อุทยานแห่งชาติ
ภผู ายล
พนื้ ที่ 828.56 ตารางกิโลเมตร
ที่ต้ังที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ : หมู่ 4 บ้านห้วยหวด ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย
จ.สกลนคร
การเดนิ ทาง : จากอำ�เภอเมือง จังหวดั สกลนคร ใชท้ างหลวงหมายเลข 223 (สกลนคร
- นาแก) ไปจนถงึ บ้านนายอ จะมที างแยกขวาทางหลวงหมายเลข 3048 ไปอำ�เภอเตา่ งอย
ราว 12 กิโลเมตร ถึงอำ�เภอเต่างอย เจอสามแยกในอำ�เภอ เล้ียวซ้าย ไปอีก 6 กิโลเมตร
ชว่ งขึน้ เขาจะเปน็ โคง้ ทางซ้ายมือ ทางเข้าอทุ ยานแห่งชาตใิ หต้ รงเขา้ ไปราว 200 เมตร ถงึ ที่
ทำ�การอุทยานแหง่ ชาติ รวมระยะทางราว 35 กโิ ลเมตรจากเมืองสกลนคร
251
ทที่ �ำ การอทุ ยานฯ ป้ายทางเดินศึกษาธรรมชาติสามนำ�้ ตก
กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติภูผายล หรือเดิมเรียกว่า อุทยานแห่งชาติ
ห้วยหวด มีพ้ืนท่ีครอบคลุมท้องท่ีอำ�เภอเมือง อำ�เภอโคกศรีสุพรรณ
อำ�เภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร อำ�เภอนาแก จังหวัดนครพนม
และอำ�เภอดงหลวง อำ�เภอคำ�ชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็น 1 ใน 5
ของโครงการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาท-
สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสมหามงคลเฉลมิ
พระชนมพรรษา 5 รอบ วันท่ี 5 ธันวาคม 2530 สภาพทวั่ ๆ ไปเป็น
ที่ราบสูงสลับกับเขาหินทราย เป็นป่าต้นน้ําลำ�ธาร มีธรรมชาติและ
ทวิ ทศั นท์ ส่ี วยงาม เชน่ นา้ํ ตก ถา้ํ หนา้ ผา เนนิ หนิ อา่ งเกบ็ นา้ํ มสี ตั วป์ า่
อาศัยอยู่บา้ ง มีเนอ้ื ที่ประมาณ 828.56 ตารางกโิ ลเมตร
โดยกรมปา่ ไมไ้ ดร้ บั หนังสือกรมชลประทาน ท่ี กษ 0301/ส.524 ลงวนั ที่ 20 ธันวาคม 2527 แจง้ วา่ เนอ่ื งในวโรกาสพระบาทสมเดจ็
พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เสดจ็ พระราชดำ�เนินทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บนา้ํ หว้ ยหวด ตำ�บลเตา่ งอย กง่ิ อำ�เภอเต่างอย จงั หวดั
สกลนคร เมื่อวันท่ี 27 พฤศจกิ ายน 2527 ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ�ริแนะนำ� กรมชลประทานจงึ ขอความร่วมมือกรมป่าไม้ให้รีบดำ�เนนิ การ
โครงการอนรุ กั ษ์สภาพธรรมชาตแิ ละปา่ ไมใ้ นบรเิ วณดงั กลา่ ว แล้วจดั เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติหรือแหลง่ ทอ่ งเท่ียวเพ่อื สนองพระราชดำ�ริตอ่ ไป
252
กองอุทยานแหง่ ชาติจงึ ไดม้ หี นงั สือ ที่ กษ 0713/140 ลงวนั ที่ 14 มกราคม 2528 ใหอ้ ทุ ยานแหง่ ชาติภูพานตรวจสอบพื้นทบ่ี รเิ วณ
ดังกล่าว ปรากฏว่ามสี ภาพป่าธรรมชาตอิ ดุ มสมบูรณเ์ ปน็ แหล่งต้นนํ้าลำ�ธาร มธี รรมชาตแิ ละทิวทศั น์ที่สวยงาม ตามหนังสอื อุทยานแห่งชาติ-
ภพู าน ที่ กษ 0713 (ภพ)/144 ลงวนั ที่ 27 มนี าคม 2528 นำ�สง่ รายงานการสำ�รวจเบ้อื งต้นพน้ื ที่ดงั กลา่ วของนายมานพ กำ�จรเจดิ นกั วิชาการ
ป่าไม้ 4 และหนังสอื อุทยานแห่งชาตภิ ูพาน ที่ กษ 0713 (ภพ)/532 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2528 นำ�สง่ รายละเอยี ดต่าง ๆ บรเิ วณดงั กล่าว
ของนายวฒุ กิ าร อำ�พลศกั ด์ิ ภมู สิ ถาปนกิ และกองอทุ ยานแหง่ ชาตไิ ดม้ หี นงั สอื ท่ี กษ 0713/405 ลงวนั ท่ี 28 มกราคม 2529 ใหอ้ ทุ ยานแหง่ ชาติ
ภพู านทำ�การสำ�รวจสภาพปา่ อกี ครง้ั หนง่ึ ซึง่ อุทยานแห่งชาติภูพานไดม้ ีหนังสอื ท่ี กษ 0713 (ภพ)/พิเศษ ลงวนั ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2529 รายงาน
ผลการสำ�รวจเพ่ือจดั ต้งั บริเวณดงั กล่าวเปน็ อุทยานแหง่ ชาติ ของนายประมขุ ทิชากร นักวชิ าการปา่ ไม้ 5 ให้กองอุทยานแหง่ ชาติดำ�เนินการ
เสนอจดั ตง้ั เป็นอทุ ยานแหง่ ชาติต่อไป
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้นำ�เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/2529 เมื่อวันท่ี 18
มีนาคม 2529 เหน็ ชอบในหลกั การใหจ้ ดั พน้ื ทบ่ี รเิ วณปา่ เหนอื อา่ งเกบ็ นา้ํ หว้ ยหวดเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ และเปน็ โครงการจดั ตง้ั อทุ ยานแหง่ ชาต ิ
โดยไดม้ พี ระราชกฤษฎกี ากำ�หนดบริเวณที่ดนิ ปา่ ภูล้อมข้าวและป่าภเู พ็ก ในทอ้ งทีต่ ำ�บลตองโขน ตำ�บลเหล่าโพนคอ้ อำ�เภอศรสี พุ รรณ ตำ�บล
กกปลาซิว อำ�เภอเมอื งสกลนคร และตำ�บลจันทร์เพ็ญ ตำ�บลเตา่ งอย อำ�เภอเตา่ งอย จงั หวัดสกลนคร ป่าดงภูพาน ในท้องท่ตี ำ�บลหนองบ่อ
ตำ�บลคำ�พ้ี ตำ�บลกา้ นเหลือง ตำ�บลบ้านแกง้ ตำ�บลนาแก ตำ�บลพิมาน อำ�เภอนาแก จงั หวัดนครพนม และตำ�บลกกตมู ตำ�บลฟังแดง ตำ�บล
ดงหลวง อำ�เภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร และป่าดงภูศรีฐาน ในท้องท่ีตำ�บลคำ�ชะอี จังหวัดมุกดาหาร ตำ�บลบ้านเหล้า ตำ�บลบ้านค้อ
253
ตำ�บลโพนงาม อำ�เภอคำ�ชะอี จังหวัดมกุ ดาหาร ใหเ้ ปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ซ่ึงประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเล่ม 105 ตอนท่ี 122 ลงวันที่ 28
กรกฎาคม 2531 โดยใชช้ ื่อว่า “อทุ ยานแหง่ ชาติหว้ ยหวด” นับเปน็ อุทยานแห่งชาตลิ ำ�ดับที่ 57 ของประเทศ
ต่อมาอุทยานแห่งชาติห้วยหวดได้มีหนังสือ ท่ี กษ 0712.344/911 ลงวันท่ี 28 สิงหาคม 2543 ขออนุมัติเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่ง
ชาตหิ ้วยหวด เปน็ “อุทยานแหง่ ชาติภูผายล” โดยใหเ้ หตุผลคอื ชอ่ื อทุ ยานแห่งชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนมากมคี ำ�ว่า “ภ”ู นำ�
หนา้ และเพื่อให้สอดคลอ้ งกับจุดเด่น คอื ภผู ายล ซึ่งเป็นจดุ เด่น เปน็ ศิลปะหนิ และเปน็ เอกลกั ษณ์ทางศลิ ปวัฒนธรรมของคนโบราณ ซ่ึงนัก
โบราณคดีคำ�นวณอายุภาพสลักบนฝาหินว่า มีอายุไม่ต่ํากว่า 3,000 ปี และเป็นถ่ินท่ีอยู่ของกลุ่มชนก่อนประวัติศาสตร์ เหมาะที่จะพัฒนา
เปน็ จดุ ชมทวิ ทศั นแ์ ละแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วในอนาคตได้ จึงเหน็ สมควรเปลี่ยนช่ืออทุ ยานแห่งชาตหิ ว้ ยหวดเป็น “อุทยานแห่งชาติภผู ายล” และ
กรมปา่ ไมพ้ จิ ารณาแล้ว เพื่อให้สอดคลอ้ งกบั เอกลกั ษณ์สำ�คญั ของอุทยานแหง่ ชาติและจงั หวดั สกลนคร คือ ภผู ายล จงึ เปลย่ี นชอ่ื อุทยานแหง่
ชาตหิ ว้ ยหวดเปน็ ชอื่ “อุทยานแหง่ ชาติภูผายล” ตามประกาศกรมป่าไม้ ณ วันท่ี 22 มกราคม พ.ศ.2544
พ้ืนทโี่ ดยทัว่ ไปเป็นทรี่ าบสงู สลับกบั เทอื กเขาหินทราย มคี วามสงู 300 - 600 เมตรจากระดับทะเล บริเวณทวิ เขามีท่ีราบหลังเตา่ ยาว
ประมาณ 10 กิโลเมตร รายล้อมด้วยภูเขาสูงชันเป็นต้นนํ้าลำ�ธารที่สำ�คัญของแม่นํ้าหลายสาย ไหลลงสู่แม่นํ้าพุง ห้วยบางทราย ห้วยหวด
หว้ ยเลา และอา่ งเก็บนํ้าตา่ ง ๆ ถงึ 19 แหง่ ไดแ้ ก่ อ่างเก็บนํ้าห้วยหวด อ่างเก็บนํ้าตาน้อย เปน็ ต้น สภาพดินส่วนใหญ่เปน็ ดนิ ร่วนปนทราย
ความสามารถอุม้ นํ้าได้นอ้ ย
254
รัชกาลท่ี 9 และสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจ้าสมเด็จพระเทพฯ รชั กาลท่ี 9 ทรงปลูกตน้ ไม้
ครั้งเสดจ็ ทอี่ า่ งเกบ็ น�ำ้ ห้วยหวด
จากพระราชดำ�รสิ ู่การเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
วนั ที่ 27 พฤศจกิ ายน 2527 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช เสดจ็ พระราชดำ�เนินทอดพระเนตรโครงการ
อา่ งเก็บนํ้าหว้ ยหวด ตำ�บลเต่างอย กง่ิ อำ�เภอเต่างอย จงั หวดั สกลนคร ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ�รติ อนหน่ึงวา่ “ควรอนรุ กั ษส์ ภาพ
ธรรมชาติ และป่าไม้บริเวณใกล้กับหัวงานเข่ือนเก็บกักนํ้าของโครงการอ่างเก็บนํ้าห้วยหวด ตลอดจนบริเวณข้างเคียงของอ่าง
เก็บนํ้า พร้อมกับควรปรับปรุงเสริมแต่งบริเวณให้มีความสวยงามและเหมาะสมเพ่ือพัฒนาให้เป็นอุทยานแห่งชาติหรือส่งเสริม
ให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวได้เป็นอย่างดี โดยให้กรมชลประทานและส่วนราชการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องร่วมกันดำ�เนินการโดยเร่งด่วน
ตอ่ ไปด้วย”
นน่ั จึงเปน็ จดุ เริ่มตน้ การสำ�รวจและจดั ตั้งอุทยานแห่งชาตภิ ูผายล และเปน็ อุทยานแห่งชาตอิ ย่างสมบรู ณม์ าถึงบัดนี.้ ..
255
ภผู ายล
เป็นภาพท่ีแกะสลัก (หรือจาร) ลงบนผนังหินทราย บนหน้าผาสูง ในท้องท่ีหมู่ 5 บ้านนาผาง ตำ�บลกกปลาซิวอำ�เภอ
ภพู าน จังหวัดสกลนคร (ห่างจากท่ีท�ำ การอุทยานแห่งชาตภิ ูผายลประมาณ 40 กิโลเมตร) เปน็ ศิลปวฒั นธรรมก่อนประวตั ศิ าสตร์
มีอายุราว 3,500 - 4,000 ปี ภาพโบราณท่ีภผู ายลนี้ จะเปน็ ภาพท่ีแกะสลกั (หรอื จาร) ลงบนหน้าผาหินเปน็ รูปภาพตา่ ง ๆ เชน่
รปู ตน้ ไม้ คน สตั ว์ มือ ขา้ วของเครอ่ื งใช้ และลวดลายเราขาคณติ อันแสดงถงึ วิถีชีวติ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ในสมยั ก่อน ถือ
เป็นภาพก่อนประวัติศาสตร์แบบท่ีแกะลงบนเน้ือหินที่แสดงเร่ืองราวไว้มากและมีขนาดใหญ่ท่ีสุด ในบรรดาศิลปะแบบเดียวกัน
ในภาคอสี าน ทง้ั ยงั มหี นา้ ผาหนิ ทส่ี ามารถชมทวิ ทศั นแ์ ละเปน็ พน้ื ทท่ี ม่ี ปี า่ ไมร้ ม่ รน่ื เหมาะกบั การเดนิ เทย่ี วชม
ภาพกอ่ นประวัติศาสตรภ์ ูผายล มีส�ำ นักสงฆ์ตรงทางขึ้น
256
ไปจงั หวัดสกลนคร
ไปจังหวัดสกลนคร 3048 2358
2339 อำเภอเตา งอย
223
ไปอำเภอภพู าน 3007
2339 ไปวดั พระธาตพุ นม
น้ำตก อุทยทภาี่ทผูนำาแกยหาลง รชาติ
อางเก็บนำ้
หว ยหวด
นำ้ ตกคำนำ้ สรา ง รากไทรยอ ย
น้ำตก
ผาผง้ึ
ตำบลกกตูม 2187
2287
ไปอำเภอเขาวง กาฬสินธุ นาหบินานกอง หนวยพ�ทักษ หนว ยพท� ักษ น้ำตกหวยเลา ตำบลพงั แดง
อุทยานแหง ชาติที่ ภย.12 อทุ ยานแหง ชาติท่ี ภย.10 ไปอำเภอดงหลวง
(แกงโพธ)ิ์ (หวยเลา)
โครงการพัฒนาลุมนำ้ ฯ น้ำตกแกงโพธิ์
บานแกงนาง
257
กล่มุ น�ำ้ ตกรมิ อ่างเกบ็ น�้ำ ห้วยหวด
ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งอยู่ใกล้กับพลับพลาทรงงานซึ่งพ้ืนที่ห่างจากท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติภูผายล
ราว 500 เมตร จะมเี ส้นทางเดินเลียบอ่างเกบ็ น�้ำ ห้วยหวดไปบนหน้าผาบนลานหนิ ทราย ในฤดูฝน มที ่งุ ดอกไม้
มีพืชพรรณทน่ี ่าสนใจมากมายและจะพบน�ำ้ ตกสามแหง่ ซึ่งลว้ นไหลลงอา่ งเกบ็ น้ำ�ห้วยหวดท้งั ส้นิ โดยเรยี งจาก
ใกล้ไปไกลดังน้.ี ...
นำ้�ตกรากไทรย้อย
ที่ต้ัง : หมู่ 4 บ้านห้วยหวด ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร
พิกัด : 48Q 0411851E 1872072N
การเข้าถึง : เริ่มต้นเดินเท้าจากพลับพลาทรงงานไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
รอบขอบอ่างเก็บนํ้า ไปราว 300 เมตร
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกที่ตกลงมาจากเวิ้งผาหินทราย สูงราว 7 เมตร ตกลงชั้นเดียว
สู่พื้นล่างแล้วจึงไหลลงอ่างเก็บนํ้าห้วยหวด ในบริเวณมีต้นไทรใหญ่ขึ้นคลุมพื้นที่จน
ร่มรื่น ทั้งมีเฟินขึ้นกันอย่างหนาแน่น
258
น�ำ้ ตกผาผึ้ง
ท่ีต้ัง : หมู่ 4 บ้านห้วยหวด ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร
พิกัด : 48Q 0411873E 1872084N
การเข้าถึง : จากนํ้าตกรากไทรย้อย ทางเดินจะเริ่มขึ้นเนินเขา แล้วเดินตาม
ลานหินทรายที่เลียบหน้าผา ในฤดูฝน ตามพื้นจะชื้นฉํ่า มีพวกหยาดนํ้าค้างและ
ดอกไม้ป่าเบ่งบาน เดินมาราว 500 เมตร จะเจอลำ�ห้วยขวางหน้า เดินไปตาม
ทางนํ้าไหลราว 5 เมตร จะถึงหัวนํ้าตกที่นํ้าจากลำ�ห้วยนี้ตกลงไปยังเบื้องล่าง
ใกล้กันจะมีทางค่อนข้างชันเดินลงไปยังด้านล่างได้
ลักษณะ : เกิดจากลำ�ห้วยนํ้าใส ซึ่งเป็นลำ�ห้วยที่กั้นแนวเชื่อมต่อระหว่างป่า
เบญจพรรณและป่าเต็งรัง ตกจากเวิ้งหน้าผาหินทรายลงไปในร่องผาแล้วตกลง
จากความสูงราว 15 เมตร ลงยังอ่างเก็บนํ้าห้วยหวด บางปีที่นํ้าในอ่างยังไม่มาก
จะมีลานทรายกว้าง แต่ช่วงที่นํ้ามาก นํ้าจะเอ่อขึ้นมาสูงจนถึงขอบเวิ้งผาใกล้
นํ้าตกทีเดียว ในอดีตมักมีผึ้งหลวงมาทำ�รังใต้หน้าผาจำ�นวนมากจึงเป็นที่มาของ
ชื่อนํ้าตก
259
260
นำ้�ตกคำ�น้�ำ สรา้ ง
ท่ีต้ัง : หมู่ 4 บ้านห้วยหวด ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร
พิกัด : 48Q 0411887E 1872092N
การเข้าถึง : เดินต่อเลียบหน้าผาตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่อจากนํ้าตกผาผึ้ง
มาอีกราว 700 เมตร หรือ 1.8 กิโลเมตรจากพลับพลาทรงงาน จนถึงหัวนํ้าตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกที่ตกลงมาจากหน้าผาหินทรายสูงราว 25 เมตร ตกลง
ในแนวดิ่ง ชั้นเดียว ด้านล่างจะเป็นลานทราย นํ้าตกนี้สามารถมองเห็นได้จาก
พลับพลาทรงงาน
หมายเหตุ : ผู้ที่มาท่องเที่ยวสามารถเดินทางทางเรือไปยังสามนํ้าตกนี้ได้ โดย
ติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ
261
กลมุ่ น�้ำ ตกทอ่ี ยู่ไกลจากท่ที ำ�การอทุ ยานแหง่ ชาติ
นำ�้ ตกแก่งโพธ์ิ
ที่ต้ัง : หมู่ 16 บ้านสุขสวัสดิ์ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
พิกัด : 48Q 0419468E 1852716N
การเขา้ ถึง : อยู่ในพื้นที่การดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภย.
12 (แก่งโพธิ์) โดยจากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ เลี้ยวขวาไปใช้ทางหลวง
หมายเลข 2339 ไปจนถึงทางแยกใหญ่ที่มาบรรจบกับทางหลวงหมายเลข
2287 (ซ้ายมือจะไปอำ�เภอดงหลวง) เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข
2278 ถึงตำ�บลกกตูมเลี้ยวซ้าย ไปตามถนนเรื่อย ๆ จะผ่านบ้านสานแว้
บ้านนาหินกอง เลยไปไม่ไกลเลี้ยวซ้ายอีกทีที่ทางแยกใกล้ถึงโครงการ
พัฒนาพื้นที่ลุ่มนํ้าห้วยบางทรายตอนบน เข้าไปตามทางอีกราว 4 กิโลเมตร
ถึงลานหินเหนือนํ้าตก รวมระยะทาง 32 กิโลเมตร
262
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกที่เกิดจากลำ�ห้วยบังอี่ ที่เป็นลำ�ห้วยขนาดใหญ่ ตกลงชั้นเดียวจากพื้นที่
ต่างระดบั สงู ราว 3 .5 เมตร เตม็ ทง้ั ลำ�ธารทก่ี วา้ ง ราว 20 เมตร นา้ํ ดคู ลา้ ยนา้ํ ทต่ี กจากฝายนา้ํ ลน้
ด้านหน้านํ้าตกเป็นลานหินกว้าง ในช่วงที่นํ้าไม่มากเหมาะกับการเล่นนํ้ามาก
ธรณีของนํ้าตกแก่งโพธิ์เป็นหินหมวดหินเสาขัว ประกอบด้วยหินทรายสีนํ้าตาล เนื้อ
ละเอียด - ปานกลาง ชั้นหินมีขนาดปานกลางถึงหนา แสดงการวางชั้นเฉียงระดับ ชั้นหิน
วางตัวในในแนวตะวันออก-ตะวันตก เอียงเทไปทางทิศใต้ 7 องศา จากลักษณะของหิน
บริเวณนี้ แสดงการสะสมตัวและตกตะกอนของทรายในร่องนํ้าที่ถูกพัดพามาโดยแม่นํ้าแบ
บทางนํ้าโค้งตวัด ในสภาพอากาศโบราณแบบกึ่งแห้งแล้ง ชั้นหินบริเวณนํ้าตกมีรอยแตก
ตัดผ่านในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ - ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ - ตะวันออก
เฉียงใต้ ที่เป็นปัจจัยหลักทำ�ให้เกิดนํ้าตก
263
นำ้�ตกห้วยเลา
ที่ตั้ง : หมู่ 7 บ้านห้วยเลา ต.พังแดง
อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
พิกัด : 48Q 0430992E 1851515N
การเข้าถึง : อยู่ในการดูแลของหน่วย
พิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภย.10 (ห้วยเลา)
โดยเราเดินทางต่อจากนํ้าตกแก่งโพธิ์ ออก
มาใช้ถนนที่มาจากบ้านนาหินกอง เลี้ยวซ้าย
จะผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มนํ้าห้วยบาง
ทรายตอนบน ผ่านบ้านแก้งนาง ใช้ทางแยก
ที่จะไปดงหลวง (เป็นทางเล็ก ๆ) เลี้ยวซ้าย
ไปเรื่อย ๆ จนถึงทางแยกไปดงหลวง เลี้ยว
ซ้ายอีกครั้ง จะผ่านวัดใต้ร่มพระบารมี ไปถึง
264
บ้านด่านช้าง เลี้ยวขวาผ่านบ้านท่าตาเปอะ ไปจนถึงบ้านค้อ (อำ�เภอคำ�ชะอี จังหวัดมุกดาหาร) ช่วงนี้จะเป็นทางหลวงหมายเลข 4012
(ก่อนนี้จะเป็นทางลำ�ลองเช่อื มระหวา่ งหม่บู า้ น) ไปจนถงึ หน่วยพิทักษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาตทิ ี่ ภย.10 (หว้ ยเลา) จอดรถในหนว่ ยพิทักษอ์ ุทยาน-
แห่งชาติ แล้วเดินเท้าไปตามทางหลังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ราว 100 เมตร ถึงลำ�ธารนํ้าตก (ทางเส้นนี้ไปอีกไม่ไกลจะบรรจบกับ
ทางหลวงหมายเลข 2287 ตรงตำ�บลพังแดง แล้วไปอำ�เภอดงหลวงได้)
ลักษณะ : ลำ�ธารนํ้านั้นไหลผ่านลานหินกว้างมาจนถึงหลังหน่วย จะเห็นหินหน้าผาที่เป็นเวิ้งด้านล่าง สายนํ้าตกลงไปจากหน้าผาสูง
ราว 6 เมตร ลงไปเบื้องล่าง ตามลานหน้าผาที่กว้างราว 20 เมตร สามารถเดินลงไปด้านล่างนํ้าตกได้โดยอ้อมไปข้ามนํ้าเหนือผานํ้าตก
ขึ้นไปราว 80 เมตร พอข้ามนํ้าแล้วเดินตามทางเลียบหน้าผาไปราว 70 เมตร จะมีทางลงไปด้านล่าง เห็นชั้นนํ้าตกจากด้านล่างที่เป็นเวิ้ง
ผาตลอดแนวหิน
265
อุทยานแห่งชาติ
ภผู าเหล็ก
พื้นที่ 404 ตารางกโิ ลเมตร
ทตี่ งั้ ทที่ �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 1 บ้านท่าวดั ต.ปทมุ วาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
การเดินทาง : จากจังหวัดอุดรธานี ใช้เส้นทางอุดรธานี - สกลนคร มาตามทางหลวง
หมายเลข 22 จนถงึ ทางแยกหลักกิโลเมตรท่ี 95 (ทต่ี ้ังเรอื นจำ�จังหวดั สวา่ งแดนดนิ ) ให้เลยี้ ว
ขวาไปตามถนน รพช. สายบ้านตา้ ย - ดอนส้มโฮง ถึงทางแยกบ้านโพนสวา่ ง หลกั กโิ ลเมตรท่ี
17 ใหเ้ ลย้ี วขวาไปตามถนน รพช. สายบา้ นโพนสว่าง - ภูผาเหลก็ อีก 6 กิโลเมตร ถงึ ที่ทำ�การ
266
สะพานหนิ ถำ้�ทอง
ดินแดนของดอกไม้ ในช่วง ส.ค.-ก.ย. นำ้�ตกไมม่ ีช่อื ในเส้นทางศกึ ษาธรรมชาติ
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก หรือจากตัวอำ�เภอสว่างแดนดิน มีทางแยกไฟแดงจึงเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางอำ�เภอสว่างแดนดิน - อำ�เภอส่องดาว
ผ่านตวั อำ�เภอสอ่ งดาว ใหเ้ ลย้ี วซา้ ยเข้าถนน รพช. สายบา้ นตา้ ย - ดอนส้มโฮง แล้วแยกเขา้ ทีท่ ำ�การอุทยานแห่งชาตบิ ริเวณกโิ ลเมตรที่ 17
เช่นกนั รวมระยะทางจากจงั หวัดอดุ รธานี ถงึ ที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติภผู าเหล็ก ประมาณ 82 กิโลเมตร
กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
ในปี 2538 กรมป่าไมไ้ ด้มคี ำ�ส่งั ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีออกมาสำ�รวจขอ้ มลู เบือ้ งต้นในพน้ื ท่ี ซง่ึ ต่อมาได้มีคำ�ส่งั กรมป่าไม้ท่ี 1162/2539 ลงวันที่
14 มถิ นุ ายน 2539 เร่ืองใหข้ ้าราชการไปปฏบิ ตั ริ าชการไดใ้ ห้ นายพนม พงษ์สวุ รรณ นกั วิชาการป่าไม้ 7 ว. สว่ นอุทยานแหง่ ชาติ ไปดำ�เนนิ
การสำ�รวจหาข้อมลู เพ่มิ เติมและจดั ตัง้ พนื้ ทป่ี า่ อนรุ ักษ์บางส่วนของพืน้ ท่ีปา่ สงวนแหง่ ชาติ ป่าดงพนั นา ป่าดงพระเจา้ ท้องท่อี ำ�เภอส่องดาว
ป่าภูวง ทอ้ งทอ่ี ำ�เภอวารชิ ภมู ิ อำ�เภอนคิ มนา้ํ อนู อำ�เภอกดุ บาก ปา่ แก่งแคน ทอ้ งท่ีอำ�เภอกุดบาก ปา่ หนองหญ้าไซ ทอ้ งทอ่ี ำ�เภอวังสามหมอ
จงั หวดั อดุ ธานี ผนวกป่าสงวนแหง่ ชาติ ป่าภพู าน ทอ้ งทอ่ี ำ�เภอคำ�มว่ ง อำ�เภอสมเดจ็ ปา่ แกง้ กะอาม ท้องทอ่ี ำ�เภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ ให้
เปน็ อทุ ยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัตอิ ทุ ยานแหง่ ชาติ พ.ศ. 2504 น้นั
นายพนม พงษ์สุวรรณ ไปสำ�รวจหาข้อมูลและประวัตดิ ั้งเดิมในพ้นื ทปี่ า่ สงวนแหง่ ชาติ ดงั กล่าวข้างต้นพร้อมกับหาขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จาก
สว่ นราชการท่ีเก่ียวข้อง ศูนยค์ อมพวิ เตอรม์ หาวทิ ยาลัยขอนแก่น พบวา่ พน้ื ที่แห่งนเ้ี ป็นพ้ืนทป่ี ่ารักนํ้า เป็นแหง่ แรกของประเทศไทย อนั เปน็
โครงการพระราชดำ�ริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เม่ือวันท่ี 20 ธันวาคม 2525 ต่อมา
เม่อื ปี พ.ศ.2537 นายผ่อง เล่งอี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มาตรวจราชการและเห็นความสำ�คัญของพื้นที่ดังกล่าว จึงมีบัญชาให้สำ�รวจเป็น
อุทยานแห่งชาติ โดยใชช้ อ่ื ว่า อทุ ยานแหง่ ชาติภูผาเหลก็ - ภูผาหัก ตอ่ มาในปีพ.ศ.2539 ไดอ้ นุมัติให้ตัดคำ�วา่ ภูผาหกั ออก ใชช้ ่ือว่า “อุทยาน-
แห่งชาตภิ ูผาเหลก็ ” เปน็ ตน้ มา
267
กรนี วอลล์ สถปู พระอาจารยว์ นั อุตตโม ทว่ี ดั ถ้�ำ อภัยด�ำ รงธรรม (วดั ถำ้�พวง) บนภูผาเหล็ก
เขาวงกตทีถ่ �ำ้ นกกก
อทุ ยานแห่งชาติภูผาเหลก็ มีมีเนอ้ื ทีป่ ระมาณ 404 ตารางกโิ ลเมตร ครอบคลมุ พน้ื ท่ีอำ�เภอสอ่ งดาว อำ�เภอวารชิ ภูมิ อำ�เภอนคิ มน้ําอูน
อำ�เภอกดุ บาก อำ�เภอภูพาน จงั หวัดสกลนคร อำ�เภอวังสามหมอ จังหวดั อดุ รธานี และอำ�เภอสมเด็จ อำ�เภอคำ�ม่วง จังหวัดกาฬสินธ์ุ ในพื้นท่ี
ปา่ สงวนแหง่ ชาติป่าดงพันนา ป่าดงพระเจา้ ป่าภวู ง ปา่ กดุ ไห ปา่ นาใน ป่าโนนอุดม ปา่ บะยาว ปา่ หัวนาคำ� ปา่ หนองหญา้ ไชย และป่าแก้ง-
กะอาม เป็นสว่ นหนงึ่ ของทิวเขาภพู านทท่ี อดยาวในแนวทศิ ตะวันออก - ตะวันตก มคี วามยาวประมาณ 54 กโิ ลเมตร พ้ืนที่ส่วนใหญม่ ีความ
สูงจากระดับทะเลปานกลาง 200 - 600 เมตร ภูเขาที่สูงที่สดุ ในพ้ืนท่คี ือ ภูอ่างสอ ที่ระดับความสูง 695 เมตร พ้ืนทป่ี า่ ในเขตอุทยานแห่งชาติ
ภผู าเหล็กเปน็ แหลง่ กำ�เนิดลำ�ห้วยน้อยใหญท่ สี่ ำ�คัญ ได้แก่ แมน่ ํา้ สงคราม ลำ�น้ํายาม ลำ�นา้ํ อูม มแี นวหน้าผาหลายแหง่ ประกาศเปน็ อุทยาน
แหง่ ชาตเิ มอ่ื 23 ธนั วาคม 2552 เปน็ ลำ�ดับท่ี 118 ของประเทศไทย
268
ภาพเขยี นสีผาผักหวาน
อยทู่ ห่ี มู่ 2 บา้ นภูตะคาม ต�ำ บลท่าศลิ า อ�ำ เภอสอ่ งดาว ห่างจากทท่ี �ำ การอุทยานแหง่ ชาตปิ ระมาณ 15 กโิ ลเมตร
เป็นแท่งหินทรายขนาดใหญ่ สูงราว 10 เมตร ตั้งอยู่โดดเด่น ด้านหนึ่งเป็นผาหินสีนวล ภาพเขียนสีอยู่ทางทิศตะวันออก
สูงจากพ้ืนดนิ ราว 5 เมตร มีภาพเขยี นสโี บราณ มสี องกลมุ่ ใหญ่ ๆ คือด้านบนเขียนเป็นภาพคนระบายสที บึ ท�ำ ท่าทางชแู ขนเปน็
วง มือกางออก สว่ นดา้ นล่าง เปน็ ภาพคนทเ่ี ขยี นแตโ่ ครงรา่ ง จำ�นวน 8 คน ลกั ษณะคล้ายผูห้ ญงิ ทรงผมกลมโต ยืนเรยี งกันเปน็
แถวโดยใชม้ อื เกาะไหลก่ นั 5 คน คล้ายท�ำ กจิ กรรมอะไรบางอยา่ ง มนี ่องโป่ง ลักษณะคล้ายคลงึ กับภาพศิลปะถํ้าทางตอนใตข้ อง
ฝรั่งเศสและแถบสแกนดิเนเวีย ปัจจุบันภาพลบเลือนไปตามกาลเวลาบ้าง ทั้งมีพระสงฆ์มาดัดแปลงทำ�เป็นท่ีพักในบางช่วงเวลา
ไม่ได้อยู่ประจ�ำ
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติท่ีน่าสนใจ เพราะมีปรากฏการณ์ทางธรณีหลายอย่าง ดอกไม้นานาชนิดที่เบ่ง
บานสะพรง่ั ตลอดเสน้ ทางเดนิ ลำ�ธารนํา้ และน้าํ ตกน้อยใหญ่ หนา้ ผาจุดชมทิวทัศน์และเส้นทางเดนิ ทไ่ี ม่ไกล มีอะไรให้น่าสนใจตลอด นับเป็น
เสน้ ทางเดินศึกษาธรรมชาติเสน้ ทางหน่งึ ท่สี วยงามมาก รวมท้งั ศูนยป์ ฏิบัตธิ รรมวัดถาํ้ อภัยดำ�รงธรรม (วดั ถ้ําพวง) ซึ่งมีเจดีย์บรรจุอฐั ขิ องพระ
อาจารยว์ นั อุตตโม พระสายวิปสั สนาทเ่ี ป็นทร่ี ู้จกั กัน พร้อมทง้ั สังเวชนียสถานจำ�ลองอยู่บนภูผาเหลก็ ด้วย
269
ไปอำเภอสวา งแดนดนิ ไปอำเภอพงั โคน
อำเภอสอ งดาว
น้ำตกเกา ชน้ั
ทีท่ ำการอุทยานแหงชาติภูผาเหล็ก นำ้ ตก เขอ�่ นนำ้ อูน อช.ภูพาน
แกงกลุ า
วดั ถำ้ พวง
ผาดงกอ
นำ้ ตก
ตาดผาทอง
นำ้ ตกแมคำดี อำเภอนคิ มนำ้ อูน
2218
227
อำเภอกดุ บาก
ไปอำเภอศรธ� าตุ 2023 ไปภูพาน
อำเภอวังสามหมอ อำเภอคำมว ง
ไป2เม7ือ0งกาฬสนิ ธุ
น้ำ�ตกเกา้ ชั้น
ที่ตั้ง : หมู่ 1 บ้านท่าวัด ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
พิกัด : 335985E 1911545N
การเข้าถึง : เริ่มจากอำ�เภอส่องดาว ใช้ทางเดียวกับที่ขึ้นวัดถํ้าพวง ไปจนถึงวงเวียนพระเวสสันดร ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข
5045 จะเห็นอ่างเก็บนํ้าห้วยบ้านแพงตอนบนอยู่ทางขวามือ ทางจะขึ้นเขาไปสักระยะจะเห็นป้ายทางขวาลงนํ้าตกเก้าชั้น (ก่อนถึงที่
ทำ�การอุทยานแห่งชาติ) เลี้ยวลงไป เข้าไปได้ราว 40 เมตร จอดรถ แล้วเดินตามร่องห้วยขึ้นไป ราว 15 เมตร ถึงนํ้าตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกขนาดเล็กที่ไหลลดหลั่นจากร่องนํ้า ไหลมาจากบนภูเขา เป็นชั้นเล็ก ๆ ไม่ต่อเนื่องกัน มีชั้นนํ้าตกไม่ชัดเจน แต่
บรรยากาศร่มรื่น มีนํ้าเฉพาะฤดูฝน
271
นำ้�ตกตาดผาทอง
ที่ต้ัง : หมู่ 2 บ้านดอนส้มโฮง ต.ค้อเขียว อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
พิกัด : 48Q 340758E 1908934N
การเข้าถึง : จากอำ�เภอส่องดาว ไปตามถนนหลวงหมายเลข
2021 ไปจนถงึ บ้านดอนส้มโฮง เลี้ยวขวา แล้วตรงไปตามทางราว 3.5
กิโลเมตร จะมที างแยกซ้ายเขา้ ไปในสวนยางชาวบ้าน ราว 500 เมตร
จอดรถท่ีสวนยางชาวบ้าน แล้วเดินเท้าข้ามสะพานเหล็กเล็ก ๆ ข้าม
ลำ�ธาร แล้วเลาะไปตามทางเดนิ ราว 200 เมตร ถงึ น้ําตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกเล็ก ๆ หน้านํ้าตกราว 2 เมตร ตกลงมาจากชั้น
หินทรายต่างระดับเป็นสองชั้นต่อเนื่องกัน สูงรวมราว 5 เมตร แล้ว
ไหลผ่านร่องหินทรายแคบ ๆ ที่ถูกนํ้ากัดเซาะจนเป็นร่องลึก เป็น
ความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก
272
น�ำ้ ตกแกง่ กุลา
ที่ตั้ง : หมู่ 2 บ้านดอนสม้ โฮง ต.คอ้ เขยี ว อ.วารชิ ภมู ิ จ.สกลนคร
พิกัด : 339882E 1909412N
การเข้าถึง : อยู่ใกลก้ บั นํา้ ตกตาดผาทอง โดยเริม่ จากอำ�เภอสอ่ งดาว
ไปตามถนนหลวงหมายเลข 2021 ไปเลี้ยวขวาตรงบ้านดอนส้มโฮง
เข้าไปตามทาง ขับเลยทางเข้าตาดผาทองไปราว 1.5 กิโลเมตร จะมี
ทางเข้าไปราว 200 เมตร เลย้ี วขวา ก็จะเป็นลานจอดรถ แล้วจึงเดนิ
เท้าไปตามทางเดินลำ�ลองในป่า ราว 70 เมตร ถึงลานหินแรก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกขนาดเล็กที่มาจากธารน้ําที่มาจากทิวเขา
ภูผาเหล็ก ทางด้านทิศเหนือ เป็นลำ�ธารนํ้าสองสายรับท่ีไหลลงผ่าน
ลานหินทรายกว้าง สายหนึ่งตกไหลลงมาจากชั้นหินสูงราว 5 เมตร
273
ลาดไหลลงมาในแนวเอียงราว 45 องศา ลงยงั แอง่ หินเบ้ืองล่าง กอ่ นจะไหลลงลานหนิ ไปยังพน้ื ราบดา้ นลา่ ง ห่างกันราว 50 เมตร พบลานหนิ
อีกแหง่ มีลำ�ธารเล็ก ๆ ที่ไหลกดั เซาะจนหินทรายเป็นรอ่ งลกึ กวา้ งราว เมตรครงึ่ ไหลลงมาจากช้นั นาํ้ ตกท่อี ยเู่ หนอื นา้ํ สูงราว 2 - 3 เมตร ตก
แล้วไหลมาเปน็ ธารนา้ํ เล็ก ๆ ทก่ี ัดเซาะรอ่ งหนิ ดังกล่าว ไหลลาดลงไปผา่ นศาลาพักร้อนแล้วไหลลงไปยงั พ้นื ราบดา้ นนอกเช่นกัน
274
น�้ำ ตกแม่คำ�ดี
ที่ต้ัง : หมู่ 7 บา้ นหนองแปน ต.คำ�บ่อ อ.วารชิ ภูมิ จ.สกลนคร
พิกัด : 350093E 1902830N
การเข้าถึง : เริ่มต้นท่ีอำ�เภอวาริชภูมิ ใช้ทางหลวงหมายเลข
227 ไปราว 7 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายที่บ้านหนองกุง แล้วใช้ถนน
บ้านหนองกุง - วดั ถา้ํ กระรอก ไปราว 2 กิโลเมตร จะผ่านอนุสรณ์
สถาน จิตร ภูมิศกั ดิ์ เขา้ ไปตามทางอีกราว 4 กโิ ลเมตร แลว้ เดิน
เทา้ เขา้ ไปตามทางลำ�ลองในปา่ ราว 2 กิโลเมตร ถงึ นาํ้ ตกแมค่ ำ�ดี
275
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกเล็ก ๆ ในลานหินทราย เป็นสามชั้น
ห่างกันแต่ละช้ันราว 10 เมตร โดยช้ันบนเป็นน้ําตก
หน้าแคบ ๆ ราวเมตรครึ่ง ตกลงมาจากฝายนํ้าท่ีกั้นในร่อง
หนิ ทราย สูงราว 2 เมตร ไหลกัดเซาะลานหินทรายจนเป็น
รอ่ งลำ�ธาร แลว้ ไหลเอียงลาดลงมาเปน็ ทางยาวราว 4 เมตร
แล้วจึงไหลลงมาตามลานหินเรียบที่เอียงลาดกว้างราว 10
เมตร ยาวราว 7 เมตร ลงไปยงั แอ่งเบื้องล่างกอ่ นจะไหลลง
เขาไป เพราะเป็นลานหินทรายจึงค่อนข้างร้อน มีน้ําในช่วง
ฤดฝู นเท่านน้ั
หมายเหตุ : นอกจากนอ้ี ทุ ยานแหง่ ชาตภิ ผู าเหลก็ ยงั มนี า้ํ ตก
ดหี มใี นเขตบา้ นวงั ทอง ตำ�บลผาสกุ อำ�เภอวงั สามหมอ จงั หวดั
อดุ รธานอี กี แหง่ หนง่ึ
276
สะพานผีผา่ น
อุทยานแห่งชาติ
ภพู าน
พนื้ ท่ี 664.70 ตารางกโิ ลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : ต.ห้วยยาง อ.เมอื งสกลนคร จ.สกลนคร
การเดนิ ทาง : จากตวั เมืองกาฬสนิ ธุ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 213 (กาฬสินธ์ุ - สกลนคร)
ไปยงั อำ�เภอสมเดจ็ แลว้ ขน้ึ ภพู าน ผา่ นทว่ี า่ การอำ�เภอภพู าน และถงึ ทท่ี ำ�การอทุ ยานแหง่ ชาติ
ซึ่งอยู่ซ้ายมือริมทางหลวง ระยะทางจากกาฬสินธุ์ 115 กิโลเมตร หรือมาจากอำ�เภอเมือง
จังหวดั สกลนคร มงุ่ หนา้ ไปกาฬสินธ์ุ ตามทางหลวงหมายเลข 213 ผา่ นพระตำ�หนกั ภูพาน
ราชนิเวศน์ โคง้ ปิ้งงู และถงึ ทที่ ำ�การอทุ ยานแห่งชาติภูพาน ระยะทาง 25 กโิ ลเมตร
กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
ตามมตคิ ณะรฐั มนตรเี มอ่ื วนั ท่ี 7 ตลุ าคม 2502 ใหก้ ำ�หนดปา่ เขาภพู านหรอื ทเ่ี รยี กกนั
โดยทว่ั ไปวา่ “ปา่ เขาชมภพู าน” จงั หวดั สกลนคร และจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ และปา่ อน่ื ๆ ในทอ้ งท่ ี
277
บ้านพักของอทุ ยานฯ ภพู านรปู ทรงแบบพนื้ บา้ น
จังหวัดต่าง ๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้เป็นการถาวรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
กรมป่าไม้ได้เสนอจัดตั้งป่าภูพานเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มี
ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 244 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2515
กำ�หนดบรเิ วณท่ดี นิ ปา่ ภพู านในท้องทตี่ ำ�บลนาใน ตำ�บลไร่ ตำ�บล
นาหัวบ่อ อำ�เภอพรรณานิคม ตำ�บลโคกภู ตำ�บลนาม่อง อำ�เภอ
กุดบาก และตำ�บลห้วยยาง ตำ�บลพังขว้าง อำ�เภอเมืองสกลนคร
จังหวัดสกลนคร และตำ�บลแซงบาดาล อำ�เภอสมเด็จ จังหวัด
กาฬสนิ ธ์ุ เนอ้ื ทป่ี ระมาณ 669 ตารางกโิ ลเมตร เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ โคง้ ปง้ิ งูหนา้ น้�ำ ตกคำ�หอม
ลงประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 89 ตอนที่ 170 ลงวนั ที่ 13 พฤศจิกายน 2515 นับเป็นอทุ ยานแห่งชาติลำ�ดบั ที่ 7 ของประเทศ
ตอ่ มาจงั หวดั กาฬสนิ ธไ์ุ ดม้ หี นงั สอื ท่ี กส 09/598 ลงวนั ท่ี 12 มกราคม 2516 รายงานวา่ ตามประกาศคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ท่ี 244 ลงวนั ท่ี
3 พฤศจิกายน 2515 กำ�หนดให้ที่ดินป่าภูพานเป็นอุทยานแห่งชาตินั้น ปรากฏว่ามีพื้นท่ีบางส่วนในบางตำ�บลของจังหวัดกาฬสินธ์ุเป็นเขต
อุทยานแห่งชาติ แต่ไม่ได้ระบุช่ือตำ�บลลงไว้ กรมป่าไม้จึงได้ดำ�เนินการตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติใหม่ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกา
ยกเลิกประกาศคณะปฏิวัติ และกำ�หนดบริเวณที่ดินป่าภูพาน ในท้องท่ีตำ�บลนาใน ตำ�บลไร่ ตำ�บลนาหัวบ่อ อำ�เภอพรรณานิคม ตำ�บล
278
พระธาตุภเู พ็ก
ผานางเมนิ บรเิ วณที่ท�ำ การฯ พระธาตภุ ูเพก็ โคง้ ปงิ งู ใกลท้ างเขา้ พระต�ำ หนกั ภพู าน
พงั ขวา้ ง ตำ�บลหว้ ยยาง อำ�เภอเมือง ตำ�บลนามอ่ ง ตำ�บลโคกภู อำ�เภอกุดบาก จงั หวดั สกลนคร และตำ�บลแซงบาดาล อำ�เภอสมเด็จ ตำ�บล
คำ�บง อำ�เภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซ่ึงลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนท่ี 106 ลงวันท่ี 6
มถิ ุนายน 2518
กรมป่าไม้ดำ�เนินการรังวัดแนวเขตของพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติภูพาน เพื่อทำ�การขอเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ตามมติคณะ
รฐั มนตรี เมอ่ื วันที่ 12 ตลุ าคม 2520 ซ่ึงอนุมตั ใิ นหลักการใหเ้ พิกถอนพื้นทีบ่ รเิ วณบ่อหิน เนื้อท่ีไมเ่ กนิ 5 ไร่ คณะกรรมการอุทยานแหง่ ชาติ
ได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2521 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2521 ให้กรมป่าไม้ดำ�เนินการเพิกถอนพื้นที่พระตำ�หนักภูพานราชนิเวศน ์
สำ�นักสงฆ์ถํา้ ขาม (หลวงปฝู่ น้ั ) และอา่ งเกบ็ นํา้ หว้ ยแข้ ออกจากพื้นทอ่ี ุทยานแหง่ ชาตภิ พู าน แต่เนอ่ื งจากแนวเขตอทุ ยานแหง่ ชาติตามแผนท่ี
ท้ายพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณท่ีดินป่าภูพานให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ.2518 ไม่ได้ระบุชื่อตำ�บลบางตำ�บลไว้ จึงไม่สามารถ
ดำ�เนนิ การเพิกถอนได้ กรมปา่ ไม้จงึ เสนอคณะกรรมการอุทยานแหง่ ชาติไดม้ ีมติในคราวประชุม คร้งั ที่ 3/2523 เมื่อวนั ท่ี 21 ตลุ าคม 2523
279
ลานกางเตน็ ท์ผานางเมิน
ดำ�เนนิ การตามทค่ี ณะกรรมการกฤษฎกี าใหแ้ นวทางปฏบิ ตั ิ โดยใหเ้ สนอร่างพระราชกฤษฎกี าขน้ึ ไปใหมแ่ ละกันพ้ืนที่ดังกลา่ วออกเสียและเพมิ่
ตำ�บลทต่ี กหล่นใหส้ มบูรณ์ เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวเขตอุทยานแหง่ ชาติ ไดม้ พี ระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอุทยานแห่งชาติ ปา่ ภพู าน
ในท้องทต่ี ำ�บลนาใน ตำ�บลไร่ ตำ�บลหว้ ยบอ่ อำ�เภอพรรณานิคม ตำ�บลพังขว้าง ตำ�บลห้วยยาง อำ�เภอเมือง ตำ�บลนามอ่ ง ตำ�บลโคกภู ตำ�บล
สร้างคอ้ อำ�เภอกดุ บาก จงั หวดั สกลนคร และตำ�บลแซงบาดาล ตำ�บลมหาไชย ตำ�บลผาเสวย อำ�เภอสมเดจ็ ตำ�บลคำ�บง กง่ิ อำ�เภอห้วยผง้ึ
อำ�เภอกุฉินารายณ์ จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ พ.ศ.2525 ซ่งึ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 161 ลงวนั ท่ี 29 ตุลาคม 2525 รวมเน้อื ที่
ประมาณ 664.70 ตารางกโิ ลเมตร (ระบุตำ�บลเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงแนวเขตตำ�บลและเพิกถอนสำ�นักสงฆ์ถํ้าขาม บ่อหิน พระตำ�หนัก
ภูพานราชนเิ วศน์ อา่ งเก็บนา้ํ หว้ ยแข้ ออกจากเขตอทุ ยานแหง่ ชาต)ิ
อุทยานแห่งชาตภิ ูพานต้งั อย่ใู นเขตทวิ เขาภูพาน มลี กั ษณะโครงสร้างทางธรณีเป็นหนิ ทราย โดยมคี วามสงู อยรู่ ะหว่าง 200-567 เมตร
จากระดับทะเลปานกลาง ประกอบด้วยภูนางงอย ภูมะแงว ภูน้อย ภูเพ็ก มีภูเขียวซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดกาฬสินธ์ุเป็นจุดสูงสุดในเขตอุทยาน
แหง่ ชาติ มคี วามสูง 567 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เปน็ แหลง่ กำ�เนดิ ตน้ น้าํ ลำ�ธารและหว้ ยตา่ ง ๆ เช่น หว้ ยเลา ห้วยอีโคก ห้วยยาง หว้ ย
เวียงไพร หว้ ยขี้นก หว้ ยโคก หว้ ยวงั ถ้ํา ห้วยผึ้ง ห้วยอดี อน นํา้ อนู ตอนบน ห้วยทราย และหว้ ยนาจาน ซงึ่ จะไหลลงสูแ่ มน่ ้ําอูน ห้วยแข้ ห้วย
แสนกง และหว้ ยนํา้ พงุ ตอนบน ไหลลงแมน่ า้ํ พงุ ห้วยสะทด ห้วยแก้งหวา้ หว้ ยแก้งโคก และหว้ ยหลกั ไหลลงลำ�นํ้ายัง หว้ ยพริกไหลลงลำ�ปาว
หว้ ยทรายและห้วยเดยี ก ไหลลงส่หู นองหาร ในอดีตสมยั สงครามโลกคร้งั ทส่ี องเปน็ พืน้ ทีส่ อ้ งสมุ กำ�ลังของเสรีไทยเพือ่ ต่อตา้ นทหารญป่ี ่นุ
280
ผาเสวย...รอยพระบาทแรกที่กาฬสินธุ์
“...วนั ที่ 12 พฤศจกิ ายน 2498 ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร
พร้อมสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง เสดจ็ ออกเยยี่ มประชาชนชาวจงั หวดั กาฬสินธุ์
โดยเสด็จพระราชดำ�เนินออกจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รถยนต์พระท่ีนั่งผ่านอำ�เภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ทิว
เขาภูพาน เสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ ผาเสวย ภพู าน
หยุดประทับที่ทางแยกสหัสขันธ์ - กุฉินารายณ์ (ปัจจุบันคืออำ�เภอสมเด็จ) เยี่ยมราษฎร เสด็จฯ ศาลากลางจังหวัด
กาฬสินธ์ุ เยีย่ มราษฎร (จนมืด) บชู าหลักเมืองกาฬสินธ์ุ เสดจ็ ท่วี า่ การอำ�เภอยางตลาด แล้วเสด็จพระราชด�ำ เนนิ ตอ่ ไปยังอำ�เภอ
กนั ทรวชิ ยั และประทับแรมท่จี งั หวัดมหาสารคาม...”
เดิมนัน้ บรเิ วณผาเสวย ชาวบา้ นเรยี กกนั วา่ ผารงั แร้ง หรอื เหวห�ำ หด เพราะเป็นหนา้ ผาหนิ ทราย สูงชนั แวดล้อมไปดว้ ย
ป่าอันหนาทบึ ของทวิ เขาภพู าน ทางดา้ นจังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ อยู่รมิ ทางหลวงหมายเลข 213 บริเวณกโิ ลเมตรท่ี 101 - 102 เพื่อ
เปน็ การระลึกถงึ ครั้งเสด็จประทับเสวยพระกระยาหารกลางวนั ในครงั้ นนั้ จึงเปลยี่ นชอื่ ผารงั แรง้ เป็นผาเสวยมาจนทกุ วนั น้ี
ปัจจุบันผาเสวยเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูพาน โดยมีเทศบาลตำ�บลผาเสวยมาช่วยดูแลรักษาสถานที่
ที่ทรงประทับเมื่อครั้งนั้นไว้
นา้ํ ตกเกือบท้งั หมดในพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาตภิ พู าน จะมีนํ้ามากในช่วงฤดูฝนต้ังแต่ มิถุนายน - ตุลาคมเทา่ น้ันและจะเร่ิมนอ้ ยและแหง้
สนิทในฤดแู ลง้ ในลำ�ห้วยใหญ่ ๆ เช่น ที่นํ้าตกเกา้ นาง - แก้งกะอามอาจมนี าํ้ บา้ งแตน่ อ้ ย
281
ไปอำเภอพงั โคน ไปจงั หวัดนครพนม
ภูเพ็ก บา นพาน 22 หนองหาร
น้ำตกปรช� าสขุ สนั ต 241
22 เมอื งสกลนคร
บานประชาสุขสันต 223
ราชภัฎสกลนคร
ไปอำเภอเตางอย - อำเภอธาตพุ นม
น้ำตกคำหอมและน้ำตกบรว� าร พระรตาำชหนนเิ วกั ศภนพู าน 213 ไปอำเภอเตางอย
ถำ้ เสร�ไทย
ไปอำเภอกุดบาก ผานางเมิน ท่ีทำการอทุ ยานแหงชาตภิ ูพาน
2218 213
อภำพู เภานอ 3007
เข่�อนนำ้ พง�
อุทยานแหงชาติภผู ายล
อำเภอวาปปทุม บานสรางคอ
นำ้ ตกเกา นาง
น้ำตกแกงกะอาม ผาเสวย
ไปจังห ัวดกาฬ ิสน ุธอำเภอสมเด็จ
282
น�ำ้ ตกแก้งกะอาม
ที่ต้ัง : หมู่ 6 บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสนิ ธุ์
พิกัด : 48Q 375997E 1856151N
การเขา้ ถงึ : จากสแ่ี ยกอำ�เภอสมเดจ็ ใชท้ างหลวงหมายเลข 213 มงุ่ หนา้ ไปสกลนคร
ทางจะเรม่ิ ขน้ึ เขาภพู าน ราว 14 กโิ ลเมตร ทางซา้ ยมอื จะเห็นโครงการพัฒนาป่าไม้
ตามแนวพระราชดำ�รทิ วิ เขาภพู าน กาฬสนิ ธ์ุ ศนู ยพ์ ฒั นาปา่ ไมก้ าฬสนิ ธ์ุ แลว้ มซี อยเลก็ ๆ
ทางซา้ ยมอื เขา้ ไปตามทางราว 300 เมตร ถงึ ลานจอด แลว้ เดนิ เทา้ ราว 80 เมตร ถงึ นา้ํ ตก
ลักษณะ : เป็นแก่งนํ้าที่เกิดจากฮ่องปลาคา ไหลลงสมทบห้วยหลัวแล้วลงสู่เขื่อน
ลำ�ปาวทางฝ่ังกาฬสินธ์ุ สายนํ้าไหลลาดลงมาตามแก่งหินลงมา จนตกจากชั้น
ต่างระดับสูงราว 2 เมตร ก่อนจะไหลลงจากภูพานลงท่รี าบในเขตอำ�เภอสมเด็จของ
กาฬสนิ ธต์ุ อ่ ไป
บริเวณน้ําตกประกอบด้วยหินทรายเน้ือควอตซ์สีขาว ขนาดเม็ดตะกอน
ละเอียดถึงปานกลาง แสดงการวางช้ันเฉียงระดับ อยู่ในหมวดหินเขาพระวิหาร
พบเหน็ แนวแตกของหิน dip angle 85 องศา มกี ุมภลกั ษณ์ขนาดเลก็ อยูบ่ นหนิ ใน
รอ่ งหว้ ยด้วย
283
น้ำ�ตกเก้านาง
ท่ีต้ัง : หมู่ 6 บา้ นแกง้ กะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเดจ็ จ.กาฬสนิ ธุ์
พิกัด : 48Q 378478E 1857607N
การเขา้ ถงึ : จากนา้ํ ตกแกง้ กระอาม ออกมาใชท้ างหลวงหมายเลข 213 อกี ครง้ั เลย้ี วซา้ ยไปทางสกลนคร ราว 2 กโิ ลเมตร ถงึ บรเิ วณผาเสวย
(มีรูปป้ันไดโนเสาร์ซ้ายมอื ) เล้ียวเขา้ ไป แล้วไปจนสดุ ลานจอดรถดา้ นใน จะเหน็ ทางเดินลงน้าํ ตกเก้านาง เดนิ ลงไปราว 30 เมตร จะมีบนั ได
ไม้ไตล่ งไป แล้วจะเจอทางลาดยาง เดนิ ไปขวามอื ตามทางไปราว 100 เมตร จะเห็นบ่อนํา้ ทิพยท์ างซา้ ยมอื ตรงกนั ข้ามจะเปน็ ทางเดินลงไป
ในหบุ เปน็ ทางเดนิ ในป่า เดินข้นึ เนนิ ลงเนิน ผ่านกองหนิ ราว 1 กโิ ลเมตร ถึงแก่งนาํ้ ตก
284
ลักษณะ : เป็นลำ�หว้ ยฮอ่ งปลาคาเช่นเดยี วกนั แตอ่ ยเู่ หนอื แก้งกะอามข้ึนมา เป็นแกง่ นา้ํ ท่ไี หลลาดกันมาตามลานหนิ ท่ีเอียงราว 40 องศา
เป็นทางยาวราว 100 เมตร มีช้นั นาํ้ ตกเลก็ ๆ 9 ชน้ั แต่ช้นั สุดทา้ ยจะสงู สุดราว 5 เมตร ตกลงในลำ�ห้วยเบื้องลา่ ง กอ่ นจะไหลลงไปเป็น
น้ําตกแก้งกะอามต่อไป
285
นำ้�ตกคำ�หอม
ที่ต้ัง : ต.ห้วยยาง อ.เมอื ง จ.สกลนคร
พิกัด : 395611E 1893456N
การเขา้ ถงึ : ใชท้ างหลวงหมายเลข 213 จากหนา้ ท่ีทำ�การอุทยานแหง่ ชาตภิ ูพาน ไปทางซ้ายลงเทอื กเขาภพู านฝ่ังสกลนคร ทางจะเริ่ม
คดโค้งวกวนไปมา ท่เี รยี กว่าโค้งป้ิงงู ตรงหวั โค้งป้ิงงู หน้าศาลาทางหลวง จะมีปา้ ยทางซา้ ยมอื เข้านํ้าตกคำ�หอม เข้าไปตามทางราว 100 เมตร
มีลานจอดรถ นา้ํ ตกอยู่ติดลานจอดรถ
สว่ นนา้ํ ตกบริวาร คอื น้ําตกสามหลัน่ นํ้าตกสาวไห้และนํ้าตกสนิ ไชย อย่เู หนือน้ําตกคำ�หอมขน้ึ ไป ในเสน้ ทางศึกษาธรรมชาติ นา้ํ ตก
แต่ละแห่ง หา่ งกนั ราว 50 - 100 เมตร โดยจะพบนา้ํ ตกสามหลน่ั นํ้าตกสาวไห้และนํ้าตกสินไชยอยบู่ นสดุ
ลักษณะ : เปน็ ลกั ษณะรอ่ งนา้ํ ทไ่ี หลผา่ นลานหนิ โลง่ ตกลงจากชน้ั หนิ ตา่ งระดบั สงู ไมม่ าก มสี องชน้ั ทง้ิ ระยะหา่ งกนั ชน้ั บนสงู ราวสองเมตรเศษ
ชน้ั ลา่ งสงู ราว 1 เมตร แลว้ จงึ ไหลลงไปตามรอ่ งหนิ ลงสพู่ น้ื ราบทางฝง่ั สกลนคร
286
พลาญหินบริเวณน้ําตกเป็นหนิ ทรายปนกรวด หินทรายเน้ือหยาบ สีเทาปนขาว มีเมด็ ตะกอนขนาดปานกลางถึงหยาบ มีเม็ดกรวดปน
ในเนือ้ หนิ ขนาดช้ันหนา แสดงชนั้ เฉียงระดบั ขนาดเลก็ โดยมสี ว่ นประกอบเปน็ เนอื้ ควอตซ์สีขาว หินเชริ ต์ สีเทา เทาดำ� นาํ้ ตาลแดง และเทา
ขาว จัดอยใู่ นหมวดหินพระวิหาร ของกลมุ่ หินโคราช ไมอี ายคุ รเี ทเชียสตอนต้น (ประมาณ 148 ล้านป)ี
287
น้ำ�ตกสนิ ไชย น้�ำ ตกสามหล่ัน
น้�ำ ตกสาวไห้
น้ำ�ตกสามหล่นั - น้�ำ ตกสาวไห้ - น้�ำ ตกสนิ ไชย
ที่ตั้ง : ต.ห้วยยาง อ.เมอื ง จ.สกลนคร
พิกัด : -
การเขา้ ถงึ : เดนิ เลยนํา้ ตกคำ�หอมขนึ้ ไปทางตน้ น้ํา ตามเสน้ ทางศึกษาธรรมชาติ น้ําตกแต่ละแห่ง ห่างกนั ราว 50 - 100 เมตร โดยจะพบ
นํ้าตกสามหล่นั เป็นทแ่ี รก นํา้ ตกสาวไห้ และน้ําตกสนิ ไชยอย่บู นสดุ
ลักษณะ : นา้ํ ตกท้งั สามแห่งถือเป็นน้ําตกบรวิ ารของนาํ้ ตกคำ�หอม ท้งั สามแหง่ อยู่ใกล้กัน โดย
น้ําตกสามหลั่น จะเปน็ ลำ�หว้ ยเลก็ ๆ ทไี่ หลลงมาสมทบ สงู ราว 4 เมตร ตกลงช้ันเดียว
น้ําตกสาวไห้ เปน็ แก่งนา้ํ ที่น้าํ ไหลลาดลงแผ่เต็มลานหนิ ยาวราว 20 เมตร ชัน้ บนเป็นฝายนํ้าล้น
น้ําตกสินชยั เปน็ แกง่ น้าํ เลก็ ๆ ไหลลงตามร่องหนิ แคบ ๆ ตกลงในความสงู ราว 4 เมตร
นา้ํ ตกทง้ั สามแห่งมนี าํ้ ชว่ งฤดฝู น บรรยากาศรม่ ร่ืนดว้ ยพชื พันธ์ุไมร้ อบ ๆ บริเวณ
288
นำ้�ตกปรชี าสขุ สนั ต์
ท่ีตั้ง : ต.พังขว้าง อ.เมอื ง จ.สกลนคร
พิกัด : 390265E 1901232N
การเข้าถึง : จากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ เล้ียวซ้ายไปตามทางหลวง
หมายเลข 213 ลงไปทางสกลนคร จนถึงทางราบตวั เมืองสกลนคร ไปจนพบ
สี่แยกตลาดบายพาส เล้ียวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 214 ไปจนถึง
สถาบนั ราชภฏั สกลนคร เล้ียวซา้ ยไปตามทางหลวงหมายเลข 22 (ถนนนิตโย)
ไปจนถงึ ย่านแยกบา้ นพานพฒั นา เล้ียวซ้าย (ตรงไปจะไปพังโคน) แลว้ ใช้ถนน
ไปวัดป่านาคาราม ผ่านทางเข้าวัดป่านาคาราม ไปจนถึงบ้านประชาสุขสันต ์
เจอช่วงโค้งในหมู่บ้านเล้ียวขวาผ่านหน้าโรงเรียนประชาสุขสันต์ (มีป้ายบอก
ทางไปน้ําตก) ช่วงออกพ้นเขตหมู่บ้านเข้าป่า จะเป็นทางลำ�ลอง ค่อยไป
ตามทาง จนเจอป่าเตง็ รงั และเปน็ ลานจอดรถ (10 กิโลเมตร จากทางหลวง
หมายเลข 22) เดินเท้าไปตามทางราว 100 เมตร เจอนํ้าตกชนั้ ล่าง
289
ลักษณะ : เป็นแกง่ นาํ้ ในป่าเตง็ รัง มีเป็นแกง่ นํ้าหลายแหง่ แต่ช้นั ทรี่ ้จู ัก
กันคือที่เป็นลานหินเรียบ ราบ เอียงราว 40 องศา ยาวราว 20 เมตร
กวา้ งราว 5 - 6 เมตร ในหนา้ นาํ้ น้าํ จะไหลแผเ่ ต็มลานหนิ เรียกว่าช้นั
สไลเดอร์ ผมู้ าท่องเทย่ี วนยิ มมาเล่นนา้ํ แลว้ น่ังไถลมาตามลานหินนี้ รอบ
บริเวณจะเปน็ ปา่ เตง็ รงั ทงุ่ หญา้ เพก็ บรเิ วณรมิ หว้ ยนา้ํ ตกจะมตี น้ ไมข้ น้ึ รม่ รน่ื
บรเิ วณนา้ํ ตกปรชี าสขุ สนั ตเ์ ปน็ หนิ ทรายเนอ้ื ปานกลาง สนี า้ํ ตาล มี
เมด็ ตะกอนขนาดปานกลาง ชน้ั ปานกลางถงึ หนา แสดงชน้ั เฉยี งระดบั เลก็
นอ้ ย สว่ นประกอบเปน็ หนิ ควอตซ์ จดั อยใู่ นหมวดหนโคกกรวด กลมุ่ หนิ
โคราช อายคุ รเี ทเชยี สตอนตน้ (ประมาณ 148 ลา้ นปมี าแลว้ )
หมายเหตุ : ในพืน้ ทอ่ี ทุ ยานแหง่ ชาติภพู านยังมนี ํ้าตกภมู ะแงว และนํา้
ตกหว้ ยใหญ่อกี ด้วย
290
อุทยานแห่งชาติ
ภเู รอื
พ้ืนท่ี 120.84 ตารางกิโลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 7 บา้ นภูเรอื ต.หนองบัว อ.ภูเรอื จ.เลย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเลยโดยเดินทางไปโดยทางหลวงหมายเลข 203 ไปทาง
ดา่ นซา้ ย ประมาณ 48 กม.ถึงอำ�เภอภเู รอื จะมีป้ายอุทยานแห่งชาติอย่ปู ากทางเขา้ ซ่งึ อยู่
ขา้ งท่วี ่าการอำ�เภอภูเรอื จากปากทางเขา้ ไปอกี ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงทที่ ำ�การอทุ ยาน
แหง่ ชาติ
291
กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
ใน พ.ศ. 2519 อธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางมาราชการท่ี
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง นายสุจินต์ เพชรดี ปลัดจังหวัดเลย ได้
ให้ความเห็นว่า ควรส่งเสริมป่าภูเรือให้เป็นสถานท่ีท่องเที่ยวของ
จังหวัด จากน้ันจังหวัดเลยจึงให้ทางอำ�เภอภูเรือสำ�รวจพ้ืนท่ีป่า
ภูเรือ ซึ่งอำ�เภอภูเรือได้รายงานถึงจังหวัดเลยว่า พ้ืนที่ป่าภูเรือมี
ทรัพยากรธรรมชาติท่สี วยงามสำ�คัญหลายแห่ง เช่น ป่าไม้ น้าํ ตก
ทิวทัศน์ เหมาะท่ีจะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้ กองอุทยาน
แห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปทำ�การสำ�รวจหาข้อมูล
เบื้องต้นของป่าภูเรือ ท้องท่ีอำ�เภอภูเรือและอำ�เภอท่าล่ี จังหวัด
เลย ปรากฏว่า ป่าแห่งน้ีอยู่ในเขตป่าหมายเลข 23 ตามมติคณะ
รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2506 ให้รักษาไว้ให้เป็นป่า
ถาวรของชาติ
292
จากการสำ�รวจพบว่า พนื้ ทีป่ า่ ภเู รือประกอบดว้ ยทวิ เขาสงู สลบั ซบั ซอ้ นเรยี งรายเป็นรปู ต่าง ๆ น่าพิศวง สลบั กับทร่ี าบเปน็ บางสว่ น
สาเหตทุ ่ีขนานนามวา่ “ภูเรอื ” เพราะมีภูเขาลกู หนงึ่ มชี ะโงกผาย่นื ออกมาดูคล้ายสำ�เภาใหญ่ และท่รี าบบนยอดเขามลี กั ษณะคล้ายทอ้ งเรือ
บนยอดดอยสูงเป็นภูผาสีสันสะดุดตา หินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกป้ันแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบ ๆ จะเห็นยอด
ดอยเปน็ ขนุ เขานอ้ ยใหญ่ใกลเ้ คยี งเป็นฝา้ ขาวดว้ ยละอองนาํ้ หมอก ปกคลุมไวท้ ่ามกลางป่าอันอดุ มสมบรู ณ์ ตลอดจนมีธรรมชาติและทวิ ทศั น์
ท่สี วยงาม ครอบคลมุ ทอ้ งทอ่ี ำ�เภอภเู รอื และอำ�เภอทา่ ล่ี จงั หวดั เลย ดา้ นทศิ เหนอื ตดิ กบั ประเทศลาว เหมาะสมทจ่ี ะจดั ตง้ั เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ
กองอทุ ยานแหง่ ชาติ กรมปา่ ไม้ จึงไดน้ ำ�เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซง่ึ มมี ตใิ นการประชมุ เมอ่ื วันที่ 12 ธันวาคม 2521 เหน็
ชอบให้กำ�หนดพ้ืนที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณที่ดินป่าภูเรือ ในท้องที่ตำ�บลอาฮี ตำ�บลท่าลี่
อำ�เภอทา่ ลี่ และตำ�บลลาดคา่ ง ตำ�บลหนองบวั ตำ�บลร่องจิก อำ�เภอภเู รอื จงั หวดั เลย ใหเ้ ปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกจิ จา-
นเุ บกษา เล่ม 96 ตอนท่ี 124 ลงวันท่ี 26 กรกฎาคม 2522 นบั เปน็ อุทยานแห่งชาตลิ ำ�ดบั ท่ี 16 ของประเทศ เนื้อที่ประมาณ 120.84 ตาราง
กิโลเมตร
จากสภาพทิวเขาท่ีสงู สลับซบั ซ้อน มียอดเขาสูงทส่ี ุดคอื ยอดภูเรือ มีความสงู ถงึ 1,365 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ยอดเขาภสู ัน
มคี วามสูง 1,035 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มคี วามสูง 1,000 เมตรจากระดบั ทะเลปานกลาง ลักษณะเชน่ นีแ้ ละป่าท่อี ดุ ม
สมบูรณ์ จึงเป็นแหลง่ ตน้ นาํ้ ลำ�ธารทส่ี ำ�คัญก่อใหเ้ กิดลำ�ธารหลายสาย เช่น หว้ ยนาํ้ ด่าน ห้วยบง ห้วยเถยี งนา ห้วยทรายขาว ห้วยต้วิ และหว้ ย
ไผ่ ซึง่ เป็นต้นกำ�เนิดของนํา้ ตกหว้ ยไผ่ โดยมีน้าํ ตกทอี่ ยูใ่ นพนื้ ท่ีคือ...
293
ไปอำเภอเชียงคาน
สปป.ลาว ไปอำเภอเชียงคาน
1195
หนวยพท� ักษ อำเภอทา ล่ี
อุทยานแหงชาติท่ี ภร.2
201
(ลาดคาง)
อำเภอเมอื งเลย
ไปออำำเเภภออนดาาแนหซว า ย โรงเร�ยน นำ้ ตกแกง สขุ ยอดภเู รอ� 2115
บา นลาดคา ง นำ้ ตกหว ยเตย ศนู ยบ ร�การ 203 ไปอำเภอวงั สะพ�ง
ท่ี 2 ผาโหลนนอย
น้ำตกหินสามช้ัน
2294 นำ้ ตกหว ยไผ
ท่ที ำการอทุ ยานแหง ชาตภิ ูเร�อ
อำเภอภูเรอ�
แกงเกลย้ี ง อบต.หนองบวั
ไปอำเภอดา นซาย
294
นำ�้ ตกห้วยไผ่
ที่ต้ัง : หมู่ 9 บ้านป่าจันตม ต.หนองบัว อ.ภูเรือ
จ.เลย
พิกัด : 748018E 1934086N
การเข้าถึง : เดินเท้าไปตามเส้นทางศึกษา
ธรรมชาติ ที่เร่ิมต้นจากด้านหน้าทางเข้าพระ
ตำ�หนัก จะมีทางเดินไปในป่า ทางราบบ้าง ข้ึนเนิน
ลงเนินไปตลอดทาง ข้ามลำ�ห้วยเล็ก ๆ เป็นระยะ
ทาง 2 กิโลเมตรถึงทางลงนํ้าตก (มีทางแยกเดินข้ึน
ยอดภูเรือ) ทางชันลงห้วยระยะทางราว 100 เมตร
ถึงนา้ํ ตก
295
ลักษณะ : เป็นน้าํ ตกทีเ่ กิดจากลำ�ห้วยไผ่ ไหลตกลงมาจากหน้าผาหินสงู ราว 15 เมตร ตกลงมาเป็นสองชัน้ ตอ่ เนือ่ ง ในแนวค่อนข้างด่ิง
แล้วไหลทิ้งระยะมาราว 10 เมตร จะตกลงแก่งน้ําท่ีไหลลาดหล่ันกันสูงราว 1 เมตร อีกชั้นหน่ึง ก่อนจะไหลลาดลงตามลานหินและเป็น
ลำ�ธารนํา้ ไหลลงไปยงั พน้ื ราบนอกเขตอุทยานแหง่ ชาติ
หินบริเวณน้ีเป็นหนิ ทรายหมวดหินภูพาน ประกอบด้วยหินทราย และหนิ กรวดมน สีนํา้ ตาลแกมเหลอื ง ส้มอ่อน เทา ชมพู และขาว
เมด็ ปานกลางถงึ หยาบมาก บางชัน้ มีกรวดปน มีชั้นเฉียงระดบั ขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ หนิ กรวดมนมีขนาดใหญ่ถงึ 5 เซนตเิ มตร สว่ นใหญ่
เปน็ แรค่ วอตซ์และเชริ ์ต
296
น้ำ�ตกห้วยเตย
ที่ตั้ง : หมู่ 7 บา้ นภูเรือ ต.หนองบัว อ.ภเู รอื จ.เลย
พิกัด : 748349E 1936215N
การเขา้ ถงึ : จากทท่ี ำ�การอุทยานแห่งชาติ ขึน้ ไปยังยอดภูเรือ กอ่ นถงึ ลานจอดรถบนยอดภูเรอื ราว 500 เมตร จะมีทางแยกซ้ายมอื ลงไปยงั
ลานกางเต็นทล์ านสน แลว้ เดินเทา้ จากศนู ย์บริการนกั ท่องเทย่ี วลานสน ไปราว 100 เมตร
ลักษณะ : เปน็ น้าํ ตกเลก็ ๆ สองสาย ทไี่ หลตกลงมาจากช้ันหินทส่ี งู ต่างระดบั สงู สุดราว 4 เมตร ไหลลงมารวมกันในเวิ้งหินด้านหน้า ก่อน
จะไหลลงไปเป็นนา้ํ ตกหินสามช้ันต่อไป
297
นำ้�ตกหินสามชนั้
ที่ตั้ง : หมู่ 7 บ้านภเู รอื ต.หนองบัว อ.ภเู รอื จ.เลย
พิกัด : 747984E 1936390N
การเข้าถึง : จากลานกางเต็นท์ลานสน ช่วง
ปลายลานจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปนํ้าตก
หินสามชั้น เดินตามทางลงเนินไปราว 300 เมตร
จะตดั ลงไปในหว้ ยและเจอนาํ้ ตกเลย
ลักษณะ : เป็นน้าํ ตกทต่ี กลงมาจากช้ันหินตา่ งระดบั เป็นสามชัน้ ต่อเนือ่ งกันคลา้ ยข้นั บันได สงู ขัน้ หน่ึงประมาณ 2 เมตร ตกลงมาแล้วเป็น
แอ่งดา้ นหน้า กอ่ นจะไหลลาดลงมาตามแกง่ นํ้าเลก็ ๆ ดา้ นหนา้ แลว้ ไหลลงไปยังพื้นราบต่อไป บรรยากาศโดยรอบบรเิ วณร่มรื่น
บริเวณนีจ้ ะเป็นหนในหมวดหนิ ภพู าน ประกอบด้วยหินทราย หนิ กรวดมน สนี ้าํ ตาลแกมเหลอื ง สม้ อ่อน เทา ชมพู และขาว เม็ดขนาด
ปานกลางถึงหยาบมาก บางชั้นของหินทรายมีกรวดปน มีชั้นเฉยี งระดบั ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หินกรวดมนมีขนาดใหญถ่ ึง 5 เซนติเมตร
ส่วนใหญเ่ ป็นแรค่ วอตซ์และเชิร์ต
298
น�้ำ ตกแก่งสุข
ท่ีต้ัง : หมู่ 4 บ้านลาดข้าง ต.ลาดข้าง อ.ภูเรอื จ.เลย
พิกัด : 740991E 1937143N
การเขา้ ถงึ : เปน็ นํ้าตกเดยี วทีอ่ ย่หู า่ งจากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ โดยเรมิ่ จากทางเข้าอุทยานแหง่ ชาติภเู รือ ขา้ งตลาดเทศบาลภเู รือ ใช้
ถนนหมายเลข 21 (มงุ่ หน้าไปทางด่านซา้ ย) ไปไมไ่ กลนัก จะมีทางแยกขวามอื ตรงหนา้ อบต.หนองบัว เลีย้ วขวาไปตามทาง 2294 เขา้ ไปตาม
ทางเรอ่ื ย ๆ จะผ่านแกง่ เกล้ียงจนถงึ วัดโพนงาม - โรงเรยี นบ้านลาดค่าง เลยไปไมก่ ก่ี โิ ลเมตรเหน็ หน่วยพิทักษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ ภร.1 (หว้ ย
ทรายขาว) ขวามือ เขา้ ไปจอดในหน่วยพิทักษอ์ ุทยานแหง่ ชาติ แลว้ เดินเท้าไม่ถึง 100 เมตร
ลักษณะ : เป็นแก่งนํ้าทเี่ กดิ จากคลองกาวากที่ไหลลาดหลนั่ ลงมาจากป่าภูเรือ ผา่ นแกง่ หนิ ทคี่ อ่ ย ๆ ลาดเอยี งลงมาไมช่ นั มาก มีแอง่ เลน่ นาํ้
ไดห้ ลายแห่ง ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำ�เป็นแหล่งเลน่ นา้ํ ได้สะดวกข้นึ
หมายเหตุ : นอกจากนย้ี ังมนี ้ําตกซับหนองหินในพืน้ ที่อุทยานแหง่ ชาตภิ เู รอื อกี ด้วย
เอือ้ งตาเหินไหว
299
อุทยานแห่งชาติ
ภลู ังกา
พ้ืนที่ 70.45 ตารางกโิ ลเมตร
ทต่ี ง้ั ทที่ �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 3 บ้านนาโพธิ์ ต.ไผ่ลอ้ ม อ.บา้ นแพง จ.นครพนม
การเดินทาง : ภูลังกาน้ันที่ตั้งขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 212 (นครพนม -
บ้านแพง - หนองคาย) ถา้ ออกจาก อ.บา้ นแพง ใช้ถนน 212 เลีย้ วขวาไปทางบึงกาฬ ราว
6 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซา้ ยเขา้ บา้ นนาโพธิ์ (ทางหลวงหมายเลข 3039) เขา้ ไปตามทางจน
สุดจะถงึ ท่ที ำ�การอุทยานแหง่ ชาติ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร
300