The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษษและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษษปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cholthicha, 2021-10-28 07:40:15

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษษและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษษปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษษและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษษปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD

รหัสวิชา พ12101 รายวิชา สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ความปลอดภัยในชีวิต เวลา 8 ชั่วโมง
เรอื่ ง สัญลกั ษณแ์ ละป้ายเตือน เวลา 2 ชวั่ โมง
ผสู้ อน นางสาวชลธชิ า โยวะ สอนวนั ท…ี่ …..เดอื น………………
พ.ศ…………

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
สญั ลักษณ์และปา้ ยเตือน มีไว้สำหรบั แจง้ ใหท้ ราบถึงอันตรายและวธิ กี ารปฏิบัติทถ่ี ูกตอ้ ง

ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตวั ชวี้ ดั
ป.2 ปฏิบตั ติ นตามสัญลักษณแ์ ละป้ายเตือนของส่ิงของหรือสถานท่ที เี่ ป็นอันตราย
2.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- บอกความหมายของสัญลักษณ์และปา้ ยเตือนได้

สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

• สญั ลักษณแ์ ละป้ายเตือนของสิง่ ของหรือสถานที่ที่เปน็ อนั ตราย
- ความหมายของสญั ลกั ษณ์และป้ายเตือน

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการสังเกต
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผิดชอบ

กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ สี อนโดยใช้ กรณตี วั อยา่ ง
นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น (ประเมินตามสภาพจริง)
ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการใฝเ่ รียนรู้ และมีความรบั ผิดชอบ ใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง เกณฑ์
ประสงค์

สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.2
2) กรณีตวั อย่าง
3) บัตรภาพ
4) ใบงาน เรื่อง สัญลกั ษณแ์ ละป้ายเตือน
8.2 แหล่งการเรยี นรู้


บัตรภาพ



วตั ถอุ นั ตราย ระวงั อนั ตราย ระวงั วตั ถไุ วไฟ

ระวงั แสงเลเซอร์ ระวงั สะดดุ ห้ามถ่ายรปู

ห้ามรถยกเขา้ ห้ามจดุ ไฟ ห้ามสบู บหุ ร่ี

ทางหนีไฟ หน่วยปฐมพยาบาล ความปลอดภยั

ใบงานสัญลกั ษณแ์ ละปา้ ยเตอื น

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นโยงเสน้ จบั คภู่ าพกบั ขอ้ ความทส่ี มั พนั ธก์ นั วตั ถอุ นั ตราย
1. ระวงั วตั ถไุ วไฟ
2.
3. ระวงั สะดดุ
ทางหนีไฟ
4. ห้ามสูบบหุ รี่
5.

เฉลย วตั ถอุ นั ตราย
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นโยงเสน้ จบั ค่ภู าพกบั ขอ้ ความทส่ี มั พนั ธก์ นั ระวงั วตั ถไุ วไฟ

1. ระวงั สะดดุ
ทางหนีไฟ
2. ห้ามสูบบหุ รี่

3.

4.

5.

แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย

8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ น่ื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้
1.ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญั หา อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………………………………..ผู้สอน
(นางสาวชลธชิ า โยวะ)

……………/………………………./…………….
ความคิดเห็น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………….……………………………….ครพู เ่ี ลีย้ ง
(นายสมศกั ด์ิ สุธรรมราช)

……………/………………………./…………….

ลงชอ่ื ……………………………………………..ผบู้ ริหาร
(นายสิทธิพร เถรวลั ย์)

ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนนาคำพทิ ยาสรรพ์
วันที่…………………………………….…………….

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3

รหสั วชิ า พ12101 รายวชิ า สขุ ศึกษาและพลศึกษา

ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความปลอดภัยในชวี ติ เวลา 8 ช่วั โมง

เร่ือง อคั คีภยั เวลา 2 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นางสาวชลธชิ า โยวะ สอนวนั ท…ี่ …..เดอื น………………

พ.ศ…………

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
ป.2 อธิบายสาเหตุ อนั ตราย วิธปี ้องกนั อัคคีภัย และแสดงการหนไี ฟ

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
อัคคีภัยเปน็ ภัยท่ีเกดิ จากไฟ ซ่ึงเป็นสาเหตุสำคัญท่ีทำใหส้ ูญเสยี ชวี ติ และทรัพย์สิน ดังนนั้ จึงควรศกึ ษาวิธีการ

ป้องกนั และการหนีไฟทถี่ ูกต้อง
สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

• อัคคีภยั
- สาเหตุของการเกดิ อัคคภี ยั
- อนั ตรายซง่ึ ได้รับจากการเกิดอัคคภี ัย
- การป้องกนั อัคคีภัย และการหนไี ฟ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการระบุ
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มีความรับผิดชอบ

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

การแสดงบทบาทสมมุติ การหนีไฟ

การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง อัคคภี ยั
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1) ตรวจใบงาน เร่อื ง สาเหตุของการเกิดอัคคีภยั
2) ตรวจใบงาน เร่ือง อันตรายท่ีเกดิ จากอคั คีภยั
3) ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การป้องกันอัคคีภัย
4) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง อัคคภี ัย
7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- สงั เกตการแสดงบทบาทสมมุติ การหนไี ฟ

กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

คำชแ้ี จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. พฤติกรรมในข้อใด ทีท่ ำใหเ้ กิดไฟไหม้ 6. ถา้ นกั เรยี นพบเห็นอุปกรณ์ไฟฟา้ มีกล่ินไหม้ ควรทำ
ก. เปดิ เครอื่ งปรับอากาศตลอดทั้งคนื
ข. เผากระดาษใกลเ้ ตาแกส๊ อย่างไร
ค. ใชเ้ ตาแกส๊ ทำกบั ขา้ ว
ก. นำน้ำมาดับไฟ
2. ขอ้ ใดเปน็ อันตรายทรี่ า้ ยแรงท่ีสุด จากการเกิดไฟ
ไหม้ ข. ปิดสวติ ซ์ไฟทนั ที

ก. ถกู ไฟลวก ค. รีบถอดปล๊กั และแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ
ข. เสียชวี ติ
ค. สญู เสยี ทรพั ย์สิน 7. ขณะหนีไฟในกรณีทมี่ ีควนั มาก ควรทำอยา่ งไร
3. เมอื่ เกดิ เหตไุ ฟไหม้ ควรทำอย่างไรก่อน
ก. นำน้ำมาราดตัวให้เปียก ก. ใช้ผ้าปดั ควนั ไฟ
ข. เกบ็ ทรพั ย์สนิ ของมีค่า
ค. รีบหนีจากทเ่ี กดิ เหตุ ข. หมอบคลานหนีไฟ
4. ขณะหนีไฟจากชัน้ 5 ลงมาชั้นล่าง ควรทำอย่างไร
ก. กระโดดหน้าตา่ งลงมา ค. กระโดดขา้ มควันไฟ
ข. หนีทางบันไดหนีไฟ
ค. หนโี ดยลงลิฟต์ 8. การฝกึ ซ้อมหนีไฟมีความจำเป็นอย่างไร
5. ขอ้ ใดเป็นการป้องกันการเกิดไฟไหม้
ก. ไม่ใช้เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ก. ชว่ ยใหเ้ ปน็ นักดับเพลิงได้
ข. ดบั ถ่านให้สนทิ หลงั ใช้เสรจ็
ค. ไม่จุดธูปเทยี นขณะไหว้พระ ข. ช่วยใหด้ ับไฟไดท้ นั ทว่ งที

ค. ชว่ ยให้มสี ตแิ ละร้วู ธิ ใี นการหนีไฟ

9. หลกั การหนีไฟท่ีถกู ต้อง ควรทำอยา่ งไร

ก. ตัง้ สติ และหนีออกทางบันได ประตูหรือ

หน้าตา่ ง

ข. ตง้ั สติ และรอให้นกั ดบั เพลิงมาช่วยเหลือ

เท่านัน้

ค. ตั้งสติ และพยายามใชน้ ้ำดบั ไฟ

10. ถา้ ตอ้ งว่ิงผา่ นไฟไหม้ออกมา ควรทำอยา่ งไร

ก. ใชผ้ า้ ห่มชุบน้ำคลุมตวั แล้วว่ิงผ่านไฟให้เรว็ ท่สี ุด

ข. ใชผ้ ้าหม่ ท่ีแหง้ สนิทคลุมตัวแล้ววิ่งผา่ นไฟ

ค. อาบน้ำแลว้ วง่ิ ผ่านไฟ ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็

10

เฉลย

1. ข 2. ข 3. ค 4. ข 5. ข 6. ค 7. ข 8. ค 9. ก 10. ก

ใบงานสาเหตุของการเกิดอคั คภี ยั
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคิด แสดงสาเหตขุ องการเกิดอัคคภี ยั

สาเหตุของการเกดิ อคั คภี ยั

เฉลยสาเหตขุ องการเกดิ อคั คภี ยั
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั ความคดิ แสดงสาเหตขุ องการเกิดอัคคภี ยั

ไฟฟ้าลดั วงจร เลน่ ไม้ขีดไฟ พลุ

สาเหตุของการเกดิ อคั คภี ยั

การจดุ ธปู เทียนบูชาพระ การเผาขยะ แล้วดบั ไฟไม่
แล้วลืมดบั ไฟ สนิ ท

ตวั อย่างข่าว

ขา่ วที่ 1
ไฟไหมช้ มุ ชนยา่ นบางซื่อ

เกดิ เหตุไฟไหมช้ ุมชนย่านบางซอ่ื ทาใหบ้ า้ นเรอื นกว่า 20 หลงั คาเรอื นทเ่ี ป็นบา้ นไมเ้ สยี หาย แตไ่ มม่ ผี เู้ สยี ชวี ติ
ตารวจ สน.เตาปนู พรอ้ มเจา้ หนา้ ทน่ี ารถดบั เพลงิ กว่า 10 คนั ฉดี น้าสกดั เพลงิ ไหมช้ มุ ชนสะพานดา เลยี บทางรถไฟบาง
ซอ่ื ซง่ึ เป็นชุมชนบา้ นไมป้ ลกู ตดิ กนั หลายหลงั ไฟลุกลามอยา่ งรวดเรว็ เจา้ หน้าทต่ี อ้ งใชเ้ วลากว่า 1 ชวั่ โมง จงึ ควบคมุ
เพลงิ ไวไ้ ด้ เบอ้ื งตน้ พบว่ามบี า้ นถกู ไฟไหมเ้ สยี หายวอดทงั้ หลงั กว่า 20 หลงั คาเรอื น มผี ไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ 1 ราย เป็นหญงิ
ชราทป่ี ่วยเป็นอมั พฤกษ์ เจา้ หนา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื และนาส่งโรงพยาบาลวชริ ะ

จากการสอบถามชาวบา้ นทเ่ี หน็ เหตุการณ์ระบวุ า่ ไดย้ นิ เสยี งคนตะโกนวา่ ไฟไหมใ้ นชว่ งหวั ค่า หลงั จากมเี ดก็
เลน่ ประทดั เสยี งดงั โดยเมอ่ื เกดิ เพลงิ ไหมแ้ ลว้ เพลงิ ไดล้ ุกลามอยา่ งรวดเรว็ เพราะเป็นชมุ ชนบา้ นไม้ และชาวบา้ น
พยายามชว่ ยกนั ดบั เพลงิ แตไ่ มส่ าเรจ็ จนกระทงั่ เจา้ หน้าทเ่ี ขา้ มาช่วยเหลอื ล่าสดุ ตารวจอยรู่ ะหวา่ งการตรวจสอบ
พยานหลกั ฐาน ในทเ่ี กดิ เหตุและประเมนิ คา่ ความเสยี หาย

ขา่ วท่ี 2
ไฟไหมโ้ รงงานอบปลาแห้งค่าเสียหาย 5 แสนบาท

ร.ต.ต.นิตนิ ันท์ ศรรี ุด รอ้ ยเวร สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รบั แจง้ มเี หตเุ พลงิ ไหมโ้ รงงานอบปลาแหง้ บรษิ ทั สบุ าจิ
ตงั้ อยเู่ ลขท่ี 37/9 ถนนโขดหนิ -เขาไผ่ ต.ทบั มา อ.เมอื งระยอง จงึ แจง้ รถดบั เพลงิ เทศบาลเมอื งมาบตาพุดและรถดบั เพลงิ
บรษิ ทั ปตท. จากดั รวม 4 คนั รบี เดนิ ทางมาดบั เพลงิ เดนิ ทางไปดทู เ่ี กดิ เหตเุ พลงิ กาลงั ลุกไหมอ้ ย่างรนุ แรง เจา้ หน้าท่ี
ดบั เพลงิ ตอ้ งระดมฉดี น้าอยา่ งหนักตอ้ งใชเ้ วลานานกวา่ 1 ชม. จงึ สามารถควบคมุ เพลงิ ไวไ้ ด้ หลงั เพลงิ สงบเจา้ หน้าทเ่ี ขา้
ตรวจสอบพบว่าไฟไหมบ้ รเิ วณโรงอบปลาแหง้ รวม 3 ลอ็ ก ถูกไฟไหมเ้ สยี หายหมด รวมทงั้ โครงสรา้ งหลงั คาโรงอบไดร้ บั
ความเสยี หายหมดค่าเสยี หายประมาณ 500,000 บาท พน้ื ทโ่ี รงงานประมาณ 3 ไรเ่ ศษ ภายในโรงงานมหี อ้ งเยน็ 2 ตู้
ลงั พลาสตกิ ใส่ปลาจานวนมาก

จากการสอบสวนนายสมพร แสงแกว้ อายุ 36 ปี พนกั งานโรงงานเกดิ เหตกุ ล่าววา่ เมอ่ื วนั ท่ี 19 ธนั วาคมทผ่ี ่าน
มา มแี กง๊ วยั รุ่นมามวั ่ สมุ เสพยาบา้ บรเิ วณขา้ งโรงงานจงึ ไลใ่ หไ้ ปเสพยาทอ่ี ่นื จนกระทงั่ เมอ่ื เวลา 20.00 น. ไดเ้ กดิ เพลงิ
ไหมบ้ รเิ วณโรงอบปลาแหง้ โดยไมท่ ราบสาเหตุ การเกดิ เพลงิ ไหมค้ รงั้ น้ีคาดวา่ น่าจะเกดิ การถูกลอบวางเพลงิ กเ็ ป็นได้

เจา้ หน้าทต่ี ารวจกลา่ ววา่ ตอ้ งรอใหเ้ จา้ หน้าทก่ี องพสิ จู น์หลกั ฐานระยองเขา้ ตรวจสอบหาสาเหตกุ ารเกดิ เพลงิ
ไหม้ ครงั้ น้กี ่อนว่าถูกลอบวางเพลงิ หรอื ไม่

ท่ีมา : ขา่ วท่ี 1 http://www.mcot.net/site/content?id=509fd31f150ba0ba0fc3800002b#.UNQIKeRg8yk
ขา่ วท่ี 2 http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=663282

ใบงานอนั ตรายทเี่ กดิ จากอัคคภี ยั
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นหาขา่ วเกย่ี วกับการเกดิ ไฟไหม้ แลว้ วเิ คราะห์ข่าวตามประเดน็ ท่ีกำหนด

(ติดข่าว)

• สาเหตขุ องการเกดิ ไฟไหม้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

• อันตราย หรือผลกระทบท่ีเกดิ จากไฟไหม้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เอกสารประกอบการสอน 

ตวั อยา่ งแถบขอ้ ความ

ตรวจสอบอปุ กรณ์ไฟฟ้าให้อยใู่ นสภาพดีอยู่เสมอ

ไม่ควรเลน่ ไมข้ ีดไฟ ไฟแชก็ หรือเผากระดาษเล่น

ถ้าพบเหน็ อปุ กรณ์ไฟฟ้ามีกล่ินไหม้ หรือมีควนั ลอยออกมา
ควรรบี ถอดปลกั๊ แลว้ แจง้ ให้ผ้ใู หญ่ทราบ

ไมค่ วรใช้เต้ารบั ตวั เดียวกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้าหลายชนิด
ในเวลาเดียวกนั

ควรจดั ให้มีการฝึ กซ้อมการหนีไฟทุกๆ 6 เดือน

คำชแ้ี จง ใบงานการปอ้ งกนั อคั คภี ยั
ใหน้ กั เรยี นอ่านข้อความ แลว้ ขีด ✓ หน้าข้อความท่ีปฏบิ ัติแลว้ ปลอดภยั และกา  หนา้ ขอ้ ความ
ทป่ี ฏิบตั แิ ล้วไม่ปลอดภยั พรอ้ มกบั แนะนำวธิ กี ารปฏิบัตทิ ีถ่ ูกตอ้ ง

 1. เม่ือเกิดไฟไหมแ้ ล้วใหร้ บี วิง่ ลงลิฟตท์ นั ที
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 2. ถา้ เส้อื ผา้ ติดไฟให้รีบถอดทนั ที
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 3. เมอื่ เกิดไฟไหมค้ วรรีบออกมาให้เรว็ ทสี่ ดุ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 4. ถา้ มกี ลุ่มควนั มากให้หมอบคลานสงู จากพน้ื ไมเ่ กนิ 30 ซม.
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 5. ถา้ ออกมาไม่ได้ให้ใชผ้ า้ ชุบนำ้ อดุ รูใต้ประตูและหน้าตา่ งเพอ่ื ป้องกนั ไฟ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 6. ถ้าตอ้ งวง่ิ ฝ่าเปลวไฟออกมาให้ใช้น้ำราดตัวใหเ้ ปยี ก แล้วใชผ้ า้ หม่ ชุบนำ้ คลมุ ตัววง่ิ ออกมา
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

 7. เมอื่ เกดิ ไฟไหมค้ วรต้ังสติ และหา้ มตะโกนขอความชว่ ยเหลอื เพราะจะสำลกั ควัน
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

คำชแ้ี จง เฉลยใบงานการปอ้ งกนั อคั คภี ยั
ให้นกั เรยี นอ่านขอ้ ความ แลว้ ขดี ✓ หน้าขอ้ ความทป่ี ฏิบัติแล้วปลอดภัย และกา  หนา้ ขอ้ ความ
ที่ปฏิบัตแิ ล้วไมป่ ลอดภยั พรอ้ มกบั แนะนำวธิ ีการปฏบิ ตั ิทีถ่ ูกต้อง

 1. เมอื่ เกดิ ไฟไหมแ้ ลว้ ใหร้ ีบวงิ่ ลงลิฟตท์ นั ที
เมื่อเกดิ ไฟไหมแ้ ล้วใหร้ ีบว่งิ ลงบนั ไดหนไี ฟทันที

 2. ถา้ เสื้อผา้ ติดไฟใหร้ ีบถอดทันที
ถ้าเสอื้ ผ้าติดไฟให้กล้งิ ตวั กับพ้ืนไปมา พร้อมท้ังเอามือปดิ หน้า จนกว่าไฟจะดบั

✓ 3. เมอ่ื เกดิ ไฟไหม้ควรรบี ออกมาใหเ้ รว็ ที่สุด

✓ 4. ถ้ามีกลมุ่ ควันมากใหห้ มอบคลานสูงจากพ้ืนไมเ่ กนิ 30 ซม.

✓ 5. ถ้าออกมาไม่ไดใ้ ห้ใชผ้ ้าชบุ นำ้ อุดรูใตป้ ระตแู ละหน้าต่างเพื่อป้องกันไฟ

✓ 6. ถา้ ตอ้ งว่งิ ฝ่าเปลวไฟออกมาให้ใชน้ ้ำราดตวั ให้เปยี ก แลว้ ใชผ้ ้าหม่ ชุบนำ้ คลุมตวั ว่งิ ออกมา

 7. เมือ่ เกดิ ไฟไหม้ควรตง้ั สติ และหา้ มตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะจะสำลกั ควัน
เม่อื เกิดไฟไหม้ควรตง้ั สติ และตะโกนขอความชว่ ยเหลือ

แบบทดสอบหลงั เรยี น

คำชแี้ จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ถ้านักเรยี นพบเหน็ อปุ กรณ์ไฟฟา้ มีกลิ่นไหม้ ควรทำ 6. พฤติกรรมในข้อใด ทท่ี ำให้เกิดไฟไหม้

อย่างไร ก. ใชเ้ ตาแกส๊ ทำกบั ขา้ ว

ก. รีบถอดปลั๊กและแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ ข. เผากระดาษใกลเ้ ตาแก๊ส

ข. ปดิ สวิตซ์ไฟทันที ค. เปิดเคร่ืองปรบั อากาศตลอดทั้งคนื

ค. นำน้ำมาดบั ไฟ 7. ข้อใดเป็นอนั ตรายทรี่ ้ายแรงท่ีสดุ จากการเกดิ ไฟ

2. ขณะหนีไฟในกรณที ่มี ีควนั มาก ควรทำอยา่ งไร ไหม้

ก. กระโดดข้ามควนั ไฟ ก. เสียชีวิต

ข. หมอบคลานหนีไฟ ข. ถกู ไฟลวก

ค. ใช้ผา้ ปัดควนั ไฟ ค. สูญเสียทรพั ยส์ นิ

3. การฝึกซ้อมหนไี ฟมีความจำเป็นอย่างไร 8. เมอ่ื เกิดเหตุไฟไหม้ ควรทำอย่างไรก่อน

ก. ชว่ ยให้มีสติและรวู้ ิธใี นการหนีไฟ ก. รบี หนีจากทเ่ี กดิ เหตุ

ข. ชว่ ยใหเ้ ปน็ นักดบั เพลงิ ได้ ข. เกบ็ ทรพั ย์สนิ ของมคี ่า

ค. ช่วยให้ดบั ไฟไดท้ ันท่วงที ค. นำน้ำมาราดตวั ให้เปยี ก

4. หลกั การหนีไฟที่ถกู ต้อง ควรทำอย่างไร 9. ขณะหนีไฟจากช้นั 5 ลงมาชัน้ ล่าง ควรทำอย่างไร

ก. ตัง้ สติ และพยายามใชน้ ้ำดับไฟ ก. หนีโดยลงลิฟต์

ข. ต้ังสติ และรอใหน้ ักดับเพลงิ มาชว่ ยเหลอื ข. หนีทางบันไดหนีไฟ

เท่านน้ั ค. กระโดดหน้าต่างลงมา

ค. ต้งั สติ และหนีออกทางบันได ประตูหรอื 10. ข้อใดเป็นการป้องกันการเกดิ ไฟไหม้

หน้าตา่ ง ก. ดับถ่านใหส้ นทิ หลงั ใชเ้ สรจ็

5. ถา้ ต้องวงิ่ ผ่านไฟไหม้ออกมา ควรทำอยา่ งไร ข. ไมจ่ ุดธปู เทียนขณะไหวพ้ ระ

ก. อาบนำ้ แล้ววงิ่ ผ่านไฟ ค. ไมใ่ ชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้

ข. ใชผ้ า้ หม่ ทแี่ หง้ สนทิ คลุมตัวแล้วว่ิงผา่ นไฟ

ค. ใชผ้ า้ หม่ ชบุ นำ้ คลมุ ตัวแลว้ วิง่ ผา่ นไฟใหเ้ ร็วที่สดุ

ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็

10เฉลย แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล

1. ก 2. ข 3. ก 4. ค 5. ค 6. ข 7. ก 8. ก 9. ข 10. ก

คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดบั ชอ่ื -สกลุ ความต้งั ใจ ความ การตรง ความ ผลสำเรจ็ รวม
ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ในการ รบั ผดิ ชอบ ตอ่ เวลา สะอาด ของงาน 15
ทำงาน เรยี บรอ้ ย คะแนน

321321321321321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน
12 - 15 ดี

18 - 11 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ

บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้
1.ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญั หา อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………………………………..ผู้สอน
(นางสาวชลธชิ า โยวะ)

……………/………………………./…………….
ความคิดเห็น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………….……………………………….ครูพ่ีเลี้ยง
(นายสมศกั ดิ์ สุธรรมราช)

……………/………………………./…………….

ลงช่ือ……………………………………………..ผบู้ รหิ าร
(นายสิทธพิ ร เถรวัลย์)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นนาคำพทิ ยาสรรพ์
วนั ท่ี…………………………………….…………….

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4

รหัสวิชา พ12101 รายวิชา สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ความปลอดภยั ในชวี ติ เวลา 8 ชว่ั โมง

เรื่อง ยานา่ รู้ เวลา 2 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวชลธชิ า โยวะ สอนวนั ท…่ี …..เดอื น………………

พ.ศ…………

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ยาสามญั ประจำบ้านเปน็ ยาที่ซอ้ื มาใชด้ ว้ ยตนเอง เพื่อดูแลรักษาอาการเจ็บปว่ ยเล็กๆ นอ้ ยๆ

ตวั ชวี้ ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2.1 ตวั ชว้ี ดั
ป.2 บอกชอื่ ยาสามัญประจำบา้ นและใช้ยาตามคำแนะนำ
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- บอกชอื่ ยาสามัญประจำบ้านได้

สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

• ยาสามัญประจำบ้าน
- ชื่อยาสามัญประจำบา้ น

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการสังเกต
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. ตรงตอ่ เวลา
3. มคี วามรับผดิ ชอบ

กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนิคค่คู ดิ สสี่ หาย
นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน

การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วธิ กี าร แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น
ตรวจใบงาน ประสงค์ เกณฑ์
สังเกตการใฝ่เรียนรู้ ตรงต่อเวลา และมี
ความรบั ผิดชอบ

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.2
2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศึกษา ป.2 บริษัท เพลยเ์ อเบิล จำกัด
3) ตวั อยา่ งยาสามัญประจำบ้าน
4) บตั รภาพ
5) ใบงาน เรือ่ ง ยานา่ รู้

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
- ห้องพยาบาลโรงเรยี น

บัตรภาพ



พาราเซตามอล 500 กรมั ยาเมด็ แก้แพค้ ลอรเ์ ฟนิรามีน ยาแก้ไอน้าดา

ผงน้าตาลเกลือแร่ ยาเมด็ ลดกรด ยาธาตุน้าแดง

เอทิลแอลกอฮอล์ ยาโพวิโดน-ไอโอดีน ยาหมอ่ งชนิดขี้ผึง้

คำชแี้ จง ใบงานยานา่ รู้
1. ให้นักเรยี นดูภาพ แล้วบอกชื่อยา สรรพคุณ และวธิ ีใชย้ าให้ถกู ต้อง

ช่อื ยา 2. ช่อื ยา
สรรพคณุ สรรพคุณ

วธิ ใี ช้ วธิ ใี ช้

3. ช่อื ยา 4. ช่อื ยา
สรรพคณุ สรรพคณุ

วธิ ใี ช้ วธิ ใี ช้

5. ช่อื ยา 6. ชอ่ื ยา
สรรพคุณ สรรพคุณ

วธิ ใี ช้ วธิ ใี ช้

7. ชอ่ื ยา 8. ชอ่ื ยา
สรรพคณุ สรรพคณุ

วธิ ใี ช้ วธิ ใี ช้

เฉลย
คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นดภู าพ แล้วบอกช่ือยา สรรพคณุ และวิธใี ช้ยาให้ถกู ต้อง

1. ชอ่ื ยา พาราเซตามอล 2. ช่อื ยา ยาแกไ้ อน้าดา

สรรพคุณ ลดไข้ บรรเทาอาการ สรรพคณุ บรรเทาอาการไอ

ปวด และขบั เสมหะ

วธิ ใี ช้ รบั ประทานทกุ 4-6 ชวั่ โมง วธิ ใี ช้ เขยา่ ขวดกอ่ นใช้

เมอื่ มอี าการ รบั ประทานวนั ละ 3-4 ครงั้

3. ชอ่ื ยา โพวโิ ดน-ไอโอดนี 4. ช่อื ยา ผงน้าตาลเกลอื แร่

สรรพคุณ ใชใ้ สบ่ าดแผล ทาความ สรรพคุณ ทดแทนการเสยี น้า

สะอาดแผลตดิ เช้อื ในรายทที่ อ้ งร่วง

วธิ ใี ช้ ใชท้ าบรเิ วณแผล วธิ ใี ช้ เทผงทงั้ ซองละลายในน้า

ตม้ สุก ประมาณ 250 มลิ ลลิ ติ ร

5. ชอ่ื ยา คลอรเ์ ฟนิรามนี 6. ช่อื ยา ยาเมด็ ลดกรด

สรรพคณุ บรรเทาอาการ สรรพคณุ บรรเทาอาการจกุ เสยี ด

แพอ้ ากาศ เช่น ลมพษิ ทอ้ งอดื ทอ้ งเฟ้อ

วธิ ใี ช้ กนิ ทุกๆ 4 ชวั่ โมง หรอื วธิ ใี ช้ เคย้ี วยากอ่ นกลนื กนิ กอ่ น

แพอ้ ากาศ เชน่ ลมพษิ อาหารครงึ่ ชวั่ โมงหรอื หลงั อาหาร
1 ชวั่ โมง

7. ชอ่ื ยา ยาธาตนุ ้าแดง 8. ช่อื ยา ยาหม่อง ชนิดขผ้ี ้งึ

สรรพคณุ บรรเทาอาการจุกเสยี ด สรรพคุณ บรรเทาอาการปวด

ทอ้ งข้นึ จากแมลงสตั วก์ ดั ตอ่ ย ปวดเมอื่ ย

วธิ ใี ช้ เขย่าขวดกอ่ นใช้ วธิ ใี ช้ ใชท้ าและนวดบรเิ วณทมี่ ี

กนิ กอ่ นอาหารวนั ละ 3 ครงั้ อาการปวด

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง ที่
ตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ
ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ น่ื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้
1.ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญั หา อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………………………………..ผู้สอน
(นางสาวชลธชิ า โยวะ)

……………/………………………./…………….
ความคิดเห็น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………….……………………………….ครูพเ่ี ลยี้ ง
(นายสมศักด์ิ สธุ รรมราช)

……………/………………………./…………….

ลงชอ่ื ……………………………………………..ผบู้ รหิ าร
(นายสิทธพิ ร เถรวลั ย์)

ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนนาคำพิทยาสรรพ์
วันท่ี…………………………………….…………….

ภาคผนวก ข

แบบทดสอบการพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในชวี ติ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
โดยใชก้ ารจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เทคนคิ STAD

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

รายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา เรอ่ื งความปลอดภยั ในชวี ติ

คำชแี้ จง ให้นักเรยี น  คำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1.ขณะเดนิ ทางตามถนน ไม่ควรทำส่ิงใด
ก. เดินบนทางเทา้ ชดิ ด้านใน
ข. เดินชดิ ไหลท่ างด้านขวา
ค. เดินชดิ ไหล่ทางด้านซ้าย
ง. เดนิ บนทางเท้าชดิ ดา้ นนอก

2.เพราะเหตุใด ไม่ควรยืนโหนทปี่ ระตู
ก. อาจพลดั ตกรถได้
ข. อาจถูกตำรวจจราจรปรับ
ค. ทำให้ผ้อู ่นื ขนึ้ หรือลงรถลำบาก
ง. อาจทำให้เพื่อนทำตามทำให้เกิดอบุ ตั ิเหตไุ ด้

3.ใครปฏิบตั ติ นในการข่จี กั รยานได้ถูกตอ้ ง
ก. ฟ้าขี่จักรยานชดิ ขอบทางขวาของถนน
ข. ฝ้าจับจักรยานดว้ ยมอื ขา้ งเดยี ว
ค. ฟางตรวจสภาพจกั รยานกอ่ นข่ี
ง. นิ่มปนั่ จักรยานโดยไมม่ องถนน

4.ขอ้ ใดเปน็ การป้องกันอุบัตเิ หตุทางนำ้
ก. นงั่ บนกราบเรอื
ข. ยนื รอเรือท่โี ป๊ะเรือ
ค. สวมเสือ้ ชูชพี ขณะโดยสารเรือทางไกล
ง. ว่ิงเล่นกับเพ่ือนและกระโดดโลดเตน้ บนเรือ

5. ใครปฏบิ ตั ิตนได้ปลอดภัยจากอุบตั ิเหตุ
ก. กุ้งยืนรอรถไฟฟา้ อยหู่ น้าเสน้ เหลือง
ข. กิบ๊ จบั พนักพิงขณะยืนบนรถโดยสารประจำทาง
ค. กุ๊กกระโดดขนึ้ เรอื เม่ือเรือจะออกจากท่าเทยี บเรือ
ง. เอริ น์ ปั่นจกั รยานมองดบู รรยากาศขา้ งทางโดยไม่มองถนน

6. ถ้าจะขา้ มถนน ควรป้องกันตนเองจากอุบัติเหตุอยา่ งไร
ก. ขา้ มตรงทางม้าลาย
ข. เดนิ ขา้ มบรเิ วณรถติด
ค. วิ่งข้ามถนนทนั ที
ง. เดนิ ขา้ มถนนโดยไม่มองซ้ายหรือขวา

7.เพราะเหตุใด ควรใสเ่ สอ้ื สีขาวหรอื สีสว่าง ขณะเดินทาง ในเวลากลางคืน
ก. ทำใหผ้ ิวดูขาวข้ึน
ข. ดูสวยงาม และประทบั ใจ
ค. เพ่ือให้ผู้ขับขมี่ องเห็นไดช้ ดั เจน
ง. ดูสวยงามและผวิ ดสู วา่ งและขาวขนึ้

8. ข้อใดเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัตเิ หตุทางนำ้
ก. ผโู้ ดยสารลงเรอื อย่างเป็นระเบยี บ
ข. ผ้โู ดยสารนัง่ อย่างเปน็ ระเบียบ
ค. ผู้ขบั เรอื ไม่ด่มื สรุ า
ง. ฝนตก มพี ายุ

9.เม่ือลงเรือแล้วควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไร
ก. เดนิ เข้าไปในตวั เรอื
ข. นงั่ ทก่ี ราบเรือ
ค. วิ่งเลน่ ในเรือ
ง. ยืนถ่ายรปู

10.เพราะเหตุใด ควรยืนรอรถไฟฟา้ หลังเส้นสเี หลือง
ก. เจ้าหน้าทรี่ ถไฟบงั คบั
ข. เพ่ือเป็นความสวยงาม
ค. เพอ่ื ความเปน็ ระเบยี บ
ง. เพื่อป้องกันตนเองจากอุบัตเิ หตุ

11. สญั ลักษณแ์ ละปา้ ยเตือนมีความสำคัญอย่างไร
ก. ให้ทราบถงึ อันตรายและวิธีการปฏิบัตใิ นพ้ืนท่เี สยี่ งอนั ตราย
ข. ใหเ้ หน็ ความสวยงามของสัญลักษณ์และปา้ ยเตือน
ค. ให้ทราบถึงอันตราย แต่ไม่ต้องปฏิบัติ
ง. ให้ทราบถึงสญั ลักษณ์ แต่ไม่ต้องปฏบิ ตั ิ

12. ใดเป็นวธิ ีใชย้ าพาราเซตามอลอยา่ งถูกต้อง
ก. เคย้ี วยากอ่ นกลืน
ข. กนิ ยาทุก 4-6 ชวั่ โมง
ค. ละลายยากบั น้ำต้มสกุ
ง. กนิ ยาทุก 2-3 ช่ัวโมง

13. การรบั ประทานยาสามัญประจำบา้ นประเภทน้ำ ควรทำอย่างไร
ก. ด่มื นำ้ อดั ลมตามหลังรับประทาน
ข. ผสมกับน้ำรอ้ นก่อนรับประทาน
ค. เขย่าขวดก่อนรบั ประทาน
ง. ดม่ื น้ำตามมากๆ

14. สัญลักษณแ์ ละปา้ ยเตือนทม่ี ีสีเหลอื ง หมายความวา่ อยา่ งไร
ก. ระวงั อนั ตราย
ข. หยุด
ค. ห้ามทำ
ง. ปฏิบัตติ าม

15. มีความหมายว่าอย่างไร
ก. ระวังสะดุด
ข. ระวังอันตราย
ค. ระวังสุนัขดุ
ง. ระวงั ทางรน่ื

16.บรเิ วณทมี่ ีกระแสไฟฟ้าแรงสงู ควรมปี า้ ยขอ้ ใด

ก. ข.

ค. ง.
17.สเี พ่ือความปลอดภยั สใี ดบงั คับใหต้ อ้ งปฏิบตั ิเพื่อความปลอดภัย

ก. สีน้ำเงนิ
ข. สเี หลอื ง
ค. สเี ขยี ว
ง. สีแดง

18. ถา้ เห็นปา้ ยน้ี ควรทำอยา่ งไร
ก. ไมซ่ ้ือบหุ ร่ี
ข. ไม่สบู บุหร่ี
ค. ไมพ่ กบุหร่ี
ง. ไมจ่ ดุ บุหร่ี

19. เอทลิ แอลกอฮอล์ ควรใชอ้ ย่างไร
ก. ใช้ล้างแผล
ข. ใช้แก้ท้องเสีย
ค. ใช้แกป้ วดหัว
ง. ใช้บรรเทาอาการไอ มเี สมหะ

20. ถ้าใชย้ าแลว้ มีอาการแพย้ า ควรทำอยา่ งไร
ก. ควรเลกิ ใช้ แล้วรบี ไปพบแพทย์ทนั ที
ข. รบั ประทานยาให้มากขนึ้ กว่าเดมิ
ค. ควรนำยาไปทำลาย
ง. นอนพัก

แบบทดสอบหลงั เรยี น

รายวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา เรอ่ื งความปลอดภยั ในชวี ติ

คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียน  คำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1.ใครปฏิบัตติ นในการขจี่ ักรยานได้ถูกตอ้ ง
ก. ฟา้ ขีจ่ ักรยานชดิ ขอบทางขวาของถนน
ข. ฝา้ จบั จกั รยานดว้ ยมือข้างเดยี ว
ค. ฟางตรวจสภาพจักรยานกอ่ นขี่
ง. น่ิมป่ันจักรยานโดยไมม่ องถนน

2.ขอ้ ใดเป็นการป้องกันอุบตั เิ หตุทางนำ้
ก. นง่ั บนกราบเรือ
ข. ยืนรอเรือทโ่ี ป๊ะเรอื
ค. สวมเส้อื ชูชพี ขณะโดยสารเรอื ทางไกล
ง. วิ่งเล่นกับเพอื่ นและกระโดดโลดเตน้ บนเรอื

3.เพราะเหตุใด ไม่ควรยนื โหนที่ประตู
ก. อาจพลดั ตกรถได้
ข. อาจถูกตำรวจจราจรปรับ
ค. ทำให้ผู้อน่ื ขึน้ หรือลงรถลำบาก
ง. อาจทำให้เพ่ือนทำตามทำใหเ้ กิดอุบตั ิเหตไุ ด้

4.ใครปฏบิ ตั ติ นได้ปลอดภยั จากอบุ ัติเหตุ
ก. กุ้งยืนรอรถไฟฟา้ อยหู่ นา้ เสน้ เหลือง
ข. กิ๊บจับพนักพงิ ขณะยืนบนรถโดยสารประจำทาง
ค. ก๊กุ กระโดดขน้ึ เรือเมื่อเรือจะออกจากท่าเทียบเรือ
ง. เอริ ์นปัน่ จักรยานมองดบู รรยากาศขา้ งทางโดยไม่มองถนน

5. ขณะเดินทางตามถนน ไมค่ วรทำส่ิงใด
ก. เดินบนทางเทา้ ชิดด้านใน
ข. เดนิ ชดิ ไหลท่ างด้านขวา
ค. เดินชิดไหล่ทางด้านซ้าย
ง. เดินบนทางเทา้ ชิดดา้ นนอก

6. ข้อใดเป็นสาเหตุของการเกิดอบุ ัติเหตทุ างน้ำ
ก. ผู้โดยสารลงเรืออย่างเปน็ ระเบยี บ
ข. ผู้โดยสารน่งั อย่างเป็นระเบยี บ
ค. ผู้ขับเรอื ไม่ด่มื สรุ า
ง. ฝนตก มีพายุ

7.ถ้าจะข้ามถนน ควรป้องกนั ตนเองจากอบุ ัตเิ หตอุ ย่างไร
ก. ข้ามตรงทางมา้ ลาย
ข. เดนิ ขา้ มบรเิ วณรถตดิ
ค. วิ่งข้ามถนนทนั ที
ง. เดินขา้ มถนนโดยไม่มองซ้ายหรือขวา

8. เพราะเหตุใด ควรใส่เส้ือสีขาวหรือสสี ว่าง ขณะเดินทาง ในเวลากลางคืน
ก. ทำใหผ้ ิวดูขาวขึ้น
ข. ดสู วยงาม และประทับใจ
ค. เพือ่ ให้ผู้ขับขม่ี องเห็นได้ชัดเจน
ง. ดูสวยงามและผวิ ดสู วา่ งและขาวขึน้

9.สัญลักษณแ์ ละปา้ ยเตือนมีความสำคัญอยา่ งไร
ก. ให้ทราบถงึ อันตรายและวธิ ีการปฏบิ ตั ิในพ้นื ทีเ่ ส่ียงอันตราย
ข. ใหเ้ ห็นความสวยงามของสญั ลักษณ์และปา้ ยเตือน
ค. ให้ทราบถึงอันตราย แต่ไม่ต้องปฏิบัติ
ง. ให้ทราบถงึ สัญลกั ษณ์ แตไ่ ม่ต้องปฏิบัติ

10.เมอ่ื ลงเรือแลว้ ควรปฏิบตั ิตนอย่างไร
ก. เดนิ เขา้ ไปในตัวเรอื
ข. นงั่ ทกี่ ราบเรือ
ค. วิ่งเล่นในเรือ
ง. ยนื ถา่ ยรูป

11. เพราะเหตุใด ควรยนื รอรถไฟฟ้าหลงั เส้นสีเหลอื ง
ก. เจา้ หน้าทีร่ ถไฟบงั คบั
ข. เพ่ือเป็นความสวยงาม
ค. เพื่อความเป็นระเบียบ
ง. เพื่อป้องกนั ตนเองจากอบุ ตั ิเหตุ

12.การรับประทานยาสามัญประจำบา้ นประเภทนำ้ ควรทำอย่างไร
ก. ด่มื น้ำอัดลมตามหลงั รับประทาน
ข. ผสมกับน้ำรอ้ นกอ่ นรบั ประทาน
ค. เขยา่ ขวดก่อนรับประทาน
ง. ดื่มน้ำตามมากๆ

13. ใดเปน็ วธิ ใี ช้ยาพาราเซตามอลอยา่ งถูกต้อง
ก. เคี้ยวยาก่อนกลนื
ข. กินยาทกุ 4-6 ชว่ั โมง
ค. ละลายยากับนำ้ ต้มสกุ
ง. กินยาทุก 2-3 ชั่วโมง

14. สัญลักษณ์และป้ายเตือนทม่ี สี ีเหลอื ง หมายความวา่ อยา่ งไร
ก. ระวังอนั ตราย
ข. หยดุ
ค. หา้ มทำ
ง. ปฏิบัตติ าม

15. มคี วามหมายว่าอยา่ งไร
ก. ระวังสะดุด
ข. ระวังอันตราย
ค. ระวังสุนัขดุ
ง. ระวังทางรืน่

16.บรเิ วณทมี่ ีกระแสไฟฟ้าแรงสูง ควรมีปา้ ยข้อใด

ก. ข.

ค. ง.
17.สเี พอ่ื ความปลอดภัยสีใดบงั คับใหต้ ้องปฏบิ ัติเพอ่ื ความปลอดภยั

ก. สนี ้ำเงนิ
ข. สเี หลอื ง
ค. สีเขียว
ง. สีแดง

18. ถา้ เห็นปา้ ยน้ี ควรทำอยา่ งไร
ก. ไม่ซ้ือบุหรี่
ข. ไมส่ บู บหุ รี่
ค. ไมพ่ กบหุ ร่ี
ง. ไม่จุดบุหร่ี

19. ถ้าใชย้ าแลว้ มีอาการแพย้ า ควรทำอย่างไร
ก. ควรเลกิ ใช้ แล้วรีบไปพบแพทยท์ ันที
ข. รบั ประทานยาให้มากข้นึ กว่าเดมิ
ค. ควรนำยาไปทำลาย
ง. นอนพกั

20. เอทิลแอลกอฮอล์ ควรใชอ้ ยา่ งไร
ก. ใชล้ า้ งแผล
ข. ใช้แก้ท้องเสีย
ค. ใชแ้ กป้ วดหัว
ง. ใช้บรรเทาอาการไอ มีเสมหะ

ภาคผนวก ค
คะแนนทดสอบการพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรอื่ ง ความปลอดภยั ในชวี ติ

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
โดยการใชก้ ารจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื เทคนคิ STAD

ตาราง คะแนนทดสอบวดั ทกั ษะการฟงั กอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น โดยการใช้การจดั การเรยี นรแู้ บบ

รว่ มมอื เทคนคิ STAD เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในชวี ติ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั

ประถมศกึ ษาปที ี่ 2

เลขท่ี คะแนนทดสอบ (20 คะแนน)

กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น

1 11 24

2 10 24

3 11 24

4 12 26

5 10 25

6 12 25

7 11 24

8 12 25

9 13 24

คะแนนรวม 102.00 221.00

คะแนนเฉลยี่ 11.33 24.56

S.D. 1.00 0.73

ภาคผนวก ง
แบบวดั ความพงึ พอใจในการพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในชวี ติ

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
โดยการใชก้ ารจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื เทคนิค STAD

แบบสอบถามความพงึ พอใจกจิ กรรมการเรียนรแู้ บบรว่ มมอื เทคนิค STAD เรอ่ื งความปลอดภยั ในชวี ติ

คำชแี้ จง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่องทตี่ ้องการ

ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

1. เพศ ชาย หญงิ

2. นักเรยี น ระดบั ช้ัน ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6

ตอนที่ 2 ความพึงพอใจของนักเรียนท่มี ีต่อกิจกรรมการฟงั

5 หมายถงึ นักเรียนมคี วามพึงพอใจในระดบั มากที่สดุ

4 หมายถึง นกั เรยี นมคี วามพึงพอใจในระดบั มาก

3 หมายถึง นักเรียนมคี วามพึงพอใจในระดับปานกลาง

2 หมายถงึ นักเรียนมคี วามพึงพอใจในระดับน้อย

1 หมายถึง นักเรียนมคี วามพึงพอใจในระดับนอ้ ยท่สี ุด

ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั ความพงึ พอใจ
ท่ี 54321

1 มีวิธีการนำเข้าสู่บทเรยี นความปลอดภยั ในชวี ติ ได้ดี

2 มวี ธิ กี ารสอนการดา้ นความปลอดภัยในชวี ิตไดด้ ี

3 มกี จิ กรรมการฟงั ทีน่ ่าสนใจ

4 มีขัน้ ตอนการสอนท่ีถูกต้อง

5 การเรยี นด้วยกิจกรรมทำใหเ้ กิดความสนุกสนานในการเรียนรู้

6 การเรียนดว้ ยกจิ กรรมแบบกลุ่มช่วยใหม้ ีความกระตือรือร้นในการเรียนมากข้ึน

7 นักเรียนเหน็ ว่าการเรียนด้วยกิจกรรมแบบกลุ่มทำให้นักเรยี นทราบถงึ ความ
ปลอดภยั ในชวี ิตได้ถูกตอ้ ง

8 การเรียนด้วยกิจกรรมกลุม่ ฝึกใหน้ กั เรียนกล้าคิด กลา้ พูด กลา้ ทำ

9 การเรยี นด้วยกจิ กรรมกลุ่ม ทำให้นกั เรยี นมีความเชือ่ ม่ันในตนเอง

10 นกั เรยี นมคี วามเพลดิ เพลินใจในขณะทำกจิ กรรม

11 นักเรยี นสามารถนำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการเรยี นนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้

12 บทเรียนมีภาพและสถานการณป์ ระกอบ ทำให้เร้าความสนใจ

ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ

.................................................................................................................... ................................................................

....................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................... .....................................................

....................................................................................................................................................................................

ภาคผนวก จ
แบบตรวจสอบคณุ ภาพเครอื่ งมอื ของผเู้ ชยี่ วชาญทมี่ ตี อ่ แบบทดสอบ
เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในชวี ิต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2

โดยการใชก้ ารจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื เทคนคิ STAD

แบบตรวจสอบคณุ ภาพเครอื่ งมอื ของผเู้ ชย่ี วชาญทมี่ ตี อ่ แบบทดสอบ
เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในชวี ิต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2

โดยการใชก้ ารจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื เทคนคิ STAD
คำช้แี จง : ขอให้ท่านผเู้ ชี่ยวชาญพิจารณาข้อคำถามของแบบทดสอบว่ามคี วามสอดคล้องกับจุดประสงคใ์ น
ระดบั ใด โดยทำเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องท่ีตรงกบั ความคิดเห็นของท่าน

+1 เม่ือแนใ่ จว่า ข้อคำถามนัน้ สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์
0 เมือ่ ไม่แน่ใจวา่ ข้อคำถามนนั้ สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์
-1 เม่อื แน่ใจว่า ข้อคำถามนน้ั ไมส่ อดคล้องกับจุดประสงค์

เรอ่ื ง จุดประสงค์ ระดบั ความคดิ เหน็
ขอ้ สอบ เฉลย

+1 0 -1

ความปลอดภัย พ 2.1 ป.2 1.ขณะเดนิ ทางตามถนน ไมค่ วรทำสิ่งใด

ในชีวิต เพ่อื ใหน้ กั เรยี นใช้ ก. เดินบนทางเท้าชิดด้านใน ค

ชีวิตท่ีปลอดภัยใน ข. เดนิ ชดิ ไหล่ทางดา้ นขวา
ชีวติ ประจำวันได้ ค. เดินชิดไหล่ทางด้านซ้าย ค
ง. เดินบนทางเทา้ ชดิ ด้านนอก ค

2.เพราะเหตใุ ด ไมค่ วรยนื โหนทปี่ ระตู

ก. อาจพลดั ตกรถได้

ข. อาจถูกตำรวจจราจรปรับ

ค. ทำให้ผู้อืน่ ขึ้นหรือลงรถลำบาก

ง. อาจทำให้เพ่ือนทำตามทำให้

เกดิ อบุ ัติเหตไุ ด้

3.ใครปฏบิ ัติตนในการขี่จกั รยานได้

ถูกตอ้ ง

ก. ฟ้าข่ีจกั รยานชิดขอบทางขวา

ของถนน

ข. ฝา้ จบั จกั รยานดว้ ยมอื ข้างเดยี ว

ค. ฟางตรวจสภาพจักรยานก่อนขี่

ง. น่มิ ปั่นจักรยานโดยไม่มองถนน

4.ขอ้ ใดเปน็ การป้องกันอบุ ตั เิ หตุทางนำ้

ก. น่ังบนกราบเรอื

ข. ยนื รอเรอื ทีโ่ ปะ๊ เรือ

ค. สวมเสื้อชูชพี ขณะโดยสารเรือ

ทางไกล

ง. ว่ิงเลน่ กบั เพอื่ นและกระโดด ข
โลดเต้นบนเรือ ก

5. ใครปฏิบัติตนได้ปลอดภยั จาก ง
อุบัติเหตุ
ก. กุ้งยืนรอรถไฟฟา้ อยู่หนา้ เสน้
เหลอื ง
ข. กบ๊ิ จับพนกั พิงขณะยนื บนรถ
โดยสารประจำทาง
ค. กุ๊กกระโดดข้นึ เรือเม่ือเรอื จะ

ออกจากทา่ เทียบเรอื
ง. เอริ ์นปั่นจกั รยานมองดู

บรรยากาศข้างทางโดยไมม่ องถนน
6. ถา้ จะข้ามถนน ควรปอ้ งกันตนเอง
จากอบุ ตั เิ หตุอย่างไร

ก. ข้ามตรงทางมา้ ลาย
ข. เดินข้ามบริเวณรถติด
ค. ว่ิงข้ามถนนทนั ที
ง. เดินข้ามถนนโดยไมม่ องซ้าย

หรอื ขวา
7.เพราะเหตุใด ควรใส่เสือ้ สขี าวหรอื สี

สวา่ ง ขณะเดนิ ทาง ในเวลา
กลางคืน
ก. ทำให้ผิวดูขาวขน้ึ
ข. ดสู วยงาม และประทบั ใจ
ค. เพอื่ ใหผ้ ู้ขบั ขีม่ องเห็นไดช้ ัดเจน
ง. ดสู วยงามและผวิ ดสู ว่างและ

ขาวขึ้น
8. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุของการเกดิ

อบุ ัติเหตุทางนำ้
ก. ผู้โดยสารลงเรืออยา่ งเป็น

ระเบยี บ
ข. ผ้โู ดยสารนั่งอยา่ งเปน็ ระเบียบ
ค. ผขู้ ับเรอื ไมด่ ื่มสุรา
ง. ฝนตก มพี ายุ

9.เมอ่ื ลงเรือแลว้ ควรปฏบิ ัติตนอย่างไร ก
ก. เดินเขา้ ไปในตวั เรือ ง
ข. น่งั ท่กี ราบเรอื ก
ค. ว่ิงเลน่ ในเรือ
ง. ยืนถา่ ยรปู ข

10.เพราะเหตใุ ด ควรยนื รอรถไฟฟ้าหลงั
เสน้ สเี หลอื ง
ก. เจา้ หน้าทร่ี ถไฟบงั คบั
ข. เพื่อเป็นความสวยงาม
ค. เพอ่ื ความเป็นระเบยี บ
ง. เพือ่ ป้องกนั ตนเองจากอบุ ตั ิเหตุ

11. สัญลักษณแ์ ละป้ายเตอื นมี
ความสำคญั อย่างไร

ก. ใหท้ ราบถงึ อนั ตรายและวธิ ีการ
ปฏิบตั ิในพ้นื ที่เส่ียงอนั ตราย

ข. ใหเ้ ห็นความสวยงามของ
สญั ลกั ษณแ์ ละป้ายเตือน

ค. ให้ทราบถึงอันตราย แต่ไม่
ต้องปฏิบัติ
ง. ให้ทราบถงึ สญั ลกั ษณ์ แตไ่ ม่
ต้องปฏิบตั ิ
12. ใดเปน็ วิธีใช้ยาพาราเซตามอลอย่าง
ถูกตอ้ ง
ก. เคย้ี วยากอ่ นกลนื
ข. กนิ ยาทกุ 4-6 ชว่ั โมง
ค. ละลายยากบั น้ำต้มสุก
ง. กนิ ยาทกุ 2-3 ชว่ั โมง
13.การรบั ประทานยาสามญั ประจำบา้ น
ประเภทนำ้ ควรทำอย่างไร
ก. ดื่มน้ำอดั ลมตามหลงั

รับประทาน
ข. ผสมกับน้ำร้อนก่อน

รบั ประทาน
ค. เขย่าขวดก่อนรบั ประทาน
ง. ดื่มน้ำตามมากๆ

14. สัญลักษณ์และป้ายเตอื นท่มี ีสี ก
เหลือง หมายความว่าอยา่ งไร
ก. ระวงั อนั ตราย
ข. หยุด
ค. หา้ มทำ
ง. ปฏบิ ัติตาม

15. มีความหมายว่าอย่างไร ข
ก. ระวงั สะดดุ ค
ข. ระวงั อนั ตราย
ค. ระวังสุนัขดุ
ง. ระวังทางรืน่

16.บรเิ วณที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสงู ควรมี
ปา้ ยข้อใด

ก. ข.

ค. ง.

17.สีเพือ่ ความปลอดภยั สีใดบังคับให้ ก
ตอ้ งปฏบิ ตั ิเพือ่ ความปลอดภยั ข
ก. สีนำ้ เงิน ก
ข. สีเหลือง
ค. สีเขียว
ง. สีแดง

18. ถ้าเหน็ ป้ายนี้ ควรทำอยา่ งไร
ก. ไมซ่ ื้อบุหรี่
ข. ไมส่ บู บหุ รี่
ค. ไมพ่ กบหุ รี่
ง. ไมจ่ ดุ บุหรี่

19. เอทิลแอลกอฮอล์ ควรใชอ้ ย่างไร
ก. ใช้ล้างแผล
ข. ใชแ้ กท้ อ้ งเสีย
ค. ใชแ้ ก้ปวดหวั
ง. ใช้บรรเทาอาการไอ มีเสมหะ

20. ถ้าใชย้ าแล้วมีอาการแพย้ า ควรทำ ก
อยา่ งไร
ก. ควรเลกิ ใช้ แลว้ รบี ไปพบแพทย์
ทนั ที
ข. รบั ประทานยาใหม้ ากขึ้น
กวา่ เดิม
ค. ควรนำยาไปทำลาย
ง. นอนพัก

ค่าดัชนคี วามสอดคล้อง (IOC)

ความคิดเหน็ ของ รวม IOC แปลผล
ผเู้ ชยี่ วชาญ

ผเู้ ชย่ี ว ผเู้ ชย่ี ว ผเู้ ชยี่ ว
ชาญ ชาญ ชาญ

ขอ้ ท่ี คนท่ี คนท่ี คนท่ี

1 23

ขอ้ 1 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ขอ้ 2 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ข้อ 3 1 1 1 3 1.00 ใชไ้ ด้
ขอ้ 4 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ขอ้ 5 -1 1 1 1 0.33 ตดั ออก
ข้อ 6 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ข้อ 7 1 1 1 3 1.00 ใชไ้ ด้
ข้อ 8 -1 1 1 1 0.33 ตดั ออก
ข้อ 9 -1 1 1 1 0.33 ตดั ออก
ขอ้ 10 -1 1 1 1 0.33 ตัดออก
ข้อ 11 -1 1 1 1 0.33 ตัดออก
ขอ้ 12 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ขอ้ 13 -1 1 1 1 0.33 ตัดออก
ข้อ 14 -1 1 1 1 0.33 ตดั ออก
ขอ้ 15 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้

ขอ้ 16 -1 1 1 1 0.33 ตัดออก
ขอ้ 17 -1 1 1 1 0.33 ตดั ออก
ขอ้ 18 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ข้อ 19 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
ขอ้ 20 -1 1 1 1 0.33 ตัดออก


Click to View FlipBook Version