The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thidarat, 2019-10-08 03:49:20

คู่มือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

คู่มือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

คูม่ อื พฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษเพอื่ การสอื่ สาร
โครงการพฒั นาคุณภาพการศึกษา ; CHON 1 TERM TEM Model

สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชลบรุ ี เขต 1
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสารขัน้ พนื้ ฐาน ภายใต้โครงการพฒั นาคุณภาพการศึกษา ;
CHON 1 TERM TEM Model เลม่ นี้ สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาชลบรุ ี เขต 1 จดั ทาขนึ้ เพื่อเป็น
กรอบและแนวทางสาหรบั โรงเรยี น ในสังกัด นาไปใชใ้ นการพัฒนานักเรียนให้มีทกั ษะการสือ่ สารภาษาองั กฤษ
ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ของกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช 2551

สาระของคมู่ ือเล่มนจี้ ะประกอบด้วยทักษะภาษาองั กฤษที่นกั เรียนจาเป็นต้องเขา้ ใจและสามารถ
สอ่ื สารได้ รวมทง้ั แนวทางการสอ่ื สารภาษาอังกฤษขน้ั พ้ืนฐานของนักเรียนทกุ ระดับชั้น ตั้งแต่ระดับปฐมวัย และ
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3

สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 หวงั เปน็ อยา่ งย่งิ ว่าคมู่ ือเล่มน้ี จะเปน็
ประโยชน์ต่อการพัฒนานักเรียนให้สามารถยกระดบั ทกั ษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารได้สงู ขน้ึ จึงขอขอบคุณ
ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ ผู้บรหิ ารโรงเรยี นในสงั กัดทุกทา่ นทเ่ี หน็ ความสาคัญของการยกระดบั ความสามารถดา้ น
ภาษาอังกฤษของนกั เรยี น และนาคูม่ ือฉบับน้ีไปใช้ให้เกดิ ประโยชนต์ ่อการพฒั นานกั เรยี นซ่งึ เป็นเป้าหมายสาคญั
ในการพฒั นาการศึกษาของประเทศตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560-2579 ตอ่ ไป

(นายเตม็ เสอื อว่ ม)
ผูอ้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1

สารบญั หนา้

เรือ่ ง 1
1
คานา 1
สารบัญ 1
ตอนที่ 1 บทนา 2
3
หลักการ 3
วตั ถุประสงค์ 4
กล่มุ เปา้ หมายในการพัฒนา 5
แนวทางในการดาเนินงาน 13
ตอนท่ี 2 การพัฒนาการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ 13
การสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 15
นโยบายการปฏริ ปู การเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ 17
แนวปฏิบัตติ ามนโยบายการปฏริ ูปการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ 20
ตอนที่ 3 ตวั ช้ีวัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางทต่ี อ้ งร้แู ละควรรู้ 24
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 29
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 34
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 38
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 43
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 48
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 50
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
ตอนที่ 4 ตัวอยา่ งบทสนทนาและสถานการณก์ ารใช้ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร
ระดบั ปฐมวยั
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1

สารบัญ (ต่อ)

เรอื่ ง หน้า

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 52
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 55
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 57
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 59
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 61
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 63
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 64
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 65
เอกสารอ้างองิ 66
คณะทางาน 67

คูม่ ือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 1

ตอนที่ 1
บทนำ

หลักกำร
กระทรวงศกึ ษาธิการไดด้ าเนินการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเม่ือปี พ.ศ. 2557 และกาหนดให้

การยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษของคนไทยเป็นนโยบายสาคัญที่ต้องดาเนินการให้เกิดผลสาเร็จโดยเร็ว เพ่ือ
เสริมสร้างสมรรถนะและความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของคนไทยให้ทันต่อการพัฒนาประเทศในยุค
ศตวรรษที่ 21 และ Thailand 4.0 ด้วยการดาเนินโครงการตามนโยบายดังกล่าว เช่น การจัดทา Application
ภาษาอังกฤษ “Echo English” เพ่ือให้คนทั่วไปสามารถฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียนได้ด้วยตนเอง
การกาหนดกรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่ปรับปรุงให้มีเน้ือหาเหมาะสมกับบริบท
ของสังคมไทย หรือท่ีเรียกว่า CEFR-TH การปรับสภาพแวดล้อมภาษาอังกฤษ การปรับหลักสูตรด้วยการเพ่ิม
จานวนช่ัวโมงเรยี นภาษาองั กฤษ รวมถงึ การจดั การเรียนการสอนตามแนวการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร

การจัดการเรียนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร (English for Communication) เป็นแนวการสอน
ท่ีมุ่งพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารของผู้เรียนให้มีศักยภาพทางภาษาอังกฤษ โดยเน้นการใช้
ภาษา (User) มากกว่าไวยากรณ์ โดยเรียนรู้ผ่านกิจกรรม สื่อเทคโนโลยีท่ีอยู่ท่ัวไปอย่างมีคุณภาพเหมาะสมกับ
บริบทของผู้เรียน สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารได้อย่างเหมาะสมกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและ
วัฒนธรรมไทยบนพ้ืนฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือเสริมสร้างสมรรถนะและความสามารถในการส่ือสาร
ภาษาองั กฤษของเยาวชนไทยใหท้ นั ตอ่ การพัฒนาประเทศในศตวรรษท่ี 21 และประเทศไทย 4.0

วัตถุประสงค์
1. เพอ่ื พัฒนาทกั ษะภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสารของผ้เู รียนในสังกดั
2. เพ่ือสง่ เสรมิ ให้ครผู ้สู อนจัดบรรยากาศการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษทีเ่ สริมสรา้ งผ้เู รยี นให้แสดงออกอยา่ ง

สรา้ งสรรค์ โดยใชภ้ าษาองั กฤษเปน็ สือ่ ในการเรยี นรู้
3. เพ่ือสรา้ งแรงจงู ใจให้ผ้เู รียนใชภ้ าษาอังกฤษดว้ ยตนเองอย่างมัน่ ใจ

กลุ่มเป้ำหมำยในกำรพัฒนำ
1. นกั เรียนระดบั ปฐมวยั
2. นักเรียนระดับประถมศกึ ษา
3. นักเรยี นระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
4. ครผู ู้สอนภาษาอังกฤษทุกคน

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 2

แนวทำงกำรดำเนนิ กำร
1. สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชลบรุ เี ขต 1 ชแ้ี จงโครงการและแนวทางการพัฒนา

คุณภาพการศึกษา ; CHON 1 TERM TEM Model
2. จดั ทาคมู่ ือพัฒนาทกั ษะภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สารขั้นพน้ื ฐาน
3. ประเมินทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารขนั้ พน้ื ฐานของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 และ

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
4. จัดสง่ คมู่ ือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสารข้ันพน้ื ฐานใหท้ กุ โรงเรยี นในสงั กัด เพ่ือเป็น

แนวทางในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สารของผเู้ รียนกล่มุ เปา้ หมาย
5. นเิ ทศ กากับ ตดิ ตามผลการทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สารของโรงเรยี นในสังกัด
6. สรปุ และรายงานผลการทักษะภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสารของโรงเรยี นในสังกดั สสู่ าธารณะและ

หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 3

ตอนที่ 2
กำรพฒั นำกำรเรยี นกำรสอนภำษำอังกฤษเพือ่ กำรสือ่ สำร

กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสือ่ สำร (Communicative Language Teaching)

การสอนภาษาตามแนวการสอนภาษาเพ่ือการส่ือสาร เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้
ซงึ่ มุ่งเนน้ ความสาคัญของตัวผู้เรียน มีการจัดลาดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน
โดยเร่ิมจากการฟังไปส่กู ารพดู การอ่านการจับใจความสาคญั ทาความเขา้ ใจ จดจาแลว้ นาสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ไปใช้

การสอนภาษาตา่ งประเทศในปจั จุบนั นยิ มใชแ้ นวการสอนภาษาเพอ่ื การสอื่ สารมากขึ้น มีการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความหมาย ได้ฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์ที่สอดคล้องกับ
ชีวิตประจาวัน โดยยังคงความสาคัญกับโครงสร้างไวยากรณ์ตามท่ีปรากฏอยู่ในเนื้อหาที่ใช้ส่ือความหมาย และ
สนับสนุนให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาในทุกทักษะ แนวการสอนภาษาเพื่อการส่ือสารมีลักษณะที่
เชอื่ มโยงสัมพันธก์ ัน 4 ประการ คือ

1. เป้าหมายของการสอนเน้นไปที่องค์ประกอบท้ังหมดของทักษะการสื่อสาร และไม่จากัดอยู่ภายใน
กรอบของเน้อื หาภาษาหรือไวยากรณ์

2. เทคนิคทางภาษาได้รับการออกแบบมา เพื่อนาผู้เรียนไปสู่การใช้ภาษาอย่างแท้จริงตามหน้าท่ีภาษา
และปฏิบัติจริงโดยมีจุดมุ่งหมาย ท้ังน้ี รูปแบบโครงสร้างภาษามิใช่เป้าหมายหลักแต่ตัวรูปแบบเฉพาะของภาษา
จะทาใหผ้ ้เู รยี นสามารถส่ือสารจนสาเร็จตามเป้าหมาย

3. ความคล่องแคล่วและความถูกต้อง เป็นหลักการเสริมท่ีอยู่ภายใต้เทคนิคการสื่อสารซ่ึงบางคร้ังความ
คล่องแคล่วอาจจะมีความสาคัญมากกว่าความถูกต้อง เพื่อท่ีจะทาให้ผู้เรียนสามารถนาภาษาไปใช้ได้อย่างมี
ความหมาย

4. การเรียนการสอนภาษาเพื่อการส่ือสาร ในขั้นตอนสุดท้าย (Production) ผู้เรียนต้องใช้ภาษาอย่าง
เข้าใจและสร้างสรรคภ์ ายใต้บริบททไ่ี ม่เคยฝึกมาก่อน

ข้ันตอนกำรสอนภำษำเพ่อื กำรสื่อสำร
การสอนภาษาเพื่อการสอื่ สารมีข้ันตอนการสอนท่สี าคญั 3 ขั้นตอน ซึ่งนิยมใช้กันท่ัวไปในปัจจุบัน และ
ขนั้ ตอนการสอนนีม้ ผี ลเชือ่ มโยงตอ่ ไปถึงสถานการณ์การสอน เทคนิคการสอน สื่ออุปกรณ์ และหน่วยการเรียนรู้
ดว้ ย โดยมีรายละเอียด ดงั นี้
1. ขน้ั กำรนำเสนอเนื้อหำ (Presentation)

ข้ันการนาเสนอเน้ือหาใหม่ เป็นข้ันการสอนท่ีครูผู้สอนจะให้ข้อมูลทางภาษาแก่ผู้เรียน ซ่ึงถือว่าเป็น
การเร่ิมต้นการเรียนรู้ มีการนาเสนอเนื้อหาใหม่ โดยจะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับรู้และทาความเข้าใจเกี่ยวกับ
ความหมายและรูปแบบภาษาที่ใช้กันจริงโดยท่ัวไป รวมทั้งวิธีการใช้ภาษาไม่ว่าจะเป็นด้านการออกเสียง
ความหมาย คาศัพท์ และโครงสร้างไวยากรณ์ท่เี หมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ ควบคไู่ ปกับการเรียนรกู้ ฎเกณฑ์

คู่มอื พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 4

2) ขนั้ กำรฝกึ ปฏิบัติ (Practice)
ขน้ั การฝึกปฏบิ ตั ิ เปน็ ขน้ั ตอนทีใ่ ห้ผเู้ รยี นได้ฝึกใชภ้ าษาท่ีเพ่ิงจะเรียนรู้ใหมจ่ ากข้ันการนาเสนอเน้ือหา

ในลักษณะของการฝึกแบบควบคุมหรือชี้นา (Controlled Practice / Directed Activities) โดยมีครูผู้สอนเป็น
ผู้นาในการฝึกจากง่ายไปหายาก และให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเองเป็นแบบกึ่งควบคุม (Semi-Controlled) การ
ฝึกในข้ันน้ีมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนจดจารูปแบบของภาษาได้ จึงเน้นที่ความถูกต้องของภาษาเป็นหลัก แต่ก็มี
จุดหมายใหผ้ ูเ้ รียนได้ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหมาย และวธิ ีการใช้รปู แบบภาษานั้น ๆ

3) ข้ันกำรใช้ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร (Production)
ข้นั การใชภ้ าษาเพอ่ื การสื่อสาร นบั เปน็ ขนั้ ท่สี าคญั ที่สุดขน้ั หนงึ่ เพราะการฝกึ ใชภ้ าษาเพื่อการ

สอื่ สาร เปรียบเสมือนการถ่ายโอนการเรียนรภู้ าษาจากสถานการณใ์ นชั้นเรยี นไปสูก่ ารนาภาษาไปใชจ้ รงิ นอก
หอ้ งเรียน การฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารโดยทวั่ ไป มุ่งหวังใหผ้ ้เู รียนได้ลองใชภ้ าษาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จาลอง
จากสถานการณ์จรงิ หรอื ทเ่ี ป็นสถานการณ์จริงดว้ ยตนเอง โดยครูผูส้ อนเป็นเพยี งผู้แนะแนวทางเท่านัน้ การฝกึ
ใช้ภาษาในลักษณะน้ี ผ้เู รยี นสามารถใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารโดยอสิ ระภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆทจี่ ะพบในชวี ติ จริง
นอกจากนผี้ ้เู รียนจะได้มีโอกาสนาความรทู้ างภาษาทเ่ี คยเรียนแล้วมาใช้เปน็ ประโยชน์อย่างเตม็ ที่ในขัน้ น้ี เพราะ
ผเู้ รียนไม่จาเปน็ ต้องใช้ภาษาตามรปู แบบท่ีกาหนดมาให้เหมือนในขั้นฝึกปฏบิ ัติ และการได้เลือกใช้ภาษาเองจะชว่ ย
สร้างความมั่นใจในการใชภ้ าษาเพ่อื การสื่อสารให้แก่ผ้เู รยี นเป็นอยา่ งดี วิธีการฝึกในขน้ั น้ีจะฝกึ ในลกั ษณะของการ
ทากิจกรรมแบบต่าง ๆ โดยครผู ู้สอนเปน็ เพยี งผู้กาหนดภาระงาน (Task) หรือสถานการณ์ตา่ ง ๆให้

นโยบำยกำรปฏริ ปู กำรเรียนกำรสอนภำษำองั กฤษ

ดว้ ยภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาสากลทมี่ ีการใชอ้ ยา่ งแพร่หลายมากที่สุดภาษาหนง่ึ โดยทีอ่ งค์ความรูท้ สี่ าคัญ
ของโลกสว่ นใหญถ่ ูกบนั ทึกและเผยแพร่เปน็ ภาษาอังกฤษ จงึ มคี วามจาเปน็ ทต่ี อ้ งจัดให้มีการเรียนการสอน
ภาษาองั กฤษเพ่ือใหผ้ เู้ รียนมคี วามรคู้ วามสามารถในการใชภ้ าษาองั กฤษเปน็ เครื่องมือเข้าถึงองค์ความรแู้ ละก้าวทัน
โลก รวมถึงพัฒนาตนเองเพอื่ นาไปสู่การเพมิ่ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศไทยต่อไป เพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการไดก้ าหนดนโยบายการปฏริ ูปการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ ในระดบั
การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ดงั น้ี

1. ใช้กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล ได้แก่ The Common European
Framework of Reference for Languages (CEFR) เปน็ กรอบความคิดหลักในการจดั การเรยี นการสอนภาษา
องั กฤษของประเทศไทย ทั้งในการออกแบบหลักสตู ร การพัฒนาการเรียนการสอน การทดสอบ การวัดผล การ
พฒั นาครู รวมถงึ การกาหนดเป้าหมายการเรียนรู้

2. ปรบั จดุ เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เปน็ ไปตามธรรมชาติของการเรยี นรู้ โดยเน้นการส่ือสาร
(Communicative Language Teaching : CLT) โดยปรบั การเรยี นการสอนจากการเน้นไวยากรณม์ าเปน็ เน้นการ
ส่ือสารทเี่ ริ่มจาก การฟัง ตามด้วยการพดู การอา่ น และการเขยี นตามลาดบั

คู่มอื พฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 5

3. ส่งเสรมิ ให้มกี ารเรยี นการสอนภาษาองั กฤษที่มีมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานหลกั ด้วยหลกั สตู ร
แบบเรยี น สื่อการเรียนการสอน แต่ด้วยวธิ ีการที่แตกต่างกันได้ ทง้ั นี้ตามความพร้อมของแต่ละสถานศึกษาและ
แสดงถึงความถนดั และความสนใจของผเู้ รียน

4. สง่ เสรมิ การยกระดบั ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ไดแ้ ก่
4.1 ขยายโครงการพิเศษด้านการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ (๑) English Program (EP),

(2) Mini English Program (MEP) และ (3) International Program (IP) สาหรับผู้เรยี นทมี่ คี วามสามารถทาง
วชิ าการสงู (4) English Bilingual Education (EBE) โดยจัดการเรยี นการสอนวิชาวทิ ยาศาสตร์ สังคมศึกษา และ
ศิลปศกึ ษาแบบสองภาษา (ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ) และ (5) English for Integrated Studies (EIS) ดว้ ยการ
สอนวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตรเ์ ปน็ ภาษาอังกฤษ

4.2 พฒั นาห้องเรียนพิเศษภาษาองั กฤษ (Enrichment Class) เพ่ือใหผ้ ้เู รยี นทม่ี ีศกั ยภาพทาง
ภาษาองั กฤษสามารถใชภ้ าษาเพ่ือการส่อื สารทางสงั คม (Social Interaction) และด้านวชิ าการ (Academic
Literacy) และพฒั นาห้องเรยี นสนทนาภาษาอังกฤษ (Conversation Class) ท่ีเนน้ ทักษะการฟงั และการพูด
อย่างน้อยสปั ดาห์ละ 2 ชั่วโมง รวมถงึ การพฒั นาหลักสตู รและรายวชิ าภาษาองั กฤษเพ่ืออาชพี เพอื่ ให้ผเู้ รยี น
มคี วามพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษสาหรบั ประกอบอาชพี โดยเฉพาะสาหรบั ผู้เรยี นที่จะจบชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
และในโรงเรยี นขยายโอกาส

4.3 จดั กจิ กรรมและสภาพแวดลอ้ มที่สง่ เสริมความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เช่น (1) การเขา้
คา่ ยภาษาอังกฤษแบบเขม้ ระยะ 2-4 สปั ดาห์ (84 - 170 ชัว่ โมง) ในช่วงปดิ ภาคเรยี นสาหรบั นักเรียนทัว่ ไป และ
คา่ ยนานาชาตสิ าหรับนกั เรียนท่มี ีความสามารถสงู (2) การเพิ่มช่วั โมงเรียน การเรียนอย่างตอ่ เนื่อง ครึง่ วัน / ทัง้ วนั
/ หรอื มากกว่านัน้ รวมทงั้ (3) การจดั สภาพแวดล้อม / บรรยากาศทีส่ ง่ เสริม / กระตุ้นการฝึกทกั ษะการส่ือสาร
เช่น English Literacy Day, English Zone, English Corner, การประกวดแข่งขนั ตา่ งๆ ป้ายสารนเิ ทศ และ
การเพิ่มกจิ กรรมการอ่านในและนอกห้องเรียน ด้วยเนือ้ หาสาระที่หลากหลาย เป็นตน้

4.4 ใหม้ กี ารเรยี นการสอนวิชาสนทนาภาษาอังกฤษเป็นการท่วั ไป และมีการเรียนการสอนภาษา
อังกฤษแบบเข้มข้น รวมถึงจดั ใหเ้ ปน็ สาระเพ่ิมเตมิ ในลกั ษณะวชิ าเลือกไดด้ ้วย เพื่อให้ผู้เรียนเลอื กเรยี น ตามความ
สนใจ ความถนดั และศกั ยภาพ

5. ยกระดับความสามารถในการจัดการเรียนการสอนของครูให้สอดคลอ้ งกับวิธกี ารเรียนรูท้ ี่เน้นการ
ส่ือสาร (CLT) และเปน็ ไปตามกรอบความคิดหลัก CEFR โดยจัดให้มกี ารประเมินความรู้พน้ื ฐานภาษาอังกฤษ
สาหรบั ครู (ผู้สอน) เพื่อให้มีการฝึกอบรมครู ตลอดจนพัฒนาระบบตดิ ตามแก้ปัญหาและชว่ ยเหลือครู และ
ให้มกี ลไกการเพิม่ ประสิทธภิ าพการเรียนการสอน ท่ีมีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและมีความหลากหลาย
เพื่อตอบสนองความแตกตา่ งของระดบั ความสามารถทางภาษาองั กฤษ เพื่อให้สามารถยกระดบั ความสามารถ
ทางภาษาองั กฤษได้จริง นอกจากน้ี ควรมรี ะบบการฝกึ ฝน และการสอบวดั ระดับความสามารถออนไลน์เพ่ือการ
พฒั นาต่อเนื่องด้วย

คู่มือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 6

6. ส่งเสริมใหม้ กี ารใช้สื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการศกึ ษาเปน็ เครื่องมือสาคญั ในการชว่ ยพฒั นา
ความสามารถทางภาษาของครแู ละผู้เรียน ท้ังการสง่ เสริมใหม้ ีการผลติ การสรรหา e-content, Learning
applications รวมถึงแบบฝกึ และแบบทดสอบที่ไดม้ าตรฐานและมคี ุณภาพสาหรบั การเรียนรู้ รวมทง้ั ส่งเสริม
ให้มีการใช้ช่องทางการเรยี นรู้ผา่ นโลกดจิ ิทลั ยกตวั อย่างเช่น การเรียนรู้การฟัง การออกเสยี งทถ่ี กู ต้องตาม
Phonics จากสอ่ื ดิจทิ ัล อนึง่ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา และสถานศึกษาควรพิจารณานาตวั อยา่ งขา้ งตน้
ไปปรับใช้สู่การปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมาะสมกับผลการวัดระดบั ความสามารถทางภาษาอังกฤษของครูและผู้เรยี น รวมทงั้
บรบิ ทและความต้องการของพนื้ ที่ เพ่ือให้การขับเคลอ่ื นนโยบายการปฏริ ปู การเรียนการสอนภาษาอังกฤษเปน็ ไป
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ จึงกาหนดใหห้ น่วยงานทีต่ ้องจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ นานโยบายการปฏิรูป
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษข้างต้นไปกาหนดแผนปฏิบตั ิงานเพื่อให้บรรลุเปา้ หมายของกระทรวงศึกษาธิการ
ท้งั น้ี โดยคานงึ ถงึ ศักยภาพของสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา และสถานศึกษาแตล่ ะแหง่ ในทุกสงั กดั รวมทัง้ บริบท
และความต้องการของพื้นทที่ ่ีแตกตา่ งกนั ดว้ ย

เอกสำรอ้ำงอิง ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ ารลงวนั ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

แนวปฏิบตั ิตำมนโยบำยกำรปฏริ ปู กำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษ

ดว้ ยกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายเรง่ ปฏิรปู การเรยี นรู้ท้งั ระบบใหส้ มั พนั ธเ์ ชอื่ มโยงกัน เพอื่ ยกระดบั
คุณภาพการศึกษาและพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรียน โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การสร้างเสริมสมรรถนะและทักษะการใช้
ภาษาอังกฤษให้ผู้เรยี นสามารถใชภ้ าษาองั กฤษเพื่อการส่ือสารและใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือในการแสวงหาองค์ความรู้
เพื่อการพัฒนาตนอนั จะนาไปสูก่ ารเพิม่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ และการเตรยี มความพร้อม
รองรับการเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2548 เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว กระทรวงศกึ ษาธิการจงึ กาหนด
นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานขึน้ เพือ่ ใหท้ ุกภาคส่วนได้ตระหนกั
ถงึ ความจาเป็นทจี่ ะต้องเร่งรัดปฏริ ปู การเรียนการสอนภาษาอังกฤษและพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะ
ตามท่ีกาหนดโดยเรว็ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐานไดเ้ รง่ ดาเนนิ การเพื่อสนองนโยบายดงั กลา่ ว
โดยกาหนดแนวปฏบิ ัติในการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามนโยบายในแต่ละด้าน เพ่อื ใหห้ น่วยงาน
ในสงั กดั ทง้ั หนว่ ยงานในสว่ นกลาง ท่ีรบั ผิดชอบดาเนินการ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา และสถานศึกษานาไป
ดาเนินการให้บรรลเุ ปา้ หมาย ดงั นี้

1. ใช้กรอบอ้ำงอิงควำมสำมำรถทำงภำษำอังกฤษทเ่ี ป็นสำกล ไดแ้ ก่ The Common European
Framework of Reference for Languages (CEFR) เปน็ กรอบความคิดหลักในการจัดการเรยี นการสอน
ภาษาองั กฤษของประเทศไทย ทั้งในการออกแบบหลกั สตู ร การพฒั นาการเรียนการสอน การทดสอบ การวัดผล
การพฒั นาครู รวมถึงการกาหนดเปา้ หมายการเรยี นรู้ เพอ่ื ให้การจดั การเรียนการสอนภาษาองั กฤษเป็นไปอย่าง
มีประสิทธิภาพ มที ศิ ทางท่เี ป็นเอกภาพในการดาเนนิ การมีเป้าหมายการเรียนรแู้ ละการพัฒนาที่เทยี บเคียงได้กับ
มาตรฐานสากล ทเ่ี ป็นทีย่ อมรับในระดับนานาชาติ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจึงกาหนดใหใ้ ชก้ รอบอ้างอิงทางภาษาของ

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 7

สหภาพยโุ รป (The Common European Framework of Reference for Languages : CEFR) เป็นกรอบ
ความคดิ หลักในการจดั การเรียนการสอนภาษาอังกฤษกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยโุ รป (The Common
European Framework of Reference for Languages : CEFR) คือ มาตรฐานการประเมินความสามารถทาง
ภาษา ทส่ี หภาพยโุ รปจัดทาข้ึน โดยมวี ัตถุประสงค์เพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการจัดการเรียนรู้ การสอน และการ
ประเมินภาษาทีส่ องหรือภาษาต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 2002 สภาแห่งสหภาพยโุ รปได้กาหนดใหใ้ ช้ กรอบอ้างองิ
CEFR ในการตรวจสอบความสามารถทางภาษา ปัจจุบนั กรอบอา้ งอิง CEFR ได้รับการยอมรบั อยา่ งกวา้ งขวางวา่
เปน็ มาตรฐานในการจดั ลาดับความสามารถทางภาษาของแตล่ ะบุคคล

CEFR ไดจ้ าแนกผเู้ รียนออกเปน็ 3 กลมุ่ หลักและแบง่ เปน็ 6 ระดบั ความสามารถ ดังนี้

Level group A BC

Level group Basic User Independent User Proficient User

name ผใู้ ชภ้ าษาขั้นพนื้ ฐาน ผูใ้ ช้ภาษาขัน้ อสิ ระ ผ้ใู ชภ้ าษาข้ันคลอ่ งแคล่ว

Level A1 A2 B1 B2 C1 C2

Level name Breakthrough Waystage Threshold Vantage / Effective Mastery

/beginner /elementary /intermediate upper Operational proficiency

intermediate Proficiency

ท้งั นี้ในแต่ละระดบั ได้กาหนดความสามารถในการใชภ้ าษาไวด้ ังนี้

ระดบั คำอธิบำย
A1 ผูเ้ รยี นสามารถใชแ้ ละเขา้ ใจประโยคงา่ ยๆในชีวติ ประจาวนั สามารถแนะนาตัวเองและผู้อื่น และ

สามารถต้งั คาถามเกีย่ วกับบุคคลอ่นื ได้ เชน่ เขาอย่ทู ่ีไหน ร้จู ักใครบา้ ง มีอะไรบา้ ง และตอบ
คาถามเหล่าน้ีได้ รวมท้งั สามารถเขา้ ใจบทสนทนาเม่ือคู่สนทนาพดู ชา้ และชดั เจน
A2 ผเู้ รยี นสามารถใชแ้ ละเข้าใจประโยคในชวี ิตประจาวนั ในระดับกลาง เชน่ ขอ้ มูลเก่ียวกับครอบครวั
การจบั จา่ ยใช้สอย สถานท่ี ภูมศิ าสตร์ การทางาน และสามารถสื่อสารในประโยคในการ
แลกเปล่ยี นขอ้ มูลทว่ั ไปและการใช้ชวี ิตประจาวัน สามารถบรรยายความฝัน ความคาดหวัง
ประวตั ิ ส่งิ แวดลอ้ ม และสงิ่ อ่ืนๆท่จี าเปน็ ต้องใช้
B1 ผู้เรยี นสามารถพูด เขยี น และจบั ใจความสาคัญของข้อความทัว่ ๆไปได้ เมอื่ เป็นหวั ขอ้ ทค่ี ุ้นเคย
หรือสนใจ เชน่ การทางาน โรงเรียน เวลาว่าง ฯลฯ สามารถจัดการกับสถานการณต์ า่ งๆ
ทเี่ กดิ ข้ึนระหวา่ งการเดนิ ทางในประเทศทใ่ี ชภ้ าษาได้ สามารถบรรยายประสบการณ์ เหตุการณ์
ความฝนั ความหวงั พร้อมใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ได้

คู่มอื พฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 8

ระดบั คำอธิบำย
B2 ผูเ้ รยี นมคี วามสามารถในการใชภ้ าษาในระดับดี สามารถใช้ภาษา พูดและเขยี นได้แทบทุกเร่อื ง

อย่างถูกต้องและคลอ่ งแคลว่ ข้ึน รวมทัง้ สามารถจะอ่านและทาความเข้าใจบทความทมี่ ีเนื้อหา
ยากขึ้นได้
C1 ผู้เรียนสามารถเข้าใจขอ้ ความยาวๆที่ซบั ซอ้ นในหัวข้อหลากหลาย และเขา้ ใจความหมายแฝงได้
สามารถแสดงความคิดความรู้สึกของตนได้อยา่ งเป็นธรรมชาติ โดยไม่ตอ้ งหยดุ คิดหาคาศัพท์
สามารถใช้ภาษาท้ังในดา้ นสงั คมการทางาน หรอื ดา้ นการศึกษาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ สามารถ
พดู และเขียนข้อความท่ีซบั ซ้อนไดอ้ ย่างชัดเจนและถูกต้องตามโครงสร้างไวยากรณ์ พร้อมท้งั
สามารถใช้คาเชื่อมประโยคได้อย่างถูกต้อง
C2 ผู้เรยี นมีความสามารถในการใชภ้ าษาได้อย่างดีเยี่ยมใกล้เคียงเจ้าของภาษา สามารถใชภ้ าษา
มาตรฐานได้อย่างสละสลวย ถกู ต้องตามจดุ ประสงค์ท่ีจะส่ือสารไดด้ ี สามารถอ่าน บทความทีเ่ ป็น
ภาษาตน้ ฉบบั (โดยเฉพาะอย่างยิง่ ด้านวรรณกรรม) ได้เข้าใจ สามารถ และเลอื กใชภ้ าษาสาหรบั
พดู และเขยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ในการนากรอบอ้างองิ CEFR มาใชใ้ นการปฏริ ูปการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษนัน้ กระทรวงศึกษาธิการ
ได้กาหนดแนวทางในการดาเนินการดังน้ี

1.1 ใช้ CEFR เปน็ กรอบความคิดหลกั ในการเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ และการพฒั นา โดยใช้
ระดับความสามารถ 6 ระดบั ของ CEFR เปน็ เป้าหมายการพัฒนาผเู้ รยี นในแตล่ ะระดับ ทงั้ นใี้ นเบื้องต้น
กระทรวงศึกษาธกิ ารได้กาหนดเป้าหมายการพัฒนาระดบั ความสามารถทางภาษาของผู้เรียนในระดับการศึกษา
ขัน้ พ้ืนฐาน ไวด้ งั น้ี

ระดบั นักเรียน ระดบั ควำมสำมำรถทำงภำษำ ระดับควำมสำมำรถทำงภำษำ
ตำมกรอบ CEFR
ผ้สู าเร็จการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ป.6) ผู้ใช้ภาษาข้ันเริ่มต้น A1
ผ้สู าเร็จการศกึ ษาภาคบงั คบั (ม.3) ผู้ใชภ้ าษาขน้ั เรม่ิ ต้น A2
ผูส้ าเรจ็ การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน (ม.6 / ปวช.) ผู้ใช้ภาษาขน้ั อสิ ระ B1

ดงั นน้ั ในการประเมนิ หรือตรวจสอบผลการจดั การศึกษา หรอื ผลการพัฒนาผู้เรยี นในแต่ละระดับข้างตน้
หน่วยงานท่ีรับผิดชอบในแต่ละระดับควรไดม้ ีการทดสอบหรอื วดั ผล โดยใช้แบบทดสอบมาตรฐานทเ่ี ทียบเคยี งผล
คะแนนกับระดับความสามารถทางภาษาตามกรอบอ้างองิ CEFR เพ่อื ตรวจสอบวา่ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธกิ์ ารเรียน
ภาษาผ่านเกณฑ์ระดบั ความสามารถ ท่กี าหนดหรือไม่

คมู่ ือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 9

1.2 ใชพ้ ัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาองั กฤษ โดยนาระดับความสามารถทางภาษาที่กรอบ
อา้ งอิง CEFR กาหนดไวแ้ ตล่ ะระดบั มากาหนดเป้าหมายของหลักสูตร และใช้คาอธิบายความสามารถทางภาษา
ของระดบั น้นั ๆ มากาหนดกรอบเนอ้ื หาสาระทีจ่ ะใช้ในการจดั การเรียนการสอนตามหลักสตู ร ดงั ตวั อย่างคาอธิบาย
ความสามารถ ในตารางท่ี 1

1.3 ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน โดยนาระดับความสามารถทางภาษาและคาอธิบายความสามารถ
ทางภาษาที่กรอบอา้ งองิ CEFR กาหนดไว้แตล่ ะระดบั มาพิจารณาจัดกระบวนการเรยี นรู้เพ่อื ให้ผ้เู รียนสามารถ
แสดงออกซ่งึ ทักษะทางภาษาและองค์ความรู้ตามท่ีระบุไว้ เชน่ ในระดับ A1 ผสู้ อนต้องจัดกระบวนการเรยี นรู้
เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นสามารถเข้าใจ ใช้ภาษา แนะนา ถาม - ตอบ ปฏสิ มั พนั ธพ์ ูดคุยในเร่อื งทก่ี าหนดไว้ในคาอธิบาย
ดังตารางข้างตน้ ได้ การเรยี นการสอนจึงต้องเนน้ ให้ ผูเ้ รียนได้ฟังและพดู ส่อื สารเปน็ หลัก ผู้เรียนจึงจะมี
ความสามารถตามที่กาหนด

1.4 ใชใ้ นการทดสอบและการวัดผล โดยใช้แบบทดสอบ หรอื แบบวัดทส่ี ามารถเทยี บเคียงผลได้
กบั กรอบอา้ งองิ CEFR เพื่อให้ได้ข้อมลู ระดับความสามารถของผ้เู รยี นหรอื ผเู้ ข้ารับการทดสอบ เพื่อการจัด
กระบวนการเรียนการสอน กิจกรรม หรอื ส่ือให้สอดคล้องกับความตอ้ งการจาเป็น อนั จะนาไปสู่การพัฒนาผู้เรยี น
หรอื ผ้เู ข้ารบั การทดสอบให้มีความสามารถตาม เป้าหมาย และเกณฑท์ ่ีกาหนด

1.5 ใชในการพัฒนาครู โดยดาเนินการ ดงั นี้
1) ใชเคร่ืองมือในการประเมนิ ตนเอง (self- assessment checklist) ตามกรอบ CEFR

เพอื่ เตรยี มความพรอมกอนเขารับการทดสอบและ ประเมินความกาวหนา ความสามารถทางภาษาอังกฤษอยาง
ตอเน่อื ง

2) ประเมินความสามารถในการใชภาษาอังกฤษของครกู อนการพัฒนา โดยใชแบบทดสอบ
มาตรฐานตามกรอบ CEFR ในการตรวจสอบระดับความสามารถของครู

3) จดั ทาฐานขอมลู และกลุมครูตามระดับเพื่อวางแผนพฒั นา และติดตามความกาวหนาในการ
เขารบั การพฒั นาตามระดบั ความสามารถ

4) กาหนดเปาหมายความสามารถดานภาษาตามกรอบ CEFR การพัฒนาครแู ตละกลุม เพื่อนามา
จัดหลักสตู ร และกระบวนการพฒั นา ครใู หมีความสามารถในการใชภาษาผานเกณฑและบรรลุเปาหมายทกี่ าหนด

5) ใชแบบทดสอบมาตรฐานตามกรอบ CEFR ทดสอบหลงั การพฒั นาเพ่ือประเมนิ หลกั สูตร
การพฒั นากระบวนการพฒั นา และความสามารถของครู เทียบเคยี งกบั เปาหมายทกี่ าหนด รวมทั้งจัดกจิ กรรม
การพฒั นาอยางตอเนื่อง ตามบทบาทของแต่ละหนว่ ยงาน

2. ปรับจุดเนนกำรเรียนกำรสอนภำษำองั กฤษใหเปนไปตำมธรรมชำตขิ องกำรเรียนรูภำษำ
โดยเนนการสอ่ื สาร (Communicative Language Teaching: CLT) กระทรวงศึกษาธิการมนี โยบาย

ใหปรับการเรียนการสอนภาษาองั กฤษจากการเนนไวยากรณมาเปนเนนการ สือ่ สารท่เี ร่ิมจาก การฟง ตามดวย

ค่มู อื พัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 10

การพูด การอาน และการเขยี นตามลาดับ ทงั้ น้ี การจดั การเรียนรูภาษาองั กฤษควรคานึงถึงธรรมชาติการเรยี นรู
ภาษา กระบวนการเรียนการสอนควรมี ลักษณะเปนการเรียนรูตามธรรมชาติทใ่ี กลเคียงกับการเรยี นรูภาษาแรก
คอื ภาษาไทย ทเ่ี ร่ิมการเรยี นรูจากการฟง และเชื่อมโยงเสียงกับภาพเพ่อื สรางความเขาใจ แลวจงึ นาไปสูการ
เลยี นเสยี ง คือ การพูด และนาไปสูการอานและเขยี น ในที่สดุ การจัดการเรยี นการสอนจงึ ควรเปนการสอน
เพ่อื การส่อื สารอยางแทจริง หนวยงานตางๆ ที่มหี นาท่สี งเสรมิ สนบั สนุนและจดั การเรียนรูจึงมบี ทบาทภารกิจ
ในการพัฒนาสนับสนนุ ชวยเหลือใหครูสามารถจดั การเรยี นรูตามธรรมชาตขิ องภาษา เพ่ือใหผูเรียนมคี วามสามารถ
ในการใชและสื่อสารภาษาองั กฤษ

3. สงเสรมิ ใหมกี ำรเรยี นกำรสอนภำษำองั กฤษท่ีมีมำตรฐำนตำมกรอบมำตรฐำนหลกั
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมีนโยบายใหจดั การเรยี นการสอนภาษาอังกฤษดวยหลักสตู ร แบบเรียน ส่อื การเรียน
การสอนทเี่ ปนมาตรฐาน แตสามารถใชรูปแบบวธิ ีการทแ่ี ตกตางกนั ได ทั้งนี้ ตามความพรอมของแตละสถานศกึ ษา
และแสดงถึงความถนัดและความสนใจของผูเรยี น การจัดการเรียนการสอนภาษาองั กฤษของสถานศึกษาควร
เป็นไปอยางมมี าตรฐาน สามารถสรางเสริมความสามารถในการใชภาษาอังกฤษของนักเรียนอยางเทาเทียม
แมสถานศึกษาจะมีความแตกตางกนั ในดานความพรอม แตทกุ ภาคสวนทเ่ี กย่ี วของควรไดเขาไปมีบทบาทในการ
สงเสรมิ สนบั สนนุ การดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาใหเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน
และสงผลทดี่ ตี อการพัฒนาความสามารถดานภาษาอังกฤษของผูเ้ รยี น

4. สงเสรมิ กำรยกระดับควำมสำมำรถในกำรใชภำษำองั กฤษ
การยกระดับความสามารถดานภาษาอังกฤษของผูเรยี น คือเปาหมายสาคญั ของการจัดการศึกษา

นอกเหนือจาก ภารกจิ ในการพฒั นาผูเรียนใหมคี วามสามารถในการใชภาษาอังกฤษตามท่ีหลกั สตู รกาหนดแลว
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมบี ทบาทสาคญั ในการสงเสริม สนบั สนุนการพฒั นาผูเรียนในทกุ ระดบั เพ่อื ยกระดบั
ความสามารถดานภาษาอังกฤษใหสงู ข้นึ และเต็มตามศักยภาพของผูเรยี น โดยการจัดใหมีโครงการหองเรยี นและ
รายวิชาที่เนนการจดั ใหผูเรยี นมโี อกาส ศกึ ษาเรียนรู และใชภาษาอังกฤษมากขึ้นอยางเขมขนเพ่ือสนองตอบตอ
ความตองการและความสนใจของผูเรยี น ชมุ ชนและสังคม อันจะนาไปสูการสรางประชากรใหมีความสามารถ
ในการใชภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร การศกึ ษาตอระดบั สูงและการทางาน แนวปฏบิ ัติในการดาเนินการ
ประกอบดวย

4.1 การขยายโครงการพเิ ศษดานการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ International Program
(IP), English Program (EP), Mini English Program (MEP), English Bilingual Education (EBE), English
for Integrated Studies (EIS)

4.2 การพฒั นาหองเรยี นพิเศษภาษาอังกฤษ (Enrichment Class)
4.3 การจดั ใหมีการเรยี นการสอนวชิ าสนทนาภาษาอังกฤษ

คมู่ อื พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 11

5. ยกระดับควำมสำมำรถในกำรจดั กำรเรียนกำรสอนของครูใหสอดคลองกบั วิธกี ำรเรียนรูทีเ่ นนกำ
รส่อื สำร (CLT) และเปนไปตำมกรอบควำมคดิ หลกั CEFR

ครเู ปนปจจัยที่มคี วามสาคัญทีส่ ุดปจจยั หนง่ึ ของความสาเร็จในการพัฒนาความสามารถในการใช
ภาษาองั กฤษของผูเรยี น เน่ืองจากภาษาอังกฤษเปนทักษะท่ีตองอาศัยการเรยี นรูตามธรรมชาติของภาษา การมี
ปฏิสัมพนั ธ การเลียนแบบ และการมีเจตคติที่ดีตอการเรยี นรูและฝกฝนทกั ษะ ครทู มี่ ีความสามารถและความคลอง
แคลวในการใชภาษาอังกฤษจะเปนตนแบบทด่ี ขี องผูเรยี นในการเรยี นรูและฝกฝน ครูท่มี ีความรูความสามารถดาน
การจดั การเรียนการสอน และ การใชส่อื จะชวยกระตุน สรางแรงจูงใจ และพฒั นาความสามารถในการเรยี นรูและ
การใชภาษาของผูเรยี น การพัฒนาครใู หมคี วามสามารถดานภาษาอังกฤษตามเกณฑที่กาหนดตามกรอบอางอิง
CEFR และมคี วามรูความสามารถดานการสอนภาษาอังกฤษแบบสอ่ื สาร (CLT) จงึ เปนความสาคัญจาเปนอยางยิง่
ท่ีทุกหนวยงานและทุกภาคสวนทีเ่ ก่ียวของควรเรงดาเนินการ เพ่ือยกระดับความสามารถในการจัดการเรียน
การสอนของครูใหสอดคลองกับวธิ กี ารเรียนรูท่เี นนการส่ือสาร (CLT) และเปนไปตามกรอบความคิดหลกั CEFR
การดาเนินการตามนโยบายเนนไปที่การประเมินความรูพื้นฐานภาษาองั กฤษสาหรับครู เพอ่ื ใหมีการฝกอบรมครู
ตลอดจนพฒั นาระบบติดตามแกปญหาและชวยเหลอื ครู และใหมกี ลไกการเพิ่มประสิทธภิ าพการเรียนการสอน
ที่มกี ารวางอยางเปนระบบและมคี วามหลากหลายเพื่อตอบสนองความแตกตางของระดับความสามารถทาง
ภาษาอังกฤษ เพ่ือใหสามารถยกระดบั ความสามารถทางภาษาองั กฤษไดจริง นอกจากน้ี ควรมีระบบการฝกฝน
และการสอบวดั ระดับความสามารถออนไลนเพื่อการพัฒนาตอเน่ืองดวย

6. สงเสรมิ ใหมีกำรใชสื่อ เทคโนโลยีสำรสนเทศเพื่อกำรศกึ ษำ เปนเคร่ืองมือสำคญั ในกำรชวยพัฒนำ
ควำมสำมำรถทำงภำษำของครูและผูเรียน

ส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Communication Technology: ICT) เปนเครอ่ื งมือสาคัญในโลก
ปจจบุ นั ท่ีเขามามบี ทบาทสาคัญย่งิ ในการพฒั นาความสามารถทางภาษาของครูและผูเรยี น การนาสอื่ ICT มาใชในการ
จัดการเรียนการสอน การเรียนรูและฝกฝนทกั ษะทางภาษาจึงเปนแนวทางสาคญั ในการกระตุนนและสรางการเรยี นรู
ผานโลกดิจิทลั สื่อทดี่ สี ามารถนามาใชทดแทนครไู ด โดยเฉพาะในสวนของการฝกฝนเกี่ยวกับการออกเสยี ง การฟงและ
การพูดซ่ึงครูบางสวนยังขาดความพรอมและขาดความมนั่ ใจ อกี ทัง้ ส่ือยังสามารถใชไดในทกุ สถานท่ี ทกุ เวลา
ใชฝกฝน ซา้ ๆ ไดอยางไมมขี อจากัด

เอกสำรอำ้ งองิ แนวปฏบิ ตั ติ ามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรอื่ ง นโยบายการปฏิรูปการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ,
2557, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน หนา้ 1-20.

ค่มู อื พฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 12

ตอนที่ 3
ตวั ชวี้ ัดและสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงท่ตี อ้ งร้แู ละควรรู้

กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ

ช้นั ตวั ช้วี ัดทัง้ หมด ต้องรู้ ควรรู้

ป.1 16 9 7

ป.2 16 9 7

ป.3 18 13 5

ป.4 20 17 3

ป.5 20 19 1

ป.6 20 19 1

ม.1 20 19 1

ม.2 21 19 2

ม.3 21 19 2

ม.4-6 21 17 4

รวม 193 160 33

คูม่ ือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 13

ตัวชี้วัดและสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงที่ตอ้ งรแู้ ละควรรู้
กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ สำระที่ 1 ภำษำเพือ่ กำรสอื่ สำร

ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 1

ชนั้ ที่ รหสั ตัวชวี้ ดั ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.1 1 ต 1.1 ป.1/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ งา่ ย ๆ ● คาสั่งทีใ่ ช้ในหอ้ งเรียน เช่น Stand 
ท่ฟี งั up./Sit down. /Listen./Repeat.

/Quiet! / Stop! etc.

ป.1 2 ต 1.1 ป.1/2 ระบุตัวอักษรและเสยี ง ● ตัวอกั ษร (letter names) เสยี ง 

ตัวอักษร อา่ นออกเสยี ง ตวั อกั ษร (letter sounds) และสระ
และสะกดคาง่ายๆ ถูกต้อง
ตามหลกั การอ่าน (vowel sounds) และการสะกดคา
● หลักการอ่านออกเสยี ง เช่น

- การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คา

ป.1 3 ต 1.1 ป.1/3 เลอื กภาพตรงตาม  คากลมุ่ คาและความหมายเก่ียวกับ 

ความหมายของคาและ ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อม

กลุ่มคาทฟ่ี ัง ใกลต้ วั อาหาร เคร่อื งด่มื และนนั ทนาการ

ภายในวงคาศัพท์ประมาณ 150-200 คา

(คาศพั ทท์ ่เี ปน็ รปู ธรรม)

ป.1 4 ต 1.1 ป.1/4 ตอบคาถามจากการฟงั  บทอา่ นเกีย่ วกับเรื่องใกล้ตัวหรือนทิ านท่ี 

เรื่องใกล้ตวั มีภาพประกอบ

 ประโยคคาถามและคาตอบ

Yes/No Question เชน่

Is it a/an..? Yes, it is./No, it is not.

etc. Wh-Question เช่น

What is it? It is a/an... etc.

ป.1 5 ต 1.2 ป.1/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคาสนั้ ๆ  บทสนทนาทใี่ ช้ในการทักทาย กลา่ วลา 

ง่ายๆ ในการส่ือสาร ขอบคณุ ขอโทษ และประโยค/ข้อความ

ระหว่างบคุ คลตามแบบ ที่ใช้แนะนาตนเอง เช่น Hi/Hello/Good

ท่ีฟัง morning/Good afternoon/Good

evening/I am…/Goodbye./

Bye. / Thank you./I am sorry.

How are you? / I am fine. etc.

คมู่ อื พัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 14

ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้วี ดั ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.1 6 ต 1.2 ป.1/2 ใช้คาสัง่ งา่ ยๆ ตามแบบ  คาสง่ั ทีใ่ ช้ในห้องเรียน 

ทีฟ่ งั

ป.1 7 ต 1.2 ป.1/3 บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยคทใี่ ช้ 

ของตนเองตามแบบทฟ่ี ัง บอกความตอ้ งการ เช่น I

want…/Please,… etc.

ป.1 8 ต 1.2 ป.1/4 พูดขอและให้ข้อมูลงา่ ยๆ  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยคท่ใี ช้ 

เก่ยี วกบั ตนเองตามแบบ ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองเชน่

ท่ีฟัง What’s your name?/My name is…/I

am… etc.

ป.1 9 ต 1.3 ป.1/1 พูดให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับ  คาและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู ใหข้ ้อมูล 

ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว เกีย่ วกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเร่ืองใกล้

ตวั เชน่ บอกชื่ออายุ รปู รา่ งส่วนสงู สง่ิ

ตา่ งๆ จานวน 1 - 20 สี ขนาดตาแหน่ง

ของสิ่งของ

รวม 9 ตวั ชี้วัด 9-

คมู่ ือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 15

ตัวช้ีวดั และสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงทต่ี อ้ งรู้และควรรู้
กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพ่ือกำรส่อื สำร

ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 2

ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้วี ัด ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.2 1 ต 1.1 ป.2/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ และคา  คาสง่ั และคาขอร้องท่ีใช้ในห้องเรียน 

ขอร้องงา่ ยๆ ทฟ่ี งั คาส่ังเชน่ Show me a/an.../Open your

book. Don’t talk in class. etc. คา

ขอร้อง เช่น Please come here./Come

here, please. Don’t make a loud

noise, please./Please don’t make a

loud noise. etc

ป.2 2 ต 1.1 ป.2/2 ระบตุ วั อกั ษรและเสยี ง  ตัวอักษรเสยี งตัวอกั ษรและสระการ 

อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา สะกดคาและประโยค

และอา่ นประโยคงา่ ยๆ  หลกั การอา่ นออกเสยี ง เช่น การออก

ถกู ต้องตามหลักการอ่าน เสยี งพยญั ชนะตน้ คาและพยัญชนะทา้ ยคา

การออกเสียงเนน้ หนัก-เบาในคา

ป.2 3 ต 1.1 ป.2/3 เลือกภาพตรงตาม  คากล่มุ คาประโยคเดี่ยว (simple 

ความหมายของคา sentence) และความหมายเกี่ยวกับ

กลุ่มคาและประโยคท่ีฟงั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สิ่งแวดลอ้ ม

ใกลต้ วั อาหารเครื่องดื่ม และนนั ทนาการ

เป็นวงคาศพั ทส์ ะสมประมาณ 250-300

คา (คาศัพทท์ ีเ่ ปน็ รปู ธรรม)

ป.2 4 ต 1.1 ป.2/4 ตอบคาถามจากการฟงั  ประโยคบทสนทนา หรือนิทานท่มี ี 

ประโยคบทสนทนา ภาพประกอบ

หรือนิทานง่ายๆ ท่มี ี  ประโยคคาถามและคาตอบ

ภาพประกอบ Yes/No Question เช่น Is this / that

a/an..? Yes, it is. / No, it isn’t. etc.

Wh-Question เชน่ What is this/that/it?

This/that/It is a/an…

How many…? There is/are…

Where is the…? It is in/on/under…

etc.

คูม่ อื พฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 16

ชั้น ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.2 5 ต 1.2 ป.2/1 พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ  บทสนทนาทีใ่ ช้ในการทกั ทาย กล่าวลา 

ง่ายๆ ในการสอ่ื สาร ขอบคณุ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความ

ระหว่างบคุ คลตามแบบ ทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เชน่ Hi / Hello /

ทฟ่ี งั Good morning/ Good afternoon /

Good evening/ How are you?/

I am fine. / I am…/ Goodbye. / Bye.

/Thank you./ I am sorry. etc.

ป.2 6 ต 1.2 ป.2/2 ใช้คาสั่งและคาขอรอ้ ง  คาส่งั และคาขอร้องที่ใช้ในห้องเรยี น 

งา่ ยๆ ตามแบบท่ฟี งั

ป.2 7 ต 1.2 ป.2/3 บอกความตอ้ งการง่ายๆ  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค 

ของตนเองตามแบบทฟี่ ัง ทีใ่ ชบ้ อกความต้องการ เช่น I want…

/Please,… etc.

ป.2 8 ต 1.2 ป.2/4 พดู ขอและใหข้ ้อมูลง่ายๆ  คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยค 

เก่ียวกับตนเองตามแบบ ทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง เช่น

ท่ฟี ัง What’s your name?/My name is…/

I am… etc.

ป.2 9 ต 1.3 ป.2/1 พูดให้ข้อมูลเกีย่ วกับ  คาและประโยคทใี่ ชใ้ นการพดู ให้ขอ้ มลู 

ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว เกีย่ วกับตนเองบคุ คลใกล้ตัว และเร่อื ง

ใกลต้ วั เชน่ บอกชอื่ อายุ รปู ร่าง สว่ นสงู

สงิ่ ต่างๆ จานวน 1-30 สี ขนาด ตาแหนง่

ของสงิ่ ของ

รวม 9 ตัวช้ีวดั 72

ค่มู ือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 17

ตวั ช้ีวดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงทตี่ ้องรูแ้ ละควรรู้
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ สำระที่ 1 ภำษำเพอ่ื กำรสอ่ื สำร

ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ 3

ชนั้ ที่ รหัสตวั ชีว้ ัด ตัวช้วี ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.3 1 ต 1.1 ป.3/1 ปฏิบตั ติ ามคาสง่ั และ  คาส่ังและคาขอรอ้ งท่ีใช้ในห้องเรยี น 

คาขอร้องที่ฟังหรืออ่าน คาส่ัง เชน่ Give me a/an.../Draw and

color the picture./Put a/an…in/on/

under a/an…/Don’t eat in class. etc.

คาขอรอ้ ง เช่น Please take a queue.

/Take a queue, please./Don’t make

a loud noise, please./Please don’t

make a loud noise./Can you help me,

please? etc.

ป.3 2 ต 1.1 ป.3/2 อ่านออกเสียงคา สะกด  คากล่มุ คาประโยคเดยี่ ว และบทพดู 
คาอ่านกลมุ่ คา ประโยค
และบทพดู เขา้ จังหวะ เข้าจงั หวะและการสะกดคา
(chant) ง่ายๆ ถูกต้อง
ตามหลักการอา่ น  หลกั การอ่านออกเสียง เช่น

ป.3 3 ต 1.1 ป.3/3 เลือก/ระบภุ าพหรือ การออกเสียงพยัญชนะตน้ คาและ
สัญลกั ษณต์ รงตาม
ความหมายของกลุ่มคา พยญั ชนะทา้ ยคา การออกเสียงเน้น
และประโยคทีฟ่ งั
หนัก-เบาในคาและกล่มุ คา
ป.3 4 ต 1.1 ป.3/4 ตอบคาถามจากการฟงั
หรืออา่ นประโยค  กลุ่มคาประโยคเดีย่ วสญั ลักษณแ์ ละ 
บทสนทนา หรอื นทิ าน
งา่ ยๆ ความหมายเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครัว

โรงเรียนสงิ่ แวดล้อมใกลต้ ัวอาหาร

เครื่องดื่ม และนนั ทนาการ เปน็ วงคาศพั ท์

สะสมประมาณ 350 – 450 คา (คาศพั ท์

ทเ่ี ป็นรปู ธรรม)

 ประโยคบทสนทนา หรอื นทิ านทมี่ ี 

ภาพประกอบ

 ประโยคคาถามและคาตอบ

Yes/No Question เช่นIs/Are/Can…?

Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t. etc.

คู่มือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 18

ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้วี ัด ตัวช้ีวดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

Wh-Question เชน่ 

What is this/that/it? This/that/It is

a/an… How many…? There is/are…

Where is/are…?

It is in/on/under… They are etc.

ป.3 5 ต 1.2 ป.3/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคาสน้ั ๆ  บทสนทนาทีใ่ ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา 

ง่ายๆในการสอ่ื สาร ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความ

ระหวา่ งบุคคล ทีใ่ ชแ้ นะนาตนเอง เชน่ Hi/Hello/

ตามแบบท่ีฟงั Good morning /Good afternoon/

Good evening/I am sorry. How are

you? I’m fine. Thank you. And you?/

Nice to see you./Nice to see you too./

Goodbye./Bye./See you soon/later./

Thanks./Thank you./Thank you very

much./You’re welcome etc.

ป.3 6 ต 1.2 ป.3/2 ใช้คาส่งั และคาขอรอ้ ง  คาสั่งและคาขอร้องทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน 

ง่ายๆ ตามแบบที่ฟัง

ป.3 7 ต 1.2 ป.3/3 บอกความต้องการงา่ ยๆ  คาศพั ท์สานวนภาษา และประโยค 

ของตนเองตามแบบทฟ่ี ัง ท่ีใชบ้ อก ความต้องการ เชน่

Please,…/May I go out?/ May I

come in? etc.

ป.3 8 ต 1.2 ป.3/4 พดู ขอและใหข้ ้อมลู งา่ ยๆ  คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยค 

เก่ยี วกับตนเองและเพื่อน ท่ีใชข้ อและให้ข้อมลู เกยี่ วกับตนเองและ

ตามแบบท่ีฟงั เพอื่ น เช่น

What’s your name? My name is…

What time is it? It is one o’clock.

What is this? It is a/an… How

many…are there?

There is a/an…/ There are…

Who is…? He /She is… etc.

ค่มู ือพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 19

ชนั้ ที่ รหสั ตัวชีว้ ัด ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.3 9 ต 1.2 ป.3/5 บอกความร้สู กึ ของตนเอง  คาและประโยคทใ่ี ช้แสดงความรสู้ ึก 

เก่ยี วกบั สิ่งต่างๆ ใกล้ตวั หรอื เชน่ ดใี จ เสยี ใจ ชอบ ไม่ชอบ เช่น

กจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทีฟ่ งั Yeah!/Great!/ Cool!/I’m happy./

I like cats. / I don’t like snakes.

etc.

ป.3 10 ต 1.3 ป.3/1 พูดให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง  คาและประโยคท่ใี ชใ้ นการพดู ให้ 

และเรอื่ งใกลต้ วั ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว

และเร่อื งใกล้ตัว เช่น บอกชอ่ื อายุ

รปู ร่าง สว่ นสงู สิ่งตา่ งๆ จานวน

1 - 50 สี ขนาดตาแหน่งของสงิ่ ของ

ป.3 11 ต 1.3 ป.3/2 จดั หมวดหมู่คาตามประเภท  คา กลุ่มคาทม่ี คี วามหมายเกี่ยวกับ

ของบคุ คลสตั ว์และส่ิงของ บคุ คล สตั ว์ และส่ิงของ เชน่ การระบุ

ตามที่ฟงั หรืออ่าน /เชือ่ มโยงความสัมพันธข์ องภาพกบั

คาหรอื กล่มุ คา โดยใช้ภาพแผนภมู ิ

แผนภาพแผนผงั

รวม 11 ตวั ชว้ี ัด 11 -

ค่มู ือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 20

ตัวช้ีวดั และสำระกำรเรยี นรู้แกนกลำงทตี่ ้องรแู้ ละควรรู้
กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพ่อื กำรสอ่ื สำร

ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 4

ชน้ั ท่ี รหัสตัวชว้ี ดั ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.4 1 ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ งและ  คาสั่งและคาขอรอ้ งทใ่ี ช้ในห้องเรยี น 

คาแนะนา (instructions) งา่ ยๆ และคาแนะนาในการเล่นเกม การวาด

ที่ฟงั หรืออา่ น ภาพ หรอื การทาอาหารและเครอื่ งดืม่

● คาสั่ง เช่น Look at

the…/here/over there./Say it

again./ Read and draw./

Put a/an…in/on/under a/an…/

Don’t go over there. etc.

● คาขอร้อง เช่น Please take a

queue./ Take a queue,

please./Can you help me, please?

etc.

● คาแนะนา เชน่ You should read

every day./Think before you

speak./

● คาศพั ทท์ ่ีใช้ในการเลน่ เกม Start./

My turn./Your turn./Roll the dice./

Count the number./Finish./

● คาบอกลาดบั ข้นั ตอน First,...

Second, Then, Finally, etc.

ป.4 2 ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา  คากล่มุ คาประโยค ขอ้ ความ บทพดู 

อ่านกลุ่มคา ประโยคขอ้ ความ เข้าจงั หวะและการสะกดคา

ง่ายๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะ  การใชพ้ จนานุกรม

ถูกต้องตามหลักการอา่ น  หลักการอา่ นออกเสียง เช่น

- การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คาและ

พยญั ชนะท้ายคา

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 21

ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบาในคาและ

กลุ่มคา

- การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ต่า

ในประโยค

ป.4 3 ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพหรอื สัญลักษณ์  กลุ่มคา ประโยคเดี่ยวสญั ลักษณ์ 

หรอื เคร่อื งหมายตรงตาม เครื่องหมาย และความหมายเกยี่ วกับ

ความหมายของประโยคและ ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี นสิง่ แวดลอ้ ม

ขอ้ ความสั้นๆท่ฟี ังหรอื อา่ น อาหารเครอื่ งดืม่ เวลาว่างและ

นันทนาการสุขภาพและสวัสดกิ าร การ

ซอื้ -ขาย และลมฟา้ อากาศ เปน็ วง

คาศัพท์ สะสมประมาณ 550 – 700

คา (คาศพั ทท์ ่เี ปน็ รูปธรรมและ

นามธรรม)

ป.4 4 ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และ  ประโยค บทสนทนานทิ านทม่ี ี 

อ่านประโยค บทสนทนา และ ภาพประกอบคาถามเกีย่ วกบั ใจความ

นทิ านงา่ ยๆ สาคญั ของเรือ่ ง เชน่ ใครทาอะไรที่ไหน

● Yes/No Question เช่น

Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t.

Do/Does/Can/Is/Are...?

Yes/No… etc.

● Wh-Question เชน่

Who is/are…? He/She is…/They

are… What…? / Where…? It is

…/They are… What...doing?

…is/am/are… etc.

● Or-Question เช่น Is this/it

a/an…...or a/an…?

It is a/an… etc.

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 22

ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้วี ดั ตัวชี้วดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.4 5 ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการส่อื สาร  บทสนทนาที่ใชใ้ นการทกั ทาย 

ระหว่างบคุ คล กลา่ วลาขอบคณุ ขอโทษ การพดู แทรก

อยา่ งสุภาพประโยค/ข้อความทใี่ ช้

แนะนาตนเองเพ่อื น บคุ คลใกลต้ วั และ

สานวนการตอบรบั เช่น

Hi/Hello/Good morning/Good

afternoon/Good evening/I am

sorry./How are you?/I’m fine.

Thank you. And you? /

Hello. I am…/Hello,…I am…

This is my sister. Her name is…

Hello,…/Nice to see you.

Nice to see you too.

/Goodbye./Bye./

See you soon/later./Thanks./

Thank you./Thank you very

much./ You’re welcome./It’s O.K.

etc.

ป.4 6 ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาส่งั คาขอรอ้ ง และ  คาส่งั คาขอรอ้ งและคาขออนญุ าต 

คาขออนญุ าตง่ายๆ ที่ใช้ในหอ้ งเรยี น

ป.4 7 ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการ  คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยค 

ของตนเอง และข้อความ ทใี่ ชแ้ สดงความตอ้ งการ และขอความ

ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์งา่ ยๆ ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ เชน่

I want …/Please…/May…?/

I need your help./

Please help me./Help me! etc.

ป.4 8 ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มูล  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค 

เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน และ ท่ใี ช้ขอและใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง

ครอบครัว สงิ่ ใกลต้ วั เพอื่ น และครอบครวั เชน่

ค่มู ือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 23

ช้นั ท่ี รหัสตัวช้วี ดั ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

What’s your name? My name is… 

What time is it? It is one o’clock.

What is this? It is a/an…

How many…are there?

There is a/an…/ There are…

Where is the ….? It is

in/on/under… etc.

ป.4 9 ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเอง  คาและประโยคท่ใี ช้แสดงความรู้สึก 

เก่ียวกับเรือ่ งต่างๆ ใกล้ตัวและ เช่น ดใี จ เสยี ใจ ชอบ ไม่ชอบ รกั ไม่รัก

กจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทฟ่ี งั เชน่ I/You/We/They like…/

He/She likes…

I/You/We/They love…/He/She

loves… I/You/We/They don’t

like/love/feel…

He/She doesn’t like/love/feel…

I/You/We/They feel… etc.

ป.4 10 ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับ  ประโยคและขอ้ ความทีใ่ ชใ้ นการพูด 

ตนเองและเร่อื งใกลต้ วั ให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง บุคคล สัตว์

และเรือ่ งใกลต้ ัว เชน่ ช่อื อายุ รปู รา่ ง

สี ขนาด รูปทรง ส่ิงตา่ งๆ จานวน

1 - 100 วนั เดอื น ปี ฤดกู าล ตาแหน่ง

ของส่งิ ตา่ ง ๆ

 เคร่ืองหมายวรรคตอน

ป.4 11 ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์  คา กลมุ่ คาทม่ี ีความหมายสัมพนั ธ์ 

ของสงิ่ ต่างๆ ใกล้ตัวตามทฟ่ี งั กับส่ิงตา่ งๆใกล้ตวั เชน่ การระบุ/

หรืออ่าน เช่อื มโยงความสมั พนั ธข์ องภาพกับคา

หรือกลุม่ คา โดยใชภ้ าพ แผนภมู ิ

แผนภาพ แผนผงั

ป.4 12 ต 1.3 ป.4/3 พดู แสดงความคดิ เห็นงา่ ยๆ  ประโยคที่ใช้ในการแสดงความ 

เกีย่ วกับเร่อื งต่างๆ ใกลต้ ัว คิดเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว

รวม 12 ตัวช้ีวัด 12 -

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 24

ตัวชีว้ ดั และสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงทีต่ ้องรแู้ ละควรรู้
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพอ่ื กำรสื่อสำร

ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 5

ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชี้วัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.5 1 ต 1.1 ป.5/1 ปฏบิ ัติตามคาสงั่ คา ขอร้อง และ  คาสงั่ และคาขอร้องท่ีใชใ้ นหอ้ งเรียน 

คาแนะนางา่ ยๆ ท่ีฟงั และอา่ น ภาษาทา่ ทางและคาแนะนาในการเล่น

เกมการวาดภาพหรือการทาอาหารและ

เครอื่ งดืม่

● คาส่งั เชน่ Look at the…/

here/over there./Say it again./

Read and draw./ Put a/an…

in/on/under a/an…/ Don’t go over

there. etc.

● คาขอรอ้ ง เช่น Please take a

queue./ Take a queue, please./

Can/Could you help me, please?

etc.

● คาแนะนา เช่น You should read

every day./Think before you

speak./

● คาศัพท์ทีใ่ ชใ้ นการเลน่ เกม Start./

My turn./Your turn./Roll the dice./

Count the number./Finish./

● คาบอกลาดบั ขนั้ ตอน First,...

Second,…Next,…Then,…

Finally,... etc.

ป.5 2 ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสยี งประโยค ข้อความ  ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอน 

และบทกลอนส้ันๆ ถูกตอ้ งตาม  การใชพ้ จนานุกรม

หลกั การอ่าน  หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่

คมู่ อื พัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 25

ชัน้ ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

- การออกเสียงพยัญชนะตน้ คา และ

พยัญชนะทา้ ยคา การออกเสียง

เน้นหนกั -เบาในคาและกล่มุ คา

การออกเสยี งตามระดับเสียงสงู -ตา่

ในประโยค การออกเสียงเชอ่ื มโยง

(linking sound) ในข้อความ

การออกเสยี งบทกลอนตามจงั หวะ

ป.5 3 ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วาดภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื  กลุ่มคา ประโยคผสม ขอ้ ความ 

เคร่ืองหมายตรงตามความหมาย สัญลักษณ์ เคร่อื งหมายและความหมาย

ของประโยคและขอ้ ความสนั้ ๆ เกี่ยวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน

ทฟี่ งั หรอื อา่ น ส่ิงแวดล้อม อาหาร เคร่อื งดมื่ เวลาวา่ ง

และนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร

การซ้อื -ขาย และลมฟา้ อากาศ เปน็ วง

คาศัพท์สะสมประมาณ 750 - 950 คา

(คาศพั ทท์ ่เี ปน็ รูปธรรมและนามธรรม)

ป.5 4 ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคัญ และ  ประโยค บทสนทนานทิ าน หรือ 

ตอบคาถามจากการฟงั และอ่าน เร่อื งสนั้ ๆ คาถามเก่ียวกบั ใจความ

บทสนทนา และนทิ านงา่ ยๆ สาคัญของเรอื่ ง เชน่ ใครทาอะไร ท่ีไหน

หรือเรอื่ งสัน้ ๆ เมื่อไร

● Yes/No Question เชน่

Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t.

Do/Does/Can/Is/Are...?

Yes/No… etc.

● Wh-Question เช่น

Who is/are…? He/She is…/They

are… What…?/Where…?

It is …/They are… What...doing?

...is/am/are… etc.

● Or-Question เช่น Is this/it

a/an...or a/an…? It is a/an… etc.

คมู่ อื พัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 26

ชั้น ท่ี รหัสตวั ชว้ี ดั ตวั ชว้ี ดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.5 5 ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการส่ือสาร  บทสนทนาท่ใี ชใ้ นการทักทาย กล่าว 

ระหว่างบุคคล ลาขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูด

แทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/ขอ้ ความ

ท่ีใช้แนะนาตนเอง เพือ่ น บุคคลใกลต้ ัว

และสานวนการตอบรับ เชน่

Hi/Hello/Good morning /Good

afternoon/Good evening/I am

sorry./ How are you?/I’m fine.

Thank you. And you?/ Hello. I

am…/ Hello,…I am… This is my

sister. Her name is… /

Hello,…/Nice to see you. Nice to

see you too./Goodbye./Bye./See

you soon/later./Good/Very

good./Thanks./ Thank you./Thank

you very much./ You’re

welcome./It’s O.K. etc.

ป.5 6 ต 1.2 ป.5/2 ใชค้ าสงั่ คาขอร้อง คาขออนญุ าต  คาสง่ั คาขอร้องคาขออนญุ าต 

และใหค้ าแนะนางา่ ยๆ คาแนะนาทมี่ ี 1 – 2 ขน้ั ตอน

ป.5 7 ต 1.2 ป.5/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการ  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค 

ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและ ทใ่ี ชบ้ อกความต้องการ ขอความ

ปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือใน ช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการให้

สถานการณ์งา่ ยๆ ความชว่ ยเหลือ เชน่ Please…/

May…?/I need…/Help

me!/Can/Could…?/

Yes,.../No,… etc.

ป.5 8 ต 1.2 ป.5/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและใหข้ ้อมูล  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค 

เก่ยี วกับตนเอง เพอื่ นครอบครัว ท่ีใช้ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง

และเร่อื งใกลต้ วั เพ่อื นครอบครัวและเร่อื งใกลต้ ัว เช่น

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 27

ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วัด ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

What do you do? I’m a/an…

What is she/he? She/He is a/an

(อาชีพ) How old/tall…? I am…
Is/Are/Can…or…? …is/are/can…

Is/Are…going to…or…?

…is/are going to… etc.

ป.5 9 ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียนแสดงความร้สู ึกของ  คาและประโยคท่ใี ชแ้ สดงความรูส้ กึ 
ตนเองเก่ยี วกับเร่อื งต่างๆ และการใหเ้ หตผุ ล เชน่ ชอบไมช่ อบ ดีใจ
ใกล้ตัวและกิจกรรมตา่ งๆ เสียใจ มคี วามสุข เศรา้ หวิ รสชาติ เชน่
พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลส้นั ๆ I’m…/He/She/It is…/You/We/They
ประกอบ
are… I/You/We/They like…/He

/She likes… because…

I/You/We/They love…/He /She

loves… because… I/You/We/They
don’t like/love/feel… because…

He /She doesn’t like/love/feel…

because… I/You/We/They

feel…because… etc.

ป.5 10 ต 1.3 ป.5/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับ  ประโยคและข้อความท่ีใช้ในการ 
ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ ัว ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับบคุ คลสตั วส์ ถานทแ่ี ละ
กิจกรรมตา่ งๆ เช่น ข้อมูลสว่ นบคุ คล
เร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัว จานวน 1 - 500
ลาดับท่ี วนั เดือนปี ฤดูกาล เวลา
สภาพดนิ ฟ้าอากาศอารมณ์ ความร้สู กึ
สี ขนาด รปู ทรงตาแหนง่ ของส่ิงตา่ งๆ

เคร่ืองหมายวรรคตอน

คู่มือพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 28

ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้วี ดั ตัวชี้วัด สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.5 11 ต 1.3 ป.5/2 เขยี นภาพแผนผัง และแผนภูมิ  คา กลมุ่ คา ประโยคทแ่ี สดงข้อมลู 

แสดงข้อมลู ต่างๆ ตามทฟ่ี งั หรอื และความหมายของเร่ืองตา่ งๆ ภาพ

อา่ น แผนผงั แผนภูมิ ตาราง

ป.5 12 ต 1.3 ป.5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั  ประโยคท่ใี ชใ้ นการพูดแสดงความ 

เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ วั คดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรมหรอื เรื่องต่างๆ

ใกล้ตวั

รวม 12 ตัวชวี้ ดั 12 -

ค่มู อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 29

ตวั ช้ีวดั และสำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำงทต่ี ้องรูแ้ ละควรรู้
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ สำระที่ 1 ภำษำเพื่อกำรสอื่ สำร

ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 6

ช้ัน ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้
 คาสั่ง คาขอรอ้ ง ภาษาท่าทาง และ 
ป.6 1 ต 1.1 ป.6/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนาในการเลน่ เกม การวาดภาพ
การทาอาหาร เคร่อื งด่มื และ การ 
คาแนะนาที่ฟงั และอ่าน ประดิษฐ์
● คาสงั่ เชน่ Look at the…/
ป.6 2 ต 1.1 ป.6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน here/over there./Say it again./
และบทกลอนส้ันๆ ถูกตอ้ ง Read and draw./
ตามหลกั การอ่าน Put a/an…in/on/under a/an…/
Don’t go over there. etc.
● คาขอรอ้ ง เช่น Please look up
the meaning in a dictionary./
Look up the meaning in a
dictionary, please./ Can/Could
you help me, please? etc.
● คาแนะนา เช่น You should read
every day./ Think before you
speak./
● คาศพั ทท์ ่ใี ช้ในการเลน่ เกม Start./
My turn./Your turn./Roll the dice./
Count the number./Finish./
● คาบอกลาดับขั้นตอน First,…
Second,… Next,… Then,…
Finally,… etc.
 ขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอน
 การใช้พจนานกุ รม
 หลักการอา่ นออกเสียง เช่น
การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คาและ
พยัญชนะท้ายคา การออกเสยี ง

ค่มู ือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 30

ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

เน้นหนกั -เบาในคาและกลมุ่ คา

การออกเสยี งตามระดับเสียงสงู -ต่า

ในประโยค การออกเสยี งเช่ือมโยง

(linking sound) ในข้อความ การออก

เสียงบทกลอนตามจงั หวะ

ป.6 3 ต 1.1 ป.6/3 เลือก/ระบปุ ระโยค หรือ  ประโยคหรอื ขอ้ ความ สัญลักษณ์ 

ข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ เครื่องหมายและความหมายเกี่ยวกบั

สัญลักษณ์หรือเครอื่ งหมายท่ี ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี นสง่ิ แวดล้อม

อ่าน อาหารเคร่อื งดม่ื เวลาวา่ งและ

นนั ทนาการสขุ ภาพและสวัสดกิ าร การ

ซอื้ –ขาย และลมฟา้ อากาศ เป็นวง

คาศพั ทส์ ะสมประมาณ 1,050 –

1,200 คา (คาศพั ท์ที่เปน็ รูปธรรมและ

นามธรรม)

ป.6 4 ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสาคัญ ตอบคาถาม  ประโยค บทสนทนานทิ าน หรอื เร่ือง 

จากการฟงั และอา่ นบทสนทนา เลา่ คาถามเกี่ยวกับใจความสาคญั ของ

นิทานงา่ ยๆ และเร่ืองเลา่ เรอื่ ง เช่น ใครทาอะไร ทีไ่ หน เม่อื ไร

อย่างไร ทาไม

● Yes/No Question เชน่

Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t.

Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No…

● Wh-Question เชน่

Who is/are…? He /She is…/They

are… What…?/Where…?

It is …/They are… What...doing?

…is/am/are… etc.

● Or-Question เช่น Is this/it

a/an...or a/an…? It is a/an…

Is/Are/Was/Were/Did…or…? etc.

คมู่ อื พัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 31

ช้ัน ท่ี รหัสตวั ชว้ี ดั ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้
 บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย 
ป.6 5 ต 1.2 ป.6/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสือ่ สาร กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย
การพูดแทรกอย่างสภุ าพ ประโยค/ 
ระหว่างบุคคล ข้อความทใี่ ชแ้ นะนาตนเองเพ่ือน 
บคุ คลใกลต้ ัว และสานวนการตอบรับ
ป.6 6 ต 1.2 ป.6/2 ใชค้ าสัง่ คาขอรอ้ ง คาขอ เช่น Hi/ Hello/Good morning/Good
อนุญาต และให้คาแนะนา afternoon/ Good evening/I am
sorry./ How are you?/I’m fine./Very
ป.6 7 ต 1.2 ป.6/3 พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการ well./ Thank you. And you?/Hello. I
ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและ am… / Hello,…I am… This is my
ปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือ sister. Her name is… Hello,…
ในสถานการณ์งา่ ยๆ /Nice to see you. Nice to see you,
too./Goodbye./Bye./
See you soon/later. /Great!/Good./
Very good. Thank you./Thank you
very much./You’re welcome./It’s
O.K./ That’s O.K./That’s all
right./Not at all./ Don’t worry./
Never mind./Excuse me./
Excuse me, Sir./Miss./Madam.
etc.
 คาส่ัง คาขอร้อง คาขออนุญาต และ
คาแนะนาทมี่ ี 2 – 3 ขนั้ ตอน
 คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค
ทใี่ ชบ้ อกความต้องการ ขอความ
ชว่ ยเหลอื ตอบรับ และปฏเิ สธ การให้
ความช่วยเหลอื เชน่
Please…/May…?/I need…/Help
me!/ Can/Could…?/Yes,.../No,…
etc.

คู่มอื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 32

ช้ัน ท่ี รหัสตวั ชว้ี ัด ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.6 8 ต 1.2 ป.6/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและให้  คาศพั ท์ สานวนภาษา และประโยค 

ข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เพื่อน ทีใ่ ช้ขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง

ครอบครัวและเรอ่ื งใกลต้ วั เพ่ือนครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั เช่น

What do you do? I’m a/an…

What is she /he? She/He is a/an

(อาชีพ) How old/tall…? I am…

Is/Are/Can…or…? …is/are/can…

Is/Are…going to…or…?

…is/are going to… etc.

ป.6 9 ต 1.2 ป.6/5 พดู /เขียนแสดงความร้สู กึ ของ  คาและประโยคท่ใี ช้แสดงความรู้สึก 
ตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งตา่ งๆ ใกล้
ตวั กจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มทั้งให้ และการใหเ้ หตุผลประกอบ เช่น ชอบ
เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบ
ไมช่ อบ ดีใจ เสียใจ มีความสขุ เศรา้

หวิ รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสียงดงั ดี

ไมด่ ี เช่น I’m…/He/She/It

is…/You/We/They are…

I/You/We/They like…/He/She

likes… because…

I/You/We/They love…/He/She

loves… because… I/You/We/They

don’t like/love/feel…

because… He /She doesn’t

like/love/feel… because…

I/You/We/They feel…because....

etc.

คูม่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 33

ชน้ั ที่ รหัสตวั ช้วี ัด ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ป.6 10 ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขยี นให้ข้อมลู เก่ยี วกับ  ประโยคและขอ้ ความท่ีใชใ้ นการให้ 

ตนเอง เพือ่ น และส่ิงแวดล้อม ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั

ใกล้ตัว เพอ่ื น สิ่งแวดล้อมใกลต้ วั เช่น ขอ้ มลู

สว่ นบุคคล ส่งิ ตา่ งๆ จานวน 1–1,000

ลาดับท่ี วนั เดือน ปี ฤดูกาล เวลา
กจิ กรรมท่ที า สีขนาด รปู ทรง ตาแหน่ง

ของสิ่งต่าง ๆทศิ ทางงา่ ยๆ สภาพดนิ ฟ้า

อากาศ อารมณ์ความรู้สกึ

เคร่ืองหมายวรรคตอน

ป.6 11 ต 1.3 ป.6/2 เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และ  คา กล่มุ คา และประโยคที่มี 

ตารางแสดงข้อมูลต่างๆ ทีฟ่ ัง ความหมายสัมพนั ธ์กับภาพ แผนผัง

หรืออ่าน แผนภูมิ และตาราง

ป.6 12 ต 1.3 ป.6/3 พดู /เขยี นแสดงความคดิ เห็น  ประโยคท่ใี ชใ้ นการแสดงความ 

เกี่ยวกบั เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ ัว คดิ เห็น

รวม 12 ตัวชวี้ ัด 12 -

คู่มือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 34

ตวั ชว้ี ดั และสำระกำรเรยี นรู้แกนกลำงท่ีตอ้ งรูแ้ ละควรรู้
กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพ่ือกำรสอื่ สำร

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 1

ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ม.1 1 ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ิตามคาสงั่  คาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจง 

คาขอร้อง คาแนะนา ในการทาอาหารและเครอื่ งดมื่ การประดิษฐ์

และคาชแ้ี จงงา่ ยๆทีฟ่ งั การใชย้ า/สลากยา การบอกทิศทาง ปา้ ย

และอ่าน ประกาศต่างๆ หรือการใชอ้ ปุ กรณ์

● คาส่ัง เช่น Look at the…/here/over

there./Say it again/Read and draw./ Put

a/an…in/on/under a/an…/Go to

the window and open it./Take out

the book, open on page 17 and

read it./Don’t go over there./

Don’t be late. etc.

● คาขอรอ้ ง เช่น Please look up the

meaning in a dictionary./Look up

the meaning in a dictionary, please./

Can/Could you help me, please?/

Excuse me, could you …? etc.

● คาแนะนา เช่น You should read every

day./Think before you speak./

● คาศัพท์ท่ใี ช้ในการเลน่ เกม Start./ My

turn./ Your turn./Roll the dice./Count the

number./Finish. etc.

● คาสนั ธาน(conjunction) เช่น and/but/or

● คาเชอื่ ม (connective words) เช่น

First,… Second,… Third,…Next,…

Then,… Finally,… etc.

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 35

ช้นั ที่ รหัสตวั ชีว้ ดั ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.1 2 ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ  ข้อความนิทานและบทร้อยกรอง 
 การใช้พจนานุกรม
นิทาน และบทร้อยกรอง

(poem) สน้ั ๆ ถกู ต้อง  หลักการอ่านออกเสียง เช่น

ตามหลกั การอา่ น - การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คา และพยญั ชนะ

ท้ายคา การออกเสียงเน้นหนกั -เบาในคา และ

กลมุ่ คา การออกเสยี งตามระดับเสยี งสงู -ต่า

ในประโยค การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน

การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ

ม.1 3 ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและ  ประโยคหรอื ขอ้ ความ และความหมาย 
ข้อความใหส้ มั พนั ธ์กบั
สอื่ ท่ไี มใ่ ช่ความเรียง เก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
(non-text information)
ทอี่ ่าน ส่ิงแวดล้อม อาหาร เคร่อื งดื่ม เวลาวา่ งและ
นันทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซื้อ-

ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ

การเดินทางท่องเท่ียว การบรกิ าร สถานที่

ภาษา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็

วงคาศัพทส์ ะสมประมาณ 1,400 – 1,550 คา

(คาศพั ท์ทเี่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม)

การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมูลใหส้ ัมพันธก์ ับสือ่

ทไี่ มใ่ ชค่ วามเรยี ง เชน่ สัญลกั ษณ์ เครื่องหมาย

กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ สงิ่ ของ บุคคล

สถานทีต่ า่ งๆ โดยใช้ Comparison of

adjectives/adverbs/Contrast : but,

although/Quantity words เชน่

many/much/a lot of/lots of/some/any/a

few/few/a little/little etc.

ม.1 4 ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ ัวขอ้ เรอ่ื ง (topic)  บทสนทนานทิ านเรอื่ งส้นั และเร่ืองจากสอื่ 
ใจความสาคญั (main ประเภทตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สือพมิ พ์ วารสาร วทิ ยุ
idea) และตอบคาถาม
จากการฟังและอา่ น โทรทัศน์ เวบ็ ไซต์
บทสนทนา นทิ าน
และเรอื่ งสนั้  การจบั ใจความสาคญั เชน่ หวั ข้อเร่ือง

ใจความสาคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ คาถาม

เกีย่ วกบั ใจความสาคัญของเรือ่ ง เช่น ใครทา

อะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อยา่ งไร ทาไม ใชห่ รอื ไม่

ค่มู อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 36

ชั้น ท่ี รหัสตวั ชวี้ ดั ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

● Yes/No Question 

● Wh-Question

● Or-Question

● Tenses : present simple/present

continuous/past simple/future simple/

Simple sentence/Compound sentence

etc.

ม.1 5 ต 1.2 ม.1/1 สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูล  ภาษาท่ใี ช้ในการส่อื สารระหว่างบคุ คล เช่น 

เก่ยี วกับตนเองกจิ กรรม การทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย

และสถานการณ์ตา่ งๆ การพดู แทรกอย่างสุภาพ การชกั ชวน

ในชีวิตประจาวนั ประโยค/ขอ้ ความทใี่ ช้แนะนาตนเอง เพอ่ื น

บคุ คลใกลต้ วั และสานวนการตอบรับ

การแลกเปลยี่ นข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง กจิ กรรม

สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวัน

ม.1 6 ต 1.2 ม.1/2 ใชค้ าขอรอ้ ง ให้คาแนะนา  คาขอร้อง คาแนะนา และคาช้ีแจง 

และคาชแี้ จงตาม

สถานการณ์

ม.1 7 ต 1.2 ม.1/3 พดู และเขียนแสดง  ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความต้องการ 

ความต้องการ ขอความ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ

ช่วยเหลอื ตอบรับและ - การใหค้ วามชว่ ยเหลอื เชน่

ปฏเิ สธ การให้ความ Please…/…, please./I’d like…/I

ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ need…/May/Can/Could…?/Yes,../Please
ต่างๆ อย่างเหมาะสม do./Certainly./Yes, of course./Sure./

Go right ahead./Need some help?/

What can I do to help?/Would you like

any help?/I’m afraid…/I’m sorry, but…/

Sorry, but… etc

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 37

ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ม.1 8 ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและ  คาศัพท์ สานวนภาษา ประโยค และ 

ใหข้ อ้ มูล และแสดงความ ขอ้ ความท่ีใชใ้ นการขอและให้ข้อมูล

คดิ เหน็ เกย่ี วกับเรอื่ งท่ีฟัง และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เรอ่ื งทีฟ่ งั

หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม หรอื อ่าน

ม.1 9 ต 1.2 ม.1/5 พดู และเขยี นแสดง  ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ ึก ความ 

ความรู้สกึ และความ คดิ เหน็ และใหเ้ หตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ

คิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับ ไมช่ อบ ดใี จ เสียใจ มคี วามสุข เศรา้ หิว

เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั กจิ กรรม รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสียงดงั ดี ไม่ดี

ต่างๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผล จากขา่ วเหตุการณส์ ถานการณใ์ น

สั้นๆ ประกอบอยา่ ง ชวี ติ ประจาวนั เชน่ Nice/Very nice./Well

เหมาะสม done!/Congratulations./I like…

because… /I love…because…/

I feel… because…/I think…/I believe…/

I agree/disagree… /I don’t believe…/

I have no idea…/Oh no! etc.

ม.1 10 ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยาย  ประโยคและขอ้ ความที่ใชใ้ นการบรรยาย 

เกย่ี วกบั ตนเองกิจวัตร เกี่ยวกับตนเองกจิ วัตรประจาวนั ประสบการณ์

ประจาวนั ประสบการณ์ ส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั เช่น การเดินทาง การ

และสง่ิ แวดล้อมใกลต้ วั รับประทานอาหารการเรยี นการเลน่ กีฬา ฟัง

เพลง การอ่านหนงั สอื การท่องเที่ยว

ม.1 11 ต 1.3 ม.1/2 พดู /เขียนสรุปใจความ  การจบั ใจความสาคัญ/แก่นสาระ 

สาคัญ/แกน่ สาระ(theme) การวิเคราะหค์ วาม/เรอ่ื ง/เหตกุ ารณท์ ีอ่ ยู่

ทไ่ี ด้จากการวเิ คราะห์ ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ ภาพยนตร์

เรือ่ ง/เหตกุ ารณท์ ่อี ย่ใู น กฬี า เพลง

ความสนใจของสังคม

ม.1 12 ต 1.3 ม.1/3 พดู /เขยี นแสดงความ  การแสดงความคิดเหน็ และการให้เหตผุ ล 

คดิ เหน็ เกีย่ วกบั กจิ กรรม ประกอบเก่ียวกบั กิจกรรมหรือเรือ่ งตา่ งๆ

หรือเร่อื งต่างๆ ใกล้ตัว ใกล้ตวั

พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลสั้นๆ

ประกอบ

รวม 12 ตวั ช้วี ัด 12 -

คู่มือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 38

ตวั ช้ีวดั และสำระกำรเรียนร้แู กนกลำงท่ตี ้องรแู้ ละควรรู้
กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพ่ือกำรสือ่ สำร

ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2

ชน้ั ที่ รหสั ตัวชว้ี ัด ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.2 1 ต 1.1 ม.2/1 ปฏิบัตติ ามคาขอรอ้ ง  คาขอร้อง คาแนะนา คาชแ้ี จง และ 

คาแนะนา คาช้ีแจง และ คาอธิบาย เชน่ การทาอาหารและเครอื่ งด่ืม

คาอธบิ ายงา่ ยๆ ทฟ่ี ัง การประดิษฐ์ การใชย้ า/สลากยา การบอก

และอ่าน ทศิ ทาง การใช้อุปกรณ์

● Passive Voice ทีใ่ ชใ้ นโครงสรา้ งประโยค

งา่ ยๆ เชน่ is/are + Past Participle

● คาสนั ธาน (conjunction) เช่น and/but/

or/ before/after etc.

● คาเชอื่ ม (connective words) เช่น

First,… Second,… Third,… Fourth,…

Finally,… etc.

ม.2 2 ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ  ข้อความ ข่าวประกาศ และบทร้อยกรอง 

ขา่ วประกาศ และ  การใช้พจนานกุ รม

บทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ ง  หลักการอา่ นออกเสียง เช่น

ตามหลกั การอ่าน - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คาและพยัญชนะ

ท้ายคา

- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบาในคาและกลมุ่ คา

- การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ต่า

ในประโยค

- การออกเสียงเชอื่ มโยงในขอ้ ความ

- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ

คมู่ ือพฒั นาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 39

ช้นั ที่ รหัสตวั ชวี้ ดั ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ม.2 3 ต 1.1 ม.2/3 ระบ/ุ เขยี นประโยคและ  ประโยคหรือขอ้ ความ และความหมาย 

ขอ้ ความให้สัมพนั ธ์กับสื่อ เกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น

ทไี่ มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบ ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งดมื่ เวลาวา่ งและ

ตา่ งๆ ทอี่ า่ น นนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซ้ือ-

ขาย ลมฟา้ อากาศ การศกึ ษา และอาชีพ

การเดินทาง ทอ่ งเท่ยี ว การบริการ สถานที่

ภาษา วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็น

วงคาศัพท์สะสมประมาณ 1,750 – 1,900 คา

(คาศัพท์ท่ีเปน็ รปู ธรรมและนามธรรม)

 การตคี วาม/ถา่ ยโอนข้อมูลให้สมั พันธก์ ับสอ่ื

ท่ไี ม่ใชค่ วามเรยี ง เชน่ สญั ลักษณ์ เครอื่ งหมาย

กราฟ แผนภูมิ แผนผัง ตาราง ภาพสตั ว์

สง่ิ ของ บุคคล สถานทตี่ า่ งๆ โดยใช้

Comparison of adjectives/adverbs/

Contrast : but, although/Quantity words

เช่นmany/much/a lot of/lots of/some/

any/a few/few/a little/little etc.

ม.2 4 ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเร่ือง ใจความ  บทสนทนา เร่ืองสัน้ และเร่อื งจากส่ือ 

สาคญั บอกรายละเอยี ด ประเภทตา่ ง ๆ เชน่ หนังสอื พมิ พ์ วารสาร

สนับสนนุ (supporting วทิ ยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซต์

detail) และแสดงความ  การจับใจความสาคัญ เชน่ หวั ขอ้ เร่ือง

คดิ เห็นเก่ยี วกบั เร่ืองทฟ่ี ัง ใจความสาคัญ รายละเอียดสนบั สนนุ

และอา่ น พรอ้ มท้ังให้ คาถามเกยี่ วกับใจความสาคญั ของเรื่อง

เหตุผลและยกตวั อย่าง เช่น ใคร ทาอะไร ทไ่ี หน เมอื่ ไร อยา่ งไร

ง่ายๆ ประกอบ ทาไม ใช่หรือไม่

● Yes/No Question

● Wh-Question

● Or Question etc.

 ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคดิ เหน็
การใหเ้ หตผุ ลและการยกตวั อย่าง เช่น

คมู่ ือพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 40

ช้นั ที่ รหสั ตวั ชว้ี ัด ตัวชวี้ ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

I think…/I feel…/I believe…

● คาสนั ธาน (conjunctions) and/but/or/

because/so/before/after

● คาเช่ือม (connective words) First,…

Next,… After,… Then,… Finally,… etc.

● Tenses: present simple/present

continuous/present perfect/

past simple/future tense etc.

● Simple sentence/Compound

sentence

ม.2 5 ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูล  ภาษาทีใ่ ช้ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล เช่น 

เกย่ี วกับตนเอง เรือ่ งต่างๆ การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย

ใกลต้ ัวและสถานการณ์ การพูดแทรกอย่างสภุ าพ การชกั ชวน

ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ประโยค/ข้อความท่ีใช้แนะนาตนเอง เพ่อื น

อย่างเหมาะสม บุคคลใกล้ตัว สานวนการตอบรบั

การแลกเปลย่ี นข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เรอื่ ง

ใกล้ตัว สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั

ม.2 6 ต 1.2 ม.2/2 ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา  คาขอรอ้ งคาแนะนา คาชี้แจง และ 

คาชแ้ี จง และคาอธิบาย คาอธิบาย

ตามสถานการณ

ม.2 7 ต 1.2 ม.2/3 พูดและเขยี นแสดงความ  ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความตอ้ งการ เสนอ 

ต้องการ เสนอและให้ และให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ

ความช่วยเหลอื ตอบรับ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ

และปฏิเสธ การให้ความ เช่น Please…/…, please./I’d like…/I

ช่วยเหลือในสถานการณ์ need… / May/Can/Could…?/ Yes,../
ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม Please do./ Certainly./Yes, of course.

/Sure./ Go right ahead./Need some

help?/ What can I do to help?/Would

you like any help?/I’m afraid…/I’m sorry,

but…/Sorry, but… etc.

คูม่ อื พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 41

ชัน้ ที่ รหัสตัวชว้ี ดั ตัวชว้ี ดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.2 8 ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพอื่ ขอข้อมลู  คาศัพท์ สานวนภาษา ประโยค และ 

บรรยาย และแสดงความ ข้อความท่ใี ชใ้ นการขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย

คิดเหน็ เกย่ี วกับเรอื่ งทฟี่ ัง และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรือ่ งทฟี่ งั หรอื

หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม อา่ น

ม.2 9 ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดง  ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงความรสู้ ึก ความ 

ความร้สู กึ และความ คิดเห็นและให้เหตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ

คิดเหน็ ของตนเอง ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสขุ เศร้า หิว

เก่ียวกับเรอ่ื งตา่ งๆ รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสยี งดงั ดี ไม่ดี

กิจกรรมและระสบการณ์ จากข่าวเหตกุ ารณ์ สถานการณใ์ น

พรอ้ มทั้งให้เหตผุ ล ชวี ิตประจาวนั เชน่

ประกอบอยา่ งเหมาะสม Nice./Very nice./Well

done!/Congratulations on… /I like…

because…/I love… because…/I feel…

because…/I think…/I believe…/I agree/

disagree…/I’m afraid I don’t like…/I

don’t believe…/I have no idea…/Oh no!

etc.

ม.2 10 ต 1.3 ม.2/1 พดู และเขยี นบรรยาย  การบรรยายขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง กจิ วตั ร 

เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั ร ประจาวนั ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์

ประจาวนั ประสบการณ์ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม เชน่ การเดนิ ทาง

และข่าว/เหตุการณท์ อ่ี ยู่ การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กฬี า/ดนตรี

ในความสนใจของสงั คม การฟังเพลง การอ่านหนงั สือ การท่องเท่ียว

การศกึ ษา สภาพสังคม เศรษฐกจิ

ม.2 11 ต 1.3 ม.2/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความ  การจบั ใจความสาคัญ/แก่นสาระ 

สาคญั /แก่นสาระ หวั ข้อ หวั ขอ้ เร่ือง การวิเคราะห์เรื่อง/ขา่ ว/เหตุการณ์

เรอ่ื ง(topic) ท่ไี ด้จากการ ท่ีอยู่ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์

วเิ คราะห์เรื่อง/ข่าว/ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรเี พลง

เหตุการณท์ ่ีอยูใ่ นความ

สนใจของสังคม

คู่มอื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 42

ชั้น ที่ รหัสตัวช้วี ัด ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ม.2 12 ต 1.3 ม.2/3 พูดและเขยี นแสดงความ  การแสดงความคดิ เห็นและการใหเ้ หตผุ ล
12 -
คดิ เห็นเก่ยี วกับกจิ กรรม ประกอบเกยี่ วกบั กจิ กรรม เร่ืองต่างๆใกล้ตวั

เร่อื งต่างๆ ใกล้ตัวและ และประสบการณ์

ประสบการณ์พร้อมท้ังให้

เหตผุ ลสั้นๆ ประกอบ

รวม 12 ตัวชีว้ ัด

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 43

ตวั ชวี้ ัดและสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงท่ตี อ้ งรแู้ ละควรรู้
กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ สำระท่ี 1 ภำษำเพื่อกำรสือ่ สำร

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 3

ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ต้องรู้ ควรรู้

ม.3 1 ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคาขอรอ้ ง  คาขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง และ 

คาแนะนา คาชี้แจง และ คาอธิบายในการประดิษฐ์ การบอกทิศทาง

คาอธบิ ายทฟี่ งั และอา่ น ปา้ ย ประกาศตา่ งๆ การใช้อุปกรณ์

● Passive Voice ที่ใช้ในโครงสร้างประโยค

งา่ ยๆ เชน่ is/are + past participle

● คาสนั ธาน (conjunction) เช่นand/

but/or/before/after/because etc.

● คาเชือ่ ม (connective words) เชน่

First,…Second,…Third,… Fourth,…

Next,…Then,… Finally,… etc.

ม.3 2 ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสียงข้อความ  ข้อความ ข่าวโฆษณา และบทรอ้ ยกรอง 

ข่าวโฆษณา และ  การใช้พจนานกุ รม

บทรอ้ ยกรองสั้นๆ ถกู ต้อง  หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่
ตามหลกั การอา่ น
- การออกเสียงพยัญชนะตน้ คาและพยัญชนะ

ทา้ ยคา สระเสียงสนั้ สระเสยี งยาว

สระประสม

- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบาในคาและกลุม่ คา

- การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ตา่

ในประโยค

- การออกเสียงเชอ่ื มโยงในข้อความ

- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน

- การอา่ นบทรอ้ ยกรองตามจังหวะ

คมู่ ือพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 44

ชน้ั ที่ รหสั ตวั ชีว้ ัด ตวั ช้ีวดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.3 3 ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขียนสอื่ ท่ไี ม่ใช่  ประโยค ข้อความ และความหมายเกยี่ วกับ 

ความเรยี งรปู แบบตา่ ง ๆ ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดล้อม

ให้สมั พนั ธก์ ับประโยคและ อาหาร เครื่องด่ืม เวลาว่างและนนั ทนาการ

ขอ้ ความทฟี่ งั หรอื อ่าน สขุ ภาพ และสวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้า

อากาศ การศึกษา อาชีพ การเดนิ ทาง

ท่องเทย่ี ว การบริการสถานที่ ภาษา

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็ วงคาศัพท์

สะสมประมาณ 2,100 – 2,250 คา

(คาศพั ทท์ ี่เป็นรูปธรรมและนามธรรม)

การตีความ/ถา่ ยโอนข้อมูลให้สัมพนั ธ์กับ
สื่อท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี ง เชน่ สญั ลกั ษณ์

เคร่ืองหมาย กราฟ แผนภมู ิ ตาราง ภาพสัตว์

ส่ิงของบุคคล สถานที่ตา่ งๆโดยใช้

Comparison of adjectives /adverbs

Contrast : but, although/Quantity words

เช่น many/much/a lot of/lots of/

some/any/ a few/few/a little/little etc.

ม.3 4 ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง  การจับใจความสาคญั เช่นหวั ขอ้ เรื่อง 

ใจความสาคัญรายละเอยี ด ใจความสาคัญ รายละเอียดสนบั สนนุ จาก

สนับสนนุ และแสดงความ สอ่ื สิง่ พมิ พแ์ ละสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น

คิดเหน็ เกย่ี วกับเรอ่ื งทีฟ่ ัง หนังสอื พมิ พ์ วารสารวิทยุ โทรทศั น์

และอ่านจากสื่อประเภท เวบ็ ไซต์บนอินเทอรเ์ น็ต

ต่างๆ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผล คาถามเก่ยี วกบั ใจความสาคญั ของเร่อื ง เช่น
และยกตวั อยา่ งประกอบ ใครทาอะไรท่ีไหนเม่อื ไรอยา่ งไรทาไมใชห่ รอื ไม่

● Yes/No Question

● Wh-Question

● Or Question etc.

ประโยคที่ใชใ้ นการแสดงความคดิ เหน็

การให้เหตุผลและการยกตวั อยา่ ง เช่น

I think…/I feel…/I believe…/

I agree/disagree…/I don’t believe…/

คมู่ อื พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 45

ชั้น ที่ รหัสตัวช้วี ัด ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง ตอ้ งรู้ ควรรู้

I have no idea…if clauses

so…that/such…that

● คาสนั ธาน (conjunctions) and/but/or/

because/so/before/after etc.

● Infinitive pronouns: some, any,

someone, anyone, everyone, one,

ones etc.

● Tenses: present simple/

present continuous/ present perfect/

past simple/ future tense etc.

● Simple sentence/ Compound

sentence/ Complex sentence

ม.3 5 ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบ  ภาษาที่ใช้ในการสอื่ สารระหว่างบคุ คล เช่น 

ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เรอ่ื ง การทกั ทาย กล่าวลาขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย

ตา่ งๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ การพูดแทรกอย่างสุภาพการชกั ชวนการ

ข่าวเรื่องทอี่ ยูใ่ นความ แลกเปล่ียนข้อมูลเก่ียวกบั ตนเองเรื่องใกล้ตัว

สนใจของสังคมและ สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั การ

สอื่ สารอยา่ งตอ่ เนอื่ งและ สนทนา/เขยี นขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเองและบคุ คล

เหมาะสม ใกล้ตัวสถานการณ์ ขา่ ว เร่อื งท่ีอยใู่ นความ

สนใจในชวี ิตประจาวนั

ม.3 6 ต 1.2 ม.3/2 ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา  คาขอร้อง คาแนะนา คาชีแ้ จง คาอธบิ าย 

คาชีแ้ จง และคาอธิบาย ท่ีมขี ัน้ ตอนซับซอ้ น

อยา่ งเหมาะสม

ม.3 7 ต 1.2 ม.3/3 พูดและเขยี นแสดงความ  ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความตอ้ งการ 

ตอ้ งการเสนอและใหค้ วาม เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรับและ

ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ปฏเิ สธ การให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์

ปฏิเสธการใหค้ วาม ตา่ งๆ เชน่ Please…/…, please./I’d like…/

ช่วยเหลอื ในสถานการณ์ I need…/May/Can/Could…?/Yes,../

ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม Please do./Certainly./Yes, of course./

Sure./Go right ahead./Need some

help?/What can I do to help?/


Click to View FlipBook Version