The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือพัฒนาสมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลาง2551

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chtsan6, 2022-08-16 00:19:03

พัฒนาสมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลาง2551

คู่มือพัฒนาสมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลาง2551

43

พฤติกรรมบง่ ชห้ี ลกั

การมีเป้าหมายในชวี ติ การจัดการอารมณแ์ ละ การจดั การปัญหาและ
ความเครยี ด ภาวะวิกฤต

- ยอมรับข้อผิดพลาดว่าเปน็ - สรปุ ได้วา่ ความคดิ อารมณ์ - ประเมินสถานการณค์ วามเส่ียง
หรือปัญหาทอี่ าจเกดิ ขึ้น
สว่ นหนึ่งของการเรยี นรู้ และความเครียด มผี ลตอ่
- บอกแนวทางการแกป้ ญั หาให้
- สะท้อนกระบวนการและ พฤติกรรมอย่างไร ตนเองอยู่ในภาวะสมดุลเมื่อ
เผชิญสถานการณ์วิกฤต
ผลลพั ธข์ องการตั้ง - บ่งชี้กลวธิ ีในการปรบั
- รเิ ร่มิ แนวทางในการแก้ปญั หาหรือ
เป้าหมาย และปรับใช้เพื่อ กรอบความคดิ และ ความเสย่ี ง

ไปสู่ความสำเร็จ พฤติกรรมของตนเอง

- สร้างแบบจำลองความ - แสดงออกถึงกลวธิ ีในการ - ใช้มมุ มองทห่ี ลากหลายในการ
สามารถท่ีจะนำมาใช้เพ่อื
เอาชนะอปุ สรรค จดั การอารมณแ์ ละ บง่ ชปี้ ัญหาและการแก้ปญั หา
- เลือกเครื่องมือท่จี ำเป็น
เพือ่ ปรับใชใ้ นการทำงาน ความเครยี ด - ริเร่ิมและสรา้ งทางเลือกใหม่
ให้เสรจ็ สมบรู ณ์
- มองเหน็ ประโยชน์ ท่หี ลากหลายในการแก้ปญั หาใน
- ตงั้ เปา้ หมายการใชช้ ีวิต
ทีม่ คี วามสขุ ของตนเอง จากความเครียดระดบั ภาวะวกิ ฤต
- บอกสงิ่ จำเปน็ ท่จี ะใช้
เพ่อื เอาชนะความทา้ ทาย เลก็ นอ้ ย - อธิบายแนวทางและวิธีการ
หรืออุปสรรคท่เี ขา้ มาในชีวติ
- แสดงออกถึงความต้งั ใจ - สามารถปรับกรอบความคดิ แกป้ ญั หาของตนเองกลับสภู่ าวะ
รบั ผิดชอบ เพียรพยายาม
ทีจ่ ะทำตามเปา้ หมายชวี ติ และพฤติกรรมของตนเอง สมดุลไดเ้ ม่อื เผชญิ ความผดิ หวัง
ของตนเอง
เพื่อให้มีสขุ ภาวะทางจติ และภาวะวกิ ฤต

และทางกาย

- สามารถจดั การกบั อารมณ์ - อธิบายแนวทางและวิธกี าร

ความรูส้ ึกทางลบและ แก้ปญั หาของตนเองกลบั สภู่ าวะ

ความเครียดไดอ้ ยา่ ง สมดุลไดเ้ ม่ือเผชญิ ความผิดหวงั

เหมาะสม และภาวะวิกฤต

- ตระหนักและเขา้ ใจอารมณ์ - สามารถใช้แนวทาง/วธิ ีการ

ความร้สู ึกของผ้อู ืน่ แก้ปญั หาของตนเองกลบั สภู่ าวะ

- รับฟังและแสดงความเหน็ อก สมดุลไดเ้ ม่อื เผชญิ ความผดิ หวัง

เห็นใจผอู้ นื่ ได้ และภาวะวิกฤต

พฤติกรรมบ่งช้หี ลกั ตามระ

ระดบั คำนิยามบรรยายระดบั ด้านการรับสารอย่างมีสติแล
เพ่อื ให้เกิดความเข้าใ

1 ใชป้ ระสาทสมั ผสั ในการรบั และสง่ สารอยา่ งต้ังใจ - ใช้ประสาทสมั ผสั ในการรับสา
เขา้ ใจความแตกตา่ งทางกายภาพที่มผี ลต่อการ ใกลต้ วั
สื่อสาร ใชส้ ื่อ ภาพ เสียง คำพดู ท่าทาง สัญลกั ษณ์
ใกล้ตวั และผลงานอยา่ งง่าย ๆ ในการสือ่ สารแบบ
ตรงไปตรงมา

2 รบั และสง่ สารอย่างตั้งใจโดยใช้ประสาทสัมผัส - ฟงั เสยี ง อ่านเร่ือง และดภู าพ
เข้าใจนัยตรง บอกข้อมูลและความรู้สกึ ทม่ี ตี อ่ สารใน ในสถานการณ์ใกลต้ ัว แลว้ ตอ
สถานการณ์ใกล้ตวั แบบตรงไปตรงมา โดยเลือกและ อยา่ งตรงไปตรงมา
ผลติ สือ่ ทเ่ี หมาะสมกับบุคคล ผา่ นการเคลอื่ นไหว
ท่าทาง เสียง ภาษา ภาพ สญั ลักษณ์ และผลงาน - ฟงั เสียง อ่านเรอ่ื ง และดภู าพ
แบบง่าย ๆ พรอ้ มทงั้ คำนึงถงึ ประโยชนแ์ ละโทษ ในสถานการณใ์ กลต้ ัว แลว้ บอก
ของการสอื่ สารทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ตนเอง ท่เี กิดจากการรับสารอยา่ งง่าย

3 รับและสง่ สารท่เี ปน็ ขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จริง และ - ฟังเสียง อ่านเรื่อง และดภู าพ
ความรสู้ กึ ทีม่ ีรายละเอียดมากข้ึนในสถานการณ์ กับสถานการณใ์ กล้ตัวทีม่ ีรายล
ใกลต้ ัว มคี วามอดทนในการรบั สารแลกเปล่ียน ขึ้น แล้วตอบคำถามอยา่ งตรง
ประสบการณ์และสอ่ื สาร โดยตระหนกั ถงึ ความ
แตกต่างระหวา่ งตนเองกบั บคุ คลใกล้ตัว คำนึงถึง ทงั้ ในสว่ นของขอ้ มลู และควา
ประโยชน์และโทษของสื่อท่มี ตี อ่ ตนเอง สามารถ - แสดงความอดทนในการรบั สา
สอ่ื สารเรื่องราวใกล้ตัว ทั้งท่ีเปน็ ภาษา ภาพ เสยี ง แลกเปลีย่ นประสบการณ์และ
สัญลักษณ์ ทา่ ทาง การแสดงออกทางศลิ ปะอยา่ ง บคุ คลใกล้ตวั เกย่ี วกบั สถานกา
ง่าย โดยเลอื กและผลิตสื่อใหเ้ หมาะกับบคุ คล และ ที่ต่างจากตนเอง

กาลเทศะ

44

ะดับสมรรถนะการส่ือสาร

ละถอดรหัส พฤติกรรมบง่ ช้ีหลกั ด้านการเลอื กใชก้ ลวิธกี ารส่อื สาร
ใจ อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึง
ดา้ นการรับสง่ สารบนพน้ื ฐาน ความเข้าใจ ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม
ารท่ีอยู่ และความเคารพในความคิดเห็น
และวัฒนธรรมทีแ่ ตกต่าง เพ่อื บรรลุวัตถปุ ระสงค์ในการสือ่ สาร

- บอกความแตกตา่ งเชิงกายภาพแบบกวา้ ง - รู้จักประเภทของส่ือใกลต้ วั
ระหวา่ งตนเองกบั บุคคลใกล้ตวั เช่น เพศ - สอื่ สารผา่ นคำพดู ภาพ เสียง สญั ลักษณ์
วัย ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว และผลงานแบบ
ง่าย ๆ ตรงไปตรงมาได้

พ เหตุการณ์ - บอกความแตกต่างเชิงกายภาพ - รจู้ กั ประเภทของสื่อท่ีหลากหลายขึ้น
อบคำถาม ระหวา่ งตนเองกบั บคุ คลใกลต้ ัว - เข้าใจประโยชนแ์ ละโทษของสือ่ ท่ีมตี ่อ
ท่สี ง่ ผลตอ่ การสื่อสาร ตนเองอย่างเดน่ ชัด
พ เหตกุ ารณ์ - สือ่ สารเรื่องราวใกลต้ วั ผา่ นภาษา ภาพ
กความรสู้ ึก เสยี ง ทา่ ทาง โดยเลือกและผลติ ส่ือให้
ย ๆ ได้ เหมาะกบั บุคคลใกลต้ ัวทสี่ ่ือสารด้วย

พทเ่ี ก่ียวข้อง - ตระหนักถงึ ความแตกต่างระหว่างตนเอง - รวู้ ธิ กี ารเข้าถงึ สื่อที่หลากหลาย
ละเอียดมาก กบั บุคคลใกล้ตัวท่ีส่งผลต่อการสอ่ื สาร - ตระหนกั ถึงประโยชนแ์ ละโทษของส่ือ
งไปตรงมา ทม่ี ตี ่อตนเองในระยะส้นั
ามรสู้ ึกทีไ่ ด้ - สอ่ื สารเร่อื งราวใกลต้ วั ผ่านภาษา ภาพ
ารและ เสียง ท่าทาง การแสดงออกทางศลิ ปะ
ะส่ือสารกบั อย่างงา่ ย ๆ โดยเลือกและผลติ สอื่ ให้
ารณใ์ กล้ตัว เหมาะกับบุคคล และกาลเทศะ

ระดับ คำนยิ ามบรรยายระดับ ด้านการรบั สารอย่างมสี ตแิ ล
เพือ่ ใหเ้ กิดความเข้าใ

4 รับและสง่ สารท่เี กย่ี วข้องกบั สถานการณ์ - ฟงั เสยี ง อ่านเรื่อง และดภู าพ

ท่ีใกล้ตัว จับประเดน็ สำคัญ หรอื วัตถุประสงค์ของ กบั สถานการณท์ ใี่ กลต้ วั แล้วส

ผู้สง่ สารได้ อธิบายความรู้สึกท่ีเกดิ ขนึ้ จากการ จับประเดน็ สำคญั หรอื วัตถุป

รับสารประเภทตา่ ง ๆ ทมี่ คี วามซบั ซอ้ นมากขึ้น ผ้สู ่งสารแบบงา่ ย ๆ ได้

มีความอดทนในการรบั และส่งสาร ใช้สื่อทม่ี ีความ - อธบิ ายความรสู้ กึ ท่ีไดร้ ับจากก

หลากหลายข้ึน เข้าใจผลกระทบของสอื่ ทม่ี ตี ่อตนเอง ประเภทตา่ ง ๆ ทีม่ คี วามซบั ซ

มจี ดุ มุง่ หมายและกลวิธใี นการสอื่ สารและการผลติ สอื่ หรอื มีอารมณ์หลากหลายข้ึน

เพ่ือสือ่ สาระทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองได้อย่าง - แสดงความอดทนในการรบั แล

เหมาะสม

5 รบั และส่งสารท่ีเกีย่ วข้องกับสถานการณ์ในชุมชน - ฟงั เสียง อ่านเร่อื ง และดภู าพ

สังคม อยา่ งมีสติ จับประเดน็ สำคัญ ข้อคดิ ทงั้ เชงิ กับสถานการณใ์ นชุมชน สังคม

บวกและลบทไี่ ดร้ ับตามวตั ถปุ ระสงคข์ องผู้สง่ สาร แลว้ สามารถจบั ประเดน็ สำคญั

แลกเปลย่ี นประสบการณ์อยา่ งมีสตกิ ับบคุ คล ท้ังเชงิ บวกและลบท่ีได้รบั ตาม

ที่หลากหลายขึน้ ในสถานการณท์ มี่ ีความซับซ้อน วตั ถุประสงคห์ ลกั ของผสู้ ่งสาร

ทั้งโลกจรงิ และโลกเสมอื นมีมารยาทและจรยิ ธรรม ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการรบั ส

ในการส่อื สาร เลือกใช้กลวธิ ีในการผลติ สอ่ื และ แบบตรงไปตรงมา

ส่ือสารทเ่ี หมาะสม และเกิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง - แลกเปลย่ี นประสบการณอ์ ยา่

และตอ่ กลุ่ม ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ กับบุคคลที่หลากหลาย (วยั เพ

สถานภาพ) ขึ้น ในสถานการณ์ท

ซับซ้อนมากขนึ้ ทงั้ โลกจริงแล

โลกเสมอื น

45

ละถอดรหสั พฤตกิ รรมบง่ ชีห้ ลัก ด้านการเลือกใช้กลวิธกี ารสือ่ สาร
ใจ อยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึง
ดา้ นการรบั ส่งสารบนพื้นฐาน ความเขา้ ใจ ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
พทเี่ กีย่ วขอ้ ง และความเคารพในความคิดเหน็
สามารถ และวัฒนธรรมท่ีแตกต่าง เพอ่ื บรรลุวตั ถุประสงค์ในการส่อื สาร
ประสงคข์ อง
- ตระหนกั ถึงความแตกตา่ งระหว่างตนเอง - ใช้ส่ือทีห่ ลากหลายขนึ้
การรับสาร กบั บคุ คลในสังคมดา้ นสังคมและ - เขา้ ใจผลกระทบของส่อื ท่มี ตี อ่ ตนเองใน
ซ้อนมากข้ึน วฒั นธรรมแบบกวา้ ง ๆ ที่สง่ ผลตอ่ การ ระยะยาวขนึ้
สื่อสาร - กำหนดจดุ มุง่ หมายในการสื่อสาร
ละสง่ สาร แบบง่าย ๆสามารถเลอื กใช้และผลิตสอื่
ใชก้ ลวิธใี นการสื่อสารใหเ้ หมาะสม
และเกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองได้

พที่เกย่ี วขอ้ ง - ตระหนกั ถงึ ความแตกตา่ งระหว่างตนเอง - ระบคุ วามแตกต่างระหวา่ งโลกจริง
ม อยา่ งมีสติ กบั บุคคลในสงั คมดา้ นสงั คม และ กบั โลกเสมือน
ญ ขอ้ คดิ วัฒนธรรมของชุมชนและท้องถ่นิ ทีส่ ง่ ผล - เลอื กใช้ส่อื อย่างระมดั ระวงั เพือ่ ไม่ใหเ้ กดิ
ม ต่อการสอื่ สาร ผลกระทบต่อตนเองในเบื้องตน้ ได้
ร พรอ้ มทง้ั - มมี ารยาทและจริยธรรมในการสอื่ สาร
สารดงั กลา่ ว ระดับเบอื้ งตน้
- กำหนดจดุ ม่งุ หมายในการสื่อสาร
างมสี ติ และสามารถเลือกใช้กลวิธใี นการผลิตสอ่ื
พศ อาชีพ และส่ือสารท่เี หมาะสม และเกดิ
ทม่ี คี วาม ประโยชน์ตอ่ ตนเองและต่อกลุ่ม
ละ

ระดับ คำนยิ ามบรรยายระดบั ด้านการรบั สารอย่างมีสตแิ ล
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใ

6 รับและส่งสารผ่านสอ่ื ทีห่ ลากหลาย โดยปราศจาก - รบั สารผ่านสอื่ ทหี่ ลากหลายโด

อคติ สรปุ ประเดน็ ตคี วาม และประเมินคณุ คา่ ปราศจากอคติ แล้วสามารถส

ในมิติความจริง (ขอ้ มูลข่าวสาร) ความดี ตีความและประเมนิ คณุ ค่า ในม

(แก่นแนวคดิ ) และความงาม (อารมณ์ สนุ ทรยี ะ) (ขอ้ มลู ข่าวสาร) ความดี (แก่นแ

แบบงา่ ยได้สื่อสารอย่างสร้างสรรคเ์ พอื่ การอยู่ และความงาม (อารมณ์ สนุ ทร

ร่วมกนั ในสงั คมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบของการ แบบง่ายได้

ส่อื สารรูผ้ ลกระทบของสื่อประเมนิ คณุ ค่าและ

จริยธรรมในการส่อื สารผา่ นส่อื ประเภทต่าง ๆ

มจี ดุ มงุ่ หมายในการส่อื สาร การผลติ ส่อื และ

ออกแบบการสอ่ื สาร เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่

ตนเอง ตอ่ กลุ่ม และต่อสังคม

7 รบั และส่งสารผา่ นสอ่ื ทห่ี ลากหลายโดยปราศจาก - รับสารผ่านสือ่ ทหี่ ลากหลายโด

อคติ สรุปประเด็น ตคี วาม วเิ คราะห์ และประเมิน ปราศจากอคติ แลว้ สามารถส

คุณคา่ ในมติ คิ วามจริง ความดี ความงาม ท่มี ีความ ตคี วาม วเิ คราะห์ และประเมนิ

ซบั ซ้อนมากข้ึน และเข้าใจกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้องกบั มติ คิ วามจริง ความดีความงาม

การส่ือสาร สามารถออกแบบการสื่อสารทซ่ี ับซ้อน ประโยชน์กบั คนหมมู่ าก หรอื ทท่ี

ไดอ้ ยา่ งมีศลิ ปะและสร้างสรรคใ์ นการสื่อสารมากขึน้ วา่ เปน็ ประโยชน์จรงิ หรอื เป็น

โดยคำนึงถึงประโยชน์ท้ังตอ่ ตนเอง กลุ่ม และสงั คม อุดมการณ์

ของตนเอง ตามจุดมงุ่ หมายท่กี ำหนดไว้

46

ละถอดรหัส พฤตกิ รรมบง่ ชหี้ ลัก ดา้ นการเลือกใช้กลวิธกี ารสอ่ื สาร
ใจ อย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึง
ด้านการรับสง่ สารบนพ้นื ฐาน ความเข้าใจ ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
ดย และความเคารพในความคดิ เหน็
สรุปประเด็น และวฒั นธรรมที่แตกต่าง เพอื่ บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ในการส่อื สาร
มติ คิ วามจริง
แนวคดิ ) - ฟงั แบบ deep listening แบบเบือ้ งตน้ - ประเมนิ คณุ คา่ และตระหนักถึงผลกระทบ
รยี ะ) เพ่ือความเข้าใจท่ีมีต่อผู้ทส่ี อื่ สารด้วย ของสื่อ
- ตระหนักถงึ ความสำคัญของการสื่อสาร - มจี ริยธรรมในการสื่อสารผ่านสอ่ื ประเภท
เพ่ือการอยูร่ ว่ มกันในสงั คมและ ตา่ ง ๆ
วฒั นธรรมท่ีมคี วามหลากหลาย - กำหนดจุดมุ่งหมายในการส่ือสาร การผลติ
- ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของการสอ่ื สาร สื่อ และสามารถออกแบบการสอ่ื สารทั้ง
ท่ีสรา้ งความขัดแยง้ และใชป้ ระทุษวาจา ภาษา ภาพ เสยี ง ท่าทาง เพอ่ื ให้เกิด
(hate speech) ประโยชนท์ งั้ ตอ่ ตนเอง ต่อกลมุ่ และ
ต่อสงั คม

ดย - ฟังแบบ deep listening ในระยะเวลา - วิเคราะห์ วพิ ากษ์การทำงานของส่อื กบั
สรุปประเด็น ท่ีนานข้ึน การสรา้ งผลกระทบตอ่ สงั คมในเชงิ ลึกได้
นคณุ คา่ ใน - เคารพความคดิ เหน็ ท่แี ตกตา่ งของบคุ คล - ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ งกับ
ทเ่ี กดิ ในสังคมทห่ี ลากหลาย การสอ่ื สาร
ทดสอบได้ - ส่อื สารโดยปราศจากอคตคิ ำนึงถึงใจเขา - กำหนดจุดมุ่งหมายในการส่อื สาร ผลติ
นไปตาม ใจเรา คำนึงถึงความแตกตา่ งในสังคม สอ่ื และสามารถออกแบบการสอื่ สาร
ทัง้ ภาษา ภาพ เสียง ท่าทางทีซ่ บั ซ้อน ได้
ทห่ี ลากหลาย อยา่ งมีศิลปะ และสร้างสรรค์ในการ
สือ่ สารมากขึน้ เพ่อื ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อ
ตนเอง กลุม่ และสงั คมของตนเอง

ระดับ คำนิยามบรรยายระดบั ดา้ นการรบั สารอย่างมสี ติแล
เพ่อื ให้เกดิ ความเขา้ ใ

8 รบั และสง่ สารทมี่ คี วามซบั ซ้อนผา่ นส่ือทหี่ ลากหลาย - รับสารผ่านสือ่ ทห่ี ลากหลาย โ

โดยปราศจากอคติ ตีความ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ ปราศจากอคติ แล้วสามารถต

จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ย ประเมนิ คณุ คา่ ของสารทเี่ กิด วิเคราะห์ วิพากษจ์ ดุ เด่น จดุ ด

ประโยชน์กบั คนหม่มู าก หรือท่ีทดสอบไดว้ า่ เปน็ ประเมินคณุ ค่าของสารทเ่ี กดิ ป

ประโยชน์จรงิ หรอื ทเ่ี ปน็ ไปตามอดุ มการณ์ สอ่ื สาร กับคนหมู่มากหรือที่ทดสอบไดว้

ทางบวก ผลิตสอื่ ที่ใชเ้ ทคโนโลยีการสือ่ สารที่ซับซอ้ น ประโยชน์จริง หรือที่เป็นไปตาม

ได้ โดยคำนึงถึงกฎหมายที่เก่ียวข้อง และสามารถ

ออกแบบการส่ือสารผา่ นสอ่ื หลากหลายประเภทได้

อย่างเหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมายท่ีต้องการ คำนึงถึง

สิทธิและประโยชน์ของสว่ นรวมและมคี วาม

รบั ผิดชอบต่อสงั คม

9 รับและส่งสารท่ีมคี วามซบั ซ้อนและมนี ัยแฝงผ่าน - รับสารท่ีมคี วามซับซ้อนและม

ส่ือท่หี ลากหลาย โดยปราศจากอคติ ตีความ ผ่านส่อื ท่ีหลากหลายแลว้ สาม

วเิ คราะห์ วิพากษ์ จุดเดน่ จุดด้อย ประเมนิ คณุ คา่ วิเคราะห์ วิพากษ์ จดุ เด่น จุด

ของสารน้นั ไดล้ ึกขึ้น มพี ฤตกิ รรมทางกาย วาจาและ ประเมินคณุ คา่ ของสารทเี่ กิดป

ใจในการส่อื สารกับบคุ คลท่ีมคี วามตา่ งอย่างเหน็ อก กับคนหมู่มากหรือที่ทดสอบได

เห็นใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รู้สึกร่วมและเข้าใจ ประโยชนจ์ ริงหรือท่เี ปน็ ไปตา

ความรสู้ กึ ตอ่ บุคคลทมี่ คี วามตา่ งจากตนเอง อุดมการณไ์ ดล้ กึ ขน้ึ

มกี ลยุทธ์ในการผลติ สอื่ และสือ่ สารผา่ นสอ่ื

หลากหลายประเภทได้อย่างมศี ิลปะ และมพี ลัง

ดว้ ยความรบั ผิดชอบต่อสังคม

(Social Responsibility)

47

พฤตกิ รรมบง่ ช้หี ลกั

ละถอดรหสั ด้านการรับส่งสารบนพืน้ ฐาน ความเข้าใจ ดา้ นการเลือกใช้กลวธิ กี ารสื่อสาร
ใจ และความเคารพในความคิดเหน็ อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ
และวฒั นธรรมท่ีแตกตา่ ง ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม

โดย - ฟงั แบบ deep listening อย่างมีสติ เพอื่ บรรลวุ ตั ถุประสงค์ในการส่อื สาร
ตีความ - เคารพความคดิ เหน็ ทีแ่ ตกตา่ งของบคุ คล
ดอ้ ย รวมท้งั ในสงั คมทหี่ ลากหลาย - ผลติ สอื่ ทีใ่ ชเ้ ทคโนโลยีการส่ือสารท่ซี ับซ้อน
ประโยชน์ - สอ่ื สารโดยปราศจากอคติ และใชก้ าร ได้
วา่ เป็น ส่ือสารทางบวก - ออกแบบการสือ่ สารผา่ นสอื่ หลากหลาย
มอุดมการณ์ ประเภท ใหเ้ หมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย
โดยคำนงึ ถึงสทิ ธิและประโยชน์ของ
ส่วนรวมและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม

มีนยั แฝง - ส่อื สารกบั บุคคลทมี่ คี วามต่างอยา่ งเห็น - วางแผนและออกแบบการสื่อสารผา่ นสื่อ
มารถตีความ อกเหน็ ใจได้อย่างเหมาะสม รสู้ กึ รว่ มและ หลากหลายประเภทได้อย่างมีศิลปะ และ
ดดอ้ ย เขา้ ใจความรสู้ ึกตอ่ บคุ คลที่มีความตา่ งจาก มีพลงั ในการสรา้ งประโยชน์แก่สังคม
ประโยชน์ ตนเองได้
ดว้ ่าเปน็
าม

ระดบั คำนยิ ามบรรยายระดบั ดา้ นการรบั สารอยา่ งมีสติแล
เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใ

10 รับและสง่ สารผ่านสอื่ ทห่ี ลากหลายรูปแบบและ - รับสารผา่ นสื่อทีห่ ลากหลายร

มีความซับซอ้ นหรอื มนี ยั มากข้ึน เข้าใจ วเิ คราะห์ และมคี วามซับซอ้ นหรอื มนี ยั ม

วพิ ากษ์ และนำสารที่ไดร้ ับไปใช้ประโยชน์เพื่อการ แล้วสามารถเขา้ ใจ วิเคราะห์ ว

พฒั นาตนเอง ชมุ ชน หรอื สังคมได้ ใชก้ ลยทุ ธ์ และนำสารทีไ่ ด้ไปใช้ประโยชน์เ

ในการผลติ ส่อื และส่ือสารไดอ้ ยา่ งมีสตแิ ละ พฒั นาตนเอง ชมุ ชน หรือสังค

วจิ ารณญาณ และรู้สึกรว่ มและเข้าใจความรู้สึก ที่ทดสอบได้วา่ เป็นประโยชน์จ

(Empathy) เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจ โดยคำนงึ ถงึ ทเี่ ป็นไปตามอุดมการณ์

ความแตกต่างในทุกมติ ดิ ว้ ยความรบั ผิดชอบตอ่

สังคมและการสรา้ งสงั คมทีพ่ ฒั นาอยา่ งยงั่ ยืน

48

ละถอดรหสั พฤตกิ รรมบง่ ชี้หลกั ด้านการเลือกใชก้ ลวิธกี ารส่อื สาร
ใจ อยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึง
ดา้ นการรับส่งสารบนพื้นฐาน ความเข้าใจ ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
รปู แบบ และความเคารพในความคิดเหน็
มากข้นึ และวฒั นธรรมที่แตกตา่ ง เพื่อบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ในการสือ่ สาร
วพิ ากษ์
เพือ่ การ - สื่อสารอย่างมสี ติ ใช้ Deep Listening - ร้เู ทา่ ทนั ส่ือ รูจ้ ักเลอื กใชแ้ ละผลติ สื่อ
คมได้ หรือ ในชีวติ ประจำวัน และสามารถใชก้ าร และกลวธิ กี ารสื่อสารทห่ี ลากหลาย
จรงิ หรอื สอ่ื สารเพ่ือสรา้ งความเข้าใจ ใชก้ ารสอ่ื สารเพอื่ สร้างสงั คมทีพ่ ัฒนา
อยา่ งยง่ั ยนื
- ใชก้ ลยทุ ธ์ในการผลิตสื่อและส่ือสาร
ไดอ้ ยา่ งมีสติและวจิ ารณญาณเพอื่ สรา้ ง
ความเข้าใจโดยคำนึงถงึ ความแตกต่าง
ในทกุ มติ ิด้วยความรบั ผิดชอบต่อสังคม
และการสร้างสงั คมท่พี ฒั นาอยา่ งย่งั ยืน

พฤติกรรมบ่งชหี้ ลักตามระดับสมร

ระดบั คำนิยามบรรยายระดบั ดา้ นการเปน็ สมาชกิ ทีมทดี่ ี

และมภี าวะผนู้ ำ

1 รบั รู้บทบาทหน้าทขี่ องตนเอง ทำกจิ กรรม - รบั ร้วู ่าตนเองเป็นส่วนหน่ึงของทีม

ร่วมกบั ผอู้ ืน่ ไดต้ ามคำแนะนำ ขอ้ ตกลง กฎ ทต่ี ้องทำงานรว่ มกนั ให้สำเร็จ

กติกา และแสดงออกอย่างเหมาะสมใน - รบู้ ทบาทและหน้าที่ของตนเอง ปฏ

สถานการณต์ า่ ง ๆ ตามคำชี้แนะ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายให้บรรลผุ ลส

โดยไดร้ บั การชแี้ นะ

2 รู้และรบั ผดิ ชอบในบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง - ปฏบิ ัติตามภาระงานของทีมและระบ

ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ของทมี เมื่อไดร้ บั การ ของตนเองในการทำงานตามหนา้ ท

ชแี้ นะ เพ่อื สนับสนนุ การทำกจิ กรรมร่วมกับ บทบาทความรับผดิ ชอบได้

ผู้อ่ืนให้บรรลผุ ลสำเรจ็ สามารถรบั รู้ - รบั ผิดชอบและปฏบิ ตั ติ ามบทบาทห

ความรสู้ ึกของผอู้ ืน่ และตอบสนองต่อ ของตนเอง และเข้าใจในบทบาทหน

สถานการณต์ ่าง ๆ ตามคำแนะนำ ทแี่ ตกตา่ งกันของสมาชิกทีม

3 มีความรบั ผดิ ชอบและใชจ้ ดุ เดน่ ของตนเอง - รคู้ วามสามารถของตน และใช้จดุ เด

ในการทำงาน เปน็ สมาชกิ ทีมทมี่ สี ว่ นร่วมใน ของตนในการทำงาน รบั ผิดชอบตา

การตดั สินใจ การกำหนดเป้าหมาย การ หนา้ ท่แี ละบทบาทที่ไดร้ บั มอบหมา

สรา้ งขอ้ ตกลง และการทำงานของทีม

แสดงออกถงึ ความเข้าใจตอ่ เพ่ือนในทมี ด้วย

ความเป็นมติ รตามคำแนะนำ

4 เป็นสมาชิกทีมท่รี บั ผิดชอบต่อบทบาท - รบั ผดิ ชอบบทบาทของตนเองอย่าง

และงานตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายทง้ั ของตนเอง ความสามารถ และชว่ ยเหลอื เพอื่ น

และช่วยเหลอื เพอื่ นในทีม ปฏิบัตติ อ่ ผอู้ ื่น ได้

อย่างเปน็ มติ ร

49

รรถนะการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม

ฏิบัติงาน พฤตกิ รรมบง่ ช้ีหลัก ด้านการสรา้ งความสมั พันธ์
สำเรจ็ ได้ ดา้ นกระบวนการทำงาน และจัดการความขัดแยง้
แบบร่วมมือรวมพลัง
บจุ ดุ เดน่ - ปฏิบัติตามคำแนะนำ ข้อตกลง กฎ กตกิ า - แนะนำตนเองกบั เพ่ือนได้ บอกสง่ิ ทตี่ นเอง
ท่แี ละ ในการทำงานเปน็ ทมี หรือทำกิจกรรม ทำได้ดี และสงิ่ ทจ่ี ะช่วยเพ่ือนในทมี ได้
รว่ มกับทีมได้ - รบั รู้ความรสู้ ึกของตนเองและผู้อนื่ แสดง
หน้าท่ี พฤตกิ รรมเชงิ บวกเมอ่ื เกดิ ความขัดแยง้
น้าที่ - ปฏบิ ัติตามข้นั ตอน และขอ้ ตกลง กฎ หรือ เช่น การไมใ่ ช้ความรุนแรง ไม่มุ่งเอาชนะ
กตกิ า เพ่ือไปสูเ่ ปา้ หมาย การขอโทษ ขอบคณุ การให้อภยั ฯลฯ โดย
- รเู้ ปา้ หมายของทมี และช่วยเหลอื ไดร้ ับการชี้แนะอยา่ งใกลช้ ิด
สนบั สนุนทมี ในการทำกิจกรรมเพื่อให้
บรรลตุ ามเปา้ หมาย - ทักทายและพูดคยุ ทำความรู้จักเพ่ือนในทีม
- รับรคู้ วามรู้สึกของตนเองและผอู้ นื่ แสดง
พฤตกิ รรมเชิงบวกเม่ือเกดิ ความขัดแย้ง
อยา่ งเหมาะสมตามคำแนะนำ

ด่น - รว่ มตดั สนิ ใจ กำหนดเป้าหมายและ - แสดงความสนใจ ใสใ่ จ และห่วงใยเพ่ือน

าม ข้อตกลง การทำงานร่วมกันของทีม ในทีม

ายได้ รวมถึงรบั รู้ เปา้ หมายและข้อตกลงน้นั ๆ - รบั รู้และเข้าใจความรู้สึกของตนเอง และ

- มีสว่ นร่วมทำงานกบั ผอู้ นื่ สนับสนนุ ผอู้ นื่ แสดงพฤติกรรมเชงิ บวกเมอื่ เกิดความ

และรับผิดชอบต่อการตดั สินใจรว่ มกัน ขดั แย้งอยา่ งเหมาะสมตามคำแนะนำ

งเตม็ - ทำงานร่วมกบั ทีมในการรบั ฟงั แลกเปลย่ี น - พูดหรอื แสดงตอ่ ผอู้ ่ืนในเชิงบวก
นในทมี แสดงความคิดเหน็ เพ่อื หาทางเลอื กและ - แกไ้ ขความขัดแย้งเชิงบวก โดยใช้เหตุและผล

รว่ มตดั สนิ ใจแก้ปัญหากบั ทมี ได้

ระดับ คำนิยามบรรยายระดับ ด้านการเปน็ สมาชกิ ทมี ทีด่ ี

และมีภาวะผนู้ ำ

5 เป็นสมาชกิ ท่ีรเิ ร่ิมกำหนดเปา้ หมาย วธิ กี าร - ใชจ้ ุดเดน่ ของตนเองและสมาชกิ ในกา

ทำงานของทมี สะท้อนการทำงานของตนเอง เปน็ ทมี ในภาระงานท่ีแตกต่าง สะท

แสดงความคดิ เห็น และสนบั สนุนการทำงาน ทำงานของตนเอง พรอ้ มท่ีจะปรบั เปล

ของสมาชกิ ในทีมใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย หน้าทแ่ี ละบทบาท ชกั จงู ใหส้ มาชกิ

ทำงานใหส้ ำเรจ็ เพ่อื ใหง้ านบรรลเุ ป

- กล้าแสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง แ

รบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื

6 เป็นผนู้ ำตนเอง มีส่วนรว่ มในการตดั สนิ ใจ - สะทอ้ นการทำงานของตนและทมี ต

และการทำงานเพอ่ื ให้บรรลเุ ปา้ หมายของทีม ความเปน็ จริง เพอื่ หาจุดเดน่ และจุด

สามารถสะทอ้ นผลการทำงานของทมี และ ในการสนับสนนุ การทำงานของทีม

ใหค้ วามคิดเหน็ โดยตระหนกั ถงึ เปา้ หมาย - สรา้ งแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง

และสมั พันธภาพเชงิ บวกของทมี

7 เปน็ ผู้นำตนเอง สร้างการมสี ว่ นร่วม - ใช้ทกั ษะการทำงานเป็นทีมในการด

ในการตัดสนิ ใจและกระบวนการทำงาน ศักยภาพของสมาชิกในการทำงาน

มีวิธีการทำงานท่โี ปรง่ ใสตรวจสอบได้ ใหบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ สะท้อนการทำงา

สรา้ งสมั พนั ธภาพเชิงบวก และจดั การ และใหข้ อ้ เสนอแนะต่อสมาชิกทมี แ

ความขดั แย้งดว้ ยความเข้าใจและยอมรับ สรา้ งแรงบนั ดาลใจให้กันและกนั ใน

ความแตกต่าง ความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ทำงาน

โดยไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ เห็นคณุ ค่าของทกุ คน - เป็นผนู้ ำตนเองและเปน็ สมาชิกทดี่ ีข

ในทีมอย่างเทา่ เทยี มกนั มแี รงบนั ดาลใจในการพัฒนาตนเอง

ท่ีไว้วางใจ

50

พฤตกิ รรมบง่ ชหี้ ลกั

ด้านกระบวนการทำงาน ดา้ นการสร้างความสมั พนั ธ์
แบบร่วมมอื รวมพลงั และจัดการความขัดแยง้

ารทำงาน - รว่ มกำหนดเปา้ หมายของทมี รบั รู้ รบั ผดิ ชอบ - เข้าใจและยอมรับความสามารถของ
ทอ้ นการ เป้าหมายนัน้ และเหน็ ความเชือ่ มโยงของ สมาชิกทีมที่แตกตา่ งกัน

ล่ยี น หน้าทต่ี นเองกบั เปา้ หมายของทีม - มที ักษะพ้ืนฐานการแกไ้ ขความขดั แย้ง เช่น
กทีม - ร่วมวางแผนขัน้ ตอนในการทำงานไปสู่ การสรา้ งความเขา้ ใจปญั หา ปฏเิ สธการใช้
ปา้ หมาย เป้าหมาย การแบง่ บทบาทหนา้ ที่ และ ความรนุ แรง มงุ่ เนน้ ประเดน็ ปญั หา
และ การตัดสินใจรว่ มกนั ในทีมได้ มากกว่าตัวบคุ คล ไมม่ ุ่งเอาชนะกนั แต่

สรา้ งความรว่ มมอื กนั การเขา้ ใจผู้อนื่ เปน็ ต้น

ตาม - รว่ มกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงาน - ไว้วางใจและสง่ เสริมสนบั สนุนซ่ึงกันและกัน

ดพัฒนา เปน็ ทีม ลงมือปฏิบตั ิ ทบทวน ประเมนิ ผล - ใช้ทกั ษะพน้ื ฐานในการป้องกนั และแก้ไข

ม และปรบั ปรงุ การทำงานร่วมกนั ความขัดแย้งในการทำงานเปน็ ทมี

- เขา้ ใจกระบวนการทำงานเปน็ ทมี อยา่ งเป็น - เข้าใจและยอมรบั ความแตกต่าง และ
องค์รวมและปรบั บทบาทและหนา้ ท่ขี อง รับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่ืน
ตนเองให้เหมาะสมกบั สถานการณ์เพ่ือให้
บรรลเุ ปา้ หมายของทีม

ดงึ - สนับสนนุ ด้านข้อมลู สง่ เสรมิ กระบวนการ - มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงานร่วมกบั ผู้อื่น
ทำงานทใี่ หส้ มาชกิ ทกุ คนมคี วามรบั ผิดชอบ ช่นื ชม และเห็นความทุ่มเทพยายามในการ

าน ตอ่ บทบาทหน้าที่ของตนเองอยา่ งเตม็ ทำงานของสมาชิกทมี โดยไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ

และ ความสามารถ - ใชว้ ธิ กี ารท่ีเหมาะสมกับบคุ คลและ

นการ - ทำงานรว่ มกับทีมด้วยกระบวนการทำงาน สถานการณ์ เพื่อสร้างและรักษา
ท่ีเปน็ ระบบ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ความสัมพันธท์ ่ีดีกับผู้อ่นื

ของทมี - จดั การความขดั แย้งอย่างเป็นระบบ
งให้เป็น เหน็ ประโยชนจ์ ากความแตกต่างทาง
ความคดิ รว่ มกนั ตดั สินใจโดยคำนึงถงึ
ประโยชนข์ องส่วนรวม

ระดับ คำนยิ ามบรรยายระดับ ดา้ นการเป็นสมาชกิ ทีมที่ดี

และมภี าวะผนู้ ำ

8 มีภาวะผนู้ ำ ใช้ทักษะการคดิ ขน้ั สูง เพอ่ื - เป็นผนู้ ำและเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องทีม

มองเห็นภาพความสำเร็จ ตดั สินใจและ แสดงออกไดอ้ ย่างเหมาะสม มีแรงบ

ทำงานอยา่ งมีสว่ นร่วม เพอ่ื ขับเคลอื่ นทมี ให้ และสามารถวางแผนในการพฒั นาต

บรรลเุ ปา้ หมายด้วยกระบวนการทำงาน อยา่ งตอ่ เนื่อง จนไดร้ บั ความไว้วาง

ทโ่ี ปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทง้ั รักษา ยอมรบั จากสมาชกิ ทมี

สัมพันธภาพเชิงบวกในทีม - กระตุ้นและส่งเสรมิ ให้ทีมนำจุดเดน่

แต่ละคนมาใชใ้ นการทำงานใหบ้ รร

สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย

9 มีภาวะผ้นู ำ เสริมสรา้ งความสัมพนั ธ์ - มภี าวะผ้นู ำ ช่วยเหลอื สมาชกิ ทีมให

เชงิ บวกและคุณคา่ ของการรวมพลงั ทำงาน เป้าหมาย กระบวนการทำงาน และ

เป็นทมี มคี วามสามารถในการประสาน แผนการดำเนนิ งานท้งั ระบบ

ความคดิ เหน็ ทแี่ ตกตา่ ง และทำงานด้วย - มคี วามยดื หย่นุ สามารถทำงานรว่ มก

ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถ คนที่แตกตา่ ง ทำงานประสานความ

จดั การความขัดแย้งได้ กันภายในทมี และระหว่างทีม

51

พฤตกิ รรมบง่ ชหี้ ลกั

ดา้ นกระบวนการทำงาน ดา้ นการสร้างความสมั พันธ์
แบบรว่ มมือรวมพลงั และจัดการความขัดแยง้

ม - ประยกุ ต์ใช้ทกั ษะการคดิ ขน้ั สงู ในการ - ปฏิบัติตนตอ่ สมาชิกทีมดว้ ยความจริงใจ
บนั ดาลใจ บรหิ ารจดั การทีมในภาพรวม ตระหนักรถู้ ึง เคารพ เห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่นื ในฐานะทเ่ี ป็น

ตนเอง ความเชื่อมโยงขององคป์ ระกอบต่าง ๆ มนุษย์ด้วยกนั และให้ความเปน็ ธรรมต่อ
งใจและ เพ่ือขับเคลื่อนการทำงาน โดยคำนึงถึง ทกุ ฝ่าย
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ - จัดการความขดั แย้งอยา่ งเป็นระบบ
นของ - เหน็ ภาพความสำเรจ็ ของทีม ใหค้ วามร่วมมอื เหน็ ประโยชน์จากความแตกต่าง

รลผุ ล ในการทำงานเป็นทีมดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ ทางความคิด ร่วมกันตดั สินใจโดยคำนงึ ถงึ

อย่างสดุ ความสามารถ แลกเปลยี่ นขอ้ มลู ประโยชน์ของส่วนรวม และมีการทบทวน

และทรัพยากรท่ีจำเปน็ ตลอดจนรว่ ม ประเมนิ ผลทเ่ี กดิ ข้นึ

ตัดสนิ ใจกบั ทมี โดยคำนึงถงึ ประโยชนข์ อง

ทีมก่อนประโยชนส์ ว่ นตน

ห้เขา้ ใจ - ใช้กระบวนการทำงานท่ใี ห้ผู้ทเ่ี กย่ี วข้องมี - สามารถจดั การความขัดแยง้ ในสถานการณ์

ะ สว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมาย วางแผน ท่ีซบั ซ้อน

และการทำงานรว่ มกนั ด้วยความโปร่งใส - ยกยอ่ งและแสดงความยนิ ดีกับความสำเรจ็

กบั กล่มุ และตรวจสอบได้ ของสมาชกิ ดว้ ยความจรงิ ใจ

มรว่ มมือ - เลอื กใชว้ ิธีการตัดสินใจเปน็ ทมี ทเี่ หมาะสม

กับสถานการณด์ ้วยการประสานความคดิ เห็น

ที่แตกต่าง โดยคำนึงถงึ ความต้องการและ

ผลกระทบทจี่ ะเกดิ ขึ้นตอ่ สมาชิกในทีมและ

บคุ คลอนื่ ทเ่ี กย่ี วข้อง

ระดบั คำนิยามบรรยายระดบั ด้านการเป็นสมาชกิ ทีมที่ดี

และมีภาวะผนู้ ำ

10 มีคุณลักษณะของผู้ที่สรา้ งการเปลย่ี นแปลง - เป็นตน้ แบบของผ้สู รา้ งการเปล่ียนแ

และเหน็ คณุ ค่าของทกุ คนอยา่ งเทา่ เทยี มกัน ท่ีใชภ้ าวะผู้นำไดอ้ ย่างเหมาะสมกับ

กระตนุ้ สร้างแรงบนั ดาลใจ และยกระดบั สถานการณ์ มแี รงบนั ดาลใจในการ

การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี เพอื่ ขับเคลอื่ น ตนเองอยา่ งต่อเน่ือง สร้างแรงจงู ใจ

สูเ่ ป้าหมายความสำเร็จของทีม เกดิ การเปลีย่ นแปลงท้งั แนวคดิ แล

กระบวนการทำงาน

52

แปลง พฤติกรรมบง่ ชี้หลกั ด้านการสรา้ งความสัมพันธ์
บ และจดั การความขัดแย้ง
รพัฒนา ด้านกระบวนการทำงาน
จให้ทมี แบบร่วมมอื รวมพลัง - ปฏิบตั ติ ่อทุกคนโดยเสมอภาค และ
ละ เทา่ เทยี มกัน
- มที ศั นคติเชงิ บวกตอ่ การทำงานเปน็ ทีม - กล้าขจดั อคติและความกลวั สกู่ ารสร้างสรรค์
และสนับสนุนใหเ้ กิดบรรยากาศการทำงาน แนวทางใหมใ่ นการแกป้ ัญหาความขัดแยง้
ร่วมกนั เพ่ือสร้างวัฒนธรรมการรว่ มมือรวม - บรหิ ารความสมั พนั ธอ์ ย่างเปน็ องค์รวม
พลงั สร้างแรงบนั ดาลใจ และยกระดบั
- รักษาสัมพันธภาพของทมี ในบรบิ ทและ ประสทิ ธผิ ลของการทำงานเปน็ ทีมใน
สถานการณ์ทม่ี ีการเปลีย่ นแปลง รวมถึง บรบิ ทที่แตกต่างกัน
ความแตกต่างภายในทีม และใช้
กระบวนการทำงานทีห่ ลากหลายและ
เหมาะสมกบั สถานการณ์น้ัน ๆ เพ่อื
ขบั เคลอ่ื นทมี สเู่ ปา้ หมายดว้ ยความโปรง่ ใส
และตรวจสอบได้
- รว่ มรับผดิ รบั ชอบต่อผลการกระทำของ
ตนเองและสมาชกิ ในทมี ตระหนกั ว่า
ความสำเร็จและความล้มเหลวเป็นผลจาก
การทำงานรว่ มกนั ของสมาชิกทกุ คนในทีม

พฤตกิ รรมบ่งชหี้ ลักตามระ

ระดับ คำนิยาม ดา้ นการคิด ดา้ นกา
บรรยายระดับ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
ระบปุ ัจจยั ทเี่
1 ระบปุ ัญหาอยา่ งงา่ ยและไมซ่ บั ซอ้ น ระบคุ ำกลา่ วอา้ งจาก ไดช้ ดั เจนในระ
เสนอความคดิ อสิ ระ คดิ คลอ่ ง เสนอ สถานการณ์ พรอ้ มระบเุ หตผุ ล ทไ่ี ม่ซบั ซ้อน
ทางเลือกในการแก้ปัญหาและตดั สนิ ใจ ของการเลือกคำกลา่ วอา้ งนั้น ความสัมพันธ
เลือกคำตอบเพยี งคำตอบเดียวพรอ้ ม
ระบเุ หตุผลของการเลือกคำตอบนนั้

2 ระบุปญั หาอย่างงา่ ยและไมซ่ ับซอ้ น ระบคุ ำกล่าวอา้ งท่ีหลากหลาย ระบปุ จั จยั ทเ่ี
รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ท่เี กี่ยวข้องกบั จากสถานการณแ์ ละตดั สนิ ใจ ได้ชดั เจนในระ
ปัญหา โดยสามารถระบคุ วามสมั พันธ์ เลอื กคำกลา่ วอ้างเพยี งคำกลา่ ว ท่ไี มซ่ บั ซอ้ น
ของปจั จยั ต่าง ๆ สามารถผลิตชิ้นงาน อ้างเดยี ว พรอ้ มประเมินความ ความสมั พันธข์
ตามจินตนาการในรปู แบบท่แี ตกตา่ ง เหมาะสมของคำกลา่ วอา้ ง ท่ีเหน็ ได้ชัดได
จากต้นแบบภายใต้เงื่อนไขงา่ ย ๆ ได้ เสนอ ด้วยการแสดงหลกั ฐานเชงิ
ความคดิ หาคำตอบไดห้ ลายประเภทและ ประจกั ษ์
หลายทิศทางและตดั สินใจเลือกคำตอบ
เพยี งคำตอบเดยี ว พร้อมประเมนิ ความ
เหมาะสมของคำตอบ

3 ระบุปญั หาอย่างง่ายและไมซ่ ับซอ้ น ระบคุ ำกลา่ วอ้างทีห่ ลากหลาย ระบปุ จั จยั ที่เ
รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดที่เกีย่ วขอ้ งกบั จากสถานการณแ์ ละตดั สนิ ใจ ได้ชัดเจนในร
ปญั หาโดยคำนงึ ถงึ ความเหมาะสมของ เลอื กคำกลา่ วอา้ งเพยี งคำกลา่ ว ท่ไี ม่ซบั ซอ้ น
การออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา หรอื อา้ งเดยี ว พร้อมประเมินความ ความสมั พันธ
ใช้การดดั แปลงจากความคดิ เดิมและ เหมาะสมของคำกลา่ วอา้ ง

53

ะดับสมรรถนะการคิดขน้ั สงู

พฤติกรรมบ่งชีห้ ลัก

ารคดิ เชงิ ระบบ ดา้ นการคดิ สรา้ งสรรค์ ด้านการคิดแก้ปัญหา

เกยี่ วขอ้ งทเ่ี หน็ เสนอความคิดอสิ ระ คดิ คล่องแคล่ว ระบุปญั หาอย่างงา่ ย นยิ ามปัญหา
ะบบหรือสถานการณ์ รวดเร็วไดป้ รมิ าณมากในเวลา รวบรวมข้อมลู และแนวคิด
โดยไม่สามารถระบุ ท่จี ำกัดผลิตผลงานออกมา โดยท่ี ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับปญั หา ออกแบบ
ธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ได้ งานนัน้ ยังอาศัยต้นแบบ เสนอ วธิ ีการแกป้ ญั หา เสนอทางเลือก
ความคิดหลายประเภทไดบ้ ้าง ให้ ในการแก้ปัญหา และดำเนนิ การ
เกย่ี วข้องท่เี ห็น รายละเอยี ดของงานหรือความคดิ แกป้ ญั หา
ะบบหรือสถานการณ์ อยา่ งงา่ ยได้
โดยสามารถระบุ ตั้งคำถามบางคำถามเพื่อระบุ
ของปจั จยั ตา่ ง ๆ - ผลิตช้ินงานตามจินตนาการภายใต้ ปัญหาอยา่ งงาย นยิ ามปญั หา
ด้ เง่ือนไขง่าย ๆ ได้ บางปัญหา รวบรวมข้อมูลและ
- ผลิตชิ้นงานในรูปแบบทแ่ี ตกต่าง แนวคดิ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา
กับตน้ แบบ หาคำตอบได้หลาย ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เสนอ
ประเภทและหลายทศิ ทางจาก ทางเลือกในการแกป้ ญั หา และ
ส่งิ ของหรือสถานการณ์ในชวี ติ ดำเนินการแกป้ ญั หา
ประจำวนั ทค่ี ุ้นเคยในเวลาจำกดั

เกี่ยวขอ้ งทีเ่ หน็ ทำผลงานที่เปน็ ชิ้นงานหรือวธิ กี าร ต้ังคำถามทุกคำถามเพื่อระบุ
ปัญหาอยา่ งงา่ ย นยิ ามปญั หา
ระบบหรอื สถานการณ์ เพอ่ื แก้ปัญหาอย่างงา่ ยและ ในชมุ ชนหรือท้องถ่ินได้ รวบรวม
ข้อมลู และแนวคิดทีเ่ ก่ียวข้องกับ
โดยสามารถระบุ ไมซ่ ับซ้อนโดยใช้การดดั แปลงจาก ปัญหา โดยคำนงึ ถงึ ความเหมาะสม

ธข์ องปจั จยั ตา่ ง ๆ ความคิดเดิม มีการคิดหาวธิ กี าร

แกป้ ญั หาไดเ้ พียง 1 วธิ ี ตามกรอบ

ระดับ คำนยิ าม ด้านการคิด ด้านกา
บรรยายระดบั อย่างมีวิจารณญาณ

สามารถระบคุ วามสมั พันธ์ของปัจจยั ตา่ ง ๆ พรอ้ มแสดงการแปล ท่ีเหน็ ได้ชดั แ

สามารถพฒั นาชิน้ งานหรือวธิ ีการโดยใช้ ความหมายขอ้ มลู และ ผลลพั ธข์ องร

ความคดิ ท่ีแปลกใหมท่ ไ่ี ม่ซำ้ ใครและ หลักฐานเชิงประจักษ์ ตามขอ้ เทจ็ จร

สามารถบอกผลลัพธต์ ามขอ้ เทจ็ จริง

ประเมินความเหมาะสมของคำตอบและ

แสดงการแปลความหมายข้อมลู ดว้ ย

หลักฐานเชิงประจกั ษ์

4 ระบุปัญหาหรือสถานการณ์อยา่ งง่าย ระบุคำกลา่ วอ้างที่หลากหลาย ระบปุ จั จยั ที่เ

และไม่ซบั ซอ้ น วิเคราะหแ์ ละจดั ลำดบั จากสถานการณ์ท่ไี มซ่ ับซอ้ น สถานการณ์ไ

สาเหตุของปัญหา โดยสามารถรวบรวม และตดั สินใจเลือกคำตอบ รวบรวมปจั จ

ปจั จัยอน่ื ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับปัญหาหรอื เพยี งคำกล่าวอ้างเดยี ว พรอ้ ม กบั ระบบหรือ

สถานการณแ์ ละวิเคราะห์ความสมั พันธ์ ประเมินความเหมาะสมของ สามารถเช่ือม

เชงิ เหตุและผลของปัจจัยต่าง ๆ สามารถ คำกลา่ วอา้ งพร้อมแสดงการ กำหนดตัวแป

พฒั นาช้นิ งานหรอื วิธีการโดยใชค้ วามคดิ แปลความหมายขอ้ มลู และ ระบบหรือสถ

ทแี่ ปลกใหมท่ ไี่ มซ่ ้ำใครหรือพัฒนาตอ่ ยอด หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ วเิ คราะหค์ วา

จากของเดิม พร้อมแสดงการแปล ผลของระบบ

ความหมายข้อมลู nและหลักฐานเชิง

ประจกั ษ์

5 ระบุปญั หาหรอื สถานการณ์ ระบุคำกลา่ วอา้ งทห่ี ลากหลาย สามารถวเิ คร

ที่ซบั ซ้อน วเิ คราะหแ์ ละจดั ลำดับสาเหตุ จากสถานการณ์ทซี่ บั ซ้อน และรวบรวมป

ของปัญหา สามารถพัฒนาชิน้ งานหรอื และตดั สินใจเลอื กคำตอบ ทีเ่ กยี่ วข้องกับ

วิธีการโดยใชค้ วามคดิ ท่แี ปลกใหม่ ท่ีไมซ่ ำ้ เพียงคำกล่าวอ้างเดยี ว พรอ้ ม สถานการณ์

54

พฤตกิ รรมบ่งช้ีหลัก

ารคิดเชงิ ระบบ ด้านการคิดสร้างสรรค์ ด้านการคิดแก้ปญั หา

และสามารถบอก เวลา โดยดดั แปลงสิง่ ที่มอี ยู่ หรือ ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา เสนอ
ระบบหรอื สถานการณ์ นำส่ิงอื่นมาทดแทนสิ่งท่ขี าดได้ ให้ ทางเลือกในการแกป้ ัญหาและ
รงิ ท่มี ีได้ รายละเอยี ดของงาน หรอื ความคดิ พรอ้ มทัง้ ระบุขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของ
ได้ และมกี ารตรวจสอบผลงาน ทางเลอื กได้หลายทางเลือก และ
ในเบ้อื งต้น ดำเนนิ การแก้ปญั หา

เกี่ยวข้องในระบบหรือ สรา้ งชน้ิ งานหรอื คดิ หาวธิ กี ารเพ่ือ ตงั้ คำถามเพอ่ื ระบุปญั หา

ได้ และสามารถ แก้ปญั หาด้วยการผสมผสานและ ท่ไี ม่ซับซ้อนได้อยา่ งรวดเรว็

จัยอนื่ ๆ ท่เี กย่ี วข้อง ดดั แปลงจากความคดิ เดมิ มกี ารคิด วเิ คราะหแ์ ละจดั ลำดบั สาเหตขุ อง

อสถานการณ์ โดย หาวธิ กี ารแกป้ ญั หาไดเ้ พียง 1 วธิ ี ปญั หาทสี่ ำคญั นิยามปัญหาโดย

มโยง จดั หมวดหมู่หรอื ในเวลาที่กำหนด การคิดหาวธิ กี าร คำนึงถึงเหมาะสม รวบรวมข้อมลู

ปรทเี่ ก่ียวข้องกบั แก้ปัญหาปัญหาอยา่ งง่ายและ และแนวคดิ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับปญั หา

ถานการณ์ สามารถ ไมซ่ ับซอ้ นใช้การดดั แปลงสง่ิ ท่มี ีอยู่ ที่มผี ลกระทบตอ่ สังคม ออกแบบ

ามสมั พันธเ์ ชงิ เหตแุ ละ หรือนำส่งิ อื่นมาทดแทนส่ิงท่ีขาดได้ วธิ ีการแก้ปัญหา เสนอทางเลือก

บหรือสถานการณ์ได้ ให้รายละเอยี ดของงาน หรือ ในการแก้ปัญหาและระบขุ ้อดแี ละ

ความคดิ ได้ และมกี ารตรวจสอบ ข้อเสียของทางเลือกไดห้ ลาย

ผลงานในเบอื้ งต้น ทางเลือกท่เี ปน็ ไปได้ และมีเหตผุ ล

และดำเนินการแกป้ ญั หาได้หลาย

วิธี

ราะห์ปัจจยั ในระบบ พัฒนาช้นิ งานหรือวิธกี าร เพอื่ ต้ังคำถามเพื่อระบปุ ัญหา

ปจั จยั อนื่ ๆ แกป้ ัญหาทซ่ี บั ซอ้ นดว้ ยการ ทซ่ี ับซอ้ นและมผี ลกระทบ

บระบบหรือ ผสมผสานและดัดแปลงจากความคดิ ต่อสงั คม ประเมินความสำคญั ของ

โดยสามารถเชื่อมโยง เดมิ มีการคดิ หาวธิ ีการแกป้ ัญหาได้ ปัญหา วเิ คราะห์และจดั ลำดบั

ระดบั คำนิยาม ดา้ นการคดิ ดา้ นกา
บรรยายระดบั อย่างมวี จิ ารณญาณ
จัดหมวดหมหู่
ใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิม ระบุ ประเมนิ ความเหมาะสมของ ท่เี ก่ียวข้อง ส
ความสัมพันธ
แบบแผนของพฤติกรรมและองค์รวม คำกลา่ วอ้างพร้อมแสดงการ ระบบหรือสถ
แบบแผนของ
ขององค์ประกอบต่าง ๆ ในปญั หาหรอื แปลความหมายข้อมลู และ รวมขององคป์
ระบบหรือสถ
สถานการณน์ นั้ เพอ่ื สรา้ งแบบจำลอง หลักฐานเชงิ ประจักษ์ และ สร้างแบบจำล

อย่างงา่ ย พร้อมแสดงการแปล สามารถลงขอ้ สรุปได้อยา่ ง

ความหมายข้อมลู และหลกั ฐานเชงิ ถูกตอ้ ง

ประจกั ษ์ และลงข้อสรุปได้อยา่ งถูกต้อง

6 ระบุปัญหาหรอื สถานการณท์ ซ่ี บั ซอ้ น ระบุคำกลา่ วอา้ งที่หลากหลาย สามารถวเิ คร
ระบสุ าเหตุของปัญหา แยกปัญหาเปน็ จากสถานการณ์ทซี่ ับซอ้ นและ และรวบรวมป
ปญั หายอ่ ย ๆ เปรยี บเทยี บแหล่งข้อมูล ตดั สินใจเลือกคำตอบเพยี ง ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั
และขอ้ เทจ็ จริงได้ วิเคราะห์แนวโน้มของ คำกลา่ วอา้ งเดยี ว พรอ้ ม สถานการณ์
การเปลย่ี นแปลงในปญั หาหรอื
สถานการณแ์ ละสร้างแบบจำลองเพอื่ ประเมินความเหมาะสมของ จดั หมวดหมหู่
แสดงโครงสรา้ งของปญั หาหรอื คำกลา่ วอา้ งพรอ้ มแสดงการ เกีย่ วขอ้ ง สา
สถานการณไ์ ด้ พัฒนาชนิ้ งาน วิธีการ แปลความหมายขอ้ มลู และ ความสมั พันธ
หรอื นวตั กรรม โดยใชค้ วามคิด หลกั ฐานเชิงประจกั ษส์ ามารถ ระบบหรือสถ
ทีแ่ ปลกใหม่ทไี่ มซ่ ้ำใครหรอื พฒั นาตอ่ ลงขอ้ สรปุ ได้อยา่ งถูกตอ้ งและ แบบแผนของ
ยอดจากของเดิมให้เหมาะสมตอ่ การใช้ สามารถระบุข้อโต้แย้ง รวมขององค์ป
งานจรงิ แจกแจงรายละเอยี ดของวิธกี าร ในระบบหรอื
แก้ปญั หาหรือขยายความคดิ ได้ โดย เพือ่ วิเคราะห
สามารถลงขอ้ สรปุ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และ เปลยี่ นแปลง
ระบขุ อ้ โตแ้ ยง้ ได้ แบบจำลองอย

55

พฤติกรรมบง่ ชี้หลัก

ารคดิ เชิงระบบ ด้านการคดิ สร้างสรรค์ ด้านการคิดแกป้ ญั หา

หรอื กำหนดตัวแปร มากกวา่ 1 วิธี ในเวลาทีก่ ำหนดการ สาเหตขุ องปัญหาทสี่ ำคญั นิยาม
สามารถวเิ คราะห์ คดิ หาวิธีการแก้ปญั หาใช้การ ปญั หา โดยคำนงึ ถงึ ความเหมาะสม
ธเ์ ชงิ เหตแุ ละผลของ ดัดแปลงสิ่งทมี่ อี ยู่หรือนำส่ิงอื่น รวบรวมข้อมลู และแนวคิด
ถานการณ์ และระบุ มาทดแทนส่ิงทขี่ าดได้ มีการคดิ ทเี่ ก่ียวข้องกับปัญหา โดยคำนงึ ถึง
งพฤติกรรมและองค์ แจกแจงรายละเอยี ดของวธิ กี าร ความถกู ต้องออกแบบวธิ ีการ
ประกอบต่าง ๆ ใน แก้ปัญหาหรือขยายความคดิ ได้บา้ ง แกป้ ญั หา เสนอทางเลอื กในการ
ถานการณน์ น้ั เพอ่ื และมกี ารประเมนิ ผลงานจากเกณฑ์ แก้ปัญหาและระบขุ อ้ ดแี ละขอ้ เสีย
ลองอยา่ งงา่ ยได้ ของทางเลือกไดห้ ลายทางเลอื กท่ี
พฒั นาชิน้ งานหรอื วธิ กี ารเพอื่ เป็นไปได้และมเี หตผุ ล และ
ราะหป์ จั จยั ในระบบ แก้ปญั หาทีซ่ ับซอ้ นดว้ ยความคดิ ดำเนินการแกป้ ญั หา
ปจั จยั อ่นื ๆ ที่แปลกใหม่ มกี ารคดิ หาวิธกี าร
บระบบหรือ แกป้ ัญหาได้มากกวา่ 1 วิธี ในเวลา ระบุปญั หาและสาเหตุของปัญหา
โดยสามารถเช่อื มโยง ทกี่ ำหนด มกี ารคิดหาวธิ กี าร ทซี่ บั ซอ้ นและมผี ลกระทบตอ่
หรอื กำหนดตัวแปรท่ี แก้ปญั หาโดยดดั แปลงสิง่ ทม่ี ีอยู่ สงั คมและประเมินผลกระทบของ
ามารถวิเคราะห์ หรือนำสง่ิ อ่ืนมาทดแทนส่ิงที่ขาดได้ ปัญหาไดส้ ามารถแยกปัญหา
ธ์เชงิ เหตแุ ละผลของ มกี ารคดิ แจกแจงรายละเอยี ดของ ออกเป็นเปน็ ปัญหายอ่ ย ๆ เพื่อ
ถานการณ์ และระบุ วธิ ีการแก้ปัญหาหรือขยายความคดิ จัดการแกป้ ญั หาได้ออกแบบ
งพฤตกิ รรมและองค์ ได้ และมีการประเมนิ ผลงานจาก วิธกี ารแก้ปัญหา เสนอทางเลือก
ประกอบตา่ ง ๆ เกณฑ์ ในการแก้ปญั หาโดยมีเกณฑส์ ำหรบั
อสถานการณ์นั้น เลือกวธิ แี กป้ ญั หาสามารถวาง
หแ์ นวโน้มของการ แผนการปฏบิ ตั ิเพ่อื แกป้ ญั หาและ
งในระบบ และสรา้ ง ใช้กระบวนการตดิ ตามแผนการ
ย่างง่ายได้ แก้ปัญหาเพอื่ การตัดสนิ ใจได้

ระดบั คำนิยาม ด้านการคิด ดา้ นกา
บรรยายระดบั อย่างมีวิจารณญาณ

7 ระบุปญั หาหรอื สถานการณท์ ย่ี ากและ ระบุคำกล่าวอ้างท่ีหลากหลาย สามารถวเิ คร

ซบั ซอ้ น พร้อมเสนอวิธกี ารระบสุ าเหตุ จากสถานการณท์ ่ียากและ และรวบรวมป

ของปญั หา แยกปญั หาเปน็ ปัญหาย่อย ๆ ซบั ซ้อนและตัดสนิ ใจเลือก อ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยว

เปรยี บเทยี บแหล่งข้อมลู และข้อเทจ็ จริง คำกลา่ วอา้ งเพียงคำกล่าวอา้ ง สถานการณ์ท

ได้ ประเมนิ ผลกระทบของปญั หาโดยใช้ เดียว พร้อมประเมนิ ความ สามารถวิเคร

วธิ กี ารทเ่ี หมาะสมและครอบคลมุ ทุกมติ ิ เหมาะสมของคำกล่าวอ้าง เหตแุ ละผลข

สร้างแบบจำลองเพ่อื แสดงโครงสรา้ ง พร้อมแสดงการแปล มองเห็นแบบ

ของปญั หาหรือสถานการณไ์ ด้พฒั นา ความหมายขอ้ มลู และ และองคร์ วมข

ชน้ิ งาน วธิ ีการหรือนวตั กรรม โดยใช้ หลักฐานเชิงประจกั ษ์ และ ๆ ในระบบหร

ความคิดที่แปลกใหม่ทไี่ ม่ซำ้ ใครหรอื สามารถลงข้อสรุปได้อยา่ ง สามารถสรา้ ง

พฒั นาตอ่ ยอดจากของเดมิ ใหเ้ หมาะสม ถกู ต้อง ระบขุ ้อโตแ้ ยง้ ระบุ แสดงโครงสร

ตอ่ การใช้งานจรงิ แจกแจงรายละเอยี ด เหตุผลของข้อโตแ้ ยง้ ท่ี สถานการณ์ไ

ของวิธีการแกป้ ญั หา หรือขยายความคิด สอดคลอ้ งกับสถานการณ์

ได้ โดยสามารถลงขอ้ สรปุ ได้อย่าง

ถกู ต้อง ระบุเหตผุ ลของขอ้ โตแ้ ยง้

ทสี่ อดคล้องกบั สถานการณ์

8 ระบปุ ญั หาหรือสถานการณ์ทย่ี ากและ ระบคุ ำกลา่ วอ้างทหี่ ลากหลาย สามารถสรา้ งแ

ซับซอ้ น พร้อมเสนอวิธีการระบสุ าเหตุ จากสถานการณ์ที่ยากและ ความคดิ เพื่ออ

ของปญั หา แยกปัญหาเปน็ ปญั หาย่อย ๆ ซบั ซ้อนและตัดสนิ ใจเลือก ทใี่ ช้ในการออ

สามารถเปรยี บเทียบแหลง่ ขอ้ มูล และ คำกลา่ วอา้ งเพยี งคำกล่าวอา้ ง โดยการวิเคร

ขอ้ เท็จจรงิ ได้ ประเมินผลกระทบของ เดยี ว พร้อมประเมนิ ความ เชงิ เหตแุ ละผ

ปัญหาโดยใชว้ ิธกี ารทีเ่ หมาะสมและ เหมาะสมของคำกล่าวอา้ ง สถานการณท์

ครอบคลมุ ทุกมิติ สรา้ งแบบจำลอง พรอ้ มแสดงการแปล

ความคิดเพื่ออธิบายแนวคดิ ที่ใชใ้ นการ ความหมายขอ้ มลู และ

56

พฤตกิ รรมบง่ ชหี้ ลกั

ารคิดเชิงระบบ ด้านการคิดสร้างสรรค์ ด้านการคดิ แกป้ ญั หา

ราะหป์ ัจจยั ในระบบ พฒั นาชิ้นงานหรือวิธกี าร เพื่อ ระบปุ ญั หาท่ยี ากและซบั ซ้อนและ

ปจั จยั แก้ปญั หาหรอื นวตั กรรมด้วย เสนอวิธกี ารระบสุ าเหตขุ องปญั หา

วข้องกับระบบหรือ ความคดิ ท่แี ปลกใหม่ มีการคดิ หา และประเมินผลกระทบของปัญหา

ท่ียากและซบั ซ้อน วธิ กี ารปัญหาทย่ี ากและซบั ซ้อนได้ โดยใช้วิธกี ารที่ถูกต้อง สามารถ

ราะหค์ วามสัมพันธ์เชงิ มากกวา่ 1 วธิ ี ในเวลาที่กำหนด คิด แยกปญั หาท่ีซับซ้อนออกเป็นเปน็

ของระบบ และ หาวธิ ีการแก้ปญั หาโดยดัดแปลงสง่ิ ที่ ปัญหาย่อย ๆ เพอ่ื จดั การ

บแผนของพฤตกิ รรม มอี ยู่หรอื นำสิ่งอนื่ มาทดแทนสิง่ ทขี่ าด แกป้ ัญหาได้ ออกแบบวธิ กี าร

ขององค์ประกอบตา่ ง ได้ มกี ารคดิ แจกแจงรายละเอียด แก้ปญั หา เสนอทางเลอื กในการ

รอื สถานการณ์ โดย ของวธิ ีการแก้ปัญหาหรอื นวัตกรรม แกป้ ญั หา โดยมเี กณฑส์ ำหรับเลอื ก

งแบบจำลองเพือ่ ขยายความคดิ ไดม้ กี ารประเมนิ ผล วิธีแก้ปญั หาทถ่ี ูกต้อง สามารถวาง

ร้างของระบบหรอื งานหรอื นวัตกรรมจากเกณฑ์ และ แผนการปฏิบัติเพอ่ื แก้ปญั หาและ

ได้ เสนอแนวทางปรบั ปรุง ใชก้ ระบวนการติดตามแผน

การแกป้ ญั หาเพ่อื การตดั สนิ ใจได้

แบบจำลอง พฒั นาชนิ้ งานหรอื วธิ ีการหรอื ระบปุ ัญหาทย่ี ากและซบั ซอ้ นและ
อธิบายแนวคดิ นวัตกรรมเพอ่ื แก้ปญั หาทยี่ ากและ เสนอวธิ ีการระบสุ าเหตขุ องปญั หา
อกแบบระบบได้ ซับซอ้ นดว้ ยความคดิ ที่แปลกใหม่ และประเมนิ ผลกระทบของปญั หา
ราะหค์ วามสัมพนั ธ์ ทไี่ มซ่ ้ำใครและเหมาะสมตอ่ การใช้ โดยใช้วิธกี ารที่ถูกตอ้ งและ
ผลของระบบหรือ งานจริง มกี ารคิดหาวิธีการแกป้ ญั หา ครอบคลมุ บางมิติ สามารถแยก
ท่ยี ากและซับซ้อน โดยดดั แปลงสง่ิ ท่มี อี ยู่ หรือนำส่ิงอนื่ ปญั หาออกเป็นเป็นปญั หายอ่ ย ๆ
มาทดแทนสง่ิ ที่ขาดไดอ้ ยา่ ง เพอื่ จัดการแก้ปญั หา และสามารถ
หลากหลายในเวลาท่ีกำหนด มกี าร เปรียบเทยี บแหลง่ ข้อมลู และ

ระดบั คำนิยาม ดา้ นการคดิ ด้านกา
บรรยายระดบั อย่างมวี ิจารณญาณ

ออกแบบระบบได้ สามารถพฒั นา หลกั ฐานเชิงประจักษ์ และ

ชิ้นงาน วธิ กี ารหรือนวัตกรรม โดยใช้ สามารถลงขอ้ สรุปไดอ้ ยา่ ง

ความคิดทแี่ ปลกใหม่ท่ไี มซ่ ำ้ ใครหรือ ถกู ต้อง ระบขุ อ้ โตแ้ ยง้ ระบุ

พัฒนาต่อยอดจากของเดิมใหเ้ หมาะสมตอ่ เหตผุ ลของขอ้ โต้แยง้ ที่

การใช้งานจรงิ ระบเุ หตุผลของข้อโต้แยง้ ที่ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และ

สอดคล้องกบั สถานการณ์ และมคี วาม มคี วามเปน็ เหตเุ ปน็ ผลกนั

เป็นเหตุเปน็ ผลกนั

9 ระบปุ ญั หาหรอื สถานการณ์ ระบคุ ำกลา่ วอ้างทีห่ ลากหลาย สามารถสรา้ ง

ทีย่ ากและซบั ซอ้ น ระบสุ าเหตุของ จากสถานการณ์ท่ยี ากและ เพอ่ื อธบิ ายแน
ปัญหา สามารถแยกปญั หาเป็นปญั หา ซับซ้อนและตดั สนิ ใจเลอื ก ออกแบบระบ
ย่อย ๆ เปรยี บเทียบแหลง่ ขอ้ มูลและ คำกลา่ วอา้ งเพยี งคำกล่าวอา้ ง ได้ และสามา
ขอ้ เทจ็ จริงได้ ประเมนิ ผลกระทบของ เดยี ว พรอ้ มประเมนิ ความ แบบจำลองค
ปญั หาโดยใช้วธิ ีการทเี่ หมาะสมและ เหมาะสมของคำกลา่ วอ้าง ๆ ทีย่ ากและซ
ครอบคลมุ ทกุ มิติ สามารถสรา้ ง
แบบจำลองความคดิ เพอื่ อธบิ ายแนวคิด พรอ้ มแสดงการแปล ทำนายผลลัพ
ที่ใชใ้ นการออกแบบการแก้ปญั หา ความหมายข้อมลู และ ระบบท่ียากแ
ทำนายหรอื ประเมินผลลัพธข์ องการ หลักฐานเชิงประจักษ์ และ สามารถประเ
แทรกแซงระบบที่ยากและซับซ้อนได้ สามารถลงขอ้ สรุปได้อยา่ ง ซบั ซอ้ นได้
พฒั นาชน้ิ งาน วิธีการหรอื นวตั กรรม โดย ถกู ตอ้ ง ระบขุ อ้ โตแ้ ย้ง ระบุ
ใชค้ วามคิดท่ีแปลกใหม่ที่ไมซ่ ้ำใครหรือ เหตผุ ลของข้อโต้แยง้ ท่ี
พัฒนาต่อยอดจากของเดิมใหเ้ หมาะสม สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และ
ต่อการใช้งานจรงิ สามารถแจกแจง มคี วามเปน็ เหตุเป็นผลกนั

57

พฤตกิ รรมบ่งช้ีหลัก

ารคิดเชงิ ระบบ ด้านการคดิ สร้างสรรค์ ด้านการคิดแก้ปญั หา

งแบบจำลองความคดิ แจกแจงรายละเอยี ดของวิธีการ ข้อเท็จจรงิ ได้ ออกแบบวิธีการ
นวคดิ ทใี่ ชใ้ นการ แกป้ ญั หาหรือขยายความคิดได้ และ แก้ปญั หาทย่ี ากและซบั ซ้อน เสนอ
บบทย่ี ากและซับซ้อน มกี ารประเมนิ ผลงาน ทางเลอื กในการแกป้ ญั หาโดย
ารถเปรยี บเทียบ มเี กณฑส์ ำหรบั เลือกวิธีแก้ปญั หา
ความคดิ ของระบบต่าง พฒั นาชนิ้ งานหรอื วิธกี ารหรือ ทเ่ี หมาะสมและครอบคลุมบางมติ ิ
ซับซอ้ นได้ สามารถ นวัตกรรมเพื่อปัญหาทย่ี ากและ สามารถวางแผนการปฏิบัติเพ่อื
พธ์ของการแทรกแซง ซับซอ้ นดว้ ยความคิดทแ่ี ปลกใหมท่ ี่ แกป้ ญั หาและใชก้ ระบวนการ
และซับซอ้ นได้ ไม่ซำ้ ใครหรือพัฒนาต่อยอดจาก ติดตามแผนการแกป้ ัญหา
เมินระบบทยี่ ากและ ของเดมิ ได้อย่างเหมาะสมตอ่ การใช้ เพือ่ การตัดสินใจและกำกับ
งานจรงิ มกี ารคิดหาวิธกี าร กระบวนการแก้ปญั หาไดถ้ ูกตอ้ ง
แกป้ ญั หาโดยดดั แปลงส่งิ ท่ีมอี ยู่ หรือ
นำสง่ิ อ่นื มาทดแทนสงิ่ ที่ขาด ระบุปัญหาทีย่ ากและซบั ซ้อนและ
ได้อย่างหลากหลายในเวลา เสนอวิธกี ารระบสุ าเหตขุ องปญั หา
ท่ีกำหนด มกี ารแจกแจงรายละเอยี ด และประเมนิ ผลกระทบของปญั หา
ของวธิ กี ารแกป้ ัญหา หรอื ขยาย โดยใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสมและ
ความคิดไดอ้ ย่างครบถ้วน และมี ครอบคลมุ ทุกมิตสิ ามารถแยก
รายละเอยี ดทส่ี มบรู ณ์ และมกี าร ปัญหาออกเป็นเปน็ ปญั หาย่อย ๆ
เพอ่ื จดั การแก้ปญั หา และสามารถ
เปรียบเทยี บแหล่งขอ้ มลู และ
ขอ้ เทจ็ จรงิ ได้ โดยคำนงึ ถึงความ
ถูกต้องออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา
เสนอทางเลอื กในการแก้ปญั หา
โดยมเี กณฑส์ ำหรับเลอื กวิธี
แกป้ ัญหาท่ถี กู ต้องและครอบคลุม
ทกุ มิตสิ ามารถวางแผนการปฏิบตั ิ
เพือ่ แกป้ ญั หาและใช้กระบวนการ

ระดับ คำนิยาม ดา้ นการคิด ดา้ นกา
บรรยายระดับ อย่างมวี ิจารณญาณ

รายละเอยี ดของวิธีการแกป้ ญั หา หรอื เขยี นสะทอ้ นความคดิ เกย่ี วกบั
ขยายความคดิ ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น
เน้อื หาและกระบวนการเรยี นรู้
เขยี นสะทอ้ นความคิดเกย่ี วกับเน้อื หา ของตน
และกระบวนการเรียนรู้

10 ระบุปญั หาหรือสถานการณ์ทยี่ ากและ ระบคุ ำกลา่ วอ้างทหี่ ลากหลาย สามารถเปรยี
ซับซอ้ น ระบุสาเหตุของปัญหา แยก จากสถานการณ์ที่ยากและ ความคิดทใ่ี ช
ปญั หาเป็นปญั หาย่อย ๆ สามารถ ซบั ซ้อนและตดั สนิ ใจเลอื ก ระบบตา่ ง ๆ
เปรียบเทยี บแหล่งข้อมลู และข้อเทจ็ จรงิ
ได้ ประเมินผลกระทบของปัญหาโดยใช้ คำกลา่ วอา้ งเพยี งคำกล่าวอา้ ง สามารถอธบิ า
วิธกี ารทเี่ หมาะสมและครอบคลมุ ทุกมติ ิ เดยี ว พรอ้ มประเมนิ ความ สถานการณท์
สร้างแบบจำลองความคิดเพ่ืออธบิ าย เหมาะสมของคำกลา่ วอ้าง ใชแ้ บบจำลอ
แนวคิดท่ีใช้ในการออกแบบการแก้ปัญหา พรอ้ มแสดงการแปล สามารถทำน
ทำนายหรอื ประเมนิ ผลลัพธข์ องการ ความหมายข้อมลู และ ของการแทรก
แทรกแซงระบบที่ยากและซับซอ้ นได้ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ และ ซับซ้อนได้ สา
พฒั นาช้ินงาน วิธีการหรือนวัตกรรม สามารถลงข้อสรปุ ได้อย่าง ปรบั ปรุงพัฒน
โดยใชค้ วามคดิ ทแี่ ปลกใหมท่ ไ่ี ม่ซ้ำใคร ถูกต้อง ระบุขอ้ โตแ้ ยง้ ระบุ ซบั ซ้อนโดยว
หรอื พฒั นาต่อยอดจากของเดมิ ให้ เหตุผลของขอ้ โต้แยง้ ที่ หลากหลายจ
เหมาะสมตอ่ การใชง้ านจรงิ สามารถ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และ ของผอู้ ่ืน
แจกแจงรายละเอยี ดของวิธีการ มคี วามเป็นเหตุเปน็ ผลกนั เขยี น
แกป้ ญั หา หรอื ขยายความคดิ ได้อย่าง สะท้อนความคดิ เก่ียวกบั

ครบถว้ น รวมท้ังมีการประเมนิ พฒั นา เนือ้ หาและกระบวนการเรยี นรู้
และปรบั ปรุงนวตั กรรมโดยวเิ คราะห์จาก ของตนทั้งจดุ เด่นและจุด
มุมมองทหี่ ลากหลาย จากทั้งของตนเอง ทีค่ วรจะปรบั ปรุง
และของผูอ้ ่ืน เขียนสะท้อนความคดิ
เกย่ี วกับเนื้อหาและกระบวนการเรยี นรู้
ของตนทัง้ จดุ เด่นและจดุ ทีค่ วรจะปรบั ปรุง

58

พฤตกิ รรมบ่งชห้ี ลัก

ารคดิ เชงิ ระบบ ด้านการคิดสรา้ งสรรค์ ดา้ นการคิดแกป้ ัญหา

ประเมนิ ปรบั ปรุงและพฒั นาต่อยอด ติดตามแผนการแกป้ ัญหา
เพ่ือการตัดสนิ ใจและกำกบั
ผลงานใหใ้ ชง้ านไดด้ ีขึ้น กระบวนการแกป้ ญั หาได้

ยบเทยี บแบบจำลอง พฒั นาชน้ิ งานหรือวิธีการหรือ ระบปุ ัญหาท่ียากและซับซอ้ น และ
ชใ้ นการออกแบบ นวตั กรรมเพอ่ื ปัญหาท่ยี ากและ เสนอวธิ กี ารระบุสาเหตขุ องปญั หา
ซบั ซอ้ นดว้ ยความคิดทีแ่ ปลกใหมไ่ ม่ และประเมนิ ผลกระทบของปัญหา
ท่ีซับซ้อน และ โดยใช้วธิ ีการทเี่ หมาะสม ครอบคลมุ

ายระบบหรอื ซำ้ ใคร หรอื พฒั นาต่อยอดจาก ทุกมิตแิ ละนา่ เชอื่ ถอื สามารถแยก
ปัญหาออกเปน็ ปัญหายอ่ ย ๆ เพอื่
ท่ยี ากและซับซ้อนโดย ของเดิมไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตอ่ การใช้ จดั การแก้ปญั หา สามารถ
องความคดิ ของผอู้ ่ืนได้ งานจริง มีการคดิ หาวิธีการแก้ปัญหา เปรียบเทยี บแหลง่ ข้อมลู และ
นายผลลพั ธ์ โดยดดั แปลงส่ิงท่ีมีอยู่ หรือนำ ข้อเท็จจริง และตรวจสอบความ
กแซงระบบทย่ี ากและ ส่ิงอ่ืนมาทดแทนสิง่ ท่ีขาด น่าเชอื่ ถอื แหล่งขอ้ มูลและ
ามารถประเมนิ และ ไดอ้ ยา่ งหลากหลายเหมาะสม ขอ้ เท็จจริงไดอ้ อกแบบวิธกี าร
นาระบบทีย่ ากและ กบั งานในเวลาทกี่ ำหนด มกี ารแจก แก้ปัญหาเสนอทางเลอื กในการ
วเิ คราะหจ์ ากมมุ มองที่ แจงรายละเอยี ดของผลงาน หรือ แก้ปญั หาโดยมเี กณฑท์ ่ีพัฒนาดว้ ย
จากทงั้ ของตนเองและ ขยายความคิดไดอ้ ย่างครบถว้ น ตนเองเพ่ือเลอื กวิธีแกป้ ัญหาทด่ี ี
สมบรู ณ์ รวมท้งั มกี ารประเมิน ทีส่ ุด สามารถจดั ทำแผนการ
พัฒนาและปรับปรุงนวัตกรรมให้

เหมาะสม โดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่มี ี ปฏิบตั ิทม่ี ปี ระสิทธภิ าพเพอื่
ตอ่ สง่ิ แวดล้อม สงั คม และ แกป้ ัญหาและใชก้ ระบวนการ

วัฒนธรรม ตดิ ตามแผนการแก้ปัญหาเพ่อื การ

ตดั สินใจกำกบั กระบวนการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ และ
ทำนายแผนการแก้ปญั หาได้อยา่ ง
มีประสทิ ธิภาพ

พฤติกรรมบ่งชหี้ ลักตามระดับสมร

ระดับ คำนยิ ามบรรยายระดับ พลเมอื งรูเ้ คารพสิทธิ

1 เข้าใจผลกระทบของการกระทำอะไรทต่ี ามใจ เข้าใจผลกระทบท่ีจะเกดิ ข้นึ รบั ผ

ตนเอง รบั ผิดชอบและปฏิบตั ิตนตาม ตอ่ เน่อื งจากการกระทำ ตาม

คำแนะนำอย่างเหมาะสม มสี ่วนรว่ ม ของตนท่ีมีต่อผูอ้ น่ื

ในกิจกรรมส่วนรวมและแจ้งผู้เก่ยี วขอ้ ง

เมอ่ื พบปัญหาในช้นั เรยี น

2 มคี วามสามารถในการยบั ย้งั ชงั่ ใจ เคารพสทิ ธิ รู้จกั และปกป้องสิทธิเสรภี าพ รบั ผ

เสรภี าพของผูอ้ ่ืน รจู้ กั ปฏเิ สธ ชว่ ยเหลอื ผ้อู นื่ ของตนเอง รู้จกั ปฏิเสธ เคารพ อยา่

เมอื่ ไดร้ ับการร้องขอ รับผดิ ชอบและปฏิบตั ติ น สทิ ธเิ สรภี าพของผอู้ นื่ หน้า

อยา่ งเหมาะสมตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ชว่ ยเหลือผูอ้ ืน่ เมอื่ ได้รบั ของ

มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมสว่ นรวมต่าง ๆ ท่โี รงเรียน การรอ้ งขอ โรงเ

จัดขึ้นหรือครมู อบหมายและแจง้ ผเู้ ก่ียวข้อง

เมอ่ื พบปญั หาหรอื ความขัดแย้งในชน้ั เรียน

3 อสิ ระทจี่ ะคดิ และแสดงออกทร่ี ับผดิ ชอบและ มอี สิ ระทีจ่ ะคดิ และแสดงออก รับผ

ไมท่ ำให้ผู้อน่ื เดอื ดรอ้ น เคารพสิทธิเสรภี าพ ที่รบั ผิดชอบและไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื อยา่

ของผอู้ ื่น ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื รบั ผิดชอบและปฏบิ ัติ เดอื ดรอ้ น ช่วยเหลือผู้อื่นเมือ่ หนา้

ตนอยา่ งเหมาะสมตามบทบาทหนา้ ท่ีของ ไดร้ บั การร้องขอ หรือเมอื่ ของ

ตนเอง เคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ติดตาม เหน็ วา่ ตอ้ งการความชว่ ยเหลือ โรงเ

ข้อมลู ข่าวสารท่เี กย่ี วข้องกับตนเอง ครอบครัว ใช้ของสว่ นรวมอย่างระมดั ระวงั ของ

เพอ่ื นร่วมชนั้ เรยี น มสี ่วนร่วมในกจิ กรรม

ส่วนรวมตา่ ง ๆ ในระดบั ช้ันเรยี นหรอื โรงเรยี น

แกไ้ ขปญั หาความขดั แยง้ ในช้ันเรยี นอยา่ ง

มเี หตผุ ล

59

รรถนะการเปน็ พลเมอื งทเ่ี ขม้ แขง็

พฤติกรรมบง่ ช้หี ลกั

พลเมืองรบั ผิดชอบ พลเมืองมีส่วนรว่ ม พลเมอื ง
ผ้สู ร้างการเปลีย่ นแปลง
ต่อบทบาทหน้าที่ อย่างมีวิจารณญาณ แจง้ ผเู้ ก่ียวขอ้ งเมอ่ื พบปญั หา
ในช้ันเรยี น หรอื จะเสนอแนะ
ผิดชอบและปฏิบตั ิตน ชว่ ยเหลอื กิจกรรมส่วนรวม แนวทางการปญั หาอยา่ งง่าย
ในโรงเรยี นได้
มคำแนะนำอย่างเหมาะสม ของชน้ั เรียน
แจ้งผู้เกย่ี วขอ้ งเมอ่ื พบปญั หา
ผิดชอบและปฏิบตั ิตน เขา้ รว่ มกิจกรรมเพ่อื สว่ นรวม หรอื ความขัดแย้งในชัน้ เรยี น
างเหมาะสมตามบทบาท ที่โรงเรียนจดั ขนึ้ หรือครู
าทีต่ นเองในฐานะสมาชกิ มอบหมายหรอื กำหนด
งครอบครัว ชั้นเรยี น และ ให้เขา้ ร่วม
เรียน

ผดิ ชอบและปฏิบตั ิตน ติดตามข้อมลู ขา่ วสารและปญั หา หาทางออกร่วมกนั กบั เพ่ือน และ
างเหมาะสมตามบทบาท ทีเ่ กีย่ วข้องกบั ตัวเอง ครอบครวั ครู ในการแกป้ ญั หาหรอื ความ
าท่ตี นเองในฐานะสมาชิก เพอ่ื นร่วมชั้นเรยี น และโรงเรยี น ขัดแยง้ ในชน้ั เรียนอยา่ งมีเหตุผล
งครอบครัว ช้นั เรียน และ มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมสว่ นรวม
เรียน เคารพตอ่ สถาบันหลกั ต่าง ๆ ในระดบั ชนั้ เรียนหรอื
งชาติ โรงเรยี นทเ่ี หมาะสมตามวัย

ระดับ คำนยิ ามบรรยายระดบั พลเมอื งรเู้ คารพสิทธิ

4 อดทนอดกลน้ั ในความคดิ เห็นและการแสดงออก สามารถกำกับควบคุมตนเอง รบั ผ
ท่แี ตกต่าง ยอมรบั ความแตกตา่ งหลากหลาย รู้จกั และปกปอ้ งสทิ ธิเสรีภาพ อยา่
ชว่ ยเหลือและแบง่ ปันกับผอู้ ื่น รับผิดชอบและ ของตนเองและผอู้ ื่น ยอมรบั หนา้
ปฏิบตั ติ นอยา่ งเหมาะสมตามบทบาทหนา้ ท่ี
ในฐานะพลเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย ความแตกต่าง ไมก่ ล่ันแกลง้ ตลอ
อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข เคารพ เพอ่ื น (Bullying) ทางรา่ งกาย วฒั น
ต่อสถาบันหลักของชาติ ตดิ ตามและตรวจสอบ และวาจา ช่วยเหลือผอู้ ื่นเมอ่ื ทอ้ ง
ข้อมูลขา่ วสาร เขา้ ร่วมกจิ กรรมและรว่ มเป็น เหน็ ว่าต้องการความช่วยเหลือ ของ

อาสาสมคั รในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์
ระดบั โรงเรยี นและชมุ ชน หาทางออกร่วมกนั
กบั ผู้เกย่ี วข้องในการแกป้ ญั หาหรือความขดั แย้ง
อยา่ งมีเหตผุ ล

5 ร้จู กั และปกป้องสิทธเิ สรีภาพของตนเอง รจู้ กั และปกปอ้ งสทิ ธิ รบั ผ
และผ้อู ื่น ยอมรับและเคารพความแตกตา่ ง เสรภี าพของตนเองและผู้อน่ื อย่า
หลากหลาย พยายามทีจ่ ะเหน็ อกเห็นใจ
ชว่ ยเหลือและแบ่งปันกับผู้อืน่ รับผิดชอบและ เคารพในความหลากหลาย หนา้
ปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหนา้ ที่ใน
ฐานะพลเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ไม่กล่นั แกลง้ เพอ่ื นทางร่างกาย ตลอ
อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข
เคารพต่อสถาบนั หลกั ของชาติ ตดิ ตาม และวาจา ช่วยเหลือผู้อ่นื วฒั น
และตรวจสอบขอ้ มลู ขา่ วสาร เขา้ รว่ ม
กิจกรรมและร่วมเปน็ อาสาสมัครในกจิ กรรม ในสถานการณต์ ่าง ๆ ทอ้ ง

ไมด่ ่วนตดั สนิ ผ้อู ่ืน โดยใช้อคติ เคา

แบ่งปนั สิง่ ของต่าง ๆ ของตน ในฐ

ให้กบั ผ้อู ่ืนตามความเหมาะสม ประ

สาธารณะประโยชนร์ ะดบั โรงเรียนและชุมชน
หาทางออกร่วมกนั กับผูเ้ กีย่ วข้องในการ
แกป้ ัญหา โดยใช้กระบวนการปรึกษาหารอื
ตามวิถปี ระชาธิปไตย

60

พฤตกิ รรมบ่งชห้ี ลัก

พลเมอื งรบั ผดิ ชอบ พลเมอื งมีสว่ นร่วม พลเมอื ง
ผูส้ รา้ งการเปลี่ยนแปลง
ต่อบทบาทหน้าที่ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
หาทางออกรว่ มกนั กบั
ผดิ ชอบและปฏิบตั ิตน ติดตามข่าวสารเหตุการณ์ ผ้ทู ีเ่ ก่ยี วขอ้ งในการแก้ปัญหา
ความขดั แย้งในชัน้ เรยี น
างเหมาะสมตามบทบาท สถานการณ์ ปัญหาทเ่ี กยี่ วข้อง หรอื โรงเรียนอย่างมเี หตผุ ล

าท่ี ระเบยี บ กฎ กตกิ า กับตวั เอง โรงเรยี น ชมุ ชน

อดจนแนวปฏิบัตติ ามวิถี เข้ารว่ มกิจกรรมและร่วมเปน็

นธรรมของชมุ ชนและ อาสาสมคั รในกจิ กรรม

งถิ่น เคารพต่อสถาบันหลัก สาธารณประโยชนร์ ะดบั

งชาติ โรงเรยี นหรอื ชมุ ชนท่เี หมาะสม

ตามวัย

ผดิ ชอบและปฏิบตั ิตน ตดิ ตามข่าวสาร และตรวจสอบ หาทางออกรว่ มกนั กบั
างเหมาะสมตามบทบาท ข้อมูลเกย่ี วกบั เหตุการณ์ ผู้ทเ่ี กยี่ วข้องในการแก้ปญั หา
าท่ี ระเบียบ กฎ กตกิ า สถานการณ์ ปัญหาทเี่ กยี่ วข้อง ความขัดแยง้ หรือทบทวนกฎ
อดจนแนวปฏิบัตติ ามวถิ ี กับตัวเอง โรงเรียน ชมุ ชน ระเบยี บ กตกิ าในชน้ั เรียน อยา่ ง
นธรรมของชุมชนและ ทอ้ งถิ่น และประเทศ เข้าร่วม มีเหตผุ ลโดยใช้กระบวนการ
งถิ่นด้วยความเขา้ ใจ กิจกรรมและรว่ มเปน็ อาสาสมัคร ปรกึ ษาหารือตามวิถี
ารพตอ่ สถาบนั หลักของชาติ ในกจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ ประชาธิปไตย
ฐานะพลเมอื งในระบอบ ระดบั โรงเรยี นหรือชุมชน
ะชาธปิ ไตย ท่เี หมาะสมตามวัย โดยคำนงึ ถึง
ผลดีและผลเสยี ทจี่ ะเกดิ ขนึ้

ระดบั คำนิยามบรรยายระดบั พลเมืองรเู้ คารพสิทธิ

6 รูจ้ กั และปกปอ้ งสทิ ธเิ สรีภาพของตนเอง และ รูจ้ ักและปกปอ้ งสทิ ธิ เคา

ผอู้ ื่น พยายามท่จี ะเห็นอกเห็นใจและชว่ ยเหลอื เสรภี าพของตนเองและผอู้ ื่น กติก

ผูอ้ ่ืน เคารพและปฏบิ ัตติ นตามกฎกติกาทาง ไม่กลน่ั แกล้งผอู้ ืน่ ทั้งทางร่างกาย อย่า

สงั คม มีความรับผดิ ชอบตอ่ ผลการกระทำตาม วาจา และความสมั พนั ธท์ าง หน้า

บทบาทหนา้ ทีพ่ ลเมอื งประชาธิปไตย ติดตาม สังคม (Socialbullying) ให้ ตลอ

และประเมนิ ความถกู ต้องและน่าเช่อื ถอื ของ เกยี รติ และช่วยเหลอื ผู้อื่น วัฒน

ข้อมลู ริเร่มิ และมสี ่วนร่วมทางสังคมในประเด็น ไมด่ ว่ นตัดสินผ้อู น่ื โดยใชอ้ คติ ในฐ

ที่สนใจระดบั ท้องถิ่นและประเทศ ดว้ ย พยายามทจ่ี ะเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ื่น ประ

จิตสาธารณะ กระตอื รอื ร้นในการหาทางออก (Empathy) แบ่งปันส่งิ ของต่าง ๆ

และรว่ มสรา้ งการเปลย่ี นแปลงร่วมกันเกย่ี วกับ ของตนให้กบั ผอู้ ่นื ตามความ

ประเด็นปัญหา โดยคำนงึ ถึงความเท่าเทยี มเป็น เหมาะสม

ธรรมด้วยสนั ติวธิ ีและวิถีประชาธิปไตยอันมี

พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ

7 ร้จู ักและปกปอ้ งสิทธิเสรภี าพของตนเอง รจู้ กั และปกป้องสิทธิ เคา

และผู้อ่นื พยายามทจี่ ะเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่ืน เสรภี าพของตนเองและผ้อู ่นื กตกิ

ท้ังในโลกจริงและโลกเสมือน ใหเ้ กยี รติ ไม่กล่ันแกล้งผู้อืน่ ทง้ั ทางรา่ งกาย อย่า

ชว่ ยเหลอื ผูอ้ น่ื โดยไม่เลอื กปฏิบตั ิ เคารพ วาจา และความสมั พันธ์ทาง หน้า

และปฏบิ ตั ิตนตามกฎกตกิ าทางสงั คม สงั คม และความสัมพนั ธ์ ตลอ

มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ บทบาทหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ในโลกไซเบอร์ (Cyber bullying) วฒั น

ประชาธิปไตย ติดตามและประเมนิ ความถกู ตอ้ ง ให้เกยี รติ พยายามทจี่ ะเหน็ อก ด้วย

และนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูลทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการ เห็นใจผอู้ ื่นทง้ั ในโลกจรงิ พลเ

เปล่ียนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจ การเมือง และโลกเสมอื น (Digital อนั ม

และวฒั นธรรม รเิ รม่ิ และมสี ่วนร่วมทางสงั คม ประ

61

พฤติกรรมบง่ ชหี้ ลัก

พลเมืองรบั ผดิ ชอบ พลเมอื งมีส่วนร่วม พลเมือง

ต่อบทบาทหน้าท่ี อยา่ งมีวจิ ารณญาณ ผ้สู รา้ งการเปลยี่ นแปลง

ารพและปฏิบตั ิตนตามกฎ ตดิ ตามและประเมนิ ความถูกต้อง กระตอื รอื ร้นในการหาทางออก

กา ข้อตกลง และกฎหมาย ของข้อมลู ข่าวสารที่เก่ียวข้องกับ ร่วมกนั เก่ยี วกับประเด็นปัญหา

างเหมาะสมตามบทบาท การเปลย่ี นแปลงทางการเมอื ง และรว่ มสร้างการเปล่ียนแปลง

าทแี่ ละความรับผิดชอบ เศรษฐกิจ สังคมวฒั นธรรม ของท้องถิน่ หรือประเทศ

อดจนแนวปฏิบัตติ ามวิถี และประเดน็ ปญั หาของท้องถน่ิ โดยคำนึงถึงความเทา่ เทยี มเปน็

นธรรมทมี่ คี วามหลากหลาย ประเทศ รเิ ร่ิมและมสี ่วนร่วม ธรรม ด้วยสนั ตวิ ธิ แี ละวถิ ี

ฐานะพลเมอื งในระบอบ ทางสังคม ในประเด็นทส่ี นใจ ประชาธปิ ไตย

ะชาธปิ ไตย ดว้ ยจิตสาธารณะ (Public

Mind) โดยคำนงึ ถงึ ผลดแี ละ

ผลเสยี ท่จี ะเกิดขึน้

ารพและปฏิบตั ิตนตามกฎ ติดตามและประเมนิ ความถกู ตอ้ ง กระตอื รือรน้ ในการหาทางออก
กา ข้อตกลง และกฎหมาย และน่าเชือ่ ถือของข้อมลู ขา่ วสาร ร่วมกนั เกยี่ วกับประเดน็ ปญั หา
างเหมาะสมตามบทบาท ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การเปล่ียนแปลง และรเิ ร่มิ ในการสร้าง
าท่แี ละความรับผดิ ชอบ ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การเปลยี่ นแปลงของทอ้ งถิ่น
อดจนแนวปฏิบตั ติ ามวถิ ี วฒั นธรรม และประเด็นปญั หา ภูมิภาค และประชาคมโลก
นธรรมทีม่ คี วามหลากหลาย ของท้องถน่ิ ประเทศ ภูมภิ าค โดยคำนึงถงึ ความเท่าเทียม
ยความเข้าใจ ในฐานะ และประชาคมโลก ริเรมิ่ และ เปน็ ธรรม ดว้ ยสันติวิธีและ
เมืองในระบอบประชาธปิ ไตย มีสว่ นรว่ มทางสงั คมในประเด็นท่ี วิถปี ระชาธปิ ไตย
มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็น สนใจด้วยจติ สาธารณะ (Public
ะมุข Mind) โดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ี

ระดบั คำนิยามบรรยายระดับ พลเมอื งรเู้ คารพสทิ ธิ

ในประเด็นทส่ี นใจระดบั ทอ้ งถน่ิ และประเทศ Empathy) ช่วยเหลอื ผู้อื่น

ด้วยจิตสาธารณะ กระตือรือร้นในการหาทางออก โดยไม่เลือกปฏิบตั ิ

ร่วมกนั และรเิ รมิ่ ในการสร้างการเปล่ียนแปลง

ของทอ้ งถ่นิ ภมู ิภาค และประชาคมโลก

เกี่ยวกบั ประเดน็ ปญั หา โดยคำนึงถงึ ความเท่า

เทียมเปน็ ธรรม ด้วยสันติวิธแี ละวถิ ี

ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็

ประมขุ

8 ยึดม่นั ในหลกั สิทธเิ สรภี าพและความเสมอภาค เคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู้ ืน่ เคา

พยายามที่จะเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่นื ทัง้ ในโลกจริง ตระหนกั ในสทิ ธเิ สรภี าพของ กตกิ

และโลกเสมอื นบนพื้นฐานของการพึ่งพาอาศัย ตนเอง ชว่ ยเหลือ ให้เกยี รติ ตาม

กันโดยปราศจากอคติ ใชว้ จิ ารณญาณในการ ผ้อู ่ืน ไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิและเหน็ ควา

ตดิ ตามสถานการณแ์ ละประเด็นปญั หา ริเร่ิม อกเหน็ ใจผอู้ ่ืน ท้ังในโลกจรงิ ในร

และมสี ว่ นรว่ มทางสังคมในประเดน็ ที่ และโลกเสมือน (Digital พระ

หลากหลายระดบั ภูมภิ าคและประชาคมโลก Empathy) บนพนื้ ฐานของการ ด้วย

ดว้ ยจติ สาธารณะและสำนึกสากล กระตอื รอื ร้น พงึ่ พาอาศัยกนั โดยปราศจาก ควา

ในการรว่ มสรา้ งการเปลย่ี นแปลงเชิงบวก อคติ สังค

เก่ยี วกบั ประเด็นปญั หาของทอ้ งถ่นิ ดว้ ย

คา่ นิยมประชาธิปไตย
9 ยึดมน่ั ในหลกั สิทธเิ สรีภาพและความเสมอภาค เคารพสิทธเิ สรภี าพของผู้อื่น เคาร
เคารพและปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกาทางสงั คม ตระหนักในสิทธิเสรีภาพ และ
พยายามที่จะเหน็ อกเห็นใจผอู้ นื่ ทงั้ ในโลกจรงิ ของตนเอง ทั้งในโลกจริงและ หน้า
และโลกเสมอื นบนพน้ื ฐานของการพง่ึ พากัน โลกเสมือน (Digital Empathy) ของ
โดยปราศจากอคติ ไม่เลือกปฏิบตั ิ มีความ ช่วยเหลือ ให้เกยี รติ และเห็นอก ประ
รบั ผดิ ชอบต่อบทบาทหนา้ ท่พี ลเมอื ง เห็นใจผูอ้ ืน่ (Empathy) บน พระ

พฤติกรรมบง่ ช้หี ลกั 62

พลเมอื งรบั ผดิ ชอบ พลเมอื งมสี ว่ นรว่ ม พลเมอื ง
ผู้สร้างการเปลีย่ นแปลง
ตอ่ บทบาทหนา้ ท่ี อยา่ งมวี จิ ารณญาณ

จะเกิดขนึ้ ท้งั ในระดบั ทอ้ งถน่ิ
ภูมิภาค และประชาคมโลก

ารพและปฏบิ ตั ติ ามกฎ ใชว้ ิจารณญาณในการตดิ ตาม กระตอื รือร้นในการรว่ มสร้างการ

กา และกฎหมาย สถานการณบ์ า้ นเมือง นโยบาย เปล่ียนแปลง เชงิ บวก เก่ยี วกับ

มบทบาทหน้าทแ่ี ละ ภาครัฐ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม ประเดน็ ปญั หาของท้องถ่ิน

ามรับผิดชอบของพลเมือง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจรวมท้ัง ภูมิภาค และประชาคมโลก

ระบอบประชาธิปไตย อันมี ประเดน็ ปญั หาระดบั ท้องถน่ิ คา่ นิยมประชาธิปไตย และ

ะมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ภูมิภาค ริเรม่ิ และมสี ่วนร่วมทาง แนวทางสันตวิ ธิ ี

ยความเขา้ ใจและยอมรบั ใน สงั คมในประเด็นทหี่ ลากหลายดว้ ย

ามแตกต่างหลากหลายของ จติ สาธารณะ (Public Mind) โดย

คมไทย คำนึงถึงผลกระทบทีจ่ ะเกิดขน้ึ ทั้ง

ในระดับท้องถนิ่ ภูมภิ าค และ

ประชาคมโลก
รพและปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ใช้วจิ ารณญาณในการติดตาม กระตือรือร้นในการร่วมสร้างการ
ะกฎหมาย ตามบทบาท สถานการณบ์ า้ นเมือง นโยบาย
าท่แี ละความรบั ผิดชอบ ภาครฐั การเคลื่อนไหวทางสงั คม เปลีย่ นแปลงเชงิ บวก เกย่ี วกบั
งพลเมอื งในระบอบ และการเมืองของพลเมือง การ ประเดน็ ปัญหาของทอ้ งถิน่
ะชาธปิ ไตยอนั มี เปลีย่ นแปลงทางสังคมวัฒนธรรม ภูมิภาค และประชาคมโลก ดว้ ย
ะมหากษตั ริย์ทรงเปน็ และเศรษฐกิจรวมท้ังประเดน็ ปญั หา ความเชอ่ื มัน่ ในสังคมทเี่ ทา่ เทยี ม

ระดับ คำนิยามบรรยายระดับ พลเมืองรเู้ คารพสิทธิ

ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ พ้ืนฐานของการพึ่งพาอาศัยกัน ประ
ประมุข ยอมรบั ความแตกต่างหลากหลาย ใช้ โดยปราศจากอคติ ไมเ่ ลือก และ
วจิ ารณญาณในการตดิ ตามสถานการณ์และ ปฏิบัติ (Non-Discrimination) หลา
ประเดน็ ปัญหา รเิ ริม่ และมสี ่วนร่วมทางสังคม เพอ่ื การอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติ ประ
ในประเดน็ ท่ีหลากหลายระดับภูมภิ าคและ
ประชาคมโลก ด้วยจติ สาธารณะและสำนึกสากล
กระตอื รือรน้ ในการร่วมสร้างการเปล่ยี นแปลง
เชิงบวก เกีย่ วกับประเดน็ ปญั หาของท้องถิน่
ด้วยความเชื่อมัน่ ในสังคมท่ีเทา่ เทยี มเปน็ ธรรม
คา่ นยิ มประชาธปิ ไตย และแนวทางที่ไมเ่ กดิ ความ
รนุ แรงต่อสงั คมและต่อตัวเอง
10 ยดึ ม่นั และปกปอ้ งในหลักสทิ ธเิ สรภี าพ เคารพและปกปอ้ งสิทธิเสรีภาพ เคาร
และความเสมอภาค สอ่ื สารผา่ นชอ่ งทาง ของผู้อนื่ ตระหนักในสทิ ธิ และ
สาธารณะระดับภมู ภิ าคและประชาคมโลก เสรภี าพของตนเอง ชว่ ยเหลอื ให้ หน้า
ดว้ ยจติ สาธารณะ สำนึกสากล ดว้ ยความเชื่อมั่น เกียรติ และเหน็ อกเห็นใจผอู้ น่ื ของ
ในสังคมทเ่ี ทา่ เทียมเปน็ ธรรม ค่านยิ ม ทัง้ ในโลกจรงิ และโลกเสมือน ประ
ประชาธปิ ไตย และแนวทางที่ไม่เกิดความรุนแรง (Digital Empathy) บนพนื้ ฐาน พระ
ต่อสงั คมและต่อตวั เองแนวทางสนั ติวิธี ของการพึง่ พาอาศยั กนั โดย ประ
ปราศจากอคติ ไม่เลือกปฏิบตั ิ ยอม
(Non-Discrimination) เพ่ือการ แสด
อยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ติ ควา
สังค

63

พฤติกรรมบง่ ช้ีหลัก

พลเมืองรบั ผิดชอบ พลเมอื งมสี ่วนรว่ ม พลเมือง

ต่อบทบาทหน้าที่ อย่างมวี จิ ารณญาณ ผู้สรา้ งการเปลยี่ นแปลง
ะมุข ด้วยความเขา้ ใจ ระดบั ทอ้ งถ่ิน ภมู ภิ าค และ เป็นธรรม คา่ นยิ มประชาธิปไตย
ะยอมรบั ในความแตกตา่ ง ประชาคมโลก รเิ ร่มิ และมีส่วนร่วม และแนวทางทีไ่ มเ่ กดิ ความ
ากหลายของสงั คมไทยและ ทางสังคมในประเดน็ ท่หี ลากหลาย
ะชาคมโลก ด้วยจติ สาธารณะ (Public Mind) รุนแรงตอ่ สังคมและตอ่ ตัวเอง

และสำนกึ สากล (Global
Mindedness) โดยคำนงึ ถึง
ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นท้งั ในระดบั
ชุมชน สังคม และประชาคมโลก

รพและปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ใชว้ ิจารณญาณในการติดตาม กระตอื รอื ร้น มบี ทบาทนำ
ะกฎหมาย ตามบทบาท สถานการณบ์ า้ นเมือง นโยบาย หรอื เปน็ ตน้ แบบในการรว่ มสรา้ งการ
าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ ภาครฐั การเคลื่อนไหวทางสงั คม
งพลเมืองในระบอบ และการเมอื งของพลเมือง เปล่ยี นแปลงเชิงบวกเกี่ยวกับ
ะชาธปิ ไตย อนั มี การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม ประเดน็ ปัญหาของท้องถนิ่ ภูมภิ าค
ะมหากษตั รยิ ์ทรงเป็น วฒั นธรรมและเศรษฐกจิ รวมท้งั และประชาคมโลก ดว้ ยความ
ะมุข ด้วยความเขา้ ใจและ ประเด็นปัญหาระดบั ทอ้ งถิน่ เชื่อมัน่ ในสังคมที่เทา่ เทียมเป็น

มรบั ในความแตกต่างและ ภูมภิ าค และประชาคมโลก ธรรมค่านยิ มประชาธิปไตยและ
ดงออกซึ่งความเคารพใน รเิ รมิ่ และมีสว่ นร่วมทางสังคมใน แนวทางทไ่ี มเ่ กดิ ความรุนแรงต่อ
ามหลากหลายของ ประเดน็ ทห่ี ลากหลาย และ สงั คมและตอ่ ตวั เอง
คมไทย และประชาคมโลก สอ่ื สารผ่านช่องทางสาธารณะ
ด้วยจิตสาธารณะและสำนกึ สากล
โดยคำนึงถึงประโยชนท์ ี่จะเกิดข้นึ
ทัง้ ในระดบั ชมุ ชน สงั คม และ
ประชาคมโลก

ภาคผน
การวเิ คราะห์ความสอดคลอ้ งระหว่างองคป์ ระกอบของสมรร

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษ

64

นวก ข
รถนะหลกั กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้และกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551

ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องระหวา่ งองค์ประกอบของสมรรถนะหลักกับกลุ่มสาระการเ
พทุ ธศกั ราช 2551

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ที่ สมรรถนะ องคป์ ระกอบ ภาษาไทย
คณิตศาสต ์ร
วิทยาศาสต ์รฯ
สังคม ึศกษาฯ
สุขศึกษาฯ
ิศลปะ
การงานอาชีพ
ภาษาต่างประเทศ

การ ัจดการตนเอง 1. การเหน็ คณุ ค่าในตนเอง

2. การมเี ป้าหมายในชีวติ

1 3. การจัดการอารมณแ์ ละความเครยี ด

4. การจดั การปญั หาและภาวะวกิ ฤติ

1.การรบั สารอยา่ งมสี ติและถอดรหัส

เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใจ

2 การ ื่สอสาร 2. การรับสง่ สารบนพน้ื ฐานความเขา้ ใจ
และความเคารพในความคดิ เหน็ และ

วฒั นธรรมทแ่ี ตกต่าง

3.การเลอื กใชก้ ลวธิ กี ารสอ่ื สารอยา่ ง

เหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ความรับผดิ ชอบตอ่

สงั คมเพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมายในการสอ่ื สาร

การรวมพลังทำงาน 1.เป็นสมาชกิ ทดี่ ีและมีภาวะผนู้ ำ
เ ็ปนทีม
2.กระบวนการทำงานแบบร่วมมือรวมพลัง

3 ทำงานอย่างเปน็ ระบบ

3.สรา้ งความสมั พันธท์ ี่ดแี ละการจดั การ

ความขดั แย้ง

การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน 65
เขียน เรียนร้แู ละกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน
สมรรถนะสำคัญ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

แนะแนว

ลูกเสือ-เนตรนาร/ี ยวุ
กาชาดผ้บู ำเพ็ญ
ประโยชน์/

ชุมนมุ /ชมรม/กจิ กรรม
ตามความสนใจ

จติ อาสา

ความสามารถในการ
ส่ือสาร

ความสามารถในการคิด

ความสามารถในการ
แก้ปญั หา

ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ

ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กล่มุ สาระการเรยี นรู้

ที่ สมรรถนะ องค์ประกอบ ภาษาไทย
คณิตศาสต ์ร
วิทยาศาสต ์รฯ
ัสงคม ึศกษาฯ
สุข ึศกษาฯ
ิศลปะ
การงานอาชีพ
ภาษาต่างประเทศ

การ ิคด ั้ขน ูสง 1. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาน

4 2. การคดิ เชงิ ระบบการเ ็ปนพลเมือง
ี่ทเ ้ขมแ ็ขง
3. การคิดสร้างสรรค์
4. การคดิ แกป้ ญั หา
1. พลเมอื งร้เู คารพสทิ ธิ

5 2. พลเมอื งรบั ผิดชอบต่อบทบาทหน้าท่ี

3. พลเมอื งมสี ว่ นรว่ มอยา่ งมวี ิจารณญาณ
4. พลเมอื งผสู้ รา้ งการเปล่ยี นแปลง

จากตารางเปน็ การวเิ คราะหก์ ารนำสมรรถนะหลกั 5 ประการตามองค์ประกอบเ
* สถานศกึ ษาสามารถวเิ คราะหก์ ารนำสมรรถนะหลัก 5 ประการตามองค์ประก

เขา้ สู่กลมุ่ สาระการเรียนรู้แต่ละรายวิชา การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
กอบเขา้ ส่กู ิจกรรมเสรมิ หลักสูตรอืน่ ๆ ไดเ้ ช่นกนั เชน่ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ฯลฯ เขียน
66
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั
แนะแนว

ลูกเสือ-เนตรนาร/ี ยวุ
กาชาดผ้บู ำเพ็ญ
ประโยชน์/

ชุมนมุ /ชมรม/กิจกรรม
ตามความสนใจ

จติ อาสา

ความสามารถในการ
ส่ือสาร

ความสามารถในการคิด

ความสามารถในการ
แก้ปญั หา

ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ

ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

67

ภาคผนวก ค
ตวั อยา่ งคำอธบิ ายรายวชิ า
ตัวอยา่ งแผนการจดั การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ

68

ตวั อยา่ งคำอธิบายรายวิชา

รหัสรายวิชา ค11101 คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1
เวลาเรยี น 200 ช่ัวโมง จำนวน 5 หน่วยกติ

ศึกษา บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตัวเลข
ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0

โดยใช้เครื่องหมาย =  > < เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำนวน หาค่า
ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจำนวน
นับไม่เกิน 100 และ 0 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก และโจทย์ปัญหาการลบของจำนวน
นับไม่เกิน 100 และ 0 ระบุจำนวนที่หายไปในแบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ 1 และทีละ
10 และระบุรปู ท่ีหายไปในแบบรปู ซ้ำของรูปเรขาคณิตและรูปอน่ื ๆ ทส่ี มาชิกในแตล่ ะชุดทีซ่ ้ำมี 2 รูป วดั
และเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร วัดและเปรียบเทียบน้ำหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด
จำแนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย
ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา เมื่อกำหนดรูป 1 รปู แทน 1 หน่วย

โดยใช้กิจกรรมการเรียนรูผ้ ่านทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นจัดประสบการณ์จาก
รปู ภาพไปสกู่ ารใชส้ ัญลักษณ์ การจัดกิจกรรมกล่มุ หรือเกมให้ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการสร้างความคิดรวบยอด
ใช้โจทยท์ ่หี ลากหลายใกล้เคียงกับชีวิตประจำวัน เพอื่ ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณและฝึกการแก้โจทย์ปัญหา
โดยเรียงลำดับโจทย์จากง่ายไปหาโจทย์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้ผูเ้ รียนไดฝ้ ึกทักษะเป็นลำดบั ขั้น
ส่งเสริมการอธิบายให้เหตุผลประกอบการแก้ปัญหา และเน้นการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย
สามารถสื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ เชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนมีความคิดรวบยอด มีทักษะในการคิดคำนวณ และนำความรู้
ไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้

เพือ่ ใหเ้ หน็ คณุ ค่า มเี จตคติทีด่ ีต่อคณิตศาสตร์ มพี ฤติกรรมบ่งชี้ตามสมรรถนะหลัก 5 ประการ
ในด้านการจัดการตนเอง การสื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การคิดขั้นสูง และการเป็นพลเมือง
ที่เขม้ แข็ง อยู่ในระดับเร่ิมตน้ ระดับกำลงั พัฒนา และระดับสามารถ (ระดับ 1-3)

รหัสตัวช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
ค 1.2 ป.1/1
ค 2.1 ป.1/1, ป.1/2
ค 2.2 ป.1/1
ค 3.1 ป.1/1

รวมทั้งหมด 10 ตัวช้ีวดั
สมรรถนะหลกั 5 ประการ

69

ตัวอยา่ ง แผนการจัดการเรยี นรู้ฐานสมรรถนะ

รหัสรายวชิ า ค11101 รายวิชา คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 14 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ เวลา 15 ชัว่ โมง

เรือ่ ง การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการลบท่มี ตี วั ตั้งไมเ่ กนิ 100 เวลา 2 ช่ัวโมง

วันท่สี อน ……………………………………………………….. ภาคเรยี นที่ ………….. ปีการศึกษา…………………..

ผู้สอน …………………………………………………………………………………………………………………………..………

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ

จำนวน ผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้ีวดั ป.1/5 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบของจำนวนนับ

ไม่เกิน 100 และ 0

2. สาระสำคญั
โจทยป์ ัญหาการลบแบ่งเป็นสามสว่ น ขอ้ ความจำนวนที่กำหนดให้ จำนวนท่ีลดลง และคำถาม

ให้หาจำนวนที่คงเหลือ ส่วนมากโจทย์จะกำหนดจำนวนมาให้เป็นตัวตั้ง แล้วจะบอกจำนวนที่หายไป
หรือถูกหักออกไป หรือเสียไป หรืออาจใช้คำอื่นๆที่มีความหมายที่ทำให้จำนวนตัวตั้งลดน้อยลงไป แล้ว
จะต้งั คำถามให้หาส่วนทเ่ี หลอื วา่ มเี ท่าใด

3. สาระการเรียนรู้
การสร้างและแสดงวิธหี าคำตอบโจทย์ปัญหาการลบที่มตี วั ตั้งไมเ่ กิน 100

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 นักเรยี นสร้างโจทยป์ ญั หาการลบจำนวนท่มี ีตัวตงั้ ไมเ่ กนิ 100 ได้
4.2 แสดงวธิ หี าคำตอบโจทยป์ ัญหาการลบจำนวนที่มีตัวตงั้ ไม่เกิน 100 ได้

5. สมรรถนะหลัก 5 ประการ
5.1 การส่ือสาร
- ดา้ นการเลอื กใช้กลวิธกี ารสือ่ สารอยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถึงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม

เพอ่ื บรรลุวตั ถุประสงค์ในการส่อื สาร
5.2 การรวมพลังทำงานเปน็ ทีม
- ด้านการเปน็ สมาชกิ ทีมทด่ี ี
- ด้านกระบวนการทำงานแบบร่วมมือรวมพลัง
5.3 การคิดขนั้ สูง
- ด้านการคดิ สรา้ งสรรค์


Click to View FlipBook Version