The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การเรียนสู้ฝุ่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by E-Library โรงเรียนขุนยวม, 2021-02-11 04:27:48

แนวทางการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การเรียนสู้ฝุ่น

แนวทางการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การเรียนสู้ฝุ่น

Keywords: โรงเรียนขุนยวม,ห้องเรียนสู้ฝุ่น

สนบั สนุนโดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

คำนำ

เอกสาร แนวทางการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การเรียนรู้ สู้ภัยฝุ่น ในโรงเรียน ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4-6 เล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นองค์ความรู้สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาใช้เป็นแนวทางในการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
และเสริมสร้างทักษะชีวิตให้กับผู้เรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพลเมืองต่ืนรู้ (Active Citizen) เพื่อให้
นักเรียนเกิดความเข้าใจสถานการณ์วิกฤตและสามารถปกป้องตนเองอย่างปลอดภัย และสามารถส่งต่อ
องคค์ วามรู้ในโรงเรียนให้กับคนในครอบครวั ได้อย่างทันทีทนั ใด ซึ่งถือไดว้ า่ เปน็ การลดผลกระทบด้านสุขภาพได้
อย่างทันทว่ งที โดยคาดหวังวา่ การทเี่ ดก็ และเยาวชนวยั เรียนสามารถสร้างกลไกการรับมอื ด้านสขุ ภาพกับปัญหา
ฝนุ่ ในโรงเรียนสู่การร่วมมือของชุมชนและท้องถ่ิน มที ักษะในการปรับตวั และสื่อสารสร้างชุมชนพ่ึงพาตนเองใน
สถานการณ์เกิดวิกฤตด้านฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของตนเองที่ดีจะเป็นภูมิคุ้มกันให้อยู่
รอดปลอดภยั ในสงั คมปจั จุบนั และมีความพร้อมในการปรับตัวในสงั คมศตวรรษที่ 21

สาระเอกสารเล่มนี้ ประกอบดว้ ย เหตุผลและความจำเป็น หลักการจดั การเรยี นรู้ จดุ มุง่ หมายของการ
จัดการเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ แนวทางการดำเนินการเรียนรู้ใน
สถานศึกษา แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ คุณลักษณะของผู้เรียนและตัวชี้วัดความสำเร็จ
โครงสร้างแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในบริบทของฝุ่นควันอันเกิดจาก
การเผาในที่โล่งในของพ้ืนทภี่ าคเหนอื ตอนบนของประเทศไทย

ผู้จดั ทำจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะก่อประโยชน์ต่อผู้เรียนสูงสุดตามเจตนารมณ์ของเอกสารเล่มนี้ เพ่ือให้
ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาใช้เป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สู้ภัยฝุ่น ในโรงเรียน
สร้างพลเมืองตื่นรู้ (Active Citizen) เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจสถานการณ์วิกฤตและสามารถปกป้อง
ตนเองอย่างปลอดภยั

คณะผู้จดั ทำ
13 กันยายน 2563

สนบั สนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

สารบญั หนา้

คำนำ ข
สารบัญ 1
เหตผุ ลและความจำเป็น 3
หลกั การจัดการเรยี นรู้ 3
จุดมุง่ หมายของการออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3
โครงสรา้ งการจดั การเรียนรู้ 3
4
ช่อื เรอื่ ง 4
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4
สาระสำคัญ 4
สมรรถนะ 4
สาระการเรียนรู้ 4
อปุ กรณ์ 5
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 6
คำถาม R-C-A เพ่ือพัฒนาทกั ษะชวี ิต 6
การวดั ผลประเมนิ ผล 6
สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 6
แนวทางการดำเนินการเรียนรใู้ นสถานศกึ ษา 7
แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้ 9
คณุ ลกั ษณะของผูเ้ รียนและตัวช้วี ัดความสำเร็จ 10
โครงสร้าง : แผนการจัดกิจกรรมเสริมหลักสตู ร 14
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 22
กจิ กรรมที่ 1 นยิ ามและความหมาย : ฝ่นุ คืออะไร 31
กิจกรรมท่ี 2 สาเหตุของการเพม่ิ ขน้ึ ของคา่ ฝุ่นละอองอากาศในพน้ื ท่ี : ฝนุ่ มาจากไหน 41
กจิ กรรมที่ 3 สถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควัน 51
กิจกรรมที่ 4 ผลกระทบของคา่ ฝุ่นละอองอากาศกับสขุ ภาพของเรา 60
กิจกรรมท่ี 5 การเตรียมพร้อมรบั มือภยั ฝุ่น 68
กจิ กรรมท่ี 6 แผนทเ่ี สี่ยงตอ่ การเผาในทโ่ี ลง่ 74
กิจกรรมท่ี 7 เคร่อื งวัดระดับฝุ่น PM2.5 : ยกั ษ์ขาว
กจิ กรรมที่ 8 ระบบธงสขุ ภาพในโรงเรียน

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

สารบญั (ต่อ) หน้า
82
กิจกรรมที่ 9 องคค์ วามรู้ภยั ฝุน่ สูช่ ุมชน 89
กิจกรรมที่ 10 บทบาทเด็กและเยาวชนแก้ปญั หาภัยฝนุ่ อย่างสรา้ งสรรค์ 95
บรรณานุกรม 96
คณะผู้จดั ทำ

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

1

เหตุผลและความจำเป็น

สืบเนื่องจากความรุนแรงของสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ปกคลุมทั่ว
ทั้งพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยทั่วกัน มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่า PM 2.5 สามารถ
สะสมในถุงลมฝอยของปอดและสามารถแทรกซึมเข้าสู่กระแสโลหิตและกระจายไปทั่วร่างกาย ได้กลายเป็น
สาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของประชากรโลกในปี 2558 (Cohen, 2017) นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกได้
ประกาศว่าในปี 2559 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ 7 ล้านคน โดยเกิดจากมลพิษจากอากาศ
ภายนอกอาคาร (Ambient Air) 4.2 ล้านคน โดยร้อยละ 91 เกดิ ในประเทศในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
และแปซิฟิกตะวันตก) WHO, 2018 สำหรับในประเทศไทยพบรายงานล่าสุดถึงจำนวนผูป้ ่วยท่ีได้รับผลกระทบ
จากปญั หาหมอกควัน ผ่านกลุ่มระบาดวิทยา กลุม่ ควบคมุ โรคในเขตเมือง โดยทางเชียงใหม่ กรมควบคมุ โรค ได้
รายงานผ่านเว็บไซต์ว่าจากการเฝา้ ระวังผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ใน
ระหว่างวันที่ 10 – 16 ก.พ. 2562 พบว่า 8 จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ประกอบด้วย เชียงราย
เชียงใหม่ พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน และลำพนู มีข้อมลู รายงานการเฝ้าระวงั ผลกระทบด้านสุขภาพ
ใน 4 กลุ่มโรค จำนวนทั้งสิ้น 26,614 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 707.28 ต่อประชากรแสนคน โดยกลุ่มโรคที่มี
รายงานสูงสุดได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด รองลงมาได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด
ทุกชนิด กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ กลุ่มโรคตาอักเสบ โดยมีอัตราป่วย 360.18, 295.25, 27.35 และ 24.50
ตอ่ ประชากรแสนคน ตามลำดบั โดยกลมุ่ เสยี่ งสว่ นใหญไ่ ดแ้ ก่ เด็ก และ ผูส้ งู อายุ

ผลกระทบของไฟป่าหมอกควันได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ซึ่งเห็นได้จาก
จำนวนผูป้ ่วยที่ไดร้ ับผลกระทบจากหมอกควันในพืน้ ที่ภาคเหนือต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา พบว่าโดยเฉล่ีย
ประมาณ 100,000 รายต่อวัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือ กลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ตลอดจนผู้ป่วยที่เกี่ยวกับระบบ
ทางเดินหายใจ จากรายงานกรมควบคมุ โรคที่ 10 พบว่า วันที่ 15 มีนาคม 2550 จนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2550
มีผู้ป่วยเข้ารับบริการในสถานพยาบาลในสังกัด 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา
เชียงราย แพร่ น่าน และกาญจนบุรี ทั้งหมด 57,765 ราย เฉลี่ยวันละ 7,220 ราย กว่าร้อยละ 90
เปน็ โรคทางเดินหายใจทัว่ ๆ ไป อาการไมร่ นุ แรง โดยมีผปู้ ่วยมากที่สดุ ทจี่ งั หวัดเชียงราย 18,412 ราย รองลงมา
คือ ลำพูน 13,936 ราย และเชียงใหม่ 8,399 ราย (สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ,2550)
ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงราย
ท่รี ายงานว่า ในช่วงเดอื นมนี าคมตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เปน็ ตน้ มานนั้ มียอดผปู้ ่วยเข้ารบั การรักษาเป็นจำนวนมาก
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉลี่ย 2,200 คนต่อวัน (สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ,2550)
โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้ารับการรักษาเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสภาวะหมอกควันที่ปกคลุมทั่วทั้งจังหวัด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แสบตา เป็นต้น ปัจจุบันจะเห็นว่าสถานการณ์

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

2

หมอกควันยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจาก
หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2562 พบว่าโดยเฉลี่ยวันละเกือบ 2 หมื่นราย อย่างไรก็ตามพื้นท่ี
ที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดคือพื้นท่ีที่พบการเผามากที่สุด อันได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัด
เชยี งราย (สำนกั งานพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน), 2562)

ปจั จบุ ันคณะรัฐมนตรีได้มีมตใิ ห้ “การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุน่ ละออง เป็นวาระแห่งชาติ และมีมติ
เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลือ่ นวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อใช้เป็นแนวทาง
ปฏิบัติในการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศ และในพื้นที่วิกฤตโดยการบูรณาการ
ดำเนนิ งานรว่ มกันในทุกภาคส่วน (กรมควบคุมมลพษิ , 2562) ดังนัน้ เพื่อเปน็ การรับมือกับสถานการณ์วิกฤตที่มี
ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงอย่างกลุ่ม
เดก็ ทอ่ี าศัยในพน้ื ที่มกี ารพบการเผาเป็นปรมิ าณมาก ซ่ึงร่างกายต้องรับกับปริมาณฝุ่นละอองพิษอันเกิดจากการ
เผาในที่โล่งเป็นประจำ ก่อให้เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายอันส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
จึงเป็นที่มาของ “โครงการสร้างการเรียนรู้และการสื่อสารสู้ภัยฝุ่น เพื่อการปกป้องด้านสุขภาพในโรงเรียนต่อ
ภาวะวิกฤตปัญหาฝุ่นละออง” ใน 3 พื้นที่ต้นแบบ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แพร่ และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งท้ัง
สามจังหวัดถือได้ว่าเป็นพื้นที่วิกฤตและมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน โดยเป็น
พนื้ ทที่ พ่ี บจุดความร้อนมากท่สี ุดในพ้นื ท่ภี าคเหนือตอนบนของประเทศไทยและเป็นพื้นทีเ่ สี่ยงต่อการเกิดค่าฝุ่น
ละอองสูงอนั ส่งผลต่อสุขภาพของคนในพื้นท่โี ดยเฉพาะอย่างย่ิงเด็กๆในโรงเรียน ซงึ่ เป็นพ้ืนท่ีทเี่ ดก็ มารวมตัวกัน
และใช้เวลาส่วนมากในโรงเรียน

ดังนั้นหากทางโรงเรียนได้มีการติดตามคุณภาพอากาศในแต่ละวันแบบทันทีทันใด (Real Time)
ก็จะทำให้โรงเรียนสามารถทราบถึงระดับฝุ่นในโรงเรียนและสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้
อย่างเหมาะสม เช่น งดกิจกรรมกลางแจ้ง ปรับเปลี่ยนการเรียนวิชาพละในห้องปิด ประกาศให้นักเรียนอยู่ใน
พื้นท่ีหอ้ งปลอดภัย (Safe Zone) การออกแบบการเรยี นรู้เรื่องภัยฝุ่นในโรงเรียนแบบ Active Citizen ผ่านการ
สร้างกิจกรรมเสริมหลักสูตรแกนหลักเพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจสถานการณ์วิกฤตและสามารถปกป้อง
ตนเองอย่างปลอดภัยได้ และส่งต่อองค์ความรู้ในโรงเรียนให้กับคนในครอบครวั ได้อย่างทันทีทนั ใด ซึ่งถือได้ว่า
เป็นการลดผลกระทบด้านสุขภาพได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นในการสร้างกลไกลการรับมือด้าน
สุขภาพกับปัญหาฝุ่นในโรงเรียนสู่การร่วมมือของชุมชนและท้องถิ่น โดยให้โรงเรียนเป็นแกนกลางในการสร้าง
องค์ความรู้และกิจกรรมต่างๆ โดยให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและมีการเชื่อมโยงกับชุมชนผ่านความร่วมมือกับ
องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินส่กู ารนำเสนอนโยบายในระดบั จงั หวัดต่อไป

สนบั สนุนโดย สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

3

หลกั การจดั การเรยี นรู้

การเรียนรู้โดยที่ผู้เรียนได้สะท้อนจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เกิดการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การสร้างความ
ตระหนักถึงความปลอดภัยในตนเองและผู้อ่ืน ซึ่งผูเ้ รียนสามารถสร้างทางเลือก ที่จะได้รับความรู้ มีทักษะ และ
เจตคติที่เหมาะสมในการเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมที่มีความ
หลากหลาย คิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เข้าใจรู้ทันภาวการณ์เปลี่ยนแปลง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ Interaction กับสิ่งต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากบุคคลอื่น จากสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ ทางธรรมชาติ และสื่อต่าง ๆ และมีความสามารถในการส่งผลการ
เรียนรู้สูช่ ุมชน และสามารถสร้างเครือข่ายการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนใกล้เคยี งเป็นฐานการเรียนรู้และร่วมกันต้ังรับ
ปรับตัวต่อการเปลีย่ นแปลงในอนาคต

จุดมงุ่ หมายของการออกแบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

1. เพอ่ื เสริมสรา้ งความปลอดภยั ด้านสขุ ภาพให้แก่นกั เรยี นในโรงเรยี นตอ่ ภาวะวกิ ฤตปัญหาฝนุ่ ละออง
2. เพื่อสรา้ งกลไกการรบั มือด้านสุขภาพกบั ปัญหาฝุ่นในโรงเรยี นสู่การรว่ มมอื ของชุมชนและท้องถิ่น
3. เพ่ือให้นักเรียนสามารถปรับตัวและสื่อสารสร้างชมุ ชนพึ่งพาตนเองในยามท่ีเกดิ วิกฤตด้านฝุ่นละออง
ขนาดเลก็ ทีส่ ่งผลกระทบต่อสขุ ภาวะของตนเองได้

โครงสรา้ งการจัดการเรยี นรู้

จัดทำแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ แบบ Active Learning ในการรับมือกับฝนุ่ ในภาวะวกิ ฤตใน
สถานศึกษา ชมุ ชน และท้องถ่ิน จำนวน 10 แผน 20 ชวั่ โมง ภายใต้หัวข้อต่อไปน้ี

1. ช่ือเรื่อง ประเดน็ เนื้อหาท่จี ะจัดการเรยี นรู้ จำนวน 10 เรือ่ ง ดงั น้ี
1) นิยามและความหมาย : ฝ่นุ คอื อะไร
2) สาเหตขุ องการเพม่ิ ขึน้ ของค่าฝนุ่ ละอองอากาศในพืน้ ท่ี : ฝนุ่ มาจากไหน
3) สถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั
4) ผลกระทบของ PM2.5 กับสุขภาพของเรา
5) การเตรยี มพร้อมรบั มอื ภัยฝนุ่
6) แผนทเี่ สย่ี งตอ่ การเผาในทโี่ ลง่
7) เคร่ืองวดั ระดบั ฝุ่น PM2.5 : ยกั ษ์ขาว
8) ระบบธงสุขภาพในโรงเรียน
9) องคค์ วามรู้ภัยฝุ่นสชู่ มุ ชน
10) บทบาทเดก็ และเยาวชนแก้ปญั หาภัยฝุ่นอย่างสร้างสรรค์

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

4

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ระบุความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลักษณะทผ่ี ูเ้ รียนจะได้รบั ในเน้ือหาการเรยี นรู้
3. สาระสำคญั ประเดน็ ความคิดหรอื มโนทัศนห์ ลกั (Key concept) ของส่งิ ท่ีเรยี น แสดงใหเ้ ห็นความ
เช่อื มโยงระหว่างข้อมลู ตา่ ง ๆ
4. สมรรถนะ
ความสามารถในการใช้ความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ตนมีในการทำงานหรือการ
แก้ปัญหาต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จในระดับใดระดับหนึ่ง สมรรถนะแสดงออกทางพฤติกรรมการปฏิบัติท่ี
สามารถวดั และประเมินผลได้ สมรรถนะจึงเปน็ ผลรวมของความรู้ ทกั ษะเจตคติ คุณลักษณะ และความสามารถ
อนื่ ๆ ทชี่ ว่ ยให้บคุ คลหรอื กล่มุ บุคคลประสบความสำเร็จในการทำงาน 10 สมรรถนะหลกั ทง้ั ในระดับการศึกษา
ข้นั พ้นื ฐาน ไดแ้ ก่

1) ภาษาไทยเพอื่ การสื่อสาร (Thai Language for Communication)
2) คณติ ศาสตรใ์ นชวี ติ ประจำวัน (Mathematics in Everyday Life)
3) การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Inquiry and Scientific Mind)
4) ภาษาอังกฤษเพือ่ การสอ่ื สาร (English for Communication
5) ทักษะชีวิตและความเจริญแห่งตน (Life Skills and Personal Growth)
6) ทกั ษะอาชพี และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ (Career Skills and Entrepreneurship)
7) ทักษะการคิดขั้นสูง และนวัตกรรม (Higher - Order Thinking Skills and Innovation)
HOTS: Critical Thinking, Problem Solving, Creative Thinking
8) การเรียนรู้ เท่าทนั ส่อื สารสนเทศ และดจิ ิทลั (Media, Information and Digital
Literacy : MIDL)
9) การทำงานแบบรวมพลงั เปน็ ทีม และมีภาวะผู้นำ (Collaboration Teamwork
and Leadership)
10) การเป็นพลเมืองทเ่ี ข้มแข็ง/ต่ืนรู้ท่มี ีสำนึกสากล (Active Citizen with
Global Mindedness)
5. สาระการเรยี นรู้ ประเด็นความรู้และทักษะในหวั ข้อน้ันๆ
6. อุปกรณ์ วัสด/ุ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
7. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 ข้นั ตอน
7.1 ข้ันตระหนักถึงความปลอดภยั
ผู้สอนยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ให้ผู้เรียนวิเคราะห์
ตนเอง ผเู้ รยี นวาดภาพส่ือความหมาย วิเคราะหเ์ หตุการณ์ทเี่ คยเกิดข้นึ วิเคราะห์ความกงั กล และอนาคตอยาก
ให้เกิดหรือไม่อยากให้อะไรเกิดกับตนเอง ชุมชน ประเทศของนักเรียน โดยผู้เรียนจะต้องจับคู่กับเพื่อน
และเล่าภาพของตนเองใหเ้ พื่อนฟัง

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

5

7.2 ขน้ั เรยี นร้จู ากประสบการณ์
ผสู้ อนอธิบายแนวทางการเช่ือมโยงเหตุการณ์ในข้ันตอนที่ 1 ขยายความ เปรียบเทียบ ผู้เรียน
วิเคราะห์ และอธิบายให้เหตุผลสนับสนุนโดยนำประสบการณ์เดิมของตนออกมาใช้ในการเรียน และแบ่งปัน
ประสบการณ์ของตนเองกบั เพื่อน ๆ ทอี่ าจมปี ระสบการณ์คล้ายหรอื แตกต่างกนั
7.3 ขนั้ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
ผู้เรียนได้ลงมือกระทำกิจกรรมเป็นการสร้างความสนใจให้กับผู้เรียน กระตุ้นให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้จากการกระทำมากกว่าการบรรยายหรือแสดงให้ดู ครูผู้สอนมีหน้าที่เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก
และชว่ ยแนะนำ เตรียมขอ้ มลู และช่วยในการตอบคำถามท่ผี ู้เรียนสงสยั ระหวา่ งทำกิจกรรม
7.4 ขนั้ แลกเปล่ียนเรียนรู้
ผู้เรียนและผู้สอนได้ร่วมกันประมวลและถอดประสบการณ์จากการปฏิบัติกิจกรรม
จนสามารถนำไปส่กู ารแบง่ ปัน (Sharing) บนฐานของความตระหนักร้แู ละใส่ใจ (Caring) ท้งั ในมติ ิของความรู้สึก
และมิติของการเรียนรู้ท่ีบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ของบทเรยี น
7.5 ขนั้ สรปุ การเรยี นรู้
ครแู ละผ้เู รียนชว่ ยกันอภิปรายสรุปประเด็นสำคัญๆ พรอ้ มท้งั ให้นักเรียนสรปุ ให้ได้ว่าในเร่ืองนี้
ให้สาระสำคัญอะไรบ้าง ซึ่งเป็นขั้นที่สำคัญที่สุดที่นักเรียนควรจะได้รับทราบแนวสรุปของประเด็นปัญหานั้นๆ
ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้นต่อสิ่งที่เรียนรู้ นำไปใช้ในสถานการณ์จริง และสามารถประยุกต์
ความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นสถานการณอ์ ่ืน
7.6 ขน้ั ประยกุ ตส์ ู่วถิ ชี ีวิต
ขั้นน้ผี ูเ้ รยี นนำส่ิงที่ได้เรยี นรู้ไปสู่การคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์และบูรณาการไปพฒั นาต่อยอด
รวมถงึ การคิดออกแบบเพ่ือหาแนวทางพฒั นานวัตกรรมสูว่ ิถีชีวิตและการเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่อื ง

8. คำถาม R-C-A เพือ่ พัฒนาทักษะชีวติ
ตั้งคำถาม R-C-A เพื่อสอบถามผู้เรียนหลังจากสิ้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์

หรอื ตัวช้วี ัดการเรียนรู้ของผเู้ รียนในแตล่ ะครั้งแล้วนั้น ครจู ะต้องตั้งคำถามเพ่ือการสนทนาสอบถามให้ผู้เรียนได้
สะท้อน เชื่อมโยง และปรบั ใชส้ อดรับกัน ให้เกิดคุณลักษณะทักษะชวี ติ องค์ประกอบเดียวกนั อย่างต่อเนื่องและ
มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ทิศทางเดียวกัน โดยเริ่มจากการถามสะท้อนความรู้สึกหรือมุมมอง (Reflect)
จากนั้นถามต่อด้วยคำถามให้คิดเชื่อมโยง (Connect) และจบด้วยคำถามให้อภิปรายเพื่อการปรับใช้ (Apply)
ด้วยการสร้างความคิด จินตนาการ และองค์ความรู้ เตรียมพร้อมสำหรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ที่อาจเผชิญใน
อนาคตทง้ั ระยะสัน้ และอนาคตระยะยาว

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

6

9. การวดั ผลประเมินผล การวดั และประเมินผลในแตล่ ะแผนการจดั การเรยี นรู้น้ัน ไดอ้ อกแบบการวดั
และประเมนิ ผลท่สี ามารถตรวจสอบไดว้ า่ ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรโู้ ดยได้ผลตามท่ีกำหนดไว้ในจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
หรอื ไม่ เพียงใด

10. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
- สอ่ื เช่น ใบความรู้/ใบงานกิจกรรม
- แหล่งการเรยี นรู้ เช่น วทิ ยากรภายนอก ห้องสมดุ เว็บไซต์แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

แนวทางการดำเนินการเรียนร้ใู นสถานศกึ ษา

ยึดมาตรฐานการเรียนรู้และองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) กำหนดไว้ และปรับให้สอดคล้องกบั สภาพปัญหา ความต้องการ
ของชุมชน ทอ้ งถิน่ และภูมิปัญญาทอ้ งถนิ่ ซึง่ สามารถดำเนนิ การสอดแทรกใน 2 ลักษณะ ดงั นี้

• การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ภาษาไทย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณิตศาสตร์ สุขศึกษา
และพลศกึ ษา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม )

• การบรู ณาการในกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น (ลกู เสอื ยุวกาชาด ชมุ นมุ /ชมรม)
• กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้

แนวทางการวดั และประเมินผลการจัดการเรยี นรู้

การวัดและประเมินผลในแตล่ ะแผนการจัดการเรยี นรู้นั้น ได้ออกแบบการวัดและประเมินผลที่สามารถ
ตรวจสอบได้ว่าผู้เรียนได้เรียนรู้โดยได้ผลตามที่กำหนดไว้ในจุดประสงค์การเรียนรู้ หรือไม่ เพียงใด การวัด
และการประเมินผลควรครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านทัศนคติ มีการวัดและประเมิน
ตามสภาพจริง การวัดและประเมินผลสามารถทำควบคูไ่ ปกับการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สอดคล้องกับกิจกรรม
การเรยี นรู้ ทง้ั นี้ไดร้ ะบวุ ิธีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือการวดั และเกณฑ์การวัดและประเมินผลให้ชัดเจน

ตลอดจนได้สร้างเครื่องมือประเมินผลงาน (Scoring Rubrics) ให้ทุกแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
มีการวัดและประเมินผลสอดคล้องกนั ท้ังวธิ กี าร เครือ่ งมอื และเกณฑก์ ารวดั และประเมิน ดงั ตัวอย่างต่อไปนี

ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ
• ประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี นจากการตอบคำถาม
• ประเมนิ ความรู้ความเข้าใจของนักเรียนจากการทำงานกลุม่

ดา้ นทกั ษะ
• ผลงาน ชิ้นผลงานเดี่ยว ผลงานกลุ่ม โดยวัดจากความเกี่ยวข้อง/ถูกต้องด้านเนื้อหา

ความสวยงาม และความคิดสรา้ งสรรค์
• กระบวนการหรือข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน สามารถอธิบายได้

สนับสนุนโดย สำนักงานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

7

• พฤตกิ รรมในกระบวนการทำงานกลุ่ม ในดา้ นการวางแผน การเสนอแนวคดิ และข้อคิด
เชน่ การฟังความคิดเหน็ ความรับผดิ ชอบ ความเสียสละ การตรงตอ่ เวลา ความมรี ะเบียบและการมสี ่วนรว่ ม

• การนำเสนองาน ในดา้ นการเตรียมความพร้อม เน้ือหาสาระ รูปแบบการนำเสนอ การมี
ส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม การรักษาเวลา และความสนใจของผู้ฟงั

ด้านคุณลกั ษณะ
ประเมนิ ผลงานกลุ่มดา้ นความรบั ผดิ ชอบ ความเสียสละ ความมีระเบียบ การตรงต่อเวลา การ

มสี ว่ นรว่ มจากกระบวนการกลุม่

คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นและตวั ชวี้ ดั ความสำเรจ็

ดา้ นความรู้ความเข้าใจ
1) บอกความหมายของ ฝุ่น PM2.5 และ ฝุ่น PM10 ได้
2) วิเคราะห์ตนเองเกยี่ วกบั การเรียนรูส้ ู้ภยั ฝุ่น ตลอดจนวิเคราะหผ์ ลกระทบสุขภาพ และสร้าง

เปา้ หมายในการเรยี นรูร้ ่วมกันได้
3) บอกแหล่งกำเนดิ ฝุ่นท่เี กิดจากการกระทำของมนุษย์
4) วิเคราะห์ขอ้ มูล และ สถานการณก์ ารเกดิ ไฟปา่ จากภาพถา่ ยดาวเทียม (Fire Hotspot) ได้
5) บอกผลกระทบต่อสุขภาพจากฝนุ่ PM2.5 ที่มผี ลระยะสน้ั และระยะยาวได้
6) บอกวิธกี ารเตรยี มรับมอื กบั ภัยจากฝนุ่ PM2.5 ในสถานการณว์ กิ ฤตได้
7) บอกความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่เส่ยี งต่อการเผาในทโ่ี ลง่ ได้
8) สามารถอ่านและแปลความหมายคุณภาพอากาศผา่ นเคร่อื งยักษข์ าวได้
9) สามารถอธบิ ายระบบธงสุขภาพในโรงเรียนได้
10) บอกวิธีการปฏิบัติตนจากการอ่านค่าคุณภาพอากาศจากเครื่องวัดระดับฝุ่น PM2.5

(ยกั ษ์ขาว) และธงสขุ ภาพได้
11) สามารถรายงานสถานการณ์ฝ่นุ PM 2.5 ในโรงเรียนได้
12) เดก็ และเยาวชนสามารถบอกบทบาทของตนเองในการแกป้ ัญหาภยั ฝุ่นอย่างสรา้ งสรรค์ได้

ดา้ นทกั ษะ
1) สืบเสาะหาความรู้ และจำแนกความเหมือนความแตกต่างฝนุ่ PM2.5 และฝ่นุ PM10 ได้
2) ปกปอ้ งตนเองจากสภาวะฝ่นุ เกินค่ามาตรฐานได้
3) แปลผลค่า PM2.5 สกู่ ารดูแลสุขภาพของตนเอง
4) ทำแผนการเตรียมรับมอื และลดความเสี่ยงภยั จากฝุน่ PM2.5 ตอ่ สุขภาพได้
5) คาดคะเนเหตุการณ์จากการทำปฏิทิน (ปฏทิ นิ การเผา และการเกิดภัยฝุ่น PM2.5 ได)้
6) วเิ คราะห์พน้ื ท่ีเส่ยี งต่อการเผาในทีโ่ ล่งในพื้นทจ่ี ังหวดั ของตนเองได้

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

8

6) ร่วมกนั วิเคราะห์จุดเสี่ยงจัดทำแผนที่จุดเส่ียงต่อการเผาบริเวณรอบๆ โรงเรยี นได้
8) มที ักษะในการเตรยี มรับมือด้านสุขภาพ
9) อา่ นคา่ คณุ ภาพอากาศจาก เคร่อื งวัดฝุ่น แล้วแปล ผลตามธงสขุ ภาพ
10) สร้างแผนภูมิข้อมลู สถิตแิ สดงคา่ ฝนุ่ PM2.5 จากโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้
11) สื่อสารส่งต่อความรู้ให้คนในครอบครัว ชุมชน เพื่อปกป้อง และรับมือสุขภาพใน
สถานการณ์วกิ ฤตท่ีมคี ่าฝ่นุ ละอองเกินคา่ มาตรฐานได้อย่างปลอดภัย
ดา้ นคุณลกั ษณะ
1) มีเปา้ หมายการเรยี นรรู้ ่วมกันเพ่ือสร้างความเข้มแขง็ ในการเตรียมพร้อมรับมอื ส้ภู ยั ฝุ่น
2) เหน็ ความสำคญั ของเครอื่ งวดั ฝุ่นในการตดิ ตามสถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั
3) เหน็ ความสำคัญของการตดิ ตามการเผา (Fire Hotspot) ในพืน้ ทีข่ องตนเอง
4) ตระหนกั ถึงผลกระทบด้านสขุ ภาพจากภยั ฝุ่นPM2.5
5) ดำเนินชวี ติ ประจำวนั อย่บู นพน้ื ฐานของการดแู ลสุขภาพท่ีดี
6) เหน็ ความสำคญั ของการเตรยี มรับมอื ภยั ฝ่นุ เพ่อื ปกป้องสขุ ภาพได้อยา่ งปลอดภยั
7) ตระหนักถงึ ความสำคัญของธงสขุ ภาพเพ่ือดำรงชีวติ ให้ปลอดภยั จากฝนุ่ PM2.5
8) เห็นความสำคญั การใชส้ อื่ สารสนเทศในการเผยแพรข่ อ้ มูลท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวม
9) มีส่วนร่วมในการสร้างกลไกลการรับมือด้านสุขภาพกับปัญหาฝุ่นในโรงเรียนสู่การร่วมมือ
ของชุมชนและทอ้ งถน่ิ

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

9

โครงสร้าง : แผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร “การเรยี นรู้ สู้ภัยฝุน่ ในโรงเรยี น”

(ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6)
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั

ปกป้องสุขภาพในสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นPM2.5 เกินค่ามาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่าง
ปลอดภัย ส่งต่อองค์ความรู้ในโรงเรียนให้กับคนในครอบครัว ชุมชน และสร้างกลไกการรับมือด้านสุขภาพ
กับปัญหาฝุ่นในโรงเรียนสู่การร่วมมือของชุมชนและท้องถิ่น สู่การนำเสนอนโยบายในระดับจังหวัด ประเทศ
ต่อไป

ชือ่ เรอื่ ง สาระสำคัญ บรู ณาการ/ จำนวน
1. นิยามและ สาระ (ชว่ั โมง)
ความหมาย : ฝุ่นคือ ฝุ่นละออง หมายถึง อนุภาคของแข็งและหยด
อะไร ละอองของเหลวที่แขวนลอยกระจายในอากาศ ภาษาไทย/ 2
อนุภาคที่แขวนลอยอยู่ในอากาศ บางชนิดมี วทิ ยาศาสตร์
2. สาเหตุของการ ขนาดใหญ่และสีดำจนมองเห็นเป็นเขม่าและ 2
เพิ่มขน้ึ ของค่าฝนุ่ ควัน แต่บางชนิดมีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็น วิทยาศาสตร์
ละอองอากาศในพืน้ ท่ี ด้วยตาเปลา่
: ฝ่นุ มาจากไหน United State Environmental Protection
Agency (US.EPA) กำหนดค่าฝุ่นขนาดเล็กเปน็
2 ชนิด คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10
ไมครอน (PM10) และฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก
กว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5)
แหล่งทมี่ าของฝนุ่ ละอองในบรรยากาศ
โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ฝนุ่
ละอองทเี่ กิดข้นึ ตามธรรมชาติ (Natural
Particle) และฝนุ่ ละอองท่ีเกิดจากกิจกรรมของ
มนษุ ย์ (Man-made Particle) การจัดการท่ี
ต้องช่วยกนั คือลดแหล่งกำเนิด
ทั้งที่เกิดจากตัวเองและแหล่งกำเนิดในชุมชน

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

10

ชอ่ื เร่อื ง สาระสำคญั บรู ณาการ/ จำนวน
3.สถานการณ์ไฟป่า สาระ (ช่ัวโมง)
และหมอกควัน สถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั ท่เี กดิ ข้นึ กบั
ประเทศไทยในแตล่ ะปี ส่งผลตอ่ ความเสยี หาย สังคมศึกษา/ 1
4.ผลกระทบของคา่ ฝ่นุ สขุ ภาพความเปน็ อยู่ของประชาชน ตลอดจน วทิ ยาศาสตร์
ละอองอากาศกบั ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม อีกทัง้ ยงั มี 1
สุขภาพของเรา ผลต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การตดิ ตามและ - วทิ ยาศาสตร์
ประเมนิ พื้นที่ท่ีไดร้ ับผลกระทบจากภยั และเทคโนโลยี 3
5.การเตรยี มพร้อม ธรรมชาติ ดงั น้นั การตดิ ตามสถานการณ์ด้วย - สุขศึกษา
รับมือภยั ฝุ่น เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote
Sensing) ด้วยภาพถา่ ยดาวเทียมแสดงจดุ ความ - วิทยาศาสตร์
ร้อน (Fire Hotspot) และเทคโนโลยี
PM2.5 สง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพทัง้ ผลกระทบ - สุขศึกษา
ระยะสน้ั และผลกระทบระยะยาว แต่ละคนมี
ความไวตอ่ การได้รบั ผลกระทบสุขภาพจาก
PM2.5 ทแี่ ตกตา่ งกนั เช่นประชากรกลุ่มเส่ยี ง
โดยเฉพาะในเดก็ และกลุม่ ผปู้ ่วย รวมถงึ กลุ่ม
เสยี่ งจากกิจวัตรและวิถชี ีวิต องคก์ าร
สหประชาชาตไิ ดป้ ระกาศให้มลพิษทางอากาศ
เป็นปจั จยั เส่ยี งที่ 5 ของโรคไม่ติดต่อ ซ่ึงทำให้
เกดิ 5 กลุม่ โรค ไดแ้ ก่ โรคหวั ใจและหลอดเลือด
โรคระบบทางเดินหายใจเรือ้ รัง โรคมะเร็ง
โรคเบาหวาน โรคทางจิตและระบบประสาท
จากสถานการณว์ ิกกฤตของ PM2.5 ทลี่ อยอยู่
ในอากาศทัว่ ไปและมคี ่าเกินมาตรฐานจนส่งผล
กระทบตอ่ ชีวิตผ้คู นเปน็ วงกว้าง จนเกดิ ปัญหา
กับสขุ ภาพ และโรคภัยตามมา ถ้ามนุษย์เรามี
ความรใู้ นการเตรยี มรับมือรับมอื กับภัยฝุน่
PM2.5 โดยการ สวมหนา้ กากปอ้ งกันฝนุ่
หลีกเลย่ี งกจิ กรรมกลางแจ้ง เตรียมยาให้
พร้อม คนกลุม่ เสย่ี งอยา่ ออกนอกบ้าน ควรอยู่
ในหอ้ งทีป่ ลอดภยั หากมีอาการแพ้ฝุ่นรบี ไปหา
หมอทันที ถ้ามีการเตรียมพร้อมรบั มือกบั ภยั

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

11

ช่อื เร่อื ง สาระสำคญั บูรณาการ/ จำนวน
6.แผนท่ีเสย่ี งต่อการ สาระ (ช่วั โมง)
เผาในทโี่ ลง่
ฝุน่ PM2.5 ก็สามารถทีจ่ ะดำรงชีวติ และรบั มอื 2
7 เคร่อื งวดั ระดับฝุ่น
PM2.5 : ยักษข์ าว กบั ภยั ฝ่นุ ที่เกดิ ข้ึนน้ีได้ เป็นการลดผลกระทบ 1

ต่างๆทีจ่ ะเกดิ ข้ึนได้

แผนท่ีเส่ียงต่อการเผาในทโี่ ลง่ เป็นขอ้ มลู ทาง - วทิ ยาศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ จากเทคโนโลยีการสำรวจ และเทคโนโลยี

ระยะไกล (Remote Sensing) ดว้ ยภาพถ่าย

ดาวเทยี มแสดงจดุ ความรอ้ น (Fire Hotspot)

ทำใหเ้ หน็ ถึงขอ้ มูลการเกดิ ไฟในอดีต และ การ

เผาซ้ำซาก จึงสามารถทำการคาดการพน้ื ทเ่ี ส่ยี ง

ต่อการเผาในพื้นทไ่ี ด้ นอกจากนี้

การวิเคราะจุดเสยี่ งการเผาในพน้ื ท่บี รเิ วณของ

โรงเรียน และชมุ ชนตนเอง เป็นเรอ่ื งทส่ี ำคัญต่อ

การทราบจุดเส่ยี งในพน้ื ที่ เพ่ือสร้าง

กระบวนการรบั มอื และตรยี มแผนการรบั มือ

เกย่ี วกับผลกระทบตา่ งๆทจี่ ะเกิดจากการเผาใน

พ้นื ทช่ี มุ ชนได้

เครือ่ งวัดระดับฝนุ่ PM2.5 (ยักษข์ าว) - วิทยาศาสตร์

เครอ่ื งวัดฝนุ่ ขนาดเลก็ ทจ่ี ะทำการวดั ค่าฝนุ่ และเทคโนโลยี

แบบทันทีทนั ใด (Real Time) นอกจากนีย้ ัง (คอมพวิ เตอร์)

เป็นแอพพลเิ คชั่นสำหรับตดิ ตามคา่ ฝ่นุ PM2.5 - ลกู เสือ

แบบสถานการณป์ ัจจบุ ันท่ีเชื่อมโยงเครือข่าย ยวุ กาชาด

สถานวี ัดฝ่นุ ของโรงเรยี นในเครอื ขา่ ย สามารถ - กิจกรรมลด

ดูข้อมูลฝุน่ สถานีใกล้บา้ นดแู นวโนม้ คา่ ฝุน่ เวลาเรียนเพิ่ม

พร้อมคำแนะนำแจง้ เตือน พร้อมทัง้ เรียนรู้ เวลารู้

แนวทางป้องกนั เพอ่ื สุขภาพที่ดี

สนบั สนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

12

ชอื่ เรอ่ื ง สาระสำคัญ บรู ณาการ/ จำนวน
8. ระบบธงสขุ ภาพใน สาระ (ชว่ั โมง)
โรงเรยี น ธงสุขภาพคือ ธงสีต่างๆ ท่ีแจ้งเตือนระดับ
คุณภาพอากาศของภยั ฝุ่น PM2.5 (ยกั ษข์ าว) - สุขศึกษา 3
9.องค์ความร้ภู ยั ฝนุ่ สู่ มที งั้ หมด 5 สี ตามค่าระดบั ฝนุ่ PM2.5 - ลูกเสือ
ชมุ ชน (หนว่ ย มคก./ลบ.ม.) ทีเ่ ทียบกับคา่ ดัชนี ยวุ กาชาด 3
คุณภาพอากาศ (กรมควบคุมมลพษิ ) - กิจกรรมลด
เวลาเรยี นเพมิ่
สฟี า้ มคี า่ PM2.5 ระหวา่ ง 0- 25 เวลารู้
สามารถปฏบัตกิ ิจกรรมกลางแจ้งไดป้ กติ
สีเขียว มีค่า PM2.5 ระหวา่ ง 26-37 วิทยาศาสตร์
ปฏบิ ัติกจิ กรรมกลางแจง้ ได้ตามปกติ และเทคโนโลยี
สเี หลือง มคี ่าPM2.5 ระหวา่ ง 38-50 (คอมพิวเตอร์)
ผปู้ ว่ ยควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง
สสี ม้ มคี า่ ฝุ่นPM2.5 ระหวา่ ง 51- 90 ลด
กิจกรรมกลางแจง้ สวมหนา้ กากอนามัย
สีแดงมคี า่ คุ ฝนุ่ PM2.5 ตั้งแต่ 91 ข้นึ ไป
ควรงดกจิ กรรมกลางแจง้ ใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั
และอยู่ในห้องทปี่ ลอดภยั
ธงสขุ ภาพในโรงเรยี นจึงมคี วามจำเปน็ สำหรับ
นกั เรยี นในการเตรยี มรับมือสู้กับภัยฝ่นุ PM2.5
เพื่อให้นกั เรยี นปลอดภัยจากภัยฝนุ่ PM2.5
ปัญหาหมอกควนั ทปี่ กคลมุ ท่ัวทั้งภาคเหนอื ของ
ประเทศไทย สง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพของ
ประชาชนในพื้นทีโ่ ดยเฉพาะอย่างยง่ิ
ในเดก็ และเยาวชนดังน้นั การเรยี นรู้เก่ยี วกับภัย
ฝุ่นกับสขุ ภาพในโรงเรยี นจงึ เป็นเรอื่ ง
ที่ทกุ คนควรใหค้ วามสนใจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
การสรา้ งพลเมืองต่นื รู้ (Active Citizen) จาก
โรงเรียนสู่ชมุ ชน โดยใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน
นักเรยี นเป็นกำลงั ในการส่ือสารเพ่ือปกป้อง
สุขภาพในภาวะวิกฤตปัญหาฝุ่นละออง
สู่ชุมชนใหเ้ ตรยี มรบั มอื และมีองค์ความรเู้ มื่อ
เผชญิ เหตุการณไ์ ดอ้ ย่างปลอดภยั

สนบั สนุนโดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

13

ชอ่ื เร่ือง สาระสำคญั บรู ณาการ/ จำนวน
สาระ (ช่ัวโมง)
10.บทบาทเด็กและ เด็กและเยาวชน เปน็ กลุม่ เปราะบางเม่ือได้รบั
เยาวชนแกป้ ญั หาภัย ผลกระทบจากปัญหาฝนุ่ PM2.5 ดังนัน้ จงึ เป็น - สังคมศกึ ษา 2
ฝุน่ อย่างสร้างสรรค์ ภัยใกล้ตัวที่ตอ้ งเรียนรู้ ปกป้องสุขภาพ และ - วิทยาศาสตร์
สามารถส่อื สารส่งต่อความรู้ใหค้ นในครอบครัว และเทคโนโลยี 20
รับมอื ในสถานการณว์ กิ ฤตที่มีค่าฝุ่นละอองเกิน (คอมพิวเตอร)์
คา่ มาตรฐานไดอ้ ยา่ งปลอดภยั สร้างกลไกลการ
รับมอื ดา้ นสุขภาพกบั ปัญหาฝุ่นในโรงเรยี น
ร่วมมอื กับชุมชนและท้องถิ่นสู่การนำเสนอ
นโยบายในระดบั ประเทศต่อไป

รวม

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

14

กิจกรรมท่ี 1

1. ชอื่ กิจกรรม นิยามและความหมาย : ฝ่นุ คืออะไร จำนวน 2 ช่วั โมง

2. สาระสำคญั
ฝ่นุ ละออง หมายถงึ อนภุ าคของแข็งและหยดละอองของเหลวทีแ่ ขวนลอยกระจายในอากาศ อนภุ าคที่

แขวนลอยอยใู่ นอากาศ บางชนิดมีขนาดใหญแ่ ละสดี ำจนมองเหน็ เปน็ เขม่าและควัน แต่บางชนิดมขี นาดเลก็ มาก
จนมองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปลา่

มีวิจัยพบวา่ ฝ่นุ ขนาดเล็กน้นั จะเป็นอนั ตรายต่อสุขภาพมากกวา่ ฝุ่นรวม เนื่องจากสามารถผ่านเข้าไปใน
ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างและมีผลต่อสุขภาพมากกว่าฝุ่นรวม ดังนั้น United State Environmental
Protection Agency (US.EPA) กำหนดค่าฝุ่นขนาดเล็กเป็น 2 ชนิด คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน
(PM10) และฝนุ่ ละอองทีม่ ขี นาดเลก็ กว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5)

PM10 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ่นหยาบ (Course Particle) เป็นอนุภาคที่มี
เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 - 10 ไมครอน มีแหล่งกำเนิดจากการจราจรบนถนนที่ไม่ได้ลาดยางจากการขนส่งวัสดุ
ฝุ่นจากกจิ กรรมบด ย่อย หนิ

PM2.5 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ ่นละเอียด (Fine Particle) เปน็ อนภุ าคที่มี
เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ฝุ่นละเอียดมีแหล่งกำเนิดจากควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟ้า โรงงาน
อุตสาหกรรม ควันที่เกิดจากหุงต้มอาหารโดยใช้ฟืน นอกจากนี้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ( SO2) ออกไซต์ของ
ไนโตรเจน (NOX) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย(VOCs) จะทำปฏิกิริยากับสารอ่ืนในอากาศทำให้เกิดเป็นฝุ่น
ละเอยี ดได้

ฝุ่นละอองขนาดเล็กจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เมื่อหายใจเข้าไปในปอดจะเข้าไปอยู่ใน
ระบบทางเดนิ หายใจสว่ นล่าง ในสหรัฐอเมรกิ าพบวา่ ผู้ทไี่ ด้รบั ฝุ่น PM10 ในระดับหนงึ่ จะทำให้เกิดโรคหอบหืด
(Asthma) และฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศจะมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและโรค
ปอด ที่เข้ามารักษาตัวในห้องฉุกเฉิน เพิ่มอาการของโรคทางเดินหายใจ ลดประสิทธิภาพการทำงานของปอด
และเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตก่อนวนั อันควร โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคหอบหืด และเด็กจะมี
อัตราเสย่ี งสงู กวา่ คนปกติ

สนับสนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

15

3. จดุ ประสงค์
3.1 บอกความหมายของ ฝนุ่ PM2.5 และ ฝุ่นPM10 ได้
3.2. วเิ คราะหต์ นเองเก่ยี วกบั การเรียนรู้สู้ภยั ฝุ่น และสร้างเป้าหมายในการเรียนรรู้ ่วมกันได้
3.3 สืบเสาะหาความรู้ และจำแนกความเหมือนความแตกตา่ งฝุ่นPM2.5 และ ฝ่นุ PM10 ได้
3.4 มีเปา้ หมายการเรียนรูร้ ว่ มกันเพ่อื สร้างความเข้มแข็งในการเตรียมพร้อมรบั มือส้ภู ัยฝนุ่

4. สมรรถนะ
4.1 การทำงานแบบรวมพลัง เป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration Teamwork and Leadership)
4.2 พลเมืองต่นื รูท้ มี่ ีสำนกึ สากล (Active Citizens with Global Mindedness)

5. สาระการเรียนรู้
5.1 การวิเคราะหต์ นเองเกี่ยวกับการเรยี นรู้สูภ้ ยั ฝนุ่
5.2 ความหมายของ ฝุน่ PM2.5 และ ฝุ่นPM10
5.3 ความเหมือน - ความต่างของฝ่นุ PM2.5 และPM10

6. อปุ กรณ์
6.1 กระดาษบรู๊ฟ
6.2 สเี ทยี น/สีไม้
6.3 ปากกาเคมี

7.กระบวนการเรยี นรู้
ชัว่ โมงท่ี 1

7.1 ขน้ั ตระหนักถึงความปลอดภยั
1) ให้นกั เรยี นฟงั เพลงและทำทา่ ประกอบเพลง หมอกหรือควนั

https://www.youtube.com/watch?v=3qhYzUbqxcY
2) ครูถามนักเรียนว่า ฝุ่น ที่ลอยอยู่ในอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมีขนาดเท่ากันหรือไม่

(ฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน และฝุ่นละอองขนาดเลก็ ฝ่นุ ทข่ี นาดไม่เกนิ 10 ไมครอน)

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

16

7.2 ข้ันเรียนรจู้ ากประสบการณ์
1) หากนักเรียนอยู่ในพื้นที่ ที่มีวิกฤตปัญหาฝุ่น แล้วนักเรียนหายใจเข้าออกจะส่งผลกระทบ

ต่ออวัยวะร่างกายของเราส่วนไหนบ้าง อย่างไร (ตา ผิวหนัง ทางเดินหายใจ เยื่อบุโพรงจมูก ลำคอ หลอดลม
ใหญ่ หลอดลมฝอยในปอด ถุงลมฝอย ระบบภมู ิคมุ้ กนั และระบบอ่ืนๆ ในปอด)

2) ในฐานะนักเรียนเป็นหนึ่งในพลเมืองไทย และพลเมืองโลกที่ได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์วิกฤตที่มีค่าฝุ่นPM2.5 เกินมาตรฐาน นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาภัยฝุ่นอย่างไร
(ศึกษาเรียนรู้วิธีการป้องกันและวิธีการรับมือภัยฝุ่นอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และส่งต่อความรู้ให้ผู้อื่นได้
ตระหนกั ถงึ ภัยอนั ตรายจากฝนุ่ PM2.5)

3) นักเรียนแต่ละคนวิเคราะห์ตนเองสิ่งที่รู้เกี่ยวกับฝุ่นPM2.5 สิ่งที่ไม่รู้เกี่ยวกับฝุ่นละออง
ส่งิ ที่อยากจะรู้เก่ียวกบั ฝนุ่ PM2.5 และภาพฝันในการเรียนรู้สู้ภยั ฝุน่

4) ให้นักเรยี นทำใบกิจกรรมที่ 1.1 “การวเิ คราะหต์ นเองเก่ียวกบั การเรยี นรูส้ ภู้ ัยฝุ่น”

ส่งิ ทร่ี ูเ้ กย่ี วกบั ฝ่นุ PM2.5 ส่ิงทไ่ี มร่ ู้เก่ยี วกบั ฝ่นุ PM2.5

สิ่งที่อยากจะรเู้ กี่ยวกบั ฝุน่ ภาพฝนั ในการเรยี นรสู้ ภู้ ยั ฝุ่น
ละออง

5) นักเรียนจับคู่ ผลัดกันเล่าตามใบกิจกรรมที่ 1.1 “การวิเคราะห์ตนเองเกี่ยวกับการเรียนรู้
สู้ภัยฝุ่น” ต่อภาพความฝันในการเรียนรู้สู้ภัยฝุ่น และร่วมกันสะท้อนคิด สร้างเป้าหมายในการเรียนรู้สู้ภัยฝุ่น
รว่ มกนั

6) มอบหมายให้นักเรียนไปสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง ความหมายของฝุ่น PM2.5 และPM10
จากแหล่งการเรยี นรู้

ชั่วโมงท่ี 2
7.3 ข้นั ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
1) ครูและนกั เรียนรว่ มกันทบทวนการทำใบกจิ กรรมท่ี 1.1 “การวเิ คราะหต์ นเองเกี่ยวกับการ

เรียนรู้สภู้ ัยฝนุ่ ”

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

17

2) แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มๆ ละเท่าๆ กัน ร่วมกันระดมความคิดความหมาย
ความเหมือน-ความต่างของฝุ่นPM2.5 และPM10

3) แต่ละกลุ่มนำผลการระดมความคิดบันทึกในใบกิจกรรมที่ 1.2 “ความเหมือน - ความต่าง
ของฝุน่ ละอองPM2.5 และพเี อม็ 10” ลงในกระดาษบรู๊ฟ

PM2.5 ความเหมือน PM10

7.4 ขน้ั แลกเปลี่ยนเรียนรู้

แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอผลงานตามใบกิจกรรมที่ 1.2 “ความเหมือน - ความต่างของฝนุ่

PM2.5 และPM10”

7.5 ขนั้ สรปุ การเรยี นรู้

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความหมาย และความเหมือน - ความต่างของฝุ่นPM2.5

และPM10

7.6 ขัน้ ประยกุ ตส์ วู่ ถิ ีชวี ิต

มีเป้าหมายในการเรียนรู้สู้ภัยฝุ่น และเตรียมรับมือฝุ่นPM2.5 เพื่อปกป้องสุขภาพใน

สถานการณ์วกิ ฤตท่มี ีคา่ ฝุ่นPM2.5 เกนิ มาตรฐาน

ฝนุ่ PM2.5 ฝนุ่ PM10

PM2.5 ตามคำจำกัดความของ US.EPA PM10 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ่น

หมายถงึ ฝุ่นละเอียด (Fine Particle) เป็นอนภุ าคที่ หยาบ (Course Particle) เปน็ อนภุ าคทีม่ ี

มเี สน้ ผ่านศนู ยก์ ลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ฝนุ่ เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 2.5 - 10 ไมครอน มีแหลง่ กำเนิด

ละเอยี ดมแี หล่งกำเนิดจากควนั เสียของรถยนต์ จากการจราจรบนถนนท่ีไมไ่ ด้ลาดยางจากการขนสง่

โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ควันทีเ่ กิดจากหงุ ตม้ วสั ดุฝ่นุ จากกจิ กรรมบด ย่อย หิน

อาหารโดยใชฟ้ ืน นอกจากน้ี กา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซด์

(SO2) ออกไซต์ของไนโตรเจน (NOX) และ

สารอินทรยี ์ระเหยง่าย (VOCs) จะทำปฏกิ ริ ิยากบั

สารอ่นื ในอากาศทำใหเ้ กดิ เป็นฝุ่นละเอยี ดได้

สนับสนนุ โดย สำนกั งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

18

ฝนุ่ ละอองขนาดเล็กจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอยา่ งมาก เมื่อหายใจเข้าไปในปอดจะเข้าไปอยู่
ในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ในสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ที่ได้รับฝุ่น PM10 ในระดับหนึ่งจะทำให้เกิดโรค
หอบหืด (Asthma) และฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศจะมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยที่เป็น
โรคหวั ใจและโรคปอดท่ีเข้ามารักษาตวั ในห้องฉกุ เฉิน เพิม่ อาการของโรคทางเดินหายใจ ลดประสิทธภิ าพการ
ทำงานของปอด และเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรค
หอบหดื และเด็กจะมอี ตั ราเส่ียงสงู กวา่ คนปกติ

ทมี่ า : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . แนวทางการเฝ้าระวงั พ้นื ท่ีเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศ กรณฝี ุ่นละอองขนาดเล็ก, หนา้ 3.

8. คำถาม R-C-A เพอื่ พฒั นาทกั ษะชวี ิต
- R (Reflect) คำถามเพื่อการสะทอ้ น
- หากนักเรียนอยู่ในพื้นท่ี ที่มีวิกฤตปัญหาฝุ่น แล้วนักเรียนหายใจเขา้ ออกจะส่งผลตอ่ อวัยวะ

ร่างกายของเราส่วนไหนบ้าง อยา่ งไร
- C (Connect) คำถามเพอ่ื การเช่อื มโยง
- นกั เรยี นมเี ปา้ หมายในการเรียนรสู้ ้ภู ยั ฝุน่ ร่วมกัน เพ่อื อยากใหเ้ ห็นภาพในอนาคตเปน็ เช่นใด
- A (Apply) คำถามเพอ่ื การปรับใช้
- ในฐานะนักเรียนเปน็ หนง่ึ ในพลเมืองไทย และพลเมอื งโลกที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์

วิกฤตท่ีมีค่าฝนุ่ ละอองเกินมาตรฐาน นกั เรยี นจะปกป้องตนเองและคนในครอบครวั ได้อย่างไร และจะมสี ่วนร่วม
ในการแก้ไขปัญหาภัยฝนุ่ อย่างไร

9.การวดั ผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์ วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์

1. บอกความหมายของ ฝุ่นPM2.5 สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

และ ฝุน่ PM10 นักเรยี น นกั เรียน

2. วเิ คราะหต์ นเองเกีย่ วกับการ ตรวจชนิ้ งาน/การ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

เรยี นรูส้ ูภ้ ยั ฝุ่น และสรา้ งเปา้ หมาย นำเสนอ การนำเสนอ

ในการเรียนรูร้ ว่ มกัน

3. สืบเสาะหาความรู้ และจำแนก ตรวจชน้ิ งาน/การ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ความเหมือน - ความต่างฝ่นุ นำเสนอ การนำเสนอ

PM2.5 และ ฝุน่ PM10

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

19

การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน

รายการประเมิน คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน

1. บอกความหมายของ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
ฝนุ่ PM2.5 และ ฝนุ่ บอกความหมายของ
PM 10 บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ ฝ่นุ PM2.5 และ ฝนุ่
PM10 ไมต่ รง
2. วเิ คราะห์ตนเอง ฝุ่นPM2.5 และ ฝนุ่ ฝนุ่ PM2.5 และ ฝนุ่ ฝนุ่ PM2.5 และ ฝนุ่ ประเด็น
เกีย่ วกบั การเรียนรู้สภู้ ัย
ฝุ่น และสรา้ งเปา้ หมาย PM10 ได้ตรงประเดน็ PM10 ได้ตรง PM10 ไดต้ รง วิเคราะหต์ นเอง
ในการเรียนร้รู ว่ มกัน เก่ียวกับการเรียนรู้สู้
เข้าใจง่าย ใชภ้ าษา ประเด็น เข้าใจงา่ ย ประเดน็ ภัยฝุน่ และสร้าง
3. สบื เสาะหาความรู้ เป้าหมายในการ
และจำแนกความเหมอื น สละสลวย เรียนร้รู ่วมกัน ได้
ความแตกต่างฝนุ่ PM2.5 ถกู ตอ้ ง 1 ประเด็น
และ ฝุ่นPM10 วเิ คราะห์ตนเอง วิเคราะห์ตนเอง วเิ คราะหต์ นเอง สืบเสาะหาความรู้
และจำแนกความ
เก่ยี วกบั การเรียนร้สู ู้ เกย่ี วกบั การเรียนรสู้ ู้ เกย่ี วกบั การเรียนรูส้ ู้ เหมอื นความ
แตกตา่ งฝ่นุ PM2.5
ภยั ฝุน่ และสร้าง ภยั ฝุน่ และสรา้ ง ภัยฝุ่น และสรา้ ง และ ฝนุ่ PM10 ไม่
ตรงประเด็น
เป้าหมายในการเรียนรู้ เป้าหมายในการ เปา้ หมายในการ

ร่วมกัน ไดถ้ ูกต้อง 4 เรียนรูร้ ว่ มกนั ได้ เรยี นร้รู ่วมกันได้

ประเด็น ถกู ตอ้ ง 3 ประเด็น ถกู ตอ้ ง 2 ประเดน็

สบื เสาะหาความรู้ สบื เสาะหาความรู้ สืบเสาะหาความรู้

และจำแนกความ และจำแนกความ และจำแนกความ

เหมอื นความแตกต่าง เหมือนความ เหมอื นความ

ฝ่นุ PM2.5 และ ฝนุ่ แตกตา่ งฝนุ่ PM2.5 แตกต่างฝุ่นPM2.5

PM10 ไดต้ รงประเด็น และ ฝนุ่ PM10 ได้ และ ฝนุ่ PM10 ได้

เข้าใจงา่ ย ใชภ้ าษา ตรงประเดน็ เข้าใจ ตรงประเด็น

สละสลวย ง่าย

ช่วงคะแนน 11-12 9-10 6-8 ตำ่ กว่า 6
ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ

10.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
10.1 ใบกิจกรรมที่ 1.1 “การวเิ คราะห์ตนเองเก่ียวกบั การเรียนรู้สู้ภัยฝนุ่ ”
10.2 ใบกจิ กรรมที่ 1.2 “ความเหมือน-ความต่างของฝุ่นPM2.5 และPM10”
10.3 เพลงหมอกหรือควัน https://www.youtube.com/watch?v=3qhYzUbqxcY
10.4 ห้องสมุด
10.5 แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
10.6 วทิ ยากร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลในพน้ื ท่ี
http://www.pcd.go.th/Info_serv/air_pm25_anamai.html
https://www.thaihealth.or.th/sook/info-body-detail.php?id=232

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

20

ใบกจิ กรรมท่ี 1.1
“การวเิ คราะห์ตนเองเกย่ี วกับการเรยี นรู้สู้ภยั ฝนุ่ ”

คำช้แี จง : ให้นักเรยี นวาดภาพตามจินตนาการให้ตรงกบั หัวข้อในช่องวา่ ง

ส่ิงที่รู้เก่ียวกับฝุน่ PM2.5 สิ่งท่ีไม่รเู้ ก่ยี วกับฝนุ่ PM2.5

สิง่ ที่อยากจะรู้เกี่ยวกับฝนุ่ PM2.5 ภาพฝันในการเรียนรสู้ ู้ภัยฝุ่น

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

21

ใบกิจกรรมที่ 1.2
“ความเหมอื น-ความต่างของฝุ่นPM2.5 และPM10”

คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนวิเคราะหค์ วามเหมอื น - ความต่างของฝนุ่ PM2.5 และPM10

PM 2.5 ความเหมือน PM 10

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

22

กิจกรรมท่ี 2

1. ชอ่ื กจิ กรรม สาเหตุของการเพม่ิ ขน้ึ ของค่าฝุ่นละอองอากาศในพน้ื ท่ี : ฝ่นุ มาจากไหน จำนวน 2 ช่ัวโมง

2. สาระสำคัญ
แหลง่ ท่มี าของฝ่นุ ในบรรยากาศ โดยทว่ั ไปจะแบง่ เปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื ฝนุ่ ที่เกิดข้ึนตามธรรมชาติ

(Natural Particle) และฝุ่นที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ (Man-made Particle) การจัดการที่ต้องช่วยกัน
คอื ลดแหลง่ กำเนดิ ฝนุ่ ทัง้ ทเ่ี กดิ จากตวั เองและแหล่งกำเนิดในชมุ ชน
3. จดุ ประสงค์

3.1 บอกแหล่งท่มี าของฝุ่นPM2.5 ในบรรยากาศได้
3.2 ใหค้ ำแนะนำในการจัดการกับแหล่งกำเนิดฝุน่ ทง้ั ทเ่ี กดิ จากตัวเองและแหล่งกำเนิดในชมุ ชนได้
3.3 ช่วยลดฝุ่นละอองในบรรยากาศท้งั จากแหลง่ กำเนิดทีเ่ กิดจากตวั เองและแหล่งกำเนดิ ในชมุ ชน

4. สมรรถนะ
4.1 ภาษาไทยเพือ่ การสอ่ื สาร (Thai Language for Communication)
4.2 ทกั ษะชีวติ และความเจรญิ แห่งตน (Life Skills and Personal Growth)
4.3 การรเู้ ทา่ ทนั สื่อ สารสนเทศ และดิจิทลั (Media, Information and Digital Literacy : MIDL)
4.4 พลเมืองตื่นรทู้ ี่มีสำนึกสากล (Active Citizens with Global Mindedness)

5. สาระการเรยี นรู้
5.1 แหลง่ ทม่ี าของฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศ
5.2 ให้คำแนะนำในการลดแหล่งกำเนิดฝ่นุ ทง้ั ทเี่ กดิ จากตวั เองและแหล่งกำเนิดในชุมชน

6. อุปกรณ์
-

7.กระบวนการเรยี นรู้
ช่วั โมงท่ี 1

7.1 ขั้นตระหนักถงึ ความปลอดภัย
1) เปิดวดิ ิทัศน์ “มลพษิ ทางอากาศ Air Pollution” ให้นกั เรียนดู
https://www.youtube.com/watch?v=Fz9nWD_0jLE

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

23

2) แบ่งทีมนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ร่วมกันเล่นเกม คุณรู้ไหม จากภาพจิ๊กซอว์ ได้แก่ ภาพสาเหตุของ
การเกิด PM2.5 โดยให้นักเรียนเป่ายิ้งฉุบ เปิดภาพจิ๊กซอว์ออกทีละชิ้นแล้วให้นักเรียนทีมที่เป่ายิ้งฉุบชนะทาย
ว่าเปน็ ภาพอะไร

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

24

2) ครูอธบิ ายภาพ (แหล่งกำเนดิ PM2.5)
▪ ไอเสียรถยนต์เป็นแหล่งกำเนิดPM2.5 นอกจากนี้ในไอเสียรถยนต์ยังมีสาร
กอ่ มะเรง็ อนื่ ๆ อยู่ดว้ ยมากมาย
▪ การเผาขยะ
▪ การเผาปา่
▪ การเผาทางการเกษตร
▪ การขนส่ง
(ทมี่ า: http://www.pcd.go.th/info_serv/air_pm25.html)

3) นักเรยี นเห็นภาพฝุน่ ในอากาศนกั เรียนเกิดความรู้สึกอย่างไรบ้าง

7.2 ขัน้ เรยี นรู้จากประสบการณ์
1) แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นเป็น 2 กลุ่มๆ ละเท่าๆ กนั เลอื กหวั หนา้ กล่มุ แลว้ นัง่ เป็นวงกลม
2) แจกใบกจิ กรรมที่ 3 แหล่งที่มาของฝนุ่ ในบรรยากาศ ให้สมาชกิ เปลี่ยนกนั อ่านข้อความจาก

ใบกิจกรรม เริม่ จากสมาชิกด้านซา้ ยมือของหวั หน้ากล่มุ
3) ให้สมาชิกทุกคนวิเคราะห์จากขอ้ ความท่เี พ่ือนอ่าน แล้วทำเครอื่ งหมาย √ ในช่องแหล่งทีม่ า

ของฝ่นุ วา่ เกดิ ข้ึนจากแหล่งใด
- ฝุน่ ที่เกิดขนึ้ ตามธรรมชาติ (Natural Particle)
- ฝุ่นทเ่ี กิดจากกิจกรรมของมนุษย์ (Man-made Particle)

3) ส่งตัวแทนนำเสนอผลการปฏิบตั ใิ บกิจกรรมท่ี 2.1 “แหล่งท่ีมาของฝนุ่ PM2.5
ในบรรยากาศ” หน้าชั้นเรียน

ชัว่ โมงท่ี 2

7.3 ขัน้ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
1) ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนการทำใบกิจกรรมท่ี 2.1 “แหลง่ ที่มาของฝุน่ ในบรรยากาศ”
2) นักเรียนเข้ากล่มุ จากชว่ั โมงท่ี 1 จับฉลากหวั ข้อในการศึกษา
ก. การจดั การฝุ่นกบั แหล่งกำเนดิ ทีเ่ กิดจากตวั เอง
ข. การลดแหลง่ กำเนดิ PM2.5 ในชมุ ชนและสังคม
3) แต่ละกลุม่ ศกึ ษาใบความรู้ ตามหวั ขอ้ ท่จี บั ฉลากได้

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

25

7.4 ข้ันแลกเปลย่ี นเรยี นรู้
นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มแยกย้ายไปจับคู่กับเพื่อนอีกกลุ่มที่ได้หัวข้อแตกต่างกัน แลกเปลี่ยน

เรียนรรู้ ่วมกัน แลว้ กลับกลุ่มเดิม
7.5 ข้ันสรุปการเรยี นรู้
1) นักเรียนแต่ละคนทำใบกิจกรรมที่ 2.2 “การลดแหล่งกำเนิดฝุ่นทั้งที่เกิดจากตัวเอง

และแหลง่ กำเนิดในชุมชน”
2) ตัวแทนนักเรียนนำเสนอผลงานของตนเอง
3) ครูถามนักเรียน “นักเรียนคดิ วา่ มอเตอร์ไซค์ของผู้ปกครอง หรือ รถตู้ ท่ีมารับส่งเราทีโ่ รงเรียน

ปล่อยควนั ดำออกมานั้น ส่งผลต่อการเพิ่มค่าฝุ่น PM2.5 หรือไม่อย่างไร
7.6 ขนั้ ประยกุ ตส์ ู่วิถีชวี ิต
1) ครูถามนักเรียน จะมีวิธีการลดแหล่งกำเนิดฝุ่นทั้งที่เกิดจากตัวเองและแหล่งกำเนิดในชุมชน

อย่างไรบา้ ง
2) นักเรียนให้คำแนะนำในการจัดการและลดแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ทั้งที่เกิดจากตัวเอง

และแหล่งกำเนดิ ในชมุ ชน

8. คำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชวี ิต
- R (Reflect) คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
- นกั เรยี นเห็นภาพฝ่นุ ในอากาศ และเหน็ ไฟในปา่ นกั เรียนเกิดความรู้สึกอย่างไรบ้าง
- C (Connect) คำถามเพอ่ื การเชอื่ มโยง
- หากเราพบเห็นไฟในป่า หรือ การเผาในพ้ืนท่ปี ่า เราจะทำอย่างไรดี
- A (Apply) คำถามเพอื่ การปรับใช้
- นักเรียนจะมีส่วนช่วยในการลดแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากตัวเองและชุมชนได้

อย่างไรบ้าง

สนับสนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

26

9.การวดั ผลและประเมนิ ผล

จุดประสงค์ วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์

1. บอกแหล่งที่มาของฝุ่น PM2.5 ตรวจชน้ิ งาน/การ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ในบรรยากาศได้ นำเสนอ การนำเสนอ

2. ให้คำแนะนำในการจัดการกับ ตรวจชน้ิ งาน/การ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

แหล่งกำเนิดฝุ่นทั้งที่เกิดจากตัวเอง นำเสนอ การนำเสนอ

และแหลง่ กำเนดิ ในชุมชนได้

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน

รายการประเมิน คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)

1 บอกแหล่งทีม่ าของ บอกแหลง่ ทม่ี าของ บอกแหล่งที่มา บอกแหล่งที่มาของ บอกแหล่งทีม่ าของฝุ่น

ฝ่นุ ในบรรยากาศได้ ฝนุ่ ละอองใน ของฝนุ่ ละอองใน ฝุ่นละอองใน ละอองในบรรยากาศได้

บรรยากาศได้ บรรยากาศได้ บรรยากาศได้ ได้ถูกต้อง 1-3 ประเดน็

ถกู ต้อง 8 ประเด็น ได้ถูกตอ้ ง 6-7 ได้ถูกต้อง 4-5

ประเดน็ ประเดน็

2. ให้คำแนะนำในการ ให้คำแนะนำในการ ใหค้ ำแนะนำใน ใหค้ ำแนะนำในการ ให้คำแนะนำในการ

จัดการกับแหล่งกำเนิด จดั การกับ การจัดการกบั จดั การกบั จดั การกับแหล่งกำเนิด

ฝุ่นทั้งที่เกิดจากตัวเอง แหลง่ กำเนดิ ฝนุ่ ทั้ง แหลง่ กำเนดิ ฝ่นุ แหล่งกำเนดิ ฝ่นุ ท้งั ฝนุ่ ทง้ั ทเี่ กดิ จากตวั เอง

และแหล่งกำเนิดใน ทีเ่ กิดจากตัวเอง ท้งั ทีเ่ กิดจาก ทีเ่ กดิ จากตวั เอง และแหล่งกำเนิดใน

ชมุ ชนได้ และแหลง่ กำเนิดใน ตวั เองและ และแหล่งกำเนดิ ใน ชุมชนได้ ไมต่ รงประเดน็

ชุมชนได้ตรง แหล่งกำเนิดใน ชมุ ชนได้ ได้ตรง

ประเดน็ เขา้ ใจงา่ ย ชมุ ชนได้ ไดต้ รง ประเดน็
ใช้ภาษาสละสลวย ประเดน็ เขา้ ใจงา่ ย

ช่วงคะแนน 8 6-7 4-5 ต่ำกวา่ 4
ระดบั คุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ

สนบั สนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

27

10.สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
10.1 ภาพจกิ๊ ซอว์
10.2 ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 “แหลง่ ทม่ี าของฝุ่นในบรรยากาศ”
10.3 ใบกจิ กรรมที่ 2.2 “การลดแหล่งกำเนิดฝนุ่ ทั้งท่ีเกิดจากตัวเองและแหล่งกำเนิดในชุมชน”
10.4 ใบความรู้ “การลดแหล่งกำเนิดฝนุ่ ท้ังที่เกิดจากตัวเองและแหลง่ กำเนิดในชุมชน”
10.5 ห้องสมุด
10.6 แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
10.7 เวบ็ ไซต์ กรมควบคุมมลพิษ http://www.pcd.go.th/
http://www.pcd.go.th/info_serv/air_pm25.html
https://www.youtube.com/watch?v=Fz9nWD_0jLE

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

28

ใบความรู้
“การลดแหล่งกำเนิดฝุ่นทั้งทเี่ กดิ จากตัวเองและแหล่งกำเนิดในชุมชน”

คำแนะนำในการจัดการกับแหลง่ กำเนิดจากตัวเอง
• ปรับเปล่ียนพฤติกรรมเพื่อลดแหลง่ กำเนิดที่ส่งผลต่อท้ังสังคม เชน่ พง่ึ พาวสั ดุจากธรรมชาติให้มาก

ท่ีสดุ การลดการสร้างขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติก
• ลดการใชไ้ ฟในป่า เช่า หาของปา่ การตีผ้ึง การเผาวชั พชื เพ่ือเตรียมการเพาะปลูก ฯลฯ
• ลดแหล่งกำเนดิ จากครัวเรือน เช่น การเผาขยะหรือเศษวสั ดุ ( ลดการเผาในท่ีโล่ง ลดขยะ แปรรปู ขยะ

การนำกลับมาใช้ (3R :Reduce-Reuse-Recycle)
• ชว่ ยตรวจตราการพ่นควันของรถยนต์

การลดแหล่งกำเนิดในชุมชนและสังคม
• การรว่ มมือกนั ในระดับชมุ ชนเพ่ือลดแหล่งกำเนิดจากการเผา เชน่ การเผาขยะ การเผาวัสดุทางการ

เกษตรหรือการรว่ มกันเฝ้าระวังและควบคุมไฟไหมท้ ี่รกร้างหรือป่าไม้ในพ้ืนท่ี( ลดการเผาในที่โล่ง ลด
ขยะ แปรรูปขยะ การนำกลบั มาใช้ (3R :Reduce-Reuse-Recycle)
• รายงานแหล่งกำเนิดในชุมชน ผ่านสื่อโซเซียล เชน่ C-Site ของไทยพีบเี อส
• การให้ความรว่ มมือกับมาตรการของหนว่ ยงานต่างๆ ในการลดแหล่งกำเนิดในสถานการณ์วิกฤต เช่น
การลดการใช้รถส่วนตัวในวันท่ีมีการพยากรณ์ว่าสภาพภูมิอากาศจะทำให้มคี วามเข้มข้นของฝุ่นมาก
ขึ้น

ทีม่ า : วิรุฬ ลมิ้ สวาท. คูม่ ือฝุน่ พีเอม็ 2.5 สำหรบั ประชาชน, หนา้ 25-26.

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

29

ใบกิจกรรมที่ 2.1
“แหลง่ ทมี่ าของฝุ่นในบรรยากาศ”

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเขยี นเครอื่ งหมาย √ ในชอ่ งให้ตรงกับข้อความท่ีกำหนดให้

ฝ่นุ ละอองทเ่ี กิดข้นึ ตาม ฝ่นุ ละอองท่ีเกดิ จาก

ข้อความ ธรรมชาติ กจิ กรรมของมนุษย์

(Natural Particle) (Man-made Particle)

1.กระแสลมที่พัดผา่ นทำให้เกิดฝ่นุ จากดิน ทราย
2.การเผาวัชพชื เศษกงิ่ ไม้ และ ขยะ
3.ไอเสยี จากรถยนต์ เคร่ืองยนต์ดเี ซลปล่อยเขม่า
ฝ่นุ ควันดำ ออกมา
4.การใชไ้ ฟในการเอาผึง้ ในป่า และ การล่าสตั วใ์ น
พ้ืนที่ปา่ ดว้ ยไฟ
5.ควนั จากไฟป่า
6.ฝนุ่ เกลือจากทะเล
7.การก่อสร้างถนนใหม่ หรอื การปรบั ปรงุ ผิวจราจร
ทำใหเ้ กดิ ฝุ่นมาก
8.ละอองน้ำจบั ตัวเป็นฝนุ่
9.ถนนทีส่ กปรก มีดนิ ทรายตกค้างอยมู่ าก หรือมี
กองวัสดุข้างถนนเมื่อรถแล่นจะทำให้เกดิ ฝนุ่ ปลิว
อยูใ่ นอากาศ
10.กระบวนการผลติ ทีม่ ีฝุ่นออกมา เช่น การป่ัน
ฝ้าย การเจยี รโลหะ การเคลื่อนย้ายวตั ถุดบิ
11.การก่อสร้างอาคารสูง ทำใหฝ้ ุ่นปนู ซเี มนต์ถกู ลม
พัดออกมาจากอาคาร
12.การเผาไหม้เช้ือเพลิง เชน่ นำ้ มันเตา ถา่ นหิน
ฟนื แกลบ เพื่อนำพลังงานไปใช้ในการผลิต

สนับสนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

30

ใบกจิ กรรมท่ี 2.2
“การลดแหล่งกำเนิดฝุน่ ท้ังทเี่ กิดจากตัวเองและแหล่งกำเนดิ ในชมุ ชน”

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนดูภาพ แล้วเติมข้อความการลดแหลง่ กำเนิดฝนุ่ ทง้ั ที่เกิดจากตวั เองและแหลง่ กำเนิดในชมุ ชน

รูปภาพ การลดแหล่งแหลง่ กำเนิดฝนุ่ ทงั้ ท่ีเกดิ จากตวั เอง
และแหลง่ กำเนดิ ในชุมชน

คำแนะนำในการจัดการกับแหล่งกำเนดิ จากตัวเอง
............................................................................................................
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………
การลดแหล่งกำเนดิ ในชุมชนและสังคม
............................................................................................................
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………
คำแนะนำในการจัดการกับแหลง่ กำเนดิ จากตัวเอง
............................................................................................................
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………
การลดแหล่งกำเนดิ ในชุมชนและสังคม
............................................................................................................
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………
การลดแหล่งกำเนดิ ในชุมชนและสังคม
............................................................................................................
………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

31

กิจกรรมท่ี 3

1. ช่อื กจิ กรรม สถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั จำนวน 1 ช่วั โมง

2. สาระสำคัญ
สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในแต่ละปี ส่งผลต่อความเสียหาย สุขภาพ

ความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีผลต่อเศรษฐกิจการ
ท่องเที่ยว การติดตามและประเมินพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นการติดตามสถานการณ์ด้วย
เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ด้วยภาพถ่ายดาวเทยี มแสดงจดุ ความร้อน (Fire Hotspot)

3. จุดประสงค์
3.1 อธบิ ายสถานการณไ์ ฟปา่ และหมอกควันท่เี กดิ ข้นึ กบั ประเทศไทยได้
3.2 ใช้ขอ้ มลู สารสนเทศในการตดิ ตามสถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั ท่เี กิดข้ึนกบั ประเทศไทยได้
3.3 เข้าใจเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจุดความ

รอ้ น (Fire Hotspot)

4. สมรรถนะ
4.1 การรเู้ ท่าทนั ส่ือ สารสนเทศ และดิจิทัล (Media, Information and Digital Literacy : MIDL)
4.2 พลเมืองตน่ื รทู้ ีม่ สี ำนึกสากล (Active Citizens with Global Mindedness)

5. สาระการเรยี นรู้
5.1 สถานการณไ์ ฟป่าและหมอกควนั ทเี่ กิดขน้ึ กับประเทศไทย
5.2 เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจุดความร้อน

(Fire Hotspot)

6. อุปกรณ์
- กระดาษ
- สี

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

32

7.กระบวนการเรียนรู้
7.1 ขัน้ ตระหนักถงึ ความปลอดภัย
1) สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควนั จุดความร้อน ในภาคเหนอื ปีที่ผา่ นมา
2) สถานการณ์การตรวจพบจดุ ความร้อนบนพ้นื ผวิ โลก Fire Hotspots จากแหล่งต่างๆ
▪ สำนักงานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศและภูมสิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน) สทอภ."
และมชี ื่อภาษาอังกฤษ "Geo-Informatics and Space Technology
Development Agency (Public Organization): GISTDA
http://fire.gistda.or.th/Map_prv.html
▪ Fire Information สำหรับระบบการจัดการทรพั ยากร ขององค์การบริหารการบิน
และอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (อังกฤษ: National Aeronautics and Space
Administration – NASA)
https://firms.modaps.eosdis.nasa.gov/map/#d:2020-10-07..2020-10-
08;@0.0,0.0,3z
▪ เพจ Smoke Watch
▪ เพจ ยักษ์ขาว

2) นกั เรยี นร่วมกนั กนั วิเคราะหข์ ้อมลู ตำแหน่งจุดความรอ้ นจากภาพ และ สถานการณ์
การตรวจพบจุดความร้อนบนพน้ื ผวิ โลก Hotspots ในพน้ื ที่ 9 จังหวดั ภาคเหนือ

7.2 ขั้นเรียนรจู้ ากประสบการณ์
1) ครูถามนักเรียนว่า “จากข้อมูลการตรวจพบจุดความร้อนดังกล่าว นักเรียนมีความรู้สึก

อย่างไรบ้าง จุดความร้อนนี้เกี่ยวกับการเกิด PM2.5 และส่งผลกระทบกับนักเรียนอย่างไร (ส่งผลให้ค่าฝุ่น
PM2.5 เกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งในอนาคต และ
โรคเร้ือรังต่างๆ เชน่ โรคปอด โรคถงุ ลมโปง่ พอง ภูมิแพ้ โรคหลอดเลอื ดและหัวใจ เปน็ ตน้ )

2) ผลการตรวจพบจุดความร้อน ส่งผลกระทบโดยทางตรงและทางอ้อมกับนักเรียนอย่างไร
(ทางตรงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คือโอกาสเสี่ยงของการเป็นมะเร็งและ ทางอ้อมส่งผลต่อ สภาพภูมิอากาศท่ี
เปลี่ยนไป โลกร้อนขนึ้ เครอ่ื งบนิ ลงจอดไม่ได้ เชน่ ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จงึ สง่ ผลกระทบเศรษฐกิจภาพรวมของ
ประเทศ)

สนบั สนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

33

7.3 ขนั้ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
1) แบ่งกล่มุ นักเรียน กลุ่มละเทา่ ๆ กนั ศึกษาเรยี นรู้แหล่งข้อมลู ตา่ งๆ
▪ สำนักงานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สทอภ."
และมชี ื่อภาษาองั กฤษ "Geo-Informatics and Space Technology
Development Agency (Public Organization): GISTDA
http://fire.gistda.or.th/Map_prv.html
▪ Fire Information สำหรับระบบการจัดการทรัพยากร ขององค์การบริหารการบนิ
และอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (อังกฤษ: National Aeronautics and Space
Administration – NASA)
https://firms.modaps.eosdis.nasa.gov/map/#d:2020-10-07..2020-10-
08;@0.0,0.0,3z
▪ เพจ Smoke Watch
▪ เพจ ยกั ษ์ขาว

2) แตล่ ะกลมุ่ ทำใบกจิ กรรมท่ี 3.1 วาดภาพเชอ่ื มโยงการเกิดจดุ ความร้อน และผลกระทบของ
จดุ ความร้อนท่ีมตี ่อตวั เองทั้งทางตรงและทางอ้อม

7.4 ข้ันแลกเปล่ียนเรียนรู้
แต่ละกลุ่มนำเสนอภาพวาดเชือ่ มโยงการเกิดจุดความรอ้ น และผลกระทบของจุดความร้อนที่

มีต่อตวั เองทั้งทางตรงและทางอ้อม หน้าชัน้ เรยี น

7.5 ขนั้ สรุปการเรยี นรู้
1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป การวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่เกิดข้ึน

กบั ประเทศไทย
2) ครถู ามนักเรียนว่า เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ดว้ ยภาพถ่ายดาวเทียม

แสดงจุดความร้อน (Fire Hotspot) มีประโยชน์อย่างไรบ้าง (ใช้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า และการเข้าถึงข้อมูล
สารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อหาข้อมูลจุดความร้อน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมการรับมืออันจะ
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ)

สนบั สนุนโดย สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

34

7.6 ขัน้ ประยกุ ต์สูว่ ิถีชีวิต
การนำเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจุด

ความรอ้ น (Fire Hotspot) ตดิ ตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึน้ ในชุมชน ในพืน้ ที่ของตนเอง และ
ภาพรวมระดับประเทศ ไปถงึ ภาพรวมระดบั โลก เพอ่ื การเตรียมรับมอื และปกป้องสขุ ภาพในสถานการณ์วิกฤตท่ี
สง่ ผลให้มคี ่าฝุ่น PM2.5 มคี ่าเกนิ คา่ มาตรฐาน

8. คำถาม R-C-A เพ่อื พฒั นาทักษะชีวติ
- R (Reflect) คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
- จากข้อมูลการตรวจพบจุดความร้อนดังกล่าว นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง และส่งผล

กระทบกับนกั เรยี นอยา่ งไร
- C (Connect) คำถามเพือ่ การเชื่อมโยง
- ผลการการตรวจพบจุดความร้อนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบโดยทางตรง

และทางออ้ มกบั นกั เรียนอยา่ งไร
- A (Apply) คำถามเพือ่ การปรบั ใช้
- การใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจดุ

ความร้อน (Fire Hotspot) มปี ระโยชน์อยา่ งไร

9.การวัดผลและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์

1. วเิ คราะหข์ ้อมูลสถานการณ์ไฟ สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ป่าและหมอกควนั ท่ีเกิดข้นึ กบั นกั เรยี น นกั เรียน

ประเทศไทยได้

2.ใช้เทคโนโลยกี ารสำรวจระยะไกล ตรวจช้ินงาน/การ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

(Remote Sensing) ด้วยภาพถ่าย นำเสนอ การนำเสนอ

ดาวเทียมแสดงจดุ ความรอ้ น (Fire

Hotspot เพือ่ การตดิ ตาม

สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่

เกดิ ขนึ้ กับประเทศไทยได้

สนบั สนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

35

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน

รายการประเมิน คำอธิบายระดับคณุ ภาพ/ระดบั คะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)

1. วเิ คราะห์ขอ้ มูล วิเคราะหข์ ้อมูล วเิ คราะห์ข้อมลู วเิ คราะหข์ ้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล

สถานการณ์ไฟปา่ และ สถานการณ์ไฟปา่ สถานการณ์ไฟป่า สถานการณ์ไฟปา่ สถานการณ์ไฟป่า

หมอกควันทเี่ กิดขึน้ กับ และหมอกควันท่ี และหมอกควันที่ และหมอกควันท่ี และหมอกควันที่เกดิ

ประเทศไทยได้ เกดิ ข้ึนกับประเทศ เกดิ ขน้ึ กบั เกิดขึน้ กบั ประเทศ ขึ้นกับประเทศไทยได้

ไทยได้ 4 ประเดน็ ประเทศไทยได้ 3 ไทยได้ 2 ประเดน็ 1 ประเด็น

ประเด็น

2.การใช้งานในรูปแบบ การใช้งานใน การใช้งานใน การใช้งานใน การใชง้ านในรปู แบบ

สอ่ื ประชาสัมพันธ์ รปู แบบสอื่ รูปแบบสื่อ รปู แบบสือ่ ส่อื ประชาสัมพันธ์

เช่ือมโยงการเกดิ จดุ ประชาสมั พันธ์ ประชาสมั พนั ธ์ ประชาสัมพันธ์ เชอ่ื มโยงการเกดิ จุด

ความร้อน และ เชอื่ มโยงการเกิดจุด เชือ่ มโยงการเกิด เชอ่ื มโยงการเกดิ จดุ ความร้อน และ

ผลกระทบของจดุ ความ ความร้อน และ จุดความร้อน ความร้อน และ ผลกระทบของจุด

ร้อนทีม่ ีต่อตัวเองทงั้ ผลกระทบของจดุ และผลกระทบ ผลกระทบของจุด ความรอ้ นท่ีมีต่อ

ทางตรงและทางอ้อม ความร้อนที่มีต่อ ของจดุ ความร้อน ความร้อนท่ีมีต่อ ตัวเองท้งั ทางตรงและ

ได้ ตัวเองทัง้ ทางตรง ท่มี ตี ่อตวั เองท้ัง ตวั เองท้ังทางตรง ทางอ้อมได้ และ

และทางอ้อมได้ ทางตรงและ และทางอ้อมได้ ส่อื สารการ

และสอ่ื สารการ ทางอ้อมได้ และ และสื่อสารการ ตดิ ตามสถานการณ์

ตดิ ตามสถานการณ์ สื่อสารการ ตดิ ตามสถานการณ์ ไฟปา่ และหมอกควัน

ไฟปา่ และหมอก ตดิ ตาม ไฟป่าและหมอก ทีเ่ กดิ ขึ้นกบั ประเทศ

ควนั ท่เี กดิ ขึ้นกบั สถานการณ์ไฟปา่ ควันทีเ่ กิดขน้ึ กับ ไทย ได้ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่

ประเทศไทยได้ และหมอกควนั ที่ ประเทศไทย ชัดเจนและไมม่ ี

ถูกตอ้ งชัดเจนและมี เกดิ ข้ึนกบั ไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนเปน็ ภาพประกอบ

ภาพประกอบ ประเทศไทย บางส่วนและมี

ไดถ้ ูกต้องชดั เจน ภาพประกอบได้

เป็นส่วนใหญ่ และ

มภี าพประกอบ

ชว่ งคะแนน 8 6-7 4-5 ตำ่ กวา่ 4
ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ

สนับสนุนโดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

36

10.ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
10.1 สถานการณไ์ ฟปา่ และหมอกควัน จดุ ความร้อน และ จากข้อมลู สารสนเทศตา่ งๆ เช่น
▪ สำนกั งานพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สทอภ."
และมีชือ่ ภาษาองั กฤษ "Geo-Informatics and Space Technology
Development Agency (Public Organization): GISTDA
http://fire.gistda.or.th/Map_prv.html
▪ Fire Information สำหรบั ระบบการจัดการทรพั ยากร ขององค์การบริหารการบนิ
และอวกาศแหง่ ชาติ หรือ นาซา (องั กฤษ: National Aeronautics and Space
Administration – NASA)
https://firms.modaps.eosdis.nasa.gov/map/#d:2020-10-07..2020-10-
08;@0.0,0.0,3z
▪ เพจ Smoke Watch
▪ เพจ ยกั ษ์ขาว

10.2 ใบกจิ กรรมที่ 3.1 เร่อื ง ประชาสมั พันธเ์ ช่ือมโยงการเกดิ จุดความร้อน และผลกระทบของ
จดุ ความรอ้ นท่มี ีต่อตวั เองทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม

10.3 ห้องสมดุ
10.4 แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
10.5 เจ้าหนา้ ท่คี วบคุมไฟป่า
10.6 วิทยากร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล/เทศบาล

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

37

สถานการณ์จุดความร้อน

สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

38

แผนท่แี สดงจดุ ความรอ้ นจากภาพถ่ายดาวเทยี ม

ที่มา: เพจ Smoke Watch

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

39

แผนท่ีแสดงจดุ ความรอ้ นจากภาพถ่ายดาวเทยี ม

ทม่ี า : http://fire.gistda.or.th/

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

40

ใบกิจกรรมที่ 3.1
ประชาสมั พนั ธ์เชอ่ื มโยงการเกดิ จุดความร้อน และผลกระทบของจุดความรอ้ นทม่ี ีตอ่ ตวั เอง

ทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม

คำเชชอ่ืแี้ มจงโย:งกใาหร้นเกักิดเรจยี ุดนคแวตา่ลมะรก้อลน่มุ แวลาะดผภลากพรสะ่ือทปบรขะอชงาจสุดัมคพวันาธม์ ร้อนทม่ี ีต่อตัวเองทัง้ ทางตรงและทางอ้อม ได้
เช่ือมโยงการเกดิ จดุ ความร้อน และผลกระทบของจดุ ความร้อนท่ีมตี ่อตัวเองทั้งทางตรงและทางออ้ ม

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

41

กจิ กรรมท่ี 4 จำนวน 1 ชัว่ โมง
1. ชอ่ื กิจกรรม ผลกระทบของคา่ ฝ่นุ ละอองอากาศกบั สขุ ภาพของเรา

2. สาระสำคัญ

มลพิษทางอากาศที่เรียกว่าฝุ่ นPM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งผลกระทบระยะสั้น
และผลกระทบระยะยาว แต่ละคนมีความไวต่อการได้รับผลกระทบสุขภาพจากฝุ่นPM2.5 แตกต่างกันเช่น
ประชากรกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเจ็บป่วย และกลุ่มเสี่ยงจากกิจวัตรและวิถีชีวิต องค์การสหประชาชาติได้ประกาศ
ให้มลพิษทางอากาศ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ 5 ของโรคไม่ติดต่อ ซึ่งทำให้เกิด 5 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอด
เลือด โรคระบบทางเดนิ หายใจเร้ือรงั โรคมะเรง็ โรคเบาหวาน โรคทางจิตและระบบประสาท

ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจาก PM2.5 มที ้ังระยะสนั้ ท่ตี ้องสังเกตแุ ละระยะยาวที่ตอ้ งติดตาม

ท่ีมา: วริ ุฬ ลมิ้ สวาท. ค่มู อื ฝุ่นพีเอ็ม2.5 สำหรับประชาชน, หนา้ 12.

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

42

ที่มา: วิรฬุ ล้มิ สวาท. คู่มอื ฝุ่นพีเอม็ 2.5 สำหรบั ประชาชน, หน้า 13.

สนับสนุนโดย สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

43

3. จุดประสงค์
3.1 จำแนกผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุน่ PM2.5 ท่มี ีผลระยะสัน้ และระยะยาวได้
3.2 บอกกล่มุ เส่ียงทีไ่ ด้รบั ผลกระทบสุขภาพจากฝ่นุ PM2.5 ได้
3.3 ดำเนินชวี ิตประจำวันอยู่บนพ้นื ฐานของการดูแลสขุ ภาพทด่ี ี

4. สมรรถนะ
4.1 การทำงานแบบรวมพลงั เปน็ ทีมและมภี าวะผนู้ ำ (Collaboration Teamwork and

Leadership)
4.2 พลเมืองต่นื รูท้ ่มี ีสำนึกสากล (Active Citizens with Global Mindedness)
4.3 ทกั ษะชีวติ และความเจรญิ แหง่ ตน (Life Skills and Personal Growth)

5. สาระการเรียนรู้
5.1 ผลกระทบตอ่ สุขภาพจากฝุ่นPM2.5
5.2 กลมุ่ เสยี่ งทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบสขุ ภาพจากฝุน่ PM2.5

6. อุปกรณ์
- กระดาษ
- สี
- ปากกาเคมี

7.กระบวนการเรยี นรู้
7.1 ขัน้ ตระหนกั ถึงความปลอดภยั
1) เปิดวดิ ิทศั น์ “มลพิษทางอากาศกระทบเด็กทว่ั โลก” ใหน้ กั เรยี นดู

https://www.youtube.com/watch?v=Vxz23QVcge8
2) ครูถาม จากการดูวิดิทัศน์ การสูดอากาศที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกายในแต่ละวันส่งผล

ต่อเด็ก ๆ อย่างไรบ้าง (ส่งผลต่อพัฒนาการระบบประสาท และสมองของเด็ก และส่งผลต่อการเป็นโรคเรื้อรัง
ต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน เมื่อเติบโต
เป็นผใู้ หญ)่

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

44

7.2 ข้นั เรียนรจู้ ากประสบการณ์
1) ให้นักเรียนจับบัตรภาพ แล้วให้บอกว่าภาพที่นักเรียนจับได้นั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจาก

ฝุ่นPM2.5 อย่างไร
2) เมื่อนักเรียนจับบัตรภาพครบทั้งหมดแล้ว ให้นักเรียนร่วมกันจำแนกว่าบัตรภาพต่างๆ

จัดเปน็ ผลกระทบระยะส้นั หรือผลกระทบระยะยาว

7.3 ขั้นปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
1) แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่มละเท่าๆ กัน ให้สมาชิกกลุ่มทุกคนยกมือขึ้นแล้วชี้เลือก

หัวหน้ากลุ่ม พรอ้ มๆ กนั
2) แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับฉลากหัวข้อในการศึกษา ประชากรกลุ่มเสี่ยง ที่ได้รับ

ผลกระทบสุขภาพจากฝนุ่ PM2.5 ต่อไปนี้
(ก) กลุ่มเสี่ยงตามวยั
(ข) กลุ่มเจบ็ ป่วย
(ค) กล่มุ เส่ียงจากกิจวตั รและวิถชี วี ติ

3) แต่ละกลุ่มศึกษาจากใบความรู้ เรื่อง ประชากรกลุ่มเสี่ยง ที่ได้รับผลกระทบสุขภาพ
จากฝุ่นPM2.5

4) แตล่ ะกลุ่มทำใบกิจกรรมที่ 4.1 ประชากรกลุ่มเสีย่ ง ที่ไดร้ บั ผลกระทบสุขภาพจากฝ่นุ PM2.5

7.4 ขัน้ แลกเปลีย่ นเรียนรู้
1) แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการศึกษาตามหัวข้อ ประชากรกลุ่มเสี่ยง ที่ได้รับผลกระทบสุขภาพ

จากฝนุ่ PM2.5
2) ครูถามว่าเมื่อนักเรียนรับรู้ถึง ผลกระทบสุขภาพจากฝุ่นPM2.5 นักเรียนควรทำอย่างไร

(ปกป้องสุขภาพจากฝุ่นPM2.5 ปรับเปลี่ยนกิจกรรม ลดหรืองดกิจกรรมที่เพิ่มปริมาณอากาศที่หายใจ
เขา้ สู่รา่ งกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายกลางแจ้ง และไมเ่ ปน็ ต้นเหตุให้เกดิ ปัญหามลพษิ ทางอากาศ)

7.5 ข้นั สรุปการเรียนรู้
1) ครูถามนักเรียน เมื่อนักเรียนติดตามสถานการณ์ข้อมูลคุณภาพอากาศค่าฝุ่นPM2.5

นักเรียนต้องทำความเข้าใจประเด็นใดบ้าง สำหรับการปกป้องสุขภาพ (แหล่งข้อมูล ตัวเลขค่าฝุ่นที่รายงาน
ระดบั สีของสถานการณ)์

2) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุป ประชากรกลมุ่ เสี่ยง ทีไ่ ด้รับผลกระทบสขุ ภาพจากฝุ่นPM2.5

สนับสนนุ โดย สำนักงานกองทุนสนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

45

7.6 ขน้ั ประยุกต์สู่วิถชี วี ิต
ปกป้องสขุ ภาพจากฝุ่นPM2.5 ปรับเปลี่ยนกจิ กรรม ลดหรอื งดกิจกรรมที่เพิม่ ปริมาณอากาศ

ท่ีหายใจเขา้ สู่ร่างกาย โดยเฉพาะการออกกำลงั กายกลางแจ้ง และไมเ่ ป็นตน้ เหตุใหเ้ กิดปญั หามลพิษทางอากาศ

8. คำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชวี ิต
- R (Reflect) คำถามเพื่อการสะทอ้ น
- การสดู อากาศที่เป็นพิษเขา้ ไปในรา่ งกายในแตล่ ะวนั สง่ ผลตอ่ เด็ก ๆ อย่างไรบ้าง
- C (Connect) คำถามเพื่อการเชอ่ื มโยง
- เมอ่ื นักเรยี นรบั รู้ถงึ ผลกระทบสขุ ภาพจากฝ่นุ PM2.5 นกั เรยี นควรทำอย่างไร
- A (Apply) คำถามเพื่อการปรบั ใช้
- เมื่อนักเรียนติดตามสถานการณ์ข้อมูลคุณภาพอากาศจากฝุ่น PM2.5 นักเรียน

ต้องทำความเข้าใจประเดน็ ใดบา้ ง สำหรับการปกปอ้ งสขุ ภาพ

9. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์
สงั เกต
จุดประสงค์ พฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
1. จำแนกผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากฝุ่น นักเรียน
PM2.5 ทีม่ ผี ลระยะสนั้ และระยะยาว ตรวจชน้ิ งาน/ นักเรียน
ได้ การนำเสนอ
2. นำเสนอกลมุ่ เสี่ยงท่ีได้รับผลกระทบ แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สุขภาพจากฝุ่นPM2.5 ได้ การนำเสนอ

การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน

รายการประเมนิ คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

1. จำแนกผลกระทบ จำแนกผลกระทบ จำแนกผลกระทบ จำแนกผลกระทบ จำแนกผลกระทบต่อ

ตอ่ สขุ ภาพจากฝนุ่ ต่อสุขภาพจากฝุ่น ต่อสุขภาพจากฝนุ่ ตอ่ สขุ ภาพจากฝุ่น สขุ ภาพจากฝุ่น

PM2.5 ทีม่ ีผลระยะส้ัน PM2.5 ทีม่ ผี ลระยะ PM2.5 ที่มผี ล PM2.5 ทีม่ ผี ลระยะ PM2.5 ทีม่ ีผลระยะ

และระยะยาวได้ สั้นและระยะยาวได้ ระยะสนั้ และ สนั้ และระยะยาวได้ ส้ันและระยะยาวได้

4 ประเด็น ระยะยาวได้ 3 2 ประเด็น 1 ประเด็น

ประเด็น

สนบั สนนุ โดย สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

46

รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน

2.นำเสนอกลุ่มเส่ยี งท่ี ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
ไดร้ ับผลกระทบ นำเสนอกล่มุ เส่ียงที่
สขุ ภาพจากฝุน่ PM2.5 ได้รบั ผลกระทบ นำเสนอกลมุ่ เส่ียง นำเสนอกลุ่มเสี่ยงที่ นำเสนอกลมุ่ เส่ยี งท่ี
ได้ สขุ ภาพจากฝุน่
PM2.5 ไดถ้ ูกตอ้ ง ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบ ไดร้ ับผลกระทบ ได้รับผลกระทบ
ชดั เจน และมี
ภาพประกอบ สุขภาพจากฝ่นุ สุขภาพจากฝุ่น สขุ ภาพจากฝนุ่

PM2.5 ได้ถูกตอ้ ง PM2.5 ไดถ้ ูกต้อง PM2.5 ไดถ้ ูกต้องแต่

ชัดเจนเปน็ สว่ น ชัดเจนเป็นบางสว่ น ไม่ชัดเจน และไม่มี

ใหญ่ และมี และมภี าพประกอบ ภาพประกอบ

ภาพประกอบ

ชว่ งคะแนน 8 6-7 4-5 ตำ่ กว่า 4
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง

10. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
10.1 บัตรภาพ อวัยวะทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากฝ่นุ PM2.5
10.2 ใบความรู้ เร่ือง ประชากรกลุม่ เสีย่ ง ทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบสุขภาพจากฝ่นุ PM2.5
10.3 ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ประชากรกลุ่มเสยี่ ง ท่ีไดร้ ับผลกระทบสุขภาพจากฝุ่นPM2.5
10.4 หอ้ งสมดุ
10.5 แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
10.6 วดิ ิทศั น์ “มลพษิ ทางอากาศกระทบเดก็ ทวั่ โลก”
https://www.youtube.com/watch?v=Vxz23QVcge8
10.7 เวบ็ ไซต์ กรมควบคุมมลพิษ http://www.pcd.go.th/
10.8 วทิ ยากร เจ้าหนา้ ทโี่ รงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพประจำตำบลในพนื้ ที่
10.9 https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/995520200327053654.pdf

สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)


Click to View FlipBook Version