The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการใช้กระบวนการพยาบาลและบันทึกทางการพยาบาล : Focus List ผู้ป่วยกลุ่มโรคจิตเวช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by IPZPREAW, 2021-06-16 23:08:16

คู่มือการบันทึกกระบวนการพยาบาลทุกกลุ่มโรค

คู่มือการใช้กระบวนการพยาบาลและบันทึกทางการพยาบาล : Focus List ผู้ป่วยกลุ่มโรคจิตเวช

Keywords: กระบวนการพยาบาลและบันทึกทางการพยาบาล,Focus List ผู้ป่วยกลุ่มโรคจิตเวช,คู่มือการบันทึกกระบวนการพยาบาลทุกกลุ่มโรค,การบันทึกกระบวนการพยาบาลทุกกลุ่มโรค,Focus List

โรงพยาบาลสวนสราญรมย์
Suansaranrom Hospital

คู่มอื การใชก้ ระบวนการพยาบาล
และบนั ทกึ ทางการพยาบาล

:

Focus List ผูป้ ว่ ยกลุ่มโรคจติ เวช

กลุ่มการพยาบาล
โรงพยาบาลสวนสราญรมย์

กรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

กล่มุ ภารกจิ การพยาบาล โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ พ.ศ. 2564

คำนำ

คณะกรรมการคุณภาพบริการทางการพยาบาล ได้ปรับปรุงการใช้กระบวนการพยาบาลและการบันทึกทางการพยาบาล โดยใช้ Focus List สำหรับผู้ป่วยจิตเวชกลุ่ม
โรคตา่ งๆ คือ ผู้ป่วยจิตเภท ผปู้ ่วยซึมเศรา้ ผูป้ ว่ ยสุรายาเสพตดิ ทีม่ อี าการทางจิต ผ้ปู ่วยลมชักทีม่ ีอาการทางจิต ผู้ป่วยนติ จิ ติ เวช และผู้ปว่ ยจติ เวชสูงอายุ

ดังนั้นเพ่ือให้การบันทึกทางการพยาบาลเป็นไปในรูปแบบและทิศทางเดียวกัน จึงได้มีการพัฒนาและปรับปรุง และนำคู่มือการใช้กระบวนการพยาบาลและการบันทึก
ทางการพยาบาลไปใช้ในการปฏิบัตงิ านตอ่ ไป

คณะกรรมการคณุ ภาพบริการทางการพยาบาล
กลุ่มภารกจิ ทางการพยาบาล
มิถนุ ายน 2564

แนวทางการบันทกึ ทางการพยาบาลผู้ปว่ ยจิตเภท

Focus list ผูป้ ่วยจติ เภท

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
- ผูป้ ่วยใหค้ วามร่วมมือในการรบั ประทานยา
1. ไมร่ ว่ มมือในการ - สร้างสมั พนั ธภาพเพ่ือการ
- ผปู้ ่วยรับรูก้ ารเจ็บปว่ ยของตนเองได้ถูกต้อง
รบั ประทานยา - ให้สขุ ภาพจติ ศกึ ษาในเรื่องโรค สาเหตุ อาการ และการรักษา (ตามคูม่ ือ DEMETHOD) เหมาะสม

ปฏเิ สธการเจ็บป่วยทางจติ - จดั ใหเ้ ขา้ กลุ่มกจิ กรรมบำบัดเร่ืองการตระหนกั รู้การเจบ็ ป่วยทางจิตเพื่อการเสรมิ สรา้ ง

ความรคู้ วามเข้าใจเรื่องโรคและการรักษา (เทคโนโลยกี ารดูแลผ้ปู ว่ ยจติ เภท)

- ดแู ลใหไ้ ด้รับยาตามแผนการรักษาของแพทย์

- ใหก้ ำลงั ใจในการรับประทานยา

- สังเกตอาการและเฝ้าระวงั ป้องกันการแอบท้ิงยา

2. พรอ่ งในการดูแลตนเอง - สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด - ผูป้ ว่ ยสามารถทำกจิ วตั รประจำวันและดูแล

- ดูแล กระตนุ้ แนะนำ ช่วยเหลอื ในการปฏิบตั ิกิจวตั รประจำวันและการดแู ลตนเอง ตนเองได้ตามศกั ยภาพ

- ส่งเสรมิ การดูแลตนเองโดยจัดให้เข้าร่วมกลมุ่ กจิ กรรมบำบัดเกยี่ วกับการดูแลสุขวทิ ยาส่วน

บคุ คล

- ส่งเสริมใหก้ ำลงั ใจเพ่ือเสริมสรา้ งความสามารถในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง

3. พร่องในการส่ือสาร - สร้างสัมพนั ธภาพเพื่อการบำบดั - ผ้ปู ่วยมีทกั ษะการสื่อสารท่ีเหมาะสมเป็นท่ี
- เสนอตัวให้ความช่วยเหลอื และสนทนาเกี่ยวกับเร่อื งราวต่างๆทัว่ ไปเพ่อื กระตนุ้ ทักษะการ ยอมรับของสงั คม
สื่อสาร - สามารถเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่มรว่ มกบั ผ้อู ่นื ได้
- ให้สุขภาพจติ ศกึ ษาเร่ือง ประโยชน์/ผลดีของการสรา้ งสัมพันธภาพกบั ผู้อ่ืน - มสี ัมพันธภาพกับผู้อนื่ ได้อย่างเหมาะสม
- สอนและฝึกทักษะการสื่อสาร เชน่ การทกั ทาย การสบตา วธิ กี ารเรมิ่ ตน้ สนทนา
- จดั ใหม้ ีสมั พนั ธภาพกับผู้อื่นโดยแนะนำใหร้ ้จู ักเพื่อน 2 – 3 คน
- จดั ใหเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งการสอื่ สารโดยเรม่ิ จากกล่มุ เล็กๆ และกจิ กรรม
ฝกึ ทกั ษะการสอ่ื สารรว่ มกับผู้อื่น
- สง่ เสรมิ ให้กำลงั ใจเม่ือสามารถทำกิจกรรมไดส้ ำเรจ็ และชมเชยเมอ่ื ผู้ปว่ ยสามารถสื่อสาร
กับผูอ้ ่ืนได้

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

4. มีความคิดหลงผิด - ประเมินกระบวนการคดิ และภาวะเสี่ยงต่างๆทอี่ าจเกิดขึ้น เพือ่ เตรียมความพรอ้ มและวาง - ผปู้ ว่ ยรับฟงั ในสิง่ ทพ่ี ยาบาลให้ขอ้ มูล

แผนการดูแล - ความคดิ หลงผดิ น้อยลงหรือความคิด

- สรา้ งสัมพนั ธภาพเพื่อการบำบัดอย่างต่อเน่ือง เปดิ โอกาสใหร้ ะบายความไมส่ บายใจ รบั เหมาะสมตรงกับความเป็นจริง

ฟังความคดิ เหน็ โดยไม่โตแ้ ย้งหรือไมส่ นบั สนนุ ความคิดนั้น

- ให้ข้อมลู ความเปน็ จริงตามสถานการณ์ สิ่งแวดล้อมรอบตัวและให้ข้อมลู ซ้ำๆอย่างต่อเน่ือง

- กระต้นุ ให้เข้ารว่ มกล่มุ กจิ กรรมทีเ่ หมาะสมเพื่อเบ่ียงเบนความคิดและความวติ กกังวล

5. มีหแู วว่ /ภาพหลอน - ประเมินการรบั รแู้ ละภาวะเสี่ยงต่างๆที่อาจเกดิ ขึน้ เพ่ือเตรยี มความพร้อมและวาง - ผปู้ ว่ ยปลอดภัยจากการรับรทู้ ี่ผดิ ปกติ

แผนการดแู ล -ผปู้ ว่ ยมกี ารจัดการกับอาการหแู ว่วไดอ้ ย่าง

- เฝา้ ระวังความเสยี่ งทางคลินิก ตามแนวปฏิบัติ SAFE ถูกต้องเหมาะสมตามความเป็นจรงิ

- ทำจิตบำบดั รายบคุ คลเพ่ือให้ผ้ปู ว่ ยสามารถจดั การกบั อาการหแู วว่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

(ตามคู่มอื การจดั การอาการหูแว่วในผปู้ ่วยจิตเภทสำหรับพยาบาล)

- รายงานแพทยเ์ ม่ือมอี าการเปลี่ยนแปลง

6. มอี าการหงุดหงดิ ก้าวรา้ ว - พดู คุยสร้างสมั พนั ธภาพ เพ่ือใหเ้ กิดความไวว้ างใจ - ผู้ป่วย/ผู้อ่ืนปลอดภยั

- จัดสง่ิ แวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั และเฝา้ ระวงั ความเส่ยี งทางคลนิ กิ SAFE - ผปู้ ่วยสามารถจดั การกับอารมณไ์ ด้

- พิจารณาจำกดั พฤตกิ รรมและให้ยาฉดี เมอ่ื จำเปน็ (ตามคูม่ ือการดูแลผ้ปู ว่ ยจติ เวชท่มี ี เหมาะสม

พฤติกรรมรุนแรง)

- รายงานแพทย์เม่อื มีอาการเปลย่ี นแปลง

- เม่ือผ้ปู ่วยอาการสงบจัดใหเ้ ข้าร่วมกลมุ่ กิจกรรมการฝึกทักษะการจดั การกับอารมณ์ที่

เหมาะสม (ตามคู่มือการสอนเทคนิคการควบคุมความโกรธสำหรับผปู้ ว่ ยจติ เวช)

7. อารมณ์เปลีย่ นแปลงง่าย - ประเมนิ พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ การเกิดอุบัตเิ หตหุ รอื พฤติกรรมรุนแรง - แสดงอารมณ์ไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์

- ตักเตอื น หา้ มปรามการแสดงภาวะอารมณ์ท่ีไม่เหมาะสม- ชมเชยเมอ่ื สามารถแสดง

อารมณ์ได้เหมาะสม

- จำกดั การแสดงออกทเี่ ปน็ อันตรายต่อตนเอง/ผ้อู นื่ และเฝ้าระวงั อาการใกล้ชิด

8. มพี ฤติกรรมแยกตัว - พูดคยุ สรา้ งสมั พันธภาพเพ่ือการบำบดั อย่างตอ่ เนอ่ื งและสม่ำเสมอ - มีปฏสิ ัมพันธ์กบั ผอู้ ่นื อยา่ งเหมาะสม

- เสนอตวั ใหค้ วามช่วยเหลือ - สามารถเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่มร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

9. มีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ - แนะนำใหผ้ ูป้ ว่ ยร้จู ักเพ่ือน โดยเริ่มจากการให้ผปู้ ว่ ยมีสัมพันธภาพกับบุคคลทผี่ ูป้ ่วยชอบ - ผปู้ ่วยมีพฤตกิ รรมทางเพศที่เหมาะสม
เหมาะสม หรอื มีนสิ ัยคลา้ ยคลงึ กนั - ควบคมุ พฤตกิ รรมได้
- กระตุน้ ให้เข้ารว่ มกจิ กรรมบำบดั เร่อื งทักษะทางสังคม
10. มพี ฤติกรรมอยไู่ ม่นิง่ /ไม่มี (ตามเทคโนโลยีการดูแลผู้ป่วยจิตเภท) - ผู้ปว่ ยปลอดภัย ไม่มีความคิดหวาดระแวง
สมาธิ - ส่งเสรมิ ให้กำลงั ใจเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการดูแลตนเองอย่างต่อเน่ือง
- ควบคมุ พฤตกิ รรมได้เหมาะสม ไม่มี
11. มีความคดิ หวาดระแวง - แนะนำ ให้ข้อมลู การควบคุมพฤติกรรมทางเพศทเ่ี หมาะสม พฤติกรรมเจา้ ก้ีเจ้าการ
- แนะนำการแสดงออกทางเพศในสถานท่ีทเ่ี หมาะสม
12. มพี ฤติกรรมเจ้ากเ้ี จา้ การ
- สรา้ งสัมพันธภาพ เพ่ือประเมนิ อาการและความต้องการ
- ให้ข้อมูลถึงผลเสยี ของพฤติกรรมดงั กล่าว
- จดั ส่งิ แวดล้อมให้ปลอดภัย ลดสงิ่ กระตนุ้
- ฝกึ การควบคมุ พฤติกรรมการจดั การตัวเอง และเสรมิ แรงทางบวกเมื่อผู้ปว่ ยจัดการ
พฤติกรรมได้
- พิจารณาจำกัดพฤติกรรม และให้ยาฉีดเม่อื จำเปน็

-ประเมินคดิ หวาดระแวงและภาวะเส่ยี งต่างๆที่อาจเกิดขึน้ เพอ่ื เตรียมความพร้อมและวาง
แผนการดูแล
- สร้างสัมพนั ธภาพเพื่อการบำบัดอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ระบายความไมส่ บายใจ รับ
ฟังความคิดเห็น โดยไม่โตแ้ ย้งหรือไม่สนับสนุนความคิดนั้น
- ใหข้ อ้ มูลความเป็นจรงิ ตามสถานการณ์ สงิ่ แวดลอ้ มรอบตัวและความปลอดภยั ขณะอยู่
โรงพยาบาล
- เฝา้ ระวังความเสี่ยงทางคลินิก ตามแนวปฏิบตั ิ SAFE-D
- รายงานแพทยเ์ มอื่ อาการเปล่ียนแปลง
- ส่งเสรมิ ให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเบ่ยี งเบนความคดิ และสง่ เสรมิ ให้กำลงั ใจเมื่อผู้ปว่ ย
สามารถดูแลตนเองได้

- เฝา้ ระวังความเสย่ี งทางคลินิก ตามแนวปฏิบัติ SAFE-D
- เมอื่ ควบคุมพฤติกรรมได้น้อย พิจารณาจำกัดพฤติกรรม และใหย้ าฉีดเมื่อจำเป็น

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
13. ควบคมุ การพูดไม่ได้ - ควบคุมการพูดได้เหมาะสม
14. มีความวิตกกังวล - จิตบำบดั รายบุคคล เพ่ือกระตุน้ ใหผ้ ้ปู ่วยระบายความร้สู ึกของตนเองต่อพฤตกิ รรมท่ี - ความวิตกกังวลลดลง
แสดงออก แนะนำพฤติกรรมทีเ่ หมาะสม
15. มีพฤติกรรมเรยี กร้อง - ฝึกการควบคุมพฤติกรรมท่ีเหมาะสม และเสรมิ แรงทางบวกเม่ือผปู้ ่วยจัดการพฤติกรรมได้ - พฤตกิ รรมเรียกรอ้ งลดลง
16. มีอาการขา้ งเคยี งจากยา - ปลอดภยั จากอาการข้างเคยี งของยา
- เฝา้ ระวงั ความเสย่ี งทางคลนิ ิก ตามแนวปฏิบัติ SAFE-D
- เมื่อควบคุมการพดู ไมไ่ ด้ พจิ ารณาจำกดั พฤติกรรม และให้ยาฉดี เม่ือจำเปน็
- จิตบำบดั รายบคุ คล เพื่อประเมนิ ลักษณะการพูด จำกัดพฤติกรรมการพูดโดยตกลงบริการ
การสนทนาและกำหนดเวลาในการพดู คุย และเบีย่ งเบนความสนใจให้ทำกจิ กรรมอ่นื
และเสรมิ แรงทางบวกเมอ่ื ผปู้ ่วยจดั การพฤติกรรมได้

- จติ บำบดั รายบุคคล โดยเปิดโอกาสใหพ้ ูดคุยระบายปญั หา/สาเหตุ ยอมรบั พฤตกิ รรมของ
ผูป้ ว่ ย รว่ มกนั ค้นหาปญั หา/หาแนวทางแก้ไข เลือกวิธีทีเ่ หมาะสม และแนะนำแนวทางการ
จัดการความวิตกกงั วลทเี่ หมาะสม
- ให้เขา้ ร่วมกลุม่ กจิ กรรมบำบัด เพือ่ ให้มีแนวทางในการจดั การกบั ความวติ กกังวลได้
เหมาะสม
- กลมุ่ จติ บำบดั ประคบั ประคอง เพ่ือใหผ้ ้ปู ว่ ยได้ระบาย และมีแนวทางในการจัดการกับ
ความวติ กกังวลของตนเอง

- สร้างสมั พนั ธภาพ/ประเมินพฤติกรรม
- คน้ หาสาเหตขุ องพฤตกิ รรม บอกใหผ้ ปู้ ่วยรบั รูแ้ ละเขา้ ใจพฤตกิ รรมของตนเอง
- ร่วมค้นหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
- สง่ เสรมิ ให้กำลงั ใจ/ชมเชย
- จัดให้เขา้ รว่ มกิจกรรมบำบัด เพ่ือใหผ้ ู้ปว่ ยได้เบ่ียงเบนพฤติกรรม และมีแนวทางในการ
จัดการกับพฤติกรรมของตนเองได้เหมาะสม

- สงั เกตและบันทึกสัญญาณชพี
- ประเมนิ ความผดิ ปกติจากอาการข้างเคียงของยา
- ให้ได้รบั สารอาหารและนำ้ ให้เพียงพอ
- ระมดั ระวังอบุ ัตเิ หตุโดยปฏบิ ตั ิตามการเฝ้าระวงั ความเสยี่ งทางคลนิ ิก (SAFE-D ในเร่ือง

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
17 ได้รับการรักษาดว้ ยไฟฟา้ - ไมเ่ กดิ อนั ตรายจากอาการข้างเคยี งของการ
อบุ ัติเหตุ A) รกั ษาดว้ ยไฟฟ้า
18 ผู้ป่วยพยายามหลบหนี -รายงานแพทย์เม่อื มอี าการเปล่ยี นแปลง
- ไมม่ พี ฤตกิ รรมหลบหนี
19 ผปู้ ว่ ยเสย่ี งต่อการเกิด - ประเมินการรับรู้ต่อการรักษาดว้ ยไฟฟ้า
อบุ ัติเหตุ - เปิดโอกาสใหซ้ ักถามขอ้ มลู การรักษา - ไมเ่ กดิ อบุ ัติเหตุ
- อธบิ ายข้อมูลการรกั ษา ถึงเหตผุ ลของการรักษา ประโยชน์ ขั้นตอนในการรกั ษา การ
ปฏิบัติตัวและอาการขา้ งเคียง
- เสรมิ สร้างความเชอื่ มัน/มน่ั ใจในการรักษา
- ประเมินความพร้อมด้านรา่ งกาย (ความสะอาดของรา่ งกาย, สง่ ตรวจพิเศษตา่ งๆ,
สง่ ทันตกรรม, NPO, check V/S, ฟนั ปลอม)
- สง่ ขอ้ มลู ความเสีย่ งต่างๆให้หนว่ ยรักษาด้วยไฟฟา้ ทราบ
- สังเกตอาการ/เฝา้ ระวงั อาการขา้ งเคยี งทีอ่ าจเกดิ ขึ้น

- ประเมนิ ความเส่ยี วตอ่ การหลบหนีตามแบบประเมนิ SAFE-D : E
- สร้างสมั พนั ธภาพเพ่ือการบำบดั
- ใหข้ อ้ มูลโรค อาการ การรักษา ความจำเปน็ ในการอยใู่ นโรงพยาบาล และข้นั ตอนการ
จำหนา่ ย
- มอบหมายบุคลากรดูแลใกล้ชิด จดั ใหอ้ ยู่ในสถานท่ีท่ีมองเห็นชัดเจน
- ปิดประตูทกุ ครงั้ ท่ีเขา้ – ออก
- จัดให้เข้ารว่ มกล่มุ กจิ กรรม เทคโนฯ กอ่ นกลับบ้าน
- ติดตอ่ ญาติ แนะนำใหญ้ าติมาเยี่ยม
- บนั ทึกพฤติกรรม ประเมินผล และสง่ เวร

- ประเมนิ ความเสี่ยงตามมาตรฐานความเสีย่ ง SAFE-D
- มอบหมายบคุ ลากรดูแลใกล้ชิด
- จัดส่งิ แวดลอ้ มใหป้ ลอดภัย
- จำกัดพฤติกรรม
- รายงานแพทย์

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

20. เสีย่ งตอ่ ภาวะแทรกซ้อนที่ - ตรวจวัดสัญญาณชพี ทุก 4 ชวั่ โมงเพือ่ ประเมินความรุนแรงและความเสีย่ งจาก - ไม่เกิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนจาก

ไดร้ บั สารเสพตดิ เกนิ ขนาด ภาวะแทรกซ้อนท่ีเกิดจากการได้รับสารเสพตดิ เกนิ ขนาด อาการไดร้ บั สารเสพติดเกนิ ขนาด

- ประเมนิ อาการที่อาจเกิดจากภาวะ electrolyte imbalance เช่น ออ่ นเพลยี มือสนั่ - ระดบั ความรุนแรงของอาการทางจติ และ

กล้ามเนอื้ เกร็ง ชพี จรเรว็ ไม่สมำ่ เสมอ และรายงานแพทย์กรณเี กดิ อาการดังกล่าว อันตรายจากอาการได้รับสารเสพติดเกนิ

- ประเมินอาการอยากสารเสพตดิ (Craving) เชน่ กระวน กระวาย หงุดหงิด เหง่ือออก ขนาดลดลง

ความสามารถในการควบคมุ ตนเองลดลง - ปลอดภยั จากภาวะแทรกซ้อนจากฤทธิ์

- สร้างสมั พนั ธภาพเชงิ บำบดั เพื่อสร้างความไว้วางใจ ขา้ งเคยี งของยาและ การรักษาอืน่ ๆ

- จดั สงิ่ แวดล้อมเพื่อการบำบัดเพ่ือให้ผูป้ ว่ ยได้พักผอ่ นอย่างเพียงพอและปอ้ งกันการเกิด - ได้รบั สารน้ำและอาหารอยา่ งเพยี งต่อความ

อบุ ัติเหตุจากภาวะสบั สน ต้องการของร่างกาย -สามารถนอนหลบั ได้

- จำกัดพฤติกรรมหากผู้ปว่ ยไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมได้ อย่างน้อย 6-8 ชว่ั โมง

- ดแู ลให้ไดร้ บั ยาตามแผนการรกั ษา และเฝา้ ระวังอันตรายจากอาการข้างเคียงของยา

- เฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั การเกิดอบุ ัติเหตุ โดยจดั ใหน้ อนใกล้ nurse station หากผู้ป่วยมอี าการ

สบั สน พจิ ารณาการผูกยึด

- ดแู ลใหไ้ ดร้ ับประทานอาหารและนำ้ อย่างเพยี งพอตาม ความต้องการของรา่ งกาย

- สง่ ตอ่ เวรและทำเครื่องหมายการเฝ้าระวงั อยา่ งใกล้ชดิ ตามข้อปฏบิ ัติของ SAFE-D

21. เสยี่ งต่อการไดร้ บั อนั ตราย - ตรวจวัดสญั ญาณชีพทกุ 4 ช่ัวโมงประเมินความรุนแรงและความเส่ียงจาก - ไมเ่ กิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนจาก

จากภาวะแทรกซ้อนที่เกดิ ภาวะแทรกซ้อน ทเ่ี กดิ จากอาการถอนพิษสารเสพติด อาการถอนพิษสารเสพตดิ

จากการถอนพษิ สารเสพ - ประเมนิ อาการท่ีอาจเกิดจากภาวะ electrolyte imbalance เช่น อ่อนเพลีย มือสั่น - ระดับความรุนแรงของอาการทางจติ และ

ตดิ กลา้ มเนอ้ื เกร็ง ชีพจรเรว็ ไมส่ มำ่ เสมอ และรายงานแพทย์กรณเี กดิ อาการดังกลา่ ว อันตรายจากอาการหรอื ถอนพิษสารเสพติด

- ประเมินอาการอยากสารเสพติด (Craving) เช่น กระวน กระวาย หงดุ หงิด เหง่ือออก ลดลง(BPRS≤ 36 คะแนน, MINDS ≤ 10

ความสามารถในการควบคมุ ตนเองลดลง คะแนน ) ปลอดภยั จากภาวะแทรกซ้อนจาก

- เฝา้ ระวงั อาการชกั ที่อาจเกิดได้ในเวลา 24-48 ชวั่ โมง หลังหยุดสารเสพติด ฤทธขิ์ ้างเคียงของยาและ การรักษาอ่ืนๆ

- ประเมินความรนุ แรงของภาวะขาดสุรา (MINDS) กระตนุ้ ใหผ้ ้ปู ว่ ยปฏบิ ัติกจิ วัตรประจำวัน - ได้รบั สารนำ้ และอาหารอย่างเพยี งต่อความ

ต่างๆ ตามความเหมาะสมกับสภาพอาการ ต้องการของร่างกาย

- สร้างสัมพนั ธภาพเชิงบำบัด เพ่อื สร้างความไวว้ างใจ - สามารถนอนหลับได้อย่างน้อย 6-8 ชวั่ โมง

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

- จดั สิ่งแวดลอ้ มเพื่อการบำบัดเพอื่ ใหผ้ ู้ปว่ ยไดพ้ ักผ่อนอย่างเพียงพอและป้องกันการเกดิ

อบุ ัติเหตจุ ากภาวะสับสน

- จำกดั พฤติกรรมหากผูป้ ่วยไม่สามารถควบคมุ อารมณ์และพฤติกรรมได้

- ดแู ลใหไ้ ดร้ ับยาตามแผนการรักษา และเฝ้าระวังอนั ตรายจากอาการข้างเคียงของยา

- เฝา้ ระวังปอ้ งกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยจดั ให้นอนใกล้ nurse station หากผู้ปว่ ยมอี าการ

สับสน พิจารณาการผูกยึด

- ดูแลให้ไดร้ ับประทานอาหารและนำ้ อย่างเพียงพอตาม ความตอ้ งการของร่างกาย 12.ส่ง

ต่อเวรและทำเครื่องหมายการเฝ้าระวังอย่างใกลช้ ดิ ตามข้อปฏบิ ตั ิของ SAFE-D

22. การนอนหลบั แปรปรวน - ซกั ถามสาเหตุของการนอนไม่หลับ - ผปู้ ว่ ยนอนหลับได้ตอ่ เนื่อง 6 – 8 ชวั่ โมงตอ่

- ลดแสงสวา่ ง/ เสียงดังท่ีรบกวนการนอน คืน

- ใหย้ า prn. ตามแผนการรกั ษา หากไมส่ ามารถหลบั ไดเ้ อง

- สงั เกตการนอนหลับของผปู้ ่วยทุก 1 – 2 ชัว่ โมง

23. รู้สึกภาคภมู ิใจในตนเองต่ำ - ประเมินความรู้สึกภาคภูมิใจ/ความมีคุณค่าในตนเอง - ร้สู กึ ภาคภมู ิใจในตนเองมากข้ึน

- สรา้ งสมั พันธภาพเพื่อการบำบัด - บอกข้อดีและจุดเด่นของตนเองได้

- บำบัดรายบคุ คลเพ่ือคน้ หาข้อมลู มุมมองต่อตนเอง และเสรมิ สร้างความภาคภูมิใจ ความมี

คุณค่าในตนเอง

- จดั ใหเ้ ข้าร่วมกลุ่มกับผู้อ่นื เพื่อเปลย่ี นมมุ มองความคดิ และเสรมิ สร้างความมีคณุ ค่าใน

ตนเอง ตามคมู่ ือเทคโนฯการรับร้คู ณุ คา่ ในตนเอง

- สังเกตอาการอยา่ งต่อเน่ืองและรายงานแพทย์

24. มีภาวะซึมเศร้า/มีความคดิ - ประเมินภาวะซึมเศรา้ โดยใชแ้ บบประเมนิ 2Q, 9Q และ 8Q - ภาวะซมึ เศรา้ ลดลง (โดยประเมิน 2Q, 9Q

ทำรา้ ยตนเอง/ฆ่าตัวตาย - สรา้ งสมั พนั ธภาพเพ่ือการบำบัด (ตาม QW คู่มอื การสรา้ งสัมพนั ธภาพเพ่ือการบำบดั ) และ8Q)

- จัดสงิ่ แวดล้อมให้ปลอดภยั และดูแลผปู้ ว่ ยตามแนวปฏิบัตคิ วามเสีย่ วท่ีสำคญั ทางคลินิก - ผปู้ ่วยรบั ร้กู ารมีคณุ คา่ ของตนเองมากขึน้

(SAFE-D : S)

- กรณีมีความเสยี่ งตอ่ การทำร้ายตัวเอง พจิ ารณาให้ยา prn. และจำกดั พฤติกรรม

- รายงานแพทย์เมือ่ มีอาการเปลี่ยนแปลง

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
- เมื่อผปู้ ว่ ยอาการทางจิตสงบ ทำจิตบำบดั รายบคุ คล เพ่ือปรับความคิด ความเขา้ ใจ การ
25. พร่องการรบั รวู้ นั เวลา มองตนเองและเสริมสรา้ งการมคณุ ค่ในตนเอง - ผปู้ ่วยรบั ร้วู ัน เวลา สถานท่ี บคุ คล ถูกต้อง
สถานท่ี บุคคล - ดแู ลให้ไดร้ บั ยาตามแผนการรกั ษาของแพทย์ ตามความเปน็ จรงิ
- check V/S เพ่อื ประเมนิ อาการเปลยี่ นแปลง
26. วิตกกงั วลเนอื่ งจาก - จดั ส่งิ แวดล้อมใหป้ ลอดภัย โดยดูแลผ้ปู ่วยตามแนวปฏบิ ตั กิ ารป้องกนั ความเส่ยี งทส่ี ำคัญ - ผู้ปว่ ยรบั รู้ปญั หาและสามารถจดั การกับ
ครอบครัว/สังคมไม่ ทางคลินิก SAFE-D ความกงั วลอย่างเหมาะสม
ยอมรบั - กรณผี ้ปู ว่ ยมีความเสยี่ งต่อการเกิดอุบัติเหตุ พิจารณาการจำกัดพฤติกรรม และใหย้ า prn. - จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลโดยมรระบบ
ตามอาการของผูป้ ว่ ย สนบั สนนุ ท่ีเหมาะสม
27. ไม่มเี ป้าหมายในชวี ิต - ให้ข้อมูลเก่ียวกบั วัน เวลา สถานท่ี บุคคลทีเ่ ป็นจรงิ
- ดูแลให้ไดร้ ับยาและรายงานแพทย์เมื่อมอี าการเปลี่ยนแปลง เพอื่ ปรับแผนการรกั ษา - ผู้ปว่ ยสามารถบอกเปา้ หมายของตนเองได้
บนั ทึกพฤตกิ รรมของผ้ปู ว่ ยและส่งเวร เหมาะสม
- ดูแลชว่ ยเหลือกิจวตั รประจำวัน เชน่ ดแู ลใหผ้ ู้ป่วยรบั ประทานอาหารและนำ้ อย่าง
เพียงพอ
- ทำจิตบำบัดรายบคุ คล เพื่อให้ผู้ปว่ ยเขา้ ใจสถานการณ์ทีเ่ ป็นจริงและยอมรับสถานการณ์
น้ันๆ
- ฝึกทกั ษะการจดั การกับการแกไ้ ขปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ
- ใหค้ ำปรึกษาครอบครัว เพ่ือใหค้ รอบครวั มีส่วนรว่ มในการรับรู้ปญั หา และรว่ มวางแผนใน
การจัดการ
- ประสานทีมสหวิชาชีพ เพื่อประเมินปญั หาและแกไ้ ขปัญหาอยา่ งเหมาะสม
- สง่ ตอ่ จติ เวชชมุ ชนเพื่อดูแลตอ่ เนอื่ ง
- ติดตามความก้าวหน้าของการบำบดั รกั ษาเพ่ือวางแผนการดแู ลต่อเน่ือง

- ประเมนิ ความคิด ความรู้สึก เก่ียวกบั การดำเนนิ ชวี ิตและเปา้ หมายในชีวติ

- เปิดโอกาสให้ผปู้ ่วยได้พูดคุยระบายความรูส้ ึก ความคบั ขอ้ งใจ

- ให้ผ้ปู ่วยได้กำหนดเปา้ หมายในชวี ติ ท่เี ป็นรปู ธรรมและมีความเป็นไปได้

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

ตามศกั ยภาพของผู้ป่วย

- จดั ใหผ้ ้ปู ่วยทำกจิ กรรมท่ีง่ายๆและสำเร็จในระยะเวลาสัน้ ๆ

- ส่งเสรมิ ใหก้ ำลงั ใจเมื่อผปู้ ว่ ยปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆได้เหมาะสม

- ประสานนกั อาชวี บำบดั ในการประเมินความสามารถในการประกอบอาชีพและเตรยี ม

ความพร้อมผ้ปู ว่ ยในการประกอบอาชีพตามความเหมาะสมหรอื ความสามารถ

- แนะนำแหลง่ สนับสนนุ ทางสังคมจิตใจแก่ผ้ปู ว่ ยและครอบครัว เชน่ 1323 สายด่วน

สขุ ภาพจิต, Hotline คลายเครียดของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ คลนิ ิกคลายเครียด

คลินิกใหค้ ำปรึกษา และแหล่งอื่นๆในชุมชน

- สรปุ อาการและปัญหาท่ีตอ้ งดูแลต่อเนอ่ื งเพือ่ สง่ ตอ่ พยาบาลจิตเวชชุมชนและติดตามเย่ียม

หลังจำหนา่ ย

28. ไม่มีแรงจงู ใจในการเลิกใช้ - ประเมนิ stage of change และใชเ้ ทคนิคท่ีเหมาะสมกบั ระยะของ stage of change - ผู้ป่วยสามารถบอกผลกระทบจากการใช้สาร

สารเสพติด (BA,BI) เสพตดิ ได้

- ทำ MI เพอ่ื เสริมสร้างแรงจงู ใจใหผ้ ูป้ ว่ ยเลกิ ใช้สารเสพตดิ อย่างต่อเน่ือง - ผปู้ ่วยมี stage of change อย่ใู นระดับ 3 –
- สง่ เสรมิ ใหก้ ำลังใจเพื่อให้ผูป้ ่วยสามารถเลกิ ใชส้ ารเสพตดิ ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง 6 คะแนน

29. การจดั การกบั อารมณ์และ - ประเมินความคดิ อารมณ์ พฤติกรรมละความรสู้ ึกกงั วล - ผ้ปู ่วยสามารถบอกวิธีการการจัดการกบั

ความเครยี ดไม่เหมาะสม - สร้างสมั พนั ธภาพเพื่อการบำบดั โดยเนน้ ให้คำปรึกษารายบุคคลเพ่ือใหผ้ ู้ป่วยรับรู้อารมณ์ อารมณ์และความเครยี ดที่เหมาะสม

และมีแนวทางในการจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดท่ีเหมาะสม

- จัดใหเ้ ข้าร่วมกลุ่มเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ติ เชน่ กลมุ่ ทกั ษะทางสงั คม ทักษะการตดั สินใจ
ทกั ษะการจัดการกับอารมณแ์ ละความเครียด เพ่ือให้พิจารณาทางเลือกและนำไปสูก่ าร
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน

- สง่ เสริมใหก้ ำลังใจ เม่ือผู้ป่วยสามารถรบั รู้อารมณ์และจัดการกับอารมณ์ที่เหมาะสม

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
- ญาตมิ คี วามรคู้ วามเข้าใจเร่ืองโรคและการ
30. ญาตขิ าดความรคู้ วาม - ให้ขอ้ มลู เรื่องโรคอาการการดูแลรกั ษา ดูแลผปู้ ่วย
- สามารถดูแลผปู้ ่วยท่บี า้ นได้
เข้าใจเรอื่ งโรค/การดูแล - ใหค้ ำแนะนำการเฝา้ ระวังอาการกำเริบ
- ญาติมคี วามร้แู ละสามารถบอกถึงการ
ผ้ปู ่วย - ใหค้ ำแนะนำการรบั ประทานยาตอ่ เน่ือง โดยใชค้ มู่ ือโปรแกรมเสรมิ สรา้ งพลงั อำนาจการ จดั การพฤตกิ รรมทเ่ี ปน็ ปัญหาของผูป้ ่วยได้

ดแู ลผปู้ ว่ ยจติ เภท - ญาติรู้สกึ ผ่อนคลายและมที ัศนคตติ ่อการ
ดูแลผปู้ ่วยดีขึ้น
31. ญาตไิ มส่ ามารถจัดการกับ - พดู คยุ ถงึ ปัญหาทญี่ าตไิ ม่สามารถจัดการได้
- ญาติมคี วามวติ กกังวลเก่ยี วกับการเจบ็ ปว่ ย
พฤติกรรมทีเ่ ปน็ ปัญหา - ใหข้ ้อมูล/คำแนะนำการจัดการพฤติกรรมท่ีเป็นปญั หาตามคู่มือเทคโนโลยกี ารดแู ลญาติ ของผู้ปว่ ยลดลง

ของผ้ปู ่วยได้ ผูป้ ว่ ยจิตเภท - ญาติมีความเช่ือท่ีถูกต้องเกี่ยวกบั การ
เจ็บป่วย
32. ญาตทิ ้อแท้/เบื่อหน่ายใน - พูดคยุ ปญั หาและอปุ สรรคในการดูแลผปู้ ว่ ย
- บอกถงึ แหล่งสนบั สนนุ ที่สามารถขอความ
การดแู ลผู้ป่วย - ช้แี จงถงึ บทบาทหน้าที/่ ความรบั ผิดชอบตอ่ การดูแลผ้ปู ่วย ช่วยเหลือได้

- ให้ข้อมูลแหลง่ สนับสนุนเพ่อื ขอความชว่ ยเหลอื

- ใหก้ ำลังใจและแนะนำเทคนิคการผอ่ นคลายความเครยี ด

33. ญาติวิตกกงั วลเกยี่ วกบั - สร้างสมั พนั ธภาพเพื่อการบำบดั

ความเจ็บป่วยของผ้ปู ว่ ย - ให้ขอ้ มูลเร่ืองโรค อาการ สาเหตุ การดแู ลอย่างตอ่ เนื่องและแผนการรักษาของแพทย์

- ส่งเสริมใหก้ ำลงั ใจในการดูแลผ้ปู ว่ ย

34. ญาติมีความเชื่อท่ีไม่ - รับฟงั พดู คุยถึงความเชือ่ ของญาตเิ กยี่ วกับความเจ็บปว่ ย

ถูกต้องเกย่ี วกับความ - ให้ขอ้ มูลความเป็นจรงิ เร่ืองโรค อาการ การดูแล การรักษา ตามคู่มือสุขภาพจติ ศึกษา

เจ็บปว่ ย (เชือ่ เร่อื งไสย D - METHOD

ศาสตร)์

35. ญาติขาดความรเู้ รอ่ื งแหล่ง - ให้ขอ้ มลู เร่ืองของความชว่ ยเหลือจากแหล่งสนบั สนุนในชมุ ชน เชน่ อบต. สถานอี นามยั

สนบั สนนุ ในชุมชน สถานีตำรวจ โรงพยาบาลชุมชน

แนวทางการบนั ทึกทางการพยาบาล
ผปู้ ่วยสรุ าท่มี อี าการทางจติ

Focus list ผู้ป่วยสรุ าท่ีมีอาการทางจิต

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
1. มีภาวะถอนพษิ สุรา - ผู้ปว่ ยปลอดภยั /ไมท่ กุ ข์ทรมานจากภาวะ
1. ประเมนิ ความรุนแรงของภาวะขาด/ถอนพิษสรุ า โดยใช้ MIND scale Check vital ถอนพิษสุรา
2 เกลด็ เลอื ดต่ำ signs, MIND scale ตามความรนุ แรงของภาวะถอนพิษสุรา จน stable ดงั น้ี - ความรุนแรงของภาวะถอนพิษสรุ าลดลง
- หากความรนุ แรงของภาวะถอนพิษสุรา อยใู่ นระดับรนุ แรง (severe) MIND scale ≥ 15 MIND scale < 10 คะแนน ภายใน 3 วนั
คะแนนข้ึนไป ให้ประเมนิ MIND scale ทกุ 1-2 ชั่วโมง จนกว่า MIND scale < 14
คะแนน - ผู้ปว่ ยปลอดภยั ไม่มเี ลอื ดออกตามไรฟนั หรือ
- หากความรนุ แรงของภาวะถอนพิษสรุ า อยูใ่ นระดบั ปานกลาง (moderate) MIND scale ตามสว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย
≥ 10-14 คะแนน ใหป้ ระเมิน MIND scale ต่อทกุ 4 ชัว่ โมง จนกวา่ MIND scale < 10
คะแนน
- หากความรนุ แรงของภาวะถอนพิษสรุ า อยู่ในระดับ เลก็ น้อย (mild) MIND scale < 10
คะแนน ประเมิน MIND scale ทกุ 4-8 ช่วั โมง จนครบ 72 ช่วั โมง
- ถ้า MIND scale > 10 ให้ยา prn ตาม CPG และรายงานแพทย์หากอาการไม่ดขี ้นึ
- ตรวจร่างกายเบ้อื งตน้ เพื่อแยกโรครว่ มและโรคแทรกซ้อนทางกาย
- Check vital signs (v/s) และ/หรือ Neuro Sign หากผิดปกติรายงานแพทย์
- หากมีเหง่อื ออกมาก เช็ดตวั ให้
- restrain เพอื่ ปอ้ งกันอบุ ัติเหตุในกรณีทผ่ี ปู้ ว่ ยมีอาการถอนพษิ สรุ าอย่างรุนแรงจนอยูน่ ่งิ
ไมไ่ ด้
- ดูแลใหร้ บั ประทานกล้วย สม้

- แนะนำและเฝา้ ระวงั ภาวะเสี่ยงตอ่ การมเี ลือดออกตามสว่ นต่างๆ ของร่างกาย เช่น
เลอื ดออกตามไรฟนั เลือดออกในกระเพาะอาหาร ระวงั หกล้ม
- กรณคี ่า Plt. ตำ่ กวา่ 100,000 cells/mu หา้ มฉีดยาเขา้ กล้ามเน้อื หากมีความจำเป็นให้
รายงานแพทย์
- ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและกดบริเวณท่ีฉีดให้นาน

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

3. มภี าวะขาดวิตามิน B1 ใน - ดแู ลให้รบั ประทาน B1 (100) ตาม CPG - ได้รับการบำบดั รักษาภาวะขาดวติ ามนิ B1

สมองแบบเฉียบพลันหรือ - ฉีด B1 (100) IM OD x 3 days ตาม CPG/แผนการรักษาของแพทย์ ในกรณี Plt ต่ำกว่า - ผ้ปู ว่ ยปลอดภยั ไมม่ ีอุบตั ิเหตุเกดิ ขึน้

เรื้อรัง (Wernick 100,000 cells/um รายงานแพทย์กอ่ น

Encephalopathy - แนะนำญาตใิ ห้จดั หาอาหารทม่ี วี ติ ามิน B1 เช่น ข้าวซ้อมมือ ถัว่ ลันเตา สม้ ไข่แดง หมูติด

/Korsakoff ซี่โครง เน้ือหมู ตบั กลว้ ยน้ำว้า ผกั ใบเขยี วมาใหร้ ับประทาน เป็นตน้
Encephalopathy) - หากผู้ปว่ ยมีอาการงง สบั สน เรยี กชื่อผปู้ ว่ ยและบอกกลา่ วก่อนทุกครั้งก่อนให้การ

พยาบาล/ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับ วัน เวลา สถานท่ี บคุ คลซ้ำๆ

- เฝ้าระวงั อบุ ตั เิ หตุหกล้ม

4 ชัก - เฝ้าระวงั อาการชักทีเ่ กดิ ขึ้นใน 24 - 72 ชัว่ โมงแรก โดยสงั เกตจากผล FBS ตำ่ ระยะเวลา - ผู้ปว่ ยปลอดภยั ไมเ่ กดิ อาการชกั ใน
ท่ขี าดแอลกอฮอล์ แรธ่ าตใุ นเลือดท่ไี มส่ มดลุ เปน็ ตน้ รวมท้ังการเฝา้ ระวังอบุ ัตเิ หตุที่อาจ 72 ช่วั โมงแรก
เกิดข้นึ ได้จากการชกั - ไมม่ ีอนั ตรายจากการชัก

- ให้นอนเตยี งท่ีมีไม้กั้นเตยี ง

- ดูแลใหย้ าตามแผนการรักษา

- หากชกั จดั ท่านอนตะแคงเพื่อป้องกนั การสำลกั /กดั ลน้ิ

- ดูแลความสขุ สบาย/ความสะอาดหลังชัก

- Check vital signs (v/s) ทกุ 4 ช่ัวโมง จน stable

- สังเกตอาการชัก ลักษณะ อาการ รปู แบบการชัก เพือ่ แยกจาก Epilepsy โรคทางสมอง
อน่ื ๆ หากพบความผิดปกติรายงานแพทย์เพ่ือการรักษาท่เี หมาะสม

5 มไี ข้ - Check vital signs (v/s) ทกุ 4 ชัว่ โมง จน stable - ผปู้ ว่ ยไมท่ กุ ข์ทรมานจากการมีไข้

- หากมีไข้ T > 37.5 c° ใหด้ ่ืมนำ้ มากๆ > 8 - 10 แกว้ /วนั หาก T  38.5c° เช็ดตวั ลดไข้ - มี vital signs เข้าสู่ภาวะปกตภิ ายใน

- รายงานแพทยเ์ พ่ือพิจารณาการรกั ษา 1 สัปดาห์

- ดแู ลใหย้ าลดไข้ ตามแผนการรกั ษา

- ใหอ้ าหารอ่อนยอ่ ยง่าย

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

6 ภาวะขาดน้ำ - ให้นอนพักผ่อน - ผปู้ ่วยปลอดภยั ไม่มีภาวะขาดน้ำ เชน่
(dehydration) ผิวหนงั ตงึ ตัว ริมฝปี ากชมุ่ ชืน้ ปัสสาวะปกติ
- สงั เกต อาการ ลักษณะไข้ เพ่อื แยกจากโรคอนื่ ๆ หากผิดสังเกต เชน่ มหี อบเหนื่อย ไข้สูง
7 ความดันโลหิตสงู ไมล่ ดลงหลังดแู ลให้ยาลดไข/้ เชด็ ตัวลดไข้ รายงานแพทยซ์ ำ้ เพอื่ พจิ ารณาการรักษา - ผูป้ ว่ ยปลอดภยั /ไม่ทกุ ขท์ รมาน จากภาวะ
ความดนั โลหิตสงู
- ประเมนิ ภาวะขาดน้ำ โดยสงั เกตการตงึ ตวั ของผิวหนงั รมิ ฝปี ากแห้ง ปัสสาวะออกน้อย - ความดนั โลหติ อยใู่ นช่วงปกติ (ตามชว่ ง
และสเี หลืองเข้ม ปริมาณการรบั ประทานอาหารและนำ้ เป็นตน้ อาย)ุ

- ดูแลให้ดม่ื น้ำ วนั ละ 8 - 10 แก้วตอ่ วัน (3000 cc ต่อวัน)

- หากมีภาวะขาดน้ำรนุ แรงจนมีไขส้ ูง รายงานแพทยเ์ พื่อใหส้ ารน้ำทางหลอดเลือด

- ประเมินภาวะเสย่ี งจากภาวะความดันโลหิตสูง โดยสงั เกตจาก อายุ Pulse Pressure
ระยะเวลาท่ีขาดสรุ า ระดบั ความรุนแรงของอาการขาดสุรา อาการปวดมนึ ศรี ษะ ตลอดจน
เฝ้าระวังภาวะแทรกซอ้ นท่ีอาจจะเกดิ ขึ้น การแนะนำชว่ ยเหลือเบื้องตน้ เช่น ใหน้ อนพัก
หากยังความดนั โลหติ สงู รายงานให้แพทย์ทราบ

- ดูแล/แนะนำให้รับประทานอาหารทมี่ ีไขมนั ตำ่ ลดเค็ม

- ใชน้ ำ้ เยน็ หรือนำ้ แข็งประคบศีรษะ

- ดแู ลใหร้ ับประทานยาตามแผนการรักษา

8 หัวใจเตน้ ผิดจังหวะ - Check v/s และประเมนิ อาการหวั ใจเต้นผิดจงั หวะ เชน่ ชพี จรเต้นเร็วกว่า 100 ครง้ั /นาที - ผปู้ ว่ ยปลอดภยั จากภาวะหัวใจเต้นผิด

หรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ใจสนั่ หววิ ๆ แนน่ หนา้ อก หรือหวั ใจเตน้ ช้าผิดปกติน้อยกว่า 60 จงั หวะ

ครงั้ /นาที พจิ ารณารายงานแพทย์ทราบ - หัวใจเต้นปกติ 60 - 80 คร้ัง /นาที

9 ถ่ายเหลวกะปรบิ กะปรอย - สงั เกตลักษณะอุจจาระ กล่ิน สี จำนวนครงั้ หากผิดปกติรายงานแพทย์ทราบ - ผู้ปว่ ยปลอดภยั มีการขบั ถ่ายปกติภายใน

- ดแู ลใหด้ ื่ม ORS ทดแทนน้ำ 3 วนั

- ดูแลให้อาหารอ่อนย่อยงา่ ย งดอาหารรสจัด และผัก ผลไม้ นม - ไมม่ ภี าวะขาดนำ้ / แรธ่ าตใุ นเลือด

- ดแู ลใหร้ บั ประทานยาตามแผนการรักษา

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
10 ภาวะโลหิตจาง - ดแู ล/แนะนำให้รับประทานอาหารทมี่ ีธาตเุ หล็กสงู เชน่ ตับ เลอื ดหมู นม ไข่ ถ่วั ผักใบ - ผ้ปู ว่ ยปลอดภยั จากภาวะโลหติ จาง
เขียว (อาจใหญ้ าตินำมาให้) - ผปู้ ว่ ยบอกวธิ ีดูแลตนเองเพ่ือป้องกันภาวะ
11 มภี าวะปอดบวม (ขาด โลหติ จางได้
ออกซเิ จน) - ให้ยาเพิม่ ธาตเุ หลก็ ตามแผนการรักษา
- ผู้ป่วยปลอดภัยจากปอดบวม
12 มโี รคร่วมทางกาย - สงั เกตความก้าวหนา้ ของอาการ หากยา 2 สปั ดาห์แล้วไม่ดีขึ้นรายงานแพทย์ซ้ำ
เช่นตบั แข็ง/ตับอักเสบ - โรคร่วมทางกาย ได้รับการรักษาอย่าง
- ตดิ ตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เชน่ CBC รวดเร็วภายใน 24 ชัว่ โมงและปลอดภยั จาก
12.1 ตบั อ่อนอกั เสบ โรครว่ มทางกาย
12.2 ความดันโลหติ สูง - Check vital signs (v/s) ทกุ 4 ชวั่ โมง
- ผปู้ ว่ ยปลอดภยั /ไม่ทกุ ขท์ รมานจากภาวะตับออ่ น
- ประเมนิ ความรุนแรงของอาการ เช่น อาการหายใจเหนือ่ ยหอบ (หายใจตน้ื ถๆ่ี ซ่ีโครงบุ๋ม) อกั เสบ
ไขส้ ูงข้ึน ฟังปอดมีเสียง crepitating ปอดเคาะทึบ มเี สียงหายใจค่อย(diminish breath - ผ้ปู ่วยดแู ลตนเองไดเ้ หมาะสม
sound) - ผูป้ ่วยปลอดภยั /ไม่ทุกขท์ รมาน จากภาวะ
ความดันโลหิตสงู
- จดั ใหน้ อน Fowler’s position - ความดันโลหิตอยู่ในช่วงปกติ
(ตามชว่ งอายุ)
- ดแู ลใหย้ าตามแผนการรักษา

- ตรวจร่างกายเบ้ืองต้นทุกระบบเกีย่ วกับโรคที่สมั พันธก์ บั การใช้สรุ า เช่น

- ประเมินอาการตาเหลือง ตัวเหลือง spider nevi ท้องบวม โต อ่อนเพลยี คลื่นไส้ ผล
LFT ผิดปกติ เป็นตน้

- ดูแล/แนะนำให้ด่ืมนำ้ หวาน โปรตีนประเภทเน้อื ปลา อาหารไขมันต่ำ

- ประเมินอาการเดิน/นอนตวั งอ ปวดกลางชอ่ งท้อง คลืน่ ไส้ อาเจยี น อาจมีภาวะช็อก เช่น
กระสบั กระส่าย เหงือ่ อก ตวั เยน็ ผล LFT มี amylase สูง

- แนะนำ/ดูแลใหด้ ื่มน้ำหวาน อาหารไขมนั ต่ำ

- ประเมินภาวะเสย่ี งจากภาวะความดนั โลหิตสูง โดยสงั เกตจาก อายุ Pulse Pressure
ระยะเวลาท่ีขาดสุรา ระดับความรุนแรงของอาการขาดสุรา อาการปวด
มนึ ศรี ษะ ตลอดจนเฝา้ ระวงั ภาวะแทรกซ้อนทอี่ าจจะเกิดข้ึน การแนะนำช่วยเหลือเบื้องตน้
เช่นใหน้ อนพัก หากความดนั โลหิตยงั สงู รายงานให้แพทยท์ ราบ

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

- ดแู ล/แนะนำใหร้ ับประทานอาหารที่มีไขมันตำ่ ลดเค็ม

12.3 กระเพาะอาหารอักเสบ - Check vital signs และรายงานแพทย์ดว่ น - ผปู้ ่วยปลอดภัย/ไม่ทุกขท์ รมาน จากภาวะ
กระเพาะอาหารอกั เสบ
- สังเกตอาการเสียดแนน่ บรเิ วณล้ินปี่ อาเจียนเปน็ เลอื ด (coffee gown) หรอื เลือดสดๆ
หรอื ถ่ายดำ

- Check vital signs และรายงานแพทยท์ ราบ

- แนะนำให้งดบุหรี่ กาแฟ สรุ าและอาหารรสจดั

12.4 มเี ลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง - Check vital signs/Neuro signs - ผู้ปว่ ยปลอดภัยไดร้ บั การส่งตอ่ ภายใน 24
(Subdural hematoma) - ตรวจดรู อยฟกชำ้ ที่ศรี ษะ เลอื ดออกในเย่ือตาเปน็ ตน้ ชว่ั โมง

- หากพบอาการผดิ ปกติรายงานแพทย์ทราบ

12.5 เป็นเบาหวาน - เฝ้าระวัง สงั เกตภาวะ hypoglycemia เชน่ ใจส่นั หววิ ๆ หนา้ มืด ตาลาย เหง่ือออก ตวั - ผปู้ ่วยปลอดภยั ไม่มีภาวะhypoglycemia –

เย็น หากมีอาการดงั กล่าวดแู ลใหน้ ้ำหวาน หรอื ภาวะ hyperglycemia เชน่ หายใจหอบลกึ hyperglycemia

คลนื่ ไส้ อาเจียน ลมหายใจมีกล่นิ หอม มไี ข้ กระวนกระวาย ชีพจรเบาเร็ว เปน็ ตน้ และซึม - ผู้ปว่ ยปฏิบตั ติ วั /ดแู ลตนเองได้ถูกต้องตาม
ลง หากอาการรายงานแพทย์ทันที
คำแนะนำ

- แนะนำ/สอนเร่ืองการควบคุมอาหาร เชน่ อาหารพวกแปง้ และน้ำตาล เหลา้ เบียร์

น้ำอัดลม ผลไมห้ วาน นำ้ ผึ้ง

13 เกดิ อนั ตรายจากฤทธ์ิ - ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา และสงั เกตอาการขา้ งเคียงของยา ตลอดจนการเสรมิ ฤทธ์ิ - ผู้ป่วยปลอดภยั /ไม่เกดิ อันตรายจากฤทธิ์
ขา้ งเคียงของยาทร่ี ักษา ของ ยาบางตวั ที่อาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายต่อผู้ปว่ ยได้ หากพบอาการขา้ งเคียงจากยา พยาบาล ขา้ งเคยี งของยาทรี่ ักษา
ใหข้ อ้ มูลและช่วยเหลอื เบ้ืองต้นหลังจากนั้นประสานงานกับเภสัชกรประจำตกึ เพือ่ ประเมิน
ผปู้ ว่ ย และรายงานแพทย์เพ่ือปรบั แผนการรกั ษาท่เี หมาะสม - สามารถสังเกตอาการเปลีย่ นแปลงตนเอง
จากฤทธ์ิขา้ งเคียงของยาทีร่ ักษาได้
- Check vital signs

- แนะนำ/สอนผู้ปว่ ยใหส้ งั เกตอาการเปล่ียนแปลงท่ีเปน็ ผลข้างเคียงของการรักษา ตลอดจน
การขอความชว่ ยเหลอื จากพยาบาลหรอื ผปู้ ว่ ยอื่น

14 ไม่ยอมรบั ประทานอาหาร - กระตุ้น/ปอ้ นอาหารนำ้ ใหผ้ ู้ป่วย - ผปู้ ว่ ยไดร้ บั สารน้ำ และอาหารอย่างเพียงพอ

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
และไม่ด่ืมนำ้ - ให้ขอ้ มูลความจำเปน็ และประโยชน์ในการรับประทานอาหาร และการดม่ื นำ้ ตอ่ ความต้องการของร่างกาย

- สังเกต/ประเมินการรบั ประทานอาหาร/นำ้ ของผูป้ ว่ ย - ผปู้ ่วยรบั ประทานอาหารได้ตามปกติ และ
เหมาะกบั โรคท่ีเปน็
- หากยงั ไมย่ อมรบั ประทานอาหาร และไม่ดม่ื นำ้ รายงานแพทยเ์ พอื่ ให้สารน้ำทางหลอด
เลือด

- แนะนำ/สอนผ้ปู ่วย เกี่ยวกับการรับประทานอาหารทีเ่ หมาะกับโรคของผูป้ ่วย

- ประสานนักโภชนาการเพื่อจัดอาหารผปู้ ่วยทเ่ี หมาะสม

15 ช่วยเหลอื ตัวเองไดน้ ้อย - ดูแลสขุ วิทยาสว่ นบคุ คลให้แก่ผู้ป่วย เชน่ อาบนำ้ แปรงฟัน เปลี่ยนเสอ้ื ผา้ และเคร่ืองนอน - ผปู้ ว่ ยมสี ุขอนามยั ดี

- ดแู ลให้รับประทานอาหารและน้ำ อย่างเพยี งพอ ตามความต้องการของร่างกาย ตลอดจน - ผู้ป่วยชว่ ยเหลอื ตนเองได้ตามศักยภาพ
เฝ้าระวงั การ

สำลกั น้ำและอาหาร เพ่ือป้องกัน Aspirate pneumonia

- แนะนำ/สอนผูป้ ว่ ย เก่ยี วกับการมสี ขุ ภาพอนามยั ดีโดยเฉพาะด้านความสะอาดร่างกาย
การแตง่ ตวั ท่เี หมาะสม การมีสมดุลของการมีกจิ กรรม เช่น ออกกำลงั กาย การพกั ผ่อน

16 การทรงตวั ไม่ดี - ประเมนิ ความเสย่ี ง (SAFE-D “A”) ที่อาจจะ เกิดขึน้ เชน่ หกลม้ ตกเตยี ง - ผู้ปว่ ยปลอดภยั /ไม่มีอบุ ตั ิเหตจุ ากการ

- จัดส่งิ แวดล้อมเพื่อการบำบัด ทรงตวั ไม่ดี

- ชว่ ยพยงุ หรอื ใหน้ ่ังรถเขน็ เม่อื ต้องไปทำกจิ กรรมตา่ งๆ

- จำกดั พฤติกรรมในรายทผี่ ู้ป่วยไมส่ ามารถควบคุมพฤติกรรมได้ เพ่ือป้องกนั อบุ ัติเหตุ

17 ไมย่ อมทำกิจวตั ร - ประเมนิ ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน - ผปู้ ว่ ยสขุ สบายและมีสขุ อนามยั ดี

ประจำวัน - ให้ขอ้ มูลผลกระทบและประโยชนใ์ นการทำกจิ วตั รประจำวัน - ผปู้ ่วยสามารถทำกจิ วตั รประจำวนั ได้
- ดแู ล/ กระตุ้นใหผ้ ู้ปว่ ยทำกจิ วตั รประจำวนั เหมาะสมตามศักยภาพ

- ชมเชย ใหก้ ำลังใจเมื่อผู้ป่วยปฏบิ ัติกจิ วตั รประจำวันได้เหมาะสมตามศักยภาพ

18 มอี าการนอนไม่หลบั หรือ - จดั สิง่ แวดล้อมเพื่อการบำบัด - นอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอต่อควาต้องการ
- ดูแลให้ผปู้ ว่ ยได้รับการพักผ่อนอยา่ งเพียงพออยา่ งน้อยวนั ละ 6-8 ชว่ั โมง/วัน ของร่างกายอยา่ งน้อยวนั ละ 6-8 ชม/วัน

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
นอนหลบั ได้น้อย - แนะนำไม่ใหน้ อนกลางวนั มาก ใหน้ ั่งสมาธิ การฝึกการหายใจ การนับเลข การสวดมนต์
ตามหลกั ศาสนา หรือให้ดม่ื นำ้ อุ่นก่อนนอน - ผปู้ ่วยปลอดภยั ได้รับการบำบัดตรงกับสภาพ
19 สบั สน ปญั หา ความต้องการ
- ดแู ล/แนะนำให้ออกกำลงั กายทุกวนั เช้า - เย็น ครัง้ ละ 15 – 30 นาที - ผู้ป่วยมกี ารรับรู้ วนั เวลา สถานที่ บคุ คลดี
20 ปวดเมือ่ ยกล้ามเนอ้ื /ตาม ขึ้นตามความเป็นจริง
ร่างกาย - หากผ้ปู ่วยยังนอนไม่หลับรายงานแพทย์เพ่ือการรักษาทีเ่ หมาะสม
- ผปู้ ว่ ยไมท่ กุ ข์ทรมาน/อาการปวดเมอ่ื ย
- จัดใหร้ ่วมกิจกรรมกลุ่มระหวา่ งวัน เช่น ออกกำลังกาย กีฬากลางแจ้ง สขุ ภาพจติ ศึกษา กลา้ มเนื้อ/ตามร่างกายและทเุ ลาหรือหาย
นันทนาการ หรอื กลมุ่ อ่นื ๆ ตามศกั ยภาพของผูป้ ว่ ย ภายใน 3 วัน

- ดูแลใหร้ บั ยาตามแผนการรักษาของแพทย์

- เรยี กชอ่ื ผู้ปว่ ยและบอกกล่าวทกุ ครงั้ ก่อนให้การพยาบาล

- ใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับ วัน เวลา สถานที่ บคุ คลซ้ำ ๆ

- สร้างสัมพันธภาพเพ่ือการบำบัด หนึ่งตอ่ หน่ึง จนผูป้ ่วยเกิดความไวว้ างใจ

- สังเกตอาการ งง สบั สน ค้นหาสาเหตุเพม่ิ เติม เช่น จากภาวะเมา/ถอนสุรา/แร่ธาตุใน
เลอื ดไม่สมดลุ /มีภาวะขาดวิตามิน B1 ในสมองแบบเฉียบพลนั หรอื เรอื้ รงั /อบุ ัตเิ หตุทาง
สมองหรอื จากโรคทางสมองอื่นๆ

- Check vital signs/Neuro signs ทุก 4 ช่วั โมง

- หากอาการไม่ทเุ ลาภายใน 3 วันรายงานแพทย์เพ่อื การรักษาท่เี หมาะสม

- ประเมินความรนุ แรงของอาการหงดุ หงิด/ปวดเมื่อยตามร่างกายจาก สีหน้า ท่าทาง ฯ

- ใหข้ ้อมูลการปฏบิ ตั ิเพ่ือบรรเทาอาการปวดเม่ือยกล้ามเนื้อ/ตามรา่ งกาย เชน่ การอาบน้ำ/
สระผม การทาcounter pain แล้วนวดเบาๆ

- หากอาการไมด่ ีขน้ึ รายงานแพทยท์ ราบเพื่อพจิ ารณาการรักษา

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

21 มภี าวะหวาดระแวง กลัว - ประเมนิ ภาวะเส่ียง จากภาวะหวาดระแวงต่อการทำร้ายตนเอง/ผู้อ่นื (SAFE-D “S, F” - ผ้ปู ว่ ย/ผูอ้ นื่ ปลอดภยั จากภาวะหวาดระแวง/
กลวั คนทำร้าย
คนทำร้าย และเฝา้ ระวังการทำร้ายตนเอง/ผ้อู ่นื

- สรา้ งสัมพนั ธภาพอยา่ งสมำ่ เสมอ แบบหนง่ึ ต่อหนึง่ - ผปู้ ่วยมีภาวะหวาดระแวง ลดลง (รบั รู้ความ
เพ่อื ใหผ้ ้ปู ่วยเกดิ ความไว้วางใจ เป็นจรงิ ทเี่ กดิ ขึน้ ) ภายใน 1 สัปดาห์

- เปิดโอกาสให้ผ้ปู ่วยระบายปัญหา ความคับข้องใจ

และภาวะหวาดระแวงทีย่ ังมีอยู่ ดว้ ยท่าทีแสดงความเขา้ ใจ ฟงั อย่างตง้ั ใจ สะทอ้ นความรู้สกึ
และคน้ หาขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ

- ใหข้ ้อมลู ผูป้ ่วยวา่ อาการดงั กล่าวท่ีเกดิ ขึน้ เปน็ ผลจากภาวะขาด/ถอนสรุ าทผ่ี ู้ป่วยใช้
ประจำ อาการดงั กล่าว จะค่อยๆ ดขี ้นึ เม่ือได้รับการรักษาด้วยยา และกลมุ่ กิจกรรมบำบัด
ประมาณ 1 สปั ดาห์

- ดแู ลใหผ้ ูป้ ่วยรบั ประทานยาตามแผนการรักษา และสงั เกตอาการข้างเคียงจากการได้ยา
หากพบอาการขา้ งเคียงจากยา พยาบาลใหข้ ้อมูลและชว่ ยเหลือเบ้อื งต้นหลงั จากนั้น
ประสานงานกบั เภสชั กรประจำตึกเพื่อประเมินผู้ปว่ ย และรายงานแพทยเ์ พ่ือปรบั แผนการ
รกั ษาทีเ่ หมาะสม

- หากยงั รสู้ ึกทกุ ขท์ รมานจากภาวะหวาดระแวง/ กลัวคนทำรา้ ยให้ยาฉดี prn ตามแผนการ
รกั ษา

22 ไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์ - ประเมินภาวะเสยี่ ง (SAFE-D “F”) และความรนุ แรงจากการไมส่ ามารถควบคมุ อารมณ์ - ผปู้ ว่ ย/ผอู้ ่ืนปลอดภัย

และพฤติกรรมได้/กา้ วร้าว และพฤติกรรมได/้ กา้ วรา้ ว และเฝ้าระวงั การทำรา้ ยตนเอง/ผอู้ ่ืน สงิ่ ของ - ผปู้ ว่ ย ควบคุมอารมณแ์ ละพฤตกิ รรมได้/ไม่

- สร้างสัมพันธภาพอยา่ งสมำ่ เสมอ แบบหน่ึงต่อหนึง่ เพ่ือให้ผปู้ ่วยเกดิ ความไว้วางใจและ ก้าวรา้ ว

calm down

- เปดิ โอกาสใหผ้ ูป้ ่วยระบายปัญหา ความคบั ข้องใจ และความก้าวร้าวท่ยี ังมีอยู่ ดว้ ยท่าที

แสดงความเข้าใจฟังอย่างต้ังใจ สะท้อนความรู้สึกและคน้ หาขอ้ มูลเพิม่ เติม

- กรณีควบคุมตนเองไม่ได้ จำกดั พฤตกิ รรม และใหย้ าฉดี prn. ตามแผนการรกั ษา

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

- เฝา้ ระวงั ภาวะแทรกซ้อนจากการจำกัดพฤติกรรม เชน่ รอยถลอก โดยเปลยี่ นทา่ ใหท้ ุก 2

ช่ัวโมง

23 มหี แู วว่ /ภาพหลอน/สัมผัส - ประเมนิ ความเส่ียง จากภาวะมหี แู ว่ว/ภาพหลอน/สมั ผัสหลอน ต่อการทำรา้ ยตนเอง/ -ผปู้ ว่ ย/ผอู้ นื่ ปลอดภัย

หลอน ผอู้ น่ื และเฝา้ ระวังการทำร้ายตนเอง/ผอู้ น่ื (SAFED–D “S, F”) - ผ้ปู ว่ ยไม่ทุกข์ทรมานจากประสาทหลอน

- สร้างสัมพนั ธภาพอย่างสม่ำเสมอ แบบหนึ่งต่อหนึง่ เพ่ือให้ผู้ป่วยเกดิ ความไว้วางใจ - ผปู้ ่วยไม่มปี ระสาทหลอน/ประสาทหลอน

- เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ ่วยระบายปัญหา ความคบั ข้องใจ จากการมหี ูแวว่ /ภาพหลอน/สัมผสั ลดลงภายใน3 -7 วัน

หลอน ดว้ ยท่าทแี สดงความเข้าใจ ฟงั อยา่ งต้งั ใจ สะท้อนความรู้สกึ และคน้ หาข้อมลู เพม่ิ เติม

- ให้ข้อมูลผู้ป่วยวา่ อาการดังกลา่ วท่เี กดิ ขนึ้ เปน็ ผลจากภาวะขาด/ถอนสุราท่ผี ู้ป่วยใช้
ประจำ อาการดังกล่าวจะกลา่ ว จะคอ่ ยๆ ดีขน้ึ เม่ือไดร้ ับการรักษาด้วยยาประมาณ 1
สัปดาห์

- สอน/แนะนำการจดั การกับอาการหูแวว่ /ภาพหลอน/สมั ผัสหลอน เชน่ การบอกกับ
ตนเองว่าอาการท่ีเกดิ ขึน้ เปน็ เรือ่ งไม่จริง การเข้ารว่ มกล่มุ กิจกรรม การพูดคุยกบั ผอู้ ่นื การ
รับประทานยาตามแผนการรกั ษา

- หากยงั รูส้ กึ ทุกข์ทรมานจากอาการหแู ว่ว/ภาพหลอน/สัมผสั หลอนให้ยาฉีด prn ตาม
แผนการรักษา

- ชมเชย ใหก้ ำลังใจเมอื่ ผูป้ ว่ ยดูแลตนเองได้เหมาะสมตามศักยภาพ

ระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ - สรา้ งสัมพนั ธภาพอยา่ งสม่ำเสมอ แบบหน่งึ ต่อหนึ่ง เพ่ือให้ผู้ปว่ ยเกดิ ความไว้วางใจและ - ผู้ปว่ ยไม่มีพฤติกรรมแยกตวั
ค้นหาข้อมลู เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมแยกตัว
24 แยกตวั ไม่คอ่ ยมี - ผปู้ ่วยมีสัมพนั ธภาพกบั ผอู้ น่ื มากข้นึ โดยบอก
สมั พนั ธภาพกบั ผู้อืน่ - สอน/สาธิตวธิ ีการสร้างสัมพันธภาพกบั บุคคลอน่ื และใหข้ ้อมลู ประโยชน์ของการมี ช่ือเพื่อนได้ วนั ละ 2-3 คน
สมั พนั ธภาพกับบุคคลอื่นเช่น ทำให้มคี วามรู้มากขน้ึ การมมี ุมมองท่ีกว้างขนึ้ สามารถลด
อาการหแู ว่วได้

- แนะนำใหร้ ู้จกั ชื่อเพ่ือนทีส่ ภุ าพ บคุ ลิกคลา้ ยผปู้ ว่ ยวันละ 2-3 คน

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

- ประเมินความรนุ แรงของอาการทางจติ (BPRS) เพื่อจดั ให้เขา้ กลมุ่ กิจกรรมบำบัด/ใหก้ าร

บำบดั รายบุคคลท่ีเหมาะตามสภาพปัญหาและความต้องการของผปู้ ว่ ย และตามระยะการ

ฟื้นหายของผู้ป่วย เชน่

* กลมุ่ สุขภาพจิตศกึ ษา (คู่มือของกลุม่ การพยาบาล)

* กลุ่มจติ สังคมบำบดั สำหรับผูป้ ว่ ยสรุ าและยาเสพติด (คูม่ ือโปรแกรมกล่มุ กจิ กรรมจติ สงั คม
บำบดั สำหรบั ผปู้ ว่ ยสุราและยาเสพติด)

* กลมุ่ กจิ กรรมบำบัดผปู้ ว่ ยที่มขี อ้ จำกดั ทางเชาวป์ ัญญา (คู่มือโปรแกรมกลมุ่ กิจกรรมผู้ป่วย
ท่ีมีข้อจำกัดทางเชาวป์ ัญญา)

* โปรแกรมการดูแลผปู้ ่วยทีม่ ีปัญหาสขุ ภาพจติ จากสรุ ายาเสพติดแบบครบวงจรโดยทีมสห
วิชาชีพ (คู่มอื โปรแกรมกลมุ่ การดูแลผปู้ ่วยที่มปี ัญหาสุขภาพจิตจากสุรายาเสพติดแบบครบ
วงจรโดยทมี สหวิชาชีพ)

* กลุม่ บำบัดผปู้ ว่ ยสุราและยาเสพติดด้วยวิธีการเสริมสรา้ งแรงจูงใจ เป็นตน้

- ชมเชย ใหก้ ำลงั ใจเมื่อผู้ป่วยมสี มั พนั ธภาพกบั ผู้อื่น/กล้าแสดงออก

25 แอบทง้ิ ยา - ซักถาม/คน้ หาข้อมูลการแอบท้งิ ยาและใหข้ ้อมลู ความจำเป็น/ประโยชนใ์ นการ - ผู้ป่วยดแู ลตนเองไดเ้ หมาะสมและไมม่ ี
รับประทานยาตามแผนการรกั ษา และข้อเสยี ที่เกดิ ขนึ้ หากไม่รบั ประทานยาตามแผนการ พฤติกรรมแอบท้ิงยา
รกั ษา

- ให้ขอ้ มูลอาการขา้ งเคียงของยาท่ีอาจเกิดขนึ้ ได้ การดูแลตนเองเบ้ืองต้น การขอความ
ชว่ ยเหลือจากพยาบาลหรือผ้อู ่นื

26 มีภาวะซึมเศรา้ /มคี วามคิด - สรา้ งสมั พันธภาพเพ่ือการบำบัดและประเมนิ ภาวะซึมเศร้า (ในรายที่มีอาการซึมเศรา้ มาก - ผูป้ ว่ ยไม่มีมีภาวะซึมเศร้า/ภาวะซมึ เศรา้

อยากฆา่ ตวั ตาย ด้วยแบบประเมินภาวะซมึ เศร้าของกรมสุขภาพจิต: 9Q ถา้ คะแนน ≥7 ประเมินความเสี่ยง ลดลง

ในการฆ่าตวั ตาย: 8Q) - ผู้ปว่ ยไม่มีมคี วามคิดอยากฆ่าตวั ตาย

- หากซมึ เศรา้ มากหรือมคี วามคิดอยากฆ่าตัวตาย รายงานแพทย์พจิ ารณาการรักษาท่ี

เหมาะสม

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

- กระตนุ้ ให้พดู ระบายปญั หา ความคบั ข้องใจ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ปว่ ย

- ใหข้ อ้ มลู ผลกระทบของสรุ าตอ่ รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมครอบครวั ตลอดจนการ
รักษา และประโยชนใ์ นการรับประทานตามแผนการรักษา

- สอน/แนะนำการปฏบิ ัติตัวเพือ่ บรรเทาอาการซึมเศรา้ เช่น การออกกำลงั กายทุกวนั อย่าง
น้อยครง้ั ละ 15-30 นาที การรับประทานยาตามแผนการรักษา งดดื่มน้ำชา/กาแฟ การเดนิ
รับแดดอ่อนๆทุกวนั

- เฝ้าระวงั การพยายามทำร้ายตนเอง/ทำร้ายผอู้ ื่น

27 รูส้ กึ ไรค้ ่า/ความภาคภูมิใจ - ประเมนิ ความภาคภมู ิใจในตนเองในกรณที ีผ่ ู้ป่วยมีความภาคภมู ใิ จในตนเองต่ำ (Cooper - มคี วามภาคภมู ใิ จใน ตนเองสูงขึ้น (คะแนน

ใน ตนเองตำ่ Smith’self esteem) ทแ่ี ปลโดย นาตยา (2532) self esteem สงู ขึ้นในระดับปานกลางขน้ึ ไป)

- จัดใหเ้ ขา้ กลุ่มให้เข้ากลุ่มเสริมสร้างความภาคภมู ิใจสำหรับผปู้ ว่ ยตดิ สรุ า (RT) อยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื งจนครบ Course เพ่อื สรา้ งความภาคภูมิใจในตนเอง และให้ความรเู้ กย่ี วกับ
ความคดิ ท่ีทำให้เกิดทุกข์ ตลอดจนการฝกึ ปรบั เปลีย่ นความคดิ

28 ขาดความตระหนักเรื่อง - ประเมนิ ข้ันตอนการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม (stage of change) และ เสรมิ สรา้ งแรงจงู ใจ - ผู้ปว่ ยบอกโทษพิษภยั ของสรุ าไดถ้ ูกต้อง

โทษ และพิษภยั ของสุรา ตามข้ันตอนการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม - ผูป้ ่วย และครอบครวั อธบิ ายโรคสมองตดิ ยา

- ให้ความรู้ ผู้ป่วยเก่ยี วกับโรคสมองตดิ ยา โรคร่วม อาการ และการรักษาแกผ่ ู้ปว่ ยและญาติ และอาการเตือนการกลับเสพสรุ าซ้ำได้

ตามคมู่ ือครอบครวั ศึกษาฯ และ VCD เสน้ ตายและตายทง้ั เป็น

- ให้ความรูแ้ ก่ผู้ปว่ ย และครอบครวั เกย่ี วกับการสังเกต อาการเตือนการกลับไปใช้สุราซ้ำ
ของผู้ป่วย และแนวทางการช่วยเหลือ (ตามคู่มือครอบครวั ศึกษาฯ กลุ่มและหรือคู่มือกลุ่ม
กิจกรรมบำบัดผูป้ ่วยที่มขี ้อจำกัดทางเชาวป์ ญั ญา)

- เตรียมความพร้อมผปู้ ว่ ยและครอบครวั ตามแนว D-METHOD

29 คิดถงึ สรุ า และขอกลบั - ประเมินขนั้ ตอนการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรม (stage of change) และ เสริมสรา้ งแรงจงู ใจ - ผู้ปว่ ยมแี รงจงู ใจในการเลิกสุรา ตงั้ ใจ

บ้านทัง้ ท่ีอาการยังไม่ดี ตามขั้นตอนการเปล่ยี นแปลง บำบดั รกั ษาและไม่บน่ อยากกลับบา้ น

- ประเมินความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วโทษพษิ ภัยของสุรา

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
30 ยงั คดิ ถึงสุรา/ คิดว่า - ใหค้ วามรโู้ ทษพิษภัยของสุราท้ัง individual/group

กลับไปดื่มวนั ละนอ้ ย ๆ - ใหข้ ้อมลู ข้ันตอนการกลับบา้ น
คงไม่ติดซ้ำ
- ประเมินข้ันตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (stage of change) และ เสรมิ สร้างแรงจงู ใจ - ผูป้ ว่ ยมแี รงจงู ใจในการเลกิ สุรา ตงั้ ใจ
31 วติ กกงั วลเรอื่ งของตนเอง
และครอบครัว ตามขั้นตอนการเปลยี่ นแปลง บำบดั รักษา

32 วิตกกังวลกลวั เลกิ สรุ า - ประเมนิ ความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวโทษพิษภยั ของสุรา - ผูป้ ว่ ยบอกสญั ญาณเตือนของการกลบั ไป
ไมไ่ ด้ - ใหค้ วามรูโ้ ทษพิษภัยของสรุ าท้งั individual/group เสพสุราซำ้

- ใหเ้ ขา้ กล่มุ กิจกรรมความคดิ กบั วงจรการใช้ยาเสพติด

- ให้ขอ้ มูลสญั ญาณเตือนของการกลับไปเสพสุราซำ้

- ประเมนิ ระดับความวติ กกังวลด้วยเครอ่ื งมือ - ผู้ป่วยมรี ะดบั ความวิตกกงั วลลดลง
Anxiety’s Spilberger
- ผู้ปว่ ยและครอบครัวมีความเขา้ ใจต่อกันดี
- คน้ หาขอ้ มูลเพ่มิ เติมและทำ Family counseling ขน้ึ

- สอนทกั ษะการสื่อสารในครอบครวั แก่ผู้ปว่ ย และครอบครัววธิ กี ารผ่อนคลายความเครียด
การเผชญิ กับความเครยี ด การจดั การกับอารมณ์ ความรสู้ กึ ทางลบได้อยา่ งเหมาะสม

- ในกรณีทผ่ี ปู้ ่วยมีปัญหาซับซ้อนประชุมทมี สหวชิ าชีพ ผปู้ ว่ ยและครอบครวั เพื่อสรปุ ผลการ
ดแู ล

- ประสานงานกบั จิตเวชชุมชนเพื่อการดูแลต่อเนื่องทเี่ หมาะสม

- แนะนำแหลง่ สนบั สนุนทางสังคมจติ ใจแกผ่ ปู้ ่วยและครอบครัว เชน่ Hot line คลาย
เครยี ดของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ กรมสุขภาพจติ คลินกิ คลายเครียด และคลินิกให้
คำปรกึ ษา เปน็ ต้น

- ประเมนิ ขนั้ ตอนการเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรม (stage of change) และ เสริมสร้างแรงจูงใจ - ผปู้ ่วยมีความมน่ั ใจในตนเองมากขน้ึ โดยบอก

ตามข้นั ตอนการเปลย่ี นแปลง แนวทางการปฏบิ ัติตัวที่ทำใหเ้ ลกิ สุราได้

- ฝกึ ทักษะปฏิเสธเมอื่ เพ่อื นชวนไปเสพยาเสพตดิ แกผ่ ู้ปว่ ย

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

- ใหค้ วามรูเ้ ร่อื งการจัดกจิ กรรมในแต่ละวันใหส้ มดุลเชน่ การรับประทานอาหาร การทำงาน

การนอนหลบั การพักผ่อนการคลายเครยี ดทเ่ี หมาะสม การเข้ารว่ มกจิ กรรมทางสังคมที่

เหมาะสม

- ให้ความรเู้ กี่ยวกับวธิ ฟี ันฝ่าอุปสรรค ในการเลิกสรุ าระยะกลาง ระยะฝ่าอุปสรรค และ
ระยะปลาย

- ฟื้นฟูผู้ปว่ ยอยา่ งต่อเน่ือง โดยการทำกลุ่มกจิ กรรมตามโปรแกรมการดูแลผ้ปู ่วยทมี่ ีปญั หา
สขุ ภาพจติ จากสุรายาเสพตดิ แบบครบวงจรโดยทมี สหวชิ าชพี

- จดั กจิ กรรมกลมุ่ ครอบครวั บำบดั โดยใหค้ รอบครัวมสี ่วนรว่ มในการดแู ล และรว่ ม
แกป้ ญั หา

- ในกรณที ี่ผ้ปู ่วยมปี ัญหาซับซ้อนประชุมทมี สหวิชาชพี ผ้ปู ่วยและครอบครัวเพ่ือสรุปผลการ
ดูแล

- ใหข้ ้อมลู แก่ผ้ปู ่วยถงึ ความจำเปน็ ในการรับประทานอยา่ งตอ่ เน่ือง และการพบแพทยต์ ามนดั

- ประสานงานกบั จติ เวชชมุ ชนเพ่ือการดูแลต่อเนอ่ื ง

- แนะนำแหล่งสนบั สนนุ ทางสังคมจติ ใจแก่ผู้ปว่ ยและครอบครวั เช่น Hot line

คลายเครยี ดของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ กรมสุขภาพจิต คลินิกคลายเครยี ด และคลินิก
ใหค้ ำปรึกษา เป็นต้น

33 การจัดการกบั ปัญหาความ - ร่วมกนั หาแนวทางในการผ่อนคลายความเครยี ด และป้องกนั การเกิดความเครยี ดตาม - ผปู้ ว่ ยบอกแนวทางการจัดการกับปญั หา
ความ เครียด/อารมณ์ไดเ้ หมาะสม
เครียด/อารมณไ์ ม่ โปรแกรมการดูแลผปู้ ่วยท่ีมปี ัญหาสขุ ภาพจติ จากสุรายาเสพติดแบบครบวงจรโดยทมี สห

เหมาะสม วชิ าชีพ โดยใหผ้ ้ปู ว่ ยบอกวธิ ที เ่ี คยใช้ก่อน และพยาบาลเสนอเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกบั ภูมิปัญญา

ตะวนั ออก เชน่ การกดจดุ การนวด การเกร็ง-คลายกล้ามเน้อื การฝึกหายใจ การฝึกสมาธิ
การอา่ นหนังสือธรรมะ การออกกำลงั กายสม่ำเสมอ เปน็ ต้น

- ฝกึ ทกั ษะปฏเิ สธเมอ่ื เพือ่ นชวนไปเสพยาเสพตดิ แก่ผู้ปว่ ย

- ใหค้ วามรเู้ ก่ียวกบั วธิ ีฟันฝา่ อุปสรรคในการเลกิ สุรา

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
ระยะกลาง ระยะฝ่าอปุ สรรค และระยะปลาย
34 กลวั ไม่มงี านทำ
- ฟ้ืนฟูผูป้ ว่ ยอยา่ งต่อเนื่อง โดยการทำกลุ่มกจิ กรรมตามโปรแกรมการดูแลผูป้ ว่ ยทมี่ ีปัญหา
35 ไมม่ เี ปา้ หมายในชีวติ สุขภาพจติ จากสรุ า

36 เตรยี มความพรอ้ มผ้ปู ่วย - ให้ขอ้ มลู แก่ผู้ป่วยถงึ ความจำเปน็ ในการรบั ประทานอยา่ งต่อเนอ่ื ง เพือ่ ควบคมุ อารมณ์ ทำให้
ก่อนกลบั บา้ น คลายเครยี ด พกั ผอ่ นไดแ้ ละการพบแพทย์ตามนัด

- ให้สงั เกตอาการตนเอง เช่น หงดุ หงิดงา่ ย นอนไม่หลบั นานเกิน 3 วนั ใหร้ บี มาพบแพทย์

- ค้นหาขอ้ มลู เพ่มิ เติมและให้ข้อมูลเรื่องการทำงาน เช่นให้ทบทวนงานทคี่ รอบครัวมีอยแู่ ละ - ผูป้ ่วยบอกเรอื่ งงานท่จี ะไปทำเม่อื กลบั บ้าน

ช่วยทำงานเดมิ หากไม่มงี านประจำหรืองานอนื่ ทำก็ให้ชว่ ยแบง่ ภาระครอบครัว เชน่ การ ได้เหมาะสม/มีความเป็นไปได้ตามบริบทของ

ช่วยทำงานบา้ นของครอบครวั แทน เป็นตน้ ผู้ปว่ ย

- ให้ข้อมูลผปู้ ่วยและครอบครัวเรือ่ งผลกระทบของการวา่ งงาน เช่น ทำให้เกดิ ความรูส้ ึก
เหงา เศรา้ ซมึ เซง็ เบื่อและผ้ปู ว่ ยกจ็ ะหวนกลบั ไปใช้สรุ าซ้ำ

- ประสานงานกับนักสังคมสงเคราะหเ์ พ่อื หาแหล่งสนับสนุนทางสงั คม

- ให้เข้ากลุม่ เสริมสรา้ งความภาคภมู ิใจสำหรบั ผู้ปว่ ยตดิ สรุ า (RT) อย่างตอ่ เนื่องจนครบ - ผปู้ ว่ ยบอกเปา้ หมาย การดำเนินชวี ติ ได้ตาม
Course ศกั ยภาพและมีความเป็นไปได้ตามบริบทของ
ผู้ป่วย
- กระต้นุ ใหผ้ ้ปู ่วยบอกเปา้ หมายในชวี ติ ของตนเองหลังทำกลุม่ ครบ Course

- ชมเชยเม่ือผปู้ ว่ ยบอกเป้าหมายในชวี ิตไดเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพ ในกรณีบอกได้ไม่
เหมาะสมตามศักยภาพ/ตามบรบิ ทของผู้ปว่ ย ความรบั ผดิ ชอบ ความเป็นไปไดจ้ รงิ
พยาบาลใหข้ ้อมลู สะท้อนกลับและร่วมกนั วางเป้าหมายใหม่

- ประเมนิ ความคิด อารมณ์ พฤตกิ รรม การรับรู้ และความสามารถในการดูแลตนเอง/ - ผปู้ ว่ ยบอกแนวทาง การดำเนนิ ชวี ติ สถาน
ทกั ษะการทำกจิ กรรม บริการใกล้บ้าน ความสำคญั ของการมาพบ
แพทย์ตามนดั และแหลง่ สนบั สนนุ ทางสงั คม
- สรา้ งแรงจงู ใจในกา เลิกยา และเพ่ือสง่ เสริมการดแู ลตนเองอย่างต่อเน่ือง เมื่อมีปัญหาได้

- สง่ เสรมิ การทำกจิ วตั รประจำวนั และกิจกรรมฟืน้ ฟู เชน่ กลุ่มออกกำลังกาย กลมุ่ สง่ เสริม
งานอาชีพ กลุม่ บำบดั ผู้ปว่ ย ใช้สารเสพติด สอนทกั ษะการปฏเิ สธ การจดั การกับ

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

ความเครียด และการแกไ้ ขปัญหา

- แนะนำการรบั บริการจากสถานบรกิ ารใกล้บ้าน และการมาพบแพทยต์ ามนดั

- ให้คำปรึกษาครอบครั /ครอบครวั บำบัด

- แนะนำช่องทางการติดต่อโรงพยาบาลโดยโทรศัพท์ 1323 หรือ 077-312991 เมื่อ
ต้องการขอคำปรึกษา/ความชว่ ยเหลือทางดา้ นสขุ ภาพ

- แนะนำการใชส้ ิทธิการรกั ษาและความสำคัญของสมุดคมู่ ือ

- ชมเชยและให้กำลงั ใจเมื่อ ผู้ป่วยมีพฤติกรรมท่ีดีขึ้น และสามารถดูแลตนเอง หรือให้ความ

ร่วมมือทำกจิ กรรมได้สำเร็จ

เอกสารอ้างอิง
คณาจารย์สถาบันพระบรมราชนก. (2541) การพยาบาลผใู้ หญแ่ ละผู้สูงอายุ เล่ม 1 (พิมพ์คร้ังท่ี 2). นนทบุร;ี ยุทธรินทร์การพิมพ์.
จกั รกฤษณ์ สขุ ยิ่ง. (2544). Substance use disorder ในมาโนช หล่อตระกูล และปราโมทย์ สุคนิชย์ (บรรณาธกิ าร). จติ เวชศาสตร์รามาธิบดี

(พมิ พ์ครงั้ ท่ี 6 หนา้ 89 – 111). กรงุ เทพมหานคร: หา้ งห้นุ สว่ นจำกัด ส. วชิ าญการพิมพ.์
จติ จำนง ผลพฤกษา. (2540). การพยาบาลจิตเวชฉกุ เฉนิ . ในฉวีวรรณ สัตยธรรม (บรรณาธกิ าร). การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต (พิมพค์ รงั้ ท่ี 2 หน้า 317-330).

นนทบุรี: ยทุ ธรินทร์การพมิ พ์.
จนิ ตนา ศริ ินาวิน, สุมาลี นมิ มานนิตย์ และวนั ชัย วนะชวี นาวนิ . (2537). ภาวะฉุกเฉนิ ทางอายรุ ศาสตร์. กรุงเทพฯ : หมอชาวบา้ น
ฉววี รรณ สตั ยธรรม และศรีสมบตั ิ วานชิ . (2540). การพยาบาลผู้ติดสารเสพติด. . ในฉววี รรณ สัตยธรรม (บรรณาธกิ าร). การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต (พิมพ์คร้งั ที่ 2

หนา้ 303-314). นนทบรุ ี: ยุทธรินทร์การพมิ พ.์
เทอดศักด์ิ เดชคง, อุษา พ่ึงธรรม และ อภิสิทธ์ิ ฤธาทิพย์. (2547). คูม่ ือการใหค้ ำปรึกษาสำหรับผู้ประสบปญั หาแอลกอฮอล์. สำนักพฒั นาสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต.
ทรงเกียรติ ปยิ ะกะ. (2543). เวชศาสตร์โรคติดยา: ค่มู อื สำหรบั บุคลากรทางการแพทย์. สงขลา: บรษิ ทั ลมิ บราเดอร์การพิมพ์จำกัด.
นชิ นันท์ คำลา้ น. (2545). การใช้กลุ่มบำบัดตามแนวคดิ การปรบั เปลย่ี นทางความคดิ และพฤติกรรมในผตู้ ดิ สรุ า. การค้นคว้าแบบอสิ ระ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาการพยาบาลสุขภาพจติ และจติ เวช, บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ขอนแก่น.
พันธ์นุ ภา กิตติรตั นไพบลู ย์. (2545). Alcohol related disorder: เอกสารประกอบการอบรมเฉพาะทางการพยาบาลสุขภาพจิตและจติ เวช วันท่ี 15 – 16 มกราคม 2545.

เชยี งใหม่: โรงพยาบาลสวนปรงุ อัดสำเนา.
มานิตย์ ศรสี ภุ านนท์ และจำลอง ดิษยวนิช. (2542). ตำราจิตเวชศาสตร์. เชยี งใหม่ : แสงศิลป์.
สุรเกียรติ อาชานุภาพ. (2543). ตำราตรวจรักษาโรคทวั่ ไป หลกั การวนิ จิ ฉยั โรคและการตรวจรักษา/ 280 โรคและการรกั ษา (พมิ พค์ ร้ังท่ี 2). กรงุ เทพฯ : อษุ าการพิมพ.์
สาวติ รี อัษณางค์กรชัย และสวุ รรณา อรณุ พงษ์ไพศาล. (2543). รายงานการทบทวนองคค์ วามรเู้ รื่องมาตรการในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาจากแอลกอฮอล์.

สถาบันวจิ ยั ระบบสาธารณสขุ . (เอกสารอัดสำเนา).
สรสพร จูวงษ์ วภิ าวี จนั ทมตั ตกุ าร สมควร จลุ อกั ษร และคณะ. (2552). โปรแกรมการดูแลผู้ป่วยท่มี ีปญั หาสขุ ภาพจิตจากสรุ าและยาเสพติดแบบครบวงจรโดยทีม

สหวชิ าชพี (แบบผปู้ ่วยใน). สรุ าษฎรธ์ านี: สุวรรณอกั ษรการพมิ พ์.

สาวติ รี อษั ณางค์กรชยั . (2547). Brief Intervention. เอกสารประกอบการอบรมระยะส้ัน วนั ที่ 16-17 มิถุนายน 2547. สงขลา: คณะแพทย์ศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร.์

สุวนยี ์ เกยี่ วก่งิ แก้ว. (2545). การพยาบาลจิตเวช. พษิ ณโุ ลก: รัตนสวุ รรณการพิมพ์.
สุธภิ า เครือสนิท สมควร จลุ อักษร ภัทราจิตต์ ศักดาและคณะ. (2554). คมู่ ือบำบดั โปรแกรมการใหบ้ รกิ ารทางจิตสังคมสำหรบั ผ้ปู ่วยสุราและยาเสพติดแบบผู้ปว่ ยใน

โรงพยาบาลสวนสราญ รมย์. สรุ าษฎ์ธานี: สวุ รรณอักษรการพมิ พ์.
สมควร จลุ อกั ษร. (2548). ผลการใช้โปรแกรมกจิ กรมกลมุ่ ตามแนวคิดพจิ ารณาความเปน็ จริงต่อความสำนึกในคุณค่าแหง่ ตนของผู้ป่วยโรคจิตจากสรุ า

โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี.
สารนพิ นธ์ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑติ คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาการพยาบาลสขุ ภาพจิตและจติ เวช, มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์, สงขลา.
สมควร จุลอักษร ภัทราจิตต์ ศกั ดา วิภาวี จันทมตั ตกุ าร และคณะ. (2553). ค่มู ือครอบครัวศึกษาสำหรับผูป้ ่วยที่มปี ัญหาสขุ ภาพจติ จากสรุ าและยาเสพติด

โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จงั หวัดสรุ าษฎ์ธาน.ี สรุ าษฎ์ธานี:สวุ รรณอกั ษรการพิมพ์.
สมควร จลุ อกั ษร ภัทราจิตต์ ศกั ดา สธุ ภิ า เครอื สนทิ และคณะ.(2554).คู่มือโปรแกรมกลุ่มกจิ กรรมผปู้ ่วยที่มี

ปัญหาสขุ ภาพจติ จากสรุ าและยาเสพติดที่มีข้อจำกดั ทางเชาวป์ ัญญา.โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จงั หวดั สรุ าษฎธ์ าน.ี :สวุ รรณอักษรการพิมพ.์
สมภพ เรืองตระกูล. (2543). ยาเสพตดิ มหนั ตภัยเงยี บทปี่ ้องกนั ได้. กรงุ เทพมหานคร: เรือนแกว้ การพมิ พ.์
Kaplan, H.I.,& Sadock, B.J. (1998). Synosis of psychiatry:Behavioral science/clinical psychiatry.(8th ed.)

The United States of America:William & Wilkins.
Naegle, M.A.,& D’ Avanzo, C.E. (2000). Addiction and substance abuse: strategics For advanced practice nursjng. New Jersey:Prentice Hall.
National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism (NIAAA). (2004). Helping patients

With alcohol problems: A health practitioner ‘s guide. NIH Publication.
NSW Health Department. (2000). Alcohol and others drugs policy for nursing practice in NSW: Clinical guidelines. Australia: Warehouse.
NSW Health Department. (2000). The Management of People with a co – existing mental Health and substance use disorder: Discussion Paper.

New South Wales:State Health Publication.

แนวทางการบนั ทกึ ทางการพยาบาลผูป้ ว่ ยสารเสพตดิ
ท่ีมอี าการทางจติ

Focus list ผู้ปว่ ยสารเสพติดที่มีอาการทางจติ

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

1 ทกุ ข์ทรมานจากภาวะถอน - ประเมนิ ความรุนแรงของภาวะขาดยา เชน่ หงุดหงิดง่ายกระวนกระวาย ปวดเมื่อย - อาการอยากยาลดลง และสามารถ จดั การ

พษิ ยาเสพติด กล้ามเน้อื ออ่ นเพลยี ไมม่ แี รง กับอาการท่เี ปน็ ปัญหาได้

- ตรวจเช็คสัญญาณชีพ

- พูดคุยใหก้ ำลังใจดแู ลช่วยเหลือเพื่อลดความทกุ ข์ทรมาน

- ดแู ลใหร้ บั ประทานยาตามแผนการรกั ษา

- ดแู ลให้นอนหลบั พักผอ่ นใหเ้ พียงพอ และลดสิ่งกระตนุ้

- ใหข้ ้อมูลเร่ืองอาการในระยะแรกของการขาดยาและเส้นทางการเลิกยา แนะนำการปฏิบตั ิ

ตวั เกยี่ วกบั การลดภาวะอยากยา เช่น การอาบนำ้ สระผม การอมน้ำยา เคยี้ วหมากฝรั่งการ

หยุดความคิดเพือ่ ลดอาการอยากยา เปน็ ตน้

2 เส่ียงต่อการหลบหนี - ประเมินความเส่ยี งต่อการหลบหนตี ามแบบประเมินความเสยี่ งทสี่ ำคัญทางคลินิก - ยอมรับการรกั ษาในโรงพยาบาล

(SAFE-D “E”) - ไมม่ พี ฤติกรรมหลบหนี

- สร้างสัมพนั ธภาพเพื่อการบำบัด โดยเปดิ โอกาสให้ระบายความคิด ความรสู้ ึก รบั ฟังดว้ ย

ทา่ ทยี อมรบั

- ให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั โรค อาการ แผนการรกั ษาของแพทย์ ขั้นตอนการจำหน่ายกฎระเบียบ

และการปฏิบตั ิตัวขณะอยโู่ รงพยาบาล

- มอบหมายบุคลากรดแู ลใกล้ชดิ เฝา้ ระวงั ตามมาตรการปอ้ งกันความเส่ยี งทส่ี ำคัญทาง

คลนิ ิก (SAFE-D “E”)

- จัดให้อย่ใู นสถานที่ซง่ึ สามารถมองเหน็ ได้อยา่ งชัดเจน ท้งั ขณะอย่ใู น/นอกหอผปู้ ว่ ย

- ปดิ ประตทู ุกคร้ังที่มีการเข้า – ออก และตรวจสอบชอ่ งทางอืน่ ที่ผูป้ ่วยอาจหลบหนี

- จัดเขา้ กลุ่มกจิ กรรมเพอื่ ให้รับรู้ ยอมรบั การเจบ็ ปว่ ย การรกั ษาและเบ่ยี งเบนความคิด

หมกมุ่น ความวติ กกังวล เชน่ กลมุ่ เทคโนโลยีจติ เภท กลุ่มก่อนกลบั บา้ น จติ บำบัด

ประคับประคอง

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

3 พยายามทำรา้ ย - ให้ติดต่อพูดคยุ กับญาติ เพ่ือลดความเครยี ดและความกังวลเช่น การโทรศัพทต์ ดิ ต่อญาติ
ตนเอง/ฆ่าตวั ตาย
ใหม้ าเยีย่ ม

- ประสานทมี สหวิชาชพี เพอ่ื หาแนวทางในการชว่ ยเหลือตามสภาพปญั หาและความ

ตอ้ งการ

- บันทกึ อาการ พฤตกิ รรมประเมนิ ผลและสง่ ต่อเวรต่อเนือ่ ง

- ประเมนิ ความเสี่ยงต่อการทำรา้ ยตวั เองตามแบบประเมนิ ความเส่ยี งที่สำคัญทางคลนิ กิ - ปลอดภัย ไมท่ ำร้ายตวั เอง

(SAFE-D “S”) ประเมิน 8Q/9Q - มีแนวทางการเผชิญปญั หาที่เหมาะสม

-สรา้ งสัมพันธภาพเพ่ือการบำบัด โดยเปิดโอกาสใหร้ ะบายความคดิ ความร้สู กึ และรว่ มกัน - รบั รคู้ วามมีคุณค่าตนเอง

คน้ หาแนวทางท่ีเหมาะสม เพิ่มข้ึน

- สงั เกตอารมณ์ พฤตกิ รรมและถามความคิด แผนการฆ่าตัวตายอย่างตรงไปตรงมา

- มอบหมายบุคลากรดแู ลใกล้ชดิ เฝา้ ระวงั ตามมาตรการป้องกันความเสี่ยงท่สี ำคญั ทาง

คลินิก (SAFE-D “S”)

- จัดสิ่งแวดล้อมใหป้ ลอดภัย ไม่มีอปุ กรณท์ ี่เอื้อต่อการนำไปใชท้ ำร้ายตนเอง เช่น ของมีคม

เชือก

- จัดใหอ้ ยู่ใกล้บรเิ วณทำงานเพื่อสามารถติดตามอาการและ มองเห็นการเปล่ยี นแปลงได้

ชัดเจน

- ดูแลใหไ้ ดร้ ับยาตามแผนการรกั ษาและสงั เกตภาวะขา้ งเคยี งของยาทอี่ าจเกดิ ขึ้น

- กรณีมีความเสีย่ งตอ่ การทำร้ายตนเองพจิ ารณาใหย้ า Prn ตามแผนการรักษา

- จำกดั พฤติกรรมเม่อื ไมส่ ามารถควบคมุ อารมณ์ พฤติกรรม ไดโ้ ดยอธิบายความจำเปน็

ระยะเวลาของการจำกดั พฤติกรรมและดูแลอยา่ งใกล้ชิด

- พิจารณารายงานแพทย์ตามความเหมาะสม

- เมอื่ อาการทางจิตสงบ ทำจิตบำบดั รายบุคคล/กล่มุ โดยเนน้ ใหร้ บั รูอ้ ารมณ์ ความร้สู กึ และ

พฤติกรรมของตนเองผลเสยี ที่เกิดขน้ึ สนบั สนนุ ใหค้ ิดหาวิธีการเผชิญปญั หาในทางท่ี

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

ผู้ปว่ ยกา้ วรา้ ว / เป็น เหมาะสมพรอ้ มทั้งส่งเสรมิ ให้กำลงั ใจในการจัดการปัญหา - สามารถสอ่ื สารบอกความต้องการของ
อนั ตรายต่อตนเอง - จดั เขา้ กล่มุ กจิ กรรมเทคโนโลยีจติ เภท เช่น กลุม่ เสรมิ สรา้ งคุณค่าในตนเอง ตนเองได้
และผูอ้ ่นื - ให้คำปรกึ ษาครอบครวั เพื่อร่วมวางแผนการดูแลต่อเนอ่ื ง - สามารถจัดการกับอารมณแ์ ละพฤตกิ รรมได้
- บันทึกอาการ และประเมินผลตอ่ เนื่อง ในทางทเี หมาะสม
3 นอนไม่หลับ/พกั ผ่อนไม่
เพยี งพอ - จดั สิ่งแวดลอ้ มให้ปลอดภัย เช่น เกบ็ วตั ถสุ ิ่งของที่อาจเปน็ อันตราย ลด/หลีกเล่ียงส่งิ - นอนหลับพกั ผ่อนได้อยา่ งน้อย 6– 8 ช่ัวโมง
กระตุ้นรบกวนโดยแยกออกจากสถานการณ์ และไม่ให้ผอู้ น่ื เข้าใกล้ผู้ปว่ ย ตดิ ตอ่ กัน
- มอบหมายบุคลากรดูแลใกล้ชดิ เฝา้ ระวงั ตามมาตรการป้องกันความเสยี่ งทส่ี ำคัญทาง - ควบคมุ อารมณต์ นเองได้
คลินิก (SAFE-D “F”) - สามารถเข้าร่วมกิจกรรมไดโ้ ดยไมม่ ีทา่ ทาง
- เตรียมทมี ให้พรอ้ ม เมือ่ ไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์และพฤตกิ รรมได้และจดั การกับ
พฤติกรรมรุนแรง โดยการผูกยดึ
พรอ้ มทง้ั ให้ข้อมูล เหตผุ ล สิทธิขณะผูกยึด
- ดูแลใหไ้ ด้รับยา PRN ตาม CPG ตามแผนการรักษาของแพทย์
- ประเมินอาการทุก 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อสอบถามความต้องการพูดคุย ให้กำลังใจ
ตรวจดกู ารไหลเวียนของโลหิตบริเวณทผ่ี กู ยดึ
- ตดิ ตามอาการเปล่ียนแปลง และประเมนิ อาการ เพื่อยุติการผูกยึด พร้อมทัง้ บันทึก สง่ เวร
อย่างต่อเนอ่ื ง
- ดแู ลใหไ้ ด้รบั ประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการขา้ งเคยี งจากยา
- เมอ่ื อาการสงบฝกึ ทกั ษะการจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมในทางทเี่ หมาะสม
- รายงานแพทยเ์ มือ่ มอี าการเปล่ยี นแปลง

- ประเมนิ สาเหตุของการนอนไม่หลับ ชว่ งเวลาการนอนและการตืน่ ตลอดจนสงั เกตอาการ
/กิจกรรมที่ทำระหว่างวนั พร้อมท้ังบนั ทึกอย่างละเอียด เพ่ือใหก้ ารช่วยเหลือไดถ้ ูกตอ้ ง
- พดู คยุ สรา้ งสมั พนั ธภาพเพื่อการบำบดั เปิดโอกาสให้ระบายความรูส้ ึก ความคบั ข้องใจ
ปัญหาและสาเหตุของการนอนไม่หลบั

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

4 ประสาทหลอน / - รับฟงั ไมต่ ำหนิ ไม่วิพากษ์วิจารณ์ อธิบายใหท้ ราบถึงผลเสยี ของการนอนไมห่ ลบั ง่วงนอน
หวาดระแวง ให้ความร้กู ารปฏิบัตติ วั เพื่อสง่ เสริมและทำใหน้ อนหลับได้ เช่น ไมด่ ื่มน้ำมาก ก่อนนอน
งดอาหารหรือเคร่ืองด่ืมทเี่ ปน็ สาเหตุของการนอนไม่หลบั การปฏิบตั ิตวั เมือ่ นอนไมห่ ลับ - ปลอดภยั จากการรบั รทู้ ผี่ ดิ ปกติ
ได้แก่การทำสมาธิ การสดู ลม หายใจเข้า-ออก และการนับ จำนวนโดยนับเลข - การรบั รู้ถกู ต้อเหมาะสมตรงกบั ความเปน็
- สนับสนนุ ให้ค้นหาแนวทางการจดั การกับอารมณ์ของตนเองและทดลองปฏบิ ัติ จรงิ
- เมื่อมีอาการนอนไม่หลบั ให้แจง้ กบั พยาบาลเพ่ือประเมินอาการเปล่ียนแปลง - กอ่ นจำหน่ายไมม่ ีอาการประสาทหลอน
- จัดสง่ิ แวดลอ้ มให้เอ้ือและเหมาะสมกบั การนอนโดยมคี วามสงบ อากาศถา่ ยเทดี ไม่มีเสียง
รบกวนจดั เครื่องนอนใหส้ ะอาดและเหมาะสมกับสภาพอากาศเพ่ือช่วยเหลือให้นอนหลบั ได้
อย่างเพียงพอ
- ดแู ลให้รับประทานยาตามแผนการรกั ษาและสงั เกต ฤทธ์ิข้างเคยี งของยา
- รายงานแพทย์เมื่อนอนหลบั ไดน้ อ้ ยกว่า 6 ชว่ั โมง ตดิ ตอ่ กันเพอ่ื พิจารณาแผนการรักษา

- ประเมินการรับรู้และภาวะเสีย่ งตา่ งๆ ท่อี าจเกดิ ขึ้นเพื่อเตรยี มความพร้อมและวาง
แผนการดแู ล
- สร้างสมั พนั ธภาพเพื่อบำบัดอยา่ งต่อเนอ่ื ง โดยการทกั ทาย เปดิ โอกาสให้ระบายความไม่
สบายใจ รับฟัง ความคิดเห็น โดยไม่โต้แยง้ และไม่สนับสนนุ
- จดั สงิ่ แวดล้อมสง่ เสริมการรับรทู้ ี่ถูกต้องและสงบ ปลอดภัย หลีกเลยี่ งสงิ่ กระตนุ้ รบกวน
- อธบิ ายใหข้ ้อมลู ตามความเป็นจริง
- มอบหมายบุคลากรดแู ลใกล้ชิด เฝ้าระวงั ตามมาตรการปอ้ งกนั ความเสยี่ งทีส่ ำคญั ทาง
คลินิก (SAFE-D)
- กรณีไม่สามารถควบคุมอารมณแ์ ละพฤติกรรมได้พิจารณาใหย้ าตามความจำเป็นและ/
จำกดั พฤติกรรมตามความเหมาะสม
- จิตบำบดั รายบุคคลเมื่อสามารถควบคมุ ตนเองไดโ้ ดยเน้นให้คน้ หาสาเหตแุ ละวางแผนหา
แนวทางในการดูแล/จัดการกับอาการหูแว่ว ภาพหลอน ในทางท่เี หมาะสมและปลอดภยั

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
5 ผปู้ ว่ ยสับสน
เชน่ การควบคุมตนเอง การควบคมุ ความคิด การหันเหความสนใจไมส่ นใจต่ออาการ
6 ความภาคภมู ิใจใน
ตนเองตำ่ ประสาทหลอน

- สง่ เสริมใหก้ ำลงั ใจเม่ือสามารถแยกแยะความเป็นจรงิ กบั อาการของตนเองไดเ้ หมาะสม

- ดแู ลให้รบั ยาตามแผนการรักษาของแพทย์

- รายงานแพทย์เมอื่ มอี าการเปลีย่ นแปลงเพ่ือปรบั เปลย่ี นการรกั ษา

- บนั ทึกพฤตกิ รรมของผ้ปู ่วยและส่งเวรต่อเน่ืองทุกราย

- ประเมนิ การรับรู้ วนั เดอื น ปี เวลา บคุ คล สถานที่ - ผ้ปู ว่ ยปลอดภัย ไมไ่ ด้รับอนั ตราย การรบั รู้

- ประเมนิ Neuro sign กรณีผปู้ ่วยมปี ระวตั ิหกล้มบ่อย การทรงตวั ไมด่ ี และไดร้ ับอุบัตเิ หตุ วัน เดอื น ปี เวลา บุคคล สถานทีถ่ กู ต้อง

ก่อนมาโรงพยาบาล

- ประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากยาในแบบบนั ทึก กรณีไดร้ ับยาที่มคี วามเส่ียง

- สงั เกตและบันทึกสญั ญาณชีพของร่างกาย ทุก 4 ชม. หรอื ตามความเหมาะสม

- ดูแลให้ได้รับสารอาหารและน้ำดืม่ ใหเ้ หมาะสมกับความต้องการของรา่ งกาย

-ดูแลหรือช่วยเหลอื การทำกจิ วจั น์ประจำวนั เชน่ การอาบน้ำ สระผม แปรงฟนั การ

รบั ประทานอาหาร การหลบั นอน

- ระมดั ระวังอุบตั ิเหตุโดยดูแลใกลช้ ดิ ขณะเคล่ือนไหวร่างกาย ถา้ จำเป็นใหจ้ ำกัดพฤติกรรม

ใหน้ อนบนเตียง

- รายงานแพทย์เม่ือมีอาการเปล่ยี นแปลง เพ่ือปรบั แผนการรกั ษา

- ประเมินความรสู้ กึ ภาคภูมใิ จ/ความมีคุณค่าในตนเอง - บอกความสำเรจ็ ทีผ่ า่ นมาเป้าหมายใน

- สร้างสมั พนั ธภาพเพื่อการบำบัด อยู่เปน็ เพอ่ื นเข้าใจความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม เปิด อนาคตได้

โอกาสให้ระบาย - บอกถึงขอ้ ดีและจดุ เดน่ ของตนเองได้

ความคิด ความรสู้ ึก เกีย่ วกับความภาคภมู ใิ จ /ความมคี ุณค่าของตนเอง - ทำกิจกรรมท่ีได้รับมอบหมายไดส้ ำเร็จ

- กระต้นุ ให้พดู ถึงตนเองทงั้ ทางบวก ทางลบและร่วมกนั หาวิธีเปล่ยี นความคิดทางลบเพื่อ - บอกรสู้ กึ ภาคภูมใิ จในตนเองให้ผ้อู นื่ ทราบ

สง่ เสรมิ ใหเ้ ห็นคณุ คา่ /คดิ เกยี่ วกบั ตนเองในทางบวกมากขึน้ ได้

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

7 การเผชิญและการ - คน้ หาความสามารถหรือลกั ษณะเด่นทีท่ ำให้รูส้ กึ ภาคภูมิใจ/มคี ณุ ค่าทั้งในอดีตและ - สามารถบอกวิธกี ารในการปรับตัวเม่อื ต้อง
แก้ไขปญั หาไม่เหมาะสม ปัจจบุ นั เผชญิ กับ ความเครยี ดได้ถูกต้อง
- จิตบำบัดรายบุคคลเพื่อปรบั มมุ มองต่อตนเองและเสริมสร้างความภาคภูมใิ จ/ความมี
คณุ ค่า
- จดั ส่ิงแวดล้อมให้ปลอดภยั และเหมาะสม โดยการ ลด/หลีกเล่ยี งสง่ิ กระตนุ้ ท่ีส่งเสริมให้
เกดิ ความรสู้ ึกภาคภมู ใิ จต่ำ/ด้อยคา่
- ใหม้ ีส่วนร่วมในการวางแผนดแู ลตนเองและจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ ความรูส้ ึกภาคภูมิใจ/มี
คณุ ค่า โดยมอบหมายงาน/กิจกรรมท่ที ำสำเรจ็ ในระยะเวลาสนั้ เช่น การจัดโต๊ะอาหาร
การจัดเกบ็ แกว้ นำ้
- กล่าวชมเชยและใหก้ ำลงั เมื่อผ้ปู ว่ ยทำงานท่ีมอบหมายได้สำเร็จ

- ประเมินความคิด อารมณ์ พฤติกรรม และความรสู้ กึ กลไกทางจิตและความตอ้ งการต่อ
เหตกุ ารณ์ที่เกิด
- อภิปรายรว่ มกนั ถึงสาเหตุกระตนุ้ วิธีการทใ่ี ช้ในการปรบั ตัว ผลกระทบ
- แนะนำวิธกี ารเผชิญปญั หาที่เหมาะสม ใหต้ ัดสินใจเลือกและเปดิ โอกาสให้ทดลองใชต้ าม
วธิ กี ารทเี่ ลือก
- กระตุ้นให้พดู คุยถงึ ความคบั ข้องใจ อึดอดั ใจ ไม่สบายใจหรือปญั หาในครอบครัว และ
วิธีการทค่ี รอบครัว/ตนเองใชแ้ กป้ ญั หาในอดตี
- สง่ เสรมิ วธิ กี ารเลอื ก และชมเชย ใหก้ ำลังใจ เม่ือสามารถปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม
- จัดให้เข้ารว่ มกลุ่มกบั ผ้ปู ว่ ยอนื่ โดยเรม่ิ จากกลุ่มท่ีมสี มาชกิ น้อย/ใชส้ มาธนิ อ้ ย หลังจากน้ัน
ใหเ้ ข้ารว่ มกลุ่มที่ตอ้ งใชส้ มาธเิ พม่ิ ขึ้น เช่น กลมุ่ เทคโนการดูแลผูป้ ว่ ยจติ เภท
กลุ่มจติ บำบัด เปน็ ตน้ เพื่อให้เกดิ การเรียนรู้ในการปรบั ตวั ร่วมกนั
- จัดให้เขา้ ร่วมกลุ่มเสรมิ สร้างทักษะชีวติ เช่น กลมุ่ ทางสังคม ทักษะการตัดสนิ ใจ ทกั ษะ
การจดั การกบั อารมณแ์ ละความเครียด ทักษะการปฏเิ สธ เพ่ือให้พจิ ารณาทางเลือกและ

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
8 วติ กกังวลเกี่ยวกบั การ
นำไปประยุกตใ์ ช้ ในชีวิตประจำวัน ขณะอยบู่ า้ นได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
รกั ษาด้วยไฟฟ้า
- ให้ความช่วยเหลือดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สงั คมที่ไม่ขัดต่อแผนการรักษาพยาบาลและความ
9 มอี าการไม่พึงประสงค์
จากการรับประทาน ต้องการ
ยาที่มีความเส่ียงสูง
- เปดิ โอกาสใหญ้ าตเิ ยีย่ มใหข้ ้อมลู และคำแนะนำในการดูแลผปู้ ว่ ยอย่างตอ่ เน่ือง

- สรา้ งสมั พันธภาพเพื่อการบำบัดเปิดโอกาสใหร้ ะบายความรูส้ ึกเก่ยี วกับความวิตกกงั วล - สีหนา้ แววตาแจ่มใส ความวิตกกงั วลลดลง

- ประเมนิ ความวิตกกังวล โดยการสอบถามความเขา้ ใจ ความคดิ เห็นความรูส้ กึ และ - มคี วามเข้าใจ/ความรู้ที่ถกู ต้องต่อการรักษา

ประสบการณเ์ ดิมท่ีมตี ่อการรักษาดว้ ยไฟฟ้า - ไม่แสดงพฤตกิ รรมวติ กกังวลเชน่ ต่อตา้ นไม่

- ประเมินความวิตกกงั วล โดยสอบถาม/สังเกตอาการท่เี กิดจากความวิตกกงั วล เชน่ รว่ มมือ ถามซ้ำๆ นอนไมห่ ลบั

กระวนกระวาย นอนไม่หลับต่อตา้ น ไมร่ ว่ มมอื เปน็ ตน้

- อธิบายถงึ เหตผุ ลความจำเป็น ประโยชนข์ ้ันตอนการรักษาการปฎิบตั ติ ัวและ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดข้นึ

- เปิดโอกาสใหซ้ ักถามข้อมูลการรกั ษาและอธิบายเพ่มิ เติม

- เสรมิ สร้างความเช่ือมั่น/มั่นใจในความปลอดภัยจากการรักษาดว้ ยไฟฟา้

- ดูแลให้เขา้ กลุม่ สนทนากบั ผู้ป่วยอืน่ ท่มี ีประสบการณ์รักษาด้วยไฟฟา้ และมปี ระสบการณด์ ี

ตอ่ การรักษา

- จดั กิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจโดยการใหด้ โู ทรทัศน์ฟงั เพลง อ่านหนงั สือหรอื สวดมนต์

- รายงานแพทยเ์ มอ่ื ระดับความวติ กกงั วลรนุ แรง/สงู สุดเสยี่ งตอ่ การเกดิ อันตราย/

ภาวะแทรกซ้อน

- ส่งต่อข้อมลู ความวติ กกงั วลแก่หนว่ ยรักษาดว้ ยไฟฟ้า

- ประเมินอาการและอาการแสดง สญั ญาณความผดิ ปกติจากผลขา้ งเคยี งของยาท่ีไมร่ ุนแรง - ไมไ่ ด้รับอันตรายจากการ

เชน่ ง่วงนอน ปากแหง้ คอแห้ง คลืน่ ไส้ อาเจียน ท้องผูก มือส่ัน หรือมีอาการน้ำลายไหล ใชย้ ามีความเสยี่ งสูงท่รี ุนแรง

มากกว่าปกติ และสงั เกตอาการ ข้างเคียงทีร่ นุ แรง เช่น ไข้ ชกั หัวใจเต้นเร็ว หายใจสั้น

อ่อนเพลยี มาก ปวดทอ้ ง อจุ จาระซดี มผี นื่ ขึ้น หรือมีเลือดออกผิดปกติ

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come

- อธิบายใหเ้ ขา้ ใจ และรบั รเู้ กี่ยวกับผลขา้ งเคยี งของยาเพ่ือใหไ้ ม่วิตกกงั วลกบั อาการท่ี

เกดิ ขนึ้

- อธบิ าย ความสำคัญของการมสี ว่ นร่วมดแู ลสุขภาพตนเองดว้ ยการให้ข้อมูลอาการและ

สังเกตอาการผิดปกติท่ีอาจ เกิดข้ึน

- ตรวจวัดสญั ญาณชีพ ประเมินอาการและบันทึกการ เปล่ยี นแปลงต่อเน่ือง

- ดูแลใหร้ ับประทานอาหาร และน้ำเพียงพอกบั ความต้องการของรา่ งกาย โดยรับประทาน

อาหารครบ 5 หมู่ และใหด้ ม่ื นำ้ วนั ละ 6 – 8 แก้ว

- ดแู ล สง่ เสรมิ ชว่ ยเหลอื การทำความสะอาดรา่ งกายความสขุ สบาย การขับถ่ายตามสภาพ

อาการและความต้องการทีเ่ หมาะสม

- จัดส่งิ แวดล้อมให้ปลอดภัยและตรวจเยย่ี มเป็นระยะๆ

- รายงานแพทย์เมอื่ มีอาการเปลยี่ นแปลง

10 เสีย่ งตอ่ การใชย้ าเสพติด - สรา้ งสมั พนั ธภาพเพ่ือการบำบัดอย่างต่อเน่ือง - สามารถบอกแนวทางการเผชญิ ปญั หาที่

ซำ้ / ไมต่ ระหนักในการเลกิ - ทำ MI/BI/CBT เพื่อสรา้ งแรงจงู ใจในการเลิกยา และปรบั เปลี่ยนความคิดให้ถูกต้องต่อ เหมาะสมได้

ยาเสพตดิ / ขาดแรงจูงใจ การใช้สารเสพติดและ ให้ข้อมูลถึผลเสีย/โทษ ของสารเสพติด อันตรายท่ีได้รับ - สามารถบอกโทษ อันตรายของ สารเสพตดิ

ในการเลิกยาเสพติด - จติ บำบัดรายบคุ คล ค้นหาสาเหตุของปัญหาให้รบั รู้อารมณ์ ความรสู้ ึกของตนเอง และร่วม ได้ก่อน D/C

ค้นหาทางเลือกในการเผชิญปัญหาในทางทเ่ี หมาะสมเป็นที่ยอมรบั ของสงั คม - สามารถบอกวิธหี ลีกเล่ยี งการกลบั ไปใช้สาร

- จดั ใหเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมทกั ษะทางสงั คม เช่น ทักษะการปฏเิ สธเมอ่ื เพ่ือนชวนใหก้ ลบั ไปใช้ เสพติดซ้ำไดเ้ หมาะสม

สารเสพตดิ - มีแรงจงู ใจในการเลกิ สารเสพตดิ ระดบั 3

- จดั ให้เขา้ รว่ มกิจกรรม Matrix program และเน้นRelapse prevention

- ส่งเสรมิ ใหก้ ำลงั ใจ เม่ือทำกิจกรรมสำเร็จ

- ตดิ ตามการเปล่ียนแปลงและใหก้ ารช่วยเหลอื ตามstage of change

- ให้คำปรึกษาครอบครวั โดยเนน้ เรือ่ งการสื่อสารการใหก้ ำลังใจแก่ผู้ปว่ ยในการเลิกใช้สาร

เสพติด

ลำดับ Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
11 วติ กกงั วลเก่ียวกบั การ
- ดูแลให้รับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์ - สีหนา้ แววตาแจม่ ใสขนึ้ วิตกกงั วลลดลง
กลับบ้าน - บันทึกอาการเปลี่ยนแปลงอยา่ งตอ่ เน่ือง - บอกขัน้ ตอนการกลับบา้ นและสามารถ
- รายงานแพทยเ์ มือ่ มอี าการเปลยี่ นแปลง จัดการความวิตกกังวลในทางทีเ่ หมาะสม
12 ญาตปิ ฏเิ สธการรบั
ผ้ปู ่วยกลับบ้าน - ประเมนิ ความคิด อารมณ์ การรับรู้ และพฤตกิ รรมในเรือ่ งการกลบั บ้านอย่างต่อเนอ่ื ง - จำหน่ายจากโรงพยาบาลโดยมรี ะบบ
- สรา้ งสมั พนั ธภาพเพ่ือการบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยทกั ทาย เปดิ โอกาสใหร้ ะบายความไม่ สนับสนนุ ท่เี หมาะสม
สบายใจ รับฟงั ความคิดเหน็ ไม่โต้แย้งและไมส่ นับสนุน - จำหน่ายจากโรงพยาบาลโดยญาติรับกลับ
- ใหข้ อ้ มลู ทเี่ หมาะสมเกี่ยวกบั ข้นั ตอนการกลบั บา้ นและระเบยี บของโรงพยาบาลเก่ียวกบั - จำหน่ายจากโรงพยาบาลโดยนกั สังคมฯ
การจำหน่าย
- ส่งเสริมใหก้ ำลังใจ เพ่ือใหร้ ่วมมือในการรกั ษาต่อจนกว่าแพทย์อนญุ าตให้กลับบา้ นและมี
ญาติมารบั
- จติ บำบดั รายบคุ คล โดยเนน้ ให้รบั รอู้ ารมณ์ความรูส้ กึ พฤติกรรมของตนเอง สนบั สนุนให้
คดิ หาวธิ กี ารลดความกังวลของตนในทางทเี่ หมาะสมเป็นทย่ี อมรบั ของสงั คม
- จัดใหเ้ ขา้ รว่ มกลุ่มกิจกรรมที่เหมาะสม เชน่ กลมุ่ นนั ทนาการ กลุ่มกีฬา กลุ่มการจดั การ
กบั ความเครียด การใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ฯลฯ
- เฝา้ ระวังการหลบหนี โดยการประเมนิ ความเสย่ี งท่ีสำคัญทางคลินกิ ต่อเน่อื ง (SAFE-D
“E”)
- จดั ส่งิ แวดล้อมให้ปลอดภยั ปอ้ งกนั การหลบหนโี ดยปดิ ประตูทุกครง้ั ท่เี ข้า – ออกห้อง
- บันทกึ และรายงานอาการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเน่ือง
- รายงานแพทย์เม่อื มีอาการเปลยี่ นแปลง

- ประเมินความคิด ความเช่อื และปัญหาในการดแู ลผู้ป่วย
- เปิดโอกาสให้ญาตริ ะบายความคดิ อารมณ์ ความรู้สึกที่มีต่อผู้ป่วยและการรักษา
- ใหข้ ้อมูลเกี่ยวกบั สาเหตุ อาการและการรักษาผูป้ ว่ ย
- ทำกลุ่มครอบครัวศึกษา/ครอบครัวบำบดั

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

13 เตรียมความพร้อมผู้ปว่ ย - อธบิ ายขัน้ ตอนการจำหน่าย และแนวทางการตดิ ต่อระหว่าง ญาตกิ ับผ้บู ำบดั ส่งกลบั
ก่อนกลับบา้ น - ประสานความช่วยเหลอื ของนกั สังคมสงเคราะหก์ ับเครือข่าย - จำหนา่ ยจากโรงพยาบาลโดยใหผ้ ูป้ ่วยกลับ
- ประสานทมี สหวิชาชพี ประเมนิ ปญั หาและแนวทางแก้ไขปญั หาที่เหมาะสม บ้านเอง

- ประเมนิ ความคิด อารมณ์ พฤตกิ รรม การรับรู้ และความสามารถในการดแู ลตนเอง/ - ดแู ลตนเองเหมาะสมขณะอยูบ่ ำบดั ใน
ทกั ษะการทำกิจกรรม โรงพยาบาล
- สร้างแรงจูงใจในการ เลกิ ยา และเพื่อส่งเสริมการดูแลตนเองอย่างต่อเน่ือง - มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกับโรคสมองตดิ ยา
- สง่ เสรมิ การทำกิจวตั รประจำวนั และกิจกรรมฟน้ื ฟู เช่นกลุ่มออกกำลังกาย กลมุ่ ส่งเสริม - มคี วามร้คู วามเข้าใจ เก่ียวกับผลกระทบของ
งานอาชพี กลมุ่ บำบัดผู้ป่วยยาเสพตดิ โดยทีมสหวชิ าชีพ ยาเสพตดิ ต่อ รา่ งกายและจิตประสาท
- ให้ความรเู้ รอ่ื งยา การรบั ประทานยาต่อเนื่องและจดั ยารับประทานเอง - สามารถปฏเิ สธการใช้สารเสพตดิ ได้
- จดั ใหเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ เตรียมความพรอ้ มก่อนกลบั บา้ น - บอกวิธกี ารดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกับโรคสมองติดยา อาการทางจิตจากการใชส้ ารเสพติด สอนทักษะการ - มีแรงจูงใจในการเลกิ สารเสพติด ระดับ 3
ปฏิเสธ การจัดการกบั ความเครียด และการแก้ไขปัญหา - บอกแหล่งสนับสนุนหรอื สถานบริการที่ขอ
- แนะนำการรับบริการจากสถานบรกิ ารใกล้บ้าน และการมาพบแพทยต์ ามนัด ความช่วยเหลอื ได้
- ให้คำปรึกษาครอบครัว/ครอบครัวบำบัด - บอกความสำคญั ของการรับประทานยา
- แนะนำช่องทางการติดต่อโรงพยาบาลโดยโทรศัพท์ 1323 หรือ 077-312991 เม่อื ต่อเน่ืองและการมาพบแพทย์ตามนัดได้
ตอ้ งการขอคำปรึกษา/ความชว่ ยเหลือทางดา้ นสุขภาพ
- แนะนำการใช้สทิ ธกิ ารรักษาและความสำคญั ของสมุดคู่มือ
- ชมเชยและใหก้ ำลงั ใจเมื่อ ผู้ปว่ ยมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น และสามารถดแู ลตนเอง หรอื ให้ความ
รว่ มมือทำกจิ กรรมได้สำเร็จ

แนวทางการบันทึก
ทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคซึมเศรา้

Focus list ผู้ปว่ ยโรคซมึ เศรา้

ลำดับ Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
- นอนหลับไดต้ ดิ ต่อกัน 6-8/ช่ัวโมงต่อคืน
1 แบบแผนการนอนหลบั - ประเมินการนอนหลบั
- ร้สู ึกมีคณุ คา่
แปรปรวน/นอนไมห่ ลับ/หลบั - ใหค้ วามรูเ้ ร่ือง Sleep hygiene
- จดั ใหเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมในเวลากลางวนั - มสี มั พันธภาพกบั ผู้อื่น
ยาก/หลับไมส่ นทิ หลบั ๆตืน่ ๆ/ - จดั สง่ิ แวดล้อมทเ่ี อ้ือต่อการนอนหลับ
หลับมากเกือบทั้งวนั - ให้ยา prn Insomnia ตามแผนการรักษาของแพทย์ - มปี ฏสิ มั พนั ธ์กับผูอ้ ่นื ได้มากขึน้
- เข้ารว่ มกิจกรรมในหอผู้ป่วย
- ประเมินผลการนอนหลบั - ไมม่ ีอาการซึมเศรา้ /ระดับอาการซึมเศร้า
ลดลง
- รายงานแพทย์

2 รู้สกึ ไรค้ ่า/สิน้ หวงั - ประเมินความรสู้ กึ /ความมีคุณคา่ ในตนเอง

- ใช้สัมพันธภาพเพ่ือการบำบัด

- จติ บำบดั รายบุคคล, คน้ หาความภาคภูมใิ จ/ศักยภาพของผ้ปู ว่ ย

- บำบดั โดยการปรับความคดิ และพฤติกรรม

- ให้ไดร้ บั การรักษาและยาตามแผนการรกั ษาของแพทย์

3 บกพร่องด้านการสรา้ ง - ใช้สมั พนั ธภาพเพ่ือการบำบัด

สมั พันธภาพกับผู้อน่ื - ใหข้ อ้ มลู ถึงประโยชนข์ องการมีสัมพนั ธภาพกบั ผอู้ ่นื

แยกตวั ทางสังคม - แนะนำใหร้ ู้จักเพอื่ นในห้อง, จดั Buddy ให้

- ใหก้ ำลงั ใจเม่ือสามารถทำกิจกรรมไดส้ ำเรจ็

- ใหเ้ ข้าร่วมกิจกรรมบำบัดตามสภาพปญั หา

4 แยกตัว/ไม่พูดคุยกับใคร/ - สรา้ งสมั พันธภาพเพ่ือใหเ้ กดิ ความไว้วางใจ

ปฏเิ สธการเข้ากลมุ่ - แนะนำให้รู้จักและพูดคุยกับเพือ่ นผู้ป่วย

- พาเข้ารว่ มกจิ กรรมภายนอก-ภายในหอผู้ป่วย

5 มภี าวะซึมเศร้า - สรา้ งสัมพนั ธภาพเพื่อการบำบัด

- ให้เขา้ รว่ มกลุม่ กิจกรรมบำบัด เชน่ กลมุ่ การสร้างความเข้มแขง็ ทางใจ

- กระต้นุ ให้เข้ากจิ กรรมกลุ่มออกกำลงั กายเพ่ือการบำบัด (ET)

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come

- บำบัดโดยการปรบั เปล่ยี นความคิดและพฤติกรรม (CBT)

- บำบดั โดยใช้จติ บำบดั สมั พนั ธภาพระหวา่ งบุคคล (IPT)

- บำบัดโดยการแก้ปญั หา (PST)

6 บกพร่องในการดูแลตนเอง - ประเมินความสามารถในการทำกิจวตั รประจำวัน - ปฏิบตั กิ ิจวัตรประจำวนั ได้ด้วยตนเองตาม

- กระตุ้น/แนะนำ/ช่วยเหลือในการปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวัน ศกั ภาพ

- ให้คำชมเชยเม่ือผู้ปว่ ยทำกิจวตั รประจำวันได้

- ใหไ้ ด้รบั ยาตามแผนการรกั ษาของแพทย์รวมทง้ั สังเกตอาการขา้ งเคียงของยา

- รายงานแพทย์

7 พรอ่ งเร่ืองการดูแลตนเองดา้ น - ใหค้ วามรู้เร่อื งการออกฤทธ์ิและอาการข้างเคียงของยา - ดูแลตนเองดา้ นการรบั ประทานยาได้

การรับประทานยา - .ฝึกจดั ยารบั ประทานเอง ตอ่ เน่ือง

- แนะนำการขอความช่วยเหลอื เมื่อมีอาการข้างเคียงของยา

High risk suicide

8 มคี วามคดิ ทำร้ายตัวเอง/ฆ่าตัว - สร้างสัมพันธภาพเพ่ือการบำบัด - ไมม่ พี ฤตกิ รรมทำรา้ ยตัวเอง

ตาย - ประเมนิ ความคดิ /พฤติกรรมทำรา้ ยตวั เอง โดยสงั เกตอาการเตือน/ประเมนิ ฆา่ ตัวตาย - ไม่คดิ ฆ่าตวั ตาย

ดว้ ย 8Q

- จัดสง่ิ แวดล้อมให้ปลอดภยั

- ปฏบิ ตั ิตามมาตรการ SAFE-D “S”

-. ให้ Strict suicidal precaution /Standard suicidal precaution ตามระดบั ความ

เสีย่ ง

- Crisis Intervention

9 ผดิ หวงั จากการสูญเสยี คนรัก - จิตบำบัดแบบประคบั ประคอง - ไม่มีความคิดและพฤตกิ รรมทำรา้ ยตวั เอง

- IPT, PST, CBT

- Suicide precaution

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
- ไม่มคี วามคดิ และพฤติกรรมทำรา้ ยตวั เอง
10 ตกงาน โดดเดยี่ ว ไร้ที่พง่ึ - IPT แบบ role transition
- ไม่มคี วามคิดและพฤติกรรมทำรา้ ยตวั เอง
ทำใหร้ ู้สึกหมดคุณค่าในตนเอง - PST - ไมม่ ีความคดิ และพฤตกิ รรมทำร้ายตวั เอง

- ET - ไม่มคี วามคดิ และพฤติกรรมทำรา้ ยตัวเอง

- CBT

- จิตบำบัดแบบประคบั ประคอง

- Social support

- Suicide precaution

11 มภี าระหนส้ี นิ มาก/ล้มละลาย - CBT

จนทำใหร้ ู้สึกหมดคุณค่าใน - จิตบำบัดแบบประคบั ประคอง

ตนเอง - Social support

- Suicide precaution

12 พิการ/มีขอ้ จำกัดในการ - คน้ หาศกั ยภาพที่เหลอื

ดำเนนิ ชีวิตทำให้รูส้ กึ หมด - สรา้ งแรงจูงใจ

คณุ คา่ ในตนเอง - สร้างความเขม้ แขง็ ทางใจ

- CBT

- จติ บำบัดแบบประคับประคอง

- Social support

- Suicide precaution: ส่งเสริมสัมพนั ธภาพในครอบครวั /Family Therapy

13 เป็นโรคเร้ือรงั อย่างรุนแรง/ - จติ บำบดั แบบประคับประคอง

เป็นโรคร้ายแรง - CBT

- IPT

- Social support

- Suicide precaution

- ส่งเสริมการปฏิบตั ิตัวตามหลกั ศาสนา/ความเช่ือ

ลำดบั Focus list Intervention/กิจกรรมการพยาบาล Out come
- ไม่มีความคดิ และพฤตกิ รรมทำร้ายตัวเอง
14 คิดลบ สน้ิ หวัง มองโลกในแง่ 7. ส่งเสริมสัมพันธภาพในครอบครวั /Family Therapy - ไม่มอี าการซึมเศรา้ /ระดบั อาการซมึ เศรา้
ร้าย ชวี ิตมแี ตอ่ ุปสรรค โลก ลดลง
ไม่ยตุ ธิ รรม อบั อายเสียหนา้ - CBT
- ประเมนิ HAM-D - สามารถปรบั แกป้ ัญหาได้
- Suicide precaution
- สามารถปรับแก้ปญั หาได้
ไม่สามารถปรบั แก้ปญั หาได้
- มคี วามรู/้ ทกั ษะ
15 ไมส่ ามารถปรับแก้ปญั หาได้ - บอกผลกระทบจากการใชส้ ารเสพตดิ - มที ศั นคติทดี่ ตี อ่ ปญั หา
- มีแรงจงู ใจเพ่ิมข้ึน
จากการใช้สารเสพตดิ - MI - มแี รงสนับสนุนจากครอบครัว

- CBT

- Supportive Psychotherapy

16 ไม่สามารถปรบั แก้ปัญหาได้ - PST

จากขาด Social support - IPT

- Social support

- ประสาน SW

- ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับแหลง่ ชว่ ยเหลอื ทางสงั คม

17 ไมส่ ามารถปรบั แก้ปญั หาได้ - ให้ความร้แู ละฝกึ ทกั ษะ เกย่ี วกบั ขัน้ ตอนการแก้ปญั หา

จากขาดความรู/้ ทักษะ

18 ไม่สามารถปรับแก้ปัญหาได้ - ใหข้ อ้ มูลตามความเป็นจรงิ

จากทัศนคติไมด่ ตี ่อปัญหา - สรา้ งทศั นคตทิ ่ดี ีต่อการแก้ปัญหา

19 ไมส่ ามารถปรับแก้ปัญหาได้ - คน้ หาและเสรมิ สร้างแรงจูงใจ

จากขาดแรงจูงใจ

20 ไมส่ ามารถปรบั แก้ปัญหาได้ - สง่ เสรมิ ใหบ้ คุ คลใกลช้ ดิ หรอื เกยี่ วข้องเข้ามามสี ่วนร่วม

จากขาดการสนับสนุนจาก - IPT

ครอบครวั - Family therapy

ลำดบั Focus list Intervention/กจิ กรรมการพยาบาล Out come
- เกดิ ความขดั แย้งในตนเอง
21 ไมส่ ามารถปรบั แก้ปญั หาได้ - ช่วยให้ผปู้ ่วยคน้ หาประเด็นความขัดแย้ง และพจิ ารณาตัดสนิ ใจเลือก - สามารถดแู ลตนเองได้

จากเกดิ ความขดั แย้งในตนเอง - รบั ประทานอาหารได้ทุกม้ือ
- รับประทานไดต้ ามพลังงานที่คำนวณให้/วนั
พรอ่ งในการดูแลตนเอง - ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวนั ไดเ้ อง
- มีสมาธมิ ากข้ึน
22 ไม่ยอมรบั ประทานอาหาร - ประเมนิ สาเหตุ - ขับถ่ายตามปกติ/ไม่มีอาการท้องอืด/ท้องผกู

- กระตนุ้ ให้รบั ประทานอาหารเอง

- ปอ้ นอาหาร

- ให้สารนำ้ ตามคำสั่งแพทย์

23 รับประทานอาหารได้น้อย - กระตนุ้ การทำความสะอาดช่องปาก

- พาไปรบั ประทานอาหารพร้อมกบั ผู้อื่น

- จดั ใหร้ ับประทานอาหารว่าง /ใหร้ ับประทานอาหารบ่อยๆ

24 รบั ประทานอาหารมากเกิน - ควบคมุ /จำกดั การรบั ประทานใหต้ รงตามมื้ออาหาร

- ชีแ้ จงเหตุผล/ให้ความรู้ผลของการรบั ประทานอาหารทม่ี ากเกนิ

- คำนวณพลังงาน Kcal/day

25 ไมป่ ฏิบัติกิจวตั รประจำวนั - เช็ดตัวใหท้ ีเ่ ตียง

- กระตุ้นและชว่ ยเหลือให้อาบน้ำ แปรงฟนั เปลย่ี นเส้ือผ้า

สมาธิไมด่ ี

26 ไมม่ ีสมาธิ/เดนิ ไปมา/ลืมง่าย - ฝึกลมหายใจ

มีปัญหาการขบั ถ่าย

27 ท้องอดื ,ท้องผกู - ให้รบั ประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เนน้ อาหารประเภทผัก-ผลไม้

- กระต้นุ ให้ออกกำลังกาย

- กระตนุ้ ให้เข้าหอ้ งน้ำตอนเช้าทกุ วนั (ฝึกนิสยั การขบั ถ่าย)

- ใหย้ าระบายตามแพทยส์ ่ัง

- unison enema

- สงั เกตการขับถา่ ย

แนวทางการบนั ทกึ
ทางการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคลมชักท่มี อี าการทางจติ

ลำดบั Focus list Focus list ผ้ปู ว่ ยโรคลมชกั ทมี่ ีอาการทางจิต Out come
1. ชกั แบบเกร็งกระตุกทงั้ ตวั - ผู้ป่วยปลอดภัย ไม่มภี าวะแทรกซ้อน จาก
Intervention/กิจกรรมการพยาบาล อาการชัก
2. เส่ยี งต่อภาวะขาดออกซิเจน
เนอื่ งจากเสมหะอุดก้นั ทาง - จดั ให้ผปู้ ่วยนอนทา่ ตะแคงตัว - ผปู้ ว่ ยปลอดภัย ไมม่ ีภาวะแทรกซ้อน จาก
เดินหายใจขณะชัก - ใชม้ อื หรอื หมอนรองศีรษะ และประคองตวั ผู้ปว่ ย เพื่อป้องกันการกระแทกกับพนื้ อาการชกั
- คลายเส้ือผ้าใหห้ ลวม
3. ชักแบบทำอะไรไม่รตู้ ัว - ฉดี ยาระงับชักตามแผนการรกั ษา - ผู้ป่วยปลอดภยั จากอาการชัก
- ประเมนิ การหายใจและภาวะขาดออกซเิ จน พจิ ารณาให้ออกซิเจน 3-5 ลิตร/นาที
- สังเกตอาการใกล้ชิด
- หลังการชกั ให้สังเกตอาการสับสน ระดับการรสู้ ติ ปวดศรี ษะ พูดไม่ได้ และอาการ
อัมพาต
- ดูแลใหผ้ ู้ป่วยพกั ผ่อน
- ใสไ่ มก้ ้นั เตียงทกุ ครัง้ ขณะผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง
- เมอ่ื ผู้ป่วยฟนื้ จากชกั บอกให้ผูป้ ่วยทราบสถานการณ์และรับรสู้ ่ิงแวดลอ้ มได้ถูกต้อง
ตามความเปน็ จริง
- จัดส่ิงแวดล้อมให้เงียบสงบ ให้ผปู้ ว่ ยอยู่แยกเป็นสดั สว่ น เพอื่ ความสบายใจ
- รายงานแพทย์ หากมีอาการชักซำ้

- Clear air way โดยจบั ศรี ษะตะแคง เพอื่ ใหน้ ำ้ ลายไหลออกทางมมุ ปาก
- ดูดเสมหะ หากพบวา่ มเี สมหะมาก
- วัดปริมาณออกซเิ จน
- หากมภี าวะขาดออกซิเจน ดูแลให้ออกซิเจน canular 3-5 ลิตร/นาที
- สงั เกตอาการต่อไปน้ีใกลช้ ดิ ไดแ้ ก่ ความรูส้ กึ ตัว สผี ิวปลายมอื ปลายเท้า อตั ราการ
หายใจ อตั ราการเต้น ของหวั ใจ
- รายงานแพทย์เม่ือผู้ปว่ ยอาการไม่ดขี น้ึ

- สงั เกตกิจกรรมท่ผี ู้ปว่ ยกระทำ
- กนั ผูป้ ่วยไมใ่ ห้ไดร้ ับบาดเจ็บ


Click to View FlipBook Version