70
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ดำเนินการวัดและประเมินผลตามเอกสาร แนวทางการพฒั นาการวดั และประเมินคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐานพุทธศักราช 2551 ของสำนกั วิชาการ
และมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
6.1 มวี นิ ยั
6.2 ใฝเ่ รยี นรู้
6.3 มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. กระบวนการจัดการเรยี นร/ู้ กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
1. ครูให้นักเรียนจับคู่ แล้วแจกกระดาษที่มีภาพผลไม้ หรือสัตว์ หรือสิ่งของที่มีจำนวนแตกต่างกัน
คู่ละ 1 แผ่น ให้นักเรียนช่วยกันนับจำนวนภาพที่แจกให้ ให้นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสิ่งที่มี
ในกระดาษ ตัวอย่างเชน่
ฉนั มียางลบ 10 ก้อน
ฉนั มีดินสอ 22 แทง่
ซึ่งนักเรียนแต่ละกลุ่ม (มี 2 คน) จะเขียนประโยคต่างกัน ขึ้นอยู่ว่าเขาจะได้รับภาพอะไร
และเป็นจำนวนเท่าใด แต่รูปแบบประโยคจะคล้ายกัน คือ ฉันมี......... จำนวน ........ (ผล/อัน/ชิ้น/..........)
ในขณะทนี่ กั เรยี นกำลงั เขียน ครูเดนิ ดนู กั เรียน (ประเมนิ ผล) และใหค้ ำแนะนำเม่ือเด็กทำไม่ถกู ต้อง
2. ครูสั่งให้นักเรียนกากบาททับสิ่งที่อยู่ในภาพจำนวนหนึ่ง จะเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ แล้วให้
ช่วยกันหาคำแทนการกากบาท เช่น “โยนทง้ิ ชำรดุ แบ่งใหน้ อ้ ง ขายไป มอบให้เพื่อน ถูกขโมย เก็บเอาไว้
อีกส่วนหนึ่ง..............” และเขียนคำหรือข้อความเหล่านั้นลงในกระดาษให้มากที่สุด ครูเดินดูนักเรียน
(ประเมินผล) และให้คำแนะนำเม่ือเด็กทำไมถ่ ูกต้อง
3. ครูบอกให้นักเรียนเขียนประโยคจากการกากบาททับสิ่งที่อยู่ในภาพ โดยเลือกคำที่หามาได้
ในข้อ 2 ลงในกระดาษ ดังตัวอย่าง “ให้น้องไป 4 แท่ง” โดยการเขียนคำหรือข้อความเหล่านั้นลงใน
กระดาษ ครูเดินดูนักเรยี น (ประเมนิ ผล) และให้คำแนะนำเมอ่ื เด็กทำไมถ่ ูกต้อง
4. ครูบอกให้เขียนประโยคที่สาม คือประโยคคำถาม “จะเหลือ........ เท่าไร” หรือ “คงเหลือ
......เท่าใด” ลงในกระดาษ ครเู ดนิ ดูนักเรียน (ประเมินผล) และให้คำแนะนำเมื่อเด็กทำไม่ถูกต้อง
71
5. ให้นักเรียนนำประโยคท่ี 1 ประโยคที่ 2 และประโยคที่ 3 นำมาเขียนเรียงต่อกัน เมื่อเขียน
เสร็จแล้วให้นำผลงานของกลุ่มแต่ละกลุ่มอ่านให้เพื่อน ๆ ฟัง ให้ทำทุกกลุ่ม นำผลงานมาปิดแสดงหลัง
ห้องเรียน
6. ครูแจกกระดาษรูปภาพจำนวนให้นักเรียนแต่ละคน ๆ ละ 1 แผ่น แต่ละคนจะได้ภาพและ
จำนวนไม่เหมือนกัน สั่งนักเรียนกากบาททับสิ่งที่อยู่ในภาพจำนวนเท่าใดก็ได้ จากนั้นจึงสั่งให้เขียน
ประโยค 3 ประโยคเรียงตามลำดบั ครเู ดินดนู กั เรยี น (ประเมนิ ผล) และใหค้ ำแนะนำเมอ่ื เด็กทำไม่ถูกต้อง
7. ครูแจกกระดาษขาวแผน่ เล็ก (เอ 4 พบั ครึ่ง) ใหน้ ักเรียนคนละ 2 แผ่น บอกใหน้ ักเรียนเขียน
ประโยค 3 ประโยคเรียงตามลำดับ แต่ห้ามใช้คำว่าฉันมี ให้เปลี่ยนเป็นบคุ คลอื่นหรือจะใชช้ ื่อของเพื่อน
กไ็ ด้ โดยใหเ้ ขยี นโจทยป์ ัญหาการลบคนละ 2 ขอ้
ช่วั โมงที่ 2
1. ครูทบทวนโจทย์ปัญหา 3 ประโยค และทบทวนวิธีการลบ โดยยกตัวอย่างโจทย์ปัญหา
ที่นักเรียนเขียนในชั่วโมงที่แล้ว เช่น ฉันมีดินสอ 22 แท่ง ให้น้องไป 10 แท่ง ฉันเหลือดินสอกี่แท่ง ครู
สาธิตวิธีการลบให้นักเรียนดูบนกระดาน และยกตัวอย่างการแสดงวิธีหาคำตอบการลบในโจทย์ปัญหา
ทนี่ ักเรยี นเขยี นอกี 3 ข้อ
2. นักเรียนนำโจทยจ์ ากชัว่ โมงท่ีแล้วในข้อ 7 มาหาแสดงวิธีหาคำตอบการลบทุกข้อใน
กระดาษแผน่ เดมิ ครูเดินดูนักเรยี น (ประเมินผล) และให้คำแนะนำเมื่อเด็กทำไม่ถูกต้อง
3. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ร่วมกันสร้างโจทย์ปัญหาการลบพร้อมแสดงวิธีหา
คำตอบ กลุ่มละ 3 ข้อ ครูเดินดูนักเรียน (ประเมินผล) พร้อมทั้งดูการทำงานเป็นทีมและให้คำแนะนำเมอ่ื
เดก็ ทำไม่ถกู ตอ้ ง
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ชดุ แผ่นภาพสัตว์ ผลไม้ และสิ่งของ ทมี่ จี ำนวนหลายจำนวน
8.2 กระดาษแผน่ เล็ก (เอ 4 พบั ครึ่ง)
9. การวดั และประเมนิ ผล
รายการประเมนิ วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
1. สร้างโจทยป์ ัญหา ประเมนิ ผลการ แบบประเมินโจทย์ ในแต่ละข้อ ใชเ้ กณฑ์การ
การลบจำนวนทมี่ ี เขยี นโจทย์ ปัญหาการลบ โดย ประเมนิ ดังน้ี
ตัวต้ังไม่เกนิ 100 ปัญหาการลบ ประเมนิ 2 ด้านคือ 0 คะแนน หมายถึง การสรา้ ง
จำนวน 2 ข้อ (คะแนนเตม็ 8 คะแนน) โจทย์ปัญหาการลบ มี
1. ลกั ษณะโจทยป์ ัญหา องคป์ ระกอบไม่ครบท้ัง
การลบ (1 คะแนน) 3 สว่ น
2. ความคดิ สรา้ งสรรค์ 1 คะแนน หมายถึง การสรา้ ง
ของโจทย์โจทย์ปญั หา โจทยป์ ัญหาการลบ มี
(3 คะแนน) องค์ประกอบครบทั้ง 3 ส่วน
ภาษาทีใ่ ชใ้ นขอ้ ความอา่ น
พอจับใจความได้
72
รายการประเมนิ วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
2. การแสดงวิธกี าร ประเมินผลการ แบบประเมินตรวจ 2 คะแนน หมายถึง การสรา้ ง
หาคำตอบโจทย์ แสดงวธิ ีหา คำตอบ วธิ กี ารถูกต้อง โจทย์ปญั หาการลบมี
ปญั หาการลบ คำตอบโจทย์ และคำตอบถกู ตอ้ ง องคป์ ระกอบครบทั้ง 3 ส่วน
จำนวนที่มตี ัวต้งั ปญั หาการลบ แบบประเมินโจทย์ ภาษาทีใ่ ช้ในข้อความอยู่ใน
ไมเ่ กนิ 100 จำนวน 2 ขอ้ ปัญหาการลบ โดย ระดับพอใช้
ประเมนิ ผลการ ประเมนิ 4 ด้านคือ 3 คะแนน หมายถงึ การสรา้ ง
3. สร้างโจทย์ปญั หา เขยี นโจทย์ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน) โจทยป์ ัญหาการลบ มี
และแสดงวิธีการ ปญั หาการลบ 1. ลกั ษณะโจทยป์ ญั หา องคป์ ระกอบครบทั้ง 3 ส่วน
หาคำตอบการลบ และแสดง การลบ (1 คะแนน) ภาษาทีใ่ ช้ในข้อความเข้าใจ
จำนวนทมี่ ตี ัวตัง้ วธิ ีการหา 2. ความคดิ สรา้ งสรรค์ งา่ ย อยู่ในระดับดี
ไมเ่ กิน 100 คำตอบการลบ ของโจทย์โจทยป์ ัญหา 4 คะแนน หมายถงึ การสร้าง
จำนวน 3 ขอ้ (3 คะแนน) โจทยป์ ัญหาการลบ มี
3. วธิ ีการหาคำตอบ องค์ประกอบครบทั้ง 3 ส่วน
ภาษาทใี่ ชใ้ นข้อความได้
ดัดแปลงประธานของ
ประโยค สถานการณ์ของ
โจทยใ์ กลเ้ คียงกบั ชวี ติ เข้าใจ
ง่าย อย่ใู นระดับดีมาก
ประเมินใหค้ ะแนนครั้งละ
1 ข้อ มี 2 ข้อ คะแนนเต็ม
8 คะแนน
ให้คะแนนข้อละ 2 คะแนน
- วธิ กี ารและคำตอบถูกต้อง
ให้ 2 คะแนน
- วิธกี ารหรือคำตอบถูกอยา่ งใด
อยา่ งหนึง่ ให้ 1 คะแนน
ในแตล่ ะข้อ ใชเ้ กณฑ์การ
ประเมิน ดงั นี้
0 คะแนน หมายถึง การสร้าง
โจทยป์ ญั หาการลบ มี
องค์ประกอบไม่ครบท้งั
3 สว่ น แสดงวธิ หี าคำตอบ
และคำตอบไม่ถกู ต้อง
1 คะแนน หมายถึง การสรา้ ง
โจทยป์ ัญหาการลบ มี
องค์ประกอบครบท้ัง 3 สว่ น
73
รายการประเมิน วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
4. คำตอบถูกตอ้ ง ภาษาที่ใช้ในขอ้ ความอ่าน
4. คุณลักษณะ ประเมนิ พอจบั ใจความได้ แสดงวิธี
อนั พงึ ประสงค์ พฤติกรรม แบบประเมนิ พฤตกิ รรม หาคำตอบและคำตอบ
- มวี นิ ัย การมีวินัย การมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ ไมถ่ กู ต้อง
- ใฝ่เรียนรู้ ใฝ่เรียนรู้ และ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 2 คะแนน หมายถึง การสร้าง
- มงุ่ มัน่ ในการ มุ่งมนั่ ในการ โจทยป์ ัญหาการลบ มี
ทำงาน ทำงาน องค์ประกอบครบท้ัง 3 ส่วน
ภาษาที่ใชใ้ นข้อความอยู่ใน
ระดบั พอใช้ มวี ธิ หี าคำตอบ
หรอื คำตอบถกู ต้องอยา่ งใด
อย่างหนึ่ง
3 คะแนน หมายถึง การสรา้ ง
โจทยป์ ญั หาการลบ มี
องคป์ ระกอบครบท้ัง 3 ส่วน
ภาษาทใี่ ช้ในข้อความเข้าใจ
งา่ ยอยู่ในระดับดี มวี ธิ หี า
คำตอบและคำตอบถูกต้อง
4 คะแนน หมายถงึ การสรา้ ง
โจทยป์ ัญหาการลบ มี
องค์ประกอบครบทั้ง 3 สว่ น
ภาษาที่ใช้ในข้อความได้
ดดั แปลงประธานของ
ประโยค สถานการณ์ของ
โจทยใ์ กล้เคียงกบั ชวี ติ เข้าใจ
งา่ ย อยู่ในระดบั ดีมาก มวี ธิ ี
หาคำตอบและคำตอบ
ถูกตอ้ ง
ประเมนิ ใหค้ ะแนนครั้งละ
1 ข้อ มี 3 ข้อ คะแนนเตม็
12 คะแนน
ไม่ผ่าน (0)
ผ่าน (1)
ดี (2)
ดเี ยีย่ ม (3)
74
รายการประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
5. สมรรถนะหลัก ประเมิน แบบประเมินพฤติกรรม ได้ระดับความสามารถอยู่ใน
ดา้ น พฤติกรรม
- การส่อื สาร ด้านการส่อื สาร ด้านการสื่อสาร การรวม ระดับ
- การรวมพลัง การรวมพลงั
ทำงานเปน็ ทมี ทำงานเปน็ ทีม พลงั ทำงานเปน็ ทีม และ - เรม่ิ ต้น
- การคิดข้นั สูง และการคดิ
ขน้ั สงู การคิดขัน้ สูง - กำลังพัฒนา
- สามารถ
- เหนอื ความคาดหวัง
ประเมนิ ตามสมรรถนะหลัก 5 ประการ
ด้านการสอ่ื สาร
ระดับ คำบรรยายระดับ
ความสามารถ
1 ใช้ประสาทสมั ผสั ในการรบั และสง่ สารอย่างตัง้ ใจ เข้าใจความแตกต
เร่ิมตน้ สื่อสาร ใชส้ ่ือ ภาพ เสียง คำพูด ทา่ ทาง สญั ลกั ษณใ์ กลต้ วั และผล
แบบตรงไปตรงมา
2 รบั และสง่ สารอยา่ งตั้งใจโดยใช้ประสาทสมั ผัส เขา้ ใจนัยตรง บอกข
กำลังพฒั นา สถานการณ์ ใกลต้ ัวแบบตรงไปตรงมา โดยเลือกและผลิตส่ือทเ่ี หม
เคลอ่ื นไหว ทา่ ทาง เสยี ง ภาษา ภาพ สญั ลักษณ์ และผลงานแบบง
ประโยชนแ์ ละโทษของการสือ่ สารท่ีมผี ลกระทบตอ่ ตนเอง
3 รบั และสง่ สารทเี่ ป็นข้อมลู ข้อเท็จจริง และความรู้สึกท่ีมรี ายละเอยี
สามารถ มคี วามอดทนในการรับสารแลกเปลย่ี นประสบการณ์และสื่อสาร โ
ระหว่างตนเองกับบุคคลใกลต้ ัว คำนึงถึงประโยชน์และโทษของสื่อ
เร่ืองราวใกล้ตวั ทง้ั ที่เปน็ ภาษา ภาพ เสียง สัญลักษณ์ ทา่ ทาง การแ
โดยเลอื กและผลติ ส่ือใหเ้ หมาะกับบุคคล และกาลเทศะ
4 รับและสง่ สารที่เก่ียวขอ้ งกับสถานการณ์ที่ใกล้ตัว จับประเด็นสำคัญ
เหนอื ความคาดหวัง ได้ อธบิ ายความร้สู ึกท่ีเกิดข้นึ จากการรบั สารประเภทต่าง ๆ ทมี่ ีคว
อดทนในการรับและสง่ สาร ใช้ส่ือที่มีความหลากหลายขึ้น เข้าใจผล
มีจดุ มุ่งหมาย และกลวธิ ีในการสอื่ สารและการผลติ ส่ือ เพื่อส่ือสาระท
อยา่ งเหมาะสม
75
พฤตกิ รรมบ่งช้หี ลัก
ด้านการเลอื กใช้กลวธิ ีการสื่อสารอยา่ งเหมาะสม
โดยคำนงึ ถงึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม
เพอื่ บรรลวุ ตั ถุประสงค์ในการสอื่ สาร
ตา่ งทางกายภาพที่มผี ลตอ่ การ - รู้จักประเภทของส่อื ใกลต้ วั
ลงานอย่างง่าย ๆ ในการส่ือสาร - สือ่ สารผ่านภาพ เสยี ง สัญลกั ษณ์ ท่าทาง การ
เคล่ือนไหว และผลงาน แบบง่าย ๆ ตรงไปตรงมา
ได้
ขอ้ มูลและความรูส้ กึ ท่ีมตี อ่ สารใน - สอ่ื สารเรื่องราวใกล้ตัวผ่านภาษา ภาพ เสยี ง
มาะสมกับบคุ คลผา่ นการ ท่าทาง โดยเลือกและผลติ สื่อให้เหมาะกับบุคคล
งา่ ย ๆ พร้อมท้ังคำนงึ ถึง ใกลต้ วั ทสี่ อื่ สารด้วย
ยดมากข้ึนในสถานการณ์ใกลต้ วั - รู้วิธีการเขา้ ถงึ สื่อทหี่ ลากหลาย
โดยตระหนักถงึ ความแตกตา่ ง
อที่มตี ่อตนเอง สามารถสอื่ สาร
แสดงออกทางศลิ ปะอย่างงา่ ย
ญ หรือวัตถุประสงค์ของผูส้ ง่ สาร - ใช้สื่อท่หี ลากหลายขึน้
วามซับซ้อนมากข้นึ มีความ - กำหนดจุดมงุ่ หมายในการส่ือสารแบบง่าย ๆ
ลกระทบของสื่อทมี่ ีต่อตนเอง สามารถเลือกใชแ้ ละผลติ สื่อ ใช้กลวธิ ีในการสอื่ สาร
ทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อตนเองได้ ใหเ้ หมาะสม และเกดิ ประโยชน์ต่อตนเองได้
ด้านการรวมพลังทำงานเป็นทมี
ระดบั คำบรรยายระดับ ดา้
ความสามารถ
1 รับรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง ทำกิจกรรมรว่ มกบั - รับร้วู ่าตนเองเป
เร่ิมต้น
ผอู้ ื่นไดต้ ามคำแนะนำ ข้อตกลง กฎ กติกา และ ใหส้ ำเรจ็
2
กำลงั พัฒนา แสดงออกอย่างเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ - รบู้ ทบาทและหน
3 ตามคำช้แี นะ มอบหมายใหบ้ ร
สามารถ
รแู้ ละรบั ผิดชอบในบทบาทหน้าทขี่ องตนเอง - ปฏบิ ตั ิตามภาระ
4
เหนอื ความ ปฏิบัติตามกฎ กติกา ของทมี เมอื่ ไดร้ บั การชีแ้ นะ ในการทำงานตา
คาดหวัง
เพอื่ สนับสนุนการทำกิจกรรมร่วมกับผูอ้ ื่นให้ ได้
บรรลุผลสำเรจ็ สามารถรบั รู้ความรู้สึกของผ้อู ืน่ - รับผิดชอบและป
และตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ตาม และเขา้ ใจในบท
คำแนะนำ สมาชิกทีม
มีความรบั ผิดชอบและใช้จดุ เด่นของตนเองในการ - รคู้ วามสามารถข
ทำงาน เปน็ สมาชกิ ทีมท่ีมีส่วนรว่ มในการตดั สินใจ ทำงาน รบั ผดิ ชอ
การกำหนดเปา้ หมาย การสร้างขอ้ ตกลง และการ มอบหมายได้
ทำงานของทีม แสดงออกถงึ ความเขา้ ใจต่อเพื่อน
ในทีมดว้ ยความเปน็ มติ รตามคำแนะนำ
เปน็ สมาชกิ ทมี ทรี่ บั ผิดชอบต่อบทบาท - รับผิดชอบบทบา
และงานตามทไี่ ด้รับมอบหมายทัง้ ของตนเองและ และช่วยเหลอื เพ
ช่วยเหลือเพ่อื นในทีม ปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื อยา่ งเป็นมติ ร
76
พฤติกรรมบ่งชี้หลกั
านการเปน็ สมาชกิ ทีมท่ดี ี ดา้ นกระบวนการทำงาน
และมภี าวะผู้นำ แบบรว่ มมือรวมพลงั
ป็นส่วนหน่ึงของทมี ทต่ี ้องทำงานร่วมกนั - ปฏิบตั ติ ามคำแนะนำ ข้อตกลง กฎ กติกา
ในการทำงานเป็นทมี หรือทำกจิ กรรม
น้าทีข่ องตนเอง ปฏิบัตงิ านตามทไี่ ดร้ ับ รว่ มกับทมี ได้
รรลุผลสำเร็จได้โดยได้รับการช้ีแนะ
ะงานของทีมและระบจุ ดุ เดน่ ของตนเอง - ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอน และข้อตกลง กฎ หรือ
ามหนา้ ที่และบทบาทความรบั ผดิ ชอบ กตกิ า เพ่ือไปส่เู ป้าหมาย
- รเู้ ปา้ หมายของทีม และชว่ ยเหลอื
ปฏิบัตติ ามบทบาทหน้าท่ีของตนเอง สนับสนุนทีมในการทำกิจกรรมเพ่ือให้
ทบาทหนา้ ท่ีทแ่ี ตกต่างกันของ บรรลตุ ามเป้าหมาย
ของตน และใช้จดุ เด่นของตนในการ - ร่วมตดั สินใจ กำหนดเป้าหมายและ
อบตามหนา้ ทแี่ ละบทบาทท่ีไดร้ บั ข้อตกลง การทำงานรว่ มกนั ของทมี
รวมถึงรบั รู้ เปา้ หมายและข้อตกลงนัน้ ๆ
าทของตนเองอยา่ งเต็มความสามารถ - มีส่วนร่วมทำงานกบั ผูอ้ ื่น สนับสนุน และ
พ่อื นในทมี ได้ รบั ผดิ ชอบต่อการตดั สินใจรว่ มกัน
- ทำงานรว่ มกับทีมในการรับฟัง แลกเปลีย่ น
แสดงความคดิ เหน็ เพอื่ หาทางเลือกและ
ร่วมตดั สินใจแกป้ ญั หากับทีมได้
ดา้ นการคดิ ข้ันสงู คำอธบิ ายระดบั
ระดับ ระบุปัญหาอยา่ งงา่ ยและไม่ซับซอ้ น เสนอความคดิ อิสระ คิดคล่อง
ความสามารถ ทางเลือกในการแกป้ ญั หา และตัดสินใจเลอื กคำตอบเพยี งคำตอบเ
พร้อมระบเุ หตผุ ลของการเลอื กคำตอบน้ัน
1
เรม่ิ ต้น
2 ระบปุ ญั หาอยา่ งงา่ ยและไมซ่ ับซ้อน รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทีเ่ ก
กำลงั พัฒนา ปญั หา โดยสามารถระบุความสมั พันธ์ ของปัจจัยตา่ ง ๆ สามารถ ผ
ตามจินตนาการในรปู แบบที่แตกตา่ งจากตน้ แบบภายใตเ้ งื่อนไขงา่ ย
3 ความคิดหาคำตอบ ไดห้ ลายประเภทและหลายทศิ ทาง และตดั สิน
สามารถ คำตอบเพียงคำตอบเดียว พร้อมประเมนิ ความเหมาะสมของคำตอ
ระบุปญั หาอยา่ งงา่ ย และไมซ่ ับซอ้ น รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ท
ปัญหา โดยคำนงึ ถึงความเหมาะสมของการออกแบบวิธกี าร แกป้ ัญ
การดดั แปลงจากความคดิ เดมิ และสามารถระบุความสมั พันธ์ของป
สามารถพัฒนาช้นิ งานหรือวธิ ีการโดยใชค้ วามคดิ ท่ีแปลกใหม่ ทไี่ ม
สามารถบอกผลลพั ธ์ตามขอ้ เทจ็ จรงิ ประเมนิ ความเหมาะสมของค
แสดงการแปลความหมายข้อมลู ด้วยหลกั ฐาน เชิงประจักษ์
4 ระบปุ ัญหาหรือสถานการณอ์ ย่างง่ายและไมซ่ ับซอ้ น วิเคราะหแ์ ละ
เหนอื ความคาดหวงั สาเหตุของปัญหา โดยสามารถรวบรวมปัจจยั อน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั
สถานการณ์และวเิ คราะห์ความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตแุ ละผลของปัจจัยต
พัฒนาชิ้นงานหรือวธิ กี ารโดยใช้ความคดิ ท่ีแปลกใหมท่ ่ีไม่ซ้ำใครหรือ
จากของเดมิ พรอ้ มแสดงการแปลความหมายขอ้ มูลและหลักฐานเช
77
เสนอ พฤตกิ รรมบ่งช้ี
เดยี ว ด้านการคิดสร้างสรรค์
- เสนอความคิดอิสระ คิดคลอ่ งแคล่ว รวดเร็วไดป้ รมิ าณมากในเวลา
กย่ี วข้องกับ ทจี่ ำกัดผลิตผลงานออกมา โดยท่ีงานนัน้ ยังอาศยั ต้นแบบ
ผลิตชิ้นงาน - เสนอความคดิ หลายประเภทได้บ้าง ใหร้ ายละเอียดของงานหรือ
ย ๆ ได้ เสนอ ความคดิ อยา่ งงา่ ยได้
นใจเลอื ก - ผลติ ชิน้ งานตามจนิ ตนาการภายใต้เงื่อนไขงา่ ย ๆ ได้
อบ - ผลิตชน้ิ งานในรูปแบบท่แี ตกตา่ งกบั ต้นแบบ
ทเี่ กยี่ วข้องกับ - หาคำตอบไดห้ ลายประเภทและหลายทิศทางจากสิ่งของ
ญหา หรือใช้ หรือสถานการณใ์ นชีวติ ประจำวนั ทค่ี นุ้ เคยในเวลาจำกัด
ปัจจัยตา่ ง ๆ
ม่ซ้ำใคร และ - ทำผลงานทเี่ ป็นช้ินงานหรอื วธิ กี ารเพอื่ แกป้ ญั หาอย่างง่ายและ
คำตอบและ ไม่ซับซ้อนโดยใชก้ ารดัดแปลงจากความคิดเดิม มีการคิดหาวธิ กี าร
แกป้ ัญหาได้เพียง 1 วิธี ตามกรอบเวลา โดยดัดแปลงสง่ิ ท่ีมีอยู่ หรือ
นำสง่ิ อื่นมาทดแทนส่ิงทีข่ าดได้ ใหร้ ายละเอยี ดของงาน หรือความคดิ
ได้ และมีการตรวจสอบผลงานในเบอื้ งตน้
ะจัดลำดบั - สรา้ งชน้ิ งานหรือคดิ หาวิธกี ารเพ่ือแก้ปญั หาด้วยการผสมผสานและ
บปญั หาหรือ ดัดแปลงจากความคดิ เดมิ มกี ารคิดหาวิธีการแก้ปญั หาไดเ้ พียง 1 วธิ ี
ต่าง ๆ สามารถ ในเวลาที่กำหนด การคิดหาวิธกี ารแก้ปญั หาอยา่ งง่ายและไม่ซบั ซอ้ น
อพัฒนาต่อยอด ใชก้ ารดัดแปลงสิง่ ท่มี ีอยูห่ รือนำสิง่ อ่ืนมาทดแทนสง่ิ ที่ขาดได้
ชงิ ประจกั ษ์ ให้รายละเอยี ดของงานหรือความคิดได้ และมีการตรวจสอบผลงาน
ในเบ้ืองต้น
78
10. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................ ..............
.................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชือ่
()
ตำแหนง่
11. บันทึกหลงั สอน
ผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
ปัญหา/อุปสรรค
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................ ..............................
.................................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................... ...........................................
ครูผสู้ อน
()
วันทบ่ี ันทึก.........................................................