The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้+วิทยาการคำนวณ+ม3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirasakbasza4.1, 2022-05-28 22:27:17

แผนการจัดการเรียนรู้+วิทยาการคำนวณ+ม3

แผนการจัดการเรียนรู้+วิทยาการคำนวณ+ม3

โครงสร้างรายวชิ า รหัสวชิ า ว 23102

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3

เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง จำนวน 1 น้ำหนกั /หนว่ ยกิต ภาคเรยี นที่
1/2565

โครงสรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้

วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 20 ชั่วโมง

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ กระบวนการจัดการ ทกั ษะการคิด สมรรถนะสำคญั เวลา
1.การพฒั นา (ช่ัวโมง)
แอปพลิเคชนั ท่ี ..... เร่ือง ......... เรยี นรู้
2.ภาษาไพทอน 6
1.การพฒั นา กระบวนการสรา้ ง 1.การคิด 1.ความสามารถ 4
3.การประมวล
ผลข้อมูล แอปพลิเคชนั เจตคติ วิเคราะห์ ในการคดิ 6

4.อนิ เทอรเ์ นต็ 2.การคดิ 2.ความสามารถ 8
ของสรรพสง่ิ 6
สังเคราะห์ ในการแก้ปัญหา

2.การประมวลผล กระบวนการปฏบิ ัติ 1.การคิด 1.ความสามารถ

สารสนเทศ วเิ คราะห์ ในการแก้ปัญหา

2.การคิด 2.ความสามารถ

สงั เคราะห์ ในการใช้

3.การคิด เทคโนโลยี

แก้ปญั หา

3.การสร้างสว่ นต่อ กระบวนการปฏิบัติ 1.การคดิ 1.ความสามารถ

ประสานกราฟิกกบั ผใู้ ช้ วเิ คราะห์ ในการแกป้ ัญหา

2.การคิด 2.ความสามารถ

สงั เคราะห์ ในการใช้

3.การคิด เทคโนโลยี

แกป้ ัญหา

4.การประมวลผล กระบวนการสรา้ ง 1.การคดิ 1.ความสามารถ

ขอ้ มลู เจตคติ วิเคราะห์ ในการคดิ

2.การคิด 2.ความสามารถ

สังเคราะห์ ในการแกป้ ญั หา

5.อินเทอร์เนต็ ของ กระบวนการสร้าง 1.การคิด 1.ความสามารถ

สรรพสงิ่ เจตคติ วิเคราะห์ ในการคิด

2.การคดิ 2.ความสามารถ

สังเคราะห์ ในการแกป้ ัญหา

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ กระบวนการจัดการ ทกั ษะการคดิ สมรรถนะสำคญั เวลา
(ช่วั โมง)
ท่ี ..... เรอ่ื ง ......... เรียนรู้ 1.ความสามารถ
ในการคิด 2
5.การใช้เทคโนโลยี 6.การประเมินความ กระบวนการสร้าง 1.การคดิ 2.ความสามารถ
ในการแกป้ ญั หา 2
สารสารสนเทศ น่าเชื่อถือของขอ้ มูล เจตคติ วเิ คราะห์ 3.ความสามารถ 2
ในการใช้
อย่างรู้เทา่ ทัน 2.การคดิ เทคโนโลยี 2
2
สงั เคราะห์
40
7.เหตผุ ลวิบตั ิ

8.การทำธุรกรรม
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์อยา่ ง
ปลอดภัย

9.การรเู้ ท่าทันส่ือและ
ขา่ วลวงและผลกระทบ

10.กฎหมายเกย่ี วกับ
คอมพวิ เตอรแ์ ละการ
ใช้ลขิ สิทธิ์ทเ่ี ปน็ ธรรม

รวม

คำอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวิชา ว 23103 รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1เวลา
40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) การเขียนโปรแกรมเพื่อพัฒนา
แอปพลิเคชัน ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผล ซอฟต์แวร์หรือ
บริการบนอินเทอรเ์ น็ตที่ใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเชื่อถือของขอ้ มูล การสืบค้นหาแหลง่ ต้นตอ
ของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด การรู้เท่าทันสื่อ กฎหมายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การใช้
ลิขสทิ ธข์ิ องผูอ้ ื่นโดยชอบธรรม

รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู หิ รอื ทุติยภมู ิ ประมวล สรา้ งทางเลอื ก และนำเสนอการตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
ออกแบบและเขียนโปรแกรม เพ่อื พฒั นาแอปพลิเคชนั ท่ีมีการบูรณาการกับวิชาอน่ื อย่างสร้างสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างร้เู ท่าทัน และมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม

ตัวช้ีวัด

ว 4.2 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

ว 4.2 ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชนั ทีม่ ีการบรู ณาการกบั วิชาอ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์

ว 4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้
ซอฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย

ว 4.2 ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของข้อมลู วิเคราะหส์ ่ือและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิด เพอ่ื การใช้
งานอย่างรู้เท่าทัน

ว 4.2 ม.3/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายเกีย่ วกับ
คอมพวิ เตอร์ ใช้ลขิ สิทธ์ขิ องผูอ้ นื่ โดยชอบธรรม

รวมทงั้ หมด 4 ตัวชว้ี ัด

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ า วทิ ยาการคำนวณ รหัสรายวชิ า ว 23102

ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรียนร้เู รอ่ื ง การพฒั นาแอปพลเิ คชัน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การพัฒนาแอปพลิเคชนั เวลา 6 ชว่ั โมง

ครผู ้สู อน นายจิรศักดิ์ บญุ จิตต์ ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวนั ท่ี......................เดอื น.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชวี ติ จริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูเ้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม

ตวั ชี้วัด ม.3/1 พัฒนาแอปพลิเคชนั ทม่ี กี ารบรู ณาการกบั วิชาอน่ื อยา่ งสร้างสรรค์
2.สาระการเรียนรู้

ข้ันตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ถ้าเรามีการวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยใช้
เคร่ืองมอื มาชว่ ยวางแผนและตดิ ตามความก้าวหน้าของงานท่ีทำ จะชว่ ยใหพ้ ฒั นาซอฟตแ์ วรไ์ ด้ตรงตามความต้องการ
ของผู้ใช้ได้อย่างครอบถ้วนและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการพัฒนา ซึ่งขั้นตอนการ
พัฒนาแอปพลเิ คชัน ได้แก่ การศกึ ษาความต้องการ การออกแบบ การสร้างแอปพลิเคชนั และการทดสอบ
4.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. นกั เรยี นอธบิ ายขน้ั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันได้ (K)
2. นกั เรียนใชเ้ ครือ่ งมือช่วยวางแผนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ได้ (P)
3. นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)
แอปพลเิ คชันทีด่ ตี ้องมลี กั ษณะอย่างไร
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง 2551 และปรับปรงุ 2560
ใฝเ่ รยี นรู้
7. คุณค่าพระวรสาร ความซอ่ื ตรง (regularity)
8. ทักษะการคิด
1. การคิดวิเคราะห์
2. การคิดสังเคราะห์

9. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ช้นิ งาน/รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้
1. แบบฝึกหัดทา้ ยบท/ใบกจิ กรรม
2. สงั เกตพฤตกิ รรมมีสว่ นร่วมในช้ันเรียน

11. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ช่ัวโมงท่ี 1
1) ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

ครูต้ังคำถามกับนักเรียน “แอปพลิเคชนั ทดี่ ี ควรเปน็ อย่างไร?” แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ
2) ข้ันสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ

1. สังเกต
ครูยกตวั อยา่ งแอปพลิเคชันตา่ งๆใหน้ ักเรยี นดู เช่น Line Facebook Youtube ฯลฯ แล้วถาม

นักเรียนว่า ถา้ เราจะสรา้ งแอปพลิเคชนั มา 1 แอปจะมขี ้ันตอนการสรา้ งอย่างไร
2. วเิ คราะห์

1.ครใู ห้นักเรยี นศึกษาหัวข้อ 1.1 การพัฒนาแอปพลเิ คชัน จากหนงั สอื เรียน ซึง่ มี 4 ข้ันตอน

1.การศึกษาความต้องการ 2.การออกแบบ 3.การสร้างแอปพลิเคชนั และ4.การทดสอบ และครูอธบิ าย

แตล่ ะขั้นตอนใหน้ กั เรยี นเพิ่มเติม

2.ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาหัวข้อ 1.2 การวางแผนการพัฒนา จากหนังสอื เรยี น ครอู ธิบายเพิม่ เติมการวาง

แผนการพัฒนาและติดตามงานโดยใช้เทคนคิ กระดานคัมบงั และรายละเอยี ดข้อมูลบนการด์ คัมบงั ว่าต้อง

ประกอบด้วยอะไรบา้ ง

3.ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมท่ี 1.1

3. สรุป
ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ขน้ั ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั และขัน้ ตอนการวางแผนการทำงานดว้ ย
การใชเ้ ทคนิคคัมบงั

3) ขั้นสรุป
ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปข้นั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันและข้นั ตอนการวางแผนการทำงานด้วยใช้

เทคนคิ คมั บัง

ชัว่ โมงท่ี 2
1) ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น

ครทู บทวนบทเรียนในชวั่ โมงทผี่ า่ นมา เรื่องข้ันตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันและเทคนคิ กระดานคัมบัง

2) ขนั้ สอน โดยใช้กระบวนการสรา้ งเจตคติ
1. สังเกต
ครูต้งั คำถามกับนักเรยี น ถ้าเราไมม่ ีกระดาษโพสอิทในการทำกระดาษคัมบงั เรามวี ิธีไหนไดบ้ า้ งให้
นกั เรียนช่วยกันตอบ
2. วิเคราะห์
1.ครูใหน้ กั เรยี นศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 1.3 เครือ่ งมือชว่ ยวางแผนและติดตามความก้าวหน้า ซ่ึงจะเปน็ การใช้

โปรแกรมออนไลน์ ชื่อโปรแกรมเทรลโล (Trello) เป็นแอปพลิเคชนั แบบออนไลน์ทนี่ ำมาใช้บริหารจัดการ

งานในรูปแบบกระดานคมั บงั

2.ครูให้นักเรยี นเปิดเว็บไซต์ htttps://trello.com แล้วครอู ธบิ ายขั้นตอนการสมัครและการใช้งาน
3.ครใู หน้ กั เรยี นออกแบบงานโดยใช้โปรแกรมเทรลโล มา 1 เร่ือง
4.ครูให้นกั เรียนทำกิจกรรมท้ายบทและแบบฝกึ หัดท้ายบท
3. สรปุ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ การใชโ้ ปรแกรมเทรลโล

3) ขัน้ สรุป

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปการใช้โปรแกรมเทรลโล

12. ระบุเทคนิคการสอนทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรียนรู้ไดม้ ากกวา่ 1 รายการ

1. ใชบ้ รรยาย

2. ใชก้ รณีตัวอยา่ ง

13. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน

2. สไลดส์ ือ่ ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การวัด
1.สามารถตอบคำถามใน
1.นักเรียนอธบิ ายข้นั ตอนการพฒั นา 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดได้ถกู ตอ้ งตาม
หลกั การ 80 % ข้ึนไป
แอปพลิเคชันได้ (K) แบบฝกึ หัด 2.สามารถตอบคำถามในใบ
งานได้ 80 % ขนึ้ ไป
2.นกั เรยี นใช้เคร่อื งมือชว่ ยวางแผนการ 2.ตรวจใบงาน 2.แบบประเมินใบ 3.นักเรยี นมีคุณลักษณะอนั
พัฒนาแอปพลิเคชันได้ (P) งาน พงึ ประสงค์ ได้ 85% ขึน้ ไป
3.นกั เรยี นมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.สงั เกตพฤติกรรมใน 3.แบบประเมิน
การทำแบบฝกึ หัด พฤติกรรม

15. บนั ทกึ หลงั การเรียนการสอน
ผลการเรยี นรู้

1. กจิ กรรมการเรยี นการสอนท่กี ำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เปน็ กิจกรรมทีเ่ หมาะสมกบั วัยของ
ผเู้ รียนและเหมาะสมกบั สาระการเรยี นรู้ สามารถจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

ได้ตามเวลาท่กี ำหนดทุกกิจกรรม
ไม่ทนั ตามเวลาท่กี ำหนดในกจิ กรรมเนื่องจาก................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนคร้งั น้ี นกั เรียนทุกคนได้ร่วมกิจกรรมและเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ
3. กิจกรรมช่วยใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกดิ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
และมีทกั ษะกระบวนการตามท่จี ดุ ประสงค์กำหนด
4. สื่อการเรยี นการสอนที่กำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ช้สอื่ หลายอย่าง เป็นส่อื ที่เหมาะสมกับ
วัยผเู้ รยี น สอดคล้องกบั เนื้อหา สามรถใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วยให้
ผเู้ รียนเรยี นรูอ้ ย่างสนกุ สนานและเข้าใจบทเรียนไดเ้ รว็ ยิ่งขน้ึ
5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนครั้งนี้ ครอบคลุมพฤตกิ รรมตามจดุ ประสงคก์ าร
เรียนรู้ทกี่ ำหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ผลการวัดผลและประเมินผลสรุปได้ ดงั น้ี :-

5.1 ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
นักเรียนผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรูข้ ้อที่ .............
นักเรยี นทีผ่ า่ นจดุ ประสงค์ตามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ...........................................คิดเปน็ รอ้ ยละ..................................
- นักเรียนท่ไี มผ่ า่ นจดุ ประสงค์ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเปน็ รอ้ ยละ
และได้ดำเนินการแก้ปัญหา คอื
 สอนเสริม  มอบงานให้ทำเพิม่ เตมิ  ทำรายงาน  อนื่ ๆ................

5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
นกั เรียนที่ผ่านทกั ษะกระบวนการตามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................................
- นกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นทักษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ
และได้ดำเนินการแก้ปัญหา คือ ............................................................................

5.3 ดา้ นค่านยิ ม (A)
- นักเรียนทม่ี ีคา่ นยิ มตามเกณฑร์ อ้ ยละ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ ......................................
- นักเรียนที่ตอ้ งปรับเปลย่ี นคา่ นยิ ม จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คดิ เปน็ ร้อยละ .......................................
และได้ดำเนินการปรบั เปลย่ี นคา่ นิยม (แจงรายละเอยี ด ของการปรบั เปลี่ยนค่านิยม คือ
......................................................................................................

นวตั กรรมทีใ่ ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน
การจดั การเรยี นการสอนในครั้งนไ้ี ด้จัดทำสื่อการเรียนการสอนท่เี ปน็ นวัตกรรม คอื (Power Point เร่อื ง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบุชื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………….
…………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
แนวทางการแก้ไขปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………….

ลงชอื่ ..............................................ผู้สอน
( นายจิรศักดิ์ บญุ จติ ต์ )

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา หรอื ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กุล)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิชา วิทยาการคำนวณ รหสั รายวิชา ว 23102

ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรู้เรอื่ ง ไพทอน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง การประมวลผลสารสนเทศ เวลา 4 ช่ัวโมง

ครผู สู้ อน นายจริ ศกั ด์ิ บุญจิตต์ ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวนั ท่ี......................เดือน.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ข้ันตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร้เู ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

ตวั ชีว้ ดั ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชันทีม่ กี ารบรู ณาการกับวชิ าอ่ืนอย่างสรา้ งสรรค์
ตัวช้ีวดั ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์ โดย
ใชซ้ อฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอรเ์ น็ตทหี่ ลากหลาย
2.สาระการเรยี นรู้
ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor

การประมวลผลเปน็ การกระทำกบั ข้อมูลเพอื่ ใหไ้ ด้ผลลัพธ์ท่มี ีความหมายและมีประโยชน์ตอ่ การนำไปใชง้ าน

3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การประมวลผลสารสนเทศเบื้องต้นด้วยภาษาไพทอน ทำได้โดยใช้โมดูล pandas ช่วยในการอ่านข้อมูล

ประมวลผลและทำข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ สำหรับนำไปใช้งานตามจดุ ประสงคต์ ่างๆ ได้
4.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

4. นักเรียนอธิบายหลกั การเขียนโปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (K)
5. นกั เรยี นเขียนโปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (P)
6. นกั เรียนมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)
การประมวลผลสารสนเทศทด่ี ี ควรคำนงึ ถงึ อะไร
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง 2551 และปรับปรุง 2560
มุง่ ม่ันในการทำงาน
7. คณุ ค่าพระวรสาร การงาน (work)

8. ทกั ษะการคิด
3. การคิดวเิ คราะห์
4. การคิดสังเคราะห์
5. การคดิ แก้ปัญหา

9. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
5. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ช้ินงาน/รอ่ งรอย/หลักฐานการเรียนรู้
3. แบบฝึกหัดทา้ ยบท/ใบกจิ กรรม
4. สงั เกตพฤติกรรมมสี ่วนร่วมในชนั้ เรยี น

11. การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน

ชั่วโมงที่ 1-2
1) ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น

ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างข้อมูลในชีวิตประจำวนั ที่สนใจ เช่น ข้อมูลประวัตินักเรียน ข้อมูลคะแนนสอบ
ข้อมูลสุขภาพ พร้อมบอกประโยชน์ในการนำข้อมูลไปใช้งาน และครูถามนักเรียนถึงข้อมูลที่สนใจว่า
ประกอบไปดว้ ยขอ้ มลู ย่อยอะไรบา้ ง
2) ข้ันสอน โดยใช้กระบวนการปฏิบตั ิ
1.การสังเกต/รบั รู้

ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นรู้จกั โมดลู Pandas ซงึ่ เปน็ โมดูลในภาษาไพทอนทช่ี ่วยอำนวยความสะดวกใน
การประมวลผลข้อมลู แลว้ ร่วมกนั ทบทวนการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอนเบ้ืองตน้ ครอู ธบิ ายข้อมลู ท่ีเก็บใน
Pandas ที่เปน็ Series และ DataFrame

2.การทำตามแบบ
1.ครูสอนนักเรยี นเขยี นโปรแกรมตามตัวอย่างที่ 2.1 การใช้ Series ในการเกบ็ คะแนนสอบวิชา

วทิ ยาการคำนวณของนักเรยี นชนั้ ม.3/1 จำนวน 20 คน แลว้ รันโปรแกรมเพอ่ื แสดงผลลัพธ์
2.ครูสอนนกั เรยี นเขียนโปรแกรมตามตวั อย่างท่ี 2.2 การใช้ DataFrame แล้วรันโปรแกรมเพื่อแสดง

ผลลัพธ์
3.ครสู อนนักเรยี นเขียนโปรแกรมในรปู แบบไฟลข์ ้อมูลในรูปแบบซีเอสวี

3.การทำโดยไม่มีแบบ
ครูใหน้ ักเรียนเขียนโปรแกรมท่ีระบุช่ือคอลัมนห์ รือหัวตารางในการแสดงผล โดยใช้ฟงั ก์ชนั

read_csv ( )
4.การฝกึ ใหเ้ กิดทักษะ

ครูใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมแสดงข้อมูลใน DataFrame ออกทางจอภาพ โดยใชฟ้ งั กช์ ัน print( )
แสดงผลลพั ธใ์ นรปู แบบต่างๆ

3) ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป การใชง้ านโมดูล pandas

ชว่ั โมงที่ 3-4
1) ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน

ครทู บทวนบทเรียนในคาบท่แี ล้ว
2) ขนั้ สอน โดยใชก้ ระบวนการปฏบิ ัติ

1.การสงั เกต/รบั รู้
ครูอธบิ ายขอ้ มูลใน DataFrame ทีร่ บั มาจากไฟล์ CSV นน้ั สามารถนำไปประมวลผลตามความ

ตอ้ งการได้ เช่น คา่ เฉล่ยี ค่าสูงสุด ค่าตำ่ สุด เป็นต้น
2.การทำตามแบบ
ครสู อนการเขยี นโปรแกรมการนบั จำนวนข้อมูล การหาค่าเฉลยี่ การหาค่าเฉล่ยี แยกตามกลุ่ม
3.การทำโดยไม่มีแบบ
ครูใหน้ กั เรยี นเขยี นโปรแกรมการทำข้อมูลให้เป็นภาพ ด้วยการนำเสนอด้วยฮสิ โทแกรม
4.การฝกึ ให้เกิดทักษะ
ครูให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมการนำเสนอผลคะแนนดว้ ยแผนภาพการกระจาย

3) ขนั้ สรปุ
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุป การรวมขอ้ มูล การทำขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพ และการนำ Pandas ไปใช้

ประโยชน์ในด้านอื่นๆ

12. ระบุเทคนคิ การสอนท่ใี ชใ้ นการจดั การเรียนรู้ไดม้ ากกว่า 1 รายการ
3. ใชบ้ รรยาย
4. ใชก้ รณตี ัวอยา่ ง
5. ใช้การปฏบิ ตั ิ

13. ส่อื และแหล่งเรียนรู้
3. หนังสือเรยี น
4. สไลดส์ ่ือประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน วธิ ีการวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารวัด
จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝึกหดั 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั ได้ถูกต้องตาม
1.นกั เรียนอธบิ ายหลักการเขียน 2.แบบประเมนิ ใบ หลกั การ 80 % ขึ้นไป
โปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (K) งาน 2.สามารถตอบคำถามในใบ
3.แบบประเมนิ งานได้ 80 % ขน้ึ ไป
2.นกั เรียนเขียนโปรแกรมประมวลผล 2.ตรวจใบงาน พฤติกรรม 3.นักเรียนมีคณุ ลกั ษณะอัน
สารสนเทศได้ (P) พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป
3.นักเรียนมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) 3.สงั เกตพฤติกรรมใน
การทำแบบฝึกหดั

15. บนั ทึกหลงั การเรียนการสอน
ผลการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นการสอนทก่ี ำหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ เป็นกิจกรรมทเี่ หมาะสมกบั วัยของ
ผ้เู รยี นและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน

ไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนดทุกกิจกรรม
ไม่ทันตามเวลาทกี่ ำหนดในกิจกรรมเนือ่ งจาก................................................................
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครงั้ น้ี นักเรยี นทุกคนได้รว่ มกิจกรรมและเรียนรอู้ ย่างมคี วามสุข
3. กจิ กรรมช่วยให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์
และมที ักษะกระบวนการตามท่จี ดุ ประสงค์กำหนด
4. สื่อการเรียนการสอนท่กี ำหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ได้ใชส้ ่ือหลายอยา่ ง เป็นสื่อที่เหมาะสมกบั
วยั ผเู้ รียน สอดคลอ้ งกบั เนื้อหา สามรถใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ช่วยให้
ผู้เรียนเรียนรู้อยา่ งสนุกสนานและเข้าใจบทเรยี นได้เรว็ ยง่ิ ข้นึ
5. การวัดผลประเมินผล ในการจัดการเรียนการสอนคร้ังน้ี ครอบคลมุ พฤตกิ รรมตามจุดประสงคก์ าร
เรยี นรทู้ ่กี ำหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ผลการวดั ผลและประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั น้ี :-

5.1 ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
นกั เรียนผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ อ้ ที่ .............
นกั เรียนทผ่ี า่ นจุดประสงค์ตามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นรอ้ ยละ..................................
- นกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านจดุ ประสงค์ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นร้อยละ
และได้ดำเนนิ การแก้ปญั หา คือ
 สอนเสริม  มอบงานให้ทำเพม่ิ เติม  ทำรายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นกั เรยี นที่ผา่ นทกั ษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรียนทไ่ี มผ่ ่านทกั ษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ
และได้ดำเนนิ การแก้ปัญหา คอื ............................................................................

5.3 ดา้ นค่านยิ ม (A)
- นักเรียนทีม่ คี ่านยิ มตามเกณฑ์ร้อยละ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................................
- นักเรยี นท่ตี ้องปรับเปลย่ี นคา่ นิยม จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นรอ้ ยละ .......................................

และได้ดำเนินการปรบั เปลีย่ นคา่ นยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปล่ยี นค่านยิ ม คอื
......................................................................................................

นวัตกรรมที่ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน
การจดั การเรยี นการสอนในคร้งั นไ้ี ด้จัดทำส่ือการเรียนการสอนทเี่ ปน็ นวัตกรรม คือ (Power Point เรอ่ื ง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบุชื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………….
แนวทางการแก้ไขปัญหา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………….

ลงช่ือ..............................................ผสู้ อน
( นายจริ ศักดิ์ บุญจติ ต์)

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศึกษา หรอื ผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงชอ่ื ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กุล)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ า วิทยาการคำนวณ รหสั รายวิชา ว 23102

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ภาษาไพทอน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง การประมวลผลสารสนเทศ เวลา 4 ชว่ั โมง

ครผู ู้สอน นายจิรศักด์ิ บุญจติ ต์ ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวันท่ี......................เดอื น.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม

ตวั ชี้วดั ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชันทม่ี กี ารบรู ณาการกบั วชิ าอื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์
ตวั ช้วี ดั ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์ โดย
ใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตทหี่ ลากหลาย
2.สาระการเรียนรู้
ซอฟต์แวร์ทใี่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั เชน่ Scratch, python, java, c, AppInventor

การประมวลผลเปน็ การกระทำกบั ขอ้ มลู เพ่ือใหไ้ ด้ผลลัพธ์ทมี่ ีความหมายและมปี ระโยชนต์ ่อการนำไปใชง้ าน

3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเขยี นโปรแกรมที่มีสว่ นต่อประสานกราฟกิ กับผู้ใช้จะชว่ ยให้มองเห็นภาพรวมของโปรแกรมได้ดีขึ้นใช้งาน

ง่าย และมคี วามน่าสนใจ ในภาษาไพทอน สามารถทำได้โดยการใช้ tkinter ซง่ึ เป็นโมดูลที่ช่วยในการเขยี นโปรแกรมท่ี
มีสว่ นตอ่ ประสานกราฟกิ กบั ผู้ใช้
4.จุดประสงค์การเรยี นรู้

7. นกั เรยี นอธบิ ายหลกั การเขยี นโปรแกรมสร้างส่วนต่อประสานกราฟิกกบั ผ้ใู ช้ได้ (K)
8. นกั เรยี นเขียนโปรแกรมสร้างส่วนตอ่ ประสานกราฟกิ กับผ้ใู ช้ได้ (P)
9. นักเรยี นมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)
การออกแบบหน้าตาโปรแกรมช่วยใหก้ ารใช้งานโปรแกรมไดง้ า่ ยอย่างไร
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง 2551 และปรบั ปรงุ 2560
มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
7. คณุ ค่าพระวรสาร การงาน (work)

8. ทักษะการคิด
6. การคดิ วิเคราะห์
7. การคดิ สงั เคราะห์
8. การคดิ แกป้ ญั หา

9. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
7. ความสามารถในการแก้ปัญหา
8. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ช้ินงาน/ร่องรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้
5. แบบฝกึ หดั ท้ายบท/ใบกิจกรรม
6. สังเกตพฤตกิ รรมมสี ว่ นรว่ มในชัน้ เรียน

11. การออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอน

ชัว่ โมงท่ี 1-2
1) ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน

ครูให้นักเรียนยกตัวอยา่ งการใช้งานโปรแกรมคอมพวิ เตอรห์ รือแอปพลิเคชันในชีวติ ประจำวันที่ทำให้การ
ดำเนินชีวิตของผู้เรียนสะดวกมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ แอปพลิเคชันแสดงสภาพ
การจราจร
2) ขั้นสอน โดยใชก้ ระบวนการปฏิบตั ิ
1.การสงั เกต/รบั รู้

ครูแนะนำใหน้ ักเรียนรู้จกั โมดลู tkinter ซง่ึ เป็นโมดูลในภาษาไพทอนท่ีช่วยอำนวยความสะดวกใน
การสรา้ งส่วนต่อประสานกราฟกิ กับผู้ใช้ ซงึ่ มี 4 ข้ันตอนในการใช้งานโมดลู tkinder และเปน็ การนำไปสร้างแอปพลิเค
ชนั เครอ่ื งคดิ เลข

2.การทำตามแบบ
1.ครสู อนนกั เรยี นเขียนโปรแกรมตามตัวอย่างที่ 2.1.1 การสร้างหน้าตา่ งหลกั ด้วย tkinter แลว้ รัน

โปรแกรมเพ่ือแสดงผลลัพธ์ ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ
2.ครสู อนนักเรียนเขียนโปรแกรมตามตวั อย่างท่ี 2.1.2 การเพมิ่ ป่มุ ลงในหน้าตา่ งหลกั แลว้ รนั

โปรแกรมเพื่อแสดงผลลพั ธ์
3.การทำโดยไม่มแี บบ
ครูให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมเขียนโปรแกรมเพิม่ วดิ เจต็ ลาเบลลงในหนา้ ต่างหลัก
4.การฝกึ ให้เกิดทกั ษะ
ครใู หน้ กั เรียนเขยี นโปรแกรมการเพ่ิมปุม่ ตวั เลขบนเครอื่ งคิดเลข

3) ขั้นสรุป
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุป การใช้งานโมดูล tkinder

ชั่วโมงท่ี 3-4

1) ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น

ครทู บทวนบทเรยี นในคาบท่แี ล้ว

2) ข้นั สอน โดยใช้กระบวนการปฏิบตั ิ

1.การสงั เกต/รับรู้

ครูอธิบายการจดั วางวดิ เจต็ แบบกริด

2.การทำตามแบบ

ครูสอนนกั เรยี นเขียนโปรแกรมการจดั วางวิดเจ็ตแบบกริด

3.การทำโดยไม่มีแบบ

ครูใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมการทำงานของแอปพลเิ คชนั เครอื่ งคิดเลข

4.การฝึกให้เกิดทกั ษะ

ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมท่ี 2.2 และแบบฝกึ หัดท้ายบท

3) ขั้นสรปุ

ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุป การใช้งานโมดลู tkinder

12. ระบุเทคนิคการสอนทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ไดม้ ากกวา่ 1 รายการ

6. ใชบ้ รรยาย

7. ใช้กรณีตวั อยา่ ง

8. ใช้การปฏิบตั ิ

13. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้

5. หนงั สอื เรียน

6. สไลดส์ อ่ื ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารวดั

1.นักเรียนอธบิ ายหลกั การเขยี น 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝกึ หัด 1.สามารถตอบคำถามใน

โปรแกรมสร้างส่วนตอ่ ประสานกราฟิก แบบฝกึ หัด แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม

กบั ผใู้ ชไ้ ด้ (K)) หลกั การ 80 % ขึ้นไป

2.นักเรยี นเขียนโปรแกรมสรา้ งส่วนต่อ 2.ตรวจใบงาน 2.แบบประเมินใบ 2.สามารถตอบคำถามในใบ

ประสานกราฟกิ กบั ผใู้ ช้ได้ (P) งาน งานได้ 80 % ขึ้นไป

3.นกั เรยี นมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) 3.สงั เกตพฤติกรรมใน 3.แบบประเมิน 3.นักเรียนมีคณุ ลกั ษณะอนั

การทำแบบฝกึ หัด พฤติกรรม พงึ ประสงค์ ได้ 85% ข้ึนไป

15. บนั ทกึ หลงั การเรียนการสอน
ผลการเรยี นรู้

1. กิจกรรมการเรยี นการสอนทกี่ ำหนดไว้ในแผนการจดั การเรยี นรู้ เปน็ กจิ กรรมทีเ่ หมาะสมกบั วัยของ
ผู้เรยี นและเหมาะสมกับสาระการเรยี นรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ไดต้ ามเวลาทีก่ ำหนดทุกกิจกรรม
ไม่ทันตามเวลาท่กี ำหนดในกจิ กรรมเนอื่ งจาก................................................................
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครง้ั นี้ นักเรียนทกุ คนไดร้ ่วมกิจกรรมและเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ
3. กจิ กรรมชว่ ยให้ผูเ้ รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกดิ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
และมีทกั ษะกระบวนการตามท่จี ดุ ประสงค์กำหนด
4. สอื่ การเรยี นการสอนทก่ี ำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ช้สอื่ หลายอย่าง เป็นส่อื ที่เหมาะสมกับ
วยั ผเู้ รยี น สอดคล้องกับเน้อื หา สามรถใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วยให้
ผู้เรยี นเรยี นรูอ้ ยา่ งสนกุ สนานและเข้าใจบทเรียนไดเ้ ร็วยง่ิ ขึน้
5. การวัดผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนครงั้ นี้ ครอบคลุมพฤตกิ รรมตามจดุ ประสงคก์ าร
เรยี นรู้ท่ีกำหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรุปได้ ดงั น้ี :-

5.1 ด้านความรู้ความเข้าใจ (K)
นกั เรียนผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ข้อท่ี .............
นกั เรียนทผ่ี ่านจุดประสงค์ตามเกณฑร์ ้อยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ...........................................คดิ เป็นรอ้ ยละ..................................
- นกั เรียนทีไ่ มผ่ ่านจุดประสงค์ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นร้อยละ
และได้ดำเนินการแก้ปญั หา คือ
 สอนเสริม  มอบงานใหท้ ำเพมิ่ เติม  ทำรายงาน  อนื่ ๆ................

5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
นักเรียนท่ีผา่ นทกั ษะกระบวนการตามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านทักษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ
และได้ดำเนินการแก้ปัญหา คือ ............................................................................

5.3 ด้านค่านิยม (A)
- นกั เรียนที่มคี า่ นยิ มตามเกณฑ์รอ้ ยละ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นร้อยละ ......................................
- นักเรยี นที่ตอ้ งปรับเปล่ียนคา่ นิยม จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเปน็ ร้อยละ .......................................
และไดด้ ำเนนิ การปรบั เปล่ยี นคา่ นิยม (แจงรายละเอยี ด ของการปรบั เปลี่ยนค่านิยม คือ
......................................................................................................

นวัตกรรมท่ใี ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
การจดั การเรยี นการสอนในคร้ังนี้ไดจ้ ดั ทำสื่อการเรยี นการสอนที่เปน็ นวตั กรรม คือ (Power Point เรื่อง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบุชื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………….……….……………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……….………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………….
แนวทางการแก้ไขปัญหา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………...……………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………….

ลงชอื่ ..............................................ผู้สอน
( นายจริ ศักด์ิ บุญจิตต์ )

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา หรอื ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กุล)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วชิ า วทิ ยาการคำนวณ รหัสรายวิชา ว 23102

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นรเู้ ร่ือง การประมวลผลขอ้ มูล

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง การประมวลผลข้อมูล เวลา 6 ชัว่ โมง

ครูผู้สอน นายจริ ศักดิ์ บญุ จิตต์ ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวันท่ี......................เดือน.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ข้ันตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รเู้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม

ตัวช้ีวัด ม.3/2 ประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู วิเคราะห์ส่ือและผลกระทบจากการใหข้ า่ วสารท่ีผิด เพ่ือ
การใชง้ านอยา่ งรเู้ ทา่ ทัน
2.สาระการเรยี นรู้

การรวบรวมข้อมลู จากแหล่งข้อมูลปฐมภมู แิ ละทุติยภมู ิ ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมินผล จะทำให้ได้

สารสนเทศเพอื่ ใช้ในการแกป้ ญั หาหรือการตัดสินใจได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

การประมวลผลเปน็ การกระทำกับขอ้ มลู เพ่อื ให้ได้ผลลพั ธ์ทมี่ ีความหมายและมีประโยชนต์ อ่ การนำไปใช้งาน

การใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ตทหี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผลสรา้ งทางเลอื ก

ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างรวดเรว็ ถกู ตอ้ งและแม่นยำ

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ต่างๆต้องวิเคราะห์วัตถุประสงค์ของการนำขอ้ มูลไปใช้ เพื่อนำไปสู่การเลือก

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเหมาะสม เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การสอบถาม การสำรวจ การสนทนากลุ่ม
หลงั จากน้นั จงึ ออกแบบเครอ่ื งมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และดำเนินการเกบ็ ข้อมูลตามท่ีได้วางแผนไว้ เม่ือได้ข้อมูล
มาแล้วตอ้ งมีการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและครบถว้ น เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ท่เี หมาะสมสำหรับการนำไประมวลผลต่อไป
4.จดุ ประสงค์การเรียนรู้

10. นกั เรยี นอธบิ ายข้ันตอนการนำขอ้ มูลไปประมวลผลได้ (K)
11. นกั เรียนสามารถนำการประมวลผลข้อมูลไปใช้งานได้ (P)
12. นักเรียนมคี วามใฝเ่ รียนรู้ (A)

5. คำถามสำคัญ (Big Question)
การประมวลผลข้อมูลมกี ว่ี ิธี อะไรบา้ ง

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551 และปรับปรุง 2560
ใฝเ่ รียนรู้

7. คุณค่าพระวรสาร ความซ่ือตรง (regularity)
8. ทักษะการคิด

9. การคิดวิเคราะห์
10. การคดิ สังเคราะห์
9. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
9. ความสามารถในการสอ่ื สาร
10. ความสามารถในการคดิ
11. ความสามารถในการแก้ปัญหา
12. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
10. ภาระงาน/ชน้ิ งาน/รอ่ งรอย/หลักฐานการเรียนรู้
7. แบบฝกึ หัดทา้ ยบท/ใบกิจกรรม
8. สงั เกตพฤติกรรมมสี ว่ นรว่ มในชน้ั เรยี น
11. การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน
ชวั่ โมงที่ 1-3
1) ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน

ครูต้ังคำถามกบั นกั เรียน “นักเรยี นเคยสงั เกตไหมวา่ เมือ่ เข้าเวบ็ ไซต์ เครอื ขา่ ยสังคม หรือแอปพลิเค
ชนั ในการสั่งซ้อื สนิ คา้ จะมขี ้อมูลโฆษณาสนิ ค้า หรอื ข้อมลู เก่ียวกบั ส่งิ ทีน่ กั เรยี นสนใจปรากฎอยู่เสมอ”ให้
นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายถงึ สาเหตทุ ่ีเป็นไปไดท้ ่ีทำใหเ้ กดิ การโฆษณานัน้
2) ขัน้ สอน โดยใชก้ ระบวนการสร้างเจตคติ
4. สังเกต

ครยู กตวั อยา่ งการนำข้อมูลทีไ่ ด้จากการประมวลผลไปใช้ เชน่ การเลือกตัง้ ประธานาธิบดี การคาด
เดาพฤติกรรมแม่ต้ังครรภ์เพ่อื ส่งคูปองลดราคาสนิ ค้า เป็นต้น ซึ่งเปน็ การนำข้อมลู มาใชง้ านให้เกิด
ประโยชน์
5. วเิ คราะห์

1.ครใู ห้นกั เรียนศึกษาหวั ข้อ 4.2 การนำข้อมลู มาใช้แก้ปญั หา เรื่องการนิยามปัญหา การวเิ คราะห์

ปัญหา การรวบรวมข้อมูล และการเตรียมขอ้ มูล และครูอธิบายเพ่มิ เติมเพอื่ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจมากย่ิงขึ้น

2.ครใู หน้ กั เรียนทำกจิ กรรมที่ 4.1 จากหนงั สอื เรยี น

6. สรปุ
ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ เรอ่ื งการนำข้อมูลมาใชแ้ กป้ ัญหา

3) ขัน้ สรุป
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุป เรือ่ งการนำขอ้ มูลมาใชแ้ ก้ปญั หา

ช่ัวโมงที่ 4-6
1) ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น

ครทู บทวนบทเรยี นในชวั่ โมงทีผ่ ่านมา เรอื่ งการนำข้อมลู มาใช้แกป้ ัญหา
2) ขน้ั สอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ

4. สงั เกต
ครูตง้ั คำถามกับนักเรียน เราจะมกี ารประมวลผลขอ้ มลู แบบไหนได้บา้ ง

5. วเิ คราะห์
1.ครูให้นักเรียนศกึ ษาหัวข้อท่ี 5.การประมวลผลข้อมูลและการนำเสนอข้อมลู

2.นักเรยี นทำกิจกรรมที่ 4.2 และแบบฝึกหัดท้ายบท

6. สรุป

ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ เร่ืองการนำข้อมลู มาใชแ้ ก้ปัญหา

3) ขนั้ สรปุ

ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เร่ืองการนำข้อมูลมาใช้แก้ปญั หา

12. ระบุเทคนคิ การสอนทีใ่ ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ได้มากกว่า 1 รายการ

9. ใช้บรรยาย

10. ใชก้ รณีตัวอยา่ ง

13. สอื่ และแหล่งเรียนรู้

7. หนงั สอื เรยี น

8. สไลด์ส่อื ประกอบการสอน

14. การวัดประเมนิ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารวดั
1.สามารถตอบคำถามใน
1.นกั เรยี นอธิบายข้นั ตอนการนำข้อมลู 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัดไดถ้ กู ตอ้ งตาม
หลกั การ 80 % ขึ้นไป
ไปประมวลผลได้ (K) แบบฝกึ หัด 2.สามารถตอบคำถามในใบ
งานได้ 80 % ขึน้ ไป
2.นกั เรยี นสามารถนำการประมวลผล 2.ตรวจใบงาน 2.แบบประเมินใบ 3.นกั เรียนมีคุณลักษณะอัน
ขอ้ มลู ไปใชง้ านได้ (P) งาน พงึ ประสงค์ ได้ 85% ขนึ้ ไป
3.นกั เรยี นมีความใฝเ่ รยี นรู้ (A) 3.สังเกตพฤติกรรมใน 3.แบบประเมนิ
การทำแบบฝกึ หัด พฤติกรรม

15. บนั ทึกหลังการเรียนการสอน
ผลการเรียนรู้

1. กจิ กรรมการเรียนการสอนทกี่ ำหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ เป็นกิจกรรมท่เี หมาะสมกับวัยของ
ผู้เรยี นและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน

ไดต้ ามเวลาที่กำหนดทกุ กิจกรรม
ไม่ทันตามเวลาทก่ี ำหนดในกิจกรรมเนื่องจาก................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนครง้ั นี้ นักเรียนทุกคนได้ร่วมกจิ กรรมและเรียนรอู้ ย่างมีความสุข
3. กจิ กรรมช่วยให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกดิ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
และมีทักษะกระบวนการตามทจี่ ุดประสงคก์ ำหนด
4. ส่ือการเรียนการสอนทกี่ ำหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ได้ใชส้ ื่อหลายอยา่ ง เปน็ ส่ือท่เี หมาะสมกับ
วัยผู้เรยี น สอดคลอ้ งกับเนอื้ หา สามรถใช้ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วยให้
ผู้เรยี นเรียนรู้อยา่ งสนุกสนานและเข้าใจบทเรียนได้เร็วยิ่งข้นึ
5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรียนการสอนครงั้ น้ี ครอบคลุมพฤติกรรมตามจดุ ประสงค์การ
เรยี นรทู้ กี่ ำหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรปุ ได้ ดงั น้ี :-

5.1 ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ (K)
นกั เรยี นผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรขู้ อ้ ที่ .............
นกั เรยี นท่ีผ่านจดุ ประสงคต์ ามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนทไี่ ม่ผ่านจดุ ประสงค์ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นรอ้ ยละ
และได้ดำเนินการแก้ปญั หา คือ
 สอนเสริม  มอบงานใหท้ ำเพ่มิ เติม  ทำรายงาน  อ่ืน ๆ................

5.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
นักเรยี นทีผ่ ่านทักษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ..................................
- นกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านทกั ษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ
และได้ดำเนินการแกป้ ญั หา คอื ............................................................................

5.3 ดา้ นค่านิยม (A)
- นักเรียนที่มีคา่ นิยมตามเกณฑ์ร้อยละ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ ......................................
- นักเรยี นท่ีตอ้ งปรับเปล่ยี นคา่ นิยม จำนวน............คน

เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ .......................................
และไดด้ ำเนนิ การปรบั เปลี่ยนคา่ นิยม (แจงรายละเอียด ของการปรบั เปลี่ยนค่านิยม คอื
......................................................................................................

นวตั กรรมทีใ่ ช้ในการจดั การเรียนการสอน
การจัดการเรยี นการสอนในคร้ังนี้ไดจ้ ดั ทำส่ือการเรยี นการสอนทเ่ี ปน็ นวตั กรรม คือ (Power Point เร่อื ง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบชุ ื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………….
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………….

ลงชอ่ื ..............................................ผูส้ อน
( นายจิรศกั ด์ิ บุญจิตต์)

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศึกษา หรอื ผูท้ ่ไี ด้รับมอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กลุ )

ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจดั การเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ า วิทยาการคำนวณ รหัสรายวชิ า ว 23102

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นร้เู ร่ือง อินเทอร์เน็ตของสรรพสิง่

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง อนิ เทอร์เน็ตของสรรพส่ิง เวลา 6 ช่วั โมง

ครูผสู้ อน นายจิรศักดิ์ บญุ จติ ต์ ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวนั ท่ี......................เดอื น.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชีวติ จริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม

ตัวชี้วดั ม.3/1 พฒั นาแอปพลเิ คชันท่มี กี ารบูรณาการกับวิชาอืน่ อย่างสรา้ งสรรค์
2.สาระการเรยี นรู้

Internet of Things (IoT)

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือไอโอที (Internet of Things : IoT) เป็นการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น

อุปกรณไ์ ฟฟา้ ตัวตรวจวดั เข้ากบั โครงขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต ทำให้สามารถส่งข้อมลู ตรวจวัดจากสภาพแวดลอ้ มไปยังเครื่อง
คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ๆท่ีเชอื่ มอย่กู ับอนิ เทอรเ์ นต็ ได้

MQTT (Message Queuing Telemetry Transport) เปน็ โพรโทคอลทนี่ ำมาใช้ในงาน IoT เพอ่ื แลกเปล่ียน
ขอ้ มูลระหวา่ งอปุ กรณ์โดยผ่านเซริ ฟ์ เวอร์ตัวกลาง (broker) ประกอบด้วยฝั่งท่ีแจง้ ข้อมูล (publisher) และฝ่ังที่ขอรับ
ข้อมูล (subscriber) โดยจะตอ้ งระบตุ วั อา้ งองิ ที่เปน็ หัวข้อ (topic) ของขอ้ มลู ทจี่ ะรับส่งให้ตรงกัน
4.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

13. นักเรียนอธบิ ายองคป์ ระกอบและประโยชน์ของไอโอทีได้ (K)
14. นกั เรียนสามารถอภปิ รายกระบวนการทำงานของอปุ กรณไ์ อโอทีได้ (P)
15. นกั เรียนมีความใฝ่เรยี นรู้ (A)
5. คำถามสำคญั (Big Question)
อุปกรณเ์ ครอื งใช้ไฟฟา้ อะไรบา้ งท่สี ามารถทำงานผ่านระบบอนิ เทอร์เนต็ ได้
6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551 และปรับปรงุ 2560
ใฝ่เรยี นรู้

7. คณุ ค่าพระวรสาร ความซอื่ ตรง (regularity)

8. ทักษะการคิด
11. การคดิ วิเคราะห์
12. การคิดสงั เคราะห์

9. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
13. ความสามารถในการสื่อสาร
14. ความสามารถในการคดิ
15. ความสามารถในการแก้ปัญหา
16. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ช้ินงาน/รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้
9. แบบฝึกหัดทา้ ยบท/ใบกจิ กรรม
10. สงั เกตพฤติกรรมมีสว่ นรว่ มในชัน้ เรยี น

11. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ช่ัวโมงท่ี 1-3
1) ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน

ครูยกตวั อยา่ งนวัตกรรมสำหรับร้านซักผ้าท่ีลูกค้าสามารถจองควิ สั่งงาน และตดิ ตามการซักผ้าผ่าน
แอปพลิเคชันของสมาร์ตโฟน และเจ้าของร้านตรวจสอบข้อมูลผ่านเวบ็ ไซต์ได้ จากสถานการณ์ดังกล่าว
ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามต่อไปนี้

-เคร่อื งซักผา้ สมาร์ตโฟน และเครื่องเซริ ์ฟเวอร์ของเวบ็ ไซต์ ติดต่อส่อื สารกนั ไดอ้ ย่างไร
-นักเรยี นรูจ้ ักระบบอ่ืนที่มกี ารทำงานเหมอื นระบบทีย่ กตัวอย่างหรอื ไม่
2) ขนั้ สอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ
7. สังเกต
ครใู หน้ กั เรียนดภู าพ สมาร์ทโฮม ท่ีมอี ปุ กรณไ์ ฟฟ้าทเ่ี ชอื่ มต่ออินเทอร์เนต็ และให้นักเรียนวเิ คราะห์วา่
แตล่ ะอปุ กรณ์ทำงานอย่างไร
8. วเิ คราะห์
1.ครูให้นักเรียนศกึ ษาหัวข้อ 5.1 องคป์ ระกอบของไอโอที และครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เพื่อใหน้ ักเรยี น
เข้าใจมากยิ่งขนึ้
2.ครใู หน้ กั เรียนทำกิจกรรมท่ี 5.1 หนา้ 108
9. สรุป
ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ เรอ่ื งอนิ เทอร์เนต็ ของสรรพสง่ิ
3) ข้นั สรปุ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เรอื่ งอนิ เทอร์เน็ตของสรรพส่ิง

ชว่ั โมงท่ี 3-6
1) ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรียน

ครทู บทวนบทเรยี นในช่ัวโมงท่ผี า่ นมา เรื่องอนิ เทอร์เน็ตของสรรพสิง่
2) ขั้นสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ

7. สงั เกต
ครใู หน้ กั เรียนดภู าพระบบรดน้ำต้นไม้อตั โนมัติ

8. วิเคราะห์
1.ครใู หน้ กั เรียนศึกษาหัวขอ้ ที่ 5.2 กรณีศึกษาการพฒั นาแอปพลิเคชนั ไอโอที “ระบบรดนำ้ ต้นไม้

อัตโนมัติ” มกี ระบวนการทำงานอย่างไร

2.นักเรียนทำแบบฝึกหัดทา้ ยบท

9. สรปุ

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ เร่อื งอนิ เทอรเ์ นต็ ของสรรพสิ่ง

3) ข้ันสรุป

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เรอ่ื งอนิ เทอรเ์ น็ตของสรรพสงิ่

12. ระบเุ ทคนคิ การสอนทใ่ี ช้ในการจัดการเรยี นรู้ได้มากกว่า 1 รายการ

11. ใช้บรรยาย

12. ใชก้ รณตี วั อยา่ ง

13. สื่อและแหล่งเรียนรู้

9. หนังสือเรยี น

10. สไลด์สื่อประกอบการสอน

14. การวัดประเมนิ

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารวดั
1.สามารถตอบคำถามใน
1.นักเรยี นอธบิ ายองคป์ ระกอบและ 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั ได้ถูกตอ้ งตาม
หลกั การ 80 % ขึน้ ไป
ประโยชน์ของไอโอทีได้ (K) แบบฝกึ หัด 2.สามารถตอบคำถามในใบ
งานได้ 80 % ขึ้นไป
2.นกั เรียนสามารถอภปิ รายกระบวนการ 2.ตรวจใบงาน 2.แบบประเมินใบ 3.นกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะอนั
งาน พงึ ประสงค์ ได้ 85% ขน้ึ ไป
ทำงานของอปุ กรณ์ไอโอทีได้ (P) 3.แบบประเมิน
พฤติกรรม
3.นักเรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ (A) 3.สงั เกตพฤตกิ รรมใน

การทำแบบฝึกหัด

15. บนั ทึกหลงั การเรยี นการสอน
ผลการเรียนรู้

1. กจิ กรรมการเรียนการสอนทก่ี ำหนดไวใ้ นแผนการจดั การเรยี นรู้ เปน็ กจิ กรรมทเ่ี หมาะสมกบั วัยของ
ผ้เู รยี นและเหมาะสมกับสาระการเรยี นรู้ สามารถจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

ไดต้ ามเวลาท่กี ำหนดทุกกิจกรรม
ไม่ทันตามเวลาทกี่ ำหนดในกจิ กรรมเน่อื งจาก................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนครั้งนี้ นักเรียนทุกคนได้ร่วมกิจกรรมและเรียนรอู้ ยา่ งมีความสุข
3. กิจกรรมชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกดิ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์
และมที ักษะกระบวนการตามทจ่ี ุดประสงค์กำหนด
4. ส่อื การเรยี นการสอนท่ีกำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ได้ใช้สือ่ หลายอยา่ ง เป็นส่ือทเี่ หมาะสมกบั
วยั ผเู้ รียน สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หา สามรถใชป้ ระกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วยให้
ผู้เรียนเรียนรู้อยา่ งสนุกสนานและเข้าใจบทเรยี นได้เรว็ ย่งิ ขึ้น
5. การวัดผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนครัง้ นี้ ครอบคลุมพฤตกิ รรมตามจุดประสงคก์ าร
เรยี นรทู้ ่กี ำหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรปุ ได้ ดงั น้ี :-

5.1 ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
นกั เรยี นผ่านจุดประสงค์การเรียนรขู้ อ้ ท่ี .............
นกั เรยี นที่ผา่ นจุดประสงค์ตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรยี นท่ีไม่ผ่านจดุ ประสงค์ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คิดเปน็ ร้อยละ
และไดด้ ำเนินการแก้ปญั หา คือ
 สอนเสริม  มอบงานใหท้ ำเพมิ่ เติม  ทำรายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นักเรยี นท่ผี ่านทกั ษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรยี นท่ีไม่ผา่ นทกั ษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เป็นร้อยละ
และได้ดำเนินการแก้ปญั หา คอื ............................................................................

5.3 ด้านค่านยิ ม (A)
- นักเรยี นท่ีมคี ่านิยมตามเกณฑร์ อ้ ยละ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเปน็ ร้อยละ ......................................
- นกั เรยี นทีต่ ้องปรับเปลีย่ นค่านยิ ม จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คดิ เป็นรอ้ ยละ .......................................

และไดด้ ำเนนิ การปรบั เปลยี่ นคา่ นยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปล่ยี นค่านยิ ม คือ
......................................................................................................
นวัตกรรมทใี่ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
การจดั การเรียนการสอนในครั้งนีไ้ ดจ้ ัดทำส่ือการเรียนการสอนทเี่ ป็นนวตั กรรม คอื (Power Point เรอ่ื ง
......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบุชอื่ นวตั กรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………….
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ..............................................ผูส้ อน
( นายจิรศกั ดิ์ บญุ จติ ต์ )

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศึกษา หรอื ผูท้ ่ไี ด้รับมอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กลุ )

ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชา วทิ ยาการคำนวณ รหัสรายวชิ า ว 23102

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรเู้ ร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างร้เู ทา่ ทัน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง การประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือของขอ้ มลู เวลา 2 ช่วั โมง

ครผู ูส้ อน นายจริ ศักดิ์ บญุ จิตต์ ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวันท่ี......................เดอื น.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หาท่พี บในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม

ตัวชว้ี ดั ม.3/3 ประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล วิเคราะหส์ ่ือและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิด เพือ่
การใช้งานอย่างรู้เทา่ ทนั

ตวั ช้ีวัด ม.3/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมาย
เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ ใช้ลิขสิทธ์ขิ องผู้อนื่ โดยชอบธรรม
2.สาระการเรียนรู้

การประเมินความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มลู เช่น ตรวจสอบและยนื ยันขอ้ มลู โดยเทยี บเคียงจากข้อมูลหายแหล่ง

แยกแยะขอ้ มูลทีเ่ ปน็ ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ หรือใช้ PROMPT

3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ถ้าข้อมูลที่นำมาใช้ในการเรียนรู้และการทำงาน มีความถูกต้อง เหมาะสม และน่าเชื่อถือ จะทำให้เกิดการ

เรยี นรู้และทำงานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ก่อนการนำขอ้ มูลจากแหลง่ ตา่ งๆ มาใช้ต้องผา่ นกระบวนการประเมิน ความ
น่าเชื่อถือด้วยการตรวจสอบและยืนยันข้อมูล โดยอาจใช้หลักการ PROMPT ซึ่งได้แก่ การนำเสนอ ความสัมพันธ์
ว ั ต ถ ุ ป ร ะ ส ง ค ์ ว ิ ธ ี ก า ร แ ห ล ่ ง ท ี ่ ม า แ ล ะ เ ว ล า ( Presentation, Relevance, Objectivity, Method,
Provenance, Timeliness: PROMPT)
4.จุดประสงค์การเรียนรู้

16. นักเรียนบอกวธิ ีการประเมนิ ความน่าเช่ือถอื ของขอ้ มลู ได้ (K)
17. นักเรียนประเมนิ ความน่าเชื่อถือของขอ้ มลู จากแหล่งตา่ งๆได้ (P)
18. นกั เรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)

การนำขอ้ มลู มาใชจ้ ะต้องมีการประเมินความน่าเช่ือถอื ได้ดว้ ยวธิ ีใด
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง 2551 และปรับปรงุ 2560

ใฝเ่ รยี นรู้
7. คุณค่าพระวรสาร ความซ่ือตรง (regularity)

8. ทกั ษะการคิด
13. การคดิ วเิ คราะห์
14. การคิดสังเคราะห์

9. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
17. ความสามารถในการคดิ
18. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
19. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ชิ้นงาน/ร่องรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้
11. แบบฝึกหดั ท้ายบท/ใบกิจกรรม
12. สังเกตพฤตกิ รรมมีสว่ นรว่ มในชน้ั เรียน

11. การออกแบบกจิ กรรมการเรียนการสอน
1) ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน

ครูตั้งคำถามกบั นกั เรียนวา่
- ข้อมูลทน่ี ำมาจากอนิ เทอร์เนต็ เพื่อทำรายงานหรอื สร้างชน้ิ งานในรายวิชาตา่ งๆ เชอื่ ถอื ได้หรือไม่
- เราทราบได้อย่างไรวา่ ขอ้ มลู ท่นี ำมาทำรายงานน่าเชื่อถอื
2) ข้นั สอน โดยใชก้ ระบวนการสร้างเจตคติ
10. สังเกต
ครใู หน้ ักเรียนศกึ ษาหวั ขอ้ 6.1 การประเมนิ ความน่าเชื่อถอื ของขอ้ มูล
11. วเิ คราะห์
1.ครูใหน้ ักเรยี นเลอื กศึกษาขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ และใช้หลกั การ PROMPT ในการตรวจสอบความ
นา่ เช่ือถอื ของแหลง่ ทม่ี าของข้อมูล
2.นักเรียนทำกจิ กรรมท่ี 6.1
12. สรุป
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เรอ่ื งการประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มลู
3) ขัน้ สรปุ
ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุป เรือ่ งการประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูล
12. ระบเุ ทคนคิ การสอนท่ีใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ได้มากกว่า 1 รายการ
13. ใช้บรรยาย
14. ใชก้ รณีตัวอยา่ ง
13. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้

11. หนังสอื เรยี น
12. สไลดส์ อ่ื ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารวัด
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝกึ หัด 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั ไดถ้ ูกตอ้ งตาม
1.นกั เรยี นบอกวธิ กี ารประเมนิ ความ 2.แบบประเมนิ ใบ หลกั การ 80 % ขนึ้ ไป
นา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูลได้ (K) 2.ตรวจใบงาน งาน 2.สามารถตอบคำถามในใบ
3.แบบประเมิน งานได้ 80 % ขึ้นไป
2.นักเรียนประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของ 3.สงั เกตพฤตกิ รรมใน พฤติกรรม 3.นักเรียนมีคุณลักษณะอัน
ขอ้ มลู จากแหล่งตา่ งๆได้ (P) การทำแบบฝกึ หัด พึงประสงค์ ได้ 85% ขน้ึ ไป
3.นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

15. บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน
ผลการเรยี นรู้

1. กิจกรรมการเรยี นการสอนทกี่ ำหนดไวใ้ นแผนการจดั การเรียนรู้ เปน็ กิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยของ
ผู้เรียนและเหมาะสมกบั สาระการเรยี นรู้ สามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน

ไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนดทุกกิจกรรม
ไม่ทนั ตามเวลาที่กำหนดในกิจกรรมเนอ่ื งจาก................................................................
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครั้งนี้ นกั เรียนทุกคนไดร้ ่วมกิจกรรมและเรียนรอู้ ยา่ งมีความสขุ
3. กิจกรรมชว่ ยให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกดิ คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์
และมีทกั ษะกระบวนการตามท่ีจุดประสงคก์ ำหนด
4. สือ่ การเรียนการสอนทก่ี ำหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ไดใ้ ชส้ ่ือหลายอยา่ ง เป็นสื่อทเ่ี หมาะสมกบั
วยั ผูเ้ รยี น สอดคล้องกบั เนอ้ื หา สามรถใชป้ ระกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ชว่ ยให้
ผู้เรียนเรยี นรู้อยา่ งสนุกสนานและเข้าใจบทเรยี นไดเ้ ร็วยงิ่ ข้ึน
5. การวัดผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนคร้งั น้ี ครอบคลุมพฤติกรรมตามจุดประสงค์การ
เรียนรู้ที่กำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการวัดผลและประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั น้ี :-

5.1 ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
นกั เรยี นผ่านจุดประสงค์การเรยี นร้ขู ้อที่ .............
นักเรยี นท่ีผา่ นจดุ ประสงค์ตามเกณฑ์ร้อยละ................. จำนวน..............คน
เลขที่ ...........................................คดิ เปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่านจุดประสงค์ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ
และไดด้ ำเนินการแก้ปัญหา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานใหท้ ำเพ่ิมเติม  ทำรายงาน  อนื่ ๆ................

5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
นกั เรยี นทีผ่ า่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นทักษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ
และไดด้ ำเนนิ การแกป้ ัญหา คอื ............................................................................

5.3 ด้านคา่ นยิ ม (A)
- นักเรยี นที่มคี า่ นยิ มตามเกณฑ์ร้อยละ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเป็นร้อยละ ......................................
- นักเรียนท่ตี ้องปรับเปลยี่ นค่านิยม จำนวน............คน

เลขท่ี ...........................................คดิ เป็นรอ้ ยละ .......................................
และได้ดำเนนิ การปรบั เปล่ียนคา่ นยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรบั เปลย่ี นค่านยิ ม คอื
......................................................................................................

นวัตกรรมทใี่ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
การจดั การเรียนการสอนในครง้ั นี้ไดจ้ ดั ทำสื่อการเรยี นการสอนทเี่ ปน็ นวตั กรรม คือ (Power Point เร่อื ง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบชุ ื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………….
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………….………..………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………….……………..………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ..............................................ผู้สอน
( นายจริ ศักด์ิ บญุ จิตต์ )

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา หรือผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษ์สกุล)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจัดการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วชิ า วิทยาการคำนวณ รหัสรายวิชา ว 23102

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรเู้ ร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งรู้เทา่ ทัน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 เรื่อง เหตุผลวิบัติ เวลา 2 ชว่ั โมง

ครูผ้สู อน นายจิรศักด์ิ บญุ จติ ต์ ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวนั ท่ี......................เดอื น.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

ตวั ช้ีวัด ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมูล วิเคราะหส์ อ่ื และผลกระทบจากการใหข้ ่าวสารท่ีผิด เพื่อ
การใชง้ านอยา่ งรู้เท่าทนั
2.สาระการเรยี นรู้

เหตุผลวิบตั ิ (logical fallacy)

3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
เหตุผลวิบัติ (logical fallacy) เป็นการโต้แย้งโดยใช้เหตุผลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สอดคล้องกับประเด็นที่กำลงั

โต้แย้ง เพื่อนำมาสนับสนุนความคิดเห็นของตนเอง เหตุผลวิบัติสามารถจำแนกได้เป็น 2 แบบคือ แบบเป็นทางการ
และไมเ่ ปน็ ทางการ ซึง่ เหตุผลท่ีนำมาใช้ไม่ได้นำไปสู่ขอ้ สรุปที่ถูกตอ้ งหรอื ได้ข้อสรุปที่ขัดแยง้ กบั ความเป็นจริง เหตุผล
วิบตั ิอาจเกดิ ขึ้นในหลายลักษณะ เช่น การให้เหตผุ ลโดยละเว้นข้อเทจ็ จริง การกลา่ วถงึ สงิ่ ที่อยู่นอกประเดน็ การมองไม่
รอบด้าน
4.จุดประสงค์การเรยี นรู้

19. นกั เรียนบอกลกั ษณะข้อมูลที่เปน็ เหตุวบิ ัติได้ (K)
20. นักเรยี นอภิปรายขอ้ มูลท่ีเห็นเหตุวบิ ัติได้ (P)
21. นกั เรียนมคี วามใฝ่เรียนรู้ (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)
นักเรียนจะให้เหตุผลอยา่ งไรให้เหมาะสม
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง 2551 และปรบั ปรงุ 2560
ใฝ่เรียนรู้

7. คณุ ค่าพระวรสาร ความซอื่ ตรง (regularity)
8. ทกั ษะการคิด

15. การคิดวเิ คราะห์
16. การคิดสังเคราะห์

9. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
20. ความสามารถในการคิด
21. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

10. ภาระงาน/ชิ้นงาน/ร่องรอย/หลักฐานการเรียนรู้
13. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท/ใบกิจกรรม
14. สงั เกตพฤตกิ รรมมสี ว่ นรว่ มในช้ันเรียน

11. การออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอน
ชั่วโมงที่ 1-2
1) ขนั้ นำเข้าสู่บทเรียน

ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยเปิดวิดีโอที่เป็นสถานการณ์เกี่ยวกับเหตุผลวิบัติให้ผู้เรียนชม อย่างน้อย
2 เรื่อง จากตัวอยา่ งสถานการณ์ต่อไปนี้

https://www.youtube.com/watch?v=B3BAh086sYs (สบื ค้นเม่อื วนั ที่ 19 สงิ หาคม 2562)
https://www.youtube.com/watch?v=d1YDrL9bEh0 (สืบค้นเมอ่ื วนั ที่ 19 สิงหาคม 2562)
https://www.youtube.com/watch?v=iyCZnj9Z6jg (สืบคน้ เม่อื วันท่ี 19 สงิ หาคมคม 2562)
https://www.youtube.com/watch?v=eTLeg2Rfjho (สบื คน้ เมื่อ วนั ที่ 19 สงิ หาคมคม 2562)
https://www.youtube.com/watch?v=ajRkGzjBatI (สืบค้นเมอ่ื วันที่ 19 สิงหาคมคม 2562)
2) ขั้นสอน โดยใชก้ ระบวนการสร้างเจตคติ
13. สงั เกต
ครูต้ังคำถามแลว้ สุ่มให้นกั เรียนตอบคำถาม
- จากตัวอย่างนกั เรยี นสังเกตเหน็ พฤตกิ รรมอะไรบา้ ง
- ผ้เู รยี นเหน็ ด้วยและไม่เหน็ ด้วยกับอะไรบา้ ง อยา่ งไร
14. วเิ คราะห์
นักเรยี นศึกษาหวั ข้อ 6.2 เหตผุ ลวบิ ัติ จากหนังสอื เรยี น และทำกจิ กรรมที่ 6.2
15. สรปุ
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอ่ื งเหตผุ ลวบิ ัติ
3) ข้นั สรปุ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เรอ่ื งเหตุผลวบิ ัติ

12. ระบุเทคนิคการสอนทีใ่ ช้ในการจัดการเรียนรู้ไดม้ ากกว่า 1 รายการ
15. ใช้บรรยาย
16. ใชก้ รณีตวั อย่าง

13. สื่อและแหลง่ เรยี นรู้
13. หนงั สอื เรียน
14. สไลด์สื่อประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารวัด
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝึกหัด 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดไดถ้ ูกต้องตาม
1.นักเรยี นบอกลกั ษณะข้อมลู ทีเ่ ป็นเหตุ 2.แบบประเมินใบ หลกั การ 80 % ข้นึ ไป
วิบตั ิได้ (K) งาน 2.สามารถตอบคำถามในใบ
3.แบบประเมนิ งานได้ 80 % ขน้ึ ไป
2.นักเรยี นอภิปรายข้อมูลที่เหน็ เหตุวบิ ัติ 2.ตรวจใบงาน พฤตกิ รรม 3.นกั เรียนมีคณุ ลักษณะอัน
ได้ (P) พงึ ประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป
3.นกั เรียนมคี วามใฝเ่ รยี นรู้ (A) 3.สังเกตพฤตกิ รรมใน
การทำแบบฝกึ หดั

15. บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน
ผลการเรยี นรู้

1. กิจกรรมการเรยี นการสอนทกี่ ำหนดไวใ้ นแผนการจดั การเรียนรู้ เปน็ กิจกรรมทีเ่ หมาะสมกับวัยของ
ผู้เรียนและเหมาะสมกบั สาระการเรยี นรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนดทกุ กิจกรรม
ไม่ทนั ตามเวลาที่กำหนดในกจิ กรรมเน่อื งจาก................................................................
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคร้ังน้ี นักเรียนทุกคนไดร้ ่วมกจิ กรรมและเรียนรอู้ ย่างมคี วามสุข
3. กิจกรรมชว่ ยให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกิดคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
และมีทกั ษะกระบวนการตามทีจ่ ดุ ประสงคก์ ำหนด
4. สือ่ การเรียนการสอนทีก่ ำหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ได้ใชส้ ื่อหลายอยา่ ง เปน็ สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับ
วยั ผูเ้ รยี น สอดคล้องกบั เนอ้ื หา สามรถใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ชว่ ยให้
ผู้เรียนเรยี นรู้อยา่ งสนุกสนานและเขา้ ใจบทเรียนไดเ้ ร็วยิ่งขึ้น
5. การวัดผลประเมินผล ในการจัดการเรยี นการสอนครั้งน้ี ครอบคลมุ พฤตกิ รรมตามจุดประสงค์การ
เรียนรู้ที่กำหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรุปได้ ดงั นี้ :-

5.1 ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
นกั เรยี นผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรขู้ ้อที่ .............
นักเรียนท่ผี า่ นจดุ ประสงคต์ ามเกณฑ์ร้อยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ...........................................คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................................
- นกั เรยี นท่ไี มผ่ า่ นจุดประสงค์ จำนวน............คน
เลขท่ี ...........................................คดิ เปน็ รอ้ ยละ
และได้ดำเนินการแก้ปญั หา คอื
 สอนเสริม  มอบงานใหท้ ำเพ่ิมเติม  ทำรายงาน  อน่ื ๆ................

5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
นกั เรียนท่ีผา่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑร์ ้อยละ................. จำนวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรียนท่ไี ม่ผ่านทักษะกระบวนการ จำนวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ
และไดด้ ำเนนิ การแก้ปญั หา คอื ............................................................................

5.3 ด้านคา่ นิยม (A)
- นักเรียนท่ีมคี ่านิยมตามเกณฑร์ อ้ ยละ จำนวน............คน
เลขที่ ...........................................คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................................
- นักเรียนทีต่ ้องปรับเปลยี่ นค่านิยม จำนวน............คน

เลขที่ ...........................................คิดเปน็ รอ้ ยละ .......................................
และได้ดำเนินการปรบั เปลย่ี นค่านิยม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปล่ียนค่านิยม คอื
......................................................................................................

นวัตกรรมทใี่ ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนในคร้ังนี้ไดจ้ ัดทำสื่อการเรียนการสอนที่เปน็ นวัตกรรม คอื (Power Point เร่ือง

......... เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ............ , เกม ...................... , ฯลฯ ) ระบุชื่อนวัตกรรม
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………….
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………….

ลงชอื่ ..............................................ผ้สู อน
( นายจิรศกั ด์ิ บญุ จิตต์ )

................./........................../.................

ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศึกษา หรอื ผูท้ ่ไี ด้รับมอบหมาย
……………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…………………

(ลงช่ือ) ….…………………………………….
( นายสมนกึ พงษส์ กลุ )

ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดดอนแสลบ
……./……./…….

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ า วทิ ยาการคำนวณ รหัสรายวชิ า ว 23102

ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรู้เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งรู้เท่าทนั

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่อื ง การทำธุรกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส์อยา่ งปลอดภยั เวลา 2 ชัว่ โมง

ครูผู้สอน นายจิรศกั ด์ิ บุญจติ ต์ ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนวนั ที่......................เดือน.................................................. พ.ศ. .....................

1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม

ตัวชีว้ ดั ม.3/3 ประเมินความน่าเชื่อถอื ของขอ้ มูล วิเคราะห์ส่อื และผลกระทบจากการให้ขา่ วสารท่ีผิด เพื่อ
การใชง้ านอย่างรู้เทา่ ทนั
2.สาระการเรยี นรู้

การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เชน่ การทำธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การซ้ือสนิ ค้า ซอ้ื ซอฟตแ์ วร์

ค่าบริการสมาชิก ซอ้ื ไอเทม็ เป็นต้น

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้เท่าทันในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าควรปฏิบัติอย่างไรในการใช้งานเทคโนโลยี

สารสนเทศในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการปฏิบัติเมื่อพบกับข่าวลวงหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะข่วยให้การใช้งาน
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ในขณะที่การใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบจะช่วยให้ปัญหาต่างๆ ที่จะ
เกิดข้นึ จากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศลดน้อยลง
4.จุดประสงค์การเรยี นรู้

22. นกั เรยี นอธบิ ายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกสอ์ ยา่ งปลอดภัยได้ (K)
23. นักเรยี นบอกขอ้ ควรคำนึงและแนวทางปฏิบตั ิในการทำธุรกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส์ได้ (P)
24. นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)
5. คำถามสำคัญ (Big Question)
นักเรียนมีวธิ กี ารใดบ้างในการตัดสนิ ใจในการเลอื กซ้ือสินค้าออนไลน์
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551 และปรบั ปรุง 2560
ใฝ่เรยี นรู้

7. คณุ คา่ พระวรสาร ความซ่อื ตรง (regularity)

8. ทกั ษะการคิด
17. การคิดวิเคราะห์
18. การคดิ สงั เคราะห์

9. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
22. ความสามารถในการคิด
23. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

10. ภาระงาน/ชิ้นงาน/รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้
15. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท/ใบกจิ กรรม
16. สงั เกตพฤตกิ รรมมีส่วนร่วมในชนั้ เรยี น

11. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ชวั่ โมงท่ี 1
1) ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น

ครูตั้งคำถามก่อนนำเข้าสู่บทเรียน “นักเรียนมีวิธีการใดบ้างในการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า
ออนไลน”์
2) ขนั้ สอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ
16. สังเกต

1.ครอู ธิบายการทำธรุ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส์ ซ่งึ มี 2 รปู แบบ คอื
1) การทำธรุ กรรมโดยตรงระหวา่ งผู้ขายและผซู้ ื้อ
2) การทำธรุ กรรมโดยผา่ นผ้ใู หบ้ รกิ าร

17. วเิ คราะห์
ครอู ธิบายขอ้ ควรคำนึงในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนกิ สแ์ ละใหน้ ักเรียนคน้ หาสนิ ค้าท่ีนักเรียนสนใจใน

อนิ เทอรเ์ น็ต พร้อมใหเ้ หตุผลในการตัดสินใจเลือกซ้ือสนิ ค้านนั้
18. สรปุ

ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุป เรอ่ื งการทำธุรกรรมอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย
3) ขนั้ สรปุ

ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เรอ่ื งการทำธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ย่างปลอดภัย

12. ระบุเทคนคิ การสอนท่ีใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ได้มากกว่า 1 รายการ
17. ใช้บรรยาย
18. ใชก้ รณีตัวอยา่ ง

13. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
15. หนงั สือเรียน
16. สไลดส์ ือ่ ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน วิธกี ารวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารวดั
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝึกหัด 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั ไดถ้ ูกต้องตาม
1.นกั เรยี นอธิบายการทำธุรกรรม 2.แบบประเมนิ ใบ หลักการ 80 % ขึน้ ไป
อเิ ล็กทรอนิกสอ์ ย่างปลอดภยั ได้ (K) 2.ตรวจใบงาน งาน 2.สามารถตอบคำถามในใบ
งานได้ 80 % ขึ้นไป
2.นักเรียนบอกขอ้ ควรคำนงึ และ
แนวทางปฏบิ ัติในการทำธรุ กรรม 3.สังเกตพฤติกรรมใน 3.แบบประเมนิ 3.นกั เรยี นมีคณุ ลักษณะอัน
อเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้ (P) การทำแบบฝกึ หดั พฤติกรรม พึงประสงค์ ได้ 85% ข้นึ ไป
3.นักเรียนมีความใฝเ่ รียนรู้ (A)


Click to View FlipBook Version