ป.3
แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชา ภาษาองั กฤษ
โดย (หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 – 3)
นางสาวปรางทพิ ย์ สุขสะอาด
ปีการศกึ ษา 2564
ครผู ู้ช่วย
โรงเรยี นเทศบาล ๑ วัดละไม อาเภอเกาะสมยุ จังหวัดสุราษฎรธ์ านี
สานักการศึกษา เทศบาลนครเกาะสมุย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
รหัสวิชา อ 13101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 Back to school again เรื่อง Flags and Countries
เวลา 2 ช่ัวโมง ชอื่ ผ้สู อน นางสาวปรางทิพย์ สุขสะอาด
******************************************
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
ตัวชี้วัด
อ่านออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับชื่อประเทศต่างๆ ได้ ระบุภาพตรงตาม
ความหมายของคำและประโยคได้ และพูดขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเองและผู้อ่ืนได้ (มฐ.ต 1.1 /ต 1.2/ต 1.3/ต 2.1/ต
2.2/ต 3.1/ต 4.1 /ต 4.2)
สาระสำคญั
การเรียนรู้คำศพั ท์เกีย่ วกบั ชือ่ ประเทศ และโครงสรา้ งประโยค ชว่ ยในการพูดขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับตนเองและ
ผู้อื่น เช่น พูดแนะนำตนเอง ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพื่อให้บรรลตุ ามตัวช้วี ดั )
1. อา่ นออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพทเ์ ก่ียวกบั ชื่อประเทศต่างๆ ได้
2. ออกเสียงคำศัพท์โดย stress อย่างถูกต้องได้
3. ระบุภาพตรงตามความหมายของคำและประโยคได้
สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
1. คำและกล่มุ คำทีม่ คี วามหมายเก่ียวกบั ช่อื ประเทศต่างๆ
2. ประโยคขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองและผู้อื่น
A: Where are you from?
B: I’m from (ช่ือประเทศ).
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ในห้องเรียน
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสัตย์สุจริต
มุ่งมน่ั ในการทำงาน มีวนิ ยั รกั ความเปน็ ไทย
ใฝ่เรียนรู้ มีจติ สาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด ใชก้ ารเช่ือมโยงและการให้เหตุผล
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ด้านคณุ ลักษณะของผู้เรยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล
1. มีความรบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
บรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. หลักความพอประมาณ -
2. หลักความมีเหตุผล มหี ลักการและวิธีการในการได้มาซง่ึ คำตอบ
3.หลักภูมคิ ้มุ กนั -
4. เงอื่ นไขความรู้นกั เรียนใช้ความสามารถในการสอื่ สารกบั ผู้อน่ื เพื่อให้ได้มาซง่ึ คำตอบ
5. เงือ่ นไขคุณธรรม มนี ้ำใจช่วยเหลือเพอ่ื นนกั เรียนด้วยกนั ในการทำงาน
(หมายเหตุ : ในแต่ละด้านไมจ่ ำเป็นตอ้ งมีครบทุกข้อในทกุ แผนการจดั การเรียนร้)ู
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้จัดการเรียนรู้ตามแนวทาง Active learning การเรยี นการสอนแบบแนะใหร้ ู้คดิ
(ช่วั โมงท่ี 1)
ขั้นนำ
ครูผู้สอนจัดทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับธงชาติและประเทศต่างๆให้นักเรียนได้ศึกษาโดยในคลิปวิดีโอมีเนื้อหาดังนี้
1. ครูผูส้ อนทักทายนกั เรียน และถามนกั เรยี นว่าภาพทน่ี ักเรยี นเหน็ น้นั คอื ภาพอะไร และให้นักเรยี นคิด 10 วินาที
วา่ สิง่ ทก่ี ำลงั จะเรียนในวนั นค้ี อื เร่อื งอะไร (ครแู สดงภาพแผนทโี่ ลกที่มีอยใู่ นหนังสือเรียน Smile ป.3 ให้นกั เรยี นดไู ปพร้อม
กัน)
ขัน้ สอน
2. จากนั้นจึงเฉลยว่าจะเป็นการเรียนเกี่ยวกับประเทศต่างๆทั่วโลก โดยถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิดตามว่า
นักเรยี นรู้จักประเทศอะไรบา้ ง จากน้ันจึงเปิดธงชาตปิ ระเทศแรกใหน้ กั เรียนได้ดูและคอ่ ยๆสอนใหน้ ักเรยี นรจู้ ักภาพธงชาติ
ประเทศนั้นๆ
Script: the United Kingdom Spain China
Thailand India Japan
3. ครูผสู้ อนแสดงภาพธงชาติ ออกเสียงให้นกั เรียนฟัง พร้อมอธบิ ายลักษณะเฉพาะของธงแตล่ ะประเทศ
- the United Kingdom = ธงชาติเป็นรูปกากบาท และมีเคร่ืองหมายบวกทับซ้อนกันอยู่ เป็นธงของส
หราชอาณาจักร ซึ่งเกิดจากการรวมเอาธงของ 4 ประเทศเข้าไว้ด้วยกันซึ่งได้แก่ England, Scotland, Wales และ
Northern Ireland โดยอธิบายคร่าวๆวา่ มลี กั ษณะเหมอื นไมก้ างเขนซ้อนทบั กนั
- Spain = ธงชาติมีสีสันสดใส ประกอบด้วยสีแดง - สีเหลือง - สีแดง และมีตราแผ่นดินปรากฎโดยอยู่
บนแถบสีเหลอื งของธงนั้น
- China = ธงชาตปิ ระเทศจีนจะเปน็ ธงรูปสีเ่ หล่ยี มผนื ผ้าพื้นสแี ดง ทมี่ มุ ธงบนด้านซา้ ย มีรูปดาวสีเหลอื ง
5 ดวง เป็นดาวดวงใหญ่ 1 ดวง ล้อมรอบด้วย ดาวดวงเล็กอีก 4 ดวง ซึ่งพื้นสีแดงหมายถึง สัญลักษณ์ของการปฏิวัติจีน
ดาวสเี หลอื ง 5 ดวงเรียงกันคลา้ ยกบั ลกั ษณะของแผนท่ีประเทศจนี หมายถึง ความเปน็ หนงึ่ เดียวกันของชาวจนี ทั้งประเทศ
ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนสิ ต์แหง่ ชาติจนี
- Thailand = ธงชาติประเทศไทย เป็นธงชาติที่มีสามสี ซึ่งสีแดงหมายถึงชาติ สีขาวหมายถึงศาสนา
และสีนำ้ เงนิ หมายถงึ พระมหากษตั รยิ ์ โดยครูผ้สู อนอาจถามนกั เรยี นวา่ ร้คู วามหมายของสีต่างๆ ของธงชาติไทยหรือไม่
- India = ธงชาติประเทศอนิ เดีย ภายในแบ่งเป็นแถบ 3 สี ตามแนวนอน ไดแ้ ก่ สแี สด สีขาว สเี ขียว
เรียงลำดับจากบนลงล่าง กลางแถบสีขาวมีรูปธรรมจักรของพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งสีแสดหมายถึง ความกล้าหาญ
เสียสละ สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ สีเขียวหมายถึง ความศรัทธาและความอุดมสมบูรณ์ ส่วนธรรมจักรแสดงถึง
ประวัตศิ าสตรอ์ นั ยาวนานของประเทศอินเดยี
- Japan = ธงชาติญี่ปุ่นเปน็ ธงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าพื้นสีขาว กึ่งกลางธงเปน็ รูปวงกลม สีแดง ซึ่งหมายถงึ
พระอาทิตย์
4. จากน้ันครอู อกเสียงใหน้ ักเรยี นฟงั อกี คร้ัง โดยเวน้ ระยะใหน้ กั เรยี นออกเสียงตามประมาณ คำละ 3 วินาที
5. ครูแสดงภาพธงชาติอีกครั้ง โดยครั้งนี้ครูไม่ออกเสียงให้นักเรียนฟงั ให้นักเรียนพยายามนึกว่าธงนัน้ ๆเป็นธง
ของประเทศอะไร โดยทิ้งระยะเวลาภาพละ 5-7 วินาที จงึ เฉลยให้นกั เรียนได้รู้ ทำไปเรอื่ ยๆจนครบทกุ ภาพ
ขั้นสรปุ
6. ครูสรุปสาระสำคญั เกยี่ วกบั ธงชาตแิ ละประเทศตา่ งๆใหน้ กั เรียนฟงั อีกครง้ั ออกเสยี งคำศพั ท์ และชลี้ กั ษณะที่
สำคญั ของธงชาติของประเทศต่างๆ เพ่ือให้นักเรยี นจดจำได้
7. ครูเปดิ แบบฝึกหดั ใหน้ ักเรยี นดู เปน็ แบบฝึกหดั การคดั ลายมือคำศพั ทป์ ระเทศต่างๆ พร้อมอธบิ ายวธิ ิการทำ ให้
นักเรียนวาดภาพธงชาตติ า่ งๆ ลงสมดุ พรอ้ มท้ังคัดลายมอื ตัวบรรจง คร่งึ บรรทัด และเวน้ บรรทัด ตามตัวอย่างทีแ่ นบไป
(ชวั่ โมงที่ 2)
ขนั้ นำ
1. ครแู สดงภาพให้นักเรยี นดูอีกครั้ง พร้อมสอบถามเพื่อทบทวนความจำเก่ยี วกบั ธงชาติต่างๆ โดยครูเปิดภาพ
สลับการถามคำศพั ท์ จากนน้ั เปิดคำศัพทเ์ พ่อื ถามถงึ ภาพวา่ ธงชาติของคำศพั ทน์ ้เี ป็นธงชาติของประเทศอะไร มลี กั ษณะ
อยา่ งไร
2. ครเู ปิดภาพคนทถ่ี ือธงชาติประเทศตา่ งๆ แสดงถึงการเป็นชนชาตขิ องประเทศน้นั ๆ โดยครูอธิบายเบือ้ งต้นวา่
คนทีถ่ ือธงชาติประเทศไทย คอื คนไทย เชน่ เดยี วกับนักเรยี นทกุ คน ว่าเป้นคนไทย มาจากประเทศไทย เปน็ ต้น
ขนั้ สอน
3. ครูเร่มิ ทำการสอนว่า การทพ่ี บเจอเพื่อนตา่ งชาติ หากเราต้องการที่จะถามวา่ เขาคนน้ันมาจากประเทศอะไร
เราสามารถถามได้ดังนี้
A: Where are you from? /แวร์ - อาร์- ยู - ฟรอม/ คณุ มาจากประเทศอะไร
/แอม - ฟรอม ........ / ฉนั มาจากประเทศ .......
B: I’m from …(ป…ร…ะ…เท…ศ…).. /แอม – ฟรอม - ไท้ - แลนด์/ ฉันมาจากประเทศไทย
/แอม – ฟรอม – ไช้ - นา/ ฉันมาจากประเทศจนี
เช่น B: I’m from …T…h…ai…la…nd….. /แอม – ฟรอม – อิ๊น - เดีย/ ฉันมาจากประเทศอนิ เดยี
/แอม – ฟรอม – เจ - แพน/ ฉันมาจากประเทศอินเดยี
B: I’m from ……C…h…in…a….. /แอม – ฟรอม – สะ - เปน/ ฉันมาจากประเทศอนิ เดยี
B: I’m from ……In…d…ia……..
B: I’m from ……Ja…p…a…n…..
B: I’m from ……S…pa…in……..
B: I’m from …th…e…U…n…it…e.d. Kingdom /แอม-ฟรอม-เดอะ-ย-ู ไน-เตด็ -ค้ิง-ดอม/ ฉนั มาจากประเทศสหราช
อาณาจักร
4. จากนั้นใหค้ รูผู้สอนเปิดภาพคนถือธงชาตอิ ย่างเดยี วแลว้ ใหน้ ักเรยี นฝึกพูดประโยค I’m from ……. ตามภาพธง
ชาตทิ ี่ครูเปิดขน้ึ มา โดยเปิดซำ้ ไปซ้ำมา 2 รอบเพอ่ื ฝกึ ความจำท้ังภาพธงชาติและรูปประโยค
ขั้นสรุป
5. ครูสรปุ ความรู้ใหน้ ักเรียนอกี ครั้ง โดยการเปิดภาพธงชาติ พรอ้ มพดู ประโยคให้นกั เรยี นฟงั สลบั กบั การเปิด
คำศพั ท์ และใหน้ ักเรียนตอบวา่ เปน็ คำศัพท์ของประเทศอะไร
6. ครูเปิดแบบฝกึ หัดให้นกั เรยี นดแู ล้วอธบิ ายวิธีการทำแบบฝึกหดั โดยการดภู าพตวั ละครถอื ธงชาติประเทศตา่ งๆ
แล้วใหน้ กั เรียนฝกึ เขียนประโยค I’m from ….. ตามภาพธงชาติในแต่ละข้อ
สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
สอื่ 1. บัตรคำศพั ทร์ ายชอื่ ประเทศตา่ งๆและสือ่ ในการสอนในโปรแกรม Canva
2. หนงั สอื เรียนและแบบฝึกหดั ภาษาอังกฤษ Smile ป.3
3. แบบฝึกหัดเรื่องธงชาตแิ ละประเทศตา่ งๆ (Flags and Countries)
การวดั ผลและประเมิลผลการเรยี นรู้
วิธวี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2. สงั เกตพฤติกรรมการสง่ งาน การแก้ 2. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ 2. ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
งานส่ง ความม่งุ มั่นในการทำงาน ประสงค์
ชื่อ - สกลุ ..................................................................................... ช้นั ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 1
วชิ าภาษาองั กฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 Back to school again
เรือ่ ง ธงชาติและประเทศต่างๆ (Flags and Countries)
*************************************************
คำส่งั ใหน้ กั เรียนระบายสีภาพธงชาตขิ องประเทศต่างๆ ตามแบบในหนังสอื เรยี นภาษาองั กฤษในบทท่ี 1 พร้อมเขยี นตามเสน้ ประที่กำหนดให้
1.
2.
3.
4.
5.
6.
ช่อื - สกลุ ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
ใบงานที่ 2
วิชาภาษาอังกฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 Back to school again
เร่ือง ธงชาตแิ ละประเทศต่างๆ (Flags and Countries)
***********************************************
คำสั่ง ใหน้ กั เรยี นจับคธู่ งชาติกบั ชอ่ื ของประเทศทีก่ ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ พรอ้ มเขยี นตามเส้นประและระบายสีใหถ้ กู ต้องสวยงาม
1. a.
2. b.
3. c.
4. d.
5. e.
6. f.
บันทกึ หลังการการจัดการเรยี นการสอนแบบ On hand
ในช่วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3
******************************************
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 Back to school again เรอ่ื ง Flags and Countries
ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ระหว่างวนั ท่ี 5-16 กรกฎาคม 2564
ในการจัดการเรียนการสอนเรือ่ งธงชาติและประเทศต่างๆ (Flags and Countries) ผ่านรูปแบบ On
Hand และ On Demand นั้น ครูผู้สอนจัดเตรียมใบงานพร้อมแนบคำอ่านภาษาไทยไปให้ เนื่องด้วยเปน็ การ
ให้ใบงานไปทำที่บ้านทำให้ผู้เรียนจะได้รับภาพสำหรับระบายสีและการคัดลายมือคำศัพท์นั้นๆ โดยผู้เรียน
จะต้องเปิดดูภาพจากในหนังสือ และศึกษาการออกเสียงคำศัพท์ประกอบจากคลิปวิดโี อท่ีครทู ำขึ้นและส่งให้
ในไลน์กลุม่ โอเพน่ แชทในแต่ละสัปดาห์ ผู้เรียนมีปฏิสัมพนั ธ์ดี เข้าใจถูกต้องโดยครูผู้สอนสงั เกตจากการทำใบ
งานสง่ และทำงานสง่ รอ้ ยละ 90
ปญั หา / อปุ สรรค
ในการจัดการเรียนการสอน นั้นค่อนข้างมีข้อจำกัดในเรื่องวิธีการเรียน เนื่องด้วยผู้เรียนแต่ละคนมี
ความพร้อมและพื้นฐานต่างกัน ไม่สามารถเข้าใจการอ่านออกเสียงที่แท้จริงของคำศัพท์ แม้ครูผู้สอนจะ
สอดแทรกคำอา่ นภาษาไทยลงไปในใบงานแลว้ ก็ตาม อาจเพราะวา่ อ่านหนงั สอื ไมอ่ อก ผปู้ กครองไม่มเี วลาสอน
หรอื อา่ นให้ฟัง ทำใหย้ ังคงไมส่ ามารถอ่านคำศพั ทไ์ ด้อยา่ งถกู ต้อง
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางการแกไ้ ข
ด้วยสภาพปัญหาที่กล่าวมา ครูผู้สอนจึงได้จัดทำวิดีโอที่เกิดจากการอธิบายและการประมวลความรู้
ทงั้ หมดใหส้ ้นั และกระชบั เข้าใจงา่ ย เพอ่ื ชว่ ยให้ผู้เรียนสามารถเปดิ ดูและเรียนรไู้ ด้ดว้ ยตนเองแมไ้ ม่มีผู้ปกครอง
คอยสอนหรืออ่านให้ฟัง ทั้งนี้เมื่อผู้เรียนมีข้อสงสัยในบทเรียนหรือวิธีการทำใบงานภายหลังการดูวิโอแล้ว
สามารถสอบถามครูผู้สอนได้โดยตรงทั้งในไลน์กลุ่มโอเพ่นแชทหรือโทรสอบถามครูผู้สอนได้ อีกทั้งยังมีการ
ยืดหยุ่นระยะเวลาการส่งงานได้จนถึง 20.00 น ของวันเดียวกัน เพื่อเอื้อประโยชน์และอำนวยความสะดวก
ให้กับนักเรยี นและผูป้ กครอง สามารถทำการบา้ นหรอื เรยี นรู้ท่ไี หน เวลาใดกไ็ ด้
ลงชอ่ื ...................................................................ผสู้ อน
(นางสาวปรางทิพย์ สขุ สะอาด)
.............1..6.........../......ก..ร..ก...ฎ..า..ค...ม....../..........6...4................
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2
รหสั วิชา อ 13101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษ
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 Back to school again เรอื่ ง Routines and Telling the Time
เวลา 2 ชัว่ โมง ชอ่ื ผสู้ อน นางสาวปรางทิพย์ สุขสะอาด
******************************************
มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด
ตัวชว้ี ัด
การถามและตอบเกยี่ วกับเวลา การเรียนร้คู ำศัพท์เก่ียวกับกจิ กรรมท่ที ำในชีวิตประจำวนั (มฐ.ต 1.1 /ต 1.2/ต 1.3/ต
2.1/ต 2.2/ต 3.1/ต 4.1 /ต 4.2)
สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศพั ท์เก่ียวกับกิจกรรมท่ีทำในชีวติ ประจำวนั รวมถงึ ประโยคที่ใชก้ ารถามและตอบเกยี่ วกับเวลา และ
ประโยคบอกกิจกรรมทที่ ำในช่วงเวลาตา่ งๆ เป็นการเรยี นร้ภู าษาอังกฤษเพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมเพื่อใหบ้ รรลุตามตวั ชว้ี ัด)
1. อ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำศพั ท์เก่ียวกับกจิ กรรมทีท่ ำในชวี ติ ประจำวนั ได้
2. พูดบอกกจิ กรรมที่ทำในช่วงเวลาต่างๆ ได้
3. ถามและตอบเก่ียวกบั เวลาได้
สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. ประโยคถามและตอบเกี่ยวกับเวลา
A: What’s the time, please? B: It’s (เวลา).
2. ประโยคบอกกจิ กรรมท่ีทำในชว่ งเวลาตา่ งๆ
I (กิจกรรมทท่ี ำ) at (เวลา).
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
1. บอกความต้องการงา่ ยๆ ตามแบบที่ฟงั
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสตั ย์สุจรติ
มุ่งมัน่ ในการทำงาน มีวินัย รักความเปน็ ไทย
ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการสือ่ สาร
ความสามารถในการคดิ ใช้การเช่ือมโยงและการให้เหตุผล
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ดา้ นคณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล
1. มีความรบั ผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. หลักความพอประมาณ -
2. หลักความมเี หตุผล มหี ลกั การและวิธีการในการได้มาซง่ึ คำตอบ
3.หลกั ภูมิค้มุ กนั -
4. เงื่อนไขความรู้นกั เรียนใชค้ วามสามารถในการสอ่ื สารกบั ผอู้ ่ืนเพ่อื ให้ได้มาซง่ึ คำตอบ
5. เงื่อนไขคณุ ธรรม มีน้ำใจช่วยเหลอื เพื่อนนักเรียนดว้ ยกันในการทำงาน
(หมายเหตุ : ในแต่ละด้านไม่จำเปน็ ตอ้ งมีครบทุกข้อในทกุ แผนการจัดการเรยี นร้)ู
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้จัดการเรยี นรู้ตามแนวทาง Active learning การเรียนการสอนแบบแนะให้รูค้ ดิ
(ชั่วโมงที่ 1)
ข้ันนำ
ครูผสู้ อนจดั ทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกบั กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นไดศ้ กึ ษาโดยในคลิปวดิ ีโอมีเนือ้ หา
ดังน้ี
1. ครูผสู้ อนทักทายนักเรียนและแสดงภาพกจิ วัตรประจำวนั ตา่ งๆ แล้วจึงถามนกั เรียนว่าคนใบภาพกำลังทำกจิ กรรม
อะไรอยู่ โดยครูเฉลยว่า wake up /เวค้ -อั้พ/ หมายถึง ต่นื นอน
2. ครูถามนกั เรยี นตอ่ ว่านกั เรยี นรหู้ รือไมว่ า่ กำลงั จะเรียนเรื่องอะไร จากนั้นจึงเฉลยวา่ Routines /ร-ู ทีนส์/ กจิ วตั ร
ขัน้ สอน
3. ครูเปดิ ภาพกจิ วัตรประจำวันตามลำดับ จากน้นั จึงออกเสยี งเพ่ือใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม ดงั นี้
ภาพท่ี 1 get up /เกท้ -อั้พ/ ตืน่ นอน
ภาพที่ 2 have breakfast /แฮฟ-เบร้ค-ฟาสท์/ กินขา้ วเชา้
ภาพที่ 3 go to school /โก-ท-ู สกูล/ ไปโรงเรยี น
ภาพท่ี 4 have lunch /แฮฟ-ลัน้ ช์/ กินข้าวเทย่ี ง
ภาพท่ี 5 go home /โก-โฮม/ กลับบ้าน
ภาพที่ 6 have dinner /แฮฟ-ด๊ิน-เนอ/ กนิ ขา้ วเย็น
ภาพท่ี 7 go to bed /โก-ทู-เบ้ด/ เข้านอน
4. จากนั้นครูผู้สอนจึงเปิดเฉพาะภาพแล้วให้นกั เรียนนกึ ถงึ คำศพั ท์เกีย่ วกบั ภาพน้นั ๆ เพื่อเป็นการทดสอบความจำ
ของนกั เรยี น และครคู ่อยๆเฉลยไปทลี ะถาพ
5. ครูสลับโดยการเปิดคำศัพทภ์ าษาอังกฤษขึ้นมา แล้วให้นักเรียนทายวา่ คำศพั ท์น้ันหมายถึงอะไร ทำเช่นนไี้ ปเรื่อยๆ
จนครบทกุ ภาพ
ข้ันสรปุ
6. ครูสรุปความรู้ให้นักเรียนอีกครั้ง โดยการเปดิ ภาพกิจวัตรประจำวันคู่กบั คำศพั ท์ เพอื่ เปน็ การให้นักเรียนจับคูภ่ าพ
กับคำศพั ท์ จากน้ันครคู อ่ ยๆเป็นพ่ีเลี้ยงในการเฉลยคำตอบให้กับนักเรียนไปทลี ะข้อจนครบทุกข้อ
7. ครูอธิบายแบบฝกึ หัดของวนั นี้ คือใหน้ ักเรยี นเลือกคำศพั ทก์ จิ วตั รประจำวันตา่ งๆ ลงมาใส่ใต้ภาพใหถ้ กู ตอ้ งตรง
ตามภาพน้ันๆ
(ชวั่ โมงที่ 2)
ข้ันนำ
1. ครผู สู้ อนทบทวนกจิ วตั รประจำวันตา่ งๆท่ีไดเ้ รียนไปในสปั ดาหท์ ี่ผ่านมาอกี คร้งั หนึ่ง เพราะเนือ่ หาจะเช่ือมโยงกับ
การบอกเวลาที่กำลังจะเรยี นในสปั ดาหน์ ี้
2. เมอื่ ครูทบทวนคำศัพทก์ ิจวตั รประจำวันต่างๆเรยี บร้อยแลว้ ครจู งึ ถามวา่ นักเรียนตืน่ นอนกโ่ี มง นกั เรยี นกนิ ขา้ วเชา้
ก่โี มง ไปโรงเรยี นก่ีโมง กนิ ขา้ วเท่ยี งกีโ่ มง และเข้านอนกโี่ มง โดยในขณะทีก่ ำลังถามกใ็ ห้เปดิ ภาพต่างๆ พรอ้ มคำศัพท์
ภาษาองั กฤษตามไปด้วย
3. จากน้ันครูจงึ บอกนกั เรยี นวา่ สิง่ ท่ีกำลังจะเรยี นในวันนคี้ อื เรื่องการบอกเวลา
ข้นั สอน
4. ครูเปิดภาพนาฬิกา 6.00 น แล้วออกเสียงให้นักเรยี นฟงั ว่า six o’clock
5. จากน้นั เปิดภาพนาฬิกา 7.00 น แล้วออกเสยี ง seven o’clock
6. ครผู ้สู อนอธิบายเพ่มิ เติมว่า o’clock หมายถึง .00 นาฬิกา ใช้เมอื่ ต้อง
การบอกเวลาที่เข็มยาวอย่ตู รงเลข 12 เป็นการบอกเวลาตรง จากน้ันครจู ึงยกตวั อย่างเพมิ่ เติม เป็นตัวเลข โดยให้นกั เรียนฝึก
คิดตาม ดังน้ี
1.00 1 o’clock
2.00 2 o’clock
3.00 3 o’clock
4.00 4 o’clock
5.00 5 o’clock
6.00 6 o’clock
7.00 7 o’clock
8.00 8 o’clock
9.00 9 o’clock
10.00 10 o’clock
11.00 11 o’clock
12.00 12 o’clock
7. จากนน้ั ครจู ึงเนน้ ย้ำอีกครั้งวา่ หากดูนาฬิกาท่มี ีเข็ม ให้ดูท่ีเขม็ สั้นวา่ ตรงกับเลขใด จะแทนชัว่ โมง เข็มยาวตรงเลข
12 จะแทน นาที ซ่งึ ออกเสียงว่า O’clock
8. จากน้ันครูจงึ เริ่มนำการบอกเวลามาเชอ่ื มโยงกบั กจิ วัตรประจำวัน โดยครูเปิดภาพกิจวตั รประจำวันขนึ้ มา
ตามลำดับ แล้วจงึ พูดประโยคเหล่าน้ใี ห้นักเรียนฟัง
I get up at 6 o’clock.
I have breakfast at 7 o’clock.
I go to school at 8 o’clock.
I have lunch at 12 o’clock.
I go home at 3 o’clock.
I have dinner at 5 o’clock.
I go to bed at 7 o’clock.
9. กิจกรรมทบทวน ครเู ปิดภาพอีกครัง้ คกู่ ับนาฬกิ า จากน้นั ใหน้ ักเรียนลองฝกึ คดิ ตาม ให้เวลาคำละ 10 วนิ าที
จากนน้ั ครจู งึ เฉลยใหด้ ู
ข้นั สรปุ
10. ครูสรปุ บทเรียนให้นกั เรียนอีกครงั้ หน่งึ โดยการบอกวา่ เมอ่ื เราต้องการบอกเวลา เขม็ ส้ันของนาฬิกา แทนชว่ั โมง
เขม็ ยาว แทน นาที หากจะบอกเวลา 7.00 เราจะพดู ไดว้ า่ 7 o’clock
11. ครูนำแบบฝึกหัดขึ้นมาแสดงให้นกั เรียนดแู ละอธิบายวธิ ีการทำจากน้นั ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด โดยใน
แบบฝกึ หัดมีประโยคตวั อยา่ งให้ ดังนี้
I get up at 6 o’clock.
I ____ก_จิ_ว_ัต__ร____ at ___เ_ว_ล_า__ o’clock.
โดยในแบบฝึกหัดครจู ะมีภาพกิจกรรมให้ ให้นักเรยี นดภู าพแลว้ ฝึกแต่งประโยคให้ถกู ต้อง
ส่ือ/แหล่งเรียนรู้
ส่ือ 1. บตั รคำศพั ท์กจิ วัตรประจำวนั ตา่ งๆ และสื่อการสอนในโปรแกรม Canva
2. หนังสือเรยี นและแบบฝึกหดั ภาษาองั กฤษ Smile ป.3
3. แบบฝกึ หัดกจิ วตั รประจำวันและการบอกเวลา (Routines and Telling the Time)
การวัดผลและประเมลิ ผลการเรยี นรู้
วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2. สังเกตพฤติกรรมการสง่ งาน การแก้ 2. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ 2. ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
งานสง่ ความมงุ่ มนั่ ในการทำงาน ประสงค์
ชื่อ - สกุล ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
ใบงานท่ี 3
วิชาภาษาองั กฤษ (รหัสวิชา อ 13101)
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 Back to school again
เร่อื ง กิจวตั รประจำวันและการบอกเวลา (Routines and Telling the Time)
*************************************************************************
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนจบั คู่คำศพั ท์ในตารางกับภาพให้ถกู ตอ้ ง (ต 1.1 ป.3/3)
a. have dinner d. go home f. go to school
b. go to bed e. get up g. have lunch
c. have breakfast
1. 2.
กนิ อาหารเชา้ ไปโรงเรยี น
_____________________ _____________________
3. 4. 5.
กลับบ้าน กนิ อาหารเยน็ กินอาหารเที่ยง
_____________________ _____________________ _____________________
6. 7.
ตื่นนอน เข้านอน
_____________________ _____________________
ชอ่ื - สกุล ..................................................................................... ชน้ั ป. 3/...... เลขที่ ..........
เฉลยใบงานที่ 3
วิชาภาษาอังกฤษ (รหสั วชิ า อ 13101)
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 Back to school again
เร่ือง กจิ วตั รประจำวนั และการบอกเวลา (Routines and Telling the Time)
*************************************************************************
คำชีแ้ จง ให้นักเรียนจบั ค่คู ำศพั ทใ์ นตารางกับภาพใหถ้ ูกต้อง (ต 1.1 ป.3/3)
a. have dinner d. go home f. go to school
b. go to bed e. get up g. have lunch
c. have breakfast
1. 2.
กินอาหารเชา้ ไปโรงเรียน
___h__a_v_e__b_r_e_a_k_f_a_s_t____ _____g_o__to___sc__h_o_o_l_____
3. 4. 5.
กลบั บา้ น กนิ อาหารเยน็ กินอาหารเที่ยง
______g_o__h_o_m__e________ _____h_a_v_e__d__in_n__e_r_____ _____h__a_v_e__l_u_n_c_h______
6. 7.
ต่นื นอน เขา้ นอน
_______g_e_t__u_p_________ ______g_o__t_o__b_e_d_______
ชอ่ื - สกลุ ..................................................................................... ชัน้ ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 4
วิชาภาษาอังกฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 Back to school again
เร่ือง กิจวัตรประจำวันและการบอกเวลา (Routines and Telling the Time)
*************************************************************************
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคโดยดภู าพท่ีกำหนดใหต้ ่อไปน้ี (ศกึ ษาจากคลปิ วิดโี อหรือดูตวั อย่างด้านลา่ ง) (ต 1.2 ป.3/4)
เกร็ดความรู้
I _____________ at _______________.
ไIอ____gเ_eก_็ทt_-อu_้ัพ_p____แaอt้ท___ไ_ฟ5_ฟ_o์ _’โ_cอ_-lคo_ล_c็อ_kค___. ฉันต่ืนนอนเวลา 5 นาฬิกาตรง
1. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
2. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
3. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
4. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
5. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
6. I _________________ at _______________.
I _________________ at _______________.
ชื่อ - สกลุ ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
เฉลยใบงานท่ี 4
วิชาภาษาอังกฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 Back to school again
เร่ือง กจิ วัตรประจำวนั และการบอกเวลา (Routines and Telling the Time)
*************************************************************************
คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคโดยดูภาพท่ีกำหนดให้ต่อไปน้ี (ศกึ ษาจากคลิปวดิ โี อหรือดูตวั อยา่ งดา้ นล่าง) (ต 1.2 ป.3/4)
เกรด็ ความรู้
I _____________ at _______________.
I ____g_e_t_u__p____ at ____5__o_’_c_lo__c_k___. ฉันต่ืนนอนเวลา 5 นาฬิกาตรง
1. I _________________ at _______________.
I ___h_a_v_e_b_r_e_a_k_fa_s_t___ at ____5__o_’c_l_o_c_k____.
2. I _________________ at _______________.
I ____g_o__t_o_s_c_h_o_o_l___ at ____7__o_’c_l_o_c_k____.
3. I _________________ at _______________.
I ____h_a_v_e_l_u_n_c_h_____ at ____1_2_o_’_c_lo_c_k____.
4. I _________________ at _______________.
I _____g_o__h_o_m_e______ at ____3__o_’c_l_o_c_k____.
5. I _________________ at _______________.
I ____h__av_e__d_in__n_e_r___ at ____6_o__’c_l_o_c_k____.
6. I _________________ at _______________.
I _____g_o__t_o_b_e_d_____ at ____8__o_’c_l_o_c_k____.
บันทกึ หลงั การการจัดการเรยี นการสอนแบบ On hand
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3
******************************************
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 Back to school again เร่ือง Routines and Telling the Time
ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ระหว่างวันท่ี 19-30 กรกฎาคม 2564
การจัดการเรียนการสอนเรื่อง Routines and Telling the Time โดยผ่านรูปแบบ On Hand และ
On Demand นั้น แบ่งย่อยการสอนออกเป็น 2 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงที่ 1 ครูจะสอนเกี่ยวกับคำศัพท์เรื่อง
กิจวัตรประจำวันของนักเรียนเอง ซึ่งเป็นคำศัพท์พื้นฐานที่นักเรียนปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น ตื่นนอน กิน
ขา้ วเช้า ไปโรงเรยี น กลบั บ้าน เปน็ ตน้ การสอนจะประกอบด้วยคำศพั ท์ ครูอ่านออกเสียงให้ฟังผา่ นวิดีโอและมี
ภาพประกอบ จากนั้นชัว่ โมงที่ 2 จะเป็นเรื่องของการบอกเวลาตรง เช่น 7.00 น. 8.00 น. 12.00 น. เป็นตน้
ซึ่งเป็นการอ่านเวลาแบบพื้นฐานให้ผู้เรียนทำความเข้าใจการอ่านเวลาเบื้องต้นก่อน จากนั้นนำกิจวัตร
ประจำวันตา่ งๆมาเช่อื มโยงกับการบอกเวลา ว่านกั เรยี นทำสิ่งใดในเวลากี่โมง เช่น I get up at 6 o’clock. ให้
นกั เรียนฝึกพดู และแต่งประโยคจากภาพท่ีกำหนด ผู้เรียนมปี ฏิสัมพันธ์ดี เข้าใจถูกต้องโดยครูผู้สอนสังเกตจาก
การทำใบงานส่ง และทำงานสง่ รอ้ ยละ 90
ปญั หา / อุปสรรค
ปญั หาของการเรียนเรื่องกิจวตั รประจำวันและการบอกเวลา (Routines and Telling the Time) ซึ่ง
เป็น 2 เรื่องหลักๆ นั้น โดยปกติแล้วจะต้องใชเ้ วลาประมาณ 3-5 ชั่วในการเรียน การทำความเข้าใจในแต่ละ
เรอ่ื ง เพือ่ ให้ครผู ู้สอนม่นั ใจเสียกอ่ นวา่ ผู้เรียนจะสามารถเข้าใจเร่ืองที่ 1 ก่อนนำมาเชื่อมโยงกันในเร่ืองที่ 2 ได้
เพราะหากไม่เข้าใจตัง้ แตแ่ รก การจะเรยี นเร่อื งถดั ไปให้เขา้ ใจอย่างแท้จริงย่อมเป็นเร่ืองทลี่ ำบาก จะไม่สามารถ
บอกไดว้ า่ กจิ กรรมนั้นๆคอื อะไร หรือเวลาเหล่านี้อา่ นอยา่ งไร
ข้อเสนอแนะ / แนวทางการแกไ้ ข
ครผู ู้สอนอาจแบ่งบทเรียนออกเป็น 3 ช่ัวโมง หรอื ลดจำนวนของคำศัพท์ลงเพ่ือใหง้ ่ายตอ่ การทำความ
เข้าใจมากขึ้น เพ่ือที่ผู้เรียนจะจดจอ่ หรือโฟกสั กบั จำนวนคำศัพท์ท่ีน้อยลงและทำให้จำหลักการหรือวิธีการได้
มากขนึ้ การลดภาระงานอาจเปน็ การชว่ ยปรับทัศนคตขิ องการเรยี นใหด้ ียิง่ ขึ้น
ลงช่อื ...................................................................ผสู้ อน
(นางสาวปรางทพิ ย์ สขุ สะอาด)
............3..0............/.....ก..ร..ก..ฎ...า..ค..ม......../.........6..4..................
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3
รหัสวิชา อ 13101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษ
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 All Year Round เรอ่ื ง Weather
เวลา 2 ชั่วโมง ชื่อผ้สู อน นางสาวปรางทิพย์ สุขสะอาด
******************************************
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
ตัวชี้วัด
อา่ นออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพท์เกีย่ วกบั สภาพอากาศ ประโยคทีใ่ ช้ในการขอและให้ข้อมูล
เกี่ยวกับสภาพอากาศ เป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพื่อนำไปใช้สือ่ สารในชีวิตประจำวัน (มฐ.ต 1.1 /ต 1.2/ต 1.3/ต 2.1/ต
2.2/)
สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ รวมถึงการใช้ประโยคในการถามและตอบเกี่ยวกับสภาพอากาศ เป็นการ
เรียนรภู้ าษาอังกฤษเพอื่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพื่อใหบ้ รรลตุ ามตัวชี้วดั )
1. อ่านออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศได้
2. ระบุภาพได้ตรงตามความหมายของคำและประโยค
3. พูดและเขยี นขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับสภาพอากาศได้
สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
1. กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกยี่ วกบั สภาพอากาศและฤดูกาล
2. ประโยคถามและตอบสภาพอากาศในเดือนต่างๆ
A: What’s the weather like today?
B: It’s (คำศัพทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศ).
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
2. บอกคำศัพทง์ ่ายๆ เกย่ี วกบั ฤดกู าลและเทศกาลในแตล่ ะฤดกู าลของเจา้ ของภาษา
4. การใช้ภาษาต่างประเทศเพอื่ รวบรวมคำศพั ทท์ ี่เก่ียวข้องใกลต้ วั
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สัตยส์ ุจรติ
มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มวี ินยั รกั ความเปน็ ไทย
ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด ใชก้ ารเชอื่ มโยงและการให้เหตุผล
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นคุณลักษณะของผเู้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล
1. มีความรับผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ ม่ันในการทำงาน
บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. หลักความพอประมาณ -
2. หลกั ความมเี หตผุ ล มหี ลักการและวธิ กี ารในการได้มาซงึ่ คำตอบ
3.หลกั ภูมคิ ุ้มกัน -
4. เงื่อนไขความรู้รจู้ กั คิดเชอื่ มโยงเดอื นตา่ งๆ และฤดกู าลตา่ งๆ
5. เง่ือนไขคุณธรรม มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื เพ่อื นนักเรียนดว้ ยกันในการทำงาน
(หมายเหตุ : ในแต่ละด้านไม่จำเปน็ ตอ้ งมีครบทกุ ข้อในทุกแผนการจัดการเรียนร)ู้
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้จัดการเรียนรูต้ ามแนวทาง Active learning การเรยี นการสอนแบบแนะให้รคู้ ิด
(ชัว่ โมงที่ 1)
ข้ันนำ
ครูผูส้ อนจดั ทำคลิปวดิ โี อสอื่ การสอนเรอ่ื งสภาพอากาศต่างๆ โดยเนอื้ หาในคลิปวิดีโอมดี ังนี้
1. ครูผ้สู อนทักทายนักเรียน โดยถามว่าวนั นีอ้ ากาศเป็นอย่างไรบา้ ง โดยครูผู้สอนอาจนำเสนอภาพแดดออก หรอื ฝน
ตกข้นึ มาเพ่อื เปน็ ตวั อย่างของคำตอบ แล้วบอกผู้เรยี นวา่ วนั นี้จะมาเรียนกนั ในเรอ่ื งของสภาพอากาศ
ขนั้ สอน
1. ครูผูส้ อนเร่มิ ด้วยการสอนคำศพั ท์เกย่ี วกับสภาพอากาศต่างๆ โดยเปดิ ภาพและออกเสยี งให้นกั เรยี นฟงั ไปทลี ะคำ
ดังน้ี
sunny /ซั้น-น/ี แดดออก
rainy /เร้น-น/ี ฝนตก
snowy /สะ-โน้ว-ว่ี/ หมิ ะตก
cloudy /คล๊าว-ด/ี เมฆมาก
windy /วนิ๊ -ดี/ ลมแรง
foggy /ฟอ๊ ก-ก/ี มีหมอก
stormy /สะ-ตอ๊ ร์ม-มี/ มพี ายุ
hot /ฮอท/ ร้อน
cold /โคลด/์ หนาว
3. จากน้นั ครจู ึงถามนักเรยี นควบคู่กบั การเปิดภาพโดยไมเ่ รียงลำดับเดมิ วา่ แดดออก ภาษาอังกฤษคอื อะไร ฝนตก
ภาษาอังกฤษคืออะไร ถามเชน่ นไ้ี ปจนครบทุกคำ
4. จากนัน้ ครเู ตรยี มแบบฝึกหัดยอ่ ยเพื่อให้นักเรียนลองฝึกจับคคู่ ำศัพท์กับภาพท่กี ำหนด เป็นลกั ษณะของการโยงเสน้
จบั คู่ โดยใหน้ ักเรยี นทำไปพร้อมกบั ครู แต่ใหค้ รเู ว้นระยะเวลาใหผ้ ู้เรยี นคิดช้อละประมาณ 10 วินาที โดยมีครผู ู้สอนคอยเปน็
พีเ่ ล้ยี ง ชแ้ี นะแนวทาง และเฉลยคำตอบ
ขนั้ สรุป
5. ครูผู้สอนสรุปบทเรียนให้นักเรียน โดยบอกว่าคำศัพท์ต่างๆที่เราเรียนในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของสภาพอากาศ
ทัง้ หมด ใช้บรรยายอากาศในแตล่ ะวนั ซึ่งแตกต่างกันออกไป นักเรยี นจำได้บ้างหรือไม่วา่ เรียนคำวา่ อะไรไปบา้ ง
6. จากนนั้ ครเู ปิดภาพตา่ งๆไปทีละภาพ แล้วสรปุ พรอ้ มทง้ั อา่ นออกเสียงให้นักเรยี นฟงั อกี ครั้ง
7. ครูนำแบบฝกึ หดั ประจำวันขึ้นมาให้นกั เรยี น เปน็ การเลือกคำศัพท์เรือ่ งสภาพอากาศไปเติมใตภ้ าพให้ถูกต้อง โดย
มจี ำนวนท้งั หมด 9 ข้อ
(ช่ัวโมงที่ 2)
ข้ันนำ
1. ครูผู้สอนทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศแบบต่างๆอีกครั้งหนึ่ง โดยการถามว่าภาพที่นักเรียนเห็นนั้นใน
ภาษาอังกฤษเรียกว่าอย่างไร ถามจนครบทุกคำ จากนั้นครจู ึงถามนักเรียนว่า วันนี้สภาพอากาศเปน็ อย่างไรบ้าง โดยครูเปดิ
ภาพสภาพอากาศข้ึนมา 1 อย่างให้นักเรียนดู แล้วเวน้ ระยะเวลาใหน้ ักเรียนคิดและตอบ จากนนั้ ครูจึงเฉลยว่า hot / sunny
2. ครูจึงเฉลยวา่ วนั นี้เราจะมาเรยี นเรอื่ งการถาม-ตอบเกีย่ วกบั สภาพอากาศ
ขน้ั สอน
3. ครนู ำเสนอประโยคทใี่ ช้ในการถามวา่ “วนั น้ีอากาศเป็นอย่างไรบ้าง” พรอ้ มกับวธิ ีการตอบคำถาม ดังนี้
คำถาม : What is the weather like today? วนั น้ีสภาพอากาศเป็นอยา่ งไรบา้ ง
ครผู สู้ อนออกเสยี งประโยคเสียงดงั ฟังชัด และช้าๆ เพ่ือเน้นคำและเนน้ แต่ละพยางค์ใหช้ ัดเจนใหน้ ักเรยี นออกเสียงตามได้
จากนนั้ บอกนักเรียนวา่ สามารถตอบได้ดงั น้ี
คำตอบ : It is ___ส_ภ_า_พ_อ_า_ก_า_ศ____.
เช่น It is sunny. วนั นี้แดดออก
It is warm. วนั นีอ้ บอุ่น
It is snowy. วนั นห้ี มิ ะตก
It is cold. วนั นอี้ ากาศหนาว
It is windy. วนั นล้ี มแรง
It is cloudy. วันนมี้ เี มฆมาก
It is rainy. วันนฝ้ี นตก
It is stormy. วันนม้ี ีพายุ
It is foggy. วนั นม้ี หี มอกมาก
4. ครนู ำเสนอทุกประโยคจนครบ จากนน้ั สลบั เปดิ ภาพต่างๆโดยไมเ่ รยี งตามลำดับเดมิ โดยให้นกั เรยี นคิดคำศัพท์ที่
สมั พนั ธก์ ับภาพเพือ่ เป็นการทบทวน
ขั้นสรปุ
5. ครชู ว่ ยนกั เรยี นสรุปใจความสำคญั ของเร่ืองที่เรียนในวันน้ีคือเราสามารถถามผู้อ่ืนไดว้ า่ สภาพอากาศวนั น้เี ปน็
อย่างไร โดยสามารถพดู ไดว้ ่า
คำถาม : What is the weather like today? วันนี้สภาพอากาศเป็นอยา่ งไรบ้าง
และสามารถตอบวา่ คำตอบ : It is ___ส__ภ_า_พ_อ_า_ก_า_ศ___.
6. ครนู ำเสนอใบงานวันนีพ้ ร้อมกบั อธบิ ายวธิ กิ ารทำ โดยใบงานจะมตี ัวอยา่ งประโยคคำถามและคำตอบให้นักเรียน
เขยี นตาม และมภี าพเกย่ี วกบั สภาพกาศใหน้ ักเรยี นตอบ
1. คำถาม : What is the weather like today?
คำตอบ : It is _______________.
2. คำถาม : What _____________________?
คำตอบ : It is _______________.
สือ่ /แหล่งเรียนรู้
ส่ือ 1. บัตรคำศัพท์สภาพอากาศต่างๆ และสอื่ การสอนในโปรแกรม Canva
2. หนังสอื เรียนและแบบฝึกหดั ภาษาองั กฤษ Smile ป.3
3. แบบฝึกหัดเรื่องสภาพอากาศต่างๆ (Weather)
การวดั ผลและประเมิลผลการเรียนรู้
วธิ วี ดั เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
1. ประเมินการทำแบบฝกึ หัด 1. แบบฝกึ หัด 1. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2. สังเกตพฤติกรรมการส่งงาน การแก้ 2. แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ 2. ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
งานส่ง ความมงุ่ มั่นในการทำงาน ประสงค์
ชอ่ื - สกลุ ..................................................................................... ชนั้ ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 5
วชิ าภาษาอังกฤษ (รหัสวิชา อ 13101)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 All Year Round เร่ือง สภาพอากาศแบบต่างๆ (Weather)
*************************************************************************
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นจับคคู่ ำศพั ทใ์ นตารางกับภาพใหถ้ กู ตอ้ ง (ต 1.1 ป.3/3)
a. foggy d. cloudy g. snowy
b. sunny e. rainy h. cold
c. windy f. stormy i. warm
1. 2. 3.
_____________________ _____________________ _____________________
4. 5. 6.
_____________________ _____________________ _____________________
7. 8. 9.
_____________________ _____________________ _____________________
ช่อื - สกุล ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
เฉลยใบงานที่ 5
วชิ าภาษาองั กฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 All Year Round เรอื่ ง สภาพอากาศแบบตา่ งๆ (Weather)
*************************************************************************
คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นจับคู่คำศัพทใ์ นตารางกบั ภาพให้ถกู ต้อง (ต 1.1 ป.3/3)
a. foggy d. cloudy g. snowy
b. sunny e. rainy h. cold
c. windy f. stormy i. warm
1. 2. 3.
_______s__u_n__n_y________ _______s_t_o_r_m___y_______ ______c__l_o_u__d_y________
4. 5. 6.
_______s_n__o_w__y________ ________r_a_i_n_y_________ ________c__o_l_d_________
7. 8. 9.
______w__i_n_d__y_________ ________f_o_g__g_y________ __________h_o__t________
ช่อื - สกลุ ..................................................................................... ช้นั ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานท่ี 6
วชิ าภาษาอังกฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 All Year Round เรอ่ื ง สภาพอากาศแบบตา่ งๆ (Weather)
*************************************************************************
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดูภาพแลว้ ตอบคำถามตอ่ ไปน้ี (ต 1.2 ป.3/1)
เกร็ดความรู้ คำถาม (Question) : Wวอhทat อisี้ส เtดhอeะ wเวe้ทa-เtตhอ้ eะr lไiลkค้e์ tทo-ู dเดaยy์ ? วนั นอี้ ากาศเปน็ อยา่ งไรบา้ ง
คำตอบ (Answer) : อItิท อisสี ______ส_ภ_า_พ_อ_า_ก_าศ________.
เชน่ : It is ________c_o__ld__________. วันนอ้ี ากาศหนาว
1. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
2. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
3. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
4. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
5. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
6. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
7. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
8. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______________________.
ช่อื - สกุล ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
เฉลยใบงานท่ี 6
วิชาภาษาองั กฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 All Year Round เรื่อง สภาพอากาศแบบต่างๆ (Weather)
*************************************************************************
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนดูภาพแล้วตอบคำถามต่อไปนี้ (ต 1.2 ป.3/1)
เกรด็ ความรู้ คำถาม (Question) : Wวอhทat อisีส้ เtดhอeะ wเวeท้ a-เtตh้อeะr lไiลk้คe์ tทo-ู dเดaยy์ ? วันน้อี ากาศเปน็ อยา่ งไรบา้ ง
คำตอบ (Answer) : อItทิ อisสี ______ส_ภ_า_พ_อ_า_ก_าศ________.
เชน่ : It is ________c_o__ld__________. วนั น้อี ากาศหนาว
1. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______s_u__n__n_y__________.
2. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______c_l_o_u__d__y_________.
3. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is _______r_a_i_n__y__________.
4. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______w__i_n_d__y__________.
5. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______s_t_o__r_m__y_________.
6. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ______s__n_o__w__y_________.
7. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is _______f_o_g_g__y__________.
8. คำถาม (Question) : What is the weather like today?
คำตอบ (Answer) : It is ________h__o_t___________.
บันทกึ หลงั การการจัดการเรียนการสอนแบบ On hand
ในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
******************************************
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 All Year Round เร่ือง Weather
ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ระหว่างวนั ที่ 2-13 สิงหาคม 2564
การจดั การเรียนการสอนเรอ่ื ง สภาพอากาศ (Weather) แบง่ ยอ่ ยการสอนออกเปน็ 2 ชวั่ โมง โดยเร่ิม
สอนคำศัพท์สภาพอากาศต่างๆกอ่ น แล้วใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ทดสอบคำศพั ท์ เพ่อื ชว่ ยใหน้ ักเรยี นทำความ
เขา้ ใจไปทลี ะขั้นตอนกอ่ นที่จะเรม่ิ เนื้อหาในชั่วโมงที่ 2 โดยในช่ัวโมงที่ 2 นัน้ จะเป็นการสอนเรอ่ื งการถามและ
ตอบเกี่ยวกับสภาพอากาศ โดยถามว่าวันนี้อากาศเป็นอย่างไร และคำตอบจะเป็นการตอบบรรยายสภาพ
อากาศแบบตา่ งๆ ตามสถานการณ์และภาพที่กำหนดให้
จากการเรียนการสอบพบวา่ นกั เรียนสามารถส่วนใหญ่ทำกิจกรรม เขียน ตอบคำถาม เลอื กคำศัพท์มา
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตรงตามจดุ ประสงคท์ กี่ ำหนด
ปัญหา / อุปสรรค
นักเรียนบางส่วนไม่เข้าใจวิธีการทำแบบฝึกหัด เช่นไม่สามารถตอบคำถามให้ตรงกับสภาพอากาศท่ี
กำหนดให้ หรือไม่สามารถเลือกคำศัพท์มาเติมใต้ภาพได้ตรงกับที่ครูสอน อาจเป็นเพราะนักเรียนไม่สามารถ
เปดิ ดวู ดิ โี อ หรือสือ่ การสอนทค่ี รูทำให้
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางการแกไ้ ข
ยืดหยุ่นระยะเวลาการสง่ งานออกไปจากเดมิ เพื่อให้ผูเ้ รียนมีเวลามากขึน้ ในการทีจ่ ะศึกษาคลิปวิดีโอ
เนอื่ งด้วยบางครั้งผู้ปกครองเลิกงานคำ่ ดกึ เมอื่ กลบั มาถึงบา้ นนกั เรยี นอาจหลับไปแลว้ ทำใหไ้ ม่สามารถส่งงาน
ได้ตามกำหนดเวลา อาจยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้ผู้ปกครองมีเวลาอธิบายเพิ่มเติม สอนด้วยตนเอง หรือมี
เวลาโทรมาปรกึ ษาครูผ้สู อนก่อนการทำใบงานสง่ เปน็ ตน้
ลงชอ่ื ...................................................................ผสู้ อน
(นางสาวปรางทพิ ย์ สุขสะอาด)
.............1..3.........../......ส..งิ ..ห..า..ค...ม........./........6..4...................
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 4
รหัสวิชา อ 13101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษ
ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 Phonics เรอื่ ง Learning the Letter Sounds and Formation
เวลา 1 ชั่วโมง ช่อื ผ้สู อน นางสาวปรางทิพย์ สุขสะอาด
******************************************
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
ตัวช้วี ัด
อ่านออกเสียง สะกดคำ ตามหลักการออกเสยี งแบบโฟนิกสไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (มฐ. ต 1.1 ป.3/2, ต 2.2 ป.3/1)
สาระสำคญั
การทบทวนตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้ง 26 ตัวอักษร การเรียนรู้เสียงของตัวอักษรทั้งหมดรวมถึงการอ่านออกเสียง
คำศพั ท์พืน้ ฐานทก่ี ำหนดใหโ้ ดยใช้หลักการออกเสยี งแบบโฟนกิ ส์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมเพอ่ื ให้บรรลตุ ามตวั ช้ีวัด)
1. สามารถจดจำและร้ถู งึ วธิ กี ารเขียนตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ ท้งั ตวั พมิ พ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ได้
2. สามารถออกเสยี งตวั อกั ษรภาษาอังกฤษถูกตอ้ งตามหลักการออกเสยี งโฟนิกส์ได้
สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
การอ่านออกเสียง (Phonics/ Pronunciation)
1. จดจำรูปและเสียงตัวอกั ษร A-Z ตามหลกั การออกเสียงแบบโฟนิกสไ์ ด้
2. สามารถออกเสียงตัวอักษร A-Z ตามหลกั การออกเสียงแบบโฟนิกสไ์ ด้
คำศพั ท์ (Vocabulary)
3. คำศัพทท์ ีส่ อดแทรกในเพลง A-Z ตามหลกั การออกเสียงแบบโฟนิกส์ ดังนี้
a-apple, b-ball, c-cookies, d-daddy, e-elbow, f-funny, g-go, h-happy, i-in, j-juice,
k-kick, l-look, m-mommy, n-nose, o-off, p-play, q-quiet, r-red, s-stop, t-toilet,
u-up, v-voice, w-water, x-x, y-yes, z-zero
รูปแบบประโยค/ ไวยากรณ์ (Sentence Pattern/ Grammar)
-
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
1. ร้องเพลงการออกเสียงตัวอักษรภาษาองั กฤษตามหลักการออกเสียงแบบโฟนกิ สไ์ ด้
2. กล้าแสดงออก สามารถแสดงท่าทางประกอบเพลงได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สตั ย์สุจริต
มุง่ ม่ันในการทำงาน มวี ินัย รกั ความเป็นไทย
ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ สาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคญั ของนักเรียน
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคดิ ใช้การเชอ่ื มโยงและการให้เหตุผล
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นคณุ ลกั ษณะของนกั เรยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
1. มีความรบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
(ชวั่ โมงที่ 1)
ขน้ั นำ
ครูผู้สอนจัดเตรียมคลิปวิดีโอเรื่องการเรียนรู้เสียงและวิธีการเขียนตัวอักษร (Learning the Letter Sounds and
Formation) โดยในคลิปวดิ โี อมเี นอื้ หาดังนี้
1. ครูผู้สอนกล่าวทักทายนักเรียน และถามนักเรยี นถามนักเรยี นเพื่อทบทวนความจำว่ามีตัวอักษรในภาษาอังกฤษ
จำนวนทัง้ หมดกี่ตวั พร้อมกับร้องเพลงภาษาอังกฤษใหน้ ักเรยี นฟัง จากนัน้ ครถู ามนกั เรียนว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่าตัวอักษรที่
นักเรยี นเหน็ มีเสียงอยา่ งไร (ครูเปิดภาพตัวอักษรขน้ึ มาแบบสมุ่ A B C) จากนน้ั จงึ เฉลยวา่ ตวั อกั ษรแต่ละตวั นั้นมเี สยี งแตกต่าง
กันออกไป (A = /แอะ/, B = /เบอะ/, C = /เคอะ/) ซึ่งนักเรยี นหลายคนอาจยังไมเ่ คยรู้มาก่อน วันนี้ครจู ะมาสอนเสียงของ
ตวั อักษรต่างๆ เพ่ือใหน้ กั เรยี นนำไปประสมกันและเกดิ เปน็ คำตา่ งๆ
ขน้ั สอน
2. จากนั้นครูเปิดเพลงที่เตรียมเอาไว้ (https://www.youtube.com/watch?v=R2frjzrC5Jg) ซึ่งเป็นคลิปสอนการออกเสียง
ตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ เปิด 2 ครั้ง ให้นักเรยี นค่อยๆร้องตาม จากนั้นเปิดทีละตัว แล้วให้นกั เรียนออกเสยี งตาม
ช้าๆ
3. จากน้นั ครูผ้สู อนเปิดตวั อกั ษรขึน้ มาทีละตวั พร้อมออกเสียงให้นักเรยี นฟงั อกี คร้ัง โดยในคลปิ วิดีโอครูผู้สอนเขียน
ไวด้ ังนี้ โดยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ว่า ตัวอกั ษรพมิ พใ์ หญ่ใหเ้ ขียนเตม็ บรรทัด และตัวพมิ พเ์ ล็กให้เขียนคร่ึงบรรทัด และสามารถนำไป
ประสมจนเกิดคำศัพทต์ า่ งๆ ตามภาพ
4. ครผู ูส้ อนเปิดคลิปวิดีโอการออกเสยี งตวั อกั ษรจนครบทัง้ 26 ตัว โดยมีการออกเสียงดงั นี้
Aa → /แอะ/ /æ/ Nn → /เหนอะ/ /n/
Bb → /เบอะ/ /b/ Oo → /เอาะ/ /ɒ/
Cc → /เคอะ/ /c/ Pp → /เพอะ/ /p/
Dd → /เดอะ/ /d/ Qq → /เควอะ/ /k/, /kw/
Ee → /เอะ/ /ɛ/ Rr → /เหรอะ/ /r/
Ff → /เฝอะ/ /f/ Ss → /เซอะ/ /s/
Gg → /เกอะ/ /g/ Tt → /เทอะ/ /t/
Hh → /ฮะ/, /เฮอะ/ /h/ Uu → /อะ/ /ʌ/
Ii → /อิ/ /ɪ/ Vv → /เฝอะ/ /v/
Jj → /เจอะ/ /j/ Ww → /เหวอะ/ /w/
Kk → /เคอะ/ /k/ Xx → /เอก็ ส/ /ks/
Ll → /เลอะ/ /l/ Yy → /เหยอะ/ /y/
Mm → /เหมอะ/ /m/ Zz → /เซอะ/ /z/
จากน้ันใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ย่อยเพื่อทบทวน โดนครูส่มุ ถามเสยี งของตวั อักษรตา่ งๆ โดยเวน้ ระยะใหน้ ักเรียนไดค้ ิด
ตวั อักษรละ 5 วนิ าที ดงั น้ี
s at i pn
5. ครผู ูส้ อนเฉลยเสยี งของตวั อักษรตา่ งๆ จากน้ันจงึ สรุปบทเรียนใหน้ ักเรียนฟัง
s = /s/ a = /æ/ t = /t/ i = /ɪ/ p = /p/ n = /n/
ขน้ั สรุป
6. ครผู ้สู อนนำเสนอแบบฝกึ หัดขึน้ มาจากนัน้ จงึ อธบิ ายวธิ กี ารทำใบงาน โดยใหน้ กั เรยี นคดั ลายมอื ตามรูปแบบที่
กำหนดและระบายสีภาพให้สวยงาม ทง้ั หมด 26 ขอ้ (ดงั ตัวอย่างประกอบ)
สือ่ /แหลง่ เรียนรู้
สือ่ 1. บัตรคำศัพทเ์ รื่อง การเรียนรู้เสยี งและวิธกี ารเขยี นตวั อักษร (Learning the Letter Sounds
and Formation) และสื่อการสอนในเวบ็ ไซต์ Canva
2. แบบฝึกหัดเร่อื งการเรยี นร้เู สียงและวิธกี ารเขยี นตวั อกั ษร (Learning the Letter
Sounds and Formation)
การวดั ผลและประเมลิ ผลการเรยี นรู้
วิธีวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
1. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ หรอื ผา่ น
1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด 1. แบบฝึกหัด 6 คะแนน (เกณฑก์ ารประเมนิ แบบ
ละเอียดดงั แนบ)
2. สังเกตพฤติกรรมการสง่ งาน การแก้ 2. แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง
งานส่ง ความมุง่ มั่นในการทำงาน ประสงค์ 2. ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ใบงานที่ 1 วชิ าภาษาองั กฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การเรยี นรเู้ สยี งและการเขยี นตวั อกั ษร
(Learning the Letter Sounds and Formation)
****************************************************
ใบงานท่ี 1 การออกเสยี งและแบบฝกึ คดั ลายมอื ตัวอักษร (10 คะแนน) (มฐ. ต 1.1 ป.3/2, ต.2.2 ป.3/1)
การเขยี นตัวอักษรตามเส้นประ (4 คะแนน) การอา่ นออกเสียงตวั อักษร (6 คะแนน)
- สามารถอ่านออกเสียงตัวอักษรไดถ้ ูกตอ้ ง
รอ้ ยละ 80 (หรอื 21 ขอ้ ขนึ้ ไป) (6 คะแนน)
- สามารถอา่ นออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถูกต้อง
รอ้ ยละ 70 - 79 (หรือ 18 - 20 ขอ้ ) (5 คะแนน)
ผเู้ รยี นสามารถเขียนตัวอกั ษรถกู ต้องครบถว้ น สะอาด สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อักษรได้ถกู ต้อง
ร้อยละ 80 (หรอื 21 ข้อข้นึ ไป) (4 คะแนน) ร้อยละ 60 - 69 (หรือ 15 - 17 ขอ้ ) (4 คะแนน)
สามารถอ่านออกเสียงตวั อกั ษรได้ถกู ต้อง
ผูเ้ รยี นสามารถเขยี นตัวอกั ษรถกู ตอ้ งครบถว้ น สะอาด รอ้ ยละ 50 - 59 (หรือ 13 - 15 ข้อ) (3 คะแนน)
รอ้ ยละ 70 - 79 (หรือ 18 - 20 ข้อ) (3 คะแนน) สามารถอา่ นออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถกู ตอ้ ง
ผู้เรยี นสามารถเขยี นตวั อักษรถูกตอ้ งร้อยละ 60 - 69 รอ้ ยละ 40 - 49 (หรือ 10 - 12 ขอ้ )
(หรอื 15 - 17 ขอ้ ) (2 คะแนน) (2 คะแนน)
ผู้เรยี นสามารถเขยี นตัวอกั ษรถกู ตอ้ งรอ้ ยละ 50 - 59 สามารถอ่านออกเสยี งตวั อักษรไดถ้ กู ตอ้ ง
แตม่ ีบางตวั ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ตกหลน่ หรือไมส่ ะอาด ต่ำกว่ารอ้ ยละ 30 - 39 (หรือ 8 - 10 ข้อ)
(หรือ 13 - 15 ขอ้ ) (1 คะแนน) (1 คะแนน)
ไม่สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อักษรได้หรอื สามารถอา่ น
ผ้เู รียนสามารถเขยี นตวั อักษรถูกตอ้ งตำ่ กวา่ ร้อยละ 49
(หรอื ต่ำกว่า 12 ขอ้ ) (0 คะแนน) ได้ถูกต้องตำ่ กว่ารอ้ ยละ 29 (หรือตำ่ กวา่ 7 ข้อ)
(0 คะแนน)
………………………..คะแนน
………………………..คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ รวม .................................... คะแนน
ระดับคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ผา่ น
6 - 10 ผา่ น
ไมผ่ ่าน
0 - 5 ไม่ผ่าน
ชือ่ - สกุล ..................................................................................... ช้นั ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 7
วชิ าภาษาองั กฤษ (รหัสวิชา อ 13101)
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 โฟนิกส์ เรอื่ ง การเรยี นรู้เสยี งและการเขยี นตวั อักษร
(Learning the Letter Sounds and Formation)
*************************************************************************
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนลากเสน้ ตวั อักษรภาษาองั กฤษทีก่ ำหนดให้ตอ่ ไปนพ้ี รอ้ มทัง้ ระบายสภี าพใหส้ วยงาม (มฐ. ต 2.2 ป.3/1)
1.
2.
.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
ช่อื - สกลุ ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขที่ ..........
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.
22.
23.
24.
25.
26.
เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานที่ 7
ใบงานท่ี 1 วิชาภาษาองั กฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 โฟนิกส์ เร่ือง การเรยี นรู้เสยี งและการเขยี นตวั อักษร
(Learning the Letter Sounds and Formation)
****************************************************
ใบงานท่ี 1 การออกเสยี งและแบบฝึกคัดลายมือตัวอักษร
การเขียนตัวอักษรตามเส้นประ (4 คะแนน) การอา่ นออกเสียงตัวอกั ษร (6 คะแนน)
- สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อักษรไดถ้ ูกตอ้ ง
ร้อยละ 80 (หรอื 21 ข้อขึน้ ไป) (6 คะแนน)
- สามารถอา่ นออกเสียงตัวอกั ษรไดถ้ ูกต้อง
รอ้ ยละ 70 - 79 (หรือ 18 - 20 ข้อ) (5 คะแนน)
ผเู้ รยี นสามารถเขียนตวั อักษรถกู ต้องครบถ้วน สะอาด สามารถอ่านออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถกู ต้อง
รอ้ ยละ 80 (หรือ 21 ขอ้ ขน้ึ ไป) (4 คะแนน) รอ้ ยละ 60 - 69 (หรือ 15 - 17 ข้อ) (4 คะแนน)
สามารถอ่านออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถูกตอ้ ง
ผู้เรยี นสามารถเขียนตัวอกั ษรถกู ตอ้ งครบถ้วน สะอาด รอ้ ยละ 50 - 59 (หรือ 13 - 15 ขอ้ ) (3 คะแนน)
รอ้ ยละ 70 - 79 (หรอื 18 - 20 ขอ้ ) (3 คะแนน) สามารถอา่ นออกเสียงตัวอักษรไดถ้ ูกต้อง
ผเู้ รยี นสามารถเขยี นตัวอักษรถูกตอ้ งรอ้ ยละ 60 - 69 รอ้ ยละ 40 - 49 (หรอื 10 - 12 ขอ้ )
(หรือ 15 - 17 ขอ้ ) (2 คะแนน) (2 คะแนน)
ผเู้ รียนสามารถเขยี นตัวอักษรถูกต้องรอ้ ยละ 50 - 59 สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อักษรไดถ้ กู ต้อง
แตม่ บี างตวั ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ตกหล่น หรอื ไมส่ ะอาด ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 30 - 39 (หรอื 8 - 10 ขอ้ )
(หรอื 13 - 15 ข้อ) (1 คะแนน) (1 คะแนน)
ไมส่ ามารถอา่ นออกเสยี งตัวอักษรได้หรอื สามารถอา่ น
ผู้เรยี นสามารถเขียนตวั อักษรถูกตอ้ งตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 49
(หรอื ตำ่ กว่า 12 ข้อ) (0 คะแนน) ไดถ้ ูกต้องต่ำกว่าร้อยละ 29 (หรอื ตำ่ กวา่ 7 ขอ้ )
(0 คะแนน)
………………………..คะแนน
………………………..คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ รวม .................................... คะแนน
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
6 -10 ผา่ น ผา่ น
0 - 5 ไมผ่ ่าน
ไมผ่ ่าน
บนั ทกึ หลังการการจดั การเรยี นการสอนแบบ On hand
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3
******************************************
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 Phonics เรอื่ ง Learning the Letter Sounds and Formation
ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ระหว่างวนั ที่ 20 สิงหาคม 2564
ในการจัดการเรียนการสอนแบบ on hand โดยการให้ใบงานน้นั ครผู ู้สอนจะให้ใบงานท่ีมีภาพ เสียง
ของตัวอักษร และตัวอย่างคำศัพท์ที่สอดคล้องกับตัวอักษรนั้นๆ อีกทั้งยังแนบคลิปวิดีโอการออกเสียงไปให้
ผ้เู รียนอีกดว้ ย ทง้ั นี้นอกจากการทำใบงานแล้ว ผู้เรียนยงั ตอ้ งคัดลอกตวั อักษร และเสียงของตัวอักษรนั้นๆ ลง
ในสมุด เพื่อทบทวน และฝึกฝนไปในตัว แม้ไม่ได้ออกเสียงให้ครูผู้สอนฟังโดยตรง แต่ครูผู้สอนสามารถ
ตรวจสอบความถูกต้องของการออกเสียงได้ในระดบั หนึ่งผ่านแบบฝึกหัดเพ่ือตรวจสอบว่าผู้เรียนสามารถแยก
เสยี งหรือเขยี นตัวอกั ษรทีก่ ำหนดไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่
ปญั หา / อุปสรรค
ปัญหาของการเรยี นมิไดม้ ีเพยี งแค่ผูเ้ รียนไม่สามารถเข้าใจได้เตม็ ร้อยเพยี งเท่านั้น แต่ปัญหาหลักใหญ่
คือกระบวนการในการจดั การเรียนการสอนแบบ on hand นั้น มีข้อจำกดั อยู่มาก เพราะด้วยผลการเรยี นรู้ที่
คาดหวัง หรอื ตัวชวี้ ัดทผ่ี เู้ รยี นมีมาก ไมส่ อดคลอ้ งกบั บริบทสงั คม ประกอบกบั จำนวนวชิ าท่ีผู้เรียนจะต้องเรียน
น้นั มมี าก จำนวนใบงานในแต่ละวชิ าจงึ มากตามไปดว้ ย ดงั นัน้ ครผู ูส้ อนมีขอ้ จำกัดในการท่ีจะมอบหมายใบงาน
ใหต้ ้องมปี ริมาณเหมาะสม ไม่มาก หรอื น้อยเกินไป จึงทำใหก้ ารอธิบายอาจไม่ทั่วถงึ ไม่ครอบคลมุ ไปบ้าง และ
ขาดตอนในการจดั การเรียนการสอน
การแก้ไข
ครผู ูส้ อนจะต้องปรบั เปลี่ยนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกบั บริบทการเรยี นในปัจจุบัน โดยมีการบูร
ณาการรายวิชาตา่ งๆ ท่ีสอดคลอ้ งกันเขา้ ดว้ ยกนั เพอื่ ลดภาระใบงาน แต่ยงั คงได้ผลการเรยี นรู้ทคี่ รอบคลุมตาม
ตวั ช้ีวดั มแี บบฝกึ หดั เพิม่ เติมในสมุดบ้าง ปรับเปลี่ยนวิธกี ารส่งงาน เป็นคลปิ วดิ โี อการออกเสียงสัน้ ๆ เปน็ ต้น
ลงชื่อ...................................................................ผสู้ อน
(นางสาวปรางทิพย์ สุขสะอาด)
.............2...0........../......ส...งิ .ห...า..ค..ม........./........6..4...................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
รหัสวิชา อ 13101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 Phonics เรอ่ื ง Identifying and Blending Sounds
เวลา 3 ชว่ั โมง ชื่อผู้สอน นางสาวปรางทิพย์ สขุ สะอาด
******************************************
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
ตวั ชีว้ ัด
สามารถแยกเสียงสระและเสียงพยัญชนะได้ สามารถประสมเสียงคำพื้นฐานที่มีโครงสร้าง พยัญชนะ-สระ-
พยัญชนะ (CVC) และ สระ-พยัญชนะ (VC) ตามหลักการออกเสียงแบบโฟนิกส์ได้อย่างถูกต้อง (มฐ.ต 1.1 ป.3/2, ต 2.2
ป.3/1)
สาระสำคญั
การเข้าใจหลักการและวิธีการการประสมเสียงตัวอักษรตามหลักการออกเสียงแบบโฟนิกส์ได้ สามารถออกเสียง
คำศัพท์ทม่ี โี ครงสร้างพ้ืนฐานแบบพยัญชนะ-สระ-พยญั ชนะ (CVC) และ สระ-พยญั ชนะ (VC) ได้อย่างถูกต้องตามหลักการ
ออกเสียงแบบโฟนิกส์ และสามารถเชื่อมโยงวธิ ีการอ่านออกเสยี งแบบโฟนิกสเ์ ขา้ กับคำศพั ท์ตา่ งๆที่พบในชีวิตประจำวันได้
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมเพ่อื ใหบ้ รรลุตามตัวชี้วัด)
1. สามารถแยกเสียงสระและเสียงพยัญชนะได้
2. สามารถประสมเสียงคำพื้นฐานที่มีโครงสร้าง พยัญชนะ-สระ-พยัญชนะ (CVC) และ สระ-พยัญชนะ (VC) ได้
ถูกตอ้ ง
3. สามารถเชอื่ มโยงวิธีการออกเสียงทคี่ รสู อนกับการออกเสยี งคำทพี่ บในชวี ิตประจำวันได้
สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
การอ่านออกเสยี ง (Phonics/ Pronunciation)
1. ประสมเสยี งตัวอกั ษรตา่ งๆ และสามารถอา่ นออกเสยี งคำท่ีมีโครงสร้าง สระ-พยญั ชนะ (V-C) หรือ
พยญั ชนะ-สระ-พยญั ชนะ (C-V-C) ตามหลักการออกเสียงแบบโฟนกิ ส์ได้
คำศพั ท์ (Vocabulary)
tap, tan, nap, pan, sat, sit, sip, pin, tin, tip|
kit, kiss, bin, ban, cot, can, fat, fin, mop, map
fun, gun, sun, nun, hug, mug, rug, jug, pen, hen, men
รปู แบบประโยค/ ไวยากรณ์ (Sentence Pattern/ Grammar)
สรา้ งคำใหมโ่ ดยใชโ้ ครงสรา้ ง สระ-พยญั ชนะ (V-C) หรอื พยญั ชนะ-สระ-พยัญชนะ (C-V-C) ด้วยตนเองได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
รอ้ งเพลงการออกเสียงตวั อกั ษรภาษาองั กฤษตามหลักการออกเสยี งแบบโฟนิกสไ์ ด้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สตั ย์สุจริต
มงุ่ มนั่ ในการทำงาน มีวนิ ยั รกั ความเป็นไทย
ใฝ่เรยี นรู้ มีจติ สาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของนักเรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคดิ ใชก้ ารเชอื่ มโยงและการใหเ้ หตุผล
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านคุณลกั ษณะของนักเรยี นตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล
1. มีความรบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
(ชว่ั โมงท่ี 1 : การประสมเสยี งอกั ษรกลุ่มท่ี 1 s, a, t, i, p, n)
ข้ันนำ
ครผู ้สู อนจัดเตรยี มวิดโี อสื่อการสอนเรื่องการแยกเสียงและการประสมเสียงตวั อักษรคร้งั ท่ี 1 (Identifying and
Blending Sounds 1) โดยในวดิ ีโอมีเนอื้ หาดังนี้
1. ครูผสู้ อนกล่าวทักทายนักเรียนและทบทวนเสียงตวั อักษรครา่ วๆ โดยการแสดงภาพตัวอกั ษรและถามถึงเสยี ง
ของตัวอักษรน้ันๆ
s = /s/ a = /æ/ t = /t/ i = /ɪ/ p = /p/ n = /n/
ข้นั สอน
1. จากนน้ั ครูผู้สอนจงึ ให้นกั เรียนแยกว่าตวั อักษรใดคือสระหรอื พยญั ชนะ
กลมุ่ ที่ 1
2. ครูผู้สอนนำเสนอการประสมตัวอักษรแบบตัวอักษรพยญั ชนะและสระ (Consonant-Vowel: C-V) ขึน้ มาอย่าง
ละ 1 ตวั และแสดงการออกเสียงใหน้ ักเรยี นฟังเปน็ ตวั อยา่ ง สาธิตให้นกั เรียนดู 1-2 ตวั อยา่ ง จากนน้ั จึงให้นักเรียนทดลอง
อา่ นดว้ ยตนเอง โดยเว้นชว่ งระยะเวลาให้นกั เรียนได้คดิ ตามคำละ 5 วินาที (ในขั้นน้ผี ู้สอนไมจ่ ำเปน็ ต้องคำนึงถึงความหมาย
ของคำ เพียงแตใ่ ห้นักเรยี นไดเ้ รยี นรวู้ ธิ ีการและคนุ้ เคยกับการประสมเสียง)
s - a = sa (/s/ - /æ/)* s - i = si (/s/ - /ɪ/)
t - a = ta (/t/) - /æ/) t - i = ti (/t/) - /ɪ/)
p - a = pa (/p/) - /æ/) p - i = pi (/p/) - /ɪ/)
n - a = na (/n/) - /æ/) n - i = ni (/n/) - /ɪ/)
หมายเหต*ุ ในวงเลบ็ เป็นเพยี งการออกเสียงใหน้ กั เรยี นฟงั เทา่ น้ัน ไม่จำเป็นตอ้ งเขียนให้นักเรยี นดูในวิดีโอ
3. เมื่อนักเรียนสามารถประสมเสียงอ่านเบื้องต้นได้แล้ว จากนั้นครูผู้สอนจึงเริ่มนำเสนอคำที่มีโครงสร้างแบบ
พยัญชนะ-สระ-พยัญชนะ (Consonant-Vowel-Consonant: C-V-C) โดยการเพิ่มตัวสะกดเข้าไปในตัวอย่างก่อนหน้า
จากนัน้ แสดงตวั อย่างการอ่านใหน้ กั เรียนฟัง
s - a - p = sap (/s/ - /æ/ - /p/) s - i - p = sip (/s/ - /ɪ/) - /t/)
t - a - p = tap (/t/) - /æ/) - /p/) t - i - p = tip (/t/) - /ɪ/) - /t/)
p - a - p = pap (/p/) - /æ/) - /p/) p - i - p = pip (/p/) - /ɪ/) - /t/)
n - a - p = nap (/n/) - /æ/) - /p/) n - i - p = nip (/n/) - /ɪ/) - /t/)
4. เมือ่ นกั เรียนสามารถประสมเสยี งไดค้ ล่องแลว้ ให้ครูผู้สอนเพ่มิ ตัวอย่าง โดยนำเสนอคำทม่ี คี วามหมายให้นักเรียน
ลองอ่าน
s-i-t = sit (/s/ - /ɪ/ - /t/)
t-a-p = tap (/t/ - /æ/ - /p/)
p-a-n = pan (/p/ - /æ/ - /n/)
5. จากนั้นครูผู้สอนจึงนำเสนอคำที่มีโครงสร้างแบบ สระ-พยัญชนะ (Vowel-Consonant: V-C) ขึ้นมาแล้วถาม
นักเรียนวา่ คำทีเ่ ห็นในกระดานประกอบด้วยโครงสรา้ งอย่างไร (ตอบ โครงสรา้ งแบบ สระ-พยัญชนะ) แลว้ จึงให้นกั เรยี นอา่ น
ดว้ ยตนเอง
i-t = it (/ɪ/ - /t/)
i-n = in (/ɪ/ - /n/)
a-p = ap (/æ/ - /p/)
a-t = at (/æ/ - /t/)
ขัน้ สรุป
1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปและทบทวนอีกครงั้ โดยครูสุม่ นำเสนอคำขน้ึ มา ทงั้ ในรปู แบบ C-V-C, C-V และ V-C
จากน้ันใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันออกเสยี งและประสมเสียงเปน็ คำ
2. ครแู ละให้นักเรียนร่วมกนั รอ้ งเพลงตัวอักษรที่ได้สอนไปในชวั่ โมงแรกอกี ครง้ั หนงึ่
สือ่ /แหล่งเรียนรู้
1. ส่อื การสอนในโปรแกรม Canva และบตั รตวั อักษรกลมุ่ ท่ี 1 (s, a, t, i, p, n)
2. ใบงานการประสมอกั ษร C-V-C และ V-C พร้อมภาพประกอบ (ตอนที่ 1 และ 2)
3. คลิปวดิ โี อเพลงตวั อักษร #2 https://www.youtube.com/watch?v=tKsIi1MH4lw
การวัดผลและประเมลิ ผลการเรยี นรู้
วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั 1. ใบงานชัว่ โมงท่ี 1 ตอนที่ 1 การประสม 1. ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
อกั ษร C-V-C พรอ้ มภาพประกอบ (หรือผ่าน 6 คะแนนขึ้นไป)
2. ใบงานช่ัวโมงที่ 1 ตอนท่ี 2 การประสม 2. รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
อักษร V-C (หรือผา่ น 6 คะแนนข้นึ ไป)
กจิ กรรมการเรียนการสอน
(ชัว่ โมงที่ 2 : การประสมเสยี งอักษรกลุ่มท่ี 2 b, c, f, k, m, o)
ขน้ั นำ
ครผู ้สู อนจัดเตรยี มวิดโี อสอ่ื การสอนเรอื่ งการแยกเสียงและการประสมเสียงตวั อักษรคร้ังท่ี 2 (Identifying and
Blending Sounds 2) โดยในวดิ ีโอมเี น้อื หาดังนี้
1. ครูผสู้ อนกล่าวทกั ทายนกั เรียนและทบทวนเสยี งตวั อกั ษรในหมวดหมทู่ ่ี 1 (s, a, t, i, p, n) คร่าวๆ จากน้ันเปดิ
เพลงเสียงตวั อักษรทเี่ คยเปิดให้นักเรยี นฟงั ในชัว่ โมงแรก
2. ครผู ู้สอนแจ้งนกั เรียนวา่ สิง่ ท่ีกำลงั จะเรียนในวนั นคี้ อื ตวั อกั ษรในกล่มุ ท่ี 2 ซึ่งเราจะใช้ในการประสมคำต่างๆ
ขน้ั สอน
3. ครผู ู้สอนนำเสนอตวั อักษรและใหน้ ักเรียนออกเสียงตาม โดยให้ผ้เู รียนแยกอีกครั้งวา่ ตัวอักษรใดคือสระหรอื
พยัญชนะ
b = /b/ c = /c/ f = /f/ k = /k/ m = /m/ o = /ɒ/
กลุ่มที่ 2
4. ครูผสู้ อนให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดก่อนเรยี นโดยการนำเสนอใบงานตอนที่ 1 ขึน้ มา (Listening Part) ซึง่ ใบงาน
ตอนท่ี 1 มีจำนวน 5 ข้อ จะเปน็ การให้นกั เรียนกาเครอ่ื งหมายถูกเพือ่ เลอื กตวั อกั ษรท่ีครอู อกเสียงให้ฟงั ในแต่ละขอ้ เม่อื ทำ
ใบงานเสรจ็ แลว้ ให้ครูเฉลยท้ายคลิป
5. ครผู สู้ อนนำเสนอตัวอักษรกลุ่มที่ 2 (b, c, f, k, m, o) ในคลปิ วดิ ีโอ และสาธติ วธิ กี ารประสมเสียงให้นักเรียนดู
ตัวอยา่ งท่ี 1 (แบบ C-V) ตัวอย่างที่ 2 (แบบ C-V-C)
b - o = bo (/b/ - /ɒ/) b - o - b = bob (/b/ - /ɒ/ - /b/)
c - o = co (/c/ - /ɒ/) c - o - b = cob (/c/ - /ɒ/ - /b/)
f - o = fo (/f/ - /ɒ/) f - o - b = fob (/f/ - /ɒ/ - /b/)
k - o = ko (/k/ - /ɒ/) k - o - b = kob (/k/ - /ɒ/ - /b/)
m - o = mo (/m/ - /ɒ/) m - o - b = mob (/m/ - /ɒ/ - /b/)
หมายเหตุ ในข้ันน้คี รูผู้สอนอธิบายเพ่ิมเติมว่าเสียง /c/ และเสยี ง /k/ เปน็ เสยี งทเ่ี หมือนกนั
6. ครผู ู้สอนนำเสนอตัวอักษรหมวดหมู่ s, a, t, i, p, n อกี คร้ังจากน้นั จงึ นำตัวอกั ษรท้งั สองหมวดหมูม่ าประสม
อักษรรว่ มกนั และสรา้ งคำต่างๆขน้ึ มาใหม่เพอื่ ให้นักเรยี นฝึกอ่าน ตวั อย่างเชน่
พยัญชนะ-สระ-พยัญชนะ สระ-พยัญชนะ
(Vowel-Consonant: V-C)
(Consonant-Vowel-Consonant: C-V-C)
i-t = it
k-i-t = kit c-o-t = cot i-n = in
a-m = am
k-i-ss = kiss c-a-n = can a-t = at
o-n = on
b-i-n = bin f-a-t = fat
b-a-n = ban f-i-n = fin
m-a-n = man f-a-n = fan
m-a-p = map f-i-t = fit
m-o-p = mop t-o-m = tom
t-o-p = top
7. ครผู สู้ อนเฉลยใบงานตอนที่ 1 (Listening Part) ใหก้ ับนกั เรยี น
ขนั้ สรุป
8. ครูผู้สอนสรุปกิจกรรมใหน้ กั เรยี นอกี ครั้ง โดยเริม่ จากการกระตุ้นถามใหค้ ิดและเวน้ ระยะเวลาให้นักเรียนได้ตอบ
คำถามนั้นๆเองประมาณ 5-7 วินาที โดยสมุ่ นำเสนอแผ่นตัวอักษรข้ึนมาให้นักเรยี นออกเสยี ง
9. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานตอนที่ 2 และ 3 เร่ืองการประสมเสียงสระและการฝกึ อ่านพร้อมระบายสภี าพใหส้ วยงาม
กอ่ นทำอาจเน้นย้ำอีกครั้งวา่ ภาพท่ีนักเรยี นเห็นในแบบฝึกหดั มีความสมั พันธ์กบั คำศพั ทน์ ั้นๆ
สอื่ /แหล่งเรยี นรู้
1. สอ่ื การสอนในโปรแกรม Canva และบตั รตวั อักษรกลุม่ ท่ี 2 (b, c, f, k, m, o)
2. คลปิ วดิ โี อเพลง A-Z #1 https://www.youtube.com/watch?v=R2frjzrC5Jg
3. ใบงานตอนที่ 1 ทักษะการฟังเสียงตวั อักษร b, c, f, k, m, o
4. ใบงานตอนท่ี 2 การประสมเสียงสระและการฝึกอ่านเสียงตวั อักษรทง้ั หมวดหมู่ b, c, f, k, m, o และ
s, a, t, i, p, n พรอ้ มภาพประกอบ
การวัดผลและประเมลิ ผลการเรียนรู้
วิธีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน
ประเมินการทำแบบฝึกหัด 1. ใบงานชวั่ โมงที่ 2 ตอนท่ี 1 ทกั ษะการฟงั 1. ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เสยี งตัวอกั ษร b, c, f, k, m, o (ช่วั โมงท่ี 2) (หรอื ผ่าน 3 คะแนนข้ึนไป)
2. ใบงานช่วั โมงท่ี 2 ตอนที่ 2 การประสม 2. รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เสียงและการฝกึ อ่านเสียงตัวอักษรท้ังหมวดหมู่ (หรอื ผา่ น 6 คะแนนขึ้นไป)
b, c, f, k, m, o และ s, a, t, i, p, n พรอ้ ม
ภาพประกอบ (ช่วั โมงท่ี 2) 3. ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
3. ใบงานชัว่ โมงที่ 2 ตอนท่ี 3 การประสม (หรือผา่ น 3 คะแนนข้ึนไป)
เสียงและการฝกึ อา่ นเสียงตวั อกั ษรแบบ V-C
(ชวั่ โมงท่ี 2)
กิจกรรมการเรยี นการสอน
(ช่ัวโมงที่ 3 : การประสมเสียงอักษรกลุ่มท่ี 3 d, e, g, h, j, u, w)
ขนั้ นำ
ครูผู้สอนจดั เตรยี มวิดีโอสือ่ การสอนเรอ่ื งการแยกเสยี งและการประสมเสยี งตวั อักษรครงั้ ท่ี 3 (Identifying and
Blending Sounds 3) โดยในวิดโี อมีเน้ือหาดงั นี้
1. ครูผ้สู อนกล่าวทักทายนกั เรียนและทบทวนเสยี งตวั อกั ษรในหมวดหมทู่ ี่ 2 (b, c, f, k, m, o) ครา่ วๆ จากน้นั เปิด
เพลงเสยี งตวั อกั ษรทเี่ คยเปดิ ใหน้ ักเรยี นฟงั ในช่ัวโมงแรก
2. ครผู สู้ อนแจ้งนกั เรยี นว่าสิง่ ที่กำลังจะเรียนในวนั น้คี ือตัวอกั ษรในหมวดหมู่ท่ี 3 ซงึ่ เราจะใช้ในการประสมคำต่างๆ
เพิ่มขึ้น
ขน้ั สอน
3. จากนัน้ ครูผู้สอนจงึ ให้นกั เรียนแยกว่าตัวอกั ษรใดคอื สระหรอื พยญั ชนะ
กลมุ่ ที่ 3
4. เมื่อนักเรยี นสามารถแยกได้แลว้ ครจู ึงนำเสนอคำศพั ทใ์ นวดิ ีโอใหน้ กั เรยี นออกเสยี ง
อกั ษรกล่มุ ท่ี 3 (d, e, g, h, j, u, w)
d-u-g = dug (/d/ - /ʌ/ - /g/) w-i-n = win (/w/ - /ɪ/ - /n/)
d-u-n = dun (/d/ - /ʌ/ - /n/) w-o-n = won (/w/ - /ʌ/ - /n/)
g-u-n = gun (/g/ - /ʌ/ - /n/) w-e-b = web (/w/ - /ɛ/ - /b/)
g-u-m = gum (/g/ - /ʌ/ - /m/) w-e-t = wet (/w/ - /ɛ/ - /t/)
h-u-g = hug (/h/ - /ʌ/ - /g/) e-n = en (/ɛ/ - /n/)
h-u-b = hub (/h/ - /ʌ/ - /b/) e-s = es (/ɛ/ - /s/)
h-e-n = hen (/h/ - /ɛ/ - /n/) e-p = ep (/ɛ/ - /p/)
h-o-p = hop (/h/ - /ɒ/ - /p/) e-m = em (/ɛ/ - /m/)
j-u-g = jug (/j/ - /ʌ/ - /g/) u-m = um (/ʌ/ - /m/)
j-a-m = jam (/j/ - /æ/ - /m/) u-n = un (/ʌ/ - /n/)
j-o-b = job (/j/ - /ɒ/ - /b/) u-s = us (/ʌ/ - /s/)
j-o-g = jog (/j/ - /ɒ/ - /g/) u-p = up (/ʌ/ - /p/)
หมายเหต*ุ ตัวอกั ษรสัทศาสตร์ (Phonetics) ในวงเล็บไมจ่ ำเปน็ ต้องเขยี นใหน้ กั เรยี น
ข้นั สรุป
5. เม่อื ฝกึ ฝนจนครบแล้ว ครูผสู้ อนชว่ ยนักเรียนสรปุ กิจกรรมอีกครงั้ หน่ึง โดยครูผู้สอนนำเสนอตวั อักษรขึ้นมาแบบ
สมุ่ ทั้งกลุ่มที่ 1, 2, 3 แลว้ ให้นักเรียนทบทวนและออกเสียงอกี ครัง้
6. จากนน้ั ครผู ู้สอนนำเสนอใบงานพรอ้ มอธิบายวธิ ีการทำ โดยตอนท่ี 1 จะเปน็ การเขียนตามเสน้ ประและอา่ นออก
เสียงสะกดคำทก่ี ำหนดให้ และในตอนที่ 2 จะเปน็ การทดสอบทักษะการฟงั โดยครผู ู้สอนจะออกเสียงใหฟ้ งั แล้วให้นักเรียน
วงกลมเลอื กคำศัพทท์ ีน่ ักเรยี นไดย้ ิน
สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
1. สื่อบัตรตัวอักษรหมวดหมทู่ ่ี 1, 2, และ 3 (d, e, g, h, j, u, w) ในโปรแกรม Canva
2. ใบงานการประสมเสยี งตวั อักษรกลมุ่ ที่ 3 (d, e, g, h, j, u, w) พร้อมภาพประกอบ
การวดั ผลและประเมิลผลการเรียนรู้
วิธวี ดั เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมินการทำแบบฝึกหัด 1. ใบงานชวั่ โมงท่ี 3 ตอนท่ี 1 การประสม 1. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เสียงตวั อกั ษรกลุ่มที่ 3 (หรือได้ 3 – 5 คะแนน)
(d, e, g, h, j, u, w) พร้อมภาพประกอบ
(ชั่วโมงที่ 3) 2. รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2. ใบงานช่ัวโมงท่ี 3 ตอนที่ 2 การวัดทกั ษะ (หรอื ได้ 3 – 5 คะแนน)
การฟงั และการประสมเสียงตวั อักษรกล่มุ ที่ 3
(d, e, g, h, j, u, w) พรอ้ มภาพประกอบ
(ชว่ั โมงที่ 3)
ชื่อ - สกลุ ..................................................................................... ชั้นป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 8
วิชาภาษาอังกฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 โฟนกิ ส์ เร่อื ง การระบุเสียงและการประสมเสยี งตัวอกั ษร
(Identifying and Blending Sounds 1 : หมวดอกั ษร s, a, t, i, p, n)
*************************************************************************
ตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงและเขียนคำศพั ท์ตอ่ ไปน้ตี ามเส้นประท่ีกำหนดให้ (10 คะแนน) (มฐ.ต 1.1 ป.3/2, ต 2.2 ป.3/1)
ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนโยงเส้นและฝกึ อ่านคำต่อไปนี้ (10 คะแนน) •
•
• •
• •
• •
•
•
เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานที่ 8
วชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (รหสั วิชา อ 13101)
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรอ่ื ง การระบุเสยี งและการประสมเสียงตัวอักษร
(Identifying and Blending Sounds)
*************************************************************************
ตอนที่ 1 การอ่านออกเสียงและเขียนคำศพั ท์ตามเส้นประทก่ี ำหนดให้ (การประสมอกั ษรตามโครงสรา้ ง C-V-C)
การเขียนตัวอักษรตามเส้นประ (4 คะแนน) การอ่านออกเสียงตัวอักษร (6 คะแนน)
- สามารถอ่านออกเสยี งตัวอกั ษรไดถ้ ูกตอ้ ง
ร้อยละ 80 (หรอื 8 ข้อข้นึ ไป) (6 คะแนน)
- สามารถอา่ นออกเสยี งตัวอกั ษรไดถ้ กู ต้อง
ร้อยละ 70 - 79 (หรือ 7 ข้อ) (5 คะแนน)
ผูเ้ รยี นสามารถเขยี นตัวอกั ษรถูกต้องครบถ้วน สะอาด สามารถอา่ นออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถูกตอ้ ง
รอ้ ยละ 80 (หรือ 8 ขอ้ ขึ้นไป) (4 คะแนน) รอ้ ยละ 60 - 69 (หรือ 6 ข้อ) (4 คะแนน)
สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อกั ษรไดถ้ ูกต้อง
ผเู้ รยี นสามารถเขยี นตวั อกั ษรถกู ต้องครบถ้วน สะอาด ร้อยละ 50 - 59 (หรอื 5 ขอ้ ) (3 คะแนน)
ร้อยละ 70 - 79 (หรือ 7 ขอ้ ) (3 คะแนน) สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อักษรไดถ้ ูกต้อง
ร้อยละ 40 - 49 (หรอื 4 ข้อ) (2 คะแนน)
ผเู้ รียนสามารถเขยี นตัวอกั ษรถูกตอ้ งร้อยละ 60 - 69
(หรอื 6 ข้อ) (2 คะแนน) สามารถอา่ นออกเสยี งตัวอกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง
ต่ำกวา่ ร้อยละ 30 - 39 (หรอื 3 ขอ้ ) (1 คะแนน)
ผูเ้ รยี นสามารถเขียนตวั อักษรถูกต้องรอ้ ยละ 50 - 59
แต่มีบางตัวไมเ่ ปน็ ระเบียบ ตกหลน่ หรือไม่สะอาด ไมส่ ามารถอ่านออกเสยี งตวั อักษรได้หรือสามารถอ่านได้
ถกู ตอ้ งต่ำกว่ารอ้ ยละ 29 (หรือ 0 - 2 ข้อ) (0 คะแนน)
(หรอื 5 ขอ้ ) (1 คะแนน)
ผู้เรยี นสามารถเขยี นตัวอักษรถกู ต้องตำ่ กว่ารอ้ ยละ 49 ………………………..คะแนน
(หรอื 0 - 4 ข้อ) (0 คะแนน)
………………………..คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ รวม .................................... คะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ
6 -10 ผ่าน ผา่ น
0 - 5 ไมผ่ า่ น ไม่ผา่ น
ตอนที่ 2 การโยงเสน้ ประสมเสยี งอกั ษรและการอา่ นออกเสียง (10 คะแนน)
การโยงเส้นประสมตัวอกั ษร (5 คะแนน) การอ่านออกเสียงตัวอักษร (5 คะแนน)
โยงเส้นจับคถู่ กู ตอ้ ง 5 ข้อ (5 คะแนน)
โยงเส้นจับคู่ถูกตอ้ ง 4 ขอ้ (4 คะแนน) สามารถอ่านออกเสยี งตวั อักษรไดถ้ กู ตอ้ ง
โยงเส้นจบั คถู่ กู ตอ้ ง 3 ข้อ (3 คะแนน) ร้อยละ 100 (หรอื 5 ขอ้ ) (5 คะแนน)
โยงเส้นจับคถู่ กู ตอ้ ง 2 ข้อ (2 คะแนน) สามารถอ่านออกเสยี งตวั อกั ษรได้ถูกตอ้ ง
โยงเส้นจบั คู่ถกู ต้อง 1 ข้อ (1 คะแนน) รอ้ ยละ 80 (หรือ 4 ขอ้ ) (4 คะแนน)
โยงเส้นจบั ค่ถู ูกตอ้ ง 0 ขอ้ (0 คะแนน) สามารถอ่านออกเสยี งตัวอักษรได้ถกู ต้อง
………………………..คะแนน ร้อยละ 60 (หรือ 3 ข้อ) (3 คะแนน)
สามารถอ่านออกเสยี งตัวอกั ษรได้ถูกต้อง
รอ้ ยละ 40 (หรือ 2 ข้อ) (2 คะแนน)
สามารถอา่ นออกเสียงตัวอกั ษรได้ถกู ต้อง
ร้อยละ 20 (หรือ 1 ข้อ) (1 คะแนน)
ไมส่ ามารถอ่านออกเสยี งตวั อักษรได้
(หรอื 0 ขอ้ ) (0 คะแนน)
………………………..คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ รวม .................................... คะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ
7 -10 ผ่าน ผา่ น
0 - 6 ไมผ่ ่าน ไม่ผ่าน
ชือ่ - สกุล ..................................................................................... ชน้ั ป. 3/...... เลขที่ ..........
ใบงานท่ี 9
วชิ าภาษาองั กฤษ (รหสั วิชา อ 13101)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 โฟนิกส์ เรอ่ื ง การระบุเสียงและการประสมเสยี งตวั อักษร
(Identifying and Blending Sounds 2 : หมวดอักษร b, c, f, k, m, o)
*************************************************************************
ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรยี นฟังเสยี งตัวอักษรแล้วกาถูก √ ลงในช่อง ใตต้ ัวอกั ษรท่ีนกั เรียนได้ยนิ (5 คะแนน) (มฐ.ต 1.1 ป.3/2,
ต 2.2 ป.3/1)
ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรยี นเขียนคำศพั ทต์ ามเส้นประทกี่ ำหนดให้พร้อมระบายสีภาพใหส้ วยงาม (10 คะแนน)
ตอนที่ 3 ให้นกั เรยี นฝึกอา่ นคำศพั ทพ์ รอ้ มเขียนคำศัพทต์ ามเสน้ ประท่กี ำหนดให้ (5 คะแนน)
เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานท่ี 9
วิชาภาษาองั กฤษ (รหัสวิชา อ 13101)
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 โฟนิกส์ เรือ่ ง การระบเุ สยี งและการประสมเสียงตวั อักษร
(Identifying and Blending Sounds: หมวดอกั ษร b, c, f, k, m, o)
*************************************************************************
ตอนที่ 1 ให้นักเรียนฟังเสยี งตัวอักษรแลว้ กาถกู √ ลงในช่อง ใตต้ วั อักษรท่นี กั เรยี นได้ยิน (ทักษะการฟังเสียง
ตัวอกั ษร) (5 คะแนน)
ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรยี นเขยี นคำศัพทต์ ามเสน้ ประทก่ี ำหนดให้พรอ้ มระบายสีภาพให้สวยงาม (การประสมเสยี งสระและการฝึก
อ่านเสยี งตัวอกั ษรท้งั หมวดหมู่ b, c, f, k, m, o และ s, a, t, i, p, n พรอ้ มภาพประกอบ) (10 คะแนน)
สามารถอา่ นออกเสยี งและประสมอกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. /k/ - /ɪ/ - /t/ 6. /c/ - /æ/ - /n/
2. /k/ - /ɪ/ - /s/ 7. /f/ - /æ/ - /t/
3. /b/- /ɪ/ - /n/
8. /f/ - /ɪ/ - /n/
4. /b/ - /æ/ - /n/ 9. /m/ - /ɒ/ - /p/
5. /c/ - /ɒ/ - /t/ 10. /m/ - /æ/ - /p/
ตอนที่ 3 ให้นักเรยี นฝึกอ่านคำศัพทพ์ รอ้ มเขยี นคำศพั ทต์ ามเส้นประที่กำหนดให้ (5 คะแนน)
สามารถอ่านออกเสยี งและประสมอักษรไดถ้ กู ตอ้ ง (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. /ɪ/ - /t/
2. /ɪ/ - /n/
3. /æ/ - /m/
4. /æ/ - /t/
5. /ɒ/ - /n/
ชื่อ - สกุล ..................................................................................... ช้นั ป. 3/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 10
วิชาภาษาองั กฤษ (รหัสวชิ า อ 13101)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 โฟนกิ ส์ เรอ่ื ง การระบุเสียงและการประสมเสียงตัวอักษร
(Identifying and Blending Sounds 3 : หมวดอกั ษร b, c, f, k, m, o)
*************************************************************************
ตอนที่ 1 ให้นักเรียนเขียนตามเสน้ ประและฝกึ อา่ นคำศพั ท์ต่อไปนี้ (5 คะแนน) (มฐ.ต 1.1 ป.3/2, ต 2.2 ป.3/1)
ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรียนวงกลมคำศัพทท์ ี่นักเรยี นไดย้ ิน (5 คะแนน)