คณะครู ผู้ปกครองนักเรียน ได้ร่วมบริจาคทรัพย์สร้างเสาธงเหล็ก พร้อมฐาน
เป็นเงิน 12,000 บาท ในปีการศึกษานี้ นายประสงค์ พวงไพบูลย์ ได้รบั คาส่ังย้ายและแต่งต้ังให้ไปดารงตาแหน่ง
อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านละเวยี้ และไดแ้ ต่งตั้งให้ นายจิรศักดิ์ พวงไพบูลย์ ดารงตาแหน่งอาจารยใ์ หญแ่ ทน ในปี
การศึกษานไี้ ด้รบั จดั สรรงบประมาณตอ่ เตมิ อาคารเรยี นอีก 2 หอ้ งเรียน ด้วยงบประมาณ 195,000 บาท
ในปีการศึกษา 2530 คณะครู ผู้ปกครองนักเรียน ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราว
อาคารรวมใจราษฎร์ เป็นเงิน 60,000 บาท และอาคารชั่วคราวอีก 1 หลัง เป็นเงิน 15,000 บาท ใน
ปีงบประมาณ 2530 น้ีได้รับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์แบบ สปช. 202/26 จานวน 1 หลัง
เปน็ เงนิ 200,000 บาท
ในปีงบประมาณ 2535 ได้รับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช. 102/26 จานวน 1
หลัง 3 ห้องเรยี น คณะครู ผูป้ กครองนกั เรยี นรว่ มกนั บริจาคทรัพย์กอ่ สรา้ งซุ้มประตู เป็นเงนิ 9,000 บาท
ในปีการศึกษา 2536 นายจิรศักด์ิ พวงไพบูลย์ อาจารย์ใหญ่ได้รับคาส่ังย้ายและแต่งต้ังให้ดารง
ตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านหนองเก็ม และมีคาส่งั แต่งตั้ง นายเอกภัทร แสงสุวรรณ มาดารงตาแหน่ง
อาจารย์ใหญ่แทน ในปีน้ีได้รับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างส้วม 1 หลัง 4 ท่ี แบบ สปช 601/26 เป็นเงิน
90,000 บาท
2
ในปีการศึกษา 2538 นายเอกภัทร แสงสุวรรณ ได้รับคาส่ังย้ายไปดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียน
บา้ นหนองกระต่าย และมีคาสั่งย้ายและแต่งตั้ง นายธีระศิลป์ เทียมศักด์ิ มาดารงตาแหนง่ แทน ในปีการศกึ ษาน้ี
นางสุเขมา เวชประมลู ไดบ้ รจิ าคทรัพยก์ ่อสรา้ งฐานพระพทุ ธรปู พร้อมพระพุทธรปู เปน็ เงิน 170,000 บาท
ในปีการศึกษา 2540 ได้รับงบประมาณปรับปรุงโรงเรียน ให้เป็นปัจจุบัน เป็นเงิน 52,364 บาท
สานักงานโยธาธิการกอ่ สร้างถังเกบ็ น้าฝน เปน็ เงิน 120,000 บาท
ในปีการศกึ ษา 2542 นายธรี ะศลิ ป์ เทียมศกั ดิ์ อาจารย์ใหญเ่ กษยี ณอายรุ าชการ และ ไดแ้ ตง่ ต้งั ให้
นายธนาธิป เสยี งตรง เป็นผ้รู ักษาราชการแทน
ในปกี ารศกึ ษา 2544 มีคาสัง่ ยา้ ยและแต่งต้งั นายวิเชียร ทองมี อาจารย์ 2 โรงเรียนบ้านหนองเกม็ ผู้
ผ่านการคัดเลือกข้ึนบัญชีในตาแหน่งอาจารย์ใหญ่มารักษาการในตาแหน่งอาจารย์ใหญ่และได้รับการ บรรจุ และ
แตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรยี นบา้ นบ่อดนิ
ในปีการศึกษา 2545 คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู จัดทอดผ้าป่าเพื่อ
การศึกษา เพื่อนาเงนิ มาซอ่ มแซมอาคารรวมใจราษฎร์ เปน็ เงนิ 60,000 บาท
ในปีการศึกษา 2546 องค์การบริหารส่วนตาบลไพศาล ได้ก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ มอบให้
โรงเรียน เป็นเงนิ 100,000 บาท
ในปีการศึกษา 2547 คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และศิษย์เก่า จัด
ทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน ป 1 ซ ซ่อมแซมถังเก็บน้าฝน ก่อสร้างระบบประปา
โรงเรียน เป็นเงิน 150,000 บาท องค์การบริหารส่วนตาบลไพศาล จัดสรรงบประมาณเพ่ือจัดซ้ืออุปกรณ์
คอมพิวเตอร์พรอ้ มระบบการตดิ ตั้ง เป็นเงนิ 47,900 บาท
ในเดือนกันยายน 2551 มีคาส่ังแต่งตั้ง นายนิคม ขันโสม ครูโรงเรียนอนุบาลประโคนชัย
(อานวยกิจราษฎร์วิทยาคาร) มาดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียน ซ่ึงเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกขึ้นบัญ ชีไว้ใน
เดือนตุลาคม ได้จัดสร้างเรือนเพาะชา เป็นเงิน 14,000 บาท โดยใช้งบประมาณเศรษฐกจิ พอเพียง จากองคก์ าร
บรหิ ารสว่ นตาบลไพศาล และได้กอ่ สรา้ งเตาเผาขยะ เปน็ เงนิ 10,000 บาท
ในปีการศึกษา 2552 คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ศิษย์เก่า ผู้ปกครองนักเรียน และผู้มีจิต
ศรทั ธา ได้รว่ มกนั บรจิ าคเงินเพือ่ สร้างรว้ั รอบบริเวณโรงเรยี น เปน็ จานวนเงิน 150,000 บาท
ในเดือนมกราคม 2556 USO NET ศูนย์การเรียนรู้ เล่น โดย กสทช. โครงการจัดให้มีบริการ
โทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยท่ัวถึง และบริการเพื่อสังคม ปี 2553 ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ
โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ดาเนินการจัดสร้างโดย บริษัท กสท.โทรคมนาคม จากัด (มหาชน)
สรา้ งห้อมคอมพวิ เตอรพ์ ร้อมอปุ กรณ์ มลู คา่ 700,000 บาท
3
ในเดือนตุลาคม 2556 ศิษย์เก่า ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ไทอดผ้าป่าสามัคคี เป็นจานวนเงิน
220,000 บาท เพ่ือปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน ปีการศึกษา 2557 นายณัฐพล มีเวที มารับตาแหน่ง
ผู้อานวยการ
1. ภำรกิจหลกั
โรงเรียนบ้านบ่อดินเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกากับดูแลของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มีหน้าท่ีดาเนินการจัดการศึกษาให้
เป็นไปตามมาตรา 6, 7, 10, 22, 23, 24 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และมาตรา 39
แหง่ ระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 และมีอานาจหนา้ ท่ี ดังน้ี
1. จัดทานโยบาย แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบาย และแผนของ
กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ตลอดจน
บรบิ ทและความตอ้ งการของชุมชนและท้องถิ่น
2. จดั ตั้งงบประมาณและรบั ผิดชอบการใชจ้ า่ ยงบประมาณของสถานศกึ ษา
3. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน และความ
ตอ้ งการของนักเรยี น ชมุ ชนและท้องถ่ิน
4. จัดการเรียนการสอน สภาพแวดล้อม บรรยากาศการเรียนการสอนท่ีเหมาะสม และส่งเสริม
กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ตลอดจนการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษาอย่าง
ต่อเนื่อง
5. ออกระเบยี บ ข้อบงั คบั ประกาศและแนวปฏิบตั ิต่าง ๆ ตามท่กี ฎหมายกาหนด
6. กากับ ติดตาม ประเมินผลงานตามแผนงาน โครงการและประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจน
การพิจารณาความดีความชอบ การพัฒนาและการดาเนินการทางวินัยกับครูและบุคลากรทางการศึกษาใน
สถานศึกษาตามท่กี ฎหมายกาหนด
7. ระดมทรัพยากรเพ่ือการศึกษา รวมทั้งปกครองดูแล บารุงรักษา ใช้และจัดหาผลประโยชน์จาก
ทรพั ยส์ ินของสถานศกึ ษา
8. จัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ความร่วมมือในการประเมิน คุณภาพ
การศึกษาจากหน่วยงานภายนอกสถานศึกษา รวมท้ังรายงานผลการประเมินผลต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา
และสานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา
9. ส่งเสริมความเข้มแข็งใหก้ ับชุมชน และสร้างความสมั พันธ์กับสถานศึกษาและสถาบนั อืน่ ในชุมชน
และท้องถนิ่
10. ปฏบิ ตั หิ น้าที่อ่นื ที่เก่ียวกับกจิ การภายในสถานศึกษาหรอื ตามท่ีไดร้ ับมอบหมายและ ตามที่
กฎหมายกาหนด
4
ปรัชญำของโรงเรยี น : นสิ สม กรณ เสยโย
คำขวัญของโรงเรียน : คิดดี ทาดี มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้
อัตลักษณข์ องโรงเรยี น : สามัคคี มีวินัย
เอกลักษณข์ องโรงเรยี น : เรียนรว่ มคละชัน้ ผกู พนั ใฝ่รู้ ฟน้ื ฟูสิง่ แวดล้อม
สปี ระจำโรงเรยี น : ม่วง - ขาว
อกั ษรย่อ : ช.บ.ด.
2. ข้อมลู บคุ ลำกร
ตำรำง 1 จำนวนนกั เรียนแบง่ เป็นรำยชั้น ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564
ชนั้ จำนวนนกั เรียน หมำยเหตุ
ชำย หญงิ รวม
อนุบาลปที ี่ 2 314
อนบุ าลปที ี่ 3 527
8 3 11
รวม 336
ประถมศกึ ษาปีที่ 1 549
ประถมศกึ ษาปีที่ 2
ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 4 2 6
ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3 5 8
ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 2 5 7
ประถมศึกษาปที ่ี 6 5 4 9
รวม 22 23 45
รวมทั้งส้ิน 30 26 56
หมำยเหตุ : ข้อมลู นกั เรียน ณ วันท่ี 25 มิถุนำยน 2564
5
ตำรำง 2 จำนวนครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ
ท่ี ชอื่ – นำมสกลุ วุฒิกำรศกึ ษำสูงสุด ตำแหนง่ / หนำ้ ที่ หมำยเหตุ
1 นายณฐั พล มีเวที ประกาศนยี บัตรบัณฑิต ผอู้ านวยการโรงเรียน
2 นางสาวนิยม ปยุ ะติ ปรญิ ญาตรี ครู
3 นางสาวจันทนี กระมล ปรญิ ญาตรี ครู
4 นางสาวเพชรรตั น์ กุสะรัมย์ ปริญญาตรี ครู
5 นางสาวประนอม ดวงศลิ ปริญญาตรี
6 นายโกมลเพง็ เพง็ ประโคน ปริญญาตรี เจา้ หนา้ ทธี่ รุ การ
7 นางอรทยั เพ็งประโคน ป.6 ครูอัตราจา้ ง
8 นายบุญตดิ วิเลส ป.ว.ช.
พีเ่ ลีย้ งเด็กพิการ
นกั การภารโรง
ตำรำง 3 แสดงจำนวนคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน โรงเรยี นบำ้ นบ่อดนิ
ที่ ชอื่ -สกุล ประเภทตัวแทน ตำแหน่ง
ประธานกรรมการ
1 นายหิรญั สดมสุข ผู้ทรงคุณวฒุ ิ
กรรมการ
2 นายวาทชั พลายเมือง ผู้ทรงคณุ วุฒิ กรรมการ
กรรมการ
3 พระมหาไสว สริ ิปญฺโญ ผแู้ ทนองคก์ รศาสนา กรรมการ
กรรมการ
4 นายรวภิ าส เกิดไทย ผู้แทนองค์กรชมุ ชน กรรมการ
กรรมการ
5 นางนภสร การเพยี ร ผแู้ ทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ กรรมการและเลขานุการ
6 นายมานะ กิรัมย์ ผู้แทนศิษยเ์ ก่า
7 นายฉลวย เสรมิ งาม ผูแ้ ทนผูป้ กครอง
8 นางสาวเพชรรตั น์ กสุ ะรมั ย์ ผแู้ ทนครู
9 นายณัฐพล มเี วที ผ้อู านวยการโรงเรียน
6
สถำนกำรณก์ ำรแพร่ระบำดโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (2563, น.1) ได้กล่าวว่าโรคโควดิ คอื โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
หรือ โรคโควิด - 19 (Coronavirus Disesse 2019 (COVID-19) เปน็ ตระกลู ของไวรสั ทกี่ ่อใหอ้ าการป่วย ตัง้ แต่โรค
ไข้หวดั ธรรมดาไปจนถงึ โรคท่ีมีความรนุ แรงมาก เชน่ โรคระบบทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง (MERS-COV) โรค
ระบบทางเดินหายใจเฉยี บพลันรุนแรง (SARS-COV) เป็นสายพนั ธ์ุใหมท่ ่ีไม่เคยพบมากอ่ นในมนุษย์ ก่อใหเ้ กดิ
อาการปว่ ยระบบทางเดินหายใจในคนและสามารถแพร่ เช้ือจากคนสคู่ นได้ โดยเช้ือไวรัสนี้พบ การระบาดคร้ังแรก
ในเมืองอู่ฮนั่ มณฑลหูเป่ย สาธารณรฐั ประชาชนจนี ในช่วงปลายปี 2019 หลังจากนั้นได้มีการระบาดไปทวั่ โลก
องค์การอนามัยโลกจึงต้งั ชือ่ การติดเชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่นว้ี ่า โรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาการ
ทวั่ ไปของผู้ป่วย พบวา่ มีอาการระบบทางเดนิ หายใจ มีไข้ ไอ มีนา้ มูก เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหนอ่ื ย หอบ ไมไ่ ด้กลิ่น
ไมร่ รู้ ส ในกรณที ี่อาการรนุ แรงมาก อาจทาใหเ้ กดิ ภาวะแทรกซ้อน เชน่ ปอดบวม ปอดอกั เสบ ไตวายหรอื อาจ
เสียชีวิตโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 การแพร่ กระจายเช้ือพบว่าโรคชนดิ น้ีมีความเป็นไปได้ที่มสี ตั วเ์ ปน็ แหล่งนา
เชอื้ โรค สว่ นใหญ่แพร่กระจายผ่านการสมั ผัสกับผู้ติดเช้อื ผ่านทางละอองเสมหะ การไอ น้ามกู น้าลาย ปจั จบุ นั ยัง
ไม่มีหลักฐานสนบั สนนุ การแพรก่ ระจายเชอื้ ผ่านทางการพื้นผวิ สัมผสั ท่มี ีไวรัสแล้วมาสัมผสั ปาก จมกู และตา
สามารถแพรเ่ ชอ้ื ผ่านทางเช้ือท่ถี กู ขับถ่ายออกมากบั อจุ จาระเข้าสู่อกี คนหน่ึงโดยผา่ นเขา้ ทางปาก (Feco-oral
route) ไดด้ ว้ ยการรักษาพบว่ายงั ไม่มียาสาหรบั ปอ้ งกนั หรอื รักษาโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ผู้ทตี่ ิดเชอื้ อาจตอ้ ง
ได้รบั การรักษาแบบประดับประคองตามอาการ โดยอาการท่ีมแี ตกตา่ งกันบางคนรนุ แรงไม่มากลักษณะเหมือน
ไข้หวดั ทว่ั ไป บางคนรนุ แรงมากทาใหเ้ กิดปอดอักเสบได้ ต้องสงั เกตอาการใกลช้ ิดรว่ มกับการรักษาดว้ ยการ
ประคับประคองอาการจนกว่าจะพ้นอาการช่วงนั้นและยังไม่มียาตวั ใดทม่ี หี ลักฐานชดั เจนวา่ รักษาโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั
โคโรนา 2019 ไดโ้ ดยตรง กลุ่มเสี่ยงโดยตรงท่อี าจสัมผัสกบั เชอ้ื ได้แก่ ผ้ทู ่เี พิง่ กลบั จากพ้นื ทเ่ี สย่ี ง สัมผัสใกล้ชดิ ผ้ปู ่วย
สงสัยตดิ เชอ้ื กลมุ่ เสย่ี งท่ีต้องระวัง หากตดิ เชื้ออาจมีอาการรุนแรง ไดแ้ กผ่ ูส้ ูงอายุ 70 ปีข้นึ ไป ผปู้ ว่ ยโรคเร้ือรัง เช่น
เบาหวาน ความดนั โลหติ สูง หลอดเลอื ดหวั ใจ ภูมิแพ้ เด็กเล็กอายตุ ่ากว่า 5 ปี ศนู ยก์ ารแพทยก์ าญจนาภเิ ษก (2563)
ได้กล่าวถึง วธิ ีป้องกันการตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนาสายพันธุใ์ หม่ ดงั นี้
1.หลีกเลี่ยงการใกลช้ ิดกบั ผูป้ ว่ ยทมี่ อี าการไอ จาม นา้ มูกไหล เหน่ือยหอบ เจบ็ คอ
2.หลีกเลยี่ งการเดินทางไปในพื้นทเี่ ส่ียง
3.สวมหนา้ กากอนามัยทุกคร้งั เมื่ออยูใ่ นท่สี าธารณะ
4.ระมัดระวงั การสมั ผสั พ้ืนผวิ ที่ไม่สะอาด และอาจมเี ชือ้ โรคเกาะอยู่ รวมถึงสง่ิ ทม่ี ีคนจบั บ่อยครง้ั เชน่ ท่ีจบั
บน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้า ราวบนั ได ฯลฯ เมอื่ จบั แลว้ อยา่
เอามือสัมผสั หนา้ และข้าวของเครือ่ งใช้สว่ นตัวต่าง ๆ เช่น โทรศพั ทม์ ือถือ กระเปา๋ ฯลฯ ล้างมือให้สม่าเสมอด้วย
สบู่ หรอื แอลกอฮอลเ์ จลอย่างน้อย 20 วนิ าที ความเขม้ ขน้ ของแอลกอฮอล์ไม่ต่ากวา่ 70% (ไมผ่ สมน้า)
7
5.งดจับตา จมูก ปากขณะท่ีไมไ่ ด้ลา้ งมือ
6.หลีกเลีย่ งการใกลช้ ดิ สัมผสั สตั ว์ต่าง ๆ โดยที่ไมม่ ีการป้องกนั
7.รับประทานอาหารสุก สะอาด ไม่ทานอาหารทที่ าจากสตั วห์ ายาก
8.สาหรบั บุคลากรทางการแพทย์หรอื ผ้ทู ่ตี ้องดแู ลผปู้ ่วยท่ีติดเช้ือไวรสั โคโรนาสายพันธุใ์ หม่ หรอื โควดิ -19
โดยตรงควรใสห่ น้ากากอนามัยหรือใสแ่ วน่ ตานริ ภัยเพื่อปอ้ งกันเชอ้ื ในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเขา้ ตา
วธิ ปี ฏบิ ตั หิ ากมอี าการโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 หากมีอาการของโรคที่เกดิ ขน้ึ เกนิ 5 ขอ้ ข้ึนไป ควรพบ
แพทย์เพอื่ ทาการตรวจ อยา่ งละเอียด และเมื่อแพทยซ์ ักถามควรตอบตามความเป็นจริง ไม่ปดิ บงั ไม่บิดเบือนข้อมลู
ใด ๆ เพราะจะเป็น ประโยชนต์ ่อการวนิ จิ ฉยั โรคอยา่ งถูกต้องมากทส่ี ดุ และหากเดินทางไปกลบั จากพืน้ ทีเ่ สี่ยง ควร
กักตัวเองอยู่แต่ ในบ้าน ไมอ่ อกไปข้างนอกเปน็ เวลา 14-27 วัน เพอ่ื ให้ผ่านช่วงเช้ือฟกั ตัว (ใหแ้ น่ใจจรงิ ๆ ว่าไม่ตดิ
เชอ้ื )
ตามท่กี ระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความตระหนกั ยิ่งถงึ ความปลอดภยั ของนกั เรียน ที่จะได้รับผลกระทบ
จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) และยดึ ถอื และปฏิบตั ิตามมาตรการการระวัง
ปอ้ งกัน ตามข้อกาหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉนิ
พ.ศ. 2548 (ฉบับท่ี 20) ข้อ 1 การห้ามการดาเนินการหรือจดั กิจกรรมหรือทเ่ี สย่ี งตอ่ การแพร่โรค จงึ ไดป้ ระกาศ
เลอ่ื นการเปิดภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 เปน็ วันที่ 14 มถิ นุ ายน 2564 เพ่ือใหส้ ามารถเตรยี มการป้องกันและ
ควบคมุ การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด – 19 แก่นักเรียน ในสถานศึกษาสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการได้อยา่ งมี
ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ โดยสถานศึกษาสามารถเลือกใช้รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบผสมผสานใน 5 รปู แบบ
(ON-LINE, ON-AIR, ON-DEMAND, ON-HAND และ ON-SITE) ตามความเหมาะสมกับบริบทของพ้นื ท่ี ทั้งน้ี ไม่
วา่ สถานการณ์ จะเป็นเชน่ ไร เด็กทุกคนต้องไมพ่ ลาดโอกาสในการเรียนรู้ โดยการจดั การศึกษาต้องคานงึ ถึงความ
ปลอดภัยสงู สุดของทุกคน รวมทัง้ มีการติดตามสถานการณ์อยา่ งใกล้ชดิ การ์ดต้องไม่ตกในทกุ พน้ื ท่ี และปฏิบตั ิตาม
พระราชบัญญตั ิโรคติดตอ่ พ.ศ. 2558 อย่างเครง่ ครัด
โรงเรยี นบ้านบ่อดิน สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์เขต 2 ตระหนักถึงสขุ ภาพอนามัย
และ ความปลอดภัยของนักเรยี น ครูและบคุ ลากรในสถานศกึ ษา จึงได้กาหนดรปู แบบแนวทางและมาตรการ
ป้องกัน การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 โดยเนน้ ความสอดคลอ้ งกับบริบทของ สถานศึกษาและเอื้ออานวยให้เกิด
การปฏบิ ตั งิ านได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เพือ่ ให้นกั เรียน ครแู ละบุคลากรภายใน สถานศกึ ษาสามารถดารงชีวิตอยูไ่ ด้
อย่างปลอดภยั การนเี้ องโรงเรียนได้จดั ทาคู่มือ แผนเผชิญเหตุ และการเฝ้าระวงั ตดิ ตาม แนวทางการปฏิบตั ิ เพือ่
รับมอื กบั การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) และเพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวปฏิบัติในการปอ้ งกนั
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีอาจเกิดเหตุขน้ึ กบั นักเรยี น ครูและบุคลากรทางการศึกษา หรอื
ผู้เกยี่ วขอ้ ง ให้มคี วามปลอดภยั และสามารถดาเนนิ ชวี ติ ได้อย่างปกตสิ ขุ ตามแนวชีวิตวถิ ีใหม่ (New Normal)
8
เกณฑ์กำรพิจำรณำควำมเสี่ยง และสถำนกำรณท์ ีก่ ำลงั เผชญิ เหตภุ ำยในประเทศ
กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข (2563, น.6-35) ได้กาหนดเกณฑ์การพจิ ารณาความเสยี่ งและ การเฝา้
ระวังโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ดงั นี้
วตั ถปุ ระสงค์
1.เพอ่ื จดั ระดบั ความรุนแรงของการระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019
2.เพอ่ื นาไปใช้ในการกาหนดมาตรการ การป้องกนั ควบคมุ โรค ระดับประเทศ
3.เพอ่ื ให้จังหวัดนาไปปรับใช้ในระดบั จังหวดั จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 ท่ีกาลัง
ดาเนินอยู่อยา่ งต่อเนือ่ ง จงึ ได้มี การกาหนดเกณฑ์การพจิ ารณาระดับความรุนแรงของการระบาด ความเสี่ยงและ
การเฝา้ ระวงั โดยจาแนกเปน็ 3 ระดบั กลา่ วคือ ระดับประเทศ ระดบั ชุมชน และระดบั สถานศกึ ษา มีดังนี้
1.เกณฑ์กำรพิจำรณำระดับควำมรนุ แรงของกำรระบำดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ระดับประเทศ
การพจิ ารณาระดบั ความรนุ แรงของการระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ระดบั ประเทศ
ควรคานึงถงึ ความสาคัญของคณุ ลักษณะ 3 ประเดน็ ได้แก่ 1)จานวนผตู้ ดิ เช้อื รายใหมส่ ะสมต่อสปั ดาห์ 2)ลกั ษณะ
การกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสขุ ภาพ 3)การกระจายของโรคตามลกั ษณะทางระบาดวิทยา
แตล่ ะประเดน็ มกี ารจาแนกระดับความรนุ แรงของการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ตาม
ลักษณะสี แบ่งเปน็ 5 สี ได้แก่ สขี าว เขยี ว เหลอื ง ส้ม แดง มีรายละเอยี ดคณุ ลักษณะ ดงั น้ี
สขี ำว (ปลอดภยั มีวคั ซนี ) หมายถึง ไม่มผี ้ตู ิดเชือ้ ในประเทศมผี ตู้ ดิ เชอื้ มาจากตา่ งประเทศ ผู้เดินทาง มา
จากตา่ งประเทศเข้าสถานที่กักกัน ผตู้ ิดเช้ือเขา้ รกั ษาในโรงพยาบาลที่กาหนด
สีเขยี ว (ไม่รนุ แรง ไมม่ ีวคั ซีน) หมายถึง มผี ู้ตดิ เชื้อในประเทศมผี ้ตู ดิ เชื้อมาจากต่างประเทศผู้เดนิ ทางจาก
ตา่ งประเทศเข้าสถานท่ีกักกนั ผู้ตดิ เชือ้ เข้ารักษาในโรงพยาบาลท่ีกาหนด
สีเหลอื ง (รนุ แรงน้อย) หมายถงึ จานวนผ้ตู ิดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์น้อยกว่า 300 ราย ต่อสัปดาห์
ลกั ษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสขุ ภาพ ไม่เกิน 1 จังหวัดต่อเขต และไม่เกิน 3 เขต การกระจาย
ของโรคตามลกั ษณะทางระบาดวทิ ยา ระบาดในวงจากดั มีไม่เกิน 3 กลมุ่ ก้อน (Cluster)
สีส้ม (รนุ แรงปำนกลำง) หมายถงึ จานวนผ้ตู ดิ เชอ้ื รายใหม่สะสมต่อสปั ดาห์ 300-900 ราย ต่อ สัปดาห์
ลกั ษณะการกระจายของโรคตามจงั หวัดและเขตสขุ ภาพ ไมเ่ กิน 1 จังหวดั ต่อเขต จานวน 4-6 เขต หรือ มากกว่า 1
จงั หวดั ตอ่ เขต และไมเ่ กนิ 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทาง ระบาดวิทยา ระบาด ในวงจากัด มีมากกว่า
3 กลุม่ ก้อน (Cluster) และมีความเชอ่ื มโยงกัน
สแี ดง (รนุ แรงมำก) หมายถงึ จานวนผูต้ ดิ เช้ือรายใหม่สะสมตอ่ สัปดาห์มากกว่า 900 ราย ตอ่ สปั ดาห์
ลักษณะการกระจายของโรคตามจงั หวดั และเขตสุขภาพ ไม่เกิน 1 จังหวัดตอ่ เขต และเกนิ 6 เขต หรือ มากกวา่ 1
จงั หวดั ต่อเขต และเกิน 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาด วทิ ยา มีการระบาดใน วงกว้าง หา
สาเหตไุ ม่ได้
9
เกณฑ์กำรพิจำรณำระดับควำมรุนแรงของกำรระบำดโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 ระดบั ประเทศ
10
2. เกณฑ์กำรพิจำรณำควำมเส่ียงและกำรเฝำ้ ระวัง ระดบั ชมุ ชน
จากสถานการณ์ความเส่ยี งตอ่ การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพน้ื ทช่ี ุมชนจงั หวัด
ระยอง กรณีทหารลกู เรือเครื่องบนิ ทหารชาวอียิปตข์ ณะมาปฏบิ ตั ิภารกิจทางการทหารในพนื้ ทจ่ี ังหวดั ระยอง เข้า
พักในโรงแรมแห่งหนงึ่ อาเภอเมืองจงั หวัดระยอง จากการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 จานวน 31 ราย พบตดิ เช้ือ
ไวรัสโรคโควดิ 19 จานวน 1 ราย เพศชาย อายุ 43 ปใี นทมี ลูกเรือดังกล่าว ได้เดินทาง ไปห้างสรรพสินค้าใกล้โรงแรม
จากเหตกุ ารณ์ในชว่ งระยะเวลาระหว่างวนั ที่ 6 - 11 กรกฎาคม 2563 สร้างความตระหนกและความแตกตนื่ แก่
ประชาชนทัว่ ทั้งจงั หวัดระยองและจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง สง่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสงั คม เกดิ ความหวาดระแวงต่อ
การตดิ เชื้อซึ่งนกั ท่องเทีย่ วกลุ่มประชมุ สัมมนายกเลกิ การจองหอ้ งพักในจังหวดั ระยองเกือบทั้งหมด รวมถงึ ส่งผล
กระทบด้านการศึกษา ผปู้ กครองเกดิ ความกงั วล ไม่มั่นใจในสถานการณ์ความเส่ียงท่มี ตี ่อความปลอดภัยของ
นกั เรียนทเี่ ป็น บัตรหลานช่วงเปดิ เทอม ทาใหส้ ถานศึกษาในจงั หวดั ระยองปดิ ทาการเรียนการสอน 274 แห่ง
กระทรวงสาธารณสขุ จึงกาหนดเกณฑก์ ารพิจารณาความเสี่ยงและการเฝา้ ระวังในการประเมนิ ความเส่ียงกรณเี กิด
มปี จั จัยเสีย่ งของคนในครอบครวั ในชมุ ชนหรือหมูบ่ า้ นกับความเชอื่ มโยงสถานศึกษา สาหรบั ให้สถานศึกษาใชเ้ ปน็
มาตรการดาเนินการใหส้ อดคลอ้ งตามสถานการณจ์ าแนกเป็น 4 สีไดแ้ ก่ แดง สม้ เหลือง และเขยี ว มดี งั น้ี
สีแดง หมายถึงกรณีมีปัจจยั เสีย่ งมีผปู้ ่วยในชมุ ชนใน 7 วนั คนในครอบครวั สมั ผัสใกลช้ ิดกบั ผปู้ ว่ ยอาการ
ของคนในครอบครวั ป่วยยนื ยันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019ระดับความเสีย่ งสูงมาก มาตรการดาเนินการสาหรบั
นักเรียนต้องเรียนอยูท่ ี่บ้าน 28วัน ส่วนสถานศึกษาถือปฏบิ ัติตามมาตรการสงู สดุ อย่างเคร่งครัด
สสี ม้ หมายถงึ กรณีมปี ัจจัยเส่ียงมีผปู้ ว่ ยในชุมชนใน 14 วนั คนในครอบครวั สมั ผัสไมใ่ กล้ชิด กบั ผปู้ ่วย
อาการของคนในครอบครัวรอยืนยันโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ระดบั ความเสยี่ งสงู มาตรการดาเนินการสาหรบั
นกั เรยี นตอ้ งเรียนอยทู่ ีบ่ ้าน 14 วนั ส่วนสถานศกึ ษาถือปฏิบัตติ ามมาตรการสูง
สีเหลอื ง หมายถึง กรณีมีปัจจัยเสยี่ งมผี ้ปู ว่ ยในชุมชนใน 28 วนั คนในครอบครวั ไปในพนื้ ที่สถานทีเ่ ส่ยี งหรอื
มพี ฤติกรรมเสี่ยงอาการของคนในครอบครวั ป่วยแต่ไม่เป็นโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ระดบั ความเส่ียงปานกลาง
มาตรการดาเนินการสาหรบั นักเรียนเรียนอยู่ท่ีบ้าน 7 วัน สว่ นสถานศึกษาถือปฏิบตั ิตามมาตรการพนื้ ฐาน
สีเขยี ว หมายถึง กรณีไม่มีผูป้ ่วยในชมุ ชน 28 วนั ขึ้นไป คนในครอบครัวไมม่ ีพฤติกรรมเสีย่ ง อาการของคน
ในครอบครวั ปกตริ ะดับความเสีย่ งต่ามาตรการดาเนินการสาหรบั นกั เรยี นไปโรงเรียนได้ สว่ นสถานศกึ ษาถือปฏบิ ตั ิ
ตามมาตรการผอ่ นคลาย
11
กำรประเมนิ ชุมชนและครอบครัวเพ่อื กำหนดมำตรกำรณใ์ นสถำนศกึ ษำ
12
3. เกณฑก์ ำรพิจำรณำกรอบกำรปฏิบัตติ ำมตำรำงประสำนสอดคล้องในกำรบริหำร
สถำนกำรณก์ ำรแพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 ในสถำนศึกษำ
การพจิ ารณากรอบการปฏบิ ัตติ ามตารางประสานสอดคล้องในการบรหิ ารสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ในสถานศึกษา จาแนกเป็นระดบั สี 5 ระดบั สีได้แก่ ขาว เขยี ว เหลอื ง ส้ม และ
แดง (สอดคล้องกบั เกณฑ์การพิจารณาระดับความรุนแรงของการระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
ระดบั ประเทศ) ซึ่งมีรายละเอียด กรอบการปฏิบัตติ ามระดับและระดบั การผอ่ นคลายกจิ การหรือกจิ กรรมทส่ี าคัญ มี
ดงั นี้
ระดับกำรบริหำรสถำนกำรณ์ : ระดบั ขำว
กรอบกำรปฏิบัติ
1. สามารถเดนิ ทางข้ามจังหวัดได้
2. ใหจ้ ัดกจิ กรรมรวมกลุ่มได้แตต่ ้องปฏบิ ัติตามมาตรการป้องกนั โรคทกี่ าหนด
3. ให้ดาเนนิ กจิ การหรอื กิจกรรมได้ทุกประเภทตามปกติผู้ประกอบการหรือผูจ้ ัดกิจกรรม ต้องมีการคดั
กรองผู้ใช้บรกิ ารและต้องปฏิบัติตามมาตรการหลกั ไดแ้ ก่
- ทาความสะอาดพ้ืนผวิ ทม่ี ีการสัมผสั บ่อย ๆ
- การสวมหนา้ กากของเจา้ หน้าท่ีพนักงาน ผูใ้ ชบ้ ริการผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- ใหม้ ีจุดบรกิ ารลา้ งมือด้วยสบหู่ รือแอลกอฮอลเ์ จลหรอื นา้ ยาฆา่ เชอ้ื โรค
- ให้มีการควบคมุ จานวนผ้ใู ช้บรกิ ารมใิ หแ้ ออัด
ตวั อย่ำงระดบั กำรผ่อนคลำยกิจกำร/กิจกรรมที่สำคญั
- โรงเรยี นเปิดการเรียนการสอนท่ีโรงเรียน 100%
- สนามกีฬากลางแจง้ เปดิ ให้มีผ้ชู มได้ 70% / 50% (5000)
- สนามกีฬากลางในรม่ เปดิ ใหม้ ผี ้ชู มได้ 50% / 25% (2000 / 1000)
- ขนสง่ สาธารณะบรรทุกผโู้ ดยสารได้ 100%
- โรงภาพยนตร์เปดิ ให้มผี ูช้ มได้ 100%
ตำรำงประสำนสอดคล้องในกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ
ระดับกำรบริหำร กรอบกำรปฏบิ ตั ิ ตัวอย่ำงระดับกำรผอ่ นคลำยกิจกำร/
สถำนกำรณ์ กจิ กรรมท่สี ำคัญ
ระดับขำว ⇨ สำมำรถเดนิ ทำงขำ้ มจงั หวัดได้
⇨ ให้จัดกจิ กรรมรวมกลมุ่ ไดแ้ ตต่ อ้ งปฏิบัตติ ำมมำตรกำรป้องกนั โรคที่กำหนด - โรงเรยี นเปดิ กำรเรยี นกำรสอนท่ี
⇨ ให้ดำเนนิ กจิ กำรหรอื กิจกรรมไดท้ ุกประเภทตำมปกติ ผ้ปู ระกอบกำรหรอื ผู้จัด โรงเรยี น ๑๐๐% - สนำมกฬี ำกลำงแจง้
กจิ กรรม ตอ้ งมกี ำรคดั กรองผู้ใชบ้ ริกำรและตอ้ งปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรหลัก ได้แก่ เปดิ ให้มีผู้ชมได้ ๗๐%/๕๐% (๕,๐๐๐)
- สนำมกฬี ำกลำงในรม่ เปดิ ใหม้ ผี ูช้ มได้
- ทำควำมสะอำดพื้นผิวท่ีมีกำรสมั ผสั บอ่ ย ๆ ๕๐%/๒๕% (๒,๐๐๐/๑๐๐๐)
- กำรสวมหน้ำกำกของเจำ้ หนำ้ ทพี่ นักงำน ผใู้ ชบ้ ริกำรผูเ้ ขำ้ ร่วมกิจกรรม - ขนส่งสำธำรณะบรรทกุ ผโู้ ดยสำรได้
- ใหม้ จี ุดบรกิ ำรล้ำงมือด้วยสบหู่ รอื แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยำฆ่ำเชื้อโรค ๑๐๐%
- ใหม้ ีกำรควบคมุ จำนวนผใู้ ช้บริกำรมใิ หแ้ ออดั - โรงภำพยนตร์เปดิ ใหม้ ผี ู้ชมได้ ๑๐๐%
ระดับกำรบริหำรสถำนกำรณ์ : ระดบั เขียว
13
กรอบกำรปฏบิ ัติ
ตามข้อกาหนดฉบับที่ 13
1. ใหจ้ ัดกิจกรรมรวมกลุม่ ได้แตต่ อ้ งปฏบิ ัตติ ามมาตรการป้องกันโรคท่กี าหนด
2. สามารถเดินทางข้ามจงั หวัดได้
3. ใหด้ าเนนิ กจิ การหรือกิจกรรมไดท้ ุกประเภท แตผ่ ้ปู ระกอบการหรือผ้จู ัดกิจกรรม ตอ้ งมีการคัดกรอง
ผูใ้ ชบ้ ริการและต้องปฏบิ ัตติ ามมาตรการหลัก ได้แก่
- ทาความสะอาดพ้นื ผิวท่ีมีการสมั ผัสบ่อย ๆ
- การสวมหน้ากากของเจา้ หนา้ ท่ีพนักงาน ผใู้ ชบ้ รกิ ารผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรม
- ให้มจี ดุ บริการลา้ งมือดว้ ยสบู่ หรือแอลกอฮอลเ์ จลหรือน้ายาฆา่ เชือ้ โรค
- ใหม้ ีการควบคุมจานวนผูใ้ ช้บริการมใิ ห้แออัด
- ลงทะเบยี นใช้งาน “ไทยชนะ” และแอปพลิเคชันท่ีรฐั กาหนด
* ผ้วู ่าราชการจังหวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพิ่มเติมได้
ตัวอย่ำงระดบั กำรผ่อนคลำยกิจกำร/กิจกรรมท่สี ำคญั
- โรงเรียนเปดิ การเรยี นการสอนท่โี รงเรียน 100%
- สนามกีฬากลางแจ้งเปดิ ให้มผี ้ชู มได้ 50% / 25% (3000/2000)
- สนามกฬี ากลางในรม่ เปิดใหม้ ผี ชู้ มได้ 25% / 15% (1000/500)
- ขนส่งสาธารณะบรรทกุ ผโู้ ดยสารได้ 100%
- โรงภาพยนตรเ์ ปดิ ให้มีผชู้ มได้ 70%
ศบค ที่ 8/2563 หรือตามท่ีคณะกรรมการเฉพาะกจิ พิจารณาการผอ่ นคลายฯกาหนด ตาราง
ประสานสอดคล้องในการบริหารสถานการณ์โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019
ตำรำงประสำนสอดคลอ้ งในกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ
ระดบั กำรบริหำร กรอบกำรปฏบิ ัติ ตัวอย่ำงระดบั กำรผ่อนคลำยกิจกำร/
สถำนกำรณ์ กิจกรรมทีส่ ำคญั
ระดบั เขียว ตำมขอ้ กำหนดฉบับท่ี ๑๓ - โรงเรยี นเปิดกำรเรยี นกำรสอนทโี่ รงเรียน
๑๐๐%
⇨ให้จัดกจิ กรรมรวมกล่มุ ได้แตต่ ้องปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรป้องกนั โรคท่ี - สนำมกีฬำกลำงแจง้ เปดิ ให้มีผู้ชมได้
๕๐%/๒๕%(๓๐๐๐/๒๐๐๐)
กำหนด ⇨สำมำรถเดนิ ทำงขำ้ มจังหวดั ได้ - สนำมกฬี ำกลำงในรม่ เปดิ ใหม้ ผี ู้ชมได้
๒๕%/๑๕%(๑๐๐๐/๕๐๐)
⇨ใหด้ ำเนินกจิ กำรหรือกิจกรรมไดท้ ุกประเภท แต่ผูป้ ระกอบกำรหรือผจู้ ดั - ขนส่งสำธำรณะบรรทกุ ผ้โู ดยสำรได้
กจิ กรรม ตอ้ งมกี ำรคัดกรองผใู้ ช้บริกำรและตอ้ งปฏิบตั ิตำมมำตรกำรหลกั ๑๐๐%
ได้แก่ - ทำควำมสะอำดพน้ื ผวิ ท่มี ีกำรสัมผัสบ่อย ๆ - โรงภำพยนตร์เปดิ ให้มีผชู้ มได้ ๗๐%
- กำรสวมหน้ำกำกของเจำ้ หน้ำทพ่ี นกั งำน ผใู้ ชบ้ รกิ ำรผเู้ ขำ้ ร่วมกิจกรรม ศบค ที่ ๘/ ๒๕๖๓ หรอื ตำมที่
- ให้มจี ดุ บรกิ ำรล้ำงมอื ด้วยสบูห่ รือแอลกอฮอลเ์ จลหรอื น้ำยำฆ่ำเช้อื โรค - คณะกรรมกำรเฉพำะกจิ พิจำรณำ กำร
ใหม้ กี ำรควบคุมจำนวนผ้ใู ชบ้ รกิ ำรมใิ หแ้ ออัด ผ่อนคลำยฯ กำหนด
- ลงทะเบียนใชง้ ำน “ไทยชนะ” และแอปพลเิ คชันท่รี ัฐกำหนด
* ผวู้ ่ำรำชกำรจงั หวดั /กทม. สำมำรถกำหนดมำตรกำรเพ่มิ เตมิ ได้
14
ระดับกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์ : ระดับเหลือง
กรอบกำรปฏบิ ัติ
ตามขอ้ กาหนดฉบบั ที่ 9
1. สามารถเดินทางขา้ มจงั หวัดได้
2. ให้ดาเนินการหรอื ทากิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดาเนนิ ชีวิตตลอดจนด้านการ ออกกาลังกาย หรอื ดูแล
สขุ ภาพหรอื สันทนาการไดแ้ ก่ ผู้ประกอบการหรือผจู้ ัดกจิ กรรม ต้องมกี ารคัดกรองผู้ใช้บริการและตอ้ งปฏบิ ตั ิตาม
มาตรการหลกั
- ทาความสะอาดพนื้ ผวิ ท่มี ีการสัมผสั บ่อย ๆ
- การสวมหน้ากากของเจ้าหนา้ ที่พนักงาน ผใู้ ชบ้ รกิ ารผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรม
- ให้มจี ดุ บรกิ ารล้างมอื ด้วยสบหู่ รอื แอลกอฮอล์เจลหรอื นา้ ยาฆ่าเชือ้ โรค
- ให้มีการเว้นระยะห่างอย่างนอ้ ย 1 เมตร
- ใหม้ ีการควบคุมจานวนผ้ใู ชบ้ รกิ ารมิให้แออัด
- ลงทะเบยี นใช้งาน “ไทยชนะ” และแอปพลเิ คชันทีร่ ฐั กาหนด
* ผู้วา่ ราชการจงั หวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพ่ิมเตมิ ได้
ตวั อย่ำงระดับกำรผอ่ นคลำยกจิ กำร/กจิ กรรมที่สำคัญ
- โรงเรียนเปิดการเรยี นการสอนที่โรงเรยี นไดแ้ ต่ถ้ามคี วามแออดั ใหจ้ ัดนกั เรยี นสลบั กันเรยี น
- สนามกีฬากลางแจง้ เปิดให้มผี ู้ชมได้ 25% / 15% (3000/1000)
- สนามกฬี ากลางในร่มเปิดไม่ให้มีผู้ชมได้
- ขนสง่ สาธารณะทางอากาศและBTS บรรทุกผโู้ ดยสารได้ 100%
- รถขนสง่ สาธารณะบรรทุกผโู้ ดยสารได้ 70%
- โรงภาพยนตร์เปดิ ใหม้ ผี ้ชู มได้ 50%
ตำรำงประสำนสอดคลอ้ งในกำรบริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ
ระดบั กำรบรหิ ำร กรอบกำรปฏบิ ตั ิ ตวั อย่ำงระดับกำรผอ่ นคลำยกจิ กำร/
สถำนกำรณ์ กจิ กรรมที่สำคญั
ระดบั เหลอื ง ตำมข้อกำหนดฉบบั ท่ี ๙
⇨ สำมำรถเดินทำงขำ้ มจงั หวัดได้ - โรงเรียนเปิดกำรเรยี นกำรสอนท่ีโรงเรียนได้
⇨ ให้ดำเนนิ กำรหรือทำกิจกรรมดำ้ นเศรษฐกจิ และกำรดำเนนิ ชวี ติ ตลอดจนด้ำน แตถ่ ้ำมคี วำมแออดั ใหจ้ ดั นกั เรียนสลับกันเรยี น
กำรออกกำลงั กำย หรอื ดแู ลสขุ ภำพ หรือสนั ทนำกำรไดแ้ ต่ผปู้ ระกอบกำรหรือผจู้ ดั - สนำมกฬี ำกลำงแจง้ เปิดใหม้ ีผูช้ มได้ ๒๕%/
กิจกรรม ต้องมี กำรคดั กรองผใู้ ชบ้ ริกำรและตอ้ งปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรหลกั - ทำ ๑๕% (๓,๐๐๐/๑,๐๐๐)
ควำมสะอำดพน้ื ผวิ ทมี่ ีกำรสัมผสั บอ่ ย ๆ - สนำมกฬี ำกลำงในร่มเปดิ ไม่ใหม้ ผี ูช้ มได้
- กำรสวมหนำ้ กำกของเจำ้ หนำ้ ท่ีพนักงำน ผู้ใชบ้ ริกำรผเู้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรม - ขนส่งสำธำรณะทำงอำกำศและBTS บรรทุก
- ให้มีจุดบริกำรลำ้ งมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล หรอื น้ำยำฆำ่ เช้ือโรค ผ้โู ดยสำรได้ ๑๐๐%
- ใหม้ กี ำรเวน้ ระยะหำ่ งอยำ่ งน้อย ๑ เมตร - รถขนสง่ สำธำรณะบรรทุกผ้โู ดยสำรได้ ๗๐%
- ให้มกี ำรควบคุมจำนวนผใู้ ช้บริกำรมิให้แออัด -โรงภำพยนตร์เปดิ ใหม้ ผี ู้ชมได้ ๕๐%
- ลงทะเบียนใชง้ ำน “ไทยชนะ” และแอปพลเิ คชันท่รี ฐั กำหนด - อ่ืน ๆ ตำมคำสง่ั ศบค หรือตำมที่
* ผูว้ ำ่ รำชกำรจังหวัด/กทม. สำมำรถกำหนดมำตรกำรเพมิ่ เตมิ ได้ คณะกรรมกำรเฉพำะกิจ พิจำรณำกำรผอ่ น
คลำยฯ กำหนด
15
ระดับกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์ : ระดับส้ม
กรอบกำรปฏบิ ัติ
ตามข้อกาหนด ฉบบั ที่ 6
1. จากัดการเดนิ ทางข้ามจังหวดั
2. ให้ดาเนนิ การหรือทากจิ กรรมบางอยา่ งได้เฉพาะเพือ่ เปืนการอานวยความสะดวกประชาชน ในการทา
กิจกรรมด้านเศรษฐกจิ และการดาเนินชวี ิตตลอดจนด้านการออกกาลังกาย หรือดแู ลสุขภาพหรือสนั ทนาการทไี่ มเ่ ส่ยี งตอ่
การแพร่ระบาดและผ้ปู ระกอบการหรือ ผจู้ ดั กจิ กรรมตอ้ งมกี ารคดั กรองผู้ใช้บริการและตอ้ งปฏิบัติตามมาตรการหลัก
ไดแ้ ก่
- ทาความสะอาดพน้ื ผวิ ท่ีมีการสมั ผัสบอ่ ย ๆ
- การสวมหนา้ กากของเจ้าหนา้ ทพี่ นกั งาน ผูใ้ ชบ้ รกิ ารผู้เข้าร่วมกจิ กรรม
- ใหม้ จี ดุ บรกิ ารลา้ งมือดว้ ยสบู่ หรอื แอลกอฮอล์เจลหรือนา้ ยาฆ่าเชือ้ โรค
- ให้มีการเวน้ ระยะหา่ งอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร
- ให้มีการควบคุมจานวนผูใ้ ชบ้ ริการมิให้แออดั
- ลงทะเบยี นใชง้ าน “ไทยชนะ” และแอปพลิเคชนั ที่รฐั กาหนด
* ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพมิ่ เติมได้
ตวั อย่ำงระดับกำรผ่อนคลำยกจิ กำร/กิจกรรมท่สี ำคัญ
- สถานศึกษาจัดการเรยี นการสอน ออนไลน์และ/หรือออนแอร์
- รา้ นอาหารจาหนา่ ยอาหารและเครื่องด่มื ได้ (เวน้ เคร่ืองด่ืมทมี่ ีแอลกอฮอลใ์ นสถานที่ตา่ ง ๆ) -
- รา้ นคา้ ปลกี /ตลาดนดั /ตลาดสด เปิดไดแ้ ตต่ ้องปฏบิ ตั มิ าตรการทกี่ าหนด
- สนามกีฬาลานกีฬา ประเภท กลางแจ้งและเปน็ กีฬาทไ่ี ม่มีการปะทะกนั สวนสาธารณะ เปดิ ได้ -
อืน่ ๆ ตามคาส่ัง ศบค ที่ 2/2563 หรือตามท่คี ณะกรรมการเฉพาะกจิ พจิ ารณาการผ่อนคลายฯ
ตำรำงประสำนสอดคลอ้ งในกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ
ระดบั กำรบริหำร กรอบกำรปฏบิ ตั ิ ตวั อย่ำงระดบั กำรผอ่ นคลำยกิจกำร/
สถำนกำรณ์ กจิ กรรมท่ีสำคัญ
ระดับสม้ ตำมข้อกำหนดฉบบั ที่ ๖
⇨ จำกัดกำรเดนิ ทำงข้ำมจังหวดั - สถำนศึกษำจัดกำรเรยี นกำรสอน ออนไลนแ์ ละ/
⇨ ให้ดำเนินกำรหรอื ทำกิจกรรมบำงอยำ่ งได้เฉพำะเพอื่ เป็นกำรอำนวยควำมสะดวก หรอื ออนแอร์
ประชำชนในกำรทำกจิ กรรมดำ้ นเศรษฐกจิ และกำรดำเนินชีวิตตลอดจนด้ำนกำรออกกำลงั - รำ้ นอำหำรจำหน่ำยอำหำรและเคร่ืองด่ืมได้
กำย หรือดูแลสุขภำพหรอื สนั ทนำกำรทไ่ี ม่เสย่ี งต่อกำรแพร่ระบำด และผู้ประกอบกำรหรือ (เวน้ เครอ่ื งด่ืมทม่ี ีแอลกอฮอล์ในสถำนทต่ี ำ่ ง ๆ)
ผู้จัดกิจกรรม ต้องมีกำรคดั กรองผู้ใช้บริกำรและต้องปฏิบตั ิตำม มำตรกำรหลกั ได้แก่ - ปิด สถำนบริกำรผับ บำร์
- ทำควำมสะอำดพืน้ ผิวท่ีมกี ำรสัมผัสบอ่ ย ๆ - ร้ำนคำ้ ปลีก/ตลำดนัด/ตลำดสด เปิดได้ แต่ตอ้ ง
- กำรสวมหน้ำกำกของเจำ้ หน้ำทพ่ี นักงำน ผู้ใช้บริกำรผเู้ ขำ้ ร่วมกิจกรรม ปฏบิ ัตมิ ำตรกำรทีก่ ำหนด
- ใหม้ ีจดุ บริกำรล้ำงมือดว้ ยสบู่ หรอื แอลกอฮอลเ์ จลหรือน้ำยำฆ่ำเช้อื โรค - สนำมกฬี ำ ลำนกฬี ำ ประเภทกลำงแจง้ และเป็น
- ใหม้ ีกำรเว้นระยะหำ่ งอยำ่ งน้อย ๑ เมตร กฬี ำที่ไม่มีกำรปะทะกัน สวนสำธำรณะ เปดิ ทำกำร
- ใหม้ กี ำรควบคมุ จำนวนผใู้ ชบ้ ริกำรมิใหแ้ ออัด ได้
- ลงทะเบียนใชง้ ำน “ไทยชนะ” และแอปพลิเคชนั ทีร่ ฐั กำหนด * ผูว้ ่ำรำชกำรจังหวดั / - อ่ืน ๆ ตำมคำส่งั ศบค ท่ี ๒/๒๕๖๓ หรอื ตำมท่ี
กทม. สำมำรถกำหนดมำตรกำรเพม่ิ เติมได้ คณะกรรมกำรเฉพำะกิจพจิ ำรณำกำรผ่อนคลำยฯ
กำหนด
16
ระดับกำรบริหำรสถำนกำรณ์ : ระดบั แดง
กรอบกำรปฏิบตั ิ
ตามข้อกาหนดฉบบั ที่ 1
- เน้นทก่ี ารห้ามเข้าพื้นท่ีเสย่ี งและการปิดสถานท่เี ส่ยี งต่อการตดิ ต่อโรค
- ปดิ ช่องทางเขา้ มาในราชอาณาจกั ร เวน้ บุคคลบางประเภท
- หา้ มชุมนุม
ตามข้อกาหนดฉบับที่ 2 และ3
- ห้ามบุคคลใดท่วั ราชอาณาจกั รออกนอกเคหะสถาน เวน้ บุคคลท่มี เี หตุจาเปน็
ตามข้อกาหนดฉบบั ท่ี 5
* ผูว้ ่าราชการจงั หวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพิ่มเติมได้
ตวั อยำ่ งระดับกำรผ่อนคลำยกจิ กำร/กจิ กรรมที่สำคัญ
- สถานศกึ ษาจดั การเรียนการสอน ออนไลนแ์ ละ/หรือออนแอร์
- ห้ามการเดนิ ทางขา้ มจงั หวัด ยกเว้นขนส่งสนิ ค้า
- ปดิ กิจการ/กจิ กรรมตา่ ง ๆ ยกเวน้ กจิ การที่จาเปน็ ต่อการดารงชีวติ เชน่ ธนาคาร โรงงาน สถานบริการ
เชอ้ื เพลิง บรกิ ารสง่ สินค้าและอาหารตามสั่งหรือตามทคี่ ณะกรรมการเฉพาะกจิ พิจารณาการผ่อนคลายฯ กาหนด
ตำรำงประสำนสอดคล้องในกำรบรหิ ำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ
ระดับกำรบรหิ ำร กรอบกำรปฏบิ ตั ิ ตวั อย่ำงระดับกำรผ่อนคลำยกจิ กำร/
สถำนกำรณ์ กจิ กรรมที่สำคัญ
ระดบั แดง ตำมขอ้ กำหนดฉบบั ที่ ๑
⇨ เน้นทก่ี ำรหำ้ มเขำ้ พ้ืนท่เี สยี่ งและกำรปดิ สถำนท่ีเส่ียงต่อ ตำมข้อกำหนดฉบับท่ี ๕
กำรตดิ ต่อโรค * ผู้วำ่ รำชกำรจังหวดั /กทม. สำมำรถ
⇨ ปิดช่องทำงเข้ำมำในรำชอำณำจกั ร เว้นบุคคลบำง กำหนดมำตรกำรเพม่ิ เตมิ ได้
ประเภท - สถำนศึกษำจัดกำรเรยี นกำรสอน
⇨ หำ้ มชมุ นมุ ออนไลนแ์ ละ/หรือ ออนแอร์
ตำมข้อกำหนดฉบับท่ี ๒ และ๓ - ห้ำมกำรเดินทำงขำ้ มจงั หวัด ยกเวน้
⇨ หำ้ มบคุ คลใดทว่ั รำชอำณำจกั รออกนอก เคหะสถำน ขนสง่ สนิ ค้ำ
เวน้ บคุ คลทม่ี เี หตุจำเป็น - ปดิ กจิ กำร/กิจกรรมตำ่ ง ๆ ยกเว้นกิจกำร
ท่จี ำเปน็ ตอ่ กำรดำรงชีวติ เช่น ธนำคำร
โรงงำน สถำนบรกิ ำรเช้อื เพลิง บรกิ ำรสง่
สินค้ำและอำหำรตำมสง่ั หรือตำมที่
คณะกรรมกำรเฉพำะกิจพิจำรณำกำรผอ่ น
คลำยฯ กำหนด
17
แนวปฏิบัตสิ ำหรบั สถำนศกึ ษำรองรบั สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำด ของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ
2019
จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ทมี่ ีความรนุ แรงมากข้นึ ทัว่ โลกและ
ประเทศ ใกล้เคยี ง อาทสิ าธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซ่ึงประเทศไทยมีพน้ื ทช่ี ายแดนด้านเมียนมากาลังเป็นพื้นที่
วิกฤตท่สี ุด จานวนผู้ปว่ ยติดเชอ้ื สะสมเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่อง อาจเปน็ ภาวะเส่ียงต่อการติดเชอื้ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 ในเขตพืน้ ที่ของชุมชนและสถานศึกษา อาจสง่ ผลกระทบตอ่ การจดั การเรยี นการสอน ดงั น้ัน สถานศึกษาควร
มีแนวปฏบิ ัตใิ นการจัดการเรียนการสอนตามตารางประสานสอดคลอ้ ง ตามสถานการณ์ความรนุ แรงของการแพร่
ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ของสถานศึกษา จาแนกตาม สถานศึกษาแตล่ ะประเภท มีดงั น้ี
สถำนศกึ ษำประเภทกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน
กลุ่มนักเรยี น
- สถานศึกษาจดั การเรยี นการสอนตามปกติ (ครบคน ครบองค์ ครบช้ันเรยี น)
สขี ำว-สเี ขียว
- สถานศึกษาทต่ี ง้ั อยู่ในพื้นที่ทไ่ี มพ่ บผู้ติดเช้อื ไม่นอ้ ยกว่า 90 วนั (พื้นที่สีเขยี ว) ได้รบั การพิจารณาอนญุ าต
จากศูนยป์ ฏิบตั ิการควบคมุ โรคจังหวดั ใหจ้ ดั การเรียนการสอนได้ตามปกติ
- โรงเรียนมีมาตรการให้นักเรียน ครูบุคลากรทางการศึกษาและเจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากผ้าหรือ
หน้ากากอนามัย มีอุปกรณ์ล้างมือและล้างมือบ่อย ๆ มีการทาความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบัติการหรือโรง
ฝึกงาน และทาความสะอาดอุปกรณ์ท่ีใช้ในการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติก่อนและหลังใช้งานทึกครั้ง
ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ
สเี หลือง-สสี ม้
- สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยมีการสลับวันเรียนแต่ละชั้นเรียน หรือมีการแบ่ง
จานวนนกั เรียนให้เหมาะสมกับการเว้นระยะห่างระหวา่ งกนั (Social distancing)
- มีมาตรการให้นักเรียน ครูบุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ทุกคน สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก
อนามยั มอี ุปกรณ์ล้างมือและล้างมอื บ่อย ๆ
- มีการทาความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบัติการหรือโรงฝึกงาน และทาความสะอาดอุปกรณ์ท่ีใช้ในการ
เรยี นการสอน การฝึกปฏิบัติกอ่ นและหลังใชง้ านทกึ ครัง้
สีแดง
- สถานศึกษาจดั การเรียนการสอนแบบ Online หรอื On air
18
19
กำรเตรียมควำมพร้อมเพื่อเฝำ้ ระวังและปอ้ งกนั กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019
โรงเรยี นบำ้ นบอ่ ดิน สำนกั งำนเขตพืน้ ท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำบุรรี ัมย์ เขต 2
โรงเรียนบ้านบ่อดิน ตระหนักในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid 19) อันสร้างความ
สูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประชากรท่ัวโลก ทั้งด้านชีวิต เศรษฐกิจ และสภาพสังคมท่ีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว
โรงเรียนบ้านบ่อดิน ได้ดาเนินการครอบคลุมภายใต้มาตรการการป้องกันอันจะมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค
ดงั กล่าวในสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านบ่อดินได้ดาเนินการประกาศ “มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid 19)” เพื่อใหค้ รอบคลุมในมาตรการวถิ ีชวี ติ การมาเรียนของนักเรียน ดังน้ี
1. กำรคดั กรองก่อนเขำ้ เรยี น
1.1 นักเรียนตอ้ งสวมหนา้ กากอนามยั หรอื หนา้ กากผา้ ตลอดเวลาเมอื่ อยใู่ นบรเิ วณโรงเรยี น
1.2 โรงเรยี นดาเนินการคดั กรองนักเรยี นก้อนเข้ามาในบริเวณโรงเรยี นโดยการวดอุณหภูมิ ณ
ประตูหน้าโรงเรียน หากพบว่านักเรียนมีอุณหภูมิของร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะต้องพักรอใน
พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ และจะวัดอุณหภูมิซ้าทุก ๆ 5 นาท่ีในกรณีท่ีอุณหภูมิร่างกายไม่ลดลง โรงเรียนจะติดต่อให้
ผปู้ กครองรับกลับทนั ที่
1.3 ครูและบคุ ลากรตอ้ งสวมหน้ากากอนามยั หรือหน้ากากผา้ ตลอดเวลาเม่อื อยใู่ นบรเิ วณ
โรงเรียนและตรวจวดั อณุ หภมู ิทุกคน
1.4 ผูป้ กครองหรอื ผู้มาติดต่อราชการตอ้ งสวมหน้ากากอนามยั หรือหนา้ กากผ้าตลอดเวลา
เมื่ออยใู่ นบริเวณโรงเรียน และตรวจวดั อุณหภมู บิ ริเวณหน้าประตทู างเขา้ โรงเรียน
1.5 นกั เรยี น ผ้ปู กครอง ครแู ละบุคลากรของโรงเรียน ตอ้ งล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ท่ีโรงเรยี น
จดั เตรยี มไวใ้ ห้
2. กำรปฏบิ ัตติ นระหว่ำงอยใู่ นโรงเรยี น
2.1 สวมหน้ากากอนามยั หรือหน้ากากผ้า
2.2 รกั ษาสุขอนามัย ดว้ ยการลา้ งมือบอ่ ย ๆ ตาม 7 ขั้นตอน ท้งั ก่อนและหลงั การรบั ประทาน
อาหาร หลังการเข้าห้องน้า ดว้ ยเจลแอลกอฮอลห์ รอื สบู่ที่โรงเรยี นจดั เตรียมไว้
2.3 การใช้พืน้ ท่รี ่วมกันของนกั เรียน เช่น การเข้าแถว การใชห้ อ้ งเรยี น หอ้ งน้าหอ้ งสมดุ เปน็ ต้น
ต้องเว้นระยะหา่ ง 1.5 เมตร
2.4 การรบั ประทานอาหาร นกั เรยี นทุกคนตอ้ งเข้าแถวโดยเว้นระยะห่างระหวา่ งกัน โดยนง่ั
รับประทานอาหารตามจุดท่ีกาหนด และท้ิงขยะในท่ีที่กาหนดเท่าน้ัน ทั้งนี้ผู้ปกครองควรจัดเตรียมภาชนะบรรจุ
อาหาร ชอ้ น ซ่อมหรอื อาหาร และนา้ ด่มื ใหก้ บั นกั เรยี นสาหรบั ใช้สว่ นตวั เพอ่ื รักษาสขุ อนามัย
20
2.5 โรงเรยี นติดป้ายประชาสัมพนั ธ์แนะนาการปฏิบัติเพื่อสุขอนามัยทด่ี ี เช่น วิธกี ารล้างมอื ท่ี
ถูกตอ้ ง การสวมหนา้ กากอนามัย หรอื หน้ากากผ้า และโรงเรียนได้จดั เตรยี มอา่ งล้างมืออ่างลา้ งภาชนะบรรจุอาหาร
สาหรับให้บรกิ ารนักเรยี น เป็นตน้
2.6 โรงเรียนทาความสะอาดพนื้ ท่ีสัมผัสท่ีมีการใช้รว่ มกนั บ่อย ๆ อยา่ งสม่าเสมอ เช่นโรงอาหาร
หอ้ งสมุด หอ้ งนา้ ลูกบดิ ประตบู นั ไดราวระเบ่ียงทางเดิน เป็นต้น
3.หลงั เลกิ เรียน
3.1 หลกี เล่ียงการอยรู่ ่วมกนั หลังเลิกเรยี น
3.2 ทาความสะอาดหอ้ งเรยี นทุกวันหลังเลิกเรยี น
3.3 นกั เรยี นออกจากอาคารก่อนเวลา 15.30 น. และเดินทางกลบั บ้านทนั ที
นอกจากนี้แล้ว โรงเรียนบ้านบ่อดิน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ยังได้
ดาเนินการ ตามมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนและเง่ือนไขของการประเมินตนเองของ
สถานศกึ ษาในการเตรียมความพร้อมก่อนเปดิ ภาคเรียน เพ่ือเฝ้าระวังและป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโรคติดต่อ
เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ( Thai Stop Covid Plus ) ซงึ่ กลำ่ วโดยสรุปได้ดังตอ่ ไปน้ี
1.ควำมปลอดภยั จำกกำรลดกำรแพร่เชอื้ โรค
1. มีมาตรการคัดกรองวัดไข้ ใหก้ ับนกั เรยี น ครแู ละผเู้ ข้ามาติดต่อทกุ คนก้อนเขา้ สถานศึกษา
2. มีมาตรการสังเกตอาการเส่ียงของโรคติดต่อเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 เช่น ไอมีน้ามกู เจ็บคอเหนื่อยหอบ
หายใจลาบากจมูกไม่ได้กลิ่น ล้ินไม่รู้รส พร้อมบันทึกผล สาหรับนักเรียน ครูและผู้เข้ามาติดต่อทุกคน ก่อนเข้า
สถานศกึ ษา
3. มีนโยบายกาหนดให้นักเรียน ครูและผู้เข้ามาในสถานศึกษาทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก
อนามยั
4. มีการจัดเตรียมหนา้ กากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สารองไว้ใหก้ บั นักเรยี นรอู้ งขอหรอื ผูท้ ี่ไม่มหี นา้ กากเข้า
มาในสถานศึกษา
5. มจี ุดลา้ งมอื ด้วยสบ่อู ยา่ งเพยี งพอ
6. มีการจัดวางเจลแอลกอฮอล์สาหรับใช้ทาความสะอาดมือบริเวณทางเข้าอาคารเรียนหน้าประตู
หอ้ งเรียน ทางเข้าโรงอาหาร อย่างเพียงพอ
7. มีการจัดโต๊ะเรียน เก้าอ้ีน่ังเรียน ท่ีน่ังในโรงอาหาร ที่น่ังพัก โดยจัดเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย
1-2 เมตร (ยดึ หลัก Social distancing)
8. มกี ารทาสญั ลักษณ์แสดงจดุ ตาแหนง่ ชัดเจนในการจดั เวน้ ระยะห่างระหว่างกนั
9. กรณีห้องเรียนไม่สามารถจัดเว้นระยะห่างตามท่ีกาหนดได้ มีการสลับวันเรียน แต่ละชั้นเรียน หรือมี
การแบ่งจานวนนักเรียน กรณีนโ้ี รงเรียนบ้านบอ่ ดินสามารถจัดการเรียนการสอนแบบปกติ (On-site) เนื่องจาก มี
จานวนนกั เรยี นไมม่ าก และสามารถจดั ให้มกี ารเว้นระยะหา่ งได้ตามท่หี นว่ ยงานราชการกาหนด
21
10. มีการทาความสะอาดหอ้ งเรยี น หอ้ งต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน ก่อนและหลงั ใช้งาน
ทึกครงั้ เชน่ หอ้ งงคอมพิวเตอร์ หรอื ห้องสมดุ เปน็ ตน้
11. มีการทาความสะอาดบริเวณจุดสัมผัสเส่ียงร่วม ทุกวัน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ราวบันได กลอนประตูมือจับ
ประตู- หน้าต่าง ทาความสะอาดห้องเรียน อาคารเรียน และอาคารประกอบ จัดห้องเรียน โดยยึดหลัก Social
distancing และการสวมหนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามัย การจดั อ่างล้างมอื ให้เพียงพอสาหรับนักเรียน และจัดให้
มเี จลลา้ งมอื ก่อนเข้าหอ้ งเรียน
12. มถี ังขยะแบบมีฝาปดิ ในห้องเรยี น
13. มีการปรับปรุงซ่อมแซมประตูหน้าต่าง และพัดลมของห้องเรียนให้มีสภาพการใช้งานได้ดีสาหรับใช้
ปิด - เปดิ ให้อากาศถ่ายเทสะดวก
14. มีการแบ่งกลุ่มย่อยนักเรียนในห้องเรียนในการทากิจกรรมการจัดกิจกรรมโดยยึดหลัก Social
distancing
15. มีการปรบั ลดเวลาในการทากจิ กรรมประชาสัมพันธ์ภายหลังการเข้าแถวเคารพธงชาตหี นา้ เสาธง
16. มกี ารจดั เหล่อื มเวลาทากจิ กรรมนกั เรยี นเหลือมเวลารับประทานอาหารกลางวนั หรอื ไม่
มีมาตรการให้เว้นระยะห่างการเขา้ แถวทากจิ กรรม
18. มีการกาหนดให้ใช้ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ส่ิงของร่วมกับผู้อื่นเช่น แก้วน้าช้อน ส้อม แปรงสีฟันยาสีฟัน
ผา้ เช็ดหน้า
19. มหี อ้ งพยาบาลหรือพ้ืนทีส่ าหรับแยกผู้มอี าการเสย่ี งทางระบบทางเดินหายใจ
20. มีนกั เรียนแกนนาด้านสุขภาพ จิตอาสา เป็นอาสาสมัคร ในการช่วยดูแลสขุ ภาพเพือ่ นนักเรยี นดว้ ยกัน
หรือดูแลรุ่นน้อง ตรวจสอบการเข้าหรือออกของ คุณครูบุคลากร และมีคณะกรรมการสภานักเรียน ทาหน้าท่ี
รณรงคก์ ารต้านภยั โรคตดิ ต่อเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19)
2. กำรเรยี นรู้
1. มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์แนะนาการปฏิบัติเพ่ือสุขอนามัยที่ดี เช่น วิธีล้างมือท่ีถูกต้องการสวม
หน้ากากอนามัย การเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ ง บุคคล เป็นตน้ หรืออนื่ ๆ ทเี่ กย่ี วกับโรคตดิ ตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019
2. มีการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนโดยคานึงถึงการเรียนรู้ตามวัยและสอดคล้องกับ
พฒั นาการด้านสังคม อารมณ์ และสติปัญญา
3. มีมาตรการกาหนด ระยะเวลาในการใช้สื่อออนไลน์ในสถานศึกษา ในเด็กเล็ก (ประถม) ไม่เกิน 1
ช่ัวโมงต่อวัน และในเด็กโต (มัธยม) ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่ (กรณีท่ีสถานศึกษาไม่ได้ใช้ส่ือออนไลน์ใน
สถานศึกษาเนือ่ งจากจดั การเรยี นการสอนแบบ On-site 100%
4. มีการใช้ส่ือรอบรู้ด้านสุขภาพผ่านช่องทาง Social Media เช่น Website , Facebook , Line, QR
Code , E-mail
3.กำรครอบคลมุ ถงึ เด็กดอ้ ยโอกำส
22
1. มีการเตรียมหนา้ กากผ้าสารอง
2. มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทการเข้าถึงการเรียนรู้ในสถานการณ์การ
ระบาดของโรคติดต่อเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
3. มีมาตรการสง่ เสรมิ ให้นักเรยี นไดร้ ับบรกิ ารสุขภาพขัน้ พื้นฐานอยา่ งทัว่ ถงึ
4. มมี าตรการการทาความสะอาดและจัดสภาพแวดล้อมของทพ่ี ักและเรือนนอน ให้ถูกสขุ ลักษณะ พร้อม
มตี ารางเวรทุกวนั
5. มีมาตรการการทาความสะอาดและจัดสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับข้อบัญญัติการปฏิบัติด้าน
ศาสนกจิ พรอ้ มมีตารางเวรทกุ วัน
6. มีมาตรการดูแลนักเรียนที่มีความบกพร่องด้านพัฒนาการการเรียนรู้ หรือด้านพฤติกรรมอารมณ์
รวมถงึ ภาวะสมาธสิ ้ัน และเดก็ ออทิสติก ที่สามารถเรยี นรรู้ ่วมกบั เด็กปกติ
4.สวัสดิภำพและกำรคมุ้ ครอง
1.มกี ารจัดเตรยี มแผนรองรับการจดั การเรียนการสอนสาหรับนกั เรียนป่วย กกั ตัวหรอื กรณีปิดโรงเรียน
2.มกี ารจดั เตรยี มแนวปฏบิ ตั กิ ารสอ่ื สารเพ่ือลดการรงั เกียจและการตตี ราทางสังคม (Social Stigma)
3.มกี ารจัดเตรยี มแนวปฏิบตั ิด้านการจดั การความเครียดของครูและบุคลากรของสถานศึกษา
4.มีการตรวจสอบประวัติเสี่ยงของนักเรียนและบุคลากร รวมท้ังตรวจสอบ เรื่องการกักตัวให้ครบ 14 วัน
ก่อนมาทาการเรียนการสอนตามปกติ และทุกวนั
5.มีการกาหนดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบสาหรับนักเรียน ครูและบุคลากรท่ีสงสัยติดเชื้อหรือป่วยด้วย
โรคตดิ ต่อเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวนั หยุดเรยี น
5.นโยบำย
1. การสื่อสารประชาสัมพันธ์ความรู้การปอ้ งกันโรคติดต่อเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 แก่นกั เรียน ครูบุคลากร
และผู้ปกครอง โดยการประชุมชี้แจงหรือผ่านชอ่ งทางต่าง ๆ อย่างนอ้ ย 1 ครั้ง กอ่ น หรือวนั แรกของการเปิดเรยี น
2. มีนโยบายและแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ของสถานศึกษา
อยา่ งเปน็ ลายลักษณ์หรอื มีหลักฐานชดั เจน
3. มีการประชุมคณะกรรมการบริหารโรงเรยี นและคณะกรรมการสถานศึกษา
4. มีการแต่งตั้งคณะทางานป้องกันการแพรร่ ะบาดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกาหนดบทบาท
หน้าท่อี ยา่ งชดั เจน
5. มมี าตรการจดั การความสะอาดบนรถรับ-ส่งนักเรียน เว้นระยะห่างระหว่าง บุคคลจัดที่น่ังบนรถหรอื มี
สัญลกั ษณ์จดุ ตาแหน่งชัดเจน หรอื ไม่(กรณีมรี ถรับส่งนักเรยี น)
6. กำรบรหิ ำรกำรเงิน
23
1. มีแผนการใชง้ บประมาณในการปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ ต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ตามความ
จาเป็นและเหมาะสม
2. มกี ารจดั หาซอื้ วัสดุอปุ กรณ์ป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 สาหรบั นักเรียนและบุคลากรใน
สถานศกึ ษา เชน่ หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สบู่ หรือไม่
3. มีการประสานแสวงหาแหล่งทุนสนบั สนนุ จากหนว่ ยงาน องคก์ ร หรือเอกชน เช่น ทอ้ งถ่ินบรษิ ทั ห้าง
รา้ น NGO เป็นต้น เพ่ือดาเนินกจิ กรรมการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
4. มีการจัดหาบคุ ลากรเพ่ิมเติมในการดูแลนกั เรียนและการจดั การสง่ิ แวดล้อมในสถานศึกษา
นอกจากนี้แล้วโรงเรียนบา้ นบอ่ ดิน ยังไดน้ าเอาแนวทางการจัดการเรยี นการสอนของสานักงานเขตพื้นท่ี
การศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี มั ย์ เขต 2 ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 มาใชเ้ ปน็
แนวทางในการดาเนินการขบั เคลอ่ื นกระบวนการจัดการเรยี นการสอนเพื่อให้การเรียนร้ขู องผู้เรยี น ไม่หยุดน่ิงและ
ไมพ่ ลาดโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ ซง่ึ รายละเอียดไดร้ ะบไุ ว้ในภาคผนวก
24
25
26
27
แผนเผชิญเหตุรองรบั สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคตดิ ตอ่ เช้ือไวรัสโคโรนำ 2019
โรงเรียนบ้ำนบอ่ ดนิ สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำบรุ ีรัมย์ เขต 2
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยได้ขยาย
ขอบเขตการแพร่ของโรคออกไปในวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่การตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเช้ือรายใหม่โดย
เฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจานวนเพิ่มสูงข้ึนในแต่ละวัน ในกรณีท่ีมีการเรียนการสอนตามปกติ
100% ควรกาหนดให้มีแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน
สถานศึกษา เพ่ือเปืนการเตรียมการและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ท่ีอาจจะเกิดขึ้น อันเป็นแนวปฏิบัติตาม
มาตรการการป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคติดตอ่ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 อย่างเครง่ ครัด
แนวปฏบิ ตั แิ ผนเผชิญเหตรุ องรับสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ ตอ่ เชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ในสถำนศึกษำ
แนวปฏิบัติแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงเรียน
บา้ นบ่อดิน มีดงั น้ี
1.กำรป้องกันเชอ้ื โรคไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID - 19) จำกต่ำงประเทศ
มคี รูต่างประเทศ ต้องรับการกกั กันในสถานท่ีทีร่ ฐั จดั ให้(State quarantine) เป็นเวลา 14 วนั
มีนักเรียน นักศึกษาต่างประเทศ/ต่างด้าวท่ีพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้จัดการเรียนการสอน
ตามปกติ สาหรับนักเรียน นักศึกษาที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย เมื่อเข้าประเทศไทยต้อง
รับการกกั กนั ในสถานท่ที ่รี ัฐจัดให้(State quarantine/Local quarantine) เปน็ เวลา 14 วนั
ข้อเสนอกำรพิจำรณำสทิ ธิประโยชน์สำหรับนักเรียนรู้หสั G
การได้รับสทิ ธปิ ระกันสงั คมหรือประกันสุขภาพ
การใชก้ องทนุ ของ ศธ. เพ่ือซ้อื ประกนั สุขภาพให้นักเรยี นรหู้ ัส G
การใช้ระบบการศกึ ษาทางไกลแทน การเข้ามาศกึ ษาในประเทศไทย
ด่านชายแดนทางเข้า และOrganizational Quarantine
ประกันภยั โควดิ 19 ระยะเวลา 1 ปี
2.กำรป้องกันกำรแพรร่ ะบำดของโรคไวรัสโคโรนำ 2019 ภำยในประเทศ
มศี ูนย์เฉพาะกิจการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019
พัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019
เปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคไวรัสโคโรนา 2019
จัดทาแนวทางการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา
2019
28
จดั ทาแพลตฟอร์มการเรยี นรู้ ชดุ โปรแกรม และแพลตฟอรม์ การเรียนรู้ครบวงจร
จัดทาแนวทางการบรหิ ารจดั การสาหรับโรงเรียนเพือ่ ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด
แผนการเตรยี มการรองรับนักเรยี นจากต่างประเทศ ทก่ี ลับเข้ามาเรียนในประเทศไทย
ของสถานศกึ ษา
แนวทางรับมือตอบโตภ้ าวะฉุกเฉนิ กรณีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานศึกษา
3.กำรเฝ้ำระวงั และกำรสอบสวนโรค
คดั กรองนักเรียน ผูบ้ ริหาร ครูบคุ ลากร และผ้เู กยี่ วขอ้ ง มกี ารสวมหนา้ กาก การลา้ งมือ การเว้น
ระยะหา่ ง การทาความสะอาด (ห้องเรยี น หอ้ งปฏิบัตกิ ารโรงฝึกงาน อาคารเรยี น โรงอาหารโรง
นอน พน้ื ทีส่ ่วนกลาง) และลดความแออัด
มีแนวปฏิบตั สิ าหรบั ผบู้ ริหาร ครูและบุคลากรในสถานศกึ ษาในการดาเนินการเกย่ี วกบั โรคไวรสั โค
โรนา 2019 เชน่ จัดทาแนวทางการบรหิ ารจัดการสาหรับโรงเรียนเพอื่ ป้องกนั และควบคุมการ
แพร่ระบาดของโรคไวรสั โคโรนา 2019 มาตรการคัดกรองสุขภาพด้านสาธารณสุข การดาเนนิ การ
เมือ่ มีกลุม่ เสยี่ งหรือผู้ป่วยยืนยนั ในสถานศึกษา
การปิดสถานศึกษาท่ีเกิดการระบาดและควบคุมการระบาดในสถานศกึ ษา
รายงานการประเมินสถานการณผ์ ลการดาเนนิ งาน ปัญหาอุปสรรค และให้ขอ้ เสนอแนะ แก่
หนว่ ยงาน ต้นสังกดั และคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวดั เพอื่ การตัดสนิ ใจ
4.กำรสรำ้ งควำมร่วมมือจำกทุกภำคส่วน
มศี ูนย์ประสานงานและติดตามข้อมลู ระหวา่ งสถานศกึ ษาและหน่วยงานต่าง ๆ
สถานศึกษาจบั คู่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบลในความร่วมมือ ป้องกันการ
แพร่ระบาดของโรคไวรสั โคโรนา 2019
สถานศกึ ษาแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019
ประกอบดว้ ยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจา้ หนา้ ท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ฝ่ายปกครอง
คณะกรรมการสถานศึกษา
29
30
แนวปฏบิ ตั สิ ำหรับสถำนศึกษำในกำรเปิดภำคเรียนให้นักเรยี นมำเรยี นในหอ้ งเรียน หรือ On site
100 % มดี งั นี้
1.ให้มีการจดั การเรียนการสอนไดป้ กติ On site
2.การจัดห้องเรียนสามารถจดั ได้ตามจานวนนักเรยี นปกติ โดยจดั ระยะหา่ งใหม้ ากท่สี ุดเท่าที่จะทาได้
3.กรณหี ้องเรยี นเป็นห้องแอร์ ให้เปิดประตูหน้าตา่ งช่วงพกั เที่ยงหรอื ช่วงทไ่ี ม่มีการเรียนการสอนในหอ้ ง
น้นั
4.มาตรการเสรมิ ต้องเข้มขน้ ดงั นี้
-การคัดกรองแยกผู้ปว่ ย ส่งรักษา
-การสวมหนา้ กากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ลดการจับกลุม่ พูดคยุ กนั โดยไมจ่ าเปน็
-ลดกิจกรรมรว่ มกันหลายห้อง
-กรณี มกี ารเดินเรยี นให้ทาความสะอาดพ้นื ผวิ โตะ๊ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใชร้ ่วมกนั หลงั จบการ
เรียนการสอนทุกคาบ
-ทกุ หอ้ งเรียน ให้ทาความสะอาดพืน้ ผวิ โตะ๊ เก้าอี้ หรืออปุ กรณท์ ใ่ี ช้รว่ มกนั ทุกสองชว่ั โมง
5.ใหม้ ีการบนั ทึกการปว่ ยดว้ ยโรคทางเดนิ หายใจ การสง่ ต่อตรวจหาเช้ือโรคไวรัสโคโรนา 2019 และสรุปผล
การตรวจทกุ สัปดาห์ส่งตน้ สังกัด กรณีมีเดก็ ป่วย หรอื ขาดเรยี นมากกวา่ ปกติให้ประสานสานักงานสาธารณสขุ
อาเภอหรือจังหวัดในพ้นื ที่
6.ให้มีการดาเนินการผอ่ นคลายมาตรการกากับโดยคณะกรรมการสถานศกึ ษาและหน่วยงานสาธารณสุข
ในพนื้ ที่
7.การปรบั มาตรการใหพ้ จิ ารณาตามสถานการณ์การระบาดและข้อมลู ท่ีมีอยู่ในขณะนนั้ เป็นระยะ ๆ
31
มำตรกำรปอ้ งกันตำมระดับกำรแพร่ระบำดโควดิ 19 ของสถำนศกึ ษำ กรณีหำกพบผู้ติดเช้ือ หรือ
พบวา่ มีนกั เรยี น ครู หรอื บุคลากรทางการศึกษามคี วามเส่ียงสูง สถานศึกษาต้องมคี วามพร้อมในเร่ืองสถานท่ี วสั ดุ
อปุ กรณ์ทางการแพทย์ ระบบขนส่งระบบการประสานงานตรงกบั บุคลากรทางการแพทย์ในพ้ืนท่ี การสรา้ งการรับรู้
ข่าวสารภายใน รวมทัง้ การคัดกรองเพอื่ แบง่ กลุ่มนักเรียน ครูและบคุ ลากรในสถานศึกษา ตามที่กระทรวง
สาธารณสขุ และกระทรวงศึกษาธิการกาหนด ดังน้ี
ระดับกำรแพร่ระบำด มำตรกำรปอ้ งกนั
ในชมุ ชน ในสถำนศกึ ษำ คร/ู นกั เรยี น สถำนศกึ ษำ
ไม่พบ ๑. ปฏบิ ตั ิตามมาตรการ DMHTT ๑. เปิดเรียน Onsite
ไม่มี ผูต้ ดิ เช้อื ยนื ยนั ๒. ประเมิน TST เป็นประจา ๒. ปฏิบตั ติ าม TST
ผตู้ ิดเชื้อ ๓. เฝ้าระวงั คดั กรอง กรณี
โรงเรยี นนอนประจา,เดก็
พิเศษ
ไมพ่ บ ๑. ปฏบิ ัติตามมาตรการ DMHTT ๑. เปดิ เรยี น Onsite
ผ้ตู ดิ เชอื้ ยนื ยนั ๒. ประเมนิ TST ทุกวนั ๒. ปฏบิ ตั ิเข้มตามมาตรการ
TST Plus
๓. เฝ้าระวังคดั กรอง กรณี
โรงเรยี นนอนประจา,เดก็
พเิ ศษ
พบผู้ติดเชอ้ื ๑. ปฏิบัติเขม้ ตามมาตรการ DMHTT * ๑. ปิดหอ้ งเรียนทพี่ บผตู้ ดิ
ยนื ยัน เน้นใส่หน้ากาก *เว้นระยะห่างระหว่าง เชื้อ
ในห้องเรียน บุคคล ๑ - ๒ ม. ๓ วนั เพอื่ ทาความสะอาด
มีผ้ตู ดิ เช้อื ๑ รายขึ้นไป ๒. ประเมนิ TST ทกุ วัน ๒. เปิดห้องเรียนอ่นื ๆ
ประปรำย ๓. ระบายอากาศทกุ ๒ ชวั่ โมง กรณีใช้ Onsite
เคร่อื งปรับอากาศ ได้ตามปกติ
๔. กรณี High Risk Contact : ๓. สุ่มตรวจเฝา้ ระวงั
งดเรียน Onsiteและกกั ตวั ทบี่ า้ น ๑๔ วัน Sentinel Surveillance
๕. กรณี Low Risk Contact : ทกุ ๒ สปั ดาห์
ให้สังเกตอาการของตนเอง และปฏบิ ัติ ๔. ปฏบิ ัตเิ ข้มตามมาตรการ
ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข TST Plus
32
ระดับกำรแพร่ระบำด มำตรกำรปอ้ งกัน
ในชุมชน ในสถำนศกึ ษำ
ครู/นกั เรียน สถำนศึกษำ
พบผตู้ ดิ เชอื้
ยนื ยันมากกว่า ๑. ปฏบิ ัตเิ ขม้ ตามมาตรการ DMHTT * ๑. ปิดห้องเรยี นทีพ่ บผตู้ ดิ เชอื้
๑ หอ้ งเรยี น
เน้นใส่หนา้ กาก *เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ ง ๓ วัน เพอ่ื ทาความสะอาด
มีผ้ตู ดิ เช้อื
เป็นกลมุ่ บคุ คล ๑ – ๒ เมตร หรอื
ก้อน ๒. ประเมิน TST ทกุ วัน มากกวา่ ตามอานาจ
มีกำร ๓. ระบายอากาศทุก ๒ ชวั่ โมง กรณใี ช้ การพิจารณาของ
แพรร่ ะบำด
ในชุมชน เครือ่ งปรบั อากาศ กระทรวงศึกษาธกิ าร
๒. ปฏบิ ัตเิ ขม้ ตามมาตรการ
TST Plus
๑. ปฏิบตั เิ ข้มตามมาตรการ DMHTT * ๑. พิจารณาการเปดิ เรยี น
เน้นใส่หน้ากาก *เว้นระยะห่างระหว่าง Onsite
บคุ คล ๑-๒ เมตร โดยเขม้ ตามมาตรการทุกมติ ิ
๒. ประเมิน TST ทกุ วัน ๒. สาหรับพ้ืนท่ีระบาดแบบ
๓. ระบายอากาศทกุ ๒ ช่ัวโมง กรณี กล่มุ ก้อน พจิ ารณาปิดโดย
ใชเ้ ครอ่ื งปรับอากาศ คณะกรรมการควบคุมการ
๔. กรณี High Risk Contact : แพร่
งดเรยี น Onsite และกกั ตวั ที่บ้าน ๑๔ วนั ระบาดระดบั พน้ื ที่ หากมี
๕. กรณี Low Risk Contact : หลักฐานและความจาเป็น
ให้สังเกตอาการของตนเอง ๓. สุ่มตรวจเฝ้าระวงั
Sentinel Surveillance
ทุก ๒ สปั ดาห์
๑. ปฏิบัตเิ ขม้ ตามมาตรการ DMHTT ๑. พจิ ารณาการเปิดเรียน
๒. เฝา้ ระวงั อาการเสยี่ งทุกวัน Self Onsite
Quarantine โดย เขม้ ตามมาตรการทกุ
๓. ประเมิน TST ทกุ วัน มิติ
๒. สาหรับพืน้ ทีร่ ะบาดแบบ
กลมุ่ กอ้ น พจิ ารณาปดิ โดย
คณะกรรมการควบคมุ การ
แพร่
ระบาดระดบั พ้นื ที่ หากมี
หลกั ฐานและความจาเปน็
๓. สมุ่ ตรวจเฝ้าระวงั
Sentinel
Surveillance ทกุ ๒ สปั ดาห์
33
แผนเผชญิ เหตเุ พื่อเตรยี มควำมพร้อมรับมือกำรแพร่ระบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019
โรงเรียนบ้ำนบอ่ ดนิ สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำบรุ ีรัมย์ เขต 2
ชือ่ เหตุกำรณ์ : พบนกั เรียน เปน็ ผูป้ ่วยยนื ยันโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ในโรงเรียนบ้านบ่อดิน
1. ช่ือเหตุกำรณ์ : พบนักเรียน 2. เหตุกำรณห์ มำยเลขท่ี : 3. วัน เวลำ ทเ่ี ริ่มเกิดเหตุ : วันท่ี :
เป็นผู้ปว่ ยยืนยันโรคติดเชือ้ ไวรัสโค __/__/____ เวลา:
โรนาในโรงเรียนบา้ นบอ่ ดนิ
4. สรปุ สถำนกำรณ์
พบนกั เรียนเป็นผูป้ ่วยยนื ยนั โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 ในโรงเรยี นบา้ นบ่อดิน ในช่วงสถานการณ์ ที่
ประเทศไทย มีการระบาด
หมำยเหตุ สถานการณท์ ่ปี ระเทศไทย มีสถานการณท์ ี่มีการแพรร่ ะบาดเปน็ วงกว้าง
สถำนกำรณ์ระดับประเทศ มีผูป้ ว่ ย >10,000 ราย/วัน มกี ารระบาดในวงกวา้ ง หาสาเหตุ หรอื
ความเช่ือมโยงไม่ได้
มำตรกำรยึดถือข้อกำหนดของกระทรวงสำธำรณสขุ เนน้ 5 มาตรการหลกั ได้แก่
การลา้ งมือบ่อย ๆ การสวมหนา้ กาก การเว้นระยะห่าง ไม่แออัด และมีการทาความสะอาดพ้นื
ผิวสัมผสั อยา่ งสม่าเสมอ
5. วตั ถุประสงค:์
วัตถุประสงคท์ ั่วไป:
1. ป้องกัน ควบคุมโรคไมใ่ หม้ ีการระบาดในวงกว้าง
2. จัดระบบการดูแลรักษาผูป้ ่วยใหไ้ ด้อยา่ งเพยี งพอและมปี ระสิทธภิ าพ
วตั ถุประสงค์เฉพำะ :
1. เพ่อื ค้นหาผูป้ ว่ ยสงสัย เพิ่มเติม ในโรงเรียนบ้านบอ่ ดิน
2. เพอื่ ตดิ ตาม และกกั กันผู้สัมผสั ให้ครบถ้วน
3. เพอื่ ให้การเรยี นการสอนสามารถดาเนนิ การต่อได้อย่างตอ่ เนอ่ื ง ปลอดภยั
6. กิจกรรม กำรปฏบิ ัติ และยทุ ธวิธที ี่วำงแผนสำหรับกำรดำเนินกำร
โรงเรียนบ้านบ่อดินกาหนดผูร้ ับผิดชอบดาเนนิ การ 8 ทมี (Team) ดงั น้ี
34
1. ทมี (Team) จัดกำรเรยี นกำรสอน (คณะครูและบุคลำกรทกุ คนในโรงเรียน)
1. ครเู ป็นแบบอย่างใหผ้ ู้เรียน โดยการปฏิบตั ิตามมาตรการป้องกัน และชแี้ จงแนวทางปฏิบัติให้
ชดั เจน และปฏิบตั ิตาม DMHTT 1) D-Distancing 2) M-Mask Wearing 3) H-Hand washing 4)
T-Testing 5) T-Temperature และ A-Application Thai Chana
2. ใหน้ กั เรยี นเวน้ ระยะห่าง 1-2 เมตร เมื่อเข้ามาในบริเวณโรงเรยี น
3. กรณปี ฏิบัตหิ นา้ ท่ใี นโรงเรียนใหร้ ะบายอากาศทุก 2 ช่วั โมง (กรณใี ชเ้ ครื่องปรบั อากาศ)
4. ปิดทาความสะอาดห้องเรยี นกรณมี ีนักเรยี นเปน็ ผปู้ ว่ ยยนื ยนั โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
5. งดการเรยี น On-Site และกักตัวที่บ้าน 14 วนั ให้ผูเ้ รียนประเมนิ ตนเองทุกวัน
6. ปรบั ใช้การเรยี นการสอนตามสถานการณ์ Online และ On-hand
2. ทีม (Team) ทมี สนับสนนุ งำนวิชำกำร (หัวหน้ำงำนวิชำกำร)
1. ปรับรปู แบบการจัดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนตามสถานการณ์ เช่น ชุมนุม กจิ กรรมในเคร่ืองแบบ เป็นตน้
2. ปรบั รูปแบบการวดั และประเมนิ ผล แจ้งครู นักเรยี น ประสานทดลองระบบ และดาเนินการตามระบบ
3. ทีม (Team) ทีมระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน
1. ครูที่ปรึกษาตรวจสอบข้อมูลกบั นกั เรียนที่ปรกึ ษา เพ่ือสอบถามข้อเท็จจรงิ
2. แจ้งข้อมูลในทมี ประชาสมั พนั ธเ์ พ่ือสรุปขอ้ มูลและประสานตอ่ เพ่ือประชาสัมพนั ธ์ 3. หลงั จากท่ีได้ข้อมลู
ท่แี น่ชัดแลว้ จงึ ส่งต่อข้อมูลให้แกผ่ ้ปู กครองใน line ตอ่ ไป
4.ทีม (Team) ทมี คดั กรอง รักษำควำมปลอดภัย และสง่ ต่อ (งานอนำมัยโรงเรยี น)
1.เข้มงวดการคดั กรองท่สี ถานศกึ ษา
-ให้มกี ารตรวจวัดไขแ้ ละสังเกตอาการ ครู บุคลากร เจ้าหนา้ ที่ นักเรยี น ผูป้ กครอง ก่อนเข้า หรือรบั -ส่ง
นกั เรียน พนักงาน/คนงาน ก่อนเขา้ สถานศกึ ษา
-หากตรวจพบ ผู้ท่ีมีความเสย่ี งในการติดเชือ้ หรือมีไข้ไอเจบ็ คอ มนี ้ามกู และหายใจเหนอื่ ยหอบใหบ้ ุคคล
ดังกลา่ วเขา้ รับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีสถานพยาบาลของรฐั หรือเอกชน และ
แจ้งเจา้ หนา้ ท่ีสาธารณสขุ จงั หวดั หรือกรมควบคุมโรค
2.สอบถามข้อมลู รายละเอยี ดการเข้าเรยี นในคาบเรียนกับครทู ปี่ รึกษาประสานกบั นกั เรียนและผปู้ กครอง
นักเรียน
3.ซักถามประวัติของนักเรยี นร่วมกบั งานอนามัยโรงเรยี นและครทู ่ีปรึกษา
4.ประสานประธานเครือข่ายผ้ปู กครองเพื่อแจ้งและสอบถามรายละเอยี ดและขอความความรว่ มมือ
ในการดแู ลนักเรยี น
5.รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั ผู้ที่สมั ผัสทงั้ หมดกบั นักเรยี น (ครูเวรหนา้ โรงเรยี น/ครูผู้สอน/นักเรียนในห้องเรยี น)
6.รายงานข้อมูลให้ผทู้ ่เี ก่ยี วข้องรบั ทราบ
35
5. ทีม (Team) สิ่งแวดล้อม (งำนอำคำรสถำนท่ี)
1. ประสานครูบคุ ลากร และนักเรียน ทาความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรยี น 2 สัปดาห์ตอ่ ครั้ง
2. งานอาคารสถานที่ทาความสะอาดจดุ ต่าง ๆ ได้แก่ หอ้ งเรียน ห้องพักครูโรงอาหาร แหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ
6. ทีม (Team) สขุ อนำมัย (งำนอนำมัยโรงเรยี น)
1. แยกนกั เรยี นไปยังสถานท่ีแยกกักผู้สัมผัสเส่ียงสงู ทจี่ ัดเตรียมไว้
2. ประสานงานกับผปู้ กครองเพอื่ ขอขอ้ มูล Timeline ของนักเรยี น
3. รายงานผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
4. ประสานงานศนู ย์สง่ เสริมสุขภาพทา่ วงั หนิ เพ่อื สง่ ต่อนักเรยี น เพอ่ื รายงานสถานการณ์และอาการป่วย
พร้อมรับคาแนะนาแนวทางในการปฏิบัตสิ ถานการณ์ในการสอบสวนโรค และเกบ็ ตัวอย่าง
5. ประสานงาน ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์โควดิ -19 โรงเรียนบา้ นบอ่ ดิน
6. ประสานงานงานอาคารสถานท่ีโรงเรยี น ทาความสะอาดสถานที่เกีย่ วข้อง
7. แจง้ ผู้จาหน่ายอาหารทาความสะอาดสถานประกอบการ
7. ทีม (Team) ทีมประชำสัมพนั ธ์ ( งำนประชำสัมพนั ธโ์ รงเรยี น )
1. ตรวจสอบขอ้ มูล จากแหลง่ ข่าวทน่ี ่าเช่ือถือ ได้แก่ ศูนย์ประสานงานโควิด – 19 โรงเรียนบ้านบอ่ ดิน งาน
อนามยั โรงเรยี น
2. ขออนุญาต ผบู้ รหิ าร ในการจดั ทาสอ่ื ประชาสมั พันธ์
3. ออกแบบสอื่ ในการนาเสนอข้อมูล
4. จัดทาสื่อประชาสมั พนั ธ์ ได้แก่ VDO มาตรการ /แนวทางการดาเนินการ โปสเตอร์
5. นาสือ่ ทจี่ ัดทา เผยแพร่ในส่ือตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ เพจ facebook Website โรงเรยี น กลุ่ม line สื่อมวลชน
ท้องถิ่น ส่ือ social network เปน็ ต้น
8. ทมี (Team) สนับสนุน (งำนบรหิ ำรงบประมำณ)
1. กล่มุ อานวยการและงบประมาณได้เตรียมสนับสนนุ วสั ดอุ ปุ กรณโ์ ดยเรง่ ดว่ นตามคาร้องขอของทกุ ทีม
2. ตดิ ตอ่ ประสานงานทง้ั ภายในและภายนอก
36
7. ข้อเนน้ ย้ำในห้วงเวลำกำรปฏิบัตกิ ำร : ( สง่ิ ท่ีผูบ้ ัญชาการเหตุการณเ์ นน้ ย้า ลาดบั ความสาคญั ของงาน
หรอื พืน้ ท่ปี ฏิบัติการที่ต้องดาเนินการก่อน เปา้ หมาย พนั ธกิจของภารกิจ อาจหมายถึงความปลอดภยั
ของบุคลากร)
- ทมี สอบสวนโรคและผู้ประสานงานของสถานศึกษาจะต้องค้นหาผสู้ ัมผัสเสี่ยงสูงให้ไดค้ รบถว้ น และ
ตดิ ตามอาการและการกกั ตัวใหไ้ ดจ้ นครบ 14 วัน
- หากพบวา่ ครู บุคลากร เจ้าหน้าท่ี นกั เรยี น ผูป้ กครองทา่ นใดมอี าการปว่ ย ต้องใหห้ ยุดพัก
รักษาตัว และประสานให้มีการเกบ็ ตวั อย่างเพ่ือตรวจหาเช้ือไวรสั
- สถานศึกษา ควรจัดเตรยี มสถานทส่ี าหรบั การกักตัว ครู บุคลากร เจ้าหน้าท่ี นักเรียน ผู้สมั ผสั หรือ
ผทู้ ี่กลับจากพน้ื ทีเ่ สีย่ ง ท่ีต้องสังเกตอาการ ( โดยขณะนไ้ี มม่ ีอาการ และ ผลตรวจไวรัสโคโรนาไม่พบ
เช้ือ) พรอ้ มอาหาร เครอื่ งดื่ม ใหพ้ รอ้ มสาหรบั รองรบั กรณีอาจมผี ทู้ ีเ่ ขา้ ขา่ ยต้องกักตัวเป็นจานวนมาก
- เนน้ ยา้ ผู้เกี่ยวขอ้ งทุกคนปฏิบัตติ ามหลกั สุขอนามัยเช่น ล้างมอื ใหส้ ะอาดเสมอดว้ ยน้าและสบหู่ รอื
แอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นามอื มาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จาเป็นการใส่หนา้ กากอนามยั
- หลีกเลีย่ งการออกไปสถานที่ชมุ ชนสาธารณะ หากจาเป็น ควรจัดเตรยี มหนา้ กากอนามยั และ
แอลกอฮอลเ์ จลเพ่ือใช้ลา้ งมือบ่อย ๆ
- ไม่ใช้ของสว่ นตวั ร่วมกับผู้อ่ืน เช่น แกว้ น้าภาชนะใส่และรับประทานอาหาร ผ้าเชด็ มอื
- จัดจุดทง้ิ ขยะติดเชอื้ ให้กับสถานศกึ ษา ระมัดระวังการเก็บขยะตดิ เชื้อ เช่น ทชิ ชูทีผ่ า่ นการใช้แลว้
อาจปนเปือ้ นสารคดั หลัง่ ก่อนทิง้ ขยะติดเชอ้ื ควรใส่ถุงปดิ ให้มิดชดิ และลา้ งมือทาความสะอาดเพอื่ ป้องกัน
การตกคา้ งของเช้อื โรค
- ลดการประชมุ ที่ไมจ่ าเป็น หลีกเลย่ี งการจดั งาน/จดั ประชุมทตี่ อ้ งมีการชมุ นุมแออดั โดยใหป้ รบั ไปใช้
การประชุมผ่านโทรศัพทห์ รือ Video Conference / เสยี งตามสาย
8. ขอ้ ควรตระหนัก สิ่งทคี่ วรระมัดระวัง : (ข้อมลู หรอื สถานการณท์ ตี่ ้องทราบ หรอื ต้องพงึ ระวังในการ
ปฏิบตั กิ าร อาจรวมถึงวิธกี ารเข้าถึงพ้นื ทป่ี ฏิบตั ิการ พยากรณอ์ ากาศ)
1. โรงเรยี นบา้ นบอ่ ดนิ จาเป็นตอ้ งอาศัยความร่วมมือจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง รวมทงั้ ความ
เข้มงวดในมาตรการการปอ้ งกันควบคุมโรค การจดั การเม่ือเกิดเหตุ และการส่ือสารความเสยี่ งท่ที ัน
สถานการณ์ลดผลกระทบ และลดความตื่นตระหนกของประชาชนในวงกวา้ ง
2. การพจิ ารณาเปดิ เรียนและรูปแบบการเรียนการสอนของแต่ละสถานศกึ ษา ต้องดาเนนิ การ
จดั รปู แบบการเรยี นการสอน สถานที่ รวมทง้ั บุคลากรและเจา้ หนา้ ทใ่ี ห้มคี วามพร้อมสอดคลอ้ งกับการ
ปฏิบตั ิตามมาตรการป้องกนั โรครวมท้งั จดั ระเบียบและระบบตา่ ง ๆ ให้เปน็ ไปตามคาแนะนาอย่าง
เคร่งครัด โดยคานึงถงึ ความเสย่ี งตอ่ การติดโรคการแพรก่ ระจายเชอ้ื และความปลอดภัยของผู้เรยี น
37
9. สรปุ ทรพั ยำกร : แหลง่ ทรัพยำกร หมำยเหตุ
- โรงเรียนบ้านบ่อดนิ - งานอนามยั
ทรัพยำกร (ชนิด และจำนวน) - สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ โรงเรียน
- สานกั งานสาธารณสขุ อาเภอ
1. ทมี สอบสวนโรค/หน่วยปฏิบตั ิการ - สานกั งานสาธารณสขุ อาเภอ - สนง.สธ.
ควบคุมโรค (CDCU)/ - งานอนามัย .
- โรงเรียนบา้ นบ่อดนิ
2. แบบสอบสวนโรค - โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพฯ - งานพสั ดุ
- โรงเรยี นบา้ นบอ่ ดนิ โรงเรยี น
3. อปุ กรณ์การเกบ็ ตัวอยา่ ง ได้แก่ NPS - โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพฯ - งานพสั ดุ
VTM ชุดอปุ กรณ์ปอ้ งกันรา่ งกายสาหรบั โรงเรยี น
เกบ็ ตวั อย่าง/ PPE - โรงเรียนบา้ นบ่อดิน
- งานอนามยั
4. เจลแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ - โรงเรยี นบา้ นบอ่ ดิน โรงเรยี น
5. นา้ ยาทาความสะอาดท่มี ีส่วนผสมของ - งานอนามัย
โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.5% หรอื แอลกอฮอล์ โรงเรียน
70 เปอรเ์ ซน็ ต์ สาหรบั เช็ดทาความสะอาด - งานพสั ดุ
พน้ื ผวิ สถานทหี่ รอื อุปกรณ์ โรงเรยี น
- งานพสั ดุ
6. สือ่ ความรู้ อาทิ โปสเตอรก์ ารเว้น ระยะหา่ ง โรงเรยี น
กัน การล้างมือที่ถกู วธิ ี และ การสวมหน้ากาก
ผ้า เปน็ ต้น
7. หนา้ กากอนามัย
8. เทอร์โมมเิ ตอรว์ ัดอุณหภูมริ ่างกาย - โรงเรยี นบ้านบ่อดนิ
9. สถานทส่ี าหรับกกั กันทก่ี าหนดไว้ - โรงเรยี นบา้ นบอ่ ดิน
(Designated quarantine area)
38
แนวทำงปฏบิ ตั ิกำรปิดหรอื ไม่ปิดสถำนศกึ ษำกรณีเกิดโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019
นิยำม
ผู้ป่วยยืนยนั โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ หมายถึง ผทู้ ่มี ีผลตรวจทาง
หอ้ งปฏิบัติการพบวา่ ตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
ผสู้ มั ผัสทีม่ ีควำมเสี่ยงตอ่ กำรตดิ เชื้อสงู (High risk contact)
(ผู้สัมผสั เสยี่ งสงู ) หมายถึง ผู้สมั ผัสใกลช้ ิดกับผปู้ ว่ ยยืนยนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั
โคโรนา 2019 ตามลกั ษณะข้อใดข้อหนง่ึ ดังน้ี
- ผู้ที่เรียน ผู้อาศัยรว่ มหอ้ งพักหรือทางานในห้องเดยี่ วกันคลกุ คลกี ัน
- ผสู้ ัมผสั ท่มี กี ารพดู คยุ กบั ผปู้ ่วยในระยะ 1 เมตร นานกวา่ 5 นาที
หรอื ถูกไอ จาม รด จากผู้ปว่ ยโรคโควิด 19 โดยไมม่ กี ารป้องกัน เช่น ไม่
สวม หนา้ กากอนามยั หรอื หน้ากากผ้า
- ผู้ท่ีอยู่ในบรเิ วณที่ปิดไมม่ ีการถา่ ยเทอากาศ เชน่ ในรถปรับอากาศ ใน
ห้องปรบั อากาศ ร่วมกบั ผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 และอยหู่ ่างจากผู้ปว่ ยไม่เกนิ
1 เมตร นานกว่า 15 นาที โดยไม่มีการป้องกนั เชน่ ไมส่ วมหน้ากาก
อนามยั หรอื หน้ากากผ้า
ผ้สู มั ผสั ที่มีควำมเสี่ยวต่อกำรติดเช้ือต่ำ (low risk contact)
(ผู้สัมผสั เส่ยี งตำ่ ) หมำยถึง ผทู้ ท่ี ากจิ กรรมอน่ื ๆ รว่ มกบั ผู้ปว่ ยโรคติดเช้อื
ไวรัสโคโรนา 2019 แตไ่ ม่เข้าเกณฑ์ความเสยี่ งสงู
ผใู้ กล้ชดิ
- ผู้ใกล้ชิดกบั ผู้สมั ผัสเส่ยี งสงู จดั เปน็
ผ้ทู มี่ คี วามเส่ียงต่อการติดเชือ้ ต่า
- ผูใ้ กล้ชิดกับผสู้ ัมผัสเส่ียงต่าจัดเป็นไม่มีความ เสีย่ ง (No risk)
39
แนวทำงปฏบิ ตั เิ มอ่ื พบผปู้ ว่ ยยนื ยันโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ ในสถำนศกึ ษำ
ให้ปดิ ห้องเรียน/ชน้ั เรยี น/สถานศกึ ษา กรณีพบผปู้ ่วยยืนยันโรคโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019
1. เม่ือพบผ้ปู ว่ ยยืนยนั โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 จานวน 1 รายข้ึนไป
ใหป้ ดิ หอ้ งเรยี น เปน็ เวลา 3 วัน เพ่อื ทาความสะอาด
2. เม่ือพบผู้ปว่ ยยนื ยันโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 มากกว่า 1 ห้องเรยี น
ใหป้ ิดชน้ั เรียน เป็นเวลา 3 วัน เพ่อื ทาความสะอาด
3. หากมหี ลักฐานและความจาเป็นต้องปิดสถานศึกษา
ให้ขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการโรคตดิ ต่อจังหวดั
ไม่ต้องปิด ห้องเรียน/ช้ันเรียน/สถานศึกษา กรณีที่ไม่พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ใน
สถานศึกษาโดยมีแนวทางดาเนินการ ดังนี้
1. ผู้สัมผัสทม่ี คี วามเสี่ยงต่อการติดเช้ือสงู (High risk contact) ในสถานศึกษา ดงั นี้
• ผสู้ ัมผัสทม่ี ีความเส่ียงตอ่ การติดเชอ้ื สงู (High risk contact)
ใหส้ ังเกตอาการทีบ่ ้านเปน็ เวลาอย่างนอ้ ย 14 วนั หากพบอาการผิดปกติ
ใหไ้ ปพบแพทยเ์ พือ่ ตรวจวินจิ ฉยั ระหว่างรอผล ให้กักตัวทบ่ี า้ น
• สถานศกึ ษา ดาเนินกิจกรรมไดต้ ามปกตแิ ละส่อื สารใหผ้ ทู้ ่เี กย่ี วข้อง
เขา้ ใจความเส่ียงและแนวทางการดาเนินการในระยะต่อไป
2. ผูส้ ัมผสั ทีม่ คี วามเสีย่ งต่อการติดเชื้อต่า (Low risk contact)
ใหส้ ังเกตอาการเปน็ เวลา 14 วัน ไม่จาเปน็ ต้องหยดุ เรยี น
และไม่จาเปน็ ต้องปิดสถานศกึ ษา
(รกั ษาตามอาการ หายปว่ ยแล้วเรียนต่อได)้
3. ผใู้ กล้ชิด
• ผู้ใกลช้ ดิ กับผู้สัมผสั เสยี่ งสงู จัดว่า มคี วามเส่ยี งตา่
ไม่จาเปน็ ตอ้ งหยุดเรยี น แต่ใหส้ ังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วนั
• ผู้ใกลช้ ิดกบั ผู้สัมผสั เสย่ี งตา่ จดั วา่ ไมม่ คี วามเสี่ยง
ไม่จาเปน็ ตอ้ งหยุดเรียน แต่ใหส้ ังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วนั
หมำยเหตุ ท้ังนี้ในทุกกรณี ขอให้ดาเนินการบนพ้ืนฐานของข้อมูลการสอบสวนทางระบาดวิทยา และสถานการณ์
โรคในพนื้ ท่ี
40
กำรจดั กำรดำ้ นสุขภำพจิต ในสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019
การสร้างความเข้มแข็งของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ดาเนินการในโรงเรียนแต่ละแห่งเพ่ิมขึ้น โดย 5
ข้นั ตอน หลกั มีดงั นี้
1.กำรรูจ้ กั นกั เรยี นเปน็ รำยบคุ คล ดำเนินกำรได้โดย
1.1 ครใู ห้เวลาในการสรา้ งความสมั พันธ์ ทาความรจู้ ักนกั เรียน ทง้ั ระดบั บุคคลและครอบครวั
สร้างความไว้วางใจ กบั นกั เรียน เพือ่ พจิ ารณาความพร้อมของนักเรยี นต่อการเรยี นรู้
1.2 ครูควรเปิดโอกาสใหต้ วั ทา่ นเองและนักเรียนในหอ้ งเรียน หรือชน้ั เรียนไดเ้ รียนรทู้ กั ษะทาง
สงั คมกบั เพือ่ นใหม่ ครใู หม่ ช้ันเรยี นใหม่ โดยเว้นระยะห่างทางกายภาพเพอื่ ป้องกันการแพร่กระจายของ โรคติดต่อ
1.3 ครสู ังเกตสภาวะทางอารมณ์ การปรับตวั ของเด็ก ทั้งทีเ่ กิดจากสถานการณโ์ รคระบาดและ
การเรยี นรู้ตามหลกั สูตร โดยติดตามความรว่ มมือความรบั ผดิ ชอบของเดก็ ผ่านการสังเกตการพูดคุย การตรวจสอบ
ผลงาน เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อมลู เชิงประจักษ์
2.กำรคดั กรองนักเรียน
2.1 เม่ือครูสงั เกตความผดิ ปกติทางอารมณ์ พฤติกรรมหรอื สงั คมของนกั เรียนโดยใชเ้ ครอ่ื งมอื
ง่าย ๆ ในการคัดกรอง ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาทางอารมณ์ท่ีจาเป็นต้องสอบถามจากนักเรียน หรือให้นักเรียน
ประเมนิ ตวั เอง
2.2 นอกจากปญั หาด้านอารมณ์ พฤตกิ รรมหรือสงั คมแล้ว ครูควรประเมนิ ความสามารถ
ด้านการสื่อสารตาระดับพัฒนาการหรือระดับความสามารถของนักเรียนแต่ละคน เพื่อพิจารณาช่วยเหลือใน ด้าน
ความบกพรอ่ งดา้ นการสื่อสาร หรือการเข้าใจภาษาของนกั เรยี น
3.กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำ ประกอบด้วย 2 เทคนิค หลัก คือการให้คาปรึกษา และการจัดกิจกรรม
เพือ่ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา
3.1 เม่ือครสู งั เกตเหน็ ความผดิ ปกติของนกั เรียน ประกอบการคัดกรองเพ่ือค้นหานักเรียนกลุม่
เสี่ยงหรือมีปัญหาเพ่ิมเติมแล้ว ให้ครูใช้ทักษะการให้คาปรึกษาเพื่อช่วยเหลือด้านจิตใจแก่นักเรียน โดยให้เวลาอยู่
นักเรยี น คนน้นั นอยา่ งสงบ รับฟังปัญหาและสนบั สนนุ ให้นักเรยี น มองหาแหลง่ ช่วยเหลือด้านจิตใจทเี่ ขา้ ถงึ ง่าย
3.2 จดั กิจกรรมกับกลุ่มนกั เรยี น เพือ่ ช่วยให้เกดิ การยอมรับอารมณ์ทเี่ กดิ ขึ้นในภาวะวิกฤติ
มีบทสนทนาที่เปิดกว้างสาหรับปัญหาความไม่สบายใจของทุกคนในห้องเรียน เพิ่มวิธีการสร้างสรรค์ใน การ
ช่วยเหลอื ร่วมมอื กนั และให้กาลงั ใจสาหรบั ผ้ทู าดมี ีความเออื้ เฟอื้ และเมตตาตอ่ ผู้อน่ื
3.3 ครูใหข้ อ้ กาหนดกับนกั เรียนว่า ขณะที่ต้องเรยี นรผู้ า่ นออนไลน์เพ่ิมข้ึน อาจขยายเวลา
การอยู่ หน้าจอเพิ่มข้ึน แต่เมอื่ สถานการณ์กลับสภู่ าวะปกติระยะเวลาหน้าจอจะลดลงเท่าปกติ
3.4 ครแู ละพ่อแม่ใหค้ วามสาคัญกบั “กระบวนการ” ของการเรยี นร้หู รอื การแกป้ ัญหามากกว่า
ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และให้ความสาคัญกับความพยายามต่อความ
ยากลาบากมากขึ้น
41
4.ส่งเสริมพัฒนำนักเรียน ด้วย 4 เทคนิคหลัก คือกิจกรรมโฮมรูม การเย่ียมบ้าน การหารือผู้ปกครองชั้น
เรยี น และการจดั กิจกรรมีทักษะชีวติ
4.1 การจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ พฒั นานักเรียน ควรบรู ณาการูอ้ งค์ความรู้ด้านสุขภาพกายและ
สขุ ภาพจิตเข้า ด้วยกัน โดยครสู ื่อสารเรอ่ื งความเครียดว่าเป็นปฏิกิริยา ปกติที่เกิดขนึ้ ได้ในภาวะวิกฤติที่มี การแพร่
ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ในเวลานี้ และนากระบวนการจัดการความเครยี ด การฝกึ สตใิ ห้กลมกลืน
และเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละวัย ร่วมกับการฝึกทักษะชีวิตที่เสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ (resilience) ให้กับ
นักเรียน ไดแ้ ก่ ทกั ษะด้านอารมณส์ ังคมและความคดิ
4.2 ประสานความรว่ มมือระหวา่ งโรงเรียนและครอบครวั อย่างใกลช้ ิด เพอื่ สง่ ต่อข้อมูลสาคญั
ให้กบั ผ้ปู กครอง ในการดแู ลต่อเนื่อง
5.กำรส่งต่อในกรณีที่ครูพบปัญหาของนักเรียนที่ยากต่อการช่วยเหลือควรส่งต่อให้เชี่ยวชาญได้ แก้ไข
เยยี วยาอยา่ งเหมาะสม
5.1 การส่งตอ่ ภายในไปยังครูแนะแนว ครูพยาบาลหรอื นกั จติ วทิ ยาโรงเรยี น
5.2 การสง่ ตอ่ ภายนอกไปพบผู้เชี่ยวชาญจากหนว่ ยงาน สาธารณสขุ
5.3 ให้ข้อมูลแหล่งช่วยเหลือด้านจิตใจท่ีเข้าถึงง่า ย ได้แก่ สายด่วนกรมสุขภาพจิต
www.Lovecarestation.com และแหลง่ อื่น ๆ
ภาคผนวก
แนวทางการจดั การเรียนการสอนของสานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาบุรีรมั ย์ เขต 2
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี ัมย์ เขต 2
.................................................................
สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำบุรีรัมย์ เขต 2 ไดก้ ำหนดแนวทำงกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน
ภำยใต้กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 ( COVID-19) บนแนวคิดทว่ี ่ำ“นักเรียนสำมำรถเรยี นรู้ได้
ทกุ ทีท่ ุกเวลำ ทุกสถำนกำรณ์ ทกุ รูปแบบ อยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ บนพ้นื ฐำนควำมปลอดภยั ”เพื่อใหค้ รูและบคุ ลำกร
ทำงกำรศึกษำสำมำรถดำเนินกำรขับเคลื่อนกระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนในสถำนกำรณ์ท่มี ีควำมยำกลำบำกน้ี
และมุ่งมั่นพยำยำมทุกวถิ ีทำงทจี่ ะนำกำรเรียนรู้สู่ผเู้ รยี นให้ได้ เพอื่ ให้กำรเรยี นรขู้ องผ้เู รียน ไม่หยุดนง่ิ และไม่พลำด
โอกำสเข้ำถึงกำรเรียนรู้ สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำบรุ รี ัมย์ เขต 2 จึงไดก้ ำหนดแนวทำงกำรจดั
กระบวนกำรเรียนกำรสอน ดังนี้
* แนวทางการจดั ประสบการณแ์ ละการประเมินพัฒนาการเดก็ (ระดบั ก่อนประถมศึกษา) *
1.การจัดประสบการณ์
1.โรงเรียนสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายแบบบรู ณาการสอดแทรกการดารงชีวิตตาม
บริบทของเด็ก และจัดจานวนชว่ั โมงเหมาะสมตามชว่ งวัยและพัฒนาการดังนี้
1.1 กำรจดั กำรเรียนกำรสอนรปู แบบ On-Hand ครจู ดั ส่งใบงำน หรอื ใบกจิ กรรม ท่โี รงเรยี นจัดทำขึน้
ไปยงั ผ่ำนผปู้ กครองผำ่ นทำงกลุ่มไลน์ชน้ั เรยี น และใหน้ ับจำนวนชั่วโมงตำมกจิ กรรมที่จัดผ่ำนใบงำนและกิจกรรม
1.2 กำรเรียนผำ่ นระบบออนไลน์ (Online) ผ่ำนชอ่ งทำงออนไลนต์ ่ำง ๆ เช่น ช่องทำง Group Line ของ
แตล่ ะห้องเรยี นเี้ ปน็ ช่องทำงติดต่อส่อื สำรระหว่ำงครกู ับผู้ปกครองและเด็กรวมถึงใช้เปน็ ชอ่ งทำง กำรมอบหมำย
งำน/กิจกรรม ใหน้ บั จำนวนชั่วโมงตำมกิจกรรมทที ้งั นี้ไม่จัดควรใหเ้ ดก็ อยหู่ นำ้ จอนำนเกิน 30 นำทีและตองอยู่ใน
ควำมดูแลของผู้ปกครอง (เหมำะสำหรับโรงเรียนท่ีมีควำมพร้อมหรือเฉพำะเด็กบำงกล่มุ เปำ้ หมำย)
1.3 กำรเรียนรูแ้ บบผสมผสำน ใหน้ บั จำนวนช่ัวโมงตำมกจิ กรรมท่จี ัด นอกจำกกิจกรรมท่ีจดั ตำมข้อ
1-2 ครูสำมำรถจดั กิจกรรมโดยใช้รปู แบบกำรเรยี นรทู้ ่ีหลำกหลำย สอดแทรกอยู่ในวิถชี ีวติ ประจำวัน เนน้ ใหเ้ ด็ก
เรียนรผู้ ำ่ นประสำทสมั ผสั และมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ เพ่ือให้เด็กเรยี นรู้อยำ่ งมีควำมสขุ เชน่ กำรเคลอื่ นไหว สำรวจ เลน่ เพ่อื
กำรเรียนรู้ กำรสงั เกตและจดจำ เปน็ ต้น
2. จัดกจิ กรรมประจาวันเน้นการบรู ณาการของห้องเรียนกลบั ดา้ น (เปล่ียนบา้ น้ีเป็นโรงเรียน)
กำหนดกจิ กรรมหลกั ที่มงุ่ สง่ เสริมและพัฒนำเดก็ ให้มีพฒั นำกำรรอบด้ำน สำหรับกิจกรรมทจ่ี ดั ขึ้นให้ครู
กบั ผ้ปู กครองรว่ มมือกนั หรือใหผ้ ู้ปกครองมีสว่ นร่วมกับครใู นกำรวำงแผน เชน่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ กิจกรรมศิลปะสร้ำงสรรค์กจิ กรรมเล่นตำมมมุ ของบ้ำน กจิ กรรมกำรเล่นกลำงแจ้ง