97 x 24 = 2,328
63 x 56 = 3,528
78 x 42 = 3,276
แถบประโยคสญั ลกั ษณ์
29 x 5 = 145
48 x 8 = 386
63 x 7 = 441
49 x 5 = 205
72 x 9 = 648
15 x 10 = 150
บตั รภาพ
บนั ทึกผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ผลการเรียนรูท้ เี่ กิดขึน้ กับผเู้ รยี น
1.1 ผูเ้ รยี นผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน...................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
1.2 ผเู้ รียนไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน
ได้แก่
................................................................................................................... ..................................................
สาเหตุ
....................................................................................................... ……………………………………………………
1.3 ผู้เรยี นได้รบั ความรู้ :
......................................................................................................……………………………………..
1.4 ผูเ้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม
:......................................................................................................………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….………………………....................................................................................................................... ......................
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
......................................................................................................................... ..............................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
ลงช่ือ........................................ผสู้ อน
(นางสาวพรรัตน์ จนั ทรค์ า)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 21
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง การคณู จานวนไม่เกนิ 100,000 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง
เวลา ……………………………
เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการคูณ
ชื่อผ้สู อน นางสาวพรรัตน์ จันทร์คา วันท่ี ........................................
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการคณู จานวนไมเ่ กนิ 100,000 ทก่ี าหนดให้ได้ (K)
2) วางแผนขนั้ ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการคูณจานวนไม่เกนิ 100,000 ท่กี าหนดให้ได้ (K)
3) เขยี นประโยคสัญลักษณ์จากโจทยป์ ญั หาการคูณจานวนไม่เกิน 100,000 ไดถ้ ูกต้อง (P)
4) เขยี นแสดงวธิ ีแก้โจทย์ปัญหาการคูณจานวนไม่เกนิ 100,000 ที่กาหนดให้ได้ถูกต้อง (P)
5) หาคาตอบโจทยป์ ัญหาการคูณจานวนไม่เกิน 100,000 พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบได้ (P)
6) นาความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการคูณไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวิตจรงิ ได้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น
การแก้โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทย์ปัญหา พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
พร้อมท้งั หาคาตอบ
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
โจทย์ปัญหาการคูณจะประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนท่ีโจทย์กาหนดให้และส่วนที่โจทย์ถาม การแก้โจทย์
ปัญหาการคูณมีขั้นตอนสาคัญคือ ทาความเข้าใจ และวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนในการแก้โจทย์ปัญหา
แก้ปญั หา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินยั
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
1) ทกั ษะการเขียน
2) ทักษะการสังเกต
3) ทกั ษะการเชอื่ มโยง
4) ทักษะการใหเ้ หตุผล
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5) ทกั ษะกระบวนการคดิ แก้ปัญหา
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบค้นพบ (Discovery Method)
ชว่ั โมงท่ี 1
ขนั้ นา
นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากน้ันครูทบทวนการคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนไม่เกินสี่หลัก และการคูณ
จานวนที่มีสองหลกั กับจานวนที่มีสองหลัก โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็นสองกลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชาย และกลุ่ม
นักเรยี นหญงิ ) ใหน้ กั เรียนทกุ คนเตรยี มกระดาษทดขนึ้ มา จากนัน้ ตง้ั คาถามถามนักเรียนเก่ยี วกบั การคูณ ดังน้ี
- 800 x 5 = - 9 x 100 =
(แนวตอบ 4,000) (แนวตอบ 900)
- 485 x 6 = - 85 x 30 =
(แนวตอบ 2,910) (แนวตอบ 2,550)
- 59 x 27 = - 98 x 45 =
(แนวตอบ 1,593) (แนวตอบ 4,410)
ซึ่งนักเรียนที่ยกมือก่อนจะมีสิทธิ์ตอบก่อน หากตอบถูกก็จะได้คะแนนสะสมไปกลุ่มละ 1 คะแนน กลุ่มใดได้
คะแนนมากทสี่ ดุ กจ็ ะเปน็ กลุ่มทช่ี นะ
2. ครูติดบัตรแถบโจทย์ปัญหาการคูณบนกระดาน ให้นักเรียนช่วยกันหาคาตอบเพ่ือเป็นการทบทวนและฝึก
วิเคราะหแ์ ก้โจทยป์ ัญหา
แปง้ มดี นิ สอสี 8 กล่อง แตล่ ะกล่องมสี ีทงั้ หมด 36 แทง่ แป้งมีสที ัง้ หมดก่แี ท่ง
ให้นักเรยี นวิเคราะห์และตอบคาถามจากโจทย์ปญั หา ดังนี้
ส่ิงทโี่ จทยถ์ ามคืออะไร
(แนวตอบ แป้งมีสีทง้ั หมดก่ีแทง่ )
สง่ิ ทีโ่ จทย์กาหนดใหค้ ืออะไร
(แนวตอบ แปง้ มีดินสอสี 8 กลอ่ ง แตล่ ะกลอ่ งมีสี 36 แท่ง)
สรปุ ไดว้ า่ โจทย์ปัญหามีส่วนประกอบ 2 สว่ น อะไรบ้าง
(แนวตอบ สิง่ ทโี่ จทยถ์ ำม และส่ิงท่โี จทยก์ ำหนดให้)
จากโจทยป์ ัญหาดังกล่าวนักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณไ์ ดว้ า่ อย่างไร
(แนวตอบ 8 x 36 = )
ข้นั สอน
สอน
1. ครูให้นักเรียนทุกคนอ่านโจทย์ปัญหาจากคาถามมุมขวาบน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 122
พร้อมกนั เพอ่ื ทบทวนความรู้เดิม
2. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเพอื่ ตอบคาถาม โดยครูต้งั คาถามกระตุ้นความคดิ นกั เรียน ดงั นี้
ส่งิ ที่โจทยถ์ ามคืออะไร
(แนวตอบ เต๋ำมดี นิ สอท้ังหมดก่แี ท่ง)
ส่ิงท่ีโจทย์กาหนดให้คอื อะไร
(แนวตอบ เตำ๋ มดี ินสอ 4 กลอ่ ง กลอ่ งละ 12 แท่ง)
โจทย์ดังกล่าวเปน็ โจทยป์ ญั หาประเภทใด
(แนวตอบ โจทยป์ ญั หำกำรคูณ)
คาตอบของโจทยป์ ญั หานีค้ ืออะไร
(แนวตอบ 48 แท่ง)
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกัน
พิจารณาโจทย์ปัญหา และศึกษาข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหา ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า
122-123
4. ครขู ออาสาสมคั ร 3-4 กลุ่ม ออกมานาเสนอขน้ั ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาทีห่ น้าช้นั เรยี น ซึ่งประกอบด้วย
- การวิเคราะห์โจทย์ปญั หา
- การวางแผนแกโ้ จทย์ปญั หา
- การแก้โจทย์ปญั หา
- การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
โดยครูและนักเรียนกลุม่ ทเ่ี หลือรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง และครอู ธิบายเพ่ิมเติม
5. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ต และปากกาเคมีให้นักเรียนทุกกลุ่ม จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขียน
ขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา ซงึ่ ประกอบดว้ ย
- การวิเคราะห์โจทยป์ ญั หา
- การวางแผนแกโ้ จทย์ปญั หา
- การแกโ้ จทยป์ ัญหา
- การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
6. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่ม (ไม่ซ้ากลุ่มเดิม) ออกมานาเสนอขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาจากกระดาษ
ฟลิปชาร์ตของกลมุ่ ตนเองที่หนา้ ชน้ั เรยี น โดยครแู ละนกั เรียนกลมุ่ ท่ีเหลอื ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปขน้ั ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการคูณ
ชว่ั โมงที่ 2
8. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหาการคูณ จากช่ัวโมงที่แล้ว ดังน้ี “ข้ันตอนการแก้
โจทยป์ ญั หา ประกอบดว้ ย
- การวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หา
- การวางแผนแก้โจทย์ปญั หา
- การแก้โจทยป์ ญั หา
- การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ”
9. ครูใช้คาถามกระตุ้นใหน้ กั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์ ดังนี้
โจทย์ปญั หาการคณู จะประกอบไปด้วยกี่สว่ น อะไรบ้าง
(แนวตอบ 2 ส่วน คือ สง่ิ ทโี่ จทย์กำหนดให้ และสิง่ ทโ่ี จทยถ์ ำม)
นกั เรยี นจะหาคาตอบโจทย์ปัญหาการคณู ได้อย่างไร
(แนวตอบ ทำได้โดยกำรวิเครำะห์โจทย์ เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ล้วหำคำตอบ)
10. ครูยกตวั อย่างโจทย์ปญั หาการคณู บนกระดาน ให้นกั เรียนฝกึ วิเคราะห์เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ และหาคาตอบ
แม่ออกกาลงั กายโดยการวง่ิ รอบสวนสาธารณะวันละ 3 รอบ รอบละ 450 เมตร โดยแม่จะวิง่ เปน็
ระยะทางเท่าเดิมทุกวนั ในเวลา 5 วนั แมจ่ ะวงิ่ เป็นระยะทางทงั้ หมดกเ่ี มตร
ให้นกั เรียนวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทย์ปญั หา ดังนี้
สิ่งทโ่ี จทย์ถามคอื อะไร
(แนวตอบ แมจ่ ะวิ่งเปน็ ระยะทำงทงั้ หมดกีเ่ มตร)
สงิ่ ทีโ่ จทยก์ าหนดใหค้ อื อะไร
(แนวตอบ แม่ออกกำลังกำยโดยกำรวิ่งรอบสวนสำธำรณะวันละ 3 รอบ รอบละ 450 เมตร โดยแม่จะว่ิง
เปน็ ระยะทำงเทำ่ เดมิ ทกุ วัน ในเวลำ 5 วัน)
วิธีแกโ้ จทยป์ ัญหานีค้ อื วิธีใด
(แนวตอบ วิธีคูณ)
นกั เรียนจะวางแผนแก้โจทยป์ ญั หาน้ีอย่างไร
(แนวตอบ ขน้ึ อยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
จากโจทยป์ ัญหาดังกล่าวนักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ได้วา่ อย่างไร
(แนวตอบ (3 x 450) x 5 = )
การแสดงวิธีทาและหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการคูณมีหลักการอย่างไร
(แนวตอบ ขึน้ อย่กู บั ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)
คาตอบของโจทยป์ ญั หานีค้ อื อะไร
(แนวตอบ แมจ่ ะวิง่ เป็นระยะทำงทั้งหมด 6,750 เมตร)
11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหาจากตัวอย่างท่ี 10 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3
เลม่ 1 หนา้ 124 อยา่ งละเอียด ทีละขนั้ ตอน จากนน้ั ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามในประเด็นทย่ี ังไม่เข้าใจ
12. ครูสาธิตการแก้โจทย์ปัญหา และแสดงวิธีทาบนกระดานอย่างช้า ๆ ให้นักเรียนดู 2-3 ตัวอย่าง พร้อมทั้ง
อธบิ ายตามขน้ั ตอน ดังน้ี
1) ทาความเข้าใจ และวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหา
2) วางแผนในการแก้โจทยป์ ญั หา
3) แก้ปัญหา
4) การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
เพื่อให้นักเรยี นไดเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั การคูณมากยง่ิ ขึน้
ฝกึ ทักษะ
1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกันทา
ใบงานท่ี 4.7 เรอ่ื งโจทยป์ ัญหาการคูณ
2. ครขู อตวั แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงาน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง และใหค้ าแนะนาเพ่ิมเติม
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เร่ือง โจทย์ปัญหาการคูณและการแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคูณว่า
โจทย์ปัญหาการคูณจะประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่โจทย์กาหนดให้และส่วนท่ีโจทย์ถาม การแก้โจทย์
ปัญหาการคูณมีขั้นตอนสาคัญคือ ทาความเข้าใจ และวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนในการแก้โจทย์ปัญหา
แกป้ ัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
ช่ัวโมงที่ 3
4. ครูทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงท่ีผ่านมา เร่ืองโจทย์ปัญหาการคูณ โดยครูนาแถบประโยคเก่ียวกับโจทย์
ปัญหาติดไว้บนกระดานจากนั้นครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักเรียนชายและกลุ่มนักเรียนหญิง
จากนั้นให้ทั้งสองกลุ่มแข่งขันกันเรียงแถบประโยคท่ีติดบนกระดานให้เป็นโจทย์ปัญหาการคูณ กลุ่มท่ีทาเสร็จ
ก่อนและถกู ตอ้ งกจ็ ะเป็นกลุ่มท่ีชนะ จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ
โรงงานผลติ กระดาษไดช้ ั่วโมงละ 450 แผน่ ธดิ าทางานวนั ละ 5 ชวั่ โมง
โรงงานจะผลิตกระดาษท้งั หมดก่แี ผน่ ธิดาทางานได้เงินชัว่ โมงละ 200 บาท
โรงงานผลิตกระดาษวนั ละ 5 ชั่วโมง
ธิดาจะไดเ้ งนิ ทั้งหมดก่ีบาท
ถ้าโรงงานผลิตกระดาษท้ังหมด 1 สปั ดาห์ ถา้ หนึง่ เดอื นธดิ าทางาน 20 วัน
5. ครทู บทวนการแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการคูณ โดยครูเขยี นโจทยป์ ัญหาการคูณบนกระดาน
ร้านเค้กขายเคก้ ไดว้ นั ละ 50 ก้อน ราคาก้อนละ 75 บาท ถ้ารา้ นเคก้ นี้ขายหมดทุกวันเป็นเวลา 10 วนั
รา้ นเค้กนีจ้ ะได้รับเงนิ ทง้ั หมดก่บี าท
จากนน้ั ครใู ห้นักเรียนวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทยป์ ัญหา ดงั น้ี
จากโจทย์ปญั หาบนกระดาน สงิ่ ทีโ่ จทยถ์ ามคอื อะไร
(แนวตอบ รำ้ นเค้กนจี้ ะได้รบั เงนิ ทง้ั หมดก่บี ำท)
จากโจทย์ปญั หาบนกระดาน สงิ่ ทโ่ี จทย์กาหนดใหค้ ืออะไร
(แนวตอบ ร้ำนเค้กขำยเค้กได้วันละ 50 ก้อน รำคำก้อนละ 75 บำท ถ้ำร้ำนเค้กน้ีขำยหมดทุกวันเป็นเวลำ
10 วัน)
นกั เรียนจะมวี ธิ ีการแกโ้ จทยป์ ญั หานอี้ ยา่ งไร
(แนวตอบ ใชว้ ธิ ีกำรคูณ)
นักเรียนจะวางแผนแกโ้ จทย์ปญั หานีอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ ขนึ้ อยู่กับดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)
จากโจทยป์ ัญหาดงั กลา่ วนักเรียนเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ไดว้ า่ อยา่ งไร
(แนวตอบ (50 x 75) x 10 = )
การแสดงวิธที าและหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณมีหลกั การอยา่ งไร
(แนวตอบ ข้นึ อยูก่ บั ดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
คาตอบของโจทยป์ ญั หาน้ีคืออะไร
(แนวตอบ ร้ำนเค้กน้ีจะได้รบั เงินทง้ั หมด 37,500 บำท)
นกั เรียนจะมีวธิ ีการในการตรวจสอบความสมเหตุลมผลของคาตอบได้อย่างไร
(แนวตอบ เน่ืองจำก 75 มีค่ำใกล้เคียง 80 แต่มำกกว่ำ ซึ่ง 50 x 80 = 4000 จะได้ว่ำ 3750 < 4000
ดงั น้นั 3750 จงึ เป็นคำตอบสมเหตสุ มผล และเมื่อเอำ 3750 x 10 จะได้ 37,500)
6. ครูสาธิตการแก้โจทย์ปัญหา และแสดงวิธีทาบนกระดานอย่างช้า ๆ ให้นักเรียนดู 2-3 ตัวอย่าง พร้อมท้ัง
อธิบายตามขนั้ ตอน ดังน้ี
1) ทาความเข้าใจ และวเิ คราะห์โจทย์ปัญหา
2) วางแผนในการแกโ้ จทย์ปัญหา
3) แก้ปัญหา
4) การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้เข้าใจเรื่องโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับการคูณมากยง่ิ ขนึ้
7. ครูแบ่งนักเรยี นอกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร)์ จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม
ร่วมกันทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 127 โดยเขียนคาตอบลงในสมุด
เสร็จแล้วนักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคาตอบ ครูกล่าวชมเชยกลุ่มที่ทาเสร็จ และตอบได้ถูกต้องมากที่สุด ถ้า
ขอ้ ใดนักเรียนไมเ่ ข้าใจ ครนู ามาอธิบายเพ่ิมเติมบนกระดาน
ขัน้ สรุป
สรุป
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายและสรปุ เกยี่ วกับโจทยป์ ญั หาการคณู จนได้ประเดน็ ดังนี้
- การแก้โจทย์ปัญหาการคูณ ต้องเร่ิมจากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาก่อน ว่าสิ่งที่โจทย์กาหนดให้คืออะไร
และสง่ิ ทีโ่ จทยถ์ ามคอื อะไร จากนนั้ วางแผนแก้โจทย์ปัญหานัน้
- การแกป้ ญั หา ใหเ้ รม่ิ จากเขียนประโยคสัญลกั ษณ์ จากน้ันแสดงวธิ ีทา สุดท้ายตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ของคาตอบ
2. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปญั หาการคูณบนกระดาน 2-3 ตวั อย่าง และให้นักเรียนบอกประโยคสัญลักษณ์ของโจทย์
ปัญหาน้ัน
3. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญ เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณและการแสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา
การคูณ ดังนี้ “โจทย์ปัญหาการคูณจะประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนท่ีโจทยก์ าหนดให้และส่วนท่ีโจทย์ถาม
การแก้โจทย์ปัญหาการคูณมีขั้นตอนสาคัญคือ ทาความเข้าใจ และวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนในการแก้
โจทย์ปญั หา แก้ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ”
4. ครูให้นักเรียนทุกคนทากิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 1 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 127 เป็น
การบา้ น เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจเป็นรายบคุ คล
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมินระหว่างการจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจใบงานที่ 4.7 - ใบงานท่ี 4.7 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) โจทยป์ ญั หา - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น
การคณู ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน
2) การนาเสนอ กิจกรรม เกณฑ์
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
ผลงาน/ผลการทา การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ 2
กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์
3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
การทางาน การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม - ระดับคณุ ภาพ 2
รายบุคคล - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่น คณุ ลกั ษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
การทางานกลุ่ม ในการทางาน อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยที่ 4 เร่อื ง การคูณจานวนไม่เกนิ 100,000
2) ใบงานที่ 4.7 เรอ่ื ง รหู้ รอื ไม่ คูณแลว้ ได้เทา่ ไรนะ
3) แถบประโยคโจทยป์ ัญหา
4) กระดาษฟลิปชาร์ต
5) ปากกาเคมี
6) บัตรโจทย์ปญั หา
7) กลอ่ งปรศิ นาท้าแก้โจทย์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
- หอ้ งเรียน
ใบงานท่ี 4.7
เรื่อง โจทย์ปัญหาการคณู
คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนแสดงวิธที าและหาคาตอบโจทยป์ ญั หาต่อไปนี้
1. พซี่ ้อื รองเท้าผา้ ใบมาราคาคู่ละ 3,278 บาท ซ้ือมาทั้งหมด 6 คู่ พจ่ี า่ ยเงนิ ไปทั้งหมด
กีบ่ าท
ประโยคสัญลักษณ์
วิธีทา
ตอบ
2. แมข่ ายผ้าไป 47 เมตร ราคาเมตรละ 48 บาท แมข่ ายผา้ ได้เงินทั้งหมดกบ่ี าท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วธิ ีทา
ตอบ
3. ณิชาได้รับเงนิ เดือน เดือนละ 5,960 บาท เป็นเวลา 9 เดือน ณิชาไดร้ ับเงินเดือนท้งั หมด
กี่บาท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วธิ ีทา
ตอบ
4. สริ ภพซือ้ นมไปบรจิ าคนา้ ทว่ ม 7,895 กล่อง ราคากล่องละ 8 บาท สริ ภพจ่ายเงินไป
ทั้งหมดกี่บาท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วิธีทา
ตอบ
ใบงานท่ี 4.7 เฉลย
เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาการคูณ
คาชี้แจง : ให้นักเรียนแสดงวิธีทาและหาคาตอบโจทย์ปัญหาต่อไปนี้
1. พซ่ี ือ้ รองเท้าผา้ ใบมาราคาคู่ละ 3,278 บาท ซ้ือมาทงั้ หมด 6 คู่ พี่จา่ ยเงินไปท้งั หมด
ก่บี าท
ประโยคสญั ลักษณ์ 3,278 x 6 =
วิธีทา พี่ซือ้ รองเทา้ ผ้าใบมาราคาคูล่ ะ 3,278 บาท
ซอื้ มาท้งั หมด
6 คู่
พ่ีจ่ายเงินไปทงั้ หมด 19,668 บาท
ตอบ ๑๙,๖๖๘ บาท
2. แม่ขายผ้าไป 47 เมตร ราคาเมตรละ 48 บาท แม่ขายผา้ ได้เงนิ ทัง้ หมดกบี่ าท
ประโยคสัญลักษณ์ 47 x 48 =
วธิ ีทา แม่ขายผ้าไป 47 เมตร
ราคาเมตรละ
48 บาท
376
1,880
แมข่ ายผ้าได้เงินทั้งหมด 2,256 บาท
ตอบ ๒,๒๕๖ บาท
3. ณชิ าได้รับเงนิ เดือน เดือนละ 5,960 บาท เปน็ เวลา 9 เดือน ณชิ าไดร้ บั เงินเดือน
ท้ังหมดกี่บาท
ประโยคสญั ลกั ษณ์ 5,960 x 9 =
วธิ ีทา ณิชาไดร้ ับเงนิ เดือน เดือนละ 5,960 บาท
เป็นเวลา
9 เดอื น
ณิชาได้รับเงนิ เดือนท้ังหมด 53,640 บาท
ตอบ ๕๓,๖๔๐ บาท
4. สริ ภพซอ้ื นมไปบรจิ าคน้าทว่ ม 7,895 กล่อง ราคากล่องละ 8 บาท สริ ภพจา่ ยไป
ทั้งหมดก่ีบาท
ประโยคสญั ลักษณ์ 7,895 x 8 =
วธิ ีทา สิรภพซ้ือนมไปบริจาคน้าท่วม 7,895 กลอ่ ง
ราคากลอ่ งละ บาท
8
สิรภพจ่ายเงนิ ไปทั้งหมด 63,160 บาท
ตอบ ๖๓,๑๖๐ บาท
บัตรโจทย์ปญั หา
ชาวนาผลิตข้าวเหนียวได้ปีละ 450 กิโลกรัม ผลิต
ท้ังหมด 3 ปี ขายได้เงินกิโลกรัมละ 8 บาท ชาวนา
จะได้รบั เงินท้ังหมดเท่าไร
ร้านเค้กขายเค้กได้วันละ 50 ก้อน ราคาก้อนละ 75
บาท ถ้าร้านเค้กน้ีขายหมดทุกวันเป็นเวลา 10 วัน
ร้านเค้กนีจ้ ะได้รับเงินท้งั หมดกบ่ี าท
โรงงานแห่งหน่ึงผลิตน้าลาไยได้ 98 ขวด ขายขวด
ละ 24 บาท โรงงานจะได้เงินท้งั หมดกบ่ี าท
สุธีฝากเงินที่ธนาคารเดือนละ 4,570 บาท ฝากเป็น
เวลาท้ังหมด 9 เดือน สุธีจะมีเงินฝากในธนาคารก่ี
บาท
แถบโจทย์ปัญหา
โรงงานผลติ กระดาษไดช้ ั่วโมงละ 450 แผน่
โรงงานจะผลิตกระดาษทงั้ หมดกแี่ ผ่น
โรงงานผลติ กระดาษวนั ละ 5 ช่วั โมง
ถ้าโรงงานผลติ กระดาษทั้งหมด 1 สัปดาห์
ธดิ าทางานวันละ 5 ชวั่ โมง
ธิดาทางานไดเ้ งินชั่วโมงละ 200 บาท
ธดิ าจะไดเ้ งินทัง้ หมดกบ่ี าท
ถา้ หนึ่งเดอื นธิดาทางาน 20 วัน
แมอ่ อกกาลงั กายโดย แป้งมดี นิ สอ โจทย์ปัญหา
การว่ิงรอบ สี 8 กลอ่ ง
แตล่ ะกล่องมี
สวนสาธารณะวันละ 3 สที ้ังหมด 36
รอบ รอบละ 450 แท่ง แปง้ มสี ี
ทั้งหมดกี่
เมตร โดยแม่จะวงิ่ เป็น
ระยะทางเท่าเดิมทกุ แท่ง
วัน ในเวลา 5 วัน แม่
จะวงิ่ เปน็ ระยะทาง
ท้งั หมดก่เี มตร
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรยี นรู้ทเ่ี กิดขึ้นกับผเู้ รียน
1.1 ผเู้ รียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ จานวน...................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
1.2 ผู้เรียนไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน...................คน
ไดแ้ ก่
................................................................................................................... ..................................................
สาเหตุ
....................................................................................................... ……………………………………………………
1.3 ผ้เู รยี นได้รบั ความรู้ :
......................................................................................................…………………………………… ..
1.4 ผ้เู รยี นเกิดทักษะกระบวนการ :
......................................................................................................………………………
1.5 ผู้เรียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม
:......................................................................................................………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….……………………….......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................................
…………….……………………….............................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ........................................ผสู้ อน
(นางสาวพรรตั น์ จนั ทร์คา)