ส�ำนักปฏิบัติธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วดั ยานนาวา I 183
๖. ย้ายจติ มาร้ทู ส่ี น้ เท้าซ้าย ภาวนาวา่ “ซ้าย” พร้อมกับค่อยๆ ยกส้นเทา้ ซา้ ยขน้ึ ชา้ ๆ ปลายเทา้
ยังแตะพน้ื อยู่
๗. ภาวนาว่า “ย่าง” พร้อมกับค่อยๆ เคลอ่ื นเทา้ ซา้ ยไปข้างหน้าชา้ ๆ จนส้นเทา้ ซา้ ยเลยปลายเท้า
ขวาประมาณ ๒ นวิ้ แลว้ ค่อยๆวางฝา่ เท้าลงสู่พ้ืน (เอาปลายเท้าลงกอ่ น)
๘. ขณะเทา้ ถูกพ้ืน ภาวนาว่า “หนอ” พร้อมกบั อาการวางเท้าลงแตะถูกพ้นื จนสน้ เรียบแลว้ นิ่ง
ให้เดินไปจนสดุ ทางเดนิ จงกรม
ถ้าใจคดิ ฟุง้ ซา่ นใหห้ ยดุ เดิน หยดุ เคลือ่ นไหว ให้ก�ำหนดรทู้ จ่ี ติ ใจทค่ี ดิ นั่นแหละวา่ “คิดหนอๆๆ”
จนกวา่ อาการคดิ จะดับไป แลว้ จงึ เดนิ ตอ่ ไปจนกระท่งั สดุ ทางเดิน ก้าวสดุ ท้ายให้ย่างเท้ามาคู่กนั
วธิ ีกลับตวั
เมื่อผู้ปฏิบัติเดินไปสดุ ทางเดินจงกรม ไม่ควรเดินวนกลับใหล้ ักษณะเหมือนเดนิ เป็นวงกลม เพราะ
การเดินจงกรมคือการเดินเป็นเส้นตรงกลับไปกลับมาอย่างมีสติทุกขณะ ไม่ใช่การเดินเป็นวงกลม
ควรฝึกเดนิ เปน็ จงั หวะ ดงั น้ี
๑. ขณะยืนอยู่ สติรอู้ ยทู่ อ่ี าการยืน (คอื อาการตั้งตรงของรา่ งกาย) ภาวนาว่า “ยนื หนอ” ๓ ครงั้
หรอื หลายๆคร้ัง จนจติ สงบนงิ่ อยูก่ ับกาย เหมอื นกับการกำ� หนดยืนสมาธิ
๒. ก�ำหนดท่ีตน้ จิต “อยากกลบั หนอ” ๓ ครงั้
๓. การก�ำหนดกลับตวั จะกลับ ๓ คู่ ๔ คู่ หรอื ๘ คู่ กไ็ ดไ้ ม่เปน็ ปัญหา ในทน่ี ีแ้ นะน�ำการกำ� หนด
กลับ ๔ คู่ เพอื่ งา่ ยต่อการก�ำหนด
๔. ใหจ้ ติ มาระลึกรู้ทเี่ ทา้ ขวา ตง้ั สตไิ วท้ เ่ี ท้าขวา ก�ำหนดวา่ “กลับหนอ” พรอ้ มกบั ยกปลายเทา้
ขวาขน้ึ ต้งั ส้นไวแ้ ล้วหมุนไปทางขวามอื ประมาณ ๑ น้วิ แลว้ วางลงแนบพ้ืน
๕. ขณะยกเทา้ ซา้ ยขน้ึ เหนือตาตมุ่ ไมย่ กเท้าสูง ภาวนาว่า “กลบั หนอ” พรอ้ มเคล่อื นเท้าซา้ ยมา
เสมอกบั เท้าขวา
๖. กลบั หนอคทู่ ่ี ๒ จะหันหนา้ มาคร่ึงหนึ่งพอดี กลับหนอ ๔ คู่ จะกลับหลงั หนั พอดี
๗. เมอ่ื กลับเสร็จแล้ว อยา่ เพง่ิ รีบเดนิ ตอ่ ไปทนั ที ใหภ้ าวนาวา่ “ยนื หนอ” ๓ คร้งั (วิธีกำ� หนด
เหมอื นในขนั้ ตอนการยืนสมาธิ)
๘. กำ� หนดที่ตน้ จติ “อยากเดินหนอ” ๓ ครัง้ แล้วจึงเดินระยะที่ ๑ ตอ่ ไป
ให้เดินจงกรมระยะที่ ๑ และก�ำหนดกลับตัวไปมาอย่างน้ีประมาณ ๓๐ นาที หรือ ๑ ช่ัวโมง
ทุกครง้ั ก่อนน่งั สมาธิ
การกำ� หนดกลบั ตวั ดว้ ยการฝกึ เคลอื่ นไหวชา้ ๆ มปี ระโยชนค์ อื ทำ� ใหเ้ สน้ เอน็ ทยี่ ดึ เดนิ การคลายตวั
เพราะเสน้ ประสาทอยทู่ เี่ ทา้ เมอ่ื ตง้ั สน้ หมนุ กลบั แตล่ ะครง้ั จะทำ� ใหร้ สู้ กึ ผอ่ นคลายตง้ั แตศ่ รี ษะจรดปลายเทา้
ช่วยรกั ษาอาการเหนบ็ ชา รักษาโรคได้
184 I โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
วธิ ีเดินจงกรม ระยะท่ี ๒
เม่อื ฝกึ เดนิ ระยะที่ ๑ จนชำ� นาญแลว้ ควรฝึกเดนิ ระยะท่ี ๒ ซึง่ ในระยะท่ี ๒ การเดินเริ่มละเอียด
ขึ้น เพราะในก้าวเดียวมีความเกิดดบั ของรปู นาม ๒ ขณะ มคี �ำวา่ ภาวนาวา่ “ยกหนอ-เหยยี บหนอ”
๑. กา้ วแรกยา้ ยจติ มารทู้ เี่ ท้าขวา ภาวนาว่า “ยกหนอ” พรอ้ มกบั อาการค่อยๆ ยกเท้าขวาข้ึนทง้ั
เท้าจนพ้นพืน้ เหนือตาตุ่มเลก็ น้อย ไม่ยกสูงเกินไป สดุ เสยี ง “หนอ” แล้วหยุดนิ่ง
๒. จากนนั้ ค่อยๆ เคลื่อนเทา้ ขวาไปขา้ งหนา้ ช้าๆ ไม่มีคำ� ภาวนา มแี ตจ่ ติ ทีอ่ ยกู่ ับเทา้ ท่เี คลอ่ื นไป
อย่างมสี ติทุกๆ ขณะ
๓. ภาวนาว่า “เหยยี บหนอ” พร้อมกบั อาการจรดปลายเท้าขวาลง ตามดว้ ยสน้ เทา้ วางแนบพ้ืน
แล้วหยุดนงิ่
๔. ย้ายจติ มารู้ทีเ่ ทา้ ซา้ ย ภาวนาวา่ “ยกหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกเท้าซ้ายข้นึ ทง้ั เท้าชา้ ๆ
จนพ้นพ้นื ในลกั ษณะงอเข่า แต่เข่าไมเ่ คลอ่ื นมาด้านหน้า และพับเก็บฝ่าเท้า ไม่ยกสูงเกนิ ไป
๕. จากนั้น ค่อยๆ เคลื่อนเทา้ ซ้ายไปข้างหน้าช้าๆ ขณะเคล่อื นเทา้ ไปไม่มีค�ำภาวนา มแี ต่จติ ทร่ี ู้
เท้าที่เคลอื่ นไปอย่างมีสติทุกๆ ขณะ
๖. ภาวนาวา่ “เหยียบหนอ” พรอ้ มกับอาการจรดปลายเทา้ ขวาลงตามดว้ ยสน้ เทา้ วางแนบพ้นื
แลว้ หยดุ น่งิ
๗. ก้าวต่อไปก�ำหนดเหมือนเดิม ขณะเดินให้จิตอยู่กับเท้าที่เคลื่อนไหวให้ต่อเน่ืองทุกๆ ขณะ
จนกระทัง่ สุดทางเดนิ ก้าวสุดท้ายใหย้ า่ งเท้ามาคูก่ ัน
๘. จากน้นั กำ� หนด “ยืนหนอ” ๓ ครัง้ “อยากกลับหนอ” ๓ ครง้ั กลับ ๔ คู่ จนกระทั่งกลบั หลงั
หัน
๙. เมอ่ื จะเดนิ ตอ่ ไปให้กำ� หนด “ยืนหนอ” ๓ ครัง้ “อยากเดนิ หนอ” ๓ คร้งั แล้วเร่มิ เดนิ ตอ่ ไป
การเดนิ ในระยะนตี้ อ้ งเดนิ ใหถ้ กู ใหล้ ะเอยี ด ใหอ้ ดทนไมต่ อ้ งรบี ฝกึ เดนิ ในระยะนใี้ หช้ ำ� นาญ เพราะ
เป็นระยะต้นแบบของระยะอื่นต่อไป
การเดนิ จงกรมควรเดนิ ใหช้ า้ อปุ มาเหมอื นคนปว่ ย คอ่ ยๆ ประคองกายเดนิ ไปอยา่ งมสี ตทิ กุ ยา่ งกา้ ว
จะทำ� ใหส้ ตสิ มาธติ ง้ั มน่ั ไดเ้ รว็ แมก้ ารเดนิ ไปมาระหวา่ งวนั เขา้ หอ้ งนำ้� หรอื เดนิ ไปพกั ควรฝกึ เดนิ ดว้ ยความ
ส�ำรวมระวัง มีสตทิ กุ ย่างก้าว
วธิ ีเดนิ จงกรม ระยะท่ี ๓
ระยะที่ ๓ จิตเร่มิ จะละเอยี ดข้ึนตามล�ำดบั เพราะในกา้ วเดียวมรี ปู นามเกดิ ดับ ๓ ขณะ มคี �ำภาวนา
วา่ “ยกหนอ-ย่างหนอ-เหยยี บหนอ”
การเดินในระยะนี้ควรเดินช้าลงตามล�ำดับ จะท�ำให้เห็นความเกิดดับของรูปนาม วิปัสสนาญาณ
จะเกิดขึน้ เรว็
สำ� นักปฏิบตั ิธรรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา I 185
๑. ก้าวแรกย้ายจิตมารู้ที่เท้าขวา ภาวนาว่า “ยกหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกเท้าขวาข้ึน
จนพน้ พื้นเหนือตาตมุ่ เลก็ นอ้ ย เทา้ ขนานพน้ื ไมห่ ้อยเทา้ ไม่ยกสงู เกินไป แล้วหยุดน่งิ
๒. ภาวนาว่า “ย่างหนอ” พร้อมกบั อาการคอ่ ยๆ ย่างเท้าขวาไปขา้ งหนา้ ช้าๆ แลว้ หยุดนงิ่
๓. ภาวนาว่า “เหยยี บหนอ” พร้อมกบั อาการจรดปลายเทา้ ขวาลง ตามด้วยวางส้นเทา้ ลงแนบ
พื้น
๔. ย้ายจติ มารทู้ เ่ี ทา้ ซ้าย ภาวนาว่า “ยกหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกเท้าซ้ายข้นึ ท้งั เท้าช้าๆ
จนพน้ พ้นื ในลกั ษณะงอเขา่ แตเ่ ขา่ ไม่เคลือ่ นมาดา้ นหนา้ และพับเก็บฝา่ เทา้ ไม่ยกสงู เกนิ ไป
๕. ภาวนาว่า “ยา่ งหนอ” พร้อมกับอาการย่างเท้าซ้ายไปขา้ งหนา้ ชา้ ๆ แล้วหยดุ น่งิ
๖. ภาวนาว่า “เหยียบหนอ” พร้อมกับอาการจรดปลายเท้าขวาลง ตามด้วยวางส้นเท้าลง
แนบพ้ืน แลว้ หยุดน่งิ
๗. กา้ วตอ่ ไปกำ� หนดเหมอื นเดิม ตลอดระยะการเดนิ ใหจ้ ติ อยู่กบั เทา้ ทเ่ี คลื่อนไหวให้ต่อเน่อื งทกุ ๆ
ขณะ จนถงึ ก้าวสุดทา้ ยจงึ ยา่ งเท้ามาค่กู นั
๘. จากนนั้ จึงกำ� หนด “ยืนหนอ” ๓ ครงั้ “อยากกลับหนอ” ๓ ครัง้ กลับ ๔ คู่ จนกระทงั่ กลับ
หลงั หัน
๙. เมอ่ื จะเดนิ ต่อไปให้ก�ำหนด “ยนื หนอ” ๓ คร้ัง “อยากเดินหนอ” ๓ ครง้ั แล้วเร่ิมเดนิ ตอ่ ไป
วธิ ีเดนิ จงกรม ระยะที่ ๔
ระยะที่ ๔ จิตเริม่ ละเอียดขนึ้ ตามลำ� ดบั มี ๔ ข้นั ตอน เพราะในกา้ วเดียว มรี ปู นามเกิดดับถงึ ๔
คร้งั มคี ำ� ภาวนาวา่ “ยกส้นหนอ-ยกหนอ-ย่างหนอ-เหยียบหนอ”
๑. กา้ วแรก ยา้ ยจติ มารู้ทเ่ี ทา้ ขวา ภาวนาวา่ “ยกสน้ หนอ” พรอ้ มกับอาการค่อยๆ ยกส้นเทา้ ขวา
ขึ้นเล็กน้อย ปลายเท้ายงั แตะพื้นอยู่ แล้วหยดุ น่ิง
๒. ภาวนาวา่ “ยกหนอ” พร้อมกับอาการคอ่ ยๆ ยกเทา้ ขวาขึ้น จนพ้นพ้ืน เหนอื ตาตมุ่ เล็กนอ้ ย
เทา้ ขนานพื้น ไมห่ ้อยเท้า ไม่ยกสูงเกินไป แลว้ หยดุ นงิ่
๓. ภาวนาวา่ “ยา่ งหนอ” พร้อมกบั อาการย่างเทา้ ขวาไปขา้ งหนา้ ชา้ ๆ แลว้ หยุดนง่ิ
๔. ภาวนาวา่ “เหยยี บหนอ” พรอ้ มกบั อาการจรดปลายเทา้ ขวาลง ตามดว้ ยวางสน้ เทา้ ลงแนบพนื้
๕. ยา้ ยจติ มารู้ท่ีเท้าซ้าย ภาวนาวา่ “ยกส้นหนอ” พรอ้ มกับอาการคอ่ ยๆ ยกสน้ เท้าขวาขน้ึ เลก็
นอ้ ย ปลายเท้ายงั แตะพ้นื อยู่ แล้วหยดุ นง่ิ
๖. ภาวนาวา่ “ยกหนอ” พรอ้ มกับอาการค่อยๆ ยกเท้าซา้ ยข้นึ ท้งั เท้าจนพ้นพน้ื งอเข่า พบั เก็บ
ฝ่าเท้า ไม่ยกสูงเกินไป แลว้ หยดุ น่ิง
๗. ภาวนาวา่ “ยา่ งหนอ” พรอ้ มกับอาการย่างเท้าขวาไปข้างหน้าชา้ ๆ แลว้ หยดุ นง่ิ
๘. ภาวนาว่า “เหยียบหนอ” พร้อมกับอาการจรดปลายเท้าขวาลง ตามด้วยวางส้นเท้าลง
แนบพ้ืน
186 I โครงการฝึกอบรมหลักสตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
๙. กา้ วตอ่ ไป กำ� หนดเดินเชน่ เดมิ ตลอดเวลาในการเดิน ใหจ้ ิตอยกู่ บั เท้าท่ีเคล่ือนไหวให้ตอ่ เน่ือง
ทกุ ๆ ขณะ จนกระทั่งก้าวสดุ ท้าย จึงย่างเทา้ มาคู่กนั
๑๐. จากนัน้ จึงกำ� หนด “ยนื หนอ” ๓ ครง้ั “อยากกลับหนอ” ๓ คร้ัง กลบั ๔ คู่ จนกระท่งั กลบั
หลังหัน
๑๑. เม่ือจะเดินต่อไป ให้กำ� หนด “ยนื หนอ” ๓ ครัง้ “อยากเดนิ หนอ” ๓ คร้ัง แลว้ เร่ิมเดินต่อไป
วิธีเดินจงกรม ระยะท่ี ๕
ระยะท่ี ๕ จติ เรม่ิ ละเอยี ดยง่ิ ขน้ึ ตามลำ� ดบั มี ๕ ขน้ั ตอน เพราะในกา้ วเดยี ว มรี ปู นามเกดิ ดบั ถงึ ๕ ครง้ั
มีค�ำภาวนาวา่ “ยกส้นหนอ-ยกหนอ-ยา่ งหนอ-ลงหนอ-ถูกหนอ”
๑. ก้าวแรก ยา้ ยจติ มาร้ทู ี่เท้าขวา ภาวนาวา่ “ยกส้นหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกส้นเท้าขวา
ข้ึนเล็กนอ้ ย ปลายเทา้ ยงั แตะพ้ืนอยู่ แล้วหยดุ น่งิ
๒. ภาวนาวา่ “ยกหนอ” พร้อมกบั อาการคอ่ ยๆ ยกเทา้ ขวาขึ้น จนพ้นพ้นื เหนือตาตุ่มเล็กน้อย
เท้าขนานพ้นื ไม่หอ้ ยเท้า ไม่ยกสูงเกนิ ไป แลว้ หยุดนงิ่
๓. ภาวนาว่า “ยา่ งหนอ” พร้อมกับอาการยา่ งเทา้ ขวาไปข้างหน้าช้าๆ แล้วหยุดน่งิ
๔. ภาวนาวา่ “ลงหนอ” พร้อมกับอาการลดระดับเท้าลงครง่ึ หนึง่ แตเ่ ท้ายงั ลอยอยู่ ไมถ่ ูกพน้ื
แล้วหยุดนิง่
๕. ภาวนาว่า “ถูกหนอ” พรอ้ มกับอาการจรดปลายเท้าขวาลง ตามด้วยวางส้นเทา้ ลงแนบพ้ืน
๖. ยา้ ยจติ มารู้ทีเ่ ท้าซา้ ย ภาวนาว่า “ยกส้นหนอ” พร้อมกับอาการคอ่ ยๆ ยกสน้ เทา้ ซ้ายขน้ึ เล็ก
นอ้ ย ปลายเท้ายังแตะพื้นอยู่ แลว้ หยุดนิง่
๗. ภาวนาว่า “ยกหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกเท้าขวาขึ้น จนพ้นพื้นในลักษณะงอเข่า
พับเก็บฝา่ เทา้ ไม่ยกสูงเกนิ ไป แลว้ หยุดนิ่ง
๘. ภาวนาวา่ “ยา่ งหนอ” พร้อมกับอาการยา่ งเท้าขวาไปขา้ งหนา้ ชา้ ๆ แลว้ หยุดนงิ่
๙. ภาวนาวา่ “ลงหนอ” พร้อมกบั อาการลดระดบั เทา้ ลงครึ่งหนงึ่ แตเ่ ทา้ ยังลอยอยู่ ไมถ่ กู พน้ื
แล้วหยดุ นง่ิ
๑๐. ภาวนาวา่ “ถกู หนอ” พรอ้ มกบั อาการจรดปลายเทา้ ขวาลง ตามดว้ ยวางสน้ เท้าลงแนบพ้ืน
แล้วหยุดนิ่ง
๑๑. ก้าวต่อไป กำ� หนดเดินเชน่ เดมิ ตลอดเวลาการเดนิ ใหจ้ ิตอยูก่ ับเท้าที่เคลอื่ นไหวให้ตอ่ เนือ่ ง
ทกุ ๆ ขณะ จนกระท่งั กา้ วสดุ ท้าย จงึ ยา่ งเทา้ มาคู่กนั
๑๒. จากนน้ั จึงกำ� หนด “ยืนหนอ” ๓ ครงั้ “อยากกลับหนอ” ๓ ครัง้ หลบั ๔ คู่ จนกระทั่งกลบั
หลังหนั
๑๓. เมือ่ จะเดนิ ตอ่ ไป ให้ก�ำหนด “ยนื หนอ” ๓ ครั้ง “อยากเดนิ หนอ” ๓ ครง้ั แลว้ เร่มิ เดินตอ่ ไป
สำ� นักปฏบิ ัติธรรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แห่งท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 187
วธิ เี ดนิ จงกรม ระยะที่ ๖
ระยะที่ ๖ จติ เรม่ิ ละเอยี ดยงิ่ ขน้ึ ตามลำ� ดบั มี ๖ ขนั้ ตอน เพราะในกา้ วเดยี ว มรี ปู นามเกดิ ดบั ถงึ ๖ ครง้ั
มีคำ� ภาวนาว่า “ยกส้นหนอ-ยกหนอ-ย่างหนอ-ลงหนอ-ถูกหนอ-กดหนอ”
๑. ในกา้ วแรก ย้ายจิตมารูท้ ่ีเทา้ ขวา ภาวนาวา่ “ยกสน้ หนอ” พรอ้ มกบั อาการค่อยๆ ยกสน้ เทา้
ขวาขึ้นเลก็ น้อย ปลายเท้ายังแตะพื้นอยู่ แลว้ หยุดน่ิง
๒. ภาวนาว่า “ยกหนอ” พรอ้ มกบั อาการคอ่ ยๆ ยกเทา้ ขวาขนึ้ จนพน้ พ้นื เหนือตาต่มุ เลก็ น้อย
เทา้ ขนานพืน้ แลว้ หยุดนง่ิ
๓. ภาวนาวา่ “ยา่ งหนอ” พรอ้ มกบั อาการยา่ งเทา้ ขวาไปข้างหน้าชา้ ๆ แล้วหยุดนง่ิ
๔. ภาวนาวา่ “ลงหนอ” พรอ้ มกับอาการลดระดบั เท้าลงคร่ึงหน่ึง แตเ่ ทา้ ยังลอยอยู่ ไมถ่ กู พืน้
แล้วหยุดนงิ่
๕. ภาวนาวา่ “ถกู หนอ” พรอ้ มกบั อาการจรดเฉพาะปลายเทา้ ขวาลงอยา่ งเดยี ว สน้ เทา้ ยงั ลอยอยู่
๖. ภาวนาวา่ “กดหนอ” พร้อมกับอาการวางสน้ เทา้ ลงไปจนแนบกบั พืน้ แลว้ หยุดนง่ิ
๗. ย้ายจิตมาร้ทู ่เี ทา้ ซา้ ย ภาวนาว่า “ยกส้นหนอ” พร้อมกับอาการคอ่ ยๆ ยกส้นเท้าซ้ายขึน้ เลก็
นอ้ ย ปลายเท้ายงั แตะพ้นื อยู่ แลว้ หยดุ นิง่
๘. ภาวนาว่า “ยกหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ยกเท้าขวาข้ึน จนพ้นพ้ืนในลักษณะงอเข่า
พบั เกบ็ ฝ่าเทา้ แลว้ หยุดนิง่
๙. ภาวนาว่า “ย่างหนอ” พร้อมกับอาการยา่ งเท้าขวาไปขา้ งหนา้ ช้าๆ แล้วหยุดนงิ่
๑๐. ภาวนาวา่ “ลงหนอ” พร้อมกบั อาการลดระดับเท้าลงครึ่งหนึ่ง แต่เทา้ ยังลอยอยู่ ไม่ถูกพ้ืน
แล้วหยดุ น่งิ
๑๑. ภาวนาวา่ “ถกู หนอ” พรอ้ มกบั อาการจรดเฉพาะปลายเทา้ ซา้ ย ลงอยา่ งเดยี ว สน้ เทา้ ยงั ลอยอยู่
๑๒. ภาวนาว่า “กดหนอ” พร้อมกบั อาการวางสน้ เทา้ ลงไป จนแนบกับพ้นื แลว้ หยุดน่งิ
๑๓. ก้าวต่อไป ก�ำหนดตนเช่นเดิม ตลอดเวลาการเดิน ให้จิตอยู่กับเท้าท่ีเคล่ือนไหวให้ต่อเน่ือง
ทุกๆ ขณะ จนกระท่งั ก้าวสุดท้าย จงึ ยา่ งเท้ามาคู่กนั
๑๔. จากน้ัน จึงกำ� หนด “ยืนหนอ” ๓ ครัง้ “อยากกลบั หนอ” ๓ คร้ัง กลบั ๔ คู่ จนกระท่ังกลับ
หลงั หนั
๑๕. เมอ่ื จะเดินตอ่ ไป ให้กำ� หนด “ยนื หนอ” ๓ ครง้ั “อยากเดนิ หนอ” ๓ คร้งั แลว้ เรม่ิ เดินตอ่ ไป
วิธีคลายมอื ออกจากท่าสำ� รวม
เม่อื เดินจงกรมจนพอสมควรแก่เวลาแล้ว เมื่อจะยกมอื ออกจากกาย ควรก�ำหนดรู้ใหต้ ดิ ต่อไปตาม
ลำ� ดับ ดังน้ี
๑. ขณะยนื อยใู่ หภ้ าวนาวา่ “ยนื หนอ” ๓ ครั้ง (ตามวิธกี �ำหนดยนื ทไี่ ด้อธบิ ายไวแ้ ล้ว)
๒. ก�ำหนดที่ตน้ จิตวา่ “อยากน่ังหนอ” ๓ คร้งั
188 I โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รพระวิปสั สนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
๓. จิตมารู้ที่มอื ขวา เพอื่ จะยกมอื ออกจากกนั ภาวนาวา่ “ยกหนอ” พร้อมกบั อาการยกมอื ขวา
ออกจากหน้าทอ้ ง ในลักษณะต้งั ฉากกับลำ� ตวั แลว้ หยดุ น่ิง
๔. ภาวนาวา่ “ลงหนอ” พรอ้ มกบั อาการลดมอื ลงครึ่งหนง่ึ ขา้ งล�ำตวั แลว้ หยุดน่งิ
๕. ภาวนาวา่ “ปลอ่ ย” พร้อมกบั อาการปล่อยมือวางไว้ข้างล�ำตวั
๖. เม่อื จะยกมอื ซ้ายออก ใหก้ �ำหนดภาวนาเชน่ เดยี วกัน
๗. รกู้ ายท่ขี ยบั เคลอื่ นไหวไป เพ่ือจะยืนและยอ่ ลงน่ังบนอาสนะ
๘. เม่อื เทา้ ถูกอาสนะ ภาวนาตามเป็นจรงิ คอื “ถกู หนอ” “นุม่ หนอ” เปน็ ต้น
จากนั้นจงึ กำ� หนดอริ ยิ าบถยอ่ ยในการนง่ั สมาธติ ่อไป
วธิ กี ำ� หนดอริ ยิ าบถยอ่ ยในการนั่ง
เมื่อเดินจงกรมจนพอสมควรแก่เวลา (ประมาณ ๓๐ นาทีขึ้นไป ถึง ๑ ช่ัวโมง จึงจะได้อารมณ์
กรรมฐาน) หากจะน่งั ให้กำ� หนดรู้อิริยาบถยอ่ ยในการนั่งตามล�ำดับ ดังนี้
๑. ภาวนาวา่ “ถอยหนอ” พร้อมกบั อาการถอยส้นเท้าซา้ ยไปข้างหลงั ๑ กา้ ว
๒. เมื่อขยับมือมาวางหน้าขา หรือดงึ กระโปรงกางเกง กใ็ หก้ �ำหนดรู้ใหล้ ะเอียดใหต้ อ่ เนอ่ื ง
๓. ภาวนาว่า “ยอ่ ” พร้อมกบั อาการย่อลงคร่ึงตวั
๔. ภาวนาว่า “ลงๆๆ” อกี ๓ จังหวะ จนกระทั่งจังหวะย่อลงคร้งั สดุ ทา้ ยน่ังบนส้นเท้าซา้ ย
๕. ภาวนาวา่ “ถกู หนอ” พร้อมกับอาการที่เข่าซ้ายถกู พื้น
๖. ภาวนาว่า “ขยับ” พรอ้ มกบั อาการขยับกายยืดตวั ขึ้น
๗. ภาวนาวา่ “ลง” คร้งั ที่ ๑ พร้อมกบั อาการถอยสน้ เทา้ ขวาไปขา้ งหลังเสมอสน้ เท้าซา้ ย
๘. ภาวนาวา่ “ลง” คร้งั ที่ ๒ พร้อมกับอาการนั่งลงบนสน้ เท้าขวา
๙. ภาวนาว่า “ถกู หนอ” พร้อมกบั อาการทเ่ี ขา่ ขวาถกู พ้ืน
๑๐. ภาวนาวา่ “ท้าวหนอ” พร้อมกับเอนตวั ไปทางซ้าย มือซ้ายท้าวพืน้ เสมอกับเขา่ ปลายมอื ช้ี
ไปด้านหน้า
๑๑. ภาวนาว่า “ขยบั ” พรอ้ มกบั อาการขยบั ขาไปทางขวา ในลกั ษณะจะนัง่ พับเพียบ ขยับอย่าง
เดียวแตย่ งั ไมน่ ง่ั
๑๒. ภาวนาว่า “น่ัง” คร้งั ท่ี ๑ พร้อมกับอาการหย่อนสะโพกลงนิดหนึ่ง ครัง้ ท่ี ๒ พรอ้ มกับอาการ
หย่อนสะโพกลงนิดหนึ่งแต่ยังไมถ่ กู พนื้
๑๓. ภาวนาวา่ “ถงึ หนอ” พร้อมกบั อาการที่กายถกู อาสนะในลกั ษณะนั่งพับเพียบ
๑๔. ขณะน้ันมอี าการนมุ่ สบาย หรอื ดใี จให้ภาวนาตามเป็นจรงิ
๑๕. ภาวนาวา่ “ขยบั ” พรอ้ มอาการขยบั มอื ซ้ายมาข้างหลัง ใกล้ล�ำตัว ปลายนิว้ ชไ้ี ปดา้ นหนา้
๑๖. ภาวนาว่า “ยก” พร้อมกบั อาการยกเขา่ ขวาขน้ึ เลก็ นอ้ ย
๑๗. ภาวนาว่า “ไป” พรอ้ มกบั อาการยกวาดเท้าขวาไปขา้ งหน้า เอนเข่าลง
ส�ำนักปฏิบัตธิ รรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑ วดั ยานนาวา I 189
๑๘. ภาวนาวา่ “จับ” พร้อมกับอาการมือขวาจับข้อเท้าขวา
๑๙. ภาวนาว่า “ยก” พรอ้ มกับอาการยกเท้าขึ้นนดิ เดยี ว ไม่ยกสูง
๒๐. ภาวนาวา่ “มา” พรอ้ มกับอาการยกเท้าเคลือ่ นเข้ามา
๒๑. ภาวนาว่า “วาง” พรอ้ มกับอาการวางเท้าลงในลกั ษณะขาขวาทบั ขาซ้าย
๒๒. ภาวนาว่า “ยก” พรอ้ มกบั อาการยกมอื ขวาขึน้ ตรงๆ ยงั ไม่เคลอ่ื น ให้รทู้ ีละขณะ ทีละหนึง่
๒๓. ภาวนาวา่ “ไป” พรอ้ มกับอาการเคลือ่ นมอื ไปเหนอื เขา่ ยงั ไมว่ าง
๒๔. ภาวนาวา่ “วาง” พรอ้ มกับอาการวางมอื บนเขา่ ขวา
๒๕. ภาวนาวา่ “ยก” พรอ้ มกบั อาการยกมอื ซ้ายขนึ้ เหนือพน้ื แตย่ ังไมเ่ คลอ่ื นมา
๒๖. ภาวนาวา่ “มา” พรอ้ มกับอาการเคลื่อนมือมาเหนอื เข่าซ้าย
๒๗. ภาวนาว่า “วาง” พรอ้ มกับอาการวางมือเหนือเข่าซ้าย
๒๘. เมอ่ื ขยับร่างกายไปมาจนทา่ น่งั เข้าท่ี ใหม้ สี ติกำ� หนดรตู้ ามแล้วมอื ทง้ั ๒ ขา้ ง วางไว้บนหวั เข่า
๒๙. จากน้ัน ภาวนาว่า “ยกหนอ” พร้อมกับอาการยกมอื ซา้ ยข้ึนเหนือเขา่ ในลกั ษณะควำ่� มอื ลง
ไมส่ งู เกนิ ไป มือเหยียดตรง
๓๐. ภาวนาว่า “มาหนอ” พรอ้ มกับอาการค่อยเคลื่อนมือมาช้าๆ เขา้ หาลำ� ตวั ใกลห้ นา้ อก
๓๑. ภาวนาวา่ “หงายหนอ” พรอ้ มกบั อาการคอ่ ยๆ พลิกหงายมือขน้ึ ชา้ ๆ สติตามระลึกรู้ ไมก่ ้ม
มองมอื
๓๒. ภาวนาว่า “ลงหนอ” พร้อมกับอาการค่อยๆ ลดมือลงครงึ่ หน่ึง
๓๓. ภาวนาว่า “วางหนอ” พรอ้ มกับอาการวางมอื ท่ีหนา้ ตัก
๓๔. เมือ่ กำ� หนดร้ทู ่ีมอื ขวา กใ็ หภ้ าวนาเช่นกันตั้งแตล่ ำ� ดบั ที่ ๒๙-๓๓ ตามล�ำดับ
๓๕. ภาวนาว่า “ต้งั หนอ” พร้อมกับอาการที่ขยบั ต้ังกายใหต้ รง
๓๖. ภาวนาว่า “ปดิ หนอ” พรอ้ มกับอาการทีป่ ดิ เปลอื กตาลงเบาๆ
การก�ำหนดลักษณะนี้เป็นการฝึกให้มีสติ ระลึกรู้ให้ทันกับความเกิดดับของรูปนามทีละขณะ
จิตจดจ่ออยู่กับปัจจุบันอย่างต่อเน่ือง เป็นวิธีก�ำหนดให้ติดต่อจากการเดินจงกรม เป็นอิริยาบถย่อย
ที่ส�ำคัญเพ่ือให้เห็นรูปนามเกิดดับอย่างต่อเน่ือง ความจริงรูปนามเกิดดับอยู่ตลอดเวลาแต่เพราะสันตติ
(ความสบื ต่อ) ปดิ บงั อำ� พรางไวท้ �ำให้เราเขา้ ใจผดิ คดิ วา่ รูปเทย่ี ง ท้ังทมี่ นั ไมเ่ ทยี่ ง
วิธกี �ำหนดพองหนอ-ยุบหนอ
วธิ นี ง่ั สมาธิมีหลายท่า ผ้ปู ฏบิ ัติสามารถเลือกวิธีน่งั ใหเ้ หมาะกับตัวเอง เมือ่ นัง่ แลว้ ไม่ควรขยบั พลิก
กายไปมา เพราะจะท�ำใหเ้ สียสมาธิ ควรจะนงั่ ใหน้ ่ิงๆ เหมอื นหินต้งั ไว้กลางแจ้ง ไมห่ วั่นไหวเพราะลมและ
แสงแดด ฉะน้นั
๑. ท่านั่งแบบเรียงขา คือน่ังพับเข่าซ้ายงอเข้ามาข้างใน ให้ฝ่าเท้าซ้ายชิดกับขาขวาด้านใน
ให้ส้นเท้าขวาแตะกับสันหน้าแข็งซ้าย ไม่ต้องยกเท้าข้ึนซ้อนกัน มือวางไว้เหนือเข่าในท่าหงายมือ
190 I โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รพระวิปัสสนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกยี รตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
ทางพม่านิยมน่ังทา่ นีเ้ พราะน่งั สบายเวทนาน้อย
๒. ทา่ นง่ั แบบทบั ขา คอื นงั่ ขดั สมาธใิ หย้ กเทา้ ขวาวางทบั บนขาซา้ ย เปน็ ทา่ นงั่ ขดั สมาธทิ า่ มาตรฐาน
ทว่ั ไป คนไทยชอบนงั่ ท่านี้
๓. ทา่ นงั่ แบบขดั สมาธเิ พชร คือ น่งั เอาขาขดั กนั ทัง้ สองขา้ ง เป็นทา่ น่ังทม่ี นั ดแี ต่จะมีเวทนามาก
โยคใี หม่ไมค่ วรนั่งท่าน้ี ฤษีอินเดียชอบนงั่ ทา่ นี้
การน่ังสมาธิต้องนั่งตัวตรง ทรงกายให้นิ่ง หลังตรง หายใจตามปกติ มีอาการผ่อนคลายเป็น
ธรรมชาติ ไม่เบง่ ท้อง ไม่หายใจแรง ไม่กลั้นลมหายใจ ใหห้ ายใจตามปกตแิ ละเปน็ ธรรมชาติ
เมอ่ื เรมิ่ ฝกึ ใหมๆ่ จะกำ� หนดไมค่ อ่ ยได้ การทเี่ รากำ� หนดไมค่ อ่ ยได้ ไมใ่ ชว่ า่ อาการพองยบุ ไมม่ ี เพยี งแต่
เรายงั ไมม่ สี มาธิ ไมต่ งั้ ใจกำ� หนด หรอื กำ� หนดไมถ่ กู และกำ� หนดไมต่ อ่ เนอ่ื งตา่ งหาก จงึ ทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ กำ� หนด
พองยบุ ไมไ่ ด้ จงึ ตอ้ งใจเย็นๆอดทน อย่าใจรอ้ น ถ้าไม่รวู้ ่าพองยุบเปน็ อย่างไรใหป้ ฏบิ ัตติ ามขั้นตอน ดงั น้ี
๑. สง่ ความรสู้ กึ ไปท่หี นา้ ทอ้ งพองยบุ ซง่ึ เป็นอารมณ์กรรมฐานตรงกลางเหนือสะดอื ข้นึ มา ๒ นิ้ว
๒. เบ้ืองต้นส�ำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าพองยุบอยู่ต�ำแหน่งใด ให้ใช้ฝ่ามือวางทาบที่หน้าท้องเบาๆ หลับตา
ส่งความรู้สึกไปท่ีหน้าท้อง จะรู้สึกถึงอาการเคล่ือนไหวข้ึนลงของท้องได้ชัดเจน ในขณะหายใจเข้าและ
หายใจออก
๓. ในตอนแรกนใี้ หร้ วู้ า่ นคี่ อื อาการพอง นคี่ อื อาการยบุ กพ็ อ ยงั ไมต่ อ้ งใสค่ ำ� บรกิ รรม จบั ความรสู้ กึ
ตามอาการใหไ้ ด้เสียกอ่ น
๔. เมือ่ อาการพองยบุ ชดั ดแี ลว้ จึงใส่คำ� ภาวนาตามอาการ ยงั ไมต่ อ้ งใสห่ นอต่อท้าย และใหเ้ อามือ
ออกจากการสัมผัส วางมือในทา่ น่ังสมาธิตามเดิม
๕. ขณะทอ้ งพองข้ึน สตกิ �ำหนดรอู้ าการพอง ภาวนา “พอง” ไปจนสดุ พอง
๖. ขณะท้องยุบลง สตกิ ำ� หนดรอู้ าการยุบของทอ้ ง ภาวนาว่า “ยบุ ” ไปจนสุดยบุ
๗. อาการที่ท้องพองขึ้นหรือยุบลง และค�ำภาวนากับใจท่ีรู้อาการพองยุบนั้น ต้องให้พร้อมกัน
ไมก่ อ่ นไมห่ ลัง จติ อยู่กบั อารมณก์ รรมฐานอย่างต่อเนื่อง ทันปัจจุบัน
๘. ถา้ กำ� หนดทันตามอาการไดต้ ามปกติ แลว้ จึงใส่ค�ำวา่ “หนอ” ต่อทา้ ย เพ่อื เพมิ่ ก�ำลงั สมาธิ และ
เปน็ การคั่นรปู นามให้ชดั เจนข้นึ เชน่ “พองหนอ” “ยุบหนอ”
๙. ถ้ายังหาพองยุบไม่เจอ ให้เปล่ียนฐานไปก�ำหนด “นั่งหนอ” “ถูกหนอ” แทนพองยุบก็ใช้ได ้
(วธิ ีก�ำหนดให้ดูทข่ี ้นั ตอนนั่งหนอถูกหนอ)
๑๐. เม่ือกำ� หนด “นงั่ หนอ” “ถกู หนอ” ไปนานๆ สมาธดิ ีข้นึ อาการพองยบุ ก็จะปรากฏขึน้ มา
ชดั เจนเอง เวลาน้ันค่อยมากำ� หนด “พองหนอ” หรือ “ยุบหนอ” ตามเดิม
๑๑. ถ้าพองยุบเปน็ ไปคอ่ นขา้ งเร็ว ให้ภาวนาว่า “พองๆๆ” “ยบุ ๆๆ” ตามอาการตัดหนอออก
๑๒. ถ้าเร็วมากจนภาวนาไม่ทัน ใหเ้ ปลย่ี นมาภาวนาวา่ “รหู้ นอๆๆ” สักแตว่ ่าร้เู ท่าน้ันพอ ถ้าพอง
ยบุ หายไป ภาวนาว่า “หายหนอ” แลว้ ย้ายไปก�ำหนดร้อู าการน่งั แทน ภาวนาว่า “นง่ั หนอ” “ถูกหนอ”
แทน จนกวา่ พองยบุ จะปรากฏ
ส�ำนกั ปฏบิ ตั ิธรรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แห่งท่ี ๑ วัดยานนาวา I 191
๑๓. ในขณะนั่งก�ำหนดรู้อาการพองยุบอยู่ ถ้ามีอารมณ์อ่ืนๆ ที่ชัดเจนแทรกเข้ามา เช่น คิดให้
หยุดภาวนาพองหนอยบุ หนอมากำ� หนดรอู้ าการคิดให้ทัน ภาวนาว่า “คิดหนอ” คอื รตู้ วั ใหท้ นั ว่ากำ� ลังคิด
จนกวา่ ความคดิ จะดบั ไป แล้วจงึ ยา้ ยมาก�ำหนดอาการพองยุบต่อไป
๑๔. ถ้าคิดอีกกก็ ำ� หนดอกี จนกวา่ จิตจะสงบ หรือมีอาการอน่ื มาให้กำ� หนด
หากมอี าการอนื่ เชน่ ไดย้ นิ เสยี ง ไมว่ า่ จะเปน็ เสยี งจากภายในหรอื ภายนอก ไมต่ อ้ งลมื ตาดู ใหก้ ำ� หนด
รู้ให้ทนั กบั เสียงที่ไดย้ ิน ภาวนาวา่ “ได้ยนิ หนอ” สกั แตว่ ่าได้ยิน เพือ่ ป้องกันจิตไมใ่ หป้ รุงแตง่ ฟุง้ ซา่ น
ถ้าเห็นภาพหรือนิมิต ให้ย้ายมาก�ำหนดอาการท่ีเห็นแทน ภาวนาว่า “เห็นหนอ” สักแต่ว่าเห็น
จนกวา่ ส่งิ ทเ่ี หน็ จะหายไป แลว้ จึงย้ายไปก�ำหนดอาการพองยบุ
วิธกี ำ� หนด นั่งหนอ-ถกู หนอ
เมอื่ นงั่ กำ� หนดพอง-ยบุ ไปไดส้ กั ระยะ อาการพองยบุ จะมคี วามเปลย่ี นแปลง เชน่ ชา้ เรว็ ตงึ แนน่ หรอื
หายไปไมป่ รากฏ เปน็ ตน้ จงึ ตอ้ งเปลยี่ นหรอื เพมิ่ กำ� หนดการเขา้ ไป เพอ่ื ใหเ้ กดิ สตริ ทู้ นั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง
ที่เกดิ ขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความงว่ งหรอื จติ คิดฟงุ้ ซา่ น ดังน้ี
๑. ขณะนง่ั อยพู่ องยบุ เปลยี่ นแปลงชา้ กวา่ จะยบุ หรอื พองอกี ทที ำ� ใหม้ ชี อ่ งวา่ งขนึ้ ใหเ้ พม่ิ การภาวนา
“น่งั หนอ” ลงไป เป็นการเพิม่ ระยะการภาวนา ๓ ขณะ ใหถ้ ี่ชัดข้ึนวา่ “พองหนอ-ยุบหนอ-นงั่ หนอ”
๒. ขณะกำ� หนดนัง่ หนอ ไม่ใหต้ ามดูรูปพรรณสณั ฐาน เช่น ศีรษะ คอ ขา หรอื สว่ นใดสว่ นหน่ึง
ใหก้ ำ� หนดรู้เฉพาะอาการนั่งเท่านน้ั ด้วยการรู้กายทัง้ หมดไม่ใชส่ ว่ นใดส่วนหนึง่
๓. เม่ือจะกลับมา ภาวนาว่า “พองหนอ” จิตต้องละจากอาการนั่งมาระลึกรู้อาการพองให้ทัน
ปัจจุบนั เมอื่ ภาวนาว่า “ยุบหนอ” ก็ต้องละจากอาการพองมาอย่กู ับปัจจุบัน คืออาการยบุ เช่นกนั
๔. ขณะก�ำหนดนั่งหนอ ตอ้ งละจากอาการยุบใหจ้ ติ อยกู่ บั อารมณก์ รรมฐาน คืออาการนั่ง จงึ จะ
ทำ� ให้การก�ำหนดรู้ “นง่ั หนอ” เป็นการก�ำหนดท่ีถกู ต้องทนั ปัจจุบัน
๕. เมอ่ื กำ� หนดถูกต้องทนั ปัจจุบัน วปิ สั สนาญาณจะเกดิ จะปรากฏความรู้แจง้ ชดั ดว้ ยปัญญาว่า
อารมณท์ กี่ ำ� หนดรู้ (รปู ) และจติ ทก่ี ำ� หนดรอู้ ารมณ์ (นาม) มกี ารเกดิ -ดบั อยตู่ ลอดเวลาอยา่ งนา่ อศั จรรย์
ผลจากการก�ำหนดทุกขณะ จะท�ำให้เกิดความเคยชินตามหลักบาลีว่า ภาวิตัง พะหุลีกะตัง
เจรญิ สติบอ่ ย ทำ� ให้มาก จติ จะคอ่ ยสงบลงไป ไมห่ นีไปเท่ยี วท่อี ่นื จะท่องเทีย่ วอยูใ่ นกายน้ี เกดิ ความเชอื่ ง
ความคุ้นเคยขึ้นมา เมื่อเกิดความคุ้นเคย (เพราะการเสพคุ้น) การก�ำหนดจะเป็นไปด้วยดี ไม่ต้องใช้
ความพยายามมากเหมือนแตก่ ่อน
หากเพ่ิมการภาวนาวา่ “นง่ั หนอ” แลว้ ยงั มีความงว่ งเกดิ ข้นึ หรือยังฟงุ้ ซา่ นอยู่ ใหเ้ พ่มิ การกำ� หนด
ถ่ีเขา้ ไปอกี คือ “ถกู หนอ” การภาวนาวา่ “ถูกหนอ” คอื สติรู้อาการถูกต้องสมั ผัสที่ก้นยอ้ ยด้านขวา หรือ
ทฝ่ี า่ มอื ทว่ี างซอ้ นกนั หรอื ทไี่ หนกไ็ ดท้ รี่ สู้ กึ ชดั เจนเปน็ ๔ ขณะ คอื “พองหนอ-ยบุ หนอ-ยงั่ หนอ-ถกู หนอ”
ดังน้ี
192 I โครงการฝึกอบรมหลักสตู รพระวิปสั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
๑. ขณะเพ่มิ การภาวนาวา่ “ถกู หนอ” จติ ตอ้ งละจากกำ� หนดร้อู าการพองยุบเสียกอ่ น
๒. น่ังหนอ-ถูกหนอ จะใช้ต่อเมื่ออาการพองยุบปรากฏไม่ชัดเจนหรือช้า เป็นการแก้อารมณ์
การนิ่ง การเฉย การไมอ่ ยากก�ำหนดและสามารถแกอ้ าการงว่ งไดด้ ้วย
๓. ขณะทก่ี ำ� หนด “ถกู หนอ” คำ� ภาวนาและความรสู้ กึ ในอาการนงั่ หรอื อาการถกู ตอ้ งใหเ้ ทา่ ทนั กนั
ไมใ่ ช่การท่องต้องร้สู ึกในอาการนัน้ ๆ ด้วย
๔. ตอ้ งก�ำหนดใหไ้ ด้จงั หวะพอดี ไมเ่ ร็วเกินไป ไมช่ ้าเกินไป ใหเ้ ปน็ ธรรมชาติ
๕. ส�ำหรบั ผ้เู คยท�ำอานาปานสติ คอื (ก�ำหนดลมหายใจ พุท-โธ มากอ่ น) ถา้ กำ� หนดพองยุบไมไ่ ด้
ให้ภาวนา “น่งั หนอ-ถกู หนอ” ไปก่อน เม่ืออาการพองยบุ ชัดเจนแลว้ ค่อยกลับมาภาวนาพองยุบทีหลัง
๖. เม่ืออาการพองยบุ หายไป คล้ายไม่ปรากฏในระหวา่ งการก�ำหนดแต่ยังหายใจอยู่ ให้กำ� หนดรู้
วา่ “นั่งหนอ-ถกู หนอๆๆ” แทนท่ีอย่างอนื่ เน่ืองจนกวา่ อาการพองยบุ จะปรากฏ หรอื มอี ารมณ์กรรมฐาน
อยา่ งอืน่ ท่ชี ัดกว่ามาปรากฏให้กำ� หนด
เม่ือฝึกปฏิบัติตามล�ำดับอย่างนี้ จะท�ำให้เกิดสมาธิที่ต่อเนื่อง จงก�ำหนดรู้ทุกอารมณ์ท่ีเกิดข้ึน
มิใช่เลอื กกำ� หนดเฉพาะอารมณ์ดสี งบอยา่ งเดียว
วิธกี �ำหนดเมอื่ พองยบุ เปลีย่ นแปลงเร็ว
บางขณะเมือ่ ผูป้ ฏบิ ตั ิก�ำหนดจดจอ่ ตอ่ อารมณ์กรรมฐาน “พอง-ยบุ ” อย่างต่อเนอื่ ง จะท�ำให้เกิด
สภาวะธรรม หรอื วิปสั สนาญาณเกิดข้ึนอย่างรวดเรว็ จนตกใจท�ำอะไรไมถ่ กู ขาดสติไปช่วั ขณะเม่ือเผลอไป
หลดุ ไปก็ไม่ตอ้ งเสียดาย หรอื มวั คดิ ถึงเพราะเป็นอารมณก์ รรมฐานที่กลายเปน็ อดีตไปแลว้ ควรรบี ก�ำหนด
ให้ทันปจั จุบันต่อไป
๑. ขณะพองยบุ เปลย่ี นแปลงเรว็ ให้ตัดคำ� วา่ “หนอ” ออก เหลอื เพยี ง “พอง” “ยุบ” เทา่ นนั้
๒. บางครั้งอาจพองข้ึนมาหลายขณะ จนกว่าจะสุดอาการพอง ก็ให้ก�ำหนดตามอาการนั้นว่า
“พองๆๆ”
๓. เวลายบุ ลงเกดิ อาการยบุ ลง ๔-๔ ขณะ ก็ให้ก�ำหนดร้วู ่า “ยุบๆๆ” จนกว่าอาการยุบจะดบั ไป
๔. บางขณะเกิดอาการพองชั้นเดียว แต่อาการยุบหลายขณะเป็นต้น ก็ให้ก�ำหนดตามอาการ
หา้ มเปลีย่ นแปลงแก้ไข
๕. บางครั้งเมื่อก�ำหนดไปนานๆ อย่างจดจ่อและต่อเน่ือง อาการพองยุบหายไป ให้ภาวนา
“หายหนอ” หรอื “ไม่มหี นอ” ตามอาการท่ปี รากฏ
๖. บางครั้งอาการพองยุบช้า หรือไม่ชัด หรือบางเบาคล้ายกับไม่มี ก็ไม่ต้องเปล่ียนแปลงแก้ไข
มีหน้าทีก่ �ำหนดตามอาการทปี่ รากฏให้เท่าทันปัจจบุ ัน หา้ มเบง่ ทอ้ งหาพองยุบ
๗. มีอาการตวั ส่ันให้ก�ำหนดรอู้ าการสนั่ วา่ “ส่นั หนอๆ” จนกวา่ จะหายสนั่ ถา้ สั่นมากโยกมาก
ก�ำหนดแลว้ ไม่หยดุ ใหน้ ั่งลืมตาก�ำหนดอริ ยิ าบถยอ่ ยแทน
การก�ำหนดแตล่ ะขณะ แต่ละสภาวะให้ก�ำหนดที่ก�ำหนดรนู้ ั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพอื่ ป้องกัน
สำ� นกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 193
จิตไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ ผู้ปฏิบัติจึงต้องก�ำหนดทุกสภาวะของรูปนาม
ตามความเปน็ จรงิ ทนั ที
เม่อื ไล่ตามก�ำหนดไปอย่างติดต่อ ก็จะเห็น (ด้วยปัญญาคอื จกั ษ)ุ ว่า รปู นามเกิดขึน้ แล้วดบั เรว็ มาก
ดับไปไม่เหลืออะไร สามารถแยกรูปแยกนามได้
194 I โครงการฝกึ อบรมหลักสูตรพระวิปสั สนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกยี รตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
หลักสูตรปฏิบตั ิธรรม
ส�ำนักปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา
๑. หลักสูตรการพัฒนาจิตเจ้าหน้าทีอ่ าสาสมัครประจ�ำปี
เป็นหลกั สตู รเปดิ ปฏิบตั ิธรรม เพ่อื ให้การอบรมเฉพาะคณะท�ำงาน ทงั้ เจา้ หน้าท่ปี ระจ�ำและอาสา
สมัครท่ีท�ำงานให้วัดมาตลอดปี เพ่ือจะได้มีเวลาเข้าปฏิบัติธรรมและสร้างความคุ้นเคยรู้จักกัน เพื่อเรียน
รตู้ วั เองและเรยี นรคู้ นอนื่ มกี ารปฏบิ ตั ธิ รรมและฟงั บรรยายธรรม และกจิ กรรมเพอื่ รว่ มสรา้ งความสมั พนั ธ์
ในองคก์ ร
กลุ่มเป้าหมาย รับสมัครเฉพาะอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ประจ�ำ หรือผู้ต้องการร่วมงานกับวัด
เท่านั้น ไมร่ ับบคุ คลภายนอก ผทู้ ำ� งานให้กับฝ่ายเผยแผแ่ ละปฏบิ ัติธรรมต้องเข้า
อบรมทกุ คนทกุ ครง้ั
ระยะเวลาการอบรม อบรมครัง้ ละ ๓ วัน ปีละ ๑ ครั้ง
๒. หลักสตู รพัฒนาจิตเพื่อชีวิตและการทำ� งานท่ีเปน็ สขุ
เป็นหลักสูตรเปิดปฏิบัติธรรมส�ำหรับบุคคลท่ัวไป อายุ ๑๕ ปี ข้ึนไป มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
สามารถเดินจงกรมปฏิบัติธรรมได้โดยไม่ต้องนั่งเก้าอ้ี เหมาะส�ำหรับผู้อยู่ในวัยท�ำงานหรือวัยศึกษา
เพื่อน�ำความรู้และการพัฒนาจิต เจริญสติ ไปปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพื่อให้เกิดปัญญาและสันติสุข
เพ่อื การดำ� เนินชีวติ อยา่ งมคี วามสขุ ในยคุ โลกาภวิ ตั น์
การปฏิบัติธรรม เน้นการเดินจงกรม-น่ังสมาธิ ก�ำหนดอิริยาบถย่อย ฟังธรรม และที่ส�ำคัญ คือ
การปิดวาจา งดพูด ตลอดการอบรม เพือ่ ความก้าวหน้าของการปฏบิ ัติธรรม รับประทานอาหารมังสวริ ตั ิ
๒ มอื้ สมาทานศีล ๘ ตลอดการอบรม
กล่มุ เป้าหมาย ประชาชนทั่วไป อายุ ๑๕ ปี ข้ึนไป
ระยะเวลาการอบรม ๓ วัน ๒ คืน ในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หรือวันส�ำคัญทางพุทธศาสนา วันหยุด
นกั ขัตฤกษ์ (ตามตาราง)
๓. หลักสตู รพัฒนาจิตใหเ้ กิดปญั ญาและสนั ตสิ ขุ
เป็นหลักสูตรปฏิบัติธรรมตามแนวทางของคุณแม่สิริ กรินชัย สอนโดยคณะวิทยากรซึ่งเป็น
ลกู ศษิ ยค์ ณุ แมส่ ริ ิ กรนิ ชยั เนน้ การปฏบิ ตั ธิ รรมเดนิ จงกรม - นง่ั สมาธิ ฟงั ธรรมจากประสบการณข์ องลกู ศษิ ย์
คณุ แม่สิริ และมพี ิธีขอขมาพระในบา้ น เพอ่ื อโหสกิ รรมต่อผู้มีพระคณุ
หลกั สตู รนี้ รับประทานอาหาร ๓ มอ้ื สมาทานศีล ๕ หรืออาชีวัฏฐมกศีล (สลี สำ� หรับผู้ครองเรอื น)
ปิดวาจา งดพูดตลอดการอบรม
กลุ่มเปา้ ยหมาย เด็กเยาวชนและประชาชนทวั่ ไป อายุ ๑๐ ปี ขนึ้ ไป จนถงึ ผสู้ ูงอายุ
ระยะเวลาการอบรม ๑ วัน และ ๓ วัน ๒ คนื (ศุกร-์ เสาร์-อาทติ ย)์
ส�ำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 195
๔. หลกั สูตรมหาสติปฏั ฐานภาวนา (ปฏิบัตธิ รรมเขม้ )
เป็นหลักสูตรปฏิบัติธรรมเข้มตามหลักมหาสติปัฏฐาน ๔ เน้นการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง
เดินจงกรม น่ังสมาธิ และฟังธรรมจากพระอาจารย์ สอบอารมณ์ตอบปัญหาธรรมจากพระอาจารย์
รับสมคั รทงั้ ชายและหญิง อายุต้ังแต่ ๑๕ ปี ข้ึนไป
หลักสูตรนี้ รบั ประทานอาหาร ๒ ม้อื สมาทานศลี ๘ ปิดวาจาพูดตลอดการอบรม
กลุม่ เปา้ หมาย รบั เฉพาะผตู้ อ้ งการปฏบิ ตั ธิ รรมธรรมเขม้ อยา่ งจรงิ จงั เทา่ นน้ั เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรมเกา่
เคยปฏบิ ตั ธิ รรมตามหลกั สตู ร ๓ วนั ๒ คนื มาแลว้ และสามารถอยคู่ รบตลอด ๗ วนั
ของการอบรม
ระยะเวลาการอบรม ครง้ั ละ ๗ วนั ปลี ะ ๑ ร่นุ หรอื ๒ รนุ่ เทา่ นั้น (ตามตาราง)
๕. หลักสตู รปฏิบัติธรรมวนั อาทิตยเ์ พ่ือพฒั นาจติ ให้เกิดปญั ญาและสันติสุข
เป็นหลักสูตรปฏิบัติธรรมเฉพาะวันอาทิตย์ เพ่ือเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน ได้มาปฏิบัติธรรม
อย่างง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องปิดวาจา งดพดู แต่ส�ำรวมระวงั ปิดโทรศพั ท์ งดคุยเมือ่ อย่ใู นห้องปฏบิ ัติธรรม
เน้นการสวดมนต์ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมเดินจงกรม น่ังสมาธิ ตามหลักมหาสติปัฏฐาน ๔ และพิธีถวาย
สังฆทานประจำ� วันอาทิตย์
กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทั่วไป ไมจ่ ำ� กดั อายุ
ระยะเวลาการอบรม เฉพาะวนั อาทติ ย์ช่วงบ่าย ต้งั แต่เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. (ดูตามตาราง)
๖. หลกั สตู รพัฒนาเยาวชนต้นกลา้ ยานนาวาสู่สังคม
เป็นหลักสูตรปฏิบัติธรรมส�ำหรับเยาวชนประจ�ำวันอาทิตย์ อายุ ๕ ปี ข้ึนไป ไม่เกิน ๑๒ ปี
เพ่ือให้เยาวชนเข้าอบรมคุณธรรม จริยธรรม ฝึกสมาธิ พัฒนาสติ เจริญปัญญา เน้นการเรียนรู้ด้วย
การเดินจงกรม น่ังสมาธิ รวมท้ังการสวดมนต์ การฝึกมารยาทไทย ระเบียบปฏิบัติชาวพุทธ กิจกรรม
ธรรมนันทนาการ และกิจกรรมอนื่ ๆ ทส่ี ่งเสรมิ การทำ� ความดีส�ำหรบั เยาวชน
กลุ่มเป้าหมาย เยาวชนชาย-หญิง อายุ ๕ ปขี น้ึ ไป ถงึ ๑๒ ปี
ระยะเวลาการอบรม เฉพาะวันอาทติ ยช์ ว่ งบ่าย เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๓๐ น.
196 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
สำ� นักปฏบิ ตั ิธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 197
198 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
สำ� นักปฏบิ ตั ิธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 199
200 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
สำ� นักปฏบิ ตั ิธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 201
202 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
ส�ำนักปฏิบตั ิธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วดั ยานนาวา I 203
กจิ วตั รประจ�ำวนั ภาคทฤษฎี
โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระเกียรติฯ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
ณ สำ� นกั ปฏบิ ัติธรรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา
ระหว่างวันท่ี ๖ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๖ มนี าคม พ.ศ.๒๕๖๓
*************
เวลา ๐๔.๐๐ น. สญั ญาณปลุก ปฏบิ ัตกิ จิ ส่วนตวั ดว้ ยสติ
เวลา ๐๔.๓๐-๐๕.๐๐ น. ท�ำวตั รเช้า สวดมนต์แผก่ ศุ ลเจริญเมตตา
เวลา ๐๕.๐๐-๐๖.๓๐ น. ฝึกปฏบิ ตั วิ ิปัสสนากรรมฐาน ฝึกเดินจงกรม น่งั สมาธิ
เวลา ๐๖.๓๐-๐๘.๓๐ น. กำ� หนดฉันภตั ตาหารเชา้ ด้วยสติ
เวลา ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐ น. ฟงั บรรยาย
เวลา ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ น. ฝึกเดินจงกรม นง่ั สมาธิ
เวลา ๑๐.๓๐-๑๒.๐๐ น. เตรียมเขา้ แถวรบั บณิ ฑบาต ฉันภตั ตาหารเพล ดว้ ยสติ
เวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. ก�ำหนดอริ ิยาบถ ตามอธั ยาศยั ดว้ ยสติ
เวลา ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. ฟังบรรยาย
เวลา ๑๕.๐๐-๑๖.๓๐ น. กำ� หนดเดนิ จงกรม – นงั่ สมาธิ
เวลา ๑๖.๓๐-๑๘.๐๐ น. ก�ำหนดอริ ยิ าบถด่มื น�ำ้ ปานะ ท�ำกจิ สว่ นตัว ดว้ ยสติ
เวลา ๑๘.๐๐-๑๘.๓๐ น. ทำ� วตั รเยน็ สวดมนต์แผก่ ศุ ลเจรญิ เมตตา
เวลา ๑๘.๓๐-๑๙.๓๐ น. ฟงั บรรยาย
เวลา ๑๙.๓๐-๒๑.๐๐ น. ฝึกปฏิบัตวิ ปิ ัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
เวลา ๒๑.๐๐ น. ก�ำหนดพักผอ่ น ด้วยสติ
204 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สูตรพระวิปสั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
กจิ วตั รประจ�ำวัน ภาคปฏิบตั ิ
โครงการฝกึ อบรมหลกั สตู รพระวปิ ัสสนาจารย์ เฉลมิ พระเกยี รติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
ณ สำ� นกั ปฏิบตั ิธรรมประจ�ำกรงุ เทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วดั ยานนาวา
ระหว่างวันที่ ๖ กมุ ภาพันธ์ ถึงวนั ที่ ๖ มนี าคม พ.ศ.๒๕๖๓
*************
เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณปลกุ ปฏบิ ตั กิ ิจส่วนตวั ด้วยสติ
เวลา ๐๔.๓๐-๐๕.๐๐ น. ท�ำวัตรเชา้ สวดมนตแ์ ผ่กุศลเจรญิ เมตตา
เวลา ๐๕.๐๐-๐๖.๓๐ น. ฝกึ ปฏิบัตวิ ิปัสสนากรรมฐาน ฝกึ เดินจงกรม นง่ั สมาธิ
เวลา ๐๖.๓๐-๐๘.๓๐ น. ก�ำหนดฉันภตั ตาหารเชา้ ด้วยสติ
เวลา ๐๘.๓๐-๑๐.๓๐ น. ฝกึ ปฏบิ ัติวปิ สั สนากรรมฐานตามแนวสติปฏั ฐาน ๔
เวลา ๑๐.๓๐-๑๒.๐๐ น. เตรยี มเขา้ แถวรบั บณิ ฑบาต ฉนั ภัตตาหารเพล ดว้ ยสติ
เวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. ก�ำหนดอริ ิยาบถ ตามอธั ยาศัย ดว้ ยสติ
เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. ฝกึ ปฏิบัติวปิ ัสสนากรรมฐานตามแนวสติปฏั ฐาน ๔
เวลา ๑๖.๓๐-๑๘.๐๐ น. ก�ำหนดอริ ยิ าบถดม่ื นำ้� ปานะ ทำ� กจิ ส่วนตัว ด้วยสติ
เวลา ๑๘.๐๐-๑๘.๓๐ น. ทำ� วตั รเย็น สวดมนตแ์ ผ่กศุ ลเจริญเมตตา
เวลา ๑๘.๓๐-๒๑.๐๐ น. ฝกึ ปฏบิ ตั ิวปิ ัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
/สอบอารมณว์ ปิ สั สนากรรมฐาน
เวลา ๒๑.๐๐ น. ก�ำหนดพกั ผ่อน ดว้ ยสติ
ส�ำนกั ปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 205
ใบบันทกึ การส่ง-สอบอารมณ์
โครงการอบรมหลักสตู รพระวิปัสสนาจารย์ เฉลมิ พระเกียรติฯ ประจำปี ๒๕๖๓
ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำกรุงเทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วดั ยานนาวา
ระหว่างวันท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ถงึ วันที่ ๖ มนี าคม พ.ศ.๒๕๖๓
ช่อื ..............................................ฉายา.................................เลขที่................วัด..............................................จังหวัด................................
สอบครั้งท่ี อิริยาบถ ความเหน็ วิปสั สนาจารย์/ข้อเสนอแนะ
วนั /เดือน/ปี ต้องแก้ไข พอใช้ ดี ดีมาก
นั่งกำหนด............................นาที
เดินจงกรม............................นาที
การกำหนดอิรยิ าบถย่อย กำหนด ไมก่ ำหนด
ไม่มี
สภาวะธรรมอน่ื ๆ มี
ลงช่ือ.....................................................................
(....................................................................)
( พระวปิ ัสสนาจารยผ์ ู้สอบอารมณ์ )
สอบครงั้ ท่ี อิริยาบถ ความเห็นวิปัสสนาจารย/์ ข้อเสนอแนะ
วนั /เดอื น/ปี ตอ้ งแกไ้ ข พอใช้ ดี ดีมาก
นัง่ กำหนด............................นาที
เดนิ จงกรม............................นาที
การกำหนดอริ ยิ าบถยอ่ ย กำหนด ไมก่ ำหนด
ไม่มี
สภาวะธรรมอน่ื ๆ มี
ลงชื่อ.....................................................................
(....................................................................)
( พระวปิ ัสสนาจารย์ผู้สอบอารมณ์ )
208 I โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รพระวปิ ัสสนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
รายนามเจ้าภาพอปุ ถัมภ์
โครงการฝกึ อบรมหลักสตู รพระวิปัสสนาจารย์ เฉลมิ พระเกยี รตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
ณ ส�ำนกั ปฏิบัติธรรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา
ระหวา่ งวันที่ ๖ กมุ ภาพันธ์ ถึงวนั ท่ี ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓
*************
ท่ี รายนาม
๑ คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร โดย พระธรรมสุธี
๒ คณะสงฆ์เขตสาทร โดย พระราชวชโิ รดม
๓ คณะสงฆเ์ ขตยานนาวา โดย พระครสู ถติ บุญวัฒน์
๔ คณะสงฆว์ ัดสุทธิวราราม โดย พระสธุ รี ตั นบณั ฑติ
๕ พระสริ ิธีรคณุ
๖ พระภาวนาวชิรวิเทศ วิ.
๗ พระภาวนาเขมคุณ วิ.
๘ พระครโู อภาสวุฒกิ ร
๙ พระครอู าทรประสทิ ธิโสภณ วิ.
๑๐ พระครูวิโรจนศ์ ีลาภรณ์ ส�ำนักวิปัสสนากรรมฐานวดั อโุ มงมหาเถรจนั ทร์
๑๑ พระครูอดุ มจารุวรรณ
๑๒ พระครปู ริยตั สิ ิทธิวงศ์
๑๓ พระครวู สิ ุทธภิ์ าวนาประสทิ ธิ์ วิ.
๑๔ พระครูสาทรสันติวฒั น์ (หลวงปเู่ ขยี ว)
๑๕ พระครโู ฆสติ ธรรมสุนทร
๑๖ พระครสู ธุ ีธรรมธร
๑๗ พระครูถาวรธรรมานสุ ฐิ
๑๘ พระครูสถติ วสิ ุทธิญาณ
๑๙ พระครวู รกจิ จาทร
๓๐ พระมหาอาทติ ย์ อมโร
๓๑ พระครูปลัดกิตติเชษฐ์ สริ วิ ฑฒฺ โก
๓๒ พระปลัดสมภาร สมภาโร
๓๓ พระครูใบฎกี าชัยพล โสภโณ
๓๔ พระอาจารย์กฤช นมิ มฺ โล
สำ� นกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจ�ำกรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 209
๓๕ พระมหาพีระ ปญญฺ าคโม
๓๖ พระมหาสมเกยี รติ อตวิ ีโร
๓๗ พระครูใบฎีกาจันทรท์ ยั เขมจนทฺ ญาโณ
๓๘ พระมหาศักดิช์ ัย ชยวฑุ ฺโฒ
๓๙ พระวรี ะเดช สชุ าโต
๔๐ พระบรรยาย นนทฺ โิ ย
๔๑ พระธีรเชษฐ์ ชยนนฺโท
๔๒ วดั วรปุญญะ และคณะศรัทธา
๔๓ วดั สนั ตธิ รรมาราม
๔๔ สำ� นกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ
๔๕ กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม
๔๖ สภาวฒั นธรรม เขตสาทร โดย คุณธวชั มนูธรรมธร
๔๗ โรงเรียนวดั ยานนาวา โดย ดร.ทรงพล เจรญิ ค�ำ
๔๘ ศนู ยบ์ รกิ ารสาธารณสุข ๑๔ แกว้ สีบญุ เรือง
๔๙ แมช่ ีสวุ รรณา กจิ พ่อค้า
๕๐ ดร.ศุลีมาศ สุทธสิ ัมพัทน์
๕๑ คุณสุชาดา จริ าธิวัฒน์
๕๒ คุณสุจันทรญ์ า พาภัคพานิชยก์ ุล
๕๓ คุณมนสั นันท์ เทยี นผาสขุ
๕๔ คุณศศิวลั ย์ โมลวี ฒั น์
๕๕ คณุ กมลศรี สตั ยาทร
๕๖ คุณศักดา มบี ญุ พลู ทรัพย์
๕๗ คณุ ขวญั ชนก สุวรรณสาร
๕๘ คุณบุญเกยี รติ โชควฒั นา
๕๙ คณุ จนิ ตนา ตง้ั พานชิ ดี
๖๐ คุณสมจิตต์ ครองมงคลกลุ
๖๑ คณุ พันทิพา หลกั เสลา
๖๒ กองบญุ กบั พตี่ า้ ร ์
๖๓ บรษิ ทั เอม็ เค เรสโตรองต์ กรปุ๊ จำ� กัด (มหาชน)
๖๔ คุณมยรุ ี เนาวรตั โนภาส
210 I โครงการฝึกอบรมหลักสตู รพระวิปัสสนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกียรติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
๖๕ คณะ คณุ พชั รี หลนิ วัฒนา
๖๖ คณุ ยุพดี สิริอัจนานนท์ และครอบครัว
๖๗ คณะสวดมนต์ วดั ยานนาวา
๖๘ คณุ เจนสทิ ธ์ิ - คุณอุไร เธยี รกจิ
๖๙ คณุ จุฑาทิพย์ แก้วทอง
๗๐ คณะศิษย์พระครใู บฎกี าอ�ำนาจ โอภาโส
๗๑ คณุ สมศักด์ิ อนิ เผอื ก
๗๒ คณะคุณทชิ า ขำ� เกษม พล.อ.ท.สมยศ จันทะวงษ์
๗๓ คุณพชรพล ไขแสง
๗๔ กล่มุ กลั ยาณมติ ร สาธิตประสานมติ ร
๗๕ คณุ ยุทธนา สิริอัจรานนท์
๗๖ คุณยงยทุ ธ พฒั นพงศ์พรชัย
๗๗ นางชอ่ แก้ว เตมิ รตั นกุล
๗๘ บรษิ ทั ซิตส้ี ปารค์ อนิ เตอร์เนชั่นแนล จ�ำกัด
๗๙ คณุ วัชราภรณ์ จงกล
๘๐ คณุ มณีสิริ ดฤี กษร์ ุ่งโรจน์
๘๑ คุณสชุ าดา สมศักด์ิ
๘๒ คุณปฐมพงศ์ สมศกั ดิ์
๘๓ คุณสันติ คุณเอรกิ า พิเชษฐชัยกลุ
๘๔ ดร.นวลศริ ิ เปาโรหติ ย์ คุณนนั ทนภสั นัทชาทรพั ย์
๘๕ คุณวราทพิ ย์ สัญญาประเสริฐ (คณะศษิ ย์ สถาบนั แมช่ ี วัดยานนาวา)
๘๖ คุณจกั รเทพ สัญญาประเสรฐิ (คณะศิษย์ สถาบันแมช่ ี วัดยานนาวา)
๘๗ คณุ รัตนทพิ ย์ สญั ญาประเสริฐ (คณะศษิ ย์ สถาบนั แมช่ ี วดั ยานนาวา)
๘๘ คุณกรรนิกาณ์ จตทุ ิพย์คันธา
๘๙ คณะญาตโิ ยมวัดมัชฌันตกิ าราม (วดั นอ้ ย วงศ์สว่าง)
๙๐ คุณกริ ณา - คณุ โยธนิ - คณุ นิติ เนื่องจ�ำนงค์
๙๑ คุณไพรชั กาญจนโกศล
๙๒ คณุ วิไลลกั ษณ์ พรหมประเทศ
๙๓ นางแสงอรุณ แซ่แต้
๙๔ คุณเจรญิ ชยั เตมิ รตั นกุล
สำ� นักปฏิบัตธิ รรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑ วดั ยานนาวา I 211
๙๕ คณุ หทยั วรรณ เช้ือแก้ว, คุณวีนา ลิมบรคิ พร้อมครอบครัว
๙๖ คุณฉตั รชยั วรี ะเมธีกลุ (น.ส.วไลพร)
๙๗ คุณปรางรตั น์ เกยี รตทิ รงศกั ดิ์
๙๘ คณุ ทศั นยี ์ คณุ ธาลนิ อินอนงค์
๙๙ มลู นธิ เิ บญจมบพิตร
๑๐๐ คุณภควรรณ ภสู ระแกว้
๑๐๑ คุณนพพงศ์ โฆษิตชยั วฒั น์
๑๐๒ คุณศมาพร พิรยิ ะธำ� รง
๑๐๓ Mr.Lim Kean Heng
๑๐๔ Lim Chun Ann
๑๐๕ คุณภัสส์พร รคิ ก้า
๑๐๖ คณุ แมอ่ ารีย ์ สิรมิ หาวงศ์
๑๐๗ บริษัท พ.ี เอส. สตลี จำ� กัด
๑๐๘ คุณเกษมศรี อนมั บตุ ร
๑๐๙ คุณกติ ตินันท์ อนัมบตุ ร
๑๑๐ คุณสชุ าดา ธรรมสวุ รรณ และครอบครวั
๑๑๑ คณุ สมยศ เลา่ ชู
๑๑๒ Mr.Low chee chong & family
๑๑๓ คุณโชตริ ส คุณนภดล ยะโสธร
๑๑๔ คุณจารวุ รรณ รงุ่ สฤษศักดิ์
๑๑๕ คณะศิษยพ์ ระอาจารยป์ ระเสริฐ ฐานงฺกโร
๑๑๖ Mr.Soong Shian Wuu
๑๑๗ คุณสขุ ิตชาญ นาคจู
๑๑๘ คุณหัฐยทุ ร คณุ ประไพรัตน์ คล่องแคล่ว
๑๑๙ คุณสชุ าดา ทองอนิ
๑๒๐ คุณนนั ทนา คณุ รัตนา รชั เศรษฐ์
๑๒๑ คุณวไิ ล ปิน่ ชมุ พลแสง
๑๒๒ คุณสุปาจรีย์ วชิ ยั โรจน์ คณุ วชิ ัย ศรีมงคล
๑๒๓ คณุ กมลรตั น์ ดาวอุดม
๑๒๔ คุณกุลดา กิตตภิ ิญโญกลุ
212 I โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพระวปิ ัสสนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกยี รตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
๑๒๕ คุณโชติรส ล่มิ ศิลา
๑๒๖ คณุ พอ่ สมควร - แมใ่ บ ต้นกันยา
๑๒๗ คณุ กฤติน - คณุ วารุณี คำ� แดง
๑๒๘ คุณวนั เพญ็ - คณุ มณทิพย์ คมฤทธิ์
๑๒๙ คณุ โสภดิ า วังเกยี รติกุล
๑๓๐ คณุ พรทิพย์ ชผู ะอบ
๑๓๑ คุณสริ กิ าญจน์ ดลุ ย์ธนรัตน์ และครอบครัว
๑๓๒ คณุ สมลกั ษณ์ เชาวะเจริญ
๑๓๓ บริษทั ราชาโยต จำ� กดั
๑๓๔ คณุ แมพ่ รเพญ็ หงษศ์ รี พรอ้ มลูกหลาน
๑๓๕ บรษิ ัท เอ.ซี.เอส.ท.ี จ�ำกัด
๑๓๖ คุณกัณณิกา ดวงรัตน์
๑๓๗ คณุ ธีรเนตร ภานชิ เจริญ
๑๓๘ คุณสมสขุ ภาณุมาศพนั ธ์
๑๓๙ คุณกลั ยา สุนทรกวีกจิ พรอ้ มครอบครวั และเพอ่ื น
๑๔๐ คณุ พชั รินทร์ ชยั เกยี รตศิ กั ดิ์
๑๔๑ คณุ เพียรเพญ็ คณุ ากรไพบลู ย์ศิริ คณุ ลัดดา ตง้ั กติ ติเวทย์ คณุ ภริ ฐิกา ตั้งมงคลสุข
๑๔๒ คณุ วไล สุรนิ ทร์รฐั
๑๔๓ คุณภูรศิ า ลายประดิษฐ์
๑๔๔ คุณวรรณา ศักดิ์สภุ าคม
๑๔๕ คุณสณุ ฐั า สังขส์ ุวรรณ
๑๔๖ นายแพทยว์ รี ะพนั ธ์ ลีธนะกลุ
๑๔๗ คณุ เสริมสุข ศขุ กสิกร
๑๔๘ คณุ สายสนุ ีย์ ยิง่ ประภากรณ์
๑๔๙ นางสนุ นั ทน์ มหาสุขานนท์
๑๕๐ คุณฉตั รสดุ า ฤกษ์ฤดีกลุ
๑๕๑ คณุ หญงิ แสงเดอื น ณ นคร
๑๕๒ คุณนพคนุ ว่องพยาบาล
๑๕๓ นางสาวสริ กิ ร วรสิทธิ
๑๕๔ คณุ ฐติ าภัสร ์ อัครศกั ดิ์ดาภริ มย์
ส�ำนกั ปฏบิ ตั ิธรรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วดั ยานนาวา I 213
๑๕๕ คณุ อัญชลี อรรถฐิตนิ ยั
๑๕๖ คณุ รุจน์ - คุณอมรรัตน ์ อภทิ รัพย์ทวคี ณู และครอบครวั
๑๕๗ คุณกาญจนา บางคลา้
๑๕๘ คุณนทที พิ ย์ ตรี ะนทีกุลชัย
๑๕๙ บรษิ ทั ออโต้ อิตาเลีย จำ� กัด
๑๖๐ คณุ กุลดา กิตติภิญโญกลุ
๑๖๑ คุณสญิ ามณฑ์ พวั พัฒนขจร
๑๖๒ คุณลนิ ดา วชิรรตั นวงศ์
๑๖๓ คณุ กนกกร พทิ ยากรภกั ดี
๑๖๔ นางสาวชฎาธาร โอษธศั
๑๖๕ คุณกาญจนา วรนติ ิเยาวภา และครอบครัว
๑๖๖ คณุ ศรวี รรณา โชคทวสี ทิ ธ์ิ
๑๖๗ คณุ ลดั ดา ตนั พฒั นธนากร และครอบครวั
๑๖๘ ครอบครวั ศิริธรี รานนท์
๑๖๙ คุณลง้ั อ่อนกล่�ำ
๑๗๐ คุณ กันยกร สวา่ งวงศ์
๑๗๑ คุณสมใจ คุณเปยี ม สุขพราม
๑๗๒ Ms.Ongky Thunyin
๑๗๓ คณุ สริ ิณัฐร์ฎา ก�ำภู ณ อยธุ ยา
๑๗๔ คุณชมภูนชุ อนันตม์ นตรี
๑๗๕ คุณ ไพลนิ เนาวรัตโนภาส
๑๗๖ บริษัท บก๊ิ ทพี ลาสทแ์ พค๊ จ�ำกัด
๑๗๗ คุณมนฑาเอียมลอ คณุ จ�ำลอง บา้ นเคาะสมุทร์ คณุ สมพงษ์ คณุ จงรกั ษ์
๑๗๘ คุณจุไรรตั น์ ภษู ติ านรุ ตั น์
๑๗๙ คุณณัฐชมธร สุดถาวรกลุ คุณอุไร จนี รอด คุณจนิ ตนา อุน่ ใจ
๑๘๐ คณุ บังอร คุณชารล์ ครอส พรอ้ มกลั ยาณมติ ร
๑๘๑ คุณชลธศิ นันทวิจติ ราภรณ์
๑๘๒ คุณพจนยี ์ เอกอัคร
๑๘๓ คุณอุดม คณุ สุธารี กูลกจิ พัฒนา
๑๘๔ คณุ สะรินทพิ ย์ พฤกษ์วัฒนา
214 I โครงการฝกึ อบรมหลกั สูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรติฯ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
๑๘๕ บรษิ ัท พมิ พม์ งคล จ�ำกดั
๑๘๖ คณุ วราภรณ์ เตง็ กนกกลุ
๑๘๗ นางสาวอัญชลี อรรถฐิตินยั อุทิศส่วนกศุ ลให้นายเซี๊ย นางกิมเอยี ว แซเ่ อย๋ี ว
๑๘๘ คณุ วรางคณา โกมทุ มาส
๑๘๙ คณุ ชนกกานต์ โยธาประเสรฐิ
๑๙๐ คณุ อธชิ าต ิ อุดมศลิ ป์
๑๙๑ คุณพิมษร พัฒนะเอนก
๑๙๒ ดร.สมทรง บุรุษพฒั น์
๑๙๓ คุณสมพร เอีย่ มมนสั สกลุ
๑๙๔ Chan Kok Sin
๑๙๕ ครอบครวั เฉลิมศักดิส์ งคราม ครอบครวั บชุ ย์ ครอบครวั กูลเรอื น
๑๙๖ คุณธัญญาภรณ์ บรพิ ัชร์ธนโชติ
๑๙๗ คุณไพเราะ สรุ ยิ กันตานนท์
๑๙๘ คณุ ลนิ ดา วชิรรัตนวงศ์
๑๙๙ ครอบครัวคุณประยรู เชอ้ื แก้ว
๒๐๐ คณุ นศุ รา ศานติมงคลวิทย์
๒๐๑ คณุ เซย่ี มเกียว ปนิ่ ประดับและครอบครัว
๒๐๒ คณุ ศมาพร พริ ยิ ะธำ� รง
๒๐๓ คุณสริ ินชุ ศิริภาทย์
๒๐๔ คุณสปุ ระวีณ์ ภาสุวเกยี รติ
๒๐๕ คณุ นษิ า กติ ตปิ รชี าวฒุ ิ
๒๐๖ นางกรวรรณ เจริญพร้อมสกลุ พรอ้ มครอบครวั
๒๐๗ คณุ รัตนาภรณ์ จูงวงษ์สุข
๒๐๘ คณุ โชติรส ลมิ่ ศิลา
๒๐๙ นางสาวนาถนษิ ฐา จริ ารยะพงศ์
๒๑๐ คณุ กัณณกิ า เรืองนติ วิ ิทย์
๒๑๑ คณุ มโนรตั น ์ แซ่เหล่ยี ง
๒๑๒ นางสาววรานิษฐ์ ธรี ะพนติ วงศ์
๒๑๓ คุณราตรี พริบไหว
๒๑๔ คณะผู้ศรัทธา บรษิ ัท เจรญิ โภคภัณท์วิศวกรรม
ส�ำนักปฏิบัติธรรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 215
๒๑๕ นายจตุพร - นางสาวจิดาภา น่ิมนวลพานชิ
๒๑๖ คณุ พัชร ธีรสุนทรวัฒ์
๒๑๗ คุณศรญั ธนิ ี มงคลรตั น์ พรอ้ มครอบครวั
๒๑๘ คุณอไุ รรัตน์ นันทวจิ ิตราภรณ์
๒๑๙ คณุ สริ พิ ร เฮงชกั
๒๒๐ คณุ ชลดิ า ปิน่ สภุ า
๒๒๑ คณุ เรณู คนาวงษ์
๒๒๒ คณุ พัชรนิ ทร์ ไชยเสนีย์
๒๒๓ นางนภาพร วีรวฒุ ไิ กรกุล
๒๒๔ คณุ มณฑริ า อาดัม
๒๒๕ คุณลดั ดาวลั ย์ ปัญชา
๒๒๖ คุณนิรชุ แสงหนุ่ม
๒๒๗ คุณเยน็ จิต อภิไชยนนท์ และครอบครัว
๒๒๘ คุณภรู ชิ า ประเสรฐิ
๒๒๙ คณุ พนติ ตา แซ่ต้ัง
๒๓๐ คณุ เฟ่ืองฟ้า โคตะรักษ์
๒๓๑ คุณสมบตั ิ คณุ อวยพร เพ็ชรร่งุ รตั น์
๒๓๒ คุณวรชั ญ์ฐติ า สกุ าญจนกลุ
๒๓๓ คณุ นภาพร วีรวฒุ ไิ กรกุล
๒๓๔ คุณรตั นาภรณ์ จงู วงษส์ ขุ
๒๓๕ คุณแม่ลี กรมพะไมย
๒๓๖ คณุ วิลาวลั ย์ พูลกลู
๒๓๗ หจก.วรรธนวิชญ์พลาสติก
๒๓๘ หจก.ซี.พ.ี เอส.(1993)
๒๓๙ คณุ ขอบเขต จนั ทรรตั น์
๒๔๐ คณุ น้ำ� ทิพย์ วันโพธิ์สพ
๒๔๑ นางสาวเพชรรตั น์ วินัยกุลพงค์
๒๔๒ คุณวรรณา-พงษ์ชยั -อญั ชลี ศกั ดิ์สภุ าคม
๒๔๓ คณุ ประภาลักษณ ์ สวัสดริ ักษา คุณกานดา มง่ิ ศกั ด์ิศรี
๒๔๔ คณะคุณราตรี พรบิ ไหว
216 I โครงการฝกึ อบรมหลักสตู รพระวิปสั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
๒๔๕ คณุ นวลแข งามพรชัย
๒๔๖ คณุ นพอนันต์ วงศพ์ ัฒนานกิ ร
๒๔๗ คณุ สุวรรณา วินยั กุลพงศ์
๒๔๘ คุณธญั วรตั น์ วงศภ์ ทั รกุล
๒๔๙ คุณพริ ญาว์ บัวจนั ทร์
๒๕๐ คณุ สขุ ใจ แซล่ ี้
๒๕๑ คุณเปมกิ า เจรญิ วทิ ย์ คณุ อิทธชิ ัย สุวรรณพฤกษ์
๒๕๒ คุณรตั นาภรณ์ จูงวงษส์ ุข
๒๕๓ คณุ ณัชชา สทิ ธอิ มรภทั ร
๒๕๔ คณุ พรี พรรณ ล่วั สกุล
๒๕๕ คณุ อมั ภา ลิม่ ผาติ
๒๕๖ คุณทพิ ยวรรณ งามวราพนั ธ์
๒๕๗ นายทววี ฒั น์ - นางวนิดา - ด.ญ.กัญญาวีร์ - ด.ญ.ชชั ญา ยอดทอง
๒๕๘ คุณราตรี พริบไหว
๒๕๙ คณุ วิไลพร คณุ อภยั วฒั น ์ ศิริแสงไพรวัลย์
๒๖๐ นายสุชน ชสู งวนพงศ์
๒๖๑ คุณประภาพร อุดมา
๒๖๒ คุณฐานิสต์ อาจหาญ
๒๖๓ คณุ ศุภรศั มิ์ สิทธเิ ชียงพณิ
๒๖๔ คุณศรสี มบัติ ธรรมผุสนา
๒๖๕ คณุ สวุ ิมล พิเศษสขุ บนั เทิง
๒๖๖ นางสาวรักใจ จนิ ตวิโรจน์
๒๖๗ คณุ กานติสา ธรรมดา
๒๖๘ คณุ ศุภลกั ษณ์ ทศั นปรชี ากลุ
๒๖๙ คณุ พรเพ็ญ แสงสำ� ลี
๒๗๐ คณุ มุกดา วัชรเสถยี ร
๒๗๑ คุณเงก็ อมิ แซ่ตงั้
๒๗๒ คุณจดิ านนั ท์ เออ้ื สุขกลุ
๒๗๓ คุณยุวดี ธรรมสุวรรณ
๒๗๔ คุณสภุ นิช จุลบุษรา
ส�ำนกั ปฏิบตั ธิ รรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 217
๒๗๕ คุณสทุ ี กามนิ ี
๒๗๖ คุณอภญิ ญา อญั เขตนิธิ
๒๗๗ คุณวชั ริทร์ ผอมนิ
๒๗๘ คุณธนวิชญ์ ทพิ ปภาพร
218 I โครงการฝกึ อบรมหลักสตู รพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
ภาคผนวก
ระเบยี บมหาเถรสมาคม
วาดวยสาํ นกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจําจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๕๘
--------------------------------------------------
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี แหงพระราชบัญญัติคณะสงฆ
พ.ศ. ๒๕๐๕ แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มหาเถร
สมาคมวางระเบยี บไวดงั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบมหาเถรสมาคม วาดวยสํานักปฏิบัติธรรม
ประจําจังหวดั พ.ศ. ๒๕๕๘”
ขอ ๒ ระเบียบน้ี ใหบังคับใชต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในแถลงการณ
คณะสงฆเปนตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกระเบียบมหาเถรสมาคม วาดวยการจัดตั้งสํานักปฏิบัติธรรม
ประจาํ จงั หวัด พ.ศ. ๒๕๔๓
ขอ ๔ ในระเบยี บน้ี
“การปฏบิ ตั ธิ รรม” หมายความวา การปฏบิ ัติสมถกัมมัฏฐานและ/หรือ
วปิ ส สนากมั มัฏฐาน ตามหลกั มหาสติปฏฐานสตู ร
“สํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัด” หมายความวา วัดท่ีมีความพรอม
เหมาะแกก ารปฏบิ ตั ธิ รรม โดยไดรบั การจัดต้ังขึ้นตามระเบยี บนี้
“เจาสาํ นกั ” หมายความวา เจา อาวาสวดั ซ่ึงเปนทตี่ ั้งสาํ นักปฏบิ ัตธิ รรม
“พระวิปสสนาจารย” หมายความวา พระภิกษุท่ีสอนการปฏิบัติ
สมถกัมมัฏฐานและ/หรือวิปสสนากัมมัฏฐาน หรือพระภิกษุที่ผานการอบรมหลักสูตร
พ ร ะ วิ ป ส ส น า จ า ร ย จ า ก สํ า นั ก ป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม ป ร ะ จํ า จั ง ห วั ด แ ล ะ / ห รื อ อ ง ค ก ร ค ณ ะ ส ง ฆ
ท่ีสํานักงานพระพุทธศาสนาแหงชาติหรือหนวยงานอ่ืนจัดสรรงบประมาณถวายเพื่อการ
อบรม หรอื หลกั สตู รกมั มัฏฐานของมหาวทิ ยาลัยสงฆ
“คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการดําเนินงานสํานัก
ปฏิบัติธรรมประจําจงั หวัด
220 I โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รพระวิปสั สนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกยี รติฯ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
-๒-
ขอ ๕ ในแตละจงั หวัดใหมคี ณะกรรมการดาํ เนนิ งานสํานักปฏิบตั ธิ รรมประจํา
จงั หวดั แตละฝาย ประกอบดวย
(๑) เจาคณะใหญเขตปกครองคณะสงฆจังหวัดนั้น เปนประธาน
ทปี่ รึกษา
(๒) เจาคณะภาค และรองเจาคณะภาคเขตปกครองคณะสงฆจังหวัด
นั้น เปนที่ปรกึ ษา
(๓) เจาคณะจังหวดั เปน ประธานกรรมการ
(๔) รองเจา คณะจงั หวดั เปน รองประธานกรรมการ
(๕) เจาคณะอําเภอ และ/หรือผูทรงคุณวุฒิไมเกิน ๗ รูป/คน
เปน กรรมการ
(๖) ผูอํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด เปนกรรมการและ
เลขานกุ าร
กรรมการตาม (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๖) เปนโดยตําแหนง และกรรมการ
ตาม (๕) แตงต้ังโดยเจาคณะจังหวัด มีวาระดาํ รงตาํ แหนงคราวละ ๔ ป
ขอ ๖ การพนจากตําแหนง ของกรรมการ
(๑) มรณภาพ หรอื ตาย
(๒) ลาสกิ ขา หรือลาออก
(๓) หมดวาระการดาํ รงตาํ แหนง
(๔) ผมู อี ํานาจแตง ตั้งมีคาํ ส่งั ใหอ อก
กรณีกรรมการพนจากตําแหนง ใหเจาคณะจังหวัดแตงต้ังกรรมการแทน
กรรมการที่พนจากตําแหนง ใหอยูในตําแหนงตามวาระท่ีเหลือ กรรมการตามขอ ๕ (๕)
อาจไดร ับการแตง ตงั้ อกี ได
ขอ ๗ ใหค ณะกรรมการ มีอาํ นาจหนาท่ี ดงั นี้
(๑) ใหความเห็นชอบการเสนอขอจัดตั้งสํานักปฏิบัติธรรมประจํา
จังหวัด
(๒) กํากับดูแล และสนับสนุนสงเสริมใหสํานักปฏิบัติธรรมประจํา
จังหวัดไดดําเนินกิจกรรมการปฏบิ ตั ธิ รรม ตามนโยบายของมหาเถรสมาคมและระเบียบนี้
สำ� นักปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำกรงุ เทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา I 221
-๓-
(๓) ใหคําปรึกษาและขอเสนอแนะเกี่ยวกับการดําเนินงานสํานัก
ปฏบิ ัติธรรมประจําจงั หวดั แกเจาสาํ นักปฏบิ ตั ธิ รรม
(๔) สนับสนุน สงเสริมการพัฒนาพระวิปสสนาจารยในจังหวัดใหมี
ศกั ยภาพในการสอนการปฏบิ ตั ธิ รรม
(๕) รายงานการยบุ เลกิ สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมประจําจังหวดั ท่ขี าดคุณสมบัติ
ตามขอ ๑๒
(๖) ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ตามทไ่ี ดร บั มอบหมาย
ขอ ๘ หลกั เกณฑใ นการพิจารณาคณุ สมบัตกิ ารเสนอขอจัดต้ังสํานักปฏิบัติธรรม
ประจาํ จงั หวดั มีดงั น้ี
(๑) เปนวัดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕ แกไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบญั ญตั ิคณะสงฆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒) มีความพรอมดานอาคารสถานที่ที่เหมาะแกการปฏิบัติธรรม
(๓) มจี ํานวนพระวิปสสนาจารยสอนประจาํ ทเ่ี พียงพอ
(๔) มีหลกั สตู รการปฏบิ ัตธิ รรมท่ีเหมาะสมแกผูเขาปฏบิ ัติ
(๕) มีการดําเนินการปฏิบัติธรรมอยางตอเนื่องตลอดป อยางนอย
เดือนละ ๒ ครงั้
ขอ ๙ การจัดตง้ั สํานักปฏิบตั ิธรรมประจําจงั หวดั ใหเ จาคณะจังหวัดเสนอเรื่อง
ผานความเห็นชอบของเจาคณะพระสังฆาธิการเจาสังกัดตามลําดับ ตามแบบการขอจัดตั้ง
สํานกั ปฏบิ ตั ิธรรมประจาํ จังหวัด (แบบ สธจ. ๑ และ สธจ. ๒) แนบทายระเบียบนี้ และตอง
แนบมตทิ ป่ี ระชุมของคณะกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณาดว ย
ขอ ๑๐ เม่ือมหาเถรสมาคมมีมติอนุมัติใหจัดตั้งแลว ใหสํานักงาน
พระพุทธศาสนาแหงชาติข้ึนทะเบียนเปนสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัด และพัฒนา
สง เสริมสนบั สนนุ ใหม ีคณุ ภาพ และจัดสรรงบประมาณอุปถัมภตามเกณฑม าตรฐาน
ขอ ๑๑ ในจังหวัดเดียวกัน ถามีสํานักปฏิบัติธรรมท่ีไดรับการจัดตั้งมากกวา
๑ แหง ใหจัดต้ังเปนสาํ นักปฏิบตั ธิ รรมประจําจงั หวดั ...แหงท่ี ๑,๒,๓,... ตามลําดับการจัดตั้ง
จําแนกตามสังกัดคณะสงฆ และใหสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดจัดทํารายงานผล
การดาํ เนนิ งานประจําป เสนอคณะกรรมการ ตามแบบรายงานผลการดําเนินงานของสํานัก
ปฏบิ ัติธรรม (แบบ สธจ. ๓) แนบทา ยระเบยี บน้ี
222 I โครงการฝกึ อบรมหลักสตู รพระวปิ ัสสนาจารย์ เฉลมิ พระพระเกียรติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
-๔-
ขอ ๑๒ สํานกั ปฏิบัตธิ รรมประจาํ จงั หวัด อาจยบุ เลกิ ในกรณดี ังตอ ไปน้ี
(๑) ไมม ีการปรับปรุงอาคารสถานทีใ่ หเ หมาะสมแกการปฏบิ ัตธิ รรม
(๒) ขาดวปิ ส สนาจารยส อนประจาํ
(๓) แนวทางการปฏิบัติธรรมไมเปนไปตามหลักมหาสตปิ ฏ ฐานสูตร
(๔) ไมม ีการดาํ เนินการจัดกิจกรรมอบรมปฏบิ ัติธรรมตามกําหนดและ/
หรอื ไมม ีการรายงานผลการดาํ เนนิ งานตอ คณะกรรมการ
เมื่อเหตุตามขอนี้ ปรากฏแกสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดแหงใด
ใหคณะกรรมการดําเนนิ การตรวจสอบขอเท็จจรงิ แลวใหเจาคณะจังหวัดรายงานตามลําดับ
จนถึงมหาเถรสมาคมเพอ่ื มมี ติอนมุ ตั ิใหยบุ เลกิ กรณมี เี หตอุ ันสมควรคณะกรรมการอาจส่ังให
สาํ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมแหง นนั้ ดาํ เนินการอยางใดอยา งหนึ่งเพือ่ แกไขขอบกพรอ งกอนก็ได
ขอ ๑๓ สํานักปฏิบตั ิธรรมประจําจังหวดั ที่ถูกยุบเลิกแลว วัสดุ ครุภัณฑตางๆ
ท่ีไดมาจากการจัดสรรหรืองบประมาณอุดหนุน ใหตกเปนสมบัติของวัดซ่ึงเปนท่ีต้ังสํานัก
ปฏิบัติธรรมประจาํ จังหวัด
ขอ ๑๔ ใหสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดและเจาสํานักปฏิบัติธรรม
ตามระเบียบมหาเถรสมาคม วา ดว ยการจดั ตงั้ สํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๓
คงเปน สํานกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ จังหวดั และเจา สํานักปฏิบตั ิธรรมตามระเบยี บน้ี
ขอ ๑๕ ใหผูอํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแหงชาติรักษาการ
ใหเ ปนไปตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วนั ที่ เดอื นตลุ าคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๘
(สมเดจ็ พระมหารชั มังคลาจารย)
ผปู ฏิบัติหนา ทสี่ มเด็จพระสังฆราช
ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม
ส�ำนกั ปฏิบตั ธิ รรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑ วัดยานนาวา I 223
บนั ทึกหลักการและเหตุผลประกอบ
รา งระเบยี บมหาเถรสมาคม วาดว ยสาํ นักปฏบิ ัตธิ รรมประจําจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๕๘
หลกั การ
ยกเลิกระเบียบมหาเถรสมาคม วาดวยการจัดตั้งสํานักปฏิบัติธรรมประจํา
จงั หวัด พ.ศ. ๒๕๔๓
เหตผุ ล
เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑและกระบวนการเสนอขอจัดตั้งสํานักปฏิบัติธรรม
ประจําจงั หวัดใหร ัดกุมชัดเจน อันจะสงผลใหส าํ นักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดมีคุณภาพและ
มาตรฐานอยางเดียวกัน
224 I โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รพระวปิ ัสสนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รติฯ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
แบบ สธจ. ๑
แบบคาํ ขอจดั ตง้ั
สํานกั ปฏิบตั ิธรรมประจาํ จงั หวัด
____________
วันท…ี่ …….เดือน…………….พ.ศ. ๒๕………
เรอ่ื ง ขอจัดต้งั สาํ นกั ปฏิบัตธิ รรมประจําจงั หวดั
เรียน ประธานคณะกรรมการดาํ เนนิ งานสํานักปฏิบตั ธิ รรมประจําจงั หวดั
สิง่ ทสี่ งมาดวย เอกสารขอมูล พรอ มภาพประกอบ จาํ นวน ๑ เลม
กระผม พระ………………………..………….…......ฉายา….....….……………………………………………..…..
อาย…ุ ………................พรรษา.......…………วิทยฐานะ..........…….......................................................……….….....
ปจ จบุ ันดาํ รงตาํ แหนง …………………………...................วดั ..................................................................................
ตําบล…………………............อําเภอ….....……………..จังหวดั ….........….........………................................................
ตาํ แหนงทางการปกครองสงฆ (ถา มี)................................................................................................................
มีความประสงคขอจดั ต้ังสํานกั ปฏิบตั ธิ รรมประจาํ จงั หวัด………...............แหงท…ี่ ...……………..………………..…
ต้งั อยูท่ีวดั ..….……………...........................ตาํ บล.........................................อําเภอ............................................
จงั หวดั ............................................รหสั ไปรษณีย. ............................................................................................
โทร.....................................................โทรสาร..................................................................................................
E – mail/website…………………………………………………………………………………………………………………………..
สังกดั ( ) มหานกิ าย ( ) ธรรมยุต
วัดมีความพรอ มทจ่ี ะดําเนินการจดั ตงั้ สาํ นักปฏิบตั ธิ รรม ดงั นี้
๑. ดานสถานที่
๑.๑ สภาพความพรอมดา นอาคารสถานท่ี
ขนาดพ้ืนท.ี่ .................ไร..............งาน................ตารางวา
๑.๒. สวนของหอ งพัก (โปรดใสเ ครื่องหมาย √และกรอกรายละเอียดหนาขอ ความ)
จํานวนคนท่ีรองรบั ได. .......................คน
ประเภทหองพัก
เด่ียว จาํ นวน..............หอง ขนาด......................
รวม จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
รวมชาย จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
รวมหญงิ จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
/ประเภทหอ งนํ้า...
- ๒ - ส�ำนักปฏบิ ัตธิ รรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แหง่ ท่ี ๑ วัดยานนาวา I 225
ประเภทหอ งน้าํ ในหองพกั
เดยี่ ว จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
รวม จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
รวมชาย จํานวน..............หอง ขนาด......................
รวมหญิง จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
๑.๓. สว นของหอ งปฏบิ ตั ธิ รรม (โปรดกรอกรายละเอียด)
ขนาด.......................ตรม. จํานวนคนทร่ี องรบั ได........................คน
หองนา้ํ จํานวน...........หอ ง ....... รวม...........แยกชาย หญิง
ทางเดนิ คนพกิ าร ( ) มี ( ) ไมมี
อปุ กรณท เ่ี ตรยี มไวในหองปฏบิ ัติธรรม
(๑.)................................................................. (๒.).................................................................
(๓.)................................................................. (๔.)..................................................................
(๕.)................................................................. (๖.).................................................................
๑.๔. สว นตอ นรับ (โปรดใสเ ครอื่ งหมาย √หนา ขอ ความ)
มีหองโถงตอ นรบั
มีสวนหอ งสมดุ
มหี อ งนํ้าสาธารณะ
๑.๕. สภาพแวดลอ มท่ัวไป (โปรดใสเครือ่ งหมาย √และกรอกรายละเอยี ดหนาขอ ความ)
ปา ยบอกทาง ปายรายช่อื วัด/สาํ นักปฏบิ ตั ธิ รรม
ไฟสอ งสวา ง
ที่จอดรถจาํ นวน.................คัน ขนาดพืน้ ที่จอดรถ.............ไร............งาน...........ตารางวา
ทางสัญจรสําหรบั คนพิการ
๑.๖. ดานความปลอดภยั (โปรดใสเคร่อื งหมาย √ หนาขอความ)
อุปกรณด บั เพลิง..........แผนผงั การหนีไฟ..........แหลงน้ําสํารอง
แหลง ไฟสาํ รอง..........ยาสามญั ประจําบาน ชุดปฐมพยาบาล
อืน่ ๆ (ระบุ).........................
๒. ดานวปิ ส สนาจารย
มพี ระวิปส สนาจารย....................รูป ดังน้ี
๒.๑ ชื่อ ..........................................ฉายา..................................อายุ.....................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ........................ผา นการอบรมหลกั สตู รฝก อบรมพระวิปส สนาจารย ป พ.ศ........................
๒.๒. ชอื่ ..........................................ฉายา..................................อาย.ุ ...................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผา นการอบรมหลักสตู รฝกอบรมพระวิปส สนาจารย ป พ.ศ......................
/๒.๓. ชือ่ ....
226 I โครงการฝกึ อบรมหลักสตู รพระวิปสั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรตฯิ ประจำ� ปี ๒๕๖๓
-๓-
๒.๓. ช่อื ............................................ฉายา.................................อายุ...................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผา นการอบรมหลกั สตู รฝก อบรมพระวปิ สสนาจารย ป พ.ศ......................
๒.๔. ชือ่ ............................................ฉายา.................................อาย.ุ ..................พรรษา......................
วิทยฐานะ..........................ผา นการอบรมหลกั สูตรฝกอบรมพระวปิ สสนาจารย ปพ .ศ........................
๒.๕. ชื่อ ............................................ฉายา.................................อายุ...................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผา นการอบรมหลักสตู รฝก อบรมพระวปิ สสนาจารย ปพ .ศ........................
๓. ดานหลกั สตู ร
๓.๑ มหี ลักสูตรการปฏิบัตธิ รรม
ก. หลกั สตู รการอบรม ๓ วนั ๒ คืน
ข. หลักสตู รการอบรม ๔ วนั ๓ คนื
ค. หลกั สตู รการอบรม ๗ วนั ๖ คนื
ง. หลกั สตู รการอบรม อนื่ ๆ .........................................
๓.๒ มแี นวการสอน/ปฏิบัตกิ มั มัฏฐาน ดงั น้ี
(ใสเครื่องหมาย √และกรอกรายละเอยี ดหนา ขอ ความ)
...... แบบบริกรรม พุท – โธ
แบบบรกิ รรม ยบุ หนอ – พองหนอ
แบบบรกิ รรม สัมมา – อรหงั
แบบอานาปานสติ (กาํ หนดลมหายใจ)
แบบกําหนดพจิ ารณารปู – นาม
แบบอื่น ๆ โปรดระบุ................................................................................................
๔. วัดแหง นี้ มจี ํานวนพทุ ธศาสนิชนเขา รว มกจิ กรรมในปทผ่ี า นมา จํานวน.............................................คน
๕. วตั ถุประสงค/ขอ คดิ เห็นในการเสนอขอจัดต้ังสํานักปฏิบตั ิธรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
พรอมนี้ ไดแ นบหลกั ฐาน ตามหลักเกณฑก ารพจิ ารณาคณุ สมบัติการเสนอขอจดั ตง้ั ตามขอ ๘ แหง ระเบยี บ
มหาเถรสมาคม วา ดว ยการจัดตั้งสาํ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจําจังหวดั พ.ศ. ๒๕๕๘ มาดว ยแลว
จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณาดาํ เนนิ การตอไป
กราบเรียนมาดวยความเคารพอยางสูง
(ลงนาม)......................................................................
(...........................................................................)
เจาอาวาสวัด...................................................................
/ความเห็นของเจา คณะ
ส�ำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำ� กรงุ เทพมหานคร แห่งท่ี ๑ วดั ยานนาวา I 227
-๔-
ความเห็นของเจาคณะตาํ บล........................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
(ลงนาม)…………………………..………………….........
(............................................................)
เจา คณะตําบล………………………………………..........
ความเห็นของเจาคณะอาํ เภอ........................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
(ลงนาม)…………………………..………………….........
(............................................................)
เจา คณะอําเภอ………………………………………..........
228 I โครงการฝกึ อบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระพระเกยี รตฯิ ประจ�ำปี ๒๕๖๓ แบบ สธจ. ๒
แบบรายงานการขอจัดตัง้
สํานกั ปฏบิ ตั ิธรรมประจําจงั หวดั
..........................................
วนั ท…่ี …..….เดือน………..…….พ.ศ. ๒๕..………
เร่อื ง ขอจัดต้งั สาํ นักปฏิบตั ธิ รรมประจําจังหวดั
เจริญพร ผูอํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแหงชาติ
ส่งิ ท่ีสง มาดวย ๑. แบบคําขอจัดตงั้ สํานักปฏิบตั ธิ รรมประจําจังหวัด (แบบ สธจ.๑)
๒. รายงานการประชมุ คณะกรรมการดําเนินงานสํานกั ปฏิบัติธรรมประจําจังหวัด
อาตมภาพ พระ......................................................................ประธานคณะกรรมการ
ดําเนินงานสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัด ขอเสนอแบบรายงานการขอจัดตั้งสํานักปฏิบัติธรรม
ประจําจงั หวดั ......................................แหงท่ี...................... ต้งั อยูท่ีวดั .....................................................
ตาํ บล...................................................อาํ เภอ..........................................จงั หวดั .............................................
โดยมี พระ..................................................................ฉายา.....................................อายุ...........พรรษา............
วทิ ยฐานะ : .............................................ปจ จบุ ันดํารงตาํ แหนง……..............................................................
วัด...........................................................ตําบล………….....................อําเภอ…..……......................
จังหวัด…………............................เปนเจาสาํ นกั
จงึ เจริญพรมาเพ่อื นาํ เสนอมหาเถรสมาคมตอ ไป
ขอเจริญพร
(ลงนาม)……………………………………..................
(............................................................)
เจา คณะจงั หวดั ……………………………………..........
ประธานคณะกรรมการสาํ นักปฏิบตั ิธรรมประจําจังหวัด
ความเหน็ ของเจาคณะภาค........................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
(ลงนาม)…………………………..………………….........
(............................................................)
เจาคณะภาค………………………………………..........
สำ� นักปฏบิ ัตธิ รรมประจ�ำกรงุ เทพมหานคร แห่งที่ ๑ วดั ยานนาวา I 229
แบบ สธจ. ๓
แบบรายงานผลการดาํ เนินงานสํานกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ จังหวดั
ประจาํ ป พ.ศ. ............................
******************
๑. ชื่อสํานกั ปฏิบตั ิธรรมประจาํ จงั หวดั ...........................แหงที่.............. วดั ...........................................
ตาํ บล..........................................อาํ เภอ.............................................จงั หวดั ...............................................
รหสั ไปรษณีย. ...............................................................................................................................................
โทร............................................................. โทรสาร....................................................................................
E – mail/website ...................................................................................................................................
ไดรบั การจัดต้ังเปนสํานกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจาํ จงั หวัด ตามมตมิ หาเถรสมาคม คร้งั ท่.ี ...................................
เมื่อวันท.ี่ ............ เดอื น..................... พ.ศ................. สังกัด ( ) มหานกิ าย ( ) ธรรมยตุ
นามเจา สํานัก................................................ นามเดมิ ..................................ฉายา......................................
อาย.ุ .................พรรษา................. วทิ ยฐานะ..............................................................................................
ตําแหนงทางการปกครองคณะสงฆ (ถามี)..................................................................................................
๒. สาํ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ จังหวัดแหงน้ี มคี วามพรอ มดานอาคารสถานที่ทเ่ี หมาะสมแกการปฏิบัติธรรม
ดังนี้
๒.๑ สภาพความพรอมดา นอาคารสถานท่ี
ขนาดพ้ืนท.ี่ .................ไร..............งาน................ตารางวา
๒.๒. สว นของหองพกั (โปรดใสเ คร่ืองหมาย √และกรอกรายละเอียดหนา ขอความ)
จาํ นวนคนทีร่ องรบั ได. .......................คน
ประเภทหอ งพัก
เดี่ยว จํานวน..............หอง ขนาด......................
รวม จาํ นวน..............หอง ขนาด......................
รวมชาย จาํ นวน..............หอง ขนาด......................
รวมหญิง จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
ประเภทหอ งน้าํ ในหอ งพกั
เดย่ี ว จํานวน..............หอง ขนาด......................
รวม จํานวน..............หอ ง ขนาด......................
รวมชาย จาํ นวน..............หอง ขนาด......................
รวมหญิง จํานวน..............หอง ขนาด......................
230 I โครงการฝึกอบรมหลกั สูตรพระวปิ สั สนาจารย์ เฉลิมพระพระเกียรติฯ ประจ�ำปี ๒๕๖๓
-๒-
๒.๓. สว นของหอ งปฏบิ ัติธรรม (โปรดกรอกรายละเอียด)
ขนาด.......................ตรม. จํานวนคนทรี่ องรบั ได........................คน
หองน้ําจํานวน...........หอ ง รวม แยกชาย หญงิ
ทางเดินคนพกิ าร .......ม.ี ........ไมมี
อุปกรณท่ีเตรียมไวใ นหอ งปฏิบัตธิ รรม
(๑.)................................................................. (๒.).................................................................
(๓.)................................................................. (๔.)..................................................................
(๕.)................................................................. (๖.).................................................................
๒.๔. สว นตอ นรับ (โปรดใสเครอ่ื งหมาย √หนา ขอ ความ)
มีหอ งโถงตอนรับ
มหี อ งสมดุ
มีหอ งนาํ้ สาธารณะ
๒.๕. สภาพแวดลอมทว่ั ไป (โปรดใสเครอ่ื งหมาย √และกรอกรายละเอยี ดหนาขอ ความ)
ปายบอกทาง ปา ยรายช่อื วัด/สํานักปฏิบตั ธิ รรม
ไฟสอ งสวาง
ที่จอดรถจาํ นวน.................คัน ขนาดพน้ื ที่จอดรถ.............ไร............งาน...........ตารางวา
ทางสญั จรสําหรบั คนพิการ
๒.๖. ดานความปลอดภัย (โปรดใสเครื่องหมาย √หนา ขอ ความ)
อุปกรณด ับเพลงิ ..........แผนผังการหนีไฟ..........แหลง นา้ํ สํารอง
แหลง ไฟสาํ รอง..........ยาสามญั ประจําบาน ชุดปฐมพยาบาล
อ่ืนๆ (ระบุ).........................
๓. สาํ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ จังหวัดแหงน้ี
มพี ระวิปส สนาจารย. ...................รปู ดังนี้
๑ ชื่อ ..........................................ฉายา..................................อายุ.......................พรรษา......................
วิทยฐานะ........................ผา นการอบรมหลักสูตรฝกอบรมพระวิปสสนาจารย ป พ.ศ........................
๒. ชื่อ ..........................................ฉายา..................................อาย.ุ ......................พรรษา......................
วิทยฐานะ..........................ผานการอบรมหลกั สตู รฝก อบรมพระวิปสสนาจารย ป พ.ศ......................
๓. ช่อื ............................................ฉายา.................................อายุ.......................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผานการอบรมหลักสูตรฝกอบรมพระวิปสสนาจารย ป พ.ศ......................
๔. ชอ่ื ............................................ฉายา.................................อาย.ุ ......................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผา นการอบรมหลักสูตรฝก อบรมพระวิปสสนาจารย ปพ.ศ........................
๕. ช่ือ ............................................ฉายา.................................อายุ.......................พรรษา......................
วทิ ยฐานะ..........................ผานการอบรมหลักสูตรฝก อบรมพระวปิ ส สนาจารย ปพ .ศ........................
ส�ำนักปฏบิ ตั ธิ รรมประจำ� กรุงเทพมหานคร แหง่ ที่ ๑ วัดยานนาวา I 231
-๓-
๔. สาํ นักปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ จังหวดั แหงนี้ มหี ลกั สตู รการปฏบิ ัติธรรม ดงั น้ี
๔.๑ มหี ลักสตู รการปฏิบัตธิ รรม
ก. หลักสูตรการอบรม ๓ วัน ๒ คนื
ข. หลกั สตู รการอบรม ๔ วนั ๓ คนื
ค. หลักสตู รการอบรม ๗ วนั ๖ คนื
ง. หลกั สตู รการอบรม อ่ืนๆ .........................................
๔.๒ มแี นวการสอน/ปฏิบัติกมั มัฏฐาน ดังน้ี
(ใสเครือ่ งหมาย √และกรอกรายละเอยี ดหนาขอ ความ)
...... แบบบริกรรม พุท – โธ
แบบบรกิ รรม ยุบหนอ – พองหนอ
แบบบรกิ รรม สัมมา – อรหงั
แบบอานาปานสติ (กาํ หนดลมหายใจ)
แบบกําหนดพิจารณารปู – นาม
แบบอ่นื ๆ โปรดระบ.ุ ...............................................................................................
๕. สํานกั ปฏบิ ตั ิธรรมประจําจงั หวัดแหง นี้ มจี ํานวนพุทธศาสนชิ นเขา รว มกจิ กรรม
- สรปุ จํานวนพทุ ธศาสนกิ ชนผมู าปฏบิ ัติธรรม ในปท ผ่ี านมา (พ.ศ.๒๕..….) จํานวน ...................คน
- จาํ นวนพุทธศาสนิกชนผมู าปฏบิ ตั ธิ รรม ในไตรมาส ๑ จํานวน ...................คน
- จาํ นวนพุทธศาสนกิ ชนผมู าปฏบิ ัติธรรม ในไตรมาส ๒ จํานวน ...................คน
- จํานวนพุทธศาสนิกชนผูมาปฏบิ ตั ิธรรม ในไตรมาส ๓ จาํ นวน ...................คน
- จํานวนพุทธศาสนกิ ชนผมู าปฏบิ ัติธรรม ในไตรมาส ๔ จาํ นวน ...................คน
( โปรดแนบหลกั ฐาน อาทิ บัญชรี ายชือ่ ผูรว มกิจกรรม ตารางสรุป สําเนาลายเซ็นของผูรว มกิจกรรม)
๖. ปญ หาอปุ สรรคในการดําเนินงาน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๗. ขอ คดิ เห็นและขอ เสนอแนะ เพอ่ื เปน แนวทางในการปรับปรุงการดําเนนิ งานสํานกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ
จงั หวัดใหม ีประสิทธิภาพ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
(ลงชอ่ื )......................................................................เจา สํานักปฏิบัติธรรม
(...........................................................................)
ตําแหนง....................................................................ผูรายงาน