The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Version: Thai (ฉบับภาษาไทย)
Original SRK-FT
Global Safety Standards Safety Guidelines for Construction Works
(GSS C)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by gahr.srkft, 2022-07-20 05:28:39

คู่มืออบรมความปลอดภัย สำหรับบุคคลภายนอก (ฉบับภาษาไทย)

Version: Thai (ฉบับภาษาไทย)
Original SRK-FT
Global Safety Standards Safety Guidelines for Construction Works
(GSS C)

Keywords: GSSCTH.

Safety Point สำหรับคนและรถยก (สำหรับผู้ปฏิบัติงำนและคนเดินเท้ำ)
SSSSSaSaaaaffSaffefeefatetetyftySyteyySaPtPPyaPfoooefoiPteiinynnitontyttiPtnสสสPoสtำoำำiหำnสหหiหntำรรtหรสับับสับำรคคำหับคนหนรนคแรแแับนแัลบลลคลแะะะคนะลรรรนรถถแะถแถถลรยยยลยถะยกกกะกรยกร((ถ(กสส(ถส(สยสำำย(ำกำหหสหำกหหำรร(ร(สหรัับบรสับับำรับผผำผผหผับหู้้ผูเเูู้้เเรด้ดูเผดดรู้เดับนิดนิับู้นิเนิ นิดผนิเผเเเททเ้นิูททู้ทเเด้ำ้ดทำ้เ้ำำแนิทแแนิ้แำลล้ำเลแลเทะแะทละะผ้ลำผ้ผะำผแู้ะป้แูปผู้้ปูปลปผลฏู้ฏปะฏฏฏ้ะูปบิผบิฏผบิบิบิฏ้ตัูปัต้บูิปัตัตัตบิงิงฏิตัฏงิงิงิำตัำำบิำงนำบินงนินนำัตตั)ำ)น)))งนิงิ )ำำ)นน))
202106162K0KY1Y6OOKHHYOOOKKHAAOI IKคคAณณIะกะคกรณรรมะรกมรการาคมรควกาวามรามปคปลวาลอมอดปดภลภยั อแยั ดแลภะลยัอะแาอชลาีะวชอะีวอาะชนอีวนาะมาอยมั นย7ั าG7มGยั 7G
②②②②ไไ②มไม่อม่อ②อไ่อออก②มอกอน②่อกนกไอนอไมนอกกมไ่ออกอนอเม่อกเขกกขอ่อเอเนตขตอกขกอทตทกนเตกขาทนาเทองขงงตางอกตเาเงเทดดเงดทกดเดขนนิิาเดำเนินินิดงขงตนิ เเนิดตทดินทานิ งางเดเดนิ นิ ③③③③③③③ไไไไไม③ไมมมมไ่เม่เ่เด่เด่เม่เดไดดนิดนิ③่เนิมนินิ③ดนิล③ล่เลลนิลดดลัดไั ดดััไดทนดิัลทัมททมทาทดาัล่เไางามด่เงาทาดงัดงข่เงขงนิดขาทขนิขาข้ินาง้ลาม้า้มลา้า้ขลมงดัมมัดดัขา้ทททมา้าำามงงงขขข้ำา้ มา้มม ④④④④④ช④ช้ชนีช④้ชีน้ีน้นีิ้ว้นีนิ้ชวิ้ตวิ้ว④ิ้ชิต้ววีน④ตร④ต้ตนีรติ้ววรรวรริ้จวตวชจชววตสจจชร้นีจ้สจนี ี้นรวสสอสิ้สวอิ้ิววจบออตจบอตอสบบกรรสรบบกวออ่กวกวจออก่กบจนออจ่่สบนออ่่ สอกนสนขนนกขบอ่อขขา้ อ่กขขา้นบมบาา้้่อมนาา้้กมทม2กขนมมท02ขอ่อ่ทาท21ข0า้ 06าทท12ง้า้ำนมนา1า60งKมมแ6าาง1งทข2KขแYท6งงยKทแ0แYOยา้า1้KำแแYกยายO6มงมHYกOยยงแกHKกแOOทท22HยแกกOY00KยHOาาก11ยKOA⑤6O6KงกงA⑤กHIKKA⑤แแ⑤IOคY⑤YIA⑤ยยหKณคOOIคหกกณหAะ⑤า้HหHณ⑤คกะมหIา้หOOะณา้รกา้มกKรคKมเระา้ม้าหรมดรณกA⑤หเA⑤มมรเกมดเระIมนิI้าดากดรา้เกเกรนิมคมดคานิดมเรคหนิาหรณกณลรเวนคินิเเคมาะดา้ละเ้าวน่ดรลมกวกลมเาเมคนิา่ปรมนาิรลน่ลโม⑤วนร่รเลปเาปมเโคทนด่มน่อเดโมลลโลกวลกทดนอิปทรนิาโอาโทาน่ภมรดลน่รรศดทรเคทยัปภเอครหภลโศแวพลโศัลยวดัรยรศัา้ลำทแาน่พอทมภแัน่พมศทัะมศลพปดัยลัอรปโรทเะพแโลพัภะ์ัดาลอศททศอลชอยทัอิ์นาทีทแาวะดพชพัรด์ัชระอเลภีวภลี์ศวอ์าทศยะัทะยชั่นนแอพัอแพีวั์ลาาน์โนละมชททะาอทะายีัวอมรมอนะ์7ายัศ์ยาัชอGาช7มี7ัวพนีGวะยัาะทอม7อน์Gยันา7มาGมยั ยั 77GG
①①①①①①ไไไไม①มไมมไ่วม่ว่ว่วมงิ งิ่วงไิ่งิ่่วงิ่ม①งิ่ ่ว①งิ่ ไ①มไ่วมงิ่ ่วไงิ่ม่วิ่ง

⑥⑥⑥⑥⑥⑥ไไไม⑥มไมไ่เม่เข่เมขข่เไา้่เขา้า้⑥ใามข้ ⑥ใใาใ้กา่เก้ ใกกข⑥ใลลกลไลการ้้ร้ลรมรใ้้ลถไถไถรถก้ม่เรย้มยถขยยล่เถกข่เกยาก้กรย้้ขำใกถใกา้กกยใลลก้รร้ถลถยร้ ยกถกยก ⑦⑦⑦⑦⑦ไไไ⑦มมไม่อ่อ⑦ม่อยยไ่อยอู่ใ⑦ู่มใยู่ใยนน⑦น่อู่ใู่ใไมนพยพไนพ่อู่ใมไ้พื้นืน้พืยนนม่อู้่ืในทท้ืนนทพย่อท่ีที่พที่ทู่ยใ้ืนื้นเที่เ่ีนู่ใเีท่ีปป่ททปนเ่ี พ็็เี่นนปี่ท็นทน่ีปนพ้็ื่ีนเจจป็เจ่ีจน้จืนปุุดดท็นจุดุดุดจ็ทนออจุดท่ีอออุดุดบบท่ีอััจบเี่บััอบอัปบุเดี่ัับบป็ันอ็นบจั จุดุดออบั ⑧บ⑧ั ⑧⑧⑧⑧⑧ไไไไไม⑧ไมมมมไ่เม⑧่เ่เข่เข่เม่เขไขขาข้า⑧้่เมา้าไ้⑧ไาข้า้ไไไ่เปไไปา้ขมปปไปใปไใ่ไเา้มใขในใปนใมไ้ำนน่เนนไพใปข่เพปพขพนพพ้ืในาใ้ืนน้าืนไ้ืน้พื้นืนทไพทปทพท้ืปนทื้ทนโี่ โ่ีใโ่ีห้ทโืี่ในโหี่ทนหนห่ีโหลทหโ่ีลพลพลดหลลดโ่ี้ืนดดสด้ืดนหสลสสทสิ่งสิ่ทดลง่ิงิ่งขโิ่ีขงิ่ขงสดโ่ีขอหขอขหสอิ่งงองลอองขิ่ลงดงงขดอสสองิ่ง⑨งิ่⑨ข⑨⑨ข⑨อแอ⑨แงแงสแ⑨แสสสดสสดแดงดดดงแส⑨อง⑨งองสงดออ⑨ออดงกออแอกแองอใกกสสกใกอหอใใดหใใดอแหกห้ผงสหหงกผ้ ใขผ้ดูอ้ผอใ้ผขผู้หงอขขบููั้อ้หอขขููบ้ั้้ผกบกบรััอ้ผบบัรัขใูบั้กใรรขบัู้รหรใหบับทัหบบััทผ้ผ้้รผททททรู้ขขบาูัขู้้รรบาัับบรรบาัทาบับรทาาบบรรับบบรบับัาทาบทรทบำรรบาาบบ⑩⑩⑩⑩⑩⑩ททท⑩าท⑩KาททาาKKYKาาท⑩ทKY⑩KYYากาYYKกKนกัททกนYักนกYเันาัาถKเนKนััเกถเอกถถYเYเนอัะนอถ⑩ัถอะเะกออกเะถถนะัะนัออเเทะถะถำออะKะY กันเถอะ

Safety Point สำหรับคนและรถยก (สำหรับคนขับรถยก)

ใบผ่ำนกำรอบรมกำรขับข่ี สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรำย ตรวจสอบก่อนเริ่มปฏิบัติงำน ระเบียบกำรขับข่ี ช้ีน้ิวตรวจสอบ

(เดินหน้ำ ถอยหลัง)

ติดบริเวณขำ้ งตัวรถ หมวกนิรภัย (สำยรัดคำง) ตรวจสอบตำมรำยกำร ไฟเตือนด้ำนหน้ำ ตรวจสอบควำมปลอดภัย (Ok.)
เสื้อสะท้อนแสง (ด้ำนหน้ำ ด้ำนหลัง)
รักษำควำมเร็ว รองเท้ำนิรภัย กำรขับขี่เมื่อวำงสิ่งของสูง กำรดึงเข้ำ ดึงออก
เมื่อลงจำกรถยก
จ ำ กั ด คว ำ ม เ ร็ ว อันตรำยท่ีต้องห้ำม
ขบั ถอยหลังตำมหลักพื้นฐำน กำรขบั ขณะขนย้ำย (กรณีรถแบบยืน) 1. ดึงเบรคข้ำง
5 ห้ำมออกตัวกระทันหัน กรณเี ดินหน้ำต้องมีผู้ให้สัญญำณ วงิ่ โดยดึงเสำกลับเข้ำหำตัวผู้ขบั 2. ใส่เกียร์ว่ำง
ห้ำมเล้ียวกระทันหัน 3. ลดงำลง
ในพื้นที่ : 6 km./ hr. ห้ำมหยุดรถกระทันหัน 4. ถอดกญุ แจ
นอกพ้ืนที่ : 4 km./ hr.

มำตรกำรป้องกันกำรสัมผัสระหว่ำงคนกับรถยก มำตรฐำนระดับควบคุมควำมปลอดภัย

ระดับกำรควบคุม รำยละเอียดมำตรกำรป้องกัน ตัวอย่ำงมำตรกำรป้องกัน ควำมเส่ียง
ยอมรับได้
สงู I ยกเลิกใชง้ ำนรถยก a. ยกเลิกรถยก ยอมรับได้
(ยกเลิก) (ปลอดภัยมำกที่สุด ตัวชว่ ยยก พำเลท, รถเข็นมือ กด Manual, AGV, Karakuri ยอมรับได้
b. กำรรวบรวมพื้นท่ีปฏิบัติงำนของรถยกเข้ำด้วยกัน และลดกำรใช้รถยกบำงพื้นท่ี ยอมรับได้

II ใช้อุปกรณ์อื่นทดแทนกำรใชร้ ถยก a. ลดกำลังรถยกท่ีมีพลังงำนสูง ยอมรับได้
※2
(ทดแทน) (ลดกำรใชพ้ ลังงำนขับเคล่ือน) รถลำก, รถไฟฟำ้
รับไม่ได้
III แยกพื้นที่รถยกปฏิบัติงำนกบั ทำงเดินคนอย่ำงชดั เจน a. แยกรถออกให้เรียบร้อย เพ่ือไม่ให้สัมผัสกบั คน รับไม่ได้
รับไม่ได้
(แยกออกอย่ำงสมบูรณ)์

ระ ัดบควบ ุคมควำมปลอด ัภย IV แยกพื้นท่ีรถกยกปฏิบัติงำนกับทำงเดินคน โดยใช้วิธีควบคุมด้ำน a. แยกโดยใช้อุปกรณ์จบั ยึด ท่ีมีควำมแขง็ แรงสูง เพื่อไม่ให้คนได้รับบำดเจ็บ
(แยกคนกบั รถ) วิศวกรรม แม้จะสัมผัสกับรถยก เช่น รว้ั รำวกนั้ เป็นต้น
b. บำร์กั้นเพ่ือหยุดชว่ั ครำวที่ทำงม้ำลำย

V แยกพื้นท่ีรถยกปฏิบัติงำนกบั ทำงเดินคน โดยกำรกำหนดชว่ งเวลำ a. แบ่งกำรปฏิบัติงำนของคนกับรถยกตำมชว่ งเวลำ (กำรอยู่ร่วมกนั ของคนกับรถยก)
(แยกด้วยเวลำ) รว้ั แบบเรียบง่ำย (เสำ, โซ่, และแนวกั้น) และป้ำยต่ำงๆ เชน่ ป้ำยห้ำมเข้ำ
b. กำรปฏิบัติงำนคนเดียว (ปฏิบัติงำนท้ังหมดในพ้ืนท่ีขนย้ำยสินค้ำด้วยตนเอง)

c. พนักงำนคนอ่ืนสำมำรถสังเกตเห็นกำรทำงำนของรถยกได้ และในขณะทำงำน

ต้องกระตุ้นให้ระวังไม่ให้มีคนเข้ำไปในบริเวณพื้นท่ีกำรทำงำนของรถยก

เช่น กำรแจ้งเตือนกำรใชไ้ ฟสัญญำณแจ้งเตือน เป็นต้น ※3

VI แยกพื้นที่รถยกปฏิบัติงำนกับทำงเดินคน โดยใช้วิธีควบคุมแบบเรียบ a. แบ่งแยกด้วยวัตถุคงท่ีอย่ำงง่ำย เพื่อไม่ให้รถยกเขำ้ ไปในทำงเดินคน
(แยกคนกับรถ) ง่ำย เชน่ เสำ, โซ่ และแนวกั้น
วัตถุคงท่ีมีควำมแขง็ แรงต่ำ จะทำให้เขำ้ สู่ทำงเดินเท้ำได้อย่ำงง่ำยดำย

VII แยกด้วยกำรติดป้ำย a. ชี้บ่งพื้นท่ีทำงำนของรถยกกบั ทำงเดินเท้ำโดยมีกำรขดี สีตีเส้นบนพื้น

(ติดป้ำย)

ต่ำ VIII กำหนดระเบียบเพยี งอย่ำงเดียว a. กำรกำหนดระเบียบ
(กำหนดระเบียบ)

1/5

Name Safety Standards Classification Number
SW-00-008
Safety Standards for Work at Height
Implemented Date: Janunary 1, 2015

Revised Date:

1. Purpose
These standards aim to prevent accidents and injuries during work at height by clarifying its basic rules and points.

2. Scope of Application
This applies to all the work done at any places 2 meters or higher above the floor within the premises of Sumitomo
Riko.

3.Definition
3.1 Work at Height (Refer to the following illustrations.)
This means work conducted at a place 2 meter or higher above the floor and involves risks of falling from it.
※This excludes operations within work floors in which safety measures have been taken based on the Safety Measures
for Lifting Equipment. (Fenses are established and there is no opening from where operators could fall.)

Examples of Workplaces Subject for the Standards

2m or 2m or 2m or
Higher Higher Higher

On the Machines On the Ladder On the Stepladder Vehicle for High
Work Floor without Fences (removed) Place Work

4. Rules and Guidelines
4.1 Basic Guidelines for Work at Height
Pay attention to the following points when working at high places.

Work in Scope Precautions Risks Risk No.
Common ①Work at height requires two or more workers. Inability to respond to emergency quickly. A

②Check the strength of scaffolds and use foot boards if necessary. Breaking a scaffold and falling B

③Check the soles of your shoes. (for oil, etc.) Slipping and falling C
④Wear a helmet and safety belt. Falling could result in a serious accident. D
⑤Put up a sign to inform when working at height. Notifying people of potential risks E
⑥Do not work vertically at the same time. Fallen objects could cause an injury. F
⑦Do not work on top of the forks of forklifts. Potential hazards to fall (illegal) G

⑧Install the main rope if there is no place to hang the safety belt. Potential hazards to fall H

⑨Do not hold anything in your hand while using a ladder/stepladder. False grips and missteps I

⑩Do not climb from a place not equipped with a ladder or other lifting device. False grips and falling J
L
⑪Cover sparks during welding and metal cutting work. Sparks could cause fire. K
M
⑫Do not let objects fall from above Fallen objects could cause an injury. N

①Do not step on a handrail while working. Losing balance and falling O
P
②Do not remove enclosure, fences, and lids more than necessary. Falling from openings Q

On Work Floor ③Do not step back while working at height. Missteps and falling

④Operators should make sure not to lean over a fence too much. Losing balance and falling

⑤Make openings conspicuous with stripped patterns, etc. Losing balance and falling

Drafted by Approved by Responsible Official

Work Safety Group Chairperson Safety/Health Dept. Manager Chairperson of CSR Safety/Health Committee

Safety/Health Dept. 渡 Yoshiharu 北 Ken Khono 河 Rikizo Tatsuta 立
Kenji Watanabe 邊 Kitamura 田
村野

Working at Height 2/5

A B

C D

Working at

E F

Working at Height

G

3/5

HI

JK

Working at Height

L
MN

v 4/5

O P

v

Q

4.2. Points to be Controlled at Workplaces
(1) Operator Education/Training
Education should be provided to newcomers and first timers of working at height.
①Education/training for newcomers to the workplace
・Cover basic precautions utilizing the Safety Standards for Work at Height.

②Education/training for first timers of working at height
・Provide safety instructions on-site with actual equipment using the work standard manual.
・Check the understanding levels of critical points. The supervisor confirms the results of
education/training

③Provide education/training repeatedly to those engaged in working at height.
・Provide safety instructions on-site with actual equipment using the work standard manual.

(2) Controlling equipment necessary for work at height.
① Periodical Control

・Conduct inspections before use.
・In case of trouble with the equipment, the supervisor should stop the use of it and solve the problems

5. Cases of Accidents and Injuries

6. Date of Application
This standard will be effective on January 1, 2015.

1/5

Name Safety Standards Classification Number
SW-00-018A
Safety Standards for Stepladder Work
Implemented Date: January 1, 2015

Revised Date: March 16,2016

1. Purpose
These standards aim to clarify the safe work method in stepladder handling work in order to ensure
prevention of accidents and injuries such as falling down.

2. Scope of Application

These standards apply to cases where a stepladder is used as a scaffold within the premises of Sumitomo Riko Company Limited.

3. Definition
3.1 Stepladder

A stepladder is a “stool with a shape made of two truncated ladders standing at both ends like truncated chevron and connected by a plate on the top.

4. Rules and Guidelines A
4.1Points to Heed at Work
Pay attention to the following in the stepladder handling work:

Subject operation Precautions Risk to be noted Risk
No.

Common [1] Do not use the stepladder for a purpose other than the specified purpose. An unstable stepladder may cause the operator to stumble A
precautions or fall .
[2] Do not process or remodel a stepladder.
[3] Do not use damaged or deformed stepladder.

[4] Do not use the step ladder in an unstable state such as a place with a step, etc. The stepladder may become unstable, causing the operator to stumble. B
C
[5] Do not use the stepladder on a bench or box. The stepladder may become unstable, causing the operator to stumble. D
E
[6] Make sure to lock the fitting metal unit. The legs may open and close, causing the operator to stumble or fall. F
G
[7] Watch your hand when opening or closing the stepladder. The hand may be caught when you open or close the stepladder.

[8] Do not use the stepladder in the closed state. The stepladder may become unstable, causing the operator to stumble.

[9] Do not work on the top board. The operator may lose his/her balance and fall.

[10] Do not work sitting on the top board. The operator may lose his/her balance and fall. H
[11] Do not straddle the stepladder when work it. The operator standing on one leg may lose his/her balance and fall.

[12] The stepladder shall not be used by two operators at the same time. An unstable stepladder may cause the operator to stumble or fall down. I
J
[13] Do not lean out of the stepladder. The operator may lose his/her balance and fall. K
L
[14] Do not climb up and down with your hands free. The operator may lose his/her balance and fall. M
N
[15] Do not work or climb up and down against foot bar. The operator may lose his/her balance and fall. O
P
[16] Do not climb up and down carrying luggage with the hand. The operator may lose his/her balance and fall.
Q
[17] The stepladder shall be fixed when it is stored. The stepladder may fall down and contact pedestrians, etc.
Falling may lead to a serious accident.
For ordinary work [1] Wear a helmet at work. Falling may lead to a serious accident.
Falling may lead to a serious accident.
For high-place [1] Wear a helmet at work.

work [2] Wear a safety band when working.

[3] Use a hanging banner indicating “Working at a High Place.” You should inform surrounding people of the danger.

A BC D

Drafted by Approved by Responsible Official

Work Safety Group Chairperson Safety/Health Dept. Manager Chairperson of CSR Safety/Health Committee

Safety/Health Dept. 渡 Yoshiharu 北 Ken Kohno 河 Tsukasa Oshima 大
Kenji Watanabe 邊 Kitamura 村 野 島

2/5

EF G

H IJ K

LM N

OP

3/5

Q

4.2. Management Items at Work Site
(1) Education for operators

Provide education for operators when they are accepted and when they are engaged in work using a stepladder for the first time.

  ①[1受] A入t a・c配ce属pta時nce/assignment: Education to be provided when an operator is assigned to the work site

・Provide education on basic handling of a stepladder Stepladder Work Safety Standards.

  ②[2]新Fo規r n作ew業wo従rk事: E時ducation for an operator who is engaged in the work handling a stepladder for the first time

・Conduct safety training using Work Standard Sheet with an actual stepladder at an actual site

(Genchi-Genbutsu).

・The instructor shall check the degree of understanding of the key points, and the supervising manager shall

check the result of the education.

(2) Management of stepladders
  ①[1定] P期er的ioなdic管m理anagement

・Conduct inspection before use based on Inspection List (Attachment 1).

・If there is a defect such as breakage, the manager of the department using the stepladder shall stop its use and solve the defect.

  ②[2掲] P示osting
・Attach the label “Do not step on the top board” when a new stepladder is purchased.

5. Cases of Accidents and Injuries

Degree Occurrence status Cause

While an operator was on a stepladder during maintenance, the Work while straddling the
top board
Absence operator lost their balance and fell. The operator was injured after

he hit the equipment with his back.

While an operator was doing troubleshooting work on the

Near-miss equipment without using a dedicated ladder, his foot slipped and Use in an unstable state

he fell.

A Non-Lost When an operator was doing maintenance work against foot bar of Usage of damaged stepladder
Work time a stepladder whose non-slipping function was damaged, the Work against foot bar
operator lost his balance and fell from the stepladder.

6. Date of Application
This standard will be effective on January 1, 2015.

付表1 : 脚立点検表(参考)

4/4

5/5

Attachment Standard Revision Process and Relevant Report

Date Symbol Reasons for Revision and Outlines Drafted Approved Responsible

Safety Group Safety Dept. Official

Jan. 1, 2015 - Became effective Watanabe Kitamura Kohno Tatsuta

Mar. 16, 2016 A Notes and addition of accidents cases/ Change Ban Kitamura Kohno Oshima

of officials in charge of Safety and Health

Relevant Reports and Materials Referenced for Setting or Revising Standards

Date Symbol Names of Relevant Reports and Materials Issuance № Issued Date

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๕ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

พระราชบญั ญตั ิ

ความปลอดภัย อาชวี อนามยั
และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน

พ.ศ. ๒๕๕๔

ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔
เป็นปีท่ี ๖๖ ในรัชกาลปัจจบุ นั

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ใหป้ ระกาศว่า

โดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทํางาน

พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึง่ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บัญญตั ใิ หก้ ระทําได้โดยอาศยั อํานาจตามบทบัญญัติแหง่ กฎหมาย

จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ขิ น้ึ ไว้โดยคาํ แนะนาํ และยนิ ยอมของรฐั สภา
ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๔”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินใ้ี ห้ใชบ้ ังคบั เม่ือพ้นกาํ หนดหนึง่ รอ้ ยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป

เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๖ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๓ พระราชบญั ญตั นิ ม้ี ใิ หใ้ ชบ้ งั คับแก่
(๑) ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการสว่ นท้องถน่ิ
(๒) กิจการอ่นื ทัง้ หมดหรอื แตบ่ างสว่ นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ให้ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน และกิจการอื่นตามท่ีกําหนด
ในกฎกระทรวงตามวรรคหนึง่ จัดให้มีมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานในหน่วยงานของตนไม่ต่ํากว่ามาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดลอ้ มในการทํางานตามพระราชบัญญตั นิ ี้
มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัติน้ี
“ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน” หมายความว่า การกระทํา
หรือสภาพการทํางานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทําให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ
หรือสขุ ภาพอนามัยอันเนื่องจากการทาํ งานหรอื เก่ียวกบั การทาํ งาน
“นายจ้าง” หมายความว่า นายจา้ งตามกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครองแรงงานและให้หมายความ
รวมถงึ ผู้ประกอบกิจการซึ่งยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาทํางานหรือทําผลประโยชน์ให้แก่หรือในสถาน
ประกอบกิจการ ไม่ว่าการทํางานหรือการทําผลประโยชน์น้ันจะเป็นส่วนหน่ึงส่วนใดหรือท้ังหมด
ในกระบวนการผลติ หรอื ธรุ กจิ ในความรับผดิ ชอบของผ้ปู ระกอบกิจการน้นั หรอื ไม่ก็ตาม
“ลูกจ้าง” หมายความว่า ลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและให้หมายความ
รวมถงึ ผูซ้ ่งึ ไดร้ ับความยินยอมใหท้ ํางานหรือทาํ ผลประโยชน์ให้แกห่ รอื ในสถานประกอบกิจการของนายจ้าง
ไมว่ า่ จะเรยี กชอ่ื อย่างไรก็ตาม
“ผบู้ ริหาร” หมายความว่า ลูกจา้ งตง้ั แต่ระดบั ผู้จัดการในหน่วยงานขึ้นไป
“หัวหน้างาน” หมายความว่า ลูกจ้างซ่ึงทําหน้าที่ควบคุม ดูแล บังคับบัญชาหรือสั่งให้ลูกจ้าง
ทาํ งานตามหน้าทข่ี องหนว่ ยงาน
“เจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทํางาน” หมายความว่า ลูกจ้างซึ่งนายจ้างแต่งต้ังให้ปฏิบัติ
หนา้ ทด่ี า้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางานตามพระราชบัญญตั ิน้ี
“สถานประกอบกิจการ” หมายความว่า หน่วยงานแต่ละแห่งของนายจ้างที่มีลูกจ้างทํางาน
อยใู่ นหน่วยงาน
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ
สภาพแวดล้อมในการทาํ งาน

เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๗ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

“กองทุน” หมายความว่า กองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ
ทาํ งาน

“พนักงานตรวจความปลอดภัย” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งต้ังให้ปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี

“อธบิ ด”ี หมายความวา่ อธิบดีกรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน
“รฐั มนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรผี รู้ ักษาการตามพระราชบญั ญัตินี้
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
และให้มีอํานาจแต่งต้ังพนักงานตรวจความปลอดภัยกับออกกฎกระทรวง ประกาศ และระเบียบ
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งออกกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตรา
ท้ายพระราชบัญญัติน้ี และยกเวน้ คา่ ธรรมเนียม
การแต่งตั้งพนักงานตรวจความปลอดภัยต้องกําหนดคุณสมบัติ ขอบเขต อํานาจหน้าท่ี
และเงือ่ นไขในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีดว้ ย
กฎกระทรวง ประกาศ และระเบียบนน้ั เม่ือไดป้ ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ช้บงั คับได้

หมวด ๑
บทท่ัวไป

มาตรา ๖ ให้นายจ้างมีหน้าท่ีจัดและดูแลสถานประกอบกิจการและลูกจ้างให้มีสภาพ
การทํางานและสภาพแวดล้อมในการทํางานท่ีปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมท้ังส่งเสริมสนับสนุน
การปฏิบัตงิ านของลูกจา้ งมิให้ลูกจา้ งได้รับอันตรายตอ่ ชวี ิต รา่ งกาย จิตใจ และสขุ ภาพอนามัย

ให้ลูกจ้างมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับนายจ้างในการดําเนินการและส่งเสริมด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน เพ่ือให้เกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างและสถานประกอบ
กจิ การ

มาตรา ๗ ในกรณีที่พระราชบัญญัตินี้กําหนดให้นายจ้างต้องดําเนินการอย่างหน่ึงอย่างใด
ท่ีตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ ่าย ให้นายจา้ งเป็นผอู้ อกค่าใชจ้ ่ายเพอ่ื การน้ัน

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๘ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานุเบกษา

หมวด ๒
การบริหาร การจดั การ และการดาํ เนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย

และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน

มาตรา ๘ ให้นายจ้างบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานท่กี ําหนดในกฎกระทรวง

การกําหนดมาตรฐานตามวรรคหน่ึง ให้นายจ้างจัดทําเอกสารหรือรายงานใด โดยมีการ
ตรวจสอบหรอื รบั รองโดยบคุ คล หรอื นิติบุคคลตามที่กําหนดในกฎกระทรวง

ให้ลกู จ้างมีหนา้ ที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานตามมาตรฐานทก่ี ําหนดในวรรคหนึ่ง

มาตรา ๙ บุคคลใดประสงค์จะให้บริการในการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง
ประเมินความเสี่ยง รวมท้ังจัดฝึกอบรมหรือให้คําปรึกษาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานตามมาตรฐานท่ีกําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ จะต้อง
ข้ึนทะเบยี นต่อสํานักความปลอดภยั แรงงาน กรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน

คณุ สมบตั ิของผขู้ อขนึ้ ทะเบยี น การขนึ้ ทะเบียน การออกใบแทนการข้ึนทะเบียน การเพิกถอน
ทะเบียน การกําหนดค่าบริการ และวิธีการให้บริการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงอ่ื นไขท่กี ําหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๐ ในกรณที ีส่ าํ นกั ความปลอดภยั แรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานไม่รับ
ขนึ้ ทะเบยี นหรอื เพิกถอนทะเบยี นตามมาตรา ๙ ผขู้ อข้นึ ทะเบียนหรอื ผถู้ ูกเพกิ ถอนทะเบียนมสี ทิ ธอิ ทุ ธรณ์
เป็นหนังสอื ตอ่ อธิบดภี ายในสามสิบวนั นบั แตว่ นั ไดร้ ับแจ้งการไม่รบั ขึ้นทะเบยี นหรือการเพกิ ถอนทะเบียน

คาํ วนิ จิ ฉัยของอธบิ ดใี หเ้ ป็นท่สี ดุ
มาตรา ๑๑ นิติบุคคลใดประสงค์จะให้บริการในการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง
ประเมินความเสี่ยง รวมท้ังจัดฝึกอบรมหรือให้คําปรึกษาเพ่ือส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานตามมาตรฐานที่กําหนดในกฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๘ จะต้องได้รับ
ใบอนุญาตจากอธบิ ดี
คุณสมบัตขิ องผขู้ ออนุญาต การขออนุญาต การอนุญาต การขอต่ออายใุ บอนุญาต การออกใบ
แทนใบอนญุ าต การพักใช้และการเพิกถอนใบอนุญาต การกําหนดค่าบริการ และวิธีการให้บริการตาม
วรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง

เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หนา้ ๙ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๑๒ ในกรณที อี่ ธิบดไี มอ่ อกใบอนญุ าต ไมต่ ่ออายใุ บอนญุ าต ไมอ่ อกใบแทนใบอนุญาต
หรือพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตท่ีออกให้แก่นิติบุคคลตามมาตรา ๑๑ นิติบุคคลนั้นมีสิทธิ
อทุ ธรณ์เปน็ หนังสอื ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือของอธิบดีแจ้งการไม่ออก
ใบอนุญาต หรือการไมต่ ่ออายใุ บอนญุ าต หรอื การเพิกถอนใบอนุญาต

คําวนิ จิ ฉัยของคณะกรรมการให้เปน็ ท่สี ดุ
มาตรา ๑๓ ให้นายจ้างจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางาน บุคลากร หน่วยงาน
หรือคณะบุคคลเพื่อดําเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงอ่ื นไขที่กาํ หนดในกฎกระทรวง
เจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทํางานและบุคลากรตามวรรคหนึ่งจะต้องข้ึนทะเบียนต่อ
กรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน
ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๐ มาใช้บังคับกับการขึ้นทะเบียน
เจ้าหนา้ ทีค่ วามปลอดภัยในการทาํ งาน โดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๔ ในกรณที น่ี ายจ้างให้ลกู จ้างทํางานในสภาพการทํางานหรือสภาพแวดล้อมในการ
ทํางานที่อาจทําให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ให้นายจ้างแจ้ง
ให้ลูกจา้ งทราบถึงอันตรายท่ีอาจจะเกิดข้ึนจากการทํางานและแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนท่ี
ลกู จา้ งจะเขา้ ทํางาน เปลย่ี นงาน หรอื เปลยี่ นสถานทีท่ าํ งาน
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่นายจ้างได้รับคําเตือน คําสั่ง หรือคําวินิจฉัยของอธิบดี คําส่ังของ
พนักงานตรวจความปลอดภัย หรือคําวินิจฉัยของคณะกรรมการให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
ใหน้ ายจ้างแจง้ หรือปดิ ประกาศคําเตือน คําสัง่ หรอื คําวินิจฉยั ดังกลา่ ว ในทที่ เ่ี หน็ ไดง้ ่าย ณ สถานประกอบ
กิจการเป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ สิบห้าวนั นบั แตว่ นั ทไี่ ดร้ บั แจง้
มาตรา ๑๖ ให้นายจ้างจัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรม
ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน เพื่อให้บริหารจัดการ และดําเนินการ
ดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานไดอ้ ยา่ งปลอดภัย
ในกรณีท่ีนายจ้างรับลูกจ้างเข้าทํางาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานท่ีทํางาน หรือเปลี่ยนแปลง
เครื่องจกั รหรืออุปกรณ์ ซึ่งอาจทําให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย
ให้นายจ้างจดั ใหม้ ีการฝกึ อบรมลกู จา้ งทุกคนกอ่ นการเร่มิ ทํางาน
การฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ี
อธบิ ดีประกาศกาํ หนด

เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หนา้ ๑๐ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานุเบกษา

มาตรา ๑๗ ให้นายจ้างติดประกาศสัญลักษณ์เตือนอันตรายและเครื่องหมายเก่ียวกับ
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน รวมทั้งข้อความแสดงสิทธิและหน้าที่
ของนายจ้างและลูกจ้างตามทอ่ี ธิบดปี ระกาศกาํ หนดในทท่ี ่ีเหน็ ได้งา่ ย ณ สถานประกอบกิจการ

มาตรา ๑๘ ในกรณีท่ีสถานที่ใดมีสถานประกอบกิจการหลายแห่ง ให้นายจ้างทุกราย
ของสถานประกอบกิจการในสถานที่นั้น มีหน้าที่ร่วมกันดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานให้เปน็ ไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้

ลูกจ้างซง่ึ ทํางานในสถานประกอบกิจการตามวรรคหนึ่ง รวมทั้งลูกจ้างซึ่งทํางานในสถานประกอบ
กิจการอื่นท่ีไม่ใช่ของนายจ้าง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เก่ียวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานซงึ่ ใชใ้ นสถานประกอบกจิ การน้นั ด้วย

มาตรา ๑๙ ในกรณที ่ีนายจา้ งเช่าอาคาร สถานที่ เครอื่ งมือ เครือ่ งจักร อปุ กรณ์ หรือสิ่งอ่ืนใด
ที่นํามาใช้ในสถานประกอบกิจการ ให้นายจ้างมีอํานาจดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับอาคารสถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์หรือสิ่งอื่นใดที่เช่านั้น
ตามมาตรฐานที่กาํ หนดในกฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๘

การดําเนินการตามวรรคหน่ึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้มีกรรมสิทธิ์ในอาคาร สถานท่ี เครื่องมือ
เครื่องจกั ร อุปกรณห์ รือส่งิ อนื่ ใดซง่ึ ให้เชา่ หรอื ผ้ใู หเ้ ชา่ ในอนั ท่จี ะเรยี กร้องค่าเสียหายหรือค่าทดแทนใด ๆ
ตลอดจนการบอกเลิกสัญญาเช่า

มาตรา ๒๐ ให้ผบู้ รหิ ารหรือหัวหน้างานมีหน้าท่ีสนับสนุนและร่วมมือกับนายจ้างและบุคลากรอื่น
เพอื่ ปฏิบตั กิ ารใหเ้ ป็นไปตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๒๒

มาตรา ๒๑ ลูกจ้างมีหน้าที่ดูแลสภาพแวดล้อมในการทํางานตามมาตรฐานที่กําหนด
ในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ เพื่อใหเ้ กิดความปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัย
โดยคาํ นงึ ถงึ สภาพของงานและพื้นท่ีทีร่ บั ผดิ ชอบ

ในกรณีทีล่ ูกจ้างทราบถงึ ข้อบกพร่องหรือการชํารุดเสียหาย และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางาน หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร และให้เจ้าหน้าที่
ความปลอดภัยในการทํางาน หวั หน้างาน หรือผู้บรหิ าร แจง้ เป็นหนงั สอื ต่อนายจา้ งโดยไมช่ ักชา้

ในกรณที หี่ ัวหนา้ งานทราบถึงขอ้ บกพรอ่ งหรือการชํารุดเสยี หายซ่ึงอาจทําให้ลกู จ้างไดร้ บั อันตราย
ต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ต้องดําเนินการป้องกันอันตรายนั้นภายในขอบเขต
ท่ีรบั ผดิ ชอบหรือที่ได้รับมอบหมายทันทีที่ทราบ กรณีไม่อาจดําเนินการได้ ให้แจ้งผู้บริหารหรือนายจ้าง
ดําเนินการแกไ้ ขโดยไมช่ กั ชา้

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๑๑ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒๒ ให้นายจ้างจัดและดแู ลให้ลกู จา้ งสวมใส่อุปกรณค์ ้มุ ครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
ทไี่ ด้มาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกาํ หนด

ลูกจ้างมีหน้าที่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและดูแลรักษาอุปกรณ์
ตามวรรคหน่งึ ให้สามารถใชง้ านได้ตามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะเวลาทาํ งาน

ในกรณีที่ลูกจ้างไม่สวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าว ให้นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างหยุดการทํางานน้ันจนกว่า
ลกู จา้ งจะสวมใส่อุปกรณด์ ังกล่าว

มาตรา ๒๓ ให้ผู้รับเหมาชั้นต้นและผู้รับเหมาช่วงตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
มีหน้าท่ีดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานของลูกจ้าง
เช่นเดยี วกบั นายจ้าง

ในกรณีท่ีนายจ้างเป็นผู้รับเหมาช่วง และมีผู้รับเหมาช่วงถัดขึ้นไป ให้ผู้รับเหมาช่วงถัดขึ้นไป
ตลอดสายจนถึงผู้รบั เหมาชัน้ ต้นทีม่ ีลกู จา้ งทํางานในสถานประกอบกิจการเดียวกัน มีหน้าที่ร่วมกันในการ
จัดสถานที่ทํางานให้มีสภาพการทํางานท่ีปลอดภัย และมีสภาพแวดล้อมในการทํางานที่ถูกสุขลักษณะ
เพ่อื ให้เกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างทกุ คน

หมวด ๓
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน

มาตรา ๒๔ ใหม้ คี ณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการความปลอดภยั อาชีวอนามยั
และสภาพแวดล้อมในการทํางาน” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานกรรมการ อธิบดี
กรมควบคุมมลพษิ อธิบดีกรมควบคมุ โรค อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน และอธิบดีกรมสวัสดิการ
และคุ้มครองแรงงาน เป็นกรรมการ กับผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ฝ่ายละแปดคน
และผู้ทรงคุณวุฒอิ กี ห้าคนซึ่งรฐั มนตรีแต่งตงั้ เป็นกรรมการ

ใหข้ ้าราชการกรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงานซึ่งรัฐมนตรแี ตง่ ต้ังเปน็ เลขานุการ
การได้มาและการพ้นจากตําแหน่งของผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างตามวรรคหน่ึง
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไขทีร่ ฐั มนตรปี ระกาศกาํ หนด โดยต้องคํานึงถึงการมีส่วนร่วม
ของทั้งหญิงและชาย

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๑๒ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา

ผูท้ รงคณุ วฒุ ิต้องเปน็ ผู้มคี วามรู้ ความเช่ยี วชาญ มผี ลงานหรือประสบการณท์ ีเ่ ก่ียวข้องกับความ
ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน โดยต้องคํานึงถึงการมีส่วนร่วมของทั้งหญิง
และชาย

มาตรา ๒๕ คณะกรรมการมอี าํ นาจหน้าทีด่ ังตอ่ ไปนี้
(๑) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน หรือมาตรการความปลอดภัย
อาชีวอนามยั และการพัฒนาสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน
(๒) เสนอความเหน็ ต่อรัฐมนตรใี นการออกกฎกระทรวง ประกาศ และระเบียบ เพ่ือปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัตินี้
(๓) ให้ความเห็นแก่หน่วยงานของรัฐเก่ียวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน
(๔) วนิ จิ ฉยั อทุ ธรณ์ตามมาตรา ๑๒ มาตรา ๓๓ วรรคสาม และมาตรา ๔๐ วรรคสอง
(๕) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอ่ืนบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่
ของคณะกรรมการหรอื ตามทีร่ ัฐมนตรีมอบหมาย
มาตรา ๒๖ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒมิ วี าระอยู่ในตําแหนง่ คราวละสองปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ซ่ึงพ้นจากตาํ แหน่งอาจได้รบั แตง่ ต้งั อกี ได้
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการ
แทนตําแหน่งที่ว่าง และให้ผู้ได้รับแต่งต้ังให้ดํารงตําแหน่งแทนอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่
ของกรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ ิซง่ึ ตนแทน
ในกรณที ่ีกรรมการผู้ทรงคณุ วุฒพิ ้นจากตาํ แหนง่ ตามวาระ แต่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการใหม่
ให้กรรมการน้นั ปฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ปพลางก่อนจนกว่ากรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิท่ไี ด้รับแตง่ ตั้งจะเข้ารบั หน้าที่
มาตรา ๒๗ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา ๒๖ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
พ้นจากตาํ แหน่ง เมือ่
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) รฐั มนตรีใหอ้ อก เม่ือขาดประชมุ สามคร้งั ติดต่อกนั โดยไมม่ ีเหตอุ ันสมควร
(๔) เป็นบคุ คลลม้ ละลาย
(๕) เป็นบคุ คลวิกลจรติ หรอื จิตฟั่นเฟือน

เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๑๓ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

(๖) เป็นคนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ
(๗) ต้องคาํ พิพากษาวา่ ไดก้ ระทําความผิดตามพระราชบญั ญตั ินี้
(๘) ได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดที่ได้
กระทาํ โดยประมาทหรอื ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ
มาตรา ๒๘ การประชมุ คณะกรรมการตอ้ งมกี รรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากงึ่ หน่ึงของจํานวน
กรรมการทงั้ หมด โดยมกี รรมการผแู้ ทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างอย่างน้อยฝ่ายละหนึ่งคน จึงจะเป็น
องคป์ ระชุม
ในการประชุมเพื่อพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คราวใด ถ้าไม่ได้องค์ประชุมตามที่กําหนดไว้
ในวรรคหน่ึง ให้จัดให้มีการประชมุ อกี คร้ังภายในสบิ หา้ วันนบั แต่วันที่นัดประชุมคร้ังแรก การประชุมครั้ง
หลังแม้ไม่มีกรรมการซ่ึงมาจากฝ่ายนายจ้างหรือฝ่ายลูกจ้างมาร่วมประชุม ถ้ามีกรรมการมาประชุม
ไม่นอ้ ยกวา่ ก่งึ หนึง่ ของจาํ นวนกรรมการทั้งหมด ก็ใหถ้ อื เปน็ องค์ประชุม
ในการประชุมคราวใด ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้
ใหก้ รรมการซงึ่ มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนึง่ เปน็ ประธานในทปี่ ระชุมสําหรบั การประชุมคราวน้นั
มติท่ีประชุมให้ถือเสยี งขา้ งมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียง
เท่ากนั ให้ประธานในทปี่ ระชุมออกเสียงเพิ่มขึน้ อกี เสยี งหนง่ึ เป็นเสียงชข้ี าด
มาตรา ๒๙ คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการ
อยา่ งหนึ่งอย่างใดตามท่คี ณะกรรมการมอบหมายได้
ให้คณะกรรมการกําหนดองค์ประชุมและวิธีดําเนินงานของคณะอนุกรรมการได้ตามความ
เหมาะสม
มาตรา ๓๐ ในการปฏบิ ตั หิ น้าทตี่ ามพระราชบญั ญัติน้ี ใหก้ รรมการและอนกุ รรมการได้รับเบี้ยประชุม
และประโยชน์ตอบแทนอนื่ ตามระเบียบท่รี ฐั มนตรกี าํ หนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั
มาตรา ๓๑ ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงานรับผิดชอบงานธุรการ
ของคณะกรรมการ และมีอาํ นาจหนา้ ทด่ี งั ต่อไปน้ี
(๑) สรรหา รวบรวม และวเิ คราะหข์ ้อมูลด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานเพื่อการจัดทํานโยบาย แผนงาน โครงการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานเสนอตอ่ คณะกรรมการ

เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๑๔ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

(๒) จัดทําแนวทางการกําหนดมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานเสนอต่อคณะกรรมการ

(๓) จัดทาํ แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
ประจําปเี สนอตอ่ คณะกรรมการ

(๔) ประสานแผนและการดําเนินการของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการตลอดจน
หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

(๕) ตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบัติงานตามมตขิ องคณะกรรมการ
(๖) รบั ผิดชอบงานธุรการของคณะอนกุ รรมการ
(๗) ปฏบิ ตั ิหนา้ ทอ่ี นื่ ตามท่คี ณะกรรมการหรือคณะอนกุ รรมการมอบหมาย

หมวด ๔
การควบคมุ กํากับ ดแู ล

มาตรา ๓๒ เพ่ือประโยชน์ในการควบคุม กํากับ ดูแลการดําเนินการด้านความปลอดภัย
อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ให้นายจา้ งดาํ เนินการดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) จดั ให้มีการประเมนิ อนั ตราย
(๒) ศกึ ษาผลกระทบของสภาพแวดล้อมในการทํางานที่มผี ลต่อลกู จ้าง
(๓) จัดทําแผนการดําเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ
ทาํ งานและจดั ทําแผนการควบคมุ ดูแลลกู จา้ งและสถานประกอบกิจการ
(๔) ส่งผลการประเมินอันตราย การศึกษาผลกระทบ แผนการดําเนินงานและแผนการ
ควบคุมตาม (๑) (๒) และ (๓) ใหอ้ ธบิ ดีหรอื ผซู้ ่งึ อธบิ ดีมอบหมาย
หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดําเนินการตามวรรคหน่ึง ประเภทกิจการ ขนาดของ
กิจการท่ีต้องดําเนินการ และระยะเวลาที่ต้องดําเนินการ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษา
ในการดําเนินการตามวรรคหน่ึง นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามคําแนะนําและได้รับการรับรองผล
จากผูช้ าํ นาญการด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
มาตรา ๓๓ ผู้ใดจะทําการเป็นผชู้ ํานาญการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานจะต้องได้รบั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดีตามพระราชบัญญตั นิ ี้

เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หนา้ ๑๕ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

การขอใบอนุญาต การออกใบอนญุ าต คณุ สมบัติของผู้ชํานาญการ การควบคุมการปฏิบัติงาน
ของผู้ได้รับใบอนญุ าต การต่ออายใุ บอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การส่งั พักใช้ และการเพิกถอน
ใบอนญุ าตตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเงือ่ นไขท่กี ําหนดในกฎกระทรวง

ใหน้ าํ บทบญั ญตั ิในมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับกับการอนุญาตเป็นผู้ชํานาญการด้านความปลอดภัย
อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน โดยอนโุ ลม

มาตรา ๓๔ ในกรณีท่ีสถานประกอบกิจการใดเกิดอุบัติภัยร้ายแรง หรือลูกจ้างประสบ
อนั ตรายจากการทํางาน ใหน้ ายจ้างดําเนนิ การดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) กรณีท่ีลูกจ้างเสียชีวิต ให้นายจ้างแจ้งต่อพนักงานตรวจความปลอดภัยในทันทีที่ทราบ
โดยโทรศัพท์ โทรสาร หรือวิธีอ่ืนใดท่ีมีรายละเอียดพอสมควร และให้แจ้งรายละเอียดและสาเหตุ
เปน็ หนงั สอื ภายในเจด็ วนั นับแตว่ นั ท่ลี กู จ้างเสียชวี ิต

(๒) กรณีท่ีสถานประกอบกิจการได้รับความเสียหายหรือต้องหยุดการผลิต หรือมีบุคคล
ในสถานประกอบกิจการประสบอันตรายหรือได้รับความเสียหาย อันเนื่องมาจากเพลิงไหม้ การระเบิด
สารเคมรี ่ัวไหล หรืออบุ ตั ภิ ยั รา้ ยแรงอื่น ให้นายจ้างแจ้งต่อพนักงานตรวจความปลอดภัยในทันทีที่ทราบ
โดยโทรศัพท์ โทรสาร หรือวิธีอ่ืนใด และให้แจ้งเป็นหนังสือโดยระบุสาเหตุอันตรายที่เกิดข้ึน
ความเสยี หาย การแกไ้ ขและวธิ กี ารป้องกนั การเกดิ ซ้าํ อกี ภายในเจด็ วนั นบั แต่วันเกดิ เหตุ

(๓) กรณีท่ีมีลูกจ้างประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยตามกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน เมื่อนายจ้าง
แจ้งการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยต่อสํานักงานประกันสังคมตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ให้นายจ้าง
สง่ สาํ เนาหนังสือแจง้ นน้ั ตอ่ พนกั งานตรวจความปลอดภยั ภายในเจ็ดวันดว้ ย

การแจง้ เปน็ หนงั สือตามวรรคหนึ่ง ใหเ้ ป็นไปตามแบบท่ีอธิบดีประกาศกําหนดและเมื่อพนักงาน
ตรวจความปลอดภัยได้รับแจ้งแล้ว ใหด้ ําเนนิ การตรวจสอบและหามาตรการปอ้ งกันอนั ตรายโดยเรว็

หมวด ๕
พนักงานตรวจความปลอดภัย

มาตรา ๓๕ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ี ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย
มีอาํ นาจดงั ต่อไปน้ี

(๑) เข้าไปในสถานประกอบกิจการหรือสํานักงานของนายจ้างในเวลาทําการหรือเม่ือเกิด
อบุ ัตภิ ัย

เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๑๖ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา

(๒) ตรวจสอบหรือบันทึกภาพและเสียงเก่ียวกับสภาพแวดล้อมในการทํางานที่เกี่ยวกับ
ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน

(๓) ใชเ้ ครื่องมอื ในการตรวจวัดหรือตรวจสอบเครอื่ งจกั ร หรืออปุ กรณ์ในสถานประกอบกจิ การ
(๔) เกบ็ ตัวอยา่ งของวัสดุหรอื ผลิตภณั ฑ์ใด ๆ มาเพื่อการวิเคราะห์เก่ียวกบั ความปลอดภยั
(๕) สอบถามข้อเท็จจริง หรือสอบสวนเรื่องใด ๆ ภายในขอบเขตอํานาจและเรียกบุคคล
ที่เกี่ยวข้องมาช้ีแจง รวมท้ังตรวจสอบหรือให้ส่งเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้องและเสนอแนะมาตรการ
ปอ้ งกันอนั ตรายต่ออธิบดโี ดยเรว็
มาตรา ๓๖ ในกรณีทพี่ นกั งานตรวจความปลอดภัยพบว่า นายจ้าง ลูกจ้างหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
ผู้ใดฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ิตามพระราชบัญญัตนิ ้ี หรือกฎกระทรวงซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ หรือพบว่า
สภาพแวดล้อมในการทํางาน อาคาร สถานท่ี เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ท่ีลูกจ้างใช้จะก่อให้เกิดความ
ไมป่ ลอดภยั แกล่ กู จ้าง ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยมีอํานาจส่ังให้ผู้นั้นหยุดการกระทําที่ฝ่าฝืน แก้ไข
ปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาสามสิบวัน ถ้ามีเหตุจําเป็นไม่อาจดําเนินการ
ให้แล้วเสรจ็ ภายในกําหนดเวลาดังกล่าวได้ พนักงานตรวจความปลอดภัยอาจขยายระยะเวลาออกไปได้
ไมเ่ กนิ สองครัง้ คร้งั ละสามสบิ วันนับแตว่ ันทีค่ รบกาํ หนดเวลาดงั กล่าว
ในกรณีจําเป็นเม่ือได้รับอนุมัติจากอธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมาย ให้พนักงานตรวจ
ความปลอดภัยมีอํานาจสั่งใหห้ ยุดการใชเ้ ครื่องจกั ร อุปกรณ์ อาคารสถานที่ หรือผูกมัดประทับตราสิ่งท่ีอาจจะ
ก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อลูกจ้างดังกล่าวท้ังหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว ในระหว่าง
การปฏบิ ัตติ ามคาํ ส่ังของพนกั งานตรวจความปลอดภัยได้ เมอ่ื นายจ้างได้ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกตอ้ งตามคําส่ัง
ของพนักงานตรวจความปลอดภัยตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้นายจ้างแจ้งอธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมาย
เพอื่ พิจารณาเพกิ ถอนคาํ สงั่ ดงั กลา่ วได้
มาตรา ๓๗ ในกรณีที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานตรวจความปลอดภัย
ตามมาตรา ๓๖ ถ้ามีเหตุอันอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงท่ีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
สมควรเข้าไปดําเนินการแทน ให้อธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมายมีอํานาจสั่งให้พนักงานตรวจ
ความปลอดภัยหรือมอบหมายให้บุคคลใดเข้าจัดการแก้ไขเพ่ือให้เป็นไปตามคําส่ังนั้นได้ ในกรณีเช่นน้ี
นายจา้ งต้องเป็นผเู้ สยี ค่าใชจ้ ่ายสาํ หรับการเข้าจดั การแก้ไขนนั้ ตามจาํ นวนทีจ่ ่ายจริง

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๑๗ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

กอ่ นทีอ่ ธบิ ดหี รอื ผูซ้ ึง่ อธิบดีมอบหมายจะดําเนนิ การตามวรรคหน่ึง จะต้องมีคําเตือนเป็นหนังสือ
ให้นายจา้ งปฏบิ ัตติ ามคําสงั่ ของพนกั งานตรวจความปลอดภยั ภายในระยะเวลาท่ีกําหนด คําเตือนดังกล่าว
จะกําหนดไปพรอ้ มกบั คาํ ส่งั ของพนกั งานตรวจความปลอดภยั กไ็ ด้

ในการดาํ เนนิ การตามวรรคหนึ่ง ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขอรับเงินช่วยเหลือจาก
กองทุนเพ่ือเป็นเงินทดรองจ่ายในการดําเนินการได้ และเมื่อได้รับเงินจากนายจ้างแล้วให้ชดใช้
เงนิ ช่วยเหลอื ที่ได้รับมาคนื แกก่ องทนุ

มาตรา ๓๘ ให้อธิบดีมีอํานาจออกคําส่ังเป็นหนังสือให้ยึด อายัด และขายทอดตลาด
ทรพั ยส์ นิ ของนายจ้างซึ่งไม่จา่ ยค่าใช้จา่ ยในการดาํ เนนิ การตามมาตรา ๓๗ ทงั้ น้ี เพียงเท่าท่ีจําเป็นเพื่อเป็น
ค่าใชจ้ า่ ยสําหรบั การเขา้ จัดการแกไ้ ขตามจาํ นวนท่จี ่ายจรงิ

การมีคําสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งจะกระทําได้ต่อเม่ือได้แจ้งเป็นหนังสือ
ให้นายจ้างนําเงินค่าใช้จ่ายมาจ่ายภายในระยะเวลาที่กําหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันท่ี
นายจ้างไดร้ บั หนงั สือนั้นและนายจา้ งไมจ่ า่ ยภายในระยะเวลาทก่ี าํ หนด

หลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเง่อื นไขในการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง
ให้เป็นไปตามระเบยี บท่รี ัฐมนตรกี าํ หนด ทง้ั น้ี ให้นาํ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประมวลกฎหมาย
วิธพี จิ ารณาความแพง่ มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม

เงินที่ไดจ้ ากการขายทอดตลาดทรพั ย์สินใหห้ ักไวเ้ ป็นค่าใช้จา่ ยในการยึด อายดั และขายทอดตลาด
และชําระค่าใช้จ่ายที่นายจ้างต้องเป็นผู้จ่ายตามมาตรา ๓๗ ถ้ามีเงินเหลือให้คืนแก่นายจ้างโดยเร็ว
โดยให้พนักงานตรวจความปลอดภัยมีหนังสือแจ้งให้ทราบเพื่อขอรับเงินที่เหลือคืนโดยส่งทางไปรษณีย์
ลงทะเบียนตอบรับ ถา้ นายจ้างไม่มาขอรับคืนภายในห้าปีนับแต่วันได้รับแจ้ง ให้เงินดังกล่าวตกเป็นของ
กองทนุ

มาตรา ๓๙ ระหว่างหยุดการทํางานหรือหยุดกระบวนการผลิตตามมาตรา ๓๖ ให้นายจ้าง
จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างท่ีเกี่ยวข้องกับการหยุดการทํางานหรือการหยุดกระบวนการผลิตน้ันเท่ากับค่าจ้าง
หรือสิทธิประโยชน์อ่ืนใดท่ีลูกจ้างต้องได้รับ เว้นแต่ลูกจ้างรายน้ันจงใจกระทําการอันเป็นเหตุให้มีการ
หยดุ การทํางานหรอื หยุดกระบวนการผลิต

มาตรา ๔๐ ในกรณีท่ีพนักงานตรวจความปลอดภัยมีคําส่ังตามมาตรา ๓๖ วรรคหน่ึง
หากนายจา้ ง ลกู จ้าง หรือผู้ทีเ่ กย่ี วขอ้ งไมเ่ หน็ ดว้ ย ให้มีสทิ ธิอุทธรณ์เปน็ หนังสอื ตอ่ อธิบดีไดภ้ ายในสามสิบวัน
นับแต่วันที่ทราบคําสั่ง ให้อธิบดีวินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับอุทธรณ์ คําวินิจฉัย
ของอธิบดใี หเ้ ปน็ ทส่ี ุด

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หนา้ ๑๘ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

ในกรณีทพี่ นักงานตรวจความปลอดภัยมีคาํ สง่ั ตามมาตรา ๓๖ วรรคสอง หากนายจ้าง ลูกจ้าง
หรอื ผ้ทู ี่เก่ยี วขอ้ งไม่เห็นดว้ ย ให้มีสทิ ธอิ ุทธรณเ์ ปน็ หนังสือตอ่ คณะกรรมการไดภ้ ายในสามสบิ วนั นบั แต่วันที่
ทราบคําสั่ง ให้คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับอุทธรณ์ คําวินิจฉัย
ของคณะกรรมการให้เป็นทีส่ ดุ

การอุทธรณ์ ย่อมไม่เปน็ การทเุ ลาการปฏิบตั ิตามคําสงั่ ของพนกั งานตรวจความปลอดภัย เว้นแต่
อธิบดหี รือคณะกรรมการ แล้วแต่กรณี จะมีคําส่งั เป็นอยา่ งอนื่

มาตรา ๔๑ ในการปฏิบัติตามหน้าที่ พนักงานตรวจความปลอดภัยต้องแสดงบัตรประจําตัว
เม่อื ผทู้ ่เี ก่ียวข้องรอ้ งขอ

บตั รประจาํ ตัวพนกั งานตรวจความปลอดภัย ใหเ้ ป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนด
มาตรา ๔๒ ห้ามนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง หรือโยกย้ายหน้าที่การงานของลูกจ้างเพราะเหตุที่
ลูกจา้ งดําเนนิ การฟอ้ งรอ้ งหรือเป็นพยานหรอื ให้หลักฐานหรือให้ข้อมูลเก่ียวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานต่อพนักงานตรวจความปลอดภยั หรือคณะกรรมการ ตามพระราชบัญญัตินี้
หรือต่อศาล
มาตรา ๔๓ ในกรณีท่ีนายจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้ที่เก่ียวข้องได้ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงาน
ตรวจความปลอดภัยตามมาตรา ๓๖ ภายในระยะเวลาที่กําหนด การดําเนินคดีอาญาต่อนายจ้าง
ลูกจ้าง หรือผ้ทู เี่ กยี่ วข้องใหเ้ ป็นอันระงับไป

หมวด ๖
กองทนุ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน

มาตรา ๔๔ ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเรียกว่า
“กองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน” เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการ
ดําเนินการด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางานตามพระราชบัญญัติน้ี

มาตรา ๔๕ กองทุนประกอบดว้ ย
(๑) เงนิ ทนุ ประเดมิ ทรี่ ฐั บาลจดั สรรให้
(๒) เงินรายปที ไี่ ด้รับการจัดสรรจากกองทุนเงินทดแทนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยเงนิ ทดแทน
(๓) เงนิ คา่ ปรับท่ไี ดจ้ ากการลงโทษผู้กระทําผดิ ตามพระราชบัญญัตนิ ี้
(๔) เงนิ อุดหนุนจากรฐั บาล
(๕) เงินหรือทรพั ยส์ ินทีม่ ีผู้บรจิ าคให้

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๑๙ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

(๖) ผลประโยชนท์ ไ่ี ด้จากเงินของกองทุน
(๗) คา่ ธรรมเนียมใบอนญุ าตและใบสาํ คญั การขึน้ ทะเบียนตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๓
และมาตรา ๓๓
(๘) ดอกผลทเี่ กดิ จากเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของกองทุน
(๙) รายไดอ้ ่ืน ๆ
มาตรา ๔๖ เงินกองทุนให้ใช้จา่ ยเพ่ือกิจการดังต่อไปนี้
(๑) การรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
และการพัฒนา แก้ไขและบริหารงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
ทั้งนี้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทาํ งาน
(๒) ช่วยเหลือและอุดหนุนหน่วยงานของรัฐ สมาคม มูลนิธิ องค์กรเอกชน หรือบุคคล
ท่ีเสนอโครงการหรอื แผนงานในการดําเนินการส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาวิจัยและการพัฒนางานด้าน
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน
(๓) ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทนุ และตามมาตรา ๓๐
(๔) สนับสนุนการดําเนินงานของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ
สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานตามความเหมาะสมเป็นรายปี
(๕) ให้นายจ้างกู้ยืมเพ่ือแก้ไขสภาพความไม่ปลอดภัย หรือเพ่ือป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและ
โรคอนั เนื่องจากการทํางาน
(๖) เงินทดรองจา่ ยในการดาํ เนนิ การตามมาตรา ๓๗
การดําเนินการตาม (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานกําหนด และให้นําเงินดอกผลของกองทุนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินการตาม (๑) (๒)
และ (๓) ได้ไมเ่ กินรอ้ ยละเจ็ดสบิ ห้าของดอกผลของกองทุนต่อปี
มาตรา ๔๗ เงินและทรัพย์สินที่กองทนุ ไดร้ ับตามมาตรา ๔๕ ไม่ต้องนําส่งกระทรวงการคลัง
เป็นรายได้แผน่ ดนิ
มาตรา ๔๘ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรยี กว่า “คณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน” ประกอบด้วย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
เปน็ ประธานกรรมการ ผ้แู ทนกระทรวงการคลัง ผแู้ ทนสาํ นักงานประกันสังคม ผู้แทนสํานักงบประมาณ
และผ้ทู รงคุณวฒุ อิ กี คนหนง่ึ ซ่งึ รฐั มนตรแี ต่งต้ัง กับผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละห้าคน
เป็นกรรมการ

เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หนา้ ๒๐ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา

ใหข้ ้าราชการกรมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงานซ่งึ รฐั มนตรแี ต่งตั้งเปน็ เลขานกุ าร
การได้มาซ่ึงผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้างตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธกี าร และเง่อื นไขทร่ี ัฐมนตรีประกาศกําหนด โดยตอ้ งคาํ นึงถงึ การมีส่วนรว่ มของทง้ั หญงิ และชาย
มาตรา ๔๙ ใหน้ ําบทบัญญัตมิ าตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ วรรคหน่ึง วรรคสาม
และวรรคส่ี มาใช้บงั คับกบั การดาํ รงตําแหน่ง การพน้ จากตาํ แหน่ง การประชุมของคณะกรรมการบริหาร
กองทุนความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน และให้นํามาตรา ๒๙ มาใช้บังคับ
กับการแต่งต้ังคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ
สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานโดยอนโุ ลม
มาตรา ๕๐ ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทนุ ความปลอดภัย อาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อม
ในการทํางานมอี าํ นาจหน้าทีด่ งั ตอ่ ไปน้ี
(๑) กาํ กบั การจดั การและบรหิ ารกองทนุ
(๒) พิจารณาจดั สรรเงนิ กองทนุ เพือ่ การช่วยเหลือและการอุดหนุน การให้กู้ยืม การทดรองจ่าย
และการสนบั สนุนเงินในการดําเนนิ งานด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
(๓) วางระเบียบเก่ียวกับการรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินกองทุนและการจัดหา
ผลประโยชน์ของเงนิ กองทุน โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
(๔) วางระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไขการให้เงินช่วยเหลือและเงินอุดหนุน
การขอเงินชว่ ยเหลือและเงินอุดหนุน การอนุมัติเงินทดรองจ่าย การขอเงินทดรองจ่าย การให้กู้ยืมเงิน
และการชําระเงนิ คืนแกก่ องทุน
(๕) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่
ของคณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางานหรือ
ตามที่รัฐมนตรมี อบหมาย
มาตรา ๕๑ ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันส้ินปีบัญชี ให้คณะกรรมการบริหารกองทุน
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงิน
กองทุนในปีท่ีล่วงมาแล้วต่อสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อตรวจสอบรับรองและเสนอต่อ
คณะกรรมการ
งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินดังกล่าว ให้คณะกรรมการเสนอต่อรัฐมนตรีและให้รัฐมนตรี
เสนอต่อคณะรฐั มนตรเี พื่อทราบและจดั ให้มีการประกาศในราชกิจจานเุ บกษา

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๒๑ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

หมวด ๗
สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน

มาตรา ๕๒ ใหม้ ีสถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน
โดยมีวัตถปุ ระสงคเ์ พือ่ สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน และมีอํานาจ
หน้าที่ดังต่อไปน้ี

(๑) สง่ เสริมและแกไ้ ขปญั หาเกยี่ วกบั ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการ
ทํางาน

(๒) พัฒนาและสนับสนุนการจัดทํามาตรฐานเพ่ือส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางาน

(๓) ดําเนินการ ส่งเสริม สนับสนุน และร่วมดําเนินงานกับหน่วยงานด้านความปลอดภัย
อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานของภาครัฐและเอกชน

(๔) จัดให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทาํ งาน ทั้งในด้านการพฒั นาบคุ ลากรและดา้ นวิชาการ

(๕) อํานาจหน้าทอี่ ่นื ตามท่กี าํ หนดในกฎหมาย
ให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทาํ งานโดยอยภู่ ายใตก้ ารกํากับดูแลของรัฐมนตรี ท้ังนี้ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ี
ใช้บงั คบั

หมวด ๘
บทกําหนดโทษ

มาตรา ๕๓ นายจา้ งผใู้ ดฝ่าฝนื หรือไม่ปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานที่กาํ หนดในกฎกระทรวงที่ออกตาม
มาตรา ๘ ต้องระวางโทษจาํ คุกไม่เกินหนึ่งปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ สี่แสนบาท หรอื ทั้งจาํ ท้ังปรับ

มาตรา ๕๔ ผู้ใดมีหน้าที่ในการรับรอง หรือตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หรือรายงานตาม
กฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๘ วรรคสอง กรอกข้อความอันเป็นเท็จในการรับรองหรือตรวจสอบ
เอกสารหลักฐานหรือรายงาน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท
หรือทงั้ จําทงั้ ปรับ

เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๒๒ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา

มาตรา ๕๕ ผู้ใดให้บริการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง ประเมินความเสี่ยง
จัดฝึกอบรม หรอื ให้คําปรึกษาโดยไมไ่ ด้ขึ้นทะเบยี นตามมาตรา ๙ หรือไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๑
ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกินหกเดือน หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท หรอื ทั้งจาํ ทั้งปรบั

มาตรา ๕๖ นายจ้างผูใ้ ดไม่ปฏบิ ัติตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๓๒ ต้องระวางโทษ
จาํ คกุ ไมเ่ กนิ หกเดอื น หรือปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท หรือท้ังจาํ ท้ังปรบั

มาตรา ๕๗ นายจ้างผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๓๔ ต้องระวางโทษปรับ
ไม่เกินหา้ หมน่ื บาท

มาตรา ๕๘ นายจ้างผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๕ หรือมาตรา ๑๗ ต้องระวางโทษจําคุก
ไม่เกนิ สามเดอื น หรือปรับไม่เกนิ หนึง่ แสนบาท หรอื ทั้งจําท้งั ปรบั

มาตรา ๕๙ นายจ้างผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน
หนึง่ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ สีแ่ สนบาท หรอื ทั้งจาํ ทง้ั ปรบั

มาตรา ๖๐ ผู้ใดไมป่ ฏิบตั ิตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือน
หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท หรือทง้ั จําทัง้ ปรับ

มาตรา ๖๑ ผูใ้ ดขัดขวางการดาํ เนนิ การของนายจา้ งตามมาตรา ๑๙ หรือขัดขวางการปฏิบัติ
หน้าท่ีของพนักงานตรวจความปลอดภัย หรือบุคคลซ่ึงได้รับมอบหมายตามมาตรา ๓๗ วรรคหน่ึง
โดยไมม่ ีเหตุอันสมควร ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กินหกเดือนหรือปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท หรอื ทงั้ จําท้ังปรับ

มาตรา ๖๒ ผ้ใู ดไมป่ ฏบิ ตั ิตามมาตรา ๒๒ วรรคหนง่ึ หรอื มาตรา ๒๓ ตอ้ งระวางโทษจําคุก
ไมเ่ กนิ สามเดอื น หรือปรบั ไม่เกินหนง่ึ แสนบาท หรอื ทงั้ จาํ ท้ังปรบั

มาตรา ๖๓ ผู้ใดกระทําการเป็นผู้ชํานาญการด้านคว ามปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานโดยไม่ได้รบั ใบอนุญาตตามมาตรา ๓๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน
หรอื ปรับไมเ่ กินสองแสนบาท หรอื ทง้ั จําทง้ั ปรบั

มาตรา ๖๔ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานตรวจ
ความปลอดภัยตามมาตรา ๓๕ หรือมาตรา ๓๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน
หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท หรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรับ

มาตรา ๖๕ ผ้ใู ดฝา่ ฝนื หรอื ไม่ปฏบิ ตั ติ ามคาํ สง่ั ของพนักงานตรวจความปลอดภัยตามมาตรา ๓๖
วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจาํ คกุ ไม่เกินหกเดอื น หรอื ปรับไมเ่ กินสองแสนบาท หรอื ทัง้ จาํ ทั้งปรบั

เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หนา้ ๒๓ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานุเบกษา

มาตรา ๖๖ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือกระทําการอย่างหน่ึงอย่างใดเพื่อให้ส่ิงที่พนักงานตรวจ
ความปลอดภัยส่ังให้ระงับการใช้หรือผูกมัดประทับตราไว้กลับใช้งานได้อีกระหว่างการปฏิบัติตามคําส่ัง
ของพนักงานตรวจความปลอดภัยตามมาตรา ๓๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี
หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ แปดแสนบาท หรือท้ังจําท้ังปรับ และปรับอีกเป็นรายวันไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่า
จะดําเนินการตามคําสงั่

มาตรา ๖๗ นายจ้างผใู้ ดไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรา ๓๙ ตอ้ งระวางโทษปรบั ครง้ั ละไมเ่ กินหา้ หมืน่ บาท
มาตรา ๖๘ นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๒ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับ
ไมเ่ กนิ สองแสนบาท หรอื ท้งั จาํ ทั้งปรบั
มาตรา ๖๙ ในกรณีที่ผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล ถ้าการกระทาํ ความผิดของนิติบุคคลน้ัน
เกิดจากการส่ังการ หรือการกระทําของบุคคลใด หรือเกิดจากการไม่ส่ังการ หรือไม่กระทําการอันเป็นหน้าท่ี
ที่ต้องกระทําของกรรมการผู้จัดการหรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น
ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้สําหรับความผิดนัน้ ๆ ด้วย
มาตรา ๗๐ ผู้ใดเปิดเผยข้อเท็จจริงใดท่ีเก่ียวกับกิจการของนายจ้างอันเป็นข้อเท็จจริง
ท่ีปกติวิสัยของนายจ้างจะพึงสงวนไว้ไม่เปิดเผยซ่ึงผู้น้ันได้หรือล่วงรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวมาเนื่องจาก
การปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ี ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจําท้ังปรับ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์แห่งพระราชบัญญัตินี้
หรือเพ่ือประโยชนแ์ กก่ ารค้มุ ครองแรงงาน การแรงงานสัมพนั ธ์ หรอื การสอบสวนหรือพจิ ารณาคดี
มาตรา ๗๑ บรรดาความผดิ ตามพระราชบัญญัติน้ีท่ีมีอัตราโทษจําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับ
ไม่เกินสี่แสนบาท ถ้าเจ้าพนักงานดังต่อไปน้ี เห็นว่าผู้กระทําผิดไม่ควรได้รับโทษจําคุกหรือไม่ควร
ถกู ฟอ้ งร้อง ให้มอี าํ นาจเปรียบเทียบดงั น้ี
(๑) อธิบดหี รือผ้ซู ึง่ อธบิ ดมี อบหมาย สาํ หรบั ความผิดทีเ่ กิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
(๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ซ่ึงผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย สําหรับความผิดท่ีเกิดขึ้น
ในจังหวดั อื่น
ในกรณีท่ีมีการสอบสวน ถ้าพนักงานสอบสวนพบว่าบุคคลใดกระทําความผิดท่ีเจ้าพนักงาน
มอี าํ นาจเปรียบเทียบไดต้ ามวรรคหน่งึ และบุคคลน้ันยินยอมให้เปรียบเทียบ ให้พนักงานสอบสวนส่งเร่ือง
ให้อธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่บุคคลนั้นแสดงความยินยอม
ใหเ้ ปรียบเทยี บ

เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๒๔ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานเุ บกษา

เมือ่ ผูก้ ระทําผดิ ได้ชําระเงินค่าปรับตามจํานวนท่ีเปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีมีการ
เปรยี บเทยี บแล้ว ให้ถอื วา่ คดเี ลกิ กันตามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา

ถ้าผู้กระทําความผิดไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชําระเงินค่าปรับภายใน
กําหนดเวลาตามวรรคสาม ใหด้ ําเนินคดตี อ่ ไป

มาตรา ๗๒ การกระทําความผิดตามมาตรา ๖๖ ถ้าคณะกรรมการเปรียบเทียบ
ซง่ึ ประกอบด้วยอธิบดี ผู้บัญชาการสํานักงานตํารวจแห่งชาติหรือผู้แทน และอัยการสูงสุด หรือผู้แทน
เห็นว่าผู้กระทําผิดไม่ควรได้รับโทษจําคุกหรือไม่ควรถูกฟ้องร้อง ให้มีอํานาจเปรียบเทียบได้ และให้นํา
มาตรา ๗๑ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๗๓ ใน ว าร ะเร่ิมแ ร ก ให้ค ณ ะกร ร มการ ค ว ามปล อด ภัย อาชีว อน ามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานตามพระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงดํารงตําแหน่งอยู่
ในวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ไปจนกว่าจะมีการ
แตง่ ต้ังคณะกรรมการตามพระราชบญั ญัตินี้ ซึ่งตอ้ งไม่เกินหนง่ึ รอ้ ยแปดสิบวนั นับแต่วันทพ่ี ระราชบัญญัติน้ี
ใชบ้ งั คบั

มาตรา ๗๔ ในระหว่างที่ยังมิได้ออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบญั ญัตินี้ ให้นํากฎกระทรวงที่ออกตามความในหมวด ๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาใช้บังคบั โดยอนุโลม

ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชวี ะ
นายกรฐั มนตรี

อตั ราคาธรรมเนียม

(๑) ใบอนญุ าตใหบ รกิ ารดานความปลอดภยั ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท

อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอมในการทาํ งาน

(๒) ใบอนญุ าตผชู าํ นาญการ ดา นความปลอดภัย ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท

อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ มในการทาํ งาน

(๓) ใบสําคัญการขึ้นทะเบยี นบุคลากร ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท

ตามมาตรา ๙ และมาตรา ๑๓

(๔) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท

(๕) ใบแทนใบสาํ คัญการขึน้ ทะเบยี น ฉบับละ ๕๐๐ บาท

(๖) การตอ อายุใบอนญุ าตหรอื ใบสําคญั ครง้ั ละเทา กบั คาธรรมเนยี มสาํ หรบั  

การขน้ึ ทะเบยี น ใบอนญุ าตหรอื ใบสําคญั นั้น

เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๒๕ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันมีการนําเทคโนโลยี
เครื่องมอื เครือ่ งจกั ร อปุ กรณ์ สารเคมี และสารเคมอี ันตรายมาใช้ในกระบวนการผลิต การก่อสร้าง และบริการ
แต่ขาดการพัฒนาความรู้ความเข้าใจควบคู่กันไป ทําให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานในด้านความปลอดภัย
อาชวี อนามยั สภาพแวดลอ้ มในการทํางาน และก่อให้เกิดอันตรายจากการทํางาน จนถึงแก่บาดเจ็บ พิการ
ทุพพลภาพ เสียชีวิต หรือเกิดโรคอันเน่ืองจากการทํางานซ่ึงมีแนวโน้มสูงขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้นด้วย
ประกอบกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มีหลักการส่วนใหญ่เป็นเรื่องการคุ้มครองแรงงานทั่วไป
และมีขอบเขตจํากัดไม่สามารถกําหนดกลไกและมาตรการบริหารงานความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการวางมาตรการควบคุม กํากับ ดูแล และบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานอย่างเหมาะสม สําหรับป้องกัน สงวนรักษาทรัพยากรบุคคลอันเป็นกําลัง
สําคัญของชาติ สมควรมีกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน
เป็นการเฉพาะ จงึ จําเปน็ ต้องตราพระราชบญั ญัตินี้

เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๗ ก หนา้ ๑ ๖ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา

กฎกระทรวง

กําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนนิ การด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั
และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานเก่ยี วกับไฟฟา้
พ.ศ. ๒๕๕๘

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหน่ึง และมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ กฎกระทรวงน้ีให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

ขอ้ ๒ ในกฎกระทรวงน้ี
“บรภิ ัณฑไ์ ฟฟา้ ” หมายความว่า อุปกรณ์ เครือ่ งมอื เคร่ืองใช้ วสั ดุ เครื่องประกอบหรือเครื่องจักร
ท่ใี ชไ้ ฟฟ้าเป็นตน้ กาํ ลงั หรือเปน็ ส่วนประกอบ หรือที่ใช้เกยี่ วเนอ่ื งกับไฟฟา้
“ฉนวนไฟฟ้า” หมายความว่า วัสดุที่มีคุณสมบัติในการก้ันหรือขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้า
หรอื วสั ดุทก่ี ระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านไดง้ า่ ย เชน่ ยาง ไฟเบอร์ พลาสติก
“แรงดันไฟฟ้า” หมายความว่า ค่าความต่างศักย์ของไฟฟ้าระหว่างสายกับสายหรือสายกับดิน
หรอื ระหว่างจุดหนงึ่ กบั จดุ อืน่ โดยมหี นว่ ยวัดค่าความตา่ งศกั ย์เป็นโวลต์
“กระแสไฟฟ้า” หมายความว่า การถ่ายโอนประจุไฟฟ้าสุทธิต่อหน่ึงหน่วยเวลา โดยมีหน่วยวัด
เป็นแอมแปร์
“เคร่อื งกาํ เนิดไฟฟา้ ” หมายความวา่ เครื่องจักรท่เี ปลี่ยนพลงั งานใด ๆ เป็นพลังงานไฟฟ้า
“สวิตช์” หมายความว่า เครื่องปิดเปิดวงจรไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่ใช้ทําหน้าที่ตัดหรือ
ต่อวงจรไฟฟา้

เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๗ ก หนา้ ๒ ๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

“การไฟฟา้ ประจําทอ้ งถิ่น” หมายความว่า การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้า
ฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย หรอื หน่วยงานอ่นื ทีอ่ ธิบดปี ระกาศกําหนด

“วิศวกร” หมายความว่า ผู้ซ่ึงได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวิศวกรรมไฟฟา้ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิศวกร

“ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า” หมายความว่า ลูกจ้างซึ่งทําหน้าที่เกี่ยวกับการติดตั้ง
ตรวจสอบ ทดสอบ ซ่อมแซม บํารุงรักษา หรือหน้าท่ีอื่นในลักษณะเดียวกัน กับระบบไฟฟ้า บริภัณฑ์ไฟฟ้า
หรือสายไฟฟ้า

หมวด ๑
บททั่วไป

ข้อ ๓ ให้นายจ้างจัดให้มีข้อบังคับเก่ียวกับการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับไฟฟ้า โดยให้มีมาตรฐานไม่ตํ่ากว่าที่กําหนดไว้ในกฎกระทรวงน้ี
เพอ่ื ให้ลูกจา้ งปฏบิ ัติตาม

ข้อ ๔ ให้นายจ้างจัดให้มีการฝึกอบรมให้กับลูกจ้างซ่ึงปฏิบัติงานเก่ียวกับไฟฟ้าให้มีความรู้
ความเข้าใจ และทักษะที่จําเป็นในการทํางานอย่างปลอดภัยตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย ทั้งน้ี
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไขที่อธิบดีประกาศกาํ หนด

ขอ้ ๕ ให้นายจ้างจัดให้มีและเก็บรักษาแผนผังวงจรไฟฟ้าท่ีติดตั้งภายในสถานประกอบ
กิ จ ก า ร ทั้ ง ห ม ด ซ่ึ ง ไ ด้ รั บ ก า ร รั บ ร อ ง จ า ก วิ ศ ว ก ร ห รื อ ก า ร ไ ฟ ฟ้ า ป ร ะ จํ า ท้ อ ง ถ่ิ น ไ ว้ ใ ห้ พ นั ก ง า น
ตรวจความปลอดภัยตรวจสอบ หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมต้องดําเนินการแก้ไข
แผนผงั นั้นใหถ้ กู ต้อง

ขอ้ ๖ ให้นายจ้างจัดให้มีแผ่นป้ายที่มีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์เตือนให้ระวังอันตราย
จากไฟฟ้าท่ีมองเห็นได้ชัดเจนติดต้ังไว้โดยเปิดเผยในบริเวณท่ีอาจเกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้
ใหเ้ ป็นไปตามแบบทีก่ าํ หนดไว้ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรมหรอื มาตรฐานอื่นตามทอี่ ธบิ ดปี ระกาศกําหนด

ข้อ ๗ ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซ่ึงปฏิบัติงานเก่ียวกับไฟฟ้าเข้าใกล้หรือนําสิ่งที่เป็นตัวนําไฟฟ้า
ท่ีไม่มีที่ถือหุ้มด้วยฉนวนไฟฟ้าท่ีเหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้าเข้าใกล้ส่ิงที่มีกระแสไฟฟ้าในระยะท่ีน้อยกว่า
ระยะห่างตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หากยังไม่มี
มาตรฐานดังกล่าวให้ใช้มาตรฐานตามที่การไฟฟ้าประจําท้องถิ่นกําหนด เว้นแต่นายจ้างจะได้ดําเนินการ
ดังต่อไปน้ี

เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๗ ก หน้า ๓ ๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

(๑) ให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลท่ีเป็นฉนวนไฟฟ้าที่เหมาะสม
กบั แรงดันไฟฟ้า หรือนาํ ฉนวนไฟฟา้ ทส่ี ามารถปอ้ งกนั แรงดันไฟฟ้านัน้ ไดม้ าหุ้มสิ่งทมี่ ีกระแสไฟฟ้า และ

(๒) จัดให้มีวิศวกร หรือกรณีการไฟฟ้าประจําท้องถ่ินอาจจัดให้ผู้ท่ีได้รับการรับรองเป็น
ผู้ควบคุมงานจากการไฟฟา้ ประจําท้องถน่ิ ดงั กล่าว เพ่อื ควบคมุ การปฏบิ ตั งิ านของลูกจ้าง

ขอ้ ๘ ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานอื่นหรืออนุญาตให้ผู้ซึ่งไม่เก่ียวข้องเข้าใกล้ส่ิงท่ีมี
กระแสไฟฟ้าในระยะท่ีน้อยกว่าระยะห่างตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ หากยังไม่มีมาตรฐานดังกลา่ วให้ใชม้ าตรฐานตามที่การไฟฟ้าประจําท้องถนิ่ กําหนด

ข้อ ๙ ให้นายจ้างดูแลมิให้ลูกจ้างสวมใส่เคร่ืองนุ่งห่มท่ีเปียกหรือเป็นส่ือไฟฟ้าปฏิบัติงาน
เกี่ยวกับส่ิงท่ีมีกระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกินกว่าห้าสิบโวลต์ โดยไม่มีฉนวนไฟฟ้าปิดกั้น เว้นแต่
นายจ้างจะได้จัดให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตราย
ท่ีเหมาะสมกบั แรงดนั ไฟฟ้าสาํ หรับการปฏบิ ัติงานของลกู จ้าง

ขอ้ ๑๐ ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทํางานโดยใช้อุปกรณ์ในการปฏิบัติงานเก่ียวกับกระแสไฟฟ้า
หรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสิ่งท่ีมีกระแสไฟฟ้า ให้นายจ้างจัดหาอุปกรณ์ชนิดท่ีเป็นฉนวนไฟฟ้า
หรือหุ้มด้วยฉนวนไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้าสําหรับการปฏิบัติงาน
ของลกู จ้าง

ขอ้ ๑๑ ให้นายจ้างดูแลบริภัณฑ์ไฟฟ้าและสายไฟฟ้าให้ใช้งานได้โดยปลอดภัย หากพบว่าชํารุด
หรือมีกระแสไฟฟ้าร่ัว หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งาน ให้ซ่อมแซมหรือดําเนินการให้อยู่ในสภาพ
ท่ีใช้งานได้อย่างปลอดภัย และจัดให้มีหลักฐานในการดําเนินการเพื่อให้พนักงานตรวจความปลอดภัย
ตรวจสอบได้

ขอ้ ๑๒ นายจา้ งตอ้ งจดั ใหม้ กี ารตรวจสอบและจัดให้มีการบาํ รุงรกั ษาระบบไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้า
เพ่ือให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย และให้บุคคลที่ข้ึนทะเบียนตามมาตรา ๙ หรือนิติบุคคลท่ีได้รับ
ใบอนุญาตตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วแต่กรณี เป็นผู้จัดทําบันทึกผลการตรวจสอบและรับรองไว้ เพ่ือให้
พนักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทอี่ ธบิ ดีประกาศกําหนด

ข้อ ๑๓ ใหน้ ายจ้างจัดให้มีแผ่นภาพพร้อมคําบรรยายติดไว้ในบริเวณที่ทํางานท่ีลูกจ้างสามารถ
มองเห็นได้ชัดเจนในเรือ่ ง ดังต่อไปน้ี

(๑) วิธปี ฏบิ ตั เิ มอ่ื ประสบอันตรายจากไฟฟ้า
(๒) การปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานโดยการผายปอดด้วยวิธีปากเป่าอากาศ
เข้าทางปากหรือจมกู ของผปู้ ระสบอนั ตราย และวธิ ีการนวดหัวใจจากภายนอก

เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๗ ก หนา้ ๔ ๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๒
บริภณั ฑ์ไฟฟ้าและเครือ่ งกําเนดิ ไฟฟ้า

ข้อ ๑๔ การติดต้ังบริภัณฑ์ไฟฟ้า ให้นายจ้างปฏิบัติตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถาน
แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หากยังไม่มีมาตรฐานดังกล่าวให้ใช้มาตรฐานตามท่ีการไฟฟ้า
ประจําท้องถน่ิ กําหนด

ข้อ ๑๕ ให้นายจ้างจัดให้มีการใช้กุญแจป้องกันการสับสวิตช์เช่ือมต่อวงจร หรือจัดให้มีระบบ
ระวังป้องกันมิให้เกิดการสับสวิตช์เช่ือมต่อวงจรตลอดเวลาท่ีลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าทํางาน
ติดตั้ง ตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือซ่อมบํารุงระบบไฟฟ้าหรือบริภัณฑ์ไฟฟ้า และให้ติดป้ายแสดง
เคร่อื งหมายหรอื สัญลกั ษณห์ า้ มสบั สวิตช์เชอื่ มตอ่ วงจรไวด้ ้วย

ขอ้ ๑๖ ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างทําความสะอาดบริภัณฑ์ไฟฟ้าท่ีมีกระแสไฟฟ้า เว้นแต่
มมี าตรการดา้ นความปลอดภัยรองรบั ไว้อย่างครบถว้ น

ขอ้ ๑๗ ในกรณีที่ส่วนของบริภัณฑ์ไฟฟ้าใช้แรงดันไฟฟ้าเกินกว่าห้าสิบโวลต์ให้นายจ้างจัดให้มี
ทีป่ ดิ กน้ั อันตรายหรอื จดั ใหม้ ีแผ่นฉนวนไฟฟ้าปไู วท้ พี่ นื้ เพ่อื ป้องกนั อนั ตรายจากการสมั ผัส

ขอ้ ๑๘ ให้นายจ้างติดต้ังเต้ารับ สายไฟฟ้า อุปกรณ์ และเคร่ืองป้องกันกระแสไฟฟ้าเกิน
ที่มีขนาด ชนิด และประเภทที่เหมาะสมไว้ให้เพียงพอแก่การใช้งาน ท้ังนี้ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หากยังไม่มีมาตรฐานดังกล่าว
ใหใ้ ชม้ าตรฐานตามท่กี ารไฟฟา้ ประจาํ ท้องถน่ิ กําหนด

ขอ้ ๑๙ การใชเ้ ครือ่ งกําเนดิ ไฟฟา้ ให้นายจา้ งปฏิบัติ ดงั ตอ่ ไปนี้
(๑) ตดิ ตั้งในบรเิ วณพนื้ ท่กี ว้างพอทจ่ี ะปฏิบัตงิ านได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
(๒) จัดให้มีการระบายอากาศอย่างเพียงพอ กรณีติดต้ังเครื่องกําเนิดไฟฟ้าไว้ภายในห้อง
หากมไี อเสียจากเครือ่ งยนตใ์ หต้ อ่ ทอ่ ไอเสยี ออกส่ภู ายนอก
(๓) จดั ใหม้ เี คร่อื งป้องกนั กระแสไฟฟ้าเกิน
(๔) จัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงชนิดท่ีใช้ดับเพลิงที่เกิดจากไฟฟ้าและนํ้ามันในห้องเครื่องได้ ทั้งน้ี
การออกแบบและติดต้งั ให้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมวศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์
ในกรณีการใช้เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้าสํารอง นอกจากต้องปฏิบัติตามวรรคหน่ึงแล้ว นายจ้างต้องจัดให้มี
เคร่อื งป้องกนั การใช้ผดิ หรอื สวติ ชส์ ับโยกสองทาง หรอื อปุ กรณ์อย่างอ่ืนที่มีคุณลักษณะเดียวกัน เพื่อมิให้
มีโอกาสต่อขนานกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าประจําท้องถ่ิน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้า
ประจาํ ทอ้ งถิน่ น้ัน

เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๗ ก หน้า ๕ ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๓
ระบบป้องกนั ฟ้าผ่า

ข้อ ๒๐ ให้นายจ้างจัดให้มีระบบป้องกันฟ้าผ่าตามมาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่าของสมาคม
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือมาตรฐานสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ
สหรัฐอเมริกา (National Fire Protection Association : NFPA) หรือมาตรฐานคณะกรรมาธิการ
ระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอเทคนิกส์ (International Electrotechnical
Commission : IEC) หรือมาตรฐานอื่นตามที่อธิบดีประกาศกําหนด ไว้ที่สถานประกอบกิจการ
อาคาร ปลอ่ งควัน รวมถึงบริเวณทีม่ ถี ังเกบ็ ของเหลวไวไฟหรอื ก๊าซไวไฟ

หมวด ๔
อปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบคุ คล
และอปุ กรณป์ อ้ งกันอนั ตรายจากไฟฟา้

ขอ้ ๒๑ ให้นายจ้างจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลท่ีเหมาะสมกับลักษณะงาน
เช่น ถุงมือหนัง ถุงมือยาง แขนเสื้อยาง หมวกนิรภัย รองเท้าพื้นยางหุ้มข้อชนิดมีส้นหรือรองเท้า
พ้ืนยางหุ้มส้น ให้ลูกจ้างซ่ึงปฏิบัติงานเก่ียวกับไฟฟ้าสวมใส่ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานและจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกัน
อันตรายจากไฟฟ้าที่เหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น แผ่นฉนวนไฟฟ้า ฉนวนหุ้มสาย ฉนวนครอบลูกถ้วย
กรงฟาราเดย์ (Faraday Cage) ชดุ ตวั นาํ ไฟฟ้า (Conductive Suit)

ในกรณีที่ลูกจ้างต้องปฏิบัติงานในท่ีสูงกว่าพื้นตั้งแต่ส่ีเมตรข้ึนไป ให้นายจ้างจัดให้มีการใช้สาย
หรือเชือกช่วยชีวิตและเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์ หรืออุปกรณ์ท่ีป้องกันการตกจากที่สูงได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และหมวกนิรภัยที่เหมาะสมตามมาตรฐานท่ีกําหนดสําหรับให้ลูกจ้างสวมใส่ตลอดเวลา
ท่ีปฏิบัติงาน เว้นแต่อุปกรณ์ดังกล่าวจะทําให้ลูกจ้างเส่ียงต่ออันตรายมากข้ึน ให้นายจ้างจัดให้มีอุปกรณ์
เพื่อความปลอดภัยอนื่ ท่สี ามารถใชค้ ุ้มครองความปลอดภัยได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพแทน

ขอ้ ๒๒ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า
ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดไวแ้ ละต้องมีคณุ สมบัติ ดงั ต่อไปน้ี

(๑) อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันกระแสไฟฟ้า
ตอ้ งเหมาะสมกบั แรงดนั ไฟฟา้ สูงสุดในบรเิ วณที่ปฏิบตั ิงานหรอื บริเวณใกล้เคียงท่ีอาจก่อให้เกดิ อันตรายได้

(๒) ถุงมอื ยางปอ้ งกนั ไฟฟา้ ต้องมลี ักษณะสวมกบั นิ้วมอื ไดท้ กุ น้วิ

เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๗ ก หนา้ ๖ ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา

(๓) ถงุ มือหนงั ทใ่ี ชส้ วมทับถงุ มอื ยาง ตอ้ งมคี วามยาวหุ้มถึงข้อมือและมีความคงทนต่อการฉีกขาดได้ดี
การใช้ถุงมือยางตอ้ งใช้รว่ มกับถุงมือหนังทกุ คร้ังทปี่ ฏิบัตงิ าน

ข้อ ๒๓ การปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าท่ีอยู่ใกล้หรือเหนือน้ําซ่ึงอาจทําให้ลูกจ้างเกิดอันตราย
จากการจมนํ้า ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างสวมใส่ชูชีพกันจมน้ํา เว้นแต่การสวมใส่ชูชีพอาจทําให้ลูกจ้าง
ได้รับอันตรายมากกว่าเดิม ให้นายจ้างใช้วิธีการอ่ืนท่ีสามารถคุ้มครองความปลอดภัยได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพแทน

ข้อ ๒๔ นายจ้างต้องบํารุงรักษาและจัดเก็บอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งต้องตรวจสอบ
และทดสอบตามมาตรฐานและวิธที ี่ผผู้ ลิตกําหนด

บทเฉพาะกาล

ขอ้ ๒๕ ให้วิศวกรตามคํานิยาม “วิศวกร” ในกฎกระทรวงน้ี เป็นผู้ตรวจสอบและรับรอง
การดําเนินการตามข้อ ๑๒ จนกว่าจะได้มีบุคคลท่ีขึ้นทะเบียนตามมาตรา ๙ หรือนิติบุคคลได้รับ
ใบอนุญาตตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วแต่กรณี

ให้ไว้ ณ วันท่ี ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก สุรศักด์ิ กาญจนรัตน์
รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงแรงงาน

เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๗ ก หนา้ ๗ ๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ีมาตรา ๘ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติ
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงแรงงานมีอํานาจออกกฎกระทรวงกําหนดให้นายจ้างบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ซ่ึงในการทํางานเกี่ยวกับไฟฟ้าสมควรจะต้องมีระบบการบริหาร
จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ท่ีได้มาตรฐาน
อันจะทาํ ให้ลกู จา้ งมคี วามปลอดภยั ในการทํางานเกี่ยวกบั ไฟฟา้ ย่งิ ขึน้ จงึ จําเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑๒ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกิจจานุเบกษา

กฎกระทรวง

กำหนดมำตรฐำนในกำรบรหิ ำร จดั กำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภยั
อำชวี อนำมัย และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนเกย่ี วกับท่อี ับอำกำศ
พ.ศ. ๒๕๖๒

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ วรรคหนง่ึ และมำตรำ ๘ วรรคหนงึ่ แหง่ พระรำชบญั ญตั ิ
ควำมปลอดภัย อำชวี อนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำน พ.ศ. ๒๕๕๔ รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงแรงงำน
ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงน้ี
“ท่ีอับอำกำศ” (Confined Space) หมำยควำมว่ำ ท่ีซ่ึงมีทำงเข้ำออกจำกัดและไม่ได้ออกแบบไว้
สำหรับเป็นสถำนที่ทำงำนอย่ำงต่อเนื่องเป็นประจำ และมีสภำพอันตรำยหรือมีบรรยำกำศอันตรำย
เช่น อุโมงค์ ถ้ำ บ่อ หลุม ห้องใต้ดิน ห้องนิรภัย ถังน้ำมัน ถังหมัก ถัง ไซโล ท่อ เตำ ภำชนะ
หรือสิง่ อนื่ ท่ีมีลักษณะคล้ำยกนั
“สภำพอนั ตรำย” หมำยควำมวำ่ สภำพหรอื สภำวะทอ่ี ำจทำใหล้ กู จำ้ งไดร้ ับอันตรำยจำกกำรทำงำน
อยำ่ งหน่งึ อยำ่ งใด ดงั ตอ่ ไปนี้
(๑) มีวตั ถุหรือวสั ดทุ ่อี ำจกอ่ ใหเ้ กดิ กำรจมลงของลูกจ้ำงหรอื ถมทบั ลกู จ้ำงท่ีเขำ้ ไปทำงำน
(๒) มีสภำพท่อี ำจทำใหล้ ูกจำ้ งตก ถูกกัก หรอื ตดิ อยภู่ ำยใน
(๓) มสี ภำวะที่ลูกจำ้ งมีควำมเส่ียงท่จี ะได้รับอันตรำยจำกบรรยำกำศอันตรำย
(๔) สภำพอื่นใดทอี่ ำจเปน็ อนั ตรำยตอ่ ร่ำงกำยหรอื ชีวติ ตำมท่ีอธบิ ดีประกำศกำหนด
“บรรยำกำศอันตรำย” หมำยควำมว่ำ สภำพอำกำศท่ีอำจทำให้ลูกจ้ำงไดร้ ับอันตรำยจำกสภำวะ
อย่ำงหน่งึ อย่ำงใด ดงั ตอ่ ไปนี้
(๑) มอี อกซเิ จนตำ่ กวำ่ ร้อยละ ๑๙.๕ หรอื มำกกวำ่ รอ้ ยละ ๒๓.๕ โดยปรมิ ำตร
(๒) มีก๊ำซ ไอ หรอื ละอองทีต่ ดิ ไฟหรอื ระเบดิ ได้ เกนิ ร้อยละ ๑๐ ของค่ำควำมเขม้ ขน้ ขน้ั ตำ่
ของสำรเคมีแต่ละชนิดในอำกำศท่ีอำจติดไฟหรือระเบิดได้ (lower flammable limit หรือ lower
explosive limit)

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑๓ ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ราชกิจจานเุ บกษา

(๓) มีฝุ่นที่ติดไฟหรือระเบิดได้ ซ่ึงมีค่ำควำมเข้มข้นเท่ำกับหรือมำกกว่ำค่ำควำมเข้มข้นข้ันต่ำสดุ
ของฝ่นุ ทตี่ ดิ ไฟหรอื ระเบดิ ได้แตล่ ะชนิด (minimum explosible concentration)

(๔) มีค่ำควำมเข้มข้นของสำรเคมีแต่ละชนิดเกินมำตรฐำนที่กำหนดตำมกฎกระทรวงว่ำด้วย
กำรกำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย
และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเกี่ยวกบั สำรเคมีอันตรำย

(๕) สภำวะอน่ื ใดทอ่ี ำจเป็นอันตรำยตอ่ ร่ำงกำยหรอื ชวี ิตตำมท่ีอธิบดปี ระกำศกำหนด

หมวด ๑
บททั่วไป

ข้อ ๒ ใหน้ ำยจ้ำงจัดทำปำ้ ยแจง้ ขอ้ ควำมวำ่ “ท่อี บั อำกำศ อนั ตรำย หำ้ มเข้ำ” ให้มีขนำด
มองเห็นได้ชัดเจน ติดต้ังไว้โดยเปิดเผยบริเวณทำงเข้ำออกของท่ีอับอำกำศทุกแห่ง สำหรับที่อับอำกำศ
ซ่ึงต้องมีอุปกรณ์เฉพำะในกำรเปิดทำงเข้ำออก ให้นำยจ้ำงจัดให้มีมำตรกำรควบคุมเพื่อควำมปลอดภัย
ในกำรเปิดทำงเขำ้ ออกและตอ้ งติดป้ำยแจง้ ขอ้ ควำมดังกล่ำวดว้ ย

ขอ้ ๓ ห้ำมนำยจ้ำงให้ลูกจ้ำงหรือบุคคลใดเข้ำไปในท่ีอับอำกำศ เว้นแต่นำยจ้ำงได้ดำเนินกำร
ให้มีควำมปลอดภัยตำมกฎกระทรวงนีแ้ ล้ว และลูกจ้ำงหรือบุคคลนนั้ ได้รับอนญุ ำตจำกผู้มหี นำ้ ที่รับผิดชอบ
ในกำรอนุญำตตำมข้อ ๑๗ และเป็นผู้ได้รับกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในท่ีอับอำกำศ
ตำมขอ้ ๒๐

ข้อ ๔ ห้ำมนำยจ้ำงอนุญำตให้ลูกจ้ำงหรือบุคคลใดเข้ำไปในที่อับอำกำศ หำกนำยจ้ำงรู้
หรือควรรูว้ ่ำลูกจ้ำงหรือบุคคลน้ันเป็นโรคเกี่ยวกบั ทำงเดนิ หำยใจ โรคหัวใจ หรือโรคอ่ืนซง่ึ แพทย์เหน็ วำ่
กำรเข้ำไปในที่อับอำกำศอำจเปน็ อันตรำยตอ่ บุคคลดงั กล่ำว

หมวด ๒
มำตรกำรควำมปลอดภัย

ขอ้ ๕ ให้นำยจ้ำงจัดให้มีกำรประเมินสภำพอันตรำยในท่ีอับอำกำศ หำกพบว่ำมีสภำพอันตรำย
นำยจ้ำงต้องจัดใหม้ ีมำตรกำรควบคุมสภำพอันตรำยเพ่ือให้เกิดควำมปลอดภัยตอ่ ลูกจำ้ ง และใหน้ ำยจ้ำง
เก็บหลักฐำนกำรดำเนินกำรไว้ ณ สถำนประกอบกิจกำร หรือสถำนที่ทำงำน เพื่อให้พนักงำน
ตรวจควำมปลอดภยั ตรวจสอบได้

ขอ้ ๖ ให้นำยจ้ำงจัดให้มีกำรตรวจวัด บันทึกผลกำรตรวจวัด และประเมินสภำพอำกำศ
ในที่อับอำกำศก่อนให้ลูกจ้ำงเข้ำไปทำงำนและในระหว่ำงที่ลูกจ้ำงทำงำนในที่อับอำกำศ หำกพบว่ำ
มีสภำวะทเ่ี ปน็ บรรยำกำศอนั ตรำย ใหน้ ำยจ้ำงดำเนนิ กำร ดงั ตอ่ ไปนี้

(๑) ห้ำมบุคคลใดเขำ้ ไปในท่อี ับอำกำศ
(๒) กรณที ี่มีลกู จำ้ งอยรู่ ะหวำ่ งกำรทำงำนในท่ีอับอำกำศ ให้นำลูกจ้ำงออกจำกบรเิ วณนนั้ ทนั ที

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๘ ก หน้า ๑๔ ๑๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานุเบกษา

(๓) ประเมินและคน้ หำสำเหตุของกำรเกิดบรรยำกำศอันตรำย
(๔) ดำเนินกำรเพ่ือทำให้สภำพอำกำศในที่อับอำกำศน้ันไม่มีบรรยำกำศอันตรำย เช่น
กำรระบำยอำกำศหรือกำรปฏบิ ัติตำมมำตรกำรอื่นเพ่อื ให้เกดิ ควำมปลอดภัยในกำรทำงำนแก่ลกู จำ้ ง
ให้นำยจ้ำงเก็บบันทึกผลกำรตรวจวัด กำรประเมินสภำพอำกำศ และกำรดำเนินกำรเพ่ือให้
สภำพอำกำศในท่ีอับอำกำศไม่มีบรรยำกำศอันตรำยไว้ ณ สถำนประกอบกิจกำร หรือสถำนท่ีทำงำน
เพ่อื ใหพ้ นกั งำนตรวจควำมปลอดภัยตรวจสอบไดอ้ ยำ่ งนอ้ ยหนงึ่ ปี
ขอ้ ๗ หำกนำยจ้ำงได้ดำเนินกำรตำมข้อ ๖ แล้ว ท่ีอับอำกำศยังมีบรรยำกำศอันตรำยอยู่
แต่นำยจ้ำงมีควำมจำเป็นที่จะตอ้ งให้ลูกจ้ำงหรือบุคคลใดเข้ำไปในท่ีอับอำกำศที่มีบรรยำกำศอนั ตรำยน้ัน

ใหน้ ำยจำ้ งจัดใหล้ ูกจ้ำงหรอื บคุ คลนัน้ สวมใส่หรอื ใช้อุปกรณ์ค้มุ ครองควำมปลอดภัยสว่ นบุคคลทเ่ี หมำะสม
กบั ลกั ษณะงำน และใชอ้ ปุ กรณก์ ำรทำงำนชนดิ ท่ที ำใหบ้ ุคคลดงั กล่ำวทำงำนในท่อี ับอำกำศไดโ้ ดยปลอดภยั

ข้อ ๘ กรณีที่นำยจ้ำงให้ลูกจ้ำงทำงำนในท่ีอับอำกำศ นำยจ้ำงต้องจัดให้มีลูกจ้ำงซึ่งได้รับ
กำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในท่ีอับอำกำศตำมข้อ ๒๐ คนหน่ึงหรือหลำยคนตำมควำมจำเป็น
เป็นผู้ควบคุมงำนประจำในบรเิ วณพน้ื ทท่ี ำงำนตลอดเวลำเพ่อื ทำหน้ำที่ ดงั ต่อไปนี้

(๑) จัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและกำรป้องกันอันตรำยท่ีอำจเกิดข้ึนจำกกำรทำงำนและ
แผนช่วยเหลอื ผู้ปฏิบตั งิ ำนในกรณเี กดิ เหตฉุ กุ เฉนิ และปดิ ประกำศหรอื แจง้ ให้ลกู จำ้ งทรำบเปน็ ลำยลกั ษณอ์ กั ษร

(๒) ช้ีแจงและซักซ้อมหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ วิธีกำรปฏิบัติงำน และวิธีกำรป้องกันอันตรำย
ใหเ้ ปน็ ไปตำมแผนทีก่ ำหนดไว้

(๓) ควบคุมดแู ลให้ลกู จ้ำงใช้เครือ่ งปอ้ งกันอันตรำยและอุปกรณค์ มุ้ ครองควำมปลอดภยั สว่ นบุคคล
และใหต้ รวจตรำอปุ กรณ์ดังกลำ่ วใหอ้ ยูใ่ นสภำพพรอ้ มทีจ่ ะใช้งำน

(๔) ส่ังให้หยุดกำรทำงำนไว้ชว่ั ครำวในทันที ในกรณีที่มีเหตุซ่ึงอำจก่อให้เกิดอันตรำยต่อลูกจำ้ ง

หรือลูกจ้ำงแจ้งว่ำอำจเกิดอันตรำย จนกว่ำเหตนุ ้ันจะหมดไป และหำกจำเปน็ จะขอให้ผ้มู ีหนำ้ ทีร่ ับผิดชอบ
ในกำรอนุญำตตำมขอ้ ๑๗ ยกเลิกกำรอนญุ ำตใหล้ ูกจำ้ งทำงำนในทอี่ ับอำกำศน้ันเสียก็ได้

ผ้คู วบคุมงำนตำมวรรคหนงึ่ อำจทำหน้ำที่ควบคุมกำรทำงำนในที่อับอำกำศหลำยจุด กำรทำงำน
ในบริเวณพื้นทีเ่ ดยี วกนั ในครำวเดียวกันกไ็ ด้ ทงั้ นี้ ตอ้ งสำมำรถมำถงึ แตล่ ะจดุ กำรทำงำนได้อยำ่ งรวดเร็ว
ในทันทีทม่ี เี หตุฉุกเฉิน

ขอ้ ๙ ให้นำยจ้ำงดำเนนิ กำร ดังต่อไปนี้
(๑) จัดให้มีอุปกรณ์คุ้มครองควำมปลอดภัยส่วนบุคคล อุปกรณ์ช่วยเหลือ และช่วยชีวิต
ท่ีเหมำะสมกับลักษณะงำนตำมมำตรฐำนที่กำหนดตำมกฎหมำยว่ำด้วยควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย
และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน และต้องควบคมุ ดูแลใหล้ ูกจ้ำงซ่ึงทำงำนในทอ่ี ับอำกำศและผูช้ ว่ ยเหลือ
สวมใสห่ รือใช้อุปกรณค์ มุ้ ครองควำมปลอดภัยส่วนบคุ คลและอปุ กรณ์ชว่ ยเหลอื และชว่ ยชวี ติ นั้น
(๒) จดั ให้ลูกจ้ำงซึง่ ไดร้ ับกำรฝกึ อบรมควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนในที่อบั อำกำศตำมขอ้ ๒๐
คนหน่ึงหรือหลำยคนตำมควำมจำเป็น เป็นผู้ช่วยเหลือ พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือและช่วยชีวิต

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑๕ ๑๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกิจจานุเบกษา

ที่เหมำะสมกับลกั ษณะงำน คอยเฝ้ำดแู ลบริเวณทำงเขำ้ ออกท่อี บั อำกำศ โดยใหส้ ำมำรถติดต่อสอ่ื สำรกบั
ลกู จ้ำงทีท่ ำงำนในท่อี บั อำกำศและชว่ ยเหลอื ลูกจ้ำงออกจำกทอี่ ับอำกำศได้ตลอดเวลำ

ข้อ ๑๐ ให้นำยจ้ำงจัดให้มีสิ่งปิดกน้ั ท่ีสำมำรถป้องกันมใิ ห้บคุ คลใดเข้ำหรือตกลงไปในท่ีอับอำกำศ
ท่มี ลี ักษณะเป็นชอ่ ง โพรง หลมุ ถงั เปิด หรือสิ่งอ่ืนทม่ี ีลักษณะคลำ้ ยกัน

ข้อ ๑๑ กรณีที่ที่อบั อำกำศที่ใหล้ ูกจ้ำงทำงำนมีผนังตอ่ หรือมีโอกำสทพ่ี ลังงำน สำร หรือสง่ิ ที่
เป็นอนั ตรำยจะรวั่ ไหลเข้ำสู่บรเิ วณที่อบั อำกำศท่ที ำงำนอยู่ ให้นำยจ้ำงปดิ กน้ั หรือกระทำโดยวิธีกำรอ่นื ใด
ท่ีมผี ลในกำรป้องกนั มใิ ห้พลังงำน สำร หรอื สงิ่ ท่เี ปน็ อันตรำยเข้ำสู่บรเิ วณท่อี ับอำกำศในระหวำ่ งที่ลกู จำ้ ง
กำลังทำงำน

ข้อ ๑๒ ให้นำยจ้ำงจัดบริเวณทำงเดินหรือทำงเข้ำออกท่ีอับอำกำศให้มีควำมสะดวก
และปลอดภัย

ข้อ ๑๓ ใหน้ ำยจ้ำงประกำศห้ำมลกู จำ้ งหรอื บคุ คลใดสบู บุหรี่ หรือพกพำอปุ กรณส์ ำหรับจุดไฟ
หรอื ตดิ ไฟทีไ่ ม่เก่ียวขอ้ งกับกำรทำงำนเขำ้ ไปในที่อบั อำกำศ โดยปิดหรือแสดงไวบ้ ริเวณทำงเขำ้ ออกทอี่ ับอำกำศ

ขอ้ ๑๔ ให้นำยจ้ำงจัดให้มีอุปกรณ์ไฟฟ้ำท่ีเหมำะสมในกำรใช้งำนในที่อับอำกำศและ
ตรวจสอบให้อุปกรณ์ไฟฟ้ำนั้นมีสภำพสมบูรณ์และปลอดภัยพร้อมใช้งำน ในกรณีท่ีที่อับอำกำศน้ัน
มีบรรยำกำศอันตรำยทไ่ี วไฟหรอื ระเบิดได้ ต้องเป็นอปุ กรณไ์ ฟฟ้ำชนิดท่ีไมเ่ ป็นต้นเหตุท่ีก่อให้เกิดกำรติดไฟ
หรอื ระเบิดได้

ข้อ ๑๕ ให้นำยจ้ำงจัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงท่ีเหมำะสมและมีประสิทธิภำพในจำนวนเพียงพอ
ที่จะใชไ้ ดท้ นั ทีทมี่ ีกำรทำงำนท่อี ำจกอ่ ใหเ้ กดิ กำรลกุ ไหม้

ขอ้ ๑๖ หำ้ มนำยจ้ำงอนุญำตใหล้ กู จ้ำงทำงำนต่อไปนี้ในท่ีอับอำกำศ
(๑) งำนที่ก่อให้เกิดควำมร้อนหรือประกำยไฟในท่ีอับอำกำศ เช่น กำรเชื่อม กำรเผำไหม้
กำรย้ำหมุด กำรเจำะ กำรขดั หรืองำนอนื่ ทมี่ ลี ักษณะคลำ้ ยกนั
(๒) งำนทใ่ี ชส้ ำรระเหยง่ำย สำรพษิ หรอื สำรไวไฟ
มิให้นำควำมในวรรคหนึ่งมำใช้บังคับกับกรณีที่นำยจ้ำงได้จัดให้มีมำตรกำรค วำมปลอดภัย
ตำมกฎกระทรวงน้ี ทั้งนี้ ลูกจ้ำงผู้ปฏิบัติงำนอำจปฏิเสธกำรทำงำนในครำวใดก็ได้ หำกเห็นว่ำกำรทำงำน
ในครำวนน้ั ไม่มมี ำตรกำรรองรับเพ่ือใหเ้ กิดควำมปลอดภยั ตอ่ ลูกจำ้ ง

หมวด ๓
กำรอนญุ ำต

ขอ้ ๑๗ ให้นำยจ้ำงเป็นผู้มีหน้ำท่ีรับผิดชอบในกำรอนุญำตให้ลูกจ้ำงทำงำนในที่อับอำกำศ
ในกำรน้ี นำยจ้ำงจะมอบหมำยเป็นหนังสือให้ลูกจ้ำงซึ่งได้รับกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำน
ในที่อับอำกำศตำมข้อ ๒๐ คนหน่ึงหรือหลำยคนตำมควำมจำเป็น เป็นผู้มีหน้ำที่รับผิดชอบใน
กำรอนุญำตแทนก็ได้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๘ ก หน้า ๑๖ ๑๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานเุ บกษา

ให้นำยจ้ำงเก็บหนังสือมอบหมำยไว้ ณ สถำนประกอบกิจกำร หรือสถำนที่ทำงำน เพ่ือให้
พนักงำนตรวจควำมปลอดภยั ตรวจสอบได้

ข้อ ๑๘ ใหน้ ำยจ้ำงจัดให้มีหนงั สืออนญุ ำตใหล้ ูกจ้ำงทำงำนในทีอ่ ับอำกำศทุกคร้งั โดยอย่ำงนอ้ ย
ต้องมีรำยละเอยี ด ดังต่อไปนี้

(๑) ท่ีอับอำกำศที่อนุญำตใหล้ กู จำ้ งเขำ้ ไปทำงำน
(๒) วนั เวลำในกำรทำงำน
(๓) งำนทใ่ี ห้ลูกจ้ำงเขำ้ ไปทำ
(๔) ช่อื ลูกจ้ำงท่ีอนญุ ำตใหเ้ ขำ้ ไปทำงำน
(๕) ช่อื ผ้คู วบคุมงำนตำมข้อ ๘
(๖) ชื่อผชู้ ่วยเหลือตำมขอ้ ๙ (๒)
(๗) อนั ตรำยท่ลี กู จำ้ งอำจได้รบั และวิธีกำรปฏิบัตติ นและกำรชว่ ยเหลอื ลกู จำ้ งออกจำกทอ่ี ับอำกำศ
ในกรณฉี กุ เฉนิ และวิธีกำรหลกี หนีภัย
(๘) ผลกำรประเมินสภำพอนั ตรำยและบรรยำกำศอนั ตรำย
(๙) มำตรกำรควำมปลอดภยั ท่ีเตรียมไวก้ ่อนกำรให้ลูกจ้ำงเข้ำไปทำงำน
(๑๐) อปุ กรณค์ ุ้มครองควำมปลอดภยั ส่วนบุคคล และอปุ กรณช์ ่วยเหลือและช่วยชวี ติ
(๑๑) ชื่อและลำยมือชื่อผู้ขออนุญำต และชื่อและลำยมือช่ือผู้มีหน้ำที่รับผิดชอบในกำรอนุญำต
ตำมข้อ ๑๗
(๑๒) ผลกำรตรวจสุขภำพของลกู จ้ำงทีท่ ำงำนในทอี่ บั อำกำศโดยมีใบรบั รองแพทย์
ข้อ ๑๙ ให้นำยจ้ำงเก็บหนังสืออนุญำตให้ลูกจ้ำงทำงำนในท่ีอับอำกำศตำมข้อ ๑๘ ไว้
ณ สถำนประกอบกิจกำรหรือสถำนที่ทำงำน เพื่อให้พนักงำนตรวจควำมปลอดภัยตรวจสอบได้และ
ใหป้ ดิ หรือแสดงสำเนำหนังสอื ดังกล่ำวไวท้ บี่ รเิ วณทำงเขำ้ ท่ีอบั อำกำศใหเ้ หน็ ชัดเจนตลอดเวลำที่ลกู จ้ำงทำงำน

หมวด ๔
กำรฝึกอบรม

ขอ้ ๒๐ ใหน้ ำยจ้ำงจัดให้มีกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในทีอ่ ับอำกำศแก่ลกู จำ้ งทุกคน
ท่ีทำงำนในท่ีอับอำกำศรวมทั้งผู้ท่ีเก่ียวข้อง ให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจในทักษะท่ีจำเป็นในกำรทำงำน
อย่ำงปลอดภัยตำมหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำย พร้อมทั้งวิธีกำรและข้ันตอนในกำรปฏิบัติงำน
ตำมหลักเกณฑ์ วธิ ีกำร และหลกั สูตรท่อี ธบิ ดีประกำศกำหนด

ในกรณีที่นำยจ้ำงไม่สำมำรถดำเนินกำรฝึกอบรมตำมวรรคหน่ึงได้เอง จะต้องให้นิติบุคคล
ทไ่ี ด้รับใบอนุญำตตำมมำตรำ ๑๑ เปน็ ผู้ดำเนินกำร

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑๗ ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานเุ บกษา

ข้อ ๒๑ ให้นำยจ้ำงเก็บหลักฐำนกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในท่ีอับอำกำศ
ตำมข้อ ๒๐ ไว้ ณ สถำนประกอบกิจกำรหรือสถำนท่ีทำงำน เพื่อให้พนักงำนตรวจควำมปลอดภัย
ตรวจสอบได้

บทเฉพำะกำล

ข้อ ๒๒ ให้ประกำศกรมสวัสดิกำรและค้มุ ครองแรงงำน เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีกำร และหลกั สูตร
กำรฝกึ อบรมควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนในท่ีอบั อำกำศ พ.ศ. ๒๕๔๙ และที่แก้ไขเพ่มิ เตมิ ใชไ้ ด้ต่อไป
เทำ่ ท่ีไมข่ ัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ จนกว่ำจะมีประกำศตำมข้อ ๒๐ ใชบ้ งั คับ

ให้หนว่ ยงำนฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในที่อับอำกำศทีไ่ ดข้ น้ึ ทะเบยี น ตำมประกำศ
กรมสวัสดกิ ำรและคมุ้ ครองแรงงำน เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีกำรและหลักสตู รกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัย
ในกำรทำงำนในที่อับอำกำศ พ.ศ. ๒๕๔๙ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
ดำเนินกำรตำมประกำศดังกล่ำวต่อไป และให้ถือเป็นนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญำตตำมมำตรำ ๑๑
ตำมข้อ ๒๐ วรรคสอง จนกว่ำจะมนี ิติบคุ คลท่ไี ดร้ บั ใบอนญุ ำตตำมมำตรำ ๑๑ ดำเนินกำร

ข้อ ๒๓ ในกรณีที่นำยจ้ำงจัดให้มีกำรฝึกอบรมควำมปลอดภัยในกำรทำงำนในท่ีอับอำกำศ
ตำมกฎกระทรวงกำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำรและกำรจัดกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย
และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนในที่อับอำกำศ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้ถือว่ำนำยจ้ำงได้จัดให้มีกำรฝึกอบรม
แก่ลูกจ้ำงและลูกจ้ำงไดร้ บั กำรฝกึ อบรมตำมข้อ ๒๐ แลว้

ให้ไว้ ณ วนั ที่ 11 กมุ ภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖2
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสงิ แกว้

รฐั มนตรีวำ่ กำรกระทรวงแรงงำน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑๘ ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานุเบกษา

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยท่ีมำตรำ ๘ วรรคหน่ึง แห่งพระรำชบัญญัติ
ควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้นำยจ้ำงบริหำร
จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนให้เป็นไป
ตำมมำตรฐำนที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งในกำรทำงำนเก่ียวกับที่อับอำกำศสมควรจะต้องมีระบบกำรบริหำร
จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัย และสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนที่ได้มำตรฐำน
อันจะทำให้ลูกจ้ำงและผู้เกี่ยวข้องมีควำมปลอดภัยในกำรทำงำนเก่ียวกับท่ีอับอำกำศมำกยิ่งข้ึน จึงจำเป็นต้อง
ออกกฎกระทรวงน้ี

หน้า ๒๗ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๓ ง ราชกิจจานุเบกษา

ประกาศกรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน

เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขการคานวณออกแบบและควบคมุ การใชน้ ง่ั ร้านโดยวศิ วกร

โดยท่ีกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนนิ การด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ียวกับน่ังร้านและคายัน พ.ศ. ๒๕๖๔ กาหนดให้
นายจ้างต้องจัดให้มีการคานวณออกแบบและควบคุมการใช้น่ังร้านโดยวิศวกร ทังนี ตามหลักเกณฑ์
วธิ ีการ และเงอ่ื นไขที่อธิบดปี ระกาศกาหนด

อาศัยอานาจตามความในข้อ ๘ แห่งกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ
และดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเกี่ยวกับน่ังร้าน
และคายนั พ.ศ. ๒๕๖๔ อธบิ ดกี รมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงาน จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปนี

ข้อ ๑ ประกาศนใี หใ้ ชบ้ ังคับตงั แตว่ นั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๒ ในประกาศนี
“จุดคราก” (yield point) หมายความว่า จุดที่หน่วยแรงดึงที่วัสดุเริ่มยืดโดยไม่ต้องเพ่ิมแรงดึง
ขึนอกี
“นาหนกั บรรทกุ ใช้งาน” (working load) หมายความวา่ ผลรวมของนาหนกั บรรทกุ ทงั หมด
ทีก่ ระทาตอ่ โครงสรา้ ง
“นาหนักบรรทุกคงท่ี” (dead load) หมายความว่า นาหนักของนั่งร้านท่ีพิจารณานาหนักรวม
ของอุปกรณ์ทังหมดของนัง่ ร้านรว่ มด้วย
“นาหนักบรรทุกจร” (live load) หมายความว่า นาหนักบรรทุกท่ีอาจมีการเปล่ียนแปลง
ขนาดและตาแหน่ง เชน่ นาหนกั บรรทุกของผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน วสั ดุ หรือรถเขน็ ซีเมนต์

หมวด ๑
ขอ้ กาหนดท่ัวไป

ขอ้ ๓ น่ังร้านที่มีความสูงตังแต่ ๔ เมตรขึนไป หรือนั่งร้านเสาเรียงเด่ียวสาหรับงานทาสี
ท่ีมีความสูงเกิน ๗.๒๐ เมตร และไม่มีรายละเอียดคุณลักษณะและคู่มือการใช้งานท่ีผู้ผลิตกาหนด
นายจา้ งต้องจดั ให้มีการคานวณออกแบบโดยวิศวกร ตามประกาศนี

ข้อ ๔ เม่ือนายจ้างนานั่งร้านมาใช้สาหรบั การทางาน อย่างน้อยต้องมรี ายการข้อมูลการใชง้ าน

ดงั ต่อไปนี
(๑) ขอ้ มลู และสถานทห่ี รอื หนว่ ยงานที่นาไปใช้งาน
(๒) วตั ถุประสงค์ หรือลกั ษณะของการทางาน
(๓) ความสูงท่ตี ้องการใชง้ านนง่ั รา้ น
(๔) วันทเ่ี ร่ิมและสนิ สุดสาหรับใชง้ านน่งั ร้าน


Click to View FlipBook Version