The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 10

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tharaphan.prasan, 2022-07-16 09:19:30

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 10

พระราชประวัติ รัชกาลที่ 10

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานในพระองค์
จัดงานฤดูหนาวขึ้น ซึ่งภายในงานจะถูกเนรมิตให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศ
ย้อนยุค พร้อมด้วยสวนดอกไม้ท่จี ัดขนึ้ เตม็ กลางลานพระบรมรูปทรงมา้ ซง่ึ การ
จัดงานครง้ั ที่ 2ภายใต้ช่อื "อ่นุ ไอรัก คลายความหนาว" ณ พระลานพระราชวัง
ดุสติ และสนามเสือป่า ระหว่างวนั ท่ี 8 กมุ ภาพันธ์-11 มีนาคม 2561 เพ่ือเป็น
การมอบความสุขให้แก่ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรม
ไทยราลึกถึงวิถีชีวิตท่ีผ่านมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งเสริมให้คนไทยรัก
และภาคภูมิใจในความเป็นชาติโดยภายในงานจะมีนิทรรศการพระราชกรณีย
กิจของในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลท่ี 9 นิทรรศการแสดงวิถีชีวิตของคน
ไทยสมัยอดีต การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมการถ่ายภาพโบราณ รวมถึง
ร้านค้าต่างๆ ที่มาร่วมออกร้านจานวนมาก โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 3 โซน
ดงั น้ี

1. โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ
และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซ่ึงจะถูก
ตกแต่งอย่างสวยงามดว้ ยสถาปัตยกรรมสมยั รชั กาลที่ 5 และรชั กาลท่ี 9 มีการ
จดั สวนพนั ธุ์ไมแ้ ละนา้ พุ งานประดษิ ฐต์ ามศิลปะไทยแบบชาววัง

2. โซนสนามเสือป่า จดั ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารบั เชิญ
เช่น ร้านจิตอาสา 904 ร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้าน
มูลนิธโิ ครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ มีการแสดงวัฒนธรรมพ้ืนบ้านและ
ฉายหนงั กลางแปลง

3.โซนร้านอาหารและร้านค้า ในแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบ
สานชุมชน วิถีไทย โดยจะจัดซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย และ
การสาธติ เกีย่ วกบั ศิลปวัฒนธรรมท้องถิน่ และรา้ นสตูดิโอใหถ้ ่ายภาพยอ้ นยุค

ใน พร ะ ลา น พร ะ รา ชวัง ดุสิต แล ะ สน าม เ สือ ป่าจ ะ คึก คัก ไ ปด้ว ยผู้ค น
ป ระช าช น ร่ว ม แต่ง กาย ย้อน ยุ ค เ ข้าร่ว ม ง า น เ ป็น จาน ว น ม าก เ พื่อร่ว ม ช ม
นทิ รรศการและกจิ กรรมต่างๆ ท่แี สดงถงึ เอกลกั ษณว์ ถิ ไี ทย อาทิ การสาธิตงาน
ประดิษฐ์แบบชาววังของฝ่ายใน อาทิ การแกะสลักผลไม้และการทาขนมไทย
โบราณ เช่น ขนมจีบตัวนก ค้างคาวเผือก รวมทั้งมีการออกร้านในบริเวณ
สนามเสอื ปา่ ภายใตแ้ นวคิด “ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานวิถีชุมชน” มี
ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และรา้ นคา้ รบั เชญิ อาทิ ร้านจิตอาสา 904, ร้าน
สมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงกิจกรรมสอยต้นกัลปพฤกษ์
ต้นโพธิเ์ งนิ โพธิ์ทอง“อุ่นไอรัก คลายความหนาว” งานท่ีอบอวลไปดว้ ยความสขุ
ความรื่นเริง บรรยากาศย้อนยุค แสนอบอุ่นท่ีนักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึง
ประวัติศาสตร์บ้านเมือง ความผูกพันอันแนบแน่นของพระมหากษัตริย์กับ
ประชาชน ได้รู้ถึงวิถีการดาเนินชีวิตของชาวไทยในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
บรรยากาศของดอกไมเ้ มอื งหนาวท่บี านสะพรั่งงดงามและเลือกซ้อื สนิ คา้ นานา
ชนิดจากรา้ นค้าต่างๆ อยา่ งเพลดิ เพลนิ

ด้านสง่ เสรมิ การเสยี สละเพอ่ื สงั คมและประเทศชาติ

โครงการจติ อาสา “เราทาความดี ดว้ ยหวั ใจ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ทรงหว่ งใยและทรงคานงึ ถงึ ความอยู่ดี

มสี ขุ ของประชาชนเปน็ สาคัญ และ พระองค์มีพระราชปณิธานแน่วแน่ท่ีจะทา
ให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น ด้วยมีพระราช
ประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ
และยึดแนวพระราชดาริพระราชบิดาในการดาเนินการโครงการต่าง ๆ ที่จะ
บาบัดทุกข์และบารุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
เน่ืองในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560 พระบาทสมเด็จ
พระ เจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยราชการ
ในพระองค์ ร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ และประชาชน ทุกหมู่เหล่าท่ีมีจิต
อาสา บาเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพ้นื ท่ตี ่าง ๆ เพอ่ื บรรเทาความเดือดร้อน
และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้าท่วมในเขต

ชุมชน ปัญหาการจราจร และอ่ืน ๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรง
ห่วงใยปัญหาน้าท่วมและปัญหาการจราจรในเขตพื้นท่ีกรุงเทพมหานครและ
จงั หวัดต่าง ๆ

หลงั จากดาเนินการโครงการจติ อาสา “เราทาความ ดี ด้วยหวั ใจ” ใน
พน้ื ท่ีกรุงเทพมหานครเปน็ ช่วงแรกแลว้ จะขยายผลโครงการดงั กล่าว ในช่วงท่ี
2 ไปยังจังหวัดที่มีเขตพระราชฐาน และจะขยายผลการดาเนินการโครงการ
ฯ ต่อไป ในช่วงท่ี 3 ทุกจังหวัดท่ัวประเทศ การดาเนินโครงการจิตอาสา
“เราทาความ ดี ด้วยหัวใจ” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก่อประโยชน์นาความ
เจริญรุง่ เร่ืองและความผาสุกแก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นอเนกอนนั ต์

ด้านเกษตรกรรม

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หวั เมือ่ คร้ังทรงอสิ รยิ ยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

สยามมกุฎราชกุมาร สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงบาเพ็ญพระราชกรณียกิจ
เพื่อส่งเสริมด้านการเกษตรกรรมอันเป็นอาชพี หลกั ของปวงชนชาวไทยตลอด
มา เช่น เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล ณ วัด
พระศรีรัตนศาสดารามเป็นประจา และ เม่ือวันท่ี 23 มีนาคม 2529 ได้เสด็จ
พระราชดาเนินไปทรงทาปุ๋ยหมักเป็นปฐมฤกษ์จากผักตบชวาและพืชอื่น ๆ
ณ บา้ นแหลม สะแก ตาบลเดมิ บาง อาเภอ บางนางบวช ทรงมีพระราชดาริให้
จัดตั้งโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนท่ีในพระราชานุเคราะห์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2545
เพ่ือช่วยเหลือราษฎรในท้องถิ่นให้ได้มีเทคโนโลยีการเกษตรแผนใหม่ และ
นามาปรับปรุงงานเกษตรกรรมของตนให้ได้ผลผลิตมากข้ึน และได้เสด็จพระ
ราชดาเนินไปทรงเปน็ ประธานในการทานาสาธิตโดยใช้ปุ๋ยหมัก ณ ตาบลดอน
โพธิ์ทองอาเภอเมือง จังหวัด สุพรรณบุรี เม่ือวันท่ี 28 มีนาคม พ.ศ. 2529 ใน
การน้ี ได้ทรงปฏิบัติการสาธิตการทานาด้วยพระองค์เอง เม่ือพระราชทาน
อุปกรณ์ การทานา พันธ์ข้าวปลูก และปุ๋ยหมักให้ข้าราชการ ผู้ใหญ่ไป
ดาเนินการสาธิตแล้ว ได้ทรงถอดฉลองพระบาท ถลกพระสนับเพลา ทรงพระ
ดาเนินลุยโคลน หว่านพันธ์ข้าวปลูกและปุ๋ยหมักในแปลงนาสาธิต โดยมิได้มี
กาหนดการไว้ก่อน ยังความชื่นชมโสมนัสปลาบปล้ืมปิติและซาบซึ้งในพระ
ราชจริยวัตรแกบ่ รรดาขา้ ราชการและประชาชนทม่ี าเฝา้ ทลู ละอองพระบาทใน
พิธีการวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้พระองค์ยังมีพระราชดาริให้หน่วยงานท่ี
เก่ยี วขอ้ งพัฒนาแหลง่ น้าใน หลายพน้ื ที่ เช่น ศูนยก์ ารเรีนร้แู ละพัฒนาดา้ นการ
เ ก ษ ต ร ก ร ร ม เ ก ษ ต ร วิช ญ า บ้า น ก อ ง แ ห ะ อ า เ ภ อ แ ม่ริม จั ง ห วั ด
เชียงใหม่ พุทธศักราช 2545 ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ได้ทรงรับ
โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ไว้ในพระราชานุเคราะห์และทรงพระราชา
นุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ
ด้วยทรงประสงค์จะให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิต

ทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ ต่อมาในปี
2549 ได้พระราชทาน ที่ดินส่วนพระองค์ในพ้ืนที่สวนบ้านกองแห หมู่ท่ี 4
ตาบลโป่งแยง อาเภอแม่ริม จงั หวัดเชยี งใหมจ่ านวน 1,350 ไร่ ให้กับกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ เพอ่ื พัฒนาเปน็ ศูนย์เรียนรู้ดา้ นเศรษฐกิจพอเพยี งบน พ้นื ที่
สูงให้แก่เกษตรกรอย่างครบวงจรประจาภาคเหนือ ภายใต้ชื่อโครงการเกษตร
วชิ ญา อนั เป็นการสานต่อพระราชดารใิ นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล
ที่ 9 ด้านเศรษฐกิจพอเพยี ง
ด้านการตา่ งประเทศ

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคร้ังยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม
มกุฎราชกมุ าร ทรงตระหนักดวี า่ การมสี มั พันธไมตรอี นั ดกี ับมิตรประเทศ เป็น
รากฐานสาคัญของความสงบสุขและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

พระองค์ทรงพระวิริยะอุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจสาคัญๆ ในการ
เจรญิ สมั พันธไมตรีกับประเทศตา่ งๆ เสมอมา

พระองคย์ ังทรงตอ้ นรบั พระราชอาคันตุกะแทนพระองค์ อาทิ วันจนั ทรท์ ี่
2 กันยายน 2556 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์
ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย ในโอกาส
เสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (State Visit) ในฐานะพระราช
อาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ
บพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จ
พระราชดาเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระ
นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปอย่างเป็น
ทางการเป็นประจาทุกปีปีละหลายครั้งเช่น เสด็จพระราชดาเนินไปทรงเยือน

ประเทศอิตาลี สาธารณรัฐประชาชนจีน ญ่ีปุ่น อิหร่าน เนปาล สาธารณรัฐ
สังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา สาธารณรัฐเปรู ออสเตรเลีย สิงคโปร์
นอกจากจะมุ่งเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว ยังทรงสนพระราชหฤทัยในการ
ทอดพระเนตรและศกึ ษากิจการต่างๆ ทีจ่ ะทรงนาประโยชน์มาใชใ้ นการพฒั นา
ประเทศไทย เช่น เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมชมกิจการทหาร ศิลปวัฒนธรรม
อุตสาหกรรมและความเปน็ อยู่ของประชาชน

อีกท้ังทรงให้การต้อนรับราชอาคันตุกะ อาคันตุกะท่ีมาเยี่ยมเยือน
ประเทศไทยอย่างสมพระเกียรติ นอกจากนี้ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรด
เกลา้ ฯ ให้สง่ ขอ้ ความพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยังผู้นาประเทศต่าง ๆ

เมื่อวันท่ี 14 กันยายน พ.ศ. 2525 ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง
8 มนี าคม พ.ศ. 2530 เสด็จพระราชดาเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชน
จีนอย่างเป็นทางการ ทรงพบนายเติ้ง เส่ียวผิง ณ มหาศาลาประชาคม กรุง
ปักกง่ิ

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ
พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั รบั เสดจ็ สมเด็จพระจกั รพรรดอิ ากฮิ ิโตและพระราชนิ ี

เสด็จพระราชดาเนินทรงเยือนประเทศญ่ีปุ่น ทรงพบสมเด็จพระ
จักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี เม่ือวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2530
ประเทศต่างๆที่เสด็จพระราชดาเนินไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีในฐานะผู้แทน
พระองค์และในสว่ นของพระองค์เอง มอี กี เป็นจานวนมากเช่น ประเทศอหิ รา่ น
ประเทศเนปาล สาธารณรัฐสังคมนิยมศรลี ังกา สหพนั ธเ์ อกวาดอร์ สาธารณรัฐ
เฮอลนิก(กรซี )ประเทศออสเตรเลีย และเม่อื วันที่ 2-4 กรกฏคม พ.ศ. 2542 ได้
เสด็จพระราชดาเนินพร้อมด้วยพระราชธิดาท้ังสองพระองค์ ไป ทรงเยือน
ประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการในการเสด็จพระราชดาเนินไปทุกคร้ัง ต้อง
ทรงเตรยี มพระองค์ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศท่ีจะทรงเสด็จไป
ทรงเยือน ทรงสนพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรและศึกษากิจกรรมต่าง
ๆ ทจี่ ะทรงนามาเป็นประโยชนใ์ นการนามาพัฒนาบา้ นเมืองไทยตอ่ ไป

ทรงประกอบภารกจิ พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ
พระบรมศพ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร

เหตุการณ์สาคัญที่ประทับใจตราตรึงในหัวใจคนไทยท้ังชาติในพระราช
กรณยี กิจที่พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบภารกิจ คือ พระราชพิธีถวายพระเพลิง
พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพติ ร

พุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น .พระบาทสมเด็จพระ
ปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จ
พระราชดาเนินไปทรงบาเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ ในพระราชพิธี

ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิ
พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช ม ห า ร า ช บ ร ม น า ถ บ พิ ต ร ณ พ ร ะ ที่ นั่ ง ดุ สิ ต ม ห า
สาท พระบรมมหาราชวงั ในการน้ี สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ทรงจดุ ธปู เทยี นเครื่อง
ราชสักการะพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนนมัสการบูชาพระพทุ ธรปู ประจาพระ
ชนมวาร ทรงประเคนพดั กรองทีร่ ะลึกงานออกพระเมรุแด่สมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะท่ีจะถวายพระธรรมเทศนา และ
พระราชาคณะท่ีจะสวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ท่ีจะสดับปกรณ์ 89 รูป
เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอ
ดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ท่ีจะสวดพระอภิธรรม 8 รูป
บรรพชติ จนี และญวน 20 รูป พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา ถวายไทย
ธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ จากน้ันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรถวายพระ
เทศนา พระสงฆ์สวดศราทธพรต พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวาย
อดิเรก ถวายพระพรลา บรรพชิตจีนและญวนสวดมาติกา สดับปกรณ์ และ
ถวายอนุโมทนา ทรงจุดธูปเทียนท่ีแท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม แล้วเสด็จ
พระราชดาเนนิ กลบั พระราชพธิ เี ชิญพระบรมโกศออกพระเมรมุ าศ

วันพฤหัสบดีท่ี 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 07:24 น
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร
เกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปในการเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุ

มาศ ในการนี้ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองราชสักการะพระบรมศพและเคร่ือง
นมัสการบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวาร ทรงทอดผ้าไตร ก่อนอัญเชิญ
พระบรมโกศพระราชาคณะ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ถวายพระพรลา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปล้ืองพระโกศทองใหญ่เชิญ
พระลอง ลงจากพระแทน่ สวุ รรณเบญจดลไปประดษิ ฐานทพี่ ระยานมาศสามลา
คาน ท่ี ประตูกาแพงแก้วพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ตามไปส่งท่ีชาลาพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท มุขเหนือ
อั ญ เ ชิ ญ พ ร ะ บ ร ม โ ก ศ ด้ ว ย พ ร ะ ย า น ม า ศ ส า ม ล า ค า น อ อ ก จ า ก
พระบรมมหาราชวัง ถวายนพปฎลมหาเศวตฉัตรคันดาลกางก้ัน แล้วยาตรา
ขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังพระมหาพิชัยราชรถ หน้าวัดพระเชตุพน
วิมลมังคลาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดาเนินไปยังพลับ
พลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงทอดผ้าไตร 20 ไตร ท่ีท้าย
เกรินบันไดนาคพระมหาพิชัยราชรถ พระสงฆ์สดับปกรณ์เท่ียวละ 5 รูป
อัญเชิญพระบรมโกศ ข้ึนประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ ยาตรา
ขบวนแห่อัญเชิญพระบรมโกศ ไปยังพระเมรุมาศท้องสนามหลวง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั เสด็จฯ ตาม เม่อื ขบวนพระบรมราชอิสริยยศแห่
อัญเชิญพระบรมโกศเข้าสู่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อยหู่ ัว เสด็จ ไปประทับรอที่พลบั พลายกนอกราชวัตพิ ระเมรุมาศ เมื่อเทยี บ
พระมหาพิชัยราชรถอญั เชญิ พระบรมโกศลงจากพระมหาพชิ ยั ราชรถโดยเกริน
บันไดนาคประดิษฐานพระบรมโกศบนราชรถปืนใหญ่เพ่ือต้ังขบวนพระบรม
ราชอิสริยยศ สาหรับเวียนพระเมรุมาศ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หวั พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ตามพระบรมโกศเวียนพระเมรุ
มาศ ครบ 3 รอบแล้ว สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั และพระบรมวงศานุวงศเ์ สดจ็ ฯ ไป

ประทับ ณ พระที่น่ังทรงธรรม เทียบราชรถปืนใหญ่ที่เกรินบันไดนาคพระเมรุ
มาศ

อัญเชิญพระบรมโกศข้ึนประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ปิดพระฉากและ
พระวิสูตร ประกอบพระโกศจันทน์ ตั้งแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปิดพระฉาก
และพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ทรงจุดธูป
เทียนเคร่ืองทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมศพ เสด็จลงจากพระเมรุมาศ
เสด็จขึ้นผ่านพระท่ีนั่งทรงธรรมไปประทับรถยนต์พระท่ีนั่งหลังพระท่ีนั่งทรง
ธรรม เสดจ็ พระราชดาเนินกลบั

วันพฤหสั บดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:15 น. พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยัง พระท่ีน่ังทรงธรรม ณ พระเมรุ
มาศ ท้องสนามหลวง ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้า
ฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐ
สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อย
สาหรับพระบรมศพทรงธรรมที่พระเมรุมาศ สมเด็จพระสังฆราชถวายพระ
ธรรมเทศนาจบ พระราชาคณะ 50 รูป สวด ศราทธพรต ถวายไทยธรรมบูชา
กัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ท่ีสวด ศราทธ
พรตสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีน่ังทรงธรรม
เสด็จฯ ไปประทับท่ีมุขหน้าพระท่ีน่ังทรงธรรม ผู้แทนจิตอาสาเชิญ
ดอกไม้จันทน์ 9 พานผ่านพระที่นั่งทรงธรรม ถวายความเคารพแล้วเดินออก
จากมณฑลพิธี จากนั้นเสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพ
เป่าแตรนอน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงจุดธูปเทยี นดอกไมจ้ นั ทนถวาย

พระเพลิงพระบรมศพ ชาวพนักงาน ประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน
แตรฝร่ัง ป่ี กลองชนะและป่พี าทย์ ทหารกองเกยี รตยิ ศ 3 เหล่าทพั ถวายความ
เคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และยิงปืนเล็กยาว 9 นัด
พรอ้ มกบั ทหารปนื ใหญย่ ิงปนื ใหญถ่ วาย พระเกียรติ 21 นดั เสด็จฯ ไปประทบั
มุขหน้าพระทนี่ ่งั ทรงธรรม

จากน้ัน พระประมุข ประมุข ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศและคณะบุคคล
ตา่ งๆ จะได้ขึน้ ถวายพระเพลงิ พระบรมศพ

วันเดยี วกัน เวลา 22:30 น. พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว เสด็จฯ ไปยัง
พระที่นั่งทรงธรรม พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูป
สดบั ปกรณ์ ถวายอนโุ มทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีนัง่ ทรงธรรรม สมเดจ็
พระเจ้าอยู่หัว เสด็จข้ึนพระเมรุมาศ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงจุดไฟท่ี
ดอกไมจ้ นั ทน์เพ่ือถวายพระเพลิงพระบรมศพ อีกสักครู่ ประชาชนจึงเห็นควัน
ลอยออกมาจากพระเมรุมาศ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ ไป
ประทบั มุขหน้าพระท่นี ั่งทรงธรรม เจา้ พนักงานปฏิบัติการถวายพระเพลิงพระ

บรมศพเสร็จแล้ว ทรงทอดผ้าไตรที่พระจิตกาธาน พระสงฆ์ 10 รูป
สดับปกรณ์เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดาเนินกลับ พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ
เชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารกลับสู่พระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 8:43 น. พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระเมรุมาศ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุ
วงศ์เสด็จข้ึนพระเมรุมาศ เจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้าเยียรบับที่ถวายคลุม
พระบรมอัฐิ ทรงจดุ ธปู เทยี นถวายราชสกั การะพระบรมอัฐิ ถวายสรงพระบรม
อัฐดิ ้วยนา้ พระสุคนธ์ทั่วแล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาถวายผ้าเยียรบับคลุมพระ
บรมอัฐิ ทรงจุดธปู เทยี น เครอ่ื งทองน้อยสาหรับพระบรมอัฐิบูชาพระสงฆ์ ทรง
ทอดผ้าไตรถวายพระ 3 หาบ พระสงฆ์ขึ้นสดับปกรณ์พระบรมอัฐิ พระสงฆ์
สดับปกรณ์ครบ 9 รูป แล้ว เจ้าพนกั งานภูษามาลาเปิดผ้าคลุมพระบรมอฐั ทิ รง
เก็บพระบรมอัฐิสรงพระสุคนธ์แล้วประมวลลงในพระโกศทองคาลงยารวม 6

พระโกศทรงพระราชทานพระโกศพระบรมอัฐิแก่พระบรมวงศ์แล้ว ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิลง
จากพระเมรมุ าศไปยงั พระทีน่ ัง่ ทรงธรรม เสด็จฯ ตามประทับท่ีหน้าอาสน์สงฆ์
เจา้ พนักงานภษู ามาลาอญั เชิญพระโกศพระบรมอัฐิประดิษฐานในบุษบกเหนือ
พระแท่นแว่นฟ้า ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองราชสักการะพระบรมอัฐิแล้วทรง
ประเคนโตกสารับภัตตาหาร 3 หาบ แด่พระสงฆ์ 9 รูป พระสงฆ์ 3 หาบ รับ
พระราชทานฉันเสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปถวายเครื่องสังเค็ดงานถวายพระเพลิง
พระบรมศพแด่พระสงฆ์ 3 หาบและพระสงฆ์ 30 รูป พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา
ถวายอดิเรก ออกจากพระท่ีนั่ง พระสงฆ์อีก 30 รูป ข้ึนน่ังยังอาสน์สงฆ์ สวด
มาตกิ า ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆส์ ดับปกรณพ์ ระบรมอัฐถิ วายอนุโมทนา ถวาย
อดิเรก ออกจากพระท่ีนั่งตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศอัญเชิญพระโกศพระ
บรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร เข้าไปยังพระบรมมหาราชวังพระราชพิธี
ทรงบาเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอฐั ิ

วันเสาร์ท่ี 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:32 น. พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท ใน
พระบรมมหาราชวัง ทรงจดุ ธปู เทยี นถวายราชสกั การะพระบรมอฐั แิ ละพระอัฐิ
สมเด็จพระบรมราชบุพการีที่ประดิษฐานบนพระแท่นมหาเศวตฉัตรและทรง
จุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบ
ศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ซึ่งประดิษฐาน ณ พระแท่น
แว่นฟ้า แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจาพระชนมวารสมเด็จพระ
บรมราชบพุ การีและพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิ
พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร แลว้ ทรงประเคนพดั รองทรี่ ะลึกงานทรง
บาเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิแด่พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา
พระราชาคณะ 31 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ที่รับอนุโมทนา 4 รูป
พระสงฆ์ที่สวดมาติกาและสดับปกรณ์ 12 รูป ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์
สดบั ปกรณ์พระบรมอฐั ถิ วายอนโุ มทนา ถวายอดเิ รก ถวายพระพรลา ออกจาก
พระที่นั่ง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระ
ธรรมเทศนาจบ ถวายอนุโมทนา (บนธรรมาสน์) พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์
และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ท่ีรับอนุโมทนา รวม 5 รูป
ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระท่ีน่ัง ทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ 12
รูป สวดมาตกิ า สดบั ปกรณพ์ ระบรมอฐั แิ ละพระอฐั ิสมเด็จพระบรมราชบพุ การี
ท่ีอัญเชิญออกมาในการพระราชกุศลน้ี ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวาย
พระพรลา ออกจากพระท่ีน่งั

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10:43 น. น
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร
เกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท ใน
พระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ
บพิตร ทรงจุดธปู เทียนเครอื่ งนมสั การบูชาพระพุทธรปู ประจาพระชนมวาร ท่ี
หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อน
ถวายพระพร ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วทรง
ประเคนจตุปัจจยั ไทยธรรม ถวายอนโุ มทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออก
จากพระที่นั่ง ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวาย
พระธรรมเทศนาจบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา ทรง
ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์แล้วทรงทอดผ้าไตร ถวายพระ
เทศน์และพระสงฆ์ท่ีรับอนุโมทนา รวม 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวาย
พระพรลา ออกจากพระท่ีน่ัง พระสงฆ์ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา

พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ
บพิตร ข้ึนนั่งยัง อาสน์สงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์
เป็นเที่ยวๆ จบครบ 89 รูป (เท่ียวแรก 12 รูป สดับปกรณ์ แล้วถวาย
อนโุ มทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เที่ยวตอ่ ไปเทยี่ วละ 11 รปู จานวน 7
เที่ยว ข้ึนสดับปกรณ์แล้วลงจากพระที่น่ัง)พระราชพิธีบรรจุพระบรมราช
สรีรางคาร[แก้]ร้ิวขบวนท่ี 6 ขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคาร
จากพระศรรี ตั นเจดีย์ วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม โดยรถยนตพ์ ระทน่ี งั่ ออกจาก
พระบรมมหาราชวงั ไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถติ มหาสมี ารามราชวรวหิ าร และ
วัดบวรนิเวศราชวรวิหารวันเดียวกัน เวลา 17:28 น. พระบาทสมเด็จพระ
ปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสิน ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปยัง
ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระบรมวงศานวุ งศ์เฝา้ ฯ รบั
เสด็จเจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคา ร
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ
บพิตร โดยพระราชยานจากพระศรีรัตนเจดีย์ มีตารวจหลวงนา ไปออกประตู
เกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อัญเชิญไปถวายพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจา้ ฟ้ามหาจักรีสิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการิณพี รี ยพฒั น รฐั
สีมาคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกุมารี ณ รถยนต์พระท่ีนั่ง แล้วรถพระท่ีนั่ง
เคลื่อนเขา้ ริว้ ขบวนที่ 6ขบวนกองทหารมา้ นาและตามต้งั ขบวน

พรอ้ มอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามโดย
รถยนต์พระที่นั่ง ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรีไปยังวัด
ราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยขบวนทหารม้านา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ประทับรถยนตพ์ ระท่ีนั่งทรงอัญเชิญพระบรมราช
สรีรางคาร กองทหารม้าตาม เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระบรมราช
สรีรางคารจากรถยนต์พระท่ีน่ังเข้าประตูวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร
เกล้าเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดา เจ้าฟา้ มหาจกั รีสิรนิ ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการณิ ี
พีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังพระบรม
ราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ แล้วเสด็จฯ ไปยังพระ
อุโบสถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระพุทธ
อังคีรส พระประธาน พระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราช
สักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ

พระราชสรรี างคารสมเดจ็ พระนางเจา้ ราไพพรรณีพระบรมราชนิ ี ในรชั กาลที่ 7
และพระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
พระสงฆส์ วดมาตกิ า

ทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวาย
อดิเรก แล้วทรงบรรจุพระบรมราชสรีรางคารท่ี ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธ
อังครี ส ชาวพนักงานประโคมกระท่ังมโหระทกึ สังข์ แตร กลองชนะ ทหารกอง
เกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบ
แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย
จากน้ันเสด็จพระราชดาเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งในขบวนกองทหารม้า
ขบวนเดิม ทรงอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร อีกส่วนหน่ึงออกจากวัดราช
บพธิ สถิตมหาสมี ารามราชวรวิหาร ไปยงั วดั บวรนิเวศวิหาร โดยขบวนทหารมา้
นาและตามอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร โดยรถยนต์พระท่ีนั่งเข้าประตูวัด
บวรนิเวศวิหารไปยังพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่อง
นมสั การบชู าพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเคร่ือง

ทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจา้ อย่หู วั ทรงจุดธูปเทยี นเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราช
สรีรางคารพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูป
สดบั ปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดเิ รก

ทรงบรรจุพระบรมราชสรีรางคารท่ีฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ วัด
บวรนิเวศชาวพนักงานประโคมกระท่ังมโหระทึก สังข์ แตร กลองชนะ ทหาร
กองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
จบแลว้ สมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธปู เทยี นเครอ่ื งทองน้อย
แล้วเสด็จพระราชดาเนินไปประทบั รถยนต์พระท่ีนงั่ เสด็จพระราชดาเนินกลับ

พระเจา้ อย่หู วั รัชกาล ปจั จบุ ัน ทรงมงุ่ มนั่ เฉลมิ พระเกยี รติ พระทรง

ศรพี ระราชพธิ ี ถวายพระเพลงิ องคจ์ ักรี ธ ยอมพลี อทุ ิศถวาย พระราชบดิ า

ทุกภารกจิ ธ ทรงงาน สดุ กาลงั ทรงห่วงทงั้ พสกนกิ ร ไทยทวั่ หลา้

ทม่ี าพรอ้ ม รว่ มสง่ เสดจ็ องคร์ าชา มปี ญั หา ธ แกไ้ ข ใหโ้ ดยพลนั

พระราชวงศ์ รฐั ราษฎร์ และทกุ ฝา่ ย ตา่ งมงุ่ หมาย ชว่ ยการงาน ธ มงิ่ ขวญั

งานสาเรจ็ เสรจ็ สมบรู ณ์ อเนกอนนั ต์ องคร์ าชนั ตรงึ หัวใจ ไทยทกุ คน

.............................................

ดว้ ยเกล้าดว้ ยกระหม่อม ขอเดชะ
ขา้ พระพทุ ธเจา้ นายปะสาร ธาราพรรค์ ผปู้ ระพนั ธ์

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวมหาวชิราลงกรณ
บดนิ ทรเทพยวรางกรู วนั ท่ี 4-6 พฤษภาคม 2562

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดว่าเป็นพิธีสาคัญของทุกประเทศที่มี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยพิธีการน้ีเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศ
อย่างเป็นทางการว่าองค์พระประมุขพระองค์ใหม่ได้ทรงรับสมมติเป็น
พระราชาธิบดีหรือพระเจ้าแผ่นดินของประเทศน้ันแล้วโดยบริบูรณ์ การพระ
ราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ทากันมาในเมืองไทยน้ันมีการแปรเปล่ียนหลายคราว
โดยพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาลย่อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไข
รายละเอียดบางอย่างได้ตามพระราชนิยมสาหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวราง
กูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ั้งการพระราชพธิ บี รมราชาภิเษกในวันท่ี 4-
6 พฤษภาคม 2562

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นโบราณราชประเพณีที่ต้องทาเพื่อความ
เป็นพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์ ดังความใน ‘จดหมายเหตุพระราชพิธีบรม
ราชาภิเษก สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว’ ว่า“…ตามราชประเพณีในสยามประเทศนี้ ถือเป็นตารามาแต่
โบราณว่าพระมหากษัตริย์ซึง่ เสดจ็ ผา่ นพภิ พตอ้ งทาพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
กอ่ น จงึ จะเปน็ พระราชาธบิ ดีโดยสมบรู ณ์”

วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2562 สมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้
ฯ ให้สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา เป็นสมเด็จพระ
ราชนิ ี ดารงตาแหน่งพระอสิ ริยยศ ฐานนั ดรศักด์ิแห่งพระราชวงศ์
พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก วนั ที่ 4 พฤษภาคม 2562

4 พฤษภาคม 2562 - เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระ
เจ้าอย่หู ัวเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชยั มงคล ประกาศพระองค์
เป็นศาสนูปถัมภก ถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ สดับปกรณ์ และเฉลิม

พระราชมณเฑียร โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี
ขา้ ราชการชน้ั ผูใ้ หญเ่ ฝ้าทลู ละอองธุลพี ระบาทถวายพระพรชัยมงคล

เวลา 9:20 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จฯ ไปยัง
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย
แล้วเสด็จข้ึนพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระ
รัตนตรัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆป
ริณายก ถวายศีล จบแล้วเสด็จเข้าในหอพระสุราลัยพิมาน ทรงเศวตพัสตร์
ทรงสะพักขาวขลิบทอง พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณกราบบังคมทูลเชิญ
เสด็จไปสมู่ ณฑปพระกระยาสนาน สมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว เสดจ็ ออกจากหอพระ
สุราลัยพิมานเข้าไปยังพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ และเสด็จจากพระที่นั่งไพศาล
ทักษิณไปยังชาลาพระที่น่ังจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเงินเทียนทอง สังเวย
เทวดากลางหาว แลว้ เสด็จขน้ึ มณฑปพระกระยาสนานประทบั เหนอื ตง่ั อทุ มุ พร
ราชอาสน์ แปรพระพักตรส์ ูท่ ิศบูรพาเพื่อสรงพระมุรธาภิเษก

สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงฉลองพระองค์“พระภษู าเศวตพสั ตร์”
(นงุ่ ขาวหม่ ขาว) เขา้ พิธสี รงพระมรุ ธาภเิ ษก

เวลา 10:09 - 12:00 น. เลขาธิการพระราชวัง เปดิ พระครอบพระมุรธา
ภิเษก รัชกาลท่ี 1 ถวายแล้ว ทรงวักน้าข้ึนมาสรงพระนลาฏ เลขาธิการ
พระราชวัง ไขสหัสธารา เม่ือสรงสหัสธาราแล้ว สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระอนุวงศ์ และพราหมณ์ ถวาย
นา้ พระพทุ ธมนต์ และน้าเทพมนตร์ ตามลาดับ เสร็จแล้ว มหาดเล็กสอดฉลอง
พระบาทถวาย และถวายฉลองพระองค์คลุม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสดจ็ ข้ึนหอ
พระสุราลัยพิมาน จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์บรมขัตติย
ราชภูษิตาภรณ์ เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพมิ านเข้าพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
ประทับเหนือพระทน่ี ัง่ อฐั ทิศอทุ มุ พรราชอาสน์ ภายใต้สปั ตปฎลเศวตฉตั ร แปร
พระพกั ตร์สูบ่ รู พาทิศเป็นทศิ แรก

พันโท สมชาย กาญจนมณี ปฏิบัติหน้าที่สมุหพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ
ถวายพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลท่ี 1 สาหรับทรงรับน้าอภิเษกประจาทิศโดย
เวยี นไปทางขวามอื ขา้ ราชการประจาทิศกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล
และทลู เกลา้ ฯ ถวายนา้ อภิเษก ถวายน้าเทพมนตรด์ ว้ ยพระมหาสงั ข์ประจาทศิ
ท่พี ระหตั ถ์ทกุ ทิศ

ทรงขน้ึ ครองราชยเ์ ปน็ พระมหากษัตรยิ ์ โดยสมบรู ณ์

ทรงรบั พระสพุ รรณบฏั จารึกพระปรมาภไิ ธย เคร่อื งราชกกธุ ภณั ฑ์
เครอ่ื งบรมขตั ติยราชวราภรณ์และพระแสงราชศสั ตราวธุ

ณ พระที่นง่ั ภัทรบฐิ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับเหนือพระที่นั่ง
ภัทรบิฐ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณกล่าว
เวทสรรเสรญิ เปดิ ศวิ าลยั ไกรลาส จบแล้ว ทลู เกล้าฯ ถวายเครื่องประกอบพระ
บรมราชอิสริยยศ มีพระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธยว่า "พระบาทสมเด็จ
พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร
กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระว
ชริ เกลา้ เจ้าอยู่หวั " ตามด้วยเบญจราชกกธุ ภัณฑ์ เครอื่ งบรมขตั ตยิ ราชวราภรณ์
และพระแสงราชศัตราวุธ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับแล้วทรงสวม

และทรงวางบางองค์ไว้บนโต๊ะ 2 ข้างพระท่ีน่ังภัทรบิฐ เม่ือถวายพระธามรงค์
วิเชียรจินดาแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณสอดฉลองพระบาทเชิงงอน
ถวาย เจ้าพนักงานเชญิ เคร่อื งขัตติยราชูปโภคมาทอดถวาย เสร็จแล้วพระมหา
ราชครพู ธิ ีศรีวิสุทธิคุณถวายอนุษฏุภศิวมนตร์ และถวายพระพรชัยมงคล โดย
เอ่ยประโยคสาคัญเป็นคร้ังแรกว่า “ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้า
ปกกระหม่อม...” ซงึ่ ถือเปน็ การเริม่ ต้นเป็น “พระมหากษัตรยิ ์โดยสมบูรณ์”

พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั มีพระปฐมบรมราชโองการ
“เราจะสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอด และครองแผน่ ดนิ โดยธรรม

เพ่อื ประโยชน์สขุ แห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระปฐมบรมราชโองการและทรงหลั่ง
ทักษิโณทกตั้งพระราชสัตยาธิษฐานในอันที่จะปฏิบัติตามพระปฐมบรมราช

โองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือ
ประโยชน์สขุ แหง่ อาณาราษฎรตลอดไป”

ต่อจากน้ันมีพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ข้ึน
เปน็ สมเดจ็ พระนางเจ้าสทุ ิดา พัชรสธุ าพิมลลกั ษณ พระบรมราชนิ ี

เวลา 14:00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคม
ณ พระท่นี ง่ั อมรินทรวินจิ ฉัย โดยทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์
ประทับเหนือพระท่ีนั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร
ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ มีมหาดเล็กเชิญราชกกุธภัณฑ์ ( พระขรรค์ ฉัตร
อณุ หสิ ฉลองพระบาท วาลวชิ นี)อยู่ด้านหลงั

สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ าร ถวายพระพรชยั มงคล
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า สยามบรมราชกุมารี กราบบงั คมทูลใน

นามพระบรมวงศานุวงศ์,พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบ
บังคมทูลในนามของประชาชน ทหาร และข้าราชการฝ่ายบริหาร ,
ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
กราบบังคมทูลในนามของรัฐสภา และชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา กราบ
บงั คมทูลในนามของขา้ ราชการตลุ าการ จบแลว้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดารัสตอบ “ ข้าพเจ้ามีความ
ยินดีเป็นอย่างย่ิง ท่ีได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พรั่งพร้อมด้วยทุกท่าน
จากทุกสถาบันสาคัญของชาติ และได้รับคาอวยพรอันเปี่ยมด้วยความ
ปรารถนาดี และไมตรีจิต ขอขอบพระทัย และขอบใจในคาอวยพรและน้าใจ
ไมตรีของทุกท่านเป็นอย่างมาก ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกท่านทุก
ฝ่ายในสมาคมนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ต้งั ความปรารถนาร่วมกันกบั
ขา้ พเจา้ ในอันทจ่ี ะร่วมกนั กับขา้ พเจ้า ในอนั ทีจ่ ะรว่ มกนั ปฏิบัติงาน ตามฐานะ
และหน้าที่ของตน โดยยึดเอาประโยชน์ คือความเจริญของประเทศชาติ และ

ความผาสุกร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด ขอพระรัตนตรัยและสิ่ง
ศกั ดส์ิ ิทธิ์จงค้มุ ครองรักษาทุกท่านใหป้ ระสบความสุขความเจริญพร้อมด้วยพร
อันเป็นมงคลทกุ ประการ”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั มพี ระราชดารสั
ทรงประกาศเปน็ พทุ ธศาสนปู ถมั ภก

เวลา 16:00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ โดยร้ิวขบวนราบ
ใหญ่ไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ประกาศพระองค์เป็น
ศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม “ข้าแต่พระสงฆ์ผู้
เจริญ แต่เดิมมาข้าพเจ้าได้มีจิตศรัทธา เลื่อมใส และนึกถึงพระรัตนตรัยเป็น
สรณะ ด้วยวิธีนั้นๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นบัดนี้ ข้าพเจ้าได้เถลิงถวัลย์ ราชสมบัติบรม
ราชาภิเษกแล้ว จึงขอมอบตัวแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้าและพระสังฆเจ้า
จะไดร้ บั การจัดการ ใหค้ วามคุม้ ครอง และรกั ษาพระพทุ ธศาสนาโดยชอบธรรม
ตลอดไป ข้าแด่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงจาไว้ด้วยว่า ข้าพเจ้าเป็นพุทธ
ศาสนูปถัมภกเถิด” แล้วเสด็จถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหา

กษัตริยาธิราชเจ้า ณ ปราสาทพระเทพบิดร ถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระ
อฐั ิ สดบั ปกรณ์ ณ พระทนี่ ั่งดุสติ มหาปราสาท

พระราชพิธฉี ลอง พระเศวตฉตั ร
สยามรฐั จดั การ งานยง่ิ ใหญ่
พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก องคภ์ วู ไนย
ทัว่ ถ่นิ ไทย น้อมสานึก พระบารมี
วันฉตั รมงคล สถาปนา องคจ์ กั รนิ
องค์ภมู บิ ดนิ ทร์ ขนึ้ ครองราชย์ สมศกั ดศิ์ รี
พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั นฤบดี
องคจ์ กั รี บรมราชาภเิ ษก ๔ พฤษภา

ทรงครองราชย์ รวมหวั ใจ ไทยเปน็ หนงึ่
เปน็ ทพี่ ง่ึ ยามไรส้ ขุ ทกุ ขห์ นกั หนา
พระมหากรณุ าธคิ ณุ สดุ พรรณนา
ปวงประชา ตรกึ พระคณุ ทวั่ แผน่ ดนิ
น้อมระลกึ พระเกียรตคิ ณุ พระผา่ นฟา้
องค์ราชา ครองใจไทย ทวั่ ทกุ ถิน่
พระราชกรณียกิจ ม่งุ พฒั นา ท่วั ปฐพนิ
องคธ์ รณนิ ทร์ ขวญั กมล จิรงั กาล
วนั ฉตั รมงคล ขอถวายพระพรชัยมงคล
ในสากล พระบญุ ญา แผไ่ พศาล
องค์นรราช พระชนมายุ ยิง่ ยนื นาน
เกษมสาราญ ขอพระองค์ ทรงพระเจรญิ

...........................................

ดว้ ยเกลา้ ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพทุ ธเจา้ นายประสาร ธาราพรรค์ ผู้ประพนั ธ์

วนั ท่ี 5 พฤษภาคม 2562

เวลา 9:00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินี เสด็จในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ใน
พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดร
ศักดพิ์ ระบรมวงศ์ ณ พระท่ีนั่งอมั รนิ ทรวนิ ิจฉัย ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้
นายภูมินทร ปล่ังสมบัติ อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเคร่ืองราชอิริยาภรณ์
สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระ
ปรมาภไิ ธย

ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มให้เฉลมิ พระปรมาภไิ ธย
พระบรมอัฐิ สมเดจ็ พระบรมชนกนาถ ตามท่จี ารกึ ในพระสุพรรณบฏั วา่

พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศรมหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศ รีสินทรมหาวชิราลง
กรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรด
กระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คานึงถึงสมเด็จพระบรม
ชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศร
รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ซ่ึงได้ทรง
รับพระราชภาระสืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่ง
พระบรมราชจักรวี งศ์ ดารงพระองค์เปน็ มงิ่ ขวญั ของพสกนกิ รชาวไทย ไดท้ รง

บาเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เป็นคุณประโยชน์อเนก
อนันต์ แก่อาณาประชาราษฎร์ เป็นท่ีประจักษ์แก่ตาแก่ใจของบรรดาพสก
นิ ก ร แ ล ะ น า น า อ า ร ย ป ร ะ เ ท ศ จ น ก ร ะ ท่ั ง เ ส ด็ จ ส ว ร ร ค ต เ ม่ื อ

วันท่ี 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 แม้ระยะเวลาจะล่วงเลยมาจวบจน
ปจั จบุ นั แตเ่ หล่าพสกนกิ รก็ยงั คงคานงึ ถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ เสมอมาไมเ่ สอื่ ม
คลาย ในศุภสมัยอนั เปน็ มหามงคลพระราชพิธบี รมราชาภิเษกนี้ สมควรจะได้
สนองพระเดชพระคุณถวายพระเกียรติยศให้ปรากฏแผ่ไพศาลย่ิงข้ึน ด้วยมี
พระราชหฤทัยระลกึ ถึงพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ

จึ ง ท ร ง พ ร ะ ก รุ ณ า โ ป ร ด เ ก ล้ า โ ป ร ด ก ร ะ ห ม่ อ ม ใ ห้ เ ฉ ลิ ม พ ร ะ
ปรมาภิไธย พระบรมอัฐิ สมเด็จพระบรมชนกนาถ ตามที่จารึกในพระ
สุพรรณบัฏว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ขอให้พระเกียรติคุณ วิบุลยยศปรากฏแผ่ไพศาลไป
ในสากลจักรวาล จิรัฏฐิตกิ าล ตลอด นจิ นิรันดร์ เทอญ

เฉลมิ พระนามาภไิ ธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ิ์
พระบรมราชนิ ีนาถ ในรัชกาลท่ี 9 เป็น

“สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินนี าถ

พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง”

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลง
กรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรด
กระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดาริด้วยพระราชหฤทัย
ประกอบด้วยพระกตัญญูกตเวทิตา ระลึกถึงพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรม
ราชชนนี อนั ได้มมี าเป็นล้นพ้นยง่ิ กวา่ ผู้อนื่ และทรงพระราชดารวิ า่ พระบรม
ราชชนนีเปน็ ผูท้ รงพระคณุ อันประเสรฐิ ไดท้ รงบาเพญ็ พระราชกรณยี กจิ อนั ได้
บังเกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองและพสกนิกรเป็นอเนกปริยาย มีพระราช
หฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตกรุณาธิคุณ เสด็จออกสอดส่องดูแลทุกข์สุข ของ
ราษฎรทั่วทุกแห่งหนแม้ในพื้นท่ีห่างไกลทุรกันดาร ด้วยพระวิริยอุตสาหะ

อย่างยิ่งยวด โดยทรงดาเนินพระราชจริยวัตรด้วยพระราชปณิธานแห่งธรรม
ราชินี

ในศุภสมัยอันเป็นมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกน้ี สมควรจะ
เฉลมิ พระเกยี รติยศ สนองพระคณุ ตามโบราณราชประเพณี อันจะอานวยสิริ
สวัสดิ์พิพัฒนมงคลแด่พระองค์ และสยามรัฐสีมาอาณาจักรจึงมีพระบรมราช
โองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรม
ราชชนนี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระนางเจ้า
สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และถวายเหรียญ
รัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 ขออานาจแห่งคุณพระศรี
รัตนตรัย อานาจแห่งพระกตัญญูกตเวทิตาธรรม และเทวดา เจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์
ทงั้ หลาย จงบนั ดาลอภบิ าลรกั ษาสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พ ร ะ บ ร ม ร า ช ช น นี พั น ปี ห ล ว ง ใ ห้ ท ร ง เ จ ริ ญ
พระชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ สรรพสิริสวัสด์ิพิพัฒ
นมงคล วิบุลศุภผลมโหฬารธนสารสมบูรณ์ วรเกียรติคุณอดุลยยศ ปรากฏ
ย่งิ ยนื นาน ตลอดจริ ฏั ฐิติกาล เทอญ

เฉลมิ พระนามาภไิ ธย สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้
กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า

เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี
สิรกิ จิ การณิ พี รี ยพัฒนรฐั สมี าคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกมุ าร

สถาปนา สมเด็จพระเจา้ นอ้ งนางเธอ เจ้าฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลักษณ์ อคั ร
ราชกมุ ารี กรมพระศรสี วางควฒั น วรขตั ตยิ ราชนารี

สถาปนา พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าโสมสวลี กรมหมื่นสทุ ธนารี
นาถ

สถาปนาและเฉลิมพระนาม สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พชั ร
กติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี

สถาปนาและเฉลิมพระนาม สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟา้ สิรวิ ณั ณ
วรี นารรี ตั นราชกญั ญา

สถาปนาและเฉลมิ พระนาม สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้าทปี ังกรรศั มี
โชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ วิ บิ ลู ยราชกมุ าร

เฉลมิ พระเกยี รตยิ ศพระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ สริ ภิ าจฑุ าภรณ์
เฉลมิ พระเกยี รตยิ ศพระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อทติ ยาทรกติ คิ ณุ

เสดจ็ พระราชดาเนนิ เลียบพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตราทางสถลมารค

เวลา 16:30 น. พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั เสดจ็ พระราชดาเนินเลียบ
พระนครโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค จากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์
ปราสาท ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระ
เชตุพนวิมลมังคลาราม ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และ
สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟ้าพัชรกติ ยิ าภาฯ โดยเสด็จในกระบวน ในฐานะรอง
ผบู้ ัญชาการ และนายทหารพิเศษประจาหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย
รักษาพระองค์

6 พฤษภาคม 2562

เวลา 16:30 น. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั และสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชนิ ี เสดจ็ ออกพร้อมดว้ ย สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ า
ภาฯ, สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟา้ สิรวิ ณั ณวรี นารีรตั นราชกญั ญา และสมเดจ็
พระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กรรศั มโี ชติฯ ณ สหี บญั ชร พระทีน่ งั่ สทุ ไธสวรรย
ปราสาท รับการถวายพระพรชยั มงคลจากพสกนกิ รชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดารัสกับพสกนิกรชาวไทยที่มา
เฝ้าฯรับเสด็จโดยมีพระราชดารัสว่า “ข้าพเจ้าและพระราชินี รู้สึกยินดีและ
ปล้ืมใจมาก ท่ีได้เห็นประชาชนทงั้ หลายมีไมตรจี ติ พร้อมเพรียงกันมารว่ มแสดง
ความปรารถนาดี ในวาระบรมราชาภิเษกของขา้ พเจา้ ครัง้ นี้

ความพร้อมเพรียงของท่านทั้งหลายผู้มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ เพื่อ
อวยชัยให้พรแก่ข้าพเจ้าด้วยน้าใจไมตรีและความปรารถนาดีอย่างจริงใจน้ัน
เปน็ ทจ่ี ับตาจับใจและทาให้ข้าพเจ้าอ่มิ ใจอย่างย่งิ

ข อ ใ ห้ ค ว า ม พ ร้อ ม เ พ รีย ง ข อ ง ท่า นท้ัง ห ล า ย ใ น ก า ร แ ส ด ง ไ ม ต รีจิ ต ต่อ
ขา้ พเจ้าครัง้ น้ี จงเป็นนิมิตหมายอนั ดที ี่ทุกคนทกุ ฝา่ ยจะพรอ้ มกนั บาเพญ็ กรณยี
กิจเพ่ือความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาตขิ องเราตอ่ ไป”

พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะทตู เขา้ เฝ้าฯ ถวายพระพรชยั มงคล

นางฉวั่ ซวิ่ ซาน เอกอคั รราชทตู วิสามญั ผูม้ อี านาจเตม็
แหง่ สาธารณรฐั สงิ คโปร์ ประจาประเทศไทย

ในฐานะคณบดคี ณะทตู เขา้ เฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล
เวลา 17:30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินี เสด็จออกพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยา
ภาฯ, สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าสิริวณั ณวรี นารรี ตั นราชกญั ญา และสมเดจ็
พระเจ้าลกู ยาเธอ เจ้าฟา้ ทปี ังกรรศั มีโชติฯ ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรี
มหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะ
ทูตานุทูตรวมท้ังผู้แทนจาก 130 ประเทศ และเลขาธิการคณะกรรมการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียแปซิฟิก(เอสแคป) รวม 235 คน เข้าเฝ้าฯ เพื่อ
ถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องพระโรงกลาง ในพระบรมมหาราชวงั


Click to View FlipBook Version