คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 45 เวลา 4 ชั่วโมง จุดประสงคของกิจกรรม 1. ตัดสินใจเลือกและวางแผนการปลูกพืชดอกตามสถานการณที่กําหนดจากขอมูลที่รวบรวมได 2. รวมกันนําเสนอแผนการปลูกพืชดอกที่สอดคลองกับสถานการณที่กําหนด วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม จํานวนตอหอง 1. สีเมจิก 1 ชุด - 2. โปสเตอรขอมูลทั่วไปของพืชดอก 1 ชุด - 3. อุปกรณที่เชื่อมตออินเตอรเน็ต (คอมพิวเตอร โทรศัพทมือถือ หรือ แท็บ เล็ต) - 1-2 เครื่อง วิธีการดําเนินกิจกรรม 1. รวมกันกําหนดขอบเขตของการรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับพืชดอก เชน ชวงเวลาที่ปลูก ระยะเวลา การเติบโตจนออกดอก 2. รวมกันรวบรวมขอมูลของพืชดอกจากโปสเตอรขอมูลทั่วไปของพืชดอก และจากการสืบคนขอมูล พืชดอกที่นักเรียนสนใจเพิ่มเติม 3. วิเคราะหขอมูลที่รวบรวมไดและรวมกันตัดสินใจเลือกพืชดอกที่จะปลูกซึ่งเปนไปตามความ ตองการในสถานการณและเกณฑการประเมิน จากนั้นบันทึกขอมูล พรอมกับเขียนเหตุผล ในการเลือกพืชดอกแตละชนิด ลงในใบกิจกรรมที่2 สารพันพืชดอก ขอที่ 1 กิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 46 4. รวมกันวางแผนและทําปฏิทินการปลูกพืชดอกที่เลือก โดยแสดงชื่อพืชดอกที่เลือกปลูก ระยะเวลา ตั้งแตเริ่มปลูกจนออกดอก เดือนที่เริ่มปลูก เดือนที่ออกดอก และระยะเวลาการบานของดอก ลงในใบกิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก ขอที่ 2 5. นําเสนอแผนการปลูกพืชดอกที่สอดคลองกับสถานการณและทองถิ่นอยางมีเหตุผล และรวมกัน แสดงความคิดเห็นและวิเคราะหความเปนไปไดของแผนการปลูกพืชดอกของเพื่อน กลุมอื่นวา สอดคลองกับสถานการณและทองถิ่นของตนเองหรือไม อยางไร 6. รวมกันอภิปรายและทําความเขาใจเกณฑการประเมินกอนทํากิจกรรม เกณฑการประเมิน รายการ ประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง 1.ตัดสินใจเลือกและวางแผนการปลูกพืชดอกตามสถานการณที่กําหนดจากขอมูลที่รวบรวมได การใชขอมูล เพื่อนํามา ตัดสินใจ เลือกพืช ดอก ใชขอมูลพืชดอกที่ รวบรวมไดมา ตัดสินใจเลือก พืชดอกที่จะปลูก ไดสอดคลองกับ สถานการณ พรอมใหเหตุผล ในการเลือกได ครบถวนและ คํานึงถึงเหตุผล ดานความ เหมาะสมกับ สภาพแวดลอมใน ทองถิ่น เชน ใชขอมูลพืชดอกที่ รวบรวมไดมา ตัดสินใจเลือก พืชดอกที่จะปลูก ไดสอดคลองกับ สถานการณพรอม ใหเหตุผลในการ เลือกไดครบถวน และคํานึงถึง เหตุผลดานความ เหมาะสมกับ สภาพแวดลอมใน ทองถิ่น เชน อุณหภูมิของ ใชขอมูลพืชดอกที่ รวบรวมไดมา ตัดสินใจเลือก พืชดอกที่จะปลูกได สอดคลองกับ สถานการณพรอม ใหเหตุผลในการ เลือกไดบางประเด็น และคํานึงถึงเหตุผล ดานความเหมาะสม กับสภาพแวดลอม ในทองถิ่น เชน อุณหภูมิของอากาศ ใชขอมูลพืชดอกที่ รวบรวมไดมา ตัดสินใจเลือก พืชดอกที่จะปลูก โดยไมสอดคลอง กับสถานการณ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 47 รายการ ประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง อุณหภูมิของ อากาศ ปริมาณ น้ํา ไดทั้งหมด รวมทั้งแสดงถึง การคิดวางแผนใน การปลูกพืชดอกที่ สามารถสราง รายไดเพิ่มเติมใน อนาคต อากาศ ปริมาณน้ํา ไดทั้งหมด ปริมาณน้ํา ไดบาง ประเด็น 2. รวมกันนําเสนอแผนการปลูกพืชดอกที่สอดคลองกับสถานการณ 2.1 การ นําเสนอ แผนการ ปลูกพืชดอก นําเสนอปฏิทิน การปลูกพืชดอกที่ สอดคลองกับ สถานการณทั้ง จํานวนชนิดของ พืชดอกและ ระยะเวลาตั้งแต เริ่มปลูกจนออก ดอกโดยตอง สอดคลองกับ ขอมูลของพืชดอก แตละชนิด รวมทั้งวางแผน การปลูกใหพืช ดอก 4-6 ชนิด นําเสนอปฏิทินการ ปลูกพืชดอกที่ สอดคลองกับ สถานการณทั้ง จํานวนชนิดของ พืชดอกและ ระยะเวลาตั้งแต เริ่มปลูกจนออก ดอกโดยตอง สอดคลองกับ ขอมูลของพืชดอก แตละชนิด ซึ่งพืช ดอกทุกชนิดตอง บานภายในเดือน ใดเดือนหนึ่งในชวง 3 เดือน และ นําเสนอปฏิทินการ ปลูกพืชดอกที่ สอดคลองกับ สถานการณทั้ง จํานวนชนิดของพืช ดอกและระยะเวลา ตั้งแตเริ่มปลูกจน ออกดอกโดย สอดคลองกับขอมูล ของพืชดอกไดบาง ชนิด นําเสนอปฏิทินการ ปลูกพืชดอกที่ สอดคลองกับ สถานการณไดแต ยังไมสอดคลองกับ ขอมูลของพืชดอก แต ละชนิด
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 48 รายการ ประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง บานไดตลอดชวง 3 เดือน ในชวง 3 เดือน ตองมีดอกไม 1-3 ชนิด บานตลอด 2.2 รวมกัน ทํางานเปน ทีม รวมกันแสดง ความคิดเห็นของ ตนเองและรับฟง ความคิดเห็นของ สมาชิกในทีม รวมทั้งรูบทบาท หนาที่ของตนเอง และเขาใจเพื่อน ในทีมไดตลอด ชวงเวลาในการ ทํากิจกรรม และ ชวยเหลือการ ทํางานใหสําเร็จ รวมกันแสดงความ คิดเห็นและรับฟง ความคิดเห็นของ สมาชิกในทีม รวมทั้งรูบทบาท หนาที่ของตนเอง และเขาใจเพื่อนใน ทีมไดตลอด ชวงเวลาในการทํา กิจกรรม รวมกันแสดงความ คิดเห็นและรับฟง ความคิดเห็นของ สมาชิกในทีม รวมทั้งรูบทบาท หนาที่ของตนเอง และเขาใจเพื่อนใน ทีมในบางชวงของ การทํากิจกรรม รวมกันแสดงความ คิดเห็นในทีมเปน บางชวงของการทํา กิจกรรม และไมรู บทบาทหนาที่ของ ตนเองในระหวาง การทํากิจกรรม
แนวคําตอบ ใบกิจกรรม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 49 1. ระบุขอมูลพืชดอกที่เลือกปลูก ชื่อพืชดอกที่ เลือกปลูก ระยะเวลา ตั้งแตเริ่มปลูก จนดอกบาน (ระบุหนวย เวลา วัน) เดือนที่ เริ่มปลูก เดือนที่ดอกบาน ระยะเวลาการบาน ของดอก (ระบุหนวยเวลา สัปดาห) บานไมรูโรย 85 ก.ย. ธ.ค. 12 ทานตะวัน 90-120 ก.ย. ธ.ค.-ม.ค. 2-3 ดาวกระจาย 50-55 พ.ย. ก.พ. 4-6 ปอเทือง 50-60 พ.ย. ก.พ. 12-15 บัวสาย 30-90 ก.ย. ก.พ. - บัววิกตอเรีย 30-90 ส.ค. ม.ค.-ก.พ. (ใบบัวแผขยายใหญ) - เหตุผลในการเลือกพืชดอกแตละชนิดมาปลูก ใบกิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก ตัวอยางเหตุผล เชน ทองถิ่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถปลูกพืชดอก 4 ชนิด คือ บานไมรูโรย ทานตะวัน ดาวกระจาย และปอเทือง ซึ่งพืชดอกทั้ง 4 ชนิดนี้ปลูกไดในบริเวณที่ไมตองการน้ํา มาก แตตองการแสงแดดทั้งวัน ซึ่งเหมาะกับทองถิ่นของเรา เมื่อดอกบานดอกมีความทนทานตออากาศรอน ที่เหมาะกับอากาศในทองถิ่น ดอกทานตะวันใหเมล็ดที่สามารถนํามาทําเปนขนมขายได นอกจากนี้ตน ปอเทืองเมื่อไถกลบแลวจะเปนปุยบํารุงดินในทองถิ่นที่ขาดธาตุอาหารใหสมบูรณขึ้นอีกดวย บัวสายและบัววิกตอเรียตองการแสงคอนขางมาก สามารถใชบางสวนของบัวสายไปทําอาหาร รับประทานได สวนบัววิกตอเรียใบจะแผขยายใหญบนผิวน้ําจะชวยดึงดูดความสนใจของนักทองเที่ยว และ อาจลงไปนั่งบนใบได *** หมายเหตุแนวคําตอบของนักเรียนอาจแตกตางขึ้นอยูกับพืชดอกที่เลือกและเหตุผลของนักเรียน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 50 2. แสดงปฏิทินการปลูกพืชดอกที่เลือก ตัวอยางปฏิทินพืชดอก (รูปแบบปฏิทินอาจแตกตางกันไปขึ้นกับความคิดสรางสรรคของนักเรียน) ตัวอยางที่ 1 ตัวอยางที่ 2
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 51 ตัวอยางที่ 3 ตัวอยางที่ 4
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 52 ระดับประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 2 ชั่วโมง กิจกรรมที่ 3 แอบบอก ... ทุงดอกไมเปนการนําความรูทางคณิตศาสตรเกี่ยวกับเรื่องความหมายของเศษสวน หนวยการวัดพื้นที่ และพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก มาใชในการคํานวณหาพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไม แลววางแผน ออกแบบทุงดอกไม เพื่อใหชุมชนมีแหลงทองเที่ยว พักผอน และสรางรายไดใหกับสมาชิกในชุมชน โดยจัดสรรพื้นที่สําหรับการทําทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด จุดประสงคของกิจกรรม 1. คํานวณพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด 2. ออกแบบพื้นที่ทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด สมรรถนะเฉพาะของผูมีความสนใจพิเศษทางดานวิทยาศาสตร คณิตศาสตร และเทคโนโลยี 1. คิดเลขเปน 2. ทักษะการคิดอยางมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกปญหา 3. ทักษะดานการสรางสรรค และนวัตกรรม 4. ทักษะดานความรวมมือ การทํางานเปนทีม และภาวะผูนํา คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มองเห็นวาสามารถใชคณิตศาสตรแกปญหาในชีวิตจริงได 2. มีความมุมานะในการทําความเขาใจปญหาและแกปญหาทางคณิตศาสตร 3. สรางเหตุผลเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองหรือโตแยงแนวคิดของผูอื่นอยางสมเหตุสมผล วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม 1. เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง 2. สีเมจิก สีไม หรือ สีเทียน 1 ชุด 3. กาวแทง (หลอดเล็ก) 1 หลอด 4. กรรไกร 1 เลม กิจกรรมที่ 3 ... ทุงดอกไม แอบบอก
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 53 สื่อและแหลงเรียนรู - แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู 1. ครูชี้แจงจุดประสงค ภาพรวมของกิจกรรม และการประเมินผลการเรียนรูในแตละกิจกรรม โดยกิจกรรมที่ 3 แอบบอก ... ทุงดอกไม ซึ่งเปนกิจกรรมที่นักเรียนจะตองชวยกันออกแบบพื้นที่ของการปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ ของทุงดอกไมของลุงเสือกับลุงสิงห โดยมีกิจกรรมใหรวมกันปฏิบัติคือ 1) กิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร เปนการคํานวณหาพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ซึ่งสถานการณไดกําหนดไว 2 สวน ไดแก บริเวณของสถานที่ตาง ๆ สําหรับใหบริการแกนักทองเที่ยวซึ่งมี 5 บริเวณ และบริเวณที่จะปลูกพืช ดอกชนิดตาง ๆ ซึ่งมี 4 บริเวณ รวมทั้งหมด 9 บริเวณ 2) กิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน เปนการออกแบบพื้นที่สําหรับทําทุงดอกไม โดยจัดสรรพื้นที่และกําหนด ตําแหนงของสถานที่ตาง ๆ สําหรับใหบริการแกนักทองเที่ยว และพื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกแตละชนิด ลงบนแผนผังที่กําหนด 2. ครูอาจทบทวนความรูเกี่ยวกับความหมายของเศษสวน ความหมายของพื้นที่ หนวยของพื้นที่ และการหาพื้นที่ ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก เชน 1) ความหมายของเศษสวน เชน ชัยมีที่ดิน 12 ไร ปลูกขาวโพด 2 3 ของพื้นที่ทั้งหมด ชัยปลูกขาวโพดกี่ไร ซึ่งครูอาจใชภาพประกอบการอธิบาย ดังนี้ ขอเสนอแนะเพิ่มเติม กอนการจัดกิจกรรมนักเรียนควรจะมีความรูเกี่ยวกับเรื่องความหมายของเศษสวน ความหมายของพื้นที่ หนวยของพื้นที่ และการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก โดยครูอาจวางแผนการสอนรวมกับครูวิชา คณิตศาสตร เพื่อจัดกิจกรรมใหนักเรียนมีความรูดังกลาวกอนที่จะเริ่มทํากิจกรรมนี้ ทั้งนี้ครูอาจมอบหมาย ใหนักเรียนทบทวนหรือรวมกันศึกษาหาความรูดังกลาวจากใบความรูเรื่องพื้นที่แลวจึงจัดกิจกรรมตามลําดับ ที่ดิน 12 ไร แบงเปน 3 สวนเทา ๆ กัน ปลูกขาวโพด ของพื้นที่ทั้งหมด 1 ไร 1 ไร 1 ไร 1 ไร
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 54 ปลูกขาวโพด 2 3 ของพื้นที่ทั้งหมด หมายความวา นําที่ดินทั้งหมดมาแบงเปน 3 สวน เทา ๆ กัน และปลูกขาวโพด 2 สวน จะไดวา ที่ดิน 12 ไร แบงออกเปน 3 สวน สวนละเทา ๆ กัน จะแบงไดสวนละ 12 ÷ 3 = 4 ไร แสดงวา ปลูกขาวโพด 2 สวน คิดเปนพื้นที่ 2 × 4 = 8 ไร 2) หนวยของพื้นที่ การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก และการเปลี่ยนหนวยของพื้นที่ โดยอาจใชคําถาม เชน − สนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผาที่กวาง 10 เมตร ยาว 25 เมตร มีพื้นที่เทาใด (10 × 25 = 250 ตารางเมตร) − ที่นาแปลงหนึ่งเปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาวดานละ 20 วา นาแปลงนี้มีพื้นที่เทาใด (20 × 20 = 400 ตารางวา) − สมบูรณทํานา 3 ไร คิดเปนพื้นที่กี่ตารางวา (3 × 400 = 1,200 ตารางวา) − อุดมทํานา 5 ไร คิดเปนพื้นที่กี่ตารางเมตร (5 × 1,600 = 8,000 ตารางเมตร) − อารีปลูกผัก 3,200 ตารางวา คิดเปนพื้นที่กี่ไร (3,200 ÷ 400 = 8 ไร) − สมมีที่ดิน 3,200 ตารางเมตร คิดเปนพื้นที่กี่ไร (3,200 ÷ 1,600 = 2 ไร) 3. ใหแตละกลุมรวมกันทําใบกิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร โดยศึกษาสถานการณและนําขอมูลพืชดอกที่จะปลูก จากกิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก มากําหนดพื้นที่สําหรับการปลูกพืชดอกในทุงดอกไม จากนั้นคํานวณหาพื้นที่ ของบริเวณตาง ๆ ในทุงดอกไมของลุงเสือกับลุงสิงห และหาจํานวน ที่แทนพื้นที่ของแตละบริเวณ ซึ่งกําหนดให แทนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 10 เมตร ซึ่งแทนพื้นที่ 10 × 10 = 100 ตารางเมตร โดยบันทึกลงในใบกิจกรรม แลวใหนักเรียนในกลุมรวมกันตรวจสอบความถูกตองของการคํานวณพื้นที่ แตละบริเวณ ทั้งนี้อาจใหนักเรียนใชเครื่องคิดเลขชวยในการคํานวณได 4. ใหแตละกลุมรวมกันทําใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน โดยศึกษาขอกําหนดตาง ๆ ของพื้นที่แตละบริเวณ แลวนํามาเขียนภาพแสดงการแบงพื้นที่ของแตละสวนในทุงดอกไมของลุงเสือกับลุงสิงหใหสอดคลองกับ ขอกําหนดและพื้นที่แตละบริเวณตองมีขนาดตามที่กําหนดไวในใบกิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร โดยใหนักเรียน ชวยกันกําหนดสีและรูปที่จะแสดงพื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ จากนั้นระบายสีแสดงพื้นที่แตละบริเวณ ลงในแผนผัง พรอมตั้งชื่อทุงดอกไมใหกับลุงเสือกับลุงสิงห ทั้งนี้ครูอาจแนะนําใหนักเรียนใชรูปดอกไมและ รูปพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ มาลองจัดวางในแผนผังเพื่อกําหนดตําแหนงของบริเวณตาง ๆ ใหถูกตอง เหมาะสม และสอดคลองกับขอกําหนด จนเปนที่พอใจแลวจึงระบายสีตกแตงใหสวยงาม 5. ใหแตละกลุมนําเสนอแผนผังทุงดอกไม พรอมอธิบายแนวคิดในการออกแบบพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ในทุงดอกไม โดยมีเพื่อน ๆ กลุมอื่นรวมกันตรวจสอบความถูกตอง ความเหมาะสม และใหขอคิดเห็น/ขอเสนอแนะ ถาพบขอผิดพลาด ใหแกไขใหถูกตอง และใหครูตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพราะตองนําผลที่ไดไปใชในกิจกรรมถัดไป
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 55 การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือที่ใชประเมิน เกณฑการผานกิจกรรม 1. การคํานวณพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไม ประเมินจากการบันทึกผล ในใบกิจกรรม 3.1 ใบกิจกรรม 3.1 2. การออกแบบ จัดสรร ระดับดีขึ้นไป พื้นที่ของบริเวณตาง ๆ สําหรับทําทุงดอกไม ประเมินจากการบันทึกผล ในใบกิจกรรม 3.2 ใบกิจกรรม 3.2 เกณฑการประเมิน รายการประเมิน ระดับ ดีมาก (4) ดี(3) พอใช(2) ควรปรับปรุง (1) 1. คํานวณพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด การคํานวณพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ของ ทุงดอกไม หาพื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆ ไดถูกตอง ทั้งหมด 9 บริเวณ โดยแสดงวิธีคิดได ถูกตอง เปนขั้นตอน หรือแสดงแนวคิด ที่แตกตาง หาพื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง 7-8 บริเวณ พรอมแสดงวิธีคิด หาพื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง 4-6 บริเวณ แตไมแสดงวิธีคิด หาพื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง นอยกวา 4 บริเวณ 2. ออกแบบพื้นที่ทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด การออกแบบ จัดสรร พื้นที่ของบริเวณตาง ๆ สําหรับทําทุงดอกไม จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง ทั้งหมด9 บริเวณ และสอดคลองกับ เงื่อนไขที่กําหนด อธิบายแนวคิด ใหเขาใจไดงาย เห็นภาพชัดเจน จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง และสอดคลองกับ เงื่อนไขที่กําหนด 7-8 บริเวณ พรอมอธิบาย แนวคิดประกอบ จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆ ไดถูกตอง และสอดคลองกับ เงื่อนไขที่กําหนด 4-6 บริเวณ แตอธิบายแนวคิด ไมชัดเจน จัดตําแหนงแสดงพื้นที่ ของบริเวณตาง ๆ ไดถูกตอง และ สอดคลองกับเงื่อนไข ที่กําหนดนอยกวา 4 บริเวณ และไมอธิบาย แนวคิดประกอบ หมายเหตุ 1) ถาไมมีสวนรวมในการทํากิจกรรมตามรายการประเมินใด ใหรายการประเมินนั้นได 0 คะแนน 2) ครูควรทบทวนเกณฑการประเมินเปนระยะ ๆ ในระหวางการจัดกิจกรรมตามความเหมาะสม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 56 เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ 8 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี 4-5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช นอยกวา 4 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 57 เวลา 2 ชั่วโมง จุดประสงคของกิจกรรม 1. คํานวณพื้นที่ของบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด 2. ออกแบบพื้นที่ทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม 1. เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง 2. สีเมจิก สีไม สีเทียน 1 ชุด 3. กาวแทง (หลอดเล็ก) 1 หลอด 4. กรรไกร 1 เลม วิธีการดําเนินกิจกรรม 1. ศึกษาใบความรู เรื่อง พื้นที่ โดยทําความเขาใจเกี่ยวกับความหมายของพื้นที่ หนวยของพื้นที่ เปนตารางเมตร หนวยการวัดพื้นที่ของไทยเปนตารางวา งาน ไร พรอมทบทวนเกี่ยวกับ การเปลี่ยนหนวยของพื้นที่ รวมกันทํากิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร โดยคํานวณหาพื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆ ของทุงดอกไม 2. ตามสถานการณที่กําหนด โดยขอ 1. และ ขอ 2. ใหหาวาพื้นที่แตละบริเวณของทุงดอกไม คิดเปนกี่ตารางเมตร และจะตองแทนดวย จํานวนกี่รูป แลวรวมกันตรวจสอบความถูกตอง ของการคํานวณพื้นที่ในแตละบริเวณ 3. ทํากิจกรรม 3.2 จัดสรรปนสวน โดยนําขอมูลจากกิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร มาออกแบบพื้นที่ใน บริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมตามสถานการณที่กําหนด รวมกันกําหนดสีที่จะแทนดวยพื้นที่สําหรับ ปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ โดยนํารูปพื้นที่บริเวณตาง ๆ และรูปดอกไมมาลองวางในแผนผังที่กําหนด เพื่อจัดตําแหนงพื้นที่บริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไม เมื่อวางตําแหนงสวนตาง ๆ ไดถูกตอง เหมาะสม กิจกรรมที่ 3 ... ทุงดอกไม แอบบอก
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 58 จนเปนที่พอใจแลวจึงระบายสีแสดงพื้นที่ในสวนตาง ๆ พรอมตกแตงใหสวยงาม พรอมตั้งชื่อ ทุงดอกไมใหกับลุงเสือและลุงสิงห 4. นําเสนอแผนผังทุงดอกไมของลุงเสือและลุงสิงห พรอมอธิบายแนวคิดในการออกแบบพื้นที่ บริเวณตาง ๆ โดยมีเพื่อน ๆ กลุมอื่นรวมกันตรวจสอบความถูกตอง ความเหมาะสม และ ใหขอคิดเห็นขอเสนอแนะ ถาพบขอผิดพลาดใหแกไขใหถูกตอง และใหครูตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง 5. ครูและนักเรียนรวมกันทําความเขาใจเกณฑการประเมินกอนที่จะทํากิจกรรม เกณฑการประเมิน รายการประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง การคํานวณพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ของ ทุงดอกไม หาพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ได ถูกตองทั้งหมด 9 บริเวณ โดยแสดง วิธีคิดไดถูกตอง เปนขั้นตอน หรือ แสดงแนวคิด ที่แตกตาง หาพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ไดถูกตอง 7-8 บริเวณ พรอมแสดงวิธีคิด หาพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ไดถูกตอง 4-6 บริเวณ แตไมแสดงวิธีคิด หาพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ไดถูกตอง นอยกวา 4 บริเวณ การออกแบบ จัดสรร พื้นที่ของบริเวณตาง ๆ สําหรับทําทุงดอกไม จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆไดถูกตอง ทั้งหมด9 บริเวณ และสอดคลองกับ เงื่อนไขที่กําหนด อธิบายแนวคิด ใหเขาใจไดงาย เห็นภาพชัดเจน จัดตําแหนง แสดงพื้นที่ของ บริเวณตาง ๆ ไดถูกตอง และ สอดคลองกับ เงื่อนไขที่กําหนด 7-8 บริเวณ พรอมอธิบาย แนวคิดประกอบ จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆ ไดถูกตอง และสอดคลอง กับเงื่อนไข ที่กําหนด 4-6 บริเวณ แตอธิบาย แนวคิดไมชัดเจน จัดตําแหนงแสดง พื้นที่ของบริเวณ ตาง ๆ ไดถูกตอง และสอดคลอง กับเงื่อนไข ที่กําหนด นอยกวา 4 บริเวณ และไมอธิบาย แนวคิดประกอบ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 59 พื้นที่ พอปลูกบานอยูบนที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผา กวาง 25 เมตร ยาว 40 เมตร โดยบริเวณของตัวบาน เปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสยาวดานละ 15 เมตร และมีสนามหญา ดังรูป พื้นที่ของที่ดินทั้งหมด เปนบริเวณรูปสี่เหลี่ยมผืนผา กวาง 25 เมตร ยาว 40 เมตร พื้นที่ของตัวบาน เปนบริเวณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวดานละ 15 เมตร พื้นที่สนามหญา เปนบริเวณของ พื้นที่ของที่ดิน ลบดวย พื้นที่ของตัวบาน ใบความรู เรื่อง พื้นที่ พื้นที่ เปนบริเวณภายในที่ถูกปดลอมดวย ขอบของรูปหรือบริเวณภายในของรูปปด สนามหญา บาน 40 ม. 25ม. 15 ม. 15ม.
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 60 หนวยของพื้นที่ พื้นที่เปนตารางหนวย พื้นที่เปนตารางเซนติเมตร รูปนี้มีพื้นที่ 6 ตารางหนวย รูปนี้มีพื้นที่ 9 ตารางหนวย รูปนี้มีพื้นที่ 12 ตารางเซนติเมตร หรือ 12 ตร.ซม. หรือ 12 ซม.2 รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 1 หนวย มีพื้นที่ 1 ตารางหนวย 1 หนวย 1 หนวย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 1 เซนติเมตร มีพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร ตารางเซนติเมตร ใชอักษรยอ ตร.ซม. หรือ ซม.2 1 ซม. 1 ซม. รูปนี้มีพื้นที่ 16 ตารางเซนติเมตร หรือ 16 ตร.ซม. หรือ 16 ซม.2 ตารางหนวย ไมมีอักษรยอ นะ สวน ตร.น. เปนอักษรยอของ ตารางนิ้ว
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 61 พื้นที่เปนตารางเมตร พื้นที่เปนตารางวา รูปนี้มีพื้นที่ 10 ตารางเมตร หรือ 10 ตร.ม. หรือ 10 ม.2 รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 1 เมตร มีพื้นที่ 1 ตารางเมตร ตารางเมตร ใชอักษรยอ ตร.ม. หรือ ม.2 1 ม. 1 ม. รูปนี้มีพื้นที่ 4 ตารางเมตร หรือ 4 ตร.ม. หรือ 4 ม.2 รูปนี้มีพื้นที่ 10 ตารางวา หรือ 10 ตร.ว. หรือ 10 ว.2 รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 1 วา มีพื้นที่ 1 ตารางวา ตารางวา ใชอักษรยอ ตร.ว. หรือ ว.2 ความยาว 1 วา เทากับ 2 เมตร พื้นที่ 1 ตารางวา เทากับ 4 ตารางเมตร 1 ว. 1 ว. หนวยการวัดพื้นที่ของไทย 1 ไร เทากับ 4 งาน 1 งาน เทากับ 100 ตารางวา 1 ไร เทากับ 400 ตารางวา 1 ไร เทากับ 1,600 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีหนวยการวัดพื้นที่อื่น ๆ อีก เชน ตารางกิโลเมตร ตารางนิ้ว ตารางฟุต ตารางหลา ตารางไมล เอเคอร (ประมาณ 4,000 ตร.ม.) เฮกตาร (10,000 ตร.ม.)
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 62 การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก เปนรูปสี่เหลี่ยมที่มีมุมทุกมุมเปนมุมฉาก โดยรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มี ดานยาวเทากันทุกดาน เรียกวา รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีดานตรงขามยาวเทากัน 2 คูดานที่อยูติดกัน ยาวไมเทากัน เรียกวา รูปสี่เหลี่ยมผืนผา ดานที่สั้นกวา เรียกวา ดานกวาง สวนดานที่ยาวกวา เรียกวา ดานยาว การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก อาจหาไดจากการนับจํานวนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เรียงชิดติดกัน และไมซอนทับกัน จนเต็มพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากนั้น เชน รูปสี่เหลี่ยมผืนผารูปนี้ กวาง 3 เซนติเมตร ยาว 6 เซนติเมตร นับจํานวน ได 18 รูป รูปนี้จึงมีพื้นที่ 18 ตารางเซนติเมตร หรืออาจแบงรูปนี้เปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ยาวดานละ 1 เซนติเมตร ซึ่งแตละรูปจะมีพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร ถาแบงตามดานกวาง จะแบงได 3 แถว แถวละ 6 รูป ซึ่ง 1 แถว มีพื้นที่ 6 ตารางเซนติเมตร จะไดวา 3 แถว มีพื้นที่ 3 × 6 = 18 ตารางเซนติเมตร1 ซม. 1 ซม. 3 ซม. 6 ซม. ดานกวาง ดานยาว การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผา อาจหาไดจาก ความกวาง × ความยาว รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดานยาว ดานกวาง รูปสี่เหลี่ยมผืนผา
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 63 รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปนี้ มีความยาวดานละ 5 เซนติเมตร นับจํานวน ได 25 รูป รูปนี้จึงมีพื้นที่ 25 ตารางเซนติเมตร หรืออาจแบงรูปนี้เปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ยาวดานละ 1 เซนติเมตร ซึ่งแตละรูปจะมีพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร ถาแบงตามแนวนอน จะแบงได 5 แถว แถวละ 5 รูป ซึ่ง 1 แถว มีพื้นที่ 5 ตารางเซนติเมตร จะไดวา 5 แถว มีพื้นที่ 5 × 5 = 25 ตารางเซนติเมตร ตัวอยาง แสดงวิธีหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก วิธีทํา พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผา = ความกวาง × ความยาว MATH มีพื้นที่ = 30 × 50 ตารางเมตร = 1,500 ตารางเมตร ตอบ ๑,๕๐๐ ตารางเมตร วิธีทํา พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ความยาวดาน × ความยาวดาน หมอน มีพื้นที่ = 12 × 12 ตารางวา = 144 ตารางวา ตอบ ๑๔๔ ตารางวา ความยาวดาน ความยาวดาน การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส อาจหาไดจาก ความยาวดาน × ความยาวดาน 5 ซม. 5 ซม. 1 ซม. 1 ซม. 50 ม. 30 ม. M H A T 12 ว. 12 ว. น อ ห ม
แนวคําตอบ ใบกิจกรรม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 64 สถานการณ ลุงเสือและลุงสิงหเปนเกษตรกรในชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู ทั้งสองคนตกลงรวมกันวาจะทํา ทุงดอกไมบนที่ดินที่มีอยู โดยลุงเสือมีที่ดิน 7 ไร ลุงสิงหมีที่ดิน 9 ไร และมีพื้นที่ติดกัน ดังรูป ทั้งสองคนสมัครเขารวมโครงการทุงดอกไมงามสรางรายไดสูชุมชน ครอบครัวของลุงเสือ และลุงสิงห จึงเริ่มศึกษาหาขอมูลเกี่ยวกับทุงดอกไม และการปลูกพืชดอก โดยพูดคุยกันวาจะแบงพื้นที่ในทุงดอกไม เปนบริเวณตาง ๆ ดังนี้ • รานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึกคิดเปน 1 16 ของพื้นที่ทั้งหมด • ที่จอดรถ คิดเปน 1 8 ของพื้นที่ทั้งหมด • ศาลาพักผอนมีพื้นที่ 1 2 ไร • ซุมสําหรับถายรูป มีพื้นที่ 200 ตารางวา • สระน้ํา มีพื้นที่ 2 ไรสําหรับปลูกบัวชนิดตาง ๆ • พื้นที่สวนที่เหลือปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ 4 ชนิด ใบกิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร ถนน ที่ดินของลุงสิงห ที่ดินของลุงเสือ 160 ม. 160 ม. 80 ม. แทนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ยาวดานละ 10 ม. ซึ่งมีพื้นที่ 10 × 10 = 100 ตร.ม.
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 65 คําชี้แจง รวมกันทํากิจกรรมโดยคํานวณหาพื้นของบริเวณตาง ๆ ในทุงดอกไมตามสถานการณ ที่กําหนด พรอมตรวจสอบความถูกตอง 1. คํานวณหาพื้นที่บริเวณตาง ๆ วามีพื้นที่กี่ตารางเมตร พรอมบอกจํานวน แสดงพื้นที่นั้น ๆ เมื่อกําหนดให แทนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวดานละ 10 เมตร ซึ่งแทนพื้นที่ 10 × 10 = 100 ตารางเมตร 1) รานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึกคิดเปน 1 16 ของพื้นที่ทั้งหมด 2) ที่จอดรถ คิดเปน 1 8 ของพื้นที่ทั้งหมด ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3) ศาลาพักผอน มีพื้นที่ 1 2 ไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร เปนที่จอดรถคิดเปน 1 8 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ 8 สวน คิดเปน 16 ไร พื้นที่ 1 สวน คิดเปน 16 ÷ 8 = 2 ไร จะไดวา ที่จอดรถมีพื้นที่ 1 × 2 = 2 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ที่จอดรถ แทนดวย จํานวน 2 × 16 = 32 ชอง ซึ่งมีพื้นที่ 32 × 100 = 3,200 ตารางเมตร พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร เปนศาลาพักผอน 1 2 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ศาลาพักผอน 1 2 ไร แทนดวย จํานวน 16 ÷ 2 = 8 ชอง ซึ่งมีพื้นที่ 8 × 100 = 800 ตารางเมตร พื้นที่ทั้งหมด ......... ไร เปนรานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึก ของพื้นที่ทั้งหมด จะได รานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึก มีพื้นที่ .......... ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี ....... ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ ......... ตารางเมตร ดังนั้น รานอาหาร รานกาแฟ ขายของที่ระลึก แทนดวย จํานวน ......... ชอง ซึ่งมีพื้นที่ .......... × 100 = .............. ตารางเมตร 16 1 16 16 16 1,600 100 หมายเหตุ วิธีการหาคําตอบและเขียนแสดงแนวคิดของนักเรียนอาจแตกตางจากนี้ได ใหอยูในดุลพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 66 4) ซุมสําหรับถายรูป มีพื้นที่ 200 ตารางวา ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 5) สระน้ํา มีพื้นที่ 2 ไร สําหรับปลูกบัวชนิดตาง ๆ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 2. เลือกพืชดอกที่ตองการปลูก 4 ชนิด และบัว 2-3 ชนิดโดยใชขอมูลจากกิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก แลวคํานวณหาพื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ วามีพื้นที่กี่ตารางเมตร และบอกจํานวน แสดงพื้นที่ปลูกพืชดอกชนิดนั้น ๆ 1) ปลูก ......................................................... ในพื้นที่ 4 ไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร เปนซุมสําหรับถายรูป 200 ตารางวา ซึ่ง 1 ตารางวา เทากับ 4 ตารางเมตร จะไดวา ซุมสําหรับถายรูป มีพื้นที่ 200 × 4 = 800 ตารางเมตร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ซุมสําหรับถายรูป 800 ตารางเมตร แทนดวย จํานวน 800 ÷ 100 = 8 ชอง พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร ปลูก .......................................... 4 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ปลูก .......................................... 4 ไร แทนดวย จํานวน 4 × 16 = 64 ชอง คิดเปนพื้นที่ 64 × 100 = 6,400 ตารางเมตร คําตอบตามขอมูลจาก ขอ 1. พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร เปนสระน้ํา 2 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น สระน้ํา 2 ไร แทนดวย จํานวน 2 × 16 = 32 ชอง ซึ่งมีพื้นที่ 32 × 100 = 3,200 ตารางเมตร
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 67 2) ปลูก ................................................... ในพื้นที่ 3 ไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3) ปลูก ................................................... ในพื้นที่ 2 ไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 4) ปลูก ................................................... ในพื้นที่ 1 ไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร ปลูก .......................................... 3 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ปลูก .......................................... 3 ไร แทนดวย จํานวน 3 × 16 = 48 ชอง คิดเปนพื้นที่ 48 × 100 = 4,800 ตารางเมตร พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร ปลูก ........................................... 2 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ปลูก .......................................... 2 ไร แทนดวย จํานวน 2 × 16 = 32 ชอง คิดเปนพื้นที่ 32 × 100 = 3,200 ตารางเมตร พื้นที่ทั้งหมด 16 ไร ปลูก................................................. 1 ไร จากแผนผัง พื้นที่ 1 ไร มี 16 ชอง โดย 1 ชอง แทนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ดังนั้น ปลูก .......................................... 1 ไร แทนดวย จํานวน 1 × 16 = 16 ชอง คิดเปนพื้นที่ 16 × 100 = 1,600 ตารางเมตร คําตอบตามขอมูลจาก ขอ 1. คําตอบตามขอมูลจาก ขอ 1. คําตอบตามขอมูลจาก ขอ 1.
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 68 คําชี้แจง รวมกันทํากิจกรรมโดยใชขอมูลจากกิจกรรมที่ 3.1 ไดที่เทาไร มาออกแบบพื้นที่บริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมของลุงเสือและลุงสิงหตามสถานการณที่กําหนด ดังนี้ 1. พื้นที่รานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึกอยูติดที่จอดรถ 2. พื้นที่สําหรับจอดรถ อยูติดถนน 3. พื้นที่ของศาลาพักผอนมีจํานวน 4 จุด 4. พื้นที่ของซุมสําหรับถายรูป มี 4 จุด 5. สระน้ํามี 2 สระ โดยสระหนึ่งอยูบนที่ดินของลุงเสือ อีกสระหนึ่งอยูบนที่ดินของลุงสิงห โดยในสระน้ําจะปลูกบัว .......... ชนิด คือ บัว...................................... บัว...................................... และบัว...................................... 6. พื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ 4 ชนิด ไดแก − ปลูก ....................................................................... ในพื้นที่ 4 ไร − ปลูก ....................................................................... ในพื้นที่ 3 ไร − ปลูก ....................................................................... ในพื้นที่ 2 ไร − ปลูก ....................................................................... ในพื้นที่ 1 ไร 7. กําหนดรูปและสีแทนพื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ เชน แทนพื้นที่ปลูกเกกฮวย แทนพื้นที่ปลูกทานตะวัน แทนพื้นที่ปลูกเวอรบีนา แทนพื้นที่ปลูกสรอยไก แทนพื้นที่ปลูกบัวชนิดตาง ๆ แลวรวมกันออกแบบพื้นที่สําหรับปลูกพืชดอกชนิดตาง ๆ และพื้นที่สวนอื่น ๆ โดยระบายสีลงใน แผนผังที่กําหนด พรอมตั้งชื่อของทุงดอกไม ใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน คําตอบตามขอมูลจากกิจกรรมที่ 2 สารพันพืชดอก
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 69แผนผังทุงดอกไม ........................................................ 80 ม. 160 ม. 160 ม. แนวเขตที่ดิน ถนน แทนพื้นที่ปลูก แทนพื้นที่ปลูก........................................... แทนพื้นที่ปลูก........................................... แทนพื้นที่ปลูก........................................... แทนพื้นที่ปลูก........................................... บัวชนิดตาง ๆ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 70 รูปดอกไม และรูปพื้นที่บริเวณสวนตาง ๆ เกกฮวย คัตเตอร ปอเทือง หงอนนาค บานไมรูโรย ทานตะวัน สรอยไก ไฮเดรนเยีย ดาวเรือง เวอรบีนา มากาเร็ต บัวหลวง บัวสาย บัววิกตอเรีย ดาวกระจาย เบญจมาศ เสี้ยนฝรั่ง คาโมไมล
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 71 ระดับประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 3 ชั่วโมง กิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม เปนการสรางทุงดอกไมจําลองบนพลาสติกลูกฟูก โดยตองสรางใหสอดคลองกับ สถานการณในกิจกรรมที่ 3 แอบบอก...ทุงดอกไม และมีขนาดตามที่กําหนด ซึ่งตองใชความรูทางคณิตศาสตรในการ คิดคํานวณขนาดของทุงดอกไมจําลองที่ตองสราง รวมทั้งใชความรูทางศิลปะในการสรางสรรคผลงาน จุดประสงคของกิจกรรม สรางและนําเสนอทุงดอกไมจําลองที่สอดคลองกับสถานการณที่กําหนด สมรรถนะเฉพาะของผูมีความสนใจพิเศษทางดานวิทยาศาสตรคณิตศาสตร และเทคโนโลยี 1. คิดเลขเปน 2. ทักษะการคิดอยางมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกปญหา 3. ทักษะดานความรวมมือ การทํางานเปนทีม และภาวะผูนํา คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มองเห็นวาสามารถใชคณิตศาสตรแกปญหาในชีวิตจริงได 2. มีความมุมานะในการทําความเขาใจปญหาและแกปญหาทางคณิตศาสตร วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม 1. พลาสติกลูกฟูก ขนาดกวาง 49 ซม. ยาว 65 ซม. 1 แผน 2. ไมบรรทัด 1 อัน 3. ดินน้ํามันหลากสี 1 ชุด 4. วัสดุสําหรับตกแตง เชน ไมไอศกรีม กระดาษสี วัสดุจากธรรมชาติ กาว 1 ชุด 5. กรรไกร 1 เลม 6. เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง สื่อและแหลงเรียนรู - กิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 72 แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู 1. แบงนักเรียนออกเปนกลุม ครูนําสนทนาเกี่ยวกับพื้นที่ที่ลุงเสือและลุงสิงหตองการทําเปนทุงดอกไม เชน มีพื้นที่ทั้งหมดกี่ไร มีลักษณะหรือรูปรางเปนอยางไร แตละดานมีความยาวเทาใด จากนั้นใหแตละกลุม ทบทวนการแบงพื้นที่เปนบริเวณตาง ๆ ตามที่ไดออกแบบไวแลวในใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน 2. ครูแจงจุดประสงคของกิจกรรม ภาพรวมของกิจกรรม และเกณฑการวัดและประเมินผลใหนักเรียนทราบ โดยกิจกรรมนี้จะเปนการสรางทุงดอกไมจําลองตามที่ไดออกแบบพื้นที่ไวในกิจกรรมที่ 3 แอบบอก... ทุงดอกไมบนพลาสติกลูกฟูกขนาดกวาง 49 เซนติเมตร ยาว 65 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกวาขนาดของ ทุงดอกไมที่ระบุไวในกิจกรรมที่ 3 ดังนั้นจึงตองมีการยอขนาด เพื่อใหสามารถสรางทุงดอกไมจําลองบนพื้นที่ ที่จํากัดได 3. ใหแตละกลุมรวมกันหาขนาดของทุงดอกไมจําลองและบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมจําลองที่ตองสราง บนพลาสติกลูกฟูก โดยทุงดอกไมจําลองนี้ตองมีขนาดตามที่กําหนด พรอมบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม ทั้งนี้ ใหนักเรียนใชเครื่องคิดเลขในการคํานวณไดและครูอาจอธิบายเพิ่มเติมถานักเรียน หาคําตอบไดเปนทศนิยม เชน 4.5 เซนติเมตร เทากับ 4 เซนติเมตร 5 มิลลิเมตร 4. ครูตรวจสอบความถูกตองของใบกิจกรรมที่ 4 และใหขอเสนอแนะหากพบขอผิดพลาด จากนั้นใหแตละกลุม นําไปปรับแกใหเรียบรอย 5. ครูชักชวนใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนการสรางทุงดอกไมจําลอง รวมทั้งการแบงหนาที่กันทํางาน 6. ครูแจกพลาสติกลูกฟูกใหนักเรียนกลุมละ 1 แผน พรอมดินน้ํามันและอุปกรณสําหรับตกแตง หรืออาจให นักเรียนเตรียมวัสดุอื่น ๆ ที่หาไดงายในทองถิ่นมาเพิ่มเติม จากนั้นใหแตละกลุมใชดินน้ํามันและอุปกรณ สําหรับตกแตงสรางทุงดอกไมจําลองบนพลาสติกลูกฟูก ทั้งนี้ในการสรางทุงดอกไมจําลอง ครูอาจแนะนําให นักเรียนเริ่มจากการแบงพื้นที่บนพลาสติกลูกฟูกเปนบริเวณตาง ๆ โดยตําแหนงของแตละบริเวณตอง สอดคลองกับการออกแบบพื้นที่ในใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน และแตละบริเวณตองมีขนาดตามที่ระบุ ไวในใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม และครูควรเนนย้ําใหนักเรียนตรวจสอบการแบงพื้นที่เปนบริเวณตาง ๆ บนพลาสติกลูกฟูกดวยวามีความถูกตองหรือไม หมายเหตุหากเวลาในการสรางทุงดอกไมจําลองไมเพียงพอ อาจใหนักเรียนทํานอกเวลาหรือทําเปนการบาน 7. ใหแตละกลุมรวมกันระดมความคิดเกี่ยวกับประเด็นที่จะนําเสนอ ไดแก ชื่อทุงดอกไม บริเวณตาง ๆ ใน ทุงดอกไม จุดเดนของทุงดอกไม เวลาเปด – ปด คาเขาชม และกิจกรรมสําหรับนักทองเที่ยว จากนั้นให แตละกลุมนําเสนอผลงานและเปดโอกาสใหเพื่อนซักถาม โดยอาจใหเวลากลุมละ 5 - 7 นาที (ครูสามารถปรับ เวลาใหเหมาะสมตามเวลาที่มีและจํานวนกลุมในชั้นเรียน) เพื่อนกลุมอื่น ๆ ชวยตรวจสอบและใหขอเสนอแนะ ถาพบขอผิดพลาดใหปรับแกตามคําแนะนํา และถาเพื่อนกลุมอื่น ๆ ไมมีคําถามหรือขอเสนอแนะ ครูควร
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 73 ตั้งคําถามเพิ่มเติม เชน นักเรียนคิดวาสิ่งที่ทายทายที่สุดในการสรางทุงดอกไมจําลองคืออะไร ในการสราง ทุงดอกไมจําลองพบปญหาใดบาง และมีวิธีแกปญหาอยางไร นักเรียนตรวจสอบความถูกตองของการแบง พื้นที่ไดอยางไร ตัวอยางการสรางแบบจําลอง การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือที่ใชประเมิน เกณฑการผานกิจกรรม 1. การเขียนรูปคราว ๆ และการระบุขนาดของ บริเวณตาง ๆ ที่จะสราง บนพลาสติกลูกฟูก ประเมินจากใบกิจกรรม ที่ 4 ทุงดอกไมงาม ใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไม งาม ระดับดีขึ้นไป 2. การสรางทุงดอกไม จําลอง ประเมินจากทุงดอกไม จําลองที่สราง แบบประเมินผลงาน 3. การนําเสนอผลงาน ประเมินจากสังเกตการ นําเสนอ แบบสังเกตการนําเสนอ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 74 เกณฑการประเมิน รายการประเมิน ระดับ ดีมาก (4) ดี(3) พอใช(2) ควรปรับปรุง (1) 1. การเขียน รูปคราว ๆ และ การระบุขนาดของ บริเวณตาง ๆ ที่จะสรางบน พลาสติกลูกฟูก รูปที่เขียนมีความยาว ของแตละดาน ที่สมเหตุสมผล* และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตองทุกบริเวณ รูปที่เขียนมีความยาว ของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตอง 9-10 บริเวณ รูปที่เขียนมีความยาว ของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตอง 5-8 บริเวณ รูปที่เขียนมีความยาว ของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตองนอยกวา 5 บริเวณ 2. การสราง ทุงดอกไมจําลอง - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับการ ออกแบบพื้นที่ใน ใบกิจกรรมที่ 3.2 และเห็นรายละเอียด ของบริเวณตาง ๆ ชัดเจน - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง และบริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับการ ออกแบบพื้นที่ใน ใบกิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง และบริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับการ ออกแบบพื้นที่ใน ใบกิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง หรือบริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ การออกแบบพื้นที่ ในใบกิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง หรือบริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 75 รายการประเมิน ระดับ ดีมาก (4) ดี(3) พอใช(2) ควรปรับปรุง (1) 3. การนําเสนอผลงาน 3.1 การใชภาษา และน้ําเสียงในการ นําเสนอ นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย นาสนใจ ใชน้ําเสียง นาฟง นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย ใชน้ําเสียงนาฟง นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย แต น้ําเสียงราบเรียบ ขาดความนาสนใจ นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจยาก ไมนาสนใจ ขาดความ มั่นใจในการพูด 3.2 การใหรายละเอียด การตอบ คําถาม และเวลาที่ ใชในการนําเสนอ ใหรายละเอียด ครบถวน ตอบคําถาม ไดอยางคลองแคลว ตรงประเด็น และใช เวลาตามที่กําหนด ใหรายละเอียด ครบถวน ตอบคําถาม ไดตรงประเด็น แตติดขัดในบางสวน และใชเวลาตามที่ กําหนด ใหรายละเอียด ครบถวน แตตอบ คําถามไมตรง ประเด็น และใชเวลา มากกวาหรือนอย กวาที่กําหนด เล็กนอย ใหรายละเอียดไม ครบถวน ตอบคําถาม ไมตรงประเด็น และใชเวลาในการ นําเสนอมากหรือนอย เกินไป * ความสมเหตุสมผลของรูปคราว ๆ ที่เขียน ตัวอยางเชน - ถาบริเวณศาลาพักผอนเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความยาวดานละ 16 เมตร รูปคราว ๆ ที่เขียนควรเปน รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส - ถาบริเวณศาลาพักผอนเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่กวาง 10 เมตร ยาว 20 เมตร รูปคราว ๆ ที่เขียนควรเปน รูปสี่เหลี่ยมผืนผาที่ดานกวางยาวเปนครึ่งหนึ่งของดานยาว - ถาบริเวณศาลาพักผอนเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่กวาง 18 เมตร ยาว 20 เมตร รูปคราว ๆ ที่เขียนควรเปน รูปสี่เหลี่ยมผืนผาที่ดานกวางยาวใกลเคียงกับดานยาว หมายเหตุ ถาไมมีสวนรวมในการทํากิจกรรมตามรายการประเมินใด ใหรายการประเมินนั้นได0 คะแนน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 76 เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ 14 – 16 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก 10 – 13 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี 6 – 9 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช นอยกวา 6 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ควรปรับปรุง
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 77 เวลา 3 ชั่วโมง จุดประสงคของกิจกรรม สรางและนําเสนอทุงดอกไมจําลองที่สอดคลองกับสถานการณที่กําหนด วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม 1. พลาสติกลูกฟูก ขนาดกวาง 49 ซม. ยาว 65 ซม. 1 แผน 2. ไมบรรทัด 1 อัน 3. ดินน้ํามันหลากสี 1 ชุด 4. วัสดุสําหรับตกแตง เชน ไมไอศกรีม กระดาษสี วัสดุจากธรรมชาติกาว 1 ชุด 5. กรรไกร 1 เลม 6. เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง วิธีการดําเนินกิจกรรม 1. ทบทวนลักษณะและขนาดของพื้นที่ที่จะทําทุงดอกไมของลุงเสือและลุงสิงห และการจัดแบงพื้นที่ เปนบริเวณตาง ๆ ตามที่ไดออกแบบไวในใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน 2. ครูและนักเรียนรวมกันทําความเขาใจเกณฑการประเมิน 3. สรางทุงดอกไมจําลองของลุงเสือและลุงสิงหบนพลาสติกลูกฟูก โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ 3.1 หาขนาดของทุงดอกไมจําลองและบริเวณตาง ๆ ของทุงดอกไมจําลอง ที่ตองสรางบน พลาสติกลูกฟูก พรอมเขียนรูปคราว ๆ โดยบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม เมื่อกําหนดใหความยาวบนพลาสติกลูกฟูก 1 เซนติเมตร แทนความยาว 5 เมตร หรือ 500 เซนติเมตร เชน กิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 78 ถาบริเวณศาลาพักผอนที่ออกแบบไวในใบกิจกรรมที่ 3.2 ออกแบบพื้นที่ทุงดอกไม มีลักษณะและความยาวของแตละดานดังนี้ ดานที่ และดานที่ ยาวดานละ 15 เมตร หรือ 1,500 เซนติเมตร ดานที่ และดานที่ ยาวดานละ 10 เมตร หรือ 1,000 เซนติเมตร ดานที่ ยาว 30 เมตร หรือ 3,000 เซนติเมตร ดานที่ ยาว 20 เมตร หรือ 2,000 เซนติเมตร จะไดวา บริเวณศาลาพักผอนที่สรางบนพลาสติกลูกฟูกจะตองมีขนาดดังนี้ ดานที่ และดานที่ มีความยาวดานละ 1,500 ÷ 500 = 3 เซนติเมตร ดานที่ และดานที่ มีความยาวดานละ 1,000 ÷ 500 = 2 เซนติเมตร ดานที่ มีความยาว 3,000 ÷ 500 = 6 เซนติเมตร ดานที่ มีความยาว 2,000 ÷ 500 = 4 เซนติเมตร ดังนั้น รูปคราว ๆ พรอมขนาดของบริเวณศาลาพักผอนที่ตองบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม เปนดังนี้ 3 ซม. 3 ซม. 6 ซม. 4ซม. 2 ซม. 2 ซม. 10 ม. 10 ม.
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 79 3.2 สรางทุงดอกไมจําลองบนพลาสติกลูกฟูก โดยตําแหนงของบริเวณตาง ๆ ตองสอดคลองกับ การออกแบบพื้นที่ในใบกิจกรรมที่ 3.2 จัดสรรปนสวน และแตละบริเวณมีขนาดตามที่ระบุไว ในใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม ทั้งนี้อาจใชดินน้ํามันหรือวัสดุที่หาไดงายในทองถิ่นเพื่อ แสดงใหเห็นรายละเอียดของบริเวณตาง ๆ ในทุงดอกไม 4. แตละกลุมรวมกันระดมความคิดเกี่ยวกับประเด็นที่จะนําเสนอผลงาน ดังนี้ ชื่อทุงดอกไม บริเวณตาง ๆ ในทุงดอกไม จุดเดนของทุงดอกไม เวลาเปด - ปดทุงดอกไม คาเขาชมทุงดอกไม กิจกรรมสําหรับนักทองเที่ยว 5. แตละกลุมนําเสนอผลงานภายในเวลาที่กําหนด กลุมอื่น ๆ ชวยตรวจสอบ ถาพบขอผิดพลาดให ปรับแกตามคําแนะนํา หลังจากปรับแกแลวใหกลุมอื่นชวยตรวจสอบอีกครั้ง หมายเหตุ ใชเครื่องคิดเลขในการคํานวณได ตัวอยางการสรางแบบจําลอง
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 80 เกณฑการประเมิน รายการประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง 1. การเขียน รูปคราว ๆ และการระบุ ขนาดของ บริเวณตางๆ ที่จะสรางบน พลาสติกลูกฟูก รูปที่เขียนมีความยาวของแตละดาน ที่สมเหตุสมผล* และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตองทุกบริเวณ รูปที่เขียนมีความยาวของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดาน ไดถูกตอง 9-10 บริเวณ รูปที่เขียนมีความยาวของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตอง 5-8 บริเวณ รูปที่เขียนมีความยาวของแตละดาน ที่ไมสมเหตุสมผล และระบุความยาว ของแตละดานได ถูกตองนอยกวา 5 บริเวณ 2. การสราง ทุงดอกไม จําลอง - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ การออกแบบพื้นที่ ในใบกิจกรรมที่ 3.2 และเห็น รายละเอียดของ บริเวณตาง ๆ ชัดเจน - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง และบริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ การออกแบบ พื้นที่ในใบ กิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง และบริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ สอดคลองกับ การออกแบบ พื้นที่ในใบ กิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง หรือบริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4 - ทุงดอกไมจําลอง ที่สรางมีการจัด ตําแหนงของ บริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ การออกแบบ พื้นที่ในใบ กิจกรรมที่ 3.2 - ขนาดของทุง ดอกไมจําลอง หรือบริเวณตาง ๆ ไมสอดคลองกับ ขนาดที่ระบุใน ใบกิจกรรมที่ 4
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 81 รายการประเมิน ระดับ ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง 3. การนําเสนอผลงาน 3.1 การใชภาษา และน้ําเสียงใน การนําเสนอ นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย นาสนใจ ใชน้ําเสียงนาฟง นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย ใชน้ําเสียงนาฟง นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจงาย แตน้ําเสียงราบเรียบ ขาดความนาสนใจ นําเสนอผลงานดวย ภาษาที่เขาใจยาก ไมนาสนใจ ขาดความมั่นใจใน การพูด 3.2 การใหรายละเอียด การตอบคําถาม และเวลาที่ใช ในการนําเสนอ ใหรายละเอียด ครบถวน ตอบคําถามไดอยาง คลองแคลว ตรงประเด็น และใชเวลาตามที่ กําหนด ใหรายละเอียด ครบถวน ตอบคําถามไดตรง ประเด็น แตติดขัด ในบางสวน และใช เวลาตามที่กําหนด ใหรายละเอียด ครบถวน แตตอบ คําถามไมตรง ประเด็น และใช เวลามากกวาหรือ นอยกวาที่กําหนด เล็กนอย ใหรายละเอียดไม ครบถวน ตอบคําถามไมตรง ประเด็น และใชเวลาในการ นําเสนอมากหรือ นอยเกินไป
แนวคําตอบ ใบกิจกรรม
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 82 คําชี้แจง เขียนรูปคราวๆพรอมระบุขนาดของทุงดอกไมจําลองและบริเวณตางๆของทุงดอกไมจําลอง ที่ตองสรางบนพลาสติกลูกฟูก เมื่อกําหนดใหความยาวบนพลาสติกลูกฟูก 1 เซนติเมตร แทนความยาว 5 เมตร หรือ 500 เซนติเมตร ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 1. ทุงดอกไมจําลอง ทั้งหมด 2. รานอาหาร รานกาแฟ รานขายของที่ระลึก ใบกิจกรรมที่ 4 ทุงดอกไมงาม 32 ซม. 16 ซม. 16 ซม. 16ซม. 32ซม. 48ซม. อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 83 ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 3. ที่จอดรถ 4. สระน้ํา 2 สระ อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 84 ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 5. ศาลาพักผอน 4 จุด อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 85 ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 6. ซุมสําหรับถายรูป 4 จุด อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 86 ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 7. ปลูกดอก...................... 8. ปลูกดอก...................... อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 87 ที่ บริเวณ รูปคราว ๆ พรอมระบุขนาด (หนวยเปนเซนติเมตร) 9. ปลูกดอก...................... 10. ปลูกดอก...................... อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน อยูในดุลยพินิจของครูผูสอน
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 88 ระดับประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 2 ชั่วโมง กิจกรรมที่ 5 รหัสลับในธรรมชาติ เปนกิจกรรมที่ใหนักเรียนไดสํารวจกลีบดอกไมหรือสวนที่คลายกลีบดอกไม เพื่อหาความสัมพันธของแบบรูปที่เรียกวาลําดับฟโบนักชีจากนั้น นักเรียนจะไดสํารวจตัวอยางของสวนตาง ๆ ของพืช เพื่อคนหาลําดับฟโบนักชีที่ซอนอยู และเรียนรูเกี่ยวกับประโยชนของลําดับฟโบนักชีที่ไดรับการเรียกวา รหัสลับใน ธรรมชาติ จุดประสงคของกิจกรรม 1. บอกความสัมพันธของแบบรูปของจํานวนกลีบของดอกไมจากการสํารวจ 2. ระบุแบบรูปที่ซอนอยูในตัวอยางของสวนตาง ๆ ของพืชจากการสํารวจ สมรรถนะเฉพาะของผูมีความสนใจพิเศษทางดานวิทยาศาสตร คณิตศาสตร และเทคโนโลยี 1. ทักษะการคิดอยางมีวิจารณญาณและทักษะในการแกปญหา 2. ทักษะดานความรวมมือ การทํางานเปนทีม และภาวะผูนํา 3. ทักษะดานการสื่อสาร สารสนเทศ และรูเทาทันสื่อ คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มองเห็นวาสามารถใชคณิตศาสตรแกปญหาในชีวิตจริงได 2. มีความมุมานะในการทําความเขาใจปญหาและแกปญหาทางคณิตศาสตร 3. สรางเหตุผลเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองหรือโตแยงแนวคิดของผูอื่นอยางสมเหตุสมผล วัสดุอุปกรณ ที่ รายการ จํานวนตอกลุม 1 ดอกไม (สําหรับทบทวนสวนประกอบของดอก) 1 – 3 ชนิด 2 ภาพดอกไม 7 ภาพ 3 ภาพดอกทานตะวัน 3 ภาพ 4 ลูกสน 3 ลูก 5 สับปะรด 3 ลูก กิจกรรมที่ 5 รหัสลับในธรรมชาติ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 89 สื่อและแหลงเรียนรู https://craftofcoding.wordpress.com/2022/05/16/fibonacci-and-sunflowers/ https://craftofcoding.wordpress.com/2022/05/11/fibonacci-and-pinecones/ https://craftofcoding.wordpress.com/2020/05/28/fibonacci-and-pineapples/ https://www.youtube.com/watch?v=Ea9IoI_ZQoU แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู 1. ทบทวนสวนประกอบของดอกไมโดยครูแจกดอกไมใหนักเรียนแตละกลุม กลุมละ 1 – 3 ชนิด - ควรเปนดอกไมที่มีสวนประกอบแตละสวนชัดเจน - แตละกลุมอาจไดดอกไมที่มีสวนประกอบไมเหมือนกัน (หากไมสามารถหาดอกไมจริงไดสามารถใชภาพดอกไมที่มองเห็นสวนประกอบแตละสวนชัดเจนทดแทน) 2. ครูใหนักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับภาพดอกไมที่ไดรับ อภิปรายชนิดของดอกไม - ครูตั้งคําถามนํากับนักเรียน โดยถามวาดอกไมที่ไดชื่อดอกอะไร นักเรียนเคยเห็นหรือไม หรือที่บานนักเรียนมี การปลูกดอกไมชนิดนี้หรือไม อภิปรายสวนประกอบของดอกไม - ครูยกตัวอยางดอกไมของครู บอกชื่อดอกไม พรอมชี้ที่สวนประกอบแตละสวน โดยใหนักเรียนแตละกลุมบอก สวนประกอบนั้น ๆ - ยกตัวอยางดอกไมของแตละกลุม พรอมใหนักเรียนบอกสวนประกอบแตละสวน - จากนั้นใหนักเรียนอธิบายลักษณะของสวนประกอบนั้น ๆ เพื่อเชื่อมโยงเขาสูหนาที่ของแตละสวน โดยอาจ เนนไปที่กลีบดอกซึ่งจะใชในการดําเนินกิจกรรม ขอเสนอแนะเพิ่มเติม - กอนจัดกิจกรรมตามขอ 4 ครูสามารถศึกษาและตรวจสอบความรูพื้นฐานของสวนตาง ๆ ของดอก ตาม หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 เลม 1 หนา 91 – 94 - หากตองการนําดอกไมใกลตัวหรือดอกไมในทองถิ่นมาใชในการจัดกิจกรรม ควรนําดอกไมที่มีจํานวนกลีบ ดอกหรือสวนที่คลายกลีบดอกอยูในลําดับฟโบนักชีดวย - ดอกไมชนิดเดียวกัน บางดอกก็อาจมีจํานวนกลีบดอกหรือสวนที่คลายกลีบดอกที่ไมเทากันตามธรรมชาติ - ผลสับปะรดขนาดเล็กมีพื้นที่ขอบเขตจํากัดจึงอาจไมพบจํานวนในลําดับฟโบนักชี
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 90 - ครูใหความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนประกอบอื่น ๆ ของดอกไมที่มีลักษณะคลายกลีบดอก เชน เฟองฟา สวนที่ เห็นเปนสีชมพู คือ ใบประดับ ในกิจกรรมนี้จะใหนักเรียนไดสํารวจจํานวนกลีบดอก หรือ จํานวนสวนที่คลายกลีบดอก 3. ครูแจงจุดประสงคการเรียนรู ภาพรวมของกิจกรรมและเกณฑการประเมินใหนักเรียนทุกคนทราบ 4. ครูเขาสูกิจกรรมโดยกลาวถึงวา กลีบดอกหรือสวนที่คลายกลีบดอก ยังมีความลับบางอยางซอนอยู ซึ่งครูจะนํา นักเรียนคนหาความลับจากกลีบดอกในกิจกรรมตอไป โดยใชคําถามนํา เชน - นักเรียนรูไหมวาดอกไมมีรหัสอะไรซอนอยู - นักเรียนลองมาคนหารหัสในดอกไมดูไหม 5. ครูนําภาพดอกไมชนิดตาง ๆ ที่มีจํานวนกลีบดอกหรือสวนที่คลายกลีบดอกแตกตางกัน มาใหนักเรียนแลวให นักเรียนทํากิจกรรมที่ 5.1 ขอ 1 ดังนี้ ดอกหนาวัว 1 กลีบ (ใบประดับ) ดอกผักบุง 1 กลีบ (กลีบดอกเชื่อมกันเปนทอ ปลายกลีบแยกกัน) ดอกโปยเซียน 2 กลีบ (ใบประดับ) ดอกทริลเลียม 3 กลีบ ดอกลีลาวดี 5 กลีบ ดอกมะลิ 8 กลีบ
คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรพลังสิบ ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 | เลม 2 ผลิดอก ออก product โครงการวิทยาศาสตรพลังสิบ จัดทําโดยสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 91 ดอกกระดุมทอง* 13 กลีบ *หมายเหตุดอกกระทุมทองมีลักษณะเปนชอดอก ที่มีดอกยอยกระจุกกันอยู โดยดอกยอยชั้นนอกสุดมีกลีบดอก 1 กลีบ 6. เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมที่ 5.1 ขอ 1 เสร็จแลว ครูทบทวนหรือใหความรูเรื่องแบบรูป โดยยกตัวอยางแบบรูปที่ นักเรียนคุนเคย มีการเพิ่มลดครั้งละเทา ๆ กัน ตัวอยาง แบบรูปของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 10 และแบบรูปของจํานวนที่ลดลงทีละ 5 - ใหนักเรียนสังเกตการเพิ่มขึ้นของจํานวนตอไปนี้ 10 20 30 40 50 จากการสังเกต 10 20 30 40 50 เปนจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 10 ดังนั้น 10 20 30 40 50 เปนแบบรูปของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 10 - ใหนักเรียนสังเกตการลดลงของจํานวนตอไปนี้ 75 70 65 60 55 จากการสังเกต 75 70 65 60 55 เปนจํานวนที่ลดลงทีละ 5 ดังนั้น 75 70 65 60 55 เปนแบบรูปของจํานวนที่ลดลงทีละ 5 7. ใหนักเรียนตอบคําถามในใบกิจกรรมที่ 5.1 ขอที่ 2 – 5 โดยครูอาจชักชวนใหนักเรียนอภิปรายรวมกัน สําหรับการตอบคําถามขอที่ 4 หากพบวานักเรียนเขียนอธิบายยังไมชัดเจนหรือยังหาคําตอบไมได ครูอาจพูดคุย สอบถามเพิ่มเติมเพื่อใหนักเรียนพูดหรืออธิบายออกมา โดยครูสามารถประเมินจากการสังเกตจากการพูดอธิบาย ของนักเรียนแทนได 8. ครูสรุปผลการทํากิจกรรมที่ 5.1 ขอที่ 6 พรอมใหความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับลําดับฟโบนักชี คือ จํานวนที่นํามา เรียงกันจากนอยไปมากเปนแบบรูป ซึ่งมีความสัมพันธวา จํานวนถัดไปเทากับผลบวกของจํานวนสองจํานวนกอน หนา เรียกวา ลําดับฟโบนักชี” ซึ่งชื่อลําดับดังกลาวมาจากชื่อของเลโอนารโด ฟโบนักชี(Leonardo Fibonacci) นักคณิตศาสตรชาวอิตาลี (โดยคําถามขอนี้มีเพื่อใหนักเรียนไดบันทึกความรูเพิ่มเติมและไมอยูในรายการประเมิน) 9. ใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 5.2 โดยใหนักเรียนสังเกตดังนี้ 9.1 ใหนักเรียนสังเกตการเรียงตัวของดอกยอยของดอกทานตะวันเพื่อคนหาตัวเลขที่อยูในลําดับฟโบนักชี โดยเริ่มจากภาพรางที่ใชรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยกปูนแทนดอกยอย และภาพถายของดอกยอยบนดอกทานตะวัน ซึ่ง ควรสรุปไดวา