ค ำน ำ คู่มือปฏิบัติงาน เล่มนี้ ข้าพเจ้าจัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานตามภารกิจ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชามีแนวปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงาน ได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานภายในกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นแนวทาง ในการปฏิบัติงาน และสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่อยู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการปฏิบัติงานนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องส าหรับน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาลและจรรยาบรรณต่อไป ขอขอบคุณบุคลากรกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาตลอดจน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดท าเอกสารเล่มนี้ ให้สมบูรณ์ สามารถน าไปใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล อรนุช สุวรรณพจน์ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำรบัญ เรื่อง หน้ำ - การจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ๑ - การอบรมการพัฒนาตามความต้องการ ๓ - การจัดท าโครงการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา ๕ - งานฝึกอบรมการพัฒนาก่อนการแต่งตั้ง ๑๓
๑ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : การจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
๒ 1. ชื่องาน การจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติงานพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดส านักงาน เขตพื้นที่การศึกษาตามความต้องการ 3. ขอบเขตของงาน ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 79 ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกระดับ มีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและได้มาตรฐานถือว่าการปฏิบัติงาน และการเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกัน จ าเป็นต้องพัฒนาตลอดเวลา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีหน้าที่ ต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 4. ขั้นตอนการด าเนินงาน 3.1 จัดหาข้อมูลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาครู 3.2 วิเคราะห์ข้อมูลและโครงการฯ ในแผนปฏิบัติการของส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิจิตร เขต 2 ที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.3 ด าเนินการจัดเก็บข้อมูลและโครงการฯ เพื่อน่ามาจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา 3.4 แต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินการจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.5 จัดประชุมคณะกรรมการด าเนินการจัดท าแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.6. ติดตามผลการด าเนินงานตามแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ทุกโครงการ
๓ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : การอบรมการพัฒนาตามความต้องการ
๔ 1. ชื่องาน การอบรมการพัฒนาตามความต้องการ 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือแนวทางการด าเนินการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาของ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาก่อนแต่งตั้ง 3. ขอบเขตของงาน การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 เป็นการพัฒนาก่อนแต่งตั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้าง ฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ถ่ายทอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่บุคลากรเพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ คุณธรรม 4. ขั้นตอนการด าเนินงาน 4.1 ส ารวจความต้องการพัฒนาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด 4.2 จัดท าโครงการตามความต้องการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จะด าเนินการ ฝึกอบรมและพัฒนา 4.3 เสนอโครงการต่อกลุ่มนโยบายและแผน เพื่อน่าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดท าแผนปฏิบัติ การ ประจ าปี 4.4 โครงการที่เสนอขอได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการฯให้ด าเนินการได้ตามที่เสนอขอ 4.5 ด าเนินการฝึกอบรมและพัฒนาตามไตรมาสที่เสนอขอในโครงการ 4.6 จัดท าข้อมูลสารสนเทศ ในการวางแผนฝึกอบรม พัฒนา 4.7 แต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการฝึกอบรมพัฒนา 4.8 ก าหนดจัดประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมวางแผนการด าเนินการฝึกอบรมพัฒนา ก าหนดหลักสูตรและคู่มือตามความต้องการที่จะพัฒนา 4.9 ด าเนินการพัฒนาตามขั้นตอนและกระบวนการพัฒนา 4.10 การติดตามและประเมินผลตามโครงการ
๕ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : กำรจัดท ำโครงกำรฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนำ
๖ 1. ชื่องำน กำรจัดท ำโครงกำรฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนำ 2. ความเป็นมาและความส าคัญ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นทรัพยากรที่มีความส าคัญและมีคุณค่าต่อองค์กร เป็นปัจจัยส าคัญประการหนึ่งในการน าพาองค์กรไปสู่ความส าเร็จ เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของประชากรอันเป็นทรัพยากรที่ส าคัญที่สุดของประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ มีบทบาทส าคัญยิ่งต่อการก าหนดภาพอนาคตของประเทศในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง การศึกษา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การอบรมพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นผู้ที่มีความรู้ (Knowledge) มีความ เข้าใจ (Understanding) มีทักษะ (Skill) และมีทัศนคติที่ดี (Attitude) ต่อการปฏิบัติงานท างาน แบบมือ อาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ สามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพทั้งระบบจึงเป็น กระบวนการที่ส าคัญในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ มีคุณค่าตามที่องค์กรต้องการ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการฝึกอบรม พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดเพิ่ม ศักยภาพการปฏิบัติงาน และพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณ ดังนั้น การจัดท าโครงการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา จึงต้องมีขั้นตอน วิธีการการ ด าเนินงานที่เป็นระบบ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา ด าเนินไปด้วยความเรียบร้อย สามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้จัดท าจึงได้จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานการ จัดโครงการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา ขึ้น 3.วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นกรอบ แนวทาง และเป็นคู่มือในการด าเนินงานด้านการจัดโครงการฝึกอบรม พัฒนา 2. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน 4.ขอบเขต คู่มือการปฏิบัติงาน การจัดโครงการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนาฉบับนี้ ใช้ส าหรับเป็นกรอบ แนวทาง และเป็นคู่มือในการด าเนินงานด้านการจัดโครงการฝึกอบรม พัฒนา ของกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 5. ค าจ ากัดความ การฝึกอบรม หมายถึง การถ่ายทอดความรู้เพื่อเพิ่มพูนทักษะความช านาญ ความสามารถและ ทัศนคติที่ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อช่วยให้การปฏิบัติงานและภาระหน้าที่ต่าง ๆ ในปัจจุบันและอนาคตเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและมีความสามารถในการจัดรูปแบบของ
๗ องค์กร รวมถึง เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บุคลากร มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ และมีทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงานอย่างใดอย่างหนึ่ง สัมมนา หมายถึง การประชุมเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ก าหนดขึ้นมา เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น โดยข้อมูลต่าง ๆ จะถูกรวบรวมน ามาใช้วิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งผลจากการสัมมนา จะน ามาซึ่งข้อสรุปแนวทาง ในการแก้ไขปัญหา โครงการฝึกอบรม ประชุม และสัมมนา หมายถึง การก าหนดหลักสูตร ขั้นตอน วิธีการ ตลอดจน แนวปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม/สัมมนา และครอบคลุมรายละเอียดที่จ าเป็นอย่าง ครบถ้วน และสามารถน าไปปฏิบัติได้จริง 6. หน้าที่ความรับผิดชอบ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 มีอ านาจหน้าที่ความรับผิดชอบ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งส่วนราชการภายใน ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2560 ดังนี้ 1. ด าเนินงานฝึกอบรมการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง 2. ด าเนินการฝึกอบรมพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงาน 3. ด าเนินงานพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและ จรรยาบรรณ 4. ปฏิบัติงานส่งเสริม สนับสนุน และยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 5. ด าเนินการเกี่ยวกับการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัยภายในประเทศ หรือ ต่างประเทศ 6. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และเสริมสร้างระบบเครือข่ายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. ปฏิบัติงานร่วมกับ หรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับ มอบหมาย 7. แนวทำงกำรปฏิบัติงำน กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 มีแนวทางและขั้นตอนการปฏิบัติงานด้านการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา โดยใช้กระบวนการ PDCA ดังนี้ แนวทางการปฏิบัติงาน มี 3 ระยะ ดังนี้ 1. กิจกรรมก่อนการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา 2. กิจกรรมระหว่างการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา 3. กิจกรรมหลังการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา
๘ แนวทางการปฏิบัติงาน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 : กิจกรรมก่อนการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 1 ร่างหลักสูตร/โครงการ, สรรหาวิทยากร, ก าหนดสถานที่ ขั้นตอนที่ 2 จัดท าโครงการ/เสนอขออนุมัติโครงการ/ ประมาณการค่าใช้จ่าย ขั้นตอนที่ 3 ขออนุมัติด าเนินการ/จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ /แจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง/ขออนุมัติยืมเงิน ขั้นตอนที่ 4 ประสานการด าเนินงาน ระยะที่ 2 : กิจกรรมระหว่างการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 5 ด าเนินการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 6 ประเมินผลการฝึกอบรมพัฒนา ระยะที่ 3 : กิจกรรมหลังการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 7 ส่งหลักฐานเงินยืม ขั้นตอนที่ 8 สรุปผลการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 9 รายงานผลการด าเนินงาน ขั้นตอนที่ 10 เผยแพร่ผลการด าเนินงาน
๙ รายละเอียดการด าเนินงานตามแนวทาง ระยะที่ 1 : กิจกรรมก่อนการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 1 ร่างหลักสูตร/โครงการ, ก าหนดตัววิทยากร, ก าหนดสถานที่ 1) จัดท าร่างหลักสูตร/โครงการที่จะฝึกอบรมพัฒนา ตามความต้องการจ าเป็นของ หน่วยงานหรือตามนโยบายของหน่วยเหนือ โดยระบุปัญหาและความจ าเป็นที่จะต้องมีการฝึกอบรมพัฒนา ก าหนดวัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม ก าหนดกลุ่มเป้าหมาย หัวข้อกิจกรรม ขอบเขตเนื้อหา 2) ก าหนดตัววิทยากร โดยการคัดเลือก สรรหา วิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และมีความเหมาะสมกับหัวข้อที่จะบรรยาย ให้ความรู้ หรือการปฏิบัติในกิจกรรมนั้น ๆ 3) สถานที่ ๆ จะฝึกอบรมพัฒนา ต้องมีความเหมาะสมกับกิจกรรมที่ก าหนดในหลักสูตร/ โครงการนั้น ๆ มีความพร้อมในด้านที่พัก ห้องอาหาร ห้องประชุม/อบรม สถานที่ประกอบกิจกรรม ตลอดจนสิ่งอ านวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายช่องทาง ทางเว็บไซต์ จากพนักงานขายของโรงแรม ศึกษาสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศในช่วงการจัดฝึกอบรมพัฒนา เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกอบรม พัฒนา ขั้นตอนที่ 2 จัดท าโครงการ/เสนอขออนุมัติโครงการ/ประมาณการค่าใช้จ่าย 1) การจัดท าโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ โดยมีรายละเอียดของโครงการดังนี้ 1.1) ชื่อโครงการ ชื่อโครงการเป็นสิ่งส าคัญในการเขียนโครงการ จะเป็นตัวบอกให้เรา ได้ทราบว่า จะท าโครงการประเภทไหน สามารถจูงใจผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการได้อย่างมาก ดังนั้น ควรตั้งชื่อ โครงการที่มีความหมาย มีความสร้างสรรค์ ใช้ภาษาที่ติดตา ติดใจ และจ าง่าย 1.2) หลักการและเหตุผล เป็นการเขียนเพื่อชี้แจงถึงเหตุผลความจ าเป็นที่ต้องจัดท าหลักสูตร/ โครงการนี้ขึ้น อ้างถึงนโยบาย ข้อก าหนด กฎหมาย หรือค าสั่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เหตุผลมีน้ าหนักและมี ความชัดเจน 1.3) วัตถุประสงค์ คือการก าหนดเป้ าหมาย/เป้าประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นจาการ ด าเนินการตามหลักสูตร/โครงการ ควรเขียนให้สอดคล้อง เชื่อมโยงกับชื่อโครงการ หลักการและเหตุผล และสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น ต้องวัดและปฏิบัติได้ โดยระบุเป็นข้อ ๆ เพื่อเป็นกรอบให้ผู้รับผิดชอบโครงการปฏิบัติ ได้ตามที่ก าหนดไว้จริง 1.4) เป้าหมาย หมายถึง ความมุ่งหมายหรือสิ่งที่ต้องผู้รับผิดชอบหลักสูตร/โครงการ ต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยระบุ 2 ทาง คือ เป้าหมายเชิงปริมาณ คือ จ านวนหรือปริมาณที่ต้องการ และเป้าหมายเชิงคุณภาพ คือ ท าแล้วได้ผลดีมีคุณภาพอย่างไร 1.5) กิจกรรมและการด าเนินงาน
๑๐ กิจกรรมต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติ ตั้งแต่กิจกรรมแรก จนถึงกิจกรรมสุดท้าย โดยมีเงื่อนระยะเวลามาก ากับ และระบุผู้รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมด้วย 1.6) สถานที่ด าเนินการ ต้องก าหนดให้ชัดเจน ว่าจะใช้สถานที่ใดเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายและ กิจกรรมของหลักสูตร/โครงการ เนื่องจากต้องมีการจองล่วงหน้า เพื่อป้องกันการจัดกิจกรรมที่ตรงกัน 1.7) งบประมาณที่ใช้ เป็นหัวใจส าคัญของการขับเคลื่อนหลักสูตร/โครงการ ผู้รับผิดชอบ หลักสูตร/โครงการ ต้องประมาณการค่าใช้จ่ายบนพื้นฐานของความถูกต้อง รัดกุม และเป็นไปตามระเบียบ การเงิน การคลัง และพัสดุของทางราชการ และต้องระบุที่มาของงบประมาณที่ใช้ด้วย 1.8) การติดตามและประเมินผล ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับหลักสูตร/โครงการ เช่น การติดตาม โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ, การสังเกต, แบบสอบถาม เป็นต้น 1.9) ผลที่คาดว่าจะได้รับ เป็นการคาดคะเนผลที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า สามารถน าไปใช้ตรวจสอบ ความส าเร็จของโครงการภายหลังจากโครงการเสร็จสิ้น ควรเขียนระบุเป็นข้อ ๆ ให้สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์เป็นรายข้อ 2) การประมาณการค่าใช้จ่าย ผู้รับผิดชอบหลักสูตร/โครงการ ต้องประมาณการค่าใช้จ่ายในการด าเนินการจัด ฝึกอบรมพัฒนา โดยต้องระบุจ านวนวันที่จัดอบรม จ านวนผู้เข้ารับการอบรม ให้สามารถถัวจ่ายได้ ทุกรายการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 2.1) ค่าสมนาคุณวิทยากร 2.2) ค่าอาหาร (ค่าอาหารเช้า/อาหารกลางวัน/อาหารเย็น) 2.3) ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 2.4) ค่าที่พัก 2.5)ค่าวัสดุ/ค่าจัดท าเอกสาร 2.6) ค่าของที่ระลึกสถานที่ศึกษาดูงาน 2.7) ค่าจ้างเหมารถยนต์ 2.8) ค่าไวนิล ขั้นตอนที่ 3 ขออนุมัติด าเนินการ/จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ/แจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง/ ขออนุมัติยืมเงิน 1) ขออนุมัติด าเนินการตามหลักสูตร/โครงการที่ได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา 2) จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3) แจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด าเนินการตามค าสั่ง และเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมพัฒนา ดังนี้ 3.1) ท าหนังสือแจ้งเวียนผู้ที่เกี่ยวข้อง มอบหมายหน้าที่ตามค าสั่ง 3.2) แจ้งก าหนดการอบรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมทั้งจัดท าเอกสารต่าง ๆ จ าเป็นต่อการฝึกอบรมพัฒนา
๑๑ 4) ขออนุมัติยืมเงิน และจัดท าสัญญายืมเงินทดรองราชการ โดยมีเอกสารที่ต้องแนบ ดังนี้ 4.1) ส าเนาบันทึกขออนุมัติโครงการ 4.2) ส าเนาโครงการ 4.3) ส าเนาประมาณการค่าใช้จ่าย 4.4) สัญญายืมเงิน ขั้นตอนที่ 4 ประสานการด าเนินงาน เป็นขั้นตอนการประสานงานด้านการฝึกอบรมพัฒนา เช่น - การประสานวิทยากร - จัดเตรียมสถานที่ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ เทคโนโลยี - อาหาร อาหารว่างและเครื่องดื่ม - เอกสารประกอบการอบรม - ค ากล่าวเปิด-ปิด การอบรม - ประสานพิธีกร มอบหมายหน้าที่ - จัดท าบัญชีรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนา - การจัดห้องพัก ห้องอบรม - การจัดคนขึ้นรถ ในกรณีที่เดินทางไปต่างจังหวัดเป็นหมู่คณะ - การจัดแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรม กรณีมีการปฏิบัติการกลุ่ม - แบบประเมินผลการฝึกอบรมพัฒนา ฯลฯ ระยะที่ 2 : กิจกรรมระหว่างการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 5 ด าเนินการฝึกอบรมพัฒนา 1) ต้อนรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม วิทยากร แขกผู้มีเกียรติ และประธานในพิธี 2) ลงทะเบียน แจกเอกสารการฝึกอบรม 3) ควบคุม ก ากับ ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าห้องประชุมตามก าหนดเวลา 4) ตรวจสอบความพร้อมของห้องฝึกอบรม เครื่องมือ อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ค ากล่าว เปิด ค ากล่าวรายงานอีกครั้ง 5) พิธีกรแนะน าตาราง เวลาในการฝึกอบรม แนะน าวิทยากร เชิญประธานและผู้กล่าว รายงานในพิธีเปิดการฝึกอบรม และแนะน าสิ่งอ านวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ 6) จัดเตรียมอาหารว่างและเครื่องดื่ม อาหารกลางวัน และอาหารเย็น (ถ้ามีการพักค้าง) ขั้นตอนที่ 6 ประเมินผลการฝึกอบรมพัฒนา ประเมินผลการฝึกอบรมพัฒนา ท าได้ 2 ช่องทาง ดังนี้ 1) แจกแบบประเมินผลการอบรมพัฒนา 2) ให้ท าแบบประเมิน/แบบสอบถาม ทางออนไลน์
๑๒ ระยะที่ 3 : กิจกรรมหลังการฝึกอบรมพัฒนา ขั้นตอนที่ 7 ส่งหลักฐานเงินยืม 1) รวบรวมหลักฐานใบส าคัญ ใบเสร็จรับเงิน หลักฐานค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และสรุปค่าใช้จ่าย ที่ใช้ในการฝึกอบรมพัฒนาทั้งหมด เพื่อเป็นหลักฐานในการส่งใช้เงินยืม ดังนี้ 1.1) ใบส าคัญรับเงินค่าตอบแทนวิทยากร 1.2) ใบเสร็จรับเงิน/ใบส าคัญรับเงิน ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 1.3) ใบเสร็จรับเงินค่าที่พัก (ถ้ามี) 1.4) ค่าพาหนะ ค่าน้ ามันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ถ้ามี) 1.5) บัญชีลงเวลาการเข้ารับการฝึกอบรม 1.6) หลักฐานอื่น ๆ ที่จ าเป็น ขั้นตอนที่ 8 สรุปผลการฝึกอบรมพัฒนา สรุปผลจากแบบประเมินผลการฝึกอบรมพัฒนาตามหลักสูตร/โครงการ ขั้นตอนที่ 9 รายงานผลการด าเนินงาน รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อน าข้อมูลไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการ ฝึกอบรมพัฒนาในครั้งต่อไปให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขั้นตอนที่ 10 เผยแพร่ผลการด าเนินงาน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ หรือประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ
๑๓ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : งานฝึกอบรมการพัฒนาก่อนการแต่งตั้ง
๑๔ 1. ชื่องาน งานฝึกอบรมการพัฒนาก่อนการแต่งตั้ง 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือแนวทางการด าเนินการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาของ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาก่อนแต่งตั้ง 3. ขอบเขตของงาน การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 เป็นการพัฒนา ก่อนแต่งตั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้าง ฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ถ่ายทอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่บุคลากร เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ เพิ่มขึ้น น าผลที่ได้จากการพัฒนาไปใช้ ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานตามต าแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ ความก้าวหน้าแก่ราชการ 4. ค าจ ากัดความ งานฝึกอบรมการพัฒนาก่อนการแต่งตั้ง หมายรวมถึง การปฐมนิเทศครูบรรจุใหม่ด้วย 5. ขั้นตอนและวิธีด าเนินการ 5.1 ส ารวจข้อมูลของผู้เข้ารับการพัฒนาในสังกัด พร้อมทั้งประซาสัมพันธ์โครงการต่าง ๆ ให้สถานศึกษาได้รับทราบและแจ้งความประสงค์ในการพัฒนา 5.2 จัดท าแผนการพัฒนา 5.3 ขออนุมัติแผนการพัฒนา 5.4 เตรียมการพัฒนาในการเตรียมการพัฒนาให้มีการด าเนินการในกิจกรรมที่ส าคัญดังนี้ 5.5 การจัดท าคู่มือเอกสารประกอบการพัฒนา 5.6 จัดหาวิทยากร 5.7 จัดเตรียมงบประมาณและทรัพยากร 5.8 ด าเนินการพัฒนา 5.9 ประเมินผลการพัฒนาและรายงาน
๑๕ ๖. Flow Chart กำรปฏิบัติงำน ส ารวจข้อมูลผู้เข้ารับการพัฒนา ขออนุมัติแผนพัฒนา จัดท าแผนพัฒนา ด าเนินการพัฒนา ประเมินผลและรายงานผล เอกสาร/หลักฐานอ้างอิง กฎหมาย ระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไช เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 มาตรา 80 2 .หนังสือส านักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว22 ลงวันที่ 13 มกราคม 2548 3. หนังสือส านักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว2 ลงวันที่ 13 มกราคม 2549 4. หนังสือส านักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว4 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2550 5. หนังสือส านักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว6 ลงวันที่ 13 มกราคม 2551
๑๖ 1) การพัฒนาต าแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนา ข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่ก.ค.ศ.ก าหนด หลักเกณฑ์ 1. ต าแหน่งรองผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาต้องได้รับการพัฒนา ก่อนการแต่งตั้งให้ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการเป็น ผู้ด าเนินการพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ.ก าหนด 2. ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชราชการอาจเพิ่มเนื้อหาสาระและเวลา ในการพัฒนาได้ตามความเหมาะสม 3. ผู้เข้ารับการพัฒนาต้องได้รับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งผู้บริหาร สถานศึกษาจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจิตร 4. ผลการพัฒนาน าไปใช้แต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นผ่าน การพัฒนา ขั้นตอนการต าเนินการ หลักสูตรการพัฒนาและวิธีการพัฒนา 1. การพัฒนาใช้วิธีการผีกอบรม การดูงาน การศึกษาด้วยตนเอง การเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริง หรือ วิธีการอื่น ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม 2. การพัฒนาประกอบด้วย 2 ภาค คือ ภาควิชาการ เป็นการผีเกอบรมตามหลักสูตร 120 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ เป็นการน าความรู้ภาควิชาการไปผีเกปฏิบัติและเรียนรู้จากสถานการณ์จริงใน สถานศึกษาที่ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาก าหนด เป็นเวลา 60 ชั่วโมงในเวลา 10 วันท าการ 1. การประเมินผลการพัฒนา ประเมิน 2 ส่วน คือ 1.1 มีเวลาเข้ารับการพัฒนาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาทั้งหมด 1.2 มีผลสัมฤทธิ์ผลในการพัฒนาไม่ต ่ากว่าร้อยละ 60 ของคะแนนรวมแต่ละภาค 2) การพัฒนาต าแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและ บุคลากร ทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.ก าหนด หลักเกณฑ์ 1. ต้องให้ผู้ผ่านการพัฒนามิความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี มิคุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณวิชาชีพที่ เหมาะสม ต้องพัฒนาในลักษณะองค์รวมที่บูรณาการ ทั้งในด้านความรู้ ทักษะและเจตคติที่ดี ๑๗
วิธีการพัฒนา 1. ใช้วิธีการพัฒนาหลายวิธี เน้นการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ และ วิธีอื่น ๆ โดยมิ โครงสร้างหลักสูตรประกอบด้วย 3 ส่วน มีระยะเวลาการพัฒนาไม่น้อยกว่า 30 วัน ดังนี้ ผู้บริหารโครงการต้องส่งเสริม สนับสนุน ให้ค าปรึกษา แนะน า ก ากับ และติดตามให้ มีการพัฒนาตามขั้นตอน 1.1 มีหลักการ วิธีการประเมิน และเกณฑ์การตัดสิน 1.2 ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือส่วนราชการ เป็นหน่วยงาน ที่รับผิดชอบการจัดท ารายละเอียด หลักสูตรและด าเนินการพัฒนามาตรฐาน การพัฒนา 1) มาตรฐานหลักสูตร 2) มาตรฐานสื่อและนวัตกรรม 3) มาตรฐานวิทยากร 4) มาตรฐานสถานที่และแหล่งเรียนรู้ 5) มาตรฐานการประเมิน 6) มาตรฐานการบริหารจัดการ 7) มาตรฐานคุณภาพผู้ผ่านการพัฒนา แบบฟอร์มที่ใช้ แบบฟอร์มที่ใช้ 1 แผนงาน /โครงการ 2. แบบประเมิน 3. แบบสรุปผลการประเมิน เอกสาร/หลักฐานอ้างอิง กฎหมาย ระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 มาตรา 80 2. หนังสือส านักงานก.ค.ศ.ที่ศธ 0206.2/ว 22 ลงวันที่ 13 มกราคม 2548 3. หนังสือส านักงานก.ค.ศ.ที่ศธ 0206.2/ว2 ลงวันที่ 13 มกราคม 2549 4. หนังสือส านักงานก.ค.ศ.ที่ศธ 0206.2/ว4 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2550 5. หนังสือส านักงานก.ค.ศ.ที่ศธ 0206.2/ว6 ลงวันที่ 13 มกราคม 2551
ค ำน ำ คู่มือปฏิบัติงาน เล่มนี้ ข้าพเจ้าจัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชามีแนวปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ที่ชัดเจน และ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานภายในกลุ่มพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ใน กรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่อยู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการปฏิบัติงานนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ เกี่ยวข้องส าหรับน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาลและ จรรยาบรรณต่อไป ขอขอบคุณผู้อ านวยการกลุ่มและบุคลากรกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษาตลอดจน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดท าเอกสารเล่มนี้ให้สมบูรณ์ สามารถน าไปใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ชุติมา ศรแก้ว กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำรบัญ เรื่อง หน้ำ - งานพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ ๑ - งานส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ๔ เข้ารับการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา - งานส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ๖ - งานลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัยภายในประเทศ/ต่างประเทศ ๙
๑ ประเภทเอกสำร : คู่มือขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ชื่อเอกสำร : กำรพัฒนำก่อนแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐำนะ
๒ 1. ชื่องาน การอบรมพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือแนวทางการด าเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาก่อนแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐานะช านาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ 3. ขอบเขตของงาน การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 80 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 เป็นการพัฒนา ก่อนแต่งตั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้าง ฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ถ่ายทอดประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่บุคลากรเพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจต คติ คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพเพิ่มขึ้น น าผลที่ได้จากการพัฒนาไปใช้ประโยชน์ ต่อการปฏิบัติงานตามต าแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ ความก้าวหน้าแก่ราชการ 4. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4.1 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะเข้ารับการพัฒนาฯ แจ้งความประสงค์ในการพัฒนา ตามแบบยื่นขอรับการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาก่อนแต่งตั้งให้มีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะช านาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ให้ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 4.2ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 รวบรวมแบบค า ขอรับการอบรมพัฒนาฯ ส่งมหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์พัฒนา ตามความประสงค์ของผู้เข้ารับการ พัฒนา ทุกวันศุกร์ 4.3ผู้ที่ยื่นใบสมัครเข้ารับการพัฒนาฯ ตามข้อ 1 แล้ว ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้มี สิทธิ์เข้ารับการพัฒนาฯ ทาง website ของหน่วยพัฒนา ดังนี้ - มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะศึกษาศาสตร์ ทุกวันที่ 25 ของเดือน เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร http://office.nu.ac.th/edu_teach/ เบอร์โทรติดต่อ 055-962410 , 055-962409 , Fax 055-962402 เจ้าหน้าที่ 080-6873581, 084-0503197 - มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร คณะครุศาสตร์ ทุกสัปดาห์ เว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัย http://eduweb.kpru.ac.th/project/kpru_obec/training.html เบอร์โทร ติดต่อ 055-706519 Fax 055-706518 , 055-706519
๓ - มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ คณะครุศาสตร์ ทุกสัปดาห์ เว็บไซต์ของ มหาวิทยาลัย http://edu.pcru.ac.th/Pattawut_PCRU/PDF/21_8_55.pdf เบอร์โทรติดต่อ 056-717147 Fax 056-717147 เจ้าหน้าที่ 081-9819929 4.4กรณีที่มีรายชื่อปรากฏอยู่หน้า website ของมหาวิทยาลัย และประสงค์จะ เข้ารับอบรมพัฒนาฯ ให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการตอบรับเข้ารับการอบรมพัฒนาฯ พร้อมโอนเงิน ค่าลงทะเบียน ส าหรับวิทยฐานะช านาญการพิเศษ จ านวน 4,000 บาท และวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ จ านวน 5,000 บาท มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์พัฒนา(จ านวน 27 สถาบัน) จะ ด าเนินการจัดรุ่นก าหนดวันอบรมให้ต่อไปให้ตรวจสอบรายชื่อของท่าน ว่าได้รับการอบรมรุ่นใด แล้วให้เข้ารับการอบรมตามวันและเวลา สถานที่ดังกล่าว 4.5 เมื่อด าเนินการอบรมพัฒนาเรียบร้อยแล้ว มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์พัฒนาฯ จะจัดส่งวุฒิบัตรที่ผ่านการอบรมพัฒนาก่อนแต่งตั้งฯ ให้ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เพื่อจัดส่งวุฒิบัตร ให้ผู้ที่ผ่านการอบรม ผลการพัฒนาน าไปใช้แต่งตั้งให้มีและเลื่อน วิทยฐานะช านาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ภายใน 3 ปี 5. เอกสาร/หลักฐานอ้างอิง กฎหมาย ระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้อง - การพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาก่อนแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐานะช านาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหนังสือ ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันที่ 7 เมษายน 2554
๔ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : ส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรเข้ารับ การฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา
๕ 1. ชื่องาน ส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรม/ประชุม/สัมมนา 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติงานพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา 3. ขอบเขตของงาน ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 79 ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกระดับ มีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและได้ มาตรฐานถือว่าการปฏิบัติงานและ การเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกัน จ าเป็นต้องพัฒนาตลอดเวลา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีหน้าที่ต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 4. ขั้นตอนการด าเนินงาน 4.1 ส ารวจความต้องการพัฒนาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด 4.2 จัดท าโครงการตามความต้องการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะ ด าเนินการฝึกอบรมและพัฒนา 4.3 เสนอโครงการต่อกลุ่มนโยบายและแผน เพื่อน่าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ จัดท าแผนปฏิบัติการ ประจ าปี 4.4 โครงการที่เสนอขอได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการฯให้ด าเนินการได้ตามที่ เสนอขอ 4.5 ด าเนินการ'ฝึกอบรมและพัฒนาตามไตรมาสที่เสนอขอในโครงการ 4.6 จัดท าข้อมูลสารสนเทศ ในการวางแผนฝึกอบรม พัฒนา 4.7 แต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการฝึกอบรมพัฒนา 4.8 ก าหนดจัดประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมวางแผนการด าเนินการ ฝึกอบรมพัฒนา ก าหนดหลักสูตรและคู่มือตามความต้องการที่จะพัฒนา 4.9 ด าเนินการพัฒนาตามขั้นตอนและกระบวนการพัฒนา 4.10 การติดตามและประเมินผลตามโครงการ
๖ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : งานส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา
๗ 1. ชื่องาน งานส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือการด าเนินการส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา 3. ขอบเขตของงาน ด าเนินการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนา เสริมสร้างขวัญก าลังใจ ปกป้องคุ้มครอง ระบบคุณธรรมและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในหน่วยงานทาง การศึกษาของส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4.1 จัดท าปฏิทินการคัดเลือกรางวัลดีเด่นต่าง ๆ 4.2 แจ้งประชาสัมพันธ์ ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและคัดเลือก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ 4.3 สถานศึกษาแจ้งข้าราชการในสังกัดทราบ ด าเนินการสรรหาและคัดเลือก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ก าหนด แล้วส่งประวัติและผลงานตามแบบที่ก าหนดไปยังส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษา 4.4 ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการสมัคร 4.5 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการคัดเลือกผู้สมควรได้รับยกย่องเชิดชู เกียรติ ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยค านึงถึงความประพฤติวินัยและการรักษาวินัย การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ความรู้ความสามารถ และผลการปฏิบัติงาน ความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ 4.6 ประชุมคณะกรรมการประเมินเพื่อสรรหาและคัดเลือกฯ 4.7 ประกาศผลการสรรหาและคัดเลือกผู้ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้ ทราบโดยทั่วกัน 4.8 ส่งผลการคัดเลือกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาด าเนินการ
๘ 5. Flow Chart การปฏิบัติงาน จัดท าปฏิทินการสรรหาและคัดเลือก ประชำสัมพันธ์ ประกำศหลักเกณฑ์ วิธีกำรสรรหำและคัดเลือกตำมเกณฑ์ที่ก ำหนด ด ำเนินกำรสรรหำและคัดเลือก ประกำศผลกำรสรรหำและคัดเลือก ผู้ที่ได้รับกำรยกย่องเชิดชูเกียรติ มอบเกียรติบัตรหรือรำงวัล ตำมโอกำสที่สมควร
๙ ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการด าเนินงาน ชื่อเอกสาร : การลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย ภายในประเทศ/ต่างประเทศ
๑๐ 1. ชื่องาน ลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัยภายในประเทศ/ต่างประเทศ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อเป็นการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับวุฒิสูงขึ้น 2.2 เพื่อเสริมสร้างให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสริมสร้างศักยภาพและ ได้รับ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 2.3 เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ 3. ขอบเขตงาน การลาศึกษา หมายถึง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการอนุญาตจาก ผู้บังคับบัญชาให้ไปศึกษาฝึกอบรมดูงานหรือปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนา ทั้งภายในประเทศและ ต่างประเทศโดยให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยการให้ ไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาตามระเบียบที่ ก.ค.ศ.ก าหนด ในกรณีที่มีความจ าเป็นหรือเป็นความต้องการของหน่วยงานเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนา คุณภาพการศึกษาหรือวิชาชีพ หรือคุณวุฒิขาดแคลน ผู้บังคับบัญชาอาจส่งหรืออนุญาตให้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ลาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือวิจัย โดยอนุมัติ ก.ค.ศ.หรือ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับมอบหมาย โดยให้ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการมีสิทธิได้ เลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือวิจัย แล้วแต่กรณี การลาศึกษาต่อ ฝึกอบรมหรือปฏิบัติการวิจัยภายในประเทศ/ต่างประเทศ ประกอบด้วย 1. การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ - การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ ประเภท ก - การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ ประเภท ข 2. การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคนอกเวลาราชการ - การศึกษาต่อภาคนอกเวลาราชการ โดยใช้เวลาราชการบางส่วนไปศึกษา - การศึกษาต่อภาคนอกเวลาราชการ โดยไม่ใช้เวลาราชการไปศึกษา 3. การศึกษาต่อภายในประเทศภาคฤดูร้อน 4. การฝึกอบรมภายในประเทศ 5. การค านวณเงิน และเรียกชดใช้ทุนกรณีผิดสัญญา 6. ลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ณ ต่างประเทศ 4. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ หมายถึง การลาศึกษาต่อโดยใช้เวลา ราชการเต็มเวลา
๑๑ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท ก ได้แก่ ประเภทที่หน่วยงานต้นสังกัดคัดเลือกส่งไปศึกษา ประเภท ข ได้แก่ ประเภทที่ต้องไปสมัครสอบคัดเลือก หรือ คัดเลือกใน สถาบันการศึกษา ด้วยตนเอง 1.1 ขั้นตอนการด าเนินการศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ ประเภท ก 1.1.1. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแจ้งพิจารณาโควตา ประเภท ก มาให้ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.1.2. เจ้าหน้าที่ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประสานงานกับ สถาบันการศึกษา เพื่อขอโควตาประเภท ก เพิ่ม และด าเนินการคัดเลือกตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติที่ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด 1.1.3. แจ้งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกไปยังสถาบันการศึกษาโดยตรง พร้อมทั้ง แจ้งผู้ได้รับ การคัดเลือกไปด าเนินการตามขั้นตอนของสถาบันการศึกษา และรายงานส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบ 1.1.4. จัดท าค าสั่งเสนอขออนุญาตลาศึกษาต่อผู้มีอ านาจอนุญาตไปศึกษาต่อ และจัดท าสัญญา และสัญญาค้ าประกัน 1.1.5. จัดท าหนังสือส่งตัวข้าราชการที่ได้รับอนุญ าตให้ลาศึกษ าไปยัง สถาบันการศึกษา 1.1.6. แจ้งหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 1.1.7. รายงานจ านวนข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้ลาศึกษา ขยายเวลากลับเข้า ปฏิบัติราชการเมื่อเสร็จสิ้นการลาศึกษาต่อ โดยรายงานให้ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐานทราบ ทุกภาคการศึกษา 1.2 ขั้นตอนการด าเนินงานการศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคปกติ ประเภท ข 1.2.1 การขออนุญาตลาศึกษาต่อ 1) รับค าขออนุญาตไปสมัครสอบคัดเลือกเพื่อศึกษาต่อภายในประเทศ ภาค ปกติ ประเภท ข 2) ตรวจสอบเอกสาร 3) อนุญาตไปสมัครสอบ 4) อนุญาตไปศึกษาต่อภายในประเทศภาคปกติ ประเภท ข (เมื่อผู้ขอ อนุญาตสอบคัดเลือกได้แล้ว) - ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ก าหนด 2 ปี - ระดับปริญญาเอก ก าหนด 4 ปี เอกสารหลักฐาน - ผลการสอบคัดเลือกจากสถาบันการศึกษา และส าเนา ก.พ. 7 5) จัดท าสัญญาลาศึกษาต่อ และสัญญาค้ าประกัน
๑๒ 6) จัดท าค าสั่งให้ลาศึกษาต่อเสนอผู้มีอ านาจตามล าดับชั้น 7) จัดท าหนังสือส่งตัวข้าราชการที่ลาศึกษาไปยังสถาบันการศึกษา 8) รายงานจ านวนข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้ลาศึกษาต่อ ให้ส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบ 1.2.2 การขยายเวลาศึกษาต่อ 1) รับค าขอของผู้ลาศึกษาต่อส่งหลักฐานการขยายระยะเวลาศึกษาต่อก่อน สิ้นสุดสัญญาไม่น้อยกว่า 15 วัน 2) เสนอขออนุญาตการขยายเวลาศึกษาต่อ - ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ได้ไม่เกินครั้งละ 1 ภาคการศึกษา ไม่เกิน 2 ครั้ง หรือไม่เกิน 1 ปีการศึกษา 3) จัดท าสัญญา และสัญญาค้ าประกัน 4) จัดท าค าสั่งขยายเวลาศึกษาต่อเสนอผู้มีอ านาจอนุญาต 5) แจ้งผู้ขออนุญาตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6) รายงานจ านวนข้าราชการทั้งได้รับอนุญาตให้ขยายเวลาศึกษาให้ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบ 1.2.3 การกลับเข้าปฏิบัติราชการตามเดิม 1) รับค าร้องผู้ที่ไปศึกษาต่อประสงค์ขอกลับเข้าปฏิบัติราชการ 2) ตรวจเอกสาร (หนังสือจากสถานศึกษา , แบบค าร้องขอกลับ) 3) เสนอค าสั่งกลับเข้าปฏิบัติราชการต่อผู้มีอ านาจอนุญาต 4) แจ้งผู้ขออนุญาตและผู้เกี่ยวข้อง 5) รายงานส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.2.4 การท าสัญญา 1) จัดท าสัญญา และสัญญาค้ าประกันตามแบบที่ส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด - การท าสัญญา จัดท าสัญญา จ านวน 2 ชุด (เก็บไว้ที่ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จ านวน 1 ชุด และผู้ให้สัญญา จ านวน 1 ชุด) ทั้งนี้ ผู้รับสัญญาเป็นผู้เก็บสัญญาและสัญญาค้ าประกัน ชุดที่ติดอากรแสตมป์ 10 บาท และ 1 บาท รวม 11 บาท (ฉบับจริง) - เอกสารของผู้จัดท าสัญญาลาศึกษาต่อ และผู้ค้ าประกัน ก. บัตรประจ าตัวข้าราชการ หรือบัตรประชาชน พร้อมส าเนา 1 ฉบับ ข. ทะเบียนบ้าน พร้อมส าเนา 1 ฉบับ
๑๓ ค. ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า (ถ้ามี) พร้อมส าเนา 1 ฉบับ ง. หนังสือยินยอมให้ท าสัญญา หรือค้ าประกันของคู่สมรส (กรณีผู้ท าสัญญา หรือผู้ค้ าประกันมีคู่สมรส) จ. รูปถ่าย 1 นิ้ว จ านวน 2 รูป (เฉาะผู้ให้สัญญาเท่านั้น) ฉ . ก รณีไม่ส าม ารถห าผู้ค้ าป ระกัน ให้ แนบบั นทึ กค วามเห็ น ของ คณะกรรมการ ฯ - ผู้ท าสัญญา และผู้ค้ าประกันต้องน าบุคคลต่อไปนี้ มาในวันท าสัญญาด้วย ก. สมรสของผู้ท าสัญญา (ถ้ามี) ข. ผู้ค้ าประกัน จ านวน 1 คน ค. คู่สมรสของผู้ค้ าประกัน (ถ้ามี) - การติดอากรแสตมป์ สัญญาศึกษาต่อติดอากรแสตมป์ 1 บาท และสัญญา ค้ าประกัน 10 บาท (ติดอากรแสตมป์ที่คู่ฉบับ ๆ ละ 1 บาท การจัดท าส าเนาคู่ฉบับไว้ที่สถานศึกษาจ านวน 2 ชุด และส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จ านวน 1 ชุด) 2) เสนอลงนามสัญญาลาศึกษาต่อและสัญญาค้ าประกัน 3) มอบสัญญาให้กับผู้ไปศึกษาต่อ 2. การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคนอกเวลา 2.1 การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคนอกเวลา โดยใช้เวลาราชการบางส่วน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 2.1.1 รับค าขอของผู้ประสงค์จะศึกษาต่อขออนุญาตสมัครสอบคัดเลือกต่อผู้มี อ านาจอนุญาต 2.1.2 เมื่อสอบคัดเลือกได้ ให้น าห ลัก ฐ าน ผลก ารสอบคัดเลื อกจ าก สถาบันการศึกษาเสนอต่อผู้มีอ านาจอนุญาต 2.1.3 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) มีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ 15 มิถุนายนของปีที่เข้าศึกษา กรณีอายุเกินให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้มีอ านาจอนุญาตพิจารณาอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย 2) ต้องมีเวลารับราชการติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 เดือนเต็ม
๑๔ 3) เป็นผู้ที่เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นอย่างดี และให้ออก เดินทางจากสถานศึกษาหรือส านักงานที่ตนปฏิบัติงานอยู่ ก่อนเวลาเลิกปฏิบัติราชการได้ไม่เกินวัน ละ 1 ชั่วโมง 30 นาที 2.1.4 จัดท าสัญญาลาศึกษาและสัญญาค้ าประกันคนละ 2 ฉบับ (เก็บไว้ที่ผู้รับ สัญญา 1 ฉบับ ผู้ไปศึกษา 1 ฉบับ) 2.1.5 จัดท าค าสั่งให้ไปศึกษา 2.1.6 จัดท าหนังสือส่งตัวไปศึกษา 2.1.7 เมื่อผู้ไปศึกษาส าเร็จการศึกษา ให้จัดท าค าสั่งให้กลับเข้าปฏิบัติราชการ 2.1.8 รายงานส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2.2 การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคนอกเวลาราชการโดยไม่ใช้เวลาราชการไป ศึกษา ขั้นตอน การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคนอกเวลาราชการโดยไม่ใช้เวลา ราชการไปศึกษา 2.2.1 รับเรื่องไปศึกษาต่อ 2.2.2 ตรวจสอบการไปศึกษาต่อ 2.2.3 เสนอรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ 2.2.4 แจ้งผู้ไปศึกษาต่อทราบ 3. การศึกษาต่อภายในประเทศ ภาคฤดูร้อน ขั้นตอนการลาศึกษาต่อภาคฤดูร้อน 3.1 การลาศึกษาต่อ 3.1.1 รับค าขอผู้ประสงค์จะศึกษาต่อ 3.1.2 ตรวจสอบเอกสาร 3.1.3 จัดท าสัญญา และสัญญาค้ าประกัน ด าเนินการเช่นเดียวกับการศึกษาต่อ ภาคปกติ 3.1.4 เสนอขออนุญาตไปศึกษาต่อภาคฤดูร้อน ต่อบังคับบัญชาตามล าดับ ขั้นตอน 3.1.5 จัดท าค าสั่งให้ข้าราชการลาศึกษาต่อภาคฤดูร้อน 3.1.6 แจ้งผู้ไปศึกษาต่อแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษา 3.1.7 รายงานส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.2 การกลับเข้าปฏิบัติราชการตามเดิม 3.2.1 ผู้ลาศึกษาต่อส่งแบบค าร้องขอกลับ ฯ 3.2.2 ตรวจสอบเอกสาร 1) แบบค าร้องขอกลับเข้าปฏิบัติราชการตามเดิม (แบบที่ 5) 2) หนังสือจากสถาบันการศึกษาส่งตัวกลับโดยระบุวันที่ส่งตัวกลับ 3) เอกสารที่แสดงว่าส าเร็จการศึกษา
๑๕ 3.2.3 จัดท าค าสั่งให้ข้าราชการซึ่งไปศึกษาต่อภาคฤดูร้อนกลับเข้าปฏิบัติราชการ ตามเดิม 3.2.4 การรายงานจ านวนผู้ลาศึกษาไปส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน 4. การฝึกอบรมภายในประเทศ ขั้นตอนการด าเนินการ 4.1 ขออนุญาตไปฝึกอบรมภายในประเทศ (ตามหลักเกณฑ์) 4.2 การอบรม หากอบรมระยะเวลาเกินกว่า 6 เดือน หรือทางราชการจะต้อง จ่ายเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอบรมเกินกว่า 5,000 บาท ต้องจัดท าสัญญา 4.3 จัดท าสัญญา (กรณีผู้ลาไปฝึกอบรมย้ายต่างเขตพื้นที่ให้เก็บสัญญาไว้ที่ส านักงาน เขตพื้นที่การศึกษาเดิม แต่ต้องแจ้งให้หน่วยงานใหม่ทราบ) 4.4 จัดท าค าสั่งให้ไปฝึกอบรมภายในประเทศ และกลับเข้าปฏิบัติราชการ 4.5 รายงานส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5. การค านวณเงิน และเรียกชดใช้ทุนกรณีผิดสัญญา ขั้นตอนการด าเนินการ กรณีผู้ลาศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัยภายในประเทศ ผิดสัญญาการชดใช้ทุน ให้ด าเนินการดังนี้ 5.1 ค านวณการชดใช้ทุนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังก าหนด และตาม ประกาศ ของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5.2 แจ้งเรียกช าระหนี้จากผู้ผิดสัญญาและผู้ค้ าประกัน โดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ 5.3 หากผู้ผิดสัญญาหรือผู้ค้ าประกัน ยินยอม ชดใช้ ให้รับชดใช้แล้วรายงานส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5.4 หากขอผ่อนช าระให้ผู้มีอ านาจ (ผู้รับมอบอ านาจ) พิจารณาโดยค านึงถึงหลักเกณฑ์ ที่กระทรวงการคลังก าหนด 5.5 หากผู้ผิดสัญญา หรือผู้ค้ าประกันปฏิเสธ หรือเพิกเฉย ให้รวบรวมเอกสาร หลักฐาน ทั้งหมดรายงาน ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยด่วน อย่าให้ขาดอายุความ 6. การลาศึกษาต่อต่างประเทศ ขั้นตอนการด าเนินการขออนุญาตไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ 6.1 รับค าขอของข้าราชการที่ประสงค์จะขออนุญาตไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา 6.2 ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน 6.3 เสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อเสนอเรื่องไปยังส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน
๑๖ 6.4 ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแจ้งผลการพิจารณาเห็นชอบจาก ส านักงาน ก.พ. และจัดท าค าสั่งส่งให้ข้าราชการไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ 6.5 จัดท าสัญญาและสัญญาค้ าประกัน (ผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาลง นาม ในสัญญา) 6.6 ส่งสัญญาไปส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 6.7 แจ้งสถานศึกษาเพื่อแจ้งผู้ขออนุญาตทราบ 7. Flow Chart การปฏิบัติงาน 8. แบบฟอร์มที่ใช้ 8.1 แบบส ารวจ 8.2 สัญญาลาศึกษาต่อ ผู้มีควำมประสงค์ยื่นค ำขอ ต่อสถำนศึกษำ เสนอผู้บังคับบัญชำ อนุมัติ/มีค ำสั่ง ให้ลำศึกษำต่อ รำยงำน สพท. ผู้ศึกษำรำยงำนผลกำรศึกษำ ระหว่ำงลำศึกษำ รำยงำนกลับเข้ำรับรำชกำรเมื่อจบกำรศึกษำ ผู้บังคับบัญชำสั่งกลับเข้ำปฏิบัติหน้ำที่
ค ำน ำ คู่มือปฏิบัติงาน เล่มนี้ ข้าพเจ้าจัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับ มอบหมายจากผู้บังคับบัญชามีแนวปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น จึงได้ จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานภายในกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ สามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่อยู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการปฏิบัติงานนี้จะเป็น ประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องส าหรับน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาลและ จรรยาบรรณต่อไป ขอขอบคุณผู้อ านวยการกลุ่มและบุคลากรกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้มี ส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดท าเอกสารเล่มนี้ ให้สมบูรณ์ สามารถน าไปใช้เป็นแนวทางการ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ไพรัช หริ่มเทศ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำรบัญ เรื่อง หน้ำ - ภารกิจตามกลุ่มงาน 1 - งานรับหนังสือราชการ 2 - งานส่งหนังสือราชการ 6 - งานการจัดท าหนังสือราชการ 10 - การขออนุมัติไปราชการ 16
1 ภำรกิจงำนประจ ำตำมกลุ่มงำน ของ นำยไพรัช หริ่มเทศ กลุ่มพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ งำนสำรบรรณ - รับ-ส่ง หนังสือราชการ ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์และทางไปรษณีย์ ของกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากร - ตรวจสอบการส่งหนังสือราชการทางเว็บไซต์จากหน่วยงานต้นสังกัด และควบคุมการส่งหนังสือราชการ ในกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา งำนกลุ่มพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ - งานการจัดท าข้อมูลสารสนเทศในกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา - ท าหน้าที่ดูแลระบบการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของส านักงานเขตฯ - งานรับผิดชอบดูและและจัดท าเว็บไซต์กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา - การขออนุมัติไปราชการของผู้บริหารสถานศึกษา - งานการประชาสัมพันธ์โครงการฝึกอบรมต่าง ๆ - ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย งำน ICT - ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ในส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 - ดูแลจัดการอินเตอร์เน็ตส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 - งานดูแลระบบ Internet โรงเรียน , DLIT และ DLTV ของโรงเรียน
2 ประเภทเอกสำร : คู่มือขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ชื่อเอกสำร : งำนรับหนังสือรำชกำร
3 1. ชื่องำน งำนรับหนังสือรำชกำร 2. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือประกอบการปฏิบัติงานธุรการกลุ่ม ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้มีมาตรฐานและ ถือปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน 3. ขอบเขตของงำน งำนรับหนังสือรำชกำร ครอบคลุมการด าเนินงานตั้งแต่ การรับหนังสือ การวิเคราะห์เนื้อหา การมอบผู้รับผิดชอบ การน าเสนอผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4. ค ำจ ำกัดควำม 4.1 เจ้าหน้าที่ หมายถึง เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีด เจ้าหน้าที่ธุรการ เจ้าพนักงานธุรการ 4.2 ส านักงาน หมายถึง ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา 4.3 ผู้บริหาร หมายถึง ผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อ านวยการกลุ่ม 4.4 เอกสารลับ หมายถึง เอกสารที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ 4.5 เอกสาร หมายถึง เอกสาร พัสดุไปรษณีย์ และระบบ e-Filing 5. ขั้นตอนกำรปฏิบัติงำน 5.1 เจ้าหน้าที่รับหนังสือราชการจากกลุ่มอ านวยการ ตลอดจนเผ้าระวังและพิมพ์หนังสือราชการ จาก สพฐ. ทางเวปไซต์ ตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือราชการ/เอกสารกร๊ไม่ถูกต้อง ส่งคืนกลุ่มอ านวยการ 5.2 กรณีถูกต้อง น าเสนอเพื่อด าเนินการโดยเสนอให้ผู้อ านวยการกลุ่ม วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อจ าแนก ประเภท ผู้รับผิดชอบ 5.3 เจ้าหน้าที่ธุรการบันทึกรายการแจกหนังสือตามกลุ่มงาน และผู้รับผิดชอบเรื่อง กรณีเป็นหนังสือลับ นายทะเบียนหนังสือลับ ลงทะเบียนหนังสือแล้วน าเสนอผู้อ านวยการกลุ่ม วิเคราะห์ เนื้อหาเพื่อจ าแนกประเภท ผู้รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ทะเบียนลับลงทะเบียนแจกงานผู้รับผิดชอบเรื่อง 5.4 ผู้รับผิดชอบเรื่อง บันทึกเสนอผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อทราบ/พิจารณา/ อนุมัติ/เห็นชอบ/สั่งการ แล้วแต่กรณี
4 6. Flow Chart กำรปฏิบัติงำน 7. แบบฟอร์มที่ใช้ 7.1 ทะเบียนรับหนังสือราชการ 7.2 ทะเบียนรับเอกสารลับ 8. เอกสำร/หลักฐำนอ้ำงอิง ระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่รับหนังสือราชการจาก กลุ่มอ านวยการหรือเว็บไซต์ ผู้อ านวยการกลุ่ม วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อจ าแนก ประเภท ผู้รับผิดชอบ ผู้รับผิดชอบเรื่อง บันทึกเสนอผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่ การกศึกษา ปฏิบัติการที่ผู้อ านวยการสั่งการ เจ้าหน้าที่ธุรการบันทึกรายการแจก หนังสือตามกลุ่มงาน และผู้รับผิดชอบ
9. สรุปมำตรฐำนกระบวนงำน งานรับหนังสือราชการ ชื่องำน งานรับหนังสือราชการ ส่วนรำชกำร สพป.พิจิตร เขต 2 ก ตัวชี้วัดที่ส ำคัญของกระบวนกำร การด าเนินงานตั้งแต่ การรับหนังสือ การวิเคราะห์เนื้อ ด้วยความเรียบร้อย วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นคู่มือประกอบการปฏิบัติงานธุรการกลุ่ม ส านักงานเขตพื้นที่การศึก ล ำดับที่ ผังขั้นตอนกำรท ำงำน รำยละเอียดงำน 1 เจ้าหน้าที่รับหนังสือราชการจากกลุ่ม อ านวยการฯ เวปไซต์ 2 ผู้อ านวยการกลุ่ม วิเคราะห์ฯ 3 เจ้าหน้าที่ธุรการฯ แจกหนังสือตามกลุ และผู้รับผิดชอบ 4 ผู้รับผิดชอบเรื่อง บันทึกเสนอผู้อ านวย ส านักงานเขตพื้นที่ 5 ปฏิบัติการที่ผู้อ านวยการสั่งการ ค ำอธิบำยสัญลักษณ์ผังขั้นตอน จุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดกระบวนงาน การตัดสินใจ จุดเชื่อมต่อระหว่างหน้า(ถ้าไม่จบภา
5 กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา รหัสเอกสำร อหา การมอบผู้รับผิดชอบ การน าเสนอผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นไป กษา ให้มีมาตรฐานและถือปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เวลำด ำเนินกำร มำตรฐำนคุณภำพงำน ผู้รับผิดชอบ หมำยเหตุ ธุรการกลุ่ม ผอ.กลุ่ม ลุ่มงาน ธุรการกลุ่ม ยการ ผอ.สพท. ผู้รับผิดชอบเรื่อง กิจกรรมงานหรือการปฏิบัติ ทิศทางหรือการเคลื่อนไหนของงาน ายใน 1 หน้า