หน่วยท่ี 1 : ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
1 ตวั ประกอบของจำนวนนับ 2 กำรแยกตัวประกอบของจำนวนนับ
3 กำรหำ ห.ร.ม. 4 กำรหำ ค.ร.น.
5 กำรแก้โจทย์ปัญหำเก่ียวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
1 ตัวประกอบของจำนวนนั บบอกชนดิ และสมบตั ขิ องรูปสามเหล่ียม
จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
เน้ื อหำน้ี สอนเพบอก่ือชนดิเแลปะสม็นบตั ิขอคงรูปสวามเหำล่ียมม รูพ้ ้ืนฐำน
ในกำรเรยี นเรอื่ งกำรหำ ห.ร.ม. และ
ค.ร.น. ของจำนวนนับ
ตวั ประกอบของจำนวนนับ
หมำยถึง จำนวนนับท่หี ำร
จำนวนนั บนั้ นได้ลงตัว บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
หำตวั ประกอบทั้งหมดของ 12
วิธคี ิด จำนวนนั บทหี่ ำร 12 ไดล้ งตวั ไดแ้ ก่ 12 ÷ 1 = 12 ข้อสั งเกต
12 ÷ 2 = 6 12 = 1 x 12
12 ÷ 3 = 4 12 = 2 x 6
12 = 3 x 4
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองงรรูป1ูปส2สาามม÷เเหหลล่ีย4่ียมม = 3
12 ÷ 6 = 2 เทคนิ คกำรหำตัวประกอบ
12 ÷ 12 = 1 จะเห็นวำ่ ถ้ำท่องสตู รคูณได้
คลอ่ ง ก็จะหำตัวประกอบ
ดงั นั้น ตัวประกอบทงั้ หมดของ 12 ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 4, 6 และ 12 ของจำนวนนั บได้
ตอบ 1, 2, 3, 4, 6 และ 12 ดังนั้น ควรหมนั่ ทอ่ งสตู รคูณ
อยำ่ งสดม่ำเสมอ
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.2 หน้ำ 5 - 7
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
จำนวนเฉพำะ
คือ จำนวนนับทม่ี ำกกวำ่ 1 และมี
ตัวประกอบเพียงสอบบงออกกชตชนนดิ ิดัวแแลละคะสสมมือบบตัตั ขิ ขิ ออ1งงรรูปูปสแสาามมลเเหหลล่ะีย่ียมมตวั มันเอง
จำนวนเฉพำะ
คือ จำนวนนับทีม่ ำกกวำ่ 1 และมี
ตวั ประกอบเพียงสอบบงออกกชตชนนดิ ดิ วัแแลละคะสสมมือบบตัตั ขิ ิขออ1งงรรูปูปสแสาามมลเเหหลล่ะีย่ียมมตัวมนั เอง
17 เป็นจำนวนเฉพำะ เพรำะ มีตัวประกอบเพียง 2 จำนวน คือ 1 และ 17
25 ไม่เป็นจำนวนเฉพำะ เพรำะ มตี วั ประกอบมำกกวำ่ 2 จำนวน ไดแ้ ก่ 1, 5 และ 25
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตงั้ แต่ 1 - 100
ใบงำนวิชำคณิ ตศำสตร์ ป.6บบออกกชชนนิดิดแแลละะสสมมบบตัตั ขิ ขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
เรอื่ ง จำนวนเฉพำะ
(อยใู่ นชุดใบงำนวชิ ำคณิตศำสตร์ ป.6)
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตงั้ แต่ 1 - 100
X XXXX
XXXXX
X X X X X หำจำนวนเฉพำะทลี ะขั้นตอน
X X X บบออกกชชนนดิ ดิ แแลละะXสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม - ตดั 1 ออก
X X X X X - เลอื ก 2 เป็นจำนวนเฉพำะ
X X X X X ดงั นั้น ตัดพหุคูณของสอง
X X X X X (เลขคู่) ออก
XXXXX
XXXXX
XXXXX
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
X X X XXX
X XXX X X หำจำนวนเฉพำะทลี ะขั้นตอน
- เลอื ก 3 เป็นจำนวนเฉพำะ
X X X XXX X ดงั นั้น ตัดพหุคุณของสำม
ออก
XXX X บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะXสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงXรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม
X XXX X X
X X X XXX X
XXX X XXX
X XX X X X
X X X XXX X
XXX X XX X
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
X X X XXX
X XXX X X หำจำนวนเฉพำะทลี ะขั้นตอน
- เลอื ก 5 เป็นจำนวนเฉพำะ
XX XX X XX X ดงั นั้น ตดั พหุคุณของห้ำออก
X X X X X บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะXสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองงXรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม
X XXX X X
XX XX XX X X
XX XX X XXX
X XX X X X
XX XXXX X X
XX XX X XX X
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
X X X XXX
X XXX X X หำจำนวนเฉพำะทลี ะขั้นตอน
- เลือก 7 เป็นจำนวนเฉพำะ
XX XX X XX X ดงั นั้น ตดั พหุคุณของเจด็ ออก
X X X X X บบออกกชชนนดิ ดิ แแลละะXสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงXรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม
X XXX XXX
XX XX XX X X
XX XX X XXX
X XX XX X X
XX XXXX X X
X XX XX X XX X
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
X X X XXX
X XXX X X หำจำนวนเฉพำะทลี ะขั้นตอน
- วงกลมลอ้ มรอบจำนวนนับ
XX XX X XX X ทเี่ หลือ
X X X X X บบออกกชชนนิดิดแแลละะXสสมมบบตั ตั ขิ ขิ อองงXรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม
X XXX XXX
XX XX XX X X
XX XX X XXX
X XX XX X X
XX XXXX X X
X XX XX X XX X
กจิ กรรมตำมหำจำนวนเฉพำะ ตัง้ แต่ 1 - 100
X X X XXX
X XXX X X
XX XX X XX X จำนวนเฉพำะตงั้ แต่ 1 - 100
มี 25 จำนวน ไดแ้ ก่
X X X X X บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะXสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองงXรรูปูปสสาามมเเหหลXล่ีย่ียมม 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19, 23,
29, 31, 37, 41, 43, 47, 53,
X XXX XXX 59, 61, 67, 71, 73, 79, 83,
89, 97
XX XX XX X X
XX XX X XXX
X XX XX X X
XX XXXX X X
X XX XX X XX X
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.3 หน้ำ 8 - 9
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
ตัวประกอบเฉพำะ
คือ ตัวประกอบทเ่ี ป็นจำนวนเฉพำะ
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
หำตวั ประกอบเฉพำะของ 20
วธิ คี ิด ตวั ประกอบของ 20 ไดแ้ ก่ 1, 2, 4, 5, 10, 20
ตวั ประกอบทเ่ี ป็นจำนวนเฉพำะของ 20 ไดแ้ ก่ 2 และ 5
ดงั นั้น ตัวประกอบเฉพำะของ 20 คือ 2 และ 5
ตัวประกอบเฉพำะ
ตวั ประกอบเฉพำะ คือ ตัวประกอบทเี่ ป็นจำนวนเฉพำะ
บบออกกชชนนดิ ดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
หำตัวประกอบเฉพำะของ 42
วิธคี ิด ตัวประกอบของ 42 ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 6, 7, 14, 21, 42
ตัวประกอบทเ่ี ป็นจำนวนเฉพำะของ 42 ไดแ้ ก่ 2, 3 และ 7
ดงั นั้น ตัวประกอบเฉพำะของ 42 คือ 2, 3 และ 7
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.4 หน้ำ 10 - 11
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
2 กำรแยกตบอัวกชนิดปและสรมบตั ะิของกรูปสาอมเหลบ่ียม ของจำนวนนั บ
จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
เน้ื อหำน้ี สอนเพบอก่ือชนดิเแลปะสม็นบตั ิขอคงรูปสวามเหำล่ียมม รูพ้ ้ืนฐำน
ในกำรเรยี นเรอื่ งกำรหำ ห.ร.ม. และ
ค.ร.น. ของจำนวนนับ
กำรแยกตวั ประกอบของจำนวนนับ
กำรแยกตัวประกอบของจำนวนนับใด ๆ คือ กำรเขียน
จำนวนนั้ นในรูปกำรคูณบบออกกกชชนนนัิดิดแแลละขะสสมมอบบตัตั งิขขิ อองงตรรูปูปสสวั าามมปเเหหลล่ียร่ียมมะกอบเฉพำะ
18 = 2 x 9 กำรแยกตวั ประกอบ เน่ื องจำก 9 ไม่ใช่จำนวนเฉพำะ
18 = 2 x 3 x 3 กำรแยกตวั ประกอบ
จงแยกตัวประกอบของ 48
วธิ ที ่ี 1 โดยใช้กำรคูณ
วิธที ำ 48 = 6 x 8 วธิ ที ำ 48
= 2 x 3 x 2 x 4 บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม 4 x 12
=2x3x2x2x2 หรอื 2x2 x 4x3
=2x2x2x2x3 2x2
ดงั นั้น 48 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 ดงั นั้น 48 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3
จงแยกตวั ประกอบของ 48
วิธที ี่ 2 โดยใช้กำรหำร : โดยนำตัวประกอบเฉพำะมำหำรจนไดผ้ ลหำรเป็นจำนวนเฉพำะ แลว้
เขียนจำนวนนับนั้นในรูปกำรณ์คณู ของตัวหำรทกุ จำนวนและผลหำรสดุ ทำ้ ย
วธิ ที ำ 2 48
2 24
บบออกกชชนนิดิดแแลละะสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
2 12
26
3 ผลหำรเป็นจำนวนเฉพำะ
ดงั นั้น 48 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3
จงแยกตวั ประกอบของ 132
วิธที ่ี 1 โดยใช้กำรคูณ วิธที ่ี 2 โดยใช้กำรหำร
วธิ ที ำ 132 = 11 x 12 วธิ ที ำ 2 132
= 11 x 3 x 4 บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม 2 66
3 33
= 11 x 3 x 2 x 2 หรอื
= 2 x 2 x 3 x 11 11
ดงั นั้น 132 = 2 x 2 x 3 x 11 ดงั นั้น 132 = 2 x 2 x 3 x 11
ตอบ 132 = 2 x 2 x 3 x 11
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.5 หน้ำ 12 - 15
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
3 กำรหำ ห.ร.ม.บอกชนดิ และสมบตั ิของรูปสามเหล่ียม
จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
นั กเรยี นสำมำรถ บอกชนดิ และสมบตั ิของรูปสามเหล่ียม
1) หำ ห.ร.ม. ของจำนวนนั บไมเ่ กิน
3 จำนวนได้
ตวั หำรรว่ มมำก (ห.ร.ม.)
จำนวนนับท่ีหำรจำนวนนับต้งั แต่ 2 จำนวนข้ึนไปได้ลงตวั
เรยี กว่ำ ตวั ประกอบรว่ ม หรอื ตวั หำรรว่ ม ของจำนวนนั บเหลำ่ นั้น
1 เป็นตัวประกอบรบบว่ ออกมกชชนนดิ ิดหแแลละระสสมมอื บบตัตั ขิ ิขตอองงรัวรูปูปสหสาามมำเเหหรลล่ีย่ียรมม ว่ ม ของจำนวนนั บทกุ จำนวน
ตัวหำรรว่ มท่ีมำกท่ีสดุ ใชอ้ กั ษรย่อ ห.ร.ม.
ตวั หำรรว่ มมำก (ห.ร.ม.) คือ จำนวนท่ีมีค่ำมำกท่ีสดุ ท่ไี ปหำร
จำนวนอ่นื ตงั้ แต่สองจำนวนข้ึนไปลงตัว หรอื ห.ร.ม. กค็ ือ ตวั หำรรว่ ม
ท่ีมำกท่สี ดุ นั่ นเอง
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำตวั หำรรว่ ม
จงหำ ห.ร.ม. ของ 15 และ 21 1) หำตัวประกอบของจำนวนนับ
2) หำตวั หำรรว่ ม
3) หำตวั หำรรว่ มทม่ี ำกที่สดุ
วธิ คี ิด ตวั ประกอบของบบออกก1ชชนน5ิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูไปูปสสดาามมแ้เเหหลลก่ีย่ียมม่ 1, 3, 5 และ 15
ตวั ประกอบของ 21 ได้แก่ 1, 3, 7 และ 21
ตวั หำรรว่ มของ 15 และ 21 ไดแ้ ก่ 1 และ 3
ตัวหำรรว่ มท่ีมำกท่ีสุดของ 15 และ 21 คือ 3
ดงั น้ัน ห.ร.ม. ของ 15 และ 21 คือ 3
ตอบ 3
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำตัวหำรรว่ ม
จงหำ ห.ร.ม. ของ 9 และ 14
วธิ คี ิด ตัวประกอบขอบบองอกกชชนนดิ ิดแแ9ลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาาไมมเดเหหลล่ียแ้่ียมมก่ 1, 3 และ 9
ตัวประกอบของ 14 ไดแ้ ก่ 1, 2 และ 7
ตวั หำรรว่ มของ 9 และ 14 ไดแ้ ก่ 1
ตวั หำรรว่ มท่ีมำกท่สี ดุ ของ 9 และ 14 คือ 1
ดงั น้ัน ห.ร.ม. ของ 9 และ 14 คือ 1
ตอบ 1
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำตัวหำรรว่ ม
จงหำ ห.ร.ม. ของ 8, 16 และ 24
วธิ คี ิด ตัวประกอบของ 8 ไดแ้ ก่ 1, 2, 4 และ 8
บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
ตัวประกอบของ 16 ไดแ้ ก่ 1, 2, 4, 8 และ 16
ตัวประกอบของ 24 ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12 และ 24
ตัวหำรรว่ มของ 8, 16 และ 24 ไดแ้ ก่ 1, 2, 4 และ 8
ตัวหำรรว่ มทม่ี ำกทสี่ ดุ ของ 8, 16 และ 24 คือ 8
ดงั นั้น ห.ร.ม. ของ 8, 16 และ 24 คือ 8
ตอบ 8
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.6 หน้ำ 16 - 18
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตวั ประกอบ
ข้ันตอนกำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตวั ประกอบ
1) แยกตัวประกอบของจำนวนนับท่กี ำหนดให้
2) พิจำรณำผลขอบบองอกกชกชนนิดดิ ำแแลลระะสสแมมบบยตั ตั ขิ ิขกอองงรตรูปูปสสวัาามมปเเหหลลร่ีย่ียมมะกอบในข้อ 1 วำ่ มจี ำนวน
ใดบ้ำงซดำ้ กันทกุ บรรทัด
3) นำจำนวนท่ีซำกนั ในข้อ 1 คูณกนั
4) ผลคูณท่ไี ดจ้ ำกข้อ 3 เป็น ห.ร.ม.
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตัวประกอบ
จงหำ ห.ร.ม. ของ 18 และ 24
วิธคี ิด 18 บบออก=กชชนนิดดิ แแ2ลละะสสxมมบบตั3ตั ขิ ิขอองงxรรูปูปสส3าามมเเหหลล่ีย่ียมม
24 = 2 x 2 x 2 x 3
ดงั น้ัน ห.ร.ม. ของ 18 และ 24 คือ 2 x 3 = 6
ตอบ 6
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตวั ประกอบ
จงหำ ห.ร.ม. ของ 24, 32 และ 40
วธิ คี ิด 24 = 2 x 2 x 2 x 3
บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
32 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2
40 = 2 x 2 x 2 x 5
ดังนั้น ห.ร.ม. ของ 24, 32 และ 40 คือ 2 x 2 x 2 = 8
ตอบ 8
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตัวประกอบ
จงหำ ห.ร.ม. ของ 9, 21 และ 25
วธิ คี ิด 9 = 3x3
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม ถำ้ ไม่มจี ำนวนทซี่ ำกนั ทกุ บรรทดั
ห.ร.ม. จะมีค่ำเทำ่ กบั 1
21 = 3 x 7
25 = 5 x 5
ดงั นั้ น ห.ร.ม. ของ 9, 21 และ 25 คือ 1
ตอบ 1
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรแยกตัวประกอบ
จงหำ ห.ร.ม. ของ 30, 75, 90 และ 135
วธิ คี ิด 30 = 2 x 3 x 5
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ิขิขอองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
75 = 3 x 5 x 5
90 = 2 x 3 x 3 x 5
135 = 3 x 3 x 3 x 5
ดงั น้ั น ห.ร.ม. ของ 30, 75, 90 และ 135 คือ 3 x 5 = 15
ตอบ 15
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.7 หน้ำ 19 - 21
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
ข้ันตอนกำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
1) นำจำนวนท้ังหมดท่ตี อ้ งกำรหำ ห.ร.ม. มำเขียนเรยี งกัน
บบออกกชชนนิดิดแแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
2) หำจำนวนท่สี ำมำรถหำรจำนวนทงั้ หมดไดล้ งตัวมำหำร
ไปเรอ่ื ย ๆ จนกว่ำไม่สำมำรถหำได้
3) นำตวั หำรทุกตวั ท่ีใช้มำคูณกนั ไดเ้ ป็น ห.ร.ม. ของ
จำนวนนับเหลำ่ น้ัน
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
จงหำ ห.ร.ม. ของ 20 และ 30 สำมำรถใชต้ ัวหำรรว่ มอนื่ ๆ
ทไี่ มใ่ ช่จำนวนเฉพำะในกำรหำรได้
วิธคี ิด 2 20 30 หรอื 20 30
10 2 3
นำเฉพำะตวั หำร บบออกกชชนนดิ ิดแแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
มำคูณกัน
5 10 15
23
ดงั น้ัน ห.ร.ม. ของ 20 และ 30 คือ 2 x 5 = 10
ตอบ 10
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
จงหำ ห.ร.ม. ของ 42, 70 และ 140
วิธคี ิด 2 42 70 140
บบออกกชชนนิดิดแแลละะสสมมบบตั ตั ิขขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
7 21 35 70
3 5 10 ต้องหำจำนวนทีห่ ำร
จำนวน ไดล้ งตวั
ดังน้ั น ห.ร.ม. ของ 42, 70 และ 140 คือ 2 x 7 = 14 ถำ้ หำไมไ่ ด้ ให้หยดุ หำร
ตอบ 14
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
จงหำ ห.ร.ม. ของ 85, 136 และ 187
วิธคี ิด 17 85 บบออกกช1ชนน3ดิ ดิ แแ6ลละะสสมมบบตั ตั ขิ ิขอองง1รรูปูป8สสาา7มมเเหหลล่ีย่ียมม
5 8 11
ดังน้ั น ห.ร.ม. ของ 85, 136 และ 187 คือ 17
ตอบ 17
กำรหำ ห.ร.ม. โดยกำรหำร
จงหำ ห.ร.ม. ของ 60, 90, 120 และ 150
วธิ คี ิด 10 60 90 120 150
บบออกกชชนนิดดิ แแลละะสสมมบบตั ตั ขิ ขิ อองงรรูปูปสสาามมเเหหลล่ีย่ียมม
3 6 9 12 15
23 45
ดังนั้ น ห.ร.ม. ของ 60, 90, 120 และ 150 คือ 10 x 3 = 30
ตอบ 30
ภำระงำน
แบบฝึกหัด 1.8 หน้ำ 22 - 23
ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแำละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(่ียมสสวท.) ป.6 เลม่ 1
4 กำรหำ ค.ร.น.บอกชนดิ และสมบตั ิของรูปสามเหล่ียม
จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
นั กเรยี นสำมำรถ บอกชนดิ และสมบตั ขิ องรูปสามเหล่ียม
1) หำ ค.ร.น. ของจำนวนนั บไม่เกิน
3 จำนวนได้
ผลคูณรว่ มท่นี ้อยท่สี ุด (ค.ร.น.)
พหุคูณของจำนวนนับใด เป็นผลคูณของจำนวนนับน้ัน ซ่งึ
สำมำรถหำรด้วยจำนวนนั บนั้ นได้ลงตัว
ผลคูณรว่ มของจำนวนบบออกกนชชนนัิดบดิ แแลลตะะสสมงั้มบบตัแตั ขิ ิขอตองงรรูปู่ปส2สาามมเจเหหลลำ่ีย่ียมมนวนข้ึนไป เป็นจำนวนนั บท่ี
หำรด้วยจำนวนนั บเหล่ำน้ันไดล้ งตวั
ผลคูณรว่ มท่นี ้อยท่สี ุด ใช้อักษรย่อ ค.ร.น.
ค.ร.น. ของจำนวนนับต้ังแต่ 2 จำนวนข้ึนไป หมำยถึง จำนวนนั บ
ท่นี ้อยท่ีสดุ ท่หี ำรดว้ ยจำนวนนับเหลำ่ นั้นไดล้ งตัว