The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ห้องสมุดกีฬา, 2023-03-25 10:00:45

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

11. ต�ำแหน่งการเตะโทษ เมื่อมีการกระท�ำผิดกติการวม ครั้งที่6 แบบที่1 (Positioning – Free Kick Beginning with the Sixth Accumulated foul Mandatory) ต�ำแหน่งของผู้ตัดสินอยู่ในต�ำแหน่งบนเส้นกับต�ำแหน่งของลูกบอล มีระยะห่าง 5 เมตร ถ้าเป็นไปได้ตรวจสอบต�ำแหน่งของลูกบอลและผู้เล่นที่ท�ำการเตะ สังเกตว่าผู้เล่นล่วงละเมิด ในขณะที่ท�ำการเตะเริ่มขึ้น ผู้ตัดสินจะยังไม่ให้สัญญาณการเตะ จนกว่าจะตรวจสอบต�ำแหน่งของ ผู้เล่นทั้งหมดว่าถูกต้องและการช่วยเหลือโดยผู้ตัดสินคนอื่น ผู้ตัดสินคนอื่นต้องอยู่ในต�ำแหน่ง เส้นเขตโทษที่ตัดกับเส้นประตูและสังเกตดูว่าลูกบอลเป็นประตูหรือไม่ 12. ต�ำแหน่งการเตะโทษ เมื่อมีการกระท�ำผิดกติการวม ครั้งที่6 แบบที่2 (Position – Free Kick Beginning With the Sixth Accumulated Foul Mandatory) R R R R 144 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


13. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 1 14. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 2 15. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 3 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 145


16. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 4 17. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 5 ในระหว่างการเตะเข้าเล่น ใกล้ชิดกับเขตมุมของทีมฝ่ายรุก ผู้ตัดสินที่อยู่ใกล้กับต�ำแหน่ง ที่มีการเตะมีระยะห่าง 5 เมตร ตรวจสอบต�ำแหน่งของการเตะเข้าเล่น ขั้นตอนและผู้เล่นฝ่ายรับ ต้องอยู่ห่างจากลูกบอลหรือเส้นข้างระยะ 5 เมตร ผู้ตัดสินต้องอยู่ข้างต�ำแหน่งของการเตะเข้าเล่น ต�ำแหน่งผู้ตัดสินอยู่ด้านหลัง เขตมุมบนเส้นกับเส้นประตูจากต�ำแหน่งที่มองเห็นลูกบอลและพฤติกรรม ของผู้เล่นทั้งหมด 146 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


18. ต�ำแหน ่งการเตะลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะของการแข ่งขันหรือทีมเจ้าบ้าน หรือทีมเยือน (Positioning – Kick from the Penalty Mark to Determine the Winner of Match or Home – and Away) ต�ำแหน่งผู้ตัดสินต้องอยู่บนเส้นประตูห่างจากเสาประตู2 เมตร ผู้ตัดสินจะท�ำหน้าที่ ตรวจสอบว่าลูกบอลเข้าประตูหรือไม่ถึงแม้ว่าผู้รักษาประตูจะออกจากเส้นประตูก่อน เมื่อลูกบอลเป็นประตูอย่างชัดเจน ผู้ตัดสินต้องมองผู้ตัดสินที่ 2 เพื่อตรวจสอบว่าไม่มี การกระท�ำผิดกติกา ผู้ตัดสินที่ 2 ต้องอยู่บริเวณเส้นเขตโทษห่างจากจุดโทษ 3 เมตร เพื่อตรวจสอบต�ำแหน่ง ของลูกบอล และต�ำแหน่งที่ถูกต้องของผู้รักษาประตูของผู้เตะ ผู้ตัดสินที่ 3 ต้องอยู่ที่วงกลมกลางสนาม เพื่อควบคุมผู้เล่นทั้งสองทีม ต�ำแหน่งผู้รักษาเวลา ต้องอยู่ที่โต๊ะผู้รักษาเวลาและตรวจสอบผู้เล่นทั้งหมดที่ท�ำการเตะโทษ และเจ้าหน้าที่ทีมต้องมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ผู้ตัดสินท�ำการบันทึกการเตะจากจุดโทษและหมายเลขของผู้เล่น การใช้นกหวีด (Use of Whistle) การใช้นกหวีด ในการออกค�ำสั่งเพื่อ 1. การเตะเริ่มเล่น 1.1 เริ่มการเล่น (ในครึ่งเวลาแรกครึ่งเวลาหลัง ช่วงพักครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลัง ช่วงของการต่อเวลาพิเศษ ถ้าจ�ำเป็น) 1.2 เริ่มเล่นใหม่ภายหลังจากมีการท�ำประตู 3rd Referee 2nd Referee Referee Timekeeper Kicking Team Goalkeeper Defending Team Goalkeeper Designated Players Kicker คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 147


2. หยุดการเล่น 2.1 การเตะโทษหรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ 2.2 ถ้ามีการหยุดการแข ่งขันชั่วคราวหรือยกเลิกการแข ่งขันหรือการยืนยันจาก ผู้รักษาเวลา เกี่ยวกับการควบคุมเสียงสัญญาณในขณะที่หมดเวลาของการเล่น 3. การเริ่มเล่นใหม่ 3.1 การเตะโทษ เมื่อมีการร้องขอไปอยู่ในระยะที่เหมาะสม 3.2 การเตะจากจุดโทษที่ 2 3.3 การเตะโทษไม่มีการตั้งก�ำแพงของการกระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 6 3.4 การเตะโทษ ณ จุดโทษ 4. การเริ่มเล่นใหม่ภายหลังหยุดการเล่น 4.1 เพื่อคาดโทษหรือไล่ออกส�ำหรับการกระท�ำผิด 4.2 การบาดเจ็บผู้เล่นคนเดียวหรือหลายคน การใช้นกหวีดที่ไม่ควรกระท�ำ 1. หยุดการเล่นเพื่อ 1.1 การเล ่นลูกบอลส�ำหรับผู้รักษาประตูการเตะจากมุมหรือการเตะเข้าเล ่น (ในการสั่ง ถ้าสถานการณ์ไม่ชัดเจน) 1.2 การเป็นประตู(ในการสั่งถ้าลูกบอลเป็นประตูอย่างไม่ชัดเจน) 2. การเริ่มเล่นใหม่จาก 2.1 การเตะโทษ ถ้าไม่ถอยไปอยู่ในระยะ 5 เมตร หรือระยะที่ร้องขอหรือทีมกระท�ำผิด ผู้เตะที่ไม่ได้กระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 6 หรือส�ำหรับการเล่นลูกบอลของผู้รักษาประตูหรือการเตะจากมุม หรือการเตะเข้าเล่น นกหวีดอาจจะไม่จ�ำเป็นต้องใช้เพื่อ • การเริ่มเล่นใหม่ส�ำหรับการปล่อยลูกบอล • การใช้นกหวีดบ ่อยๆ จะมีผลกระทบน้อย เมื่อมีการกระท�ำผิดต ่อไปนี้เกิดขึ้น เมื่อทีมก�ำลังเตะโทษ การเตะเข้าเล ่นหรือการเตะจากมุม เมื่อถูกร้องขอให้อยู ่ในระยะที่ก�ำหนด หรือต�ำแหน่งที่ถูกต้องของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ในระหว่างการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูผู้ตัดสินต้องแจ้ง ให้ผู้เล่นที่ไม่เล่นหรือเริ่มเล ่นใหม ่ภายหลังสัญญาณนกหวีด ถ้าในกรณีนี้ผู้เล ่นซึ่งเริ่มเล ่นใหม ่ ก่อนการให้สัญญาณนกหวีดของผู้ตัดสินจะถูกลงโทษฐานชะลอการเริ่มเล่นใหม่ 148 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ถ้าในระหว่างการเริ่มเล่น ผู้ตัดสินให้สัญญาณนกหวีดที่เกิดจากการกระท�ำผิด ผู้ตัดสิน ต้องหยุดการแข่งขัน ถ้าพิจารณาการกระท�ำผิดเป็นการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่น ถ้าผู้ตัดสิน หยุดการแข่งขัน ต้องมีการเริ่มเล่นใหม่ ด้วยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งได้หยุดการเล่นลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณจุดที่ใกล้ที่สุดที่ต�ำแหน่งของลูกบอลได้หยุดลงในขณะที่หยุดการเล่น ถ้าการให้เสียงสัญญาณนกหวีด ที่ไม่เป็นการรบกวนการเล่น ผู้ตัดสินให้สัญญาณการเล่นต่อไป ภาษากาย (Body Language) ภาษากายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของผู้ตัดสิน ใช้เพื่อ 1. ช่วยควบคุมการแข่งขันได้ 2. แสดงบทบาทหน้าที่และการควบคุมตนเอง ภาษากายไม่ได้หมายรวมถึงการอธิบายการตัดสินใจ กติกาข้อ 6 ผู้ช่วยผู้ตัดสิน (The Assistant Referee) 1. หน้าที่และความรับผิดชอบ 2. ต�ำแหน่งของผู้ช่วยผู้ตัดสินและระบบทีม 2.1 การเตะเริ่มเล่น 2.2 ต�ำแหน่งทั่วไปในระหว่างการแข่งขัน 2.3 การเปลี่ยนตัว 2.4 การเตะจากจุดโทษ 3. สัญญาณของผู้ช่วยผู้ตัดสิน 4. สัญญาณเกี่ยวกับการควบคุมเสียง 5. อุปกรณ์จับเวลา (นาฬิกาเที่ยงตรง) หน้าที่และความรับผิดชอบ (Duties and Responsibility) ผู้ตัดสินที่ 3 และผู้รักษาเวลา จะช่วยเหลือผู้ตัดสินในการควบคุมการแข่งขันให้เป็นไป ตามข้อตกลงของกติกาการแข่งขันกีฬาฟุตซอล นอกจากนี้ยังช่วยเหลือผู้ตัดสินในเรื่องอื่นๆ รวมทั้ง การด�ำเนินการแข่งขันที่อยู่ภายใต้การร้องขอความช่วยเหลือของผู้ตัดสินโดยปกติรวมถึงสถานการณ์เช่น 1. ตรวจสอบสนามแข่งขัน ลูกฟุตซอลที่ใช้และอุปกรณ์ของผู้เล่นเป็นไปตามมาตรฐาน คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 149


2. ผู้ตัดสินถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ หรือตัดสินใจเกี่ยวกับการห้ามเลือดเมื่อมีเลือด ออกจากการบาดเจ็บ 3. ให้ความสนใจเกี่ยวกับขั้นตอนการเปลี่ยนตัว 4. รักษาเวลาและบันทึกเวลา การนับประตูการกระท�ำผิดกติการวมและการประพฤติผิด ต�ำแหน่งของผู้ช่วยผู้ตัดสินและระบบทีม (Positioning of the Assistant Referee and Teamwork) 1. การเริ่มเล่น (Kick Off) ผู้ตัดสินที่3อยู่ในต�ำแหน่งเดียวกันกับโต๊ะผู้รักษาเวลาตรวจสอบผู้เล่นส�ำรองเจ้าหน้าที่ทีม และบุคคลอื่นๆ ให้อยู่ในต�ำแหน่งที่ถูกต้อง ต�ำแหน่งของผู้รักษาเวลาอยู่ที่โต๊ะ ผู้รักษาเวลาและ ตรวจสอบการเริ่มเล่นให้ถูกต้อง 2. ต�ำแหน่งทั่วๆไปในระหว่างการแข่งขัน (General Positioning During the Match) ผู้ตัดสินที่3ตรวจสอบผู้เล่นส�ำรอง เจ้าหน้าที่ทีม และบุคคลอื่นๆให้อยู่ในต�ำแหน่งที่ ถูกต้อง ผู้ตัดสินที่ 3 อาจจะเคลื่อนที่ไปตามเส้นข้างถ้าจ�ำเป็นแต่ต้องไม่เข้าไปในสนามแข่งขัน ต�ำแหน่งของผู้รักษาเวลาอยู่ที่โต๊ะ ผู้รักษาเวลาตรวจสอบเครื่องจับเวลาและนาฬิกา จับเวลาในการหยุดการเล่น และเริ่มการแข่งขัน เป็นไปตามข้อตกลงซึ่งน�ำไปสู่การแข่งขันที่ด�ำเนินไป ด้วยความเรียบร้อย 3. การเปลี่ยนตัว (Substitutions) ผู้ตัดสินที่3 ตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เล่นส�ำรอง และการเปลี่ยนตัวให้ถูกต้อง รวมทั้ง อาจจะเคลื่อนที่ไปตามเส้นข้างถ้าจ�ำเป็น แต่ต้องไปไม่เข้าไปในสนามแข่งขัน 4. การเตะจากจุดโทษ (Kick From the Penalty Mark) ผู้ตัดสินที่ 3 ต้องอยู่ในต�ำแหน่งครึ่งหนึ่งของสนามแข่งขัน ที่ซึ่งไม่ได้มีการเตะโทษ รวมทั้งผู้เล่นคนอื่น จากต�ำแหน่งนี้ผู้ตัดสินที่ 3 ต้องสังเกตด้านพฤติกรรมของผู้เล่นและต้องตรวจสอบว่า ไม่มีผู้เล่นที่ไม่ได้ท�ำการเตะจากจุดโทษ ก่อนที่ผู้เล่นคนอื่นจะท�ำการเตะ ต�ำแหน่งของผู้รักษาเวลาอยู่ที่โต๊ะผู้รักษาเวลา และบันทึกการท�ำประตูทั้งหมด สัญญาณของผู้ช่วยผู้ตัดสิน (Assistance Referee Signals mandatory) ผู้ช ่วยผู้ตัดสินต้องให้สัญญาณการกระท�ำผิดกติการวมของทีมและการขอเวลานอก โดยการใช้สัญญาณมือชี้ไปที่ที่นั่งของทีมที่มีการกระท�ำผิดกติกา รวมทั้งการขอเวลานอก 150 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


สัญญาณที่เกี่ยวกับการควบคุมเสียง (Acoustic Signal) สัญญาณเกี่ยวกับการควบคุมเสียงเป็นสัญญาณที่ส�ำคัญอย่างหนึ่งในการแข่งขัน ใช้เมื่อจ�ำเป็น ในการสั่งเมื่อผู้ตัดสินได้พิจารณาแล้ว สถานการณ์เมื่อสั่งให้ใช้เสียงสัญญาณ 1. หมดเวลาการแข่งขันในแต่ละครึ่งเวลา 2. การขอเวลานอก สัญญาณเสียงเมื่อมีการร้องขอการขอเวลานอก 3. การเตือนหมดเวลาการขอเวลานอก 4. การเตือนการกระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 5 ให้กับทีม 5. การเตือนแจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้เล่นส�ำรอง หรือเจ้าหน้าที่ทีม 6. การเตือนแจ้งการเปลี่ยนตัวที่ไม่ถูกต้อง 7. การเตือนการลงโทษทางระเบียบวินัยและการกระท�ำผิดที่ผิดพลาดโดยผู้ตัดสิน 8. การเตือนบุคคลภายนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าในระหว่างการแข่งขัน ผู้รักษาเวลาให้เสียงด้วยสัญญาณเสียง เพราะการกระท�ำผิดผู้ตัดสิน ได้หยุดการแข่งขัน ถ้าพิจารณาว่าการกระท�ำนี้เป็นการรบกวนการเล่น ถ้าผู้ตัดสินหยุดการแข่งขัน ต้องมีการเริ่มเล่นด้วยการปล่อยลูกบอล จากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลง ในพื้นที่ภายในเขตโทษ ซึ่งในกรณีนี้ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดจะปล ่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู ่ในขณะที่การเล ่นได้หยุดลง ถ้าเสียงสัญญาณไม ่รบกวนการเล ่น ผู้ตัดสินให้สัญญาณการเล่นด�ำเนินต่อไป ถ้าทีมนั้นมีการกระท�ำผิดกติการวม 4 ครั้ง และผู้ตัดสินตัดสินใจให้มีการประยุกต์การให้เป็น ลูกได้เปรียบการเล่น ผู้ตัดสินที่ 3 ให้สัญญาณ การกระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 5 ที่ต�ำแหน่งโต๊ะ ผู้รักษาเวลา อย่างไรก็ตามถ้าทีมมีการกระท�ำผิดขึ้นใหม่ก่อนลูกบอลอยู่นอกการเล่น ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ต้องให้สัญญาณเสียง ยกเว้นแต่ทีมฝ่ายตรงข้ามได้กระท�ำผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งมีโอกาสในการท�ำประตู อย่างชัดเจน เครื่องจับเวลา (นาฬิกาเที่ยงตรง) (Chronometer) ถ้านาฬิกาจับเวลาไม่ท�ำงาน ผู้ช่วยผู้ตัดสินต้องแจ้งผู้ตัดสินตามความเป็นจริง ผู้รักษาเวลา ต้องให้เวลาการแข่งขันด�ำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยใช้การจับเวลาด้วยมือ ในสถานการณ์เช่นนี้ให้เชิญ เจ้าหน้าที่แต่ละทีมมารับทราบตามล�ำดับ เพื่อแจ้งให้ทราบเวลาของการแข่งขันที่แท้จริง ถ้าหลังจากการหยุดการเล่นในการแข่งขัน ผู้รักษาเวลาลืมจับเวลาแข่งขัน ผู้ตัดสินสั่งให้ เริ่มจับเวลาแต่ไม่จ�ำเป็นต้องนับเวลาเพิ่ม คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 151


ภายหลังจากการเริ่มเล่น นาฬิกาจับเวลาท�ำหน้าที่ดังนี้ 1. การเตะเริ่มเล่น ภายหลังจากลูกบอลถูกเตะไปข้างหน้าในแดนคู่ต่อสู้การด�ำเนินการ เป็นไปตามข้อตกลง 2. การเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตู ภายหลังจากผู้รักษาประตูปล่อยลูกบอลจากมือ และลูกบอลได้ออกจากพื้นที่เขตโทษ การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 3. การเตะจากมุม ภายหลังลูกบอลถูกเตะและเคลื่อนที่การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 4. การเตะเข้าเล่น ภายหลังลูกบอลเข้าไปในสนามแข่งขันหลังจากถูกเตะ การด�ำเนินการ เป็นไปตามข้อตกลง 5. การเตะโทษโดยตรงภายนอกพื้นที่เขตโทษหลังจากลูกบอลได้ถูกเตะ การด�ำเนินการ เป็นไปตามข้อตกลง 6. การเตะโทษโดยอ้อมภายนอกพื้นที่เขตโทษของทีม หรือน�ำมาเตะโดยทีมฝ ่ายรุก บนเส้นเขตโทษ ภายหลังลูกบอลถูกเตะ การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 7. โทษโดยตรงหรือโทษโดยอ้อมภายในพื้นที่เขตโทษไปยังทีมฝ่ายรับภายหลังลูกบอล ถูกเตะและออกจากพื้นที่เขตโทษ การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 8. การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ภายหลังลูกบอลถูกเตะตรงไปข้างหน้า การด�ำเนินการ เป็นไปตามข้อตกลง 9. การเตะโทษโดยตรงภายหลังการกระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 5 หลังจากลูกบอล ถูกเตะโดยเจตนาท�ำประตูโดยตรง การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 10. การปล ่อยลูกบอลภายหลังลูกบอลถูกปล ่อยจากมือของผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใด และสัมผัสพื้นสนาม การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง กติกาข้อ 7 ระยะเวลาของการแข่งขัน (The Duration of the match) การพักครึ่งเวลา (Half Time Interval) ผู้ตัดสินอนุญาตให้มีการพักครึ่งเวลาระหว่างการแบ่งครึ่งเวลา ถ้าผู้เล่นคนหนึ่งในทีมร้องขอ ยกเว้นแต่หัวหน้าทีมทั้ง 2 ทีม ไม่สงสัยเกี่ยวกับการพักครึ่งเวลา การต่อเวลาพิเศษ (Extra Time) ถ้ามีการต่อเวลาพิเศษในการเล่น ไม่มีการพักครึ่งเวลาระหว่าง 2 ช่วงเวลาของการต่อเวลาพิเศษ ทีมเปลี่ยนที่นั่งส�ำรองของสนามแข่งขัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทีมก็เปลี่ยนพื้นที่ของเขตเทคนิค 152 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


กติกาข้อ 8 การเริ่มการแข่งขันและการเริ่มเล่นใหม่ (The start and Restart of Play) การเตะเริ่มเล่น (Kick off) ผู้ตัดสินไม่ต้องรอการร้องขอหรือการยืนยันของผู้รักษาประตูหรือผู้เล่นคนอื่น ก่อนสั่งให้ เตะเริ่มเล่น การปล่อยลูกบอล (Dropped Rall) 1. ผู้เล่นคนอื่นอาจจะแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับลูกบอล (รวมถึงผู้รักษาประตู) 2. จ�ำนวนผู้เล่นต�่ำสุดหรือสูงสุด ส�ำหรับการแข่งนั้นในการปล่อยลูกบอล 3. ผู้ตัดสินไม่สามารถตัดสินว่าใครจะท�ำการแย่งบอลจากการปล่อยลูกบอล 4. ไม่มีการร้องขอเกี่ยวกับระยะห่างของผู้เล่น ยกเว้นคู่ต่อสู้ไม่สามารถท�ำการบล็อค และไม่สามารถท�ำการปล่อยลูกบอลได้ 5. ไม่มีความจ�ำเป็นส�ำหรับทีมในการเข้าแย่งจากการปล่อยบอล 6. ถ้าการกระท�ำผิดเกิดขึ้นโดยผู้เล่น ก่อนที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น แต่ภายหลังจากผู้ตัดสิน คนหนึ่งคนใดปล่อยลูกบอลจากมือของเขา ผู้ตัดสินท�ำการปล่อยลูกบอลใหม่ภายหลังการกระท�ำ ผิดระเบียบวินัย กติกาข้อ 9 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและนอกการเล่น (The Ball in and Out of Play) ลูกบอลถูกผู้ตัดสินที่อยู่ในสนามแข่งขัน (The Ball Inside the Pitch Touches One of the Referees) ถ้าลูกบอลถูกผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดที่อยู่ในสนามแข่งขัน ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น ลูกบอลได้ถูกสัมผัสผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดในสนามแข่งขัน การเล่นจะด�ำเนินต่อไปเพราะว่าผู้ตัดสิน เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่นลูกบอลได้สัมผัสผู้ช่วยผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และเริ่มเล่นใหม่ด้วยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ ในขณะที่ การเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นถูกหยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินจะท�ำการปล่อยลูกบอล บนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 153


กติกาข้อ 10 การนับประตู (The Method of Scoring) ลูกบอลเป็นประตูในขณะที่บุคคลภายนอก เข้าไปในสนามแข่งขัน (Goal Scored While a Person not Participating in the Match is On the Pitch) ภายหลังการท�ำประตูผู้ตัดสินเข้าใจว่า ก่อนการเริ่มเล่นใหม่ บุคคลอื่นเข้าไปในสนาม ในขณะเดียวกันมีการท�ำประตู 1. ต้องไม่อนุญาตให้เป็นประตูถ้า 1.1 บุคคลอื่นที่อยู่ด้านนอก หรือเจ้าหน้าที่ของทีมหนึ่งทีมใด เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่น 1.2 บุคคลอื่นที่เป็นผู้เล่น ผู้เล่นส�ำรอง ผู้เล่นที่ถูกไล่ออกหรือเจ้าหน้าที่ของทีม เข้ามาท�ำประตู 2. อนุญาตให้เป็นประตูถ้า 2.1 บุคคลอื่นที่อยู่ภายนอกและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่น 2.2 บุคคลอื่นที่เป็นผู้เล ่น ผู้เล ่นส�ำรอง ผู้เล ่นที่ถูกไล ่ออกหรือเจ้าหน้าที่ทีม ที่อนุญาตให้เป็นประตู ไม่เป็นประตู (No goal) ถ้าผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดให้สัญญาณการเป็นประตูก ่อนที่ลูกบอลผ ่านเส้นประตูและ ในทันทีทันใด การเข้าใจผิด ให้เริ่มเล่นใหม่ด้วยการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุด ที่ลูกบอลในขณะที่การเล่นได้หยุดลง กติกาข้อ 11 การล�้ำหน้า (Off Side) ไม่มีการล�้ำหน้าในกีฬาฟุตซอล กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดติกาและการประพฤติผิด (Fouls and Misconduct) พื้นฐานที่เรียกว่าการกระท�ำผิด (Basic requirement fora foul) เงื่อนไขต่อไปนี้ต้องพิจารณาว่าเป็นการกระท�ำผิด 1. ถ้าการกระท�ำผิดโดยผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองกระท�ำผิดขั้นตอนการเปลี่ยนตัว 2. ต้องเกิดขึ้นในสนาม 3. ต้องเกิดขึ้นในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น 154 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ถ้าผู้ตัดสินหยุดการเล่นในขณะที่การกระท�ำผิดอยู่ภายนอกสนาม (ในขณะที่ลูกบอล อยู่ในการเล่น) และไม่ใช่การกระท�ำผิดโดยผู้เล่นที่ออกนอกสนามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน ต้องเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลง ภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดต้องปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุด ที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ไม่ถือว่าเป็นการกระท�ำผิดเมื่อผู้เล่น 2 คน หรือมากกว่าเข้าแย่งลูกบอลกับฝ่ายตรงข้าม ในเวลาเดียวกับฝ่ายตรงกันข้าม ถ้าการเข้าแย่งบอลเป็นไปอย่างถูกต้อง การขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ (Careless, reckless, Using Exessive Force) การขาดความระมัดระวัง หมายถึง ผู้เล่นขาดความใส่ใจหรือความสนใจ ในขณะที่ท�ำการ เข้าแย่งลูกบอลหรือการกระท�ำที่ปราศจากการระมัดระวัง ถ้าผู้ตัดสินพิจารณาว่าการขาดความระมัดระวังจะไม่ถูกลงโทษทางระเบียบวินัย ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด หมายถึง ถ้าผู้เล่นกระท�ำผิดโดยเจตนาท�ำให้เกิดอันตรายหรือเกิดผล ที่ตามมากับฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นเล่นโดยไม่ไตร่ตรองยั้งคิดต้องถูกคาดโทษ การใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ หมายถึง ถ้าผู้เล่นอยู่ในระยะไกลกว่าที่จะแย่งลูกบอล ท�ำให้เกิดอันตราย ความรุนแรง ของการบาดเจ็บของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นที่ใช้ความรุนแรง เกินกว่าเหตุต้องถูกไล่ออก การชนฝ่ายตรงข้าม (Charging an Opponent) การกระท�ำของการชนที่ไม่ใช่การชนโดยชอบ โดยการใช้ร่างกาย การเล่นลูกบอลต้องไม่ใช่ แขนหรือข้อศอก การกระท�ำผิดโดยการชนฝ่ายตรงข้าม 1. ขาดความระมัดระวัง 2. ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด 3. ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 155


การดึงฝ่ายตรงข้าม (Hold an Opponent) การดึงคู่ต่อสู้รวมถึงการกระท�ำ การขัดขวางการเคลื่อนที่โดยการใช้มือ แขนหรือส่วนอื่น ของร่างกาย ผู้ตัดสินต้องด�ำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ถ้ามีการกระท�ำผิดเกิดขึ้นภายในเขตโทษ ในขณะที่เตะจากมุม เตะเข้าเล่น หรือการเตะโทษที่เกิดขึ้น สถานการณ์ที่ผู้ตัดสินต้องกระท�ำอย่างเด็ดขาด 1. เตือนผู้เล่นคนหนึ่งคนใดที่ท�ำการดึง ก่อนลูกบอลอยู่ในการเล่น 2. คาดโทษผู้เล่นที่ท�ำการดึงอย่างต่อเนื่อง ก่อนลูกบอลอยู่ในการเล่น 3. ให้เตะโทษโดยอ้อม หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษและคาดโทษผู้เล ่น ถ้าเกิดขึ้น ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับท�ำการดึงผู้เล่นฝ่ายรุกภายนอกเขตโทษและดึงต่อเนื่องไปถึงภายในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ การลงโทษระเบียบวินัย (Disciplinary Sanctions) 1. คาดโทษ ฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา ต้องตัดสินว่า เมื่อผู้เล่นดึงคู่ต่อสู้ เพื่อป้องกันการครอบครองของลูกบอล หรือการกระท�ำที่เกิดขึ้นอยู่ในต�ำแหน่งที่ได้เปรียบการเล่น 2. ผู้เล่นที่ถูกไล่ออก ถ้าป้องกันโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจนโดยการดึงคู่ต่อสู้ 3. ถ้าการดึงคู่ต่อสู้ในสถานการณ์อื่นต้องไม่ถูกลงโทษทางระเบียบวินัย การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of Plays) การเตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของ การเตะโทษ) หรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ถ้ากระท�ำผิดเกิดขึ้นภายในเขตโทษ การเล่นลูกบอลด้วยมือ (Handling the Ball) การกระท�ำผิดโดยการเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล ถ้าผู้เล่นกระท�ำการสัมผัสลูกบอลด้วยมือ หรือแขน ผู้ตัดสินต้องพิจารณาการกระท�ำต่อไปนี้ 1. การเคลื่อนที่ของแขนไปยังลูกบอล (ไม่ใช่ลูกบอลตรงไปยังมือ) 2. ระยะห่างระหว่างคู่ต่อสู้กับลูกบอล (ไม่ใช่ลูกบอลถูกอย่างฉับพลัน) 156 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


3. ต�ำแหน่งของมือไม่จ�ำเป็นว่าต้องหมายถึง มีการลงโทษกระท�ำผิด (แขนที่ยกขึ้นออกจาก ร่างกายอาจจะไม่เจตนาก็ได้) 4. การสัมผัสลูกบอลด้วยอุปกรณ์ที่อยู่กับแขน (เสื้อผ้าสนับแข้งเป็นต้น)ถือว่าเป็นการเล่นลูกบอล ด้วยมือโดยเจตนา 5. การตีลูกบอลหรือการขว้าง (รองเท้าสนับแข้ง เป็นต้น)ถือว่าเป็นการเล่นลูกบอลด้วยมือ โดยเจตนา การลงโทษทางระเบียบวินัย (Disciplinary Sanctions) สถานการณ์ในขณะที่คาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา เป็นการกระท�ำ ในขณะที่ผู้เล่นเล่นลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา เมื่อผู้เล่น 1. เจตนาและใช้มืออย่างชัดเจน ในการป้องกันโอกาสในการท�ำประตูของคู่ต่อสู้ 2. พยายามท�ำประตูโดยเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล 3. การหลอกล่อเพื่อเล่นลูกบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เมื่อกระท�ำการด้วยมือ เพื่อหลอกผู้ตัดสิน 4. พยายามที่จะท�ำประตูหรือปฏิเสธโอกาสในการท�ำประตูด้วยมือ เมื่อผู้รักษาประตู อยู่ภายนอกเขตโทษ และไม่สามารถกระท�ำได้ ผู้เล ่นจะถูกไล ่ออก อย ่างไรก็ตาม ถ้าผู้เล ่นป้องกันประตูหรือโอกาสในการท�ำประตู โดยเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล การลงโทษไม่เป็นผลมาจากการกระท�ำผิดของผู้เล่นที่เจตนาเล่นลูกบอลด้วยมือ แต่ไม่ได้รับการยอมรับและไม่ยุติธรรมในการป้องกันโอกาสในการเป็นประตู การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of play) การเตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่การกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการ เตะโทษ) หรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ภายนอกพื้นที่เขตโทษ ผู้รักษาประตูไม่สามารถใช้มือเล่นลูกบอลได้เช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่น ภายในเขตโทษของเขาเอง ผู้รักษาประตูไม่ถือว่าเป็นการกระท�ำผิดด้วยมือที่ท�ำให้เกิดโทษโดยตรง ถึงอย่างไรก็ตาม ความผิดอื่นๆ อาจจะมีการเกิดขึ้น ได้หลากหลายจากการเตะโทษโดยอ้อม การกระท�ำผิดโดยผู้รักษาประตู (Offence committed by goalkeepers) ผู้รักษาประตูจะถูกพิจารณาในการครอบครองลูกบอล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 157


1. ในขณะที่ลูกบอลอยู่ระหว่างมือของเขา หรือระหว่างมือและพื้นที่อื่นๆ(พื้นสนามหรือ ส่วนของร่างกาย) 2. ในขณะที่ถือลูกบอลอยู่ในแขนของตนเอง 3. ในขณะที่ทุ่มลูกบอลลงสู่พื้นหรือโยนขึ้นไปในอากาศ ในขณะที่ผู้รักษาประตูได้ครอบครองลูกบอลด้วยมือของเขา ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถ เข้าไปแย่งชิงลูกบอลได้ การครอบครองลูกบอลรวมถึงผู้รักษาประตูควบคุมลูกบอล ไม่อนุญาตให้ผู้รักษาประตูสัมผัสลูกบอลภายในพื้นที่ของตนเองของสนามแข่งขันในสถานการณ์ ต่อไปนี้ ถ้าการครอบครองลูกบอลในพื้นที่ของตนเองของสนามแข่งขัน เกินกว่า 4 วินาที 1. ด้วยเท้าภายในเขตโทษของตนเอง 2. ด้วยเท้าในพื้นที่ของตนเองของสนามแข่งขัน 3. ด้วยมือภายในเขตโทษของตนเอง และด้วยเท้าภายในพื้นที่ของตนเองของสนามแข่งขัน ในกรณีที่กล่าวมาทั้งหมด ผู้ตัดสินที่อยู่ใกล้ผู้รักษาประตูต้องแสดงสัญญาณการนับ 4 วินาที 1. ถ้าหลังจากได้เล่นลูกบอลเขาได้สัมผัสลูกบอลอีกครั้งหนึ่งภายในพื้นที่ของตนเองของ สนามแข่งขัน ภายหลังจากผู้เล่นฝ่ายเดียวกันส่งลูกบอลคืนมาให้โดยไม่ได้ถูกสัมผัสคู่ต่อสู้ • ผู้รักษาประตูจะถูกพิจารณาว่าครอบครองลูกบอลโดยการสัมผัสด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ของร่างกาย ยกเว้นลูกบอลกระดอนกลับถูกผู้รักษาประตูโดยบังเอิญ • ถ้าผู้รักษาประตูสัมผัสลูกบอลด้วยมือของเขาภายในเขตโทษของตนเอง ภายหลัง จากเขาได้รับลูกบอลโดยตรงจากการเตะถ้าเล่นโดยผู้เล่นทีมเดียวกัน 2. ถ้าผู้รักษาประตูสัมผัสลูกบอลด้วยมือของตนภายในเขตโทษของตนเอง หลังจากได้รับ ลูกบอลโดยตรงจากการเตะเข้าเล่นโดยผู้เล่นทีมเดียวกันได้ การเริ่มเล่น (Restart of play) การเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ตามกติข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) การกระท�ำผิดอื่นๆ ของผู้รักษาประตู (Offence committed against goalkeeper) 1. การกระท�ำผิดในการป้องกันผู้รักษาประตูปล่อยลูกบอลจากมือ ในขณะที่การทุ่มบอลลงพื้น 2. การเล่นลูกบอล หรือพยายามกระท�ำต่อเนื่องในขณะที่ผู้รักษาประตูถือลูกบอล ด้วยฝ่ามือของเขา 158 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


3. ผู้เล่นต้องถูกลงโทษส�ำหรับการเล่นในพฤติกรรมที่เป็นอันตรายถ้าเขาเตะหรือพยายาม เตะลูกบอล ในขณะที่ผู้รักษาประตูก�ำลังปล่อยลูกบอล 4. ถ้ากระท�ำผิดกีดขวางการเคลื่อนที่ของผู้รักษาประตู โดยการขัดขวางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเตะจากมุม 5. ผู้เล่นฝ่ายรุกใช้ร่างกายชนผู้รักษาประตูภายในเขตโทษของผู้รักษาประตูไม่ได้รวมถึง การละเมิดหรือการกระท�ำผิดอื่นๆ เช่น ผู้เล่นฝ่ายรุกกระโดดเข้าใส่ ชนหรือผลักผู้รักษาประตู ในลักษณะขาดความระมัดระวัง หรือขาดการไตร่ตรองยั้งคิด หรือการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of play) ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน ่งที่ซึ่งมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ตามกติกา ข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ยกเว้น ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกกระโดดชนหรือผลักผู้รักษาประตูในลักษณะ ขาดความระมัดระวังหรือการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินไม่พิจารณาเป็นการลงโทษ ทางระเบียบวินัย เขาต้องเริ่มเล่นใหม่ด้วยการเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่กระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) การเล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย (Playing in a dangerous manner) การกระท�ำอื่นๆ ที่เล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย หมายถึง ในขณะที่ก�ำลังจะเล่นลูกบอล การกระท�ำที่ท�ำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหรือตนเองเกิดการบาดเจ็บ การกระท�ำผิดใกล้ๆ กับคู่ต่อสู้ และป้องกันคู่ต่อสู้จากการเล่นลูกบอล ท�ำให้กลัวเกิดการบาดเจ็บกับตนเองและผู้เล่นอื่น การเตะแบบกรรไกรหรือจักรยานอากาศอนุญาตตามเงื่อนไขขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ตัดสิน ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อฝ่ายตรงข้าม การเล่นในลักษณะที่เป็นอันตรายรวมถึงการไม่ปะทะชนด้วยร่างกายระหว่างผู้เล่นถ้าการชน ด้วยร่างกายเป็นการกระท�ำผิดสมควรได้รับการลงโทษเป็นโทษโดยตรง หรือเตะโทษ ณ จุดเตะ โทษ ในกรณีของการชนด้วยร่างกาย ผู้ตัดสินควรจะพิจารณาอย่างระมัดระวังมีความเป็นไปได้น้อยที่สุด ในการกระท�ำผิดโดยการประพฤติผิด การลงโทษทางระเบียบวินัย (Disciplinary Sanctions) 1. ถ้าผู้เล่นเล่นในลักษณะที่เป็นอันตรายโดยธรรมชาติการพิจารณาของผู้ตัดสินไม่ควร จะลงโทษทางระเบียบวินัย ถ้าการกระท�ำท�ำด้วยความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ชัดเจน ผู้ตัดสินควร จะคาดโทษผู้เล่นนั้น คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 159


2. ถ้าผู้เล่นป้องกันโอกาสการท�ำประตู โดยเล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย ผู้ตัดสินควร จะไล่ผู้เล่นออก การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of play) ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของ การเตะโทษ) ถ้ามีความต่อเนื่อง ความแตกต่างของการกระท�ำผิด การกระท�ำผิดสมควรลงโทษโดย โทษโดยตรงหรือการเตะโทษหรือผู้ตัดสินพิจารณา ตามข้อคิดเห็นในการขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองยั้งติด หรือใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ แตกต่างจากกระท�ำผิดอื่นๆ สมควรลงโทษ โดยโทษโดยตรง หรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ การขัดขวางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของคู่ต่อสู้ (Impeding the Progress of an Opponent) การขัดขวางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของคู่ต่อสู้หมายถึงการกีดขวางขัดขวางการเคลื่อนที่ ไปข้างหน้าของคู่ต่อสู้ท�ำให้ช้าลง การเปลี่ยนทิศทางโดยคู่ต่อสู้ในขณะที่ลูกบอลไม่ได้อยู่ในระยะ ที่จะเล่นของผู้เล่นอื่นๆ ผู้เล่นทั้งหมดอยู่ในต�ำแหน่งที่ถูกต้องในสนามแข่งขันทิศทางของผู้ต่อสู้ต้องไม่เคลื่อนที่ ตรงไปในทิศทางเดียวกันกับคู่ต่อสู้ อนุญาตให้มีการป้องกันลูกบอล ผู้เล ่นในพื้นที่ของเขาเอง ระหว่างคู่ต่อสู้กับลูกบอล ส�ำหรับเหตุผลทางเทคนิค ไม่พิจารณาเป็นการกระท�ำผิด ถ้าอยู่ในระยะห่างที่ใกล้เคียงกันกับการเข้า แย่งลูกบอลและผู้เล่นไม่ได้ดึงฝ่ายตรงข้ามด้วยแขนหรือส่วนอื่นของร่างกาย การชะลอการเริ่มเล่นใหม่ที่ต้องถูกใบเหลือง – ใบแดง (Delaying the Restart of Play to Issue a Card) ผู้ตัดสินพิจารณาในการคาดโทษ หรือไล่ออกผู้เล่น หรือการเปลี่ยนตัว การเล่นจะไม่เริ่มเล่น จนกว่าจะด�ำเนินการลงโทษ คาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา (Caution for Unsporting Behavior) สถานการณ์ที่แตกต่างกันในขณะที่ผู้เล่นต้องถูกคาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจ เป็นนักกีฬา ถ้าผู้เล่น 160 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


1. กระท�ำผิดในลักษณะไม่ไตร่ตรองยั้งคิดอย่างหนึ่งอย่างใดใน 7 ข้อ เป็นการกระท�ำผิด รวมทั้งโทษโดยตรง 2. การกระท�ำผิดส�ำหรับเทคนิค เป้าหมายของกระบวนการรบกวน การชนฝ่ายรุก 3. การดึงคู่ต่อสู้ส�ำหรับเทคนิค เป้าหมายของการดึงคู่ต่อสู้ออกจากลูกบอลหรือขัดขวาง คู่ต่อสู้ในการที่จะได้รับลูกบอล 4. ใช้มือจับลูกบอลเพื่อป้องกันคู่ต่อสู่ที่จะครอบครองลูกบอลหรือน�ำไปสู่ผู้เล่นฝ่ายรุก (นอกเหนือจากผู้รักษาประตูภายในเขตโทษ) 5. ใช้มือจับลูกบอลโดยพยายามปัดลูกบอลเข้าประตู(โดยไม่ค�ำนึงว่าจะเป็นประตูหรือไม่) 6. ใช้มือจับลูกบอลเพื่อหลอกล่อการเล่นกับส่วนอื่นของร่างกายเพื่อหลอกล่อผู้ตัดสิน 7. พยายามป้องกันประตูหรือปฏิเสธโอกาสในการท�ำประตูด้วยมือ ในขณะที่ผู้รักษาประตู ไม่ได้อยู่ในเขตโทษของเขาและไม่เป็นประตู 8. พยายามหลอกล่อผู้ตัดสินโดยการแกล้งบาดเจ็บหรือการเสแสร้งท�ำเหมือนถูกกระท�ำผิด (การหลอกล่อ) 9. เปลี่ยนหน้าที่กับผู้รักษาประตูในระหว่างการเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน 10. ลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เคารพในกฎกติกา 11. หลังจากได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินให้ออกนอกสนามแข่งขัน แล้วผู้เล่นเล่นบอลขณะที่ ก�ำลังเดินออกนอกสนามแข่งขัน 12. ใช้ค�ำพูดรบกวนท�ำให้คู่ต่อสู้ร�ำคาญในระหว่างการเล่นหรือเริ่มเล่นใหม่ 13. ท�ำลายเครื่องหมายเส้นสนามแข่งขัน 14. เจตนาใช้เล่ห์เหลี่ยม ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในเกมการเล่น ส่งลูกบอลคืนผู้รักษาประตู ด้วยศีรษะ ไหล่ เข่า และอื่นๆ ในกติกาข้อ 12 โดยไม่ถือว่าผู้รักษาประตูจะจับลูกบอลด้วยมือหรือไม่ การกระท�ำที่ถือว่าเป็นการกระท�ำผิดโดยผู้เล่นในการที่พยายามจะใช้เล่ห์เหลี่ยม หลีกเลี่ยงกระท�ำผิด โดยไม่ค�ำนึงความมีน�้ำใจเป็นนักกีฬา (ตามกติกาข้อ 12 และเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยอ้อม) การแสดงความดีใจเมื่อได้ประตู (Celebration of a Goal) ในขณะที่อนุญาตให้ผู้เล่นได้แสดงความดีใจภายหลังได้ประตูต้องไม่แสดงออกมากเกินไป แม้ว่ามีการอนุญาตให้ผู้เล่นกระท�ำสิ่งต่างๆ ที่เขาแสดงความดีใจ การแสดงความดีใจนั้น ต้องไม่เกินกว่าเหตุและไม่เป็นการถ่วงเวลาและผู้ตัดสินถูกแนะน�ำให้ท�ำการแทรกแซงในแต่ละกรณี ผู้เล่นต้องถูกคาดโทษถ้า 1. ผู้ตัดสินพิจารณาว่ากระท�ำกริยาท่าทางไม่เหมาะสมซึ่งเป็นการยุแหย่เย้ยหยัน หรือยั่วโทสะ 2. ปีนขึ้นไปบนรั้วรอบๆ สนามเพื่อแสดงความดีใจในการท�ำประตู คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 161


3. ถอดเสื้อออกจากศีรษะ หรือคลุมศีรษะด้วยเสื้อ ยกเว้นผู้เล่นยังมีเสื้อที่เหมือนกันสวมอยู่ 4. คลุมศีรษะหรือหน้าด้วยหน้ากากหรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายหน้ากาก การออกจากสนามแข่งขันเพื่อแสดงความดีใจเมื่อมีการท�ำประตูไม่ได้เป็นความผิดแต่สิ่งส�ำคัญ ที่ผู้เล่นต้องท�ำคือเข้ามาในสนามให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ การคัดค้านด้วยค�ำพูด หรือการกระท�ำ (Showing Dissent by Word or Action) ผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองที่มีความผิด โดยการแสดงการคัดค้าน (ด้วยวาจาหรือท่าทาง) ต่อการตัดสินใจของผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสินต้องถูกคาดโทษ หัวหน้าทีมไม่มีสิทธิพิเศษหรือฐานะพิเศษภายใต้กติกาการแข่งขันกีฬาฟุตซอลแต่เขามีหน้าที่ ต้องดูแลพฤติกรรมของผู้เล่นในทีม ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดหรือผู้เล่นส�ำรองที่ท�ำร้ายเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันหรือแสดงความไม่พอใจ หยาบคาย ลามก อนาจารด้วยค�ำพูด ต้องถูกไล่ออก การชะลอการเริ่มเล่นใหม่ (Delaying the Restart of Play) ผู้ตัดสินต้องคาดโทษผู้เล่นที่ท�ำการชะลอการเริ่มเล่นใหม่โดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น 1. การเตะโทษจากต�ำแหน่งที่ผิดโดยเจตนา เพื่อให้ผู้ตัดสินสั่งให้ท�ำการเตะใหม่ 2. เตะลูกบอลทิ้งหรือถือลูกบอลไว้กับตนเองภายหลังจากผู้ตัดสินสั่งให้หยุดการเล่น 3. ภายหลังจากมีการปฐมพยาบาล พยายามออกจากสนามอย่างช้าๆ 4. เจตนายุแหย่ เผชิญหน้า โดยเจตนาสัมผัสลูกบอล ภายหลังผู้ตัดสินสั่งหยุดการเล่น การแกล้งหลอก (Simulation) ผู้เล ่นคนหนึ่งคนใดพยายามแกล้งหลอกผู้ตัดสินโดยการแกล้งบาดเจ็บหรือแกล้งท�ำ เหมือนว ่าถูกกระท�ำผิด เป็นความผิดแกล้งหลอกและจะถูกลงโทษฐานประพฤติตนอย ่างไม ่มี น�้ำใจเป็นนักกีฬา ถ้าการแข ่งขันได้หยุดลงเพราะเหตุการณ์ละเมิดนี้การเริ่มเล ่นใหม ่โดยให้ ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม จากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกา ข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) การกระท�ำผิดบ่อยๆ (Persistent Infringement) ผู้ตัดสินควรเตรียมพร้อมตลอดเวลา ต่อผู้เล่นที่มีการกระท�ำผิดกติกาการแข่งขันกีฬาฟุตซอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ต้องระมัดระวังถ้าผู้เล่นกระท�ำผิดมีความผิดและที่แตกต่างกันหลายๆครั้ง ต้องถูกคาดโทษฐานกระท�ำผิดกติกาการแข่งขันบ่อยๆ 162 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


การกระท�ำผิดไม ่มีการเจาะจงจ�ำนวนครั้งของการกระท�ำผิด ซึ่งประกอบด้วยความบ ่อย ของการกระท�ำผิด โดยความเป็นจริง เหตุการณ์ของการตัดสินและพิจารณาจากสิ่งแวดล้อม และข้อบังคับของการบริหารจัดการแข่งขัน การกระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Serious foul Play) ผู้เล่นจะท�ำความผิดฐานกระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรง ถ้าเขาใช้ก�ำลังแรงเกินกว่าเหตุ หรือโหดร้ายต่อคู่ต่อสู้ขณะแย่งชิงลูกบอลในขณะลูกบอลอยู่ในการเล่น การกระท�ำผิดที่ท�ำให้เกิดอันตรายไม ่มีความปลอดภัยต ่อคู ่ต ่อสู้ต้องถูกลงโทษฐาน กระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรง ผู้เล่นที่พุ่งใส่คู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วเพื่อแย่งชิงลูกบอลทั้งจากด้านหน้า ด้านข้างหรือด้านหลัง โดยใช้ขาเดียวหรือสองขาด้วยการใช้ก�ำลังแรงเกินกว่าเหตุ ท�ำให้เกิดอันตราย ไม่มีความปลอดภัย ต่อคู่ต่อสู่ถือว่าเป็นความผิดฐานกระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรง การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นไม่ควรถูกประยุกต์ในสถานการณ์ที่เป็นการกระท�ำผิดกติกา อย่างร้ายแรง ยกเว้นต่อมาภายหลังมีโอกาสที่จะเป็นประตูผู้ตัดสินไล่ออกผู้เล่นที่กระท�ำผิดกติกา อย่างร้ายแรง ในขณะที่ลูกบอลอยู่นอกการเล่น ผู้เล่นที่กระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรงควรถูกไล่ออกและเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซึ่งมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ตามกติกาข้อ13ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถ้าการกระท�ำผิดเกิดขึ้นภายในเขตโทษของผู้กระท�ำผิด) การประพฤติผิดอย่างร้ายแรง (Violent conduct) ผู้เล่นจะกระท�ำความผิดฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ถ้าการใช้ก�ำลังเกินกว่าเหตุหรือโหดร้าย ต่อคู่ต่อสู้ในขณะที่ไม่ได้ต่อสู้แย่งชิงลูกบอล ผู้เล่นจะถูกพิจารณาฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงเช่นกัน ถ้าการกระท�ำผิดต่อเพื่อนร่วมทีม ผู้ชม ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสินหรือบุคคลอื่นๆ การประพฤติผิดอย่างร้ายแรงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในและนอกสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่นหรือนอกการเล่น การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น ไม่ควรถูกประยุกต์ในสถานการณ์ที่เป็นการกระท�ำผิด ฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงยกเว้นต่อมาภายหลังมีโอกาสที่จะเป็นประตูผู้ตัดสินต้องไล่ผู้เล่นที่กระท�ำผิด ฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงออก ในขณะที่ลูกบอลอยู่นอกการเล่น คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 163


ผู้ตัดสินเตือนการกระท�ำผิดฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งจะเป็นการน�ำไปสู่ การเผชิญหน้ากัน ดังนั้นต้องพยายามเบี่ยงเบนพฤติกรรมอย่างเข้มงวดผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองผู้ซึ่งกระท�ำผิด ฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงต้องถูกไล่ออก การเริ่มเล่น (Restart of Play) 1. ถ้าลูกบอลอยู่นอกการเล่น การเริ่มเล่นใหม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้นภายนอกสนามแข่งขัน 2.1 ถ้าผู้เล่นอยู่นอกสนามแข่งขัน ภายหลังจากที่ออกจากสนามแข่งขันตามกติกา การแข ่งขันกีฬาฟุตซอล และมีการละเมิดการกระท�ำผิด การเริ่มเล ่นใหม ่ด้วยการปล ่อยลูกบอล จากต�ำแหน่งของลูกบอลในขณะที่การเล ่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล ่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีที่ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดจะปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะ ที่การเล่นได้หยุดลง 2.2 ถ้าผู้เล ่นออกจากสนามแข ่งขัน เพราะการกระท�ำผิด การเริ่มเล ่นใหม ่โดย การให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (ตามกติกาข้อ13ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) 3. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและผู้เล่นได้กระท�ำผิดภายในสนามแข่งขัน 3.1 ชนคู่ต่อสู้ การเล่นเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน ่งของการเตะโทษ)หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถ้าอยู ่ภายในเขตโทษ ของผู้กระท�ำผิด) 3.2 ชนผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน การเล่นเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 3.3 ชนผู้เล่นส�ำรอง การเริ่มเล ่นใหม ่โดยการให้ฝ ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน ่งที่ ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ซึ่งกระท�ำผิดฐานประพฤติผิด (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) เท ่ากับการกระท�ำผิดกติกาของผู้เล ่นส�ำรองที่เป็นการกระท�ำผิดกติกาของ ผู้เล่นส�ำรองที่เป็นการกระท�ำผิดในครั้งแรก 3.4 ชนผู้ตัดสิน การเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 164 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


3.5 ชนบุคคลอื่นๆ การเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่ การเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดจะปล่อย ลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะการเล่นได้หยุดลง 4. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและผู้เล่นส�ำรองหรือเจ้าหน้าที่ทีมกระท�ำความผิดภายนอก สนามแข่งขัน 4.1 การชนบุคคลอื่นๆ การเล่นเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่ การเล่นได้หยุดลงยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดท�ำการปล่อยลูกบอล บนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในได้หยุดลงขณะที่การเล่นได้หยุดลง การกระท�ำผิดโดยการขว้างปาวัตถุสิ่งของ (Offence Where an Object is Thrown) ถ้าในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น ผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอล ไปยังคู่ต่อสู้หรือบุคคลอื่น ด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุผู้ตัดสินสั่งหยุดการเล่น ไม่สามารถประยุกต์ ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น แต่อนุญาตถ้ามีการท�ำประตูได้อย่างชัดเจนและไล่ออกผู้เล่นและผู้เล่นส�ำรอง ส�ำหรับการกระท�ำผิดฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรง การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of Play) 1. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายในเขตโทษของตนเอง ขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยังคู่ต่อสู้ ซึ่งยืนอยู่ภายนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซึ่งวัตถุ ขว้างปามาหรือถูกคู่ต่อสู้(ตามกติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งเตะโทษ) 2. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายนอกเขตโทษของตนเองขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยังบุคคลอื่น ที่ยืนอยู่ภายนอกสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ 3. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายในสนามแข่งขันขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยังบุคคลอื่นๆ ที่ยืนอยู่ภายนอกสนาม ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอล อยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ผู้ตัดสินไล่ผู้เล่นออกจาก สนามแข่งขัน โดยไม่จ�ำเป็นต้องบอกเหตุผล เพราะไม่อยู่ภายใต้กติกาการแข่งขันกีฬาฟุตซอล 4. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายนอกสนามแข่งขัน ขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยังคู่ต่อสู้ ที่ยืนอยู่ในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซึ่งขว้างปา หรือมีการขว้างปาคู่ต่อสู้โดยให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถ้าอยู่ภายในเขตโทษของผู้เล่นฝ่ายรับ) คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 165


5. ถ้าผู้เล่นส�ำรองยืนอยู่ภายนอกสนามแข่งขันขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยัง คู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม จากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอล อยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (ตามกติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ผู้เล่นส�ำรองที่เข้ามา ในสนามแข่งขันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน และไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัว 6. ผู้เล่นส�ำรองยืนอยู่ในสนามแข่งขัน เนื่องจากทีมมีจ�ำนวนผู้เล่นเพิ่มขว้างปาวัตถุสิ่งของ หรือลูกบอลไปยังบุคคลอื่นที่อยู่ภายในสนามหรือภายนอกสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้าม ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) ผู้เล่นส�ำรองที่เข้ามาในสนามแข่งขัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน 7. ถ้าผู้เล ่นส�ำรองกระท�ำผิดกติกาการเปลี่ยนตัวขว้างปาวัตถุ สิ่งของหรือลูกบอล ไปยังบุคคลอื่นๆ ที่ยืนอยู่ภายในหรือภายนอกสนามแข่งขัน ถ้าต้องลงโทษเช่นเดียวกับผู้เล่น 8. ถ้าเจ้าหน้าที่ยืนอยู ่ภายในหรือภายนอกสนามแข ่งขันขว้างปาวัตถุหรือสิ่งของ หรือลูกบอลไปยังบุคคลอื่นๆ ที่ยืนอยู ่ภายในหรือภายนอกสนามแข ่งขัน ผู้ตัดสินเริ่มเล ่นใหม ่ โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่น ได้หยุดลงในพื้นที่เขตโทษ ซึ่งในกรณีผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดจะท�ำการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง การกระท�ำผิดขว้างปาวัตถุสิ่งของไปยังลูกบอล (Offences Where on Object is Thrown at the Ball) ถ้าผู้เล่นคนอื่นฝ่ายตรงข้ามของผู้รักษาประตูขว้างปาวัตถุสิ่งของไปยังลูกบอล 1. ถ้าลูกบอลอยู ่ในการเล ่น และน�ำวัตถุไปตีที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล ่น และคาดโทษผู้เล ่นที่แสดงพฤติกรรมอย ่างไม ่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬาหรือไล ่ออก ถ้ามีการกระท�ำ การป้องกันประตูหรือมีโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษ โดยตรงจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง(กติกาข้อ13ต�ำแหน่งของการเตะ โทษหรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ถ้าลูกบอลอยู่ภายในเขตโทษของทีมฝ่ายรับ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของไม่ได้พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม ่สามารถประยุกต์การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล ่นและคาดโทษผู้เล ่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ ซึ่งลูกบอลอยู่ ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 166 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ถ้าผู้รักษาประตูคนหนึ่งคนใดขว้างปาวัตถุสิ่งของไปยังลูกบอล 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุพุ่งไปยังลูกบอล ภายในเขตโทษของผู้รักษาประตู ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และคาดโทษผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่ โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของได้พุ่งไปยังลูกบอล ภายนอกเขตโทษของ ผู้รักษาประตูผู้ตัดสินต้องหยุดการเล ่นและคาดโทษผู้เล ่นที่แสดงพฤติกรรมอย ่างไม ่มีน�้ำใจ เป็นนักกีฬา หรือไล่ออกถ้าป้องกันการเป็นประตูหรือโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่ โดยฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง 3. ถ้าลูกบอลอยู ่ในการเล ่นและวัตถุไม ่ได้ส ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล ่น ถ้าไม ่สามารถประยุกต์การให้เป็นการเล ่นได้เปรียบ และคาดโทษโดยผู้เล ่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่ง ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งการเตะโทษ) ถ้าผู้เล ่นรวมทั้งผู้รักษาประตูทั้งสองคนขว้างปาสิ่งของไปยังลูกบอล ด้วยส่วนของร่างกายนอกเหนือจากแขน 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และคาดโทษ ผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้าม เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่ง การเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุสิ่งของไม่ได้พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม ่สามารถประยุกต์การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล ่นและคาดโทษผู้เล ่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามแตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่ง ที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นส�ำรองกระท�ำผิดขั้นตอนการเปลี่ยนตัว แต่ไม่เป็นสาเหตุให้ทีมเพิ่ม จ�ำนวนผู้เล่น ขว้างปาวัตถุไปยังลูกบอล 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไล่ออก เพิ่มการคาดโทษจ�ำนวน 2 ครั้ง คาดโทษครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามแข่งขัน โดยไม่ปฏิบัติ ตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัว และคาดโทษครั้งที่ 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 167


หรือไล่ออกโดยตรง ถ้าการกระท�ำผิดแสดงถึงการป้องกันการเป็นประตูหรือโอกาสในการท�ำประตู อย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่ การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) หรือ เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ถ้าลูกบอลอยู่ ภายในเขตโทษของฝ่ายตัวส�ำรองที่กระท�ำผิด 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของไม่ได้พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น และไล่ออก เพิ่มการคาดโทษ จ�ำนวน 2 ครั้ง การคาดโทษครั้งที่ 1 การเข้าไปในสนามแข่งขัน โดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัวและคาดโทษ ครั้งที่ 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษ โดยอ้อม จากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นส�ำรองกระท�ำผิดขั้นตอนการเปลี่ยนตัว แต่ไม่เป็นเหตุให้ทีมเพิ่มจ�ำนวน ผู้เล่นขว้างวัตถุสิ่งของไปที่ลูกบอลด้วยส่วนของร่างกายที่นอกเหนือจากการใช้แขน 1. ถ้าบอลอยู ่ในการเล ่น และวัตถุสิ่งของพุ ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล ่น และไล่ออกส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง การคาดโทษครั้งที่ 2 ที่เข้ามาในสนามแข่งขันโดยไม่ปฏิบัติตาม ขั้นตอนการเปลี่ยนตัว และการคาดโทษครั้งที่ 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา หรือโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจาก ต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุสิ่งของพุ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและไล่ออกส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง การคาดโทษ ครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามแข่งขันโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัว และการคาดโทษครั้งที่ 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม จากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นส�ำรองโยนวัตถุสิ่งของไปที่ลูกบอล ซึ่งเป็นเหตุให้ทีมเล่นด้วยผู้เล่นทีมเพิ่ม 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุสิ่งของพุ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไล่ออก ส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง ส�ำหรับการแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามแข่งขันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินและการคาดโทษครั้งที่ 2 การโยนวัตถุสิ่งของหรือไล่ออกโดยตรงถ้าการกระท�ำแสดงถึงการป้องกันการเป็นประตูหรือโอกาส ในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่ง ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 168 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุของนั้นไม่ได้พุ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและไล่ออก ส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง ส�ำหรับ การแสดงพฤติกรรมอย ่างไม ่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งที่ 1 ส�ำหรับการเข้าสนามโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน และคาดโทษครั้งที่ 2 ส�ำหรับการโยนวัตถุสิ่งของ การเริ่มเล่นใหม่ โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง(กติกาข้อ13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นส�ำรองโยนวัตถุสิ่งของไปที่ลูกบอลด้วยส่วนของร่างกายที่นอกเหนือ จากแขนใช้มือเป็นเหตุให้ทีมมีจ�ำนวนผู้เล่นเพิ่ม 1. ถ้าบอลอยู ่ในการเล ่นและวัตถุสิ่งของพุ ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล ่น และไล่ออก ส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้งส�ำหรับการแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาด โทษครั้งที่1ส�ำหรับการเข้าสนามแข่งขันโดยได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน การคาดโทษครั้งที่2ส�ำหรับ การโยนวัตถุสิ่งของ หรือการไล่ออกโดยตรง ถ้าการกระท�ำผิดแสดงออกถึงพฤติกรรมการป้องกัน ประตูหรือโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อม ณ จุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งการเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของไม่พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม ่สามารถประยุกต์ไห้เป็นลูกได้เปรียบการเล ่นและไล ่ออกส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง ส�ำหรับ การแสดงพฤติกรรมอย ่างไม ่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามแข ่งขัน โดยไม่ได้รับอนุญาตและการคาดโทษครั้งที่ 2 ส�ำหรับการโยนวัตถุสิ่งของ การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม ณ จุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ13ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) ถ้าเจ้าหน้าที่ทีมโยนวัตถุสิ่งของที่ลูกบอลด้วยส่วนของร่างกาย 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และให้ออกจากบริเวณเขตเทคนิค การเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอล ณ จุดที่ลูกบอลอยู่ใน ขณะที่การเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ผู้ตัดสินคนหนึ่งคน ใดจะท�ำการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของไม่ได้พุ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและให้ออกจากบริเวณเขตเทคนิค การเริ่มเล่นใหม่ โดยการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 169


ถ้าลูกบอลอยู่นอกการเล่นและผู้เล่นโยนวัตถุสิ่งของไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินคาดโทษ ส�ำหรับ การแสดงพฤติกรรมที่ไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่เป็นไปตามข้อตกลงของกติกาการแข่งขัน กีฬาฟุตซอล ถ้าลูกบอลอยู่นอกการเล่นและผู้เล่นส�ำรองโยนวัตถุสิ่งของไปยังลูกบอลไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ ให้ทีมเพิ่มจ�ำนวนผู้เล่นหรือไม่ก็ตาม ผู้ตัดสินไล่ออกส�ำหรับการคาดโทษ 2ครั้งส�ำหรับการแสดงพฤติกรรม ที่ไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน และการคาดโทษครั้งที่ 2 ส�ำหรับการโยนวัตถุสิ่งของ ถ้าลูกบอลอยู่นอกการเล่นและเจ้าหน้าที่ทีมโยนวัตถุสิ่งของไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องให้ออก จากบริเวณเขตเทคนิค มีการกระท�ำผิดเกี่ยวกับการไล่ออก 2 อย่าง คือ การป้องกันการเป็นประตูและโอกาส ในการท�ำประตูอย่างชัดเจน ซึ่งไม่จ�ำเป็นว่าการกระท�ำผิดจะเกิดขึ้นภายในเขตโทษ ถ้าผู้ตัดสินสามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบ ระหว่างโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน และการท�ำประตูโดยตรง ถึงแม้ว่า คู่ต่อสู้ปัดลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา ผู้เล่นไม่สามารถให้เป็น การไล่ออก แต่สามารถให้เป็นการคาดโทษได้ ถ้าผู้ตัดสินสามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบ ระหว่างโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน และการท�ำประตูโดยตรง ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้กระท�ำผิดกติกา ผู้เล่นไม่ถูกไล่ออกส�ำหรับการกระท�ำผิด แต่ยังคงถูกคาดโทษหรือไล่ออกถ้าการกระท�ำได้รับการยืนยัน (มีหลักฐานการคาดโทษหรือไล่ออก) ผู้ตัดสินควรพิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้ เมื่อมีการตัดสินระหว่างการไล่ออกส�ำหรับ การป้องกันการเป็นประตูหรือโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน 1. ระยะห่างระหว่างการกระท�ำผิดกับประตู 2. ความเป็นไปได้ของการรับลูกบอล 3. ทิศทางการเล่น 4. ต�ำแหน่งและจ�ำนวนของผู้เล่นฝ่ายรับ 5. การกระท�ำผิดซึ่งการป้องกันโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจนของคู่ต่อสู้อาจจะเป็น การกระท�ำผิดที่ท�ำให้มีการเตะโทษโดยตรงหรือการเตะโทษโดยอ้อม 6. ถ้าการกระท�ำผิดกติกาโดยผู้เล่นส�ำรองต้องถูกไล่ออกเสมอ ถ้าผู้เล่นพยายามป้องกันประตูโดยการใช้มือสัมผัสบอลโดยเจตนา ภายหลังจากการเริ่มเล่น ซึ่งไม่มีการได้ประตู โดยตรงอย่างแน่นอน ผู้เล่นไม่ถูกไล่ออกแต่ถูกคาดโทษ ส�ำหรับการแสดง พฤติกรรมที่ไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา จะถูกลงโทษโดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรงหรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ 170 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ถ้าผู้เล่นส�ำรองเข้าไปในสนามแข่งขันโดยมีจุดมุ่งหมายของการป้องกันการเป็นประตู หรือโอกาสในการท�ำประตูเขาต้องถูกไล่ออก กติกาข้อ 13 การเตะโทษ (Free Kick) ขั้นตอน 1. ลูกบอลอยู่ในการเล่นเมื่อถูกเตะและเคลื่อนที่ออกไป 2. การเตะโทษสามารถเตะลูกบอลด้วยเท้าหรือทั้งสองเท้า 3. การแกล้งหลอกที่จะเตะโทษ เพื่อท�ำให้คู่ต่อสู้สับสน เป็นการอนุญาตให้ท�ำได้ถ้าผู้ตัดสิน พิจารณาว่าการแกล้งหลอกเป็นการกระท�ำที่ไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา ผู้เล่นต้องถูกคาดโทษ 4. ถ้าผู้เล่นในขณะที่ท�ำการเตะโทษอย่างถูกต้อง เตะลูกบอลอย่างตั้งใจไปยังคู่ต่อสู้ เพื่อที่จะเล ่นลูกบอลอีกครั้ง แต ่เป็นลักษณะที่ขาดความระมัดระวังหรือไม ่ไตร ่ตรองยั้งคิด การไม่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุผู้ตัดสินต้องให้การเล่นด�ำเนินต่อไป 5. การเตะโทษโดยอ้อม ต้องเตะใหม่ ถ้าผู้ตัดสินไม่ได้ยกแขนแสดงการเตะโทษโดยอ้อม และลูกบอลถูกเตะเข้าประตูโดยตรงเริ่มการเตะโทษโดยอ้อมที่ไม่ถูกต้องโดยเกิดจากความผิดพลาด ของผู้ตัดสิน 6. ถ้าส่วนของการเล่นยังเคลื่อนย้ายผู้รักษาประตูอยู่ภายนอกประตูหรือผู้เล่นคนอื่นๆ หยุดลงนอกสนามแข่งขัน ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอาจจะท�ำการเตะโทษโดยตรงอย่างรวดเร็ว ภายใต้เงื่อนไข ที่ไม่มีการกระท�ำผิดกติการวม 6 ครั้ง 7. ถ้าลูกบอลแตกภายหลังจากชนกับเสาประตูหรือคานประตูและไม่ได้เข้าไปในประตู ผู้ตัดสินไม่ให้ท�ำการเตะโทษใหม่ให้หยุดการเล่นและเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่ง ที่ซึ่งลูกบอลได้แตกในขณะการเล่น (กติกาข้อ 8 การปล่อยลูกบอล) 8. ถ้าผู้เล่นที่ท�ำการเตะโทษโดยตรง มีการกระท�ำผิดกติการวม 6 ครั้ง การเตะลูกบอล ไปข้างหน้า เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมสามารถพุ่งไปที่ประตูผู้ตัดสินหยุดการเล่นถ้าไม่สามารถประยุกต์ ให้เป็นลูกได้เปรียบ การเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยอ้อม จากที่ซึ่งผู้เตะในทีมเดียวกันที่สัมผัสลูกบอล (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 9. ถ้าผู้ตัดสินสั่งให้เตะโทษเพื่อท�ำการเตะโทษใหม่ สามารถกระท�ำการเตะโดยผู้เล่นคนอื่น และไม่มีการเตะโดยผู้เล่นที่เป็นคนเตะเริ่มต้น 10. ถ้าผู้เล่นเตะโทษโดยตรงหรือโทษโดยอ้อม ก่อนผู้ตัดสินให้สัญญาณการเตะและก่อน การกระท�ำผิดกติการวมของทีมเป็นครั้งที่ 6 ภายใต้เงื่อนไขของทีมที่ท�ำการเตะต้องให้คู่ต่อสู้ อยู่ห่างจากระยะที่ร้องขอ ผู้ตัดสินหยุดการเล่นถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น สั่งให้กระท�ำการเตะโทษ และคาดโทษผู้เล่น คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 171


11. ถ้าผู้เล่นท�ำการเตะโทษโดยตรงก่อนที่ผู้ตัดสินให้สัญญาณส�ำหรับการกระท�ำดังนี้ เริ่มด้วยการกระท�ำผิดกติการวม 6 ครั้งของทีม ผู้ตัดสินสั่งให้เตะโทษเพื่อเป็นการลงโทษ และคาดโทษ ผู้เล่นนั้น 12. ถ้าช่องของการต่อเวลาพิเศษออกไป ให้มีการเตะโทษเพื่อเป็นการลงโทษ เริ่มด้วย การกระท�ำผิดกติการวม 6ครั้งและลูกบอลชนกับเสาประตูด้านใดด้านหนึ่ง หรือคานประตูผู้รักษาประตู ก่อนข้ามเส้นประตูระหว่างเสาประตูและคานประตูผู้ตัดสินให้เป็นประตู 13. ถ้าช่วงของการต่อเวลาพิเศษออกไป ให้มีการเตะโทษเพื่อเป็นการลงโทษ เริ่มด้วย การกระท�ำผิดกติการวม 6 ครั้ง ผู้ตัดสินอนุญาตผู้รักษาประตูฝ่ายรับเข้าไปแทนที่ โดยผู้เล่นนอกสนาม หรือตัวส�ำรองที่เหมาะสม รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัว ระยะห่าง 5 เมตร (Distance) ถ้าผู้เล่นตัดสินใจ ที่จะท�ำการเตะโทษอย่างรวดเร็วและคู่ต่อสู้อยู่ห่างจากจุดที่ลูกบอล อยู่ระยะ 5 เมตร ผู้ตัดสินต้องให้การเล่นด�ำเนินต่อไป ถ้าผู้เล่นตัดสินใจที่จะท�ำการเตะโทษอย่างรวดเร็วและคู่ต่อสู้ซึ่งอยู่ใกล้กับลูกบอลอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการเตะโทษ ผู้ตัดสินต้องคาดโทษคู่ต่อสู้ส�ำหรับการชะลอการเริ่มเล่นใหม่ ถ้าขณะที่การเตะโทษโดยผู้เล่นฝ่ายรุก จากภายในเขตโทษของตนเอง คู่ต่อสู้ยังสามารถ อยู่ภายในเขตโทษ เพราะว่าผู้เล่นฝ่ายรุกตัดสินใจที่จะท�ำการเตะโทษอย่างรวดเร็วและคู่ต่อสู้ ไม่มีเวลาออกนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินต้องให้การเล่นได้ด�ำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลออกนอกเขตโทษ โดยปราศจากการสัมผัสผู้เล่นคนอื่นๆ การกระท�ำผิดกติการวม 6 ครั้ง ภายหลังเสียงสัญญาณนกหวีด และก่อนลูกบอลอยู่ในการเล่น การกระทำผิด เป็นประตู ไม่เป็นประตู 1 ผู้เล่นฝ่ายรุก เตะใหม่ โทษโดยอ้อม 2 ผู้เตะเจตนาไม่ทำประตู - โทษโดยอ้อม 3 เตะโดยไม่ระบุผู้เล่น โทษโดยอ้อม โทษโดยอ้อม 4 ผู้เล่นฝ่ายรับ เป็นประตู เตะใหม่ 5 ทั้งสองทีม เตะใหม่ เตะใหม่ ผลของการเตะ ลำดับที่ 172 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


กติกาข้อ 14 การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (The Penalty Kick) ขั้นตอนการด�ำเนินการ 1. การแกล้งวิ่งท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่ต่อสู้สามารถ กระท�ำได้อย่างไรก็ตามการแกล้งหลอกเตะบอล 1 ครั้ง ผู้เล่นได้แกล้งเตะเสร็จถูกพิจารณาเป็น การกระท�ำผิดกติกาข้อ14เพราะเป็นการประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬาซึ่งผู้เล่นต้องถูกคาดโทษ 2. การแกล้งวิ่งท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู ่ต ่อสู้ สามารถกระท�ำได้อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของผู้ตัดสิน การแกล้งหลอกเป็นการประพฤติตน อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา ผู้เล่นต้องถูกคาดโทษ 3. ถ้าลูกบอลแตกภายหลังชนเสาประตูข้างหนึ่งข้างใดหรือคานประตูและเข้าประตู ผู้ตัดสินให้เป็นประตู 4. ถ้าลูกบอลแตก ภายหลังการชนข้างหนึ่งข้างใดหรือคานประตูและไม่เข้าประตูผู้ตัดสิน ไม่ให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ แต่ให้หยุดการเล่น การเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลแตก 5. ถ้าผู้เล ่นกระท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ได้เตะลูกบอลให้ผู้เล ่นฝ ่ายเดียวกัน เพื่อยิงประตูผู้ตัดสินให้เป็นประตูถ้าขั้นตอนการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุ ในกติกาข้อ 14 6. ถ้าผู้ตัดสินสั่งให้มีการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษอีกครั้ง การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษใหม่ สามารถกระท�ำได้โดยผู้เล่นคนอื่น และไม่มีการกระท�ำการเตะโดยผู้เล่นผู้ซึ่งได้เตะเริ่มเล่น 7. ถ้าผู้เตะกระท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินให้สัญญาณ ผู้ตัดสินสั่งให้ เตะโทษ ณ จุดเตะใหม่และคาดโทษ 8. ถ้าช่วงเวลาของการต่อเวลาพิเศษ อนุญาตให้มีการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษและลูกบอล ชนกับเสาประตูด้านหนึ่งด้านใดหรือคานประตูหรือผู้รักษาประตูก่อนข้ามเส้นประตูระหว่างเสาประตู และคานประตูผู้ตัดสินให้เป็นประตู 9. ถ้าช่วงเวลาของการต่อเวลาพิเศษ อนุญาตให้มีการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ผู้ตัดสิน ได้อนุญาตให้ผู้รักษาประตูฝ่ายรับเข้าไปท�ำหน้าที่แทน โดยผู้เล่นที่อยู่ข้างนอกสนามหรือผู้เล่นส�ำรอง ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเปลี่ยนตัว การเตรียมส�ำหรับการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (Preparing for the Penalty Kick) ผู้ตัดสินต้องยืนยันตามความต้องการต่อไปนี้ก่อนมีการกระท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ 1. ระบุผู้เล่นที่ท�ำการเตะ 2. ลูกบอลอยู่ในต�ำแหน่งจุดเตะโทษ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 173


3. ผู้รักษาประตูอยู่ที่เส้นประตูระหว่างเสาประตูและต่อหน้าผู้ท�ำการเตะ 4. ผู้เล่นทีมเดียวกันกับผู้เตะอยู่ที่ 4.1 ภายนอกเขตโทษ 4.2 ห่างจากลูกบอลระยะ 5 เมตร 4.3 อยู่ด้านหลังลูกบอล การกระท�ำผิดกติกา ภายหลังเสียงนกหวีด และก่อนลูกบอลอยู่ในการเล่น (Infringement – after the Whist Before the Ball is in Play) การกระทำผิด เป็นประตู ไม่เป็นประตู 1 การชนผู้เล่น กระทำการเตะโทษใหม่ เตะโทษโดยอ้อม 2 ผู้เตะเตะลูกบอลกลับหลัง เตะโทษโดยอ้อม เตะโทษโดยอ้อม 3 เตะโดยไม่ระบุผู้เล่นให้ชัดเจน เตะโทษโดยอ้อม เตะโทษโดยอ้อม 4 ผู้เล่นเป็นฝ่ายรับ เป็นประตู กระทำการเตะโทษใหม่ 5 ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย กระทำการเตะโทษใหม่ กระทำการเตะโทษใหม่ ผลของการเตะ ลำดับที่ ถ้าผู้เล ่นฝ ่ายรุกหรือผู้เล ่นฝ ่ายรับกระท�ำผิดกติกาต ่อผู้เล ่นฝ ่ายตรงข้ามก ่อนลูกบอล อยู ่ในการเล่น แต่ภายหลังผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใด อนุญาตให้ท�ำการเตะ ถ้าได้ประตูให้นับเป็นประตู และมีการกระท�ำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับให้นับเป็นประตูถ้าการกระท�ำผิดโดยผู้เล่นฝ่ายรุก สั่งให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษใหม่ ถ้าไม่เป็นประตูและมีการกระท�ำผิดโดยผู้เล่นฝ่ายรับ ให้ท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษใหม ่ ถ้ามีการกระท�ำผิดกติกาโดยทีมของผู้เตะ ให้สามารถลงโทษฝ ่ายนั้นด้วย การเตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซึ่งมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) นอกจากนี้ ผู้ตัดสินพิจารณาให้เป็นการกระท�ำผิดระเบียบวินัย 174 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


กติกาข้อ 15 การเตะเข้าเล่น (Kick in) ขั้นตอนการกระท�ำผิดกติกา (Procedures Infringements) ผู้ตัดสินอาจเตือนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ใกล้ลูกบอลกว่าระยะ 5 เมตร จากการเตะเข้าเล่น ซึ่งเป็นความจ�ำเป็น ผู้ตัดสินต้องเตือนผู้เล่นคนอื่น ก่อนการเตะเข้าเล่นและคาดโทษผู้เล่น ถ้าภายหลัง ไม่ถอยห่างไปอยู่ในระยะที่ร้องขอ การเริ่มเล่นโดยการเตะเข้าเล่นและการนับ 4 วินาที ขณะท�ำการเตะเข้าเล่น ผู้เล่นเจตนาเตะบอลไปยังคู่ต่อสู้เมื่อมีการเริ่มเล่นใหม่แต่ไม่มี ลักษณะของการขาดความระมัดระวัง หรือขาดการพิจารณาไตร่ตรองยั้งคิดหรือไม่มีความรุนแรง เกินกว่าเหตุผู้ตัดสินต้องอนุญาตให้การเล่นด�ำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลเข้าประตูฝ ่ายตรงข้ามโดยตรงจากการเตะเข้าเล ่น ผู้ตัดสินต้องให้เล ่นลูก จากผู้รักษาประตูผู้เตะ ถ้าลูกบอลเข้าประตูของผู้เตะเองโดยตรงจากการเตะเข้าเล่น ผู้ตัดสิน ต้องให้เป็นการเตะจากมุม ถ้าลูกบอลไม่เข้าไปในสนามแข่งขัน ฝ่ายที่กระท�ำผิดท�ำการเตะเข้าเล่นอีกครั้งจากต�ำแหน่งเดิม ภายใต้เงื่อนไขการเตะเข้าเล่นอีกครั้งและเป็นไปตามข้อตกลงด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่ยังคงนับ 4วินาที ต่อเนื่องจากการหยุดเล่นของฝ่ายที่ท�ำการเตะเข้าเล่น เมื่อท�ำการเตะเข้าเล่นใหม่ ถ้าไม่มีการกระท�ำ ที่เป็นตามข้อตกลง โดยขั้นตอนที่ถูกต้อง ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องท�ำการเตะ ถ้าผู้รักษาประตูเคลื่อนที่ขณะท�ำการเตะ ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดหยุดการเล่นภายนอกสนาม ฝ่ายตรงข้ามอาจจะท�ำการเตะเข้าเล่นอย่างรวดเร็ว ถ้าการเตะเข้าเล่นกระท�ำไม่ถูกต้อง ผู้ตัดสินไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น นอกจากลูกบอลไปยังคู่ต่อสู้แต่อาจจะให้ฝ่ายตรงข้ามท�ำการเตะเข้าเล่นใหม่ กติกาข้อ 16 การเตะลูกบอลจากผู้รักษาประตู (The Goal Clearance) ขั้นตอนการกระท�ำผิดกติกา (Procedures Infringements) ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่ลูกบอลอยู่ในการเล่นและมีการกระท�ำผิด กติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับ เป็นประตูที่ชัดเจนจากการเตะเข้าเล่นและผู้เล่นฝ่ายรับอาจจะถูกลงโทษ หรือถูกไล่ออกขึ้นอยู่กับการกระท�ำผิด เมื่อมีการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูการเตะใหม่โดยผู้รักษาประตูถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม อยู่ในเขตโทษ เพราะว่าผู้รักษาประตูตัดสินใจเตะอย่างรวดเร็วและฝ่ายตรงข้ามไม่มีเวลาออกนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินต้องให้การเล่นด�ำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลออกจากเขตโทษโดยตรง ไม่ได้สัมผัสกับ ผู้เล่นคนอื่นๆ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 175


ในขณะที่มีการนับ การเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูถ้าผู้รักษาประตูเจตนาโยนลูกบอล ไปยังฝ่ายตรงข้ามที่อยู่นอกเขตโทษ แต่ไม่มีลักษณะที่ขาดความระมัดระวัง หรือขาดการไตร่ตรองยั้งคิด หรือไม่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุผู้ตัดสินให้เล่นต่อไป เมื่อมีการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูถ้าผู้รักษาประตูไม่ปล่อยลูกบอลภายในเขตโทษ ของตนเอง ผู้ตัดสินสั่งให้เป็นประตูที่ชัดเจน ในการเตะเข้าเล่นใหม่ ถึงแม้ว่าการนับ 4 วินาทียังคง ต่อเนื่องไปจากที่ซึ่งการหยุดไปครั้งหนึ่งของผู้รักษาประตูเพื่อท�ำการเตะอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ตัดสินเริ่มนับ 4 วินาทีไม่มีความจ�ำเป็นที่ผู้รักษาประตูจะถือลูกบอลอยู่ในมือ ถ้าผู้รักษาประตูก�ำลังเคลื่อนที่ในการเล่น ภายนอกประตูของตนหรือผู้เล่นคนอื่นภายนอก สนามแข่งขัน ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม อาจจะท�ำเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูอย่างรวดเร็ว ถ้าผู้รักษาประตูกระท�ำการเล ่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูและลูกบอลข้ามไปยัง เส้นประตู โดยไม่ได้ออกนอกเขตโทษในครั้งแรก ผู้ตัดสินสั่งให้เล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูใหม่ แต่ยังนับเป็น 4 วินาทีต่อเนื่องจากที่ซึ่งผู้รักษาประตูได้หยุด ก่อนการกระท�ำการเล่นอีกครั้ง ในขณะที่ท�ำการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูถ้าลูกบอลชนผู้รักษาประตูคนหนึ่งคนใด ภายในเขตโทษ โดยไม ่ได้ออกภายเขตโทษในครั้งแรกและกลับเข้าไปในสนามแข ่งขันอีก ผู้ตัดสินไม่ต้องปฏิบัติอะไร ขั้นตอนการกระท�ำผิดกติกา (Procedures Infringements) ผู้ตัดสินต้องเตือนผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ให้อยู่ห่างจากส่วนโค้งของมุมอย่างน้อย 5 เมตร จนกว่าลูกบอลจะอยู่ในการเล่น เป็นสิ่งที่เป็นผู้ตัดสินจะต้องเตือนผู้เล่นเกี่ยวกับระยะ 5 เมตร ที่มีการเตะจากมุม และคาดโทษภายหลังที่เขาไม่ถอยไปอยู่ในระยะที่ถูกต้อง ในขณะที่มีการเตะจากมุมที่ถูกต้อง ผู้เล่นเจตนาเตะบอลใส่คู่ต่อสู้เพื่อจะเล่นลูกบอลนั้นอีก แต่ไม่มีลักษณะขาดความระมัดระวัง หรือขาดการไตร่ตรองยั้งคิดหรือไม่เป็นการกระท�ำที่รุนแรง เกินกว่าเหตุผู้ตัดสินต้องให้การเล่นด�ำเนินต่อไป ลูกบอลต้องอยู่ในต�ำแหน่งภายในส่วนโค้งของมุมและอยู่ในการเล่นในขณะที่การเตะลูกบอล ไม่จ�ำเป็นต้องออกจากส่วนโค้งของมุม เมื่อเข้าสู่การเล่น ถ้าผู้รักษาประตูก�ำลังเคลื่อนที่ไปในการเล่นหยุดภายนอกเขตประตูของเขาหรือผู้เล่น คนอื่นๆ หยุด ภายนอกสนามแข่งขัน ผู้เล่นอาจจะท�ำการเตะจากมุมอย่างรวดเร็ว 176 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


กติกาข้อ 17 การเตะจากมุม (The Corner Kick) การต่อเวลาพิเศษ (Extra Time) ขั้นตอน (Procedure) 1. ช่วงของการต่อเวลาพิเศษ อาจจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน (อาจจะไม่มีก็ได้) 2. ถ้าผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองอาจจะถูกคาดโทษหรือไล่ออก ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ 3. การกระท�ำผิดกติการวมในช่วงของต่อเวลาพิเศษ จะนับจากครึ่งเวลาหลังของการแข่งขัน 4. ในช ่วงของการต ่อเวลาพิเศษ ไม ่มีการขอเวลาภายนอก ยกเว้นไม ่มีการขอเวลา ในช่วงครึ่งเวลา การเตะจากจุดโทษ (Kick From the Penalty Mark) ขั้นตอน (Procedure) 1. การเตะจากจุดโทษ อาจจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน 2. พื้นที่เขตโทษ ซึ่งเตะจากจุดโทษที่ท�ำการเตะอาจจะถูกเปลี่ยน ถ้าประตูหรือพื้นผิว ไม่เหมาะสมหรือด้วยเหตุผลของความปลอดภัย 3. ผู้เล่นที่จะท�ำเตะจากจุดโทษ เพียงครั้งเดียว เป็นขั้นตอนที่ไม่มีการเตะตามรอบแรก ของการเตะ 4. แต่ละทีมมีหน้าที่คัดเลือกผู้เล่นที่ท�ำการเตะจากจุดโทษ จากจุดของผู้เล่นและผู้เล่นส�ำรอง และเป็นไปตามล�ำดับ ผู้ที่จะกระท�ำการเตะต้องแจ้งผู้ตัดสินที่ 3 ก่อนการเตะ 5. ข้อยกเว้น กรณีพิเศษส�ำหรับผู้รักษาประตูเตะได้1 ครั้ง จากจุดเตะโทษที่มีการเริ่มเตะ ผู้เล่นที่บาดเจ็บอาจไม่ถูกเปลี่ยนด้วยผู้เล่นคนอื่นที่ไม่เหมาะสม (ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม) 6. ถ้าผู้รักษาประตูถูกไล ่ออกระหว ่างการเตะจากจุดโทษ เขาอาจจะถูกเปลี่ยนตัว โดยผู้เล่นคนอื่นที่มีความเหมาะสม แต่ไม่ถูกเปลี่ยนโดยผู้รักษาประตูคนอื่น ถ้าเขาถูกให้ออกจาก การเตะจุดโทษ 7. ผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองอาจจะถูกคาดโทษหรือไล่ออกระหว่างการเตะจากจุดโทษ 8. ผู้ตัดสินต้องไม่ปล่อยให้ล�ำดับการเตะจากจุดโทษ ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกลดจ�ำนวน ผู้เล่นลงน้อยกว่า 3 คนระหว่างการเตะจากจุดเตะโทษ 9. ถ้าผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหรือถูกไล่ออกระหว่างการท�ำการเตะจากจุดโทษและผู้เล่นทีมหนึ่ง มีจ�ำนวนน้อยกว่าอยู่1 คน ต้องลดจ�ำนวนผู้เล่น ในการเตะอีกทีมหนึ่ง 10. จ�ำนวนของผู้เล่นแต่ละทีมต้องเท่ากัน แต่ละทีมจึงจะเริ่มให้มีการเตะจากจุดโทษ 11. ถ้าลูกบอลชนเสาประตูข้างหนึ่งข้างใด หรือคานประตูหรือผู้รักษาประตูก่อนข้ามเส้นประตู ที่อยู่ระหว่างเสาประตูและคานประตูผู้ตัดสินให้นับเป็นประตู คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 177


12. ถ้าลูกบอลแตกหรือช�ำรุดหลังจากชนเสาประตูข้างหนึ่งข้างใดหรือคานประตูและเข้าไป ในประตูผู้ตัดสินให้นับเป็นประตู 13. ถ้าลูกบอลแตกหรือช�ำรุด หลังจากชนเสาประตูข้างหนึ่งข้างใดหรือคานประตูและไม่เข้าไป ในประตูผู้ตัดสินไม่สั่งให้มีการเตะจากจุดโทษใหม่ เพราะการเตะโทษได้ท�ำการเตะไปแล้ว 14. ถ้าระเบียบการแข่งขันให้มีการเตะจากจุดโทษ เพื่อพิจารณาหาผู้ชนะของการแข่งขัน หรือกฎของทีมเหย้าหรือทีมเยือนและทีมปฏิเสธที่กระท�ำเช่นนั้นผู้ตัดสินเขียนรายงานเหตุการณ์ ต่อผู้มีอ�ำนาจหน้าที่ (ผู้ที่รับมอบหมายแต่งตั้ง) 15. ถ้าก่อนการเริ่มเตะจากจุดโทษ ผู้เล่น 1 คนหรือมากกว่า ออกจากสนามแข่งขัน หรือปฏิเสธการเตะโทษจากจุดโทษ เพียงครั้งเดียวที่มีการเตะแล้วและไม่ได้รับบาดเจ็บผู้ตัดสินลงโทษ การกระท�ำการเตะจากจุดโทษและแจ้งให้ผู้ที่มีอ�ำนาจหน้าที่ (ผู้ที่ได้รับมอบหมายแต่งตั้ง) 16. ระหว่างกระท�ำการเตะจากจุดโทษ ผู้ตัดสินไม่ควรอนุญาตให้มีกล้องหรือสิ่งอื่นๆ อยู่บนสนามแข่งขัน 178 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


การฝึกสอนเทคนิค และยุทธวิธีการเล่นกีฬาฟุตซอล เทคนิคการเล่นกีฬาฟุตซอล หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการใช้ส่วนต่างๆ ของ ร่างกายจัดการหรือบังคับควบคุมลูกบอลได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามที่ต้องการไม่ว่าจะอยู่กับที่ หรือในขณะที่เคลื่อนที่ ซึ่งมีองค์ประกอบการฝึกสอนดังนี้ 1. การเลี้ยงลูกบอล หมายถึง การน�ำพาหรือการที่ผู้เล่นเคลื่อนที่ไปพร้อมกับลูกบอล โดยใช้ส่วนหนึ่งส่วนใด ของเท้าสัมผัสส่วนหนึ่งส่วนใดของลูกบอลให้เคลื่อนที่ไปบนพื้นของสนาม จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับ จุดมุ่งหมายและต�ำแหน่งของคู่ต่อสู้ในสถานการณ์ต่างๆ ความส�ำคัญของการเลี้ยงลูกบอล การเลี้ยงลูกบอลเป็นเทคนิควิธีการเล่น การสัมผัสบังคับลูกบอลขณะเดียวกันก็ต้องใช้ ทักษะการเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ของร่างกายมาผสมผสานเป็นลีลาของผู้เล่นที่แสดงออกเหมือนเป็นศิลปะ โดยมีจุดมุ่งหมายของการเลี้ยง คือ 1. การเลี้ยงเพื่อการครอบครองลูกบอล 2. การเลี้ยงเพื่อหลบหรือหลอกล่อคู่ต่อสู้ 3. การเลี้ยงเพื่อไปสู่พื้นที่ว่าง การจะใช้วิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับเหตุและผลที่จะท�ำให้บรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง ถ้าผู้เล่น มีความช�ำนาญในการเลี้ยงลูกบอล รู้และเข้าใจในเหตุและผลของการเลี้ยงลูกบอลแต่ละอย่างแล้ว ก็จะใช้วิธีการได้อย่างถูกต้องท�ำให้ได้เปรียบในการเล่น และที่ส�ำคัญผู้เล่นควรที่จะฝึกให้ท�ำได้ดีทั้งสองเท้า ปัจจัยพื้นฐานในการเลี้ยงลูกบอล - ต้องมีเทคนิคในการสัมผัสลูกบอลที่ดี - มีทักษะเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ที่ถูกต้อง - มีการประสานสัมพันธ์ระหว่างระบบประสาทกับระบบกล้ามเนื้อที่ดี - มีความว่องไว รวดเร็วในการเคลื่อนที่ - มีความรู้และเข้าใจในยุทธวิธีการเล่นเฉพาะบุคคล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 179


ชนิดของการเลี้ยงลูกบอล - การเลี้ยงหรือการพาลูกบอลด้วยฝ่าเท้า - การเลี้ยงลูกบอลด้วยหลังเท้า - การเลี้ยงหรือพาลูกบอลด้วยข้างเท้าด้านนอก - การเลี้ยงหรือพาลูกบอลด้วยข้างเท้าด้านใน 2. การส่งลูกบอล หมายถึง การใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของเท้าไปกระทบกับลูกบอล โดยมีการส่งแรง จากสะโพกเพื่อให้ลูกบอลเคลื่อนที่ไปเป้าหมายในทิศทางที่ต้องการ ด้วยการสัมผัสถูกที่ส่วนต่างๆ ของลูกบอล ความส�ำคัญของการส่งลูกบอล การส่งเป็นเทคนิคการจัดการกับลูกบอล เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการอย่างรวดเร็ว กีฬาฟุตซอลเป็นกีฬาที่ใช้เท้าเพื่อการเล่น ดังนั้น จึงควรฝึกการใช้เท้าส่งลูกบอลให้ได้ในทุกส่วน ของทั้งสองเท้า ชนิดของการส่งลูกบอลด้วยเท้า - การส่งด้วยฝ่าเท้า - การส่งด้วยหัวรองเท้า - การส่งด้วยหลังเท้า - การส่งด้วยข้างเท้าด้านใน - การส่งด้วยข้างเท้าด้านนอก - การส่งด้วยส้นเท้า การเลี้ยงลูกบอล 180 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการส่งลูกบอล - เท้าหลักในการยืน - เท้าที่ใช้ส่งลูกบอล (ลักษณะที่จะกระทบลูกบอล) - การเหวี่ยงและการส่งแรง จุดส�ำคัญในการส่งลูกบอล - ความแน่นอน แม่นย�ำ - การให้น�้ำหนักหรือใช้แรงกระทบส่งผ่านลูกบอล - การสัมผัสหรือกระแทกลูกบอล (จุดกระทบขึ้นอยู่กับเป้าหมาย) - การทรงตัว การเหวี่ยงขาเพื่อส่งแรง - การมองเห็นเป้าหมายและเน้นมองที่ลูกบอลขณะที่ส่ง - ใช้ได้ทั้งสองเท้า 3. การรับลูกบอล หมายถึง การที่ผู้เล่นใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายสัมผัสลูกบอลเพื่อที่จะให้ลูกบอลหยุด หรือควบคุมเพื่อที่จะเล่นต่อเนื่อง ยกเว้นการใช้มือและแขนส�ำหรับผู้เล่น (ผู้รักษาประตูใช้มือ และแขนได้) การส่งลูกบอล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 181


ความส�ำคัญของการรับลูกบอล การรับลูกบอล เป็นวิธีการหนึ่งซึ่งถ้าผู้เล่นปฏิบัติได้อย่างดีจะส่งผลต่อการเล่นให้ได้เปรียบ เหนือคู่ต่อสู้ จากการส่งต่อให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูหรือเลี้ยงลูกบอลในลักษณะต่างๆ ด้วยตัวเอง การรับลูกบอลจะไม่ใช้แรงเข้าปะทะลูกบอล - ก่อนจะรับต้องมองเห็นต�ำแหน่งรอบๆ ตัว - ส่วนที่จะใช้รับลูกบอลต้องเป็นแนวเดียวกับลูกบอล - ไม่ใช้แรงปะทะผ่านส่วนที่จะรับลูกบอล (ปฏิบัติตรงข้ามกับการส่ง) - ลูกบอลต้องอยู่ด้านหน้าภายใต้การครอบครองที่จะเล่นต่อได้ - ก่อนจะรับลูกบอลควรเคลื่อนไหวเคลื่อนที่หลอกล่อหรือเพื่อตรวจสอบต�ำแหน่ง ของคู่ต่อสู้ก่อนทุกครั้ง ชนิดของการรับลูกบอล 1. การรับลูกบอลที่กลิ้งเรียดมากับพื้นด้วย - ฝ่าเท้า - ข้างเท้าด้านใน - ข้างเท้าด้านนอก - หลังเท้า การรับลูกบอลที่เรียดมากับพื้น 182 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


3. การรับลูกบอลที่กระดอนจากพื้นด้วย (Half-Volley) - ฝ่าเท้า - ข้างเท้าด้านใน - ข้างเท้าด้านนอก - หน้าแข้ง - หน้าท้อง 4. การโหม่งลูกบอล หมายถึง การใช้ศีรษะบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นส่วนที่แข็งที่สุดสัมผัสหรือปะทะลูกบอล เพื่อการส่ง การท�ำประตูหรือเพื่อการป้องกันโดยใช้แรงจากร่างกายผ่านส่วนของหน้าผากเข้าปะทะ แต่ละส่วนของลูกบอลเพื่อให้ลูกบอลพุ่งไปในระดับและทิศทางที่ต้องการ 2. การรับลูกบอลที่ลอยมาในอากาศ (Volley) ด้วย - หลังเท้า - หน้าอก - หน้าขา - ข้างเท้าด้านใน - ข้างเท้าด้านนอก - ศีรษะ การรับลูกบอลที่ลอยมากลางอากาศ การรับลูกบอลที่กระดอนพื้น คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 183


ความส�ำคัญของการโหม่งลูกบอล เป็นเทคนิคแบบหนึ่งที่ผู้เล่นจะใช้เพื่อความได้เปรียบขณะที่ลูกบอลลอยอยู่ในอากาศ และเป็นผลมาจากข้อกติกาการเล่น ซึ่งมีข้อก�ำหนดในการยกเท้าสูงในการเล่น ใช้เพื่อการส่ง การป้องกัน และหรือการท�ำประตู ถึงแม้ว่าในการเล่นกีฬาฟุตซอลจะใช้น้อยมากแต่ก็ต้องฝึกผู้เล่นให้มีความช�ำนาญ ในเทคนิคการโหม่งลูกบอล เพื่อความได้เปรียบในทุกสถานการณ์การเล่น - ตาต้องมองที่ลูกบอลขณะที่จะโหม่ง - เอนตัวส่วนบนไปด้านหลังเพื่อเพิ่มแรงและจังหวะ - ส่วนของล�ำคอต้องแข็งแรงขณะที่โหม่ง - ดีดตัวกลับมาใช้หน้าผากปะทะที่ลูกบอล - จุดสัมผัสอยู่ตรงกลางลูกบอลเพื่อส่งผ่านแรง หรือ - เหนือเส้นสมมุติกลางลูกเฉียงลงพื้นเพื่อการท�ำประตู หรือ - ปะทะส่วนใต้ลูกบอลเพื่อให้ลอยโด่งเพื่อป้องกัน ชนิดของการโหม่งลูกบอล - การโหม่งเพื่อป้องกัน - การโหม่งเพื่อการส่ง - การโหม่งเพื่อการท�ำประตู 5. การยิงประตู หมายถึง การส่งลูกบอลเข้าสู่ประตูคู่แข่งขันหรือฝ่ายตรงข้ามด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตามข้อก�ำหนดของกฎกติกาการเล่น ความส�ำคัญของการยิงประตู ผลของการยิงประตูน�ำไปสู่ชัยชนะของทีม การยิงประตูสามารถกระท�ำได้ทั้งลูกบอล ที่มาเรียดกับพื้นหรือลูกบอลที่วางนิ่งกับพื้น ลูกบอลที่ลอยมาระดับล�ำตัวหรือกระดอนจากพื้น และลูกบอลที่ลอยสูงกว่าล�ำตัว การจะใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเพื่อการท�ำประตูขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ จังหวะและโอกาสที่เป็นปัจจัยสนับสนุน ผู้ฝึกสอนต้องจัดการฝึกให้ผู้เล่นปฏิบัติ จนเกิดเป็นปฏิกิริยาที่ฉับพลันมีความแม่นย�ำและเต็มไปด้วยพลังในการยิงประตู การโหม่งลูกบอล 184 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ชนิดของการยิงประตู ใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่นเดียวกับการส่งและรับลูกบอล โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จังหวะ และโอกาสว่าจะใช้ส่วนใดในการยิงประตูจึงจะดีที่สุดในขณะนั้น ส่วนส�ำคัญของการยิงประตู - ความแม่นย�ำ - ความเร็วและความแรง - ตามองเห็นเป้าหมายและมองเน้นที่ลูกบอล ขณะที่ยิงประตู - ยิงประตูได้ทุกจังหวะและโอกาสที่มี - ความเป็นอัตโนมัติหรือสัญชาตญาณในสถานการณ์ 6. การฝึกเป็นผู้รักษาประตู เป็นต�ำแหน่งพิเศษเพราะสามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายทั้งแขนและมือตลอดจนการล้ม หรือพุ่งตัวเพื่อการป้องกันหรือหยุดลูกบอลไม่ให้เข้าประตู ซึ่งนอกจากต้องฝึกเป็นผู้รักษาประตูแล้ว ยังต้องฝึกพิเศษเพิ่มเติมอีกคือ เทคนิคและยุทธวิธีการเล่นเช่นเดียวกับผู้เล่นในสนามอีกด้วย ส่วนส�ำคัญของการเป็นผู้รักษาประตู ต้องใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย เพื่อหยุดและป้องกันลูกบอลไม่ให้ผ่านเข้าประตูในสถานการณ์ ที่ป้องกันและจ่ายลูกบอลและหรือการใช้เทคนิคของผู้เล่นเพื่อส่งลูกบอลพาลูกบอลไปยิงประตู ในสถานการณ์ที่ทีมเป็นฝ่ายรุก สิ่งที่เกี่ยวข้อง - การรับลูกบอล - การคว้าลูกบอล - การปัดลูกบอล - การพุ่งตัวเพื่อป้องกัน - การเปิดหรือจ่ายลูกบอล การยิงประตู การฝึกผู้รักษาประตู คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 185


คุณลักษณะของผู้รักษาประตู เนื่องจากเป็นต�ำแหน่งพิเศษที่บางสถานการณ์ต้องเสี่ยงกับการบาดเจ็บ ในการฝึกซ้อม จึงต้องทุ่มเทและเสียสละ เพราะนอกจากการฝึกเป็นผู้รักษาประตูแล้วยังต้องฝึกเป็นผู้เล่นต้องเรียนรู้ เทคนิคและยุทธวิธีของผู้เล่นอีกด้วย คุณลักษณะส�ำคัญคือ - ต้องมีความกล้าหาญ - ต้องมีการตัดสินใจที่ดี - ต้องรู้วิธีสื่อสารและสื่อสารได้เป็นอย่างดี - มีจิตใจและสมาธิมั่นคง - มีการคาดคะเนหรือการคิดล่วงหน้าเป็น - ต้องรู้แบบแผนและวิธีการเล่น เพื่อเล่นและ หรือเพื่อจัดการแต่ละสถานการณ์ การฝึกสอนยุทธวิธีการเล่นกีฬาฟุตซอล ยุทธวิธีการเล่นกีฬาฟุตซอล หมายถึง วิธีการเล่นที่เกิดจากความคิดที่จะเล่นให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ในแต่ละสถานการณ์ โดยใช้ไหวพริบ สติปัญญาเป็นตัวก�ำหนดวิธีการและใช้เทคนิคทักษะของผู้เล่นเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนด้วย สมรรถภาพทางกายของผู้เล่น ขอบข่ายของยุทธวิธีการเล่น - ยุทธวิธีการรุก - ยุทธวิธีการป้องกัน จุดส�ำคัญ 1. ยุทธวิธีเฉพาะบุคคล เมื่อเป็นฝ่ายรุก - ต้องเป็นฝ่ายครอบครองลูกบอล - ใช้การเลี้ยงหรือพาลูกบอลสู่ประตูฝ่ายตรงข้าม - สร้างโอกาสและจังหวะในการเล่นด้วยการหลอกคู่ต่อสู้ - ใช้หลักการเล่นในส่วนกว้างและส่วนลึกในการรุก - ท�ำให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยจบการรุกด้วยการยิงประตู การป้องกันของผู้รักษาประตู 186 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


เมื่อใดก็ตามที่เป็นฝ่ายครอบครองลูกบอลต้องเล่นเพื่อการรุกทันที ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ ยุทธวิธีการคิดและตัดสินใจปฏิบัติทันที โดยเป็นหน้าที่ของผู้ฝึกสอนที่ต้องให้หรือสร้างยุทธวิธี ในการคิดให้กับผู้เล่นไว้เบื้องต้น คือสิ่งแรกต้องคิดถึงส่วนลึกก่อนและเล่นให้เร็ว จะด้วย การยิงประตูทันทีถ้าโอกาสและจังหวะอ�ำนวยหรือใช้วิธีการเลี้ยง หรือพาลูกบอลรุกเจาะเข้าไป ท�ำประตู ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคิด การตัดสินใจ โดยเกิดมาจากเหตุและผลที่เป็น ข้อมูล ซึ่งได้รับจากการฝึกซ�้ำแล้วซ�้ำอีก เมื่อไม่มีโอกาสและจังหวะถ้าคู่ต่อสู้เข้าแย่งลูกบอลใช้วิธี การก�ำบังลูกบอล เพื่อสร้างโอกาสใหม่ในกรณีที่คู่ต่อสู้อยู่ใกล้ แต่ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ห่างมีระยะพื้นที่มากพอ ต้องใช้วิธีการหลอกล่อ โดยการใช้เทคนิคแบบต่างๆหรือใช้อุบายด้วยการสร้างพื้นที่เพื่อการเล่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต�ำแหน่งของคู่ต่อสู้ การกำ บังลูกบอล ยุทธวิธีการเล่นเฉพาะบุคคล (รุก) สะบัดลูกบอลข้ามหัว หมุน 360 องศา Pull Spin ยกลูกบอล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 187


เมื่อใดก็ตามที่คู่ต่อสู้ครอบครองลูกบอล การป้องกันจะเริ่มขึ้น ยุทธวิธีการคิด หรือ กระบวนการทางความคิดที่จะเล่นเพื่อการป้องกันต้องเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทันที สิ่งแรกคือ ต้องกลับมาหลังแนวลูกบอลให้เร็วที่สุดให้คู่ต่อสู้อยู่ด้านหน้า ขัดขวางการรุกมาข้างหน้าด้วยการขวาง การรุก ต�ำแหน่งที่ขัดขวางต้องเป็นแนวเดียวกับคู่ต่อสู้ที่ครองลูกบอลซึ่งอยู่ด้านหน้า โดยด้านหลัง เป็นประตูที่ป้องกัน (Inner line) สร้างโอกาสโดยการท�ำท่าจะเข้าแย่งเพื่อกดดันคู่ต่อสู้ รอโอกาส และจังหวะที่ลูกบอลห่างเท้าคู่ต่อสู้หรือคู่ต่อสู้เสียการควบคุมจึงเข้าแย่ง ใช้หัวรองเท้าให้เกิด ประโยชน์ให้มากในการป้องกันด้วยการ “จิ้มที่ลูกบอล” บ่อยๆ พยายามให้คู่ต่อสู้พาลูกบอลไปเล่นที่ เส้นข้างเพื่อเป็นการจ�ำกัดพื้นที่การเล่นใช้ข้อกติกาการเล่นมาช่วย 2. ยุทธวิธีเฉพาะบุคคล เมื่อเป็นฝ่ายป้องกัน - เมื่อเป็นฝ่ายป้องกันต้องอยู่หลังแนวลูกบอล - ต้องอยู่ระหว่างคู่ต่อสู้กับประตูทีมตนเอง - พยายามแย่งลูกบอลกลับคืนมา - ยับยั้ง ขัดขวางการรุกของคู่ต่อสู้ - ท�ำให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่าให้คู่ต่อสู้มีโอกาสยิงประตู - ต้องมีความมั่นใจ อดทน รอจังหวะ และโอกาส - ไม่เล่นผิดกติกา ยุทธวิธีการป้องกัน 188 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


ไม่ว่าในขณะนั้นจะด�ำเนินยุทธวิธีการเล่นแบบใดอยู่ก็ตามสิ่งที่เป็นกุญแจส�ำคัญ ของการเดินยุทธวิธีก็คือ ความอดทนในสถานการณ์นั้นๆ ถ้าการหลอกล่อครั้งแรกไม่ได้ผล ยังต้องท�ำซ�้ำอีก จะแบบเดิมหรือเปลี่ยนแบบก็แล้วแต่เพราะมีผลทางด้านจิตวิทยาต่อคู่ต่อสู้ และต้องรักษาการครอบครองลูกบอลไว้ให้ได้ถ้าเป็นฝ่ายป้องกันความไม่อดทนกับสถานการณ์ จะก่อให้เกิดการกระท�ำผิดกติกาขึ้นซึ่งเป็นผลเสียจะเกิดตามมา คือ การถูกคาดโทษด้วยใบเหลือง หรือการลงโทษด้วยใบแดงจากผู้ตัดสินการเสียฟาล์วในระยะต่างๆ เป็นการให้โอกาสคู่ต่อสู้ใน การท�ำประตูอีกด้วย คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 189


ระบบการเล่น เป็นแค่กรอบที่ก�ำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้เล่นแต่ละคน ซึ่งมีความสามารถ ที่แตกต่างกันเพื่อให้การปฏิบัติบรรลุวัตถุประสงค์ บทบาทหน้าที่จะไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว ส�ำหรับผู้เล่น เป็นแต่เพียงแนวทางปฏิบัติของผู้เล่นแต่ละคนที่จะปฏิบัติในระหว่างเกมเท่านั้น เพราะโดยความเป็นจริงของกีฬาฟุตซอล ผู้เล่นจะมีการเคลื่อนที่เพื่อเปลี่ยนต�ำแหน่งการเล่น เกือบตลอดเวลา ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการเล่นทุกระบบและรูปแบบการป้องกัน ในภาพรวมของทุกแบบเป็นฐานข้อมูลเพื่อการฝึกก่อน ระบบการเล่น (System) ระบบการเล่นกีฬาฟุตซอล • ระบบการเล่นแบบ 2-2 (Square) • ระบบการเล่นแบบ 1-3 • ระบบการเล่นแบบ 2-1-1 (L) • ระบบการเล่นแบบ 3-1 • ระบบการเล่นแบบ 1-2-1 (Diamond) • ระบบการเล่นแบบ 4-0 ระบบและรูปแบบ การเล่นกีฬาฟุตซอล 190 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


1. ระบบการเล่นแบบ 2-2 (Square) เป็นระบบที่บันทึกไว้ว่าเป็นระบบแรกที่ใช้เล่นกัน เป็นระบบที่แบ่งต�ำแหน่งหน้าที่ชัดเจน ในการเล่น คือ มีผู้เล่น 2 คน ท�ำหน้าที่รุกอยู่ในแดนหน้าเป็นหลัก และผู้เล่นอีก 2 คน ท�ำหน้าที่ป้องกัน อยู่ในแดนตนเองเป็นวิธีการเล่นที่ผู้เล่นไม่ค่อยช่วยเหลือกันมากนักในระหว่างรุก กับการป้องกัน ผู้เล่นที่เล่นระบบนี้ต้องมีความสามารถในการเล่นในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 เป็นอย่างดี เพราะโดยวิธี ของระบบนี้ผู้เล่นจะต้องเจอกับสถานการณ์การเล่น 1 ต่อ 1 ตลอดเวลา 2. ระบบการเล่นแบบ 1-3 ระบบการเล่นแบบ 2-2 (Square) ระบบการเล่นแบบ 1-3 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 191


เป็นระบบการเล่นที่มีผู้เล่นท�ำหน้าที่ป้องกัน 1 คน อยู่ในแดนตัวเองและมีผู้เล่น ท�ำหน้าที่รุกเป็นหลักอยู่แดนหน้า 3 คน เป็นวิธีการเล่นมีลักษณะที่ทีมฝ่ายตามหรือต้องการ ชัยชนะเพราะเน้นการรุกมากกว่า ผู้เล่นแดนหลังจะท�ำหน้าที่สนับสนุนโดยใช้การส่งลูกบอล ให้ผู้เล่นแดนหน้าและผู้เล่นแดนหน้าจะใช้ยุทธวิธีการเล่นด้วยความสัมพันธ์ที่ดีของกลุ่ม ใช้การเล่น “ชิ่ง” ลูกบอลเข้าท�ำประตู 3. ระบบการเล่นแบบ 2-1-1 (L) เป็นผลมาจากระบบการเล่นแบบ 3-1 ซึ่งใช้ผู้เล่นหนึ่งคนเล่นอยู่ระหว่างผู้เล่นป้องกัน 2 คน แดนหลังกับผู้เล่นที่ท�ำหน้าที่รุกอยู่แดนหน้า 1 คน เป็นตัวเชื่อมระหว่างหลังกับหน้า เมื่อทีม เป็นฝ่ายรุก จะสนับสนุนผู้เล่นรุกที่เรียกว่า “ตัวเป้า” และเมื่อเป็นฝ่ายป้องกันจะท�ำหน้าที่หยุด การรุกเร็ว ของคู่ต่อสู้ก่อนที่จะถึงผู้เล่นที่ท�ำหน้าที่ป้องกัน บางครั้งเรียกวิธีการเล่นแบบนี้ว่า ระบบตัวแอล (L) ระบบการเล่นแบบ 2-1-1 (L) 192 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate


4. ระบบการเล่นแบบ 3-1 ระบบนี้ก�ำหนดต�ำแหน่งหน้าที่ให้ผู้เล่นเล่นอยู่ในแดนหลัง 3 คน มีผู้เล่นรุกท�ำหน้าที่ “ตัวเป้า” รุกร้อยเปอร์เซ็นต์ 1 คน ในแดนหน้า และจะท�ำหน้าที่เปิดพื้นที่ว่างด้านใดด้านหนึ่ง โดยการเคลื่อนที่ไปสู่ด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้พื้นที่ด้านตรงข้ามว่างและเพื่อให้ผู้เล่นจากด้านหลัง รุกสู่ที่ว่างมาแทนที่เป็นการเล่นที่ต้องใช้ความสัมพันธ์ที่ดีของผู้เล่นและความแม่นย�ำในจังหวะการเล่น 5. ระบบการเล่นแบบ 1-2-1 (Diamond) ระบบการเล่นแบบ 1-2-1 (Diamond) ระบบการเล่นแบบ 3-1 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 193


Click to View FlipBook Version