The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 4 การคูณจำนวนไม่เกิน 100,000

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หน่วยที่ 4 การคูณจำนวนไม่เกิน 100,000

หน่วยที่ 4 การคูณจำนวนไม่เกิน 100,000

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

การคณู จานวนไม่เกิน 100,000

เวลา 17 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั

ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขึ้นจาก
การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคณู ของจานวน 1 หลักกบั จานวน
ไมเ่ กิน 4 หลัก และจานวน 2 หลกั กับ 2 หลกั
ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0

2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1) การคณู การหารยาวและหารสนั้
2) การแก้โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหา พร้อมทั้งหาคาตอบ

2.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น
(พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา)

3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

หลักในการคูณจานวนไม่เกนิ 100,000 คือให้คูณจานวนในหลกั หน่วยของตวั ตั้งก่อน แลว้ จึงคูณในหลักถัดไปทาง
ซ้ายมือของหลักหน่วยตามลาดับ หรือจากหลักทางขวามือไปทางซ้ายมือทีละหลัก หากมีทด ให้ทดไปยังหลักถัดไป
ทางซ้ายมือการสร้างโจทย์ปัญหาการคูณจะประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนท่ีโจทย์กาหนดให้และส่วนที่โจทย์ถาม
การแก้โจทย์ปัญหาการคูณมีข้ันตอนสาคัญคือ ทาความเข้าใจ และวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนในการแก้โจทย์
ปัญหา แกป้ ัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทกั ษะการเขยี น 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

2) ทักษะการสงั เกต

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
3) ทักษะการระบุ
4) ทกั ษะการเชื่อมโยง
5) ทักษะการให้เหตุผล
6) ทกั ษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา
7) ทักษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์
8) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

สร้างโจทย์ปัญหาการคูณจานวนไม่เกิน 100,000 โดยหารูปภาพและราคาสินค้าจากแผ่นรายการสินค้า
ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ จานวน 3 ช้ิน จากน้ันนามาสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ พร้อมท้ังแสดงวิธีหาคาตอบ ลงใน
กระดาษ 100 ปอนด์ ขนาด A4 จานวน 3 ข้อ โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นดังน้ี

- การสร้างโจทย์ปญั หาการคูณ
- เขียนสงิ่ ท่โี จทย์กาหนดให้
- เขยี นสิ่งท่ีโจทย์ถาม
- เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์
- แสดงวิธที า
- หาคาตอบ
- ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ

6. การวัดและการประเมนิ ผล

รายการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- แบบประเมินชิน้ งาน/ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่าน
6.1 การประเมนิ ช้นิ งาน/ - ตรวจผลงานการสร้าง เกณฑ์
ภาระงาน - ประเมินตามสภาพจริง
ภาระงาน (รวบยอด) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการ
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
คณู

6.2 การประเมนิ ก่อน

เรยี น

- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ

กอ่ นเรยี น หนว่ ย กอ่ นเรยี น

การเรยี นรทู้ ี่ 4

การคณู จานวน

รายการวดั วธิ ีวดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน
ไมเ่ กนิ 100,000
6.3 ประเมินระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 4.1 - ใบงานท่ี 4.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การจดั กจิ กรรม - ตรวจใบงานท่ี 4.2 - ใบงานท่ี 4.2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรียนรู้ - ตรวจใบงานท่ี 4.3 - ใบงานท่ี 4.3 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) การคูณจานวน - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หนง่ึ หลกั กบั - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จานวนไม่เกิน - ตรวจใบงานท่ี 4.4 - ใบงานที่ 4.4 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สห่ี ลัก - ตรวจใบงานท่ี 4.5 - ใบงานที่ 4.5 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานท่ี 4.6 - ใบงานที่ 4.6 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) การคูณจานวนท่ีมี - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สองหลกั กบั - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จานวนท่มี ี - ตรวจใบงานที่ 4.7 - ใบงานที่ 4.7 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สองหลัก - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานที่ 4.8 - ใบงานท่ี 4.8 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
3) โจทย์ปัญหา - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การคูณ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น
4) การสร้างโจทย์ ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์
ปญั หาการคูณ กิจกรรม
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน
5) การนาเสนอ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ผลงาน/ผลการทา
กจิ กรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน
การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม เกณฑ์
6) พฤตกิ รรม - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ
การทางาน ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
รายบุคคล เกณฑ์

7) พฤติกรรม
การทางานกลุม่

8) คุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์

รายการวัด วธิ วี ัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
- แบบทดสอบหลงั เรยี น - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6.4 การประเมนิ หลงั เรียน

- แบบทดสอบหลงั - ตรวจแบบทดสอบ

เรียนรทู้ ี่ 4 หลังเรียน

การคณู จานวน

ไมเ่ กิน 100,000

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 แผนฯ ที่ 19 : การคูณจานวนหนง่ึ หลกั กบั จานวนไมเ่ กินสีห่ ลกั เวลา 5 ช่ัวโมง

แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบค้นพบ (Discovery Method)

 แผนฯ ที่ 20 : การคูณจานวนท่ีมสี องหลักกบั จานวนท่ีมสี องหลกั เวลา 5 ชั่วโมง

แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : กระบวนการกล่มุ สมั พันธ์

 แผนฯ ท่ี 21 : โจทยป์ ัญหาการคูณ เวลา 3 ชั่วโมง

แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบค้นพบ (Discovery Method)

 แผนฯ ท่ี 22 : การสร้างโจทยป์ ัญหาการคูณ เวลา 4 ชัว่ โมง

แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

(5Es Instructional Model)

(รวมเวลา 17 ชั่วโมง)

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง การคณู จานวนไม่เกิน 100,000
2) แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การคูณจานวนไมเ่ กิน 100,000
3) ใบงานที่ 4.1 เร่ือง คณู ไวพัฒนาสมอง
4) ใบงานท่ี 4.2 เรอ่ื ง จบั คู่ ดูโอ้
5) ใบงานที่ 4.3 เรอ่ื ง คณู ไวพฒั นาสมองกาลังสอง
6) ใบงานท่ี 4.4 เรื่อง รหู้ รอื ไม่ คูณแล้วได้เท่าไรนะ
7) ใบงานท่ี 4.5 เรื่อง ฝกึ สมอง...ประลองการคณู
8) ใบงานที่ 4.6 เรอ่ื ง การคณู จานวนทม่ี ีสองหลักกับจานวนท่ีมีสองหลัก
9) ใบงานที่ 4.7 เรือ่ ง รู้หรือไม่ คณู แลว้ ไดเ้ ทา่ ไรนะ
10) ใบงานที่ 4.8 เรอื่ ง การสรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณ
11) กลอ่ งสี
12) บตั รภาพสินคา้
13) บัตรโจทย์
14) แถบประโยคสัญลักษณ์
15) บตั รภาพลกู อม
16) มงกฎุ พระราชา
17) บัตรภาพแมไ่ ก่ ลูกไก่
18) กระดาษฟลิปชาร์ต
19) ปากกาเคมี
20) กลอ่ งปรศิ นาทา้ แกโ้ จทย์
21) เพลงโจทยป์ ัญหา
22) บัตรภาพวงล้อการคณู
23) ใบรายการสินคา้
24) กระดาษ A4
25) กระดาษ 100 ปอนด์ ขนาด A4

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน

แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4

คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. 8 x 400 =  6. 1,589 x 6 = 

จานวน  คอื จานวนใด จานวน  คอื จานวนใด

ก. 1,200 ข. 2,300 ก. 9,534 ข. 10,284

ค. 3,200 ง. 4,400 ค. 24,492 ง. 35,342

2. แมใ่ หเ้ งินขนุนไปโรงเรยี นวันละ 50 บาท เป็น 7. ข้อใดมผี ลคูณเทา่ กับ 2,365 x 8
เวลา15 วนั ขนุนไดเ้ งนิ ทัง้ หมดเทา่ ไร
ก. 5,214 x 6 ข. 4,730 x 4

ค. 6,210 x 2 ง. 7,644 x 5

ก. 550 ข. 750 8. ร้านขนมขายขนมปังได้วันละ 78 ช้ิน ราคาช้ินละ 23
ค. 850 ง. 900

บาท ถา้ ร้านขนมนข้ี ายหมดทุกวันเปน็ เวลา 10 วัน

3. 9 x 300 =  ร้านขนมนี้จะไดร้ ับเงนิ ทัง้ หมดกบ่ี าท

จานวน  คอื จานวนใด ก. 15,890 ข. 17,940

ก. 2,400 ข. 2,650 ค. 24,860 ง. 35,920

ค. 2,700 ง. 2,950

4. 7 x 548 =  9. ขอ้ ใดถูกต้อง
ก. 148 x 3 = 444
จานวน  คอื จานวนใด ข. 95 x 13 = 1,035
ค. 1,489 x 4 = 5,946
ก. 2,517 ข. 3,836 ง. 2,451 x 8 = 18,608

ค. 5,476 ง. 6,167

5. ขอ้ ใดมีผลคณู เท่ากับ 78 x 32 10. 65 x 37 = 

ก. 52 x 48 ข. 15 x 71 จานวน  คือจานวนใด

ค. 98 x 63 ง. 87 x 52 ก. 2,405 ข. 3,515

ค. 4,850 ง. 6,780

เฉลย 5. ก 6. ก 7. ข 8. ข 9. ก 10. ก
1. ค 2. ข 3. ค 4. ข

แบบทดสอบหลังเรยี น

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4

คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. 7 x 900 =  6. 1,485 x 9 = 

จานวน  คอื จานวนใด จานวน  คือจานวนใด

ก. 5,400 ข. 6,300 ก. 13,365 ข. 18,545

ค. 7,200 ง. 8,400 ค. 32,050 ง. 35,160

2. เชือกเสน้ หน่ึงยาว 48 เมตร นามาตอ่ กนั ทั้งหมด 7. ข้อใดมผี ลคูณเท่ากับ 2,365 x 8
25 เสน้ จะยาวทงั้ หมดกีเ่ มตร
ก. 4,730 x 4 ข. 5,214 x 6

ค. 6,210 x 2 ง. 7,644 x 5

ก. 850 ข. 1,020 8. รา้ นค้าขายตะปูได้วนั ละ 64 ตวั ราคาตัวละ 11 บาท
ค. 1,200 ง. 1,900

ถา้ รา้ นคา้ นี้ขายหมดทุกวนั เป็นเวลา 20 วนั ร้านค้าน้ี

3. 4 x 500 =  จะไดร้ ับเงนิ ทัง้ หมดกบ่ี าท

จานวน  คอื จานวนใด ก. 12,650 ข. 14,080

ก. 1,200 ข. 2,000 ค. 22,450 ง. 25,920

ค. 4,600 ง. 5,900

4. 9 x 236 =  9. ขอ้ ใดถกู ต้อง
ก. 789 x 3 = 2,365
จานวน  คือจานวนใด ข. 88 x 41 = 3,608
ค. 256 x 7 = 5,949
ก. 1,892 ข. 2,124 ง. 2,451 x 8 = 18,608

ค. 3,482 ง. 4,564

5. ขอ้ ใดมผี ลคณู เท่ากับ 36 x 12 10. 74 x 23 = 

ก. 216 x 2 ข. 15 x 71 จานวน  คือจานวนใด

ค. 364 x 6 ง. 53 x 19 ก. 854 ข. 1,656

ค. 1,702 ง. 1,988

เฉลย 5. ก 6. ก 7. ก 8. ข 9. ข 10. ค
1. ข 2. ค 3. ข 4. ข

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 19

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง การคูณจานวนไมเ่ กนิ 100,000 เวลาเรยี น 5 ชั่วโมง
เวลา ……………………………
เร่ือง การคณู จานวนหนึ่งหลักกับจานวนไม่เกนิ ส่ีหลกั

ชอ่ื ผู้สอน นางสาวพรรัตน์ จนั ทรค์ า วันท่ี ........................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั

ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน 1 หลักกับจานวน
ไมเ่ กิน 4 หลกั และจานวน 2 หลกั กับ 2 หลกั

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธิบายขั้นตอนการคูณจานวนหน่งึ หลักกับจานวนไมเ่ กนิ สีห่ ลักได้ (K)
2) เขียนแสดงวิธีหาคาตอบโดยใช้การคูณจานวนหน่ึงหลกั กับจานวนไม่เกินสี่หลักจากโจทยท์ ี่กาหนดให้ได้ถูกต้อง (P)
3) นาความรู้เก่ยี วกบั การคูณจานวนหนึง่ หลกั กบั จานวนไมเ่ กินส่ีหลกั ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
การคณู การหารยาวและการหารสนั้

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ข้ันตอนในการคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนไม่เกินสี่หลัก ให้คูณจานวนในหลักหน่วยของตัวต้ังก่อน แล้วจึง
คณู ในหลักถัดไปทางซ้ายมือของหลักหน่วยตามลาดับ หรอื จากหลักทางขวามือไปทางซ้ายมือทีละหลัก หากมีทด
ให้ทดไปยังหลักถัดไปทางซา้ ยมือ

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ัย
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการระบุ
3) ทกั ษะการเช่ือมโยง
4) ทักษะการให้เหตผุ ล

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : แบบคน้ พบ (Discovery Method)

ช่วั โมงท่ี 1

นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การคณู จานวนไมเ่ กนิ 100,000

ขน้ั นา
นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากน้ันครูกระตุ้นความสนใจนักเรียนโดยนากล่องสี 3 กล่อง ซึ่งแต่ละกล่องมีสี

ท้ังหมด 12 แท่ง มาให้นักเรียนดู แล้วตงั้ คาถาม ให้นักเรียนร่วมกันตอบ ดังนี้
 มสี ที ้งั หมดกีก่ ล่อง

(แนวตอบ 3 กล่อง)
 มีสีกลอ่ งละก่แี ทง่

(แนวตอบ 12 แทง่ )
 มสี ที ้งั หมดกแ่ี ท่ง

(แนวตอบ 36 แทง่ )
 นักเรียนมีวธิ คี ิดอย่างไร

(แนวตอบ คำตอบมีหลำกหลำย ขน้ึ อยูก่ ับดุลยพินิจของครผู สู้ อน เชน่ นบั สีทีละแท่ง นำ 12 คูณดว้ ย 3)
2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนพิจารณาภาพหน้าหน่วย ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3

เลม่ 1 หนา้ 102 จากน้ันครูใหน้ กั เรียนร่วมกันอภิปรายคาถามประจาหนว่ ย
หมำยเหตุ : ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคำถำมประจำหนว่ ยกำรเรยี นรู้ หลังเรยี นหนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี 4

3. ครูใหน้ ักเรยี นทุกคนทา “เตรยี มพร้อมก่อนเรยี น” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 103
4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ “เตรียมพร้อมก่อนเรียน” และครูอธิบายเพิ่มเติม เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจ

มากย่ิงข้นึ
5. ครูติดบัตรภาพแสดงราคาส่ิงของเป็นชิ้น ๆ ช้ินละเท่า ๆ กันจากนนั้ ให้นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายและช่วยกนั คิด

หาคาตอบวา่ ถ้าซ้ือส่ิงของทง้ั หมดเพ่ือนาไปบริจาคจะต้องจ่ายเงินเทา่ ไร

6. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ให้สอดคล้องกับบัตรภาพในข้อ 5 ครูให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มออกมานาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพอ่ื นๆ กลุ่มอืน่ ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
(แนวตอบ 500 x 3 = )

ข้ันสอน

สอน
1. ครตู ดิ แถบประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู บนกระดาน

4 x 100 = 400

จากนนั้ ครูตั้งคาถามถามนกั เรยี น ดงั น้ี
 4 เรยี กว่าอะไรในประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ

(แนวตอบ ตัวต้ัง)
 100 เรียกวา่ อะไรในประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ

(แนวตอบ ตวั คูณ)
 400 เรียกวา่ อะไรในประโยคสญั ลักษณ์การคณู

(แนวตอบ ผลลพั ธ์)
2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ วา่ “ตวั ตั้ง x ตวั คณู = ผลลพั ธ์”
3. ครนู าภาพลูกอม 5 ขวด ซ่งึ แต่ละขวดมลี ูกอมทั้งหมด 100 เม็ด มาให้นกั เรียนดู จากน้นั ตั้งคาถามถามนักเรยี น

ดังนี้
 มลี กู อมท้งั หมดกขี่ วด

(แนวตอบ 5 ขวด)
 มีลกู อมขวดละก่เี ม็ด

(แนวตอบ 100 เมด็ )
 มลี ูกอมทั้งหมดก่ีเม็ด

(แนวตอบ 500 เม็ด)
 นกั เรยี นมวี ิธีคิดอยา่ งไร

(แนวตอบ นำ 100 คณู ด้วย 5)
4. ครแู สดงการหาคาตอบโดยใชก้ ารบวกดูกอ่ น แล้วจงึ เขียนแสดงในรปู การคูณ พร้อมท้งั อธิบายถงึ ความสัมพันธ์

ของการบวกกับการคณู ว่ามาไดอ้ ยา่ งไร และตัวเลขตัวใดเรยี กวา่ ตัวตง้ั ตวั คณู หรอื ผลคณู
5. ครูอธิบายการคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับ 100 ในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างท่ี 1 ในหนังสือเรียน

คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 104-105 อย่างละเอียดบนกระดาน พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามใน
ประเดน็ ที่ยังไม่เขา้ ใจ
6. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 100 ให้นักเรียนดูบนกระดานในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างท่ี 1
พร้อมกบั อธบิ ายขน้ั ตอนวธิ ีการคูณจานวนทีม่ ีหน่ึงหลักกับ 100 ดังนี้
- ขน้ั ท่ี 1 นาตัวคณู ไปคูณในหลกั หน่วยก่อน ใส่คาตอบลงในหลักหน่วย
- ขนั้ ที่ 2 นาตัวคูณไปคูณตอ่ ในหลกั สบิ ใส่คาตอบลงในหลักสบิ
- ขน้ั ท่ี 3 นาตวั คูณไปคูณในหลักร้อย ใสค่ าตอบลงในหลักร้อย จะได้ผลลัพธ์
7. ครตู ัง้ คาถามกระตุน้ ความคดิ นกั เรียนวา่ จากทคี่ รูแสดงการหาผลคูณจานวนท่มี ีหนงึ่ หลกั กบั 100 ใหน้ ักเรียนดู
นกั เรียนมีวิธีการคิดใหร้ วดเร็วไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ จำนวนใดคูณ 100 จะไดผ้ ลคูณเทำ่ กับจำนวนน้นั คูณกบั 1 แล้วเติม 0 สองตวั ตอ่ ท้ำย)
8. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปขน้ั ตอนวิธกี ารคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลกั กบั 100

ช่วั โมงที่ 2

9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนข้ันตอนวธิ กี ารคณู จานวนทีม่ หี นงึ่ หลักกับ 100 ดงั นี้
- ขน้ั ท่ี 1 นาตวั คณู ไปคณู ในหลกั หน่วยกอ่ น ใส่คาตอบลงในหลกั หน่วย
- ขัน้ ท่ี 2 จากนั้นนาตัวคูณไปคณู ต่อในหลักสิบ ใสค่ าตอบลงในหลกั สิบ
- ขัน้ ที่ 3 นาตัวคณู ไปคณู ในหลักรอ้ ย ใสค่ าตอบลงในหลักรอ้ ย จะได้ผลลพั ธ์

10. ครูให้นักเรียนแข่งขันกันตอบคาถามมุมคิดว่า 89 x 7 =  นักเรียนท่ียกมือก่อนจะได้ตอบคาถามก่อน
จากนนั้ ครเู ฉลยคาตอบ นกั เรียนทต่ี อบถูกและเรว็ จะได้รับคาชมเชยวา่ เปน็ “นกั คณติ คิดไว”คนแรก

11. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตวิธีการคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 ในหนังสือเรียน
คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 105 แลว้ ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

12. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 ให้นักเรียนดูบนกระดาน พร้อมกับ
อธบิ ายขั้นตอนวธิ ีการคูณจานวนทม่ี หี นงึ่ หลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 ดงั น้ี
- ขนั้ ที่ 1 นาตัวคณู ไปคูณในหลักหนว่ ยก่อน ใสค่ าตอบลงในหลกั หน่วย
- ข้นั ท่ี 2 นาตวั คูณไปคณู ตอ่ ในหลกั สิบ ใส่คาตอบลงในหลักสิบ
- ข้ันที่ 3 นาตวั คูณไปคณู ในหลักรอ้ ย ใสค่ าตอบลงในหลักร้อย จะไดผ้ ลลพั ธ์

13. ครูอธิบายตัวอย่างที่ 2 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 106 อย่างละเอียดบนกระดาน พร้อม
เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถามในประเดน็ ท่ยี งั ไม่เข้าใจ

14. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 ในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างท่ี 2
ให้นักเรยี นดูบนกระดานเพิ่มเตมิ อกี 2-3 ตวั อยา่ ง เพ่อื ให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจเพ่มิ มากขน้ึ

15. ครูต้ังคาถามกระตุ้นความคิดนักเรยี นว่า จากท่ีครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 200, 300, 400,
...., 900 ใหน้ กั เรยี นดู นักเรยี นมวี ธิ ีการคิดให้รวดเร็วไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ จำนวนใดคูณกับ 200, 300, 400, ...., 900 จะได้ผลคูณเท่ำกับจำนวนน้ันคูณกับ 2, 3,4, ...., 9
ตำมลำดับแล้วเติม 0 สองตวั ต่อทำ้ ย)

16. ครูยกตวั อยา่ งเพ่มิ เติมอีก 2-3 ตวั อยา่ ง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความเข้าใจมากย่งิ ขนึ้

ฝึกทักษะ

1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชายและกลุ่มนักเรียนหญิง) ให้นักเรียนแต่ละคนเตรียมกระดาษทด

ขึ้นมา จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเล่นเกม “ตอบไวได้คะแนน” โดยครูบอกโจทย์การคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับ

100 หรือการคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบ

โดยนักเรียนที่ยกมือก่อนจะมีโอกาสตอบคาถามก่อน หากตอบถูกก็จะได้คะแนนสะสม 5 คะแนน จบเกมกลุ่มที่ได้

คะแนนสะสมมากที่สุดกลมุ่ น้ันก็จะเป็นฝ่ายชนะ

ตัวอยา่ งโจทย์

- 100 x 4 =  - 3 x 100 = 

- 700 x 2 =  - 6 x 500 = 

- 800 x 9 =  - 2 x 900 = 

2. ครแู บ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นครูแจกใบงานท่ี 4.1 เรื่อง

คูณไวพัฒนาสมอง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทา โดยจับเวลาในการทาไม่เกิน 10 นาที เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่ม

ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูกล่าวชมเชยกลุ่มท่ีทา

เสรจ็ ภายในเวลาและทาถูกต้อง และให้กาลังใจกล่มุ ทที่ าไมถ่ ูกต้องหรือทาไมท่ ันเวลา พรอ้ มอธิบายเพ่ิมเติม

3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุป เรื่อง การคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับ 100 และการคูณจานวนที่มีหนึ่ง

หลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 ว่า จานวนใดคูณกับ 100 จะได้ผลคูณเท่ากับจานวนนั้นคูณกับ 1 แล้วเติม 0

สองตัวต่อท้าย และจานวนใดคูณกับ 200, 300, 400, ...., 900 จะได้ผลคูณเท่ากับจานวนนั้นคูณกับ 2, 3, 4, ...., 9

ตามลาดับแล้วเติม 0 สองตัวต่อท้าย โดยมีหลักการคูณจากหลักหน่วยไปหลักร้อย หรือจากหลักทางขวามือไป

ทางซ้ายมือ

ช่ัวโมงที่ 3

สอน
1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเร่ืองการคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 100 และการคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับ

200, 300, 400, ...., 900 โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชาย และกลุ่มนักเรียนหญิง)
จากน้ันให้นักเรียนทั้งสองกลุ่มเล่นเกม “นักคณิต คิดไว” โดยครูบอกโจทย์ปัญหาการคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลัก
กบั 100 และการคณู จานวนที่มหี น่ึงหลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 จากนั้นให้นักเรียนตอบโดยการยกมือ

ใครท่ียกมือก่อนมีสิทธ์ิตอบก่อน กลุ่มท่ีตอบถูกจะได้คะแนนสะสม 2 คะแนน จบเกมกลุ่มใดได้คะแนนสะสม

มากทีส่ ดุ จะเป็นฝ่ายชนะ

ตัวอยา่ งโจทย์

- 100 x 7 =  - 9 x 100 = 

- 300 x 4 =  - 7 x 500 = 

- 400 x 6 =  - 7 x 200 = 

2. ครตู ้งั คาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนว่า ทาอยา่ งไรถึงจะสามารถหาคาตอบการคูณได้อยา่ งรวดเรว็

(แนวตอบ ขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)

3. ครตู ดิ แถบประโยคสญั ลักษณ์การคณู บนกระดาน

742 x 2 = 1,484

จากนนั้ ครตู งั้ คาถามถามนักเรยี น ดังน้ี

 742 เรียกว่าอะไรในประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ
(แนวตอบ ตัวต้งั )

 2 เรยี กว่าอะไรในประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ
(แนวตอบ ตวั คณู )

 1,484 เรยี กวา่ อะไรในประโยคสัญลักษณ์การคูณ
(แนวตอบ ผลลพั ธ์หรอื ผลคณู )

4. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปว่า “ตัวตั้ง x ตวั คณู = ผลลัพธ์”
5. ครแู สดงการหาผลคูณจานวนท่มี หี น่งึ หลกั กบั จานวนทีม่ ีสามหลกั แบบไม่มีทด ใหน้ ักเรยี นดูบนกระดาน พร้อม

ทง้ั อธบิ ายข้นั ตอนวธิ กี ารคูณจานวนที่มหี นึง่ หลกั กับจานวนท่ีมีสามหลกั ดังนี้
- ขัน้ ท่ี 1 นาตวั คูณไปคูณในหลักหนว่ ยก่อน ใส่คาตอบลงในหลักหน่วย
- ขั้นท่ี 2 นาตัวคณู ไปคูณต่อในหลักสิบ ใส่คาตอบลงในหลักสิบ
- ขน้ั ที่ 3 นาตวั คณู ไปคูณในหลกั รอ้ ย ใส่คาตอบลงในหลักร้อย จะได้ผลลัพธ์
6. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีสามหลัก แบบไม่มีทด ในหนังสือ
เรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 106-107 แลว้ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม
7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการหาผลคณู จานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจานวนที่มีสามหลัก แบบไม่มีทด
ตัวอยา่ งท่ี 3 ในหนังสอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 107
8. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับจานวนที่มีสามหลัก แบบมีทด ในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างท่ี
3 ใหน้ กั เรยี นดูบนกระดานเพ่ิมเตมิ อกี 2-3 ตัวอยา่ ง เพื่อใหน้ ักเรียนเกดิ ความเขา้ ใจเพม่ิ มากขึน้
9. ครใู ห้นกั เรยี นทุกคนสังเกตการหาผลคูณจานวนทมี่ ีหนึ่งหลักกบั จานวนทีม่ ีสามหลัก แบบมีทด ในหนังสอื เรียน
คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 108 แล้วครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการหาผลคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีสามหลัก แบบมีทด
ตัวอย่างที่ 4 ในหนังสือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 109

11. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีหน่ึงหลกั กับจานวนท่ีมีสามหลัก แบบไม่มีทด ในลกั ษณะเดยี วกันกับตวั อย่าง
ท่ี 4 ใหน้ ักเรยี นดูบนกระดานเพม่ิ เตมิ อกี 2-3 ตวั อย่าง เพื่อใหน้ กั เรยี นเกิดความเขา้ ใจเพิม่ มากขึน้

ฝกึ ทกั ษะ
1. ครใู ห้นักเรยี นจบั คูก่ นั ทากิจกรรม “เพ่ือนชว่ ยเพอ่ื น” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 109
2. ครูขออาสาสมัครนักเรยี น 2-3 คู่ ออกมาเฉลยคาตอบจากกจิ กรรม “เพ่ือนชว่ ยเพื่อน” ท่ีหน้าชั้นเรียน โดยครู

และนักเรยี นท่ีเหลอื ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุป เรื่อง การคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับจานวนท่ีมีสามหลัก แบบไม่มี

ทดและแบบมที ด ว่า ให้คูณจากหลักหน่วยไปยงั หลักสิบและหลักร้อย หรือจากหลกั ทางขวามือไปทางซา้ ยมือ
ทีละหลัก หากมีทด ใหท้ ดไปยังหลกั ถัดไปทางซา้ ยมอื

ชัว่ โมงที่ 4

4. ครูและนักเรียนร่วมกนั ทบทวนความร้เู ก่ียวกับการคูณจานวนทม่ี หี นึ่งหลักกับจานวนท่ีมีสามหลัก แบบไม่มที ด
และแบบมีทด จากชวั่ โมงที่แลว้

5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วให้แต่ละกลุ่มแข่งขันกันหา
คาตอบจากโจทย์การคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับจานวนที่มีสามหลัก แบบไม่มีทดและแบบมีทดท่ีครูตั้ง โดย
แสดงวิธีหาคาตอบบนกระดานคนละ 1 หลักแล้วกลับไปน่ังที่ ให้คนต่อไปออกมาหาผลคูณในหลักต่อไปจน
ครบทุกหลัก (ครูยกตวั อย่าง 3-5 ข้อ เพื่อให้นักเรียนเกิดความชานาญ) กลุม่ ใดเสร็จก่อนและทาได้ถกู ต้องมาก
ที่สุดเปน็ ฝา่ ยชนะ

6. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมทากิจกรรม โดยครแู จกบัตรโจทย์การคูณใหน้ ักเรียนกลุ่มละ 6 ใบ ให้นักเรยี นหาผลคูณ
ในบัตรโจทย์น้ัน จากน้ันให้นาบัตรโจทย์ท่ีหาคาตอบได้แล้วไปติดลงในใบงานที่ 4.2 เร่ือง จับคู่ ดูโอ้ โดยบัตร
โจทย์ปัญหาที่มีคาตอบเท่ากัน ให้ติดคู่กัน เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดย
นักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูกล่าวชมเชยกลุ่มท่ีทาเสร็จภายในเวลาและทา
ถูกตอ้ ง และให้กาลงั ใจกลมุ่ ท่ที าไมถ่ ูกต้องหรือทาไมท่ ันเวลา พร้อมอธิบายเพ่ิมเติม

7. ครูตั้งคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า จากการเรียนรู้เรื่องการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจานวนที่มี
สามหลัก แบบไม่มีทดและแบบมีทด ขั้นตอนวธิ ีการคูณแตกต่างจาก การหาผลคูณจานวนจานวนท่ีมีหนง่ึ หลัก
กบั 100 และการคณู จานวนทม่ี ีหนึง่ หลักกับ 200, 300, 400, ...., 900 หรือไมอ่ ย่างไร
(แนวตอบ ไม่แตกต่ำง เพรำะกำรคูณท้ัง 2 แบบ เป็นกำรคูณจำกหลักหน่วยไปยังหลักสิบและหลักร้อย หรือ
จำกหลักทำงขวำไปยังหลักทำงซำ้ ยมือ)

8. ครูแบง่ นักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชาย และนักเรยี นหญงิ ) ให้แตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมาหน้าชั้น
เรียนครัง้ ละ 1 คน จากนน้ั ครตู ิดบัตรโจทย์การคณู บนกระดานดงั นี้

5 x 100 =  400 x 8 =  985 x 9 =  6 x 700 =  543 x 2 = 

625 x 3 =  100 x 7 =  234 x 2 =  4 x 356 =  5 x 125 = 

ครใู ห้นักเรยี นเลน่ เกม “เลือกถกู ..คิดไว..ไดค้ ะแนน” โดยมีกติกาเกมคือ ให้ตวั แทนกลุ่มเลอื กบตั รโจทย์การคูณ
คนละ 1 แผ่น จากนั้นหาคาตอบแล้วเขียนคาตอบลงในช่องว่าง เมื่อทาเสร็จให้ตัวแทนคนต่อมาเลือกบัตร
โจทย์การคูณใหม่และหาคาตอบแล้วเขียนคาตอบลงในช่องว่าง ซึ่งกลุ่มท่ีทาได้มากท่ีสุดและถูกต้องก็จะเป็น
กลุม่ ทีช่ นะ ครกู ล่าวชมเชยนักเรยี นกลมุ่ ทชี่ นะว่าเป็น “นักคณิต คิดไว”
9. ครตู ง้ั คาถามกระตุน้ ความคดิ นักเรียนวา่ หากนักเรียนอยากเป็นนกั คณติ คดิ ไวจะต้องทาอย่างไรบา้ ง
(แนวตอบ ขึน้ อยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)

สอน
1. ครูตดิ บตั รโจทย์การคณู บนกระดาน

100 x 5 =  100 x 9 =  8 x 100 =  4 x 100 = 
จากนัน้ ครตู ั้งคาถามถามนักเรียน ดังนี้

 นักเรยี นมีวิธีการหาคาตอบจากโจทย์การคณู น้อี ย่างไร

(แนวตอบ จำนวนใดคณู 100 จะได้ผลคูณเทำ่ กับจำนวนน้ันคูณกบั 1 แล้วเตมิ 0 สองตวั ตอ่ ท้ำย)

 หากครเู พิม่ ศูนย์ตอ่ ท้ายอีกหน่ึงตัวจะมวี ธิ ีคิดแบบเดมิ ได้หรือไม่

(แนวตอบ ได้ แต่ต้องเติม 0 สำมตวั ตอ่ ทำ้ ย)

2. ครแู สดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลกั กับ 1,000 ให้นกั เรียนดูบนกระดาน พร้อมกับอธบิ ายขนั้ ตอนวธิ ีการ

คณู จานวนที่มหี น่ึงหลักกับ 1,000 ดงั นี้

- ข้นั ท่ี 1 นาตัวคูณไปคูณในหลักหนว่ ยก่อน ใส่คาตอบลงในหลกั หนว่ ย

- ขน้ั ที่ 2 นาตัวคณู ไปคูณต่อในหลกั สบิ ใสค่ าตอบลงในหลักสิบ

- ข้นั ท่ี 3 นาตัวคูณไปคูณในหลกั ร้อย ใสค่ าตอบลงในหลักรอ้ ย

- ขน้ั ท่ี 4 นาตวั คณู ไปคูณในหลกั พัน ใส่คาตอบลงในหลักพัน จะได้ผลลัพธ์

3. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตวิธีการคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับ 1,000 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1

หน้า 109-110 แลว้ ครอู ธบิ ายเพิม่ เติม

4. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภิปรายขั้นตอนวธิ ีการคูณจานวนท่ีมีหนง่ึ หลักกับ 1,000 ตวั อย่างท่ี 5 ในหนังสือเรยี น
คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 110

5. ครูแสดงข้ันตอนวิธีการคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 1,000 ในลักษณะเดยี วกันกับตัวอย่างที่ 5 ให้นักเรียนดูบน

กระดานเพมิ่ เติมอีก 2-3 ตวั อย่าง เพื่อให้นกั เรยี นเกิดความเขา้ ใจเพ่ิมมากข้นึ

6. ครูตั้งคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า จากที่ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 1,000 ให้

นักเรียนดู นักเรียนมีวิธีการคิดใหร้ วดเรว็ ไดอ้ ย่างไร

(แนวตอบ จำนวนใดคณู 1,000 จะได้ผลคูณเท่ำกบั จำนวนนัน้ คณู กับ 1 แลว้ เติม 0 สำมตวั ตอ่ ทำ้ ย)

7. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตวิธีการคูณจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 ในหนังสือ

เรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 111 แล้วครูอธบิ ายเพิม่ เติม

8. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 ให้นักเรียนดูบนกระดาน
พรอ้ มกับอธบิ ายขั้นตอนวิธีการคณู จานวนที่มีหนึ่งหลักกบั 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 ดงั น้ี
- ข้นั ท่ี 1 นาตัวคูณไปคูณในหลักหน่วยกอ่ น ใสค่ าตอบลงในหลกั หน่วย
- ขน้ั ท่ี 2 นาตวั คูณไปคูณต่อในหลักสบิ ใส่คาตอบลงในหลักสิบ
- ข้นั ที่ 3 นาตวั คณู ไปคณู ในหลกั ร้อย ใส่คาตอบลงในหลักรอ้ ย
- ขั้นท่ี 4 นาตวั คณู ไปคูณในหลกั พัน ใส่คาตอบลงในหลักพัน จะได้ผลลัพธ์

9. ครูอธิบายตัวอย่างที่ 6 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 112 อย่างละเอียดบนกระดาน พร้อมเปิด
โอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นทยี่ งั ไม่เขา้ ใจ

10. ครูแสดงการหาผลคณู จานวนท่ีมหี น่ึงหลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 ในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างที่ 6
ใหน้ กั เรียนดูบนกระดานเพิ่มเติมอีก 2-3 ตวั อยา่ ง เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเกิดความเข้าใจเพ่ิมมากข้ึน

ฝกึ ทักษะ

1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชายและกลุ่มนักเรียนหญิง) ให้นักเรียนแต่ละคนเตรียมกระดาษทด

ขึ้นมา จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเล่นเกม “ตอบไวได้คะแนน” โดยครูบอกโจทย์ปัญหาการคูณจานวนท่ีมีหน่ึง

หลักกับ 1,000 หรือการคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 จากนั้นให้นักเรียนแต่ละ

กลุ่มแข่งขนั กันตอบปญั หา โดยนักเรยี นท่ียกมือก่อนจะมีโอกาสตอบคาถามก่อน หากตอบถูกก็จะได้ดาวไปสะสม 1

ดวง จบเกมกลมุ่ ใดมีดาวสะสมมากทสี่ ุดก็จะเป็นผู้ชนะ

ตวั อยา่ งโจทย์

- 1,000 x 5 =  - 6 x 1,000 = 

- 8,000 x 3 =  - 9 x 6,000 = 

- 4 x 7,000 =  - 9,000 x 9 = 

2. ครแู บ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตสาสตร)์ จากน้ันครูแจกใบงานท่ี 4.3 เร่ือง

คูณไวพัฒนาสมองกาลังสอง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทา โดยจับเวลาในการทาไม่เกิน 10 นาที เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละ

กลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยนักเรียนที่เหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูกลา่ วชมเชยกลุ่มที่

ทาเสร็จภายในเวลาและทาถูกต้อง และให้กาลงั ใจกลุ่มทที่ าไมถ่ ูกต้องหรือทาไมท่ ันเวลา พรอ้ มอธิบายเพม่ิ เติม

3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุป เรื่อง การคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 1,000 และการคูณจานวนที่มีหนึ่ง

หลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 ว่า จานวนใดคูณ 1,000 จะได้ผลคูณเท่ากับจานวนนั้นคูณกับ 1 แล้ว

เติม 0 สามตัวต่อท้าย และจานวนใดคูณกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 จะได้ผลคูณเท่ากับจานวนนั้นคูณ

กับ 2, 3, 4, ...., 9 ตามลาดับแล้วเติม 0 สามตัวต่อท้าย โดยมีหลักการคูณจากหลักหน่วยไปหลักสิบ หลักร้อย

หลกั พนั หรือ จากหลักทางขวามือไปทางซา้ ยมือ

ช่วั โมงท่ี 5

4. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เก่ียวกับการคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับ 1,000 และการคูณจานวนท่ีมีหน่ึง
หลักกับ 2,000, 3,000, 4,000, ...., 9,000 จากช่วั โมงทแ่ี ลว้

5. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง) จากน้ันให้แต่ละกลุ่มคิดโจทย์การคูณจากท่ี
ได้เรียนมา แล้วส่งตัวแทนออกมา 1 คน เขียนโจทย์การคูณน้ันบนกระดาน จากน้ันเลือกเพ่ือนที่อยู่อีกกลุ่ม 1 คน
ออกมาหาคาตอบโจทย์การคูณนั้น กลุ่มที่ตอบถูกจะได้คะแนนสะสม 1 คะแนน ซ่ึงครูผู้สอนจะให้สลับกันออกมา
4-5 ครั้ง จบเกมกลุม่ ที่มีคะแนนมากที่สุดกจ็ ะเป็นกล่มุ ทีช่ นะ

6. ครูต้ังคาถามเพ่ือทบทวนบทเรียนว่า จากโจทย์ปัญหาท่ีนักเรียนคิดมา จานวนใดบ้างเป็นตัวต้ัง จานวนใดบ้างเป็น
ตวั คณู และจานวนใดบ้างเป็นผลลัพธ์
(แนวตอบ ขึ้นอยูก่ บั ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)

สอน
1. ครูตดิ แถบประโยคสัญลักษณ์การคูณบนกระดาน

1,212 x 4 = 5,628

จากน้ันครตู ้ังคาถามถามนักเรียน ดังน้ี

 ตวั ตง้ั คือ จานวนใด
(แนวตอบ 1,212)

 ตวั คูณ คอื จานวนใด
(แนวตอบ 4)

 ผลลพั ธ์ คอื จานวนใด
(แนวตอบ 5,628)

 จากประโยคสญั ลักษณ์การคูณสามารถสรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
(แนวตอบ สรปุ ไดว้ ่ำ ตวั ตั้ง x ตวั คณู = ผลลพั ธ)์

 ผลลพั ธ์ท่แี สดงถูกต้องหรือไม่
(แนวตอบ ไมถ่ ูกตอ้ ง)

 หากไม่ถกู ต้อง ผลลัพธ์ทถ่ี กู ต้องคืออะไร เรามาพสิ จู น์กัน
2. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับจานวนที่มีสี่หลัก แบบไม่มีทด จากโจทย์ข้อท่ี 1 ให้นักเรียนดูบน

กระดาน พรอ้ มกับอธิบายข้ันตอนวธิ กี ารคูณจานวนท่มี ีหนง่ึ หลักกับจานวนทม่ี สี ี่หลัก ดงั นี้
- ขน้ั ที่ 1 นาตัวคูณไปคูณในหลักหน่วยก่อน ใส่คาตอบลงในหลักหน่วย
- ข้นั ที่ 2 นาตัวคูณไปคูณต่อในหลกั สิบ ใสค่ าตอบลงในหลักสบิ
- ขน้ั ท่ี 3 นาตวั คูณไปคณู ในหลักร้อย ใส่คาตอบลงในหลกั ร้อย
- ข้นั ที่ 4 นาตวั คณู ไปคูณในหลักพัน ใสค่ าตอบลงในหลักพนั จะได้ผลลพั ธ์
จากนนั้ ครูเฉลยคาตอบในข้อท่ี 1
(แนวตอบ 1,212 x 4 = 4,848)

3. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตการหาผลคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีสี่หลัก แบบไม่มีทด ในหนังสือเรียน
คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 112-113 แลว้ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม

4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการหาผลคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีส่ีหลัก แบบไม่มีทด
ตวั อย่างท่ี 7 ในหนงั สอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 113

5. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมหี น่ึงหลักกับจานวนท่ีมีสี่หลัก แบบไม่มีทด ในลักษณะเดียวกนั กับตัวอย่างท่ี 7 ให้
นกั เรียนดบู นกระดานเพิ่มเติมอีก 2-3 ตัวอยา่ ง เพอื่ ใหน้ ักเรยี นเกิดความเข้าใจเพิ่มมากข้นึ

6. ครตู ้ังคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียน ดงั น้ี

 ที่ผ่านมาเป็นการแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีส่ีหลัก แบบไม่มีทด แล้วถ้าต้องหาผล
คณู จานวนทมี่ ีหนึ่งหลักกับจานวนทีม่ ีส่ีหลัก แบบมีทด จะมีขน้ั ตอนการคูณแตกตา่ งกันหรือไม่
(แนวตอบ ไม่แตกต่ำง เป็นกำรคูณจำกหลักหน่วยไปยงั หลักสิบ หลักร้อย และหลกั พัน หรือจำกหลักทำงขวำไป
ยังหลกั ทำงซ้ำยมือ)

 แล้วจะวางตวั ทดไว้ในหลักใด
(แนวตอบ หลกั ถัดไปทำงซ้ำยมือ)

7. ครูให้นักเรียนทุกคนสังเกตการหาผลคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับจานวนท่ีมีส่ีหลัก แบบมีทด ในหนังสือเรียน
คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 114 แล้วครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ

8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการหาผลคูณจานวนที่มีหน่ึงหลักกับจานวนท่ีมีส่ีหลัก แบบมีทดตัวอย่างท่ี
8 ในหนงั สือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 115

9. ครูเขียนโจทย์การคูณจานวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจานวนที่มีสี่หลัก แบบมีทด บนกระดานจากน้ันขออาสาสมัคร
นักเรียน 1 คนออกมาแสดงวิธีทา โดยครูช่วยให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนทาไม่ได้ จากน้ันครูและนักเรียนที่เหลือ
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้องอีกคร้ัง

10. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีหนึ่งหลักกับจานวนที่มีส่ีหลัก แบบมีทด ในลักษณะเดียวกันกับตัวอย่างท่ี 8 ให้
นกั เรยี นดูบนกระดานเพ่ิมเติมอีก 2-3 ตวั อยา่ ง เพ่อื ใหน้ กั เรียนเกิดความเข้าใจเพ่ิมมากขึ้น

ฝกึ ทักษะ
1. ครูให้นักเรียนจับคู่กันทากิจกรรมพัฒนาความรู้ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 115 โดยครูแจก

บัตรประโยคสัญลักษณ์การคูณให้นักเรียนคู่ละ 4 ใบ แล้วคว่าบัตรไว้ จากนั้นให้แต่ละคู่ผลัดกันหยิบบัตรประโยค
สญั ลักษณ์คนละ 1 ใบ แล้วให้แสดงวธิ ีทาและหาคาตอบ โดยให้นักเรียนสลับกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นให้
ทากิจกรรมน้ีอีก 1 รอบ โดยแต่ละรอบให้นักเรียนบันทึกการแสดงวิธีทาและคาตอบลงในสมุด เสร็จแล้วนาส่งครู
เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูให้นักเรียนคู่เดิมทากิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 116 จากนั้นครู
และนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ และครอู ธิบายเพ่ิมเติม

ขั้นสรุป
สรปุ

1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการคูณจานวนหน่ึงหลักกับจานวนไม่เกินสี่หลัก ดังนี้ “ข้ันตอนในการ
คูณจานวนหนึ่งหลกั กับจานวนไม่เกนิ สี่หลัก และจานวนหนงึ่ หลักกับจานวนสี่หลัก คือ ให้คูณจานวนในหลักหน่วย
ของตัวตั้งก่อน แล้วจึงคูณในหลักถัดไปทางซ้ายมือของหลักหน่วยตามลาดับ หรือจากหลักทางขวามือไปทางซ้าย
มอื ทลี ะหลกั หากมที ด ใหท้ ดไปยงั หลกั ถดั ไปทางซ้ายมือ”

2. ครูให้นักเรียนทุกคนทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 116 ลงในสมุด แล้วนามา
ส่งครใู นช่ัวโมงถดั ไป

3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเฉลยคาตอบกิจกรรมฝกึ ทักษะที่หน้าชั้นเรียน โดยครแู ละเพื่อน ๆ ที่เหลือร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วครูจึงกล่าวชน่ื ชมและอธิบายเพ่ิมเติมในจุดที่บกพร่อง

4. ครูให้นักเรียนทุกคนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเปน็ รายบุคคล

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง
- ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรยี น - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เรยี น หนว่ ยการ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เรยี นร้ทู ี่ 4 - ตรวจใบงานที่ 4.1 - ใบงานที่ 4.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การคณู จานวนไม่ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เกนิ 100,000 - ตรวจใบงานที่ 4.2 - ใบงานที่ 4.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น
7.2 ประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานที่ 4.3 - ใบงานท่ี 4.3
การจัดกิจกรรม เกณฑ์
การเรียนรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ - ระดบั คุณภาพ 2
1) การคูณจานวน
หน่งึ หลกั กับ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์
จานวนไมเ่ กนิ
ส่หี ลกั - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ

2) การนาเสนอ ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน
ผลงาน/ผลการทา
กิจกรรม กจิ กรรม

3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทางาน
รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2

การทางานกล่มุ การทางานกล่มุ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน่วยท่ี 4 เร่อื ง การคณู จานวนไม่เกิน 100,000
2) หนงั สือแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน่วยท่ี 4 เรอ่ื ง การคณู จานวนไมเ่ กิน 100,000
3) ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง คูณไวพัฒนาสมอง
4) ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง จบั คู่ ดูโอ้
5) ใบงานที่ 4.3 เรื่อง คณู ไวพฒั นาสมองกาลังสอง
6) กล่องสี
7) บตั รภาพสินค้า
8) บตั รโจทย์
9) แถบประโยคสญั ลักษณ์
10) บตั รภาพลกู อม

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
- ห้องเรียน

ใบงานท่ี 4.1
เรอ่ื ง คณู ไวพัฒนาสมอง

คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนหาผลคูณเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

1. 6 x 1 = 6 x 100 =

2. 4 x 1 = 4 x 100 =

3. 7 x 1 = 7 x 100 =

4. 5 x 1 = 5 x 100 =

5. 3 x 1 = 3 x 100 =

6. 9 x 4 = 9 x 400 =
7. 8 x 7 = 8 x 700 =
8. 2 x 9 = 2 x 900 =
9. 7 x 6 = 7 x 600 =
10. 8 x 2 = 8 x 200 =
11. 5 x 7 = 5 x 700 =
12. 9 x 3 = 9 x 300 =
13. 4 x 3 = 4 x 300 =
14. 2 x 5 = 2 x 500 =
15. 9 x 9 = 9 x 900 =

ใบงานที่ 4.1 เฉลย
เรื่อง คณู ไวพฒั นาสมอง
600
คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นหาผลคูณเตมิ ลงในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง 400
700
1. 6 x 1 = 6 6 x 100 = 500
=
2. 4 x 1 = 4 4 x 100 =
=
3. 7 x 1 = 7 7 x 100

4. 5 x 1 = 5 5 x 100

5. 3 x 1 = 3 3 x 100 = 300
6. 9 x 4 = 36 9 x 400 = 3,600
7. 8 x 7 = 56 8 x 700 = 5,600
8. 2 x 9 = 18 2 x 900 = 1,800
9. 7 x 6 = 42 7 x 600 = 4,200
10. 8 x 2 = 16 8 x 200 = 1,600
11. 5 x 7 = 35 5 x 700 = 3,500
12. 9 x 3 = 27 9 x 300 = 2,700
13. 4 x 3 = 12 4 x 300 = 1,200
14. 2 x 5 = 10 2 x 500 = 1,000
15. 9 x 9 = 81 9 x 900 = 8,100

ใบงานท่ี 4.2
เรอ่ื ง จบั คู่ ดูโอ้

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นหาผลคูณจากบตั รโจทย์การคูณ จากนน้ั นาบตั รโจทย์ทีม่ ผี ลคณู เท่ากนั มาตดิ คู่กนั ให้ถูกต้อง

ใบงานท่ี 4.2 เฉลย
เร่ือง จับคู่ ดูโอ้

คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นหาผลคูณจากบัตรโจทย์การคูณ จากนน้ั นาบัตรโจทยท์ ี่มีผลคูณเท่ากนั มาตดิ ค่กู นั ให้ถกู ต้อง

250 x 8 =  400 x 5 = 

256 x 4 =  8 x 128 = 
640 x 5 =  8 x 400 = 

ใบงานที่ 4.3
เรอ่ื ง คูณไวพัฒนาสมองกาลังสอง

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนหาผลคูณเติมลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง

1. 3 x 1 = 3 x 1,000 =

2. 6 x 1 = 6 x 1,000 =

3. 8 x 1 = 7 x 1,000 =

4. 2 x 1 = 2 x 1,000 =

5. 4 x 1 = 4 x 1,000 =
6. 8 x 4 = 8 x 4,000 =
7. 6 x 9 = 6 x 9,000 =
8. 5 x 7 = 5 x 7,000 =
9. 7 x 6 = 7 x 6,000 =
10. 9 x 7 = 9 x 7,000 =
11. 8 x 8 = 8 x 8,000 =
12. 9 x 3 = 9 x 3,000 =
13. 4 x 3 = 4 x 3,000 =
14. 2 x 5 = 2 x 5,000 =
15. 9 x 9 = 9 x 9,000 =

ใบงานท่ี 4.3 เฉลย
เรื่อง คณู ไวพัฒนาสมองกาลังสอง
3,000
คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนหาผลคูณเตมิ ลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง 6,000
8,000
1. 3 x 1 = 3 3 x 1,000 = 2,000

2. 6 x 1 = 6 6 x 1,000 =

3. 8 x 1 = 8 8 x 1,000 =

4. 2 x 1 = 2 2 x 1,000 =

5. 4 x 1 = 4 4 x 1,000 = 4,000
6. 8 x 4 = 32 8 x 4,000 = 32,000
7. 6 x 9 = 54 6 x 9,000 = 54,000
8. 5 x 7 = 35 5 x 7,000 = 35,000
9. 7 x 6 = 42 7 x 6,000 = 42,000
10. 9 x 7 = 63 9 x 7,000 = 63,000
11. 8 x 8 = 64 8 x 8,000 = 64,000
12. 9 x 3 = 27 9 x 3,000 = 27,000
13. 4 x 3 = 12 4 x 3,000 = 12,000
14. 2 x 5 = 10 2 x 5,000 = 10,000
15. 9 x 9 = 81 9 x 9,000 = 81,000

บัตรโจทยก์ ารคณู 400 x 8 = 
6 x 700 = 
5 x 100 = 
985 x 9 = 

543 x 2 =  625 x 3 = 
100 x 7 =  234 x 2 = 
4 x 356 =  5 x 125 = 
100 x 9 =  8 x 100 = 

4 x 100 =  100 x 5 = 

บตั รโจทย์กิจกรรมจับคู่ ดโู อ้ 400 x 5 = 

250 x 8 = 

256 x 4 =  8 x 128 = 
640 x 5 =  8 x 400 = 

แถบประโยคสัญลกั ษณ์

4 x 100 = 400
1,212 x 4 = 5,628
742 x 2 = 1484

บตั รภาพสินคา้

500

บตั รภาพลูกอม

บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้ท่เี กดิ ข้นึ กับผู้เรียน

1.1 ผ้เู รียนผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
1.2 ผเู้ รียนไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จานวน...................คน

ไดแ้ ก่
................................................................................................................... ..................................................

สาเหตุ
.......................................................................................................……………………………………………………
1.3 ผ้เู รยี นได้รบั ความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผู้เรียนมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม
:......................................................................................................………………
2. ปัญหา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................................................
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................

ลงชื่อ........................................ผสู้ อน
(นางสาวพรรตั น์ จันทร์คา)

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 20

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การคูณจานวนไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 5 ชัว่ โมง
เวลา ……………………………
เรื่อง การคณู จานวนที่มสี องหลักกับจานวนท่ีมสี องหลกั

ช่อื ผสู้ อน นางสาวพรรตั น์ จนั ทรค์ า วนั ที่ ........................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด

ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน 1 หลักกับจานวน
ไมเ่ กิน 4 หลกั และจานวน 2 หลักกับ 2 หลกั

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายขน้ั ตอนการคณู จานวนท่ีมีสองหลักกบั จานวนที่มีสองหลักได้ (K)
2) เขยี นแสดงวิธหี าคาตอบโดยใช้การคูณจานวนที่มสี องหลักกับจานวนที่มีสองหลัก จากโจทย์ทกี่ าหนดให้ได้ถูกต้อง

(P)
3) นาความรู้เกีย่ วกับจานวนท่ีมีสองหลักกับจานวนท่ีมีสองหลักไปใชแ้ กป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
การคณู การหารยาวและหารสนั้

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ข้ันตอนในการคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับจานวนท่ีมีสองหลัก ให้นาหลักหน่วยของตัวคูณ คูณหลักหน่วยและ
หลักสิบของตัวต้งั ตามลาดบั จากนั้นนาหลกั สบิ ของตัวคณู คูณหลักหน่วยและหลกั สบิ ของตวั ตั้งตามลาดับ สดุ ทา้ ย
หาผลคูณของการคูณ โดยการนาผลคูณท่ีไดม้ าบวกกัน

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินยั
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ ม่ันในการทางาน
1) ทกั ษะการสังเกต
2) ทกั ษะการระบุ
3) ทกั ษะการเชื่อมโยง
4) ทักษะการให้เหตุผล
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : กระบวนการกล่มุ สมั พนั ธ์

ชว่ั โมงท่ี 1

ขน้ั นา
นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากนั้นครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณแม่ 2 ถึง แม่ 12 พร้อมกัน เพ่ือเป็นการเตรียม

ความพร้อมของผูเ้ รยี น
2. ครตู ดิ บัตรแถบประโยคสัญลักษณก์ ารคูณบนกระดาน ดังนี้

29 x 5 = 145 48 x 8 = 386 63 x 7 = 441 49 x 5 = 205 72 x 9 = 648

จากนั้นครูให้นักเรียนตรวจสอบคาตอบว่าแถบประโยคสัญลักษณ์การคูณดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง
ผลลัพธท์ ี่ถกู ต้องคืออะไร จากนัน้ ส่มุ ตัวแทนนักเรยี นในการตรวจสอบคาตอบหน้าชัน้ เรียน
(แนวตอบ 48 x 8 = 386 ไมถ่ กู ต้อง แก้ไขเป็น 48 x 8 = 384 และ 49 x 5 = 205 ไมถ่ ูกตอ้ ง แก้ไขเป็น 49 x
5 = 245)
3. ครตู ั้งคาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นว่า ถ้านกั เรียนออมเงินวนั ละ 10 บาท เป็นเวลา 15 วัน นักเรยี นจะมีเงิน
ออมทงั้ หมดกีบ่ าท จากนน้ั ให้นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายเพอ่ื หาคาตอบ
(แนวตอบ 150 บำท)

ขน้ั สอน
จัดการเรยี นรู้
1. ครตู ดิ แถบประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู บนกระดาน

15 x 10 = 150

จากนน้ั ครตู ้งั คาถามถามนักเรียน ดังน้ี

 ตัวต้งั คอื จานวนใด
(แนวตอบ 15)

 ตัวคณู คอื จานวนใด
(แนวตอบ 10)

 ผลลัพธ์ คอื จานวนใด
(แนวตอบ 150)

 จากประโยคสญั ลักษณ์การคูณสามารถสรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
(แนวตอบ สรุปได้วำ่ ตัวตัง้ x ตวั คณู = ผลลพั ธ์)

 ผลลพั ธ์ทแี่ สดงถูกต้องหรอื ไม่

(แนวตอบ ถูกตอ้ ง)

 วธิ ีการหาคาตอบการคูณจานวนท่ีมสี องหลักกบั 10 สามารถทาไดอ้ ยา่ งไร

(แนวตอบ ข้ึนอยู่กับดุลยพินิจของครูผ้สู อน)

2. ครูต้งั โจทย์การคณู จานวนท่ีมสี องหลักกับ 10 บนกระดาน จากน้ันขออาสาสมัครนักเรยี น 1 คน ออกมาแสดง

วิธีการคณู จานวนท่มี สี องหลักกบั 10 โดยมคี รคู อยใหค้ าแนะนา ครแู ละนักเรียนทีเ่ หลือชว่ ยกันเฉลยคาตอบ

3. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับ 10 ให้นักเรียนดูอีกครั้งบนกระดาน พร้อมกับอธิบายข้ันตอน

วิธกี ารคูณจานวนทีม่ ีสองหลักกบั 10 ดังน้ี

- ขน้ั ท่ี 1 นาหลักหน่วยของตวั คณู คือ 0 คูณหลกั หน่วยและหลกั สบิ ของตัวต้ังตามลาดับ

- ขนั้ ที่ 2 นาหลกั สบิ ของตวั คูณ คือ 10 คูณหลักหน่วยและหลกั สิบของตวั ตง้ั ตามลาดบั

- ข้ันท่ี 3 หาผลคณู ของการคณู โดยการนาผลคณู ทีไ่ ด้ในขัน้ ท่ี 1 และขัน้ ท่ี 2 มาบวกกนั

4. ครใู ห้นกั เรียนสงั เกตวธิ กี ารคณู จานวนทม่ี สี องหลกั กบั 10 ในหนังสือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 117

5. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลกั กับ 10 เพ่ิมเตมิ อีก 2-3 ตัวอย่าง เพ่ือให้นกั เรียนเกิดความเขา้ ใจมาก

ย่งิ ขน้ึ พรอ้ มเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามในประเดน็ ท่ียงั ไมเ่ ข้าใจ

6. ครูต้ังคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า จากการท่ีครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับ 10 ให้

นกั เรยี นดู นักเรยี นมวี ธิ ีการคิดใหร้ วดเรว็ ไดอ้ ยา่ งไร

(แนวตอบ จำนวนใดคูณ 10 จะไดผ้ ลคูณเท่ำกบั จำนวนนั้นคูณกับ 1 แล้วเติม 0 หนึ่งตวั ต่อทำ้ ย)

7. ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุม่ นกั เรยี นชายและกลมุ่ นักเรียนหญิง) ให้นักเรียนแต่ละคนเตรยี มกระดาษ

ทดข้ึนมา จากน้นั ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มเลน่ เกม “คิดไวได้คะแนน” โดยครบู อกโจทยป์ ัญหาการคูณจานวนท่ีมี

สองหลักกบั 10 จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบปัญหา โดยนักเรียนที่ยกมือก่อนจะมีโอกาสตอบ

คาถามก่อน หากตอบถูกก็จะได้คะแนนสะสม 5 คะแนน จบเกมกลุ่มที่ได้คะแนนสะสมมากที่สุดกลุ่มน้ันก็จะ

เป็นฝา่ ยชนะ

ตวั อย่างโจทย์

- 55 x 10 =  - 38 x 10 = 

- 77 x 10 =  - 68 x 10 = 

- 89 x 10 =  - 28 x 10 = 

8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ขั้นตอนการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับ 10 ดงั นี้

- ข้นั ท่ี 1 นาหลักหนว่ ยของตัวคูณ คือ 0 คณู หลักหนว่ ยและหลักสบิ ของตวั ต้งั ตามลาดับ

- ขัน้ ที่ 2 นาหลักสบิ ของตวั คูณ คอื 10 คูณหลกั หน่วยและหลกั สิบของตัวตงั้ ตามลาดบั

- ขั้นท่ี 3 หาผลคณู ของการคณู โดยการนาผลคูณทไ่ี ดใ้ นขนั้ ท่ี 1 และขัน้ ที่ 2 มาบวกกัน

ชวั่ โมงท่ี 2

9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันทบทวนข้นั ตอนการหาผลคณู จานวนทม่ี ีสองหลักกบั 10 จากชว่ั โมงท่ีแลว้
10. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันครูแจกใบงานที่ 4.4

เร่ือง รู้หรือไม่ คูณแล้วได้เท่าไรนะ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทา โดยจับเวลาในการทาไม่เกิน 10 นาที เม่ือเสร็จ
แล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยนักเรียนที่เหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครู
กลา่ วชมเชยกลมุ่ ท่ีทาเสร็จภายในเวลาและทาถูกต้อง
11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง การหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 10 ดังนี้ “จานวนใดคูณกับ 10 จะ
ไดผ้ ลคูณเทา่ กบั จานวนน้นั คณู กบั 1 แล้วเตมิ 0 หนึง่ ตวั ต่อท้าย”
12. ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชายและกลุ่มนักเรียนหญิง) จากน้ันให้แข่งขันกันหาคาตอบ
โดยนักเรียนชายหาผลคูณของ 7 x 34 =  และให้นักเรียนหญิงหาผลคูณของ 34 x 7 =  กลุ่มใดตอบ
ไดถ้ ูกต้องและรวดเรว็ กจ็ ะเปน็ กลมุ่ ท่ชี นะ ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ
13. ครูตัง้ คาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นว่า เพราะเหตุใดคาตอบจึงเทา่ กนั
(แนวตอบ กำรคณู หำกสลับทีต่ วั ต้ังและตวั คูณกนั คำตอบยงั คงเท่ำเดิม)
14. ครูให้นักเรียนอ่านโจทย์ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 118 พร้อมกัน จากน้ันครูต้ังคาถาม
กระตุ้นความคิดนักเรียนว่า “ถ้าเป็นโจทย์การคูณดังกล่าวนักเรียนจะมีวิธกี ารหาคาตอบอย่างไร และนักเรียน
คิดว่าทาได้หรือไม”่
(แนวตอบ ข้ึนอยูก่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
15. ครูต้ังโจทยก์ ารคณู จานวนที่มสี องหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 บนกระดาน จากน้นั ขออาสาสมัครนักเรยี น 1
คน ออกมาแสดงวธิ ีการคูณจานวนทม่ี ีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 โดยมคี รูคอยให้คาแนะนา จากนั้นครู
และนกั เรยี นทเี่ หลือช่วยกันเฉลยคาตอบ
16. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 ให้นักเรียนดูอีกคร้ังบนกระดาน พร้อมกับ
อธิบายขนั้ ตอนวิธกี ารคูณจานวนทม่ี ีสองหลักกับ 10 ดังนี้
- ขน้ั ที่ 1 นาหลกั หนว่ ยของตัวคูณ คือ 0 คณู หลกั หนว่ ยและหลักสบิ ของตัวตงั้ ตามลาดับ
- ขน้ั ท่ี 2 นาหลักสิบของตวั คูณ คอื 30 คูณหลักหน่วยและหลักสิบของตัวต้ังตามลาดับ
- ขน้ั ที่ 3 หาผลคูณของการคณู โดยการนาผลคูณท่ีได้ในขั้นที่ 1 และขน้ั ที่ 2 มาบวกกนั
17. ครใู ห้นักเรยี นเปิดหนังสอื เรยี น คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 118 และใหน้ ักเรยี นสังเกตวิธกี ารคูณจานวนท่ีมี
สองหลกั กบั 20, 30, 40, ...., 90 เพม่ิ เตมิ
18. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 เพิ่มเติมอีก 2-3 ตัวอย่าง เพื่อให้นักเรียน
เกดิ ความเข้าใจมากย่ิงขึ้น
19. ครตู ั้งคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า จากท่ีครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ....,
90 ใหน้ กั เรียนดู นกั เรยี นมีวิธกี ารคดิ ให้รวดเร็วได้อย่างไร
(แนวตอบ จำนวนใดคณู 20, 30, 40, ...., 90 จะไดผ้ ลคณู เท่ำกับจำนวนน้ันคูณกับ 2, 3, 4, ...., 9 แล้วเตมิ 0
หนึ่งตัวต่อท้ำย)
20. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ขั้นตอนการหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90

ชัว่ โมงท่ี 3

21. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 ให้นักเรียนดูอีกครั้งบนกระดาน พร้อมกับ

อธบิ ายข้ันตอนวิธีการคณู จานวนท่มี สี องหลักกบั 10 จากชว่ั โมงทแ่ี ล้ว ดังน้ี

- ข้ันที่ 1 นาหลกั หนว่ ยของตวั คณู คือ 0 คูณหลักหนว่ ยและหลักสิบของตวั ต้งั ตามลาดับ

- ขนั้ ที่ 2 นาหลกั สบิ ของตวั คูณ คือ 10 คูณหลักหน่วยและหลกั สบิ ของตัวตง้ั ตามลาดบั

- ข้ันท่ี 3 หาผลคณู ของการคณู โดยการนาผลคูณท่ไี ด้ในขนั้ ท่ี 1 และขั้นที่ 2 มาบวกกัน

22. ครูให้นักเรียนเล่นเกม “จับคู่พระราชา” กติกาคือนักเรียนแต่ละคนจะได้มงกุฎพระราชาคนละ 1 องค์ ซ่ึงท่ี

มงกุฎแตล่ ะองคจ์ ะมีบัตรโจทย์หรือบัตรจานวนติดอยู่ ให้นักเรียนจบั คู่เพื่อนท่ีมีคาตอบกบั โจทย์การคูณตรงกัน

ภายในเวลาท่ีครกู าหนด โดยครูอาจจะกาหนดเวลาในการเลน่ 10 นาที ซ่ึงนักเรียนคนใดที่ไม่สามารถจับค่ไู ด้ก็

จะถูกลงโทษโดยการเต้นหนา้ ชัน้ เรยี น

23. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละคู่ แล้วลงโทษนักเรียนท่ีไม่สามารถบรรลุภารกิจใน

การจับคู่ จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ กิจกรรมและความรทู้ ่ไี ด้รบั

24. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันครูแจกใบงานที่ 4.5

เรื่อง ฝึกสมอง...ประลองการคณู ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ทา โดยจับเวลาในการทาไม่เกิน 10 นาที เมือ่ เสร็จแล้ว

ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น โดยนักเรยี นท่ีเหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครูกล่าว

ชมเชยกลุ่มที่ทาเสร็จภายในเวลาและทาถูกต้อง และให้กาลังใจกลุ่มท่ีทาไม่ถูกต้องหรือทาไม่ทันเวลา พร้อม

อธบิ ายเพิม่ เติม

25. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมเล่นเกม “นักคณิต คิดไว ใครตอบได้คนน้ันชนะ” โดยครูบอกโจทย์ปัญหาการคูณ

จานวนที่มีสองหลักกับ 10 และการคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 จากนั้นให้นักเรียนตอบ

โดยการยกมือ ใครที่ยกมือก่อนมีสทิ ธ์ิตอบก่อน กลุ่มท่ีตอบถูกจะไดค้ ะแนนสะสม 2 คะแนน จบเกมกลุ่มใดได้

คะแนนสะสมมากทสี่ ดุ จะเปน็ ฝ่ายชนะ

ตัวอยา่ งโจทย์

- 84 x 10 =  - 10 x 48 = 

- 54 x 40 =  - 96 x 90 = 

- 78 x 80 =  - 32 x 50 = 

26. ครตู ง้ั คาถามกระตุ้นความคดิ นกั เรยี นวา่ ทาอย่างไรถงึ จะสามารถหาคาตอบการคูณได้อยา่ งรวดเรว็

(แนวตอบ ขน้ึ อย่กู ับดลุ ยพนิ จิ ของครผู ้สู อน)

27. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ เร่ือง การหาผลคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 ดังน้ี

“จานวนใดคูณกับ 20, 30, 40, ...., 90 จะได้ผลคูณเท่ากับจานวนนั้นคูณกับ 2, 3, 4, ...., 9 แล้วเติม 0 หน่ึง

ตวั ตอ่ ทา้ ย”

ชว่ั โมงท่ี 4

28. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับ 20, 30, 40, ...., 90 ให้นักเรียนดูอีกครั้งบนกระดาน พร้อมกับ

อธบิ ายขัน้ ตอนวธิ กี ารคณู จานวนท่ีมีสองหลกั กับ 10 จากช่ัวโมงทแ่ี ล้ว ดังนี้

- ขน้ั ท่ี 1 นาหลกั หนว่ ยของตัวคูณ คือ 0 คูณหลักหน่วยและหลกั สบิ ของตัวตง้ั ตามลาดบั

- ขั้นท่ี 2 นาหลักสิบของตัวคูณ คือ 30 คูณหลักหนว่ ยและหลกั สิบของตวั ต้งั ตามลาดับ

- ขัน้ ท่ี 3 หาผลคณู ของการคูณ โดยการนาผลคูณทไ่ี ด้ในขน้ั ท่ี 1 และขัน้ ท่ี 2 มาบวกกนั

29. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านโจทย์การคูณในหนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 119 พร้อมกัน จากน้ันตั้งคาถาม

ถามนักเรียนว่า ถ้าเป็นโจทย์การคูณดังกล่าวนักเรียนจะมีวิธีการหาคาตอบอย่างไร และนักเรียนคิดว่าทาได้

หรอื ไม่

(แนวตอบ ขึ้นอยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

30. ครูตั้งโจทย์การคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนท่ีมีสองหลัก เช่น 85 x 24 =  บนกระดาน จากนั้นขอ

อาสาสมัครนักเรียน 1 คน ออกมาแสดงวธิ ีการคูณจานวนที่มีสองหลักกบั จานวนที่มีสองหลกั โดยมคี รูคอยให้

คาแนะนา จากนั้นครูและนักเรยี นที่เหลือชว่ ยกันเฉลยคาตอบ

31. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก ให้นักเรียนดูอีกคร้ังบนกระดาน พร้อมกับ

อธบิ ายขน้ั ตอนวิธกี ารคูณจานวนท่มี สี องหลักกับจานวนทมี่ ีสองหลกั ดังนี้

- ขั้นท่ี 1 นาหลักหนว่ ยของตัวคณู คณู หลักหน่วยและหลักสิบของตัวตัง้ ตามลาดับ

- ขั้นท่ี 2 นาหลักสิบของตัวคูณ คูณหลักหน่วยและหลกั สบิ ของตวั ต้ังตามลาดบั

- ขนั้ ท่ี 3 หาผลคูณของการคณู โดยการนาผลคูณที่ได้ในขัน้ ที่ 1 และขน้ั ท่ี 2 มาบวกกัน

32. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการคูณจานวนท่ีมีสองหลักกับจานวนท่ีมีสองหลัก ในหนังสือเรียน

คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนา้ 119 จากนั้นครูจงึ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ เพ่อื ให้นกั เรยี นเข้าใจมากยงิ่ ขน้ึ

34. ครูแสดงการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก เพ่มิ เติมอกี 2-3 ตวั อยา่ ง เพ่ือให้นักเรยี นเกิด

ความเข้าใจมากย่ิงขน้ึ

35. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้แต่ละกลุ่มแข่งขันกันหา

คาตอบจากโจทยก์ ารคณู จานวนที่มสี องหลักกบั จานวนที่มสี องหลกั โดยแสดงวิธีการหาคาตอบบนกระดานคน

ละ 1 หลักแล้วกลบั ไปนั่งท่ี ให้คนตอ่ ไปออกมาหาผลคูณในหลักต่อไปจนครบทุกหลัก (ครยู กตัวอย่าง 3-5 ข้อ

เพื่อใหน้ กั เรยี นเกดิ ความชานาญ) กลมุ่ ใดเสร็จก่อนและทาไดถ้ กู ต้องมากที่สุดเปน็ ฝา่ ยชนะ

ตวั อย่างโจทย์

- 74 x 16 =  - 19 x 43 = 

- 55 x 21 =  - 74 x 82 = 

- 68 x 45 =  - 95 x 97 = 

36. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปข้ันตอนการหาผลคูณจานวนทมี่ ีสองหลักกับจานวนทมี่ ีสองหลัก ดงั นี้

- ขัน้ ที่ 1 นาหลักหนว่ ยของตัวคณู คณู หลักหนว่ ยและหลกั สิบของตัวตงั้ ตามลาดับ
- ขัน้ ท่ี 2 นาหลกั สิบของตวั คูณ คูณหลกั หนว่ ยและหลักสิบของตวั ตง้ั ตามลาดบั
- ขน้ั ที่ 3 หาผลคณู ของการคณู โดยการนาผลคณู ท่ีได้ในขั้นท่ี 1 และขั้นท่ี 2 มาบวกกนั

ชวั่ โมงที่ 5

37. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เกี่ยวกับการหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก จาก
ชั่วโมงที่แลว้

38. ครูแบง่ นักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชาย และนักเรียนหญงิ ) ให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมาหน้าชั้น
เรียนครัง้ ละ 1 คน จากน้นั ครตู ิดบัตรโจทยก์ ารคูณบนกระดานดงั นี้

51 x 10 =  74 x 80 =  98 x 91 =  61 x 70 =  54 x 96 = 

25 x 33 =  18 x 70 =  23 x 24 =  43x 10 =  58 x 20 = 

39. ครูใหน้ ักเรียนเล่นเกม “เลือกถกู ..คิดไว..ไดค้ ะแนน” โดยมีกตกิ าเกมคือ ให้ตวั แทนกลุ่มเลอื กบัตรโจทย์การคูณ
คนละ 1 แผ่น จากน้ันหาคาตอบแล้วเขียนคาตอบลงในช่องว่าง เม่ือทาเสร็จให้ตัวแทนคนต่อมาเลือกบัตร
โจทย์ใหม่และหาคาตอบแล้วเขียนคาตอบลงในช่องว่าง ซึ่งกลุ่มท่ีทาได้มากที่สุดและถูกต้องก็จะเป็นกลุ่มท่ี
ชนะ ครูกลา่ วชมเชยนกั เรียนกลุ่มที่ชนะว่าเป็น “นักคณติ คดิ ไว”

40. ครตู ง้ั คาถามกระตุ้นความคดิ นกั เรียนวา่ หากนักเรียนอยากเป็นนักคณติ คดิ ไวจะต้องทาอย่างไรบ้าง
(แนวตอบ ขน้ึ อยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)

41. ครใู หน้ ักเรียนจับคกู่ นั ศึกษาตวั อย่างท่ี 9 ในหนงั สือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 120
42. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คู่ ออกมาอธิบายขั้นตอนการคูณจากตัวอย่างท่ี 9 ที่หน้าช้ันเรียน โดยครูตรวจสอบความ

ถูกต้อง และอธิบายเพ่ิมเตมิ เพ่อื ใหน้ กั เรียนเข้าใจมากยง่ิ ข้ึน
43. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นให้แต่ละกลุ่มคิด

โจทย์การคูณจากที่ได้เรียนมา แล้วส่งตัวแทนออกมา 1 คน เขียนโจทย์การคูณน้ันบนกระดาน จากน้ันเลือก
เพื่อนท่ีอยู่อีกกลุ่ม 1 คน ออกมาหาคาตอบโจทย์การคูณนั้น กลุ่มที่ตอบถูกจะได้คะแนนสะสม 1 คะแนน ซ่ึง
ครูจะใหส้ ลบั กันออกมา 4-5 ครงั้ จบเกมกลุ่มที่มีคะแนนมากทสี่ ดุ จะเป็นกลุม่ ท่ีชนะ
44. ครตู ้ังคาถามเพื่อทบทวนบทเรียนวา่ จากโจทย์การคณู ท่ีนักเรียนคิดมา จานวนใดบ้างเป็นตัวต้งั จานวนใดบ้าง
เปน็ ตัวคูณ และจานวนใดบา้ งเป็นผลลัพธ์
(แนวตอบ ขนึ้ อยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
45. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทาใบงานที่ 4.6 เร่ือง การคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก เม่ือ
เสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยนักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
จากน้ันครูกล่าวชมเชยกลุ่มที่ทาเสร็จภายในเวลาและทาถูกต้อง และให้กาลังใจกลุ่มท่ีทาไม่ถูกต้องหรือทาไม่
ทนั เวลา พรอ้ มอธบิ ายเพ่มิ เติม

46. ครูให้นักเรียนเล่นเกม ไก่จ๋า...ตามหาครอบครัว กติกาคือนักเรียนแต่ละคนจะได้บัตรภาพแม่ไก่หรือลูกไก่คน
ละตัว ซ่ึงที่ตัวแม่ไก่หรือลูกได้จะมีบัตรโจทย์หรือบัตรจานวนติดอยู่ ให้นักเรียนจับคู่เพ่ือนที่มีคาตอบกับโจทย์
การคูณตรงกัน ภายในเวลาที่ครูกาหนด โดยครูอาจจะกาหนดเวลาในการเล่น 10 นาที ซึ่งนักเรียนคนใดท่ีไม่
สามารถจบั คูไ่ ด้กจ็ ะถูกลงโทษโดยการเต้นหนา้ ช้ันเรยี น

47. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละคู่ จากนนั้ ลงโทษนักเรยี นที่ไม่สามารถบรรลุภารกิจใน
การจบั คู่

48. ครูให้นักเรียนจับคู่กันทากิจกรรม “เพ่ือนช่วยเพ่ือน” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 120
จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบ และครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ

ขนั้ สรุป
สรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับการคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก ดังนี้ “ขั้นตอน

ในการคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสองหลัก ให้นาหลักหน่วยของตัวคูณ คูณหลักหน่วยและหลักสิบ
ของตัวต้ังตามลาดับ จากนั้นนาหลักสิบของตัวคูณคูณหลักหน่วยและหลักสิบของตัวต้ังตามลาดับ สุดท้ายหา
ผลคูณของการคูณ โดยการนาผลคณู ทไ่ี ด้ทัง้ สองครงั้ มาบวกกัน”
2. ครูใหน้ กั เรียนทกุ คนทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนงั สือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 121 ลงในสมดุ

3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเฉลยคาตอบกิจกรรมฝกึ ทักษะที่หน้าช้ันเรียน โดยครูและเพื่อน ๆ ท่ีเหลือร่วมกัน

ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วครูจงึ กล่าวชืน่ ชมและอธิบายเพ่ิมเติมในจุดที่บกพร่อง

4. ครูให้นักเรียนทุกคนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเป็น

รายบุคคล

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน

ประเมนิ ระหว่างการจดั - ใบงานที่ 4.4 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ใบงานท่ี 4.5 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมการเรยี นรู้ - ใบงานท่ี 4.6 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- กิจกรรมฝึกทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) การคูณจานวนทม่ี ี - ตรวจใบงานท่ี 4.4 - แบบฝึกหดั - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น
สองหลักกบั - ตรวจใบงานที่ 4.5 นาเสนอผลงาน
เกณฑ์
จานวนท่มี ี - ตรวจใบงานที่ 4.6

สองหลกั - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ

- ตรวจแบบฝึกหัด

2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ

ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการทา

ทากิจกรรม กิจกรรม

รายการวดั วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล
การทางาน ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
4) พฤติกรรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลุ่ม - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์
5) คณุ ลกั ษณะ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั คุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผ่านเกณฑ์

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง การคูณจานวนไมเ่ กิน 100,000
2) หนังสือแบบฝึกหัด คณติ ศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 4 เรือ่ ง การคณู จานวนไม่เกนิ 100,000
3) ใบงานที่ 4.4 เรือ่ ง รูห้ รือไม่ คูณแล้วได้เทา่ ไรนะ
4) ใบงานท่ี 4.5 เรื่อง ฝกึ สมอง...ประลองการคูณ
5) ใบงานท่ี 4.6 เรื่อง การคูณจานวนทม่ี สี องหลักกับจานวนทีม่ ีสองหลกั
6) มงกฎุ พระราชา
7) บตั รโจทย์
8) แถบประโยคสัญลักษณ์การคูณ
9) บัตรภาพลกู ไก่
10) บัตรภาพแม่ไก่

8.2 แหล่งการเรียนรู้
- ห้องเรยี น

ใบงานที่ 4.4
เร่ือง รู้หรอื ไม่ คณู แลว้ ได้เท่าไรนะ

คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นหาผลคูณเติมลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง

2. 16 x 1 = 16 x 10 =

2. 24 x 1 = 24 x 10 =

3. 37 x 1 = 37 x 10 =

4. 58 x 1 = 58 x 10 =

5. 32 x 1 = 32 x 10 =

6. 91 x 1 = 91 x 10 =

8. 85 x 1 = 85 x 10 =

8. 62 x 1 = 62 x 10 =

9. 74 x 1 = 74 x 10 =

10. 88 x 1 = 88 x 10 =

11. 45 x 1 = 45 x 10 =

12. 95 x 1 = 95 x 10 =

13. 41 x 1 = 41 x 10 =

14. 23 x 1 = 23 x 10 =

15. 99 x 1 = 99 x 10 =

ใบงานท่ี 4.4 เฉลย
เร่อื ง ร้หู รอื ไม่ คณู แลว้ ไดเ้ ท่าไรนะ
160
คาช้แี จง : ให้นักเรียนหาผลคูณเตมิ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง 240
370
1. 16 x 1 = 16 16 x 10 = 580
= 320
2. 24 x 1 = 24 24 x 10 = 910
= 850
3. 37 x 1 = 37 37 x 10 = 620
= 740
4. 58 x 1 = 58 58 x 10 = 880
= 450
5. 32 x 1 = 32 32 x 10 = 950
= 410
6. 91 x 1 = 91 91 x 10 =
=
7. 85 x 1 = 85 85 x 10 =

8. 62 x 1 = 62 62 x 10

9. 74 x 1 = 74 74 x 10

10. 88 x 1 = 88 88 x 10

11. 45 x 1 = 45 45 x 10

12. 95 x 1 = 95 95 x 10

13. 41 x 1 = 41 41 x 10

14. 23 x 1 = 23 23 x 10 = 230
15. 99 x 1 = 99 99 x 10 = 990

ใบงานที่ 4.5
เรอื่ ง ฝึกสมอง...ประลองการคูณ

คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นหาผลคูณเตมิ ลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง

1. 26 x 2 = 26 x 20 =

2. 34 x 3 = 34 x 30 =

3. 47 x 4 = 47 x 40 =

4. 58 x 6 = 58 x 60 =

5. 32 x 8 = 32 x 80 =

6. 96 x 5 = 96 x 50 =

7. 84 x 9 = 84 x 90 =

8. 62 x 7 = 62 x 70 =

9. 73 x 5 = 73 x 50 =

10. 87 x 3 = 87 x 30 =

11. 45 x 8 = 45 x 80 =

12. 91 x 9 = 91 x 90 =

13. 49 x 6 = 49 x 60 =

14. 23 x 7 = 23 x 70 =
15. 92 x 4 = 92 x 40 =

ใบงานท่ี 4.5 เฉลย
เร่ือง ฝึกสมอง...ประลองการคูณ
520
คาชี้แจง : ให้นักเรยี นหาผลคูณเติมลงในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง 1,020
1,880
1. 26 x 2 = 52 26 x 20 = 3,480
2,560
2. 34 x 3 = 102 34 x 30 = 4,800
7,560
3. 47 x 4 = 188 47 x 40 = 4,340
3,650
4. 58 x 6 = 348 58 x 60 = 2,610
3,600
5. 32 x 8 = 256 32 x 80 = 8,190
2,940
6. 96 x 5 = 480 96 x 50 =

7. 84 x 9 = 756 84 x 90 =

8. 62 x 7 = 434 62 x 70 =

9. 73 x 5 = 365 73 x 50 =

10. 87 x 3 = 261 87 x 30 =

11. 45 x 8 = 360 45 x 80 =

12. 91 x 9 = 819 91 x 90 =

13. 49 x 6 = 294 49 x 60 =

14. 23 x 7 = 161 23 x 70 = 1,610
15. 92 x 4 = 368 92 x 40 = 3,680

ใบงานที่ 4.6
เรอื่ ง การคณู จานวนท่มี ีสองหลกั กับจานวนท่มี สี องหลัก

คาชี้แจง : นกั เรยี นระบายสีแถบประโยคโจทย์การคณู ที่มีคาตอบถูกต้อง จากนนั้ นาข้อที่ถกู ต้องไปแสดงวิธที าดา้ นล่าง

29 x 31 = 899 48 x 72 = 3,486 53 x 24 = 1,272 74 x 53 = 3,902 82 x 99 = 8,118
69 x 13 = 877 38 x 67 = 2,546 93 x 37 = 3,441 24 x 25 = 600 32 x 87 = 2,584

1. ประโยคสญั ลกั ษณ.์ ....................................................... 2. ประโยคสญั ลักษณ์...................................................

3. ประโยคสัญลักษณ์.................................................. 4. ประโยคสัญลักษณ.์ ................................................

5. ประโยคสัญลักษณ.์ .................................................. 6. ประโยคสัญลักษณ.์ .................................................

ใบงานท่ี 4.6 เฉลย
เร่ือง การคณู จานวนท่ีมีสองหลักกบั จานวนที่มีสองหลกั

คาชแ้ี จง : นกั เรียนระบายสีแถบประโยคโจทย์การคณู ท่ีมคี าตอบถูกต้อง จากนน้ั นาข้อท่ีถกู ต้องไปแสดงวธิ ีทาดา้ นลา่ ง

29 x 31 = 899 48 x 72 = 3,486 53 x 24 = 1,272 74 x 53 = 3,902 82 x 99 = 8,118
69 x 13 = 877 38 x 67 = 2,546 93 x 37 = 3,441 24 x 25 = 600 32 x 87 = 2,584

1. ประโยคสญั ลกั ษณ์ 29 x 31 =  2. ประโยคสญั ลักษณ์ 53 x 24 = 

29 53
3 1x 2 4x
29 2 12
8 70 1 060
899 1 2 72

3. ประโยคสัญลกั ษณ์ 82 x 99 =  4. ประโยคสญั ลักษณ์ 38 x 67 = 

82 38
9 9x 6 7x
738 26 6
7 380 2 280
8 1 18 254 6

5. ประโยคสญั ลกั ษณ์ 93 x 37 =  6. ประโยคสญั ลักษณ์ 24 x 25 = 

93 24
3 7x 2 5x
651 120
2 790 480
3 441 600

บตั รจานวน เกมจับค่พู ระราชา 1,020

51 x 20 =  6,800
85 x 80 =  1,620
54 x 30 =  1,050
15 x 70 =  2,880
48 x 60 =  8,370
93 x 90 = 

62 x 50 =  3,100
74 x 40 =  2,960

บัตรจานวน เกมไก่จ๋า...ตามหาครอบครัว 1,504

32 x 47 =  7,055
85 x 83 =  2,028
52 x 39 =  1,170
15 x 78 =  2,806
46 x 61 = 


Click to View FlipBook Version