2. ครูนาบัตรตัวเลข 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 ขึ้นมา จากนั้นกล่าวกับนักเรียนว่า ถ้าต้องการ
เรยี งลาดับบตั รตวั เลขเหล่านี้ จะสามารถเรียงลาดับได้ในลักษณะใดบ้าง
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นแจกใบงานท่ี 1.4 เรื่อง
การเรียงลาดับจานวน และบัตรตัวเลข 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 แล้วให้นักเรียนอ่านคา
ชีแ้ จงพร้อมกันเพื่อใหน้ กั เรียนเข้าใจตรงกนั
4. ครใู หแ้ ตล่ ะกลุ่มทากจิ กรรมโดยครูตง้ั คาถามกระตนุ้ ความคิดให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันตอบ ดังนี้
นักเรียนสามารถเรียงลาดับจานวนในบัตรตัวเลข 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 ลักษณะใด
ไดบ้ ้าง
(แนวตอบ สามารถเรียงลาดับจานวนท่ีมีค่าน้อยไปมาก และจานวนทีม่ คี ่ามากไปน้อย)
จานวนที่นอ้ ยทสี่ ดุ คือจานวนใด จานวนทม่ี ากที่สุดคือจานวนใด
(แนวตอบ จานวนทน่ี ้อยท่สี ุด คอื 3,489 และจานวนท่มี คี ่ามากที่สุด คือ 89,011)
นักเรยี นสามารถนาเรื่องการเปรียบเทียบจานวนมาใช้ในการเรยี งลาดับได้หรือไม่ อย่างไร
(แนวตอบ ได้ โดยการเปรียบเทยี บจานวนทลี ะคู่ทุกคู่ จากนน้ั นามาเรยี งลาดับจานวน)
5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับการเรียงลาดับจานวนว่า “สามารถเรียงลาดับจานวนจากจานวนที่มีค่า
นอ้ ยไปหาจานวนที่มคี ่ามากและการเรยี งลาดบั จานวนจากจานวนที่มีค่ามากไปหาจานวนที่มคี ่าน้อย”
ชัว่ โมงท่ี 2
อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เร่ืองการเรียงลาดับจานวนว่าสามารถเรียงลาดับจากจานวนที่มีค่าน้อยไปหา
จานวนที่มีค่ามากและการเรียงลาดับจานวนจากจานวนท่ีมีค่ามากไปหาจานวนท่ีมีค่าน้อยโดยการเขียนจานวนบน
กระดานหนงึ่ ชุดประกอบด้วย 32,586 47,195 27,171 98,000 แลว้ ครูตง้ั คาถามกระต้นุ ความคิด ดงั น้ี
นกั เรยี นสามารถเรยี งลาดบั จานวน 32,586 47,195 27,171 98,000 ในลักษณะใดไดบ้ า้ ง
(แนวตอบ สามารถเรยี งจานวนท่ีมคี า่ นอ้ ยไปหาจานวนที่มคี ่ามาก และจานวนที่มีคา่ มากไปหาจานวนทม่ี ีคา่ นอ้ ย)
จานวนทน่ี ้อยทีส่ ุดคือจานวนใด จานวนที่มากทสี่ ุดคือจานวนใด
(แนวตอบ จานวนที่น้อยท่ีสดุ คือ 27,171 และจานวนทีม่ คี ่ามากทส่ี ดุ คือ 98,000)
นกั เรยี นสามารถนาเร่ืองการเปรียบเทียบจานวนมาใช้ในการเรียงลาดับได้หรือไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ ได้ โดยการเปรียบเทียบจานวนทีละคูท่ ุกคู่ จากนั้นนามาเรยี งลาดับจานวน)
2. ครูให้นักเรียนร่วมกันพิจารณาเงินของคนท้ัง 3 คน ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 22 จากน้ันครูต้ัง
คาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนวา่ “นักเรียนคิดวา่ ใครมีเงินมากท่สี ุดและใครมีเงินน้อยท่ีสุด”
หมายเหตุ : ครูจะเฉลยท้ายช่วั โมงเรียน
3. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมจากช่ัวโมงที่แล้ว ร่วมกันศึกษาเรื่องการเรียงลาดับจานวนในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์
ป.3 เล่ม 1 หน้า 22-23 ให้เวลา 5-10 นาที
4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอใบงาน 1.4 ท่ีได้ทาในช่ัวโมงที่แล้ว โดยกลุ่มที่เหลือช่วยกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง และครูกระต้นุ ให้นักเรียนรว่ มกันตอบคาถามในประเด็นต่อไปนี้
นักเรยี นมีวิธีการเรียงลาดบั จานวน 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
(แนวตอบ เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ย)
ทาไมนักเรยี นจึงใช้วิธีคดิ นี้
(แนวตอบ วิธีคิดของนกั เรียน : ใชก้ ารเปรยี บเทยี บจานวนทลี ะคูแ่ ล้วนามาเรยี งลาดับ)
5. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า วิธีคิดของแต่ละกลุ่มถูกต้องหรือต้องปรับปรุงตรงไหนหรือไม่ จากนั้น
ครใู ห้นกั เรียนร่วมกันสรุปใบงานนี้วา่ เราสามารถเรียงลาดับบัตรตวั เลขในลักษณะใดไดบ้ ้าง
(แนวคาตอบ - เรียงลาดับจากน้อยไปมาก ไดด้ ังน้ี 3,489 23,456 55,324 67,982 89,011)
- เรียงลาดบั จากมากไปน้อย ได้ดังนี้ 89,011 67,982 55,324 23,456 3,489)
6. ครูอธิบายจากตัวอย่างข้างต้น โดยนาเร่ืองเส้นจานวนมาช่วยในการเรียงลาดับ ว่าจากเส้นจานวน จะเห็นว่า
จานวนท่อี ยู่ทางซา้ ยมือจะมีค่าน้อยกว่าจานวนที่อยู่ทางขวามือเสมอ
7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รายและสรุปเร่ืองการเรียงลาดบั จานวนจากมากไปน้อยและจากน้อยไปมาก
ชว่ั โมงท่ี 3
ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. ครูกล่าวทักทายและทบทวนนักเรียนเกี่ยวกับความรู้เร่ืองการเรียงลาดับจานวนโดยครูเขียนจานวนนับไม่เกิน
100,000 บนกระดาน 4-5 จานวน จากน้ันสุ่มนักเรียนออกมาเรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย และจากน้อยไป
มาก ครแู ละนักเรยี นท่ีเหลอื ตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ทากิจกรรมพัฒนาความรู้ ใน
หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 24 จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้น
เรียน โดยกลุ่มทเ่ี หลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูนาบัตรภาพแสดงจานวนผลผลิตของเกษตรกร 4 รูป มาติดบนกระดาน แล้วสุ่มนักเรียนออกมา 2 คน เขียน
จานวนท่ีมีค่ามากท่ีสุด และจานวนที่มีค่าน้อยท่ีสุด บนกระดาน จากนั้นครูให้นักเรียนตัวแทนอีก 2 คน ออกมา
เขียนเรียงลาดับจานวนดังกล่าวจากมากไปน้อย และจากน้อยไปมาก ครูและนักเรียนที่เหลือช่วยกันตรวจสอบ
ความถูกต้อง
4. ครูให้นักเรียนฝึกเรียงลาดับจานวน 3 จานวน 4 จานวน และ 5 จานวนตามลาดับ จนนักเรียนสามารถเรียงลาดับ
ได้คล่อง โดยครูแนะนาให้นักเรียนพิจารณาจากการเปรียบเทียบจานวนเป็นคู่ ๆ (ครูเป็นคนเขียนจานวนบน
กระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เรียงลาดับจานวนเหล่านั้นจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อย)
5. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม “เพ่ือนช่วยเพื่อน” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 24 ลงในสมุด
เมอื่ นักเรียนทากิจกรรมเสรจ็ แล้วครูขออาสาสมัครนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน โดยนักเรยี นที่เหลือ
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นสรปุ
ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญเก่ียวกับการเรียงลาดับจานวนว่า “การเรียงลาดับจานวนหลาย ๆ จานวน
ทาได้โดยการเปรียบเทียบจานวนทุก ๆ จานวน แลว้ เรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมาก หรือจากมากไปน้อย”
2. ครูทบทวนคาถามเดิมจากแผนการเรียนรู้ที่ 1 โดยให้ดูภาพคน 3 คน จาหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1
หน้า 1 ซึ่งถามว่า “ใครมีเงินฝากธนาคารมากที่สุด และเรียงลาดับจานวนเงินจากมากไปน้อยได้อย่างไร” โดยขอ
อาสาสมคั รนักเรียนออกมาตอบคาถาม
(แนวตอบ พรเทพมีเงินฝากมากที่สุด โดยสามารถเรียงจานวนเงินฝากของจากมากไปหาน้อยได้เป็น พรเทพ รัชนี
และนิธิศ ตามลาดับ)
2. ครูให้นักเรยี นกลุ่มเดมิ ร่วมกันทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 25 เม่ือนกั เรียน
ทากิจกรรมเสร็จแล้วครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน โดยนักเรียนท่ีเหลือช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคาถามจาก “กรอบความรู้ที่ได้” ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 25
จากนน้ั ครเู ฉลยคาตอบ
4. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทากิจกรรม “สนุกคิดสนุกทา” ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 26
จากน้ันครูสุ่มนักเรียนออกมาบางกลุ่ม เพ่ือนาเสนอผลงานในกลุ่มของตนเอง โดยครูและนักเรียนท่ีเหลือร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
5. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคาถามจากกิจกรรม “คาถามท้าทายการคิดข้ันสูง”และ“เชื่อมโยงสู่ชีวิตประจาวัน” ใน
หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 27 จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ
6. ครูให้นักเรียนทาช้ินงานสมุดเล่มเล็ก โดยตัดภาพสินค้าจากนิตยสารหรือใบปลิวต่าง ๆ จากน้ันนามาติดเรียงลาดับ
ราคาสินคา้ อย่างน้อย 10 ชนดิ
7. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเปน็ รายบุคคล
8. ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่ือง จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000
7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจสมดุ เล่มเลก็ ตดิ - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น
รายการวดั
7.1 การประเมินช้ินงาน/ ภาพเรยี งลาดับราคา ช้นิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์
สนิ คา้
ภาระงาน (รวบยอด) - ใบงานที่ 1.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานท่ี 1.4 - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.2 ประเมินระหว่างการ - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ การ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
1) การเรยี งลาดับ - ประเมนิ การนาเสนอ
จานวน นาเสนอผลงาน เกณฑ์
ผลงาน/ผลการทา
2) การนาเสนอ กิจกรรม - แบบสงั เกต - ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น
ผลงาน/ผลการทา - สงั เกตพฤติกรรม
กจิ กรรม การทางานรายบคุ คล พฤตกิ รรม เกณฑ์
3) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล
ทางานรายบคุ คล การทางานกล่มุ
- แบบสังเกต - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน
4) พฤติกรรม - สังเกตความมวี นิ ยั
การทางานกลุม่ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ ม่ัน พฤติกรรม เกณฑ์
ในการทางาน
5) คุณลักษณะ การทางานกล่มุ
อันพึงประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรยี น - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น
7.3 การประเมินหลงั เรยี น
- แบบทดสอบหลัง คุณลกั ษณะ เกณฑ์
เรยี น หน่วยการ
เรียนรูท้ ี่ 1 อนั พึงประสงค์
จานวนนับไมเ่ กนิ
100,000 - แบบทดสอบหลงั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เรียน
8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน คณิตศาสตร์ ป. 3 เล่ม 1 หน่วยที่ 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000
2) หนงั สอื แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หน่วยที่ 1 จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000
3) ใบงานที่ 1.4 เรอ่ื ง การเรียงลาดบั จานวน
4) บตั รตวั เลข
5) บตั รภาพ
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
- หอ้ งเรียน
ใบงานท่ี 1.4
เรือ่ ง การเรียงลาดับจานวน
คาช้แี จง : ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เรยี งลาดับบตั รตวั เลข 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 ตามแนวคดิ ของ
กล่มุ โดยให้เขยี นอธิบายวธิ ีคิดหรอื วาดรูปแสดงวธิ ีคิดลงในกระดาษคาตอบ
วธิ คี ิด
ใบงานท่ี 1.4 เฉลย
เรือ่ ง การเรียงลาดับจานวน
คาชีแ้ จง : ให้แต่ละกลุ่มเรยี งลาดบั บัตรตวั เลข 23,456 89,011 67,982 55,324 3,489 ตามแนวคดิ ของ
กลมุ่ โดยให้เขยี นอธิบายวิธคี ดิ หรอื วาดรูปแสดงวธิ ีคิดลงในกระดาษคาตอบ
- เรยี งลาดบั จากน้อยไปมาก ไดด้ งั นี้
3,489 23,456 55,324 67,982 89,011
- เรียงลาดับจากมากไปน้อย ได้ดังนี้
89,011 67,982 55,324 23,456 3,489
วธิ ีคดิ
บตั รภาพ ถั่วชิกพีหรอื ถวั่ ลกู ไก่ จานวน 42,456 ตนั
ถวั่ เขยี ว จานวน 67,000 ตนั
ถว่ั เหลอื ง จานวน 98,564 ตนั ถั่วแดง จานวน 54,912 ตนั
บันทึกผลหลงั กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้ท่เี กิดขึ้นกับผเู้ รียน
1.1 ผเู้ รยี นผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน...................คน คิดเป็นร้อยละ..................
1.2 ผู้เรียนไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน
ไดแ้ ก่
................................................................................................................... ..................................................
สาเหตุ
....................................................................................................... ……………………………………………………
1.3 ผู้เรียนได้รบั ความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม
:...................................................................................................... ………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
................................................................................................. ......................................................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ........................................ผ้สู อน
(นางสาวพรรตั น์ จันทร์คา)