251
252
253
254
255
256
257
258
259
260
261
262
263
264
265
266
267
268
269
270
271
272
273
274
275
276
277 ระเบียบวิทยาลัยการอาชีพเสนา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาโทษนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 2566 อาศัยอำนาจตามความในข้อ 9 แห่งระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน นักศึกษาพ.ศ. 2548 วิทยาลัยการอาชีพเสนาจึงวางระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาลงโทษนักเรียน นักศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบวิทยาลัยการอาชีพเสนา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ลงโทษนักเรียนนักศึกษา พ.ศ.2566” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี้ “กระทำความผิด”หมายความว่า การที่นักเรียน นักศึกษา ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ ของ สถานศึกษา ระเบียบ ข้อบังคับของกระทรวงศึกษาธิการ หรือประพฤติฝ่าฝืนระเบียบกฎกระทรวงว่าด้วย ความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการปกครองนักเรียน นักศึกษา “ผู้อำนวยการวิทยาลัย” หมายความรวมถึง ผู้อำนวยการหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าวิทยาลัย หรือ ผู้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว “หัวหน้างานปกครอง” หมายความว่า ครูที่ทำหน้าที่หัวหน้างานปกครองตามระเบียบว่าด้วยการ บริหารสถานศึกษา “ครูปกครองแผนก” หมายความว่า ครูที่ทำหน้าที่ปกครองดูแลความเรียบร้อยของนักเรียน นักศึกษาในแต่ละแผนกวิชา “นักเรียน” หมายความว่า ผู้ที่ศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) “นักศึกษา” หมายความว่า ผู้ที่ศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.)หรือสูงกว่า “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดาหรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองหรือ ผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของนักเรียน และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่นักเรียนอยู่ ด้วยเป็นประจำ ข้อ 4 ให้มีคณะกรรมการการปกครองนักเรียน นักศึกษาที่ผู้อำนวยการวิทยาลัย แต่งตั้ง ประกอบด้วย 1) รองผู้อำนวยการวิทยาลัยฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา เป็นประธานกรรมการ 2) ครูปกครองแผนก เป็นกรรมการ 3) หัวหน้างานแนะแนวอาชีพ เป็นกรรมการ
278 4) หัวหน้างานปกครอง เป็นกรรมการและเลขานุการ 5) หัวหน้างานครูที่ปรึกษา เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ข้อ 5 คณะกรรมการการปกครองนักเรียน นักศึกษามีอำนาจหน้าที่ดังนี้ 1) ดำเนินการสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานกรณีนักเรียนและนักศึกษาถูก กล่าวหาว่ากระทำความผิด 2) พิจารณาเสนอระดับการลงโทษนักเรียน นักศึกษา 3) เสนอแก้ไข ปรับปรุง ระเบียบหลักเกณฑ์ ว่าด้วยการตัดคะแนนความประพฤติเพื่อ พิจารณาการลงโทษนักเรียน นักศึกษา ข้อ 6 การพิจารณาลงโทษนักเรียน นักศึกษาให้ดำเนินการดังนี้ 1) ให้คณะกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ดำเนินการสืบสวน สอบสวน พยานบุคคล พยานเอกสารที่เกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหา 2) ให้คณะกรรมการแจ้งให้นักเรียน นักศึกษาที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด มีโอกาสให้ การแก้ข้อกล่าวหา และนำสืบพยานหลักฐาน แก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนพิจารณาเสนอระดับ การลงโทษนักเรียน นักศึกษา 3) พิจารณาข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน สรุปความเห็นระดับการลงโทษต่อผู้อำนวยการ วิทยาลัย 4) การประชุมพิจารณาโทษนักเรียน นักศึกษาต้องมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อย กว่า ๒ ใน ๓ ของคณะกรรมการทั้งหมด 5) การพิจารณาลงโทษนักเรียน นักศึกษา ต้องมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของ คณะกรรมการปกครองนักเรียน นักศึกษา ก่อน เว้นแต่นักเรียน นักศึกษาให้การรับสารภาพเป็นหนังสือว่าได้ กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ข้อ 7 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียน นักศึกษาที่กระทำความผิด มี 5 สถาน ดังนี้ 1) ว่ากล่าวตักเตือน 2) ทำทัณฑ์บน 3) ตัดคะแนนความประพฤติ 4) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หมายเหตุ : กรณีทำผิดประพฤติไม่เหมาะสม ทำให้สถานศึกษาเสื่อมเสียชื่อเสียง ฝ่าฝืนระเบียบ หรือ ทำผิดซ้ำไม่เข็ดหลาบให้ลงโทษตามระดับโทษ โดยโทษสูงสุดจะเป็นการทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยปรับเปลี่ยนสถานศึกษา ข้อ 8 การลงโทษนักเรียน นักศึกษาให้ลงโทษตามระดับโทษ ดังนี้ 1) การว่ากล่าวตักเตือน ใช้ในกรณีนักเรียน นักศึกษากระทำความผิดไม่ร้ายแรง 2) การทำทัณฑ์บนใช้ในกรณีนักเรียน นักศึกษาที่กระทำผิดในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน นักศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วย ความประพฤตินักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 2548
279 (ข) ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา (ค) ฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา (ง) ได้รับโทษว่ากล่าวตักเตือนมาแล้ว แต่ยังไม่เข็ดหลาบ 3) ตัดคะแนนความประพฤติ 4) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 5) พักการเรียน ข้อ 9 ผู้มีอำนาจสั่งตัดคะแนนความประพฤติได้แก่ 1) ครูสั่งตัดคะแนนความประพฤติได้ ครั้งละไม่เกิน 5 คะแนน 2) รองผู้อำนวยการวิทยาลัย,หัวหน้างานปกครองสั่งตัดคะแนนความประพฤติได้ ครั้งละไม่ เกิน 10 คะแนน 3) ผู้อำนวยการวิทยาลัย สั่งตัดคะแนนความประพฤติได้ ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน ข้อ 10 การตัดคะแนนความประพฤติ นักเรียน นักศึกษา ตามกฎกระทรวง กำหนดความประพฤติ ของนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 2548 ให้ตัดคะแนนความประพฤติได้ดังนี้ 1) หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษา โดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน ครั้งละไม่เกิน 5 คะแนน 2) เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือมั่วสุมในวงการพนัน ครั้งละไม่เกิน 20 คะแนน 3) พกพาอาวุธหรือวัตถุระเบิด ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน 4) ซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือยา เสพติดครั้งละไม่เกิน ๓๐ คะแนน 5) เสพยาเสพติดประเภทที่ 1 – 5 หรือเสพสุรา บุหรี่ ครั้งละไม่เกิน 20 คะแนน 6) จำหน่ายยาเสพติดประเภทที่ 1 – 5 ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน 7) ลักทรัพย์ กรรโซกทรัพย์ ข่มขู่ หรือบังคับขืนใจเพื่อเอาทรัพย์บุคคลอื่น ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน 8) ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ครั้งละไม่เกิน 20 คะแนน 9) ก่อเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธ หรือในที่สาธารณะสถาน ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน **ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระทำการใดๆอันน่าจะก่อให้เกิด ความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดข้องต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 10) แสดงพฤติกรรมชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ ครั้งละไม่เกิน 20 คะแนน 11) เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี ครั้งละไม่เกิน 30 คะแนน 12) ออกนอกสถานศึกษาในเวลาเรียนหรือพักกลางวัน เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็น การสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น ครั้งละไม่เกิน 20 คะแนน การตัดคะแนนความประพฤติให้รวมตลอดปีการศึกษา เมื่อเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ให้ยกเลิกคะแนน ความประพฤติที่ถูกที่ถูกตัดไว้เดิม เว้นแต่กรณีถูกทำทัณฑ์บนมาแล้ว
280 ข้อ 11 นักเรียน นักศึกษาที่กระทำความผิดดังต่อไปนี้ อาจถูกลงโทษทำกิจกรรม เพื่อให้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรม 1) ขโมยทรัพย์สินของวิทยาลัย หรือของบุคคลอื่นโดยปรากฏหลักฐานชัดเจน 2) ความผิดอื่นใดซึ่งคณะกรรมการการปกครองนักเรียน นักศึกษาเห็นว่าเป็นความผิด สถานหนัก ไม่ว่าจะเคยถูกลงโทษมาก่อนหรือไม่ 3) ยุยงหรือข่มขู่ให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อวิทยาลัย หรือชุมนุมประท้วงเรียกร้องสิทธิ ต่างๆโดยมิชอบ 4) เป็นผู้นำในการซ่องสุม ก่อกวนความสงบเรียบร้อย ยกพวกก่อการทะเลาะวิวาท 5) เจตนาทำร้ายผู้อื่นหรือหมู่คณะด้วยอาวุธ 6) ประพฤติผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงและทำให้ชื่อเสียงวิทยาลัยเสียหาย 7) มีสารเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อวัตถุประสงค์การจำหน่าย จ่าย แจก ฝิ่น กัญชา ยาบ้า เฮโรอีน หรือสารเสพติดอื่นๆ 8) ขาดเรียนติดต่อกันนานเกิน 15 วัน โดยไม่แจ้งเหตุผลให้วิทยาลัยทราบ หรือไม่มีเหตุผล อันสมควร 9) ฝ่ายฝืนระเบียบวิยาลัย และทำให้ชื่อเสียงวิทยาลัยเสียหายอย่างร้ายแรง 10) ดูหมิ่น ก้าวร้าว ครู หรือบุคคลอื่น 11) ผลิต จำหน่าย จ่าย แจก สื่อลามกอนาจาร 12) ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกินกว่า 30 คะแนนใน 1 ภาคเรียน 13) ถูกตัดคะแนนความประพฤติภาคเรียนละ 30 คะแนน จำนวน 2 ภาคเรียน 14) เคยถูกลงโทษทัณฑ์บนมาแล้ว 15) ทำลายทรัพย์สินของวิทยาลัยหรือของบุคคลอื่นโดยเจตนา ข้อ 12 การลงโทษนักเรียน นักศึกษา ทุกระดับโทษ ให้แจ้งนักเรียน นักศึกษาที่ถูกลงโทษทราบการ ลงโทษเป็นหนังสือทุกครั้งและให้แจ้งสิทธิ์ในการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษให้ผู้ถูกลงโทษทราบ ดังนี้ 1) ครู, หัวหน้างานปกครอง,รองผู้อำนวยการวิทยาลัย สั่งลงโทษให้อุทธรณ์ต่อ ผู้อำนวยการวิทยาลัย ภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ 2) ผู้อำนวยการวิทยาลัยสั่งลงโทษ ให้อุทธรณ์ต่อเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ ข้อ 13 การสั่งลงโทษนักเรียน นักศึกษา ทุกระดับโทษ ให้บันทึกในแฟ้มประวัติประจำตัวนักเรียน นักศึกษาและให้ดำเนินการดังนี้ 1) การทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาบันทึกรับทราบ ความผิดและรับรองการทำทัณฑ์บน ไว้ด้วย 2) การตัดคะแนนความประพฤติตั้งแต่ 20 คะแนนขึ้นไปให้เชิญบิดา มารดาหรือผู้ปกครอง มารับทราบด้วย 3) การทำกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียน นักศึกษา ให้เป็นไปตามแนวทางที่
281 (นายสรพงษ์ แสนกล้า) ผู้อ านวยการวิทยาลัยการอาชีพเสนา กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ข้อ 14 เกณฑ์การพิจารณาลงโทษ ถือปฏิบัติตามระดับคะแนนดังนี้ 1) ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 5 หรือ 10 คะแนน ให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์ อักษร 2) ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 15 คะแนน ทำกิจกรรม 60 ชั่วโมง 3) ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 20 คะแนน ทำกิจกรรม 90 ชั่วโมง และทำทัณฑ์บน 4) ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 25 คะแนน ทำกิจกรรม 120 ชั่วโมง 5) ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 30 คะแนน ทำกิจกรรม 150 ชั่วโมง 6) ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 30 คะแนนใน 1 ภาคเรียน ให้ทำกิจกรรมเพื่อ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม(โดยปรับเปลี่ยนสถานศึกษา) ข้อ 15 ให้ผู้อำนวยการวิทยาลัย เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ พฤษภาคม พ.ศ. 2566
282 ระเบียบวิทยาลัยการอาชีพเสนา ว่าด้วยเครื่องแบบของนักเรียน นักศึกษา ----------------------------------------------------------------------------- ด้วยกระทรวงศึกษาธิการเห็นสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กและ เยาวชนโดยสถานศึกษาเพื่ออนุมัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ฉะนั้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 กระทรวงศึกษาธิการจึงวางระเบียบไว้ดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบวิทยาลัยการอาชีพเสนา” ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาของ วิทยาลัยการอาชีพเสนา พ.ศ. 2566 ข้อ 2 ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2566 เป็นต้นไป ข้อ 3 บรรดาข้อบังคับ ระเบียบ ค าสั่ง หรือประกาศอื่นใดของวิทยาลัยฯ ที่ขัดแย้งกับข้อความในระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ 4 ระเบียบนี้ให้ใช้กับนักเรียน นักศึกษา ในหลักสูตรประกาศนียบัตร (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ของวิทยาลัยการอาชีพเสนา ข้อ 5 เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา หมายถึง เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาในหลักสูตรระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ข้อ 6 เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา ชาย ระดับ ปวช. 6.1 เสื้อ แบบเสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยง ไม่มีลวดลาย ไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอด สาบที่อกเบื้อง ซ้ายตลบเข้าข้างในหรือนอก ใช้กระดุมสีขาวล้วนกลม แขนสั้นเพียงศอก ที่หน้าอกซ้ายติดกระเป๋า 1 ใบ ตัว เสื้อด้านหลังไม่มีสาบหรือจีบ ด้านขวาปักชื่อนามสกุลด้วยสีกรมท่า โดยมีความสูงของอักษร 8 – 10 มิลลิเมตร ด้านล่างปักชื่อแผนก 6.2 กางเกง ใช้ทรงสุภาพแบบสากลสีกรมท่า ผ้าตามที่วิทยาลัยก าหนด มีห่วงส าหรับสอดสายเข็มขัด ไม่พับปลายขาออกด้านนอกขณะสวมใส่ มีกระเป๋าตามแนวเข็บข้าง ข้างละ 1 ใบ กระเป๋าหลังมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีต้องเป็นกระเป๋าเจาะไม่มีฝาปิดขอบ กระเป๋าหลังไม่มีลวดลาย 6.3 หัวเข็มขัด เป็นโลหะเครื่องหมายลายดุนตราวิทยาลัยการอาชีพเสนาเท่านั้น 6.4 สายเข็มขัด เป็นสายหนังสีด าไม่มีลวดลายกว้าง 3.50 เซนติเมตร 6.5 รองเท้า เป็นรองเท้าผ้าใบ สีด า และถุงเท้าเป็นแบบถุงเท้าสั้นธรรมดา สีด าล้วนไม่มีลวดลาย ขณะสวมใส่ไม่พับหรือม้วนปลายถุงเท้า 6.6 เครื่องแต่งกายในขณะฝึกปฏิบัติงาน 6.6.1 เสื้อ ระดับ ปวช. ทุกระดับแผนกวิชาเป็นแบบที่วิทยาลัยก าหนดเสื้อแขนสั้น กระเป๋า 3ใบ ใช้ ผ้าสีกรมท่า ปักเครื่องหมายตรา สอศ. ด้านล่างปักชื่อวิทยาลัยการอาชีพเสนา ที่อกเสื้อ เสื้อด้านขวาปัก ชื่อ
283 นามสกุล ด้วยด้ายสีขาวโดยมี ความสูงของอักษร 8 – 10 มิลลิเมตร ด้านล่างปักชื่อแผนก ปักเป็นตัวทึบ ห้าม ปักลวดลาย ชายเสื้อ ด้านหน้า มีกระเป๋าข้างละ 1 ใบ ห้ามมีตราหรือสัญลักษณ์ใดๆ นอกเหนือจากที่ก าหนด บนตัวเสื้อทั้งด้านหน้า–หลัง 6.6.2 เสื้อพลศึกษา แบบโปโล ผ้าโทเร หรือผ้าเสิร์ทสีที่วิทยาลัยก าหนด กางเกงผ้ายืดขายาวสีกรมท่า ไม่มีลวดลาย 6.6.3 ส าหรับการเรียนวิชาพละ ให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีด า ชนิดผูกเชือก 6.6.4 ทรงผมระดับ ปวช. ทรงผมแบบสุภาพ ให้เป็นไปตามความเหมาะสม หวีให้เรียบร้อย ไม่ไว้ หนวดเครา ตามกฏกระทรวงศึกษาธิการก าหนด ข้อ 7 เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา หญิงระดับ ปวช. 7.1 เสื้อ ตัดด้วยผ้าขาวเกลี้ยง ไม่มีลวดลาย ไม่บางเกินควร เป็นแบบคอปกแบบเสื้อเชิ้ตผ่าอกเสื้อ ตลอด ที่อกเสื้อท าสาบตลบเข้าด้านในกว้างไม่เกิน 4 เซนติเมตร ใช้กระดุมกลมสีขาวล้วน จ านวน 4 – 5 กระดุม ติดกระดุมโลหะตราวิทยาลัย แขนเสื้อเป็นแขนปล่อยแบบธรรมดา ด้านหลังเสื้อไม่มีจีบหรือสาบที่ อกเสื้อ ติดเข็มกลัดเครื่องหมายลายดุนของวิทยาลัยการอาชีพเสนา เสื้อด้านขวาปัก ชื่อ นามสกุล ด้วยด้าย สีกรมท่า โดยมีความสูงของอักษร 8 – 10 มิลลิเมตร ด้านล่างปักชื่อแผนก ปักเป็นตัวทึบ ห้ามปักลวดลาย สวมทับชายเสื้อด้านใน กระโปรง 7.2 กระโปรงนักเรียน นักศึกษาหญิง กระโปรงสีกรมท่าหรือผ้าเสิร์ท ไม่มีลวดลายทรงตรงเท่านั้น แบบกระโปรงมีจีบข้างละ 2 จีบ จีบกระโปรงลึก 2.50 เซนติเมตร ไม่มีห่วงสอดสายเข็มขัด ความยาว กระโปรงคลุมเข่าจากกลางสะบ้าหัวเข่าลงมา 5 – 8 เซนติเมตร ถ้ามีกระเป๋าให้มีเจาะที่ขอบเอวหรือ ตะเข็บด้านข้างเท่านั้น 7.3 เข็มขัด สายหนังสีด าไม่มีลวดลายกว้าง 3.50 เซนติเมตร สีเดียวกับสายเข็มขัดโดยใช้กับหัวเข็ม ขัดโลหะที่มีเครื่องหมายลายดุนตราวิทยาลัยการอาชีพเสนาเท่านั้น 7.4 รองเท้า เป็นรองเท้าหนังเรียบสีด าหัวมน ไม่มีลวดลายแบบหุ้มส้น ส้นสูงไม่เกิน 2 นิ้ว ไม่ต ่ากว่า 1 นิ้ว รองเท้าใช้เรียนวิชาพลศึกษา ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาว ไม่มี ลวดลาย ใส่ถุงเท้าสีขาวไม่มีลวดลายให้ เรียบร้อย และถุงเท้าให้เหนือตาตุ่มขึ้นไป 7.5 ทรงผมนักเรียนหญิง ระดับปวช. และนักศึกษาระดับ ปวส. ทรงผมแบบสุภาพ ให้เป็นไปตาม ความเหมาะสม อนุญาตให้ไว้ผมยาวหรือสั้นได้ตามต้องการ ผมยาวต้องรวบมัดให้เรียบร้อย ใช้โบว์รัดผม เฉพาะสีกรมท่า สีเทา สีด า สีขาว สีน ้าตาล เท่านั้น ห้ามโกรกหรือท าสีผม ห้ามติดเครื่องประดับแฟชั่นที่ผม เป็นไปตามกฏกระทรวงศึกษาธิการ 7.6 เล็บ ตัดสั้น ห้ามทาสี หรือเคลือบเล็บ หรือแฟชั่นใดๆ 7.7 สวมเนคไทสีกรมท่า ปักตราสัญลักษณ์วิทยาลัยฯ ความกว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาวระหว่างกระดุม ที่ 2 และ 3 7.8 ให้ใส่เสื้อซับในหรือบังทรงสีขาว แบบสุภาพเท่านั้น 7.9 ติดตุ้งติ้งเครื่องหมายวิทยาลัย ข้อ 8 เครื่องแบบนักศึกษาชาย ระดับ ปวส.
284 8.1 เครื่องแบบนักศึกษา 8.1.1 เสื้อนักศึกษาแบบเชิ้ตแขนยาว ผ้าขาวเกลี้ยง ไม่มีลวดลาย ไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอด สาบที่ อกเบื้องซ้ายตลบเข้าข้างในหรือนอก ใช้กระดุมสีขาวล้วนกลม ที่หน้าอกซ้ายติดกระเป๋า 1 ใบ ตัวเสื้อด้านหลัง ไม่มีสาบหรือจีบ ด้านขวาติดป้ายชื่อพื้นสีด า ตัวอักษรสีขาว โดยมีความสูงของอักษร 8 – 10 มิลลิเมตร 8.1.2 กางเกง ใช้ทรงสุภาพแบบสากลสีด า ผ้าตามที่วิทยาลัยก าหนด มีห่วงส าหรับสอดสายเข็มขัด ไมพับปลายขาออกด้านนอก ขณะสวมใส่มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้าง ข้างละ 1 ใบ กระเป๋าหลังมีหรือไม่มีก็ ได้ ถ้ามีต้องเป็นกระเป๋าเจาะไม่มีฝาปิดขอบ กระเป๋าหลังไม่มีลวดลายจะมี 1 หรือ 2 ใบก็ได้ 8.1.3 ทุกครั้งที่สวมใส่ชุดนักศึกษาแขนยาว ให้ผูกเน็คไทด์สีน ้าเงิน มีเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ วิทยาลัยการอาชีพเสนาเท่านั้น 8.2 เครื่องแต่งกายในขณะฝึกงาน 8.2.1 เสื้อฝึกงานแผนกช่างอุตสาหกรรม แบบซาฟารี ผ้าโทเร หรือผ้าเสิร์ท สีเทา มีสาบบ่า ด้านหลัง มีจีบข้างสองจีบ และมีสายคาดทับรอยจีบทั้งสองข้างในแนวขวาง มีกระเป๋าชนาดกว้างตั้งแต่ 10 -14 เซนติเมตร และลึกตั้งแต่ 12 – 15 เซนติเมตร พอเหมาะกับขนาดเสื้อ ติดอยู่ที่ระดับอก จ านวน 2 กระเป๋า ไม่ มีเครื่องหมายใดบนตัวเสื้อฝึกงาน ยกเว้นชื่อสกุล และชื่อสาขาวิชาของผู้สวมใส่เป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ ให้ปักด้วยไหมสีขาว ปักไว้บนอกเสื้อด้านขวาความสูงของตัวอักษรประมาณ 1 เซนติเมตร 8.2.2 กางเกง แบบสากลทรงสุภาพ ไม่รัดรูป ผ้าโทเร หรือผ้าเสิร์ท สีด า ข้อเท้าเมื่อยืนตรง มีกระเป๋า หลังเป็นแบบเจาะ ไม่มีฝาผิด 8.3 เข็มขัดหนังสีด า กว้าง 3.5 เซนติเมตร ไม่เกิน 4 เซนติเมตร 8.4 หัวเข้มขัดเป็นรูปสีเหลี่ยม พื้นผิวแบบโลหะทองแดงรมด า มีเครื่องหมายตราวิทยาลัย การอาชีพเสนาเท่านั้น 8.5 รองเท้าหนังสีด าชนิดผูกเชือก ไม่มีลวดลาย 8.6 ถุงเท้าสั้นสีด าแบบธรรมดา ไม่มีลวดลาย 8.7 ทรงผมระดับ ปวส. ทรงผมแบบสุภาพ ให้เป็นไปตามความเหมาะสม หวีให้เรียบร้อย ไม่ไว้หนวด เครา ตามกฏกระทรวงศึกษาธิการก าหนด ข้อ 9 เครื่องแบบนักศึกษาหญิง ปวส. 9.1 เสื้อนักศึกษาแบบเชิ้ต ผ้าโทเรหรือผ้าเสิร์ท สีขาวเกลี้ยง ไม่บาง ไม่มีลวดลายหรือเส้นบนเนื้อผ้า มีสาบแขนและสาบหลังเป็นรูปตัววี คอปกแบบเชิ้ตผ่าตลอด สาบกว้าง 6 เซนติเมตร ตลบเข้า ด้านใน แขน ปล่อยธรรมดายาวเพียงข้อศอก ติดกระดุม สีขาวกลมแบนเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร 4 เม็ด ที่ฐาน คอ 1 เม็ด ติดกระดุมโลหะตราวิทยาลัย ที่ปกและอกเสื้อด้านซ้ายติดเครื่องหมายและเข็มสัญลักษณ์วิทยาลัยฯ ด้านขวาติดป้ายชื่อพื้นสีด า ตัวอักษรสีขาว โดยมีความสูงของอักษร 8 – 10 มิลลิเมตร สวมทับชายเสื้อด้านใน กระโปรง 9.2 กระโปรงจีบรอบตัว สีด า ผ้าโทเร หรือผ้าเสิร์ท ใช้ผ้าเนื้อหนาไม่แนบตัว ห้ามใช้ที่เป็นมันวาวไม่มี ลวดลายหรือเส้นบนเนื้อผ้า ไม่มีกระเป๋าหลัง กระเป๋าหน้า หรือกระเป๋าข้าง อนุญาตให้มีกระเป๋าข้างตรงรอย ตะเข็บกระโปรง ความยาวของกระโปรงวัดจากกึ่งกลางเข่าลงไปไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ขอบเอวกว้าง 3
285 เซนติเมตร อยู่บริเวณเอวของผู้สวม สอดชายเสื้อดึงหย่อนแต่พองาม หรืออนุโลมให้ใส่กระโปรงด า ผ้าเสิร์ท ไม่ มีลวดลายทรงตรงเท่านั้น ไม่ฟิตจนเกินไป กระโปรงสีด าทรงตรง ผ่าซ้อนด้านหลัง มีขอบเอวกว้าง 1 นิ้ว ไม่ รัดรูป ความยาวกระโปรงคลุมเข่า ทั้งนี้การสวมใส่ให้เป็นไปตามกิจกรรมที่วิทยาลัยก าหนด 9.3 เข็มขัดหนังสีด าเท่านั้นขนาดกว้าง 3.5 เซนติเมตร 9.4 หัวเข็มขัดเป็นรูปสีเหลี่ยมพื้นผิวแบบโลหะทองแดงรมด า มีเครื่องหมายตราวิทยาลัยการอาชีพ เสนาเท่านั้น 9.5 รองเท้าคัทชูหนังสีด าเรียบ ไม่มีลวดลาย หัวมนโค้งเรียบจากการตัดเย็บตามขอบรองเท้าส้นสูง ไม่ เกิน 2 นิ้ว ไม่ต ่ากว่า 1 นิ้ว รองเท้าใช้ร่วมกิจกรรมหรือวิชาพลศึกษาให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวไม่มี ลวดลายใส่ถุง เท้าสีขาวไม่มีลวดลาย ให้เรียบร้อย 9.6 ทรงผม อนุญาตให้ไว้ผมสั้นหรือยาวได้โดยมีก าหนดดังนี้ ทรงผมนักเรียนหญิง ระดับปวช. และนักศึกษาระดับ ปวส. ทรงผมแบบสุภาพ ให้เป็นไปตาม ความ เหมาะสม อนุญาตให้ไว้ผมยาวหรือสั้นได้ตามต้องการ ผมยาวต้องรวบมัดให้เรียบร้อย ใช้โบว์รัดผมเฉพาะสี กรมท่า สีเทา สีด า สีขาว สีน ้าตาล เท่านั้น ห้ามโกรกหรือท าสีผม ห้ามติดเครื่องประดับแฟชั่นที่ผม เป็นไป ตามกฏกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ ณ วันที่ พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (นายสรพงษ์ แสนกล้า) ผู้อ านวยการวิทยาลัยการอาชีพเสนา
286 ส่วนที่ 3 ศูนย์วิทยบริการและห้องสมุด ห้องสมุดมีความส าคัญมากต่อการศึกษา เป็นที่รวบรวมวิทยาการต่างๆ ที่มีความส าคัญต่อการเรียน การสอน ซึ่งทั้งที่ผู้เรียนและผู้สอนใช้เป็นสถานที่ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม ท าให้การเรียนการสอน ทันสมัยอยู่เสมอ ท าให้ผู้สอนมีความรู้ใหม่ๆ และรอบรู้ในเรื่องที่สอนมากขึ้น ผู้เรียนสามารถเข้าไปค้นคว้าหา ความรู้ในแขนงวิชาที่เรียนตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับ พ.ศ.2542 ที่มุ่งจัดการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ห้องสมุดจึงกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่มีความส าคัญต่อการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น ห้องสมุดต้องมีความสมบูรณ์ พร้อมที่จะให้ผู้เรียนและผู้สอนใช้ เป็นแหล่งค้นคว้าอย่างกว้างขวางและเพียงพอ ต่อความต้องการ เป็นแหล่งสารนิเทศที่มีความส าคัญต่อการค้นคว้าวิจัย การเลือกการอ่านหนังสือเพื่อค้นคว้า หาความรู้ใหม่ ประดิษฐ์คิดค้นใหม่ได้โดยอิสระตามความสนใจของแต่ละบุคคลสามารถค้นหาค าตอบที่ ต้องการอย่างมีระบบวิธี โดยการใช้สารนิเทศต่างๆ ที่มีอยู่ในห้องสมุดเพื่อความสมบูรณ์ ถูกต้องและเพิ่มคุณค่า ของการวิจัย งานวิทยบริการและห้องสมุดได้จัดท าคู่มือการใช้ห้องสมุดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการใช้ห้องสมุด และถือปฏิบัติตามระเบียบในแนวเดียวกัน วันและเวลาเปิดบริการ ระหว่างเปิดภาคเรียน วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 07.30 – 16.30 น. วันปิดบริการ - วันหยุดนักขัตฤกษ์ - วันเสาร์ – อาทิตย์ - ระหว่างปิดภาคเรียน ระเบียบการใช้ห้องสมุดวิทยาลัยการอาชีพเสนา เพื่อให้ห้องสมุดเป็นแหล่งอ านวยความสะดวกแก่นักเรียนนักศึกษาอาจารย์ตลอดจนเจ้าหน้าที่และ คนงานของวิทยาลัยทุกท่าน สามารถศึกษาหาความรู้และค้นคว้าได้อย่างเต็มที่ ห้องสมุดจึงก าหนดระเบียบ การใช้ห้องสมุด เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติไว้ดังนี้
287 1. ผู้มีสิทธิ์ใช้ห้องสมุด 1.1 นักเรียนนักศึกษาทุกคนที่ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษานั้นๆ 1.2 อาจารย์ของวิทยาลัยการอาชีพเสนา 1.3 เจ้าหน้าที่และคนงานของวิทยาลัยการอาชีพเสนาทั้งประจ าและชั่วคราว 1.4 บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องสมุดได้ โดยขออนุญาตเข้าใช้ห้องสมุดต่อ ผู้อ านวยการหรือผู้ช่วยฯ ฝ่ายวิชาการ 2. การเป็นสมาชิก 2.1 นักเรียนนักศึกษาให้น ารูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว จ านวน 1 รูป มาท าบัตรสมาชิก การท าบัตรสมาชิกห้องสมุดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ 2.2 อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และคนงาน ให้แจ้งความจ านงต่อบรรณารักษ์หรือเจ้าหน้าที่ 2.3 บัตรสมาชิกนักศึกษา ครู – อาจารย์ เจ้าหน้าที่และคนงานจะหมดอายุเมื่อหมดสภาพการ เป็นนักเรียนนักศึกษา ครู – อาจารย์ เจ้าหน้าที่และคนงานของวิทยาลัยฯ 2.4 ถ้าบัตรสมาชิกห้องสมุดช ารุดและสูญหายต้องแจ้งให้บรรณารักษ์ หรือเจ้าหน้าที่ทราบโดย ด่วน หากประสงค์จะท าบัตรใหม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการท าบัตรใหม่ จ านวน 5 บาท 2.5 เมื่อผู้ใช้ห้องสมุดใช้บัตรสมาชิกหมดแล้ว สามารถน าบัตรมาเปลี่ยนใหม่โดยไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่าย 2.6 บัตรสมาชิกห้องสมุดใช้ได้เฉพาะเจ้าของบัตรเท่านั้น ห้ามผู้อื่นน าไปใช้ หมายเหตุ ส าหรับสมาชิกใหม่ทางห้องสมุดจะท าบัตรให้ฟรี หลังจากเปิดภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษานั้นๆ ในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่เปิดภาคเรียน หากเลยก าหนดนี้แล้วจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการท าบัตร ใหม่ จ านวน 5 บาท 3. การบริการ 3.1 จ านวนและระยะเวลาการยืมหนังสือ/วารสาร หากต้องการน าทรัพยากรสารสนเทศต่างๆ ไปใช้นอกห้องสมุด ต้องติดต่อขอยืมที่ เคาน์เตอร์บริการ ยืม-คืน ห้องสมุด โดยมีระเบียบดังนี้ - ใช้บัตรนักศึกษาของตนเองในการยืมและรับผิดชอบทรัพยากรที่อยู่ในการยืมของ ตนหลีกเลี่ยงการขีดเขียนภายในตัวเล่มส่งคืนทรัพยากรที่ยืมตามก าหนดเวลา หากเกินก าหนดจะต้องเสีย ค่าปรับตามระเบียบการยืมของห้องสมุด - ระมัดระวังการท าให้ตัวเล่มเกิดความเสียหายหรือสูญหาย ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับ หรือซื้อทดแทน และเสียค่าด าเนินการและเสียค่าปรับเกินก าหนดส่ง - ไม่น าบัตรนักศึกษาของตนเองให้ผู้อื่นน ามาใช้ในการยืมทรัพยากร - แจ้งให้ห้องสมุดทราบ กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุล หน่วยงาน ที่อยู่ เพื่อแก้ไขข้อมูลสมาชิกให้ถูกต้อง
288 - หากผู้ใช้มีค่าปรับสูงเกินกว่าก าหนดที่ห้องสมุดก าหนดไว้ หรือค้างส่งทรัพยากร นานเกินเวลาที่ก าหนดไว้ จะไม่มีสิทธิ์ยืมทรัพยากรหรือใช้บริการอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการยืมคืนได้ 3.1.1 นักเรียนนักศึกษายืมหนังสือ/วารสารได้ดังนี้ ระดับชั้น ปวช. ยืมได้จ านวนไม่เกิน 4 เล่ม ระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ระดับชั้น ปวส. ยืมได้จ านวนไม่เกิน 5 เล่ม ระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ 3.1.2 เจ้าหน้าที่ คนงาน ยืมได้จ านวนไม่เกิน 4 เล่ม ระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ 3.1.3 อาจารย์ยืมได้จ านวนไม่เกิน 5 เล่ม ระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ หากยืมประกอบการสอน (กรณีพิเศษ) ยืมได้ไม่ เกิน 10 เล่ม ระยะเวลาไม่เกิน 1 ภาคการศึกษา 3.2 การจองหนังสือ เมื่อทราบว่าหนังสือที่ผู้ใช้ห้องสมุดต้องการมีผู้ยืมไป ผู้ใช้ห้องสมุดสามารถ “จอง” หนังสือ กับเจ้าหน้าที่ห้องสมุดและมารับได้ตามก าหนดที่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดแจ้งให้ทราบ ผู้ใช้ห้องสมุดจะต้องมารับ หนังสือภายใน 1 วันหลังจากก าหนดนัดหากพ้นก าหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ ทางห้องสมุดจะให้ผู้ที่จองคน ต่อไป 3.3 วัสดุห้องสมุดที่ไม่อนุญาตน าออกนอกห้องสมุด 3.3.1 หนังสืออ้างอิง 3.3.2 วารสารฉบับล่าสุดและวารสารเย็บเล่ม 3.3.3 หนังสือพิมพ์รายวัน 3.4 บริการตอบค าถามและช่วยค้นคว้าแก่ผู้ใช้ห้องสมุดเมื่อผู้ใช้ห้องสมุดต้องการค้นหาเรื่องไม่พบ อาจให้เจ้าหน้าที่หรือบรรณารักษ์ช่วยค้นคว้าโดยทันทีหรือจะนัดมารับค าตอบในเวลาถัดไป 4. การปรับและเรียกค่าชดใช้ เมื่อผู้ใช้ห้องสมุดไม่คืนหนังสือและวัสดุห้องสมุดที่ยืมไปตามก าหนดทางห้องสมุดจะปรับดังนี้ 4.1 หนังสือทั่วไปปรับเล่มละ 1 บาทต่อวัน (เป็นงาน 1 ชม. : 1 วัน) 4.2 หนังสือส ารองปรับเล่มละ 5 บาทต่อวัน (เป็นงาน 5 ชม. : 1 วัน) 4.3 วารสารฉบับย้อนหลังปรับฉบับละ 5 บาทต่อวัน (เป็นงาน 5 ชม. : 1 วัน) 4.4 เมื่อผู้ใช้ห้องสมุดท าหนังสือหรือวัสดุห้องสมุดช ารุดเสียหายหรือสูญหายจะต้องซื้อหนังสือ หรือวัสดุชนิดนั้นมาใช้คืนหรือชดใช้เป็นเงิน 2 เท่าของราคาหนังสือหรือวัสดุห้องสมุดที่ท าหาย 4.5 ผู้ค้างค่าปรับค่าชดใช้และยังไม่มาปฏิบัติงานชดใช้ภายใน 2 อาทิตย์ จะถูกสั่งงดการใช้ บริการยืมจนกว่าจะได้น าเงินมาช าระหรือปฏิบัติงานเป็นที่เรียบร้อยหากยังมาปฏิบัติงานหรือช าระเงินจะไม่ เซ็นใบปลอดหนี้ (หลังจากตักเตือนภายใน 1 เดือนแล้ว) 4.6 การน าหนังสือส่งคืนหนังสือที่สมาชิกยืมออกจากห้องสมุด เมื่อครบก าหนดส่งคืนหรือ
289 ต้องการคืนก่อนวันก าหนดส่ง ให้ส่งคืนที่เคาร์เตอร์รับคืนหนังสือโดยน าหนังสือพร้อมบัตรสมาชิกห้องสมุดยื่น ต่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุดเพื่อประทับตราวันส่งคืน หากส่งคืนเกินวันก าหนด จะต้องเสียค่าปรับ (ข้อ 4) ส าหรับสมาชิกที่น าหนังสือส่งคืนแต่ไม่ได้น าบัตรสมาชิกมาด้วยให้ส่งหนังสือคืนและแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องสมุดว่า ไม่ได้น าบัตรสมาชิกมาด้วย ทั้งนี้ให้กรอกรายละเอียดลงใน “สมุดส่งคืนหนังสือไม่มีบัตรสมาชิก” ที่เตรียมไว้ ให้แล้ว ให้น าบัตรสมาชิกมาประทับตราคืนภายหลัง 4.7 การแจ้งเอกสารสิ่งพิมพ์ที่ยืมสูญหาย ส าหรับสมาชิกห้องสมุดที่ท าเอกสารสิ่งพิมพ์ของห้องสมุด สูญหายให้มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตามวิธีการดังนี้ 4.7.1 เอกสารสิ่งพิมพ์ที่สูญหายก่อนถึงวันก าหนดส่งและสมาชิกแจ้งให้ห้องสมุดทราบก่อน ถึงวันก าหนดส่งไม่ต้องช าระค่าปรับหนังสือ 4.7.2 เอกสารสิ่งพิมพ์ที่สูญหายหลังวันก าหนดส่งสมาชิกต้องช าระค่าปรับตั้งแต่วันที่ ก าหนดส่งจนถึงวันที่มาแจ้งหาย 5. ข้อปฏิบัติและมารยาทในการใช้ห้องสมุด 5.1 ให้น ากระเป๋า ถุงย่าม และสิ่งที่ไม่จ าเป็นไว้ที่ชั้นวางของที่จัดให้ก่อนเข้าห้องสมุด 5.2 แสดงเอกสารสิ่งของต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจก่อนออกห้องสมุด 5.3 น าบัตรสมาชิกมาด้วยทุกครั้งที่ยืมและคืนหนังสือ 5.4 วางสิ่งพิมพ์ที่ใช้แล้วบนโต๊ะอย่างมีระเบียบ 5.5 เมื่ออ่านวารสาร หนังสือพิมพ์ฉบับปัจจุบันและล่วงเวลากรุณาน ามาวางไว้ที่เดิมทุกครั้ง 5.6 ช่วยกันดูแลรักษาหนังสือของห้องสมุด เพื่อป้องกันการท าลายสารธารณสมบัติ 5.7 ไม่พูดคุยหรือท าเสียงดังให้เป็นที่รบกวนผู้อื่น 5.8 ไม่น าอาหาร ลูกอม เครื่องดื่ม เข้ามาในห้องสมุด 5.9 ห้ามขีดเขียนหนังสือ หรือวัสดุของห้องสมุด 5.10 ไม่ควรย้ายเก้าอี้ไปนั่งที่อื่น 5.11 ทิ้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้ 5.12 ห้ามน าหนังสือทุกชนิดออกนอกห้องสมุดก่อนได้รับอนุญาต 5.13 ปฏิบัติตามระเบียบการยืม –คืนหนังสือตลอดจนระเบียบอื่น ๆ ที่ห้องสมุดก าหนดไว้อย่างเคร่งครัด 5.14 แต่งกายสุภาพเรียบร้อย 5.15 ปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดก่อนเข้าใช้บริการ 5.16 ห้ามสูบบุหรี่ และเล่นการพนัน ประกาศ ณ วันที่ พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (นายสรพงษ์ แสนกล้า) ผู้อ านวยการวิทยาลัยการอาชีพเสนา
290 ส่วนที่ 4 หลักสูตรการศึกษา
291
292
293
294
295
296
297
298
299
300