แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่ายการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา เวลาเรียน 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง แนวคิดหลักและระบบทางเทคโนโลยี เวลา 1ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาหรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - แนวคิดเชิงคำนวณ - การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ 3. สาระสำคัญ แนวคิดเชิงคำนวณ คือ แนวคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ และเป็นกระบวนการ ที่มีลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นกระบวนการที่มนุษย์ และ คอมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งแนวคิดเชิงคำนวณนี้เป็นแนวคิดที่สำคัญสำหรับการพัฒนา ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ เพราะการเขียนโปรแกรมถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจากแนวคิดเชิงคำนวณ จะทำให้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานช้า ไม่ตรงตามที่ต้องการ ดังนั้นจึงควรนำแนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาใช้ใน การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ นักเรียนสามารถบอกความหมายของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ นักเรียนเขียนภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณได้ (P)
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) □ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ □ 5. อยู่อย่างพอเพียง □ 2. ซื่อสัตย์สุจริต □ 6. มุ่งมั่นในการทำงาน □ 3. มีวินัย □ 7. รักความเป็นไทย □ 4. ใฝ่เรียนรู้ □ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) □ R1 Reading (อ่านออก) □ R2 (W) Riting (เขียนได้) □ R3 (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) □ C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) □ C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) □ C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) □ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) □ C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) □ C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) □ C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) □ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม)
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) -ใบงานที่ 1.1 เรื่อง องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ 9. การจัดกิจกรรมการ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา เพื่อวัดความรู้เดิมของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรม 2.ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรียนคิดว่ามนุษย์นำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร” (แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ในด้านการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันด้านการเรียน และด้านการทำงาน) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.นักเรียนศึกษาความหมายและองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ จากสื่อการเรียนการ สอนที่ครูเตรียมมาหรือคอมพิวเตอร์ในเครื่องตนเอง 2. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายความหมายและองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อของแนวคิด เชิงคำนวณตามที่นักเรียนได้ศึกษา 3. จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า“รถเสียเนื่องจากยางรั่ว ไม่ สามารถเดินทางต่อได้ การที่นำแนวคิดวิทยาการคำนวณมาใช้ในสถานการณ์ ช่วยให้การซ่อมแซมรถ กลับมาใช้ได้อย่างรวดเร็วอาศัยแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการทำงาน เพื่อให้ได้งานออกมาอย่างมี ประสิทธิภาพมากที่สุด” 4. ครูนำบัตรภาพ เรื่อง องค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณให้นักเรียนดูเพื่อให้นักเรียนได้เห็น ภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ มากยิ่งขึ้น 5. ครูซักถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจว่า“องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณแบ่ง ออกเป็นกี่องค์ประกอบอะไรบ้าง” (แนวตอบ :องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. แนวคิด การแยกย่อย 2. แนวคิดการหารูปแบบ 3. แนวคิดเชิงนามธรรม 4.แนวคิดการออกแบบขั้นตอน) ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณโดยเขียนภาพการ ทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณจากสถานการณ์ที่กำหนดให้
ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้สามารถเขียนสรุปองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ และความหมายและ องค์ประกอบทั้ง 4 ข้อของแนวคิดเชิงคำนวณตามที่นักเรียนได้ 10. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) Wix 2) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ 3) บัตรภาพ เรื่อง องค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ 4) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/ แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล นักเรียนสามารถบอกความหมาย ของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) - คำถาม - การตอบ คำถาม - ทำการตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 60 ขึ้นไปผ่านเกณฑ์ นักเรียนเขียนภาพการทำงานของ องค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ ได้ (P) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบ งาน - การตอบ คำถาม - ทำการตอบคำถามและทำใบ งานได้ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้ใน การศึกษา (A) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบ งาน - การตอบ คำถาม - ทำการตอบคำถามและทำใบ งานได้ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู
12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ ดีมาก ❒ ดี • พอใช้ ❒ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ❒ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม • ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ นำไปใช้ได้จริง • ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................... ................./................../..............
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่ายการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา เวลาเรียน 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง แนวคิดหลักและระบบทางเทคโนโลยี เวลา 3ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาหรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - แนวคิดเชิงคำนวณ - การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ 3. สาระสำคัญ แนวคิดเชิงคำนวณ คือ แนวคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ และเป็นกระบวนการ ที่มีลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นกระบวนการที่มนุษย์ และ คอมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งแนวคิดเชิงคำนวณนี้เป็นแนวคิดที่สำคัญสำหรับการพัฒนา ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ เพราะการเขียนโปรแกรมถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจากแนวคิดเชิงคำนวณ จะทำให้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานช้า ไม่ตรงตามที่ต้องการ ดังนั้นจึงควรนำแนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาใช้ใน การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ นักเรียนสามารถบอกความหมายของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ
นักเรียนเขียนภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณได้ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) □ R1 Reading (อ่านออก) □ R2 (W) Riting (เขียนได้) □ R3 (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) □ C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) □ C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) □ C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) □ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) □ C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) □ C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) □ C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) □ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) - ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิงคำนวณ 9. การจัดกิจกรรมการ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามประจำหัวข้อเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“แนวคิดเชิงคำนวณมีส่วน ช่วยการเรียงลำดับข้อมูลอย่างไร” (แนวตอบ : แนวคิดเชิงคำนวณเป็นการคิดอย่างมีระบบและเป็นกระบวนการที่มีลำดับขั้นตอน ที่ชัดเจน ทำให้การเรียงลำดับข้อมูลมีความแม่นยำ ถูกต้อง) (แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ในด้านการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันด้านการเรียน และด้านการทำงาน) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูถามคำถามท้าทายความคิดของนักเรียนว่า“นักเรียนสามารถเขียนวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณได้หรือไม่” (แนวตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเห็นโดยตอบตามประสบการณ์ของตนเอง) 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิมที่ได้เรียนในชั่วโมงที่แล้วเกี่ยวกับการ แก้ปัญหา โดยใช้ องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณจาก สื่อการเรียนการสอนที่ครู 3. นักเรียนศึกษาตัวอย่างปัญหาการเข้าแถวตามลำดับความสูงของนักเรียนให้เร็วที่สุดจาก หนังสือเรียน 4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม จากนั้นให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มแก้ปัญหาโดยใช้องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณทั้ง 4 ข้อร่วมกัน 5. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรู้ของผู้เรียน (Com Sci Focus) เรื่อง การเรียงลำดับแบบเลือก 6.ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับแบบเลือกว่า“การเรียงลำดับแบบเลือก เป็น ขั้นตอน การเรียงลำดับอย่างง่าย โดยใช้วิธีการเปรียบเทียบ ซึ่งจะพบเห็นโดยมากในวิชา คณิตศาสตร์ในเรื่อง การเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยหรือจากน้อยไปหามาก เป็นต้น” (ชั่วโมงที่ 2-3) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 7. นักเรียนศึกษาตัวอย่างปัญหาการจัดเรียงเสื้อผ้าให้หาง่ายที่สุดโดยใช้องค์ประกอบของ แนวคิดเชิงคำนวณตามลำดับการวิเคราะห์ทั้ง 4 ข้อ 8. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน เพื่อสรุปการจัดเรียงเสื้อผ้าให้หาง่ายที่สุดตามขั้นตอนการ วิเคราะห์ โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ
9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย และครูให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้นหรือให้ นักเรียน ศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 10. นักเรียนทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหา โดยการฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้และ ทักษะการเรียนรู้ (Com Sci Activity) โดยให้นักเรียนอธิบายการนำแนวคิดเชิงคำนวณ มาใช้แก้ปัญหาของสถานการณ์ตามที่โจทย์กำหนด 11. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเนื้อหาเพื่อให้ผู้เรียนได้ทบทวนสาระสำคัญประจำหน่วยการ เรียนรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา 12. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม สำรวจพฤติกรรมการทำงาน และ สมุดประจำตัวของนักเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด หากนักเรียน พิจารณาไม่ถูกต้องให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่กำหนดให้ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณกับการ แก้ปัญหา ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. นักเรียนทำแบบฝึกหัดประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โดยให้นักเรียนตอบคำถามให้ถูกต้องและ บันทึกลงในสมุดประจำตัว พร้อมทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิงคำนวณ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนและนำมาส่งในชั่วโมงถัดไป ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้สามารถเขียนสรุปองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ และความหมายและ องค์ประกอบทั้ง 4 ข้อของแนวคิดเชิงคำนวณตามที่นักเรียนได้ 10. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) Wix 2) ใบงานที่ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิง คำนวณ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์
แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล บอกวิธีการแก้ปัญหา การเข้าแถวตามลำดับ ความสูงของนักเรียนให้ เร็วที่สุดได้ (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ บอกวิธีการแก้ปัญหา การจัดเรียงเสื้อผ้าให้ หาง่ายที่สุดได้ (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เขียนวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้แนวคิดเชิง คำนวณได้ (P) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการแก้ปัญหาโดย ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (A) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู
12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ ดีมาก ❒ ดี • พอใช้ ❒ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ❒ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม • ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ นำไปใช้ได้จริง • ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................... ................./................../..............
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว21101 หน่ายการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา เวลาเรียน 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ เวลา 3ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาหรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - แนวคิดเชิงคำนวณ - การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ 3. สาระสำคัญ แนวคิดเชิงคำนวณ คือ แนวคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ และเป็นกระบวนการ ที่มีลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นกระบวนการที่มนุษย์ และ คอมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งแนวคิดเชิงคำนวณนี้เป็นแนวคิดที่สำคัญสำหรับการพัฒนา ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ เพราะการเขียนโปรแกรมถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจากแนวคิดเชิงคำนวณ จะทำให้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานช้า ไม่ตรงตามที่ต้องการ ดังนั้นจึงควรนำแนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาใช้ใน การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ นักเรียนสามารถบอกความหมายของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ
นักเรียนเขียนภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณได้ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) □ R1 Reading (อ่านออก) □ R2 (W) Riting (เขียนได้) □ R3 (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) □ C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) □ C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) □ C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) □ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) □ C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) □ C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) □ C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) □ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) -ใบความรู้เดิม เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิงค านวณ 9. การจัดกิจกรรมการ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามประจำหัวข้อเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“แนวคิดเชิงคำนวณมีส่วน ช่วยการเรียงลำดับข้อมูลอย่างไร” (แนวตอบ : แนวคิดเชิงคำนวณเป็นการคิดอย่างมีระบบและเป็นกระบวนการที่มีลำดับขั้นตอน ที่ชัดเจน ทำให้การเรียงลำดับข้อมูลมีความแม่นยำ ถูกต้อง) (แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ในด้านการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันด้านการเรียน และด้านการทำงาน) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูถามคำถามท้าทายความคิดของนักเรียนว่า“นักเรียนสามารถเขียนวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณได้หรือไม่” (แนวตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเห็นโดยตอบตามประสบการณ์ของตนเอง) 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิมที่ได้เรียนในชั่วโมงที่แล้วเกี่ยวกับการ แก้ปัญหา โดยใช้ องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณจาก สื่อการเรียนการสอนที่ครู 3. นักเรียนศึกษาตัวอย่างปัญหาการเข้าแถวตามลำดับความสูงของนักเรียนให้เร็วที่สุดจาก หนังสือเรียน 4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม จากนั้นให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มแก้ปัญหาโดยใช้องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณทั้ง 4 ข้อร่วมกัน 5. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรู้ของผู้เรียน (Com Sci Focus) เรื่อง การเรียงลำดับแบบเลือก 6.ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียงลำดับแบบเลือกว่า“การเรียงลำดับแบบเลือก เป็น ขั้นตอน การเรียงลำดับอย่างง่าย โดยใช้วิธีการเปรียบเทียบ ซึ่งจะพบเห็นโดยมากในวิชา คณิตศาสตร์ในเรื่อง การเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยหรือจากน้อยไปหามาก เป็นต้น” ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด หากนักเรียน พิจารณาไม่ถูกต้องให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่กำหนดให้ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณกับการ แก้ปัญหา
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. นักเรียนทำแบบฝึกหัดประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โดยให้นักเรียนตอบคำถามให้ถูกต้อง ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้สามารถเขียนสรุปองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ และความหมายและ องค์ประกอบทั้ง 4 ข้อของแนวคิดเชิงคำนวณตามที่นักเรียนได้ 10. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) Wix 2) ใบงานที่ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิง คำนวณ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล บอกวิธีการแก้ปัญหา การเข้าแถวตามลำดับ ความสูงของนักเรียนให้ เร็วที่สุดได้ (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ บอกวิธีการแก้ปัญหา การจัดเรียงเสื้อผ้าให้ หาง่ายที่สุดได้ (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เขียนวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้แนวคิดเชิง คำนวณได้ (P) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการแก้ปัญหาโดย ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (A) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู
12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ ดีมาก ❒ ดี • พอใช้ ❒ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ❒ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม • ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ❒ นำไปใช้ได้จริง • ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................... ................./................../..............
แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22101 ปีที่ 2566 หน่วยการเรียนที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่ององค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง การทำงานของคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนต่าง ๆ มาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ บรรลุเป้าหมายในการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และกระบวนการ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) อธิบายการทำงานของหน่วยต่าง ๆ ของฮาร์ดแวร์ได้ถูกต้อง (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ เลือกใช้งานซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับความต้องการได้ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศึกษาและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) R1 Reading (อ่านออก) R2 (W) Riting (เขียนได้) R3 (A) Rithmetics (คิดเลข เป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ ใบงานที่ 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ 9. การจัดกิจกรรมการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อวัดความรู้ เดิมของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรม 2. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรียนรู้หรือไม่ว่าหากระบบคอมพิวเตอร์ขาดส่วนประกอบ ส่วนใดส่วนหนึ่งไประบบคอมพิวเตอร์ยังจะสามารถทำงานต่อไปได้หรือไม่” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ ระบบคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น) 3. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“ระบบคอมพิวเตอร์หมายถึงการทำงานของ คอมพิวเตอร์ที่มีส่วนต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานได้อย่าง มีระบบและมีประสิทธิภาพ” ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนโดยเขียนคำว่า“องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์” ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียนและให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบ คอมพิวเตอร์ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง จากนั้นครูจดบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบน กระดานหน้าชั้นเรียน 2. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์จากอินเทอร์เน็ตที่เครื่อง คอมพิวเตอร์ของตนเอง 3. นักเรียนภายในชั้นเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ บนกระดานหน้าชั้นเรียน 4. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ว่า“องค์ประกอบของระบบ คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน ดังนี้ 1) ฮาร์ดแวร์ คือ ส่วนของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ 2) ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนของโปรแกรมที่เป็นคำสั่งในการควบคุมการทำงานของ เครื่องคอมพิวเตอร์ 3) บุคลากรคือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพื่อป้อนข้อมูลหรือใช้งานคอมพิวเตอร์ 4) ข้อมูลสารสนเทศคือ ข้อมูลดิบที่มีจำนวนมาก ซึ่งอาจอยู่ในรูปของตัวเลข ตัวอักษรหรือ สัญลักษณ์ต่าง ๆ 5) กระบวนการคือ กระบวนการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ” 5. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่องฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต
6. ครูอธิบายกับนักเรียนถึงองค์ประกอบทางด้านฮาร์ดแวร์ว่า“องค์ประกอบทางด้านฮาร์ดแวร์ ประกอบไปด้วย 4 หน่วย ได้แก่ หน่วยรับข้อมูล หน่วยแสดงผลข้อมูล หน่วยเก็บข้อมูล และ หน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งแต่ละหน่วยจะมีหน้าที่การทำงานที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน” 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ว่า“การใช้ฮาร์ดแวร์นั้นมีหลักในการเลือกใช้ คือ 1) วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของการใช้งาน ควรวิเคราะห์ว่าเป็นการใช้งานในสำนักงาน งานนำเสนอทั่วไป งานประมวลผล หรืองานสื่อประสม 2) ควรเลือกคอมพิวเตอร์ตามลักษณะของการใช้งาน ถ้าเป็นงานนอกสถานที่ที่ต้องใช้ คอมพิวเตอร์ติดตามผู้ใช้มีการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนย้ายบ่อยก็ควรเลือกใช้ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเป็นงานในสถานที่ หรือ ใช้ในสำนักงานก็ควรเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดเป็นชุด” 8. นักเรียนศึกษาความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรู้ของผู้เรียน (Com Sci Focus) เรื่อง ความสำคัญของ CPU ว่า“CPU เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการทำงาน ของเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า CPU เป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ถ้าหากคอมพิวเตอร์ปราศจาก CPU แล้ว คอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจาก CPU เป็นตัวควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เอง หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงภายนอก” 9. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ โดยให้นักเรียนพิจารณา อุปกรณ์ต่าง ๆ จากนั้นเติมชื่ออุปกรณ์และบอกหน้าที่ลงในตารางให้สมบูรณ์ 10. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในห้องเรียน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 11. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนเมื่อชั่วโมงที่แล้วเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 12. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่องซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และกระบวนการ จากหนังสือเรียน 13. ครูอธิบายกับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องซอฟต์แวร์เพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า“ซอฟต์แวร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ซอฟต์แวร์ระบบ คือ โปรแกรมที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ ทำงานประสานกัน เช่น ระบบปฏิบัติการวินโดวส์รวมถึงโปรแกรมที่ติดตั้งมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมจัดการไฟล์ โปรแกรมรักษาหน้าจอ เป็นต้น 2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานตามความต้องการต่าง ๆ ของผู้ใช้แบ่งเป็นโปรแกรมที่พัฒนามาใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่น โปรแกรม Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint เป็นต้น รวมถึงโปรแกรมที่ทำงานเฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมคำนวณภาษี โปรแกรมสต็อกสินค้า โปรแกรมลงทะเบียนเรียน เป็นต้น”
14. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คนออกมาอภิปรายเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และกระบวนการ 15. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์โดยให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลจากทาง อินเทอร์เน็ตเพื่ออธิบายหน้าที่การทำงานและยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ตามประเภทที่กำหนดให้ 16. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในห้องเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ การทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานที่ 2.1.1 และ ใบงานที่ 2.1.2 3. นักเรียนและครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ว่า “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพจะต้องอาศัยการทำงาน ของระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และ กระบวนการ” ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในใบความรู้จากการที่ให้นักเรียนทำใบความรู้ - 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ - 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในองค์ประกอบของฮาร์ดแวร์และในเรื่องประเภทของซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นความรู้ติดตัวและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 10. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ 2) ใบงานที่ 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล อธิบายองค์ประกอบ ของระบบคอมพิวเตอร์ ได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ อธิบายการทำงานของ หน่วยต่าง ๆ ของ ฮาร์ดแวร์ได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ บอกอุปกรณ์ที่ใช้ทำ หน้าที่ในแต่ละหน่วยได้ ถูกต้อง (K) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เลือกใช้งานซอฟต์แวร์ ให้สอดคล้องและ เหมาะสมกับความ ต้องการได้ (P) - คำถาม - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ สนใจใฝ่เรียนรู้ใน การศึกษาและนำไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้ อย่างเหมาะสม (A) ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู
12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................ .......................................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการ เรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้............................... ................./................../..............
แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22101 ปีที่ 2566 หน่วยการเรียนที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยหน่วยต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างเป็น ระบบ ดังนี้ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยความจำสำรอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) อธิบายขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ เขียนขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศึกษา (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) R1 Reading (อ่านออก) R2 (W) Riting (เขียนได้) R3 (A) Rithmetics (คิดเลข เป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ใบงานที่ 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์9. การจัดกิจกรรมการ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ที่ประกอบไป ด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และ กระบวนการ 2. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรียนรู้หรือไม่ว่าถ้าเปรียบคอมพิวเตอร์เป็นร่างกายมนุษย์ จะเปรียบหน่วยประมวลผลกลางได้กับอวัยวะใด” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอนซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง คือ สมอง) 3. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ตามหน้าที่ การทำงาน โดยครูเขียนส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ส่วนบนกระดาน หน้าชั้นเรียนดังนี้ 1. หน่วยรับข้อมูล 2. หน่วยแสดงผลข้อมูล 3. หน่วยเก็บข้อมูล 4. หน่วยประมวลผลกลาง และสุ่มนักเรียนออกมาเขียนอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตามส่วนประกอบนั้น ๆ 4. นักเรียนและครูอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ตัวแทนออกมาเขียนบนกระดาน หน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จากอินเทอร์เน็ตที่เครื่อง คอมพิวเตอร์ของตนเอง 2. ครูอธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ว่า“ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย 5 ส่วนที่สำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยความจำ สำรอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล ซึ่งแต่ละหน่วยจะมีอุปกรณ์ที่มีทำหน้าที่การทำงานที่แตกต่าง กัน” 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่การทำงานของหน่วยต่าง ๆ ดังนี้ “1) หน่วยรับข้อมูล (input unit) ทำหน้าที่รับข้อมูลจากผู้ใช้งานเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลสัญลักษณ์ เป็นต้น โดยจะแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปของ สัญญาณไฟฟ้าที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ และนำมาจัดเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก เพื่อใช้ในการประมวลผลต่อไป
2) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor) มีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลตามชุดคำสั่ง ที่มาจากซอฟต์แวร์เมื่อได้ผลลัพธ์ก็จะส่งผลลัพธ์ออกไปแสดงผลทางหน้าจอ ดังนั้น ซีพียู จึงเปรียบได้กับ“สมอง”ของคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ ประมวลผล และควบคุมอุปกรณ์ อื่น ๆ ในระบบ 3) หน่วยความจำหลัก (Main Memory Unit) มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและคำสั่ง ที่อยู่ระหว่างการประมวลผลของคอมพิวเตอร์หรือในขณะที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำจะทำงานควบคู่ไปกับ CPU และช่วยให้การทำงานของ CPU มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 4) หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage) มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูล และโปรแกรม ที่ต้องการใช้งานในภายหลังได้ ถือว่าเป็นหน่วยความจำสำหรับเก็บข้อมูลถาวร 5) หน่วยแสดงผล (output unit) เป็นหน่วยที่ทำหน้าที่แสดงผลที่ได้จากการประมวลผล ข้อมูลในหน่วยความจำหลัก เพื่อส่งข้อมูลหรือสื่อสารกับผู้รับโดยมีฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนแสดงผลหรือส่งข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลจากซีพียูมายังผู้รับ ทั้งในรูปแบบภาพ เสียง และสิ่งพิมพ์” 4. นักเรียนทำใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์โดยให้นักเรียนนำ คำที่กำหนดให้ไปเติมลงในหน่วยต่าง ๆ ตามหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 5. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในห้องเรียน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 6. นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จากการสืบค้นเพิ่มเติมจาก อินเทอร์เน็ต 7. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์หน้าชั้นเรียน 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย โดยครูให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้น 9. นักเรียนทำใบงานที่ 2.2.2 เรื่อง ขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์โดยให้นักเรียน บอกขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ตามลำดับที่ถูกต้องและอธิบายหน้าที่การทำงาน ของแต่ละขั้นตอนโดยละเอียด 10. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในห้องเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ การทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานที่ 2.2.1 และ ใบงานที่2.2.2 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในใบความรู้จากการที่ให้นักเรียนทำใบความรู้ - 2.2.1 เรื่อง หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ - 2.2.2 เรื่อง ขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และขั้นตอนการ ทำงานของระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นความรู้ติดตัวและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในองค์ประกอบของฮาร์ดแวร์และในเรื่องประเภทของซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นความรู้ติดตัวและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 10. สื่อและแหล่งเรียนรู สื่อการเรียนรู้ 1) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์ 2) ใบงานที่ 2.1.2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล อธิบายหลักการทำงาน ของระบบคอมพิวเตอร์ ได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ อธิบายขั้นตอนการ ทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ เขียนขั้นตอนการ ทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (P) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์
สนใจใฝ่เรียนรู้ใน การศึกษา (A) - คำถาม - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู 12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .........................................
ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการ เรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้............................... ................./................../..............
แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22101 ปีที่ 2566 หน่วยการเรียนที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยหน่วยต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างเป็น ระบบ ดังนี้ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยความจำสำรอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายองค์ประกอบของการสื่อสารได้ถูกต้อง (K) อธิบายสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลได้ถูกต้อง (K) อธิบายทิศทางในการสื่อสารข้อมูลได้ถูกต้อง (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารได้ถูกต้อง (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศึกษา (A)
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) R1 Reading (อ่านออก) R2 (W) Riting (เขียนได้) R3 (A) Rithmetics (คิดเลข เป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล ใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ใบงานที่ 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล ใบงานที่ 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย 9. การจัดกิจกรรมการ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนจากชั่วโมงที่ผ่านมาเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 2. ครูทบทวนความรู้ของนักเรียนโดยตั้งคำถามว่า“ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใดที่เข้ามาช่วยเหลือใน การสื่อสารบ้าง” โดยครูคอยบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น) 3. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรียนรู้หรือไม่ว่าข้อดีของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ ในการสื่อสารนั้นมีอะไรบ้าง” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น ทำให้ได้รับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสื่อสาร เป็นต้น) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม และให้แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูล จากอินเทอร์เน็ตที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองเกี่ยวกับองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล โดยนักเรียนสามารถศึกษาเนื้อหา เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ต จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนพร้อมพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ เพื่อนในชั้นเรียน 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ ของการสื่อสารข้อมูลว่า“ข้อมูลข่าวสารเป็นตัวเนื้อหาของข้อมูล ซึ่งมีได้หลายรูปแบบดังนี้ 1) ข้อความ (Text) เป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปอักขระหรือเอกสาร 2) เสียง (Voice) เป็นเสียงที่มนุษย์หรืออุปกรณ์บางอย่างเป็นตัวสร้างขึ้นมา 3) รูปภาพ (Image) เป็นข้อมูลที่เป็นรูปภาพ เช่น การสแกนภาพเข้าคอมพิวเตอร์ ภาพถ่าย เป็นต้น 4) สื่อผสม (Multimedia) เป็นข้อมูลที่ผสมลักษณะของทั้งรูปภาพ เสียง และข้อความ เข้าด้วยกัน โดยสามารถเคลื่อนไหวได้” 3. นักเรียนศึกษาพัฒนาการของการสื่อสารข้อมูลที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ยุคจากอินเตอร์เน็ต 4. ครูสุ่มนักเรียน 3 คนออกมาอภิปรายหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูลพร้อมยกตัวอย่าง การสื่อสารในแต่ละยุคได้อย่างเหมาะสม
5. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย โดยครูให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้น 6. นักเรียนทำใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 7. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันภายในห้องเรียน 8. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับทิศทางการสื่อสารข้อมูลที่สื่อสารข้อมูลจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร โดยผ่านตัวกลาง และสามารถจำแนกทิศทางการสื่อสารออกเป็น 3 รูปแบบ 9. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายเกี่ยวกับทิศทางการสื่อสารข้อมูลทั้ง 3 รูปแบบ ตามที่นักเรียนได้ศึกษาจากหนังสือเรียน ดังนี้ 1) การสื่อสารทิศทางเดียว 2) การสื่อสารกึ่งสองทิศทาง 3) การสื่อสารสองทิศทาง 10. นักเรียนทำใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 11. นักเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพื่อศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อกลางของการสื่อสารข้อมูลผ่านระบบ เครือข่าย และพิจารณาถึงข้อดี – ข้อเสียของประเภทสายสัญญาณในแต่ละแบบจากหนังสือเ รียนตามหัวข้อดังต่อไปนี้ 1) สื่อกลางประเภทสายสัญญาณ 1.1 สายคู่บิดเกลียว 1.2 สายโคแอกเชียล 1.3 สายไฟเบอร์ออปติก 2) สื่อกลางประเภทไร้สาย 2.1 อินฟราเรด 2.2 คลื่นวิทยุ 2.3 ไมโครเวฟ 2.4 ดาวเทียมสื่อสาร 12. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงความรู้สู่ชีวิตประจำวัน (Com Sci in Real Life) ว่า“สายคู่บิดเกลียว แบบ UTP ถูกผลิตขึ้นมาใช้งานก่อนแล้วจึงได้มีการพัฒนาเป็น STP ซึ่งสาย UTP เริ่มแรก ถูกนำมาใช้ในระบบโทรศัพท์ แต่ปัจจุบันถูกนำมาใช้เป็นสัญญาณที่เชื่อมต่อในระบบเครือข่าย ท้องถิ่น (LAN) และมีการกำหนดมาตรฐานไว้ โดยสายที่มีมาตรฐานสูงจะสามารถส่งข้อมูล ขนาดใหญ่ได้และมีความเร็วในการส่งสูง แต่ก็จะมีราคาแพงขึ้นตามลำดับ” 13. นักเรียนพิจารณาคุณสมบัติและการนำไปใช้งานของสื่อกลางประเภทสายสัญญาณ 14. นักเรียนศึกษาความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรู้ของผู้เรียน (Com Sci Focus)
เรื่อง หน่วยวัดความเร็วของคอมพิวเตอร์ ที่กล่าวถึง Gbps ที่ย่อมากจากคำว่า Gigabit per second และ Mbps ที่ย่อมาจากคำว่า Megabit per second 15. ครูอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนเกี่ยวกับสื่อกลางของการสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายว่า “สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูลประกอบไปด้วย 2 ประเภท คือ 1) สื่อกลางประเภทสายสัญญาณ เป็นสื่อที่อาศัยวัสดุที่จับต้องได้เป็นตัวส่งผ่าน สัญญาณ เช่น สายทองแดง เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกเป็นสายคู่ตีเกลียว (TwistedPair) สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) และ สายไฟเบอร์ออปติก (Fiber-Optic) 2) สื่อกลางประเภทไร้สาย เป็นสื่อกลางประเภทที่ไม่ใช้วัสดุใด ๆ ในการนำสัญญาณ ซึ่งจะไม่มีการกำหนดเส้นทางให้สัญญาณเดินทาง เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกเป็นคลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ และดาวเทียม สื่อสาร เป็นต้น” 16. นักเรียนทำใบงานที่ 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล 17. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับประเภทของระบบเครือข่ายจากหนังสือเรียนตามหัวข้อดังต่อไปนี้ 1) เครือข่ายส่วนบุคคล 2) เครือข่ายส่วนท้องถิ่น 3) เครือข่ายระดับเมือง 4) เครือข่ายระดับประเทศ 18. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายประเภทของระบบเครือข่าย ตามที่นักเรียนได้ศึกษาจาก หนังสือเรียน 19. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงความรู้สู่ชีวิตประจำวัน (Com Sci in Real Life) เรื่อง ระบบเครือข่าย ในสถานศึกษาว่า“ระบบเครือข่ายในสถานศึกษาที่มีอาคารเรียนหลาย ๆ อาคาร ส่วนใหญ่ มักจะมีระบบ MAN ไว้คอยเชื่อมต่อกับระบบ LAN ของแต่ละอาคารเข้าด้วยกัน” 20. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่าย WAN ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของระบบเครือข่ายว่าเครือข่าย “WAN” สามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ 1) เครือข่ายส่วนตัว (Private Network) เป็นการจัดตั้งระบบเครือข่ายซึ่งมีการใช้ งานเฉพาะองค์กร เช่น องค์กรที่มีสาขาอาจทำการสร้างระบบเครือข่าย เพื่อ เชื่อมต่อระหว่างสำนักงานใหญ่กับสาขาที่มีอยู่ เป็นต้น 2) เครือข่ายสาธารณะ (PDN: Public Data Network) เป็นเครือข่ายจะมีองค์กร หนึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ในการเดินระบบเครือข่าย และให้บริการเช่าช่องทางการ สื่อสารให้กับบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างระบบเครือข่าย ซึ่งจะนิยมใช้กันมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการจัดตั้งเครือข่ายส่วนตัว สามารถใช้งานได้ทันทีโดย ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดตั้งเครือข่ายใหม่ รวมทั้งมีบริการให้เลือกหลากหลาย
21. นักเรียนทำใบงานที่ 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย 22. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันภายในห้องเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหน้าชั้นเรียน ความสนใจ ในการเรียน และการทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานที่ 2.3.1, ใบงานที่ 2.3.2, ใบงานที่ 2.3.3 และใบงานที่ 2.3.4 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารว่า“ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามี บทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการสื่อสาร ได้มีการพัฒนา อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือในการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น” ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในใบความรู้จากการที่ให้นักเรียนทำใบความรู้ - 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล - 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล - 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล - 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในหลักการทำงานขององค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลและ ทิศทางการสื่อสารข้อมูลรวมถึงสื่อกลางและประเภทของระบบเครือข่ายสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 10. สื่อและแหล่งเรียนรู สื่อการเรียนรู้ 1.) ใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 2.) ใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล 3.) ใบงานที่ 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล 4.) ใบงานที่ 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย 5.) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล อธิบายองค์ประกอบ ของการสื่อสารได้ ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ อธิบายสื่อกลางในการ สื่อสารข้อมูลได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ อธิบายทิศทางในการ สื่อสารข้อมูลได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการสื่อสาร ได้ถูกต้อง (P) - คำถาม - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ สนใจใฝ่เรียนรู้ใน การศึกษา (A) ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู
12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................ .......................................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการ เรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้............................... ................./................../..............
แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22101 ปีที่ 2566 หน่วยการเรียนที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 6 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 เรื่องการประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้ - การประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น 3. สาระสำคัญ การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยหน่วยต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างเป็น ระบบ ดังนี้ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยความจำสำรอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายประเภทของคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ในเบื้องต้นได้ (P) แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้งานด้านซอฟต์แวร์ในเบื้องต้นได้ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศึกษาและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ✓1. สมรรถนะการจัดการตนเอง
2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) R1 Reading (อ่านออก) R2 (W) Riting (เขียนได้) R3 (A) Rithmetics (คิดเลข เป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล ใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล ใบงานที่ 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล ใบงานที่ 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
9. การจัดกิจกรรมการ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวบความรู้เดิมจากชั่วโมงที่ผ่านมา 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) และให้ค้นหาว่าคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ประเภท และแต่ละ ประเภทเหมาะกับการทำงานประเภทใด จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมชั้น ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. นักเรียนศึกษาประเภทของคอมพิวเตอร์ที่แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1) Super Computer 2) Mainframe Computer 3) Personal Computer 4) Workstation Computer 5) Wearable Computer จากการสืบค้นเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองโดยให้นักเรียน พิจารณาถึงลักษณะการทำงานและการใช้งาน 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ว่า“นอกจากจะมีการแบ่งประเภท ของคอมพิวเตอร์ออกเป็น 5 ประเภทแล้ว ยังสามารถแบ่งประเภทคอมพิวเตอร์ตาม วัตถุประสงค์ของการใช้งานได้อีก คือ 1) คอมพิวเตอร์เพื่องานเฉพาะกิจ (Special Purpose Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่ถูกออกแบบตัวเครื่องและโปรแกรมควบคุมให้ทำงาน อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ โดยทั่วไปมักใช้ในงานควบคุมอุตสาหกรรม ที่เน้นการประมวลผลแบบรวดเร็ว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ควบคุมสัญญาณไฟ จราจร คอมพิวเตอร์ควบคุมลิฟต์หรือคอมพิวเตอร์ควบคุมระบบอัตโนมัติ ในรถยนต์ เป็นต้น 2) คอมพิวเตอร์เพื่องานอเนกประสงค์ (General Purpose Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยได้รับการออกแบบให้ สามารถประยุกต์ใช้ในงานประเภทต่าง ๆ ได้โดยระบบจะทำงานตามคำสั่งใน โปรแกรมที่เขียนขึ้นมา เช่น ใช้เครื่องนี้ในงานประมวลผลคะแนนนักเรียน เกี่ยวกับระบบการตัดเกรด หรือสามารถใช้ในการคำนวณเงินเดือนได้ เป็นต้น” 3. นักเรียนทำใบงานที่ 2.4.1 เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในห้องเรียน
ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 5. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนเมื่อชั่วโมงที่แล้วเกี่ยวกับการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ 6. ครูถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า“ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของนักเรียนเสียหรือมีปัญหา นักเรียนสามารถแก้ไขเองได้หรือไม่” (แนวตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเห็นตามประสบกาณณ์ของตนเอง) 7. นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง ปัญหาและการแก้ไขการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ จากหนังสือเรียน และสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นและการแก้ปัญหาจากตัวอย่างในหนังสือเรียน 8. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายถึงปัญหาที่เกิดกับคอมพิวเตอร์และวิธีการแก้ปัญหา คอมพิวเตอร์ที่นักเรียนพบในเบื้องต้น พร้อมกับอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน 9. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ว่า“นอกจากจะมี ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แล้ว ยังมีปัญหาด้านไวรัสที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ถ้าพบว่าคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงกว่าปกติคอมพิวเตอร์หยุดการตอบสนองหรือติดขัดบ่อยครั้ง คอมพิวเตอร์ขัดข้องแล้วเริ่มใหม่ทุกสองสามนาที โปรแกรมประยุกต์ในคอมพิวเตอร์ทำงาน ไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้อาจเกิดจากการมีไวรัสที่ฝังอยู่ในคอมพิวเตอร์ดังนั้นจึง ควรติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบไวรัสและหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล” 10. นักเรียนทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหา โดยการตอบคำถามเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ การเรียนรู้ (Com Sci Activity) เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ลงในสมุดประจำตัว 11. นักเรียนทำใบงานที่ 2.4.2 เรื่อง การแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ 12. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับอภิปรายร่วมกันภายในห้องเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และ การทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานที่ 2.4.1 และ ใบงานที่ 2.4.2 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น 4. นักเรียนตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจด้วยตนเองจากหนังสือเรียน โดยพิจารณาข้อความว่าถูก หรือผิด หากนักเรียนพิจารณาข้อความไม่ถูกต้องให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่ กำหนดให้ 5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อวัดความรู้ ที่นักเรียนได้รับหลังจากผ่านการเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝน 1. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในใบความรู้จากการที่ให้นักเรียนทำใบความรู้ -ใบงานที่ 2.4.1 เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
-ใบงานที่ 2.4.2 เรื่อง การแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ ขั้นที่ 5 ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในประเภทของคอมพิวเตอร์และการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์เพื่อ เป็นความรู้ติดตัวและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 10. สื่อและแหล่งเรียนรู สื่อการเรียนรู้ 1.) ใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 2.) ใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ทิศทางการสื่อสารข้อมูล 3.) ใบงานที่ 2.3.3 เรื่อง สื่อกลางของการสื่อสารข้อมูล 4.) ใบงานที่ 2.3.4 เรื่อง ประเภทของระบบเครือข่าย 5.) เครื่องคอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 11. การวัดและประเมินผล การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ/แบบประเมิน วิธีการวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล อธิบายประเภทของ คอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (K) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ แก้ไขปัญหาที่เกิดจาก การใช้งานระบบ คอมพิวเตอร์ใน เบื้องต้นได้ (P) - คำถาม - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถามได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ แก้ไขปัญหาที่เกิดจาก การใช้งานด้าน ซอฟต์แวร์ในเบื้องต้น ได้ (P) - คำถาม - ใบงาน - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์
สนใจใฝ่เรียนรู้ใน การศึกษาและ ประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ (A) - คำถาม - การตรวจใบงาน - การตอบคำถาม - ทำการตอบคำถาม และทำใบงานได้ ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ผู้สอน ( ) ครู 12. ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ได้ทำการตรวจแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ...........................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................ .......................................................... ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจแผนการจัดการ เรียนรู้ ( ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้............................... ................./................../..............
แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22101 ปีที่ 2566 หน่วยการเรียนที่ 3 เรื่อง การออกแบบขั้นตอนและการเขียนโปรแกรม เวลา 2 ชั่วโมง แผนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 8 เรื่องตัวแปรภาษาไพทอน เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/3 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ตัวดำเนินการบูลีน 3. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมในภาษาไพทอนนั้น จะต้องใช้ตัวแปรมาช่วยในการเก็บข้อมูลต่างๆ โดยตัวแปร เปรียบเสมือนภาชนะที่ใช้เก็บข้อมูล และข้อมูลเหล่านั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของผู้เขียน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายความหมายของตัวแปรได้ถูกต้อง (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ สามารถตั้งชื่อตัวแปรตามกฎการตั้งชื่อได้ถูกต้อง (P) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษาไพทอน (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการสื่อสาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม ✓ ✓
4. สมรรถนะการคิดชั้นสูง 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2. ซื่อสัตย์สุจริต 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. มีวินัย 7. รักความเป็นไทย 4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs) R1 Reading (อ่านออก) R2 (W) Riting (เขียนได้) R3 (A) Rithmetics (คิดเลข เป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) - 9. การจัดกิจกรรมการ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงที่แล้วเกี่ยวกับการออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
2. ครูถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“จากการออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ที่ได้เรียนมาแล้ว นักเรียนคิดว่าสามารถนำไปเขียนในโปรแกรมอะไรบ้างที่นักเรียนรู้จัก” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น โปรแกรม Scratch โปรแกรม Python เป็นต้น) 3. ครูวาดรูปคอมพิวเตอร์ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน และถามคำถามประจำหัวข้อกับนักเรียนว่า “ถ้าเปรียบคอมพิวเตอร์เป็นร่างกายมนุษย์ จะเปรียบหน่วยประมวลผลกลางกับอวัยวะใด” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบที่ถูกต้อง คือ สมอง) 4. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในภาษาไพทอน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึงการประยุกต์ใช้งานในระดับสูง เนื่องจากเป็น ภาษาที่มีโครงสร้างและไวยากรณ์ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ดังนั้น จึงต้องใช้หน่วยประมวลผลกลางในการคิดคำนวณค่อนข้างมากกว่าจะเขียนโปรแกรม ได้สำเร็จ” ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูถามนักเรียนว่า“ถ้านักเรียนต้องการเขียนโปรแกรมเพื่อคำนวณหาค่าข้อมูลต่าง ๆ นั้น นักเรียนรู้หรือไม่ว่าข้อมูลที่เรานำมาใช้ในการคำนวณ จะถูกเก็บไว้ที่ส่วนใดในโปรแกรม” (แนวตอบ : ข้อมูลที่นำมาใช้ในโปรแกรมนั้นจะถูกเก็บไว้ในตัวแปร) 2. นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรในภาษาไพทอนและการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาไพทอน จากอินเทอร์เน็ตที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 3. ครูอธิบายถึงการตั้งชื่อตัวแปรที่ดีในโปรแกรมภาษาไพทอน ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ Camel Case เป็นรูปแบบการตั้งชื่อที่มีการใช้ภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่สลับกันไป เช่น calculateGrade , computerScore เป็นต้น และแบบ Snake Case เป็นรูปแบบการตั้งชื่อ ตัวแปรที่แยกคำด้วยเครื่องหมายขีดเส้นใต้ (Underscore) “_” เช่น calculate_grade , computer_score เป็นต้น ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 4. ครูอธิบายถึงวิธีการสร้างและกำหนดค่าให้กับตัวแปรว่า“โปรแกรมภาษาไพทอนมีการ สร้าง และกำหนดค่าให้กับตัวแปรที่แตกต่างจากโปรแกรมอื่น เนื่องจากภาษาไพทอนเป็นภาษา ประเภท Dynamically-typed Language หมายถึง ภาษาที่มีการสร้างตัวแปร โดยไม่ต้องมี การกำหนดชนิดของตัวแปร ชนิดของตัวแปรจะถูกกำหนดด้วยข้อมูลที่เก็บไว้ใน ตัวแปรโดย