หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1
จานวนนบั ไม่เกิน 100,000
เวลา 15 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใชจ้ านวนในชีวิตจริง
ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับ
ไม่เกิน 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/2 เปรียบเทยี บและเรียงลาดับจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1) การอา่ น การเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน
2) หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
3) การเปรยี บเทียบและเรยี งลาดบั
2.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)
3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
จานวนนับท่ีไม่เกิน 100,000 และ 0 สามารถอ่านและเขียนแทนด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ
จานวนต่าง ๆ จะมคี ่ามากหรือน้อยข้ึนอยู่กับจานวนหลักและคา่ ของตัวเลขในแต่ละหลักท่ีจะทาให้จานวนมีค่าแตกต่างกัน
ซึ่งจานวนนับท่ีไม่เกิน 100,000 จะเป็นการบอกจานวนที่มีตัวเลขท่ีไม่เกินหกหลัก จานวนนับไม่เกิน 100,000 สามารถ
นามาเปรียบเทียบกันได้ โดยมีค่าเท่ากันหรือไม่เท่ากันและค่าไม่เท่ากันอาจมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่ากันอย่างใดอย่าง
หนึ่งเท่าน้ัน โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < แสดงการเปรียบเทียบ การเรียงลาดับจานวนหลาย ๆ จานวน ทาได้โดยการ
เปรียบเทียบจานวนทุก ๆ จานวน แล้วเรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมาก หรือจากมากไปน้อย
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
1) ทกั ษะการอา่ น 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
2) ทักษะการเขยี น
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
3) ทักษะการสงั เกต
4) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
5) ทักษะการเรยี งลาดับ
6) ทักษะการใหเ้ หตผุ ล
7) ทกั ษะการระบุ
8) ทกั ษะการเชือ่ มโยง
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ชิ้นงาน สมุดเล่มเล็กติดภาพเรยี งลาดับราคาสินค้า โดยให้นักเรียนทาสมุดเล่มเล็ก ตัดภาพสินค้าจากนิตยสารหรือ
ใบปลวิ ตา่ ง ๆ จากนนั้ นามาตดิ เรียงลาดับราคาสินค้า อย่างนอ้ ย 10 ชนดิ
6. การวัดและการประเมินผล
รายการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
- ระดบั คุณภาพ 2
6.1 การประเมินช้นิ งาน/ - ตรวจสมดุ เลม่ เล็กติด - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ ผา่ นเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด) ภาพเรยี งลาดบั ราคา ภาระงาน - ประเมนิ ตามสภาพจริง
สินคา้ อยา่ งน้อย 10 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ชนิด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6.2 การประเมินก่อนเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ น - แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรียน
จานวนนับไม่เกนิ
100,000
6.3 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้
1) การอา่ นและเขียน - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1
ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ
ตวั เลขไทย - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด
ตวั หนงั สอื แสดง
จานวนนับ
รายการวดั วธิ วี ัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
2) หลกั คา่ ของเลขโดด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานที่ 1.2 - ใบงานท่ี 1.2 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในแตล่ ะหลักและ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเขยี นตัวเลข - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ
แสดงจานวนในรปู - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กระจาย - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
3) การเปรยี บเทยี บ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จานวน - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ใบงานท่ี 1.3
- ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ
- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั
4) การเรยี งลาดบั จานวน - ตรวจใบงานท่ี 1.4 - ใบงานที่ 1.4 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
5) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน/ผลการทา ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรม กิจกรรม
6) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
7) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลุม่ การทางานกลุ่ม การทางานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์
8) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมัน่ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
ในการทางาน อันพึงประสงค์
6.4 การประเมินหลังเรียน
- แบบทดสอบหลัง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เรยี น หนว่ ยการ หลงั เรยี น
เรยี นรทู้ ี่ 1 จานวน
นบั ไม่เกนิ 100,000
7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 4 ชัว่ โมง
แผนฯ ที่ 1 : การอ่านและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย
และตวั หนังสือแสดงจานวนนบั
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบคน้ พบ (Discovery Method)
แผนฯ ท่ี 2 : หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขยี นตวั เลข เวลา 4 ชั่วโมง
แสดงจานวนในรปู กระจาย
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : โมเดลซปิ ปา (CIPPA Model)
แผนฯ ท่ี 3 : การเปรยี บเทียบจานวน เวลา 4 ชั่วโมง
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบคน้ พบ (Discovery Method)
แผนฯ ท่ี 4 : การเรยี งลาดบั จานวน เวลา 3 ชว่ั โมง
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
(รวมเวลา 15 ชัว่ โมง)
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 1 จานวนนบั ไม่เกิน 100,000
2) หนังสือแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 1 จานวนนบั ไม่เกิน 100,000
3) ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง การเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000
4) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรปู กระจาย
5) ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง การเปรียบเทยี บจานวน
6) ใบงานท่ี 1.4 เร่ือง การเรียงลาดับจานวน
7) บัตรภาพ
8) บัตรตัวเลข
9) แถบประโยค
10) นติ ยสารหรอื หนงั สือพิมพ์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1
คาชี้แจง : ให้นกั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. จากจานวน 34,890 จานวนท่ีขีดเส้นใตม้ ีค่าเท่าไร 6. 45,567 45,657
ก. 4 ข. 400 ควรเติมเครอื่ งหมายใดจงึ จะถูกตอ้ ง
ค. 4,000 ง. 40,000 ก. > ข. <
2. 4,567 45,673 43,567 ค. = ง.
7. เลข 7 ในขอ้ ใดมีค่ามากทีส่ ดุ
เรียงลาดับจากนอ้ ยไปมากไดอ้ ย่างไร
ก. 4,567 45,673 43,567 ก. 65,781 ข. 97,856
ข. 4,567 43,567 45,673
ค. 45,673 43,567 4,567 ค. 89,657 ง. 78,905
8. 32,400 >
ง. 43,567 45,678 4,567 ควรเติมจานวนใดจึงจะถกู ต้อง
3. ขอ้ ใดเปน็ การเขยี นจานวนตอ่ ไปนใี้ นรูปกระจาย ก. 32,200 ข. 32,401
ค. 55,708 ง. 55,652
98,012
ก. 90,000 + 8,000 + 100 + 2 9. 12,789 45,342 6,789
ข. 90,000 + 8,000 + 0 + 100 + 2 เรยี งลาดับจากมากไปน้อยได้อยา่ งไร
ก. 45,342 12,789 6,789
ค. 90,000 + 8,000 + 0 + 10 + 2 ข. 45,342 6,789 12,789
ค. 12,789 45,342 6,789
ง. 90,000 + 8,000 + 0 + 12 ง. 12,789 6,789 45,342
10.เจ็ดหม่ืนเจ็ดพันเจ็ด เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิกได้
4. ข้อใดเป็นการเขียนตัวเลขไทยแสดงจานวนต่อไปน้ี อย่างไร
ก. 7,777
5 พนั กบั 4 ร้อย กับ 2 หนว่ ย ข. 70,777
ค. 77,077
ก. ๕๔๒ ข. ๕,๐๔๒ ง. 77,007
ค. ๕,๔๒๐ ง. ๕,๔๐๒
5. ขอ้ ใดเปน็ การเขียนตัวหนงั สอื แสดงจานวนตอ่ ไปน้ี
18,104
ก. หนึง่ พนั แปดร้อยสบิ ส่ี
ข. หนึ่งหม่นื แปดพนั หนง่ึ ร้อยสส่ี ิบ
ค. หน่งึ หมื่นแปดพนั หนงึ่ ร้อยสี่
ง. หนง่ึ หม่ืนแปดพนั หนึ่งร้อยสิบส่ี
เฉลย
1. ค 2. ข 3. ค 4. ง 5. ค 6. ข 7. ง 8. ก 9. ก 10. ง
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1
คาชแี้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. 89,004 88,400 6. ส่ีหมื่นสองพันแปดสิบเจ็ด เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก
ควรเติมเคร่ืองหมายใดจงึ จะถูกตอ้ ง ได้อยา่ งไร ข. 42,087
ก. > ข. < ก. 4,287 ง. 42,780
ค. = ง. ค. 42,870
2. เลข 9 ในข้อใดมีค่ามากทีส่ ุด
ก. 18,905 ข. 97,856 7. 6,789 10,000 9,900
ค. 58,957 ง. 39,625 เรียงลาดบั จากน้อยไปมากไดอ้ ย่างไร
3. จากจานวน 94,675 จานวนที่ขีดเสน้ ใต้มีคา่ เท่าไร ก. 6,789 9,900 10,000
ก. 9 ข. 90 ข. 6,789 10,000 9,900
ค. 900 ง. 90,000 ค. 9,900 6,789 10,000
4. ข้อใดเปน็ การเขียนจานวนต่อไปนี้ในรูปกระจาย ง. 9,900 10,000 6,789
29,007 8. ขอ้ ใดเป็นการเขียนตวั เลขไทยแสดงจานวนต่อไปน้ี
ก. 20,000 + 9,000 +700 4 หมนื่ กบั 3 พนั กบั 4 ร้อย กับ 2 หนว่ ย
ข. 20,000 + 900 + 70 +0 +0 ก. ๔,๓๔๒ ข. ๔๓,๐๔๒
ค. 20,000 + 9,000 + 0 +0 + 7 ค. ๔๓,๔๐๒ ง. ๔๓,๔๒๐
ง. 20,000 + 9,000 + 0 +70 9. 12,890 <
5. 100,000 9,980 90,000 ควรเตมิ จานวนใดจงึ จะถูกต้อง
เรยี งลาดบั จากมากไปนอ้ ยไดอ้ ยา่ งไร ก. 4,908 ข. 12,889
ก. 100,000 9,980 90,000
ข. 9,980 90,000 100,000 ค. 12,230 ง. 21,230
ค. 100,000 90,000 9,980
ง. 90,000 9,980 100,000 10. ส่ีหม่ืนสองพันแปดสิบเจ็ด เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก
ได้อย่างไร
ก. 4,287 ข. 42,087
ค. 42,870 ง. 42,780
เฉลย
1. ก 2. ข 3. ง 4. ค 5. ค 6. ข 7. ก 8. ค 9. ง 10. ข
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 4 ช่วั โมง
เวลา ……………………………
เรอ่ื ง การอ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนงั สอื แสดงจานวนนบั
ชอื่ ผสู้ อน นางสาวพรรตั น์ จันทรค์ า วันท่ี ........................................
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ป.3/1 อา่ นและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) อธบิ ายหลกั การอา่ นและการเขียนจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 ได้ (K)
2) เขียนตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือแสดงจานวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0 ไดถ้ ูกต้อง (P)
3) อา่ นตัวเลขฮนิ ดอู ารบิกและตวั เลขไทย แสดงจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0 ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
4) นาความรู้เก่ียวกับเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไปใช้ในการแก้ปัญหาทาง
คณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถิน่
การอ่าน การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
ตัวหนงั สือแสดงจานวน
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
จานวนนับท่ีไม่เกิน 100,000 และ 0 เป็นจานวนที่ประกอบดว้ ยหลกั หน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น และ
หลักแสน สามารถอ่านและเขียนแทนด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ ซึ่งต้องใส่เคร่ืองหมายจุลภาค (,)
ทกุ ชว่ งสามตาแหน่งของจานวนโดยนับจากหลักหนว่ ยไปทางซ้ายมือ
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทกั ษะการอ่าน 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
2) ทักษะการเขยี น
3) ทกั ษะการระบุ
4) ทกั ษะการเช่ือมโยง
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5) ทักษะการให้เหตุผล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบค้นพบ (Discovery Method)
ชว่ั โมงที่ 1
นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000
ข้นั นา
นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูทักทายและสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับภาพคน 3 คน จากหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 2 โดยครู
อ่านจานวนเงินของคนทั้ง 3 คน ในภาพ จากนั้นครูถามนักเรียนว่า “ใครมีเงินฝากธนาคารมากที่สุด และ
เรียงลาดับจานวนเงินจากมากไปน้อยได้อย่างไร”
หมายเหตุ : ครูจะเฉลยในแผนการเรียนรสู้ ุดทา้ ยของหนว่ ย
2. ครูให้นักเรียนทาเตรียมพร้อมก่อนเรียนในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 3 จากน้ันครูและนักเรียน
ร่วมกันเฉลยคาตอบ
3. ครูให้แต่ละคนคิดเลขโดดในใจคนละหน่ึงตัว แล้วครูสุ่มเลือกนักเรียนคร้ังละ 4 คน เพ่ือให้บอกเลขโดดที่คิดไว้
จากนัน้ ครูเขยี นเลขโดดเรยี งกันเป็นจานวนนบั ที่มีสี่หลกั บนกระดานท้งั หมด 3 จานวน
4. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 3 คน ออกมาเติมเคร่ืองหมายจุลภาคและอ่านจานวนบนกระดาน เช่น 4,567
(อ่านวา่ สพ่ี ันห้าร้อยหกสิบเจด็ ) จากน้นั ครูและนกั เรียนทีเ่ หลอื ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
ขัน้ สอน
สอน
1. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 10,000 บนกระดาน 3-4 จานวน แล้วสาธิตการอ่านแต่ละจานวนให้
นักเรยี นฟัง โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกันอ่านตาม
2,500 7,842 4,802 9,000
2. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 10,000 บนกระดาน อีก 3-4 จานวน แล้วสุ่มนักเรียนออกมาอ่านจานวนท่ี
แสดงในบตั รดังกลา่ ว โดยครูและนกั เรียนที่เหลือรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3,958 6,111 1,747 5,000
3. ครูต้ังคาถามให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า จานวนทต่ี ิดบนกระดานมีทั้งหมดกหี่ ลัก หลักอะไรบ้าง และตัวเลขแต่ละตัว
อย่ใู นหลักใดบ้าง
(แนวตอบ มที ้ังหมด 4 หลัก คือ หลักพัน หลกั รอ้ ย หลักสบิ และหลักหน่วย 6,789 หลักหน่วย คือ เลข 9 หลักสิบ คือ เลข
8 หลักรอ้ ยคอื เลข 7 และหลักพนั คอื เลข 6)
ฝึกทักษะ
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วแจกบัตรตัวเลขแสดงจานวนนับไม่
เกิน 10,000 กลุ่มละ 10 แผ่น จากนั้นผลัดเปลี่ยนกันอ่านบัตรตัวเลขที่ครูแจกให้แต่ละกลุ่ม โดยครูคอยสังเกตการมีส่วน
รว่ มของนักเรียนแต่ละคน
2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอ่านบัตรตัวเลขที่ได้ทากิจกรรมไปก่อนหน้าน้ี 2-3 กลุ่ม โดยครูและนักเรียนที่เหลือร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับจานวนนับไม่เกิน 10,000 ว่า “จานวนนับไม่เกิน 10,000 เป็นจานวนท่ี
ประกอบด้วยหลักหน่วย หลกั สบิ หลักรอ้ ย และหลกั พนั ”
ชวั่ โมงท่ี 2
สอน
1. ครูทักทายและทบทวนความรู้เกี่ยวกับการอ่านตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 10,000 โดยการเขียนจานวนนับไม่
เกนิ 10,000 บนกระดาน 4-5 จานวน แล้วสุ่มนักเรยี นออกมาอ่านจานวนดังกลา่ ว
3,958 6,111 1,747 5,000
2. ครูให้นักเรยี นพิจารณาภาพของคาถามมุมขวาบนของหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 4 เพื่อทบทวนการ
เขียนตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนไม่เกิน 1,000 แล้วร่วมกันคิดหาคาตอบท่ีว่า “จากรูปเขียนแสดงราคา
ชุดดว้ ยตวั เลขไทย และหนงั สือได้อย่างไร”
(แนวตอบ ๔๙๙ บาท และ ส่ีรอ้ ยเกา้ สิบเก้าบาท)
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาการอ่าน
และการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน 10,000 จากหนังสือเรียน
คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 4–6
4. ครูสุ่มนักเรียนออกมา 3 คน โดยให้เขียนตัวเลขไทย และตัวหนังสือ แทนจานวนบนกระดาน (จากตัวเลขฮินดู
อารบิกในข้อ 1 ทคี่ รูเขียนบนกระดาน) จากนั้นครแู ละนักเรียนที่เหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง
5. ครูยกตัวอย่างจานวนบนกระดาน เช่น 3,948 จากนั้นอธิบายเก่ียวกับการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลข
ไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน 10,000 อย่างละเอียดโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยที่ยังไม่
เข้าใจ
6. ครูอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียน โดยการยกตัวอย่างจานวน 1,098 แล้วถามนักเรียนว่า 0 ในหลักร้อย มีค่าเท่าใด
จากนั้นจึงอธิบายเพิ่มเติมว่า 0 อยู่ในหลักร้อย จะมีค่าของเลขโดดเท่ากับ 0 ซึ่งเป็นการใช้ 0 เพื่อยึดตาแหน่งของ
หลัก โดย 0 อยู่ในหลักใดจะมคี ่าเปน็ 0 เสมอ
ฝึกทกั ษะ
1. ครูให้รวมกลมุ่ เดิมแลว้ ส่งตัวแทน ออกมาเลน่ เกม “เขียนไวได้แต้ม” ทลี ะ 1 คน โดยมีกตกิ า ดังนี้
- ครอู า่ นโจทยจ์ ากกิจกรรม “เพือ่ นช่วยเพ่ือน” จากหนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 6 ทีละขอ้
- ให้ตัวแทนกล่มุ เขียนตวั เลขฮินดูอารบิก กลุ่มทีเ่ ขยี นได้ไวและถูกต้องจะได้คะแนนสะสม 1 คะแนน
- เม่ือทาครบสามข้อให้เปลี่ยนเป็นเขียนตัวเลขไทย และตัวหนังสือ เมื่อจบเกมกลุ่มท่ีได้คะแนนมากที่สุดจะเป็น
ฝา่ ยชนะ
2. ครูแจกใบงานท่ี 1.1 เรื่อง การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทา เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยครูและนักเรียนที่
เหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับจานวนนับไม่เกิน 10,000 ที่ว่า “จานวนนับไม่เกิน 10,000 เป็นจานวน
ทีป่ ระกอบด้วยหลักหนว่ ย หลักสบิ หลักร้อย และหลกั พัน”
ชั่วโมงที่ 3
สอน
1. ครูทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมา โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์)
จากนั้นแจกนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ท่ีมีตัวเลขแสดงจานวน ไม่เกิน 100,000 ในข้อความต่าง ๆ แล้วให้นักเรียนแต่ละ
กลมุ่ เลน่ เกม “ตาดมี ีรางวัล” โดยมกี ตกิ าดังนี้
- ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันหาจานวนในนติ ยสารหรือหนังสือพิมพท์ ่ีแจกให้
- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเขียนตัวเลขดังกล่าวบนกระดาน โดยครูจับเวลา 5–10 นาที เม่ือหมด
เวลาให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันอา่ นตวั เลขท่ีเขียนบนกระดาน
- กลมุ่ ทเ่ี ขยี นได้จานวนมากและอ่านได้ถูกต้องจะเป็นกลุ่มชนะ
2. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 บนกระดาน 3-4 จานวน แล้วสาธิตการอ่านแต่ละจานวนให้
นักเรยี นฟงั โดยให้นกั เรยี นร่วมกันอ่านตาม
29,350 93,848 78,872 40,000
3. ครูตดิ บัตรตวั เลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 บนกระดาน อีก 3-4 จานวน แล้วสุ่มนักเรียนออกมาอา่ นจานวน
ที่แสดงในบตั รแสดงจานวนดังกลา่ ว โดยครแู ละนักเรยี นที่เหลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
38,958 61,111 19,747 52,000
4. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้แต่ละคนเขียนเลขโดดคนละหนึ่งตัวลงในกระดาษที่แจกให้ จากน้ันครูสุ่ม
เลือกนกั เรียนคร้ังละ 5 คน ออกไปตดิ ตวั เลขทีเ่ ขียนบนกระดาษเรียงต่อกนั
5. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 5 คน ออกมาเติมเครื่องหมายจุลภาคและอ่านจานวนบนกระดาน เช่น 38,597
(อา่ นว่า สามหม่นื แปดพันหา้ ร้อยเกา้ สบิ เจด็ ) จากนน้ั ครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
6. ครูตั้งคาถามให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า จานวนที่เขียนบนกระดานมีท้ังหมดก่ีหลัก หลักอะไรบ้าง และตัวเลข
แตล่ ะตัวอยูใ่ นหลกั ใดบา้ ง
(แนวตอบ มที ้ังหมด 5 หลกั คือ หลกั หมนื่ หลักพัน หลกั ร้อย หลักสบิ และหลักหน่วย 25,739 หลกั หนว่ ย คือ
เลข 9 หลักสิบ คือ เลข 3 หลักร้อย คอื เลข 7 หลักพัน คือ เลข 5 และหลกั หม่นื คอื เลข 2)
ฝึกทกั ษะ
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วแจกบัตรตัวเลขแสดงจานวนนับ
ไม่เกิน 100,000 กลุ่มละ 10 แผ่น จากนั้นผลัดเปล่ียนกันอ่านบัตรตัวเลขที่ครูแจกให้แต่ละกลุ่ม โดยครูคอยสังเกตการมี
ส่วนรว่ มของนกั เรยี นแต่ละคน
2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอ่านบัตรตัวเลขที่ได้ทากิจกรรมในก่อนหน้านี้ 2-3 กลุ่ม โดยครูและนักเรียนท่ีเหลือร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับจานวนนับไม่เกิน 100,000 ว่า “จานวนนับไม่เกิน 100,000 เป็น
จานวนนบั ทปี่ ระกอบด้วยหลักหน่วย หลักสบิ หลักรอ้ ย หลักพนั และหลกั หม่นื ”
ช่วั โมงท่ี 4
สอน
1. ครูทักทายและทบทวนความรู้เก่ียวกับการอ่านตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 โดยการเขียนจานวนนับไม่
เกนิ 100,000 บนกระดาน 4-5 จานวน แล้วส่มุ นกั เรยี นออกมาอ่านจานวนดังกล่าว
23,958 76,111 61,747 50,000
2. ครูสุ่มนักเรียน 3 คน ออกมาเขียนเลขไทย และตัวหนังสือ แทนจานวนบนกระดานในข้อ 1 จากนั้นครูและ
นักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร)์ ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาการอ่าน
และเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกนิ 100,000 จากหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.
3 เลม่ 1 หนา้ 7-8
4. ครูยกตัวอย่างจานวนบนกระดาน เช่น 78,345 จากนั้นอธิบายเกี่ยวกับการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก
ตัวเลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
5. ครูอธิบายเพ่ิมเติมกับนักเรียน โดยการยกตัวอย่างจานวน 100,000 เป็นจานวนที่มี 6 หลัก มี 1 อยู่ทางซ้ายของ
หลกั หม่นื เป็นเลขโดดในหลักแสน
ฝึกทักษะ
1. ครูให้นักเรียนจับคู่ จากน้ันทากิจกรรมพัฒนาความรู้ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 9 โดยครูแจก
อุปกรณ์และจัดกิจกรรมตามขั้นตอนที่หนังสือเรียนกาหนด จากนั้นครูสังเกตการทางานของนักเรียน และ
พดู กระตุ้นใหน้ ักเรยี นมีสว่ นร่วมในกิจกรรม ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ
2. ครูให้นักเรียนคู่เดิมร่วมกันทากิจกรรม “เพ่ือนช่วยเพื่อน” จากหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 9 แล้ว
ขออาสาสมัครนักเรียน 6 คู่ ออกมาเฉลย โดยครูและนักเรียนทเ่ี หลอื ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละกันตามความสามารถ) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรม
ฝึกทักษะในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 10 เม่ือเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
โดยครูและนกั เรยี นที่เหลือช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
ขน้ั สรปุ
สรุป
1. ครูนาบัตรภาพสินค้าท่ีมีป้ายราคาไม่เกิน 100,000 บาท ติดบนกระดาน ให้นักเรียนร่วมกันอ่านราคาสินค้าพร้อม
กนั ครูถามนกั เรียนวา่ หลกั การใส่เคร่ืองหมายจลุ ภาคเป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ ใสห่ ลงั หลกั พนั หรือนับจากหลกั หน่วยมา 3 หลัก แลว้ ใส่เครอ่ื งหมายจุลภาค)
2. ครูและนกั เรียนร่วมกันตอบคาถามจากกรอบความรู้ที่ได้ในหนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 10
3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกับการอ่านและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดง
จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
4. ครูสรุปสาระสาคัญว่า “จานวนนับที่ไม่เกิน 100,000 สามารถอ่านและเขียนแทนด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลข
ไทย และตัวหนงั สือ ซง่ึ การบอกจานวนไม่เกิน 100,000 จะเป็นการบอกจานวนที่มีตัวเลขไม่เกินหกหลัก”
5. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพ่ือตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล
7. การวดั และประเมินผล
รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
- ประเมินตามสภาพจรงิ
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน - แบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น
- แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบทดสอบ
เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ก่อนเรียน
จานวนนบั ไมเ่ กนิ
100,000
รายการวดั วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
7.2 ประเมนิ ระหว่าง
- ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การจัดกิจกรรมการ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) การอ่านและเขยี น
ตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลข - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคณุ ภาพ 2
ไทย ตัวหนังสอื แสดง ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
จานวนนับ กจิ กรรม
2) การนาเสนอ - แบบสังเกต - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลงาน/ผลการทากิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรม
การทางานรายบคุ คล พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการ
ทางานรายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
การทางานกลุม่
4) พฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลุม่ - สังเกตความมวี นิ ัย
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ ในการทางาน
อนั พงึ ประสงค์ การทางานกลมุ่
- แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2
คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพงึ ประสงค์
8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน่วยท่ี 1 จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000
2) หนงั สือแบบฝกึ หัด คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนว่ ยท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000
3) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000
4) บตั รตัวเลขแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000
5) นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- หอ้ งเรียน
ใบงานท่ี 1.1
เรอ่ื ง การเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000
คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสอื ลงในตารางให้ถกู ต้อง
ตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื
7,845 ๖,๕๘๙ เจด็ พนั แปดร้อยส่ีสบิ หา้
5,231 หา้ พนั สองร้อยสามสบิ เอด็
35,000 ๔๓,๕๘๑
56,890 ๔๒,๐๐๐ สองหมนื่
87,234 ๑๐๐,๐๐๐
10,450 ๑๐,๔๕๐ หา้ หม่ืนหกพันแปดร้อยเก้าสิบ
10,000
30,008 ๕๖,๐๒๐ สีพ่ ันสรี่ ้อย
56,020 ๑๒,๐๐๕ สองหมน่ื หกพนั เกา้ สิบ
๕๐,๐๐๑
50,001 สหี่ ม่นื หนง่ึ รอ้ ยสาม
ใบงานที่ 1.1 เฉลย
เรอ่ื ง การเขยี นตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนนับไมเ่ กิน 100,000
คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสือลงในตารางให้ถูกต้อง
ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนังสอื
7,845 ๗,๘๔๕ เจ็ดพันแปดรอ้ ยสส่ี บิ ห้า
6,589 ๖,๕๘๙ หกพนั หา้ รอ้ ยแปดสิบเก้า
5,231 ๕,๒๓๑ ห้าพนั สองรอ้ ยสามสบิ เอด็
20,000 ๒๐,๐๐๐ สองหมน่ื
35,000 ๓๕,๐๐๐ สามหม่ืนห้าพัน
43,581 ๔๓,๕๘๑ สี่หมน่ื สามพันห้ารอ้ ยแปดสิบเอด็
56,890 ๕๖,๘๙๐ หา้ หม่ืนหกพนั แปดร้อยเก้าสบิ
42,000 ๔๒,๐๐๐ สี่หมื่นสองพัน
87,234 ๘๗,๒๓๔ แปดหมื่นเจด็ พันสองร้อยสามสิบส่ี
100,000 ๑๐๐,๐๐๐ หน่งึ แสน
10,450 ๑๐,๔๕๐ หนง่ึ หมน่ื สร่ี อ้ ยหา้ สบิ
4,400 ๔,๔๐๐ ส่พี นั สี่รอ้ ย
10,000 ๑๐,๐๐๐ หนง่ึ หมน่ื
26,090 ๒๖,๐๙๐ สองหมนื่ หกพนั เก้าสิบ
30,008 ๓๐,๐๐๘ สามหมน่ื แปด
56,020 ๕๖,๐๒๐ หา้ หม่ืนหกพันยีส่ ิบ
12,005 ๑๒,๐๐๕ หนง่ึ หมน่ื สองพนั หา้
40,103 ๔๐,๑๐๓ สหี่ มน่ื หนงึ่ ร้อยสาม
50,001 ๕๐,๐๐๑ หา้ หมืน่ เอด็
บตั รตัวเลขแสดงจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 6,111
3,958
1,747 5,000
2,500 7,842
4,802 9,000
3,958 6,111
1,747 5,000
23,958 76,111
61,747 50,000
29,350 93,848
78,872 40,000
38,958 61,111
19,747 52,000
บนั ทึกผลหลังกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนร้ทู ่เี กิดขึ้นกับผเู้ รียน
1.1 ผูเ้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน คิดเป็นร้อยละ..................
1.2 ผู้เรียนไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน
ได้แก่
................................................................................................................... ..................................................
สาเหตุ
.......................................................................................................……………………………………………………
1.3 ผเู้ รยี นได้รับความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผเู้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผเู้ รยี นมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
:...................................................................................................... ………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................ ...............
…………….……………………….................................................................................................... .........................................
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................................................
ลงช่ือ........................................ผู้สอน
(นางสาวพรรัตน์ จนั ทรค์ า)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง จานวนนับไม่เกนิ 100,000
เร่อื ง หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย เวลาเรยี น 4 ช่ัวโมง
ช่อื ผสู้ อน นางสาวพรรัตน์ จันทร์คา วันท่ี ........................................ เวลา ……………………………
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
ค 1.1 ป.3/1 อา่ นและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายค่าของตวั เลขแตล่ ะหลกั เม่ือกาหนดจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 ได้ (K)
2) เขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจายไดถ้ กู ตอ้ ง (P)
3) นาความรู้เกี่ยวกับหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจายไปใช้
แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขียนตัวเลข
แสดงจานวนในรปู กระจาย
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
จานวนต่าง ๆ จะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจานวนหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักท่ีจะทาให้จานวน มีค่า
แตกต่างกัน โดยจานวนนับท่ีไม่เกิน 100,000 จะเป็นการบอกจานวนท่ีมีตัวเลขที่ไม่เกินหกหลัก ซึ่งการนา ค่าของ
เลขโดดในแตล่ ะหลกั มาเขยี นใหอ้ ยใู่ นรปู การบวก เรียกว่า การเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรปู กระจาย
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวินยั
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1) ทักษะการอา่ น 3. ม่งุ มั่นในการทางาน
2) ทักษะการเขียน
3) ทักษะการสงั เกต
4) ทกั ษะการระบุ
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5) ทักษะการเชื่อมโยง
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : โมเดลซิปปา (CIPPA Model)
ชวั่ โมงท่ี 1
ขน้ั นา
การทบทวนความรเู้ ดิม
3,958 2,500 39,958 29,350 52,000
2. ครูทักทายนักเรียนและแสดงบัตรตัวเลขขึ้นมาแล้วให้นักเรียนบอกว่าเป็นตัวเลขอะไรบ้าง อ่านว่าอย่างไร จากน้ัน
ทบทวนการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับ ไม่เกิน 100,000 โดยสุ่ม
นกั เรียนออกมาอ่านและเขียนตัวหนังสือแสดงจานวนน้ัน
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันเล่นเกม “เขียนไวได้แต้ม” โดย
มกี ตกิ า ดังนี้
- ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเขียนจานวนนบั ไม่เกิน 100,000 ให้ได้มากที่สุด ภายในเวลา 1 นาที
- ใหต้ ัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอผลงาน พรอ้ มท้ังอ่านจานวนทีเ่ ขยี นได้ท้ังหมด
- กลมุ่ ทเี่ ขยี นได้มากทีส่ ดุ จะเป็นกลุ่มท่ชี นะ
3. ครูให้นักเรียนพิจารณาจานวนในขบวนรถไฟของคาถามมุมขวาบนในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 11
แล้วร่วมกันหาคาตอบท่ีว่า “เลขโดด 4 ในจานวนท้ังสองมีค่าเท่ากันหรือไม่ อย่างไร” เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมที่
เรียนมาแลว้
(แนวตอบ ไม่เท่ากนั เพราะ เลขโดด 4 ของจานวนแรกอยู่ในหลกั สิบมีค่า 40 แต่ เลขโดด 4 ในจานวนท่ีสองอยู่ในหลักร้อย
มคี า่ 400)
ข้นั สอน
แสวงหาความร้ใู หม่
1. ครูเขียนจานวน 34,651 บนกระดาน จากนั้นตั้งคาถามให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า จานวนท่ีเขียนบนกระดานมี
ท้งั หมดกี่หลกั หลกั ใดบา้ ง และตวั เลขแต่ละตวั อยู่ในหลักใดบ้าง และมีค่าเท่าใด
(แนวตอบ มีทั้งหมด 5 หลัก คือ หลักหมื่น หลักพัน หลักรอ้ ย หลักสิบ และหลักหน่วย 34,651 หลักหน่วย คือ เลข
1 มีค่า 1 หลักสิบ คือ เลข 5 มีค่า 50 หลักร้อยคือ เลข 6 มีค่า 600 หลักพัน คือ เลข 4 มีค่า 4,000 และหลักหมื่น คือ
เลข 2 มคี า่ 20,000)
2. ครูยกตัวอย่างจานวนบนกระดาน เช่น 32,628 จากนั้นอธิบายเก่ียวกับหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก
3-4 ขอ้ อย่างละเอยี ด โดยเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนไดซ้ ักถามข้อสงสัยทย่ี ังไม่เข้าใจ
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาหลักและ
คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลัก จากหนงั สือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 11-12
4. ครูเขียนจานวนบนกระดานแล้วสุ่มนักเรียนออกมาอธิบาย หลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก 3-4 ข้อ เพื่อเป็น
การทบทวนความรู้ท่ีได้เรยี นในชวั่ โมงนี้ โดยครแู ละนักเรียนท่ีเหลือรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ ก่ยี วกับ หลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลักที่ว่า “เลขโดดตัวเดียวกัน (ยกเว้น
0) ถ้าอยู่ในหลักต่างกัน โดยเลขโดดตัวนั้นจะมีค่าตามหลักแสน หลักหมื่น หลักพัน หลักร้อย และหลักหน่วย ตาม
หลักท่ีเลขโดดนัน้ อยู่”
ชัว่ โมงที่ 2
การศกึ ษาทาความเขา้ ใจข้อมลู / ความรใู้ หม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรูเ้ ดิม
4. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เก่ียวกับหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักท่ีได้เรียนไปในชั่วโมงก่อนโดยครู
เขียนจานวน 3-4 จานวน แล้วสุ่มนักเรียนออกมาอธิบายหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก โดยครูและนักเรียน
ท่เี หลือรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
5. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจายจากหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3
เลม่ 1 หน้า 13 จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมาอภปิ รายความรู้ท่ีได้ศึกษามาร่วมกนั หน้าชนั้ เรียน
6. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันทากิจกรรมพัฒนาความรู้ใน
หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 14 โดยครูแจกอุปกรณ์และจัดกิจกรรมตามขั้นตอนท่ีหนังสือเรียน
กาหนด จากน้ันครูสังเกตการทางานของนักเรียน และพูดกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ครูและนักเรียน
รว่ มกนั เฉลยคาตอบ
7. ครูติดบัตรตัวเลขบนกระดานโดยให้นักเรยี นร่วมกนั อ่านจานวนนน้ั พร้อมกัน
39,958
จากนนั้ ครตู ้งั คาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี น ดังน้ี
จานวนท่อี ยู่ในบัตรตวั เลขมีทั้งหมดกี่หลัก หลกั อะไรบา้ ง และตวั เลขแต่ละตัวอยู่ในหลักใดบ้าง
(แนวตอบ มีท้ังหมด 5 หลัก คือ หลักหมื่น หลักพัน หลักร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย 39,958 หลักหน่วย คือ เลข 8
หลกั สบิ คอื เลข 5 หลกั ร้อยคอื เลข 9 หลักพนั คือ เลข 9 และหลกั หม่ืน คือ เลข 3)
เลขโดดในแต่ละหลักมีคา่ เท่าใดบ้าง
(แนวตอบ 8 อยู่ในหลักหน่วย มีค่า 8, 5 อยู่ในหลักสิบ มีค่า 50, 9 อยู่ในหลักร้อย มีค่า 900, 9 อยู่ในหลักพัน
มคี า่ 9,000, และ 3 อยู่ในหลกั หม่นื มีคา่ 30,000)
จานวนทอ่ี ย่ใู นบตั รตัวเลขเก่ยี วข้องกับค่าของเลขโดดในแต่ละหลักอย่างไร
(แนวตอบ จานวนในบตั รตัวเลขเกิดจากการนาคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักมาบวกกัน)
5. ครูอธิบายเพ่ือสรุปกิจกรรมพัฒนาความรู้ว่า “จากกิจกรรมพัฒนาความรู้ การนาคา่ เลขโดดในแต่ละหลักมาเขียนให้
อยูใ่ นรปู การบวก เรียกวา่ การเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย”
6. ครูเขียนจานวน 14,325 บนกระดาน จากนนั้ ต้ังคาถามให้นักเรียนชว่ ยกันตอบวา่
จานวนทเี่ ขยี นบนกระดานสามารถเขียนในรูปกระจายได้อย่างไร
(แนวตอบ 10,000 + 4,000 + 300 + 20 + 5)
7. ครูยกตัวอย่างจานวนบนกระดาน เช่น 92,680 จากนั้นอธิบายเกี่ยวกับการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
ซ่ึงคอื การนาค่าหลักเลขโดดในแต่ละหลักมาเขยี นให้อยู่ในรูปการบวก
8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจายว่า “เป็นการนาค่าเลขโดดใน
แต่ละหลักมาเขียนให้อยู่ในรูปการบวก”
ชวั่ โมงท่ี 3
การแลกเปลยี่ นความรคู้ วามเขา้ ใจกบั กลุ่ม
1. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เกี่ยวกับการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย โดยครูเขียนจานวนนับไม่
เกิน 100,000 บนกระดาน 2-3 จานวน จากน้ันสุ่มนักเรียนอออกมาเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปการกระจาย
โดยครูและนักเรียนที่เหลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนแล้วทากิจกรรม “เพ่ือนช่วยเพ่ือน” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 14
จากนนั้ สมุ่ นกั เรยี น 3 คู่ ออกมาเฉลยคาตอบ โดยครแู ละนักเรียนท่ีเหลือรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทาใบงาน 1.2 เร่ือง หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขียนตัวเลขแสดง
จานวนในรปู กระจาย จากน้นั ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ
4. ครูให้นักเรียนตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบ
ความถูกต้อง
สรุปและจัดระเบยี บความรู้
1. ครูทบทวนความรูโ้ ดยเขยี นจานวน 45,231 บนกระดาน จากนั้นต้ังคาถามใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบวา่
จานวนที่เขยี นบนกระดานสามารถเขยี นในรปู กระจายได้อย่างไร
(แนวตอบ 40,000 + 5,000 + 200 + 30 + 1)
2. ครูตงั้ คาถามกระตนุ้ นักเรยี น ดังน้ี
4,567 และ 35,490 เลขโดด 5 ในจานวนทงั้ สองมีคา่ เท่ากันหรอื ไม่
(แนวตอบ ไมเ่ ทา่ กัน)
เลขโดด 5 ในจานวนทงั้ สองมีคา่ เท่าไร
(แนวตอบ 500 และ 5,000)
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า จานวนตา่ ง ๆ จะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจานวนหลักและค่าของตัวเลขในแต่ละ
หลักทจ่ี ะทาให้จานวนมีค่าแตกต่างกัน
ปฏบิ ัติการและ/หรอื การแสดงผลงาน ช่วั โมงท่ี 4
1. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เก่ียวกับหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขียนตัวเลขแสดงจานวนใน
รูปกระจาย โดยครูนาบัตรตัวเลขติดบนกระดาน จากน้ันสุ่มนักเรียนออกมาคร้ังละ 2 คน คนแรกออกมาเขียนตัวเลขแสดง
จานวนในรปู กระจาย และคนทส่ี องอธบิ ายการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย (ทากจิ กรรมเช่นน้ี 3-4 คร้ัง)
2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ร่วมกันทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือ
เรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 15 ทกุ ข้อ
3. ครูให้นักเรียนตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง
ขนั้ สรปุ
ประยุกต์ใช้ความรู้
1. ครูนาบัตรภาพสินค้าท่ีมีป้ายราคาไม่เกิน 100,000 บาท ติดบนกระดาน ให้นักเรียนร่วมกันอ่านราคาสินค้า
พร้อมกัน ครูถามนักเรียนว่าเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจายได้อย่างไร โดยครูขออาสาสมัครนักเรียน
1 คน ออกมาเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจายบนกระดาน โดยครูและเพ่ือนที่เหลือช่วยกันตรวจสอบ
ความถูกต้อง
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สาระสาคัญว่าว่า จานวนต่าง ๆ จะมีคา่ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจานวนหลักและค่า
ของตัวเลขในแต่ละหลักท่ีจะทาให้จานวนมีค่าแตกต่างกัน ซึ่งจานวนนับที่ไม่เกิน 100,000 จะเป็นการบอก
จานวนที่มีตัวเลขท่ีไม่เกินหกหลัก ซ่ึงการนาค่าของเลขโดดในแต่ละหลักมาเขียนให้อยู่ในรูปการบวก เรียกว่า
การเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
3. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพ่ือตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล
7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการวัด - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - ใบงานท่ี 1.2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ระหว่างการจดั - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) หลัก ค่าของเลข
โดดในแต่ละหลักและการ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น
เขียนตวั เลขแสดงจานวน ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์
ในรปู กระจาย กิจกรรม
2) การนาเสนอ - แบบสังเกต - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน
ผลงาน/ผลการทากจิ กรรม - สังเกตพฤติกรรม
การทางานรายบคุ คล พฤตกิ รรม เกณฑ์
3) พฤติกรรมการ
ทางานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล
การทางานกล่มุ
4) พฤตกิ รรม - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน
การทางานกลมุ่ - สังเกตความมวี นิ ยั
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ พฤตกิ รรม เกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ ในการทางาน
อนั พงึ ประสงค์ การทางานกล่มุ
- แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น
คุณลักษณะ เกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์
8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนว่ ยที่ 1 จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000
2) หนังสือแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนว่ ยที่ 1 จานวนนับไม่เกนิ 100,000
2) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง หลัก คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย
3) บตั รตัวเลข
4) บตั รภาพ
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- ห้องเรยี น
ใบงานที่ 1.2
เร่อื ง หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย
คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดตามท่ีกาหนด 60,475
1. ใหน้ ักเรียนเขยี นเติมคาในช่องว่างให้ถูกต้อง
..........อยใู่ นหลักหน่วย มีคา่ เป็น 5
75,014 7 อยใู่ นหลกั ........ มคี ่าเป็น ........
4 อยูใ่ นหลกั รอ้ ย มคี ่าเป็น ........
..........อยูใ่ นหลักหน่วย มคี ่าเปน็ 4 .........อยู่ในหลกั พนั มีค่าเป็น ........
1 อยใู่ นหลกั ........ มคี ่าเป็น ........ 6 อยูใ่ นหลกั ........ มคี า่ เป็น ........
0 อยูใ่ นหลักรอ้ ย มคี ่าเปน็ ........
.........อยใู่ นหลัก......... มีค่าเป็น 5,000 100,000
7 อยใู่ นหลัก........ มีคา่ เปน็ ........
..........อยู่ในหลกั .......... มคี ่าเปน็ ............
14,500 ..........อยู่ในหลัก.......... มีค่าเปน็ ............
..........อยูใ่ นหลัก.......... มีคา่ เป็น............
..........อย่ใู นหลักหนว่ ย มคี ่าเป็น 4 ..........อยูใ่ นหลกั .......... มคี ่าเปน็ ............
...........อยใู่ นหลักสิบ มคี ่าเปน็ 0 ..........อยใู่ นหลกั .......... มีค่าเปน็ ............
..........อยู่ในหลกั .......... มีค่าเป็น............
5 อยู่ในหลกั ........ มีค่าเปน็ ........
..........อยใู่ นหลกั พัน มคี า่ เปน็ ........
1 อยใู่ นหลกั ........ มีค่าเปน็ ........
2. จงเขยี นจานวนเหล่านใ้ี นรปู การกระจาย
1) 41,005
......................................................................................................................................................
2) ๓๖,๒๑๐
......................................................................................................................................................
3) 9 หมน่ื กบั 0 พนั กับ 3 รอ้ ย กับ 5 สบิ กับ 7 หนว่ ย
......................................................................................................................................................
ใบงานท่ี 1.2 เฉลย
เรือ่ ง หลกั คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
คาช้แี จง :
1. ใหน้ ักเรยี นเขียนเติมคาในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง
75,014 60,475
...4.......อยู่ในหลกั หน่วย มคี ่าเป็น 4 ....5......อย่ใู นหลกั หน่วย
1 อยู่ในหลัก..ส..บิ.... ..1......0..0...... มคี า่ เปน็ ...7450.........00.........0...
มีค่าเปน็ 7 อยูใ่ นหลัก.ส...บิ.... มีค่าเป็น
...50......ออยยู่ใู่ในนหหลลกั กั ..ร.พ.้อ.นั.ย... มีคา่ เป็น มีค่าเป็น
...04......ออยยูใ่ ใู่นนหหลลักักพรัน้อย มคี า่ เปน็
มีค่าเป็น 5,000
7 อยูใ่ นหลัก.ห...ม...่ืน. มคี ่าเปน็ 7..0..,.0..0.0 6 อย่ใู นหลกั .ห..ม...ื่น.. มีค่าเปน็ .6..0..,.0..00
14,500 100,000 มมคีคี า่า่ เเปปนน็็ ......00..................
...1.......อยใู่ นหลกั หน่วย มีคา่ เป็น 4 .....................00....00.0........................อออออยยยยยู่ใููู่ใู่่ใใ่ในนนนนหหหหหลลลลลักััักกกกั ...........หสหพร..........้นอ.....มบิ....นั.ว่.....ย....่ืน.ย......... มมมีคคีคี ่า่าา่ เเเปปป็นน็็น..........0..0.0.......................
....4.......อยู่ในหลกั สิบ มีค่าเปน็ 0
....0.5.....ออยยู่ในู่ในหหลลักักพ.ร.ัน.้ อ...ย..
มีค่าเป็น ........
มีคา่ เปน็ ........
1 อย่ใู นหลกั .ห...ม..่ืน.. มคี า่ เป็น ........
.....1.....อยใู่ นหลัก...แ..ส...น.. มคี ่าเปน็ .1..0..0..,0..0..0.
2. จงเขยี นจานวนเหล่านใ้ี นรูปการกระจาย
1) 41,005
...4...0...,..0...0...0....+.....1...,..0...0...0....+......0....+.....0.....+.....5....................................................................................
2) ๓๖,๒๑๐
...3...0...,..0...0...0....+.....6...,..0...0...0....+.....2...0...0.....+.....1...0....+.....0............................................................................
3) 9 หมน่ื กับ 0 พัน กับ 3 ร้อย กับ 5 สบิ กับ 7 หน่วย
...9...0...,..0...0...0....+.....0.....+.....3...0...0....+......5..0.....+.....7......................................................................................
บตั รตวั เลข 8,362
4,571
7,940 8,362
56,790 45,981
12,480 94,657
3,958 2,500
39,958 29,350
52,000
บตั รภาพ
ตู้เยน็ ตดิ ปา้ ยราคา 17,900 บาท
17,900
คอมพิวเตอรต์ ิดปา้ ยราคา 39,500 บาท
39,500
บันทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ผลการเรียนรูท้ ีเ่ กดิ ขึน้ กับผู้เรียน
1.1 ผู้เรยี นผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน คิดเป็นร้อยละ..................
1.2 ผ้เู รียนไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน
ไดแ้ ก่
.....................................................................................................................................................................
สาเหตุ
....................................................................................................... ……………………………………………………
1.3 ผู้เรยี นได้รับความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผ้เู รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม
:...................................................................................................... ………………
2. ปัญหา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
ลงช่ือ........................................ผสู้ อน
(นางสาวพรรัตน์ จันทรค์ า)
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่อื ง จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 เวลาเรียน 4 ชั่วโมง
เวลา ……………………………
เรื่อง การเปรียบเทียบจานวน
ชอื่ ผูส้ อน นางสาวพรรัตน์ จันทรค์ า วันท่ี ........................................
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด
ค 1.1 ป.3/2 เปรียบเทียบและเรยี งลาดับจานวนนับไม่เกนิ 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายวธิ เี ปรยี บเทียบจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000 ได้ (K)
2) เขียนเปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน 100,000 วา่ มคี ่าเท่ากนั หรอื ไมเ่ ทา่ กนั และมีคา่ มากกว่าหรอื น้อยกว่าได้ถูกต้อง (P)
3) เขียนเปรยี บเทียบจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = ≠ > < ไดถ้ กู ต้อง (P)
4) นาความร้เู ก่ียวกบั การเปรียบเทียบจานวนไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
การเปรยี บเทยี บและเรียงลาดบั
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
จานวนนับไม่เกิน 100,000 สามารถนามาเปรียบเทียบกันได้ โดยมีค่าเท่ากันหรือไม่เท่ากันและค่าไม่เท่ากัน
อาจมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่ากันอย่างใดอย่างหน่ึงเท่านั้น โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < แสดงการ
เปรยี บเทยี บ
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถทางการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1) ทักษะการสงั เกต 3. ม่งุ มั่นในการทางาน
2) ทักษะการเปรยี บเทยี บ
3) ทักษะการเชื่อมโยง
4) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : แบบคน้ พบ (Discovery Method)
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั นา
นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
4. ครูทักทายนักเรียน และทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคาถามว่า “รู้หรือไม่ 4,578 กับ 4,587 จานวนใดมี
ค่ามากกวา่ กัน” แลว้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภิปรายว่าทาไมจานวนดังกล่าวจึงมีค่ามากกว่า
5. ครูติดรูปภาพสัญลักษณ์ประจาจังหวัดต่าง ๆ จานวน 4 จังหวัด บนกระดาน จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกัน
อภิปรายเก่ียวกับสัญลักษณ์ดังกล่าวว่าเป็นของจงั หวัดใด แลว้ ให้นักเรียนคน้ หาข้อมลู วา่ จานวนประชากรในจังหวัด
ดงั กล่าวมีเท่าไร
(แนวตอบ ตามข้อมูลจานวนประชากรจังหวัดดงั กล่าวที่ครนู ามาแสดง)
6. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 4 คน ออกมาเขียนจานวนประชากรท่ีตนเองนักเรียนหาข้อมูลมาไว้ใต้ภาพ แล้วให้นักเรียน
ทกุ คนอ่านจานวนประชากรน้ันพร้อมกัน ครูต้ังคาถามกระต้นุ ความคิด ดังนี้
จงั หวัดใดทมี่ ีจานวนประชากรมากทสี่ ุด
(แนวตอบ ตามข้อมูลจานวนประชากรจังหวดั ดงั กล่าวท่ีครนู ามาแสดง)
จังหวดั ใดทม่ี จี านวนประชากรน้อยท่ีสุด
(แนวตอบ ตามขอ้ มลู จานวนประชากรจังหวัดดังกล่าวท่ีครูนามาแสดง)
เรยี งลาดับช่อื จงั หวัดที่มีประชากรจากน้อยทส่ี ดุ ไปมากที่สดุ
(แนวตอบ ตามขอ้ มลู จานวนประชากรแตล่ ะจังหวัดท่ีครนู ามาแสดง)
4. ครูให้นักเรียนพิจารณาคาถามมุมขวาบนในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 16 ซ่ึงเป็นการเปรียบเทียบ
จานวนสองจานวนว่าควรใส่เครื่องหมายใดลงในช่องว่าง เพ่ือเป็นการทบทวนการเปรียบเทียบจานวนสามหลักสอง
จานวนที่เคยเรียนมาแลว้
(แนวตอบ เคร่อื งหมาย < (น้อยกว่า))
ขน้ั สอน
สอน
1. ครูติดบัตรตัวเลข 2 ใบ บนกระดาน จากนั้นให้นกั เรยี นอ่านพรอ้ มกัน เชน่
89,765 9,756
ครูตง้ั คาถามกระตุ้นความคดิ โดยขออาสาสมัครตอบคาถาม ดังนี้
บัตรตวั เลขเปน็ จานวนทม่ี ีก่หี ลักบา้ ง
(แนวตอบ 89,765 เป็นจานวนทม่ี ีห้าหลัก และ 9,756 เป็นจานวนทีม่ สี ่ีหลัก)
เลขโดดตัวแรกของจานวนท้ังสองอยู่ในหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 89,765 มี 8 อยู่ในหลกั หมน่ื และ 9,756 มี 9 อยู่ในหลกั พัน)
จานวนทงั้ สองเท่ากนั หรอื ไม่
(แนวตอบ ไม่เท่ากนั )
การไม่เท่ากนั สามารถเขยี นแทนดว้ ยเคร่อื งหมายใด
(แนวตอบ ≠)
2. ครูให้ตวั แทนออกไปเขียนเคร่ืองหมาย บนกระดาน ครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันเฉลยคาตอบ จากน้นั ให้
นกั เรยี นอา่ นพร้อมกัน
3. ครูติดบัตรตวั เลขบนกระดาน 2 ใบ ใหน้ กั เรียนอ่านพรอ้ มกนั เช่น
23,806 23,806
ครูต้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด โดยขออาสาสมัครตอบคาถาม ดงั น้ี
บัตรตวั เลขเปน็ จานวนท่ีมีก่ีหลกั บ้าง
(แนวตอบ 23,806 ทั้งสองจานวนเปน็ จานวนทม่ี หี ้าหลกั )
เลขโดดตวั แรกของจานวนท้ังสองอยใู่ นหลักใดบา้ ง
(แนวตอบ 23,806 มี 2 อยู่ในหลักหมนื่ และ 23,806 มี 2 อยใู่ นหลกั หม่นื )
จานวนทั้งสองเท่ากันหรือไม่
(แนวตอบ เทา่ กนั )
การเทา่ กนั สามารถเขยี นแทนดว้ ยเครอื่ งหมายใด
(แนวตอบ = (เท่ากบั ))
4. ครูให้ตัวแทนออกไปเขียนเคร่ืองหมาย = บนกระดาน ครูและนักเรียนที่เหลือช่วยกันเฉลยคาตอบ จากนั้นให้
นักเรยี นอ่านพร้อมกนั
5. ครตู ิดบตั รตัวเลขบนกระดาน 2 ใบ ใหน้ กั เรียนอา่ นพร้อมกัน เชน่
60,467 61,561
ครูตั้งคาถามกระตนุ้ ความคิด โดยขออาสาสมัครตอบคาถาม ดังนี้
บตั รตัวเลขเปน็ จานวนที่มกี ีห่ ลกั บา้ ง
(แนวตอบ 60,467 เปน็ จานวนทมี่ ีหา้ หลัก และ 61,567 เป็นจานวนทมี่ ีหา้ หลัก)
เลขโดดตวั แรกของจานวนท้งั สองอยูใ่ นหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 60,467 มี 6 อยู่ในหลกั หมื่น และ 61,567 มี 6 อย่ใู นหลกั หม่นื )
จานวนท้งั สองเทา่ กันหรอื ไม่
(แนวตอบ ไมเ่ ทา่ กนั )
เพราะเหตุใดจานวนท้ังสองจงึ ไม่เทา่ กนั
(แนวตอบ เม่ือพิจารณาในหลักพัน 60,467 มี 0 อยู่ในหลักพัน และ 61,567 มี 1 อยู่ในหลักพัน ทั้งสอง
จานวนจึงไม่เทา่ กัน)
การไม่เท่ากนั สามารถเขยี นแทนดว้ ยเครอื่ งหมายใด
(แนวตอบ ≠(ไมเ่ ท่ากับ))
6. ครูให้ตัวแทนออกไปเขียนเคร่ืองหมาย บนกระดาน ครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันเฉลยคาตอบ จากน้ันให้
นกั เรียนอ่านพร้อมกัน
7. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนร่วมกันศึกษา
การเปรยี บเทียบจานวนจากหนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 16–17
8. ครูเขยี นตวั เลขสองจานวนบนกระดาน ดงั นี้
89,765 45,890 45,672 9,756
แล้วขออาสาสมัครนักเรียนจานวน 1 คนออกมาเขียนเครื่องหมาย = หรือ ≠ ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง จากน้ันครู
และนักเรยี นที่เหลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ว่า “จานวนสองจานวนเมื่อนามาเปรียบเทียบกันให้ดูท่ีจานวนหลักก่อน หากมี
จานวนหลักไม่เท่ากันก็จะมคี ่าไมเ่ ท่ากนั แต่หากมีจานวนหลักเท่ากันใหเ้ ปรียบเทียบเลขโดดท้างซ้ายมอื สดุ ก่อน ถ้า
เลขโดดในหลักดังกล่าวของจานวนใดมากกว่า จานวนน้ันจะมีค่ามากกว่า ถ้าเลขโดดในหลักดังกล่าวเท่ากัน
ให้เปรียบเทียบเลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือทีละหลัก ซึ่งเม่ือนามาเปรียบเทียบกันอาจมีค่าเท่ากันหรือไม่
เท่ากัน โดยมีเครอื่ งหมาย = และ ≠ แสดงการเปรียบเทียบ”
ฝึกทักษะ
1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเดิม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรม “เพ่ือนช่วยเพ่ือน” ในหนังสือเรียน
คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 18 ลงในสมุด
2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ จากนั้นรวบรวมสมุดส่งครู และร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับการเปรียบเทียบ
จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000
ชัว่ โมงที่ 2
สอน
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนจากนั้นครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชายและกลุ่มนักเรียนหญิง)
เพื่อใหน้ กั เรียนเล่นเกม โดยมกี ติกา ดังน้ี
- ครตู ิดบัตรภาพอมยม้ิ ไว้บนกระดานจานวน 6 ภาพ ซึง่ ดา้ นหลงั อมย้ิมจะมีตวั เลขแสดงจานวนซ่อนอยู่
- ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมาทีละ 1 คนมาเป่ายงิ ฉบุ ใครชนะจะเป็นฝา่ ยได้เลือกอมยิ้มกอ่ น
- ครูให้นักเรยี นพลิกอมย้มิ เพอ่ื แสดงจานวนทีซ่ ่อนอยู่พร้อมกนั
- ใหน้ ักเรียนร่วมกนั เปรียบเทียบจานวน กลุ่มทม่ี ีคา่ ของจานวนมากกวา่ จะไดค้ ะแนนสะสมไป 1 คะแนน
- เลน่ ซา้ จนกวา่ บตั รภาพอมยมิ้ จะหมด กล่มุ ท่ีได้คะแนนสะสมมากท่สี ดุ ก็จะเป็นกลุม่ ที่ชนะ
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายการเปรียบเทียบจานวนสองจานวนจากกิจกรรมเกม “ดวงดีได้ ดวงร้ายแพ้”
ทเี่ ลน่ เมอื่ สักครวู่ ่าการเปรียบเทียบจานวนทาได้อย่างไรบ้าง
3. ครตู ิดบตั รตวั เลขบนกระดาน 2 ใบ ให้นกั เรยี นอ่านพรอ้ มกัน เช่น
45,987 5,124
ครูตั้งคาถามกระตุ้นความคิด โดยขออาสาสมคั รตอบคาถาม ดงั นี้
บัตรตัวเลขเปน็ จานวนทม่ี กี ีห่ ลักบ้าง
(แนวตอบ 45,987 เป็นจานวนท่มี หี ้าหลัก และ 5,124 เป็นจานวนทีม่ ีสีห่ ลกั )
เลขโดดตวั แรกของจานวนทงั้ สองอยู่ในหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 45,987 มี 4 อยูใ่ นหลกั หมืน่ และ 5,124 มี 5 อยใู่ นหลกั พนั )
จานวนใดมคี า่ มากกวา่
(แนวตอบ 45,987)
มากกว่าสามารถเขียนแทนดว้ ยเคร่ืองหมายใด
(แนวตอบ >(มากกวา่ ))
4. ครูให้ตัวแทนออกไปเขียนเครื่องหมาย > บนกระดาน ครูและนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันเฉลยคาตอบ จากนั้นให้
นักเรียนอา่ นพร้อมกนั
5. ครตู ดิ บตั รตัวเลขบนกระดาน 2 ใบ ให้นกั เรยี นอา่ นพร้อมกัน เช่น
23,145 98,211
ครตู ง้ั คาถามกระตนุ้ ความคดิ โดยขออาสาสมคั รตอบคาถาม ดังน้ี
บัตรตวั เลขเป็นจานวนทม่ี กี ่หี ลกั บา้ ง
(แนวตอบ 23,145 เปน็ จานวนทมี่ หี า้ หลัก และ 98,211 เป็นจานวนที่มีห้าหลัก)
เลขโดดตวั แรกของจานวนทัง้ สองอยใู่ นหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 23,145 มี 2 อย่ใู นหลกั หมื่น และ 98,211 มี 9 อยใู่ นหลักหมื่น)
จานวนใดมคี า่ น้อยกวา่
(แนวตอบ 23,145)
น้อยกวา่ สามารถเขียนแทนด้วยเครอื่ งหมายใด
(แนวตอบ < (นอ้ ยกว่า))
6. ครูให้ตัวแทนออกไปเขียนเครื่องหมาย < บนกระดาน ครูและนักเรียนที่เหลือช่วยกันเฉลยคาตอบ จากนั้นให้
นกั เรยี นอ่านพร้อมกนั
7. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาการ
เปรยี บเทยี บจานวนจากหนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 18-19
8. ครเู ขยี นตวั เลขบนกระดาน ดงั น้ี
67,213 87,345
37,432 37,342
จากน้ันขออาสาสมัครนักเรียน 1 คน ออกมาเขียนเคร่ืองหมาย > หรือ < ลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง ครูและนักเรียนท่ี
เหลือรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ว่า จานวนสองจานวนเมื่อนามาเปรียบเทียบกันให้ดูที่จานวนหลักก่อน หากมี
จานวนหลักไม่เท่ากันก็จะมคี ่าไม่เท่ากัน แต่หากมีจานวนหลกั เท่ากันให้เปรียบเทียบเลขโดดท้างซ้ายมอื สุดก่อน ถ้า
เลขโดดในหลักดังกล่าวของจานวนใดมากกว่า จานวนน้ันจะมีค่ามากกว่า ถ้าเลขโดดในหลักดังกล่าวเท่ากัน ให้
เปรียบเทียบเลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือทีละหลัก ซึ่งเม่ือนามาเปรียบเทียบกันอาจมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
โดยมเี ครื่องหมาย > และ < แสดงการเปรยี บเทยี บ
ฝึกทักษะ
1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเดิม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน” ในหนังสือเรียน
คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 20 จากน้ันครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาเฉลยคาตอบ ครูและ
นักเรยี นทเี่ หลอื ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทาใบงาน 1.3 เร่ือง การเปรียบเทียบจานวน เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอ
หนา้ ช้นั เรียน โดยครแู ละนกั เรยี นที่เหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
ชัว่ โมงที่ 3
สอน
1. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เกี่ยวกับการเปรียบเทียบจานวนท่ีได้เรียนมาแล้วในชั่วโมงก่อนหน้าโดย
การเขียนจานวนบนกระดาน จากนั้นสุ่มนักเรียนออกมาเขียนเครื่องหมายแสดงการเปรียบเทียบจานวน ครูและ
นักเรยี นทีเ่ หลือรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูให้นักเรียนพิจารณารูปตัวหนอนจากหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 16 ซ่ึงมีเคร่ืองหมายแสดง
การเปรียบเทียบที่ประกอบด้วย = > < และ โดยสุ่มนักเรียนออกมาอธิบายการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ
เหลา่ น้ี เพ่ือเป็นการตรวจสอบความเข้าใจ
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วพิจารณาการเปรียบเทียบจานวน
เงินของสมศรีและสมคิด ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 16 จากน้ันครูต้ังคาถามกระตุ้นความคิด
นักเรยี น ดงั น้ี
จากสถานการณ์ดังกลา่ วจานวนเงนิ ของสมศรีและจานวนเงินของสมคิดมีกี่หลัก
(แนวตอบ สมศรมี ีเงิน 35,258 บาท เปน็ จานวนท่มี หี ้าหลัก และสมคดิ มเี งิน 6,425 บาท เปน็ จานวนทม่ี ีส่หี ลัก)
เลขโดดตวั แรกของจานวนท้ังสองอยู่ในหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 35,258 มี 3 อยูใ่ นหลกั หม่ืน และ 6,425 มี 6 อย่ใู นหลกั พนั )
จานวนเงินของใครมีค่าน้อยกวา่
(แนวตอบ สมคดิ )
น้อยกว่าสามารถเขียนแทนดว้ ยเครื่องหมายใด
(แนวตอบ <)
4. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมพิจารณาการเปรียบเทียบระยะทางระหว่างรถที่คุณพ่อกับคุณแม่ขับ ในหนังสือเรียน
คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 2 หน้า 18 จากน้นั ครตู งั้ คาถามกระตุ้นความคดิ นักเรียน ดังนี้
จากสถานการณด์ ังกลา่ วระยะทางที่คุณพ่อขบั รถและระยะทางทค่ี ุณแม่ขบั รถเป็นจานวนท่มี กี ี่หลกั
(แนวตอบ ระยะทางทค่ี ุณพ่อขบั รถ คือ 23,408 กิโลเมตร เปน็ จานวนทมี่ ีหา้ หลกั และระยะทางที่คุณแม่
ขบั รถ คือ 8,443 กโิ ลเมตร เปน็ จานวนที่มีส่ีหลัก)
เลขโดดตัวแรกของจานวนท้งั สองอยู่ในหลักใดบ้าง
(แนวตอบ 23,408 มี 2 อย่ใู นหลักหมื่น และ 8,443 มี 8 อยู่ในหลกั พนั )
ใครขบั รถได้ระยะทางมากกว่ากนั
(แนวตอบ คุณพ่อ)
มากกว่า สามารถเขยี นแทนด้วยเครอ่ื งหมายใด
(แนวตอบ >)
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกบั การเปรียบเทียบจานวนไดว้ า่ “การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวน
ทีม่ จี านวนหลักไม่เทา่ กนั จานวนใดมีหลักมากกว่าจานวนน้ันจะมีค่ามากกว่า”
ฝกึ ทักษะ ชว่ั โมงท่ี 4
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากน้ันครูทบทวนเร่ืองการเปรียบเทียบจานวนสองจานวนเมื่อนามาเปรียบเทียบกันให้ดู
ที่จานวนหลักก่อน หากมีจานวนหลักไม่เท่ากันก็จะมีค่าไม่เท่ากัน แต่หากมีจานวนหลักเท่ากันให้เปรียบเทียบเลข
โดดท้างซ้ายมือสุดก่อน ถ้าเลขโดดในหลักดังกล่าวของจานวนใดมากกว่า จานวนน้ันจะมีค่ามากกว่า ถ้าเลขโดดใน
หลักดังกล่าวเท่ากัน ให้เปรียบเทียบเลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือทีละหลัก ซึ่งเม่ือนามาเปรียบเทียบกันอาจ
เทา่ กนั หรอื ไม่เท่ากัน หรือมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าโดยมเี คร่ืองหมาย =, ≠, > และ < แสดงการเปรียบเทยี บ
2. ครใู หน้ กั เรียนจับคกู่ ัน จากนั้นทากจิ กรรมพฒั นาความรู้ในหนังสือเรยี น คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 20
3. ครูสอบถามนักเรียนว่าจากการทากิจกรรมพัฒนาความรู้ใครเป็นผู้ชนะบ้าง โดยให้นักเรียนที่ชนะยกมือ ครูกล่าว
ชมเชย และใหน้ ักเรยี นรว่ มกันปรบมือใหผ้ ชู้ นะ
4. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้ร่วมกันทากิจกรรมฝึกทักษะ
จากหนังสอื เรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 21 เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยครู
และนกั เรียนท่ีเหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง
ข้ันสรปุ
สรุป
1. ครูตดิ แถบประโยคบนกระดานใหน้ กั เรยี นอา่ นพร้อมกัน
นภิ าต้องการซ้ือโทรศัพท์มือถือราคาเครื่องละ 34,500 บาท
กานดาต้องการซ้ือโทรศัพท์มือถือราคาเครอ่ื งละ 48,900 บาท
อบา้ นราคาหลังละ 10,552,500 บาท
2. ครูตั้งคาถามกระตุ้นความคิด แล้วสุม่ ใหน้ ักเรียนตอบคาถาม เช่น
ใครต้องการซ้ือโทรศพั ท์มือถือในราคาท่ีแพงกวา่ และซ้ือในราคาก่ีบาท
(แนวตอบ กานดาต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือราคาเครื่องละ 48,900 บาท)
ถา้ นิภามีเงนิ 10,000 บาท เพยี งพอท่จี ะซ้ือโทรศัพท์ทีต่ ้องการไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด
(แนวตอบ ไมเ่ พยี งพอ เพราะจานวนเงนิ ที่มนี อ้ ยกว่าราคาโทรศพั ท์มือถือ)
ถา้ กานดามเี งนิ 100,000 บาท เพียงพอท่จี ะซื้อโทรศัพท์ที่ต้องการไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด
(แนวตอบ เพียงพอ เพราะจานวนเงนิ ทม่ี ีมากกว่าราคาโทรศัพท์มือถอื )
3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้เร่ือง การเปรียบเทียบจานวนนับทั้งกรณีที่จานวนทั้งสองมีจานวน
หลักไมเ่ ท่ากัน และกรณที ่ีจานวนทงั้ สองมีจานวนหลักเท่ากนั
4. ครูสรปุ สาระสาคัญว่า “จานวนนับไม่เกิน 100,000 สามารถนามาเปรยี บเทียบกันได้ โดยมีค่าเทา่ กันหรอื ไม่เท่ากัน
และค่าไม่เท่ากันอาจมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่ากันอย่างใดอย่างหน่ึงเท่าน้ัน โดยใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < แสดง
การเปรียบเทียบ”
5. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล
7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวดั - ตรวจใบงานที่ 1.3 - ใบงานที่ 1.3 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินระหว่างการจดั - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) การเปรียบเทียบ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน
จานวน ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์
กจิ กรรม
2) การนาเสนอ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น
ผลงาน/ผลการทา การทางานรายบคุ คล
กจิ กรรม พฤตกิ รรม เกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม
3) พฤตกิ รรมการ การทางานกลมุ่ การทางานรายบุคคล
ทางานรายบคุ คล
- สงั เกตความมวี ินัย - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น
4) พฤติกรรม ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั
การทางานกลมุ่ ในการทางาน พฤตกิ รรม เกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ การทางานกลุ่ม
อนั พึงประสงค์
- แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน
คณุ ลักษณะ เกณฑ์
อนั พึงประสงค์
8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หน่วยที่ 1 จานวนนับไม่เกิน 100,000
2) หนังสือแบบฝกึ หัด คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หน่วยที่ 1 จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000
3) ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง การเปรียบเทียบจานวน
4) บตั รภาพอมย้ิม
5) บัตรตัวเลข
6) แถบประโยค
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- ห้องเรียน
ใบงานที่ 1.3
เรอ่ื ง การเปรยี บเทยี บจานวน
คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ตามที่กาหนด
1. เปรียบเทียบจานวนโดยใสเ่ ครื่องหมาย = > หรือ < ในชอ่ งวา่ ง
1 5,821 5,812 2 75,411 75,411
73,519
3 34,621 34,216 4 37,628
5 57,614 67,328 6 47,966 47,965
2. เขยี น รอบจานวนที่ทาให้การเปรียบเทียบต่อไปนี้เปน็ จริง
6,741 < 13,617 <
5,217 6,712 8,894 12,617 13,761 18,892
90,000 > 100,000 13,617 < 35,540
95,421 87,999 12,521 13,617
3. เตมิ คาตอบลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ต้อง 5) __________ < ____________
6) __________ = ____________
1) __________ < 59,211 7) __________ ____________
2) 17,366 > __________ 8) __________ > ____________
3) 76,080 = __________
4) __________ 47,136
ใบงานที่ 1.3 เฉลย
เรือ่ ง การเปรยี บเทยี บจานวน
คาช้แี จง : ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดตามที่กาหนด
1. เปรียบเทยี บจานวนโดยใส่เครือ่ งหมาย = > หรือ < ในชอ่ งวา่ ง
1 5,821 > 5,812 2 75,411 = 75,411
3 34,621 > 34,216 4 37,628 < 73,519
5 57,614 < 67,328 6 47,966 > 47,965
2. เขยี น รอบจานวนท่ที าใหก้ ารเปรยี บเทยี บต่อไปน้ีเป็นจรงิ
6,741 < 8,894 13,617 < 12,617
5,217 6,712 8,894 12,617 13,761 18,892
90,000 > 87,999 13,617 < 35,540
95,421 87,999 100,000 12,521 13,617 35,540
3. เตมิ คาตอบลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง 5) __________ < ____________
6) __________ = ____________
1) __________ < 59,211 7) __________ ____________
2) 17,366 > __________ 8) __________ > ____________
3) 76,080 = __________
4) __________ 47,136
บตั รภาพอมย้มิ 7,981
27,156
47,008 48,394
100,000 5,000
บตั รตวั เลข 9,756
23,806
89,765 61,567
23,806 5,124
60,467 98,211
45,987
23,145
แถบประโยค
นภิ าตอ้ งการซ้อื โทรศัพทม์ ือถอื ราคาเคร่อื งละ 34,500 บาท
กานดาต้องการซอื้ โทรศัพทม์ อื ถอื ราคาเครื่องละ 48,900 บาท
บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ผลการเรียนรู้ท่เี กิดขึ้นกับผ้เู รียน
1.1 ผเู้ รยี นผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
1.2 ผู้เรียนไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน
ไดแ้ ก่
................................................................................................................... ..................................................
สาเหตุ
....................................................................................................... ……………………………………………………
1.3 ผู้เรียนได้รบั ความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม
:...................................................................................................... ………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................... ................
…………….………………………................................................................................................... ..........................................
ลงชอื่ ........................................ผู้สอน
(นางสาวพรรัตน์ จันทร์คา)
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 เวลาเรียน3 ชั่วโมง
เวลา ……………………………
เรือ่ ง การเรยี งลาดับจานวน
ชอื่ ผ้สู อน นางสาวพรรตั น์ จนั ทรค์ า วนั ที่ ........................................
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
ค 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทียบและเรียงลาดับจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 จากสถานการณต์ า่ งๆ
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายหลกั การเรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ (K)
2) เขียนแสดงการเรียงลาดบั จานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ถกู ต้อง (P)
3) นาความร้เู กีย่ วกับการเรยี งลาดบั จานวนไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่
พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
การเรยี งลาดับจานวนสาระการเรียนรแู้ กนกลาง
การเปรียบเทยี บและเรียงลาดบั
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียงลาดับจานวนหลาย ๆ จานวน ทาได้โดยการเปรยี บเทียบจานวนทุก ๆ จานวน แล้วเรียงลาดบั จานวน
จากน้อยไปมาก หรอื จากมากไปนอ้ ย
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
2) ทักษะการเปรยี บเทยี บ
3) ทกั ษะการเรยี งลาดบั
4) ทักษะให้เหตผุ ล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้
(5Es Instructional Model)
ชั่วโมงที่ 1
ขัน้ นา
กระต้นุ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทบทวนเร่ืองการเปรียบเทียบจานวน โดยนาบัตรตัวเลขแสดงจานวน มาให้นักเรียนดูทีละคู่ แล้วให้นักเรียน
ชว่ ยกันเปรยี บเทียบว่า บตั รตัวเลขแสดงจานวนใดมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน (2-3 ตัวอยา่ ง)
2. ครูเขียนตัวเลขบนกระดานทีละคู่ แล้วให้นักเรียนช่วยกันเปรียบเทียบว่าจานวนใดมีค่ามากกว่าหรือ
น้อยกว่ากนั โดยใชเ้ คร่อื งหมาย < หรอื > ดงั น้ี
8,901 กบั 8,910
(แนวตอบ 8,901 < 8,910)
12,456 กับ 35,901
(แนวตอบ 12,456 < 35,901)
99,999 กบั 100,000
(แนวตอบ 99,999 < 100,000)
3. ครูเขียนตวั เลข 56,000 บนกระดาน แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบคาถาม ดังนี้
จานวนใดบา้ งทมี่ ีคา่ น้อยกวา่ 56,000
(แนวตอบ เชน่ 51,000 , 52,000 , 53,000 , 54,000 , 55,000)
จานวนใดบ้างทมี่ ีคา่ มากกวา่ 56,000
(แนวตอบ เชน่ 57,000 , 58,000 , 59,000 , 60,000 , 70,000)
4. ครูถามนักเรียนว่า จากท่ีเราเรียนเร่ืองการเปรียบเทียบจานวนในชั่วโมงก่อนและกิจกรรมท่ีเราทาก่อนหน้านี้
นักเรยี นคิดว่า เราสามารถเรียงลาดบั จานวนได้หรือไม่ และเราจะมีวธิ ใี ดบา้ งในการเรยี งลาดบั จานวน
ข้ันสอน
สารวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนร่วมกันพิจารณาคาถามมุมขวาบนในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 22
โดยให้ตัวเลขมาหนึ่งชุดประกอบด้วย 422 385 127 985 และ 226 จากน้ันให้เรียงลาดับจานวนชุดน้ีจากน้อยไป
มาก วา่ เรยี งไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ 127 226 385 422 985)