วรรณคดสี มยั อยธุ ยาตอนปลาย
เจ้าฟ้าธรรมธเิ บศร์ (เจา้ ฟ้ากุ้ง)
เพ่ือเป็นบทเหเ่ รอื ส่วนพระองค์ (เหเ่ รอื เลน่ )
สาหรบั ขบั เหใ่ นขบวนเรอื พระท่ีนง่ั
เม่ือคร้งั ตามเสดจ็ พระราชบิดา ไปนมสั การ
พระพุทธบาท สระบรุ ี
มลี กั ษณะเป็น กาพยห์ ่อโคลง นาด้วยโคลงสี่สภุ าพ ๑ บท เรยี ก “โคลงเกริน่ ”
แตง่ ตอ่ ด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จากัดจานวนบท ขยายตอ่ จนจบความ
ก่อนจะขน้ึ โคลงใหมเ่ พอ่ื กล่าวในเร่อื งตอ่ ไป
ส
ส
ส
ส
คลกิ เพื่อฟัง หรอื ในการเห่เรือเลน่
ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก เรยี กวา่ เหช่ ้า เป็นทำนองท่ใี ชเ้ รมิ่ ต้นกำรเห่
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw
มจี ังหวะช้า ๆ ท่วงทานองไพเราะ
ถอื เปน็ การใหส้ ญั ญาณเริม่ ตน้ เคล่อื นเรือ
ในกระบวนทกุ ลาไปพร้อม ๆ กนั อย่างชา้ ๆ บทนี้
ขึ้นต้นวา่
“เหเ่ อย๋ ...พระเสด็จ...โดย...แดน
(ลูกครู่ บั โดยแดนชล)”
หรือในการเหเ่ รอื เล่น เรียกวา่ เห่เร็ว
คลกิ เพอื่ ฟงั เป็นทำนองทใี่ ช้ขณะเดินทำงไปเรื่อย ๆ เป็นทำนองยืนพน้ื
เป็นการเห่ในจงั หวะกระช้ันกระชับ พนักงานนาเห่
แล้วลกู ค่จู ะรับว่า ชะ...ชะ...ฮำ้ ไฮ้ และตอ่ ท้ายบทว่า
เฮ้ เฮ เฮ เฮ...เห่ เฮ ฝพี ายจะเร่งพายใหเ้ ร็วกวา่ เดมิ
ตามจังหวะกระทุ้งเสา้ ต้องพายหนักแรง
จึงพายจังหวะเร็วขึน้ และใชเ้ หท่ านองเร็ว
มพี ลพายรบั “ฮะไฮ”้ มลู เห่จึงเปน็ ทานองที่สนุกสนาน
ใชป้ ระกอบการพายพากระบวนเรอื ไปจนเกือบถงึ ทห่ี มาย
ขอขอบคณุ คลิปเสียงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw
คลิกเพอ่ื ฟัง เปน็ กำรเห่เมอ่ื ใกลจ้ ะถงึ ท่ีหมำย พนักงานนา
ขอขอบคุณคลิปเสียงจาก เห่และพลพายจะตอ้ งจาทานองและเนื้อความทานองสวะ
https://www.youtube.com/watch?v=6u80r-hKHYw เห่ให้แมน่ เพราะตอ้ งใชป้ ฏภิ าณคะเนระยะทาง และใช้
เสยี งสนั้ ยาวใหเ้ หมาะแกส่ ถานการณ์ นบั ว่าเปน็ การเห่
ทีย่ ากทสี่ ุด
เมื่อขึน้ ทานองเห่นี้ กเ็ ปน็ สญั ญาณวา่ ฝีพายจะต้องเก็บ
พายโดยไมต่ ้องสงั่ พายลง บทเหท่ านองนี้ ขึน้ ตน้ วา่
“ช้ำแลเรอื ” ลูกครู่ บั “เฮ เฮ เฮ เฮโฮ้ เฮโฮ้”
วรรคสดุ ท้ายจบวา่ “ศรชี ัยแก้ว พอ่ เอ๋ย” ลกู คู่รบั
“ชัยแก้วพ่ออำ” เรอื พระที่นง่ั กจ็ ะเข้าเทยี บทา่ พอดี
และจบบทเห่
เรอื ตน้ คือ เรือพระทีน่ ั่งของพระมหากษตั ริย์ ซึ่งในภายหลังหมายถึง
เรือลาทีเ่ สดจ็ ฯ ลาลองเปน็ การประพาสต้น เรือพระทีน่ ง่ั ทรง
เรือพลับพลา
เรือพระทีน่ ง่ั กิง่
เรือพระที่นงั่ เอกชยั
เรือพระทีน่ ง่ั ศรีสักหลาด
เรือพระที่นัง่ กราบ
เรือพระประเทียบ
เรือพระทีน่ ง่ั กิ่ง เปน็ เรือพระทีน่ ่ังช้ันสูงสดุ มิโปรดเกล้าฯ
(เรือตน้ ) ใหพ้ ระบรมวงศานุวงศ์ช้นั ใดประทับเว้นแตบ่ างครงั้ โปรดเกลา้ ฯ
ให้เป็นเรือ่ งทรงผา้ ไตร ในการถวายผา้ พระกฐิน
ในกาพย์เห่เรือ ในปัจจบุ นั
• เรือครุฑ • เรือพระที่นัง่ สพุ รรณหงส์
• เรือไกรสรมุข • เรือพระที่นงั่ นารายณ์ทรง
• เรือศรีสมรรถชัย
• เรือสุวรรณหงส์ สบุ รรณ รชั กาลที่ ๙
• เรือพระทีน่ ัง่ อนันตนาคราช
• เรือพระทีน่ ง่ั อเนกชาติภุชงค์
เรือเหล่าแสนยากร เรือที่ประกอบอยู่ในกระบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค
นอกจากเรือพระทีน่ ่งั แลว้ ยังมีเรืออีกมากมายหลายชนิด
ซึง่ มีลกั ษณะหนา้ ที่ตา่ ง ๆ กันออกไป เช่น
เรือไชย เป็นเรือทีใ่ ช้ลาเลียงพล ศาสตราวุธ ยุทโธปกรณ์ และเสบียงแลน่ ไดร้ วดเร็ว
เรือดง้ั คือ เรือที่ทาหน้าทีป่ อ้ งกนั กระบวนหน้า เพราะคาวา่ “ด้ัง” หมายถึง “หน้า”
เรือด้ังเปน็ เรือที่มีส่วนหวั ตง้ั สงู งอนขึ้นไปเป็นเรือไมก้ ม็ ี เป็นเรือปิดทองก็มี
เรือรูปสตั ว์ เรือชนิดนีจ้ ะทาหวั เรือเป็นรูปสตั วต์ ่าง ๆ อาทิ ราชสีห์ คชสีห์ ม้า เลียงผา
นกอินทรี สิงโต มังกร นาค ครุฑ ใต้รปู สัตว์ก็จะมีช่องวางปืนใหญ่ ใช้เป็นเรือปืนด้วย
เรือคู่ชัก คือ เรือไชยหรือเรือรปู สัตว์ทีท่ าหนา้ ที่ลากเรือพระที่น่งั ซึ่งใหญแ่ ละหนักมาก
แตใ่ นบางคร้งั ฝีพายไมเ่ พียงพอ
เรือชัย (เรือไชย)
เป็นเรือพระที่นั่งมีศกั ดิ์เท่ากบั เรือพระที่นั่งกิง่
ลายสลกั สวยงามไม่มีโขนเรือรปู สัตว์
ใช้แหน่ าขบวนเสด็จตามริว้ กระบวน
จัดไว้เปน็ คู่ ๆ มีเสียงกระท้งุ เส้า
ใหจ้ งั หวะแก่ฝีพายทีเ่ รือนี้
เรอื รปู สัตว์
(หน่งึ ในเรอื เหล่าแสนยากร)
มีโขนเรือ (หัวเรือ) เป็นรูปสัตวต์ ่าง ๆ
ทัง้ ในวรรณคดีและสตั ว์จริง
ที่ปรากฏในกาพย์เหเ่ รือมีชือ่ เรือคชสีห์
เรือราชสีห์ เรือสิงห์ เรือนาค เรือพาลีร้งั ทวีป
เรือมงั กร เรือเลียงผา เปน็ ตน้
สาหรบั ในปัจจุบนั มีโขนเรือรูปครุฑ วานร ยกั ษ์ เรือสคุ รีพครองเมือง
เรอื ริ้ว หมายถึงเรือที่เขา้ ริ้วกระบวนเป็นสาย
เรียงขนานกัน ทุกเรือที่เขา้ กระบวนจดั เป็นเรือริว้ ท้งั สิน้
โดยมากเรือกระบวนจะมีธงประจาเรือประดับ
คือเรือที่ทาหน้าทีป่ ้องกันกระบวนหน้า
เรอื ดั้ง เพราะคาว่าด้งั หมายถึงหน้า เปน็ เรือไม้ทาสีน้ามนั
มี ๒๒ ลา เรียงเลขตง้ั แต่ ๑-๒๒
กลางวนั เยน็
เห่ชมกระบวนเรอื เหช่ มปลา เห่ชมไม้ เหช่ มนก
เชา้ ลกั ษณะขนบการแตง่ คล้ายนิราศ = เห็นอะไรกค็ ิดถึงนาง
กลางคนื บทเห่กากี กลา่ วถึงพญาครุฑเก้ียวนางกากี
เห่สงั วาส
บทเหค่ รวญ บทครา่ ครวญถงึ นางอันเป็นท่รี กั
โคลงสีส่ ุภาพ ปางเสด็จประเวศดา้ ว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแกว้
แหนแห่
พรงั่ พร้อมพวกพลไกร เพริศพริง้ พายทอง
เรือกระบวนตน้ แพรว้ ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
พายออ่ นหยบั จับงามงอน
กาพยย์ านี 11 พระเสดจ็ โดยแดนชล ลว้ นรูปสตั ว์แสนยากร
กิง่ แก้วแพรว้ พรรณราย สาครลั่นครั่นครืน้ ฟอง
นาวาแน่นเป็นขนดั
เรือริ้วทิวธงสลอน
กาพย์ยานี 11 เรือครุฑยดุ นาคหิ้ว ลิว่ ลอยมาพาผนั ผยอง
รอ้ งโห่เหโ่ อ้เห่มา
พลพายกรายพายทอง เพียงพิมานผา่ นเมฆา
หลงั คาแดงแยง่ มังกร
สรมุขมุขสี่ดา้ น แสงแวววบั จับสาคร
ดงั ร่อนฟา้ มาแดนดิน
ม่านกรองทองรจนา งามชดช้อยลอยหลงั สนิ ธุ์
ลินลาศเลือ่ นเตอื นตาชม
สมรรถชยั ไกรกาบแก้ว รวดเรว็ จริงยิง่ อย่างลม
หม่ ท้ายเยิ่นเดินคูก่ ัน
เรียบเรียงเคียงคจู่ ร
สุวรรณหงส์ทรงพู่หอ้ ย
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์
เรือชยั ไวว่องวิ่ง
เสียงเส้าเร้าระดม
กาพย์ยานี 11
คชสีห์ที่ผาดเผน่ ดดู งั เป็นเห็นขบขนั
ด่งั สองคู่ดูยิง่ ยง
ราชสีหท์ ีย่ ืนยนั แลน่ เฉือ่ ยฉา่ ลาระหง
องค์พระพายผายผนั ผยอง
เรือม้าหนา้ มุง่ น้า โจนตามคลืน่ ฝืนฝา่ ฟอง
เป็นแถวทอ่ งลองตามกนั
เพียงม้าอาชาทรง
เรือสิงหว์ ิ่งเผน่ โผน
ดูยิง่ สิงห์ลาพอง
กาพยย์ านี 11 นาคาหน้าดังเปน็ ดูเขม้นเห็นขบขัน
มงั กรถอนพายพัน หนั แข่งหน้าวาสกุ รี
เลียงผางา่ เทา้ โผน เพียงโจนไปในวารี
นาวาหน้าอินทรีย์ มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม
ดนตรีมีอ่ ึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม
โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนสั ชื่นรื่นเริงพล
กรีฑาหมูน่ าเวศ จากนคเรศโดยสาชล
เหิมหื่นชืน่ กระมล ยลมจั ฉาสารพนั มี
มตั สยา
โคลงสีส่ ุภาพ พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน (สนั สกฤต)
ถวิลสดุ าดวงจนั ทร์ แจ่มหน้า
มัจฉา
มัตสยายอ่ มพวั พนั พิศวาส
(บาลี)
แปลว่า ปลา
ควรฤพรากน้องขา้ ชวดเคลา้ คลึงชม
กาพยย์ านี 11 พิศพรรณปลาวา่ ยเคลา้ คิดถึงเจา้ เศรา้ อารมณ์
มตั สยายงั รู้ชม สมสาใจไม่พามา
กาพย์ยานี 11 นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจา้ งามพริง้ ยิ่งนวลปลา
คางเบือนเบือนหนา้ มา ไมง่ ามเทา่ เจา้ เบือนชาย
ปลานวลจนั ทร์ ปลาคางเบอื น
กาพย์ยานี 11 เพียนทองงามดั่งทอง ไมเ่ หมือนนอ้ งหม่ ตาดพราย
กระแหแหหา่ งชาย ดง่ั สายสวาทคลาดจากสม
ปลาตะเพียนทอง
ปลากระแห ตาด
แก้มชา้ ชา้ ใครตอ้ ง อันแกม้ นอ้ งช้าเพราะชม ปลาแกม้ ชา้
ปลาทุกทกุ ขอ์ กกรม เหมือนทุกขพ์ ีท่ ี่จากนาง
ปลาทกุ (ปลาเคา้ ดา)
“น้าเงินคือเงินยวง ขาวพรายชว่ งสีสาอาง
ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนือ้ สองสี”
ปลาน้าเงิน
ปลากรายวา่ ยเคียงคู่ เคลา้ กันอยดู่ งู ามดี ปลากราย
เหน็ ปลาเคลา้ เศรา้ ใจจร ปลาหางไก่
แตน่ างห่างเหินพี่
หางไก่คล้ายไม่มีหงอน ปลาสร้อย
หางไก่วา่ ยแหวกว่าย ผมประบา่ อ่าเอี่ยมไร
คิดอนงคอ์ งคเ์ อวอร
ปลาสร้อยลอยลอ่ งชล วา่ ยเวียนวนปนกันไป
ไมเ่ ห็นเจา้ เศรา้ บว่ าย
เหมือนสร้อยทรงทรามวัย
สรอ้ ยคอ นาง
เนืออ่อนอ่อนแต่ชือ่ เนือ้ นอ้ งฤาอ่อนท้ังกาย ปลาเนื้ออ่อน
ใครต้องขอ้ งจิตชาย ไมว่ ายนึกตรึกตรึงทรวง
ปลาเสือเหลือทีต่ า เลื่อมแหลมกวา่ ปลาทั้งปวง
ปลาเสือ เหมือนตาสดุ าดวง
ดูแหลมล้าขาเพราคม
แมลงภู่คู่เคียงวา่ ย เห็นคล้ายคล้ายนา่ เชยชม นามนยั
สือ่ ถึง
คิดความยามเมื่อสม สนิทเคลา้ เจา้ เอวบาง ผ้หู ญิง
หวีเกศเพศชื่อปลา คิดสุดาอ่าองค์นาง ปลาแมลงภู่
เสน้ เกศสลวยรวยกลิ่นหอม
หวีเกลา้ เจ้าสระสาง
ปลาหวีเกศ
ชะแวงแฝงฝัง่ แนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม
เหมือนพี่แอบแนบถนอม จอมสวาทนาฏบังอร
พิศดหู มู่มัจฉา วา่ ยแหวกมาในสาคร
คะนึงนุชสุดสายสมร มาด้วยพีจ่ ะดีใจ
เกมชมพรรณไม้ : จบั ค่ชู ื่อกบั พรรณไม้ในวรรณคดี
โคลงสี่สภุ าพ เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ
ริมท่าสาครคนั ธ์ กลิ่นเกลี้ยง
เพล็ดดอกออกแกมกัน ชชู อ่
หอมหืน่ รื่นรสเพีย้ ง กลิ่นเนื้อนวลนาง
กาพยย์ านี 11 เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ
เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร
ชมชดมวดงวพงวพงวนงานงางแแยม้ม บบาานนแแสสลล้มม้ แแยย้ม้มเกเกสสรร
คคิดิคดควาวมามยายมามบบงั องั รอร แแยยม้ ม้ โโออษษฐฐ์ย์ยิม้ ิ้มพพรริม้ ิม้ พพรราายยงงาามม
นางแย้ม
จจาาปปาาหนนาาแแนน่น่นเนเนือ่ ือ่งง คลคี่กลลี่กีบลเีบหลเหือลงเือรงือเงรอือรง่าอมร่าม
คิดดคคะะนนึงึงถถึงนึงนงรงารมาม ผิวผเิวหเลหือลงือกวงา่กจวา่าปจาาทปอางทอง
จาปา
ปปรระะยยงคงคท์ รท์ งรพงวพงวหง้อหยอ้ ย ระรยะา้ยย้าอ้ยยอ้ หยอ้หยอ้ พยวพงวกงรกอรงอง
เเหหมมือือนนออุบุบะะนนววลลลละะอออองง เเจจา้ า้ แแขขววนนไไวว้ใ้ใหหเ้ ้เรรียียมมชชมม
ประยงค์ อบุ ะหน้าช้าง
อุบะทดั หู
พพุดดุจีบจกีบลกีบลแีบสแลส้มลม้ พพิกิกุลลุ แแกกมมแแซซมมสสุกรุกมรม
หหออมมชชววยยรรววมมตตาามมลลมม เเหหมมือือนนกกลลิ่นิน่ นน้ออ้ งงตต้อ้องงตติดิดใใจจ
พดุ จบี
พกิ ลุ สุกรม
สสาาววหหยยุดุดพพทุ ธุทชธาชด าด บบาานนเกเกลื่อลนือ่ กนลกาลดาดดาดษาดษาไดปาไป สายหยุด พุทธชาด
นึกนนึกน้ออ้งกงกรรอองงมมาาลลยัยั ววาางใงหใหพ้ พ้ีข่ ้าีข่ ง้าทงี่นทอีน่ นอน
บนุ นาค
พิกุล พิกพลุ ิกบลุ นุบุนนนาาคคบบาานน กลิ่นหอมหวานซา่ นขจร
แมแ้นมน้นุชนสุดชสดุายสสายมสรมร เหน็ จะวอนอ้อนพีช่ าย
เตเ็งตแง็ แตต้ว้วแแกกว้ ว้ กกาหาลหงลง บบาานนบบษุษุ บบงงสส่ง่งกกลลิน่ ิ่นออายาย
คคลลา้ า้ ยยกลิน่ ผผา้ า้ เเจจ้า้าตตรราตาตรูรู
หหออมมออยู่ไในมร่รหู้ ู้หาายย
เตง็ แต้ว แก้ว กาหลง
มมะะลลิวัลิวยลั ์พยันพ์ จนั ิกจจวิกงจวง ดดออกกเเปปน็ น็ พพววงรงว่รง่วเงรเณรณู ู
หหออมมมมาานนา่ ่าเอเอ็นน็ดูดู ชชชู ชู ืน่ ื่นจจิติตคคิดิดววนนิดาิดา
มะลวิ ัลย์ จกิ จวง
ลลาาดดววนนหหววนนหหอมอตมรตลรบลบกกลลิ่นิน่อาอยาอยบอสบบสนบานสาสา
นึกนึกถถววิลิลกกลลิ่นิ่นบบุหุหงา รารไาปไเปจเ้าจเศ้ารเศา้ ถรึง้านถาึงงนาง
ลาดวน บหุ งาราไป
รวยรินกลิ่นราเพย ราเพย
คิดพีเ่ คยเชยกลิน่ ปราง
นง่ั แนบแอบเอวบาง
หอ่ นแหหา่ งวา่ งเวน้ วัน
ชมดวงพวงมาลี ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณ
วนิดามาด้วยกนั จะออ้ นพี่ชีช้ มเชย
พรรณไมใ้ นวรรณคดี
กาพย์เห่เรือ : เหช่ มไม้
โคลงสี่สุภาพ รอนรอนสรุ ิยโอ้ อสั ดง เรยี ม
เรือ่ ยเรือ่ ยลับเมรลุ ง คา่ แล้ว = ตัวพี่
รอนรอนจิตจานง นุชพี่ เพียงแม่
เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแกว้ คลบั คล้ายเรียมเหลียว
กาพย์ยานี 11 เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกตา่
สนธยาจะใกล้คา่ คานึงหนา้ เจา้ ตราตรู
เกมชมนก : จบั ค่ชู ื่อกบั ภาพนกในวรรณคดี
กาพยย์ านี 11 เรือ่ ยเรือ่ ยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปท้ังหมู่
ตวั เดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อย่ผู เู้ ดียวดาย
เห็นเหฝน็ูงยฝูงูงยรงูารฟาอ้ ฟนอ้ น คคิดิดบบังังออรรรร่อ่อนนรารการการยาย
สสรร้ออ้ งงทอองงยยอ่ ่องงเเยยื้อือ้ งงชชาายย เเหหมมือือนนสสาายยสสววาาททนนาาดดนนววยยจจรร
นกสรอ้ ยทอง (นกขุนทอง)
กาพย์ยานี 11 สสาาลลิกิกามาามตาาตมาคมู่คู่ ชชมมกกันันออยยู่สสู่ ู่สู่สมมสสมมรร
แแตตพ่ พ่ ี่นีน่ ี้อีอ้ าาววรรณณ์ ์ หหอ่ ่อนนเเหห็นน็ เเจจ้า้าเเศศรรา้ ้าใใจจคครรววญญ
นนาางงนนววลลนนวลวลนน่ารา่ ักรัก ไมไม่น่นวลวลพพกั ักตตรเ์รหเ์ หมมือือนนททรารมามสสงวงนวน
แแกก้ว้วพพี่นี่นี้สี้สดุ ุดนนววลล ดด่งั นงั่ นาางฟงฟา้ ้าหหนน้า้าใยใยยยอองง
นกสาลิกา
นกนางนวล
กาพย์ยานี 11 นกนแกแกก้วว้ แแจจว้ ้วแจม่ เสียยงง จจบั บั ไไมม้เร้เรียียงเงคเคียงียคงสู่คอู่สงอง
เเหหมมือือนนพพี่นีน่ ี้ปีป้ระรคะอคงอง รรับับขขววัญัญนนอ้ ้องตงตอ้ งอ้ มงือมเือบเาบา
ไกไฟ่ กา้ ่ฟม้าามตาัวตเดวั เียดวียว เดินทอ่ งเทีย่ วเลี้ยวเหลี่ยมเเขขา
เหมือนพรากจากนงเยาว์ เปลา่ ใจเปลี่ยวเหลียวหานาง
นกแก้ว ไก่ฟา้
แขแขกกเเตต้าา้ เเคคล้าลค้าู่เคคียเู่ งคียง นามนยั
เเรรียียงงจจบั บัไมไ้ไมซป้ ้ไีกซห้ปาีกง หาง สื่อถึง
เเรเรคียียยมมแคนคะบนะขึงนถ้างึงึงรเถอ้างวึงแบเรอามงวนบานาง ผูห้ ญิง
เคยแนบข้างร้างแรมนาน
นกแขกเต้า
ดดเุ หเุ หวว่าา่ เเจจา่ า่ จจบั บั รร้ออ้ งง สสนน่ันนั่กก้องอ้ ซง้อซง้อเสงียเสงียหงวหานวาน
ไพเเรราาะะเเพพรราาะะกกงั วังาวนาน ปาปนาเนสเียสงียนง้อนงร้ออ้ งงรสอ้ ัง่ งชสาั่งยชาย
นกกาเหว่า (นกดเุ หวา่ )
โโนนรรีสีสีปีปาานนชชาาดด เหเหมมือือนนชชา่ า่งฉงฉลลาาดดววาาดดแแตตม้ ้มลลาายย
ไมไม่เทเ่ ทา่ ่าเจเจ้า้าโฉโฉมมฉฉาายย หห่มม่ ตตาาดดพพรราายยกกรราายยกกรรมมาา
นกแก้วโนรี
สตััตววาานน่า่าเอเอ็นน็ ดดู ู คคออยยหหาาคคู่อ่อู ยยู่เอูเ่ อกกาา
คครรววญญหหาาเเจจ้าา้ เเศศรรา้ ้าเเสสียียใใจจ
เหมือนพีท่ ี่จากมา
ตัวผู้ ตัวเมีย
นกสัตวา
ปกั ษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขนั เพรียกไพร
ยิง่ ฟงั วังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา
นกในวรรณคดี
กาพยเ์ หเ่ รือ : เห่ชมนก