201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222 กองทุนได้พัฒนาระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (Digital Student Loan Fund System : DSL) ขึ้นเพื่อรองรับพันธกิจขององค์กรในการขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาผู้ กู้ยืมครบทั้ง 4 ลักษณะ โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูล รองรับการยื่นกู้ ติดตามสถานะการ กู้ยืม การรับโอนเงิน และตรวจสอบยอดหนี้ที่ต้องชำระด้วยตนเอง พร้อมเริ่มใช้งานระบบ DSL ตั้งแต่ปี การศึกษา 2564 เป็นต้นไป ผู้กู้ยืม เข้าใช้งานผ่านทางเว็บไซต์กองทุน https://wsa.dsl.studentloan.or.th หรือ แอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” การลงทะเบียน กยศ. Connect การใช้งาน กยศ. Connect การยื่นคำขอกู้ยืมเงิน กยศ.
223 งานสวัสดิการนักเรียน นักศึกษา ห้องพยาบาล ให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. เมื่อนักเรียน – นักศึกษา มีปัญหาทางด้านสุขภาพ บุคลากรสามารถให้บริการได้กรณีการทำแผลเจ็บป่วยเบื้องต้นทั่วไป เช่น ปวดศรีษะ ปวดท้อง ปวดฟัน โรค กระเพาะอาหาร ท้องร่วง มีเตียงสำหรับพักดูอาการ 2 ที่ โดยแยก ผู้ป่วยหญิง ผู้ป่วยชาย หากมีอาการหนัก หรือไม่น่าไว้วางใจจะนำส่งโรงพยาบาลเสนา การประกันอุบัติเหตุหมู่นักเรียน นักศึกษา นักเรียน นักศึกษาทุกคนที่ลงทะเบียนและชำระค่าประกันอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองกรณีเกิด อุบัติเหตุ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1.กรณีการสำรองเงินออกไปก่อนให้นักศึกษาส่งเอกสารเพื่อเบิกเงินได้คือ 1.1 ใบเสร็จรับเงินตัวจริง พร้อมถ่ายสำเนา 1 ชุด 1.2 ใบรับรองแพทย์ (ต้องให้แพทย์ระบุชัดเจนว่าเกิดอุบัติเหตุประเภทใด วัน เวลา สถานที่ การเกิดอุบัติเหตุ มีบาดแผลที่ไหนบ้าง) พร้อมถ่ายสำเนา 1 ชุด 2.กรณีการใช้บัตรประกัน เพื่อจ่ายตรงกับทางโรงพยาบาล 2.1 ใช้บัตรประกันคู่กับบัตรประจำตัวประชาชน ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จะสามารถ ใช้ได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน 3. การรับเงินค่ารักษาพยาบาล ให้ถ่ายเอกสารบัตรนักศึกษา/บัตรประชาชน * “กรณีไม่มีใบเสร็จรับเงินตัวจริง และใบรับรองแพทย์ เขียนไม่ชัดเจนจะเบิกค่า รักษาพยาบาลไม่ได้” * โดยส่งเอกสารและเขียนคำร้องได้ที่เจ้าหน้าที่สวัสดิการนักเรียน นักศึกษา ตารางแผนประกันภัยกลุ่มสำหรับนักเรียน แบบมีบัตรประกัน (Student Care Plus) ผลประโยชน์ความคุ้มครอง ทุนประกัน - เสียชีวิตทุกกรณี(อุบัติเหตุ/ เจ็บป่วย) 1,000 - เสียชีวิตกรณีอุบัติเหตุ 100,000 - ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร 100,000 - ถูกฆาตกรรม หรือ ถูกทำร้ายร่างกาย 100,000 - กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัยทางบกจ่ายเบี้ย 2 เท่า 200,000 - กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะทางเรือ/อากาศจ่ายเบี้ยเท่าทุนประกัน 100,000 - ค่ารักษาพยาบาล ต่ออุบัติเหตุและครั้ง 10,000
224 หมายเหตุ: - กรณีเสียชีวิต/สูญเสียอวัยวะ คุ้มครอง 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุจากอุบัติเหตุสาธารณภัย ทางบกเช่นรถเมล์, รถไฟฟ้า, โรงหนัง, โรงละคร, โรงแรม - เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จ่ายเต็มจำนวนเงินเอาประกัน 100% - อุบัติเหตุ กรณีถูกฆาตกรรม หรือถูกลอบทำร้ายร่างกาย จ่ายเต็มจำนวนเงินเอาประกัน 100% - คุ้มครองกรณีเมาสุราจ่าย 100 % (ตรวจวัด หรือไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ บริษัทจ่าย 100%)
225 งานประชาสัมพันธ์ งานประชาสัมพันธ์ให้บริการอะไรบ้างแก่นักศึกษาและผู้ปกครอง 1. เผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งของราชการหน่วยงานต่างๆ จากสถานในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาเอกชนสถานประกอบการ จากหนังสือพิมพ์แผ่นับรวมทั้ง กฎ ระเบียบ ของ วิทยาลัย โดยงานประชาสัมพันธ์จะติดต่อกับวิทยาลัยรับทราบข่าวสาร 2. เป็นศูนย์กลางติดต่อทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา อาทิ 2.1 เป็นศูนย์ควบคุมเสียงตามฤสายภายในวิทยาลัยซึ่งจะมีการจัดรายการในช่วงพัก กลางวันเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่น่าสนใจทั้งภายในและภายนอกวิทยาลัยฯ ให้นักศึกษาและผู้ปกครอง ที่ม่าติดต่อ กับทางวิทยาลัยฯ ทราบ 2.2 เป็นศูนย์กลางโทรศัพท์จะรับโทรศัพท์จากภายนอกและทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน โอนสายไปยังฝ่ายงานต่างและแผนกวิชาต่าง ๆ รวมทั้งให้บริการซ่อมแซมโทรศัพท์ภายในวิทยาลัย สำหรับ นักศึกษาที่ไม่มีนโยบายให้รับโทรศัพท์ แต่จะรับฝากข้อความและประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้กับนักศึกษา ทราบ 2.3 ประชาชนต้องการติดต่อกับบุคลากรของวิทยาลัยฯ ติดต่อได้ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 2.4 เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมจดหมายของนักศึกษา และส่งต่อไปยังนักศึกษา 3. ประสานงานกับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทุกจังหวัด กอง เจ้า สังกัด และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยระบบสื่อสารทางวิทยุโดยมีคลื่นความถี่ที่ได้รับ อนุญาตจากทางการแวว้ว หมายเหตุ 1. หมายเลขโทรศัพท์ของวิทยาลัย 0-3593-0635-6 2. www.senavec.ac.th
226 งานทะเบียน การลงทะเบียนรายวิชา 1. นักศึกษาทุกคนต้องลงทะเบียนเรียนในวันเวลาที่วิทยาลัยฯ กำหนดโดยวิทยาลัยฯ จะประกาศให้ ทราบล่วงหน้า 2. ขั้นตอนการลงทะเบียนรายวิชา - ขอรับบัตรลงทะเบียนที่ครูที่ปรึกษา - ปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนในเอกสารแจ้งขั้นตอนการลงทะเบียน - คืนบัตรลงทะเบียนถ้าไม่คืนบัตรลงทะเบียน ถือว่าการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ หรือเป็น การลงทะเบียนที่ไม่มีผล 3. การผ่อนผันชำระเงินบำรุงการศึกษาต้องทำในวันลงทะเบียนโดยขอคำร้องผ่อนผันได้ที่ งานทะเบียน 4. การลงทะเบียนล่าช้าลงได้ตามวันเวลาที่สถานศึกษากำหนดโดยเสียค่าปรับตามระเบียบกำหนด 5. นักเรียน นักศึกษาที่ไม่ได้ลงทะเบียนและไม่มาติดต่อกับทางวิทยาลัยฯนับจากวันสิ้นสุดการ ลงทะเบียนแล้ว จะถูกสั่งพ้นสภาพการเป็นนักเรียน นักศึกษา 6. ผู้ที่เข้าเรียนโดยไม่ชำระเงินบำรุงการศึกษา และไม่ยื่นบัตรลงทะเบียนคืน ผลการเรียนจะเป็น โมฆะ การลงทะเบียนเพิ่มวิชาเรียน 1. ลงทะเบียนตามที่วิทยาลัยฯ กำหนด 2. ตรวจสอบรายวิชาและตารางสอนของรายวิชาที่จะเรียนเพิ่มกับงานหลักสูตรและการสอน 3. ขอรับบัตรลงทะเบียนเพิ่มจากงานทะเบียน 4. พบครูที่ปรึกษา เพื่อให้เซ็นอนุมัติการลงทะเบียนเพิ่ม 5. พบหัวหน้างานหลักสูตรและการสอน ตรวจสอบตารางสอน (ต้องไม่ซ้อนกับตารางเรียนเดิมของ นักเรียน – นักศึกษา) และลงรายวิชาเพิ่มโดยที่มีจำนวนชั่วโมงเรียนต้องไม่เกินตามที่งานหลักสูตรกำหนด 6. พบเจ้าหน้าที่งานการเงิน เพื่อชำระค่าลงทะเบียนรายวิชา 7. คืนบัตรลงทะเบียนเพิ่มที่งานทะเบียน การลงทะเบียนเรียนฝึกงาน 1. นักเรียน นักศึกษาต้องลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนออกฝึกงานโดยรับคำร้องขอฝึกงานและปฏิบัติ ตามขั้นตอนของงานทวิภาคี (DVT)
227 2. เข้าฝึกงานโดยไม่ได้ลงทะเบียนจะถือเป็นโมฆะ การลงทะเบียนสอบแก้ตัว 1. ในทุกภาคเรียน นักศึกษาระดับ ปวช. ที่สอบได้ผลการเรียนเป็น 0 (ศูนย์) ต้องรับคำร้องขอสอบ แก้ตัวต่อครูผู้สอนชำระเงินค่าหน่วยกิตสอบแก้ตัวที่งานการเงินแล้วส่งหลักฐานการขอสอบแก้ตัวที่งาน ทะเบียนนักศึกษา ปวส. ต้องลงทะเบียนใหม่ไม่มีสิทธิ์สอบแก้ 0 2. ขั้นตอนการสอบแก้ตัว - ขอรับคำร้องขอสอบแก้ตัวและบัตรลงทะเบียนสอบแก้ตัวที่งานทะเบียน - กรอกรายละเอียด - เสนอครูผู้สอนเซ็นอนุญาต - ชำระเงิน - คืนคำรองขอสอบแก้ตัว และบัตรลงทะเบียนสอบแก้ที่งานทะเบียน - นำเอกสารบางส่วนยื่นต่อครูผู้สอนเพื่อขอสอบแก้ตัว การแก้ มส. ไม่ต้องลงทะเบียนให้พบ ครูผู้สอนเพื่อแก้ มส. ได้เลย การขอสอบทดแทน 1. ในกรณีที่นักเรียน นักศึกษาป่วยไม่สามารถมาสอบตามเวลาที่ครูผู้สอนกำหนด และได้ขอลาป่วย ไว้ สามารถขอสอบทดแทนได้ 2. ขั้นตอนการสอบทดแทนได้ - ให้นำใบลาเสนอต่อครูผู้สอน - นัดวันสอบ - ขอรับคำร้องขอสอบทดแทนที่งานทะเบียน - ให้ครูผู้สอนเซ็นอนุญาต - ชำระเงิน - คืนคำร้องขอสอบทดแทนที่งานทะเบียน การถอนรายวิชา 1. นักเรียน นักศึกษาที่มีปัญหาเรื่องการเรียน สามารถถอนรายวิชาได้ภายใน 30 วัน นับจากวัน เปิดภาคเรียน 2. ขั้นตอนการขอถอนรายวิชาในกำหนด - ขอรับคำร้องขอถอนรายวิชา จากงานทะเบียนตามวิทยาลัยกำหนด - พบครูที่ปรึกษาเซ็นอนุมัติคำร้องขอถอนรายวิชา
228 - ส่งคำร้องขอถอนรายวิชาที่งานทะเบียน และรับหลักฐานแสดงการถอนรายวิชา การถอนรายวิชาหลังกำหนด 1. กระทำได้ในกรณีที่นักเรียน นักศึกษาเจ็บป่วย แพทย์สั่งให้พักรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน หรือ เกิดอุบัติเหตุแก่ร่างกายไม่สามารถได้ในภาคเรียนนั้น 2. ขั้นตอนการขอถอนรายวิชาหลังกำหนด - ขอรับคำร้องขอถอนรายวิชาจากงานทะเบียน - พบครูที่ปรึกษาทำคำขอร้องถอนรายวิชา พร้อมทั้งแสดงหลักฐานต่างๆ (ใบรับรองแพทย์ อื่นๆ) - ส่งคำขอร้องขอถอนรายวิชา และหลักฐานต่าง ๆ ที่งานทะเบียนงานทะเบียนจะเสนอ เรื่องขออนุมัติจากผู้อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย - เมื่อคำขอร้องขอถอนรายวิชาได้รับการอนุมัติแล้วจึงทำบัตรขอถอนรายวิชา - แจ้งครูที่ปรึกษา ครูผู้สอนรายวิชา - ส่งบัตรถอนรายวิชาที่งานทะเบียน แล้วรับหลักฐานการถอนรายวิชาการขอพักการเรียน การขอรักษาสภาพการเป็นนักศึกษา 1. การขอลาพักการเรียนทำได้ 3 กรณีคือ - ถูกเกณฑ์ทหาร - ป่วยไม่สามารถมาเรียนได้ โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดง - ไม่มีวิชาลงเรียนในภาคนั้น (ในกรณีที่ยังเรียนไม่ครบโครงสร้างของหลักสูตร) 2. ขั้นตอนการขอพักเรียน - ขอรับคำร้องที่งานทะเบียน พร้อมนำผู้ปกครองมาด้วย - กรอกรายละเอียด - เสนอเซ็นตามลำดับขั้นตอนในคำร้อง - ยื่นคำร้องที่งานทะเบียน เพื่อเสนอผู้อำนวยการ - จ่ายค่ารักษาสภาพนักศึกษา 3. การพักการเรียนทำได้ครั้งละ 1 ภาคเรียนติดต่อกันไม่เกิน 2 ครั้ง 4. เมื่อขอพักการเรียนครบภาคเรียนแล้ว ให้กลับมาขอคืนสภาพนักศึกษาโดยคำขอร้องกลับเข้า เรียนที่งานทะเบียน กรอกแบบฟอร์มแล้วชำระเงินค่าคืนสภาพนักศึกษาตามระเบียบ 5. เมื่อทำเรื่องคืนสภาพแล้ว ให้ติดต่อลงทะเบียนเรียนได้ นักเรียน นักศึกษาที่ขอพักการเรียนหรือนักเรียน – นักศึกษาที่ยังเรียนไม่ครบโครงสร้างของหลักสูตร แต่มีคะแนนเฉลี่ยผ่านตามเกณฑ์และยังไม่มีรายวิชาที่จะลงทะเบียนในภาคเรียนนั้น จะต้องมาทำการขอ รักษาสภาพการเป็นนักศึกษาตามเวลาที่วิทยาลัยฯ กำหนด มิฉะนั้นจะถูกสั่งพ้นสภาพ
229 การพ้นสภาพการเป็นนักเรียน – นักศึกษา นักเรียน-นักศึกษาพ้นสภาพไปเอง ในกรณีใดกรณีหนึ่ง 1. สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร 2. ลาออก 3. ถึงแก่กรรม หรือร่างกายทุพพลภาพไม่สามารถทำการศึกษาต่อไปได้ การพ้นสภาพเนื่องจากสถานศึกษาสั่งให้พ้นสภาพ ในกรณีใดกรณีหนึ่ง 1. ขาดเรียนติดต่อกัน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร 2. ไม่มาติดต่อเพื่อรักษาสภาพนักเรียน – นักศึกษาภายในเวลาที่สถานศึกษากำหนด 3. ครบกำหนดลาพักการเรียนหรือถูกสั่งพักการเรียนแล้วไม่ยื่นคำร้องขอกลับเข้าเรียนภายใน 15 วัน 4. ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่สถานศึกษา 5. ต้องโทษคดีอาญาถึงจำคุกเว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท 6. ขาดพื้นความรู้หรือคุณสมบัติของผู้เข้าเรียน 7. มีระดับผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์กำหนด การพ้นสภาพเนื่องจากผลการเรียน ระดับ ปวช. 1. นักเรียนที่ได้เรียนตามปกติ สอบแก้ตัว เรียนซ้ำ หรือเรียนแทนรายวิชา ที่ได้รับผลการเรียน 0 (ศูนย์) และระดับผลการเรียน 1 เป็นเวลารวม 8 ภาคเรียนแล้ว แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์การ จบหลักสูตรที่กำหนดไว้ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักเรียนทั้งนี้ต้องไม่เกิน 6 ปีการศึกษานับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียน เป็นนักเรียนโดยไม่นับภาคเรียนที่ลาพักเรียนหรือถูกสั่งให้พักการเรียน 2. มีระดับผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดของระเบียบการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2545 พ.ศ. 2547 ระดับ ปวส. นักศึกษาที่ได้เรียนตามปกติ เรียนซ้ำ ได้ระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) และระดับผลการเรียนรวม เวลา 6 ภาคเรียนแล้ว แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์การจบหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้ เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักศึกษาทั้งนี้ต้องไม่เกิน 4 ปีการศึกษา นับแต่วันขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา โดย ไม่นับภาคเรียนที่ลาพักการเรียน หรือถูกสั่งให้พักการเรียน
230 การลาออก นักเรียน นักศึกษาที่ประสงค์จะลาออก ต้องให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับรองการลาออกโดยการนำ ผู้ปกครองซึ่งเป็นผู้ทำการมอบตัวนักเรียน นักศึกษาไว้หรือบิดามารดามายื่นคำร้องขอลาออกที่งานทะเบียน การขอกลับเข้าเรียน 1. นักเรียน นักศึกษาที่ลาพักการเรียนหรือถูกสั่งให้พักการเรียนมีความประสงค์จะขอกลับเข้าเรียน ต้องยื่นคำร้องขอกลับเข้าเรียนต้องยื่นคำร้องขอกลับเข้าเรียนพร้อมด้วยหลักฐานการอนุญาตให้ลาพักการ เรียนหรือถูกสั่งให้พักการเรียนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันครบกำหนด หรือวันเวลาที่สถานศึกษากำหนด 2. นักเรียน นักศึกษาที่การพ้นสภาพเป็นนักเรียน นักศึกษาเนื่องจากกรณีใดกรณีหนึ่ง - ลาออก - ขาดเรียนติดต่อกันเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร - ไม่มาติดต่อเพื่อรักษาสภาพนักเรียน นักศึกษา ภายในเวลาที่สถานศึกษากำหนด ต้องยื่น คำร้องขอกลับเข้าเรียนต่อสถานศึกษาภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันถัดจากวันพ้นสภาพการเป็นนักเรียน นักศึกษา 3. ขั้นตอนการขอกลับเข้าเรียน - นำผู้ปกครองทำคำขอกลับเข้าเรียนที่งานทะเบียน - กรอกรายละเอียด - เสนอเซ็นตามลำดับขั้นตอนในคำขอร้อง - ยื่นคำร้องที่งานทะเบียน เพื่อเสนอผู้อำนวยการ - เมื่อได้รับการอนุมัติแล้วลงทะเบียนในภาคเรียนปกติ การขอเรียนภาคฤดูร้อนที่สถานศึกษาอื่น ในกรณีที่วิทยาลัยฯ ไม่เปิดสอนภาคฤดูร้อน หากนักเรียน นักศึกษาประสงค์จะเรียนภาคฤดูร้อนที่ วิทยาลัยฯ อื่นให้ดำเนินการดังนี้ - ขอรับคำร้องไปเรียนสถานศึกษาอื่น - กรอกรายละเอียดเพื่อการขออนุญาตจากรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ - ส่งคำร้องที่งานทะเบียนและรอรับหนังสือส่งตัวของวิทยาลัยฯ การขอใบรับรองการเป็นนักเรียน นักศึกษา - ขอใบรับรองที่งานทะเบียน - กรอกรายละเอียด - เสนอเซ็นตามลำดับขั้นตอนในคำร้อง
231 - ส่งคำร้องพร้อมรูปถ่ายเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป (ห้ามเป็นรูปโพลา ลอยด์) ที่งานทะเบียน - ติดต่อขอใบรับรอง หลังส่งคำร้องประมาณ 3 วันทำการ การขอรบ. 5 ภาคเรียน (ปวช.) และ รบ. 3 ภาคเรียน (ปวส.) ขั้นตอนการขอ รบ. (5 ภาคเรียน และ 3 ภาคเรียน) - ขอรับคำร้องที่งานทะเบียน - กรอกรายละเอียด - ส่งคำร้องขอจบการศึกษา พร้อมรูปถ่ายที่งานทะเบียน (รูปถ่ายต้องเป็นรูปเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 4 รูป ใช้กระดาษเนื้อด้านห้ามเป็นรูปโพลาลอยด์) การขอรับใบ รบ. ฉบับจบหลักสูตร 1. ติดต่อขอรับใบ รบ. ตามวันและเวลา ที่งานทะเบียนกำหนด 2. นำบัตรประจำตัวนักเรียน นักศึกษา มายื่นเพื่อขอรับใบ รบ. 3. หากบัตรประจำตัวนักเรียน นักศึกษาสูญหาย ต้องนำหลักฐานใบแจ้งความมารับแทน 4. ขอรับใบ รบ. ด้วยตนเอง หรือผู้ปกครองมารับแทน โดยถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประจำตัว ประชาชนของผู้ปกครองแนบกับบัตรประจำตัวนักเรียน นักศึกษา การขอรับใบประกาศนียบัตร 1. ติดต่อขอรับใบประกาศนียบัตรตามวันและสถานที่งานทะเบียนกำหนด 2. กรณีที่นักเรียน นักศึกษามอบหมายให้บุคคลอื่นมารับแทนให้เขียนหนังสือมอบฉันทะการขอรับ ประกาศนียบัตรมาแสดงด้วย พร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบ
232 งานวัดผลและประเมินผล งานวัดผลและประเมินผลของวิทยาลัยการอาชีพเสนาจะเปิดทำการวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานการประเมินผลการเรียน ประกาศผล การประเมิน แจ้งผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบ จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการประเมินผลการเรียน ตรวจสอบ ระบบการให้คะแนนพิจารณาเกี่ยวกับการโอนผลการเรียน การสอบเทียบประสบการณ์ความรู้ ดำเนินการ จัดการประเมินผลการเรียนทุกภาคเรียน ดำเนินการสอบมาตรฐานวิชาชีพ และปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ ได้รับมอบหมาย ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2564 หลักการในการประเมินผลการเรียน 1. ให้สถานศึกษามีหน้าที่และรับผิดชอบในการประเมินผลการเรียนรายวิชาที่เรียน และฝึกปฏิบัติ ในสถานศึกษา และให้สถานศึกษาและสถานประกอบการมีหน้าที่และรับผิดชอบร่วมกัน ในการประเมินผล การเรียนรายวิชาที่เรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ 2. ให้ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามระบบหน่วยกิต ตามสภาพจริงต่อเนื่องตลอดภาคเรียน ทั้งด้านความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์จากกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติและ งานที่มอบหมาย รวมทั้งการวัดผลปลายภาคเรียน ซึ่งครอบคลุมจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและ เนื้อหาวิชา โดยใช้เครื่องมือและวิธีการหลากหลายตามความเหมาะสม ทั้งนี้จำนวนหน่วยกิตของแต่ละ รายวิชา ให้ถือตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร การขออนุญาตเลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน นักเรียน นักศึกษาที่ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนตามวันและเวลาที่สถานศึกษา กำหนด จะขออนุญาตเลื่อนการประเมินได้ในกรณีต่อไปนี้ 1. ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยก่อนหรือระหว่างการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน 2. ถูกควบคุมตัวโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย 3. เป็นตัวแทนของสถานศึกษา หรือสถานประกอบการในการเข้าร่วมประชุม หรือกิจกรรมพิเศษ อย่างอื่น โดยได้รับความยินยอมจากสถานศึกษา 4. มีความจำเป็นอย่างอื่น โดยสถานศึกษาหรือสถานศึกษาและสถานประกอบการ พิจารณาแล้ว
233 เห็นว่าเป็นความจำเป็นอย่างแท้จริง นักเรียน นักศึกษาที่ขออนุญาตเลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ต้องยื่นคำร้อง พร้อมทั้ง หลักฐานประกอบต่อสถานศึกษาก่อนการวัดผลปลายภาคเรียนไม่น้อยกว่า 3 วัน วิธีการประเมินผลการเรียน ให้สถานศึกษา พิจารณาทำการประเมินผลการเรียนรายวิชาเมื่อสิ้นภาคเรียน หรือเมื่อสิ้นสุดการ เรียน หรือการฝึกปฏิบัติงานในทุกรายวิชา สำหรับรายวิชาที่เรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ให้ สถานศึกษาและสถานประกอบการ โดยครูนิเทศก์และครูฝึกร่วมกันประเมินผลการเรียน เมื่อสิ้นสุดการเรียน และฝึกปฏิบัติในแต่ละรายวิชา ตัวเลขที่ใช้แสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชา มีดังต่อไปนี้ ร้อยละ 80 ขึ้นไป ระดับผลการเรียน 4.0 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑดีเยี่ยม ร้อยละ 75-79 ระดับผลการเรียน 3.5 หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑดีมาก ร้อยละ 70-74 ระดับผลการเรียน 3.0 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑดี ร้อยละ 65-69 ระดับผลการเรียน 2.5 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑค่อนข้างดี ร้อยละ 60-64 ระดับผลการเรียน 2.0 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑพอใช้ ร้อยละ 55-59 ระดับผลการเรียน 1.5 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑออน ร้อยละ 50-54 ระดับผลการเรียน 1.0 หมายถึง ผลการเรียนอยูในเกณฑออนมาก ต่ำกว่าร้อยละ 50 ระดับผลการเรียน 0 หมายถึง ผลการเรียนต่ำกวาเกณฑ (ตก) อักษรที่ใช้แสดงผลการเรียน มีดังนี้ ข.ร. หมายถึง ขาดเรียน ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากมีเวลาเรียนต่ำกว่าร้อยละ 80 โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร ข.ป. หมายถึง ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มี เหตุผลสมควร สำหรับรายวิชาที่เรียนหรือฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ข.ส. หมายถึง ขาดการวัดผลปลายภาคเรียน โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร ถ.ล. หมายถึง ถอนรายวิชาภายหลังกำหนด โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร ถ.น. หมายถึง ถอนรายวิชาภายในกำหนด ท. หมายถึง ทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ทำ ม.ส. หมายถึง ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน โดยได้รับอนุญาตจาก หัวหน้าสถานศึกษา หรือไม่ส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาตามกำหนด
234 ม.ท. หมายถึง ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทนภายในเวลาที่สถานศึกษากำหนด ผ. หมายถึง ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามกำหนด หรือผลการประเมินผ่าน ม.ผ. หมายถึง ไม่เข้าร่วมกิจกรรม หรือผลการประเมินไม่ผ่าน ม.ก. หมายถึง การเรียนโดยไม่นับจำนวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร และ ผลการประเมินผ่าน การคำนวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ให้ปฏิบัติดังนี้ 1. ให้นำผลบวกของผลคูณระหว่างจำนวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชากับระดับผลการเรียน หาร ด้วยผลบวกของจำนวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชา คิดทศนิยมสองตำแหน่งไม่ปัดเศษ 2. การคำนวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ดังนี้ ก. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคเรียน คำนวณจากรายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียน เฉพาะในภาคเรียนหนึ่งๆ ข. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม คำนวณจากรายวิชาที่เรียนมาทั้งหมดและได้ระดับผลการ เรียน ตั้งแต่สองภาคเรียนขึ้นไป นักเรียนผู้ใดประสงค์จะเรียนซ้ำรายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 หรือ เลือกเรียนรายวิชาอื่น แทนถ้าเป็นรายวิชาเลือก เพื่อประเมินปรับค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมให้สูงขึ้น ให้สถานศึกษาหรือสถาน ประกอบการดำเนินการให้เรียนซ้ำหรือเรียนแทนภายในเวลาก่อนสำเร็จการศึกษา การเรียนซ้ำรายวิชา ให้นับจำนวนหน่วยกิตสะสมเพียงครั้งเดียว ส่วนการเรียนแทนให้นับเฉพาะ จำนวนหน่วยกิตของรายวิชาที่เรียนแทนเป็นจำนวนหน่วยกิตสะสม การนับจำนวนหน่วยกิตสะสมในกรณีนี้ จะกระทำเมื่อนักเรียนได้ระดับผลการเรียน ตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป รายวิชาที่เรียนซ้ำหรือเรียนแทนแล้วได้ระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) ให้ถือระดับผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 ตามเดิม ยกเว้นการได้ระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) กรณีผู้ที่ได้ ม.ส. เนื่องจากไม่สามารถส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาได้ตาม กำหนดให้นักเรียนส่งงานนั้นภายใน 10 วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา หากไม่สามารถ ดำเนินการได้ให้สถานศึกษาประเมินผลการเรียนจากคะแนนที่มีอยู่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่หัวหน้าสถานศึกษา พิจารณาเห็นสมควร ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดการวัดผลปลายภาคเรียนของภาคเรียน ถัดไป นักเรียนต้องเข้ารับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ เมื่อนักเรียนได้ลงทะเบียนรายวิชาครบทุกรายวิชา ตามหลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา หรือตามระยะเวลาที่คณะกรรมการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ กำหนด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากำหนด นักเรียนจะสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ จะต้องเข้ารับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพและผลการ ประเมินผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
235 นักเรียนต้องเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สถานศึกษาจัดไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ครบทุกภาคเรียนตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนด โดยมีเวลาเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อย ละ 60 ของเวลาที่จัดกิจกรรมในแต่ละภาคเรียน ให้นักเรียนที่เข้าฝึกอาชีพ หรือฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพในสถานประกอบการเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรมที่สถานประกอบการจัด ตามเกณฑ์และข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการ การตัดสินผลการเรียน 1. ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา 2. รายวิชาที่มีผลการเรียนตั้งแต่ระดับ 1 ขึ้นไป ถือว่าผ่านให้นับหน่วยกิตเป็นหน่วยกิตสะสม 3. นักเรียนระดับชั้น ปวช. เมื่อได้ประเมินผลการเรียนแล้ว นักเรียนที่มีระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) ให้นักเรียนรับการประเมินใหม่ได้อีก 1 ครั้ง ภายในเวลาที่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการกำหนด ไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่หัวหน้าสถานศึกษา พิจารณาเห็นสมควร หากผลการประเมินใหม่ไม่ผ่าน ถ้าเป็นรายวิชาบังคับให้เรียนซ้ำรายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเลือกจะเรียนซ้ำ หรือเรียนรายวิชาอื่นแทนก็ได้ โดยจำนวนหน่วยกิตต้องไม่น้อยกว่ารายวิชาที่เรียนแทน ** การประเมินใหม่ ให้ระดับผลการเรียนได้ไม่เกิน 1.0 4. นักศึกษาระดับชั้น ปวส. เมื่อได้ประเมินผลการเรียนแล้ว นักศึกษาที่มีระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) ให้เรียนซ้ำรายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเลือกจะเรียนซ้ำหรือเรียนรายวิชาอื่นแทนก็ได้จำนวนหน่วยกิตต้องไม่ น้อยกว่ารายวิชาที่เรียนแทน 5. การตัดสินผลการเรียนเพื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพุทธศักราช 2562 และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราช 2564 ให้ถือตามเกณฑ์ต่อไปนี้ 1) ได้รายวิชาและจำนวนหน่วยกิตสะสมในทุกหมวดวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ใน หลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนด 2) ได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ากว่า 2.00 3) ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ 4) ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนดและ “ผ่าน ” ทุกภาคเรียน ระดับ ปวช. เมื่อลงทะเบียนครบ 2 ภาคเรียน คะแนนเฉลี่ยสะสมต้องไม่ต่ำกว่า 1.50 เมื่อลงทะเบียนครบ 4 ภาคเรียน คะแนนเฉลี่ยสะสมต้องไม่ต่ำกว่า 1.75 เมื่อลงทะเบียนครบ 6 ภาคเรียน คะแนนเฉลี่ยสะสมต้องไม่ต่ำกว่า 1.90 หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ต่ำกว่าเฏณฑ์ที่กำหนด ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้ เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักเรียน อนึ่ง เมื่อเรียนเป็นเวลารวม 6 ภาคเรียนแล้ว แต่ผลการเรียนต่ำกว่า 1.90 สถานศึกษาจะ พิจารณาว่าควรให้พ้นสภาพนักเรียน หรือให้เรียนต่อ แต่ต้องไม่เกิน 6 ปีการศึกษา
236 ระดับ ปวส. เมื่อลงทะเบียนครบ 2 ภาคเรียน คะแนนเฉลี่ยสะสมต้องไม่ต่ำกว่า 1.75 เมื่อลงทะเบียนครบ 4 ภาคเรียน คะแนนเฉลี่ยสะสมต้องไม่ต่ำกว่า 1.90 หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ต่ำกว่าเฏณฑ์ที่กำหนด ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือให้ พ้นสภาพนักศึกษา อนึ่ง เมื่อเรียนเป็นเวลารวม 4 ภาคเรียนแล้ว แต่ผลการเรียนต่ำกว่า 1.90 สถานศึกษาจะ พิจารณาว่าควรให้พ้นสภาพนักเรียนหรือให้เรียนต่อ แต่ต้องไม่เกิน 4 ปีการศึกษา การเทียบโอนผลการเรียน 1. การโอนผลการเรียนสำหรับนักเรียน นักศึกษาจากสถานศึกษาซึ่งใช้หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพ พุทธศักราชเดียวกัน หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราชเดียวกัน สถานศึกษาจะ รับโอนผลการเรียนทุกรายวิชา ที่มีผลการเรียนตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป รายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 สถานศึกษาจะรับโอนหรือจะทำการประเมินใหม่ จนเห็น ว่าได้ผลการเรียนถึงเกณฑ์มาตรฐานของสถานศึกษาแล้วจึงรับโอนผลการเรียนรายวิชานั้นก็ได้ 2. สถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียนรายวิชาจากหลักสูตรอื่นซึ่งไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้ 1) เป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่มีจุดประสงค์และเนื้อหาใกล้เคียงกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และมีจำนวนหน่วยกิตไม่น้อยกว่าหน่วยกิตของรายวิชาที่ระบุไว้ในหลักสูตร 2) รายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป สถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียน หรือ จะทำการประเมินใหม่แล้ว จึงรับโอนรายวิชานั้นก็ได้ 3. กรณีที่นักเรียน นักศึกษาพ้นสภาพ แล้วเข้าสอบเข้าเรียนใหม่จะรับโอนเฉพาะรายวิชาที่มีอยู่ใน หลักสูตร และจะต้องมีระดับผลการเรียนตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป นักเรียนนักศึกษาที่ขอเทียบโอนผลการเรียน ต้องลงทะเบียนรายวิชาในสถานศึกษาเดิมไม่น้อยกว่า 1 ภาค เรียน
237 ส่วนที่ 2 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ 1. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการวัดผลประเมินผลการเรียนตาม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 2. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการวัดผลประเมินผลการเรียนตาม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2564 3. ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียน นักศึกษาและหลักเกณฑ์การลงโทษนักเรียน-นักศึกษาที่กระทำความผิด 4. ระเบียบวิทยาลัยการอาชีพเสนาว่าด้วยเครื่องแบบของนักเรียน นักศึกษา 5. เครื่องแบบนักศึกษาระดับ ปวช. 6. เครื่องแบบนักศึกษาระดับ ปวส.
238
239
240
241
242
243
244
245
246
247
248
249
250